หวัดดีคับ ก่อนอื่นเลยนะครับ ใครได้อ่านตรงนี้ก็ขออนุโมทนาบุญส่งๆต่อกันไปนะครับ เพราะวันนี้ไปทำบุญใหญ่มาที่โรงบาลฯสงฆ์ อิ่มบุญมากๆ แถมยังได้ปล่อยปลาอีกตั้งมากมาย สุขใจจังเลยคับ
ส่วนนิยาย อย่าเพิ่งโกรธผมเลยนะครับทุกๆคน T-T
ตอนนี้เนื้อเรื่องอาจจะขัดใจไปหน่อย แต่รับรองว่าอีกไม่นานก็จะเข้มข้นขึ้นแล้วครับ
เอามาลงให้ได้อ่านกัน ก่อนจะหายไปนาน...(มั้ง?) แต่ก็เพราะว่าผมมีสอบนะครับ ช่วงนี้ยุ่งมากมายเลยครับ ยุ่งจริงๆ
ยังไง ก็ขอฝากตอนนี้ไว้เช่นเคยนะครับ
งานเลี้ยงดินเนอร์ประจำปีของบริษัท ถูกจัดขึ้นที่โรงแรมหรู มีแขกเหรื่อมาร่วมงานมากมาย ล้วนแล้วแต่เป็นระดับผู้บริหารทั้งนั้น
บิดา มารดา และพี่ชายของอมลินล้วนมาร่วมงาน ยกเว้นแต่พี่สะใภ้ที่อยู่บ้านพักผ่อนก่อนคลอด วันนี้อมลินแต่งตัวเต็มยศ นั่นคือสูททักซิโด้สีดำเข้ม ผูกกระต่าย ทำให้ดูสง่าภูมิฐานไปอีกแบบ
นรภาก็เช่นกัน แฟนสาวคนสวยของเขามาในชุดสีครีมอ่อนหวานเข้ากับบุคลิค ทำให้เวลาที่ทั้งคู่ควงกันในงาน ดูโดดเด่นและสมกันราวกับกิ่งทองใบหยก
“พี่ใหญ่ครับ ตอนนี้พี่บีพักผ่อนเป็นยังไงบ้าง”
อมลินทักทายพี่ชาย ถามสารทุกข์สุกดิบตามประสารวมถึงพี่สะใภ้ท้องแก่
“โอ๊ย ก็ขี้บ่นอย่างทุกวัน เหมือนเดิมแหละเล็กเอ๊ย”
อมลินยิ้มๆ ขำกับท่าทีว่าที่พ่อลูกอ่อนของพี่ชาย เขารู้ว่าอรรถชัยนั้นทั้งภูมิใจและเฝ้ารอลูกคนแรกนี้มากแค่ไหน ส่วนภรรยาสุดหวงนั้นก็รักและห่วงใย เขาดูแลครอบครัวดีทุกอย่างสมกับเป็นตัวอย่างแฟมิลี่แมนแห่งปี…เพียงแต่ถ้าได้โอกาส ก็ขอให้ได้แอบกัดแอบนินทาเจ้าแม่ที่บ้านสักเล็กน้อย พอเป็นกระสัย
“แล้วนี่แกอย่าคาบคำฉันไปฟ้องเขาล่ะ เดี๋ยวแม่เอาตายอีก”
“ครับๆ ผมไม่ฟ้องหรอก”
“ดูฉันไว้เป็นตัวอย่างนะโว้ย เผื่อแกมีครอบครัว ก็ต้องรักครอบครัวแบบพี่นี่”
อรรถชัยยืดอกภูมิใจในการเป็น ‘ตัวอย่าง’ อมลินขำได้สักพัก พี่ชายตัวดีก็วกเข้าสู่เรื่องที่เขาพยายามหลีกเลี่ยงมาโดยตลอด
“แล้วนี่มีใครรู้หรือเปล่าว่าคุณแอรอนเขามางานนี้ด้วย แกรู้หรือเปล่า? เดี๋ยวช่วยดูแลเขาด้วยนะ เขายังใหม่กับบริษัทของเราอยู่”
อมลินอยากจะงอแง แต่ก็ได้แค่เก็บความไม่อยากเอาไว้เล็กๆเท่านั้น…พูดยังไม่ทันขาดคำ ร่างสูงสองร่างก็ปรากฏขึ้นที่หน้าประตูงาน ผู้คนหันไปมองพร้อมกับเสียงพูดคุยที่ดังขึ้นเล็กน้อย…เมื่อทนายหนุ่มคนใหม่ก้าวเข้ามา พร้อมกับแฟนสาวนางแบบชื่อดังแสนสวย
แอรอน ซินแคลล์ในชุดทักซิโด้แตกต่างไปจากอมลินและหนุ่มคนอื่นๆนั้นดูดีมีภาษีกว่า เพียงแค่เขาเข้ามาอยู่ในห้องประชุมใหญ่ที่จัดงาน รัศมีของทุกๆคนพลันหดหาย…ด้วยความที่เป็นชาวตะวันตกรูปร่างสูงสง่า ยิ่งใส่ชุดสากลเข้าไปแล้วยิ่งโดดเด่น จนสาวๆหลายคนนึกอิจฉานางแบบสาวที่เขาควงมาในคืนนี้กันเป็นแถว
เอมมี่ แฟนสาวนางแบบชื่อดังของเขาก็อยู่ในชุดราตรีสีแดงเพลิง สวยสง่าแถมยังโดดเด่นไม่แพ้กัน ทั้งสองเดินตรงมาที่อมลิน…ซึ่งเอาแต่มองหาทางหนีทีไล่ แต่ไม่ทันซะแล้ว…ในที่สุดเขาก็ต้องเป็นคนยิ้มต้อนรับและคอยดูแลเรื่องจัดหาที่นั่งให้กับคนทั้งสองจนได้
อมลินนั่งเฉยๆ มองแอรอนที่สนทนากับคุณนพดลและคุณจอมพล ส่วนนรภาและเอมมี่เหล่าแฟนสาวก็นั่งจับกลุ่มคุยเรื่องแฟชั่นกันอย่างออกรสชาติ อมลินรู้สึกตื้อกับบรรยากาศ เลยขอตัวลุกออกไปสูดอากาศที่ระเบียงด้านนอก ในมือถือแก้วเชมเปญมาด้วย
ลมข้างนอกเย็นสบาย ช่วยคลายความตึงเครียดทั้งหลายลงได้ จากมุมบนตึกสูงนี้อมลินสามารถมองเห็นใจกลางกรุงเทพได้ร้อยแปดสิบองศา ความมืดทำให้สามารถอยู่คนเดียวได้เงียบๆตามลำพัง ได้ปล่อยความคิดให้ล่องลอยไปตามปรารถนา รับรมเอื่อยๆแสนสบาย…
“คิดอะไรอยู่เงียบๆคนเดียวครับ?”
ผู้ถูกบุกรุกตกใจจนแก้มเชมเปญเอียงกระเท่เร่ เกือบหกรดเสื้อสูทแพงๆ ถ้าหากไม่มีมือใหญ่คอยประคองจับไว้
“เหม่อไปถึงไหนแล้วเจ้าชายน้อย”
น้ำเสียงทุ้มใหญ่เอ่ยอ่อนโยน แฝงแววล้อเล่นแย้มหัว
“ผม…คิดอะไรเรื่อยเปื่อยน่ะครับ”
“บอกผมได้มั้ยว่าคุณกำลังคิดอะไร?…ผมอยากคิดเป็นเพื่อน”
อมลินเกาะราวเหล็กไว้ มองไปข้างหน้าไม่สบตา
…เพราะกลัวแพ้…แพ้ฤทธิ์ของนัยส์ตาสีฟ้าเข้มจัดนั่น…
“วันนี้แฟนของคุณแต่งตัวสวยมากเลยนะครับ”
แอรอนทำลายความเงียบเป็นคนแรก
“พูดอย่างไม่อายเลย คุณเอมมี่ต่างหากที่สวยกว่าใครๆในงาน”
“สรุปแล้วแฟนของเราทั้งสองคนก็สวยเกินกว่าใคร”
ทั้งสองหัวเราะเบาก่อนจะเงียบไป ปล่อยให้สายลมพัดผ่าน…
“คุณเริ่มคบกับคุณนรภาตั้งแต่เมื่อไรหรือ?”
“ก็…ไม่กี่ปีที่แล้วนี่เอง”
“แล้วคุณรักเธอมั้ย?”
อมลินมองหน้าเขา แววตาที่มีกำแพงป้องกันตัวเองฉายชัด
“ทำไมหรือ?”
แอรอนหลบสายตาไปอย่างคนผิดบาป…เขาเปลี่ยนละสายตาจากอมลินไปเป็นวิวข้างหน้าแทน
“เปล่าหรอก…”
แล้วเขาก็เสริมหลังจากเงียบไปสักพัก
“ผมขอโทษ…ความจริงแล้วไม่ได้ตั้งใจให้คุณระแวง…เรื่องเมื่อหกปีก่อน…ผมขอโทษนะ”
อมลินปากแข็ง กล่าวยิ้มๆ…
“ไม่เป็นไรหรอก…”
“เราจากกันไม่ค่อยดีเท่าไรนัก…ผมเป็นเพื่อนที่ไม่ดีเอาเสียเลย”
วินาทีนี้อมลินนึกอยากเปลี่ยนหัวเรื่องใจจะขาด
“ผม…ก็ไม่ได้เป็นเพื่อนที่ดีสักเท่าไรเหมือนกันหรอกครับ”
เผลอหลุดปากออกไปแล้ว อมลินตกใจมาก…ดีที่เป็นเพียงการพึมพำ เลยดูไม่ตั้งใจสักเท่าไร
“ฮื้อ? คุณเป็นเพื่อนที่ไม่ดีตรงไหนเหรอ?”
อมลินใจเต้นตึกตัก ตอบไม่ถูก อึกอักๆ…เจ้าของร่างสูงหันมาเผชิญหน้า สาวเท้าเข้ามาใกล้…เมื่อร่างทั้งสองอยู่ใกล้กันมาก อมลินปวดในหน้าอก…จะให้บอกเขาได้ยังไงว่าหกปีก่อน ถึงจะเป็นเพื่อนกันก็จริง แต่เขาไม่ได้คิดแค่นั้น…
คิดมากกว่าเพื่อน…แอบรัก…
แถมยังใจกล้าขนาดทิ้งจดหมายรักไว้ให้เขาดูต่างหน้าอีก!
“บอกผมมาซิเจ้าชายน้อย…คุณคิดกับผมยังไง”
อมลินจวนเจียนจะอดกลั้นต่อไปไม่ไหวแล้ว แววตาสีฟ้าเข้มของเขาคาดคั้น…คราวนี้แฝงไปด้วยการอ้อนวอน…ความปวดร้าว อมลินหายใจไม่ออก…ใบหน้าเขาเคลื่อนใกล้เข้ามา จนนึกกลัวไปต่างๆนานา
“อ้าวพี่เล็ก อยู่ตรงนี้นี่เอง”
เสียงเรียกเล็กใสของนรภาเป็นดั่งระฆังช่วย อมลินเบือนหน้าผละออก แอรอนถอยห่างเช่นกัน กระทั่งร่างเล็กระหงสาวเท้ามาถึงราวเหล็ก ยิ้มและกล่าวพูดคุยกับแอรอนสองสามประโยค
“พี่เล็กคะ คุณพ่อให้หนูดีออกมาตามน่ะค่ะ ท่านเรียกเข้างานแล้ว ไปกันเถอะค่ะ”
หญิงสาวสอดแขนคล้องเข้ามา…อมลินมองตามสายตาที่แอรอนมองแขนเขา…เกี่ยวกับแฟนสาว ก่อนจะเดินเข้าไปในงาน ทิ้งไว้ให้ร่างสูงใหญ่ยืนอยู่คนเดียวตามลำพัง…เพียงผู้เดียว
TBC