Underlying Disease: ของเล่น
หลังจากวันนั้น ชีวิตสองด้านของเหนือฟ้าก็เริ่มต้นขึ้น
“อือ วันนี้กูไปช่วยป๊าที่อู่รถนะ มึงกลับไปก่อนเลย” ร่างเล็กกดวางสายจากเพื่อนรัก เงยหน้ามองพี่ชายของคนที่เขาเพิ่งโกหกใส่ที่ยิ้มให้เขาบนมอเตอร์ไซค์ดูคาติคันหรู หมวกกันน็อกสำรองถูกยื่นให้เขาโดยไม่มีคำอธิบาย แต่นั่นก็เป็นแค่หนึ่งในสิ่งที่เขาชินเสียแล้ว เหนือฟ้ารับหมวกกันน็อคมาสวม ตวัดขาคร่อมมอเตอร์ไซค์ซ้อนท้ายร่างสูงอย่างคล่องแคล่ว
“คล่องแล้วนี่เรา” ติณณ์ภพชม
“ขอบคุณครับ” เหนือฟ้ายิ้มเขิน เอื้อมมือกำชายเสื้อของร่างสูงไว้
“อีกหน่อยคงคร่อมอย่างอื่นคล่องเหมือนเนอะ” คนขับหันมายักคิ้วหลิ่วตาให้เขา เหนือฟ้าไม่มีทางเลือกนอกจากฝังใบหน้าลงกับแผ่นหลังของร่างสูง ปล่อยให้อีกฝ่ายหัวเราะในลำคอแล้วสตาร์ทเครื่องยนต์อย่างอารมณ์ดี ร่างเล็กซุกหน้ากับแผ่นหลังกว้าง อมยิ้มกับอุณหภูมิร่างกายที่ส่งผ่านมาหาเขาอย่างต่อเนื่อง
“ถึงแล้ว”
เหนือฟ้าถอดหมวกกันน็อคออก ช่วงสองสามเดือนที่เขาเริ่มคบกันมานี้ ติณณ์ภพมักจะพาเขาไปเที่ยวที่ห้างหรือไปทานข้าวที่ร้านอาหารซึ่งอยู่ห่างจากโรงเรียนไปเกือบอีกฟากของเมือง เด็กหนุ่มให้เห็นผลว่ามันเป็นร้านที่น่าไป แต่เหนือฟ้ารู้ดีว่าอีกฝ่ายไม่ต้องการให้ใครสังเกตเห็นพวกเขา ซึ่งก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล เขาจึงทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น
เช่นเดียวกับที่เขาทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเรื่องที่อีกฝ่ายมีใครอีกหลายคนซ่อนอยู่
“ครับแนน เดี๋ยวคืนนี้ติิณณ์ไปหา” เหนือฟ้าเมินเสียงกระซิบคุยโทรศัพท์ของร่างสูง กระโดดลงจากมอเตอร์ไซค์เพื่อสำรวจสภาพรอบกาย
นี่มัน...
“พี่ติณณ์ ผมเข้าไปในนั้นไม่ได้หรอกครับ”เหนือฟ้าหันกลับไปหาร่างสูงด้วยสีหน้าซีดเผือด “พี่ติณณ์ก็เข้าไม่ได้เหมือนกันนี่ครับ”
“ไร้สาระน่าฟ้า มากับพี่ กลัวอะไร”ติณณ์ภพหัวเราะ จูงเด็กชายที่ยังยู่ในชุดนักเรียนเข้าไปในผับ ดูเหมือนคนเฝ้าประตูจะคุ้นเคยกับร่างสูงดี ถึงได้ปล่อยพวกเขาเข้ามาโดยไม่พูดอะไรซักคำ เหนือฟ้ากำชายเสื้อของคนอายุมากกว่าแน่น ร่างสูงเดินนำเขาไปยังที่นั่งวีไอพีที่อยู่ชั้นบน ผ่านผู้คนที่โยกไปตามเสียงเพลง บ้างก็นัวเนียกันอยู่ตามมุมมืด ไม่อายสายตาคนซักนิด
มีแต่คนมองเนี่ยแหละที่รู้สึกอาย
“พี่ติณณ์...”
“มานี่มา” ร่างสูงในชุดแจ็กเกตหนังที่ไม่เหมาะกับอากาศเมืองไทย แต่ใส่แล้วหล่อลากธรณีนั่งลงบนโซฟาสีแดงตัวใหญ่ ตบ
ตักของตัวเองแล้วกระดิกนิ้วเรียกร่างเล็ก เหนือฟ้านั่งลงข้างพี่ชายของเพื่อนสนิทอย่างลังเล ก่อนจะร้องออกมาเบาๆเมื่อถูกอีกฝ่ายดึงขึ้นไปนั่งบนตัก
“พี่ติณณ์ เดี๋ยวคนมองครั...”
“ดูรอบๆสิฟ้า” ร่างสูงกระซิบ งับที่ใบหูเล็กน่ารักอย่างหยอกเย้า “ใครเขาจะมาสนใจเรา”
มือใหญ่สอดเข้ามาใต้เสื้อนักเรียนสีขาว ลูบไล้แผ่นหลังขาวเนียนที่สั่นระริกจากสัมผัส
“พี่ติณณ์...ไม่...ไม่เอา...”
“รู้แล้วครับ...” เสียงทุ้มติดรำคาญเล็กน้อย เหนือฟ้ารู้สึกใจเสียยิ่งกว่าถูกอีกฝ่ายดุตรงๆเสียอีก “ไม่ทำจนจบหรอกน่า”
“พี่..พี่ติ...อื้อ!”
ริมฝีปากได้รูปบดขยี้ลงมาอย่างรุนแรง มือใหญ่บีบเค้นสะโพกมนเพิ่มความรู้สึกวาบหวามให้คนบนตักจนร่างเล็กที่ควบคุมตัวเองไม่ได้บิดเร่าอย่างห้ามไม่อยู่ ติณณ์ภพขยับยิ้มอย่างพึงพอใจ มือใหญ่ขยับมาด้านหน้า ลูบไล้หน้าท้องแบนราบไล่ขึ้นมาบนแผ่นอกน่ารัก สะกิดเม็ดทับทิมสีชมพูเข้มกระตุ้นให้ร่างเล็กแอ่นร่างรับสัมผัสอย่างลืมตัว
“ไม่..ไม่เอา...”
“อือ…ไม่ทำอะไรหรอกครับ ฟ้าขยับหน่อยสิ” ร่างสูงเร้าเสียงสั่นอย่างควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ มือใหญ่ควบคุมจังหวะให้สะโพกบนตักขยับเสียดสีกับความเป็นชายใต้กางเกงขายาวของตน
“ฮึก…ไม่เอา..พี่ติณณ์...ไม่...พอแล้ว....” แม้สติจะเริ่มเลือนรางจากอารมณ์ที่ครอบงำ แต่ร่างบางยังคงพึมพำอย่างหวาดกลัว
ดูเหมือนนั่นจะทำให้ร่างสูงที่หูทวนลมมานานรำคาญในที่สุด เด็กหนุ่มดันร่างของคนรักลับๆลงจากตัก เอนตัวพิงโซฟาอย่างไม่พอใจ เหนือฟ้าหอบหายใจฮุบเอาอากาศอย่างเอาเป็นเอาตาย มองร่างสูงที่นั่งไขว้ห้างกอดอกไม่สนใจตนเลยแม้แต่น้อย
พี่ติณณ์....โกรธเหรอ?
ตลอดเวลาที่คบกัน ถึงแม้ติณณ์ภพไม่เคยทำอะไรที่เขาไม่เต็มใจ แต่เขาก็ดูออกว่าอีกฝ่ายไม่พอใจทุกครั้งที่ถูกห้าม เหนือฟ้าไม่รู้ว่าตนควรจะทำอย่างไร หากไม่ยอม ไม่ช้าก็เร็วเขารู้ว่าพี่ติณณ์จะต้องหมดความอดทนกับเขา
แต่ถ้าเขายอม นั่นก็จะเป็นสิ่งหนึ่งที่เขาไม่ได้กลับคืนมาอีก
“พี่ติณณ์...ผม...”
เจ้าของชื่อลุกขึ้นจากโซฟา “พี่จะไปห้องน้ำ อยากกินอะไรก็สั่ง”
เหนือฟ้าจะเรียกร่างสูงไว้ แต่ยั้งตัวเองทัน เขารู้ว่าพี่ติณณ์ไม่ชอบให้เซ้าซี้ตอนที่อารมณ์ไม่ดี จึงทำได้เพียงปล่อยให้ร่างสูงเดินออกไปสงบสติอารมณ์ ส่วนตัวเองก็นั่งนิ่งอยู่กับที่อย่างเชื่อฟัง แต่เมื่อเวลาล่วงเลยไปเกือบครึ่งชั่วโมง เหนือฟ้าก็เริ่มกังวลว่าอาจเกิดอะไรขึ้นกับเด็กหนุ่ม ร่างในชุดนักเรียนลุกจากโซฟาสีแดงตัวใหญ่ เดินตรงไปยังห้องน้ำที่อยู่อีกฝั่งของผับ
“แหม…น้องติณณ์ก็...” เสียงหวานของหญิงสาวดังขึ้นเมื่อเขาเดินเข้าไปใกล้ห้องน้ำ เหนือฟ้ารีบก้มหลบเมื่อเห็นร่างที่คุ้นเคยยืนหันหลังให้เขา แขนทั้งสองข้างคร่อมร่างของหญิงสาวสวยเปรี้ยวในชุดสายเดี่ยวกระโปรงสั้นจนแทบจะปิดอะไรไม่มิดชิดกำแพง คนที่ถูกกักขังไว้ในอ้อมแขนแกร่งโอบรอบคอของร่างสูง
“วันนี้พี่ส้มก็สวยเหมือนเดิมจริงๆนี่ครับ” เสียงทุ้มเอ่ยชมอย่างเป็นกันเอง มือใหญ่ที่วางอยู่บนเอวคอดค่อยๆสอดเข้าไปในเสื้อสายเดี่ยวแนบเนื้อ
เหนือฟ้าเบือนหน้าหนี ทนดูภาพที่เกิดขึ้นไม่ได้
“ไปนั่งที่โต๊ะพี่ก่อนสิ..”
“เอ่อ...คือผม...” น้ำเสียงของเด็กหนุ่มลังเล ทว่าคนชวนไม่ปล่อยให้ร่างสูงปฎิเสธ
“นะติณณ์ วันนี้ยัยตาลก็มาน้า...เดี๋ยวพวกพี่จะดูแดติณณ์ ‘อย่างดี’เลย”
เหนือฟ้ากัดริมฝีปาก เดินออกมาจากที่ตรงนั้นอย่างเงียบเชียบ อย่างน้อยตอนนี้เขาก็รู้แล้วว่าอีกฝ่ายจะไม่กลับมาจากห้องน้ำอีกพักใหญ่ ร่างเล็กนั่งลงบนโซฟาที่ตอนนี้เบื้องหน้ามีแก้วเหล้าและขนมขบเคี้ยววางอยู่ ท้องของเขาร้องประท้วง แต่เหนือฟ้าไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะกินอะไรทั้งนั้น
“น้องชาย มาคนเดียวเหรอครับ” เสียงอ้อแอ้ดังขึ้นข้างกาย เหนือฟ้าเงยหน้าขึ้นพบชายหนุ่มที่ดูจะเมาได้ที่ยืนยิ้มให้เขา และเป็นรอยยิ้มที่ทำให้เหนือฟ้ารู้สึกพะอืดพะอมทั้งที่อีกฝ่ายยังไม่ได้ทำอะไร
“เปล่าครับ มากับพี่ พี่จะกลับมาแล้ว” เด็กชายขยับตัวหนีช้าๆ แต่นั่นกลับเปิดโอกาสให้คนตรงหน้านั่งลงที่ที่ว่างข้างกาย “นี่คุณจะทำอะไรน่ะ ลุกออกไปนะ!”
“อย่าใจร้ายนักเลย...มาสนุกกับพี่ดีกว่าน้า....” ชายหนุ่มดึงร่างของเหนือฟ้าเข้ามาใกล้ เด็กชายพยายามขัดขืน แต่พละกำลังที่ต่างกันเกินไปทำให้ร่างเล็กแทบจะลอยหวือขึ้นไปบนตักของอีกฝ่าย เหนือพยายามดิ้นขัดขืน ร้องโวยวายทุกวิถีทาง แต่เสียงเพลงที่ดังกระหึ่มทำให้แทบไม่มีใครได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือของเขา
ยกเว้นอยู่คนนึง
ผลั่ก!
ขี้เมาที่ลูบคลำไปทั่วตัวเขาเมื่อครู่ลงไปนอนกองกับพื้นด้วยหมัดเดียว เหนือฟ้าเงยหน้าขึ้นอย่างดีใจ ทว่ารอยยิ้มของเด็กชายหายไปจากใบหน้าอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นว่าคนที่ช่วยเขาไว้ไม่ใช่คนที่เขาคิด
ร่างสูงในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์ประเคนหมัดลุ่นๆใส่หน้าคนที่ร่วงไปแล้วอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ แล้วหันกลับมาทางเขา
ใบหน้าคมคายราวเทพบุตรกรีกเล่นเอาเหนือฟ้าอ้าปากค้าง ดวงตาคมสีควันบุหรี่จ้องมาที่เขานิ่ง เหนือฟ้าเริ่มรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา นี่เขาหนีเสือปะจระเข้รึเปล่าเนี่ย
“เป็นอะไรรึเปล่า”
ชายหนุ่มร่างโปร่งในชุดเสื้อคอวีแขนยาวสีครีมและกางเกงขายาวที่ยืนอยู่ข้างๆกับร่างสูงที่ช่วยเขาเอาไว้ถาม น้ำเสียงเป็นห่วงของอีกฝ่ายทำให้เขารู้สึกคลายกังวลไปบ้าง เหนือฟ้าส่ายหน้า ยกมือขึ้นไหว้ชายทั้งสอง
“ขอบคุณมากนะครับที่ช่วยผมไว้”
“มากับใครเนี่ย ทำไมถึงได้อยู่คนเดียวในที่แบบนี้ล่ะ?”ร่างโปร่งถามอย่างเป็นห่วง
“ผม…มากับพี่...” เด็กชายตอบอ้อมแอ้ม “เขาไปกับ...เพื่อน”
“โห ลำบากแย่เลย แถวนี้ก็มีแต่คนเมา นี่ มานั่งกับพวกพี่ก่อนมั้ย อยู่โตะข้างๆนี่เอง ถ้าพี่ชายมาค่อยกลับมา”ร่างโปร่งเสนอ
ทั้งที่คำพูดชักชวนคล้ายคลึงกับขี้เมาเมื่อครู่ แต่แววตากังวลที่ฉายชัดในดวงตาสีเทาเหลือบฟ้าเขียวทำให้เหนือฟ้ารู้สึกดีกับคนตรงหน้ามากขึ้น
“งั้น รบกวนด้วยนะครับ” เด็กชายยกมือไหว้อีกครั้ง
“พี่ชื่อหมอก นี่พี่เมฆ น้องชื่ออะไรเหรอ?”
ร่างโปร่งแนะนำตัวชายที่ช่วยเขาไว้ เมฆาไม่หือไม่อือเพียงแต่พยักหน้ารับไหว้ ดูท่าจะไม่ใช่คนที่ชอบพูดเท่าไหร่นัก
“เหนือฟ้าครับ” เด็กชายแนะนำตัว เดินตามคนทั้งสองไปยังโต๊ะวีไอพีที่อยู่ด้านหลังอย่างว่าง่าย ที่โต๊ะมีชายหนุ่มร่างสูงอีกคนนั่งอยู่ สิ่งเดียวที่เหนือฟ้าเห็นอย่างเด่นชัดจากแสงสลัวคือรอยสักเต็มสองแขนที่โผล่พ้นเสื้อแขนสั้นออกมา
“วิน จัดการด้วย” เมฆาเอ่ยขึ้น นั่นเป็นครั้งแรกที่เหนือฟ้าได้ยินอีกฝ่ายพูดอะไรออกมา
“เออๆ กองมันไว้ตรงนั้นแหละ เดี๋ยวให้เด็กหิ้วไปทิ้ง” คนที่ชื่อวินเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ ยกแล้วเหล้ากระดกเข้าปาก “นั่งเลยครับน้อง สั่งอะไรก็ได้ พี่เลี้ยงเอง ถือเป็นการไถ่โทษที่ผับของพี่มีคนแบบนี้เข้ามา”
เจ้าของผับหรอกเหรอเนี่ย?
เหนือฟ้ารู้สึกสบายใจขึ้นเมื่อรู้อย่างนั้น นาวินทร์สั่งมันฝรั่งทอดกับไก่ทอดและน้ำอัดลมมาให้เมื่อเห็นว่าเขาเกรงใจไม่กล้าสั่งอะไรเสียที
“น้องเหนือเรียนม.ไหนแล้วเนี่ย เข้ามาในที่แบบนี้เดี๋ยวคุณพ่อคุณแม่จะดุหรือเปล่า?”หมอกถาม ยกเครื่องดื่มในแก้วขึ้นดื่มอึกใหญ่ เหนือฟ้าเพิ่งสังเกตเห็นว่าในแก้วเป็นนมช็อกโกแลตเย็นๆแก้วหนึ่ง
“คือ..”
“เอาน่าๆ อย่าดุน่าเลยหมอก ไว้ฉันจะกำชับเรื่องตรวจบัตรให้เข้มกว่านี้ วันนี้วันเกิดฉันนะ ผ่อนคลายหน่อยสิ”นาวินทร์ออกโรงปกป้องเด็กชายที่นั่งอยู่ข้างๆ โอบไหล่บางอย่างสนิทสนม น่าแปลกที่ทั้งที่เพิ่งรู้จักกัน แต่เหนือฟ้ากลับไม่รู้สึกขัดเขิน หรือรู้สึกว่าถูกล่วงเกินเลย
“เอ่อ สุขสันต์วันเกิดนะครับพี่วิน” เหนือฟ้าหันไปพูดกับเจ้าของผับ
“โอ้ ขอบใจๆ เด็กดีจริงๆ”นาวินทร์หัวเราะชอบใจ
พวกเขาพูดคุยกันหลายต่อหลายเรื่องจนเขาแทบลืมเวลา เหนือฟ้าหัวเราะไปกับมุกตลกของนาวินทร์ อมยิ้มไปกับเรื่องราวของเมฆาและหมอกที่เขาเพิ่งรู้ว่าทั้งสองคบกันมาสามปีแล้ว ร่างเล็กเห็นรอยยิ้มที่หมอกมีให้กับเมฆาและแววตาที่ร่างสูงมองตอบคนรัก ความสัมพันธ์เหนียวแน่นที่ไม่อาจอธิบายด้วยคำพูดชัดเจนในบรรยากาศรอบตัวคนทั้งคู่ เขารู้สึกยินดีที่ทั้งสองหากันจนเจอ และรู้สึกอิจฉาเล็กน้อยที่ไม่เคยมีใครมองเขาด้วยแววตาแบบนั้น
“มาทำอะไรตรงนี้!”ร่างของเหนือฟ้าถูกกระชากอย่างแรงจนถลาไปซบกับอกแกร่งของคนที่พาเขามาทิ้งไว้ที่นี่
“เฮ้ย!” ร่างสูงทั้งสามลุกขึ้นทันที เหนือฟ้าที่กลัวว่าเมฆาจะกระทืบติณณ์ภพไปนอนกับพื้นเป็นเพื่อนขี้เมาคนก่อนรีบเอ่มห้ามปรามร่างสูง
“ไม่…ไม่เป็นไรครับ นี่พี่ชายผม”
“หึ พี่ชาย?” คนโดนเปลี่ยนสถานะกลางคันแยกเขี้ยว “ได้...อยากได้พี่ชายใช่มั้ย?”
ร่างเล็กถูกลากออกมาจากผับอย่างรวดเร็ว คนทั้งสามที่เิ่งรู้จักกับเขาเมื่อครู่ตั้งท่าจะเดินตามมาด้วยความเป็นห่วง แต่เหนือฟ้าส่ายหน้าพรืดอย่างอ้อนวอน หมอกมีสีหน้าเป็นกังวล แต่ก็จับร่างของเมฆาไว้ไม่ให้เดินตามออกมา
“ขึ้นมา” ติณณ์ภพดึงเด็กชายขึ้นมานั่งบนมอเตอร์ไซค์ เหนือฟ้าไม่ขัดขืน หากมีอีกสิ่งที่เขาเรียนรูู้จากการเป็นเพื่อนสนิทของน้องชายติณณ์ภพ นั่นคือเด็กหนุ่มเป็นคนโมโหร้าย อยากได้อะไรก็ต้องได้ และไม่ควรขัดขืนในเวลาที่เขากำลังเดือดจัดแบบนี้
เหนือฟ้าซุกหน้าลงกับแผ่นหลังของอีกฝ่ายเช่นเดียวกับตแนมา แต่ด้วยความรู้สึกที่แตกต่างกันราวฟ้ากับเหว
________________
เปิดเทอมล้าววววววว
![:a5:](https://thaiboyslove.com/webboard/Smileys/Smilies/55.gif)
ความอัพช้ากำลังคืบคลานเข้ามา555555