อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX >>>ตอนที่ 24<<< [23/05/2560]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX >>>ตอนที่ 24<<< [23/05/2560]  (อ่าน 32988 ครั้ง)

ออฟไลน์ เจเจจัง

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
ฟ้ากับดินนี่ คือผู้ที่คู่ควรกับพายมากอ่ะ( แต่ยังแอบเสียดายนนท์ แบดบอยผู้มั่นคงของเรา) ส่วนหนาวยิ่งเกลียดกว่าเดิม ไม่รู้หรอกว่าเข้าใจริวผิดเรื่องอะไร และเพราะอะไร แต่ทำไมดินที่ได้รับรู้เรื่องนี้เหมือนหนาว กลับเข้าใจ เชื่อใจ มั่งคง เคียงข้าง ริวมาตลอด(ทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่แฟน) โอ๊ย แสนดีอะไรเบอร์นี้

ท้้งฟ้าและริว สาเหตุที่โตมาแซ่บขนาดนี้เพราะรักริวและอยากคุ่ควรกับริวใช่ไหมลูก แกพลาดแล้วหนาว ที่ไม่เชื่อใจจนทิ้งของแรร์แบบริวไป อย่ามาเสียใจเสียดายทีหลังแล้วกัน

ขอพาร์ทอดีตตอนที่ดินแอบรักสมัยมหาลัยด้วยได้ไหม(ต่อจากที่เจอที่ร้านทำงานพิเศษของดิน พาร์ทดินนะ) ขอประวัติรักของฟ้าด้วย(พาร์ทฟ้าตั้งแต่เด็ก จนตอนที่มาเจอริวแล้วได้กันครั้งแรกอ่ะ เหมือนเป็นแผนของฟ้านะ)

ออฟไลน์ Ryunosuke

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 41
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม!!!






ตอนที่ 18 มหาวิทยาลัย






สาบานเลยว่านี่เป็นครั้งแรกที่ได้มาเหยียบไอ้ตึกหรูหราไฮโซแห่งใหม่ที่ผมเพิ่งเอารถมาจอด ไม่อยากจะเชื่อว่าเวลาเพียงไม่กี่ปีที่ผมไม่ได้กลับเข้ามาเยี่ยมเยียน พื้นที่รอบๆ มหาวิทยาลัยที่ผมรักจะเปลี่ยนแปลงไปได้ขนาดนี้


แต่เชื่อไหมครับว่าถึงสถานที่จะมีการเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหนแต่บรรยากาศและกลิ่นอายของที่นี่ไม่เคยเปลี่ยน ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหนสถานที่แห่งนี้ก็ยังเป็นที่คุ้นเคยซึ่งเต็มเปี่ยมไปด้วยมิตรภาพระหว่างเพื่อน ความสัมพันธ์แน่นแฟ้นของรุ่นพี่รุ่นน้อง และความหวังดีที่ไม่หวังสิ่งตอบแทนจากอาจารย์ถึงลูกศิษย์


“นี่นิสิต นิสิตคนนั้น แต่งตัวให้มันถูกระเบียบนี่มันยากมากรึไง”


ผมอมยิ้มทันทีที่ได้ยินเสียงเข้มๆ ของอาจารย์ท่านหนึ่งที่คาดว่าคงจะกำลังเล่นงานเด็กที่แต่งตัวผิดระเบียบแถวนั้น อาจารย์แกชื่อปกรณ์ครับ ผมจำอาจารย์ท่านนี้ได้ดีเพราะสมัยผมเรียนผมก็โดนแกจับเรื่องระเบียบเครื่องแต่งกายเป็นประจำ


“นี่นิสิต อาจารย์ว่าแล้วทำเป็นหูทวนลมแบบนี้ได้ไง”


ว่าแต่ทำไมเสียงของอาจารย์ท่านนั้นดูใกล้เข้ามาที่ผมทุกทีๆ


“กางเกงยีนส์นี่ใครอนุญาติ แล้วเสื้อนิสิตจะบางไปถึงไหน กระดุมก็ไม่ต้องปลดขาดนั้น แล้วไอ้แว่นตากันแดดนั่นอีกจะแขวนไว้ทำไมที่คอเสื้อ นี่มหาวิทยาลัยไม่ใช่เวทีแฟชั่น”


ผมเริ่มชะงัก เพราะสิ่งที่อาจารย์ท่านนั้นกำลังด่าอยู่นี่มันการแต่งตัวของผมชัดๆ


“อะ อาจารย์ หมายถึงผมเหรอครับ” ผมหันกลับไปหาอาจารย์ท่านนั้น พร้อมกับชี้นิ้วเข้าหาตัวเองแล้วถามขึ้นเพื่อความมั่นใจ


“ก็ใช่นะสิ ปีอะไร คณะอะไร เขาไม่สอนรึไงว่าให้เคารพสถานที่” นี่ท่าทางอาจารย์จะยังจำผมไม่ได้ถึงได้จัดผมเสียหนักขนาดนี้


“อะ เอ่อ ไม่ใช่นะครับ ผมจบไปตั้งนานแล้ว” 


“อย่ามาเล่นลิ้นนะนิสิต หน้าเด็กขนาดนี้จะบอกว่าจบไปหลายปี ไหนคุณรหัสอะไรผมจะไปทำบันทึก” แกยังคงยืนยันต่อไป


“อาจารย์จำผมไม่ได้จริงอะ ผมรหัส..........” ผมพูดไปยิ้มไปพร้อมกับบอกรหัสนิสิตในสัมยนั้นออกมาอย่างไม่ผิดสักตัว


“เดี๋ยวนะ นี่มังกร เหรอ หายหน้าหายตาไปเลย อาจารย์ก็ว่าอยู่ว่าหน้าคุ้นๆ นี่หน้าเด็กลงกว่าแต่ก่อนอีกนะ”


“ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ อาจารย์ก็ยังเหมือนเดิมเป๊ะ”


“โอ้ย อย่ามาหลอกชมคนแก่เลย แล้วนี่มาทำอะไรล่ะ ใช่มางานบรรยายพิเศษของมหาลัยรึเปล่า เห็นเขาเตรียมงานกันใหญ่โต”


“ใช่ครับอาจารย์มาบรรยายพิเศษ แต่ว่าไม่น่าใช่งานใหญ่ที่ว่านะครับ เห็นนุ่นเป็นคนเชิญมา น่าจะเฉพาะของวิดยารึเปล่าครับ”


“เออ งานเดียวกันนั่นแหละ ไม่รู้เหรอว่าเดียวนี้เจ้านุ่นมันเป็นรองอธิการบดีเชียวนะ”


นั่นไงเพื่อนเราเผาเรือนแล้วไหมล่ะ ไม่ได้เตรียมอะไรมาพูดเลย


ผมพูดคุยตามประสาคนไม่ได้เจอกันมานานกับอาจารย์ปกรณ์อีกนิดหน่อย ก็ขอตัวเดินออกมาเพราะใกล้ถึงเวลาที่นัดแนะกันไว้แล้ว


ผมยกโทรศัพท์ขึ้นเพื่อที่จะดูเวลาให้แน่ใจว่ายังไม่สาย แต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อพบว่าโทรศัพท์ผมไม่ได้เปิดเครื่องเอาไว้


ครืดๆ ครืดๆ ครืดๆ มือถือเครื่องรักของผมสั่นเป็นเจ้าเข้าทันที่ที่ผมเปิดเครื่อง


209 missed calls!!!

150 new massages!!!


ผมกวาดสายตาดูด้วยความรวดเร็ว สายไม่ได้รับเป็นของส้มเลขาส่วนตัวผมสองสาย ที่เหลือเป็นของคนที่ทุกคนน่าจะรู้ว่าใคร ส่วนข้อความร้อยกว่าข้อความนั่นทั้งหมดมาจากคนคนเดียว


งานงอกแน่แล้วไอ้ริว แค่นึกภาพไอ้เด็กเวรตัวโตนั่นกำลังโกรธควันออกหูผมก็รู้สึกหนาววูบๆ ขึ้นมาแล้ว


“ซวยแน่แล้วกู เอาไงดีวะเนี่ย เดี๋ยวค่อยว่ากันก็แล้วกัน” ผมตัดสินใจยัดมือถือกลับลงในกระเป๋ากางเกงแล้วเดินมุ่งหน้าที่ยังสถานที่จัดงาน


ในใจก็พยายามมองโลกในแง่ดีว่าฟ้าคงไม่คิดอะไรมาก


แต่ทั้งโทรทั้งส่งข้อความเป็นร้อยๆ ตายยยยยย ไอ้ริวตายแน่ๆ งื้อออออ
 



 




“อินุ่นมึง ไม่ได้เจอตั้งนาน กูคิดถึงเชี่ยยยย” พอถึงห้องเรียนรวมขนาดใหญ่ที่ใช้เป็นสถานที่จัดงาน ผมก็ลืมตัวเปิดประตูผ่างเข้าไปวิ่งเข้าไปกอดเพื่อนสนิทที่ยืนถือไมค์อยู่หน้าห้องทันที


“อิดอกริวมึงดูด้วยคนเต็มห้อง แล้วนี่กูเป็นอาจารย์ รักษาหน้ากูบ้าง อิห่านิสิตแมร่งเต็มห้องมึงดูด้วย” เพื่อนรักตีมือผมดังเพี๊ยะ พร้อมคำบ่นยาวเห็นหางว่าว


“อุ่ย.....กูขอโทษ” ผมได้แต่หันๆ ไปยิ้มเจื่อนๆ ให้กับเด็กนิสิตมากหน้าหลายตาที่นั่งอยู่เต็มพรึดในห้องเรียนแบบสโลป


 กวาดสายตาดูคร่าวๆ จำนวนนิสิตที่นั่งอยู่น่าจะเฉียดร้อยทีเดียว ผมแอบสังเกตว่าหลายคนอมยิ้มกลั้นขำกันอยู่ คงจะกลัวบารมีอาจารย์นุ่นเพื่อนผมอยู่พอสมควร บางส่วนก็เล่นฮาออกมาอย่างไม่ปิดบัง จากที่เห็นน่าจะไม่ใช่แค่นิสิตวิทยาศาสตร์ เพราะจากลักษณะท่าทางและการแต่งตัวน่าจะเป็นการรวมตัวจากหลากหลายคณะพอสมควร 




‘ตายแล้วแกร๊ งานดีงานละเอียด งานระดับพรีเมี่ยม’

‘ไหนจารย์บอกว่าเป็นผู้บริหารระดับสูง ไหงหน้าใสปิ้งวิ้งวับขนาดนี้ เดี๋ยวชั้นไลน์หาแนวร่วมก่อน’

‘ใครไม่มาพลาดมาก นี่กูบอกเลย’

‘นี่มันเคะในฝัน เคะตัวแม่ เคะนางพญา อร้ายยยย เสื้อยังแหวกลึกได้อีก’

‘ดี ดี นี่มันดีจริงๆ อยากได้เมียแก่กว่าขึ้นมาทันที นี่มันแม่ของลูกกูชัดๆ’

‘เชี่ยใจเย็น แบบนี้กูว่ามีเจ้าของแล้วชัวร์’

