พิมพ์หน้านี้ - ●● Sleeping Bear and Apple's Trap ●● [19 #น้ำนิ่ง - 18/04/18 ● P.4] ●●

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบ => ข้อความที่เริ่มโดย: YEEUN9424 ที่ 01-02-2017 20:33:02

หัวข้อ: ●● Sleeping Bear and Apple's Trap ●● [19 #น้ำนิ่ง - 18/04/18 ● P.4] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: YEEUN9424 ที่ 01-02-2017 20:33:02
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม





★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★



เรื่องราวของหมีขี้เซาที่ถูกล่อลวงด้วยแอปเปิลหวาน
[/font][/size]


(http://upic.me/i/fy/2large.jpg)


หวานเป็นลมขมเป็นยาฉันใด
แอปเปิลก็เป็นกับดักไว้ล่อลวงหมีขี้เซาฉันนั้น
[/font][/size]




หัวข้อ: Re: Apple's Trap [0 - 1/2/17]
เริ่มหัวข้อโดย: YEEUN9424 ที่ 01-02-2017 20:34:15
Apple’s Trap 0


หวานเป็นลมขมเป็นยาฉันใด
แอปเปิลก็เป็นกับดักไว้ล่อลวงหมีขี้เซาฉันนั้น

   ใบหน้าคมที่ดูเนือยๆ ไปกับทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัว ดวงตาคมกริบแทบจนลืมไม่ขึ้นเพราะอยากนอนเต็มแก่ ท่วงท่าการเดินที่ชวนให้ใจหายเพราะมันทำท่าจะล้มฟุบได้ทุกเมื่อทำเอาเพื่อนๆ มองตามด้วยความหนักใจ
   ถ้าไม่ติดว่ามันเป็นกีฬาของคณะและคนไม่พอก็คงไม่ไปขอรบกวนไอ้หมีขี้เซานี่หรอกนะ รู้ว่ามันขี้เกียจและชอบนอนมากแค่ไหน ดูมันเถอะ แค่เดินยังพร้อมจะล้มไปนอนกับพื้นได้ตลอดเวลา ตาก็พร้อมจะปิดสวิตซ์ทันทีถ้าหัวถึงหมอน
   ‘น้ำนิ่ง’ วิ่งเหยาะๆ ไปตามสนามบอลอย่างคนไม่มีแรง นี่มันคือเวลาพักผ่อนไม่ใช่เวลาซ้อมกีฬา! ถ้าเรียกมาซ้อมตอนเขานอนอิ่มๆ จะไม่ว่าเลย นี่อะไร เรียนเสร็จรีบลากมาสนามแบบนี้ โคตรทำร้าย ไก่ก็ไม่มีให้แดก!
   ทำหน้าเซ็งให้เพื่อนระอาไปหนึ่งทีแต่เท้าก็ยังคงวิ่งอยู่ ก็นะ ถ้าต้องเลือกต่อสู้กับไอ้แมมมอธประธานรุ่นที่ขู่จะเอาถึงสีมาราดที่นอนของเขาที่คอนโดแล้วละก็ยอมหลับในวิ่งไปก่อนก็ได้
   แก๊งค์สถาปัตยกรรมวิ่งตามกันเป็นแถวเพื่อวอร์มร่างกายให้พร้อมก่อนลงซ้อมแบบจริงๆ จังๆ และเพราะเป็นช่วงเย็นที่อยู่ในช่วงกีฬาของมหาลัยนักศึกษาต่างก็พากันออกมาซ้อมกันอย่างขะมักเขม้น ไหนจะพวกที่มีความเฮลท์ตี้ในตัวอีก สนามบอลที่ควรมีแต่ลูกบอลและคนเตะก็มีทั้งตระกร้อ เปตอง บลาๆ สารพัดลูกกลมๆ รวมไปถึงวอลเลย์บอลที่พอจะอนุโลมได้เพราะทั้งสองฝั่งของสนามบอลมีพื้นที่เป็นเหมือนโดมที่มีเน็ตของวอลเลย์บอลขึงไว้อยู่
   “เฮ้ย! ซ้ายๆ”
   “มึงรับดีๆ ดิ๊!”
   “กูกลัวแขนหักกกกก”
   “ควายยยย อย่ามาสำออย”
   เสียงตะโกนของคนเล่นวอลเลย์บอลตรงหน้าไม่ได้ทำให้น้ำนิ่งนึกขึ้นมาสนใจได้ จนกระทั้ง ..
   ตุ้บ!
   ดวงตาปรือๆ เบิกกว้างเล็กน้อยพอให้เห็นว่ามีเนื้อหนังสีขาวในชุดนักศึกษาเซล้มมาชนเขา กลิ่นหอมหวานทำเอาลืมความอยากนอนไปชั่วขณะ
   “ขะ.. ขอโทษครับ”
   ทุกสิ่งรอบด้านดูจะหยุดไปเมื่อได้ยินเสียงพูดเบาๆ แต่สะท้อนก้องไปทั้งหู
   “อืม”   
   ผู้ชายคนนั้นเดินกลับเข้าไปในสนามวอลเลย์บอลเหมือนเดิมแล้ว มีแต่เขาที่ยังยืนนิ่งค้างอยู่ตรงนี้ที่ข้างสนาม มองเข้าไปก็เห็นร่างขาวๆ กำลังย่อตัวตีบอล หัวเราะเฮฮาใส่เพื่อนไม่หยุด ในขณะที่ตัวเขานิ่งงันเหมือนถูกหยุดเวลาไว้
   เพราะคนคนนั้นเลย
   ผัวะ!
   เต็มๆ หนึ่งทำเอาหัวสะบัด
   “มึงอย่างมายืนหลับ ไปๆ วิ่งต่อ”
   เขาสะบัดหัวไล่ความมึนงงจากการโดนตบ ก่อนจะตั้งท่าออกวิ่งอีกครั้ง ก่อนไปก็มองไปยังร่างขาวๆ นั่นอีกที
   อ่า.. ทำเอาตื่นเลยแฮะ
   ตาตื่น
   ใจตื่น
   ถ้าอยู่นานกว่านี้ไอ้ข้างล่างตรงระหว่างขาก็คงจะตื่นตามไปด้วย



TBC..
Up; 01/02/17

[/font][/size]
หัวข้อ: Re: Apple's Trap [0 - 1/2/17]
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 01-02-2017 22:34:36
จากง่วงๆนี่ตื่นเลย  :hao7:
ติดตามค่าาาา  :L2:
หัวข้อ: Re: Apple's Trap [0 - 1/2/17]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 01-02-2017 23:15:25
 :L2: :L2: :L2:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Apple's Trap [1 #น้ำนิ่ง - 2/2/17]
เริ่มหัวข้อโดย: YEEUN9424 ที่ 02-02-2017 08:54:31
Apple’s Trap 1
#น้ำนิ่ง


   “มึงมานั่งหลับในอะไรแถวนี้วะ ไอ้หมีนิ่ง”
    ผมหลบมือเพื่อนที่กำลังจะตรงเข้ามาที่หัวแล้วกระดกน้ำเข้าปากอย่างไม่แยแส ไม่อยากตอบ ไม่อยากคุย เชี่ยนี่นิสัยไม่ดี บดบังทัศนียภาพกู
   พอเห็นว่าผมไม่ยอมตอบ แถมไม่สนใจมันก็ฮึดฮัดแล้วนั่งลงข้างๆ แทน รื้อเอาไก่ที่ผมซื้อมาเป็นเสบียงไปเปิดแดกโดยไม่ขอ เอาเถอะ ถ้าทำให้มันไม่มาก่อกวนผมได้ก็โอเค กูยอมให้หนึ่งมื้อ
   ผมชื่อน้ำนิ่ง ไอ้เพื่อนเวรข้างๆ นี่ชื่อมูน คบกันมาตั้งแต่เข้ามหาลัย ถูกชะตาอะไรไม่รู้ อยากจะเลิกคบแต่ก็ทำไม่ได้ เพราะคนอย่างผมเข้ากับมันและเพื่อนอีกสองคนที่หายหัวไปไหนไม่รู้ได้ดีที่สุดแล้ว เคยลองไปอยู่อีกกลุ่มครั้งหนึ่งตอนทะเลาะกันเรื่องแย่งไก่ ผมงอน เลยหนีไปกับอีกกลุ่ม อยู่ได้ไม่ถึงวันพวกแม่งก็ไปตามไอ้มูน ไอ้เจ้า ไอ้หินมารับผมกลับถิ่นทันที พอถามเหตุผลมันก็บอกว่า ‘พวกกูเลี้ยงหมีขี้เซาไม่เป็น ไม่ไหว ขอบาย’
   ห่า ใครหมีขี้เซาวะ
   เออ.. พอก่อน พอเรื่องในอดีตมาที่ปัจจุบันดีกว่า ทำไมไอ้มูนต้องมาตามผมแบบนี้ก็เพราะว่าสองสามวันที่ผ่านมา ก่อนจะต้องโดนหิ้วไปซ้อมบอลที่ผมไม่เคยคิดอยากจะลงผมมักจะหนีมาที่สนามก่อน ไม่ใช่สนามบอลแต่เป็นสนามข้างเคียงอย่างวอลเลย์บอลต่างหาก
   ลากแก้วอี้แดงมานั่งๆ มองนกมองไม้ มองบอลที่ลอยบ้าง โดนตบ โดนตีเหมือนคุณลุงที่ไม่มีห่าไรทำ แต่ขอบอกก่อนว่าสิ่งที่ผมมองจริงๆ ไม่ใช่ไอ้ที่บอกไปด้านบนแต่เป็นคนตัวขาวนั่นต่างหาก
   ผู้ชายตัวขาวผ่องเป็นยองใยผิดกับผมที่มีผิวสีแทนผิดเหล่าไปจากที่บ้าน ขนาดกูเอาแต่นอนกับกินอยู่ในที่ร่มผิวยังแทนขนาดนี้ไม่อยากจะนึกว่าถ้าเป็นพวกเอ้าดอร์แล้วจะแทนขนาดไหน เรื่องสีผิวผ่านไปมาต่อที่คนตัวขาว เขาร่างสูงโปร่งแต่ดูแล้วไม่มีทางที่จะสูงกว่าผมแน่นอน สีเสียงหวานๆ และรอยยิ้มเป็นเอกลักษณ์ ผมมองเพลิน รู้เลยว่าคนนี้โดนใจ และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกแบบนี้
   บางวันเขาก็มาในชุดนักศึกษาเสื้อสีขาวแขนสั้นบ้างยาวบ้าง กางเกงขาเดฟรัดรูป มีรอยขาดพอให้เห็นความขาวของขาที่หลบซ้อนอยู่ภายใน แต่บางวันเขาก็มาในชุดนักกีฬาที่ทำเอาผมใจสั่น ไอ้นั่นตื่น เลือดแทบพุ่งอยู่หลายที
   ก็แหม ไอ้เสือยืดตัวโคร่งๆ กับกางเกงขาสั้นนั่นมันชวนยั่วน้อยเสียเมื่อไรล่ะ
   ผมจะนั่งดูเขาซ้อมวอลเลย์บอลจนกว่าจะพอใจหรือไม่ก็โดนตามจิกจนทนไม่ไหวถึงจะยอมเดินออกไป ไม่รู้ว่าเขาจะสังเกตเห็นผมบ้างหรือเปล่า เพราะคนที่อยู่ในละแวกนี้ก็เยอะเหมือนกัน คนพลุ่งพล่านไปมาตลอด แล้วไอ้พวกที่นั่งเก้าอี้เฉยๆ ไม่ทำห่าอะไรก็เพียบ
   แต่ก่อนจะเดินออกไปทุกครั้งผมมักจะแอบเอาของบางอย่างไปวางไว้บนแถวกระเป๋าของกลุ่มเพื่อนพวกเขา แน่นอนว่าผมเขียนชื่อคนรับไว้ไม่อย่างนั้นแม่คงด่าว่าโง่
   ชื่อที่ว่าคือคนตัวขาว ขาวที่สุด ปากชมพู และแก้มแดงๆ (ผู้ชาย)
   ยาวไปนิดแต่นั่นแหละคือชื่อที่ผมตั้งให้เขา ไม่ระบุเจาะจงเดี๋ยวแม่งตกไปอยู่ในมือคนอื่นทำไงอ่ะ
   ทำเนียนๆ เดินวนๆ เข้าไป แม้ว่าจะต้องใช้ความพยายามมากบางทีก็คงดูเหมือนพวกโรคจิตที่จ้องจะขโมยของ ชาวบ้าน อาจจะมีชื่อกระฉ่อนไปแล้วแต่ยังไม่ถึงหูผม
   แต่ผมก็พอใจเพราะทุกครั้งที่ผมมองมาจากที่ไกลๆ ผมก็เห็นเขาหยิบมันติดมือแล้วยัดใส่กระเป๋ากลับไปทุกครั้ง 



   เมื่อไหร่จะหมดช่วงกีฬามหาลัยสักทีวะ สาดดดดด
   ผมโคตรเบื่อกับการซ้อมกีฬาที่ตัวเองไม่อยากลง คือแม่งหน้าอย่างกูเหมาะกับการวิ่งตามไอ้ลูกกลมๆ นี่เหรอ บอกเลยว่าไม่ กูเหมาะจะนอน และไปเฝ้าน้องขาวมากกว่า ถ้าไม่ติดว่าโดนขู่ผมก็คงชิ่งหนีไปแล้ว
   คุณรู้ไหมว่าผมโดนขู่ยังไง ทรมานแค่ไหน ผมจำได้ดี วันนั้น.. ไอ้เชี่ยแมมมอธ ที่จริงมันชื่อมอธเฉยๆ แต่มันเป็นผู้ชายใจหญิงที่ตัวโตและถึกมาก ทุกคนเลยเรียกมันว่าแมมมอธ ไอ้นี่มันเอาถังสีขึ้นมาถึงคอนโดแล้วบังคับให้ผมจรดปากกาลงไปในใบรายชื่อผู้ลงเล่นฟุตบอล พอผมจะไม่ทำมันก็ยกถังสีขึ้นแล้วทำท่าจะราดใส่ชุดเครื่องนอนซาตินที่ม้าผมเป็นคนซื้อให้ นั่นเป็นครั้งแรกที่ผมคนที่มีความง่วงติดตัวตลอดเวลาร้องว้ากแล้วรีบจรดปลายปากกาเขียนชื่อตัวเองลงไปในกระดาษอย่างรวดเร็ว
   นั่นละครับ.. ผมเลยต้องมาวิ่งตามไอ้ลูกกลมๆ จนทุกวันนี้
   


   “เหนื่อยว่ะ นี่แม่งกะเอาถ้วยบอลโลกเลยหรือไง”
   “เออ เหนื่อยง่วง กูอยากนอน”
   “แดกข้าวก่อนไหม”
   “มึงซื้อไก่คืนกูด้วย ไอ้มูน”
   กูยังไม่ลืมนะ ที่มึงกินไปเมื่อเย็น มันทำหน้าเหม็นเบื่อใส่ก่อนจะกระดกน้ำเข้าปาก แต่ผมเทราดหัวเพราะร้อนเกินจะทนไหว สะบัดหัวไล่น้ำไปทีสองทีได้ยินเสียงกรี๊ดดังแว่วๆ เข้าหูแต่ไม่ได้สนใจเท่าไรนัก ตั้งแต่เริ่มมาซ้อมก็ได้ยินมาตลอด
   “แฟนคลับมึงกรี๊ดใหญ่เลยไอ้หมีหล่อ”
   ไอ้เจ้า ไอ้หินเดินเข้ามาพร้อมกับเพื่อนคนอื่นๆ ผมยักคิ้วให้มันเป็นเชิงถามว่าใครกรี๊ดใคร แล้วใครแฟนคลับใคร มึงพูดถึงอะไรของมึง กูไม่เข้าใจ
   “มันไม่รู้ตัวหรอก หลับในตลอด”
   “มึงพูดถึงใครวะ”
   “กูว่าแล้ว” ไอ้หินว่า
   “อะไรของพวกมึง”
   “โว๊ยยยย ไอ้หมีขี้เซามึงดูโน่น”
   ไอ้บูมทนไม่ไหวจับหัวผมให้มองไปรอบๆ สนาม มีไฟเปิดให้ความสว่างและผู้คนมากมายที่ยังคงซ้อมกีฬา บ้างก็นั่งจีบกันและสาวๆ หนุ่มน้อยๆ ที่พากันมองมา
   หืม.. ที่ผมเหรอวะ?
   ไม่หรอก น่าจะเป็นพวกไอ้บูม ไอ้หิน ไอ้เจ้ามากกว่า ไหนจะคนอื่นๆ อีก เยอะแยะ แล้วทำไม.. กรี๊ดกันทำไม!? ผมผงะเมื่อสาวๆ ส่งเสียงกรี๊ดออกมา ทำท่าดีดดิ้นเหมือนโดนน้ำร้อนลวกทันทีที่ผมเอาแต่จ้องไปทางกลุ่มคนพวกนั้น
   คือกูจ้องเพราะกูกำลังสงสัย
   “นั่นอ่ะ แฟนคลับมึงทั้งนั้น”
   “กูมีกับเขาด้วยเหรอ”
   “มีมานานแล้วเว้ย แต่นี่เป็นครั้งแรกที่มึงออกจากถ้ำไง เขาถึงได้มารอยลโฉมกันขนาดนี้”
   “อย่าบอกนะว่ามึงไม่รู้ตัวเลย”
   “ไม่ว่ะ กูไม่ได้สนใจ”
   พอผมตอบแบบนั้นพวกแม่งก็พร้อมใจกันโยนมือ กำปั้น ผ้าเปียกเหงื่อ ขวดน้ำ เข้าใส่หัวผม ทั้งด่า ทั้งบ่น ไม่ใช่แค่เพื่อนแต่คนอื่นๆ ในทีมก็ด้วย ถามคำเดียว กูทำไรผิด?
   ที่จริงผมก็พอจะรู้นิดๆ นิดจริงๆ นะว่าตัวเองมีแฟนคลับ มีคนตามและแอบชอบ แต่ผมก็ไม่ได้สนใจเท่าไร เพราะสิ่งที่ผมให้ความสำคัญอันดับแรกๆ ก็คือการนอน และสิ่งที่จะทำให้ผมตื่นได้ก็คือไก่ ไก่เลยมีความสำคัญเป็นอันดับที่สอง
   ..แต่ตอนนี้ต้องเพิ่มคนตัวขาวเข้าไปอีกหนึ่ง.. 
   จะว่าไปตอนนี้จะกลับไปหรือยังนะ?
   พอชะเง้อหน้ามองไปยังสนามวอลเลย์บอลก็เห็นว่าเริ่มร้างผู้คนแล้ว มองเพ่งอีกนิดก็ไม่เห็นร่างขาวๆ ของคนที่ทำเอาผมตาตื่น ใจตื่น ไข่ตื่นเสียแล้ว
   สงสัยจะกลับไปแล้ว เฮ้อ.. ง่วงขึ้นมาทันที
   


   “อ่ะ ของมึง”
   ผมมองถุงในมือไอ้หินอย่างไม่ไว้ใจเท่าไรนัก เรามานั่งกินข้างกันหลังซ้อมเสร็จ มนุษย์ผู้ชายตัวโตๆ เกือบยี่สิบคนทำเอาร้านนี้เล็กลงไปทันตา เสียงก็ดังเหมือนมีระเบิดลงทุกๆ สามนาที ทำเอาป้าเจ้าของร้านเริ่มคิ้วกระตุกผมว่าอีกไม่นานเราชาวคณะคงโดนตะหลิวปาหัว
   “ไรวะ”
   ไอ้หินยื่นถุงบางอย่างมาให้ผม มันมาหลังคนอื่นเพราะต้องแวะไปส่งแฟนก่อน
   “มีคนฝากมา”
   “ใคร”
   “กูไม่รู้ มีคนฝากมาอีกที”
   “กูควรรับไหม” ผมมองอย่างไม่ไว้ใจ แม้จะได้กลิ่นของโปรดโชยมาก็ตาม
   “รับไปเปิดดูสักหน่อยก็ได้ ไอ้สัด” มันว่าแล้วกระแทกลงกับโต๊ะ สะบัดตูดไปนั่งข้างๆ ไอ้บูม ห่านี่ สะดิ้งเหมือนผู้หญิงสงสัยติดมาจากแฟน
   ผมค่อยๆ แย้มถุงออก กลิ่นของโปรดก็โชยออกมา ท้องกูร้องโฮกจนไอ้เจ้าหันมาสนใจแล้วก็เริ่มเสือกด้วยการนั่งมองผมเปิดถุง ไอ้บูมกับไอ้หินก็ด้วย พวกมันดูลุ้นทุกนาทีที่ผมแยกถุงออกกว้าง ทำไมกูต้องลีลาขนาดนี้ด้วยวะ พอเปิดออกก็เจอกับกล่องพลาสติกที่มีไอร้อนเกาะอยู่ภายใน แม้จะยังไม่เปิดดูก็รู้ได้ว่าข้างในคือของโปรดของผม ก็มันเป็นกล่องพลาสติกใสนี่หว่า
   “โหวว มิติใหม่แห่งการจีบ ปรุงเองทอดเอง ใครวะเนี่ย” ไอ้เจ้าปากผีเอ่ยก่อนใคร
   ผมเปิดดูไก่ที่ถูกบรรจุมาอย่างดี ถูกจัดว่างอย่างน่ารักมีออฟชั่นเสริมเป็นซอสหลากชนิดกับผักลวดสองสามอย่าง อืม.. ผักลวด คงจะกลัวผมเลี่ยน
   “ใครวะ กูอยากเห็นหน้าเลยว่ะ ลงทุนเชี่ยๆ”
   เออ กูก็อยากเห็น ปกติที่ได้มักจะเป็นแบบซื้อซะมากกว่า ผมชอบไก่ทุกชนิด ทุกแบบ ต้ม ทอด นึ่ง ย่าง ได้หมด ไก่อะไรก็ได้ยกเว้นไก่ดิบ แดกได้ทั้งวันสามสี่เวลาห้าเวลาก็ไหว ไม่ว่าใครจะซื้ออะไรมาให้ผมก็ไม่เคยปฏิเสธ แดกหมดไง แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้รับของทำเอง
   แปลกใจกับความคิด
   ตกใจกับความลงทุน
   แต่ก็รับรู้ได้ถึงความใส่ใจของคนคนนั้นเหมือนกัน
   ผมปิดกล่องลงกะว่าจะเอากลับไปกินที่ห้อง ไม่ใช่อะไร ไอ้พวกสามสหายมันจ้องตามันวาว ถ้าเปิดกินตอนนี้คงโดนจ้วงไม่มีเหลือ
   ขยับถุงไปมาจนบางอย่างมันโผล่เข้ามาในสายตา
   กระดาษโน้ตเล็กๆ กับลายมือน่ารักๆ
   เราทำเอง ทานให้อร่อยนะ
   จากคนเลี้ยงหมี
   พร้อมตัวการ์ตูนหมีตาง่วงอีกหนึ่งตัว


TBC..
2/2/17


หัวข้อ: Re: Apple's Trap [0 - 1/2/17]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 02-02-2017 09:13:02
คนตัวขาวที่ลงทุนไปนั่งส่องเขาหรือเปล่าที่ทำมาให้

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Apple's Trap [0 - 1/2/17]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 02-02-2017 09:58:49
น้องแอปเปิลทำให้หรือเปล่าหนอ
หัวข้อ: Re: Apple's Trap [2 #น้ำนิ่ง - 5/2/17]
เริ่มหัวข้อโดย: YEEUN9424 ที่ 05-02-2017 21:27:03

Apple's Trap 2 #น้ำนิ่ง


Apple’s Trap 2
#น้ำนิ่ง
   ผมได้รับไก่ทำมือ(?)ติดต่อกันมาหลายวันแล้ว ใครคนนั้นมักจะฝากเพื่อน รุ่นพี่ รุ่นน้อง หรือแม้แต่ไอ้แมมมอธก็โดนมาแล้วเพื่อเอามาให้ผมในช่วงเวลาเย็นๆ หลังเลิกซ้อม เป็นเมนูไก่เหมือนวันแรกไม่มีผิด รสชาติก็เหมือนเดิมจนผมเริ่มจะติด ถ้าวันไหนผิดเวลาเข้าไหนผมก็จะเริ่มถามจนเพื่อนแซว
   “กูแค่ติดใจรสชาติไก่เขา”
   “ไอ้ห่านี่ มึงแดกของเขาฟรีขนาดนี้ ค่าของค่ากล่อง ไม่คิดจะอยากเจอหน้าคนทำหน่อยหรือไง”
   “กูชอบไก่”
   “สาดดดดด”
   ผมไม่ได้หลอกตัวเอง ผมแค่ชอบไก่ที่เขาทำจริงๆ รสชาติมันใช่ อร่อยถูกใจหมี คนทำก็อยากเจอแหละ นิดนึง.. นิดเดียวจริงๆ มากไม่ได้เพราะผมมีคนในดวงใจอยู่แล้ว
   ผู้ชายตัวขาวนั่นไง
   ผมยังคงไปแอบมองดู แอบเนียนเดินเอาของไปวางแล้วมาซ้อมบอลต่อเหมือนทุกที จากวันนั้นจนถึงวันนี้ผ่านมากี่วันแล้วก็ไม่รู้
   แต่กระดาษโน้ตสีขาวที่มีข้อความพร้อมรูปวาดหมีในท่าทางต่างๆ จากคนเลี้ยงหมีผมเองก็เก็บไว้เหมือนกัน เก็บไว้อย่างดีในกล่องกระดาษสีน้ำตาลที่ผมนั่งทำเองกับมือ
   รู้สึกเหมือนตัวเองหลายใจ ใครอีกคนที่ไม่รู้ว่าผมมีตัวตนกับใครอีกคนที่ผมไม่รู้ว่าเป็นใครเข้ามาอยู่ในความคิดผมพร้อมๆ กัน
   ถ้าเกิดวันไหนต้องเลือกขึ้นมา..
   ผมจะทำยังไง..?
   “หลับในอีกแล้วนะมึง”
   เสียงไอ้เจ้าดึงผมออกจากภวังค์ พอได้กลับมาสู่ความเป็นจริงแล้วก็ได้แต่ลูบหน้าลูบตาตัวเองด้วยความอับอาย กูคิดอะไรออกไปวะนั่น เลือกเลิกห่าอะไร ต้องเลือกใครยังไง
   โว๊ะ! อยากนอนแล้ว! เมื่อไหร่ไก่จะมา!
   “มึง ไก่กูล่ะ”
   “ไข่มึงก็อยู่ที่มึงไง”
   “กวนตีน กูบอกว่าไก่ไม่ใช่ไข่”
   “อ่ะ หรา”
   มันลอยหน้าลอยตาจนผมต้องยกเท้าถีบไปที่หน้าแข้งของมันด้วยความหมั่นไส้ วันนี้เลิกซ้อมเร็วเพราะมีงานที่ต้องส่งในอีกไม่กี่วันข้างหน้า พวกเราเลยหอบกันกลับมาที่คณะเพื่อเผางานในเบื้องต้น ในขณะที่มือปั่นงานใจผมก็วอกแวกเพราะไก่เจ้าเดิมยังไม่มาส่งเสียที ผมมองซ้ายมองขวาเวลาเพื่อนคนไหนลุกออกไปข้างนอกก็จะหวังทุกทีว่ามันจะกลับมาพร้อมกับถุงไก่ในมือแล้วเอามายื่นให้กับผม
   แต่จนตอนนี้ก็เกือบจะสามทุ่มแล้ว ผมก็ยังไมได้กลิ่นหอมๆ ที่เริ่มจะคุ้นชินนั่นเลย
   ผมมองหน้าไอ้เจ้าอย่างเอาเรื่อง กระดิกมือหยิกๆ ถ้ามึงถือไก่อยู่ก็จงส่งมันมาเดี๋ยวนี้
   “อ่ะ.. กูซื้อมาให้ละ”
   มันไม่ใช่..
   นี่ไม่ใช่ไก่ที่ผมต้องการ
   “อะไรทำไมทำหน้าแบบนั้น ร้านนี้ร้านโปรดมึงไง รีบแดกแล้วไปทำงาน” มันว่าแล้วหอบข้าวหอบของไปให้เพื่อนคนอื่นๆ ต่อ ผมมองถุงไก่ในมืออย่างรับไม่ได้
   ไม่จริง
   ทำไมวันนี้ถึงไม่มาล่ะ
   ..ผมอยากกินไก่ของคุณ..

   “ควายนิ่ง ตื่น!”
   ไอ้บูมตะโกนซะดังลั่นทำเอาทุกคนรวมถึงผมสะดุ้งกันเป็นแถบๆ ผมสะบัดหัวไล่ความง่วงออกไปก่อนจะเหลือบมองถุงไก่ที่ไอ้เจ้าซื้อมาให้หน้าหงอยจนรู้สึกได้
   สี่ทุ่มกว่าแล้ว.. คงไม่มาแล้วล่ะ ห่าเอ้ย แดกก็ได้ว่ะ
   แล้วผมก็สวาปามไก่ร้านโปรดของผมเข้าปากทันที กินไปก็ได้แต่คิดถึงรสชาติไก่ที่คนเลี้ยงหมีทำให้ จิตใจชอกช้ำจนต้องยัดเข้าปากทีเดียวสี่ชิ้นรวดแล้วก็สำลักเพราะแม่งเป็นรสสไปซี่ นอกจากเพื่อนจะไม่สนใจแล้วยังพากันรุมด่าว่าผมตะกละจนชอกช้ำยิ่งกว่าเดิม
   หลังจากรอดตายจากการสำลักไก่แล้วผมก็ขอตัวออกมาสูบบุหรี่ให้จิตใจสงบสักหน่อย ตอนรอว่าแย่แล้ว พอไม่ได้กินยิ่งแย่เข้าไปใหญ่
   ผมว่าผมเริ่มเยอะ เพราะดันไปติดใจไก่ของคนเลี้ยงหมีซะได้ เขาเป็นใครก็ไม่รู้ จะให้ไปตามหาที่ไหน จะทำมาให้ตลอดหรือก็ไม่ ดูอย่างวันนี้เถอะ ทิ้งให้กูรอเก้อซะงั้น
   หรือเพราะผมไม่ตอบรับอะไรไป? แต่ผมกินไก่หมดเกลี้ยงทุกครั้งนะ กล่องก็ล้างเก็บไว้อย่างดี ถ้าเจอก็จะคืนให้ แล้วทำไมจู่ๆ ถึงทิ้งกัน
   เฮ้อ.. ผมเซ็ง รู้สึกเหนื่อยจนอยากจะไถลตัวไปกับม้านั่ง แต่ถ้าทำแบบนั้นผมหลับแน่
   แกรบ!
   หือ?
   เสียงใบไม้แห้งโดนเหยียบ หรือเปล่าวะ? ดังมาจากที่ไกลๆ ทำเอาผมหูผึ่ง ดีดตัวที่กำลังเลื้อยต่ำลงจนเกือบจะแนบไปกับม้านั่งขึ้นมาทันที สองเท้าขยี้บุหรี่ทิ้งก่อนจะลุกเดินไปยังที่มาของเสียง
   ฮะ.. เฮ้ยยยย!!
   คนตัวขาวของผม!
   ร่างเล็กๆ ขาวๆ กำลังก้มๆ เงยๆ อยู่กับ..
   รถผมนี่หว่า
   “ทำอะไรน่ะคุณ!”
   เชี่ย เสียงอย่างโหด มึงใจเย็นไอ้น้ำนิ่งนั่นคนตัวขาวของมึงนะ สงบไว้ๆ ผมเริ่มกล่อมตัวเองระหว่างที่รอให้เขาเงยหน้าขึ้นมา คือผมเป็นคนรักรถมาก แล้วรถคันนี้ป๊าซื้อให้เป็นของขวัญตอนปีหนึ่ง ถึงปกติจะไม่ค่อยได้เอามาใช้เท่าไร เพราะชอบบังคับให้เพื่อนไปรับไปส่งมากกว่า (จะได้มีเวลานอนระหว่างนั่งรถ) แต่ผมก็รักมาก ดูแลอย่างดี เข้าใกล้ยังพอไหวแต่ไอ้ท่าทางถูไถๆ นั่นทำเอาความหวงลุกโชน
   เมื่อเขาค่อยๆ ลุกขึ้นจนหันมาเผชิญหน้ากันมือผมก็ไปก่อนความคิด กระชากแขนเล็กจนติดมือ สัด มือกูหนักด้วยสิ จะแดงไหมวะ ไม่มีอะไรมาดึงความสนใจไปจากผมได้เพราะใบหน้าขาวเนียนที่เฝ้ามองจากที่ไกลๆ มาอยู่ในระยะใกล้ขนาดนี้ก็ทำเอาผมตื่นทันที
   “ขอโทษ.. คือเรา..”
   อ่า.. เสียงหวานหูที่ติดอยู่ในใจผมมาตลอด
   “ทำอะไรกับรถผม!”
   โว้ย! แล้วเมื่อไหร่กูจะเลิกทำเสียงโหดสักที
   “คือ คือ เราแค่เอาของมาให้!!”
   สิ้นเสียงตะโกนก็เป็นถุงบางอย่างกระแทกเข้ากับอกของผมจนมันตกลงกับพื้นแล้วคนตัวขาวก็สะบัดมือผมวิ่งออกไป สมองเหมือนตายไปชั่วขณะ จะวิ่งตามแต่ไอ้กลิ่นหอมๆ ของไก่ที่ผมรอคอยมาทั้งวันก็โชยเข้าจมูกเสียก่อน
   ผมมองดูถุงที่วางแผละอยู่ตรงเท้า กล่องไก่กระเด็นออกมาจากถุงก็จริงแต่ฝาไม่ได้เปิด สิ่งที่อยู่ภายในเลยปลอดภัย รอบๆ กล่องยังคงมีไอร้อนๆ เกาะอยู่
   ผมหยิบถุงขึ้นมาด้วยมืออันสั่นเทา กระดาษโน้ตเดิมๆ ร่วงหล่นตามลงมา
   กระดาษโน้ตเล็กๆ กับลายมือน่ารักๆ
   ขอโทษที่มาช้า ไม่รู้ว่าจะอิ่มไปหรือยัง แต่ยังไงก็เก็บไว้กินนะ ตั้งใจทำงานล่ะ
   จากคนเลี้ยงหมี
   พร้อมตัวการ์ตูนหมีตาทำท่ากำมือหนึ่งตัว
   คนเลี้ยงหมีกับคนตัวขาวของผมคือคนเดียวกัน!?   



TBC….
สั้นนนน แต่มันตัดจบพอดี -,.-



หัวข้อ: Re: Apple's Trap [2 #น้ำนิ่ง - 5/2/17]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 05-02-2017 22:28:02
 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Apple's Trap [2 #น้ำนิ่ง - 5/2/17]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 05-02-2017 23:05:17
ไอ้ย เป็นคนเดียวกันก็ดีนะ หมีจะได้ไม่ต้องเลือกแบบที่คิดฟุ้งซ่าน ฮา
หัวข้อ: Re: Apple's Trap [2 #น้ำนิ่ง - 5/2/17]
เริ่มหัวข้อโดย: QueenPedGabGab ที่ 05-02-2017 23:23:28
ฮือออออออออ
น่าร้ากกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: Apple's Trap [2 #น้ำนิ่ง - 5/2/17]
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 05-02-2017 23:43:37
เดินหน้าจีบเต็มที่ คนเดียวกันแบบนี้้ไม่ต้องคิดมากแล้ววว
หัวข้อ: Re: Apple's Trap [2 #น้ำนิ่ง - 5/2/17]
เริ่มหัวข้อโดย: panitanun ที่ 06-02-2017 01:10:53
งืออออหมีตะโกนใส่คนเลี้ยงหมีตะไมเล่าาา
หัวข้อ: Re: Apple's Trap [2 #น้ำนิ่ง - 5/2/17]
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 06-02-2017 01:17:46
หนะ ได้กัน ได้กัน
หัวข้อ: Re: Apple's Trap [2 #น้ำนิ่ง - 5/2/17]
เริ่มหัวข้อโดย: SiHong ที่ 06-02-2017 02:09:44
หมีทำน้องขาวกลัวแล้ว
หัวข้อ: Re: Apple's Trap [3 #น้ำนิ่ง - 9/2/17]
เริ่มหัวข้อโดย: YEEUN9424 ที่ 09-02-2017 19:50:10
Apple’s Trap 3
#น้ำนิ่ง



   “คนไหนวะ”
   “คนนั้น ตัวขาวๆ ผมสั้น สูงกว่าไอ้ตัวเล็กที่เดินข้างๆ น่ะ” ผมบุ้ยปากไปทางคนตัวเล็กที่กำลังเดินเข้ามาในสนาม ผมกอดคอไอ้เจ้ายืนหลบอยู่หลังเสาไม่เห็นแน่นอน
   “อ๋อ แหม รักครั้งแรกก็เอาซะแตกต่างจากมึงเลยนะ” ผมเลิกคิ้วแตกต่างยังไงวะ “ดูดิ คนสวยขาวอย่างกับปุยนุ่นส่วนมึงนี่ก็ดำจนจะเกรียมละ”
   ผัวะ
   ตบหัวให้รางวัลมันไปทีขอหาพูดไม่เข้าหู ไอ้เวรเจ้าจิ๊จ๊ะในลำคอแล้วมองซ้ายมองขวาไปรอบๆ สนามวอลเลย์บอล นี่เป็นครั้งแรกที่ผมลากเพื่อนมาสนามด้วยพร้อมทั้งบอกเหตุผลที่ผมชอบมาที่สนามวอลเลย์บอลให้เพื่อนฟัง ผมยอมอ้าปากบอกเพื่อนนัยแฝงคือขอความช่วยเหลือ พวกมันอือหืออ่าหากันใหญ่เพราะไม่คิดว่าไอ้หมีขี้เซาอย่างผมจะไปแอบชอบใครเขาได้
   คือกูไม่ไหวแล้ว ยิ่งได้รู้ความจริงเมื่อวานว่าคนเลี้ยงหมีกับคนตัวขาวของผมเป็นคนเดียวกัน ความต้องการ อยากได้ อยากมี อยากครอบครองของผมยิ่งลุกโชน แต่ก่อนอื่นมันต้องทำความรู้จักก่อนไง และนั่นเป็นด่านที่ยากที่สุดของผม
   “อ่าว นั่นแฟนเชี่ยหินนี่หว่า”
   “หือ ในกลุ่มนั้นอ่ะนะ”
   “เออ ตัวเล็กๆ อ่ะ เตี้ยกว่าคนของมึงหน่อย ชื่อพีช” อ่าว แฟนมันรอบนี้เป็นหนุ่มน้อยหรอกเหรอ แต่กูถูกใจคำว่าคนของมึงจัง
   “กูไม่ได้อยากรู้เรื่องแฟนไอ้หิน แต่กูอยากรู้เรื่องคนตัวขาวของกู มึงจำหน้าไว้แล้วไปหาข้อมูลที่จำเป็นมา”
   “เอออ ก็แปปนึงสิ ให้กูคิดก่อน”
   มันทำหน้าได้วอนตีนมากผมเลยแจกมือลงบนหัวมันไปอีกที ไอ้เจ้าลูบหัวปอยๆ ก่อนจะย้ายตัวเองออกจากที่ซ่อนแล้วร้องเรียกชื่อแฟนไอ้หินออกมา ผมสะดุ้งเฮือกไม่กล้าโผล่หัวออกไปมอง เดี๋ยวเขาจะเห็นผมซะก่อน
   สักพักผู้ชายตัวเล็กๆ ที่ได้ชื่อว่าเป็นแฟนเพื่อนผมก็วิ่งดุ๊กดิ๊กเข้ามา โชว์ยิ้มน่ารักไปทีแล้วไอ้เจ้าก็จับดันเข้ามาในที่ซ่อนที่เริ่มจะไม่ปลอดภัยเพราะคนเยอะเกินไปละ อันที่จริงมันก็ใช้ซ่อนไม่ได้มาตั้งแต่แรกแล้วละ กะอีกแค่เสาห่วยๆ พาดสีขาวแดง ตัวพวกผมก็ใหญ่อย่างกับยักษ์
   “มีอะไรเจ้า ทำไมมาอยู่แถวนี้ละ แล้วหินไปไหน อ่าว.. นี่คือน้ำนิ่งใช่ไหม”
   รัวเป็นชุด รู้จักกูด้วย
   “เราจะเริ่มตอบจากตรงไหนดี ไอ้หินไปเปลี่ยนเสื้อผ้าตอนนี้คงอยู่สนามแล้ว ส่วนไอ้นี่คือน้ำนิ่งที่เคยเปิดรูปให้ดูนั่นแหละ เรามาแถวนี้เพราะไอ้นะ..”
   พลั่ก!
   ผมตีหลังเพื่อนจนหลังแอ่น สิ่งที่ผมอยากรู้คือข้อมูลของคนตัวขาวไม่ใช่ให้มาบอกว่ากูจะมาจีบเพื่อนเขา พีชตกใจจนตาโปน ไอ้เจ้าไอค่อกก่อนจะค่อยๆ ทรงตัวใหม่
   “คือเราอยากรู้ว่าคนคนนั้นชื่ออะไร”
   ใช้เวลาตอนที่พีชหันไปมองตามือส่งสายตาอาฆาตแค้นมาให้ผม แต่ในตอนที่กำลังใช้สายตาฟาดฟันกัน เสียงตะโกนของไอ้เตี้ยพีชก็ทำเอาผมช็อคตาตั้ง
   “แอปเปิล!! มีคนมาหาแน่ะ!”
   กูแค่ถามชื่อ!!
   ผมเลิ่กลั่กขยับตัวผิดๆ ถูกๆ จนโผล่ออกมาจากที่ซ้อนตอนไหนไม่รู้ รู้อีกทีใบหน้าน่ารักภายใต้เส้นผมสีน้ำตาลกับตัวขาวผ่องที่อยู่ภายใต้เสื้อกีฬาสีแดงกับกางเกงขาสั้นสีดำก็มาอยู่ตรงหน้าผมแล้ว
   “นะ.. นาย..”
   เขา.. ไม่สิ แอปเปิลพูด ชื่อหวานสมกับตัวมาก
   “เจ้าบอกว่าอยากรู้ว่าเปิ้ลชื่ออะไร เราเลยเรียกมาน่าจะดีกว่า เผื่อเขาจะจีบจะได้ไม่เสียเวลา ฮิฮิ”    ไอ้เตี้ยนี่เสือกไม่เข้าเรื่อง แต่ดันเสือกแบบรู้ทางในจนกูทำร้ายไม่ลง ไอ้หินไปเก็บมาจากไหนวะ
   “ใครถามเหรอ”
   แอปเปิลหลีกเลี่ยงสายตาไปจากผม แต่ก็รู้ได้ว่าเหลือบมองอยู่ รู้ได้ไงน่ะเหรอ เออ ก็กูมองเขาอยู่เหมือนกันไง แต่คำตอบของแฟนไอ้หินก็ทำเอาผมช็อคตาตั้งเป็นรอบที่สองของวันห่างกันแค่ไม่กี่นาที
   “คนนี้จ้า ชื่อเจ้าเพื่อนหินแฟนเราด้วยนะ หล่อเหมือนกัน ลองดูๆ เราไปน้า ฝากบอกหินให้มารับเราด้วยนะเจ้า”
   เชี่ยยยยย ไม่ใช่คนที่อยากรู้คือกูครับ แต่คนถามคือไอ้เจ้า มึงเข้าใจผิดแล้ว!
   “เอ่อ.. เฮ้ย! ไม่ใช่ คือว่า.. แม่ง!! กูไปละ มึงจัดการเองนะ”
   ว่าแล้วมันก็ใส่เกียร์หมาวิ่งหนีไปทันที ตรงนี้เลยเหลือแค่ผมกับแอปเปิลเท่านั้น เขาดูงงๆ ไม่งงก็บ้าแล้ว เพื่อนมันก็พูดมาก พูดไม่รู้เรื่องแล้วก็หนีเข้าสนามไปแล้ว ส่วนให้คนที่โดนโยนขี้ใส่อย่างไอ้เจ้าก็หนีหายไปอีก
   เหลือแต่ผมผู้ที่เป็นต้นเหตุของทุกอย่างกับเขาที่เป็นสาเหตุของผม
   “คือ.. ยังไงเหรอ นี่เราโดนแกล้งเล่นใช่ไหม”
   “เปล่า ไม่ใช่แบบนั้น”
   “แล้วทำไมคนนั้นถึงวิ่งหนีไปล่ะ ไหนบอกอยากรู้ชื่อเรา” กูจะเริ่มไงดีวะ ก็คนที่อยากรู้มันยืนอยู่ตรงนี้ ไอ้ตัวประกอบวิ่งหนีไปน่ะถูกแล้ว
   “งั้นถ้าไม่มีอะไร..” ผมคว้าหมับเข้าที่แขนเล็ก ห่า เขายังไม่ทันจะหมุนตัวหนีไปเลย กลัวครับ กลัวไม่ได้สนทนาด้วยมือเลยไปก่อนความคิด
   “ไก่เมื่อวานอร่อยมาก อร่อยทุกวันเลย ขอบคุณ”
   “อ๋อ.. อื้ม ไม่เป็นไร” ใจจริงอยากถามต่อว่าวันนี้มีไหม จะมาตอนไหน จะได้รอ ถ้าทำแล้วเอามาเลยก็ได้นะ แต่ก็ดูจะตะกละเกินไป
   บอกเรื่องที่ควรบอกก่อนดีกว่า
   “คนที่อยากรู้ชื่อคุณน่ะไม่ใช่ไอ้เจ้าหรอก..”
   ผมยังคงจับข้อแขนของเขาไว้อย่างหน้าด้านๆ ต้องบังคับตัวเองไม่ให้ลงแรงมากเกินไป เพราะเขาข้อมือเล็กมาก กลัวจะเจ็บ แอบมองตรงต้นแขนที่ผมลงแรงบีบไปเมื่อวานแล้วไม่เห็นรอยแดงหรือรอยช้ำก็เบาใจ
   “ผมเอง.. ผมอยากรู้ชื่อของคุณแอปเปิล”
   ผมรู้ว่าเขามีเลือดฝาดตรงแก้มเนียน นั่นก็เป็นอีกที่หนึ่งที่ผมชอบมองเพราะมันรับกันดีกับริมฝีปากสีชมพู แต่ผมไม่คิดว่าแก้มของเขาจะแดงได้มากขนาดนี้




   พวกผมกลับมาทำงานที่ช็อปตามเดิมหลังซ้อมเสร็จ ทั้งปวดขาทั้งเมื่อย อยากนอนใจจะขาดแต่ก็นั่นแหละงานยังไม่เสร็จ ดูนาฬิกาจะสองทุ่มแล้วท้องก็เริ่มหิวเลยตั้งใจจะออกไปหาอะไรกินข้างนอก ใจก็อยากจะรอไก่จากแอปเปิลแต่ผมรู้แล้วว่าเป็นเขา บางทีเขาคงไม่ทำมาให้ผมแล้วละ คิดอย่างปลงตก เสียใจมากด้วยแต่ก็ต้องยอมรับ เดินไปคุ้ยหากระเป๋าเงินในแล้วก็ต้องตาโตอีกครั้ง
   เชี่ย วันนี้ไม่ได้ให้ของแอปเปิล
   ผมมองโอริกามิในมือด้วยความเสียดายวันนี้พับรูปหมาน้อยมาซะด้วย ไม่ได้ให้ไปวันหนึ่งแบบนี้ เขาจะคิดยังไง ถึงจะยังไม่รู้ว่าเป็นผมก็เถอะ แต่ผมก็อยากจะเสมอต้นเสมอปลายจนกว่าจะได้เปิดเผยตัวนี่หว่า
   ทำไมกูลืมได้วะ
   อ๋อ.. มัวแต่เขินกันอยู่
   นึกไปถึงเรื่องเมื่อเย็นแล้วไอ้หมาน้อยในมือก็กลายเป็นสีฟ้าอมเขียวชวนพะอืดพะอมทันที พอบอกไปว่าคือผมเองเขาก็หน้าแดงผมก็เขินจนทำตัวไม่ถูกรู้ตัวอีกทีกูมาอยู่ที่สนามฟุตบอลเฉย ไม่รู้ว่าเขาจะคิดยังไง เรื่องเกือบดีแล้วแท้ๆ กูดันวิ่งหนี พอกลับมาเจอลูกฟุตบอลก็เพิ่งนึกได้อีกว่าตัวเองยังไม่ได้ขอโทษที่ไปบีบแขนเขา พลาดทุกอย่าง เซ็งตัวเองชิบหาย
   “มึงยืนหลับเหรอ สาด”
   เสียงไอ้เจ้าดังมาตามสาย ผมเอาโอริกามิรูปหมาแต่ถูกตั้งวางอย่างดีในกล่องพลาสติกเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายระหว่างที่อยู่ในกระเป๋าออกมาข้างนอกด้วย กะจะเอามาดูแก้คิดถึงแม้ว่าจะไม่มีส่วนไหนที่เหมือนแอปเปิลของผมเลยก็ตาม
   หลังจากหาอะไรกินเสร็จ แวะซื้อของให้เพื่อนเรียบร้อยผมก็มานั่งที่ม้านั่งหน้าช็อปตัวเดิมสูบบุหรี่จ้องมองกล่องในมือไปพลาง คิดถึงจริงๆ นะ อยากเจอว่ะ อยากกินไก่ด้วย เมื่อกี้ไก่ของป้าร้านที่มาเปิดใหม่แม่งอย่างแข็งสงสัยทอดซ้ำแล้วเอามาให้กู ไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ
   แอปเปิลจะรู้ไหมว่าเขาทำเอาผมเริ่มจะกินไก่ของคนอื่นไม่ได้แล้วนะ
   ผมยังคงจ้องไอ้กล่องตรงหน้าเหมือนสื่อสารกับมันรู้เรื่อง
    ไอ้หมา ..ช่วยหน่อย.. เอาแอปเปิลมาให้กูที..
   แกรบ
   หือ?
   ไม่น่า.. เหตุการณ์แบบนี้ ในขณะที่ผมกำลังจะลุกขึ้นเพื่อไปที่รถ ใจก็หวังว่าจะได้เจอแจ็คพ็อตเหมือนเมื่อวาน เอี่ยวตัวบี้บุหรี่ตรงถังขยะ หันมาอีกทีแจ็คพอตที่ว่าก็มาอยู่ตรงหน้าผมแล้ว
   ไอ้หมา!! มึงแม่งเทพว่ะ!!
   “กินอะไรหรือยัง”
   “กินแล้ว.. เฮ้ย ไม่ใช่” กลับลำแทบไม่ทันเมื่อเห็นของที่อยู่ในมือ “จริงๆ ก็กินแล้ว แต่ก็กินอีกได้”
   “งั้นเอาไปกินเล่นเป็นของว่างนะ”
   มื้อหลักเลยครับ ไม่มีเล่นแน่นอน
   ผมรับมาวางกล่องลงบนตักตัวเอง เหลือพื้นที่ข้างตัวไว้กะให้เขานั่งลงแต่จนแล้วจนรอดแอปเปิลก็ยังยืนอยู่ตรงหน้าผม ยิ้มหวานส่งมาให้ทำเอาผมประหม่า อยากพูดอยากคุยมากกว่านี้แต่มันก็ไม่ใช่นิสัยผม ถึงจะอยากทำมากแค่ไหนผมก็ไม่รู้จะเริ่มจากจุดไหนดี
   “วันนี้อยู่ดึกไหม”
   “อืม อาจจะดึก”
   “แค่นี้จะพอไหมนะ” บ่นเบาๆ กับตัวเองแต่ผมก็พอได้ยิน
   “พอสิ กินคนเดียว”
   “ไม่แบ่งใครเลยเหรอ”
   “ไม่แบ่งหรอก ตั้งแต่ครั้งแรกแล้ว”
   “ดีใจจัง”
   “ก็เป็นของโปรดนี่”
   “อื้ม ยังไงก็ดีใจ” พอได้ยินคำตอบของผมแอปเปิลก็เม้มปากก้มหน้างุด เสียงไฟอ่อนๆ พอจะทำให้ผมเห็นว่าเขาหน้าแดงมากแค่ไหน “นายกลับไปทำงานเถอะ เราก็จะกลับเหมือนกัน”
   “กลับยังไง” เสียดายว่ะ เพิ่งจะเจอต้องหาเรื่องให้ได้อยู่ด้วยกันต่อ อย่างเช่น อาสาไปส่งแม้จะมีงานรนตูดอยู่ก็ตาม
   “ติดรถไปกับเพื่อน”
   อ๋อ.. โอเค ติดรถไปกับเพื่อน ไม่อันตรายเท่าไร
   “กลับดีๆ ล่ะ”
   “อื้อ ไปนะ”
   มือเล็กๆ โบกให้ผมพร้อมกับส่งยิ้มน่ารักมาให้ด้วย ในขณะที่ผมทำเพียงแค่อมยิ้มจางๆ จนแผ่นหลังเล็กค่อยๆ จางหายไปกับความมืดตรงหน้า ผมเตรียมตัวจะเข้าไปข้างใน มือก็ไปถูกกับอะไรเข้าซะก่อน
   กึก
   เฮ้ย! นี่ไงโอกาส
   ผมเดินตามไปจนคว้าแขนของเขาไว้ได้ แอปเปิลทำสีหน้างงส่งมาให้ ถึงตอนนี้ผมแม่งอยากตบหัวตัวเองสักพันที ถ้าไม่เจอไอ้หมาข้างตัวผมก็นึกไม่ออก อีกอย่างทำไมกูไม่เดินมาส่งเขาตั้งแต่แรกวะ ปล่อยให้เดินมาคนเดียวอย่างนี้ได้ไง
   แต่ก่อนจะได้ตบหัวลงโทษตัวเองผมก็ทำตามเจตนาแรกเสียก่อน ยื่นกล่องโอริกามิน้องหมาไปให้คนตรงหน้า จากที่งงอยู่แล้วก็ดูจะงงเข้าไปใหญ่ แล้วก็แปรเปลี่ยนเป็นอาการตกใจ เพราะตาโตและอ้าปากกว้างเหมือนไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่เห็น
   “นะ.. นายเองเหรอ.. นายคือคนที่เอากระดาษพับมาวางไว้ตรงกระเป๋าเราตลอดเหรอ.”
   “อื้ม”
   เขินไปอีก ผมมักนั่งคิด นอนคิด(แต่ชอบหลับก่อนทุกที)อยู่ตลอดว่านอนจากให้กระดาษพับโง่ๆ แต่มาจากใจนี่แล้วจะทำยังไงต่อ จะเปิดตัวยังไงให้เขารู้และประทับใจ จะขอคบเลยไหม หรือแค่บอกว่าผมชอบคุณนะก็ยังตัดสินใจไม่ได้
   แต่วันนี้ทุกอย่างมันลงล็อคไปหมด คนเลี้ยงหมีคือแอปเปิลของผม เพราะอย่างนั้นคนเลี้ยงหมีก็ควรได้รู้ว่าไอ้คนที่ส่งกระดาษพับให้เขาทุกวันๆ น่ะคือใคร
   ..คนเดียวกันกับที่คุณคอยทำไก่ให้นี่ไงครับ..
   และผมก็ไม่ต้องเหนื่อยคิดจนหัวจะระเบิดแล้วว่าจะทำยังไงต่อไปดี เพราะตอนนี้ผมตัดสินใจได้แล้วว่าจะเดินหน้าจีบอย่างเปิดเผย หึหึ
   “เหลือเชื่อมาก”
   “อื้ม.. เหลือเชื่อมาก” มือไม้ของผมเริ่มสะเปะสะปะแต่พอเห็นเขามองโอริกามิในมืออย่างมีความสุขแล้วผมก็อดที่จะอมยิ้มออกมาไม่ได้ แต่ช่วงเวลาแห่งความสุขของผมต้องจบเพียงเท่านี้ก่อนไม่อย่างนั้นกูได้ทำงานข้ามคืนแน่ๆ “งั้นผมไปก่อนนะ”
   “อะ.. อื้ม ตั้งใจทำงานนะ ขอบคุณสำหรับ..”
   “เต็มใจครับ” ผมตอบ หันหลังเดินมาได้สองก้าวก็หันกลับไปทีเดิม ยังมีอีกเรื่องที่ผมต้องบอกเขา “อีกอย่าง.. ผมชื่อน้ำนิ่ง”
   ผมพูดต่อในใจก็สับขาเดินออกมาให้ไวเพราะเขินจนหน้าไหม้ ไม่ทันได้ยินหรือได้เห็นใบหน้าหวานๆ ของเขาเลยสักนิด
   “รู้อยู่แล้วละ”




TBC…
9/2/17
ตอนหน้าเจอพี่เปิ้ลบ้าง

หัวข้อ: Re: Apple's Trap [3 #น้ำนิ่ง - 9/2/17]
เริ่มหัวข้อโดย: cher7343 ที่ 09-02-2017 21:13:56
เขินนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน ตัวบิด เขินแทนเค้าเริ่มจีบกันมุ้งมิ้ง
หัวข้อ: Re: Apple's Trap [3 #น้ำนิ่ง - 9/2/17]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 09-02-2017 22:16:55
เปิดตัวเจ้าของของแทนใจรายวันกันใหญ่ (ยิ้ม)
พี่หมีเขินจริงจัง ส่วนแอปเปิ้ลก็หน้าแดงเข้าไป (หัวเราะ)
หัวข้อ: Re: Apple's Trap [3 #น้ำนิ่ง - 9/2/17]
เริ่มหัวข้อโดย: The Empress ที่ 09-02-2017 22:22:08
ย้ากกกกกก น่ารักอ่าาาา มุ้งมิ้ง อัพค่ะอัพพพ
หัวข้อ: Re: Apple's Trap [3 #น้ำนิ่ง - 9/2/17]
เริ่มหัวข้อโดย: kiolkiol ที่ 09-02-2017 22:35:15
นั่ลร๊ากกกกกมุ้งมิ้งมากค่ะอ่านไปเขินไปบิดตัวไป
หัวข้อ: Re: Apple's Trap [3 #น้ำนิ่ง - 9/2/17]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 09-02-2017 22:42:03
 :o8: :-[ :m1: :m17: :m3:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Apple's Trap [4 #แอปเปิล - 12/2/17]
เริ่มหัวข้อโดย: YEEUN9424 ที่ 12-02-2017 20:44:32
Apple’s Trap 4
#แอปเปิล


   “เฮ้ย! ซ้ายๆ”
   เสียงไอ้โป้ตะโกนแหวกสายลมเข้ามาถึงในหู ทั้งที่คนก็เยอะแยะ เสียงจอแจก็มากมายแต่เสียงไอ้โป้คนเดียวกลับทำให้ทุกอย่างหยุดนิ่งได้
   “มึงรับดีๆ ดิ๊!”
   มันชี้หน้าด่าผมที่เบี่ยงตัวหลบลูกที่มันตบมาเมื่อครู่ โห ไอ้ห่า มันน่ะนักกีฬาตัวจริงเสียงจริง ตบทีบอลแทบจะแตกคามือ ขืนพุ่งเข้าไปรับแขนคงได้หักคาที่
   “กูกลัวแขนหักกกกก”
   “ควายยยย อย่ามาสำออย”
   ชิส์ โดนไอ้ถึกด่าแล้วมันเจ็บใจจี๊ด ผมไม่ได้สำออยสักหน่อยแค่ไม่อยากให้ตัวเองเจ็บโดยใช่เหตุแค่นั้นเอง เรากำลังซ้อมอย่างไม่เป็นทางการอยู่ในสนามวอลเลย์บอลที่อยู่ข้างๆ สนามสารพัดบอล ที่เรียกอย่างนี้ก็เพราะว่ามีสารพัดลูกกลมๆ เต็มไปหมด ดีหน่อยที่เราชาววอลเลย์บอลพอมีพื้นที่เป็นของตัวเองแต่บางทีก็ต้องตบตี ปะทะคารมกับพวกที่จะซ้อมบาสเก็ตบอลเหมือนกัน คือสนามมันใช้ได้สองแบบเลยต้องแย่งกันเป็นครั้งคราว
   เหตุผลที่ต้องมาติดแหงกอยู่กับกีฬาหลังเลิกเรียนแบบนี้ก็เพราะว่ามันมีเทศกาลกีฬามหาลัย เราชาวศึกษาศาสตร์ก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องได้ถ้วยได้แชมป์อะไรกับเขาหรอก แต่เพราะไม่อยากลงไปโชว์ห่วยเรียกเสียงฮาให้อับอายเป็นขี้ปากชาวบ้านเขาเลยต้องมาตั้งใจซ้อมกันแบบนี้
   ผมเลือกเล่นกีฬาที่ตัวเองถนัดอย่างวอลเลย์บอล เล่นมาตั้งแต่เด็กเพราะมันไม่ต้องตากแดดตากลมมาก เล่นในโดมงี้ ชุดก็ไม่ต้องเยอะ เสื้อหนึ่งตัว กางเกงหนึ่งตัว สนับป้องกันการกระแทก รองเท้าก็ยังไงก็ได้ แม้จะต้องเจ็บแขนเจ็บมือเวลาตบเวลาตี แต่ผมกลับสะใจมากกว่า
   นี่ผมไม่ได้ซาดิสม์นะ
   เสียงตะโกนสั่งซ้าย ไปขวา ตบสิตบ ของไอ้โป้ยังดังอย่างต่อเนื่อง ผมขยับตามมันบ้าง บางทีก็หมั่นไส้จนกระโดดตบบอลใส่แต่ก็โดนโต้กลับมาทุกที จนกระทั้ง..
   ตุ้บ!
   สูญเสียการทรงตัวจากการกระโดนตบคิดว่าได้ล้มก้นจ้ำเบ้าแน่ๆ แต่กลางเป็นว่ามีมนุษย์เบาะมารองรับผมไว้เสียก่อน ผู้ชายผิวสีแทน ใบหน้าเนือยๆ ตาปรือราวกับจะหลับได้ทุกเมื่อ โอบผมไว้ไม่ให้ก้นผมหล่นลงไปจูบกับพื้น
   “ขะ.. ขอโทษครับ”
   รีบขอโทษขอโพยเพราะตัวเองทิ้งน้ำหนักที่เขาแทบจะทั้งหมด ผู้ชายคนนั้นปล่อยมืออกจากตัวผมก่อนจะตอบรับเสียงเบา
   “อืม” ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรต่อสุดท้ายก็รีบวิ่งเข้าสนามไป พอหันไปมองอีกทีก็เห็นว่าคนคนนั้นวิ่งตามหลังเพื่อนไปไกลแล้ว
   ผิวสีแทนเหมือนนายแบบ Paris Fashion Week ที่ชอบดูเลย
   ..สเปค..




   เมื่อได้เจอชายในดวงใจผมก็เริ่มเสาะหาประวัติ แต่ก็ไม่ได้อะไรมาก รู้แค่ว่าวิ่งไปทางสนามบอลก็คงจะลงเล่นฟุตบอลสินะ ผมเลยชอบใช้เวลาหลังจากซ้อมเสร็จ ไปแอบยืนดูแต่ก็ดูได้ไม่นานเท่าไร แค่เห็นเขาวิ่งปวกเปียก เดี๋ยวก็นั่งเดี๋ยวก็นอนไปกับโต๊ะ บางทีก็ทำท่าเหมือนจะล้มทับลูกบอลไปทั้งอย่างนั้น โดนเพื่อนประทุษร้ายก็บ่อย
   ทั้งที่ได้มองอยู่แค่นั้น แต่ความรู้สึกชอบกลับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
   เขามีเสน่ห์อย่างน่าประหลาด
   เมื่อแอบดูจนพอใจแล้วผมก็จะกลับมาที่คอนโด อาบน้ำล้างตัว ทำการทำงาน ถึงจะเหลวไหลไปบ้างแต่เรื่องเรียนผมไม่เคยเหลวแหลก เปิดกระเป๋าเพื่อหยิบเอาสมุดงานขึ้นมาก็พบของที่ใครไม่รู้เอามาวางไว้บนกระเป๋าผมหรือไม่ก็ของเพื่อนผมได้ทุกวัน
   มันคือโอริกามิซึ่งเป็นกระดาษพับรูปต่างๆ ผีเสื้อบ้าง แมวบ้าง รูปจิงโจ้ ดอกกุหลาบ ทิวลิปแล้วแต่ใจคนพับสุดๆ แต่ก็ถูกบรรจุในกล่องพลาสติกใสอย่างดีทำให้มันคงอยู่และไม่บุบสลายหรือหักงอไป
   รับรู้ได้ถึงความใส่ใจของคนทำ
   ผมไม่รู้หรอกว่าใครและความจริงอยากจะให้ใครกันแน่ วันแรกมันอยู่ที่กระเป๋าของผม แต่วันที่สองดันไปตกที่กระเป๋าของโป้ เรามองหน้ากันทั้งกลุ่ม งงว่าของใครกันแน่ แต่พอเห็นที่เขียนตรงก้นกล่องแล้วทุกคนก็พร้อมใจกันโยนให้ผม    ผู้ชายตัวขาว ขาวที่สุด ปากชมพู แก้มแดง
   “ระบุซะกูไม่กล้าแย่งเลย”
   ในกลุ่มนี่ผมขาวสุดแล้ว ขาวกว่าพีชที่ออกเหลือง ขาวกว่าไอ้โป้ที่ดำคล้ำ ขาวกว่าไอ้จ๋าที่มีผิวสีน้ำตาล และมันก็เป็นประโยคเดียวกับกล่องเมื่อวานที่วางอยู่บนกระเป๋าผมด้วย
   หลังจากนั้นผมระหว่างที่ซ้อมวอลเลย์บอลผมก็มักจะมองไปที่กองกระเป๋าของตัวเองบ่อยๆ แรกๆ ก็ไม่เจออะไรผิดปกติไม่เห็นจะมีใครเข้าใกล้
   จนกระทั้งวันหนึ่งผมเหลือบไปเห็นคนผิวแทนของผม เขานั่งอยู่บนเก้าอี้แดงมองไปรอบๆ ผมได้แต่คิดว่าเขามาทำอะไรตรงนี้มาแอบดูใครกัน พอผมหันไปตีลูกเขาก็ลุกเดิน ผมมองตามจนกระทั้งเขาไปหยุดอยู่ตรงกองกระเป๋าของพวกผม มองซ้ายมองขวาก่อนจะโยนบางอย่างลงบนกระเป๋าแล้ววิ่งออกไป ผมตกใจจนปล่อยให้บอลตกใส่หัวไปหนึ่งที เจ็บจนเบลอแต่ไม่ได้สนใจไปกว่าการที่เขาคือคนที่ให้กระดาษพับกับผมทุกวันๆ
   คนผิวแทนที่ผมหลงใหลได้ปลื้มกับคนที่ให้กระดาษพับผมเป็นคนเดียวกัน
   พรหมลิขิตหรือเปล่าเนี่ย?




   ไม่ไหวแล้ว ถ้าเอาแต่มองอยู่อย่างนี้คงไม่ได้กิน ต้องหาตัวช่วย
   “เราชอบคนคนหนึ่งอยู่”
   “หูยยย เปิ้ลเพิ่งเลิกกับพี่นาวีไปหยกๆ จะเอาคนใหม่แล้วเหรอ”
   “เลิกกันตั้งแต่ก่อนปิดเทอมเราไม่เรียกว่าหยกๆ อีกอย่างมันได้เวลาแล้วพีช คนนี้สเปคมาก”
   “ยังไงหว่า”ผมบรรยายสรรพคุณ(เท่าที่ตัวเองเห็นและคิดเอาเอง) ให้พีชฟังอย่างออกรส ไม่รู้ว่าแกล้งกระตือรือร้นหรือตื่นเต้นกับสิ่งที่ผมเล่าให้ฟังจริงๆ แต่พีชก็มีปฏิกิริยารวมทุกครั้งที่ผมพูด “แล้วสรุปเขาคือใครอ่ะ”
   “ไม่รู้สิ รู้แต่หน้านี่แหละ”
   “โถ น่าสงสาร”
   “เดี๋ยววันนี้ไปกับเรา จะพาไปดู”
   “ได้จ้า ที่รัก”




   แล้วเราก็มาอยู่ข้างสนามฟุตบอลหลังซ้อมเสร็จ ยืนปะปนไปกับฝูงชนทั้งชายและหญิง ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองหรือเปล่าแต่คนพวกนี้หน้าเดิมๆ เลย หน้าเดิมทุกวันเหมือนมาเพื่อเจอใครสักคน ส่งเสียงกรี๊ดวี้ดว้ายแล้วก็จับกลุ่มคุยด้วยรอยยิ้มพร้อมหน้าแดงๆ อยู่ตลอด แต่ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกก็ไอ้พวกที่อยู่ในสนามมันหน้าตาดีน้อยซะเมื่อไร ผู้ชายเป็นฝูงอยู่รวมกันก็ไม่ต่างอะไรกับอาหารตาของสาวๆ หรอก
   รวมถึงคนหล่อผิวแทนของผมด้วย
   แต่.. เอ๊ะ.. คนพวกนี้คงไม่ได้มาเพื่อดูคนหล่อของผมหรอกนะ ใช่ไหม!?
   ผมพยักพเยิดหน้าไปที่คนหล่อของผมแต่พีชคนซื่อบื้อก็ยังงงว่าใครแถมยังเอาแต่ทำหน้าปลื้มที่เห็นแฟนว่าเท่อย่างนั้น เท่อย่างนี้ หล่อจังเลยแฟนใครน้า
   โอ๊ยยย มันใช่เวลาของพีชไหมเนี่ย! ไอ้พีชเพื่อนบ้า!
   “สรุปคนไหนอ่ะ เรายังไม่เห็นเลย”
   “พีชมัวแต่สนใจแฟนของตัวเองมากกว่าเลยไม่เห็นอ่ะ”
   “แฮะๆ ก็หินหล่อนี่ เท่อ่ะเท่มาก” เออ ไม่เถียง แฟนมันคนนี้หล่อจริง ทำอะไรก็เท่ดึงดูดสายตาชาวบ้านเขาไปหมด “แล้วสรุปคนไหน บรรยายให้ชัดเจนนะ ตรงนั้นผู้ชายเยอะอ่ะ เราตาลายไปหมดแล้ว”
   ผมเริ่มการบรรยายถึงผู้ชายของผมอีกครั้ง รอบนี้จับหน้าเพื่อนรักให้หันไปมองยังเขาคนเดียว บอกทั้งสีผิว ใบหน้าปรือๆ เหมือนคนง่วงนอนตลอดเวลา ท่าที่ที่กำลังกระดกน้ำเข้าปากก่อนจะเอาที่เหลือมาเทราดหัว มีผู้ชายเดินเข้ามาหา หนึ่งในนั้นคือลูกหินแฟนพีชบื้อเพื่อนผมและ..
   เฮ้ย!! เข้าหันมาทางนี้ด้วย!
   ทั้งที่คงไม่มีโอกาสได้อายคอนแทคหรอกเพราะคนเยอะขนาดนี้ แต่ผมก็รีบหลบสายตาของเขาแล้วดึงพีชออกมาจากฝูงชนที่ส่งเสียงวี้ดว้ายอยู่ 
   “คนนั้นเองเหรอ เรารู้ชื่อนะ”
   “ห้ะ! จริงเหรอ รู้ได้ไง ชื่ออะไร”
   “ฮิฮิ”
   “ว่าไง พีชชชชชช”
   “ยังไงดีน้า”
   “สัดพีช” เล่นตัวดีนัก กูหยาบใส่เลยเห็นไหม ปกติผมไม่หยาบกับพีชหรอก เพราะมันเป็นคนเดียวในกลุ่มที่ไม่พูดคำหยาบ แต่เวลามันกวนตีนมากๆ ก็หลุดด่ามันอยู่บ่อยๆ ซึ่งมันก็ไม่ได้อะไร
   “จ้าๆ บอกแล้วๆ คนนั้นอ่ะเพื่อนในกลุ่มลูกหินเขา” อ๊าก! ใกล้แค่ปลายจมูก “รู้สึกจะชื่อน้ำนิ่งนะ แต่เรายังไม่เคยเจอหรอก”
   น้ำนิ่ง.. น้ำนิ่ง.. ชื่อเข้ากับตัวเหลือเกิน
   พ่อหมีของผม
   “เขาชอบกินอะไร”
   “จะรู้เหรอ ไม่เคยเจอ ไม่เคยคุย” พีชลากเสียงยาว เออ กูก็เนอะ ถามอะไร “แต่เดี๋ยวเราถามหินให้”




   “หินจะโกรธเราไหมอ่ะ ถามถึงแต่ผู้ชายคนอื่น”
   “ดีจะตาย ไหนว่ามันเย็นชาไม่ค่อยแสดงออก คราวนี้จะได้รู้ไปเลยไง” ไม่ได้ๆ จะให้เสียงานเสียการเพราะเพื่อนกลัวแฟนหึงไม่ได้
   “ความคิดดีแฮะ ฮิฮิ หินจะหึงไหมน้า”
   เราพากันเดินออกมาที่ร้านคาเฟ่หน้ามอ ผมนั่งดูดโกโก้ปั่นไปรอให้พีชถามหินในสิ่งที่ผมอยากรู้ ผมลิสต์รายการให้แล้ว และอยากจะได้คำตอบเดี๋ยวนี้เลยด้วย ผมเลยล็อคตัวพีชไว้จนกระทั้งผมได้คำตอบตามที่ต้องการมาทุกอย่างแล้ว
   “เดี๋ยวหินแวะมารับไปส่งหอแล้วค่อยกลับมากินข้าวกับเพื่อนอ่ะ เปิ้ลกลับด้วยกันนะ”
   “โอเค” ผมเปิดไลน์ที่พีชแคปหน้าจอคำตอบมาให้แล้วอ่านไปพลางๆ รอแฟนเพื่อนมารับ
   ชอบนอน ชอบกินไก่
   มันมึน
   ไก่
   เออ ใครจะคบกับไก่วะ
   ยังไม่มีไง
   โดนบังคับ
   เยอะ แต่มันไม่รู้
   ชอบไก่
   เห็นมันกินแต่ไก่
   นอนทั้งวัน
   หมีซี้เซา
   บลา บลา บลา
   ทำไมเอาแต่ถามถึงผู้ชายคนอื่นวะ
   มึงอยากโดนตีใช่ไหมพีช
   อ่าว ชิบหาย มันจะทะเลาะกันเพราะผมไหมเนี่ย
   



   โบกมือลาเพื่อนที่ลากแฟนสุดหล่อเข้าห้องไปก่อนที่จะเดินมายังห้องของตัวเอง ผมวนอ่านบทสนทนาของสองคนนั้นซ้ำๆ แล้วอมยิ้มออกมา ทำไมเขาถึงน่ารักได้ขนาดนี้น้า
   ชชอบกินไก่ซะด้วย ผมทำอาหารเป็นนะ เข้าครัวตั้งแต่เด็กๆ เพราะเป็นพี่คนโตเวลาแม่ไปร้าน พ่อไปตีไก่ สังสรรค์กับเพื่อนฝูง ผมก็ต้องคอยดูแลคุณน้องบังเกิดเกล้า ทำกับข้าวให้น้องกินเพราะมันเรื่องมากไม่ยอมกินของที่คนอื่นทำให้ ทำไว้ก็ไม่กิน ต้องกินของทำใหม่ๆ ผมเลยต้องลงมือทำให้น้องตลอด ฝีมือดีอย่างกับเชฟภัตตาคาร ทำอาหารได้หลากหลาย ถ้าเขาชอบไก่ ผมก็ทำให้ได้ ไก่ทอด ไก่ต้ม ไก่นึ่ง ไก่ย่าง ไก่อบ.. ผมมีไก่ที่หมักไว้นี่นา!
   ใกล้จะสองทุ่มแล้ว จะทันไหมนะ?
   พอคิดได้ผมก็รีบส่งไลน์ไปบอกให้พีชรั้งลูกหินไว้นานๆ แล้วเริ่มลงมือทำไก่ทอดสูตรพิเศษที่ผมร่ำเรียนมาจากคุณแม่ทันที จัดวางลงบนกล่อง เพิ่มซอสและผักลวกไปสักหน่อย กลัวเขาเลี่ยนน่ะ แล้วผมก็เรียกให้พีชลงมาเอาแล้วฝากลูกหินไปให้น้ำนิ่ง ย้ำชัดกับพีชสุดๆ ว่า จะเป็นหมาแมวที่ไหนก็ได้แต่ต้องไม่ใช่ผมที่ฝากไปให้ ซึ่งพีชก็รับคำเป็นมั่นเป็นเหมาะ แม้จะหวั่นๆ เพราะพีชมันบื้อแต่ตอนนี้ผมก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากเชื่อใจเพื่อน
   หวังว่าเขาจะชอบไก่ที่ผมทำ.. โน้ตที่ผมเขียนให้ด้วย




TBC…
12/2/17
เอ้า เขารู้อยู่แล้ว 55555



หัวข้อ: Re: Apple's Trap [4 #แอปเปิล - 12/2/17]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 12-02-2017 23:38:00
 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:


 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Apple's Trap [5#แอปเปิล - 15/2/17]
เริ่มหัวข้อโดย: YEEUN9424 ที่ 15-02-2017 10:17:55

Apple’s Trap 5
#แอปเปิล



   หลายวันแล้วที่ผมทำไก่ไปให้น้ำนิ่ง ซื้อกล่องมาเก็บไว้เป็นสิบๆ อัน ไม่เปลืองหรอก ผมซื้อร้านยี่สิบบาท แพ็คหนึ่งมีตั้งสามอันแน่ะ แวะซูเปอร์ซื้อไก่มาหมักทุกวัน เดี๋ยวทอด เดี๋ยวอบ แต่ผมเน้นอบมากกว่าเพราะถ้าทอดไปกว่าเขาจะได้กินก็นานกลัวจะไม่อร่อย ฝากเพื่อนตัวเองให้ไปฝากรุ่นพี่รุ่นน้องไปให้อีกทีบ้าง แอบเอาไปฝากเองแต่ทำเนียนว่ามีคนฝากมากอีกทีบ้าง
   แต่วันนี้ดูเหมือนทุกอย่างจะผิดแผนไปหน่อย เพราะเมื่อผมกลับมาที่มหาลัยหลังจากไปทำไก่ให้น้ำนิ่งเสร็จก็พบว่าสนามฟุตบอลนั้นว่างเปล่า..
   ไม่มีเหล่าชายฉกรรจ์ส่งเสียงโวยวายยามซ้อมแล้ว
   ผมมองหน้าพีชอย่างสิ้นหวัง คิ้วตกเพราะกลัวไก่ที่ทำมาเป็นหมัน จะให้เอากลับไปกินก็ไม่ดีเพราะที่คอนโดก็ทำเผื่อตัวเองไว้อยู่ จะให้เพื่อนก็ทำใจไม่ได้เพราะผมใส่หัวใจอันมีรักเพื่อคุณหมีโดยเฉพาะ
   “หินบอกกลับไปทำงานที่ช็อปกันอ่ะ”
   “อ่าว ทำไงดีวะพีช”
   “ไปที่คณะเลย ปะๆ เราไปด้วย” ว่าแล้วก็ลากผมที่ยังไม่ได้ตัดสินใจอะไรทันที ขืนตัวแทบไม่ทัน
   “เดี๋ยววว แล้วจะให้ยังไง”
   “เดี๋ยวเราบอกหินให้ออกมาเอาก็ได้”
   “จะดีเหรอ” ยังคงลังเล ผมอยากให้คนไกลๆ ตัวเองไปให้มากกว่า เขาจะได้ไม่สงสัยอะไร
   “งั้นเดี๋ยวเราถามทะเบียนรถน้ำนิ่งแล้วเราเอาไปห้อยกระจกรถกัน”
   “แย่กว่าอันแรกอีกพีช”
   “แล้วเปิ้ลจะเอายังไง เราอยากเจอหินแล้วนะ”
   “เออๆ ตามใจเถอะ”



   และผมก็ต้องมารู้สึกคิดผิดทีหลังที่บอกตามใจไอ้พีชบื้อไป นอกจากมันจะไม่ได้เจอแฟนแล้วเพราะโดนงอนมันยังทำเรื่องให้ผมอีกต่างหาก คือแทนที่จะได้ฝากคนไป มันดันไปถามทะเบียนรถของน้ำนิ่งแทน โอเค ผมอาจจะได้ทะเบียนรถเขามาแล้ว
   แต่แล้วไงละ!? มันยังใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้สักหน่อย!
   “ไปเลยพีช ไปง้อแฟนตรงนู่น เดี๋ยวเรามา”
   “จะเอาไปห้อยกระจกรถใช่ม้า เห็นไหมบอกแล้วว่ามีประโยชน์นี่เรายอมทะเลาะกับหินเพื่อเปิ้ลเลยนะ”
   “เออ ขอบคุณ”
   ผมกระแทกเสียงใส่ก่อนจะทิ้งให้เพื่อนนั่งง้อแฟนในไลน์แล้วตัวเองก็เดินมายังหน้าคณะที่มีรถจอดเรียงรายอยู่ ปากพึมพำทะเบียนรถที่ได้รับมาไล่สายตาไม่เท่าไรก็เจอเป้าหมาย ถึงจะไม่มีคนและค่อนข้างมืดเพราะไฟเสียแต่ผมก็ค่อยๆ ย่องเข้าไปใกล้เหมือนพวกย่องเบาไม่มีผิด
   แกรบ!
   อุ้ย! เหยียบกิ่งไม้แห้ง
   ขณะที่ถุงไก่กำลังจะได้ห้อยโหนบนกระจกรถคันงาม..
   “ทำอะไรน่ะคุณ!”
   เสียงนี้มัน!? ผมค่อยๆ ลุกขึ้นช้าๆ รู้สึกว่าสั่นไปหมด แย่เลย ผมยังไม่พร้อมจะเปิดตัวนะ ทำไมต้องมาเจอะเจออะไรวันนี้ด้วย!! ยังไม่ทันจะลุกเต็มตัวแขนก็กระชากไปอย่างแรง แล้วก็ผ่อนแรงลง พอเขามองไปที่รถแรงบีบก็เพิ่มขึ้นมาอีก
   “ขอโทษ.. คือเรา..”
   ผมเริ่มขอโทษก่อนเพราะตัวเองผิดเต็มประตู รถเขามาทำด่อมๆ มองๆ แบบนี้ใครก็ต้องคิดว่าเป็นขโมยทั้งที่อยากบอกให้ชัดเจนว่ามาทำไม เพื่ออะไร แต่เสียงกลับไม่ยอมออกมาจากปาก สมองไม่การเพราะสายตาโหดๆ ของเขานี่แหละ
   “ทำอะไรกับรถผม!”
   โอ้ย!! ทนไม่ไหวแล้วพ่อหมี เสียงจะโหดไปไหน!
   “คือ คือ เราแค่เอาของมาให้!!” ผมว่าแล้วโยนถุงไก่ใส่อกเขา สะบัดมือแล้ววิ่งหนี ไม่รู้ไม่รู้ชี้แล้วเว้ย ขอกลับไปตั้งหลักก่อนดีกว่า ฮือ!



   ผมไม่รู้หรอกว่าหลังจากนั้นเขาจะทำหน้ายังไง คิดอะไร สนใจไก่ที่ตกพื้นนั่นหรือเปล่า ผมเพียงแค่วิ่ง วิ่งและวิ่งจนมาหอบลิ้นห้อยเป็นหมาอยู่ตรงหน้าพีช
   “เป็นอะไรเปิ้ล หนีอะไรมา”
   “แฮ่ก..ค.. คือเราเจอ... อะ.. หิน” หุบปากตัวเองแทบไม่ทันเมื่อเห็นร่างสูงยืนอยู่ข้างๆ พีช ไม่รู้เลยว่าเขายืนอยู่ไม่อย่างนั้นได้รู้แน่ว่าผมกำลังจีบเพื่อนของเขาอยู่
   “ไม่มีอะไรหรอก หินมานานแล้วเหรอ”
   “เปิ้ลไปสักพักหินก็มา หินไม่ปล่อยเราไว้คนเดียวหรอก” ว่าแล้วก็หันไปเจาะแจ๊ะแฟนตัวเองด้วยใบหน้าแป้นแล้น หินทำหน้าเอือมใส่แต่ผมก็เห็นว่าเขาแอบอมยิ้มอยู่ ไอ้ซึนเอ้ย!
   “แล้วเปิ้ลไปไหนมา” หินถามผม
   “เปิ้ลเอากะ.. อุบ!!”
   “เราไปห้องน้ำมา ไม่มีอะไรหรอก” เกือบแล้วไหมละ ไอ้บื้อพีช
   “แล้วทำไมมากันดึกๆ”
   “กะ.. ก็..” หินมองเราสองคนสลับกันไปมา เขาว่าผู้ชายนิ่งเงียบมักจะฉลาด มีไหวพริบดี ผมก็ไม่อยากจะคิดมากหรอกนะ แต่ท่าทางอย่างลูกหินผมว่าเขาต้องเอะใจอะไรแน่ๆ “พีชน่ะสิ”
   “หือ?”
   “คิดถึงหินไม่ใช่เหรอ” กระแซะไหล่แล้วขยิบตาให้เพื่อนบื้อเล่นตาม ซึ่งพีชก็คือพีชถ้าเป็นเรื่องของหินแล้ว..
   “ช่ายยย เราคิดถึงหินอ่ะ วันนี้ได้เจอกันนิดเดียวเอง”
   โถมตัวเข้าไปกอดเต็มแรง ไม่รู้ว่าฉลาดเล่นตามสัญญาณที่ผมส่งให้หรือใจจริงแค่อยากกอดแฟนตัวเองกันแน่ หินมองพีชแล้วอมยิ้มน้อยๆ เขาวาดแขนกอดตอบก่อนจะก้มลงหอมแก้มเนียนของพีชแล้วก็งึมงำๆ กันสองคน ทำเอาผมเขินแทนต้องหันหน้าหนีไปทางอื่น
   มาหวานอะไรกันตรงนี้ละ เฮ้อ..
   



   ผมเดินมาซ้อมวอลเลย์บอลด้วยจิตใจที่ไม่ค่อยจะสดใสเท่าไรนัก ไม่ต้องถามเลยว่าเพราะอะไร เรื่องเมื่อวานนั่นแหละ ทำเอานอนไม่หลับ หน้าคล้ำ ตาเป็นหมีแพนด้าเลย ให้ตายเถอะ!
   เดินเข้ามาไม่เท่าไรก็พีชก็โดนใครสักคนเรียกออกไป คล้ายๆ ว่าจะเป็นหนึ่งในกลุ่มเพื่อนของน้ำนิ่ง ผมแอบมองอยู่ห่างๆ หลังเสานั่นก็ดูคนเยอะแปลกๆ แถมยังมีคนร่างคุ้นยืนอยู่อีกต่างหาก พวกเขาเล่นอะไรกัน?
   “แอปเปิล!! มีคนมาหาแน่ะ!”
   หันควับทันที ผมชี้ย้ำที่ตัวเองระหว่างที่เดินเข้าไปใกล้ เห็นหนึ่งในเพื่อนของน้ำนิ่งชัดขึ้น และยิ่งใกล้ก็ยิ่งคุ้นกับคนที่ยืนแอบอยู่กับเสา พอมาถึงก็รู้เลยว่าความคุ้นนั้นคืออะไร..
   น้ำนิ่ง!
   “นะ.. นาย..”
   ทำไมเขามาอยู่ตรงนี้ได้ล่ะ!?
   ผมหลีกเลี่ยงที่จะมองใบหน้าของเขาเพราะยังอับอายกับเรื่องเมื่อวานไม่หาย ตอนนี้เขาก็คงรู้แล้วว่าผมเป็นคนทำไก่ให้เขามาโดยตลอด ไม่รู้ว่าจะรู้สึกยังไง ชอบหรือไม่ชอบ รำคาญหรือเปล่าก็ไม่รู้
   คิดแล้วก็อดกัดปากด้วยความเสียใจไม่ได้  ผมคิดตลอดแหละว่าสักวันต้องบอกเขา รอวันดีๆ อย่างวันแข่งกีฬาวันสุดท้ายหรืออะไรก็ว่าไป ผมจะเข้าไปหาเขาด้วยตัวเอง ถือไก่เข้าไปให้บอกไปว่าผมคือคนคนนั้น
   และผมชอบคุณ.. แล้วเราก็จะได้คบกันอย่างมีความสุข ถ้าเขาชอบผมน่ะนะ แต่ตอนนี้ทุกอย่างมันพลิกแผนไปหมด นี่เขาจะตามมาด่าผมหรือเปล่า
   “เจ้าบอกว่าอยากรู้ว่าเปิ้ลชื่ออะไร เราเลยเรียกมาน่าจะดีกว่า เผื่อเขาจะจีบเลยจะได้ไม่เสียเวลา ฮิฮิ”    
   “ใครถามเหรอ”
   อ๋อ.. คงจะมาเป็นเพื่อนเพื่อนอีกที ผมนี่ก็คิดมากไป แต่ก็แอบเสียใจแฮะ
   “คนนี้จ้า ชื่อเจ้าเพื่อนหินแฟนเราด้วยนะ หล่อเหมือนกัน ลองดูๆ เราไปน้า ฝากบอกหินให้มารับเราด้วยนะเจ้า”
   “เอ่อ.. เฮ้ย! ไม่ใช่ คือว่า.. แม่ง!! กูไปละ มึงจัดการเองนะ”
   อ่าว.. ไปนู่นแล้ว มันยังไงวะเนี่ย ผมมองตามคนชื่อเจ้าที่วิ่งออกไปไกล แล้วหันมามองคนที่ยังอยู่ น้ำนิ่งเอง.. ก็มองผมอยู่เหมือนกัน แล้วทำไมเขาถึงไม่ไปไหนละ?
   “คือ.. ยังไงเหรอ นี่เราโดนแกล้งเล่นใช่ไหม” เพราะความเงียบ ทั้งแอบมองและหลบสายตาเลยรับรู้ได้ถึงอาการประหม่าของเราทั้งคู่
   “เปล่า ไม่ใช่แบบนั้น” และเขาก็ตอบมาแทบจะในทันที
   “แล้วทำไมคนนั้นถึงวิ่งหนีไปล่ะ ไหนบอกอยากรู้ชื่อเรา”
   คราวนี้เขาเงียบเสมองไปทางอื่น ใบหน้าที่มักจะได้มองเห็นแค่ไกลๆ ติดจะคิดไม่ตกเหมือนกำลังคิดหาคำพูดสักอย่างซึ่งผมก็รอฟังอย่างตั้งใจ
   “งั้นถ้าไม่มีอะไร..” แม้จะน่าเสียดาย แต่ผมก็ไม่อยากติดอยู่ในสถานการณ์อันน่าอึดอัดแบบนี้สักเท่าไร ต้องตัดงใจจากผิวสีแทนในระยะใกล้แล้วทำทีว่าจะเดินออกไป แต่เขาก็คว้าแขนของผมเอาไว้ซะก่อน
   ..ผิวสีแทนของเขาตัดกับผิวสีขาวของผม..
   ถ้าเป็นไอติมก็ต้องเป็นรสนมกับช็อคโกแลต!
   “ไก่เมื่อวานอร่อยมาก อร่อยทุกวันเลย ขอบคุณ”
   “อ๋อ.. อื้ม ไม่เป็นไร”
   เขาพูดถึงไก่ที่ผมทำด้วย ดีใจจัง
   “คนที่อยากรู้ชื่อคุณน่ะไม่ใช่ไอ้เจ้าหรอก..” ผมเอียงคอมองอย่างสงสัย มือของเขาก็ยังไม่ปล่อยไปจากข้อมือของผมเสียที 
   “ผมเอง.. ผมอยากรู้ชื่อของคุณแอปเปิล”
   ไม่รู้เลยว่าตัวเองจะหน้าแดงขนาดไหน
   เมื่อได้ยินเสียงทุ้มของเขาเรียกชื่อของผม

   วันนี้พวกสถาปัตย์ก็เลิกซ้อมฟุตบอลไวแล้วกลับไปทำงานกันที่ช็อป ผมเลยตั้งใจว่าจะกลับไปทำไก่ที่คอนโดแล้วลากพีชให้ออกไปเป็นเพื่อนเหมือนเดิม
   คราวนี้จะเข้าไปตรงๆ เลยไม่อ้อมค้อมไม่ปิดบังอะไรอีกแล้ว เขารู้แล้วนี่นาว่าเป็นผมคิดแล้วก็สุขใจ ถึงตอนเย็นจะขมขื่นไปหน่อยเพราะเขาดันวิ่งหนีไปหลังจากพูดชื่อผมเสร็จ
   เขาคงจะเขิน แต่ผมคงไม่รู้เพราะมองไม่ทัน
   เอาเถอะ เดี๋ยวเรามาเริ่มกันใหม่
   ยกกระเป๋าขึ้นสะพายแล้วก็อดแปลกใจไม่ได้ วันนี้ไม่มีกระดาษพับแฮะ มองไปตามกระเป๋าของเพื่อนก็ไม่มี หยิบยกค้นหาแล้วก็ยังไม่เจอ จะเดินรอบสนามเพื่อหาก็ดูจะมากไปแต่ผมก็เดินไปแล้วสองรอบ แต่ก็ยังไม่มี แทนที่จะเสียใจแต่ผมกลับขำเสียมากกว่า คิดว่าเขาคงลืมเพราะเมื่อเย็นหลังจากพูดประโยคนั้นออกมาเขาก็วิ่งไปทางสนามฟุตบอลเฉย ยอมรับว่าตกใจแต่เขาคงจะเขินมากผมเลยไม่คิดอะไร



   ผมแอบยืนอยู่ที่เดิมหน้าช็อปแต่ไม่มีรถของเขาจอดอยู่แล้ว ลังเลอยู่นานว่าควรจะบุกเข้าไปดีไหม แต่ก็เห็นชายหนุ่มคุ้นตาคุ้นใจเดินเข้ามาเสียก่อน ผมรีบหลบเข้าหลังต้นไม้ แอบมองอยู่ไหลๆ เขานั่งลงกับม้านั่งตัวเดิม สูบบุหรี่แล้วก็เอาแต่จ้องอะไรสักอย่างในมือ
   เอายังไงดี ไปเลยหรือรอก่อน ไปเลยดีไหม..
   แกรบ
   ขาผมไปแล้ว... เขาดูอึ้งมากที่เงยหน้ามาเจอผม มือไม้สะเปะสะปะไปทั่ว เขาวางกล่องบางอย่างไว้ข้างตัว
   “กินอะไรหรือยัง” ต้องหาเรื่องพูดก่อน
   “กินแล้ว.. เฮ้ย ไม่ใช่” ผมเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม “จริงๆ ก็กินแล้ว แต่ก็กินอีกได้”
   ทำไมเขาถึงได้น่ารักขนาดนี้นะ คงจะรีบเปลี่ยนคำพูดเมื่อได้เห็นถุงไก่ในมือผม
   “งั้นเอาไปกินเล่นเป็นของว่างนะ”
   ผมยื่นไก่ไปให้ เขารีบรับไปวางลงบนตักท่าทางถะนุถนอมจนผมอดเอ็นดูไม่ได้ การได้เห็นคนรับใส่ใจกับของที่เราตั้งใจให้เขามันทำให้หัวใจพองโตและมีความสุขได้มากขนาดนี้เลยเหรอ?
   ถ้ารู้ว่าจะได้เห็นท่าทางน่ารักๆ ของน้ำนิ่งแบบนี้ผมยอมหน้าด้านเอามาให้เองแต่แรกแล้ว
   “วันนี้อยู่ดึกไหม”
   “อืม อาจจะดึก”
   “แค่นี้จะพอไหมนะ” บ่นเบาๆ กับตัวเอง ทำงานก็เหนื่อยแล้วยังต้องอยู่ดึกอีก ผมกลัวว่าเขาจะหิวกลางดึกจังหรือควรจะกลับไปทำเพิ่ม เขาจะว่าผมจุ้นจ้านไหม
   “พอสิ กินคนเดียว”
   “ไม่แบ่งใครเลยเหรอ”
   เขาพูดจริงเหรอ?
   “ไม่แบ่งหรอก ตั้งแต่ครั้งแรกแล้ว”
   “ดีใจจัง”
   “ก็เป็นของโปรดนี่”
   “อื้ม ยังไงก็ดีใจ” ถึงจะไม่แบ่งใครเพราะเป็นองโปรดแต่ผมก็ดีใจมากอยู่ดี อยากเห็นตอนเขาจริงจังเลยน้า “นายกลับไปทำงานเถอะ เราก็จะกลับเหมือนกัน”
   “กลับยังไง”
   “ติดรถไปกับเพื่อน”
   “กลับดีๆ ล่ะ”
   “อื้อ ไปนะ” แม้จะอยากชวนคุยต่อมากแค่ไหน แต่ผมก็ไม่อยากรบกวนเวลาของเขาไปมากกว่านี้ ให้คนชอบนอนแบบเขารีบกลับไปทำงานแล้วรีบนอนจะดีกว่า
   เดินออกมาจนเกือบจะถึงที่ให้พีชนั่งรอแขนของผมก็ถูกคว้าไว้เสียก่อนเกือบจะหันไปด่าพ่อล่อแม่ให้คนคว้าแล้วถ้าใช่เพราะว่าหันไปเห็นว่าเป็นน้ำนิ่ง
   ยอมรับว่าใจพองโตเมื่อเห็นหน้าเขาอีกครั้ง แถมยังมารั้งผมไว้ด้วยแน่ะ แต่งงมากกว่าว่าจะวิ่งตามมาทำไม ผมเดินออกมาก็ไกลแล้วนะ จะไปส่งเหรอ ความรู้สึกช้าไปนิดนะพ่อคุณ
   จนกระทั้งเขายื่นบางอย่างมาให้ สิ่งที่ผมเฝ้ามองตั้งแต่ที่เดินเข้าไปหาเขาบนม้านั่ง
   กระดาษพับรูปน้องหมา
   นึกว่าจะไม่ได้ซะแล้ว
   “นะ.. นายเองเหรอ.. นายคือคนที่เอากระดาษพับมาวางไว้ตรงกระเป๋าเราตลอดเหรอ.” ผมทำท่าว่าตกใจ เพราะไม่อยากให้เขารู้ว่าผมรู้มานานแล้วว่าใครเป็นคนให้
   “อื้ม”
   “เหลือเชื่อมาก”
   “อ่า.. ใช่”
   “อื้ม.. เหลือเชื่อมาก” ผมประคับประคองไอ้เจ้าน้องหมากระดาษในมืออย่างถะนุถนอม คิดแล้วว่าเจ้าตัวนี้ต้องเด่นที่สุดบนชั้นวางแล้วจะทำโน๊ตบอกความสำคัญของเจ้านี่ไว้ด้วย “งั้นผมไปก่อนนะ”
   “อะ.. อื้ม ตั้งใจทำงานนะ ขอบคุณสำหรับ..”
   “เต็มใจครับ” ผมมองตามแผ่นหลังของเขา แต่แล้วเขาก็หันกลับมาอีก “อีกอย่าง.. ผมชื่อน้ำนิ่ง”
   ว่าแล้วก็เดินออกไปซะไวจนผมกลัวว่าเขาจะขาพันกัน
   “รู้อยู่แล้วละ”
   หวังว่าเขาจะได้ยินนะ ..น้ำนิ่งของผม..



TBC…
15/2/17
ลงช่วงนี้จะมีคนอ่านไหมอะ 55555
ขอจีบกันอีกสักสองสามตอน กำลังน่ารักกกก
เจอกันอีกที 19 เลยน้า กลับบ้านยาววววว


หัวข้อ: Re: Apple's Trap [5 #แอปเปิล - 15/2/17]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 15-02-2017 10:57:03
 :m3: :m3: :m3: :m3: :m3:
น้ำนิ่งเวลาอยู่กับเพื่อนเวลาอยู่กับคนอื่นเป็นหมีขี้เซาแต่ไม่ใช่กับแอปเปิ้ล

:pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Apple's Trap [5 #แอปเปิล - 15/2/17]
เริ่มหัวข้อโดย: xxSunShinexx ที่ 15-02-2017 20:41:24
ชอบความหมีขี้เซา เหมือนเราเลย 5555
นิ่งเป็นหลับขยับเป็นแ_ก  :hao6:
หัวข้อ: Re: Apple's Trap [5 #แอปเปิล - 15/2/17]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 16-02-2017 08:37:33
ยังวนไปมาอยู่เลย (แบบว่าสลับพาร์ทของน้ำนิ่งกับแอปเปิล แต่ยังอยู่ในเหตุการณ์เดิม) รอดูเขาจีบกันค่ะ
หัวข้อ: Re: Apple's Trap [6 #น้ำนิ่ง - 19/2/17]
เริ่มหัวข้อโดย: YEEUN9424 ที่ 19-02-2017 18:59:39


Apple’s Trap 6
#น้ำนิ่ง



   “นั่นมึงจะไปไหนไอ้นิ่ง! ห้ามโดดซ้อมนะเว้ย!!”
   “ปล่อยมันไปเหอะน่า”
   “เดี๋ยวแม่งก็หนีกลับอีก”
   “มันก็มีความรับผิดชอบอยู่น่า”
   “เหรอ แล้วเมื่อวานไอ้เวรที่ไหนมันหนีกลับก่อน”
   “มันไม่ได้หนีไปไหน..”
   เสียงคุยของไอ้แมมมอธกับไอ้มูนดังไล่หลังจนกระทั้งเงียบหายไป ผมไม่หันไปต่อปากต่อคำด้วยแม้ว่าไอ้เรื่องที่พวกมันกำลังพูดถึงจะเป็นเรื่องของผมก็ตาม ผมมีอะไรที่สำคัญกว่าไอ้พวกขี้นินทานั่นเยอะ
   ผมเดินมาทางด้านหลังของโรงยิมซึ่งอยู่คิดกับแถวๆ ที่นักศึกษาใช้ซ้อมกีฬา มีสระน้ำทอดยาวเป็นสายล้อมรอบ มีม้านั่งให้ได้พักผ่อน มีทางเดินให้วิ่งออกกำลังกายหรือเดินผ่อนคลายด้วย อย่ามองอย่างนั้น ผมไม่ได้มาหาที่นอน ผมมาเพราะมีนัดต่างหาก และคนที่ว่าก็ไม่ใช่ใคร
   แอปเปิลของผมไง
   ร่างโปร่งนั่งแผ่ออร่าความขาวอยู่ไม่ไกล ผมรีบสาวเท้าเข้าไปหา เขาเงยหน้ามายิ้มให้ทันทีเมื่อเห็นผม
   อ่า.. รอยยิ้มสดใสแบบนี้แหละที่ผมอยากจะเจอทุกๆ วัน
   หลังจากที่ได้รู้ความจริงในคืนนั้นไลน์ของแอปเปิลก็ขึ้นมาบนผู้ติดต่อทางไลน์ของผมทันที งงเหมือนกันว่าไปมีได้ยังไง ตั้งใจว่าจะขอกับตัวสักหน่อย และเพื่อไม่ให้มันดูเป็นการละเลยผมเลยจัดการทักไปแล้วเราก็คุยกันบ่อยขึ้น แม้ว่าความจริงแล้วถ้าไปเปิดห้องแชทของเราดูมันจะมีแต่ข้อความจากแอปเปิลก็เถอะ
   คือผมเป็นพวกไม่สันทัดเรื่องการคุยผ่านจอสักเท่าไร หลายๆ ครั้งผมก็ไม่ได้ตอบ ปล่อยเวลาให้ล่วงเลย จนกลัวว่าเขาจะโกรธเอา ไม่ใช่เพราะลืมแต่เพราะหลับ พอบอกไปก็กลัวแอปเปิลจะคิดว่ามันคือข้ออ้าง หลังๆ ผมเลยอัดเสียงส่งอย่างเดียว
   ผมชอบนัดเขาออกมาเจอ เพราะไม่อยากเห็นแค่ตัวหนังสือ หลังซ้อมบ้างก่อนซ้อมบ้าง ขอแค่ได้เห็นหน้า ได้ยินเสียงก็พอ ผมก็รู้สึกมีกำลังใจทำงาน แถมยังฝันดีทุกครั้งที่หลับตา
   และก่อนจะแยกย้ายเราก็จะแลกของกันเหมือนทุกที ไม่ได้ต้องแอบให้เหมือนเมื่อก่อนแล้ว
   “วันนี้เป็นแอปเปิลเหรอ”
   “อื้ม ให้แอปเปิล เลยต้องเป็นแอปเปิล”
   “เดี๋ยววันนี้เราเอามื้อเย็นไปให้”
   “ครับ”
   โคตรมีความสุข ผมได้กินไก่ฝีมือของแอปเปิลทุกวัน แถมยังแอดวานซ์ขึ้นเรื่อยๆ เพราะไม่ได้มีแค่ไก่แล้ว ของหวาน ของว่าง อาหารเสริมมาเต็มยิ่งกว่าตอนที่ไม่รู้ว่าใครเป็นใครเสียอีก เล่นเอาเพื่อนอิจฉากันหูดับตับไหม้
   ผมมองคนข้างกายที่เอาแต่สนใจโอการิกามิในมืออย่างเพลิดเพลิน ทำท่าแงะๆ แกะดูให้ใจกระตุกเล่นนิดหน่อย โถ่.. อย่าแกะเชียวที่รักมันพับยากอยู่นะ
   Rr Rr Rr Rr Rr
   “เพื่อนโทรตามแล้วอะ” เขาหยิบมารับครู่เดียวก็วางลง
   แอปเปิลลุก ผมก็ลุกตาม หยิบหนังสือของเขาขึ้นมาเพื่อช่วยถือ แอปเปิลเม้มปากปากเอ่ยขอบคุณอย่างน่ารักทำเอาใจผมพองโต แล้วเราก็ออกเดินมาพร้อมๆ กัน ผมไปส่งเขาที่สนามวอลเลย์บอลก่อน
   “หูย เดี๋ยวนี้มีคนมาส่ง”
   แอปเปิลได้ยินเพื่อนแซวก็หน้าแดง ยกมือชี้หน้าเพื่อนทีละคน ซึ่งผมยังจำชื่อเพื่อนเขาไม่ได้สักคน ยกเว้นพีชแฟนไอ้หินที่หาเรื่องให้ผมเมื่อตอนนั้น
   “เงียบปากเลยพวกมึง”
   “ไอ้ห่า อย่าล่ำลานานละ รีบๆ มาซ้อม”
   “เออ! น้ำนิ่งเดี๋ยวเจอกันนะ”
   “ครับ ผมไปนะ”
   “อื้อ อย่าหลับในตอนวิ่งน้า”
   อย่ายิ้มแบบนั้นสิ มันทำให้ผมรู้สึกอยากทำอะไรที่มากกว่าการโบกมือให้ แล้วมือของผมก็ไปไวกว่าความคิด เมื่อมันยื่นไปลูบแก้มเนียนเบาๆ
   “เย็นนี้เจอกันนะแอปเปิล”
   ผมคิดว่าแอปเปิลคงไม่รังเกียจมือสากๆ ของผม เพราะเขาหน้าแดงจนผมใจสั่นเลย





   “ได้ข่าวว่าช่วงนี้มึงกำลังจีบใครบางคนอยู่”
   “เชี่ยยยย อย่างไอ้นิ่งเนี่ยนะ” ไอ้โจ้ กับลูกสมุนของมันเสนอหน้าเข้ามาใกล้ พอทุกคนได้ยินว่าผมกำลังจีบใครสักคนจากที่ก้มหน้าก้มตาทำงานก็หันมามองผมเป็นตาเดียว มองไม่ว่าแต่ไอ้หน้าอึ้งๆ เหมือนเจอสิ่งมหัศจรรย์ลำดับที่สิบสามของโลกนั่นคืออะไร
   “กูเปล่านะเว้ย” ไอ้เจ้ากับไอ้มูนพูดพร้อมกันเมื่อผมหันไปมอง จำได้ว่าไม่เคยบอกใครแล้วทำไมไม่ไอ้พวกนี้รู้
   “โธ่ เห็นเดินด้วยกันบ่อยๆ ใครเขาก็ดูออก”
   “ไม่ได้จีบ แค่ดูๆ กันอยู่”
   “มึงแยกคำว่าจีบกับดูๆ กันออกด้วยเหรอวะ”
   “อ่าว สัด”
   “สรุปใคร กูอยากรู้นักใครมันดึงความสนใจจากไอ้นิ่งไปจากคุณสลีปปิ้งได้”
   “แอปเปิล ศึกษาศาสตร์”
   ผมบอกไปตามตรงไม่คิดปิดบัง ไหนๆ มันก็เห็นกันแล้วดีซะอีกจะได้มีหูมีตาคอยดูแอปเปิลเผื่อมีแมลงวันแมลงหวี่มาตอม อีกอย่างถือเป็นการประกาศความเป็นเจ้าของไปในตัว แม้ว่าผมกับเขาจะยังไม่ถึงขั้นนั้นก็เถอะ
   “เอกไรวะ คงไม่ใช่แอปเปิลเดียวกับที่ไอ้อาร์ทมันเล็งๆ ไว้นะ”
   “เอกการดูแลคุณหมี”
   “K เอาดีๆ”
   “หินแฟนมึงเอกไร”
   "อิ้ง”
   “เออ ว่าที่แฟนกูก็เอกนี้แหละ”
   “ขาวๆ ปะวะ”
   “เออ”
   “เล่นของขาวไม่เข้ากับตัวซะด้วย เดี๋ยวดิ.. เชี่ยแล้ว คนที่ไอ้อาร์ทเล็งอยู่นี่หว่า” ไอ้โจ้ร้องเสียงหลงก่อนจะชี้นิ้วไปที่ไอ้อาร์ท
   “มึงมาเคลียร์”
   ตีนกระตุกเลยกู นี่ต้องมีคู่แข่งเป็นเพื่อนในสาขาเหรอวะ แล้วมันไปปะกับแอปเปิลของผมตอนไหน นานหรือยัง ทำอะไรไปแล้วบ้าง
   “เฮ้ยๆ กูแค่เล็ง ถ้าของมึงกูก็จะถอยเลย อย่าเพิ่งโหดดิ สัด” มันว่ายกมือยอมแพ้เหมือนยกธงขาว
   “ให้แน่นะมึง”
   “เออ กูแค่เห็นเขาน่ารักเลยมองเฉยๆ อย่าซีเรียสสิเพื่อน”
   “ต่อไปห้ามมอง”
   “มันห้ามได้เหรอวะ นี่ตากู” ผมยกตีนให้มันก่อนจะปาดินสอแท่งกุดใส่หัว
   “เออๆ กูจะพยายามไม่มอง ไอ้ห่า จากหมีขี้เซากลายเป็นหมีโหดซะงั้น มึงก็อีกคนไอ้เชี่ยโจ้...”
   มันบ่นกระปอดกระแปด เพื่อนในสาขาที่นั่งอยู่ก็พากันหัวเราะเพราะใส่ ผมเลิกสนใจพวกขี้เมาท์แล้วมานั่งตัดกระดาษทำงานต่อ แต่ตัดไปได้ไม่กี่แผ่นเสียงไลน์ก็ดังขึ้น ไม่รี่รอรีบหยิบของที่จำเป็นแล้วลุกออกมาทันที
   “ไปไหนวะ” ขนาดอาศัยช่วงที่พวกมันเอาแต่คุยกันไอ้เจ้าขี้เสือกก็ยังหันมาเห็นผมได้
   “ไปเอาเสบียง”
   “กูรู้เลยจากใคร ทำไมไม่พาเข้ามา”
   “ไม่เสือกดิ” ผมเคยชวนแล้วแต่แอปเปิลก็เอาแต่ปฏิเสธ ซึ่งผมก็ไม่ได้อะไร ไว้คบกันเมื่อไรกูจะลากมานั่งเฝ้าให้พวกแม่งกระอักเลือดตายเลยคอยดู
   “กูอยากเจอบ้าง” คราวนี้ผมเดินไปถีบหลังไอ้อาร์ทเต็มๆ “แค่อยากเจอไม่ได้จะแย่ง โว้ยยยย มึงอย่าทำตาโหดนักกูกลัว”
   “ตัดกระดาษให้กูด้วย”
   “เออๆ”




   ออกมาจากสตูก็เห็นเขานั่งตัวขาวผ่องอยู่ใต้เสาไฟ รอบๆ มีแสงสว่างเพียงพอเพราะช่างมาทำไฟแล้ว ผมเดินเข้าไปใกล้สะกิดไหล่เขาแล้วถึงนั่งลงข้างๆ เขา ได้กลิ่นหอมของไก่แล้วท้องก็ร้องโครก
   “ขอโทษที่มาช้า”   
   “ไม่เป็นไร” ตั้งแต่เย็นผมยังไม่ได้กินอะไรเพราะรอให้แอปเปิลทำมาให้ แต่มึงจะมาร้องเสียงดังให้กูขายขี้หน้าทำไมวะ หมดหล่อเลย
   “นี่เราทำมาให้เยอะเลย แล้วก็อันนี้เอาไปให้เพื่อนๆ นะ” ผมมองถุงไก่สองอัน อันถุงคือขนาดปกติที่ผมได้รับเป็นประจำ แต่อีกถุงมีถึงสองกล่อง
   “มันไม่เยอะไปเหรอ” ใจจริงอยากถามว่าจะทำไปให้พวกมันทำไม
   “ไม่หรอก เราเห็นอยู่ดึกกันบ่อยๆ พีชก็บ่นๆ หมักไก่ไว้แล้วเลยทำมาเผื่อ”
   “เอาไว้ทำให้ผมกินคนเดียวก็ได้นี่”
   “เดี๋ยวมันเสีย รอบนี้มือเติบไปหน่อย หมักซะเยอะเลย”
   “ผมกินคนเดียวได้ ของที่แอปเปิลทำผมกินหมดอยู่แล้ว”
   “บ้า” เขาว่าตีแขนผมแก้เขิน
   “พูดตรงๆ นะ หวง ไม่อยากให้พวกมันได้กิน” เดี๋ยวมันติดใจมาตามจีบแอปเปิลของผม ทำไงอะ? ชิบหายดิ
   “แค่ไก่เอง”
   “ไก่ของแอปเปิล”
   “น่าๆ ยังไงของน้ำนิ่งก็พิเศษกว่าอยู่แล้ว อย่าลืมแบ่งเพื่อนละ”
   สุดท้ายผมก็ต้องพยักหน้าอย่างจำยอมแม้ในใจจะค้านสุดตีนก็ตาม แต่พอเห็นหน้าน่ารักๆ ที่เอาแต่ยิ้ม บรรยายว่าไก่รอบนี้เป็นยังไง ทำแบบไหน คนกินจะชอบหรือเปล่า จะถูกปากเพื่อนไหม ทำเอาผมยิ้มตามได้ไม่ยาก
   แล้วเวลาแห่งความสุขเล็กๆ ของผมก็ผ่านไปเมื่อแอปเปิลขอตัวกลับเพราะต้องกลับพร้อมพีช ไอ้หินมองผมยิ้มๆ ตอนที่เราเดินมาเจอกันตรงรถของพีช เราสองคนยืนรอจนกระทั้งรถหายลับไปจากสายตาแล้วค่อยเดินกลับมาที่สตู เสียงในสตูยังคงดังต่อเนื่องเหมือนไม่ได้มาทำงานแต่มาสังสรรค์กันมากกว่า
   “ของมึงหมดเลยเหรอ จากหมีกลายเป็นหมูแน่มึง”
   พอผมวางถุงลงไอ้มูนกับไอ้เจ้าก็หันมาสนใจทันที ผมไม่ได้ตอบในทันที เพราะยังรู้สึกลังเลอยู่ คือถ้าทำได้ก็ไม่อยากให้ อยากแดกคนเดียว ของชอบด้วย คนที่ชอบทำให้ด้วย แค่เหตุผลสองข้อนี้ก็เพียงพอแล้วที่จะงก แต่พอคิดไปถึงสีหน้าของแอปเปิลตอนที่คุยกันแล้ว ถ้าเกิดแอปเปิลถามขึ้นมาแล้วผมตอบไม่ได้ เขาคงจะ..
   “ถุงนี้ของกู ถุงนี้ของพวกมึง”
   “ห้ะ..” ไอ้เจ้ากับไอ้มูนมองหน้ากันอึ้งๆ มีแค่ไอ้หินเท่านั้นมีมองมาด้วยสายตาหมือนเดิมที่ไม่ได้มีความรู้สึกอะไร คือแม่งไม่ได้คิดอะไรไง มันก็แค่มอง
   “มึง..”
   “แบ่ง..”
   “ไก่..”    
   “เพื่อน..”
   “เชี่ยยยยย น้ำนิ่งงงงง” มันพูดคนละคำแล้วค่อยประสานเสียงในตอนท้ายก่อนจะโผล่เข้ากอดผมแต่ผมเบี่ยงตัวหลบก่อน
   “กูไม่ได้อยากให้ แต่แอปเปิลทำมาเผื่อพวกมึง”
   “เพื่อนสะใภ้ช่างแสนดีนัก”
   “ต้องกินให้อร่อยด้วยนะพวกมึง”
   “คร้าบบบบบ”
   ว่าแล้วพวกมันก็รุมไก่คล้ายๆ กับ.. เอ่อ.. ตัวเหี้ยอย่างไรอย่างนั้น ไอ้หินก็เอาด้วย ไม่พอเพื่อนในสาขาคนอื่นๆ ก็มาแจมด้วย จะพอไหมไม่รู้ ผมดันส่วนของตัวเองมาไว้ใกล้ตัวแล้วเริ่มเปิดกิน เพราะกลัวพวกมันจะเข้าใจผิดแล้วหยิบไปกินด้วย นั่งกินส่วนของตัวเองไปมองเพื่อนรุมกินตรงหน้าไปก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายภาพและวิดีโอส่งไปให้คนทำดู
   Namninggggggg ;; ฝูงตัวเงินตัวทองกำลังรุมกินไก่
   Apple’s ;; คุณหมีรู้จักแบ่งปัน เด็กดีๆ เอารางวัลไหม
   Namninggggggg ;; ผมอยากเจอคุณ
   ผมส่งไปตามใจคิด อยากเจอจริงๆ ไม่โกหก เมื่อกี้มันไม่พอ
   Apple’s ;; ออกไปตอนนี้คงไม่ได้แล้ว เอานี่ไปแทนนะ
   นั่งรอไม่กี่อึดใจแอปเปิลก็ตอบกลับมาพร้อมแนบภาพตัวเองชูสองนิ้วทำปากจู๋อวดริมฝีปากแดงๆ มาให้ ผมกดเซฟในทันที แล้วก็ได้แต่คิดว่าทำยังไงถึงจะได้เห็นภาพนี้ตลอดเวลาที่เปิดมือถือ
   แล้วผมก็ตั้งเป็นรูปหน้าจอมันซะเลย หึหึ
   “สงสัยไก่ของเชี่ยนิ่งจะเผ็ดมาก”
   “ดูหน้าแม่งดิ แดงซะกูกลัว”
   “หน้ามันดำขนาดนั้นมึงยังจะเห็นอีก”






TBC…
19/2/17
กลับมาแล้ววว รู้สึกเหมือนไม่ได้ลงนานแต่จริงๆ ก็แค่ไม่กี่วันเอง
อาจจะเรื่อยๆ เอื่อยๆ ไปบ้าง แต่เราอยากให้เห็นความน่ารักของคนทั้งคู่และความสัมพันธ์ที่ค่อยๆ พัฒนาจ้า
สนุกที่ได้แต่งด้วยแหละ เลยยืดเลย 55555
ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ





หัวข้อ: Re: Apple's Trap [6 #น้ำนิ่ง - 19/2/17]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 19-02-2017 20:43:11
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Apple's Trap [6 #น้ำนิ่ง - 19/2/17]
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 19-02-2017 21:54:48
55555
หัวข้อ: Re: Apple's Trap [6 #น้ำนิ่ง - 19/2/17]
เริ่มหัวข้อโดย: ::UsslaJlwaJ:: ที่ 21-02-2017 08:32:49
แปะป้ายติดตามเลยจ้า น่ารักมั่กๆ
หัวข้อ: Re: Apple's Trap [7 #แอปเปิล - 23/2/17]
เริ่มหัวข้อโดย: YEEUN9424 ที่ 23-02-2017 20:39:08


Apple’s Trap 7

#แอปเปิล

 

 





            ผมละสายตาออกจากจอคอม ไถตัวออกมาจากโต๊ะก่อนจะเริ่มบิดขี้เกียจจนได้ยินเสียงกระดูกลั่นกรอบแกรบ วันนี้ทั้งวันเอาแต่อยู่ในห้องไม่ไปไหน นั่งทำสื่อการสอนสำหรับพรีเซ็นต์การสอนในวันจันทร์ตั้งแต่เช้าจนเวลาล่วงเลยมาถึงหกโมงเย็น

            ตอนเช้าได้โจ๊กจากพีช ตอนกลางวันได้ผัดพริกแกงจากไอ้โป้ ส่วนตอนเย็นนั้น... เพราะเป็นช่วงวันหยุดผมเลยไม่ได้ทำอาหารไปให้น้ำนิ่งของในตู้เย็นเลยว่างเปล่า ผมถอนหายใจ ยังไงก็ต้องออกจากหอสินะ ไม่อย่างนั้นคงไม่มีแรงซ้อมพรีเซ็นต์แน่ๆ

            เดินลงมาจากหอหวังจะไปฝากท้องกับคุณป้าร้านประจำก็ดันปิด เลยต้องจำใจเดินข้ามไปอีกฝั่งหนึ่ง เข้าร้านที่คิดว่าคนน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เดินไปนั่งโต๊ะแล้วจดเมนูที่ต้องการผมสั่งไปสองอย่างเผื่อไว้กินรอบดึกด้วย

            ระหว่างที่รอคุณป้าทำกับข้าวก็ได้ยินเสียงพร้อมชื่อที่คุ้นหู

            “หมีนิ่ง มึงแดกไร”

            “กะเพราไก่ ไข่สุก”

            น้ำนิ่ง!!

            ผมใจเต้นตุบตับ ไม่คิดว่าจะได้มาเจอกันที่นี่เพราะช่วงวันหยุดเราไม่ได้เจอกันเลย ผมทำงานเขาก็ทำงาน เราแค่คุยไลน์กันเท่านั้นเอง อยากหันไปทักจังแต่ว่าสภาพผมมัน...

            เสื้อสีขาวย้วยๆ ที่ทุกคนในบ้านพร้อมใจกันเรียกว่าผ้าขี้ริ้วกับกางเกงเลขาบานๆ ใส่แล้วเย็นสบายไปถึงทรวง ผมกระเซอะกระเซิงเพราะไม่ได้ผ่านการจัดทรงและหวีมาร่วมสองวันแล้ว ไหนจะหน้าเหี่ยวๆ ไม่เต็งตึง แล้วแว่นอันกลมๆ ทรงคุณป้านี่อีก

            อ๊ากกกกก!!! อยากจะบ้าตาย ไอ้บ้าแอปเปิล ไอ้เปิ้ลเน่า!!

            ผมก้มหัวงุดจนแทบจะยัดตัวเองลงไปกับโต๊ะเมื่อคิดได้ว่าไม่ควรเอาสภาพแบบนี้ไปให้น้ำนิ่งเจอ อันที่จริงกูไม่ควรโผล่หัวออกจากห้องเลยด้วยซ้ำทำไมไม่ตบแต่งตัวเองให้มันดีกว่านี้แล้วค่อยออกมาวะ!?

            เขาคงไม่หันมาสนใจผมหรอกใช่ไหม นั่งหันหลังให้ผมใช่หรือเปล่า

 

            จึก จึก จึก

            หือ? ใครสะกิด

 

            “แอปเปิล” ทำไมเสียงมันใกล้นักล่ะ อย่างกับมายืนกระซิบอยู่ด้านหลังแน่ะ ไม่นะ ไม่..

            “มึงทำไรวะหมี”

            “นี่แอปเปิล” ของแท้และแน่นอน เพราะเขาดึงผมขึ้นมาจากโต๊ะแล้วจับหมุนตัวให้หันมาหาเขาทันที ทำไมแรงควายขนาดนี้ ไม่ถะนุถนอมกันเลย

            “เว้ยเฮ้ยยย พรหมลิขิตเปล่าเนี่ย สวัสดีคร้าบ พวกเราเพื่อนไอ้หมี.. เฮ้ย ไอ้น้ำนิ่งมัน” เป็นเพื่อนเขาที่ยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนแทบจะชิดแว่นของผมแล้วก็โดนน้ำนิ่งตบหัวไปที

            “กลับหลุมไปเลยมึง”

            “สาด ไปก่อนนะครับแอปเปิล ไว้เจอกัน ขอบคุณสำหรับไก่ทอด อร่อยมาก ใช่ไหมพวกมึง”

            “อร่อยมากคร้าบบบ ขอบคุณคร้าบบบ”

            ผมอมยิ้มพยักหน้าให้แล้วเพื่อนเขาก็โดนน้ำนิ่งไล่ไปอีกรอบ ที่นี้ก็เหลือแค่เราสองคน แต่ก็ไม่ได้เป็นส่วนตัวอะไรขนาดนั้น เพราะร้านก็ไม่ได้ใหญ่ โต๊ะทานข้าวก็ติดๆ กันนี่แหละ เพื่อนน้ำนิ่งที่มาด้วยกันก็ยังมองมาแถมแซวไม่หยุดปาก ผมก้มหน้าหลบสายตา อับอายกับสภาพของตัวเอง อายทั้งน้ำนิ่งอายทั้งเพื่อนเขาที่นั่งกันเป็นกลุ่มอยู่ใกล้ๆ

            ผมหันกลับเขาหาโต๊ะตามเดิม อีกฝ่ายก็ตามมานั่งตรงข้าม ถึงผมจะไม่ได้เงยหน้ามองแต่ก็แอบเห็นว่าเขาท้าวคางมองมาที่ผมอยู่

            “เงยหน้าหน่อย”

            “วันนี้สภาพเราไม่โอเค”

            “ยังไง ก็เหมือนทุกที” หน้าไม่ล้าง ไม่รู้จะมีคราบอะไรติดอยู่บ้าง แถมบวม ใส่แว่นป้าๆ หัวกระเซิง แบบนี้มันเหมือนทุกทีตรงไหน “เงยหน้าเร็ว”

            ผมส่ายหัวพรืดจนแว่นแทบกระเด็นออกจากหน้า ยังไงก็ไม่ยอมเด็ดขาด แค่เมื่อกี้ตอนเผลอก็มากพอแล้ว ผมได้แต่ภาวนาในใจให้ป้าทำของผมให้เสร็จไวๆ แล้วเอามาให้สักที พี่จะลุกไปจ่ายตังค์แล้วใส่เกียร์หมาวิ่งกลับหอให้ดู

            “นะครับ อยากเห็น”

            ทว่าสิ่งที่ยื่นมาตรงหน้าผมกลับไม่ใช่กล่องข้าวหอมๆ แต่เป็นนิ้วมือสีแทนของคนตรงข้ามที่ค่อยๆ เชยค้างผมขึ้นจนเราสบตากัน

            “น่ารักเหมือนเดิม”

            ค้างเลย..

 

 

            “ฮิ้วววววว เชี่ยหมีแม่งมีอารมณ์นี้ด้วยเหรอวะ กูต้องขอบคุณแอปเปิลก่อนหรือตกใจก่อนดี”

            น้ำนิ่งไม่ได้หันไปต่อปากต่อคำกับเพื่อนเหมือนทุกที เขาเอาแต่ท้าวคางมองหน้าผม อมยิ้มเล็กๆ จนเห็นลักยิ้มข้างแก้ม มือข้างที่เชยคางผมก็ยังไม่ละออกไปไหน

            “งือ น้ำนิ่งหน้าเราแย่อ่ะ ปล่อยเถอะ”

            พอผมได้สติก็เริ่มอ้อนจะเอาหน้าลงเขาก็ดันไว้คราวนี้ไม่ใช่แค่นิ้วสองนิ้วแล้วแต่เป็นทั้งมือเลย คือจับคางแน่นมาก นี่ถ้าเผลอทำให้โมโหเขาจะบิดคางผมจนหักหรือเปล่า

            “ไม่แย่ แบบไหนก็น่ารัก”

            เขินเลย..

 

 

            “ฮิ้วววววว เชี่ยหมีแม่งน้ำเน่าสาดดดด”

            แล้วเขาก็โยนกล่องไม้จิ้มฟันไปทางเพื่อนตัวเอง ต้องขอบคุณเพื่อนเขานะ ไม่อย่างนั้นผมได้ระเบิดตัวเองแล้วกลายเป็นโกโก้ครั้นช์ตรงนี้แน่ๆ

            ดูเขาสิ พูดประโยคชวนเขินออกมาได้หน้าตาเฉย ไม่ได้นึกถึงคนฟังเลยว่าจะเขินแค่ไหน

            “ไม่ก้มแล้วนะ”

            “อื้อ ไม่ก้มแล้ว”

            “ไอ้หนู ข้าวได้แล้วลูก”

            ผมลุกขึ้นเขาก็ลุกตาม โบกมือล่ำลาเพื่อนๆ ของเขาเล็กน้อยคิดว่าน้ำนิ่งจะนั่งลงเลยแต่ก็ไม่เขาเดินตามผมออกมาจนถึงนอกร้าน

            “ไกลไหม”

            “ไม่อ่ะ ข้ามไปก็ถึงแล้ว คอนโดนี้” ผมชี้ให้เขาดู “เข้าไปสิ”

            “แอปเปิลข้ามไปก่อน”

            “เอาอย่างนั้นเหรอ”

            “ครับ”

            “ไว้เจอกันนะ”

            “อื้อ” หันหลังกลับมองซ้ายมองขวาจนกระทั้งถนนว่างรถ ผมกำลังจะก้าวขาเดินแต่ก็ถูกคนข้างหลังดึงไหล่ไว้ทั้งสองข้าง

            “แอปเปิลน่ะ จะแบบนี้หรือแบบไหนก็น่ารัก..” เสียงทุ้มกระซิบที่ข้างหู รับรู้ได้ถึงลมหายใจทำเอาขนลุกซู่ “ไว้คุยกันนะครับ”

            ผมไม่รู้เลยว่าตัวเองรอดจากการข้ามถนนโดยไม่ให้รถชนมาได้อย่างไร ทั้งๆ ที่จิตใจล่องลอยไปไกลขนาดนั้น

           

 

 

 

            ความสัมพันธ์ของเราสองคนก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆ เพื่อนรู้เพื่อนเห็นเวลาผมบังเอิญเจอเพื่อนๆ ของเขาทั้งที่ในกลุ่มหรือในสาขาของเขาก็มักจะโดนเรียกโดนแซวพอหอมปากหอมคอ ทางฝั่งของผมเองก็พอจะรู้เรื่องบ้าง แต่มันไม่ได้ไปแซวน้ำนิ่งหรอก แซวผมนี่แหละ โดนทั้งขึ้นทั้งร่อง ทั้งในและนอกคณะ

            วันนี้เรามีนัดกันว่าจะไปกินหมูกระทะเพื่อฉลองหลังจากผ่านการพรีเซ็นต์การสอนมาสามวันติด โดนสูบวิญญาณไปกับการเรียนแล้วก็ต้องเพิ่มพลังกันหน่อย

            พีชบอกว่าจะชวนลูกหินมาด้วยผมเลยรีบส่งไลน์ไปชวนน้ำนิ่ง เขารีบตอบตกลงกลับมาทันที และเพื่อไม่ให้เป็นการละเลยผมเลยบอกให้เขาชวนเพื่อนคนอื่นๆ มาด้วยก็ได้ หลังจากนั้นจากที่จะนั่งกันแค่โต๊ะเดียวก็ต้องต่อเป็นสองโต๊ะเพราะเพื่อนน้ำนิ่งมาหมดเลย ครบกลุ่ม

            ไม่รู้ว่าเพื่อนจงใจหรือมันบังเอิญที่นั่งข้างๆ ของผมเลยเป็นน้ำนิ่งอย่างที่ผมหวังไว้ ส่วนตรงข้ามก็เป็นลูกหินกับพีช ผมเดินไปตักของกินน้ำนิ่งก็ไปด้วย ชี้นั่นชี้นี่ให้ผมตักให้ส่วนเขาก็คอยถือถาดใส่ของเดินตามเหมือนลูกเป็ด ผมที่กินได้ทุกอย่างก็ตักไปอย่างละนิดอย่างละหน่อยแต่จะเน้นไก่มากเพราะรู้ว่าคนที่เดินตามชอบกิน พอผมตักไก่มาจนพูนจานเขาก็ยิ้มเสียจนตาหยี

            พอเดินกลับมาที่โต๊ะก็เห็นแค่พีชนั่งเป็นคุณหนูอยู่คนเดียว พอหันไปมองเพื่อนก็ได้รับสายตาล้อเลียนกลับมาทั้งจากเพื่อนตัวเองและเพื่อนของเขา

            “จากพ่อหมีกลายเป็นลูกเป็ดแล้ววะ” เพื่อนของน้ำนิ่งที่ชื่อมูนพูด

            “อย่างนั้นไอ้เปิ้ลก็กลายเป็นแม่เป็ดแล้วดิ” ไอ้จ๋าเสริมโรงเข้าไปอีกมันเป็นผู้หญิงคนเดียวในกลุ่มผู้ชายตรงนี้แต่ท่าทางแสนห้าวและเข้ากันได้โคตรไว

            “ไม่ใช่ดิ” ไอ้โป้พูดขึ้นเล่นเอาทุกคนสงสัย ผมเองก็ด้วย

            “มันเป็นเมียหมีต่างหาก ฮ่าๆ”

            ไอ้เชี่ยโป้!! พูดมาได้ไม่คิดว่ากูจะอายเลย ผมหันมามองน้ำนิ่งหน้าแดงจะส่ายหัวปฏิเสธก็ไม่ได้เพราะใจก็คิดอยากเป็นจริงๆ น้ำนิ่งขำหึหึก่อนจะดึงผมให้นั่งลงแล้วกระซิบข้างหู

            “ผมก็อยากเป็น”

            “อยากเป็นเมียเหรอ” ไม่นะ.. พ่อหมีของผม

            “ผัวสิ”

            “หยาบคายวะน้ำนิ่ง”

            “หึ เดี๋ยวก็ได้เป็น รอหน่อย”

            ไหม้กว่าไก่ปิ้งบนกระทะก็หน้าผมนี่แหละ ไอ้หมีบ้านี่ พูดอะไรออกมาก็ไม่รู้

 

 

 

            น้ำนิ่งอาสามาส่งผมที่คอนโดทำให้เราได้มีเวลาอยู่ด้วยกันอีกหน่อย ถึงจะบอกว่ามาส่งแต่ก็เดินมาส่งน่ะนะ ไม่ได้ขับรถมาอย่างใครเขาหรอก เพราะขาไปผมไปกับพีช น้ำนิ่งเองก็มากับเพื่อน เพราะเขาอยากนอนเลยไม่ได้เอารถมา ผมละเชื่อเลย

            แต่การเดินไปตามทางแบบนี้มันก็ไม่ได้แย่นัก แม้ว่าจะมีเสียงรบกวนตลอดทางจนคุยกันไม่ค่อยจะรู้เรื่องก็ตาม จะคุยทีก็ต้องก้มกระซิบกันที ไหนจะต้องระวังรถที่ขับไปมาอีก สรุปเราสองคนเลยเดินกันไปเงียบๆ ไม่พูดอะไรจนถึงหน้าคอนโดของผมมือถือเขาก็ดังขึ้น

            “เออ เดี๋ยวกูย้อนกลับไป ได้ แค่นี้แหละ” เขาวางมือถือลงแล้วหันมาหาผม “เพื่อนให้ไปช่วยทำงาน”

            “ไม่ง่วงเหรอ” ผมแหย่ เพราะเขาทำหน้าจะหลับมาหลายรอบแล้ว

            “ง่วง แต่ต้องสร้างบุญคุณก่อน”

            “โหหห นิสัยนะ”

            “เข้าไปได้แล้ว”

            “อื้อ กลับดีๆ” พอเขากำลังจะเดินไปผมก็คว้าเขาไว้เมื่อนึกสิ่งที่ตกค้างอยู่ในใจมาสักพัก “เอ่อ.. นิ่งจะพูดกับเราเหมือนอยู่กับเพื่อนก็ได้นะ”

            “หืม?”

            ไม่แปลกถ้าเขาจะมองมาด้วยความสงสัย วันนี้หลังจากที่ได้ไปกินข้าวด้วยกัน น้ำนิ่งเข้ากันได้ดีกับกลุ่มเพื่อนของผม แม้จะมียังสุภาพแต่ก็เป็นกันเองกว่าที่คิด ผมเองก็ด้วยกับเพื่อนของน้ำยิ่งก็ไปกันได้ดี แม้จะไม่ได้หยาบคาบเหมือนตอนอยู่กับเพื่อนของตัวเองแต่ก็ถือว่าสนิทได้เร็ว แต่พอเราอยู่กันสองคนเรากลับไม่เป็นแบบนั้น ผมกลัวว่าเขากำลังฝืน

            “คิดอะไรอยู่”

            “เรากลัวน้ำนิ่งฝืนอ่ะ”

            “แล้วแอปเปิลฝืนไหม” ผมส่ายหัวทันที ไม่ได้ฝืนเลย ที่อยู่กับเพื่อนอีกอย่างอยู่กับคนที่ชอบอีกอย่างมันคือนิสัยของผมจริงๆ ใช่ว่าเพิ่งมาเป็นกับแฟนเก่าก็แบบนี้ มีแค่ตอนโมโหหรือหงุดหงิดนู่นแหละถึงจะหลุดคำหยาบออกมาตามอารมณ์

            “ผมก็ไม่ได้ฝืน แบบนี้ดีแล้ว แอปเปิลพิเศษ”

            คำว่าพิเศษของเขาทำเอาผมใจเต้นแรง

            “เหมือนกัน เราเป็นแบบนี้มานานแล้ว ถ้าตอนไหนหลุดคือโมโหหรือหงุดหงิดแค่นั้นแหละ”

            “ก็คงเหมือนกัน แต่ว่าขอเรียกเปิ้ลได้ไหม”

            “ได้ดิ! แล้ว.. นิ่ง.. ได้ไหม”

            “แน่นอน”

            ว่าแล้วก็ยกยิ้มส่งมาให้ก่อนจะดุนหลังผมให้เข้าไปข้างใน ผมเดินไปจนถึงหน้าลิฟต์หันกลับมาที่เดิมก็ยังเห็นคนผิวแทนยืนส่งยิ้มมาให้อยู่ คืนนี้ผมคงฝันดี

 

 

 







 

TBC…

23/2/17

อย่าเพิ่งเบื่ออออออ เดี๋ยวเขาก็คบกันนนนน



หัวข้อ: Re: Apple's Trap [7 #แอปเปิล - 23/2/17]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 23-02-2017 21:23:46
ค่อย ๆ จีบ ค่อย ๆ ขยับความสัมพันธ์
หัวข้อ: Re: Apple's Trap [7 #แอปเปิล - 23/2/17]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 23-02-2017 22:34:35
 :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Sleeping bear and Apple's Trap [8 #แอปเปิล - 23/2/17]
เริ่มหัวข้อโดย: YEEUN9424 ที่ 01-03-2017 18:51:53


Apple’s Trap 8
#แอปเปิล



   ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่าแต่ช่วงนี้รู้สึกว่าน้ำนิ่งกำลังมีเสน่ห์แบบแปลกๆ ไม่สิ ปกติก็มีเสน่ห์อยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นผมจะมาตกหลุมหมีอย่างนี้เหรอ ผมหมายถึงรอบข้างเขาดูแปลกไป มีคนวนเวียนเข้ามามากกว่าตอนที่ผมเจอเขาเสียอีก ทั้งผู้หญิงและผู้ชายประเภทเดียวกับผม
คือมันยังไงวะ? เกิดอะไรขึ้น!?
“พี่น้ำนิ่ง สถาปัตย์โคตรหล่ออ่ะ”
ผมหูผึ่งทันทีที่ได้ยินประโยคนี้จากโต๊ะข้างๆ วันนี้มาเรียนวิชาเลือกเลยต้องกินอาหารที่ตึกรวม เพื่อนออกไปซื้อข้าวทิ้งให้ผมนั่งเฝ้าโต๊ะเลยได้ยินประโยคเด็ดเข้า
“เออ หล่อมาก หล่อลากกกก ถึงจะชอบทำหน้ามึนๆ แต่ช่วงนี้ยิ้มบ่อยอ่ะ ดูมีออร่าของความรัก”
“เออจริง เห็นบ่อยด้วยช่วงนี้หรือเพราะต้องซ้อมบอล”
“ไม่รู้ดิ แต่วันนั้นเห็นเดินกับคนตัวขาวๆ แฟนปะวะ”
“น่าจะคุยๆ กันอยู่ กูจะบอก..” รู้สึกว่าตัวเองกำลังจะตกเก้าอี้ยังไงไม่รู้ ดีที่ว่าผมนั่งหันหลังพวกสองสามสาวด้านหลังเลยไม่รู้ว่าผมคือใคร “กูไม่รู้ว่าใครจีบใครก่อน แต่แบบพอเห็นมีพี่คนนั้นไปใกล้ชิดสนิทสนมกับพี่น้ำนิ่งแล้วก็เหมือนไปปลุกพลังงานบางอย่างอะมึง”
เดี๋ยว.. ปลุกพลังงานอะไร..
“ยังไงอะ”
“จากที่ไม่กล้าจะเข้าหาคนแม่งก็เข้าหาพี่น้ำนิ่งไงมึง เห็นปะ เดี๋ยวนี้พี่แกได้ของเต็มไม้เต็มมือ..” ใช่เต็มมาก ทั้งขนม ทั้งสารพัดไก่ บางทีผมก็อยากจะโวยวายแต่พอคิดว่ามันเป็นของชอบของเขาผมก็ได้แต่เก็บงำความไม่พอใจเอาไว้
อีกอย่างคือยังไม่มีสิทธิ์อะไรด้วย
“..ทั้งชายทั้งหญิงก็เข้าไปชวนคุย ปกติมีที่ไหน..” อันนี้ก็จริง! ขนาดว่าผมยืนอยู่ข้างๆ ก็ยังแวะทัก พอถามว่าเพื่อนเหรอ เขาก็บอกไม่รู้จักเห็นเขาทักเลยทักตอบเฉยๆ เล่นเอาผมไปไม่เป็นแล้วก็ได้แต่ปล่อยผ่านไป
“..อยู่มาสามปีพี่แกฮอตเงียบๆ มาโตลอด แฟนคลับก็ตามเงียบๆ มีปีนี้แหละโจ่งแจ้งเกิน”
“เพราะพี่ตัวขาวคนนั้นเหรอ”
“สงสัย อารมณ์แบบ.. พี่คนนั้นทำได้  กูก็น่าจะได้บ้าง”
อืม อืม อย่างนี้นี่เอง
อ่าว.. เวรกรรม! ไอ้เรื่องพวกนี้มันเกิดขึ้นเพราะผมหรอกเหรอ!? แล้วต้องทำไงอะ ถึงจะได้ใกล้กว่าใครแต่สิทธิ์เสิดอะไรก็ยังไม่มี ผมเริ่มกลัวแล้วนะ




   เริ่มเชื่อแล้วว่าตัวเองเป็นสาเหตุที่ทำให้คนเข้าหาน้ำนิ่งอย่างเปิดเผย ลำพังแค่เข้ามาคุยเจาะแจะๆ เฉยๆ ไม่เท่าไร แต่ไอ้ประเภทมาต่อหน้าต่อตาแถมยังจิกตาใส่ผมนี่ยังไง ต้องเคลียร์ใช่ไหม จะได้จบเรื่อง ให้มันรู้กันไปเลยใครเป็นใคร
   “อันนี้ฝ้ายซื้อมาจากร้านดังใจกลางเมืองเลยนะคะ ไปต่อแถวตั้งนานแน่ะ”
   นี่เลย ตัวต้นเหตุที่ทำให้ผมต้องนั่งตัวเกร็งกำมือแน่น สงบจิตสงบใจไม่ให้ลุกไปกระชากหัวหญิงสาวที่กำลังกระแซะน้ำนิ่งอยู่ ไอ้คุณชายก็นั่งนิ่งส่งยิ้มให้เขานิดๆ พร้อมรับถุงไก่ที่ว่านั่นมาด้วย ผมกำมือแน่นจนเล็กแทบจิกเนื้อบอกกับตัวเองว่าเพราะน้ำนิ่งชอบกินไก่เขาเลยรับมา ไม่ได้คิดอะไรเหมือนที่คิดอย่างผมหรอก แต่เขาจะรู้ไหมว่ามันคือการให้ความหวังน่ะ!
   พอเห็นว่าน้ำนิ่งยอมรับของที่เธอให้ก็หันมาส่งสายตาราวกับผู้ชนะให้ผม โอ้โห อยากจะเรียกลงไปเล่นวอลเลย์บอลด้วยกันเลย พี่แอปเปิลจะตบบอลอัดให้หน้าหงายเลยจ้ะ
   “ขอบคุณครับ แต่ทีหลังไม่ต้องลำบากหรอก”
   “ไม่ลำบากเลยค่ะ แค่เห็นพี่นิ่งกินอย่างมีความสุข น้องฝ้ายก็ดีใจแล้วค่ะ” ไอ้เชี่ยยยยยย เรียกซะสนิทแล้วแทนตัวเองด้วยชื่อด้วยวะเฮ้ย น้องคนนี้มาเหนือ มาแรงของจริง ไม่ได้การ ผมไม่ควรนั่งเงียบเป็นกุลสตรีแบบนี้
   “น้ำนิ่ง” เสียงนิ่ง
   “ครับ”
   “เปิ้ลมาเตรียมตัวได้แล้ว!!”
   ผมสะดุ้งเฮือกกับเสียงตะโกนของไอ้โป้ เรื่องของเรื่องคือตอนนี้เรานั่งอยู่แถวๆ สนามวอลเลย์บอลเพื่อรอแข่งรอบต่อไป อะไรวะ เมื่อกี้ไปดูยังเหลืออีกตั้งเซตหนึ่ง ทำไมมันจบเร็วแบบนี้ล่ะ ยังไม่ได้แสดงความเป็นเจ้าของน้ำนิ่งเลย
   “ไปแข่งก่อนนะ” ทำอะไรไม่ได้ ถ้าไม่รีบไปผมนี่แหละจะโดนไอ้โป้ตบคนแรก คิดแล้วอยากจะร้องไห้นี่ต้องจำใจทิ้งปลาย่างไว้กับแมวแรดจริงๆ เหรอเนี่ย
   “ผมไปด้วย ไปนะครับ”
   “ฝ้ายไปดะ...!!”
   น้องคนนั้นยังพูดไม่ทันจบน้ำนิ่งก็ดุนหลังผมให้เดินมาที่สนามโดยไม่คิดจะหันไปสนใจน้องคนนั้นอีกแม้ในมือเขาจะถือถุงไก่ของน้องเขาติดมือมาด้วยก็เถอะ ผมแอบลอบยิ้มอย่างปลื้มปริ่ม
   หึ เขาเลือกผมแหละ




   ผมยืนยืดเส้นยืดสายเพื่อเตรียมตัวลงเล่นอยู่ในสนามระหว่างรอความพร้อมของกรรมการและคู่แข่ง ได้ยินเสียงอู้อ้าๆ ดังอยู่รอบๆ แต่ก็ไม่ได้สนใจ พอทุกอย่างพร้อมพวกผมก็ลงสนาม เมื่อการแข่งขันเริ่มขึ้นผมก็จดจ่ออยู่แต่กับลูกบอลตรงหน้าจนไม่ได้สนใจอะไรแต่ไม่รู้ทำไมผมถึงรู้สึกว่าเสียงฮือฮาและอู้อ้านี่จะมีแทรกเข้ามาทุกทีที่ผมหรือพีชกระโดดตบบ้างละ แหกแข้งแหกขาเพื่อรับลูกบ้างละ
   จนหมดเซตแรกคณะของเราสามารถเอาชนะไปได้ ระหว่างพักผมมองไปรอบๆ สนามมีสายตามองมาที่พวกเรามากมาย บางทีก็พยักพเยิดแล้วทำท่าเขิน ผมมองไปที่พวกน้ำนิ่งเห็นมูนกับเจ้ากำลังพูดอะไรใส่หูน้ำนิ่งไม่รู้ แต่หน้าเขาดูเครียดมาก คิ้วนี่ขมวดแล้วขมวดอีก พอๆ กับลูกหินที่ยืนอยู่ข้างเจ้าเลย
   เซตที่สองเริ่มขึ้นแต่ผมกลับไม่ค่อยมีสมาธิเท่าไรนัก เพราะคุณหมีที่ยืนทำหน้าเครียดๆ อยู่ตรงคนดูนั่นแหละ แค่ดูวอลเลย์บอลเองนะทำไมต้องทำหน้าเครียดขนาดนั้นด้วย?
   ยิ่งคิดยิ่งเครียดตีผิดๆ ถูกๆ รู้ว่าไม่ดีที่เอาเรื่องอื่นมาคิดในเวลาแข่ง แต่เรื่องอื่นที่ว่ามันคือเรื่องของหัวใจผมเลยนะ! เกิดเขาคิดขึ้นมาได้ว่าไก่ของยัยน้องฝ้ายอะไรนั่นดีกว่าแล้วเปลี่ยนใจจากผมจะทำยังไงล่ะ!?
   ทำยังไงดี?
   ปึก!
   “โอ้ยยย!!”
   นี่คงเป็นผลกรรมจากการละเลยหน้าที่ รู้ตัวอีกทีผมก็นั่งกุมหัวอยู่กับพื้นแสบที่หัวเข่าเล็กน้อยเพราะไถลลงพื้น รอบข้างส่งเสียงฮือฮาและเริ่มโดนมุงแล้วจากหน้าของเพื่อนในทีมก็แปรเปลี่ยนเป็นหน้าของหมีคิ้วขมวดที่ขมวดยิ่งกว่าเดิมจนกลัวว่าจะพันกัน
   “ศึกษาศาสตร์เปลี่ยนตัว!!”




   ผมโดนอุ้มมาที่ห้องพยาบาลที่อยู่ใกล้ที่สุด น้ำนิ่งเดินไปเดินมาแล้วหยิบเอาอุปกรณ์ทำแผลมานั่งลงตรงหน้าผม ดูที่หัวแล้วไม่มีอะไรนอกจากรอยแดงและอาจจะบวมปูดในตอนหลังก็ได้แต่ทายารอไว้ เสร็จแล้วก็ดึงขาของผมไปดู ผมถึงได้สังเกตว่าพอนั่งชันเข่าขึ้นแบบนี้แล้วกางเกงขากว้างเปิดเผยเข้าไปถึงข้างใน ผมรีบคว้าเอาผ้าห่มมาบังไว้ทันที
   “ทำไมไม่ใส่สนับเข่า”
   “ลืม”
   “แล้วกางเกงซับล่ะ”
   “ลืมเหมือนกัน”
   “เปิ้ล!”
   “อะไรเล่า! ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย”
   “แล้วนี่จะปิดทำไม”
   “เฮ้ย! อย่าดึง!” เรายื้อแย้งผ้าห่มในมือกันแล้วเขาก็ยอมแพ้ไป ที่ต้องดึงมาปิดแบบนี้ก็เพราะมันเขินไงเล่า! อยู่ต่อหน้าคนที่ชอบจะมาวับแวมๆ ได้ไง เกิดอะไรขึ้นมาจะทำยังไง ไอ้หมีบ้านี่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย!
   “รู้ไหมว่าตัวเองโชว์เรียกเลือดไปตั้งเท่าไร”
   “โชว์อะไรล่ะ เล่นกีฬาต่างหาก” น้ำนิ่งถอนหายใจ เพิ่งเคยเห็นเขาทำหน้ายุ่งแบบนี้เป็นครั้งแรก หล่ออะ
   “ดูเอาเถอะ เสื้อตัวก็ใหญ่แต่สั้นชิบหาย กางเกงนี่ก็นะ ซับในก็ไม่ใส่ กระโดดที่เห็นกันทั่วทั้งเอวทั้งต้นขา แล้วเปิ้ลขาวน้อยเหรอวะ คิดว่าตัวเองไม่น่ามองอย่างนั้นสิ ฮึ พวกแม่งเลยเพลินเลยไง”
   อึ้ง
   “เดี๋ยวๆ นี่จะบอกว่า..”
   น้ำนิ่งทำหน้าบู้แล้วหันหนีไปอีกทางเหมือนคนงอน
   “ไม่อยากให้ใครเห็น”
   ในขณะที่ผมเริ่มประมวลผลกับคำพูดและสิ่งที่เกิดขึ้น ทำให้เริ่มเข้าใจแล้วว่าต้นเหตุของเสียงอู้อ้าในสนามและที่เขาคิ้วขมวดตลอดเวลาคืออะไร
   “หวง”
   ผมซุกหน้าลงกับขาของตัวเอง บ้าที่สุด ทำไมต้องทำให้เขินขนาดนี้ด้วย
   “แค่ดูเอง เอาไปไม่ได้สักหน่อย”
   “ยังไงก็หวงอยู่ดี ไม่ต้องลงแล้ว”
   “ไม่ได้ดิ!”
   ถ้าไม่ลงคงได้แพ้ของจริง ในทีมที่เล่นเป็นซ้อมจริงก็มีอยู่แค่เจ็ดแปดคน ไม่มาอีกคน นี่ก็ไม่รู้ว่าที่ลงไปมันโอเคหรือเปล่า ถึงจะไม่ได้หวังแชมป์แต่ก็อยากจะชนะสักนัดนะ
   “ถ้าอย่างนั้นก็ต้องไปหาซับในมาใส่ เปลี่ยนเสื้อด้วย”
   “จะบ้าเหรอ กว่าจะออกไปซื้อว่าจะหาคนมาเปลี่ยนเสื้อได้ เขาเล่นจบกันหมดแล้ว”
   “ไม่ต้องลง”
   “น้ำนิ่ง~”
   ผมเริ่มอ้อนแต่เขาก็เอาแต่ส่ายหัวไม่ยอมท่าเดียว จับผมนอนลงไปกับเตียง ผมตกใจเพราะคิดว่าฉากต่อมาเขาต้องขึ้นคร่อมแน่ๆ เหมือนในการ์ตูนตาหวานไง
   แต่เปล่า.. เขาแค่จับผมเอนตัวลง ห่มผ้าแล้วลากเก้าอี้มานั่งข้างๆ เตียงแทน
   “จะให้ทั้งหวงทั้งห่วงเลยเหรอ ขาก็เจ็บอยู่”
   “แต่เปิ้ลอยากชนะ”
   “เดี๋ยวเอาแชมป์มาให้”
   “คนละคณะปะวะ กีฬาคนละอย่างด้วย”
   “หึหึ นอนไปก่อน อีกสักพักค่อยไป เดี๋ยวนั่งเฝ้า”
   ผมว่าคนที่อยากนอนคือเขามากกว่านะ ดูสิ ตาปรือเชียว แต่ถึงอย่างนั้นผมก็พยักหน้าให้ ตะแคงตัวไปทางเขา จับมือหนาที่วางอยู่บนเตียงไว้ น้ำนิ่งเองก็กระชับมือตอบกลับมา
   “นี่..” น้ำนิ่งครางในลำคอ เสียงเริ่มจะไปแล้ว หน้าก็เริ่มปรือๆ มือที่ท้าวคางไว้เริ่มเอียงเอียง “ถามได้เปล่า”
   “อืม”
   “ทำไมถึงรับของไก่คนอื่นล่ะ ชอบเหรอ” ต้องถามเพราะมันคาใจ ไม่อยากจะคิดไปเองว่าเขารับแค่เพราะชอบไก่อย่างเดียว เกิดผิดพลาดขึ้นมาผมจะได้เตรียมตัวถูก
   “ที่ถามว่าชอบนี่หมายถึงไก่หรือคน”
   “ทั้งสองอย่าง”
   น้ำนิ่งเงียบ ทำท่าคิดเยอะจนผมเริ่มใจแป้วกลัวคำตอบที่จะได้
   “ชอบแค่ไก่ไม่ได้ชอบคนให้..”
   ชายหนุ่มอมยิ้มเหมือนกำลังล้อเลียนผม ใบหน้าคมคายสีแทนโน้มเข้ามาใกล้จนแทบชิด
   “ไม่เหมือนคนนี้.. ชอบหมดเลย ทั้งคนให้ ทั้งไก่ที่ทำให้”
   ถึงจะไม่ชนะวอลเลย์บอลแต่ผมกลับรู้สึกชนะคนทั้งโลกยังไงไม่รู้





TBC
1/3/17
ฉลองสอบเสร็จ แต่ยังเหลืออีกสองตัว นอกรอบและอีกยาวไกล
แอบเปลี่ยนชื่อเรื่องนิดนึง ไม่ได้เปลี่ยนสิ แค่เพิ่ม 55555




หัวข้อ: Re: ●● Sleeping bear and Apple's Trap [8 #แอปเปิล - 1/3/17] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 01-03-2017 21:36:35
 :-[ :-[ :-[ :-[

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ●● Sleeping bear and Apple's Trap [8 #แอปเปิล - 1/3/17] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: kiolkiol ที่ 01-03-2017 23:03:31
งูยยยน่ารักกกชอบมุ้งมิ้งมากกก
หัวข้อ: Re: ●● Sleeping bear and Apple's Trap [8 #แอปเปิล - 1/3/17] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 02-03-2017 07:29:26
แหม... ช่างพูดขึ้นมาแล้วนะน้ำนิ่ง
หัวข้อ: Re: ●● Sleeping bear and Apple's Trap [8 #แอปเปิล - 1/3/17] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 02-03-2017 08:40:42
โอ้ยยยยยยยยย เขินว้อยยยยยยยยยยยย
ฮือ คู่นี้น่ารักอ่าาาาา หมีเซื่องๆ กะ แอปเปิ้ลเปรี้ยวๆ
กระชุ่มกระชวยดีบ่อออออ  :laugh:
มาต่อเร็วๆนะค๊าาาา ปักหมุดเรื่องนี้เลยจ้าาา รออ่านอยู่เด้อออ  o18
หัวข้อ: Re: ●● Sleeping bear and Apple's Trap [8 #แอปเปิล - 1/3/17] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: empty102153 ที่ 02-03-2017 21:48:58
ชอบมากกกกกก มีความละมุนหัวใจ ขออีกเยอะๆค่า  :hao7:
หัวข้อ: Re: ●● Sleeping bear and Apple's Trap ●● [9 #แอปเปิล - 8/3/17] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: YEEUN9424 ที่ 08-03-2017 21:14:44


 

 

 

Sleeping bear and Apple's Trap 9

#น้ำนิ่ง

 

 

 

            จำไม่ได้แล้วว่าครั้งสุดท้ายที่รู้สึกหงุดหงิด คิ้วขมวดจนเจ็บหน้าผากกับเรื่องอื่นยกเว้นที่ไม่การโดนเพื่อนแย่งกินไก่หรือไม่ได้นอนครั้งสุดท้ายมันเมื่อไร อาจจะเป็นเมื่อปีที่แล้วที่น้ำเย็นกับน้ำอุ่นพี่ชายฝาแฝดของผมรวมหัวกันแกล้งผม

            แต่ล่าสุดก็ต้องนี่เลย.. ตรงหน้าเนี่ย!

            ตรงหน้าที่ว่าก็คือเปิ้ลคนงามของผมซึ่งกำลังตีโต้ลูกบอลกับฝ่ายตรงข้าม เปิ้ลใส่เสื้อคณะตัวใหญ่แต่ค่อนข้างสั้นอยากถามากว่าตอนซื้อบอกไซส์เขาผิดหรือร้านมันห่วยเลยทำออกมาแบบนี้ กางเกงยาวครึ่งน่องแต่โคตรจะบาน บานเกินจะรับรู้ได้ถึงความกระชับและซับในไม่มี

            แล้วเปิ้ลก็มือตบ มือรับ มีความเป็นนักกีฬาเหลือเกิน พลังเหลือล้น ลูกมาก็เข้ารับตลอด กระโดดทีเสื้อลอย รับลูกทีแหกแข้งแหกขาท่าเยอะจนอวดความขาวความเอ็กซ์ไปแบบนอนสต๊อปแล้วไอ้พวกคนดูก็ได้ใจ ทั้งหญิงและชายอู้อ้าอยู่ข้างหูจนผมหน้าสั่น

            ผมหงุดหงิดใจตั้งแต่เห็นชุดครั้งแรกแล้วแต่ยังไม่อยากแสดงอาการอะไรมาก แล้วยิ่งมีสาวน้อยจากไหนไม่รู้มาออเซาะอีก บอกเลยว่าไม่ได้สนใจ แค่รับไก่ของโปรดมาเท่านั้นเอง

            ระหว่างยืนดูการแข่งขันผมก็ต้องตั้งสมาธิให้มั่น บังคับมือไม่ให้มันไปตะปบใครเข้า แต่ไอ้เจ้ากับไอ้มูนนี่โดนไปหลายทีอยู่เพราะพวกมันปากผี ล้อไม่หยุด ขาวอย่างนั้น อย่างอย่างนี้ จะหันไปเล่นไอ้หินอีกสักคนก็เห็นมันทำหน้าหงุดหงิดอยู่เหมือนกัน อ๋อ.. แฟนมันก็ได้ต่างอะไรจากคนของผมเลย

            ในตอนที่ผมกำลังหงุดหงิดทึ้งหัวเพื่อนอยู่เปิ้ลก็โดนบอลของฝ่ายตรงข้ามกระแทกหัว นาทีนั้นขาผมไปไวกว่าความคิดรีบช้อนร่างเล็กเข้ามาในอ้อมแขนแล้วพาออกนอกสนามไป

            ผมนี่ฉลาดแฮะ เข้าไปอุ้มแสดงความเป็นเจ้าของสุดๆ เมื่อกี้น่าจะมองหน้าไอ้พวกที่ได้เชยชมร่างขาวๆ ของเปิ้ลแล้วแสยะยิ้มให้พวกมันสักหน่อย

            พอได้อยู่กันสองคนก็ได้เวลาเคลียร์ ผมบอกไปตามที่ใจรู้สึก หวงก็บอกว่าหวง เป็นห่วงก็คือเป็นห่วง โล่งใจที่เปิ้ลเข้าใจและไม่แสดงท่าทีว่าผมก้าวก่าย

            ถึงจะยังไม่ใช่คนของผมอย่างร้อยเปอร์เซ็นต์แต่ผมเทใจให้แล้วผมคิดว่าผมมีสิทธิ์

            กับเรื่องที่มีคนมาเช้าหาผมมากขึ้น บอกตรงๆ ว่าผมไม่ได้รู้สึกอะไร แต่ก็มีบางที่รำคาญเพราะผมได้รับสารพัดไก่มากขึ้นและมันทำให้ผมกินของเปิ้ลได้น้อยลง สุดท้ายก็ต้องตัดใจและเอาไปให้เพื่อนกินแทน ที่รับมาก็เพราะเป็นของชอบแค่นั้น

            ดีที่เปิ้ลถามและผมก็บอกให้เขาเข้าใจระหว่างเราจะได้ไม่มีอะไรผิดใจกัน

 

 

 

 

            ผมมีแข่งชิงแชมป์ไม่รู้เหมือนกันว่าคณะผมหลุดเข้ามาได้ยังไง แน่นอนว่าคนเพียบ แม้แต่รอบที่ผ่านมาเปิ้ลที่ติดเรียนตลอดก็ยังไม่พลาดมายืนเกาะกุมดูกับผองเพื่อนเหมือนกัน พอหวานใจผมมาเพื่อนในทีมเลยบังคับให้ผมลงด้วยเหตุผลที่ว่า..

            “ลงไปโชว์เท่หน่อย เขาจะได้รักจะได้หลง”

            จะโชว์เท่หรือโชว์หลับผมก็ชักไม่แน่ใจเพราะเมื่อคืนกว่าจะทำงานเสร็จก็เล่นเอาเกือบเช้าถึงจะหลับมาทั้งวันแล้วก็ยังไม่พอ กูไม่อยากจะลงเลย เล่นไปได้ยังไม่ถึงครึ่งของช่วงแรกผมก็รู้สึกอยากจะไถลตัวลงไปนอนเกลือกกลิ้งกับสนามหญ้านุ่มๆ นี่เหลือเกิน

            เพื่อนมันคงจับสัญญาณความง่วงจากผมได้แต่มันก็ไม่ยอมเปลี่ยนให้ผมออกสักที ผมอาศัยจังหวะที่พอจะอู้ได้แอบมองหาเปิ้ล แล้วก็พบว่าคนสวยของผมกำลังยืนคุยอย่างออกรสกับใครคนหนึ่งอยู่ ไอ้เวรนั่นใส่เสื้อคณะเดียวกันกับฝ่ายตรงข้ามที่ผมแข่งอยู่ กำลังคุยกันท่าทางสนุกสนาน

            “ไอ้นิ่ง! อย่าเพิ่งหลับ รับไป!”

            ต้องละความสนใจจากภาพตรงหน้ารับบอลจากไอ้เต้แบบงงๆ บอลอยู่ที่เท้าพอดี แล้วทุกความกดดันก็พุ่งมาทางผมเพราะกูดันอยู่ใกล้โกลสุด ว่างสุด ถ้าไม่ลองเตะคงได้โดนเฉดหัวออกจากสาขา ผมวาดขาส่งบอลไปส่งๆ แต่มันเสือกเข้า

            เฮ้!!!!!!

            ได้ไงวะ!?

            คนในทีมต่างเฮโลมาหาผมทำเหมือนกับได้แชมป์โลก พอทุกคนสลายตัวออกไปเพื่อเริ่มเกมใหม่ผมก็รีบหันไปมุมเดิมทันทีหวังลึกๆ ว่าเปิ้ลจะต้องมองมาทางผมพร้อมทำตาแวววาวปลาบปลื้มที่ผมทำประตูได้

            แต่ไม่เลย

            เปิ้ลยังคงหัวเราะต่อซิกกับไอ้เวรที่ผมไม่รู้จักอยู่

            ผมเริ่มฟาดงวงฟาดงาเหมือนหมีตกมัน แต่ไม่ได้ไปทำร้ายใคร เอาไปลงกับลูกบอลแทน จนหมดครึ่งแรกผมก็มานั่งกรอกน้ำ เช็ดหน้าที่มีแต่เหงื่อมองไปอีกทีก็ยังเห็นคุยกันไม่เลิก คราวนี้หันหลังให้สนามแถมย้ายไปอยู่ไกลคนอื่นอีก

            คุยอะไรกันหนักหนาวะ กูเริ่มมีอารมณ์แล้วนะ

            ผมบอกเพื่อนว่าไม่ขอลงในครึ่งหลัง เหนื่อย ง่วง พวกมันก็โอเคเพราะเห็นว่าผมทำดีแล้วเมื่อตอนครึ่งแรก ผมลุกเดินออกไปยังที่หมาย

            ผมเดินเข้าไปหา ยืนซ้อนเป็นวิญญาณหมีอยู่ข้างหลัง แต่เปิ้ลก็ยังไม่รู้ตัว มีแต่ไอ้ผู้ชายตรงข้ามมองมาที่ผมอย่างสงสัย

            “คือ.. เปิ้ลนั่น..”

            “หือ? เฮ้ย! น้ำนิ่งมายังไงไม่แข่งเหรอ”

            “ไม่ลงแล้ว”

            “เหนื่อยเหรอ เมื่อกี้ยิงเข้าด้วยอ่ะ เท่มากกกก”

            อ้าว.. เห็นเหรอวะ ดีใจ

            ผมเกือบจะยิ้มออกมาแล้วถ้าไม่ติดว่ามีไอ้ตัวที่ทำให้หงุดหงิดยืนอยู่ตรงข้าม

            “นั่นใคร”

            “น้ำนิ่ง กูรู้จักมึงๆ”

            “แต่กูไม่รู้จักมึง” มันทำหน้าเหวอตอบกลับมา ผมไม่สนใจหันไปหาเปิ้ลแทน “เห็นคุยกันตั้งนานแล้ว มันเป็นใครเปิ้ล”

            “เพื่อนในชมรม ชื่อโต๊ย”

            “เหรอ”

            “โต๊ยมาชวนไปค่ายอาสาเลยคุยกันเพลินไปหน่อย”

            “เหรอ”

            “โอ๋ๆ ไม่งอนน้า ไม่มีอะไรไม่นอกใจด้วย”

            “หึ” ผมหลุดยิ้มกับการง้อน่ารักๆ ของเขา สบสายตากับคนที่ชื่อโต๊ยอีกทีก็ผงกหัวทักทายพร้อมขอโทษไปในตัว

            “กูไม่ถือสาหรอก ว่าแต่มึงจะไปไม่ไป”

            “ขอคิดอีกที”

            “ถ้ายังไงก็ติดต่อมานะ กูไปละแฟนมึงนี่หึงแรงดีจริงๆ”

            “ยังไม่ใช่แฟนเว้ย!!”

            เปิ้ลโบกมือให้เพื่อนแล้วหันมาทางผม “เหนื่อยไหม เรากลัวนิ่งฟุบหลับกลางสนามมากอะ แต่พอทำลูกได้ก็ดีใจเผลอกระโดดเลย”

            ใบหน้าหวานยังคงรอยยิ้มอยู่เหมือนเดิมและริมฝีปากบางก็ยังเอาแต่ขยับพูดถึงการแข่งขันเมื่อครู่ ทำให้รู้ว่าเปิ้ลดูผมอยู่ตลอดแม้จะยืนคุยกับเพื่อนก็ตาม

            ผมชอบฟังเสียงของเปิ้ล

            ชอบริมฝีปากเล็กๆ ที่ขยับไปมา

            ชอบสีหน้าท่าทางที่แสดงออก

            ชอบอาหารที่เปิ้ลทำ ผมเชื่อว่าต่อให้ไม่ใช่ไก่ของโปรดผมก็ชอบถ้าเปิ้ลเป็นคนทำ

            ชอบผิวขาวๆ ที่สะท้อนแดดและตัดกับสีผิวของผม

            ขอบทุกอย่างที่เป็นเปิ้ล

            แต่ทว่าสิ่งที่สะกิดใจผมตอนนี้คือคำว่า ‘ยังไม่ใช่แฟน’ ของเปิ้ลที่ตะโกนออกไปเมื่อครู่

            มาถึงขนาดนี้แล้วผมไม่คิดว่าตัวเองจะปล่อยแอปเปิลลูกนี้ไปหรอกนะ

 

 

 

 

            พอชนะแล้วก็ต้องนัดเลี้ยงแต่ทำไมต้องเป็นวันที่กูมีภารกิจสำคัญด้วยวะ ผมอยากจะปลีกตัวตั้งแต่โดนชวนเพราะแต่ก็ไม่อาจทำได้เพราะโดนล็อคคอไว้ตั้งแต่เรียนเสร็จ

            แม้บรรยากาศรอบด้านจะครื้นแครงแค่ไหนแต่ผมกลับไม่รู้สึกอะไร กับแกลมตรงหน้าก็ไม่อร่อย เหล้าก็ไร้รสชาติไม่ต่างจากน้ำเปล่า คงเพราะใจผมไม่ได้อยู่ตรงนี้แล้วแถมยังกระวนกระวายไปหมด

            ผมนั่งอยู่สักพักแล้วเริ่มเล่นละครทำตาปรือสะกิดบอกไอ้เจ้าว่ากูง่วงกลับนะ มันคงสงสารเลยยอมให้ผมกลับ พอออกมาจากร้านหน้าผมก็กลับมาสดใสเหมือนเดิมก่อนจะขับรถออกไปยังที่หมาย

            “เปิ้ลลงมาหาหน่อย”

            ((ห๊า ที่ไหนอ่ะ)) เสียงหวานตอบมาตามสาย ผมมองออกไปนอกถนน กลับมามองอีกทาง..

            “ร้านข้าวที่เราเคยเจอกัน”

            ((ทำไมไปอยู่ตรงนั้น))

            “....”

            เพราะผมไม่รู้ว่าหอคุณอยู่ไหนไง อยากจะบอกไปตรงๆ ก็กลัวเสียฟอร์มรักเขาชอบเขาแต่ไม่รู้ว่าเขาอยู่ไหน นี่หาทางมาร้านนี้ถูกก็ดีแค่ไหนแล้ว จำได้ว่าเปิ้ลเคยบอกว่ามันอยู่ใกล้หอ

            ((เอาเป็นว่ารอแปบ จะรีบออกไป))

            ผ่านไปไม่ถึงห้านาทีคนที่รอคอยก็มาเคาะกระจกรถผมเปิดให้เขาเข้ามานั่งข้างใน มีเหงื่อเกาะแพรวพราวอยู่ตามกรอบหน้าผมหยิบเช็ดชูมาเช็ดให้อย่างเบามือ รู้สึกตัวเองเป็นพระเอกที่โคตรโง่เง่า ไม่รู้จักที่พักเขาแถมยังเรียกให้ออกมาหาตอนดึกๆ อีก

            “น้ำนิ่งมาได้ไงอะ ไหนว่าไปเลี้ยงฉลองกับคนในคณะไง”

            “คิดถึง”

            “อะไรเล่า จู่ๆ มาบอกแบบนี้มีอะไรหรือเปล่าเนี่ย” เปิ้ลหน้าแดงพูดตะกุกตะกัก ผมเอียงตัวซบลงกับพวงมาลัยหันหน้าไปทางเขา แล้วกอบกุมมือบางเอาไว้

            “เป็นอะไรอ่า นิ่ง~ อย่าเอาแต่มองกันนิ่งๆ แบบนี้สิ~”

            “หึ รออยู่ในรถนะ”

            ผมเดินไปเปิดประตูหลังมองของตรงหน้าที่ใช้เวลาทำทั้งคืน อดหลับอดนอนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ในหัวเรียบเรียงประโยคที่จะพูด สิ่งที่จะทำ ทุกอย่างจะต้อง..

            ปัง!

            “เฮ้ย! เปิ้ลลงมาทำไม”

            “โห นิ่งหายมานานขนาดนี้เราก็สงสัยสิ” ว่าแล้วก็มองลงไปยังที่เก็บของ “นี่อะไร”

            ผมกุมขมับเพราะเปิ้ลหยิบมันขึ้นมาแล้ว โอริกามิช่อดอกไม้สีขาวปนสีชมพูที่ผมทำเองกับมือ ตั้งใจจะเอาไปให้ในรถพร้อมกับขอเป็นแฟน

            แต่ทุกอย่างมัน... ผิดแผนหมด!

            “เป็นแฟนกันนะ”

            เอาวะ ไหนๆ ก็เห็นแล้ว เล่นต่อเลยแล้วกัน

            ผมขยับเข้าไปใกล้แล้วกุมมือที่ถือช่อดอกไม้อยู่ เปิ้ลกระพริบตาปริบๆ มองผมอย่างไม่เชื่อสายตา

            “อยากเป็นแฟน ไม่ใช่แค่คนคุยหรือเพื่อนแล้ว”

            คนตรงหน้าพยายามกลั้นยิ้ม แก้มแดงสุขภาพดียิ่งแดงเข้าไปใหญ่

            “ทำไมจู่ๆ ก็..”

            “ไม่ใช่จู่ๆ คิดมานานแล้ว ที่เข้าหาก็หวังแต่แรก ยิ่งได้ยินเมื่อวันก่อนที่เปิ้ลตะโกนบอกโต๊ยว่าไม่ใช่แฟนแล้วมันรู้สึกไม่ดี อยากได้ยินคำว่า ‘เป็นแฟน’ มากกว่า”

            “อุ้ย แสดงว่าได้ผล”

            “หือ?”

            “ไม่มีอะไรๆ แสดงว่าเราเป็นแฟนกันแล้วใช่เปล่า”

            “คิดเหมือนกันไหมละ” ผมย้อนถาม เปิ้ลทำปากจู๋ใส่แล้วตีอกผม

            “ไม่คิดเหมือนกันจะทำให้ขนาดนั้นเหรอวะ”

            “หึ อยากได้ยินบ้าง”

            “ได้ยินอะไร ตัวเองยังไม่พูดเลย”

            “ต้องพูดด้วยเหรอ”

            “ไอ้นิ่ง” ผมอึ้งไปนิด พอเปิ้ลคิดได้ก็ตะครุบปากตัวเองทันที ผมไม่ได้อะไรคิดว่ามันน่ารักมากด้วยซ้ำ

            “จะพูดไหม” เปิ้ลไม่ตอบในทันทีแต่กลับตรงเข้ามาจุ๊บปากผมสองสามทีเร็วๆ แล้วผละออก

            “ชอบนะ เป็นแฟนแล้วห้ามนอกใจ”

            “หึ มันต้องแบบนี้สิ.. ชอบเหมือนกัน..”

            ว่าแล้วผมก็โน้มเข้าหาเขา ประคองใบหน้าเล็กไว้แล้วแนบริมฝีปากลงไป บังคับให้เอียงหน้าเพื่อให้ได้องศาไม่ใช่แค่จุ๊บเอาปากแตะกันแต่ประกบจูบดูดดื่ม ปากแนบปาก ลิ้นแนบลิ้น ผมใจเต้นรัว ฝันอยากทำแบบนี้มาตลอด แรกเริ่มเหมือนเปิ้ลจะไม่ประสีประสาแต่ไม่ถึงวินาทีเปิ้ลกลับรุกเร้าจนผมตามแทบไม่ทัน

            “ทำไมเชี่ยว”

            “นี่ใคร? นี่แอปเปิลนะ”

            “ขออีกทีแล้วกัน”

            จะเพราะอะไรก็ช่างในเมื่อตอนนี้แอปเปิลตรงหน้าเป็นของผมแล้ว

            แถมยังหวานกว่าแอปเปิลลูกไหนที่เคยลิ้มลองอีก..

 

 

 

 

 

TBC

8/3/17

อย่าเพิ่งตีเราน้า ฮือออ ขอโทษที่หายไปหลายวันค่ะ แถมยังมาสั้นอีกกกก

งานเยอะจริงจัง ทั้งสอบอีก โปรเจ็คอีก จนตอนนี้ก็ยังไม่จบ คงจะมาแบบขาดๆ หายๆ ไปจนกว่าจะสิ้นเดือนมีนา อย่าเพิ่งทิ้งกันน้า

ยังไงก็เขาคบกันแล้วเนอะ รักกันแล้ววว หลังจากนี้จะเป็นยังไงต่อไปเน้อออ มาติดตามไปด้วยกันนะคะ

 

ขอบคุณทุกคนมากมากค่า

 

 

 

 
หัวข้อ: Re: ●● Sleeping bear and Apple's Trap ●● [9 #แอปเปิล - 8/3/17 ● P.2] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 08-03-2017 22:40:40
นี่แอปเปิ้ลเขียวแน่เลย เปรี้ยวเชียว  o18
เค้าเป็นแฟนกันแล้วค่ะๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ●● Sleeping bear and Apple's Trap ●● [9 #แอปเปิล - 8/3/17 ● P.2] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 09-03-2017 03:12:38
แอปเปิ้ลที่หมีจอง และกำลังจะแทะให้ถึงแกนกลาง 555+
หัวข้อ: Re: ●● Sleeping bear and Apple's Trap ●● [9 #แอปเปิล - 8/3/17 ● P.2] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 09-03-2017 07:37:52
เขาเป็นแฟนกันแล้ว...
หัวข้อ: Re: ●● Sleeping bear and Apple's Trap ●● [9 #แอปเปิล - 8/3/17 ● P.2] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 09-03-2017 13:43:43
เปิ้ลวางแผนให้นิ่งหึงล่ะซิจะได้สารภาพขอเป็นแฟนกันซะที

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ●● Sleeping bear and Apple's Trap ●● [9 #แอปเปิล - 8/3/17 ● P.2] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: ★KVH™★ ที่ 09-03-2017 22:40:21
เป็นแอปเปิีลทื่มีความเจ้าแผนการ
หลอกล่อจนคุณหมีติดกับดัก
ขอเป็นแฟนจนได้  :laugh:
หัวข้อ: Re: ●● Sleeping bear and Apple's Trap ●● [9 #แอปเปิล - 8/3/17 ● P.2] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: YEEUN9424 ที่ 03-04-2017 19:52:12
Sleeping bear and Apple's Trap 10
#แอปเปิล




   หลังจากผ่านอุปสรรค(?)และต้องใช้กลอุบายนิดหน่อยในที่สุดน้ำนิ่งก็ขอผมคบอย่างเป็นทางการเสียทีไม่คิดว่าแค่ประโยคสั้นๆ ที่ผมตะโกนออกไปจะทำเขาคิดมาได้ขนาดนั้น
   น่ารักเป็นบ้าเลยพ่อหมีของผม
   ทว่าพอขอคบกันได้ไม่เท่าไร น้ำผึ้งยังไม่ทันจะได้หวานเรากลับต้องห่างไกลกันเพราะภาระหน้าที่ที่เรียกว่าช่วงสอบกลางภาค.. ผมอยากจะบ้า!!
   อยากสวีท อยากมีเวลากุ๊กกิ๊กกับน้ำนิ่งแต่ก็ทำได้แค่ก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือ ใครๆ ก็รู้ว่าช่วงสอบของสถาปัตยกรรมเป็นยังไง ทำโปรเจ็กกันข้ามวันข้ามคืน แล้วคณะของผมเองก็ใช่ย่อยต้องต้มหนังสือกินแทนข้าวเหมือนกัน สุดท้ายแล้วเราสองคนก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากไลน์คุยกับแบบว่า.. นานๆ ครั้ง
   เกือบจะลงแดงไปก็หลายรอบแต่ก็อดทนอดกลั้นจนถึงวันสอบวันสุดท้าย ผมโบกมือลาเพื่อนแล้วไปยังตึกสถาปัตย์ ค่อนข้างเงียบเพราะมีแต่คนนอนฟุบหน้าหมดสภาพอยู่ตามโต๊ะ บรรยากาศไม่ค่อยดีเลยแฮะ
   ผมมองหาตามโต๊ะก็ไม่เจอทั้งกลุ่มเพื่อนทั้งน้ำนิ่ง อยากจะโทรหาแต่นี่มันคือการเซอร์ไพรส์ไงละ จะเข้าไปจ๊ะเอ๋ให้เขาตกใจหันมากอดอะไรแบบนั้น แต่ยังไงก็หาไม่เจอ จนผมเดินออกมานอกตึกถึงเจอกับพวกมูนและเจ้า ไร้เงาคนของผมและลูกหิน
   “มูนเจ้า!”
   “เฮ้ยย แอปเปิล” สองคนนั้นวิ่งเข้ามาหาผมพร้อมของกินมากมายในมือ
   “น้ำนิ่งไปไหน”
   “ไม่คิดจะทักกันก่อนเลยเหรอวะ”
   “ก็มาหาแฟนอะ!”
   “จ้ะๆ มันไปนอน” เจ้าตอบ
   “ที่ไหน เดินหาตรงโต๊ะแล้วไม่เห็นเจอ”
   “ในรถนู่น เดี๋ยวสี่โมงมีพรีเซ็นต์งานมันเลยไปนอนเอาแรงไว้ก่อน”
   “โอเค งั้นไปละ”
   “เดี๋ยวๆ” มูนคว้าแขนผมไว้ “มันไม่ได้นอนรถมันนะ”
   “หมายความว่าไง” ผมคิ้วกระตุก ไปนอนในรถยังพอเข้าใจแต่ไม่ได้นอนรถตัวเองนี่หมายความว่าไง บอกว่าอย่านอกใจยังไม่ทันข้ามเดือนไอ้หมีมันจะเล่นผมแล้วเหรอ!?
   “อย่าเพิ่งทำหน้าเครียดดิ ฮ่าๆ”
   “มึงนี่ลีลาวะ” เจ้าหันไปตบหัวมูนหนึ่งที ขอบคุณมาก “คือแบบนี้ มันไม่ได้นอนรถมัน แต่มันนอนรถกู รถกูที่นั่งด้านหลังมันปรับเบาะเป็นที่นอนได้”
   ผมพยักหน้าหงึกหงักในเจ้าส่งรูปรถกับทะเบียนรถมาก่อนจะเดินออกไปที่จอดรถซึ่งอยู่หลังตึก ผมเดินหาจนเจอเป้าหมาย แนบหน้ากับกระจกก็เจอพ่อหมีของผมนอนตัวยาวอยู่เบาะด้านหลังที่ปรับลงแล้ว ขางอนิดหน่อยเพราะพื้นที่มันไม่ได้กว้างมากนักแต่ก็สบายกว่านอนท่านั่งแน่นอน
   ผมเคาะกระจกสองสามทีเขาก็งัวเงียตื่นขึ้นมาก่อนจะเปิดประตูให้ ไม่มีทีท่าตกใจ ไม่ถามไถ่อะไร พอผมเข้ามาในรถได้ก็คว้าตัวผมเข้าไปกอดแล้วนอนต่อทันที คงจะง่วงจริงๆ
   “นิ่ง~ กินอะไรหรือยัง”
   รู้นะว่าเขาอยากจะนอนแต่ขอคุยหน่อยสิ อยากได้ยินเสียง
   “งืมๆ”
   ตอบงึมงำพร้อมกับกระชับกอดแน่นขึ้น ซุกหน้าลงกับแผ่นอกบางๆ ของผม พอเห็นท่าทางแบบนี้แล้วผมก็สงสารอยากชวนคุยต่อแค่ไหนก็ยอมหุบปาก ยืดตัวอย่างระมัดระวังไปเปิดกระจกเล็กน้อยให้ลมจากข้างนอกเข้ามาสักหน่อยเดี๋ยวจะตายคารถเหมือนที่ออกข่าวเอา ตั้งนาฬิกาปลุกให้ทันที่เขาจะไปพรีเซ็นต์งาน ลูบเส้นผมหนานุ่มของอีกคนเล่น นอนให้เขากอดเป็นหมอนข้างไป จนกระทั้งตัวเองเผลอหลับตามไปอีกคน



   ตื่นมาอีกทีก็เจอสายตาคมเข้มของน้ำนิ่งจ้องมองอยู่ ไม่ใช่เขาทีนอนทับแขนซุกอกของผมแล้วแต่เป็นผมเองที่นอนทับแขนหน้าซุกอกอีกฝ่าย
   “ตื่นนานแล้วเหรอ”
   “สักพัก โทรศัพท์เปิ้ลดัง”
   “อือ เราตั้งเวลาไว้”
   “คิดถึง”
   “จริงอ่ะ ไม่เห็นจะโทรหา ไลน์ก็ตอบช้า”
   “งานเยอะ วันนี้วันสุดท้ายแล้วว่าจะไปหาพอดี”
   “แต่เราก็มาหาก่อน”
   “อื้ม ดีใจ” น้ำนิ่งเกลี่ยแก้มของผมเบาๆ ก่อนก้มลงมาหอมฟอดใหญ่ “เห็นหน้าเปิ้ลแล้วมีแรงเลย”
   “ไม่เชื่อ เมื่อกี้ตอนเรามายังไม่สนใจเลย” ผมว่างอนๆ
   “ง่วงนี่นา ไม่งอนนะ” จุ๊บปากผมอีกหลายทีจนผมยิ้มออกมาแล้วกอดเขาไว้แน่น ที่จริงก็ไม่ได้งอนอะไรหรอก แค่อยากแกล้งเขาเท่านั้นเอง
   ตั้งแต่ตกลงปลงใจเป็นแฟนกันมือไม้ ปากเปิกน้ำนิ่งถึงตัวผมตลอด เดี๋ยวจับเดี๋ยวซบ เดี๋ยวจูบเดี๋ยวหอม ถ้าได้อยู่ใกล้กันก็แทบจะไม่ยอมห่างไปไหน ยุกยิกข้างกันตลอด
   ที่บ่นเนี่ยไม่ใช่ว่าไม่ชอบนะ
   ชอบมาก




   เรานอนคุยกันสักพักก็พากันออกมาที่ตึกตามเดิม มูนเจ้าและหินนั่งรอยู่ใต้ตึกรอจนพวกเราเข้าไปหาพวกเขาก็ลุกขึ้นยืนพร้อมไปพรีฯ งานกัน
   “เปิ้ลจะรอที่นี่เหรอ”
   “อื้ม รอตรงนี้แหละ”
   “นานนะเว้ย” มูนแทรกขึ้นมา นิ่งพยักหน้าส่งเสริม เอาไงดี
   “ไม่เป็นไรรอได้” ผมดื้อดึง ผมอยากกลับพร้อมกัน ยังไงวันนี้ก็ต้องอยู่ด้วยกันให้ได้
   น้ำนิ่งมองผมอย่างเป็นห่วงเพราะนี่ก็สี่โมงแล้ว ไม่รู้ว่านานของพวกเขามันจะกินเวลากี่โมงเขาให้เพื่อนเดินไปก่อนจะหยิบกุญแจรถของตัวเองออกมาจากกระเป๋า
   “ถ้าเบื่อกลับก่อนก็ได้ นี่กุญแจรถกับกุญแจห้องหรือจะไปห้องเปิ้ลก็ได้นะ เดี๋ยวผมให้ไอ้มูนไปส่ง” 
   “อื้ม ถ้าจะกลับก่อนจะส่งข้อความไปบอก ตั้งใจนะ”
   ผมว่าแล้วยืดตัวหอมแก้มเขาฟอดใหญ่ น้ำนิ่งยกยิ้มให้ผมก่อนจะเดินออกไป แล้วใต้ตึกก็เหลือแค่ผมคนเดียวที่โต๊ะทว่ารอบข้างก็ยังมีกลุ่มคนอยู่ประปรายไม่ได้เงียบเหงาวังเวงแต่อย่างใด
   ผมมองกุญแจในมือแล้วยิ้มปลื้ม โอ้ยยย ให้กุญแจห้องด้วยอ่ะ แกล้งกลับก่อนแล้วไปสำรวจห้องน้ำนิ่งแทนดีไหมเนี่ย หยิบมือถือมาถ่ายรูปแล้วอัพลงอินสตราแกรมพร้อมแคปชั่นชวนหมันไส้
   หมีรักหมีหลงไม่ทันไรให้กุญแจบ้านกุญแจรถละ
   เรื่องแบบนี้ต้องอวด ไม่ทันไรก็ได้รับคำเชยชมกลับมาอย่างล้นหลาม แรดอย่างนั้น แรดอย่างนี้ ไอ้ขี้อวด บลาๆ แต่ผมไม่สนใจหรอก ก็มันน่าอวดนี่



   ผมนั่งเล่นมือถือรอเวลาไปเรื่อยๆ จนกระทั้งมีผู้หญิงคนหนึ่งเดินมานั่งตรงข้ามกับผม ผมขมวดคิ้วแน่น จู่ๆ ก็มานั่งไม่เอ่ยปากขออนุญาตสักคำ เธอจ้องหน้าผมนิ่งมีแววเชือดเฉือนมาแต่ไกล
   “พี่ชื่อแอปเปิลใช่ไหมคะ”
   “ใช่”
   “พี่เป็นแฟนพี่น้ำนิ่งเหรอคะ”
   “ใช่”
   “ขอบคุณที่ตอบคำถามค่ะ”
   ว่าแล้วเธอก็ลุกออกไปทันที ผมได้แต่นั่งงงกับการว่าไวไปไวของผู้หญิงคนนั้น อะไรวะ มาแค่นี่เองเหรอ แต่ยังได้ไม่เท่าไร ผู้หญิงคนนั้นก็กลับมาอีกครั้งคราวนี้เธอไม่ได้มาคนเดียวแต่มาพร้อมกับเพื่อนอีกสามคน รวมเป็นสี่ผมอ้าปากเหวอ เมื่อพวกเธอมานั่งล้อมผมไว้แล้วทำหน้าฟินใส่สุดพลัง
   “พี่คะ พี่แอปเปิล พี่เป็นแฟนพี่น้ำนิ่งจริงๆ เหรอคะ”
   “จริงสิแก ฉันถามแล้ว”
   “ให้พี่เขาตอบก่อน! ว่าไงคะพี่ จริงไหมคะ จริงไหม”
   ผมมองผู้หญิงตรงหน้าคุยกันด้วยความงงงวยก่อนจะตอบออกไปอย่างตะกุกตะกักเพราะไม่เข้าใจกับสถานการณ์ตรงหน้านี้
   “จะ.. จริง”
   กรี้ดดดดดดดดด
   สิ้นคำตอบของผมพวกเขาก็พร้อมใจกันกรี้ดออกมาสุดเสียง ทำหน้าฟินเหมือนได้รับรางวัลลูกโลกทองคำบนเวทีใหญ่
   “ถึงจะน่าอิจฉาแต่มันก็ฟินอ่ะ โอ้ย เหมาะ! เหมาะมาก!”
   “หนูถามได้ไหม ใครจีบใครก่อนเหรอคะ แล้วใครขอใครก่อน ใครบอกรักก่อนด้วย!” น้องผู้หญิงที่มาในมาดนางพญาเมื่อครูแปลงร่างเป็นสาววัยใสพล่ามไม่หยุด
   “แล้วๆ พี่น้ำนิ่งเขานิ่งจริงไหมคะ อยู่กับแฟนแล้วเอาแต่นอนไหมอ่า หรือว่า.. อ๊ากกก เลือดกำเดากูจะไหลแล้ว”
   น้องคิดอะไร!? ทำไมต้องเลือดกำเดาไหล
   ทำอะไรไม่ถูก.. ไม่รู้จะรับมือยังไง..
   นี่ผมกำลังโดนกลุ่มคนประเภทไหนคุมคามอยู่เนี่ย!?
   “เฮ้ย.. มึงใจเย็นหน่อย พี่แอปเปิลเขาน่าซีดแล้ว” น้องคนหนึ่งที่ดูสงบเสงี่ยมเรียบร้อยที่สุดในกลุ่มพูดขึ้น “คือแบบนี้คะพี่แอปเปิล พวกหนูเป็นหนึ่งในแฟนคลับของพี่น้ำนิ่งเขาค่ะ ได้ข่าวว่าพี่เขามีแฟนก็เลย..”
   “อยากเห็นมากๆ ค่า ตัวจริงของพี่น้ำนิ่ง ไม่ผิดหวังเลย!” เพื่อนน้องเขาแทรกขึ้นมา
   โอเค เข้าใจแล้วว่าเป็นกลุ่มคนประเภทไหน แต่ก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่าต้องรับมือยังไง เพิ่งเคยตกอยู่ในสถานการณ์โดนรุมถามเรื่องแฟนจากคนไม่รู้จักก็วันนี้แหละ
   แหม ไอ้หมีมีแฟนคลับกับเขาด้วย ถึงจะเคยได้ยินมาแล้วก็เถอะ แต่พอเจอจู่โจมแบบนี้ความหมันไส้ของผมก็พรวดพราดขึ้นมาเลย
   “พี่คะ ที่หนูถามเมื่อกี้..”
   “เปิ้ล..”
   เสียงทุ้มดังจากทางด้านหลัง น้องๆ สี่คนตรงหน้าผมอ้าปากเหวอไปแล้ว พอเห็นไปก็เห็นเจ้าตัวการยืนมองมาด้วยความสงสัย “ใครเหรอ”
   “อ๋อ.. เอ่อ..”
   “พวกหนูเป็นแฟนคลับของพี่น้ำนิ่งค่ะ!”
   “ขอโทษที่รบกวนเวลานะคะ!”
   “ขอให้รักกันไปนานๆ เลยนะคะ! พวกหนูโอเค! ไปพวกมึง กลับ!!”
   พูดกันคนละประโยคเหมือนนัดกันมาก่อนแล้ววิ่งออกไปทันทีทิ้งอีกหนึ่งสาวที่แสนสุภาพและกระโดกกระกาดน้อยสุดไว้
   “เอ่อ.. ขอโทษด้วยนะคะ พี่น้ำนิ่ง.. พี่แอปเปิล”
   ว่าแล้วเธอก็วิ่งตามเพื่อนออกไป แถมยังทิ้งสายตาอาลัยอาวรณ์ไปทางน้ำนิ่งอีกต่างหาก ผมไม่ได้สนใจคิดว่าเพราะได้เจอกับคนที่ชอบแต่กลับไม่มีแม้แต่โอกาสจะได้ทักทายก็คงเป็นธรรมดาที่จะรู้สึกเสียใจ
   “เมื่อกี้มันอะไร”
   “คือว่า..” ผมเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้นิ่งฟัง เพื่อนเขาที่เดินตามมาทีหลังก็พลอยได้ฟังไปด้วย “ดีใจละสิ มีแฟนคลับตามติด”
   “ไม่ได้รู้สึกอะไรสักหน่อย”
   “ซบแฟนโชว์เพื่อนอีกละ มึงนี่นะ พอคบแล้วเล่นใหญ่ว่ะ”
   “ก็แฟนกู”
   “เออ สัด ไปๆ แยกย้าย กว่าจะเสร็จโคตรนาน เปิ้ลนี่ก็ยอมรอเนอะ”
   “ก็แฟนอะ”
   “โว้ย! กูเบื่อสองผัวเมียคู่นี้” มูนหัวเสีย ขยี้ผมแล้วเดินออกไป ผมโบกมือบ๊ายบายให้เจ้ากับลูกหินก่อนจะหันมาสนใจหมีที่นอนซบไหล่ผมอยู่ 
   ดีแล้วละที่ผมอยู่รอ แม้จะเบื่อไปบ้างแต่ก็ไม่แย่นักเมื่อได้เห็นความดีใจบนใบหน้าของเขาตอนที่ลงมาแล้วยังเห็นผมนั่งอยู่ เขาไม่ได้ยิ้มออกนอกหน้านอกตาอาจจะเพราะว่าเจอเหตุการณ์อื่นอยู่แต่พอเด็กพวกนั้นเดินออกไปเขาก็รีบตรงเข้ามาหาโถมกอดไว้ทั้งตัวแล้วซบลงมาอย่างออดอ้อน
   “เหนื่อยไหม”
   “หิว ง่วง”
   คำตอบชัดเจน
   “ไปห้องเปิ้ลนะ เดี๋ยวทำไก่ทอดให้กิน”
   “ครับ”
   มีแฟนเลี้ยงง่ายก็ดีแบบนี้แหละ




TBC...
3/4/17
หายไปนานประมาณสามชาติได้ น้อมรับผิดแต่โดยดี ฮืออออ
งานเราเยอะมากกกกก มันก็มีเวลาให้หายใจหายคอแหละ แต่มันก็ไม่มีอารมณ์แต่งเท่าไร เพราะงานค้างคาสุด นี่ก็ยังไม่เคลียร์นะ แต่ขอมาก่อน คิดฮอด
หลังจากนี้ก็คงจะหายไปอีก ขอโทษล่วงหน้าเลยแล้วกันนะคะ ㅠㅠ
พูดถึงนิยายบ้าง เขารักกันแล้วก็หวานหน่อย คงจะเรื่อยๆ ไปเรื่อยๆ แบบนี้ 555555
ชอบเวลาสองคนนี้อยู่ด้วยกัน มันน่าร๊ากกกกก
แล้วไว้พบกันใหม่นะคะ เมื่อไหร่ไม่รู้แต่จะพยายามมาให้เร็ว
ขอขอบคุณที่ยังติดตามกันอยู่ แม้ว่าจะเราเริ่มจะดองแล้วก็ตามที ยังไงก็ไม่ทิ้งแน่นอนนนนน

หัวข้อ: Re: ●● Sleeping bear and Apple's Trap ●● [10 #แอปเปิล - 3/4/17 ● P.2] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 03-04-2017 22:07:54
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ●● Sleeping bear and Apple's Trap ●● [10 #แอปเปิล - 3/4/17 ● P.2] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 03-04-2017 22:19:39
เลี้ยงหมีด้วยไก่ทอด 55555 น่ารักอ่าาา
คู่นี้เค้าหวานละมุนดีจังเลย อย่ามีเหตุให้ต้องทะเลาะเลยนะ ไม่อยากอ่าน 55555
มาต่อไวนะคะ  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: ●● Sleeping bear and Apple's Trap ●● [10 #แอปเปิล - 3/4/17 ● P.2] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: jejiiee ที่ 03-04-2017 23:47:15
อ่านแล้วหิวตามเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: ●● Sleeping bear and Apple's Trap ●● [10 #แอปเปิล - 3/4/17 ● P.2] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 08-04-2017 14:43:31
แอปเปิ้ลสายอ่อยมากกกกกก หมีขี้เซาตามไม่ทันเลย
หัวข้อ: Re: ●● Sleeping bear and Apple's Trap ●● [10 #แอปเปิล - 3/4/17 ● P.2] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: Piima ที่ 09-04-2017 03:31:31
กรี๊ดดดดดดดดดด เรื่องนี้น่ารักมากๆเลย

อยากอ่านต่อละค่ะ
หัวข้อ: Re: ●● Sleeping bear and Apple's Trap ●● [10 #แอปเปิล - 3/4/17 ● P.2] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: ืNtop ที่ 09-04-2017 21:19:09
ชอบบบบบบ พ่อหมี
หัวข้อ: Re: ●● Sleeping bear and Apple's Trap ●● [10 #แอปเปิล - 3/4/17 ● P.2] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: aunszMT ที่ 19-04-2017 21:54:36
พ่อหมี มีแฟนแล้วหวานโชว์เพื่อนใหญ่เลยน้าาา่ :hao7:
หัวข้อ: Re: ●● Sleeping bear and Apple's Trap ●● [10 #แอปเปิล - 3/4/17 ● P.2] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: Piima ที่ 20-04-2017 11:14:12
คิดถึงๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ●● Sleeping bear and Apple's Trap ●● [10 #แอปเปิล - 3/4/17 ● P.2] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 20-04-2017 21:36:14
เขากินไก่กันหมดยัง
มาต่อนะะะะะะ :ling1:
หัวข้อ: Re: ●● Sleeping bear and Apple's Trap ●● [10 #แอปเปิล - 3/4/17 ● P.2] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 25-04-2017 17:04:09
สนุกมากก น่ารักมากกก
ทั้งคู่เลยยนน ไม่ไหวแล้ววว งือออ
รอค่าาา
หัวข้อ: Re: ●● Sleeping bear and Apple's Trap ●● [11 #แอปเปิล - 27/5/17 ● P.2] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: YEEUN9424 ที่ 27-05-2017 21:43:10
Sleeping bear and Apple's Trap 11
#แอปเปิล


   ผมปล่อยให้อีกคนนอนไประหว่างที่ตัวเองมาทำอาหารในครัว ห้องผมไม่ได้ใหญ่อะไร พื้นที่ตรงหน้าทีวีก็ติดกับครัวนี่แหละเพราะอย่างนั้นเวลาทำอะไรก็ได้ยินหมด บอกให้เข้าไปนอนในห้องแล้วอีกฝ่ายก็ไม่ยอมไป เลือกที่จะนอนเป็นซากหมีอยู่บนพรมตรงโซฟาหน้าทีวี
   เชื่อเลย ผมทำเสียงดังขนาดนี้ก็ยังหลับได้
   พอทำอาหารเสร็จแล้วผมก็มานอนท้าวคางมองคนนอนหลับ นานๆ ทีถึงจะมีโอกาสพิจารณาใบหน้าของอีกคน น้ำนิ่งตอนหลับก็ไม่ได้ต่างอะไรจากตอนปกติเท่าไร คือหล่ออย่างไหนก็หล่ออย่างนั้น ถ้าไม่นับตอนพูดกับกับตอนกินเขาก็ดูนิ่งๆ สมชื่ออยู่ ใบหน้าติดจะเฉยเหมือนไม่ค่อยสนใจอะไรแต่ก็ไม่ใช่อย่างที่เห็นเสียทีเดียว
   ดูได้จากการที่เขาเก็บคำพูดของผมไปใส่ใจแล้วรีบมาขอเป็นแฟนนั่นไง ยอมรับว่าตกใจตอนที่เขาบอกออกมาตรงๆ ว่ารู้สึกไม่ดีที่ผมพูดไปแบบนั้น อันที่จริงผมก็ไม่คิดว่ามันจะได้ผล แค่ลองตะโกนใส่โต๊ยไปเฉยๆ เป็นอะไรที่คิดขึ้นมาอย่างกะทันหัน เพราะเห็นเขาเริ่มหึงหวงผมมากขึ้นเรื่อยๆ แต่สถานะเรากลับไม่ขยับไปไหน
   ใครจะคิดละว่ามันจะได้ผลทันใจขนาดนี้
   จ้องจมูกโด่งคมสันเพลินๆ ดวงตาคมกริบก็เปิดมาจ้องผมกลับเสียแล้ว ผมยกยิ้มกว้าง จูบปลายจมูกของเขาไปหลายที น้ำนิ่งดึงผมเข้าไปนอนทับอก
   “ข้าวเสร็จแล้วนะ”
   “อื้อ หิว”
   “ปะๆ ไปกินข้าวกัน”
   “ขอของหวานก่อน” ว่าแล้วก็ดึงผมขึ้นไปจูบ ไล่ลิ้นไปตามแนวฟัน เราจูบกันอยู่สักพักก่อนจะผละออก หน้าผมแดงร้อนแต่คนนอนข้างล่างกลับยิ้มกรุ่มกริ่ม
   “หวานจริง ตรงอื่นหวานอย่างนี้เปล่า”
   “อยากรู้ต้องลองเอง”
   “หึหึ เตรียมตัวไว้ได้เลยเปิ้ล”
   ผมลอยหน้าลอยตาลุกขึ้นยืนพร้อมดึงคนตัวโตขึ้นมาด้วย พอยืนขึ้นได้ก็โถมตัวเข้าหาผมเอียงตัวซบผมตลอดทางเหมือนคนไม่มีแรง ระยะทางมันไม่ได้ไกลหรอก สามสี่ก้าวก็ถึงโต๊ะกินข้าวแล้ว แต่ไอ้สภาพเดินแล้วมีหมีเกาะนี่มันก็ไม่ได้น่าดูเท่าไรนะ 



   หลังจากกินข้าวเสร็จผมก็ไล่ชายหนุ่มให้ออกไปจากครัวเพราะเขาจะทำจานทุกใบของผมแตก! ตอนแรกก็ทำท่าจะไม่ยอมไปไหนบอกอยากอยู่ใกล้ๆ แต่ผมไม่อินด้วยเพราะมันเกะกะน้ำนิ่งเลยยอมเดินไปนั่งตรงโซฟาที่เดิม ผมก็ล้างจานเก็บครัวไปไม่ได้สนใจอะไรจนกระทั้ง..
   “แอปเปิล” น้ำนิ่งเรียกผมเสียงแผ่ว พอหันไปดูก็ต้องตกใจกับสิ่งที่อยู่ในมือของเขา
   ชิบหาย! ลืมไปได้ยังไงเนี่ย!?
   สิ่งที่อยู่ในมือของนิ่งและทำเอาผมจิตตกอยู่ในตอนนี้คือกระดาษพับรูปดอกไม้สีฟ้าในกล่องใส มีโพสอิทบันทึกความทรงจำแปะไว้ ผมจำได้แม่น.. เพราะมันคืออันที่ผมได้มาในวันที่รู้ว่าใครคือคนที่ให้กระดาษพับมาวางบนกระเป๋าของผมทุกๆ วัน
   รู้แล้วนะว่าคุณคือใคร
   “เปิ้ลรู้อยู่แล้วเหรอว่าเป็นเรา ตั้งแต่เมื่อไร นานแล้วดิ”
   “อ่า.. เอ่อ..”
   ผมวางผ้าเช็ดมือลงก่อนจะเดินเข้าไปใกล้ชายหนุ่มที่เริ่มมีสีหน้าเหมือนคนคิดไม่ตก คิ้วเข้มขมวดยุ่ง มองกลองในมือไม่วางตา ขนาดผมเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าแล้วก็ยังไม่มอง
   เขาโกรธเหรอ
   ต้องคิดว่าผมหลอกแน่ๆ แต่ผมไม่ได้มีเจตนาแบบนั้นเลยนะ
   “ขอโทษ นิ่งโกรธเหรอ เราไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังนะ” ยิ่งเขาส่ายหัวผมยิ่งหน้าเสีย “เรารู้เพราะบังเอิญหันไปเห็นพอดีพอรู้ว่าเป็นคนเดียวกับที่แอบปลื้มอยู่ก็ดีใจมากๆ เลยให้เพื่อน เอ่อ.. พีชน่ะ ช่วย แล้วก็ได้รู้ว่าเป็นเพื่อนกับลูกหินด้วยแล้วก็...”
   “เดี๋ยวนะ.. นี่เปิ้ลรู้จักเราฝ่ายเดียวมาตลอดเลยเหรอ”
   ชิบหายรอบสอง พลั้งปากออกไปหมดเลยกู
   ผมไม่มีทางเลือก โกหกไม่ได้แล้ว เลยพยักหน้าตอบกลับไป หน้าน้ำนิ่งตอนนี้คล้ายๆ คนไม่มีสติ อ้าน้อยๆ  กระพริบตาถี่ๆ แล้วเขาก็เอามือกุมขมับก่อนจะนั่งลงกับโซฟา ท่าทางเหมือนสูญเสียอะไรบางอย่าง
   “นี่มัน..”
   “ขอโทษนะ ที่ทำเป็นไม่รู้จักมาตลอด”
   “ไม่”
   “....”
   ผมลงไปนั่งคุกเข่าอยู่ตรงระหว่างขาของเขา ตอนนี้ให้ทำอะไรก็ยอม
   “ไม่ได้โกรธ แต่ว่ามันตกใจ”
   “....”
   “รู้สึกเสียเซลฟ์ยังไงไม่รู้”
   “ห้ะ?”
   “นึกว่าเนียนแล้วแท้ๆ”
   “อ่า..” ผมควรบอกเขาไหมว่ามันไม่ค่อยจะเนียนเท่าไร เพราะหลังจากที่ผมรู้ผมก็เฝ้าสังเกตตลอด เขามักจะมานั่งดูผมเล่นวอลเลย์บอลแล้วอาศัยช่วงวุ่นๆ หรือคนพลุ่กพล่านวิ่งเอาของมาว่างแล้ววิ่งออกไป คือผมว่าคงมีคนอื่นสังเกตเห็นบ้างแหละแต่คงงงๆ เลยไม่อยากจะสนใจมากกว่า
   น้ำนิ่งยังคงทำสีหน้าเหมือนกลืนยาขมเข้าไปทั้งก้อน น่ารักจนผมต้องยิ้มตามแล้วลูบแก้มเขาเบาๆ
   “ไม่เป็นไรนะๆ รู้ก่อนรู้หลังคนให้ก็คนเดิม อีกอย่างเราดีใจมากที่คนให้กระดาษพับกับคนที่เราชอบเป็นคนเดียวกัน”
   “เราก็ดีใจที่คนที่ชอบกับคนที่ทำไก่ให้เป็นคนคนเดียวกัน”
   “อันนั้นเราตั้งใจจีบแล้วอะ”
   “เป็นแผนเหรอ”
   “ก็นิดหน่อย” 
   จะเรียกว่าแผนได้ไหมเพราะตอนที่รู้ว่าคนที่ให้กระดาษพับกับคนที่ชอบคือคนเดียวกันก็เพราะความบังเอิญ แล้วมันก็บังเอิญที่ลูกหินแฟนพีชเป็นเพื่อนกับเขา ผมเลยหลอกถามข้อมูลเกี่ยวกับน้ำนิ่งได้ แล้วก็รุกเข้าใส่แบบลับๆ 
   ผมขอเรียกมันว่าความบังเอิญดีกว่า
   “ทำไมไม่บอกกันตรงๆ นี่โดนเปิ้ลหลอกมาตลอดเลยเหรอ”
   “ไม่ได้หลอกน้า ก็เราไม่อยากเสียน้ำนิ่งไปนี่”
   “มีแต่เราที่ไม่รู้อะไร ชอบเปิ้ลไปวันๆ”
   “ตอนนี้ก็รู้แล้วนี่ไง”
   แน่ะ หันหน้าหนีอีก หลังจากนั้นน้ำนิ่งก็เอาแต่เพ้อว่าผมหลอกเขาต่างๆ นานา ผมใจร้ายบ้างละ เล่นละครเก่งบ้างละ ต่อไปจะหลอกอะไรอีกไหม นู่นนี่เยอะแยะไปหมด ทุกครั้งที่ก็จะปากยื่นปากยาวเหมือนคนงอน แต่มือก็ไม่ยอมปล่อยให้ผมได้เป็นอิสระเหมือนเขาบ่นเพราะตัวเองเสียเซลฟ์มากกว่า ไม่ใช่เพราะว่าโกรธแต่อย่างใด ผมเลยต้องนั่งอธิบายนั่งปลอบจนเขาเริ่มปกติ 




   พอเคลียร์กันรู้เรื่อง น้ำนิ่งกับผมก็มานั่งดูละครด้วยกัน ผมปอกผลไม้ให้น้ำนิ่งที่นั่งอยู่ข้างๆ เรานั่งกันอยู่ที่พื้นหน้าโซฟา เขายกมือพาดไปที่โซฟาเหมือนกอดผมไว้กลายๆ เดี๋ยวก็แหย่หู เดี๋ยวก็บีบแก้ม เดี๋ยวก็เล่นผม อยู่ไม่สุข เอาแอปเปิลยัดปากแล้วก็ไม่ยอมหยุด
   ผลไม้หมดแล้วผมเลยนั่งดูละครไปเงียบๆ จนกระทั้งหนังมันจบผมถึงเพิ่งสังเกตว่ามือไม้ที่เคยก่อกวนหายไปไหนมีแต่มือที่พาดบ่าไว้เฉยๆ แถมยังเงียบอีกต่างหาก พอหันมาดูก็เห็นอีกคนนั่งตาปรือไม่เป็นท่า
   “จะกลับไหม เดี๋ยวไปส่ง”
   ให้กลับเองคงได้ไปเสยฟุตบาทกับเสาไฟเล่น
   “ใจร้ายจัง”
   “อะไรล่ะ”
   “ไม่เป็นห่วงกันเลย จะให้กลับสภาพนี้”
   “จะไปส่งนี่ไง ใครจะปล่อยให้กลับเอง หลับในชนเสาไฟฟ้าตายกันพอดี”
ยังไม่อยากเป็นหม้ายทั้งๆ ที่ยังไม่ได้กันนะเว้ย! ใจจริงก็อยากให้ค้างอะนะ แต่มันเขินๆ ไงไม่รู้
อุ๊บ!!
ผมล้อเล่นน่ะ
“ไม่ให้นอนด้วยเหรอ” เสียงอ้อนมาเลย
“อยากนอนหรือไง”
“อยากสิ อยากนอนกอดเปิ้ล”
   อะ ไอ้บ้านี่ก็พูดตรงเหลือเกิน ผมบอกแล้วใช่ไหมว่าถึงจะหน้านิ่งเหมือนไม่สนใจรู้สึกอะไร แต่ความจริงไม่ใช่เลย ทั้งขี้แซว ขี้แกล้ง สารพัดจะทำไม่ค่อยเข้ากับหน้านิ่งๆ ของเขาเท่าไร แต่นั่นก็เรียกได้ว่าเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งละนะ
   “เขินเหรอครับ” ผมเงียบไม่ตอบหันหน้าหนีไปทางอื่น น้ำนิ่งดึงผมขึ้นมานั่งตัก “เขินจริงดิ? เวอร์จิ้นเหรอเรา”
   “ไม่จิ้นเว้ย เคยแล้วเหอะ!!”
   “อ้าว”
   “อุ้ย แฮะๆ โอ๋ อดีตน่า อดีต จุ๊บๆ” ผมลูบแก้มเขาแล้วเริ่มอ้อนใส่เพราะน้ำนิ่งหน้านิ่งยิ่งกว่าเดิมอีกตอนนี้ “ไม่ทำหน้านิ่งน้า นะๆๆ”
   “รู้หรอกว่าไม่ใช่คนแรก”
   “แล้วรับได้ไหมละ”
   ถามไปเหมือนลองเชิงแต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าใจเริ่มแป้ว ที่พูดไปก็เรื่องจริง น้ำนิ่งก็น่าจะดูออกอยู่แล้ว ใครจะรอดมาถึงตอนนี้วะ แต่คงไม่ชอบใจที่ผมพูดออกมาแบบนี้ ใครมันจะชอบใจถ้ารู้ว่าตัวเองไม่ใช่คนแรกของคนรัก แต่มันก็อดีตแล้วอะ ผมจะไปแก้ไขอะไรได้
   “อดีตก็ส่วนอดีต” ว่าพลางไล่ปลายจมูกไปตามแก้มของผม “ปัจจุบันต้องน้ำนิ่งคนเดียวนะครับ.. แอปเปิล”
   “อือ รักเดียวใจเดียว น้ำนิ่งเหอะ อย่าให้เห็น เอาตายแน่”
   “หึ”




   จบจากเรื่องไม่ซิงก็สรุปได้ว่าน้ำนิ่งจะนอนค้างห้องผม แต่เพราะไม่มีชุดที่อีกคนพอจะใส่ได้ และผมไม่มีของใช้สำรองอย่างพวกแปรงสีฟันเลยต้องลงไปซื้อข้างล่างแล้วก็เลยถือโอกาสชึ้นไปหาพีชข้างบนเผื่อมันจะมีชุดของลูกหินหลงเหลือติดห้องไว้ น้ำนิ่งเดินกอดคอผมจนเรามาถึงห้องของพีช เคาะเรียกอยู่นานประตูห้องก็ถูกเปิดออกด้วย.. ลูกหิน
   โอเค ผมไม่ตกใจหรอกที่เจอลูกหินแต่ตกใจกับสภาพตอนนี้มากกว่า เปลือยท่อนบนไม่พอ  ยังรอยเล็บและคิสมาร์กจางๆ ตรงช่วงหน้าอกไปจนถึงหัวไหล่โชว์อีก ไม่ต้องเดาว่าผ่านอะไรมายิ่งสภาพของพีชที่เดินตามมาทำเอาผมนึกภาพได้เป็นฉากๆ
   รอยแดงตรงคอมันเยอะกว่าของลูกหินรวมกันซะอีก!!
   สภาพก็ดูเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าจะล้มพับได้ทุกเมื่อ
   ร้อนแรงจริงไอ้พวกนี้ วันใหม่แล้วนะ!
   “มีไรวะ”หินพูดกับเพื่อนเขา
   “มีอะไรเหรอเปิ้ล มาซะดึกเชียว” เป็นพีชที่ส่งเสียงพร้อมโผล่หัวน้อยๆ ออกมาให้ได้เห็น ขอบคุณที่อยู่ในชุดปกติ ไม่ทำให้ผมกระดากอายไปมากกว่านี้!
   “กูมาค้างกับเปิ้ล แต่ไม่มีเสื้อผ้าเปลี่ยน”
   “เลยมายืมของกูว่างั้น”
   “เออดิ จะให้กูมายืมของเมียมึงเหรอ”
   “สัด”
   “มาๆ เข้ามาก่อน”
   พวกผมเดินตามสองคนนั้นเข้าไปเพราะไม่คิดว่าการยืนรออยู่ข้างหน้าห้องมันจะเกิดประโยชน์อันใด ดีไม่ดี พวกข้างห้องได้ออกมาด่าอีก ลูกหินหายเข้าไปในห้องนอนของพีชส่วนผมก็เดินตามเพื่อนตัวเองเข้าไปที่ครัวด้วยความอยากเสือกล้วนๆ ทิ้งให้น้ำนิ่งนั่งหลับในรออยู่ตรงโซฟาคนเดียว
   “ทำกันตั้งแต่กี่โมงวะเนี่ย”
   “บ้าเหรอ เปิ้ล เดินตามมาเพื่อจะถามเรื่องนี้อ่ะนะ”
   “ก็อยากรู้อะ”
   พีชมันตัวเล็กๆ ขาวๆ น่าถะนุถนอมจับทีเหมือนกระดูกจะหักได้ทุกเมื่อ ส่วนลูกหินก็ตัวใหญ่กล้ามแน่นมีรอยสักตรงต้นแขน แข็งแรง ดูน่ากลัว แต่ก็โคตรเท่ พอคิดภาพเพื่อนตัวเองกับคนที่นิ่งยิ่งกว่าน้ำนิ่งและเย็นชาอย่างลูกหินทำกิจกรรมบนเตียงกันแล้วหน้าผมก็เห่อร้อนขึ้นมาซะอย่างนั้น
   “ไม่หื่นสิเปิ้ล~”
   “แหม ดูร้อนแรงอะ ลูกหินมันดูเย็นชา บนเตียงนี่ยังไงวะ”
   “โอ้ย ใครจะกล้าเล่าละ รอเจอด้วยตัวเองดีกว่ามั้ง”
   “อะไร”ผมลอยหน้าลอยตา
   “มาค้างด้วยแบบนี้..ไม่น่ารอดน้า”
   “ดูมันก่อน จะหลับแล้วนั่น”
ผมบุ้ยปากไปทางหมีที่นั่งรออยู่ เพราะระยะห่างไม่ได้มากนัก ลักษณะห้องก็เหมือนๆ กันเลยต้องกระซิบคุย พีชหัวเราะรวนพอดีกับที่ลูกหินออกมาพร้อมกับชุดนอนของเขา เดินไปตบหัวเรียกให้เพื่อนตื่นก่อนจะโยนชุดให้
   “มึงนี่หลับได้ตลอดเวลาจริงๆ”
   “กูพักสายตาเถอะ”
   จ้ะ.. พักสายตา
คืนนี้ไม่ต้องหวังไรทั้งนั้นแค่ลากไอ้หมีขี้เซาขึ้นห้อง อาบน้ำ หัวถึงหมอนมันก็หลับเป็นตาย!
เอาเถอะ ผมรอได้!




TBC
27/5/17
สวัสดีค่ะ หายไปนานกว่ารอบที่แล้วอีก ลืมกันแล้วแน่ๆ ขอโทษน้า ที่จริงเราปิดเทอมตั้งแต่ต้นเดือนแล้วค่ะ แต่ก็ติดรับปริญญาของพี่ ทำนั่นทำนี่ไม่ได้มาอัพสักที อยากแต่งให้จบช่วงแรก (14-15 ตอนแรก) ก่อนด้วยแล้วกะจะลงติดๆ กัน คนอ่านจะได้ไม่ต้องรอนาน แต่ก็ยังทำนั่นทำนี่ไม่เสร็จเลยไม่ได้ลงสักที นี่ก็บังคับให้ตัวเองมาลงก่อน มันจะสองเดือนแล้ว ฮืออ หลังจากนี้ก็จะพยายามมาให้บ่อยๆ เขียนให้จบ ลงให้ได้เยอะที่สุด ถี่ที่สุดตลอดช่วงปิดเทอมนะคะ
ตอนนี้ก็ยังคงเรื่อยๆ เหมือนเดิม เราชอบตอนสองคนนี้อยู่ด้วยกันมันน่ารักดี อาจจะน่าเอไปบ้าง แต่ก็อย่าเพิ่งทิ้งกันไปไหน ฝากติดตามกันต่อไปด้วยน้า
ไว้เจอกันใหม่ค่า




(http://upic.me/i/i6/da0iwyivyaapfl1.jpg)
แอปเปิลตอนทำกับข้าวในครัว
เครดิต Twittwr @cotoriy
หัวข้อ: Re: ●● Sleeping bear and Apple's Trap ●● [11 #แอปเปิล - 27/5/17 ● P.2] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 28-05-2017 00:16:19
เป็นหมีขี้เซาจริงๆ
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ●● Sleeping bear and Apple's Trap ●● [11 #แอปเปิล - 27/5/17 ● P.2] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 28-05-2017 00:28:22
คนเขียนกลับมาอล้วววว
ตอนนี้ก้น่ารักอีกแล้ว
น้ำนิ่งนี่คือหลับตลอดเวลาจริงๆอะ555
แอปเปิ้ลก้น่ารักก
ปิดเทอมแล้วว รออ่านนะคะะ
หัวข้อ: Re: ●● Sleeping bear and Apple's Trap ●● [11 #แอปเปิล - 27/5/17 ● P.2] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: Piima ที่ 28-05-2017 00:40:50
5555555+

โอ้ยยย

ทำไมพ่อหมีถึงขี้เซาขนาดนี้

นิยายสนุกค่ะ

เราชอบ
หัวข้อ: Re: ●● Sleeping Bear and Apple's Trap ●● [12 #แอปเปิล - 30/6/17 ● P.3] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: YEEUN9424 ที่ 30-06-2017 22:19:33

Sleeping bear and Apple's Trap 12

#แอปเปิล

 

 

 

            ผมพลิกซองสีขาวในมือไปมาอย่างไม่ไว้ใจเพราะช่วงนี้มักมีจดหมายข่มขู่แปลกๆ ส่งมาให้รู้สึกขนลุกอยู่เรื่อย เกิดจากท้องพ่อท้องแม่มา 20 กว่าปีก็เพิ่งจะเคยจะเจออะไรแบบนี้นี่แหละ ไม่รู้เหมือนกันว่าควรจะปฏิบัติตัวยังไงเลยได้แต่เล่าให้เพื่อนกับแฟนฟัง ซึ่งทุกคนก็มีความกังวลไปพร้อมๆ กับผม แต่ก็ยังทำอะไรไม่ได้มากอยู่ดี

            “ได้อีกแล้วเหรอวะ”

            “เออดิ มาพร้อมขนมมึงคิดว่ากูจะกล้ากินไหม”

            “แดกก็ตายห่ากันพอดี”

            คนทำมันฉลาด ฝากคนรู้จักมาให้ในรูปแบบที่ไม่น่ากลัวดูเหมือนพวกฝากจีบ ฝากของให้คนที่ชอบอะไรแบบนั้น เดี๋ยวคุกกี้ เดี๋ยวเค้ก มาพร้อมจดหมายในซองสีธรรมดาๆ แต่เปิดเนื้อความอย่างเหี้ย เขียนด้วยสีแดงตัวหนังสือน่ากลัวๆ  ไปตายซะ อีแอปเปิลเน่า เลิกยุ่งกับเขา บลาๆ  เขานี่ใครวะ โอ้ย!

            “กูว่าแฟนคลับน้ำนิ่งแน่ๆ เขาที่มึงยุ่งอยู่ตอนนี้ก็มีแค่มันคนเดียว” ไอ้จ๋าออกความเห็นเล่นเอาผมฉุกใจคิด จริงของมัน

            “เพราะกูคบกับมันเนี่ยนะ”

            “เออดิ”

            “ถ้าชอบมันขนาดนี้ทำไมไม่รุกจีบไปเลยวะ พอมันมาคบกูแล้วมารังควาญมาตามโรคจิตใส่กันมันใช่เหรอ” น้ำนิ่งมีคนชอบเยอะก็จริง แต่ผมยังไม่เจอแบบที่เปิดตัวจะๆ เลยไม่รู้ไงว่าใครมันเข้าข่ายไอ้โรคจิตที่ส่งจดหมายมาขู่ผมกันบ้าง แล้วคนที่ชอบมันส่วนมากก็ไมได้แบบตามตื้อตามอะไรนะ แต่กรี้ดๆ ยิ้มๆ เวลาเจอ หรือซื้อของมาให้เท่านั้น

            “เขาอาจจะไม่ได้อยากได้ แต่แค่ไม่พอใจที่เป็นมึงไง”

            “กูไม่ดีตรงไหน”

            “กูจะรู้ความคิดไอ้โรคจิตนั่นไหม”

            “ต่อไปมันไม่เอามีดมาแทงมึงเลยเหรอวะ” ไอ้โป้พูดขึ้นมาทำเอาผมเสียววาบ แค่จดหมายก็จะบ้าแล้ว

            “น่ากลัวจัง ช่วงนี้อย่าไปไหนคนเดียวนะเปิ้ล เดี๋ยวเราให้หินช่วงสืบให้” พีชพูดขึ้นมาพร้อมกับเกาะแขนผมแน่น  ผมพยักหน้าให้ ใบหน้าซีดฉายความกังวลออกมาทั้งกลุ่ม

 

 

 

 

            “ยังได้จดหมายแบบนั้นอยู่เหรอ”   

            “อืม นิ่งแน่ใจนะว่าไม่มีโจทย์ที่ไหน ไม่มีแฟนเก่าโรคจิต ไม่มี..”

            “แฟนเก่านี่เลิกกันไปตั้งแต่ม.6 แต่งงานมีลูกแล้ว” ชายหนุ่มพูดแล้วดึงผมลงไปนั่งตัก หยิบมือถือขึ้นมาเปิดแชทไลน์ให้ดู “ลูกเขา เพิ่งคลอดน่ารักไหม”

            “ลูกน้ำนิ่งเหรอ”

            “ตลกเหรอครับ”

            ผมหัวเราะ รูปที่ว่าก็รูปผู้หญิงคนหนึ่งกับเด็กทารกในอ้อมแขน แฟนเก่าน้ำนิ่งนั่นแหละ เห็นว่ายังติดต่อกันอยู่แต่ก็นานๆ ที โอเค เรื่องแฟนเก่าตัดไป

            “แล้วพวกคู่อริละ”

            “หน้าเราดูเหมือนคนชอบมีเรื่องเหรอ”

            “ใครจะรู้ หน้าง่วงๆ แบบนี้คนมองอาจจะไม่ชอบใจ”

            “มันเป็นมาตั้งแต่เกิดแล้วนะ”

            “เฮ้อ เริ่มกลัวแล้วนะเนี่ย เกิดวันดีคืนดีเราโดนแทงทำไงอะ” ผมว่าพลางเอนตัวพิงออกคนข้างหลัง น้ำนิ่งกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น ดึงผมขึ้นมานั่งจนเต็มตัก เนื้อแนบเนื้อ

            “พูดอะไรน่ากลัว เดี๋ยวจัดการเอง”

            “จัดการยังไง ไหนบอก”

            “ไม่รู้ ไอ้หินกับไอ้มูนจัดการอยู่”

            แล้วเมื่อครู่หมีตัวไหนมันบอกจะจัดการเองวะ

            “ไม่ต้องกลัวนะ จะปกป้องเอง” ว่าแล้วก็หอมแก้มผมอีกหลายทีเน้นๆ ถึงจะดูเหมือนพูดไปเรื่อย แต่ก็รับรู้ได้ว่าอีกคนจริงจังกับคำพูดตัวเองแค่ไหน นั่นทำให้ผมรู้สึกอุ่นใจขึ้นมาได้บ้าง

            เหมียว..

            หันพรึบทันทีเมื่อได้ยินเสียงที่สาม แล้วเจ้าของเสียงก็เดินอุ้ยอ้ายเข้ามาทางระเบียง ผมมองหน้าน้ำนิ่งอย่างต้องการคำตอบ มาที่ห้องก็หลายครั้งแล้วแต่นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เจอเจ้าแมวสีขาวแซมเทาตัวอ้วนกลม ผูกจุกเล็กๆ เป็นทรงน้ำพุโคตรน่ารัก

            “แมวคนข้างห้อง สงสัยเพิ่งกลับมาจากต่างจังหวัดกัน” น้ำนิ่งอุ้มเจ้าแมวขึ้นมานั่งบนตักแล้วก็ลูบหัวมันซึ่งเจ้าตัวก็ให้การตอบรับด้วยการไถหัวออดอ้อนอย่างน่าหมันไส้ “เปิ้ลไม่ชอบเหรอ”

            อ๊าก! เพิ่งเคยเห็นน้ำนิ่งมันอยู่กับสัตว์ตัวน้อยๆ แบบนี้ครั้งแรก แอทแทครุนแรงมาก

            “ปะ เปล่า ปกติมาไม่เคยเจอ มันมาบ่อยเหรอ มีชื่อไหม”

            “อ้วน”

            “ง่ายดีนะ”

            “มันอ้วน”

            “ไม่เถียง” พอเห็นเจ้าแมวอ้วนยังออดอ้อนคลอเคลียน้ำนิ่งอยู่ผมก็เข้าไปร่วมวงด้วย แฮ่ๆ เข้าไปแย่งพื้นที่สักหน่อย ตอนแรกมันก็ไม่ค่อยจะสนใจผมเท่าไรหรอกแถมยังทำท่ารำคาญที่ผมมาแย่งพื้นที่มันอีกต่างหาก แต่หลังจากนั้นไม่นานน้ำนิ่งก็กลายเป็นคนที่ไม่มีใครสนใจเพราะทั้งผมพาเจ้าอ้วนลงจากตักของน้ำนิ่งแล้วกอดกันกลมจนลืมใครอีกคนไปเลย

 

 

 

            “เปิ้ล~”

            ผมนั่งเล่นกับเจ้าอ้วนอยู่ตรงโซฟา เปิดทีวีดูไปด้วยเกาพุงแมวไปด้วย มีความสุขจนลืมเจ้าของห้องที่กำลังนั่งทำงานอยู่ตรงระเบียง กระจกที่เปิดกว้างให้ลมเข้าเบาทำเอากระดาษปลิวบ้าง แต่เจ้าของห้องมันก็ไม่ยอมปิดเห็นว่าชอบ ลมธรรมชาติเหมาะแก่การทำงาน

            ห้องของน้ำนิ่งเป็นห้องกว้างขนาดใหญ่ โล่งมาก โล่งแบบไม่มีกำแพงกั้นส่วนไหนเลย นอกจากครัวและห้องน้ำที่เป็นพื้นที่ของมันไป ขนาดตรงส่วนที่คิดว่าเป็นห้องนอนก็แค่มีที่เตียงวางไว้พอให้รู้ว่าเป็นที่นอนเท่านั้นเอง

            “เปิ้ล~~”

            ผมลุกขึ้นเมื่อน้ำนิ่งเรียกผมอีกครั้ง น้ำเสียงอ่อนระโหยโรยแรงจนน่าสงสารผมอุ้มไอ้อ้วนมาหา พอปล่อยมันลงมันก็เดินอุ้ยอ้ายออกไปทางระเบียงกระโดดหายวับไปจากสายตา

            น้ำนิ่งดึงผมไปนั่งตัก ซุกหน้ามาตรงซอกคอ ทั้งกอด ทั้งหอมเหมือนทุกที ผมก็ได้แต่ลูบมือลูบแขนของอีกคนที่วางอยู่ตรงช่วงเอวไปมา “เหนื่อยเหรอ เหนื่อยก็พัก”

            “อยากได้กำลังใจ”

            “ให้แล้วไง”

            “ไหน”

            “เนี่ยๆ” หันไปหอมแก้มสากซ้ำๆ จนน้ำนิ่งยิ้มกว้าง

            “จะเอาแบบนี้”

            แล้วริมฝีปากหน้าก็ทาบทับลงมา น้ำนิ่งไม่ได้ตะโบมจูบ เขาแทบจะไม่เคยทำแบบนั้นแต่จะค่อยๆ ตะลอมเล็มไปที่จะนิดจนผมเริ่มตายใจนั่นแหละถึงจะแสดงความดิบออกมา มือหนาลูบไปมาตามเอวของผม พอๆ กับที่ผมเองก็สอดมือเข้าไปตามกลุ่มผมสีดำ บ้างก็จิกเล็บลงไปเมื่อเขาดูดลิ้นผม เราจูบกันท่ามกลางกองงานและแสงไฟจากตัวห้องถ้ามันจะ..

            จ๊อก

            จุ๊บ จุ๊บ

            จุ๊บปากผมเน้นๆ อีกสองสามทีก่อนจะเอาหน้าผากแนบกัน

            “หิวอีกแล้ว ทอดไก่ให้กินหน่อยน้า”

            กำลังเคลิ้มเลยกู

 

 

 

            “หน้าบึ้งอีกละ ยังได้จดหมายอยู่เหรอวะ”

            “เออดิ แต่กูไม่ได้บึ้งเพราะจดหมาย”

            “แล้วอะไร เกิดอะไรขึ้นหรือทะเลาะกับที่รัก”

            ไอ้โป้ ไอ้จ๋าและพีชพากันนั่งลงแล้วจับจ้องมาที่ผม เรื่องจดหมายก็กังวลอยู่แต่ที่หน้าบึ้งเพราะไอ้แฟนตัวดีนั่นต่างหาก เมื่อวานบรรยากาศกำลังดีๆ มันกลับ... ผมเริ่มเปิดปากเล่าให้เพื่อนฟัง แล้วก็เป็นไปตามคาดพวกมันหัวเราะกันใหญ่ หัวเราะไม่ได้เกรงใจผมที่ทำหน้าบึ้งอยู่นี่เลย โว้ย!!!

            “กูกำลังเคลิ้มๆ อะ แล้วดูแม่งดิ เสือกท้องร้องใส่”

            “แค่นี้เองมึง”

            “แค่นี้ตรงไหนวะ!? มันก็ดูหื่นๆ ยังเคยเล่าอยู่เลยว่าตอนชนกูครั้งแรกกูทำมันตื่นทั้งตาตื่นทั้งใจ ไอ้นั่นของมันก็เกือบตื่น แต่ทำไมมันไม่ ..”

            ล่อ... เฮ้ย! จัดการผมสักที!!

            “น้ำนิ่งตลกวะ ชนมึงแล้วไอ้นั่นตื่น” ไอ้โป้ขำยาวจนผมกลัวว่ามันจะขาดอากาศหายใจตายเสียก่อน

            “มึงก็อย่าคิดมากน่า คนคบกันใช่ว่าจะมีแต่เรื่องแบบนั้น”

            “มึงพูดแบบนี้กูดูไม่ดีเลยนะ”

            “ไอ้จ๋าก็บอกอยู่ว่าอย่าไปคิดมาก มึงนี่ยังไง เดี๋ยวกูกับไอ้จ๋าจะไปเรียนเสรีแล้ว เจอกันพรุ่งนี้”

            “ค่อยเป็นค่อยไปนะมึง”

            ผมพยักหน้าให้แม้ในใจจะยังไม่รู้สึกเคลียร์ก็ตาม พอไอ้จ๋ากับไอ้โป้เดินออกไปก็เหลือแค่ผมกับพีชสองคน ไอ้นี่ก็เล่นมือถือไม่เลิก ติดมาก เจ้าพ่อโซเชียลสุดๆ ผมแกะขนมมากินสองสามชิ้นแล้วก็นั่งท้าวค้างมองเพื่อนตัวเองก่อนจะตั้งคำถามขึ้นมา

            “มีความสุขดีปะ”

            “อะไรเหรอ”

            “กับลูกหินอะ”

            “มากมาก เดี๋ยววันนี้ก็จะไปดูหนังกัน”

            “เหรอ..”

            “เปิ้ลมีเรื่องอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า นอกจากเรื่องไม่โดนตี๊ด”

            “นิ่งมันนิ่งเกิ้น นิ่งเป็นหลับ ขยับเป็นแดกจริงๆ” 

            “ก็สมกับเป็นนิ่งดีน้า จะให้ลุกมาตีกลองร้องเพลงก็คงไม่ใช่”

            “ไม่ใช่ว่าจะต้องทำอะไรแบบนั้น แต่ก็อยากให้มันมีอะไรบ้าง อย่างไปเที่ยวดูหนังฟังเพลง ไปเดตบ้าง ทุกวันนี้มีแต่ห้องมันไม่ก็ห้องกู เอาแต่กินกับนอนแบบนี้”

            “ไม่โอเคเหรอ?”

            “มันก็โอเคอยู่ นิ่งจะเป็นแบบไหนก็ชอบ แต่แบบ…”

            “....?”

            “กูอยากมีโมเมนต์ที่มากกว่ากอดจูบลูบคลำบ้าง!!”

            “อ่าว สรุปก็เรื่องเดิมนี่หว่า”

            “เออ! ไม่ออกไปไหนจะอยู่แต่ห้องกูก็ไม่อะไรหรอก แค่ได้อยู่ด้วยกันผมก็มีความสุขมากแล้ว แต่อยากให้ทำอย่างอื่นบ้างนี่หว่า ไม่ใช่เอาแต่กินกับนอน! อีกอย่าง..กูห่างหายจากเรื่องนั่นมานานแล้วนะ แล้วนิ่งแม่งเซ็กส์แอฟเพียลมันน้อยที่ไหน อยู่ใกล้แล้ว…”

            “อ๋อออ ที่แท้ก็อยากจึกๆ ฮิฮิ”

            “เออออ กูอยาก”

            ผมตอบออกไปอย่างไม่กระดากอาย อย่าได้คิดว่าผมจะดราม่าที่ไม่ได้ออกไปเดตข้างนอกเหมือนคู่อื่นๆ เขา ไม่ใช่เรื่อง รู้ว่ามันชอบอยู่กับบ้านมากแค่ไหน ผมเองก็เหมือนกัน วันไหนอยากออกเดี๋ยวก็ออกเองแหละ ที่สำคัญคือเรื่องนี้ต่างหาก ยอมรับก็ได้ว่าผมหื่น

            แหม! มีแฟนทั้งทีเรื่องพวกนั้นก็ธรรมดาๆ แต่ที่ไม่ธรรมดาคือไอ้น้ำนิ่งเลย!

            ยิ่งอยู่ใกล้ยิ่งเห็นเสน่ห์ในแบบมึนๆ ของผม รูปร่างก็แสนดี เซ็กส์แอฟเพียลกระจุยกระจาย แต่มันกลับนิ่งไม่ยอมทำอะไรผมสักที!

            “แล้วจะยกเรื่องเดตขึ้นมาพูดทำไม”

            “อยากให้มันดูดราม่าเฉยๆ แต่กูไม่ได้ติดใจเรื่องนั้น ยังไงก็ได้อยู่ด้วยกันอยู่ดี แต่อยู่ด้วยกันแล้วเอาแต่กินกับนอนนี่มัน.. ฮึ้ย!!!”

            “ไม่อ่อยอ่ะ”

            “อ่อยแล้ว แต่มันเอาแต่นอนกับกินแล้วก็ทำงาน”

            “ไม่ได้จุ๊บๆ กันเลยเหรอ”

            “จูบดิ บ่อยด้วย เคลิ้มๆ ทีไรได้เรื่องทุกที หรือกูไม่น่าเอาวะ”

            “ไม่หรอก เปิ้ลยังเด้งอยู่เลย ใครเห็นก็อยากได้ทั้งนั้น”

            “เออ ใครก็อยากได้กู แต่ยกเว้นแฟนกูนี่แหละ”

             “ใครอะไร หืม”

            เฮ้ย!! ผมสะดุ้งโย่งเพราะเจ้าของเสียงก็คือเจ้าของหัวข้อสนทนาเมื่อครู่ ผมหันไปยิ้มแหะๆ ให้ก่อนจะคว้าเอากระเป๋ากับถึงขนมมาถือ

            “มานานยัง”

            “เพิ่งมาเมื่อกี้”

            “ลูกหินล่ะ” พีชถามน้ำนิ่ง

            “มันแวะซื้อน้ำปั่นให้อยู่ บอกให้ไปหาที่ร้านเลย

            “โอเค~ แล้วเจอกันน้า เปิ้ลสู้ๆ ขอให้ได้ขอให้โดนไวๆ ฮิฮิ”

            ไอ้พีช! ไอ้เพื่อนเลว!

            “ขออะไร” แล้วไอ้หมีก็หันมาทำหน้างงใส่ผม

            “ไม่มีอะไรกลับกันเถอะ”

            ผมส่ายหัวพร้อมยื่นไปจับมือหนาของอีกคนไว้ก่อนจะเดินออกไปด้วยกัน

            พอเข้ามาในรถน้ำนิ่งก็เอนเก้าอี้ลงพร้อมนอนเหมือนประจำ ผมก็ขับรถไปเรื่อยๆ พอรถติดไฟแดงก็หันไปมองคนข้างๆ กะไงว่ามันหลับแน่แต่ที่ไหนได้ดันนอนตากลมมองผมพร้อมส่งยิ้มให้อีกต่างหาก

            “นึกว่าหลับ”

            “ไม่ง่วง วันนี้ไปไหนดี กลับหอเลยไหม” ผมมองหน้าเขาอย่างแปลกใจ อะไรวะ ร้อยวันพันปีไม่เคยชวนออกข้างนอก

            “แล้วแต่ดิ อยากไปไหน ดูหนังไหม”

            “ง่วงจัง”

            “ก็กลับไปนอน”

            “แต่ก็อยากดูหนังนะ”

            “เอาไง”

            “แล้วแต่เปิ้ล”

            “ไอ้น้ำนิ่ง”

            “ฮาๆ น่ารัก” ผมว่าหน้างอ แต่อีกคนกลับหัวเราะร่ามีความสุข บีบแก้มผมเต็มไม้เต็มมือ

            “หน้าง่วงขนาดนี้กลับไปนอนกันดีกว่า” อันที่จริงคือผมไม่อยากไปไหนแล้ว ช่วงเย็นรถติดจะตาย ไม่มีหนังที่อยากดูด้วย

            “กลับไปนอนแน่เหรอ หืม” ผมหันควับกับคำพูดแปลกๆ ของมัน

            “อะไรของมึง”

            อย่าบอกนะว่า..

            “ได้ข่าวว่าอยากโดน”

            “หะ”

            “ได้ยิน ‘อยากโดนอะ อยากโดน’” เสือกเลียนเสียงอีก โอ้ยยย แสลงหู

            “อะ.. อะไร โดนเดินอะไร”

            ชิบหาย! มันได้ยินจริงๆ ด้วย ก็ว่าแปลกๆ ตั้งแต่เอาแต่ผมยิ้มทำหน้าล้อเลียนเมื่อกี้แล้ว ผมหน้าร้อนขึ้นมาทันที ทั้งเขินทั้งอาย

            “หึหึ เดี๋ยวรอก่อน รอโปรเจคนี้จบก่อน ไม่รอดแน่เปิ้ล”

            อย่างนี้มันก็รู้แล้วสิว่าผมหื่นอะ! ตาย ตาย ตาย ภาพพจน์ที่เคยสั่งสมมาหายวับไปหมด

 

 

 

TBC.

30/6/17

กลายเป็นนิยายรายเดือนไปแล้ว อย่าเพิ่งตีเรานะคะ ‘_’

เดือนนี้เป็นเดือนเกิดต้องมาอัพสักหน่อย 555

แอบไปคิดแท็กมา ใครอยากพูดคุยฝากแท็กด้วยนะคะ

#เปิ้ลเลี้ยงหมี #นิ่งหมีขี้เซา #กับดักหมี

แล้วเจอกันตอนหน้าค่า ไม่นานๆ รอบนี้ไม่นานจริงๆ

ขอบคุณที่ยังติดตามกันอยู่ ร๊ากกกก

 

หัวข้อ: Re: ●● Sleeping Bear and Apple's Trap ●● [12 #แอปเปิล - 30/6/17 ● P.3] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 30-06-2017 22:59:17
 :oo1: :oo1: :oo1: :oo1: :oo1:


 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ●● Sleeping Bear and Apple's Trap ●● [12 #แอปเปิล - 30/6/17 ● P.3] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 03-07-2017 04:33:54
 :katai5:
หัวข้อ: Re: ●● Sleeping Bear and Apple's Trap ●● [12 #แอปเปิล - 30/6/17 ● P.3] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: Toon_TK ที่ 03-07-2017 17:55:37
 :z3:
หัวข้อ: Re: ●● Sleeping Bear and Apple's Trap ●● [12 #แอปเปิล - 30/6/17 ● P.3] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 03-07-2017 22:00:16
คนอ่านก็อยากให้แอปเปิ้ลโดนเหมือนกัน  :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: ●● Sleeping Bear and Apple's Trap ●● [12 #แอปเปิล - 30/6/17 ● P.3] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 04-07-2017 12:34:37
เปิ้ลอยากโดนตอนหน้าก็จัดให้หน่อยค่ะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: ●● Sleeping Bear and Apple's Trap ●● [12 #แอปเปิล - 30/6/17 ● P.3] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: ppseiei ที่ 04-07-2017 18:32:26
เปิ้ลน่ารัก555555
หัวข้อ: Re: ●● Sleeping Bear and Apple's Trap ●● [12 #แอปเปิล - 30/6/17 ● P.3] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 04-07-2017 20:47:52
โอ้ยยย หายไปนานนเลยค่ะ
เปิ้ลโดนแน่ๆ น้ำนิ่งบอกแล้วว่าอีกไม่นานนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: ●● Sleeping Bear and Apple's Trap ●● [12 #แอปเปิล - 30/6/17 ● P.3] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 04-07-2017 21:55:44
หายไปเดือน เปิ้ลพัฒนาพูดมึงอ่ะ  :laugh:
หัวข้อ: Re: ●● Sleeping Bear and Apple's Trap ●● [12 #แอปเปิล - 30/6/17 ● P.3] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: nlygust13 ที่ 05-07-2017 13:58:16
รีบมานะนิ่งรออยู่ พ่อหมี
หัวข้อ: Re: ●● Sleeping Bear and Apple's Trap ●● [12 #แอปเปิล - 30/6/17 ● P.3] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: winndy ที่ 05-07-2017 14:49:45
ตอนหน้าพ่อหมีจัดหนักเลย
หัวข้อ: Re: ●● Sleeping Bear and Apple's Trap ●● [13 #น้ำนิ่ง - 5/7/17 ● P.3] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: YEEUN9424 ที่ 05-07-2017 22:15:46
Sleeping bear and Apple's Trap 13
#น้ำนิ่ง



   งานเยอะชิบหาย ผมจะตายแล้ว รู้สึกเหมือนเพิ่งจะสอบเสร็จไปไม่เท่าไร เทศกาลสอบปลายภาคก็ใกล้เข้ามาอีก อันที่จริงจะช่วงไหนคณะที่ผมเรียนงานก็เยอะตลอดนั่นละนะ และถึงแม้ว่าความสัมพันธ์ของผมกับเปิ้ลจะเป็นไปอย่างดี แต่ก็ยังแอบกังวลในบางทีเพราะตัวเองก็ไม่ใช่พวกที่ชอบออกไปทำกิจกรรมเท่าไร เจอหน้ากันทีไรผมก็เอาแต่ลากเขามานอนกอดทุกที บางทีก็กลัวว่าเปิ้ลจะเบื่อ มีความคิดที่จะเปลี่ยนตัวเองอยู่เหมือนกันแต่พอได้บังเอิญไปได้ยินที่เปิ้ลคุยกับเพื่อนก็ทำให้ผมเปลี่ยนความคิดไปโดยสิ้นเชิง
   “..แค่ได้อยู่ด้วยกันผมก็มีความสุขมากแล้ว...”
   เปิ้ลคงไม่รู้ว่าเขาทำให้ผมหุบยิ้มแทบไม่ได้ แอปเปิลน่ารักมากสำหรับผม แม้จะไม่คิดเรื่องเปลี่ยนแปลงตัวเองแล้วแต่ผมก็จะพยายามให้มันดีกว่านี้
   “มึงได้เรื่องบ้างไหม”
   ผมถามออกมาหลังจากทิ้งตัวลงนั่ง เพื่อนสามคนหันมามองผมก่อนจะส่ายหัวให้ ช่วงนี้เปิ้ลได้รับจดหมายขู่จากใครคนหนึ่งที่คาดว่าจะเป็นหนึ่งในคนที่ชอบผม กูละงง มันต้องอะไรขนาดนี้เลยเหรอวะ อยากรู้ว่าใครมันทำแต่ทุกอย่างกลับว่างเปล่าจนไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน
   “จะไปจับมือใครดมได้วะ คนที่ชอบมึงก็ใช่ว่าจะแสดงตัวเยอะ”
   “แต่ช่วงนี้กูว่าเยอะนะ ตั้งแต่มึงเปิดตัวกับเปิ้ล”
   “แล้วจะให้ไปเดินถามเรียงตัวเหรอวะ”
   “นั่นก็เกินไป ยิ่งคนรู้เยอะยิ่งไม่ดี”
   ไอ้เจ้ากับไอ้มูนช่วยกันออกความคิดเห็นแต่ยังไงผมก็ยังว่างเปล่าอยู่ดี อยากให้เรื่องนี้เป็นแค่เรื่องตลกสองสามฉาก หรือไม่ก็หายๆ ไปซะได้ก็ดี ผมไม่อยากเห็นเปิ้ลต้องอยู่อย่างระแวดระวังกับอันตรายที่มองไม่เห็น ผมปวดใจทุกทีเวลาเห็นเปิ้ลอ่านจดหมายแล้วใบหน้าเหยเกด้วยความหวาดกลัว แสดงความกังวลออกมา
    “มึงลองบอกให้เปิ้ลอยู่เฉยๆ ไม่ต้องกลัวไม่ต้องแสดงท่าทีหรือโพสอะไรลงอินเทอร์เน็ต ทำเหมือนไม่สนใจ คนทำมันจะยิ่งได้ใจแล้วแสดงตัวออกมาเอง”
   “ยังไงวะ”
   “แบบ.. ยิ่งมันส่งจดหมายขู่เท่าไร มันก็คาดหวังว่าเปิ้ลจะกลัวจนต้องเลิกกับมึงใช่ไหม แต่ถ้าเปิ้ลแสดงให้ไอ้คนส่งมันเห็นว่าเปิ้ลโคตรจะมีความสุข โนสนโนแคร์ ไม่เลิก กูว่ามันต้องโผล่ออกมาจัดการขั้นเด็ดขาดแน่ๆ ถ้ามันอยากได้มึงมากอะนะ”
   “กูมีอะไรดี”
   “เออ กูก็อยากรู้เหมือนกัน” 
   ผมพยักหน้าหงึกหงัก ในหัวคิดสะระตะอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ปกติจะคิดแค่ว่าจะนอนตรงไหน จะกินไก่ทอดหรือไก่ต้มดี แต่ตอนนี้หลักๆ คิดแต่เป็นห่วงคนของผมนี้แหละ ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็คงจะดี




   “พี่น้ำนิ่งคะ!!”
   หันไปตามเสียงเรียกอย่างขี้เกียจ ผู้หญิงร่างเล็กวิ่งเข้ามาหาผม เธอใส่ผ้าปิดปากสีขาว จนผมไม่รู้ว่าเป็นใคร
   “โธ่.. พี่น้ำนิ่งจำหนูไม่ได้อีกแล้วละสิ”
   อย่าว่าแต่จำไม่ได้เลย เราเคยรู้จักกันเหรอ?
   “หนูเป็นรุ่นน้องพี่แอปเปิลค่ะ” ผมขมวดคิ้วเพราะความไม่คุ้นอย่างแรง ที่สำคัญรุ่นน้องแล้วยังไง ทักทำไม จะกลับหอ จะไปหาเปิ้ล
   “คือ.. ที่จริงก็ไม่ใช่รุ่นน้องในเอก หมายถึงรู้จักกันน่ะค่ะ”
   “อ่า..”
   “คือหนูฝากอันนี้ไปให้พี่แอปเปิลหน่อยนะคะ ส่วนอันนี้ของพี่ค่ะ”
   “?”
   “อยากให้ค่ะ ขอบคุณที่ดูแลพี่แอปเปิลอย่างดีนะคะ”
   ผมไม่ได้พูดอะไร ได้แต่แสดงสีหน้าง่วงๆ ใส่ แต่เธอกลับพูดฉะฉาน เสียงสดใส ราวกับรู้ว่าผมกำลังคิดอะไรอยู่  พอตั้งท่าจะถามอะไรสักหน่อย เธอยกมือไหว้ผมแล้ววิ่งกลับไปทางเดิมทันที ทิ้งให้ผมอยู่กับกล่องของขวัญสีสวยของเปิ้ลกับถุงไก่ทอดที่ว่าเป็นของผม




   “มูนบอกให้ลองทำแบบนั้นเหรอ”
   “อืม มันบอกว่าคนนั้นจะได้โผล่มาจัดการขั้นเด็ดขาด เราจะได้จับตัวได้”
   “จริงๆ ตอนนี้ก็ไม่ได้กลัวอะไรแล้วนะ ชักปลงๆ เดี๋ยวมันทนไม่ได้ก็ออกมาเองแหละ” เปิ้ลพูดสบายๆ ทำให้ผมรู้สึกสบายใจขึ้นมาหน่อย อย่างน้อยเปิ้ลก็ไม่ได้เครียดจนหวาดระแวงไปซะหมด
   “อย่างนั้นก็ดีแล้ว ไม่ต้องกลัวนะ”
   “อื้อ  วันนี้กินไรดี ไก่ที่หมักไว้หมดละนะ”
   “พูดถึงไก่มีรุ่นน้องฝากของมาให้ เขาซื้อไก่มาให้เราด้วย”
   “หืม รุ่นน้องเหรอ อยู่ไหน”
   “บนโต๊ะในครัว”
   เปิ้ลลุกออกไปจากตักของผมแล้วตรงเข้าไปในครัว มื้อเย็นวันนี้ก็คงไม่พ้นอาหารที่ได้มาจากรุ่นน้องคนนั้น ผมหันมาสนใจรายการทีวีตรงหน้าจนกระทั้งได้ยินเสียงของตกกระทบพื้นพร้อมกับเสียงร้องของเปิ้ล ผมรีบสับขาเข้าไปในครัวทันที อย่าได้ช้าไปมากกว่านี้เลยเดี๋ยวมึงจะไม่ใช่พระเอก
   ภาพเบื้องหน้าทำเอาผมชะงักกลางอากาศ กล่องกระดาษสีสวยวางแผละอยู่บนพื้นมีสีแดงฉานของเลือดเปรอะเปื้อนกระจายเป็นวงกว้าง พอได้มองเปิ้ลใจผมยิ่งกระตุกช่วงมือและเสื้อของเปิ้ลเลอะไปด้วยเลือด
   “โดนบาดเหรอ”
   “มะ.. ไม่ ไม่ใช่” ผมเข้าไปดึงเขาให้ออกห่างจากไอ้สิ่งบ้าๆ ตรงหน้า นี่มันอะไรกันวะเนี่ย!? “เลือด ตอนแรก มันเป็นก้อนๆ ห่อกระดาษหนังสือพิมพ์ ก็เลย.. ก็เลย เปิดออก ตะ.. แต่พอแกะกระดาษหนังสือพิมพ์แล้ว เลือด เลือดก็กระเซ็นออกมา เต็มไปหมดเลย อะไรเนี่ย ฮือ”    
   ผมใช่เท้าเขี่ยๆ ไอ้กล่องเวรตรงหน้าเพื่อดูว่านอกจากก้อนเลือดแล้วมันมีอะไร และสิ่งที่เห็นก็ทำเอาผมเลือดแทบขึ้นขมับ มันเป็นตุ๊กตาฟางที่มีรูปเปิ้ลแปะไว้ และมันเต็มไปด้วยเลือด
   “บัดซบเอ๊ย!”
   อยากจะบอกเปิ้ลว่าไม่ต้องกลัว แต่เจอแบบนี้เขาไปผมเองก็หวั่นเหมือนกัน มันเหมือนจะเล่นถึงชีวิต ผมกอดคนในอ้อมแขนแน่น ย้ำให้เขารู้ว่าผมอยู่ตรงนี้
   



   ผมยังคงปลอบประโลมคนของผมที่มีอาการช็อคไม่หาย เปิ้ลนอนนั่งนิ่งไม่พูดไม่จา ไอ้ของเฮงซวยนั่นผมก็จัดการเอาไปทิ้ง พร้อมไก่ทอดเรียบร้อย
   “นิ่งจำหน้าคนให้ได้ไหม”
   ผมถอนหายใจแล้ววางคางลงบนบ่าเล็ก กระชับอ้อมกอดอย่างรู้สึกผิด เกลียดไอ้นิสัยไม่ค่อยจะจำหน้าใครขึ้นมาทันที ไอ้ตัวร้ายโผล่มาให้เห็นตรงหน้าขนาดนั้นแต่ผมกลับ..
   “เด็กคนนั้นใส่ผ้าปิดปากนี่นะ แต่ก็ไม่แน่ว่าคนให้จะเป็คนร้าย โง่ไปหน่อยไหม”
   “ไม่ต้องกลัว เดี๋ยวจะไปเดินหา ต้องเจอ ต้องเจอแน่ๆ” ผมไม่ชอบเวลาที่เปิ้ลเป็นแบบนี้เลยให้ตายเถอะ เหมือนลูกนกที่พลัดหลงถิ่น ตัวสั่นเพราะความหวาดกลัว ผมเองก็กลัว
   กลัวว่าเปิ้ลจะผิดหวังที่ผมมันพึ่งพาอะไรไม่ได้
   “ไม่ต้องขนาดนั้นหรอก ถ้ากล้าขนาดนี้แล้วเดี๋ยวก็คงมาอีก”
   “ไม่ได้ เป็นห่วง”
   ผมกระชับกอดแน่น และแน่นขึ้นเรื่อยๆ จนร่างของเปิ้ลแทบจมลงไปกับอก พยายามเค้นเอาความทรงจำเกี่ยวกับผู้หญิงคนนั้นออกมา แม้มันจะเลือนรางมากก็ตามที





   จากปกติจะเป็นเปิ้ลที่เป็นฝ่ายรอผมตลอด แต่ตอนนี้ถ้ามีเวลาแม้เพียงสักนิดผมก็จะมารอรับเขาที่คณะศึกษาฯ บางทีก็จะไปส่งที่หอก่อน หรืออาจจะรับไปนั่งเล่นที่ช็อประหว่างรอผมทำงาน แม้ว่าช่วงนี้จะไม่มีจดหมายหรือสิ่งแปลกปลอมแล้วแต่ผมก็ยังไม่ไว้ใจ เพราะไม่รู้ว่าคนร้ายจะเลือกเล่นงานเวลาไหน บางทีก็ชอบปล่อยผ่านไปให้เราตายใจ ผมจะให้มันเป็นไปตามที่ไอ้คนชั่วนั่นต้องการไม่ได้
   ในขณะที่ผมกำลังพับโอริกามิในมือเล่น เปิ้ลก็เดินยิ้มสดใสออกมาจากตึกพร้อมกับเพื่อนในกลุ่ม พอหันมาเห็นผมก็รีบวิ่งเข้ามาหา
   “ทำงานเสร็จแล้วเหรอ”
   “ยัง แต่มารับ จะไปที่ช็อปหรือกลับหอ”
   “เดี๋ยวกลับเอง นิ่งไปทำงานเถอะ จะได้เสร็จไวๆ ไง”
   “ไม่เอา เป็นห่วง”
   “แต่..”
   “หน่าๆ น้ำนิ่งพวกเราจะไปส่งเปิ้ลเอง ที่จริงนัดกันว่าจะไปร้านนมอะ” เป็นโป้เพื่อนของเปิ้ลที่พูดแทรกขึ้นมา ผมหันไปมองคนตัวเล็กทันที ซึ่งยิ้มแหยๆ ส่งมาให้ ช่วงนี้ยิ่งอันตรายยังจะหนีไปเที่ยวอีก
   “แฮะ เพราะอย่างนั้นกลับไปทำงานเนอะ”
   “ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะทำยังไง”
   “ไม่มีอะไรแน่นอน”
   “แน่ใจ?”
   “แน่จ้า เพื่อนอยู่เยอะแยะ น้ำนิ่งไม่ต้องกลัวนะ” พีชยืนใบหน้าขาวๆ เข้ามาพูดเกาะไหล่เปิ้ลที่ทำตาปริบออดอ้อนผมอยู่
   “โอเค ยอม มีอะไรรีบโทรมานะ”
   “อื้ม!” หลังจากรับคำด้วยท่าทางแข็งขัน และน่ารักมากแล้วเปิ้ลก็มองซ้ายทีขวาทีก่อนจะลากผมไปหลังต้นไม้ใหญ่แล้วระดมหอมแก้มผมจนตั้งตัวแทบไม่ทัน “คิดถึงๆ”
   “เจอกันทุกวัน”
   “อ้าว จะบอกว่าไม่คิดถึงกันใช่ไหม”
   ผมหัวเราะท่าทางตอนเปิ้ลหัวเสีย หรือเริ่มมีอารมณ์ขุ่นๆ น่ารักมาก ยิ่งเวลาหลุดคำหยายออกมาใส่ยิ่งน่ารัก ผมคว้าเอวเขาเข้ามาใกล้จนเราแนบติดกันไปทุกส่วน จรดปลายจมูกลงไปที่แก้มเนียนหลายที ให้มากกว่าที่เปิ้ลหอมผมเมื่อกี้อีก
   “ไม่คิดถึงจะมานั่งเฝ้าแบบนี้เหรอ เป็นห่วงด้วย”
   “คิก คิก พอแล้ว เดี๋ยวคนเห็น”
   “ถึงร้านแล้ว โทรหอก็ต้องโทรด้วย เข้าใจนะครับ”
   เปิ้ลรับคำอย่างแข็งขันอีกครั้ง ก่อนที่เราจะเดินออกมาจากหลังต้นไม้ สายตาของเพื่อนแต่ละคนต่างก็เต็มไปด้วยความล้อเลียน แต่ผมก็ตีมึนไม่สนใจ เราแยกกันตรงนี้ ผมมองจนเปิ้ลเดินออกไปจากสายถึงหันหลังกลับไปที่คณะตัวเอง
    




   ไม่รู้ว่าคิดไปเองไหม แต่ช่วงนี้รู้สึกว่าเปิ้ลดูสบายอกสบายใจแปลกๆ แม้ว่าจะมีพวกจดหมายเวรระย่ำนั่นส่งมาอยู่ แถมยังดูจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ แต่เปิ้ลกลับไม่ได้แสดงทีท่าว่าหวาดกลัวอะไรมากมาย แถมยังออกไปเที่ยวล่อนก ล่อเป้าบ่อยกว่าเดิมเสียอีก
   “เปิ้ล”
   “หื้ม”
   “ช่วงนี้..”
   “เฮ้ย! นิ่งดูๆ หนังที่เรารอมานานจะเข้าแล้วอะ อาทิตย์หน้าไปดูกันนะ”
   เสียงใสพร้อมกับกายบางที่โถมเข้าใส่ตัวผมทำเอาลืมว่าจะถามอะไรกลับหันไปสนใจหน้าจอโทรศัพท์ที่แสดงภาพหนังเรื่องใหม่ที่เปิ้ลพูดถึงแทน ผมพยักหน้ายิ้มๆ
   “อย่าทำหน้าง่วงจะไปไม่ไป” ยิ้มเหอะ ไม่ได้ทำหน้าง่วง
   “ไปครับไป จองล่วงหน้าเลยไหม”
   “ไม่อะ เดี๋ยวมีคนเผลอหลับละได้เรื่องอีก ต้องไปดูคนเดียว กินป็อปคอร์นถังโตๆ คนเดียว เฮ้อ”
   “ใครมันจะปล่อยให้แฟนตัวเองไปดูหนังคนเดียววะ”
   “มึงไง”
   เปิ้ลตาขวาง ชี้หน้าคาดโทษ ผมก้มหน้าซุกอกเริ่มอ้อนทันที รู้เลยว่าเปิ้ลยังไม่ลืมความเหี้ยของผมในเดตครั้งนั้นของเรา เรื่องของเรื่องคือเปิ้ลจองตัวล่วงหน้าหนังเรื่องหนึ่งไว้ ผมก็รับปากดิบดี นั่งทำงานไปดูเวลาไป รู้ตัวอีกทีเปิ้ลก็มายืนเท้าเอวหน้าบูดหน้าบึ้งอยู่ตรงหน้าแล้ว
   นั่นละครับ ผมเผลอหลับ แบบไม่รู้ตัว
   “ถ้าไม่จองไว้แล้วเกิดมันเต็มจะทำไง จองล่วงหน้าเลย รอบนี้ไม่หลับแน่นอน”
   “เต็มก็รอรอบต่อไป รอจนกว่าจะได้ดู” ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงผมได้หลับคาหน้าโรงหนังแน่ๆ
   “เอาคืน หึ”
   กูว่าแล้ว นี่สิถึงจะเป็นแอปเปิลน่ะ 
   “วันนี้ออกไปข้างนอกนะ”
   “จะไปไหน”
   “ไปสร้างบุญคุณกับเพื่อนฝูง” เป็นเพื่อนในภาคที่ทำงานส่งไม่ทันขอร้องผ่านไลน์กลุ่มให้ไปช่วยมันหน่อย
   “ตามใจ งั้นออกไปเที่ยวกับพวกไอ้โบ้นะ”
   “อีกละ ตุ๊กตานั่นละว่าไง”
   ผมพูดอย่างไม่ค่อยเห็นด้วย ออกจะเครียดด้วยซ้ำ มองไปทางกล่องที่บรรจุตุ๊กตาน่ารัก แต่กลับมีภาพใบหน้าของเปิ้ลที่ถูกกรีดจนขาดหวิ้นหมุดไว้ตรงส่วนหน้า ทั้งตัวถูกฉีกขาดไหมทะลัก แต่เปิ้ลกลับไม่มีทีท่าอะไร ออกจะสบายๆ แต่พอผมจะเอาไปทิ้งก็ไม่ยอม
   “เอาไว้นั่นแหละ เดี๋ยวเอาไปทิ้งเอง”
   “....”
   “ไม่มีอะไรหรอกน่า ไปทำงานเถอะเดี๋ยวโทรหา”
   ได้แต่พยักหน้ารับ แต่ก็ไม่สามารถสลัดความกังวลออกไปได้ ผมเดินไปเก็บของก่อนจะออกจากห้องก็เดินไปกอดคนตัวขาวอย่างรักใคร่แล้วจึงออกจากห้องไปได้แต่หวังว่าจะไม่มีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้น





TBC
5/7/60
บอกแล้วรอบนี้ไม่นาน 55555
ต้นเดือนฟิตๆ อีกเดือนเดี่ยวก็เปิดเทอมแล้วต้องให้ได้เยอะที่สุด ฮือออ
ถ้าเจอตรงไหนชื่อแปลกๆ แจ้งได้นะคะ เมื่อกี้อ่านทวนก่อนลงเจอ มูนเป็นบลูกับเจ้าเป็นข้าว เรางงเลย ใครหว่า แต่งเองสับสนเองซะงั้นนน
ขอบคุณสำหรับทุกการติดตาม และคอมเมนต์นะคะ ดีใจที่เห็นทุกคนชอบ และ enjoy ไปกับ #เปิ้ลนิ่ง
แล้วเจอกันตอนหน้าค่า
หัวข้อ: Re: ●● Sleeping Bear and Apple's Trap ●● [13 #น้ำนิ่ง - 5/7/17 ● P.3] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 05-07-2017 22:51:35
ยังไง อะไร ถึงทำกับเปิ้ลขนาดนี้
ทั้งที่ตัวเองไม่มีอะไรกับน้ำนิ่งซักนิดเดียว
ยังกับว่า ถ้าเปิ้ลเลิกกับน้ำนิ่ง
แล้วตัวเองจะเสียบแทนได้ ตลก คิดไรของเขา ประสาทปะ
จับมือมืดได้ซักที  เลวววววว
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ●● Sleeping Bear and Apple's Trap ●● [13 #น้ำนิ่ง - 5/7/17 ● P.3] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: Piima ที่ 05-07-2017 22:59:00
เครียดดดดดดดดด

ใครมันจะโรคจิตได้ขนาดนี้
หัวข้อ: Re: ●● Sleeping Bear and Apple's Trap ●● [13 #น้ำนิ่ง - 5/7/17 ● P.3] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 05-07-2017 23:50:51
โรคจิตอะไรขนาดนี้เนี่ยย
แอปเปิ้ลเริ่มจะเอาตัวเองไปเป็นเป้าล่อแล้วอะ
ระวังตัวนะะ น้ำนิ่งคอยดูไว้ดีๆอะ
หัวข้อ: Re: ●● Sleeping Bear and Apple's Trap ●● [13 #น้ำนิ่ง - 5/7/17 ● P.3] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 06-07-2017 03:16:58
นายเอกออกโรงจัดการเอง
หัวข้อ: Re: ●● Sleeping Bear and Apple's Trap ●● [13 #น้ำนิ่ง - 5/7/17 ● P.3] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: nlygust13 ที่ 14-07-2017 15:02:20
พ่อหมี เมื่อไหร่จะมา
หัวข้อ: Re: ●● Sleeping Bear and Apple's Trap ●● [13 #น้ำนิ่ง - 5/7/17 ● P.3] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 14-07-2017 17:01:39
คนร้ายคือใครกันนะ :katai1:
หัวข้อ: Re: ●● Sleeping Bear and Apple's Trap ●● [13 #น้ำนิ่ง - 5/7/17 ● P.3] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: nlygust13 ที่ 18-07-2017 00:11:55
พ่อหมีคิดถึงแล้ว
หัวข้อ: Re: ●● Sleeping Bear and Apple's Trap ●● [14 #แอปเปิล - 24/7/17 ● P.3] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: YEEUN9424 ที่ 24-07-2017 18:45:57
Sleeping bear and Apple's Trap 14

#แอปเปิล

 

 

 

            “มึงจะทำไง”

            “เออ นั่นดิ กูควรทำไงเนี่ย”

            ตอบเพื่อนสนิทก่อนจะดูดนมสดปั่นเข้าปากเต็มแรงหนึ่งทีพลางนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้น วันที่ผมไปร้านนมกับพวกไอ้โป้ทำให้ผมรู้ว่าใครที่คอยตามข่มขู่ผมอยู่ เป็นแจ็กพ็อตที่ทำเอาไปต่อไม่ถูกเพราะไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจมาก่อน

            “นี่กูยังตกใจไม่หายที่เห็นรูปตัวเองวางอยู่บนโต๊ะน้องเขา”

            “ถ้ามึงไม่เดินเข้าไปก็คงไม่เห็น”

            “กูละรู้สึกขอบคุณตัวเองจริงๆ ถ้าวันนั้นไม่นึกอยากทักคนคงเป็นไอ้โง่ให้โดนหลอกมาตลอดอะ”

            พอนึกย้อนไปถึงวันนั้นแล้วผมก็ขนลุกไม่หาย ตอนที่ไปถึงร้านนมหลังจากสั่งอะไรเรียบร้อยแล้ว ระหว่างฝอยน้ำลายแตกฟองรอของมาเสิร์ฟก็บังเอิญไปเห็นน้องคนที่รู้จักเดินเข้ามาในร้านพอดี เป็นน้องที่อยู่ในกลุ่มเดี่ยวกับเด็กๆ ที่สถาปนาตัวเองเป็นกลุ่มแฟนคลับของผมกับน้ำนิ่ง

            ถ้าจำไม่ผิดน้องคนนั้นชื่อทราย ท่าทางเงียบๆ ไม่มีพิษมีภัย ตอนอยู่กับเพื่อนก็นั่งฟัง นั่งยิ้มอย่างเดียว ด้วยความตาดี เห็นน้องทรายหันซ้ายหันขวาก็คิดว่าอยากจะไปเข้าห้องน้ำหรือเปล่า กลัวของจะหายละสิ มา พี่จะไปเฝ้าให้เอง ผมเลยเดินเข้าไปหา จังหวะที่กำลังจะถึงโต๊ะน้องเขาก็ก้มลงไปเก็บอะไรสักอย่างที่ใต้โต๊ะ แต่ที่ทำเอาผมงง และฉุกคิดขึ้นมาได้ก็คือภาพของผมหลากหลายใบที่อยู่บนโต๊ะของน้องต่างหาก

            “อะ พี่แอปเปิล” น้องทรายดูตกอกตกใจ เลิกลั่กรีบรวบรวมรูปพวกนั้นไปสอดไว้ในสมุดข้างๆ

            “รูป.. รูปพี่”

            “ขอโทษที่เอารูปพี่มาโดยไม่ได้บอกนะคะ หนูเอามาฝึกวาดรูปน่ะค่ะ”

            แล้วไหนสมุดวาดรูปวะ แม้ใจจะระแวงไปแล้วกว่าเจ็ดส่วน แต่ผมก็ยังปั้นหน้ายิ้ม อยู่คุยกับน้องทรายพักหนึ่งถึงกลับมารวมกลุ่มกับเพื่อน สักพักน้องก็เดินออกจากร้านไป ถึงตรงนี้ผมก็เริ่มเล่าสิ่งที่เจอมาให้เพื่อนฟังทันที แล้วทุกคนก็คิดเหมือนกันว่ามันแปลก

            มันก็ต้องแปลกอยู่แล้วละ! นี่เรื่องจริงเหรอ มันเกิดเรื่องแบบนี้กับผมขึ้นจริงๆ เหรอ งงไปหมดแล้วเนี่ย!?

            หลังจากนั้นผมก็เริ่มสะกดรอยตามน้องทราย ไม่ได้บ่อยนัก เอาเท่าที่สะดวก บางทีไอ้โป้ไอ้จ๋าก็จับคู่กันไป และส่วนมากที่ไปก็มักจะได้เรื่องกลับมาทุกที ทั้งตุ๊กตาที่ขาดหวิ้นไหมทะลัก รูปที่ผมเคยเห็นอยู่บนโต๊ะของน้อง ทุกอย่างถูกส่งมาหาผมจริงๆ แต่ถูกส่งกลับมาในสภาพที่เรียกได้ว่าเละน่ะนะ

            เวลาที่น้องๆ กลุ่มนั้นมาเล่นด้วยผมก็ยังคงทำตัวตามปกติ แต่จะคอยแอบสังเกตลายมือของน้องทราย บางทีก็แอบหยิบกลับมาเทียบกับจดหมายบางฉบับที่เก็บไว้เป็นหลักฐาน โชคดีจริงๆ ที่ผมฉลาด และน้องสะเพร่า หรือจะเรียกว่าโง่ดีวะ ลายมือตรงเป๊ะ!

            แต่ปัญหาคือจะเรียกมาจัดการยังไงให้น้องมันหยุด และไม่รุนแรงจนเกินไป เวรกรรมจริงๆ เครียดกว่าตอนที่ไม่รู้ว่าเป็นใครก็ตอนที่ต้องหาทางจัดการเจ้าตัวนี่แหละ

            “สันติวิธีดีไหม น้องทรายก็ดูพูดง่ายอยู่นะ”

            “สันติห่าไร ขู่คนนี่พูดไม่ง่ายแล้ว ต้องมีความจิตบ้างแหละ”

            ไอ้จ๋าแหวขึ้นมาอย่างมีอารมณ์ตามสไตล์หญิงโฉด มันจะพุ่งเข้าไปจับน้องมาตบตั้งแต่แรกแล้วด้วยซ้ำ พวกผมต้องคอยบอกมันใจเย็นๆ กูเจ้าของเรื่องยังไม่ขึ้นขนาดนี้เลย

            ผมมองดูเวลาบนนาฬิกาข้อมืออีก 30 นาทีก็จะได้เวลาที่นัดไว้แล้ว โชคดีที่ช่วงนี้น้ำนิ่งมีนัดออกไปสร้างบุญคุณกับเพื่อนทุกวันผมเลยอาศัยเวลาที่พ่อพระเอกไม่อยู่ออกมาจัดการเรื่องนี้เอง วันนี้แหละทุกอย่างต้องจบ No more ข่มขู่และจดหมาย บ้าบอ กูจะเป็นบ้าตายอยู่แล้ว

            พวกผมสามคนเดินตรงไปยังที่นัดหมาย หลักฐานทั้งหมดอยู่ในกระเป๋าเป้ ผมนัดให้น้องเขามาคนเดียวก็เลยตั้งใจว่าจะเข้าไปคนเดียวให้โป้กับจ๋ารออยู่ข้างนอก พวกมันทำท่าจะไม่ยอม แต่ผมไม่อยากได้ชื่อว่าหมาหมู่อะ ให้มันแอบๆ อยู่ข้างนอกละกัน มีอะไรเดี๋ยวจะตะโกนดังๆ ให้รู้เอง

            “มึง ไอ้พีชอะ”

            “ไลฟ์สดสอนอิ้งอยู่มั้ง เดี๋ยวมันก็มา หรือไม่มาจะดีกว่าวะ”

            “บอกมันว่าไม่ต้องมาแล้ว” แค่สามคนกูก็หมาหมู่ไม่รู้จะหมู่ยังไงแล้วเนี่ย สงสารเด็ก

            “ยังไม่ทันเจอเลย เอามันมาแหละดีแล้ว เผื่อเกิดอะไรขึ้น”

            ผมเลิกสนใจไอ้จ๋าที่กดมือถือหยิกๆ คาดว่าคงกำลังเร่งให้พีชมาอยู่ เราเดินกันมาจนถึงจุดนัดพบ ระหว่างทางเงียบเหงา ผมยอมนัดตอนบ่าย ยอมออกแดดเพื่อที่จะให้พื้นที่ตรงนี้ไร้ผู้คน ไม่ต้องให้ใครมารับรู้หรือสังเกตเห็นเป็นดีที่สุด เรื่องแบบนี้มีข่าวออกไปไม่ใช่เรื่องดี ขอเคลียร์กันลับๆ และจบด้วยดีก็พอ ขอเถอะ

            ผมที่โผล่หัวเข้าไปดูก่อนว่ามีใครหรือเปล่า หูย.. ไม่อยากจะเชื่อ น้องทรายมาแล้ววะ พอเห็นเจ้าตัวมาแล้วผมเลยบอกให้อีกสองคนรออยู่ตรงทางเข้า ส่วนตัวเองเดินเข้าไปในโกดังที่เก็บอุปกรณ์กีฬาคนเดียว

            ทันทีที่เห็นผมตรงหน้าน้องทรายก็ส่งสายตา และใบหน้าที่ผมไม่รู้จักมาให้ทันที ทั้งเย็นชา ดูเย่อยิ่ง และเคืองแค้นเหมือนผมเคยย่ำยีเขามาก่อนเมื่อชาติที่แล้ว สายตาที่เคยเป็นมิตร ใบหน้าที่เคยยิ้มแย้มนั่นก็แค่การแสดงสินะ ยอมเลย

            “ไม่แอ๊บแล้วเนอะ” ผมพูดออกไปอย่างใจคิด น้องมันชักสีหน้าใส่ทันที

            “พี่มีไร”

            “น้องทำแบบนี้ทำไม”

            “ยังไม่รู้ตัวอีกเหรอ หนูก็บอกไปชัดแล้วนะ”

            “แค่เพราะผู้ชายเนี่ยนะ!”

            ผมอดจะอารมณ์ขึ้นไม่ได้ อะไรวะ กะอีแค่ผู้ชายคนเดียวมันต้องขนาดนี้เลยเหรอ ถึงไอ้ผู้ชายคนนั้นมันจะเป็นแฟนหนุ่มของผมก็เถอะ แต่เอาจริงๆ น้ำนิ่งมันก็ไม่ได้น่าหลงใหลถึงขนาดต้องมาตามข่มขู่ชาวบ้านเขาอย่างนี้ปะวะ

            “เพราะเป็นพี่น้ำนิ่งต่างหาก! หนูมาก่อนด้วยซ้ำ ทำไมพี่ต้องได้ไป เป็นผู้ชายแท้ๆ แต่ชอบผู้ชาย ยี้ ขยะแขยง”

            “โถ แต่น้ำนิ่งมันก็ชอบผู้ชายอย่างพี่ละวะ”

            “กรี้ด!!! เพราะพี่ไปทำเสน่ห์มาน่ะสิ แรด!!”

            “ใครกันแน่ที่แรด คนเขามีแฟนแล้วแท้ๆ ยังจะมาอยากได้อยากมีอีก หาเองสิวะ!”

            “พี่จำไว้เลยนะว่าหนูจะทำทุกทางให้ได้พี่น้ำนิ่งคืนมา!”

            “เออ! งั้นมึงก็จำไว้เลยนะว่ากูไม่มีทางคืน มึงไม่มีทางทำได้แน่ แล้วก็นี่..” ผมโยนของทุกอย่างไปตรงหน้าเด็กนั่น พอกันทีสันติวิธี ต้องไม้แข็งเท่านั้น! พอมันเห็นหลักฐานทุกอย่างที่ผมโยนลงพื้นใบหน้านั่นก็ซีดลงไปถนัดตา หึ เด็กน้อยเอ๋ย รู้ยังว่าตัวเองโง่ขนาดไหน “รู้ปะว่าถ้าส่งนี่ให้ตำรวจอะไรจะเกิดขึ้น.. ตำรวจเลยนา ตำรวจอะ รู้จักไหม”

            “เอาจนได้เพื่อนกู”

            “อ่าว พวกมึงเข้ามาทำไมเนี่ย”

            “ตรงนั้นมันไกลไปอะ กูมองไม่คอยเห็น ไม่ค่อยได้ยินด้วย”

            ไอ้จ๋าว่าแต่ตานี่ลุกวาว โม้แน่ๆ อยากเข้ามาดูใกล้ๆ แบบเกาะติดเวทีมากกว่า เรามองหน้าอย่างรู้กัน คือผมปลดล็อคเรียบร้อย ไม่มีอีกแล้วพี่แอปเปิลผู้น่ารักและใจดี

            “ว่าไงสรุปน้องทรายรู้จักตำรวจไหมครับ รู้จักโทษของการข่มขู่ไหม” ไอ้โป้ก็เอากับเขาด้วย ได้ยินมันพูดครับเคิบแล้วขนลุกจัง

            “จะขู่กันหรือไง”

            “ไม่ได้ขู่ ถ้ายังไม่เลิกจะทำจริง” ผมพูด ยกมือขึ้นกอดอก ยกยิ้มมุมปากอย่างเป็นต่อ ยัยน้องทรายเริ่มทำท่าอึกอักมองซ้ายทีขวาทีเหมือนไม่รู้จะเอายังไง แค่บอกมาว่าจะไม่ทำอีกผมก็พร้อมจะถอดหัวโขนคนโฉดออกแล้ว “รู้ใช่ไหมว่าถ้าเรื่องถึงตำรวจมันจะเป็นยังไง ถ้าเพื่อนๆ รู้จะมองหน้าเพื่อนยังไง จะไปเริ่มชีวิตใหม่ที่อื่นมันก็มีประวัติอยู่ดี คิดดีๆ นะ พี่ไม่ใช่คนใจร้าย ไม่ได้อยากทำเลยนะ ไม่อยากทำลายอนาคตใคร”

            “เป็นเพราะพี่นั่นแหละ! หนูมาก่อนทำไมต้องเป็นพี่ แถมยังเป็นผู้ชายเหมือนกันอีก” ยิ่งพูดก็ยิ่งสะอื้น ผมลดมาดโหดเมื่อครู่ลงแล้วค่อยๆ เดินเข้าไปใกล้ “ทั้งๆ ที่เป็นผู้ชายเหมือนกันแต่กับเหมาะสมกันอย่างกับอะไร ทำไมละ หนูผู้หญิงนะ พี่เขาควรชอบหนูสิ”

            “ถามจริง น้องเคยทำอะไรให้น้ำนิ่งมันสนใจ รับรู้ถึงการมีตัวตนไหม เคยรุกเข้าหามันบ้างหรือเปล่า” เธอสายหน้าเป็นคำตอบผมจึงพูดต่อ “ถ้าไม่ทำแล้วมันจะรู้ได้ไงว่ามีเราอยู่ตรงนี้ ไอ้น้ำนิ่งมันโง่ ซื่อเราก็รู้นิ ต้องรู้สิก็ชอบมานานแล้วนิ ใช่ไหม”

            “อือ พี่น้ำนิ่งซื่อจะตาย แต่ก็ใจดี ไม่ได้นิ่งๆ ไม่สนใจสิ่งรอบข้างอย่างที่ภายนอกแสดงออก”

            คิดว่าน้องทรายคงมีความหลังอะไรสักอย่างกับน้ำนิ่ง ไม่อย่างนั้นคงไม่ประทับใจ จนถึงกับชอบมันขนาดนี้ ดูสิ แค่พูดถึงก็ยิ้มออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ ผมเผลอกลืนน้ำลายไปอึกหนึ่ง จู่ๆ ก็รู้สึกไม่มั่นใจขึ้นมา คล้ายว่าถ้าผมช้ากว่านี้อาจจะเป็นน้องทรายที่อยู่เคียงข้างมันแทนผมก็ได้.. 

            “อื้ม นั่นแหละ  จะว่าไงดีวะ ชอบใครก็ต้องพุ่งเข้าใส่สิ ไม่ใช่มาคร่ำครวญทั้งๆ ที่ตัวเองไม่เคยลงมือทำอะไรสักอย่าง”

            “มันไม่ทันแล้ว พี่น้ำนิ่งดูมีความสุขเวลาอยู่กับพี่”

            “ก็เลยทำแบบนั้นเพื่ออะไร?”

            “เผื่อพวกพี่จะกลัวจนเลิกกัน”

            “เด็กน้อยเอ้ย” น้องทรายมองผมตาขวางแต่ถึงอย่างนั้นบรรยากาศกลับดีขึ้นกว่าเมื่อครู่ขึ้นมาหน่อย “คนเราอะนะ ถ้ามันไม่ใช่เดี๋ยวก็เลิกกันเองนั่นแหละ ไม่ต้องอาศัยข่มขู่หรอก รู้ไหมนอกจากจะไม่ทำให้เลิกกันแล้ว ยิ่งทำให้รักกันมากกว่าเดิมอีก”

            “กรี้ดดดดดด!”

            “เฮ้ย!!”

            “เลิกพูดเลย ไม่อยากฟัง”

            “เออ! ไม่พูดก็ได้ รักกันมากจำไว้!”

            “พอสักที!”

            “แล้วเข้าใจยังเนี่ย หรือต้องให้เอาไปส่งตำรวจจริงๆ ฮะ!”

            “เข้าใจแล้ว ไม่ได้โง่!”

            “หรา ไม่โง่เลย” เหนื่อย คุยกับยัยเด็กคนนี้แล้วเหมือนจะเป็นไบโพล่าร์

            “จะไม่ทำแล้ว ที่ทำก็ไม่ได้รู้สึกดีนักหรอก”

            “แล้วจะทำทำไม”

            “บอกไปแล้วไงว่าอยากให้เลิกกัน จะไม่ทำแล้วเนี่ย แต่จะแช่งให้เลิกกันแทน”

            “เออ เชิญเลย คนไม่ใช่มันก็เลิกกันเองนั่นแหละ”

            “หึ จะรอละกัน”

            ว่าแล้วยัยน้องทรายก็เดินสะบัดก้นออกไป ไม่วงไม่ไหว้ด้วย แหม เดี๋ยวกูเปลี่ยนใจส่งตำรวจซะเลยนิ  พอน้องมันเดินออกไปทางประตูอีกฝั่งผมก็หันมายิ้มแป้นให้เพื่อนตัวเอง ฮี่ๆ โล่งแล้ว

            “จบด้วยดี”

            “จบง่ายไปปะวะ”

            “เออหน่า น้องมันก็คงไม่อยากจะทำลายอนาคตตัวเองเพราะผู้ชายคนหนึ่งหรอก” ส่วนตัวแล้วผมค่อนข้างปลื้มใจกับบทสรุปแบบนี้ ไอ้ตอนที่ทำก็คงจะเพราะหน้ามืดตามัวจริงๆ ต้องขอบคุณที่น้องมันยังคิดได้

            “เออๆ จบดีก็ดีไป”

            “กูละโล่ง กลัวมึงจะโชว์ฝีมือการตบลูกบอลบนหน้าคนซะแล้ว”

            “ถ้าน้องมันดื้อกว่านี้อีกหน่อย กูอาจจะเผลอไปก็ได้”

            “ยังไงน้องมันก็ผู้หญิงนา”

            “เออดิ ดีแล้วที่กูมีสติ ที่จริงคือกูเป็นคนดีเลยไม่ทำ ให้จ๋าทำดีกว่า”

            “กูก็ไม่อยากตบเด็กให้เสียมือนะ เสียชื่อกูด้วย”

            “ทุกโคนนน” เสียงแบบนี้มีคนเดียว ไอ้คุณพีชมันโผล่หัวมาตรงประตูแล้วโบกมือหย่อยๆ เรียกพวกผมให้ออกไป “เสร็จแล้วใช่ปะ ออกมาเร็วข้างในมันมืด”

            “ ไมมึงมาช้านักเนี่ย”

            “มานานแล้วเหอะ” พอเดินออกมาก็เจอพีชอยู่กับองค์รักษ์หน้านิ่งประจำกายยืนอยู่ข้างๆ ด้วย

            “แล้วทำไมไม่เข้าไป”

            “เห็นกำลังคุยกันมันๆ ไม่อยากไปขัด ยืนอยู่ตรงนี้ก็ได้ยินชัดดี” เห็นไหมผมบอกแล้วว่าต่อให้อยู่ข้างนอกก็ได้ยินชัดเจน ไอ้จ๋ากับไอ้โป้มันขี้เสือก

            “เปิ้ลตลกอะ” หน้าตามันล่อกแล่ก บอกตลกแต่หน้าไม่ค่อยจะขำเท่าไร “เอ่อ น้ำนิ่งก็มานะ”

            “หะ! ไอ้หมีมาด้วยเหรอ มึงเอามันมาทำไม” ผมไม่ได้บอกมันอะ ไม่อยากให้มันรู้

            “ลูกหินพามา” เหยด พี่นิ่งคนโตพามาเหรอ แล้วผมจะกล้าโวยวายใส่ไหมละ

            “แล้วมันไปไหน

            “ไม่รู้ไปไหน พอน้องทรายเดินออกไปน้ำนิ่งก็เดินออกไปด้วย” พอฟังพีชบอกแล้วรู้สึกได้เลยว่าหน้าผมนี่มันซีดเป็นไก่ต้ม ใจผมเริ่มหวั่น มันคงไม่ได้ยินทุกอย่างหรอกนะ ไม่สิๆๆ มาขนาดนี้คงได้ยินแถมรู้หมดทุกอย่างแน่ๆ แล้วนี่มันไปไหนของมันวะ หวังว่าไอ้หมีขี้เซาคนนั้นมันจะไม่คิดอะไรมากนะ

 

 

 

           

            เพื่อเป็นการฉลองที่เคลียร์ปัญหาที่คาราคาซังมานานได้ พวกเราเลยพากันไปกินหมูกระทะร้ายประจำ ระหว่างเดินทางเลยได้รู้ว่าน้ำนิ่งมันมาได้ยังไง ต้องโทษไอ้พีชคนเดียวเลย โว้ย! มีเพื่อนเพื่อนก็ไม่ได้เรื่อง ถ้ามันไม่พลั่งปากออกไปไอ้หมีกับลูกหินก็ไม่พากันมาด้วยหรอก มันคงรู้เรื่องหมดทุกอย่างแล้ว

            ผมกดมือถือหาเจ้าตัวไม่รู้ว่ามันไปอยู่ที่ไหน ร้อนใจ ทำไมจู่ๆ ก็หายไปวะ ไม่บอกกันอีก รู้สึกผิดก็รู้สึกผิด แต่ออกมาแล้วไม่เจอหน้าทั้งที่รู้ว่ามานี่มันยิ่งรู้สึกมากกว่าเดิมอีกนะ สู่เจอหน้ามันตอนนั้นเลยยังจะดีซะกว่า แบบนี้เหมือนมันหนีหน้าผมเลย

            พอมาถึงร้านก็เห็นไอ้หมีตัวดีนั่งหน้ามึนอยู่บนเก้าอี้พร้อมๆ กับเพื่อนเกลอทั้งสองของมัน ผมรีบไถลตัวเองด้วยความไวแสงไปนั่งเสนอหน้าใกล้ๆ ทันที น้ำนิ่งยังคงยิ้มให้ผมเหมือนเดิม หน้านิ่งๆ ง่วงๆ เหมือนเดิม แต่กลับไม่พูดกับผมเลยสักคำ เป็นครั้งแรกเลยที่เราไม่พูดกัน ไม่สิ ต้องบอกว่าน้ำนิ่งคนเดียวต่างหากที่ไม่พูดกับผมเลย

            จากความรู้สึกผิดที่มีอยู่แล้วตอนนี้เพิ่มความกลัวเข้าไปอีก เกิดอะไรขึ้นคงไม่ต้องถามน้ำนิ่งคงไม่พอใจเรื่องวันนี้แน่ๆ แต่ถ้าเป็นเรื่องที่ไม่ได้บอกผมก็มีเหตุผลนะ มันต้องไปช่วยงานเพื่อนนี่ ไม่ๆ เรื่องช่วยเพื่อนไม่ใช่ประเด็น จริงๆ คือเรื่องแบบนี้บอกไปก็มีแต่ผลเสียกับน้องเขา น้องเขา หรือมันจะ.. มันชอบเด็กคนนั้นเหรอ!?

            ไม่ๆ ไม่มีทางหรอก มันอยู่กับผมตลอด หน้าคนก็จำไม่ค่อยได้ น้องทรายก็เคยเห็นออกบ่อย ไม่เห็นจะเคยออกอาการ หรือมันจะไม่พอใจที่ผมทำตัวเป็นอันธพาล ไม่น่ารักเหมือนเดิม?

            คิดจนปวดหัวไปหมดแล้ว หมูกระทะก็ไม่อร่อย

            น้ำนิ่งเปิดปากคุยกับเปิ้ลเถอะ!

 

 





TBC.

24/7/17

กลับมาแล้วค่า ฮือออ ขอโทษด้วยนะคะ หายอีกแล้ว งานเข้าค่ะงานเข้า งานจริงๆ แบบงานท่วมหัวแทบไม่มีเวลาขยับตัว ที่เราพอจะมีคือเวลากินกะนอน คืองานเยอะแค่ไหนยังไงต้องนอนครบ 8-9 ชม. 555555 พองานเสร็จก็นอนยาวไปอีก ฟื้นพลังสุด เป็นสองอาทิตย์ที่ยาวนานมากสำหรับเรา

กลับมาคราวนี้พร้อมเฉลยต้นเหตุที่ตามข่มขู่เปิ้ลน้อยเนอะ ไม่มีอะไรมาก เนื้อเรื่องเรียบง่าย เรื่องแบบยี้ก็เรียบง่าย เราชอบมาความสันติ เป็นไปตามตามสไตล์เนื้อเรื่อง ฮี่ๆ ดราม่าของจริง(?)มันหลังจากนี้ต่างหาก

แล้วพบกันตอนหน้านะคะ
ปล.ตอนหน้าน่าจะเป็นตอนที่เปิ้ลรอคอย

หัวข้อ: Re: ●● Sleeping Bear and Apple's Trap ●● [14 #แอปเปิล - 24/7/17 ● P.3] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 24-07-2017 21:47:49
ถ้าจะมาม่าก็ขอน้ำใสนะ น้ำข้นเดี๋ยวตะเตือนไต :ling3: :ling3:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ●● Sleeping Bear and Apple's Trap ●● [14 #แอปเปิล - 24/7/17 ● P.3] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 25-07-2017 00:40:45
ฮือออ ไม่อยากกินมาม่าาา
ผงชูรสมันเยอะะไม่ดีต่อสุขภาพพ
ไม่ดีต่อใจด้วยยย
น้ำนิ่งโกรธจริงๆหรอเนี่ยย
แล้วดราม่าจะคืออะไร เค้าาดูรักกันจนเด่ไม่ออกเลยค่าา
หัวข้อ: Re: ●● Sleeping Bear and Apple's Trap ●● [14 #แอปเปิล - 24/7/17 ● P.3] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 25-07-2017 02:18:26
  :pig4:
หัวข้อ: Re: ●● Sleeping Bear and Apple's Trap ●● [14 #แอปเปิล - 24/7/17 ● P.3] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 25-07-2017 11:42:48
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ●● Sleeping Bear and Apple's Trap ●● [14 #แอปเปิล - 24/7/17 ● P.3] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 26-07-2017 03:41:40
 :mew2:
หัวข้อ: Re: ●● Sleeping Bear and Apple's Trap ●● [15 #น้ำนิ่ง - 31/7/17 ● P.3] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: YEEUN9424 ที่ 31-07-2017 20:53:11
Sleeping bear and Apple's Trap 15
#น้ำนิ่ง



   “ดูน้องพีชมึงไลฟ์สอนภาษาอังกฤษดิ นี่คนเขาดูเพราะอยากเรียนภาษาหรือดูเพราะจะเต๊าะว่าที่ครูวะ”
   ไอ้เจ้าวางโทรศัพท์ที่หน้าจอเป็นไลฟ์สดผ่านเฟสบุ๊ค มีหน้าขาวๆ ปากแดงๆ กำลังเจื้อยแจ้วฟุด ฟิด ฟอ ไฟไม่หยุด เหลือบตาดูคอมเม้นต์แล้วก็ได้แต่มองไปที่ลูกหินซึ่งกำลังจับจ้องไปที่ตำแหน่งเดียวกัน ไม่ถึงครึ่งนาทีมันก็คว้าเอามือถือของตัวเองขึ้นมาแล้วเดินออกไปด้านนอก หลังจากนั้นอีกไม่ถึงสองนาทีไลฟ์เฟชบุ๊คฟุด ฟิด ฟอ ไฟ บาย ลูกพีชก็จบรายการทันที ไปแบบไม่ล่ำไม่ลาคนดูสักคำ รู้เลยว่าเพราะอะไร
   “หึงเหรอวะ” ไอ้มูนเริ่มแหย่
   “รำคาญ บอกมีนัดกับเพื่อนแต่เสือกมานั่งไลฟ์อยู่ได้”
   “มีนัดกับพวกเปิ้ล?”
   “เออ”
   “ไปไหนกันวะ ไม่เห็นบอกกู” วันนี้ตอนผมจะออกจากห้องเปิ้ลก็ไม่เห็นจะบอกว่าจะออกไปไหน
   “อะไรมึง ไอ้หมี โดนแฟนเมินเหรอ”
   “ไม่เมินเหอะ แต่.. ช่วงนี้ทำตัวแปลกๆ” ตอนแรกว่าจะไม่พูด แต่พอเพื่อนสะกิดผมก็อดระบายความคิดของตัวเองออกมาไมได้ “โดนขู่แต่ก็ไม่กลัว ของที่โรคจิตส่งมาก็เก็บไว้ บางวันก็นั่งจ้องจนเหมือนจะกินเข้าไป พอกูถามก็บอกไม่มีอะไร”
   ไอ้เจ้ากับไอ้มูนมองหน้ากันที มองหน้าผมทีเหมือนคิดอะไรออก ผมเลยหันไปมองลูกหินบ้างเผื่อมันจะคิดอะไรออกเหมือนกัน แต่ปรากฏว่ามันไม่สนใจผมเท่ากับแผ่นกระดาษที่กำลังตัดอยู่ ผมเลยกลับมามองที่คู่หูรักยมต่อ มึงรู้อะไร มึงคิดอะไรบอกกูที ชี้ทางให้หน่อย
   “ไม่ใช่ว่ารู้แล้วเหรอวะ”
   “นั่นดิ รู้แล้วหรือเปล่าว่าใครคือไอ้โรคจิตคนนั้น”
   ผมงงไปพักใหญ่ รู้แล้วอย่างนั้นเหรอ? จะเป็นไปได้ยังไง
   ถ้ารู้แล้วจริงๆ ทำไมผมไม่บอกล่ะ?
   



   แผนของเจ้ามูนได้ผล แม้ว่าจะโดนไอ้ลูกหินเพื่อนรักอารมณ์เสียใส่จนดอแทบหดก็ตาม มันยอมโทรไปหลอกถามพีชให้จนได้ความว่าวันนี้เปิ้ล และเพื่อนๆ มีนัดออกไปเคลียร์กับคนโรคจิตที่ส่งจัดหมายตามขู่จริงๆ
   คราวนี้ยิ่งกว่างงกับเรื่องที่เกิดขึ้นคือไม่รู้จะจัดการกับความรู้สึกของตัวเองยังไง เปิ้ลรู้ทุกอย่างแล้วแต่กลับไม่บอกผมสักคำ
   ไม่สงไม่สร้างบุญคุณกับเพื่อนแล้วผมทิ้งทุกสิ่งอย่างแล้วพากันไปที่โรงยิม ลากไปแม่งหมดนี่แหละ!
   พอมาถึงก็ได้ยินเสียงเปิ้ลกำลังขู่น้องคนนั้นที่ดูเหมือนจะแอบชอบผมมานานแล้ว ฟังไปฟังมาก็คุ้นๆ เสียงเหมือนคนที่เอาไก่กับของขวัญมาให้เมื่อคราวนั้น แล้วกูมานึกได้อะไรตอนนี้ ไร้ระโยชน์จริง ระหว่างมาพีชอธิบายทุกอย่างให้ฟังหมดตั้งแต่ที่เริ่มรู้ยันช่วงที่แอบตามดูจนถึงตอนนี้ แต่ไม่ได้บอกเหตุผลที่เปิ้ลไม่บอกผม และเอ่อ.. ไอ้ลูกหินก็ไม่รู้เรื่องด้วย พีชพูดไปก็ดูสั่นๆ คงจะหวั่นกับสายตาของไอ้หินมัน เอาวะ อย่างน้อยผมก็ไม่ได้โดนแฟนปิดบังคนเดียว
   “คนเราอะนะ ถ้ามันไม่ใช่เดี๋ยวก็เลิกกันเองนั่นแหละ ไม่ต้องอาศัยข่มขู่หรอก รู้ไหมนอกจากจะไม่ทำให้เลิกกันแล้ว ยิ่งทำให้รักกันมากกว่าเดิมอีก”
   ผมแอบอมยิ้มเล็กๆ เมื่อได้ยินประโยคนี้ ใช่มันทำให้เรารักกันมากกว่าเดิม ผมคิดว่าเปิ้ลคือคนที่ใช่สำหรับผมเพราะอย่างนั้นเราไม่เลิกกันง่ายๆ หรอก
   แต่ผมก็ยังรู้สึกเจ็บแปลบๆ อยู่ดี พอน้องคนนั้นเดินออกไปอีกทางผมที่รู้สึกว่ายังไม่พร้อมจะเจอหน้าเปิ้ลเท่าไรเลยเดินหนีออกมา ไอ้เจ้าไอ้มูนก็ตามมาด้วย
   ผมออกมานั่งสูบบุหรี่อยู่ตรงสระน้ำที่ห่างจากโรงยิมพอสมควร ไม่ได้สูบมานานรู้สึกไม่ชินปากเท่าไร แต่เวลานี้ต้องบุหรี่เท่านั้น สูบไปได้ครึ่งม้วนลูกหินก็โทรมาตามให้ไปกินหมูกระทะด้วยกัน อยากเห็นหน้าเปิ้ลแต่ก็ยังไม่ค่อยพร้อมเท่าไร อะไรบางอย่างมันกวนใจผมอยู่ แต่สุดท้ายก็โดนลากไปอยู่ดี พวกผมมาถึงก่อนเลยต้องนั่งรอสักพัก มือถือของผมสั่นอยู่ตลอดเวลา รู้อยู่หรอกว่าใครแต่มันก็.. นั่นแหละ ยังไม่อยากรับ
   “กูไม่รู้ว่ามึงคิดอะไร แต่ทำหน้าดีๆ หน่อย พวกนั้นจะมาแล้ว”
   ไอ้เจ้าพูดไม่ทันขาดคำเปิ้ลก็เดินเข้ามาตามด้วยคนอื่นๆ คนตัวเล็กมานั่งข้างผมทำตัวเหมือนเดิม ผมเองก็เหมือนเดิม ยังนิสัยเสียให้เปิ้ลทำนั่นทำนี่ให้เหมือนเดิมแต่กลับปากนักไม่พูดอะไรด้วย นั่งเงียบตลอดงาน




   “เดี๋ยวกลับไปช่วยเพื่อนทำงานต่อ”
   “เหรอ น้ำนิ่ง..”
   “ไอ้นิ่งก็ไปด้วย เปิ้ลกลับก่อนได้เลย”
   นั่นไม่ใช่ผม แต่เป็นไอ้มูนกับไอ้เจ้าพูดกับเปิ้ล เขามองผมตาละห้อยเหมือนอ้วนแมวของห้องข้างๆ ไม่มีผิด ผมยิ้ม ยิ้มแรก แต่มันคงบางเบาจนเปิ้ลหน้าซึม มองจนเปิ้ลเดินคอตกกลับไปกับเพื่อน
   “มึงทำห่าไรเนี่ย เงียบทำไมเอาแต่ยิ้มทำไม ถ้าไม่พอใจอะไรมึงก็อย่ายิ้ม”
   “เออ มึงดูหน้าเปิ้ลดิ”
   “ไปแดกเหล้ากัน” ผมชวน พวกมันถอนหายใจกันพรืดก่อนจะย้ายกันไปสิงที่ห้องของลูกหิน




   “หิน มึงจะทำยังไงกับพีช” ผมกระดกเหล้าไปหลายแก้วพอมึนๆ ไม่ถึงกับเมาถามไอ้หินที่นั่งอยู่ตรงข้ามกัน มันก็โดนแฟนปิดบังเหมือนกันแต่ก็ยังทำตัวปกติได้
   “เดี๋ยวเสร็จจากนี่กูจะกลับไปด่า ด่าให้จำว่าอย่าปิดบังอะไรอีก”
   “แล้วก็ลากขึ้นเตียง ฮิฮิ” ไอ้เวร เจ้า เอาซะกูกระตุกอยากทำบ้าง แต่ดันไปเล่นบทเงียบใส่ไปแล้วนี่สิ
   “มึงไม่โกรธเหรอวะ”
   “โกรธ ถ้าเกิดเรื่องรุนแรงโดยที่กูไม่รู้จะทำยังไง” ใช่ๆ ถ้าเกิดเรื่องรุนแรงขึ้นมาจะทำยังไง ใครจะปกป้องเปิ้ล เออ ที่ไม่บอกเพราะผมมันไม่น่าเชื่อถือเหรอวะ “แต่ก็คงจะมีเหตุผลที่ไม่บอกนั่นแหะ”
   “เหตุผล?”
   “เออ เหตุผล” มันกระดกเหล้าเข้าปากรี่ตามองผมเหมือนหยั่งเชิงอะไรสักอย่าง
   “กูว่าพีชคงเล่นสนุกจนลืมบอกมึง”
   “เหอะ” มันหัวเราะพร้อมกับเปลี่ยนเป็นสายตาที่แสนดูแคลนผมในทันที “เพราะแอปเปิลไม่ยอมให้บอกมากกว่า กูขอตีแฟนมึงทีดิ๊”
   “ตลกละมึง”
   “มึงเลิกทำตัวแบบนี้เถอะ มันไม่เหมาะกับมึงหรอก”
   “วันนี้มึงพูดมากจังเลยวะเพื่อน” ไอ้เจ้าโดนโปกหัวไปหนึ่งที
   “เพราะมีแต่เรื่องให้กูต้องพูดไง”
   “เออ เชี่ยหมีมึงก็ทำหน้าทำตัวดีๆ คิดอะไรอยู่ก็พูดไปอย่างมาทำนิ่ง ไม่พูดกับเขาแต่เสือกยิ้มสิวะ กูละปวดใจแทนเปิ้ลจริงๆ”
   “กูไม่รู้จะเริ่มยังไง ข้างในมันแปลบๆ ทำไมเปิ้ลไม่บอกอะไรกู” อยากทำที่ไหนมันเป็นไปเองทั้งนั้น จะว่าไปพอเจออะไรไม่ได้ดั่งใจ หรือรู้สึกไม่ดีขึ้นมาผมก็มักจะเงียบแบบนี้ทุกที แต่มันไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย และจะเป็นแต่กับคนสำคัญๆ เท่านั้น
   “ไอ้หินก็บอกแล้วไงว่าต้องมีเหตุผล ไอ้คนที่ไม่ค่อยจะสนใจโลกยังเชื่อเลยว่าเมียมันมีเหตุผล แล้วมึงไม่คิดจะเชื่อบ้างเหรอวะ” ไอ้เจ้ามันชี้ไปที่ไอ้หินทีแล้วก็มาหยุดอยู่ที่ผม เหตุผลเหรอ?
   “กลับไปถามให้แน่ใจ ได้ความยังไงก็มาบอกพวกกูด้วย”
   



   ผมมาถึงห้องของเปิ้ลตอนเที่ยงคืนกว่าๆ ได้คนที่คอแข็งที่สุดอย่างไอ้หินมาส่งเพราะจุดมุ่งหมายของเราคือสถานที่เดียวกัน มันขึ้นไปต่ออีกสองชั้น ส่วนผมหยุดอยู่ที่ชั้นสาม ชั่งใจอยู่นานทีเดียวกว่าจะกล้าเคาะประตูลงไป เปิ้ลเปิดประตูออกมามองผมอย่างไม่เข้าใจ แต่ไม่เลยเปิ้ลแค่ขยับตัวให้ผมเข้าห้องเดินไปหาเสื้อพงเสื้อผ้า เตรียมผ้าขนหนูแล้วเอามายืนให้
   “เหม็นเหล้าอะ ไปอาบน้ำเถอะ”
   ครับ เหมือนโดนตีแสกหน้า นึกว่าจะมีโมเมนต์วิ่งเข้าใส่พร้อมพรั่งพรูเรื่องทั้งหมดออกมาเหมือนที่ไอ้เจ้ามันเพ้อให้ฟัง หลังจากอาบน้ำเสร็จก็เปิดประตูเข้าไปในห้องนอน เปิ้ลนอนตะแคงหันหลังให้ประตู
   “ปิดไฟนะ”
   “อื้ม” พอเห็นว่าผมนั่งลงบนเตียงแล้วก็วางมือถือลง แต่หัวยังไม่ทันจะถึงมอบร่างผอมบางของเปิ้ลก็หันควับเข้ามากอดผมเข้าเต็มๆ “ขอโทษๆ ฮือออ ไม่ได้ตั้งใจจะหลอกนะ เราไม่ได้นิสัยแบบนั้นด้วย แค่ต้องขู่เพราะสถานการณ์มันพาไป”
   พุ่งเข้าใส่พร้อมพรั่งพรูออกมาแล้ว แต่ว่าอะไรนะ ขู่เข่ออะไรวะ 
   “เราไม่ได้จะหลอกน้ำนิ่งนะ เราเป็นเด็กดีน่ารัก ตาใส จิตใจงดงาม” เปิ้ลเงยหน้าขึ้นมากระพริบตาปริบๆ ให้ผมเป็นออฟชั่นเสริม เพราะมีน้ำตาคลออยู่เลยยิ่งทำให้มันดูวาววับ แต่เดี๋ยว เปิ้ลพูดเรื่องอะไรอยู่วะเนี่ย
   “หมายถึงอะไร เราไม่เข้าใจ”
   “ฮืออ นี่โกรธมากจนเอ๋อไปเลยเหรอ ก็ที่วันนี้ไม่พูดด้วยก็เพราะว่าเห็นเราขู่น้องทรายไม่ใช่เหรอ เห็นแบบนั้นคงจะตกใจสินะ แต่เราไม่ใช่คนแบบนั้นจริงๆ ไม่ใช่อันธพาล สถานการณ์พาไป ถ้าไม่ทำน้องมันก็ดื้อไม่ยอมฟัง แล้วยัง..”
   “เดี๋ยวเปิ้ล ไม่ใช่แล้ว”
   “หือ อะไรอะ”
   “ไม่ได้โกรธเรื่องนั้น”
   “อ้าว ถ้าอย่างนั้นโกรธเรื่องอะไรทำไมไม่พูด ยิ้มก็แข็งเป็นหิน ทำไมๆ เป็นอะไร แกล้งกันเหรอ” พอเห็นว่าตัวเองเข้าใจผิดก็เริ่มเขย่าคอผม จะเปลี่ยนตำแหน่งกันแบบนี้ไม่ได้นะโว้ย ผมยังไม่เคลียร์อาการปวดแปลบในใจของผมเลย
   “ดะ.. เดี๋ยว หยุด.. อ่อก ก่อน”
   พรึ่บ! ใช้แรงที่มีรวบเปิ้ลกับเตียงก่อนจะกดไว้ เราจ้องตากันผ่านความมืดที่มีเพียงแสงสว่างอันน้อยนิดจากด้านนอกส่องเข้ามาเลยทำให้พอมองเห็นใบหน้าของกันและกันได้บ้าง
   “โกรธที่ไม่บอกอะไรกันเลยต่างหาก”
   “...”
   “ทำไมถึงไม่บอกอะไรกัน เราเชื่อไม่ได้เลยเหรอ”
   “..มะ..”
   “พึ่งพาไม่ได้เลยสินะ”
   “ไม่ใช่นะ ไม่ใช่ว่าพึ่งพาไมได้ แต่เรื่องแบบนี้มัน..”
   “มันทำไม มีเหตุผลอะไรที่ไม่ควรบอกด้วยเหรอ”
   “ขอโทษ เหตุผลมันอาจจะไม่น่าฟังแต่.. จะฟังไหม” ผมพยักหน้าให้เป็นคำตอบ เปิ้ลช้อนตามองผม อะแฮ่ม! ใจแข็งไว้ไอ้นิ่ง อย่าใจอ่อนเชียว
   “เรื่องแบบนี้คนรู้เยอะมันคงไม่ดีต่อตัวน้องเท่าไร เราคงจะรู้สึกบาปมาก ถ้ามันจะกลายเป็นการประจานใครคนหนึ่งจนเขาต้องเสียอนาคต กะว่าถ้าจบเรื่องก็จะบอกอยู่”
   ประทับใจอย่างบอกไม่ถูก  ผมคว้าเปิ้ลเข้ามากอดแน่น ไม่คิดว่าคนน่ารักของผมจะคิดไปไกลถึงขนาดนี้ พอได้ฟังเหตุผลไอ้อาการเจ็บแปลบๆ โกรธ งอน อะไรทั้งหลายแหล่ก็คล้ายๆ ว่าจะหายไป
   “อย่างนี้เองเหรอ เปิ้ลใจดีจริงๆ ด้วย แต่ตอนที่รู้ว่าเปิ้ลปิดบังเราเจ็บตรงนี้มาก” ผมกุมมือขาวของเปิ้ลมาไว้ที่อกซ้าย “มันปวดแปลบๆ เหมือนตอกย้ำว่าเรามันไอ้โง่ที่ไม่มีความสามารถพอจะปกป้องคนรัก”
   “..น้ำนิ่ง. ไม่ใช่แบบนั้น..”
   “แฟนคนเดียวยังปกป้องไม่ได้รู้สึกไร้ค่า แต่ตอนนี้รู้แล้วครับ เพราะเปิ้ลจำเป็นถึงต้องปิดบังเรา ใช่ไหม” ใบหน้าน่ารักพยักหน้าทั้งน้ำตา
   “ทีหลังจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว เสียใจมากเลยใช่ไหม ขอโทษ อย่าโกรธเลยนะ” เปิ้ลดึงผมเข้าไปกอดจนใบหน้าแนบลงกับแผ่นอกบาง อะไรบางอย่างยังคงรกวนจิตใจผมอยู่แต่ก็รู้สึกสบายใจขึ้นมามากแล้ว ผมกระชับเอวแน่นแล้วทิ้งตัวลงไปจนเรากอดก่ายกันอยู่บนเตียง
   “อย่าโกรธเลยนะ”
   “ครับ ไม่โกรธแล้ว เข้าใจแล้วจะโกรธทำไม ดีกันดีกว่า..” ผมเคลื่อนตัวออกมาจนตัวเองอยู่ในระดับที่สูงกว่า แนบหน้าผากของเราเข้าด้วยกัน “..เนอะ”
   เปิ้ลยิ้ม พยักหน้าอย่างไม่กลัวว่าคอจะหัก ผมจูบซับไปตามหางตาที่มีน้ำตาไหลซึมก่อนจะค่อยๆ เคลื่อนลงต่ำลงมายังริมฝีปากเล็ก ขอบคุณแสงจันทร์จากด้านนอกที่ทำให้ผมมองเห็นใบหน้าอันแสนน่ารักของแอปเปิลคนนี้ ไล้จูบลงมาตามคางมน และลำคอไปจนถึงกระดูกไห้ปลาร้าเล็กๆ แล้ววกกลับไปที่เดิม จูบจนแทบจะลืมหายใจ ก่อนจะผละออกมาส่งยิ้มให้คนรัก เปิ้ลหน้าแดงแจ๋ จิกไหล่ผมแน่น เม้มปากมุบมับ
   “อย่ามายิ้มแบบนี้นะ!? คิดว่าหล่อนักหรอไง!?”
   “แล้วไม่หล่อเหรอ”
   “ไม่หล่อเว้ย! จะทำอะไรก็รีบทำ เร็วๆ เลย!”
   ผมหลุดหัวเราะออกมาด้วยความเอ็นดู ทำไมจะไม่รับรู้ถึงความต้องการของเปิ้ล ผมเองก็ต้องการเหมือนกัน เพียงแต่มันยังไม่ถึงเวลา หมายถึงที่ผ่านมาน่ะนะ เพราะตอนนี้.. ผมว่ามันได้เวลาแล้วละ
   “ทำๆ เปิ้ลจะได้ไม่ต้องเอาไปบ่นกับเพื่อน”
   “พูดมาเดี๋ยวกูไม่ให้ซะเลย” ตบหัวผมทีแล้วก็หันหน้าหนี พอบังคับบิดหน้ากลับมาก็มาพร้อมเขม้นตาใส่อย่างเอาเรื่อง แต่หน้านี่แดงยิ่งกว่าลูกเชอร์รี่เสียอีก
   ผมเก็บปากเก็บคำแล้วเริ่มลงมือแทะเล็ม แม้ว่าแสงสว่างจะไม่เยอะนักแต่ก็เห็นได้ชัดว่าเปิ้ลขาวมากแค่ไหน ปกติเห็นแต่ภายนอก พอได้เห็นผิวใต้ร่มผ้าแบบนี้ทำเอาผมสูบฉีดโดยไม่ทันตั้งตัว รู้อีกทีไอ้หมีน้อยตรงระหว่างขาก็ตั้งโด่งชนต้นขาคนข้างใต้แล้ว
   ผมยกยิ้มอายๆ นึกถึงวันแรกที่เจอเปิ้ล เพราะความบังเอิญ ไม่ใช่ดิ เพราะความง่วงนอนของผมต่างหากทำให้ไม่ทันมองอะไรแล้ววิ่งไปชนเปิ้ลเข้า จำได้ว่าวันนั้นตื่นหมดทุกอย่าง หมีน้อยก็ตื่นด้วย
   “ชิ ทีแบบนี้ละเสือกโด่งง่ายเชียว กอดจูบมาตั้งไม่รู้กี่ที” ถ้าบอกว่าตอนนั้นมันยังไม่ถึงเวลาเลยไม่ทำเปิ้ลต้องตีผมตายแน่ๆ ขอไม่ตอบแต่เดินเครื่องต่อเลยแล้วกัน
   พอได้เห็นร่างเปลือยแบบนี้ยิ่งทำให้ผมรู้ว่าเปิ้ลน่ากินไปทั้งตัวเลย โดยเฉพาะหัวนม.. ผมทั้งดูด ทั้งขบ ทั้งกัด จนถูกทุบหัวอยู่หลายที มือไม้สะเปะสะปะไปทั่วตัวไม่นานเราก็เปลือยกายไปทั้งตัวอย่างเท่าเทียมกันผมจัดการข้างล่างของเปิ้ลอย่างไม่นึกรังเกียจ พอจะไปขั้นตอนถัดไปเปิ้ลกลับพยุงตัวขึ้นมาแล้วผลักผมลงกับเตียงก่อนจะทำให้สิ่งที่ผมไม่เคยคิดจินตนาการมาก่อน สาบานเลยว่าไม่เคยคิดมาก่อนจริงๆ
   ศีรษะเล็กผงกขึ้นลงอยู่ตรงระหว่างขาของผม ตรงนั้นเปียกชื้นด้วยลิ้นร้อนๆ ของเปิ้ล ผมตัวเกร็งอยากจะกระทุ้งเข้าไปให้มากกว่านี้แต่ก็ไม่อยากทำให้เปิ้ลตกใจ พยายามที่จะยั้งตัวเองไว้ แต่เหมือนเปิ้ลจะรู้ใจผมเพราะเขาทำทุกอย่างที่ผมต้องการจริงโดยไม่ต้องบอก
   หลังจากปลดปล่อยไปคนละหนึ่งทีผมก็รั้งให้เขากลับมาอยู่ใต้ร่างผมอีกครั้ง จัดการทางเข้าให้อ่อนนุ่ม ขยับขยายมากพอที่จะรับตัวตนของผมเข้าไปได้ ถึงจะบอกว่าหมีน้อย แต่สรีระมันไม่ได้น้อยตามชื่อหรอกนะ บอกเลย หึหึ
   ผมค่อยๆ ดันตัวเข้าไปทีละนิด นี่เป็นครั้งแรกกับผู้ชายแต่กลับรู้สึกดีมาก คงเพราะเป็นเปิ้ลคนที่ผมรัก ผมอยากขยับใจแทบขาดแต่สีหน้าของคนใต้ร่างกลับบิดเบี้ยว ผมเลยแช่อยู่ตัวครู่หนึ่งจนเปิ้ลยืนมือมารั้งผมเข้าไปหาแล้วมอบจูบร้อนแรงให้ ตรงนั้นคล้ายความเกร็งไปแล้วผมจึงเริ่มขยับตัวตามที่ใจต้องการ เมื่อทุกอย่างเข้าทีผมก็ไม่ยั้งแรงอีกต่อไป
   “อืม. .อื้อ..”
   เสียงหอบหายใจประสานกันจนแยกไม่ออกเมื่อเราถึงจุดจุดหนึ่ง และต่างปล่อยธารน้ำใสออกคนละที ผมดึงเขาขึ้นมาคร่อมบนตักหัวนมสีชมพูอยู่ระดับสายตาพอดีจึงไม่รอช้าที่จะชมชิมมันอีกครั้งจนเห่อแดงในขณะที่มือทั้งสองขาวสาละวนอยู่กับการคว้านเอาไอ้สิ่งที่ปล่อยออกไปเมื่อครู่ออกมาจากช่องทางบอบช้ำนั่น
   เสียงเฉอะแฉะจากสี่นิ้วของมือทั้งสองข้างที่ผลัดกันลุกล้ำยิ่งทำให้รู้สึกเร้าอารมณ์ หลังจากที่คิดว่าพักกันจนพอหายเหนื่อยแล้วผมก็เดินเครื่องต่อทันที ซึ่งเปื้ลเองก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
   “ไม่ต้องไปบ่นกับเพื่อนแล้วเนอะ”
   “อะ .. อือ ไม่บ่น ไม่บ่นหรอก แต่จะ.. อะ!”
   “จะอะไร หืม” ไล้จูบตั้งแต่แผ่นหลังไปจนถึงขมับ
   “จะเล่าแทน โอ้ย! เบาๆ”
   “เล่าให้หมดละ”
   “ฮือ.. ไอ้น้ำนิ่งขี้แกล้ง”
   ในที่สุดผมก็ได้กินแอปเปิลทั้งตัวเสียที




   สิ่งที่ตามมาหลังจากสงครามบนเตียง และเสียงครางคืออะไร?
   คือเปิ้ลไม่สบาย
   ผมถึงกับเอ๋อเมื่อตื่นมาแล้วคนที่กอดก่ายกันอยู่ทั้งคืนตัวรุ่มๆ ขึ้นมา ไม่มีแรงแม้แต่จะลุกขึ้นมาด่าผม เปิ้ลงัวเงียคลายจะตื่นแต่ก็ไม่ตื่น ดูมึนงงเพราะพิษไข้ ผมเลยต้องจัดการเสิร์จหาวิธีดูแลคนไข้ ต้องทำข้าวต้ม เช็ดเนื้อเช็ดตัว หาหยูกหายาให้กิน
   อืม.. เช็ดตัวนี่ทำได้แต่อย่างอื่นค่อนข้างจะยากเกินไปสำหรับผม
   “แค่ตักใส่ถ้วยใส่ชามน่าจะทำได้เนอะ รู้จักยาแก้ไข้ใช่เปล่า อันนี้นะ” เพราะไม่มีปัญญาทำอย่างอื่นนอกจากเช็ดตัวผมเลยไปลากสองคนนี้ลงมาจากด้านบน
   พีชว่าพลางจัดนั่นชูนี่ให้ผมดู ไอ้ผมก็เดินตามต้อยๆ พยักหน้าตามอย่างว่าง่ายแม้ในใจจะเกิดความตะขิดตะขวนใจอยู่หลายครั้งก็ตาม นี่ผมไม่ได้กำลังโดนแฟนเพื่อนหลอกด่าอยู่ใช่ไหม ไอ้ห่าหิน อย่าส่งยิ้มสมเพชแบบนั้นให้กูสิวะ
   “อืม” ยาพาราใครก็รู้จักปะวะ ชักหงุดหงิด นี่ก็แบ๊วจนไม่กล้าตอกกลับแรงๆ
   “เก่งมาก”
   พีชยืนยิ้มแฉ่งมาให้อย่างเป็นมิตร ผมเลยได้แต่ถอนหายใจปลง เออ คงไม่ได้จะหลอกด่าอะไรผมหรอก พอเจ้าตัวเดินไปนั่งข้างแฟนผมก็พยักหน้าให้หินทันที
   ไปซะ พวกมึงจงกลับไปซะ ผมกับไอ้หินที่มักจะคุยกันทางจิตเลยเข้าใจกันได้ในทันทีมันคว้ามือคนข้างตัวแล้วลากออกจากห้อง
   “ไปไหนอะ เปิ้ลยังไม่ตื่นเลย”
   “แล้วจะอยู่กวนเขาทำไม”
   “จะอยู่ดูแลเหอะ เกิดน้ำนิ่งเอาข้าวยัดปากเปิ้ลจนสำลักทำไงอะ! ยิ่งมึนๆ เอ๋อๆ อยู่”
   กูว่าไอ้เตี้ยนี่หลอกด่ากูมาตลอดแล้วละ คราวนี้ไม่หลอกด้วย ด่าเต็มๆ ตรงๆ
   “มันไม่ได้โง่น่า ถ้าแค่ข้าวยังป้อนไม่เป็นก็ไม่ต้องไปทำอะไรแดกแล้ว” ไอ้ห่าหินอีกคน
   “ไม่เป็นไรพีช เราทำได้จริงๆ ขอบใจมาก” กลับไปเถอะ กูไม่อยากโดนด่าไปมากกว่านี้อีกแล้ว
   “แน่ใจนะ? ก่อนป้อนต้องเป่าก่อนรู้เปล่า เดี๋ยวลวกลิ้น ถ้าลวกแล้วจะจูบไม่ได้ไปหลายวันเลยนา” โอ้ บันทึกเกร็ดความรู้ไว้ในหัวน้อยๆ ของผมแล้วครับ ขอบคุณท่านผู้ชี้แนะ
   ไม่ใช่แล้ว! โว้ยย! จะหลอกด่ากูไปถึงไหน!?
   “พูดมาก กูไปแล้วไอ้นิ่ง”
   “เออๆ ขอบใจมาก”
   “เนี่ยๆ ถ้าไม่ใช่เพราะเมื่อวานเปิ้ลไปยืนรอตรงหน้าคอนโดก็คงไม่เป็นไข้หรอก”
   “หืม?” ใครยืนรอหน้าคอนโด พอเห็นผมสนใจพีชก็เริ่มพูดต่อ
   “เมื่อวานเปิ้ลไปยืนรอน้ำนิ่งหน้าคอนโด แล้วฝนตก ที่จริงก็ยืนในร่มนำแต่คงโดนละลองฝนอะ เรียกให้เข้ามารอข้างในก็ไม่เข้า”
   “อ่า.. อย่างนั้นเหรอ”
   นึกว่าป่วยเพราะสงครามบนเตียงเมื่อคืนซะอีก แถบความรู้สึกผิดถูกเติมจนเต็ม พอสองคนนั้นออกไปผมก็เดินเข้ามาในห้อง เปิ้ลงัวเงียลืมตาขึ้นมาพอดี    
   “สองคนนั้นไปแล้วเหรอ”
   “อืม เปิ้ล..” ผมเรียกเขาเสียงอ่อนแล้วมุดไปซุกๆ ตรงหน้าอก อุณหภูมิของร่างกายยังร้อนกว่าปกติอยู่นิดหน่อยแต่ก็ดีขึ้นกว่าตอนเช้ามาก “ขอโทษ”
   “เรื่องอะไร”
   “เมื่อวานที่ทำตัวไม่ดี เปิ้ลออกไปรอเราหน้าคอนโดใช่ไหม”
   “ใครบอก”
   “พีช”
   “จิ๊ ไอ้พีชนี่ปากมาก เออ ออกไปรอ ก็นิ่งโกหกอะ บอกไปช่วยงานเพื่อนแต่เรานี่เจอเพื่อนนิ่งพอดี พวกนั้นบอกงานเสร็จแล้ว” รู้ทั้งรู้ว่าผมโกหกแต่ก็ไม่โทรตาม แถมตอนกลับมาก็ยังไม่ถามซักไซ้อะไรอีก “รู้หรอกว่าตอนนั้นไม่ปกติเลยไม่โทรตาม แต่มันร้อนใจเลยออกไปรอข้างนอกเฉยๆ บ้าบอดีจริงๆ”
   “แต่พอกลับมาก็ยังไม่ถาม”
   “เหม็นเหล้า”
   ผมอมยิ้ม เปิ้ลเป็นคนที่รู้จังหวะในการปล่อย รู้จักหวะในการดึง มันทำให้ผมสบายใจ ถ้าเมื่อวานเปิ้ลเลือกที่จะโทรหาตั้งแต่รู้ว่าผมโกหก กลับมาเอาแต่ซักไซ้ผมคิดว่าเรื่องคงไม่จบง่ายอย่างนี้ ยิ่งคิดว่าเปิ้ลใส่ใจความรู้สึกของผมมากเท่าไรผมก็ยิ่งกอดเขาแน่นขึ้นเท่านั้น
   “ขอโทษที่ช่วยอะไรไม่ค่อยได้”
   “หะ อ๋อ.. แค่นี่ก็ช่วยได้เยอะแล้ว ถ้านิ่งทำแล้วห้องเลอะใครต้องเก็บ”
   “เปิ้ล”
   “ใช่~ เพราะอย่างนั้นการที่เรียกไอ้พีชมาจัดการน่ะดีแล้ว”
   ไม่ได้รู้สึกดีขึ้นมาสักเท่าไร แต่ก็ได้อยู่
   แล้ววันนั้นหลังจากคืนแรกของพวกเราผมกับเปิ้ลก็ใช้เวลาไปกับการนอนบนเตียงนอนนุ่มตลอดทั้งวัน
   



 TBC.
31/7/17
บอกแล้วว่าตอนนี้จะเป็นตอนที่เปิ้ลรอคอย เราด้วย ดรามงดราม่าอะไรก็ไม่มีเพราะวันนี้เรากินมาม่าไปแล้วคนเดียวไม่แบ่งหรอก 555555
ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ
แล้วเจอกันตอนหน้าจ้า


หัวข้อ: Re: ●● Sleeping Bear and Apple's Trap ●● [15 #น้ำนิ่ง - 31/7/17 ● P.3] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 31-07-2017 23:55:10
 :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: :haun4:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ●● Sleeping Bear and Apple's Trap ●● [15 #น้ำนิ่ง - 31/7/17 ● P.3] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 01-08-2017 01:33:31
แหม กว่าจะได้กินแอปเปิลลูกนี้
หัวข้อ: Re: ●● Sleeping Bear and Apple's Trap ●● [15 #น้ำนิ่ง - 31/7/17 ● P.3] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 01-08-2017 14:44:39
 :-[

ชอบความน่ารักของทั้งคู่
หัวข้อ: Re: ●● Sleeping Bear and Apple's Trap ●● [15 #น้ำนิ่ง - 31/7/17 ● P.3] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: Bk borz. ที่ 22-08-2017 02:16:46
เมื่อไหร่จะมาต่อครับรอนานแล้วนะมาต่อได้แล้วนะ
หัวข้อ: Re: ●● Sleeping Bear and Apple's Trap ●● [16 #แอปเปิล - 28/8/17 ● P.4] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: YEEUN9424 ที่ 28-08-2017 19:30:48


Sleeping bear and Apple's Trap 16
#แอปเปิล





   ผมกับน้ำนิ่งเราแยกกันกลับบ้านใครบ้านมันหลังจากที่เสร็จสิ้นการสอบไฟนอลไป โทรคุยกันวันละครั้งก่อนนอน แค่อาทิตย์แรกๆ น่ะนะ เพราะตอนนี้มันหายหัวไปจะสองอาทิตย์แล้ว เห็นบอกแต่ว่าไปช่วยป๊าม้าทำงานหาเงินซื้อไก่กิน แล้วมันก็หายหัวไปเลย กวนตีน
   ผมนอนเล่นสมาร์ทโฟนอยู่ในบ้าน เข้าๆ ออกๆ ส่งไลน์ไปกวนไอ้หมีหน้ามึนมันก็ไม่ตอบ อยากจะตบสักที อย่าให้เจอหน้านะ ฮึ้มมม บ้านผมเป็นพื้นที่ลาดลงมาขนาดใหญ่ ติดถนนใหญ่ คนในละแวกก็เป็นญาติๆ กันทั้งนั้น แต่บ้านของครอบครัวผมจะมีหลายหลังหน่อย หลังนั้นพ่อเอาไว้นอนเฝ้าไก่ หลังนี้แม่เอาไว้นอน หลังนั้นของผมกับน้อง บ้านของญาติๆ ที่ขายแล้วไปตั้งรกรากใหม่ที่อื่นนั่นแหละ มีร้านอาหารเป็นธุรกิจของครอบครัวอยู่ในพื้นที่เดียวกันแต่อยู่ริมสุด ร้านบ้านๆ ไม่ได้หรูหราติดแอร์ แต่อร่อย ใครๆ ก็รู้จัก ไม่มีที่จอดรถบริการแต่คนเพียบ ส่วนมากช่วงเย็นผมก็จะไปช่วยแม่ทำอาหารบ้าง คิดเงินบ้าง แล้วแต่จะอยาก ส่วนมากก็ไม่อยากหรอก แต่เพราะได้เงินเลยทำ 
   “เปิ้ล! เปิ้ลเอ้ย!!”
   “เอ้อๆ” ลุกขึ้นบิดขี้เกียจเล็กน้อยก่อนจะเดินออกไปหาก็เห็นยายน้อยแม่ของเมียน้องชายพ่อ แกยืนยิ้มแฉ่งอยู่ตรงหน้าบ้าน  “มีอะไรจ้ะยายน้อย”
   “มานี่ลูกมานี่” แกกวักมือเรียกทำท่าจะล้มแหล่มิล้มแหล่ ผมเลยรีบปิดฟงปิดไฟแล้วไปประครองแกเดิน
   “ไปไหนอะ”
   “ฝ้ายมันจะตัดชุด หนูไปช่วยหน่อย” ฝ้ายหรือน้าฝ้ายที่จริงเป็นน้องพ่อผมนะ แต่น้าแกไม่มีสามีเลยมาอยู่ด้วยกันสนิทกับเมียพี่ชายเลยช่วยกันดูแลยายไปด้วย “แล้วทำไมยายออกมาเรียกให้น้าฝ่ายโทรมาก็ได้”
   “บอกแล้วไม่ฟัง อยากไปรับหลานเอง” น้าฝ้ายโผล่มาจากในบ้านแล้วช่วยประคองยายน้อยไปนั่งบนเก้าอี้ “มาๆ เปิ้ล มาช่วยน้าหน่อย”
   “ทำไรอะน้าฝ้าย เย็บเหรอ”
   “เป็นแบบวัดตัว น้ากะไม่ถูก แต่คนสั่งตัวเขาตัวพอๆ กับเปิ้ลเลยมาเป็นหุ่นให้ที”
   แล้วผมก็ไปยืนเป็นหุ่นให้น้าแกอยู่ประมานสามสิบนาที หันดูเวลาอีกทีก็ได้เวลาไปให้อาหารไก่ตามที่พ่อสั่งไว้ก่อนออกไปตกปลา แต่ช้าหน่อยคงไม่เป็นไรผมเลยอยู่ช่วยน้าฝ้ายเย็บโบว์สำหรับติดตามชุด ช่วยร้อยเข็มให้ยายน้อยที่ตาไม่ค่อยจะดีแล้วแต่อยากมีส่วนร่วม สักพักถึงออกไปให้อาหารไก่
   พ่อผมเลี้ยงไว้เยอะมีทั้งไก่กุ๊กๆ เลี้ยงไว้ดูเล่น แต่จะทะเล้นจับไปกินวันไหนไม่รู้กับไก่ที่เลี้ยงไว้บูชา เลี้ยงอย่างดี เลี้ยงเหมือนลูก คือพวกไก่ชนราคาแพงที่พ่อสรรหามา วันว่างๆ เสาร์อาทิตย์พ่อชอบพาไอ้ตัวเก่งๆ เจ๋งๆ นั่งโตลมออกไปชนกับลุงๆ อาๆ ที่อยู่แถวบ้านล่าง
   ระหว่างที่ให้อาหารบรรดาไก่ๆ จ้องหน้าพวกมันไปก็คิดถึงคนชอบกินไก่ที่อยู่ทางไกลเหลือเกิน ปานี้มันจะทำอะไรอยู่นะ ถ้าไปช่วยงานป๊าจะไปทำอะไรล่ะ ขับรถส่งน้ำแข็งเหรอ หรือไปแบกน้ำแข็ง.. คิดภาพตอนน้ำนิ่งมันแบกน้ำแข็งด้วยหน้ามึนๆ แล้วรู้สึกสงสารยังไงไม่รู้ หวังว่ามันจะได้พักผ่อนนอนหลับสบายๆ นะ
   กำลังจะเดินกลับบ้านไปอาบน้ำแต่งตัวเตรียมไปช่วยแม่เปิดร้านก็มีเด็กน้อยตาใสมายืนยิ้มแฉ่งดักหน้าอยู่ “มีอะไรน้องส้ม”
   “พี่เปิ้ลมาช่วยหนูระบายสีหน่อย”
   “การบ้านเหรอ”
   เด็กหญิงพยักหน้าตอบ ผมเลยจูงมือพาหลานตัวน้อยไปที่บ้านนั่งระบายสีเสร็จก็สอนการบ้านต่อกว่าจะได้แยกตัวออกมาก็ตอนที่แม่น้องส้มซึ่งก็น้องสาวของพ่อมาเรียกลูกไปกินข้าว ผมเลยได้กลับมาอาบน้ำแต่งตัวใหม่เสียที พอมาที่ร้านคนก็ยังไม่เยอะนักเจอปู่ที่รักนั่งยิ้มมองรถที่ขับผ่านไปมาอยู่
   “ปู่กินข้าวยัง”
   “ยัง ใครละนี่”
   “เปิ้ลไง เปิ้ลหลานปูอะ”
   “เปิ้ลๆ ไอ้เจ้าเปิ้ล มาตั้งแต่เมื่อไร” ผมยิ้มส่ายหัวน้อยๆ แกถามผมทุกวันที่เห็นหน้า บางวันดีหน่อยจำชื่อได้ แต่จำไม่ได้ว่าลูกใคร ลูกของลูกคนไหนของแก ปู่อายุมากแล้วหลงๆ ลืมๆ ตามประสาคนแก่เฒ่า คู่ชีวิตอย่างย่าก็เสียไปหลายปีได้ลูกหลานคอยดูแล ตกเย็นแกจะชอบออกมานั่งที่ร้านตัวริมสุดใกล้ทางเข้าครัว ลูกค้าก็ชอบมาคุยเล่นเพราะปู่ช่างคุยช่างยิ้ม สักสองสามทุ่มก็จะมีคนมาพาเข้าบ้าน
   “มาจนจะกลับแล้วเนี่ย มาๆ หนูแกะปลาให้” ผมถือโอกาสแกะปลาให้ปู่พร้อมนั่งกินข้าวไปด้วยเลย มีขอกับข้าวเพิ่มอีกสองสามอย่างแล้วก็นั่งกินไปคุยกับปู่ไป ไม่ค่อยเป็นเรื่องเป็นราวเท่าไรส่วนมาก็ถามเรื่องเดิมๆ ที่เคยถามไปแล้วทั้งนั้น ผมเคยรำคาญที่จะตอบแต่พอเห็นรอยยิ้มของคนสูงอายุที่เคยโอบอุ้มเราเมื่อครั้งยังเด็ก แต่ตอนนี้เขาแก่เฒ่าไปมากแล้วเรี่ยวแรงก็ไม่ค่อยจะมีแต่รอยยิ้มที่ส่งให้ลูกหลานยังเต็มไปด้วยความรักเหมือนเดิม ผมก็กลืนความรำคาญนั้นลงคอแล้วใช้เวลาที่มีอยู่กับปู่ให้มากที่สุด 
   “ไม่ไปเรียกน้องมากินข้าวละลูก”
   “มันยังไม่มาเลยปู่ อะ กินเยอะๆ”
   “น้องพีชละ น้องพีชไม่มารึ”
   “ยังไม่รู้เลย เดี๋ยวหนูถามให้” น้องพีชที่ว่านี่ก็ไอ้พีชเพื่อนผมเอง ปู่แกจำได้ขึ้นใจทั้งๆ ที่เคยมาแค่ครั้งสองครั้งแล้วแต่ละครั้งก็ห่างกันจะตาย แต่แม่ก็มักจะบอกเสมอว่าปู่ถามถึงพีชตลอด พอรู้เหตุผลว่าทำไมปู่ถึงจำพีชได้ก็ทำเอาผมยิ้มออกมา
   แกว่าหน้าพีชเหมือนย่าตอนสาวๆ รักแรกพบเขาละ เลยจำได้ว่าพีชคือใคร พอมันรู้ก็ปลื้มใจสิ เลยมาทุกปิดเทอม แต่เทอมนี้ยังเงียบอยู่สงสัยต้องเร่งมันละ ปู่จะได้หายคิดถึง
    “ปู่จะกลับบ้านไปดูทีวีเปล่า หนูจะไปส่ง”
   “นั่งนี่แหละ เอ็งไปช่วยแม่ทำงานไป”
   “จ้า มีอะไรก็เรียกนะ”
   ผมเข้าไปช่วยแม่ทำกับข้าวในครัวสักพักก็ออกมาช่วยคิดเงินแทน ร้านเราเป็นร้านแบบโอเพ่นดอร์ อาศัยลมธรรมชาติยามกลางคืน ถ้าร้อนก็พัดลม แต่ถ้าฝนตกก็ซวยหน่อยเพราะพื้นที่ที่มีหลังคามันไม่ได้กว้างนัก ช่วยงานจนถึงเที่ยงคืนก็ใกล้ได้เวลาร้านปิดหลังจากจัดการบัญชีเสร็จแล้วก็กลับมาอาบน้ำเตรียมตัวนอน ก่อนนอนก็ต้องเช็คนิดหนึ่งละนะ ไอ้หมีมันตอบข้อความผมบ้างยังเนี่ย
   อะ ตอบแล้วตอบด้วยด้วย เป็นภาพมันกำลังแบกกระสอบน้ำแข็งไว้บนบ่า มันเคยบอกอยู่ว่าป๊ามันเปิดโรงงานทำน้ำแข็ง ที่มันบอกต้องไปช่วยคือช่วยแบกแบบนี้เลยเหรอ โอ้ย น่าสงสารจริงๆ พ่อหมีของผม อยากจะโทรไปหาแต่ผมว่ามันต้องหลับแล้วแน่ๆ เลยได้แต่ส่งรูปตัวเองไปให้ จะว่าคิดเองเออเองก็ได้แต่ผมว่ามันต้องอยากได้กำลังใจจากผมชัวร์ เอาสามรูปน่ารักๆ ตื่นมาจะได้มีกำลังใจทำงานหาเงินมาสู่ขอผม





   ตื่นเช้ามาก็เจอข้อความจากมันแต่อ่านไม่รู้เรื่องสักประโยค สงสัยจะละเมอลุกขึ้นมาพิมพ์ตอบ ดูเวลาแล้วน่าจะได้อยู่ผมเลยลองกดโทรไปหา
   “ทำอะไร”
   ((คิดถึง))
   “วันนี้ก็ไปช่วยคุณป๊าทำงานเหรอ”
   ((คิดถึง))
   “คิดถึงเหมือนกันนนน ทำอะไรกินข้าวหรือยัง วันนี้ไม่ไปช่วยคุณป๊าทำงานเหรอ”
   ((ช่วยเช่ยอะไรป๊าไม่ได้มาทำด้วยสักหน่อย ดีแต่ยืนคุม ปวดหลังไปหมดแล้ว)) ผมหัวเราะออกมาทันที เสียงมันดูงอนมาก สงสารก็สงสารแต่มันก็ตลก ยิ่งนึกถึงภาพที่ส่งมาให้ยิ่งตลก หมีหน้ามึนกับกระสอบน้ำแข็งบนหลัง มันไม่ค่อยจะเข้ากันสักเท่าไร
   “มาๆ เดี๋ยวนวดให้”
   ((จะกลับมาแล้วใช่ไหม))
   “ใครบอก นิ่งต้องมาบ้านเราดิ”
   ((ทำไมไม่กลับมาสักที))
   “อยู่กรุงเทพฯ มาตั้งสี่ห้าเดือนละ อยู่บ้านดีกว่า”
   ((ไหนบอกจะนวดให้ไง))
   “น้ำนิ่งก็มานี่ดิ จะนวดให้ดีๆ เลย”
   ((นวดแล้วนาบต่อ))
   “ทะลึ่ง มานะ มาๆ” 
   ((ที่นั่นมีอะไร)) อะ ไอ้นี่เริ่มกวนตีนละ มีไร? ถามมาได้ มีกูที่เป็นแฟนมึงนี่ไง!
   “มีบ้านเราไง มีเราด้วย ไม่มาเหรอ” ออดอ้อนเข้าใส่ ต้องทำให้มันมาที่บ้านให้ได้
   ((นี่ก็บ้านเรา)) ผ่าง!!
   “เออ เรื่องของมึงเลย! ไอ้หมีโง่!”
   ด่าจบผมก็กดวางทันที แล้วมันก็ไม่โทรกลับมาด้วย โว้ย ไอ้หมีนี่มัน.. ไม่รู้จะด่ายังไงเลย ทำไมมันเป็นคนแบบนี้เนี่ย!?  โยนมือถือไปไกลๆ แล้วนอนอีกรอบ โมโหจนไม่รู้จะทำอะไร ตื่นมาอีกทีไปหาข้าวกินแล้วก็กลับมานอนอีกรอบ โกรธ โกรธมันมาก วันนี้ทั้งวันผมไม่ทำอะไรเลยนอกจากกินกับนอน ตอนเย็นก็ไม่ออกไปช่วยแม่ที่ร้าน ดีที่ว่าพ่อไม่ออกไปชนไก่ ก๊งเหล้าที่ไหนเลยได้อู้อย่างสบายใจ แต่คุกกรุ่นไปด้วยความโกรธ เพราะไอ้หมีคนเดียว ช่วงเที่ยงคืนตีหนึ่งมันส่งรูปตอนแบกน้ำแข็งมาให้อีก เหอะ คิดจะเรียกคะแนนสงสารหรือไง ไม่มีทางหรอก!
   



 
   “เปิ้ลนอนอยู่บ้านนี้แหละลูก”
   “ขอบคุณครับแม่”
   “จ้ะ พักผ่อนกันก่อน แล้วให้เปิ้ลพาไปหาอะไรกินกันนะ”
   เสียงคุ้นๆ คุยกันอยู่ตรงหน้าประตู ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกอยากลุกขึ้นมาจากเตียงเท่าไร ได้แต่บิดตัวไปมาอย่างคนขี้เกียจ แต่พอทำท่าจะหลับต่อกลับมีเสียงเคาะประตูรัวตามมา รอบนี้ไม่ลุกไม่ได้เพราะมันช่วงหนวกหูเหลือเกิน ผมเดินหน้ามุ่ยมาเปิดประตูจำได้ว่าเสียงคุยเมื่อกี้มีเสียงของแม่ อีกคนก็คุ้นแสนคุ้น โอ๊ะ ไอ้พีชนี่เอง ผมงงนิดหน่อยที่ไม่ได้เห็นเพียงแค่พีชคนเดียวแต่กลับมีคนที่ไม่คาดคิดว่าจะเจออย่างมูน
   “เฮ้ย! มูน มาไง”
   “เอ้อ.. เหอๆ เรื่องมันไม่ยาวหรอก แต่เดี๋ยวค่อยเล่าได้ไหม เราขอนอนหน่อย”
   “หืม มาๆ เข้ามาๆ มึงพีช จะมาก็ไม่บอก” ท่าทางมูนทั้งเหนื่อยทั้งเพลีย ผมเลยรีบเปิดประตูต้อนรับเชื้อเชิญเข้ามาในบ้านไวๆ
   “นึกว่าจะไม่ทักเพื่อนตัวเอง”
   “ตกใจนี่หว่า จะว่าไปทำไมมากันสองคน แล้วเป็นการจับคู่ที่...” แปลกโคตร มูนกับพีชเนี่ยนะ แฟนมันคือลูกหินไม่ใช่เหรอ คงไม่ใช่ว่ามีอะไรลับลมคมในหรอกนะ โนว ผมคงจะรับเรื่องลับๆ แบบนี้ไม่ไหวหรอก
   “มาสามนะ อ้าว.. เวรกรรม ลืมน้ำนิ่งไว้ในรถ”
   “หะ ไอ้หมีก็มาเหรอ ลืมมันไว้ในรถ แปลว่ามันหลับอยู่ในรถ!?”
   “ลืมอะ เปิ้ลไปพามาที”
   มูนวางกุญแจรถลงบนมือของผม กุญแจรถไอ้หมีนี่หว่า พอเริ่มได้สติจากความงุนงงมองขึ้นไปตรงถนนใหญ่หน้าบ้านก็เห็นรถคุ้นตาจอดอยู่รถน้ำนิ่งนั่นแหละ ผมเดินจ้ำๆ ด้วยความดีใจหน้าเปื้อนยิ้มโดยไม่รู้แต่ไม่ได้ลืมหรอกนะว่ามันทำอะไรไว้เมื่อวาน
   พอเปิดประตูเข้าไปก็สัมผัสได้ถึงไอเย็น ผมใช้เท้าสะกิดขามัน แต่ไม่ได้ผลเลยต้องลงแรงหน่อย คราวนี้ฟาดเลย ฟาดไปเต็มน่องขา สะดุ้งสิครับ สะดุ้งหน้าปรือๆ ตามสไตล์น้ำนิ่งนั่นแหละ พอเห็นว่าใครยืนอยู่ตรงหน้ามันก็ยกยิ้มน้อยๆ ก่อนจะดึงผมเข้าไปกอด หัวกูเกือบฟาดขอบประตูรถ เห็นแบบนี้ใจที่เคยมีความโกรธก็อ่อนยวบลงไปแปลกๆ
   “คิดถึงจัง”
   “เหรอ เมื่อวานใครมันกวนตีน”
   “แผนเซอร์ไพรส์ไง” เซอร์ไพรส์มากไหม เมื่อวานเกือบจะด่าพ่อด่าแม่มันหลายรอบแล้ว “คิดถึงๆไม่เห็นตอบเลย”
   “โกรธอยู่”
   พอผมบอกพร้อมหน้างอๆ แทนที่มันจะสลดกลับหัวเราะหน้าบานใส่แล้วดันผมออกเล็กน้อยค่อยหยิบอะไรบางอย่างขึ้นมาจากใต้เบาะ ผมเห็นแล้วอึ้งไปนิดหน่อย
   “แก้คิดถึง”
   มันคือถุงโลตัสที่ข้างในเต็มไปด้วยโอริกามิหลากหลายแบบ ดูแล้วนึกถึงคืนวันก่อนที่เราจะคบกัน ผมกลั้วขี้ฟันในปากไปมาเพื่อไม่ให้ตัวเองเผลอยิ้มกว้างออกมา ถึงถุงมันจะดูกากๆ ไม่สง่าน่าชมแต่ความใส่ใจกลับเต็มเปี่ยม มันอัดแน่นจนถุงทั้งโป่งทั้งพอง ผมคว้ามาถืออย่างถะนุถนอมแล้วลากไอ้ขี้เซาลงจากรถ
   “ลงจากรถได้แล้วเพื่อนรออยู่ในบ้านแล้ว”
   “พวกนั้นไม่ยอมปลุก”
   “เขาปลุกแล้วแต่ไม่ยอมตื่นเองหรือเปล่า”
   พอเข้ามาในบ้านก็เห็นพีชกับมูนปูเสื่อ พร้อมหมอนผ้าห่มมารองนอนเรียบร้อยแล้ว ผมเลยยึดอีกมุมหนึ่งเป็นที่ตั้งแล้วเริ่มถามไถ่ที่มาที่ไปของทรีโอกรุ๊ปนี้ พอได้ความแล้วก็ทำเอาผมถึงกับต้องกุมขมับให้กับความขี้เกียจ ขี้เซา ขี้ง่วง ขี้นอน ขี้ๆๆๆๆ สารพัดจะขี้ของน้ำนิ่งเลย ให้ตายเถอะ
   มันบอกตั้งใจจะมาหาตั้งแต่เมื่อหลายวันก่อนแล้ว เมื่อวานแค่กวนตีนเฉยๆ เออ กวนตีนจริงๆ แต่มันไม่รู้ทางเลยต้องให้พีชเป็นคนพามา ปัญหาคือลูกหินไม่ว่าง เจ้าไม่ว่าง ไอ้พีชไม่ขับรถทางไกล และไอ้หมีขี้เกียจขับ มีแค่มูนเท่านั้นที่ตกหลุมพรางของมันจนต้องมาขับรถให้ตั้งแต่เช้า คืออยากมาเช้า แต่ไม่อยากขับรถเองเลยใช้เพื่อน กูละยอมมันเลย
   “ฮืออ เปิ้ลต้องจัดการให้เรานะ โดนลากมาใช้เป็นขี้ข้าตั้งแต่เช้า ดูแลก็ไม่ดูแล ได้พีชนี่แหละคอยป้อนข้าวป้อนน้ำ”
   “โอ๋ๆ มูนอย่าร้อง เดี๋ยวเรานวดให้นะ”
   ผมตีไอ้คุณชายที่นอนแคะขี้มูกอยู่ข้างๆ ดูมันนะหลับสบายมาตลอดทางยังจะมานอนเหมือนคนที่ไม่ได้นอนมาทั้งชาติอีก
   “แค่นี้ทำบ่นว่ะ” ผมตีมันไปอีกก่อนจะสั่งให้ไปปิดประตู แล้วเปิดแอร์เย็นๆ ให้เพื่อนได้นอนสบาย
   “มึงมันแย่ ถึงแล้วก็ไม่ตื่นพวกกูเจอแม่เปิ้ลแล้ว ไหว้แม่เปิ้ลแล้วมึงยังไม่ทำสักอย่าง ไอ้ลูกเขยไร้มารยาท”
   “เพราะมึงไม่ปลุกกูไอ้มูน” มันแวะเหยียบก้นเพื่อนทีหนึ่งแล้วมานั่งย่องๆ ตรงหน้าผม “เปิ้ลพาไปไหว้แม่หน่อย” ผมอมยิ้มน้อยๆ เมื่อเห็นท่าทีกระตือรือร้นที่อยากจะไปไหว้แม่ของน้ำนิ่ง ดวงตาเป็นประกายไม่ได้ดูปรือนอนเหมือนเมื่อครู่
   “ไอ้หมีเลว ไอ้หมีอกตัญญูไม่รู้คุณคน ไอ้(&&^$#%&#@(^%$)_&&”
   “โอ้ย! มูนหุบปากเถอะ เราปวดหูเป็นผู้ชายทำไมเสียแหลมอย่างนี้เนี่ย” พวกผมพากันระเบิดเสียงหัวเราะออกมา มูนก็นอนปิดปากตัวเองน้ำตาไหลพรากเพราะโดนไอ้พีชด่า
   “เดี๋ยวเที่ยงๆ บ่ายๆ ค่อยไปไหว้ก็ได้ แม่คงกลับไปนอนอีกรอบแล้ว”
   “เหรอ จะไม่เป็นไรเหรอ”
   “ไม่เป็นไรหรอก แม่เราใจดี พ่อด้วย ทุกคนเลย แต่ตอนนี้ให้แม่กับพ่อนอนก่อน เมื่อคืนก็ปิดร้านดึก”
   “อย่างนั้นก็ได้” พอผมอธิบายให้ฟังไล่หนาก็ลู่ลงเล็กหน่อย ใบหน้ากลับมาปรือนอนอีกครั้ง ผมเลยรังหมีตัวโตให้มานอนไปพร้อมๆ กัน คือผมก็อยากนอนต่อเพราะตื่นเช้าเกิน
   “คิดถึงมาก” น้ำนิ่งสอดแขนมารองใต้คอแล้วดึงผมเข้าไปใกล้ๆ ทำท่าจะประกบจูบเข้ามาในขณะที่ผมกำลังจะเคลิ้มไปก็นึกขึ้นมาได้ว่าตัวเองยังไม่ได้แปรงฟัน
   “ยังไม่ได้แปรงฟัน งดจูบ หอมแก้มพอ”
   มันทำหน้าบึ้ง คิ้วขมวด แต่ก็กดจมูกลงมาบนแก้มของผมที่ไม่รู้ว่ามีคราบน้ำลายหรือเปล่าลงมาฟอดใหญ่ “ไม่เห็นบอกคิดถึงบ้าง”
   “ไม่บอกหรอก”
   ไม่บอก แต่ซุกหน้าเข้าหาแผ่นอกหอมกรุ่นกลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มของน้ำนิ่งแทน รู้สึกว่าจะตัวใหญ่กว่าเดิมหน่อยหนึ่ง แผ่นอกดูแข็ง และเต็งตึงขึ้น สีผิวก็แทนขึ้น ดูเซ็กซี่จนผมน้ำลายสอ แต่พอเงยหน้ามองใบหน้าตอบๆ ของแล้วน้ำตาจะไหล โธ่ พ่อหมีของผมต้องทำงานหนักมากขนาดไหนกันเนี่ย พ่อพระเอกยักคิ้วให้ผมแล้วเปลี่ยนมาเป็นคนที่ซุกออกผมแทน แล้วเราทั้งสี่คนก็หลับกันไปคนละมุมทั้งอย่างนั้น
   จนกระทั้ง..
   “พี่แอปเปิล!!”
   เสียงนี้มัน.. !
   



TBC
28/8/17
กลับมาต่อแล้วค่า จะครบเดือนแล้วโผล่หัวมาสักหน่อย //ยื่นมือให้ตี
ต่อเนื่องไม่เคยได้นานต้องหายตลอด แฮะๆ ติดการ์ตูนจ้า เพลินสุด เพลินจนหายไปอย่างที่เห็นนี่แหละค่ะ
ขอโทษจริงๆ น้า เรามาช้าตลอดเลยแต่ก็ยังมีคนติดตามอยู่ (ใช่ไหมเอ่ย?) ขอบคุณจริงๆ ค่ะ เรื่องนี้จบแน่ๆ ไม่ต้องกลัวทิ้งไป นี่มีพล็อตอื่นๆ ผุดขึ้นมาเยอะแยะก็ได้แต่จดๆ ไว้จะเอาหมีกับเปิ้ลให้จบก่อน โคตรบังคับตัวเองอะ 55555 ฝากติดตามกันต่อๆ ไปด้วยนะคะ 
แล้วพบกันตอนหน้าค่ะ

หัวข้อ: Re: ●● Sleeping Bear and Apple's Trap ●● [16 #แอปเปิล - 28/8/17 ● P.4] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: Piima ที่ 28-08-2017 21:36:27
ว้ายยยย

เกิดอะไรขึ้นคะ

เกืดอะไรขึ้น

มาต่อแล้วดีใจจังเลยค่ะ

ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: ●● Sleeping Bear and Apple's Trap ●● [16 #แอปเปิล - 28/8/17 ● P.4] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 28-08-2017 22:25:55
บ้านแอปเปิ้ล น่าอยู่ ปู่ก็น่ารัก ถึงจะหลงๆลืมๆบ้าง  :mew1: :mew1: :mew1:

หมี ก็มาหาถึงบ้าน พีช มูน ก็มาด้วย

นอนกอดกับหมี แล้วใครล่ะโผล่มา  :katai1: :katai1: :katai1:
ก็เห็นที่หมีกับเปิ้ลกอดกันนะสิ
จะเป็นเรื่องมั้ยนะ  :z3: :z3: :z3:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ●● Sleeping Bear and Apple's Trap ●● [16 #แอปเปิล - 28/8/17 ● P.4] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 29-08-2017 18:10:00
ใครมาล่ะนั่น

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ●● Sleeping Bear and Apple's Trap ●● [16 #แอปเปิล - 28/8/17 ● P.4] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 02-09-2017 20:30:19
คิดถึง
หัวข้อ: Re: ●● Sleeping Bear and Apple's Trap ●● [17 #แอปเปิล - 08/10/17 ● P.4] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: YEEUN9424 ที่ 08-10-2017 22:10:49
Sleeping bear and Apple's Trap 17
#แอปเปิล




   ผมตื่นขึ้นมาเพราะเสียงดังหนวกหู หันไปมองข้างกายก็เห็นร่างโตๆ ของไอ้หมีนอนตัวงอหันหลังให้ มีผ้าห่มพาดเอวหนึ่งผืน มองตรงไปอีกฝั่งก็เห็นพีชกับมูนเริ่มลุกขึ้น ดูงัวเงียไม่ต่างกัน แล้วไอ้มนุษย์ที่ยืนจังก้าอยู่หน้าผมนี่คือ..? 
   “นี่มันอะไรวะเนี่ย ยกเว้นพี่พีช สองคนนี้คือใคร”
   ไอ้ชมพู่!
   น้องชายสุดที่รักของผมเอง มันยืนทำหน้าโหด หันมองไอ้หมีที่หลับไม่รู้เรื่องรู้ราวทีหันไปมองมูนที่หน้าบวมตาบวมที ส่งยิ้มให้พี่พีชของมันอีกหนึ่งที แล้วหันมาถลึงตาโหดใส่ผมอย่างต้องการคำตอบ
   “ชมพู่”
   “เรียกพู่ดิ เดี๋ยวตีเลย” หน้ามันโหดกว่าเดิมคูณสอง ฮ่า ใช่ครับ น้องชายของผมชื่อชมพู่ ซึ่งหวานแหวนแต๋วจ๋าแตกต่างกับหน้ามันมาก ก็มันทั้งหล่อทั้งเข้ม อยู่ปีสอง หน้าล่อไปปีห้า ตัวใหญ่พอๆ กับไอ้หมีหรือลูกหินเลย ตอนเด็กๆ ก็ยังเรียกน้องชมพู่ๆ ได้อยู่ แต่พอโตขึ้นเริ่มรู้เรื่องว่าชื่อกูมันชื่อผู้หญิงเท่านั้นแหละใครเรียกมันชมพู่นี่ต่อยปากแหก ต้องเรียกพู่เท่านั้น
   “นั่นพี่มูนเพื่อนพี่ ส่วนนี่น้ำนิ่ง.. แฟนพี่เอง”
   “หะ! พี่ไปมีแฟนตั้งแต่เมื่อไหร่”
   “เทอมที่ผ่านมา น้ำนิ่ง ตื่นๆ น้องเรามา”
   “งืม เปิ้ล~”
   มีลากไปนอนกอดต่อ มันลืมปะเนี่ยว่าไม่ได้อยู่ห้องตัวเอง แถมนอนกลางบ้านอีก ผมพยายามดันตัวออก พร้อมกับส่งเสียงลงไม้ลงมือปลุกมันไปด้วย แต่ก็นะไอ้หมีก็แบบนี้ ตื่นยากจะตาย ยิ่งถ้ามันรู้ว่าเป็นวันหยุดมันจะหลับยาวเหมือนถูกตั้งโปรแกรมไว้เลยว่ากูจะนอนจนกว่าจะพอใจ เชิญปลุกไปเลย ยังไงก็ไม่ตื่น ผมเคยพยายามปลุกมันหนึ่งชั่วโมงเต็มมันไม่ตื่นเลยปล่อยให้มันนอนไปกว่าจะตื่นก็นู่นสามสี่โมงเย็น ตื่นมากินแล้วนอนต่อ
   “เฮ้ย ปล่อยเลยๆ” ไอ้ชมพู่เข้ามางัดผมออก น้ำนิ่งมันก็งัวเงียตื่นขึ้นมาด้วย คงจะงงว่าทำไมมีคนมาปลุกมันถึงสองคน
   “ใคร”
   “น้องๆ น้องชายเรา”
   “อ้อ หวัดดี” น้ำนิ่งส่งเสียงงึมงัมมาซุกตักผมแล้วนอนต่อ ไอ้พู่ได้แต่มองคิ้วขมวด มันคล้ายจะพูดอะไรสักอย่าง แต่เจอท่าทางของน้ำนิ่งเข้าไปมันก็คงจะไปไม่ถูก
   “แฟนพี่ปกติ?”   
   “ปกติดิ มันแค่ยังไม่ตื่น มึงไปไกลๆ”
   “เหอะ คนเก่าเพิ่งจะเลิกคนใหม่แม่งมาละ ทำไมงี้วะ จะอยู่กับน้องก่อนก็ไม่ได้ แย่ๆ” แหม บ่นซะผมดูเป็นพี่ที่โคตรจะแย่ คนเก่านี่เลิกตั้งนานแล้วเว้ย บ่นนั่นบ่นนี่เสร็จก็เดินไปหาพีช พี่ชายสุดที่รักของมัน
   “พี่พีช คนนี้ก็แฟนพี่เหรอ พี่เอาแฟนมาตอกย้ำผมเหรอ”
   “ไม่ใช่ๆ”
   “ทำไมพี่ทำงี้อ่ะ ไม่สงสารผมเลย”
   อย่าได้เข้าใจผิดว่ามันหลงรักไอ้พีชแบบนั้นเชียว ไม่ใช่เลย มันรักแบบพี่นี่แหละ แต่รักมากชอบมาก หวงมาก มากกว่าผมที่เป็นพี่แท้ๆ ของมันอีกมั้ง
   “ไม่ใช่จ้า ชมพู่” ดู๊! ขนาดเรียกว่าชมพู่ยังยิ้มแป้น ไม่โกรธเลยสักนิด
   “แล้วใคร” ทำเป็นหน้างอ
   “เพื่อนของแฟนพี่เอง ฮ่าๆ”
   “เป็นพวกติดพี่เหรอเนี่ย”
   “พี่ยุ่งไรด้วย” ชะ.. เอาแล้วดูมันพูดกับมูนสิ ผมนี่ลุกไปตบหัวมันทันที
   “พูดกับพี่เขาดีๆ”
   “ผมพูดไม่ดีตรงไหน”
   “ตรงนี้แหละ ไปเลยไป ไปหาแม่นู่น” มันส่งเสียงเหอะหะ สะบัดตูดเดินออกไปทางหลังบ้าน ผมหันไปขอโทษมูน แต่มันก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร เข้าใจว่าเป็นปกติของผู้ชาย พอจัดการตรงนี้เสร็จก็ไปปลุกไอ้หมีต่อ คราวนี้มันตื่น เพราะผมฟาดเต็มแรง ระหว่างนั้นก็ให้อีกสองคนที่เหลือไปอาบน้ำแต่งตัว จะได้ออกไปไหว้ผู้ใหญ่ และหาอะไรกินกัน




   กว่าแต่ละคนจะอาบน้ำทำอะไรเสร็จก็ปาไปเกือบสองชั่วโมง เสร็จแล้วก็ไปไหว้แม่ปรากฏว่าพ่อไม่อยู่ ออกไปเช้ากว่าที่พวกนี้มาเสียอีก ผมบอกแม่ตามตรงว่าน้ำนิ่งคือแฟน แกก็ยิ้มๆ รู้กันอยู่แล้ว เสร็จจากแม่ก็ไปไหว้ปู่ ระหว่างนี้แม่ก็เข้าครัวไปทำอาหารรอ
   ปู่ดีใจใหญ่ที่เห็นพีช เรียกน้องพีชอย่างนั้นอย่างนี้ สนใจแต่ไอ้พีชจนลืมหลาน ไอ้พีชก็คุยกับปู่สนุกสนานเล่าเรื่องนั้นเรื่องนี้ให้ฟังใหญ่ ไม่เว้นแม้แต่เรื่องของแฟนมัน เอารูปมาอวดด้วยนะ สักพักแม่ก็ส่งไอ้พู่มาเรียกเราเลยพากันประคองปู่ไปกินข้าวด้วยกัน
   “บอกปู่แบบนั้นไม่เป็นไรเหรอ ปู่แก่แล้วจะรับได้เหรอ” น้ำนิ่งกระซิบถามผมระหว่างที่ผมเข้ามาเอาของในห้อง
   “ไม่เป็นไรหรอก ถ้ารับไม่ได้คงเอาไม้เท้าฟาดหัวแล้วแหละ อีกอย่างปู่แกหลงๆ ลืมๆ เนี่ยเดี๋ยวออกไปก็คงลืมแล้วว่าใครเป็นใคร อย่าตกใจละ” มันยิ้มบางๆ แล้วเราก็จูงมือกันออกมาที่โต๊ะ แม่นั่งกินกับเราครู่หนึ่งก็ไปเตรียมตัวเปิดร้าน
   “ไอ้หนุ่มแฟนเปิ้ล กินเยอะๆ ลูก”
   “ครับ” จำชื่อไม่ได้แต่จำได้ว่าเป็นแฟนผม จริงๆ เลยนะปู่
   “เป็นแฟนกันก็ต้องรักกันดูแลกัน เหมือนปู่กับย่า”
   “จ้า ปู่ กินๆ อันนี้อร่อย”
   “ให้น้องพีชด้วย”
   “พีชกินเยอะแล้ว ปู่กินบ้าง พีชตักให้นะ”
   ปู่มีไอ้พีชดูแลแล้วผมเลยหันมาสนใจพ่อหมีข้างๆ ดูแลตักนั่นตักนี่ให้ ไม่ลืมมูนที่ลำบากลำบนโดนบังคับให้มาเป็นสารถีตั้งแต่เช้า ตอนแรกผมกลัวมูนจะเบื่อ กลัวจะรู้สึกไม่รู้สนุก แต่พอเห็นเขามีความสุขกับอาหารบนโต๊ะ เข้ากับปู่กับแม่ได้ดีผมก็สบายใจ แถมยังวางแพลนไว้ซะดิบดีว่าจะไปที่ไหนบ้าง
   กำลังจะตักไก่ให้น้ำนิ่งก็รู้สึกถึงสายตาของไอ้พู่ที่จ้องมองมาอย่างเอาเรื่อง ผมมองไก่ทอดชิ้นโตสลับกับมองหน้าน้องตัวเอง และแฟนหนุ่มที่กำลังมองมาอย่างมีความหวัง
   ยังไงดี จานนั้นหรือจานนี้ กินเองจะดีกว่าไหมเน้อ
   “เอ้า! กุ้งเนื้อแน่นๆ อร่อยจริงเชียว” เป็นมูนที่วางกุ้งตัวโต เนื้อสีขาวอมชมพูลงบนจานของไอ้พู่
   “อะไรของพี่เนี่ย” ผมใช่จังหวะที่สองคนนี้เถียงกันวางไก่ลงบนจานน้ำนิ่ง มันยิ้มปริ่มดีใจเหมือนได้ของรางวัล แล้วรีบตักอีกชิ้นไปวางลงบนจานของพู่ เดี๋ยวน้องจะน้อยใจ
   “กินเยอะๆ”
   “ผมเห็นนะ พี่เอาให้พี่น้ำนิ่งก่อน”
   “กินๆ ไม่ต้องพูดมาก เสร็จแล้วไปช่วยแม่คิดเงินด้วย”
   “เหอะ”
   กว่าจะสงบเล่นเอาเหนื่อย ผมต้องดูแลทั้งแฟนทั้งน้อง แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นผู้ดูแลอย่างเดียวนะ ไอ้หมีก็แกะกุ้ง ตักนั่นตักนี่ให้ผมเหมือนกัน ไอ้พู่ก็ไม่น้อยหน้าพยายามจะแย่งความสนใจ จนได้มูนมาคอยจัดการให้มันถึงหันไปเถียงกับมูนแทนที่จะสนใจผม
   “แม่เปิ้ลทำกับข้าวอร่อย เหมือนเปิ้ลเลย”
   “เราสิเหมือนแม่ เราเรียนมาจากแม่”
   “อร่อยมาก”
   “อร่อยก็กินเยอะๆ เอาเนื้อตรงแก้มกลับมาให้ไวเลย”
   ผมหยิกแก้มมันเบาๆ ทีหนึ่ง ไม่ค่อยจะมีเนื้อติดมือมาเลยอะ ไม่ปลื้ม หน้าตอบเกินไปแล้ว อีกสองอาทิตย์ที่เหลือต้องเอาเนื้อแก้มของน้ำนิ่งกลับมาให้ได้




   ไอ้พู่หนีออกไปหาเพื่อนตั้งแต่กินข้าวเสร็จ สุดท้ายแล้วคนเป็นพี่อย่างผมก็ต้องมาทำหน้าที่คิดเงินเหมือนเดิม แต่คราวนี้มีพ่อหมีตัวโต ผิวสีเข้มมานั่งให้กำลังใจอยู่ข้างกัน ตรงที่ผมอยู่เป็นห้องห้องหนึ่งที่มีช่องสีเหลี่ยมเปิดออกมาหันหน้าไปทางคนในร้าน ด้านหน้าจะเป็นที่ตักน้ำจิ้ม หรือเครื่องปรุงต่างๆ ที่ร้านเตรียมไว้ให้  ไม่รู้ว่าเป็นเพราะไอ้คนผิวเข้มที่นั่งอยู่ข้างผมหรือเปล่า ทำไมคุณลูกค้าสาวๆ หลายถึงได้ขยันเดินมาตักน้ำจิ้มกันบ่อยนัก แค่ตักไม่ว่าแต่มาแล้วชะเง้อชะแง้มองเข้ามาข้างใน แอบส่งยิ้มเบาๆ ให้ ไม่เว้นแม้แต่พี่ๆ น้องๆ พนักงานในร้านที่แวะเวียนเข้ามาในห้องนี้บ่อยเหลือเกิน เครื่องดื่ม กับไอศกรีมมันอยู่ในห้องนี่ก็จริงแต่มาเอาแล้วก็เดินไปเสิร์ฟไวๆ ได้ไหม ยืนยึกยืออยู่ได้ แต่พอหันมามองน้ำนิ่งก็ได้แต่อับอายตัวเองที่หงุดหงิดงุ่นง่านอยู่คนเดียว เพราะไอ้หมีมันไม่ได้สนใจอะไรเลยนอกจากเจ้าหนูยอดนักสืบในจอไอแพด ไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้างใดๆ ทั้งสิ้น
   “ง่วงยัง”
   “ง่วง”
   “อีกแปบหนึ่งเดี๋ยวก็ปิดร้านแล้ว หรือจะกลับก่อน บ้านข้างๆ นี่เองไม่หลงหรอก”
   “ไม่ได้กลัวหลง อยากอยู่ด้วย”
   ปากหวานจริง อยากหอมแก้มมันจัง แต่ตรงนี้สาธารณะมากทำไม่ได้ ผมส่งยิ้มให้ก่อนจะกลับมาคิดเงินต่อ สักพักร้านก็ปิดไอ้หมีเดินออกไปช่วยเก็บโต๊ะ ตอนแรกมันจะเข้าไปช่วยเก็บครัวแต่ผมห้ามไว้ คิดว่าไปตรงนั้นคงไม่ได้เรื่อง หลังจากบอกราตรีสวัสดิ์แม่เสร็จแล้วก็เข้ามาในบ้านหลังเดิม
   มูนพีชอยู่ในห้องที่จัดไว้ให้ พีชครองที่นอนคนเดียวเพราะมูนไม่กล้านอนกับพีช ผมเลยเอาผ้านวมหนาๆ มาปูให้นอน ไอ้หมีเห็นก็เอาด้วย กลายเป็นทั้งห้องมีแต่ผ้าปูเต็มไปหมดส่วนพีชก็นอนสบายๆ บนที่นอนคนเดียว พอผมเอาหมอนผ้าห่มของตัวเองขึ้นไปไว้บนที่นอนจะนอนกับพีช น้ำนิ่งมันก็กวาดลงมาข้างล่างหมด ทำอยู่ 3 - 4 รอบจนรู้ว่าความต้องการของมันคืออะไร มีปากก็ไม่พูดวุ้ย!
   “ไม่มีใครนอนกับเราเลย~ หินมาเร็วๆ~”
   ((ใครบอกว่ากูจะไป)) ไอ้พีชหน้างอแต่พวกผมพากันขำ พีชน้อยเอ้ยน่าสงสารจริง
   “จะไม่มาจริงอะ”
   ((เออ ไม่ว่าง))
   “ทำไม!?” พีชมันทำหน้าโหดแปบๆ ก็ยิ้มออกมา มูนที่โผล่เข้าไปดูในจอด้วยก็ทำหน้าเซ็งพลางบ่นอะไรสักอย่างไม่ทันฟังก็ต้องหันมาสนใจน้ำนิ่งที่จิ้มขาเรียกร้องความสนใจจากผมอยู่
   “นอน”
   “นอนไปดิ”
   “เปิ้ลด้วยสิ”
   “หายง่วงแล้วอะ”
   “งั้นมาทำกิจกรรมให้ง่วงกัน”
   “ทะลึ่ง! คนเยอะแยะ!!”
   “อะไรๆ ใครทะลึ่ง ใครทำไม หืม” พี่มูนและน้องพีชคนเสือกโผล่มาไม่ทันตั้งตัว ผมก็ได้แต่หุบปากฉับส่ายหัวรัวๆ พีชก็ขมวดคิ้วมองทั้งที่ยังถือโทรศัพท์ไว้อยู่ ส่วนไอ้หมีก็ยิ้มกริ่มผลักหัวเพื่อนไปทีหนึ่งบอกไม่มีอะไร ทั้งคู่ก็เลื้อยกลับไปที่ของตัวเอง
   “เปิ้ลนั่นแหละทะลึ่ง คิดอะไร เราหมายถึงนวด”
   “หะ”
   “ไหนบอกจะนวดให้”
   “อ๋อ เออ ที่หลังก็พูดให้มันจบดิ”
   “ฮ่าๆ ทะลึ่งวะเปิ้ล”
   “มึงนั่นแหละ! มาอยากนวดนักใช่ไหม นอนคว่ำเดี๋ยวนี้”
   คนตัวโตกว่านอนคว่ำตามที่บอกแต่ปากก็ยังไม่หยุดหัวเราะจนผมตีไปที่หลังของมันจนขึ้นรอยมือแดงถึงหุบปากนอนนิ่งๆ ให้ผมขึ้นไปนวด ไหล่หนาเนื้อแน่น ผิวสีแทนสม่ำเสมอทำเอาผมเผลอกลืนน้ำลายลงคอ มันฟิตแอนด์เฟิร์มขึ้นจริงๆ วุ้ย ดูแน่นกว่าเมื่อก่อนอีก ไม่อยากจะคิดถึงตอนเปิดเทอมว่าจะมีผู้หญิงที่ไหนมาติดพันมันอีกหรือเปล่า
   นวดได้สักพักก็ได้เสียงลมหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอของน้ำนิ่ง ทั้งบูมทั้งพีชต่างก็จมจ่ออยู่กับหน้าจอมือถือของตัวเองจนเสียงในห้องมันเงียบสงบไปตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ ผมอมยิ้มเล็กน้อยค่อยๆ เอนตัวลงช้าๆ ไม่ให้รบกวนการนอนของคนข้างล่าง
   “พี่แอปเปิลทำไมไม่มานอนสักที!!” แต่ดูเหมือนน้องชายมันจะเป็นพวกผ่าเหลาผ่ากอคนอื่นทำอีกอย่างมันทำอีกอย่าง สะดุ้งเลย! เด็กผมสะดุ้งเลย!! ขนาดคนที่นอนหลับเหมือนตายยังสะดุ้งขึ้นมาได้ก็คิดดูแล้วกันว่าน้องผมมันทำเสียงดังแค่ไหน
   “มึงเป็นเด็กสามขวบเหรอ ถึงนอนคนเดียวไม่ได้”
   น้องชายคนดีชะงักไปเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าผมเริ่มมีน้ำโห มันอึกๆ อักๆ แต่ก็ยังเข้ามาฉุดผมลุกขึ้นอยู่ดี แค่ตัวเอียงไปหน่อยหนึ่งข้อมืออีกข้างก็ถูกคว้าไว้อีก จะยืนจะลุกไม่แน่ใจตัดสินใจไม่ถูกถึงจะทำเป็นดุกับน้องแต่ผมก็รักไอ้พู่นะ อยากนอนด้วยเหมือนกันแหละ จะได้คุยเรื่องนั้นเรื่องนี้ในช่วงที่ไม่ได้เจอกัน แต่แหม.. ไอ้หมีก็คิดถึงไม่ได้เจอกันมาตั้งเกือบเดือน
   พีชมูนมองมาไม่ส่งเสียงเหมือนกำลังรอดูเรื่องสนุกๆ ไอ้พู่ออกแรงดึงมากขึ้น น้ำนิ่งที่ยังไม่ตื่นเต็มตาเท่าไรนักเงยหน้าขึ้นมามองงงๆ ลืมตาไม่ถึงครึ่งของลูกตาก่อนจะพึมพำเบาๆ ว่า “ฝันดีนะเปิ้ล”
   ไอ้น้ำนิ่ง!! นี่มันไม่คิดจะลุกขึ้นมาโวยให้ได้ผมมานอนกอดเลยหรือไง ที่ห่างกันนี่มันรู้สึกอะไรบ้างหรือเปล่าวะ อารมณ์เสีย เพื่อนก็ขำตอกย้ำไปอีก ไอ้น้องชายก็ลากไม่ปล่อย ผมตีหลังมันไปเพียะหนึ่งแก้โมโห มันเกาหยุกหยิกแต่ก็ไม่ได้ตื่นขึ้นมา เห็นอย่างนั้นผมเลยหยิบผ้าห่มขึ้นมาห่มให้มัน ถีบก้นไปอีกทีก่อนจะปล่อยตัวตามแรงดึงของไอ้พู่ไป
   “นอนเลยไหมพวกมึงอะ”
   “นอนเลย”
   “เออ งั้นปิดไฟนะ”
   “ฝันดีนะเปิ้ล” เหอะ เพื่อนเลว ทำเป็นบอก ‘ฝันดีนะเปิ้ล’ จะล้อกันน่ะสิ ขอเกลียดคำนี้สามวัน พอกลับมาห้องก็นอนคุยกับน้องชายต่ออีกหน่อยก่อนจะค่อยๆ พากันหลับไป
   



   เสียงไก่ขันดังแว่วๆ เข้ามาในหูรบกวนการนอนอันแสนสุข แต่ผมก็ยังไม่คิดจะลุก ขยับตัวถีบไอ้คนที่นอนข้างๆ ไปที เปลี่ยนท่า บิดขี้เกียจอีกหนึ่งทีแล้วหลับต่อจนกระทั้งแสงแดดยามเช้าแยงตาทำให้ผมยอมลุกจากที่นอน หัวเหอฟูไม่เป็นทรง คว้าแว่นตามาใส่เพิ่มความชัด ไอ้พู่ไปไหนไม่รู้เหลือแต่กองผ้าห่มให้พี่มันเก็บ
   นั่งระลึกชาติได้สักพักผมก็จำได้ว่าที่บ้านมีแขกมา เลยเดินเซๆ ไปล้างหน้าล้างตาแล้วไปดูที่ห้องนอนข้างๆ กัน พีชกับมูนยังนอนหลับอุตุอยู่บนที่นอนของตัวเอง แต่.. เห้ย ไอ้หมีหายไป!
   ไม่จริงอะ! คนอย่างไอ้หมีไม่มีทางตื่นเช้า นี่มันอเมซิ่งยิ่งกว่าหิมะตกในประเทศไทยซะอีก ลองออกไปดูข้างนอกรถยังอยู่ ลองไปส่องๆ ดูก็ไม่มีใครอยู่ข้างใน แล้วมันหายไปไหน? ผมตั้งใจว่าจะเดินไปถามแม่ก็พอดีได้ยินเสียงคนคุยกันมาจากตรงเล้าไก่
   เดี๋ยวนะ.. น้ำนิ่งมันคง.. ไม่ใช่ว่ามันจะไปจับไก่มากินนะ
   ผมค่อยๆ ย่องเข้าไปดู แอบหวาดกลัวอยู่ในใจว่าถ้าเจอพฤติกรรมสยดสยองของแฟนหนุ่มจะทำยังไงดี หมีจับไก่ ถลกขน ถลกหนังกินอย่างนี้ ผมจะทำใจรับไหวไหมนะ
   “นี่ไอ้หนุ่มทำดีๆ เดี๋ยวไก่ก็จิกตาบอด” เสียงพ่อนี่ กลับมาเมื่อไรละนั่น
   “ครับ พ่อตา”
   “ใครพ่อตาเอ็ง ยังไม่รับเว้ย!”
   “ครับๆ คุณลุง”
   “พ่ออย่าเสียงดังเดี๋ยวไก่ตื่น”
   “เออ โทษที เอ้า ไอ้หนุ่มกางมือดีๆ ค่อยๆ ต้อนมันเข้ามาใกล้ ตอนมันเข้ามาใกล้แล้วช้อนหน้าอกมัน อย่าดึงหางละ” ผมใช้พุ่มไม้เป็นที่กำบังแอบดูคนต้องสงสัย ไม่ใช่ใครที่ไหน พ่อ ไอ้พู่ และน้ำนิ่ง ทั้งสามอยู่ในเล้าไก่ รอบด้านมีสุ่มไก่อยู่หลายสุ่ม น้ำนิ่งกำลังกางมือต้อนไก่เข้ามาใกล้ มีพ่อคอยสั่งการข้างนอกพร้อมไอ้พู่ที่อุ้มไก่อยู่แล้วหนึ่งตัว ทำอะไรกันวะเนี่ย
   “ได้แล้วครับ พะ.. เฮ้ย คุณลุง”
   “ไม่เบานี่หว่าไอ้หนุ่ม เยี่ยมๆ” พ่อผมยิ้มภูมิใจลูบคางตัวเอง ไอ้พู่รีบกระแซะ
   “ไม่ได้นะพ่อ ชมมากเดี๋ยวเหลิง แค่จับไก่ใครก็ทำได้”
   “เออ นั่นสิ แค่นี้เองอย่ามายิ้มนะเว้ยไอ้หนุ่ม การจะมาเป็นเขยบ้านข้าต้องทำได้หลายอย่างจะมัวแต่กินๆ นอนๆ ไม่ได้ ปลูกผัก ทำสวน เลี้ยงปลา ถางหญ้า ทุกงานต้องทำได้ ที่สำคัญคือไก่ เอ็งต้องเลี้ยงมันให้ดี เพราะนี่ถือเป็นมรดกสืบทอดรุ่นสู่รุ่น ไอ้พู่มีแล้วไอ้เปิ้ลก็มีแต่มันคงดูแลได้ไม่ดี แค่สั่งให้มาให้อาหารมันยังบ่น เพราะอย่างนั้นเอ็งที่จะมาเป็นเขยต้องรับไป เข้าใจไหม ไอ้หนุ่ม”
   “ครับ พะ.. คุณลุง”
   จากที่เอาแต่จ้องไก่ในมือ ยกยิ้มน้อยๆ ไม่รู้มีความสุขที่ตรงไหน แต่พอได้ยินพ่อบอกแบบนั้นใบหน้าก็ขรึมขึ้น ตั้งท่าว่าจริงจังทั้งที่มืออุ้มไก่มันเลยดูตลกมากกว่า แต่ถึงจะตลกแต่ผมก็ทำได้แค่ขำเหอะเหอะในใจเพราะไอ้สิ่งที่พ่อพูดเมื่อครู่ทำเอาผมปวดหัวจี๊ดขึ้นมาทันที ไก่คือมรกดสืบทอด.. ตลกแล้วพ่อ ไก่ชนของพ่อมันกลายเป็นมรกดสืบทอดตั้งแต่เมื่อไรกัน
   ดูจากรูปการแล้ว ไม่ต้องถามก็สรุปได้เลยว่าน้ำนิ่งกำลังโดนพ่อแกล้งแน่ๆ และไอ้คนที่ให้ความร่วมมืออย่างดีก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ไอ้ชมพู่นั่นแหละ!






TBC.
8/10/17
กลับมาแล้ววว รอบนี้เดือนกว่า แฮะๆ ควรโดนตีสักที ขอโทษค่า T^T
คิดถึงทุกคนมากๆๆ
ช่วงนี้ฝนตกบ่อยๆ รักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ
แล้วพบกันตอนหน้าค่ะ 
พูดคุยทักทายกันได้ที่ @yeeun9424 นะคะ <3



หัวข้อ: Re: ●● Sleeping Bear and Apple's Trap ●● [17 #แอปเปิล - 08/10/17 ● P.4] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 08-10-2017 23:25:33
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ●● Sleeping Bear and Apple's Trap ●● [17 #แอปเปิล - 08/10/17 ● P.4] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 09-10-2017 01:51:15
ขำๆสบายๆมีความสุข
หัวข้อ: Re: ●● Sleeping Bear and Apple's Trap ●● [17 #แอปเปิล - 08/10/17 ● P.4] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 09-10-2017 09:11:35
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ●● Sleeping Bear and Apple's Trap ●● [17 #แอปเปิล - 08/10/17 ● P.4] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: Piima ที่ 09-10-2017 10:38:49
น้องพู่หวงพี่เหรอลูก
หัวข้อ: Re: ●● Sleeping Bear and Apple's Trap ●● [17 #แอปเปิล - 08/10/17 ● P.4] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: DraCo_SLa13 ที่ 13-10-2017 00:53:50
โถววว พ่อคุณ ไก่ในมือน่ะ อยากให้เปิ้ลหักคอมาทอดให้กินละสิ
หัวข้อ: Re: ●● Sleeping Bear and Apple's Trap ●● [17 #แอปเปิล - 08/10/17 ● P.4] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 13-10-2017 21:58:56
ตลกกก ไก่คือมรดก  :hao7:
หัวข้อ: Re: ●● Sleeping Bear and Apple's Trap ●● [17 #แอปเปิล - 08/10/17 ● P.4] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: Mayana ที่ 30-11-2017 08:50:44
 :m20:
หัวข้อ: Re: ●● Sleeping Bear and Apple's Trap ●● [18 #แอปเปิล - 23/12/17 ● P.4] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: YEEUN9424 ที่ 23-12-2017 22:02:01
Sleeping bear and Apple's Trap 18
#แอปเปิล



   “จับดีๆ อย่าลูบทวนขนละไอ้หนุ่ม ลูกห้าเสร็จแล้ว ลูกหกต่อได้เลย ถึงจะชื่อหกแต่มันน่ะที่หนึ่งของสนามเลยนะเฮ้ย ไม่เคยแพ้ ฮ่าๆ”
   พ่อนั่งบนเก้าอี้พลาสติกตัวเตี้ย ส่วนผมก็ปรากฏตัวตั้งแต่เมื่อครู่เพราะทนให้ไอ้หมีโดนรังแกอยู่คนเดียวไม่ไหวกำลังนั่งเท้าคางทั้งชุดนอนมองน้ำนิ่งอาบน้ำไก่ที่มีชื่อกากๆ ว่าห้าตามค่ำสั่งการของพ่อ พอเสร็จก็เป็นหกที่พู่มันถือ อีกคนอาบโดยใช้ผ้าชุบน้ำถูไปตามตัวไก่ อีกคนเอาไปเช็ดให้แห้ง ทำงานเข้าขากันดีนี่ก็สองตัวสุดท้ายแล้ว
   “พ่อ เมื่อไรจะเสร็จไปกินข้าวกันเถอะ”
   “เอ็งก็ไปสิ จะมานั่งหน้าขาวอยู่ทำไม”
   “น้ำนิ่ง ปะ”
   “เฮ้ย เอ็งไป ไอ้หนุ่มนี่อยู่ก่อน”
   “เอ้า! น้ำนิ่งมันหิวแล้ว ไอ้พู่ด้วย พ่อกินแล้วเหรอ”
   “เงียบๆ ลูกกูตกใจหมด” ชิ ผมมุ่ยหน้านั่งเท้าคางเหมือนเดิม ไอ้หมีก็เงียบไม่มีปากไม่มีเสียง นั่งเอาผ้าขนหนูเปียกน้ำถูไปตามตัวไก่อยู่นั่นแหละ
   “ไม่หิวเหรอ”
   “หิวอยู่ แต่เดี๋ยวก็เสร็จแล้ว รอก่อนนะ” มันยักคิ้วเท่ๆ ให้ผมทีหนึ่งแล้วก็หันไปสนใจไอ้หกตรงหน้าแทน ใบหน้ายังคงเปื้อนยิ้มดูมีความสุข คล้ายจะมีความรักใคร่ และความอ่อนโยน แฝงอยู่ทั้งที่เพิ่งเจอกันเมื่อไม่กี่นาทีก่อน
   อีกครึ่งชั่วโมงถัดมาน้ำนิ่งก็สวาปามไก่ชนิดลืมไปเลยว่าเคยสัมผัส และโอบอุ้มเจ้าหนึ่งถึงหกอย่างทะนุถนอมราวกับลูกแค่ไหน และด้วยความสงสัย ทั้งที่เด็กเมืองหลวงอย่างมันไม่น่าจะเคยจับไก่มาก่อนแต่กลับจับได้อย่างง่ายดาย แถมยังอาบน้ำเช็ดถูอย่างดีได้ยังไงกัน ไม่กลัวเลยเหรอ
   “คิดว่ากำลังจะจับมันเข้าปากเลยไม่กลัว” คำตอบของมันทำเอาผมต้องรีบไปไหว้พระไหว้เจ้า สวดภาวนาขอให้น้ำนิ่งอย่าได้คิดกินไก่สดๆ ขึ้นมาเลยเถิด สาธุ!




   “หา จะเอามันไปไร่ด้วย? พ่อ พอเถอะ มาเที่ยวนะ มาเที่ยว” เห็นลากน้ำนิ่งไปอาบน้ำให้ลูกๆ นึกว่าจะพาไปสนามชนไก่นี่ดันมาชวนไปไร่อีก นี่ยังไม่เลิกคิดเรื่องแกล้งไอ้หมีอีกหรือไง
   “มันเป็นแฟนเอ็งไม่ใช่หรือไง”
   “กะ.. ก็ใช่ แล้วมันเกี่ยวกันตรงไหนเล่า เค้าจะไปเที่ยวกัน”
   “จะมาเป็นเขยบ้านนี้ก็ต้องทำได้ทุกอย่างสิวะ” พะ.. พ่อ พูดอะไรเนี่ย ผมเขินหน้าแดง บอกตรงๆ อาย เพื่อนก็อยู่ แม่ก็อยู่ จู่ๆ มาพูดลูกขงๆ ลูกเขยๆ เหลือบมองน้ำนิ่งมันก็นั่งมึนเหมือนไม่สนใจ แต่ตัวยืดตรงดูเตรียมพร้อม มุ่งมั่นแบบแปลกๆ “แค่จับไก่ได้น่ะ ยังไม่พอหรอก บ้านนี้ยังมีสวนพืชผักผลไม้ มีน้ำมีปลาให้ดูแล คนที่จะมาเป็นเขยก็ต้องดูแลของพวกนี้ได้”
   “อย่างอื่นผมคิดว่าทำได้ แต่ไม่ทำอาหารนะครับ” ยังมีหน้าไปต่อรอง
   “เออ เรื่องอาหารช่างมัน ไอ้เปิ้ลมันทำได้ดีอยู่แล้ว” เอ้า นี่ก็บ้าจี้ให้อีก “แล้วจะไปไหม”
   “ไปครับ”
   “เดี๋ยวพ่อ เปิ้ลไปด้วย”
   “แล้วพวกเราละเปิ้ล” อะ เอ่อ.. ยังไงดี จะให้ผมทิ้งไอ้หมีไปกับพ่อกับไอ้พู่ก็ไม่ได้แฮะ กลัวโดนรุม แค่เมื่อเช้าก็รู้แล้วว่าคิดจะทำอะไรกัน แต่จะทิ้งเพื่อนไว้มันก็ดูจะเป็นเจ้าบ้านที่แย่มากๆ ไม่มีคนอื่นที่พอจะพาไปเที่ยวได้ด้วยสิ
   “ก็ไปกันหมดนี่เลยเป็นไงลูก สวนบ้านเรากว้างขวางไปเดินเล่น กินผลไม้สดๆ กันก็ได้”
   “เออนั่นสิ ไปไหม แต่ถ้าไม่..” อันที่จริงก็จะพาไปสวนของที่บ้านอยู่หรอก แต่ตามแพลนมันอยู่วันหลังๆ ไง บางทีมูนกับพีชอาจจะอยากไปที่อื่นมากกว่าก็ได้ ผมมองน้ำนิ่งอย่างขอโทษมันก็ส่ายหัวให้ พร้อมกับลูบหัวผมเหมือนกำลังบอกว่ามันเข้าใจว่าผมกำลังคิดอะไรอยู่
   “ไป!”
   “ไป? ไปใช่ไหม โอเค ไปเตรียมตัวเลย พ่อรอก่อนนะ”
   ผมรีบตอบรับ เพราะกลัวพวกมันจะเปลี่ยนใจ ด้วยเหตุนี้เราชาวคณะจึงพากันมาที่สวนผลไม้ของที่บ้านผมเอง มีมะม่วง เงาะ มังคุด และอื่นๆ มีคนงานอยู่ไม่น้อยเดินกันให้ทั่ว แถมยังมีพื้นที่ปลูกผักส่งขายด้วย
   ผมให้ลุงๆ คนงานพาเพื่อนไปเดินเล่นในสวน ส่วนตัวเองเกาะติดไอ้หมีเป็นเงาตามตัว ต่อให้พ่อจะไล่ยังไงก็ไม่ไป มันโดนพ่อสั่งให้ทำอะไรผมทำด้วย วอแวทุกทาง อะไรพอแบ่งเบาภาระมันได้ผมแบ่งหมด พ่อจ้องจนเลิกจ้องเพราะด่ายังไงผมก็ไม่ไป
   ผมเรียกมันมาเพราะอยากให้มาพักผ่อนไม่ได้ให้มาทำงานอะไรหนักๆ แบบนี้นะ!
   “เปิ้ลครับ เราทำได้ ไม่ต้องห่วงไปนั่งร่มๆ ให้กำลังใจใต้ต้นไม้เถอะ” มันพูดออกมาในที่สุด ผมนี่ชะงักเลย
   “รำคาญเหรอ” ผมเบะปาก 
   “เปล่า”
   “รู้ตัวไหมว่าโดนแกล้งอยู่” มันส่ายหัว หยุดถากหญ้าถางดินถอดถุงมือออก รั้งผมเข้าไปใกล้พร้อมกับที่มันก้มลงมา
   “กังวลอะไร จะแกล้งหรืออะไรก็ช่างเถอะ เราอยากทำให้เขารู้ว่าเรื่องพวกนี้เราทำได้ จริงๆ มันก็สนุกดี” ว่าพลางวาดยิ้ม แนบหน้าผากลงมาติดกัน ผมใจเต้นตึกๆ จมูกบานเพราะเขิน น้ำนิ่งหล่อมาก และบรรยากาศตอนนี้ก็ดีแสนดี แสงแดดร้อนแรง พาทำให้ความรักความอบอุ่น และรอยยิ้มเท่ๆ ยิ่งเจิดจ้าเข้าไปใหญ่ ดีนะพอเดินออกไปที่อื่นไม่อย่างนั้นคงโดนดีดตั้งแต่มันดึงผมเข้าหาแล้วละ “เข้าใจ?”
   “อือ อือ” ผมพยักหน้าหงึกหงักเหมือนต้องมนตร์
   “อย่างนั้นไปนั่งรอร่มๆ นะครับ”
   ยอมแล้ว~ ทูนหัวมีผัวเท่ทั้งกายทั้งใจแบบนี้ผมจะไปไหนรอด หลังจากนั้นผมก็มารอนั่งใต้ร่มไม้ ใช้เด็กไปซื้อน้ำหวานเย็นๆ มาให้พร้อมขนมนมเนย โบกพัดสบายใจเคลิ้มๆ จะหลับอยู่หลายรอบ แต่ก็ต้องถางตาให้เดี๋ยวมันจะหาว่าผมไม่ใส่ใจ น้ำนิ่งขุดๆ ถางๆ ลงปุ๋ย ลงดิน รดน้ำต้นไม้ทำนั่นทำนี่ไปตามที่พ่อชี้นิ้วสั่ง สักพักก็ทำท่าจะเดินไปไหนกันไม่รู้ ผมกำลังจะลุกตามไปพ่อก็ตะโกนห้ามมาแต่ไกล น้ำนิ่งก็โบกมือให้รออยู่ที่นี่ผมเลยยอมนั่งรอที่เดิม แล้วไอ้น้องชายสุดที่รักก็โผล่หัวมาหลังจากนั้นไม่นาน
   “เป็นไงละ โดนไล่”
   “เพราะมันเป็นห่วงกูไงละ มึงมาก็ดีละ มาให้กูตีสักทีซิไอ้น้องรัก” ไม่ต้องรอให้มันเข้ามาใกล้ตามคำสั่งเพราะมันไม่มาแน่ ผมสาวมือไปดึงหูมันแรงๆ “ไหนเล่าให้พี่ฟังหน่อยสิว่าพ่อคิดอะไรอยู่”
   “ผมจะไปรู้ได้ไงเล่า” ผมเพิ่มแรงเข้าไปอีก ตอบ ไม่ตอบมึงหูขาดแน่
   “พ่อเขาก็แค่อยากทดสอบว่าที่ลูกเขยเท่านั้นแหละ”
   “กับคนอื่นไม่เห็นทำ มึงไปพูดไรไว้ หะ”
   “เปล่าสักหน่อย โอ๊ย! เจ็บ! หูจะขาดแล้วเนี่ย” ผมเมินเฉยต่อเสียงร้องเหมือนหมูออกลูกของไอ้พู่ ทั้งบิดทั้งดึง จะเอาให้ยานยิ่งกว่าจมูกพิน็อคคิโอเลย คอยดู “บอกแล้วก็ได้ ยอมๆ เบาหน่อย” ผมผ่อนแรงลงเล็กน้อยจ้องหน้าจนมันอ้าปากพูด
   “ผมแค่บอกว่าแฟนพี่ดูไม่ได้ความ ไม่ได้เรื่อง ไม่น่าจะดูแลพี่ได้ เอาแต่นอนเป็นตัวขี้เกียจ โอ้ย! ยอมบอกแล้วก็เลิกดึงสักทีเด้!” ผมบีบแรงๆ ทิ้งท้ายก่อนปล่อยหูมันให้เป็นอิสระ
   “มึงนี่ยุ่งจริงๆ”
   “ก็มันจริง ซี้ด เจ็บชิบหาย แฟนหรือลูกเอาดีๆ ทำอะไรเป็นบ้าง จะดูแลพี่แน่ได้เหรอ หรือให้พี่ดูแลอย่างเดียว ถึงจะยังไม่ได้คิดว่าอนาคตจะเป็นยังไง แต่การคบกับคนที่มันไม่ได้เรื่อง ดูแลพี่ไม่ได้ มันก็เป็นแค่การใช้เวลาไปอย่างเสียเปล่าเท่านั้นแหละ”
   “....”
   “ใครมันจะอยากฝากลูกตัวเอง พี่ตัวเองไว้กับคนไม่ได้เรื่องละ” ไอ้พู่พูดขึ้นมาทำเอาผมยิ่งกระอัก อ้ำอึ้งพูดไม่ออก จะแก้ต่างให้ก็ไม่รู้จะหยิบยกตรงไหนบอกดี ผมไม่เคยคิดถึงเรื่องแบบนี้เลย ไม่เคยฉุดคิดว่าน้ำนิ่งที่ขี้เกียจแบบนี้จะดูแลเราได้เหรอ จะทำอะไรเพื่อเราได้บ้าง จะเอาแต่กินกับนอนไปถึงไหน แม้แต่จะคิดให้มันเปลี่ยนแปลงตัวเองบ้างก็ไม่เคย ผมแค่ชอบที่มันเป็นอย่างที่เป็นมาตลอด และก็ชอบที่ได้ดูแลมันก็เท่านั้น แต่ผมคงจะลืมไปว่าในสายตาของคนอื่นๆ โดยเฉพาะคนในครอบครัว เขาอาจจะไม่ได้รู้สึกดี รู้สึกมีความสุขเหมือนที่ผมรู้สึกด้วย
   “ผมถามหน่อย พี่เขาดูแลอะไรพี่บ้าง”
   “กะ.. ก็ดูแลในแบบของมันนั่นแหละ”
   “แล้วมันอะไรละ”
   “ตอนพี่ไม่สบายมันก็ดูแลได้” ถึงจะต้องไปรบกวนคนอื่นก็เถอะ แต่นั่นก็เพราะว่ามันก็มีใจเป็นห่วงผมจริงๆ ไม่ใช่เหรอ “เอ่อ.. แล้วก็..” แย่แล้ว ผมนึกอะไรไม่ออกเลย มันต้องมีมากกว่านี้สิ!
   “เออๆ มันชอบทำโอริกาเมะ? เฮ้ย โอริกามิ ที่มันเป็นการพับกระดาษ นั่นแหละ ชอบพับให้พี่”
   “นั่นเรียกดูแลเหรอ นั่นเรียกงานอดิเรกเหอะ พี่แยกดีๆ” ผมไหล่ตก หูหางลู่ รู้สึกแพ้หมดรูป คิดไม่ออกแล้วจริงๆ ในความทรงจำที่มีก็มีเพียงภาพที่มันชอบนอน กิน พับกระดาษ ทำงาน อ้อนผม ... แค่นี้เองเหรอ จะว่าไปแม้แต่ตอนที่ผมโดนข่มขู่มันก็.. “พี่ลองเอาไปคิดดูดีๆ นะ ก็ไม่ใช่ว่าอยากจะให้เลิกกันไปเลย แต่ผมอยากให้พี่เจอคนที่พร้อมดูแลพี่มากกว่านี้ก็แค่นั้น”
   “อือ”
   ไอ้พู่เดินออกไปแล้ว ใต้ต้นไม้จึงเหลือผมนั่งตกตะกอนความคิดอยู่เพียงลำพัง แสงแดดเริ่มอ่อนแสงลง เสียงของน้ำนิ่งดังขึ้นจากทางด้านหลัง ผมสะบัดหัวไล่ทุกความคิดออกไปแล้วหันไปยิ้มให้คนที่เดินเข้ามาพร้อมใบหน้าอ่อนแรง
   “ไปไหนมา นานจัง”
   “คุณลุงพาไปดูไร่ฝั่งนู่น อยู่ทำแปบหนึ่งก็โดนไล่มา”
   “ละ ไล่? ทำไมละ เกิดอะไรขึ้น”
   “ไม่รู้สิ เปิ้ลง่วง”
   “อะ มาๆ มานอนตักเรามา”
   “ง่วงมาก เหนื่อยด้วย” ผมหัวเราะเสียงแผ่ว ผมตบตักเรียกคนตัวโตให้ลงมานอน หน้าน้ำนิ่งดูเหนื่อย และอ่อนเพลียมากจริงๆ เมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็เข้าวันใหม่แล้ว แถมยังต้องตื่นเช้าลากยาวมาปานี้ ไม่ได้นอนกลางวันสักงีบ ไม่แปลกถ้าดูเหนื่อยได้ขนาดนี้
   น้ำนิ่งหนุนลงบนต้นขาของผม หันหน้าออกไปอีกทาง จับมือผมไปกุมไว้แล้ววางบนพื้นที่ระหว่างคอ และไหล่ของตัวเอง ผมใช้มืออีกข้างที่วางเอาทิชชู่เช็ดไปตามใบหน้าคมกร้านของน้ำนิ่ง มือที่เคยกระชับแน่นค่อยๆ คลายลง และเสียงลมหายก็ใจเริ่มคงที น้ำนิ่งคงหลับลึกแล้ว ผมเลยหยุดมือแล้วหยิบพัดมาพัดให้แทน




   เรากลับมาบ้านกันตอนเย็นๆ หอบผลไม้กลับมาเต็มกระบะรถคนแทบไม่มีที่ให้นั่ง วันนี้ร้านไม่เปิดผมเลยลอยตัวมานั่งเล่นนั่งกินกับเพื่อนได้อย่างสบายใจไร้กังวล
   “พี่เปิ้ลจ๋า”
   “น้องส้ม มาๆ”
   ผมเดินเข้าไปรับหลานตัวเล็กมานั่งตัก ปอกมะม่วงสุกให้กินเล่น น้องส้มยังอยู่ในชุดนักเรียนเอี๊ยมแดง ผูกผมแกะสองข้าง ปากเล็กพูดเจื้อยแจ้วเล่าเรื่องที่โรงเรียนไม่หยุด ผมที่มัวแต่ฟังหลานรักเงยหน้ามาอีกทีน้ำนิ่งก็มองน้องส้มไม่วางตา พอเห็นผมชะงักเด็กก็รู้ตัวเลยหยุดพูดแล้วจ้องตากับไอ้หมีตัวโต
   “พี่เขามองหนูทำไม” ยิ่งน้องทำท่ากลัวน้ำนิ่งก็ยิ่งยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ตาแทบไม่กะพริบ ไม่รู้จ้องอะไรนักหนา ไม่ใช่ว่าเห็นเป็นของกินหรอกนะ!
   “หมีๆ หมีมันชอบมองคนน่ารักๆ แบบนี้แหละ” ผมนึกสนุกเลยตอบไปแบบนี้
   “หมีจริงเหรอ หมีไรอ่า” ว่าพลางเอามือไปลูบแก้มคนตัวโตข้างหน้าแล้วยื่นหน้าไปหาน้ำนิ่งเผยรอยยิ้มเล็กๆ ออกมา แล้วตบหน้าตักตัวเองร้องเรียกให้น้องส้มเข้าไปนั่ง น้องหัวเราะคิกคักเหมือนเจอของถูกใจ แต่ผมก็ยังลังเลเล็กน้อยจนมันขยับเข้ามาใกล้ๆ เหมือนเร่ง น้องก็เอาแต่เรียกหมีๆ ผมก็ปล่อยให้น้องผมถลาเข้าไปหามันโดยไม่คิดอะไรอีก  พอน้องส้มไปนั่งบนตักมันแล้วก็เหมือนตุ๊กตาตัวเล็กกับหมีตัวโตไม่มีผิด   
   ไอ้หมีกับน้องส้มเข้ากันได้ดีเกินคาด ผมคิดว่าแปบๆ น้องน่าจะร้องกลับมาหาผมแต่ไม่เลย นั่งยาว ดูจะถูกใจมาก พูดไม่หยุด น้ำนิ่งก็ฟังอย่างตั้งใจ รอยยิ้มไม่เคยเลือนไปจากใบหน้าเลยสักวินาทีเดียว เดี๋ยวก็หยิบป้อนเด็กก็เช็ดมือให้ ลูบหัวลูบหางกระชับกอดไม่ปล่อย ผมที่นั่งปอกผลไม้อยู่ตรงข้ามก็ได้แต่บันทึกภาพน่ารักๆ นี่ไว้ในใจพร้อมกับข้อมูลใหม่ที่ว่าไอ้น้ำนิ่งมันชอบเด็ก!
   ผมทนไม่ไหวลุกไปหยิบมือถือมาถ่ายรูปเก็บไว้หลายภาพ เห็นภาพแบบนี้แล้วบอกเลยว่าใจสั่นใบหน้าตอนมันยิ้มนี่รอยยิ้มคุณพ่อที่แสนใจดีชัดๆ 
   “น้องส้ม!”
   “น้าปุ้ย มากินผลไม้กันเปิ้ลไปเก็บมาจากสวนเลยนะ”
   “กินเลยลูกๆ น้องส้มไปทำการบ้านก่อน”
   “ส้มยังไม่อยากกลับอ่า” น้องส้มเริ่มงอแงนิดๆ ลุกขึ้นกอดคอไอ้หมีแน่น “พี่หมีสอนส้มทำการบ้านนะคะๆ”
   “ได้ๆ น้องส้มทำที่นี่ พี่สอนเอง เอ่อ..”
   “น้าปุ้ยเดี๋ยวหนูกับเพื่อนสอนน้องทำการบ้านเองนะ” ผมแทรกขึ้นเมื่อเห็นสายตาขอความช่วยเหลือจากน้ำนิ่ง มันยิ้มแฉ่ง น้องส้มก็หน้าบานพยักหน้าเห็นด้วยหงึกหงัก
   “เอาอย่างนั้นเหรอลูก ถ้าอย่างนั้นน้องส้มมาเอากระเป๋าเร็ว”
   “เปิ้ลไปเอาให้จ้า” เป็นผมที่ต้องลุกเพราะทั้งหลานทั้งแฟนกันมามองหน้าผมเป็นตาเดียวกัน ในสายตานั้นมีอะไรแฝงอยู่ ประมาณว่า ‘เปิ้ล/พี่เปิ้ลไปเอาให้หน่อย’ ก็รู้สึกดีที่สองคนสนิทกันได้ไว แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกว่าตัวเองถึงความเป็นขี้ข้าของตัวเองหน่อยๆ
   ผมเดินไปเอากระเป๋าของน้องกลับมาก็มีโต๊ะญี่ปุ่นตั้งรอแล้ว การบ้านเด็กอนุบาลไม่มีอะไรยากแต่ลำบากตอนต้องมานั่งอธิบายให้เด็กฟังนี่แหละ แต่น้ำนิ่งก็ทำได้ดี ไม่คิดว่ามันจะมีน้ำอดน้ำทนแถมยังอธิบายในฟังด้วยภาษาแบบเด็กๆ ด้วย ก่อนจะปิดสมุดก็วางรูปส่งท้ายให้อีก พอได้เห็นฝีมือวาดภาพของหมีแล้วน้องส้มก็ยิ่งตื่นเต้นบอกให้มันวาดเยอะๆ แล้วตัวเองจะระบายสี น้องให้วาดอะไรมันก็ทำวาดให้หมด ไอ้พีชกับไอ้มูนก็เข้ามาร่วมแจมด้วยจนทั้งห้องเต็มไปด้วยกระดาษ สักพักน้าปุ้ยก็มาตามคราวนี้ไม่ไปไม่ได้เพราะมันได้เวลานอนของเด็กแล้ว ก่อนน้องส้มจะไปน้ำนิ่งก็เอากระดาษที่ไม่ใช่แล้วมาพับโอริกามิให้ คราวนี้น้องเลยงอแงจะอยู่ต่อให้น้ำนิ่งสอนกระดาษ
   “น้องส้มได้เวลานอนแล้วนะลูก”
   “แต่หนูอยากอยู่พับกระดาษกับพี่หมี” น้ำนิ่งทำหน้ากระอักกระอ่วนเพราะมันแท้ๆ น้องเลยงอแงไม่ยอมไปอาบน้ำนอน
   “พรุ่งนี้นะส้ม พี่หมียังอยู่อีกหลายวัน” น้องยังลังเลง่วงก็ง่วงเพราะหาวออกมาหลายทีแต่ก็กลัวจะไม่ได้เล่น น้ำนิ่งยื่นมือออกไปลูบหัวเล็กๆ วางไปทีคือคลุมได้ครึ่งหัว ปลอบโยนเสียงอ่อน
   “พรุ่งนี้ค่อยมาเล่นกับพี่นะ ไม่หายไปไหนหรอก”
   “จริงนะ”
   “ครับ ฝันดี เด็กน้อย”
   จังหวะที่มันเอนไปจุมพิตเบาๆ บนหน้าผากน้องส้มเล่นเอาทั้งห้องเงียบกริบ อยู่สามวิน้องส้มก็หัวเราะเอิ๊กอ๊ากกระโดดหอมแก้มน้ำนิ่งไปทีจนถึงตอนนั้นทุกคนค่อยได้สติกลับมา น้าปุ้ยอุ้มน้องขึ้นแล้วบอกฝันดีก่อนจะเดินออกไปส่วนผมกับพวกที่เหลือรัวมือใส่มันไม่ยั้ง
   “เฮ้ย อะไร ตีทำไมเนี่ย”
   “มึงจะพรากผู้เยาว์เหรอ”
   “ไอ้น้ำนิ่ง ไอ้เหี้ย ไอ้หื่น กับเด็กอนุบาลก็ไม่เว้น”
   “น้ำนิ่ง.. เราจะฟ้องลูกหิน”
   “พอ.. พอ! เอ็นดูเว้ย! เอ็นดู”
   “ไอ้นี่นิ มึงเห็นไหมว่าแม่เขาตกใจแค่ไหน”
   “กูแค่เอ็นดูน้อง เปิ้ล~~” เถียงกับเพื่อนพร้อมตบหัวคืนเสร็จก็หันมาอ้อนผมที่ตีหน้าขรึมอยู่ “เราไม่ได้คิดอะไรแบบนั้น จริงๆ เปิ้ลครับ”
   “ลูกหินจะต้องร้องไห้ที่มีเพื่อนแบบนี้” พีชยังไม่เลิกพร่ำ มูนก็ยังพยายามจะเข้ามาเตะน้ำนิ่ง
   “พอเห้อ ขอร้องละ” น้ำนิ่งพูดออกมาอย่างอ้อนวอนแล้วผม กับคนอื่นๆ ก็หลุดหัวเราะออกมา พอรู้ว่าตัวเองโดนแกล้งน้ำนิ่งก็กระโดดถีบเพื่อนตัวเองจนล้มคว่ำ ผลักไล่พีชเบาๆ พอให้อีกฝ่ายล้มตึง ผมหมั่นไส้เลยตีปากมันไปที มันงงๆ ร้อง “เอ้า” แล้วก็เข้ามาช่วยผมเก็บของที่เกลื่อนกลาดอยู่บนพื้น
   “ปากไวนักนะ” ผมบ่น น้ำนิ่งพลางกระแซะออดอ้อนไม่หยุด
   “เอ็นดูๆ น้องน่ารัก”
   จริงๆ ก็แค่แกล้งมันเท่านั้นแหละ แต่ก็ยอมรับว่าตกใจอยู่เหมือนกัน ตกใจที่มันจุ๊บเหม่งของเด็กน้อยได้ละมุนละไมขนาดนั้น แค่เห็นยังรู้สึกอบอุ่นเลย ผมอมยิ้มให้น้ำนิ่งรู้ว่าผมไม่ได้โกรธอะไร แล้วมันก็หอมแก้มผมรัวๆ โดยไม่เกรงใจสายตาใคร
   “อะ.. พอเห็นว่าอยู่กับเพื่อนก็ไม่เกรงใจกันเล้ย”
   “นิสัยเสียทั้งคู่เล้ย”




   ตอนเช้าผมปลุกทุกคนมาทำบุญใส่บาตรด้วยกัน รับศีลรับพรสักหน่อยก่อนจะกลับเข้าไปนอนกันต่อ วันนี้ไม่มีใครมาลากน้ำนิ่งไปแกล้งเลยพากันนอนจนตะวันลอยเด่นอยู่กลางฟ้า เราหอบท้องไปกินอาหารกลางวันกันที่เขาพระตำหนักซึ่งเป็นจุดชมวิวประจำเมือง ต่อด้วยฟาร์มแกะ แล้วไปตลาดน้ำ เรียกว่าวนรอบเมืองเลย อยู่มาหลายวันเพิ่งจะได้เที่ยวกันอย่างจริงจังเลยจัดเต็มจัดหนักจนถึงเย็น ผมนี่ขับรถจนปวดตัว ไอ้หมีก็ดูเอ็นจอยกับการเที่ยวมากแต่พอขึ้นรถได้ก็หลับลูกเดียว พอกลับมาบ้านก็โดนพ่อลากไปไร่ต่อ มีมูนติดสอยห้อยตามไปด้วย ส่วนผมก็อยู่ช่วยแม่ที่ร้านกับพีช
   ร้านอาหารของเราคนก็ยังเยอะเหมือนเดิมพนักงานเดินกันแทบไม่ได้หยุดส่วนผมก็คิดเงินจนหัวหมุนบางทีก็ยกหน้าที่คิดเงินให้พีชแล้วตัวเองก็เข้าไปช่วยแม่ทำอาหารเพราะทำไม่ทัน หลังจากที่น้ำนิ่งกับมูนกลับมาพวกเราก็มานั่งกินข้าวด้วยกัน ผมไล่เพื่อนไปนอนเล่นในบ้านหลังจากกินเสร็จ น้ำนิ่งทำท่าจะอยู่กับผมแต่พอน้องส้มมาหามันก็อุ้มน้องกลับไปเล่นในบ้าน ดีแล้วละนะ เพราะมันก็ดูเหนื่อยๆ เข้าไปนั่งตากแอร์เย็นๆ เล่นกับน้องดีกว่า
   ช่วงสี่ห้าทุ่มคนเริ่มซาลงแล้ว ร้านข้าวต้มรอบดึกที่เช่าที่หน้าร้านไว้ก็มาเตรียมตัวเปิดร้านต่อ ผมตั้งใจจะกินข้าวต้มเป็นมื้อดึกก่อนเข้านอน ในตอนที่คิดว่าจะลุกไปชวนคนอื่นๆ มากินด้วยผมก็ต้องชะงักงันเมื่อหันไปพบกับชายหนุ่มที่เคยคุ้นตาในอดีตกำลังยืนส่งยิ้มมาให้
   “พี่นัท”








TBC.
23/12/17
กลับมาแล้วค่า นานแสนนาน นานมากจริงๆ ขอโทษนะคะ วันนี้จองบัตรเอสเจแล้วเราสัญญากับตัวเองว่าถ้าได้บัตรจะลงนิยาย! แล้วก็ได้จริงๆ ดีใจมากๆ เลยค่ะ แต่จริงๆ แต่ให้ไม่ได้ก็ว่าจะลงอยู่ดี คือมันนานมากแล้วจริงๆ ขอโทษนะคะ ㅠㅠ อีกนิดนี่อาจจะโดนย้ายไปอีกห้องแน่เลยค่ะ 5555
ตอนนี้เรากำลังหางานหลังจากเรียนจบก็เลยอยู่ในสถานะบัณฑิตว่างงาน ก็จะพยายามใช้เวลาว่างๆ ช่วงนี้แต่งให้ได้บ่อยๆ นะคะ ฮืออออ คล้ายๆ ว่าจะครบปีแล้ว เนื้อเรื่องก็ได้เกือบครึ่งแล้วนา ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะได้จบก่อนครึ่งปีหน้า เผื่อจะได้แต่งเรื่องใหม่สักที 5555 ยังไงก็ฝากติดตามกันต่อไปด้วยนะคะ
ขอบคุณทุกๆ คนมากค่ะ
Love Love
หัวข้อ: Re: ●● Sleeping Bear and Apple's Trap ●● [18 #แอปเปิล - 23/12/17 ● P.4] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 24-12-2017 03:20:00
 :heaven
หัวข้อ: Re: ●● Sleeping Bear and Apple's Trap ●● [18 #แอปเปิล - 23/12/17 ● P.4] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 24-12-2017 09:17:59
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ●● Sleeping Bear and Apple's Trap ●● [18 #แอปเปิล - 23/12/17 ● P.4] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 25-12-2017 04:22:31
ขอบคุณที่มาต่อจ้า
หัวข้อ: Re: ●● Sleeping Bear and Apple's Trap ●● [19 #น้ำนิง - 18/04/18 ● P.4] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: YEEUN9424 ที่ 18-04-2018 20:32:13
Sleeping bear and Apple's Trap 19
#น้ำนิ่ง




   “ส้มอยากพับแมวเยอะๆ”
   “ครับๆ เอากี่ตัวดี”
   “สี่ตัวค่า แมวหนู แมวแม่ แมวพี่เปิ้ล แมวหมี”
   “แมวหมี.. ฮ่าๆ แค่คิดก็สยอง” เสียงไอ้มูนดังขัดเสียงหวานๆ ของน้อง ทำเอาตีนผมกระตุกถีบหลังมันไปที
   “มึงจะขัดน้องทำไม”
   “อย่าพูดขำหยาบต่อหน้าเด็กสิ น้ำนิ่งกับมูนนี่ไม่ได้เรื่องเลย” พีชแทรกขึ้นมา ผมกับเพื่อนรักเลยทำได้แค่แยกเขี้ยวใส่กันแล้วต่างคนก็หันไปสนใจกิจกรรมของตัวเองต่อ
   “อย่าเลียนแบบพี่นะ”
   “ค่ะ ส้มไม่ทำแบบนั้นหรอก เดี๋ยวแม่ตี”
   “ดีมากครับ” พอได้ลูบหัวนุ่มๆ ของเด็กน้อยแล้วหัวใจของผมก็รู้สึกเต็มอิ่มจนแทบจะล้นออกมา อธิบายไม่ถูกว่าความรู้สึกแบบนี้คืออะไร สิ่งมีชีวิตตัวน้อยๆ ที่กำลังเติบโต จะมองมุมไหนก็น่าบีบน่าจับไปหมด เห็นแล้วอยากพากลับบ้าน
   



   ผมสอนน้องส้มพับสารพัดสัตว์จนแทบจะสร้างสวนสัตว์กระดาษได้ เกือบจะลุกไปถามเปิ้ลแล้วว่ามีพวกเครื่องมือ กับไม้หรือเปล่าจะเอามาทำสวนสัตว์จำลองให้ครบเลยไปเลย แต่แม่น้องก็เข้ามาพาลูกสาวไปนอนซะก่อน พอเพื่อนเล่นไปแล้วผมก็ไม่มีอะไรทำเลยได้แต่นอนเอกเขนกดูไอ้มูนเล่นเกม พีชก็วิ่งเข้าวิ่งออก เดี๋ยวเอาขนม เดี๋ยวผลไม้มาให้ ไม่ต้องถามก็รู้ว่ามาจากใคร
   คิดถึงคนที่ช่วยแม่ทำงานอยู่ด้านนอก ผมอยากออกไปหาแต่ก็กลัวว่าจะไปกวนมากกว่า เลยได้แต่หยิบผลไม้ที่เปิ้ลปอกเข้าปากไม่หยุด ระหว่างนอนดูเพลินๆ ผมก็เผลอหลับไป
   ตื่นมาอีกทีก็เที่ยงคืนเข้าไปแล้ว ทั้งพีชทั้งมูนนอนเล่นมือถืออยู่คนละมุม มองซ้ายมองขวาไม่เจอคนที่อยากเจอเลยลุกไปดูตามห้องต่างๆ ก็ไม่เจอใคร กำลังจะเอ่ยปากถามประตูก็เปิดขึ้นแต่คนที่มาก็ยังไม่ใช่เปิ้ลอยู่ดี
   “มีใครจะกินข้าวต้มไหม”
   “ข้าวต้มลุงชัยเหรอ”
   “อือ พี่พีชกินเปล่า”
   “กิน! แล้วเปิ้ลล่ะ กินอยู่เหรอ” แอบยกนิ้วโป้งให้พีชในใจ ขอบคุณที่ถามในสิ่งที่อยากรู้อย่างกับเข้ามานั่งกลางใจอย่างนั้นแหละ ผมเฝ้ารอคำตอบไอ้น้องชายก็ทำอ้ำอึ้ง เดี๋ยวมองผม เดี๋ยวเอ่ออ่าเหมือนคนไม่รู้วิธีพูดขึ้นมาซะอย่างนั้น
   “อ่า.. เอ่อ.. ก็กินอยู่”
   “งั้นออกไปกัน ปะ น้ำนิ่ง! มูน!” พอพวกผมขยับตัวลุกขึ้นไอ้น้องชายกลับกางแขนไม่ให้
   “พวกพี่รออยู่นี่แหละ เดี๋ยวผมเอามาให้”
   “ลำบากทำไม เดี๋ยวออกไปกินข้างนอกกับเปิ้ลไง”
   “เอ่อ.. คือ.. พี่เปิ้ลอะ เขา..”
   “เปิ้ลทำไม” ในที่สุดผมก็เปิดปาก มันทำไมวะ กูจะออกไปกินกับแฟนเนี่ย! แอบเห็นว่าไอ้น้องชายมองผมตาขวางติดจะรำคาญนิดๆ
   “พี่เปิ้ลคุยกับแฟนเก่าอยู่ พวกพี่ไม่ต้องไปกวนเลย”
   อ้าว ไอ้ชิบหาย!
   ผมถึงกับไปไม่เป็น คือแฟนเก่าเปิ้ลมาหาแล้วกูต้องหลบอยู่เฉยๆ อย่างที่ไอ้น้องชายว่าเหรอวะ ผมหันไปมองพีชกับมูนอย่างขอความช่วยเหลือ
   “ฮะๆ น้องตลกแล้ว แฟนคนปัจจุบันมันอยู่นี่จะให้มานั่งรอเฉยๆ แบบนี้ได้ไง” พูดได้ดีเพื่อนรัก
   “หรือพี่ไม่ไว้ใจพี่ผม” ไอ้น้องชายหันมาพูดกับผม แม้ว่าผมจะเห็นน้องมันเต็มตาแต่ก็หวังว่าใบหน้าที่อีกฝ่ายมองเห็นจะไม่ติดง่วงงุนเหมือนคนง่วงนอนหรอกนะ เราจ้องตากันอย่างไม่มีใครยอมใคร รู้อยู่ว่าท่าทีของน้องแฟนมันออกจะต่อต้านผมอยู่หน่อยๆ แต่ตอนนี้รู้แล้วว่าไม่หน่อย นี่มันมากทีเดียว เหี้ยเถอะ ให้ผมรอแฟนนั่งคุยกับแฟนเก่าอยู่ในบ้าน ใครยอมก็บ้าแล้ว
   ผมไม่ได้สนใจไอ้น้องชายอีก ลุกขึ้นเต็มแรงมีเซนิดหน่อย แต่ยังไม่ทันจะได้เดินประตูก็ถูกเปิดอีกครั้ง ผมอมยิ้มคราวนี้เปิ้ลแน่ๆ แต่แล้วผมก็ต้องผิดหวังห่อเหี่ยวเป็นต้นไม้ขาดน้ำเพราะคนที่เข้ามาคือคุณแม่ของเปิ้ลที่ยกถาดอาหารที่มีชามข้าวหอมกรุ่นเข้ามาสี่ชาม
   “มื้อดึกสักหน่อยนะลูก”
   “เอ่อ.. แม่ เปิ้ลทำอะไรอยู่เหรอ” เป็นอีกครั้งที่พีชรู้ใจผม คุณแม่ยังคงยิ้มหวาน ชี้ให้ลูกชายกางโต๊ะญี่ปุ่นออกก่อนจะวางถาดลง หอม..
“เปิ้ลคุยกับพี่นัทอยู่ลูก หรือพวกเราอยากออกไปกินข้างนอกกับเปิ้ล? แต่แม่กลัวจะกวนสองคนนั้นเขาคุยกัน กินในนี้   แหละเนอะ เดี๋ยวเปิ้ลก็มา”
   ผมอยากตะโกนออกมาดังๆ ว่า WTF!! เหมือนแม่แค่พูดอมยิ้ม ถามไถ่แล้วออกความเห็นแต่ผมกลับรู้สึกว่ามันเป็นคำสั่ง
   แม่ครับ.. นี่ผมเอง น้ำนิ่งแฟนของเปิ้ลไง




   ถึงข้าวต้มรอบดึกจะหอมกรุ่น อร่อยกลมกล่อมแค่ไหนก็ไม่ทำให้ใจของผมชุ่มชื่นขึ้นมาได้ ถูกกีดกันและกักขังด้วยของกินอย่างไม่เต็มใจ ผมตักข้าวต้มเข้าปากอย่างรวดเร็ว ไม่สนว่ามันจะลวกลิ้นหรืออะไร ตอนนี้ใจผมมันออกไปอยู่ข้างนอกเรียบร้อยแล้ว อยากจะเห็นหน้าแฟนเก่าของเปิ้ลนัก อยากจะรู้ว่าดูดี สุภาพบุรุษ น่าเชื่อถือ น่าชื่นชม เหมาะสมกับเปิ้ลสักแค่ไหน
   ถามว่าผมรู้ข้อมูลพวกนั้นได้ยังไงเหรอ? ก็ไอ้น้องชายนี่ไง พูดไม่หยุดปาก ทั้งโต๊ะมีมันพูดอยู่คนเดียว พี่นัทดีอย่างนั้น สุภาพบุรุษอย่างนี้ ตอนคบกันใครๆ ก็ว่าเหมาะสมกันอย่างกับกิ่งทองใบหยก ไม่มีใครขัดขวางสักคน มีแต่คนเชียร์ให้รักกันไปนานๆ .... พูดกรอกหูจนผมอยากจะเอาข้าวต้มกรอกใส่หูไอ้น้องชายคืนบ้าง
   “พี่นัทกับพี่เปิ้ลเหมาะสมกันมาก อีกคนก็น่ารัก อีกคนก็พึ่งพาได้ ไม่เหมือนคนบางคน..”
   ก็พอจะรู้ตัวอยู่ว่าไอ้น้องชายมันไม่ค่อยจะชอบหน้าผมสักเท่าไร... แต่มึงไม่ต้องย้ำบ่อยก็ได้ ใจกูบางยิ่งกว่าหมูสไลด์แล้วตอนนี้ คำพูดของมันทำให้ผมนึกไปถึงเรื่องเมื่อวันก่อนที่สวน เหตุการณ์หลังจากที่พ่อตาไล่ผมกลับมาหาเปิ้ล..
   “ใครมันจะอยากฝากลูกตัวเอง พี่ตัวเองไว้กับคนไม่ได้เรื่องละ”
   “พี่ลองเอาไปคิดดูดีๆ นะ ก็ไม่ใช่ว่าอยากจะให้เลิกกันไปเลย แต่ผมอยากให้พี่เจอคนที่พร้อมดูแลพี่มากกว่านี้ก็แค่นั้น”
   คำพูดพวกนั้นทำเอาผมสะอึก แม้ว่าผมไม่อยากจะยอมรับแต่เชื่อเถอะว่าตอนนี้ในหัวของผมมีแต่คำว่า ‘มึงมันไม่ได้เรื่อง ดูแลใครไม่ได้’ ยิ่งเห็นเปิ้ลไม่สามารถโต้อะไรกลับไปได้มันก็ยิ่งตอกย้ำว่าทุกอย่างคือความจริง
   ไม่แปลกที่ไอ้น้องชายจะไม่ชอบผม บางทีอาจจะรวมไปถึงแม่ของเปิ้ลด้วย..
   “มาแล้วจ้า นิ่งกินข้าวต้มยัง”
   เสียงใสของเปิ้ลดึงผมออกจากหลุมดำ รู้สึกเหมือนเทพีมาโปรด ใบหน้าหวานใสประดับด้วยรอยยิ้มพุ่งตรงมาหาผม พอเห็นว่าข้าวในชามยังเหลือก็แย่งช้อนมาตักป้อนผมทันที ผมอ้าปากรับอย่างเป็นสุข ความทุกข์ใจเมื่อครู่สลายหายไปสิ้น แต่พอเหลือบไปเห็นสีหน้าของไอ้น้องชาย และแม่เปิ้ลแล้วหน้าผมก็เหมือนกับถูกย่อส่วนลงไปจนเหลือสองนิ้ว เอาช้อนคืนมากินเองแล้วขยับเข้าไปชิดๆ เปิ้ลแทน
   “พี่นัทกลับแล้วเหรอลูก”
   “อือ กลับแล้ว นึกว่าแม่ไปนอนแล้วนะเนี่ย”
   “แม่เอาข้าวต้มมาให้เด็กๆ น่ะ จะไปนอนแล้วละลูก” พอแม่เปิ้ลเดินออกไปผมถึงได้หายใจคล่องหน่อย แต่หน้าก็ยังบานมากไม่ได้เพราะไอ้น้องชายยังอยู่
   “พี่คุยอะไรกับพี่นัท จะรีเทิร์นปะ”
   “พูดอะไรของมึง ไปนอนไป”
   “ตอบมาก่อน จะคืนดีกันเปล่า จะคืนดีกันไหม”
   เปิ้ลขมวดคิ้วยุ่งก่อนจะโบกเข้าไปที่หัวน้องชายตัวเองแรงๆ หนึ่งที ทำเอาพวกผมสามคนครางออกมาพร้อมกัน เพราะน้ำหนักมือของเปิ้ลแรงจนไอ้น้องชายหน้าทิ่มโต๊ะ
   “พูดไม่รู้เรื่อง คืนดงคืนดีอะไร แฟนกูอยู่นี่!”
   “อูยยย พี่ก็เล..”
   “เอ๊ะๆ จะพูดอะไรคิดดีๆ นะ รอบนี้ปากแหกเลยนะ” ไอ้น้องชายถึงกับอ้าปากเหวอตาค้างไปไม่เป็น อ้าปากพะงาบๆ ไร้เสียง เหมือนเจอผีหลอกก่อนจะลุกวิ่งหนีไป
   “โหดร้ายมากเปิ้ล”
   “ก็ไอ้พู่มันพูดไม่รู้เรื่อง”
   “แล้วคนที่ชื่อพี่นัทนี่แฟนเก่าเปิ้ลจริงๆ เหรอ” ไอ้มูนถามในสิ่งที่หลายๆ คนอยากรู้
   “จริง”
   “ทำไมเราไม่เคยรู้” พีชครางงุงงิ้งแทรกผมที่กำลังจะขยับปากพูดประโยคเดียวกัน ทุกคนหันไปมองพีช พร้อมกับส่งสายตาเอือมๆ ให้อย่างพร้อมเพรียง
   “คบกันตั้งแต่ม.ปลาย เลิกกันตอนเราขึ้นมหาลัยพอดี”
   “เลิกกันด้วยดีเหรอ”
   “อือ พี่เขาเรียนอีกที่ เราเรียนอีกที ต่างฝ่ายก็ไม่แฮปปี้กับการที่จะอยู่ไกลกันก็เลยลดความสัมพันธ์เหลือแค่พี่น้อง” เปิ้ลอธิบายยาวเหยียด พร้อมกับมองหน้าผมไปด้วย เมื่อไม่มีใครพูดอะไรขึ้นมา เปิ้ลก็พูดต่อ “แต่ก็.. ไม่ได้คิดจะกลับไปนะ เป็นพี่น้องที่ดีต่อกัน เบองร์ทงเบอร์โทรมีก็จริง แต่ไม่เคยติดต่อ นานๆ คุยที เนี่ยเพิ่งจะได้คุยจริงๆ จังๆ ในรอบสามปี ไม่มีอะไรจริงๆ”
   ถ้าผมไม่เข้าข้างตัวเองจนเกินไป ผมคิดว่าตอนนี้เปิ้ลกำลังอธิบายให้ผมฟังอยู่
   “โอเคๆ เราก็ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย อย่าให้เห็นว่าทำอะไรลับหลังนะ” พีช..
   “อะไรของมึงพีช เป็นแฟนกูหรือไง” ในที่สุดเปิ้ลก็ทนไม่ไหวจัดการเพื่อนตัวเองไปอีกที
   “แสร้งเป็นน้ำนิ่ง” ทุกคนก็หัวเราะออกมาพร้อมๆ กัน ผมเองก็พลอยยิ้มออกมาได้
   “อย่าคิดอะไรเพี้ยนๆ เชียวนะ”
   “อื้อ ไม่คิด” ว่าพลางซุกหน้าลงกับไหล่บางๆ ของเปิ้ล รู้สึกโล่งเมื่อได้ฟังคำอธิบายจากเจ้าตัว ในอดีตก็คืออดีต ผมไม่คิดจะเอามาทำให้เรื่องปัจจุบันต้องมัวหมอง ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็ปล่อยให้มันเป็นไป เพราะผมก็เป็นของผมแบบนี้




   หลังจากที่เที่ยวกันจนจะทั่วจังหวัดในที่สุดก็ได้เวลากลับไปทำหน้าที่นักศึกษาสักที แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ง่ายเพราะคุณพ่อตายังอยากพาพวกเราเที่ยวอยู่
   “หา จะเอามันไปสนามชนไก่ด้วย? พ่อ พอเถอะ จะกลับแล้ว”
   “อะไร อยู่ต่ออีกหน่อยสิ พาไปเที่ยวที่สนามชนไก่ก่อน”
   เออ น่าสน สนามชนไก่.. เปิ้ลล็อคแขนผมไว้แน่น เพราะผมทำท่าจะลุกตามคุณพ่อตาไปจริงๆ
   “น่าสน!” ไอ้มูนดี๊ด๊า ตีปีกพับๆ
   “ใช่มั้ยละ ไอ้หนุ่มหน้ามน ไป ไปเตรียมตัว ค่อยกลับวันอื่น”
   “พอได้แล้วน่า ตาลุง” ผมชะงักเมื่อคุณแม่พูดขึ้น เหลือบมองผู้หญิงวัยกลางคนที่มีรอยยิ้มประดับอยู่บนใบหน้าเสมอ แล้วก็ได้แต่ตัวลีบอยู่ข้างๆ คนรัก
   หลังจากวันที่แฟนเก่าเปิ้ลมา แม่ก็ไม่ได้พูดอะไรทำนองนั้นกับผมอีก ไม่ได้แสดงออกว่าไม่ชอบผมชัดเจนเหมือนไอ้น้องชาย แต่ก็ไม่ให้ความสนิทสนมเหมือนที่คุณพ่อตาทำ
“อะไรเล่าแม่ พ่อจะพาเด็กๆ ไปเที่ยว”
   “เด็กๆ จะกลับแล้ว อีกอย่างจะไปสนามชนไก่ทำไม มีแต่ลุงๆ คนแก่ๆ”
   “แม่นี่ไม่รู้อะไร ให้เด็กมันได้รู้จักการละเล่นพื้นบ้านซะบ้าง ก่อนที่มันจะหายไป”
   “แน่ใจว่าแค่การเล่นๆ ไม่ได้ใช่เงินเลย?”
   “ฮ่าๆ ๆ นานๆ ทีน่ะแม่” แม่จ้องอย่างเอาผิด ส่วนพ่อตาก็หัวเราะอย่างกลบเกลื่อน เปิ้ลอมยิ้มแล้วบอกให้ทุกคนเก็บของเมื่อหัวหน้าทีมโดนสกัดดาวรุ่งก่อนใครเพื่อน
   “เอ้อ กลับก็กลับ ปิดเทอมหน้ามาอีกนะพวกเอ็ง”
   พวกเราตอบรับกันพร้อมเพรียง เก็บของขึ้นรถเตรียมตัวออกเดินทาง ยังไม่ทันได้สตาร์ตรถพ่อเปิ้ลก็มาเคาะกระจกหน้าเครียด
   “เอาไอ้สองไปด้วยมั้ยพ่อหนุ่ม”
   “พ่อ! ที่หอเลี้ยงไก่ไม่ได้!!”
   ครับ.. ในที่สุดปิดเทอมปีสามก็จบลง โดยที่ผมเกือบได้ไก่กลับมาเลี้ยงที่ห้อง





   พอเปิดเทอมทั้งผมและเปิ้ลต่างก็มีหน้าที่การงานที่ต้องรับผิดชอบไม่หยุดเปิ้ลต้องไปสังเกตการณ์สอนในโรงเรียนมากกว่าปีก่อนๆ เพื่อเตรียมพร้อมในการฝึกสอนปีหน้า ส่วนผมก็มีงานชิ้นใหญ่ๆ เข้ามาตั้งแต่เปิดเทอม เราเลยไม่ค่อยจะได้เจอกันเท่าไรนัก  มีแค่เสียงจากมือถือกับข้อความทางไลน์เท่านั้นที่ทำให้รู้ว่าอีกฝ่ายยังอยู่
   วันนี้ผมขุดตัวเองขึ้นจากเตียง ล้างหน้าแปรงฟันพอสะอาดแล้วออกไปหาเปิ้ลแต่เช้า จับเปิ้ลมาเป็นหมอนข้าง นอนกอดตลอดช่วงสายยันบ่าย เอาให้หนำใจ ให้สมกับที่ไม่ได้กอดมาเป็นอาทิตย์ๆ
   “เปิ้ล มาอยู่ด้วยกันมั้ย” ในระหว่างกินมื้อแรกของวันในเวลาสามโมงเย็นผมก็พูดเข้าประเด็นคิดอยู่ตลอดในช่วงนี้ คนตรงข้ามเงยหน้าขึ้นจากจานข้าว กะพริบตาปริบๆ
   “ทุกวันนี้ไม่ได้อยู่ด้วยกันเหรอ”
   “ไม่ แบบย้ายมาอยู่ด้วยกันไง”
   “ถ้าเลิกกันเราจะไปอยู่ที่ไหนอะ”
อ้าว เปิ้ล… ก่อนที่อาหารมื้อนี้จะเป็นหมันเพราะผมเริ่มวางช้อนลง เปิ้ลก็หัวเราะออกมาเสียงดัง
   “ล้อเล่นน่า โอ๋ๆ”
   “หน้าเสียเลย ตกใจเหรอ”
   “ให้เราพูดแบบนั้นบ้างไหม” หน้าของผมแม่งต้องตลกมากแน่ๆ เปิ้ลถึงได้หัวเราะไม่หยุดอย่างนี้
   “ล้อเล่นน้า” ว่าพลางตักไก่ให้ผมเต็มจาน ซึ่งผมก็ตอบรับด้วยการยัดเข้ามาอย่างไม่รั้งรอ “แต่ไม่ย้ายนะ”
   “…” ผมว่าลิ้นผมกำลังจะมีปัญหากับกับข้าวมื้อนี้เดี๋ยวอร่อยเดี๋ยวไม่อร่อย
   ”เราต้องมีพื้นที่ และเวลาส่วนตัวให้กันและกัน ถูกเปล่า เพราะงั้นไปๆ มาๆ แบบนี้แหละดีแล้ว เนอะ?” ใจผมไม่นงไม่เนอะอะไรด้วยทั้งนั้นแต่ก็ต้องพยักหน้าพร้อมกับส่งเสียออกไปแสนเบาว่า “ก็ได้”

   หลังจากหลับไปตื่นหนึ่งผมก็เดินโซเซออกมาข้างนอก แอบมองอีกคนอยู่ตรงกรอบประตู มองด้านข้างใบหน้าที่เรียวสวย แอบมีแก้มนิดๆ จมูกโด่งเพียงพอที่จะดันแว่นไว้ได้ แอบดูอยู่ได้สักพักก็ตัดสินใจเดินเข้าไปหาเจ้าของห้องที่กำลังเคร่งเครียดอยู่หน้าจอคอม บนโต๊ะแทบไม่มีที่ว่างเหลือเพราะเต็มไปด้วยหนังสือ และเอกสารมากมาย มีเสียงเครื่องปริ้นทำงานดังเป็นซาวด์ประกอบ
   “น้ำนิ่ง!”
   “หะ หือ”
   “ไปเอาน้ำมาให้หน่อย น้ำโค้กนะ” หมุนตัวกลับไปห้องครัวแทบไม่ทัน
   “เปิ้ลทำไร”
   “เรากำลังทำชีทเรียนภาษาไทยอยู่”
   “หือ?” ผมลากเก้าอี้มานั่งข้างๆ แกะขนมที่หยิบติดมือมาด้วย
   “มีพี่ติดต่อมาให้ไปสอนภาษาไทยให้พนักงานในบริษัทน่ะ”
   “ต่างชาติเหรอ”
   “ใช่ ช่วงนี้เลยยุ่งมากเลย รายงาน การบงการบ้านก็เยอะ” บ่นพร้อมกับขยี้ผมตัวเองจนฟู แต่ก็ยังน่ารักมากอยู่ดีในสายตาของผม
   “ก็ไม่ต้องทำสิ”
   “เราอยากได้ประสบการณ์ สอนเด็กกับสอนผู้ใหญ่มันไม่เหมือนกัน”
   “แต่นี่เปิ้ลต้องไปสอนภาษาไทยให้ต่างชาตินะ”
   “เราก็จะได้ใช้ภาษาอังกฤษเยอะๆ ไง จะได้เก่งกว่านี้ อยากได้ประสบการณ์หลายๆ แบบ ถึงจะเหนื่อยแต่เราว่ามันสนุก”
   เปิ้ลเอนตัวทิ้งน้ำหนักมาที่ผมทั้งตัว บ่นเรื่อยเปื่อย แต่ไม่ได้จริงจัง เหมือนกับบ่นเพื่อให้ตัวเองสบายใจ ปลดปล่อยหลายๆ อย่างก่อนจะเด้งตัวขึ้นมานั่งตรงแสดงออกมาอย่างมุ่งมั่นแล้วก็เริ่มจัดการกับสิ่งที่ตัวเองต้องทำต่อ ผมนั่งอยู่ข้างๆ ค่อยให้คำปรึกษาเล็กๆ น้อยๆ แต่ส่วนมากก็เป็นคำแนะนำที่ไม่ได้ความเท่าไร ผมเลยปลีกตัวออกมานั่งมองเองหลังเล็กๆ ที่กำลังตั้งใจทำหน้าที่ของตัวเอง
   ผมตื่นขึ้นมาอีกทีก็ตอนที่เปิ้ลเขย่าตัวผมไม่หยุด ใบหน้าอิดโรยส่งยิ้มมาให้ผม ก่อนจะชี้ไปที่โต๊ะอาหารที่มีกับข้าวเตรียมรออยู่แล้ว ผมงัวเงียยังไม่ตื่นเต็มตามองแผ่นหลังเปิ้ลที่เดินออกไป หัวใจกลับรู้สึกหนึบหนับแปลกๆ คิดถึงความรู้สึกบางอย่างที่เกิดขึ้นช่วงเวลาก่อนที่ผมจะหลับไป
   เหงา.. และห่างไกล
   ความรู้สึกที่ผมไม่ได้สัมผัสมานาน

TBC
18/04/18
หายไปมากกว่า 3 ชาติ เราควรโดนทุบสักที หลังจากเรียนจบเราก็พักผ่อน และไปเที่ยวนิดหน่อย นิดหน่อยจริงๆ เพราะไม่ทันไรเราก็พาชีวิตตัวเองเข้าสู่ระบบมนุษย์เงินเดือน นี่ก็ผ่านมาสองเดือนแล้ว ทุกอย่างเหมือนจะเริ่มเข้าทีแต่ก็ยังไม่ลงตัวเท่าไร(?) แน่นอนว่ามันเหนื่อยและยุ่งมาก ต้องเรียนรู้ ต้องปรับตัว ทำให้เราแทบไม่มีกลั่นกรองตัวหนังสือออกมาเลย ใจอยากทำแค่ไหนร่างกายก็พาลจะพัก จะนอนให้ได้อย่างเดียว เพราะฉะนั้น ขอโทษจริงๆ ค่ะ ขอโทษที่หายไปนานขนาดนี้ เราไม่โกรธเลยที่คนจะลืมเพราะทำตัวเอง หายเอง ไม่มีเวลาเอง แต่ถ้าแวบผ่านมาแล้วก็ขอกำลังใจ ส่งเสียงให้รู้ว่ายังมีคนรอหมีกับเปิ้ลอยู่หน่อยนะคะ แฮ่ นิยายเรื่องนี้มาถึงครึ่งทางแล้ว อย่างที่บอกเราสัญญาว่าเรื่องนี้ยังไงก็จบค่ะ ไม่ทิ้ง มีกำหนดในใจแล้ว แต่ยังไม่อยากบอกเพราะกลัวทำไม่ได้ 5555555
ขอขอบคุณ และขอโทษอีกครั้งนะคะ
แล้วพบกันตอนหน้าค่ะ
Love Love


หัวข้อ: Re: ●● Sleeping Bear and Apple's Trap ●● [19 #น้ำนิ่ง - 18/04/18 ● P.4] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 19-04-2018 00:34:33
อย่าดราม่านะ
หัวข้อ: Re: ●● Sleeping Bear and Apple's Trap ●● [19 #น้ำนิ่ง - 18/04/18 ● P.4] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 19-04-2018 09:29:33
 :pig4:  :pig4:
หัวข้อ: Re: ●● Sleeping Bear and Apple's Trap ●● [19 #น้ำนิ่ง - 18/04/18 ● P.4] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 19-04-2018 20:32:47
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ●● Sleeping Bear and Apple's Trap ●● [19 #น้ำนิ่ง - 18/04/18 ● P.4] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: momonuke ที่ 20-04-2018 19:09:27
ติดตามค่า สนุกดี ฮือออออออออ เราแอบชอบชื่อเรื่องมากๆเลย :mew1:
หัวข้อ: Re: ●● Sleeping Bear and Apple's Trap ●● [19 #น้ำนิ่ง - 18/04/18 ● P.4] ●●
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 27-05-2018 22:41:02
สงสารหมีจังเลย เหงาแทน เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคะ ช่วงทำงานใหม่ๆนี่เหนื่อยจริงๆค่ะ นี่ก็เพิ่งผ่านมาได้ไม่นาน  :ling3: