ตอนที่ 13
ตอนนี้เราเข้ามาถ่ายทำที่ห้องเลคเชอร์ อาจารย์หน้าห้องกำลังสอนอะไรสักอย่างที่ผมฟังไม่รู้เรื่อง ครั้งนี้ผมกับไอ้โซลนั่งอยู่แถวกลางๆ ผมทำท่าเป็นจดตามสไลด์ ขีดๆ เขียนๆ อะไรมั่วๆ ลงไปในสมุด สักพักไอ้โซลก็มาแย่งปากกาในมือไป เวลาพี่โป้งบอกให้เล่นยังไงก็ได้ผมชักระแวง กลัวว่ามันจะทำอย่างวันนั้นอีก ผมจิ๊ปากแล้วหยิบปากกาอีกแท่งในกระเป๋ามาใช้แทน แล้วก็ถูกมันแย่งไปอีก ปากกาหมดกระเป๋าแล้วนะเว้ย ทำไมทีมงานใส่ให้มาน้อยจัง!
อย่างนั้นผมเลยต้องพยายามเอาปากกากลับคืนมาให้ได้ พอผมเอื้อมมือจะไปแย่งคืนมันก็ชูขึ้นสุดแขน เบี่ยงตัวหลบจนผมแทบล้มใส่ตัวมัน ผมเลยหยุดมันโดยการกระชากหัวแม่งเลย
พอได้ปากกาคืนมาครบผมก็นั่งเขียนชื่อตัวเองลงในสมุดต่อไปเพราะผมไม่รู้จะเขียนอะไร หลังจากไอ้พระเอกที่ลูบหัวตัวเองป้อยๆ ให้หายเจ็บแล้วก็เขยิบเข้ามาใกล้ ผมมองมือที่หยิบปากกาอีกด้ามขึ้นมาอย่างไม่ได้สนใจอะไร ไอ้โซลเขียนอะไรสักอย่างลงไปบนสมุดอีกด้านหนึ่งที่มีชื่อผมอยู่เต็มไปหมดแต่ผมมองไม่เห็นเพราะมือมันบัง เขียนเสร็จมันก็เอามือออกแล้วเท้าแขนลงกับโต๊ะมองผมยิ้มๆ เหมือนรอให้ชื่นชมผลงานของมัน
ผมมองข้อความใหม่ที่ปรากฏอยู่บนกระดาษแล้วชะงักไป สิ่งที่ไอ้โซลเขียนคือชื่อของมันตามด้วยรูปหัวใจ...อยู่ด้านหน้าชื่อของผม...
ไอ้บ้าเอ๊ย…อย่ามาทำแบบนี้เวลาเข้าฉากสิวะ!
ขอบคุณที่ฉากนี้ไม่มีบทพูดอะไร เพราะตอนนี้ผมคิดอะไรไม่ออกเลย พูดไม่ออก ทำตัวไม่ถูก ถึงจะละสายตาออกมาจากประโยคนั้นแต่มันกลับฝังเข้ามาในหัวผมแล้ว และเสียงจอกแจกจอแจของนักศึกษาคนอื่นไม่สามารถกลบเสียงหัวใจของผมได้เลย
“ได้ดูตอนแรกกันไปแล้วเป็นยังไงบ้างเอ่ย ใครเห็นหนิงเดินผ่านตอนฉากโรงอาหารมั่ง”
ผมดื่มน้ำพลางมองหญิงสาวที่พูดกับโทรศัพท์ในมือ หนิงกำลังพูดถึงซีรีส์ที่ออนแอร์ตอนแรกไปเมื่อคืน โดยที่มีเจ้าตัวโผล่มาแว๊บเดียว
“ถึงจะออกน้อยแต่ดูไปเรื่อยๆ ทุกคนต้องไม่ชอบหนิงแน่ๆ” คุณเธอย่นจมูกเล็กน้อยก่อนจะทำตาวาว “แต่นอกจอหนิงไม่เคยขัดสองคนนั้นนะ”
“แค่ก!”
