พิมพ์หน้านี้ - อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX >>>ตอนที่ 24<<< [23/05/2560]

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบ => ข้อความที่เริ่มโดย: Ryunosuke ที่ 14-02-2017 21:34:59

หัวข้อ: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX >>>ตอนที่ 24<<< [23/05/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Ryunosuke ที่ 14-02-2017 21:34:59
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ 

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

18.เรื่องสั้นให้จั่วคนว่าเรื่องสั้นด้วยนะครับ และนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม




*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*

คุยกันก่อนเรื่อง

เรื่องนี้เคยเอามาลงครั้งหนึ่งแล้วแต่ด้วยผู้แต่งติดปัญหาเรื่องเรียนต่อและทำงานก็เลยห่างหายไป
คราวนี้กลับมาขอโอกาสอีกครั้ง ถ้าบางท่านอ่านแล้วรู้สึกคุ้นๆ ก็ขอให้มั่นใจว่าไม่ได้เอาของใครมาแน่นอน

แถมเมื่อเดือนก่อนได้มีโอกาสนัดกินข้าวกับรุ่นพี่ที่ควบตำแหน่งอดีตเจ้านายผู้เป็นแรงบันดาล
ใจของตัวละครเอกในเรื่องนี้ ก็เลยยิ่งตัดสินใจแน่วแน่ว่านิยายเรื่องนี้ต้องสมบูรณ์

ยังไงก็ให้กำลังใจกันด้วยนะคร้าบ

'Ryunosuke'

***คำเตือน มี NC และ 3P ***

*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*









อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม




บทนำ




          “ไอ้ริวนะ ไอ้ริว สายอีกจนได้” เมื่อรับรู้ถึงแสงสว่างและความร้อนจากแดดจ้ายามสายโด่ง ผมก็รีบผุดตัวลุกขึ้นนั่งในทันที


          แต่ไม่ทันจะขยับตัวพ้นขอบเตียงความเจ็บปวดที่ช่วงล่างก็แล่นแปลบราวกับจะต้องการเตือนความทรงจำถึงค่ำคืนเร่าร้อนที่เพิ่งผ่านพ้นไปสดๆ ร้อนๆ   


          ผมหันกลับไปมองข้างตัว เจ้าของรอยยิ้มสดใสราวกับเด็กที่แสนจะขัดกับร่างกายสมส่วนน่าหลงใหลยังคงนอนอมยิ้มอย่างมีความสุขอยู่ข้างๆ


          แทบไม่อยากเชื่อเลยว่าเด็กคนนี้จะร้อนแรงได้ขนาดนั้น ไหนจะขนาดของอะไรต่อมิอะไรที่พ่อมันให้มาที่เล่นเอาผมจุกจนถึงลิ้นปี่ทุกครั้งเวลาเจ้าของมันกระแทกกระทั้นเข้ามา


          เมื่อคืนผมตกเป็นของเจ้าเด็กนี่ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ร่างกายของเราแทบไม่ได้แยกออกจากกันสักวินาทีจนแม้แต่ตอนนี้ผมก็ยังรู้สึกเหมือนว่าเด็กคนนี้ยังอยู่ในตัวผม


          ใช่ครับพวกคุณเข้าใจไม่ผิดกันหรอกครับ พูดกันตามตรงก็คือผมได้เด็กคนนี้มาช่วยให้คืนเหงาๆ ของผมผ่านไปอีกคืน


          เราพบกันที่สถานที่ท่องเที่ยวกลางคืนชื่อดังในซอยเอกมัย ร้านเล็กๆ ที่ไม่เคยร้างราผู้คนซึ่งผมเชื่อว่าถ้าพูดชื่อร้านออกไปทุกคนจะต้องร้องอ๋อกันแน่ๆ 


          เด็กคนนี้โดดเด่นท่ามกลางผู้คนมากมายเหมือนมีไฟสปอตไลท์ส่วนตัว ผมพยายามทำตัวให้อยู่ในสายตาของเป้าหมายทันทีที่โอกาสอำนวย


          และเมื่อสายตาเราประสานกันเราต่างก็เข้าใจจุดประสงค์ของกันและกัน จนสุดท้ายผมก็มาลงเอยที่คอนโดหรูของเจ้าเด็กนี่ในซอยที่อยู่ติดกันตามคำเชื้อเชิญของเจ้าตัว


          ผมไม่ใช่คนดีอะไรนัก ผมผ่านร้อนผ่านหนาวมาจนปีที่สามสิบเอ็ด ผ่านทั้งผู้ชายและผู้หญิงมากหน้าหลายตาแต่ผมต้องขอยอมรับว่าเด็กคนนี้ต่างออกไป


          ส่วนสูงและร่างกายสมส่วนด้วยมัดกล้ามทำให้วงแขนกว้างโอมล้อมผมไว้ได้ทั้งตัวเหมือนผมจมเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดนั่น มันช่างอบอุ่นและเร่าร้อนในเวลาเดียวกัน ไหนจะรอยยิ้มน่าหลงใหลที่แอบซ่อนความไร้เดียงสาไว้ภายในนั่นอีก


          ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมผมถึงทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เด็กคนนี้มา เรียกได้ว่าได้สักทีจะไม่ลืมบุญคุณเลยก็ว่าได้


          แต่ถึงให้ผมคลั่งไคล้และหลงใหลเด็กคนนี้เพียงใดมันก็เท่านั้น เพราะผมรู้ดีว่าเราทั้งคู่มันก็แค่คนรักข้ามคืน เป็นได้แค่เครื่องระบายความใคร่ให้กันและกัน ผมต้องรีบจบความคิดเหล่านี้


          ผมก้มลงจูบริมฝีปากได้รูปนั่นอย่างอ่อนโยน ก่อนจะถือวิสาสะใช้ห้องน้ำเพื่อชำระคราบไคลจากศึกหนักเมื่อคืนและรีบแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าชุดเดิมเพื่อออกไปทำงาน โดยไม่ลืมที่จะทิ้งข้อความสั้นๆ ไว้บนกระดาษแผ่นเล็ก


          ถึงข้อความจะเหมือนออดอ้อนแต่เชื่อผมเถอะว่าเราจะไม่ได้พบกันอีก










          “เมื่อคืนขอบคุณมากนะครับ พี่มีความสุขมาก หวังว่าเราจะได้พบกันอีก..........พี่ริว”










          *+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นของผม >>บทนำ<< [14/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Ryunosuke ที่ 14-02-2017 23:27:31
อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม!!!




ตอนที่ 1 ฟ้าดินเล่นตลก




          หลังจากคืนนั้นผมยังใช้ชีวิตเหมือนที่ผ่านมา ตื่นเช้าออกไปทำงานตามหน้าที่พอตกเย็นก็หาอะไรทำแก้เหงาตามประสาคนโสด ผมเปลี่ยนคู่นอนเป็นว่าเล่นจนเพื่อนผมหลายคนสาปแช่งว่าผมคงจะเป็นเอดส์ตายเข้าสักวัน


          แต่สิ่งที่มันไม่เหมือนเดิมก็คือหลังจากคืนนั้นไม่ว่าผมจะมีเซ็กซ์กับใครสักกี่ครั้งหรือเปลี่ยนคู่นอนสักกี่คนผมก็ไม่สามารถลืมสัมผัสที่ได้รับจากเจ้าเด็กคนนั้นได้


          “คุณมังกรคะ วันนี้เก้าโมงเช้ามีปฐมนิเทศนักศึกษาฝึกงาน สิบเอ็ดโมงมีซัพพลายเออร์จากญี่ปุ่นมาขอพบ บ่ายสองครึ่งมีประชุมบอร์ดบริหารค่ะ” วันนี้ก็เป็นอีกวันที่ผมมาทำงานตามปกติ


          ใช่แล้วครับ มังกร เป็นชื่อจริงของผม ชื่อเล่นของผมคือ “ริว” ที่แปลว่ามังกรในภาษาญี่ปุ่น แม่ผมเป็นคนตั้งให้ท่านบอกว่าอยากให้ผมใช้ชีวิตอย่างอิสระเสรีเหมือนมังกร ท่านยังบอกอีกว่าแต่ไม่ว่าจะอิสระอย่างไรก็ยังคงอยู่ภายใต้การโอมล้อมของท้องฟ้าและแผ่นดินซึ่งแปลว่าผมก็ยังอยู่ในขอบเขตที่ยังควบคุมได้ แม่ผมล้ำลึกไหมล่ะครับ


          ผมอมยิ้มทุกครั้งที่นึกถึงคำพูดของแม่ แม่บอกว่าวันหนึ่งผมจะเจอคนที่ใจกว้างเหมือนท้องฟ้า อ่อนโยนเหมือนปุยเมฆ สดใสเหมือนดวงอาทิตย์ และเข้มแข็งดั่งแผ่นดิน


          ฟังดูเหมือนแม่อยากได้ลูกเขยมากกว่าลูกสะใภ้ว่าไหมครับ


          “ยังไงผมรบกวนคุณเตือนผมเรื่องตารางช่วงบ่ายอีกทีนะ แล้วเช้านี้ผมต้องเป็นประธานเปิดปฐมนิเทศเหรอ” ผมหันไปย้ำถามกับเลขาของผม


          “ค่ะ คุณมังกรเป็นผู้บริหารระดับสูงคนเดียวที่เข้าโรงงานวันนี้ค่ะ ใช้ห้องประชุมใหญ่ เด็กนักศึกษาทั้งหมดสามสิบคนค่ะ” เลขาของผมตอบกลับมาอย่างคล่องแคล่ว นึกแล้วเชียวว่าต้องเป็นแบบนี้ พอมีอะไรที่เป็นพิธีการหน่อยนี่ชิ่งหนีกันหมดเลยนะไอ้ผู้บริหารระดับสูงทั้งหลาย


          “เห้อ เด็กที่สุดนี่มันลำบากแบบนี้นี่เอง คุณว่าไหมคุณส้ม” ผมพูดทีเล่นทีจริงกับเลขาที่ก้าวเดินฉับๆ ตามมา


          “ส้มว่าคุณน่าจะภูมิใจที่ทุกคนต่างไว้ใจให้คุณจัดการในทุกๆ เรื่องของบริษัทนะคะ” ใช่ครับอย่างที่ส้มว่า ผมจัดการมันแทบทุกเรื่องของบริษัทจริงๆ ถึงแม้ว่าความจริงแล้วงานภายใต้บังคับบัญชาของผมควรจะมีเพียงแค่งานวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์เท่านั้นก็ตาม


          “ขออนุญาตเรียนเชิญ คุณมังกร พรพิพัฒน์ ประธานผู้บริหารสายงานวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์กล่าวเปิดงานปฐมนิเทศและให้โอวาทกับนักศึกษาฝึกงานครับ” พนักงานฝ่ายบุคคลที่รับผิดชอบโครงการนี้แนะนำผมอย่างเป็นทางการ


          ผมกวาดสายตาไปรอบๆ ห้องประชุมเพื่อสบสายตากับนักศึกษาฝึกงานทุกคน บางคนหลบตา บางคนจ้องกลับมาอย่างมุ่งมั่น ผมชอบมองปฏิกิริยาของคนที่หลากหลาย แล้วก็อย่างที่ทุกคนรู้กัน ผมชอบเด็ก! 


          ส่วนใหญ่นักศึกษาฝึกงานที่มาฝึกในโรงงานมักจะเป็นผู้ชาย ครั้งนี้ก็เช่นเดียวกันจากที่ผมกะประมาณด้วยสายตาคร่าวๆ เป็นเพศชายเกือบเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ ที่ผมบอกว่าเป็นเพศชายเพราะมั่นใจว่าบางคนไม่ใช่ผู้ชายอย่างแน่นอนเพราะสายตาบางคู่ที่จ้องกลับมามันแฝงนัยอย่างชัดเจน


          แต่ท่ามกลางดวงตาสามสิบคู่ตรงหน้ากลับมีดวงตาหนึ่งคู่ที่ทำให้ผมไม่อาจละสายตา ดวงตาแฝงแววขี้เล่นกับรอยยิ้มสดใสที่ยังคงฝั่งแน่นอยู่ในความทรงจำ


          “พี่ริว จำผมได้มั้ยครับ” เด็กคนนั้นขยับปากพูดแบบไม่มีเสียงส่งให้ผมพร้อมกับชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง


          วูบหนึ่งที่ผมเผลอยิ้มแต่ก็ต้องรีบเก็บอาการนั้นไว้แล้วนั่งลงที่โต๊ะหน้าห้องประชุมทันที ใครในที่แห่งนี้จะรู้เรื่องเด็กคนนี้ไม่ได้เด็ดขาด


          ผมเงยหน้ากลับขึ้นมาอีกครั้ง แต่ในขณะที่กำลังจะเริ่มพูดผมกลับรู้สึกว่ามีอีกสายตาที่กำลังมองตรงมา สายตาที่เหมือนกำลังจ้องจับผิดการกระทำของผม


          “ดิน” หรือนายพสุธา อินทรธร ดาวรุ่งฝ่ายวิศวะที่ผมเคยเผลอมีความสัมพันธ์บนเตียงด้วยโดยไม่ได้รู้เลยว่าเขาทำงานอยู่ในบริษัทเดียวกับผม ดิน เป็นคนหน้าไทยผิวเข้ม ตัวสูงและมีกล้ามเนื้อสมตัวด้วยความที่เป็นนักกีฬาบาสเก็ตบอลมาก่อน


          ผมเรียกสติกลับมาเพื่อรวบรวมและเรียบเรียงคำพูดในหัวแล้วค่อยๆ กล่าวแนะนำบริษัทในแต่ละส่วนงาน รวมไปถึงผู้บริหารผู้รับผิดชอบในสายงานต่างๆ ที่เหล่านักศึกษาฝึกงานจะได้เข้ามาเรียนรู้


          ตลอดเวลาที่ผมพูดอยู่ผมรับรู้ได้อย่างชัดเจนว่าสายตาทั้งสองคู่ยังจ้องผมอยู่แบบแทบไม่กระพริบตา สายตาหนึ่งสดใสแฝงความรู้สึกเว้าวอนและเอาแต่ใจ อีกสายตาหนึ่งมั่นคงอบอุ่นและอ่อนโยน แต่พอใกล้จบทั้งสองสายตานั้นกลับแสดงออกถึงความพยายามที่จะรุกเข้าหาอย่างชัดเจน


          ‘อึดอัด’ นั่นคือคำนิยามที่ดีที่สุดของความรู้สึกของผมในขณะนี้ ผมรีบจบการปฐมนิเทศโดยไม่เปิดโอกาสให้ใครได้ถามอะไร


          “พี่.....พี่มังกร.....พี่มังกรครับ หยุดก่อนสิครับพี่” เสียงทุ้มหนักแน่นไล่ตามผมมาติดๆ หลังจากที่ผมก้าวออกจากห้องประชุม


          “ว่าไงดิน มีอะไรรึเปล่า” ผมพยายามปั้นหน้าให้ปกติที่สุด


          “ให้ผมเดินไปส่งที่ห้องนะครับ” รอยยิ้มอบอุ่นกับสายตาอ่อนโยนที่ฉายแววความเป็นห่วงอย่างไม่ปิดบังนั่นทำให้หัวใจผมกระตุก


          “อืม......เอาสิ”


          “พี่ไม่สบายรึเปล่าครับ สีหน้าพี่ไม่ดีเลย ดื่มน้ำสักนิดนะครับ” ทันทีที่ถึงห้องทำงานดินก็จัดแจงทุกอย่าง เร่งเครื่องปรับอากาศ เลื่อนเก้าอี้ให้ผมนั่ง หาน้ำหาท่ามาให้ดื่ม


          “ดินกลับไปได้แล้ว พี่ไม่ได้เป็นอะไร”


          “พี่มังกรก็รู้ว่าผมเป็นห่วงพี่” ใช่ครับ ผมรู้ดีว่าดินรู้สึกอย่างไรกับผม แต่ผมก็รู้ดีเช่นกันว่าผมตอบสนองให้กับดินไม่ได้


          ดินเด็กกว่าผมห้าปี เรารู้จักกันมานานเพราะดินเป็นรุ่นน้องในมหาวิทยาลัยเดียวกัน ดินเคยบอกผมว่าเรื่องที่เรามีอะไรกันเป็นความตั้งใจของเขา เขาวางแผนไปดักรอผมที่ร้านที่ผมชอบไป พยายามทำตัวให้โดดเด่น พยายามทุกอย่างให้ผมสนใจ


          ดินคิดว่าจะรั้งผมไว้ได้ด้วยวิธีนั้น ผมเองก็พลาดที่ดันปล่อยให้ความต้องการของตัวเองบดบังสติและความรู้สึกผิดชอบชั่วดี


          แต่ดินคิดผิดอยู่อย่างหนึ่ง เพราะผมยังไม่คิดจะหยุดอยู่ที่ใคร


          “แต่ดินก็รู้ว่าพี่ไม่ได้คิดอะไรกับดิน”


          “ผมรู้ครับ แต่ผมรอได้ ผมมั่นใจว่าจะมีสักวันที่พี่หันกลับมามองผม”


          “มึงเริ่มไร้สาระแล้วดิน แล้วที่นี่มันก็ที่ทำงานจะทำอะไรก็เห็นแก่หน้าพี่บ้าง” ผมรีบปัดมือของดินที่พยายามเอื้อมมาจับแก้ม


          “ผมรักพี่นะครับ แล้วพี่ก็คงไม่ลืมว่าเราเป็น.........”


          “ดิน!!! มึงหุบปากแล้วออกไปจากห้องกูเดี๋ยวนี้!!!” ผมตวาดลั่นพร้อมกับชี้นิ้วไล่คนตรงหน้าให้ออกไป


          “พี่มังกรผมขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจจะ......”


          “เออๆ มึงออกไปเถอะ ถ้าไม่งั้นกูจะโกรธมึงจริงๆ” ผมปัดมือไล่ให้ดินออกไปจากห้องอีกครั้ง ทำเป็นไม่สนใจแต่หางตาก็ยังแอบมองคนที่เดินคอตกออกไปจากห้อง ดินเป็นคนดี ดีเกินไปที่จะต้องมาผูกมัดกับคนอย่างผม






          “ชาสมุนไพรค่ะคุณมังกร น่าจะทำให้คุณผ่อนคลายลงได้”


          “ผมแสดงออกขนาดนั้นเลยเหรอคุณส้ม” เลขาของผมทำเพียงแค่ยิ้มให้ก่อนจะวางแก้วชาลงตรงหน้าผม


          ผมยอมรับว่าวันนี้ทั้งวันผมแทบคิดอะไรไม่ออก สายตาของคนที่เด็กว่าทั้งคู่ทำให้ผมสติแตก หลังจากเสร็จประชุมบอร์ดบริหารช่วงบ่ายผมจึงรีบตรงดิ่งไปที่รถเพื่อกลับบ้าน ในใจคิดแค่ว่าอยากกลับไปพักผ่อนให้เร็วที่สุด


          เรียกตัวอ่อนเอ๊าะๆ เนื้อแน่นๆ มานอนกกด้วยน่าจะช่วยให้ผ่อนคลายได้ดี แค่คิดก็อดอมยิ้มไม่ได้แล้ว


          “พี่ริวครับ พี่ริว ผมฟ้าไงครับ พี่จำผมไม่ได้เหรอครับ” แต่สิ่งที่ผมไม่อยากให้เกิดขึ้นที่สุดมันก็เกิด เด็กยักษ์ในชุดนักศึกษาที่ออกตัวว่าชื่อฟ้า วิ่งเข้ามารั้งแขนผมไว้ในขณะที่ผมกำลังจะเอื้อมมือไปเปิดประตูรถ


          “คุณ ปล่อยมือผมเดี๋ยวนี้! ผมไม่ใช่เพื่อนเล่น!” ผมตวาดพร้อมช้อนสายตาดุๆ ขึ้นหมอหน้าเด็กตรงหน้าที่สูงกว่าผมเกือบยี่สิบเซนติเมตร


          จำได้สิครับ ผมจะจำเจ้าเด็กเร่าร้อนที่ทำเอาผมหลงใหลได้ปลื้มมาตลอดไม่ได้ได้ยังไง แต่ในสถานที่นี้ หัวโขนที่ผมสวมอยู่ขณะนี้ผมจะแสดงออกแบบนั้นไม่ได้


          “ทำไมพี่เย็นชากับผมแบบนี้ ผมคิดถึงพี่จะแย่ พี่เล่นไม่บอกอะไรไม่ทิ้งเบอร์ติดต่อไม่ทิ้งอะไรไว้ให้ผมเลยนอกจากไอ้นี่ พี่ไม่คิดถึงผมบ้างเหรอ” คนตรงหน้าออกอาการโวยวายง้องแง้งเหมือนเด็กพร้อมกับชูกระดาษแผ่นน้อยในมือ กระดาษที่ผมแทบจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าทิ้งมันไว้ที่หัวเตียงของเจ้าเด็กนี่ ‘เมื่อคืนขอบคุณมากนะครับ พี่มีความสุขมาก หวังว่าเราจะได้พบกันอีก..........พี่ริว’


          “คุณจะลามปามเกินไปแล้วนะ เป็นแค่เด็กฝึกงาน ทำตัวให้มันเหมาะสมหน่อย” ผมสะบัดมือเด็กตรงหน้าแล้วผลักอกมันอย่างแรง แต่รู้ไหมครับสายตามันเว้าวอนจนผมเกือบเผลอเข้าไปกอดมันไว้


          “คุณมังกร มีอะไรรึเปล่าครับ” เสียงมันคงดังจนยามที่อยู่ข้างเคียงเดินเข้ามาถาม


          “ไม่มีอะไร กลับไปทำงานของคุณเถอะ” ผมรีบบอกปัด


          “พี่ทำเกินไป” ไอ้เด็กนี้ยังไม่เลิกบ้า


          “อะไรอีก” ผมเริ่มจะหมดความอดทน


          “ถ้าพี่ไม่อยากให้ทุกคนในบริษัทนี้เห็นไอ้นี่ล่ะก็พี่ต้องฟังผม” ไอ้เด็กตัวสูงตรงหน้ายื่นไอโฟนมาตรงหน้าผม ภาพที่ผมเห็นทำให้ผมตาค้าง


          “คราวนี้พี่คงยอมฟังผมแล้วสินะ” มันพูดพร้อมกับค่อยๆ ใช้นิ้วลากบนหน้าจอสัมผัสโชว์รูปที่มันแอบถ่ายตอนผมหลับ มีทั้งรูปเดี่ยวและรูปที่ถ่ายคู่กับมันเป็นสิบๆ รูป ที่สำคัญในรูปผมไม่ได้ใส่อะไรเลยสักชิ้น!!!


          “ผมชื่อฟ้า นายเวหา เตชะรัตนบรรจง เกิดวันที่ 9 กันยายน ปีนี้อายุ 19 ปีเต็ม เรียนวิศวะเครื่องกล สูง 189 หนัก 80 เป็นลูกคนเดียว.....”


          “หยุดๆ! คุณอย่ามาพูดอะไรไร้สาระ ประวัติคุณจะเอามาบอกผมทำไมผมไม่ได้อยากรู้ คุณเป็นใครผมยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำ”


          “หึ พี่ไม่รู้จักผมงั้นเหรอ พี่จะเล่นแบบนี้ใช่ไหม”


          “ใช่สิหน้าคุณผมยังไม่เคยเห็น”









          “หึ แล้วพี่จะเสียใจ..........พี่อย่าลืมสิ ว่าพี่อะเป็นเมียผม!!!”










          *+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นของผม XXX >> บทนำ + ตอนที่ 1 << [14/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: NRedu ที่ 15-02-2017 19:15:25
ตามๆๆ
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX >> ตอนที่ 2 << [15/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Ryunosuke ที่ 15-02-2017 19:33:07
อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม!!!




ตอนที่ 2 คู่นอน





          ริมฝีปากได้รูปบดเบียดจูบร้อนแรงพร้อมกับส่งลิ้นร้อนเข้ามาในโพรงปากของผม มือซนลูบไล้ไปทั่วร่างกายก่อนจะมาหยุดเน้นที่ยอดอก ความรู้สึกเสียวซ่านแผ่กระจายไปทั่วร่างจนผมต้องพยายามหดตัวหลบ หากแต่ในขณะเดียวกันนั้นแผ่นหลังของผมก็กำลังถูกจู่โจมด้วยลิ้นร้อนลากยาวไล้เล็มจากท้ายทอยแล้วค่อยๆ ต่ำลง เสียวซ่านจนผมต้องแอ่นหนี


          “หนีไม่พ้นหรอกครับพี่ริว” คนตรงหน้ากระซิบข้างหูก่อนจะแทรกลิ้นชื้นเข้ามาในรูหู


          “อย่าแม้แต่จะคิดนะครับพี่มังกร” อีกคนที่ประกบแนบชิดอยู่ด้านหลังพูดกรอกลงที่ใบหูอีกข้าง พร้อมๆ กับนิ้วยาวที่แหย่รุกล้ำเข้ามาในร่างกาย


          “อะ อึก ยะ อย่า.....”


          “อย่าช้าเหรอครับพี่ รู้ๆ กันอยู่ว่าพี่ชอบ” คนข้างหลังไม่รอให้ผมพูดจบก็เพิ่มจำนวนนิ้วเข้ามาในร่างกายผมอีก


          “ดะ ดิน บะ เบาๆ......อื้อ!!!” ผมพยายามห้ามปรามคนข้างหลัง แต่คนข้างหน้าก็ไม่ยอมกัน ละเลงจูบร้อนจนทำให้ผมแทบบ้า


          “พี่ริว ช่วยผมหน่อย” คนตรงหน้าใช้มือประคองใบหน้าผมให้ก้มต่ำลงไปมองลูกชายตัวเขื่องของเจ้าตัว พร้อมๆ กับคนข้างหลังที่กดแผ่นหลังผมให้โก้งโค้งลง


          “ฟะ ฟ้า อะ อึ่ก อึ่ก” คนตรงหน้ายัดแท่งร้อนเข้ามาในปากลึกจนผมแทบสำลัก 


          “อื้อ อื้อ เจ็บ พี่เจ็บนะดิน อื้อ” ผมพยายามถอนปากออกเพื่อห้ามปรามคนข้างหลังที่แทรกประตูเข้ามาในคราวเดียว แต่คนข้างหน้าก็เสือกไสลูกชายตัวเขื่องเข้ามาในปากผมอีกจนพูดไม่ได้ศัพท์


          “พี่จะชอบมัน พี่จะไม่มีวันลืมพวกผมไปตลอดชีวิต” คนทั้งคู่จับให้ผมอยู่นิ่งๆ แล้วเอวแกร่งทั้งสองที่อยู่ตรงหน้าและด้านหลังก็เริ่มขยับ ค่อยๆ แรงขึ้น แรงขึ้น อย่างที่ผมไม่อาจต้านทาน


          ตอนนี้ผมแทบไม่มีสติจะคิดอะไร ผมนึกไม่ออกว่ามันเกิดอะไรขึ้น ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผมตกอยู่ในสภาพนี้ได้อย่างไร


          “ดิน ฟ้า พอเถอะพี่ขอร้อง พี่ไม่ไหวแล้ว” ความรู้สึกมันฟุ้งกระจายเสียจนผมควมคุมตัวเองไม่ได้ แต่ทั้งคู่ไม่ยอมให้ผมแตะลูกชายของผมที่มันประท้วงขยายตัวจนแทบจะระเบิดออกมา ความรู้สึกอยากปลดปล่อยมันทรมานเหลือเกิน


          “มันยังไม่จบหรอกครับพี่ คืนนี้มันยังอีกยาวไกล” ผมไม่รับรู้แล้วว่าเสียงใครเป็นเสียงใคร ในหัวมันขาวโพลนไปหมด รู้แต่ว่าตัวผมถูกประคองให้นั่งลงแล้วเอนนอนทับดินไว้ด้านล่าง แล้วฟ้าก็ขยับตัวมาคร่อมผมไว้ด้านบน ผมไม่รู้ว่าสองคนนี้กำลังจะทำอะไร แต่วงแขนแกร่งของทั้งคู่โอบรัดเสียจนผมไม่สามารถขยับตัวได้


          “ยะ อย่า อย่า นะ จะเข้ามาพร้อมกันได้ยังไง พี่ไม่ไหวนะ อะ โอ๊ย โอ๊ย” ผมกัดปากตัวเองจนได้กลิ่นคาวเลือด น้ำตามันไหลพรากออกมาเอง เจ็บเหมือนถูกจับแยกร่าง ฟ้าและดินเข้ามาในตัวผมพร้อมๆ กัน คนหนึ่งรองรับอยู่ด้านล่างอีกคนหนึ่งคร่อมทับอยู่ด้านบน


          “โอ๊ย เจ็บ พี่เจ็บนะฟ้า หยุดเถอะพี่ขอร้อง” ฟ้าที่คร่อมอยู่ด้านบนเริ่มขยับด้วยจังหวะที่หนักหน่วง


          “ผมจับพี่ไว้ได้แล้ว” ฟ้ากรอกเสียงลงที่ข้างหูซ้าย


          “ดะ ดิน อะ ยะ อย่า โอ๊ย” ไม่ช้าดินที่รองรับผมอยู่ด้านล่างก็เริ่มเร่งจังหวะเช่นกัน


          “ผมจะไม่ให้พี่ไปไหนอีกแล้ว” ดินกระซิบลงที่ข้างหูอีกข้าง


          “อะ โอ๊ย โอ๊ย อะ อ้า อืม” ผมได้แต่ร้องประท้วงแต่ก็ไม่เป็นผล คนทั้งคู่ขับเน้นจังหวะอย่างไม่ยอมกัน จนความเจ็บปวดของผมค่อยๆ แปรเปลี่ยน พอร่างกายผมเริ่มชินความรู้สึกเสียวกระสันจึงเข้ามาแทนที่


          “ดิน ฟ้า พี่จะไม่ไหวแล้ว”


          “ผมก็จะไม่ไหวเหมือนกันพี่ริว/ผมก็เหมือนกันครับพี่มังกร”


          “ดะ ดิน ฟะ ฟ้า ฟ้า อะ อ้า”


          “พี่ริว”


          “พี่มังกร”


          “พี่ริว”


          “พี่มังกร”






          “พี่ริว ตื่น”


          “พี่ริวตื่นเถอะครับ”


          “ฟะ ฟ้าเหรอ” ผมสะดุ้งตื่นเพราะแรงเขย่าของคนข้างตัว ผมมึนไปหมด แค่ฝันแต่ทำไมมันเหมือนจริงเหลือเกิน


          “ไม่ใช่ครับ”


          “งั้นดิน ดินเหรอ”


          “ไม่ใช่ครับ พี่ริวมองหน้าผมดีๆ ผมไม่ใช่ไอ้ฟ้า หรือไอ้ดินที่ไหน ผมนนท์ไงพี่” คนพูดประคองใบหน้าให้ผมมองไปที่เขา


          “เห้อ.....นนท์” พอสายตาผมเริ่มชินกับแสงสว่างและใบหน้าของคนตรงหน้าเริ่มชัด ใช่สิเมื่อวานผมหงุดหงิดจากไอ้เด็กสองคนที่เข้ามาหยุ่มหยามในชีวิต ก็เลยโทรหานนท์ให้มาเจอที่ห้อง พอคิดได้ความสบายใจก็บังเกิด ผมเลยซุกหัวเข้ากับกล้ามอกแกร่งๆ เนียนๆ ตรงหน้า


          “อ้อนเชียวนะครับ หึหึ”


          “อื้อ ใครอ้อน” ผมพูดเสียงอู้อี้เพราะกำลังก้มหน้างุดซุกลงกับอกของนนท์ให้แน่นขึ้น


          “คร้าบพี่ริว ไม่อ้อนเลยครับ ไม่อ้อนแบบนี้อยากได้อะไรล่ะ”


          “นวดหัวให้หน่อยยยย น้า.....”


          “ได้สิครับ งั้นพี่เปลี่ยนมาหนุนตักผมนะ เดี๋ยวผมนวดให้” นนท์ประคองหัวผมวางลงบนตัก ก่อนจะค่อยๆ คลึงนิ้วโป้งลงที่ขมับผมช้าๆ ผมชอบเวลาที่มีคนนวดหัวให้ มันรู้สึกผ่อนคลายและสงบ


          ‘นนท์’ หรือนายธนนท์ ทรัพย์ดำรง ถือเป็นคนที่รักษาสัมพันธ์กับผมไว้ได้นานที่สุด เพราะเราต่างรู้ขอบเขตชัดเจนว่าต่างอยู่ในสถานะอะไร ผมเจอนนท์ครั้งแรกเมื่อสามปีที่แล้วในแอพพลิเคชั่นออนไลน์ ผมสะดุดตาเข้ากับซิกแพคคมๆ กับผิวสีน้ำผึ้งที่นนท์ใช้เป็นรูปดิสเพล ‘ไบแมนอยากลืมเมียหญิง ขอรับใจถึงมารองรับอารมณ์ จะเ_ดให้ลืมเมีย” แถมขอความที่นนท์เขียนแนะนำตัวมันก็โคตรเร้าใจ นั่นแหละครับเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้นนท์รู้จักคนใจถึงอย่างผม และทำให้ผมรู้จักไบรุกอึดๆ อย่างนนท์


          ผมไม่ใช่รับแท้เพราะผมได้หมดไม่ว่าจะเป็นหญิงชาย แต่ถ้าได้เล่นบทไหนแล้วรับรองว่าคู่ขาจะไม่มีทางลืมผมหลง


          “ส้ม วันนี้ผมไม่เข้าโรงงานนะ ฝากบอกคุณกฤติยาให้เดินหน้าทำการทดลองตามแผนงานที่คุยกันไว้ได้เลย แล้วพรุ่งนี้ผมจะเรียกคุยอีกที” ผมยกโทรศัพท์หาเลขา ผมตัดสินใจว่าวันนี้จะขอไปเดินผ่อนคลายในห้างที่ไปเป็นประจำแถวสุขุมวิทเสียหน่อย


          “นนท์ไปเดินห้างกับพี่นะครับ วันนี้อยู่กับพี่หน่อยนะ”


          “ไม่ต้องขอ ผมก็เต็มใจอยู่แล้วครับ ช่วงนี้แฟนผมอยู่ต่างประเทศพอดีด้วย แต่ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนนะครับ” นนท์ตอบรับคำผมพร้อมรอยยิ้ม ใช้แล้วครับพวกคุณเข้าใจกันไม่ผิดหรอกครับ นนท์มีคนของเขาอยู่แล้ว มีผู้หญิงที่เขาวางแผนจะแต่งงานด้วย


          ผมถึงได้บอกไงล่ะครับว่าเราต่างก็เข้าใจในสถานะก็กันและกันเป็นอย่างดี


          “นนท์อยากได้อะไรเหรอ.....” ผมไม่พูดเปล่าแต่ลุกขึ้นแล้วนั่งคร่อมตัวของนนท์ไว้ เอาแขนตัวเองคล้องคอคนตรงหน้าแล้วค่อยๆ หย่อนสะโพกตัวเองลงทับอาวุธประจำกายของนนท์ที่ตั้งชั้นพร้อมรบอยู่แล้ว นี่ขนาดเมื่อคืนใช้งานไปหลายรอบแล้วยังสู้ขนาดนี้ นนท์นี่อึดดีจริงๆ


           “ขนาดนี้แล้วยังต้องถามอีกเหรอครับ พี่นี่มันน่ากินไปทั้งตัวจริงๆ ถ้าบอกว่าอายุเพิ่งจะยี่สิบผมก็คงเชื่อ คนอะไรดูแลตัวเองดีเหลือเกิน”


          “ไม่ต้องชมพี่ขนาดนั้นก็ได้นนท์ ยังไงพี่ก็ไม่ปฏิเสธเราอยู้แล้ว.....อื้อ” ไม่ทันทีผมจะพูดจบลิ้นร้อนก็เริ่มละเลงลงที่ซอกขอผม


          “ซอกคอขาวเนียน”


          “อ้า”


          “ไหล่กลมมน”


          “นนท์อย่าแกล้ง อ้า อื้ม”

 
          “กล้ามเนื้ออกกระชับกับยอดอกสีชมพูระเรื่อ”


          “นนท์ มะ ไม่ไหวแล้ว นนท์”


          “ลอนหน้าท้องบางๆ”


          “นนท์ อย่าแกล้งสิ”
 

          “ที่สำคัญก้นงอนๆ นี่ ผมกินเท่าไหร่ก็ไม่เคยพอเลยจริงๆ”






          “อะ นนท์ อ้า..........”







          *+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*

หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX >> ตอนที่ 2 << [15/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 15-02-2017 22:20:42
ชื่อเรื่องว่าน่าสนใจแล้ว
เนื้อเรื่องยิ่งเร่าร้อนสุดๆ  :ling1: :ling1: :ling1:
มังกร เหินเวหา คลุกคลีปฐพี
มีนนท์ เป็นอาหารว่าง หรือหลัก นะ
มาตามติดด้วย รอตอนต่อไป
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX >> ตอนที่ 2 << [15/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 15-02-2017 23:07:20
  โอยยย ฮอตมากคับผู้แต่ง รออ่านต่อคับ
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX >> ตอนที่ 2 << [15/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Ryunosuke ที่ 16-02-2017 19:03:32
อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม!!!




ตอนที่ 3 แพ้ทางเด็ก





          “พี่ริว พี่ริวค้าบบบบบ” การเดินห้างของผมวันนี้คงจะมีความสุขกว่านี้ถ้าไม่มีเสียงนี้ให้ได้ยิน


          “นนท์ เปลี่ยนร้านกันเถอะ พี่อยากไปดูกระเป๋าสตางค์ใบใหม่สักหน่อย”


          “แต่น้องคนนั้นเรียกพี่อยู่นะครับ”
 

          “ไม่ต้องไปสนใจมัน เดินตามพี่มา” ผมคล้องแขนนนท์อย่างแนบชิดแล้วพาเดินไปด้วยกัน


          “พี่ริวรอผมก่อนสิครับ” เสียงฟ้าไล่หลังผมมาเรื่อยๆ


          “นี่ผมต้องเพิ่มสถานะไม้กันหมาให้พี่ด้วยเหรอครับเนี่ย ฮ่า ฮ่า” นนท์พูดพร้อมหัวเราะอย่างอารมณ์ดี


          “ช่วยหน่อยน้า.....” ผมออกอาการอ้อนแล้ววางหัวลงบนไหล่กว้างของนนท์ ตั้งใจให้ฟ้ามันเห็นด้วยแหละครับ ปกติผมไม่มีทางทำอะไรแบบนี้ในที่สาธารณชนแน่ๆ


          “ไม่มีปัญหาครับ คนดีของนนท์” นนท์ว่าพร้อมเอาฝ่ามือวางลงบนหัวผมแล้วลูบอย่างรักใคร่ สมบทบาทมาก สมควรมอบตุ๊กตาทองให้จริงๆ


          “พี่จะทำอะไรคนของผม!!!” ฟ้าแหวใส่นนท์ทันทีที่ตามมาทัน


          “คนของน้อง? ใครครับ ที่ยืนอยู่ตรงนี้พี่เห็นแต่คนของพี่” นนท์ก็เด็ดไม่แพ้กัน จนคนรอบข้างเริ่มหันมามอง


          “คนของพี่เหรอ พี่หมายความว่ายังไงวะ” วูบหนึ่งที่ผมแอบเห็นสายตาของฟ้าสั่นไหว เล่นเอาหัวใจผมเหมือนจะหล่นไปที่ตาตุ่ม ทำไมถึงทำหน้าตาได้น่าสงสารขนาดนั้น


          “พี่ริวมากับพี่ ก็ต้องเป็นคนของพี่สิครับ ว่าแต่น้องนั่นแหละเป็นใคร ให้ดีพี่ว่าอย่าเข้ามาเสือกจะดีกว่า ผัวเมียเข้ากำลังมีความสุขกัน” นนท์ร่ายยาวพลางกอดเอวผมอย่างเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ 


          “พี่ริว ทำไมพี่ทำกับผมแบบนี้ เรามีอะไรกันแล้วนะ พี่ต้องเป็นของผมคนเดียวสิ” ฟ้าคงประเมินแล้วว่าต่อกรนนท์ไม่ไหวเลยวกกลับมาเล่นงานผมแทน


          “ผมไปทำอะไรให้คุณ ในเมื่อหน้าคุณผมยังไม่รู้จัก..........ไปกันเถอะนนท์”






          “ถ้าพี่ไม่มากับผม พรุ่งนี้พี่เตรียมดังได้เลย ถ้าเรื่องอย่างว่าหลุดออกไป ภาพลักษณ์ผู้บริหารระดับสูงจะเป็นยังไง พี่อย่าลืมสิอนาคตอันรุ่งโรจน์ของพี่อยู่ในมือผมนะ” สุดท้ายฟ้ามันก็งัดไม้ตายของมันขึ้นมาใช้ ดวงตาของฟ้าตอนนี้มันกำลังบอกผมว่ามันกล้าทำสิ่งที่มันพูดอยู่จริงๆ


          “อะ เอ่อ นนท์ นนท์กลับไปก่อนนะ ไว้พี่โทรหานะครับ พี่ขอโทษจริงๆ” ผมหันไปบอกกับนนท์ คงต้องทำตามที่ฟ้ามันต้องการไปก่อน เรื่องนี้ยังไม่รู้จะแก้ยังไงจริงๆ คงต้องหาโอกาสพังโทรศัพท์มันซะ ไม่น่าพลาดท่าให้มันเลยจริงๆ


          “พี่ริวไม่เป็นไรแน่นะ จะให้นนท์ไล่ไอ้เด็กนี้ให้ก็ได้นะครับ” นนท์เองก็คงงงกับท่าทางที่เปลี่ยนไปในทันทีของผม


          “ไม่เป็นไรนนท์ เดี๋ยวพี่จัดการเอง ขอบคุณมากนะ ไว้พี่จะติดต่อไป” ผมขอโทษขอโพยนนท์ ก่อนจะเดินตามฟ้ามาอย่างที่มันต้องการ






          “ผมงอนพี่อยู่นะ หัดง้อผมบ้างเซ่!!!” ไอ้เด็กตัวสูงที่เดินดุ่ยๆ อยู่ข้างหน้าผมหันกลับมาโวยวายสั้นๆ ก่อนจะสะบัดหน้าหนีแล้วเดินต่อ


          “ผมไม่เคยง้อใคร คุณนั่นแหละเลิกทำตัวเป็นเด็กไม่รู้จักโตแล้วคุยกันให้รู้เรื่องกันไปเสียที”


          “พี่จะพูดดีๆ กับผมบ้างไม่ได้รึไง แล้วคุณกับผมน่ะ เลิกเรียกสักที มันห่างเหินผมไม่ชอบ” ไอ้เด็กตัวไม่เล็กยังพูดต่อโดยไม่หันมามองผม


          “คุณจะอะไรกับผมหนัก...อุ๊บ!!!” ฟ้าหันขวับกลับมาพร้อมมือใหญ่ที่คว้าตะปบปิดปากผม


          “ผมบอกว่าให้เลิกเรียก คุณกับผม ผมจะปล่อยมือแต่พี่ต้องเรียกผมว่าฟ้า แล้วแทนตัวเองว่าพี่ ตกลงไหม” ผมได้แต่พยักหน้าตอบรับเพราะสิ่งที่ฟ้าทำมันเรียกร้องความสนใจของคนรอบข้างสุดๆ


          “ฟ้าจะงอนอะไรพี่หนักหนา เราไม่ได้เป็นอะไรกันด้วยซ้ำ” เอาครับยอมๆ มันไปนิด เผื่อจะเลิกง้องแง้ง ผมเห็นมันแอบยิ้มตอนที่ชื่อของมันออกจากปากผมแต่ไม่ทันที่ผมจะพูดจบยิ้มสวยนั่นก็หุบลงทันที


          “พี่ว่าเราไม่ได้เป็นไรกันงั้นเหรอ พี่พูดแบบนี้ได้ยังไง!!!” เอ้า!!! ยังไม่ยอมจบ หน้าเป็นตูดหนักเลยทีนี้ แถมทิ้งระเบิดจบก็เปิดตูดเดินไปอีกทาง มันจะอะไรหนักหนาวะ


          “เอาแต่ใจฉิบ....”


          “ใช่ผมเอาแต่ใจ แล้วที่สำคัญคือพี่ต้องตามใจผม!!!” ไอ้ฟ้าเอ้ย หูทิพย์รึไงวะ อุตส่าห์คิดว่าพูดเบาแล้วแท้ๆ


          “เออๆ จะให้ทำอะไรว่ามา” ผมเริ่มหน่ายกับมันแล้วจริงๆ อะไรมันจะเด็กขนาดนี้วะเนี่ย






          “อยากกินไอติม”


          “อะ อะไรนะ” ผมไม่ได้หูฝาดใช่ไหม ตัวใหญ่อย่างกับกระทิง อยากกินไอศกรีม มันจะไม่น่ารักไปหน่อยเหรอครับคุณเวหา


          “พาไปกินสิ แล้วจะหายงอน” เออเว้ย ผมก็เพิ่งรู้ครับว่าคนงอนเขาบอกวิธีแก้งอนให้คนง้อฟังด้วย


          “เอ้าๆ อยากกินร้านไหนครับน้องฟ้า” เอาใจมันหน่อยครับ เพื่อได้โอกาสลบรูปทิ้ง


          “ร้านไหนก็ได้ แต่ถ้าให้ดีอยากกินไอติมที่อยู่บนตัวพี่ ค่อยๆ เลียช้าๆ คงจะอร่อยสมใจผม”


          “คุณอย่าลามปาม!!! เห็นผมยอมให้หน่อยไม่ใช่จะทำอะไรก็ได้” ไอ้เด็กนี่มันยั่วโมโหผมได้ตลอด


          “ขนาดโกรธยังน่ารักเลยวุ้ย” เหมือนมันบ่นกับตัวเองแต่ผมได้ยินเต็มสองรูหู หน้าผมแอบร้อนๆ ไปเหมือนกัน

   




          “วันนี้ไม่ต้องฝึกงานรึไง” ผมเป็นฝ่ายเริ่มเปิดบทสนทนาก่อน เพราะหลังจากที่ผมพาฟ้ามานั่งที่ร้านไอศกรีมตามคำสั่งมัน มันก็เอาแต่นั่งกดโทรศัพท์ยุกยิกๆ แทบจะไม่เงยหน้ามองผม


          “ผมขออนุญาตพี่ดินออกมาตามหาผู้บริหารระดับสูงที่โดดงานมากับชู้” ผมงงนิดหน่อยว่าทำไมฟ้ามันต้องขออนุญาตดิน แต่ก็เข้าใจได้ว่าดินคงถูกมอบหมายให้เป็นพี่เลี้ยงที่คอยฝึกงานให้ฟ้า


          “อย่ามากวนตีน”


          “ก็ได้ ผมต้องการพี่ ชัดไหมครับ ผม! ต้อง! การ! พี่!” เมื่อกี้เงียบเป็นเป่าสาก แต่ตอนนี้กลับตะโกนเสียลั่นร้าน มันจะเด็กไปถึงไหน


          “เรื่องของเรามันจบไปแล้ว คืนนั้นเราต่างบรรลุจุดประสงค์ไม่ใช่รึไง” ผมพยายามเย็นที่สุด


          “น่าแปลก พี่คิดว่ามันจบแต่ผมกลับคิดว่าคืนนั้นมันเป็นแค่จุดเริ่มต้น” ฟ้ายิ้ม ยิ้มแบบที่ทำให้ผมหลงเสน่ห์ในคืนแรกที่เราเจอกัน ผมต้องขอยอมรับว่ารอยยิ้มของฟ้าทำให้ผมหวั่นไหวได้เสมอ


          “งั้นคิดใหม่ซะนายเวหา ไม่งั้นผมคงต้องให้คุณหยุดเข้ารับการฝึกงานที่บริษัทของผม คุณเลือกเอาแล้วกันว่าจะฝึกงานอย่างมีความสุขเรียนจบตามเวลา หรือถูกไล่ออกแล้วเรียนจบไม่พร้อมคนอื่น” ผมยื่นเงื่อนไขที่คิดว่าจะปิดเรื่องนี้ให้จบได้เร็วที่สุด แรงมาก็คงต้องแรงกลับ


          “พี่ทำแบบนั้นไม่ได้หรอกครับ” ฟ้าพูดพร้อมจ้องมาที่ผมอย่างท้าทาย ไม่รู้ทำไมแต่สายตานั่นทำให้ผมรู้สึกตกเป็นรอง


          “ทำไมผมจะทำไม่ได้ ในเมื่อผมเป็นถึงผู้บริหารระดับสูง.....อุก อื้มมม” ผมยังไม่ทันพูดจบดีไอ้เด็กตรงหน้าก็ยื่นหน้ามาจูบผม แถมมือข้างหนึ่งของมันยังเอื้อมมากดท้ายทอยผมไว้เสียแน่น


          “คุณเวหา!!! คุณทำอะไร!!! ไม่มีใครเคยสอนเรื่องการเคารพผู้ใหญ่กับกาลเทศะรึไง!!!” ผมโมโหมาก กำหมัดตัวเองแน่นจนเจ็บมือ ถ้าไม่ได้อยู่ต่อหน้าคนมากๆ แบบนี้มันโดนผมซัดหน้าหงายไปแล้ว 


          RRRRRRRRRR RRRRRRRRRR RRRRRRRRRR


          “อ๊ะ โทรมาพอดีเลย พี่คุยกับคนนี้แล้วกันครับ เรื่องการฝึกงานของผม” ฟ้ายิ้มมุมปาก ผมเกลียดรอยยิ้มแบบนี้ที่สุด เพราะผมรู้สึกเหมือนว่าผมกำลังจะแพ้ ไม่เคยไม่มีใครหน้าไหนทำให้ผมรู้สึกแบบนี้มาก่อน


          “ใคร!!! แล้วทำไมกูต้องคุย” ผมเก็บอารมณ์ไว้ไม่อยู่แล้ว


          “พ่อของผมเอง พี่รับสายเถอะ ผมเตือนด้วยความหวังดี” งง ผมงงกับสิ่งที่ฟ้าพูด






          “ครับ ผมมังกรพูด” ผมลังเลอยู่สักพักก่อนที่จะรับโทรศัพท์มาจากมือเด็กตรงหน้า


          “ริวเหรอ นี่ผมเมฆินทร์นะ” เมฆินทร์ ชื่อนี้ทำให้ผมยิ่งรู้สึกว่ากำลังจะแพ้อย่างหมดรูป ไหนจะน้ำเสียงทรงพลังที่ผมเคยได้ยินบ่อยๆ นั่น






          “คะ ครับท่าน” ผมแอบได้ยินเสียง yes เบาๆ จากไอ้เด็กตรงหน้า เมฆินทร์ เตชะรัตนบรรจง ประธานคณะผู้บริหารหรือเรียกง่ายๆ ว่าคนคนนี้คือ CEO ของบริษัทที่ผมทำงานอยู่ ทำไมผมไม่เอะใจก่อนหน้านี้นะ ใช่ ฟ้ามันเคยบอกว่ามันนามสกุลเตชะรัตนบรรจง แต่ใครจะไปคิดว่าจะแจ๊คพ็อตแตกแบบนี้     


          “วันพรุ่งนี้เข้ามาหาผมที่ออฟฟิศหน่อยสิ ผมมีเรื่องสำคัญอยากจะปรึกษา”


          “ได้ครับท่าน กี่โมงดีครับ”


          “ซักบ่ายสองก็ได้ริว”


          “ครับท่าน” ผมไม่รู้ว่าหน้าตัวเองเหวอแค่ไหน รู้แต่ว่าไอ้เด็กตรงหน้ามันยิ้มกว้างเต็มแก้มเสียจนหน้ามั่นไส้ หงุดหงิดโว้ย! ไอ้เด็กยักษ์ ไอ้เด็กโข่ง ไอ้ลูกติดพ่อ ไอ้ลูกแหง่เอ้ย!






          “อย่าลืมพาลูกชายผมกับนายพสุธาฝ่ายวิศวกรรมมาด้วยนะ”







          *+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX >> ตอนที่ 3 << [16/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 16-02-2017 23:37:20
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX >> ตอนที่ 3 แพ้ทางเด็ก << [16/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 17-02-2017 13:16:26
จำเรื่องนี้ได้ ดีใจที่กลับมาใหม่ครับ
ฝันบอกเหตุว่า 3P แน่ๆ
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX >> ตอนที่ 3 แพ้ทางเด็ก << [16/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 17-02-2017 14:26:43
กลับมาแล้ว ชอบเรื่องนี้ ดีใจที่รีไรท์นะคะ รอตามจนจบค่ะ
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX >> ตอนที่ 3 แพ้ทางเด็ก << [16/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 17-02-2017 18:16:54
อ้าวๆ.....ฟ้าเป็นลูก CEO ของบริษัทที่มังกรทำงาน
งี้ฟ้า ก็ใช้เส้นสายพ่อ ใกล้ชิดมังกรได้น่ะสิ
แต่ CEO สั่งให้ มังกร ฟ้า ดิน เข้าพบ  :katai1: :katai1: :katai1:
มีอะไร มันยังไง  :ling1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX >> ตอนที่ 3 แพ้ทางเด็ก << [16/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: omuya ที่ 17-02-2017 19:17:23
จำได้ว่าเคยชอบเรื่องนี้มาก อ่านแล้วก็ค้าง จากค้างก็หาย หายไปเลยยยย 555555

มาใหม่ครั้งนี้ก็จะติดตามเหมือนนะคะ ^^
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX >> ตอนที่ 3 แพ้ทางเด็ก << [16/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Ryunosuke ที่ 17-02-2017 20:44:46
อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม!!!




ตอนที่ 4 งานเข้า





          ราวๆ สิบโมงผมพาเด็กทั้งสองคนนั่งรถมาจอดที่ห้างใหญ่แถวพระรามเก้าแล้วนั่งรถไฟฟ้าต่อเพื่อจะเข้าไปหาท่านเมฆินทร์ตามนัดที่ใจกลางย่านธุรกิจสำคัญของกรุงเทพมหานคร


          เมื่อเช้าทั้งฟ้าทั้งดินมานั่งรอหน้าห้องทำงานของผมโดยไม่ต้องเรียกหา ผมไม่แปลกใจสำหรับฟ้าเพราะมันเป็นคนวางแผน แต่กับดินผมอดแปลกใจไม่ได้ที่ทำไมดินถึงได้รู้เรื่องทั้งๆ ที่ผมยังไม่ได้แจ้งบอกอะไร


          การได้ขึ้นรถไฟฟ้าไม่ว่าจะใต้ดินหรือบนดินเป็นหนึ่งในความสุขของผม ทำไมเหรอครับ ก็เพราะผมจะได้ส่องเด็กๆ ที่ยังอยู่ในเครื่องแบบนักเรียนนักศึกษาไงครับ


          แต่วันนี้การขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินของผมต่างออกไป เพราะทันทีที่ก้าวพ้นประตูผมถูกดันเข้ามุมโดยมีผู้ชายตัวควายๆ สองคนยืนบังวิวสวยๆ จนมิด ถึงแม้ไอ้เด็กสองคนตรงหน้าจะเรียกได้ว่าหล่อขั้นเทพแต่เล่นจ้องผมอย่างกับจะจับผิดทุกการกระทำแบบนี้มันอึดอัดเกินไป


          “พี่ริวเหม่ออะไรครับ” ผมถึงกับสะดุ้งตอนที่ไอ้ฟ้าก้มลงมากระซิบข้างหู


          “คุณทำอะไร ผมตกใจหมด”


          “หน้าพี่ตอนตกใจโคตรน่ารักอะ ว่าแต่ผมบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าห้ามเรียกคุณกับผมอะ” ฟ้าพูดพร้อมกับยกมือสองข้างขึ้นเท้ากำแพงคร่อมตัวผมไว้


          ผมว่าผมอาจจะหูแว่ว แต่ผมคิดว่าผมได้ยินเสียงกรี๊ดเบาๆ มาจากนักเรียนหญิงที่ยืนจับกลุ่มอยู่ใกล้ๆ


          “นี่ฟ้า ให้ความเคารพพี่เขาหน่อย อย่าปีนเกลียว” ดินออกปากปรามฟ้าที่ยิ้มทะเล้นกลับไปอย่างไม่ยี่หระ 


          “ทำไมจะทำไม่ได้ในเมื่อ พี่ริวเป็นเม.....”


          “คุณหยุดพูดนะ / ฟ้าอย่า!!!” ผมกันดินโพล่งออกมาพร้อมกัน ผมรีบหันกลับไปมองหน้าดินทันที แววตาของดินที่มองกลับมาเจือปนด้วยความรู้สึกหลากหลาย


          แปลว่าดินรู้แล้วงั้นเหรอ ผมทำร้ายความรู้สึกดินอีกแล้วสินะ


          “ลงกันเถอะ ถึงแล้ว จะจ้องตาอีกนานไหม คุณเป็นปลากัดรึไง”


          “ถ้าผมเป็นปลากัด พี่ท้องไปแล้ว”


          “ฟ้า!!! / ฟ้า!!!” ไอ้เด็กนี่มันแสบจริงๆ



          “ผมต้องขอโทษแทนน้องฟ้าด้วยนะครับพี่มังกร” ดินออกปากแทนไอ้เด็กที่เดินเฉยไม่รู้สึกรู้สาอยู่ด้านหน้า


          “ดินไม่เห็นต้องขอโทษแทน มะ เอ้ย ฟ้าเลยนี่” สายตาคมกริบส่งมาทันทีที่ผมเกือบเรียกฟ้าด้วยคำว่า ‘มัน’


          “นั่นแหละครับผมขอโทษแทนน้องด้วย เป็นเพราะผมอบรมไม่ดี น้องเลยเอาแต่ใจแบบนี้” ดินยังพยายามต่อไป


          “ดินพูดเหมือนรู้จักกับฟ้ามานาน” ในที่สุดผมก็เก็บความสงสัยไว้ไม่มิด


          “ปะ เปล่าครับ ผมหมายถึงในฐานะพี่เลี้ยงนักศึกษาฝึกงาน” ดินบ่ายเบี่ยง แต่ผมก็ยังติดใจอยู่ดี มันต้องมีอะไรมากกว่านั้นแน่ๆ


          “อ้าวริวมาหาท่าน CEO เหรอจ๊ะ หูยยย พาหนุ่มๆ โรงงานมาเป็นอาหารตาพี่ซะด้วย” พี่จุ๊ยสาวใหญ่นักการตลาดร่างไม่เล็กโบกมือทักทายผมอย่างอารมณ์ดี


          “ครับพี่ พี่จุ๊ยสบายดีนะครับ อ่อ นี่นายพสุธาผู้จัดการฝ่ายวิศวกรรม ส่วนนี่นายเวหา.....”


          “ลูกท่านเมฆินทร์ใช่ไหมจ๊ะ ว๊าย หนูฟ้าโตแล้วหล่อมากเลย ลูกสาวพี่ยังว่างนะคะสนใจมั้ย” พี่จุ๊ยตัดบทผมฉับทันทีที่ชายตามองไปเห็นไอ้เด็กหล่อตัวสูงเทียมเปรต


          “สวัสดีครับอาจุ๊ย ขอบคุณสำหรับคำชมครับ ส่วนเรื่องลูกสาวผมคงต้องขอโทษอาด้วย เพราะผมมีแฟนแล้วครับ” ฟ้าพูดจบก็หันมายิ้มกรุ้มกริ่มให้ผม


          ‘แฟน’ เหรอ คำนี้ผมไม่ได้ใช้กับใครมานานแค่ไหนแล้วนะ คิดได้แบบนั้นหน้าผมมันก็ร้อนๆ ชอบกล


          “อะ แฮ่ม” เสียงกระแอมของดินทำให้ผมรู้ตัวว่าเผลอจ้องหน้าหล่อๆ ของฟ้าอยู่นานสองนาน
 

          “อะ เอ่อ พี่จุ้ยครับ ผมว่าเราไปทานข้าวกันไหมครับ มื้อนี้ผมเป็นเจ้ามือเอง ผมมีนัดกับท่านตอนบ่ายสอง นี่เพิ่งเที่ยงจะได้มีเวลาคุยคอนเซปสินค้าใหม่ของพี่ด้วยไงครับ” ผมรีบแถทันทีที่เรียกสติกลับมาได้ ความจริงไม่ค่อยอยากกินข้าวกับแกหรอกครับ เพราะแกพูดเป็นน้ำไหลไฟดับพูดได้จนลิงหลับนั่นแหละครับ






          “หนูฟ้าจ๊ะ เคี้ยวข้าวไปพูดไปโบราณเขาว่าจะได้แฟนแก่นะลูก ไม่กลัวเหรอ” สาวใหญ่นักการตลาดเอ่ยขึ้นระหว่างที่ทุกคนกำลังจัดการกับข้าวในจานตรงหน้า


          “ไม่กลัวหรอกครับ แฟนผมแก่กว่าผมตั้งหลายปี นี่แสดงว่าโบราณเขาแม่นจริงๆ นะครับ” ฟ้าพูดพลางตักกับข้าวมาเพิ่มในจานผม “กินเยอะๆ จะได้โตไวๆ” ไอ้เด็กร้ายกาจมันตั้งใจพูดให้ได้ยินกันแค่สองคน


          “แล้วคุณพ่อไม่ว่าอะไรเหรอจ๊ะที่คบคนแก่กว่า” พี่จุ้ยยังไม่ยอมจบประเด็น


          “อ๋อ ป๊ายังไม่รู้ครับ แต่ผมมั่นใจว่าป๊าไม่ว่าแน่นอนเพราะแฟนผมน่ารัก” หน้าผมร้อนอีกแล้วครับ ผมว่ามันเริ่มแปลกๆ แล้วล่ะ ครั้งสุดท้ายที่ผมมีอาการนี้คงซักเกือบสิบปีที่แล้วสมัยผมโดนผู้ชายจีบใหม่ๆ


          “จ๊ะ อาชักอยากเห็นหน้าแฟนของหนูฟ้าแล้วสิ ต้องน่ารักมากแน่ๆ เลย”


          “แน่นอนครับ ผมรับรองด้วยเกียรติของ นายเวหา เตชะรัตนบรรจง เลย” ยิ้ม ยิ้มอีกแล้ว ยิ้มอยู่นั่นแหละ ใจสั่นไปหมดแล้วไอ้ริว เอ้ย


          “จะน่ารักแค่ไหนกันเชียว” หมั้นไส้มันครับ ฟ้ามันยิ้มแบบมีความสุขสุดๆ ไปเลย เขินก็เขินแหละครับ เชื่อผมสิถ้ามีคนพูดถึงคุณด้วยทีท่าและน้ำเสียงที่มีความสุขขนาดที่ฟ้ากำลังทำอยู่เป็นใครใครก็เขิน


          แต่ถึงจะเขินแค่ไหนผมก็ต้องพยายามรั้งตัวเองไว้ ผมกับฟ้าก็แค่คู่นอน ยิ่งรู้ว่าฟ้าเป็นถึงลูกชายของ CEO ผมยิ่งไม่ควรยุ่ง คนอย่างผมควรใช้ชีวิตอยู่ในโลกของผม อย่าไปทำให้เด็กมันเสียดีที่สุด


          “ดิน เราไปกันเถอะใกล้เวลาแล้ว” คนนี้ก็เป็นอีกคนที่ผมไม่อยากทำร้าย ผมรู้ว่าดินกำลังครุ่นคิด ดินชักสีหน้าทุกครั้งที่ฟ้าพูดถึงผม สีหน้ากระอักกระอ่วนนั่นทำให้ผมยิ่งรู้สึกผิด ผมเชื่อว่าดินจะเป็นคนรักที่ดีได้แน่ๆ แต่ไม่ใช่กับผม

 




          “สวัสดีครับท่าน” ไม่ว่าเมื่อไหร่ผมก็ยังประหม่าต่อหน้าคนคนนี้ ห้องทำงานกว้างขวางหรูหราบนยอดตึกเกือบสี่สิบชั้นกลับเทียบไม่ได้เลยกับความมุ่งมั่นและทรงพลังของบุคคลน่าเกรงขามที่นั่งอยู่กลางห้อง


          แม้ท่านจะเป็นถึง CEO แต่ก็ให้ความเป็นกันเองและสนิทสนมกับพนักงานทุกคน ยิ่งกับผมถ้าผมไม่ได้เข้าข้างตัวเองเกินไป ผมก็คิดว่าท่านเอ็นดูผมอยู่ไม่น้อย ไม่อย่างนั้นผมคงไม่ได้ก้าวขึ้นมาอยู่ในตำแหน่งนี้ตั้งแต่อายุยังไม่ถึงสามสิบแน่ๆ


          “สวัสดีริว นั่งก่อนสิ ทำตัวตามสบายนะ ส่วนฟ้ากับดินสองคนนั่งด้านหลังก่อนนะ” ท่านเรียกชื่อเล่นทุกคนอย่างสนิทสนม ชื่อเล่นผมท่านจำได้อยู่แล้ว ฟ้าก็ลูกชายท่าน แต่ทำไมกับดินท่านก็รู้ชื่อเล่นด้วย เรื่องนี้มันมีกลิ่นทะแม่งๆ ว่าไหมครับ


          “งั้นผมเริ่มเลยดีกว่า จะได้ไม่เสียเวลาริว”


          “ได้ครับท่าน”


          “ที่ผมเรียกริวมาวันนี้ผมมีเรื่องอยากจะปรึกษา ผมอยากให้ริวช่วยรับฟ้าในฐานนะนักศึกษาฝึกงานส่วนตัว และทำหน้าที่เป็น Mentor (ผู้ให้คำปรึกษา) ให้กับดิน” ถึงจะเกริ่นด้วยคำว่าปรึกษา แต่นี่คือคำสั่งชัดๆ


          “แต่ผมไม่ได้อยู่ฝ่ายวิศวกรรมนะครับท่าน ผมคงไม่สามารถทำหน้าที่ครอบคลุมได้ขนาดนั้น เกรงว่าทั้งคู่จะไม่ได้รับความรู้อย่างเต็มที่ ที่สำคัญจะเป็นการข้ามหน้าข้ามตาคุณวีรพงศ์นะครับท่าน” ผมรีบปฏิเสธทันที เรื่องฟ้าผมมั่นใจว่าเป็นแผนของไอ้เด็กตัวร้าย แต่เรื่องของดินยังไงผมก็คิดไม่ออกว่าทำไมท่านเมฆินทร์ถึงต้องให้ความสำคัญ


          “ฟ้ากับดินออกไปรอข้างนอกก่อนนะลูก ป๊าขอคุยส่วนตัวกับพี่ริวหน่อย” ทั้งฟ้าและดินลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องอย่างว่าง่าย


          “เรื่องนั้นริวไม่ต้องกังวล คุณวีรพงศ์ถึงกำหนดเกษียณในปีนี้แล้ว แกขออนุญาตไม่ต่ออายุและแนะนำให้ผมแต่งตั้งให้ริวรับตำแหน่งแทนแกขึ้นอีกตำแหน่ง แกยังย้ำกับผมอีกว่าผมจะไม่ผิดหวัง” ท่านเมฆินทร์เอ่ยหลังจากที่เด็กทั้งสองก้าวพ้นประตู


          “คะ ครับ ผมจะพยายามทำให้ดีที่สุดครับ” ผมจะพูดอะไรไปได้มากกว่านี้ล่ะครับ





 
          “ริว ฟ้าลูกชายผมเขาชื่นชมในตัวคุณมากนะ ผมอยากให้เขาโตขึ้นมาเป็นเหมือนคุณ”






          “ครับท่าน”






          ผมอยากรู้จริงๆ ว่าถ้าท่านรู้เรื่องผมกับฟ้าและดินท่านจะยังเชื่อมั่นในตัวผมไหม







          *+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*

          แอบมาพูดคุยค้าบบบบ มีคนจำเรื่องนี้ได้ด้วยยยย ดีใจจริงจัง แต่ในความดีใจก็มีความรู้สึกผิดถาโถมมาเต็มๆ ว้ากกกกกกก ไม่ต้องห่วงกันนะค้าบ กลับมาเที่ยวนี้เรื่องนี้มีจบบริบูรณ์แนะนอนค้าบ ขอกำลังใจให้กันไปเรื่อยๆ นะค้าบ

          *+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX >> ตอนที่ 4 งานเข้า << [17/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 17-02-2017 21:37:46
ดิน เป็นลูก หรือเป็นญาติ ซีอีโอ หรือเปล่า
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX >> ตอนที่ 4 งานเข้า << [17/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyjimmy ที่ 17-02-2017 23:36:16
ปวดหัวละงานนี้พี่มังกร
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX >> ตอนที่ 4 งานเข้า << [17/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 18-02-2017 05:07:41
 :mew1:
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX >> ตอนที่ 4 งานเข้า << [17/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 18-02-2017 17:32:59
 :เฮ้อ: ปวดหัวแทนพี่มังกรจริงๆ งานนี้ 3 P ได้ก็ดีนะ เพราะสงสารดินคนดีจริงๆ
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX >> ตอนที่ 4 งานเข้า << [17/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 18-02-2017 17:57:31
สามคนสิคะจึงจะลงตัว ตามลายเซนต์คนเขียนเลยค่ะ
พี่มังกรจะต้องหยุดกับสองคนนี้เพราะเติมเต็มกันได้
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX >> ตอนที่ 4 งานเข้า << [17/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: เจเจจัง ที่ 18-02-2017 19:47:18
เรื่องนี้ 3p ใช่ไหม คือโอเคนะ ชอบทั้งดินและฟ้าอ่ะ เสียดายถ้าไม่ได้ทั้งคู่
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX >> ตอนที่ 4 งานเข้า << [17/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Ryunosuke ที่ 18-02-2017 21:43:02
อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม!!!




ตอนที่ 5 ฝนฟ้าคะนอง





          หลังจากวันที่ผมไปพบท่านเมฆินทร์พร้อมกับฟ้าและดิน ผมพยายามหลบเลี่ยงเด็กทั้งสองคนมาโดยตลอด ผมเครียดและหมกมุ่นอยู่กับการพยายามตกผลึกความคิดจนโรคประจำตัวอย่างไมเกรนและโรคกระเพาะกำเริบอยู่หลายครั้ง


          ถึงจะเป็นเรื่องที่ส่งผลต่อความรู้สึกผมเป็นอย่างมากแต่ความจริงเรื่องของฟ้าและดินเป็นเพียงส่วนเล็กๆ เรื่องที่ใหญ่กว่าคือผมจะสามารถซื้อใจบุคลากรตั้งมากมายและผลักดันองค์กรให้ขับเคลื่อนไปได้อย่างไรต่างหาก


          “ขอบคุณนะส้ม วางไว้ตรงนั้นแหละ” ผมพูดทันทีที่หางตามองเห็นใครบางคนยกชาร้อนมาวางให้บนโต๊ะ


          “พี่ริวหลบหน้าผมเหรอครับ” 


          “เห้ย!!! คุณ เอ้ย ฟ้า อย่านะ!!!” ผมสะดุ้งทันทีเพราะรู้สึกถึงมือสากที่ลวงผ่านช่องว่างระหว่างกระดุมเสื้อเข้ามาจากทางด้านหลัง


          “พี่ริวจงใจหลบหน้าผม” ฟ้าใช้มือที่ล้วงเข้ามากดผมติดกับพนักเก้าอี้


          “ผะ ผม พี่เปล่านะฟ้า อึ๋ยยย” ผมพยายามปฏิเสธแต่ไม่ทันได้พูดอะไรฟ้าก็ใช้ปากงับลงที่ใบหูผม


          “พ่อผมสั่งให้พี่ช่วยฝึกงานให้ผม แต่นี่ผ่านมาสองวันพี่กลับไม่ทำอะไรเลย” ฟ้าพูดเสียงเย็น มืออีกข้างค่อยๆ ถอดเนคไทและปลดกระดุมเสื้อผมออก 


          “นี่มันที่ทำงานนะ คุณให้เกียรติผมด้วย” ผมฝืนตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้ ทำให้กระดุมเสื้อสามเม็ดบนขาดกระเด็นเพราะมือของฟ้าที่ยังลวงอยู่ภายใน


          “พี่ลืมแล้วรึไงว่าพี่เป็นของผม” ฟ้ายืนประจันหน้าผมอย่างท้าท้าย มือก็ผลักอกจนผมเซนั่งลงบนโต๊ะทำงาน


          “มะ มึง อย่านะ นี่มันที่ทำงาน มึงจะทำอะไรแบบนี้กับกูไม่ได้นะ อะ โอ๊ย” ฟ้ากดหน้าอกผมให้นอนหงายลงกับโต๊ะทำงาน ก่อนจะก้มลงฝากร้อยช้ำที่ซอกคอและหน้าอกผมไปทั่ว


          “พูดไม่เพราะเลยนะครับ ไม่ต้องกลัวใครมาเห็นหรอกครับ ผมล็อกประตูเรียบร้อย ที่สำคัญผมมั่นใจว่าพี่คงไม่กล้าเรียกใครเข้ามาให้เห็นพี่ในสภาพนี้แน่”


          “อะ อื๊อ อื๊อ” ฟ้าไล้มือบนหน้าท้องของผม ก่อนลูบต่ำลงไปเรื่อยๆ


          “พี่นี่มันน่ากินจริงๆ” ฟ้าทำเสียงกระเส่าก่อนจะลากลิ้นจากต้นคอจนถึงใบหู


          “ปะ ปล่อยเดี๋ยวนี้ มึงทำเกินไปแล้วไอ้ฟ้า” ผมพยายามดิ้นสุดกำลังแต่ก็ไม่สามารถสู้แรงฟ้าที่คร่อมอยู่บนตัวผมได้เลย


          “เกินไปยังไงครับ ผมก็แค่ทำเรื่องที่ผัวทำกับเมีย”


          “ไอ้ฟ้า มึงปล่อยกูนะ มึงปล่อย......อุ๊บ อื๊อ” ขณะที่ผมพยายามโวยวายฟ้าประกบปากเข้ามาด้วยความรุนแรง ลิ้นชื้นชอนไชเข้ามากวาดควานไปทั่วปาก ผมได้กลิ่นคาวเลือดแต่มันกลับเร้าให้อารมณ์ผมแทบกระเจิง อยากขัดขืนใจจะขาดแต่ไอ้แขนขามันดันทรยศหมดเรี่ยวหมดแรงจะต่อสู้ไปเสียดื้อๆ


          “ต้องว่าง่ายแบบนี้สิครับพี่ริว” ฟ้าพูดพลางจูบย้ำๆ ที่ปากผม


          “เห้ย อย่าฟ้า ไอ้ฟ้า มึงหยุดนะ!!!” ผมคิดว่าฟ้าจะหยุดแล้วแต่ก็ไม่ เพราะฟ้ากำลังพยายามถอดกางเกงผมออก


          “เกือบสามเดือนแล้วนะพี่ริวตั้งแต่วันนั้น จะไม่ใจร้ายกับผมไปหน่อยเหรอ” ฟ้าพูดพร้อมกับจ้องหน้าผม สายตามันหื่นมาก หื่นจนผมขนลุก


          ก๊อกๆๆ ก๊อกๆๆ “คุณมังกร มีอะไรรึเปล่าคะ เสียงดังออกมาข้างนอกเลย”


          “ส้ม อุ๊บ อื๊อออออ” ฟ้าเอามือมาอุดปาก พร้อมๆ กับใช้ปากชื้นครอบลงบนแก่นกายของผมที่ดันตอบสนองฝ่ายตรงข้ามดีเสียเหลือเกิน


          "ไม่มีอะไรครับพี่ส้ม พอดีฟ้าทำของในห้องพี่ริวหล่นนิดหน่อยครับ เดี๋ยวฟ้าจัดการเอง" ฟ้าชิงตะโกนตอบกลับไป


          "อ๋อค่ะน้องฟ้า ถ้ามีอะไรให้ช่วยเรียกได้เลยนะคะ" เลขาคนสวยของผมขานรับคำของเด็กยักษ์ ส่วนฟ้าก็หันกลับมาจัดการให้เรียบร้อยตามที่เจ้าตัวพูด แต่ไม่ใช้ของหล่นที่ไหนแต่สิ่งที่ฟ้าจัดการก็คือผมนี่แหละ






          ฟ้าสัมผัสร่างกายผมราวกับรู้จักทุกส่วนสัดเป็นอย่างดี จุดไวสัมผัสทุกส่วนถูกกระตุ้นเร้า จนเผลอครางเสียงน่าอายออกมาอย่างไม่อาจอดกลั้น






          ฟ้าใช้ปากกับส่วนอ่อนไหวที่สุดของผมอย่างช่ำชองจนสุดท้ายผมก็ไม่สามารถสะกดอารมณ์เอาไว้ได้






          ฟ้าเก่งมากจริงๆ เก่งอย่างร้ายกาจเลยผมขอยอมรับ






          ผมพ่ายแพ้อย่างหมดรูป






          “หวานชะมัด” ฟ้าว่าพลางแล่บลิ้นเลียน้ำสีขาวขุ่นบางส่วนที่ติดอยู่ที่มุมปาก ภาพที่ผมเห็นตรงหน้าทำให้ผมอายจนต้องเบี่ยงหน้าหลบ


          “ออกไป”


          “อะไรนะครับพี่ริว”


          “ออกไป”


          “น้ำแตกปุ๊บก็ไล่ผมปั๊บ”


          “กูบอกให้มึงออกไป!!! ไอ้ฟ้า!!!”


          “ได้ผมออกไปก็ได้ แต่พี่ห้ามลืมว่าพี่เป็นของผม ที่สำคัญพี่ห้ามขัดความต้องการของผม เพราะถ้าพี่ขัดพี่คงจะรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น” ฟ้ายิ้มด้วยรอยยิ้มแบบที่ผมเกลียดที่สุด รอยยิ้มของผู้เหนือกว่า ก่อนจะเดินออกจากห้องไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น


          “ไม่น่าพลาดไปเอากับมันเลย” ผมพูดกับตัวเองหลังจากที่ประตูห้องปิดลง จัดแจงแต่งตัวเสียใหม่ให้เรียบร้อยก่อนจะเก็บของเพื่อเตรียมออกไปจากสถานที่แห่งนี้


          “คุณมังกรคะ ส้มว่าคุณติดกระดุมคอด้วยจะดีกว่านะคะ” เลขาของผมว่าพลางทำท่าชี้นิ้วที่คอของตัวเอง


          “ทำไมเหรอส้ม”


          “อะ เอ่อ ส้มว่าคุณมังกรเข้าห้องน้ำไปดูเองดีกว่าคะ”






          “อะ ไอ้ห่า ไอ้เลว ไอ้ระยำ” ภาพที่ผมเห็นในกระจกห้องน้ำคือรอยจ้ำแดงเต็มคอและหน้าอกที่แม้แต่กระดุมเม็ดบนก็แทบปิดไม่มิด ที่จริงต้องบอกว่าปิดไม่ได้มากกว่าผมกระดุมเสื้อผมมันขาดหลุดไปแล้ว ผมเลยทำได้แค่ใช้มือรวบปกเสื้อเอาไว้ 


          ผมเกิดอาการปวดหัวจี๊ดขึ้นมาทันที ในหัวผมมีเรื่องต่างๆ ผุดขึ้นมาตีกันจนมั่วไปหมด ไหนจะเรื่องงานที่จะต้องทำ เรื่องคนมากมายที่จะมาอยู่ใต้บังคับบัญชา เรื่องที่ส้มเห็นรอยพวกนั้น และที่สำคัญที่สุด เรื่องไอ้เด็กผีเอาแต่ใจไม่รู้จักโตที่กำลังทำให้ความรู้สึกของผมปั่นป่วน


          ผมไม่อาจปฏิเสธว่าเวลาจูบกับมันผมรู้สึกพิเศษต่างไปจากคนอื่น จูบของฟ้ามีรสหวานปนขมที่ถ้าได้ลิ้มลองแล้วไม่สามารถหยุดได้ง่ายๆ ผมยอมรับว่าผมหลงใหลรสจูบของฟ้า แต่สิ่งที่ฟ้ากำลังทำกับผมมันทำให้ผมคิดหนัก ฟ้าเอาเรื่องอนาคตในชีวิตของผมมาเล่นเป็นเรื่องตลก ผมรู้สึกเหมือนเป็นแค่ของเล่นชิ้นหนึ่ง


          ผมวักน้ำจากก๊อกสาดเข้าหน้าและพยายามถูรอยแดงมากมายบนหน้าอกและคอของตัวเอง รู้ทั้งรู้ว่ามันไม่ออกแต่ผมไม่รู้จะทำอย่างไร


          ผมเดินออกจากห้องน้ำในสภาพที่ไม่อยากให้ใครได้เห็นแล้วรีบตรงดิ่งกลับไปที่รถ ผมเซจะล้มอยู่หลายครั้งเพราะอาการปวดหัวที่มากขึ้นทุกทีทุกที


          “อีกนิดเดียวไอ้ริว อีกนิดเดียวก็ถึงรถแล้ว” ตาผมเริ่มพร่าเบลอและทรงตัวยากขึ้น อาการไมเกรนกำลังเล่นงานผมอย่างหนัก


          ภาพที่ผมเห็นค่อยๆ มืดลง ผมรู้สึกเหมือนพื้นดินมันกลับหัว ตาผมมองไม่เห็นอะไรนอกจากความมืด สติผมกำลังเตือนว่าถ้าหากปล่อยตัวเองให้ล้มลงหัวผมคงกระแทกเข้ากับพื้นคอนกรีตแน่ๆ


          ถึงผมรู้แบบนั้นผมก็ทำอะไรไม่ได้เพราะร่างกายมันไม่ยอมตอบสนองได้แต่ปล่อยได้ร่างกายล้มลงตามแรงโน้มถ่วง แต่พื้นคอนกรีตกลับไม่แข็งและทำให้ผมเจ็บอย่างที่คิด ผมกลับรู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในอ้อมแขนของใครบางคน พร้อมๆ กับเสียงอบอุ่นที่ก้องอยู่ในหัว













          “พี่มังกรครับ พี่มังกรเป็นอะไรรึเปล่า”   







          *+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX >> ตอนที่ 5 ฝนฟ้าคะนอง << [18/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 18-02-2017 22:25:53
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX >> ตอนที่ 5 ฝนฟ้าคะนอง << [18/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 18-02-2017 22:34:52
   รออ่านต่อคับ
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX >> ตอนที่ 5 ฝนฟ้าคะนอง << [18/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: คนคิ้วท์คิ้วท์ ที่ 18-02-2017 22:41:25
เฮ้ ฟ้า นายทำแรงไปนะ
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX >> ตอนที่ 5 ฝนฟ้าคะนอง << [18/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 19-02-2017 15:12:08
กลับมาเจอกันอีกครั้ง หวังว่าคราวนี้จะลงจนจบนะคะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX >> ตอนที่ 5 ฝนฟ้าคะนอง << [18/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyjimmy ที่ 19-02-2017 15:29:18
น้องดินมาแล้ว
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX >> ตอนที่ 5 ฝนฟ้าคะนอง << [18/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Ryunosuke ที่ 19-02-2017 21:22:08
อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม!!!




ตอนที่ 6 อ้อมกอดพสุธา





          ผมรู้สึกเหมือนกำลังนอนซุกอยู่กับอกอุ่นๆ บนเตียงอันแสนนุ่ม ผิวหน้าของผมสัมผัสได้ถึงผิวเนียนๆ และกล้ามอกแข็งแรงของคนที่โอบกอดร่างผมไว้ มือแกร่งลูบไปทั่วร่างเปลือยเปล่าของผมอย่างอ่อนโยน ก่อนจะโอบกระชับให้ร่างของเราแนบชิดกันจนแทบจะเป็นเนื้อเดียว


          ความรู้สึกอบอุ่นแผ่ซ่านผ่านเข้ามาในตัวผม มันช่างชวนฝัน เคลิบเคลิ้ม และปลอดภัย ต่างจากความรู้สึกคุกคามและร้อนแรงของฟ้าราวกับอยู่คนละขั้ว หรือว่าผมกำลังฝัน เพราะความทรงจำสุดท้ายคือผมกำลังจะล้มหัวฝาดที่ลานจนรถ หรือผมอาจจะตายไปแล้ว แต่คนอย่างผมน่าจะตกนรกสิ ไม่ใช้อยู่บนสวรรค์แบบนี้


          แต่ถ้านี่คือฝันผมขอไม่ตื่นอีกเลยเสียดีกว่า


          ริมฝีปากของคนตรงหน้าประทับลงอย่างแผ่วเบาบนหน้าผากผม สัมผัสอ่อนโยนนั่นย้ายมาที่เปลือกตาทั้งสองข้างอย่างเชื่องช้าพร้อมๆ กับที่ผมรู้สึกถึงมือแกร่งที่ค่อยๆ ประคองให้ใบหน้าของผมเชิดขึ้น


          จมูกโด่งเกลี่ยไล้ใบหน้าของผมราวกับจะขออนุญาต ริมฝีปากของผมเผยอเพื่อเปิดรับลิ้นชื้นที่ส่งเข้ามาอย่างเต็มใจ ผมไม่รู้จะบรรยายความรู้สึกของจูบหวานนี้อย่างไร ถ้าให้ใกล้เคียงคงต้องบอกว่าหวานเหมือนนมอุ่นๆ ผสมน้ำผึ้ง เพราะมันทั้งนุ่มลิ้นและหอมหวานเหลือเกิน


          ผมถึงกับยกตัวตามอย่างขัดใจทันทีที่ริมฝีปากนุ่มตรงหน้ามีทีท่าจะผละออก


          “จูบอีก จูบริวอีก”


          “ได้เสมอครับพี่มังกร” เสียงทุ้มว่าจบ ริมฝีปากนุ่มก็ตามมามอบสัมผัสที่ผมต้องการทันที แต่คราวนี้มันกลับร้อนรุ่ม และวาบหวิว เหมือนผมกำลังจะถูกกลืนกิน


          ความรู้สึกเสียวซ่านจากรสจูบที่ร้อนแรงทำให้ผมตื่นขึ้นจากความฝันมาพบกับความจริงอันน่าตกใจ


          “ดะ ดิน!!!” เจ้าของร่างแกร่งที่กำลังคร่อมอยู่บนตัวผมคือดิน หรือนายพสุธา ผู้จัดการฝ่ายวิศวกรรมของบริษัทเดียวกับผม และยังพ่วงตำแหน่งรุ่นน้องร่วมสถาบันของผมอีกด้วย


          “ผมขอโทษครับพี่มังกร ผมไม่ได้ตั้งใจ ผม ผมแค่อยากดูแลพี่” ดินแก้ตัวเป็นพันลวัน


          “อืม พี่ไม่เป็นไรแล้วลุกออกไปเถอะ อย่าทำแบบนี้” ดินหน้าสลดลงทันทีที่ผมแสดงอาการไม่พอใจ


          “ผมขออยู่กับพี่แบบนี้อีกหน่อยได้ไหมครับ ให้ผมได้ดูแลพี่” ดินกระซิบเสียงแผ่วอย่างกล้าๆ กลัวๆ


          “คงไม่ได้หรอกดิน พี่ต้องไปทำงาน” ผมพยายามฝืนตัวจากอ้อมกอดแข็งแรงของดิน


          “พี่พักสักวันเถอะครับ ผมจะโทรไปบอกเลขาให้ เป็นห่วงสุขภาพตัวเองบ้างสิครับ” ดินอ้างเหตุผล


          “ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของมึงนะดิน!!!” ผมตัดสินใจผลักมือดินออกจากตัวแล้วลุกขึ้นจากเตียงทันที


          “พี่มังกรครับ!!!” แต่ไม่ทันจะก้าวไปไหนผมก็เซจนพยุงตัวไว้ไม่อยู่ ดีที่ดินยังไวมารับผมไว้ในอ้อมกอดได้ทัน กลายเป็นว่าเราสองคนล้มลงกับพื้นโดยที่ผมนั่งลงบนตักของดิน


          “ปะ ปล่อยนะ” หน้าผมร้อนฉ่าไปหมด เพราะสิ่งที่ผมเห็นตอนนี้ ตัวผมไม่มีเสื้อผ้าอะไรอยู่เลยสักชิ้น ดินก็เช่นกัน เมื่อคืนดินคงเช็ดตัวให้ผม แต่ทำไมดินเองก็ไม่มีเสื้อผ้าล่ะ หรือว่าผมเผลอทำผิดกับดินอีกแล้ว


          “ไม่ครับพี่มังกร นานๆ ผมจะได้มีโอกาสแบบนี้ ผมไม่ยอมให้พี่ไปไหนแน่” ดินกระซิบที่ข้างหูผม แผ่วเบา แต่หนักแน่น


          “พี่ร้ายกับเราขนาดนี้ ทำไมดินยังไม่เลิกดีกับพี่” ผมยอมรับครับว่าหวั่นไหว หวั่นไหวมากๆ แต่ผมตั้งใจแน่วแน่แล้วว่าผมจะไม่ทำให้คนดีๆ อย่างดินมาเสียเวลากับคนอย่างผม


          “ผมรักพี่ นั่นคือเหตุผล มันไม่เคยมีเหตุผลอื่น” ใจผมมันสั่นไม่เป็นท่า หรือผมควรจะหยุดวิ่งหนีเสียที


          “แต่พี่.....” 


          “รู้ครับ ผมรู้ พี่ไม่ได้รักผม เรื่องนั้นผมบังคับพี่ไม่ได้ แต่พี่ก็ไม่มีสิทธิที่จะห้ามไม่ให้ผมรักพี่เหมือนกัน” ดินพูดพลางประคองให้ผมลุกขึ้นและนอนลงบนเตียงอีกครั้ง     


          “วันนี้พี่นอนเฉยๆ เป็นเด็กดีให้ผมดูแลนะครับ” ดินเอาผ้าห่มมาคลุมตัวให้ผมแล้ววางมือใหญ่ลงบนหน้าผากผมอย่างอ่อนโยน ผมทำได้แค่พยักหน้าน้อยๆ ตอบรับ หัวใจผมมันเต้นโครมครามไม่ยอมหยุด     


          ผมรู้ว่าดินอ่อนโยนแต่ไม่เคยคิดว่าจะอ่อนโยนได้ขนาดนี้


          “ผมไปเตรียมข้าวเช้าให้นะครับพี่มังกรคนดีของดิน”


          “อื๊อ” เขินสิครับ ผมทำได้แค่ซุกหน้างุดลงกับผ้าห่มผืนหนาเท่านั้นแหละครับ 


          พอดินเดินพ้นไปจากประตู ผมก็เริ่มสำรวจห้องนอนของดิน ดิน ใช้เฟอร์นิเจอร์สีไม้บีชตัดกับวอลล์เปเปอร์สีขาว เรียบง่ายแต่กลับอบอุ่นอย่างประหลาด แต่สิ่งที่ทำให้ผมสะดุดตาคือกรอบรูปใบใหญ่ที่แขวนอยู่ที่ผนังด้านหนึ่ง ในนั้นเป็นรูปของผมในอิริยาบถต่างๆ ตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยจนกระทั้งปัจจุบัน


          “ดิน มึงนี่มันบ้าไปแล้ว” ผมพูดกับตัวเองเพราะสิ่งที่ผมเห็นทำให้ผมถึงกับทำอะไรไม่ถูก ใบหน้าผมมันร้อนผ่าวไปหมด




          “พี่มังกรครับ ผมเข้าไปแล้วน้า ข้าวเช้าพร้อมแล้ว” ผมรีบทำเป็นนอนหลับทันทีที่ได้ยินเสียงของดิน


          “พี่มังกรเป็นอะไรรึเปล่าครับ หน้าแดงมากเลย ตัวก็ไม่ร้อนนี่” ดินวางถาดอาหารลงข้างตัวผม ก่อนจะสำรวจไปทั่วตัวผม


          “แกล้งหลับเหรอครับพี่มังกร ถ้าไม่ตื่นผมจูบน้า” ดินพูดทีเล่นทีจริงๆ เอาจริงๆ นะครับ ถ้ามันจูบจริงผมก็คงไม่ว่าอะไรหรอก


          “ไม่แกล้งแล้วครับ พี่มังกรตื่นมากินข้าวเช้าก่อนนะครับจะได้กินยาด้วย” ผมค่อยๆ ลืมตาช้าๆ แกล้งทำเป็นงัวเงียเหมือนเพิ่งตื่นจริงๆ


          “น่ารัก”


          “บ้า แล้วนี่เมื่อไหร่จะใส่เสื้อผ้า” อยู่กันแบบนี้ต่อไปผมอาจจะหัวใจวายตายได้ ดินทั้งหล่อทั้งหุ่นดี ถ้ากะด้วยสายตาดินน่าจะสูงราวๆ 185 กล้ามเนื้ออย่างนักกีฬาจากการเป็นบาสเก็ตบอลมาต่อชีวิต ไหนจะผิวสีแทนที่เรียบเนียนนั่น เรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบเลยก็ว่าได้ ดินเป็นขวัญใจทั้งสาวเล็กสาวใหญ่ และหนุ่มน้อยหนุมใหญ่มาตั้งแต่ไหนแต่ไร แถมยังพ่วงด้วยตำแหน่งเดือนมหาวิทยาลัยในสมัยนั้นอีก


          ขาดก็แต่ผมไม่คิดจะเอามาเป็นแฟนก็เท่านั้น น่าเสียดายที่คนอย่างดินต้องมาจมปลักอยู่กับผม


          “พี่ยังไม่ใส่เลยนี่ครับ” ดินยิ้มครับ ยิ้มแบบที่ผมไม่ค่อยได้เห็น รอยยิ้มอ่อนโยนที่แฝงแววขี้เล่น แต่รู้อะไรไหมครับ จู่ๆ ผมก็เห็นหน้าไอ้ฟ้าซ้อนขึ้นมาเสียอย่างนั้น มันจะจองล้างจองผลาญผมไปถึงไหนกันนะ


          “ก็ใครถอดเสื้อผ้าพี่ล่ะ” เอาหน่อยแล้วกัน ผมขอเล่นด้วยหน่อย


          “โอ๋ๆ พี่มังกรคนดี อย่างอนดินนะครับ ก็เมื่อคืนพี่ตัวร้อนมากดินก็เลยเช็ดตัวให้ แล้วพี่บ่นหนาวตลอดดินก็เลยกอดไว้ทั้งคืน ไอ้ครั้นจะใส่เสื้อผ้ากอดก็กลัวว่าพี่จะไม่อุ่นพอ” ดินพูดเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา


          “.....” แต่ผมสิครับ เขินจนพูดอะไรไม่ออกแล้ว


          “ดูสิผมทำอาหารเช้ามาให้” ดินว่าพลางยกอาหารเช้ามาไว้ตรงหน้าผม


          “ทำเองจริงเหรอ” ผมไม่อยากจะเชื่อเลยครับ ผู้ชายหล่อๆ อย่างดินจะประดิษประดอยอเมริกันเบรคฟาสท์ออกมาได้น่ากินขนาดนี้ ไข่ดาวสุกกำลังพอดีเป็นวงกลมสวย ไส้กรอกทอดที่บั้งสี่แฉกเป็นเหมือนหมึกยักษ์ตัวน้อย แฮมและเบคอนที่บรรจงพับพอดีคำ ขนมปังปิ้งทาเนยสีเหลืองทอง


          “ครับ เพื่อพี่มังกรนะครับ” ดินไม่พูดเปล่าครับแต่กลับจ้องเข้ามาในดวงตาของผม


          “หูย ทำแบบนี้กับสาวๆ ประจำล่ะสิ มิน่าสาวรักสาวหลง” ผมแกล้งแซวเพื่อบ่ายเบี่ยง






          “ไม่เคยครับ ผมทำเพื่อพี่คนเดียว ผมไม่เคยมีใครนอกจากพี่”






          “ไข่ดาวอร่อยมากเลยนะดินสุกกำลังดีเลย” ผมบ่ายเบี่ยงอีกครั้ง


          “อร่อยก็กินเยอะๆ นะครับ พี่มังกร” สีหน้าของดินวูบไหวก่อนจะปรับกลับมาเป็นปกติ


          “แล้วดินไม่กินกับพี่เหรอ”


          “ไม่เป็นไรครับ แค่เห็นพี่กินอร่อย ผมก็อิ่มแล้วครับ” โดนอีกแล้วผมไม่น่าเปิดช่องให้ดินเลย


          “.....” ผมไม่พูดอะไร ทำเป็นตั้งหน้าตั้งตากินต่อไป


          “พี่มังกร”


          “.....”


          “พี่มังกรครับ”


          “.....”


          “พี่มังกรครับ”


          “.....อึ อื๊ออออ” ดินช้อนใบหน้าของผมขึ้นมารับจูบทันที ลิ้นของดินชอนไชเข้าไปช้อนเอาไส้กรอกที่ผมกำลังเคี้ยวเข้าปาก


          “อร่อยจังครับ”


          “ไส้กรอกเหรอ”


          “พี่อะครับ อร่อยจัง” หน้าผมร้อนอีกแล้ว


          “ดิน.....”


          “พี่ไม่ต้องพูดอะไร ผมรู้ว่าพี่จะพูดอะไร ถึงพี่พูดอีกสักกี่ครั้งผมก็ไม่สน ผมบอกพี่แล้วว่าพี่ห้ามไม่ให้ผมรักพี่ไม่ได้”







          “ดิน”






          “ครับพี่มังกร”













          “ดินก็รู้ว่าพี่เป็นคนแบบไหน ดินก็รู้ว่าพี่ไม่ได้มีแต่ดิน พี่ก็แค่ผู้ชายที่มั่วไปทั่ว พี่มันไม่ดีหรอกดิน”













          ยิ่งดินดีเท่าไหร่ผมก็ยิ่งรู้สึกว่าควรจะผลักไสดินไปให้พ้นๆ













          “ครับ.....แต่ผม.....ดินคนนี้มีแค่พี่คนเดียว”







          *+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*

          ไม่อยากจะบอกว่าคนแต่งเขินน้องดิน แต่งเองเขินเอง เอร้ยยยยย
          ขอเสียงทีมน้องดินหน่อยค้าบบบ


          *+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX >> ตอนที่ 6 อ้อมกอดพสุธา << [19/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: imac ที่ 19-02-2017 21:52:15
เด็กฟ้าน่ากลัว ริวจะรอดไหมเนี่ย
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX >> ตอนที่ 6 อ้อมกอดพสุธา << [19/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 19-02-2017 22:01:35
 :pig4:
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX >> ตอนที่ 6 อ้อมกอดพสุธา << [19/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 19-02-2017 22:15:42
พี่ริว รับรักดินเถอะ
ดินรักแต่พี่ริวคนเดียว  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX >> ตอนที่ 6 อ้อมกอดพสุธา << [19/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Ryunosuke ที่ 20-02-2017 21:33:15
อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม!!!




ตอนที่ 7 หวั่นไหว





          ตอนนี้ผมกำลังนั่งมองเพ่งไปที่หน้าจอโน้ตบุ๊คบางเฉียบบนโต๊ะทำงาน แต่สมาธิของผมมันกลับไม่ได้จับจ้องไปที่งานตรงหน้าเลยซักนิด ในหัวผมมันมีแต่เรื่องของผมกับดิน


          เมื่อวานผมใช้เวลาอยู่กับดินทั้งวัน ผมใจอ่อนยอมให้ดินมันดูแลตามที่มันขอ ผมไม่ปฏิเสธว่ามันเป็นช่วงเวลาที่วิเศษมาก จนผมเผลอคิดว่าถ้าได้ดินมาเป็นคนรักคงจะดีไม่น้อย


          ดินเป็นคนอบอุ่น อ่อนโยน ขี้อ้อน แถมเอาใจเก่งเป็นที่หนึ่ง เมื่อวานทั้งวันผมแทบไม่ต้องกระดิกตัว ขนาดจะเข้าห้องน้ำดินยังแทบจะอุ้มผมไป


          ดินเป็นคนชอบทำอาหารครับ แถมฝีมือดีไม่แพ้เชฟภัตตาคาร ผมเลยได้กินของอร่อยทั้งวัน  จนผมต้องบ่นว่าอ้วนจนจะขยับตัวไม่ได้อยู่แล้ว


          “ก็ดีสิครับ พี่จะได้อยู่นิ่งๆ ไม่หนีผมไปไหนอีก” นี่คือสิ่งที่ดินพูดกลับมา ผมยอมรับว่าผมเขินจนทำอะไรไม่ถูก


          ผมกำลังสับสน


          ดินเป็นคนหื่นเงียบ เห็นนิ่งๆ สุภาพแบบนี้ก็เถอะ เมื่อไหร่ที่ดินสัมผัสตัวผม ไอ้น้องชายตัวดีของดินจะเกิดอาการทุกครั้ง น้องชายตัวโตที่ผมแอบกลืนน้ำลายทุกครั้งที่เห็นมันขยายตัว ผมพูดตรงๆ ผมอยากมีอะไรกับดิน แต่ผมต้องห้ามใจไว้ถึงแม้มันจะยากสุดๆ ก็ตาม


          “ไปห้องน้ำมาครับ” ดินรายงานผมทุกครั้งที่แอบหายตัวไประหว่างวัน ผมรู้ว่าดินแอบไปทำอะไร ดินแอบไปช่วยตัวเองในห้องน้ำเพื่อจะได้ไม่ทำรุ่มรามกับผม ดินแสนดี แสนดีเกินไปที่ผมจะใช้เป็นเครื่องระบายอารมณ์


          “ความจริงพี่มังกรจะใช้ผม เหมือนกับที่ใช้คนอื่นๆ ผมก็ไม่ว่านะครับ ผมยอมถ้ามันเป็นความต้องการของพี่” ดินเป็นคนดีเกินไปจริงๆ


          ผมไม่อยากทำผิดต่อดินอีกแล้ว


          “วันนี้ขอให้มีแค่เราได้ไหมครับ” หลายครั้งที่ผมพยายามถามเรื่องความสัมพันธ์ของดินกับฟ้า แต่ดินพยายามกลบเกลื่อนและบ่ายเบี่ยง แต่ผมมั่นใจว่ามันมีอะไรมากกว่าที่ผมเห็น ดินกับฟ้าไม่ได้เพิ่งรู้จักกันที่บริษัทแห่งนี้แน่ๆ ไหนจะความสนิทสนมที่ท่านเมฆินทร์ให้กับดิน มันยิ่งทำให้ต่อมอยากรู้อยากเห็นของผมมันทำงานอย่างหนัก


          แต่เอาเข้าจริงๆ ผมไม่อยากให้สิ่งที่ผมสงสัยเป็นจริง เพราะชีวิตผมมันคงวุ่นวายขึ้นอีกหลายเท่าตัว


          ทั้งดินทั้งฟ้ากำลังทำให้ผมไม่เป็นตัวของตัวเอง ไอ้เด็กสองคนนี้กำลังทำให้ผมเสียความมั่นใจในการใช้ชีวิตในแบบของผม


          ตอนดินเข้าปีหนึ่งผมเป็นบัณฑิตแล้วและกำลังจะเรียนต่อปริญญาโท เราเจอกันครั้งแรกในงานรับน้องรวมของมหาวิทยาลัย ดินเข้าใจว่าผมเป็นพี่ปีสองและเข้ามาขอให้ผมรับเป็นพี่บุญธรรม


          สมัยนั้นผมไม่ได้เป็นคนแบบนี้ ผมเคยเป็นคนที่มีรักมั่นคง ในเวลานั้นผมมีคนรักของผม คนที่ผมเคยคิดว่าเราตายแทนกันได้ ผมเลยได้แต่รักษาระยะห่างของเราไว้เป็นเพื่อนพี่น้องที่ดีต่อกัน


          หนาว อดีตคนรักของผมชื่อหนาว หรือเหมันต์ อนันตชัย หนาวเป็นคนร้อนแรงผิดกับชื่อตัว หนาวเป็นคนตัวขาว สูง เป็นนักกีฬาบาสเก็ตบอลของโรงเรียน


          หนาวเป็นผู้ชายคนแรกของผม หนาวเป็นคนทำให้คนที่เคยเป็นผู้ชายธรรมดาที่วันๆ เอาแต่ตีหม้อจีบหญิงอย่างผมเปลี่ยนไป   


          เราเริ่มคบกันตอนผมเรียน ม. 5 ส่วนหนาวอยู่ ม. 3 หนาวเข้ามาในช่วงเวลาที่ผมกำลังอกหักจากแฟนสาว ในเวลานั้นผมเสียใจจนแทบเสียผู้เสียคน


          หนาวเข้ามาดูแลเข้ามาเทคแคร์จนทำให้ผมได้รับรู้ว่าการที่เราได้รับการดูแลและปกป้องจากคนที่แข็งแรงกว่าเรามันรู้สึกดีแค่ไหน ถึงแม้จะเป็นแค่รุ่นน้อง ม. 3 แต่หนาวกลับอบอุ่นและมีความคิดที่เป็นผู้ใหญ่เสียจนผมไม่อาจปฏิเสธความหวังดี


          เรารักกันมากจนผมไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งหนาวจะเป็นคนที่ฆ่าผมทั้งเป็น


          หนาวคือคนที่ทำให้ผมเชื่อมั่นในความรัก แล้วหนาวก็เป็นคนทำลายมันลง มันทำให้ผมไม่เชื่อในรักแท้อีกเลย


          สิ่งที่เกิดขึ้นกับผมทำให้ผมเปลี่ยนไป ผมกลายเป็นคนที่มีเซ็กส์ได้โดยไม่ต้องอาศัยความรัก คนเรามันก็แค่นี้


          จุดหมายมันก็แค่น้ำแตกแล้วก็จบๆ กันไป


          ในเวลานั้นผมเปลี่ยนเป็นคนที่ไม่แคร์ความรู้สึกใคร ผมเห็นผู้ชายและผู้หญิงทุกคนเป็นเพียงเครื่องระบายอารมณ์ และนั่นเองเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมทั้งรู้สึกผิดและละอายต่อดินมาจนกระทั่งทุกวันนี้


          เมื่อหลายปีที่แล้วผมเมาและมีอะไรกับผู้ชายคนหนึ่งโดยที่ไม่รู้เลยว่าคนคนนั้นคือดินจนกระทั่งผมตื่นขึ้นมาในเช้าของอีกวัน ตอนที่ผมตื่นมาพบว่าคนที่นอนอยู่ข้างๆ คือดินรุ่นน้องที่ผมเอ็นดูเหมือนน้องชายแท้ๆ


          ในหัวผมในขาวโพลนไปหมด น้ำตาผมมันไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว ผมกำลังทำผิด ผมกำลังทำลายชีวิตของเด็กดีๆ คนหนึ่ง


          “พี่มังกรครับ อย่าร้องไห้เลย ดินเป็นคนตั้งใจให้มันเกิดเอง ดินรักพี่ ดินรักพี่ตั้งแต่แรกเห็น”


          หลังจากวันนั้นผมตัดสินใจหลบเลี่ยงดินมาตลอด ถึงเจอกันผมก็จะเอาแต่เย็นชาใส่สาดแต่คำพูดร้ายๆ รู้ทั้งรู้ว่ากำลังทำร้านจิตใจ รู้ทั้งรู้ว่าอีกคนจะเสียใจแค่ไหน


          แต่คนดีอย่างดินต้องไม่มาจบอนาคตตัวเองกับคนอย่างผม


          จนกระทั่งเรากลับมาเจอกันอีกครั้งที่บริษัทแห่งนี้ ผมเป็นหนึ่งในคณะกรรมการสัมภาษณ์เพื่อรับดินเข้าทำงาน ผมถึงกับตีสีหน้าไม่ถูกตอนที่เห็นดินเปิดประตูและก้าวเข้ามาในห้องสัมภาษณ์


          “เหตุผลที่ผมสมัครเข้าทำงานที่นี่เพราะผมชื่นชมผู้บริหารคนหนึ่งของที่นี่ครับ” ดินว่าอย่างนั้นพร้อมกับสายตาอ่อนโยนที่ส่งมาให้ผม


          ผมหลบสายตาของดินทันที ผมทำได้แค่นั้น ความรู้สึกผิดและละลายมันตีตื้นขึ้นมาจนผมแทบสำลัก


          ผมสารภาพตามตรงว่าครั้งนั้นผมปฏิเสธที่จะรับดินเข้าทำงาน หากแต่กรรมการที่เหลือทุกคนตอบรับผมจึงต้องยอมปล่อยผ่านตามเสียงข้างมาก


          ถึงอย่างนั้น ผมก็ยังพยายามผลักไสดินออกจากชีวิตทุกวิถีทาง ทั้งก้าวร้าวหยาบคาย กลั่นแกล้งโดยใช้ตำแหน่งหน้าที่สาระพัด แต่ดินกลับไม่เคยปริปากบ่น ดินยังเป็นดินคนเดิมที่ผมเคยรู้จัก เป็นเด็กดีที่ทั้งสุภาพและอ่อนโยน


          ผมเคยตัดสินใจอย่างแน่วแน่แล้วว่าคนอย่างดินดีเกินไปที่จะมาคบคนเลวๆ อย่างผม


          แต่ใครจะไปคิดว่าวันนี้ดินจะกลับมาทำให้ผมสับสนได้ขนาดนี้ 






          ปั้ง!!! “เหม่ออะไรครับ” ผมสะดุ้งจากภวังค์ความคิด


          “ฟะ ฟ้า มาตั้งแต่เมื่อไหร่” ผมมองฟ้าที่เพิ่งแกล้งเอามือฟาดลงบนโต๊ะทำงานของผมอย่างแรงจนเกิดเสียงดังไปทั่วห้อง


          “ไอ้พี่ดินมันมีดีอะไร”


          “หะ หา อะไรนะ” ผมงงกับคำถามของมัน


          “ผมถามว่า ไอ้ พี่ ดิน มัน มี ดี อะ ไร” มันย้ำทุกคำ พร้อมกับก้มหน้ามาจ้องตากับผม


          “กะ เกี่ยวอะไรกับดิน”


          “จะไม่เกี่ยวได้ยังไง ในเมื่อคนของผมกำลังนั่งเหม่อถึงมันอยู่”


          “พะ พี่คิดเรื่องงาน อย่ามาหาเรื่อง”


          “พี่ไม่รู้ตัวรึไงว่า พี่พูดชื่อพี่ดินไม่รู้ตั้งกี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว พี่ริว!!!” ฟ้าพูดอย่างหัวเสีย แต่ผมกลับกำลังแปลกใจ ผมเนี่ยนะหลุดพูดชื่อดิน ไม่อยากจะเชื่อ


          “ไม่มีอะไรซักหน่อย แต่ถึงมีมันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฟ้าเลยสักนิด”


          “พี่คิดดีแล้วใช่ไหมที่พูดแบบนี้”


          “ใช่ พี่ไม่เคยพูดอะไรแล้วไม่คิด”


          “คุณมังกรนี่ช่างมั่นใจจริงๆ เลยนะครับ”


          “ของมันแน่อยู่แล้ว....อุ๊บ!!!” ฟ้ายื่นหน้ามาจูบอย่างไม่ทันตั้งตัว แถมมือก็เอื้อมมาล็อกท้ายทอยผมไว้


          “ปล่อยนะฟ้า นี่มันที่ทำงานนะ!!!”


          “แปลว่าถ้าไม่ใช่ที่ทำงานผมทำได้งั้นสิ งั้นผมคงต้องพาพี่ไปค้างที่ห้องแบบที่พี่ดินทำสินะ”


          “จะลามปามมากเกินไปแล้ว กูจะทำอะไรเป็นเป็นกงการอะไรของมึง ฟ้า!!!”


          “ก็พี่เป็นเมียผม ผัวจะทำกับเมียจะหวงเมียไม่ได้รึไง!!!” ฟ้าขึ้นเสียงใส่ผม 


          “มึงไม่ได้เป็นอะไรกับกู”


          “พี่เป็นเมียผม ผมเป็นผัวพี่ ผมจะทำให้พี่สำนึกมันไปตลอดชีวิตเลยคอยดู”


          “เด็กอย่างมึงจะทำอะไรได้ฟ้า”


          “ได้สิครับ ลองถามใจพี่ดูดีๆ มั่นใจเหรอว่าพี่ไม่หวั่นไหวกับผม” ฟ้ายิ้มหลังพูดจบ ยิ้มแบบนี้อีกแล้ว


          “.....” ผมพูดอะไรไม่ออกรู้สึกหัวใจตัวเองมันเต้นแปลกๆ


          “พี่เห็นผมยิ้มให้แล้วหัวใจเต้นแรงบ้างไหม”


          “แล้วเวลาผมจูบพี่ พี่ไม่รู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งตัวเหรอครับ”


          “พี่สามารถลืมเวลาที่เราเป็นหนึ่งเดียวกันหลายต่อหลายครั้งในคืนนั้นได้เหรอครับ”


          “หยุด!!! ไอ้ฟ้ามึงหยุดเดี๋ยวนี้นะ” ผมลุกขึ้นตะโกนใส่หน้ามันอย่างเหลืออด


          “หน้าแดงนะครับ พี่ริว”


          “อะ ไอ้ ไอ้.....อื๊ออออ” ฟ้ามันจูบผมอีกแล้ว จูบแบบดูดดื่มยิ่งกว่าเมื่อกี้ เล่นเอาเข่าผมแทบทรุด






          “พี่จำไว้นะครับ เมื่อไหร่ที่พี่ด่าผมจะจูบ”


          “มึงมันบ้าไปแล้ว ฟ้า.....อุ๊บ!!!” มันพูดจริงครับ มันจูบผมอีกแถมคราวนี้เล่นกัดริมฝีปากผมด้วย






          “อร่อยจริงๆ เมียผม”


          “มึงทำเกินไป.....อื๊อ!!!” ปากผมเจ่อไปหมดแล้ว ต้องบวมแน่ๆ






          “เอาอีกไหมครับ ผมชอบนะ หึ หึ” ไอ้เด็กเวร นี่ผมแพ้ทางมันรึไงนะ






          “อี๊อ พะ พอ พอแล้ว ไม่ด่าแล้ว” ผมรีบพูดขณะที่ฟ้ากำลังจะจูบผมอีก


          “ต้องว่าง่ายแบบนี้สิครับพี่ริว” ฟ้ายิ้มอย่างพอใจ


          “วะ ว่าแต่มาหาพี่มีอะไร”


          “อ๋อ เกือบลืม พอดีป๊าฝากมาบอกให้พี่ริวไปออกงานสังคมกับผมคืนนี้” ฟ้าตอบอย่างอารมณ์ดี ผมงงนิดหน่อยเพราะไม่เข้าใจว่าทำไมท่านเมฆินทร์จะต้องเจาะจงให้ผมไปออกงานสังคมกับฟ้า


          “ทำไมต้องไป”


          “ก็ไปในฐานะลูกสะใภ้” ผมเหวอไปเลยกับคำตอบของฟ้า


          “จะบ้าเหรอฟ้า” ผมโวยวาย ได้แต่หวังว่าฟ้าจะไม่ได้ไปบอกท่านเมฆินทร์แล้วจริงๆ







          “หึ หึ ล้ออออออ เล่นนนนนน” พูดจบฟ้าก็วิ่งจู๊ดออกไปจากห้องผม






          “ไอ้ฟ้า ไอ้บ้า กลับมานี่เดี๋ยวนี้นะ”













          แล้วทำไมผมถึงเผลออมยิ้มกับสิ่งที่ฟ้าทำกันนะ







          *+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*

          น้องฟ้ามาแย้ววววว นี่แต่งไปแต่งมาเริ่มสงสัยว่าพี่ริวจะเป็นไบโพลาร์ ถถถถ

          *+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX >> ตอนที่ 7 หวั่นไหว << [20/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 20-02-2017 21:51:00
ดินกับฟ้ารีบๆสามัคคีกันนะ พี่ริวจะได้ไม่ลำบากใจที่จะควบสอง
นนท์นี่อย่าได้โผล่มมาอีกเลย
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX >> ตอนที่ 7 หวั่นไหว << [20/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 20-02-2017 22:47:59
ริว อดกลั้นกับดิน ทั้งที่ดินรักริวมาตลอด
แค่เพราะริวคิดว่าดินดี ไม่อยากฉุดดินมาสกปรก
ริว คิดว่าตัวเองไม่ดี มีอะไรกับใครมากมาย
ทั้งที่ใจก็หวั่นไหวกับดินไปแล้ว
ฟ้า ตกหลุมเสน่ห์ริว บทรักเข้ากันได้ดี เคมีต้องกัน
ริวก็หวั่นไหวกับฟ้าเหมือนกัน
ก็ชอบทั้งคู่ ริวก็กินทั้งคู่ซะเลย ดินก็ยอมอยู่แล้ว
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX >> ตอนที่ 7 หวั่นไหว << [20/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: netich ที่ 21-02-2017 14:07:57
 :-[
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX >> ตอนที่ 7 หวั่นไหว << [20/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: omuya ที่ 21-02-2017 18:18:22
>.<
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX >> ตอนที่ 7 หวั่นไหว << [20/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 21-02-2017 20:10:06
 :pig4:
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX >> ตอนที่ 7 หวั่นไหว << [20/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Ryunosuke ที่ 21-02-2017 20:42:53
อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม!!!




ตอนพิเศษ วันเบาๆ ที่ไม่ชิลล์ของพี่ริวกับคิวท์บอย





          ผมนายมังกร ริว หรือพี่ริว ของทุกคนเองครับ ช่วงนี้ผมติดทวิตเตอร์มาก ผมขอสารภาพ


          ใครจะว่าแก่แล้วไม่เจียมผมก็ยอม


          ก็ในทวิตอาหารตามันเยอะมากกกกก กอ ไก่ ล้านตัว ยิ่งถ้าเข้าให้ถูก Hashtag นะ หูย กระเป๋าตังค์สั่น องค์สายเปย์จะลง


          ว่างเมื่อไหร่เป็นส่อง ไม่อยากจะเล่าว่าเคยเผลอส่องตอนประชุมจนโดนไอ้เจ้าดินดุมาแล้ว


          แต่ถามว่าแคร์ไหม บอกเลยว่าไม่ หึหึ


          เอาจริงๆ ไอ้ฟ้ากับไอ้ดินหัวเสียทุกครั้งที่เห็นผมนั่งส่องทวิต มันสองคนจะบ่นอะไรกันงุ้งงิ้งๆ แถมผลัดเวียนกันมากวนผมตลอด


          วันนี้เป็นอีกวันชิลล์ๆ ของผมที่ได้มีเวลาว่างอยู่บ้านเฉยๆ จะว่าบ้านก็ไม่ถูกครับ เพราะมันเป็นคอนโดเพนท์เฮ้าส์ขนาดสี่ห้องนอนใจกลางเมืองที่ผมเพิ่งซื้อไว้ไม่นาน ห้องนอนกลางใหญ่สุดเป็นของผม อีกสองห้องก็เพื่อไว้ให้เด็กผีสองคนเวลามันมาค้าง


          แต่ถึงเวลาที่พวกมันมากันจริงๆ เหรอครับ พวกมันก็มาสุมนอนรวมกันอยู่ที่ห้องผมห้องเดียวตลอด


          ส่วนอีกห้องที่เหลือก็เอาไว้ เอิ่ม ฟ้ามันบอกว่า.....เอาไว้เปลี่ยนบรรยากาศครับ >_<


          พอว่างผมก็ส่อง tag สิครับ ช่วงนี้มี tag ในดวงใจ ส่องประจำส่องทุกวัน ส่องได้ส่องดี เรียกว่าหลงจนหาทางออกไม่เจอ


          ความจริง tag นี่มีที่มาครับ เดิมผมจะเข้า tag ชื่อดังประจำมหาวิทาลัยอันดับหนึ่งและอันดับสองของประเทศเป็นประจำอยู่แล้ว ไม่ต้องบอกก็รู้ใช้ไหมครับว่า tag อะไร


          แล้วช่วงที่ผ่านมาก็มี tag นิยายวายชื่อดังที่กำลังจะสร้างเป็นซีรี่ย์เกิดขึ้น คนอย่างพี่ริวก็ตามสิครับจะเหลือเหรอ


          อ๋อ ลืมบอกไป นอกจากจะติดทวิตผมยังติดนิยายวายอย่างหนัก ก็เป็นเพราะไอ้เด็กยักษ์สองตัวมันไม่ยอมให้ผมกระดิกตัวไปไหน พอมีเวลาจะไปเดินดูตัวอ่อนตามที่เที่ยวเหมือนเมื่อก่อนก็โดนประกบแจ สุดท้ายพี่ริวคนนี้เลยต้องอาศัยความเป็นคนที่มีโลกส่วนตัวสูงบวกจินตนาการอันล้ำเลิศ จิ้นตัวเองเป็นตัวละครในนิยายวายเอาเสียเลย


          น่าสงสารใช่ไหมครับ


          เดี๋ยวจะออกทะเลไปไกลเล่าต่อดีกว่าครับ จากที่ผมตาม tag นิยายเรื่องที่ว่า ตามไปตามมาดันมาติดอีก tag ที่มักจะมีคนชงให้ทั้งสองคนมาเล่นเป็นตัวละครหลักในนิยายเรื่องนั้นเสียได้


          แล้ว tag ที่ว่าก็คือ แท่น แทน แท้นนนนนนน


          #เกรทพอร์ช นั่นเอง


          สาบานให้ฟ้าผ่าตายเหอะ นี่ผมไม่เคยอยากจะรุกใครเท่าไอ้เด็กหมอฟันกระต่ายน้อยคนนี้มาก่อน โอ้มายก็อด ยูอาร์โซคิ้วทึ มึงจะน่ารักน่าทะนุถนอมขนาดนี้ไปเพื่อใคร มึงน่ารักพร่ำเพื่อ มึงน่ารักทำลายล้างมาก


          น้องพอร์ชของพี่ โอ้ย.....นี่กูเพ้อมากบอกเลย


          แล้วการที่เวลาคุยกับอีกคนแล้วแทนตัวเองว่า ‘น้อง’ บ้าง ‘พอร์ช’ บ้าง คือ? ทำไมมันได้ใจแบบนี้


          ชีวิตอยากแปลงร่างเป็นหนุ่มคลีโออันมีนามว่าเกรทเหลือเกิน พี่ริวอย่างเป็นคู่จิ้นน้องพอร์ชชชชช


          หันไปมองดูเด็กของตัวเองแล้วเครียด ไอ้เด็กเหมือนกันน่ะผมไม่เถียง แต่ฝันไปเถอะว่ามันจะแทนตัวแบบนั้น แต่ถึงจะแทนแบบนั้นคงได้มีสยองกันบ้าง


          เอาตามตรงตั้งแต่มันสองคนเขามาในชีวิตผมจริงจัง ผมก็ไม่เคยได้มีโอกาสรุกอีกเลย


          นี่ อึดอัดนะโว้ยยยยย


          ระหว่างนั่งดูทวิตไปผมก็นั่งดูดินกับฟ้าไปด้วยนะครับ เดี๋ยวจะหาว่าผมไม่สนใจ สุดสัปดาห์สองคนนี้มันจะแบ่งหน้าที่กันครับ วันนี้ดินเข้าครัวทำอาหาร ส่วนฟ้ากำลังยืนรีดผ้าอยู่ ถ้าเป็นคนในบริษัท หรือเด็กๆ รุ่นน้องพวกมันมาเห็นคนกรี๊ดกันไปสามบ้านแปดบ้าน


          แต่กับผม กูล่ะยากจับฆ่าหมกส้วนแล้วหนีไปหาน้องกระต่ายพอร์ชเสียเหลือเกิน 


          ผมแกล้งเอารูปน้องพอร์ชให้ฟ้าดู อยากเห็นปฏิกิริยา เพราะผมเชื่อว่าคนเป็นรุกร้อยทั้งร้อยต้องชอบน้อง


          ฟ้ายิ้มเย็นๆ ก่อนจะตอบผมด้วยคำตอบและน้ำเสียงที่เล่นเอาผมขนหัวลุกไปหมด


          “ถ้าพี่ริวคิดจะตีฉิ่ง ผมเอาหัวเป็นประกันเลยว่าฉิ่งพี่ริวจะยับเยินก่อนจะได้ก้าวออกไปจากที่นี่”   


          อุ่ย..........


          นี่ฟ้าโกรธอะไรผมรึเปล่าเนี่ย หนีดีกว่าไหม   


          แต่จะว่าไปเกรทก็ดีมากนะครับ งานดี งานละเอียด ถ้าเจอกันตัวๆ รับรองพี่ริวเข้าชาร์จแน่นอน หุหุ ไหนจะบุคลิก กับความกวนตีนนั้น เกร้ททททท ดีงามสมเป็นอนาคตสามีแห่งชาติ


          “เดือนมหาลัยเป็นของพี่มังกรสองคน พี่ยังจะอยากได้ผู้นำเชียร์ไปเพื่ออะไรครับ” ดินตอบผมหน้าโคตรนิ่งตอนที่ผมเอารูปน้องเกรทน้องพอร์ชให้ดู


          เอิ่ม..........


          นี่ก็ไม่ต่างกัน ทำหน้าเมื่อโกรธอะไรผมมาแต่ชาติปางก่อน


          ก็แล้วไงผมชอบของผมปะ นี่นั่งดู tag มาตั้งแต่เช้าจนตอนนี้เที่ยงแล้วยังหลุดออกจาก tag ไม่ได้


          “พี่มังกรกินข้าวครับ ผมทำสปาเก็ตตี้คาโบนาร่าที่พี่ชอบด้วย” เสียงของดินแว่วมาพร้อมๆ กลับกลิ่นหอมของอาหารจานโปรดของผม


          “แป๊บนึงนะดิน พี่ดูนี่นิดเดียว” เพิ่งเปิดคลิปน้องพอร์ชวันงานคลีโอครับ น่ารักบรรลัยโลกมาก


          “พี่มังกร พี่ดูมาตั้งแต่ตื่นนอนแล้วนะครับ” ดินตอบกลับ ผมเริ่มรู้สึกถึงความขุ่นมัวในน้ำเสียงของดินขึ้นมาตะหงิดๆ   


          “นิดเดียวๆ น้า หะ เห้ย! ฟ้า เอามือถือพี่คืนมา” ในระหว่างที่ผมไม่สามารถละสายตาจากน้องหมอฟันกระต่ายน้อย ฟ้าก็เข้ามาคว้าโทรศัพท์ไปจากมือผม


          “หยุดดูได้แล้ว แล้วก็ไม่ต้องกินมันแล้วด้วยข้าวอะ พี่ริวมานี่เลย!” ฟ้าว่าจบก็คว้าข้อมือลากผมออกจากโซฟา


          “ฟ้า ปล่อยพี่”


          “ไม่ปล่อย เว้ย ผมทนไม่ได้แล้วนะ พี่ริวเห็นหัวพวกผมบ้างไหมเนี่ย” ฟ้าตะโกนใส่ผมอย่างหัวเสีย


          “ฟะ ฟ้าใจเย็น กะ ก็ แค่...”


          “แค่อะไร แค่พี่ใช้เวลาตั้งแต่ตื่นนอน ไปกับมือถือ แทนที่จะสนใจผมกับพี่ดินที่ยืนหัวโด่อยู่เนี่ยเหรอ”


          “ปะ เปล่านะ ฟ้า ก็แค่น้องมันน่า...”


          “ขนาดนี้ยังไม่หยุดอีกนะ อยากตีฉิ่งกับมันนักใช่ไหม ได้!!!” พูดจบฟ้าก็ออกแรงลากผมไปทางห้องนอนกลาง


          “ฟ้า จะทำอะไร ฟ้า”


          “ก็จะทำให้ฉิ่งพี่ยับเยิ่นตามที่พูด ผมมันลูกผู้ชายคำไหนคำนั้น”


          “ไม่เอานะ ฟ้า อย่านะ.....ดิน ดิน ค้าบบบ ดินช่วยพี่ด้วย อื้อ.....ฟ้า เบา.....อื้อ”













          “ฟ้า อย่า.....” เสียงของดินครับ ดินต้องช่วยผมแน่ๆ













          “ฟ้าเสร็จแล้วอย่าล็อกประตู เดี๋ยวพี่จะเข้าไปเคลียร์กับพี่มังกรต่อเรื่องหนุ่มคลีโอ!!!”













          ม้ายยยยย..........น้องพอร์ชน้องเกรท ช่วยพี่ริวด้วยยยยย ฮือออออ
 






           *+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*

          บอกแล้วพี่ริวเป็นไบโพลาร์ 555
          ตอนนี้ไม่ได้อยู่ใน timeline ของเนื้อเรื่องหลักนะค้าบบบ


           *+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม ตอนพิเศษ วันเบาๆที่ไม่ชิลล์ของพี่ริวกับคิวท์บอย P.2
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 21-02-2017 22:14:52
สมแล้วพี่ริว ถูกฟ้าลากเข้าห้อง
มีสองเดือนมหาลัย อยู่ในบ้าน
ยังจะส่องหลีดพอร์ช อีก
หวังให้ดิน ไปช่วยรึ
ดิน ก็จะไปช่วยจริงแหละ ช่วยซ้ำ
แต่ไรท์ ลืมแน่เลย nc อ่ะ ไรท์ ลืมลง :ling1: :ling1: :ling1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม ตอนพิเศษ วันเบาๆที่ไม่ชิลล์ของพี่ริวกับคิวท์บอย P.2
เริ่มหัวข้อโดย: karamailpraleen ที่ 21-02-2017 23:43:07
 :-[
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม ตอนพิเศษ วันเบาๆที่ไม่ชิลล์ของพี่ริวกับคิวท์บอย P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Ryunosuke ที่ 22-02-2017 21:38:28
คำเตือน: NC หนักมาก ใครไม่ปลื้มข้ามไปก่อนได้นะค้าบ






อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม!!!






ตอนพิเศษ วันเบาๆ ภาคต่อ NC ล้วนๆ







          อั้ก!!!   “โอ้ย พี่เจ็บนะฟ้า” ฟ้าเหวี่ยงผมลงบนเตียงแรงเสียจนผมจุกไปหมด


          “ก็สมควรแล้วไหม ผมเจ็บกว่าพี่เยอะ แฟนมีก็เหมือนไม่มี เอาแต่เล่นทวิตส่องผู้ชาย” ฟ้าพูดพร้อมกับกระโจนตามขึ้นมาคร่อมผมบนเตียง


          “กะ ก็น้องมันน่ารัก เฉยๆ แบบดูแล้วคลายเครียดไง”


          “ยังไม่หยุดอีกนะพี่ริว แบบนี้ผมว่าเราคงพูดกันไม่รู้เรื่องแล้วล่ะ” พูดไม่ทันจบดี ฟ้ามันถลกเสื้อยืดผมทิ้งเลยครับ


          “หะ เห้ย เดี๋ยวสิฟ้า ฟ้าอย่าทำแบบนี้ ดินค้าบช่วยพี่ด้วย อุ อื้อ......” คิดว่ามันใช้ปากอุดปากผมใช่ไหมครับ แต่เปล่าเลยครับ ฟ้ามันเล่นเอามือข้างหนึ่งปิดปากผม อีกข้างหนึ่งรวบข้อมือผมไว้


          “หึ พี่บังคับให้ผมทำแบบนี้เองนะ” ฟ้ามันก้มลงมาเลียตั้งแต่หน้าอกลากยาวขึ้นมาถึงใบหูเลยครับ


          “อื้อ อื้อ......” เสียงผมมีได้แค่นี้แหละครับ ขนลุกไปหมดทั้งตัวแล้วตอนนี้


          “พี่ดินเข้ามาเลยก็ได้ครับ ตามที่เราตกลงกันไว้พี่ถ่ายคลิปได้เลย” ผมตาเหลือกเลยครับ ไอ้เด็กผีสองตัวมันเล่นอะไรกัน


          “ได้ๆ เดี๋ยวผลัดกันถ่ายนะฟ้า” ดินเดินเข้ามาพร้อมกล้องวิดีโอแบบ HD!!! 


          “เอาให้เห็นหน้าชัดๆ เลยนะพี่ดิน..........เป็นนายเอกซีรี่ย์ให้ผมหน่อยนะครับพี่ริว แต่ไม่ใช่ซีรี่ย์วายนะ เป็นซีรี่ย์หนังโป๊อะ” เด็กยักษ์ตัวน้องที่คร่อมอยู่บนตัวผมอยู่หันไปตกลงกับเด็กยักษ์ตัวพี่ ก่อนจะก้มลงมากระซิบข้างหูให้ผมได้ขนลุกเกรียวมากขึ้นไปอีก


          “อื้อ......” ฟ้ากัดหมับเข้าที่ซอกคอผมอย่างรุนแรง ก่อนจะดูดดุนย้ำซ้ำไปซ้ำมา คาดว่าพรุ่งนี้คงเป็นรอยช้ำน่ากลัวแน่ๆ


          เพี๊ยะ!!! “โอ๊ย ฟ้า พี่เจ็บ” ฟ้าใช้มือที่เคยปิดอยู่ที่ปากผม ดึงกางเกงขาสั้นผมออก ก่อนจะใช่ฝ่ามือฟาดลงที่ก้นผมจนเสียงดังสนั่น


          “ผมบอกแล้วว่าฉิ่งพี่จะต้องยับเยิน แถมจะต้องยับเยินในมือผมนี่แหละ”   


          “ดินค้าบ พี่ริวเจ็บจังเลย ดินช่วยพี่ริวด้วย” ในเมื่อดูท่าฟ้าจะไม่ฟังผมก็ต้องอ้อนเด็กอีกคนนี่แหละ


          “ฟ้าเร็วๆ สิ พี่รอต่ออยู่นะ นี่ก็แทบจะทนไม่ไหวแล้ว” ช็อกครับ บอกได้คำเดียวว่าคำตอบของดินทำเอาผมโคตรจะช็อก แถมดินไม่พูดเปล่าครับ ดันเอามือลูบลูกชายดินน้อยแต่ตัวเขื่องที่กำลังโกรธเกรี้ยวในกางเกงของเจ้าตัวช้าๆ


          ไม่นะ.....ดินแสนดีของพี่ริวหายไปไหนแล้ววววว
         

          “ฟ้า อย่า.....อื้อ อื้มมมมม” ผมพูดต่อได้แค่นั้นแหละครับ เพราะหลังจากนั้นไอ้เด็กยักษ์คนน้องก็ลงลิ้นร้อนจนแทบทุกตารางนิ้วบนตัวผม


          “พี่ริวของผมอร่อยไปทุกส่วนจริงๆ” ฟ้าใช้มือประคองให้สะโพกผมยกลอยขึ้นในอากาศ ก่อนจะชอนไชลิ้นชื้นเข้ามาในช่องทางคับแคบของผม


          จะดิ้นก็ไปไหนไม่พ้น ร้องให้ใครช่วยก็ไม่ได้ ผมได้แต่เกร็งตัวจนตะคริวแทบจะกินไปทั่วร่าง


          แต่เท่านั้นคงยังไม่สมใจฟ้า เพราะมือใหญ่ทั้งสองจัดการแหวกให้ช่องทางของผมเปิดออกมากขึ้น นั่นเท่ากับว่าลิ้นของฟ้าก็ทะลุทะลวงลึกเข้ามามากขึ้นอีก ควรนี้ทั้งเลียทั้งแหย่ทั้งดูดราวกับช่องทางของผมเป็นของหวานก็ไม่ปาน


         “ฮือ.....ไม่ไหวแล้วฟ้า พอเถอะ นะ พี่ทรมาน” ความรู้สึกของผมมันพุ่งสูงทะลุเพดานจนแทบระเบิด น้ำใสๆ แห่งอารมณ์ไหลหยาดหยดออกมาจากปลายลูกชายของผมเต็มไปหมด


          คำว่า เยิ้มจนแฉะ น่าจะเป็นคำบรรยายที่เหมาะกับสภาพผมในตอนนี้ที่สุด


          “พี่ริวรู้สึกกับผมขนาดนี้ ยังคิดจะไปตีฉิ่งกับคนอื่นอีกเหรอครับ”


          “ไม่ใช่นะ ฟ้า พี่แค่.....อะ อ๊า.....” ฟ้าไม่ยอมให้ผมแก้ตัวต่อ ปล่อยสะโพกผมลง แล้วแทนที่ลิ้นชื้นด้วยแก่นกายเปี่ยมอารมณ์แทน


          ถึงผมจะแอบสงสัยว่าฟ้าเอาเวลาไหนไปถอดเสื้อถอดกางเกงแต่มันไม่ใช่ประเด็น


          ประเด็นคือไอ้ดุ้นแข็งๆ ใหญ่โตมโหฬารที่มันสวนเข้ามาในตัวผมในคราวเดียวมันทำเอาผมเจ็บจนน้ำตาไหลพราก ผมได้แต่พยายามใช้มือดันฟ้าไว้อย่างสุดความสามารถเพราะมันร้องไม่ออกจริงๆ


          ดูเหมือนฟ้าจะไม่ได้สนใจ เพราะเด็กยักษ์มันดันควงเอวไปมาซ้ายที่ขวาทีโดยไม่คิดจะถอนของของมันออก ปากก็ก้มลงมาเล่นกับจุดไวสัมผัสบนหน้าอกผม


          “อะ อ๊า.....” จนสุดท้ายผมเองกลับเป็นฝ่ายที่เปลี่ยนการจากการพยายามดันเอวฟ้าออกเป็นดึงรั้งให้ฟ้าเข้ามาในตัวผมลึกขึ้นกว่าเดิมเมื่อฟ้าขยับเข้าไปถูกจุดอ่อนภายใน


          “ฟะ ฟ้า พี่......สะ เสียว ฟะ ฟ้า.....อุ๊ก!!!” ผมเริ่มปล่อยเสียงน่าอายเพราะความเจ็บค่อยๆ เปลี่ยนเป็นความเสียวซ่าน


          แต่ในขณะที่ปากกำลังจะอ้ากว้างขึ้น ลูกชายผู้โกรธเกี้ยวของดินก็พุ่งส่วนเข้ามา


          “อ่าวพี่ ไหนว่าจะรอฟ้าเสร็จ”


          “เป็นฟ้าเห็นแบบนี้อยู่ตรงหน้าฟ้าจะทนไหวไหม ถามใจดู”


          “งั้นพี่คงต้องโชว์สเต็ปเทพหน่อยแล้วไม่งั้นผมได้แซวให้อายไปจนตายอะ”


          “หึ เตรียมเรียนรู้จากพี่ดินเถอะครับ น้องฟ้า”


          เอิ่ม คุณเด็กยักษ์ทั้งสอง มันใช่เวลาที่ควรมาคุยอวดอ้างสรรพคุณกันเรอะ นี่กูจะตายแล้วมั้ย โดยเสียบคาไว้ทั้งหน้าทั้งหลังเนี่ย ฮือออออ


          ไม่พูดพร่ำทำเพลงต่อ ฟ้าก็เร่งจังหวะทันที จังหวะของฟ้าหนักหน่วง รุนแรง ต่อเนื่อง จนผมแทบกระอัก เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั่นไม่หยุดหย่อน


          จะร้องก็ร้องไม่ออก เพราะดินน้อยก็ดันสวนเข้ามาทางปากผมอย่างไม่ยอมแพ้เช่นกัน


          นานเท่าไหร่ผมแทบไม่เหลือสติจะจำ มารู้ตัวอีกทีคือฟ้าจับผมพลิกตัวอย่างกับตุ๊กตายัดนุ่นให้อยู่ในท่าคลานสี่ขา ที่สำคัญคือฟ้าน้อยยังอยู่ในตัวผมตลอดเวลา ผมแทบจะกรีดร้องเพราะข้างในมันเหมือนโดนปั่น

          ฟ้ารั้งให้ลำตัวผมยืดขึ้นจนเกือบตรง มือทั้งสองข้างถูกฟ้าจับไพล่หลังล็อกไว้อย่างแน่นหนา ขาของผมก็ถูกขาแข็งแรงของฟ้าดันให้แยกออกอย่างอัตโนมัติ อย่าหาว่าผมสกปรก แต่ท่านี้ทำให้ฟ้าน้อยเข้ามาโคตรลึกจนผมแทบกลั้นปัสสาวะไว้ไม่อยู่ เอาจริงๆ ก็แอบกลั้นไปอยู่จนผ้าปูที่นอนเริ่มเปียก


          น้ำตาผมไหลพรากอย่างไม่อาจควบคุม ไม่ใช่เพราะเจ็บ แต่ผมเหมือนควบคุมอะไรร่างกายตัวเองไม่ได้เลย
   
 
          ดินก็ทำหน้าที่สมบูรณ์เหลือเกิน เพราะยืนขึ้นบนเตียงตามมาป้อนดินน้อยเข้าปากโดยไม่ลืมที่จะถือกล้องเก็บภาพเข้าไว้ตลอด


          “พี่มังกร โคตรยั่วเลยรู้ตัวไหมครับ ซี๊ดดดดด” ผมอึ้งกับดินไม่รู้ครั้งที่เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ หรือนี่คือตัวจริงของดิน


           “พี่ริวยังจะส่องน้องหมอฟันกระต่ายน้อยอยู่อีกไหมครับ” ฟ้าถามในขณะที่เสือกไสลูกชายตัวเขื่องเข้ามาในตัวผม


          “ไอ่ ไอ่ แอ้ว ไอ่ อ่อง แอ้ว” ไม่แล้ว ไม่ส่องแล้ว อยากกู่ก้องตะโกนให้ลั่นห้องแต่ไอ้ดินน้อยมันอุดปากอยู่


          “อะไรนะครับ ยังจะส่องอีกเหรอ” ฟ้าพูดพร้อมซอยตามมาไม่ยั้ง


          “อั่ก อั่ก ไอ่ ไอ่ แอ้ว ออม แอ้ว” ยอมแล้วจริงๆ


          “อะไรนะครับพี่ริว ฟ้าฟังไม่ชัด พี่ดินเอาออกก่อนแป๊บนึงครับ”


          “มะ ไม่แล้ว ฟ้า พี่ไม่ทำแล้ว ยอมแล้ว อื๊อ ฟ้า คะ ค้าบ อื้อ อื้อ พะ พี่ขอโทษ พอก่อน ขอร้องงงงง” ระหว่างที่ผมละล่ำละลักพูดนี่ฟ้ามันไม่ได้หยุดนะครับ มันซอยยับตลอดแบบแรงไม่มีตก


          “ผมจะเชื่อได้ยังไงครับ พี่ริว”


         “ฟะ ฟ้า หยุดก่อน หยุด พี่จะเสร็จ อะ อะ จะ เสร็จ อะ มะ ไม่ไหวแล้ว ฟ้า.........มะ ไม่ ไม่ ฟ้าอย่าทำแบบนี้กับพี่” ฟ้าเป็นคนโหดร้ายครับ คิดดูสิครับผมกำลังจะถึงสวรรค์อยู่รอมร่อ ดันเอามือคว้ามากำรอบลูกชายผมจนแน่น จะปลดปล่อยก็ทำไม่ได้ ลูกชายผมหัวมันเป่งแดงจนแทบจะระเบิดอยู่แล้ว


          ไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อ ฟ้ามันกำกับผมแบบนี้ไม่ใช่รอบเดียว พาไปทัวร์ชายแดนสวรรค์แล้วก็ฉุดลงนรกไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง


          จนสุดท้ายเขื่อนอารมณ์ผมมันก็แตกทะลักคามือเด็กยักษ์ใจโหดในการทัวร์นรกสวรรค์รอบที่ห้าของผม   


          “ว้า เสร็จซะแล้ว นี่พี่ดินเขายังไม่ได้เคลียร์กับพี่ริวเลยนะครับ” ฟ้ายื่นหน้ามากระซิบข้างหูผมด้วยเสียงเย็นยะเยือก พร้อมกับให้มือประคองหน้าให้ผมหันไปมองดินน้อยตัวเขื่องตรงหน้า


         



          ถ้าฟ้าน้อยแปด กะด้วยสายตาดินน้อยก็คงเกือบเก้าล่ะครับ






          ผมจำสัมผัสของเด็กทั้งสองคนได้ดี






          ฟ้าหนักหน่วงรุนแรง เร่งเร้า






          แต่ดิน ดินนุ่มนวล เนิบนาบ แต่หนักแน่น และลึกซึ้ง ลึกแบบโคตรจะลึก






          ตายแน่ไอ้ฟ้าตายคาเตียงก็วันนี้






          “พอเถอะนะฟ้า นะดินนะ แค่นี้พี่ริวก็จะตายแล้วนะครับ พี่สัญญาว่าจะไม่ส่องทวิตอีกแล้ว จะไม่ดูรูปใครน้องจากฟ้าและดินอีกแล้ว” เอาจริงๆ ถ้าฟ้าไม่จับแขนผมไว้ผมคงยกมือไหว้มันสองคนไปแล้ว


          “ก็ได้ครับ ของฟ้าพอแค่นี้ก็ได้” สิ้นเสียงฟ้าก็ปล่อยมือ ทำให้ผมทรุดตัวนอนคว่ำลงกับเตียงอย่างไร้เรี่ยวแรง


          “เห้อออออ ค่อยยังชั่ว” ผมพึมพำกับตัวเองโดยไม่ได้รู้เลยว่า













          ฟ้าที่เพิ่งปล่อยมือจากผมมันกำลังยิ้ม และยื่นมือไปรับกล้องถ่ายวิดีโอมาจากดิน



















          “เฮือกกกกก!!!” ผมผวาแทบสิ้นสติเมื่อดินน้อยเกือบเก้านิ้วแทรกตัวเข้ามาพรวดเดียวทั้งลำ



















          “เรื่องน้องหมอฟัน.....ฟ้าอาจจะเคลียร์กับพี่จบแล้ว แต่เผอิญผมยังต้องเคลียร์กับพี่เรื่องหนุ่มคลีโอต่อนะครับ.....พี่มังกร”



















          ไม่ ไม่ ไม่ น้า.......... ใครก็ได้ช่วยพี่ริวด้วยยยยยยยยยยยยย 

 





          *+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*

          ตอนพิเศษสนองนี๊ด หุหุ ไม่เกี่ยวกับ timeline หลักเหมือนเดิมค้าบบบบบ
          ขา NC สมใจม้ายยยยย


          *+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX ตอนพิเศษ วันเบาๆ ภาคต่อ NC ล้วนๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Ryunosuke ที่ 23-02-2017 20:05:58
อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม!!!




ตอนที่ 8 ฟ้าพิโรธ




          “คุณส้ม ผมรบกวนเช็คตารางเวลาของผู้บริหารฝ่ายวิจัยและพัฒนากับวิศวกรรมแล้วนัดประชุมทั้งสองฝ่ายให้ผมหน่อย ขอเป็นภายในสัปดาห์หน้านะ”


          “ได้ค่ะคุณมังกร จะให้ส้มแจ้งว่าเป็นวาระอะไรดีคะ”


          “บอกว่าประชุมเพื่อวางกลยุทธ์การทำงานแล้วกัน เพราะผมคาดว่าประกาศตำแหน่งใหม่ของผมจะออกภายในวันศุกร์นี้ ท่านเมฆินทร์ไม่ชอบให้ทำอะไรล่าช้า”


          “ค่ะคุณมังกร”


          “อย่าลืมย้ำว่าต้องเข้าประชุมทุกคน ใครเข้าไม่ได้ก็ขอให้ใช้วิดีโอคอนเฟอเรนซ์เข้ามา”


          “ได้ตามสั่งค่ะ”


          หลังจากฟ้าเข้ามาป่วนพร้อมแจ้งข่าวสำคัญว่าผมต้องไปงานสังคมตามคำสั่งของท่านเมฆินทร์ ผมก็รีบจัดการเคลียร์งานที่ค้างอยู่ให้เสร็จ และไม่ลืมสั่งการผ่านเลขาให้นัดประชุมสำคัญของผมในสัปดาห์หน้า


          จากนั้นผมก็รีบบึ่งรถกลับมาที่คอนโดทันที ต้องรีบหน่อยครับออกงานสังคมทั้งทีขอใช้เวลาในการแต่งองค์ทรงเครื่องหน่อย เผื่อเจอเด็กหนุ่มๆ หวานกรอบผมจะได้ไม่พลาด





 







          เมื่อผมมาถึงคอนโดก็พบว่าหน้าประตูห้องมีกล่องกระดาษเรียบหรูอยู่สองกล่อง ซึ่งภายในมีชุดสูทที่ดูก็รู้ว่าราคาแพงระยับอยู่ทั้งคู่


          “ใครมาเล่นอะไรอีกแล้ววะ” ผมสบถกับตัวเองก่อนจะใส่รหัสและสแกนลายนิ้วมือเพื่อเปิดเข้าห้อง






          ‘ชุดสำหรับคืนนี้ครับพี่มังกร พี่มังกรต้องดูดีมากๆ แน่ในชุดนี้’ ลงชื่อ ‘ดิน’


          ‘ใส่ชุดนี้นะครับพี่ริว ถ้าไม่ใส่พี่เจอดีแน่’ ลงชื่อ ‘ฟ้า ผัวพี่ริว’





          “เห้อ.....” ผมได้ถอนหายใจทันทีที่ได้อ่านโน้ตที่ติดไว้บนแต่ละกล่อง ไม่รู้ไอ้เด็กสองตัวนี้มันคิดอะไรกันอยู่


          ผมคงต้องทำอะไรให้มันเด็ดขาดกว่านี้ สำหรับดินผมคิดว่าคงไม่ยาก เพราะดินเกรงใจผมเสมอ กับฟ้าผมคงต้องยอมอ่อนให้ก่อนเพื่อจะได้หาโอกาสกำจัดรูปพวกนั้นที่อยู่ในมือถือทิ้งให้หมด


          แต่ไม่รู้ทำไมสัญชาตญานของผมมันถึงกำลังเตือนผมว่าเรื่องนี้มันจะไม่ง่ายอย่างที่เคยๆ สุดท้ายถ้าจำเป็นจริงๆ ผมคงต้องขอท่านเมฆินทร์เพื่อลาออกจากบริษัทแล้วหนีไปให้พ้นๆ 


          ผมหยิบสูทของคู่มาลอง เด็กทั้งสองคนทำให้ผมแปลกใจไม่น้อยเพราะทั้งสองคนสามารถสั่งสูทที่พอดีกับตัวผมเป๊ะอย่างไม่น่าเชื่อ จนผมแอบคิดว่ามันไปลักลอบวัดตัวผมกันตอนไหน คิดแล้วก็รู้สึกว่าหน้าตัวเองร้อนผ่าสขึ้นมาชอบกล


          สุดท้ายผมตัดสินใจใส่สูทของฟ้ากับเนคไทของดินจะได้ไม่เสียน้ำใจทั้งคู่ และอยากให้เป็นสัญลักษณ์กลายๆ ด้วยว่าผมไม่ได้เป็นของของใคร และไม่ได้เลือกใครทั้งนั้น













          “พี่ริวทางนี้ครับ ทำไมมาช้าแบบนี้ แล้วทำไมไม่ใส่เนคไทที่ผมซื้อให้” ฟ้าใส่ผมไม่ยั้งทันทีที่ผมก้าวถึงหน้าห้องบอลรูมขนาดใหญ่ของโรงแรมหกดาวริมแม่น้ำเจ้าพระยา


          ผมคิดถูกแล้วจริงๆ ที่เลือกใส่เนคไทของดิน เพราะถ้าใส่ของฟ้าก็จะกลายเป็นว่าผมกับฟ้าจะแต่งตัวเหมือนกันแบบแยกไม่ออก ไอ้เด็กยักษ์นี่เวลาบทจะเด็กก็อย่างกับเด็กอมมือ มีอย่างที่ไหนเที่ยวบังคับคนอื่นให้แต่งตัวเหมือนตัวเอง


          “แล้วดินไม่ได้มาด้วยเหรอ” ผมถามนิ่งๆ ทำเป็นไม่สนใจในสิ่งที่ฟ้าพูด


          “พี่อยู่กับผมแท้ๆ พี่จะถามถึงพี่ดินทำไม” คราวนี้ฟ้าไม่พูดเปล่าครับ มันเอามือมาโอบเอวให้ผมขยับตัวเข้าไปชิดกับตัวมัน


          “พะ พี่แค่สงสัย เพราะเห็นดินส่งสูทให้พี่ พี่เลยคิดว่าดินจะมาด้วย” ผมตอบ


          “อ๋อ นี่เทคไทของพี่ดินสินะ พี่มีผมคนเดียวไม่พอรึไง” ฟ้าใช้มืออีกข้างดึงเนคไทจนผมต้องแหงนหน้าขึ้นตาม ทำให้ใบหน้าของเราใกล้แทบจะสัมผัสกัน


          ไอ้เด็กชอบใช้กำลัง


          “ฟ้า อย่าลามปาม นี่มันหน้างานนะ คนอยู่เยอะแยะ” ผมพยายามผลักตัวฟ้าออกแต่ก็ไม่เป็นผล


          ที่สำคัญคือ กำลังมันก็เยอะเหลือเกินนี่สิ


          “คนเยอะสิดี เขาจะได้รู้กันทั่วว่าพี่เป็นของผม” ฟ้ายิ้มเจ้าเล่ห์


          “ไม่เห็นแก่หน้าพี่ ก็เห็นแก่หน้าพ่อตัวเองบ้างฟ้า” ผมพยายามพูดเตือนสติ เพราะเริ่มรู้สึกว่าตัวเองตกเป็นเป้าสายตาจากบรรดาคุณหนูคุณชายและลุงๆ ป้าๆ ไฮโซที่มาร่วมงานในคืนนี้


          “พ่อจะภูมิใจในตัวผม ถ้ารู้ว่าผมได้พี่เป็นเมีย เชื่อผมสิ”


          “ฟ้า มึงนี่มันบ้า”


          “ผมบ้า ก็เพราะพี่นั่นแหละ”


          เชื่อไหมครับ ฟ้ามันเดินประกบผมทั้งงาน แถมมือมันนี่พัวพันยิ่งกว่าหนวดปลาหมึก จนผมงงว่าทำไมฟ้าถึงกล้าเปิดเผยขนาดนี้ ไม่กลัวจะเป็นข่าวบ้างรึไง เป็นถึงระดับลูกชาย CEO บริษัทยักษ์ใหญ่ ความจริงควรจะระวังตัวมากกว่านี้ไม่ใช่เหรอ


          ไปๆ มาๆ งานคืนนี้เหมือนเป็นงานเปิดตัวฟ้าครับ สรุปท่านเมฆินทร์ตั้งใจจัดงานนี้ขึ้นมาเพื่อแนะนำตัวลูกชายหัวแก้วหัวแหวนให้กับวงสังคมได้รู้จัก และเชิญผมมาในฐานะผู้บริหารรุ่นใหม่ของบริษัทและผู้ให้คำปรึกษาส่วนตัวของ CEO ในอนาคตซึ่งก็คือฟ้านั่นเอง


          งานบนเวทีก็เริ่มต้นจากการแนะนำประวัติอันโคตรจะสมบูรณ์แบบและน่าหมั่นไส้ของฟ้า ฟ้าเป็นเด็กครบเครื่องในทุกๆ ด้าน เรียนเก่งเข้าขึ้นอัฉริยะเพราะจบไฮสคูลจากอเมริกาด้วยอายุเพียงสิบหกปี กลับมาสอบเข้าคณะวิศวกรรมศาสตร์ของมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งด้วยคะแนนเป็นอันดับหนึ่งของปีนั้น แถมพ่วงตำแหน่งเดือนมหาวิทยาลัยไปอีก ก็ตำแหน่งเดียวกับเจ้าดินนั่นแหละครับเพียงแต่เป็นเดือนรุ่นหลัง


          นี่ผมจะหนีไอ้พวกเดือนบ้าๆ บอๆ นี่ไม่พ้นเลยรึไง


          จากนั้นก็มีเรื่องให้ผมแปลกใจเพราะดันมีประวัติของผมขึ้นหราอยู่บนเวทีตามมาติดๆ หลังจากที่ประวัติของฟ้าจบลง ผมเองการเรียนก็ไม่ได้ขี้เหร่ครับ ผมจบปริญญาตรีและโทจากมหาวิยาลัยเดียวกับฟ้าและดิน ก่อนจะได้รับทุนไปศึกษาต่อในระดับปริญญาเอกที่ประเทศญี่ปุ่น


          “เหมือนงานแต่งงานของเราเลยว่าไหมครับพี่ริว” ฟ้ายื่นหน้ามากระซิบข้างหูผม ใกล้เสียจนผมต้องหดคอหนี


          “ไร้สาระ เด็กไม่รู้จักโต” ผมตอกกลับนิ่งๆ


          “เหรอ.....ครับ” เด็กฟ้าตอบกลับด้วยความยียวน


 



          สุดท้ายเราสองคนก็ถูกประกาศตามให้ขึ้นไปโชว์ตัวบนเวที ผมก็มึนๆ ขึ้นไปพูดอะไรเล็กน้อยตามมารยาทแบบขอไปทีให้มันจบๆ แต่มันไม่ง่ายอย่างนั้น เพราะทันทีที่ผมกับฟ้าก้าวลงจากเวที คนในแวดวงสังคมทั้งหลายต่างมุ่งหน้าเข้ามาเพื่อทำความรู้จักเราทั้งคู่


          “ฟ้า พี่ไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ” ผมกระซิบที่ข้างหูฟ้าแล้วรีบปลีกตัวออกมาจากความวุ่นวาย ผมเกลียดคนเยอะๆ มันทำให้ผมรู้สึกอึดอัด



















          “เพราะแบบนี้สินะ เดี๋ยวนี้พี่เลยไม่เรียกใช้บริการผม” เสียงทุ้มต่ำที่ผมคุ้นหูดังขึ้นขณะที่ผมกำลังก้มลงวักน้ำล้างหน้า


          “นะ นนท์” ผมเงยหน้าขึ้นมาพบกับเงาสะท้อนของนนท์ในกระจก


          “นึกว่าพี่ริวจะจำผมไม่ได้เสียแล้ว ผมเหงาจะแย่” นนท์พูดพร้อมเดินเข้ามาโอบกอดผมจากด้านหลัง


          “นนท์!!! ปล่อย” ผมโวยวายทันทีที่รู้สึกถึงลมหายใจอุ่นที่กำลังรดต้นคอ


          “ทำไม หรือพี่กลัวว่าเด็กนั่นมันจะมาเห็นเข้า” นนท์รัดผมแน่นกว่าเดิม
 

          “ใคร นนท์หมายถึงใคร” ผมพลิกตัวหันกลับไปประจันหน้ากับนนท์


          “ก็ไอ้เด็กฟ้านั่นไง ไหนพี่ว่าจะไม่ยอมคบใคร” นนท์เสียงดังขึ้นเรื่อยๆ


          “นนท์พูดอะไร พี่กับฟ้าไม่ได้เป็นอะไรกัน” ผมพยายามขืนตัวเองออกจากอ้อมแขนของนนท์ แต่ก็ทำไม่ได้เพราะนนท์ดันตัวเข้ามาจนหลังผมกระแทกเข้ากับขอบอ่างล้างมือ เจ็บเสียจนผมต้องนิ่วหน้า


          “พี่ยอมให้เด็กนั่นมันแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ พี่ยอมให้มันโอบยอมให้มันกอดต่อหน้าคนอื่น”


          “ไม่ใช่ มันไม่ใช่อย่างที่นนท์คิดนะ ฟ้าเป็นลูก.....อุ๊บ อื๊มม” ผมยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อ นนท์ก็ประกบปากผมอย่างรุนแรง


          “ทำไมกับผมพี่ถึงไม่เปิดโอกาสให้บ้าง” นนท์ผละริมฝีปากออกก่อนจะพูดในสิ่งที่ทำให้ผมแปลกใจ


          “ตะ แต่เราคุยกันรู้เรื่องแล้วนี่ นนท์ก็มีคนของนนท์ พี่ไม่เข้าใจ นนท์กำลังพูดอะไร นนท์กำลังจะแต่ง....อื๊ออออ” นนท์ย้ำจูบหนักหน่วงกับผมอีกครั้ง


          “เรื่องของเรามันอาจจะเริ่มต้นจากแค่ความต้องการ แต่พี่ไม่เคยรู้หรอกว่าตั้งแต่ครั้งแรกที่เราเจอกันนนท์ก็หลงรักพี่แล้ว ที่นนท์ไปมีใครคนอื่นเพราะพี่บอกนนท์ว่าพี่ไม่มีวันคบใคร พี่บอกให้นนท์อยู่ในที่ที่ควรอยู่ แล้วนนท์จะได้มีพี่ตลอดไป” น้ำใสๆ กำลังไหลออกจากตาของคนตรงหน้าผมช้าๆ สิ่งที่ผมเห็นตรงหน้ากำลังทำให้ผมสับสน


          “นนท์พี่....”


          “พี่ริวไม่ต้องพูดอีกแล้ว ถ้าผมไม่ได้พี่ ก็อย่าหวังว่าใครหน้าไหนมันจะได้” แววตาของนนท์เปลี่ยนไปจนน่ากลัว


          “ปล่อยนะนนท์ ปล่อยพี่” ผมเริ่มใจไม่ดีเพราะตอนนี้มือทั้งสองของผมกำลังถูกนนท์รวบไว้ด้วยมือเพียงข้างเดียว


          “พี่ต้องเป็นของของนนท์ ของนนท์คนเดียว”


          “อื๊อ อื้อ นนท์ อย่า ยะ อย่าทำแบบนี้” นนท์เริ่มใช้มืออีกข้างล้วงผ่านเสื้อของผมเข้ามาสัมผัสยอดอก ลิ้นชื้นก็เริ่มโลมเลียตั้งแต่คอจนถึงใบหู


          “พี่หวานขนาดนี้ ผมไม่ยอมให้พี่ตกเป็นของใครแน่” พูดจบนนท์ก็ก้มลงดูดดุ้นที่ซอกคอผม


          “โอ๊ย” นนท์ฝังรอยกัดไว้กับคอผม ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงมีอารมณ์ร่วมไปกับนนท์แล้ว แต่ตอนนี้มันต่างออกไป






          ไม่รู้ทำไมในหัวผมมันถึงคิดถึงคนสองคนขึ้นมาพร้อมๆ กัน






          ฟ้า.....ดิน.....ใครก็ได้เข้ามาช่วยที






          “เห้ย!!! มึงทำอะไรคนของกูวะ” ผลั่ก!!! เสียงตะโกนวายวายตามมาด้วยหมัดลุ่นๆ ที่กระทบเข้ากับหน้าของนนท์อย่างจังจนเกิดเสียงดังสนั่น  หมัดเดียวของผู้มาใหม่เล่นเอานนท์ร่วงไปกองกับพื้น ทั้งๆ ที่ขนาดตัวก็แทบไม่ต่างกัน


          ฟ้ายืนจ้องนนท์ราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ ฟ้าทั้งเตะทั้งกระทืบซ้ำอีกหลายครั้ง


          “พี่ริวไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น เราค่อยไปเคลียร์กันที่บ้าน” ฟ้าหันมาพูดกับผมแค่นั้นก่อนจะกลับไปซ้อมนนท์ที่นอนกองอยู่กับพื้นต่อ


          “มึงไม่มีทางได้พี่ริวไปหรอก ลูกแหง่ติดพ่ออย่างมึงไม่มีทางรั้งพี่ริวไว้ได้หรอก ไอ้เด็กเมื่อวานซืน” นนท์ยังปากดีทั้งๆ ที่สภาพเริ่มดูไม่ได้


          “พี่ริวเป็นเมียกูมึงฟังชัดไหม” ฟ้ากระชากคอเสื้อนนท์ขึ้นมาก่อนจะตะโกนจนลั่นห้องน้ำ


          “พี่เขาก็เป็นเมียกูเหมือนกันว่ะ ที่สำคัญเป็นเมียกูมาก่อนที่จะได้กับมึงไม่รู้ตั้งกี่ปี หึหึ” สิ่งที่นนท์พูดพร้อมรอยยิ้มเย้ยหยันเล่นเอาผมถึงกับสะอึก


          ความจริงแล้วคนอย่างผมอาจไม่มีค่าพอให้ใครรักเลยด้วยซ้ำ


          “กูไม่สน กูสนแค่ตอนนี้พี่ริวเป็นเมียกู แล้วกูก็รักของกู” สงครามน้ำลายยังดำเนินต่อไปอย่างเผ็ดร้อน


          “มึงอย่าเผลอแล้วกัน กูจะแย่งมา” นนท์เองก็ไม่ยอมลดละ


          “อย่างมึงไม่มีปัญญาหรอก” ผลั่ก!!! พูดจบฟ้าก็เหวี่ยงหมัดเข้าที่หน้าของนนท์อีกหมัดอย่างแรงจนนนท์ถึงกับหมดสติไป






          “พี่ริวครับกลับกันเถอะ คืนนี้เรามีเรื่องต้องเคลียร์กันอีกยาว” รอยยิ้มเย็นที่ฟ้าส่งมาทำให้ผมหายใจไม่ทั่วท้อง น้ำลายก็เหนียวจนกลืนแทบไม่ลง













          “คะ ครับฟ้า” ผมตอบได้แค่นั้นจริงๆ






          *+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX ตอนที่ 8 ฟ้าพิโรธ [23/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 23-02-2017 20:32:41
 :pig4:
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX ตอนที่ 8 ฟ้าพิโรธ [23/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 23-02-2017 22:11:55
พี่ริว เสน่ห์แรงจริงๆ
ฟ้า ดิน หลงรัก
นนท์ ที่ว่าจะแต่งงานรอมร่อ
ก็ไม่ยอมเลิกลา ติดพี่ริว กันหมด
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX ตอนที่ 8 ฟ้าพิโรธ [23/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Laliat ที่ 24-02-2017 04:11:35
อุกรี้ด เรื่องนี้งานดีจริงๆค่า เดี้ยนปลื้ม :laugh: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX ตอนที่ 8 ฟ้าพิโรธ [23/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: เจเจจัง ที่ 24-02-2017 10:41:12
ริวเสน่ห์แรงมาก ๆ แต่ตอนนี้อยากอ่านพาร์ท ดิน ตอนที่ตกหลุมรักริว ว่าเกิดจากอะไร วางแผนยังงัย จนได้กัน ตามเข้ามาทำงานที่เดียวกันใช่ไหม และอยากอ่านพาร์ทฟ้า ว่าเริ่มรักริวได้ยังงัย แค่ one night stand ไม่ใช่เหรอ
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX ตอนที่ 8 ฟ้าพิโรธ [23/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 24-02-2017 15:51:42
ว่าดินสุดหล่อของเค้าหายไปไหนหน๋อ?
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX ตอนที่ 8 ฟ้าพิโรธ [23/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 24-02-2017 15:59:02
 :haun4:  ดินจะแจมรึยัง คิคิ
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX ตอนที่ 8 ฟ้าพิโรธ [23/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 24-02-2017 19:55:10
ตามๆๆๆ
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX ตอนที่ 8 ฟ้าพิโรธ [23/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Ryunosuke ที่ 26-02-2017 16:19:36
อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นของผม!!!




ตอนที่ 9 น้ำตาฟ้า




          ผมนิ่งเงียบไม่กล้าปริปากอะไรตั้งแต่ฟ้าลากผมออกมาจากห้องน้ำจนตอนนี้ที่ผมนั่งอยู่ที่เบาะหน้าของรถสปอร์ตสุดหรูอย่าง Audi R8


          ผมยอมรับอย่างเต็มปากเต็มคำว่าผมกลัวตัวตนของฟ้าในตอนนี้มาก เรียกได้ว่ากลัวจนตัวสั่นผมก็ไม่เถียง ฟ้าที่ผมรู้จักหายวับไปต่อหน้าต่อตาทันทีที่ก้าวเข้ามาเห็นสิ่งที่นนท์ทำกับผม เหลือแต่สิงโตตัวเบ้อเร่อที่พร้อมจะตะครุบและฉีกเนื้อทุกคนที่เข้ามาเกะกะขวางทาง


          นนท์เข้ามาอยู่ในงานสังคมของครอบครัวฟ้าได้อย่างไร นั่นคือสิ่งที่ผมคิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ตก


          ผมพอรู้ว่าครอบครัวของนนท์ไม่ธรรมดาแต่ก็ไม่คิดว่าจะเกี่ยวข้องอะไรกับฟ้า


          เรื่องของดินยังไม่มีข้อสรุปแถมตอนนี้ยังมีเรื่องของนนท์เข้ามาอีก ผมเริ่มจะรับไม่ไหวกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับผม ท่าทางเวรกรรมมันคงกำลังตามไล่สนองผมมาติดๆ แล้ว






          ปั้ง!!! “แมร่งเอ้ย!!! กูว่าแล้วว่าทำไมหน้ามันคุ้นๆ” ฟ้าทุบพวงมาลัยอย่างแรงตามมาด้วยคำสบถกับตัวเอง เสียงดังจนผมถึงกับสะดุ้ง คิ้วเข้มขมวดขึงจนแทบจะผูกกันเหมือนครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่กับตัวเอง


          ฟ้าไม่หันมามองผมด้วยซ้ำ


          ผมรู้สึกโหวงๆ ในอกชอบกล ไม่ชอบเลยเวลาที่ฟ้าทำเหมือนผมไม่มีตัวตน


          คำสบถของฟ้ายืนยันกับผมได้อย่างหนึ่ง นั่นคือครอบครัวของฟ้ากับนนท์ต้องรู้จักกัน แต่ในสถานะไหนนั้นผมเองก็ไม่อาจจะคาดเดา


          ฟ้า.....ดิน.....นนท์ ทั้งสามคนมีความสำคัญกับผม ถึงแม้ความสัมพันธ์จะแตกต่างกันอย่างลิบลับ
 





          นนท์.....ผมคิดเพียงแค่คู่นอนและผมก็เคยคิดว่านนท์ก็คิดแบบนั้น แต่เรื่องวันนี้มันพิสูจน์ให้เห็นว่าผมคิดผิดมหันต์






          ดิน.....ผู้ชายแสนดีที่คอยตามดูแลเป็นห่วงเป็นใย เป็นคนที่ให้ผมทั้งใจทั้งๆ ที่ไม่เคยได้อะไรจากผม นอกจากการมีอะไรกันเพียงครั้งเดียว 






          ฟ้า.....เด็กที่ผมถูกใจตั้งแต่แรกเห็น เด็กที่ผมคิดแค่ว่าจะต้องได้มาให้ได้ในคืนนั้น แต่มันกลับไม่จบแค่นั้น เพราะเด็กร้ายกาจคนนี้กำลังทำให้ผมสับสนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน






          คำถามในหัวผมก็คือ ทำไม.....ผู้ชายสามคนที่มีคุณสมบัติเพียบพร้อมและเป็นที่ใฝ่ฝันของทั้งชายและหญิงถึงได้เข้ามาหาผม ทั้งๆ ที่ผมมันก็แค่ผู้ชายที่หาความสุขจากการมีอะไรกับใครไปวันๆ









          คนอย่างผมไม่มีค่าเพียงพอให้ใครมาสนใจด้วยซ้ำไป













          “อั่ก!!! เจ็บนะ” ผมสะดุ้งตื่นเพราะโดนโยนลงบนเตียงอย่างรุนแรง ผมจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าผมเผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ตอนนี้ผมกำลังนอนคู้ตัวด้วยอาการจุกที่ลิ้นปี่อยู่บนเตียงขาวสะอาดที่ผมไม่เคยลืม


          ห้องของฟ้าแทบไม่มีอะไรเปลี่ยนไปจากครั้งที่ผมเคยมา มีก็แต่เจ้าของห้องที่ยืนหน้าเหม็นเบื่ออยู่ตรงหน้าผมนี่แหละที่ไม่เหมือนเดิม


          “พี่เจ็บไม่เท่าที่ผมเจ็บหรอก พี่รู้ไหมการที่ได้เห็นเมียตัวเองเที่ยวไปร่านกับคนอื่นมันเจ็บแค่ไหน” ฟ้าขึ้นเสียงพร้อมกับโถมตัวขึ้นมาคร่อมผมไว้


          “พี่ไม่ได้ทำแบบนั้น นนท์มัน.....อุ๊บ อื้อ ปล่อยนะ อุ๊บ” ฟ้าจูบผมทันทีที่ผมพยายามจะแก้ตัว ผมแทบไม่มีแรงจะขัดขืน ไม่รู้ทำไมสิ่งที่ฟ้าด่าผมถึงได้ทำให้ผมอ่อนแอลง


          ถ้าเป็นคนอื่นผมคงลุกขึ้นซัดปากหมาๆ ที่ดูถูกผมไปแล้ว แต่กับฟ้าผมกลับรู้สึกเสียใจที่ทำให้ฟ้าต้องเจ็บและผิดหวัง


          และยิ่งเสียใจที่ฟ้ามองผมเป็นแค่ผู้ชายร่านๆ คนหนึ่ง ถึงแม้มันจะเป็นเรื่องจริงก็เถอะ


          “ผมจะทำให้พี่จำไปจนตาย ว่าพี่เป็นเมียผม!!!!” ว่าจบฟ้าก็เริ่มซุกไซร้มาที่ซอกคอ ใบหน้าหล่อเหลากดน้ำหนักลงรุนแรงจนผมต้องหดคอหนี


          “ยะ อย่า ฟ้า” ผมห้ามเสียงสั่น


          “ก็พี่เป็นซะแบบนี้ผู้ชายถึงได้ตอมกันหึ่ง พี่รู้ตัวไหมว่าพี่น่าเอาแค่ไหน” ฟ้าพูดอย่างหื่นกระหายก่อนจะก้มหน้าลงซุกไซร้ผมต่อ


          “โอ๊ย ฟ้า พี่เจ็บนะ” ฟ้าฟังเขี้ยวที่ซอกคอผม แถมดูดรุนแรงจนผมรู้สึกเหมือนเนื้อจะหลุดติดออกไปด้วย


          “พี่นี่มันอร่อยสุดๆ” ฟ้าไม่ได้สนใจที่ผมร้องห้ามเลยซักนิด มือทั้งสองกระชากเสื้อผมออกจนกระดุมขาดกระเด็น


          “ฟะ ฟ้า พี่ อะ อื้ม อ๊า.....” สติผมแทบจะกระเจิงตอนที่ฟ้าลากลิ้นชื้นจากซอกคอไล่ลงมาถึงยอดอก


          “พี่นี่มันจะยั่วผมไปถึงไหนกันวะ” ฟ้าใช้มือช้อนหลังให้ผมแอ่นอกรับสัมผัสที่ทั้งอ่อนโยนและรุนแรงสลับกัน ฟ้าละเลงลิ้นอย่างหิวกระหาย แม้แต่คำพูดของฟ้าก็ฟังดูเปลี่ยนไป


          “ฟะ ฟ้า อย่าทำแบบนี้ พี่ไม่ไหว อ๊า.....” ไม่น่าเชื่อว่าอารมณ์ผมจะคล้อยตามไปกับฟ้าได้ง่ายดายขนาดนี้


          “นี่อะไร เยิ้มขนาดนี้เชียวเหรอพี่ริว หวานซะด้วยเว้ย” ฟ้าใช้นิ้วแตะปลายยอดแก่นกายของผมแล้วยกขึ้นโชว์ของเหลวใสข้นหนืดที่ยืดตามนิ้วออกมาเป็นเส้น ก่อนสุดท้ายจะยกนิ้วขึ้นมาเลียชิมรสชาติช้าๆ


          “.....” ผมพูดอะไรไม่ออก ได้แต่คว้าเอาหมอนมาปิดหน้าอย่างเขินอาย ฟ้าเป็นคนแรกที่ทำให้ผมรู้สึกอายได้ขนาดนี้


          “ผมจะกินแล้วนะ ทนไม่ไหวแล้วพี่ริว” ฟ้าพูดพลางปลดเปลื้องเสื้อผ้าตัวเอง ร่างกายสมส่วนเต็มไปด้วยมัดกล้ามกับหน้าท้องเป็นลอนสวยแบบไม่มากเกินไปทำให้หัวใจผมเต้นแรงแบบหยุดไม่อยู่






          ต้องการ ผมต้องการฟ้า ผมต้องการคนคนนี้จริงๆ 






          “ซี๊ดดดดดด โคตรเสียว” ฟ้าอาศัยเพียงน้ำลายตัวเองเพื่อหล่อลื่นแล้วแทรกเข้ามาในตัวผม


          “ฟ้า พี่เจ็บ ฟ้าเอาออกก่อน ฟ้า!!!” แต่ผมเจ็บราวกับถูกจับฉีกร่าง ฟ้าเองก็รีบถอนแก่นกายตัวเองออกมาโชว์หราต่อหน้าต่อตาผม ครั้งที่แล้วผมเมาผมจำได้ลางๆ ว่าของฟ้าใหญ่ แต่ไม่คิดว่าจะใหญ่ขนาดนี้ สิ่งที่ผมเห็นตรงหน้ามันไม่น่าจะยัดเข้าไปในตัวผมได้เลยด้วยซ้ำ


          “พี่ริว ผมไม่ไหวแล้วจริงๆ ซี๊ด.....” ฟ้าไม่พูดอะไรมากไปกว่านั้น


          “อืออออออ.....อืออออออออออออออออออออออออออ!!!” ผมได้แต่กรีดร้องพร้อมตาที่เหลือกโพรง เพราะฟ้าเอามือมาอุดปากผมพร้อมกับที่ยัดเยียดลูกชายขนาดมหึมาเข้ามาในตัวผม ในหัวผมมันขาวโพลนไปหมด


          แสบ นั่นคือความรู้สึกที่ตามมา ทำให้ผมรู้ว่าไม่ปากทางก็ภายในคงฉีกขาดเสียแล้ว


          ฟ้ากระแทกกระทั้นเข้ามาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน ผมรู้ดีว่าฟ้าไม่ได้เสร็จเพียงครั้งเดียว ทุกครั้งที่ของเหลวอุ่นร้อนทะลั่กเข้ามาในตัวผม ฟ้าจะยังแช่ตัวเองทิ้งไว้ในตัวผมอย่างนั้นจนกระทั้งลูกชายตัวเขื่องฟื้นตัว


          “พี่เป็นเมียผม เป็นเมียผมคนเดียว”


          “พี่เป็นเมียผม เป็นเมียผมคนเดียว”






          ผมได้ยินแต่เสียงฟ้าดังก้องวนเวียนอยู่ในหัวไม่หยุด






          “พี่เป็นเมียผม เป็นเมียผมคนเดียว”






          ไม่รู้ว่าครั้งที่เท่าไหร่แล้ว เพราะแม้แต่ผมเองก็ถึงจุดสูงสุดของอารมณ์ไปหลายครั้งทั้งที่ไม่ได้แตะต้องตัวเองเลย







          “พี่เป็นเมียผม เป็นเมียผมคนเดียว”






          ผมโดนกระกระทำซ้ำๆ อยู่อย่างนั้น ยาวนานจนเหมือนไม่มีทีท่าว่ามันจะสิ้นสุด







          “พี่เป็นเมียผม เป็นเมียผมคนเดียว”






          แต่ถึงอย่างนั้นฟ้าก็ยังไม่ยอมหยุดจนกระทั่งสติของผมค่อยๆ เลือนลางลงช้าๆ



















          “พี่ริวครับ” เสียงของฟ้าอ่อนลงพร้อมๆ กับที่ฟ้าฟุบตัวลงกอดผมไว้


          “.....” ผมรู้สึกตัวแล้วแต่ยังนิ่ง ความรู้สึกเจ็บปวดและเหนอะหนะทำให้ผมไม่อยากจะพูดอะไร


          “ผมรู้ว่าถ้าผมทำแบบนี้ ผมอาจจะโดนพี่เกลียด”


          “.....” ผมพยายามทำเป็นหลับตาไม่รู้เรื่องราว


          “แต่ผมไม่รู้จะทำยังไง ผมยังเด็กผมยังเรียนไม่จบผมยังไม่มีหน้าที่การงานที่ดี ผมไม่รู้จะเอาอะไรไปสู้กับทั้งพี่ดิน หรือไอ้เหี้ยนนท์นั่นได้”


          “.....” สิ่งที่ฟ้าพูดทำให้ผมยืนยันได้ว่าทั้งสามคนรู้จักกันจริง แต่เหนือไปกว่านั้นสิ่งที่ฟ้าพูดกำลังทำให้หัวใจผมเต้นแรง


          “ผมพยายามทำทุกวิธีที่ให้ได้ใกล้พี่ แม้แต่ยอมบากหน้าเข้าไปขอให้พ่อใช้อำนาจช่วยผม แต่พี่รู้อะไรไหม มันดูเหมือนแทบไม่มีหนทางไหนเลยที่ผมจะได้พี่มาเป็นของผม”


          “.....”


          “พี่ไม่รู้หรอกว่าผมแอบรักพี่มานานแค่ไหน พี่คงจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าผมเป็นใคร พี่กับผมเราไม่ได้เจอกันครั้งแรกในคืนนั้นนะครับ”


          “.....” สิ่งที่ฟ้าพูดทำให้ผมงง ฟ้ากับผมไม่ได้เจอกันครั้งแรกที่ผับนั้นเหรอ เราเคยเจอกันมาก่อนเหรอ นี่สิ่งที่ผมเคยทำไว้ในอดีตมันกำลังจะกลับมาเล่นงานผมทั้งหมดรึไงกัน


          “พี่ไม่รู้หรอกว่าการที่ต้องยอมอดทนไม่เจอหน้าพี่เพื่อไปเรียนไฮสคูลที่อเมริกาอย่างที่พ่อต้องการมันทรมานแค่ไหน” 


          “.....” แปลว่าฟ้าเคยเจอผมตั้งแต่ฟ้าอยู่ม.ต้นงั้นเหรอ


          “ที่ร้ายที่สุดพอผมกลับมาพี่กลับจำผมไม่ได้ด้วยซ้ำ วันที่เราเจอกันผมมั่นใจว่ายังไงพี่ต้องจำผมได้ แต่ผมคิดผิด คืนนั้นพี่เข้าหาผมเพียงเพราะรูปร่างหน้าตาที่มันบังเอิญถูกใจพี่”









          “.....” ผมรู้สึกถึงหยดน้ำร้อนๆ บนในหน้าผม









          ฟ้ากำลังร้องไห้


















          “พี่คงไม่รู้หรอก.....ว่าการที่ต้องเป็นคนที่ถูกลืมมันเจ็บปวดแสนสาหัส.....แค่ไหน” เสียงฟ้าสั่นเครือและขาดห้วง









          ฟ้าเป็นใครกันแน่ นี่คือสิ่งเดียวที่อยู่ในหัวผมตอนนี้









          “ฟ้ารักพี่ริวนะครับ ไม่สิถ้าผมยังอยู่ในความทรงจำของพี่บ้างผมบอกรักพี่อีกแบบอาจจะช่วยให้พี่จำผมได้.....”











          “.....” ผมรอสิ่งที่ฟ้ากำลังจะพูดจนหัวใจผมแทบหยุดเต้น



















          “สกายรักพี่ริวนะฮะ”






          *+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*


         
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX ตอนที่ 9 น้ำตาฟ้า [26/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: omuya ที่ 26-02-2017 19:28:46
เอ้าาา ค้างเลย สกายเหรอ เป็นยังไงมายังไงหว่า
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX ตอนที่ 9 น้ำตาฟ้า [26/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 26-02-2017 19:45:00
โอ้วววว สกาย นี่น้องโดนเลี้ยงต้อยมาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย โตมาได้ดีสุดๆเลอค่า
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX ตอนที่ 9 น้ำตาฟ้า [26/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: เจเจจัง ที่ 26-02-2017 19:55:46
โอ๊ย. ทั้งฟ้าทั้งดิน. งานพรีเมี่ยงจริงๆ ชอบทั้งคู่เลย. มั่นคงกับริวทั้งคู่อ่ะ. ขออ่านพาร์ทอดีตของทั้งคู่ด้วยค่ะ. อยากอ่านที่มาและประวัติความรักอันมั่นคง
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX ตอนที่ 9 น้ำตาฟ้า [26/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Ryunosuke ที่ 27-02-2017 22:29:32
อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม!!!






ตอนที่ 10 คำขอจากฟ้า






          “สกายรักพี่ริวนะฮะ!!” เด็กมัธยมต้นตัวขาวขาวจั๊วะใส่แว่นกรอบหนาตรงหน้ากำลังพูดกับผมด้วยท่าทีกล้าๆ กลัวๆ


          “พี่ก็รักสกายครับ” ผมตอบพร้อมกับยกมือขึ้นลูบหัวเด็กตัวผอมสูงตรงหน้าอย่างเอ็นดู


          “สกายรักพี่ริวจริงๆ นะฮะ” เด็กตรงหน้าจ้องมองผมด้วยสายตาที่คลอไปด้วยน้ำใสๆ


          “ครับพี่รู้แล้ว” ผมพูดไปยิ้มไปกับความน่ารักน่าเอ็นดูของเด็กคนนี้ ไม่น่าเชื่อว่าเวลาเพียงเดือนเดียวที่เด็กคนนี้มาฝึกงานที่โรงงานจะทำให้เราเกิดความผูกพันกันได้มากขนาดนี้


          “พี่ไม่รู้หรอกว่าสกายรักพี่แค่ไหน”


          “ทำไมจะไม่รู้”


          “ถ้าพี่รู้ พี่ต้องสัญญากับสกายว่าพี่จะเป็นเจ้าสาวของสกาย”


          “ขนาดนั้นเลย” ผมยังยิ้มให้ความความน่ารักของสกาย ไม่อยากจะเชื่อความความคิดแบบนี้จะมีอยู่ในหัวเด็กอายุสิบสี่ มันน่าจะโตเกินกว่าจะมาจินตนาการเรื่องพวกนี้ได้แล้ว


          “สกายจริงจังนะพี่ริว” 


          “ก็ได้ๆ งั้นถ้าวันหนึ่งถ้าสกายเป็นผู้ใหญ่กว่านี้ หล่อกว่านี้ ที่สำคัญหุ่นดีกว่านี้ แล้วพี่จะยอมเป็นเจ้าสาวของสกาย ดีไหมครับ”






          “สัญญานะฮะ”






          “พี่ริวสัญญาครับสกาย”



















          ฝันงั้นเหรอ






          “สกาย.....” ชื่อนี้ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของผมตั้งแต่เมื่อคืนจนผมงัวเงียตื่นขึ้นในตอนเช้าของอีกวัน
 

          ผมพยายามพลิกและฝืนตัวออกจากอ้อมกอดแน่นหนาของฟ้า


          นั่นทำให้ผมได้เห็นว่าใบหน้าหล่อเหลาของฟ้าเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา


          “ร้องไห้ทั้งคืนรึไงกันนะไอ้สิงโตจอมเขมือบ ทำกันซะขนาดนี้แต่กลับมานอนร้องไห้เสียเองเนี่ยนะ” ผมเอื้อมมือไปเช็ดคราบน้ำตาบนใบหน้าที่ผมหลงใหล


          เวลาไม่แผลงฤทธิ์ฟ้าก็เหมือนเด็กไร้เดียงสาที่ไม่มีพิษภัยคนหนึ่ง


          ผมฝืนร่างกายตัวเองค่อยๆ เดินกะโผลกกะเผลกแทบจะคลานเข้ามายืนใต้ฝักบัวใหญ่ ค่อยๆ เปิดน้ำอุ่นจนเกือบร้อนลงมาชำระล้างคราบคาวบนตัว 


          เวลาผมรู้สึกไม่สบายตัวผมชอบอาบน้ำร้อนๆ มันช่วยให้ผมรู้สึกผ่อนคลาย


          ครั้งนี้มันยิ่งกว่ารู้สึกว่าตัวเองกำลังจะไม่สบาย เพราะผมปวดไปทั้งตัว ร้าวไปถึงกระดูก ช่วงล่างก็แสบเสียจนแทบยืนไม่อยู่


          เด็กยักษ์นั่นแรงน้อยเสียเมื่อไหร่ แถมไม่บันยะบันยังกันเลย ไม่รู้อยากได้ผมเป็นเมียหรือตุ๊กตายางกันแน่









          เอาจริงๆ ถ้าผมจำไม่ผิด จนถึงตอนนี้มีเด็กที่เกี่ยวพันกับชื่อ ‘สกาย’ เข้ามาในชีวิตผมแล้วถึงสามคน แต่ที่หน้าแปลกก็คือผมเจอทั้งสามคนในสถานที่และเหตุการณ์คล้ายๆ กัน


          คนแรกผมได้เจอตอนที่ผมเรียนปีสามกำลังจะขึ้นปีสี่ ผมเข้ามาฝึกงานในบริษัทของท่านเมฆินทร์ซึ่งก็คือบริษัทที่ผมทำอยู่ในปัจจุบัน ตอนนั้นผมอายุยี่สิบ ระหว่างที่ผมฝึกงานก็มีเด็กน้อยน่าตาน่ารักเข้ามาเจ๊าะแจ๊ะกับผมอยู่เสมอ ซึ่งผมก็ได้มารับรู้ในตอนหลังว่าเด็กคนนั้นชื่อสกายเป็นลูกของผู้บริหารระดับสูงในบริษัท ผมยังจำได้ว่าวันสุดท้ายที่ผมไปร่ำราทุกคนเจ้าสกายมันร้องไห้จ้าอย่างกับญาติเสีย เด็กน้อยแก้มใสยืนเกาะขายกางเกงผมไม่ยอมปล่อย จนสุดท้ายผมต้องยอมอยู่ปลอบจนกระทั้งเด็กน้อยร้องไห้จนเหนื่อยและหลับไปเอง


          คนที่สองผมได้เจอตอนที่ผมเข้ามาร่วมงานกับบริษัทนี้เป็นปีแรก ผมเพิ่งเรียนจบมาหมาดๆ จากประเทศญี่ปุ่น สกายคนนี้เป็นเด็กมัธยมต้นที่สามารถเข้ามาฝึกงานในฝ่ายวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ของบริษัทได้ นั่นทำให้ผมรู้ได้ในทันทีว่าเบื้องหลังของเด็กคนนี้ต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน ไหนจะหน้าตาและผิวพรรณที่ดูจะเหนือกว่าคนทั่วไป ถึงแม้จะใส่แว่นกรอบหน้าและสูงชะลูดจนดูผอมเก้งก้าง แต่ผมคาดเดาได้ตั้งแต่แรกเห็นว่าเด็กคนนี้จะต้องโตขึ้นมาเป็นชายหนุ่มที่หล่อเหลาและมีเสน่ห์ที่สุดคนหนึ่ง สกายติดผมแจตลอดเกือบสองเดือน เรียกว่าตัวติดกันจนคนในบริษัทล้อเลียนว่าผมกินเด็ก จนกระทั่งสุดท้ายสกายก็ต้องออกเดินทางไปเรียนต่อที่ต่างประเทศตามคำสั่งของพ่อ


          คนที่สามคือฟ้า แม้เจ้าตัวไม่ได้บอกว่าตัวเองชื่อสกายแต่ถ้าพิจารณาจากความหมายมันก็แปลได้ตรงกัน เด็กหนุ่มที่ผมถูกใจตั้งแต่แรกเห็น เด็กหนุ่มอายุสิบเก้าที่ชื่อ เวหา เตชะรัตนบรรจง เด็กหนุ่มที่เพียบพร้อมทุกอย่างทั้งรูปร่างหน้าตาและฐานะทางสังคม เด็กหนุ่มที่ผมพยายามหลีกเลี่ยงแต่ไม่เคยปฏิเสธได้ลง เด็กหนุ่มที่ผมมีความรู้สึกดีๆ ด้วยและหวั่นไหวทุกครั้ง เด็กหนุ่มที่แม้จะขืนใจหรือทำเรื่องร้ายกาจกับผมซ้ำแล้วซ้ำเล่าผมก็กลับไม่เคยโกรธเค้าได้ลง


          สกายคนแรกเป็นลูกชายของผู้บริหารระดับสูง


          สกายคนที่สองสามารถเข้ามาฝึกงานในฝ่ายที่เป็นความลับสูงสุดของบริษัท


          ส่วนฟ้า ฟ้าเป็นลูกท่านเมฆินทร์ CEO ผู้เป็นทั้งผู้บริหารสูงสุดและเจ้าของบริษัทที่ผมสังกัดอยู่









          ฟ้า กับ สกาย เหรอ มันจะบังเอิญเกินไปรึเปล่า









          ยิ่งคิดผมก็ยิ่งปวดหัว ไม่แน่ใจนักว่าเรื่องของฟ้าและสกายดึงให้ผมอยู่ภายใต้ฝักบัวใหญ่นี่มานานแค่ไหนแล้ว แต่ไอน้ำร้อนที่เคยอุ่นสบายกำลังเริ่มทำให้ผมอึดอัด






          ภาพที่ผมเห็นตรงหน้ามันกำลังพร่าเลือน






          ผมเริ่มรู้สึกหายใจไม่ออก






          สติของผมมันกำลังจางหาย













          “พี่ริว พี่ริวครับ ตื่นมากินยาก่อนนะครับ ตัวพี่ร้อนอย่างกับไฟ” ผมรู้สึกตัวอีกครั้งเพราะเสียงเรียกของฟ้า


          ไม่รู้ว่าผมกลับมานอนที่เตียงได้อย่างไรและหลับไปนานแค่ไหน 


          “ไม่ต้องมายุ่ง!!!” ผมปัดมือฟ้าอย่างแรงจนทำให้ยาที่เตรียมมาหล่นกระจาย


          “พี่ริว!!!” เสียงตวาดของฟ้าทำให้ผมสะดุ้ง


          “ไม่กิน”


          “ทำไมดื้อแบบนี้ พี่กำลังทำให้ผมหมดความอดทน อยากโดนแบบเมื่อคืนอีกรึไง!!!”


          “อยากทำก็ทำสิ พี่ไม่ได้สนใจอยู่แล้ว” ถึงจะต่อปากต่อคำไปแบบนั้นแต่ในใจผมกลับรู้สึกหน่วงๆ ชอบกล






          “พี่ริวช่วยอยู่นิ่งๆ ให้ผมได้ดูแลในฐานะสามีที่ดีด้วยเถอะครับ พี่เข้าไปอาบน้ำร้อนๆ นานขนาดนั้นได้ยังไง ร่างกายไม่แข็งแรงอยู่นะครับ.......เพื่อว่าพี่ไม่รู้ ผมเป็นห่วงพี่มากนะ” เสียงของฟ้าอ่อนลงจนผมใจสั่น ไม่รู้ทำไมคำว่าเป็นห่วงที่ออกมาจากปากของเด็กยักษ์ตรงหน้าถึงทำให้ผมอุ่นวาบไปถึงข้างใน


          “กะ ก็ได้” ความจริงผมก็ไม่ได้มีเรี่ยวแรงจะไม่สู้อะไรกับฟ้าหรอกครับ


          ผมว่าผมเพิ่งเข้าใจความหมายของคำว่าร่างแหลกอย่างถ่องแท้ก็วันนี้ มันเหมือนแขนขาไม่ได้เป็นของผมสักเท่าไหร่ อยากจะนอนนิ่งๆ ไม่ไปไหน


          “พี่ริวนี่น้ำกับยาครับ ค่อยๆ ดื่มนะครับเดี๋ยวสำลัก” ฟ้าเอาตัวแทรกด้านหลังผมเพื่อผยุงตัวผมขึ้น ตอนนี้เลยเหมือนผมนอนพิงกับอกแกร่งๆ ของฟ้าอยู่


          ผมยอมรับว่าผมปรับอารมณ์ไม่ทัน ผมไม่รู้ว่าฟ้ากำลังคิดอะไรอยู่


          แต่สิ่งที่ผมปฏิเสธไม่ได้เลยคือผมรู้สึกดีมากจริงๆ






          ดีจนผมเผลอคิดว่าถ้าหากได้อยู่แบบนี้ไปตลอดมันจะดีแค่ไหน






          “ผมขออยู่กับพี่แบบนี้ตลอดไปไม่ได้เหรอครับ” ฟ้าพูดขณะที่โอบผมไว้






          ตลอดไป..........เด็กสมัยนี้ยังมีความคิดใสซื่อแบบนี้อยู่อีกเหรอ






          “พี่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรฟ้าถึงคิดกับพี่แบบนี้ แต่พี่ไม่ใช่คนที่ฟ้าควรจะมาเสียเวลาด้วย พี่มันไม่ใช่คนดีหรอกฟ้า” ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงตอบรับฟ้าไปแล้ว แต่ในตอนนี้ผมไม่อยากให้ชีวิตของเด็กอนาคตไกลคนหนึ่งต้องมาจบลงเพราะผม


          คนที่สูญเสียศรัทธากับคำว่า ‘ตลอดไป’ อย่างผม 


          ไหนจะหน้าตาในสังคมของทั้งฟ้าและท่านเมฆินทร์อีก


          “พี่เอาอะไรมาตัดสินว่าพี่ไม่ใช่คนดี ในเมื่อพี่คือคนที่ดีที่สุดสำหรับผม” ฟ้ากระซิบที่ข้างหูผม


          “แต่ฟ้าก็รู้ว่าพี่มีอะไรกับใครไปทั่ว” ผมยังพยายามยกเหตุผล


          “ผมไม่รับรู้เรื่องนั้น พี่คือคนแรกของผม ผมคือคนแรกของพี่ ผมรับรู้แค่นี้” ฟ้าก้มลงหอมที่ซอกคอผมอย่างอ่อนโยน


          “แล้ว ดิน กับนนท์ล่ะ จะปฏิเสธเหรอว่าฟ้าไม่รับรู้”


          “พี่ริวอย่าเพิ่งพูดถึงสองคนนั้น พวกผมสามคนจะเคลียร์กันเอง” ฟ้าตอบแบบต้องการตัดบท แบบนี้ก็เป็นข้อพิสูจน์ได้ว่าทั้งสามคนรู้จักกัน


          “แต่.....พี่รักใครไม่ได้อีกละ.....อุ๊บ!!!” ยังไม่ทันที่ผมจะพูดได้จบ ฟ้าก็ช้อนใบหน้าของผมไปรับจูบที่ทั้งอ่อนโยนและหวานหอม


          จูบที่ทำให้ปราการที่ผมสร้างแทบจะพังทลายลงมาให้คราวเดียว ฟ้าใช้ริมฝีปากคลอเคลียอย่างอ้อยอิ่ง ลิ้นร้อนค่อยๆ เล็มเลียราวกับจะขออนุญาต จนผมเผลอไผลเปิดรับให้ฟ้าได้เข้ามาลิ้มชิมรสอย่างเต็มใจ


          จูบของฟ้ายาวนานจนแทบจะหมดลม ทรมานแต่กลับสุขสมอย่างประหลาด เหมือนจะดูดกลืนจนแทบขาดใจแต่ก็หวั่นไหวเสียจนไม่อยากให้มันจบลง






          ถ้ามีโอกาสแก้ไขสิ่งที่ผมทำไว้ในอดีตก็คงจะดี ผมอาจจะเป็นคนรักที่ดีพอสำหรับฟ้าได้






          แต่มันเป็นไปไม่ได้นี่สิ













          “พี่ริวย้ายเข้ามาอยู่กับผมนะครับ มาอยู่ด้วยกัน” ฟ้าจับไหล่ให้ผมหันกลับไปเจอสายตาที่มุ่งมั่นเสียยิ่งกว่าคำพูดที่ออกมาจากปาก


          “มะ ไม่ได้นะฟ้า ฟ้ากำลังคิดอะไรอยู่ อย่ามาล้อเล่นแบบนี้ไม่ได้” ผมรีบทักท้วงแทบไม่ทัน


          “ทำไมจะไม่ได้ครับ ผมจริงจังนะ” ฟ้ายิ้มบางๆ


          “ฟ้าไม่คิดบ้างเหรอว่าคนจะมองฟ้ายังไง ฟ้าเป็นลูกชายท่านเมฆินทร์นะ แล้วอนาคตที่ฟ้าจะต้องสืบทอดกิจการอีก ฟ้าจะให้ชีวิตมาด่างพร้อยเพราะพี่ไม่ได้!!!” ผมหลุดโพล่งความคิดในหัวออกไปจนเกือบหมด


          “แบบนี้แล้วยังจะบอกว่าพี่ไม่ใช่คนดีสำหรับผมอีกเหรอครับ พี่คิดถึงอนาคตแทนผมซะขนาดนี้” รอยยิ้มบนใบหน้าของฟ้ากว้างขึ้นจนเต็มแก้ม รอยยิ้มที่ผมกล้าเอาหัวเป็นประกันเลยว่าถ้าใครได้เห็นจะต้องเขินแทบม้วนกันทุกคน


          “พะ พี่หมายถึงพี่เป็นห่วงชีวิตคนโสดของพี่ต่างหาก อย่าสำคัญตัวให้มันมากนัก เด็กอย่างมึงใครจะไปสนใจกันเล่า!” ผมพูดตะกุกตะกัก ยอมรับว่าเขินแบบไม่เคยเห็นมาก่อน


          “พี่ริวโกหกไม่เนียน หึ หึ”


          “มะ มีเหตุผลอะไรที่ กะ กู จะต้องสนใจอนาคตมึง ไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อยอย่าลืมสิ” ผมรีบย้อนไอ้เด็กยียวนตรงหน้าแทบไม่ทัน



















          “งั้นก็ทำให้เป็นสิครับ......ผมทำได้ทุกวัน วันละหลายๆ เวลาเลยล่ะถ้าเป็นพี่ริว”



















          “บ้า!!!! ฟ้า มึงมันบ้า”






          *+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*         

          พี่ดินหายหัวไปไหนเนี่ย!!! น้องฟ้ายิงนำไปหลายประตูแล้วน้าาาาา

          *+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX ตอนที่ 10 คำขอจากฟ้า [27/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Goffylovelove ที่ 28-02-2017 16:40:24
พี่ริวแซ่บเวอร์ คร้า อิจพี่ริว นี่ทำบุญด้วยอาร้ายยย
พี่ริวบางที่ก็คิดมากไปเด็กๆมันรักมันหลงก็ตอบรับไปเถอะ
3P ไปเลยคร้าาา  :pighaun:
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX ตอนที่ 10 คำขอจากฟ้า [27/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 28-02-2017 16:45:36
นำไปหลายยกเลย ..
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX ตอนที่ 10 คำขอจากฟ้า [27/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: เจเจจัง ที่ 28-02-2017 17:06:54
พี่ริวมีผู้หล่อแซ่บสองคนมาหลง กรุณาอย่าเล่นตัว. 3p เลยค่ะ
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX ตอนที่ 10 คำขอจากฟ้า [27/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 28-02-2017 18:04:18
ผิดแล้วฟ้า. ฟ้าต้องย้ายตัวเองไปอยู่กับพี่ริวตะกาก เฝ้าไม่ให้คลาดสายตาเลยนะน้องฟ้า
ตลกตรงที่คนเราจะหน้าเปลี่ยนเยอะขนาดนั้นเลยเหรอ น้องสกายเด็ก14คนเก่าเป็นยังไงหนอ
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX ตอนที่ 10 คำขอจากฟ้า [27/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 28-02-2017 19:49:49
 :pig4:
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX ตอนที่ 10 คำขอจากฟ้า [27/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 28-02-2017 19:57:29
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX ตอนที่ 10 คำขอจากฟ้า [27/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 28-02-2017 20:51:56
รอพี่กลับมาทวงบัลลังก์คืน :ling1:
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX ตอนที่ 10 คำขอจากฟ้า [27/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Ryunosuke ที่ 01-03-2017 17:46:54
อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม!!!






ตอนที่ 11 ฟ้า.....ดิน






          ผมนอนซมเพราะพิษไข้มาสามวันเต็มอย่างไม่มีทีท่าจะดีขึ้น ทำไมเหรอครับ ก็เพราะไอ้เด็กแสบเจ้าของห้องจอมหื่นมันไม่ยอมให้ผมมีเวลาพักฟื้นน่ะสิ พอจะดีขึ้นสร่างไข้มันก็จัดอีก เอาตรงๆ ผมเลิกนับไปแล้วว่าตลอดสามวันมานี้ผมโดนไปกี่ครั้ง


          “ผมกำลังทำให้พี่กับผมเป็นอย่างที่ควรจะเป็น” ฟ้าบอกก่อนจะออกไปหาซื้อโจ๊กเจ้าอร่อยมาให้ผม


          ฟ้าจัดการลางานให้ผมเรียบร้อย จัดการเลื่อนนัดสำคัญทุกนัดกับส้มเลขาส่วนตัวของผม โทรศัพท์ก็ยึดไปคุยทุกสายที่โทรเข้า มันบอกปลายสายว่าผมเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์อันตรายจากเอธิโอเปีย เป็นไงล่ะครับไข้หวัดเวอร์ชั่นล่าสุดของไอ้เด็กยักษ์


          รอจนได้ยินเสียงประตูปิดลงกลอนผมก็กวาดสายตามองไปรอบห้องเพื่อสำรวจทันที ไม่อยากเชื่อว่าสวรรค์จะเป็นใจให้ได้พบกับเป้าหมายสำคัญ ฟ้าคงรีบออกไปจนลืมเอาโทรศัพท์มือถือไปด้วย


          ผมรีบเอามาเปิดดูทันทีหวังว่าจะลบรูปอัปยศที่ฟ้ามันชอบเอามาขู่บังคับผมอยู่เรื่อยๆ


          [Enter Passcode]


          ผมลองใส่รหัสตามที่คิดได้ว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับฟ้าทั้งเบอร์ห้อง เบอร์โทรศัพท์ วันเดือนปีเกิดของฟ้า


          [Wrong Passcode]


          แต่มันไม่ง่ายขนาดนั้น ผมลืมไปว่าฟ้าคงไม่โง่ขนาดยอมให้ใครดูโทรศัพท์ได้ง่ายๆ ผมลองใส่รหัสอยู่อีกหลายครั้งจนเริ่มกลัวว่าเครื่องจะล็อคตัวเองอัตโนมัติ













          “เอาวะ ลองดู 9…..9…..8….6 เห้ยยยย เข้าได้จริงๆ ด้วย” ผมดีใจกับตัวเอง รหัสนี้มายังไงอะเหรอครับ ผมว่าเรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่ผมรู้สึกว่ามันบังเอิญมาก ฟ้ากับผมเกิดวันเดียวเดือนเดียวกันจะต่างก็แค่ปีเกิดที่ห่างกันลิบลับ ก็แค่หนึ่งรอบเต็มๆ ฟ้าเกิดวันที่ 9 กันยายน 2541 ส่วนผมก็ตามนั้นแหละครับลบไปอีกสิบสองปี แต่จะใส่เป็นปี พ.ศ. ตรงๆ ก็คิดว่ามันคงง่ายไป ผมก็เลยเอาวันเดือนและปีเกิดเป็น ค.ศ. ของผมมาใส่ไงครับ


          “แสดงว่าฟ้ารู้วันเกิดเรา.....” คิดได้แบบนั้นหน้าผมก็ร้อนผ่าวขึ้นมาเสียดื้อๆ


          พอหน้าจอปรากฏสิ่งที่ผมเห็นยิ่งทำให้รูปสึกแปลกๆ ในอก ฟ้าใช้หน้าจอเป็นรูปผมถ่ายคู่กับเด็กมัธยมต้นกางเกงน้ำเงินใส่แว่นตาขอบดำหน้าเตอะดูน่ารักหน่าเอ็นดูคนหนึ่ง


          “สกาย.....นี่มันสกายนี่” ผมรีบสลัดความคิดในหัวแล้วลากมือผ่านหน้าจอเปิดอัลบัมรูปในทันที เลื่อนดูอยู่นานก็ไม่มีวี่แววของรูปผมที่ฟ้ามันโชว์ให้ดูวันนั้น จนกระทั่งสายตาไปสะดุดเข้ากับโฟลเดอร์ที่ชื่อ ‘My Life’


          เจอแล้วครับสิ่งที่ผมกำลังตามหา รูปของผมเต็มไปหมด ทั้งรูปในคืนนั้น และรูปผมในอิริยาบทต่างๆ ผมไล่ดูไปเรื่อยๆ ก็พบว่าในเครื่องของไอ้เด็กแสบนี่มีรูปผมเป็นร้อยๆ รูป ที่สำคัญในโทรศัพท์ของฟ้ามีแม้แต่รูปผมในชุดนักศึกษา และรูปสมัยผมเข้ามาทำงานใหม่ๆ อยู่ด้วย









          ท่าทางเรื่องสกายจะไม่ใช่เรื่องบังเอิญเสียแล้ว









          “พี่ริวคร้าบ โจ๊กร้อนๆ มาเสิร์ฟแล้ว” ผมรีบวางโทรศัพท์คืนที่หัวเตียงแล้วแกล้งทำเป็นหลับ แต่ท่าทางผมจะขยับตัวเร็วเกินไปหน่อยเลยปวดหัวจี๊ดขึ้นมาจนอดขมวดคิ้วไม่ได้


          ที่สำคัญผมเผลอดูรูปตัวเองเพลินจนลืมเรื่องสำคัญไปเสียได้ เกือบลบรูปได้สำเร็จแล้วเชียว


          “นอกจากโกหกไม่เนียนแล้ว แกล้งหลับก็ไม่เนียนด้วยนะครับพี่ริว ว่าแต่ทำไมมือถือผมถึงย้ายมาอยู่ที่หัวเตียงได้น้า” ผมรู้สึกได้ถึงเตียงที่ยวบยุบลง และลมหายใจอุ่นๆ ที่เข้ามาใกล้ ได้แต่หวังว่าฟ้าคงไม่สงสัยอะไรเรื่องมือถือมากไปกว่านั้น


          “แหนะๆ ยังพยายามอีก หึ หึ แบบนี้ต้องปลุกซะหน่อย” ฟ้าพูดก่อนจะก้มลงเอาใบหน้าซุกที่ซอกคอผมแล้วใช้จมูกคมไซร้ตั้งแต่ลำคอจนถึงใบหู


          “ยังไม่ตื่นอีกเหรอครับพี่ริว ว่าแต่เจอของที่ต้องการในมือถือผมไหมครับ” ผมยังหลับตานิ่งเพื่อความเนียน กัดฟันแน่นไม่ให้หลุดเสียครางออกมา


          “แน่ใจนะพี่ริวว่าจะเล่นแบบนี้” ผมรับรู้ถึงความเปียกชื้นจากลิ้นร้อนทันทีที่ฟ้าพูดจบ


          “พะ พอ ฟ้า พอก่อนไม่เล่นแล้ว มะ ไม่ หยุด ก่อน ฟ้า อื้อ”


          “ไม่ทันแล้วครับพี่ริว ก่อนที่ผมจะป้อนโจ๊กให้พี่ ผมขอกินพี่ก่อนแล้วกันจะได้มีแรง ที่สำคัญผู้ใหญ่ที่แอบดูมือถือเด็กเนี่ยต้องถูกลงโทษนะครับ”


          “ฟ้า ไอ้เด็กบ้า หยุดนะ อะ อ๊า อ๊า”


          ผมพูดได้แค่นั้นแหละครับ ต่อจากนั้นทุกสิ่งก็ลื่นไหลไปตามอารมณ์จนครบสมบูรณ์ แต่อย่างที่ทุกคนรู้ ฟ้าไม่เคยสิ้นสุดแค่ครั้งเดียว ผมเลยน่วมไปอีกตามเคย จับไข้นอนซมไปอีกหนึ่งคืนเต็ม













          ไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อว่าผมนอนจมอยู่บนเตียงของฟ้ามาเกือบสัปดาห์แล้ว สองวันถัดมาผมเริ่มสร่างไข้และอาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ฟ้าเลยชวนผมไปออกกำลังกายที่คลับเฮาส์ของคอนโด


          ผมชอบคลับเฮาส์ของที่นี่มากเลยครับ ครบถ้วนจริงๆ ทั้งสระว่ายน้ำ จากุชชี่ เวทเทรนนิ่ง ห้องสควอช แถมยังมีสนามบาสเล็กๆ อีกด้วย


          “พี่ริว!!! ผมว่าอย่าถอดเสื้อดีกว่า” ฟ้าออกปากห้ามทันทีที่ผมจะถอดเสื้อเพื่อลงแช่ในอ่างจากุชชี่


          “จะบ้าเหรอฟ้า จะให้พี่ลงทั้งแบบนี้รึไง”


          “ใช่ครับ” ฟ้ามันก็บ้าได้ใจ จะให้ผมลงน้ำทั้งๆ ที่ใส่เสื้อเนี่ยนะ


          “มึงมันบ้าแล้วไอ้ฟ้า” ผมพูดทีเล่นทีจริงก่อนจะถอดเสื้อออกโดยไม่ฟังเสียงค้านของฟ้า


          “พี่ริว!!! ผมบอกทำไมไม่ฟัง” ฟ้าเข้ามาโอบผมพร้อมผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่


          “อะไรมันจะขนาดนั้นฟ้า” ผมเริ่มรู้สึกรำคาญ นี่ผมเลยวัยต้องให้มีคนมาหวงเนื้อหวงตัวแทนตั้งไม่รู้กี่ปีแล้ว


          “พี่ดูรอบตัวก่อนเถอะ เราไม่ได้อยู่กันสองคนนะ คนเค้ามองพี่กันทั้งคลับเฮาส์แล้ว” ฟ้าก้มลงกระซิบข้างหูผม ผมว่าคนมองผมก็เพราะสิ่งที่มันทำนี่แหละ อะไรจะเวอร์ขนาดนั้น ผมไม่ใช่สาวน้อยดูแลตัวเองไม่ได้ซะหน่อย


          “ทำไม หึงเหรอ พี่ออกจะชอบให้คนมอง หึ หึ” แกล้งมันครับ อยากรู้ว่ามันจะทำยังไง


          “ไม่อะ ไม่ได้หึง” ฟ้าส่ายหัวดิกปฏิเสธ ไม่รู้ทำไมผมแอบผิดหวังกับคำตอบของฟ้า นี่ผมกำลังหวังอะไรอยู่


          “หวงพี่เหรอ” ผมยังแกล้งถามออกไปลองเชิง


          “ก็เปล่าหนิ” ฟ้าพูดหน้าตาเฉย แต่ผมนี่ใจแป้วไปแล้วครับ


          “อะ อืม” ขอบตาผมมันร้อนผ่าวชอบกล


          “ไม่ได้หึง ไม่ได้หวง แต่คนเนี่ยรักมากๆ รักจนไม่อยากให้ใครได้เห็นตัว รักจนอยากขังเก็บไว้ในห้องเอาไว้เชยชมคนเดียว” ผมสาบานได้ว่าพอฟ้าพูดจบผมแอบได้ยินเสียกรี๊ดๆ ในลำคอมาจากไม่ไกล ที่สำคัญเป็นเสียงผู้หญิง เห้ออออ ผู้หญิงสมัยนี้ สนับสนุนให้ผู้ชายรักกันซะงั้น


          “อีกอย่างนะพี่ริว ผมว่าพี่คงไม่อยากให้ใครเห็นรอยบนตัวพี่แน่ๆ” ไอ้เด็กตัวแสบพูดพร้อมกับพาผมเดินไปเข้าห้องน้ำเพื่อส่องกระจก


          “อะ ไอ้ฟ้า!!! ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย” ผมมองร่างกายตัวเองในกระจกที่เต็มไปด้วยรอยจ้ำแดง เมื่อคืนยังไม่มีรอยพวกนี้ผมมั่นใจ รอยเก่าๆ ก็ควรจะจางไปหมดแล้ว


          “เมื่อเช้าคร้าบบบ” ฟ้าตอบทะเล้น


          “ฟ้า!!! มึงนี่นะ เพลาๆ บ้างเหอะ” ผมพูดอย่างหัวเสีย


          “พี่ริว พี่ไม่เป็นผมพี่ไม่เข้าใจหรอก พี่คงไม่รู้ตัวสินะว่าพี่น่ารัก น่ากินแค่ไหน ขนาดตอนนี้ผมยังต้องใช้ความอดทนสูงมากในการไม่จับพี่กดตรงนี้” ฟ้าพูดหน้าตาเฉย พร้อมกับเดินเข้ามาโอบผมจากด้านหลัง ไอ้ตอนชมว่าน่ารักก็เขินดีอยู่หรอกครับ แต่ประโยคหลังๆ นี่มันอะไร


          “ฟ้า เอาตรงๆ นะ พี่ยังไม่เห็นว่าเรื่องของเรามันจะเป็นไปได้ พี่ไม่มีอะไรที่เหมาะกับฟ้า ที่สำคัญพี่ไม่คิดจะมีใคร พี่มีความสุขของพี่ดีแล้ว” ผมพลิกตัวกลับไปเผชิญหน้ากับฟ้าแล้วผลักอกที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามให้ออกห่างจากตัว


          “พี่ริวฟังผมนะครับ ผมก็จะพูดตรงๆ กับพี่เหมือนกัน พี่จะไม่รู้สึกกับผมเหมือนที่ผมรู้สึกกับพี่ในตอนนี้ก็ไม่เป็นไร ขอแค่พี่อย่าปิดกั้นผม แค่เปิดใจให้ผม ให้โอกาสผมจีบพี่อย่างที่มันควรจะเป็น” ฟ้านิ่งไปสักพักเหมือนครุ่นคิดอะไรบางอย่าง


          “พี่ไม่รู้หรอกว่าผมใช้เวลาคิดเรื่องพี่มานานแค่ไหน เรื่องนั้นพี่ไม่จำเป็นต้องรู้ก็ได้ แต่พี่รู้อย่างเดียวพอคือ.....ผมรักพี่” พูดจบฟ้าก็ก้มลงมาจูบผม ริมฝีปากนุ่มๆ กับสัมผัสที่อ่อนโยน ทำให้เรี่ยวแรงจะขัดขืนของผมมันอันตรธานหายไป






          เด็กบ้านี่มันได้ใจไปใหญ่แล้ว เอะอะก็จูบ เอะอะก็จูบแบบนี้







          สิ่งมีชีวิตในอกข้างซ้ายของผมก็เต้นแรงเสียจนแทบจะหลุดออกมาข้างนอก ฟ้าโอบร่างที่แทบจะไร้เรี่ยวแรงของผมให้แนบชิดเข้าไปอีก ชิดจนได้ยินเสียงหัวใจของกันและกัน






          “สถานที่ไม่โรแมนติกเอาเสียเลยไว้ผมแก้ตัวใหม่นะครับพี่ริว คราวหน้าผมจะทำให้พี่ใจอ่อนยอมรับรักผม แล้วผมจะคุกเข้าขอพี่แต่งงานตามสัญญาที่พี่เคยให้ผมไว้”









          “สัญญาอะไร ทำไมพูดเหมือนฟ้ากับพี่เคยรู้จักกันมาก่อน”













          “พี่ยังไม่ต้องรู้หรอกครับ” ฟ้ายิ้มให้ผมจนเต็มแก้ม รอยยิ้มที่ทำให้ผมใจสั่นได้เสมอ

   











          “พี่มังกร!!! ฟ้า!!!” แต่จู่ๆ ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นจนทำให้ผมหลุดออกจากภวังค์



















          “ดิน!!!/พี่ดิน!!!”     
 





          *+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX ตอนที่ 11 ฟ้า...ดิน [01/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 01-03-2017 21:07:51
ดินมาแล้วววววว

คนเขียนแอบลำเอียงหรือเปล่า? ให้ดินหายไปตั้งหลายตอน  :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX ตอนที่ 11 ฟ้า...ดิน [01/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 01-03-2017 21:12:34
สงสารพี่ดินนะ กว่าจะได้ร่วมวง
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX ตอนที่ 11 ฟ้า...ดิน [01/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Goffylovelove ที่ 02-03-2017 16:23:44
พี่ดินคนดีมาแล้ววว
คนเขียนเชียร์น้องฟ้าเป็นการส่วนตัวรึเปล่า
แอบลำเอียงนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX ตอนที่ 11 ฟ้า...ดิน [01/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 02-03-2017 17:16:33
คนผู้น่าสงสาร มาแล้ว
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX ตอนที่ 11 ฟ้า...ดิน [01/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Ryunosuke ที่ 03-03-2017 22:05:16
อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม!!!






ตอนที่ 12 ฟ้า.....ดิน.....นนท์






          “ดิน!!!/พี่ดิน!!!” ชื่อของคนที่ผมเห็นยืนตระหง่านอยู่ตรงหน้าประตูห้องน้ำหลุดออกจากปากของทั้งผมและฟ้าพร้อมๆ กัน   

 
          “ฟ้า ปะ ปล่อยพี่ก่อน” ไม่รู้ทำไมผมถึงต้องรีบลนลานดันเอาฟ้าให้ห่างออกจากตัวผม


          ทำไมผมถึงไม่อยากให้ดินเห็นภาพนี้


          “พี่ริว” ถึงจะแผ่วเบา แต่ผมกลับรู้สึกได้ถึงความผิดหวังจากน้ำเสียงของฟ้า


          “ฟ้า มะ ไม่ใช่อย่างนั้นนะ” ผมพยายามจะแก้ตัวอะไรกับฟ้า แม้แต่ตัวผมเองก็ยังไม่เข้าใจ


          ผมไม่อยากห่างจากฟ้า แต่ผมก็ไม่อยากให้ดินเห็นภาพนี้เช่นกัน


          ผมกำลังเป็นอะไรกันแน่









          “เห้ย ดิน มึงยืนทำไรอยู่หน้าห้องน้ำวะ” พวกเราสามคนได้แต่ยืนเงียบกันอยู่นานจนกระทั่งเสียงที่ผมคุ้นเคยอีกเสียงดังขึ้นไล่หลังดินมา


          “ดิน ไหนว่าเยี่ยวจะแตก.....” เจ้าของเสียงถึงกับชะงักและพูดไม่ออกเมื่อเห็นผม









          แต่คนที่ช็อกที่สุดคือผม เพราะเจ้าของเสียงคือ









          “นะ นนท์” ผมได้แต่พึมพำกับตัวเอง ในหัวผมเหมือนกำลังเกิดจลาจล ที่เค้าว่ากรรมสมัยนี้มันติดจรวดนี่ท่าทางจะจริง นี่มันกรรมระดับ 4G พลัสพลัสชัดๆ
 

          ฟ้าที่ยืนข้างผมกำหมัดแน่นจนเส้นเลือดปูดโปน แถมขบเขี้ยวเคี้ยวฟันเหมือนจะกระโจนเข้าหาผู้มาใหม่ได้ทุกเมื่อ


          “พี่นนท์ ผมบอกให้พี่ไปรอที่สนามบาสฯ ก่อนไง นี่ปวดเยี่ยวเหมือนกันอะดิ” แต่ดินกลับหันกลับไปตอบนนท์อย่างสนิทสนม




          ดินกับนนท์รู้จักกันเหรอ ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน




          “ถ้ากูไม่ตามมาจะได้เห็นช็อตเด็ดแบบนี้เหรอวะ จริงไหมครับพี่ริว น้องฟ้า” นนท์เดินมากอดคอดินแล้วส่งสายตายียวนมาให้ผมกับฟ้า






          “ดินกับนนท์รู้จักกันเหรอ” ผมตัดสินใจเอ่ยถามดินหลังจากพวกเราทั้งหมดเดินมานั่งอยู่ที่โต๊ะกลมริมสนามบาสฯ


          “พี่ริว นี่พี่นนท์ไงครับ รุ่นพี่ผมหนึ่งปีที่อยู่ถาฯ ปัตย์ไงครับ อยู่บ้านรับน้องเดียวกันกับพวกเรานะพี่  แถมเป็นนักบาสฯ มหาลัยเหมือนผมด้วย” ดินพูดเหมือนผมเองก็ควรจะรู้ว่าทำไมดินกับนนท์ถึงสนิทกัน แต่ทำไมนนท์ รุ่นน้องที่อยู่คณะสถาปัตยกรรมและอยู่บ้านรับน้องเดียวกันถึงไม่ได้อยู่ในความทรงจำของผมเลย


          “.....” นนท์เหรอ ใช่ครับผมรู้จักนนท์คนที่นั่งอยู่ตรงหน้าผมแน่นอน แต่ไม่ใช่ในฐานะรุ่นน้องของผม หรือรุ่นพี่ของดิน แต่เป็นนนท์ไบรุกร้อนแรงที่สามารถตอบสนองความต้องการของผมได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ


          “ไม่เป็นไรดิน สมัยนั้นพี่ริวเขาสนใจคนอื่นที่ไหนล่ะ สมัยนั้นพี่ริวมีแต่พี่หนาวคนเดียว ไม่เหมือนสมัยนี้ จริงไหมครับพี่ริว” นนท์ยกไม้ยกมือใส่ดินก่อนจะหันกลับมาจงใจพูดแขวะผม ผมถึงกับสะอึกที่แม้แต่หนาวคนรักเก่าของผมนนท์ก็รู้จัก


          หนาว ชื่อนี้แม้ไม่ได้อยู่ในหวงความคิดผมตลอดเวลาเหมือนเมื่อก่อนแต่ก็ยังแวะเวียนเข้ามาในหัวให้ผมคิดถึงอยู่เรื่อยๆ หนาวคนที่ทำให้ผมรู้จักมิตรภาพระหว่างรุ่นพี่รุ่นน้อง หนาวคนที่ทำให้ผมรู้ว่าผู้ชายก็รักกันได้อย่างบริสุทธิ์ แต่ก็เป็นหนาวนี่แหละที่ทำให้ผมได้เรียนรู้ว่ารักแท้มันไม่มีอยู่จริง


          “ผม ผมแทบจะไม่รู้เรื่องอะไรของพี่ริวเลย ทั้งๆ ที่ผมเข้าใจว่าผมรู้ดีที่สุดแท้ๆ” ฟ้ากำมือผมแน่นพร้อมๆ กับที่ก้มลงมากระซิบที่ข้างหู


          “ฟ้า.....” ผมหันไปมองเด็กตัวโตที่นั่งอยู่ข้างๆ สีหน้าของฟ้าดูสับสนไม่แพ้ผม ดวงตาคมฉายแววความน้อยเนื้อต่ำใจจนผมรู้สึกวูบโหวงในอก









          “พี่นนท์ ไปเล่นบาสฯ กัน มาแข่งกันรำลึกความหลังกันหน่อยดีกว่า” ดินเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบอีกครั้ง


          “มึงก็รู้ว่ามึงสู้กูไม่ได้ แพ้ประจำมาตั้งแต่สมัยเรียนแล้วนี่” นนท์พูดกับดินแต่สายตากลับจ้องมาที่ผม


          “คราวนี้มันไม่ง่ายเมื่อเมื่อก่อนแล้วพี่นนท์” ดินเองก็เช่นกัน พูดกับนนท์แต่มองตรงมาที่ผม


          “ผมจะแข่งด้วย ผมก็ไม่ยอมเหมือนกัน” ฟ้าตะโกนไล่หลังทั้งสองคนแล้วเดินตามออกไปที่สนามบาสฯ









          “โอ๊ย!!!” เริ่มได้ไม่นาน นนท์ก็เปิดเกมส์เดือดโดยการกระแทกฟ้าจนล้มลงเพื่อแย่งบอลทันที


          “ฟ้า!!! ใจเย็น” ดีที่ดินยังรั้งไว้ ฟ้าเองก็ดูจะเกรงใจดินเสียเหลือเกิน  ส่วนนนท์ก็ทำท่าทางและหน้าตายียวนล้อเลียนไอ้เด็กแสบของผมไม่ยอมหยุด


          เดี๋ยวนะ ผมกำลังเรียกฟ้าว่า เด็กแสบของผมงั้นเหรอ




          ผมต้องยอมรับว่าทั้งสามคนเป็นนักบาสฯ ที่เก่งกาจ สลับกันบุกทำแต้มอย่างไม่ยอมกัน ผมไม่คิดจะเชียร์ใครเป็นพิเศษ แต่ก็อดห่วงฟ้าไม่ได้เพราะดูบอบบางที่สุดในสามคนถึงแม้จะตัวสูงที่สุดก็ตาม


          มีหลายครั้งที่ฟ้าโดนชนจนล้มจากทั้งนนท์และดิน ที่ว่าบอบบางไม่ได้หมายความว่ามันตัวเล็กนะครับ ตัวมันสูงกว่าใครแถมมีกล้ามเนื้อที่สวยที่สุดก็จริง แต่เป็นมัดกล้ามเกิดจากการออกกำลังกายทั่วไปกับการเล่นฟิตเนสไม่ใช่กล้ามเนื้อแบบนักกีฬาตัวพ่ออย่างที่ดินหรือนนท์มี




          “พวกนี้มันเป็นหุ่นยนต์รึไงนะ ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย” เวลาผ่านล่วงเลยไปพอสมควรทั้งสามคนก็ยังไม่ยอมหยุด แต่ละคนยังแย่งกันทำแต้มราวกับว่าคนชนะได้จะได้สิ่งสำคัญไปครอบครอง


          ทั้งสามคนหงื่อโทรมกายจนเสื้อผ้าที่ใส่มาเปียกลู่จนเห็นไปถึงไหนต่อไหน ถ้าเป็นเวลาปกติผมคงนั่งชื่นชมหุ่นงามๆ ของทั้งสามอย่างเพลิดเพลิน แต่ตอนนี้ผมกำลังเริ่มรู้สึกเครียด เพราะระหว่างที่เกมส์ดำเนินไป ผมคิดว่าผมได้ยินชื่อผมออกจากปากของทั้งสามเป็นระยะๆ


          ผมเริ่มรู้สึกว่าบาสฯ เกมส์นี้มันไม่ใช่การเล่นกีฬากันทั่วๆ ไป


          ผมเริ่มรู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก


          ผมอยากให้ทั้งสามคนหยุด


          “พี่หิวแล้ว ทั้งสามคนไปกินข้าวกันไหม” ผมตะโกนเข้าไปในสนามหวังจะให้เกมส์ที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จบลง


          “ไม่/ไม่ครับ/ไม่ครับ” ผมชะงักไปกับคำตอบของทั้งสาม ดูเหมือนผมจะไม่ได้อยู่ในความสนใจของพวกเขาด้วยซ้ำ


          “นะๆ พี่ว่าพอได้แล้วจะอะไรหนักหนา ก็แค่บาสฯ ปะวะ” ผมเดินเข้าไปหาสามหนุ่มที่ยังวุ่นแย่งลูกบาสฯ กันไปกันมาไม่หยุด


          “พี่ริวไม่เข้าใจหรอก นี่มันเรื่องของผู้ชาย” เสียงใครสักคนพูดย้อนกลับมา


          เอ่อ แล้วนี่กูไม่ใช่ผู้ชายเหรอวะ


          “พวกมึงสามคนจะหยุดหรือไม่หยุด” สุดท้ายทั้งสามก็ทำให้ผมหมดความอดทนเพราะต่างก็เริ่มเสียงดังโวยวายจนเหมือนทะเลาะกันเสียมากกว่าเล่นบาสฯ


          ผมเข้าไปแทรกกลางและแย่งลูกบาสฯ มาไว้กับตัว ไม่ใช่ว่าผมเก่งอะไรแต่ทั้งสามคนอ่อนแรงมากแล้วผมถึงได้แย่งมาง่ายๆ


          แต่ทั้งสามก็ยังไม่หยุด ต่างคนต่างตะโกนจนฟังไม่ได้ศัพท์ จับได้อยู่ไม่กี่คำ แน่นอนมีชื่อผมอยู่ในนั้นด้วยแน่ ตามมาด้วย ของกู กูมาก่อน และคำที่จี๊ดที่สุด เมียกู!!!


          “มึงเล่นบาสฯ หรือมึงทะเลาะกัน จะเอาให้ตายกันไปข้างเลยใช่ไหม กูจะได้ไปเอามีดมาให้พวกมึงคนละเล่ม” ผมยืนชี้หน้าด่ากราดใส่ไอ้เด็กหล่อไม่รู้จักโตทั้งสามคนที่ยังฮึ่มฮ่ำกันอยู่ไม่ยอมเลิก ไอ้ฟ้าไม่เท่าไหร่เพราะมันยังเด็กมาก แต่ดินกับนนท์นี่ทำไมเป็นไปได้ขนาดนี้อายุอานามก็ไม่ใช่น้อยๆ กันแล้ว 


          “พี่ริวไม่ต้องยุ่ง เรื่องนี้พวกผมจัดการกันเอง” ผมไม่แน่ใจหนักว่าเสียงใครแต่คิดว่าน่าจะเป็นฟ้า


          “กัดกันอย่างกับหมูกับหมาแบบนี้เนี่ยนะ พวกมึงจะหยุดไม่หยุด!!!” ผมโวยวายแข่งกับพวกมันที่ไม่มีทีท่าจะยอมหยุด ตอนนี้จากจากเกมส์กีฬากลายมาเป็นสงครามน้ำลายเรียบร้อยแล้ว ซึ่งถ้าผมปล่อยมันเลยเถิดไปกว่านี้คงได้มีลงไม้ลงมือกันแน่









          “ถ้าพวกมึงไม่หยุด กูจะไปหาเด็กใหม่!!!” 









          “ไม่!!!/ไม่!!!/ไม่ได้!!!” ทีแบบนี้ล่ะหันมาโวยใส่ผมอย่างพร้อมเพรียง









          “พี่ริวรู้ป่าวผมเล่นชนะพี่ดินกับพี่นนท์ด้วย ขอรางวัลหน่อย” ไอ้เด็กแสบเดินเอาหัวทุยๆ ของมันมาวางบนไหล่ผม


          ไอ้ฟ้า!!! ไอ้ลูกหมายักษ์เอ้ยมันใช่เวลาไหมเนี่ย มึงช่วยดูบรรยากาศนิดนึงเหอะ ระวังจะตายเอาง่ายๆ


          “พี่จะกลับ” ผมพูดอย่างระอา แต่ละคนโตจนหมาเลียตูดไม่ถึงทำตัวกันอย่างกับเด็กแย่งของเล่น


          “ผมไปส่ง/ผมไปส่ง/ผมไม่ให้กลับ” ดินกับนนท์อาสาไปส่ง แต่ไอ้เด็กแสบขยั้นคะยอไม่ให้กลับ


          “พี่สัญญากับผมแล้วว่าจะย้ายมาอยู่กับผม” ฟ้าตั้งใจพูดให้อีกสองคนได้ยินอย่างเจตนา


          “ใครไปสัญญาด้วย” ผมรีบบอกปัด ยอมรับว่าห่วงความรู้สึกดิน


          “พี่ริว พี่ลืมแล้วรึไงว่าผมมีรูปพี่อยู่ พี่คงไม่อยากให้ทุกคนได้เห็นใช่ไหม” ฟ้าก้มลงมากระซิบ ผมรู้ตัวว่าสีหน้าผมเปลี่ยน และผมคิดว่าทั้งดินและนนท์ก็รับรู้


          “อะ เอ่อ พอดีพี่มีธุระกับฟ้านิดหน่อยเรื่องฝึกงาน” อยู่กับฟ้าต่ออีกนิดคงไม่เสียหายอะไร จะได้หาโอกาสลบรูปพวกนั้นให้เรียบร้อยเสียทีด้วย


          “พี่ริว ผมถามจริงๆ เหอะ พี่ไปโดนไอ้ฟ้ามันบังคับอะไร ถึงได้ยอมฟังมัน รอบที่แล้วก็ทีนึงแล้ว” นนท์โพล่งขึ้นมาอย่างไม่ยอม


          “ฟ้านี่มึงไม่ได้ทำอะไรให้พี่มังกรเดือดร้อนใช่มั้ย” ดินเองก็ออกอาการสงสัย แถมเดินเข้ามาหาฟ้าอย่างเอาเรื่อง


          “ทั้งสองคนกลับไปก่อนเถอะนะ” ผมพูดพร้อมเดินเข้าไปขวางระหว่างดินกับฟ้า


          “ผมต้องคุยกับฟ้าให้รู้เรื่อง ผมไม่ยอมให้มันทำให้พี่เดือดร้อนแบบนี้” ดินเอือมมือหมายจะกระชากคอเสื้อของฟ้า


          “นะครับดิน ถือว่าพี่ขอร้อง” ผมที่เห็นท่าไม่ดีจึงงัดไม้ตายที่คิดว่ายังไงดินก็ต้องยอมหยุด ผมรู้ว่าดินยอมฟังผมเสมอ


          “พี่มังกร...” ทั้งเสียงและสีหน้าของดินสลดลงในทันที


          “นนท์ด้วยนะ ถือว่าเห็นแก่หน้าพี่ นะครับ”


          ไม่น่าเชื่อว่าพอเล่นไม่นี้ทั้งดินและนนท์ก็ต่างยอมเบาลง ดินเองก็ช่วยปรามนนท์ด้วยอีกแรงจนสถานการณ์คลี่คลาย





 



          วันนี้ทั้งวันแทนที่ผมจะได้พักผ่อนกลับต้องมาวุ่นวายกับไอ้เด็กไม่รู้จักโตสามคน ดินกับนนท์ตามขึ้นมาอยู่ด้วยที่ห้องฟ้าจนมืดค่ำ


          ผมเอนตัวอยู่บนโซฟาหน้า LED TV ตัวหรู เพลียเกินกว่าจะสนใจว่าเด็กโข่งทั้งสามคนมันคุยอะไรกัน 


          ไม่รู้ผมเผลอหลับไปตอนไหน แต่มารู้สึกตัวอีกทีก็เพราะอ้อมกอดอุ่นๆ และคำกระซิบแผ่วเบาที่ข้างหู









          “ฝันดีนะครับ คนดีของฟ้า”









          ท่าทางศึกวันนี้เด็กแสบของผมจะชนะสินะ






          *+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*

          คนเขียนไม่เคยลำเอียงเลย จริงจริ๊งงงง

          *+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผมXXX ตอนที่12 ฟ้า.ดิน.นนท์ [03/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: แฟนตาเซีย ที่ 03-03-2017 22:55:32
 :pig4:
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผมXXX ตอนที่12 ฟ้า.ดิน.นนท์ [03/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: เจเจจัง ที่ 04-03-2017 00:09:50
ตอนนี้เริ่มอยากได้ 4p เราโลภไปไหม ก็แหมผู้แต่ละคนหล่อแซ่บ แถมดูท่ารักริวมานาน รักมั่นคงทั้งนั้น เราเลยเสียดายอ่ะ
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผมXXX ตอนที่12 ฟ้า.ดิน.นนท์ [03/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Bunny_tj ที่ 04-03-2017 11:43:38
น่าสนนะคะอิอิ
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผมXXX ตอนที่12 ฟ้า.ดิน.นนท์ [03/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 04-03-2017 13:28:31
เกิดการแข่งขัน ..
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผมXXX ตอนที่12 ฟ้า.ดิน.นนท์ [03/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 04-03-2017 14:24:07
จะสามหรือสี่คนก็แล้วแต่ฟ้าแล้วปะ เพราะตอนนี้ฟ้าถือไพ่เหนือกว่าแบบชัดเจนเลย.  :laugh:
พี่ริว จะไหวไหมคะ อาวุโสโอเค?
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผมXXX ตอนที่12 ฟ้า.ดิน.นนท์ [03/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Ryunosuke ที่ 06-03-2017 09:29:57
อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม!!!






ตอนที่ 13 ไม่จบไม่สิ้น






          ผมเป็นคนที่มีเซ็กซ์กับใครได้ไม่เกินสามครั้ง เพราะหลังจากนั้นผมจะเริ่มรู้สึกเบื่อ แม้แต่กับนนท์ที่มีความสัมพันธ์กับผมมาหลายปี ผมก็เลือกที่จะมีอะไรกับนนท์เพียงเพื่อรักษาสถานะคู่นอนไว้จะได้เรียกใช้ได้สะดวกยามต้องการ


          แต่ทุกอย่างมีข้อยกเว้นของมัน ผมอยู่กับฟ้ามาหนึ่งสัปดาห์เต็ม มีอะไรกันทุกวันวันละมากกว่าสามเวลา เรียกได้ว่ายิ่งกว่าข้าวสามมื้อ น่าแปลกที่ผมไม่มีทีท่าว่าจะเริ่มเบื่อสัมผัสจากไอ้เด็กแสบตัวยักษ์ของผมเลยแม้แต่น้อย


          แม้แต่ตอนนี้ที่ผมเลือกที่จะมานั่งกินข้าวเช้าที่โรงอาหารประจำโรงงานแทนที่จะให้เลขาเตรียมให้บนห้องทำงาน ภาพใบหน้าหล่อเหลาและร่างกายกำยำน่าหลงไหลของเด็กฟ้าก็ยังมาวนเวียนจนผมรู้สึกเสียวท้องน้อยแปลกๆ


          ผมชอบที่จะมานั่งเปลี่ยนบรรยากาศที่นี่เสมอ มีนทำให้ผมได้เรียนรู้พฤติกรรมของพนักงาน แถมยังได้ข้อมูลดีๆ และทรรศนคติที่พนักงานมีต่อการบริหารงานของบริษัทอีกด้วย


          “นี่นาย นาย” ผมหันไปตามเสียงเรียกที่ดังขึ้นระหว่างที่ผมกำลังติดอะไรเพลินๆ พลางใช้นิ้วชี้เข้าหาตัวเพื่อยืนยันว่าเจ้าของเสียงเรียกผม


          “เออ นายนั่นแหละ ขอนั่งด้วยคนดิ” ถึงจะถามแบบนั้นแต่เจ้าของเสียงไม่ได้รอคำตอบ ถือวิสาสะวางจานข้าวแล้วนั่งลงตรงหน้าผมในทันที


          “เหม่อถึงแฟนเหรอ หน้าเคลิ้มมากนะ” ผมพินิจพิจารณาคนตรงหน้าที่ไม่ยอมสนใจจานข้าวที่เจ้าตัวเพิ่งเอามาวางแม้แต่น้อย แต่เจ้าตัวกลับนั่งจ้องหน้าผมตาไม่กระพริบ


          เด็กหนุ่มในเสื้อช็อปช่าง คงเพิ่งเข้ามาเริ่มงานเพราะผมไม่เคยเห็นหน้า หุ่นผอมบางแบบเด็กวัยรุ่นแต่ก็สมส่วนอย่างคนออกกำลังกาย รอยสักกราฟฟิกไล่ตั้งแต่ลำคอด้านซ้ายลามเข้าไปในคอเสื้อไม่รู้ว่าสักยาวไปถึงไหนต่อไหน คาดว่าถ้าถอดเสื้อช็อปออกหมดคงเซ็กซี่ไม่ใช่เล่น แถมระเบิดหูไว้รูเบ่อเร่อ


          ที่สำคัญที่สุดคือคนตรงหน้าผมเด็กมากและหล่อมาก


          “แฟนที่ไหน ไม่มี” ผมแกล้งเล่นกับเด็กไม่รู้ที่ต่ำที่สูง


          “อย่ามาโม้ น่ารักขนาดนี้เนี่ยนะ” กล้าพูดกับคนที่เพิ่งรู้จักด้วยแบบนี้ ไอ้เด็กนี่ท่าจะไม่ธรรมดาซะแล้ว


          “ไม่ได้โม้ เพื่อนเล่นเหรอ”


          “น่ารัก แถมดุ นี่แหละอนาคตแม่ของลูก” มันแรงได้ใจจริงๆ


          “แล้วเป็นเกย์รึไงคุณ” ผมยังลองเชิงต่อไป


          “ก็เปล่านะ แค่ชอบคนน่ารัก เจอคนน่ารักก็บอกน่ารัก จะได้ไม่เสียโอกาส ว่าแต่นายชื่อไรอะ ทำงานไรที่นี่” เด็กช่างปากกล้าตรงหน้าว่าต่อ


          “ชื่อมังกร เป็นผู้บริหารที่นี่” ผมตอบเรียบๆ


          “อย่ามาโม้ หน้าอ่อนแบบนี้เนี่ยนะผู้บริหาร เป็นแฟนช่างน่าจะเหมาะกว่า” ไอ้นี่เริ่มลามปามครับ มือไม้มันก็เริ่มอยู่ไม่สุขละ


          “ผมเอาคุณออกได้ทันทีเดี๋ยวนี้เลยนะ” ผมเริ่มหน้าตึงและกระชากมือกลับจากการเกาะกุม ถึงจะหล่อแต่นี่มันที่โรงงาน


          “กลัวละคร้าบบบบ กลัวจะแย่แล้ว” ไอ้เด็กช่างตรงหน้าพูดไป ก็ทำท่ากลัวไป กวนตีนเป็นที่สุด






          “ท่านครับ ใกล้ถึงเวลานัดประชุมแล้ว ท่านจะให้เตรียมอะไรบ้างครับ” ระหว่างไอ้ที่เด็กช่างยังหัวเราะท้องขดท้องแข็ง พนักงานฝ่ายไอทีก็เข้ามาคุยกับผมเพื่อเตรียมความพร้อมของงานประชุมใหญ่ของฝ่ายวิศวกรรมและฝ่ายวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์


          “หะ เห้ย จริงดิ” ผมยิ้มอย่างพอใจตอนได้ยินเสียงไอ้เด็กช่างที่ช็อกจนหน้าเหวอ


          “หะ เห้ย ก็จริงนะสิ คุณรีบกินข้าวให้เสร็จแล้วไปทำงานซะ ผมไปล่ะ”


          “ขอโทษนะครับ กระ กระผมไม่ได้ตั้งใจจะ.....” สรรพนามเปลี่ยนไปเชียวไอ้เด็กช่าง


          “อืม ไม่เป็นไร ยังไงก็ตั้งใจทำงานนะคุณช่าง แล้วไว้เจอกัน”


          “ครับท่านผู้บริหารผู้น่ารัก” ไอ้เด็กช่างยังไม่วายหยอดจนหยดสุดท้าย


          นี่ถ้าผมไม่มีฟ้าผมคงจะหาอะไรเล่นสนุกๆ กับเจ้านี่เสียหน่อย


          ว่าแต่ทำไมผมต้องคิดถึงไอ้ฟ้าด้วยนะ ท่าจะบ้าไปแล้วไอ้ริวเอ้ย






          วันนี้เป็นวันแรกที่ผมกลับมาทำงานหลังจากหายจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์อันตรายจากเอธิโอเปีย ตามที่ฟ้าแจ้งไว้กับส้มเลขาของผม ซึ่งประจวบเหมาะกับวันที่ส้มช่วยเลื่อนนัดประชุมฝ่ายวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์และฝ่ายวิศวกรรมพอดิบพอดี


          “ผมปล่อยให้คลาดสายตาหน่อยไม่ได้เลยนะพี่ริว” ฟ้าพูดกับผมขณะที่กำลังจะเดินเข้าห้องประชุม


          “อะไร” ผมงง


          “อย่ามาเอียงคอทำหน้าตาน่ารักใส่ผมแบบนี้นะพี่ คิดว่าผมจะใจอ่อนรึไง” ฟ้าเบี่ยงหน้าหนีสายตาผม ใบหน้าหล่อขึ้นสีเลือดฝาด


          ทำไมเดี๋ยวนี้ผมถึงดูว่าฟ้ามันน่ารักขึ้นทุกวันนะ


          “ฟ้าพูดเรื่องอะไรล่ะ พี่ไปทำอะไรให้”


          “พี่ไปทำอะไรไว้เมื่อเช้าที่โรงอาหาร”


          “อ๋อ ไอ้เด็กช่างปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมนั่นอะเหรอ” ผมพูดไปยิ้มไป นึกถึงหน้าเหวอๆ ของมันแล้วยังสะใจไม่หาย


          “พี่รู้ไหมไอ้เอสมันเพิ่งสิบหก พี่ทำให้มันเพ้อไม่หยุด มันบอกมันจะต้องตั้งใจทำงานให้ผู้บริหารผู้น่ารัก” ฟ้าพูดหน้าเครียด ไอ้เด็กช่างนั่นชื่อเอสนี่เอง แถมอายุสิบหกกำลังกรุบกรอบ น่าสนใจจริงๆ 


          “ก็ดีแล้วนี่เด็กมันตั้งใจทำงาน พี่ไม่เห็นว่าจะผิดตรงไหนนะครับน้องฟ้า” ผมลอยหน้าลอยตาพูดใส่เด็กหล่อตรงหน้า


          “ผิดตรงที่พี่เป็นคนของผม แล้วไปเที่ยวหว่านเสน่ห์ให้คนอื่นนี่แหละ” ฟ้าพูดจบก็จงใจเข้าประชิดตัวผมแล้วฉกจมูกคมเข้าที่แก้มผมทันที


          “ฟ้า นี่มันทีทำงานนะ เกรงใจกันบ้าง” ทำเสียงเข้มไปงั้นแหละครับ ไม่รู้ทำไมผมถึงไม่ได้รู้สึกโกรธกับสิ่งที่ฟ้าทำเลย กลับกันผมกับรู้สึกหัวใจพองโตอย่างประหลาด


          “ผมหึงนะ”


          หึงเหรอ ใช่แล้วหึงหวงกัน ความรู้สึกนี่แหละที่ทำให้หัวใจผมพองโต ความรู้สึกที่ผมแทบไม่เคยรู้สึกมาตั้งแต่เลิกกับหนาว ไม่อยากเชื่อเลยว่าผมจะได้รับความรู้สึกนี้จากใครอีกครั้ง













          หลังจากให้นโยบายการบริหารงานใหม่เสร็จผมก็ปล่อยให้การประชุมเป็นไปตามวาระของมัน ผมจะท้วงติง และปรับรูปแบบโครงการที่นำมาเสนออยู่เป็นระยะๆ สไตล์ผมคือไม่ลงไปกำกับเสียทุกเรื่อง แต่คอยยืนอยู่ข้างๆ ทำงานไปด้วยกัน เน้นให้คิดและแสดงฝีมือ โดยมีผมคอยสนับสนุนและเชื่อมโยงบุคลากรระดับปฏิบัติงานกับผู้บริหารระดับสูงเข้าด้วยกัน


          “ดิน ผมอยากให้ช่วยดูแลโครงการสร้างโรงงานใหม่ของบริษัทนะ ท่าน CEO เน้นย้ำมาว่าต้องเป็นโรงงานระดับโลกที่ใช้เครื่องจักรทันสมัยที่สุด เอาฟ้าเป็นผู้ช่วยและให้ถือเป็นโปรเจคฝึกงานไปเลย ส่วนทีมงานที่เหลือรบกวนดินช่วยพิจารณาจากฝ่ายวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์กับฝ่ายผลิตมาอีกฝ่ายละสองคน เซ็ตทีมได้แล้วมาแจ้งผม แล้วผมจะนัดบรีฟอีกครั้ง” ผมหยิบยื่นโครงการใหญ่ให้กับดินตามที่ท่านเมฆินทร์ได้ฝากฝัง ผมหวังว่าจะทำให้ดินได้เรียนรู้และก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้นได้อย่างภาคภูมิ และใช้โอกาสนี้สอนงานให้กับฟ้าในคราวเดียว


          มีเสียงฮือฮาเกิดขึ้นในห้องประชุมพอสมควรกับการตัดสินใจของผม คงข้องใจว่าทำไมผมถึงมอบโครงการนี้ให้กับเด็กที่ยังมีประสบการณ์ไม่มากอย่างดิน ที่สำคัญคนในบริษัทนี้ส่วนใหญ่ก็ยังไม่รู้ว่าฟ้าเป็นใคร


          “ครับพี่มังกร ผมจะไม่ทำให้พี่ผิดหวัง พี่เชื่อใจผมได้ครับ” ดินรับคำอย่างหนักแน่น แววตาที่หนักแน่นส่งมาหาผมอย่างมุ่งมั่น ผมอาจจะคิดมากไปเอง แต่คำมั่นของดินดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องงานอย่างเดียวแต่พยายามสื่อถึงเรื่องอื่นด้วยเช่นกัน


          “โอเค สุดท้ายนี้ผมมีอะไรจะพูดกับพวกคุณทุกคน ผมอยากขอความร่วมมือจากทุกคน ผมเองอายุยังน้อยแต่ได้รับโอกาสที่ดีมากในชีวิต ผมได้รับความเชื่อใจทั้งจากท่านเมฆินทร์ CEO ของบริษัท และคุณวีรพงศ์ ผู้บริหารสูงสุดของฝ่ายวิศวกรรมที่กำลังจะเกษียณจากตำแหน่ง ให้ผมก้าวมาอยู่ในตำแหน่งนี้ ผมขอพูดไว้ตรงนี้กับทุกคน ว่าผมไม่ได้เก่งกว่าใคร มีหลายคนในที่นี้ที่ทั้งเก่งกว่าผมและมีประสบการณ์มากกว่าผม ผมอยากให้การทำงานของเราต่อจากนี้เป็นไปอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัย เรียนรู้ซึ่งกันและกัน มีอะไรที่ผมผิดพลาดขอให้ช่วยแนะนำ อะไรที่ดีก็ขอให้ช่วยสนับสนุน แล้วพวกเราทุกคนจะนำพาบริษัทก้าวสู่ยุคใหม่ที่เจริญรุ่งเรื่องและยั่งยืนร่วมกัน ผมขอขอบคุณทุกท่านที่สละเวลามาร่วมประชุมในวันนี้ ผมขอปิดประชุมเพียงเท่านี้ครับ”


          ทันทีที่ผมพูดจบเสียงปรบมือก็ดังขึ้นจากทั่วทั้งห้องประชุมใหญ่


          ผมได้แต่คิดในใจว่าขอให้ทุกอย่างราบรื่นไปด้วยดี ถึงแม้จะรู้ดีกว่าจะมีอุปสรรคมากมายรอผมอยู่ในภายภาคหน้าก็ตาม






          “พี่ริวของผมเก่งที่สุดในโลก” ฟ้าเดินเข้ามาออดอ้อนคลอเคลียผมหลังจากที่ทุกคนออกจากห้องประชุมจนหมด


          ไอ้ลูกหมายักษ์ตัวนี้มันอ้อนเก่งขึ้นกว่าช่วงแรกๆ มาก


          “ยะ อย่า ฟ้า เดี๋ยวมีคนมาเห็น” ผมเบี่ยงตัวหลบฟ้าที่ยื่นหน้าเข้ามาหวังจะหอมแก้มผม


          “ไม่มีใครเห็นหรอกครับผมดูต้นทางแล้ว” ฟ้ายิ้มจนเต็มแก้ม ยิ้มแบบที่ทำให้ผมใจสั่นเสมอ


          “วันนี้ฟ้ากลับห้องไปก่อนนะ พอดีพี่มีกินข้าวกับลูกค้าสำคัญต่อเย็นนี้”


          “ผมไปด้วยไม่ได้เหรอ” ฟ้าทำหน้าเป็นหมาหงอยทันที


          “ไม่ได้หรอก มีแต่คนของบริษัททั้งนั้น”


          “เหรอครับ งั้นผมจะรอที่ห้องนะครับ” เดี๋ยวนี้พูดง่ายขึ้นเยอะ


          “อืม.....อื้ม” มือใหญ่ช้อนใบหน้าของผมไปรับจูบหลังจากผมตอบรับในลำคอ ฟ้าทำหน้าพึงพอใจก่อนจะเดินอย่างอารมณ์ดีออกจากห้องประชุมไป


          ความจริงผมตอบไปอย่างนั้นแหละครับวันนี้หลังจากกินข้าวกับลูกค้าเสร็จผมว่าจะกลับบ้าน อยากกลับไปหาแม่เสียหน่อย ถ้าบอกความจริงฟ้ามันไม่ยอมให้ผมกลับแน่


          เวลาผมมีเรื่องวุ่นวายใจก็มีแม่นี่แหละครับที่ช่วยผมได้เสมอ ในหัวผมมีเรื่องราวมากมายยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเริ่มเล่าให้แม่ฟังอย่างไร แต่อย่างน้อยการได้นอนกอดแม่เท่านี้ก็เพียงพอจะทำให้ผมมีแรงสู้กับทุกๆ เรื่องแล้ว


          แค่คิดถึงแม่ก็เหมือนจะทำให้ผมยิ้มได้แล้ว






          ‘แกร๊ก’ แต่หลังจากที่ฟ้าเดินออกไปไม่นานกลับมีเรื่องที่ผมขาดไม่ถึงเกิดขึ้น เมื่อประตูห้องควบคุมเครื่องเสียงที่อยู่ภายในห้องประชุมเปิดออก และเผยให้เห็นร่างสูงของเด็กที่ผมคุ้นเคยอีกคน






          “ดิน.....มาตั้งแต่เมื่อไหร่ พี่คิดว่าออกไปเตรียมตัวไปกินข้าวกับลูกค้าแล้ว”









          “นาน.....พอที่จะเห็นและได้ยินทุกอย่างครับ”






          *+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผมXXX ตอนที่13 ไม่จบไม่สิ้น [03/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: เจเจจัง ที่ 06-03-2017 10:05:17
มาแค่นี้เหรอ มาต่ออีกป่ะ

ไรท์เลิกหาผู้แซ่บ ๆ มาให้เราหวั่นไหวและนอกใจฟ้ากะดินได้แล้วนะ นนท์ก็คนนึงละ นี่มีเอสมาอีก ทำงี้กะเราได้งัย
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผมXXX ตอนที่13 ไม่จบไม่สิ้น [06/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Goffylovelove ที่ 06-03-2017 18:37:29
พี่ริวววว หยุดก่อนดีม้ายยย นี่สามคนแล้วนะ ไหนจะพี่หนาวปั๋วเก่าที่ไม่รู้จะกลับมามีบทบาทเมื่อไหร่อีก
ผู้เรื่องนี้มัแต่แซ่บๆ มีลางว่าเอสอาจจะมีบทบาทสำมะคัญ
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผมXXX ตอนที่13 ไม่จบไม่สิ้น [06/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 06-03-2017 19:22:50
มีความหมั่นไส้ฟ้าอย่างแรง สงสารดิน 
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผมXXX ตอนที่13 ไม่จบไม่สิ้น [06/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 06-03-2017 19:46:48
แค่ฟ้าคนเดียว ริวก็บอบช้ำ ถึงขั้นเป็นไข้หวัดเอธิโอเปีย
เอส ทำท่าติดบ่วงเสน่ห์ผู้บริหารที่น่ารักอีกคนและ
ฟ้า สกาย เวหา ที่หลงรักพี่ริวตั้งแต่มัธยม
แล้วริว มีทีท่าใจสั่น ไหวหวั่นกับฟ้า ไม่เบื่อ ไม่โกรธ
ฟ้าจะได้เปรียบคนอื่นหรือเปล่า
กับดิน ริวก็ซาบซึ้งความดี
นนท์ ริวก็เก็บไว้เป็นตัวสำรอง
แล้วรักแรกหนาว จะลมรักหวนย้อนมาหาริว มั้ยเนี่ย
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผมXXX ตอนที่13 ไม่จบไม่สิ้น [06/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 06-03-2017 19:47:11
ไม่ยอมกันเลย ..
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผมXXX ตอนที่13 ไม่จบไม่สิ้น [06/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 06-03-2017 19:47:53
 :impress2:  แหม สงสัยคืนนี้จะได้นอนซบดินเสียแล้ว
เมื่อคืนก้อนอนใต้ผืนฟ้า อิจแรงมาก ไหนจะมีเด็กๆกรุบกริบแวะเวียนมายั่วอีก
555555 บริหารให้ดีนะพี่ริว กลัวพาดหัวข่าว
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผมXXX ตอนที่13 ไม่จบไม่สิ้น [06/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Ryunosuke ที่ 11-03-2017 01:57:42
อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม!!!






ตอนที่ 14 ตัดสินใจ...






          ‘นาน.....พอที่จะเห็นและได้ยินทุกอย่างครับ’


          เสียงของดินยังดังก้องอยู่ในหัวผมไปมา ผมตกอยู่ในสถานการณ์นี้มาเกือบชั่วโมงแล้วหลังจากดินเปิดประตูเข้ามาและอาสาที่จะขับรถให้ผม


          ดินไม่พูดไม่ถามอะไรในขณะที่เราอยู่ด้วยกันเพียงสองคนบนรถยุโรปคันหรู นั่นทำให้บรรยากาศหนักอึ้งจนผมอึดอัด


          ผมไม่เข้าใจความรู้สึกตัวเองเอาเสียเลย ผมกำลังรู้สึกเหมือนถูกแฟนจับได้ว่านอกใจ


          ผมกำลังรู้สึกผิดต่อดินจนแทบจะไม่กล้าเงยหน้าสู้สายตาที่คอยชำเลืองมองผมผ่านกระจกมองหลัง


          “...........ทำไมถึงเป็นฟ้าล่ะครับพี่มังกร” เสียงทุ้มของดินเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบที่แสนอึดอัด แต่ทว่าคำพูดที่ดินเอ่ยกลับยื่งทำให้บรรยากาศยิ่งหนักอึ้งขึ้นไปอีก


          “อะ อะไรนะดิน”


          “ทำไมพี่ถึงเลือกฟ้า.....” เสียงของดินจริงจังอย่างที่ผมเองก็ตกใจ


          “ดินพูดอะไร พี่ไม่เข้าใจ พี่กับฟ้าเราไม่ได้.....”


          “พี่มังกรกำลังหลงรักฟ้าครับ ถ้าเกิดพี่ยังไม่รู้ตัว”


          “ไม่ ไม่ใช่นะดิน ดินก็รู้คนอย่างพี่มันเลิกรักใครไปนานแล้วตั้งแต่.....” รู้สิ ทำไมผมจะไม่รู้ตัวว่าเผลอไผลปล่อยความรู้สึกให้กับฟ้าไปอย่างไร แต่ผมเองก็ไม่อยากยอมรับมัน ผมยังคิดว่าผมสามารควบคุมความรู้สึกตัวเองได้


          “ตั้งแต่เรื่องพี่หนาวเหรอครับ งั้นผมขอพูดในฐานะคนที่เฝ้ามองพี่อยู่ตลอดเวลานะครับ พี่มังกรรู้มั้ยครับ ว่าผมเคยคิดว่าผมนี่แหละคือคนที่จะยืนแทนที่พี่หนาว และผมนี่แหละคือคนที่จะทำให้พี่มีรอยยิ้มเหมือนสมัยที่พี่ยังมีพี่หนาวอยู่” บทจะพูดดินก็เล่นพูดเสียยาว


          “ดิน.....” ผมพูดอะไรไม่ออกรู้สึกโหว่งๆ ในอกแปลกๆ


          “แต่พี่มังกรรู้อะไรไหมครับ พี่มีรอยยิ้มแบบนั้นตอนที่อยู่กับฟ้าและผมเห็นมันมาเต็มๆ สองตา ผมไม่ดีตรงไหนเหรอครับ มีอะไรที่ผมขาดตกบกพร่อง พี่มังกรช่วยบอก ผะ ผม...ที.....นะครับ” เสียงทุ้มแน่นของดินค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นสั่นเครือในตอนท้าย


          “ดิน.....ดินดีทุกอย่าง แค่พี่ไม่เหมาะกับดิน ดินอยู่กับพี่ก็มีแต่จะเสียใจ” ผมขยับตัวเลื่อนไปด้านหลังที่นั่งคนขับเพื่อหลบให้พ้นสายตาของดิน ยกมือขึ้นกอดตัวเองเพื่อระงับอาการสั่นไหวในอก


          ผม ไอ้ริวคนนี้กำลังหวั่นไหว ฟ้าก็คนหนึ่งแล้ว นี่จะยังมาเป็นแบบนี้กับดินอีก ริวคนเสเพลที่ไม่เคยสนใจใครมันหายไปไหนกันนะ


          เด็กสองคนนี้กำลังทำให้ผมสูญเสียความเป็นตัวเอง ผมต้องจัดการให้เด็ดขาด


          “ผมไม่เคยกลัว.....ที่จะเสียใจเพราะพี่ เพื่อ.....เพื่อพี่ผมให้ได้ทุกอย่าง.....พี่ก็รู้” ผมรู้สึกได้ว่าดินกำลังร้องไห้เพราะน้ำเสียที่ขาดเป็นห้วงๆ รุ่นน้องตัวสูงเหมือนนั่งนิ่งๆ แต่ก็ปล่อยให้น้ำตาทำหน้าที่ของมันโดยไม่ได้ยกมือขึ้นเช็ดแต่อย่างใด


          “ดิน.....”


          “ให้ผมเป็นอะไรก็ได้ เป็นสิ่งของ เป็นสัตว์เลี้ยง เป็นทาส หรือพี่จะให้ผมไปตายให้พ้นๆ สายตาตอนนี้ผมยังทำเพื่อพี่ได้.....อึก” ดินร้องไห้หนักขึ้นจนได้ยินเสียงสะอื้น






          “งั้นก็ไป.....ซะ.....” ผมรู้ว่ามันรุนแรงเกินจะรับ แต่ความรู้สึกในตอนนี้คือผมไม่อยากให้ดินเสียใจไปกว่านี้ ดินควรจะเลิกรักผม ยิ่งเปลี่ยนเป็นเกลียดไปเลยได้ยิ่งดี


          ผมกลืนก้อนแข็งๆ ลงคออย่างลำบาก ไม่รู้ทำไมคราวนี้ผมถึงได้เจ็บแปลบในอก ทั้งๆ ที่ผ่านมาผมก็ใช้คำพูดทำร้ายความรู้สึกดินมาตลอด


          “ทำไมไม่เป็นผมล่ะครับ ในวันที่พี่ยอมกลับมาเปิดรับใคร ทำไมคนคนนั้นถึงกลายเป็นฟ้า” ดินตอบผมทันควัน






          “ก็ถ้ารู้แบบนี้แล้วก็เลิกยุ่งกับพี่สักทีสิ จะให้พูดรึไงว่าดินไม่เคยอยู่ในสายตาพี่ หรือถ้าไม่งั้นก็ยอมรับสถานะที่ด้อยกว่าฟ้าซะ ทำได้มั้ยล่ะ” ผมเลวผมรู้ตัว แต่คงต้องอาศัยจังหวะนี้ทำให้ดินเกลียดผมอย่างถึงที่สุด






          “พะ.....พี่มังกรหมายความว่าอะไรครับ”






          “ก็หมายความว่า ถ้าดินอยากเป็นคนของพี่ ดินต้องยอมให้พี่มีฟ้าด้วยไงล่ะ” เกลียดสิ เกลียดกันให้มากๆ เลยยิ่งดี ผมมั่นใจว่าคนรักเดียวใจเดียวแบบดินต้องเกลียดข้อเสนอที่ผมกำลังยัดเยียดให้อย่างแน่นอน
 


















          “พี่.....พี่มังกร.....ถ้าต่อจากนี้ผมจะได้มีพี่ ผมยอมได้ทุกอย่าง” ดินตอบนิ่งๆ แผ่วเบาและผมกลับได้ยินทุกคำอย่างชัดเจน







หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผมXXX ตอนที่14 ตัดสินใจ... [11/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Ryunosuke ที่ 11-03-2017 02:03:17






          ไม่นานดินก็ขับรถพาเราสองคนมาถึงร้านหรูที่จองไว้รับแขกสำคัญของบริษัท


          “เชิญครับ.....พี่มังกร คนสำคัญของผม” ดินจัดแจงจอดรถแล้วเดินอ้อมมาเปิดประตูให้กับผม


          “ดิน.....แน่ใจแล้วเหรอ” ผมยังไม่หายตกใจกับสิ่งที่ดินตอบรับ ทุกอย่างมันผิดพลาดไปหมด หรือผมกำลังประเมินความรักที่ดินมีให้ผมต่ำเกินไป






          “แต่ผมไม่คิดว่าฟ้าจะยอมหรอกนะครับ.....” ดินพูดก่อนจะเอื้อมมือมาจับมือผมแล้วเดินนำเข้าร้านอาหารไป


 
 


          คำพูดและการตัดสินใจของดินทำให้อาหารชุดสุดหรูตรงหน้าไม่ถูกปากผมสักเท่าไหร่ ผมได้แต่ปั้นหน้ายิ้มแย้มรับแขกและเจรจาเพื่อไม่ให้เสียลูกค้าคนสำคัญ อีกอย่างท่านเมฆินทร์เองก็นั่งอยู่ข้างๆ ด้วย


          ลูกค้าสำคัญในคราวนี้เป็นตระกูลเจ้าของธุรกิจส่งออกรายใหญ่อันดับต้นๆ ของประเทศอย่างตระกูลทรัพย์ดำรง


          ผมรู้สึกคุ้นกับนามสกุลนี้มาก แต่นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออกเสียทีว่าเคยเห็นเคยได้ยินมาจากที่ไหน


          ข้อมูลที่ผมได้รับจากส้มเลขาฯ ของผม มีเพียงแค่ทางตระกูลทรัพย์ดำรงอยากจะนำทายาทคนใหม่มาทำความรู้จักเพื่อประโยชน์ในการดำเนินธุรกิจร่วมกันในอนาคต


          แต่เท่าที่กวาดสายตามองในตอนนี้ก็ยังไม่เห็นตัวทายาทที่ว่าเพราะที่นั่งเรียงกันอยู่ก็ล้วนแล้วแต่หน้าตาคุ้นเคยและมีอายุกันแล้วทั้งนั้น






          “ขอโทษครับที่มาสาย ผมเร่งแล้วจริงๆ แต่ติดลูกค้าใหญ่จากอเมริกาทำให้ล่าช้าครับ” เสียงที่ผมคุ้นเคยดังขึ้นจากด้านหลังจนผมสะดุ้ง ในใจได้แต่คิดว่าต้องไม่ใช่ ไม่ใช่ นะ.....


          “ลูกเอ็ม นั่งลงสิลูก ยืนค้ำหัวคุณมังกรเขาอยู่ได้ อย่าเสียมารยาท” เสียงของคุณหญิงตระกูลทรัพย์ดำรง เอ็ดเบาๆ ใส่ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเธอ


          “ไม่เป็นไรหรอกครับแม่ มากกว่านี้ผมก็ทำมาแล้ว” นนท์ยิ้มมุมปากก็จะหย่อนตัวลงที่เก้าอี้ข้างคุณหญิงแม่


          “ซวยแล้ว.....” ผมได้แต่พึมพำกับตัวเอง นี่มันเรื่องอะไรกันนะ ทำไมคนที่ผมมีสัมพันธ์ด้วยมันดันเป็นคนที่มีผลในชีวิตของผมกันหมด


          ว่าแต่ ‘เอ็ม’ งั้นเหรอ นี่มัน ‘นนท์’ ชัดๆ


          “ไม่เป็นไรนะครับพี่มังกร ผมอยู่นี่” มือใหญ่ของดินคว้าหมับเข้าที่มือที่กำลังเงอะๆ งะๆ ทำอะไรไม่ถูกของผม


          “ท่านเมฆินทร์ คุณมังกร ดิฉันขออนุญาตแนะนำตัวลูกชายของดิฉัน ซึ่งจะก้าวขึ้นมารับตำแหน่งผู้บริหารคนใหม่ในอนาคต น้องชื่อ ธนนท์ ทรัพย์ดำรง หรือจะเรียกสั้นๆ ว่า ‘เอ็ม’ ก็ได้นะคะ น้องเอ็มแกเรียนจบด้านการตลาดจากอเมริกาได้หลายปีแล้วล่ะค่ะ แต่เพิ่งจะมาลงมือเอาจริงเอาจริงกับธุรกิจที่บ้านได้ไม่นาน ดิฉันเลยขออนุญาตใช้โอกาสนี้แนะนำน้องให้ท่านเมฆินทร์ และคุณมังกรได้รู้จักน่ะค่ะ” คุณหญิงแม่พูดยาวเป็นชุด


          “ครับ ยินดีเป็นอย่างยิ่งครับ ถ้ามีอะไรก็ติดต่อกับริวได้โดยตรงเลยนะครับ มังกรเนี่ยเรียกได้ว่าเป็นมือขวาของผมเลยครับ” ท่านเมฆินทร์เอ่ยเรียบๆ แต่กลับสร้างความหนักอึ้งให้กับผมอย่างมหาศาล


          “คุณมังกรเนี่ยทั้งเก่งทั้งน่ารักเลยนะครับ ต่อไปผมคงต้องฝากตัวด้วยนะครับ แล้วก็แม่ครับ ผมบอกตั้งกี่ครั้งแล้วว่าให้เรียกผมว่า ‘นนท์’ นี่ถ้าเกิดคนที่ผมอยากให้เค้าจำผมให้ได้จำผมไม่ได้ขึ้นมา ผมเสียหายนะครับ” นนท์เอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงกึ่งล้อเลียน


          “เห็นน้องเอ็มว่ารู้จักคุณมังกรมาก่อน น้องเอ็มเล่าให้ดิฉันฟังว่า คุณมังกรเก่งอย่างนู้นอย่างนี้ แถมหน้าตาดีเป็นที่หนึ่ง ขนาดดิฉันไม่รู้จักคุณมังกรมาก่อนยังเดาได้ตั้งแต่แรกเห็นเลยล่ะค่ะ” คุณหญิงแม่ยังเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยกับลูกชายสุดที่รัก


          “มะ ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ ยังไงก็ขอบคุณคุณ ‘เอ็ม’ มากนะครับ” ผมได้แต่น้อมรับแบบขอไปที ผมอยากให้การนัดรับประทานอาหารครั้งนี้จบลงโดยเร็วที่สุด






          อาหารเย็นมื้อนี้ดูจะเป็นไปด้วยดีในแง่การเจรจาธุรกิจ แต่กลับสร้างความลำบากใจให้ผมเป็นอย่างมาก


          ในช่วงท้ายของการรับประทานอาหารค่ำผมขอตัวออกมาเข้าห้องน้ำเพราะไม่สามารถทนกับการปั้นหน้ารับแขกต่อไปได้ ผมพุ่งตรงไปที่อ่างล้างหน้าวักน้ำขึ้นสาดหน้าหวังจะไล่ความเครียดที่สะสมจนเกินพิกัด


          “อ๊ะ!!!” แต่ผมก็ต้องสะดุ้งเพราะสัมผัสที่เอวของผม


          “ออกมาเข้าห้องน้ำไม่ชวนกันเลยนะครับ คุณมังกร”


          “นะ คุณ ธนนท์”


          “เดี๋ยวนี้ทำไมพูดจาห่างเหินกับผมจังครับ พี่ริว” นนท์พูดพร้อมกับเดินเข้าประชิดจนตัวผมติดกับอ่างล้างหน้า


          “จะ จะทำอะไร” ผมผลักอกนนท์ให้ออกห่างตัว แต่ก็สู้แรงนนท์ไม่ไหว


          “ห่วงเนื้อห่วงตัวเป็นคนละคน กลัวผัวเด็กทั้งสองคนของพี่มันว่าเอารึไง”


          “พูดอะไรนนท์”


          “อย่ามาปฏิเสธผม ดิน กับ ฟ้า พี่คิดว่าผมโง่จนดูไม่ออกรึไงว่ามันสองคนคิดอะไรกับพี่ พี่เอาพวกมันไปแล้วสอง พี่จะรับผมเป็นผัวพี่อีกสักคนก็ไม่น่าจะมีปัญหามั้ง”






          “พี่นนท์ ปล่อยพี่มังกร ระวังคำพูดและให้เกียรติพี่มังกรด้วยครับ” ก่อนที่ผมจะได้พูดอะไรดินก็พุ่งเข้ามาแทรกระหว่างผมกับนนท์


          “นั่นไง ทาสรักผู้ซื่อสัตย์ ไอ้ดิน มึงมันโง่ มึงไม่รู้ตัวรึไง คนอย่างพี่ริวไม่เคยรักใครจริง ไม่สิอาจจะต้องเรียกว่าคนอย่างพี่ริวมันไร้หัวใจ ที่สำคัญต่อให้เขารักใครเป็นเขาก็ไม่ได้รักมึง คนที่มีโอกาสคือไอ้ฟ้า มึงได้ยินมั้ย คนที่พี่ริวให้ความสำคัญไม่ใช่มึง มึงกับกูเห็นมันมาเต็มสองตาด้วยกันทั้งคู่ อย่าทำเป็นแกล้งโง่อยู่เลย” สิ่งที่นนท์พูดกลับมาใส่ดินทำให้ผมสะอึกจนพูดไม่ออก


          ใช่ คนอย่างผมมันทิ้งความรักไปนานเหลือเกิน คนอย่างผมมันรักใครไม่เป็น


          “ผมยอมโง่พี่ ผมยอมเป็นอะไรก็ได้ อย่างน้อยวันนี้พี่มังกรก็บอกว่าผมเป็นคนของเขา พี่นนท์รู้มั้ยว่ามันทำให้ผมรู้สึกว่าคุ้มค่าแค่ไหนที่ทำเพื่อใครคนหนึ่งมาตลอด พี่กลับไปเถอะ อย่าทำให้มันยุ่งยาก พวกเรายังมีหน้าที่ของเรา อย่าเอาเรื่องส่วนตัวมาทำให้ทุกอย่างมันพัง” ดินพูดนิ่งๆ พร้อมกับโอบแขนเข้ามากอดผมไว้


          คำพูดของดินทำให้ผมกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ภาพทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมเคยทำกับดินมันย้อนขึ้นมาในความคิด ทั้งที่ผมทำเรื่องเลวๆ กับดินไว้มากมาย แถมยังคิดจะทำร้ายความรู้สึกให้ยิ่งสาหัสกว่าที่ผ่านๆ มา


          แต่ดินกลับไม่เคยเปลี่ยนแปลง ดินยังเป็นดินคนเดิมที่เคยสารภาพรักกับผมเสมอมา


          “พี่นนท์กลับไปเถอะ วันนี้พี่มังกรจะกลับกับผม” ดินใช้นิ้วโป้งปาดน้ำตาผมเบาๆ


          “กูว่าพี่ริวจะหนีไปหาไอ้ฟ้ามากกว่าล่ะม้าง ฟ้ามันทั้งเด็กกว่า สดกว่า ไม่ว่ามึงหรือกูก็โดนเขี่ยทิ้งแล้วทั้งคู่นั่นแหละ” นนท์พูดเยาะเย้ย


          “ผมว่าพี่รีบกลับเถอะถ้าไม่อยากมีเรื่อง มือไม้ผมมันไม่ได้เบาเหมือนฟ้านะครับ” ดินพูดเสียงแข็งแต่ก็ยังพยายามควบคุมอารมณ์


          “กูว่ามึงถามพี่ริวดีกว่ามั้ยว่าเขาอยากกลับกับใคร ว่าไงครับพี่ริว จะกลับกับนนท์ หรือจะกลับกับดิน เอ้.....หรือว่าจะกลับไปหาน้องฟ้า.....”













          “พะ พี่จะกลับกับดิน!!!”






          *+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผมXXX ตอนที่14 ตัดสินใจ... [11/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Laliat ที่ 11-03-2017 05:50:49
 :m15: :angry2: :serius2: ค้างๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผมXXX ตอนที่14 ตัดสินใจ... [11/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: เจเจจัง ที่ 11-03-2017 08:34:21
นนท์ แบดบอย ชอบอ่ะ ขอนนท์เพิ่มอีกคนได้ไหม
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผมXXX ตอนที่14 ตัดสินใจ... [11/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: minneemint ที่ 11-03-2017 08:54:20
เชีนร์ฟ้าดินกร
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผมXXX ตอนที่14 ตัดสินใจ... [11/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 11-03-2017 09:10:20
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: ริว คนเสน่ห์แรง
ฟ้า ดิน นนท์ ไม่มีใครยอมใคร จมปลักรักหลงพี่ริวคนเดียว
ทุกคนมีความทรงจำกับริวทั้งนั้น
เอาไงล่ะ 4p เหรอ
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผมXXX ตอนที่14 ตัดสินใจ... [11/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 11-03-2017 14:28:30
มีแต่คนอยากได้ ..
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผมXXX ตอนที่14 ตัดสินใจ... [11/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: คนคิ้วท์คิ้วท์ ที่ 11-03-2017 20:03:59
Hotมากค่ะ มีแต่คนต้องการ เหมือนrare
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผมXXX ตอนที่14 ตัดสินใจ... [11/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 11-03-2017 21:06:38
นนท์รีบไปไกลๆ ดูเลวแบบนี้ พี่ริวควรมีแฟนสองคนค่ะ จะได้ต่อกรกับสารพัดอดีตคู่นอนของพี่ริวได้
อีกอย่างฟ้ากับดินมีศัตรูร่วมกัน แหม คุ้มกว่านี้ไม่มีแล้วพี่ริว  รีบๆตัดสินใจเลย
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผมXXX ตอนที่14 ตัดสินใจ... [11/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Goffylovelove ที่ 12-03-2017 22:23:24
ฟ้าเหลืองไปแล้ว ท่าทางรอบนี้จะโดนธรณีสูบนะพี่มังกร
หวั่นไหวซะขนาดนี้ก็ยอมๆ เด็กมันไปเถอะ งานดีงานละเอียดขนาดนี้
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผมXXX ตอนที่14 ตัดสินใจ... [11/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Ryunosuke ที่ 15-03-2017 21:04:07
อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม!!!






ตอนที่ 15 ความทรงจำของดิน






“พะ พี่จะกลับกับดิน!!!” คำพูดเพียงไม่กี่คำของพี่ริวทำให้หัวใจของผมพองโต


“ดินพาพี่กลับบ้านได้มั้ย”


“ได้สิครับ” พูดจบผมก็ประคองพี่มังกรและเดินนำไปที่รถ โดยไม่สนใจเสียงโวยวายของพี่นนท์ที่ยังให้ร้ายคนในอ้อมแขนของผมไม่ยอมหยุด


หลังจากประคองให้พี่มังกรนั่งลงที่เบาะหลัง ผมเดินอ้อมมาฝั่งที่นั่งคนขับ เข้าไปนั่งประจำที่โดยอดไม่ได้ที่จะหันกลับไปมองคนสำคัญของผมอีกครั้งเพื่อให้มั่นใจว่าพี่มังกรได้นั่งอยู่ในท่าทางที่สบายที่สุด ก่อนจะสตาร์ทเครื่องยนต์เพื่อพาเราทั้งคู่ออกจากร้านอาหารสุดหรูใจกลางเมือง









“พี่มังกรโอเคนะครับ” ผมอดไม่ได้ที่เอ่ยถามด้วยความเป็นหวง หลังจากได้เห็นสีหน้าติดกังวลของพี่มังกรผ่านกระจกมองหลัง


“พะ พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันดิน เห้อ.....” เสียงถอนหายใจอย่างเหนื่อยล้าของคนสำคัญทำให้ผมอยากจอดรถเสียตรงนี้แล้วเข้าไปกอดปลอบให้มันรู้แล้วรู้รอด


“ผมอยู่ตรงนี้นะครับ อยู่ตรงนี้เสมอ” ผมเป็นคนพูดไม่เก่ง ผมปลอบคนไม่เป็น แต่ผมรู้ว่าผมพร้อมทำทุกอย่างเพื่อพี่มังกร


“ขอบใจนะดิน ขะ ขอบใจ มาก ทะ ทั้งที่ อึก ทั้งที่ พี่ทำแบบนั้นกับดินมาตลอด อึก” ไม่อยากเชื่อว่าคนสำคัญของผมกำลังร้องไห้ พี่มังกรคนที่แทบจะไม่แสดงอารมณ์อ่อนไหวใดๆ ให้ใครเห็น


“ให้ไปส่งที่บ้านใหญ่เหรอครับ”


“อืม ฝากด้วยนะดิน พี่ขอพักสักหน่อย” พี่มังกรพูดในขณะที่ค่อยๆ เอียงศีรษะวางลงบนพนักพิงช้าๆ ดวงหน้าที่ออกไปทางสวยมากกว่าหล่อดูอ่อนล้าและอิดโรยกว่าครั้งไหนๆ ที่เคยได้เห็นมา


ผมเลือกที่จะไม่ตอบอะไร แต่กดปุ่มอัตโนมัติให้พนักพิงเบาะหลังของพี่มังกรเอนลงในระดับที่จะทำให้คนสำคัญของผมได้มีพื้นที่ในการพักผ่อนมากขึ้น


ระหว่างทางผมอดไม่ได้ที่จะเหลือบตาขึ้นมองคนสำคัญผ่านกระจกมองหลังอยู่เป็นระยะๆ ใครจะเชื่อว่าพี่มังกรอายุเข้าปีที่สามสิบเอ็ดแล้ว ใบหน้าเรียวไร้ซึ่งริ้วรอยและตำหนิ จมูกคมรั้นได้รูปเหมาะกับริมฝีปากเป็นกระจับสมส่วน


ถึงจะไปบอกใครว่าอายุเพิ่งจะยี่สิบผมว่าก็ไม่มีใครกล้าเถียง 


พี่มังกรไม่ใช่คนตัวสูง ถ้ากะด้วยสายตาก็คงราวๆ หนึ่งร้อยเจ็ดสิบสามถึงหนึ่งร้อยเจ็บสิบห้าเซนติเมตร บอบบางแต่ก็มีกล้ามเนื้อชัดเจนอย่างคนออกกำลังกายสม่ำเสมอ หน้าท้องเป็นลอนบางๆ ผิวขาวอย่างกับหยวกกล้วย ร้อยทั้งร้อยถ้าได้เห็นทั้งหมดอย่างที่ผมเคยเห็นจะเข้าใจว่าผมต้องอดกลั้นแค่ไหนเวลาที่อยู่ใกล้กับคนคนนี้


ไหนจะแรงดึงดูทางเพศมากมายมหาศาลที่แผ่ออกจากตัว ขนาดแต่งตัวซะมิเชิดยังฟุ้งกระจายออกมาจนผมทำตัวไม่ถูก แค่เมื่อกี้เจ้าตัวละเมอเอามือรั้งเนคไทและปลดกระดุมเสื้อออกเผยให้เห็นกระดูกไปปลาร้าที่เชื่อมกับหัวไหล่กลมมน นั้นยังเล่นเอาผมต้องรีบหลบสายตากลับมามองถนนเพราะกลัวว่าจะละสายตาออกมาไม่ได้อีก


นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมจ้องมองพี่มังกรตอนหลับใหลไม่ได้สติ แต่ก็ไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่ผมจะสามารถห้ามคิดอกุศลที่มีต่อสิ่งสวยงามตรงหน้าได้


ถ้าถามว่าผมเจอพี่มังกรครั้งแรกเมื่อไหร่ คงต้องย้อนกลับไปตั้งแต่สมัยผมเพิ่งจบมัธยมต้นใหม่ๆ ตอนนั้นผมอายุสิบสี่ย่างสิบห้า ผมเสียครอบครัวของผมไปจากอุบัติเหตุรถยนต์ตั้งแต่อายุสิบขวบ ความจริงพ่อของผมเป็นลูกชายคนโตของตระกูลเตชะรัตนบรรจง ตระกูลมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของเมืองไทย แต่พ่อกลับไปหลงรักหญิงชาวบ้านเจ้าของสวนยางเล็กๆ ทางใต้ พ่อจึงปิดบังฐานะของตนเองมาตลอดเพื่อเข้าหาแม่ของผม


อธิบายให้ง่ายกว่านั้นก็คือพ่อของผมเป็นพี่ชายแท้ๆ ของท่านเมฆินทร์พ่อของฟ้า ท่านเมฆินทร์มารับตัวผมที่โรงพยาบาลหลังจากวันที่เกิดเหตุเพียงไม่กี่วัน รับเลี้ยงผมเป็นลูกบุญธรรมและให้ความสำคัญไม่ต่างจากลูกชายแท้ๆ ของตัวเองซึ่งในขณะนั้นอายุได้เพียงสามขวบ


ถึงอย่างนั้นผมเองก็รู้สึกเกรงใจท่านเมฆินทร์มาตลอด จึงได้หาโอกาสทำงานพิเศษต่างๆ เพื่อเอามาเป็นค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน


ช่วงที่ผมกำลังจะขึ้นมัธยมปลาย ผมสอบเข้าเรียนได้ในโรงเรียนมัธยมปลายใจกลางเมืองที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในโรงเรียนที่เก่งที่สุดของประเทศ นั่นทำให้ผมตัดสินใจขอท่านเมฆินทร์ออกมาอยู่หอด้วยตัวเองและหางานพิเศษทำอย่างจริงจัง


การตัดสินใจครั้งนั้นทำให้ผมได้พบเจอกับคนสำคัญของผม


ผมจะแอบมองเขาเสมอทุกๆ เช้าในวันที่ผมมาทำงานพิเศษในร้านฟาสต์ฟู๊ดชื่อดังที่มีสัญลักษณ์เป็นสีแดงและสีเหลือง


ทุกครั้งที่เขาเข้ามาผมต้องพยายามทุกอย่างเพื่อให้มั่นในว่าผมจะต้องได้เป็นคนรับออเดอร์ ผมต้องเป็นคนได้ไปเสิร์ฟ และผมต้องเป็นคนเก็บโต๊ะ


ผมยังจำวันแรกที่เขาเปิดประตูเข้ามาในร้านได้ดี ในตอนนั้นเข้าตัวสูงกว่าผมนิดหน่อย วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาจนผมทรงรากไทรที่ซอยไว้เป็นอย่างดีเปียกน้อยๆ และลู่ไปกับใบหน้าและลำคอระหง


“เอาชุดเบอเกอร์ปลาครับน้อง” ริมฝีปากสีอมชมพูตรงหน้าผมขยับขึ้นลง ผมต้องขอสารภาพเลยว่าในตอนนั้นหูมันอื้อไปหมดจนจับใจความอะไรไม่ได้


“..........” ยิ่งมือเรียวนั่นยกขึ้นปลดกระดุมคอเพิ่มขึ้นอีกเม็ดและขยับคอเสื้อขึ้นลงทำให้ผมถึงกับกลืนน้ำลายดังเอื้อก


“อะ เอ่อน้องครับ น้องยังอยู่กับพี่มั้ย เหม่อไปถึงไหนแล้วนั่น......แล้ว เห้ย!!! เลือดกำเดาไหล น้องไม่สบายรึเปล่าเนี่ย” คนตรงหน้าพูดพร้อมกับยกมือขึ้นมาอังหน้าผากผมว่าตัวร้อนหรือไม่ แถมยังเอาผ้าเช็ดหน้าส่วนตัวมาเช็ดเลือดกำเดาให้ผมอีก 


“คะ ครับ ขะ ขอโทษครับ พี่จะรับอะไรดีครับ” ผมรวบรวมความกล้าก่อนจะพยายามทำหน้าที่พนักงานที่ดีให้กับลูกค้าตรงหน้า


“ชุดเบอเกอร์ปลาครับเด็กน้อย” คนตรงหน้าผมพูดไปก็ยิ้มไปครับ แถมยังเอามือมายีหัวผมอีก


น่าแปลกที่คำพูดกับสัมผัสของคนตรงหน้าทำให้ผมอุ่นวาบไปถึงหัวใจ


“คะ ครับ เพิ่มขนาดเครื่องดื่มและเฟรนช์ฟรายส์ด้วยมั้ยครับ” ผมไม่กล้าสบสายตาคนตรงหน้าด้วยซ้ำ มันเหมือนแสงสว่างที่จ้าจนตาผมสู้ไม่ไหว






.....รักแรกพบ.....






จู่ๆ คำนี้มันก็ผุดขึ้นมาในหัวผมอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย


“ได้เลยครับเด็กน้อย พี่ชอบโค้กใหญ่ๆ แล้วก็ช่วยตักเอาเฟรนช์ฟรายส์แท่งยาวๆ นะครับ” ไม่รู้ว่าเขาจงใจแกล้งผมหรือไม่ แต่คำพูดของคนตรงหน้าทำเอาผมคิดไปถึงไหนต่อไหนจนทำอะไรไม่ถูก


“เอาๆ พี่ไม่แกล้งแล้วครับ ทั้งหมดเท่าไหร่ครับเด็กน้อย”


“อะ เออ หนึ่งร้อยเก้าสิบเก้าบาทครับ”


“เอานี่ แล้วก็ไม่ต้องทอนนะครับ คีย์เข้าเครื่องแค่ร้อยเก้าเก้าเป็นใช่มั้ย ที่เหลือเราก็เก็บไว้กินขนมเถอะ” ลูกค้าคนสำคัญของผมพูดจบก็ยื่นธนบัตรใบละพันมาให้


“มะ ไม่ได้นะครับ”


“เอาน่า พี่ชอบเด็กขยันๆ ที่สำคัญน่ารักขนาดนี้ โตขึ้นมาต้องหล่อแน่ ฮ่า ฮ่า ฮ่า”


“อย่าเลยนะครับพี่”


“อย่าดื้อสิครับเด็กน้อย งั้นเอางี้ พี่ขี้เกียจยกไปเอง เด็กน้อยเอาไปเสิร์ฟให้พี่แล้วกัน แล้วถ้าวันต่อๆ พี่มาแล้วเราเจอพี่อีกก็มาเสิร์ฟให้ประจำ แบบนี้ดีมั้ย ถือว่าให้ค่าจ้างล่วงหน้าไงครับ”


“ถะ ถ้าแบบนั้น ก็ได้ครับ” นั่นเป็นเพียงจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมประทับใจเขามากขึ้นทุกวัน


“พี่นั่งโต๊ะริมหน้าต่างนะครับเด็กน้อย” คนตรงหน้าส่งยิ้มน้อยๆ พร้อมขยิบตาก่อนจะรับใบเสร็จจากมือผมไป


คนคนนี้มีเสน่ห์อย่างล้นเหลือ แถมยังบริหารมันเป็นอย่างร้ายกาจ


“คะ ครับผม ผมจะรีบไปส่งให้นะครับ” ทันทีที่ผมตอบรับลูกค้าคนสำคัญเสร็จ ก็รีบกุลีกุจอหันกลับไปเตรียมของในครัวจนแม้แต่พี่ๆ พนักงานด้วยกันยังแซว
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผมXXX ตอนที่15 ความทรงจำ [15/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Ryunosuke ที่ 15-03-2017 21:05:36





ความทรงจำของวันแรกที่พบกันมันน่าจะสวยงามกว่านี้ถ้าไม่มีกลุ่มเด็กมัธยมปลายจากโรงเรียนชายล้วนชื่อดังสีชมพูฟ้าที่นั่งรวมกลุ่มกันอยู่ระหว่างทางก่อนที่จะถึงที่นั่งของคนคนนั้น


“เห้ย.....น้องชุดนักเรียนคนนั้น บ้านจนมากเหรอ”

“เออว่ะ แมร่งหน้าตาผิวพรรณก็ดูผู้ดีนี่หว่า ทำไมต้องมาทำงานแบบนี้วะ”

“สงสัยแม่ทิ้งไปมีผัวใหม่”

“กูว่าแกล้งมันดีมั้ย”

“เออดี มั่นไส้แมร่ง แกล้งทำเป็นไม่ได้ยินที่พวกเราพูด”


คำพูดเหยียดหยามมากมายดังกระทบเข้ามาในโสดประสาทในระหว่างที่ผมกำลังยกถาดอาหารไปให้ลูกค้าคนสำคัญ ผมเจอแบบนี้มาจนชิน น่าแปลกที่สังคมไทยในสมัยนั้นกลับมองเด็กที่ออกมาหางานพิเศษทำอย่างเหยียดหยาม แทนที่จะให้ความชื่นชมกับความขยันขันแข็งอย่างทุกวันนี้


“ขอบคุณนะครับเด็กน้อย แล้วก็ไม่ต้องไปสนใจพวกนั้น มันทำได้แค่เห่า เด็กอย่างเรามีคุณค่าเกินกว่าจะเอาตัวไปแลกนะครับรู้ไหม” ลูกค้าคนสำคัญของผมพูดขึ้นหลังจากที่ผมวางถาดอาหารลงอย่างระมัดระวัง


“คะ ครับผม” มือเรียวของคนตรงหน้าวางลงบนหัวผมเบาๆ อีกครั้งแล้วที่สัมผัสของคนคนนี้กำลังเล่นงานหัวใจผม


“แล้วอย่าลืมที่เราคุยกันนะ เจอพี่เมื่อไหร่ต้องเป็นคนบริการนะครับเด็กน้อย” พูดจบปั๊บก็ยิ้มปุ๊บ สว่างสไสวจนผมแทบไม่กล้าสบตา


ผมทำได้แค่ค่อยๆ เดินจากมา แต่ก็ยังอดไม่ได้ที่จะหันกลับไปมองเป็นระยะๆ นั่นทำให้ผมไม่ได้ระวังตัวจนกระทั่ง


โครม!!! ผมเสียหลักล้มคะมำหน้ากระแทกพื้นจนปากแตก


“ไอ้โง่เอ้ย จนแล้วยังโง่ เดินไม่ดูตาม้าตาเรือ” ผมหันกลับมาตามเสียงนั่น ถึงได้รู้ว่าหนึ่งในกลุ่มเด็กชายล้วนกางเกงดำนั่นตั้งใจยื่นขาออกมาจากที่นั่งเพื่อแกล้งผม


“นั่นมันพี่มังกรรุนพี่โรงเรียนกูแถมเป็นเดือนวิทยาเชียวนะ ทั้งโง่ทั้งจนอย่างมึงเขาไม่แลหรอก”


พี่มังกร ลูกค้าคนสำคัญของผมชื่อพี่มังกรนี่เอง


“ใช่ ขนาดทั้งหล่อทั้งรวยอย่างกูเขายังไม่แล ต่ำๆ อย่างมึงคงได้แค่เห่าหอนมองเครื่องบินเท่านั้นแหละเว้ย” อีกคนที่เรียกได้ว่าหน้าตาดีโดดเด่นออกมาจากกลุ่มพูดขึ้นสำทับ


“จริงของมึงไอ้เชี่ยเอ็ม กูเห็นมึงโคตรจะเขาหาโคตรจะพยายามเปย์ พี่มังกรแมร่งไม่เห็นสน อีกอย่างแค่นึกถึงตีนพี่หนาวกูก็ขนลุกแล้วว่ะ แมร่งคู่รักอมตะจริงๆ” คนที่นั่งตรงข้ามไอ้หน้าหล่อเสริม


“เชี่ยมึงจะขยี้หาพ่อง แค่นี้กูก็ช้ำใจจะแย่”


“แล้วมึงเหวออะไร เตะขากูทำไมไม่ขอโทษ” ทุกสายตากลับมาจดจ้องผมอีกครั้ง


“ขอโทษครับ” ผมไม่อยากมีเรื่อง อีกอย่างคนสำคัญของผมเพิ่งบอกว่าอย่าเอาตัวไปแลกกับคนพวกนี้


“ขอโทษ แต่กูไม่หายว่ะ กูจะเอาคืน” เด็กชายล้วนตรงหน้ายืนขึ้นเต็มความสูงพร้อมแก้วน้ำอัดลมในมือ ผมได้แต่ยกมือขึ้นแล้วหลับตาปี๋เตรียมรับน้ำรสซ่าสีดำเย็นๆ ในแก้วนั้น


แต่จนแล้วจนรอดผมกลับไม่รู้สึกถึงละอองน้ำใดๆ จนผมค่อยๆ ลืมตาขึ้นแล้วพบกับใบหน้าของคนที่ทำให้หัวใจผมเต้นไม่เป็นจังหวะ


พี่มังกรเอาตัวมาบังผมไว้จากน้ำอัดลมทั้งแก้ว!!!


“พะ พี่มังกร”
“พี่มัง.....”
“ซวยแล้ว.....”
“พี่ผมขอโทษครับ”


และอีกหลายเสียงขอโทษขอโพยที่ตามมาหลังจากที่คนตรงหน้าหันกลับไปเผชิญหน้ากับเด็กชายล้วนทั้งกลุ่ม


“พวกมึงรู้จักกูด้วย? ถ้าพวกมึงยังมีความเคารพกูในฐานะรุ่นพี่ พวกมึงต้องขอโทษเด็กคนนี้เดี๋ยวนี้!!!” เสียงของพี่มังกรเบ็นชาและแข็งกร้าวจนเล่นเอาผมยังสะดุ้ง ผมไม่กล้าสบสายตาใครได้แต่มองแผ่นหลังที่เปียกโชกไปด้วยน้ำอัดลมของคนตรงหน้าด้วยความรู้สึกผิดที่เต็มเปี่ยม


พี่มังกรไม่ควรต้องมาเจอเรื่องอะไรแบบนี้เพราะผมเลย


“ตะ แต่ มันเป็นแต่เด็กเสิร์ฟนะ.....”


“แล้วไงวะ เด็กเสิร์ฟแล้วเป็นไง วันหนึ่งคนอย่างมันอาจจะได้ดีกว่าพวกมึง วันหนึ่งพวกมึงอาจจะเป็นแค่เศษเล็บเศษขี้ตีนของเด็กคนนี้ก็ได้ ถ้าสันดานดูถูกคนของพวกมึงมันยังแก้ไม่หาย”


“ขะ ขอโทษครับ พี่มังกร”


“กูบอกให้ขอโทษเด็ก ไม่ใช่ขอโทษกู” บทจะโหดพี่มังกรก็แผ่รังสีอำมะหิตไปทั่ว จนบรรยากาศเงียบกริบไปทั้งร้าน


“เออ เออ ขอโทษ”


ผั่ว!!! “พูดให้มันดีๆ เป็นไหม” พี่มังกรตบหัวเด็กชายล้วนตัวปัญหา แรงเสียจนแทบจะกระแทกกับโต๊ะ


“คะ ครับ ขอโทษครับน้อง”


“มะ ไม่เป็นไรครับ” ผมตอบรับเบาๆ ใจจริงก็ไม่ได้อยากให้เรื่องราวใหญ่โตอะไรขนาดนี้


“มานี่มาเรา มานั่งกับพี่นี่มา” พี่มังกรพูดพลางดึงมือผมไปทางโต๊ะที่เขานั่ง


“คะ คือ.....”


“ไหนพี่ดูหน่อย ปากแตกเจ็บมั้ยครับ มีแผลตรงไหนอีกรึเปล่า” เสียงพี่มังกรในตอนนี้อ่อนโยนเสียจนลืมเสียงพญามังกรเมื่อครู่ไปเป็นปลิดทิ้ง 


“มะ ไม่แล้วครับ อะ เออ ผมว่าพี่เอาเงินที่พี่ผมไปซื้อเสื้อใหม่แทนดีไหมอะครับ” บอกตามตรงผมโคตรรู้สึกผิด ยิ่งได้เห็นชัดๆ ว่าเสื้อนิสิตของพี่มังกรเปียกยาวตั้งแต่หัวไหล่ไปจนถึงเอว ผมยิ่งรู้สึกแย่


“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงเดี๋ยวพี่โทรให้คนเอาเสื้อมาให้ใหม่ได้ครับ” ว่าจบพี่มังกรก็ยกโทรศัพท์มือถือจอสีรุ่นแพงที่สุดในสมัยนั้นขึ้นมาแนบหูทันที




[ฮาโหล หนาววว เอ็งค้าบบบบ จอดรถเสร็จรึยังอ่า] พี่มังกรกรอกเสียงลงไปในโทรศัพท์มือถือ หวานเสียจนผมเคลิ้ม เมื่อกี้มันอะไร น้ำเสียงออดอ้อนแบบนั้น ผมอยากให้พี่เขาใช้กับผมบ้างจัง

[ฝากเอ็งเอาเสื้อนิสิตตัวใหม่จากในรถมาหน่อยสิค้าบ]

[อะ เอ่อ ไม่มีไรมากหรอก ก็แค่พวกรุ่นน้องโรงเรียนเอ็งมันก่อเรื่องนิดหน่อย ข้าเลยต้องไปเคลียร์อ่า.....อย่าเพิ่งโวยจิค้าบ เอ็งใจเย็น.....หนาวใจเย็นสิค้าบ ริวไม่เป็นไรริวปลอดภัยดี]

[ค้าบ.....เอ็งรีบมาน้า ข้าหนาวจะแย่แล้ว.....ค้าบ.....รักมากเหมือนกันค้าบ]


สาบานได้ว่าเป็นการพูดกันด้วยสรรพนามเอ็งกับข้าที่หวานที่สุดเท่าที่ผมเคยได้ยินมา


“ผมทำให้พี่เดือดร้อน พี่ไม่น่าต้องทำแบบนั้นเลย”


“คิดมากน่าเด็กน้อย”


“ผมต้องตอบแทนพี่”


“หูย เรื่องเล็กน้อยแบบนี้อย่าเก็บเอาไปคิดให้หนักหัวเลยเด็กน้อย”


“ไม่ได้ครับ ผมจะต้องตอบแทนพี่ให้ได้”


“แค่เป็นคนดีอย่างที่เป็นอยู่แบบนี้ โตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีก็พอแล้ว”


“ละ แล้วถ้าคนพวกนั้นไม่ยอมจบละครับ ถ้ามันมาทำพี่ลับหลังล่ะครับ”









“งั้นเอางี้.....เรามาตกลงกันนะเด็กน้อย”









“ได้ครับพี่อยากให้ผมทำอะไรผมทำให้พี่ได้ทุกอย่าง”









“รักษาตัวเองดีๆ โตเป็นผู้ใหญ่ที่แข็งแรงและเข้มแข็ง”









“ไม่เอาสิครับแบบนี้ มันทำเพื่อตัวผมเองชัดๆ”









“เด็กน้อย ฟังให้จบก่อนสิครับ โตเป็นผู้ใหญ่ที่ดี แล้วพอถึงวันนั้นเราก็สลับหน้าที่กัน มาปกป้องพี่แทนดีไหมครับ”








“ครับ ผมตกลง”



















ผมเองก็ไม่รู้ว่าพี่มังกรยังจำเรื่องราวในวันนั้นได้หรือไม่



















รู้แค่เพียงว่าผมจำมันขึ้นใจและยึดถือมันเหนือสิ่งอื่นใดในชีวิต









*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผมXXX ตอนที่15 ความทรงจำ [15/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 15-03-2017 21:14:35
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผมXXX ตอนที่15 ความทรงจำ [15/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 15-03-2017 21:25:19
พี่ริว มีความทรงจำกับฟ้า
แล้วก็มีความทรงจำกับดิน
แต่กับฟ้า ริวจำได้
กับดิน ริวจำได้หรือเปล่านะ
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผมXXX ตอนที่15 ความทรงจำ [15/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: minneemint ที่ 15-03-2017 21:35:05
เชียร์ฟ้า แต่ก็แอบางสารดินเชัยร์ทั้งคู่เลย
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผมXXX ตอนที่15 ความทรงจำ [15/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 15-03-2017 22:08:21
อยากรู้เรื่องระหว่างมังกรกับหนาวจริงๆ :katai1:
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผมXXX ตอนที่15 ความทรงจำ [15/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Goffylovelove ที่ 16-03-2017 15:40:01
อดีตมีความมุ้งมิ้ง พี่ริวมีความแมนอย่างไม่น่าเชื่อ นี่พี่ริวเรียนวิทยาสาขาไรอะ เอกต้อยเด็กใช่ม้ายยย
ต้อยได้ต้อยดี เด็กติดทุกคน ไหนจะน้องฟ้า น้องดิน น้องหนาว น้องนนท์ น้องเอส
หูยยย แบบมีผู้เด็กแซ่บๆ ทั้งนั้น
แล้วเด็กชายล้วนที่ขื่อเอ็มในกลุ่มนั้น อย่าบอกนะว่าคือนนท์ในวันนี้
โอ้ววว ทุกอย่างมันพัวพัน

สรุปต้นเหตุคือความรถอ้อยคว่ำของพี่ริวใข่ม้ายยย ตอนคุยโทรศัพท์กับหนาวโคตรตะมุตะมิ ฟินนน
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผมXXX ตอนที่15 ความทรงจำ [15/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: เจเจจัง ที่ 16-03-2017 19:42:10
เด็กหนุ่ม ร.ร.ชายล้วนในร้านคือนนท์  โอ้ว.. มายก้อด  รักจริง รักนาน รักทน อีกคนแล้ว แม้จะออกแนวแบดบอยก็เถอะ

ได้อ่านอดีตรักของดิน ได้รับรุู้อดีตรักบางส่วนของฟ้า และนนท์แล้ว บอกเลยนะไรท์ เราทำใจไม่ได้ ผู้หล่อ รวย แซ่บแบบนี้ ปล่อยไปไม่ได้ค่ะ ขอเลยนะ ดิน ฟ้า และแถมนนท์อีกคนเถอะ ดูนนท์ก็รักริวมาก ๆ อ่ะ รักมานานแล้วเหมือนกัน นะ น้า// มองแบบอ้อน ๆ
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผมXXX ตอนที่15 ความทรงจำ [15/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 16-03-2017 20:09:05
เส้นทางรักอันยาวนานแบบนี้เอง ฟ้าก้อเจอตอนเด็กดินก้อเคยแอ๊วตอนขบเผาะ
คือเลี้ยงต้อยโดยไม่รู้ตัวเพราะดึงดูดเพศเดียวกันมาตลอดโอ้โหพี่ริว นี่งงเลยว่าไอ้พี่หนาวมันโง่หรือง่าวที่ทิ้งไปเนี่ย
น้องฟ้าน้องดินต้องฝังใจและรักมั่นสุดๆไปเลยเนอะถึงได้พยายามโตมาแซ่บและแสนดีเบอร์นี้เพื่อพี่ริว

รอค่ะ
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผมXXX ตอนที่15 ความทรงจำ [15/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 17-03-2017 14:36:24
วัยอดีตที่เข้มข้น ..
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผมXXX ตอนที่15 ความทรงจำ [15/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Minzero ที่ 17-03-2017 17:04:32

อ่านแล้วไม่รู้จะเชียร์ใครดี อยากเก็บเธอไว้ทั้งสามคน :hao7:
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผมXXX ตอนที่15 ความทรงจำ [15/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Ryunosuke ที่ 20-03-2017 16:20:46
อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม!!!






ตอนที่ 16.1 ผมขอ...นะครับ






ผมหันกลับไปมองคนสำคัญที่ยังหลับไหลไม่ได้สติ หลังจากที่ผมจอดรถสนิทที่หน้าประตูรั้วบ้านหลังใหญ่ คราบน้ำตาจางๆ ที่ไหลอาบแก้มของพี่ริวทำเอาหัวใจผมปวดหนึบ


ทั้งที่ตกลงกันไว้แล้วแท้ๆ ว่าจะปกป้องดูแลในวันที่ผมโตขึ้น แต่จนวันนี้ผมกลับยังทำอะไรไม่ได้เลย


“พี่มังกรครับ ถึงบ้านแล้ว” ผมพูดขึ้นเพื่อปลุกหลังจากเดินอ้อมไปเปิดประตูรถให้พี่มังกร ใจจริงอยากจะถือวิสาสะอุ้มเข้าบ้านทั้งอย่างนั้น แต่ก็กลัวว่าจะเป็นการล่วงเกินพี่มังกรเกินไป


“อืม....” พี่มังกรทำเพียงแค่ตอบรับในลำคอ แล้วค่อยๆ ลุกออกจากรถ


ผมได้แต่ยืนนิ่งๆ แล้วมองตามแผ่นหลังบอบบางที่ค่อยๆ เดินห่างออกไป อยากบอกฝันดี แต่ก็ไม่รู้ว่ามีสิทธิที่จะทำหรือไม่


ผมได้แต่เฝ้ามองเฝ้าดูแลพี่มังกรอยู่ห่างๆ มาตลอด พยายามทุกอย่างเพื่อให้ได้อยู่ในที่ที่ใกล้ที่สุด ตั้งใจเรียนจนกระทั้งได้มีโอกาสเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยเดียวกัน ถึงแม้ว่าตอนที่ผมเข้าปีหนึ่งพี่มังกรจะต่อปริญญาโทแล้ว แต่โชคดีที่พี่มังกรเป็นเด็กกิจกรรมทำให้เรามีโอกาสได้เจอกันเสมอ ผมตั้งใจประกวดเดือนจนได้เป็นเดือนมหาวิทยาลัยเพียงเพราะรู้ว่าเดือนรุ่นก่อนๆ จะต้องมาคอยดูแลเดือนรุ่นใหม่และหวังว่าจะได้อยู่ในสายตาของพี่มังกรบ้าง


พี่มังกรในตอนนั้นกับพี่มังกรในตอนนี้แตกต่างกันราวกับเป็นคนละคน สมัยที่พี่มังกรยังมีพี่หนาว พี่มังกรเป็นคนเปิดเผยตรงไปตรงมา โผงผางขี้โวยวายเป็นที่หนึ่ง แต่กลับสร้างให้บรรยากาศรอบตัวดูสดใสได้อย่างประหลาด ใครๆ ก็ว่าพี่มังกรน่าแกล้ง เพราะพี่มังกรไม่เคยโกรธใคร ถึงแม้จะโวยวายฟึดฟัดแค่ไหน แต่ใครๆ ก็กลับมองว่ายิ่งน่ารักน่าแกล้งขึ้นไปอีก


ที่สำคัญ รอยยิ้มของพี่มังกรคือที่สุด คนอะไรยิ้มได้ทั้งปากทั้งตาแบบไม่ปิดปัง รอยยิ้มกว้างโชว์ฟันขาวเรียงสวย กับตารูปสระอิที่ดูเหมือนพร้อมที่จะปิดทุกเมื่อเวลาที่เจ้าตัวยิ้มหรือตัวเราะ ไม่มีใครที่จะไม่ยิ้มตามยามที่พี่มังกรยิ้ม


สมัยนั้นพี่มังกรโด่งดังไปไกลไม่เว้นแม้แต่กับกลุ่มเด็กมัธยมหรือนิสิตนักศึกษาในมหาวิทยาลัยอื่นๆ เรียกได้ว่าถ้าในยุคนั้นมีโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ค พี่มังกรคงหนีไม่พ้นเป็นหนึ่งในคนดังที่มียอดวิวยอดไลค์สูงในระดับต้นๆ แน่นอน


พี่มังกรเป็นที่รักของทุกคนไม่ว่าจะเป็นรุ่นน้องไปจนกระทั่งอาจารย์ พี่มังกรเป็นเดือนคณะที่เรียกได้ว่าดังกว่าเดือนมหาวิทยาลัย เพราะคนมารุมชอบรุมจีบมากมายไม่เว้นแม้แต่เดือนมหาวิทยาลัยในปีเดียวกัน แต่ที่ตลกก็คือเจ้าตัวไม่เคยได้รับรู้ เพราะทุกคนที่เข้าหาโดนสกัดดาวรุ่งโดยประธานนิสิตคณะเศรษฐศาสตร์อย่างพี่หนาวทั้งหมด


พี่หนาวอายุน้อยกว่าพี่มังกรสองปี แต่เล่นตามมาเฝ้าแทบจะสามเวลาตั้งแต่สมัยพี่หนาวยังอยู่ในชุดนักเรียนกางเกงดำขาสั้น เรียกว่าใครเจ๋อเข้ามาไม่ดูตาม้าตาเรือก็ได้เจอตีนพี่หนาวกันถ้วนหน้า พี่หนาวตรงข้ามกับพี่มังกรราวกัลกลางวันกลางคืน ถ้าพี่มังกรคือความสดใสของโลกใบนี้ พี่หนาวก็คือมารร้ายผู้เกรี้ยวกราดที่พร้อมจะเหวี่ยงใส่ทุกสิ่งที่แหยมเข้ามาใกล้คนสำคัญของตน


ความรักของทั้งคู่ดูจะเป็นไปได้ด้วยดีจนกระทั่งวันที่เกิดเรื่องเลวร้ายกับพี่มังกร เรื่องที่ทำให้ทุกคนที่เคยรักและเอ็นดูพี่มังกรมองพี่มังกรด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป ผมรู้เรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างพี่มังกรและพี่หนาวเป็นอย่างดี ทุกอย่างมันเป็นเรื่องเข้าใจผิดทุกอย่างมันถูกจัดฉากจนพี่มังกรต้องเสียหาย และพี่หนาวก็คลั่งจนแทบบ้าเพราะสิ่งที่ตัวเองรับรู้เกี่ยวกับคนรักของตัวเอง


มันเป็นโศกนาฏกรรมความรักที่คนเบื้องหลังจัดการทุกอย่างอย่างเลือดเย็น


พี่หนาวประชดคนรักจัดงานแต่งงานขึ้นอย่างกระทันหันกับผู้หญิงที่พ่อบังเกิดเกล้าจัดหาให้ ทำให้พี่มังกรเสียใจจนไม่สามารถทนอยู่ในสภาพแวดล้อมที่คุ้นเคย หนีทุกสิ่งทุกอย่างไปอยู่ที่ญี่ปุ่นหลายปี ผมรู้ดีว่าพี่มังกรทนให้คนอื่นรักเกียจได้ เหยียดหยามได้ แต่พี่มังกรรับไม่ไหวกับสิ่งที่พี่หนาวตัดสินใจทำลงไป 


ลึกๆ ผมเชื่อว่าอาจจะเป็นพ่อของพี่หนาวที่เป็นคนจัดฉากเรื่องทุกอย่าง แต่ก็ยังหาหลักฐานที่ชัดเจนพอไม่ได้ ที่สำคัญอีกคนที่น่าจะรู้เรื่องเป็นอย่างดีก็คือพี่นนท์ เพราะครอบครัวพี่นนท์รู้จักกันดีกับครอบครัวของพี่หนาวด้วยความที่อยู่ในแวดวงธุรกิจเดียวกัน พี่นนท์ชอบพี่มังกรมากในระดับที่เรียกว่าคลั่งแต่ก็ได้แต่หลบๆ ซ่อนๆ ตามอยู่ในมุมที่ต้องปิดบังมาตลอด


ที่สำคัญก็คือคนที่คาบเอาข่าวเสียๆ หายๆ กับคลิปวิดีโอเลวร้ายนั่นให้พี่หนาวดูก็คือพี่นนท์


น่าแปลกที่ทำไมพี่มังกรถึงจำพี่นนท์ไม่ได้ และพี่นนท์เองก็ตั้งใจเข้าหาพี่มังกรด้วยตัวตนอื่นแถมปิดบังประวัติที่แท้จริงของตัวเองจนหมด เป็นไปได้ไหมว่าเรื่องราวร้ายๆ มันกระทบกระเทือนจิตใจพี่มังกรเสียจนเกิดกลไกป้องกันตัวเองบางอย่างซึ่งทำให้สมองลบความทรงจำส่วนนั้นทิ้งไปเพื่อให้ใช้ชีวิตอยู่ได้อย่างปกติ









“ดิน.....ดิน ดิน!!! ยืนบื้ออะไรอยู่” เสียงของพี่มังกรทำให้ผมหลุดออกจากภวังค์ความคิด


“คะ ครับพี่มังกร”


“ทำไมยังไม่รีบถอดรถเข้าบ้าน แล้วตามเข้ามาอีก”


“ดะ ได้ เหรอครับ”


“หรือว่าอยากกลับ.....”


“มะ ไม่นะครับ ขอบคุณครับพี่มังกร” ผมไม่ยอมให้พี่มังกรได้พูดจบด้วยซ้ำ รีบหูตั้งตาเหลือกเปิดประตูรั้วบ้าน จัดแจงถอดรถเข้าโรงรถอย่างรวดเร็ว


พี่มังกรให้ผมเข้าบ้าน แถมเป็นบ้านใหญ่ที่ผมมั่นใจว่าพี่มังกรไม่เคยพาใครเข้ามา ถึงจะมีก็คงมีแต่พี่หนาวเท่านั้น 









“ดินว่าพี่ลาออกดีไหม” จู่ๆ พี่มังกรก็พูดขึ้น หลังจากที่เดินนำผมขึ้นบ้านมาจนถึงห้องนอนส่วนตัวที่ชั้นบนสุดของบ้านใหญ่สามชั้น


“พี่มังกร.....ทำไม” ผมพูดอะไรไม่ออกได้แต่เดินเข้าไปใกล้ๆ สีหน้าที่พี่มังกรแสดงออกมาดูก็รู้ว่าทั้งคิดมากทั้งเครียดขนาดไหน


อยากกอดใจจะขาดแต่ก็ยังกล้าๆ กลัวๆ


“พี่ พี่ไม่รู้จะทำยังไง พี่ว่าพี่อยู่ต่อไปคงจะมีแต่เรื่องวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ดินรู้ใช่ไหมว่าฟ้าเป็นใคร นั่นลูกเจ้าของ แล้วนนท์ มันก็ดันเป็นลูกของคู่ค้าคนสำคัญขนาดนั้น พี่จะทำไงดีดิน พี่ไม่รู้ว่าวิธีไหนจะดีไปกว่านี้ พี่ พี่ ควรทำยังไง.....ดะ ดิน”


ผมรวบเอาคนตัวเล็กกว่าตรงหน้ามาไว้ในอ้อมกอดโดยไม่รอให้เขาได้พร่ำเพ้ออะไรต่อไปอีก ยกมือขึ้นลูบกลุ่มผมนุ่มอย่างแผ่วเบาแล้วประคองให้ใบหน้าของคนสำคัญของผมซบลงที่หน้าอก พี่มังกรไม่เคยอ่อนแอขนาดนี้มาก่อน


“ผมขออนุญาตกอดนะครับ” ผมก้มลงกระซิบเบาๆ ที่ข้างหู


“กะ ก็ กอดไปแล้ว ไม่ใช่รึไงเล่า” ผมได้แต่ยิ้มให้กับเสียงอู้อี้ตรงอกผมของพี่มังกร 


“พี่จะผ่านมันไปได้ครับ วันนี้ผมเป็นผู้ใหญ่ที่ดีพอแล้ว ให้ผมได้ปกป้องพี่อย่างที่เราตกลงกันไว้นะครับ”


“เอ่อ.....มันจะดีจริงๆ เหรอดิน พี่น่ะ.....พี่มัน.....อุ๊บ.....อื้ออออ”


ผมใช้มือช้อนคางพี่มังกรขึ้นมารับจูบอย่างถือวิสาสะ แขนอีกข้างก็เพิ่มแรงโอบกระชับไม่ให้ร่างในอ้อมกอดหนีไปไหน


ใจหนึ่งผมก็กลัวว่าพี่มังกรจะโกรธ แต่อีกใจก็อดไม่ไหวแล้วจริงๆ ผมส่งลิ้นร้อนผ่านริมฝีปากสีชมพูฉ่ำเข้าไปในโพรงปากนุ่ม ตักตวงความหอมหวานทั้งหมดเท่าที่จะทำได้


โอกาสที่พี่มังกรจะไม่ขัดขืนผมมีน้อยมาก ก่อนหน้านี้จะกี่ครั้งต่อกี่ครั้งผมทำได้เพียงแค่คลอเคลียอยู่ภายนอก แต่ครั้งนี้พี่มังกรกลับยอมให้ผมเข้าไปอย่างไม่ขัดขืน ผมว่าผมคงมีหวังขึ้นมาบ้างแล้ว


 “ผมขออนุญาติจูบนะครับ”


“อะ ไอ้บ้า.....อื้มมมมมม”


ผมจูบย้ำๆ อยู่อย่างนั้น ยิ่งได้ริมรสก็ยิ่งอยากมากขึ้นไปอีก ผมตักตวงความหวานหอมของคนในอ้อมกอดอย่างตะกละตะกลามไม่ยอมหยุดจนเหมือนเรียวแรงที่พี่มังกรเคยมีเพื่อผยุงตัวเองมันจะค่อยๆ หายไป


“หะ หาย ใจ ไม่ออก แฮ่ก จะ ฆ่า กัน รึไง แฮ่ก” พี่มังกรหอบหาบใจเข้าเฮิอกใหญ่ทันทีที่ผมละจากริมฝีปาก ใบหน้าพี่มังกรแดงระเรื่อไปหมด ดวงตาก็คลอหน่วยไปด้วยหยาดน้ำใส สภาพพี่มังกรตรงหน้ายิ่งทำให้ผมอยากจะจะครอบครองและกลืนกินคนตรงหน้าไม่ให้หลงเหลือไว้ให้ใครอีก


“พี่มังกรไปอาบน้ำก่อนไหมครับ จะได้พักผ่อน” ผมพูดในขณะที่ริมฝีปากและจมูกก็ยังไล่เกลี่ยไปตามลำคอและกกหูของพี่มังกร


“พี่อาบไม่ไหวหรอกดิน พี่เหนื่อย อึก อืมมม” เสียงหวานของพี่มังกรสั่นเครือจากสัมผัสที่ผมมอบให้


“ให้ผมอาบให้ไหมครับ” ผมลองหยั่งเชิงถามไปอย่างนั้น ในใจก็รู้ทั้งรู้ว่าไม่มีทางเป็นไปได้ที่พี่มังกรจะยอม









“ครับดิน อาบให้พี่เบาๆ นะครับ” เสียงพี่มังกรที่เขย่งตัวขึ้นมากระซิบข้างหูเล่นเอาผมแทบคลั่ง


นี่มันยั่วกันชัดๆ


“จะ จริงเหรอครับ” ผมรู้ตัวว่าเสียงผมสั่น แต่ก็กลั้นใจถามออกไป ไม่แน่ใจนักว่าทำไมพี่มังกรถึงไม่ปฏิเสธผม นี่มันเหมือนความฝันชัดๆ


“ถามดินช้า พี่เปลี่ยนใจแล้วนะ.....อะ.....อื้อ.....อืม ชะ ช้า ดิน ดะ เดี๋ยว เสื้อ อื้อ เดี๋ยวเสื้อขาด อ้า.....”


ผมไม่รอช้าอะไรอีกแล้วทั้งนั้น ตอนนี้อะไรมันก็ดูเกะกะไปหมด กระดุมเสื้อพี่มังกรก็รกหูรกตาเสียจนอยากจะกระชากทิ้งให้มันรู้แล้วรู้รอด ผมทั้งจูบทั้งคลอเคลีย ส่วนมือทั้งสองก็ไล่ปลดเสื้อผ้าของพี่มังกรออกทีละชิ้นในขณะที่ใช้ร่างกายค่อยๆ ต้อนพี่มังกรเข้าไปในห้องน้ำขนาดไม่เล็ก ที่มีโซนเปียกโซนแห้งและอ่างน้ำสำหรับแช่ตัวแยกกันอย่างเป็นสัดเป็นส่วน



ซ่า!!! ระหว่างคลอเคลียกับซอกคอขาวๆ ผมเอื้อมมือไปเปิดน้ำอุ่นผ่านเรนชาวเวอร์ รอจนแน่ใจว่าน้ำอุ่นกำลังพอดี ก่อนจะดันร่างขาวเปลือยเปล่าของพี่มังกรเข้าไป


“อื้มมมมม” พี่มังกรใช้มือทั้งคู่เสยผมตัวเองขึ้นช้าๆ ก่อนจะแหงนใบหน้ารับสาบน้ำอุ่นที่พรั่งพรูลงมา พร้อมกับปล่อยเสียงครางต่ำๆ ออกมาจากริมฝีปากคู่สวย


นี่มันยั่วกันอีกแล้ว


“พี่มังกรไม่เปลี่ยนใจแน่นะครับ มากกว่านี้ผมหยุดไม่ได้แล้วนะครับ” ผมถามย้ำอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ


“พี่เหนื่อยไม่เห็นเหรอดิน มาอาบน้ำให้พี่เถอะ” เสียงหวานของพี่มังกรฟังดูอ่อนล้า แต่ก็กลับกระตุ้นอารมณ์ผมจนแทบล้นทะลัก


ผมไม่รู้จริงๆ ว่าพี่มังกรกำลังทำอะไร อาจจะกำลังปั่นหัวผมเล่น หรืออาจจะยอมรับผมแล้วจริงๆ


แต่ไม่ว่ามันจะเป็นอย่างไหนผมก็ยอมทั้งนั้น


ระหว่างที่ผมปลดเปลื้องเสื้อผ้าตัวเองออก พี่มังกรก็ค่อยๆ หันหลังเข้ากำแพงพร้อมกับลูบไล้ตัวเองอย่างช้าๆ


“พี่กำลังทำผมคลั่ง” ผมเดินเข้าไปประกบแผ่นหลังบางแล้วกระซิบเข้าที่ข้างหู


“สระผมให้พี่หน่อยครับ” พี่มังกรว่าพลางหันตัวกลับมา ทำให้ใบหน้าได้รูปอยู่ตรงหน้าอกผมพอดิบพอดี   


“ครับ” ผมเอื้อมมือไปกดปั๊มเอายาสระผมมาชโลมลงบนกลุ่มผมนุ่ม ค่อยๆ นวดอย่างเบามือจากกลางศีรษะ ไล่มาที่ขมับ แล้วคลึงลากไปที่หลังท้ายทอย


“อืมมมม สบายจัง ดิน” พี่มังกรครางต่ำในลำคอพร้อมกับซบลงที่อกผม


ตอนนี้ผมกำลังเป็นคนที่มีความสุขที่สุดในโลก


หลังจากล้างผมให้พี่มังกรเสร็จ ผมก็กดเอาสบู่เหลวกลิ่นประจำตัวพี่มังกรมาค่อยๆ ลูบไล้ไปทั่วผิวกายเนียนละเอียด


ถือโอกาสโอบเอาร่างเล็กเข้ามาไว้ในอ้อมกอดทั้งตัว ใช้ทุกส่วนในร่างกายผมเพื่อฟอกสบู่ให้พี่มังกรจนทั่วทุกตารางนิ้ว


ใครจะว่าผมถือโอกาสก็ไม่เป็นไร ผมเชื่อว่าไม่มีใครทนได้หรอกถ้ามีโอกาสได้ใกล้ชิดพี่มังกรแบบผม


“พี่มังกรนั่งรอผมซักครู่นะครับ” ผมจัดการเอาผ้าเช็ดตัวห่อร่างกายให้พี่มังกรก่อนจะพาไปนั่งรอที่หน้าอ่างล้างหน้าที่ยังอยู่ในบริเวณห้องน้ำ


ส่วนผมก็รีบจัดการตัวเองสระผมล้างตัวและเช็ดตัวเองให้แห้งอย่างเร่งด่วนเพื่อจะตามไปเช็ดผมให้พี่มังกร


“ผมขออนุญาตเช็ดผมให้นะครับ” ผมวางผ้าขนหนูผืนเล็กลงบนศีรษะของพี่มังกรที่เพิ่งขยับตอบรับคำขอของผม


หัวใจของผมตอนนี้มันพองโตไปหมด พี่มังกรยอมให้ผมดูแลโดยไม่ปฏิเสธ ผมบรรจงซับน้ำส่วนเกินออกช้าๆ ก่อนจะใช้ไดร์เป่าผมโดยเลือกให้เฉพาะลมเย็นๆ ออกมาเพราะผมไม่อยากให้ผมนุ่มๆ ของพี่มังกรเสียหาย


หลังจากนั้นผมก็จัดแจงหยิบชุดนอนจากตู้ที่พี่มังกรบอกมาใส่ให้คนสำคัญของผม ส่วนผมก็ได้มาแค่กางเกงเลที่พี่มังกรยังมีเก็บไว้ เพราะขืนให้ผมใส่เสื้อของพี่มังกรคงขาดไม่มีชิ้นดี




“นอนด้วยกันสิดิน จะไปไหน” เสียงหวานเอ่ยขึ้นหลังจากผมพาพี่ดินนอนลงบนเตียงใหญ่กลางห้อง


“อะ เอ่อ ผมว่าจะนอนที่โซฟาปลายเตียงน่ะครับ”


“ถึงขนาดนี้แล้วดินยังไม่เข้าใจความหมายของพี่อีกเหรอ”


“เอ่อ คือผม ผมไม่อย่างคิดเข้าข้างตัวเอง”


ผมคิดไปแล้วว่าที่พี่มังกรกำลังทำอยู่ คือพี่มังกรก็เริ่มมีใจให้ผม แต่ผมไม่รู้ว่าพี่มังกรจะคิดเหมือนกันรึเปล่า ผมไม่แน่ใจจริงๆ


“งั้นถ้าพี่บอกว่าพี่ก็คิดเหมือนที่ดินคิดล่ะครับ” 


พูดจบพี่มังกรก็ยกตัวขึ้นมอบสัมผัสแผ่วเบาที่ริมฝีปากผม จูบของพี่มังกรครั้งนี้เป็นจูบที่เรียบง่ายแต่กลับทำเอาผมร้อนผ่าวไปทั้งตัวและหัวใจ


“ถ้างั้นผมขอ.....นะครับ”




*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*

ตัดไปที่โคมไฟหัวเตียง ซะดีมั้ย หุหุหุ

*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผมXXX ตอนที่ 16.1 ผมขอ...นะ [20/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Laliat ที่ 20-03-2017 16:39:30
 :z3: ทำไมทำเยี่ยงนี้คนแต่ง :z13:
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผมXXX ตอนที่ 16.1 ผมขอ...นะ [20/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: minneemint ที่ 20-03-2017 19:32:39
ดินฟ้ากร
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผมXXX ตอนที่ 16.1 ผมขอ...นะ [20/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Ryunosuke ที่ 20-03-2017 20:02:35
.
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ ว่าพี่เป็นเมียผม XXX ตอนที่16.2 เป็นของผมนะ [20/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 20-03-2017 20:37:06
กรีดร้องหนักมาก อื้อหือ ดินนี่เน้นหนักแน่นหนักหน่วง โอยยย.  :jul1:    :pighaun:   

พี่ริวไม่ต้องเลือกค่ะ เหมาหมด แต่ขออย่างเดียว ไปเล่นงานกระชากหน้ากากอีนนท์ซะด้วยนะคะ
รอดูความมันส์ค่ะ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ ว่าพี่เป็นเมียผม XXX ตอนที่16.2 เป็นของผมนะ [20/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 20-03-2017 21:34:03
ไรท์ อย่าใจร้ายกับคนอ่านสิ
ทีฟ้า ได้ฉากอย่างว่าแบบจัดเต็ม
ดิน ก็ต้องได้เหมือนๆกัน แฟร์ๆ นะ
พี่หนาว เห็นอะไรจากการจัดฉาก
เลยประชดพี่ริวแบบจัดงานแต่งงานกับหญิง
แล้วพี่หนาว อย่าหวนมาหาพี่ริวล่ะ เลิกแล้วเลิกเลย
พี่ริว จะได้มีคนรักแบบ ฟ้า ดิน อือ....หรือนนท์ แฮ่ะๆ 4P
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ ว่าพี่เป็นเมียผม XXX ตอนที่16.2 เป็นของผมนะ [20/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Ryunosuke ที่ 20-03-2017 22:06:57
อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม!!!






ตอนที่ 16.2 เป็นของผมนะ






“ถ้างั้นผมขอ.....นะครับ”


ผมไม่รอให้พี่มังกรพูดอะไรอีก รีบผลักร่างบอบบางให้นอนราบลงกับเตียงนุ่มพร้อมตามเข้าไปประกบริมฝีปากเชิ่ดรั้นนั่นทันที ในใจลึกๆ ก็ยังแอบหวั่นว่าหากปล่อยให้พี่มังกรพูดตอบกลับมา สิ่งที่ได้จะกลายเป็นคำปฏิเสธ


“อืมมมม” เสียงหวานของพี่มังกรครางออกมาอย่างพึงพอใจเมื่อผมค่อยๆ ล้วงมือเข้าไปสัมผัสผิวกายเนียนละเอียด ผมแทบอยากจะฉีกทึ่งเสื้อยืดตัวบางๆ ที่กั้นกลางระหว่างผมกับคนตรงหน้าให้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย     


ผมใช้มือทั้งสองร่นเอาเสื้อยืดพี่มังกรออก โดยตั้งใจถอดให้ไปคาอยู่ที่ข้อมือ ก่อนจะเอาเสื้อที่ยังคาอยู่ที่ข้อมือนั้นไปคล้องไว้กับเสาหัวเตียงไม่ต่างอะไรจากเชือกที่มัดข้อมือขาวๆ ไว้ไม่ให้ขยับไปไหน 


“ดะ ดิน ไม่เล่นแบบนี้ พ  พี่ อะ ดิน พี่ เสียว.....”


ผมอดไม่ได้ที่ใช้มือลูบไล้ร่างกายสวยงามตั้งแต่ปลายนิ้วเรียว ท่อนแขนไร้ไขมัน หัวไหล่กลมมน ผ่านจุดสีชมพูระเรื่อที่แต่งแต้มให้หน้าอกของพี่มังกรยิ่งดูสวยงาม


“พี่มังกรอย่ายั่วผมไปมากกว่านี้เลย” ผมหลุดปากพูดออกมาเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นว่าพี่มังกรกำลังกัดริ่มฝีปากล่างของตัวเองเสียจนช้ำ แถมดวงตาก็ฉ่ำปรือไปด้วยหยาดน้ำใส


“ดิน ตรงนั้นมัน อะ อ๊า.....” พี่มังกรครางอย่างลืมตัวทันที่ที่ผมร่นกางเกงบ็อกเซอร์ตัวบางออก พร้อมๆ เข้าครอบครองจุดแต้มสีสวยบนแผ่นอกด้วยปากผมใช้ทั้งลิ้นทั้งริมฝีปากเพื่อปรนเปรอจุดไว้สัมผัสที่หน้าอก พร้อมๆ กับที่ใช้มือกอบกุมเข้ากับแก่นกายแข็งขืน


ผมลากลิ้นชื้นไปทั่ว ค่อยๆ ลิ้มชิมรสพร้อมแต่งแต้มรอยสีกุหลาบในทุกบริเวณที่ผมสัมผัส ร่างกายของพี่มังกรยิ่งกว่ายาเสพติดใดๆ ในโลกรวมกัน ยิ่งลิ้มลองก็ยิ่งอยากเสพ ยิ่งได้เสพก็ยิ่งโหยกระหาย


“ดะ ดิน อะ ดิ๊นนนนน พะ พี่ ไม่ไหว ปล่อยพี่เถอะ อ๊า.....” เสียงหวานครางหวือขึ้นอีกครั้งทันทีที่ผมใช้โพรงปากเข้าครอบครองแก่นกายสีสวย ผมค่อยๆ ละเลียดปลายลิ้นช้าๆ เพื่อชิมรสหยาดน้ำใสที่ไหลเอ่อล้นที่ส่วนปลายจุดไวสัมผัส ทำให้พี่มังกรดิ้นผล่านเสียจนผมหวั่นใจว่าเสื้อยืดตัวบางที่พันธนาการข้อมือขาวไว้จะขาดออก


แต่มีเหรอที่ผมจะยอมปล่อย ผมใช้มือประคองส่วนอ่อนไหวที่กำลังแข็งขืนของพี่มังกร แล้วค่อยๆ ลากลิ้นจากโคนจนสุดปลาย ก่อนจะครอบปากลืนกินมันลงไปจนหมด


“ดะ ดิน  ดินคร้าบบบ พี่ขอร้อง พะ พี่ ไม่ไหว อ๊ะ ดิน เบา เบาก่อน มันจะแตก” ยิ่งพี่มังกรทุรนทุรายผมยิ่งได้ใจ ผมใช้ปากปรนเปรอพี่มังกรไปสายตาก็พรางช้อนดูทั้งร่างกายบิดเร่าและใบหน้าเปี่ยมอารมณ์ไปอย่างพึงพอใจ


ผมยังขอยืนยันว่าผมกำลังเป็นคนที่มีความสุขที่สุดในโลก


“ดิน พอก่อนพี่ไม่ไหวแล้ว ดินเอาปากออกนะ ดิน ดิ๊น อ๊ะ อ๊า......ยะ อยากกินนะ คายออกมาดิน” ผมใช้ปากกับแก่นกายของพี่มังกรอยู่อย่างนั้น ทั้งเร่งจังหวะเร็วสลับช้า เน้นหนักเบา ทำทุกอย่างตามที่ผมคิดว่าจะทำเพื่อพี่มังกรได้ จนกระทั้งเขื่อนอารมณ์ของคนสำคัญของผมแตกทะลัก


“พี่มังกรหวานไปหมดทั้งตัวจริงๆ นะครับ” ผมพูดหลังจากเล็มเลียหยาดหยดสุดท้ายที่หลั่งไหลออกมาจากปลายแก่นกายสีสวย


“ดะ เดี๋ยวสิดิน พะ พักก่อนไม่ได้เหรอ ดิน ดิ๊นนนนน” ผมไม่รออะไรอีกแล้ว ผมใช้มือทั้งคู่ยกขาเรียวทั้งสองขึ้นจนสะโพกกลมกลึงลอยเด่นอยู่ตรงหน้าผม


“อย่ามองแบบนั้น นี่เป็นคำสั่ง หะ ห้าม มองนะดิน”


ผมได้แต่ยิ้มกรุ้มกริ่มให้กับคนไม่มีทางสู้ที่ทำได้แค่โวยวาย แต่ดูก็รู้ว่าเจ้าตัวก็ไม่สามารถต้านทานแรงอารมณ์ที่คลุกกรุ่นอยู่ในภายในได้เช่นกัน


“ผู้บริหารที่ดีเขาไม่คืนคำนะครับ” พูดจบผมก็ฝั่งหน้าลงกับช่องทางสีสวยที่ลอยเด็นอยู่ตรงหน้าทันที


“อ๊ะ อ๊า ดะ ดิน ดิ๊น มันเสียว ดิน ปล่อยพี่ก่อน มันสกปรก นะ ดิน อ๊า.....อ๊า.....”


สกปรกที่ไหน พี่มังกรทั้งหอมทั้งหวานไปหมดขนาดนี้ ยิ่งผมแย่ลิ้นลงไปชิมรสลึกเท่าไหร่เสียงหวานก็ยิ่งดังและกระเส่ามากขึ้น


ถ้าเป็นไปได้ผมอยากฟังเสียแบบนี้ของพี่มังกรไปตลอดชีวิตเลยด้วยซ้ำ


“ดะ ดิน เดี๋ยว ดินใส่ถุงก่อน อย่าสด” พี่มังกรพยายามหนีบหน้าขาตัวเองแล้วใช้หัวเข่าดันตัวผมออกอย่างสุดความสามารถ


“ผมไม่เคยมีอะไรกับใคร พี่มังกรมั่นใจนะครับ”


“พี่ไม่ได้กลัวดิน พี่กลัวตัวเอง พะ พี่ มัน มั่......อ๊ะ อ๊า ดิ๊นนนนน”


ก่อนที่พี่มังกรจะพูดให้ร้ายตัวเองไปมากกว่านั้น ผมจับขาเรียกแยกออกแล้วส่งแก่นกายพร้อมรบของตัวเองเข้าไปในช่องทางสีสวยหมายจะเข้าไปให้หมดในคราวเดียว พี่มังกรดูแลตัวเองเสมอ ถึงจะได้ชื่อว่าเสเพลอย่างไรแต่ก็ไม่เคยที่จะไม่ป้องกันตัว


ความจริงถึงผมจะต้องเป็นอะไรเพราะพี่มังกรขึ้นมาจริงๆ ผมก็ยอม ถือซะว่าได้แบ่งเบาเอาภาระความเจ็บปวดมาจากคนสำคัญของผมได้มันก็คือความสุขของผม


“พะ พี่ เจ็บ นะ ดิน” พี่มังกรอาจจะผ่านอะไรมามากมาย แต่ร่างกายของพี่มังกรกลับไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย ช่องทางสีสวยกลับคับแคบและบีบรัดจนผมแทรกตัวเข้าไปได้อย่างลำบาก


“ขอโทษครับ ผมอดใจไม่ไหวจริงๆ” ผมก้มลงกระวิบแผ่วเบาที่ข้างหู บรรจงจูบซับน้ำตาที่เอ่อปริ่มเต็มขอบตา ก่อนจะค่อยๆ ประกบจูบลงบนริมฝีปากอย่างอ่อนโยนที่สุด พร้อมกับการขยับสะโพกให้ลูกชายของผมรุกล้ำเข้าไปในตัวพี่มังกรช้าๆ ให้ช่องทางสีสวยได้ปรับตัวกับขนาดของผม


“ดะ ดิน ครับ ดิน ตรงนั้นไม่ได้ ดินอย่าย้ำสิ มันเสียด อะ อ๊ะ ดิน อย่าแกล้ง” ถึงปากพี่มังกรจะบอกอย่างนั้น แต่ร่างกายกลับตรงกันข้าม สะโพกกลมมนยิ่งยกขึ้นมาแนบชิดเพื่อให้ผมแทรกตัวเข้าไปจนถึงจุดอ่อนไหวภายใน


“อะ อ๊ะ อ๊า อ๊า.....” ผมกดย้ำๆ อยู่อย่างนั้นเพื่อฟังเสียงหวานครางกระเส่า ควานซ้ายส่ายขวาและย้ำลึกๆ เป็นจังหวะให้ร่างกายพี่มังกรได้ปรับตัวขึ้นอักระดับ


“ผมขอ.....นะครับ”


“ขะ ขนาดนี้แล้ว ยังจะมาพูดอะไรอี.....อั๊ก อั๊ก อ๊ะ อ๊า..... ดิน เบาสิ ดิน ดิ๊น.....”


ผมถอนกายออกมาเกือบหมดแล้วกดย้ำมันกลับเข้าไปในคราวเดียว มือข้างหนึ่งก็ปลดเอาเสื้อยืดที่พันธนาการข้อมือขาวไว้กับหัวเตียงเปลี่ยนมาคล้องที่ลำขอของผม แล้วค่อยๆ เริ่มเดินเครื่องอย่างต่อเนื่อง ผมไม่ใช่คนรุนแรง ผมชอบจังหวะเนิบๆ ช้าๆ แต่หนักแน่น เพราะผมชอบที่จะรับรู้ทุกๆ สัมผัสเวลาที่ลูกชายของผมเคลื่อนเข้าและออกอยู่ภายในตัวพี่มังกร


“เสียวไหมครับ พี่มังกรชอบไหม” ผมดื่มด่ำกับท่ามาตรฐานจนหนำใจก่อนจะอุ้มร่างบอบบางของพี่มังกรลอยหวือขึ้นมาอยู่บนตักแล้วกระซิบที่ข้างหู


“เสียวครับ เสียวจนไม่ไหวแล้วครับดิน” พี่มังกรตอบพร้อมใบหน้าแดงซ่าน เพราะเจ้าดันดันก้มลงไปมองที่หน้าท้องตัวเองแล้วพบว่ามันเปียกแฉะไปหมด


“พี่มังกรกอดคอผมแน่นๆ นะครับ”


“ดะ ดิน จะทำอะไร พี่ไม่ไหวแล้วนะดิน อะ ดิน ไม่เอา อ๊า.....”


ผมใช้แขนทั้งสองข้างรวบเอาขาพี่มังกรขึ้นมาผ่านบ่า ก่อนจะยกตัวขึ้นยืนตรงขึ้นที่ขอบเตียง ท่านี้ทำให้น้ำหนักตัวของพี่มังกรกดลงที่ลูกชายผมอย่างอัตโนมัติ ผมทำเพียงแค่แอ่นสะโพกรับลูกชายผมมันก็เข้าไปถึงตำแหน่งลึกที่สุดในช่องทางสีสวย


“ดิ๊น.....ลึก ลึกเกินไปแล้ว อะ อ๊า.....”


ผมใช้กำลังแขนทั้งสองข้างยกเอาตัวของพี่มังการขึ้นก่อนจะปล่อยลงพร้อมๆ กับจังหวะของสะโพกที่ขยับรับน้ำหนักของคนตัวเล็ก นั่นทำให้ผมกระแทกกระทั้นเข้ากับจุดอ่อนของพี่มังกรอย่างพอดิบพอดี


“ดิน ดิน พี่เสร็จจนจะไม่เหลืออะไรให้ออกมาแล้วนะ ปล่อยพี่เถอะนะครับ อ๊ะ ดิน อ๊ะ อ๊ะ” ผมเน้นจังหวะซ้ำๆ อยู่อย่างนั้นจนพี่มังกรร้องขอให้หยุดเพราะทนไม่ไหว


“แต่ผมยังไม่เสร็จเลยนะครับ” พี่มังกรเบิกตาโพลงทันทีที่ผมตอบกลับไป


“จะ จำไม่เห็นได้ว่าดินจะ อะ อึด อ๊ะ ขนาดนี้ อ๊า.....”


“จากนี้ไปต้องจำแล้วนะครับ คนสำคัญของดิน”


ผมประคองให้พี่มังกรนอนลง ปลดเอาเสื้อยืดสีขาวออกจากข้อมือเรียว แล้วจับร่างกายบอบบางพลิกให้อยู่ในท่านอนคว่ำ


“ว่ะ เหวอ ดิน อ๊ะ ข้างในมันเหมือนโดนบิด ดิน อ๊ะ”


ก่อนที่พี่มังกรจะตะเกียกตะกายหนีผมโถมทั้งตัวทับลงบนร่างกายบอบบาง มือทั้งสองเอื้อมไปกุมมือของอีกฝ่าย นิ้วมือของเราทั้งคู่สอดประสานกันแนบแน่น ผมก้มใบหน้าลงคลอเคลียซอกหูและแก้มใส นั่นทำให้พี่มังกรหันหน้าขึ้นมาเพื่อรับจูบลึกซึ้งจากผม


“เป็นของผมนะครับ”


“อะ อืม ก็เป็นอยู่นี้ไงครับ”


ผมไม่คิดเลยว่าผมจะมีวันนี้จริงๆ วันที่พี่มังกรยอมรับผม


“อ๊ะ ทะนุถนอมกันบ้างเถอะดิน ดะ ดิ๊น อุ๊บ อื๊ออออออ”


ผมจูบประกบปิดริมฝีปากสวย ก่อนจะเริ่มตอกย้ำแก่นกายที่ยังคาอยู่ภายในร่างกายน่าหลงใหลของพี่มังกรอีกครั้ง


เน้นย้ำทุกๆ สัมผัสให้พี่มังกรรับรู้ว่าผมรักเขาเหนื่อสิ่งอื่นใด ทั้งอ่อนโยนทั้งหนักแน่นสลับกันไปจนเสียงหวานครางจนฟังไม่ได้ศัพท์ จนสุดท้ายเขื่อนอารมณ์ของผมเองก็เริ่มจะต้านทานไว้ไม่อยู่


“พี่มังกร.....ผมขอข้างในนะครับ”


“อืม.....พี่ไม่ไหวแล้วดิน น้ำพี่จะหมดตัวอยู่แล้ว”


“พี่มังกร......”


“ดิน......”


“พี่มังกร.....ผมรักพี่นะ”


“ดิน”


“พี่มังกรเป็นของผมแล้วนะ”


“ดิน พี่ไม่ไหวแล้ว”


“ผมก็ไม่ไหวแล้วครับ อืม อะ อ๊า.......” ผมปล่อยให้ธารอารมณ์ทะลักทลายเข้าไปในตัวพี่มังกรจนหมด


“อะ อ๊า ของดินร้อนมากเลย เหมือนข้างในโดนลวกไปหมด แต่มะ มันรู้สึกดีจัง อืม” พี่มังพูดเสียงอู้อี้เพราะกดหน้าตัวเองลงกับหมอนใบใหญ่









“พี่มังกรครับ”









“ครับดิน”









“ผมสัญญาว่าทั้งชีวิตนี้ผมจะมีให้พี่มังกรเท่านั้น”









“ดิน..........”









“ผมรักพี่มังกรนะครับ”









“อื๊ม.....รู้มาตั้งนานแล้ว”
 



*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*

NC ล้วนๆ ดินล้วนๆ คนเขียนไม่เคยลำเอียง แถมคนเขียนใจดีไม่ตัดไปที่โคมไฟหัวเตียง หุหุ

*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ ว่าพี่เป็นเมียผม XXX ตอนที่16.2 เป็นของผมนะ [20/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: qDraftman ที่ 20-03-2017 22:11:21
 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ ว่าพี่เป็นเมียผม XXX ตอนที่16.2 เป็นของผมนะ [20/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: minneemint ที่ 20-03-2017 22:51:10
 :L2:
ยังเชียร์ฟ้าอยู่
แต่ดินก็โอเคนะ :hao3:
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ ว่าพี่เป็นเมียผม XXX ตอนที่16.2 เป็นของผมนะ [20/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 20-03-2017 23:50:50
มังกรโดนจัดฉากอะไรอ่า.... ไม่อยากจะมห้เป็นโดนมอมเหล้าหรือยาแล้วรุมโทรมนะ :mew5:

//ชูป้านไฟเชียร์ดอนรัวๆ :hao6:
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ ว่าพี่เป็นเมียผม XXX ตอนที่16.2 เป็นของผมนะ [20/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyjimmy ที่ 21-03-2017 06:53:49
เป็นของดินแล้วนะ
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ ว่าพี่เป็นเมียผม XXX ตอนที่16.2 เป็นของผมนะ [20/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: เจเจจัง ที่ 21-03-2017 08:28:39
ยังงัยเราก็ชอบนนท์ (ชอบดินกะฟ้าด้วย) แพ้หนุ่มแบดบอยอ่ะ รักมั่นคงด้วย ส่วนหนาวไม่ชอบดีแล้วที่เลิกกันไป ขนาดดินเป็นแค่คนแอบรักยังรู้เลยว่าเข้าใจผิดและจัดฉาก.หนาวที่เป็นแฟนดันเชื่อว่าริวผิดจริงแถมประชดด้วยการแต่งงานกับหญิง. คนแบบนี้ไม่สมควรได้ริวไป ดีแล้วริวควรเป็นของฟ้า ดิน. และนนท์ 555
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ ว่าพี่เป็นเมียผม XXX ตอนที่16.2 เป็นของผมนะ [20/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Psycho ที่ 21-03-2017 13:18:53
น่าติดตาม
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ ว่าพี่เป็นเมียผม XXX ตอนที่16.2 เป็นของผมนะ [20/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 21-03-2017 18:46:36
โหว .. ดินดี
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ ว่าพี่เป็นเมียผม XXX ตอนที่16.2 เป็นของผมนะ [20/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Goffylovelove ที่ 22-03-2017 15:06:17
อดีตอันแสนเจ้มจ้น จะมีภาคอดีตให้อ่านเต็มๆ มั้ยอ่าคนเขียนจ๋าาาาาาา
อยากรู้ว่าพี่ริวโดนอะไรอะ งื้ออออออ แอบคิดว่าความจริงพี่หนาวต้องยังรักพี่ริวอยู่แน่แต่ไม่อยากให้กลับมาเลย ต้องมาม่าแน่

แล้วดิน หูยยยย อยากจะกรีดร้อง จะบอกว่าเป็น NC ที่ถึงใจ ถึงไส้ ถึงลิ้นปี่มากกกกก
ดิน นางแซ่บบบบบ พี่มังกรสิ้นลายก็งานนี้
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ ว่าพี่เป็นเมียผม XXX ตอนที่16.2 เป็นของผมนะ [20/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Ryunosuke ที่ 22-03-2017 22:43:33
อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม!!!






ตอนที่ 17 ขุ่นแม่






ผมสลึมสลือตื่นขึ้นในเช้าของอีกวันเพราะเสียงกุกกักที่ดังขึ้นในห้อง และแรงยุบตัวที่ข้างเตียง


“ผมทำให้ตื่นรึเปล่าครับ” ดินในชุดพร้อมทำงานที่เพิ่งหย่อนตัวลงนั่งที่ข้างเตียงเอ่ยปากกับผม


“.....” รอยยิ้มบางและสายตาอ่อนโยนของดินที่ส่งมาบวกกับภาพเหตุการณ์เมื่อคืนที่ยังวนเวียนอยู่ในหัวทำให้ผมพูดไม่ออก ได้แค่ส่ายหน้าน้อยๆ อยู่กับผ้าห่มผืนหนาที่ผมยกเอาขึ้นมาคลุมไว้เกือบครึ่งหน้า


ดินทำให้ผมได้ทำความรู้จักกับเซ็กซ์ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักอีกครั้ง เซ็กซ์ของดินอาจจะไม่รุนแรงและหวือหวาเหมือนกับเซ็กซ์ของฟ้า แต่มันก็ตราตรึงอยู่ในห้วงความคิดและจินตนาการของผมไม่ต่างกัน


แย่แล้วไอ้ริว นี่มึงเขินอย่างกับสาวน้อยแรกรัก


“พี่มังกรน่ารัก”


“ไอ้ดิน...บ้า”


“ขอเติมพลังก่อนไปทำงานอีกซักรอบได้ไหมครับ”


“ไม่ ไม่ ไม่...” ผมส่ายหน้าดิก ก็รอบเดียวของดินมันคือไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบของผมนี่ เมื่อคืนนี้ดินเสร็จไปรอบเดียวจริงๆ ครับ แต่ผมนี่เพลียอย่างกับโดยสูบวิญญาณออกจากร่าง เสร็จไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบจนไม่มีอะไรเหลือให้เสร็จ


“ถ้าแค่จูบได้ไหมครับพี่มังกร”


“....อุ๊บ อื๊มมมม ดิน อืมมมม” ดินกดจูบลงมาทันทีที่พูดจบ ถ้าจะทำกันแบบนี้ก็ไม่รู้จะขอกันไปทำไม


“งั้นผมไปทำงานก่อนนะครับพี่มังกร”


“ริว...”


“อะไรนะครับ”


“เรียกว่า ริว สิ”


“ดะ ได้เหรอครับพี่มัง...”


“บอกว่า...ริว ไง”


“ครับริว” ดินพูดพร้อมยิ้มกว้างเสียจนเต็มแก้ม ผมนี้หน้าร้อนผ่าวไปหมดแล้ว


“ไปทำงานเถอะ ยังไงพี่...”


“ริวก็แทนตัวเองว่า ริว ด้วยสิครับ”


“อะ เอิ่ม ยังไงริวฝากดูความเรียบร้อยของงาน แล้วก็อย่าลืมรายชื่อทีมที่จะฟอร์มสำหรับโครงการสร้างโรงงานใหม่ด้วยล่ะ” พูดเองก็กระดากปากเอง แต่มันก็อุ่นในหัวใจดีไม่หยอก


“ครับริว ผมจะทำให้เต็มที่ครับ อ๋อ เมื่อเช้าคุณส้มเลขาโทรมาว่าวันนี้ริวมีตารางไปบรรยายพิเศษให้นิสิตคณะวิดยาฯ ตามที่อาจารย์นุ่นเพื่อนริวขอมานะครับ”


“จริงสิริวเกือบลืมแหนะ ขอบคุณนะดิน”


“ครับ งั้นดินไปนะ ริวพักผ่อนอีกหน่อยก็ดีนะครับ”


“ขอบคุณนะดิน ขอบคุณจริงๆ”


ขอบคุณที่อยู่ข้างกันเสมอ ขอบคุณที่ไม่เคยไปไหนไม่ว่าจะต้องเจอกับเรื่องอะไร


เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างผมกับดินมันบอกอะไรผมหลายอย่าง ดินพิสูจน์ตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่าว่าความรู้สึกที่เขามีต่อผมคือของจริง


ผมเคยคิดเสมอว่าดินเป็นคนดีเกินไปที่จะต้องมาเสียเวลากับคนอย่างผม


ผมคิดเสมอว่าคนอย่างผมไม่ควรเห็นแก่ตัวดึงรั้งคนดีๆ อย่างดินไว้เพื่อความสุขส่วนตน






แต่คงไม่ผิดใช่ไหมที่คนเลวๆ อย่างผมจะเห็นแก่ตัวสักครั้ง 













หลังจากดินออกจากห้องไป ผมยังนอนอยู่บนเตียงในท่าเดิม ผมทบทวนเหตุการณ์ต่างๆ ที่เคยเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ผ่านมา ปกติผมเป็นคนที่จำทุกช่วงเวลาของชีวิตผมจำมันได้อย่างแม่นยำ แต่กับบางช่วงเวลาหรือกับบางคนที่กล่าวอ้างว่าเคยอยู่ในช่วงเวลานั้นผมกลับไม่คุ้นเคยเอาเสียเลย


ใช่ครับ ผมคิดว่าผมมีช่วงความทรงจำที่ขาดหาย ใครหรืออะไรบางอย่างทำให้ชิ้นส่วนความทรงจำบางชิ้นของผมขาดหายไป


เรื่องสกายผมจำมันเป็นอย่างดี แต่สกายในความทรงจำของผมช่างต่างจากฟ้าในปัจจุบันอย่างกับคนละคน เด็กเนิร์ดแว่นหนาในอดีตกลับกลายเป็นหนุ่มหล่อสุดฮอตหาตัวจับอยากในปัจจุบัน ไม่รู้อะไรที่ทำให้คนคนหนึ่งพยายามเปลี่ยนตัวเองได้ขนาดนี้


เรื่องดินผมก็จำดินได้อย่างแม่นยำ ดินโดดเด่นมากในวันแรกพบของมหาวิทยาลัย เด็กเจ้าของใบหน้าคมและหุ่นนายแบบทำให้เกิดเสียงฮือฮาทั้งในหมู่รุ่นพี่และรุ่นเดียวกันตั้งแต่ก้าวแรกที่มันเหยียบเข้ารั้วมหาวิทยาลัยเลยก็ว่าได้


แต่ดินพูดเหมือนกับว่าเคยเจอผมมาแล้วก่อนหน้านั้น ซึ่งผมเองก็ไม่แน่ใจนัก ผมมาเอะใจเอาตอนเมื่อคืนที่ดินพูดว่า เขาเป็นผู้ใหญ่ที่ดีพอแล้ว ให้เขาได้ปกป้องผมอย่างที่เคยตกลงกันเอาไว้ มันทำให้ผมนึกถึงเด็กน้อยคนหนึ่งที่ผมเคยเจอสมัยเรียนปริญญาตรี เด็กคนนั้นเป็นคนขยัน รู้จักทำงานพิเศษตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม ผมเอ็นดูเด็กคนนั้นมากและเหตุพูดอะไรกับเด็กคนนั้นคล้ายกับสิ่งที่ดินพูดกับผม แต่ผมก็ไม่ได้เจอเด็กคนั้นอีกเลยหลังจากที่ผมเรียนจบ


หรือว่าดินจะเป็นเด็กคนนั้น ถ้าดินกลับมาคงต้องลองถามดูเสียหน่อย ถ้าใช่จริงๆ มันคงเป็นเรื่องที่มหัศจรรย์มากจริงๆ ที่ทั้งฟ้าและดินต่างก็มีอดีตที่ยาวนานและน่าจดจำกับผม


ส่วนเรื่องของนนท์ หรือผมควรจะเรียกว่าเอ็ม แน่นอนผมจำนนท์ได้แน่ แต่เป็นในฐานะคู่นอน ไม่ใช่นนท์ในฐานะรุ่นน้องจากคณะสถาปัตย์ที่อยู่บ้านรับน้องเดียวกัน เรื่องนี้ดูเหมือนมันไม่ได้อยู่ในความทรงจำของผมเลยซักนิด


จะว่าไป ครั้งแรกที่ผมเจอกับนนท์จากการนัดแนะผ่านแอพพลิเคชั่นเฉพาะกลุ่ม ผมก็รู้สึกเหมือนจะคุ้นหน้านนท์อย่างประหลาด


แต่พอภาพใบหน้าและเรื่องราวที่รู้สึกคุ้นเคยแวบเข้ามาในสมองทีไรหัวผมมันก็จะปวดจี๊ดขึ้นมาทุกครั้ง หรือว่าอาการปวดหัวบ่อยๆ ที่หมอวินิจฉัยว่าเป็นไมเกรนนั้น แท้จริงแล้วมันอาจจะมีอะไรที่มากกว่านั้นซ่อนอยู่


ถามว่าอยากรู้ไหม ก็อยากรู้นะครับ แต่ในขณะเดียวกันก็กลัวเหมือนกันว่าความจริงที่ได้รู้อาจจะทำให้ผมรับไม่ไหว มันรู้สึกหวั่นใจยังไงชอบกล


เพราะถ้าถามผมตอนนี้ว่าผมเลิกกับหนาวเพราะอะไร ผมก็ไม่แน่ใจนัก รู้แค่ว่าทนไม่ได้ที่จะเห็นคนที่ตัวเองรักแต่งงานไปกับคนอื่น ทนไม่ได้ที่หนาวทำเหมือนผมเป็นอากาศธาตุที่ไร้ตัวตน ผมไม่รู้สาเหตุที่แท้จริงด้วยซ้ำว่าทำไมหนาวถึงทำแบบนั้น ผมรู้แค่เพียงว่าหัวใจผมถูกทรยศและถูกทำร้ายอย่างสาหัส ในเวลานั้นผมจึงเลือกที่จะตอบรับทุนการศึกษาที่ได้และเร่งรีบออกเดินทางเพื่อหนีทุกอย่างไปอย่างเร็วที่สุด


ตั้งแต่ตอนนั้นผมใช้ชีวิตในดินแดนที่ไม่มีใครรู้จักผมอย่างสุดโต่ง การเสียหนาวไปทำให้ชีวิตผมเหมือนไม่เหลืออะไรให้เสียอีกแล้ว


ที่สำคัญที่สุดคือผมสูญเสียความศรัทธาในความรักอย่างสิ้นเชิง


ผมควงคนไปทั่ว มั่วทั้งผู้ชายและผู้หญิงมากหน้าหลายตาตลอดเวลาหลายปีที่อยู่ในประเทศญี่ปุ่น จนกระทั่งผมได้รับข่าวร้ายเรื่องพ่อของผม ผมจึงตัดสินใจกลับประเทศไทยเพื่อมาดูแลแม่ผู้ให้กำเนิด ดวงใจเพียงหนึ่งเดียวที่ยังเหลืออยู่บนโลกของผม


เพื่อแม่ผมกลับมาเป็นผู้เป็นคนอีกครั้ง ตั้งใจทำงานเพื่อสร้างเนื้อสร้างตัว นั่นทำให้ผมได้โอกาสครั้งใหญ่ในชีวิตเมื่อผมได้พบกับเจ้านายคนปัจจุบันของผมอย่างท่านเมฆินทร์


แต่เชื่อไหมครับถึงผมจะประสบความสำเร็จกับการทำงานอย่างไร ไอ้นิสัยการใช้ชีวิตเสเพลตลอดเวลาหลายปีในต่างแดนมันกลับเป็นเหมือนยาเสพติดที่ผมขาดไม่ได้ มันกลายเป็นยิ่งกว่าความเคยชินเพราะมันกลายเหมือนส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผมไปเสียแล้ว


การตัดสินใจประชดชีวิตของผมในครั้งนั้นทำให้ผมกลายเป็นคนมักมากไม่รู้จักพอเพราะไม่เคยเจอใครหรืออะไรที่จะเติมเต็มผมได้ จนสุดท้ายชีวิตผมถึงได้ยุ่งเหยิงอย่างทุกวันนี้









ก๊อกๆ!!! “แม่เข้าไปได้ไหมริว”


“ครับแม่ ประตูไม่ได้ล็อกครับ”


“แม่เอานมกับขนมปังเจ้าโปรดของริวมาให้”


“แม่.....ริวขอกอดหน่อย” ผมพูดพลางดึงตัวคุณแม่ยังสาวของผมเข้ามาไว้ในอ้อมกอด


“ให้แม่วางถาดดีๆ ก่อนสิลูก.....มีอะไรรึเปล่าริว.....ร้องไห้ทำไมครับคนเก่ง” ผมบ่อน้ำตาแตกทันทีที่แม่เอ่ยถาม แม่ผมเป็นคนเซนส์ดีเสมอ


“ริว.....ริวไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงดี.....ฮึก ฮึก.....ริว.....” เรื่องราวต่างๆ ในช่วงที่ผ่านมาพรั่งพรูออกจากปากผมจนหมดในเวลาไม่นาน เวลาอยู่ต่อหน้าแม่ผมไม่เคยปิดบังอะไรเอาไว้ได้


ใจจริงก็ไม่ได้อยากจะเล่าทั้งหมด แต่สุดท้ายเพียงแค่แม่เอ่ยปากเรื่องทุกอย่างมันก็ออกมาเองอย่างอัตโนมัติ โดยเฉพาะเรื่องของฟ้า และดิน ไม่เว้นแม้กระทั่งเรื่องนนท์


“แม่ครับ ริวควรลาออกไหม ริวจะพาแม่ไปอยู่ที่ญี่ปุ่น เราไปอยู่ที่นั่นด้วยกันดีไหม”


“ริวครับ คนเก่งฟังแม่นะ แม่ว่าริวกำลังหลงประเด็น”


“มะ แม่หมายความว่าอะไรครับ”


“แม่ว่าสิ่งที่ริวควรตัดสินใจตอนนี้ไม่ใช่เรื่องงาน ไม่ใช่เรื่องผลประโยชน์ของใคร แต่เป็นเรื่องของหัวใจริวเอง”


“ตะ แต่แม่ก็รู้ ริวเป็นแบบนี้ ริวจะไปรักใครได้ยังไง ริว...”


“ริวรู้ไหม ถ้าริวรักใครไม่เป็น ริวจะไม่เอาเรื่องของคนอื่นมาคิดจนเดือดร้อนตัวเองขนาดนี้หรอก”


“ตะ แต่.....แล้วริว แม่ครับ ริวควรทำยังไง”


“บางครั้งนะริว ลูกอย่าให้สมองคิดแทนหัวใจ ปล่อยให้หัวใจได้ทำหน้าที่ของมันบ้าง”


“แล้ว แล้วถ้าหัวใจมันไม่ได้มีแค่ดวงเดียวล่ะแม่”


“ถ้างั้นก็ลองถามตัวเองอีกทีว่าสามารถดูแลหัวใจทั้งสองดวงของตัวเองได้ดีพอรึเปล่า”


“ริวไม่ได้พูดเสียหน่อยว่ามีสอง”


“ก็ตั้งแต่เมื่อกี้ แม่ได้ยินชื่อแค่ฟ้ากับดิน ดินกับฟ้า ฟ้ากับดิน แม่ก็นับได้แค่สองสิจ๊ะ”


“แม่อะ”


“นี่ แล้วว่าแต่พ่อหนุ่มสุดหล่อที่ออกไปเมื่อเช้านี่ดินหรือฟ้าล่ะลูก”


“แม่อะ ไม่คุยด้วยแล้ว”


“ให้เดาก็น่าจะเป็นดินใช่ไหม นิ่งๆ แบบนั้นเหมาะกับชื่อนี้จริงๆ”


“ยังไม่หยุดอีก แม่อะ”


“ริว ความรักมันไม่เลือกเพศ มันไม่จำกัดจำนวน หรือกำหนดเวลาหรอกนะ บทมันจะเกิดอะไรมันก็ห้ามมันไม่ได้ ความรักเป็นสิ่งบริสุทธิ์ที่ไม่มีผิดมีถูก อย่าให้ใครหรืออะไรมาตัดสินความรักของลูก เข้าใจแม่ไหมครับริว”


“แต่แม่ไม่มองว่ามันออกจะไม่ เอ่อ ไม่ปกติเหรอแม่ ถ้าริวจะรักพร้อมๆ กัน แล้วคนอื่นจะมองยังไง”


“แล้วชั้นแคร์เหรอ ชั้นแคร์ก็แค่ลูกสาว อุ๊ย ลูกชายชั้นมีความสุขไหมก็แค่นั้น จริงๆ ตั้งแต่ลูกชายคนเดียวของชั้นมีแฟนเป็นผู้ชาย ทุกอย่างก็ปกติหมดแหละ”


“แม่อะ.....”


“แถมนี่ชั้นอาจกำลังจะได้ลูกเขยถึงสองด้วยนะ”


“แม่ค้าบบบบบบ”


“คราวหน้าพาฟ้ามาด้วยสิลูก แม่อยากเจอ แม่ชอบคนหล่อๆ”


“แม่เอามีดมาแทงริวให้ตายเถอะ”


“โอ๋ๆ แม่ไม่แกล้งแล้ว ริวอย่าลืมที่แม่บอกนะอย่าให้สมองมันคิดแทนหัวใจเรา”


“ครับแม่ ริวขอกอดอีกที”


“แม่ไม่กวนแล้วดีกว่า กินขนมปังกับนมด้วยนะลูก”


“ครับแม่ รักแม่นะ”


“แม่ก็รักริวลูก”









แม่ของผมเดินออกจากห้องไปแล้วแต่ความอบอุ่นกับบรรยากาศนุ่มนวลที่พร้อมจะโอบอุมผมเสมอยังคงอยู่ คำพูดของแม่เพียงไม่กี่คำทำให้ผมคิดอะไรได้มากมาย บางครั้งเราอาจจะแบกอะไรไว้บนบ่าจนมากเกินตัว การปล่อยวางบางอย่างแล้วหันกลับมามองความสุขของตัวเองบ้างจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม









ผมตัดสินใจแล้วว่าจะขอเก็บสมองเอาไว้คิดเรื่องอื่นและปล่อยให้หัวใจทำหน้าที่บ้าง ผมจะให้โอกาสตัวเอง ให้โอกาสฟ้า ให้โอกาสดิน









สุดท้ายแล้วข้อสรุปของการตัดสินใจของผมครั้งนี้จะเป็นอย่างไรก็คงต้องปล่อยให้มันเป็นเรื่องของอนาคต









แต่เอาเป็นว่าผมจะทำให้ดีที่สุดก็แล้วกัน




*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*

แต่งเองก็แอบอิจอิพี่ริว

*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ ว่าพี่เป็นเมียผม XXX ตอนที่ 17 ขุ่นแม่ [22/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 22-03-2017 23:07:34
โอ๋ๆนะพี่ริว คุณแม่น่ารักมากเลย
รอรับลูกเขยเลยค่ะแพคคู่.  :mew1: 
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ ว่าพี่เป็นเมียผม XXX ตอนที่ 17 ขุ่นแม่ [22/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 22-03-2017 23:17:48
แสดงว่าริวโดนลบความทรงจำช่วงนั้นออกไปซินะ o22
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ ว่าพี่เป็นเมียผม XXX ตอนที่ 17 ขุ่นแม่ [22/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyjimmy ที่ 23-03-2017 06:44:25
ควบสองไปเลยพี่ริว...อย่าได้แคร์
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ ว่าพี่เป็นเมียผม XXX ตอนที่ 17 ขุ่นแม่ [22/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 23-03-2017 13:43:28
สวยสง่า ..
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ ว่าพี่เป็นเมียผม XXX ตอนที่ 17 ขุ่นแม่ [22/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Laliat ที่ 23-03-2017 15:35:06
เริ่ดเลอค่า :impress2:
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ ว่าพี่เป็นเมียผม XXX ตอนที่ 17 ขุ่นแม่ [22/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Goffylovelove ที่ 23-03-2017 19:42:24
ดินมีความละมุนอย่างบอกไม่ถูกอะ อร๊ายยยยย
แล้วคุณแม่ แม่คือแม่มากๆ ชอบบบบบบบบบบ
ชีวิตพี่ริวแอบมีความรันทด กลัวใจว่าถ้าวันนึงเกิดจำเรื่องนั้นได้คิดมานางจะหนีไปอีกกกก
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ ว่าพี่เป็นเมียผม XXX ตอนที่ 17 ขุ่นแม่ [22/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: เจเจจัง ที่ 23-03-2017 19:49:55
ฟ้ากับดินนี่ คือผู้ที่คู่ควรกับพายมากอ่ะ( แต่ยังแอบเสียดายนนท์ แบดบอยผู้มั่นคงของเรา) ส่วนหนาวยิ่งเกลียดกว่าเดิม ไม่รู้หรอกว่าเข้าใจริวผิดเรื่องอะไร และเพราะอะไร แต่ทำไมดินที่ได้รับรู้เรื่องนี้เหมือนหนาว กลับเข้าใจ เชื่อใจ มั่งคง เคียงข้าง ริวมาตลอด(ทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่แฟน) โอ๊ย แสนดีอะไรเบอร์นี้

ท้้งฟ้าและริว สาเหตุที่โตมาแซ่บขนาดนี้เพราะรักริวและอยากคุ่ควรกับริวใช่ไหมลูก แกพลาดแล้วหนาว ที่ไม่เชื่อใจจนทิ้งของแรร์แบบริวไป อย่ามาเสียใจเสียดายทีหลังแล้วกัน

ขอพาร์ทอดีตตอนที่ดินแอบรักสมัยมหาลัยด้วยได้ไหม(ต่อจากที่เจอที่ร้านทำงานพิเศษของดิน พาร์ทดินนะ) ขอประวัติรักของฟ้าด้วย(พาร์ทฟ้าตั้งแต่เด็ก จนตอนที่มาเจอริวแล้วได้กันครั้งแรกอ่ะ เหมือนเป็นแผนของฟ้านะ)
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ ว่าพี่เป็นเมียผม XXX ตอนที่ 17 ขุ่นแม่ [22/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Ryunosuke ที่ 24-03-2017 15:07:14
อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม!!!






ตอนที่ 18 มหาวิทยาลัย






สาบานเลยว่านี่เป็นครั้งแรกที่ได้มาเหยียบไอ้ตึกหรูหราไฮโซแห่งใหม่ที่ผมเพิ่งเอารถมาจอด ไม่อยากจะเชื่อว่าเวลาเพียงไม่กี่ปีที่ผมไม่ได้กลับเข้ามาเยี่ยมเยียน พื้นที่รอบๆ มหาวิทยาลัยที่ผมรักจะเปลี่ยนแปลงไปได้ขนาดนี้


แต่เชื่อไหมครับว่าถึงสถานที่จะมีการเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหนแต่บรรยากาศและกลิ่นอายของที่นี่ไม่เคยเปลี่ยน ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหนสถานที่แห่งนี้ก็ยังเป็นที่คุ้นเคยซึ่งเต็มเปี่ยมไปด้วยมิตรภาพระหว่างเพื่อน ความสัมพันธ์แน่นแฟ้นของรุ่นพี่รุ่นน้อง และความหวังดีที่ไม่หวังสิ่งตอบแทนจากอาจารย์ถึงลูกศิษย์


“นี่นิสิต นิสิตคนนั้น แต่งตัวให้มันถูกระเบียบนี่มันยากมากรึไง”


ผมอมยิ้มทันทีที่ได้ยินเสียงเข้มๆ ของอาจารย์ท่านหนึ่งที่คาดว่าคงจะกำลังเล่นงานเด็กที่แต่งตัวผิดระเบียบแถวนั้น อาจารย์แกชื่อปกรณ์ครับ ผมจำอาจารย์ท่านนี้ได้ดีเพราะสมัยผมเรียนผมก็โดนแกจับเรื่องระเบียบเครื่องแต่งกายเป็นประจำ


“นี่นิสิต อาจารย์ว่าแล้วทำเป็นหูทวนลมแบบนี้ได้ไง”


ว่าแต่ทำไมเสียงของอาจารย์ท่านนั้นดูใกล้เข้ามาที่ผมทุกทีๆ


“กางเกงยีนส์นี่ใครอนุญาติ แล้วเสื้อนิสิตจะบางไปถึงไหน กระดุมก็ไม่ต้องปลดขาดนั้น แล้วไอ้แว่นตากันแดดนั่นอีกจะแขวนไว้ทำไมที่คอเสื้อ นี่มหาวิทยาลัยไม่ใช่เวทีแฟชั่น”


ผมเริ่มชะงัก เพราะสิ่งที่อาจารย์ท่านนั้นกำลังด่าอยู่นี่มันการแต่งตัวของผมชัดๆ


“อะ อาจารย์ หมายถึงผมเหรอครับ” ผมหันกลับไปหาอาจารย์ท่านนั้น พร้อมกับชี้นิ้วเข้าหาตัวเองแล้วถามขึ้นเพื่อความมั่นใจ


“ก็ใช่นะสิ ปีอะไร คณะอะไร เขาไม่สอนรึไงว่าให้เคารพสถานที่” นี่ท่าทางอาจารย์จะยังจำผมไม่ได้ถึงได้จัดผมเสียหนักขนาดนี้


“อะ เอ่อ ไม่ใช่นะครับ ผมจบไปตั้งนานแล้ว” 


“อย่ามาเล่นลิ้นนะนิสิต หน้าเด็กขนาดนี้จะบอกว่าจบไปหลายปี ไหนคุณรหัสอะไรผมจะไปทำบันทึก” แกยังคงยืนยันต่อไป


“อาจารย์จำผมไม่ได้จริงอะ ผมรหัส..........” ผมพูดไปยิ้มไปพร้อมกับบอกรหัสนิสิตในสัมยนั้นออกมาอย่างไม่ผิดสักตัว


“เดี๋ยวนะ นี่มังกร เหรอ หายหน้าหายตาไปเลย อาจารย์ก็ว่าอยู่ว่าหน้าคุ้นๆ นี่หน้าเด็กลงกว่าแต่ก่อนอีกนะ”


“ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ อาจารย์ก็ยังเหมือนเดิมเป๊ะ”


“โอ้ย อย่ามาหลอกชมคนแก่เลย แล้วนี่มาทำอะไรล่ะ ใช่มางานบรรยายพิเศษของมหาลัยรึเปล่า เห็นเขาเตรียมงานกันใหญ่โต”


“ใช่ครับอาจารย์มาบรรยายพิเศษ แต่ว่าไม่น่าใช่งานใหญ่ที่ว่านะครับ เห็นนุ่นเป็นคนเชิญมา น่าจะเฉพาะของวิดยารึเปล่าครับ”


“เออ งานเดียวกันนั่นแหละ ไม่รู้เหรอว่าเดียวนี้เจ้านุ่นมันเป็นรองอธิการบดีเชียวนะ”


นั่นไงเพื่อนเราเผาเรือนแล้วไหมล่ะ ไม่ได้เตรียมอะไรมาพูดเลย


ผมพูดคุยตามประสาคนไม่ได้เจอกันมานานกับอาจารย์ปกรณ์อีกนิดหน่อย ก็ขอตัวเดินออกมาเพราะใกล้ถึงเวลาที่นัดแนะกันไว้แล้ว


ผมยกโทรศัพท์ขึ้นเพื่อที่จะดูเวลาให้แน่ใจว่ายังไม่สาย แต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อพบว่าโทรศัพท์ผมไม่ได้เปิดเครื่องเอาไว้


ครืดๆ ครืดๆ ครืดๆ มือถือเครื่องรักของผมสั่นเป็นเจ้าเข้าทันที่ที่ผมเปิดเครื่อง


209 missed calls!!!

150 new massages!!!


ผมกวาดสายตาดูด้วยความรวดเร็ว สายไม่ได้รับเป็นของส้มเลขาส่วนตัวผมสองสาย ที่เหลือเป็นของคนที่ทุกคนน่าจะรู้ว่าใคร ส่วนข้อความร้อยกว่าข้อความนั่นทั้งหมดมาจากคนคนเดียว


งานงอกแน่แล้วไอ้ริว แค่นึกภาพไอ้เด็กเวรตัวโตนั่นกำลังโกรธควันออกหูผมก็รู้สึกหนาววูบๆ ขึ้นมาแล้ว


“ซวยแน่แล้วกู เอาไงดีวะเนี่ย เดี๋ยวค่อยว่ากันก็แล้วกัน” ผมตัดสินใจยัดมือถือกลับลงในกระเป๋ากางเกงแล้วเดินมุ่งหน้าที่ยังสถานที่จัดงาน


ในใจก็พยายามมองโลกในแง่ดีว่าฟ้าคงไม่คิดอะไรมาก


แต่ทั้งโทรทั้งส่งข้อความเป็นร้อยๆ ตายยยยยย ไอ้ริวตายแน่ๆ งื้อออออ
 



 




“อินุ่นมึง ไม่ได้เจอตั้งนาน กูคิดถึงเชี่ยยยย” พอถึงห้องเรียนรวมขนาดใหญ่ที่ใช้เป็นสถานที่จัดงาน ผมก็ลืมตัวเปิดประตูผ่างเข้าไปวิ่งเข้าไปกอดเพื่อนสนิทที่ยืนถือไมค์อยู่หน้าห้องทันที


“อิดอกริวมึงดูด้วยคนเต็มห้อง แล้วนี่กูเป็นอาจารย์ รักษาหน้ากูบ้าง อิห่านิสิตแมร่งเต็มห้องมึงดูด้วย” เพื่อนรักตีมือผมดังเพี๊ยะ พร้อมคำบ่นยาวเห็นหางว่าว


“อุ่ย.....กูขอโทษ” ผมได้แต่หันๆ ไปยิ้มเจื่อนๆ ให้กับเด็กนิสิตมากหน้าหลายตาที่นั่งอยู่เต็มพรึดในห้องเรียนแบบสโลป


 กวาดสายตาดูคร่าวๆ จำนวนนิสิตที่นั่งอยู่น่าจะเฉียดร้อยทีเดียว ผมแอบสังเกตว่าหลายคนอมยิ้มกลั้นขำกันอยู่ คงจะกลัวบารมีอาจารย์นุ่นเพื่อนผมอยู่พอสมควร บางส่วนก็เล่นฮาออกมาอย่างไม่ปิดบัง จากที่เห็นน่าจะไม่ใช่แค่นิสิตวิทยาศาสตร์ เพราะจากลักษณะท่าทางและการแต่งตัวน่าจะเป็นการรวมตัวจากหลากหลายคณะพอสมควร 




‘ตายแล้วแกร๊ งานดีงานละเอียด งานระดับพรีเมี่ยม’

‘ไหนจารย์บอกว่าเป็นผู้บริหารระดับสูง ไหงหน้าใสปิ้งวิ้งวับขนาดนี้ เดี๋ยวชั้นไลน์หาแนวร่วมก่อน’

‘ใครไม่มาพลาดมาก นี่กูบอกเลย’

‘นี่มันเคะในฝัน เคะตัวแม่ เคะนางพญา อร้ายยยย เสื้อยังแหวกลึกได้อีก’

‘ดี ดี นี่มันดีจริงๆ อยากได้เมียแก่กว่าขึ้นมาทันที นี่มันแม่ของลูกกูชัดๆ’

‘เชี่ยใจเย็น แบบนี้กูว่ามีเจ้าของแล้วชัวร์’

‘มึง ถ้าเขาเท่าจารย์นุ่น ก็แก่กว่าเราเป็นสิบปีเหรอวะ ไม่อยากเชื่อ หน้าแมร่งเด็กกว่ากู’

‘หูย จะเลียให้ล้ม ถ้าได้สักทีจะตั้งใจเรียน’

‘เดี๋ยวกูคิดแฮชแท็กก่อนมึง เอาไรดีวะ’




สาบานได้ว่าเป็นเสียงที่ผมได้ยินจากนิสิตหญิงเกือบทั้งหมดจะมีเสียงนิสิตชายกับกึ่งหญิงกึ่งชายปนมาบ้างแต่ก็ไม่มากนัก  โลกทุกวันนี้มันเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ


“นิสิตคะ รับยาสลายมโนช่องสองค่ะ” เพื่อนนุ่นของผมแรงดีไม่มีตก


เพื่อนผมคนนี้เรียกได้ว่าเป็นขวัญใจของเหล่านิสิตรุ่นใหม่ๆ เลยก็ว่าได้ ด้วยความที่เป็นอาจารย์รุ่นใหม่ เข้าถึงง่าย แถมยังมีเทคนิคการสอนที่ไม่ธรรมดา


“จารย์ขา...หนูอยากฟังพี่เขาพูดจะแย่แล้ว” ใครคนหนึ่งพูดออกมาท่ามกลางกลุ่มนิสิต ตามมาด้วยเสียงเฮชุดใหญ่จากคนทั้งห้อง นี่ถ้าสมัยผมทำแบบนี้คงได้โดยอาจารย์เอ็ดยกใหญ่แน่ๆ


“เจ้าค่ะ เงียบสิคะ ชั้นจะได้แนะนำอย่างเป็นทางการ” เชื่อมั้ยครับว่ามันเงียบจริง เด็กสมัยนี้นี่แปลกครับ ดูเหมือนไม่ค่อยสนใจหรือใส่ใจอะไร แต่พอบทจะสนใจก็มีสมาธิเสียจนน่ากลัว

“วันนี้นิสิตทุกคนได้รับโอกาสที่ดีมากจากท่านผู้บริหารระดับสูงของบริษัทด้านเกษตรอุตสาหกรรมสัญชาติไทย ที่เรียกได้ว่าเป็นอันดับต้นๆ ของโลก ครูขอแนะนำให้ทุกคนรู้จัก คุณมังกร พรพัฒนะ     ประธานผู้บริหารฝ่ายวิจัยและพัฒนา แถมด้วยฝ่ายวิศวกรรมที่ที่ได้รับมาหมาดๆ คุณมังกร เป็นศิษย์เก่าของคณะวิทยาศาสตร์ เป็นเฮดภาควิชา และที่สำคัญที่สุด..........เป็นเดือนคณะค่า.....”


เอ่อ ดูเพื่อนผมสิครับ แรกๆ ก็ฟังดุดีเป็นการเป็นงาน แต่ตอนจบสุดท้ายคืออะไร




‘อดีตเดือนนี่เอง มิน่าล่ะ หูยยยยย งานดี’

‘หน้าดีกว่าเดือนคนปัจจุบันของคณะชั้นอีก แกร๊’

‘กรี๊ดดดดด มันกร๊าวใจ ศิษย์เก่าหล่อบอกต่อด้วยคร่า’

‘กรี๊ดดดดด ชุ้นอยากเห็นมังกรของพี่เค้า’




“ครับ เอ่อ.....สวัสดีครับ น้องๆ ทุกคน มังกรครับ ยินดีที่ได้รู้จักน้องๆ ทุกคน” ผมรับไมค์มาจากเพื่อนนุ่นงงๆ แต่ก็ทักทายออกไปตามมารยาท




‘อร๊ายยยย เสียงน่ารักอะแกร๊’

‘ชั้นเป็นผู้หญิงแต่ทำไมชั้นอยากได้พี่เค้าเป็นเมีย โอ๊ย สับสน’




“ขออนุญาตแทนตัวเองว่าพี่นะครับ ลืมบอกไปพี่ชื่อเล่นชื่อริวนะครับ วันนี้ก็ถือว่าเป็นเกียรติของพี่มากๆ ที่ได้รับเลือกจากท่านอาจารย์นุ่นของน้องๆ ให้ได้มาพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในวันนี้ พี่ก็หวังว่าสิ่งที่พี่จะถ่ายทอดให้ในวันนี้จะเป็นประโยชฯกับน้องๆ ไม่มากก็น้อย.....”




‘พี่เค้าอยากมีประสบการณ์กับชั้น ว้ายยย ตาย แล้วววว ฟิน’

‘อิโดก หยุดมโนค่ะ’

‘นาทีนี้ใครมโนได้ก่อนคือชนะ’




หลังจากแนะนำตัวและทักทายกันไปคร่าวๆ ผมก็เริ่มเล่าถึงประสบการณ์ ตั้งแต่การใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยอย่างไรให้คุ้มค่า ไปจนวิธีการปฏิบัติตัวให้เป็นที่ต้องการของนายจ้าง และวิธีการก้าวไปสู่ความสำเร็จ


ผมเชื่อย่างหนึ่งครับว่าการใช้ชีวิตมหาวิทยาลัยนั้นเราจะเรียนอย่างเดียวไม่ได้ แต่ควรจะสร้างสมดุลระหว่างการเรียนและกิจกรรมให้ดีที่สุด การเรียนให้ความรู้และประสิทธิ์ประสาทวิชาให้เราก็จริง แต่อีกหลายสิ่งที่มีความสำคัญกับการใช้ชีวิตในอนาคต เช่น การตัดสินใจ การจัดการกับคน หรือการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ เรากลับเรียนรู้สิ่งเหล่านี้ได้จากการทำกิจกรรมเสียมากกว่า ที่สำคัญกิจกรรมในมหาวิทยาลัยจะช่วยสร้างมิตรภาพดีๆ ที่ไม่สามารถหาได้จากที่ไหนอีกให้กับเราอีกด้วย


ผมมักจะพูดกับทุกๆ คนเสมอว่ามหาวิทยาลัยคือสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุด อบอุ่นที่สุด และเต็มไปด้วยความหวังดีไม่ต่างอะไรจากบ้านหลังที่สอง เรื่องที่ร้ายแรงที่สุดที่จะสามารถเกิดขึ้นในรั้วมหาวิทยาลัยแห่งนี้มันแทบจะเทียบไม่ได้เลยกับสิ่งร้ายๆ ที่มันอยู่ภายนอก เพราะฉะนั้น จงใช้เวลาที่ยังอยู่ที่นี่ให้คุ้มค่าที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ อยากทำอะไรทำให้เต็มที่ อยากเป็นอะไรเป็นให้สุดโต่ง อย่าให้ต้องกลับมาย้อนคิดว่าน่าจะทำสิ่งนั้นน่าจะเป็นสิ่งนี้เมื่อมันสายไป


“พี่เล่าประมาณนี้แล้วกันเนอะ จากนี้มีอะไรอยากถามพี่ถามกันขึ้นมาได้เลยนะครับ ยกมือขึ้นแล้วเดี๋ยวอาจารย์นุ่นจะส่งไมค์ไปให้”




‘แกร๊พี่เค้าโคตรไอดอล’

‘จริง เรียนดี กีฬาเลิศ กิจกรรมเด่น นี่มันผัวดีเด่นชัด’

‘แต่กูว่าเมีย มึงดูทีมวิศวะ นั่งตาเยิ้มน้ำลายย้อยแล้ว’

‘ถาปัตย์ก็ไม่แพ้ว่ะแก ท่าทางหวังเคลมพี่เค้าเป็นแถว’

‘งานนี้ต้องติดเทรนทวิตเตอร์ชั้นฟันธง’




เด็กๆ ก็ทยอยถามคำถามขึ้นมาเรื่อยๆ ครับส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องเรียน ควรเรียนต่อเลย หรือควรทำงานก่อน จบได้ไปทำอะไรได้บ้าง ประมาณนี้ ที่เหลือส่วนใหญ่ก็จะแซวแล้วครับ มีแฟนรึยังบ้างล่ะ ขอไลน์ ขอไอจีบ้างล่ะ


“พี่เป็นรุกหรือรับครับ” แต่อันนี้แรงจริงครับ เป็นคำถามจากเด็กหลังห้อง ดูจากเนคไทที่ไม่เหมือนใครเดาว่าน่าจะเป็นเด็กวิศวะ


“น้องเป็นแบบไหนพี่ก็พร้อมจะเป็นแบบตรงข้ามครับ” แล้วคิดว่าไอ้ริวจะเขินเหรอครับ แนวนี้ผมชอบอยู่แล้ว คำตอบผมเล่นเอาเจ้าของคำถามอายม้วนต้วนไปเลยทีเดียว


“รังเกียจที่จะคบเด็กไหมครับ” เป็นอีกคำถามที่เรียกเสียงฮือฮาได้เป็นอย่างดี


“ไม่ครับ เพราะคบแต่เด็กมาตลอดชีวิต” คำตอบของผมทำเอาเสียงกรี๊ดดังลั่นไปทั่ว









“แล้วเมื่อคืนหายไปไหนมาทั้งคืนครับ” แต่แล้วจู่ๆ ก็มีคำถามหนึ่งดังขึ้นพร้อมกับการปรากฎตัวของใครบางคนที่เล่นเอาห้องเรียนรวมแทบแตก




‘แกร๊ นั่นมันพี่ฟ้า พี่ฟ้าเดือนมหาลัย’

‘ใช่อร๊ายยยย ชั้นเพิ่งเคยเห็นตัวเป็นๆ หล่อมลังเมลืองมาก อ๊ายยยย’

‘อ๊ายยย ถ่ายรูปเร็วแก วันนี้สงสัยชั้นคงใช้แต้มบุญหมดแน่ๆ เจอแต่งานดีพรีเมี่ยมทั้งน้าน’




“ฟะ ฟ้า.....” ผมพูดไม่ออก เพราะเสียงของฟ้าที่ถามออกมามันดูเหนื่อยอ่อนชอบกล


“อะไรยังไง นี่แกมีอะไรที่ชั้นไม่อัพเดตรึเปล่า อย่าบอกนะว่าแกคาบเดือนมหาลัยชั้นไปแดกแล้ว” เพื่อนนุ่นเดินมาแอบกระซิบที่ข้างหู


“กูโดนแน่ นุ่นมึงช่วยกูด้วย เฮ้ย ฟ้า.....”


กรี๊ดดดดดดดดด เสียงกรี๊ดรวมกับเสียงฮือฮาดังลั่นดังขึ้นอีกครั้งเมื่อจู่ๆ ฟ้าก็เดินเข้ามาคว้าข้อมือผมไปกุมไว้


“หายไปทั้งคืนแล้วมาโปรยเสน่ห์ไปทั่วแบบนี้มันเป็นสิ่งที่เมียที่ดีควรทำไหม” ไอ้เด็กยักษ์ถามคำถามออกไมค์อีกครั้ง คำถามรอบนี้เล่นเอาผมอยากจะแทรกแผ่นดินหนีออกไปเสียตอนนี้


‘เมียๆ ผัวๆ อะไรกันแกร๊ เรื่องนี้ต้องขยาย อร๊ายยยยย’

‘ใครก็ได้ หาหมอนมาให้ชั้นจิกด่วนคร่า อิเจ๊ฟิน’


“ฟ้าไม่เอาแบบนี้ดิ พี่อธิบายได้” ผมดึงฟ้าเข้ามาใกล้ แล้วกระซิบลงที่ข้างหู


“ทุกคนครับ งานจบแล้วครับ พี่ขอเชิญทุกคนออกจากห้อง พี่จะเคลียร์กับเมีย” ฟ้าพูดไมค์อย่างดังก่อนจะชี้ไม้ชี้มือสั่งให้รุ่นน้องทั้งหมดออกไปจากสถานที่จัดงาน




‘เชดดดดด เรื่องนี้ต้องเป็นประเด็นค่า กุจัดแฮชแทค #ฟ้าริว ดีกว่า’

‘เอาเลยแกชั้นร่วมลงเรือ ชั้นถ่ายรูปมาเพียบ’

‘แก แต่จะเหลืออะไรให้ชิปวะ ในเมื่อมันนเรียลขนาดนี้’

‘เออจริง #ฟ้าริว #ผัวเมียที่แท้ทรู’









“พี่ริวครับ ไปครับ เรามีเรื่องต้องคุยกัน อาจารย์นุ่นครับผมขอตัวพี่ริว” ฟ้าพูดจบมันก็ลากตัวผมออกจากตรงนั้นทันที









“เฮ้ย!!! ฟ้าเดี๋ยวก่อนสิ นุ่นช่วยกูด้วย ใช้สิทธิ์ความเป็นอาจารย์ของมึงเซ่”









“เออ ไปเคลียร์กับผัวเถอะมึง แล้วอย่าลืมอัพเดตกูด้วย ไม่ต้องสนใจเพื่อน เพื่อนเมื่อไหร่ก็ได้ผัวสำคัญกว่าคะอิริว”









“อินุ่นอิเพื่อนเชี่ยยยยยยย”









“ส่วนฟ้าจ๊ะ พ่อเดือนมหาลัย เบาๆ กับเพื่อนอาจารย์ด้วย อินี่มันบอบบาง”









“รับทราบครับอาจารย์นุ่น”









“ม๊ายยยย เบาดิฟ้า พี่เจ็บบบบบบบ ฟ้าค้าบบบบบ” 
     



*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*

ช่วงนี้พี่ริวดูมุ้งมิ้งๆ ตะมุตะมิชอบกล

*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX ตอนที่18 มหาวิทยาลัย [24/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: เจเจจัง ที่ 24-03-2017 16:42:54
 ทำโทษเลยฟ้าเอาให้ฟ้าเหลือง 555
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX ตอนที่18 มหาวิทยาลัย [24/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 24-03-2017 17:20:38
โดนทำโทษแน่ๆ ..
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX ตอนที่18 มหาวิทยาลัย [24/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyjimmy ที่ 24-03-2017 19:18:34
โดนแน่ๆ พี่ริว ไม่รอดแน่ๆ
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX ตอนที่18 มหาวิทยาลัย [24/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 24-03-2017 19:22:56
แหมฟ้า ประกาศตัวเป็นเด็กน้อยขี้หึงอีกแล้วนะ
งานนี้พี่ริวฟ้าเหลืองอีกแล้วจ้า ทั้งดินทั้งฟ้านี่ คงไม่ได้เข้าออฟฟิสอีกหลายวัน
ฟ้าถามผิดคนละต้องโทรถามดินตะหาก
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX ตอนที่18 มหาวิทยาลัย [24/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 24-03-2017 20:12:19
ริว ฮ็อตหลายเด้อออออ
หน้าอ่อนใส กว่านิสิต เสน่ห์แรงกร๊าวใจ
ใครๆหลงใหล แต่ ฟ้ามาประกาศซะและ
เมื่อคืนหายไปไหน ขอพูดกับเมีย
หมดเวลาแล้ว  อะจ๊ากกกกก
จบด้วย ฟ้า....เบาๆ....พี่เจ็บบบบบ
พี่ริวเจ็บไรอ่ะ ฟ้า เบาๆ.....ตรงนั้นหน่อยยยยย
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX ตอนที่18 มหาวิทยาลัย [24/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 24-03-2017 21:50:22
เหมือนเคยอ่านเมื่อนานมาแล้ว ดีใจที่คนเขียนกลับมาแต่งต่อ
เป็นกำลังใจให้ครับ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX ตอนที่18 มหาวิทยาลัย [24/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: numay ที่ 26-03-2017 21:24:08
 :-[
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX ตอนที่18 มหาวิทยาลัย [24/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Ryunosuke ที่ 31-03-2017 00:40:52
อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม!!!






ตอนที่ 19 จิตใต้สำนึก






“ม๊ายยยย เบาดิฟ้า พี่เจ็บบบบบบบ ฟ้าค้าบบบบบ”




“ฟ้าจะลากพี่ไปไหน พี่เจ็บแล้วจริงๆ นะ ปล่อยพี่ก่อน”




“ฟ้า โอ้ยยยยย จะกระชากทำไม แล้วพาพี่มาลานเกียร์ทำไมเนี่ย”


ถึงเสียงพี่ริวจะทั้งโวยวายเสียงดัง หรือจะอ้อนวอนหวานหูแค่ไหนผมก็ไม่สน ผมกำข้อมือเล็กนั่นแน่น เดินหน้าลากตัวพี่ริวจนมาถึงลานหน้าคณะที่ผมเรียนอยู่


“อะ โอ้ย!!” พี่ริวร้องออกมาเมื่อสะดุดอะไรบางอย่างกลางลานกว้าง


“หึ” ผมรีบโผตัวไปรับพี่ริวที่กำลังจะล้มหน้าคะมำมาไว้ในอ้อมกอด


“ขำอะไรฟ้า! ไม่ตลกนะ” 


“ซุ่มซ่าม มานี่เลย นั่งรอผมอยู่นี่ นั่งเฉยๆ นะ อย่าให้รู้ว่าเที่ยวหว่านเสน่ห์ไปทั่วอีก” สงสารก็สงสารนะครับ แต่ไอ้ที่พี่ริวหายไปไหนไม่บอกทั้งคืนแถมยังมาโปรยเสน่ห์เรี่ยราดถึงในมหาลัยยังทำเอาผมโมโหไม่หาย


“.....”


“แล้วใครใช้ให้แต่งตัวแบบนี้ กระดุมเม็ดบนนี่ติดไม่เป็นรึไงเห็นไปถึงไหนต่อไหนแล้ว แล้วนี่เสื้อร้านไหนวันหลังไม่ต้องซื้อแล้วนะ แมร่งจะบางไปไหนวะ” ผมบ่นใส่คนตัวเล็กที่เพิ่งได้นั่งลงที่ม้านั่งข้างลานเกียร์


“ฟะ.....”


“พี่ไม่มีสิทธิ์พูดอะไรทั้งนั้น ความผิดเมื่อคืนยังไม่พอ นี่ยังมีน่ามาทำคดีใหม่ถึงมหาลัยนี่อีก พี่ไม่เห็นรึไงว่าเด็กแต่ละคนมันมองกันตาละห้อยขนาดไหน นี่พี่จะให้ผมอกแตกตายรึไงวะ”


“ฟ้าคือ.....”


“ใครให้พี่พูด!!! แล้วพวกมึงๆ ทั้งหลาย จะประชุมรับน้องก็ประชุมกันไปสิโว้ย!!! เสือกมองอะไรกันอยู่นั่น” ผมพาลใส่กลุ่มรุ่นน้องและเพื่อนที่นั่งรวมกลุ่มคุยงานกันอยู่แถวนั้นจนพวกมันสะดุ้งกันไปเป็นแถบๆ ก็พวกมันเสือกหันมามองพี่ริวไม่วางตาทำไมกันเล่า


“ห่า ไอ้ฟ้าวันนี้เกรี้ยวกราดจังวะ ว่าแต่จิ้งจอกน้อยนั่นใครวะ”


“จิ้งจอกน้อยพ่องงงงง นี่พี่ริวเมียกูมั้ย” ผมสวนกลับเพื่อนทันที แอบเห็นพี่ริวก้มหน้างุดไม่กล้าสู้สายตาใคร พี่ริวกำลังเขิน ซึ่งโคตรน่ารัก อยากเอาไปเก็บที่บ้านเดี๋ยวนี้


“เชี่ย น่ารักสัด คนนี้เหรอวะที่มึงบอกว่าเป็นผู้บริหาร” คำพูดของเพื่อนร่วมชั้นปียิ่งทำให้พี่ริวเป็นจุดสนใจมากขึ้น


//แกร๊ ที่ลงเพจมหาลัยเมื่อกี้ไง//

//ใช่ๆ คนที่พูดในห้องเรียนรวมเมื่อกี้//

//ทั้งโพสต์ ทั้งทวิต ไหนจะไลฟ์สด ชั้นนี่ประหนึ่งอยู่ในเหตุการณ์เลยแกร๊//

//สรุปพี่ฟ้า เดือนมหาลัยในตำนาน คือมีเจ้าของแล้ว ชั้นก็อดสิแกร๊//

//รบกวนแกเพ่งกระแสจิตแล้วพิจารณา คนที่พี่ฟ้าจับมือถือแขนอยู่ แกจะเอาอะไรไปสู้เค้า//


ผมไม่ได้ภูมิใจหรอกนะครับที่ได้ยินใครต่อใครชมพี่ริว มันควรมีแค่ผมคนเดียวไม่ใช่เหรอที่มีสิทธิ์จะได้ชื่นชมคนคนนี้


แล้วไม่รู้ทำไมวันนี้พี่ริวถึงได้ดูมีแรงดึงดูดมากกว่าทุกวัน ฟีโรโมนฟุ้งกระจายไปหมด


ผมกำลังคิดจริงๆ ว่าผมควรจะจับเอาพี่ริวขังไว้ในห้องไม่ให้ไปไหน


“พวกมึงประชุมกันให้จบนะ กูกลับแล้ว ไปพี่ริว กลับ!!!”


“ละ แล้วจะตะคอกทำไมเล่า ฟ้าอยู่ประชุมก็ได้พี่รอได้นะ ยังไงวันนี้ก็ไม่ได้เข้าออฟฟิศ”


“ชอบใช่มั้ย นั่งดูเด็กเนี่ย”


“กะ ก็ดีนะ นึกถึงบรรยากาศสมัยก่อนดี” พี่ริวคงตอบตามที่รู้สึกจริงๆ แต่ผมนี่หัวร้อนไปหมดแล้ว ไอ้เพื่อนห่าน้องเวรนี่ก็จ้องแล้วจ้องอีก แมร่ง แอบถ่ายรูปด้วยอย่าคิดว่าจะไม่เห็นนะ


“แต่ผมไม่ชอบเว้ยพี่ริว ผมไม่ชอบให้ใครมันมองพี่ พวกมึงก็มองกันจัง เดี๋ยวพ่อสั่งซ่อมยกคณะเลยสัด!!! พี่ริว กลับ!!! แล้วก็หยุดยิ้มได้แล้ว หวงเว้ย!!!”


ผมไม่ยอมให้เสียเวลาไปมากกว่านี้ คว้าเอาข้อมือขาวๆ ของพี่ริวแล้วลากพาเดินไปที่จอดรถทันที


“ฟ้าจะไปไหน พี่เอารถมานะ”


“เดี๋ยวผมให้คนมาเอากลับให้”


“พี่ขับกลับเองก็ได้ เดี๋ยวพี่ไปหาที่คอนโด”


“พี่ทำกับผมขนาดนี้พี่ยังคิดว่าผมจะปล่อยพี่ไปคนเดียวอีกเหรอ โทรศัพท์ก็ไม่รับ ข้อความก็ไม่อ่าน ผมนั่งรอพี่จนถึงเช้า พี่รู้ไหมว่าผมกระวนกระวายใจแค่ไหน เป็นห่วงจน แมร่ง เอ้ยยยย!!! พี่ริวเข้าไปเลยนะ” ผมบ่นมาตลอดทางจนถึงรถ ก่อนจะเปิดประตูรถแล้วยัดพี่ริวเข้าไปในที่นั่งข้างคนขับ


“ปล่อยพี่นะฟ้า ปล่อยสิเว้ย!!! ปล่อย....” พอพ้นจากสายตาคนอื่นพี่ริวก็เริ่มเสียงแข็งขึ้นมา คงไม่อยากให้คนอื่นเห็นตัวเองโวยวาย รักษาภาพพจน์สินะ พอคิดได้แบบนั้นก็ยิ่งทำให้ผมโมโหเข้าไปอีก


“พี่ริว!!!” พอเจอสายตาดุๆ กับเสียงตะคอกของผมเข้าพี่ริวก็ดูหงอลง


“ฟ้า แต่พี่อธิบายได้นะ คือเมื่อคืนพี่ดื่มมากไปนิด เลยให้ดินพากลับไปที่บะ.......อุ๊บ”


สิ่งที่พี่ริวกำลังพยายามอธิบายทำให้ผมยิ่งอารมณ์ขึ้น ยิ่งพอมีชื่อของพี่ดินหลุดออกมากจากปากผมก็ยิ่งทนไม่ได้จนล็อกคอคนตรงหน้าเข้ามารับจูบผมอย่างรุนแรง ผมจงใจกัดริมฝีปากสีชมพูอ่อนจนได้กลิ่นคาวเลือด โดยไม่สนใจเสียงทัดทานหรืออาการดิ้นรนของคนในการควบคุมใดๆ ทั้งสิ้น


“อย่าพูดถึงคนอื่นต่อหน้าผม”


“ตะ แต่ดินไม่ใช่คนอื่น” คำตอบของพี่ริวยิ่งทำให้ผมแทบคลั่ง


“พี่หมายความว่าอะไร ห๊ะ!!” ผมเผลอตัวใช้มือกดหน้าอกพี่ริวกระแทกลงกับเบาะรถอย่างแรงจนเจ้าตัวหลุดเสียงร้องเบาๆ ออกมา


“.....” พี่ริวไม่ได้ตอบอะไรผมกลับ แต่หน้านิ่วจนคิ้วขมวดเข้าหากันคงจะจุกจากแรงกระทำของผมเมื่อครู่


“ผมจะไม่ให้พี่คลาดสายตาไปไหนอีกแล้ว” ผมคิดอย่างที่พูดจริงๆ พูดจบผมจัดการขาดเข็มขัดนิรภัยให้คนที่ยังนั่งนิ่งคงเพราะยังจุก ก่อนจะปิดประตูแล้วเดินไปอีกฟังของรถเพื่อขึ้นไปนั่งในที่คนขับ









“ทำไมไม่อ่อนโยนเหมือนดินบ้าง” เสียงพึมพำดังขึ้นจากคนที่ข้างๆ นั่งเงียบมาตลอดทาง ถึงจะเบาหวิวเหมือนพูดกับตัวเอง แต่ผมกลับได้ยินมันชัดเจนทุกคำ แถมทุกคำยังบาดลึกเข้ามาถึงหัวใจ


“.....” บอกตรงๆ ว่าผมพูดไม่ออก


“แบบนี้พี่อยู่กับดินเสียยังดีกว่า”


“ไม่เว้ย!!! พี่มีสิทธิ์เลือกตั้งแต่เมื่อไหร่ พี่เป็นเมียผมจะให้ย้ำไปถึงไหนถึงจะเข้าใจ” ผมสารภาพว่าผมโมโหจนควบคุมตัวเองไม่ได้ เผลอใช้มือซ้ายกระชากเอาตัวพี่ริวเข้ามาหา ซึ่งนั่นทำให้กระดุมเสื้อพี่ริวขาดออกจนหมด เผยให้เห็นผิวสวยของพี่ริวที่มันเต็มไปด้วยร่องรอยของการแสดงความเป็นเจ้าของ


“ฟ้า พี่เจ็บ....”


“ใคร!!! ใครเป็นคนทำ!!!” ผมไม่คิดจะให้พี่ริวพูดอะไรต่อเพราะร่องรอยที่ไม่ใช่ของผมพวกนั้นเล่นเอาผมแทบบ้า


“คนที่อ่อนโยน คนที่แสนดีกว่าฟ้า”


ผมไม่รู้ว่าพี่ริวตั้งใจจะทำอะไร แต่ถ้าตั้งใจจะปั่นหัวผมล่ะก็ผมบอกได้คำเดียวว่ามันโคตรสำเร็จ


ความรู้สึกหลากหลายมันกำลังตีกันข้างใน ปั่นป่วนจนผมทำอะไรไม่ถูก


เหมือนน้ำตามันจะไหลแต่ก็ต้องห้ามไม่ไว้อย่างสุดกำลัง   

 
ผมเหยียบคันเร่งรถสปอร์ตคู่ใจจนมาถึงคอนโดในเวลาไม่นาน ลากพี่ริวขึ้นห้องโดยไม่ฟังคำพูดอะไรจากเจ้าตัวอีก


“โอ๊ย!!! พี่เจ็บนะฟ้า” พี่ริวร้องออกมาเสียงหลงเพราะทันทีที่ผมเปิดประตูห้องนอนผมก็เหวี่ยงเอาร่างของคนตัวเล็กลงกับโซฟาที่หน้าเตียง


“ใช่สิ ผมมันไม่อ่อนโยนเหมือนมันหนิ!!!” ผมตามไปขึ้นคร่อมพี่ริวไว้กับโซฟา


“รู้ตัวก็ดี ดินเขาทั้งอ่อนโยน ทั้ง.....โอ๊ย อือ อือ”


“หยุดพูด!!! หยุดเดี๋ยวนี้” อารมณ์ผมพุ่งพล่านจนพลั้งมือไปบีบปากของพี่ริวไว้ด้วยมือเพียงข้างเดียว


“.....”


“พี่เป็นของผม จะให้พูดอีกอีกทีว่าพี่เป็นของผม” พูดจบผมก็ผลักให้พี่ริวนอนราบลงกับโซฟา แล้วไล่ย้ำตามลบร่องรอยทุกรอยที่ถูกประทับไว้ ทำรอยหนักๆ ให้ช้ำมากกว่าเดิมเพื่อแทนที่รอยเดิม ถึ่งพี่ริวจะร้องเจ็บปวดหรือห้ามปรามเท่าไหร่ผมก็ไม่สน ตอนนี้แรงอารมณ์มันเข้าครอบงำผมจนหูอื้อตาฟางไปหมด


แคว๊ก!!! ผมฉีกทึ้งทั้งเสื้อและกางกางของพี่ริวจนไม่เหลือชิ้นดี ก่อนจะอุ้มช้อนทั้งตัวให้ลอยขึ้นแล้วโยนลงบนเตียงอย่างแรง พี่ริวถึงกับขดตัวเข้าหากัน มือเล็กทั้งคู่ก็กอบกุมบริเวณระหว่างหน้าท้องและลิ้นปี่อย่างทรมาน หยาดน้ำใสเริ่มไหลพรากจากดวงตาคู่สวย


ภาพตรงหน้าทำให้ผมเริ่มรู้สึกตัว แต่ถึงกระนั้นผมก็ยังรู้สึกว่าต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อให้พี่ริวสำนึกไว้ตลอดว่าเขาเป็นคนของผม


ไม่รู้ผีร้ายตัวไหนเข้าสิง ผมถึงได้ลากเอาร่างอ่อนแรงนั่นลงจากเตียงแล้วจับโยนเข้าไปในตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ในห้อง


ปั้ง!!! ผมปิดบานตู้เสื้อผ้าอย่างแรง แล้วใช้น้ำหนักตัวทั้งหมดดันไว้ไม่ให้คนข้างในสามารถดันออกมาได้


ผมคิดแค่ว่าถ้าผมยังทำกับพี่ริวต่อพี่ริวคงต้องเจ็บตัวมากขึ้นไปอีก แล้วก็คิดว่าวิธีนี้อาจะช่วยสั่งสอนพี่ริวได้แล้ว


“ฟ้า ไม่เล่นแบบนี้ ฟ้าปล่อยพี่” เสียงอู้อี้ของพี่ริวดังขึ้นพร้อมกับเตียงตบบานตู้จากด้านใน


“ผมจะไม่ยอมให้พี่ออกไปไหนได้อีก”


“ฟ้า พี่ขอโทษ ไม่เอาแบบนี้ ฟะ ฟ้า ปะ ปล่อยพี่เถอะ ฮึก” เสียงพี่ริวเริ่มเปลี่ยนไปเป็นสั่นเครือ ในทำให้ผมพอใจเพราะรู้สึกว่าสิ่งที่ผมทำลงไปมันกำลังได้ผล


“อยู่ในนั้นจนกว่าจะเป็นเด็กดีของผมก็แล้วกัน”


“ฟะ ฟ้า ปล่อย ฮึก ไม่เอา ระ ริว ริวกลัวแล้ว ปล่อยเถอะ ขอร้อง กลัวแล้ว ริวกลัว” เสียงของพี่ริวครั้งนี่ยิ่งแผ่วเบาและเหนื่อยอ่อน ที่สำคัญการเรียกแทนตัวเองด้วยชื่อเป็นสิ่งที่พี่ริวไม่เคยใช่กับผมมาก่อน


“พี่ริว ต้องสัญญากับผมก่อนว่าจะไม่มีใคร แล้วผม.....” ผมยิ่งกระหยิ่มยิ้มย่องในใจเพราะถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปพี่ริวคงจะเชื่อฟังผมอย่างไม่กล้าขัดขืน   



 





“อ๊ากกกกกก!!! ปล่อยริวไป ขอร้อง ไม่เอา ไม่เอาแล้ว พอแล้ว” แต่มันกลับไม่เป็นอย่างที่ผมคิด เพราะจู่ๆ พี่ริวก็กรีดร้องออกมาอย่างน่ากลัว น้ำเสียงก็เปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน


“กะ กลัวแล้ว ไม่เอาแล้ว ไม่เอาแล้ววววววว ฮืออออออ” เสียงร้องโหยหวนของมีริวทำเอาผมหยุดชะงัก


“พี่ริว พี่ริวเป็นอะไร” ผมรีบเปิดประตูตู้ออกทันทีที่เห็นท่าว่าจะไม่ดีแล้วแน่ๆ


“อย่ามายุ่งกับริว ปล่อยริวไป ไม่เอาแล้ว พอแล้ว ริวกลัวแล้ว ฮือออออ” พี่ริวยังคงกรีดร้องราวกับเป็นคนเสียสติ มือทั้งสองก็คอยปัดป้องอย่างสุดแรงเพื่อไม่ให้ผมเข้าไปใกล้


“พี่ริวครับ นี่ฟ้าเอง ไม่เป็นไรนะพี่ริว” ผมฝืนตัวเข้าไปเพื่ออุ้มพี่ริวที่ขดหนีผมจนไปอยู่ที่มุมตู้


“ปล่อยริววววว ปล่อยยยยยยย ริวกลัว ไม่เอาแล้ว” พี่ริวทั้งเตะทั้งถีบ มือก็ทุบผมดิ้นพล่านไม่หยุด


หัวใจผมเหมือนถูกขยี้ให้แหลกสลายไปต่อหน้าตาต่อตา นี่ผมทำอะไรลงไป


“พี่ริวครับ ฟ้าอยู่นี่ พี่ริวไม่ต้องกลัวนะครับ”


“กลัวววว ปล่อยยยริว ปล่อยริวไปเถอะ”


“พี่ริวฟ้ารักพี่ริวนะครับ รักมาตลอด ให้ฟ้าปกป้องพี่ริวนะครับ”


“ฮือ ฮือ ไม่เอา ริวกลัว ปล่อยริว”


“ไม่ต้องกลัวนะครับคนดีของฟ้า ฟ้าอยู่นี่แล้ว” ผมโอบกระชับอ้อมแขนรอบร่างที่กำลังสั่นเทา หวังว่าเสียงของผมมันจะเข้าไปถึงพี่ริวบ้าง


“ปล่อยยย ปล่อยยยยย”


“พี่ริวครับ พี่ริวรู้สึกตัวเสียที โอ๊ย!!!” ผมถึงกับร้องออกมาเพราะจู่ๆ ฟันคมก็ฝั่งลงบนไหล่ผมอย่างไม่ทันตั้งตัว


พี่ริวกัดผมอยู่อย่างนั้นเหมือนกำลังต่อสู้กับอะไรบางอย่าง


ผมยอมทนให้พี่ริวกัดอยู่แบบนั้น เพราะดูเหมือนมันจะช่วยให้อาการสั่นเทาของพี่ริวจะค่อยๆ คลายลง




“พักผ่อนนะครับพี่ริว ผมขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นแบบนี้” ผมประคองพี่ริวลงนอนบนเตียงอย่างเบามือมืออาการคลุ้มคลั่งของเจ้าตัวสงบลง


ผมค่อนข้างมั่นใจว่าสิ่งที่ทำให้พี่ริวเป็นแบบนี้ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องที่ผมทำกับพี่ริว พี่ริวต้องเคยมีเหตุการณ์อะไรที่กระทบกระเทือนจิตใจอย่างรุนแรงจนเกินรับไหวแน่ๆ ถึงจะไม่อยากขอความช่วยเหลือจากคู่แข่งแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าพี่ดินเป็นคนที่รู้ทุกเรื่องของพี่ริวอย่างแท้จริง ครั้งนี้ผมคงต้องคุยกับพี่ดินให้รู้เรื่อง




ผมก้มลงจูบหน้าผากของพี่ริวอย่างแผ่วเบา และค่อยๆ ผละตัวออกเพื่อจะเดินออกไปโทรศัพท์หาพี่ดิน แต่ก็กลับถูกมือเล็กของคนที่ผมนึกว่าหลับไม่ได้สติไปแล้วดึงรั้งเอาไว้









“ฟ้า.....อย่าไปนะ.....อยู่กับพี่นะ” ริมฝีปากสวยละเมอพึมพำจนเกือบฟังไม่ได้ศัพท์









แล้วแบบนี้ผมจะไปไหนได้ล่ะครับ









“แบบนี้ดีไหมครับพี่ริว”









สุดท้ายเลยได้แต่ล้มตัวลงนอนแล้วโอบเอาร่างบอบบางของพี่ริวเอามาไว้ในอ้อมกอด









“อืม.....ดีจัง”




*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*

คนแต่งไม่ได้ใจร้ายกับพี่ริวน้าาาาา

*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX ตอนที่19 จิตใต้สำนึก [31/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: kyungploy ที่ 31-03-2017 01:12:15
หักคะแนนฟ้า จะร้ายกับพี่ริวเกินไปแล้ว
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX ตอนที่19 จิตใต้สำนึก [31/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: คนคิ้วท์คิ้วท์ ที่ 31-03-2017 01:57:44
ฟ้านิสัยเด็กเว่อร์ แต่ให้ฟีลพระเอกไทย ส่วนดินที่แสนดี ถึงจะอยากได้แค่ไหนก็ให้ฟีลพระรองอยู่ดี แต่ไม่แน่ในอนาคตถ้าดินอัพสกิลแบดล่ะก็...
ส่วนนนท์นั้นเราไม่ปลื้ม ในเรื่องของหนาวเราว่าหนาวโง่ ถ้าแฟนตัวเองโดนสิ่งร้ายๆ เราจะไม่ประชดแบบนั้น และคุยกันด้วยเหตุผล อาจจะเพราะเราอยู่มานานกว่าหนาวเลยมีสติมากกว่า ไหว้ป้าสิลูก #เอ๊ะ
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX ตอนที่19 จิตใต้สำนึก [31/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 31-03-2017 05:21:26
ฟ้า เด็กจริงๆ ทำเกินไป เหมือนเป็นเจ้าชีวิตริว
มีสิทธิ์อะไรจับขังในตู้ที่อับทึบ ไม่มีแสงสว่าง
ถ้าริวจะโกรธ จนถอยห่างแยกตัวไป ก็สมควร
นับวันความหึงหวง เกินตัวล้ำหน้า
ได้ยินที่ริว ว่าฟ้าไม่อ่อนโยนเหมือนดิน
ฟ้าน่าจะปรับตัวเองบ้างนะ
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX ตอนที่19 จิตใต้สำนึก [31/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 31-03-2017 16:04:21
เรื่องร้ายๆ ในอดีต ..
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX ตอนที่19 จิตใต้สำนึก [31/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Goffylovelove ที่ 31-03-2017 23:16:20
ฟ้า ทำไมเด็กแบบนี้ลูกมันน่าตีให้ตาย หนูจะสู้พี่ดินไม่ได้ก็ตรงนี้
ถึงให้พี่ริวรักชอบหนูยังไง ถ้าอยู่ด้วยแล้วต้องเจอเรื่องแบบนี้เค้าก็คงไม่อยู่
เรื่องร้ายในอดีตจะค่อยๆ คลายปมแล้วซินะ
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX ตอนที่19 จิตใต้สำนึก [31/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 01-04-2017 09:56:50
แบบนี้ยิ่งสงสารพี่ริวเข้าไปอีกค่ะ ฟ้าแม่งโรคจิตละเนี่ย เดวเค้าก็บ้าเหมือนเมิงหรอก
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX ตอนที่19 จิตใต้สำนึก [31/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyjimmy ที่ 01-04-2017 12:21:27
ฟ้า..แกหึงเกินไปนะ
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX ตอนที่19 จิตใต้สำนึก [31/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Ryunosuke ที่ 05-04-2017 16:30:36
อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม!!!






ตอนที่ 20 บันดาลโทสะ






ก๊อกๆ ก๊อกๆ


ผมเดินไปเปิดประตูห้องรับแขกผู้มาเยือน ไม่ต้องดูผ่านระบบกล้องวงจรปิดหรือมองผ่านตาแมวที่ประตูผมก็รู้ได้ในทันทีว่าใครคือแขกที่มาเยือนห้องของผมในเช้าวันนี้


พี่ดินใช้เวลาไม่นานหลังจากผมต่อสายหาและร้องขอให้เขามาเพื่อปรึกษาเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างผมกับพี่ริวเมื่อคืน


“ฟ้า หัวไหล่ไปโดนอะไรมา” ผมเปิดประตูให้พี่ดินทั้งที่ยังอยู่ในบ็อกเซอร์ด้วยเดียวด้วยความเคยชิน ทำให้พี่ดินสังเกตเห็นแผลเหวอะจากฟันคมของพี่ริว


“อะ เอ่อ คือ.....”


“ริวอยู่ไหน” พี่ดินพูดสวนขึ้นมาอีกครั้งก่อนที่ผมจะได้อธิบายอะไร ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับพี่ริวพี่ดินไม่เคยใจเย็นได้สักครั้ง


แต่ ริว งั้นเหรอ พี่ดินเรียกพี่ริวแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน


“ให้ผมอธิบายก่อนได้ไหมพี่ดิน”   


“ว่ามา” พี่ดินจ้องเขม็งเข้ามาที่ดวงตาของผมพร้อมบรรยากาศหนักอึ้งที่แผ่ออกมาคุกคาม ผมไม่สงสัยแล้วว่าทำไมพี่ดินถึงคุมทั้งวิศวกรและช่างได้ทั้งโรงงานแบบนั้น


“คือเมื่อวาน ผมโมโหพี่ริวมากเพราะไม่ยอมกลับห้องตามที่คุยกันไว้ แถมยังไปเจอที่มหาลัยอีก ผมก็เลย..........” ผมเล่าให้พี่ดินฟังอย่างกล้าๆ กลัวๆ พยายามอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานโดยหลีกเลี่ยงบางเรื่องที่มันดูรุนแรงเกินไป


 “แล้วยังไง เรื่องที่อยากปรึกษาพี่คือ”


“ก็คือ ผะ ผมควบคุมตัวเองไม่ได้ คิดอะไรไม่ออกด้วย  แล้วพอดีมองไปเห็นตู้เสื้อ.....โอ๊ยยย พะ พี่ดิน โอ๊ยยยย” พอผมพูดถึงเรื่องตู้เสื้อผ้า จู่ๆ พี่ดินพุ่งเข้ามาเอามือบีบหัวไหล่ผมที่เป็นแผลจากรอยกัดเต็มแรง 


“นี่มึงอย่าบอกนะ ว่ามึงเอาริวขังไว้ในตู้ ไอ้เหี้ยยย เอ้ยยยย ริวกลัวที่แคบ จำใส่สมองกลวงๆ ของมึงไว้!!! ไอ้น้องเลว!!!” พี่ดินด่ากรอกที่ข้างหู ในขณะที่ผมแทบจะยืนไว้ไม่อยู่ ไม่ใช่เพราะความเจ็บปวดจากแผลที่หัวไหล่ แต่เป็นเพราะความเจ็บปวดที่หัวใจที่ได้รับรู้ว่าผมไม่เคยรู้อะไรเกี่ยวกับพี่ริวเท่าที่พี่ดินรู้เลย


“ผม ผม ขอโทษ พี่ ผมไม่รู้ว่าพี่ริวจะกลัวขนาดนั้น” ผมทรุดตัวลงคุกเขาอยู่กับพื้นเพราะพี่ดินเพิ่มแรงบีบที่หัวไหล่จนผมทนไม่ไหว


“มึงควรขอโทษริว ไม่ใช่ขอโทษกู แล้วมึงหมายความว่าอะไรที่บอกว่า ไม่รู้ว่าริวจะกลัวขนาดนั้น”


“กะ ก็พี่ริว เหมือนกลายเป็นอีกคน คลั่งจนผมแทบเอาไม่อยู่ ปากก็บอกขอร้องให้ปล่อย บอกว่ากลัวอยู่ตลอด”


“นี่มึงทำริวถึงขนาดไหนกันแน่วะ แมร่งเอ้ย!!! อยู่นิ่งๆ อย่าได้เสือกขยับไปไหนเลยนะ เดี๋ยวกูจะกลับมาคิดบัญชีกับมึง ไอ้เหี้ยเอ้ย!!!” พี่ดินสบถจบก็เดินหายเข้าไปในห้องนอนของผม ผมได้แต่นั่งคุกเข่านิ่งๆ อยู่ตรงนั้น ไม่ใช่เพราะพี่ดินสั่ง แต่เพราะความรู้สึกผิดที่มันจับที่ขั้วหัวใจจนแทบจะหายใจไม่ออก


ผมไม่เคยเห็นพี่ดินควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ขนาดนี้มาก่อน นี่เป็นครั้งแรกที่ผมรับรู้ถึงความน่ากลัวของพี่ชายของผมคนนี้


ครั้งแรกที่ผมเจอพี่ดิน คือวันที่พ่อพาพี่ดินเข้าบ้านมาพร้อมกับประกาศให้ทุกคนในบ้านรู้ทั่วกันว่าเป็นลูกชายอีกคนของพ่อ ตอนนั้นผมยังเด็กมากแต่ก็ยังจำได้ดีว่าดีใจแค่ไหนที่ได้รู้ว่าตัวเองมีพี่ชาย     


พี่ดินเป็นคนเงียบขรึมไม่ค่อยมีรอยยิ้มให้เห็นตั้งแต่ไหนแต่ไร แต่ภายใต้ใบหน้านิ่งๆ นั้นซ่อนไว้ด้วยความอบอุ่นและอ่อนโยน เราทั้งสองคนถูกเลี้ยงขึ้นมาด้วยกันไม่ต่างอะไรจากพี่น้องแท้ๆ ที่คลานตามกันมา พี่ดินเป็นที่รักของทุกคน จนบางครั้งผมยังเคยแอบคิดว่าพ่อกับแม่ของผมรักพี่ดินมากกว่าตัวเองด้วยซ้ำ


แต่ถึงอย่างนั้นพี่ดินกลับชอบทำตัวเหมือนอยู่กันคนละสถานะกับผมเสมอ พี่ดินไม่เคยเรียกร้องหรือร้องขออะไร ขนาดของเล่นหรือเสื้อผ้าพี่ดินก็ยังเลือกที่จะใช้เงินเก็บส่วนตัวของตัวเอง พอโตขึ้นหน่อยพี่ดินก็เริ่มหางานทำจนสามารถส่งเสียตัวเองเรียนจนจบ 


พี่ดินเข้าทำงานในบริษัทของครอบครัวเพราะการขอร้องจากพ่อ พี่ดินยอมทำตามโดยยื่นเงื่อนไขว่าทุกคนในบริษัทต้องไม่มีใครรู้ว่าแท้จริงแล้วพี่ดินเป็นคนของตระกูลเตชะรัตนบรรจง


แต่ผมรู้ว่าความจริงแล้วพี่ดินเข้าทำงานในบริษัทเพราะอะไร หรืออาจจะต้องพูดว่าเพราะใครเสียมากกว่า


ผมรู้มาตั้งแต่เด็กว่าพี่ดินมีคนสำคัญอยู่ในใจ พี่ดินทำทุกอย่างให้ตัวเองเป็นคนที่ดีขึ้นเพื่อให้ได้อยู่ในสายตาคนคนนั้น แต่ผมไม่เคยรู้เลยว่าคนสำคัญของพี่ดินกับคนสำคัญของผมเป็นคนคนเดียวกัน


จนเมื่อไม่นานมานี้จู่ๆ พี่ดินก็นัดผมให้เข้าไปหาที่คอนโดของพี่ดิน ผมไม่เคยได้เหยียบเข้าห้องของพี่ดินมาก่อนจนกระทั้งวันนั้น และก็เป็นวันนั้นเองที่ทำเอาผมแทบช็อคเพราะในห้องนอนพี่ดินเต็มไปด้วยความทรงจำเกี่ยวกับพี่ริวเต็มไปหมด มันมากมายจนผมนึกอิจฉาพี่ชายตัวเองที่มีโอกาสได้ใกล้ชิดกับพี่ริวถึงขนาดนี้


//แต่ไหนแต่ไรกูยอมให้มึงทุกเรื่อง แต่ไม่ใช่กับเรื่องของคนคนนี้// ผมจำทั้งน้ำเสียงและสีหน้าของพี่ดินในวันนั้นได้ดี ไม่เคยมีครั้งไหนที่พี่ดินพูดกับผมด้วยสรรพนามแทนตัวแบบนั้นมาก่อน


//ไม่ว่าพี่ริวจะตัดสินใจยังไง กูจะยอมรับมัน และมึงก็ต้องยอมรับมันเช่นกัน// ผมได้แต่นิ่งเพราะพูดอะไรไม่ออก


//พี่ริวเป็นยิ่งกว่าชีวิตของกู//


คำพูดของพี่ดินวันนั้นมันยังก้องอยู่ในหัวผมไม่หยุด และวันนี้ก็พิสูจน์ได้เป็นอย่างดีว่าพี่ดินพูดจริงทำจริง


ผลั่ก!!! หมัดลุ่นๆ ของพี่ดินที่เพิ่งเดินกลับออกมาจากห้องนอนกระแทกเข้าที่ใบหน้าของผมอย่างแรงจนผมถึงกับเสียหลักไปกระแทกเข้ากับโต๊ะกินข้าวกลางห้องนั่งเล่น


โครม!!! มือใหญ่ของพี่ดินจิกหัวผมให้ลอยขึ้น ก่อนจะกดมันกระแทกลงกับขอบโต๊ะกินข้าว


ผมเจ็บจนร้องไม่ออก ภาพที่เห็นตรงหน้ากลายเป็นสีแดงฉานเพราะเลือดที่ไหลเข้ามาในตา


“อั้ก!!! อั้ก!!! อั้ก!!!.....” พี่ดินเข้ามาเตะซ้ำที่ช่วงลิ้นปี่นับครั้งไม่ถ้วน ผมได้แต่งอตัวอยู่กับพื้นเพราะจุกและเจ็บจนแทบจะขาดใจ


สมองผมมันเบลอไปหมด เหมือนมันจะหยุดสั่งงานไปเสียดื้อๆ ร่างของพี่ดินตรงหน้าไม่ต่างอะไรจากมัจจุราชที่พร้อมจะเอาชีวิตผมได้ทุกเมื่อ




สติผมค่อยๆ พร่าเลือน จนกระทั่งมีเสียงหนึ่งดังแทรกบรรยากาศหนักอึ้งขึ้นมา




“พอแล้ว อย่าทำฟ้าเลยดิน”


ผมแทบไม่รับรู้อะไรอีกแล้ว รู้แต่เพียงว่ามีใครบางคนโถมทั้งตัวเข้ามาบังผมไว้


“แต่มันทำริวเจ็บ”


“ริวไม่เป็นไรแล้วดิน”


“ริวจะเจ็บไม่ได้”


“ดินริวขอร้อง ริวไม่อยากให้ฟ้าเจ็บกว่านี้อีกแล้ว”


“แต่มันทำริวเจ็บ ริวจะเจ็บไม่ได้ ผมยอมไม่ได้ ริวหลบ”


“ดินรักริวไหม”


“ทะ ทำไม ริวถามผมแบบนี้ ริวก็รู้”


“งั้นดินคงรู้ว่าเวลาที่ต้องเห็นคนที่เรารักเจ็บมันรู้สึกยังไง”


“ริวกำลังจะบอกอะไร”


“ริวไม่อยากให้ฟ้าเจ็บ”


“ละ แล้วผมล่ะริว”


“ริวก็ไม่อยากให้ดินเจ็บเหมือนกัน”






ถ้าผมไม่เข้าข้างตัวเองจนเกินไป ดูเหมือนพี่ริวคงมีใจให้ผมบ้างแล้ว






แต่สิ่งที่ผมไม่เข้าใจก็คือ พี่ริวก็ดูเหมือนจะมีใจให้พี่ดินเหมือนกัน






แล้วถ้ามันเป็นแบบนั้นจริงผมควรจะทำยังไง






ผมเจ็บไปทั้งตัวจนไม่อาจจะขยับไปไหน ได้แต่ขดตัวอยู่ภายใต้การปกป้องของพี่ริว สติการรับรู้ของผมมันค่อยๆ เบาบางลงแต่ถึงกระนั้นในหัวผมมันกลับมีคำพูดที่พี่ดินเคยพูดกับผมผุดขึ้นมา













//ไม่ว่าพี่ริวจะตัดสินใจยังไง กูจะยอมรับมัน และมึงก็ต้องยอมรับมันเช่นกัน//




*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX ตอนที่20 บันดาลโทสะ [5/04/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Laliat ที่ 05-04-2017 19:19:58
 :z13: เอิ่ม รอมานาน แต่สั้นไปน่ะตัวเธอ
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX ตอนที่20 บันดาลโทสะ [5/04/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyjimmy ที่ 05-04-2017 19:23:09
ใช่ต้องยอมรับที่ริวตัดสินใจ....เพราะ...ริว...อยากเก็บเธอไว้ทั้งสองคน
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX ตอนที่20 บันดาลโทสะ [5/04/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 05-04-2017 19:38:12
ตีกันเพื่อจะได้รักกันนะ พี่ริวเลือกแล้ว เลือกเหมา
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX ตอนที่20 บันดาลโทสะ [5/04/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 05-04-2017 22:56:50
มันก็ต้องเป็นอย่างนี้แหละ
แท็คมือกันไว้ ปกป้องริว
ไม่แน่พี่หนาว หวนกลับมาหาริวอีก
ถ้ารู้ความจริง
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX ตอนที่20 บันดาลโทสะ [5/04/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 07-04-2017 12:22:50
รอตอนต่อไป ..
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX ตอนที่20 บันดาลโทสะ [5/04/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Ryunosuke ที่ 07-04-2017 16:25:49
อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม!!!






ตอนที่ 21 อดีตกับความทรงจำ






“นี่มึงอย่าบอกนะ ว่ามึงเอาริวขังไว้ในตู้ ไอ้เหี้ยยย เอ้ยยยย ริวกลัวที่แคบ จำใส่สมองกลวงๆ ของมึงไว้!!! ไอ้น้องเลว!!!” ทั้งๆ ที่ผมตั้งใจไว้แล้วว่าวันนี้จะมารับฟังฟ้าอย่างใจเย็นที่สุด แต่ผมก็ต้องน็อตหลุดทันทีที่ได้ยินฟ้าพูดถึงเรื่องตู้เสื้อผ้า ถึงปากจะด่าไปแล้วแต่ในใจก็ยังหวังว่าฟ้าคงไม่ได้ทำกับพี่มังกรแบบนั้น


พี่มังกรกลัวที่แคบ เรื่องนี้ผมรู้ดีที่สุด เพราะผมเองนี่แหละคือคนที่ไปพาตัวพี่ริวออกมาจากตู้เสื้อผ้าที่เคยใช้กักขังหน่วงเหนี่ยวพี่มังกรเอาไว้ร่วมหนึ่งเดือนเต็ม


“ผม ผม ขอโทษ พี่ ผมไม่รู้ว่าพี่ริวจะกลัวขนาดนั้น” ผมปรายตามองคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเหมือนน้องชายแท้ๆ ความรู้สึกผิดฉายชัดบนใบหน้าของฟ้า แต่มันกลับยิ่งทำให้ผมโกรธยิ่งกว่าเดิม


“มึงควรขอโทษริว ไม่ใช่ขอโทษกู แล้วมึงหมายความว่าอะไรที่บอกว่า ไม่รู้ว่าริวจะกลัวขนาดนั้น”


“กะ ก็พี่ริว เหมือนกลายเป็นอีกคน คลั่งจนผมแทบเอาไม่อยู่ ปากก็บอกขอร้องให้ปล่อย บอกว่ากลัวอยู่ตลอด”


“นี่มึงทำริวถึงขนาดไหนกันแน่วะ แมร่งเอ้ย!!! อยู่นิ่งๆ อย่าได้เสือกขยับไปไหนเลยนะ เดี๋ยวกูจะกลับมาคิดบัญชีกับมึง ไอ้เหี้ยเอ้ย!!!” ผมอยากจะซัดหน้าเด็กไม่รู้จักโตตรงหน้าใจจะขาด แต่ความเป็นห่วงพี่มังกรมันมีมากกว่า ผมทิ้งฟ้าให้นั่งคุกเข้าอยู่ที่เดิมแล้วรีบเดินเพื่อเข้าไปดูพี่มังกรในห้องนอน




“ริว ผมขอโทษ ผมมาช้าไปอีกแล้ว” ภาพพี่มังกรที่นอนหลับไม่ได้สติอยู่บนเตียงทำให้ผมรู้สึกผิดจนจับขั้วหัวใจ


ใบหน้าสวยดูหมองคล้ำซีดเซียวและเหนื่อยอ่อน คิ้วทั้งคู่ขมวดกันเป็นปมราวกับพยายามไล่เรื่องร้ายๆที่ตีกันอยู่ในหัว 


“ผมอยู่นี่แล้วนะครับ ริวไม่เป็นไรแล้ว ริวปลอดภัยแล้วนะ”  ผมอดไม่ได้ที่เอาเอามือเข้าไปคลึงช่วงคิ้วที่ขมวดกันจนเป็นปมให้ผ่อนคลายลง ผมไล้นิ้วโป้งของผมจากหัวคิ้วของพี่มังกรจากหัวคิ้วไปที่ขมับช้าๆ แล้วค่อยๆ นวดคลึงอยู่อย่างนั้นจนรอยยิ้มน้อยๆ ปรากฏบนใบหน้าสวย นั่นทำให้ผมเองก็เผลอยิ้มออกมาด้วยเช่นกัน




ผลั่ก!!! ผมซัดหมัดตรงเข้าที่ใบหน้าของฟ้าเต็มแรง แรงปะทะทำให้ฟ้าเสียหลักไปกระแทกกับโต๊ะกินข้าวอย่างจัง แต่ไหนแต่ไรมาผมไม่เคยทำให้ฟ้าเจ็บมาก่อน ไม่ว่าจะครั้งไหนๆ ผมจะยอมลงและให้อภัยน้องชายของผมคนนี้เสมอ แต่สิ่งที่ฟ้าทำในครั้งนี้ผมเกินกว่าที่ผมจะให้อภัย


ผมกดหัวฟ้ากระแทกลงกับโต๊ะกินข้าวจนเสียงดังสนั่น ฟ้าไม่สู้ผมสัดนิดได้แต่เงยหน้าขึ้นมามองช้าๆ จนทำให้ผมเห็นว่าใบหน้าหล่อเหลากำลังเต็มไปด้วยเลือดสดๆ ใบหน้าที่เคยยิ่งยโสไม่เคยกลัวใครกำลังสลดลงอย่างน่าสงสาร ถ้าในเวลาปกติผมคงต้องรีบเข้าไปปลอบโอ๋น้องแล้ว


“อั้ก!!! อั้ก!!! อั้ก!!!.....” แต่ไม่ใช่ครั้งนี้ เพราะครั้งนี้สีหน้าของฟ้ามันกลับยิ่งทำให้ผมบันดาลโทสะ ผมเตะซ้ำไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง อาจจะเป็นความผิดผมเองที่เลี้ยงน้องมาอย่างตามใจ จนน้องกลายเป็นเด็กเอาแต่ใจตัวเองแบบนี้




“พอแล้ว อย่าทำฟ้าเลยดิน” แต่สิ่งที่ผมขาดไปถึงก็เกิดขึ้น เพราะจู่ๆ พี่มังกรก็ออกมากจากห้องแล้วถลาเข้ามารับแข้งผมแทนฟ้า


“แต่มันทำริวเจ็บ” ผมรู้สึกเจ็บแปลบในอกเพราะพี่มังกรถึงกับเอาตัวเองเข้าไปคร่อมบังร่างของฟ้าไว้


“ริวไม่เป็นไรแล้วดิน” ถึงพี่มังกรจะพูดอย่างนั้น แต่ร่างกายบอบบางนั่นกลับสั่นเทาแปลกๆ พี่มังกรไม่ได้โถมตัวลงไปกอดฟ้าอย่างที่ควรจะเป็น มือเล็กกลับดูลังเลที่จะสัมผัสร่างกายของฟ้า เหงื่อผุดเต็มใบหน้าสวยที่กำลังมองคนที่นอนเจ็บอยู่อย่างชั่งใจ ท่าทีกล้าๆ กลัวๆ ที่จะถูกตัวคนอื่นแบบนี้ทำให้ผมนึกถึงครั้งที่ช่วยพี่มังกรออกมาใหม่ๆ


“ริวจะเจ็บไม่ได้” ผมพูดออกไปอย่างที่ใจคิด ในใจก็เต็มไปด้วยความกังวลว่าโรคกลัวสัมผัสของพี่มังกรมันจะกลับมา ที่สำคัญผมกลัวเหลือเกินว่าเหตุการณ์ที่เคยทำร้ายพี่มังกรมันจะกลับมาทำร้ายจิตใจเขาอีก


“ดินริวขอร้อง ริวไม่อยากให้ฟ้าเจ็บกว่านี้อีกแล้ว” 


“แต่มันทำริวเจ็บ ริวจะเจ็บไม่ได้ ผมยอมไม่ได้ ริวหลบ”


“ดินรักริวไหม”




คำถามที่ออกจากริมฝีปากสวยทำให้ผมชะงัก ผมไม่เคยคิดว่าพี่มังกรจะถามผมแบบนี้




“ทะ ทำไม ริวถามผมแบบนี้ ริวก็รู้”




ผมเฝ้าบอกรักพี่มังกรมาตลอด พี่มังกรจะไม่รู้ได้อย่างไร พี่มังกรกำลังมีจุดประสงค์อื่นในการใช้คำถามแบบนี้กับผม









“งั้นดินคงรู้ว่าเวลาที่ต้องเห็นคนที่เรารักเจ็บมันรู้สึกยังไง”




“ริวกำลังจะบอกอะไร” รู้ทั้งรู้ว่าพี่มังกรกำลังหมายถึงอะไร ผมก็ยังดื้อที่จะลองถามมันออกไป




“ริวไม่อยากให้ฟ้าเจ็บ” คำพูดนี้ยืนยันได้ว่าพี่มังกรมีใจให้ฟ้า




“ละ แล้วผมล่ะริว” แล้วผมล่ะพี่มังกร แล้วถ้าผมเจ็บบ้างล่ะ




“ริวก็ไม่อยากให้ดินเจ็บเหมือนกัน”




แปลว่าพี่มังกรมีใจให้ทั้งผมและฟ้าสินะ พี่มังกรกำลังบอกแบบนั้น ถ้าพี่มังกรตัดสินใจแบบนั้นผมก็จะยอมรับมัน ถึงแม้ผมจะอยากให้พี่มังกรมีแต่ผมมากเพียงใด แต่ในเมื่อพี่มังกรว่าแบบนั้น ผมก็จะยอมรับมัน


“ฟ้า ไอ้ฟ้ามึงได้ยินกูมั้ย มึงเห็นมั้ยว่าริวดีกับมึงแค่ไหน” ผมโผเข้าไปกระชากคอเสื้อของฟ้าที่ดูเหมือนจะหมดสติไปแล้วให้ลุกขึ้นมาฟังสิ่งที่ผมพูด


“ดิน เบาหน่อย เดี๋ยวฟ้าก็ได้ตายจริงๆ หรอก” พี่มังกรเหมือนพยายามจะเข้ามารั้งมือผมไว้ แต่ก็กลับสะดุ้งชักมือตัวเองกลับไป อาการของพี่มังกรกลับมาแล้วจริงๆ


“ฟ้ามังจำใส่หัวมึงไว้ ถ้ามึงทำริวเจ็บอีก มึงกับกูตัดพี่ตัดน้องกัน!!!” ผมหลุดคำพูดทั้งหมดออกไปด้วยอารมณ์ที่ยังคุกกรุนจนลืมไปว่า พี่มังกรไม่เคยรู้สถานะระหว่างผมและฟ้ามาก่อน


“ดะ ดิน ว่าอะไรนะ ดินกับฟ้าเป็น......”


“ผมอธิบายได้นะริว”


“อะ อืม พาฟ้าไปนอนที่เตียงก่อนเถอะ แล้วโทรเรียกหมอมาดูด้วย ถ้าพาไปโรงพยาบาลจะวุ่นวายเปล่าๆ” พี่มังกรบอกผมด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ ที่อยากแก่การคาดเดา


 “ครับริว คือริว ผมไม่ได้ตั้งใจ....”


“รีบเถอะน่า เดี๋ยวฟ้ามันได้ตายจริงๆ หรอก”


“ครับริว.....”


“เรียบร้อยแล้วค่อยออกมาคุยกัน”


“ครับริว”


.

.

.

.

.
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX >>>ตอนที่ 21<<< [7/04/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Ryunosuke ที่ 07-04-2017 16:26:29





“นั่งลงสิดิน” หลังจากส่งหมอที่ตระกูลเตชะรัตนบรรจงเรียกใช้อยู่ประจำเสร็จ พี่มังกรก็เรียกให้ผมนั่งลงข้างๆ ที่โซฟาในบริเวณห้องนั่งเล่น


“ครับ”


“ริวว่าเราต้องคุยกัน ริวขอให้ดินพูดทุกอย่างตามความจริง”


“ครับริว” ถึงตอนนี้แล้วผมคงไม่มีอะไรจะต้องปิดบังอีก ห่วงก็แต่ความรู้สึกของพี่มังกรเท่านั้น


“เรื่องของดินกับฟ้า ดินคิดจะบอกริวเมื่อไหร่”


“ผมไม่คิดจะบอกเรื่องนี้กับริวครับ” ผมตามไปตามตรง


“ทำไม”


“ผมคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องสำคัญ”


“ไม่สำคัญงั้นเหรอ ดินคือทายาทอีกคนของท่านเมฆินทร์นี่เรียกว่าไม่สำคัญเหรอดิน”


“ครับ คือผมไม่ได้เข้ามาในบริษัทนี้ในฐานะทายาทของท่านเมฆินทร์ อีกอย่างผมเป็นแค่ลูกบุญธรรมไม่ใช่ลูกแท้ๆ แต่ถึงผมจะเป็นลูกใครมันก็ไม่ได้มีความสำคัญกับความสัมพันธ์ของเรานี่ริว”


“สำคัญสิ ริวกำลังทำผิดต่อท่านเมฆินทร์”


“พ่อไม่เกี่ยวอะไร ริวไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิด”


“ริวกำลังทำให้ทายาททั้งสองคนของท่านเมฆินทร์เดินทางผิด”


“อะไรคือเดินทางผิดครับริว ริวกำลังบอกว่าที่ดินรักริวคือการเดินทางผิดงั้นเหรอ”


“แล้วมันไม่ใช่รึไง แทนที่ฟ้ากับดินจะได้มีครอบครัวที่ดีเป็นที่เชิดหน้าชูตา แต่กลับต้องมาจมปลักอยู่กับคนวิปริตผิดเพศอย่างริว......อ๊ะ ยะ อย่า เข้ามานะ” ระหว่างที่ริวกำลังพูดผมโน้มตัวเข้าไปหาเพื่อจะดึงร่างบางเข้ามากอด แต่ริวกลับผงะตัวหนีราวกับจะหวาดกลัว 


“ริว.....”


“ดิน.....ดินรู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้บ้าง ภาพในหัวริวมันมาจากไหน ผู้ชายที่ถูกจับขังไว้ในตู้ โดนบังคับฉีดยาอะไรอยู่ตลอดเวลา คนที่มีสีหน้ามีความสุขเหลือเกินเวลาถูกรุมกระทำ มันคือริวใช่มั้ย แล้วไอ้อาการกลัวสัมผัสนี่มันคืออะไร”


“ริว คือ.....”


“ไอ้คนสกปรกโสโครกคนนั้นคือริวใช่มั้ยดิน” เสียงพี่มังกรเรียบนิ่ง แต่ฟังดูก็รู้ว่ามันแฝงไปด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัส


“ไม่ ไม่ ริวโดนใส่ร้าย นั่นไม่ใช่ริว เชื่อดินนะ ริวใจเย็นก่อน” 


“มิน่าล่ะหนาวถึงทิ้งริวไป เพราะแบบนี้ใช่มั้ยดิน” พี่มังกรปล่อยให้หยาดน้ำใสหยดลงจากขอบตาสวยโดยไม่ได้ยกมือขึ้นเช็ด


“ริวฟังดินนะ เรื่องนี้มันมีเบื้องหลัง มันมีคนตั้งใจทำลายความรักระหว่างริวกับพี่หนาว” ผมยกมือขึ้นเพื่อเช็ดน้ำตาให้คนตรงหน้า พี่มังกรผงะไปครู่หนึ่งก่อนที่จะปล่อยให้ผมใช้นิ้วโป้งเกลี่ยเช็ดหยาดน้ำตาในขณะที่ตัวเองก็ยังสั่นเทาด้วยความกลัวสัมผัสจากผม


“งั้นดินเล่าให้ริวฟังได้มั้ยว่าความจริงมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่” 


“ถ้าเป็นความต้องการการของริว ผมก็จะเล่า”


ผมหลับตาลงช้าๆ นึกถึงเรื่องราวที่ผมอยากจะกลับฝั่งมันไว้ในอดีต ก่อนจะเอ่ยปากเล่าเรื่องราวในช่วงที่พี่มังกรกำลังเรียนต่อปริญญาโทและพี่หนาวกำลังจะจบปริญญาตรี


มันเป็นช่วงเวลาที่ความรักของทั้งคู่ถูกสั่นคลอนด้วยการเปลี่ยนถ่ายอำนาจการบริหารของตระกูลใหญ่ผู้ครอบครองธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่างตระกูลอนันตชัย ซึ่งมีพี่หนาวเป็นทายาทลำดับที่หนึ่ง ในตอนนั้นพี่หนาวพาพี่มังกรเข้าออกบ้านอยู่หลายครั้งเพราะมีปัญหากับพ่อของพี่หนาวที่ต้องการจะให้พี่หนาวแต่งงานแล้วก้าวขึ้นรับตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดอย่างเต็มภาคภูมิ


ทั้งคู่ก็ยังดูมีความสุขกันดีจนผมเองก็คิดว่าน่าจะไม่มีปัญญาอะไรเพราะนอกจากพ่อของพี่หนาวพี่มังกรก็ดูจะเข้ากับทุกคนในบ้านพี่หนาวได้เป็นอย่างดี จนกระทั่งวันหนึ่งที่พี่มังกรก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่มีใครติดต่อพี่มังกรได้แม้แต่บ้านของพี่มังกรเอง ทุกคนช่วยกันออกตามหา จนสุดท้ายก็ต้องจบลงที่การไปแจ้งความคนหายทิ้งไว้ เพราะทุกคนต่างพยายามจนหมดปัญญา คนที่ร้อนใจที่สุดคงหนีไม่พ้นพี่หนาว พี่หนาวกระวนกระวายจนแทบเป็นบ้า ข้าวปลาไม่กินจนร่างกายผ่ายผอมไม่เหลือสภาพประธานนิสิตคณะเศรษฐศาสตร์ผู้เป็นขวัญใจของทั้งมหาลัย


แต่แล้วเรื่องร้ายๆ มันกลับไม่จบลงแค่นั้น เพราะจู่ๆ วันหนึ่งพี่นนท์ก็มาพร้อมกับคลิปวิดีโอที่ทำให้ทุกคนถึงกับตกใจไปตามๆ กัน ภาพหนุ่มน้อยหุ่นบอบบางกำลังระเริงอารมณ์กับชายหนุ่มฉกรรจ์อีกนับสิบเป็นสิ่งที่ผมเห็นแล้วถึงกับเบือนหน้าหนี คงไม่ต้องบอกว่าคนรักอย่างพี่หนาวจะรู้สึกอย่างไร


“พอก่อนดิน ริวพอจะเข้าใจแล้วล่ะ สมควรแล้วที่หนาวจะทิ้งริวไป” พี่มังกรพูดแทรกขึ้นมาในระหว่างที่ผมกำลังเล่าเรื่อง


“มะ ไม่ใช่นะครับริว ความจริงมันไม่ใช่ริว ริวโดยยา.....”


“พอเถอะดิน ไม่ต้องเล่าต่อแล้วริวรู้เรื่องริว เพราะภาพตอนนั้นมันอยู่ในหัวริวเต็มไปหมด”


“ริว เรื่องนี้มันมีเบื้องหลัง ริวฟังดิน.....”


“แล้วดินล่ะ ทำไมดินไม่ทำเหมือนที่หนาวทำ”


“ริวหมายความว่าอะไรครับ”


“ทำไมดินถึงยังรักริว ทั้งที่ริวมันสกปรกขนาดนี้”


“ไม่นะริว ดินบอกริวแล้ว ว่านั่นไม่ใช่ริว มันเป็นเพราะฤทธิ์ยา.....” นั่นไม่ใช่ริว ผมรู้ดีเพราะเป็นผมที่เป็นคนบุกเข้าไปในที่กบดานของไอ้พวกสัตว์นรกพวกนั้นเพื่อพาริวออกมา ไอ้สารเลวพวกนั้นใช้ยากับริวจนริวไม่เป็นตัวของตัวเอง ยอมทำตามคำสั่งทุกอย่างเพื่อแลกกับที่ตัวเองจะได้รับยาเพิ่ม


ตอนที่ผมเจอริวเหมือนหัวใจผมมันได้สลายไปต่อหน้าต่อตา ริวถูกมัดแล้วขังไว้ในตู้เสื้อผ้ามืดสนิทใบหนึ่ง ร่างกายสูบผอมสั่นสะท้าน ปากก็มีแต่คำว่ากลัวแล้ว กลัวแล้ว ลำล่ำละลักออกมาไม่หยุด


“ทิ้งริวไปเถอะ อย่ามาเสียเวลากับคนอย่างริวเลย”


“ดินทำไม่ได้หรอกริว”


“ทำไม.....”


“ริวเป็นยิ่งกว่าชีวิตของดินมานานแล้ว ถ้าริวยังจำเด็กมัธยมที่ทำงานพิเศษในร้านฟาสต์ฟู้ดที่สยามได้”


“เป็นดินจริงๆ สินะ.....”


“ริวรู้เหรอครับ ริวจำดินได้เหรอ”


“อืม แค่เดาน่ะ แต่ไม่คิดว่าจะใช่จริงๆ ถ้าดินหลงรักริวคนนั้นในอดีต มันไม่ใช่ริวคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าดินตอนนี้หรอกนะ”


“ผมน่ะเฝ้าดูริวมาห่างๆ อยู่ตลอด ไม่ว่าริวจะสร้างเกราะภายนอกให้เปลี่ยนไปขนาดไหน ริวก็ยังเป็นริวของผมเสมอ ริวใจดีกับผมเสมอ ผมรู้ว่าที่ริวพยายามไล่ผมมาตลอดริวทำไปเพื่ออะไร”


“มันจะดีกับดินเอง.....”


“ริวอย่าตัดสินใจแทนว่าอะไรมันดีหรือไม่ดีกับผม”


“ดิน.....”


“ถ้าริวจำผมได้ ริวคงจำได้ว่าเราเคยตกลงกันไว้”


“.....”


“วันนี้ผมโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีพอจะปกป้องริวแล้วนะครับ”     
     

“แล้วดินรับได้เหรอ ที่ริว ริวเป็นแบบ....แบบนั้น”


“ผมบอกแล้วไงครับว่านั่นไม่ใช่ริว”


“ดิน.....”


“ริวครับ.....ให้ดินปกป้องริวเหมือนที่เราเคยตกลงกันไว้นะครับ”


“ดิน.....”








แต่ในระหว่างที่พี่มังกรกำลังจะเอ่ยปากกับผม ก็มีอีกสิ่งหนึ่งที่ผมคาดไม่ถึงเข้ามาขัดจังหวะ









ผมไม่รู้ว่าฟ้าออกมาจากห้องตั้งแต่ตอนไหน แล้วได้ยินอะไรที่ผมกับพี่มังกรคุยกันบ้าง แต่การปรากฏตัวของฟ้าก็ทำให้ทั้งผมและพี่ริวตกใจไม่แพ้กัน









“แล้วสัญญาที่เคยให้ไว้กับสกายล่ะครับ พี่ริวยังจำมันได้มั้ย”




*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX >>>ตอนที่ 21<<< [7/04/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: minneemint ที่ 07-04-2017 17:33:17
 :hao4:
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX >>>ตอนที่ 21<<< [7/04/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyjimmy ที่ 07-04-2017 20:29:37
เอ้าอิพี่ริวสัญญาอะไรอีก.....รีบบอกมาเลย...ฟ้า
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX >>>ตอนที่ 21<<< [7/04/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 07-04-2017 21:58:29
 :hao7:  โอ้เย้ ได้เวลาที่ต้องเปิดใจสักทีเนอะ
ใช่ค่ะพี่ริวพี่จำได้หมดแล้วใช่ไหม
เพราะงั้นตัดสินใครตอนนี้จะไม่ต้องเสียใจภายหลังนะ
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX >>>ตอนที่ 21<<< [7/04/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: เจเจจัง ที่ 07-04-2017 23:50:48
อ่านถึงตรงนี้เกลียดหนาวเลย. เป็นแฟนที่ใช้ไม่ได้. คบมาตั้งนานไม่รู้นิสัยริวเหรอหายไปตั้งนานทำไมไม่คิดว่าโดนจับตัว. มีคลิปแบบนี้. ทำไมไม่ตามหา.  ไปถาม ไปสืบให้รู้เรื่อง. ดันเชื่อแล้วแต่งงานประชด. ไม่เชื่อมั่นแฟนตัวเอง. สู้ดินก็ไม่ได้ ดี. เพราะแกนิสัยแบบนี้. ดินกะฟ้าเลยสมหวัง. อย่าเสียดายและจะเอาคืนทีหลังละกัน
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX >>>ตอนที่ 21<<< [7/04/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 08-04-2017 12:01:18
ความในใจมาเต็ม ..
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX >>>ตอนที่ 21<<< [7/04/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 08-04-2017 18:05:46
ยังไงก็ให้อภัยนนท์ไม่ได้ ถึงนนท์จะรักริวจนอยากเก็บไว้เอง แต่ให้คนอื่นมารุมโทรมแบบนี้..โหดร้ายไปนะ :ling1:
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX >>>ตอนที่ 21<<< [7/04/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Goffylovelove ที่ 10-04-2017 14:23:08
ดินโหดไปมั้ยลูก กลัวตายแทนฟ้าเลย
ดินแบบโคตรมั่นคงตัวพี่ริว คนจริงมากๆ
ส่วนฟ้า ต้ิงรีบเป็นผู้ใหญ่กว่านี้นะลูก
นนท์ เอาจริงๆ คือนนท์ทำเหรอ ถ้านนท์ทำนี่ไม่ใช่คนแล้วนะ
เอาล่ะถึงเวลาเราสามคนแล้วใช่มั้ยต่อจากนี้
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX >>>ตอนที่ 21<<< [7/04/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: RAKDEK_KA ที่ 13-04-2017 15:38:05
ค้างมากจ๊ะ ต่อเร็วๆนะ ส่วนพวกที่ทำอย่างนี้ต้องเอาให้หนัก
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX >>>ตอนที่ 21<<< [7/04/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Ryunosuke ที่ 19-04-2017 13:13:26
อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม!!!






ตอนที่ 22






หลังจากที่อาหมอเดินออกไปจากห้องพร้อมกับพี่ดิน ผมหลับตาลงพักสายตาและนอนนิ่งๆ อยู่อย่างนั้นเพื่อให้ทั้งพี่ริวและพี่ดินเข้าใจว่าผมหลับไปแล้ว


ผมได้ยินทุกบทสนทนาระหว่างพี่ริวและพี่ดิน เรื่องราวในอดีตของพี่ริวที่ออกจากปากพี่ดินมันประเดประดังเข้ามาในสมองของผม ความรู้สึกผิดต่อพี่ริวยิ่งเพิ่มพูนยิ่งกว่าหินปูนที่เกาะกินหัวใจจนแทบหยุดเต้น


ถ้าผมรู้เรื่องราวสักนิดคงไม่พลั้งมือทำเรื่องบ้าๆ แบบนั้นลงไป


เรื่องที่ผมได้ฟังยิ่งทำให้ผมรู้สึกว่าต้องรักและปกป้องดูแลพี่ริวให้ดีกว่าเดิม ผมนับถือพี่ดินที่ผ่านช่วงเวลานั้นมาด้วยความมั่นคงที่มีต่อพี่ริว ผมเองยังนึกภาพไม่ออกว่าจะสามารถทำได้เท่าที่พี่ดินทำให้พี่ริวหรือไม่ แต่กับคนที่ชื่อหนาวเดิมผมแค่อิจจฉาเพราะเขาเป็นคนแรกที่ได้รับความรักจากพี่ริว แต่ตอนนี้ผมเกลียดเขาจับใจถึงแม้จะไม่เคยพบหน้า




“แล้วสัญญาที่เคยให้ไว้กับสกายล่ะครับ พี่ริวยังจำมันได้มั้ย”


ผมเผลอหลุดปากออกไปเมื่อเห็นว่าพี่ริวกับลังจะตอบรับอะไรบางอย่างกับพี่ดิน การปรากฏตัวของผมทำให้ทั้งคู่ตกใจไม่น้อย


“ทำไมไม่นอนพักก่อนล่ะฟ้า” พี่ริวเหมือนจะเข้ามาประคองผม แต่ก็เปลี่ยนใจและนั่งลงที่โซฟาเหมือนเดิม สีหน้าของพี่ริวดูเหมือนกังวลอะไรบางอย่าง หรือพี่ริวจะกลัวผม


“ออกมาทำไมฟ้า” พี่ดินถามขึ้นมาด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ แต่เหมือนแฝงไว้ด้วยความไม่พอใจ


“ถ้าผมไม่ออกมาผมคงพลาดสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต” ผมพูดพร้อมถือวิสาสะนั่งลงที่โซฟาข้างพี่ริว นั่นทำให้พี่ริวรีบขยับตัวออกห่างจากผมอย่างลนลาน เม็ดเหงื่อเริ่มผุดขึ้นบนใบหน้าสวยจนผมเองก็ยังใจหายกับภาพที่เห็น


พี่ริวกลัวผมแล้วจริงๆ


“ฟังอยู่ตั้งแต่ตอนไหน” พี่ดินที่นั่งฝั่งตรงข้ามถามขึ้นมาอีกครั้ง


“ทั้งหมดตั้งแต่ต้น” ผมตอบกลับอย่างไม่ยี่หระ


“สะ แสดงว่า ฟะ ฟ้า รู้หมดแล้วเหรอ” พี่ริวเงยหน้ามาถามผมด้วยเสียงสั่นๆ ดูเหมือนกล้าๆ กลัวๆ กับสิ่งที่ผมจะเอ่ยปากตอบ


“ครับ พี่ริว” ผมหันกลับไปตอบพี่ริวที่ค่อยๆ รวบขาตัวเองเขามากอดไว้กับตัว


“รังเกียจสินะ.....” เสียงหวานขาดห้วงพร้อมๆ กับหยาดน้ำใสที่ค่อยๆ ร่วงลงจากดวงตาคู่สวย


“ทำไมพี่ริวถึงคิดแบบนั้น” ผมขยับตัวเข้าไปตั้งใจจะเข้าไปกอด


“ยะ อย่า เข้ามานะ พี่มันไม่ดีหรอกฟ้า พี่มันสกปรก” แต่พี่ริวก็กระถอดตัวหนีจนแทบจะตกโซฟา


“แล้วทำไมกับพี่ดินพี่ริวถึงจะตอบรับ” ผมถามด้วยความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ ถ้าเมื่อกี้ผมไม่ออกมาขัดพี่ริวคงตอบรับพี่ดินไปแล้ว


“ใครว่าพี่จะตอบรับดิน” สิ่งที่ออกจากปากพี่ริวทำให้พี่ดินถึงกับนิ่งไป


“ริว.....”


“คนอย่างพี่ไม่มีสิทธิ์ที่จะให้ดินกับฟ้ามารักพี่หรอก อย่าให้พี่ต้องตัดสินใจเลย พี่อยากให้เราทั้งคู่ได้เจอกับคนดีๆ พี่มันเป็นของพี่แบบนี้ เป็นแค่เกย์ร่านๆ มั่วไม่เลือก อย่ามาเสียเวลา.....”


“ผมรักพี่นะ” / “ผมรักริวนะ” ผมให้ไปมองหน้าพี่ดินทันทีเพราะเราทั้งคู่ต่างหลุดคำสารภาพรักออกมาพร้อมๆ กัน


“ผมบอกริวแล้วว่านั่นไม่ใช่ริว ริวโดนทำร้าย ผมรู้ดีกว่าใครว่าริวเป็นคนยังไง ริวอย่าลืมสิครับ” พี่ดินพยายามพูดต่อ


ผมได้แต่มองพี่ริวว่าจะตอบกลับอย่างไร เพราะผมไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ในอดีตเหล่านั้น พี่ริวในความทรงจำของผมมีเพียงผู้ชายใจดีคนหนึ่งที่มีรอยยิ้มสว่างจ้าราวกับดวงอาทิตย์ที่ผมตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็น ครั้งแรกผมไม่รู้หรอกว่าความรู้สึกที่มันก่อตัวใจจิตใจมันคืออะไรเพราะผมยังเด็กมาก แต่เมื่อเวลาผ่านไปทุกอย่างมันก็บอกผมว่าความรู้สึกนั้นเรียกว่าความรัก


“ผมไม่สนหรอกนะว่าอดีตของพี่ริวจะเป็นยังไง พี่ริวจะจ้องเจออะไรมา พี่ริวคือพี่ริวของผมคนที่ผมเห็นมาตั้งแต่เด็ก คนที่ทำให้ผมพยายามเป็นคนที่ดีขึ้น คนที่ทำให้ผมมีทุกวันนี้ ผมรักพี่นั่นคือความจริงเพียงหนึ่งเดียวที่ผมยึดถือ”


“ถ้าพี่บอกว่าพี่เลือกไม่ได้ล่ะ เราสองคนยังจะรับคนมักมากแบบพี่ได้เหรอ”


“แค่ให้ผมได้รักริว ผมยอมได้ทุกอย่าง” พี่ดินตอบกลับพี่ริวอย่างไม่ลังเล ผมได้แต่ยอมรับในตัวพี่ดินอีกครั้ง ความรักของพี่ดินมันช่างยิ่งใหญ่จริงๆ


“แล้วฟ้าล่ะ ยอมได้เหรอ ยอมใช้ของร่วมกับคนอื่นเหรอ” ใช่ แล้วผมล่ะ ผมยอมได้เหรอ สิ่งที่พี่ริวถามมันสะท้อนก้องอยู่ในหัวผม


“แล้วถ้าผมบอกว่ายอมล่ะ พี่จะไม่ไปไหนใช่มั้ย พี่จะรักผมใช่มั้ย” ผมตอบออกไปทั้งๆ ที่ในหัวก็ยังคิดไม่ตก


“ถ้ายังไม่มั่นใจก็อย่าตอบ คิดให้ดีก่อนเถอะ” พี่ริวตอบพร้อมกับขยับตัวลุกขึ้น


“ผมยอมแล้วพี่ริว พี่ริวจะไปไหน” ผมรีบละล่ำละลักตอบทันทีที่เห็นว่าพี่ริวกำลังจะก้าวเดินกลับเข้าไปในห้องนอน


“พี่ขออยู่คนเดียวซักพัก ระหว่างนี้พี่ขอให้ทั้งดินทั้งฟ้าทำตัวให้ปกติที่สุด ทำหน้าที่ขอตัวเองให้ดี ให้โอกาสเราทุกคนได้คิดทบทวนว่าสิ่งที่เรากำลังทำอยู่มันถูกต้องแล้วจริงหรือไม่”


“ไม่นะพี่ริว พี่ริวจะทำแบบนี้ไม่ได้ ผมขาดพี่ไม่ได้นะพี่ริว” ผมตามเข้าไปกอดพี่ริวจากทางด้านหลัง นั่นทำให้พี่ริวสะดุ้งสุดตัว


“ปะ ปล่อยก่อน ฟะ ฟ้า.....” เสียงพี่ริวสั่นจนผมตกใจ แต่ก็ค่อยๆ ผ่อนคลายลงเมื่อพี่ริวหันกลับมาเจอว่าเป็นผม


“เพราะผมเหรอ พี่ถึงเป็นแบบนี้”


//แปลก.....ทำไมพอรู้ว่าเจ้าของสัมผัสคือฟ้าเรากลับไม่กลัว เมื่อก่อนตอนอาการกำเริบใครก็แตะเราไม่ได้นี่หน่า// พี่ริวพึมพำกับตัวเองจนผมแทบฟังไม่ได้ศัพท์


“ปล่อยพี่เถอะ ทำอย่างที่พี่บอกถ้าไม่อยากให้พี่หายไปไหนจริงๆ” คนในอ้อมกอดผมพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจังขึ้นกว่าเดิม


“ฟ้าปล่อยก่อนเถอะเชื่อพี่ ริวเป็นคนพูดจริงทำจริง พี่ไม่อยากให้ริวหายไปเหมือนคราวก่อนอีกแล้ว” พี่ดินพูดพร้อมกับดึงผมให้ออกห่างจากตัวพี่ริว


ผมได้แต่มองพี่ริวเก็บข้าวของแล้วเดินออกจากห้องผมไป ในใจก็อยากจะเข้าไปดึงตัวไว้แล้วจับขังไม่ให้ไปไหน แต่ทั้งเหตุการณ์เมื่อคืนและคำพูดของพี่ดินก็ทำให้ผมรู้ว่าผมไม่ควรทำแบบนั้นถ้าผมไม่อยากสูญเสียพี่ริวไปตลอดกาล




“นั่งคุยกันหน่อยสิฟ้า” คล้อยหลังที่พี่ริวเดินออกจากห้องไป พี่ดินก็เปิดบทสนทนากับผม


“ผม.....”


“พี่รู้ว่าฟ้ารู้สึกยังไง เพราะพี่ก็รู้สึกไม่ต่างกัน”


“แล้วเราจะอยู่เฉยกันแบบนี้เหรอพี่ ปล่อยให้พี่ริวเดินออกไปแบบนี้เหรอ”


“ฟ้าก็ได้ยินที่ริวพูดไม่ใช่หรือไง ริวเป็นคนพูดจริงทำจริง แค่ริวไม่ได้บอกว่าเขารังเกียจเรา แค่นั้นเราควรพอใจได้แล้ว”


“แต่ผมรักพี่ริว ผมอยากให้พี่ริวอยู่กับผม อยากให้พี่ริวรักษาสัญญาที่เคยให้ไว้กับผม”


“เราสองคนไม่ต่างกันหรอกฟ้า พี่เองก็อยากได้ตามข้อตกลงที่เคยทำไว้ด้วยเหมือนกัน”


“พี่ดิน ผมถามหน่อย เรื่องคลิปวิดีโอที่ว่า”


“ฟ้าไม่ต้องห่วง เรื่องนั้นพ่อจัดการให้ตั้งแต่วันที่คลิปเหี้ยนั่นหลุดออกมาแล้ว”


“พ่อรู้เรื่องนี้ด้วยเหรอพี่”


“ใช่ พี่เป็นคนเข้าไปขอร้องให้พ่อช่วยเรื่องนี้ เพราะรู้ว่าอิทธิพลพ่อมีมากพอที่จะลบเรื่องราวให้หายไปได้”


“แล้วพ่อไม่ว่าอะไรเรื่องพี่ริวเหรอ”


“ไม่นะพ่อรู้ความจริงทั้งหมด พ่อสงสารริวมากด้วยซ้ำ ตอนพ่อรับริวเข้าบริษัทพ่อไม่เคยให้เรื่องนี้มาเป็นอุปสรรค ยิ่งริวพิสูจน์ให้พ่อเห็นว่าพ่อตัดสินใจไม่ผิด พ่อยิ่งพอใจในตัวพี่ริวเข้าไปอีก”


“แบบนี้พ่อคงดีใจถ้าได้รู้ว่าผมได้พี่ริวเป็นเมีย”


“พี่ว่ามันคนละประเด็นนะฟ้า พ่อรู้ว่าฟ้าชอบริวแต่ไม่ใช่ในฐานะคนรัก พ่อเข้าใจว่าฟ้ามีริวเป็นแบบอย่างในการทำงาน พี่ก็ไม่รู้ว่าพ่อจะว่ายังไงถ้ารู้ว่าฟ้ารักชอบริวแบบที่เป็นอยู่ตอนนี้”


“แล้วพีล่ะ พี่ดิน พี่ไม่กลัวพ่อรึไง”


“เรามันต่างกันนะฟ้า อย่าลืมว่าพี่ไม่ใช่ลูกแท้ๆ แถมพ่อเองก็รับรู้เรื่องของพี่ตั้งแต่วันที่พี่เข้าไปขอให้ช่วยเรื่องริวแล้ว”


“แบบนี้มันไม่ยุติธรรม ผมจะเข้าไปคุยกับพ่อ”


“คิดให้ดีนะฟ้า ถ้าพ่อไม่พอใจขึ้นมาเราไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น มันอาจจะกระทบหน้าที่การงานของริวก็เป็นได้”


“นี่พี่ดินกำลังขู่ผมเหรอ”


“พี่ไม่ได้ขู่ฟ้า พี่พูดในฐานะคนรัก ที่เป็นหวงคนรัก”


“ผมก็เป็นคนรักของพี่ริว”


“หึ แล้วยอมรับได้เหรอถ้าริวมีพี่อยู่แล้ว”


“ผม.....ถ้ามันเป็นความสุขของพี่ริว ผม.....ผมก็คงไม่ขัด”


“คิดให้ดีก็แล้วกัน พี่ไปก่อน คงต้องเข้าไปเคลียร์งานแทนริว” ว่าจบพี่ดินก็เดินออกไปจากห้องเพื่อเข้าสำนักงานใหญ่ของบริษัท




“โว๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!! นี่มันอะไรกันวะเนี่ย ทำไมกูต้องมาตกอยู่ในสภาพแบบนี้วะ ทั้งๆ ที่กูได้พี่ริวเป็นเมียแล้วแท้ๆ แมร่งเอ้ยยยยยยย!!!” ผมโวยวายขึ้นมาเมื่อคิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ตก จะให้ผมยอมแบ่งพี่ริวให้กับพี่ดินงั้นเหรอ ถึงพี่ดินจะเป็นพี่ชายที่ผมรัก แต่มันทำแบบนี้ได้จริงๆ เหรอ จะอยู่ด้วยกันสามคนเนี่ยนะ แล้วไหนจะพ่ออีก ผมลืมคิดเรื่องนี้ไปเลย ถ้าพ่อรู้ว่าผมรักพี่ริวแบบไหนพ่อจะว่ายังไง   




*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*

เก๊าขอสารภาพ ว่าเก๊าหนีไปเที่ยวมา ขอโต๊ดดดด

*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX >>>ตอนที่ 22<<< [19/04/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: RAKDEK_KA ที่ 19-04-2017 13:44:06
ชักจะยุ่งแล้วนิ
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX >>>ตอนที่ 22<<< [19/04/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 19-04-2017 19:18:10
 :pig4:
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX >>>ตอนที่ 22<<< [19/04/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 19-04-2017 20:01:20
อุปสรรคเยอะจริงๆ
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX >>>ตอนที่ 22<<< [19/04/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 19-04-2017 23:02:22
คนที่ต้นคิดทำเรื่องชั่วช้ากับริว
น่าให้ได้รับผลกรรม กลับคืนสู่ตัวเช่นกัน
คนนั้นคงต้องการให้หนาว เลิกกับริว
เมื่อบอกดีๆ ไม่ยอมเลิก เลยใช้วิธีที่ชั่วช้าซะเลย
แล้วก็ได้ผล หนาวเลิกกับริว
แบบไม่สืบหาต้นตอที่มาเลย
หนาว รักริวแบบไหนกัน เชื่อทันทีที่เห็นคลิป
แล้วที่ผ่านมา มันเลือนหายหมดไปเลยหรือ
หรือหนาวรู้ว่าใครที่ทำกับริว เลยปิดปากเงียบ
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX >>>ตอนที่ 22<<< [19/04/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 20-04-2017 13:29:09
 :mew1:
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX >>>ตอนที่ 22<<< [19/04/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 20-04-2017 20:47:39
 :pig4:
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX >>>ตอนที่ 22<<< [19/04/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 21-04-2017 01:35:19
เป็นกำลังช่วยน่ะฟ้า
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX >>>ตอนที่ 22<<< [19/04/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyjimmy ที่ 21-04-2017 09:26:19
พี่ริว...อารมณ์แบบ...อยากเก็บเธอไว้ทั้งสองคน
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX >>>ตอนที่ 22<<< [19/04/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 21-04-2017 12:17:56
อุปสรรค ทำให้เราเข้มแข็งขึ้น ..
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX >>>ตอนที่ 22<<< [19/04/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Goffylovelove ที่ 26-04-2017 14:49:06
เง้ยยย วุ่นวายไปอีก แล้วพี่ริวไปไหน หวังว่าพี่ริวจะไม่รู้สึกว่าตัวเองดีไม่พอจนหนีไปไหนอีกนะ
มีผู้ดีๆ อยู่ตั้งสองคน อยากได้ทั้งคู่ก็เอาไว้ทั้งคู่จิ
แล้วฟ้า ฟ้าควรเป็นผู้ใหญ่กว่านี้ลูกกกกก ไม่งั้นพี่ดินได้ไปคนเดียวแน่
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX >>>ตอนที่ 22<<< [19/04/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 29-04-2017 10:44:11
ตีกันวุ่นวายไปอีก เออ  :hao7:
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX >>>ตอนที่ 22<<< [19/04/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Ryunosuke ที่ 02-05-2017 14:20:48
อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม!!!






ตอนที่ 23 ลองอีกสักครั้ง






ผ่านมาหลายวันแล้วหลังจากผมฟังความจริงจากปากดิน ผมพยายามทำตัวให้ปกติที่สุด ปั้นหน้านิ่งไปทำงานทุกๆ วัน วางตัวในมาดผู้บริหารรักษาระยะห่างกับทั้งฟ้าและดินให้เหมือนกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น


ถึงแม้จะรู้สึกวูบโหวงแปลกๆ ในอกทุกครั้งที่สายตาทั้งคู่มองมา แต่อย่างที่ทุกคนรู้ ผมเสียความศรัทธาในความรักไปจนหมดแล้วตั้งแต่ครั้งที่หนาวไปจากผม มันทำให้ผมกลัวว่าประวัติศาสตร์มันจะซ้ำรอยเดิมอีกครั้ง


ฟ้ากับดินทำให้กำแพงความรักที่ผมสร้างไว้สูงลิบพังทยายลง แต่ตอนนี้กลับเป็นผมเองที่ยังไม่กล้าจะก้าวผ่านซากกำแพงออกไป ผมไม่รู้ว่าผมควรทำอย่างไร ผมอยู่ในโลกของการใช้ความใคร่ระบายความเหงาเสียจนผมลืมไปแล้วว่าคนรักกันมันต้องปฏิบัติต่อกันอย่างไร


ผมกลัวแม้กระทั้งว่าสิ่งที่ฟ้าและดินพูดจะเป็นเพียงคำหลอกลวงเพื่อให้ได้มีอะไรกับผมแล้วสุดท้ายทั้งคู่ก็คงทิ้งผมไป เพราะขนาดหนาวที่เป็นคนที่เปลี่ยนให้ผมมาชอบผู้ชายด้วยกันและพร่ำบอกว่ารักผมหนักหนาก็ยังทิ้งผมไปได้ในเวลาที่ผมต้องการเขามากที่สุด


ถ้ามันเป็นแบบนั้นจริงผมคงไม่สามารถอยู่บนโลกนี้ต่อไปได้อีก


ผมยอมรับว่าที่ผมกลัวขนาดนี้เพราะผมรู้แล้วว่าความรู้สึกของผมกับฟ้าและดินมันคืออะไร ถึงผมจะพยายามหนีมันมานานแค่ไหนแต่ก็ใช่ว่าผมจะไม่เคยมีความรู้สึกนี้


รัก..........ใช่ ผมรักไปแล้วทั้งฟ้าทั้งดิน แต่ผมไม่รู้ว่ามันเป็นสิ่งที่ควรจะเกิดขึ้นรึเปล่า


ผมตัดสินใจที่จะห่างออกมาเพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งที่ผมรู้สึกมันไม่ผิดพลาด น่าแปลกที่ตลอดหลายวันที่ผ่านมาผมพยายามใช้ชีวิตอย่างที่เคยเป็น ตื่นเช้ามาทำงาน กลางคืนก็ออกท่องราตรีหาเด็กหนุ่มหน้าตาดีมาคลอเคลีย


แต่มันกลับไม่สนุกเอาเสียเลย ผมรู้สึกเหมือนฟ้ากับดินตามติดผมไปทุกที่ แม้แต่เวลามีอะไรกับเด็กคนอื่นภาพของฟ้าและดินก็ยังซ้อนทับอยู่บนเด็กคนนั้น ไม่ว่าผมจะนอนกับใครสักกี่คนมันกลับไม่สามารถเติมเต็มผมได้เหมือนอย่างเคย ไออุ่นและความอ่อนโยนของดิน ความรุนแรงและเร่าร้อนของฟ้า ราวกับว่าจะไม่มีอะไรมาแทนที่ได้อีกแล้ว









หรือผมควรจะลองเสี่ยงกับความรักดูอีกสักครั้ง









//RRRRR//…..//RRRRR//…..//RRRRR//…..


“นุ่น นี่กูเอง ริว วันนี้ว่างไหม ออกมากินข้าวด้วยกันหน่อยสิ ชวนอิใหม่มาด้วยก็ดีถ้ามันว่าง กูมีเรื่องอยากปรึกษาพวกมึงว่ะ” ผมกรอกคำพูดใส่โทรศัพท์ทันทีที่เพื่อนรักที่ปลายสายกดรับ


“มึงอยู่ไหนอิริว”


“สตาร์บัค สยามพารากอน มึงออกมาเลย”


“นี่ใจคอมึงจะไม่ช่วยถามสักคำว่าอาจารย์สุดสวยอย่างกูจะว่างหรือไม่ว่างเลยรึไง”


“ว่างมั้ยไม่รู้ รู้แต่กูต้องการมึง”


“เออๆ เดี๋ยวกูออกไปเลย ไม่ต้องมาทำเสียงอ้อน กูไม่ใช่น้องฟ้าของมึงนะ เชี่ยกูขนลุก เดี๋ยวกูโทรชวนอิใหม่ก่อน แค่นี้แหละ เดี๋ยวเจอกัน”     









แล้วเพื่อนรักทั้งคู่ของผมก็ไม่ทำให้ผมต้องรอนาน เพราะไม่ถึงสี่สิบห้านาทีทั้งคู่ก็สามารถเอาหน้าสวยๆ มาประจันหน้ากับผมที่ร้านกาแฟชื่อดังในสยามพารากอนได้ ต้องถือว่าเร็วมากกับนัดที่ไม่มีการจองเวลากันล่วงหน้า นุ่นไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่เพราะเป็นอาจารย์มหาวิยาลัยที่อยู่ติดสยาม แต่ใหม่นี่สิ เพื่อนผมคนนี้สามารถออกจากออฟฟิศก่อนเวลางานและบึ่งมาหาผมในทันที สมกับเพื่อนเพื่อนรักของผมจริงๆ


“อินุ่น อิใหม่ ขอบคุณนะพวกมึง” ผมยกมือขึ้นโอบทั้งสองสาวที่เดินเข้ามากอดเรียงตัว ทำให้คนในร้านหันมามองอยู่พอสมควร ผมฝืนอย่างสุดตัวที่จะไม่แสดงอาการกลัวสัมผัสให้กับเพื่อนรักทั้งคู่ได้รับรู้ แต่มือมันก็อดจะสั่นน้อยๆ ไม่ได้จริงๆ


“อิริว มึงอัพเดตมาเดี๋ยวนี้” ก้นยังไม่ทันถึงเก้าอี้ดี ใหม่ก็ยิงประเด็นใส่ผมทันที


“โอ้ยยยย อิใหม่มึงใจเย็นๆ ให้อิริวมันเรียบเรียงคำพูดก่อน ช่วงนี้มันสื่อสารใหม่ค่อยได้ เผอิญได้ผัวเป็นเด็กเจนใหม่ แล้วอะรู้ไหมหล่อระดับโคตรเดือนมหาลัยอะมึง ชะนีน้อยใหญ่ แทบจะลงไปดิ้นๆ กับพื้น” อาจารย์สาวเปิดหัวข้อทันที ด้วยอาการวี๊ดว้ายจนไม่เหลือคราบผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชา


“นุ่น มึงอะ เม้าเบาๆ ดิ นี่มึงเป็นอาจารย์นะ” ผมกันไปมองซ้ายมองขวาเพราะแอบเห็นว่าในร้านก็มีนิสิตนักศึกษานั่งอยู่ไม่น้อย


“แหม่มึง ลุกศิษย์ชั้นก็รู้หมดแหละว่าชั้นเป็นแบบนี้ ว่าแต่แกเหอะสรุปเอาไงแน่”


“ก็ไม่รู้ว่ะ คือ กู.....”


“อิริว มึงอย่าบอกนะว่ามึงไม่ได้คิดอะไรกับน้อง”


“คิดดิวะ ไม่คิดกูจะเครียดขนาดนี้เหรอ สัด”


“ใจตรงกัน แล้วต้องรออะไร ไม่เห็นต้องเรียกพวกกูมาเลย” ใหม่ที่นั่งฟังอยู่เสริมขึ้น


“ก็มันมีประเด็นน่ะสิว่ะ พวกมึงจำหนาวได้มั้ย”


“ได้ดิ” / “ได้สิย่ะ อดีตสุดสวาทยอดรักของมึงไง”


“อืมงั้นพวกมึงคงจำเรื่องที่เกิดขึ้นกับกูได้ด้วยสินะ”


“..........” / “..........” พอถึงคำถามนี้เพื่อนรักทั้งคู่ของผมก็มีท่าทีที่เปลี่ยนไป รอยยิ้มที่เคยฉายบนใบหน้าราวกับถูกใครปิดสวิตช์ไปเสียดื้อๆ


“ริว......มึงอย่าบอกนะว่ามึง.....”


“เออ กูจำได้หมดแล้ว จำได้ทุกรายละเอียด”


“กูถึงว่า ทำไมมึงถึงเก้ๆ กังๆ ตอนกอดกัน อาการเดิมมันกลับมาเหรอ”


“ก็อย่างที่เห็น แต่มันก็ไม่ได้เลวร้ายขนาดเมื่อก่อนนะ” ผมตัดสินใจบอกไปในเมื่อปิดเพื่อนรักไม่มิดเสียแล้ว


“ไม่เป็นไรนะมึง” นุ่นพูดจบก็ดึงมือผมไปกุมไว้ ตอนแรกผมตกใจจะชักมือกลับแต่พอมีมือของใหม่ยื่นเข้ามาประคองไว้อีกคนก็ทำให้ผมสบายใจขึ้นอย่างประหลาด มิตรภาพเนี่ยมันเป็นสิ่งพิเศษจริงๆ นะครับ









“มึงว่าคนอย่างกูมัน.....เอ่อ.....มันมีค่าพอจะมีความรักไหมวะ” ผมตัดสินใจถามออกไป


“อิริว ทำไมมึงพูดแบบนี้ มึงก็รู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันไม่ใช่ความผิดของมึง”


“ตะ แต่.....”


“มึงอย่าตัดสินใจแทนคนอื่นริว นี่มึงกำลังห่วงคนอื่นอยู่ใช่ไหม” ใหม่แทรกบทสนทนาระหว่างผมกับนุ่นขึ้นมา ปกติใหม่จะไม่ใช่คนพูดมาก แต่พอพูดแต่ละทีนี่แทงไปถึงใจ


“มึงอย่าบอกนะว่าฟ้ารู้เรื่องนี้” ผมได้แต่พยักหน้ากับสิ่งที่นุ่นถาม นั่นทำให้ทั้งนุ่นและใหม่ยกมือขึ้นทาบอกพร้อมกัน


“แล้วน้องมันว่ายังไง” ใหม่ถามขึ้นแทนนุ่น


“มันบอกว่ามันไม่สน มันรู้แค่มันรักกู” ทั้งนุ่นและใหม่เปลี่ยนจากเอามือทาบอกเป็นยกขึ้นมาอุดปากเพื่อกั้นเสียงกรี๊ด


“ก็ดีแล้วนี่ริว ถ้าน้องมันรับได้”


“ถ้ามันง่ายอย่างนั้นก็คงดี มึงรู้ไหม ฟ้าเป็นลูกของ CEO บริษัทกู แถมเด็กกว่ากูสิบสองปี มันควรมีอนาคตที่ดี.....”


“นี่กูเพิ่งบอกอยู่หยกๆ ว่าอย่าตัดสินใจแทนคนอื่น อิริว”


“แล้วมันยังไม่หมดแค่นั้น พวกมึงจำดินได้ไหม”


“ดิน.....ดินไหนวะ” ใหม่อาจจะไม่รู้จักดินเพราะพอใหม่จบก็เริ่มทำงานเลย ไม่เหมือนผมกับนุ่นที่เรียนโทต่อ


“ดิน เด็กวิศวะ เดือนมหาลัย ที่ชอบมาหามึงช่วงเรียน ป.โท ใช่ไหม ผู้ชายของมึงนี่ระดับพรีเมี่ยมทั้งนั้น” นุ่นเอ่ยขึ้นเมื่อนึกออกว่าผมหมายถึงใคร


“เออ ดินนั้นแหละ คือมันทำงานบริษัทเดียวกับกูไง”


“อย่าบอกนะว่ายังงมงายในรักของพี่ ‘มังกรครับ’ อยู่” นุ่นทำหน้าชวนฝันไปด้วยตอนพูดขึ้น


“เออออออ แล้วมันไม่แค่นั้น คือดินแมร่งเป็นลูกบุญธรรมของ CEO”


“อิริววววววววว นี่มึงเทครัวเขาเหรอ”


“มึงอย่าเพิ่งด่าดิ คือกูสับสน กู คือ กู กู แบบ”


“มึงเลือกไม่ได้มึงก็พูด อย่ามาอ้ำอึ้ง” ใหม่ยังแทงใจดำผมได้ทุกครั้งกับคำพูดของมัน ผมเลยได้แต่พยักหน้าตอบ


“เชี่ย แล้วฟ้ากับดินมันรู้เรื่องไหมว่าพี่น้องรักคนคนเดียวกัน” นุ่นยกประเด็นต่อเนื่องทันที


“รู้ แถมแมร่งจะยอมให้กูคบพร้อมกันได้ เชี่ย คือกูไม่รู้กูควรทำไง”


“แล้วนี่ทำไมพวกนั้นไม่ตามมึงมา อย่าบอกว่าทำตัวเป็นนางเอกนิยาย เล่นใหญ่อยากอยู่คนเดียว รักษาระยะห่างนะมึง”


“กูว่ามึงสองคนจะรู้จักกูดีเกินไปละ เราเลิกคบกันซักพักไหม”


“เอ้า!!! อิ บร้า นี่กูเพื่อนมึง นุ่นไง นุ่นเอง”


“ก็นั่นแหละมึง กูไม่รู้กูควรทำไง พอกูรู้ตัวว่ากูรัก กูก็กลัวว่ากูจะเหี้ยที่ทำให้ลูกชายตระกูลเขาต้องมาเสียอนาคตกับกู”


“ริวมึงก็รู้ว่าความรักไม่ใช่เรื่องของคนคนเดียว มึงเองมึงก็ต้องเคารพการตัดสินใจของอีกฝ่ายเหมือนกัน”


“มึง.....แต่มันเหมือนผิดปกติซ้ำซ้อนปะวะ ผู้ชายคบกันเองก็แย่มากพอแล้ว แถมนี่จะคบพร้อมกันสองคน กูแมร่งปวดหัว นี่กูนอนไม่หลับมาหลายวันแล้วนะมึง”


“เอางี้กูถามอะไรมึงหน่อย มึงคิดว่ามึงรักฟ้ากับดินไหม”


“อินุ่นถ้ากูไม่รัก กูจะเป็นมากขนาดนี้ไหมวะ”


“งั้นกูถามอีกข้อถ้ามึงต้องเลือก มึงจะเลือกใคร” ใหม่ยังมาพร้อมกับคำพูดทำร้ายจิตใจผมเสมอ


“โอ๊ยยยยยย กูไม่เลือกได้ไหม ถ้าเลือกได้กูอยากได้ทั้งคู่อะ”


“อ๋อหรออออออ” / “อั๊ยยะ”


“อะไร อินุ่น อิใหม่ นี่กูเรียกมึงมาปรึกษา ไม่ใช่มาล้อเลียนกู”


“งั้นกูมีอะไรจะบอกมึงอีกข้อ”


“อะไรวะ”









“สองคนที่ยืนอยู่ข้างหลังมึงน่ะ เขายืนฟังมาพักหนึ่งแล้ว แถมได้ยินเรื่องที่มึงพูดทั้งหมด ยังไงเคลียร์กันเองนะ พวกกูไปล่ะ” พูดจบนุ่นก็หันไปแปะมือไฮไฟว์กับใหม่แล้วชวนกันเดินออกไป ทิ้งให้ผมยังนั่งงงอยู่กับสิ่งที่มันพูด


สองคนที่ว่าคงไม่ได้หมายถึงสองคนที่ว่าจริงๆ ใช่ไหม ด้วยความที่ผมนั่งอยู่บนอาร์มแชร์ที่มีพนักพิงขนาดใหญ่ ทำให้ผมต้องยืนขึ้นเพื่อหันกลับไปดูว่าใครคือสองคนที่ยืนอยู่ข้างหลังผม


แล้วสิ่งที่ผมภาวนาให้มันไม่จริงก็ไม่เป็นผล เพราะหลังอาร์มแชร์ที่ผมนั่งอยู่ปรากฏร่างสูงของชายหนุ่มทั้งสองคนที่ฉายออร่าไปทั่วร้านจนแม้แต่คนเดินผ่านก็ยังต้องมองจนเหลียวหลัง









“ฟ้า.....ดิน”









“ครับพี่ริว” / “ครับริว” ทั้งคู่เอ่ยตอบพร้อมรอยยิ้มกระชากใจ









“ดะ ได้ยิน หมดเลย เหรอ”









“ครับพี่ริว” / “ครับริว” โอ๊ยยยยย ไม่ต้องตอบพร้อมกันขนาดนั้นก็ได้ นี่เขินไปหมดแล้ว










“กลับบ้านกันนะครับพี่ริว” / “กลับกันนะครับริว”









“อืม..........ก็ได้”









ผมจะลองเชื่อในความรักดูอีกสักครั้ง ถึงแม้ครั้งนี้จะไม่เหมือนครั้งไหนๆ แต่มันก็อาจจะดีก็ได้ที่จะได้มีหัวใจเพิ่มขึ้นมาพร้อมๆ กันถึงสองดวง

 


*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX >>>ตอนที่ 23<<< [02/05/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: โอ ที่ 02-05-2017 15:09:15
 :กอด1:ขอให้พี่ริวมีความสุขจริงๆซะทีที่ผ่านมาเจอแต่เรื่องแย่ๆมาพอแล้ว
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX >>>ตอนที่ 23<<< [02/05/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Goffylovelove ที่ 03-05-2017 11:02:11
โอ๊ยยยยชอบความเป็นแก๊งเพื่อนสาว แบบจิกกัดด้วยความหวังดีและจริงใจ
พี่ริวเปิดใจรับ และเตรียมตัวพบกับความสุขเถอะดีมั้ย
ว่าแต่หลังจากนี้กลับบ้านกันสามคนแล้วจะเป็นไงต่ออะ จะท่าไหน เอร๊ยยยย แค่คิดก็เลือดหมดตัว
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX >>>ตอนที่ 23<<< [02/05/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 03-05-2017 22:56:35
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX >>>ตอนที่ 23<<< [02/05/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Laliat ที่ 04-05-2017 02:29:56
มาต่อทีๆมิสาแก่ใจเจ้เลย อยากอ่านต่อ
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX >>>ตอนที่ 23<<< [02/05/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 04-05-2017 08:31:47
พี่ริวคะ พี่ลืมโทรบอกเลขาว่าลางานเจ็ดวันอะค่ะ
กลับไปคราวนี้ลุกไม่ขึ้นชัวร์ DP เลยไหมฟ้ากับดิน  :impress2:
รอตอนต่อไปค่า ห้ามตัดเข้าโคมไฟหัวเตียง
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX >>>ตอนที่ 23<<< [02/05/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 04-05-2017 18:38:07
มีความสุขให้มากขึ้น ก็พอละ
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX >>>ตอนที่ 23<<< [02/05/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 05-05-2017 09:12:13
สามีมาตามแล้วพี่ริว อย่าลืมลางานด่วนเลย
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX >>>ตอนที่ 23<<< [02/05/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ป้ากิ่งkingkarn ที่ 05-05-2017 10:59:29
 :pig4: :กอด1:
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX >>>ตอนที่ 23<<< [02/05/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Ryunosuke ที่ 23-05-2017 20:21:35
อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม!!!






ตอนที่ 24






“อ้าว นายน้อย เดินหน้าตึงมาเชียวมีอะไรเครียด เหรอคร้าบบบ” เสียงไอ้เอสแซวขึ้นมาทันทีที่ผมเดินผ่านชอปซ่อมบำรุงของฝ่ายวิศวกรรม เอสมันเรียกผมว่านายน้อยครับ เรียกพี่ดินว่านายหัว ส่วนพี่ริวมันเรียกว่านายใหญ่ผู้น่ารัก


“เรื่องของกูเหอะ เออ มึงไปกินข้าวมั้ยมื้อนี้กูเลี้ยง แมร่งเบื่อๆ อยากๆ ไงไม่รู้ว่ะ” จะไม่ให้ผมเบื่อๆ อยากๆ ได้ยังไงล่ะครับ ในเมื่อผมแทบไม่ได้เจอพี่ริวเลย เจอกันก็แค่ผ่านๆ คุยกันอย่างมากก็เรื่องงาน แถมทุกครั้งที่คุยก็ต้องมีพี่ๆ ทีมงานคนอื่นอยู่ด้วย ผมนี่จะอกแตกตายวันละหลายๆ รอบ


“ไปสิคร้าบ ใครจะกล้าปฏิเสธนายน้อย” ไอ้เอสเด็กที่ตัวไม่น้อยมันเป็นประเภทบุคคลิกตรงข้ามกับสภาพร่างกายครับ เวลาอยู่กับพวกผมนี่อย่างกับเด็กน้อย แต่ผมเคยแอบดูเวลามันทำงานตอนมันนิ่งๆ นี่เถื่อนโคตรครับ แมนๆ มีรอยสัก ตัวมันสูงสักร้อยแปดสิบ ผอมกว่าผมหน่อยแต่มีกล้ามเนื้อดูแข็งแรงท่าทางจะแรงเยอะเอาเรื่อง




ผมพามันมาเดินคอมมิวนิตี้มอลล์ที่อยู่ไม่ห่างจากโรงงานมากครับ ใจจริงก็อยากมาเปลี่ยนบรรยากาศให้ตัวเองแหละครับ อยู่ในโรงงานมันก็พาลแต่จะหาเรื่องเข้าไปหาพี่ริว ช่วงนี้พี่ริวก็ทำแต่งานจนไม่สนใจใคร ลุยงานหนักจนลูกน้องแทบตามกันไม่ทัน ความจริงก็ไม่ใช่จะไม่มีจังหวะเข้าหาแต่ก็กลัวใจคนที่เคยขู่ไว้ว่าจะหายไปถ้าไม่ทำตามที่เขาพูด ผมเลยได้แต่ทำตามที่พี่ริวขอเพราะคงรับไม่ไหวถ้าเข้าจะหายไปจริงๆ


ระหว่างที่เดินก็มีทั้งสาวเล็กสาวใหญ่สาวจริงสาวเทียมหันมามองกันให้ควัก ก็เอสมันหล่อน้อยซะที่ไหนล่ะครับ เจ้าตัวก็ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวเดินหน้าเหวอไปสำรวจนู่นนี่เหมือนบ้านนอกเข้ากรุง


“มึงเดินนิ่งๆ ดิวะ เดี๋ยวคนอื่นเขาหาว่ากูหลอกเด็กที่ไหนมา” ผมพูดพร้อมโบกหัวมันไปหนึ่งที


“โหก็คนมันไม่เคยมาอะ นายน้อย” ไอ้เอสพูดพลางลูบหัวตัวเองป้อยๆ


//ว๊าย น่ารักอะแก ดูคู่นั้นเขาเล่นกันสิ ตายๆๆๆ หล่อน่ากินทั้งคู่อะแกร๊!!!// เสียงสาวๆ ที่เดินผ่านไปผ่านมาแถวนั้นแว่วเข้าหูผมทันที อยากจะตะโกนสวนว่าเข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้ว คนของผมไม่ใช่คนนี้เสียหน่อย


//แกร๊ คือแบบเสียดายทรัพยากร แต่ก็นะ ชั้นก็ชอบดู อาหารตาอะแกร๊ อ๊ายๆ แกว่าใครรุกใครรับ ชั้นว่านะคนที่ใส่เชิ้ตขาวเป็นรับแน่เลยแกร๊ ขาวจั๊วะน่าเจี๊ยะ อร๊าย// เสียงสาววายยังอื้ออึงต่อไป ว่าแต่ไอ้เสื้อเชิ้ตขาวที่ว่ามันผมนี่!!!


“เอส มึงเดินห่างๆ กูนิด” ผมเริ่มทนไม่ไหว รัศมีความแมนมันมากไป


“อะไรอะนายน้อย รังเกียจผมเหรอ” มาอ้อนอะไรตอนนี้ไอ้เอส คนอื่นเขาเข้าใจผิดกันหมดแล้วเนี่ย


“มึงเคยกินอาหารญี่ปุ่นป่าววะ” ผมเปลี่ยนเรื่องดีกว่า


“ไม่เคยครับนาย”


“ปะ งั้นมึงต้องลอง” ผมคว้าคอมันแล้วพาเดินมุ่งหน้าไปร้านอาหารญี่ปุ่นเจ้าอร่อยทันที


ระหว่างทางก็ยังไม่วายมีคนซุบซิบนินทาไปตลอดทาง ใจความก็ไม่ได้ต่างอะไรไปจากเดิม ระหว่างผมกับไอ้เอสใครหล่อกว่ากันบ้าง ใครรุกใครรับบ้าง ชะนีไทยไร้ที่ยืนบ้าง






“โคตรอร่อยอะพี่ ไอ้ปลาดิบนี่นึกว่าจะกินไม่ได้ ที่ไหนได้โคตรลื่นคอ กลืนพลิ้วเลย” ไอ้เอสตื่นเต้นกับของกินตรงหน้าอย่างออกหน้าออกตา


“เบาๆ ก็ได้ป่าววะอายคน”


“ไรอะนายน้อย คบกับผมนี่น่าอายเหรอ” ไอ้นี่พูดสองแง่สามง่าม เอ้ย สองง่าม ผมมองไปเห็นผู้หญิงโต๊ะข้างๆ แอบอมยิ้ม อยู่กับไอ้เอสนี่ผมเสียภาพพจน์จริงๆ


“วันหลังกูไม่พามึงมาสองคนละ”


“อ้าว ไมพูดแบบนี้อะนายน้อย ผมฟังแล้วแซดนะ” ไอ้เอสไม่พูดเปล่าเสือกส่งสายตาปิ๊งๆ ใส่ผม


“ห่านไอ้เอส มึงหยุดเลย กูขยะแขยงว่ะ”


“โห นายน้อยพูดเหมือนนายหัวเลยว่ะ” ไอ้เด็กรอยสักที่นั่งตรงหน้าผมพึมพำ


“เชี่ยยยยย อย่าบอกนะว่ามึงทำแบบนี้ใส่พี่ดิน”


“ทำไม่ได้เหรอ” ไอ้นี่ยังไม่รู้ตัว มันไม่ได้เหมาะกับตัวถึกของมึงเลยยยย


“สาด มึงเก็บไปทำกับคนที่มึงจะจีบเหอะว่ะ”


“นี่ นายน้อยผมมีเรื่องจะปรึกษา” ไอ้เอสเปลี่ยนเรื่องทันควัน แถมท่าทีก็จริงจังขึ้นอย่างผิดหูผิดตา


“ไรวะมึง ผีเข้ารึไง อยู่ๆ ก็จริงจังขึ้นมา”


“หูย ก็เรื่องมันซีเครียด” มึงเอาสักภาษาเหอะไอ้เอส


“ไหนมึงลองว่ามา กูช่วยไรได้จะช่วย”


“นายน้อยว่านายหัวกับนายใหญ่คบกันปะ”


“พรวด!!! เชี่ยยยย มึงจะบ้าเหรอ” ผมนี่สำลักชาเขียวเลยครับ


“อ่าว ก็ผมเห็นบรรยากาศระหว่างสองคนมันฟรุ้งฟริ้งมุ้งมิ้งแปลกๆ ยิ่งตอนนายหัวเปิดประตูรถให้นายใหญ่นะ หูย ดูแลอย่างกับเจ้าหญิงอะ แต่อย่างว่าเป็นผมก็คงอยากดูแลนายใหญ่เหมือนกัน คนอะไรน่ารักโคตร ถ้าไม่บอกนะว่าอายุเลยเลขสามใครจะไปเชื่อ ผมเจอครั้งแรกนะนึกว่ารุ่นเดียวกัน” ไอ้เอสร่ายยาวเหมือนอัดอั้นมานาน


“ประเด็นคือ?” ผมเลิกคิ้วถามมัน ผมชักฉุดเล่นมาชมคนของผมต่อหน้าด้วยอาการเคลิบเคลิ้มขนาดนี้


“ยะ อย่าเพิ่งฉุนดินายน้อย ผมรู้อยู่ว่านายน้อยชอบนายใหญ่” ไอ้เอสเริ่มอยู่ไม่สุข


“นี่กูแสดงออกขนาดนั้นเลยเหรอวะ”


“โห นายน้อย เรียกว่าถ้าไม่ได้ตาบอดคือใครก็รู้อะ”


“อืม แล้ว?”


“คือผมรู้ไงว่านายน้อยชอบนายใหญ่ใช่ปะ แล้วก็แบบว่า เอ่อ ผม...”


“ประเด็นอะมึง ประเด็นคือ”


“คือแบบว่าผม ผมอะนะ.....” ไอ้เอสมันยึกยัก หน้าก็เริ่มแดงแถมตัวก็บิดไปบิดมา


“เชี่ยนี่อะไร แล้วจะหน้าแดงทำหอกอะไร เห้ย!!! อย่าบอกนะว่ามึง...”






“คะ คือ ผมชอบนายหัวอะ” ไอ้เอสหลุดปากออกมาในที่สุด






“เห้ย!!! เวรแล้วไง” 


“ไม่เวรครับ ไม่เวร คือผมอยากขอความช่วยเหลือจากนายน้อย” ไอ้เอสยังบิดไม่เลิก


“ยังไงวะ”






“ช่วยผมจีบนายหัว ผมอยากได้นายหัวเป็นเมียครับ”






“เชี่ยยยยย”






“ผมได้นายหัว นายหัวก็จะไม่มายุ่งกับนายใหญ่ วินวินนะครับ ช่วยผมเหอะ” ไอ้เด็กรอยสักยื่นขอเสนอ






“แล้วมึงไปชอบพี่ดินตอนไหนวะ เห็นตอนแรก มึงออกจะปลื้มพี่ริว บอกพี่ริวน่ารักอย่างนู้นน่ารักอย่างนี้”


“เรื่องนายใหญ่น่ารักผมก็ยังยืนยันว่าน่ารัก แต่กับนายหัว คะ คือ กะ ก็วันนั้นผมกับนายหัวไปกินเหล้ากันใช่ปะ วันแรกที่ผมมาเริ่มงานอะครับ”


“อืมๆ” ผมพยักหน้างึกๆ รอฟังไอ้เอสอย่างตั้งใจ


“แล้วก็แบบ นายหัวก็เมาอะนายน้อย เมามาก แล้ว แล้ว แล้ว แล้ว”


“โอ๊ย มึงจะแล้วไปถึงไหน” ผมชักรำคาญ เห็นปกติพูดคล่องปรื๋อ


“นายน้อยใจเย็นดิ นี่มันเรื่องสำคัญมากนะ คือแบบ พอนายหัวเมาแล้วนายหัวร้องไห้อะ ร้องไม่หยุดเลย ปากก็เอาแต่พูดว่า ทำไมพี่ไม่รักผม ทำไมพี่ไม่รักผม นั่นแหละพี่มันคือจุดเปลี่ยน คือผมรู้เลยว่าผมทนเห็นนายหัวร้องไห้ไม่ได้ ผมเผลอกอดนายหัวเฉยเลย แบบร่างกายมันไปเอง ผมแบบรู้เลยว่าอยากดูแลคนๆ นี้ ผมโคตรมั่นใจอะว่าถ้านายหัวอยู่กับผมจะไม่มีวันต้องร้องไห้อีก แล้วนายน้อยเชื่อไหม ตั้งแต่วันนั้นผมเอาแต่มองหานายหัวเฉยเลย”






ผมอมยิ้มกับท่าทางมุ่งมั่นของไอ้เด็กรอยสักตรงหน้า






“อะ เอ่อ ก็ได้ แต่กูไม่ช่วยนะถ้ามึงเจอตีนพี่ดินนายหัวของมึงอะ”






“ไม่โดนแน่นอนครับ เพราะผมจะเป็นสามีที่ดี”






หึหึหึ สามีเหรอ หึหึหึ โชคดีนะครับพี่ดิน






แต่ไอ้เอสเอ้ย ถึงกูช่วยมึงยังไงมึงก็ไม่มีทางสมหวังหรอกว่ะ คนอย่างพี่ดินรักใครไม่ได้อีกแล้วนอกจากพี่ริว


ความรักของพี่ดินที่มีต่อพี่ริวมันโคตรมั่นคงจนผมยังแอบหวั่นใจ


“เอส กูจะพูดกับมึงตามตรงนะ กูว่ามึงควรตัดใจว่ะ พี่ดินไม่มีวันรักใครอีกแล้ว”


“ถึงอย่างนั้นผมก็ยังอยากลองดูสักตั้ง” ไอ้เด็กตรงหน้าผมทำหน้ามุ่งมั่นจนผมแทบจะเห็นเปลวไฟในดวงตาของมัน


“งั้นมึงคงต้องเตรียมใจไว้เลยว่ะเอส กูเตือนมึงด้วยความหวังดี หน้าอย่างมึงกูเชื่อว่าคงมีทั้งสาวทั้งหนุ่มดาหน้ามาให้เลือกเพียบ ทำไมมึงดันมาชอบพี่ดินว่ะ” ผมพูดด้วยน้ำเสียงเบาลงแต่จริงจังหมากขึ้น สายตาก็มองพิจารณาเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะข้างหน้า










อีกคนแล้วที่กำลังจะติดบ่วงความรัก อีกคนแล้วที่กำลังจะก้าวสู่ความทุกข์ที่คนอย่างเราๆ ไม่อาจต่อกร









RRRRR RRRRR RRRRR


“ฟ้า นี่อาจารย์นุ่นนะ ตอนนี้ฟ้าอยู่ไหน” เสียจากปลายสายดังขึ้นทันที่ที่ผมกดรับเบอร์ที่ไม่คุ้นเคย


“คะ ครับจารย์ จารย์มีอะไรด่วนรึเปล่าครับ”


“ด่วนสิ ถ้าไม่ด่วนชั้นจะลงทุนโทรหาเหรอ ฟ้ามาที่สยามด่วนเลยตอนนี้ได้ไหม”


“จารย์ค้าบ ผมฝึกงานอยู่ตั้งไกลจะให้เข้าไปได้ไงอ่า”


“นี่จะมาไม่มา ถ้าแกไม่มาวันนี้แกอาจจะไม่ได้เจอพี่ริวสุดที่รักของแกไปตลอดชีวิตเลยก็ได้นะยะ”


“ปะ ไป ไป ครับ ไปเดี๋ยวนี้เลยครับ จารย์จะช่วยผมใช่ไหม”


“เออ รีบมาแล้วกัน ถ้าช้านายดินคาบกลับไปกินคนเดียวชั้นไม่รู้ด้วยนะ”


“โหจารย์.......”


“หยุดพูด แล้วรีบมาย่ะ!!!”


ติ๊ด ผมรีบกดวางสายในทันทีก่อนจะหันไปบอกกับไอ้เอสที่นั่งหน้าเหวอไปแล้ว


“เอส มึงกลับเองนะ”


“เห้ยยยย ไม่ได้สินายน้อย ผมจะกลับไง”


“แท๊กซีไง ง่ายจะตาย อะเอาเงินไป” ผมยื่นแบงก์พันให้ไอ้เด็กโข่งตรงหน้า


“นายน้อยไม่กลัวผมโดนแท๊กซีหลอกไปปล้นฆ่าเหรอ”


“นี่มึงดูหน้าตัวเองด้วย ใครมันจะกล้า”


“โห นายน้อย แล้วถ้าผมหลงอะ แล้วเกิดพรุ่งนี้นาย้อยไม่ได้เจอหน้าผมแล้ว นายน้อยจะรู้สึกผิดไปชั่วชีวิตไหม นายน้อยใจร้าย นายน้อยทิ้งผม นายน้อยๆๆๆๆๆ” ไอ้เอสพูดพลางเอามือมาเขย่าแขนไปด้วย จนผมหมดความอดทน


“เออ!!! พอ!!! ไปด้วยกันนี่แหละ แมร่งเอ้ย แล้วเงียบปากด้วย คนมองชิบหายแล้ว”


“เยสสสส........โอ๊ยยยย นายน้อยผมเจ็บนะ” สุดท้ายไอ้เอสก็ยังไม่วายแสดงอาการกวนตีน จนผมต้องประเคนฝ่ามือหนักๆ ลงไปบนหัวทุยๆ ของมัน




อาจจะเร็วเกินไปหน่อย แต่พามันไปแล้วให้มันได้เห็นว่าพี่ดินรักพี่ริวแค่ไหนก็น่าจะดีเหมือนกัน ให้มันเจ็บสุดๆ แล้วก็จบในคราวเดียวนะมึง ไอ้เอส.....






*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*

ใครที่รอดูที่ริวถูกทำโทษ เก๊าขอโต๊ดดดดดด มันยังมาไม่ถึงงง

*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*+*
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX >>>ตอนที่ 24<<< [23/05/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 23-05-2017 20:27:00
ดีใจ ไรท์มา

เอาละซี้ ห้วงรักเหวลึก เหวมันทั้ลึก ทั้งกว้างขึ้นอีก
นายหัวดิน รักนายใหญ่
นายน้อยฟ้า รักนายใหญ่
เอส รักนายหัว
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX >>>ตอนที่ 24<<< [23/05/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 23-05-2017 20:37:29
มาต่ออีกๆๆๆ  ขอบคุณค่ะ 
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX >>>ตอนที่ 24<<< [23/05/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Laliat ที่ 24-05-2017 04:48:24
คิดถึงจริงๆมาซ้ากที
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX >>>ตอนที่ 24<<< [23/05/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ป้ากิ่งkingkarn ที่ 24-05-2017 10:35:14
หาคนอื่นมาเป็นเมียเอสที
เอสห้ามเอาพี่ดินไปทำเมีย รับไม่ได้อย่างแรงอ่า o22
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX >>>ตอนที่ 24<<< [23/05/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 25-05-2017 17:39:11
มาต่อเรื่อยๆ นะ ..
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX >>>ตอนที่ 24<<< [23/05/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Goffylovelove ที่ 30-05-2017 14:45:19
แอบมาต่อเงียบๆ ปะเนี่ย หุหุ
ถามจริงจะม่าม่ามั้ยอ่าเรื่องน้องเอสกับพี่ดิน ไหนจะเรื่องนนท์ที่ยังไม่เคลียร์
พี่หนาวอีก พ่อของฟ้าอีก โอ้ยยยยยยยยย
มาต่อเร็วๆๆๆ น้า
ตอนหน้าจะมีฉากอัศจรรย์มั้ยย
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX >>>ตอนที่ 24<<< [23/05/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: iampurnny ที่ 30-05-2017 19:26:02
พึ่งจะได้เข้ามาอ่านครับ เนื้อเรื่องมีความสนุกน่าติดตามดีครับ
แต่มีบางที่ที่พิมพ์ผิดบ้าง ทำให้ไม่เข้าใจเนื้อหาบางส่วนครับ
ขอบคุณนะครับที่แต่งนิยายให้ได้อ่าน
หัวข้อ: Re: อย่าลืมสิ...ว่าพี่เป็นเมียผม XXX >>>ตอนที่ 24<<< [23/05/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: unicorncolour ที่ 02-03-2018 21:39:40
 :ling1: :ling1: :ling1: