Honey 7
และแล้ววันศุกร์ที่พอร์ชรอคอยก็มาถึง หลังจากวันนั้นที่รวบรวมความกล้าชวนโฟนไปเดินตลาดและได้คำตอบที่ทำให้หัวใจพองโตพอร์ชก็นั่งนับรอที่จะถึงวันศุกร์ทันที พอเลิกเรียนปุ๊บพอร์ชก็หยิบโทรศัพท์ส่งไลน์หาโฟนทันที
‘เราเลิกเรียนแล้ว โฟนเลิกเรียนหรือยัง?’ และไม่ถึงสามนาทีพอร์ชก็ได้คำตอบจากอีกคน
‘เลิกแล้วๆ เรากำลังจากตึกเรียน พอร์ชอยู่ไหนเหรอ?’ พอร์ชยิ้มๆทันทีกับคำตอบอของอีกคนก่อนจะพิมพ์ตอบกลับไป
‘กำลังจะไปตึกคณะโฟน รอเราแปบนะ’ พอตอบเสร็จร่างสูงก็เก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าและตามด้วยหนังสือเรียนใส่กระเป๋าเป้ทันที ท่าทางที่ดูเร่งรีบของพอร์ชทำให้ทั้งเลิฟและกราฟงุนงงไม่น้อยก่อนที่เลิฟจะเป็นฝ่ายถามขึ้น
“รีบไปไหนวะ?”
“ตลาด” พอร์ชตอบสั้นๆก่อนจะหยิบสมุดเล่มสุดท้ายใส่กระเป๋าและทำท่าจะเดินออกจากห้องเรียนไปแต่ก็ถูกเลิฟดึงกระเป๋าไว้ก่อน
“เดี๋ยวๆๆ รีบอะไรของมึงจังวะ ทำอย่างกับว่านัดเด็กไว้งั้นแหละ?” เลิฟขมวดคิ้วถามนิดๆ พอร์ชชะงักไปนิดๆกับคำถามของเพื่อนก่อนจะตอบ
“อืม...กูนัดโฟนไว้”
“เหยดดดดดด พัมนานี่หว่า พี่พอร์ชคนไม่ป๊อดแล้วเว้ยๆ” กราฟแซวขึ้นทันทีหลังคำตอบของพอร์ช พอร์ชกระตุกยิ้มเขินๆ ใบหูขาวของร่างสูงเริ่มขึ้นสีระเรื่อ
“เอาไว้ได้คบก่อนค่อยมาสรรเสริญกู”
“เหยดดดดดด งั้นกระผมไม่รบกวนแล้วครับ” คราวนี้เป็นเลิฟบ้างที่พูดขึ้น มือบางปล่อยมือจากกระเป๋าเพื่อนสนิท พอร์ชยิ้มๆให้เพื่อนทั้งสองคนก่อนจะเดินออกไปทันที
“มึงว่าไอ้พอร์ชจะนกมั้ย?” กราฟถามเลิฟขึ้นทันทีที่ลับหลังพอร์ชออกไป เลิฟนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะตอบ
“ไม่นกหรอกเว้ยเพื่อนกูซะอย่าง” เลิฟว่าพร้อมตีหน้าอกตัวเองอย่างมั่นอกมั่นใจก่อนที่ร่างบางจะชะงักไปนิดแล้วมองหน้ากราฟอย่างงงๆ
“เออว่าแต่...นกคือไรวะ? กูสงสัยตั้งแต่ที่มึงพูดครั้งที่แล้วละ?” กราฟถอนหายใจออกมาทันทีกับคำถามเพื่อนสนิทที่โคตรจะซื่อบื้อ...ไม่ดิ โคตรจะโง่เลยดีกว่า
“สัส เมื่อกี้ตอบเหมือนรู้...อยากรู้ก็เสิร์ชกูเกิลเอา กูขี้เกียจอธิบาย” กราฟว่าก่อนจะหันหน้าไปเก็บหนังสือใส่กระเป๋าตัวเอง เลิฟยืนนิ่งก่อนจะหยิบโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมาแล้วเข้ากูเกิลทันทีก่อนจะพิมพ์คำว่า นก ลงไปก่อนจะกดค้นหา
“สัตว์ปีก หรือ นก รวมถึง ไก่, เป็ด, ห่าน, ไก่ฟ้า จัดอยู่ในไฟลัมสัตว์มีแกนสันหลัง ชั้น Aves คำว่า Aves เป็นภาษาละติน หมายถึง นก โดยมีลักษณะทั่วไปคือเป็นสัตว์ทวิบาท เลือดอุ่น ออกลูกเป็นไข่ รยางค์คู่หน้าเปลี่ยนแปลงไปเป็นปีก มีขนนกและมีกระดูกที่กลวงเบา” เลิฟอ่านสิ่งที่ปรากฏในหน้าจอก่อนจะขมวดคิ้วมุ่นแล้วพึมพำออกมาคนเดียว
“แล้วไอ้พอร์ชมันจะนกไม่นกยังไงวะ? หรือแม่งคบกันแล้วจะออกลูกเป็นไข่?”...ทางด้านของโฟนเมื่ออีกคนตอบมาว่าจะมาหาที่ตึกคณะ ร่างบางก็รีบเก็บหนังสือเรียนลงกระเป๋าทันที ท่าทางรีบๆของโฟนทำให้มะปราง แอนนาและมินมองไปที่ร่างบางอย่างแปลกๆ
“มีธุระที่ไหนอ่ะดูรีบๆ” มะปรางถามขึ้นทันทีทำให้โฟนที่กำลังรูดซิปกระเป๋าชะงักทันที
“เอ่อ...คือ...” โฟนกัดปากอย่างครุ่นคิด ไม่รู้ว่าจะตอบกับเพื่อนๆว่ายังไงดี ไม่อยากโกหกแต่ก็อายเกินที่จะบอกความจริง
“ถ้ารีบก็ยังไม่ต้องตอบหรอก รีบไปเถอะ” เป็นมินที่พูดขึ้น โฟนหันไปมองหน้ามิน อีกคนพยักหน้าให้ทำให้โฟนรีบหันมาบอกลาเพื่อนอีกสองคนและออกไปทันที ที่มินพูดไปแบบนั้นคือเขาเห็น...เห็นข้อความแชทระหว่างโฟนและเดือนวิศวะคนนั้นเขากำลังคิดอยู่ว่าสองคนมีซัมติงกันหรือเปล่า? แต่จากที่เห็นเหมือนเดือนวิศวะนั่นจะมีแฟนแล้วซึ่งเป็นเพื่อนคณะเดียวกัน เขาจะคอยดูอยู่ห่างๆละกันว่าเดือนวิศวะนั่นจะเอายังไงกับเพื่อนเขากันแน่ๆ ถ้าแค่มาเต๊าะเล่นๆ เขาคงไม่อยู่เฉยแน่ๆ...
“พอร์ช” โฟนเรียกอีกคนขึ้นเมื่อเห็นร่างสูงยืนรออยู่ใต้โถงคณะ พอร์ชหันมายกยิ้มให้อีกคนนิดๆทั้งที่ในใจสั่นระรัวไปหมด ถ้าบอกว่าตอนนี้มือของเขาเย็นเฉียบเพราะความตื่นเต้นจะดูเว่อร์ไปมั้ย?
“เอ่อ...รอนานมั้ย?” โฟนถามขึ้นเพราะไม่รู้ว่าจะพูดคุยยังไงกับอีกคนดี แม้ว่าจะคุยกันผ่านแชททุกวันแต่พอเจอกันต่อหน้า คุยกันซึ่งๆหน้าก็รู้สึกเขินขึ้นมาแปลกๆให้ตายสิ...เขาไม่ควรรู้สึกแบบนี้เลยใช่มั้ย?
“ไม่หรอก เราพึ่งมาถึง” พอร์ชตอบก่อนจะยกมือขึ้นมาเกาท้ายทอยตัวเองเพราะรู้สึกว่ามือมันเกะกะไปหมด รู้สึกทำอะไรไม่ถูกราวกับเด็กอายุ13-14ที่พึ่งมีความรักครั้งแรก แต่ก็นะ...เขาเองก็พึ่งมีความรักครั้งแรกนั่นแหละ เป็นความรักที่ตกหลุมรักตั้งแต่สบตา ซึ่งเป็นหลุมรักที่ไม่ยากเกินจะถอนตัว ถอนใจเสียเหลือเกิน
“งั้นเราไปกันเลยมั้ย?” พอร์ชพยักหน้ารับก่อนที่ทั้งคู่จะเดินกันไปที่ตลาดหน้าม.ทันที...ตลาดหน้าม.ยังคงคึกคักเหมือนทุกครั้ง มีร้านขายของมากมายมาตั้งขาย ทั้งร้านเสื้อผ้า ของใช้หรือแม้กระทั่งของกินที่มีมากมายให้เลือกจับจ่ายใช้สอย
“เดินโซนไหนกันก่อนดี?” พอร์ชถามขึ้นขณะที่ทั้งคู่เดินมาถึงหน้าตลาด
“อืมมม...ไปโซนเสื้อผ้าก่อนได้มั้ยอ่า เราอยากดูเสื้อคลุมเสียหน่อย” แม้ว่าฐานะทางบ้านของโฟนจะเป็นผู้ดีมีเงินไม่น้อยแต่ใช่ว่าร่างบางจะใช้แต่ของแบรนด์เนมหรือของราคาแพงที่ขายตามห้างสรรพสินค้าเท่านั้น ตามตลาดนัดโฟนก็เลือกซื้อใส่อยู่บ่อยๆโดยไม่สนว่าใครจะมองว่ายังไง สำหรับเขา...ข้าวของเครื่องใช้มันก็แค่ของนอกกายเท่านั้น
“พอร์ชว่าสีดำหรือสีเทาสวยกว่ากัน” โฟนถามขึ้นพร้อมกับหยิบเสื้อคลุมสองตัวให้พอร์ชช่วยเลือก พอร์ชมองเสื้อคลุมในมืออีกคนพร้อมทำท่าครุ่นคิดแต่ก่อนที่จะตอบออกไปตาคมก็เหลือบไปเห็นเสื้อคลุมแบบเดียวกันแต่เป็นสีฟ้าที่ราว
“เราว่าสีฟ้าสวยนะ” โฟนขมวดคิ้วทันทีกับคำพูดของร่างสูง พอร์ชกระตุกยิ้มนิดๆก่อนจะยื่นมือไปหยิบเสื้อคลุมสีฟ้ามาให้โฟนดู
“สีฟ้าเหรอ?” โฟนเลิกคิ้วถาม พอร์ชพยักหน้ารับ โฟนมองเสื้อคลุมสีดำ สีเทาในมือก่อนจะมองเสื้อคลุมสีฟ้าในมือพอร์ชอย่างครุ่นคิด
“ทำไมต้องสีฟ้าล่ะ? สีผู้หญิงไปเปล่า?” โฟนถามอย่างไม่ค่อยมั่นใจนัก
“อืม...เราคิดว่าสีฟ้าเป็นสีที่สดใสดีเหมือนกับ...”
“เหมือนกับอะไรเหรอ?” โฟนถามต่อทันที พอร์ชชะงักไปก่อนจะมองหน้าร่างบาง
“...เหมือนกับโฟน” โฟนชะงักไปทันทีกับคำตอบของอีกคน อวัยวะในหน้าอกด้านซ้ายสั่นไหวขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ เมื่อเห็นอีกคนนิ่งไปพอร์ชก็รีบกระแอมขึ้นมาทันทีก่อนจะพูดต่อ
“เอ่อ...เราชอบสีฟ้าน่ะ เลยคิดว่าสีฟ้าสวย” และเพราะโฟนเหมือนสีฟ้าก็เลยชอบสีฟ้า อยากจะพูดแบบนี้ต่อแต่พี่พอร์ชคนป๊อดหรือจะกล้า
“อ่อ...” โฟนครางรับคำสั้นๆ
“งั้นโฟนเลือกไปก่อนนะ เราเดินไปดูของร้านนั้นแปบ” พอร์ชว่าก่อนจะแขวนเสื้อคลุมสีฟ้าไว้ที่เดิมแล้วเดินแยกออกมาที่ร้านขายพวกสร้อยคอ สร้อยข้อมือทันทีรู้สึกประหม่ากับดวงตากลมที่มองมาที่เขา อวัยวะในอกเต้นแรงจนแทบจะระเบิดออกมา ยอมรับว่าป๊อด ยอมรับว่าไม่สามารถต้านทานต่อดวงตากลมนั่นได้เลยจริงๆ...ลับหลังพอร์ชเดินออกไปโฟนก็หันไปมองเสื้อคลุมสีฟ้านั่นอีกครั้งก่อนจะมองเสื้อคลุมสีดำกับสีเทาในมือ
“ตัวไหนดีคะน้อง สวยๆทั้งนั้นเลย” แม่ค้าสาวถามขึ้น โฟนกัดปากอย่างครุ่นคิดนิดๆก่อนจะหยิบเสื้อคลุมที่จะซื้อยื่นให้แม่ค้า
“สีนี้กำลังมาแรงเลยค่า เดี๋ยวพี่เอาไปใส่ถุงให้นะคะ” แม่ค้าสาวว่า หลังจากที่จ่ายเงินค่าเสื้อคลุมเสร็จโฟนก็เดินมาหาพอร์ชที่ร้านขายสร้อยคอ สร้อยข้อมือทันทีและเห็นว่าอีกคนดูตั้งใจในการเลือกของไม่น้อย
“จะซื้อให้ใครเหรอ?” โฟนถามขึ้นทันที พอร์ชชะงักไปนิดก่อนจะตอบออกมา
“ให้เพื่อนน่ะ ครั้งก่อนมันบอกอยากได้” พอร์ชตอบความจริง เพราะครั้งก่อนที่มากับเลิฟและกราฟ เลิฟมันบอกอยากได้สร้อยข้อมือจี้ไม้กางเขนแต่ครั้งก่อนมันหมดและบังเอิญครั้งนี้มีพอดีเลยว่าจะซื้อไปให้มัน
“เพื่อนเหรอ?” โฟนพึมพำเบาๆซึ่งพอร์ชก็ได้ยินไม่ชัด
“หืม? โฟนว่าไงนะ?”
“เปล่าๆ เราแค่คิดว่าอันที่พอร์ชจับสวยดี” พอร์ชยิ้มๆทันทีพร้อมมองสร้อยข้อมือจี้ไม้กางเขนในมือ
“อื้ม เพื่อนเรามันอยากได้มาก ถ้าซื้อไปให้มันต้องดีใจมากๆแน่ๆ” ว่าแล้วโฟนก็ยื่นสร้อยข้อมือดังกล่าวให้กับแม่ค้าก่อนจะรับของมา
“โฟนจะดูของอะไรต่ออ่ะ?” พอร์ชถามขึ้นเมื่อเห็นว่าร่างบางเงียบไป
“เราว่าไปโซนของกินกันมั้ย เริ่มหิวละ” พอร์ชพยักหน้ารับก่อนที่ทั้งคู่จะพากันไปยังโซนของกินทันที โฟนดูตื่นตาตื่นใจไม่น้อยที่เดินมาโซนนี้ พอร์ชยกยิ้มมุมปากนิดๆกับท่าทางของอีกคน ไม่ว่าอีกคนจะทำหน้าแบบไหน สีหน้าแบบไหนก็ดูน่ารักไม่น้อยจริงๆ
“กินอันนี้กันๆ” โฟนสะกิดพอร์ชก่อนจะเดินเข้าไปในร้านไข่นกกระทาทอดแล้วสั่งแม่ค้าทันที
“ชอบกินไข่นกกระทาทอดเหรอ?” พอร์ชถามึ้นอย่างเก็บข้อมูลทันที อย่างน้อยก็เนียนกว่าถามว่าชอบกินอะไรแบบไหนยังไง มันจะดูจีบตรงๆเกินไป
“อื้ม...อยู่บ้านเราชอบให้แม่บ้านทำให้กินอย่างบ่อยเลยแหละ” โฟนตอบยิ้มๆพร้อมกับเคี้ยวไข่นกกระทาทอดในปากตุ้ยๆ
“พอร์ชกินสิ อร่อยนะ” โฟนว่าพร้อมกับยื่นไข่นกกระทาให้พอร์ชหนึ่งลุก พอร์ชมองมือบางที่ถือไข่นกกระทาทอดมาที่เขาแต่แทนที่มือหนาจะยื่นมือไปหยิบ พอร์ชกลับก้มหน้าลงไปกินไข่นกกระทาทอดในมือร่างบาง
“อ๊ะ” โฟนชะงักไปทันทีกับการกระทำของร่างสูง ใบหน้าหวานขึ้นสีระเรื่ออย่างเห็นได้ชัด พอร์ชยกยิ้มมุมปากก่อนจะเคี้ยวไข่นกกระทาทอดให้หมดแล้วพูดขึ้น
“อื้ม...อร่อยจริงๆด้วย”...หลังจากที่จับจ่ายใช้สอยกันเสร็จแล้วโฟนกับพอร์ชก็พากันมาที่ป้ายรถเมล์เพื่อรอคนที่บ้านโฟนมารับ พอร์ชยอมรับเลยว่าวันนี้เขามีความสุขมากที่ได้ไปเดินตลาดกับร่างบาง อีกคนน่ารักมากไม่ว่าจะเป็นการกระทำหรือคำพูด น่ารักจนเขารักจนถอนตัวไม่ได้จริงๆ
“ว่าแต่โฟนซื้อเสื้อคลุมสีอะไรมาเหรอ?” พอร์ชถามขึ้นทำให้ดฟนชะงักไปทันที
“สีฟ้าเหรอ?” ตาคมเหลือบไปเห็นนิดๆเหมือนกับว่าสีเสื้อในถงจะเป็นสีฟ้า
“เอ่อ...อื้ม” พอร์ชยกยิ้มทันทีกับคำตอบของอีกคน อดหัวใจพองโตขึ้นมาไม่ได้ก่อนจะถามอีกคนอีกครั้ง
“ทำไมล่ะ?” ร่างบางกัดปากนิดๆและกำลังจะตอบกลับไปแต่เห็นว่ารถของที่บ้านับมาจอดพอดี
“เอ่อ...เราไปก่อนนะ ไว้เจอกัน” พอร์ชพยักหน้ารับพร้อมโบกมือลาโฟน ร่างบางเดินไปที่รถพร้อมกับเปิดประตูรถ
“พอร์ช” โฟนหันมาเรียกอีกคน พอร์ชเลิกคิ้วนิดๆ
“ที่เราซื้อเสื้อคลุมสีฟ้ามาเพราะว่าพอร์ชบอกว่าเราเหมือนสีฟ้า เราเลยซื้อมา”พูดจบร่างบางก็รีบขึ้นรถไปทันทีด้วยความขวยเขิน พอร์ชยิ้มกว้างอย่างห้ามไม่อยู่กับคำพูดของอีกคน หัวใจเต้นแรงเจียนจะระเบิดออกมา มือหนาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเข้าแอพพลิเคชั่นสีฟ้าที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบันก่อนจะขึ้นสเตตัสว่า
‘สีฟ้า <3’
อ้อยกันเข้าไปปปปปปป เมื่อไหร่จะได้กานนนนนนน 55555 ยังคงเรื่อยๆ(มั้ง)กันต่อไปค่ะ ตอนนี้ให้โมเม้นกันเต็มที่เลย ใครชอบนิยายแนวนี้ก็ฝากติดตามด้วยนะคะ จุ๊บๆ
____จางบิวตี้____