ตอนที่ 21
ฌามาเกร็งนิดหน่อยที่ต้องมานั่งรถอีโคค่าคันเล็กของเฌอแตม ขับรถเป็นสิ่งเดียวที่ฌามาไม่ชอบ มีปัญหากับการกะระยะบนถนนทั้งๆที่การวาดรูปหรืองานออกแบบไม่มีปัญหา
“แล้วอยากกินอะไร?”
ขับรถออกมาสักพักถึงพอจะปรับอารมณ์หันมาคุยกันได้ เพลงสากลคุ้นหูดังแผ่วเบาจากเครื่องเสียงไม่ทำให้บรรยากาศเงียบเกินไป
“อยากกินไข่เจียวใส่ซอสเยอะๆ”
เวลาหิวๆไม่เคยมีอะไรอร่อยสู้ไข่เจียวได้เลย
“กินเป็นเด็ก”
คนขับพูดลอยๆ ส่วนคนที่โดนกล่าวหาว่าเป็นเด็กกลับยกยิ้ม
“แล้วอยากกินเด็กไหม?”
กะเกณฑ์ตามชั้นปี เขาน่าจะเด็กกว่าเฌอแตมอยู่เล็กน้อย และนั่นมันก็ใช่…เพราะเฌอแตมถึงกับเม้มปาก ความมืดทำให้ไม่เห็นริ้วแก้มแดงๆผ่านผิวซีด แต่เขาก็มั่นใจว่าอีกฝ่ายเขิน
พอใบหน้าเฉยเมยเริ่มมีความเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ก็ทำให้คนหน้าซีดเริ่มน่ารัก… กว่าเดิมนิดหน่อยล่ะมั้ง แต่ก็นิดหน่อยนะ…เขายังชอบคนที่น่ารักมากๆ ตัวเล็กๆอยู่เหมือนเดิม
อย่า ได้ ใจ ไป !
“เคยกินแล้ว…”
การตอกกลับอันเรียบง่ายที่เป็นแค่การรับมุกแก้เขินของเฌอแตม แต่มันสร้างปรากฏการณ์เหมือนมีค้อนทุบหัวฌามาจน KNOCK OUT !
เคยกินแล้ว…มันตีความได้หลายแบบ และหนึ่งในนั้นก็คือ… เคย กิน เขา แล้ว…
กลืนน้ำลายที่ดูเหนียวเป็นพิเศษลงคอ ก่อนจะรีบหันหน้าหนีไปมองข้างทางหัวใจเต้นตุ้บๆ มือไม้เย็นเฉียบ สมองคิดคำนวณความเป็นไปได้วนไปวนมา
เคยกินแล้ว?
ได้กันแล้วหรอ?
แล้วใครเสียบวะ?
จะถามก็กลัวเสียหน้า…แต่ถ้าไม่ถามก็กลายเป็นค้างคา…
เอาเป็นว่า…รอดูตอนสถานการณ์มันพาไป
เห้ย! คิดแบบนี้แสดงว่าเขาก็พร้อมมีอะไรกับเฌอแตม? เดี๋ยวดิ ไม่ใช่แล้วโว้ย
“เป็นอะไร?”
