ตอนที่ 22
มือซีดไร้เรี่ยวแรงทิ้งตัวอยู่ข้างกาย… ดวงตาที่ไม่อาจจับภาพอะไรได้เพราะมีม่านน้ำบดบังทุกอย่าง ขาที่เริ่มจะทรงตัวไม่อยู่ ก่อนจะร่วงหล่นรงราวใบไม้ที่ปลิดปลิวจากลำต้น
ทิ้งตัวลง…ในความอบอุ่นของผืนหญ้าที่รองรับด้วยอ้อมกอด…อย่างเต็มใจ
เสียงปลอบประโลม ขอโทษ… ความอบอุ่นที่ระคนไปด้วยความผิดหวัง ถ้าบอกว่าเสียใจก็คงจะใช่ แต่มันเหมือนจะมากกว่านั้นแต่ก็ไม่รู้จะใช้คำไหนมาอธิบาย
ทุกอย่าง…พัง
อันที่จริงก็คงไม่ใช่ทุกอย่าง
คงเป็นแค่ความรู้สึก…ที่พังไม่มีชิ้นดี
คนแปลกหน้าที่แสนคุ้นเคย….
“เอาฌาม์คืนมา… เอาคืนมา!!! ฮึก… เอาคืนมานะ”
เสียงแหบกร้าวที่ดังพร่าเท่าที่ลำคอจะแผดออกมาได้ แต่สุดท้ายมันก็กลายเป็นเสียงร้องไห้อย่างน่าสมเพช สองมือที่เริ่มขยับได้กำแน่นพยายามจะดันอีกฝ่ายออกแต่ก็ไร้ผล
สุดท้ายสิ่งที่อยากผลักไสกับกลายเป็นสิ่งที่เราต้องการมากที่สุด…
หัวสมองว่างเปล่า
ฌามา….ที่ว่างเปล่า
ฌามาที่จำเขาไม่ได้
ฌามาที่กอดเขาไว้…
ฌามาที่ไม่ใช่…ฌามา
ย้อนกลับไปครึ่งชั่วโมงก่อนหลังจากผ่านการเอาแต่ใจจนพอใจของฌามา ก็เหลือเพียงบรรยากาศเงียบสงบของเรือนมะนาวกับสองมือที่กุมกันอยู่บนเตียง… สองแผ่นหลังนั่งพิงหัวเตียงไม่มีใครพูดอะไร
เฌอแตมรู้ว่าอีกฝ่ายดูจะอึดอัดที่ต้องอธิบายเหตุผลทุกอย่างจึงได้แต่นิ่งเงียบไม่ได้เร่งรัดอะไร กระทั่งเสียงถอนหายใจยาวดังขึ้นและฌาม์ดันตัวเองเปลี่ยนที่มานั่งตรงข้ามกัน
สายตาคมที่แน่วแน่แฝงความลำบากใจเอาไว้ บ่ากว้างลู่ลงเล็กน้อยราวกับคนแบกรับภาระไว้หนักหนา มีแต่มือสองข้างที่กุมกันไว้ไม่ยอมปล่อยบีบมือหนาเบาๆให้กำลังใจ
“แตม”
“อื้อ”
“ผมไม่ใช่ผมคนเดิม”
คิ้วเรียวขมวดเล็กน้อยอย่างไม่เข้าใจนัก แต่คำพูดแปลกๆสร้างระรอกคลื่นในผืนน้ำที่สงบได้เช่นกัน วูบหนึ่งหัวใจร่วงหล่นจนรู้สึกกลัว
“ยังไง”
“ผม…ไม่รู้จักคุณ”
เฌอแตมชะงักจะเขยิบออก แต่ฌาม์กลับดึงมือไว้ ความรู้สึกของคนผิวซีดราวกับจะถูกบอกลาจนไม่อยากจะฟังต่อ ความรู้สึกมันหมดไปแล้วหรือเปล่า? แต่การกระทำที่แสดงออกมันก็ฟ้องว่าไม่ใช่…
“ผม…จำไม่ได้”
“ระ เรื่องอะไร”
“ผมจำเรื่องของเราไม่ได้… ความทรงจำผมหายไป”
“เพราะอะไร….หรือว่า…ตอนนั้น?”
“อุบัติเหตุที่พิพิธภัณฑ์…ผมตื่นมานึกว่าตัวเองยังอยู่ฝรั่งเศสทั้งๆที่เวลามันผ่านไปจะสี่เดือนแล้ว ชีวิตประจำวันผมไม่ได้กระบทอะไรมาก…นอกจากคุณที่หายไป”
“เดี๋ยวมันก็กลับมา…ไม่เป็นไร”
เสียงแผ่วลงแต่สภาวะทางอารมณ์ไม่ได้มั่นคงเลย การกระทำแปลกๆของฌามาดูจะอธิบายเหตุนี้ได้ดี ท่าทีที่ไม่อยากให้เขารู้ว่ากลับมาแล้ว รวมถึงความอึดอัดเวลาอยู่ด้วยกันบ้าง
เขารู้สึกได้…แค่หาสาเหตุไม่เจอ
“ผมวาดรูปคุณเยอะมากที่นิวยอร์ก แต่ผมกลับไม่รู้ว่าคุณคือใคร….ผม…ไม่ได้ชอบผู้ชาย”
“…”
ฌามากลั้นหายใจเมื่อสีหน้าของเฌอแตมเริ่มกลายเป็นผิดหวัง ตัดพ้อ…ปนเสียใจ
“ผมคิดว่าตัวเองเป็นโรคจิต ผมรับไม่ได้ที่รู้ว่าตัวเองเตรียมตัวทิ้งชีวิตที่นั่นเพื่อกลับมาหาผู้ชายในรูปวาด… ผมเกลียดตัวเอง”
“ผมกลับมาเจอคุณที่นี่ ในบ้านของผม…ผมรับไม่ได้…คุณไม่ใช่ผู้หญิง ผมอยากจะจบความสัมพันธ์ของเรา”
ยังไม่ทันได้พูดต่อเฌอแตมสะบัดข้อมือทิ้งก่อนจะลุกขึ้นหนี แต่ฌามาก็ไวพอจะรวบเอวอีกฝ่ายไว้ แต่แรงจากไหนไม่รู้ของเฌอแตมก็สะบัดฌามาจนหลุด
“ออกไป…ออกไปนะ”
ตาเรียววูบไหว…ภาพตัวเองที่เฝ้ารอ ภาพความผิดหวังที่อีกฝ่ายไม่ทำตามสัญญามันฉายซ้ำไปหมด เหมือนเป็นคนโง่ที่เฝ้ารอใครสักคนอย่างไร้เหตุผล โง่อีกแล้ว…
โง่ซ้ำๆ ผิดหวังซ้ำๆ… กี่ครั้งที่ตัวเองเป็นฝ่ายรักษาสัญญาอยู่ฝ่ายเดียว
เฌอแตมในความไม่มั่นคงมีทั้งเรื่องของฌามาและของฝาแฝดที่เคยเป็นมากกว่านั้นปะปนกันจนมั่วไปหมด…ฌามาก็เหมือนเชอเบท…เห็นแก่ตัว
หลอกลวง…
เหลือแต่เขา…ที่ซื่อสัตย์
ยังรอ…
เหมือนหมา…
“แตม ฟังก่อน…”
“ปล่อย!!”
“ผมยังพูดไม่จบ ฟังกันก่อน อย่าเพิ่งหนีไปได้ไหม”
“จะเลิกก็ปล่อย กูไม่ใช่ของเล่นของมึงนะ!”
คำหยาบคายที่ไม่เคยใช้กันดังขึ้น ฌาม์กัดฟันแน่นข่มอารมณ์รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังสติแตกตัวเขาต้องใจเย็น ถ้าแรงมาแรงกลับทุกอย่างคงพังจนไม่เหลืออะไร
“ผมอาจจะไม่ใช่ฌามาคนเดิมแต่…”
“รู้สึกผิดหรอ? ไม่จำเป็น… มึงเอาทุกอย่างของกูไปแล้วนี่!!! ตัวก็ได้ ใจก็ได้ เออกูมันง่ายเอง ปล่อยสิวะ!!”
“แตมไม่ใช่แบบนั้น เข้าใจผิดแล้ว”
เสียงทุ้มปลอบประโลมคนโมโหที่ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้เข้าไปทุกที…
“เห็นกูโง่ใช่ไหม…ขนาดมึงไม่ใช่คนเดิมกูยังไม่รู้เลย…ยอมให้เอาง่ายๆ…โคตรไร้ค่าเลย…”
“โธ่เว่ย! จะมีค่าไร้ค่าอะไรไม่รู้หรอก ก็ยังอยู่ตรงนี้ไม่เห็นหรอ หายไปหรือเปล่าล่ะ ถึงมาช้าแต่ก็มา!! ฟังยังไม่จบก็ตีโพยตีพาย ใจง่ายบ้าบออะไรวะ เรียนหมอซะเปล่าเสือกสมองกลวง!”
“แล้วมึงเอาฌาม์ของกูไปทำไม เอาไปทำไม!!! เอาเขาไปทำไมไอ้เหี้ย!!!”
“แล้วกูเลือกได้หรือไง! กูเลือกให้ความจำมันอยู่ได้หรอ ให้กูไม่โดนระเบิดได้หรอ กูเลือกอะไรได้บ้าง ขนาดกูไม่ได้รักผู้ชายกูยังต้องมารักเลย คิดว่าถ้าเลือกได้กูอยากเป็นเกย์หรอวะ!!!”
เสียงตะโกนลั่นทำเอาเฌอแตมชะงัก…ฌาม์ที่ระเบิดอารมณ์ถึงกับชะงักเช่นกันเมื่อเฌอแตมเบิกตากว้าง หยาดน้ำตาทะลักลงมา…ร่างขาวซีดถอยหลังอย่างไร้เรี่ยวแรงไปสองสามก้าว
“ก็ไปซะสิ…มีโอกาสแล้วนี่”
และสุดท้ายก็ร่วงหล่นลง…ให้เขาได้รีบไปโอบกอดคนหมดแรงนั้นไว้ในอ้อมแขน…สบถด่าตัวเองในใจที่เก็บอารมณ์ไว้ไม่อยู่
“เอาฌาม์คืนมา… เอาคืนมา!!! ฮึก… เอาคืนมานะ”
เสียงร้องไห้โวยวายกรีดแทงหัวใจเขาจนเจ็บไปหมด ได้แต่กระซิบขอโทษและปลอบประโลม…แม้อีกฝ่ายจะพยายามสะบัดออกแต่เขาจะไม่ยอมปล่อย
ถ้าปล่อยไป…แล้วไม่กลับมาจะให้ทำไง?
ก็รักไปแล้ว…จะให้ปล่อยหัวใจตัวเองได้ยังไง
เขามันเห็นแก่ตัว…
ขอโทษที่เอาแต่ใจ…แต่ยอมไม่ได้จริงๆ…
ความทรงจำอาจจะไม่มี แต่ความรู้สึก…มันชัดเจน
เฌอแตมเริ่มสงบลงหลังจากเวลาผ่านไปสักพัก สองร่างยังคงกอดกันอยู่กับพื้นห้อง…ฌาม์เลิกขอโทษไปสักพักแล้วมีเพียงความเงียบสนิทกับบรรยากาศยามค่ำ
ตาคมหลุบมองคนในอ้อมกอดที่เหลือเพียงตาแดงๆกับปากซีด…
“ฟังให้จบก่อนได้ไหม…ผมไม่ได้จะทิ้ง…ผมอาจจะจำไม่ได้…แต่ถ้าผมไม่รู้สึกอะไร…ผมจะมาแอบมองคุณทุกคืนทำไม…ทำไมถึงจูบ ทำไมถึงกอด… คนไม่รักเขาไม่ทำหรอก”
“โกหก…”
“ไม่ได้โกหก…”
“ไม่อยากเป็นเกย์ไม่ใช่หรือไง”
“แตมฟังนะ”
ฌามาช้อนคางซีดขึ้นมาสบตา
“ผม…ที่จำคุณไม่ได้…ตกหลุมรักคุณอีกครั้ง ดูไม่ออกหรือไง?”
ตาเรียวกระพริบปริบราวกับสมองกำลังประมวลผล คนหลุดปากบอกรักได้แต่เม้มปาก ความร้อนเห่อขึ้นใบหน้าก่อนจะต้องกล้ำกลืนความเขินพูดต่อ
“ใครมันจะไปอยากจูบ อยากกอดคนที่ไม่รักวะ… ขนาดจำไม่ได้ผมยังรู้สึกขนาดนี้…ผมก็มีโมเม้นอยากกลับไปด่าตัวเองอีกคนที่มีคุณในความทรงจำเหมือนกัน ทำไมไม่มีเบอร์ เฟสบุ๊ค อีเมลล์ให้ติดต่ออะไร วาดบ้าไรแต่รูป ทำเหมือนอยู่ยุคดึกดำบรรพ์ นี่ปีไหนแล้ว จะทนบ้าคิดถึงคุณอยู่กับรูปวาดทำไม…ควรจะเปิดกล้อง เซ็กซ์โฟน…”
มือซีดยกขึ้นปิดปากที่ดูจะเริ่มพูดจาออกทะเล หน้าซีดเริ่มซับสีเลือดฝาดไม่ต่างกัน จะว่าไป…ทุกอย่างที่พูดมามันก็ถูก ถ้าไม่รู้สึกอะไร…ฌาม์จะไล่เขาไปตั้งแต่กลับมาไทยก็ทำได้
เฌอแตมไม่ใช่คนไร้เหตุผล เลยกลายเป็นว่าอายตัวเองที่หลุดโวยวายไร้สาระตั้งแต่ยังฟังไม่จบจนต้องซุกหน้าลงกับไหล่ฌามา
“ขอโทษที่ขโมยฌามาของคุณไป…”
“ขอโทษที่โวยวาย”
ทั้งๆที่ฌามาก็ไม่ได้ทำอะไรผิด…ใครจะบ้าอยากโดนระเบิดและเสียความทรงจำ ถ้าใช้ตรรกะทั่วไปก็ไม่แปลกถ้าผู้ชายปกติจะตกใจที่ตัวเองเป็นเกย์
จริงๆแล้ว…ฌามาก็คงสู้กับความสับสนของตัวเองอยู่เหมือนกัน
ในสภาวะที่ทุกอย่างมืดแปดด้าน ฌามาก็ยังคงกลับมาหาเขา…ยังพยายามจะมาอยู่ใกล้ๆเท่าที่ทำได้ ไม่งั้นคงไม่แอบมาด้อมๆมองๆกลางค่ำกลางคืน
“หายโกรธแล้วนะ”
“ไม่หาย”
“โธ่คุณ…มันไม่ง่ายเลยนะที่ผมจะเอาชนะตัวเองได้ นี่ผมต้องแอบปลอมตัวไปอยู่มหาลัยคุณด้วยนะเพราะผมอยากสังเกตคุณ แต่คุณเล่นซ้อนแผนผมซะงั้น…”
“อย่าบอกนะว่าที่ไปเป็นนักศึกษาเพราะเรื่องนี้…”
ฌามาเม้มปากเขินๆ ส่วนเฌอแตมที่หายน็อตหลุดแล้วก็เหมือนมีระเบิดบึ้มในใบหน้าไม่ต่างกัน บรรยากาศโวยวายดราม่า ตัดฉับกลายเป็นความขวยเขินราวกับหนังคนละม้วน
“จริงๆไปเป็นอาจารย์…”
“อาจารย์ที่ไหนแข่งกีฬานักศึกษา”
“ก็สอนเทอมหน้า…เขาให้ศึกษาบรรยากาศไปก่อน…”
“แล้ว…ทำไมไม่บอกแต่แรกล่ะว่าจำไม่ได้…”
“ก็…ผมก็ไม่รู้จะพูดยังไง คุณ…ไม่น่ารักเท่าไหร่ สูงเท่าๆผมด้วย ผมเลย…นึกว่าตัวเองอาจจะถูกคุณกอดด…”
“แล้วตกลงถูกกอดหรือเปล่าล่ะ”
กระซิบแผ่วเบา กัดปากตัวเองแน่น…ทั้งอายทั้งเขินทั้งไม่รู้จะพูดยังไง ได้แต่ก้มหน้าหงุด
“กอดคุณแล้ว…รู้สึกดีมาก”
ฌามาเงยหน้ามองฟ้า เม้าปากแน่นไม่ต่างกัน ทำไมมันน่าอายแบบนี้วะ!! แล้วทำไมอยู่ดีๆก็ต้องเขินแบบไร้ที่มาที่ไปไร้เหตุผล ทำเหมือนเด็กหัดจีบกัน…ให้ตายเหอะ
“อื้อ…”
เสียงครางเบาๆของเฌอแตมยิ่งทำหัวใจเต้นเป็นเด็กหัดมีแฟน
“แต่เรื่องคุณไม่น่ารัก…จริงๆผมว่า…ผมเข้าใจผิดไปเอง…คุณน่ารักมาก”
โว้ยยยยยพูดอะไรออกไปวะ!!! ฌามาเหมือนวางระเบิดตัวเองแต่ก็รู้ว่าต้องพูดให้หมด เดี๋ยวเฌอแตมไม่เข้าใจน้อยใจคิดมากไปอีก พวกหน้านิ่งๆไม่บอกอารมณ์นี่เดาใจยาก
“ดีกันนะ…”
“แน่ใจแล้วนะ..”
“ไม่แน่จะอยู่ตรงนี้หรอ…”
เศษซากอารมณ์ถูกเก็บกวาดไปจนหมดเหลือเพียงท่าทีเขินๆกับการดำเนินชีวิตเหมือนเดิมที่อาจจะไม่เหมือนเดิมตรงที่ข้างๆโต๊ะซีกมะนาวมีร่างฌามานอนซุกผ้าห่มเล่นเกมส์มือถือ
คืนนี้เฌอแตมไม่ได้อ่านหนังสือคนเดียว…
“ติดเกมส์ด้วยหรอ”
“พวกที่คณะบังคับให้เล่น ผมว่าผมคนก่อนไม่ได้ชอบเล่นเกมส์มือถือนะ แต่พอเล่นกับเพื่อนก็สนุกดี ผมคงไม่เคยมีเพื่อนวัยเดียวกันมั้ง”
“ดีแล้ว”
เฌอแตมยังจำได้ว่าฌามาคนก่อนคือฌามาที่ค่อนข้างมีความเป็นผู้ใหญ่มากกว่านี้ เพราะเขาไม่เคยมีเพื่อนวัยเดียวกัน ฌามาคนนี้เหมือนมาทดแทนในส่วนนั้น โดยเฉพาะท่าทีขวยเขินที่ฌามาคนก่อนไม่มีทางจะเป็นแบบนี้แน่ๆ
“ผมคนก่อนอยู่กับคุณนานเท่าไหร่ถึงกลับอเมริกา”
“สักอาทิตย์หนึ่ง”
“คุณนี่ร้ายกาจ”
“อะไร?”
“ทำให้ผมตกหลุมรักได้ในหนึ่งอาทิตย์… โคตรร้ายเลย”
“รู้ได้ไงว่ารัก ตอนนั้นอาจจะแค่หลง”
ฌามาลดมือถือลงก่อนจะสบตาคนที่ก้มลงมามอง รอยยิ้มจางติดมุมปากก่อนจะตอบง่ายๆทว่าน้ำเสียงทุ้มกลับมั่นคง
“ถ้าไม่รัก…จะบ้าขนาดวาดรูปคุณไว้ทั้งห้องหรอ”
“มันเร็วไป…แค่อาทิตย์เดียวเอง”
“หนึ่งอาทิตย์ไม่น้อยไปหรอกสำหรับการตกหลุมรัก…”
ฌามาดันตัวขึ้นมานั่งหันหน้าสบตาดวงตาเรียว มือสีแทนยกขึ้นแนบแก้มซีดไล้ไปมาแผ่วเบา
“ขนาดผมคนใหม่ยังตกหลุมรักคุณอีกครั้ง… ผมคนเก่าไม่มีทางไม่รักคุณหรอก…เป็นไปไม่ได้เลย”
======================================
จำได้ไหมมม ที่เฌอแตมพูดกับเชอเบทใน 'ฟ้าลั่นรัก' จริงๆแล้วเอามาจากฌามานั่นเอง ฮ่าา
ตอนนี้ัมันก็จะสวิงไปตามลักษณะพลอตเรื่องที่แบมบอกมาแต่แรกนะคะ 5555+ อารมณ์ตีกลับไปมา
ต้องมีบ้างแหละคนที่คิดว่า ... แล้วมึงจะทะเลาะดราม่ากันทำไมวะหา!! อิ้อิ้
ตอนนี้ตั้งใจให้เป็นฟีลเด็กๆนะคะ เพราะฌามาคนนี้จะนิสัยเด็กๆ ทะเลาะโวยวายแล้วก็ดีกันง่ายๆนั่นเอง (ไม่ดึงดราม่าด้วยนะ)
แต่!!! เรื่องที่จะดำเนินไปถึงตอนจบฌามาคนเดิมจะกลับมาหรือไม่นั้น ต้องติดตามกันต่อไปนะแจ้ะ
ใกล้จบแล้วค่า <3 <3