‘มึง ถ้าเขาเท่าจารย์นุ่น ก็แก่กว่าเราเป็นสิบปีเหรอวะ ไม่อยากเชื่อ หน้าแมร่งเด็กกว่ากู’

‘หูย จะเลียให้ล้ม ถ้าได้สักทีจะตั้งใจเรียน’

‘เดี๋ยวกูคิดแฮชแท็กก่อนมึง เอาไรดีวะ’




สาบานได้ว่าเป็นเสียงที่ผมได้ยินจากนิสิตหญิงเกือบทั้งหมดจะมีเสียงนิสิตชายกับกึ่งหญิงกึ่งชายปนมาบ้างแต่ก็ไม่มากนัก  โลกทุกวันนี้มันเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ


“นิสิตคะ รับยาสลายมโนช่องสองค่ะ” เพื่อนนุ่นของผมแรงดีไม่มีตก


เพื่อนผมคนนี้เรียกได้ว่าเป็นขวัญใจของเหล่านิสิตรุ่นใหม่ๆ เลยก็ว่าได้ ด้วยความที่เป็นอาจารย์รุ่นใหม่ เข้าถึงง่าย แถมยังมีเทคนิคการสอนที่ไม่ธรรมดา


“จารย์ขา...หนูอยากฟังพี่เขาพูดจะแย่แล้ว” ใครคนหนึ่งพูดออกมาท่ามกลางกลุ่มนิสิต ตามมาด้วยเสียงเฮชุดใหญ่จากคนทั้งห้อง นี่ถ้าสมัยผมทำแบบนี้คงได้โดยอาจารย์เอ็ดยกใหญ่แน่ๆ


“เจ้าค่ะ เงียบสิคะ ชั้นจะได้แนะนำอย่างเป็นทางการ” เชื่อมั้ยครับว่ามันเงียบจริง เด็กสมัยนี้นี่แปลกครับ ดูเหมือนไม่ค่อยสนใจหรือใส่ใจอะไร แต่พอบทจะสนใจก็มีสมาธิเสียจนน่ากลัว

“วันนี้นิสิตทุกคนได้รับโอกาสที่ดีมากจากท่านผู้บริหารระดับสูงของบริษัทด้านเกษตรอุตสาหกรรมสัญชาติไทย ที่เรียกได้ว่าเป็นอันดับต้นๆ ของโลก ครูขอแนะนำให้ทุกคนรู้จัก คุณมังกร พรพัฒนะ     ประธานผู้บริหารฝ่ายวิจัยและพัฒนา แถมด้วยฝ่ายวิศวกรรมที่ที่ได้รับมาหมาดๆ คุณมังกร เป็นศิษย์เก่าของคณะวิทยาศาสตร์ เป็นเฮดภาควิชา และที่สำคัญที่สุด..........เป็นเดือนคณะค่า.....”


เอ่อ ดูเพื่อนผมสิครับ แรกๆ ก็ฟังดุดีเป็นการเป็นงาน แต่ตอนจบสุดท้ายคืออะไร




‘อดีตเดือนนี่เอง มิน่าล่ะ หูยยยยย งานดี’

‘หน้าดีกว่าเดือนคนปัจจุบันของคณะชั้นอีก แกร๊’

‘กรี๊ดดดดด มันกร๊าวใจ ศิษย์เก่าหล่อบอกต่อด้วยคร่า’

‘กรี๊ดดดดด ชุ้นอยากเห็นมังกรของพี่เค้า’




“ครับ เอ่อ.....สวัสดีครับ น้องๆ ทุกคน มังกรครับ ยินดีที่ได้รู้จักน้องๆ ทุกคน” ผมรับไมค์มาจากเพื่อนนุ่นงงๆ แต่ก็ทักทายออกไปตามมารยาท




‘อร๊ายยยย เสียงน่ารักอะแกร๊’

‘ชั้นเป็นผู้หญิงแต่ทำไมชั้นอยากได้พี่เค้าเป็นเมีย โอ๊ย สับสน’




“ขออนุญาตแทนตัวเองว่าพี่นะครับ ลืมบอกไปพี่ชื่อเล่นชื่อริวนะครับ วันนี้ก็ถือว่าเป็นเกียรติของพี่มากๆ ที่ได้รับเลือกจากท่านอาจารย์นุ่นของน้องๆ ให้ได้มาพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในวันนี้ พี่ก็หวังว่าสิ่งที่พี่จะถ่ายทอดให้ในวันนี้จะเป็นประโยชฯกับน้องๆ ไม่มากก็น้อย.....”




‘พี่เค้าอยากมีประสบการณ์กับชั้น ว้ายยย ตาย แล้วววว ฟิน’

‘อิโดก หยุดมโนค่ะ’

‘นาทีนี้ใครมโนได้ก่อนคือชนะ’




หลังจากแนะนำตัวและทักทายกันไปคร่าวๆ ผมก็เริ่มเล่าถึงประสบการณ์ ตั้งแต่การใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยอย่างไรให้คุ้มค่า ไปจนวิธีการปฏิบัติตัวให้เป็นที่ต้องการของนายจ้าง และวิธีการก้าวไปสู่ความสำเร็จ


ผมเชื่อย่างหนึ่งครับว่าการใช้ชีวิตมหาวิทยาลัยนั้นเราจะเรียนอย่างเดียวไม่ได้ แต่ควรจะสร้างสมดุลระหว่างการเรียนและกิจกรรมให้ดีที่สุด การเรียนให้ความรู้และประสิทธิ์ประสาทวิชาให้เราก็จริง แต่อีกหลายสิ่งที่มีความสำคัญกับการใช้ชีวิตในอนาคต เช่น การตัดสินใจ การจัดการกับคน หรือการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ เรากลับเรียนรู้สิ่งเหล่านี้ได้จากการทำกิจกรรมเสียมากกว่า ที่สำคัญกิจกรรมในมหาวิทยาลัยจะช่วยสร้างมิตรภาพดีๆ ที่ไม่สามารถหาได้จากที่ไหนอีกให้กับเราอีกด้วย


ผมมักจะพูดกับทุกๆ คนเสมอว่ามหาวิทยาลัยคือสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุด อบอุ่นที่สุด และเต็มไปด้วยความหวังดีไม่ต่างอะไรจากบ้านหลังที่สอง เรื่องที่ร้ายแรงที่สุดที่จะสามารถเกิดขึ้นในรั้วมหาวิทยาลัยแห่งนี้มันแทบจะเทียบไม่ได้เลยกับสิ่งร้ายๆ ที่มันอยู่ภายนอก เพราะฉะนั้น จงใช้เวลาที่ยังอยู่ที่นี่ให้คุ้มค่าที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ อยากทำอะไรทำให้เต็มที่ อยากเป็นอะไรเป็นให้สุดโต่ง อย่าให้ต้องกลับมาย้อนคิดว่าน่าจะทำสิ่งนั้นน่าจะเป็นสิ่งนี้เมื่อมันสายไป


“พี่เล่าประมาณนี้แล้วกันเนอะ จากนี้มีอะไรอยากถามพี่ถามกันขึ้นมาได้เลยนะครับ ยกมือขึ้นแล้วเดี๋ยวอาจารย์นุ่นจะส่งไมค์ไปให้”




‘แกร๊พี่เค้าโคตรไอดอล’

‘จริง เรียนดี กีฬาเลิศ กิจกรรมเด่น นี่มันผัวดีเด่นชัด’

‘แต่กูว่าเมีย มึงดูทีมวิศวะ นั่งตาเยิ้มน้ำลายย้อยแล้ว’

‘ถาปัตย์ก็ไม่แพ้ว่ะแก ท่าทางหวังเคลมพี่เค้าเป็นแถว’

‘งานนี้ต้องติดเทรนทวิตเตอร์ชั้นฟันธง’




เด็กๆ ก็ทยอยถามคำถามขึ้นมาเรื่อยๆ ครับส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องเรียน ควรเรียนต่อเลย หรือควรทำงานก่อน จบได้ไปทำอะไรได้บ้าง ประมาณนี้ ที่เหลือส่วนใหญ่ก็จะแซวแล้วครับ มีแฟนรึยังบ้างล่ะ ขอไลน์ ขอไอจีบ้างล่ะ


“พี่เป็นรุกหรือรับครับ” แต่อันนี้แรงจริงครับ เป็นคำถามจากเด็กหลังห้อง ดูจากเนคไทที่ไม่เหมือนใครเดาว่าน่าจะเป็นเด็กวิศวะ


“น้องเป็นแบบไหนพี่ก็พร้อมจะเป็นแบบตรงข้ามครับ” แล้วคิดว่าไอ้ริวจะเขินเหรอครับ แนวนี้ผมชอบอยู่แล้ว คำตอบผมเล่นเอาเจ้าของคำถามอายม้วนต้วนไปเลยทีเดียว


“รังเกียจที่จะคบเด็กไหมครับ” เป็นอีกคำถามที่เรียกเสียงฮือฮาได้เป็นอย่างดี


“ไม่ครับ เพราะคบแต่เด็กมาตลอดชีวิต” คำตอบของผมทำเอาเสียงกรี๊ดดังลั่นไปทั่ว









“แล้วเมื่อคืนหายไปไหนมาทั้งคืนครับ” แต่แล้วจู่ๆ ก็มีคำถามหนึ่งดังขึ้นพร้อมกับการปรากฎตัวของใครบางคนที่เล่นเอาห้องเรียนรวมแทบแตก




‘แกร๊ นั่นมันพี่ฟ้า พี่ฟ้าเดือนมหาลัย’

‘ใช่อร๊ายยยย ชั้นเพิ่งเคยเห็นตัวเป็นๆ หล่อมลังเมลืองมาก อ๊ายยยย’

‘อ๊ายยย ถ่ายรูปเร็วแก วันนี้สงสัยชั้นคงใช้แต้มบุญหมดแน่ๆ เจอแต่งานดีพรีเมี่ยมทั้งน้าน’




“ฟะ ฟ้า.....” ผมพูดไม่ออก เพราะเสียงของฟ้าที่ถามออกมามันดูเหนื่อยอ่อนชอบกล


“อะไรยังไง นี่แกมีอะไรที่ชั้นไม่อัพเดตรึเปล่า อย่าบอกนะว่าแกคาบเดือนมหาลัยชั้นไปแดกแล้ว” เพื่อนนุ่นเดินมาแอบกระซิบที่ข้างหู


“กูโดนแน่ นุ่นมึงช่วยกูด้วย เฮ้ย ฟ้า.....”


กรี๊ดดดดดดดดด เสียงกรี๊ดรวมกับเสียงฮือฮาดังลั่นดังขึ้นอีกครั้งเมื่อจู่ๆ ฟ้าก็เดินเข้ามาคว้าข้อมือผมไปกุมไว้


“หายไปทั้งคืนแล้วมาโปรยเสน่ห์ไปทั่วแบบนี้มันเป็นสิ่งที่เมียที่ดีควรทำไหม” ไอ้เด็กยักษ์ถามคำถามออกไมค์อีกครั้ง คำถามรอบนี้เล่นเอาผมอยากจะแทรกแผ่นดินหนีออกไปเสียตอนนี้


‘เมียๆ ผัวๆ อะไรกันแกร๊ เรื่องนี้ต้องขยาย อร๊ายยยยย’

‘ใครก็ได้ หาหมอนมาให้ชั้นจิกด่วนคร่า อิเจ๊ฟิน’


“ฟ้าไม่เอาแบบนี้ดิ พี่อธิบายได้” ผมดึงฟ้าเข้ามาใกล้ แล้วกระซิบลงที่ข้างหู


“ทุกคนครับ งานจบแล้วครับ พี่ขอเชิญทุกคนออกจากห้อง พี่จะเคลียร์กับเมีย” ฟ้าพูดไมค์อย่างดังก่อนจะชี้ไม้ชี้มือสั่งให้รุ่นน้องทั้งหมดออกไปจากสถานที่จัดงาน




‘เชดดดดด เรื่องนี้ต้องเป็นประเด็นค่า กุจัดแฮชแทค #ฟ้าริว ดีกว่า’

‘เอาเลยแกชั้นร่วมลงเรือ ชั้นถ่ายรูปมาเพียบ’

‘แก แต่จะเหลืออะไรให้ชิปวะ ในเมื่อมันนเรียลขนาดนี้’

‘เออจริง #ฟ้าริว #ผัวเมียที่แท้ทรู’









“พี่ริวครับ ไปครับ เรามีเรื่องต้องคุยกัน อาจารย์นุ่นครับผมขอตัวพี่ริว” ฟ้าพูดจบมันก็ลากตัวผมออกจากตรงนั้นทันที









“เฮ้ย!!! ฟ้าเดี๋ยวก่อนสิ นุ่นช่วยกูด้วย ใช้สิทธิ์ความเป็นอาจารย์ของมึงเซ่”









“เออ ไปเคลียร์กับผัวเถอะมึง แล้วอย่าลืมอัพเดตกูด้วย ไม่ต้องสนใจเพื่อน เพื่อนเมื่อไหร่ก็ได้ผัวสำคัญกว่าคะอิริว”









“อินุ่นอิเพื่อนเชี่ยยยยยยย”









“ส่วนฟ้าจ๊ะ พ่อเดือนมหาลัย เบาๆ กับเพื่อนอาจารย์ด้วย อินี่มันบอบบาง”









“รับทราบครับอาจารย์นุ่น”









“ม๊ายยยย เบาดิฟ้า พี่เจ็บบบบบบบ ฟ้าค้าบบบบบ” 
     



*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*

ช่วงนี้พี่ริวดูมุ้งมิ้งๆ ตะมุตะมิชอบกล

*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*

ออฟไลน์ เจเจจัง

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
 ทำโทษเลยฟ้าเอาให้ฟ้าเหลือง 555

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4067
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6

ออฟไลน์ jimmyjimmy

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-17
โดนแน่ๆ พี่ริว ไม่รอดแน่ๆ

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
แหมฟ้า ประกาศตัวเป็นเด็กน้อยขี้หึงอีกแล้วนะ
งานนี้พี่ริวฟ้าเหลืองอีกแล้วจ้า ทั้งดินทั้งฟ้านี่ คงไม่ได้เข้าออฟฟิสอีกหลายวัน
ฟ้าถามผิดคนละต้องโทรถามดินตะหาก

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ริว ฮ็อตหลายเด้อออออ
หน้าอ่อนใส กว่านิสิต เสน่ห์แรงกร๊าวใจ
ใครๆหลงใหล แต่ ฟ้ามาประกาศซะและ
เมื่อคืนหายไปไหน ขอพูดกับเมีย
หมดเวลาแล้ว  อะจ๊ากกกกก
จบด้วย ฟ้า....เบาๆ....พี่เจ็บบบบบ
พี่ริวเจ็บไรอ่ะ ฟ้า เบาๆ.....ตรงนั้นหน่อยยยยย
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ณ ที่เดิม™

  • มากกว่าชีวิต...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1699
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-0
เหมือนเคยอ่านเมื่อนานมาแล้ว ดีใจที่คนเขียนกลับมาแต่งต่อ
เป็นกำลังใจให้ครับ  :katai2-1:

ออฟไลน์ numay

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-1

ออฟไลน์ Ryunosuke

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 41
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม!!!






ตอนที่ 19 จิตใต้สำนึก






“ม๊ายยยย เบาดิฟ้า พี่เจ็บบบบบบบ ฟ้าค้าบบบบบ”




“ฟ้าจะลากพี่ไปไหน พี่เจ็บแล้วจริงๆ นะ ปล่อยพี่ก่อน”




“ฟ้า โอ้ยยยยย จะกระชากทำไม แล้วพาพี่มาลานเกียร์ทำไมเนี่ย”


ถึงเสียงพี่ริวจะทั้งโวยวายเสียงดัง หรือจะอ้อนวอนหวานหูแค่ไหนผมก็ไม่สน ผมกำข้อมือเล็กนั่นแน่น เดินหน้าลากตัวพี่ริวจนมาถึงลานหน้าคณะที่ผมเรียนอยู่


“อะ โอ้ย!!” พี่ริวร้องออกมาเมื่อสะดุดอะไรบางอย่างกลางลานกว้าง


“หึ” ผมรีบโผตัวไปรับพี่ริวที่กำลังจะล้มหน้าคะมำมาไว้ในอ้อมกอด


“ขำอะไรฟ้า! ไม่ตลกนะ” 


“ซุ่มซ่าม มานี่เลย นั่งรอผมอยู่นี่ นั่งเฉยๆ นะ อย่าให้รู้ว่าเที่ยวหว่านเสน่ห์ไปทั่วอีก” สงสารก็สงสารนะครับ แต่ไอ้ที่พี่ริวหายไปไหนไม่บอกทั้งคืนแถมยังมาโปรยเสน่ห์เรี่ยราดถึงในมหาลัยยังทำเอาผมโมโหไม่หาย


“.....”


“แล้วใครใช้ให้แต่งตัวแบบนี้ กระดุมเม็ดบนนี่ติดไม่เป็นรึไงเห็นไปถึงไหนต่อไหนแล้ว แล้วนี่เสื้อร้านไหนวันหลังไม่ต้องซื้อแล้วนะ แมร่งจะบางไปไหนวะ” ผมบ่นใส่คนตัวเล็กที่เพิ่งได้นั่งลงที่ม้านั่งข้างลานเกียร์


“ฟะ.....”


“พี่ไม่มีสิทธิ์พูดอะไรทั้งนั้น ความผิดเมื่อคืนยังไม่พอ นี่ยังมีน่ามาทำคดีใหม่ถึงมหาลัยนี่อีก พี่ไม่เห็นรึไงว่าเด็กแต่ละคนมันมองกันตาละห้อยขนาดไหน นี่พี่จะให้ผมอกแตกตายรึไงวะ”


“ฟ้าคือ.....”


“ใครให้พี่พูด!!! แล้วพวกมึงๆ ทั้งหลาย จะประชุมรับน้องก็ประชุมกันไปสิโว้ย!!! เสือกมองอะไรกันอยู่นั่น” ผมพาลใส่กลุ่มรุ่นน้องและเพื่อนที่นั่งรวมกลุ่มคุยงานกันอยู่แถวนั้นจนพวกมันสะดุ้งกันไปเป็นแถบๆ ก็พวกมันเสือกหันมามองพี่ริวไม่วางตาทำไมกันเล่า


“ห่า ไอ้ฟ้าวันนี้เกรี้ยวกราดจังวะ ว่าแต่จิ้งจอกน้อยนั่นใครวะ”


“จิ้งจอกน้อยพ่องงงงง นี่พี่ริวเมียกูมั้ย” ผมสวนกลับเพื่อนทันที แอบเห็นพี่ริวก้มหน้างุดไม่กล้าสู้สายตาใคร พี่ริวกำลังเขิน ซึ่งโคตรน่ารัก อยากเอาไปเก็บที่บ้านเดี๋ยวนี้


“เชี่ย น่ารักสัด คนนี้เหรอวะที่มึงบอกว่าเป็นผู้บริหาร” คำพูดของเพื่อนร่วมชั้นปียิ่งทำให้พี่ริวเป็นจุดสนใจมากขึ้น


//แกร๊ ที่ลงเพจมหาลัยเมื่อกี้ไง//

//ใช่ๆ คนที่พูดในห้องเรียนรวมเมื่อกี้//

//ทั้งโพสต์ ทั้งทวิต ไหนจะไลฟ์สด ชั้นนี่ประหนึ่งอยู่ในเหตุการณ์เลยแกร๊//

//สรุปพี่ฟ้า เดือนมหาลัยในตำนาน คือมีเจ้าของแล้ว ชั้นก็อดสิแกร๊//

//รบกวนแกเพ่งกระแสจิตแล้วพิจารณา คนที่พี่ฟ้าจับมือถือแขนอยู่ แกจะเอาอะไรไปสู้เค้า//


ผมไม่ได้ภูมิใจหรอกนะครับที่ได้ยินใครต่อใครชมพี่ริว มันควรมีแค่ผมคนเดียวไม่ใช่เหรอที่มีสิทธิ์จะได้ชื่นชมคนคนนี้


แล้วไม่รู้ทำไมวันนี้พี่ริวถึงได้ดูมีแรงดึงดูดมากกว่าทุกวัน ฟีโรโมนฟุ้งกระจายไปหมด


ผมกำลังคิดจริงๆ ว่าผมควรจะจับเอาพี่ริวขังไว้ในห้องไม่ให้ไปไหน


“พวกมึงประชุมกันให้จบนะ กูกลับแล้ว ไปพี่ริว กลับ!!!”


“ละ แล้วจะตะคอกทำไมเล่า ฟ้าอยู่ประชุมก็ได้พี่รอได้นะ ยังไงวันนี้ก็ไม่ได้เข้าออฟฟิศ”


“ชอบใช่มั้ย นั่งดูเด็กเนี่ย”


“กะ ก็ดีนะ นึกถึงบรรยากาศสมัยก่อนดี” พี่ริวคงตอบตามที่รู้สึกจริงๆ แต่ผมนี่หัวร้อนไปหมดแล้ว ไอ้เพื่อนห่าน้องเวรนี่ก็จ้องแล้วจ้องอีก แมร่ง แอบถ่ายรูปด้วยอย่าคิดว่าจะไม่เห็นนะ


“แต่ผมไม่ชอบเว้ยพี่ริว ผมไม่ชอบให้ใครมันมองพี่ พวกมึงก็มองกันจัง เดี๋ยวพ่อสั่งซ่อมยกคณะเลยสัด!!! พี่ริว กลับ!!! แล้วก็หยุดยิ้มได้แล้ว หวงเว้ย!!!”