เฌอแตมเลิกคิ้วมองคนกัดฟันกรอด ฌามาดูเกร็งๆ จะว่าไปก็เกร็งตั้งแต่กลับมาแล้ว ดูทำหน้ายุ่งยากใจแต่จะบอกว่าอีกฝ่ายจะตีตัวออกห่างมันก็ไม่ใช่ในเมื่อก็ยังเอาตัวมาผูกติดกันไว้อยู่แบบนี้
“เปล่า”
“ฌาม์…”
“อื้อ เปล่าจริงๆ”
ปฏิเสธแต่ก็ยังทำหน้าเครียด มือซีดเลยละมือจากเกียร์ยกขึ้นนวดไปหูที่มีเทปกาวแปะเบาๆ ฌามาหลุดส่งเสียงครางแผ่วเบามาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่ยักจะเขยิบตัวหนีแต่หันมาดึงข้อมือเฌอแตมไปจรดปลายจมูกลงหอม…
แช่สัมผัสอุ่นๆไว้สักพักก่อนจะงับนิ้วซีดเบาๆ ไล้ไปตามข้อนิ้วเรียวก่อนจะจบลงที่จรดเรียวปากที่กลางฝ่ามือ และลดมือลงกุมเอาไว้
ฌามาตกใจกับการกระทำของตัวเองแต่สัญชาตญาณมันบอกว่าเขาเคยสนิทสนมกับเฌอแตมในลักษณะนี้ ร่างกายคุ้นเคยที่จะสัมผัส แตะต้อง คลอเคลีย…
และเขาก็ชอบสัมผัสของเฌอแตม… สมองมันค้านว่าคงไม่ได้ชอบหรอก อาจจะแค่…บรรยากาศพาไป…
ก็คงเป็นอะไรคล้ายๆอย่างนั้น
อย่างน้อยการกุมมือเย็นๆมันกลับรู้สึกอบอุ่น…
เหมือนรอคอยที่จะได้กุมมือนี้มานาน…
รถยาริสเลื่อนมาจอดเลยประตูรั้วเรือนมะนาวไปเล็กน้อย บ้านฌามาไม่มีที่จอดรถทำให้ไม่อาจถอยรถเข้าบ้านได้ สองคนเดิมเคียงกันไปตามทางเดินเข้าบ้าน ฝ่าสวนญี่ปุ่นมืดมิดไปเรื่อยๆ มือสองคู่ยังกุมกันหลวมๆไม่มีใครพูดอะไร
เฌอแตมเป็นฝ่ายเปิดประตูบ้าน แต่เพราะฌามาไม่ยอมปล่อยมืออีกข้างเลยทำให้ค่อนข้างทุลักทุเล พยายามจะดึงออกฌามาก็ไม่ยอมปล่อย
“ปล่อยก่อน”
“เดี๋ยวเปิดเอง”
วงแขนแกร่งโอบรอบเอวบางกว่า ปลายคางวางลงกับลาดไหล่ว่าที่คุณหมอ สองมือเขยิบเข้าไปจัดการเปิดประตูบ้านแทน
ลมเย็นผัดมาเอื่อยๆ ประตูบ้านเปิดแล้วแต่ยังไม่มีใครขยับ เฌอแตมยังปล่อยตัวเองอยู่ในอ้อมแขนของฌามา คิดถึง… คงเป็นความรู้สึกแบบนั้น
คิดถึงสัมผัส คิดถึงรอยยิ้ม คิดถึงคำพูด
คิดถึงเวลาที่อยู่ด้วยกัน
ความอ้างว้างที่ต้องรอคอยกว่าสี่เดือนจบลงสักที…
เฌอแตมพลิกตัวหันกลับไปสบตาคมผ่านแสงจันทร์สลัว มือซีดยกขึ้นไล้ใบหน้าที่แสนคิดถึง เสียงกระซิบเอื้อนเอ่ยเรียกชื่อฌามาเบาๆ มือหนาที่วางนิ่งอยู่บนเอวเลื่อนขึ้นมาที่ท้ายทอยของเฌอแตม
บีบนวดเบาๆก่อนจะยึดไว้เพื่อรับจูบ…จูบที่ไม่มีเหตุผลอะไรสำคัญเลย
บรรยากาศพาไป…
เฌอแตมถูกดันไปข้างในบ้าน ประตูกกระจกถูกดึงปิดเสียงดัง ความมืดมิดเข้ามาแทนที่แสงจันทร์สลัว ม่านยังทิ้งตัวปิดกระจกรอบด้านทำให้ไม่เห็นอะไร
แต่ความคุ้นเคยในสถานที่ทำให้ฌามาจูงเฌอแตมมาถึงชั้นสอง โซฟาที่เฌอแตมนอนอยู่ทุกคืน… ก่อนจะดันร่างเฌอแตมลงไปตรงนั้น
กลิ่นสบู่ติดผิวซีดกำจายอยู่ทั่วโซฟา หมอน ผ้าห่ม… ที่เขาเฝ้ามองอยู่หลายคืน ความรู้สึกอยากครอบครองปลุกเร้าจนต้องขบฟันลงกับต้นคอว่าที่คุณหมอ
กลิ่นสบู่ติดผิวในเวลานี้ไม่มีอีกแล้ว แต่แม้จะเป็นกลิ่นเหงื่อเข้ามาแทนที่ฌามากลับยังมัวเมา ขบเม้ม ไล่ชิม ไล้จูบ… ราวกับเสพติดนักหนา
เสียงครางแผ่วดังจากคนใต้ร่าง แต่สองมือซีดก็โอบรอบแผ่นหลังกว้างลูบไล้ปะป่ายไปทั่วไม่ต่างกัน จะจับตรงไหนก็ให้จับ… จะจูบตรงไหนก็แอ่นตัวรับ..
หรือแม้แต่จะโดนถอดเสื้อผ้า ก็ให้ความร่วมมืออย่างดี… ปากสวยครางแผ่วปะปนกับการเรียกชื่อฌามา สองมือสอดแทรกขยุ้มกลุ่มผมคนที่วุ่นวายอยู่กับแผ่นอกตัวเองตามแรงลิ้นที่ซุกซน ปากอุ่นทั้งดูดสลับจูบเอาแต่ใจ
หยาดน้ำตาร่วงหล่นลงข้างแก้มตามแรงอารมณ์ที่พัดพาไป…
“อะ อา..ฌา..”
เสียงครางสลับกับเสียงผิวเนื้อกระทบกัน ฌามาซุกหน้าลงกับต้นคอและลาดไหล่บาง ส่วนร่างกายที่ ‘ประสาน’ กันก็ยังขยับไม่หยุด เสียงครางชิดใบหูทำให้รู้สึกดีจนต้องเผลอกระแทกแรงในบางจังหวะ
ครั้งแล้วครั้งเล่าที่พาตัวเองเข้าไปในความอบอุ่นของเฌอแตม หมดคำถามเรื่องตำแหน่งที่สงสัยเมื่อเฌอแตมยินยอมแต่โดยดี แถมให้ความร่วมมือจนรู้สึกราวกับว่าได้รับของขวัญที่มีค่า
ฌามารู้สึกเช่นนั้นจริง…รู้สึกดีที่มีเฌอแตมอยู่ในอ้อมกอดตัวเองเช่นนี้… จนอดโกรธตัวเองไม่ได้ที่หลงลืมช่วงเวลาที่เคยอยู่ด้วยกันไป
การกอดเฌอแตมที่ไร้ความทรงจำยังให้ความรู้สึกมากขนาดนี้… ถ้ากอดทั้งๆที่ทุกเศษเสี้ยวความทรงจำยังอยู่ครบจะรู้สึกดีขนาดไหน
จะดีแค่ไหนถ้าจำได้ว่าการประทับจูบตรงไหนที่เฌอแตมชอบ…จังหวะไหนที่ทำให้เสียงเรียกชื่อติดขัดได้มากที่สุด หรือ ‘ที่ไหน’ ของบ้านที่เฌอแตมจะชอบมากที่สุด
รอยยิ้มที่หาได้ยาก…จะถูกมอบให้เขาคนเดียวเหมือนเช่นคืนนี้ไหม…
“แตม…”
เสียงครางต่ำดังชิดเรียวปาก ประทับจูบดึงดันอีกครั้ง… ก่อนความรู้สึกทั้งหลายจะถูกปลดปล่อยในความอบอุ่นของเฌอแตมจนหมด
ข้าวไข่เจียวสองจานวางคู่กันบนโต๊ะกินข้าว ม่านกระจกถูกเปิดหนึ่งด้านมองเห็นสวนมืดมิดที่ไม่ได้รับความสนใจเท่าไหร่ ฌามาใส่กางเกงผ้าตัวเดียวกับเฌอแตมที่อยู่ในชุดคลุมอาบน้ำนั่งเกยกันอยู่ตรงนั้น…
ขาขาวซีดวางพาดไปกับตักแกร่งข้างหนึ่ง ปล่อยให้มือสากลูบไล้ต้นขาอยู่เช่นนั้น มืออีกข้างของฌามาตักข้าวไข่เจียวเข้าปากทั้งๆที่สายตายังคงจดจ้องอยู่ที่ใบหน้าซีด
เฌอแตมก็เช่นกัน… เอนตัวพิงไหล่กว้างกินข้าวของตัวเองสลับกับหันไปรับจูบรสไข่เจียว ….ไม่มีใครมีสมาธิกับการกินข้าวเพราะกินได้หนึ่งคำก็ต้องหันมาจูบกันทุกที
สุดท้ายฌามาก็ดันเฌอแตมขึ้นมานั่งตัก สองขาขาวพาดไปกับเก้าอี้ด้านข้าง ส่วนมือก็ยกขึ้นโอบลำคอฌามาหลวมๆ เพราะความสูงอาจจะทำให้ฌามาต้องแหงนหน้าขึ้นมาสบตาสักหน่อย
แต่มันก็ไม่ลำบากอะไรถ้าจะโน้มตัวลงไปหา…และพบกันที่ครึ่งทาง…
การจูบ เล้าโลมเป็นไปเช่นนั้นไม่ว่าจะตอนกินข้าวเสร็จ เก็บจาน…หรือพากันเดินขึ้นห้อง สุดท้ายก็จมไปในอ้อมกอดของกันและกันอีกครั้ง
หยาดเหงื่อจากการเคล้าคลอกันทั้งคืนไม่ได้ทำให้ฌามาหยุดลูบไล้ต้นขาซีด... เฌอแตมหลับไปแล้วหลังจากถูกเขาเอาแต่ใจ แต่ท่านอนก็ช่างยั่วยวน…
ไม่มีใครนอนลงไปกับเตียงสักคน แต่ฌามานั่งพิงหัวเตียงโดยมีเฌอแตมนอนหลับอยู่ในอ้อมแขน ขาขาวยังคงพาดมาบนตักราวกับกอดก่ายตุ๊กตา เรือนร่างเปล่าเปลือยเต็มไปด้วยรอยรักและหยาดน้ำจากความรู้สึก
แต่มันไม่ได้ทำให้ฌามานึกรังเกียจ…แต่ต้องข่มอารมณ์ตัวเองลงไปเหลือเพียงหอมกลุ่มผมนิ่มไปเรื่อยเปื่อยเท่าที่จะไม่รบกวนคนหลับ
เขายังคงหาคำตอบไม่ได้ว่าเฌอแตมน่ารักไหม…แต่เรื่องความเย้ายวนเขาให้คะแนนเต็ม… เขากำลังหลง…หลงอย่างที่ไม่คิดว่าตัวเองจะหลงใครได้ขนาดนี้
ตัวเขาเมื่อสี่เดือนก่อนก็คงหลงใหลเช่นนี้ไม่ต่างกัน ถึงขนาดทิ้งการทิ้งงานจากอเมริกาเตรียมตัวกลับมาอยู่ไทยได้ ผิวขาวๆ เสียงติดจะแหบ และความอบอุ่นนี้มันไว้ใจไม่ได้จริงๆ
…. ร้ายจริงๆเลย…เฌอแตม…
ช่วงสายที่สติกลับมาครบถ้วนกันทั้งคู่ทำเอาเฌอแตมติดจะแก้มแดงตลอดเวลาทั้งๆที่ตีหน้านิ่ง ส่วนฌามาก็มีรอยยิ้มติดใบหน้าไม่ว่าจะทำอะไร สลับกันอาบน้ำ หรือแต่งตัว แค่สายตาสบกันบรรยากาศขวยเขินก็ปรากฏขึ้นทันที
เฌอแตมเดินช้าลงกว่าเดิม แถมยังติดจะลากขาจนอยากจะแซวแต่ก็ไม่ทำ เพราะความซวยจะลงที่เขาทันที เลยทำได้แค่ลดฝีเท้าลงเดินคู่กันไปที่รถหน้าบ้าน
ว่าที่คุณหมอไปเรียนตอนเช้าไม่ทันแล้วเหมือนกับที่ฌามาก็นึกอยากจะโดดเรียน ยังไงก็ไม่มีคะแนนอะไรอยู่แล้วเลยตัดสินใจไปคอมมิวนิตี้มอลใกล้ๆ
วันธรรมดาคนน้อยยิ่งกว่าน้อยท่าเดินของเฌอแตมจึงไม่มีใครสนใจเท่าไหร่นัก ร้านอาหารญี่ปุ่นเจ้าหนึ่งถูกเลือกเป็นมื้อเช้า
“แพง…”
“เดี๋ยวผมจ่ายเอง”
“ไม่เอา”
“เถอะน่า”
“มาอยู่ด้วยไม่ได้อยากจะเกาะกินนะ”
ฌามายอมรับว่าตัวเองไม่ได้คิดถึงแง่นั้น ก็แค่อยากให้เฌอแตมได้กินอะไรดีๆ แถมเจ้าตัวก็ดูเมียงมองร้านอาหารญี่ปุ่นหลายที เขาเลยเลือกร้านที่จำได้ว่าแม่ชอบเพราะของสดและอร่อย
ไม่ได้คิดถึงราคาที่ต้องจ่าย…และความดื้อดึงของเฌอแตม
“แตม… เป็นแฟนกันนะอย่าเกรงใจ ผมไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน”
“ไม่ได้ ถึงจะแบบนั้นก็ไม่ได้”
“ขอเถอะ…ผมอยากกินจริงๆ”
เขาไม่ได้อยากกินแต่เพราะอยากเทคแคร์เลยอ้างไปเรื่อย สุดท้ายความดึงดันก็ชนะ เฌอแตมดูหงุดหงิดเขาเลยเลือกสั่งอะไรที่คิดว่าอร่อยสองสามอย่างที่เป็นเซ็ตง่ายๆ
การตัดสินใจของฌามาครั้งนี้ถือว่าคุ้มค่า เพราะรอยยิ้มจางที่แตะมุมปากของเฌอแตมเรียกว่าคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม และตัวเขาเองก็รู้สึกดีที่อีกฝ่ายมีความสุข
มือซีดคีบนั้นคีบนี้เข้าปากแม้จะกินไม่เยอะเพราะเกรงใจจนต้องพยายามตักให้…น่ารัก
คิ้วเข้มเลิกขึ้นเมื่อคำว่า ‘น่ารัก’ ปรากฏอย่างชัดเจนราวกับมันถูกแปะอยู่บนหน้าเฌอแตม หรือความน่ารักที่เขาสงสัยว่าอยู่ตรงไหนกำลังจะปรากฏช้าๆ
กินข้าวเสร็จทั้งคู่ก็ไปมหาลัย เฌอแตมแวะส่งฌามาที่คณะสถาปัตย์ก่อนเลยไปยังคณะตัวเอง กลุ่มเพื่อนฌามานั่งอยู่กันแน่นห้องเรียน
การสนทนาวันนี้ยังคงเป็นเรื่องการแข่งกีฬาและเชอเบทที่โดนเข่ากระแทก
ฌามายิ้มขำไปกับกลุ่มเพื่อน…ความรู้สึกตัวลอยๆมันเหมือนโลกนี้สดใสแปลกๆ จนบอกไม่ถูกเหมือนกัน เขายังคงนั่งขำที่รุ่นพี่พากันโมโหทีมกีฬาคณะอื่น หรือแม้แต่พีทที่หน้าเขียวไปเล็กน้อยจากอุบัติดหตุโดนลูกบาสกระแทกก็ยังดูตลก
“มึงเป็นไรวะเปรม ขำไม่หยุดเลย”
“หา เปล่า ก็มันดูขำๆ”
“แต่มึงดูยิ้มๆ ยิ้มแบบคนมีความรัก ฮันแน่!!!!”
ความสนใจถูกโยนกลับมาที่ฌามาจนหมด
“เห้ยทำไมเปลี่ยนเรื่องมาที่กูวะ”
“ก็มึงมันมีพิรุธ แอบไปมีแฟนปะวะ ใครๆๆๆๆ”
“โอ้ยอะไรวะ เรียนดีกว่า”
อาจารย์เข้าห้องพอดีทำให้ทุกคนพากันชี้หน้าคาดโทษไว้ก่อน เพราะเป็นวิชานอกสาขาที่เรียนอาทิตย์ละครั้งเลยยิงยาวถึงสามชั่วโมง
ออกจากห้องมาสี่โมงเย็นทุกคนก็ลืมเรื่องฌามาไปกันหมด แต่เปลี่ยนบทสนทนาเป็นเรื่องโปรเจคปีสี่กันแทน ทั้งกลุ่มพากันตบเท้าไปห้องสตูดิโอของปีสี่ที่อยู่คนละตึก จึงเลี่ยงไม่ได้ต้องผ่านใต้ตึกซึ่งเป็นที่นั่งรอเรียน กินขนมของคณะ
นักศึกษาแพทย์แต่งตัวถูกระเบียบใส่แว่นทรงกลมยืนอยู่ตรงนั้นหนึ่งคน ฌามาที่เดินรั้งท้ายกลุ่มเพื่อนชะงักเมื่อสบตากับดวงตาเรียวหลังเลนส์แว่นนั่น ก่อนคนหน้าเฉยเมยจะเดินตรงเข้ามา
ทั้งกลุ่มชะงักเดาไม่ถูกว่านักศึกษาแพทย์มาหาใครจนกระทั่ง…
“ขอยืมตัวฌาม์สักครู่ครับ”
“ฌาม์ไหนวะ? ไม่มีคนชื่อฌาม์นะ”
“เอ่อ กูเอง”
“อ้าวมึงชื่อเปรมไม่ใช่เรอะ”
“นั่นชื่อจริงครับ เปรมปรีฌาม์ ชื่อเล่นกูฌามาโว้ย แต่วันนั้นมึงบอกชื่อกูยาวเลยจดไปแค่นั้นกูเลยเป็นเปรมไง”
คำอธิบายง่ายๆเรียกรอยยิ้มจางให้เฌอแตม มิน่าฌามาเลยกลายเป็นเปรมปรีฌาให้เขาสงสัยนึกว่าฌามาจะแอบหลบหน้าเขาเลยแกล้งเปลี่ยนชื่อ
“เอ้าหรอ ว่าแต่จะยืมไปทำไร คนคณะนี้ไม่ใช่มายืมก็ให้ยืมง่ายๆนะ”
เฌอแตมชะงักเมื่อเจอลูกไม้ยียวน บ้างก็เริ่มทำหน้าจับผิดเรื่องเขากับฌามา ส่วนตัวฌามาเองกลับทำหน้าลำบากใจเพราะถูกเพื่อนในกลุ่มสองคนคล้องแขนล็อคไม่ให้ขยับ
“ก็มีธุระนิดหน่อยครับ”
“ธุระอะไรบอกได้ปะ”
“นั่นดิๆ หลอกเอาคนคณะเราไปแกล้งหรือเปล่า ไม่ได้น้าพ่อเดือนแพทย์”
“ก็เรื่องทั่วๆไป…”
“ทั่วๆไปก็คุยตรงนี้ได้ ทำไมอ่ะ หรือว่าเรื่องของหัวใจเลยเขินพวกเราว้า”
พีทผสมโรงแซว จริงๆตอนแตมบอกว่าอยากเซอไพรส์เพื่อนก็ไม่ได้เอะใจ แต่ท่าทางฌามาที่ลากเฌอแตมออกไปวันนั้นมันทำให้พอจะเดาออกอยู่นิดหน่อย
“ก็ได้… ฌาม์ขอเบอร์หน่อย”
“โว้ววววววววว เดือนแพทย์มาขอเบอร์เด็กสถาปัตย์ว่ะ เหยดดด เอาไปทำไรครับผม มาของ่ายๆนี่ต้องมีเหตุผลนะคร้าบบบ”
ฌามาเริ่มหงุดหงิดเมื่อรุ่นพี่ยกแขนโอบไหล่เฌอแตมซะอย่างนั้น ถึงรู้ว่าแซวขำๆแต่ก็หวง…ไหล่นั่นเมื่อคืนเขาตีตราจองไม่รู้กี่รอยต่อกี่รอย มาโอบของๆเขา…ได้ไง
“เป็นแฟนกัน”
คำพูดจากเด็กสถาปัตย์เองทำเอาใบหน้าเดือนแพทย์ขึ้นริ้วสีจาง ท่าทางมีพิรุธทั้งคู่ทำเอาพวกรุ่นพี่ยิ่งพากันเป่าปากแต่ก็ยอมปล่อยฌามาออก
คนผิวเข้มเลยรีบดึงข้อมือซีดให้เดินแยกออกมาอีกด้านของตึก แม้จะมีเสียงแซวตามมาไม่ขาดสายก็เถอะ
“คราวหลังอย่าให้ใครจับง่ายๆ”
เฌอแตมมองคนทำท่าปัดฝุ่นจากไหล่ตัวเองขำๆ แต่ใบหน้าจริงจังทำให้ต้องกลั้นยิ้มไว้ ก่อนจะพาตัวเองกลับมาที่เรื่องเบอร์โทร
“เอาเบอร์มาหน่อยเลิกเรียนจะได้โทรหากันได้ จะกลับก่อนก็ได้นะ เพราะต้องอยู่เวรพยาบาล”
“เดี๋ยวรอ”
“มันจะดึกแบบเมื่อวาน”
“ก็จะรอ… เดี๋ยวมีเด็กมายุ่งอีก”
“หึง?”
“เออ”
ยอมรับง่ายๆ แถมน้ำเสียงหงุดหงิด
“ทำไม ก็พูดความจริง…”
คนเขินเลยกลายเป็นคนพูดเองเพราะเฌอแตมเล่นจ้องมานิ่งๆไม่มีปฏิกิริยา
“ไม่มีหรอก”
“แตม…”
“หือ”
“อยากจูบ”
“ที่นี่มหาลัย แล้วนี่ก็ใต้ตึก”
คิ้วเรียวขมวดมุ่นแก้เขิน ฌามาก็เป็นแบบนี้ทุกทีขนาดเมื่อก่อนตอนขอมีอะไรด้วยก็ใช้คำพูดตรงๆ ชวนมี ‘เพศสัมพันธ์’ ง่ายๆ
“อยากจูบ ในห้องน้ำเมื่อวานยังจูบได้”
“ก็นี่มันห้องน้ำที่ไหนล่ะ…”
“งั้นไปที่รถได้ไหม?”
“จะจูบให้ได้ใช่ไหม?”
“อือ… จริงๆอยากทำมากกว่าจูบ แต่คงไม่ได้ ขอแค่จูบก่อนแล้วกัน…นะ…”
“หื่นชิบหาย”
เฌอแตมเอนตัวซุกใบหน้ากับอกแกร่งหลังจากโดนบังคับจูบในรถอยู่เป็นนาน… แม้จะไม่ถนัดเพราะมีเกียร์กั้นระหว่างสองเบาะ แต่ฌามาก็ดึงดันจนไนคไทหลุดลุ่ย…และฝากรอยรักไว้ในผิวเนื้อลาดไหล่เพิ่มไปอีกรอยจนสำเร็จ
โชคดีที่ฟิล์มกระจกรถค่อนข้างทึบ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าถ้ามาส่องใกล้ๆจะไม่เห็นคนข้างใน ไม่อย่างนั้นฌามาคิดว่าเบาะหลังรถยาริสก็น่าใช้งานเหมือนกัน
“คืนนี้…ผมมีเรื่องจะบอก เรื่องของผม…ช่วงที่เราห่างกัน”
ฌามาจรดเรียวปากลงบนกลุ่มผมนิ่มอีกครั้ง มือหนายังคงโอบเอวบางลูบไล้ไปยังผิวเนื้อที่เขาดึงเสื้อนักศึกษาเรียบร้อยออกมาจนสอดมือเข้าไปได้
“อื้อ…เรื่องที่มาเป็นนักศึกษานี่ด้วย อยากรู้ทั้งหมด”
“ขอโทษที่ไม่ได้อธิบายอะไร…สัญญาว่าคืนนี้จะตอบทุกคำถาม”
“ทำหน้าเครียดจัง”
เฌอแตมเงยหน้าขึ้น ยกมือไล้แก้มของฌามาเบาๆ ก่อนจะนวดคิ้วที่ขมวดมุ่นของอีกฝ่ายจนมันยอมคลายออก
“นิดหน่อย… ถ้าได้อีกสักจูบคงดีขึ้น”
“พอแล้ว อื้อ…”
เฌอแตมกลอกตาไปมาก่อนจะยอมปิดเปลือกตาลง…ยอมให้ฌามาเอาแต่ใจอีกครั้ง
“ฉุดกลับบ้านได้ไหม…”
“อื้อ…มีงาน”
เสียงแหบคลอเคลียงุ้งงิ้งยิ่งทำให้มันทนไม่ไหว เฌอแตมที่ทำตัวเป็นลูกแมวแบบนี้มันโคตรน่ารัก…งานกีฬาบ้านี่…น่าฆ่าให้ตาย
“ไม่ได้หรอ…”
“ไม่ได้ อื้อออ”
คำค้านถูกปิดด้วยจูบ…
“นะ…ลาป่วย”
“ฌาม์ อย่าดื้อ…อื้อ”
“นะครับ…”
“ฌาม์… กะ ก็ได้…”
เสียงยอมแผ่วเบาฌามาจึงยอมผละออกอย่างอ้อยอิง ไม่วายหอมแก้มซีดอีกฟอดใหญ่… ยอมให้เฌอแตมโทรไปลาป่วยกับเพื่อน ยอมลดความเอาแต่ใจ
เพื่อกลับไปบ้านแล้วเอาแต่ใจยิ่งกกว่าเดิม…
========
รำคาญฌามามากเลย 55555+ แต่เฌอแตมดูเซ็กซี่ง่ะ =...=
อาทิตย์นี้รีบมานิดนึงค่ะ ช่วงหยุดยาวจะอัพนิยายไม่ได้ แฮ่ ขอลาไปสิงคโปร์ >___< เจอกันอาทิตย์นู้นเลยนะคะ
ปล。 คอมเม้นให้กำลังเก๊าด้วยน้า >__<