Honey 15
วันนี้พอร์ชมีเรียนวิชาทักษะวิชาเดียวกับโฟน ร่างสูงยังคงนั่งโซนหลังห้องเช่นเดิมส่วนร่างบางก็ยังคงนั่งโซนหน้าห้องเช่นเดิมแต่เพราะวันนี้อาจารย์เข้าสอนช้ากว่าปกติทำให้พอร์ชลุกจากที่นั่งและเดินมาหาโฟนทันที
“อ๊ะ” โฟนชะงักไปทันทีที่เงยหน้าจากหนังสือเรียนขึ้นมาเจอร่างสูงมายืนอยู่ตรงหน้า ใบหน้าหวานขึ้นสีระเรื่อทันทีเพราะยังคงขวยเขินในหารมองหน้าอีกคนหลังจากที่เมื่อวานเขากับอีกคน...งื้อออออ แค่คิดก็หน้าร้อนผ่าวขึ้นมาอีกแล้ว
“เลิกเรียนแล้วไปหาอะไรกินกันนะ” พอร์ชว่าพร้อมมองหน้าอีกคนด้วยรอยยิ้ม โฟนพยักหน้ารับก่อนจะทำท่าไล่ร่างสูงกลับไปนั่งที่เมื่อเพื่อนในกลุ่มเดินเข้ามาในห้องเรียน
“อายเพื่อนเหรอ?” พอร์ชเลิกคิ้วถามนิดๆ
“อื้ม...กลัวโดนล้อ” โฟนว่าหน้าแดงๆ พอร์ชยกยิ้มกับท่าทางน่ารักๆของอีกคนก่อนที่มือหนาจะยื่นไปยีหัวอีกคนเบาๆอย่างอ่อนโยน
“งั้นไปนะ เจอกันหลังหมดคาส” โฟนมองตามแผ่นหลังกว้างยิ้มๆก่อนจะยกมือขึ้นจับบริเวณกลุ่มผมของตัวเองทีอีกคนสัมผัสอย่างเขินๆ งื้อออออ...พอร์ชคนบ้า
“เดี๋ยวๆๆ เมื่อกี้มันอะไรกัน” มะปรางถามขึ้นทันทีเมื่อเธอเห็นเหตุการณืระหว่างเพื่อนสนิทกับเดือนวิศวะเมื่อครู่เต็มสองตา ไม่ใช่แค่เธอด้วย แอนนาก็เห็น มินเองก็เห็น
“อะไรเล่า ไม่มีอะไรเสียหน่อย” โฟนว่าอย่างเขินๆ ใบหน้าใสเริ่มขึ้นสีขึ้นมาอีกครั้ง
“คบกันแล้วเหรอ?” มินถามขึ้นยิ้มๆ โฟนเบิกตากว้างทันทีและท่าทางแบบนี้ของร่างบางก็ทำให้เพื่อนๆรับรู้คำตอบได้อย่างอัตโนมัติทันที
“จริงดิๆๆ อ้ายๆๆ โฟนของเรามีแฟนแล้วเหรอเนี่ย” มะปรางว่าพร้อมยิ้มแซวโฟนต่างจากแอนนาที่ยืนขมวดคิ้วอยู่ โฟนเห็นท่าทางของแอนนาก็รู้สึกแปลกใจขึ้นมาทันที
“แอนนา” โฟนเรียกแอนนา หญิงสาวหันมามองหน้าโฟนก่อนจะพูดออกมา
“โฟนคบกับพอร์ชแล้วจริงดิ? ความจริงเพื่อนในชมรมเราชอบโฟนน่ะ แล้วแบบ...เราไปตกปากรับคำว่าจะช่วยแต่ไม่คิดว่าโฟนกับพอร์ชจะเป็นแฟนกันแล้ว” แอนนาว่าออกมาตามความจริง โฟนทำหน้างุนงงทันทีเพราะไม่รู้เรื่องนี้มาก่อนพลางจะนึกถึงใครบางคนที่เขาเคยเจออยู่ไม่กี่ครั้งและเจอกันในนามเพื่อนในชมรมของแอนนา
“แซมงั้นเหรอ?” โฟนถามขึ้น มินกับมะปรางหันมามองหน้าดฟนก่อนจะหันมองหน้าแอนนาทันทีเมื่อแอนนาพยักหน้ารับ
“เดี๋ยวๆ แซมคือใคร” มะปรางถามขึ้นทันทีด้วยความสงสัย
“เพื่อนในชมรมเราน่ะ คณะเภสัช” มะปรางเบิกตากว้างทันทีที่ได้ยิน
“แซมที่หล่อๆ เป็นนักบาสของคณะเภสัชอ่ะนะ โหหหหหห เด็ดอีกแล้ว งื้ออออ เกิดเป็นโฟนนี่มีแต่ผู้ชายหล่อๆมาชอบอ่ะ ชีวิตดีไปแล้ว” มะปรางว่าอย่างกระเง้ากระงอด ขนาดตำแหน่งดาวคณะทันตะอย่างเธอยังไม่ได้ขนาดโฟนเลยแต่ก็นะอีกคนน่ารักจริงๆ ขนาดเป็นผู้ชายแต่ใบหน้ากลับขาวใส ร่างกายบอบบางน่าทะนุถนอมไม่ต่างอะไรจากผู้หญิงเลย แถมยังยิ้มหวาน นิสัยดีเป็นกันเองอีกต่างหาก
“เราขอโทษนะโฟนที่ไม่เคยบอกเรื่องนี้มาก่อน แซมมันไม่ให้เราบอกอ่ะ” แอนนาว่าอย่างรู้สึกผิดพร้อมหันไปขอโทษขอโพยมะปรางกับมินเช่นเดียวกัน
“ไม่เป็นไรหรอกๆ แต่ตอนนี้เราคบกับพอร์ชแล้ว แซมเขาจะไม่เป็นไรใช่มั้ย?” แม้ว่าจะไม่ได้สนิทกันหรือรู้จักอะไรกันมากมายแต่โฟนก็ยังคงเป็นโฟนที่คอยห่วงความรู้สึกคนอื่นเสมอ
“อย่าคิดมากน่ะโฟน แค่คนแอบชอบ อ่อนแอก็แพ้ไปไม่เคยได้ยินคำนี้เหรอ?” มะปรางว่าอย่างขำๆ โฟนยิ้มๆออกมากับคำพูดของหญิงสาวแต่ในใจก็ยังคงนึกถึงเรื่องที่แอนนาพูดเมื่อครู่ ไม่ใช่ว่าเขาสนใจอีกคนนะแต่เขาเป็นคนที่ไม่ชอบให้ความหวังใคร ถ้ามีโอกาสเจอกันหรือได้คุยกัน เขาคงต้องบอกแซมไปตรงๆแล้วล่ะ...หลังจากที่อาจารย์บอกเลิกคาวพอร์ชก็รีบเก็บหนังสือ(ที่ยังไม่ได้เปิดเรียน)ลงกระเป๋าและลุกจากที่นั่งเดินไปหาอีกคนทันที
“มาแล้วๆ” มะปรางว่าพร้อมกระแซะไหล่โฟนเบาๆเมื่อเห็นว่าพอร์ชเดินมา
“กลับกัน” พอร์ชว่าก่อนจะหยิบกระเป๋าของโฟนมาถือไว้
“เราถือเองได้” โฟนว่าอย่างเขินๆกับการกระทำของอีกคน
“เรารู้ แต่เราอยากถือให้ไง” พอร์ชว่ายิ้มๆ
“ไอ้กราฟกระเป๋ากูหนักอ่ะ ถือให้หน่อยได้มั้ย?”
“คงจะไม่ได้ว่ะ มึงไม่ใช่แฟนกูอ่ะนะ กูถือให้แค่แฟนกูเท่านั้นแหละ” เสียงของเลิฟและกราฟดังขึ้นพร้อมกับทั้งคู่ที่เดินตามพอร์ชมาเพื่อล้อๆเพื่อนสนิท โฟนหน้าขึ้นสีทันทีกับคำพูดล้อเลียนของเพื่อนของอีกฝ่าย
“สัส แยกย้ายกันกลับดิวะ ตามมาไมเนี่ย” พอร์ชหันไปด่าเพื่อน กราฟกับเลิฟพากันหัวเราะออกมาก่อนจะเดินออกจากห้องเรียนไปแต่ก็ไม่วายทิ้งระเบิดคำแซวเอาไว้
“เฮ้อ เพื่อนหนีไปมีแฟน สงสัยมึงกับกูคงต้องเหงาแน่ๆเลยไอ้เลิฟ ก็แม่งเสือกรักแฟน หลงแฟนขนาดนั้น”
“อย่าไปสนใจพวกมันเลย แม่งกวนตีน” พอร์ชหันมาพูดกับโฟนยิ้มๆ โฟนพยักหน้ารับแต่ใบหน้าใสก็ยังคงขึ้นสีระเรื่อด้วยความเขิน ถูกแซวโดยเพื่อนตัวเองไม่พอยังถูกแซวโดยเพื่อนอีกคนอีกด้วย งื้ออออออ
“เอ่อ...เราไปนะ” โฟนหันไปบอกลาเพื่อนๆก่อนจะเดินออกไปพร้อมพอร์ชทันที...อย่างที่ชักชวนตอนต้นคาบเรียนก่อนที่จะพาโฟนไปส่งที่บ้านร่างสูงก็ขับรถพาอีกคนมาหาของหวานอร่อยๆกินทันที คาเฟ่ที่พอร์ชพาโฟนมาเป็นคาเฟ่แมวที่นอกจากจะมีเครื่องดื่ม ของหวานแล้วยังมีแมวน่ารักๆให้ลูกค้าได้เล่นกับพวกมันอีกด้วย
“น่ารักจัง” โฟนพูดออกมาทันทีที่เข้ามาในร้าน แมวตัวเล็กๆสองตัวเดินเข้ามาคลอเคลียโฟนและพอร์ชทันทีเพราะพวกมันคุ้นชินกับการอยู่กับมนุษย์ โฟนร้องครางฮืออย่างชอบใจก่อนจะอุ้มเจ้าแมวตัวขาวที่มาคลอเคลียเขาขึ้นมาอุ้ม
“น่ารักอ่ะพอร์ช อยากเลี้ยงมั่งจัง” โฟนว่าพร้อมอุ้มแมวหันไปทางพอร์ช
“ที่บ้านไม่อนุญาตไม่ใช่หรือไง?” พอร์ชว่าอย่างขำๆ โฟนพยักหน้ารับพร้อมกับหน้าเศร้าๆนิดๆ
“ก็จริง แต่อยากเลี้ยงจริงๆนะ” โฟนว่าพร้อมมองหน้าพอร์ชอย่างออดอ้อน พอร์ชเลิกคิ้วนิดๆกับท่าทางของอีกคน
“ถ้าเลี้ยงที่หอพอร์ช...” โฟนพูดออกมาเสียงแผ่วแต่พอร์ชกลับได้ยินมันอย่างชัดเจนทำให้ทราบสิ่งที่อีกคนกำลังคิดอยู่ในใจทันที
“เลี้ยงน่ะได้ แต่โฟนต้องมาห้องเราบ่อยๆได้หรือเปล่าล่ะ?” พอร์ชว่าก่อนจะกระตุกยิ้มมุมปาก โฟนมองหน้าอีกคนก่อนจะพยักหน้ารับอย่างเขินๆ แม้ว่าจะไม่รู้ว่าคำว่าไปห้องอีกคนบ่อยๆหมายถึงอะไรแต่ในใจเขามันคิดไปไกลแล้ว
“งั้นอนุญาต” โฟนยิ้มกว้างทันทีกับคำพูดของร่างสูง
“งั้นวันเสาร์ไปซื้อแมวกันนะๆ” พอร์ชพยักหน้ารับยิ้มๆ แม้ว่าเขาเองก็ยังไม่รู้ว่าจะเลี้ยงแมวรอดหรือเปล่าเพราะไม่เคยเลี้ยงสัตว์มาก่อนแต่ก็นะ...แฟนทั้งคนนี่หน่า ไม่ตามใจแฟนจะให้ตามใจใคร จริงมั้ย?...หลังจากที่เพลิดเพลินกับเครื่องดื่ม ขนมหวานและการเล่นกับแมวแล้วพอร์ชก็พาโฟนไปส่งที่บ้าน โฟนนั่งพูดจ้อเรื่องสายพันธุ์แมวที่อยากได้ตลอดทางแต่กลับไม่ได้ทำให้พอร์ชรำคาญแต่อย่างใดเขาออกจะชอบด้วยซ้ำที่ได้นั่งฟังเสียงของอีกคน
“แต่ความจริงเลี้ยงแมวไทยก็ดีนะ” โฟนพึมพำออกมาเมื่อรถคันหรูขับมาจอดหน้าบ้านของเขา
“ทำไมล่ะ?” พอร์ชเลิกคิ้วถาม
“อืม...เราว่าเปลี่ยนจากซื้อแมว ไปรับลูกแมวตามบ้านสัตว์จรจัดดีมั้ยอ่ะพอร์ช แม้ว่าเราจะอยากเลี้ยงแมวพันธุ์ แต่พอนึกถึงแมวที่หลงมาหลังบ้านวันนั้นก็อดสงสารไม่ได้ว่าป่านนี้อาจจะเป็นแมวจรจัดไปแล้ว” โฟนพูดตามที่ใจคิด แม้ว่าตั้งแต่เล็กจนโตเขาจะไม่เคยเลี้ยงสัตว์มาก่อนแต่โฟนกลับรู้สึกว่าตัวเองชอบสัตว์และเป็นคนขี้สงสารสัตว์มากๆ อย่างที่มหาวิทยาลัยเขาก็ชอบเอาเศษอาหารไปให้สุนัข มีตอนเปิดเทอมปีหนึ่งใหม่ๆ แมวที่หลังคณะออกลูกเขาก็ซื้อนมไปให้มันแต่ตอนนี้มีคนเอาไปเลี้ยงแล้ว
“ก็ดีนะ สัตว์พวกนั้นน่าสงสาร ถือว่าได้ให้ชีวิตใหม่พวกมันด้วย”
“งั้นตามนี้นะ เราไปก่อน บ๊าบบาย” โฟนว่ายิ้มๆอย่างพึงพอใจ
“เดี๋ยวดิ” โฟนชะงักก่อนจะหันหน้ามามองพอร์ชงงๆ พอร์ชกระตุกยิ้มอ่กนจะเอียงแก้มให้ร่างบาง
“ไม่หอมลากันหน่อยเหรอ?” โฟนหน้าขึ้นสีทันทีกับคำพูดของอีกคน
“หะ...หอมลาอะไรเล่า”
“ไม่ได้เหรอ? เรากับโฟนเป็นแฟนกันแล้วนะ เรื่องแบบ..”
จุ๊บ
“ไปแล้ว เบื่อคนขี้นอย” หลังจากจุ๊บแก้มอีกคนเสร็จร่างบางก็รีบลงจากรถไปทันที พอร์ชมองตามอีกคนยิ้มๆพร้อมกับหัวใจที่เต้นรัวอย่างมีความสุข ให้ตายสิ...มีความรักมันดีแบบนี้นี่เอง เขาก็พึ่งรู้...วันเสาร์...พอร์ชและดฟนพากันมายังบ้านรับเลี้ยงสัตว์จรจัดที่เขตชานเมือง โฟนศึกษาข้อมูลของที่นี่มาแล้วว่าที่นี่มีทั้งสุนัขและแมวเกือบร้อยชีวิต โฟนได้ติดต่อป้าอ้อผู้เป็นผู้ดูแลที่นี่เอาไว้และประจวบเหมาะพอดีที่มีแมวคลอดลูกใหม่พอดี หึ่งหย่านมแม่ได้สองอาทิตย์
“สวัสดีครับป้าอ้อ” โฟนและพอร์ชยกมือไหว้หญิงวัยกลางคนผู้เป็นผู้ดูแลสถานที่รับเลี้ยงสัตว์จรจัดแห่งนี้
“สวัสดีค่ะ น้องโฟนที่ติดต่อมาใช่มั้ยคะ? ป้าดีใจมากเลยนะคะที่มีคนใจดีจะมาขอรับเลี้ยงสัตว์” ป้าอ้อพูดด้วยความซึ้งใจ เพราะในสมัยนี้หายากสำหรับคนที่จะสนใจสัตว์จรจัด ไม่เช่นนั้นคงไม่เห็นสัตว์ถูกทอดทิ้งมากมายในปัจจุบัน
“โฟนชอบแมวมากเลยครับ ความจริงคิดจะซื้อแต่พอคิดไปคิดมา แทนที่จะซื้อสัตว์ที่กินดีอยู่ดีอยู่แล้ว น่าจะรับสัตว์ที่ยากลำบากไปเลี้ยงดีกว่า” ป้าอ้อมองเด็กหนุ่มตรงหน้าอย่างชื่นชมทันทีก่อนจะพาโฟนและพอร์ชไปยังกรงลูกแมวที่พึ่งคลอดใหม่ ความจริงมี5ตัวแต่ตายไป2ตัว มำให้ตอนนี้เหลือแค่3ตัว
“ว้าว น่ารักจังเลยครับ” โฟนว่าอย่างชอบใจเมื่อเห็นลูกแมวสีขาว ส้ม สีเทาสามตัวกำลังนอนหลับตาพริ้มอยู่ในกรง ในใจก็คิดเลือกไม่ถูกว่าควรรับเลี้ยงตัวไหนดีเพราะก็น่ารักทุกตัว
“ตัวไหนดีอ่ะพอร์ช น่ารักหมดเลย” โฟนหันไปถามความเห็นร่างสูง พอร์ชทำท่าครุ่นคิดก่อนจะเดินเข้าไปใกล้ๆกรง เจ้าแมวสีส้มค่อยๆลืมตาขึ้นมาก่อนจะสบตาพอร์ชตาแป๋วทำให้พอร์ชหัวใจกระตุก ให้ตายสิ...ตาแป๋วเหมือนคนข้างๆตัวเขาเลย
“ตัวนี้มั้ย?” พอร์ชชี้ไปที่เจ้าแมวสีส้มที่กำลังมองมาที่เขา โฟนเดินเข้ามายืนข้างๆพอร์ชก่อนจะมองเจ้าแมวตัวสีส้มเช่นกัน แมวน้อยหันมาสบตาโฟนก่อนจะร้องออกมา
เมี้ยวววว
“น่ารักจัง อยากไปอยู่กับโฟนมั้ย?”
เมี้ยววววว
เจ้าแมวสีส้มร้องตอบมาอีกครั้ง โฟนยิ้มกว้างอย่างพึงพอใจทันทีก่อนจะหันไปหาป้าอ้อ
“โฟนขอรับเลี้ยงตัวนี้นะครับป้าอ้อ”...ตลอดทางที่กลับจากสถานรับเลี้ยงสัตว์จรจัดโฟนก็นั่งมองแมวน้อยในกรงเล็กบนหน้าตักด้วยรอยยิ้มตลอดทาง พอร์ชเองก็มีความสุขที่คนรักมีความสุขก่อนจะถามขึ้น
“โฟนคิดชื่อให้มันหรือยัง?”
“อืม...จริงสิ เรายังไม่ได้คิดเลย พอร์ชช่วยคิดหน่อยสิ?” โฟนทำหน้าครุ่นคิดก่อนจะหันมาหาร่างสูง พอร์ชทำท่าครุ่นคิดเช่นกันก่อนจะพูดออกมา
“ชานมมั้ย? มันตัวสีส้ม อีกอย่างโฟนก็ชอบชานมด้วย”
“งื้ออออ เอาๆๆ เอาชื่อนี้ๆ น่ารักกกกก ชอบชื่อนี้มั้ยชานม?” โฟนถามแมวน้อยในกรง
เมี้ยวววว
เจ้าแมวน้อยก็ตอบกลับมาอย่างกลับว่ารู้ภาษามนุษย์
“ถ้าชอบก็ชื่อชานมนะ”
ชานมมาแล้วววววว จะมาช่วยเพิ่มสีสันหรือมาเป็นตัวยุ่งกันแน่ต้องติดตาม 55555 ยังคงหวานๆกันต่อไปนะคะ
___จางบิวตี้___