ตอนที่ 19
พาร์ตของฟิสิกส์
ผมผิดเอง ผมผิดเองทุกอย่าง
“ไอ้พวกเหี้ยเอ๊ยยยยย ฟืนแม่งจะจบกับกูแล้ววววว” ผมประกาศลั่นหลังจากที่เห็นเพื่อน วันนี้เพื่อนมันนัดกินปิ้งย่างบ้านไอ้เนมเพื่อฉลองสอบมิดเทอมเสร็จ ฟืนไม่มาด้วยเพราะโกรธผมอยู่ จึงเป็นทางสะดวกที่จะทำให้ผมโวยวายเรื่องนี้กับเพื่อนได้อย่างเต็มที่ “เพราะพวกมึงนั่นแหละ ใครแม่งเป็นคนต้นคิดวะ”
“เชื่อกูดิ ทำแบบนี้เดี๋ยวไอ้ฟืนก็รู้ใจตัวเองและก็มาขอคบมึงเป็นแฟน” ไอ้ซุปพูด
“มันจะเกลียดกูแล้วเนี่ย”
“ไหนมึงบอกว่าที่ผ่านมาฟืนมันไม่เคยเห็นหัวมึงเลยไง” ไอ้ทีนพูดบ้าง
“โอ้ย มันก็แค่เรื่องในอดีตป่ะวะ”
“ตอนนี้เป็นเวลาที่สมควรจะเอาคืนแล้วเว่ย” ไอ้เชี่ยทีนหันไปตีมือกับเพื่อน
เรื่องมันเริ่มจากตอนที่พวกเพื่อนห้องสามทุกคนมันเข้ามาถามผมพร้อมกันเรื่องผมกับฟืน (หลังจากกลับจากเที่ยวน้ำตกได้ไม่นาน) เพราะพวกแม่งทนเห็นพวกผมเดี๋ยวดีเดี๋ยวทะเลาะกันไม่ไหว พอผมเล่าทุกอย่างให้ฟังปุ๊บ พวกมันก็เริ่มเอ่ยถึงแผนนี้ปั๊บ แผนที่จะช่วยให้ผมกับฟืนได้คบกันและสมหวัง อีกอย่างหนึ่งพวกมันบอกว่าถ้าผมทำตามที่พวกมันพูดทุกอย่าง พวกมันจะไม่ล้อเรื่องผมกับฟืน จะทำตัวเหมือนผมกับฟืนเป็นเพื่อนกัน พูดง่ายๆ ก็คือเป็นเหมือนเดิมอย่างที่เคยเป็นนั่นแหละ ซึ่งเป็นอะไรที่ผมโคตรจะปรารถนาที่สุด
สิ่งแรกที่มันให้ผมทำก็คือแกล้งโมโหฟืน (ตอนนั้นใบหน้าของฟืนกับพี่ดินก็ไม่ได้อยู่ใกล้กันเท่าไหร่หรอก) หลังจากนั้นก็อยู่ห่างจากฟืนซะ ทำตัวเสเพลเที่ยวกับคนนั้นคนนี้จนกว่าฟืนจะแสดงออกกับเพื่อนว่ามันเองก็ชอบผม ผมได้หลวมตัวทำตามพวกมันพูดไปแล้วตั้งหลายเรื่องจนกระทั่งถึงวันนี้ผมก็ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้อีกแล้ว
ฟืนบอกจะขอจบกับผม
สะใจพวกมึงมั้ยล่ะ
ที่พวกมันทำแบบนี้เพราะพวกมันอยากให้ฟืนเปิดเผยเรื่องผมกับเพื่อนๆ เอง ทุกวันนี้ไอ้ฟืนแทบจะไม่พูดเรื่องผมกับเพื่อนๆ เลยจนเพื่อนๆ ทั้งโกรธทั้งแค้น (โดยเฉพาะไอ้อ๊อฟกับไอ้ตัง) ก็เลยอยากเอาคืนไอ้ฟืนด้วย
แล้วเป็นไงทีนี้ คนซวยคือกูเว่ย ไม่ใช่พวกมึง!
“ไม่ต้องห่วงนะ ตอนนี้พวกกูส่งเชี่ยอ๊อฟกับเชี่ยตังไปแก้ไขสถานการณ์แล้ว” ไอ้ทีนพูดอย่างเป็นทางการ “อีกไม่นานเดี๋ยวมันก็โทรมา”
“กูจะบ้าตายอยู่แล้วนะ ปล่อยๆ พวกกูไปไม่ได้เหรอวะ”
“ปล่อยแน่ อีกนิดนึง”
“กูไม่ไหวแล้ว กูจะไปหาฟืนเดี๋ยวนี้”
“หยุด มึงไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น”
“ว่าไงนะ”
“เดี๋ยวฟืนมันก็มานี่แล้ว ไอ้อ๊อฟกับไอ้ตังไปลากตัวมันมาอยู่ ไม่รู้แม่งไปโศกที่ไหนแล้ว”
“เพราะพวกมึงอ่ะทีน ใจร้ายกับมันเกินไปแล้วนะ”
“มึงสองคนต่างหากที่ใจร้ายกับพวกกู” ไอ้ป๊อบอายพูดบ้าง “รู้มั้ยว่าเพื่อนแม่งอึดอัดฉิบหายตอนที่พวกมึงทะเลาะกันอ่ะ ทำตัวไม่ถูกเลย จะแซวทั้งคู่ก็ไม่ได้ เพราะแม่งงอนกัน”
“ตอนนั้นเว่ยกูเรียกไอ้เชี่ยสิก กูเรียกปุ๊บ ไอ้ฟืนหันมาทำหน้าบึ้งใส่กูปั๊บ กูงงเลย” ไอ้เนมพูดบ้าง
“และก็มีตอนนั้นด้วยที่กูจะไปชวนพวกแม่งสองคนไปดูหนังอ่ะ กูชวนไม่ได้เลยเว่ยเพราะนั่งกันอยู่คนละทิศคนละทาง และกูก็ไม่กล้าชวนใครคนใดคนหนึ่งไปเพราะแม่งไม่ใช่ คู่หูสิกกี้กับฟืนนี่ต้องอยู่คู่กันดิวะ”
“คู่หู...อะไรนะ” ผมถามไอ้ทีน
“ฟืนมาแล้วโว้ย ฟืนมาแล้ว!” ไอ้อ๊อฟที่เพิ่งเข้ามาในบ้านไอ้เนมประกาศ
“เชี่ยสิก มึงไปหลบตรงนู้น”
“หา”
“ไปหลบเดี๋ยวนี้”
ไอ้เชี่ยทีนนี่มันกวนตีนจริงๆ ครับ กวนไม่เลิกไม่รา ผมพ่นลมก่อนจะไปซ่อนตัวเอาไว้ตามที่ไอ้ทีนมันบอก ผมเลือกที่จะซ่อนหลังผ้าม่านเพราะสามารถขยับผ้าม่านออกมาดูหน้าฟืนได้
ฟืนมาถึงแล้วจริงๆ สภาพของฟืนในตอนนี้คืออารมณ์บ่จอยมาก ไม่สมควรเข้าใกล้เป็นอย่างยิ่ง
“กูบอกแล้วว่ากูไม่อยากมา” ฟืนโวยวายก่อนเป็นอันดับแรก
“พวกกูมีเรื่องจะถาม” ไอ้ทีนเริ่ม เฮ้ย เดี๋ยวก่อน มึงเริ่มแบบนี้เลยเหรอ
“ถามอะไรของมึง” ฟืนขมวดคิ้ว
“เชี่ยทีน ถามเลยเหรอวะ”
“เอาจริงเหรอ”
“ไม่รอให้มันแดกน้ำแดกท่าก่อนล่ะ”
ใครหลายคนเริ่มส่งเสียง
ผมเห็นฟืนกลืนน้ำลายนิดๆ ท่าทางของมันลุ้นกับคำถามของเพื่อนมาก ผมเข้าใจมันนะ เพราะผมโดนมาแล้ว กว่าจะผ่านมาได้เรียกได้ว่าแทบตายเลยล่ะ
“มึงกับไอ้สิกเป็นไรกันวะ”
สิ้นสุดคำถามของเพื่อน ฟืนก็หน้าซีดเผือดเป็นไก่ต้มทันที ยิ่งมีเพื่อนหลายคนส่งเสียงล้อเลียนอยู่ไม่ห่าง มันก็ยิ่งทำสีหน้าไม่ค่อยถูก
“ก็...ก็เป็นเพื่อนกันไง”
“ตอบผิดว่ะ” ไอ้ทีนแสร้งทำสีหน้าเสียใจ
“มึงจะให้กูตอบว่าอะไร”
“ตอบความจริงไง”
“พวกมึงมีอะไรป่ะวะ กูเริ่มกลัวแล้วนะเนี่ย”
“ไม่ต้องกลัวหรอก ใครจะกล้าทำอะไรมึงได้ล่ะ”
“ทำไมต้องรุมมองกูแบบนี้ด้วยวะ กูกลับนะ”
“ถ้ามึงกลับมึงไม่ได้ผัวมึงคืนนะเว่ย”
พวกแม่งห่วงหรือพวกแม่งเสือกกับเรื่องของผมสองคนวะเนี่ย เรื่องมันชักจะไปกันใหญ่แล้ว ผมสงสารฟืน ผมอยากออกไปรับแทนเขาเดี๋ยวนี้
“ใครผัวกูวะ” ฟืนยังจะกล้าถามอีก
“มึงรู้ดีอยู่แก่ใจ”
“มันไปตายแล้ว”
เหยดเข้...ยอมรับแล้วเว่ยว่าผมเป็นผัว แต่ว่าสถานการณ์ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาประทับใจในเรื่องนี้
“กูขอถามใหม่ มึงกับเชี่ยสิกเป็นอะไรกัน”
ฟืนสบตาเพื่อนทีละคน ใบหน้าเริ่มมีสีแดง
“ตอนนี้ก็ยังเป็นเพื่อนกันอยู่”
“แล้วต่อไปล่ะ”
“ไม่รู้ ยังไม่ได้คุยกันเลย”
“ทำไมล่ะ”
“นี่มึงจะถามให้ได้อะไรขึ้นมาวะทีน”
“เถอะน่า ตอบมาเถอะ”
“โว้ย! เอาไงก็เอา” ฟืนสุดทนแล้วครับ ท่าทางตอนนี้เหมือนคนพร้อมระเบิดเต็มที่ “กูกับมันชอบกัน แต่มันกำลังทำตัวเหี้ย กูก็เลยไม่แน่ใจว่ามันจะยังไงกับกู”
...
สิ้นเสียงของฟืน ผมก็ถูกเพื่อนลากออกมาจากมุมห้อง การปรากฏตัวของผมทำให้ฟืนถึงกับหน้าชาไปเลย ผมก็เลยต้องแก้ตัวเสียงอ่อยกับมัน
“กูโดนพวกแม่งบังคับ” ผมสารภาพกับเขา “แทบจะทุกๆ อย่างเลย”
“ในที่สุดแม่งก็ยอมรับกันสักที” ไอ้ทีนร้องลั่น
เพื่อนจับผมกับฟืนให้นั่งข้างๆ กันหลังจากนั้นก็เริ่มเฮและก็ปรบมือให้เบาๆ
“แด่คู่รักคู่แรกของห้องสามครับผม!”
“ลุ้นจนขี้เล็ด!”
“คู่รักแห่งปี!”
“งอนกันเก่งฉิบหาย!”
ผมเอามือนวดมขมับทันที ส่วนฟืนนั้นมีสีหน้างงงัน
“อะไรของพวกมึง” ฟืนรำพึง
“อย่าใส่ใจเลย พวกแม่งเป็นบ้า” ผมตอบมัน
“อะไรนะ”
“ไว้ค่อยหาที่เงียบๆ คุยกัน”
“พวกมึงสองคนชอบกันตอนไหนวะ” ไอ้ซุปเปิดประเด็น ตอนนี้เพื่อนหลายคนเริ่มนั่งเป็นครึ่งวงกลม คนที่อยู่จุดศูนย์กลางคือผมกับฟืน พวกมันอย่างกับนักข่าวในขณะผมกับฟืนนั้นอย่างกับดาราที่มาแถลงข่าว
“ถามมันดิ” ฟืนโบ้ยมาให้ผมตอบ แม้มันจะโกรธแต่ใบหน้าของเขาก็ยังคงแดงอยู่
“กูชอบมันมานานแล้ว ตั้งแต่รู้จักกับมันเลย” ผมยอมรับตรงๆ
“เหยดเข้” เพื่อนๆ ต่างก็อุทาน
“ส่วนกู เพิ่งรู้ตัวว่าชอบมันได้ไม่นาน” ฟืนเองก็ตอบเช่นกัน
เพื่อนๆ ต่างก็สนุกที่จะได้ฟังเรื่องราวของผมกับฟืน ใบหน้าของพวกมันตั้งใจฟังมากกว่าตอนที่คุณครูสอนอีก เรื่องชาวบ้านนี่อยากรู้กันจังเลยนะ
หลังจากนั้นผมกับฟืนก็ได้เล่าอะไรอีกหลายอย่างให้พวกแม่งฟัง โดยที่ละเว้นเรื่องของสตาร์กับพี่ดินเอาไว้ แม้จะมีบางคนเอ่ยถึงสองคนนี้แต่ผมกับฟืนก็พร้อมใจกันที่จะเลี่ยงไม่พูดถึง มีคนถามถึงสาวๆ ของผมด้วยครับ ไอ้อ๊อฟกับไอ้ตังก็เลยช่วยยืนยันว่าผมน่ะไม่ได้เป็นเพลย์บอยอะไรหรอก ชีวิตผมวันๆ อยู่แต่กับไอ้ฟืน ซึ่งนั่นก็คือเรื่องจริง
เพิ่งรู้ว่าคนที่กระจ่ายข่าวบอกเพื่อนว่าผมเป็นเพลย์บอยแท้จริงแล้วก็มาจากไอ้ฟืนนี่แหละ แสบจังเลยนะมึง
พอเริ่มพูดเรื่องนี้เพื่อนแม่งก็เริ่มยิงคำถามจนผมแทบตั้งแต่ไม่ถูกเพราะฟืนนั่งอยู่ข้างๆ ไม่ว่าจะเป็นน้องน้ำ น้องออย เจนนี่ แพมแพม และก็อีกหลายๆ คนที่ผมเคยคุยด้วย ผมต้องอธิบายให้เพื่อนๆ ฟังอย่างจริงจังว่าผมถูกคนเหล่านั้นเข้ามาคุยด้วย ผมไม่ใช่ฝ่ายเริ่ม ตอนแรกเพื่อนๆ มันก็ไม่เชื่อหรอก แต่พอเพื่อนหลายคนเริ่มคิดไปถึงเหตุการณ์เมื่อวันวาน พวกมันก็เริ่มคิดได้ว่าสิ่งที่ผมพูดนั้นมีเหตุมีผลมากจนเหมือนจะเป็นเรื่องจริง
ไม่ใช่แค่เหมือนเรื่องจริง แต่มันเป็นเรื่องจริงเลยเว่ย
เรื่องนี้ฟืนตั้งใจฟังมากเลยล่ะ ตั้งใจจนผมเกร็งไปหมดแล้วเนี่ย
ในที่สุดเราสองคนก็สอบผ่าน กลายเป็นคู่รักประจำห้องสามในสายตาของเพื่อนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ระเบียงบ้านไอ้เนม
ที่ตรงนี้เหลือแค่ผมกับฟืนแล้ว ผมมองอีกฝ่ายด้วยสายตาอ่อนใจ ส่วนฟืนยังคงหน้าบึ้งไม่หาย
“ขอโทษ” ผมพูด
“กูจะบ้าตาย”
“คราวนี้ไม่ต้องทะเลาะกันอีกแล้วนะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร”
ฟืนมองผมอย่างชั่งใจ ก่อนที่จะพยักหน้า
“โอเค”
“...”
“ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าพวกมันแค้นเราสองคนขนาดนี้”
“จริงๆ พวกมันไม่ได้แค้นอะไรขนาดนั้นหรอก เพียงแต่กดดันให้เราพูดกับพวกมันมากกว่า”
“...”
“เพื่อนเป็นห่วงเรานะ”
ฟืนถอนหายใจก่อนที่จะมองไปที่วิวหน้าบ้านไอ้เนม สายตาของเขาหม่นลงและผมรู้ดีว่าเป็นเพราะอะไร
“มึงจะไปแล้วล่ะสิ”
“ไปส่งกูด้วยนะ”
“ไม่ไปส่งได้มั้ย”
ใจผมหล่นทันทีที่เขาพูด
ไม่ได้นะเว่ย...เดี๋ยวเสียแผน!
“ทำไมอ่ะ”
“กลัวทำใจไม่ได้ว่ะ”
“เฮ้ย ไปส่งกูเหอะ นะๆๆ” ผมพยายามอ้อนวอนเขา
“กูไปไม่ได้จริงๆ กูลองนึกภาพตอนที่กูมองแผ่นหลังของมึงตอนมึงเข้าเกทไปแล้ว ใจกูก็เจ็บไปหมดแล้ว”
ผมเข้าใจมันนะ แต่ผมมีแผนจริงๆ ให้ผมได้ทำตามแผนของผมเถอะ
แผนของคนคูลๆ อย่างผมมันต้องถูกดำเนินต่อไปดิ!
“ฟืน...”
“กูขอโทษ เรื่องนี้กูทำไม่ได้จริงๆ”
ผมค่อยๆ หยิบโน้ตกระดาษออกมา จากนั้นก็เขียนสิ่งที่ผมปรารถนาที่สุดตอนนี้ลงไป หลังจากที่ผมเขียนแผ่นแรกให้มันผมก็ไม่สามารถหยุดเขียนได้อีกเลย
ผมคิดว่าจะทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่ามันจะบอกให้ผมหยุด
โน้ตการ์ดใบที่ 19
กูจะรอมึงอยู่ที่สนามบินนะ ได้โปรด มาส่งกูเถอะ ฟืนชำเลืองมองข้อความในโน้ตพร้อมกับทอดถอนใจ เขาไม่ได้ให้คำตอบกับผม เพียงแต่ดื่มเบียร์ในกระป๋องช้าๆ พร้อมกับสีหน้าเศร้าหมอง
กูจะได้ทำตามแผนของกูมั้ยเนี่ย T___T
ก่อนกลับบ้าน
ลับหลังฟืน ผมพยายามหว่านล้อมให้เพื่อนร่วมห้องช่วยเหลือผม
“ทำยังไงก็ได้ให้มันไปส่งกู” ผมบอกไอ้ทีนผู้เป็นหัวเรือใหญ่
“ทำไม มึงมีแผนเหรอ”
“มีดิ”
“แผนไร เล่นด้วยดิ”
เห็นแผนผมเป็นสนามเด็กเล่นไปซะฉิบ
ผมนิ่งคิดเล็กน้อย ในตอนแรกนั้นแผนของผมมีตัวละครอยู่น้อยมาก ทว่าตอนนี้มีตัวละครอีกหลายตัวก็น่าจะดี
เพิ่มเพื่อนทั้งห้องลงไปอีกเลยก็แล้วกัน
“พวกมึงฟังนะ แผนกูมีอยู่ว่า...”
tbc*ตอนหน้าตอนสุดท้ายแล้ววววววววว
อย่าลืมมาส่งทั้งคู่ไปสู่ประตูสวรรค์กันน้า
ฟืนอาจจะเกาะขอบล้อบินไปกับสิกก็ได้ 555