ผมไม่ยอมให้เสียเวลาไปมากกว่านี้ คว้าเอาข้อมือขาวๆ ของพี่ริวแล้วลากพาเดินไปที่จอดรถทันที


“ฟ้าจะไปไหน พี่เอารถมานะ”


“เดี๋ยวผมให้คนมาเอากลับให้”


“พี่ขับกลับเองก็ได้ เดี๋ยวพี่ไปหาที่คอนโด”


“พี่ทำกับผมขนาดนี้พี่ยังคิดว่าผมจะปล่อยพี่ไปคนเดียวอีกเหรอ โทรศัพท์ก็ไม่รับ ข้อความก็ไม่อ่าน ผมนั่งรอพี่จนถึงเช้า พี่รู้ไหมว่าผมกระวนกระวายใจแค่ไหน เป็นห่วงจน แมร่ง เอ้ยยยย!!! พี่ริวเข้าไปเลยนะ” ผมบ่นมาตลอดทางจนถึงรถ ก่อนจะเปิดประตูรถแล้วยัดพี่ริวเข้าไปในที่นั่งข้างคนขับ


“ปล่อยพี่นะฟ้า ปล่อยสิเว้ย!!! ปล่อย....” พอพ้นจากสายตาคนอื่นพี่ริวก็เริ่มเสียงแข็งขึ้นมา คงไม่อยากให้คนอื่นเห็นตัวเองโวยวาย รักษาภาพพจน์สินะ พอคิดได้แบบนั้นก็ยิ่งทำให้ผมโมโหเข้าไปอีก


“พี่ริว!!!” พอเจอสายตาดุๆ กับเสียงตะคอกของผมเข้าพี่ริวก็ดูหงอลง


“ฟ้า แต่พี่อธิบายได้นะ คือเมื่อคืนพี่ดื่มมากไปนิด เลยให้ดินพากลับไปที่บะ.......อุ๊บ”


สิ่งที่พี่ริวกำลังพยายามอธิบายทำให้ผมยิ่งอารมณ์ขึ้น ยิ่งพอมีชื่อของพี่ดินหลุดออกมากจากปากผมก็ยิ่งทนไม่ได้จนล็อกคอคนตรงหน้าเข้ามารับจูบผมอย่างรุนแรง ผมจงใจกัดริมฝีปากสีชมพูอ่อนจนได้กลิ่นคาวเลือด โดยไม่สนใจเสียงทัดทานหรืออาการดิ้นรนของคนในการควบคุมใดๆ ทั้งสิ้น


“อย่าพูดถึงคนอื่นต่อหน้าผม”


“ตะ แต่ดินไม่ใช่คนอื่น” คำตอบของพี่ริวยิ่งทำให้ผมแทบคลั่ง


“พี่หมายความว่าอะไร ห๊ะ!!” ผมเผลอตัวใช้มือกดหน้าอกพี่ริวกระแทกลงกับเบาะรถอย่างแรงจนเจ้าตัวหลุดเสียงร้องเบาๆ ออกมา


“.....” พี่ริวไม่ได้ตอบอะไรผมกลับ แต่หน้านิ่วจนคิ้วขมวดเข้าหากันคงจะจุกจากแรงกระทำของผมเมื่อครู่


“ผมจะไม่ให้พี่คลาดสายตาไปไหนอีกแล้ว” ผมคิดอย่างที่พูดจริงๆ พูดจบผมจัดการขาดเข็มขัดนิรภัยให้คนที่ยังนั่งนิ่งคงเพราะยังจุก ก่อนจะปิดประตูแล้วเดินไปอีกฟังของรถเพื่อขึ้นไปนั่งในที่คนขับ









“ทำไมไม่อ่อนโยนเหมือนดินบ้าง” เสียงพึมพำดังขึ้นจากคนที่ข้างๆ นั่งเงียบมาตลอดทาง ถึงจะเบาหวิวเหมือนพูดกับตัวเอง แต่ผมกลับได้ยินมันชัดเจนทุกคำ แถมทุกคำยังบาดลึกเข้ามาถึงหัวใจ


“.....” บอกตรงๆ ว่าผมพูดไม่ออก


“แบบนี้พี่อยู่กับดินเสียยังดีกว่า”


“ไม่เว้ย!!! พี่มีสิทธิ์เลือกตั้งแต่เมื่อไหร่ พี่เป็นเมียผมจะให้ย้ำไปถึงไหนถึงจะเข้าใจ” ผมสารภาพว่าผมโมโหจนควบคุมตัวเองไม่ได้ เผลอใช้มือซ้ายกระชากเอาตัวพี่ริวเข้ามาหา ซึ่งนั่นทำให้กระดุมเสื้อพี่ริวขาดออกจนหมด เผยให้เห็นผิวสวยของพี่ริวที่มันเต็มไปด้วยร่องรอยของการแสดงความเป็นเจ้าของ


“ฟ้า พี่เจ็บ....”


“ใคร!!! ใครเป็นคนทำ!!!” ผมไม่คิดจะให้พี่ริวพูดอะไรต่อเพราะร่องรอยที่ไม่ใช่ของผมพวกนั้นเล่นเอาผมแทบบ้า


“คนที่อ่อนโยน คนที่แสนดีกว่าฟ้า”


ผมไม่รู้ว่าพี่ริวตั้งใจจะทำอะไร แต่ถ้าตั้งใจจะปั่นหัวผมล่ะก็ผมบอกได้คำเดียวว่ามันโคตรสำเร็จ


ความรู้สึกหลากหลายมันกำลังตีกันข้างใน ปั่นป่วนจนผมทำอะไรไม่ถูก


เหมือนน้ำตามันจะไหลแต่ก็ต้องห้ามไม่ไว้อย่างสุดกำลัง   

 
ผมเหยียบคันเร่งรถสปอร์ตคู่ใจจนมาถึงคอนโดในเวลาไม่นาน ลากพี่ริวขึ้นห้องโดยไม่ฟังคำพูดอะไรจากเจ้าตัวอีก


“โอ๊ย!!! พี่เจ็บนะฟ้า” พี่ริวร้องออกมาเสียงหลงเพราะทันทีที่ผมเปิดประตูห้องนอนผมก็เหวี่ยงเอาร่างของคนตัวเล็กลงกับโซฟาที่หน้าเตียง


“ใช่สิ ผมมันไม่อ่อนโยนเหมือนมันหนิ!!!” ผมตามไปขึ้นคร่อมพี่ริวไว้กับโซฟา


“รู้ตัวก็ดี ดินเขาทั้งอ่อนโยน ทั้ง.....โอ๊ย อือ อือ”


“หยุดพูด!!! หยุดเดี๋ยวนี้” อารมณ์ผมพุ่งพล่านจนพลั้งมือไปบีบปากของพี่ริวไว้ด้วยมือเพียงข้างเดียว


“.....”


“พี่เป็นของผม จะให้พูดอีกอีกทีว่าพี่เป็นของผม” พูดจบผมก็ผลักให้พี่ริวนอนราบลงกับโซฟา แล้วไล่ย้ำตามลบร่องรอยทุกรอยที่ถูกประทับไว้ ทำรอยหนักๆ ให้ช้ำมากกว่าเดิมเพื่อแทนที่รอยเดิม ถึ่งพี่ริวจะร้องเจ็บปวดหรือห้ามปรามเท่าไหร่ผมก็ไม่สน ตอนนี้แรงอารมณ์มันเข้าครอบงำผมจนหูอื้อตาฟางไปหมด


แคว๊ก!!! ผมฉีกทึ้งทั้งเสื้อและกางกางของพี่ริวจนไม่เหลือชิ้นดี ก่อนจะอุ้มช้อนทั้งตัวให้ลอยขึ้นแล้วโยนลงบนเตียงอย่างแรง พี่ริวถึงกับขดตัวเข้าหากัน มือเล็กทั้งคู่ก็กอบกุมบริเวณระหว่างหน้าท้องและลิ้นปี่อย่างทรมาน หยาดน้ำใสเริ่มไหลพรากจากดวงตาคู่สวย


ภาพตรงหน้าทำให้ผมเริ่มรู้สึกตัว แต่ถึงกระนั้นผมก็ยังรู้สึกว่าต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อให้พี่ริวสำนึกไว้ตลอดว่าเขาเป็นคนของผม


ไม่รู้ผีร้ายตัวไหนเข้าสิง ผมถึงได้ลากเอาร่างอ่อนแรงนั่นลงจากเตียงแล้วจับโยนเข้าไปในตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ในห้อง


ปั้ง!!! ผมปิดบานตู้เสื้อผ้าอย่างแรง แล้วใช้น้ำหนักตัวทั้งหมดดันไว้ไม่ให้คนข้างในสามารถดันออกมาได้


ผมคิดแค่ว่าถ้าผมยังทำกับพี่ริวต่อพี่ริวคงต้องเจ็บตัวมากขึ้นไปอีก แล้วก็คิดว่าวิธีนี้อาจะช่วยสั่งสอนพี่ริวได้แล้ว


“ฟ้า ไม่เล่นแบบนี้ ฟ้าปล่อยพี่” เสียงอู้อี้ของพี่ริวดังขึ้นพร้อมกับเตียงตบบานตู้จากด้านใน


“ผมจะไม่ยอมให้พี่ออกไปไหนได้อีก”


“ฟ้า พี่ขอโทษ ไม่เอาแบบนี้ ฟะ ฟ้า ปะ ปล่อยพี่เถอะ ฮึก” เสียงพี่ริวเริ่มเปลี่ยนไปเป็นสั่นเครือ ในทำให้ผมพอใจเพราะรู้สึกว่าสิ่งที่ผมทำลงไปมันกำลังได้ผล


“อยู่ในนั้นจนกว่าจะเป็นเด็กดีของผมก็แล้วกัน”


“ฟะ ฟ้า ปล่อย ฮึก ไม่เอา ระ ริว ริวกลัวแล้ว ปล่อยเถอะ ขอร้อง กลัวแล้ว ริวกลัว” เสียงของพี่ริวครั้งนี่ยิ่งแผ่วเบาและเหนื่อยอ่อน ที่สำคัญการเรียกแทนตัวเองด้วยชื่อเป็นสิ่งที่พี่ริวไม่เคยใช่กับผมมาก่อน


“พี่ริว ต้องสัญญากับผมก่อนว่าจะไม่มีใคร แล้วผม.....” ผมยิ่งกระหยิ่มยิ้มย่องในใจเพราะถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปพี่ริวคงจะเชื่อฟังผมอย่างไม่กล้าขัดขืน   



 





“อ๊ากกกกกก!!! ปล่อยริวไป ขอร้อง ไม่เอา ไม่เอาแล้ว พอแล้ว” แต่มันกลับไม่เป็นอย่างที่ผมคิด เพราะจู่ๆ พี่ริวก็กรีดร้องออกมาอย่างน่ากลัว น้ำเสียงก็เปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน


“กะ กลัวแล้ว ไม่เอาแล้ว ไม่เอาแล้ววววววว ฮืออออออ” เสียงร้องโหยหวนของมีริวทำเอาผมหยุดชะงัก


“พี่ริว พี่ริวเป็นอะไร” ผมรีบเปิดประตูตู้ออกทันทีที่เห็นท่าว่าจะไม่ดีแล้วแน่ๆ


“อย่ามายุ่งกับริว ปล่อยริวไป ไม่เอาแล้ว พอแล้ว ริวกลัวแล้ว ฮือออออ” พี่ริวยังคงกรีดร้องราวกับเป็นคนเสียสติ มือทั้งสองก็คอยปัดป้องอย่างสุดแรงเพื่อไม่ให้ผมเข้าไปใกล้


“พี่ริวครับ นี่ฟ้าเอง ไม่เป็นไรนะพี่ริว” ผมฝืนตัวเข้าไปเพื่ออุ้มพี่ริวที่ขดหนีผมจนไปอยู่ที่มุมตู้


“ปล่อยริววววว ปล่อยยยยยยย ริวกลัว ไม่เอาแล้ว” พี่ริวทั้งเตะทั้งถีบ มือก็ทุบผมดิ้นพล่านไม่หยุด


หัวใจผมเหมือนถูกขยี้ให้แหลกสลายไปต่อหน้าตาต่อตา นี่ผมทำอะไรลงไป


“พี่ริวครับ ฟ้าอยู่นี่ พี่ริวไม่ต้องกลัวนะครับ”


“กลัวววว ปล่อยยยริว ปล่อยริวไปเถอะ”


“พี่ริวฟ้ารักพี่ริวนะครับ รักมาตลอด ให้ฟ้าปกป้องพี่ริวนะครับ”


“ฮือ ฮือ ไม่เอา ริวกลัว ปล่อยริว”


“ไม่ต้องกลัวนะครับคนดีของฟ้า ฟ้าอยู่นี่แล้ว” ผมโอบกระชับอ้อมแขนรอบร่างที่กำลังสั่นเทา หวังว่าเสียงของผมมันจะเข้าไปถึงพี่ริวบ้าง


“ปล่อยยย ปล่อยยยยย”


“พี่ริวครับ พี่ริวรู้สึกตัวเสียที โอ๊ย!!!” ผมถึงกับร้องออกมาเพราะจู่ๆ ฟันคมก็ฝั่งลงบนไหล่ผมอย่างไม่ทันตั้งตัว


พี่ริวกัดผมอยู่อย่างนั้นเหมือนกำลังต่อสู้กับอะไรบางอย่าง


ผมยอมทนให้พี่ริวกัดอยู่แบบนั้น เพราะดูเหมือนมันจะช่วยให้อาการสั่นเทาของพี่ริวจะค่อยๆ คลายลง




“พักผ่อนนะครับพี่ริว ผมขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นแบบนี้” ผมประคองพี่ริวลงนอนบนเตียงอย่างเบามือมืออาการคลุ้มคลั่งของเจ้าตัวสงบลง


ผมค่อนข้างมั่นใจว่าสิ่งที่ทำให้พี่ริวเป็นแบบนี้ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องที่ผมทำกับพี่ริว พี่ริวต้องเคยมีเหตุการณ์อะไรที่กระทบกระเทือนจิตใจอย่างรุนแรงจนเกินรับไหวแน่ๆ ถึงจะไม่อยากขอความช่วยเหลือจากคู่แข่งแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าพี่ดินเป็นคนที่รู้ทุกเรื่องของพี่ริวอย่างแท้จริง ครั้งนี้ผมคงต้องคุยกับพี่ดินให้รู้เรื่อง




ผมก้มลงจูบหน้าผากของพี่ริวอย่างแผ่วเบา และค่อยๆ ผละตัวออกเพื่อจะเดินออกไปโทรศัพท์หาพี่ดิน แต่ก็กลับถูกมือเล็กของคนที่ผมนึกว่าหลับไม่ได้สติไปแล้วดึงรั้งเอาไว้









“ฟ้า.....อย่าไปนะ.....อยู่กับพี่นะ” ริมฝีปากสวยละเมอพึมพำจนเกือบฟังไม่ได้ศัพท์









แล้วแบบนี้ผมจะไปไหนได้ล่ะครับ









“แบบนี้ดีไหมครับพี่ริว”









สุดท้ายเลยได้แต่ล้มตัวลงนอนแล้วโอบเอาร่างบอบบางของพี่ริวเอามาไว้ในอ้อมกอด









“อืม.....ดีจัง”




*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*

คนแต่งไม่ได้ใจร้ายกับพี่ริวน้าาาาา

*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ kyungploy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
หักคะแนนฟ้า จะร้ายกับพี่ริวเกินไปแล้ว

ออฟไลน์ คนคิ้วท์คิ้วท์

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 339
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
ฟ้านิสัยเด็กเว่อร์ แต่ให้ฟีลพระเอกไทย ส่วนดินที่แสนดี ถึงจะอยากได้แค่ไหนก็ให้ฟีลพระรองอยู่ดี แต่ไม่แน่ในอนาคตถ้าดินอัพสกิลแบดล่ะก็...
ส่วนนนท์นั้นเราไม่ปลื้ม ในเรื่องของหนาวเราว่าหนาวโง่ ถ้าแฟนตัวเองโดนสิ่งร้ายๆ เราจะไม่ประชดแบบนั้น และคุยกันด้วยเหตุผล อาจจะเพราะเราอยู่มานานกว่าหนาวเลยมีสติมากกว่า ไหว้ป้าสิลูก #เอ๊ะ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ฟ้า เด็กจริงๆ ทำเกินไป เหมือนเป็นเจ้าชีวิตริว
มีสิทธิ์อะไรจับขังในตู้ที่อับทึบ ไม่มีแสงสว่าง
ถ้าริวจะโกรธ จนถอยห่างแยกตัวไป ก็สมควร
นับวันความหึงหวง เกินตัวล้ำหน้า
ได้ยินที่ริว ว่าฟ้าไม่อ่อนโยนเหมือนดิน
ฟ้าน่าจะปรับตัวเองบ้างนะ
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:


ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4067
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
เรื่องร้ายๆ ในอดีต ..

ออฟไลน์ Goffylovelove

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ฟ้า ทำไมเด็กแบบนี้ลูกมันน่าตีให้ตาย หนูจะสู้พี่ดินไม่ได้ก็ตรงนี้
ถึงให้พี่ริวรักชอบหนูยังไง ถ้าอยู่ด้วยแล้วต้องเจอเรื่องแบบนี้เค้าก็คงไม่อยู่
เรื่องร้ายในอดีตจะค่อยๆ คลายปมแล้วซินะ

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
แบบนี้ยิ่งสงสารพี่ริวเข้าไปอีกค่ะ ฟ้าแม่งโรคจิตละเนี่ย เดวเค้าก็บ้าเหมือนเมิงหรอก

ออฟไลน์ jimmyjimmy

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-17
ฟ้า..แกหึงเกินไปนะ

ออฟไลน์ Ryunosuke

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 41
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม!!!






ตอนที่ 20 บันดาลโทสะ






ก๊อกๆ ก๊อกๆ


ผมเดินไปเปิดประตูห้องรับแขกผู้มาเยือน ไม่ต้องดูผ่านระบบกล้องวงจรปิดหรือมองผ่านตาแมวที่ประตูผมก็รู้ได้ในทันทีว่าใครคือแขกที่มาเยือนห้องของผมในเช้าวันนี้


พี่ดินใช้เวลาไม่นานหลังจากผมต่อสายหาและร้องขอให้เขามาเพื่อปรึกษาเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างผมกับพี่ริวเมื่อคืน


“ฟ้า หัวไหล่ไปโดนอะไรมา” ผมเปิดประตูให้พี่ดินทั้งที่ยังอยู่ในบ็อกเซอร์ด้วยเดียวด้วยความเคยชิน ทำให้พี่ดินสังเกตเห็นแผลเหวอะจากฟันคมของพี่ริว


“อะ เอ่อ คือ.....”


“ริวอยู่ไหน” พี่ดินพูดสวนขึ้นมาอีกครั้งก่อนที่ผมจะได้อธิบายอะไร ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับพี่ริวพี่ดินไม่เคยใจเย็นได้สักครั้ง


แต่ ริว งั้นเหรอ พี่ดินเรียกพี่ริวแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน


“ให้ผมอธิบายก่อนได้ไหมพี่ดิน”   


“ว่ามา” พี่ดินจ้องเขม็งเข้ามาที่ดวงตาของผมพร้อมบรรยากาศหนักอึ้งที่แผ่ออกมาคุกคาม ผมไม่สงสัยแล้วว่าทำไมพี่ดินถึงคุมทั้งวิศวกรและช่างได้ทั้งโรงงานแบบนั้น


“คือเมื่อวาน ผมโมโหพี่ริวมากเพราะไม่ยอมกลับห้องตามที่คุยกันไว้ แถมยังไปเจอที่มหาลัยอีก ผมก็เลย..........” ผมเล่าให้พี่ดินฟังอย่างกล้าๆ กลัวๆ พยายามอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานโดยหลีกเลี่ยงบางเรื่องที่มันดูรุนแรงเกินไป


 “แล้วยังไง เรื่องที่อยากปรึกษาพี่คือ”


“ก็คือ ผะ ผมควบคุมตัวเองไม่ได้ คิดอะไรไม่ออกด้วย  แล้วพอดีมองไปเห็นตู้เสื้อ.....โอ๊ยยย พะ พี่ดิน โอ๊ยยยย” พอผมพูดถึงเรื่องตู้เสื้อผ้า จู่ๆ พี่ดินพุ่งเข้ามาเอามือบีบหัวไหล่ผมที่เป็นแผลจากรอยกัดเต็มแรง 


“นี่มึงอย่าบอกนะ ว่ามึงเอาริวขังไว้ในตู้ ไอ้เหี้ยยย เอ้ยยยย ริวกลัวที่แคบ จำใส่สมองกลวงๆ ของมึงไว้!!! ไอ้น้องเลว!!!” พี่ดินด่ากรอกที่ข้างหู ในขณะที่ผมแทบจะยืนไว้ไม่อยู่ ไม่ใช่เพราะความเจ็บปวดจากแผลที่หัวไหล่ แต่เป็นเพราะความเจ็บปวดที่หัวใจที่ได้รับรู้ว่าผมไม่เคยรู้อะไรเกี่ยวกับพี่ริวเท่าที่พี่ดินรู้เลย


“ผม ผม ขอโทษ พี่ ผมไม่รู้ว่าพี่ริวจะกลัวขนาดนั้น” ผมทรุดตัวลงคุกเขาอยู่กับพื้นเพราะพี่ดินเพิ่มแรงบีบที่หัวไหล่จนผมทนไม่ไหว


“มึงควรขอโทษริว ไม่ใช่ขอโทษกู แล้วมึงหมายความว่าอะไรที่บอกว่า ไม่รู้ว่าริวจะกลัวขนาดนั้น”


“กะ ก็พี่ริว เหมือนกลายเป็นอีกคน คลั่งจนผมแทบเอาไม่อยู่ ปากก็บอกขอร้องให้ปล่อย บอกว่ากลัวอยู่ตลอด”


“นี่มึงทำริวถึงขนาดไหนกันแน่วะ แมร่งเอ้ย!!! อยู่นิ่งๆ อย่าได้เสือกขยับไปไหนเลยนะ เดี๋ยวกูจะกลับมาคิดบัญชีกับมึง ไอ้เหี้ยเอ้ย!!!” พี่ดินสบถจบก็เดินหายเข้าไปในห้องนอนของผม ผมได้แต่นั่งคุกเข่านิ่งๆ อยู่ตรงนั้น ไม่ใช่เพราะพี่ดินสั่ง แต่เพราะความรู้สึกผิดที่มันจับที่ขั้วหัวใจจนแทบจะหายใจไม่ออก


ผมไม่เคยเห็นพี่ดินควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ขนาดนี้มาก่อน นี่เป็นครั้งแรกที่ผมรับรู้ถึงความน่ากลัวของพี่ชายของผมคนนี้


ครั้งแรกที่ผมเจอพี่ดิน คือวันที่พ่อพาพี่ดินเข้าบ้านมาพร้อมกับประกาศให้ทุกคนในบ้านรู้ทั่วกันว่าเป็นลูกชายอีกคนของพ่อ ตอนนั้นผมยังเด็กมากแต่ก็ยังจำได้ดีว่าดีใจแค่ไหนที่ได้รู้ว่าตัวเองมีพี่ชาย     


พี่ดินเป็นคนเงียบขรึมไม่ค่อยมีรอยยิ้มให้เห็นตั้งแต่ไหนแต่ไร แต่ภายใต้ใบหน้านิ่งๆ นั้นซ่อนไว้ด้วยความอบอุ่นและอ่อนโยน เราทั้งสองคนถูกเลี้ยงขึ้นมาด้วยกันไม่ต่างอะไรจากพี่น้องแท้ๆ ที่คลานตามกันมา พี่ดินเป็นที่รักของทุกคน จนบางครั้งผมยังเคยแอบคิดว่าพ่อกับแม่ของผมรักพี่ดินมากกว่าตัวเองด้วยซ้ำ


แต่ถึงอย่างนั้นพี่ดินกลับชอบทำตัวเหมือนอยู่กันคนละสถานะกับผมเสมอ พี่ดินไม่เคยเรียกร้องหรือร้องขออะไร ขนาดของเล่นหรือเสื้อผ้าพี่ดินก็ยังเลือกที่จะใช้เงินเก็บส่วนตัวของตัวเอง พอโตขึ้นหน่อยพี่ดินก็เริ่มหางานทำจนสามารถส่งเสียตัวเองเรียนจนจบ 


พี่ดินเข้าทำงานในบริษัทของครอบครัวเพราะการขอร้องจากพ่อ พี่ดินยอมทำตามโดยยื่นเงื่อนไขว่าทุกคนในบริษัทต้องไม่มีใครรู้ว่าแท้จริงแล้วพี่ดินเป็นคนของตระกูลเตชะรัตนบรรจง


แต่ผมรู้ว่าความจริงแล้วพี่ดินเข้าทำงานในบริษัทเพราะอะไร หรืออาจจะต้องพูดว่าเพราะใครเสียมากกว่า


ผมรู้มาตั้งแต่เด็กว่าพี่ดินมีคนสำคัญอยู่ในใจ พี่ดินทำทุกอย่างให้ตัวเองเป็นคนที่ดีขึ้นเพื่อให้ได้อยู่ในสายตาคนคนนั้น แต่ผมไม่เคยรู้เลยว่าคนสำคัญของพี่ดินกับคนสำคัญของผมเป็นคนคนเดียวกัน


จนเมื่อไม่นานมานี้จู่ๆ พี่ดินก็นัดผมให้เข้าไปหาที่คอนโดของพี่ดิน ผมไม่เคยได้เหยียบเข้าห้องของพี่ดินมาก่อนจนกระทั้งวันนั้น และก็เป็นวันนั้นเองที่ทำเอาผมแทบช็อคเพราะในห้องนอนพี่ดินเต็มไปด้วยความทรงจำเกี่ยวกับพี่ริวเต็มไปหมด มันมากมายจนผมนึกอิจฉาพี่ชายตัวเองที่มีโอกาสได้ใกล้ชิดกับพี่ริวถึงขนาดนี้


//แต่ไหนแต่ไรกูยอมให้มึงทุกเรื่อง แต่ไม่ใช่กับเรื่องของคนคนนี้// ผมจำทั้งน้ำเสียงและสีหน้าของพี่ดินในวันนั้นได้ดี ไม่เคยมีครั้งไหนที่พี่ดินพูดกับผมด้วยสรรพนามแทนตัวแบบนั้นมาก่อน


//ไม่ว่าพี่ริวจะตัดสินใจยังไง กูจะยอมรับมัน และมึงก็ต้องยอมรับมันเช่นกัน// ผมได้แต่นิ่งเพราะพูดอะไรไม่ออก


//พี่ริวเป็นยิ่งกว่าชีวิตของกู//


คำพูดของพี่ดินวันนั้นมันยังก้องอยู่ในหัวผมไม่หยุด และวันนี้ก็พิสูจน์ได้เป็นอย่างดีว่าพี่ดินพูดจริงทำจริง


ผลั่ก!!! หมัดลุ่นๆ ของพี่ดินที่เพิ่งเดินกลับออกมาจากห้องนอนกระแทกเข้าที่ใบหน้าของผมอย่างแรงจนผมถึงกับเสียหลักไปกระแทกเข้ากับโต๊ะกินข้าวกลางห้องนั่งเล่น


โครม!!! มือใหญ่ของพี่ดินจิกหัวผมให้ลอยขึ้น ก่อนจะกดมันกระแทกลงกับขอบโต๊ะกินข้าว


ผมเจ็บจนร้องไม่ออก ภาพที่เห็นตรงหน้ากลายเป็นสีแดงฉานเพราะเลือดที่ไหลเข้ามาในตา


“อั้ก!!! อั้ก!!! อั้ก!!!.....” พี่ดินเข้ามาเตะซ้ำที่ช่วงลิ้นปี่นับครั้งไม่ถ้วน ผมได้แต่งอตัวอยู่กับพื้นเพราะจุกและเจ็บจนแทบจะขาดใจ


สมองผมมันเบลอไปหมด เหมือนมันจะหยุดสั่งงานไปเสียดื้อๆ ร่างของพี่ดินตรงหน้าไม่ต่างอะไรจากมัจจุราชที่พร้อมจะเอาชีวิตผมได้ทุกเมื่อ




สติผมค่อยๆ พร่าเลือน จนกระทั่งมีเสียงหนึ่งดังแทรกบรรยากาศหนักอึ้งขึ้นมา




“พอแล้ว อย่าทำฟ้าเลยดิน”


ผมแทบไม่รับรู้อะไรอีกแล้ว รู้แต่เพียงว่ามีใครบางคนโถมทั้งตัวเข้ามาบังผมไว้


“แต่มันทำริวเจ็บ”


“ริวไม่เป็นไรแล้วดิน”


“ริวจะเจ็บไม่ได้”


“ดินริวขอร้อง ริวไม่อยากให้ฟ้าเจ็บกว่านี้อีกแล้ว”


“แต่มันทำริวเจ็บ ริวจะเจ็บไม่ได้ ผมยอมไม่ได้ ริวหลบ”


“ดินรักริวไหม”


“ทะ ทำไม ริวถามผมแบบนี้ ริวก็รู้”


“งั้นดินคงรู้ว่าเวลาที่ต้องเห็นคนที่เรารักเจ็บมันรู้สึกยังไง”


“ริวกำลังจะบอกอะไร”


“ริวไม่อยากให้ฟ้าเจ็บ”


“ละ แล้วผมล่ะริว”


“ริวก็ไม่อยากให้ดินเจ็บเหมือนกัน”






ถ้าผมไม่เข้าข้างตัวเองจนเกินไป ดูเหมือนพี่ริวคงมีใจให้ผมบ้างแล้ว






แต่สิ่งที่ผมไม่เข้าใจก็คือ พี่ริวก็ดูเหมือนจะมีใจให้พี่ดินเหมือนกัน






แล้วถ้ามันเป็นแบบนั้นจริงผมควรจะทำยังไง






ผมเจ็บไปทั้งตัวจนไม่อาจจะขยับไปไหน ได้แต่ขดตัวอยู่ภายใต้การปกป้องของพี่ริว สติการรับรู้ของผมมันค่อยๆ เบาบางลงแต่ถึงกระนั้นในหัวผมมันกลับมีคำพูดที่พี่ดินเคยพูดกับผมผุดขึ้นมา













//ไม่ว่าพี่ริวจะตัดสินใจยังไง กูจะยอมรับมัน และมึงก็ต้องยอมรับมันเช่นกัน//




*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-04-2017 16:40:32 โดย Ryunosuke »

ออฟไลน์ Laliat

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 253
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
 :z13: เอิ่ม รอมานาน แต่สั้นไปน่ะตัวเธอ

ออฟไลน์ jimmyjimmy

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-17
ใช่ต้องยอมรับที่ริวตัดสินใจ....เพราะ...ริว...อยากเก็บเธอไว้ทั้งสองคน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
ตีกันเพื่อจะได้รักกันนะ พี่ริวเลือกแล้ว เลือกเหมา

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
มันก็ต้องเป็นอย่างนี้แหละ
แท็คมือกันไว้ ปกป้องริว
ไม่แน่พี่หนาว หวนกลับมาหาริวอีก
ถ้ารู้ความจริง
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4067
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6

ออฟไลน์ Ryunosuke

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 41
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม!!!






ตอนที่ 21 อดีตกับความทรงจำ






“นี่มึงอย่าบอกนะ ว่ามึงเอาริวขังไว้ในตู้ ไอ้เหี้ยยย เอ้ยยยย ริวกลัวที่แคบ จำใส่สมองกลวงๆ ของมึงไว้!!! ไอ้น้องเลว!!!” ทั้งๆ ที่ผมตั้งใจไว้แล้วว่าวันนี้จะมารับฟังฟ้าอย่างใจเย็นที่สุด แต่ผมก็ต้องน็อตหลุดทันทีที่ได้ยินฟ้าพูดถึงเรื่องตู้เสื้อผ้า ถึงปากจะด่าไปแล้วแต่ในใจก็ยังหวังว่าฟ้าคงไม่ได้ทำกับพี่มังกรแบบนั้น


พี่มังกรกลัวที่แคบ เรื่องนี้ผมรู้ดีที่สุด เพราะผมเองนี่แหละคือคนที่ไปพาตัวพี่ริวออกมาจากตู้เสื้อผ้าที่เคยใช้กักขังหน่วงเหนี่ยวพี่มังกรเอาไว้ร่วมหนึ่งเดือนเต็ม


“ผม ผม ขอโทษ พี่ ผมไม่รู้ว่าพี่ริวจะกลัวขนาดนั้น” ผมปรายตามองคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเหมือนน้องชายแท้ๆ ความรู้สึกผิดฉายชัดบนใบหน้าของฟ้า แต่มันกลับยิ่งทำให้ผมโกรธยิ่งกว่าเดิม


“มึงควรขอโทษริว ไม่ใช่ขอโทษกู แล้วมึงหมายความว่าอะไรที่บอกว่า ไม่รู้ว่าริวจะกลัวขนาดนั้น”


“กะ ก็พี่ริว เหมือนกลายเป็นอีกคน คลั่งจนผมแทบเอาไม่อยู่ ปากก็บอกขอร้องให้ปล่อย บอกว่ากลัวอยู่ตลอด”


“นี่มึงทำริวถึงขนาดไหนกันแน่วะ แมร่งเอ้ย!!! อยู่นิ่งๆ อย่าได้เสือกขยับไปไหนเลยนะ เดี๋ยวกูจะกลับมาคิดบัญชีกับมึง ไอ้เหี้ยเอ้ย!!!” ผมอยากจะซัดหน้าเด็กไม่รู้จักโตตรงหน้าใจจะขาด แต่ความเป็นห่วงพี่มังกรมันมีมากกว่า ผมทิ้งฟ้าให้นั่งคุกเข้าอยู่ที่เดิมแล้วรีบเดินเพื่อเข้าไปดูพี่มังกรในห้องนอน




“ริว ผมขอโทษ ผมมาช้าไปอีกแล้ว” ภาพพี่มังกรที่นอนหลับไม่ได้สติอยู่บนเตียงทำให้ผมรู้สึกผิดจนจับขั้วหัวใจ


ใบหน้าสวยดูหมองคล้ำซีดเซียวและเหนื่อยอ่อน คิ้วทั้งคู่ขมวดกันเป็นปมราวกับพยายามไล่เรื่องร้ายๆที่ตีกันอยู่ในหัว 


“ผมอยู่นี่แล้วนะครับ ริวไม่เป็นไรแล้ว ริวปลอดภัยแล้วนะ”  ผมอดไม่ได้ที่เอาเอามือเข้าไปคลึงช่วงคิ้วที่ขมวดกันจนเป็นปมให้ผ่อนคลายลง ผมไล้นิ้วโป้งของผมจากหัวคิ้วของพี่มังกรจากหัวคิ้วไปที่ขมับช้าๆ แล้วค่อยๆ นวดคลึงอยู่อย่างนั้นจนรอยยิ้มน้อยๆ ปรากฏบนใบหน้าสวย นั่นทำให้ผมเองก็เผลอยิ้มออกมาด้วยเช่นกัน




ผลั่ก!!! ผมซัดหมัดตรงเข้าที่ใบหน้าของฟ้าเต็มแรง แรงปะทะทำให้ฟ้าเสียหลักไปกระแทกกับโต๊ะกินข้าวอย่างจัง แต่ไหนแต่ไรมาผมไม่เคยทำให้ฟ้าเจ็บมาก่อน ไม่ว่าจะครั้งไหนๆ ผมจะยอมลงและให้อภัยน้องชายของผมคนนี้เสมอ แต่สิ่งที่ฟ้าทำในครั้งนี้ผมเกินกว่าที่ผมจะให้อภัย


ผมกดหัวฟ้ากระแทกลงกับโต๊ะกินข้าวจนเสียงดังสนั่น ฟ้าไม่สู้ผมสัดนิดได้แต่เงยหน้าขึ้นมามองช้าๆ จนทำให้ผมเห็นว่าใบหน้าหล่อเหลากำลังเต็มไปด้วยเลือดสดๆ ใบหน้าที่เคยยิ่งยโสไม่เคยกลัวใครกำลังสลดลงอย่างน่าสงสาร ถ้าในเวลาปกติผมคงต้องรีบเข้าไปปลอบโอ๋น้องแล้ว


“อั้ก!!! อั้ก!!! อั้ก!!!.....” แต่ไม่ใช่ครั้งนี้ เพราะครั้งนี้สีหน้าของฟ้ามันกลับยิ่งทำให้ผมบันดาลโทสะ ผมเตะซ้ำไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง อาจจะเป็นความผิดผมเองที่เลี้ยงน้องมาอย่างตามใจ จนน้องกลายเป็นเด็กเอาแต่ใจตัวเองแบบนี้




“พอแล้ว อย่าทำฟ้าเลยดิน” แต่สิ่งที่ผมขาดไปถึงก็เกิดขึ้น เพราะจู่ๆ พี่มังกรก็ออกมากจากห้องแล้วถลาเข้ามารับแข้งผมแทนฟ้า


“แต่มันทำริวเจ็บ” ผมรู้สึกเจ็บแปลบในอกเพราะพี่มังกรถึงกับเอาตัวเองเข้าไปคร่อมบังร่างของฟ้าไว้


“ริวไม่เป็นไรแล้วดิน” ถึงพี่มังกรจะพูดอย่างนั้น แต่ร่างกายบอบบางนั่นกลับสั่นเทาแปลกๆ พี่มังกรไม่ได้โถมตัวลงไปกอดฟ้าอย่างที่ควรจะเป็น มือเล็กกลับดูลังเลที่จะสัมผัสร่างกายของฟ้า เหงื่อผุดเต็มใบหน้าสวยที่กำลังมองคนที่นอนเจ็บอยู่อย่างชั่งใจ ท่าทีกล้าๆ กลัวๆ ที่จะถูกตัวคนอื่นแบบนี้ทำให้ผมนึกถึงครั้งที่ช่วยพี่มังกรออกมาใหม่ๆ


“ริวจะเจ็บไม่ได้” ผมพูดออกไปอย่างที่ใจคิด ในใจก็เต็มไปด้วยความกังวลว่าโรคกลัวสัมผัสของพี่มังกรมันจะกลับมา ที่สำคัญผมกลัวเหลือเกินว่าเหตุการณ์ที่เคยทำร้ายพี่มังกรมันจะกลับมาทำร้ายจิตใจเขาอีก


“ดินริวขอร้อง ริวไม่อยากให้ฟ้าเจ็บกว่านี้อีกแล้ว” 


“แต่มันทำริวเจ็บ ริวจะเจ็บไม่ได้ ผมยอมไม่ได้ ริวหลบ”


“ดินรักริวไหม”




คำถามที่ออกจากริมฝีปากสวยทำให้ผมชะงัก ผมไม่เคยคิดว่าพี่มังกรจะถามผมแบบนี้




“ทะ ทำไม ริวถามผมแบบนี้ ริวก็รู้”




ผมเฝ้าบอกรักพี่มังกรมาตลอด พี่มังกรจะไม่รู้ได้อย่างไร พี่มังกรกำลังมีจุดประสงค์อื่นในการใช้คำถามแบบนี้กับผม









“งั้นดินคงรู้ว่าเวลาที่ต้องเห็นคนที่เรารักเจ็บมันรู้สึกยังไง”




“ริวกำลังจะบอกอะไร” รู้ทั้งรู้ว่าพี่มังกรกำลังหมายถึงอะไร ผมก็ยังดื้อที่จะลองถามมันออกไป




“ริวไม่อยากให้ฟ้าเจ็บ” คำพูดนี้ยืนยันได้ว่าพี่มังกรมีใจให้ฟ้า




“ละ แล้วผมล่ะริว” แล้วผมล่ะพี่มังกร แล้วถ้าผมเจ็บบ้างล่ะ




“ริวก็ไม่อยากให้ดินเจ็บเหมือนกัน”




แปลว่าพี่มังกรมีใจให้ทั้งผมและฟ้าสินะ พี่มังกรกำลังบอกแบบนั้น ถ้าพี่มังกรตัดสินใจแบบนั้นผมก็จะยอมรับมัน ถึงแม้ผมจะอยากให้พี่มังกรมีแต่ผมมากเพียงใด แต่ในเมื่อพี่มังกรว่าแบบนั้น ผมก็จะยอมรับมัน


“ฟ้า ไอ้ฟ้ามึงได้ยินกูมั้ย มึงเห็นมั้ยว่าริวดีกับมึงแค่ไหน” ผมโผเข้าไปกระชากคอเสื้อของฟ้าที่ดูเหมือนจะหมดสติไปแล้วให้ลุกขึ้นมาฟังสิ่งที่ผมพูด


“ดิน เบาหน่อย เดี๋ยวฟ้าก็ได้ตายจริงๆ หรอก” พี่มังกรเหมือนพยายามจะเข้ามารั้งมือผมไว้ แต่ก็กลับสะดุ้งชักมือตัวเองกลับไป อาการของพี่มังกรกลับมาแล้วจริงๆ


“ฟ้ามังจำใส่หัวมึงไว้ ถ้ามึงทำริวเจ็บอีก มึงกับกูตัดพี่ตัดน้องกัน!!!” ผมหลุดคำพูดทั้งหมดออกไปด้วยอารมณ์ที่ยังคุกกรุนจนลืมไปว่า พี่มังกรไม่เคยรู้สถานะระหว่างผมและฟ้ามาก่อน


“ดะ ดิน ว่าอะไรนะ ดินกับฟ้าเป็น......”


“ผมอธิบายได้นะริว”


“อะ อืม พาฟ้าไปนอนที่เตียงก่อนเถอะ แล้วโทรเรียกหมอมาดูด้วย ถ้าพาไปโรงพยาบาลจะวุ่นวายเปล่าๆ” พี่มังกรบอกผมด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ ที่อยากแก่การคาดเดา


 “ครับริว คือริว ผมไม่ได้ตั้งใจ....”


“รีบเถอะน่า เดี๋ยวฟ้ามันได้ตายจริงๆ หรอก”


“ครับริว.....”


“เรียบร้อยแล้วค่อยออกมาคุยกัน”


“ครับริว”


.

.

.

.

.

ออฟไลน์ Ryunosuke

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 41
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0





“นั่งลงสิดิน” หลังจากส่งหมอที่ตระกูลเตชะรัตนบรรจงเรียกใช้อยู่ประจำเสร็จ พี่มังกรก็เรียกให้ผมนั่งลงข้างๆ ที่โซฟาในบริเวณห้องนั่งเล่น


“ครับ”


“ริวว่าเราต้องคุยกัน ริวขอให้ดินพูดทุกอย่างตามความจริง”


“ครับริว” ถึงตอนนี้แล้วผมคงไม่มีอะไรจะต้องปิดบังอีก ห่วงก็แต่ความรู้สึกของพี่มังกรเท่านั้น


“เรื่องของดินกับฟ้า ดินคิดจะบอกริวเมื่อไหร่”


“ผมไม่คิดจะบอกเรื่องนี้กับริวครับ” ผมตามไปตามตรง


“ทำไม”


“ผมคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องสำคัญ”


“ไม่สำคัญงั้นเหรอ ดินคือทายาทอีกคนของท่านเมฆินทร์นี่เรียกว่าไม่สำคัญเหรอดิน”


“ครับ คือผมไม่ได้เข้ามาในบริษัทนี้ในฐานะทายาทของท่านเมฆินทร์ อีกอย่างผมเป็นแค่ลูกบุญธรรมไม่ใช่ลูกแท้ๆ แต่ถึงผมจะเป็นลูกใครมันก็ไม่ได้มีความสำคัญกับความสัมพันธ์ของเรานี่ริว”


“สำคัญสิ ริวกำลังทำผิดต่อท่านเมฆินทร์”


“พ่อไม่เกี่ยวอะไร ริวไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิด”


“ริวกำลังทำให้ทายาททั้งสองคนของท่านเมฆินทร์เดินทางผิด”


“อะไรคือเดินทางผิดครับริว ริวกำลังบอกว่าที่ดินรักริวคือการเดินทางผิดงั้นเหรอ”


“แล้วมันไม่ใช่รึไง แทนที่ฟ้ากับดินจะได้มีครอบครัวที่ดีเป็นที่เชิดหน้าชูตา แต่กลับต้องมาจมปลักอยู่กับคนวิปริตผิดเพศอย่างริว......อ๊ะ ยะ อย่า เข้ามานะ” ระหว่างที่ริวกำลังพูดผมโน้มตัวเข้าไปหาเพื่อจะดึงร่างบางเข้ามากอด แต่ริวกลับผงะตัวหนีราวกับจะหวาดกลัว 


“ริว.....”


“ดิน.....ดินรู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้บ้าง ภาพในหัวริวมันมาจากไหน ผู้ชายที่ถูกจับขังไว้ในตู้ โดนบังคับฉีดยาอะไรอยู่ตลอดเวลา คนที่มีสีหน้ามีความสุขเหลือเกินเวลาถูกรุมกระทำ มันคือริวใช่มั้ย แล้วไอ้อาการกลัวสัมผัสนี่มันคืออะไร”


“ริว คือ.....”


“ไอ้คนสกปรกโสโครกคนนั้นคือริวใช่มั้ยดิน” เสียงพี่มังกรเรียบนิ่ง แต่ฟังดูก็รู้ว่ามันแฝงไปด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัส


“ไม่ ไม่ ริวโดนใส่ร้าย นั่นไม่ใช่ริว เชื่อดินนะ ริวใจเย็นก่อน” 


“มิน่าล่ะหนาวถึงทิ้งริวไป เพราะแบบนี้ใช่มั้ยดิน” พี่มังกรปล่อยให้หยาดน้ำใสหยดลงจากขอบตาสวยโดยไม่ได้ยกมือขึ้นเช็ด


“ริวฟังดินนะ เรื่องนี้มันมีเบื้องหลัง มันมีคนตั้งใจทำลายความรักระหว่างริวกับพี่หนาว” ผมยกมือขึ้นเพื่อเช็ดน้ำตาให้คนตรงหน้า พี่มังกรผงะไปครู่หนึ่งก่อนที่จะปล่อยให้ผมใช้นิ้วโป้งเกลี่ยเช็ดหยาดน้ำตาในขณะที่ตัวเองก็ยังสั่นเทาด้วยความกลัวสัมผัสจากผม


“งั้นดินเล่าให้ริวฟังได้มั้ยว่าความจริงมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่” 


“ถ้าเป็นความต้องการการของริว ผมก็จะเล่า”


ผมหลับตาลงช้าๆ นึกถึงเรื่องราวที่ผมอยากจะกลับฝั่งมันไว้ในอดีต ก่อนจะเอ่ยปากเล่าเรื่องราวในช่วงที่พี่มังกรกำลังเรียนต่อปริญญาโทและพี่หนาวกำลังจะจบปริญญาตรี


มันเป็นช่วงเวลาที่ความรักของทั้งคู่ถูกสั่นคลอนด้วยการเปลี่ยนถ่ายอำนาจการบริหารของตระกูลใหญ่ผู้ครอบครองธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่างตระกูลอนันตชัย ซึ่งมีพี่หนาวเป็นทายาทลำดับที่หนึ่ง ในตอนนั้นพี่หนาวพาพี่มังกรเข้าออกบ้านอยู่หลายครั้งเพราะมีปัญหากับพ่อของพี่หนาวที่ต้องการจะให้พี่หนาวแต่งงานแล้วก้าวขึ้นรับตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดอย่างเต็มภาคภูมิ


ทั้งคู่ก็ยังดูมีความสุขกันดีจนผมเองก็คิดว่าน่าจะไม่มีปัญญาอะไรเพราะนอกจากพ่อของพี่หนาวพี่มังกรก็ดูจะเข้ากับทุกคนในบ้านพี่หนาวได้เป็นอย่างดี จนกระทั่งวันหนึ่งที่พี่มังกรก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่มีใครติดต่อพี่มังกรได้แม้แต่บ้านของพี่มังกรเอง ทุกคนช่วยกันออกตามหา จนสุดท้ายก็ต้องจบลงที่การไปแจ้งความคนหายทิ้งไว้ เพราะทุกคนต่างพยายามจนหมดปัญญา คนที่ร้อนใจที่สุดคงหนีไม่พ้นพี่หนาว พี่หนาวกระวนกระวายจนแทบเป็นบ้า ข้าวปลาไม่กินจนร่างกายผ่ายผอมไม่เหลือสภาพประธานนิสิตคณะเศรษฐศาสตร์ผู้เป็นขวัญใจของทั้งมหาลัย


แต่แล้วเรื่องร้ายๆ มันกลับไม่จบลงแค่นั้น เพราะจู่ๆ วันหนึ่งพี่นนท์ก็มาพร้อมกับคลิปวิดีโอที่ทำให้ทุกคนถึงกับตกใจไปตามๆ กัน ภาพหนุ่มน้อยหุ่นบอบบางกำลังระเริงอารมณ์กับชายหนุ่มฉกรรจ์อีกนับสิบเป็นสิ่งที่ผมเห็นแล้วถึงกับเบือนหน้าหนี คงไม่ต้องบอกว่าคนรักอย่างพี่หนาวจะรู้สึกอย่างไร


“พอก่อนดิน ริวพอจะเข้าใจแล้วล่ะ สมควรแล้วที่หนาวจะทิ้งริวไป” พี่มังกรพูดแทรกขึ้นมาในระหว่างที่ผมกำลังเล่าเรื่อง


“มะ ไม่ใช่นะครับริว ความจริงมันไม่ใช่ริว ริวโดยยา.....”


“พอเถอะดิน ไม่ต้องเล่าต่อแล้วริวรู้เรื่องริว เพราะภาพตอนนั้นมันอยู่ในหัวริวเต็มไปหมด”


“ริว เรื่องนี้มันมีเบื้องหลัง ริวฟังดิน.....”


“แล้วดินล่ะ ทำไมดินไม่ทำเหมือนที่หนาวทำ”


“ริวหมายความว่าอะไรครับ”


“ทำไมดินถึงยังรักริว ทั้งที่ริวมันสกปรกขนาดนี้”


“ไม่นะริว ดินบอกริวแล้ว ว่านั่นไม่ใช่ริว มันเป็นเพราะฤทธิ์ยา.....” นั่นไม่ใช่ริว ผมรู้ดีเพราะเป็นผมที่เป็นคนบุกเข้าไปในที่กบดานของไอ้พวกสัตว์นรกพวกนั้นเพื่อพาริวออกมา ไอ้สารเลวพวกนั้นใช้ยากับริวจนริวไม่เป็นตัวของตัวเอง ยอมทำตามคำสั่งทุกอย่างเพื่อแลกกับที่ตัวเองจะได้รับยาเพิ่ม


ตอนที่ผมเจอริวเหมือนหัวใจผมมันได้สลายไปต่อหน้าต่อตา ริวถูกมัดแล้วขังไว้ในตู้เสื้อผ้ามืดสนิทใบหนึ่ง ร่างกายสูบผอมสั่นสะท้าน ปากก็มีแต่คำว่ากลัวแล้ว กลัวแล้ว ลำล่ำละลักออกมาไม่หยุด


“ทิ้งริวไปเถอะ อย่ามาเสียเวลากับคนอย่างริวเลย”


“ดินทำไม่ได้หรอกริว”


“ทำไม.....”


“ริวเป็นยิ่งกว่าชีวิตของดินมานานแล้ว ถ้าริวยังจำเด็กมัธยมที่ทำงานพิเศษในร้านฟาสต์ฟู้ดที่สยามได้”


“เป็นดินจริงๆ สินะ.....”


“ริวรู้เหรอครับ ริวจำดินได้เหรอ”


“อืม แค่เดาน่ะ แต่ไม่คิดว่าจะใช่จริงๆ ถ้าดินหลงรักริวคนนั้นในอดีต มันไม่ใช่ริวคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าดินตอนนี้หรอกนะ”


“ผมน่ะเฝ้าดูริวมาห่างๆ อยู่ตลอด ไม่ว่าริวจะสร้างเกราะภายนอกให้เปลี่ยนไปขนาดไหน ริวก็ยังเป็นริวของผมเสมอ ริวใจดีกับผมเสมอ ผมรู้ว่าที่ริวพยายามไล่ผมมาตลอดริวทำไปเพื่ออะไร”


“มันจะดีกับดินเอง.....”


“ริวอย่าตัดสินใจแทนว่าอะไรมันดีหรือไม่ดีกับผม”


“ดิน.....”


“ถ้าริวจำผมได้ ริวคงจำได้ว่าเราเคยตกลงกันไว้”


“.....”


“วันนี้ผมโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีพอจะปกป้องริวแล้วนะครับ”     
     

“แล้วดินรับได้เหรอ ที่ริว ริวเป็นแบบ....แบบนั้น”


“ผมบอกแล้วไงครับว่านั่นไม่ใช่ริว”


“ดิน.....”


“ริวครับ.....ให้ดินปกป้องริวเหมือนที่เราเคยตกลงกันไว้นะครับ”


“ดิน.....”








แต่ในระหว่างที่พี่มังกรกำลังจะเอ่ยปากกับผม ก็มีอีกสิ่งหนึ่งที่ผมคาดไม่ถึงเข้ามาขัดจังหวะ









ผมไม่รู้ว่าฟ้าออกมาจากห้องตั้งแต่ตอนไหน แล้วได้ยินอะไรที่ผมกับพี่มังกรคุยกันบ้าง แต่การปรากฏตัวของฟ้าก็ทำให้ทั้งผมและพี่ริวตกใจไม่แพ้กัน









“แล้วสัญญาที่เคยให้ไว้กับสกายล่ะครับ พี่ริวยังจำมันได้มั้ย”




*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*

ออฟไลน์ minneemint

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1633
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0

ออฟไลน์ jimmyjimmy

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-17
เอ้าอิพี่ริวสัญญาอะไรอีก.....รีบบอกมาเลย...ฟ้า

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :hao7:  โอ้เย้ ได้เวลาที่ต้องเปิดใจสักทีเนอะ
ใช่ค่ะพี่ริวพี่จำได้หมดแล้วใช่ไหม
เพราะงั้นตัดสินใครตอนนี้จะไม่ต้องเสียใจภายหลังนะ

ออฟไลน์ เจเจจัง

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
อ่านถึงตรงนี้เกลียดหนาวเลย. เป็นแฟนที่ใช้ไม่ได้. คบมาตั้งนานไม่รู้นิสัยริวเหรอหายไปตั้งนานทำไมไม่คิดว่าโดนจับตัว. มีคลิปแบบนี้. ทำไมไม่ตามหา.  ไปถาม ไปสืบให้รู้เรื่อง. ดันเชื่อแล้วแต่งงานประชด. ไม่เชื่อมั่นแฟนตัวเอง. สู้ดินก็ไม่ได้ ดี. เพราะแกนิสัยแบบนี้. ดินกะฟ้าเลยสมหวัง. อย่าเสียดายและจะเอาคืนทีหลังละกัน

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4067
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
ความในใจมาเต็ม ..

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด