┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ [ตอนพิเศษ HNY P.33]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ [ตอนพิเศษ HNY P.33]  (อ่าน 367577 ครั้ง)

ออฟไลน์ nolirin

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2755
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +274/-5
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER36 P.25 [11/03/17]
«ตอบ #750 เมื่อ11-03-2017 23:43:43 »

ตอนหน้าต้องลงจากดอยแล้วสิ...คิดถึงน้องมูนแย่เลย

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER36 P.25 [11/03/17]
«ตอบ #751 เมื่อ11-03-2017 23:59:28 »

น้องมูนจะโอเคใช่ไหม? ตอนนี้รู้สึกห่วงน้องมูนมากๆ เลย

ออฟไลน์ route rover

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-7
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER36 P.25 [11/03/17]
«ตอบ #752 เมื่อ12-03-2017 00:23:20 »

อะโหววว ฝึกร้องเพลง อะโหววว happy birh day เองหรอพี่กีล์  โง่ยยยย  :mew4:

ออฟไลน์ Margarita

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER36 P.25 [11/03/17]
«ตอบ #753 เมื่อ12-03-2017 17:55:00 »

 :pig4: :L1:

ออฟไลน์ double9JH

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1808
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-7
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER36 P.25 [11/03/17]
«ตอบ #754 เมื่อ12-03-2017 21:31:53 »

ขำ คือ ตอนแรกจะร้อง happy birthday จริงอ่ะ พี่กีล์


 :ruready

ออฟไลน์ pui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-3
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER36 P.25 [11/03/17]
«ตอบ #755 เมื่อ13-03-2017 19:27:03 »

ตามอ่านจนทันแล้ว ดีต่อใจมากๆค่ะ

ออฟไลน์ itsgonnabeme

  • It's me, not you.
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 263
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER36 P.25 [11/03/17]
«ตอบ #756 เมื่อ13-03-2017 20:53:17 »

เป็นเรื่องราวที่สวยงามมากจริงๆ

สู้ๆนะคะคุณคนเขียน

ออฟไลน์ SaJung13

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1057
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-1
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER36 P.25 [11/03/17]
«ตอบ #757 เมื่อ13-03-2017 21:38:09 »

โซโล่น่าหยิก กีล์ก็น่ารัก

ออฟไลน์ CHESS.

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +228/-2
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER36 P.25 [11/03/17]
«ตอบ #758 เมื่อ16-03-2017 23:08:04 »

-37-

 

เวลาใครก็ตามขึ้นไปเที่ยวบนเขา มักจะมีใครคนใดคนหนึ่งพูดถึงเรื่องการดูพระอาทิตย์ขึ้นหรือตกดินอยู่เสมอ ผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่เคยคิดอยากเห็นตามสิ่งที่ใครๆก็พูดถึงดูสักครั้ง แต่อาจเพราะผมขึ้นมาบนเขาด้วยวัตถุประสงค์ที่ไม่ใช่การมาเที่ยวเลยลืมเรื่องนั้นไปเสียสนิท มีโอกาสอยู่ตั้งหลายวันก็ไม่เคยไปดูเต็มๆตาเสียที คนที่มีชีวิตติดอยู่กับการทำงานในเมืองน่าจะเก็บเกี่ยวความสวยงามพวกนั้นเอาไว้เมื่อมีโอกาส แต่ในตอนที่คิดได้ว่าคงไม่ทันแล้วคนที่ยืนอยู่ด้านข้างก็รั้งมือผมเอาไว้เสียก่อน

ตอนนี้ผมกับโซโล่ยืนอยู่ตรงจุดที่เราพบกับพวกชาวบ้านครั้งแรก บนบ่ามีกระเป๋าเป้ที่พร้อมสำหรับการเดินทางสะพายอยู่

“เสียเวลาแค่นิดหน่อยไม่เป็นไรหรอก”

“แต่…”

“พระอาทิตย์ขึ้นแล้ว”โซโล่เตือน สายตาของเขามองไปยังปลายขอบฟ้าที่ซึ่งพระอาทิตย์กำลังเคลื่อนไหว

ผมหันไปมองภาพทิวทัศน์อันสวยงามแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อนอย่างเหม่อลอย เพิ่งรู้เหมือนกันว่ามันสวยงามขนาดนี้ เหตุผลที่กลัวว่าเด็กๆจะมาเจอเอาเสียก่อนหายออกไปจากหัวจนหมดสิ้น ไม่รู้ว่าเรายืนมองพระอาทิตย์กันอยู่นานเท่าไหร่ แต่ผมรู้ตัวอีกทีก็ตอนที่คนข้างๆยื่นมือมาสะกิดแล้วพยักหน้าให้

ถึงเวลาต้องไปแล้ว

ผมหันไปมองทางที่เราเพิ่งเดินผ่านมาเป็นครั้งสุดท้าย แค่นึกถึงความผูกพันที่เกิดขึ้นในระยะเวลาไม่กี่วันก็รู้สึกอุ่นใจ แต่ตอนนี้ก็ทำได้แค่ขอให้คนที่นี่มีความสุข มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นเท่านั้น

ผมก็ต้องกลับไปใช้ชีวิตของตัวเองเหมือนกัน

'กีล์'

เสียง...

ผมหันหลังกลับไปมอง ไม่คิดว่าตัวเองหูฝาดแต่อย่างใด เสียงนั้นเป็นเสียงที่ชัดเจนมากในความทรงจำ ไม่มีทางที่ผมจะจำไม่ได้เด็ดขาด และภาพที่เห็นทำให้ผมเบิกตากว้าง เมื่อพื้นที่ที่พวกเราเดินจากมามีพวกชาวบ้านกับเด็กๆยืนโบกมือให้อยู่ ทุกคนไม่ได้ร้องไห้แบบที่ผมคิด แต่กำลังยิ้มอย่างมีความสุข แม้แต่น้องมูนก็ด้วย

"โชคดีนะครับครู!"เสียงเด็กๆที่ตะโกนขึ้นพร้อมกันทำให้ผมยิ้มกว้าง รีบโบกมือกลับไป

"กีตาร์..."โซโล่กระซิบเบาๆ "ดูนั่นสิ"

ผมมองตามสายตาของเขาไป สิ่งที่โดดเด่นที่สุดที่มองเห็นคือต้นไม้ต้นใหญ่ที่ตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยว และตรงนั้น...มีหญิงชราใส่ชุดสีขาวคนหนึ่งยืนอยู่

เจ้าของเสียงคุ้นเคยที่ผมได้ยินจนต้องหันกลับมา...

"ท่านมาอวยพร"

สิ้นเสียงของโซโล่ ผมทรุดตัวลงนั่งกับพื้น รู้สึกร้อนผ่าวที่ขอบตา วินาทีต่อมาน้ำตาก็ไหลลงมาอย่างเงียบเชียบโดยที่ผมไม่คิดกลั้น เพราะครั้งนี้มันไม่ใช่น้ำตาของความเศร้าเสียใจ แต่เป็นน้ำตาของความสุข ผมส่งยิ้มให้ท่าน ประนมสองมือแล้วก้มลงกราบแนบพื้นโดยไม่สนใจว่ามันจะเลอะหรือเปล่า

ขอบคุณครับแม่ใหญ่…สำหรับความทรงจำที่มีค่าและทุกสิ่งทุกอย่าง

"กีตาร์..."โซโล่ช่วยพยุงผมขึ้นจากพื้น ปล่อยให้ผมมองภาพต้นไม้ใหญ่ที่ไร้ซึ่งเงาของคนที่เห็นเมื่อครู่โดยไม่พูดขัดอะไร

"ขอบคุณครับ"ผมหันไปหาเขา เงยหน้าหลับตาให้มืออีกคนช่วยเช็ดน้ำตาได้ถนัดยิ่งขึ้น

"ตาแดงเลย"

"พี่ร้องนิดเดียวเองนะ"

"ก็เรียกว่าร้องอยู่ดี ห้ามร้อง"เจ้าหมาทำหน้าบูด

"ดีใจก็ร้องไม่ได้เหรอครับ"

"ไม่ได้..."คนพูดชะงักไป คิ้วขมวดมุ่นเหมือนกำลังครุ่นคิด "ได้ก็ได้...แต่ต้องบอกด้วยว่าร้องเพราะอะไร"

ผมมองคนขี้ห่วงด้วยแววตาขบขัน อยากหัวเราะอยู่เหมือนกันแต่กลัวโดนโกรธ สุดท้ายเลยได้แต่พยักหน้ารับคำ

"ครับ"

เจ้าหมาพยักหน้าเหมือนพออกพอใจเสียเต็มประดา เขาหันไปมองพวกชาวบ้านอีกครั้ง แล้วก็หันกลับมาจับมือผมไว้

"พร้อมยัง"

"พร้อมสำหรับอะไรดี"ผมหัวเราะเบาๆ หันหลังให้กับทุกอย่างด้วยความรู้สึกสบายใจและปลอดโปร่ง

"น่าจะอุปสรรคนะ"

"ไม่พร้อมได้ไหม"

"ไม่ได้"

แบบนี้ไม่ต้องถามก็ได้มั้ง

 

 

วินาทีที่กลับมาถึงกรุงเทพ ความรู้สึกหนักหน่วงที่หายไปหลายวันราวกับถาโถมเข้ามาอีกครั้ง ความกดดันหลายๆอย่างที่ผมเกือบจะลืมไปแล้วทำให้อึดอัดใจไม่น้อย แล้วยิ่ง...

"ไม่เป็นไรหรอก"โซโล่แตะแขนผมให้เดินต่อ ถึงจะบอกว่าไม่เป็นไรแต่หน้าตาของเขาก็ดูเคร่งเครียดไม่แพ้กัน

เราเดินออกมาด้านนอกสนามบิน ตอนแรกผมคิดว่าจะต้องนั่งแท็กซี่กลับ แต่ทันทีที่โซโล่หยุดเท้าเมื่อเห็นผู้ชายหน้าตาคุ้นเคยยืนขวางอยู่ตรงประตูผมก็รู้ได้ทันที...

คงไม่ต้องนั่งแท็กซี่แล้ว

"คุณชายครับ"

พวกเขาคือคนของคุณพ่อโซโล่ที่เคยขึ้นไปหาพวกผมบนเขา เพียงแต่ครั้งนี้มากันแค่สองคน

"เจย์ไปไหน"โซโล่ถามเสียงเรียบ ส่งกระเป๋าของตัวเองรวมถึงกระเป๋าของผมไปให้พวกเขาถือ

"คุณเจย์จัดการงานอยู่ครับ"

"พวกนายคงไม่ได้มารับผมแค่เพราะหน้าที่ใช่ไหม"

"คุณท่านมีคำสั่งให้คุณชายไปพบครับ"

พอได้ยินคำตอบแล้วโซโล่ก็ถอนหายใจ ดูท่าทางเขาจะหงุดหงิดไม่น้อย

"พ่ออยู่ไหน"

"ตอนนี้พักอยู่ที่คอนโดเดียวกันกับคุณชายครับ"

โซโล่หันมามองผมด้วยสายตาเป็นกังวล แต่ที่ชัดเจนยิ่งกว่าคือความเป็นห่วง ผมส่งยิ้มให้เขา พูดโดยไม่มีเสียงว่าไม่เป็นไรหรอก

ตลอดเวลาที่อยู่บนรถ โซโล่นั่งเงียบมาก เอาจริงๆผมว่าเขาดูเครียดและกังวลยิ่งกว่าผมเสียอีก ถึงหน้าจะนิ่งสนิทเหมือนไม่อยากให้ใครรู้ว่ากำลังคิดอะไร แต่ผมก็ยังมองออกอยู่ดีว่าเขารู้สึกอะไร

ผมขยับเข้าไปใกล้คนข้างๆมากขึ้นแล้วทิ้งแรงพิงเขาไว้ ถ้าคนอื่นมองอาจเห็นว่าเราแค่นั่งติดกัน แต่โซโล่คงเข้าใจดีว่าผมกำลังพิงเขาอยู่

"ขอพิงหน่อย"ผมกระซิบเบาๆไม่ให้คนที่นั่งอยู่เบาะหน้าได้ยิน โซโล่ทำหน้าไม่เข้าใจอยู่ครู่เดียวก็เผยรอยยิ้มออกมา เขาเลิกทำหน้าเครียด วางมือตัวเองทับมือผมไว้แล้วทิ้งน้ำหนักพิงกลับมา

"กีตาร์เครียดหรือเปล่า"

ผมส่ายหน้าทั้งที่ยังยิ้มอยู่ ตอนแรกก็กังวลอยู่นิดหน่อย แต่ตอนนี้...

"โซเครียดแทนหมดแล้วครับ"ผมหัวเราะเบาๆ พลิกฝ่ามือให้หงายเพื่อจับมือเขากลับ

"ผมจะปกป้องกีตาร์"สายตามุ่งมั่นของโซโล่บ่งบอกว่าเขาพร้อมจะทำตามที่พูดจริงๆ ซึ่งมันทำให้ผมอบอุ่นใจขึ้นมาก แต่ว่า...

"ไม่ต้องหรอกครับ"ผมส่ายหน้า จ้องมองคนที่กำลังขมวดคิ้วด้วยสายตาอ่อนโยน "คราวนี้ตาพี่บ้าง"

คนที่ควรถูกปกป้องคราวนี้...คือเขาต่างหาก

"ถ้าเรื่องปกป้อง พี่จะทำเอง แต่ถ้าเรื่องทำให้คุณพ่อของโซยอมรับ...เรามาช่วยกันนะครับ"

ในเมื่อเป็นเรื่องของเขา ผมก็ควรเป็นฝ่ายช่วย...เหมือนที่เขาช่วยผมมามากมายเรื่องแม่ใหญ่ แต่การจะทำให้คุณพ่อของเขายอมรับ คงไม่ใช่เรื่องที่ผมจะทำเองได้...เราต้องช่วยกันเท่านั้น

โซโล่พยักหน้า ยกรอยยิ้มขึ้นกว้างกว่าเดิมจนผมต้องยิ้มตามไปด้วย

"ครับ"

เส้นทางที่คุ้นเคยมากขึ้นเรื่อยๆทำให้ผมรู้ว่าตอนนี้เราใกล้ถึงคอนโดแล้ว ผมหันหน้าออกไปนอกกระจก มองดูรถที่แล่นผ่านไปมาด้วยสายตาเหม่อลอย ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่าว่ารถบนถนนแลดูน้อยกว่าปกติ แต่ที่แน่ๆคือมันทำให้เราเดินทางกลับมาถึงคอนโดอย่างรวดเร็ว

"คุณท่านบอกให้คุณชายไปหาที่ห้องทันทีที่มาถึงครับ"

"อืม"โซโล่พยักหน้า รับกระเป๋ามาถือไว้เอง หลังจากนั้นพี่ผู้ชายที่เป็นคนขับรถก็หันมาโค้งให้โซโล่อย่างนอบน้อม ก่อนจะเดินแยกไปอีกทางพร้อมกับพี่ผู้ชายอีกคน

ผมกับโซโล่เดินขึ้นมาถึงด้านบน ดูจากการที่มีคนยืนอยู่เป็นกลุ่มที่ห้องฝั่งตรงข้ามกับเราที่มีอยู่แค่ห้องเดียวแล้วก็เดาได้ไม่ยากว่าพ่อของเขาคงอยู่ในนั้น ยิ่งประกอบกับที่โซโล่เคยบอกผมว่าชั้นนี้เป็นชั้นที่ไม่ได้เปิดขายผมก็ยิ่งมั่นใจ

"คุณชาย!"เสียงคุณเจย์ดังมาจากกลุ่มคนตรงนั้น เขาเดินออกมาหาพวกเราด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแต่กลับดูหม่นหมองแปลกๆ ตอนนี้คุณเจย์กลับมาใส่ชุดสูทเรียบร้อยเหมือนปกติแล้ว หลังจากที่ไม่ได้เห็นมาหลายวันผมก็รู้สึกแปลกตาอยู่เหมือนกัน

"สวัสดีครับคุณกีล์"

"สวัสดีครับคุณเจย์"ผมมองหน้าคุณเจย์ด้วยความเป็นห่วง เขาเองก็คงสังเกตเห็นถึงได้ยิ้มให้เป็นเชิงบอกว่าไม่เป็นไร

"ฝากกีตาร์ด้วย"โซโล่แตะแก้มผมเบาๆ หันไปทิ้งท้ายไว้กับคุณเจย์พร้อมกับส่งกระเป๋าให้เขา จากนั้นก็เดินเข้าไปในประตูห้องตรงข้าม

"ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ตอนนี้คงคุยแค่เรื่องงาน"คุณเจย์พูดพร้อมรอยยิ้ม

"แล้วคุณท่านรู้เรื่อง..."

"ไว้คุยกันในห้องเถอะครับ ผมมีเรื่องต้องบอกคุณด้วย"คุณเจย์เหลือบมองพวกที่อยู่หน้าประตูห้องฝั่งตรงข้ามเป็นเชิงเตือน และมันทำให้ผมรู้สึกตัวว่าพวกเขาอาจฟังอยู่

หลังจากเข้ามาในห้องของโซโล่แล้ว เราก็มานั่งอยู่ตรงโซฟากลางห้อง คุณเจย์ไม่ได้ถอดเสื้อนอกออกเหมือนที่เขามักทำเวลามาที่นี่ ดูท่าทางเขาเกร็งและเตรียมพร้อมตลอดเวลา ถ้าไม่ใช่เพราะต้องไปทำงานต่อ ก็คงเป็นเพราะคนที่อยู่ในห้องตรงข้าม

"คุณกีล์โอเคแล้วใช่ไหมครับ"คุณเจย์เริ่มเปิดประโยคสนทนา

"โอเคแล้วครับ"

ผมอยากจะบอกเหลือเกินว่าคนที่น่าเป็นห่วงตอนนี้มันคุณต่างหาก

"เรื่องที่คุณกีล์จะถามตอนอยู่หน้าห้อง...คุณท่านรู้เรื่องคุณกับคุณชายอยู่แล้วครับ หรือถ้าจะให้พูดจริงๆคือท่านรู้ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับคุณชายเลยมากกว่า"

"แล้วท่าน..."

"ไม่มีใครทราบความคิดท่านหรอกครับ"คุณเจย์ส่ายหน้า ท่าทางของเขาดูทั้งสุขทั้งเศร้าจนผมยังรู้สึกแย่ไปด้วย "คุณท่านกับคุณชายเหมือนกันมาก ไม่ว่าจะหน้าตาหรือนิสัยก็ตาม เพียงแต่คุณท่านไม่ได้มีมุมขี้อ้อนเหมือนคุณชายตอนอยู่กับคุณก็เท่านั้นเอง"

"คงลำบากน่าดูเลยนะครับ"

ถ้านิสัยเหมือนโซโล่ตอนไม่ได้อยู่กับผม...งั้นก็คงไม่แปลกที่จะไม่มีใครรู้ความคิดของท่านเลยสักคน

"ก็พอควรครับ...เมื่อก่อนคุณท่านเหมือนคุณชายยิ่งกว่านี้อีก แต่พอต้องทำงาน...พอได้รับความกดดันหลายๆอย่าง ความเฉื่อยชาก็จำเป็นต้องแทนที่ด้วยความเด็ดขาด"คุณเจย์ก้มหน้าลงต่ำเหมือนต้องการหลบสายตาผม

"แล้วคุณเจย์มีเรื่องอะไรจะบอกผมเหรอครับ"ผมเปลี่ยนเรื่องเพราะไม่อยากให้เขาเศร้าไปมากกว่านี้ ซึ่งดูเหมือนมันจะได้ผลมาก เพราะคราวนี้คุณเจย์เงยหน้ามองผมด้วยสายตาที่ดูลนๆทันที

"คุณกีล์ต้องไปฝึกงานที่ภูเก็ตใช่ไหมครับ"

"ใช่ครับ...อาทิตย์หน้าก็ต้องไปแล้ว"

"ไม่ทราบว่าบริษัทที่คุณไปฝึกใช่บริษัทRKหรือเปล่าครับ"

"คุณเจย์รู้ได้ยังไงครับ"ผมถามด้วยความประหลาดใจ จำได้ว่าผมยังไม่เคยบอกเขาหรือโซโล่เลยสักครั้ง แล้วนี่เขารู้ได้ยังไง "หรือว่า..."

"RKคือบริษัทของคุณท่านครับ"

"อ๋อ...มิน่าคุณถึงดูเครียดนัก"ผมหัวเราะเบาๆ มองสีหน้างุนงงของคุณเจย์ด้วยรอยยิ้ม

"คุณกีล์...ไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอครับ"

"ผมควรจะรู้สึกอะไรล่ะครับ กลัว กังวล เครียด...ถ้าคุณหมายถึงความรู้สึกพวกนั้น แน่นอนว่าผมมีมันอยู่แล้ว"ผมหยิบแก้วน้ำลายหมาที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมามองเล่น ดูท่าก่อนไปเชียงใหม่เจ้าหมาจะเอาออกมาใช้แล้วไม่ยอมเก็บกลับที่ "ผมก็แค่ตัดสินใจไปแล้ว เพราะงั้นต่อให้ความรู้สึกอะไรพวกนั้นมีมากแค่ไหนผมก็ยังยืนยันคำเดิมอยู่ดี แล้วทีนี้จะร้อนรนไปเพื่ออะไรล่ะครับ"

"แต่ว่า..."

"ถ้าคุณท่านคิดจะทำอะไรผมจริงๆ ต่อให้ผมเปลี่ยนที่ฝึกงานใหม่ก็คงไม่สามารถรอดไปจากอิทธิพลท่านได้อยู่ดี และที่สำคัญ..."ผมลูบลายหมาใส่ปลอกคอสีฟ้าที่อยู่บนแก้วช้าๆ มองแล้วก็นึกถึงคนที่น่าจะกำลังหงุดหงิดอยู่ที่ห้องตรงข้าม "ผมไม่อยากให้โซคิดมาก"

เพราะถ้าผมร้อนรนไปด้วย...คราวนี้คงไม่เหลือคนใจเย็นอีก และสถานการณ์ทุกอย่างมันต้องเลวร้ายกว่าเดิมแน่นอน

"ผมคิดว่าคนระดับคุณท่านคงไม่เล่นงานกันอ้อมๆโดยใช้เรื่องงานหรอก หรือคุณเจย์คิดว่ายังไงครับ"

โซโล่เคยบอกว่าคุณพ่อมีเขาตั้งแต่อายุสิบแปด นั่นหมายความว่าตอนนี้คุณท่านก็คงยังอายุไม่มากเท่าไหร่ แต่การที่ท่านสามารถดูแลกิจการใหญ่โตขนาดนี้ได้ย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย และผมคิดว่าคนระดับนี้...ประกอบกับที่มีนิสัยคล้ายโซโล่ เขาไม่น่าใช้วิธีสกปรกกับผมอยู่แล้ว

"นั่นสินะครับ..."คุณเจย์ยิ้มอ่อนโยน "คุณท่านไม่ใช่คนแบบนั้น"

"ผมก็ไม่แน่ใจว่าท่านต้องการอะไร แต่ถ้ามันคือเส้นทางการพิสูจน์ตัวเองเพื่อยืนเคียงข้างโซ...ผมจะทำครับ"ผมวางแก้วน้ำลงบนโต๊ะ มองคุณเจย์ที่นิ่งไป "แล้วคุณ...ไม่คิดจะทำอะไรบ้างเหรอครับ"

ถ้ามีใครมายืนอยู่ตรงนี้คงต้องหาว่าผมรังแกคุณเจย์อยู่แน่ๆ เพราะตอนนี้เขากำลังหน้าซีด ชะงักค้างไปเหมือนโดนจี้จุดอะไรสักอย่าง

"ผม..."

ปัง!

ประตูที่ถูกปิดเสียงดังทำให้ผมเดาได้ไม่ยากว่าใครเข้ามาที่นี่ โซโล่เดินหน้าหงิกมาแต่ไกล พอมาถึงก็ทรุดตัวลงข้างผมแล้วขมวดคิ้วหงุดหงิด

"มีอะไรหรือเปล่าครับโซ"

"เรื่องงานอย่างเดียวเลย นี่คงไม่คิดจะให้ผมมีวันหยุดเสาร์อาทิตย์เลยมั้ง นี่ก็จะ..."โซโล่บ่นไม่หยุด สรุปแล้วที่บ่นทั้งหมดมีใจความสำคัญก็แค่เขาต้องไปคุยงานนอกสถานที่เกือบทุกอาทิตย์ และที่บ่นก็เพราะกลัวจะไม่มีเวลาบินไปหาผมที่ภูเก็ต

"เราคุยกันทางโทรศัพท์ก็ได้ครับ"ผมพยายามหาทางออก แต่กลับโดนจ้องด้วยสายตาทิ่มแทง

"แค่ไม่เจอสองสามวันก็จะแย่แล้ว!"

แล้วจะให้ทำยังไงล่ะเนี่ย...

"คุณชาย อย่าเอาแต่ใจตัวเองสิครับ"คุณเจย์หันไปเตือนโซโล่ ผมแอบอมยิ้มเมื่อเห็นเจ้าหมาหน้าหงอลงทันที

"ไม่กี่เดือนเอง ทนหน่อยนะครับ"ผมจับมือโซโล่ไว้แล้วบีบเบาๆ

"อืม...ถ้าว่างจะรีบไปหานะ อาจจะสองสามอาทิตย์ครั้ง"

"ครับ"

ต่อให้ทำเหมือนไม่พอใจยังไงเจ้าหมาตัวนี้ก็ยังพูดง่ายอยู่ดี

"คุณชาย...คุณท่านได้พูดเรื่องคุณกีล์บ้างหรือเปล่าครับ"คำถามของคุณเจย์ทำให้สีหน้าของเราทุกคนเคร่งเครียดขึ้น ผมเองก็มองไปที่โซโล่เพื่อรอคำตอบ

"นั่นล่ะที่ผมสงสัย...ทำไมพ่อไม่พูดเรื่องอะไรเลยนอกจากเรื่องงาน หรือกำลังรอให้ตายใจ?"

พูดเหมือนพ่อตัวเองเป็นผู้ร้ายเลย

"ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันครับ คุณท่านไม่เคยบอกอะไรอยู่แล้ว"คุณเจย์เม้มปาก ท่าทางเครียดยิ่งกว่าผมกับโซโล่เสียอีก

ก๊อก ก๊อก

บทสนทนาทุกอย่างหยุดชะงัก พวกเราหันมามองหน้ากันเป็นเชิงถาม สุดท้ายก็เป็นคุณเจย์ที่ลุกขึ้นแล้วเดินไปที่ประตู

ผมเห็นคุณเจย์นิ่งไป รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีจนต้องลุกขึ้นแล้วเดินไปหา

"คุณเจย์ครับ"ผมแตะบ่าเขาเป็นเชิงเรียก คุณเจย์หันมาหา ท่าทางของเขาดูตกใจ มือก็ดันไหล่ผมให้กลับเข้าไปด้านใน

"คุณกีล์เข้าไปก่อนครับ"

"ฉันบอกให้ถอยไป!"เสียงบาดหูไม่คุ้นเคยของใครสักคนดังขึ้นไม่ไกล ผมรีบเข้าไปประคองคุณเจย์ไว้เมื่อเขาตัวเซไปด้านข้าง

บริเวณประตูที่เปิดทิ้งไว้มีผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่ตรงนั้น ดูแล้วน่าจะเป็นคนไทยที่อายุพอๆกันกับผม เธอมีผมสีน้ำตาลยาวสลวย ใบหน้าแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางดูสวยงาม ท่าทางก็ดูเป็นผู้ดีอยู่พอควร...ถ้าไม่นับเรื่องที่เธอเพิ่งผลักคุณเจย์ไปเมื่อครู่นะ

"น้องโซคะ..."

อือหือ...ทีเรียกโซโล่นี่เสียงหวานเชียว

ผมได้แต่ส่ายหน้าหน่าย ไม่นึกว่าจะได้เจอคนแบบนี้ในชีวิตจริง ขนาดยังไม่ได้พูดคุยกันก็เดานิสัยได้แล้ว ผมคิดว่าเธอคงยังไม่รู้ว่าโซโล่มีนิสัยแบบไหน เพราะถ้าเธอรู้เธอจะไม่ทำแบบนี้แน่

"คุณท่านให้มาตามค่ะ"เธอทำท่าจะคว้าแขนโซโล่ไว้ แต่ก่อนจะได้ทำอย่างนั้นก็โดนคุณเจย์ดึงแขนไว้ก่อน

"คุณลินดา กรุณาออกไปรอข้างนอกเถอะครับ"

"แกมีสิทธิ์อะไรมาสั่ง"คุณลินดาหันไปตวาดแล้วกระชากแขนออกจากคุณเจย์อย่างแรง ทั้งยังทำท่าจะเข้าไปหาเรื่องอีก แต่...

"ผมชื่อโซโล่"น้ำเสียงเย็นๆของคนที่เงียบมาตลอดดังขัดทุกอย่าง "เรียกให้ถูกหน่อย"

"แต่ลินได้ยินคุณท่านเรียกว่าโซนะคะ ขนาด...คนรับใช้ยังเรียกลับหลังว่าโซเลย"เธอทำหน้าขยาดตอนมองไปที่คุณเจย์ นี่คงไม่ได้สังเกตเลยว่าดวงตาของโซโล่เข้มขึ้นขนาดไหน

"โซเอาไว้ให้คนสนิทเรียก ส่วนคนแบบเธอจะให้เรียกโซโล่ผมยังขยะแขยงเลย"โซโล่ว่าเสียงเรียบ ส่วนคู่สนทนาก็หน้าซีดไปตามระเบียบ

"นะ...น้อง..."

"ผมก็คิดว่าพ่อจะหาคนที่ดีกว่านี้เสียอีก หรือว่าจะเป็นแบบนี้แค่ลับหลังพ่อ พอพ่อไม่อยู่ก็วิ่งเข้าหาลูกชายแทน ถึงขนาดมาหาถึงห้องนี่ต้องการอะไร ที่เห็นเจย์แล้วโวยวายก็เพราะมาขัดจังหวะว่างั้น"

"คุณชาย..."คุณเจย์ทำท่าจะเข้าไปห้าม แต่คราวนี้ผมรั้งแขนเขาไว้เอง พอเขาหันมามองด้วยความสงสัยผมก็แค่ยิ้มให้แล้วส่ายหน้า

ดูจากการกระทำของเธอมันก็สมควรแล้วที่จะโดนตำหนิ

"พ่อบอกผมแต่แรกแล้วว่าต้องออกไปข้างนอกตอนไหน อย่าบอกนะว่าไม่รู้ว่าผมเพิ่งไปพบพ่อมา เธอก็อยู่ในห้องด้วยไม่ใช่หรือไง"โซโล่แสดงอาการไม่พอใจทั้งที่ยังไม่เปลี่ยนสีหน้า แต่มันแลดูน่ากลัวกว่าตอนปกติเสียอีก "เจย์จะเรียกผมว่าโซต่อหน้าหรือลับหลังก็ได้ตราบเท่าที่ผมอนุญาต อย่ามายุ่งเรื่องส่วนตัวของผม..."

พอเห็นคุณลินดาหน้าซีดยืนนิ่งไม่ขยับแล้วโซโล่ก็ขมวดคิ้ว เขาเดินออกไปที่ประตู กวักมือเรียกการ์ดที่อยู่ด้านนอกให้เข้ามาหา

"เอาไปไว้ไกลๆ...แล้วก็อย่าให้ผู้หญิงคนนี้เข้ามายุ่มย่ามกับห้องผมอีก"

"ครับคุณชาย"คุณการ์ดรับคำแล้วดึงแขนคุณลินดาที่กำลังนิ่งค้างออกไปตามคำสั่ง

เราเดินกลับมานั่งกันที่โซฟาเหมือนเดิมหลังจากทุกอย่างเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว ผมได้แต่นั่งนิ่งมองสถานการณ์น่าอึดอัดเงียบๆ ปล่อยให้โซโล่จ้องหน้าคุณเจย์ด้วยความกดดันอยู่อย่างนั้น

"ยอมทำไม"โซโล่เริ่มประโยคสนทนาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ "ปกตินายไม่ได้ยอมคนแบบนี้นะเจย์"

"คุณชายก็ทราบดีว่าคุณลินดาเป็นคนของคุณท่าน"

"นายก็เป็นคนของพ่อ"

"คนละความหมายครับ"

"หมายความว่ายังไง"

"ที่ผมยอมคุณลินดาก็เพราะคุณท่านทำให้เธอดูมีสถานะเป็นแบบนั้น การพาไปไหนมาไหนด้วยก็น่าจะเป็นคำตอบได้ดีแล้วนะครับคุณชาย"คุณเจย์ก้มหน้าแล้วยิ้มออกมา "ส่วนผมก็เป็นแค่เลขา...และอีกไม่นานอาจจะไม่ได้เป็นอะไรเลย"

"นายพูดเหมือนจะไปไหน"โซโล่ขมวดคิ้ว แต่ดวงตาของเขาดูเหมือนกำลังตกใจ

"ไม่มีอะไรหรอกครับ แล้วนี่คุณท่านนัดคุณชายออกไปข้างนอกไม่ใช่เหรอ รีบไปเถอะครับ"คุณเจย์เปลี่ยนเรื่อง ท่าทางของเขาดูปกติดีทุกอย่าง ไม่ได้มีความเศร้าอะไรเหลืออยู่ ผมมองโซโล่แล้วก็รู้ว่าเขาไม่พอใจกับคำตอบที่ได้รับ แต่ก็คงยังไม่อยากคาดคั้นตอนนี้ถึงได้ยอมพยักหน้า

"พ่อบอกให้เจย์ไปกับผมด้วย"

"ครับ"

"กีตาร์อยากกินอะไร ผมจะซื้อกลับมาให้"โซโล่แปลงร่างกลับเป็นหมาขี้อ้อนเข้ามาคลอเคลียผม ตาก็กระพริบปริบๆรอคำตอบ

เปลี่ยนอารมณ์ไวเหลือเกิน เมื่อครู่ยังดูเท่อยู่เลย

"เดี๋ยวพี่ทำทานเองที่ห้องครับ โซทานข้างนอกกับคุณเจย์เลย"

"เดี๋ยวผมกลับมากินด้วย"เจ้าหมางอแง

"ไม่ได้ครับ นี่ก็จะเย็นแล้ว หาอะไรทานข้างนอกเลย ถ้ากลับมาแล้วยังไม่ได้ทานพี่จะโกรธนะ"ผมแกล้งดุจนเจ้าหมาหูลู่หางตก แต่ก็ยอมพยักหน้า

"จะรีบกลับนะ"

"ครับ"

โซโล่ทำท่าไม่อยากไปจนผมต้องหันไปส่งสายตาให้คุณเจย์ เขาเองก็มองกลับมาแบบเข้าใจแล้วช่วยลากหมาตัวโตที่งอแงไม่อยากไปเจอคุณพ่อออกไปให้

เดี๋ยวก็งอแงเป็นเด็ก เดี๋ยวก็ทำตัวโหด มีหลายบุคลิกจริงๆ

พอเหลือตัวคนเดียวก็รู้สึกโหวงๆอยู่เหมือนกัน คงเพราะตัวติดกันมาหลายวันไม่ได้ห่าง แล้วยิ่งต้องมาอยู่ให้ห้องใหญ่โตขนาดนี้คนเดียว จะเหงาก็คงไม่แปลกหรอก...มั้ง

ผมใช้เวลาว่างไปกับการทำอาหาร ไม่ลืมทำเผื่อไว้สำหรับเจ้าหมากับคุณเจย์ด้วย ถ้าหิวกันอีกรอบจะได้ไม่ต้องอด

ก๊อก ก๊อก

ผมวางอาหารที่กำลังจะเอามาทานลงกับโต๊ะ หันหน้าไปมองประตูโดยอัตโนมัติ เสียงเคาะประตูไม่ได้ดังขึ้นอีก แต่ผมคิดว่าคนเคาะน่าจะยังอยู่หน้าห้อง

หลังจากส่องดูแล้วก็พบว่าเป็นพี่ผู้ชายที่ขับรถมาส่งผมกับโซโล่ที่นี่ ผมเปิดประตูแล้วส่งยิ้มให้ตามมารยาท

"มีอะไรหรือเปล่าครับ"

"มีคนอยากพบคุณครับ"เขาพูดเพียงแค่นั้นแล้วนิ่งไป แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้ถามอะไรเขาก็ขยับตัวถอยออกไปก่อน...และนั่นทำให้ผมได้เห็นคนที่ยืนอยู่ด้านหลัง

เหมือนโซโล่อย่างกับพิมพ์เดียวกัน แตกต่างกันแค่คนๆนี้ดูสุขุมเยือกเย็นมากกว่า

ผมยกมือไหว้คนตรงหน้า ริมฝีปากเผยรอยยิ้มแบบที่มักจะมอบให้โซโล่ด้วยความเคยชิน เพราะเหมือนจะเห็นภาพเจ้าหมาตอนโตซ้อนทับกับคนๆนี้

"สวัสดีครับ...คุณท่าน"

--------------------------------



TALK : ตอนนี้กำลังตามแก้ไขตอนเก่าๆนะคะ ที่เอามาลงใหม่แล้วคือตอน0-20 ส่วน21-36ยังไม่ได้กลับไปแก้

ใกล้จบแล้วนะ น่าจะอีก5-6ตอนโดยประมาณ



ติดแฮชแท็ก #โซโล่กีล์

Fan Page : Chesshire. Twitter : @Chesshire04

 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-03-2017 06:06:53 โดย CHESS. »

ออฟไลน์ double9JH

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1808
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-7
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER37 P.26 [16/03/17]
«ตอบ #759 เมื่อ16-03-2017 23:16:56 »

พี่กีล์ได้เจอพ่อของโซโล่แล้วววว จะคุยอะไรกันบ้างน้ออ :ling1: :katai1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER37 P.26 [16/03/17]
« ตอบ #759 เมื่อ: 16-03-2017 23:16:56 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ farfarneenee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 366
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER37 P.26 [16/03/17]
«ตอบ #760 เมื่อ16-03-2017 23:27:55 »

คุณท่านคะ เมื่อไหรจะรู้ว่าเจย์รักสักที เดี๋ยวเจย์หนีไปแล้วจะรู้สึก ชิ  :katai4: :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER37 P.26 [16/03/17]
«ตอบ #761 เมื่อ16-03-2017 23:30:44 »

 :katai1:

ออฟไลน์ nolirin

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2755
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +274/-5
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER37 P.26 [16/03/17]
«ตอบ #762 เมื่อ16-03-2017 23:31:07 »

แล้วคุณพ่อก็มา
แต่ผู้หญิงของคุณพ่อนี้ไม่ไหวนะ :m16:

ออฟไลน์ route rover

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-7
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER37 P.26 [16/03/17]
«ตอบ #763 เมื่อ16-03-2017 23:46:51 »

ช่วงกีล์ฝึกงาน น่าจะเป็นช่วงที่พ่อโซ ทดสอบลูกชายตัวเองกะพี่กีล์แน่ๆ เลย

ส่วนชัลนี .. ไปตรงนู้นนนนนน ในป่าเลยป่ะ  :hao3:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER37 P.26 [16/03/17]
«ตอบ #764 เมื่อ17-03-2017 00:02:16 »

รออีกๆ

ออฟไลน์ Peung002

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 870
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER37 P.26 [16/03/17]
«ตอบ #765 เมื่อ17-03-2017 00:03:02 »

ป๊ะป๋าเล่นบุกมาหาทีเผลออ่า  :hao3:

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER37 P.26 [16/03/17]
«ตอบ #766 เมื่อ17-03-2017 00:23:40 »

ไม่นะ!!!

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8891
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER37 P.26 [16/03/17]
«ตอบ #767 เมื่อ17-03-2017 00:27:10 »

 :pig4:

ออฟไลน์ Nattharikan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER37 P.26 [16/03/17]
«ตอบ #768 เมื่อ17-03-2017 00:35:05 »

เกลียดชะนีแบบลินดานี่ผิดไหม  :beat:
หนีไปไกลๆเลยเจย์ เอาให้คนแก่กระอักเลือดเลย หมั่นไส้ :m16: :m16:

 :katai1: :katai1: :katai1: เริ่มเข้าสู่การต้มมาม่าแล้วใช่ไหม  :mew6: :mew6: :mew6:

ออฟไลน์ me12inzy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER37 P.26 [16/03/17]
«ตอบ #769 เมื่อ17-03-2017 00:55:40 »

ถ้าคุณท่านชอบชะนีแบบนี้มากก็เอาไปเลยนะเจย์จะได้เจอคนอื่นที่ดีกว่า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER37 P.26 [16/03/17]
« ตอบ #769 เมื่อ: 17-03-2017 00:55:40 »





ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER37 P.26 [16/03/17]
«ตอบ #770 เมื่อ17-03-2017 08:13:37 »

แอบดองไว้ซะนานอ่านทันจนได้

ออฟไลน์ wonderbe

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 754
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER37 P.26 [16/03/17]
«ตอบ #771 เมื่อ17-03-2017 10:27:19 »

 :pig4:

ออฟไลน์ pui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-3
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER37 P.26 [16/03/17]
«ตอบ #772 เมื่อ17-03-2017 11:48:36 »

 :ling1:

ออฟไลน์ Margarita

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER37 P.26 [16/03/17]
«ตอบ #773 เมื่อ17-03-2017 23:08:38 »

 :L1:

ออฟไลน์ itsgonnabeme

  • It's me, not you.
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 263
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER37 P.26 [16/03/17]
«ตอบ #774 เมื่อ18-03-2017 14:14:14 »

ผู้หญิงของคุณพ่อนี่ไม่ไหวเลย ส่อแววน่ารำคาญมาแต่ไกล

ออฟไลน์ CHESS.

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +228/-2
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER37 P.26 [16/03/17]
«ตอบ #775 เมื่อ19-03-2017 18:50:57 »

-38-

 

ดูยังไงก็เหมือนมากจริงๆ...ไม่ว่าจะลักษณะท่าทาง รูปลักษณ์ภายนอก ทุกๆอย่างดูเหมือนโซโล่ไปหมด ถ้าไม่นับท่าทางดูภูมิฐานกับบรรยากาศที่กดดันกว่า บางคนอาจคิดว่าเป็นคนๆเดียวกันหรือพี่น้องกันได้ง่ายๆ

ที่บอกว่าเห็นคุณท่านแล้วจะตกใจกว่าเห็นคุณเจย์ท่าทางจะจริง เพราะถ้าคุณเจย์อายุยี่สิบเก้าว่าหน้าเด็กแล้ว คนๆนี้ที่อายุสามสิบกว่าแล้วหน้าเหมือนเป็นพี่ชายโซโล่ก็ไม่รู้จะเรียกหน้าเด็กได้หรือเปล่า

คุณท่านเดินนำเข้าไปด้านในโดยไม่พูดอะไรสักคำ พี่ที่เป็นคนเคาะประตูไม่ได้ตามเข้ามา ผมเดาได้ไม่ยากว่าท่านคงอยากคุยกับผมเป็นการส่วนตัว หลังจากปิดประตูแล้วผมก็ไปจัดการเทน้ำดื่มใส่แก้วแล้วยกไปที่โซฟา

"รู้จักกันมานานแค่ไหนแล้ว"คุณท่านพูดด้วยหน้าตาเรียบเฉย ไม่ได้ชอบใจแต่ก็ไม่ได้พอใจ

"ตั้งแต่ก่อนเปิดเทอมครับ ตั้งแต่ที่โซเข้ามาเรียนที่นี่"

"หมายความว่าถ้าฉันอยากแยกนายออกไป ฉันต้องส่งมันกลับอังกฤษใช่ไหม"

ผมนิ่งไปกับคำถามอันเย็นชาของคุณท่าน น่าแปลกที่คนๆหนึ่งสามารถพูดอะไรแบบนี้ออกมาได้หน้าตาเฉย อย่างน้อยก็น่าจะแสดงอาการไม่พอใจอะไรออกมาบ้างไม่ใช่หรือไง

แต่เอาเถอะ...

ผมเองก็คงไม่ใช่คนแบบที่ท่านคิดเหมือนกัน

"ผมเกรงว่าวิธีนั้นคงใช้ไม่ได้ผลหรอกครับ"ผมยิ้มบางเมื่อเห็นคุณท่านเลิกคิ้วเหมือนจะถาม "ยิ่งท่านพยายามแยกให้เราห่างไกลกันมากแค่ไหน...มันก็ยิ่งทำให้เราอยากเข้าหากันมากเท่านั้น"

"คิดว่ามีปัญญาตามไป?"

"ไม่ทราบว่าคุณท่านรู้จักผมมากแค่ไหนครับ"

"อย่างน้อยๆก็รู้ว่านายมีฐานะแบบไหน เคยมีชีวิตยังไง ลำบากขนาดไหนก็แล้วกัน"

"แล้วนอกจากนั้นล่ะครับ"

"ฉันจำเป็นต้องอธิบายชีวประวัติที่มีเป็นเล่มของนายจนครบเลยไหม"

ผมแอบยิ้มเมื่อเห็นว่าใบหน้าเรียบสนิทเริ่มมีความไม่พอใจเกิดขึ้นเล็กน้อย...เหมือนกันมากจริงๆด้วย

"ขอโทษครับ ผมแค่อยากจะบอกว่า...จริงๆแล้วท่านไม่รู้จักผมเลยต่างหาก"ผมสบตาคุณท่านซึ่งกำลังเลิกคิ้วแปลกใจ "ถ้าท่านรู้จักผม ท่านคงจะรู้ว่าผมยึดติดกับอะไรได้ยาก แต่เมื่อไหร่ที่ยึดติดแล้ว..."

"..."

"ผมจะไม่มีทางปล่อยมือจากสิ่งนั้นเด็ดขาด"

"ฉันก็ไม่ได้บอกให้นายปล่อยมือ แต่ฉันจะพรากสิ่งนั้นไปต่างหาก"

ไม่ต่างจากที่คิดเท่าไหร่

"ที่ใครต่อใครบอกกันว่าโลกใบนี้แคบนิดเดียว ผมเองก็คิดแบบนั้นนะครับ เพราะงั้นต่อให้ท่านพาเขาไปไว้ที่ไหน ผมก็ไม่มีทางหาไม่เจอ อาจจะปี สองปี หรือสิบปี สักวันเราก็ต้องพบกันอยู่ดี แล้วผมก็คิดว่าผมคงไม่ใช่คนเดียวที่ออกตามหา"เจ้าหมาตัวนั้นไม่มีทางยอมอยู่เฉยๆอยู่แล้ว "ที่ท่านบอกว่าผมจะมีปัญญาไปหรือเปล่า...ขออนุญาตเรียนตามตรง ผมค่อนข้างมั่นใจในความสามารถของตัวเองครับ"

"..."

"ต่อให้เคยจนขนาดไหน ผมก็ไม่ได้คิดจะจนตลอดไป ผมเชื่อว่าสักวันจะสร้างตัวได้ และต่อให้ลำบากหรือนานแค่ไหนผมก็มั่นใจว่าจะมีปัญญาเดินทางไปในที่ที่ท่านพาโซไปแน่นอน"

ก็ตอนแรกความฝันของผมคือการเป็นคนมีเงินเพื่อเลี้ยงดูแม่ใหญ่นี่นะ ถ้าคุณท่านจะเอาแบบนั้นจริงๆผมก็แค่เปลี่ยนเป้าหมายไปเล็กน้อยเท่านั้นเอง

จากอยากเป็นคนมีเงินเพื่อใช้เลี้ยงดูแม่ใหญ่...เปลี่ยนเป็นอยากเป็นคนมีเงินเพื่อใช้บินไปหาแฟนที่เมืองนอกแทน

"แล้วถ้าอนาคตของนายไม่สดใสล่ะ"

"ผมเชื่อว่าคนระดับท่านคงไม่ทำแบบนั้นหรอกครับ"ผมพูดเสียงเรียบ ยังคงรอยยิ้มไว้บนใบหน้าไม่เปลี่ยนแปลง

"นายรู้จักฉันดีแค่ไหนกัน"

ผมนิ่งไปเล็กน้อยกับคำถามนั้น แต่เมื่อนึกถึงใบหน้าของใครบางคนผมก็นึกได้

"คุณท่านเหมือนโซโล่มาก และคุณท่านไม่ใช่คนแบบนั้น...นี่เป็นสิ่งที่คุณเจย์บอกผมมาครับ"ผมลอบสังเกตท่าทีของคุณท่านเงียบๆ ตอนแรกท่านยังคงนิ่งเฉย แต่เมื่อมีชื่อคุณเจย์หลุดออกมาดวงตาคู่นั้นก็เปลี่ยนแปลงไป

น่าเสียดายที่ผมแปลความหมายในดวงตาอ่านยากคู่นั้นไม่ออก แต่ก็พอจะรู้สึกได้ว่าชื่อของคุณเจย์ดูมีอิทธิพลกับคนตรงหน้าพอสมควร

"นายคิดว่าฉันต้องการมาคุยอะไร"เสียงที่เย็นเยียบกว่าเดิมเอ่ยถาม

คุณท่านเปลี่ยนเรื่อง...

ผมสูดหายใจเข้าด้วยรู้สึกถึงความกดดันที่มากขึ้นเรื่อยๆทั้งที่คุณท่านไม่ได้เปลี่ยนท่าที แต่เพราะกดดัน…ผมถึงต้องมีสติมากกว่าเดิม

"ผมคิดว่าคุณท่านต้องการให้ผมเลิกยุ่งกับโซ"ผมพูดความคิดตัวเองออกมาช้าๆ

"ใช่"

"งั้นก่อนที่ท่านจะใช้วิธีอะไรก็ตาม ผมขออนุญาตพูดบางอย่างก่อนได้ไหมครับ"

คุณท่านทำหน้าแปลกใจ คิ้วเข้มเลิกขึ้นสูงเหมือนจะบอกให้พูดต่อ ผมเม้มปากด้วยความกังวล เตรียมตัวจะพูดทุกสิ่งที่คิดไว้ออกมา

"คุณเจย์บอกผมว่า..."

"สนิทกันจังนะ"

"อะไรนะครับ?"ผมทวนคำถามทั้งที่เมื่อครู่ได้ยินเสียงพึมพำนั่นชัดเจน ริมฝีปากเกือบจะยิ้มกว้างเมื่อเริ่มมองเห็นอะไรบางอย่าง

"..."

"งั้นข้ามเรื่องคุณเจย์ไปก่อนก็ได้ครับ"ผมลอบยิ้มเมื่อสายตาของคุณท่านกลับมาเรียบเฉยเหมือนเดิม ก็นี่มันเหมือนการบอกกลายๆว่าชื่อคุณเจย์มีอิทธิพลมากเลยไม่ใช่หรือไง

"มีเวลาอีกชั่วโมงก่อนพวกนั้นจะกลับมาที่นี่ จะพูดอะไรก็รีบพูด"คุณท่านพูดเสียงราบเรียบเย็นชา แต่ผมกลับรู้สึกดีใจ...มันเหมือนกับท่านกำลังให้โอกาส

"ผมแค่อยากจะบอกว่าตอนนี้ผมไม่มีอะไรให้ยึดติดอีกแล้ว สิ่งเดียวที่ท่านจะเอามาขู่ผมได้ก็คือโซเท่านั้น แต่ท่านคงไม่ทำร้ายลูกชายแท้ๆของตัวเองใช่ไหมครับ"ผมจ้องใบหน้านิ่งสงบของคุณท่าน คาดหวังให้สิ่งที่ตัวเองคิดเป็นความจริง ต่อให้ท่านเอาอะไรมาขู่ผมก็ไม่กลัวทั้งนั้น แต่สิ่งเดียวที่มีผลมากมายก็คือโซโล่

"ใช่"คุณท่านรับคำด้วยใบหน้าที่ไม่เปลี่ยนแปลง ดวงคาคมกริบคู่นั้นมองผมเหมือนจะประเมิน "ฉันไม่มีวันทำร้ายลูกชายของตัวเอง แต่ไม่ได้หมายความว่าฉันจะยอมให้ทำทุกอย่างที่ต้องการ"

"แล้วคุณท่านต้องการให้โซทำอะไรครับ ถ้าเรื่องงานเขาก็ตั้งใจทำและไม่เคยคิดปฏิเสธอยู่แล้ว"

"คิดว่าชีวิตของพวกนายจะมีความสุขหรือไง"

"ถ้าอยู่ด้วยกันผมเชื่อว่าเราจะมีความสุขครับ"ผมพูดด้วยความมั่นใจ

"โดยที่โซต้องบินไปต่างประเทศทุกวัน ในขณะที่นายทำงานเป็นพนักงานกินเงินเดือนอยู่ที่นี่งั้นเหรอ"

"ผม..."

"ถ้านายบอกว่าไหว แล้วโซล่ะ"

"โซจะเข้าใจ..."

"เข้าใจและจำใจ"

"..."

"นายคิดภาพความสุขที่ยืนยาวนั่นออกหรือยัง"คุณท่านพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา และผม...ไม่สามารถเถียงอะไรได้เลยสักคำ

"..."

"ใบหน้าแบบนั้นมันหมายถึงยังไม่ยอมแพ้สินะ"

จะให้ยอมแพ้ได้ยังไง

"โซคือทุกอย่างของผมครับ และต่อให้อนาคตจะเป็นยังไง ผมก็เชื่อว่าเราจะมีความสุข"

 “แค่ลมปาก”คุณท่านพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน

ใช่…มันเป็นแค่ลมปาก เพราะที่ท่านพูดมาคือความจริงทุกอย่าง และผมก็ไม่รู้จริงๆว่าเราจะมีความสุขกับชีวิตแบบนั้นหรือเปล่า แต่ว่า…

เรารักกัน

ผมกำมือแน่นเพื่อสร้างความมั่นใจให้ตัวเอง

“แม่ผมบอกว่าทุกปัญหามีทางออก และคนหนีปัญหาคือคนขี้ขลาด ผมจะไม่มีวันทิ้งโซแค่เพราะสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นเด็ดขาด ผมเชื่อว่ามันต้องมีทางแก้”

"งั้นก็ไปหาทางแก้มา"

"อะไรนะครับ"ผมเบิกตากว้าง คราวนี้นึกว่าตัวเองหูฝาดจริงๆ หากหัวใจกลับเต้นรัวด้วยความดีใจล่วงหน้าไปแล้ว

"ไปหาทางแก้มา"คุณท่านย้ำด้วยน้ำเสียงไม่เปลี่ยนแปลง "นั่นคือบททดสอบของนาย…คนที่ดีแต่บอกว่าให้อดทนโดยไม่นึกแก้ไข ส่วนไอ้คนที่ขยันแก้ไขโดยไม่อดทนนั่นก็ต้องโดนเหมือนกัน"

"คุณท่าน..."ผมรู้สึกว่าตัวเองกำลังยิ้มกว้าง

ท่านกำลังสอนผม ท่านกำลังให้โอกาส...

"หึ"

"ขอบคุณมากครับ"ผมยกมือไหว้อย่างนอบน้อม รู้สึกขอบคุณจากใจจริงที่ท่านมอบโอกาสให้กับคนที่ไม่มีอะไรสักอย่างอย่างผม

"ฉันเคยเป็นพ่อที่ไม่ดี แต่มันจะไม่เกิดขึ้นอีก"คุณท่านพึมพำ

"ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่สำหรับผมคุณท่านเป็นคนดีครับ"ผมพูดด้วยน้ำเสียงจริงใจ ต่อให้เพิ่งได้คุยในเวลาไม่นาน ต่อให้ท่านทำตัวนิ่งขนาดไหน แต่ผมมองเห็นความรักทุกครั้งที่ท่านพูดถึงโซโล่ ที่ท่านทดสอบผมหรือให้โอกาสผม ทั้งหมดก็เพื่อโซโล่ทั้งนั้น

"งั้นเหรอ"

"คุณเจย์เองก็คิดเหมือนผมครับ"ผมพูดอีกสิ่งที่คิดออกไป และทันทีที่พูดจบผมก็มองเห็นดวงตาเฉยชาคู่นั้นไหววูบอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกลับเป็นปกติ

"อืม"

บรรยากาศเงียบงันเริ่มเข้ามาปกคลุมอีกครั้ง ถึงผมจะรู้สึกดีขึ้นมากแล้วแต่ก็ยังอดกดดันกับบรรยากาศรอบตัวคุณท่านไม่ได้อยู่ดี เคยได้ยินเหมือนกันว่าพวกนักธุรกิจหรือผู้บริหารระดับสูงจะมีบรรยากาศแปลกๆรอบตัว แล้วยิ่งคนระดับนี้ยิ่งแล้วใหญ่ ขนาดทำหน้าเฉยชายังกดดันขนาดนี้ ผมไม่อยากจะคิดภาพตอนท่านโมโหหรือไม่พอใจเลย เพราะท่านคงน่ากลัวกว่าโซโล่หลายเท่า

"คุณท่านทานข้าวหรือยังครับ"ผมทำลายความเงียบ นึกได้พอดีว่าตัวเองทำกับข้าวทิ้งไว้โดยที่ยังไม่ได้ทาน

"ยัง"ท่านตอบสั้นๆ ดวงตาคมมองผมเหมือนจะถามว่าทำไม

"ถ้าไม่รังเกียจ จะลองทานฝีมือผมดูหน่อยไหมครับ"ผมยิ้มเมื่อคุณท่านพยักหน้า ยอมลุกขึ้นเดินไปที่โต๊ะอาหารโดยไม่ได้พูดตอบอะไร

ผมจัดการยกอาหารที่ตั้งทิ้งไว้ไปวางไว้บนเคาน์เตอร์ จากนั้นก็เปิดเตาอุ่นอาหารใหม่ที่ทำเกินไว้แล้วยกมาให้คุณท่าน

"กินที่ตั้งไว้นั่นก็ได้"

"ไม่ได้ครับ"ผมขมวดคิ้ว ลืมความกดดันไปชั่วขณะ ทำไมสองพ่อลูกนี่ไม่ห่วงตัวเองกันเลยนะ "ต้องทานตอนกับข้าวร้อนๆถึงจะดี นอกจากนั้นยังอร่อยกว่าด้วย"

"หึ...พูดเหมือนเจย์"

คุณเจย์อีกแล้ว

"โซบอกว่าคุณเจย์ทำอาหารอร่อยมาก"ผมลองเกริ่น เป็นเวลาเดียวกับที่คุณท่านตักอาหารคำแรกเข้าปาก

"อืม..."

จะว่าไปผมก็ยังไม่เคยได้ทานฝีมือคุณเจย์เหมือนกัน ปกติพอเขามาที่ห้องผมก็ทำอาหารไว้แล้วตลอดเลยยังไม่มีโอกาสเสียที สงสัยต้องขอให้คุณเจย์ลองทำให้ทานดูสักครั้งแล้ว

"พอทานได้ไหมครับ"ผมนั่งตัวเกร็ง ลุ้นกับคำตอบยิ่งกว่าลุ้นผลสอบเสียอีก

"ได้...แต่ไม่เท่าเจย์"

อ่าว...อย่างนี้ก็ได้เหรอ

หลังจากนั่งทานข้าวกันเงียบๆจนเสร็จผมก็ยกจานไปล้างที่อ่าง คุณท่านยังนั่งอยู่ที่โต๊ะกินข้าวเงียบๆเหมือนเดิม ในขณะที่ผมทนความกดดันไม่ไหวต้องหาเรื่องมาชวนคุยโดยที่ส่วนใหญ่หนีไม่พ้นเรื่องคุณเจย์ ถึงจะตอบสั้นแค่ไหนแต่ผมก็สัมผัสได้ถึงความเหมือนกันของคุณท่านกับโซโล่มากขึ้นเรื่อยๆ และที่สำคัญ…ทุกครั้งที่พูดเรื่องคุณเจย์บรรยากาศกดดันรอบตัวท่านมักจะจางลงหลายส่วน

ก๊อก ก๊อก

เสียงเคาะประตูรอบที่สามดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ ผมมองนาฬิกาดูแล้วคิดว่าไม่น่าใช่โซโล่กับคุณเจย์ เพราะตอนแรกคุณท่านบอกว่ากว่าพวกเขาจะกลับมาถึงก็เป็นชั่วโมง แต่นี่ยังผ่านไปไม่ถึงสามสิบนาทีเลย

"พี่กีล์!เปิดให้หน่อย!"คงไม่ต้องเดาแล้วว่าใคร

ผมหันไปมองคุณท่านเหมือนจะขออนุญาต ซึ่งท่านก็ทำเพียงพยักหน้าน้อยๆแล้วเดินไปนั่งที่โซฟา

"ดีพี่"เก้ายกมือทักทายทันทีที่ผมเปิดประตูให้ แต่นอกจากเก้าแล้วข้างๆยังมีคุณลินดาที่ทำหน้าตาไม่พอใจยืนอยู่ด้วย

"เก้า คือว่า..."

"ผมจะมาเล่นเกมห้องมันอะ ที่หอไฟดับ โคตรเซ็ง"เด็กแสบบ่นแล้วเดินสวนเข้าไปในห้อง แต่ก่อนจะก้าวเข้าไปไม่วายหันไปมองคุณลินดาด้วยหางตา "ผมเจอป้าคนนี้ดิ้นอยู่หน้าห้อง โวยวายใส่พี่การ์ดบอกจะเข้ามาหาคุณท่านอะไรก็ไม่รู้"

"แก!"

เอาไงดีล่ะเนี่ย

"คุณท่านคะ!"คุณลินดาเปลี่ยนเป้าหมายเป็นวิ่งไปหาคนที่โซฟาแทน ผมแอบกังวลหน่อยๆเพราะโซโล่สั่งไว้ว่าไม่ให้เธอเข้าใกล้ห้องของเขาอีก ที่พี่การ์ดจำเป็นต้องปล่อยเข้ามาคงเพราะเธอเอาคุณท่านไปอ้าง

"เก้าครับ นั่นคุณพ่อโซ"ผมกระซิบกับเด็กแสบที่ยืนอยู่ข้างๆ เจ้าตัวมองตามคุณลินดาที่เดินไปนั่งข้างๆแล้วฟ้องอะไรคุณท่านอยู่ด้วยสายตารำคาญ

"พอเดาได้แหละ หน้าโคตรเหมือนกัน แต่ป้านั่นไม่ไหวนะ ผมปวดหูจะตายอยู่แล้ว กับอีแค่บอกว่าโวยวายรบกวนคนอื่น ไม่รู้จะกรีดร้องอะไรนัก"

"ช่างเถอะครับ เราเข้าไปทักคุณท่านก่อนดีกว่า"ผมดันหลังเก้าเบาๆเป็นเชิงเตือน ซึ่งเจ้าตัวก็พยักหน้าแล้วเดินเข้าไปหาแต่โดยดี

"พ่อโซ ดีครับ"เก้ายกมือไหว้ นั่งลงตรงโซฟาด้านตรงข้ามคุณท่านอย่างไม่เกรงกลัว

"อืม"

"คุณท่านคะ เด็กนี่แหละค่ะที่มาว่าลิน"คุณลินดาหันไปเขย่าแขนคุณท่านเบาๆเหมือนจะฟ้อง สายตาก็มองเก้าอย่างจิกกัด

ให้ตายเถอะ...ผู้หญิงแบบนี้นี่นะ

"นี่ป้า อย่าเยอะได้ไหม"เก้าขมวดคิ้ว หน้าตาไม่พอใจ "ทำตัวแบบนี้แล้วใครจะเห็นค่าวะ"

"แก!"

"หน้าตาก็ดี เงินก็มี เข้าคอร์สอบรมมารยาทกับพี่กีล์หน่อยดีปะ"

แล้วพี่เกี่ยวอะไรล่ะครับเนี่ย

"ไอ้เด็กเวร!"

ผมแตะแขนเก้าเป็นเชิงเตือนเพราะคุณลินดาเริ่มโมโห อีกอย่างผมกลัวว่าคุณท่านจะโกรธที่ไปว่าคนของท่านด้วย แต่ดูเหมือนผมจะคิดมากไปหน่อย เพราะนอกจากคุณท่านจะไม่พูดอะไรแล้วท่านยังไม่แสดงอาการอะไรออกมาเลยอีกต่างหาก

"ผมถามจริงนะ พ่อไปขุดแม่นางมาจากไหนเนี่ย"คราวนี้เด็กแสบถึงขั้นหันไปถามคุณท่านโดยตรง เหมือนผมจะเห็นประกายตาขบขันวาบอยู่ในดวงตาของท่านครู่หนึ่งยังไงไม่รู้

"ลูกเพื่อน"คุณท่านตอบเสียงเรียบ ไม่ได้สนใจคุณลินดาที่เขย่าแขนฟ้องอยู่ด้านข้าง "ฝากดู"

"อ๋อ ผมก็คิดว่าเมียใหม่พ่อเสียอีก"เก้ายักไหล่ พูดออกมาง่ายๆตามนิสัย ส่วนผมนี่ได้แต่กระพริบตามองเพราะความไม่เข้าใจ

สรุปว่าคุณลินดานี่คือลูกสาวของเพื่อนคุณท่านที่ให้ช่วยดูแลให้ แต่ดูท่าทางแล้วเธอไม่น่าจะคิดแบบเดียวกันกับคุณท่านนะผมว่า แล้วนี่เจ้าหมากับคุณเจย์คิดไปถึงไหนแล้วล่ะเนี่ย…

"คุณท่านคะ!"

"ลุงไล่ป้านี่ออกไปก่อนได้ปะ"เก้าทำเสียงรำคาญแบบไม่ปิดบัง ผมแอบยิ้มขันกับความตรงไปตรงมาของเด็กแสบ สมแล้วที่ให้ฉายาแบบนี้

"ลินดา ออกไปก่อน"

แล้วคุณท่านก็ไล่ออกไปให้จริงๆเสียด้วย

"คุณท่านคะ! ทำไมไม่ให้ลินอยู่ด้วย"

"นี่ป้า รีบออกไปเหอะนะ ก่อนผมจะฟ้องว่าป้าก่อวีรกรรมอะไรไว้"

"วีรกรรม?"คุณท่านเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม แต่คราวนี้คุณลินดาหน้าซีด เธอรีบลาคุณท่านแล้วเดินออกไปอย่างรวดเร็ว ก่อนไปไม่ลืมมองเก้าที่อยู่ข้างๆผมด้วยสายตาเกลียดชังอีกที

"นี่ก็ไม่ได้จะฟ้องนะ แต่พอดีโซมันโทรมาเล่าให้ฟัง…มันบอกว่าป้าแกผลักจนเฮียเจย์เกือบล้มแล้วก็ต่อว่าไปด้วยไม่ใช่หรือไง"

ไม่ได้ฟ้องเลยเก้า

"ว่าไงนะ"เสียงคุณท่านเข้มขึ้นหนึ่งระดับ ผมเห็นดวงตาของท่านทอประกายวาววับแบบที่เจ้าหมาชอบเป็นเวลาโกรธ เพียงแต่คุณท่านดูจะเก็บอารมณ์ได้ดีกว่ามาก

"ตามนั้นเลยพ่อ พอดีโซมันโทรมาบ่นกับผมว่าแฟนมันไม่ยอมรับโทรศัพท์ มันกำลังรีบกลับแต่ก็น่าจะช้า ได้ข่าวว่าพ่อหลอกมันให้ไปกินข้าวไกลๆแล้วตัวเองไม่ไป นี่มันก็กลัวพ่อทำไรพี่กีล์เลยส่งผมมาเนี่ย ทีนี้มันเลยเล่าให้ฟังหมดเลย"เก้าเหลือบตามองผมแล้วหัวเราะหึหึ ส่วนผมนี่ก็ขนลุกไปแล้วเรียบร้อย เพิ่งรู้ตัวเหมือนกันว่าลืมโทรศัพท์ไว้ในห้อง ไม่แปลกที่ฝั่งนั้นจะติดต่อไม่ได้ "หอผมไฟดับพอดีเลยยอมมา กะจะมาเล่นเกมหน่อย งั้นขออนุญาตนะพ่อ"

"เก้า อย่าเสียมารยาทสิครับ"ผมหันไปดุเด็กแสบที่ไหลตัวลงไปนั่งพื้นเพื่อเลือกแผ่นเกม

"ไม่เป็นไร"คุณท่านโบกมือ ได้ยินดังนั้นคนที่หยุดมือไปเมื่อครู่ก็ยิ้มแฉ่งแล้วหันไปเลือกแผ่นต่อ

"เก้านี่นะ"ผมบ่นไม่จริงจังนัก จะว่าน่าเอ็นดูมันก็ใช่ แต่ที่ยิ่งกว่าน่าเอ็นดูคือน่าตีนี่ล่ะ

"เรื่องจริงหรือเปล่า"เสียงคุณท่านเอ่ยขึ้นเรียบๆเหมือนพูดเรื่องทั่วไป ตอนแรกผมก็ไม่เข้าใจว่าท่านหมายถึงอะไร แต่พอเห็นแววตาเข้มๆนั่นแล้วก็นึกออก

"จริงครับ"เรื่องที่คุณเจย์โดนคุณลินดาผลักแล้วพูดจาไม่ดีใส่เป็นความจริงทุกอย่าง

"อืม"คุณท่านเงียบไป แต่ผมคิดว่าถ้าท่านเหมือนโซโล่จริงๆ…ใต้ความสงบนั้นจะต้องมีพายุก่อตัวอยู่แน่นอน

ผมจะบอกเรื่องนั้นกับคุณท่านดีหรือเปล่านะ

"พ่อๆ"เก้าเรียกทั้งที่ตายังจ้องจอเกม "ทำไมไม่อยากให้โซมันคบกับพวกผมอะ เหมือนพ่อไม่อยากให้มันใกล้ใครมากไป"

นี่มีเรื่องอะไรที่เจ้าหมาไม่ได้เล่าให้เด็กแสบนี่ฟังบ้างไหมเนี่ย

"ถ้าผูกพันมากไป ตอนห่างกันจะลำบาก อย่าผูกพันแต่แรกคือทางเลือกที่ดีที่สุด นั่นคือสิ่งที่คิดตอนแรก"คุณท่านเอนตัวพิงโซฟา "ฉันไม่ใช่คนที่ชอบอธิบาย"

เพราะงั้นใครๆถึงได้เข้าใจผิดไปหมด

ผมไม่รู้ว่าทำไมท่านถึงไม่ได้อยู่ใกล้ๆหรือดูแลโซโล่ แต่ผมมั่นใจว่าท่านต้องมีเหตุผลแน่นอน ท่านไม่ใช่คนน่ากลัวแบบที่ผมคิดตอนแรกเลยสักนิด

"พ่อไม่ต้องห่วงหรอก ทั้งผมทั้งไอ้เจไดคงตัวติดกับมันไปตลอดนั่นล่ะ ต่อให้แยกกันแล้วก็ยังติดต่อกันได้นี่ พอดีผมมีตัง ต่อให้มันไปอยู่ต่างประเทศก็ไปหาได้อยู่ดี"

เหมือนผมจะเริ่มมองเห็นที่มาความมั่นหน้าของเจ้าหมาแล้วล่ะ

"หึหึ"คุณท่านหัวเราะเบาๆ ใบหน้านิ่งทอประกายขบขันแบบปิดไม่มิด พอเห็นแล้วผมก็อดขำตามไม่ได้

บางทีเก้าอาจเป็นสิ่งมีชีวิตที่นอกจากจะเกิดมาเพื่อให้ความบันเทิงแล้วยังช่วยทำให้ทุกอย่างดูง่ายขึ้นด้วย

เจ้าหมากับคุณเจย์คงคิดไว้แล้วถึงได้ส่งเก้ามาช่วย และมันทำให้ผมสบายใจขึ้นมากจริงๆ

ตอนนี้ก็ได้แต่หวังว่าเจ้าหมาจะผ่านบททดสอบของตัวเองไปได้

“คุณท่านครับ”ผมหันไปเรียก ปรับสีหน้าให้ดูจริงจังขึ้น “ก่อนโซกับคุณเจย์จะออกไป…ผมได้คุยกับคุณเจย์”

“…”

“ผมรู้สึกเหมือนเขากำลังจะไป”

“นายหมายความว่ายังไง”คุณท่านยืดตัวขึ้นตั้งตรง ในดวงตาคู่นั้นไม่มีวี่แววของการล้อเล่น

“เขาพูดเหมือนจะไม่ได้เป็นเลขาคุณท่านแล้ว”ผมพูดด้วยน้ำเสียงไม่มั่นใจนัก จริงๆมันก็เป็นเพียงการคาดเดา แต่ถ้าคุณท่านเป็นแบบที่ผมคิดจริงๆ…ผมก็อยากช่วย

หลังจากที่ผมพูดจบก็ไม่มีเสียงพูดคุยดังขึ้นอีก เสียงเดียวที่มีในห้องตอนนี้คือเสียงการเล่นเกมของเก้า ใบหน้าของคุณท่านดูน่ากลัวจนผมไม่กล้าพูดอะไรต่อ และคิดว่าท่านคงไม่อยากฟังอะไรตอนนี้ด้วย

“ฉันจะกลับห้องแล้ว”คุณท่านพูดแล้วลุกขึ้นยืน ผมรีบลุกตาม ส่วนเด็กแสบก็หันมายกมือไหว้

“ผมไปส่งครับ”

ผมเดินไปส่งคุณท่านที่ประตู แต่ก่อนที่จะเดินออกไปท่านก็หันกลับมาเผชิญหน้ากับผมก่อน

“เหตุผลที่ฉันมาคุยกับนายก็เพราะต้องการรู้ว่านายเป็นคนแบบไหน”ท่านพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ฉันเริ่มมองนายจากประวัติ ไม่เห็นความเหมาะสมกับโซสักอย่าง ถ้านายเปลี่ยนใจฉันไม่ได้ หลังจากการคุยกันวันนี้พวกนายจะไม่ได้เจอกันอีก และนายคงรู้ว่าฉันทำได้”

รู้สิ…ถึงผมจะปากดีบอกว่ายังไงสักวันก็ต้องเจอกัน แต่จริงๆแล้วผมรู้ดีว่ามันยากขนาดไหนถ้าคุณท่านต้องการแยกเราจริงๆ

“สิ่งที่ทำให้ฉันยอมให้โอกาส นอกจากเพราะโซแล้วก็เพราะนิสัยของนาย เก็บความมั่นคงนั้นไว้ อย่ายอมแพ้ พิสูจน์ให้ฉันเห็นว่านายจะอยู่เคียงข้างเขาได้ ในเมื่อนายเลือกเองที่จะเป็นฝ่ายปกป้อง…ก็ทำให้ได้ตามที่พูด”

ผมมีคำพูดมากมายที่อยากจะเอ่ย แต่เมื่ออ้าปากกลับไร้ซึ่งเสียงใดๆ สุดท้ายก็ทำได้เพียงยกมือขึ้นไหว้คุณท่านอย่างนอบน้อมด้วยความเคารพจากใจจริง

“หวังว่าตอนฝึกงานเสร็จฉันจะได้รับคำตอบที่น่าพอใจ”

“ครับ”

“กีตาร์!”

ผมสะดุ้ง ละสายตาออกจากคุณท่านแล้วหันไปมองคนที่วิ่งมาหา โซโล่วิ่งหน้าตาตื่นมาก่อน ด้านหลังมีคุณเจย์ที่เดินตามมาช้าๆ

“เป็นอะไรหรือเปล่า!”เจ้าหมาจับตัวผมพลิกไปมาต่อหน้าพ่อตัวเอง ใบหน้าดูกระวนกระวายจนผมต้องจับมือเขาไว้

“แค่คุยกันครับ”

“เจย์ มานี่”คุณท่านหันไปเรียกคุณเจย์ จากนั้นก็เดินนำเข้าห้องตัวเองไปโดยไม่สนใจใคร คุณเจย์หันมาก้มหัวให้ผมก่อนจะเดินตามเข้าไปด้วยใบหน้าเศร้าๆ

“เข้าห้องก่อนครับ”ผมดึงแขนเจ้าหมาที่ยังดูเป็นห่วงไม่เลิกเข้ามาในห้อง แต่พอเข้ามาแล้วผมก็เป็นฝ่ายถูกดึงไปที่โซฟาริมกระจกแทนโดยที่เจ้าหมาไม่ได้หันไปสนใจเพื่อนที่นั่งเล่นเกมอยู่เลย

“พี่ไม่เป็นอะไรครับ”ผมชิงพูดก่อน ไม่ลืมลูบหลังมือคนข้างๆให้คลายกังวล

“เล่ามา”

ผมเล่าทุกอย่างให้โซโล่ฟังช้าๆ ทั้งเรื่องที่คุณท่านให้โอกาส เรื่องที่เราคุยกันทั้งหมด ผมเล่าโดยไม่ปิดบังแม้แต่นิดเดียว ตลอดเวลาที่พูดเจ้าหมาทำหน้าตาจริงจังจนน่ากลัว จวบจนผมเล่าจบแล้วเขาก็ยังเงียบอยู่

“โซ…”

“…”

“อย่าอคติสิครับ”ผมแตะนิ้วลงบนคิ้วที่กำลังขมวด “ทุกอย่างไม่ใช่แบบที่เราเห็นเสมอไป เรื่องคุณเจย์น่าจะทำให้โซคิดได้บ้างนะ”

เพราะโซโล่นึกถึงคุณท่านในมุมแบบนั้นมาตลอด ไม่แปลกที่เขาจะเอาสิ่งที่คิดมาเล่าและทำให้ผมมองคุณท่านแบบที่เขามองตามไปด้วย แต่เพราะผมไม่ได้อคติแบบเขา พอได้เจอจริงๆผมถึงได้มองเห็นอะไรมากกว่าที่เขาเห็น

“ท่านก็เหมือนโซที่ไม่ชอบอธิบายความจนทำให้ใครๆเข้าใจผิด”

“ผมไม่เหมือนพ่อสักหน่อย”โซโล่ทำหน้าบึ้ง

“ไม่เหมือนก็ไม่เหมือน”

“ดี”

ผมหัวเราะกับท่าทางพออกพอใจของเจ้าหมา หลังจากนั่งขำอยู่สักพักก็เปลี่ยนกลับมาเป็นสีหน้าจริงจัง ผมสบตาโซโล่ อยากให้เขาเชื่อที่ผมพูด

“เปิดใจนะครับ อะไรที่ผ่านมาแล้วก็ให้ผ่านไป ลองมองดูดีๆว่าลึกๆแล้วมันเป็นยังไง อย่ามองแค่เปลือกนอก”

“ผมคิดแบบนี้มานานเกินไปแล้ว”โซโล่หลบสายตาผม

“พี่ไม่ได้บอกให้โซมองเรื่องในอดีตครับ แต่พี่อยากให้โซมองดูปัจจุบัน”ตอนนั้นอาจยังเด็กถึงฝังใจ แต่ตอนนี้เขาโตพอที่จะต้องมีเหตุผลแล้ว

ถ้าเขาเปิดใจอีกสักนิด เขาอาจจะรู้ว่าจริงๆตัวเองไม่ได้ไม่มีความรักความผูกพันกับคุณพ่อแบบที่เคยพูด เพียงแต่เขาอคติเกินกว่าจะมองเห็นมันมากกว่า

“โซมีเหตุผลของโซ คุณท่านเองก็มีเหตุผลของคุณท่าน ในเมื่อตอนนี้คุณท่านยอมถอยแล้ว…โซก็ลองดูบ้างเถอะครับ”

โซโล่หันกลับมา ผมยิ้มให้เขา มองดูดวงตาที่ดูอ่อนลงด้วยความอ่อนโยน

“ผมจะพยายาม”

บางทีการที่คนเราเหมือนกันมากเกินไป…ก็อาจจะทำให้เรามองข้ามบางอย่างไปได้ง่ายๆ เหมือนกับที่โซโล่ลืมมองไป ว่าจริงๆแล้วพ่อของเขา…เป็นคนที่ทำทุกอย่างได้เพื่อคนที่ตัวเองรักเหมือนเขาไม่มีผิด

นั่นเป็นเรื่องที่ผมกับโซโล่ได้รู้…ในอีกหลายเดือนต่อจากนั้น

----------------------------

 

ติดแฮชแท็ก #โซโล่กีล์

Fan Page : Chesshire. Twitter : @Chesshire04
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-03-2017 22:02:55 โดย CHESS. »

ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER38 P.26 [19/03/17]
«ตอบ #776 เมื่อ19-03-2017 19:08:24 »

โอยยยชอบหนูเก้า แทบรอเรื่องหนูเก้าไม่ไหวแล้ววว

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8891
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER38 P.26 [19/03/17]
«ตอบ #777 เมื่อ19-03-2017 19:17:41 »

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ตัวไหมอ้วนกลม

  • สาว Y ไม่ใช่โรคติดต่อ แต่เป็นแล้วรักษาไม่หายนะคะ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 236
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-2
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER38 P.26 [19/03/17]
«ตอบ #778 เมื่อ19-03-2017 19:25:38 »

ปริ่ม อิ่มเอมมาก   :sad11:   :sad11: 

ออฟไลน์ pui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-3
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER38 P.26 [19/03/17]
«ตอบ #779 เมื่อ19-03-2017 19:28:26 »

เก้าคือดี    :mew1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด