19
☷ เต้(1) ☷
[เต้]
ชีวิตของผมเจอแต่สิ่งเลวร้ายและผมไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดลงเมื่อไหร่
“มาแล้วเหรอ เงินกูล่ะ!” แม่ของผมไม่เคยถามว่าหิวไหม หรือว่าเรียนวันนี้เป็นอย่างไรบ้าง
“นี่ครับ” ผมยื่นเงินหลายพันบาทที่ได้จากการจำนำนาฬิกายี่ห้อดังให้แม่แล้วเดินขึ้นห้องเหมือนอย่างเคย ห้องนี้เป็นเพียงโลกใบเดียวที่ปลอดภัยของผม
อย่างน้อยก็ปลอดภัยกว่าพ่อสารเลวนั่น
“เต้ กลับมาแล้วเหรอลูกรัก เปิดประตูให้พ่อหน่อยซิ” เสียงเพราะๆ ไม่ทำให้ผมเปิดประตูให้เขา เพราะผมรู้ดีว่าเขาต้องการอะไรจากผม
“ไปให้พ้น!” ผมตะโกนไล่แต่เขาก็ยังคงบิดกรประตูจะเข้ามาให้ได้
“เอะอะเสียงดังอะไรกัน” แม่พูดขึ้น
“พ่อมาเอาเงินจากมันจ้ะแม่จ๋า”
“ได้มาแล้ว ฉันจะไปบ่อนพี่เองก็ต้องไปด้วย เดี๋ยวมันยั่วอะไรอีก” แม่ไม่เคยรู้เลยว่าสามีของแม่จ้องจะปล้ำผมทุกวัน ยิ่งแม่ไม่อยู่ก็เหมือนเวลานรกสำหรับผม
“ฉันปวดท้อง คงไม่ไปด้วยหรอก เดี๋ยวจะไปอยู่บ้านไอ้มิ่งไม่ให้มันยั่วหรอก เด็กร่านๆ แบบนี้น่ะ”
“เออดี อีเต้! ห้ามยุ่งกับผัวกูนะรู้ไหม ถ้าเห็นกูจะฟาดให้หลังลายเลยเชียว” พูดจบผมก็ได้ยินเสียงเดินลงบันไดไป และเสียงที่ไม่ได้ยินก็ดังขึ้น
“เตรียมตัวเป็นเมียกูได้เลยลูกรัก” เสียงน่าขยะแขยงทำผมขนลุกซู่ วันนี้ผมจะไม่ยอมอยู่บ้านให้มันเอาเด็ดขาด ผมยอมตายดีกว่าเป็นเมียคนอย่างมัน
พอได้ยินเสียงทั้งคู่เข้าห้องไป ผมรีบออกจากบ้านแล้วโบกแท็กซี่ไปยังผับชื่อดัง เดินเข้าไปโดยใช้ใบหน้าเป็นทางผ่านเช่นเคย
เสื้อคอวีที่เว้าลึกและกางเกงขายาวแนบเนื้อขับให้ผมดูเซ็กซี่จนผู้ชายทุกคนต้องเหลียวมอง กลายเป็นเรื่องปกติไปแล้วที่ผมจะแต่งตัวแบบนี้ไปไหนมาไหน
และมักจะดึงดูดผู้ชายเสน่ห์แรงให้เข้าหาอย่างง่ายดาย
“ขอนั่งด้วยคนนะครับ” เขาพูดยิ้มๆ แล้วนั่งลงโดยไม่สนว่าผมจะอนุญาตหรือไม่ แล้วจะถามทำไมวะ
วันนี้ผมไม่ต้องการเหยื่อคนใหม่ ผมพอแล้วกับการปั้นหน้าใส่ซื่อใส่คนอื่นจึงสั่งมาร์ตินี่มาจิบเรื่อยๆ ไม่สนใจคนข้างๆ ที่พยายามชวนคุยหลายเรื่อง
“นี่ ผมชอบวงโคลด์เพลย์มากเลยนะ” เขาพูดชื่อวงที่ผมรักขึ้นมา ทำให้ผมหันไปมองเขาอย่างเต็มตา
เขาเป็นผู้ชายที่หล่อมากทีเดียว ใบหน้าคมมีหนวดนิดๆ แต่ไม่ดูน่าเกลียด กลับเซ็กซี่และน่าหลงใหลมากกว่าเดิม
ดวงตาของเขาจ้องผมเป็นประกายเมื่อเห็นผมสนใจเขาสักที
เหมือนเด็ก...ที่เรียกร้องความสนใจ
“คุณชอบเพลงไหน” ผมถาม
“The Scientist” เขาตอบด้วยสำเนียงเป๊ะเหมือนเจ้าของภาษา และน่าแปลกที่เพลงนั้นเป็นที่ผมชอบมากเช่นกัน
เพลงมันตรงกับใจผมมาก โดยเฉพาะท่อนที่บอกว่า
Nobody said it was easy
ไม่มีใครบอกหรอกว่ามันง่ายดาย
No one ever said it would be this hard
และก็ไม่เคยมีใครบอกว่ามันจะยากลำบากขนาดนี้
Oh, take me back to the start.
กลับไปเริ่มต้นกันใหม่เถอะนะ
ไม่มีใครบอกว่าการมีชีวิตอยู่มันง่าย แต่ผมก็ไม่รู้ว่ามันจะยากขนาดนี้ และที่ยากไปกว่านั้นคือผมกลับไปเริ่มต้นใหม่ไม่ได้ ผมแค่ต้องดำเนินชีวิตต่อไปแบบเดิมๆ เป็นเครื่องมือหากินของแม่ไปตลอดชีวิต
ผมแค่อยากมีชีวิตปกติเหมือนคนทั่วๆไป
แต่คงยากเกินไปสำหรับคนอย่างผม
เราคุยไปเรื่องทั้งเรื่องภาพยนตร์และกีฬา ผมดีใจที่มีคนชอบทีมเดียวกับผม เราจึงย้ายกันไปที่ร้านเหล้าแห่งใหม่และนั่งเชียร์บอลด้วยกันทั้งคืน
ยอมรับว่าเป็นครั้งแรกที่ผมมีความสุข สุขที่ได้อยู่กับคนแปลกหน้าและเป็นตัวเองของตัวเองได้อย่างอิสระ
“ขอบคุณมากนะ” เขามาส่งผมตอนเช้า และผมคิดว่าแม่คงกลับมาแล้วเพราะเห็นรถจอดอยู่ อย่างน้อยตอนนี้ผมก็ปลอดภัยจากผู้ชายคนนั้น
“ขอไลน์ไว้ได้ไหม ไว้นัดเจอกันอีก” ผมแลกไลน์กับเขาแล้วเราก็เอ่ยลากัน หันกลับไปเห็นพ่อเลี้ยงยืนทำหน้าโหดอยู่ตรงรั้วบ้านผมก็ไม่ใส่ใจ เปิดประตูแล้วเดินเข้าบ้านไป แต่ก็ถูกกระชากเข้าไปหา
“ทีกับกูน่ะไม่ได้ ทีกับผู้ชายคนอื่นนี่แตกไปกี่น้ำ” ผมเกลียดคำพูดของเขาเพราะในหัวเขามีแต่เรื่องต่ำๆ
“จะกี่น้ำก็เรื่องของกู อย่างน้อยก็มีเงินให้มึงไปแดกเหล้าไง” ผมกระชากแขนออกเมื่อได้ยินเสียงเปิดประตู
“แหมกลับเช้าเลยนะอีตัวดี ได้มาเท่าไหร่ล่ะ” ผมอยากร้องไห้ทุกครั้งที่ได้ยินคำนี้ แม่พูดเหมือนกับผมเป็นอีตัว ไม่เคยมองผมเป็นลูกสักครั้ง
“ยังไม่ได้หรอกแม่ เพิ่งคบจะขอเลยได้ยังไง” ผมโกหกแม่แล้วเดินเลี่ยงไปอีกทาง
“มึงจะให้มันฟันโดยที่มึงไม่ได้อะไรไม่ได้นะ เสียทั้งทีก็ต้องให้คุ้มหน่อย ได้ยินไหมอีเต้!” แม่ตะโกนไล่หลังมา
ผมเจ็บ
เจ็บจนแทบทนไม่ไหว
ได้แต่กดโทรศัพท์โทรหาเพื่อนรักที่น่าจะยังหลับอยู่
(โทรมาทำเหี้ยอะไรแต่เช้าห้ะ!) เซียบ่นอย่างหัวเสียที่ผมโทรไปปลุกมัน ผมยิ้ม ทั้งที่เมื่อกี้อยากร้องไห้แทบตาย แต่ความเป็นเซียก็ทำให้ผมยิ้มได้ เป็นสิ่งเดียวที่ผมเหลืออยู่
“...” ผมไม่ตอบอะไร ปล่อยให้เซียโวยวายไปจนกว่ามันจะพอใจและเหนื่อยไปเอง
(กูตื่นล่ะ ยัยป้านั่นด่าอะไรมึงอีก) เซียรู้ทุกเรื่องเพราะผมเล่าให้มันฟังเสมอ และผมดีใจที่มันเชื่อผม
“ก็เหมือนเดิม แต่กูดีขึ้นแล้ว เพราะมึงเลยน้า” ผมพูดเสียงอ้อน เซียหัวเราะในลำคอเมื่อได้ยินผมอ้อนมัน
เซียเป็นคนใจอ่อน แค่ผมอ้อนหรือพูดจาน่ารักใส่มันก็ยอมผมทุกอย่างแล้ว
เป็นเพื่อนที่ดีจนผมไม่อยากเสียไป
.
.
.
ดึ้ง
เสียงไลน์ทำให้ผมละความสนใจจากกระดานดำ เห็นผมอย่างนี้ก็เป็นเด็กเรียนนะครับ ไม่อย่างนั้นจะเป็นนางฟ้าของโรงเรียนได้ยังไง ควงผมมีแต่ได้กับได้ทั้งนั้นแหละ
Pupha ดีคับ
Tete ใคร?
Pupha อ่าว ลืมกันซะแล้ว เมื่อคืนเชียร์บอลกับใครล่ะครับ
Tete อ่อ แล้วไง
Pupha วันนี้มีรอบชิง ดูปะ
Tete ที่ไหน
Pupha คอนโดเรา
Tete ร้านเหล้าก็ได้มั้ง
Pupha ไม่ไว้ใจกันสินะ
Tete อืม
Pupha ก็ได้ๆ งั้นเดี๋ยวตอนเย็นไปรับ
“แหน่ะ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อะไรครับเมีย” เซียถาม ผมจึงรีบเก็บโทรศัพท์แล้วตั้งใจเรียน แม้ว่าเรื่องที่ครูสอนจะไม่เข้าหัวเลยก็ตาม
ก่อนนัดหมายผมยังยืนเลือกเสื้อผ้าอยู่หน้ากระจก คิดไม่ตกว่าจะใส่ชุดอะไรไปดี จะใส่เรียบร้อยไปก็ไม่ใช่สไตล์ผมแล้ว จะใส่ซีทรูก็กลัวว่าเขาจะหาว่าผมอ่อย
แกรก
เสียงไขกุญแจดังขึ้นหน้าห้องผม และกระตุกอย่างแรงเพราะผมล็อกโซ่ไว้ ใบหน้าหื่นกามปรากฏที่ช่องประตู
และผมเพิ่งนึกได้ว่าแม่พูดอะไรก่อนที่ผมจะขึ้นมา
“วันนี้ฉันจะไปบ่อน”มันกระชากประตูห้องผมอย่างแรง
“อีกเดี๋ยวเดียวเราจะได้ไปสวรรค์กันแล้วนะ” มันผละจากประตูไปหยิบคีมตัดเหล็ก นาทีนั้นผมไม่สนใจแล้วว่าจะถอดเสื้ออยู่ ผมรีบกระโดดหนีทางหน้าต่างอย่างไม่กลัวตาย
ความเจ็บแปลบที่ข้อเท้าแล่นริ้วจนต้องเดินกะเผลกออกจากบ้าน โชคดีที่ห้องนอนของผมอยู่ใกล้ประตูรั้วจึงรีบออกไปได้ทันที
ปี๊มๆ
เสียงแตรเรียกให้ผมหันไปหาเจ้าของรถที่ขับสวนทางกับผม เขาเลื่อนกระจกรถลงแล้วถามผม
“เกิดอะไรขึ้นกับนายน่ะ” ผมรีบเดินกะเผลกขึ้นรถทันทีที่เห็นพ่อเลี้ยงไล่หลังมา
“ช่วยด้วย ชะ...ช่วยพาผมออกไปจากที่นี่ที” เขาถอยเกียร์แล้วพาผมออกจากซอยบ้าน
“อะ” เขาโยนเสื้อกันหนาวแบรนด์ดังมาให้ผม ผมรับมาสวมแล้วหันมองข้างทาง อับอายที่ให้เขาเห็นผมในสภาพนี้
เขาพาผมไปยังโรงพยาบาลเอกชนแล้วส่งผมให้บุรุษพยาบาลพาไปหาหมอ ส่วนเขาก็กลับขึ้นรถไปหาที่จอด
หลังจากที่หมอใส่เผือกให้เรียบร้อยแล้วผมก็มานั่งรอรับยากับผู้ชายใจดี เขาชวนผมคุยโน่นนั่นนี่ไปเรื่อยโดยไม่ถามที่มา เป็นช่วงเวลาดีที่ไม่มีใครคิดจะหาผลประโยชน์จากตัวผม แค่มอบน้ำใจแก่เพื่อนมนุษย์เท่านั้นเอง
เขาอาสาไปส่งผมที่บ้านเซีย และให้ผมโทรศัพท์โทรบอกมันว่าถึงแล้วก่อนจะหยิบเป้จากเบาะหลังแล้วหันมาพูดกับเขาเสียงเบา
“ขอบคุณนะ...พี่ภู” พูดจบผมก็รีบลงจากรถทันที พอดีกับที่เซียเปิดประตูบ้านออกมา พอเห็นสภาพผมมันก็รีบเข้ามาพยุงแล้วพาเข้าบ้านทันที
“เป็นอะไรอะ แล้วใครมาส่งมึงอะ” ไม่เสือกไม่ใช่เซียครับ
“คนที่ช่วยกูไว้” ผมบอกแค่นั้นแล้วนึกถึงเขา คนที่เข้ามาในใจผมอย่างง่ายดาย
ผมคงเป็นคนใจง่ายสินะ
✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣✣
หลังจากวันนั้นผมก็ไม่ได้เจอเขาอีก ผมบล็อกไลน์เขา คนที่เปรียบเสมือนรักแรกของผม
บางครั้งคนเราก็ตกหลุมรักเพียงเสี้ยววินาที และเสี้ยววินาทีนั้นผมก็ปล่อยให้มันหลุดไปเพียงเพราะตัวผมเอง
ผมไม่อยากให้เขาต้องถูกตราหน้าว่ามายุ่งกับคนอย่างผม แม้ผมจะไม่เคยมีเซ็กส์กับใคร แต่ชื่อเสียงของผมก็ฉาวโฉ่ไปไกลเกินกว่าจะแก้
“เต้เป็นอะไรครับ ดูเงียบๆ กว่าทุกวัน” ผมหันมาสนใจแฟนคนใหม่ นพเป็นลูกของนักการเมืองคนหนึ่งครับ พกเงินวันละเป็นแสนๆ ตอนแรกผมก็ไม่อยากยุ่งกับเขาหรอกครับเพราะเคยได้ยินข่าวลือว่าเป็นคนซาดิสม์
คู่ขาของเขาหลายคนเจ็บตัวจนต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล แต่สิ่งที่ได้รับก็คุ้มอยู่ เขาไม่เคยปล่อยให้คนที่คบด้วยต้องอดอยาก ใครอยากได้อะไรเขาก็หามาให้ไม่ขาดตกบกพร่องใดๆ
นั่นจึงเป็นสิ่งล่อใจแม่ผมได้อย่างดี และแนะนำให้ผมลองคบหากับเขา ซึ่งแม้ว่าผมจะปฏิเสธเพียงใดแม่ก็ไม่สนใจ แม่สนแค่เงินที่ผมจะได้รับระหว่างที่เราคบกัน
เพราะแม่คิดว่าการที่ผมคบผู้ชาย หมายถึงผมก็ ‘เสีย’ ให้ทุกคนไปหมดแล้ว ในเมื่อไม่มีอะไรจะเสียอีกแม่จึงประเคนผมให้ทุกคน
และผมก็ปล่อยให้แม่คิดอย่างนั้น เพราะจะมีประโยชน์อะไรล่ะ นอกจากผมจะถูกบังคับให้เสียเวอร์จินจริงๆ แลกกับเงินมหาศาลที่แม่จะได้จากคนพวกนั้น
“เราก็คบกันมาหลายวันแล้ว เต้...คืนนี้ไปค้างบ้านเรานะ” ผมยิ้มอ้อนเขาแล้วตอบปฏิเสธว่ามีรายงานต้องทำ
“รายงานอีกแล้ว ครูคนไหนมันสั่งนักหนา ผมจะให้พ่อบีบมันออกไปเลย” ผมกอดเขาแล้วรีบส่ายหน้า ถึงผมจะเลวที่หลอกคนอื่นแต่ผมจะไม่ยอมให้ครูต้องเดือดร้อนเพราะผมแน่ๆ
“น่านะที่รัก ขอเวลาเค้าสักวันสองวันนะ” ผมหอมแก้มปลอบใจเขาแล้วเบี่ยงประเด็นไปที่เรื่องอื่นที่เขาสนใจ ฟังเขาเล่าเรื่องเทนนิสที่ผมไม่เคยดูและยิ้มเออออไปกับเขา พร้อมกับสัญญาว่าวันศุกร์เราจะไปเที่ยวต่างจังหวัดด้วยกัน
.
.
.
“จำเป็นต้องทำขนาดนี้เลยเหรอวะเต้” เซียถามผมด้วยสายตาเป็นห่วง ผมหลบตามันแล้วพยักหน้า
“กูไม่ทำแม่ก็หาคนอื่นมาให้กูอีกอยู่ดี”
“คบกับกูดิ กูจะไม่ทำอะไรมึงเลย” เซียพูดเสียงจริงจัง ผมรู้ว่ามันห่วงผมแต่ผมก็ส่ายหน้าแล้วเก็บกระเป๋าเพื่อเตรียมที่จะกลับบ้าน
เป็นเซียไม่ได้ การคบกับเซียก็มีแต่จะทำลายมัน แม่จะให้ผมดูดทรัพย์เพื่อนจนกว่ามันจะหมดตัวแล้วให้ผมเลิกไปคบกับคนใหม่
เซียจะกลายเป็นคนแปลกหน้าสำหรับผมเพราะไม่มีประโยชน์อะไรให้กอบโกย ซึ่งผมยอมเสียเพื่อนเพียงคนเดียวไปไม่ได้
ชีวิตผมไม่ค่อยมีเพื่อนนัก เพราะส่วนใหญ่เข้ามาทำความรู้จักผมเพียงเพื่อหวังเซ็กส์ ชีวิตผมหาคนจริงใจยาก และมีเพียงเซียที่เข้ามารู้จักตัวตนของผมจริงๆ
แม้จะรู้เรื่องที่ผมคบกับคนมากมายมันก็เคยไม่รังเกียจ คงเพราะเป็นคนหัวนอกจึงไม่อคติอะไรกับการคบผู้ชายหลายคน และไม่เคยนินทาผมลับหลังแม้ว่าใครจะใส่ความผมก็ตาม
เซียจะปกป้องผมเสมอ และผมหวังให้มันยังคงเป็นอย่างนั้นตลอดไป
“เอาให้คุ้มนะอีเต้” แม่กระซิบบอกแล้วจูงมือผมมาให้นพที่ยืนรออยู่ที่รถ นพยกมือไหว้แม่ผมอย่างยิ้มแย้มแจ่มใส รับกระเป๋าจากผมไปเก็บที่รถแล้วเปิดประตูให้ผมขึ้นไปนั่ง
“ฝากดูแลเต้ด้วยนะจ้ะนพ” นพพยักหน้าอย่างเขินอายแล้วเดินมาขึ้นรถก่อนจะขับพาเราทั้งคู่ไปยังทะเลแถวบางแสน
“เต้ต้องลองนะ” นพแกะกุ้งล็อปสเตอร์มาให้ผม ผมยกมือปฏิเสธเพราะแพ้ นพก็ลนลานเรียกบริกรมาเปลี่ยนจานเพราะกลัวว่าใช้จานเดิมก็อาจจะแพ้ได้
เว่อร์ซะไม่มี
ผมมองไปยังทะเลที่อ้างว้าง อ้างว้างพอๆ กับใจผมที่ยังเฝ้าคิดถึงใครบางคนตลอด และเมื่อเห็นร่างสูงของใครบางคนเดินอยู่บนหาดทราย ใจผมก็กระตุกอย่างห้ามไม่อยู่ แม้จะเห็นหน้าไม่ชัดแต่ผมก็มั่นใจว่าเป็นเขา
“จะไปไหนครับเต้” นพถามผมมือข้างหนึ่งของเขาถือส้อมค้างอยู่ แต่ผมไม่สนใจเขาแล้วรีบวิ่งออกมาทันที ขอให้ทันทีเถอะ
ผมหอบหายใจเมื่อวิ่งมาถึงหาด มองซ้ายมองขวาเพื่อหาเขา แต่บริเวณนั้นโล่งไปหมด
“เต้เป็นอะไรครับ จู่ๆ ก็วิ่งออกมา” นพวิ่งตามหลังผมมาแล้วจับไหล่ผมถามอย่างไม่เข้าใจ ผมมองเขาอย่างยอมแพ้
ใช่ยอมแพ้แล้ว
ผมจะไล่ตามผู้ชายคนนั้นไปทำไมในเมื่อรู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควร อย่างไรเสียคืนนี้ผมก็ต้องตกเป็นของคนตรงหน้า
“ไปห้องกันเถอะ” แววตาของนพเปล่งประกายอย่างลิงโลด จับมือผมแน่นแล้วจูงผมไปยังรีสอร์ทหรูริมทะเล
“ผมอยากลองอุปกรณ์พวกนี้มานานแล้ว แต่ไม่กล้าลองกับพวกเวอร์จิน สำหรับเต้น่าจะไหวอยู่” นพค้นกระเป๋าสีดำน่าสงสัยของเขา เลียริมฝีปากอย่างกระเหี้ยนกระหือรือ ผมรู้สึกตื่นกลัวนิดๆ เมื่อเห็นนพในแบบที่ไม่รูจัก
จริงอยู่ที่ผมเตรียมใจมาแล้ว แต่ผมก็ยังหวังว่าเขาจะมอบเซ็กส์ปกติให้ผม ไม่ใช่แซ่ โซ่ กุญแจมือครบครันอย่างนั้น
“เราว่าวันนี้เราลองแบบธรรมดาก่อนไหม” ผมถูหน้ากับแขนของเขา ช้อนตามองอ้อนๆ เพื่อหวังว่าเขาจะใจอ่อน แต่เหมือนจะจุดประกายบางอย่างที่ตรงกันข้ามเสียแล้ว
“อ่า เต้ ผมไม่ไหวแล้ว คุณน่ารักมากจริง น่ารักจนผมอยากทำรุนแรงด้วย อยากเห็นคุณร้องไห้อ้อนวอนให้ผมหยุด” นพผลักผมลงบนเตียง ผมรีบถอยหนีด้วยความกลัว
“ผะ...ผมยังเวอร์จิ้นอยู่” ผมยอมพูดความจริงเพื่ออย่างน้อยผมจะได้หลุดพ้นจากแท่งหรรษาอันน่ากลัว ขนาดมันใหญ่กว่าแขนผมอีก
“ผมไม่เชื่อหรอก อย่าปฏิเสธกันเลย ผมรู้คุณชอบ เพื่อนๆ ผมว่าคุณลีลาเด็ดมาก เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า” นพคลานเข้ามาหาผมช้าๆ เหมือนเสือจ้องตะครุบเหยื่อแล้วกระชากเสื้อตัวบางของผมจนขาดวิ่น
“ช่วยด้วย!” เมื่อการเจรจาไม่ได้ผลผมก็ต้องร้องให้คนช่วย ผมถีบนพแล้วกระโดดลงจากเตียงก่อนจะวิ่งไปที่ประตู นพกระชากแขนผมกลับไปแต่ผมก็เปิดประตูออกได้ทัน
“เอ่อ” คนที่ยืนอยู่หน้าประตูเบิกตากว้างเมื่อเห็นสภาพผม
ผมสะบัดมืออกจากนพแล้ววิ่งไปหลบหลังเขาทันที แม้จะไม่อยากให้เขาเห็นสภาพเช่นนี้ แต่ก็อดดีใจลึกๆ ไม่ได้ที่ได้เจอกันอีก
พี่ภู
“ชะ..ช่วยด้วย เขาจะข่มขืนผม” ผมเกาะแขนพี่ภูแน่น ตอนนี้เขาเป็นที่พึ่งเดียวของผม
“เราเป็นแฟนกัน ทะเลาะกันนิดหน่อย ไม่ใช่เรื่องของคุณ” นพพูดอย่างใจเย็นแล้วเอื้อมมือมาจะคว้าแขนผม
“ดูท่าแล้วเขาไม่ได้อยากกลับไปกับคุณ ผมว่าคุณสงบสติอารมณ์ก่อนดีไหม” พี่ภูดึงผมหลับมือนพที่ยื่นมา
“นั่นเมียกู อย่าเสือก” นพพุ่งตัวเข้ามาจะต่อยคนตรงหน้าผม แต่ถูกสวนด้วยหมัดจนล้มลงไป
“อ่า เจ็บชิบ” พี่ภูสะบัดมือเบาๆ ส่วนนพที่ล้มลงไปก็กุมหน้าร้องโอดโอยมองผมด้วยแววตาโมโห
“มานี่นะอีเต้ กูซื้อมึงจากแม่มึงมาแล้ว!” นพตะโกนลั่นอย่างอารมณ์เสีย
ผมตัวชาวาบ ไม่ได้กลัวที่เขาซื้อผมมาจากแม่ แต่ชาเพราะคนที่ผมแอบชอบรู้เรื่องนี้ต่างหาก เขาจะมองผมยังไง เป็นตัวสกปรกที่หากินกับเรื่องอย่างว่าสินะ
“เขาเป็นคน ไม่ใช่ของซื้อของขาย!” พี่ภูเข้าไปต่อยนพอย่างแรงหลายครั้ง แม้นพจะสลบไปแล้วเขาก็ยังไม่หยุด
“พะ...พอแล้ว” ผมจับแขนพี่ภูไว้ เขาจึงหยุดมือแล้วลุกขึ้นถอดกันหนาวมาให้ผม
“ใส่ไว้” ผมรับมาสวมแล้วเดินตามแรงดึงของเขาออกจากรีสอร์ทไป
ผมอยู่บนรถพี่ภูอีกครั้ง และครั้งนี้ไม่มีคำพูดใดๆ ออกจากปากผม ผมไม่กล้าหายใจด้วยซ้ำเมื่อคิดว่าพี่ภูรู้เรื่องทั้งหมดแล้ว
ผมมันน่าขยะแขยง น่ารังเกียจ สกปรก ผมจิกเล็บลงบนเนื้อตัวเองแล้วกลั้นใจพูดขึ้น
“ส่งผมลงแถวนี้ก็ได้ครับ” พี่ภูเหลือบมองผมนิดๆ แล้วขับรถต่อไปไม่มีท่าทีว่าจะจอดให้
ผมเริ่มทำตัวไม่ถูกเมื่ออยู่ในสถานการณ์แบบนี้ ยังไม่ทันได้เอ่ยซ้ำพี่ภูก็จอดรถข้างทาง
“อย่าจิก” เขาดึงมือผมที่จิกแขนอีกข้างออกอย่างอ่อนโยน ผมได้แต่ก้มหน้ากลั้นน้ำตาไม่ให้ไหล
“เฮ้อ มานี่มา” พี่ภูรวบตัวผมไปกอดไว้ อ้อมแขนอันอบอุ่นทำให้ผมต้องร้องไห้ออกมา
“ฮึก ฮือ”
“ไม่เป็นไรแล้ว นายปลอดภัยแล้ว” พี่ภูลูบหลังผมเบาๆ ปลอบโยนผมที่กำลังขวัญเสีย
.
.
.
พี่ภูคาดคั้นให้ผมเล่าเรื่องทั้งหมดเพราะเขาไม่เชื่อว่าคนอย่างผมจะขายร่างกายแลกเงิน ผมหัวเราะอย่างสมเพชตัวเองเพราะผมทำจริงๆ
แม้จะไม่ได้ขายร่างกาย แต่ระยะเวลาที่ผมคบกับใครก็ไม่ต่างจากปลิงดูดเลือด พอเขาเริ่มหมดตัวก็เปลี่ยนไปดูดเลือดคนอื่นต่อ
พี่ภูฟังอย่างตั้งใจ ไม่ขัดผมเลยสักประโยค ไม่โต้แย้งว่าผมแต่งเรื่องขึ้นมา ซึ่งทำให้ผมรู้สึกสบายใจและเปิดใจเล่ามากขึ้น
ทั้งชีวิตของผมมีแค่เซียที่ฟังเรื่องจริงนี้จากปากผม เป็นคนเดียวที่เชื่อในตัวผม และผมดีใจที่วันนี้คนที่ผมชอบก็เชื่อผมเช่นเดียวกัน
“มาคบกับพี่มา พี่มีเงินมากพอให้เราถลุงเล่นทั้งชีวิตเลยล่ะ”
“อย่าเลยครับ แค่พี่เชื่อที่ผมพูดก็พอแล้ว ให้ในชีวิตผมมีคนที่เชื่อใจได้บ้างก็พอแล้ว” ผมยิ้มให้พี่ภู เขาลูบหัวผมเบาๆ แล้วชวนไปอยู่ด้วยกันในฐานะพี่น้องเพราะเขาถูกชะตากับผมมาก
แต่ผมเกรงใจและกลัวใจตัวเอง ไม่อยากตกหลุมรักเขาไปมากกว่านี้
เพราะกลัวที่จะต้องสูญเสียเขาไป
Tbc.
เปิดตัวพี่ภู หนุ่มปริศนาคนนี้จะเป็นคนร้ายหรือเปล่าน้า 
พาร์ทเต้มีสองตอนค่ะ ตอนหน้าเจอกันพรุ่งนี้ ขอบคุณสำหรับคอมเมนต์ค่ะ---------------------------------------------------------------------------------