ตอนที่ 17
ผมเสียเพื่อนของผมไปอีกครั้ง
ที่จริงผมเสียมันไปตั้งแต่ที่ผมรู้ตัวว่าชอบมันแล้วล่ะ ผมไปโรงเรียนในเช้าวันจันทร์ด้วยสภาพที่เรียกได้ว่าวิญญาณเดินได้ รู้สึกแย่ไปหมด แม้กระทั่งตอนที่เพื่อนเล่นมุขตลก ผมก็ไม่ขำกับพวกมัน ไอ้สิกกลายเป็นคนที่มีอารมณ์สดใสคล้ายกับเจ้าชายน้อยในขณะที่ผมนั้นเหมือนวิญญาณตามติดเจ้าชายยังไงยังงั้น
มันเมินผมอย่างสิ้นเชิง เรียกได้ว่าหนักกว่าตอนที่มันขออยู่ห่างจากผมอีก มันทำเหมือนผมไม่มีตัวตน และทุกการกระทำของมันแทงใจของผมทีละครั้งๆ จนเป็นแผลเหวอะหวะไปหมด
ผมสมควรโดนแล้วล่ะ ผมทำร้ายมันมาโดยตลอดตั้งแต่ตอนที่มันแอบชอบผมจนกระทั่งตอนที่มันรู้ใจผม ผมก็ยังทำร้ายมัน ไม่ว่ามันจะจัดบทลงโทษให้ผมยังไงผมก็ควรจะรับมันเอาไว้ให้ได้ทั้งหมด
สิกจะไปหลังจากที่สอบกลางภาคเสร็จ มันยืนยันที่จะสอบเพราะจะได้ดูข้อสอบไว้เผื่อตอนกลับมาเรียนซ้ำชั้นม.5 ปีหน้า ตอนนี้มันพูดกับเพื่อนคนอื่นๆ อย่างออกรสว่าจะไปแบกสาวอเมริกันสวยๆ กลับมาฝาก ยิ่งมันพูด ผมก็ยิ่งกำปากกาในมือแน่นโดยที่ผมไม่รู้ตัว
มึงลงโทษกูหนักไปป่ะวะไอ้สิกกี้ขี้ไม่ล้างงงงงงงงงง
เวลาผ่านไปสองสามวัน ไอ้สิกมันก็ทำแบบเดิมใส่ผม มันทำเหมือนผมไร้ตัวตน ไร้ตัวตนในที่นี่หมายความว่าผมเป็นสูญญากาศหรืออากาศธาตุอะไรประมาณนั้นเลย มันชวนเพื่อนคุยข้ามหัวผม ไม่สนใจเวลาผมทัก หรือไม่ก็เดินผ่านผมไปเลยทั้งๆ ที่ปกติแล้วเราสองคนจะเดินไปด้วยกัน
ตอนแรกผมก็คิดว่าผมทนไหวอยู่หรอก แต่ตอนนี้ผมชักจะทนไม่ไหวแล้ว
“ไปไหนวะฟืน” พี่ดินทักเมื่อเห็นผมเดินลงมาจากตึก ไอ้สิกเองก็อยู่ใกล้ๆ กับผม
“ไปเรียนพละพี่”
“ที่สนามเหรอ”
“ช่าย”
“แดดเปรี้ยงๆ เนี่ยนะ”
“ตอนม.5 พี่ก็เรียนกลางสนามเหอะ”
“ระวังจะเป็นลมเป็นแล้งล่ะ”
“แต่ถ้าเป็นไอ้ดิน สำหรับน้องฟืนไม่ได้เป็นลมเป็นแล้งหรอกนะ” เพื่อนพี่ดินมากอดคอพี่เขาพร้อมกับพูดกับผม “แต่เป็นรัก ฮิ้ววววววววววววว”
“ฮิ้ววววววววววววววววว” เสียงเพื่อนพี่ดินอีกหลายคนดังตามๆ กัน
“รีบๆ ไปเลย” พี่ดินโบกมือไล่ผม ท่าทางเขาจะเขินไม่น้อย
ผมยกมือไหว้พี่ๆ เหล่านั้นก่อนจะวิ่งไป ไอ้สิกมันชนไหล่ผมเล็กน้อยก่อนที่จะวิ่งนำหน้าผมไปด้วย
“มึงเห็นกูแล้วเหรอไอ้สัด” ผมประชด แต่มันทำเป็นไม่ได้ยิน
คาบพละวันนี้เรียนกับห้องหนึ่ง
ผมรู้สึกอยากจะบ้าตาย ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นตอนนี้ผมยังไม่กล้าที่จะสู้หน้าสตาร์ตรงๆ หลังจากวันที่เราแยกกันเขาก็ไม่ได้คุยอะไรกับผมอีก ผมไม่รู้ว่าตอนนี้เขาเป็นยังไงบ้างแล้ว แต่ตอนนี้ผมรู้สึกอยากจะบ้า แดดก็ร้อน ไอ้สิกก็เมิน เตะบอลก็แย่ ผมอยากจะออกไปจากสนามและก็ไปหากระสอบทรายเพื่อระบายอารมณ์ซะ
ที่ห้องหนึ่งมาเรียนกับห้องผมเพราะเคยใช้คาบพละไปสอบอะไรก็ไม่รู้ วันนี้ก็เลยต้องมาเรียนชดเชยพร้อมๆ กับห้องผม คุณครูพละก็สอนง่ายเลยครับ ปล่อยให้ห้องผมกับห้องหนึ่งเตะบอลแข่งกัน
แม้คุณครูจะสอนง่าย แต่พวกมันเสือกจะจริงจัง ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเพื่อศักดิ์ศรีของห้อง จะแพ้ห้องคิงอย่างห้องหนึ่งไม่ได้อย่างเด็ดขาด!
ไอ้พวกห้องคิงนี่ก็นะ แม่งไม่รู้ไปหัดเตะกันมาจากไหน ทำไมทั้งมีทักษะทั้งเร็วฉิบหายขนาดนี้ ผมนี่ถึงกับหอบเลยครับ
“สิกส่งมา!” ผมร้องเมื่อไอ้สิกได้บอล
ไอ้เชี่ยนั่นมันทำเป็นหูทวนลม ทั้งๆ ที่มันกำลังถูกไอ้พวกห้องหนึ่งจ้องสะกัดอยู่ตั้งหลายต่อหลายคน
“เชี่ยสิก!” ผมร้องอีกครั้ง แต่ไอ้สิกมันก็เมินผม เตะบอลส่งไปให้คนอื่น
เชี่ยเอ๊ยยยยยยยยยยยยยยย
“มึงจะเอาไง” ผมพุ่งไปหามันพร้อมๆ กับกระชากคอเสื้อมัน เหตุการณ์คุ้นๆ มั้ยครับ เวลาผมกับมันทะเลาะกันและอยู่ห่างกันทีไร เป็นผมเองที่ทนไม่ได้แทบทุกทีไป “บอกมา มึงจะเอาไง!”
ปี๊ดดดดดดดดดดดดดด
คุณครูพละเป่านกหวีดเหมือนเห็นนักเรียนทะเลาะกัน แต่ผมไม่สนใจ เพื่อนหลายคนเริ่มเข้ามาดึงผมให้ออกห่างจากไอ้สิก ผมนั้นไม่ยอมง่ายๆ ไม่รู้ว่าผมไปเอาพลังช้างสารมาจากไหน
ผมกระโดดขึ้นหลังไอ้เชี่ยสิกเฉยเลย
“บอกมาๆๆๆๆ” ผมเขย่าตัวมันไปด้วย ขึ้นหลังมันไปด้วย
“มึงบ้าไปแล้วเหรอฟืน” สิกร้องลั่น
“ตายซะเถอะ” ต่อยมันเบาๆ หลายครั้งที่ใบหน้าของมัน
“ไอ้บ้า! หยุดเดี๋ยวนี้”
“ฟิสิกส์กับติณภัทร ถ้าจะทะเลาะกันก็ไปเคลียร์กันตรงนู้น” คุณครูพละเป่านกหวีดอีกหลายครั้งและก็ไล่เราสองคนไปข้างๆ สนาม “คนเขาจะเตะบอลกัน”
“ครูครับ ผมไม่มีอะไรจะคุยกับมัน”
“ผมก็ไม่มี” ผมพูดบ้าง
“เธอขี่หลังนายฟิสิกส์ขนาดนี้ครูเชื่อว่าเธอมีอะไรจะพูดกับเขานะ”
“...”
“ไปข้างสนาม ไปคุยกัน เธอสองคนสนิทกันยังไงก็ไม่เลิกคบกันง่ายๆ อยู่แล้ว ไปปรับความเข้าใจกันซะ”
“เชี่ยเอ๊ย” สิกสะบัดตัวผมให้ผมหลุดจากร่างของมัน ผมมองท่าทางของมันด้วยสายตาที่เจ็บปวด ก่อนที่จะเดินตามหลังมันไปที่ข้างสนาม
ผมส่งน้ำเปล่าเย็นเฉียบขวดหนึ่งไปให้สิกหลังจากที่เดินไปซื้อมา
“กูซื้อมาเกิน” ผมขอยืมใช้คำพูดที่มันเคยพูดกับผม
อีกฝ่ายชะงักเล็กน้อยก่อนที่จะเลิกคิ้วมองหน้าผม มันคงรู้แล้วล่ะว่าผมจำสิ่งดีๆ ที่มันเคยทำไว้ได้ เพียงแต่ตอนนั้นผมไม่รู้ตัวเลย
“กูไม่เอา”
แม่ง ไม่รู้ไปเรียนวิชาทำตัวใจร้ายนี้มาจากใคร
“ทำไมมึงร้ายกับกูแบบนี้วะ นี่มันเกินเบอร์ไปแล้ว”
“มึงร้ายกับกูก่อน”
“กูร้ายอะไร”
“มึงทำร้ายจิตใจกู นั่นคือสิ่งที่ร้ายกาจที่สุดแล้ว”
“มึงก็ทำร้ายจิตใจกูเหมือนกัน ตอนนี้มึงก็ทำร้ายกู” ผมโวยวาย “แม้แต่แดกน้ำที่กูซื้อให้มึงยังไม่แดกเลย กูเริ่มไม่เชื่อแล้วนะว่ามึงชอบกูจริงๆ ที่ผ่านมากูจะถือซะว่ามึงหน้ามืดตามัว และก็ไม่เคยชอบกูจริงๆ หรอก...”
“โวะ บ่นเป็นคนแก่เลยนะ” ไอ้สิกแย่งน้ำในมือผมไปดื่ม
ผมใจชื้นขึ้นเล็กน้อยหลังจากที่เห็นมันดื่มน้ำที่ผมซื้อให้ ผมดื่มน้ำในมือของตัวเองบ้างก่อนที่จะลอบมองใบหน้าด้านข้างของมันแบบยิ้มๆ
“กูคิดถึงมึงนะ” ผมพูดจากใจจริง
สิกกลืนน้ำลายเล็กน้อย ท่าทางของมันเก้อกระดาก
“มึงต้องการอะไร จะปั่นหัวอะไรกูอีก”
“อีกไม่นานมึงก็จะไปแล้ว มึงจะไปทั้งๆ ที่กูกับมึงโกรธกันนี่น่ะเหรอวะ”
“เมื่อกี้มึงต่อยกู”
“ก็มึงเมินกูอ่ะ”
“แต่ก่อนมึงเมินกูมากกว่านี้เยอะ”
“...”
“จำได้ป่ะ มองจนให้อีกฝ่ายรู้ว่าถูกมอง” สิกหันมาหาผม “กูมองมึงหลายครั้งมาก แต่มึงไม่สนใจสายตาของกูเลย”
มันกำลังจะฆ่าผมด้วยคำพูดของมันแน่ๆ T_T
“กูขอโทษ ก็ตอนนั้นเราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอวะ”
“แล้วตอนนี้เราเป็นอะไรล่ะ”
ผมอ้าปากค้าง พูดอะไรไม่ออก
“กูจะไปเตะบอลต่อแล้ว” สิกทำท่าจะลุกขึ้นยืน
“กูจะไปบอกพี่ดินกับสตาร์เย็นนี้!” ผมหลับหูหลับตาพูดไปแล้ว
“อะไรนะ” สิกทำสีหน้าสนใจ
“ก็ตามที่กูพูดอ่ะ” ผมพูดเสียงอ่อย
“วันนี้แน่เหรอ สองคนเลยนะ มึงไหวเหรอ”
“มึงจะอยู่ข้างๆ กูป่ะละ”
“...”
“นี่กูกำลังทำเพื่อมึงอยู่นะ”
ไอ้สิกมองผมอย่างชั่งใจก่อนที่จะทอดถอนใจ
“มันคงหนักสำหรับมึงมาก คนใจอ่อนอย่างมึง คนที่ชอบเห็นอกเห็นใจคนอื่นอย่างมึง” ไอ้สิกดันแก้มผมด้วยขวดน้ำเปล่า “แต่เพราะงี้มั้งกูถึงชอบมึงอ่ะ”
ผมถอนหายใจบ้าง ทำไงได้ล่ะครับ คนที่ผมไม่สามารถสูญเสียไปได้จริงๆ ก็คือไอ้สิก ถึงแม้จะมีคนที่เจ็บปวดเพราะเรื่องนี้ก็ตาม แต่ผมก็ไม่สามารถควบคุมทุกอย่างได้จริงๆ
สิกมันทำให้ผมได้รู้ว่าบางทีคนเราก็ต้องทำตามหัวใจตัวเอง
มันคงถึงเวลาแล้วล่ะ
ไอ้สิกส่งโน้ตกระดาษของมันมาให้ผม ก่อนที่จะมองไปข้างหน้า
โน้ตการ์ดใบที่ 17
มึงต้องสู้เพื่อกูนะ “กูเขียนไว้นานแล้วล่ะ ได้มีโอกาสให้มึงสักที”
ผมยิ้มเบาๆ ก่อนที่จะตบไหล่ไอ้สิก
“เออ กูจะสู้เพื่อมึง”
หลังคาบพละ
ผมเดินไปหาสตาร์ด้วยใจตุ้มๆ ต่อมๆ ตอนนี้เพื่อนหลายคนต่างก็พากันขึ้นตึกไปเปลี่ยนชุดหรือไม่ก็เดินไปอาบน้ำกันแล้ว (บางคนมันมีเหงื่อจนต้องขนสบู่ขนแชมพูมาอาบน้ำที่โรงเรียนจริงๆ ครับ) สตาร์เห็นว่าผมมีเรื่องจะคุยด้วย ก็เลยเดินรั้งท้ายกับกลุ่มเพื่อนของเขา
ผมรอให้เหลือผมกับสตาร์แค่สองคน เรื่องนี้จริงจังมากและผมก็เชื่อว่าเป็นความลับระหว่างผมกับสตาร์น่าจะดีที่สุด
“ฟืนมีอะไรเหรอวะ” สตาร์ใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดเหงื่อขณะที่มองผม
ผมกระสับกระส่าย รู้สึกอยู่ไม่เป็นสุข ไม่รู้จะเริ่มต้นคำพูดยังไง
“มีอะไรหรือเปล่าวะ” สตาร์ถามซ้ำอีกครั้ง
จู่ๆ ร่างของผมก็ถูกดึงเข้าไปไปอยู่อ้อมแขนของใครไม่รู้ คนๆ นั้นใช้มือที่จับร่างของผมไปปิดตาของผมเอาไว้ กลิ่นแบบนี้ สัมผัสแบบนี้คือไอ้สิกแน่นอน
มันกำลังจะทำอะไร
“อย่ามองสตาร์นะ” สิกกระซิบข้างหูผม
“มีอะไรวะสิก” สตาร์คงจะงงมากมั้งครับ
“สิ่งที่กูจะพูดต่อไปนี้อาจทำร้ายจิตใจมึงมาก แต่เชื่อเถอะว่าเรื่องนี้มันทำร้ายกูสองคนมามากพอแล้ว”
“เชี่ยสิก มึงจะทำอะไร” ผมดิ้นพล่าน สิกใช้อีกมือหนึ่งโอบรอบตัวผมไว้
มันไม่อยากให้ผมเห็นสีหน้าที่เจ็บปวดของสตาร์หลังจากคำพูดที่มันกำลังจะพูดต่อไปนี้ และนั่นก็ทำให้ผมรู้สึกสะเทือนใจมากเลยครับ
“กูชอบฟืน ชอบมานานแล้วด้วย”
“...”
“ส่วนไอ้เชี่ยฟืน ตอนแรกมันคิดว่ามันชอบมึง แต่พอมันได้ยินว่ามึงชอบกูมันก็เลยไปต่อไม่ถูก มึงพูดกับมันก่อนว่าอยากให้มันช่วยมึงจีบกู มันจึงไม่มีทางเลือก ต้องช่วยมึงจีบกูทั้งๆ ที่ตอนนั้นมันคิดว่าตัวเองอ่ะชอบมึง”
ต้องใช้สติแค่ไหนในการฟังเรื่องราวที่ซับซ้อนนี้
“พอนานวันเข้า กูที่ชอบมันอยู่ก็เริ่มรู้สึกไม่ดีและก็โมโห ทำไมต้องคอยจับคู่ให้กูกับมึงทั้งๆ ที่กูชอบมันด้วย กูกับมันก็เลยทะเลาะกันและก็อยู่ห่างๆ กัน ตอนนั้นเป็นตอนที่ไอ้เชี่ยฟืนมันรู้ใจตัวเองว่ามันก็ชอบกูเหมือนกัน”
ผมจับแขนไอ้สิกเอาไว้ราวกับต้องการหาที่พึ่ง ยิ่งฟังผมก็ยิ่งจินตนาการภาพใบหน้าเจ็บปวดของสตาร์ไปต่างๆ นานา มันทำให้ผมอยากจะบ้า
“มันชอบกูเพราะมันไม่ชอบอยู่ห่างกู ทุกๆ วันมันมีแต่กูจนกลายเป็นความเคยชิน ชีวิตมันขาดกูไม่ได้ จริงๆ แล้วมันเป็นแผนของกูเองนั่นแหละ เป็นแผนตั้งแต่สมัยม.ต้นแล้วว่ากูจะเป็นเพื่อนกับมันต่อไปจนกว่าจะเข้าไปให้ถึงใจของมัน จนกระทั่งกูทำได้ในที่สุด”
“...”
“กูขอโทษนะสตาร์ กูรู้ว่ามึงคิดยังไงกับกู แต่ตอนนี้ไอ้ฟืนมันทำร้ายกูเพราะมันไม่อยากเห็นมึงเจ็บ มันไม่ยอมคบกับกูเพราะกลัวว่ามึงจะเจ็บปวดมาก แต่รู้ป่ะ กูเองว่าเจ็บก็ปวดกับเรื่องนี้มากเหมือนกัน กูรอมันมานานมากแล้วและกูก็ไม่อยากรอมันอีกแล้ว ยิ่งกูกำลังจะไปต่างประเทศด้วย กูอยากให้มึงเข้าใจ”
“...”
“กูขอโทษที่กูใจร้าย”
สิกจับตัวผมให้หันหลังช้าๆ จากนั้นก็ปล่อยมือที่ปิดตาของผมออก
“อย่าหันไป” สิกกระซิบเบาๆ กับผม
“แต่สตาร์...” เสียงของผมสั่นอย่างควบคุมไม่ได้
“ไหนบอกจะสู้เพื่อกูไง”
“แต่...”
“ขอร้อง อย่าหันกลับไป”
ผมไม่รู้ว่าตอนนี้สตาร์จะทำหน้ายังไง แต่ตัวของผมสั่นไปหมดเพราะรู้ดีว่าสตาร์จะต้องเจ็บปวดมากแน่ๆ เราสองคนใจร้ายกับเขาจริงๆ และเขามีสิทธิ์ที่จะโกรธอย่างเต็มที่
“คนมีความรักมันก็ต้องเจ็บปวดเหมือนกันทุกคนอยู่แล้ว” สายตาของสิกเองก็แลดูเศร้ามากเหมือนกัน “กูเจ็บมามากพอแล้ว กูอยากมีความสุขบ้าง”
ผมพยักหน้ารับคำของมัน
“สักวันสตาร์จะกลับมายิ้มได้อีกครั้ง”
สิกเชื่ออย่างนั้น ผมเองก็เช่นกัน
“เหลือพี่ดิน” ผมรำพึง
“มึงไหวใช่ป่ะ”
“...”
“สองคนในวันเดียวกูว่ามันหนักไปอ่ะ”
“ไม่ไหวก็ต้องไหวอ่ะ” ผมบอกกับมัน “มึงเจ็บเพราะกูมามากแล้วไม่ใช่เหรอ ถึงเวลาที่กูจะต้องทำเพื่อมึงบ้าง”
“...”
“กูชอบมึงจริงๆ นะไอ้เชี่ยสิก”
tbc*ตอนหน้าเป็นตอนพิเศษพาร์ตของนุ้งสตาร์ค่ะ
สุดท้ายแล้วพี่พระเอกอย่างสิกก็กลัวว่าฟืนจะทำตัวเป็นคนดีจนเกินเหตุอีก
นางไม่ยอมอีกต่อไป 55555
หวังว่าคนอ่านจะให้อภัยและก็เข้าใจในความวัยรุ่นวัยว้าวุ่นของเด็กๆ นะคะ : )