●● Sleeping Bear and Apple's Trap ●● [19 #น้ำนิ่ง - 18/04/18 ● P.4] ●●
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ●● Sleeping Bear and Apple's Trap ●● [19 #น้ำนิ่ง - 18/04/18 ● P.4] ●●  (อ่าน 16290 ครั้ง)

ออฟไลน์ Bk borz.

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เมื่อไหร่จะมาต่อครับรอนานแล้วนะมาต่อได้แล้วนะ

ออฟไลน์ YEEUN9424

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1


Sleeping bear and Apple's Trap 16
#แอปเปิล





   ผมกับน้ำนิ่งเราแยกกันกลับบ้านใครบ้านมันหลังจากที่เสร็จสิ้นการสอบไฟนอลไป โทรคุยกันวันละครั้งก่อนนอน แค่อาทิตย์แรกๆ น่ะนะ เพราะตอนนี้มันหายหัวไปจะสองอาทิตย์แล้ว เห็นบอกแต่ว่าไปช่วยป๊าม้าทำงานหาเงินซื้อไก่กิน แล้วมันก็หายหัวไปเลย กวนตีน
   ผมนอนเล่นสมาร์ทโฟนอยู่ในบ้าน เข้าๆ ออกๆ ส่งไลน์ไปกวนไอ้หมีหน้ามึนมันก็ไม่ตอบ อยากจะตบสักที อย่าให้เจอหน้านะ ฮึ้มมม บ้านผมเป็นพื้นที่ลาดลงมาขนาดใหญ่ ติดถนนใหญ่ คนในละแวกก็เป็นญาติๆ กันทั้งนั้น แต่บ้านของครอบครัวผมจะมีหลายหลังหน่อย หลังนั้นพ่อเอาไว้นอนเฝ้าไก่ หลังนี้แม่เอาไว้นอน หลังนั้นของผมกับน้อง บ้านของญาติๆ ที่ขายแล้วไปตั้งรกรากใหม่ที่อื่นนั่นแหละ มีร้านอาหารเป็นธุรกิจของครอบครัวอยู่ในพื้นที่เดียวกันแต่อยู่ริมสุด ร้านบ้านๆ ไม่ได้หรูหราติดแอร์ แต่อร่อย ใครๆ ก็รู้จัก ไม่มีที่จอดรถบริการแต่คนเพียบ ส่วนมากช่วงเย็นผมก็จะไปช่วยแม่ทำอาหารบ้าง คิดเงินบ้าง แล้วแต่จะอยาก ส่วนมากก็ไม่อยากหรอก แต่เพราะได้เงินเลยทำ 
   “เปิ้ล! เปิ้ลเอ้ย!!”
   “เอ้อๆ” ลุกขึ้นบิดขี้เกียจเล็กน้อยก่อนจะเดินออกไปหาก็เห็นยายน้อยแม่ของเมียน้องชายพ่อ แกยืนยิ้มแฉ่งอยู่ตรงหน้าบ้าน  “มีอะไรจ้ะยายน้อย”
   “มานี่ลูกมานี่” แกกวักมือเรียกทำท่าจะล้มแหล่มิล้มแหล่ ผมเลยรีบปิดฟงปิดไฟแล้วไปประครองแกเดิน
   “ไปไหนอะ”
   “ฝ้ายมันจะตัดชุด หนูไปช่วยหน่อย” ฝ้ายหรือน้าฝ้ายที่จริงเป็นน้องพ่อผมนะ แต่น้าแกไม่มีสามีเลยมาอยู่ด้วยกันสนิทกับเมียพี่ชายเลยช่วยกันดูแลยายไปด้วย “แล้วทำไมยายออกมาเรียกให้น้าฝ่ายโทรมาก็ได้”
   “บอกแล้วไม่ฟัง อยากไปรับหลานเอง” น้าฝ้ายโผล่มาจากในบ้านแล้วช่วยประคองยายน้อยไปนั่งบนเก้าอี้ “มาๆ เปิ้ล มาช่วยน้าหน่อย”
   “ทำไรอะน้าฝ้าย เย็บเหรอ”
   “เป็นแบบวัดตัว น้ากะไม่ถูก แต่คนสั่งตัวเขาตัวพอๆ กับเปิ้ลเลยมาเป็นหุ่นให้ที”
   แล้วผมก็ไปยืนเป็นหุ่นให้น้าแกอยู่ประมานสามสิบนาที หันดูเวลาอีกทีก็ได้เวลาไปให้อาหารไก่ตามที่พ่อสั่งไว้ก่อนออกไปตกปลา แต่ช้าหน่อยคงไม่เป็นไรผมเลยอยู่ช่วยน้าฝ้ายเย็บโบว์สำหรับติดตามชุด ช่วยร้อยเข็มให้ยายน้อยที่ตาไม่ค่อยจะดีแล้วแต่อยากมีส่วนร่วม สักพักถึงออกไปให้อาหารไก่
   พ่อผมเลี้ยงไว้เยอะมีทั้งไก่กุ๊กๆ เลี้ยงไว้ดูเล่น แต่จะทะเล้นจับไปกินวันไหนไม่รู้กับไก่ที่เลี้ยงไว้บูชา เลี้ยงอย่างดี เลี้ยงเหมือนลูก คือพวกไก่ชนราคาแพงที่พ่อสรรหามา วันว่างๆ เสาร์อาทิตย์พ่อชอบพาไอ้ตัวเก่งๆ เจ๋งๆ นั่งโตลมออกไปชนกับลุงๆ อาๆ ที่อยู่แถวบ้านล่าง
   ระหว่างที่ให้อาหารบรรดาไก่ๆ จ้องหน้าพวกมันไปก็คิดถึงคนชอบกินไก่ที่อยู่ทางไกลเหลือเกิน ปานี้มันจะทำอะไรอยู่นะ ถ้าไปช่วยงานป๊าจะไปทำอะไรล่ะ ขับรถส่งน้ำแข็งเหรอ หรือไปแบกน้ำแข็ง.. คิดภาพตอนน้ำนิ่งมันแบกน้ำแข็งด้วยหน้ามึนๆ แล้วรู้สึกสงสารยังไงไม่รู้ หวังว่ามันจะได้พักผ่อนนอนหลับสบายๆ นะ
   กำลังจะเดินกลับบ้านไปอาบน้ำแต่งตัวเตรียมไปช่วยแม่เปิดร้านก็มีเด็กน้อยตาใสมายืนยิ้มแฉ่งดักหน้าอยู่ “มีอะไรน้องส้ม”
   “พี่เปิ้ลมาช่วยหนูระบายสีหน่อย”
   “การบ้านเหรอ”
   เด็กหญิงพยักหน้าตอบ ผมเลยจูงมือพาหลานตัวน้อยไปที่บ้านนั่งระบายสีเสร็จก็สอนการบ้านต่อกว่าจะได้แยกตัวออกมาก็ตอนที่แม่น้องส้มซึ่งก็น้องสาวของพ่อมาเรียกลูกไปกินข้าว ผมเลยได้กลับมาอาบน้ำแต่งตัวใหม่เสียที พอมาที่ร้านคนก็ยังไม่เยอะนักเจอปู่ที่รักนั่งยิ้มมองรถที่ขับผ่านไปมาอยู่
   “ปู่กินข้าวยัง”
   “ยัง ใครละนี่”
   “เปิ้ลไง เปิ้ลหลานปูอะ”
   “เปิ้ลๆ ไอ้เจ้าเปิ้ล มาตั้งแต่เมื่อไร” ผมยิ้มส่ายหัวน้อยๆ แกถามผมทุกวันที่เห็นหน้า บางวันดีหน่อยจำชื่อได้ แต่จำไม่ได้ว่าลูกใคร ลูกของลูกคนไหนของแก ปู่อายุมากแล้วหลงๆ ลืมๆ ตามประสาคนแก่เฒ่า คู่ชีวิตอย่างย่าก็เสียไปหลายปีได้ลูกหลานคอยดูแล ตกเย็นแกจะชอบออกมานั่งที่ร้านตัวริมสุดใกล้ทางเข้าครัว ลูกค้าก็ชอบมาคุยเล่นเพราะปู่ช่างคุยช่างยิ้ม สักสองสามทุ่มก็จะมีคนมาพาเข้าบ้าน
   “มาจนจะกลับแล้วเนี่ย มาๆ หนูแกะปลาให้” ผมถือโอกาสแกะปลาให้ปู่พร้อมนั่งกินข้าวไปด้วยเลย มีขอกับข้าวเพิ่มอีกสองสามอย่างแล้วก็นั่งกินไปคุยกับปู่ไป ไม่ค่อยเป็นเรื่องเป็นราวเท่าไรส่วนมาก็ถามเรื่องเดิมๆ ที่เคยถามไปแล้วทั้งนั้น ผมเคยรำคาญที่จะตอบแต่พอเห็นรอยยิ้มของคนสูงอายุที่เคยโอบอุ้มเราเมื่อครั้งยังเด็ก แต่ตอนนี้เขาแก่เฒ่าไปมากแล้วเรี่ยวแรงก็ไม่ค่อยจะมีแต่รอยยิ้มที่ส่งให้ลูกหลานยังเต็มไปด้วยความรักเหมือนเดิม ผมก็กลืนความรำคาญนั้นลงคอแล้วใช้เวลาที่มีอยู่กับปู่ให้มากที่สุด 
   “ไม่ไปเรียกน้องมากินข้าวละลูก”
   “มันยังไม่มาเลยปู่ อะ กินเยอะๆ”
   “น้องพีชละ น้องพีชไม่มารึ”
   “ยังไม่รู้เลย เดี๋ยวหนูถามให้” น้องพีชที่ว่านี่ก็ไอ้พีชเพื่อนผมเอง ปู่แกจำได้ขึ้นใจทั้งๆ ที่เคยมาแค่ครั้งสองครั้งแล้วแต่ละครั้งก็ห่างกันจะตาย แต่แม่ก็มักจะบอกเสมอว่าปู่ถามถึงพีชตลอด พอรู้เหตุผลว่าทำไมปู่ถึงจำพีชได้ก็ทำเอาผมยิ้มออกมา
   แกว่าหน้าพีชเหมือนย่าตอนสาวๆ รักแรกพบเขาละ เลยจำได้ว่าพีชคือใคร พอมันรู้ก็ปลื้มใจสิ เลยมาทุกปิดเทอม แต่เทอมนี้ยังเงียบอยู่สงสัยต้องเร่งมันละ ปู่จะได้หายคิดถึง
    “ปู่จะกลับบ้านไปดูทีวีเปล่า หนูจะไปส่ง”
   “นั่งนี่แหละ เอ็งไปช่วยแม่ทำงานไป”
   “จ้า มีอะไรก็เรียกนะ”
   ผมเข้าไปช่วยแม่ทำกับข้าวในครัวสักพักก็ออกมาช่วยคิดเงินแทน ร้านเราเป็นร้านแบบโอเพ่นดอร์ อาศัยลมธรรมชาติยามกลางคืน ถ้าร้อนก็พัดลม แต่ถ้าฝนตกก็ซวยหน่อยเพราะพื้นที่ที่มีหลังคามันไม่ได้กว้างนัก ช่วยงานจนถึงเที่ยงคืนก็ใกล้ได้เวลาร้านปิดหลังจากจัดการบัญชีเสร็จแล้วก็กลับมาอาบน้ำเตรียมตัวนอน ก่อนนอนก็ต้องเช็คนิดหนึ่งละนะ ไอ้หมีมันตอบข้อความผมบ้างยังเนี่ย
   อะ ตอบแล้วตอบด้วยด้วย เป็นภาพมันกำลังแบกกระสอบน้ำแข็งไว้บนบ่า มันเคยบอกอยู่ว่าป๊ามันเปิดโรงงานทำน้ำแข็ง ที่มันบอกต้องไปช่วยคือช่วยแบกแบบนี้เลยเหรอ โอ้ย น่าสงสารจริงๆ พ่อหมีของผม อยากจะโทรไปหาแต่ผมว่ามันต้องหลับแล้วแน่ๆ เลยได้แต่ส่งรูปตัวเองไปให้ จะว่าคิดเองเออเองก็ได้แต่ผมว่ามันต้องอยากได้กำลังใจจากผมชัวร์ เอาสามรูปน่ารักๆ ตื่นมาจะได้มีกำลังใจทำงานหาเงินมาสู่ขอผม





   ตื่นเช้ามาก็เจอข้อความจากมันแต่อ่านไม่รู้เรื่องสักประโยค สงสัยจะละเมอลุกขึ้นมาพิมพ์ตอบ ดูเวลาแล้วน่าจะได้อยู่ผมเลยลองกดโทรไปหา
   “ทำอะไร”
   ((คิดถึง))
   “วันนี้ก็ไปช่วยคุณป๊าทำงานเหรอ”
   ((คิดถึง))
   “คิดถึงเหมือนกันนนน ทำอะไรกินข้าวหรือยัง วันนี้ไม่ไปช่วยคุณป๊าทำงานเหรอ”
   ((ช่วยเช่ยอะไรป๊าไม่ได้มาทำด้วยสักหน่อย ดีแต่ยืนคุม ปวดหลังไปหมดแล้ว)) ผมหัวเราะออกมาทันที เสียงมันดูงอนมาก สงสารก็สงสารแต่มันก็ตลก ยิ่งนึกถึงภาพที่ส่งมาให้ยิ่งตลก หมีหน้ามึนกับกระสอบน้ำแข็งบนหลัง มันไม่ค่อยจะเข้ากันสักเท่าไร
   “มาๆ เดี๋ยวนวดให้”
   ((จะกลับมาแล้วใช่ไหม))
   “ใครบอก นิ่งต้องมาบ้านเราดิ”
   ((ทำไมไม่กลับมาสักที))
   “อยู่กรุงเทพฯ มาตั้งสี่ห้าเดือนละ อยู่บ้านดีกว่า”
   ((ไหนบอกจะนวดให้ไง))
   “น้ำนิ่งก็มานี่ดิ จะนวดให้ดีๆ เลย”
   ((นวดแล้วนาบต่อ))
   “ทะลึ่ง มานะ มาๆ” 
   ((ที่นั่นมีอะไร)) อะ ไอ้นี่เริ่มกวนตีนละ มีไร? ถามมาได้ มีกูที่เป็นแฟนมึงนี่ไง!
   “มีบ้านเราไง มีเราด้วย ไม่มาเหรอ” ออดอ้อนเข้าใส่ ต้องทำให้มันมาที่บ้านให้ได้
   ((นี่ก็บ้านเรา)) ผ่าง!!
   “เออ เรื่องของมึงเลย! ไอ้หมีโง่!”
   ด่าจบผมก็กดวางทันที แล้วมันก็ไม่โทรกลับมาด้วย โว้ย ไอ้หมีนี่มัน.. ไม่รู้จะด่ายังไงเลย ทำไมมันเป็นคนแบบนี้เนี่ย!?  โยนมือถือไปไกลๆ แล้วนอนอีกรอบ โมโหจนไม่รู้จะทำอะไร ตื่นมาอีกทีไปหาข้าวกินแล้วก็กลับมานอนอีกรอบ โกรธ โกรธมันมาก วันนี้ทั้งวันผมไม่ทำอะไรเลยนอกจากกินกับนอน ตอนเย็นก็ไม่ออกไปช่วยแม่ที่ร้าน ดีที่ว่าพ่อไม่ออกไปชนไก่ ก๊งเหล้าที่ไหนเลยได้อู้อย่างสบายใจ แต่คุกกรุ่นไปด้วยความโกรธ เพราะไอ้หมีคนเดียว ช่วงเที่ยงคืนตีหนึ่งมันส่งรูปตอนแบกน้ำแข็งมาให้อีก เหอะ คิดจะเรียกคะแนนสงสารหรือไง ไม่มีทางหรอก!
   



 
   “เปิ้ลนอนอยู่บ้านนี้แหละลูก”
   “ขอบคุณครับแม่”
   “จ้ะ พักผ่อนกันก่อน แล้วให้เปิ้ลพาไปหาอะไรกินกันนะ”
   เสียงคุ้นๆ คุยกันอยู่ตรงหน้าประตู ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกอยากลุกขึ้นมาจากเตียงเท่าไร ได้แต่บิดตัวไปมาอย่างคนขี้เกียจ แต่พอทำท่าจะหลับต่อกลับมีเสียงเคาะประตูรัวตามมา รอบนี้ไม่ลุกไม่ได้เพราะมันช่วงหนวกหูเหลือเกิน ผมเดินหน้ามุ่ยมาเปิดประตูจำได้ว่าเสียงคุยเมื่อกี้มีเสียงของแม่ อีกคนก็คุ้นแสนคุ้น โอ๊ะ ไอ้พีชนี่เอง ผมงงนิดหน่อยที่ไม่ได้เห็นเพียงแค่พีชคนเดียวแต่กลับมีคนที่ไม่คาดคิดว่าจะเจออย่างมูน
   “เฮ้ย! มูน มาไง”
   “เอ้อ.. เหอๆ เรื่องมันไม่ยาวหรอก แต่เดี๋ยวค่อยเล่าได้ไหม เราขอนอนหน่อย”
   “หืม มาๆ เข้ามาๆ มึงพีช จะมาก็ไม่บอก” ท่าทางมูนทั้งเหนื่อยทั้งเพลีย ผมเลยรีบเปิดประตูต้อนรับเชื้อเชิญเข้ามาในบ้านไวๆ
   “นึกว่าจะไม่ทักเพื่อนตัวเอง”
   “ตกใจนี่หว่า จะว่าไปทำไมมากันสองคน แล้วเป็นการจับคู่ที่...” แปลกโคตร มูนกับพีชเนี่ยนะ แฟนมันคือลูกหินไม่ใช่เหรอ คงไม่ใช่ว่ามีอะไรลับลมคมในหรอกนะ โนว ผมคงจะรับเรื่องลับๆ แบบนี้ไม่ไหวหรอก
   “มาสามนะ อ้าว.. เวรกรรม ลืมน้ำนิ่งไว้ในรถ”
   “หะ ไอ้หมีก็มาเหรอ ลืมมันไว้ในรถ แปลว่ามันหลับอยู่ในรถ!?”
   “ลืมอะ เปิ้ลไปพามาที”
   มูนวางกุญแจรถลงบนมือของผม กุญแจรถไอ้หมีนี่หว่า พอเริ่มได้สติจากความงุนงงมองขึ้นไปตรงถนนใหญ่หน้าบ้านก็เห็นรถคุ้นตาจอดอยู่รถน้ำนิ่งนั่นแหละ ผมเดินจ้ำๆ ด้วยความดีใจหน้าเปื้อนยิ้มโดยไม่รู้แต่ไม่ได้ลืมหรอกนะว่ามันทำอะไรไว้เมื่อวาน
   พอเปิดประตูเข้าไปก็สัมผัสได้ถึงไอเย็น ผมใช้เท้าสะกิดขามัน แต่ไม่ได้ผลเลยต้องลงแรงหน่อย คราวนี้ฟาดเลย ฟาดไปเต็มน่องขา สะดุ้งสิครับ สะดุ้งหน้าปรือๆ ตามสไตล์น้ำนิ่งนั่นแหละ พอเห็นว่าใครยืนอยู่ตรงหน้ามันก็ยกยิ้มน้อยๆ ก่อนจะดึงผมเข้าไปกอด หัวกูเกือบฟาดขอบประตูรถ เห็นแบบนี้ใจที่เคยมีความโกรธก็อ่อนยวบลงไปแปลกๆ
   “คิดถึงจัง”
   “เหรอ เมื่อวานใครมันกวนตีน”
   “แผนเซอร์ไพรส์ไง” เซอร์ไพรส์มากไหม เมื่อวานเกือบจะด่าพ่อด่าแม่มันหลายรอบแล้ว “คิดถึงๆไม่เห็นตอบเลย”
   “โกรธอยู่”
   พอผมบอกพร้อมหน้างอๆ แทนที่มันจะสลดกลับหัวเราะหน้าบานใส่แล้วดันผมออกเล็กน้อยค่อยหยิบอะไรบางอย่างขึ้นมาจากใต้เบาะ ผมเห็นแล้วอึ้งไปนิดหน่อย
   “แก้คิดถึง”
   มันคือถุงโลตัสที่ข้างในเต็มไปด้วยโอริกามิหลากหลายแบบ ดูแล้วนึกถึงคืนวันก่อนที่เราจะคบกัน ผมกลั้วขี้ฟันในปากไปมาเพื่อไม่ให้ตัวเองเผลอยิ้มกว้างออกมา ถึงถุงมันจะดูกากๆ ไม่สง่าน่าชมแต่ความใส่ใจกลับเต็มเปี่ยม มันอัดแน่นจนถุงทั้งโป่งทั้งพอง ผมคว้ามาถืออย่างถะนุถนอมแล้วลากไอ้ขี้เซาลงจากรถ
   “ลงจากรถได้แล้วเพื่อนรออยู่ในบ้านแล้ว”
   “พวกนั้นไม่ยอมปลุก”
   “เขาปลุกแล้วแต่ไม่ยอมตื่นเองหรือเปล่า”
   พอเข้ามาในบ้านก็เห็นพีชกับมูนปูเสื่อ พร้อมหมอนผ้าห่มมารองนอนเรียบร้อยแล้ว ผมเลยยึดอีกมุมหนึ่งเป็นที่ตั้งแล้วเริ่มถามไถ่ที่มาที่ไปของทรีโอกรุ๊ปนี้ พอได้ความแล้วก็ทำเอาผมถึงกับต้องกุมขมับให้กับความขี้เกียจ ขี้เซา ขี้ง่วง ขี้นอน ขี้ๆๆๆๆ สารพัดจะขี้ของน้ำนิ่งเลย ให้ตายเถอะ
   มันบอกตั้งใจจะมาหาตั้งแต่เมื่อหลายวันก่อนแล้ว เมื่อวานแค่กวนตีนเฉยๆ เออ กวนตีนจริงๆ แต่มันไม่รู้ทางเลยต้องให้พีชเป็นคนพามา ปัญหาคือลูกหินไม่ว่าง เจ้าไม่ว่าง ไอ้พีชไม่ขับรถทางไกล และไอ้หมีขี้เกียจขับ มีแค่มูนเท่านั้นที่ตกหลุมพรางของมันจนต้องมาขับรถให้ตั้งแต่เช้า คืออยากมาเช้า แต่ไม่อยากขับรถเองเลยใช้เพื่อน กูละยอมมันเลย
   “ฮืออ เปิ้ลต้องจัดการให้เรานะ โดนลากมาใช้เป็นขี้ข้าตั้งแต่เช้า ดูแลก็ไม่ดูแล ได้พีชนี่แหละคอยป้อนข้าวป้อนน้ำ”
   “โอ๋ๆ มูนอย่าร้อง เดี๋ยวเรานวดให้นะ”
   ผมตีไอ้คุณชายที่นอนแคะขี้มูกอยู่ข้างๆ ดูมันนะหลับสบายมาตลอดทางยังจะมานอนเหมือนคนที่ไม่ได้นอนมาทั้งชาติอีก
   “แค่นี้ทำบ่นว่ะ” ผมตีมันไปอีกก่อนจะสั่งให้ไปปิดประตู แล้วเปิดแอร์เย็นๆ ให้เพื่อนได้นอนสบาย
   “มึงมันแย่ ถึงแล้วก็ไม่ตื่นพวกกูเจอแม่เปิ้ลแล้ว ไหว้แม่เปิ้ลแล้วมึงยังไม่ทำสักอย่าง ไอ้ลูกเขยไร้มารยาท”
   “เพราะมึงไม่ปลุกกูไอ้มูน” มันแวะเหยียบก้นเพื่อนทีหนึ่งแล้วมานั่งย่องๆ ตรงหน้าผม “เปิ้ลพาไปไหว้แม่หน่อย” ผมอมยิ้มน้อยๆ เมื่อเห็นท่าทีกระตือรือร้นที่อยากจะไปไหว้แม่ของน้ำนิ่ง ดวงตาเป็นประกายไม่ได้ดูปรือนอนเหมือนเมื่อครู่
   “ไอ้หมีเลว ไอ้หมีอกตัญญูไม่รู้คุณคน ไอ้(&&^$#%&#@(^%$)_&&”
   “โอ้ย! มูนหุบปากเถอะ เราปวดหูเป็นผู้ชายทำไมเสียแหลมอย่างนี้เนี่ย” พวกผมพากันระเบิดเสียงหัวเราะออกมา มูนก็นอนปิดปากตัวเองน้ำตาไหลพรากเพราะโดนไอ้พีชด่า
   “เดี๋ยวเที่ยงๆ บ่ายๆ ค่อยไปไหว้ก็ได้ แม่คงกลับไปนอนอีกรอบแล้ว”
   “เหรอ จะไม่เป็นไรเหรอ”
   “ไม่เป็นไรหรอก แม่เราใจดี พ่อด้วย ทุกคนเลย แต่ตอนนี้ให้แม่กับพ่อนอนก่อน เมื่อคืนก็ปิดร้านดึก”
   “อย่างนั้นก็ได้” พอผมอธิบายให้ฟังไล่หนาก็ลู่ลงเล็กหน่อย ใบหน้ากลับมาปรือนอนอีกครั้ง ผมเลยรังหมีตัวโตให้มานอนไปพร้อมๆ กัน คือผมก็อยากนอนต่อเพราะตื่นเช้าเกิน
   “คิดถึงมาก” น้ำนิ่งสอดแขนมารองใต้คอแล้วดึงผมเข้าไปใกล้ๆ ทำท่าจะประกบจูบเข้ามาในขณะที่ผมกำลังจะเคลิ้มไปก็นึกขึ้นมาได้ว่าตัวเองยังไม่ได้แปรงฟัน
   “ยังไม่ได้แปรงฟัน งดจูบ หอมแก้มพอ”
   มันทำหน้าบึ้ง คิ้วขมวด แต่ก็กดจมูกลงมาบนแก้มของผมที่ไม่รู้ว่ามีคราบน้ำลายหรือเปล่าลงมาฟอดใหญ่ “ไม่เห็นบอกคิดถึงบ้าง”
   “ไม่บอกหรอก”
   ไม่บอก แต่ซุกหน้าเข้าหาแผ่นอกหอมกรุ่นกลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มของน้ำนิ่งแทน รู้สึกว่าจะตัวใหญ่กว่าเดิมหน่อยหนึ่ง แผ่นอกดูแข็ง และเต็งตึงขึ้น สีผิวก็แทนขึ้น ดูเซ็กซี่จนผมน้ำลายสอ แต่พอเงยหน้ามองใบหน้าตอบๆ ของแล้วน้ำตาจะไหล โธ่ พ่อหมีของผมต้องทำงานหนักมากขนาดไหนกันเนี่ย พ่อพระเอกยักคิ้วให้ผมแล้วเปลี่ยนมาเป็นคนที่ซุกออกผมแทน แล้วเราทั้งสี่คนก็หลับกันไปคนละมุมทั้งอย่างนั้น
   จนกระทั้ง..
   “พี่แอปเปิล!!”
   เสียงนี้มัน.. !
   



TBC
28/8/17
กลับมาต่อแล้วค่า จะครบเดือนแล้วโผล่หัวมาสักหน่อย //ยื่นมือให้ตี
ต่อเนื่องไม่เคยได้นานต้องหายตลอด แฮะๆ ติดการ์ตูนจ้า เพลินสุด เพลินจนหายไปอย่างที่เห็นนี่แหละค่ะ
ขอโทษจริงๆ น้า เรามาช้าตลอดเลยแต่ก็ยังมีคนติดตามอยู่ (ใช่ไหมเอ่ย?) ขอบคุณจริงๆ ค่ะ เรื่องนี้จบแน่ๆ ไม่ต้องกลัวทิ้งไป นี่มีพล็อตอื่นๆ ผุดขึ้นมาเยอะแยะก็ได้แต่จดๆ ไว้จะเอาหมีกับเปิ้ลให้จบก่อน โคตรบังคับตัวเองอะ 55555 ฝากติดตามกันต่อๆ ไปด้วยนะคะ 
แล้วพบกันตอนหน้าค่ะ


ออฟไลน์ Piima

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 660
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ว้ายยยย

เกิดอะไรขึ้นคะ

เกืดอะไรขึ้น

มาต่อแล้วดีใจจังเลยค่ะ

ขอบคุณนะคะ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
บ้านแอปเปิ้ล น่าอยู่ ปู่ก็น่ารัก ถึงจะหลงๆลืมๆบ้าง  :mew1: :mew1: :mew1:

หมี ก็มาหาถึงบ้าน พีช มูน ก็มาด้วย

นอนกอดกับหมี แล้วใครล่ะโผล่มา  :katai1: :katai1: :katai1:
ก็เห็นที่หมีกับเปิ้ลกอดกันนะสิ
จะเป็นเรื่องมั้ยนะ  :z3: :z3: :z3:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-08-2017 23:11:21 โดย ♥►MAGNOLIA◄♥ »

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
ใครมาล่ะนั่น

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
คิดถึง

ออฟไลน์ YEEUN9424

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
Sleeping bear and Apple's Trap 17
#แอปเปิล




   ผมตื่นขึ้นมาเพราะเสียงดังหนวกหู หันไปมองข้างกายก็เห็นร่างโตๆ ของไอ้หมีนอนตัวงอหันหลังให้ มีผ้าห่มพาดเอวหนึ่งผืน มองตรงไปอีกฝั่งก็เห็นพีชกับมูนเริ่มลุกขึ้น ดูงัวเงียไม่ต่างกัน แล้วไอ้มนุษย์ที่ยืนจังก้าอยู่หน้าผมนี่คือ..? 
   “นี่มันอะไรวะเนี่ย ยกเว้นพี่พีช สองคนนี้คือใคร”
   ไอ้ชมพู่!
   น้องชายสุดที่รักของผมเอง มันยืนทำหน้าโหด หันมองไอ้หมีที่หลับไม่รู้เรื่องรู้ราวทีหันไปมองมูนที่หน้าบวมตาบวมที ส่งยิ้มให้พี่พีชของมันอีกหนึ่งที แล้วหันมาถลึงตาโหดใส่ผมอย่างต้องการคำตอบ
   “ชมพู่”
   “เรียกพู่ดิ เดี๋ยวตีเลย” หน้ามันโหดกว่าเดิมคูณสอง ฮ่า ใช่ครับ น้องชายของผมชื่อชมพู่ ซึ่งหวานแหวนแต๋วจ๋าแตกต่างกับหน้ามันมาก ก็มันทั้งหล่อทั้งเข้ม อยู่ปีสอง หน้าล่อไปปีห้า ตัวใหญ่พอๆ กับไอ้หมีหรือลูกหินเลย ตอนเด็กๆ ก็ยังเรียกน้องชมพู่ๆ ได้อยู่ แต่พอโตขึ้นเริ่มรู้เรื่องว่าชื่อกูมันชื่อผู้หญิงเท่านั้นแหละใครเรียกมันชมพู่นี่ต่อยปากแหก ต้องเรียกพู่เท่านั้น
   “นั่นพี่มูนเพื่อนพี่ ส่วนนี่น้ำนิ่ง.. แฟนพี่เอง”
   “หะ! พี่ไปมีแฟนตั้งแต่เมื่อไหร่”
   “เทอมที่ผ่านมา น้ำนิ่ง ตื่นๆ น้องเรามา”
   “งืม เปิ้ล~”
   มีลากไปนอนกอดต่อ มันลืมปะเนี่ยว่าไม่ได้อยู่ห้องตัวเอง แถมนอนกลางบ้านอีก ผมพยายามดันตัวออก พร้อมกับส่งเสียงลงไม้ลงมือปลุกมันไปด้วย แต่ก็นะไอ้หมีก็แบบนี้ ตื่นยากจะตาย ยิ่งถ้ามันรู้ว่าเป็นวันหยุดมันจะหลับยาวเหมือนถูกตั้งโปรแกรมไว้เลยว่ากูจะนอนจนกว่าจะพอใจ เชิญปลุกไปเลย ยังไงก็ไม่ตื่น ผมเคยพยายามปลุกมันหนึ่งชั่วโมงเต็มมันไม่ตื่นเลยปล่อยให้มันนอนไปกว่าจะตื่นก็นู่นสามสี่โมงเย็น ตื่นมากินแล้วนอนต่อ
   “เฮ้ย ปล่อยเลยๆ” ไอ้ชมพู่เข้ามางัดผมออก น้ำนิ่งมันก็งัวเงียตื่นขึ้นมาด้วย คงจะงงว่าทำไมมีคนมาปลุกมันถึงสองคน
   “ใคร”
   “น้องๆ น้องชายเรา”
   “อ้อ หวัดดี” น้ำนิ่งส่งเสียงงึมงัมมาซุกตักผมแล้วนอนต่อ ไอ้พู่ได้แต่มองคิ้วขมวด มันคล้ายจะพูดอะไรสักอย่าง แต่เจอท่าทางของน้ำนิ่งเข้าไปมันก็คงจะไปไม่ถูก
   “แฟนพี่ปกติ?”   
   “ปกติดิ มันแค่ยังไม่ตื่น มึงไปไกลๆ”
   “เหอะ คนเก่าเพิ่งจะเลิกคนใหม่แม่งมาละ ทำไมงี้วะ จะอยู่กับน้องก่อนก็ไม่ได้ แย่ๆ” แหม บ่นซะผมดูเป็นพี่ที่โคตรจะแย่ คนเก่านี่เลิกตั้งนานแล้วเว้ย บ่นนั่นบ่นนี่เสร็จก็เดินไปหาพีช พี่ชายสุดที่รักของมัน
   “พี่พีช คนนี้ก็แฟนพี่เหรอ พี่เอาแฟนมาตอกย้ำผมเหรอ”
   “ไม่ใช่ๆ”
   “ทำไมพี่ทำงี้อ่ะ ไม่สงสารผมเลย”
   อย่าได้เข้าใจผิดว่ามันหลงรักไอ้พีชแบบนั้นเชียว ไม่ใช่เลย มันรักแบบพี่นี่แหละ แต่รักมากชอบมาก หวงมาก มากกว่าผมที่เป็นพี่แท้ๆ ของมันอีกมั้ง
   “ไม่ใช่จ้า ชมพู่” ดู๊! ขนาดเรียกว่าชมพู่ยังยิ้มแป้น ไม่โกรธเลยสักนิด
   “แล้วใคร” ทำเป็นหน้างอ
   “เพื่อนของแฟนพี่เอง ฮ่าๆ”
   “เป็นพวกติดพี่เหรอเนี่ย”
   “พี่ยุ่งไรด้วย” ชะ.. เอาแล้วดูมันพูดกับมูนสิ ผมนี่ลุกไปตบหัวมันทันที
   “พูดกับพี่เขาดีๆ”
   “ผมพูดไม่ดีตรงไหน”
   “ตรงนี้แหละ ไปเลยไป ไปหาแม่นู่น” มันส่งเสียงเหอะหะ สะบัดตูดเดินออกไปทางหลังบ้าน ผมหันไปขอโทษมูน แต่มันก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร เข้าใจว่าเป็นปกติของผู้ชาย พอจัดการตรงนี้เสร็จก็ไปปลุกไอ้หมีต่อ คราวนี้มันตื่น เพราะผมฟาดเต็มแรง ระหว่างนั้นก็ให้อีกสองคนที่เหลือไปอาบน้ำแต่งตัว จะได้ออกไปไหว้ผู้ใหญ่ และหาอะไรกินกัน




   กว่าแต่ละคนจะอาบน้ำทำอะไรเสร็จก็ปาไปเกือบสองชั่วโมง เสร็จแล้วก็ไปไหว้แม่ปรากฏว่าพ่อไม่อยู่ ออกไปเช้ากว่าที่พวกนี้มาเสียอีก ผมบอกแม่ตามตรงว่าน้ำนิ่งคือแฟน แกก็ยิ้มๆ รู้กันอยู่แล้ว เสร็จจากแม่ก็ไปไหว้ปู่ ระหว่างนี้แม่ก็เข้าครัวไปทำอาหารรอ
   ปู่ดีใจใหญ่ที่เห็นพีช เรียกน้องพีชอย่างนั้นอย่างนี้ สนใจแต่ไอ้พีชจนลืมหลาน ไอ้พีชก็คุยกับปู่สนุกสนานเล่าเรื่องนั้นเรื่องนี้ให้ฟังใหญ่ ไม่เว้นแม้แต่เรื่องของแฟนมัน เอารูปมาอวดด้วยนะ สักพักแม่ก็ส่งไอ้พู่มาเรียกเราเลยพากันประคองปู่ไปกินข้าวด้วยกัน
   “บอกปู่แบบนั้นไม่เป็นไรเหรอ ปู่แก่แล้วจะรับได้เหรอ” น้ำนิ่งกระซิบถามผมระหว่างที่ผมเข้ามาเอาของในห้อง
   “ไม่เป็นไรหรอก ถ้ารับไม่ได้คงเอาไม้เท้าฟาดหัวแล้วแหละ อีกอย่างปู่แกหลงๆ ลืมๆ เนี่ยเดี๋ยวออกไปก็คงลืมแล้วว่าใครเป็นใคร อย่าตกใจละ” มันยิ้มบางๆ แล้วเราก็จูงมือกันออกมาที่โต๊ะ แม่นั่งกินกับเราครู่หนึ่งก็ไปเตรียมตัวเปิดร้าน
   “ไอ้หนุ่มแฟนเปิ้ล กินเยอะๆ ลูก”
   “ครับ” จำชื่อไม่ได้แต่จำได้ว่าเป็นแฟนผม จริงๆ เลยนะปู่
   “เป็นแฟนกันก็ต้องรักกันดูแลกัน เหมือนปู่กับย่า”
   “จ้า ปู่ กินๆ อันนี้อร่อย”
   “ให้น้องพีชด้วย”
   “พีชกินเยอะแล้ว ปู่กินบ้าง พีชตักให้นะ”
   ปู่มีไอ้พีชดูแลแล้วผมเลยหันมาสนใจพ่อหมีข้างๆ ดูแลตักนั่นตักนี่ให้ ไม่ลืมมูนที่ลำบากลำบนโดนบังคับให้มาเป็นสารถีตั้งแต่เช้า ตอนแรกผมกลัวมูนจะเบื่อ กลัวจะรู้สึกไม่รู้สนุก แต่พอเห็นเขามีความสุขกับอาหารบนโต๊ะ เข้ากับปู่กับแม่ได้ดีผมก็สบายใจ แถมยังวางแพลนไว้ซะดิบดีว่าจะไปที่ไหนบ้าง
   กำลังจะตักไก่ให้น้ำนิ่งก็รู้สึกถึงสายตาของไอ้พู่ที่จ้องมองมาอย่างเอาเรื่อง ผมมองไก่ทอดชิ้นโตสลับกับมองหน้าน้องตัวเอง และแฟนหนุ่มที่กำลังมองมาอย่างมีความหวัง
   ยังไงดี จานนั้นหรือจานนี้ กินเองจะดีกว่าไหมเน้อ
   “เอ้า! กุ้งเนื้อแน่นๆ อร่อยจริงเชียว” เป็นมูนที่วางกุ้งตัวโต เนื้อสีขาวอมชมพูลงบนจานของไอ้พู่
   “อะไรของพี่เนี่ย” ผมใช่จังหวะที่สองคนนี้เถียงกันวางไก่ลงบนจานน้ำนิ่ง มันยิ้มปริ่มดีใจเหมือนได้ของรางวัล แล้วรีบตักอีกชิ้นไปวางลงบนจานของพู่ เดี๋ยวน้องจะน้อยใจ
   “กินเยอะๆ”
   “ผมเห็นนะ พี่เอาให้พี่น้ำนิ่งก่อน”
   “กินๆ ไม่ต้องพูดมาก เสร็จแล้วไปช่วยแม่คิดเงินด้วย”
   “เหอะ”
   กว่าจะสงบเล่นเอาเหนื่อย ผมต้องดูแลทั้งแฟนทั้งน้อง แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นผู้ดูแลอย่างเดียวนะ ไอ้หมีก็แกะกุ้ง ตักนั่นตักนี่ให้ผมเหมือนกัน ไอ้พู่ก็ไม่น้อยหน้าพยายามจะแย่งความสนใจ จนได้มูนมาคอยจัดการให้มันถึงหันไปเถียงกับมูนแทนที่จะสนใจผม
   “แม่เปิ้ลทำกับข้าวอร่อย เหมือนเปิ้ลเลย”
   “เราสิเหมือนแม่ เราเรียนมาจากแม่”
   “อร่อยมาก”
   “อร่อยก็กินเยอะๆ เอาเนื้อตรงแก้มกลับมาให้ไวเลย”
   ผมหยิกแก้มมันเบาๆ ทีหนึ่ง ไม่ค่อยจะมีเนื้อติดมือมาเลยอะ ไม่ปลื้ม หน้าตอบเกินไปแล้ว อีกสองอาทิตย์ที่เหลือต้องเอาเนื้อแก้มของน้ำนิ่งกลับมาให้ได้




   ไอ้พู่หนีออกไปหาเพื่อนตั้งแต่กินข้าวเสร็จ สุดท้ายแล้วคนเป็นพี่อย่างผมก็ต้องมาทำหน้าที่คิดเงินเหมือนเดิม แต่คราวนี้มีพ่อหมีตัวโต ผิวสีเข้มมานั่งให้กำลังใจอยู่ข้างกัน ตรงที่ผมอยู่เป็นห้องห้องหนึ่งที่มีช่องสีเหลี่ยมเปิดออกมาหันหน้าไปทางคนในร้าน ด้านหน้าจะเป็นที่ตักน้ำจิ้ม หรือเครื่องปรุงต่างๆ ที่ร้านเตรียมไว้ให้  ไม่รู้ว่าเป็นเพราะไอ้คนผิวเข้มที่นั่งอยู่ข้างผมหรือเปล่า ทำไมคุณลูกค้าสาวๆ หลายถึงได้ขยันเดินมาตักน้ำจิ้มกันบ่อยนัก แค่ตักไม่ว่าแต่มาแล้วชะเง้อชะแง้มองเข้ามาข้างใน แอบส่งยิ้มเบาๆ ให้ ไม่เว้นแม้แต่พี่ๆ น้องๆ พนักงานในร้านที่แวะเวียนเข้ามาในห้องนี้บ่อยเหลือเกิน เครื่องดื่ม กับไอศกรีมมันอยู่ในห้องนี่ก็จริงแต่มาเอาแล้วก็เดินไปเสิร์ฟไวๆ ได้ไหม ยืนยึกยืออยู่ได้ แต่พอหันมามองน้ำนิ่งก็ได้แต่อับอายตัวเองที่หงุดหงิดงุ่นง่านอยู่คนเดียว เพราะไอ้หมีมันไม่ได้สนใจอะไรเลยนอกจากเจ้าหนูยอดนักสืบในจอไอแพด ไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้างใดๆ ทั้งสิ้น
   “ง่วงยัง”
   “ง่วง”
   “อีกแปบหนึ่งเดี๋ยวก็ปิดร้านแล้ว หรือจะกลับก่อน บ้านข้างๆ นี่เองไม่หลงหรอก”
   “ไม่ได้กลัวหลง อยากอยู่ด้วย”
   ปากหวานจริง อยากหอมแก้มมันจัง แต่ตรงนี้สาธารณะมากทำไม่ได้ ผมส่งยิ้มให้ก่อนจะกลับมาคิดเงินต่อ สักพักร้านก็ปิดไอ้หมีเดินออกไปช่วยเก็บโต๊ะ ตอนแรกมันจะเข้าไปช่วยเก็บครัวแต่ผมห้ามไว้ คิดว่าไปตรงนั้นคงไม่ได้เรื่อง หลังจากบอกราตรีสวัสดิ์แม่เสร็จแล้วก็เข้ามาในบ้านหลังเดิม
   มูนพีชอยู่ในห้องที่จัดไว้ให้ พีชครองที่นอนคนเดียวเพราะมูนไม่กล้านอนกับพีช ผมเลยเอาผ้านวมหนาๆ มาปูให้นอน ไอ้หมีเห็นก็เอาด้วย กลายเป็นทั้งห้องมีแต่ผ้าปูเต็มไปหมดส่วนพีชก็นอนสบายๆ บนที่นอนคนเดียว พอผมเอาหมอนผ้าห่มของตัวเองขึ้นไปไว้บนที่นอนจะนอนกับพีช น้ำนิ่งมันก็กวาดลงมาข้างล่างหมด ทำอยู่ 3 - 4 รอบจนรู้ว่าความต้องการของมันคืออะไร มีปากก็ไม่พูดวุ้ย!
   “ไม่มีใครนอนกับเราเลย~ หินมาเร็วๆ~”
   ((ใครบอกว่ากูจะไป)) ไอ้พีชหน้างอแต่พวกผมพากันขำ พีชน้อยเอ้ยน่าสงสารจริง
   “จะไม่มาจริงอะ”
   ((เออ ไม่ว่าง))
   “ทำไม!?” พีชมันทำหน้าโหดแปบๆ ก็ยิ้มออกมา มูนที่โผล่เข้าไปดูในจอด้วยก็ทำหน้าเซ็งพลางบ่นอะไรสักอย่างไม่ทันฟังก็ต้องหันมาสนใจน้ำนิ่งที่จิ้มขาเรียกร้องความสนใจจากผมอยู่
   “นอน”
   “นอนไปดิ”
   “เปิ้ลด้วยสิ”
   “หายง่วงแล้วอะ”
   “งั้นมาทำกิจกรรมให้ง่วงกัน”
   “ทะลึ่ง! คนเยอะแยะ!!”
   “อะไรๆ ใครทะลึ่ง ใครทำไม หืม” พี่มูนและน้องพีชคนเสือกโผล่มาไม่ทันตั้งตัว ผมก็ได้แต่หุบปากฉับส่ายหัวรัวๆ พีชก็ขมวดคิ้วมองทั้งที่ยังถือโทรศัพท์ไว้อยู่ ส่วนไอ้หมีก็ยิ้มกริ่มผลักหัวเพื่อนไปทีหนึ่งบอกไม่มีอะไร ทั้งคู่ก็เลื้อยกลับไปที่ของตัวเอง
   “เปิ้ลนั่นแหละทะลึ่ง คิดอะไร เราหมายถึงนวด”
   “หะ”
   “ไหนบอกจะนวดให้”
   “อ๋อ เออ ที่หลังก็พูดให้มันจบดิ”
   “ฮ่าๆ ทะลึ่งวะเปิ้ล”
   “มึงนั่นแหละ! มาอยากนวดนักใช่ไหม นอนคว่ำเดี๋ยวนี้”
   คนตัวโตกว่านอนคว่ำตามที่บอกแต่ปากก็ยังไม่หยุดหัวเราะจนผมตีไปที่หลังของมันจนขึ้นรอยมือแดงถึงหุบปากนอนนิ่งๆ ให้ผมขึ้นไปนวด ไหล่หนาเนื้อแน่น ผิวสีแทนสม่ำเสมอทำเอาผมเผลอกลืนน้ำลายลงคอ มันฟิตแอนด์เฟิร์มขึ้นจริงๆ วุ้ย ดูแน่นกว่าเมื่อก่อนอีก ไม่อยากจะคิดถึงตอนเปิดเทอมว่าจะมีผู้หญิงที่ไหนมาติดพันมันอีกหรือเปล่า
   นวดได้สักพักก็ได้เสียงลมหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอของน้ำนิ่ง ทั้งบูมทั้งพีชต่างก็จมจ่ออยู่กับหน้าจอมือถือของตัวเองจนเสียงในห้องมันเงียบสงบไปตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ ผมอมยิ้มเล็กน้อยค่อยๆ เอนตัวลงช้าๆ ไม่ให้รบกวนการนอนของคนข้างล่าง
   “พี่แอปเปิลทำไมไม่มานอนสักที!!” แต่ดูเหมือนน้องชายมันจะเป็นพวกผ่าเหลาผ่ากอคนอื่นทำอีกอย่างมันทำอีกอย่าง สะดุ้งเลย! เด็กผมสะดุ้งเลย!! ขนาดคนที่นอนหลับเหมือนตายยังสะดุ้งขึ้นมาได้ก็คิดดูแล้วกันว่าน้องผมมันทำเสียงดังแค่ไหน
   “มึงเป็นเด็กสามขวบเหรอ ถึงนอนคนเดียวไม่ได้”
   น้องชายคนดีชะงักไปเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าผมเริ่มมีน้ำโห มันอึกๆ อักๆ แต่ก็ยังเข้ามาฉุดผมลุกขึ้นอยู่ดี แค่ตัวเอียงไปหน่อยหนึ่งข้อมืออีกข้างก็ถูกคว้าไว้อีก จะยืนจะลุกไม่แน่ใจตัดสินใจไม่ถูกถึงจะทำเป็นดุกับน้องแต่ผมก็รักไอ้พู่นะ อยากนอนด้วยเหมือนกันแหละ จะได้คุยเรื่องนั้นเรื่องนี้ในช่วงที่ไม่ได้เจอกัน แต่แหม.. ไอ้หมีก็คิดถึงไม่ได้เจอกันมาตั้งเกือบเดือน
   พีชมูนมองมาไม่ส่งเสียงเหมือนกำลังรอดูเรื่องสนุกๆ ไอ้พู่ออกแรงดึงมากขึ้น น้ำนิ่งที่ยังไม่ตื่นเต็มตาเท่าไรนักเงยหน้าขึ้นมามองงงๆ ลืมตาไม่ถึงครึ่งของลูกตาก่อนจะพึมพำเบาๆ ว่า “ฝันดีนะเปิ้ล”
   ไอ้น้ำนิ่ง!! นี่มันไม่คิดจะลุกขึ้นมาโวยให้ได้ผมมานอนกอดเลยหรือไง ที่ห่างกันนี่มันรู้สึกอะไรบ้างหรือเปล่าวะ อารมณ์เสีย เพื่อนก็ขำตอกย้ำไปอีก ไอ้น้องชายก็ลากไม่ปล่อย ผมตีหลังมันไปเพียะหนึ่งแก้โมโห มันเกาหยุกหยิกแต่ก็ไม่ได้ตื่นขึ้นมา เห็นอย่างนั้นผมเลยหยิบผ้าห่มขึ้นมาห่มให้มัน ถีบก้นไปอีกทีก่อนจะปล่อยตัวตามแรงดึงของไอ้พู่ไป
   “นอนเลยไหมพวกมึงอะ”
   “นอนเลย”
   “เออ งั้นปิดไฟนะ”
   “ฝันดีนะเปิ้ล” เหอะ เพื่อนเลว ทำเป็นบอก ‘ฝันดีนะเปิ้ล’ จะล้อกันน่ะสิ ขอเกลียดคำนี้สามวัน พอกลับมาห้องก็นอนคุยกับน้องชายต่ออีกหน่อยก่อนจะค่อยๆ พากันหลับไป
   



   เสียงไก่ขันดังแว่วๆ เข้ามาในหูรบกวนการนอนอันแสนสุข แต่ผมก็ยังไม่คิดจะลุก ขยับตัวถีบไอ้คนที่นอนข้างๆ ไปที เปลี่ยนท่า บิดขี้เกียจอีกหนึ่งทีแล้วหลับต่อจนกระทั้งแสงแดดยามเช้าแยงตาทำให้ผมยอมลุกจากที่นอน หัวเหอฟูไม่เป็นทรง คว้าแว่นตามาใส่เพิ่มความชัด ไอ้พู่ไปไหนไม่รู้เหลือแต่กองผ้าห่มให้พี่มันเก็บ
   นั่งระลึกชาติได้สักพักผมก็จำได้ว่าที่บ้านมีแขกมา เลยเดินเซๆ ไปล้างหน้าล้างตาแล้วไปดูที่ห้องนอนข้างๆ กัน พีชกับมูนยังนอนหลับอุตุอยู่บนที่นอนของตัวเอง แต่.. เห้ย ไอ้หมีหายไป!
   ไม่จริงอะ! คนอย่างไอ้หมีไม่มีทางตื่นเช้า นี่มันอเมซิ่งยิ่งกว่าหิมะตกในประเทศไทยซะอีก ลองออกไปดูข้างนอกรถยังอยู่ ลองไปส่องๆ ดูก็ไม่มีใครอยู่ข้างใน แล้วมันหายไปไหน? ผมตั้งใจว่าจะเดินไปถามแม่ก็พอดีได้ยินเสียงคนคุยกันมาจากตรงเล้าไก่
   เดี๋ยวนะ.. น้ำนิ่งมันคง.. ไม่ใช่ว่ามันจะไปจับไก่มากินนะ
   ผมค่อยๆ ย่องเข้าไปดู แอบหวาดกลัวอยู่ในใจว่าถ้าเจอพฤติกรรมสยดสยองของแฟนหนุ่มจะทำยังไงดี หมีจับไก่ ถลกขน ถลกหนังกินอย่างนี้ ผมจะทำใจรับไหวไหมนะ
   “นี่ไอ้หนุ่มทำดีๆ เดี๋ยวไก่ก็จิกตาบอด” เสียงพ่อนี่ กลับมาเมื่อไรละนั่น
   “ครับ พ่อตา”
   “ใครพ่อตาเอ็ง ยังไม่รับเว้ย!”
   “ครับๆ คุณลุง”
   “พ่ออย่าเสียงดังเดี๋ยวไก่ตื่น”
   “เออ โทษที เอ้า ไอ้หนุ่มกางมือดีๆ ค่อยๆ ต้อนมันเข้ามาใกล้ ตอนมันเข้ามาใกล้แล้วช้อนหน้าอกมัน อย่าดึงหางละ” ผมใช้พุ่มไม้เป็นที่กำบังแอบดูคนต้องสงสัย ไม่ใช่ใครที่ไหน พ่อ ไอ้พู่ และน้ำนิ่ง ทั้งสามอยู่ในเล้าไก่ รอบด้านมีสุ่มไก่อยู่หลายสุ่ม น้ำนิ่งกำลังกางมือต้อนไก่เข้ามาใกล้ มีพ่อคอยสั่งการข้างนอกพร้อมไอ้พู่ที่อุ้มไก่อยู่แล้วหนึ่งตัว ทำอะไรกันวะเนี่ย
   “ได้แล้วครับ พะ.. เฮ้ย คุณลุง”
   “ไม่เบานี่หว่าไอ้หนุ่ม เยี่ยมๆ” พ่อผมยิ้มภูมิใจลูบคางตัวเอง ไอ้พู่รีบกระแซะ
   “ไม่ได้นะพ่อ ชมมากเดี๋ยวเหลิง แค่จับไก่ใครก็ทำได้”
   “เออ นั่นสิ แค่นี้เองอย่ามายิ้มนะเว้ยไอ้หนุ่ม การจะมาเป็นเขยบ้านข้าต้องทำได้หลายอย่างจะมัวแต่กินๆ นอนๆ ไม่ได้ ปลูกผัก ทำสวน เลี้ยงปลา ถางหญ้า ทุกงานต้องทำได้ ที่สำคัญคือไก่ เอ็งต้องเลี้ยงมันให้ดี เพราะนี่ถือเป็นมรดกสืบทอดรุ่นสู่รุ่น ไอ้พู่มีแล้วไอ้เปิ้ลก็มีแต่มันคงดูแลได้ไม่ดี แค่สั่งให้มาให้อาหารมันยังบ่น เพราะอย่างนั้นเอ็งที่จะมาเป็นเขยต้องรับไป เข้าใจไหม ไอ้หนุ่ม”
   “ครับ พะ.. คุณลุง”
   จากที่เอาแต่จ้องไก่ในมือ ยกยิ้มน้อยๆ ไม่รู้มีความสุขที่ตรงไหน แต่พอได้ยินพ่อบอกแบบนั้นใบหน้าก็ขรึมขึ้น ตั้งท่าว่าจริงจังทั้งที่มืออุ้มไก่มันเลยดูตลกมากกว่า แต่ถึงจะตลกแต่ผมก็ทำได้แค่ขำเหอะเหอะในใจเพราะไอ้สิ่งที่พ่อพูดเมื่อครู่ทำเอาผมปวดหัวจี๊ดขึ้นมาทันที ไก่คือมรกดสืบทอด.. ตลกแล้วพ่อ ไก่ชนของพ่อมันกลายเป็นมรกดสืบทอดตั้งแต่เมื่อไรกัน
   ดูจากรูปการแล้ว ไม่ต้องถามก็สรุปได้เลยว่าน้ำนิ่งกำลังโดนพ่อแกล้งแน่ๆ และไอ้คนที่ให้ความร่วมมืออย่างดีก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ไอ้ชมพู่นั่นแหละ!






TBC.
8/10/17
กลับมาแล้ววว รอบนี้เดือนกว่า แฮะๆ ควรโดนตีสักที ขอโทษค่า T^T
คิดถึงทุกคนมากๆๆ
ช่วงนี้ฝนตกบ่อยๆ รักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ
แล้วพบกันตอนหน้าค่ะ 
พูดคุยทักทายกันได้ที่ @yeeun9424 นะคะ <3



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-10-2017 22:19:36 โดย YEEUN9424 »

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ขำๆสบายๆมีความสุข

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Piima

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 660
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
น้องพู่หวงพี่เหรอลูก

ออฟไลน์ DraCo_SLa13

  • I swear that, will love Super Junior forever..........
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +314/-3
โถววว พ่อคุณ ไก่ในมือน่ะ อยากให้เปิ้ลหักคอมาทอดให้กินละสิ

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
ตลกกก ไก่คือมรดก  :hao7:

ออฟไลน์ Mayana

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 424
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2

ออฟไลน์ YEEUN9424

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
Sleeping bear and Apple's Trap 18
#แอปเปิล



   “จับดีๆ อย่าลูบทวนขนละไอ้หนุ่ม ลูกห้าเสร็จแล้ว ลูกหกต่อได้เลย ถึงจะชื่อหกแต่มันน่ะที่หนึ่งของสนามเลยนะเฮ้ย ไม่เคยแพ้ ฮ่าๆ”
   พ่อนั่งบนเก้าอี้พลาสติกตัวเตี้ย ส่วนผมก็ปรากฏตัวตั้งแต่เมื่อครู่เพราะทนให้ไอ้หมีโดนรังแกอยู่คนเดียวไม่ไหวกำลังนั่งเท้าคางทั้งชุดนอนมองน้ำนิ่งอาบน้ำไก่ที่มีชื่อกากๆ ว่าห้าตามค่ำสั่งการของพ่อ พอเสร็จก็เป็นหกที่พู่มันถือ อีกคนอาบโดยใช้ผ้าชุบน้ำถูไปตามตัวไก่ อีกคนเอาไปเช็ดให้แห้ง ทำงานเข้าขากันดีนี่ก็สองตัวสุดท้ายแล้ว
   “พ่อ เมื่อไรจะเสร็จไปกินข้าวกันเถอะ”
   “เอ็งก็ไปสิ จะมานั่งหน้าขาวอยู่ทำไม”
   “น้ำนิ่ง ปะ”
   “เฮ้ย เอ็งไป ไอ้หนุ่มนี่อยู่ก่อน”
   “เอ้า! น้ำนิ่งมันหิวแล้ว ไอ้พู่ด้วย พ่อกินแล้วเหรอ”
   “เงียบๆ ลูกกูตกใจหมด” ชิ ผมมุ่ยหน้านั่งเท้าคางเหมือนเดิม ไอ้หมีก็เงียบไม่มีปากไม่มีเสียง นั่งเอาผ้าขนหนูเปียกน้ำถูไปตามตัวไก่อยู่นั่นแหละ
   “ไม่หิวเหรอ”
   “หิวอยู่ แต่เดี๋ยวก็เสร็จแล้ว รอก่อนนะ” มันยักคิ้วเท่ๆ ให้ผมทีหนึ่งแล้วก็หันไปสนใจไอ้หกตรงหน้าแทน ใบหน้ายังคงเปื้อนยิ้มดูมีความสุข คล้ายจะมีความรักใคร่ และความอ่อนโยน แฝงอยู่ทั้งที่เพิ่งเจอกันเมื่อไม่กี่นาทีก่อน
   อีกครึ่งชั่วโมงถัดมาน้ำนิ่งก็สวาปามไก่ชนิดลืมไปเลยว่าเคยสัมผัส และโอบอุ้มเจ้าหนึ่งถึงหกอย่างทะนุถนอมราวกับลูกแค่ไหน และด้วยความสงสัย ทั้งที่เด็กเมืองหลวงอย่างมันไม่น่าจะเคยจับไก่มาก่อนแต่กลับจับได้อย่างง่ายดาย แถมยังอาบน้ำเช็ดถูอย่างดีได้ยังไงกัน ไม่กลัวเลยเหรอ
   “คิดว่ากำลังจะจับมันเข้าปากเลยไม่กลัว” คำตอบของมันทำเอาผมต้องรีบไปไหว้พระไหว้เจ้า สวดภาวนาขอให้น้ำนิ่งอย่าได้คิดกินไก่สดๆ ขึ้นมาเลยเถิด สาธุ!




   “หา จะเอามันไปไร่ด้วย? พ่อ พอเถอะ มาเที่ยวนะ มาเที่ยว” เห็นลากน้ำนิ่งไปอาบน้ำให้ลูกๆ นึกว่าจะพาไปสนามชนไก่นี่ดันมาชวนไปไร่อีก นี่ยังไม่เลิกคิดเรื่องแกล้งไอ้หมีอีกหรือไง
   “มันเป็นแฟนเอ็งไม่ใช่หรือไง”
   “กะ.. ก็ใช่ แล้วมันเกี่ยวกันตรงไหนเล่า เค้าจะไปเที่ยวกัน”
   “จะมาเป็นเขยบ้านนี้ก็ต้องทำได้ทุกอย่างสิวะ” พะ.. พ่อ พูดอะไรเนี่ย ผมเขินหน้าแดง บอกตรงๆ อาย เพื่อนก็อยู่ แม่ก็อยู่ จู่ๆ มาพูดลูกขงๆ ลูกเขยๆ เหลือบมองน้ำนิ่งมันก็นั่งมึนเหมือนไม่สนใจ แต่ตัวยืดตรงดูเตรียมพร้อม มุ่งมั่นแบบแปลกๆ “แค่จับไก่ได้น่ะ ยังไม่พอหรอก บ้านนี้ยังมีสวนพืชผักผลไม้ มีน้ำมีปลาให้ดูแล คนที่จะมาเป็นเขยก็ต้องดูแลของพวกนี้ได้”
   “อย่างอื่นผมคิดว่าทำได้ แต่ไม่ทำอาหารนะครับ” ยังมีหน้าไปต่อรอง
   “เออ เรื่องอาหารช่างมัน ไอ้เปิ้ลมันทำได้ดีอยู่แล้ว” เอ้า นี่ก็บ้าจี้ให้อีก “แล้วจะไปไหม”
   “ไปครับ”
   “เดี๋ยวพ่อ เปิ้ลไปด้วย”
   “แล้วพวกเราละเปิ้ล” อะ เอ่อ.. ยังไงดี จะให้ผมทิ้งไอ้หมีไปกับพ่อกับไอ้พู่ก็ไม่ได้แฮะ กลัวโดนรุม แค่เมื่อเช้าก็รู้แล้วว่าคิดจะทำอะไรกัน แต่จะทิ้งเพื่อนไว้มันก็ดูจะเป็นเจ้าบ้านที่แย่มากๆ ไม่มีคนอื่นที่พอจะพาไปเที่ยวได้ด้วยสิ
   “ก็ไปกันหมดนี่เลยเป็นไงลูก สวนบ้านเรากว้างขวางไปเดินเล่น กินผลไม้สดๆ กันก็ได้”
   “เออนั่นสิ ไปไหม แต่ถ้าไม่..” อันที่จริงก็จะพาไปสวนของที่บ้านอยู่หรอก แต่ตามแพลนมันอยู่วันหลังๆ ไง บางทีมูนกับพีชอาจจะอยากไปที่อื่นมากกว่าก็ได้ ผมมองน้ำนิ่งอย่างขอโทษมันก็ส่ายหัวให้ พร้อมกับลูบหัวผมเหมือนกำลังบอกว่ามันเข้าใจว่าผมกำลังคิดอะไรอยู่
   “ไป!”
   “ไป? ไปใช่ไหม โอเค ไปเตรียมตัวเลย พ่อรอก่อนนะ”
   ผมรีบตอบรับ เพราะกลัวพวกมันจะเปลี่ยนใจ ด้วยเหตุนี้เราชาวคณะจึงพากันมาที่สวนผลไม้ของที่บ้านผมเอง มีมะม่วง เงาะ มังคุด และอื่นๆ มีคนงานอยู่ไม่น้อยเดินกันให้ทั่ว แถมยังมีพื้นที่ปลูกผักส่งขายด้วย
   ผมให้ลุงๆ คนงานพาเพื่อนไปเดินเล่นในสวน ส่วนตัวเองเกาะติดไอ้หมีเป็นเงาตามตัว ต่อให้พ่อจะไล่ยังไงก็ไม่ไป มันโดนพ่อสั่งให้ทำอะไรผมทำด้วย วอแวทุกทาง อะไรพอแบ่งเบาภาระมันได้ผมแบ่งหมด พ่อจ้องจนเลิกจ้องเพราะด่ายังไงผมก็ไม่ไป
   ผมเรียกมันมาเพราะอยากให้มาพักผ่อนไม่ได้ให้มาทำงานอะไรหนักๆ แบบนี้นะ!
   “เปิ้ลครับ เราทำได้ ไม่ต้องห่วงไปนั่งร่มๆ ให้กำลังใจใต้ต้นไม้เถอะ” มันพูดออกมาในที่สุด ผมนี่ชะงักเลย
   “รำคาญเหรอ” ผมเบะปาก 
   “เปล่า”
   “รู้ตัวไหมว่าโดนแกล้งอยู่” มันส่ายหัว หยุดถากหญ้าถางดินถอดถุงมือออก รั้งผมเข้าไปใกล้พร้อมกับที่มันก้มลงมา
   “กังวลอะไร จะแกล้งหรืออะไรก็ช่างเถอะ เราอยากทำให้เขารู้ว่าเรื่องพวกนี้เราทำได้ จริงๆ มันก็สนุกดี” ว่าพลางวาดยิ้ม แนบหน้าผากลงมาติดกัน ผมใจเต้นตึกๆ จมูกบานเพราะเขิน น้ำนิ่งหล่อมาก และบรรยากาศตอนนี้ก็ดีแสนดี แสงแดดร้อนแรง พาทำให้ความรักความอบอุ่น และรอยยิ้มเท่ๆ ยิ่งเจิดจ้าเข้าไปใหญ่ ดีนะพอเดินออกไปที่อื่นไม่อย่างนั้นคงโดนดีดตั้งแต่มันดึงผมเข้าหาแล้วละ “เข้าใจ?”
   “อือ อือ” ผมพยักหน้าหงึกหงักเหมือนต้องมนตร์
   “อย่างนั้นไปนั่งรอร่มๆ นะครับ”
   ยอมแล้ว~ ทูนหัวมีผัวเท่ทั้งกายทั้งใจแบบนี้ผมจะไปไหนรอด หลังจากนั้นผมก็มารอนั่งใต้ร่มไม้ ใช้เด็กไปซื้อน้ำหวานเย็นๆ มาให้พร้อมขนมนมเนย โบกพัดสบายใจเคลิ้มๆ จะหลับอยู่หลายรอบ แต่ก็ต้องถางตาให้เดี๋ยวมันจะหาว่าผมไม่ใส่ใจ น้ำนิ่งขุดๆ ถางๆ ลงปุ๋ย ลงดิน รดน้ำต้นไม้ทำนั่นทำนี่ไปตามที่พ่อชี้นิ้วสั่ง สักพักก็ทำท่าจะเดินไปไหนกันไม่รู้ ผมกำลังจะลุกตามไปพ่อก็ตะโกนห้ามมาแต่ไกล น้ำนิ่งก็โบกมือให้รออยู่ที่นี่ผมเลยยอมนั่งรอที่เดิม แล้วไอ้น้องชายสุดที่รักก็โผล่หัวมาหลังจากนั้นไม่นาน
   “เป็นไงละ โดนไล่”
   “เพราะมันเป็นห่วงกูไงละ มึงมาก็ดีละ มาให้กูตีสักทีซิไอ้น้องรัก” ไม่ต้องรอให้มันเข้ามาใกล้ตามคำสั่งเพราะมันไม่มาแน่ ผมสาวมือไปดึงหูมันแรงๆ “ไหนเล่าให้พี่ฟังหน่อยสิว่าพ่อคิดอะไรอยู่”
   “ผมจะไปรู้ได้ไงเล่า” ผมเพิ่มแรงเข้าไปอีก ตอบ ไม่ตอบมึงหูขาดแน่
   “พ่อเขาก็แค่อยากทดสอบว่าที่ลูกเขยเท่านั้นแหละ”
   “กับคนอื่นไม่เห็นทำ มึงไปพูดไรไว้ หะ”
   “เปล่าสักหน่อย โอ๊ย! เจ็บ! หูจะขาดแล้วเนี่ย” ผมเมินเฉยต่อเสียงร้องเหมือนหมูออกลูกของไอ้พู่ ทั้งบิดทั้งดึง จะเอาให้ยานยิ่งกว่าจมูกพิน็อคคิโอเลย คอยดู “บอกแล้วก็ได้ ยอมๆ เบาหน่อย” ผมผ่อนแรงลงเล็กน้อยจ้องหน้าจนมันอ้าปากพูด
   “ผมแค่บอกว่าแฟนพี่ดูไม่ได้ความ ไม่ได้เรื่อง ไม่น่าจะดูแลพี่ได้ เอาแต่นอนเป็นตัวขี้เกียจ โอ้ย! ยอมบอกแล้วก็เลิกดึงสักทีเด้!” ผมบีบแรงๆ ทิ้งท้ายก่อนปล่อยหูมันให้เป็นอิสระ
   “มึงนี่ยุ่งจริงๆ”
   “ก็มันจริง ซี้ด เจ็บชิบหาย แฟนหรือลูกเอาดีๆ ทำอะไรเป็นบ้าง จะดูแลพี่แน่ได้เหรอ หรือให้พี่ดูแลอย่างเดียว ถึงจะยังไม่ได้คิดว่าอนาคตจะเป็นยังไง แต่การคบกับคนที่มันไม่ได้เรื่อง ดูแลพี่ไม่ได้ มันก็เป็นแค่การใช้เวลาไปอย่างเสียเปล่าเท่านั้นแหละ”
   “....”
   “ใครมันจะอยากฝากลูกตัวเอง พี่ตัวเองไว้กับคนไม่ได้เรื่องละ” ไอ้พู่พูดขึ้นมาทำเอาผมยิ่งกระอัก อ้ำอึ้งพูดไม่ออก จะแก้ต่างให้ก็ไม่รู้จะหยิบยกตรงไหนบอกดี ผมไม่เคยคิดถึงเรื่องแบบนี้เลย ไม่เคยฉุดคิดว่าน้ำนิ่งที่ขี้เกียจแบบนี้จะดูแลเราได้เหรอ จะทำอะไรเพื่อเราได้บ้าง จะเอาแต่กินกับนอนไปถึงไหน แม้แต่จะคิดให้มันเปลี่ยนแปลงตัวเองบ้างก็ไม่เคย ผมแค่ชอบที่มันเป็นอย่างที่เป็นมาตลอด และก็ชอบที่ได้ดูแลมันก็เท่านั้น แต่ผมคงจะลืมไปว่าในสายตาของคนอื่นๆ โดยเฉพาะคนในครอบครัว เขาอาจจะไม่ได้รู้สึกดี รู้สึกมีความสุขเหมือนที่ผมรู้สึกด้วย
   “ผมถามหน่อย พี่เขาดูแลอะไรพี่บ้าง”
   “กะ.. ก็ดูแลในแบบของมันนั่นแหละ”
   “แล้วมันอะไรละ”
   “ตอนพี่ไม่สบายมันก็ดูแลได้” ถึงจะต้องไปรบกวนคนอื่นก็เถอะ แต่นั่นก็เพราะว่ามันก็มีใจเป็นห่วงผมจริงๆ ไม่ใช่เหรอ “เอ่อ.. แล้วก็..” แย่แล้ว ผมนึกอะไรไม่ออกเลย มันต้องมีมากกว่านี้สิ!
   “เออๆ มันชอบทำโอริกาเมะ? เฮ้ย โอริกามิ ที่มันเป็นการพับกระดาษ นั่นแหละ ชอบพับให้พี่”
   “นั่นเรียกดูแลเหรอ นั่นเรียกงานอดิเรกเหอะ พี่แยกดีๆ” ผมไหล่ตก หูหางลู่ รู้สึกแพ้หมดรูป คิดไม่ออกแล้วจริงๆ ในความทรงจำที่มีก็มีเพียงภาพที่มันชอบนอน กิน พับกระดาษ ทำงาน อ้อนผม ... แค่นี้เองเหรอ จะว่าไปแม้แต่ตอนที่ผมโดนข่มขู่มันก็.. “พี่ลองเอาไปคิดดูดีๆ นะ ก็ไม่ใช่ว่าอยากจะให้เลิกกันไปเลย แต่ผมอยากให้พี่เจอคนที่พร้อมดูแลพี่มากกว่านี้ก็แค่นั้น”
   “อือ”
   ไอ้พู่เดินออกไปแล้ว ใต้ต้นไม้จึงเหลือผมนั่งตกตะกอนความคิดอยู่เพียงลำพัง แสงแดดเริ่มอ่อนแสงลง เสียงของน้ำนิ่งดังขึ้นจากทางด้านหลัง ผมสะบัดหัวไล่ทุกความคิดออกไปแล้วหันไปยิ้มให้คนที่เดินเข้ามาพร้อมใบหน้าอ่อนแรง
   “ไปไหนมา นานจัง”
   “คุณลุงพาไปดูไร่ฝั่งนู่น อยู่ทำแปบหนึ่งก็โดนไล่มา”
   “ละ ไล่? ทำไมละ เกิดอะไรขึ้น”
   “ไม่รู้สิ เปิ้ลง่วง”
   “อะ มาๆ มานอนตักเรามา”
   “ง่วงมาก เหนื่อยด้วย” ผมหัวเราะเสียงแผ่ว ผมตบตักเรียกคนตัวโตให้ลงมานอน หน้าน้ำนิ่งดูเหนื่อย และอ่อนเพลียมากจริงๆ เมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็เข้าวันใหม่แล้ว แถมยังต้องตื่นเช้าลากยาวมาปานี้ ไม่ได้นอนกลางวันสักงีบ ไม่แปลกถ้าดูเหนื่อยได้ขนาดนี้
   น้ำนิ่งหนุนลงบนต้นขาของผม หันหน้าออกไปอีกทาง จับมือผมไปกุมไว้แล้ววางบนพื้นที่ระหว่างคอ และไหล่ของตัวเอง ผมใช้มืออีกข้างที่วางเอาทิชชู่เช็ดไปตามใบหน้าคมกร้านของน้ำนิ่ง มือที่เคยกระชับแน่นค่อยๆ คลายลง และเสียงลมหายก็ใจเริ่มคงที น้ำนิ่งคงหลับลึกแล้ว ผมเลยหยุดมือแล้วหยิบพัดมาพัดให้แทน




   เรากลับมาบ้านกันตอนเย็นๆ หอบผลไม้กลับมาเต็มกระบะรถคนแทบไม่มีที่ให้นั่ง วันนี้ร้านไม่เปิดผมเลยลอยตัวมานั่งเล่นนั่งกินกับเพื่อนได้อย่างสบายใจไร้กังวล
   “พี่เปิ้ลจ๋า”
   “น้องส้ม มาๆ”
   ผมเดินเข้าไปรับหลานตัวเล็กมานั่งตัก ปอกมะม่วงสุกให้กินเล่น น้องส้มยังอยู่ในชุดนักเรียนเอี๊ยมแดง ผูกผมแกะสองข้าง ปากเล็กพูดเจื้อยแจ้วเล่าเรื่องที่โรงเรียนไม่หยุด ผมที่มัวแต่ฟังหลานรักเงยหน้ามาอีกทีน้ำนิ่งก็มองน้องส้มไม่วางตา พอเห็นผมชะงักเด็กก็รู้ตัวเลยหยุดพูดแล้วจ้องตากับไอ้หมีตัวโต
   “พี่เขามองหนูทำไม” ยิ่งน้องทำท่ากลัวน้ำนิ่งก็ยิ่งยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ตาแทบไม่กะพริบ ไม่รู้จ้องอะไรนักหนา ไม่ใช่ว่าเห็นเป็นของกินหรอกนะ!
   “หมีๆ หมีมันชอบมองคนน่ารักๆ แบบนี้แหละ” ผมนึกสนุกเลยตอบไปแบบนี้
   “หมีจริงเหรอ หมีไรอ่า” ว่าพลางเอามือไปลูบแก้มคนตัวโตข้างหน้าแล้วยื่นหน้าไปหาน้ำนิ่งเผยรอยยิ้มเล็กๆ ออกมา แล้วตบหน้าตักตัวเองร้องเรียกให้น้องส้มเข้าไปนั่ง น้องหัวเราะคิกคักเหมือนเจอของถูกใจ แต่ผมก็ยังลังเลเล็กน้อยจนมันขยับเข้ามาใกล้ๆ เหมือนเร่ง น้องก็เอาแต่เรียกหมีๆ ผมก็ปล่อยให้น้องผมถลาเข้าไปหามันโดยไม่คิดอะไรอีก  พอน้องส้มไปนั่งบนตักมันแล้วก็เหมือนตุ๊กตาตัวเล็กกับหมีตัวโตไม่มีผิด   
   ไอ้หมีกับน้องส้มเข้ากันได้ดีเกินคาด ผมคิดว่าแปบๆ น้องน่าจะร้องกลับมาหาผมแต่ไม่เลย นั่งยาว ดูจะถูกใจมาก พูดไม่หยุด น้ำนิ่งก็ฟังอย่างตั้งใจ รอยยิ้มไม่เคยเลือนไปจากใบหน้าเลยสักวินาทีเดียว เดี๋ยวก็หยิบป้อนเด็กก็เช็ดมือให้ ลูบหัวลูบหางกระชับกอดไม่ปล่อย ผมที่นั่งปอกผลไม้อยู่ตรงข้ามก็ได้แต่บันทึกภาพน่ารักๆ นี่ไว้ในใจพร้อมกับข้อมูลใหม่ที่ว่าไอ้น้ำนิ่งมันชอบเด็ก!
   ผมทนไม่ไหวลุกไปหยิบมือถือมาถ่ายรูปเก็บไว้หลายภาพ เห็นภาพแบบนี้แล้วบอกเลยว่าใจสั่นใบหน้าตอนมันยิ้มนี่รอยยิ้มคุณพ่อที่แสนใจดีชัดๆ 
   “น้องส้ม!”
   “น้าปุ้ย มากินผลไม้กันเปิ้ลไปเก็บมาจากสวนเลยนะ”
   “กินเลยลูกๆ น้องส้มไปทำการบ้านก่อน”
   “ส้มยังไม่อยากกลับอ่า” น้องส้มเริ่มงอแงนิดๆ ลุกขึ้นกอดคอไอ้หมีแน่น “พี่หมีสอนส้มทำการบ้านนะคะๆ”
   “ได้ๆ น้องส้มทำที่นี่ พี่สอนเอง เอ่อ..”
   “น้าปุ้ยเดี๋ยวหนูกับเพื่อนสอนน้องทำการบ้านเองนะ” ผมแทรกขึ้นเมื่อเห็นสายตาขอความช่วยเหลือจากน้ำนิ่ง มันยิ้มแฉ่ง น้องส้มก็หน้าบานพยักหน้าเห็นด้วยหงึกหงัก
   “เอาอย่างนั้นเหรอลูก ถ้าอย่างนั้นน้องส้มมาเอากระเป๋าเร็ว”
   “เปิ้ลไปเอาให้จ้า” เป็นผมที่ต้องลุกเพราะทั้งหลานทั้งแฟนกันมามองหน้าผมเป็นตาเดียวกัน ในสายตานั้นมีอะไรแฝงอยู่ ประมาณว่า ‘เปิ้ล/พี่เปิ้ลไปเอาให้หน่อย’ ก็รู้สึกดีที่สองคนสนิทกันได้ไว แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกว่าตัวเองถึงความเป็นขี้ข้าของตัวเองหน่อยๆ
   ผมเดินไปเอากระเป๋าของน้องกลับมาก็มีโต๊ะญี่ปุ่นตั้งรอแล้ว การบ้านเด็กอนุบาลไม่มีอะไรยากแต่ลำบากตอนต้องมานั่งอธิบายให้เด็กฟังนี่แหละ แต่น้ำนิ่งก็ทำได้ดี ไม่คิดว่ามันจะมีน้ำอดน้ำทนแถมยังอธิบายในฟังด้วยภาษาแบบเด็กๆ ด้วย ก่อนจะปิดสมุดก็วางรูปส่งท้ายให้อีก พอได้เห็นฝีมือวาดภาพของหมีแล้วน้องส้มก็ยิ่งตื่นเต้นบอกให้มันวาดเยอะๆ แล้วตัวเองจะระบายสี น้องให้วาดอะไรมันก็ทำวาดให้หมด ไอ้พีชกับไอ้มูนก็เข้ามาร่วมแจมด้วยจนทั้งห้องเต็มไปด้วยกระดาษ สักพักน้าปุ้ยก็มาตามคราวนี้ไม่ไปไม่ได้เพราะมันได้เวลานอนของเด็กแล้ว ก่อนน้องส้มจะไปน้ำนิ่งก็เอากระดาษที่ไม่ใช่แล้วมาพับโอริกามิให้ คราวนี้น้องเลยงอแงจะอยู่ต่อให้น้ำนิ่งสอนกระดาษ
   “น้องส้มได้เวลานอนแล้วนะลูก”
   “แต่หนูอยากอยู่พับกระดาษกับพี่หมี” น้ำนิ่งทำหน้ากระอักกระอ่วนเพราะมันแท้ๆ น้องเลยงอแงไม่ยอมไปอาบน้ำนอน
   “พรุ่งนี้นะส้ม พี่หมียังอยู่อีกหลายวัน” น้องยังลังเลง่วงก็ง่วงเพราะหาวออกมาหลายทีแต่ก็กลัวจะไม่ได้เล่น น้ำนิ่งยื่นมือออกไปลูบหัวเล็กๆ วางไปทีคือคลุมได้ครึ่งหัว ปลอบโยนเสียงอ่อน
   “พรุ่งนี้ค่อยมาเล่นกับพี่นะ ไม่หายไปไหนหรอก”
   “จริงนะ”
   “ครับ ฝันดี เด็กน้อย”
   จังหวะที่มันเอนไปจุมพิตเบาๆ บนหน้าผากน้องส้มเล่นเอาทั้งห้องเงียบกริบ อยู่สามวิน้องส้มก็หัวเราะเอิ๊กอ๊ากกระโดดหอมแก้มน้ำนิ่งไปทีจนถึงตอนนั้นทุกคนค่อยได้สติกลับมา น้าปุ้ยอุ้มน้องขึ้นแล้วบอกฝันดีก่อนจะเดินออกไปส่วนผมกับพวกที่เหลือรัวมือใส่มันไม่ยั้ง
   “เฮ้ย อะไร ตีทำไมเนี่ย”
   “มึงจะพรากผู้เยาว์เหรอ”
   “ไอ้น้ำนิ่ง ไอ้เหี้ย ไอ้หื่น กับเด็กอนุบาลก็ไม่เว้น”
   “น้ำนิ่ง.. เราจะฟ้องลูกหิน”
   “พอ.. พอ! เอ็นดูเว้ย! เอ็นดู”
   “ไอ้นี่นิ มึงเห็นไหมว่าแม่เขาตกใจแค่ไหน”
   “กูแค่เอ็นดูน้อง เปิ้ล~~” เถียงกับเพื่อนพร้อมตบหัวคืนเสร็จก็หันมาอ้อนผมที่ตีหน้าขรึมอยู่ “เราไม่ได้คิดอะไรแบบนั้น จริงๆ เปิ้ลครับ”
   “ลูกหินจะต้องร้องไห้ที่มีเพื่อนแบบนี้” พีชยังไม่เลิกพร่ำ มูนก็ยังพยายามจะเข้ามาเตะน้ำนิ่ง
   “พอเห้อ ขอร้องละ” น้ำนิ่งพูดออกมาอย่างอ้อนวอนแล้วผม กับคนอื่นๆ ก็หลุดหัวเราะออกมา พอรู้ว่าตัวเองโดนแกล้งน้ำนิ่งก็กระโดดถีบเพื่อนตัวเองจนล้มคว่ำ ผลักไล่พีชเบาๆ พอให้อีกฝ่ายล้มตึง ผมหมั่นไส้เลยตีปากมันไปที มันงงๆ ร้อง “เอ้า” แล้วก็เข้ามาช่วยผมเก็บของที่เกลื่อนกลาดอยู่บนพื้น
   “ปากไวนักนะ” ผมบ่น น้ำนิ่งพลางกระแซะออดอ้อนไม่หยุด
   “เอ็นดูๆ น้องน่ารัก”
   จริงๆ ก็แค่แกล้งมันเท่านั้นแหละ แต่ก็ยอมรับว่าตกใจอยู่เหมือนกัน ตกใจที่มันจุ๊บเหม่งของเด็กน้อยได้ละมุนละไมขนาดนั้น แค่เห็นยังรู้สึกอบอุ่นเลย ผมอมยิ้มให้น้ำนิ่งรู้ว่าผมไม่ได้โกรธอะไร แล้วมันก็หอมแก้มผมรัวๆ โดยไม่เกรงใจสายตาใคร
   “อะ.. พอเห็นว่าอยู่กับเพื่อนก็ไม่เกรงใจกันเล้ย”
   “นิสัยเสียทั้งคู่เล้ย”




   ตอนเช้าผมปลุกทุกคนมาทำบุญใส่บาตรด้วยกัน รับศีลรับพรสักหน่อยก่อนจะกลับเข้าไปนอนกันต่อ วันนี้ไม่มีใครมาลากน้ำนิ่งไปแกล้งเลยพากันนอนจนตะวันลอยเด่นอยู่กลางฟ้า เราหอบท้องไปกินอาหารกลางวันกันที่เขาพระตำหนักซึ่งเป็นจุดชมวิวประจำเมือง ต่อด้วยฟาร์มแกะ แล้วไปตลาดน้ำ เรียกว่าวนรอบเมืองเลย อยู่มาหลายวันเพิ่งจะได้เที่ยวกันอย่างจริงจังเลยจัดเต็มจัดหนักจนถึงเย็น ผมนี่ขับรถจนปวดตัว ไอ้หมีก็ดูเอ็นจอยกับการเที่ยวมากแต่พอขึ้นรถได้ก็หลับลูกเดียว พอกลับมาบ้านก็โดนพ่อลากไปไร่ต่อ มีมูนติดสอยห้อยตามไปด้วย ส่วนผมก็อยู่ช่วยแม่ที่ร้านกับพีช
   ร้านอาหารของเราคนก็ยังเยอะเหมือนเดิมพนักงานเดินกันแทบไม่ได้หยุดส่วนผมก็คิดเงินจนหัวหมุนบางทีก็ยกหน้าที่คิดเงินให้พีชแล้วตัวเองก็เข้าไปช่วยแม่ทำอาหารเพราะทำไม่ทัน หลังจากที่น้ำนิ่งกับมูนกลับมาพวกเราก็มานั่งกินข้าวด้วยกัน ผมไล่เพื่อนไปนอนเล่นในบ้านหลังจากกินเสร็จ น้ำนิ่งทำท่าจะอยู่กับผมแต่พอน้องส้มมาหามันก็อุ้มน้องกลับไปเล่นในบ้าน ดีแล้วละนะ เพราะมันก็ดูเหนื่อยๆ เข้าไปนั่งตากแอร์เย็นๆ เล่นกับน้องดีกว่า
   ช่วงสี่ห้าทุ่มคนเริ่มซาลงแล้ว ร้านข้าวต้มรอบดึกที่เช่าที่หน้าร้านไว้ก็มาเตรียมตัวเปิดร้านต่อ ผมตั้งใจจะกินข้าวต้มเป็นมื้อดึกก่อนเข้านอน ในตอนที่คิดว่าจะลุกไปชวนคนอื่นๆ มากินด้วยผมก็ต้องชะงักงันเมื่อหันไปพบกับชายหนุ่มที่เคยคุ้นตาในอดีตกำลังยืนส่งยิ้มมาให้
   “พี่นัท”








TBC.
23/12/17
กลับมาแล้วค่า นานแสนนาน นานมากจริงๆ ขอโทษนะคะ วันนี้จองบัตรเอสเจแล้วเราสัญญากับตัวเองว่าถ้าได้บัตรจะลงนิยาย! แล้วก็ได้จริงๆ ดีใจมากๆ เลยค่ะ แต่จริงๆ แต่ให้ไม่ได้ก็ว่าจะลงอยู่ดี คือมันนานมากแล้วจริงๆ ขอโทษนะคะ ㅠㅠ อีกนิดนี่อาจจะโดนย้ายไปอีกห้องแน่เลยค่ะ 5555
ตอนนี้เรากำลังหางานหลังจากเรียนจบก็เลยอยู่ในสถานะบัณฑิตว่างงาน ก็จะพยายามใช้เวลาว่างๆ ช่วงนี้แต่งให้ได้บ่อยๆ นะคะ ฮืออออ คล้ายๆ ว่าจะครบปีแล้ว เนื้อเรื่องก็ได้เกือบครึ่งแล้วนา ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะได้จบก่อนครึ่งปีหน้า เผื่อจะได้แต่งเรื่องใหม่สักที 5555 ยังไงก็ฝากติดตามกันต่อไปด้วยนะคะ
ขอบคุณทุกๆ คนมากค่ะ
Love Love
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-12-2017 22:19:18 โดย YEEUN9424 »

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ขอบคุณที่มาต่อจ้า

ออฟไลน์ YEEUN9424

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
Sleeping bear and Apple's Trap 19
#น้ำนิ่ง




   “ส้มอยากพับแมวเยอะๆ”
   “ครับๆ เอากี่ตัวดี”
   “สี่ตัวค่า แมวหนู แมวแม่ แมวพี่เปิ้ล แมวหมี”
   “แมวหมี.. ฮ่าๆ แค่คิดก็สยอง” เสียงไอ้มูนดังขัดเสียงหวานๆ ของน้อง ทำเอาตีนผมกระตุกถีบหลังมันไปที
   “มึงจะขัดน้องทำไม”
   “อย่าพูดขำหยาบต่อหน้าเด็กสิ น้ำนิ่งกับมูนนี่ไม่ได้เรื่องเลย” พีชแทรกขึ้นมา ผมกับเพื่อนรักเลยทำได้แค่แยกเขี้ยวใส่กันแล้วต่างคนก็หันไปสนใจกิจกรรมของตัวเองต่อ
   “อย่าเลียนแบบพี่นะ”
   “ค่ะ ส้มไม่ทำแบบนั้นหรอก เดี๋ยวแม่ตี”
   “ดีมากครับ” พอได้ลูบหัวนุ่มๆ ของเด็กน้อยแล้วหัวใจของผมก็รู้สึกเต็มอิ่มจนแทบจะล้นออกมา อธิบายไม่ถูกว่าความรู้สึกแบบนี้คืออะไร สิ่งมีชีวิตตัวน้อยๆ ที่กำลังเติบโต จะมองมุมไหนก็น่าบีบน่าจับไปหมด เห็นแล้วอยากพากลับบ้าน
   



   ผมสอนน้องส้มพับสารพัดสัตว์จนแทบจะสร้างสวนสัตว์กระดาษได้ เกือบจะลุกไปถามเปิ้ลแล้วว่ามีพวกเครื่องมือ กับไม้หรือเปล่าจะเอามาทำสวนสัตว์จำลองให้ครบเลยไปเลย แต่แม่น้องก็เข้ามาพาลูกสาวไปนอนซะก่อน พอเพื่อนเล่นไปแล้วผมก็ไม่มีอะไรทำเลยได้แต่นอนเอกเขนกดูไอ้มูนเล่นเกม พีชก็วิ่งเข้าวิ่งออก เดี๋ยวเอาขนม เดี๋ยวผลไม้มาให้ ไม่ต้องถามก็รู้ว่ามาจากใคร
   คิดถึงคนที่ช่วยแม่ทำงานอยู่ด้านนอก ผมอยากออกไปหาแต่ก็กลัวว่าจะไปกวนมากกว่า เลยได้แต่หยิบผลไม้ที่เปิ้ลปอกเข้าปากไม่หยุด ระหว่างนอนดูเพลินๆ ผมก็เผลอหลับไป
   ตื่นมาอีกทีก็เที่ยงคืนเข้าไปแล้ว ทั้งพีชทั้งมูนนอนเล่นมือถืออยู่คนละมุม มองซ้ายมองขวาไม่เจอคนที่อยากเจอเลยลุกไปดูตามห้องต่างๆ ก็ไม่เจอใคร กำลังจะเอ่ยปากถามประตูก็เปิดขึ้นแต่คนที่มาก็ยังไม่ใช่เปิ้ลอยู่ดี
   “มีใครจะกินข้าวต้มไหม”
   “ข้าวต้มลุงชัยเหรอ”
   “อือ พี่พีชกินเปล่า”
   “กิน! แล้วเปิ้ลล่ะ กินอยู่เหรอ” แอบยกนิ้วโป้งให้พีชในใจ ขอบคุณที่ถามในสิ่งที่อยากรู้อย่างกับเข้ามานั่งกลางใจอย่างนั้นแหละ ผมเฝ้ารอคำตอบไอ้น้องชายก็ทำอ้ำอึ้ง เดี๋ยวมองผม เดี๋ยวเอ่ออ่าเหมือนคนไม่รู้วิธีพูดขึ้นมาซะอย่างนั้น
   “อ่า.. เอ่อ.. ก็กินอยู่”
   “งั้นออกไปกัน ปะ น้ำนิ่ง! มูน!” พอพวกผมขยับตัวลุกขึ้นไอ้น้องชายกลับกางแขนไม่ให้
   “พวกพี่รออยู่นี่แหละ เดี๋ยวผมเอามาให้”
   “ลำบากทำไม เดี๋ยวออกไปกินข้างนอกกับเปิ้ลไง”
   “เอ่อ.. คือ.. พี่เปิ้ลอะ เขา..”
   “เปิ้ลทำไม” ในที่สุดผมก็เปิดปาก มันทำไมวะ กูจะออกไปกินกับแฟนเนี่ย! แอบเห็นว่าไอ้น้องชายมองผมตาขวางติดจะรำคาญนิดๆ
   “พี่เปิ้ลคุยกับแฟนเก่าอยู่ พวกพี่ไม่ต้องไปกวนเลย”
   อ้าว ไอ้ชิบหาย!
   ผมถึงกับไปไม่เป็น คือแฟนเก่าเปิ้ลมาหาแล้วกูต้องหลบอยู่เฉยๆ อย่างที่ไอ้น้องชายว่าเหรอวะ ผมหันไปมองพีชกับมูนอย่างขอความช่วยเหลือ
   “ฮะๆ น้องตลกแล้ว แฟนคนปัจจุบันมันอยู่นี่จะให้มานั่งรอเฉยๆ แบบนี้ได้ไง” พูดได้ดีเพื่อนรัก
   “หรือพี่ไม่ไว้ใจพี่ผม” ไอ้น้องชายหันมาพูดกับผม แม้ว่าผมจะเห็นน้องมันเต็มตาแต่ก็หวังว่าใบหน้าที่อีกฝ่ายมองเห็นจะไม่ติดง่วงงุนเหมือนคนง่วงนอนหรอกนะ เราจ้องตากันอย่างไม่มีใครยอมใคร รู้อยู่ว่าท่าทีของน้องแฟนมันออกจะต่อต้านผมอยู่หน่อยๆ แต่ตอนนี้รู้แล้วว่าไม่หน่อย นี่มันมากทีเดียว เหี้ยเถอะ ให้ผมรอแฟนนั่งคุยกับแฟนเก่าอยู่ในบ้าน ใครยอมก็บ้าแล้ว
   ผมไม่ได้สนใจไอ้น้องชายอีก ลุกขึ้นเต็มแรงมีเซนิดหน่อย แต่ยังไม่ทันจะได้เดินประตูก็ถูกเปิดอีกครั้ง ผมอมยิ้มคราวนี้เปิ้ลแน่ๆ แต่แล้วผมก็ต้องผิดหวังห่อเหี่ยวเป็นต้นไม้ขาดน้ำเพราะคนที่เข้ามาคือคุณแม่ของเปิ้ลที่ยกถาดอาหารที่มีชามข้าวหอมกรุ่นเข้ามาสี่ชาม
   “มื้อดึกสักหน่อยนะลูก”
   “เอ่อ.. แม่ เปิ้ลทำอะไรอยู่เหรอ” เป็นอีกครั้งที่พีชรู้ใจผม คุณแม่ยังคงยิ้มหวาน ชี้ให้ลูกชายกางโต๊ะญี่ปุ่นออกก่อนจะวางถาดลง หอม..
“เปิ้ลคุยกับพี่นัทอยู่ลูก หรือพวกเราอยากออกไปกินข้างนอกกับเปิ้ล? แต่แม่กลัวจะกวนสองคนนั้นเขาคุยกัน กินในนี้   แหละเนอะ เดี๋ยวเปิ้ลก็มา”
   ผมอยากตะโกนออกมาดังๆ ว่า WTF!! เหมือนแม่แค่พูดอมยิ้ม ถามไถ่แล้วออกความเห็นแต่ผมกลับรู้สึกว่ามันเป็นคำสั่ง
   แม่ครับ.. นี่ผมเอง น้ำนิ่งแฟนของเปิ้ลไง




   ถึงข้าวต้มรอบดึกจะหอมกรุ่น อร่อยกลมกล่อมแค่ไหนก็ไม่ทำให้ใจของผมชุ่มชื่นขึ้นมาได้ ถูกกีดกันและกักขังด้วยของกินอย่างไม่เต็มใจ ผมตักข้าวต้มเข้าปากอย่างรวดเร็ว ไม่สนว่ามันจะลวกลิ้นหรืออะไร ตอนนี้ใจผมมันออกไปอยู่ข้างนอกเรียบร้อยแล้ว อยากจะเห็นหน้าแฟนเก่าของเปิ้ลนัก อยากจะรู้ว่าดูดี สุภาพบุรุษ น่าเชื่อถือ น่าชื่นชม เหมาะสมกับเปิ้ลสักแค่ไหน
   ถามว่าผมรู้ข้อมูลพวกนั้นได้ยังไงเหรอ? ก็ไอ้น้องชายนี่ไง พูดไม่หยุดปาก ทั้งโต๊ะมีมันพูดอยู่คนเดียว พี่นัทดีอย่างนั้น สุภาพบุรุษอย่างนี้ ตอนคบกันใครๆ ก็ว่าเหมาะสมกันอย่างกับกิ่งทองใบหยก ไม่มีใครขัดขวางสักคน มีแต่คนเชียร์ให้รักกันไปนานๆ .... พูดกรอกหูจนผมอยากจะเอาข้าวต้มกรอกใส่หูไอ้น้องชายคืนบ้าง
   “พี่นัทกับพี่เปิ้ลเหมาะสมกันมาก อีกคนก็น่ารัก อีกคนก็พึ่งพาได้ ไม่เหมือนคนบางคน..”
   ก็พอจะรู้ตัวอยู่ว่าไอ้น้องชายมันไม่ค่อยจะชอบหน้าผมสักเท่าไร... แต่มึงไม่ต้องย้ำบ่อยก็ได้ ใจกูบางยิ่งกว่าหมูสไลด์แล้วตอนนี้ คำพูดของมันทำให้ผมนึกไปถึงเรื่องเมื่อวันก่อนที่สวน เหตุการณ์หลังจากที่พ่อตาไล่ผมกลับมาหาเปิ้ล..
   “ใครมันจะอยากฝากลูกตัวเอง พี่ตัวเองไว้กับคนไม่ได้เรื่องละ”
   “พี่ลองเอาไปคิดดูดีๆ นะ ก็ไม่ใช่ว่าอยากจะให้เลิกกันไปเลย แต่ผมอยากให้พี่เจอคนที่พร้อมดูแลพี่มากกว่านี้ก็แค่นั้น”
   คำพูดพวกนั้นทำเอาผมสะอึก แม้ว่าผมไม่อยากจะยอมรับแต่เชื่อเถอะว่าตอนนี้ในหัวของผมมีแต่คำว่า ‘มึงมันไม่ได้เรื่อง ดูแลใครไม่ได้’ ยิ่งเห็นเปิ้ลไม่สามารถโต้อะไรกลับไปได้มันก็ยิ่งตอกย้ำว่าทุกอย่างคือความจริง
   ไม่แปลกที่ไอ้น้องชายจะไม่ชอบผม บางทีอาจจะรวมไปถึงแม่ของเปิ้ลด้วย..
   “มาแล้วจ้า นิ่งกินข้าวต้มยัง”
   เสียงใสของเปิ้ลดึงผมออกจากหลุมดำ รู้สึกเหมือนเทพีมาโปรด ใบหน้าหวานใสประดับด้วยรอยยิ้มพุ่งตรงมาหาผม พอเห็นว่าข้าวในชามยังเหลือก็แย่งช้อนมาตักป้อนผมทันที ผมอ้าปากรับอย่างเป็นสุข ความทุกข์ใจเมื่อครู่สลายหายไปสิ้น แต่พอเหลือบไปเห็นสีหน้าของไอ้น้องชาย และแม่เปิ้ลแล้วหน้าผมก็เหมือนกับถูกย่อส่วนลงไปจนเหลือสองนิ้ว เอาช้อนคืนมากินเองแล้วขยับเข้าไปชิดๆ เปิ้ลแทน
   “พี่นัทกลับแล้วเหรอลูก”
   “อือ กลับแล้ว นึกว่าแม่ไปนอนแล้วนะเนี่ย”
   “แม่เอาข้าวต้มมาให้เด็กๆ น่ะ จะไปนอนแล้วละลูก” พอแม่เปิ้ลเดินออกไปผมถึงได้หายใจคล่องหน่อย แต่หน้าก็ยังบานมากไม่ได้เพราะไอ้น้องชายยังอยู่
   “พี่คุยอะไรกับพี่นัท จะรีเทิร์นปะ”
   “พูดอะไรของมึง ไปนอนไป”
   “ตอบมาก่อน จะคืนดีกันเปล่า จะคืนดีกันไหม”
   เปิ้ลขมวดคิ้วยุ่งก่อนจะโบกเข้าไปที่หัวน้องชายตัวเองแรงๆ หนึ่งที ทำเอาพวกผมสามคนครางออกมาพร้อมกัน เพราะน้ำหนักมือของเปิ้ลแรงจนไอ้น้องชายหน้าทิ่มโต๊ะ
   “พูดไม่รู้เรื่อง คืนดงคืนดีอะไร แฟนกูอยู่นี่!”
   “อูยยย พี่ก็เล..”
   “เอ๊ะๆ จะพูดอะไรคิดดีๆ นะ รอบนี้ปากแหกเลยนะ” ไอ้น้องชายถึงกับอ้าปากเหวอตาค้างไปไม่เป็น อ้าปากพะงาบๆ ไร้เสียง เหมือนเจอผีหลอกก่อนจะลุกวิ่งหนีไป
   “โหดร้ายมากเปิ้ล”
   “ก็ไอ้พู่มันพูดไม่รู้เรื่อง”
   “แล้วคนที่ชื่อพี่นัทนี่แฟนเก่าเปิ้ลจริงๆ เหรอ” ไอ้มูนถามในสิ่งที่หลายๆ คนอยากรู้
   “จริง”
   “ทำไมเราไม่เคยรู้” พีชครางงุงงิ้งแทรกผมที่กำลังจะขยับปากพูดประโยคเดียวกัน ทุกคนหันไปมองพีช พร้อมกับส่งสายตาเอือมๆ ให้อย่างพร้อมเพรียง
   “คบกันตั้งแต่ม.ปลาย เลิกกันตอนเราขึ้นมหาลัยพอดี”
   “เลิกกันด้วยดีเหรอ”
   “อือ พี่เขาเรียนอีกที่ เราเรียนอีกที ต่างฝ่ายก็ไม่แฮปปี้กับการที่จะอยู่ไกลกันก็เลยลดความสัมพันธ์เหลือแค่พี่น้อง” เปิ้ลอธิบายยาวเหยียด พร้อมกับมองหน้าผมไปด้วย เมื่อไม่มีใครพูดอะไรขึ้นมา เปิ้ลก็พูดต่อ “แต่ก็.. ไม่ได้คิดจะกลับไปนะ เป็นพี่น้องที่ดีต่อกัน เบองร์ทงเบอร์โทรมีก็จริง แต่ไม่เคยติดต่อ นานๆ คุยที เนี่ยเพิ่งจะได้คุยจริงๆ จังๆ ในรอบสามปี ไม่มีอะไรจริงๆ”
   ถ้าผมไม่เข้าข้างตัวเองจนเกินไป ผมคิดว่าตอนนี้เปิ้ลกำลังอธิบายให้ผมฟังอยู่
   “โอเคๆ เราก็ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย อย่าให้เห็นว่าทำอะไรลับหลังนะ” พีช..
   “อะไรของมึงพีช เป็นแฟนกูหรือไง” ในที่สุดเปิ้ลก็ทนไม่ไหวจัดการเพื่อนตัวเองไปอีกที
   “แสร้งเป็นน้ำนิ่ง” ทุกคนก็หัวเราะออกมาพร้อมๆ กัน ผมเองก็พลอยยิ้มออกมาได้
   “อย่าคิดอะไรเพี้ยนๆ เชียวนะ”
   “อื้อ ไม่คิด” ว่าพลางซุกหน้าลงกับไหล่บางๆ ของเปิ้ล รู้สึกโล่งเมื่อได้ฟังคำอธิบายจากเจ้าตัว ในอดีตก็คืออดีต ผมไม่คิดจะเอามาทำให้เรื่องปัจจุบันต้องมัวหมอง ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็ปล่อยให้มันเป็นไป เพราะผมก็เป็นของผมแบบนี้




   หลังจากที่เที่ยวกันจนจะทั่วจังหวัดในที่สุดก็ได้เวลากลับไปทำหน้าที่นักศึกษาสักที แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ง่ายเพราะคุณพ่อตายังอยากพาพวกเราเที่ยวอยู่
   “หา จะเอามันไปสนามชนไก่ด้วย? พ่อ พอเถอะ จะกลับแล้ว”
   “อะไร อยู่ต่ออีกหน่อยสิ พาไปเที่ยวที่สนามชนไก่ก่อน”
   เออ น่าสน สนามชนไก่.. เปิ้ลล็อคแขนผมไว้แน่น เพราะผมทำท่าจะลุกตามคุณพ่อตาไปจริงๆ
   “น่าสน!” ไอ้มูนดี๊ด๊า ตีปีกพับๆ
   “ใช่มั้ยละ ไอ้หนุ่มหน้ามน ไป ไปเตรียมตัว ค่อยกลับวันอื่น”
   “พอได้แล้วน่า ตาลุง” ผมชะงักเมื่อคุณแม่พูดขึ้น เหลือบมองผู้หญิงวัยกลางคนที่มีรอยยิ้มประดับอยู่บนใบหน้าเสมอ แล้วก็ได้แต่ตัวลีบอยู่ข้างๆ คนรัก
   หลังจากวันที่แฟนเก่าเปิ้ลมา แม่ก็ไม่ได้พูดอะไรทำนองนั้นกับผมอีก ไม่ได้แสดงออกว่าไม่ชอบผมชัดเจนเหมือนไอ้น้องชาย แต่ก็ไม่ให้ความสนิทสนมเหมือนที่คุณพ่อตาทำ
“อะไรเล่าแม่ พ่อจะพาเด็กๆ ไปเที่ยว”
   “เด็กๆ จะกลับแล้ว อีกอย่างจะไปสนามชนไก่ทำไม มีแต่ลุงๆ คนแก่ๆ”
   “แม่นี่ไม่รู้อะไร ให้เด็กมันได้รู้จักการละเล่นพื้นบ้านซะบ้าง ก่อนที่มันจะหายไป”
   “แน่ใจว่าแค่การเล่นๆ ไม่ได้ใช่เงินเลย?”
   “ฮ่าๆ ๆ นานๆ ทีน่ะแม่” แม่จ้องอย่างเอาผิด ส่วนพ่อตาก็หัวเราะอย่างกลบเกลื่อน เปิ้ลอมยิ้มแล้วบอกให้ทุกคนเก็บของเมื่อหัวหน้าทีมโดนสกัดดาวรุ่งก่อนใครเพื่อน
   “เอ้อ กลับก็กลับ ปิดเทอมหน้ามาอีกนะพวกเอ็ง”
   พวกเราตอบรับกันพร้อมเพรียง เก็บของขึ้นรถเตรียมตัวออกเดินทาง ยังไม่ทันได้สตาร์ตรถพ่อเปิ้ลก็มาเคาะกระจกหน้าเครียด
   “เอาไอ้สองไปด้วยมั้ยพ่อหนุ่ม”
   “พ่อ! ที่หอเลี้ยงไก่ไม่ได้!!”
   ครับ.. ในที่สุดปิดเทอมปีสามก็จบลง โดยที่ผมเกือบได้ไก่กลับมาเลี้ยงที่ห้อง





   พอเปิดเทอมทั้งผมและเปิ้ลต่างก็มีหน้าที่การงานที่ต้องรับผิดชอบไม่หยุดเปิ้ลต้องไปสังเกตการณ์สอนในโรงเรียนมากกว่าปีก่อนๆ เพื่อเตรียมพร้อมในการฝึกสอนปีหน้า ส่วนผมก็มีงานชิ้นใหญ่ๆ เข้ามาตั้งแต่เปิดเทอม เราเลยไม่ค่อยจะได้เจอกันเท่าไรนัก  มีแค่เสียงจากมือถือกับข้อความทางไลน์เท่านั้นที่ทำให้รู้ว่าอีกฝ่ายยังอยู่
   วันนี้ผมขุดตัวเองขึ้นจากเตียง ล้างหน้าแปรงฟันพอสะอาดแล้วออกไปหาเปิ้ลแต่เช้า จับเปิ้ลมาเป็นหมอนข้าง นอนกอดตลอดช่วงสายยันบ่าย เอาให้หนำใจ ให้สมกับที่ไม่ได้กอดมาเป็นอาทิตย์ๆ
   “เปิ้ล มาอยู่ด้วยกันมั้ย” ในระหว่างกินมื้อแรกของวันในเวลาสามโมงเย็นผมก็พูดเข้าประเด็นคิดอยู่ตลอดในช่วงนี้ คนตรงข้ามเงยหน้าขึ้นจากจานข้าว กะพริบตาปริบๆ
   “ทุกวันนี้ไม่ได้อยู่ด้วยกันเหรอ”
   “ไม่ แบบย้ายมาอยู่ด้วยกันไง”
   “ถ้าเลิกกันเราจะไปอยู่ที่ไหนอะ”
อ้าว เปิ้ล… ก่อนที่อาหารมื้อนี้จะเป็นหมันเพราะผมเริ่มวางช้อนลง เปิ้ลก็หัวเราะออกมาเสียงดัง
   “ล้อเล่นน่า โอ๋ๆ”
   “หน้าเสียเลย ตกใจเหรอ”
   “ให้เราพูดแบบนั้นบ้างไหม” หน้าของผมแม่งต้องตลกมากแน่ๆ เปิ้ลถึงได้หัวเราะไม่หยุดอย่างนี้
   “ล้อเล่นน้า” ว่าพลางตักไก่ให้ผมเต็มจาน ซึ่งผมก็ตอบรับด้วยการยัดเข้ามาอย่างไม่รั้งรอ “แต่ไม่ย้ายนะ”
   “…” ผมว่าลิ้นผมกำลังจะมีปัญหากับกับข้าวมื้อนี้เดี๋ยวอร่อยเดี๋ยวไม่อร่อย
   ”เราต้องมีพื้นที่ และเวลาส่วนตัวให้กันและกัน ถูกเปล่า เพราะงั้นไปๆ มาๆ แบบนี้แหละดีแล้ว เนอะ?” ใจผมไม่นงไม่เนอะอะไรด้วยทั้งนั้นแต่ก็ต้องพยักหน้าพร้อมกับส่งเสียออกไปแสนเบาว่า “ก็ได้”

   หลังจากหลับไปตื่นหนึ่งผมก็เดินโซเซออกมาข้างนอก แอบมองอีกคนอยู่ตรงกรอบประตู มองด้านข้างใบหน้าที่เรียวสวย แอบมีแก้มนิดๆ จมูกโด่งเพียงพอที่จะดันแว่นไว้ได้ แอบดูอยู่ได้สักพักก็ตัดสินใจเดินเข้าไปหาเจ้าของห้องที่กำลังเคร่งเครียดอยู่หน้าจอคอม บนโต๊ะแทบไม่มีที่ว่างเหลือเพราะเต็มไปด้วยหนังสือ และเอกสารมากมาย มีเสียงเครื่องปริ้นทำงานดังเป็นซาวด์ประกอบ
   “น้ำนิ่ง!”
   “หะ หือ”
   “ไปเอาน้ำมาให้หน่อย น้ำโค้กนะ” หมุนตัวกลับไปห้องครัวแทบไม่ทัน
   “เปิ้ลทำไร”
   “เรากำลังทำชีทเรียนภาษาไทยอยู่”
   “หือ?” ผมลากเก้าอี้มานั่งข้างๆ แกะขนมที่หยิบติดมือมาด้วย
   “มีพี่ติดต่อมาให้ไปสอนภาษาไทยให้พนักงานในบริษัทน่ะ”
   “ต่างชาติเหรอ”
   “ใช่ ช่วงนี้เลยยุ่งมากเลย รายงาน การบงการบ้านก็เยอะ” บ่นพร้อมกับขยี้ผมตัวเองจนฟู แต่ก็ยังน่ารักมากอยู่ดีในสายตาของผม
   “ก็ไม่ต้องทำสิ”
   “เราอยากได้ประสบการณ์ สอนเด็กกับสอนผู้ใหญ่มันไม่เหมือนกัน”
   “แต่นี่เปิ้ลต้องไปสอนภาษาไทยให้ต่างชาตินะ”
   “เราก็จะได้ใช้ภาษาอังกฤษเยอะๆ ไง จะได้เก่งกว่านี้ อยากได้ประสบการณ์หลายๆ แบบ ถึงจะเหนื่อยแต่เราว่ามันสนุก”
   เปิ้ลเอนตัวทิ้งน้ำหนักมาที่ผมทั้งตัว บ่นเรื่อยเปื่อย แต่ไม่ได้จริงจัง เหมือนกับบ่นเพื่อให้ตัวเองสบายใจ ปลดปล่อยหลายๆ อย่างก่อนจะเด้งตัวขึ้นมานั่งตรงแสดงออกมาอย่างมุ่งมั่นแล้วก็เริ่มจัดการกับสิ่งที่ตัวเองต้องทำต่อ ผมนั่งอยู่ข้างๆ ค่อยให้คำปรึกษาเล็กๆ น้อยๆ แต่ส่วนมากก็เป็นคำแนะนำที่ไม่ได้ความเท่าไร ผมเลยปลีกตัวออกมานั่งมองเองหลังเล็กๆ ที่กำลังตั้งใจทำหน้าที่ของตัวเอง
   ผมตื่นขึ้นมาอีกทีก็ตอนที่เปิ้ลเขย่าตัวผมไม่หยุด ใบหน้าอิดโรยส่งยิ้มมาให้ผม ก่อนจะชี้ไปที่โต๊ะอาหารที่มีกับข้าวเตรียมรออยู่แล้ว ผมงัวเงียยังไม่ตื่นเต็มตามองแผ่นหลังเปิ้ลที่เดินออกไป หัวใจกลับรู้สึกหนึบหนับแปลกๆ คิดถึงความรู้สึกบางอย่างที่เกิดขึ้นช่วงเวลาก่อนที่ผมจะหลับไป
   เหงา.. และห่างไกล
   ความรู้สึกที่ผมไม่ได้สัมผัสมานาน

TBC
18/04/18
หายไปมากกว่า 3 ชาติ เราควรโดนทุบสักที หลังจากเรียนจบเราก็พักผ่อน และไปเที่ยวนิดหน่อย นิดหน่อยจริงๆ เพราะไม่ทันไรเราก็พาชีวิตตัวเองเข้าสู่ระบบมนุษย์เงินเดือน นี่ก็ผ่านมาสองเดือนแล้ว ทุกอย่างเหมือนจะเริ่มเข้าทีแต่ก็ยังไม่ลงตัวเท่าไร(?) แน่นอนว่ามันเหนื่อยและยุ่งมาก ต้องเรียนรู้ ต้องปรับตัว ทำให้เราแทบไม่มีกลั่นกรองตัวหนังสือออกมาเลย ใจอยากทำแค่ไหนร่างกายก็พาลจะพัก จะนอนให้ได้อย่างเดียว เพราะฉะนั้น ขอโทษจริงๆ ค่ะ ขอโทษที่หายไปนานขนาดนี้ เราไม่โกรธเลยที่คนจะลืมเพราะทำตัวเอง หายเอง ไม่มีเวลาเอง แต่ถ้าแวบผ่านมาแล้วก็ขอกำลังใจ ส่งเสียงให้รู้ว่ายังมีคนรอหมีกับเปิ้ลอยู่หน่อยนะคะ แฮ่ นิยายเรื่องนี้มาถึงครึ่งทางแล้ว อย่างที่บอกเราสัญญาว่าเรื่องนี้ยังไงก็จบค่ะ ไม่ทิ้ง มีกำหนดในใจแล้ว แต่ยังไม่อยากบอกเพราะกลัวทำไม่ได้ 5555555
ขอขอบคุณ และขอโทษอีกครั้งนะคะ
แล้วพบกันตอนหน้าค่ะ
Love Love



ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
อย่าดราม่านะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ momonuke

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 753
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
ติดตามค่า สนุกดี ฮือออออออออ เราแอบชอบชื่อเรื่องมากๆเลย :mew1:

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
สงสารหมีจังเลย เหงาแทน เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคะ ช่วงทำงานใหม่ๆนี่เหนื่อยจริงๆค่ะ นี่ก็เพิ่งผ่านมาได้ไม่นาน  :ling3:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด