ยังไม่จบนะครับทุกๆคน!!!
ยังอีกนานครับ...
วันรุ่งขึ้น อมลินตื่นขึ้นมาแต่เช้ากว่าปกติ เพื่อเก็บของใส่กระเป๋าเตรียมตัวกลับเมืองไทย…
ที่บ้านรับรู้แล้วและจะส่งรถมารับที่สนามบิน เขายอมรับว่าคิดถึงบ้าน คิดถึงพ่อแม่มาก…
สิ่งเดียวที่จะทำได้ นั่นก็คือโกหกตัวเอง ว่าเขาไม่คิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ณ ที่แห่งนี้เลย
ลืมให้หมด!
อะไรที่เป็นไปไม่ได้ ย่อมไม่มีวันเป็นไปได้วันยังค่ำ
อมลินให้จอห์นนี่แวะไปส่งที่โรงเรียนเพื่อบอกลาเพื่อนๆชาวต่างชาติทั้งหลายเป็นครั้งสุดท้าย ทุกคนต่างงุนงงว่าทำไมอมลินถึงเดินทางกลับประเทศของตนเร็ววันนัก แต่สุดท้ายก็ต่างยิ้มให้กันและสัญญาว่าจะติดต่อกันต่อไปเรื่อยๆ
“ว่าแต่ วันนี้ยูมิโกะไม่สบายหรือเปล่า? ทำไมถึงไม่มาล่ะ”
“ก็เรียนจบแล้วนี่อเล็กซ์…แต่ฉันเห็นคาซูมิบอกว่ายูมิโกะไม่ค่อยสบายตั้งแต่เมื่อวานแล้วนะ”
“งั้นไม่เป็นไร ผมบอกลาเธอผ่านอีเมลอีกทีก็ได้”
ถึงเวลาที่นัดไว้ อมลินติดรถเพื่อนไปลงที่โรงหนัง เป็นเวลาเกือบๆเที่ยง ร่างบางเดินหาร้านอาหารแล้วนั่งกินขนมรองท้องรอคนที่นัดไว้จะโผล่มา ทว่า…รอเท่าไรเขาก็ไม่มา จนเลยเวลาหนังฉาย อมลินก็ยังยอมทนรอต่อไปอีก อีกสักหน่อย อีกนิด…จนรอไม่ได้แล้ว อมลินควานหาโทรศัพท์มือถือ ทั้งๆที่เขาไม่อยากโทรฯรบกวนต่อเมื่อจำเป็น…
เพราะไม่อยากถูกกล่าวหาว่า มีโอกาสให้เลือกแล้วแต่กลับปล่อยมันหลุดลอยไป
เขาไม่อยากเป็นคนขี้ขลาด ยอมเสียโอกาสนั่นอีกต่อไปแล้ว
แต่เอ หรือว่าลืมเอามือถือติดตัวมา
อมลินได้แต่นั่งหัวเราะร่วน ลืมเอาโทรศัพท์ติดตัวมาจริงๆด้วย
ลุกขึ้นกลับบ้าน นั่งรถเมล์ที่นานๆมาทีหนึ่งคันเป็นขากลับ มองผ่านกระจกออกไป มองเห็นวิวต้นสนที่เคยชอบและแสนรักหนักหนา ตอนนี้เหมือนยาขม ที่เฝื่อนฝืดขึ้นมาจากลำคอ ความรู้สึกเนินนานกว่าจะถึงบ้าน น่าแปลกใจที่ไม่นึกว่ามันจะง่ายดายขนาดนี้ แต่ไม่มีใครอยู่บ้านเลยสักคน
เขาไล่เขียนโน๊ตอธิบายถึงความจำเป็น โดยโกหกทั้งหมดไปว่าที่ต้องรีบกลับกระทันหันเพราะธุรกิจที่บ้านมีปัญหา คุณแม่ใจไม่ดีเลยต้องการตามตัวกลับด่วน…จากนั้นก็ไล่เขียนโน๊ตของแต่ละคน สุดท้าย อมลินเขียนข้อความที่สั้นที่สุดถึง…
‘แอรอน ผมมีบางอย่างที่ต้องการ และสมควรจะบอกคุณเสียตั้งนานแล้ว…นั่นคือ ผมรักคุณ ผมแอบรักคุณตั้งแต่แรกพบ รักมาตลอด ผมไม่อยากเสียโอกาสจะได้บอกความจริงเหมือนตอนนั้นที่คุณพูดในร้านอาหาร ผมอยากบอกคุณว่าไม่มีช่วงเวลาไหนเลย ที่ได้ใช้ชีวิตอยู่เป็นเวลาหนี่งปีเต็ม…จะมีความหมายเทียบเท่ากับอยู่ร่วมกับคุณเพียงเสี้ยววินาทีเดียว
ผมโกหกคุณ ความจริงแล้วผมไม่ได้รักยูมิโกะเลยแม้แต่น้อย
แต่เป้นคุณ ตกใจใช่มั้ย? ขอโทษด้วยที่ผมทำแบบนี้…คุณมีสิทธิที่จะรังเกียจผมทุกประการ
ท้ายที่สุดนี้ ขอให้คุณมีความสุขตลอดไป…จากเจ้าชายน้อย’
พับกระดาษด้วยนิ้วอันสั่นเทาแต่เด็ดเดี่ยว เขารู้ว่ามันอาจจะฟังดูแล้วน้ำเน่า แต่มันถูกกลั่นกรองมาจากทุกห้องอณูของหัวใจ ความจริงที่ทิ่มแทงว่าเขารักแอรอน! เจ็บปวดมากมายเกินกว่าจะบรรยาย…นึกๆดูแล้วเขาก็สมเพชตัวเองดีนัก ที่ท้ายที่สุดแล้วกลับมาตายเอาด้วยเหตุผลเดิมๆ
ความจริง สาเหตุที่เขาตัดสินใจเข้าร่วมโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยน ก็เพราะหนึ่งปีก่อน มีผู้ชายคนหนึ่งมาแอบหลงรักเขา ทำดีให้ทุกอย่าง แต่หลังจากรวบรวมความกล้ามาสารภาพให้เขาฟัง…กลับโดนปฏิเสธกลับไป จนเขาคนนั้นพยายามฆ่าตัวตายทว่าไม่เป็นผลสำเร็จ…
“ทีนี้…รู้แล้วหรือยังล่ะ ว่าความรักที่เป็นไปไม่ได้ มันรู้สึกยังไง…”
ทั้งๆที่รู้ ว่าถ้าเขาอ่านเจอข้อความนี้ สุดท้ายก็ยังไม่เหลียวแลอยู่ดี
มันเจ็บดีใช่มั้ยล่ะ? โดนปฏิเสธแบบรู้ล่วงหน้าแบบนี้…
เจ็บจี๊ด…ปวดตุบๆในอก เหมือนจะแตกหักออกมาเป็นเสี่ยงๆ
นี่หรือเขาเรียกว่ารัก…
หลับตาลง น้ำตาหลั่งไหลพรั่งพรูออกมามากมาย ถ้าไม่ใช่เพราะ…
รัก!
เพราะคำๆนี้คำเดียว ที่ทำให้เขาพ่ายแพ้กำแพงใจ ซึ่งพังทลายลงอย่างราบคาบ
สิ่งสุดท้ายที่เขาอยากทำ แม้ว่ามันจะโหดร้าย…แต่ในที่สุดกระดาษแผ่นเล็กสีขาวก็ถูกสอดไว้ในลิ้นชักชั้นบนสุดตรงหัวเตียง
ทำเป็นเข้มแข็ง…แต่ในที่สุด ก็ต้องให้เขารู้จนได้ว่ารัก
เรื่องแบบนี้ คงโดนหัวเราะเยาะไปเจ็ดปีสิบชาติเป็นแน่
เขาแวะบ้านมาร์คเพื่อรอเวลาขึ้นเครื่องบิน มิสเตอร์วิลสันหัวหน้าครอบครัวที่มาร์คอาศัยอยู่กรุณาอาสาเป็นคนขับรถไปส่งอมลินที่สนามบิน ระหว่างทางผ่านถนนรกร้างอ้างว้างสองข้างทาง…ความรู้สึกแตกต่างกับครั้งแรกที่มาทั้งที่นี่คือทางเก่า…แสงจากเสาไฟฟ้าส่องลงมาเป็นสีส้มเหลือง อมลินเก็บกลืนความขมขื่นต่างๆเหล่านั้นไว้ น้ำตาพลันจะไหล…
และแล้วมันก็ไหลออกมา พร่ามัวจนต้องหลับตาลง ภาพต่างๆแล่นไหลเข้ามาช้าๆเป็นมโนภาพที่สร้างความเศร้าให้กับหัวใจ
มันคือหายนะของหัวใจ…
อมลินไม่พร้อมจะลืมอะไรสักอย่างหรอก!
.
.
.
.
.
.
.
.
.
หกปีต่อมา…