นิยายจีน มังกรซ่อนหิมะ ตอนที่41 บทสรุป p15 8/10/60 จบแล้วจ้า
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: นิยายจีน มังกรซ่อนหิมะ ตอนที่41 บทสรุป p15 8/10/60 จบแล้วจ้า  (อ่าน 74349 ครั้ง)

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
ทำไมเมื่อห่วงสามีละหมิงน้อย - -

ออฟไลน์ Kei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
จะฮาเร็มอ่ะเป่า แอบมีฟามหวัง :hao6:

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
เดาไม่ถูกเลยจะยังไงต่อจะฮาเร็มเหรอ :hao4:

ออฟไลน์ someone0243

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
อ่านแล้วเอ็นดูหมิงน้อยเหลือเกิน ไม่แปลกใจเลยที่อาจารย์จะยกให้เป็นศิษย์รัก นางนิสัยซื่อๆก็หวังแค่ว่าจะไม่โดนศิษย์พี่คนไหนหลอกปั่นหัวเอานะ รอตอนต่อไปค่ะ  :z2:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8896
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ cheezett

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
รอพระเอก~~~  :katai3: :katai3:

ออฟไลน์ Violasheep

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 194
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-0
ตอนที่6



เสวี่ยหมิงเดินทางเท้าผ่านป่าเขาอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย บัดนี้เขาได้เดินทางมาถึงเมืองตงถิงทเมืองอันศิวิไลแห่งแรกนอกจากป่าเขาและหมูบ้านเล็กๆที่พบเจอมาตลอดทาง ดังนั้นเขาจึงคิดหาที่พักในเมืองก่อนจะออกเดินทางต่อไป



เสวี่ยหมิงมีเงินกระดาษหลายตำลึงทองที่ได้มาจากท่านอาจารย์ นอกจากนั้นก่อนจากกันอาจารย์ยังให้แหวนมังกรคาบมุกซึ่งตัวเรือนประดับด้วยอัญมณีหลากสีติดตัวมาด้วย อาจารย์บอกว่าสิ่งนี้เป็นสัญลักษณ์ของประมุขพรรคหากพบเจอคนในพรรคสามารถใช้แหวนวงนี้อ้างถึงตัวอาจารย์แล้วใช้สอยคนเหล่านั้นได้ตามสะดวก



ถึงอาจารย์จะกล่าวเช่นนั้น แต่เสวี่ยหมิงไม่เห็นประโยชน์ที่จะนำแหวนไปอวดอ้างใช้สอย เขาไม่ชอบแสดงตัวเอิกเกริกยังคงตัดสินใจจะเดินทางเงียบๆมุ่งสู่หุบเขาหมื่นปีโดยไม่คิดงานเจ้าแหวนวงนี้ถึงแม้จะสวมมันติดตัว



ในเมืองตงถิงช่างคึกคักและมีผู้คนมากหน้าหลายตาเสวี่ยหมิงแวะซื้อหมั่นโถจากร้านแผงลอยที่มีผู้คนเข้าแถวยาวเหยียดคาดว่ารสชาติคงล้ำเลิศ พอได้ลิ้มลองแล้วพบว่าไม่ผิดหวังแม้แต่น้อย ระหว่างที่จะกัดหมั่นโถอีกคำ ตอนนั้นเองก็พบว่ามีขอทานน้อยผู้หนึ่งยืนมองเขาตาไม่กระพริบ



เสวี่ยหมิงเมื่อมองตอบกลับไปขอทานน้อยก็หาได้หวั่นเกรงต่อสายตาของเขาไม่ มันยังคงใช้สายตาจ้องมาราวกับต้องการอะไรบางอย่าง



หรือว่าจะหิวมาก เสวี่ยหมิงมองดูหมั่นโถในมือสลับกับขอทานน้อย เด็กหนุ่มผู้นั้นอายุน่าจะราวๆ15-16ปี รูปร่างผอมแต่สูง ถึงจะสูงไม่เท่ากับเขาแต่ก็นับว่าสูงกว่าเขาก่อนที่จะได้รับการถ่ายพลังวัตร กายแต่งกายมอมแมมสมกับเป็นขอทาน แต่ด้วยหน้าตาที่ค่อนข้างฉลาดทำให้รู้สึกติดใจอยู่ไม่น้อย



“เจ้าหนู” ถึงจะเรียกขอทานน้อยว่าเจ้าหนู แต่แท้จริงแล้วอายุของเขากับมันน่าจะไม่ต่างกัน เพียงแต่ด้วยรูปร่างที่โตขึ้นของเขายังควรต้องเรียกขานขอทานน้อยให้เหมาะสมเพื่อมิให้แปลกประหลาด



“เจ้าหนูมานี่สิ” เรียกอีกครั้งเพราะคิดว่าขอทานน้อยอาจไม่ได้ยิน



“ท่านเรียกข้ารึ” ขอทานน้อยถาม



“ใช่แล้วข้าเรียกเจ้า” ขอทานน้อยเดินตรงมาหาเขา ท่วงท่าการเดินเหินดูทะมัดทะแมงต่างกับกลุ่มคนที่เป็นขอทานโดยสิ้นเชิง ดูแล้วชวนให้คิดว่าเด็กน้อยผู้นี้น่าจะมีดีอยู่ในตัว



“เรียกข้าทำไมรึพี่ชาย” เมื่อเดินมาถึงขอทานน้อยก็ยกยิ้มพร้อมทั้งยักคิ้วหลิ่วตาให้ ความทะเล้นนี้ช่างไม่เหมือนกับผู้คนที่เป็นขอทาน การที่อีกฝ่ายมีความสุขแม้จะลำบากอย่างใหญ่หลวงเช่นนี้ มันทำให้เสวี่ยหมิงทั้งทึ่งทั้งนับถือ



“เจ้าไม่ใช่รึที่มองข้าอยู่เป็นนาน ข้าต่างหากที่ต้องถามว่าเจ้ามีอะไรกันแน่”



เผลอพูดในสิ่งที่คิดออกไปนึกอีกทีแล้วก็เห็นว่าไม่เข้าท่า จุดประสงค์ของเขาคือต้องการมอบหมั่นโถวให้ขอทานน้อยผู้นี้ไปกินไม่ใช่หรือ การที่เขาพูดคุยกับขอทานน้อยในลักษณะนี้อาจเป็นเพราะประหลาดใจต่อดวงตาพราวระยับที่ขอทานน้อยใช้มองมาที่เขาก็เป็นได้



“เฮ้อช่างเถอะ เจ้าเอาหมั่นโถวนี่ไปเสีย” กล่าวจบก็ยัดเยียด หมั่นโถวใส่มือให้ขอทานน้อย เสวี่ยหมิงไม่เสียเวลาสนทนาให้มากความเขาสาวเท้าเดินจากไป ไม่คาดว่า เจ้าขอทานน้อยจะเดินตามมาตลอดทาง



เหตุใดจึงตามเขามานะ เสวี่ยหมิงไม่ทราบจุดประสงค์ของขอทานน้อย ตั้งแต่แรกก็พบว่าอีกฝ่ายมองมาที่ตนยังเข้าใจว่ามองเพราะหิว แต่ตามติดไล่หลังมาเช่นนี้ไม่เข้าใจจริงๆว่าต้องการอะไร



“นายท่านๆ มาพักทางนี้สิเจ้าค่ะ”



 หญิงสาวมากมายหน้าตางดงาม พวกนางแต่งตัวประชันโฉมราวกับนกหลากสี เสวี่ยหมิงงุนงงอย่างหนักเมื่อถูกหญิงเหล่านั้นห้อมล้อมต้อนเขาเข้าไปในตึกที่มีป้ายเขียนว่าหอสุราสวรรค์ซึ่งเป็นหอนางโลม เด็กหนุ่มคาดว่าคงเป็นคนิกาซึ่งคอยเรียกแขกแล้วเขาก็เป็นแขกที่พวกนางหมายตา



“เอ่อแม่นางข้าแค่กำลังหาที่พักเท่านั้น” เสวี่ยหมิงพูดกับเหล่าหญิงคนิกาที่ห้อมล้อมเขาอยู่ไม่ห่าง



“คุณชายหอสุราสวรรค์ของเราก็มีที่พักนะคะ ไม่แค่ที่พักธรรมดาคุณชายยังจะได้สนุกกับพวกเราทั้งค่ำคืนอีกด้วย”



เสวี่ยหมิงหน้าแดงซ่านเมื่อนึกถึงความนัยที่หญิงคนิกากล่าว เด็กหนุ่มเคยได้ยินมาบ้างว่าพวกนางปฏิบัติเช่นไรต่อชายหนุ่มที่มาเยือน แต่ไม่เคยมีเลยซักครั้งที่เขาจะได้สัมผัสสถานที่เช่นนี้



กลิ่นแป้งหอมๆและเนื้อตัวนุ่มนิ่มซึ่งบดเบียดเข้ามาพาความคิดให้เกือบล่องลอยเตลิดไป แค่ถูกรุกเร้าหนักหน่วงจากสตรีเหล่านี้ใบหน้าก็แดงก่ำมือไม้สั่นเทาจนปฏิบัติตนแทบไม่ถูก พวกนางล้วนแล้วแต่เป็นหญิงงาม อาจจะงามกว่าคุณหนูถิงเสียอีกด้วย กริยายิ้มแย้มแช่มช้อยช่างเอาอกเอาใจ ถึงเสวี่ยหมิงจะไม่ต้องการเข้าไปสนิทแนบชิด แต่ก็ไม่กล้าแสดงท่าทีเย็นชาหยาบกระด้างทำร้ายน้ำใจ



“ตายแล้วเจ้าขอทานน้อยใครใช้ให้เจ้าเข้ามาที่นี่”



“ใครก็ได้ลากมันออกไปที”



เสียงโหวกเหวกโวยวายของนางคนิกาหันเหความสนใจของเขาจากเหล่าหญิงสาวไป ตอนนั้นก็ได้ยินเสียงร้องอย่างเจ็บปวด เป็นเสียงที่เคยได้ยินมาก่อน เสวี่ยหมิงจำเสียงนี้ได้มันคือเสียงเจ้าขอทานน้อยที่ไล่ตามเขามา เวลานี้มันกำลังถูกคนคุมหอทุบตีไม่ยั้ง หากเสวี่ยหมิงไม่เข้าไปห้ามมันคงเลือดตกยางออกเป็นแน่แท้



“หยุดๆก่อนพี่ๆทั้งหลาย ได้โปรดหยุดทุบตีขอทานน้อยเถอะ” เสวี่ยหมิงขอร้อง ทำให้พวกชายคุมหอหยุดการกระทำ ขอทานน้อยตอนนี้คู้กายขดตัวกลมอยู่บนพื้นดูแล้วน่าเวทนาอย่างยิ่ง



“เหตุใดนายท่านถึงมาห้าม ขอทานผู้นี้มันไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ เข้ามาสร้างความวุ่นวายในหอเรา ท่านไม่เห็นรึมันรบกวนลูกค้าคนอื่น”



“ข้าแค่ตามพี่ชายมาเท่านั้น” ขอทานน้อยกล่าวเสียงระโหย เสวี่ยหมิงไม่แปลกใจเพราะพบว่ามันตามเขามาตลอดทางตั้งแต่แรก



“เจ้าขอทานน้อยอย่ามาโกหก พวกข้าจะสั่งสอนเจ้าอีกรอบจะได้สำนึก” เหล่าชายผู้คุมหอตั้งท่าจะเล่นงานขอทานน้อยซ้ำ เสวี่ยหมิงเห็นไม่ได้การจึงตัดสินใจออกรับหน้า



“หยุดก่อน เด็กน้อยนี่มากับข้าเอง” กล่าวจบก็ยัดเงินกระดาษให้กับเหล่าผู้คุมหอ



“จะได้อย่างไรนายท่าน มันเป็นขอทาน” เหมือนผู้คุมหอจะยังไม่ยอมง่ายๆ ตอนนั่นเองหญิงคนิกาได้ตามแม้เล้ามาไกล่เกลี่ย



“นายท่านๆ หากว่าท่านจะจ่ายให้ขอทานน้อยเราก็จะถือว่าขอทานน้อยนี่เป็นคุณชายผู้หนึ่ง ขออภัยที่คนของทางเราเสียมารยาทนะคะ”



เมื่อแม้เล้าเข้าใจสถานการณ์ต่างๆได้โดยง่ายเสวี่ยหมิงก็เบาใจ ตอนนี้เลยกลายเป็นว่าเขาต้องเข้าพักในหอนางโลมจนได้ เสวี่ยหมิงถูกพาไปยังห้องส่วนตัวบนชั้นสองพร้อมกับขอทานน้อยที่เดินตามมาติดๆ



ทันทีที่เข้าไปในห้องรับรอง หญิงสาวจำนวนมากก็พากันเอาอกเอาใจทั้งเขาทั้งขอทานน้อย เสวี่ยหมิงนั่งลงกับเก้าอี้ใช้สายตามองดูขอทานน้อยซึ่งดูมีความสุขต่อการเอาอกเอาใจของหญิงคนิกา



ไม่ว่าใครก็ชื่นชอบให้หญิงสาวมาเอาอกเอาใจสินะ เสวี่ยหมิงส่ายหน้ายิ้มอ่อนใจ เมื่อขอทานน้อยสนุกสนานจนลืมไปสิ้นว่าก่อนหน้านั้นพบเจออะไรมาบ้าง เสวี่ยหมิงไม่รีบร้อนนักนั่งละเลียดอาหารที่เหล่าคนิกานำมาวางตรงหน้า รอคอยให้ขอทานน้อยรู้ตัวเสียทีว่าเขารออยู่



“พี่ชายขอบคุณมากนะที่ช่วยข้าไว้” ในที่สุดเจ้าขอทานน้อยก็รู้ตัวเสียทีหลังจากเด็กน้อยนี่ทั้งกินทั้งดื่มเข้าไปมากจนเรียกได้ว่าเกินขนาดตัวอย่างน่าตกใจ



“เจ้าพูดกับข้าได้แล้วรึ ไหนบอกว่าสิว่าทำไมเจ้าถึงแอบเดินตามข้ามามีจุดประสงค์อะไร”

เสวี่ยหมิงรอคำตอบ เจ้าขอทานน้อยครุ่นคิดพักหนึ่งก่อนจะฉีกยิ้มกว้าง สองมือแบมาข้างหน้าราวกับยอมจำนนต่อเขา



“บอกตามตรงข้าคิดใช้ท่านให้เป็นประโยชน์เพราะว่าท่านดูใจดีเพียงเท่านั้น”



“ข้านะหรือดูใจดี” เสวี่ยหมิงเลิกคิ้ว ไม่เข้าใจเหตุใดแค่พบกันไม่กี่ครั้งจึงได้คิดเช่นนั้น



“แน่นอนหากท่านไม่ใจดีแล้วใครจะใช่อีกเล่า พี่ชายยอมให้ของกินแก่ขอทาน ยอมให้ข้าเข้ามาพัวพันท่านถึงแม้ว่าข้าจะลอบตามพี่ชายมาแล้วก่อเรื่อง คนปกติหากไม่ใช่พี่ชายคงไล่ตะเพิดข้าไปแล้วไม่มานั่งพูดคุยด้วยเช่นนี้”



“ข้าไม่ใช่คนดีขนาดนั้นหรอก แค่เห็นเจ้าอดอยากหรือถูกทุบตีต่อหน้ามันทำให้ข้ามาสบายใจเท่านั้น”

เสวี่ยหมิงจิบน้ำชาเล็กน้อย ก่อนกล่าวปฏิเสธหญิงคนิกาที่รินเหล้าแล้วยื่นจอกมาให้



“ท่านแค่สงสารก็ยอมให้ข้าเข้ามาวุ่ยวายในชีวิตท่านได้แล้วหรือ ถามหน่อยท่านเป็นอย่างนี้กับทุกคนที่ผ่านมาในชีวิตท่านหรือเปล่า”



“เจ้าพูดเช่นนี้ข้าไม่รู้จะกล่าวอย่างไร สำหรับข้าหากมีคนมาขอความช่วยเหลือ ถ้าช่วยได้ข้าก็จะช่วย แต่คงไม่สามารถช่วยได้ไปหมดทุกคนหรอก”



“ท่านพูดอย่างนี้ข้าค่อยโล่งอกหน่อย หากท่านพูดในทำนองที่ว่าท่านจะช่วยทุกคนที่ผ่านเข้ามา ข้าคงไม่พ้นคิดว่าท่านเป็นผู้ดีจอมปลอม นับว่าข้าโชคดีแล้วที่ได้พี่ชายเมตตา”



คำพูดคำจาของขอทานน้อยดูมีหลักการอยู่ไม่น้อย ท่วงท่าการวางตัวก็ดูมีสง่าราศีผิดกับการแต่งกายซอมซ่อ กริยามารยาทไม่ว่าจะเป็นการนั่งการทานดูคล้ายกับผู้มีอันจะกิน ชวนให้เสวี่ยหมิงนึกสงสัย



“เจ้ายังไม่ได้บอกชื่อข้าเลย ไหนลองเล่ามาสิว่าเจ้าไปยังไงมายังไงถึงมาเป็นขอทานที่นี่”

ตอนนี้เองที่ขอทานน้อยทำหน้าสลด เสวี่ยหมิงเห็นมันหุบยิ้มครานี้เป็นครั้งแรก



“ข้าว่าอยู่ว่าเสี่ยวหลง แต่เดิมอาศัยอยู่กับท่านพ่อที่เป็นบัณฑิต ทว่าตอนนี้ท่านพ่อมาหายตัวไป ตอนแรกข้ามีทรัพย์สินพอต่อค่าใช่จ่ายอยู่บ้าง แต่พอตามหาท่านพ่อไปนานๆเข้าทรัพย์สินก็ร่อยหลอสุดท้ายจึงต้องมาเป็นขอทานเช่นนี้”



“แล้วพ่อของเจ้าชื่ออะไร บางทีข้าอาจจะเคยรู้จักบ้างก็ได้”



“ท่านพ่อของข้าชื่อซือเยว่ ท่านคงไม่รู้จักกระมัง ไม่ใช่ผู้ที่มีชื่อเสียงอันใดเลย”

เสวี่ยหมิงยอมรับว่าเขาไม่รู้จักจริงๆ จนปัญญาที่จะช่วยเสี่ยวหลงได้



“ขอโทษนะที่ช่วยเจ้าไม่ได้เลย”

         

      “ท่านช่างใจดีนัก อันที่จริงไม่จำเป็นต้องขอโทษ อืม...ทำไมนะข้ารู้สึกว่าท่านช่างน่ารักยิ่ง” เสี่ยวหลงส่งยิ้มหวานมาให้ ดวงตาคมของมันดูพราวระยับราวกับมีดวงดาวอยู่ในนั้น

       

       “จริงสิแล้วพี่ชายจะไปที่ใดหรือ พี่ชายเดินทางคนเดียวคงมีภารกิจกระมัง”

       

        “ข้ากำลังจะเดินทางไปสถานที่แห่งหนึ่งตามคำสั่งของอาจารย์”

     

          “บอกได้หรือไม่ว่าอาจารย์ของท่านคือผู้ใด” เสี่ยวหลงดูกระตือรือร้น หากแต่เสวี่ยหมิงไม่ต้องการบอกความจริงแก่ใคร

       

        “ยังคงเก็บไว้เป็นความลับ เจ้าอย่าได้ซอกแซกเรื่องของข้าเลย นี่ก็ดึกมากแล้วเจ้าเองก็ไปพักผ่อนเถอะ”

           

   กล่าวจบเสี่ยวหลงก็ทำหน้ายินดีอย่างที่สุด เหล่าหญิงคนิกาสองคนห้อมล้อมเด็กน้อยนำพามันไปยังห้องข้างๆ เหลือหญิงคนิกาอีกนางหนึ่งอยู่ในห้องคาดว่ารอคอยรับใช้เขาตามหน้าที่

         

      “คุณชายอยากถอดเสื้อผ้าเองหรือให้ข้าถอดให้คะ”



หญิงสาวชม้ายตามองมาดูระยิบระยับ ใบหน้าซับสีกับท่วงท่าที่เต็มไปด้วยความเอียงอายบอกชัดถึงความรู้สึก นางกำลังตื่นเต้น ส่วนเขาเองก็ตกประหม่า เสวี่ยหมิงไม่เคยคิดมาก่อนจะมีวันได้เขามาเหยียบในหอคนิกา

       

       การที่มีหญิงสาวมาเอาใจทั้งยังเสนอตัวเป็นรสชาติแปลกใหม่อย่างยิ่ง เพราะว่าเขามัวแต่อ้ำอึ้งหญิงสาวจึงเข้ามาปฏิบัติหน้าที่โดยไม่รอคำสั่ง มือเรียวพยายามจะปลดผ้าคาดเอวของเขา เสวี่ยหมิงคว้าจับมือนิ่มหยุดการกระทำเอาไว้ได้ทันท่วงที

         

      “ให้ข้าได้อยู่ลำพังเถอะ”

       

        “ข้าไม่ถูกใจนายท่านหรือคะ” หญิงสาวมีสีหน้าผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด เสวี่ยหมิงไม่รู้จะจัดการอย่างไร จึงได้ยื่นอัฐให้หญิงสาวไปจำนวนหนึ่ง

           

   “เจ้าไปพักผ่อนเถอะ คืนนี้ข้าอยากอยู่เงียบๆจริงๆไม่ใช่ว่าเจ้าไม่งดงามหรือมีตรงไหนบกพร่องหรอกนะ”

         

      “เข้าใจแล้วค่ะ ทว่าหากท่านเปลี่ยนใจเรียกข้าได้ตลอดนะคะ” หญิงสาวผละไปอย่างอิดออดเมื่อนางออกไปแล้วเสวี่ยหมิงก็ถอนหายใจโดยแรง หัวใจเขาเต้นระทึกยิ่งกว่าจังหวะรัวกลอง ใช่ว่าอยากจะปฏิเสธ แต่หากตนเองตื่นเต้นถึงเพียงนี้คงไม่พ้นทำเรื่องเปิ่นๆน่าชายหน้าออกไปเป็นแน่แท้

               เสวี่ยหมิงไม่เคยใกล้ชิดกับสตรีในทางชู้สาวมาก่อน ครั้งนี้เป็นครั้งแรกยังไม่ทันได้เตรียมใจ จากเรื่องดีงามที่ควรเกิดเลยกลายเป็นไล่นางออกจากห้อง ระหว่างที่ลังเลว่าควรจะเรียกนางกลับมาดีหรือไม่ ประตูก็เปิดออก เสี่ยวหลงเดินเข้ามาในห้องหน้าตายิ้มแย้มสมใจ

       

        “เจ้าเหตุใดถึงมาที่นี่ ยังไม่ไปทำเรื่องดีงามของเจ้าอีกหรือ”

         

     “เรื่องดีงามอันใดแค่กอดหญิงสาวคนสองคนเป็นเรื่องดีงามถึงเพียงนั้นเชียวหรือพี่ชาย”

               คำกล่าวของเสี่ยวหลงทำให้เสวี่ยหมิงมึนงงไปหมด เด็กน้อยนี่พูดคล้ายกับว่าเคยทำเรื่องดีงามเช่นนี้มาจนชิน

         

      “เจ้าพูดราวกับว่าเจ้ารู้เรื่องราวของชายหญิงดี”

     

         “ย่อมแน่นอนพี่ชาย ทั้งเสี่ยวอิงทั้งวาวาน้อยล้วนสยบอยู่ใต้ความใหญ่โตของข้ามาแล้วทั้งนั้น”

               เสวี่ยหมิงหน้าแดงซ่านเมื่อนึกตาม

     

         “พี่ชายหน้าแดงถึงเพียงนี้ทำราวกับเป็นสาวบริสุทธิ์ไม่เคยต้องมือชายอย่างไรอย่างนั้น” เสี่ยวหลงทำหน้าเจ้าเล่ห์

       

       “ท่านยังเป็นหนุ่มบริสุทธิ์ใช่หรือไม่เพราะอย่างนั้นจึงเขินอายไล่แม่นางคนนั้นออกไปอย่างนี้”

     

         เสวี่ยหมิงอ้ำอึ้ง คล้ายกับมีน้ำท่วมปาก นั่นยิ่งทำให้ข้อสันนิษฐานของสี่ยวหลงชัดเจนขึ้น เด็กน้อยลอบหัวร่อฮิฮะ ที่แท้แล้วพี่ชายท่านนี้ยังเป็นมือใหม่ในด้านนี้นี่เอง

   

            “เจ้าช่างพูดมากนัก ทำไมเจ้าไม่กลับไปทำเรื่องดีงามที่ห้องของเจ้ากันเล่า” เสวี่ยมหมิงปัดรำคาญด้วยการกล่าวถึงเรื่องของเสี่ยวหลง

     

         “ไม่ดีกว่า คืนนี้ข้าอยู่เป็นเพื่อนพี่ชายดีกว่า ท่านเป็นคนจ่ายอัฐแต่กลับไม่ได้แนบชิดหญิงสาว ข้าจะเกินหน้าเกินตาพี่ชายได้อย่างไร นะนะ ขอข้านอนที่นี่ด้วยคนนะพี่ชาย”

       

       เสวี่ยหมิงสับสนงุนงงไปหมด อยากจะลุกไปทุบตีเจ้าเด็กน้อยน่าตายนี่นัก แต่หากให้คิดอีกทีถึงเขาทุบตีมันก็ใช่ว่าจะทำให้มันลืมเรื่องน่าอายของเขาไปได้ ดังนั้นจึงแกล้งทำบ้าใบ้ ล้มตัวลงนอนหันหลังให้เสี่ยวหลงหวังว่ามันจะเข้าใจแล้วล่าถอยกลับไป

       

       ไม่คาดว่า มันกลับหน้าด้านดับไฟในตะเกียงก่อนจะลดตัวลงนอนข้างๆบนเตียงเดียวกับเขา เสวี่ยหมิงหงุดหงิดคล้ายไม่หงุดหงิด ไม่ทราบได้ว่าอยากไล่มันไปหรืออยากให้มันอยู่เป็นเพื่อนกันแน่

       

       “พี่ชายข้ายังไม่รู้ชื่อท่านเลย”

     

          “เสวี่ยหมิง”

     

         “ชื่อไพเราะยิ่ง ข้าเรียกท่านว่าพี่หมิงได้หรือไม่” เสวี่ยหมิงถอนหายใจก่อนจะผลิกหันกลับมาเผชิญหน้ากับเสี่ยวหลง มันส่งยิ้มทั้งยักคิ้วมาให้

     

         “เจ้าจะไม่นอนหรือเสี่ยวหลง”

     

          “ถ้าเป็นไปได้ข้าอยากคุยกับท่านไปเรื่อยๆจนกว่าจะง่วง พี่หมิงท่านอยากฟังเรื่องบนเตียงของข้าไหม”

         

      “เจ้านอนไปเถอะข้าไม่อยากฟัง”

     

          “คืออย่างนี้นะครั้งแรกของข้ามันเริ่มเมื่อตอนอายุได้สิบสาม....”

       

       น่าตายนัก เสวี่ยหมิงจนใจเพราะไม่รู้ว่าจะจัดการกับปากช่างจ้อนี่อย่างไรดี เขาทำได้แต่นอนหันหลังให้แล้วอุดหูตัวเองปล่อยให้เสี่ยวหลงพูดพล่ามไปจนกว่าจะพอ ซึ่งนั้นยอมรับว่าเกือบทั้งคืน แถมเรื่องที่พูดยังมีแต่เรื่องราวระหว่างชายหญิงไม่มีเรื่องอื่นปลอมปน



 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:


        ตัวละครใหม่โผล่ 55555 เป็นตัวละครที่สำคัญตัวหนึ่งนาใบ้ได้แค่นี้



              เม้นเป็นกำลังใจกันบ้างนะ

ออฟไลน์ karamailpraleen

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 86
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
เสี่ยงหลงหลงเสน่ห์หมิงน้อยของเราแล้ว :o8:

ออฟไลน์ polkadot

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 54
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
ไม่เอาฮาเร็มนะ ได้โปรดดดดดด :ling3:

ออฟไลน์ Violasheep

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 194
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-0
ไม่เอาฮาเร็มนะ ได้โปรดดดดดด :ling3:

อย่าชี้โพรงสิ5555 เรื่องนี้ตั้งใจว่าจะไม่ฮาเร็ม อย่าได้กลัวไป

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Kei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
ไม่ฮาเร็มเหรอเสียดายจังเลยง่า  :hao5:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
อะจ๊ากกกก......รี บน
อันหนึ่ง ไม่เอาฮาเร็ม
อีกอัน ขอฮาเร็ม   :ling1: :ling1: :ling1:
งั้นอันนี้ เอาอย่างละครึ่งละกัน
เสี่ยวหลง ชอบเสวี่ยหมิงแล้ว :mew1: :mew1: :mew1:
มองเสวี่ยหมิง ตาเป็นประกายแพรวพราวเลย 
เดินตามมาตลอดอีก
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ พิศตะวัน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 496
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-3

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
เสี่ยวหลงนี่พระเอกป่าวสงสัยจัง

ออฟไลน์ lovetogether

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 52
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
พระเอกค่าตัวแพงอ่ะ เมื่อไหร่จะออกมานะ :hao5:
ติดตามจ้า

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
คิดถึงอาจารย์

ออฟไลน์ Minty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย ระวังจะเงินหมดนะเสวี่ยหมิง

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8896
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ armize

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ตามน้องหมิงด้วยคน

ออฟไลน์ shiroinu

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 308
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
มีตัวเลือกเพิ่มมาอีก1 o3 รีบๆโตนะ :hao7:

ปล. ฮาเร็มก็ดีนะ ดีมากๆเลย :hao6: :hao7: :m1: :m3: :interest: :haun5: o3
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-02-2017 13:16:14 โดย shiroinu »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ armize

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ชอบแนวนี้

ออฟไลน์ Violasheep

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 194
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-0
ตอนที่7

           

   “พี่หมิง....”



 เสี่ยวหลงส่งเสียงเรียกคนข้างๆซึ่งตอนนี้หลับสนิทไปแล้ว นับว่าความพยายามของมันสัมฤทธิ์ผลแผนการณ์จ้อไม่หยุดทำให้เสวี่ยหมิงรำคาญจนต้องลับลึกจนได้



 ตามจริงแล้วนับว่าแผนการครานี้เท่ากับยิงนกสองตัว นอกจากจะทำให้อีกฝ่ายหลับโดยง่ายอย่างไม่ระวัง มันยังได้สนุกกับการหยอกเย้าสังเกตปฏิกิริยาตอบสนองจากคนที่มันสนใจอย่างยิ่งอีกด้วย



สำหรับกับมันที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายปี น้อยครั้งนักที่จะพบกับคนที่มีจิตใจซื่อบริสุทธิ์เช่นนี้ ทว่ายังเพื่อเหลือเพื่อใจไว้บ้าง



การที่มันตามเสวี่ยหมิงมานอกจากจะสนใจใคร่รู้ในตัวเสวี่ยหมิง ยังมีเรื่องสำคัญที่เหนือกว่าความกระหายที่จะผูกสัมพันธ์เพื่อสนองความปราถณาอันร้อนแรงอีกด้วย



เสี่ยวหลงมาตีสนิทเสวี่ยหมิงเพราะมีจุดประสงค์หลายชั้น นอกจากความพึงใจยังมีสาระสำคัญอยู่ที่แหวนซึ่งเสวี่ยหมิงสวมใส่ มันย่อมจำได้ดีมันเป็นแหวนประจำตัวของประมุขพรรคมังกรพิโรธทุกรุ่น เป็นแหวนที่แสดงความชอบธรรมในการสืบทอดตำแหน่งประมุขซึ่งจะจะถูกส่งต่อไปให้ประมุขรุ่นถัดไป



แรกเริ่มเดิมทีมันเองก็ออกเดินทางจากพรรคมังกรพิโรธมาเพื่อเสาะหาตาเฒ่าจู การหายตัวไปอย่างไร้ร่องลอยสร้างความโกลาหลให้กับพรรคมังกรพิโรธเป็นอย่างมาก มันเองเป็นถึงระดับสูงของพรรคจึงไม่อาจเอาเรื่องนี้มาแพร่งพรายหรือฝากฝังให้ใครทำได้ สุดท้ายต้องออกมาเร่ร่อนตามหาเฒ่าจูด้วยตัวเองเช่นนี้



ไม่คาดว่ามันจะพบกับชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาราวกับรูปปั้นหยก คนผู้นี้นอกจากมีจิตใจดีงามและน่าสนใจยิ่งยังพกพาแหวนประจำตัวของประมุขเอาไว้ด้วย



มันตอนนี้ครึ่งหนึ่งไม่อาจไว้ใจในสถานภาพของเสวี่ยหมิง อีกครึ่งหนึ่งกลับพึงพอใจในตัวชายหนุ่มผู้นี้ ทว่าด้วยความเป็นคนรอบคอบหากไม่สืบเสาะหาความจริงจิตใจย่อมไม่สงบ นอกจากนั้นมันยังคาดว่าเสวี่ยหมิงเป็นเบาะแสเดียวที่จะสืบเสาะหาตาเฒ่าจูได้โดยง่ายที่สุด



ตอนนี้เสวี่ยหมิงเองก็หลับไปแล้ว เสี่ยวหลงมั่นใจในความเบาของมือเท้าของมันมาก มันเคลื่อนกายอย่างเงียบงันไปยังห่อผ้าของเสวี่ยหมิง เริ่มต้นค้นหาสิ่งของที่น่าจะเป็นหลักฐานบางอย่างซึ่งบอกในสิ่งที่มันต้องการทราบ



ในห่อผ้านอกจากตั๋วเงินแล้วมีจดหมายอยู่สองฉบับ เสี่ยวหลงกระหยิ่มยิ้มย่อง มันไม่รอช้าเปิดจดหมายดูให้กระจ่างใจ มันยอมรับว่าเนื้อหาในจดหมายฉบับแรกสร้างความแปลกใจให้มันยิ่งนัก



ไม่คาดว่าตาเฒ่าจูจะรับศิษย์เพิ่มขึ้นเป็นคนที่สี่ ทั้งยังฝากฝังให้ศิษย์พี่ทั้งสามสั่งสอนวิชาต่างๆให้เสวี่ยหมิงตามความเหมาะสม เมื่ออ่านจดหมายฉบับแรกจบ มันเปิดอ่านจดหมายฉบับต่อไป จดหมายฉบับนี้จ่าหน้าเอาไว้ว่าให้เปิดอ่านเมื่อเดินทางไปถึงพรรคมังกรพิโรธ เสี่ยวหลงไม่รอช้าเปิดอ่านและพบว่าใจความในจดหมายนั้นสำคัญยิ่ง



“โอ....ตาเฒ่าจูช่างร้ายกาจ” เสี่ยวหลงอดไม่ได้ที่จะรำพันออกมาเป็นคำพูด



ตอนนี้รู้ชัดถึงจุดประสงค์ที่ตาเฒ่าต้องการแล้ว คิดว่าเป็นการเล่นตลกแบบใหม่หรืออย่างไรนะ ตาเฒ่าผู้นั้นคิดหรือว่าจะมีใครยอมฟังคำสั่งนี้โดยง่าย ทว่าด้วยลายมือกับแหวนประมุขที่เสวี่ยหมิงถือครองอยู่คงไม่มีใครกล้าขัดกระมัง



ตัวมันเองคาดว่าเป็นการหยอกล้อของตาเฒ่าจูอย่างหนึ่ง หากต้องการเล่นสนุกมันจะลองทำตามที่เฒ่าจูต้องการ เวลานี้เข้าใจว่าตาเฒ่าคงไม่ยอมกลับพรรคมังกรพิโรธโดยง่าย หากไม่เที่ยวเล่นจนพอใจ



เอาเถอะมันจะรับฝากเสวี่ยหมิงเอาไว้แล้วจะเอ็นดูให้มากตามต้องการ จะโทษว่ามันรังแกศิษย์รักของตนเองไม่ได้นะ ทว่าจะใจดีด้วยมากน้อยแค่ไหนย่อมต้องขึ้นอยู่กับว่ามันจะพอใจในตัวเสวี่ยหมิงมากเพียงใด



ตัวมันรู้จักกับเสวี่ยหมิงได้เพียงวันเดียวยังไม่รู้จักนิสัยใจคอที่แท้จริง กระนั้นเพียงวันเดียวเท่านั้นกลับรู้สึกดีด้วยอย่างคาดไม่ถึง จากนี้ไปมันจะตามติดเสวี่ยหมิงไปเรื่อยๆ มันอยากจะทำความคุ้นเคยกับเสวี่ยหมิงให้มากกว่านี้ในฐานะของขอทานน้อยนี่แหละ



เพราะหากเป็นฐานะเดิมอันสูงส่งของมัน มันก็เกรงว่าเสวี่ยหมิงจะเสแสร้งหลอกลวง นับว่าสถานะของมันตอนนี้เหมาะสมแล้วที่จะสืบเสาะสันดารแท้จริงจากศิษย์คนเล็กของตาเฒ่าจูผู้นี้



เสี่ยวหลงค่อยๆจัดการกับห่อผ้าให้อยู่ในลักษณะเดิม แล้วย่องเงียบขึ้นไปนอนเคียงข้างบนเตียงตั้งใจว่าจะงีบหลับเอาแรงซักนิดก่อนจะเริ่มการตามติดเสวี่ยหมิงในวันรุ่งขึ้น มันจะเกาะหนึบราวกับตีนตุ๊กแกเชียวล่ะ



เสวี่ยหมิงเมื่อตื่นขึ้นมาก็พบกับความอึดอัด แน่ล่ะเขาถูกเจ้าเสี่ยวหลงกอดรัดเอาไว้แนบแน่นถึงขั้นที่ว่าแข้งขาขึ้นมาก่ายเกยอย่างถือดี เสวี่ยหมิงไม่ทราบว่าตอนนี้รู้สึกเช่นไร ตั้งแต่เกิดมาจนอายุเท่านี้ยังไม่เคยมีผู้ใดสนิทชิดเชื้อกับเขาจนถึงขั้นก่ายเกยร่างกายกันแบบนี้



“เสี่ยวหลงตื่น”



“งืม...งืม...วาวาน้อย...ข้าขอนอนต่ออีกหน่อย”



ไม่พูดเปล่ายังละเมอหอมแก้มเขาดังฟอดใหญ่ เสวี่ยหมิงตัวแข็งค้างไปในบัดดล รู้สึกตัวอีกทีไม่ทราบว่าเป็นเช่นไร ทั้งอยากหัวเราะทั้งอยากทุบถองเจ้าเด็กน้อยนี้อย่างบอกไม่ถูก



“เสี่ยวหลงตื่นเถอะ”



“ไป๋ฮวาให้ข้าพักผ่อนอีกนิดนะ ข้ายังง่วงอยู่เลย”



กล่าววาจาหญิงสาวออกมาไม่ซ้ำหน้า คาดว่าหากไม่ลงมือคงไม่ยอมตื่นโดยง่าย เสวี่ยหมิงจึงยกเท้าขึ้นถีบจนเสี่ยวหลงกลิ้งตกเตียงลงไป ไม่เคยใจร้ายกับใครเท่านี้มาก่อน นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ทุบถองใครเยี่ยงนี้



เสี่ยงหลงเมื่อตกเตียงลงไปโครมใหญ่ก็ตื่นตระหนกมันลนลานโวยวายราวกับฟ้าถล่ม รู้สึกตัวอีกทีก็ทำตาปริบๆมองดูเขาด้วยสายตางุนงง



“เหตุใดข้าจึงลงมานอนอยู่ข้างเตียงเล่าพี่หมิง”



“ไม่รู้สิ เจ้ากลิ้งตกเตียงลงไปมั้ง” เสวี่ยหมิงแก้ต่างให้กับตัวเอง รู้สึกผิดนิดหน่อยเมื่อเห็นแววตาซื่อๆไร้ผิดภัยของเสี่ยวหลง แต่ช่วยไม่ได้นี่ มันน่าหมั่นไส้น้อยเสียเมื่อไหร่ที่เด็กน้อยนี่เรียกขานเขาเป็นอิสตรี



“รีบลุกขึ้นเถิด ล้างหน้าล้างตาซักหน่อย แล้วค่อยไปทานอาหารกัน”

       



       พอกล่าวถึงเรื่องกินเสี่ยวหลงก็กระตือรือร้นยิ่งนัก มันรีบจัดแจงเรียกเสี่ยวเอ้อให้เอาถังใส่น้ำมาสองชุด ล้างหน้าล้างตาให้ตัวเองก่อนจะกุลีกุจอช่วยเหลือเขาเอาอกเอาใจเสียจนเสวี่ยหมิงนึกขำ

       

       เมื่อไปถึงที่ด้านล่าง เสวี่ยหมิงไม่เข้าใจว่าเหตุใดตนถึงได้ตามใจมันนัก มันอยากกินสิ่งใดเสวี่ยหมิงก็อนุญาตมันโดยง่าย ตอนนี้เองที่รู้สึกตัวว่าตนเองคล้ายถูกความเหงาเข้าครอบงำ ความอ้างว้างจากการที่ต้องเดินทางคนเดียวเป็นครั้งแรกเช่นนี้คงทำให้เขายอมให้เด็กน้อยนี่เข้ามาวุ่นวายโดยง่าย ทั้งๆที่ไม่ควรให้เป็นเช่นนั้น

       

       “รีบกินเถอะ อีกเดี๋ยวเราก็ต้องแยกจากกัน” พอพูดความจริงออกไป เสี่ยวหลงจากร่าเริงเปลี่ยนเป็นหงอยเหงา เด็กน้อยห่อไหล่เข้าหากัน ชวนให้นึกเวทนาสงสารมันไม่ได้

       

       “เอาอย่าชักช้าสิหากเจ้าไม่กินของอร่อยข้าจะแย่งเจ้าหมดนะ”



ตอนนี้เองที่เสี่ยวหลงน้ำตาซึม เด็กน้อยใช้สายตาละห้อยมองมาที่เขา สายตาเช่นนี้ไม่ต่างกับตัวเองตอนที่ต้องแยกจากกับอาจารย์เลยมิใช่หรือ เหตุใดต้องทำสายตาเยี่ยงนี้กับคนที่เพิ่งพบกันเช่นเขา



“หากข้ารีบกินข้าก็ต้องแยกจากพี่หมิงเร็วขึ้น ถ้าเช่นนั้นข้าสู้ไม่กินจะดีเสียกว่า”



“ไร้สาระ หากเจ้าไม่กินข้าจะกินเองนะ”



 เสวี่ยหมิงทำเป็นไม่สนใจ คาดว่าหากคีบแย่งกินอาหารจนหมดอาจกระตุ้นความอยากของเสี่ยวหลงได้บ้าง ทว่าเด็กน้อยกับไม่มีปฏิกิริยาใดใดทั้งนั้นกลับก้มหน้าลงต่ำร้องไห้กระซิกกระซิกอย่างไม่น่ามอง



เขาควรจะทำอย่างไรดีนะ เขาเองก็มีหน้าที่ทีต้องทำ การที่จะหิ้วเด็กน้อยไปไหนมาไหนด้วยเช่นนี้เห็นจะไม่เหมาะ อีกอย่างเด็กนี่ยังต้องตามหาบิดาของตนเองอีก ถึงแม้อยากจะช่วยแต่ไม่แน่ใจในตนเองว่าจะยอมเสียเวลาเพื่อเด็กน้อยนี่ได้มากแค่ไหน



“ข้าอิ่มแล้วหากเจ้าไม่กินข้าก็ขอตัวล่ะ” เสวี่ยหมิงเรียกเสี่ยวเอ้อมา จ่ายอัฐให้แล้วบอกกล่าวขอให้ดูแลเสี่ยวหลงจนกว่าเด็กน้อยจะกินเสร็จ



“เสี่ยวเอ้อช่วยรับรองน้องชายของข้าด้วยนะ”



กล่าวจบก็รีบหลบหน้าจากที่ตรงนั้น เขาไม่กล้าหันไปมองดูเสี่ยวหลง ทว่าได้ยินเสียงสะอื้นดังชัดเจน เด็กบ้าเจ้าอายุสิบหกเท่าข้านะเหตุใดจึงขี้แยได้ถึงเพียงนี้



เสวี่ยหมิงอดทนอยู่ต่อไม่ได้จึงรีบพริ้วตัวจากไปด้วยวิชาตัวเบาที่ฝึกปรือมาจากผู้เป็นอาจารย์ หลังจากพ้นมาจากหอนางโลมแล้ว ใจของเขากลับไม่สงบ ไม่อาจสลัดภาพอันน่าเวทนาของเสี่ยวหลงไปได้



บ้าชัดๆก่อนหน้านั้นเด็กน้อยนี่อยู่มาได้อย่างไรต่อไปก็จะอยู่ต่อไปอย่างนั้น ถึงแม้จะคิดได้เช่นนั้นทว่าแต่ละย่างก้าวของเขากลับหนักขึ้นเรื่อยๆ หากเป็นตัวเขาเองต้องถูกทอดทิ้งให้อยู่เพียงลำพังเช่นนี้ล่ะ



เสวี่ยหมิงส่ายหน้า แล้วเด็กขอทานที่ตกทุกข์คนอื่นเล่า มันจะต่างกับที่เสี่ยวหลงต้องเผชิญตรงไหน ในตอนนั้นเองเสวี่ยหมิงก็ถูกเรียกจากซินแสผู้หนึ่ง



“เรียกข้าหรือ”



“ท่านนั่นแหละ มาเถอะถือว่าเราต่างคนต่างช่วยกัน ท่านจ่ายอัฐให้ข้า ส่วนข้าจะดูดวงชะตาให้แก่ท่าน”



ดูจากคำพูดคงไร้ลูกค้ามาตลอดช่วงเช้าเสียกระมัง เสวี่ยหมิงเดินตรงเข้าไปหานั่งลงบนเก้าอี้ มีความสนใจใคร่รู้ในโชคลางอยู่บ้าง ดังนั้นจึงบอกวันเดือนปีเกิดของตนเองให้ซินแสไป





“โอ...ช่วงนี้ท่านได้พบคนแปลกหน้าบ้างหรือเปล่า คนแปลกหน้าที่เข้ามาพัวพันกับท่านในช่วงสองปีนี้แต่ละคนมีความสำคัญต่อชะตาชีวิตของท่านมาก”

เสวี่ยหมิงพลันนึกถึงใบหน้าของอาจารย์ อีกหนึ่งที่นึกถึงคือเสี่ยวหลง



“หากเขามาขอความช่วยเหลือท่านก็ช่วยด้วยใจเมตตาเถอะ มันจะเป็นผลดีต่อท่าน ชีวิตของเขาอยู่ในกำมือของท่านแล้วนะ”



ถึงกับชีวิตเลยรึ เสวี่ยหมิงตกใจกับคำทำนาย เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่ได้พบกับอาจารย์ ในตอนนั้นอาจารย์เองก็เดือดร้อนถึงขั้นเสียชีวิตเช่นกัน แล้วเสี่ยวหลงเล่าการที่เขาไม่ดูดำดูดีเช่นนี้มันจะทำให้เด็กน้อยนั่นถึงกับตายเลยเชียวหรือ



เสวี่ยหมิงผุดลุกขึ้นจากเก้าอี้ เขายอมรับกับความรู้สึกของตัวเอง เขาเอ็นดูเสี่ยวหลงอยู่ไม่น้อย ถึงแม้ว่าจะขัดต่อหน้าที่ที่ต้องทำ ทว่าหากต้องถึงกับตายไปจริงๆเขาไม่อาจทนดูดายได้



ในเมื่อฟ้าลิขิตให้พบกันแล้ว การที่เขาไม่อาจดูดายต่อเด็กหนุ่มผู้นั้นได้ก็คงเป็นชะตาลิขิตเช่นกัน ป่านนี้ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง คงร้องไห้เป็นเผาเต่ากระมัง เสวี่ยหมิงผู้เข้าใจความรู้สึกของตัวเองไม่ถึงครึ่งพริ้วกายกลับไปยังหอนางโลมที่ตรงนั้นเสี่ยวหลงยังคงนั่งร้องไห้สะอึกสะอื้นไม่ยอมไปไหน



“เสี่ยวหลง เจ้าไปกับข้าเถอะ”



 เสวี่ยหมิงกล่าวด้วยเสียงอ่อนนุ่ม อดที่จะถอนหายใจไม่ได้ นึกกังวลในความใจอ่อนของตัวเองนัก หากยังเป็นเช่นนี้ตัวเขาจะไม่ลำบากรึ ทว่าเมื่อเห็นรอยยิ้มของเสี่ยวหลงเสวี่ยหมิงก็พบว่าตอนนี้ตนเองโล่งใจอย่างยิ่ง ยิ้มย่อมดีกว่าร้องไห้



“พี่หมิง ข้าดีใจเหลือเกินที่ท่านกลับมารับข้า” เสี่ยวหลงโผเข้ากอดเขามันซุกไซ้ใบหน้าลงมาที่ซอกคอ น้ำตาน้ำมูกเปรอะเปื้อนเสื้อผ้าเขาไปหมด เสวี่ยหมิงนอกจากจะไม่รังเกียจยังรู้สึกคันยุบยิบในหัวใจ



“เจ้าดีใจมากรึที่ข้ากลับมา”



“ย่อมต้องดีใจ การที่ท่านกลับมาเช่นนี้มันทำให้ข้ารู้สึกว่าท่านดีต่อข้าเหลือเกิน”



 เสี่ยวหลงยิ้มกว้างพลางปาดน้ำตาไปมา ท่าทางที่เหมือนกับสุนัขที่กำลังกระดิกหางเช่นนี้ เสวี่ยหมิงไม่เคยพบว่ามีผู้ใดปฏิบัติตัวกับเขาเช่นนี้มาก่อน ช่างเป็นความรู้สึกแปลกใหม่ยิ่งนัก



“อย่าได้มองข้าเป็นคนดีไปนัก ข้าแค่สงสารผู้อื่นหากต้องมารับมือกับเจ้าที่ร้องไห้โยเยเยี่ยงเด็กสามขวบ ไปเถอะ เราต้องรีบออกเดินทางแล้ว อย่าสร้างความลำบากให้คนที่นี่อีกเลย”



“ท่านให้ข้าตามท่านไปด้วยได้จริงๆหรือพี่หมิง” เสี่ยวหลงทำหน้าเหมือนไม่อยากจะเชื่อ



“หากเจ้าไม่อยากไปจะรั้งอยู่ที่นี่ต่อก็ได้นะ”



“ไปๆ ข้าย่อมต้องติดตามท่านไป” เป็นอีกครั้งที่เสวี่ยหมิงถอนหายใจ คาดว่าคงเหงาและว้าเหว่อยากหนัก เสี่ยวหลงจึงหลงเชื่อและตามคนแปลกหน้าอย่างเขาไปโดยง่าย



“จริงๆข้าเองก็มีเรื่องต้องทำเช่นกัน แต่คาดว่าหากไปถึงจุดหมายอาจไหว้วานพวกศิษย์พี่ให้ตามหาพ่อของเจ้าได้ แต่ระหว่างการเดินทางเราก็จะหาพ่อของเจ้าไปด้วย เจ้าว่าอย่างนี้พอรับได้ไหม”



“ย่อมต้องได้แน่นอน ท่านใจดีกับข้าถึงเพียงนี้ พี่ใหญ่ให้ข้าเรียกท่านเป็นพี่ใหญ่ได้หรือไม่”

ไม่ทราบว่าตอนนี้รู้สึกเช่นไร ทว่าในใจกลับคล้ายมีดอกไม้ผลิบาน เสวี่ยหมิงนอกจากท่านอาจารย์แล้วก็ไม่มีใคร การถูกเรียกขานเป็นพี่ใหญ่ช่างน่ายินดียิ่ง



“หากเจ้าต้องการเช่นนั้นข้าก็ไม่ขัด”



เสวี่ยหมิงกล่าวจบก็เดินนำเสี่ยวหลงออกจากหอนางโลมไม่คาดว่าน้องชายหมาดๆจะคว้ามือของเขาไปจับ เสวี่ยหมิงตาโตจะสลัดให้หลุดเต็มแรงก็เกรงว่าแรงกายของตนเองจะทำให้บาดเจ็บ จะกล่าวเตือนก็พบว่าเสี่ยวหลงทำหน้ามีความสุขยิ่ง



การมีน้องชายซักคนเป็นเช่นนี้หรอกหรือ ช่างแปลกใหม่เกินกว่าจินตนาการเสียจริง



 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:


ไม่รู้ว่าตอนนี้พอจะเดาที่มาที่ไปของเสี่ยวหลงกันได้หรือยัง 5555555



เม้นเป็นกำลังใจกันบ้างนะ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
เสี่ยวหลง เสแสร้งแสดงเก่งมาก
ตอนนี้เสวี่ยหมิง ใจอ่อน
ยอมให้เสี่ยวหลง เดินทางไปด้วยกันและ
จริงๆแล้ววรยุทธ์เสวี่ยหมิงน่าจะสูงกว่านะ
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ polkadot

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 54
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
จากที่บอกไว้ตอนที่แล้วว่า เสี่ยวหลงเป็นตัวละครสำคัญ คาดว่าน่าจะเป็นพระเอกชัวร์ ฟันธง!

ออฟไลน์ Kei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
อีหลงอีแรด

ออฟไลน์ พิศตะวัน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 496
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-3

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
เสี่ยวหลงพระเอกหรา :hao4:

ออฟไลน์ karamailpraleen

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 86
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ระ..ร้ายกาจ :ling1:

ออฟไลน์ shiroinu

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 308
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
เสี่ยวหลงบอกว่าตัวเองออกจากพรรคมังกร แสดงว่า ต้องเป็นหนึ่งในศิษย์พี่สินะ  :m21: รึไม่ก็ตำแหน่งใหญ่กว่านั้น?  ที่ตัวเล็กคงเพราะใช้วิชาเดียวที่หมิงน้อยใช้ตอนกลับไปจวนเก่าด้วยสินะ  :m22: o8 :o เดามั่วๆ55555 o7

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
 :z13:เจ้าเล่ห์นัก

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด