วันนี้เป็นวันวาเลนไทน์
เหนือฟ้าไม่ได้หวังอะไรจากคนรัก หลังจากที่กลับมาคบกันใหม่ ติณณ์ภพก็มักจะมีเวรดึกในวันสำคัญต่างๆ ซึ่งเหนือฟ้าไม่เคยคิดน้อยใจเพราะเขาเข้าใจว่าการเรียนของอีกฝ่ายเป็นเรื่องสำคัญ และตนก็ไม่ใช่คนที่สนใจะไรเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว
แต่วันนี้ติณณ์ภพไม่มีเวรดึก เหนือฟ้าจึงตัดสินใจมาเดินตลาดนัดในมหาวิทยาลัยเพื่อรอคนรักเรียนเสร็จ บรรยายกาศเก่าๆทำเอาเขาคิดถึงช่วงเวลาในรั้วมหาวิทยาลัยไม่น้อย
"น้องเหนือ?"
เสียงเรียกชื่อเขาดังขึ้นไม่ใกล้ไม่ไกล เหนือฟ้าหันไปตามเสียงหวานนั้น หญิงสาวหน้าตาสะสวยท่าทางเรียบร้อยคนหนึ่งในชุดนักศึกษาโบกมือให้เขาท่าทางดีใจ แหวกทะเลผู้คนเดินมาหน้าร่างโปร่ง เหนือฟ้าเพ่งมองอยู่นาน ก็จะนึกขึ้นได้ว่าคนตรงหน้าคือเพื่อนสมัยมัธยมปลายของติณณ์ภพนึกถึงเมื่อคืน
"พี่ตาล! สบายดีมั้ยครับ ไม่เจอกันตั้งนาน"
เหนือฟ้าทักอย่างประหลาดใจที่ได้เห็นหญิงสาว นักศึกษาปีสุดท้ายของคณะเภสัชศาสตร์ยกมือขึ้นทัดผมไว้ข้างหูแล้วยิ้มเขินให้เขา ตอนนั้นเองที่เหนือฟ้าสังเกตเห็นแหวนบนนิ้วนางข้างซ้ายของร่างเล็ก
”ยินดีด้วยนะครับ" ร่างโปร่งชี้ไปที่แหวน
"ขอบใจจ้ะ งานแต่งพี่เดือนหน้า เดี๋ยวพี่จะส่งการ์ดเชิญไปให้ติณณ์พอดี ถ้าน้องกล้ากับน้องเหนือว่างก็มาด้วยสิ"
"ขอบคุณครับ น่าอิจฉาพี่ตาลจัง" เหนือฟ้ายิ้มยินดีกับความสุขของอีกฝ่าย
"แหม ก็บอกน้องกล้าให้ไปขอเร็วๆสิ"
น้ำตาลเย้า เล่นเอาคนฟังรีบโบกไม้โบกมือแก้ไขความเข้าใจผิดเป็นพัลวัน
"ไม่ใช่ครับ! ผมกับไอ้กล้าไม่ได้เป็นอะไรกัน"
"อ้าวเหรอ...คิดว่ายังไงน้องเหนือก็ต้องลงเอยกับน้องกล้าแน่แท้ๆเลยนะเนี่ย"คนเรียบร้อยเอ่ยเสียงอ่อนอย่างผิดหวัง "ถ้าอย่างนั้นตอนนี้เหนือมีแฟนรึยังล่ะ พี่รู้จักเพื่อนหล่อๆเยอะแยะเลยนะ"
"เอ่อ...ผม..." เหนือฟ้าอึกอัก นิสัยเก่าที่ต้องเก็บความสัมพันธ์ของตัวเองไว้เป็นความลับกลับมาอีกครั้งก่อนที่เขาจะนึกขึ้นได้ว่าตัวเองไม่จำเป็นต้องปิดบังอะไรแล้ว "มีแล้วครับ"
"จริงเหรอ? พี่รู้จักมั้ย?"
น้ำตาลถามอย่างตื่นเต้น เหนือฟ้าพยักหน้าช้าๆอย่างไม่รู้จะปฎิเสธอย่างไร นั่นอีกทำให้หญิงสาวตาโตกระพริบตาปิ๊งๆมองเขาอย่างอยากรู้อยากเห็นจนเหนือฟ้าใจอ่อน
"พี่ติณณ์...นั่นแหละครับ"
คนฟังเหมือนจะไม่เข้าใจในทีแรก น้ำตาลทำหน้าสับสนอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะค่อยๆหัวเราะออกมาอย่างไม่อยากเชื่อสิ่งที่ได้ยิน
"ฮะๆ จริงเหรอเนี่ย คนอย่างติณณ์เนี่ยนะได้แฟนดีๆอย่างน้องเหนือ" หญิงสาวปาดน้ำตาที่เกิดจากการหัวเราะมากเกินไป หายใจขาดห้วงขณะพูดกับคนอายุน้อยกว่า "แล้วนี่คบกันมานานรึยัง?"
เหนือฟ้าลังเลว่าควรจะบอกอีกฝ่ายว่าอย่างไร ก่อนจะตัดสินใจนับตั้งแต่ความสัมพันธ์ครั้งแรกของพวกเขา
"ตั้งแต่ตอนมอปลายแล้วครับ"
เสียงหัวเราะหวานใสสะดุดกึกเมื่อได้ยินดังนั้น น้ำตาลขมวดคิ้วมองเขาเหมือนไม่แน่ใจว่าตัวเองกำลังโดนอำหรือไม่ ก่อนจะคลี่ยิ้มออกมาเหมือนนึกอะไรดีๆออก
"ไม่น่าล่ะ...คนที่ทำให้ติณณ์ดูเป็นผู้เป็นคนขึ้นคือน้องเหนือนี่เอง"
“ผม?”
เหนือฟ้าชี้มาที่ตัวเองอย่างไม่เข้าใจ น้ำตาลพยักหน้ายิ้มๆ
“ก็ติณณ์น่ะ จากทำตัวเละเทะเหลวเป๋วไม่เอาอะไรทั้งนั้น กินเหล้าไปวันๆ คณะที่อยากเข้าก็ไม่มี จู่ๆก็มาฟิตอยากเรียนหมอ ขยันอ่านหนังสือสอบ บอกเลิกคนที่ควงอยู่ทุกคน พี่ยังคิดอยู่เลยนะว่าอะไรทำให้ติณณ์ตาเห็นธรรมได้ขนาดนั้น”
เหนือฟ้าคิดมาตลอดว่าคนที่ทำให้ติณณ์ภพเปลี่ยนไปได้ขนาดนั้นคือผู้หญิงตรงหน้า เขาพยายามนึกย้อนกลับไปแต่ไม่สามารถนึกถึงความเป็นไปได้ที่ตนจะเป็นสาเหตุให้ติณณ์ภพเบนเข็มมาทางวิชาชีพนี้ แต่ก็ไม่พบ
“ผมว่าพี่ตาลเข้าใจผิดแล้วล่ะครับ ผมไม่ได้มีความสำคัญกับพี่ติณณ์ขนาดนั้นหรอกครับ”
บางครั้ง ในช่วงเวลาที่รู้สึกอ่อนแอ เหนือฟ้าก็อดคิดไม่ได้ว่าตัวเขาในตอนนี้มีความสำคัญกับติณณ์ภพแค่ไหน
”อย่าพูดอย่างนั้นสิจ๊ะ” ดวงตาของหญิงสาวรุ่นพี่อ่อนลงอย่างเข้าใจ เธอรู้ดีว่าเพื่อนของเธอนั้นเจ้าชู้ประตูดินแค่ไหน หากเหนือฟ้าคบกับอีกฝ่ายมาตั้งแต่สมัยมัธยม จะรู้สึกแบบนั้นก็คงไม่แปลก “ตอนที่เข้ามหาลัยใหม่ๆ ขนาดวันเกิดติณณ์ ติณณ์เขายังลากพี่ไปซื้อสร้อยข้อมือให้น้องเหนืออยู่เลยนะ”
น้ำตาลยิ้ม ยื่นมือไปดึงมือเรียวของเหนือฟ้าขึ้นมาเทียบกับมือของเธอแล้วหัวเราะออกมาเบาๆ
“ติณณ์น่ะลากพี่ไปลองสร้อยข้อมือให้เพราะข้อมือพี่ขนาดพอๆกับน้องเหนือ พี่เนี่ยโมโหแทบแย่เลยเพราะพี่นัดกับแฟนไว้ แทนที่จะได้มีเวลาแต่งหน้าแต่งตัวไปเดทต้องมาช่วยเพื่อนเลือกของ”
สร้อยข้อมือ?
ความทรงจำที่เขาเห็นติณณ์ภพกับน้ำตาลในร้านเครื่องประดับเมื่อหลายปีก่อนกลับเข้ามาในหัว
“ตาล?”
เสียงทุ้มของติณณ์ภพดังขึ้น ร่างสูงในชุดกาวน์สั้นขมวดคิ้วเมื่อเห็นเพื่อนสมัยมัธยมยืนคุยอยู่กับคนรัก น้ำตาลโบกมือให้เพื่อนอย่างอารมณ์ดี
“ติณณ์! มานี่เลย ทำไมไม่บอกว่าคบกับน้องเหนืออยู่ เราอุตส่าห์เชียร์ให้น้องเหนือลงเอยกับน้องกล้าอยู่ตั้งนาน”
หญิงสาวอารมณ์ดีถามเสียงงอน แต่รอยยิ้มหวานบนริมฝีปากทำให้รู้ว่าน้ำตาลไม่ได้จริงจังกับคำบ่นนั้นมากนัก
“ก็ตาลไม่ถาม”
ติณณ์ภพตอบสั้นๆ น้ำตาลส่ายหัวยิ้มๆกับนิสัยที่ไม่เปลี่ยนแปลงของเพื่อนสนิท ก่อนจะก้มหยิบซองจดหมายสีชมพูออกมาจากกระเป๋า
“อ่ะ ไหนๆเจอกันแล้วก็เอาไปเลยแล้วกัน ถ้าว่างก็พาน้องเหนือมานะ”
ติณณ์ภพก้มลงอ่านชื่อของเจ้าบ่าวเจ้าสาวบ่าว คิ้วเข้มเลิกขึ้นอย่างประหลาดใจ
“เอาจริงดิ? นึกว่าโดนเขาหลอกฟันแล้วทิ้งไปตั้งแต่ปีหนึ่งแล้ว”
“ติณณ์นี่ปากคอเราะร้ายเหมือนเดิมเลยนะ” น้ำตาลหัวเราะ “บอกแล้วไง เราเป็นเพื่อนกับติณณ์ได้ ผู้ชายคนไหนเราจะเอาอยู่ทั้งนั้นแหละ”
ติณณ์ภพกลอกตาอย่างเหนื่อยใจกับความสดใสมองโลกในแง่ดีของเพื่อน
“อ๊ะ แฟนเรามาแล้ว ไว้เจอกันนะ พี่ไปนะจ๊ะน้องเหนือ”
น้ำตาลก้มหยิบโทรศัพท์ที่สั่นในกระเป๋าขึ้นมาดูแล้วกดรับ โบกมือลาเพื่อนสมัยมัธยมและรุ่นน้อง ก่อนจะหันหลังเดินหายไปกับฝูงชน
“กลับกันเถอะ”
ติณณ์ภพเอื้อมมือมาจับมือของเหนือฟ้า ร่างโปร่งเม้มปาก แขนเรียวขืนแรงของชายหนุ่มรุ่นพี่เพียงชั่วครู่ก่อนจะยอมให้อีกฝ่ายจูงมือของตนพาไปยังรถที่จอดอยู่ เขายังคงไม่ชินกับการทำอะไรแบบนี้ในที่สาธารณะกับอีกฝ่ายเสียที
“ครับ”
“พี่ติณณ์…ผมถามอะไรหน่อยได้มั้ยครับ”
“หือ? มีอะไรเหรอ?”
ติณณ์ภพถามคนที่นั่งเอนหลังพิงอกเขาดูซีรีย์ที่ตัวเองกำลังติดงอมแงม เหนือฟ้าช้อนตามองคนรัก ดวงตาสีน้ำตาลหม่นหยั่งลึกหาคำตอบบนใบหน้าของติณณ์ภพก่อนจะเอื้อนเอ่ยคำถาม แว่นตากรอบเหลี่ยมที่เหนือฟ้าเลือกใช้แทนคอนแทคเลนส์เวลาอยู่ด้วยกันทำให้ดวงตาของร่างโปร่งแลดูโตกว่าความเป็นจริงเล็กน้อย
“ทำไมพี่ติณณ์ถึงมาเรียนหมอเหรอครับ?”
สายตาของติณณ์ภพบ่งบอกว่าไม่คิดว่าจะได้ยินคำถามนั้น ร่างสูงนิ่งคิด ก่อนจะตอบตามความจริง
“ตอนนั้น มีเด็กติดละครงอมแงมคนนึงชอบเพ้อถึงคุณหมอในละครอยู่เรื่อย” ชายหนุ่มเกลี่ยเส้นผมสีน้ำตาลหม่นของคนรักอย่างเบามือ “พี่ก็แค่อยากให้เด็กคนนั้นมองพี่ด้วยสายตาแบบนั้นบ้าง…”
“เด็กคนนั้นอาจจะมองพี่แบบนั้นมาตั้งแต่แรก แค่พี่ไม่รู้ตัวก็ได้นะครับ”
เหนือฟ้าว่า ติณณ์ภพยิ้มอย่างสมเพชตัวเอง
“ไม่หรอก คนแบบพี่ในตอนนั้นไม่มีค่าพอให้ฟ้ามองพี่ด้วยแววตาแบบนั้นได้หรอก…”
“อะไรที่ผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไปเถอะครับ” เหนือฟ้ายกแขนขึ้นโอบรอบคอคนรัก “อีกอย่าง พี่ติณณ์ตอนนี้หล่อกว่าคุณหล่อในละครตั้งเยอะ”
“โทรมขนาดนี้เนี่ยนะ”
ติณณ์ภพหัวเราะเบาๆ อดีตเดือนคณะแพทยศาสตร์ยังคงดูหล่อเหลาไม่ต่างจากในอดีตแม้รอยคล้ำใต้ตาและท่าทีอ่อนเพลียจะทำให้แฟนคลับของร่างสูงต้องทอดถอนใจด้วยความเป็นห่วงอยู่บ่อยครั้งก็ตาม
“วาเลนไทน์ทั้งที จะปากหวานชมแฟนไม่ได้รึไงครับ?” เหนือฟ้าแสร้งงอนกอดอกอมลมแก้มพอง เรียกรอยยิ้มเอ็นดูจากติณณ์ภพได้เป็นอย่างดี
ถ้าเขาไม่โง่จนมองข้ามเพชรน้ำงามที่อยู่เคียงข้างเขามาโดยตลอด เขาคงได้นอนกอดอีกฝ่ายแบบนี้ในวันวาเลนไทน์ตั้งแต่หลายปีที่แล้ว
พูดถึงวันวาเลนไทน์…
“รอนี่นะ”
ติณณ์ภพลุกจากโซฟา เขายุ่งกับการเรียนจนไม่มีเวลาแม้แต่จะคิดหาของขวัญให้อีกฝ่าย และนั่นทำให้นี่เป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่ของขวัญที่เขาเก็บไว้นานหลายปีจะได้พบกับเจ้าของที่แท้จริงของมันเสียที
“อะไรครับ? ไหนบอกว่าพี่ติณณ์ไม่มีอะไรให้ผมไง?”
เหนือฟ้าเอ่ยอย่างประหลาดใจเมื่ออีกฝ่ายกลับมาพร้อมกล่องกำมะหยี่ขนาดกลางในมือ
“พี่ซื้อไว้นานแล้ว”
ติณณ์ภพตอบกว้างๆ ไม่อยากดูเป็นคนน่าสมเพชถึงขนาดเก็บของขวัญที่คิดจะให้อีกฝ่ายไว้มานานถึงหกปีราวกับเป็นเพียงเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจเพียงหนึ่งเดียวที่ทำให้ชีวิตของเขายังคงเป็นรูปเป็นร่างอยู่จนถึงทุกวันนี้
แต่สิ่งที่ร่างสูงคาดไม่ถึงคือน้ำตาที่ร่วงเผาะลงบนกล่องเมื่อเหนือฟ้าเปิดฝาออกดูสิ่งที่อยู่ภายใน
“ฟ้า? เป็นอะไรรึเปล่า?” ร่างสูงถามอย่างลนลาน เขาทำผิดอะไร? ทำไมฟ้าถึงร้องไห้?
“ผมแค่ดีใจน่ะครับ” เหนือฟ้าปาดน้ำตาพร้อมเอ่ยเสียงกลั้วหัวเราะ “ขอบคุณนะครับพี่ติณณ์”
ติณณ์ภพยิ้มออกทันทีเมื่อรู้ว่านั่นเป็นน้ำตาแห่งความสุข
เหนือฟ้าก้มมองสร้อยข้อมือเส้นนั้นอีกครั้ง หลักฐานที่ว่าอีกฝ่ายไม่เคยลืมเขามาตลอดหกปีที่ผ่านมาทำให้หัวใจของร่างโปร่งพองโตด้วยความสุข สร้อยเส้นนี้เป็นเครื่องย้ำเตือนให้เขารู้ว่าแม้อดีตของพวกเขาจะไม่ใช่ความทรงจำที่สวยงาม แต่มันคือสิ่งที่หล่อหลอมให้พวกเขาเป็นอย่างที่พวกเขาเป็นในวันนี้
ไม่ใช่ความสัมพันธ์ที่สมบูรณ์แบบ
เป็นความสัมพันธ์ที่เคยหัก เคยบิ่น และแตกร้าว
แต่ก็เป็นความสัมพันธ์ ที่เหนือฟ้าไม่มีวันยอมแลกกับสิ่งใดในโลก
“พี่ติณณ์…”
“ครับ?”
“ฟ้ารักพี่นะครับ”
คำพูดสั้นๆเพียงหนึ่งประโยคทำให้ติณณ์ภพรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบหยุดหมุนในวินาทีนั้น ร่างสูงรู้สึกถึงของเหลวอุ่นๆที่ก่อตัวขึ้นที่บริเวณหางตา ติณณ์ภพดึงร่างของคนรักเข้าไปในอ้อมกอด เอ่ยตอบเหนือฟ้าเสียงสั่นเครือ
“พี่ก็รักฟ้าครับ…รักที่สุด”
เหนือฟ้ายิ้ม ยื่นสร้อยข้อมือเส้นนั้นให้กับคนรักที่รับมาแกะออกอย่างรู้งาน แล้วสวมมันรอบข้อมือผอมที่แม้จะใหญ่กว่าแต่ก่อนเล็กน้อย แต่ก็ไม่เป็นปัญหาในการสวมใส่แต่อย่างใด
“สวยมากเลย…” ติณณ์ภพยกมือของคนรักขึ้นมาประทับริมฝีปากลงบนข้อมือขาวอย่างนุ่มนวล “เหมาะกับฟ้ามากเลยครับ”
“ถึงตาฟ้าให้ของขวัญพี่ติณณ์แล้วสิ” เหนือฟ้าอมยิ้ม
“ฟ้ามีของให้พี่ด้วยเหรอ?”
ร่างสูงถามอย่างประหลาดใจ หันมองไปรอบห้องแต่ก็ไม่เห็นอะไรที่น่าจะเป็นกล่องของขวัญได้
“ไปที่ห้องนอนกันดีกว่านะครับ” ร่างโปร่งดึงให้คนรักลุกขึ้นจากโซฟาพร้อมอมยิ้มอย่างมีเลศนัย “พี่ติณณ์จะได้แกะของขวัญสะดวก”
แน่นอน ถึงแม้จะได้ของขวัญชิ้นเดิมทุกเทศกาล แต่ติณณ์ภพก็ไม่คิดว่าตัวเองจะมีวันเบื่อของขวัญแสนสวยที่มีชื่อว่าเหนือฟ้านี้ตราบเท่าที่ตนยังมีชีวิตอยู่
The end
------
สารภาพว่าไม่คิดว่าจะปั่นทันวันวาเลนไทน์555555
ห้าทุ่มกว่าก็ยังถือว่าวันนี้เนอะ5555
![:pig4:](https://thaiboyslove.com/webboard/Smileys/Smilies/kapook_36568.1.gif)