“ซีนสำลักทำไมอ่ะ”
ผมเช็ดน้ำที่ไหลเปื้อนคาง “ดูดผิดท่า”
“บ้านซีนเถอะ” หนิงง้างเล็บ ทำท่าจะข่วนแต่พอเห็นลวดลายบนเล็บตัวเองที่เพิ่งไปทำมาใหม่ก็เปลี่ยนใจ “เดี๋ยวนี้ชักกวน อยู่กับโซลเยอะก็แบบเนี้ย”
ผมที่กำลังยิ้มขำกลายเป็นขำไม่ออก อะไรกัน ผมเป็นของผมแบบนี้มาตั้งนานแล้วเถอะ
“อยากเห็นซีน...ซีน ซีน ซีนเต็มไปหมด” หนิงอ่านที่แฟนคลับพิมพ์เข้ามาก่อนจะแสร้งทำหน้าเศร้า “เผื่อทุกคนจะลืมว่านี่ไอจีหนิง ไม่ได้จะเข้ามาดูกันตั้งแต่แรกถูกไหม”
“ซีนนั่งอยู่ข้างๆ แต่ไม่ให้เห็นหรอก แบร่” พี่ปุ้ยที่เดินผ่านมองหน้าผมเหมือนจะถามว่าหนิงเป็นอะไร ผมก็ได้แต่ส่ายหน้าขำๆ หนิงแกล้งหันโทรศัพท์มาทางผมเร็วๆ หลายครั้ง สลับกับอ่านที่แฟนๆ พิมพ์มาอย่างสนุกสนาน
“โอเคๆ ไม่เล่นแล้ว อย่าเพิ่งด่านะคะ” ว่าพลางหัวเราะแล้วยัดโทรศัพท์เครื่องบางใส่มือผม “เอ้า แฟนๆ อยากเห็น ซีนไลฟ์แทนเราเลย”
ผมหน้าตื่น ไม่เคยทำอะไรแบบนี้ แล้วก็ไม่ใช่คนพูดเก่งแบบหนิงเสียหน่อย
“ทักทายหน่อย เราไม่ว่าง จะแต่งหน้าทำผม” คุณเธอว่า พอดีกับพี่ทีมงานเดินเข้ามา ผมหันเลยโทรศัพท์เข้าหาตัว ทักทายไปเล็กน้อย คนดูเพิ่มขึ้นมาเกือบพันทำเอาผมประหม่า มองไปเห็นไอ้พระเอกของเรื่องก็เลยรีบกวักมือเรียกมันพลางลากเก้าอี้อีกตัวมาไว้ข้างๆ
“ต้องพูดอะไรบ้างอ่ะ” ยื่นโทรศัพท์ให้มันถือแทน ไอ้โซลรับไปแล้วกล่าวสวัสดีพร้อมโปรยยิ้มไปแบบไม่เคอะเขินอะไร
“ไปเปลี่ยนชุดมาครับ” ไอ้โซลอ่านคอมเม้นท์แล้วยิ้มน้อยๆ “ได้ครับ ต่อไปจะไม่ปล่อยให้พี่ซีนอยู่คนเดียวอีกแล้ว”
ผมได้ยินเสียงหนิงหัวเราะหึๆ เบาๆ “หาตัวช่วยได้ถูกคนจริงๆ”
ผมก็ว่างั้น แต่ก็ดีกว่าพูดคนเดียว พอมีคนมานั่งด้วยแล้วค่อยยังชั่ว คอมเม้นท์ขึ้นเร็วมาก เป็นคำถามบ้าง หวีดร้องกันบ้าง บางคนก็ชื่นชมซีรีส์ตอนแรกที่ฉายไป
“ขอบคุณที่ชอบนะครับ” อดยิ้มนิดๆ ไม่ได้ เมื่อคืนหลังซีรีส์จบม้าก็โทรมา บอกว่าสำหรับมือใหม่ถือว่าแสดงได้ดีมากแล้ว ผมไม่ได้ดูที่ตัวเองแสดงเพราะรู้สึกเขินแปลกๆ ไอ้โซลเลยไม่ได้ดูไปด้วย ตอนแรกผมกังวลไม่ใช่น้อยว่ามันจะออกมาแย่ แต่พอลองเช็คในทวิตเตอร์แฟนนิยายชอบกันผมก็เบาใจ
“กับโซลรู้จักกันอยู่แล้วครับ เป็นรุ่นน้องที่มหา’ลัย” ผมตอบคำถามที่มีคนเม้นท์ถามมาเรื่อยๆ “วันนี้เฟิร์สไม่มีคิวถ่ายครับ”
