Error403 : เมื่อรักติดบัค #พาซวย || รายละเอียดการเปิดจองหนังสือ :]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Error403 : เมื่อรักติดบัค #พาซวย || รายละเอียดการเปิดจองหนังสือ :]  (อ่าน 211293 ครั้ง)

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
แพมร้ายชัวร์

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
 :pig4:

ออฟไลน์ Key Mine

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
ชอบพี่ยูกับไอ้โชคมากกก มาค่ะ เล่มมา

ออฟไลน์ zearet17

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 345
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +555/-0
    • facebook
19.Error 504 Gateway Timeout : อุโมงค์เวลา


ชีวิตวัยทำงานนอกจากปวดหัวเรื่องงานแล้วก็ไม่ค่อยมีอะไรหวือหวาน่าประทับใจเหมือนสมัยวัยรุ่น พาโชคผู้ที่เคยเป็นเด็กใหม่ไฟแรงบัดนี้เริ่มเหนื่อยไปตามสภาพสังขาร ความเบื่อหน่ายทั้งงานและปัญหาการจราจรรุมเร้า ทำให้ขาดแรงบันดาลใจในการทำงานเป็นอย่างมาก 
“สวัสดีครับ” 
พัชเอ่ยทักทายพี่ๆนั่งทำงานอยู่ก่อนแล้ว 
“ทำไมช่วงนี้มาสายบ่อยวะโชค” 
พี่เดี่ยวทัก เรื่องเวลาทำงานของที่นี่แม้จะไม่ได้กำหนดว่าจะต้องสายได้เท่าไหร่ในแต่วันนี้สิบเอ็ดโมงพาโชคพึ่งจะโผล่มาถึงออฟฟิศ ซึ่งผิดวิสัยเดิมไปเยอะ 
“ผมว่าผมเนือยๆว่ะ” 
น้องเล็กตอบตามจริง 
“ออกจากบ้านกี่โมง” 
พี่เดี่ยวถาม 
“เก้าโมง ปกติออกแปดโมงครึ่ง” 
เพราะว่าบ้านของพัชอยู่ชานเมืองเลยต้องใช้เวลาเกือบสองชั่วโมงเป็นอย่างต่ำในการเดินทางเข้าเมืองมาทำงาน 
“ก็ออกเท่าพี่ ทำไมเลท” 
พี่บอลที่บ้านอยู่คนละฟากถาม 
“แถวบ้านเขาเริ่มสร้างรถไฟฟ้า เมื่อเช้านั่งรถตู้มา หลับแล้วหลับอีกตื่นมายังอยู่ที่เดิม” 
น้องเล็กตอบก่อนจะเปิดคอมแล้วเรียบเรียงเรื่องที่จะทำวันนี้ 
“กูว่ามึงย้ายเข้ามาอยู่ในเมืองเถอะ รถติดแบบนี้เสียสุขภาพจิต” 
พี่เอกผู้ซื้อคอนโดไว้ใจกลางเมืองแนะนำน้องเพราะเห็นมันบ่นๆว่ารถติดนั่นนี่ กลับบ้านแล้วเหนื่อย เห็นว่าขากลับบางวันหัวหน้าไปส่งก็จริงแต่ถึงอย่างนั้นก็ไกลเกินไปอยู่ดี แทนที่กลับไปจะได้กินข้าวดูหนังสบายใจกลับกลายเป็นว่าต้องรีบนอนเพื่อตื่นแต่เช้ามาทำงาน 
“ดูมาให้สักห้องสิพี่ ตึกพี่เหลือไหม” 
พี่ยูผู้ซื้อคอนโดหลังใหญ่แถวสนามบินบอกพี่เอกบ้าง แต่ก่อนแถวบางนารถไม่ติดแต่ตอนนี้เมืองเริ่มขยายอะไรๆก็ไม่เหมือนเดิม 
“พี่ยูก็จะย้ายเหรอ” 
พี่บอลถาม
“พี่ก็เบื่อรถติด” 
บางทีที่กลับบ้านดึกดื่นๆไม่ใช่เพราะงานหนักอย่างเดียวแต่เพราะขี้เกียจไปเบียดคนกลับบ้านก็เลยนั่งอยู่ออฟฟิศทำงานไปเรื่อยๆรอให้ดึกรถไม่ติดถึงกลับบ้าน พี่เอกทำท่านึกสักพักถึงบอก 
“เห็นที่สำนักงานขายมีประกาศขายอยู่นะ หัวหน้าอยากให้ห้องขนาดไหน” 
หัวหน้าคิดอยู่สักพักก่อนจะตอบ 
“สองห้องนอนก็ดีพี่” 
“เผื่อครอบครัวเหรอพี่” 
พี่เดี่ยวแซว 
“ป่าว เผื่อเลี้ยงแมวแล้วมันดื้อจะได้จับขัง” 
พาโชคหรี่ตามองคนพูดก่อนจะบ่นเรื่องรถติดต่อ 
“ประเทศไทยรถติดมาตั้งแต่ผมเกิดอ่ะ เมื่อไหร่จะเลิกติด” 
น้องมันว่าพร้อมกับดูดกาแฟที่ซื้อมาจากร้านสะดวกซื้อล่างตึกเข้าปาก 
“ไม่ติดก็ขับไม่ได้ป่าววะ” 
พี่เดี่ยวว่าพร้อมกับขำคิกคักอยู่คนเดียว 
“กูขอซื้อไปทิ้งได้ไหมมุขนี้” 
พี่บอลว่าด้วยหน้าตาเหนื่อยใจก่อนจะบอก 
“รัฐบาลควรเอาเงินมาเร่งรถไฟฟ้าให้เสร็จว่ะ” 
พาโชคที่เริ่มตื่นจากการเมาขี้ตาขำพี่บอล 
“บ้าพี่ ต้องซื้อเรือดำน้ำก่อน พี่ไม่เคยเรียนเรื่อง priority เหรอ เอ้” 
มันบอก 
“มึงซื้อเอามาจัดทัวร์วันเด็กเหรอ” 
พี่บอลเย้า 
“เขาคงมีเหตุผลของเขา” 
พัชบอกพร้อมกับขำ 
“งั้นมึงบอกเหตุผลมา!” 
ห้องทำงานที่เมื่อเช้ายังเงียบสงบอยู่วุ่นวายขึ้นมาเพราะการดีเบตของพาโชคกับพี่บอลที่คุยกันเรื่องเสี่ยงคุกเสี่ยงตารางกัน 
“มึงเบา กูยังต้องใช้หนี้อยู่” 
พี่เอกบอกพร้อมกับขำน้องๆ ในเวลาเดียวกันคนที่ไม่ได้โผล่มาห้องนี้นานก็ผลักประตูเข้ามาพร้อมกับหน้าตาสงสัย 
“นินทาลุงแถวบ้านผมเหรอ?” 
“พี่ธาม!” 
พาโชคที่ไม่เห็นหน้าพี่ธามเกือบเดือนลุกขึ้นจากโต๊ะพร้อมกับทำตาโตเมื่อเห็นของที่หิ้วมาในมือ 
“ของฝากจากเชียงใหม่ครับ”
คนมาใหม่ที่ช่วงนี้บินไปดูออฟฟิศที่เชียงใหม่บ่อยวางของฝากที่โต๊ะปิงปองแล้วลากเก้าอี้มานั่งข้างพาโชคเหมือนที่เคยทำประจำ 
“ข้าวซอย” 
ไอ้พัชตาโตเมื่อมองเห็นข้าวซอยที่ตัดเป็นชิ้นๆรสหวาน 
“พอเห็นของกินถึงดีด เมื่อกี้ยังหงอยอยู่เลย” 
พี่เอกว่าน้อง 
“ร่างกายต้องการน้ำตาลพี่” 
น้องเล็กบอกพร้อมกับลุกไปที่โต๊ะปิงปองเพื่อรื้อถุงของฝากที่มีทั้งแคปหมู ข้าวซอยและสตรอว์เบอร์รี่ลูกแดงฉ่ำ 
“เหรอ กูก็นึกว่าเห็นพี่ธามแล้วดีใจ พี่ไม่แวะมาไอ้โชคมันเหงา” 
พี่เดี่ยวตบมุขเป็นปกติแต่ช่วงนี้กลับไม่มีใครร่วมมือแซวหัวหน้าและไอ้พัชเป็นเพื่อนสักคน 
“พัชเหงาเหรอ แทะกระดูกเล่นไปก่อนนะ” 
พี่ธามบอกพร้อมกับยิ้มกว้าง 
“ไม่ใช่หมาพี่” 
พาโชคว่าพร้อมกับยิ้มตาม อย่างน้อยความสัมพันธ์ของพาโชคกับพี่ธามก็ไม่น่าอึดอัดอย่างที่คิด ในระหว่างที่ทั้งห้องกำลังวุ่นวายไปด้วยการรื้อของฝาก บอสใหญ่อย่างคุณเนมก็โผล่มา 
“ดีฮะ มีข่าวดีมาบอก ฮิฮิ” 
พี่เอกอยากจะดีดปากบอสตรงคำว่าฮิฮิจริงๆ 
“เดือนหน้าออฟฟิศที่เชียงใหม่จะเสร็จแล้วครับ ใครอยากไปบ้าง” 
คนเชียงใหม่จริงๆอย่างพี่ยูนั่งเฉย ส่วนคนที่อยากสัมผัสความเป็นชาวเหนือแบบพาโชครีบยกมือเสนอตัว 
“ผมๆ” 
“อย่ามาพูดเล่นนะพาโชค เพราะตอนนี้เนมกำลังหาคนไปช่วยที่เชียงใหม่” 
คุณเนมที่กำลังหาคนในไปเซ็ทระบบให้ทีมใหม่มองพาโชคยิ้มๆเพราะนึกถึงตัวเองในวัยยี่สิบต้นๆที่กำลังสนุกกับการทำงานแถมยังไม่มีภาระผูกพันธ์ การเปลี่ยนโลเคชันที่ทำงานใหม่ๆก็ทำให้ทำงานสนุกขึ้นเหมือนกัน 
“ก็พอดี มึงก็ไปอยู่บ้านลูกพี่เลย” 
พี่เอกพูดด้วยความเคยชินแต่พอนึกถึงความสัมพันธ์ของหัวหน้ากับน้องที่ดูไม่ค่อยชัดเจนก็รีบเงียบปาก กลายเป็นอยากตีปากตัวเองแทน 
“อือ บ้านผมในเมืองไม่มีคนอยู่” 
พี่ยูบอก 
“มีกี่หลังเนี่ยพี่ คนหลายบ้าน 2018” 
พี่เดี่ยวว่าพร้อมกับขำนำแต่ไม่มีคนขำตาม พอหันไปหาพี่เอกก็ถูกชี้หน้าเหมือนทำอะไรผิดมากมาย 
“อะไรวะ” 
พี่เดี่ยวเกาหัวอย่างเซ็งชีวิตเพราะไม่เข้าใจอะไรเลย ไม่มีคนตบมุขแถมเล่นอะไรไปก็จางอีก 
“ยูริไปไม่ได้นะ โปรเจ็คที่กรุงเทพยังไม่เสร็จ” 
“ครับพี่ครับ” 
ลูกพี่ของห้องมองบอสก่อนจะตอบรับ เพราะตอนนี้อย่าว่าแต่ย้ายไปเชียงใหม่เลย ข้าวเที่ยงยังไม่มีเวลากินด้วยซ้ำ 
“แล้วเตรียมหาตำแหน่งพาโชคใหม่ด้วยนะ” 
คุณเนมบอก พี่ยูที่เริ่มหน้ายุ่งหันมาสบตากับพาโชคเหมือนจะถามว่าจะไปจริงเหรอ 
“ผมอยากไป” 
พาโชคบอกเสียงอ่อยเพราะดูแค่สายตาลูกพี่ก็รู้แล้วว่าคงไม่ได้ขยับตัวไปไหนแน่นอน 
“ขอเหตุผล” 
หัวหน้าทีมถามลูกน้องที่งานท่วมหัวแต่จู่ๆก็อยากไปอยู่ที่อื่นเสียอย่างนั้น 
“รถไม่ติดด้วย ที่ทำงานใหม่ด้วย” 
พี่ยูพอเข้าใจน้องเรื่องงาน แต่ที่ไม่เข้าใจเลยคือตัวเขาไม่มีอิทธิพลต่อน้องเลยหรือยังไงกัน ทำไมพาโชคถึงพูดออกมาง่ายๆว่าจะไปโดยที่ไม่คิดจะปรึกษาเขาแม้แต่น้อย 
“ตามใจ” 
หัวหน้าว่าเสียงเรียบ พี่เอกเห็นบรรยากาศไม่ค่อยดีเลยบอกปัด 
“มาคุยอะไรกัน ถ้าจะไปจริงๆไปคุยในห้องประชุมนู่น” 
พี่ธามเองที่พอจับความรู้สึกของคนทั้งคู่ได้แกล้งแหย่หัวหน้าทีมเดฟ 
“คุณศศินนี่เป็นหัวหน้ายังไง มาบังคับลูกน้องเฉย” 
คนตัวใหญ่เหลือบมองเพื่อนตัวเองก่อนจะบอก 
“มึงแลกโปรเจคกับกูไหมล่ะ” 
พี่ยูพูดถึงโปรเจคในกรุงเทพที่ตัวเองทำอยู่กับโปรเจคเปิดออฟฟิศใหม่ที่เชียงใหม่ที่พี่ธามเป็นคนทำ 
“ไม่แลก” 
พี่ธามตอบด้วยหน้าตายิ้มๆ ซึ่งพี่ยูรู้ว่ามันกำลังกวนตีน 
หลังจากที่คุณเนมลากพี่ธามกับพี่ยูออกไปประชุม พาโชครู้สึกเหมือนวันนี้ขาดอะไรไปหันไปมองโต๊ะพี่เจนก่อนจะนึกได้ว่าพี่เจนหายไปไหน 
“สวัสดีค่ะ” 
และแล้วคนที่นึกถึงก็ผลักประตูเข้ามา 
“ทำไมวันนี้สาย” 
พัชทำหน้าเครียดใส่พี่เจนทั้งๆที่ตัวเองก็พึ่งมาถึงก่อนไม่นาน 
“แง้ เจนเครียด” 
พี่เจนเมินน้องเล็กพร้อมกับโวยวายแล้วเดินไปนั่งที่เก้าอี้ตัวเอง 
“อะไรเจน ไหนบอกช่วงนี้สดใสจะได้ไปดูแฟนเกาหลี” 
เจนผู้ปกติมาถึงออฟฟิศตั้งแต่เก้าโมงแต่วันนี้สิบเอ็ดโมงกว่าพึ่งมาถึง แถมยังมาด้วยสภาพอารมณ์ไม่ดีอีก 
“ได้ดูก็ดีสิคะ ไม่รู้จะกดบัตรได้รึเปล่า” 
เธอว่าพร้อมกับบ่นงุบงิบ พาโชคมองพี่เจนที่วันนี้เมินมันอย่างเห็นได้ชัด 
“มาดูผมก็ได้พี่เจน หล่อพอกัน” 
คนน้องเรียกร้องความสนใจส่วนพี่เจนมองเด็กแว่นก่อนจะกรอกตา 
“เจ้ไม่เล่น เครียด” 
พาโชคที่ไม่เคยเจอพี่เจนโหมดนี้มาก่อนหันไปหาพี่บอลเพื่อขอความช่วยเหลือ 
“บัตรอะไรวะเจน เดี๋ยวพี่เดินไปซื้อไทยทิกเก็ตให้” 
พี่บอลผู้ไม่เข้าใจความยากลำบากของแฟนคลับบอกออกมาง่ายๆทำให้เจนผู้ที่เหมือนมืดแปดด้านนึกอะไรออก 
“ใช่ๆ พี่บอลช่วยเจนกดบัตรหน่อย ไอ้โชคด้วย” 
ปลายประโยคหันมาบอกพาโชค 
“อะไรจะขนาดนั้นวะ” 
พี่บอลบ่นทำเอาพี่เจนหน้าหงิก 
“พี่บอลไม่เข้าใจว่าคนดูมันเยอะกว่าบัตรอ่ะ บัตรมีสามหมื่นคนอยากดูเป็นแสน” 
พี่เจนตอบก่อนจะหันไปสบตากับน้องฝึกงานพอดี 
“เด็กๆช่วยพี่นะคะ ใครกดได้เจ้จะพาไปเลี้ยงหนม” 
น้องฝึกงานสามคนตอบรับอย่างเร็ว พาโชคผู้ที่อยากกินขนมเหมือนกันรีบบอก 
“ผมจัดการให้เองพี่เจน” 
พัชบอก พี่เอกที่นั่งฟังๆอยู่พูดขึ้นมาบ้าง 
“ลากคนไปช่วยๆกันกดเยอะๆแบบนี้เว็บก็ล่มสิ ขนาดของเจนใบเดียวใช้คนกดห้าคนแล้วทุกๆคนก็คิดเหมือนกันแบบนี้อีก” 
เจนผู้เข้าใจแค่ว่ายิ่งมีคนช่วยกดเยอะโอกาสยิ่งเยอะหันไปมองพี่เอกอย่างไม่เข้าใจ 
“ใครเร็วกว่าก็คนนั้นแหละค่ะ” 
พี่เอกพยักหน้าก่อนจะบอก 
“ก็จริง แต่ลองคิดนะว่าเว็บเขาทำมารองรับแบนด์วิธของหนึ่งหมื่นคน แต่เวลาจริงกลายเป็น 5 หมื่นคนกดพร้อมกัน เจ๊งแน่” 
เจนหัวเสีย 
“แต่คนอื่นก็ทำแบบนี้ เจนไม่รู้แหละ” 
พี่เอกจนปัญญาอธิบายเลยขอเว็บที่พี่เจนบอกมาดู 
“ใช้ php เขียนด้วย” 
พอพี่เอกพูดจบพี่เดี่ยวกับพี่บอลก็หัวเราะ พี่เดี่ยวบอกเลยว่า 
“Error 504 แน่นอน” 
เจนที่เครียดเรื่องบัตรอยู่แล้วหันรีหันขวางเพราะต้องมาเครียดกับที่พวกพี่ๆพูดอีก 
“อะไรวะโชค” 
พาโชคผู้กำลังงอนเพราะพี่เจนบอกว่ามันไม่หล่อค่อยๆอธิบาย 
“คือเว็บที่พี่เจนใช้มันเขียนด้วยภาษา php ไง แล้วอีภาษานี้มันรันฝั่ง server side เพราะฉะนั้นเวลา request http เอ่อ...” 
พาโชคมองหน้าพี่เจนที่งงกว่าเดิม 
“เวลาที่เข้าไปใช้เว็บ คลิกที่เว็บ อะไรก็ตามมันจะไปทำงานฝั่ง server ทั้งหมดเพราะฉะนั้นมันเลยล่มง่ายถ้าไม่วางระบบดีๆ” 
“แล้วต้องทำยังไงคะเนี่ย แง้” 
พาโชคขำคนพานิคก่อนจะอธิบายต่อ 
“ถ้าทำเว็บพวกนี้ผมว่าใช้ภาษาที่รันฝั่ง client-side อย่าง javascript ดีกว่า แต่อย่างว่า php เรื่อง security มันดีกว่า” 
พอพาโชคพูดจบพี่เจนก็พยักหน้ารับชะตากรรม 
“แล้วไอ้ 504 ของพี่เดี่ยวนี่เจนต้องเอาไปซื้อหวยรอไหมคะ” 
พี่เดี่ยวขำกับท่าทางของเจนผู้ที่ปกติไม่ใช่แบบนี้ 
“504 มันเป็นเลข status เกิดขึ้นตอนที่คนหลายๆคนกดที่เว็บพร้อมกัน ทีนี้ตัว client คือเครื่องเจนจะ request คำขอผ่าน http ไปที่ server ถ้ามันปกติ http จะ response กลับมาเป็นหน้าเว็บปกติ แต่ไอ้ 504 คือเหมือนเอาคนล้านคนวิ่งเข้าอุโมงค์พร้อมกันแล้วก็เหยียบกันตายตรงอุโมงค์ ซึ่งตอนที่ติดอยู่ตรงอุโมงค์เขาจะ set timing ไว้ว่าถ้า 50 วิยังมุดเข้าไปไม่ได้จะ response error กลับมา ส่วนน้อยที่จะรอดไปอีกฝั่ง ซึ่งพี่ว่าเจนไม่น่าจะรอด” 
พี่เดี่ยวพูดจาให้กำลังใจน้องได้ดีมาก พี่เจนถอนหายใจอีกรอบเพราะไม่เข้าใจอะไรเลยนอกจากคำว่าไม่รอด ก่อนจะเปิดคอมทำงานไปโวยวายไป 
“เหมือน 404 file not found เหรอคะพี่” 
น้องนินเด็กฝึกงานคนสวยถาม พี่เดี่ยวเลยอธิบายต่อ 
“เลขนี่ไว้บอก status เฉยๆครับ อย่าง 404 คือไม่มีหน้าที่กำลังจะหา 403 forbidden คือไม่มีสิทธิเข้าหน้านั้น 503 คือ server โหลดไม่ ไหว มีอีกเยอะครับ ถ้าจะทำเว็บต้องไปหาอ่านดู” 
พาโชคมองพี่เดี่ยวที่พูดจาสุภาพผิดกับทุกวันเหลือเกิน 
“ไม่รู้ค่ะ เจนจะบน ถ้าเจนได้บัตรเจนจะเลี้ยงพิซซ่าทุกคนในห้องนี้” 
เจนบอกหน้าตาจริงจัง 
“กูพร้อม เพื่อพิซซ่า” 
พี่เดี่ยวที่เมื่อกี้ยังตัดกำลังใจน้องบอกออกมาเพราะเห็นแก่กินมากกว่า 
“ผมก็พร้อม” 
พาโชคก็เห็นแก่กินพอกัน 

***

“แว่น ลุก” 
หัวหน้าที่พึ่งประชุมเสร็จตอนเกือบสองทุ่มปลุกเด็กแว่นที่นอนฟุบอยู่ตรงโต๊ะ วันนี้ตอนหกโมงเย็นโทรออกมาบอกแล้วว่าให้กลับไปก่อน แต่พาโชคผู้โวยวายว่าเบื่อรถติดยังยืนยันที่จะรอ 
“หลับจริงจังเหรอเนี่ย” 
ลูกพี่ว่าพร้อมกับตบไหล่อีกคนเบาๆ พาโชคเงยหน้ามองหัวหน้าก่อนจะหยิบแว่นที่วางไว้ใกล้กันมาสวม 
“หิวไหม” 
พี่ยูที่กำลังเก็บของลงในกระเป๋าถามน้อง 
“หิวสิ” 
“พี่ถึงบอกให้กลับไปก่อนไง” 
“ไม่เอา” 
พาโชคส่ายหัวพร้อมกับลุกขึ้นบิดขี้เกียจ 
“ไอ้แห้ง” 
ลูกพี่ว่าพร้อมกับจับเอวผอมๆของอีกคนที่กำลังยืดตัว 
“ผมจะมีอีกกี่ชื่อเนี่ย” 
พาโชคบ่น ที่วันนี้อยู่รอไม่ใช่ว่าเพราะอยากให้ไปส่งหรือรถติดหรอก แต่เพราะรู้สึกว่าเมื่อเช้าหัวหน้าดูไม่พอใจการอยากไปเชียงใหม่ของมันต่างหาก เลยอยากอยู่คุยด้วยก่อน
“เชียงใหม่อากาศดีไหม” 
พาโชคเปิดประเด็นเมื่อเห็นหัวหน้ากำลังตั้งใจเปิดแอปพลิเคชันสั่งอาหาร กะว่าจะนั่งกินข้าวกันก่อนสักสามทุ่มค่อยกลับ เพราะตอนนี้ถนนยังไม่โล่งเท่าไหร่ 
“กลางวันร้อนแต่ตอนกลางคืนอากาศเย็น” 
คนที่เกิดที่เชียงใหม่บอก 
“บรรยากาศดีไหม” 
พัชถามต่อ ทำเอาคนที่กำลังก้มหน้าก้มตากดมือถือเงยหน้าขึ้นมามอง 
“นี่เอาจริงใช่ไหม” 
พาโชคพยักหน้ารับ 
“เหตุผลคืออะไร” 
พี่ยูกดเลือกผัดไทเจ้าดังแล้วกดออเดอร์ก่อนจะลากเก้าอี้ของตัวเองมานั่งข้างๆอีกคน 
“ผมอยากเปลี่ยนบรรยากาศ” 
เรื่องนี้พาโชคคิดมาสักพักแล้ว เพราะบ้านที่อยู่ก็มีคนมาขอเช่าแล้ว เหลือแค่ตัดสินใจว่าจะหาคอนโดเช่าในเมืองหรือย้ายไปเชียงใหม่ตามคำชวนของคุณเนมดี พี่ยูมองใบหน้าขาวสะอาดของอีกคนก่อนจะถอนหายใจหนักแล้วถามน้องมัน 
“แล้วพี่ล่ะ” 
ศศินเข้าใจว่าการเอาความรู้สึกของตัวเองไปผูกกับคนอื่นมันเหนื่อยแค่ไหน ที่จริงแล้วต่อให้พาโชคจะไปไหนทำอะไรเขาก็คงไม่มีสิทธิรั้งแบบนี้ ที่เคยถามพาโชคหลายๆครั้งเรื่องคบกันหรือเป็นแฟนกันไหมไม่ใช่เฉพาะอยากได้แค่นั้น แต่เพราะถ้าเป็นแฟนกันเขายังมีสิทธิที่จะโกรธ งอนหรือถามอะไรก็ได้ ไม่ใช่ต้องคอยมาเกรงใจหรือรู้เรื่องของน้องหลังจากคนอื่นแบบนี้ 
“ผมว่า...” 
คนเด็กกว่าว่าก่อนจะลุกเอื้อมมือไปจับมือของพี่ไว้พร้อมกับสอดนิ้วเข้าไปพร้อมกับเริ่มพูดต่อ 
“ผมคิดว่าพวกพี่เอกคงรู้เรื่องแล้ว” 
“หืม?” 
พี่ยูกระชับมืออีกคนไว้แน่น 
“ผมไม่ได้อึดอัดหรอก แต่ผมไม่อยากทำงานกับพี่ยูแล้ว” 
คนเด็กกว่าบอกออกมาเสียงสั่นในที่สุด ถ้ารู้จักพาโชคดีจะรู้ว่ามันเป็นคนพูดเรื่องของตัวเองน้อยแต่คิดเยอะเหลือเกิน 
“พี่ไม่ได้ดุพัชแล้วนี่” 
คนเป็นพี่บอกพร้อมกับคว้ามืออีกข้างที่ว่างอยู่มาจับไว้ อย่างที่พาโชคบอกคือตอนนี้คนหลายคนเริ่มรู้เรื่องส่วนตัวของพวกเขา แม้ดูเหมือนจะไม่มีอะไรเปลี่ยนไปจากเดิมมากนัก แต่ในแง่ของการทำงานมันกระทบอยู่หลายทาง เอาแค่เรื่องง่ายๆอย่างประชุมประจำเดือนที่พาโชคต้องทำอยู่ตลอดหัวหน้าก็ไม่ให้ทำแล้วเพราะเห็นน้องงานยุ่ง ทั้งๆที่เมื่อก่อนต่อให้ยุ่งแค่ไหนก็ต้องเข้าประชุม แม้จะบอกว่าพาโชคทำงานได้ดีโดยไม่ต้องดุแล้วแต่เชื่อเถอะว่าคนนอกไม่ได้มองแบบนี้ 
“แว่นเอ้ย” 
ลูกพี่บอกพร้อมกับมองหน้าอีกคนที่ขมวดคิ้วแน่น อย่างที่หลายๆที่มีกฏว่าห้ามคนที่ทำงานมีความสัมพันธ์กันนั้นพาโชคเองก็พึ่งจะเข้าใจ เพราะแม้จะสามารถแยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวได้แต่ก็ใช่ว่าจะสบายใจที่ทำงานด้วยกัน 
“กลัวอะไร บอกมา” 
พี่ยูถามคนที่ยังนิ่งอยู่ 
“พี่ยู” 
“ครับ” 
เขาตอบรับพร้อมกับมองหน้าน้องมัน เรียกว่าเป็นครั้งแรกก็ได้ที่คุยกันดีๆ 
“เรามาคบกันไหม” 
“ห้ะ!?” 
คนเป็นพี่ดึงมือตัวเองออกพร้อมกับมองหน้าอีกคนเหมือนเมื่อกี้ไม่ได้ยินที่น้องพูด 
“แล้วผมขอย้ายไปเชียงใหม่นะ” 
“What!?” 
ลูกพี่งง ส่วนไอ้แว่นยังพูดต่อ 
“ผมไม่อยากทำงานกับพี่ยูแล้ว แต่ถ้าให้ลาออกไปทำที่อื่นก็กลัวเงินไม่ดี อยากไปเชียงใหม่ก็อยากไป” 
พาโชคพูดยืดยาว ลูกพี่ที่กำลังมึนกับการประมวลผลของคำพูดพาโชคขมวดคิ้วแน่นก่อนจะทิ้งแผ่นหลังลงไปที่พนักพิงของเก้าอี้ทำงานตัวใหญ่ 
“อะไรวะแว่น วุ่นวาย” 
คนเป็นพี่บ่นพร้อมกับมองหน้าด้วยสายตาไม่พอใจทำเอาคนที่กลัวอยู่แล้วเสมองไปทางอื่นเพื่อหลบตา 
“เอางี้ มองหน้าพี่ก่อน” 
พี่ยูผู้กำลังหัวร้อนกับพาโชคจับหน้าน้องมันหันมามองตัวเองก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปใกล้ 
“แต่ก่อนพี่ขอคบทำไมบ่ายเบี่ยง” 
“...” 
“ตอบ” 
คนชอบบังคับถามเสียงเรียบ ส่วนคนตอบตอบเสียงเบา 
“กลัวไปแล้วจะไม่ได้คุยกันอีก” 
“กั๊กเหรอแว่น” 
น้องแว่นที่เขาว่าพยักหน้าเบาๆทั้งๆที่ถูกมืออีกคนบล็อคหน้าไว้ไม่ใช่หันไปไหน 
“ร้าย” 
คนฟังยิ้มมุมปากก่อนจะบอกต่อ 
“ถ้าพี่ไม่ให้ไปจะไปไหม” 
พาโชคพยักหน้าตอบรับ สรุปคือถึงห้ามก็จะไปอยู่ดี จริงๆแล้วพี่ยูไม่ใช่พวกชอบบังคับหรอกแต่เพราะรู้ว่าพาโชคดื้อเงียบต่างหาก 
“งั้นไปแค่สี่เดือนพอ เซ็ททุกอย่างแล้วกลับมาอยู่ทีมใหม่” 
“ผมไม่อยากทำงานกับพี่ยู” 
คนที่เป็นลูกน้องบอก 
“ก็บอกอยู่ว่าทีมใหม่ พี่ไม่ได้ทำงานด้วย ดูโปรเจ็คกับดูคนให้เฉยๆ ออฟฟิศอยู่สยามนู่น” 
อย่างที่รู้กันว่าช่วงนี้พี่ยูยุ่งๆกับการหาบุคลากรเพื่อไปทำงานอีกโปรเจคพึ่งนึกได้ว่าแบบนี้คงเป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้ว 
“แล้วไม่คิดถึงพวกพี่เจนเหรอ” 
พี่ยูถาม เพราะเห็นว่าเจนและพาโชคตัวติดกันยิ่งกว่าอะไร 
“คุยกันแล้ว” 
หัวหน้าถอนหายใจ เพราะบางทีมันก็น่าน้อยใจจริงๆที่เขาไม่ใช่คนแรกที่พัชมันจะคุยหรือปรึกษาด้วย แต่บางทีนี่อาจจะเป็นทางที่ดีเหมือนกันเพราะถ้าเกิดอยู่กันไปแบบนี้ไม่รู้เมื่อไหร่ความสัมพันธ์คลุมเคลือถึงจะชัดเจน บางทีมันคงถึงเวลาแล้วที่จะลองคบแล้วใช้ชีวิตแบบคนทั่วไปที่ไม่ใช่หัวหน้าและลูกน้องแบบนี้ 
“โอเคไหม” 
ลูกพี่ถาม 
“ผมให้เขาเช่าบ้านไปแล้ว จะกลับมายังไง” 
พาโชคดื้อตาใส ทั้งๆที่ไปเชียงใหม่ก็ต้องเช่าอพาร์ทเมนต์อยู่แท้ๆ กลับมากรุงเทพมันจะไปยากอะไร พี่ยูส่ายหัวเพื่อบอกว่าไม่อนุญาต 
“ไปเชียงใหม่ไปอยู่บ้านพี่ กลับมาก็มาอยู่กับพี่” 
“...” 
“ถ้าไม่โอเคก็ไม่คบ” 
คนเป็นพี่ว่า 
“พี่ยูแม่ง” 
“ทำปากยื่น เดี๋ยวบีบปาก” 
คนเป็นพี่ว่าพร้อมกับจรดหน้าผากชิดกับหน้าผากอีกคนทั้งๆที่ยังไม่ปล่อยมือ 
“ดีลไหม” 
คนเป็นพี่ย้ำ 
“ดีลก็ได้” 
น้องมันตอบเสียงเบา ลูกพี่ยื่นปากไปจุ๊บที่ปากยื่นๆนั่นอีกทีก่อนจะใช้มือที่จับแก้มของอีกคนทั้งสองข้างบีบแก้มน้องมันเพื่อกดดัน 
“ตอบดีๆ” 
ไอ้พัชที่เขินจนหูแดงพยักหน้าแล้วตอบใหม่ 
“ดีลครับ” 
ในตอนที่คนเป็นพี่ยื่นหน้าเข้ามาจูบอีกครั้งประตูห้องทำงานที่เหมือนไม่มีใครอยู่ก็ถูกผลักเข้ามา 
“ยูริสั่งไลน์แมนไว้ใช่มะ เนมเห็นเขามาส่งเลยหยิบขึ้นมา...เอ่อ” 
พาโชคผู้ซวยมาตลอดกำลังคิดว่าวาร์ปไปเชียงใหม่เลยได้ไหมหรือลาออกจะเร็วกว่า 

 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-08-2018 15:13:29 โดย zearet17 »

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
ก่อนจะพูดถึงเนื้อเรื่องขอปรบมือให้กับความทันเหตุการณ์ของนักเขียนด้วยค่ะ คือแค่เห็นชื่อตอนนี่เรารู้เลยว่าความคับแค้นใจมาจากไหน ฮ่าๆๆๆ นี่ก็ว่างวดที่จะถึงจะซื้อ 504 นี่แหละค่ะคือหลอกหลอนมาก

มาที่เนื้อเรื่องเราเข้าใจความกังวลของพัชนะเพราะส่วนตัวเราก็ไม่ชอบเป็นแฟนกับคนที่ทำงานเดียวกันอยู่แล้ว มันค่อนข้างทำตัวยากน่ะแต่ก็อยากให้พัชนึกถึงพี่ยูมันนิดนึงคือจะไปไม่ว่าแต่ปรึกษาพี่มันหน่อยไม่ใช่มารู้ตอนที่พัชตัดสินใจหมดแล้ว แต่ยังไงก็ดีใจด้วยนะที่น้องเอ่ยปากขอคบเองเลยเนี่ย หวังว่าจะหมดปัญหาแล้วนะ ว่าแต่ปมเรื่องคดีความยังไม่จบใช่ไหมคะเราอยากรู้แล้วว่าเป็นไง

ออฟไลน์ 19august

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
    • https://twitter.com/19august___
ชอบบบบบ ชอบความรั้งของพี่ยูและไรท์มีความทันเหตุการณ์มากค่ะ555555

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
กรี๊ดดดดดด คุณเนมมมมมมมมมมม ไม่ดูเวล่ำเวลาเลย เดี๋ยวบอกให้พี่เอกจัดการเสียนี่
 :angry2:

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ถ้าห่างกันแล้ว ความสัมพันธ์จะเป็นแบบไหนต่อไปนะ

ออฟไลน์ Rateesiri

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 143
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
อึดอัดกับคู่นี้จริงๆ น่าจะเริ่มชัดเจนแล้วเน๊อะ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ fullfinale

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 666
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
เอ๊ะ ความรู้สึกนี้เหมือนเหตุการ์ณมันพึ่งผ่านมาเมื่อตอน4โมงใช่ไหมคะ ถถถถ

กรี๊ด มีความเป็นแฟนแล้ว  :o8: รอดูฉากหวานๆ จะมีบ้างรึเปล่านะ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
มันแปลกๆ........
ความจริงก็คบกัยในพฤตินัย
แต่ไม่เปิดเผย แต่เป็นที่รู้กันในทีม

แต่ก็เข้าใจพัชนะ
เป็นแฟนกันดันทำงานในห้องเดียวกัน  :z3: :z3: :z3:
พี่ยูน้อยใจหน่อยๆแล้ว
แต่ก็เแก้เกมได้ดี เยี่ยมมาก  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
พัชแทบไม่ใช้เงิน มีรายได้เพิ่มจากค่าเช่า
ที่อยู่ฟรี  แถมมีพี่ยูดูแล   :man1:

พี่ยู  พัช  :กอด1: :กอด1: :กอด1:   
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ yasperjer

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
กลับมาอีก4เดือนหน้า จะเหมือนเดืมใช่มั้ยยย อย่ามีปัญหากันอีกเลยหนา

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
พีชอ่ะ ความสัมพันธ์คลุมเครือมาตลอด จู่ๆมาขอคบแล้วจะทิ้งไปเชียงใหม่เนียะนะ มันจะดีมั้ยเนี่ยะ

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ tomnub

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 265
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
อิอิ คุณเนม

ออฟไลน์ kberoro

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เขาคบกันเขาคบกันแล้ว เห้ยยยยย ถึงจะอยู่ห่างๆ แต่ก็สบายใจแล้วนะ เห็นดื้อแบบนี้พัชก็ยอมพี่ยูเหอะ
คุณเนมทำไมมาผิดจังหวะแบบนี้ น้องพัชหน้าแดงมากี่รออบแล้วเนี้ย น่าร้ากกกก
แต่ชื่อตอนและสถานการณ์นี้สมจริงมากค่ะ จริงๆแล้วพวกเราก็คือพี่เจนนี่ล่ะ ที่มีคนมาโพสเรื่องงงๆแล้วก็ไม่เข้าใจ แต่สรุปคือยังไงก็ต้องกดให้ได้ 555555

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
ตัวเลขที่หลอกหลอนอย่างหน้าไม่อาย

พัชกั๊กว่ะ แต่เราชอบ กร๊ากกกกกกกก

ออฟไลน์ melodyuh

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อินังหัวหน้าก็อยากให้ไอ้ซวยหึงตัวเองแหละ แหมมมมม

ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 694
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
5555555555 พาซวยเอ้ยยย  :hao6:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ chubbybunny

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 11
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ดีลกันได้น่ารักมาก เขินค่ดๆ :hao3:

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
ดีลกันน่ารักเชียว


ออฟไลน์ melodyuh

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
โอยยยย นึกว่าจะดราม่าแน้วว โอยยยยย
4เดือนแปปเดียวเองงง ไปเซ็ทแล้วก็กลับมาหาพี่ยูน้า ระหว่างนี้พี่ยูก็บินถี่ๆเอาก็ได้
แค่นี้ก็ดูออกแล้วว่าไอ้ซวยมันขาดหัวหน้าไม่ด๊ายยยย คิคิ

ออฟไลน์ ก้อนขี้เกียจ

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 580
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
วนวนกฝูงใหญ่มากจะร้องน้องหลินลูกลาก่อย  :hao5:

คุณเนมมาได้จังหวะ555555

ออฟไลน์ กาแฟมั้ยฮะจ้าว

  • Let me hug you tight, and I’ll make you feel how important you are.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +570/-0

ออฟไลน์ chubbybunny

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 11
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
อีชั้นมานั่งรอทุกวันเลยจ่ะ :hao7:

ออฟไลน์ Jiraapp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 380
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
คนเป็นแฟนกันทำงานที่เดียวกันมันมีปัญหาจริง ๆ นะ เห็นหลายคู่แล้ว ยังไงก็สู้ ๆ นะน้องพัชพี่ยู

ชอบความดื้อเงียบของพัชจังทำไมดื้อน่ารักอ่ะ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ zearet17

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 345
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +555/-0
    • facebook
20.เป็นห่วง พูดแบบนี้!


“ข้าจ้าวเป็นสาวเจียงใหม่~” 
เจนร้องเพลงเสียงหลงไปพลางมองหน้าพาโชคที่กำลังยุ่งไปพลาง 
“ผิดสิ ข้าวจ้าวเป็นบ่าวเจียงใหม่ ก็บ่เท่าไดก็จะเป็นหนุ่มแล้ว” 
นอกจากจะร้องเพี้ยนแล้วยังแต่งเนื้อร้องเองอีกต่างหาก 
“กลับกี่โมงพัช” 
คนที่ถูกถามเงยหน้าขึ้นจากจอคอมพิวเตอร์ก่อนจะตอบ 
“อีกสักพักก็กลับแล้วครับ” 
พัชบอกพี่เจนที่กำลังเก็บของเข้ากระเป๋าเพื่อกลับบ้าน 
“คนอื่นกลับไปหมดแล้วเหรอ” 
เจนกวาดสายตามองห้องทำงานที่ตอนนี้เหลือแค่พาโชคกับเจนสองคนทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ยังเห็นพี่เอกกับหัวหน้านั่งทำงานอยู่เลย เงยหน้ามาอีกทีก็หายไปแล้ว 
“พี่เอกกลับแล้วครับ ส่วนหัวหน้าไปดูดบุหรี่มั้ง” 
เจนพยักหน้ารับก่อนจะโบกมือลาพาโชค 
“งั้นเจ้กลับบ้านก่อนนะ” 
พาโชคยกมือไหว้พี่เจนก่อนจะก้มหน้าก้มตาเคลียร์งานต่อ ไอ้เรื่องที่บอกว่าจะย้ายไปเชียงใหม่ไม่ใช่ว่าปุปปับจะได้ไปเลยเพราะงานเก่าก็ยังท่วมหัว ทางคุณเนมมีเวลาให้ทีมพี่ยูสองเดือนเพื่อเคลียร์งานและหาคนใหม่ เป็นเหตุให้ช่วงนี้ไอ้แว่นต้องอยู่ดึกเกือบทุกคืนเพื่อรับกรรมของตัวเอง 
“ยังไม่เสร็จอีกเหรอ” 
หัวหน้าทีมเดินกลับมาพร้อมกับชามะนาวเย็นกระป๋องนึง เขาวางมันลงข้างหน้าพาโชคที่กำลังเพ่งจอคอมพิวเตอร์แบบเอาเป็นเอาตาย 
“อือ ดู seo อยู่ครับ” 
Seo ที่ว่าคือ Search Engine Optimization หรือพูดง่ายๆคือทำยังไงให้เว็บไซต์ติดอันดับการค้นหาของ search engine ซึ่งจำเป็นมากสำหรับเว็บขายของและเว็บข่าวสารต่างๆที่อยากได้ยอดวิวเยอะๆโดยไม่ต้องจ่ายค่าโฆษณา 
“ติดอะไร” 
พี่ยูถามคนที่กำลังนั่งเคาะแป้นพิมพ์ไม่มีทีท่าว่าจะลุกกลับบ้านแม้แต่น้อย 
“ไม่ติด กำลังทำตาม step ไปเรื่อยๆ ยากตรงต้องย้าย structure ไฟล์เขา” 
พาโชคตอบ เพราะเว็บไซต์เว็บนี้พาโชคไม่ได้เขียนเองเพราะฉะนั้น structure หรือแผนผัง directory ของเว็บไซต์ไม่ได้วางมาให้เหมาะกับการทำ seo ตั้งแต่แรก ไอ้พัชจึงต้องมานั่งแก้เอง การทำ seo มีอยู่หลายเทคนิค หลักๆก็คือเขียนไฟล์เพื่อให้ bots ของ search engine เข้ามาไล่ดูในเว็บไซต์ว่ามีอะไรบ้าง สิ่งที่สำคัญที่ต้องมีคือ keywords ของเว็บว่าเว็บนี้สามารถทำอะไรได้บ้าง ขายอะไรอยู่ นอกจากนั้นยังมีเรื่องของการเขียนโปรแกรมและการวางโครงสร้างของเว็บไซต์ให้เป็นระเบียบ เพื่อให้ง่ายต่อการค้นหา 
“ต้องมานั่งเปลี่ยน path อีกสิ” 
หัวหน้าถาม path ที่ว่าคือที่ตั้งของไฟล์ต่างๆในเว็บไซต์ พาโชคพยักหน้ารับแต่ก่อนที่จะได้ลงมือทำงานต่อพี่ยูก็จับหน้าให้หันมาหา 
“ตาแดงเหรอ” 
คนเป็นพี่ถามพร้อมกับมองตาของพาโชคที่แดงซึ่งน่าจะมาจากเจ้าตัวใช้สายตาเยอะเกินไป 
“เหรอ?” 
ไอ้พัชถามกลับพร้อมกับถอดแว่นออก ก่อนที่จะได้ขยี้ตาพี่ยูก็จับมือไว้ก่อน 
“ไหน พี่ดูหน่อย” 
เพราะว่าหัวหน้ายื่นหน้ามาใกล้เกินไป พาโชคถึงได้ดีดตัวออกทันที 
“อย่ามาใกล้นะ” 
คนเด็กกว่าว่าพร้อมกับเลื่อนเก้าอี้ให้ถอยอีก 
“ผมหลอนคุณเนม” 
พอพาโชคพูดจบลูกพี่ที่กำลังงงกับท่าทางของน้องก็ขำพรืด เพราะหลังจากคุณเนมเข้ามาเห็นช็อตเด็ดวันนั้นทุกอย่างก็ไม่เหมือนเดิม เริ่มจากของฝากจากญี่ปุ่นที่ปกติจะเป็นขนมบ้างของใช้จุกจิกบ้าง ล่าสุดพี่ยูได้ถุงยางขนาดบางเฉียบมาเป็นของฝาก แถมช่วงนี้เวลาเข้ามาหาพาโชคก็ดูเกร็งๆผิดปกติ ของกินก็ไม่กล้าฉกไปเหมือนเดิม 
“พอๆตาแดงหมดแล้ว พรุ่งนี้ค่อยมาทำต่อ” 
พาโชคหาวหวอดก่อนจะพยักหน้ารับเพราะวันนี้เหนื่อยมากแล้วจริงๆ พัชมองพี่ยูที่กำลังเก็บของลงกระเป๋าพลางคิดถึงเมื่อก่อน ถ้าเป็นตอนก่อนหน้านี้พี่ยูคงจะชี้หน้าแล้วบ่นเป็นยักษ์ว่าถ้างานไม่เสร็จก็อย่าหวังจะได้กลับบ้าน เผลอๆโดนด่าว่า 'ไอ้ซวยเมื่อไหร่จะเสร็จ มึงแม่งไม่เคยทำอะไรเสร็จสักที!’ 
“มองอะไร” 
ลูกพี่ถามลูกน้องที่มองมานิ่งแถมทำหน้าตากวนตีนอีก 
“ป่าว" 
“พรุ่งนี้พี่ลางานนะ ไปสน.” 
พี่ยูบอกพาโชคที่กำลังเก็บของใส่กระเป๋าบ้าง บางคนอาจจะสงสัยว่าใช้คอมที่ทำงานก็แล้วทำไมคนทำงานสายนี้ยังจะต้องแบกแล็ปทอปไปมาอีก เหตุผลเดียวก็คือมันสามารถแก้บัคได้ทันท่วงที แก้บัคบนบีทีเอสพาโชคก็ทำมาแล้ว 
“เป็นไงบ้าง ผมนึกว่าเรื่องเงียบไปแล้ว” 
พัชถามลูกพี่ที่กำลังไล่ปิดไฟในห้องให้หมด 
“ก็เกือบเงียบเพราะทางนั้นเขาเส้นใหญ่ แต่คดีนี้เพื่อนพ่อพี่เขาช่วยดูให้” 
พาโชคพยักหน้ารับก่อนที่หัวหน้าจะพูดต่อ 
“วุ่นวายอยู่นะ เพราะต้องใช้ตำรวจไอทีด้วย ต้องเอาหมายศาลมาขอตรวจสอบอีเมลภายในบ.เรา” 
พี่ยูเล่าไปเรื่อยๆด้วยน้ำเสียงเรียบๆ มีก็แต่พาโชคที่ยืนฟังแล้วหงุดหงิดแปลกๆ 
“พี่ช่วยเล่าให้มันตื่นเต้นได้ไหม ปูเรื่องมาตั้งนาน” 
พัชว่า พี่ยูหันมามองหน้าน้องก่อนจะดึงแขนออกจากห้องทำงาน ล็อคประตูให้เรียบร้อยแล้วเดินออกมาตามทางที่ฝั่งซ้ายเป็นห้องน้ำส่วนขวามือเป็นระเบียงกระจกทอดยาวออกไปยังลิฟท์ตรงกลางชั้น 
“ต้องตื่นเต้นยังไง” 
คนเป็นพี่ถาม 
“แบบพี่จะจัดการแฮ็คมันเอง!!” 
พี่ยูขำจนตัวโยนก่อนจะถามพาโชค 
“ดูหนังมากไปเหรอพัช” 
ด้วยอาจจะเป็นเพราะวัยทำให้หมดความตื่นเต้นแบบนั้นแล้ว เข้าทำนองว่ายิ่งแก่ก็ยิ่งนิ่ง นี่คงรอแค่ว่ากระบวนการกฏหมายจะเป็นยังไงต่อไป พาโชคทำหน้าตาไม่พอใจแต่ก็นึกได้ว่าถ้าตำรวจเข้ามาที่ทำงานคนอื่นก็คงรู้เรื่อง 
“แต่ทีนี้พวกคุณเนมจะไม่ถามเหรอ มันจะมีผลกระทบกับพี่หรือเปล่า” 
หัวหน้ายิ้มน้อยๆให้กับคนเป็นห่วง คงเพราะพวกพี่ยูกับคุณเนมคบกันมานานทั้งในฐานะเพื่อนและเพื่อนร่วมงาน ทำให้เรื่องแบบนี้ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ 
“เป็นห่วงพูดแบบนี้ บ่นอะไรยาวๆ” 
พาโชคเบ้หน้า พี่ยูขำก่อนจะเล่าต่อ 
“คุยกันแล้ว พวกคุณเนมเอะใจตั้งแต่ที่มันมีเมลสแปมแล้ว อย่างน้อยจะได้เช็คไปทีเดียว” 
“เส้นใหญ่ก็ดีแบบนี้แหละเนอะ” 

คนน้องประชด 
“เหรอแว่นเหรอ” 
พี่ยูหมั่นไส้เลยบีบปากเล็กๆนั่นที ก่อนจะก้าวออกจากลิฟท์พร้อมกับเล่าเรื่องอีกอย่างที่พึ่งนึกได้ 
“ส่วนเรื่องแพม สืบรู้แล้วนะ” 
“หืม?” 
พาโชคเลิกคิ้วมอง 
“แพมเป็นแฟนพี่ชายของเนส เหมือนที่พัชบอกเลย” 
หัวหน้าว่า เพราะก่อนหน้านี้ไม่นายเขากับพาโชคคุยกันเรื่องของแพมค่อนข้างจะเยอะ ซึ่งพาโชคเองค่อนข้างมั่นใจว่าแพมจะต้องเป็นคนในครอบครัวของเนส อาจจะเป็นญาติหรือแฟนของตำรวจคนนั้น 
“แต่ผมงงตรงทำไมเขาถึงกล้าให้แฟนตัวเองมาทำแบบนี้” 
พัชจำได้ว่าเริ่มรู้จักพี่แพมเพราะได้ยินที่เขาคุยกับเพื่อนเรื่องหัวหน้าตั้งแต่ในลิฟท์เมื่อเกือบปีที่แล้ว นั่นแสดงว่าพี่แพมก็ต้องรู้จักพี่ยูมาก่อนหน้านั้น แต่ที่พัชไม่ค่อยเข้าใจคือทำไมพี่แพมถึงได้ทำตัวโสดแล้วเข้าหาพี่ยูแบบเปิดเผย เพราะดูจากเพื่อนๆในแผนกพี่แพมทุกคนก็เข้าใจว่าพี่แพมกับพี่ยูเคยคุยกันมาก่อน 
“ไม่รู้ว่ะ แค้นมั้ง” 
คนเป็นพี่บอกพร้อมกับเดินนำไปที่ลานจอดรถ พาโชคขมวดคิ้วแน่นก่อนจะถามต่อ 
“ถามจริง นอกจากเรื่องคลิปนั่นแล้วมีปัญหาอะไรกันมาก่อนหรือเปล่า” 
พี่ยูหันมาดึงมือให้คนที่มัวแต่ถามเดินเร็วๆก่อนจะตอบ 
“จริงๆก็ไม่ถูกกันตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว” 
“ยังไง” 
“เหมือนอยู่คนละแกงค์แล้วก็เป็นอริกัน พี่จีบน้องสาวเขา แบบถ้าจีบได้ก็ชนะแล้วก็จีบได้จริง” 
พัชมองลูกพี่มันนิ่งก่อนจะบอก 
“เด็กหนอเด็ก” 
“อือ ทำไมนิสัยเสียขนาดนั้นก็ไม่รู้เหมือนกัน” 
ในตอนนั้นเด็กชายศศินที่วันๆเอาแต่โดดเรียนและคบเพื่อนเกเรช่วยไม่ได้ที่จะพาตัวเองเข้าไปหาปัญหา เริ่มตั้งแต่บุหรี่ เหล้า มีเรื่องกับคนอื่นไปทั่ว ด้วยสังคมและสภาพแวดล้อมตอนนั้นการที่จะทำเรื่องไม่ดีนี่ไม่ใช่เรื่องยากเลย 
“บอกสิว่าไม่ได้ถ่ายคลิปเพราะแค้นพี่ชายพี่เนส” 
ในตอนนี้ศศินที่อายุสามสิบต้นๆพึ่งรู้ว่าปัญหาในอดีตมันส่งผลต่อตัวเองในปัจจุบันมากแค่ไหน 
“สำนึกไม่ทันแล้วครับแว่น” 
พาโชคถอนหายใจหนัก เพราะถึงจะบ่นอะไรไปยังไงก็กลับไปแก้อดีตไม่ได้อยู่ดี ดูจากโหงวเฮ้งก็รู้ว่าเมื่อก่อนลูกพี่น่าจะแสบแค่ไหน 
“พี่พึ่งให้คนไปทำความสะอาดบ้านให้”
พี่ยูเปลี่ยนเรื่องเพราะถ้าเกิดคุยเรื่องปวดหัวนานมากกว่านี้พี่มันต้องโดนพาโชคทุบแน่นอน 
“ที่เชียงใหม่?” 
“อืม” 
คนเป็นพี่ตอบพร้อมกับขับรถคันใหญ่ออกจากลานจอดรถใต้ตึก ในระหว่างที่คิดว่าจะกินข้าวที่ไหนดีหางตาก็เหลือบไปเห็นคนที่พึ่งพูดถึงยืนอยู่หน้าตึก 
“พี่แพมเหรอ?” 
พาโชคโพล่งขึ้นมาก่อนจะยกมือให้หัวหน้าชะลอรถบริเวณลานจอดหน้าบริษัทที่ตอนนี้แทบไม่มีรถอยู่แล้ว 
“พัชจะทำอะไร” 
พี่ยูถามพร้อมกับคว้าแขนคนที่กำลังจะเปิดประตูลงไป 
“แป้ป ห้ามตามมา” 
ไอ้แว่นบอกก่อนจะเปิดประตูรถที่จอดตรงลานจอดหน้าตึกยามดึกที่ไม่มีคนแล้ว พัชลงรถไปแล้วเดินไปทางแพม ยูริรีบหมุนพวงมาลัยเพื่อที่จะจอดรถดีๆเหลือบไปเห็นอีกทีไอ้แว่นก็เดินไปถึงตัวแพมแล้ว 

***

“อ้าว eoc มานั่งทำอะไรตรงนี้” 
พี่เอกผู้กำลังจะกลับบ้านเดินลงมายังลานจอดรถใต้ตึกก่อนจะพบว่าคุณเนมยืนดูดบุหรี่อยู่ใกล้ๆรถตัวเอง เท่าที่จำได้และรู้จักกันเขาไม่เคยเห็นคุณเนมดูดบุหรี่มาก่อน 
“CEO” 
หุ้นส่วนรายใหญ่ของบริษัทบอกพร้อมกับดับบุหรี่ในมือ 
“อ้าว ผิดเหรอครับท่าน โทษที” 
พี่เอกว่าพร้อมกับยิ้มขำ 
“เมื่อไหร่พี่เอกจะเลิกกวนตีน” 
คุณเนมว่า เพราะนอกจากพี่เอกแล้วก็ไม่เคยมีใครกล้ากวนบอสใหญ่แบบนี้หรอก 
“นี่คุณเนมคิดว่าตัวเองเป็น abc แล้วจะพูดอะไรก็ได้เหรอ” 
คุณเนมถอนหายใจก่อนจะแก้ใหม่ 
“CEO” 
“อ้าว ผมนี่ผิดซ้ำซากจริงๆ” 
พี่เอกว่าพร้อมกับขำท่าทางเจ้านาย เห็นคุณเนมชอบแกล้งพาโชคก็จริงแต่พอโดนแกล้งเองกลับไม่ชอบใจ 
“กลับบ้านไปเลยไป” 
บอสใหญ่ว่าพร้อมกับโบกมือไล่ พี่เอกสังเกตุเห็นหูแดงๆของอีกคนถึงนึกได้ว่าน่าจะพึ่งกลับมาจากดื่มกับลูกค้า 
“ตั้งแต่เป็น aec ก็ผลักไสไล่ส่งเก่ง เมาเก่ง” 
พี่เอกว่าพร้อมกับส่ายหน้าเป็นเชิงน้อยอกน้อยใจ เท่าที่คุณเนมจำได้แต่ก่อนพี่เอกก็ไม่ใช่คนขี้ประชดแบบนี้เหมือนกัน 
“พี่เอก!” 
แต่พอได้ยินเสียงดังของอีกคนก็ยกมือยอมแพ้ เพราะถ้าคุณเนมโกรธจริงๆหน้าที่การงานของพี่เอกอาจจะแย่ลงก็เป็นได้ 
“ทำอะไร มายืนดูดบุหรี่ที่รถคนอื่น” 
คนที่โตกว่าแค่สองปีถามบอสที่อายุน้อยกว่า เมื่อคุณเนมเห็นว่าพี่เอกเลิกกวนแล้วถึงเริ่มพูด 
“เนมถามจริง พี่เอกรู้เรื่องของยูริไหม” 
คนเป็นพี่เลิกคิ้วก่อนจะถาม 
“เรื่องอะไร” 
“วันนี้ยูริมาคุยกับเนมเรื่องขอตรวจสอบอีเมลภายใน” 
Ios ดีเวลอปเปอร์ส่ายหัว เพราะเรื่องนี้หัวหน้าทีมยังไม่ได้พูดอะไร 
“ไม่รู้มันเกี่ยวกันไหม กับเรื่องพาโชคด้วย” 
เขามองคุณเนมที่นั่งลงตรงขอบกระถางต้นไม้ตรงลานจอดรถก่อนจะนึกถึงพาโชคกับหัวหน้าที่ช่วงนี้แปลกๆไป 
“ไม่น่าเกี่ยวหรอก” 
คนแก่กว่าตอบบ้างก่อนจะเปิดประตูรถแล้วโยนกระเป๋าเข้าไปเก็บข้างใน ส่วนตัวเองเดินมานั่งข้างบอสใหญ่ ในตอนนั้นถึงได้รู้ว่าคุณเนมคงดื่มไปเยอะ เดาได้จากกลิ่นของไวน์ที่ค่อนข้างแรง ไม่รู้เมื่อไหร่เหมือนกันที่คุณเนมดื่มเก่งขนาดนี้ และที่คุณเนมยังอยู่ที่นี่หลังจากออกไปข้างนอกกับลูกค้าแล้วก็คงเพราะรู้ว่าเขากลับดึกถึงได้มาดักรอที่รถแบบนี้ 
“แสดงว่าพี่เอกรู้เรื่องพาโชคใช่ไหม” 
พี่ใหญ่ของทีมหัวหน้าศศินมองเจ้านายใหญ่ เพราะไม่รู้จริงๆว่าถามถึงเรื่องอะไรและมีเจตนาแบบไหนถึงถามกลับ 
“เรื่องอะไร เชียงใหม่เหรอ” 
คุณเนมหยิบบุหรี่ออกมาจากกระเป๋าก่อนจะจุดขึ้นพร้อมกับบ่น 
“ถ้าเรื่องเชียงใหม่เนมจะถามทำไม” 
พี่เอกยักไหล่ก่อนจะรับบุหรี่มวนเดียวกันจากอีกคนมาถือไว้ในมือแล้วสูดเข้าเต็มปอด 
“ตั้งแต่เป็น ceo ก็อ้อมค้อมเก่ง” 
พี่เอกว่าก่อนจะส่งบุหรี่คืนแต่คุณเนมส่ายหัวปฏิเสธ 
“คุณเนมดูดบุหรี่ตั้งแต่เมื่อไหร่” 
“ช่างผมเถอะ ที่เนมถามเรื่องพาโชคเพราะวีคที่แล้วเจอยูริกับพาโชคอยู่ด้วยกัน” 
พี่เอกมองหน้าคนเปลี่ยนเรื่อง 
“เนมเห็นยูริกับโชคจูบกัน” 
พี่เอกขำแห้งเพราะเหมือนจะรู้แต่ก็ไม่เคยเห็นคาตาแบบนั้น 
“ที่ไหน” 
คนอายุเยอะกว่าถาม 
“ในห้องทำงาน” 
พอคุณเนมตอบมาพี่เอกก็ขำพรืด คิดว่าคืนนี้ต้องโทรหาเจนสักหน่อยเพื่ออัพเดทข่าวสาร แปลกดีเหมือนกันที่แต่ก่อนว่าเจนเป็นพวกขี้มโนแต่ตอนนี้กลับทีมเดียวกันกับเจนเสียอย่างนั้น 
“ก็พอรู้” 
พอได้ยินแบบนั้นบอสใหญ่ก็ฉวยบุหรี่จากมือพี่เอกไปดูดก่อนจะนั่งนิ่งๆเหมือนคนช็อค 
“เนมควรทำไงดี” 
พี่เอกมองคนที่ชื่อว่าเป็นเจ้าของบริษัทก่อนจะจุดบุหรี่อีกมวนขึ้น ก่อนจะตอบ 
“ทำอะไร คุณเนมทำอะไรไม่ได้หรอก มันเป็นเรื่องของเขาสองคน” 
หลังจากคำตอบนั้นต่างคนก็ต่างเงียบไปพักใหญ่ เมื่อสิบปีที่แล้วพวกเขาทำงานด้วยกันในฐานะเพื่อนร่วม งาน พี่เอก ธาม ยูริและคุณเนมสนิทกันมาก ในขณะที่ยูกับธามเป็นเพื่อนกันมาก่อน พี่เอกและคุณเนมก็รู้จักกันมาก่อนเหมือนกัน 
“เนมไม่เคยทำอะไรได้เลยใช่ไหมเนี่ย” 
คุณที่นั่งก้มหน้าถามอีกคน พี่เอกยิ้มก่อนจะพูดบ้าง 
“ไม่ใช่ว่าเป็น ceo แล้วจะเมามาทำงานก็ได้นะ” 
เขาล้อคนที่เป็นบอสเหมือนทุกทีแต่แทนที่จะโดนดุอีกคนกลับพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง 
“เนมก็ไม่ได้อยากเป็น...คนที่ควรเป็นคือพี่เอกต่างหาก” 
คนที่เป็นพี่ถอนหายใจบ้างก่อนจะบอกคนที่น่าจะพาลไปเรื่องอื่นแล้ว 
“เรื่องนี้มันจบไปนานแล้วคุณเนม” 
พี่เอกว่าพร้อมกับยันตัวลุกขึ้นแล้วบิดขี้เกียจ 
“เนมจบเพราะพี่อยากให้จบ" 
นั่นไง...ในที่สุดก็ลากเรื่องเก่าๆมายำรวมกันไปหมดก่อนที่คุณเนมจะพูดอะไรมากกว่านี้ คนที่เป็นลูกน้องในทางพฤตินัยถึงปราม 
“ผมไม่รู้นะว่าคุณเนมคิดอะไรอยู่แต่มันเป็นเรื่องของคนสองคนจริงๆ ถึงเราจะห่วงเขาแค่ไหนก็ทำได้แค่มองแหละ ผมว่าเราก็รู้จักยูริกับพาโชคดีทั้งคู่ หรือถ้าคุณเนมกลัวมันกระทบกับงานผมว่าการที่พาโชคไปเชียงใหม่ก็เป็นเรื่องดีนะ” 
“ขับรถไหวไหม ตอนกลับมายังไง” 
คนเป็นพี่ถามอีกครั้งเมื่อเห็น ceo นิ่งไป 
“เนมนั่งแท็กซี่กลับมา” 
“เมาขนาดนี้แทนที่จะกลับไปนอน” 
เพราะรู้จักกันมานานถึงรู้ว่าตอนที่บอสใหญ่งอแงแบบนี้แหละคือตอนที่กำลังเมา 
ในตอนที่เข้ามาทำงานตอนแรก พี่เอกอายุเยอะที่สุดในกลุ่มเพราะจบช้า เขาจบมาจากที่เดียวกันกับคุณเนมในคณะเดียวกัน สาขาเดียวกันและรุ่นเดียวกัน พวกเขาเข้ามาทำงานที่เดียวกันเพราะเหตุผลหลายๆอย่างและหนึ่งในเหตุผลทั้งหมดทั้งมวลนั้นคือในตอนนั้นพวกเขาไม่ได้เป็นแค่เพื่อนร่วมรุ่น 
“เนมไม่อยากให้ยูริกับพาโชคเป็นเหมือนเรา” 
เจ้านายบอกเสียงเบา พี่เอกถอนหายใจหนักเพราะไม่อยากคุยกันเรื่องเก่าๆ 
“ไม่เหมือนหรอก คนละคนกัน” 
พี่เอกบอกก่อนจะปลดล็อครถแล้วหันไปบอกอีกคน เขารู้ว่าเขากำลังตัดบท แต่ก็ดีกว่ามาคุยเรื่องสิบปีก่อนในลานจดรถมืดๆแบบนี้ 
“ขึ้นรถ เดี๋ยวพี่ไปส่ง” 
คนอายุน้อยกว่าสูดหายใจเข้าลึกก่อนจะบอกอีกคนที่ดูแล้วยังไงก็ไม่มีทางที่จะคุยเรื่องนี้กันดีๆสักที สิบปีมาแล้วพี่เอกก็ยังไม่เคยคุยกันเรื่องนี้ดีๆเลย พี่เอกเอาแต่หนี 
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวเนมกลับเอง” 
เจ้านายบอกพร้อมกับลุกขึ้นด้วยท่าทางหัวเสียแล้วเดินไปอีกทาง บางทีคงต้องออกไปข้างนอกเพื่อโบกแท็กซี่ 
“กลับเองยังไง คุณเนมเมา” 
“เมื่อไหร่จะเลิกเรียกคุณเนมสักที!” 
“ผมบอกให้ขึ้นรถ” 
พี่เอกผู้ขึ้นชื่อว่าหนีมาตลอดสิบปีนี้เดินมาคว้าแขนคนที่เดินเซ คนอายุน้อยกว่าสะบัดมือออกก่อนจะตวาดเสียงดัง 
“ไม่โว้ย!” 
ในที่สุดเจ้านายที่ดูสุภาพเรียบร้อยก็กลายเป็นเนมคนเดิมที่เคยรู้จักเมื่อนานมากแล้ว 
“อย่ามาเอาแต่ใจนะคุณเนม ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่คุณจะทำเหมือนที่เคยทำได้” 
จากที่ตอนแรกยังคุยกันอยู่ดีๆกลายเป็นว่าตอนนี้ต่างคนก็ต่างใช้อารมณ์เสียแล้ว 
“สำหรับพี่เอกเนมก็แค่เอาแต่ใจนั่นแหละ จะกี่ปีเนมมันก็แค่เด็กเอาแต่ใจ” 
คนเป็นพี่บีบแขนอีกคนแน่น 
“กลับ!” 
พี่เอกว่าก่อนจะดึงแล้วบังคับให้ขึ้นรถไปท่ามกลางเสียงโวยวายลั่นลานจอดรถเพราะคนแบบคุณเนมถ้ายังอารมณ์เสียแบบนี้ก็คงไม่พ้นไปกินเหล้าต่อ ไม่กลับบ้านแบบที่บอกหรอก 

***

“ทำอะไร! ทำไมไม่บอกพี่ก่อน!” 
พี่ยักษ์ที่เหมือนยักษ์กว่าทุกครั้งเสียงดังใส่เจ้าของบ้านที่นั่งหน้าหงอยอยู่หน้าทีวี หลังจากเหตุการณ์ระทึกที่พาโชคลงจากรถแล้วเดินตรงไปหาแพม ในตอนที่พี่ยูกำลังช้าเพราะกำลังจอดรถเข้าซองก็เหลือบไปเห็นไม่รู้คุยอะไรอยู่สองสามคำรถห้าประตูคันนึงก็มาจอดเทียบ เขาเห็นว่ารถคันนั้นลดกระจกฝั่งคนขับลงและแน่นอนว่าคนขับเป็นตำรวจและเป็นพี่ชายของเนสอย่างแน่นนอน เมื่อจอดรถได้พี่ยูรีบปลดเข็มขัดนิรภัยออกในตอนที่กำลังกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปทางพาโชค ฝั่งแพมก็รีบขึ้นรถไปโดยเร็ว เหลือแต่คนก่อเรื่องที่โดนดึงแขนให้ขึ้นรถเพื่อกลับบ้านมานั่งหงอยอยู่แบบนี้ 
“ก่อนหน้านี้ เพื่อนพี่แพมกับพี่แพมเคยมาถามผมเรื่องพี่ยู” 
คนที่หน้าเหมือนยักษ์มองที่อีกคนนิ่ง 
“แต่ก็ไม่ได้คำตอบเพราะผมก็บอกผมไม่รู้” 
“แล้ว?” 
“วันก่อนพี่แพมแอดแอคเคาท์ที่บ.มาหาผม บอกมีเรื่องจะคุยด้วย เรื่องพี่” 
“แล้วยังไง” 
พี่ยูถามเด็กแว่นเสียงดังขึ้นกว่าเดิม ไอ้พัชที่ใจเสียอยุ่แล้วยิ่งหงอยเข้าไปใหญ่ 
“ผมเลยถามเขาไปว่าเขาใช่ไหมที่เป็นคนปล่อยคลิปแล้วซ่อนกล้อง” 
พอได้ยินแบบนั้นหัวหน้าก็ปวดหัวหนัก 
“แล้วพี่เขาก็เงียบไปเลย เหมือนบล็อคผมทิ้งแล้ว วันนี้เห็นก็เลยว่าจะลงไปถามต่อหน้า” 
“ถ้าจัดการเองได้เรื่องมันจะมาถึงตอนนี้เหรอ พี่จะแจ้งตำรวจไปทำไม!” 
พาโชคที่เคยโดนหัวหน้าอารมณ์เสียใส่บ่อยเรื่องงานรู้สึกเหมือนคราวนี้จะไม่เหมือนกัน พัชจำได้ชัดว่าตอนที่ถามพี่เขาลนจนเหมือนจะร้องไห้ พอมีรถขับมาจอดเทียบถึงเห็นว่าตำรวจคนนั้นมารับ พัชสบตากับตำรวจที่น่าจะวัยเดียวกันกับหัวหน้า เตำรวจคนนั้นจ้องมันเหมือนรู้จักกันก่อนที่พี่แพมจะรีบวิ่งขึ้นรถไป ในระหว่างที่กำลังจับต้นชนปลายพี่ยูก็มาดึงแขนเสียแล้ว 
“ฟังนะพัช...” 
พี่ยูพยายามใจเย็นแต่ก็ทำไม่ได้ดีนัก 
“ถ้ามันยกปืนขึ้นมายิงจะทำยังไง” 
พาโชคที่คิดว่าเรื่องที่ตัวเองรู้ไม่ได้ใหญ่ขนาดนั้นได้แต่เงียบ ตากลมใต้กรอบแว่นจากที่แดงอยู่แล้วยิ่งเริ่มแสบ เจ้าตัวถอดแว่นพร้อมกับขยี้ตาตัวเอง คนเป็นพี่นั่งลงข้างกันก่อนจะดึงมือขาวๆนั่นออก 
“คือที่พี่รู้มา ตำรวจก็สงสัยว่าคนที่เข้าไปติดกล้องที่ห้องพี่ก็คือทางพี่ชายของเนสนั่นแหละ แต่ก็ยังพูดอะไรไม่ได้เพราะไม่มีหลักฐาน แล้วรู้ไหมทำไมพี่ต้องตามติดพัชอยู่แบบนี้ไม่กลับไปนอนบ้านตัวเอง” 
พาโชคส่ายหัว 
“เพราะพี่รู้ไงว่าทางนั้นเขาน่าจะรู้จักพัชจากคลิป แล้วรู้ไหมคนอย่างมันจะทำอะไรต่อ” 
เจ้าของบ้านมองหน้าคนที่มองมาด้วยความกังวล พาโชคขยับตัวเข้าไปกอดคนเป็นพี่แล้วซบหน้าลงกับไหล่ผิดวิสัยเดิม 
“หนีความผิดเหรอ...” 
แต่ก็ได้ผลเมื่อคนที่ดูเหมือนกำลังโกรธมากเมื่อครู่น้ำเสียงอ่อนลง 
“ถ้าเล่นงานพี่ไม่ได้มันก็จะเริ่มจากคนสนิท เพื่อนพี่สมัยมัธยมโดนระรานหมด ถ้าพี่ไม่ยอมมันก็จะเปลี่ยนไปเล่นงานเพื่อนพี่แทน เพราะรู้ไงว่าพี่ไม่กล้าบอกใคร” 
“ผมไม่รู้” 
เสียงอู้อี้ตรงไหล่บอก พี่ยูเอามือจับหัวทุยของอีกคนแล้วขยี้แรงๆ 
“ไม่รู้ไม่ใช่ข้ออ้างนะแว่น” 
สิ่งที่พี่ยูกับพาโชคแตกต่างกันนอกจากอายุแล้วก็น่าจะเป็นเรื่องสังคม ในขณะที่หัวหน้าในตอนวัยรุ่นเคยใช้ชีวิตกับคนแทบทุกแบบ พาโชคกลับอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เรียบง่าย พี่ยูเข้าใจดีว่าในขณะที่การแทงคนหรือชักปืนขึ้นมายิงเป็นเรื่องไกลตัวและเป็นไปไม่ได้ของพาโชค เขากลับเคยเห็นอยู่บ่อยครั้งในตอนที่คบเพื่อนไม่ดี ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าคนอีกกลุ่มเห็นมันเป็นเรื่องปกติ 
“ทีหลังมีอะไรก็บอกกัน อย่าทำให้พี่ปวดหัว ที่ไม่อยากให้ไปเชียงใหม่ก็เพราะแบบนี้แหละ” 
พาโชคที่ปกติดื้อเงียบแต่วันนี้กลับเป็นหมาหงอย พยักหน้ากับไหล่อีกคนก่อนจะพูดด้วยเสียงอู้อี้ 
“เป็นห่วง พูดแบบนี้” 
พี่ยูถอนหายใจหนักอีกรอบ เริ่มไม่แน่ใจว่ามีแฟนหรือลูก นี่คงเรียกว่า generation gap หรือช่องว่าระหว่างวัยแบบที่เจนมันบอกจริงๆ 

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-08-2018 15:14:39 โดย zearet17 »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด