24
☷ บทส่งท้าย ☷
[คิน]
ผมกำลังกลับบ้าน ระหว่างทางก็เห็นผู้ชายตัวเล็กคนหนึ่งทรุดตัวพิงเสาไฟอยู่ แผ่นหลังคุ้นเคยทำให้ผมรีบจอดรถข้างทางแล้ววิ่งไปหาเขาทันที
โซ่กลับมาแล้ว มาหาผมแล้วหมับ
ผมกอดร่างเล็กแน่น ดีใจที่เขากลับมาหาผม ผมจะไม่มีวันปล่อยให้เขาไปไหนอีกแล้ว
“เอ่อ คุณเป็นใครครับ”
เสียงตื่นตระหนกพร้อมกับแรงที่พยายามดันผมออกทำให้ผมต้องผละออกจากเขา มองใบหน้าคุ้นเคยแต่แววตาเปลี่ยนไป
“โซ่?”
ผมเรียกซ้ำ หวังให้เขาแค่ล้อเล่นกับผมแล้วส่งยิ้มทะเล้นมาให้เหมือนเคย เขาทำหน้าเหมือนเพิ่งนึกได้ แต่น้ำเสียงที่เปล่งออกมากลับห่างเหิน
“คินเหรอ”
“มึงเป็นอะไร”
“เราไม่ใช่โซ่หรอก เรา...เต้”
วินาทีนั้นเหมือนโลกสลายลงตรงหน้าผม นี่คือเต้แล้วโซ่อยู่ไหน
“โซ่ล่ะ” ผมถามด้วยเสียงอ่อนแรง ดูจากสถานการณ์แล้วโซ่กำลังมาหาผมชัดๆ แล้วเขาไปไหน
“เรา...ไม่รู้” เต้ส่ายหน้า
มึงหายไปไหนอีกแล้วโซ่
เลิกทำให้กูทรมานสักที
.
.
.
.
ผมแยกทางกับเต้แล้วขับรถมายังบ้านของโซ่ บ้านที่มาบ่อยจนจำขึ้นใจ ไหว้พ่อโซ่ที่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่บริเวณสวนหน้าบ้าน
“มาหาโซ่เหรอคิน” พ่อโซ่ทัก สีหน้าเขาดูดีขึ้นกว่าครั้งสุดท้ายที่ผมพบเขา หวังเหลือเกินว่าเป็นเพราะโซ่ฟื้นแล้ว
“ครับ” ผมรีบขึ้นไปบนห้องโซ่แต่ไม่กล้าเปิดประตูเข้าไป ได้แต่ยืนอยู่หน้าห้องเพราะกลัวว่าสิ่งที่หวังจะไม่มีวันเป็นจริง
ผมคงทนไม่ได้ถ้าต้องเห็นมันนอนนิ่งอยู่บนเตียงอีกครั้ง
“โซ่...” ผมส่งเสียงนำไปก่อน แต่ไม่มีเสียงใดตอบกลับมา
ผมสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะเปิดเข้าห้องไป บนเตียงคือโซ่ที่ยังคงหลับใหล ผมทรุดตัวลงนั่งบนเตียง จับมือมันแนบแก้ม
“ได้ยินกูไหม ไหนมึงบอกจะกลับมาหากูไง อย่าเอาแต่นอนดิวะ”
ผมเอื้อมมือไปลูบแก้มมันแผ่วเบา จู่ๆ ความเครียดที่สะสมมาหลายวันก็กลั่นออกมาเป็นน้ำตา ผมปล่อยให้น้ำตาไหลเผื่อว่าโซ่จะรู้แล้วตื่นขึ้นมาด่าว่าผม ตบหัวแรงๆ เลยก็ได้ที่ผมร้องไห้
ขอแค่โซ่ฟื้นขึ้นมา
“ฟื้นขึ้นมานะ กูขอร้อง”
“เออ ฟื้นก็ได้” ผมกระพริบตาถี่ๆ ไล่น้ำตาออกไปเพื่อจะมองคนที่ส่งเสียงแหบพร่า โซ่ส่งรอยยิ้มเซียวๆ ให้ผม
“โซ่” ผมโถมตัวเข้าสวมกอดโซ่แน่น กอดให้สมกับที่รอคอยมาตลอดสามสัปดาห์ โซ่ยกมือตบหลังผมเบาๆ
“เบาๆ มึงกูหายใจไม่ออก” ผมผละจากโซ่แล้วสบตามันอย่างโหยหา
“กูจะทำให้มึงหายใจไม่ออกยิ่งกว่านี้อีก” ผมประคองใบหน้าโซ่ก่อนจูบปิดปากมัน สอดลิ้นลงไปทันที่ที่มันเผลออ้าปากจะด่าผม
“อื้อ” มือหนักทุบหลังผมให้ปล่อยออก แต่ตอนนี้ผมยอมเจ็บถ้าแลกด้วยจูบจากมันตัวจริง
จูบ...ที่ผมรอมาแสนนาน
“แฮ่ก...กูเพิ่งฟื้นนะโว้ย” ผมถอนริมฝีปากออกแล้วแนบหน้าผากตัวเองกับหน้าผากโซ่ จ้องตามันอย่างจริงจัง
“มึงไม่ได้ลืมใช่ไหมว่าเราเป็นแฟนกัน” ผมกลัวว่ามันจะลืมเรื่องทั้งหมด หรือทุกสิ่งที่เราทำร่วมกันกลายเป็นฝันที่โซ่จำไม่ได้
“ถ้าจำไม่ได้กูจะยอมให้มึงจูบไหมห้ะ คิดอะไรไม่เข้าเรื่องน่ะมึงน่ะ” โซ่จูบผมเบาแล้วผละออก
น่ารัก
ผมยิ้มนิดๆ อดไม่ได้ต้องโน้มลงไปจูบโซ่อีกหลายครั้งจนมันต้องดันผมออกแรงขึ้น
“พอแล้ว ปากกูช้ำหมด” ผมผละออกมานั่งพิงหัวเตียงแล้วจับมือโซ่ไว้
“ไม่รู้สึกแหยงบ้างหรือไง กูไม่ได้นุ่มนิ่มเหมือนตอนอยู่ในร่างเต้นะโว้ย” โซ่หลบตาผม และผมรู้ดีว่าเพราะอะไร
“ต่อให้เปลี่ยนไปยังไง สุดท้ายก็คือมึงไม่ใช่เหรอ” ผมจับหน้าโซ่ให้หันมามองกัน
“กูชอบที่มึงเป็นมึง ต่อให้มึงไปอยู่ในร่างที่น่าเกลียดน่ากลัว กูก็ชอบมึงอยู่ดี” ผมสบตาโซ่ที่เงยหน้ามอง อดไม่ได้ต้องก้มลงไปหอมแก้มอีกสักฟอดสองฟอด
“กูไม่ได้อาบน้ำมาตั้งหลายเดือนยังกล้าหอมกล้าจูบอีกนะ” โซ่ค่อยๆ ลุกขึ้นแต่มันดูอ่อนปวกเปียกจนผมต้องประคองนั่ง
“เพราะกูรักมึงไง” สายตาผมไม่เคยโกหก และใบหน้าขึ้นสีก็บอกได้อย่างดีว่าโซ่เข้าใจสิ่งที่ผมพูด
“กูก็รักมึง” โซ่บีบมือผมเบาๆ แล้วยิ้มให้อย่างสดใส
ขณะที่ผมกำลังจะก้มลงไปจูบโซ่อีกครั้งประตูก็เปิดออก
“เอ่อ...” พ่อกับแม่ของโซ่ยืนนิ่งอยู่ที่หน้าประตู ผมรีบผละออกจากโซ่เพราะไม่รู้ว่าผู้ใหญ่ทั้งสองคิดอย่างไรกับเรื่องนี้ ส่วนครอบครัวผมผมสารภาพไปนานแล้วว่าชอบโซ่
ตอนแรกพวกท่านก็ตกใจและต่อต้านถึงขั้นให้ผมเลิกคบหาโซ่ แต่เมื่อเห็นว่าการที่ผมชอบผู้ชายไม่ได้ทำให้ผลการเรียนผมตกต่ำ อีกทั้งโซ่ก็ไม่เคยพาผมออกนอกลู่นอกทางพวกท่านจึงยอมรับในสิ่งที่ผมเป็นในที่สุด
โซ่ไม่เคยรู้หรอกครับว่าช่วงแรกพ่อกับแม่ผมไม่ชอบเขาเลย แต่เพราะนิสัยเข้าหาผู้ใหญ่เก่งและเป็นเด็กดีเสมอต้นเสมอปลายทำให้ครอบครัวผมก็รักและเอ็นดูเขาไปแล้ว
“พ่อ...แม่” โซ่เรียกทั้งคู่ เมื่อพวกท่านตั้งสติได้ก็รีบเข้ามาหาโซ่อย่างดีใจ ลืมเรื่องที่เห็นเมื่อครู่ไปเลยเพราะสิ่งสำคัญตอนนี้คือโซ่ฟื้นแล้ว
“เป็นไงบ้างลูก เจ็บตรงไหนรึเปล่าแม่จะให้ลุงหมอมาตรวจ” แม่โซ่เข้ามานั่งแทนที่ผมแล้วลูบหัวโซ่เบาๆ
“หมดเคราะห์สักทีนะเจ้าโซ่ เดี๋ยวพ่อรับขวัญด้วยแลมโบกินี่สักคันไหม” พ่อโซ่ชอบให้ของขวัญเป็นรถครับ โซ่มีเยอะจนเปิดโชว์รูมได้แล้วล่ะ
“ไม่เอาอะพ่อ เอาเงินนั่นไปเลี้ยงอาหารกลางวันเด็กกำพร้าดีกว่า” พ่อกับแม่โซ่หันมามองผมอย่างอึ้งๆ ผมโบกมือปฏิเสธว่าไม่ใช่ผมที่เสนอความคิดนั้น
“ทำไมล่ะ ไม่อยากได้รถเหรอลูก” แม่โซ่ถาม
“สิ้นเปลืองเปล่าๆ แม่ รถที่มีก็เยอะจนใช้ไม่หมดแล้ว” โซ่ยิ้มให้ทั้งคู่แล้วหันมามองผมนิดๆ
“ถ้าจะขออะไรสักอย่าง พ่อกับแม่สัญญาได้ไหมว่าจะให้”
“แกอยากได้อะไรล่ะ” พ่อโซ่ถาม
“ขออนุญาตให้ผมคบกับคินได้ไหม” โซ่พูดเสียงจริงจัง สบตาพ่อกับแม่อย่างแน่วแน่
ผมไม่กล้าคิดถึงขั้นว่าโซ่จะขออะไรแบบนั้นกับพ่อแม่ตัวเอง เพราะผมรู้ว่าผู้ใหญ่ลำบากใจแค่ไหนที่ลูกชายคนเดียวจะคบกับผู้ชายด้วยกัน ผมจำได้ว่าช่วงเวลานั้นยากลำบากแค่ไหนกว่าจะพิสูจน์ให้ครอบครัวเข้าใจว่าสิ่งที่เราเป็นไม่ใช่สิ่งผิด
เราแค่ตกหลุมรักใครบางคนเท่านั้น
“แม่คิดว่าลูกกับคินคบกันตั้งนานแล้วซะอีก” คำพูดของแม่โซ่ทำให้ผมแปลกใจ แต่ที่แปลกกว่าคือคำพูดของพ่อโซ่
“ไม่ใช่ว่าได้เสียเป็นเมียผัวไปแล้วรึไง” พ่อโซ่พูดอย่างขบขันก่อนจะกวักมือเรียกผมเข้าไปหา
“ไม่ต้องตกใจหรอกคิน ครอบครัวเราทั้งคู่คุยเรื่องนี้กันแล้ว เรารู้ตั้งนานแล้วว่านายชอบลูกของพวกเรา” พ่อโซ่ตบไหล่ผมเบาๆ แม่โซ่ก็ส่งยิ้มให้
“ขอบคุณที่อยู่ข้างโซ่มาตลอดนะ ถึงลูกของแม่จะบื้อไปนิดก็ขอบคุณที่ไม่ทิ้งกันไป”
“ฝากโซ่ด้วยนะคิน” พ่อโซ่จับมือโซ่วางบนมือผม
ผมไม่รู้จะอธิบายความรู้สึกตอนนี้ยังไงนอกจากกระชับมือโซ่ไว้แน่นแล้วบอกพ่อกับแม่โซ่ด้วยความรู้สึกทั้งหมดที่ผมมี
“ขอบคุณครับ ผมจะดูแลโซ่ด้วยชีวิตของผมเอง”
“แหวะ! ทำไมทำเหมือนผมเป็นลูกสาวส่งให้เจ้าบ่าวละครับ นี่ผมหาสะใภ้ให้ครอบครัวเรานะ!” โซ่โผล่งขึ้นมา เราทั้งสามหัวเราะอย่างขบขัน
เดี๋ยวก็รู้ว่าใครจะได้เป็นลูกสะใภ้กันแน่✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣
[เต้]
ผมหวังว่าโซ่จะได้กลับเข้าร่างแล้ว ส่วนผมยังคงนั่งรออยู่หน้าบ้านหลังเดิมที่ผมมักจะมาเมื่อมีปัญหา ผมกดออดหลายครั้งแล้วแต่ไม่มีวี่แววว่ามีคนอยู่ในบ้าน ผมจึงได้แต่นั่งรอจนกว่าพวกเขาจะกลับมา
ตอนนี้เหมือนผมเคว้งคว้างไร้ที่ไป
บ้านหลังเก่าก็กลับไปไม่ได้ ส่วนบ้านหลังใหม่ของพ่อก็เป็นสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย ผมไม่กล้าเข้าไปอยู่ในบ้านของโซ่หรอกครับ แค่ตอนที่พ่อบอกว่าเขาเกิดมาเพื่อสืบสกุลผมก็เสียใจแทนโซ่ไปแล้ว แล้วผมจะมีหน้าเข้าไปอยู่ในบ้านหลังนั้นได้อย่างไร
“ไอ้โซ่!” เซียโผเข้ากอดผมแล้วตบหลังเบาๆ “ดีใจที่ได้เจอมึงนะ แล้วได้ไปหาไอ้คินยัง” ผมพยักหน้า ไม่รู้จะพูดอะไรเมื่อได้รับสัมผัสที่ไม่คุ้นเคยจากเซียเพราะเซียไม่เคยกอดผมแบบนั้น มากสุดพวกเราก็แค่โอบไหล่และจับมือกันในฐานะเพื่อน และผมไม่รู้เลยว่าตอนนี้เขาจะยังชอบผมอยู่หรือเปล่า
“ไป เข้าบ้านก่อน กูซื้อของมาทำกับข้าวพอดีอยู่กินด้วยกันเลย” เซียดันหลังผมเข้าบ้านแล้วพาเข้าไปในครัว
“อยู่บ้านกูอย่านิ่งดูดายครับ ไปล้างผักไป” เซียส่งกะละมังที่มีผักหลากชนิดให้ผม
“ผักไม่อร่อย” ผมพูดด้วยความเคยชิน เงยหน้ามองเซียที่ถือมีดค้างไว้ เกือบจะดูน่ากลัวแล้วครับถ้าไม่ใช่เพราะเซียน้ำตาไหล
“เต้เหรอ” เซียวางมีดไว้ที่เดิมก่อนจะเดินเข้ามาจับไหล่ผมทั้งสองข้าง
“อื้ม” ผมยิ้มให้มัน นึกว่าเซียเห็นแล้วจะดีใจโผเข้ากอดผม แต่เซียทรุดลงกับพื้นแล้วนั่งร้องไห้อย่างเอาเป็นเอาตายเลยครับ
“เอ่อ...” ผมยืนทำตัวไม่ถูกเมื่อเห็นเซียในสภาพนั้น ตั้งแต่เรารู้จักกันผมไม่เคยเห็นเซียร้องไห้เลยสักครั้ง ต่อให้ถูกครูตีเซียก็ยิ้มรับเสมอ
“เซีย” ผมนั่งลงข้างเซีย ใช้นิ้วปาดน้ำตาบนใบหน้าเขา “อย่าร้องสิ” ผมเริ่มร้องไห้ตามเมื่อเซียไม่มีท่าทีจะหยุดร้อง
“มึงร้องไห้ทำไมเนี่ย” เซียถามผมเสียงสั่นแล้วปาดน้ำตาให้ผมบ้าง เราผลัดกันปาดน้ำตาให้กันแต่ก็ไม่ยอมหยุดร้องไห้ แล้วจู่ๆ เราทั้งคู่ก็หัวเราะออกมา
ผมโผเข้ากอดเซีย มันเกร็งตัวนิดๆ ก่อนจะกอดผมตอบแน่นขึ้นเรื่อยๆ
“เต้”
“อืม”
“เต้” เซียเรียกชื่อผมซ้ำๆ อยู่อย่างนั้น และผมก็ตอบรับทุกครั้งไป เรานั่งกอดกันไปเรื่อยไม่มีใครยอมผละออกไปก่อน
“กูชอบมึง” เซียเอ่ยขึ้นเบาๆ ข้างหูผม ผมจะผละออกมาแต่เซียกอดผมไว้แน่น
“อย่าเพิ่งตอบกูได้ไหม ช่วยเก็บไปคิดสักวันสองวันก็ยังดี” เซียขอร้องเสียงเบา แต่ทำไมต้องรอถึงสองวัน ผมอยากบอกเซียตอนนี้เลย เพราะผมก็รู้สึกไม่ต่างจากเซีย
“แต่กู...” เซียผละออกจากผมแล้วยกมือปิดปากผม
“สองวัน กูขอแค่นั้น ได้ไหม” ผมสบตาเซียที่มองมาอย่างเจ็บปวด เซียคงคิดไปไกลว่าผมจะปฏิเสธเขา ผมจึงต้องแก้ไขความเข้าใจผิดนั้น
ผมดึงมือเซียออกจากปาก เซียก็รีบยกมือสองข้างปิดหูส่ายหน้าไปมา ผมโถมตัวใส่เซียจนล้มตัวนอนบนพื้นแล้วขึ้นคร่อมทันที
“ฟังกู” ผมจับมือสองข้างของเซียตรึงไว้เหนือหัว เซียทำหน้าอึ้งแต่ก็ยอมอยู่นิ่งๆ ฟังผม
“กูก็ชอบมึงเหมือนกัน ไม่ต้องรงต้องรอวันนั้นหรอก คบกันตั้งแต่วันนี้ไปเลย”
ผมพูดรวบรัดแล้วโน้มตัวลงประกบปากเซียก่อนที่มันจะทันได้เอ่ยคำใดอีก เซียโอบเอวผมเข้าประชิดตัว อีกมือก็กดต้นคอผมให้แนบชิดกันมากกว่าเดิม
“คบแล้วห้ามเลิกนะ” เซียผละออกมากระซิบถามชิดริมฝีปาก เมื่อผมพยักหน้าเซียก็ไม่ผละออกจากปากผมอีกเลย
✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣
1 ปีผ่านไป
“กรี๊ดดดดดดดดดดด น้องโซ่! ทางนี้ค่า! โอ้ย หล่อวัวตายควายล้มมาก”
“โซ่ครับ ทางนี้ครับ โอ้ยกูจะเอาผู้คนนี้”
“มึง แต่กูได้ข่าวว่าเขาเป็นแฟนกับเดือนมหาลัยปีที่แล้วนะ”
“คนที่เพิ่งเลิกกับเต้อะนะ โอ้ย คินนี่กะจะเอาตัวท็อปเป็นแฟนหมดเลยรึไง”
“เท่าที่กูรู้ คินกับเต้คบกันเพราะสัญญาพรีเซนเตอร์เสื้อเท่านั้นย่ะ นี่ก็เพิ่งครบสัญญาเมื่อเดือนที่แล้วเอง”
“โอ๊ะ งั้นกูจองโซ่ คงแค่ข่าวลืออีกอะมึง ถึงจริงกูจะทำให้เขาเลิกกันเองค่ะ ตัวเล็กน่ารักแบ๊วๆ อย่างกูเร้าใจกว่าเยอะ”
“โอ้ย ถ้าเขาสนตัวเล็กอย่างเราๆ เขาจะเอาเดือนมหาลัยสูงร้อยแปดสิบอัพไปทำไมคิดสิยะ”
“กูเสียดายผู้งานดีแบบนี้อะ กูจะเอา ว้าย”
“เป็นอะไรหรือเปล่าครับ” โซ่เดินแหวกฝูงคนเข้าประชิดผู้ชายตัวเล็กที่ล้มลง ยกแขนขึ้นกันคนรอบๆ ไม่ให้เขามาเบียดจนคนตัวเล็กอึดอัด “ถอยหน่อยนะครับ” โซ่พยุงคนตัวเล็กที่ทำท่าเหมือนจะเป็นลมออกมาแล้วส่งให้สตาฟพาไปปฐมพยาบาล
“ขะ...ขอบคุณครับ” คนตัวเล็กเอ่ยเบาๆ ส่งสายตาหวานมาให้ แบบที่โซ่ได้แต่ยิ้มนิดๆ แล้วขอตัวไปทางอื่น
ใช่ว่าเป็นครั้งแรกเมื่อไหร่ที่มีคนพยายามเข้าหาเขา ใครๆ ก็อยากรู้จักโซ่ หนุ่มหล่อน้ำใจงาม ดีกรีเดือนคณะนิเทศศาสตร์ ไปที่ไหนก็มีแต่รอยยิ้มพิมพ์ใจจนคนมองแทบละลาย อัธยาศัยดีที่แม้แต่เดือนคณะคนก่อนก็เทียบไม่ได้
แต่หัวใจของโซ่ก็อยู่ที่ไอ้เดือนมหาวิทยาลัยปีที่แล้วน่ะสิ
“โห หล่อมาเลยนะมึง” โชคทักเพื่อนที่เดินหน้ายิ้มมาแต่ไกล ด้านหลังมีเหล่าแฟนคลับกรี๊ดกร๊าดเป็นแบล็คกราวน์ ดูอย่างไรก็น่าหมันไส้จนโชคทนไม่ได้
“เออ กูหล่อ” โซ่นั่งลงแล้วขโมยลูกชิ้นปิ้งของเพื่อนมากินหน้าตาเฉย โชคไม่ได้ว่าอะไรเพราะเดี๋ยวโซ่ก็ซื้อมาคืนเองทีหลัง เป็นอย่างนี้ตลอดแม้โชคจะบอกว่าไม่ต้องคืนก็ได้
“แล้วนี่มึงจะไปดูบอลกับกูไหม หรือต้องไปซ้อมประกวดอีก”
“ไปดูบอลกับมึงละกัน ไอ้เอ็มโทรตามยิกๆ ไม่ไปเดี๋ยวงอนกูอีก”
“พี่เอ็มอะนะ” โซ่พยักหน้า ไม่ได้ถือโชคที่อายุน้อยกว่าแล้วไม่ได้เรียกเขาว่าพี่ตามเอ็ม เพราะเขาเองก็ไม่อยากให้ใครเรียกพี่เหมือนกัน
“ตัวติดกับพี่เอ็มมากๆ ไม่กลัวพี่คินโกรธหรือไง” โซ่ส่ายแล้วยิ้มทะเล้น
“เอ็มมันก็เพื่อนกูปะวะ อีกอย่างกูตัวติดกับมึงมากกว่าไอ้เอ็มอีก” โชคหน้าซีด เขาลืมคิดไปเลยว่าพี่คินชอบเขม่นเขาอยู่บ่อยๆ ยิ่งเวลาโซ่กอดคอพาเดินไปไหนมาไหนแล้วบังเอิญเจอพี่คิน สายตาอาฆาตที่ส่งมาทำให้โชคเสียวสันหลังวาบทุกที
“เออ มึงก็ไม่ต้องมานัวเนียกูมาก เป็นข่าวกับมึงทีไรพี่คินจ้องจะฆ่ากูตลอด” โซ่เอื้อมมือมาบีบแก้มเพื่อนจนอีกคนต้องรีบตีมือเมื่อเห็นพี่คินกับกลุ่มเพื่อนสุดหล่อของเขาเดินหน้าถมึงทึงเข้ามา
“โซ่ ไอ้นี่ใคร” มาถึงพี่คินก็ยื่นไอโฟนรุ่นล่าสุดที่มีรูปโซ่กับผู้ชายตัวเล็กคนหนึ่งประคองกอดกันท่ามกลางฝูงชน
“แฟนคลับกูไง เขาล้มกูก็เลยเข้าไปช่วย” โซ่ตอบหน้าตายไม่ได้ดูเดือดร้อนกับอาการของแฟนเลยสักนิด
“บอกพวกสตาฟก็ได้ไม่เห็นจำเป็นต้องแนบชิดขนาดนั้น แล้วดูนี่ดิ” พี่คินซูมไปที่หน้าผู้ชายตัวเล็กที่ทำหน้าเพ้อๆ อย่างมีความสุข
“มันจ้องจะงาบมึงแล้วเนี่ย ระวังตัวบ้างสิวะ” พี่คินดูอารมณ์ไม่ดีมากจนโซ่ต้องเข้าไปเกาะแขนแล้วอ้อน
“คินคิน กูก็ไม่ได้คิดอะไรกับเขาปะวะ ที่กูทำก็น้ำใจต่อเพื่อนมนุษย์นะ อย่างงอนดิ” โชคมองแล้วอยากอ้วกกับภาพที่เห็น ผู้ชายตัวควายๆสองคนยืนง้องอนกันอยู่ คนหนึ่งยืนกอดอกไม่พูดไม่จา ส่วนอีกคนก็ตัวพอๆกันพยายามเอาหน้าถูไหล่อย่างอ้อน กระพริบตาปริบๆ อย่างไม่รู้จะทำอย่างไร
“ไอ้โชค ไปดูบอลกับพวกกูเถอะ ปล่อยไอ้สองตัวนี้ไปเดี๋ยวก็คืนดีกันเอง” พี่เอ็มลากโชคไปจากสถานการณ์ชวนอ้วก โชคพยักหน้าเห็นด้วยก่อนจะหันกลับไปมองอีกครั้งก็เห็นพี่คินหลุดยิ้มมุมปาก ก้มลงจุ๊บโซ่ก่อนทั้งคู่จะพากันวิ่งตามเรามา
งอนง่ายง้อง่ายกันจริงๆ คู่นี้
“ไปไหนกันอะ” ผู้ชายตัวเล็กน่ารักเดินถือน้ำสตอเบอร์รี่ปั่นเข้ามาหาพวกเรา พี่เต้เป็นพี่ชายของไอ้โซ่และเป็นอดีตแฟนพี่คิน
“ไปดูบอล เต้ไปไหม” โซ่ถาม พี่เต้หันไปถามแฟนคนปัจจุบันที่ยืนอยู่ข้างกายซึ่งเขาก็พยักหน้ายิ้มๆ
พี่เซียเดือนคณะบริหารเป็นคนที่ผู้ชายทั้งวิศวะอิจฉาเพราะได้ดอกฟ้าจากวิศวกรรมศาสตร์ไปครอง ตอนนี้รอบๆ ตัวโชคจึงรายล้อมด้วยคู่รักสามคู่ เหลือแค่พี่เอ็มกับโชคที่ยังโสด
“เดินเป็นคู่ๆ เลยโว้ย!” พี่เอ็มโผล่งขึ้นมาแล้วกอดคอโชคเดินนำบรรดาคู่รักทั้งหลาย “เห็นแล้วหงุดหงิดชิบหาย ไอ้น้องโชคห้ามมีแฟนก่อนพี่นะโว้ย”
“ครับๆ” โชคพยักหน้ารับนิ่งๆ ทั้งที่หัวใจเต้นรัว
พี่ก็ห้ามมีแฟนที่ไม่ใช่ผมนะครับThe End.
จบแล้วจ้า ขอบคุณนักอ่านทุกคนที่เข้ามาอ่านและคอมเมนต์นิยายให้เราตลอด 14 วันนี้นะ
ทุกคอมเมนต์เป็นกำลังใจที่ช่วยให้เราเขียนจนจบ แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่เรามีความสุขมาก
ยิ่งเป็นนิยายเรื่องแรกด้วย เราอาจจะยังเขียนได้ไม่ดีนัก แต่ก็ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันค่ะ
สำหรับตอนพิเศษขอคิดก่อนนะ ตอนนี้ไม่มีอะไรในหัวเลย ขอเวลาไปแต่งแป๊บ 555 You are my strength and support. Thank you. 
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------