ผมไม่ได้มองหน้าตัวเองหรือไอ้คนข้างๆ ในจอเพราะมัวแต่มองตัวหนังสือที่พิมพ์เข้ามา จนมาสะดุดที่ข้อความหนึ่ง
// ทำไมพูดถึงเฟิร์สแล้วโซลหน้าบูดจังคะ //
ไอ้โซลก็เห็นข้อความนั้นเหมือนกัน มันเลิกคิ้ว ทำหน้านิ่งอย่างกวนๆ แล้วพาดแขนมาวางไว้บนพนักเก้าอี้ของผมอย่างที่มันเคยทำ “เปล่าครับ อากาศมันร้อน”
จริงๆ ผมว่ามันไม่ได้หน้าตาดูอารมณ์เสียอะไรหรอก แฟนคลับก็ชงไปอย่างนั้นเอง แล้วเหมือนได้ยินที่ไอ้โซลพูด พี่บัวที่มาเยี่ยมกองถ่ายวันนี้เลยยื่นพัดลมอันเล็กให้ มือข้างหนึ่งของไอ้โซลถือโทรศัพท์อยู่ผมเลยรับมาไว้แทน จ่อตัวเองบ้าง จ่อไปทางมันบ้างสลับไปมา
// เมื่อวานพี่ซีนไปดูหนังกับพี่เฟิร์สมาเหรอคะ //
“ใช่ครับ ไปดูหนังกับเฟิร์สมา”
// แต่มีคนเห็นพี่ซีนอยู่กับโซลด้วย //
// หรือไปกันสามคนเหรอคะ //
// เพื่อนหนูเห็นพี่ซีนกับโซลแค่สองคน พี่ซีนตอบหน่อยยยย //
// อ่านของหนูด้วยยยยย อย่าเพิ่งเม้นท์เยอะให้พี่ซีนตอบก๊อนน //
// เฟิร์สหรือโซลลลลลล //
“ตอนเย็นไปทำธุระกับโซลครับ เมื่อวานเจอทั้งสองคนนั่นแหละ” บอกแบบนี้ไปแล้วกัน ถ้าบอกว่ามันมารับไปเก็บเสื้อผ้าเพื่อไปค้างห้องมันเดี๋ยวโทรศัพท์จะค้างเอา แค่นี้ก็พิมพ์รัวมาแบบไม่ได้ศัพท์กันหมดแล้ว
// พี่ซีนน่ารักกกก //
// ทำไงจะเซฟความน่ารักไว้ได้หมด //
// พี่ซีนชอบชาเขียวเหรอค้า //
// โซลหล่อมากก หล่อเบอร์แรง //
// อยากเจอพี่ซีนเจอได้ที่ไหนอ่า //
// เหมาะกันมากอ่ะ //
// ต้องกินชาเขียวเหรอคะถึงจะน่ารักได้ขนาดนี้ //
// ซีนพูดเยอะๆ หน่อย อยากได้ยินเสียงงงง //
“เจอได้ที่ไหนเหรอ...อืม ผมไม่ค่อยได้ออกไปไหนนะ”
// กรี้ดดดดดด เห็นนะะะะ //
// แหมมมมมมมมมมมมมมมม //
// น่ารักกกมากกกคู่นี้ //
// โซลอยู่ปีไหนอ่า //
// หมาพี่ซีนชื่ออะไรคะ //
“ผมขึ้นปี 3 ครับ ส่วนหมาพี่ซีนชื่อปิ๊กมี่”
// ถามพี่ซีนนนนนนนนนนนนนนน //
// เปงแฟนอ่อมาตอบแทน //
// ชื่อซีนเหรอ555555555 //
// ระหว่างปิ๊กมี่กับชาเขียวพี่ซีนเลือกอะไรคะ //
“เลือกปิ๊กมี่ครับ”
// แล้วปิ๊กมี่กับพี่โซลล่ะคะ //
“อย่าทำร้ายผมสิ”
“รู้เหรอจะตอบอะไร”
“ขอข้ามข้อนี้นะครับทุกคน ตอบมาเดี๋ยวผมปวดใจ”
เอาจริงๆ ผมก็ไม่รู้จะตอบว่าอะไรด้วยซ้ำ ได้แต่เบ้ปากใส่ไอ้คนที่ทำท่าทางปวดใจจริงๆ อย่างเจ้าตัวว่า ดูเหมือนไอ้โซลจะรู้จักพูดคุยกับแฟนๆ ได้อย่างลื่นไหลและยังถูกใจพวกเธอมากอีกด้วย
// สองคนนี้จีบกันอยู่ป่ะ //
// ถึงไหนกันแล้วคู่นี้ //
// โซลกับพี่ซีนถึงขั้นไหนกันแล้ว //
“ขั้นไหนเหรอ…” ไอ้คนข้างๆ พึมพำ หันมาถามผมหน้าซื่อ “ว่าไงครับ”
“ข...ขั้นอะไร”
“นั่นน่ะสิ ขั้นอะไร”
// หยั่มมาาาาาาาา //
// พี่ซีนไม่รู้แต่โซลน่ะหยั่มมาาาาา //
// พี่โซลอย่าอุบไว้คนเดียวสิ! //
// เราว่าขั้นสูงแล้วแน่นวลลล //
// พี่ซีนไม่รู้จริงเหรอ ทำไมหน้าแดงงง //
// กรี้ดดดด ผิวขาวมันเห็นง่ายนะคะคนน่ารักก //
// หน้าตามีพิรุธทั้งสองคน //
// โอ้ยยยยยยย ไม่เนียนไปฝึกมาใหม่ //
“มั่วแล้วหน้าแดงอะไร” ผมยกมือจับหน้าตัวเอง ในกล้องมันจะเห็นได้ยังไง!
“ปฏิเสธอยู่ได้ นี่อย่าคิดว่าไม่รู้นะว่าเขียนอะไรลงในสมุดน่ะ” หนิงพูดลอยๆ แต่ผมหันขวับไปมองแทบไม่ทัน หนิงเพิ่งมาถึงกองตอนบ่ายจะรู้ได้ยังไง แต่สมุดเล่มนั้นทีมงานเก็บไป ผมว่าจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากพี่ปุ้ยแล้วล่ะ จะต้องรายงานกันทุกเรื่องเลยใช่ไหม!
// แดงถึงหูแล้วพี่ซีนเอ๊ยยยย //
ตอนนี้คนที่เข้ามาดูเกือบสามพัน ผมขบริมฝีปากแน่น แต่ละเม้นท์ก็ใช่ย่อย ไอ้โซลก็ไม่ช่วยอะไร ซ้ำยังทำให้ดูมีลับลมคมในเข้าไปอีก
// เขินก็บอกกกก //
“เปล่าครับ อากาศมันร้อน”
ไอ้โซลขำพรืด ไม่ต่างจากคอมเม้นท์ที่มีแต่เลขห้า สักพักพี่ทีมงานก็เดินมาบอกให้ไอ้โซลกับหนิงเตรียมตัวเข้าฉากได้แล้ว เราเลยบอกลาแล้วคืนโทรศัพท์ให้เจ้าของ
“พี่ลอกคำตอบผมนะ” ไอ้โซลยิ้มล้อ ผมจิ๊ปาก เถียงไม่ออกว่าจริงๆ แล้วก็เลี่ยงตอบความจริงแบบที่มันทำ
“อ้าว งั้นแสดงว่ามึงหน้าบูดจริง ไหนรับปากว่าจะไม่อะไรเฟิร์สแล้วไง นี่ต่อหน้าแฟนคลับด้วย”
“ผมทำเล่นเฉยๆ น่า” มันทำหน้าไม่ยี่หระอะไร ก่อนจะเลิกคิ้วมองผมแบบจับผิด “งั้นที่หน้าแดงก็ไม่ใช่เพราะร้อนเหมือนกันน่ะสิ”
ส่งเสียงหัวเราะในลำคออย่างคนรู้ทัน ผมยู่หน้า รู้อยู่แล้วยังจะมาคาดคั้นเอาคำตอบอะไรกับผมอีก
“ตกลงเราขั้นไหนกันแล้ว”
“ยังไม่เลิกเล่นอีก”
“ได้กอดได้หอมแล้ว ต่อไปก็จูบ”
“ไอ้บ้านี่!”
“เอ้า ในบทมันมีนะครับ”
“รู้แล้วน่า ย้ำจริง!”
ไอ้โซลหัวเราะน้อยๆ “จริงๆ ก็ไม่ได้อยากทำแค่ในบทหรอก”
“ไปเข้าฉากได้แล้ว ยืนพูดอะไรไม่รู้อยู่ได้!”
แล้วพูดอย่างกับตัวมันเองไม่เคยนอกบทอย่างนั้นแหละ แล้วอีกอย่าง อยู่ในห้องมันก็ไม่มีกล้องตัวไหนมาถ่าย บทก็ไม่ได้ซ้อมกันด้วย แต่สิ่งที่มันทำกับผมเหมือนอยู่ในซีรีส์ไม่มีผิด!
“หน้าตาเหมือนนินทาผมในใจนะเนี่ย”
“รู้ตัวก็ดีแล้ว”
“อ่ะๆ ไถ่โทษ” มันล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงแล้วหยิบบางอย่างออกมายัดใส่มือผมไว้ “ไปขอจากพี่ปุ้ยมาให้ ผมกลัวคนอื่นมาเห็นแล้วพี่จะโดนล้อไปมากกว่านี้ เก็บไว้กับพี่แล้วกันนะ”
เมื่อคลี่กระดาษแผ่นนั้นออกผมก็แทบล้มทั้งยืน รู้สึกถึงความร้อนที่ลามไปถึงหูจริงๆ อย่างที่แฟนคลับคนหนึ่งว่า มันเป็นกระดาษที่ถูกฉีกออกมาจากสมุดเล่มนั้นและมันเป็นหน้าที่มีประโยคนั้นอยู่
“ผมไม่ได้กลัวคนอื่นจะรู้หรอก แต่เวลาพี่เขินผมอยากเห็นคนเดียวมากกว่า”
คนตรงหน้ายกยิ้ม ลูบหัวผมเบาๆ แล้วเดินจากไป
แล้วมันจะคิดบ้างไหมว่าก็ไอ้อาการที่มันพูดถึง ที่ผมเป็นอย่างนั้น...ก็เพราะใคร
ระหว่างรอสองคนนั้นเข้าฉาก ผมก็กดเข้าไปอ่านฟีดแบคของตอนแรกที่ออนแอร์ไปอีกครั้ง มีคนตัดเอาคลิปมาลงด้วยแต่ผมไม่กล้ากดเขาไปดู แค่เห็นรูปก็ตลกตัวเองจะแย่ พอเข้าแท็กนิยายแล้วก็อดกดเข้าไปอีกแท็กหนึ่งไม่ได้ พอเข้าไปดูก็เห็นรูปที่แคปจากที่ไลฟ์ไปเมื่อสักครู่เต็มไปหมด ผมยิ้มออกมานิดๆ พวกเธอจับตาแทบจะทุกการกระทำจริงๆ แต่ก็ยังมีบางอย่างที่พวกเธอไม่รู้ และบางอย่างที่ผมเพิ่งจะรู้เหมือนกัน
@oohhoo
จริงๆ แอบใจแป้ว ไม่เห็นพี่โซลมารับพี่ซีนเลยอุตส่าห์ตื่นมาวิ่งตอนเช้าทุกวัน แต่ไลฟ์วันนี้เห็นยังรักกันดีเราก็สุขใจจจ #โซลซีน
@w_antina
ไม่ต้องมารับกันก็ได้แค่รักกันหนูก็พอใจแล้วว #โซลซีน
@micodde
ตอนมีคนถามถึงพี่เฟิร์ส โซลมีความออกอาการนะจ๊าาา #โซลซีน
@nongwaii
พอถามถึงพระรอง พี่พระเอกเขาก็หน้าตึงเลยค่ะ ออกตัวแสดงความเป็นเจ้าของทันที #โซลซีน
@fxxfullp
จะในจอหรือนอกจอ พระเอกก็คือพระเอกอ่ะเนาะ โฮะๆๆๆ #โซลซีน
@kungpeuak
ที่บอกอากาศร้อนกันคือคนหนึ่งหัวร้อน อีกคนหน้าร้อนถูกมะ? #โซลซีน
@ishipyounaokay
ถึงเรือผีจะฆ่าไม่ตาย แต่เรืออฟฟิเชียลมันเรียลค่ะ เรียลโดยธรรมชาติ วงในเขาก็ชงกัน เสียงแก้วนี่โพล้งเพล้ง #ทีมพระเอก #โซลซีน
@tingjating
มองมาจากดาวเสาร์ก็รู้ว่าจีบกัน #โซลซีน
@fanclubpbua
สายตาโซลเวลามองพี่ทั้งในจอนอกจอไม่ต่างกันเลย รักมากไหมถามใจ #โซลซีน
@iammeoww
ตอนพี่ซีนยิ้มเขินคือแคปรัวๆ โอยยย เป็นพี่โซลจะจับมาฟัดแรงๆ >_< #โซลซีน
@nefdb91
โซลทนได้ยังไง พี่ซีนนนนนนน ฮือออๆๆๆๆๆๆ น่ารักมันทุกท่วงท่า จะพูด จะยิ้ม จะหายใจก็น่ารัก ยกนิ้วกลางให้ยังไม่โกรธเลยคนดี ฮืออออออออ #โซลซีน
@tttt007
ตอนพี่ซีนบอกไปธุระต่อกับพี่โซล คนข้างๆ กระตุกยิ้มคือรายยยยยยย ไปทำไรมากันแน่ ฮื่ออออ อย่าปล่อยให้ชุ้นมโนเองเลย ในหัวมีแต่เรื่องดีๆ ทั้งน้านน #โซลซีน
@Dreem_ij3
พี่ซีนเบ้ปากแบบน่าบีบแก้มมากกกกก #โซลซีน
@munBL17
ท่าปวดใจโซลนี่เอาไปใช้ได้อีกนาน 555555555 #โซลซีน
@jYsookpx
วันนี้ได้มีมเบ้ปากกับปวดใจ 55555555 #โซลซีน
@admiiee
ใครได้กลับไปดูไลฟ์ใหม่บ้าง เหมือนได้ยินพี่หนิงพูดว่าเขียนๆ อะไรสักอย่างในสมุดอ่า เราฟังไม่ชัด แต่พี่ซีนหน้าอึ้งมาก พี่หนิงรู้อะไรใช่ไหมมมมมมม #โซลซีน
@wangjeajao
พี่ซีนเขินไม่กล้าคุยเลยเรียกโซลมานั่งไลฟ์ด้วย เอ็นดูตอนกวักมือเรียกแบบ ‘เร็วๆ มานี่ๆ’ ณ จุดนี้กราบแทบเท้าพี่หนิงด้วยค่ะ มองตาพี่ก็รู้ว่าเราพวกเดียวกัน #โซลซีน
@kewiiz_
มีคนถามว่าเจอพี่ซีนได้ที่ไหน ตอนพี่กำลังตอบ น้องแอบชี้ที่หัวใจตัวเอง วรั้ยยยยยยย หักไม้พาย!!! #โซลซีน
รูปที่แคปมาเป็นอย่างที่พวกแฟนคลับพูดกันจริงๆ ผมละสายตาจากหน้าจอโทรศัพท์ มองคนในรูปที่กำลังยืนต่อบทกับหนิงอยู่ไม่ไกลออกไป เผลอเอื้อมมือไปสัมผัสกับกระดาษแผ่นบางที่อยู่ในกระเป๋ากางเกง...แล้วก็รู้สึกได้ถึงบางอย่างที่ไม่เคยหยุดเคลื่อนไหวในหัวใจแม้แต่เสี้ยววินาที
-
คนหนึ่งเริ่มแสดงออกชัดเจน ความรู้สึกอีกคนก็จะเริ่มชัดเจนไม่ต่างกัน
//อะไรนะ...น้องแสดงชัดมานานแล้ว แง้ะ555555
ขอบคุณทุกคอมเมนท์ค่ะ เป็นกำลังใจให้มากๆ เลย ^ ^
ติดแท็กได้น้าาาา #ข้างหลังฉาก #โซลซีน