ไม่มี ✖ ไม่หนี ✖ ไม่รัก [UP! Santa Baby 25/12/61] p.33
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ไม่มี ✖ ไม่หนี ✖ ไม่รัก [UP! Santa Baby 25/12/61] p.33  (อ่าน 264221 ครั้ง)

ออฟไลน์ Indigo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1030/-7
ทวงครั้งที่ 9

   แสงเป็นคนหลับลึก  ยิ่งวันไหนใช้สมองหนักสามารถหลับได้ยันเที่ยงโดยที่นาฬิกาปลุกไม่มีผลใด ๆ  คืนที่โดนอัดคลิปจัดเป็นหลักฐานชั้นดี  ขนาดว่ามีคนอาบน้ำแต่งตัวใส่เสื้อผ้าออกห้องไปยังไม่กระเทือนการหลับเลยสักนิด
   ไม่นึกว่ามันจะเกิดขึ้นอีกแล้ว…

   วี๊ด....
   เปลือกตากะพริบปริบ ๆ   ในที่สุดเจ้าชายก็ตื่นจากนิทราด้วยฤทธาแห่งสว่าน  หนุ่มใหญ่สบถพ่นสัตว์เลื้อยคลานก่อนจะค่อย ๆ หยัดกายขึ้นเอื้อมไปหยิบมือถือมาเช็กเวลา  สิบโมงกำลังดีเหมาะแก่การหาอะไรใส่ท้องเป็นอย่างยิ่ง
   ดวงตาดั่งเหยี่ยวเกรอะกรังด้วยขี้ตาบดบังทัศนวิสัยจนต้องแคะออก  ภาพเตียงนอนที่ว่างเปล่าปรากฏขึ้นเต็มสายตา  ความวุ่นวายเมื่อคืนนี้หลงเหลือไว้เพียงผ้าห่มพับเป็นสี่เหลี่ยมที่ปลายเท้า
   อย่างน้อยก็มีสมบัติผู้ดีหลงเหลือบ้าง
   ระหว่างลังเลว่าควรจะสำรวจทรัพย์สินมีค่าหรืออาบน้ำก่อนดี  กระเพาะเจ้ากรรมก็ประท้วงขึ้นมาเสียก่อน  ฝากเอาไว้ก่อนเถอะไอ้เรน  ถ้ากลับมาแล้วเจอว่าอะไรหายจะเรียกให้ลูกน้องเฮียอู๋มาตื้บถึงห้องเลย  แสงเดินโงนเงนเปิดบานเลื่อนออก  มุ่งหน้าสู่ห้องน้ำเพื่อล้างหน้าแปรงฟันให้เรียบร้อย
   หลังเสร็จกิจก็เดินหน้าเปียกไปเช็ดกับผ้าที่ระเบียงแล้วกลับเข้ามา  จังหวะนี้เองที่แสงสังเกตเห็นความผิดปกติบนเคาน์เตอร์ครัว  ชามแก้วใบใหญ่ที่เขาใช้เวลาแช่ผักผลไม้ตั้งตระหง่านอยู่ตรงนั้นพร้อมด้วยจานปิดทับด้านบน
   เล่นอะไรของมันอีกเนี่ย…
   ใจหนึ่งก็หวั่นว่าจะมีเซอร์ไพรสอยากจะเอาด้ามไม้กวาดเขี่ยแทนเหมือนกัน แต่แสงไม่ใช่คนขี้กลัวปานนั้น  เขาก้าวฉับ ๆ แล้วงัดจานออกในทันที  กลิ่นหอมของอาหารด้านในลอยมาปะทะจมูก  ที่แท้มันก็คือข้าวต้มหมูนี่เอง  กำลังจะโล่งใจก็ดันเผลอสงสัยขึ้นมาอีกว่าจะไม่มียาพิษใช่ไหม แต่ไอ้เด็กซ่งมันโง่จะแผนซ้อนแผนได้ปานนั้นเชียว
   พิสูจน์ไปเลยดีกว่าด้วยช้อนด้ามเดียวจ้วงใส่ปากซะ!  รสเค็มกำลังดีทำแสงตาวาวนิดหน่อย  ดูถูกไอ้เรนไม่ได้เสียแล้วนี่มันตอบแทนเขาถึงขั้นไปซื้อข้าวต้มมาเป็นอ่างเชียวเหรอ  นึกถึงหมาถึงแมวที่คาบซากหนูมาทดแทนบุญคุณชอบกล
   แม้ในใจจะแขวะไม่หยุด แต่พ่อคนขี้เก๊กก็หยิบชามไปจัดการเสียเกลี้ยง  ข้าวต้มปริมาณสำหรับสองคนหายวับไปในพริบตา

น่าแปลกที่เช้าวันนั้นแสงกระดิกตีนอย่างอารมณ์ดีขณะฟังเสียงสว่านเคล้าเสียงเลื่อย


............................................
.....................
........
.....

   “มาเช้าแล้วไม่ได้หมายความว่าให้อู้ได้นะเว้ย”
   ผัวะ!  ไม่ได้มาแค่ลมปากแถมหมัดด้วย  ประเคนเข้าที่ไหล่เต็ม ๆ  เรนกุมหัวไหล่ไว้ยังไม่ทันแสร้งโอดครวญก็โดนลุงบุญชี้หน้า “ไม่ต้องสำออย  กาวอะไม่ต้องทาแล้ว  งานเบาน่ะชอบนัก”
   “อ้าว  เมื่อวานลุงยังบอกให้ผมทากาวเพราะมือไม่หายดีอยู่เลย”
   “เมื่อวานกับวันนี้มันคนละเรื่อง” หน้าบูดขนาดนี้จะพ้นเรื่องที่ทะเลาะกับเมียเมื่อวานเหรอ “ไป้!  ไปช่วยไอ้ถังยิงโครงห้องนู้น”
   “คร้าบ ๆ”
   “เก็บให้เรียบนะโว้ย  ข้าตามช่างสีมามะรืนแล้ว” จะไปยังไม่วายโดนกำชับ “เจ๊จวงนี่แม่งเขี้ยวฉิบหาย  ก็บอกว่าช่างสีคนละชุดจะตามให้ทีเดียว  เสือกจะมาขอดูแบบให้เสร็จห้องเดียวก่อน”
   “แหม  เขาจะรีบขายน่ะสิลุง  จะได้เป็นห้องตัวอย่างไง”
   “ผิดงวดกับข้าอีก!  แทนที่จะได้เอาเงินมาลงโครงให้หมด  นี่ก็จะชักหน้าไม่ถึงหลังอยู่แล้ว  พอจะเบิกเสือกบอกโครงยังไม่ครบทุกห้อง  บ๊ะ!!” ผลุก! ตะปูเสียบเข้าแผ่นไม้อย่างเกรี้ยวกราดเสมือนว่านั่นคือหน้าของเจ๊จวง “ก็มันจะเสร็จอยู่แล้วมาบอกให้ติดลามิเนตเก็บสีก่อน  ใครมันจะทำทันวะ!”
   “เอ่อลุง...ผมไปช่วยพี่ถังนะ”

   ก่อนที่แกจะมือลั่นยิงหัวไอ้เรนแทนไอ้ลูกจ้างก็ทำตัวลีบเล็กเดินลอดเข้าประตูห้อง 1205 ไปอย่างเงียบ ๆ  ไม่ไหวเลยลุงบุญก็รู้อยู่ว่าเจ๊จวงขี้เหนียวขนาดไหนยังกล้ารับงาน  เอ๊ะ! แต่เท่าที่ทำมาก็แทบไม่มีลูกค้าคนไหนจ่างตังค์ง่ายเลยนี่หว่า
   มือคว้าเอาปืนยิงตะปูลมพลางชะเง้อดูแปลนเฟอร์นิเจอร์บนโต๊ะคร่าว ๆ  จะเสร็จอยู่แล้วทำเป็นบ่นใหญ่โตไปได้  นเรนทร์จ้องภาพ perspective บนนั้นพลางครุ่นคิด  เจ๊จวงเป็นเจ้าของเงินทุนก็จริงอยู่ แต่คนจัดการเรื่องดีไซน์คือลูกสาว  ดังนั้นแบบที่เลือกจึงไม่ทึนทึกล้าสมัยอย่างที่คิด  ออกจะโมเดิร์นเส้นโค้งเยอะเกินงามด้วยซ้ำ  ทำเอาช่างปาดเหงื่อไปตาม ๆ กัน
   “มึงมาก็ดีแล้วเรน  จับตรงนู้นให้หน่อยดิ๊” ไม่ทันโอเอ้ก็ได้รับคำสั่งทันที  นเรนทร์เดินอ้อมไปอีกฝั่งของแผ่นกระดานจับมันให้มั่น  รอจนรุ่นพี่ยิงตะปูเข้าไป “เตียงเหี้ยอะไรโค้งจังวะ  มันจะนอนหลับเหรอ”
   “เขาเรียกดีไซน์หรอกพี่”
   “เออ กูรู้” นิ้วอูมลั่นไกอย่างชำนาญ “เลือกซะยากเลย”

   ถังแก่กว่าแค่สองปี  เรนจึงสบายใจเวลาคุยด้วยมากที่สุด  พี่ถังเป็นหนุ่มร่างใหญ่ค่อนไปทางอวบบวมเบียร์  มีเคราแพะ  รูปไม่หล่อแต่คารมดี  สถานะทางครอบครัวเมียหนึ่งลูกสอง  ไม่มั่นใจนักว่าแอบไปมีบ้านเล็กหรือเปล่า  พวกช่างก็เจ้าชู้แบบนี้แหละ
   “เอ้า! เสร็จแล้ว” คนทำงานเผลอยิ้มกับฝีมือตัวเอง “ไป ๆ มึงไปตรงตู้เลย  โต๊ะข้าจัดการเอง”
   “ครับ ๆ”
   หน้าที่ของเรนคือตีไม้เคร่ายึดด้านหลังตู้กับผนังแล้วปิดแผ่นเรียบทับลงไปอีกที  อย่างที่บอกว่าเขาถนัดงานพวกนี้มากกว่าอะไรละเอียดอ่อนอย่างติดแผ่นลามิเนตหรือทำสีด้วยซ้ำ  เริ่มจากเอาท่อนไม้ที่ได้ขนาดแล้ววางทาบกับผนังแล้วลั่นไก  ผลุก!

   “ฟังเสียงก่อสร้างทุกวันหนวกหูเนอะ” ถังชวนรุ่นน้องคุย “ไอ้เราน่ะชินแล้ว แต่คนทั่วไปนี่สิ”
   “พี่หมายถึง....”
   “ไอ้ห้อง 1206 นี่ไง” ทางนั้นนินทาแบบไม่ลดเสียงเลยสักนิด  ทั้งที่ห้องมันอยู่หลังกำแพงตรงนั้นพอดี “จิตแข็งฉิบหาย”
   “จิตแข็งหรือไม่มีทางเลือกวะพี่”
   “จริงของมึง แต่แม่งยอมใจพี่แกเลยว่ะ  ออกมาด่าช่างด้วย  เป็นคนอื่นคงปิดปากเงียบกลัวโดนฆ่าตาย”
   “เฮียแกปกติที่ไหนล่ะ”
   “มึงพูดเหมือนรู้จัก?”
   “เปล่า” เรนปฏิเสธเสียงต่ำ  จัดว่าแหลได้แนบเนียน “ก็เห็นตอนมายืนด่าปาว ๆ”
   “หน้าตาก็น่ากลัวฉิบหาย”

   ถังยกมือขึ้นปาดเหงื่อที่เกาะเครา  พูดกันตามตรงเรนว่าพี่แกน่ากลัวกว่าเฮียแสงเยอะ  เฮียน่ะทำหน้าบึ้งไปอย่างนั้น  ความจริงใจดีจะตาย  ถึงจะขี้รำคาญ  ปากร้าย  ดูถูกคน  มองโลกในแง่ร้ายสุดกู่ก็เถอะ
นเรนทร์ก้าวเข้าสู่ความจริงบางอย่าง  เมื่อวานตอนที่เขาอับจนไร้หนทางเดินเคว้งอยู่ในซอยบ้านอยู่ ๆ ใบหน้าเหี้ยมเกรียมของเฮียแสงก็ลอยเข้ามา  เขาจึงตัดสินใจใช้เศษเงินที่เหลืออยู่พุ่งขึ้นรถเมล์ เพราะรู้ว่าสุดท้ายแล้วผู้ชายคนนั้นจะต้องยอมเปิดบ้านต้อนรับอย่างแน่นอน
ด้วยการข่มขู่นิด ๆ หน่อย ๆ...
เอาน่าถึงเริ่มต้นจะไม่สวย แต่เฮียก็คล้อยตามจนได้ร่วมหลับนอนเตียงเดียวกันเชียวนะ  พระเวสสันดรยังไม่เสียสละถึงเพียงนี้เลย  เรนไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเขาต้องดั้งด้นไปหาเฮียด้วย  รู้แค่ว่าอยู่ด้วยแล้วสนุกดี  โดนด่าโดนดุก็ยังหัวเราะได้  สบายใจราวกับปัญหาเป็นเรื่องขี้ปะติ๋ว  โดนเฮียด่าทีเดียวก็กระเด็นหายไป
อีกอย่างมันอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก...  ทุกครั้งที่ได้รับสัมผัสหยาบกระด้างอันอ่อนโยน  นเรนทร์เผลอเคลิบเคลิ้มไปโดยไม่รู้ตัว  เมื่อคืนถึงขั้นหลุดปากว่าจะมีเซ็กซ์ด้วยก็ยังได้

ความรู้สึกแบบนี้มันเรียกว่าอะไรนะ...
ถ้าเขาหาคำตอบให้มันได้แล้วทุกอย่างจะเปลี่ยนไปไหม

จะว่าไปเมื่อเช้าเผลอเอาชุดนอนติดมือมาด้วย  กะว่าเข้าห้องได้เมื่อไหร่จะรีบซักไปคืน หวังว่าเฮียแสงจะไม่แจ้งความเสียก่อน  เอ๊~ หรือว่าให้บุกมาด่าเขาที่ห้องก็ดีเหมือนกัน  จะได้....
   “ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อะไรของมึง  ขนลุกเว้ย” ผัวะ! เพราะมัวแต่เพ้อเจ้อเลยโดนปลายตีนสะกิดน่องเต็ม ๆ  ถังยักย้ายร่างใหญ่โต  เบียดเข้ามาด้านข้างจนเหงื่อติดแขนเรน  เด็กอยากเช็ดออกก็กลัวจะหาว่ารังเกียจ “มีเมียใหม่แล้วเหรอ”
   “เปล่าสักหน่อยครับ”
   “หยิบมาดิ๊  ทำงานชักช้า” ถังคว้าท่อนไม้จากมือรุ่นน้องขึ้นมายิงตะปูอย่างรวดเร็ว “แล้วทำไมใส่เสื้อตัวเมื่อวาน  ห่านี่ซกมก  ไปไกล ๆ เลยนะมึง”
“ซักแล้วน่า!”

ดูเอาเถอะ!  โดนด่าเพราะเฮียอีกแล้ว

........................................
..........................
...........
.......


   แสงออกจากห้องในเวลาหกโมงเย็น  แน่นอนว่าด้านนอกเงียบสงัดราวกับว่าเสียงโป๊กป๊ากตลอดทั้งวันไม่มีอยู่จริง  บรรดาช่างพากันอพยพลงไปตั้งแต่ห้าโมงตามกฎคอนโดแล้ว
   ตุบ ๆ  พื้นรองเท้าทิ้งรอยไว้บนฝุ่นสีน้ำตาล  วันนี้แสงไม่ได้ออกไปไหนทั้งวัน  แถมลูกค้าก็ไม่ได้โทรตามเลยได้นอนอืด  เพิ่งจะลุกขึ้นมาดูหนังเมื่อบ่ายสองนี่เอง  ข้อดีของการเป็นนายตัวเองก็แบบนี้แหละ
   หลังซัดข้าวต้มแทนคุณเมื่อเช้าสิ่งที่ตกถึงท้องก็มีแต่นมเท่านั้น  ตอนนี้ท้องของแสงจึงร้องประท้วงจนต้องจิกหัวตัวเองคว้ากระเป๋าสตางค์มายืนรอลิฟต์  กระนั้นจิตใจก็ยังปั่นป่วนไม่แพ้กระเพาะ
   แสร้งทำเป็นไม่สนใจยังไงก็หนีความจริงไม่ได้  วินาทีที่ประตูลิฟต์เปิดออกแสงหันหลังวิ่งกลับไปทางเดิม  เป้าหมายคือประตูเหล็กที่สุดทางเดินตรงนั้น...

   ผัวะ!

   ทว่าว่างเปล่า...
   “ฮะ ๆ” เขาเผลอแค่นหัวเราะ  คิดไปได้ว่าไอ้เด็กซ่งจะมานั่งแกร่วตากลมรอคนมาไล่  แสงบอกตัวเองว่าแค่อยากรู้เฉย ๆ ไม่ได้คาดหวังว่าจะเจอสักหน่อย  เมื่อคืนยังไล่มันกลับบ้านอยู่เลยนี่นา
   เสร็จสรรพสบายใจแล้วก็ไปซื้อข้าวกินตามปกติ  รอบนี้แสงนั่งกินก๋วยเตี๋ยวที่ใต้คอนโดเพราะขี้เกียจล้างจาน  พอท้องตึงก็กลับขึ้นมาพร้อมเบียร์อีกสามกระป๋องเผื่อจิบตอนอ่านเอกสารคืนนี้  เมื่อครู่เพิ่งได้รับเมลจากเพื่อนที่มีปัญหาฟ้องร้องอยู่  ดูท่าต้องได้นั่งอ่านก่อนนอน
   ทางเดินชั้นสิบสองเงียบสงัด  มีเพียงแสงไฟสีส้มไม่กี่ดวงเท่านั้น  นี่เป็นนโยบายประหยัดไฟของเจ๊จวง  เห็นว่ามีไอ้แสงอยู่คนเดียวสาธารณูปโภคจะระยำยังไงก็ตามแต่ใจปารถนา  โชคดีที่คนอย่างแสงไม่กลัวผี  กะอีแค่เดินมืด ๆ จัดว่าสบายมาก  อยู่ง่ายกินง่ายแบบนี้ไงคนอย่างเจ๊ถึงกล้าเอาเปรียบ
   หลังจากอาบน้ำจนสดชื่นก็เดินมาทิ้งตูดบนโซฟาพร้อมโน้ตบุ๊คคู่ใจ  ภารกิจสุดท้ายคืออ่านเอกสารหลักฐานที่เพื่อนส่งมาให้  พรุ่งนี้จะได้โทรไปให้คำตอบมันว่าราคามิตรภาพเท่าไหร่  ทว่าขณะยกกระป๋องเบียร์ขึ้นจิบอยู่นั่นเอง....

   ปัง ๆ

   เดจาวูชะมัด
   ปลายนิ้วนวดคลึงบนขมับ  เหตุการณ์คุ้นเคยเสียจนรู้ว่าหากไม่ออกไปเปิดประตูจะโดนเคาะเป็นจังหวะยังไง  แสงวางกระป๋องเบียร์ลงขณะที่ดวงตายังไม่ละจากจอคอม

   ปัง ๆ ๆ

   เสียงนั้นร้องกระตุ้นบางอย่างในใจ  เมื่อวานเขาพลาดไปด้วยความสงสัย  ทว่าวันนี้ไม่เหมือนกัน  รู้ทั้งรู้ว่าเปิดแล้วชีวิตจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป....

   ปัง ๆ ๆ

   “โธ่เว้ย!”



ก็แค่รำคาญ!  จะได้เงียบ ๆ สักที
ผัวะ!

“เฮียแสง~”
“ไอ้เรน”
ทั้งสองเสียงประสานเข้าหากันอย่างพอเหมาะพอเจาะ  นเรนทร์เบิกตาเป็นประกายพร้อมผายมือประจบ “เชิญเฮียพูดก่อนเลย”
   “แก...เอ่อ...” หัวสมองว่างเปล่าทันใด  สงสัยเพราะจ้องหน้าจอนานไปแน่ ๆ “แกพูดก่อนเลย”
   “ผมเช่าห้องอีกคืนได้ไหม” ชายหนุ่มยกถุงพลาสติกขึ้นเสมอหน้า “แท่แดน~  รอบนี้มีกางเกงในมาด้วยนะ”

   ไอ้แสงเอ๊ย!  เจ็บแล้วจำคือคน เจ็บแล้วทนคือควาย....
   “เฮียกินเบียร์ทุกวันเลยเหรอ”
   “ทุกวันก็ตายพอดี” แสงเหมือนวูบไปหลายนาที  รู้ตัวอีกทีเอ๊ะ...กูมานั่งอยู่กับไอ้เด็กซ่งได้ไง  คิดแล้วก็ยกมือเสยผมข้อแรกคือเรียกสติ ข้อสองเพื่อเช็กว่าเขาไม่ได้งอกบนหัว
   “เฮียฟังก่อนนะ” เห็นสีหน้าเจ้าของห้องแล้วเรนกลัวเยี่ยวแทบราด  ต้องชิ่งอธิบายก่อน “ผมจำเป็นจริง ๆ  พวกไอ้กิจมันกัดไม่ปล่อยเลย”
   “ไอ้กิจ”
   “อ๊ะ! เฮียไม่รู้จักสินะ  มือขวาเฮียอู๋ไง  คนที่จมูกเบี้ยวไปทางซ้ายน่ะ  สมัยเรียนผมเคยมีเรื่องกับมัน”
   “แกจะมีเรื่องกับคนอื่นไปทั่วเลยหรือไง”
   “เฮียอะ  อย่าเพิ่งด่าสิฟังก่อน!” เห็นท่าจะโดนเทศน์เรนต้องรีบปราม “นั่นแหละ  ขนาดว่าคืนเงินจะครบแล้วมันยังหาเรื่องมาตื้บผมส่งท้าย  เฮียคิดดูสิ!  เมื่อตอนเย็นมันบุกมาเคาะห้อง  โชคดีที่ผมไหวตัวทันเลยปีนหน้าต่างหนีออกมาอีกทาง”
   “เดี๋ยวนะ...แกปีนบ้าน?”
   “ก็หน้าต่างตรงหัวเตียงไง  ข้าง ๆ มีบันไดลิง  วันไหนลืมกุญแจห้องผมก็เข้าทางนั้นตลอดแหละ”
   “คุณภาพชีวิตต่ำมาก”
“ผมก็เลยรีบแวะซื้อกางเกงในแล้วตรงมาหาเฮียทันทีเลย  ขอหลบสักพักนะครับ”
   “แกจะอยู่ยังไงฮะ”
   “เรื่องเสื้อผ้าเฮียไม่ต้องห่วงนะ” กำลังจะเถียงว่ากูไมได้ห่วงเรื่องนั้น แต่หาจังหวะแทรกไม่ได้เลย “ผมถามป้าที่ขายน้ำเต้าหู้แล้ว”
   แสงเลิกคิ้ว “มีสายด้วย?”
“แน่นอน  ระดับนี้” มันตบอก “ป้าซ่อนกล้องไว้ใต้หม้อ  ถ้ากดปุ่มตรงรถเข็นจะเรียกหน่วยสวาทมาช่วยได้  แกส่งรหัสมอสด้วยการเคาะกระบวยเพื่อสื่อสารกับผม”
   “เพ้อเจ้อ”
   “ป้าบอกว่ามันมาเฉพาะตอนเย็น  แน่ล่ะ! เลิกงานแล้วเลยว่างมากระทืบคนเล่น”
“แล้วยังไง”
“เท่ากับว่าผมนอนไม่ได้แต่เข้าไปเก็บของได้ไง” มาถึงตรงนี้ชายหนุ่มก็ดีดนิ้วราวกับว่าเข้าประเด็นเสียที “แบบนี้เรื่องเสื้อผ้าข้าวของก็ไม่ใช่ปัญหา  ถ้าจะติดขัดอะไรก็มีแต่....”

กูสินะ....
แม้ไม่ได้พูดแต่เรนอ่านแววตาของเฮียแสงออกในทันที  มันเขยิบเข้ามาจนผิวกายเกือบสัมผัสกัน  หางตาชี้ขึ้นเหมือนจิ้งจอก แต่กลับส่ายหางดิ๊ก ๆ ออดอ้อนเป็นหมาบ้าน “ถ้าเฮียจะเมตตา  ผมรับรองว่าคลิปของเราจะถูกเก็บไว้จนลึกถึงแกนโลก”
“ขอร้องพร้อมข่มขู่?”
“เรื่องมันเกิดจากเฮียแต๊บเงินผมนั่นแหละ” ไหล่สีแทนกระแซะ ๆ “แต่ผมไม่ได้ขออยู่ห้องเฮียเฉย ๆ นะ”
“ฉันไม่นอนกับแกซ้ำสองแน่นอน”
“ไม่ใช่เรื่องนั้นสักหน่อย  เฮียหมกมุ่นเกินไปแล้ว” แสงเกือบจะอ้าปากเถียง ทว่าช้ากว่าเด็กไปหลายขุม “ผมจะทำงานบ้านแลกที่ซุกหัวนอนต่างหาก”
“มีแค่คนสติไม่ดีเท่านั้นแหละที่จ้างโจรมาทำงานบ้าน”
“โจรมันต้องขโมยของไม่ใช่เหรอ  ผมยังไม่ทันจิ๊กอะไรเฮียเลยนะ  อย่าใส่ความสิ” จำเลยร้องหาความยุติธรรม “ผมน่ะทำงานบ้านมาตั้งแต่เด็ก  จะซักผ้า ล้างจาน กวาด ถู เปลี่ยนหลอดไฟ ซ่อมท่อประปา ตบหาสัญญาณทีวี”
   “ห้ามตบทีวีฉัน”
   “อ๊ะ!  ทำอาหารเป็นด้วย  ข้าวต้มเมื่อเช้าไง!”
   “ข้าวต้มนั่นแกทำ?”
   “อร่อยล่ะสิ!  ตู้เย็นแห้งแล้งจนผมวิ่งลงไปซื้อของในมาร์ทเลยนะ  โชคดีที่เครื่องปรุงมีครบ”
   “ถือวิสาสะมาใช้ครัวฉันได้ยังไง”
   “อ้าว เป็นงั้นไปอีก” ทวงแต้มบุญไม่ได้แถมแพ็กเก็จโดนด่าด้วย “แต่ก็อร่อยใช่ไหมล่า~”
   “งั้น ๆ”
   “โธ่~  เฮีย...” เรนโอดครวญ “อย่างน้อยก็สารอาหารครบถ้วนนะ  เอางี้! อยากกินอะไรบอกผมได้เลยนะ  อ๊ะ! เฮียชอบกะเพราไข่เยี่ยวม้านี่นา”
   “ฝีมือสู้ป้าร้านสกปรกนั่นให้ได้ก่อนเถอะค่อยมาพูด”
“เดี๋ยวผมแกะสูตรป้ามาให้เลย  เพื่อเฮียโดยเฉพาะ” แสงรู้สึกเหมือนแข้งขาเปียกแฉะไปหมด “สรุปว่าให้ผมเช่าอยู่นะ”
“ฉันไปพูดแบบนั้นตอนไหน”
“เฮียครับ...”
“........”
“เฮีย....”


   “ไข่ยัดไส้”

   “หา!?”
“พรุ่งนี้จะกิน” คนพูดลุกขึ้น  เล่นเอาโซฟาดีดตัวจนนเรนทร์ไหลไปเล็กน้อย “ฉันจะไปนอนแล้ว”
พูดจบเจ้าของห้องก็พับโน้ตบุคก้าวฉับ ๆ แล้วหายเข้าไปหลังบานเลื่อน
เรนแน่นิ่งค้างอยู่อย่างนั้นราวสิบวินาที  ก่อนฟองอากาศในหัวจะแตกดังโพล๊ะ!  เขารีบยกมือกุมอก...





อ๊ะ!  แย่แล้ว...

...................................................
.................................
..............
........


   ชีวิตที่มีไอ้เด็กซ่งค่อนข้างปวดหัวเลยทีเดียว

   “ฮ้าว~”
   “อย่าหาวตอนทำอาหารได้ไหม  สกปรก”
   “น้ำลายไม่ได้หยดสักหน่อย” คนที่หน้าเตาไฟฟ้าเถียง “อ่า...หอมจังเลย  ระดับเชฟมิชเชอลิน”
   “ชมตัวเองก็ได้ด้วย”
   “ผมชมเผื่อเฮียต่างหาก”

   ห้าวันแล้วนับตั้งแต่แสงผีเข้าอนุญาตให้นเรนทร์มาหลบภัยที่ห้องได้  จัดว่าปั่นป่วนเอาเรื่อง  ราวกับเขาใช้โควตาพูดจามากกว่าปีที่แล้วทั้งปีรวมกันเสียอีก
   แม้จะบ่นอย่างไรแต่ก็ต้องยอมรับว่ามีขี้ข้าให้จิกหัวใช้มันช่างสะดวกสบายดีเหลือเกิน  ชักเข้าใจพวกคุณนายในละครที่นั่งให้บ่าวไพร่คลานเข่าเอาน้ำมาเสิร์ฟแล้วล่ะ  พูดไปนั่น....แสงไม่ได้ใช้งานมันเยี่ยงทาสขนาดนั้นสักหน่อย
   ตอนเช้าก็แค่ตื่นก่อนมาทำอาหารเช้ารอแล้วก็ไสหัวไปทำงานซะ  ตกเย็นก็ตัวเหม็นกลับมาหาข้าวหาปลาให้กิน  กวาดบ้าน  ถูพื้น  วันไหนแสงกลับดึกไอ้โง่นี่ก็จะนั่งจุมปุ๊กรออยู่หน้าห้อง

   กลายเป็นแบบนี้ไปได้ไงวะ...
   นิ้วโป้งบดคลึงขมับตัวเองเผื่อจะมีเส้นเลือดตรงไหนอุดตัน  สมองอันชาญฉลาดถึงได้ตัดสินใจอะไรควาย ๆ ติดกันหลายคดี  ดวงตาเหยี่ยวตวัดฉับมองแผ่นหลังไอ้เด็กซ่งที่สาละวนกับการกวนข้าวในกระทะ
   นเรนทร์สวมเสื้อกล้ามสีดำกลืนไปกับผิวของตัวเอง  ทว่าเส้นผมสีทองกลับสว่างไสวราวกับแสงแดดนอกหน้าต่าง  จังหวะของสีที่ตัดกันบริเวณต้นคอน่ามองเสียจนลืมอ่านข่าวที่เปิดคาไว้บนมือถือ  วันนี้ชายหนุ่มรวบผมมัดเป็นจุกเผยให้เห็นปมกระดูกตรงหลังคอ  แสงคงบ้าไปแล้วที่เผลอคิดว่ามันเซ็กซี่นิด ๆ

   “ข้าวผัดมาแล้วคร้าบ~” เจ้าขี้ข้าหันหลังมาพร้อมข้าวผัดพูนจาน  ทำเอาคนแอบมองต้องกระแอ้มไอแก้เขิน
   แสงยกกาแฟขึ้นจิบ  แสร้งมองออกไปนอกหน้าต่าง “หัวหน้าแกเลี้ยงข้าวเช้าเหรอ”
   “หือ?” เจ้าจิ้งจอกที่กำลังหยิบช้อนวางในถ้วยถึงกับขมวดคิ้ว “ทำไมเฮียถามอะไรแบบนั้น”
   “เปล่า” เขายักไหล่ “ก็ถามไปอย่างนั้น  ไม่ได้อยากรู้....”
   “ไม่มีข้าวเช้าหรอก  ช่างที่ไหนกินข้าวครบสามมื้อล่ะเฮีย” ชายหนุ่มเช็ดมือกับกางเกง  ลืมรักษาความสะอาดให้เฮียแสงไปเสียสนิท  โชคดีที่ทางนั้นแอคท่ามองหน้าต่างอยู่ “หัวหน้าแกเลี้ยงแค่ข้าวกลางวัน  แถมแล้วแต่อารมณ์ด้วย  ส่วนใหญ่ก็ไล่ลงไปหาข้าวกินทางใครทางมัน  ลุงแกงกจะตาย  เอ้า!  ข้าวเฮียได้แล้ว”

   ข้าวผัดหมูในจานส่งกลิ่นหอมชวนน้ำลายสอสุด ๆ  ถ้าพูดอย่างไม่อคติฝีมือนเรนทร์จัดว่าไม่เลวนัก  ถึงจะทำได้แค่ระดับพื้นฐานเหมือนร้านอาหารตามสั่งก็เถอะ แต่แสงไม่ใช่คนเรื่องมาก  ว่าแล้วก็ไม่รอช้าจ้วงข้าวร้อน ๆ เข้าปากทันที  ข้าวผัดเม็ดเรียวสวยแถมแห้งกำลังดี  ปรุงรสเค็มตัดด้วยหวาน แม้จะขาดน้ำมะนาวก็ยังเข้าที
   “อร่อยล่ะซี่” พ่อครัวยิ้มจนเห็นฟัน  ทำเอาแสงแทบคายออก “ข้าวที่เหลืออยู่ในชามนะ  ผมเอาจานปิดไว้แล้ว”
   “เออ”
   แม้จะแสร้งทำเป็นกินข้าว แต่ดวงตาของแสงยังจับจ้องไปที่เหยื่อไม่วางตา  พอไอ้เด็กซ่งล้างอุปกรณ์ครัวเสร็จก็เดินเตาะแตะไปยังกองกระเป๋าข้าวของตัวเอง  จังหวะที่มันถลกกางเกงนอนลงเล่นเอาแสงแทบสำลักข้าว  จะออกปากดุก็ไม่ได้เดี๋ยวมันรู้ว่าเขาแอบมองอยู่
   เรนเปลี่ยนมาสวมกางเกงเน่า ๆ ที่ใช้ทำงาน  สภาพของมันดูร่อแร่เหมือนจะเกาะตูดไว้ไม่อยู่ทว่าเจ้าตัวมิได้สนใจใช้นิ้วตีนคีบกางเกงนอนขึ้นมาพาดไว้บนกระเป๋าก่อนจะหันกลับมาทางโต๊ะกินข้าว  คนแอบมองรีบก้มหน้าจนจมูกเกือบปักลงข้าว

   “เฮียแช่จานไว้นะ  เดี๋ยวกลับมาล้างให้”
   “อื้อ”
   “ผมไปแล้วนะ  ต้องรีบไปเอาหน้า”
   “ไอ้เด็กเลี้ยงแกะเอ๊ย” เขาได้ยินมันแหลกับหัวหน้าทุกเช้าว่าแหกขี้ตาตื่นมาไซต์งานคนแรก  ใครจะรู้ความจริงว่าแอบมาหมกตัวอยู่กับตาลุงห้องข้าง ๆ
   “แบะ ๆ” เจ้าจิ้งจอกล้อเลียน และก่อนจะโดยส้อมปักกลางหัวมันจึงรีบพุ่งไปสวมรองเท้าที่หน้าห้อง

   แสงตักข้าวเข้าปากอย่างงุ่นง่าน  สิ่งที่ต้องการจะพูดคาอยู่บนลิ้นจะถุยจะพ่นอย่างไรก็ไม่ออก  นาฬิกานับถอยหลังเข้าไปทุกทีเมื่อนเรนทร์ลุกขึ้นผลักบานประตูออกไป  วินาทีนั้นเองที่คำพูดหลุดจากปากได้...



   “เรน  ข้าวเช้าน่ะ...”




   จะกินด้วยก็ได้นะ....







   “ใส่น้ำปลาให้มันน้อย ๆ หน่อยสิวะ”
   “ครับผม!”

   ปัง!  ความตั้งใจพินาศในทันที  หนุ่มใหญ่เกือบฟุบหน้าลงบนจานข้าว  อยากจะดึงทึ้งผมตัวเองให้หมดหัว

   แม่งเอ๊ย! ระบบความคิดพังหมดแล้ว


TBC


โอ๊ยยยยย  หวานอะะะะ  บร้า ๆ ๆ  คุณอาทำไมพระเอกแจ่มใสแบบนี้คะ (ไม่มีใครชมเราต้องชิ่งชมก่อนค่ะ)
เห็นไหมคะ  น้องเรนเหมือนจะอ้อย แต่คนร้ายที่แท้จริงคืออาแสงต่างหาก #ทีมเรน
ในที่สุดก็ได้เขียนอะไรกิ๊วก๊าวแล้ว   นี่แค่เริ่มต้นนะคะคู้นนนนน 55555

แป๊บ ๆ ก็จะขึ้นเดือนใหม่แล้วเนอะคะ  เวลาผ่านไปไวจังเลย
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามค่า  เลิฟฟฟฟฟ//กอดดดดด
เจอกันตอนหน้านะคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-12-2017 14:45:48 โดย Indigo »

ออฟไลน์ anntonies

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 847
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
เฮียแสง ......
ประโยคสุดท้ายโคตรพีค
ปากไม่ตรงกับใจไม่พอ สิ่งที่พูดนี่เกินบรรยายจริงๆ
แอร๊ย ตอนนี้เค้าแอบหวั่นไหวกัน
แม้เฮียแสงจะหวั่นไหวเฉพาะหุ่นของเรนก็เถอะะะ
เห็นเฮียแสงมีเงินเราก็ดีใจ ฮือ
ไม่รู้ดีใจอะไรแต่ดีใจจริงๆ ที่เฮียแสงไม่จน
เรื่องนี้ต้องเป็นตำนานสำหรับเราแน่นอน !

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4
นี่ถ้าตอนรักกันแล้วมันจะอยู่สภาพไหนเนี่ยไม่อยากจะคิด   :a5: :a5: :a5: :a5: :a5:

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
เฮียซึนมากกกก

ออฟไลน์ Peterpanmama

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
สงสารเรน ที่ผ่านมาใช้ชีวิตยังไง ก่อนจะมาเจออาแสง
อาแสงงงง ใจดีกับน้องมากๆนะ

ออฟไลน์ reverofjs

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 380
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
แหนะๆๆๆ แอบมีหวั่นไหวกันทั้งคู่  :hao6:

ออฟไลน์ drasil

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1690
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +95/-1
เฮียเหมือนจะโหดแต่ใจดีอ้ะ

ออฟไลน์ Infinity 888

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2026
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-7
นี่คือเฮียหวานแล้ว ประดุจพระเอกแจ่มใส 5555555

สงสารไอ้น้องเรนจริงๆ หลงขนาดความจำเสื่อม ไม่มีที่อยู่ ทำอาหารก็ไม่ได้

คุณอโณยังเลี้ยงดูอย่างดี แต่เรน แกนี่ยิ่งกว่านางทาสอีก ข้าวก็ไม่ได้กิน อนาถจังลูก แถมมีแววได้ผัวแก่ไปอีก

ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7
เริ่มมีท่าทีต่อกันแล้ว  :katai2-1:

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
ขรำ 5555555 นี่ซีนหวานชิมิ 555555 เอาน่า! อย่างน้อยเฮียแกก็ยอมมีเขา ยอมเสี่ยงให้เรนนี่เขามาอยู่ด้วยแหละ // แม่ศรีเรือนชัดๆ กับข้าวไม่ขาด ทำความสะอาดไม่เกี่ยง เหลืออย่างเดียว ปรนนิบัติเรื่องบนเตียง เอาให้ครบเลยดิเรนนนน เฮียเขารอออออ  :hao6:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ zelesz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 525
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-4
ฮรือออ ตอนนี้น่ารักจังค่ะ ฟิลกู๊ดมากๆ ไหนๆก็มาถึงขั้นนี้แล้วยอมรับใจกันเถอะค่าาาา เฮียแสงง นู๋เรนนนนน

ออฟไลน์ 2pmui

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-6
ลุงมองน้องเป็นเหยื่อหรอ  :m20:
ลุงไม่คิดว่าตัวเองเป็นเหยื่อบ้างหรอ

ออฟไลน์ todiefor

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 204
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
อรั๊ยยยยย อาแสงคนซึนนนนนนนนนน

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
หวานราวกับน้ำปลาหก

ออฟไลน์ em1979

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 464
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
แววหลงเด็กมาหล่ะลุง

ออฟไลน์ MooMiew

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 326
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
ตลกกกกกก ชอบบบบบบ 5555555

ติดตามเลย อ่านรวดเดียวเลยนะเนี่ย ชอบๆๆ  :katai2-1:

รอตอนต่อไป

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
โอ๊ยยเฮียแสง มีความซึนระดับ 8

ปากร้ายใจดี

ออฟไลน์ แมวมุ้งมิ้ง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ฮรือ~ มันก๊าวใจมากค่ะ เอาเวลางานมานั่งอ่านเก้าตอนรวด ชอบมากถึงขนาดต้องล็อกอินมาอวยน้องเรน.. เฮียคะ น้องอุตส่าห์เอาตัวใส่พานมาถวายถึงที่แล้วนะคะ โรลเพลย์กันอีกสักรอบไหม เรื่องนี้คือดีต่อใจมากค่ะ นั่งแอบขำแทบขาดใจกับแต่ละตอน เด็กน้อย (หน้ามึน) มันน่ารักกรุบกริบแบบนี้นี่เอง  :mew3:

ออฟไลน์ singalone

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 381
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-2
หวานอีก ขอหวานกว่าเน้เอกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก  :hao7:

ออฟไลน์ wikichan

  • ชื่อ:Wi! วิ! วิกิ! วิเวียน//วันๆ ไม่ทำอะไรชอบอ่านมังงะและนิยายเป็นชีวิตจิตใจ ชอบผลงานของพี่แพร์ Nigiri_Sushiที่สุดอ่านทุกเรื่องแต่ไม่ได้ซื้อทุกเรื่อง อยากเจอตัวจริงสักครั้งนึงแบบว่านักเขียนในดวงใจ #เพ้อ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
เฮียแสงเริ่มใจดีขึ้นเรื่อยๆ แล้วค่ะ
อยู่กันนานวันไปคงได้เห็นความอ่อนโยนของกันและกันเอง ถึงแม้เฮียของเราจะโคตรปากแข็งและไม่พูดอย่างที่คิดไว้ก็เถอะ
น้องเรนทำคะแนนมัดใจลุงให้ได้นะ พยายามต่อไป เพื่อ....ความสุขความเจริญบันเทิงใจและกาย  555555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ larynx

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 821
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
แหม่ ทำเป็นปากแข็งงงงง หนอยยยยยย

ออฟไลน์ lynn_lynnhui

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :mew4: :mew4: :mew4: ทำไมเราเขินหละ

ออฟไลน์ Indigo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1030/-7
ทวงครั้งที่ 10

   “เช็กครับ”
   “ขอบคุณครับ” ทนายหนุ่มรับกระดาษมา  ทว่าพอก้มมองข้อมูลบนนั้นก็ต้องขมวดคิ้ว “หือ  ทำไมโพสเช็กล่ะครับคุณเดช”
   “เครดิตสามสิบวันไงครับ” ทางนั้นตอบอย่างเรียบเฉย “ทุกที่ที่ผมดีลงานก็แบบนี้นะ”
   “คุณเดช...” แสงคลี่ยิ้มเย็น “ไม่เห็นแจ้งล่วงหน้าเลยนะครับ”
   “อ้าวเหรอ  แหม!  ผมอาจจะลืม  แย่จริงแก่แล้วขี้ลืมตลอด” เจ้าของโรงสีตำหนิตัวเอง “คุณแสงอย่าถือสาเลยนะครับ ฮะ ๆ”
   “ทำแบบนี้ผมลำบากนะครับ”
   “โธ่ คุณแสง  เช็กเนี่ยเลขาของผมเป็นคนออกให้  ไอ้ผมก็เซ็นอย่างเดียวเธอคงหลง ๆ ลืม ๆ ออกไปตามปกติน่ะครับ  ต้องขอโทษด้วยนะ”
   “ไม่เป็นไรครับ”

   หึ  สมเป็นน้องชายหวังฮุบสมบัติพี่ชะมัด  ทำงานกับงูพิษมันก็ต้องโดนแว้งกัดบ้างล่ะ  รอบนี้งับเบา ๆ แสงจะไม่ติดใจเอาความแล้วกัน  สัญยงสัญญาก็ไม่ได้ทำเสียด้วย  บุญแค่ไหนแล้วที่ได้เงินครบ  ขณะเอาเช็กเสียบเข้าแฟ้มก็สาปแช่งให้โรงสีมันลุกเป็นไฟในสามวันแปดวัน
   เจอลูกค้าส้นตีนแบบนี้มาเยอะจนเลิกเอามาใส่ใจ  ใครว่าทำงานกับคนรวยแล้วสบาย  พวกนี้แหละตัวดีเลยเขี้ยวลากดินอย่างกับอะไรดี  แถมยังมีทริกตุกติกขี้โกงสารพัด  จะไปงัดด้วยก็เสียเวลาแค่จำไว้ว่าไม่ต้องติดต่อกันแล้วก็พอ
   “ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวนะครับ”
   “ครับคุณแสง” เศรษฐียกมือรับไหว้ “ถ้ามีเรื่องมีราวผมจะไม่ลืมติดต่อไปแน่นอนครับ ฮ่า ๆ”
   “ครับ  หวังว่าจะได้เจอกันอีก”

   มีแต่คนโง่เท่านั้นแหละที่จะรับงาน...
   อ๊ะ!  แสงชะงักเมื่อนึกมาถึงตรงนี้  สถานปัจจุบันเขาไม่มีสิทธิ์ด่าใครว่าโง่ได้เลยนี่หว่า  พอหวนนึกถึงไอ้เด็กนรกก็กลืนคำด่าลงคอไป  เกรงว่ามันจะย้อนเข้าตัว  ไม่ใช่ว่าเดือนหน้าเขามานั่งคุยกับไอ้คุณเดชเรื่องใหม่นะโว้ย
   นาฬิกาข้อมือบอกเวลาห้าโมงเย็นเหมาะแก่การกลับเสียที  หลังแวะเอาเช็กไปเข้าพร้อมซื้อขนมแสงก็เหยียบมิดหวังจะหนีเวลาเลิกงาน  แน่นอนว่าไม่รอด  ติดแหง็กบนทางด่วนไปอีกคัน  นี่แหละบาปกรรมของคนมีรถส่วนตัว
   แต่จะให้นั่งรถเมล์แบบวันนั้นก็ไม่เอาด้วยหรอก  โดนวิญญาณเด็กตามขี่คอมาเป็นอาทิตย์แล้ว  แค่คิดถึงหน้ามันแสงก็พลันขมวดคิ้วโดยอัตโนมัติ  ลูกน้องเฮียอู๋จะรู้ไหมว่าความแค้นของมันทำนายแสง  เรืองภพผู้ไม่รู้เรื่องรู้ราวต้องมารับกรรม
   ถึงกระนั้นก็แลกมาด้วยข้าวเช้าอร่อย ๆ กับห้องหับสะอาดสะอ้าน  พูดตามตรงก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร  ไอ้เด็กเรนเชื่อฟังกฎระเบียบดี  แถมนอนแข็งเป็นท่อนไม้ไม่ได้ล้ำอาณาเขตเลยสักนิด  คนมองโลกในแง่ดีอย่างแสงก็คิดเสียว่าได้ขี้ข้าไว้ใช้งานก็แล้วกัน
   ล้อหมุนเอื่อยไม่ทันครบรอบก็หยุด  สลับไปมาอยู่อย่างนั้นกว่าจะฝ่าแยกนรกมาได้  ในที่สุดก็ขับมาถึงหน้าคอมมูนิตี้มอลล์จนได้  Citroen C5 จอดแน่นิ่งที่ฝั่งตรงข้ามห้างพอดี  เป็นตำแหน่งพอเหมาะพอเจาะกับร้านอะไหล่ยนต์  ถัดไปอีกคูหาเดียวคือร้านกาแฟที่เคยมีคดีด้วย
   บานพับเหล็กปิดสนิทพร้อมลงกุญแจ ก็แน่ล่ะนี่ปาเข้าไปกี่โมงแล้ว  เย็นขนาดนี้คงมีแต่นเรนทร์ที่มานั่งรอทวงหนี้  นึกแล้วตลกชะมัด  จะมีผู้รับเหมาคนไหนใสซื่อคิดว่ามาเฝ้าเฉย ๆ แล้วเงินจะออกบ้าง?  ไอ้เด็กไร้ประสบการณ์ไม่รู้ลูกล่อลูกชนเป็นแรงงานไม่ต้องใช้สมองนั่นแหละดีแล้ว
   นั่นไงล่ะ  พอนึกถึงก็มา...

   หือ  เดี๋ยวสิ!
   แสงผงะไปเล็กน้อยเมื่อเห็นแผ่นหลังคุ้นตาหายเข้าไปกับฝูงชนตรงป้ายรถเมล์  ด้วยความที่รถติดจึงไม่สามารถตามไปดูอีกครั้งให้หายคาใจได้  คิ้วขมวดลึก และไฟแดงทำให้แสงทรมานกว่าที่เคย
   ถ้าเป็นเรนจริง ๆ มันมาทำอะไรที่นี่  ในถิ่นของเฮียอู๋?



‘ผูกพัน  ถึงไม่ได้รักแบบนั้นแล้วก็ใจหายอยู่ดี’

   ประโยคที่มันพูดในคืนนั้นวาบเข้ามาทันที  นั่นสินะจะมีสาเหตุอะไรที่ต้องมาแถวนี้ทั้งที่หนีตีนตรงหน้าบ้านตัวเองแทบตายถ้าไม่ใช่เพราะความรัก  นี่แหละคนหนุ่มคลั่งรัก  ฮะ ๆ  บ้าชะมัด….
   หนุ่มใหญ่ขยับตัวหยุกหยิกนั่งไม่ติดที่  พร่ำบอกตัวเองว่าไม่ใช่เรื่องของเขา  ปลายนิ้วเคาะพวงมาลัยถี่ขึ้นราวกับทนรอให้ไฟเปลี่ยนสีแทบไม่ไหว  ครู่ใหญ่รถถึงได้ขยับจนมาถึงป้ายรถเมล์  ทว่าแม้จะสอดส่องสายตาอย่างไรก็หาเป้าหมายไม่เจอ  พอคิดว่าเขาคงตาฝาดไปเองก็พลันโล่งอก...

   นั่นสินะ  คนเราจะคลั่งรักก็ต้องมีขอบเขตบ้าง...

   แสงใจเย็นขึ้นจวบจนสามารถหลุดสี่แยกตรงหน้าไปได้  ขณะเลี้ยวเข้าไปยังถนนสองเลนนั้นเองเขาก็เริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติ
   แม่ค้าแผงลอยริมถนนดูวุ่นวาย  ข้าง ๆ กันนั้นมีกองผักเทกระจาดเลอะเทอะ  แสงหรี่ตามอง  ฉากตรงหน้านี้เคยเห็นที่ไหนมาก่อนไม่ใช่เหรอ  ไม่ทันคลายสงสัยเสียงโหวกเหวกด้านนอกก็ลอดกระจกมา
   “คนตีกันอีกแล้ว  เฮ้อ...”
   รองเท้าหนังเผลอบดคันเร่งหนักขึ้น  พาหนะสีเทาทะยานไปด้านหน้าพร้อมกับก้อนเนื้อตรงอกที่เต้นแรง  ราวร้อยเมตรถัดมาก็พบกลุ่มชายสามคน  เป็นลูกน้องเฮียอู๋ไม่ผิดแน่ และข้างหน้านั่น...

   แปล๊บ...  หัวใจบีบตัวรุนแรง  ไอ้เด็กเรนวิ่งอยู่ตรงนั้น  มองไกล ๆ ยังรู้ว่าเนื้อตัวเปรอะเปื้อนเพียงใด  ไม่แน่อาจจะได้รับบาดเจ็บก็ได้  สมองปั่นป่วนยังไม่เท่าอาการร้าวที่อก  แสงสับสนจนไม่รู้จะทำยังไงกับเหตุการณ์ตรงหน้า  นาทีที่ตัดสินใจจะจอดรถตราชั่งด้านเหตุผลก็หล่นตุบลง
   มันไม่ใช่หน้าที่ของเขานี่นา...
   เรนเลือกมาที่นี่เอง  ทั้งที่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็คงเตรียมใจรับผลไว้แล้ว  ตัวแสงเองก็ทำงานให้เฮียใหญ่อยู่  หากลูกน้องเฮียอู๋จำทะเบียนรถแล้วสืบจนรู้เรื่องเข้าเกรงว่าเรื่องจะไม่จบง่าย ๆ  วงการนี้เกลียดการถูกหักหน้ายิ่งกว่าอะไรดี
   จังหวะที่รถเลยผ่านเรนทร์เขาเผลอมองตรงกระจกหลัง  ใบหน้าที่คุ้นเคยบิดเบี้ยวราวจะขาดใจ  แววตาว่างเปล่า และสองขาที่ก้าวไม่หยุด  นี่แหละภาพของหมาจนตรอกที่แสงเห็นจนชินตา และครั้งนี้ก็คงไม่ต่างกัน

   ตราชั่งด้านเหตุผลหนักอึ้งจนงัดไม่ขึ้น
   เขาทำถูกที่สุดแล้ว...

...........................................
.........................
............
.......


   “แฮ่ก ๆ”
   “คิดว่าจะหนีพ้นเหรอไอ้เรน!”

   เสียงคำรามด้านหลังเกรี้ยวกราดเหมือนจะฆ่าให้ตาย  นเรนทร์ไม่เข้าใจเลยว่าไอ้กิจมันจะแค้นฝังหุ่นอะไรนักหนา  กับเพื่อนที่แย่งแฟนมันเรนยังไม่ได้ติดต่อเป็นชาติแล้ว  ดีไม่ดีเดินสวนกันจะทักไม่ถูกด้วยซ้ำไป แต่ไอ้กิจกลับจำแม่นดูท่าจะเป็นพวกรักจริงหวังแต่งแฮะ  อา...ซาบซึ้งกับความรักชะมัด
   ล้มแผงผัก  เทกระจาดส้ม  เกี่ยวรถขายหวย  ทั้งหมดนั่นคือความฉิบหายที่นเรนทร์ทิ้งไว้รายทาง  ผู้คนก่นด่าสาปแช่งทว่าเขาไม่อาจอยู่ฟังจนจบประโยค  ป่านนี้พ่อบนสวรรค์คงจามจนสมองหลุดทางรูจมูกแล้วล่ะ
   เขาวิ่งเหมือนคนบ้า  ไม่รู้จุดหมายปลายทาง  ถนนเส้นนี้เป็นทางตรงหากเข้าซอยจะเจอทางตันอย่างแน่นอน  เรนทำได้แค่วิ่งไปด้านหน้าจนกว่าจะเจอทางแยก หรือจนกว่าจะหมดแรงโดนกระทืบให้ไอ้กิจพอใจแล้วกลับบ้านนอน
   ไหล่ซ้ายปวดหน่วง ๆ หวังว่าจะไม่ถึงขั้นหลุด  เขาได้มันมาตอนโดนถีบล้มกลิ้งในจังหวะแรก  ส่วนข้อศอกขวาน่าจะช่วงที่พลิกตัวหลบเท้าแล้วพลาด  แล้วก็เท้าซ้ายน่าจะตอน....อา...ตอนไหนกันนะ?

   “มันวิ่งช้าลงแล้ว  พวกมึงก็จับมันให้ได้สิวะ”
   “ครับลูกพี่”

ไม่ไหวเลยไอ้กิจ  ทำไมไม่วิ่งเองวะมาใช้ลูกน้องแก้แค้นแทนอีก  นเรนทร์จำจังหวะการโจมตีของมันได้แม่นยำ  ไอ้พวกนี้ชอบหลอกให้เขาวิ่งไปเรื่อย ๆ พอเริ่มหมดแรงระยะห่างน้อยลงลูกน้องคนหลังสุดที่วิ่งออมแรงมาตลอดจะเป็นคนกระโจนผลักให้เขาล้ม  แล้วจากนั้นก็นั่นแหละ....รุมยำจนสาแก่ใจ  มันวางแพทเทิ้ลการทวงหนี้มาดีสมเป็นมืออาชีพ  เฮียอู๋คงปลื้มใจแย่เลย  ไม่เหมือนเฮียแสง

เฮียแสง...

อา  ป่านนี้คงถึงห้องแล้วมั้ง  รถ Citroen C5 หายลับตาไปหลายนาทีแล้ว  รถก็ไม่ได้ติดอะไร  ถ้าเรนได้กลับไปคงจะหน้าหงิกออกมาเปิดประตูพร้อมคาบบุหรี่ไฟฟ้าในปาก  ทั้งที่บอกจะเลิกแท้ ๆ ดันสูบบ่อยเท่าเดิมเลย
ถ้ารอดไปได้น่ะนะ...  เรนรู้ว่าไอ้กิจมันไม่เล่นลูกหนี้ถึงตายหรอก  ทำไปก็เพื่อความสะใจทั้งนั้น แต่เขาเองคงหมดแรงจะไปที่ไหนต่อแล้ว  สงสัยเหมือนกันว่าเราจะวิ่งหนีไปทำไมทั้งที่จุดจบก็เหมือนเดิมแทบทุกครั้ง  บางทีมนุษย์ก็ทำอะไรโดยไม่ทันคิด  เป็นปฏิกิริยาตอบสนองอัตโนมัติที่โง่เง่าสิ้นดี
เพราะแบบนี้ไงเฮียแสงถึงได้ด่าว่าโง่ แต่จะให้คิดตอนนี้กลิ่นเลือดที่ปลายจมูกก็คละคลุ้งจนสมองตื้อไปหมด  เรี่ยวแรงเริ่มหดหายไม่ต่างจากระยะห่างระหว่างไอ้พวกนั้น  นับถอยหลังสิ....ไม่กี่วินาทีเขาจะถูกตะครุบล้มคว่ำอีกครั้ง

ไม่รู้ทำไมตอนนั้นเรนคิดถึงแสงขึ้นมา...

คงเพราะเพิ่งเห็นรถผ่านไปล่ะมั้ง  จะอะไรก็ช่าง  เขาอาจจะแค่ชื่นชมการใช้สมองและเหตุผลของเฮียที่ตัดสินใจทำแบบนี้  ทั้งที่คิดว่าเป็นแบบนั้น แต่ทำไมอกซ้ายถึงได้ปวดหนึบขึ้นมานะ? หรือจะเป็นผลของการใช้กล้ามเนื้อมากเกินไป  ใช่แน่ ๆ จะเป็นเรื่องอื่นไปได้ยังไงล่ะ


ถ้าไม่คาดหวังแต่แรกก็จะไม่เจ็บปวด...

เรนยึดถือคำสอนข้อนี้มาโดยตลอด  ทั้งที่เป็นแบบนั้นทำไมถึงได้แสบร้อนที่หน่วยตาแบบนี้..

ฮะ ๆ  หวังอะไรกันนะไอ้เรน


   ตุบ ๆ  ฝีเท้าด้านหลังใกล้เข้ามาทุกที  พร้อมเสียงก่นด่าโวยวาย  ภาพตรงหน้าเริ่มเลือนราง  หนังเรื่องนี้กำลังจะจบในไม่ช้าเมื่อกระเบื้องแผ่นด้านหลังของเรนถูกเหยียบย่ำ  จังหวะนั้นชายหนุ่มเผลอปิดเปลือกตาลงราวกับจำนนต่อโชคชะตา...






   เอี๊ยดดดดด!

   ยานพาหนะปริศนาเสียดยางลงกับถนนพุ่งเข้ามาเทียบข้างฟุตปาธ  ท่ามกลางความสับสนวุ่นวายบานประตูถูกกระชากออกพร้อมกับเสียงตะโกน

   “ขึ้นมาเร็ว!”

   นเรนทร์อ้าปากค้าง  เจ้าชายขี่ม้าขาวสวมสูทเรียบกริ๊บพร้อมอาชาสีเทาเงางาม  สง่างามตามแบบเทพนิยาย และเมื่อไล่สายตาขึ้นไปด้านบนเพื่อชมพระพักตร์คุณก็จะได้พบกับ....



   ถุงกระดาษ...

   “เอ่อ...”
   “ยังจะชักช้าอีก  ขึ้นมาสิวะ!”

   ไม่ใช่ถุงกระดาษธรรมดานะ  เจาะสองรูที่ดวงตาด้วย....

   “ผม...” เรนหันไปมองหน้าไอ้กิจและคณะที่อ้าปากค้างไม่ต่างกันราวกับจะขออนุญาตว่า ‘กูขอขึ้นรถได้ไหม’
   มนุษย์ถุงกระดาษสบถ  งุ่นง่านจนเผลอตบพวงมาลัยระบายอารมณ์พร้อมเอ่ยคำสั่ง “เรน!  ขึ้นรถ”
   “คะ...ครับ!”

   ผลุบ!  เพราะมัวแต่ตะลึงพรึงเพริดเจ้าเหยื่ออันโอชะเลยหลุดมือพุ่งเข้ารถไปแล้ว  ไม่ทันจะแก้ตัวประตูก็ปิดปังพร้อมกับอาชาที่ควบหายไปกับสายลมท่ามกลางเสียงตะโกนด่าทอตามหลัง

   “ฝากไว้ก่อนเถอะไอ้เรน!  ไอ้โง่เอ๊ย! ทำไมแกไม่จับมันไว้วะ”
   “ละ...ลูกพี่  ไอ้นั่นมัน...ถุงกระดาษ”
   “เออ!  กูรู้!”
   “มันปิดป้ายทะเบียนด้วยอะพี่”

   นเรนทร์ไม่ได้ยินอะไรอีกต่อไปเพราะพวกเขาทิ้งห่างแก๊งเฮียอู๋มาไกลแล้ว  ชายหนุ่มหอบหายใจสูดเอาอากาศเข้าไปจนแทบหมดรถ  กว่าจะปรับลมหายใจเป็นปกติได้ก็เป็นนาทีอยู่  เขายกมือขยี้คราบเลือดที่ปลายจมูกโชคดีที่มันแห้งกรังไปหมดแล้ว
   “ทิชชูอยู่หลังรถ” ชายถุงกระดาษพูด  เรนพยักหน้าก่อนจะเอี้ยวตัวไปคว้ากล่องทิชชูมา  ไม่รอช้าที่จะแกะคราบเลือดห่อลงกระดาษชำระ
   “เฮีย...เอ่อ...” ผู้โดยสารลังเลเล็กน้อย  พยายามมองลอดรูบนถุงเพื่อให้เห็นดวงตาเหมือนเหยี่ยวคู่นั้น “ไม่ถอดหน้ากากเหรอครับ”
   “รอพ้นแยกนี้ก่อน”

   ขวับ!  พวงมาลัยหักเลี้ยวในท้ายที่สุด  ก่อนคนขับจะดึงเอาถุงที่ครอบหัวออก  เส้นผมสีดำยุ่งเหยิงแถมยังมีเหงื่อออกที่ขมับ  แสงเช็ดเหงื่อลวก ๆ  กลิ่นเนยจากถุงกระดาษยังอวลอยู่ในจมูกไม่หายเล่นเอามึนหัวไปเหมือนกัน
   จากจุดนี้ก็ไม่มีทางแยกแล้ว  เท่ากับว่าไม่มีกล้องวงจรปิด  แสงจึงยอมปลดหน้ากากโง่เง่าออกซะ  ดวงตาจ้องมองไปยังถนนราวกับตัดทุกสิ่งรอบตัวออกไป  แน่นอนว่ารวมไปถึงผู้โดยสารด้วย

   “ขอบคุณนะครับเฮีย  เฮ้อ~” เรนถอนหายใจ “นึกว่าจะไม่รอดแล้ว”
   “อืม”
   “ตกใจแทบแย่แหนะ  ไม่คิดว่าเฮียจะมีรสนิยมสายหน้ากากแบบนี้ด้วย” เด็กแสบบุ้ยปากไปยังถุงบนพื้นพลางกระเซ้า “นึกว่ามีแต่ในหนังโป๊เสียอีก ฮ่า ๆ ๆ”
   “.....”
   เห็นแสงยังเงียบนเรนทร์ก็ไม่ทันฉุกใจคิด  มัวแต่เหย้าแหย่ไม่เลิก “รอบหน้าจะทำแบบใส่หน้ากากก็ได้นะ”
   “......”
   แสงยังเงียบอยู่  เรนจึงสัมผัสได้ถึงความผิดปกติ “เฮีย...”
   “…...”
   “เฮียครับ”
   “อะไร”
   “โกรธผมเหรอ”
   “ไม่ได้โกรธ”

   โกรธอยู่ชัด ๆ เลยไม่ใช่เหรอ
   ได้แต่คิดไม่กล้าถามออกไป  เด็กไร้สัมมาคารวะเหลือบมองแสงเงียบ ๆ  ใบหน้าเขม็งเกร็งจนเห็นรอยลึกตรงหัวคิ้ว  ริมฝีปากเม้มเป็นเส้นตรง  ไหนจะดวงตาดุดันที่มองไปยังถนนเสแสร้งตั้งใจจนผิดปกติ

   “ขอโทษครับ” คนผิดเอ่ยชัดถ้อยชัดคำ “ถ้าผมพูดเล่นอะไรลามปามเฮีย  ขอโทษจริง ๆ ครับ”
   “ไม่ใช่...”

   ไม่ใช่เรื่องนั้นสักหน่อย…
   แสงกลืนประโยคที่เหลือลงคอ  ปล่อยให้ความเงียบครอบงำอีกครั้ง  บรรยากาศน่าอึดอัดราวกับไม่มีอากาศหายใจ  ขนาดนเรนทร์ที่หายหอบแล้วยังกลับมาหายใจตื้นอีกครั้ง
   ดวงไฟหน้ารถฉายภาพคอนโดอันคุ้นตา  แสงตบพวงมาลัยเลี้ยวเข้าลานจอดรถโดยไม่รอช้า  ที่นี่เป็นระบบล็อกที่จอดในแต่ละห้องจึงสะดวกสบายไม่ต้องวนหาที่ว่างแลกกับค่าเช่าที่โหดเอาเรื่อง  ล้อหมุนถอยหลังก่อนรถจะจอดนิ่งสนิทในซองของตัวเอง
   หนุ่มใหญ่ปลดเข็มขัดนิรภัยออก และนั่นเป็นเสียงแรกที่เกิดขึ้นในห้องโดยสารตลอดเส้นทางสั้น ๆ  แสงไม่ได้หันไปมองว่าอีกฝ่ายทำอย่างไร  โตขนาดนี้แล้วคงไม่ต้องถึงกับรอคนไปปลดเบลท์ให้หรอกมั้ง  มือกระชากประตูออกก่อนจะออกเดินนำโดยทิ้งระยะห่างเล็กน้อย  รอจนได้ยินเสียงปิดประตูจากนเรนทร์จึงกดรีโมตล็อก
   ลานจอดรถร้างสิ่งมีชีวิตดูน่ากลัวไม่น้อย  ดึกดื่นขนาดนี้รถแน่นเต็มลาน  เพื่อนร่วมคอนโดคงกลับมาพักผ่อนกันแล้วมั้ง  แสงก็เองควร...

   “เดี๋ยวก่อนครับ!” เสียงเรียกจากด้านหลังไม่ได้ทำให้แสงหยุดชะงัก  รังแต่จะเพิ่มความเร็วในการก้าวขา  ทว่าเหมือนเขาจะลืมอะไรบางอย่างไป  นเรนทร์ไม่ใช่พวกอ่อนปวกเปียก  เขาคือชายสูงห้าเกือบหกฟุตเแถมยังมีกล้ามเนื้อแข็งแรง  กะอีแค่วิ่งตามมาประชิดไม่ใช่เรื่องยากเลย
   “เฮีย!  เฮียครับ” เรนเว้าวอน “หยุดก่อนสิครับ”

   กึก  คนแก่กว่าชะงักไป  ชายหนุ่มจ้องมองเสี้ยวหน้าของแสง  แม้จะไม่ยอมหันมาสบตาด้วย แต่แค่หยุดฟังก็ดีมากแล้ว
   ในอกกระวนกระวายที่เห็นเฮียแสงโกรธขนาดนี้  ใช่ว่าเขาไม่เคยเห็นชายคนนี้โกรธ  วันที่รู้ว่าโดนเรนต้มจนเปื่อยแสงก็หงุดหงิดกระทืบเท้าออกห้องไป  จะดุด่า  ตบตี  ทำร้ายร่างกายหรือข้าวของก็ได้ แต่ขอร้องล่ะอย่าเงียบไปอย่างนี้เลย

   “เฮียก็รู้ว่าผมมันโง่”

   แขนที่เอื้อมไปหมายจะดึงรั้งชะงักอยู่กลางอากาศ  ก่อนจะปล่อยตกลงข้างลำตัวด้วยเกรงใจ  หากสัมผัสตอนนี้อาจจะถูกเกลียดมากกว่าเดิมก็ได้  ไม่เอาด้วยหรอก...

   “อย่างน้อยก็บอกได้ไหมว่าโกรธผมเรื่องอะไร”

   แสงชะงัก...   
   ฉันก็ไม่รู้....  ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าโกรธอะไรอยู่

ทำไมต้องกระวนกระวาย  ร้อนรุ่มในอกถึงเพียงนี้  ดวงตาดุตวัดมองชายด้านหลังให้เต็มตา  เป็นเพราะนเรนทร์งั้นเหรอ?  เพราะไอ้เด็กเนื้อตัวมอมแมมนี่เหรอที่ทำให้เขารู้สึกแบบนี้
   ผิวสีแทนยังดูสกปรกขึ้นได้อีกจากฝุ่นผงบนพื้น  คงล้มลุกคลุกคลานมาสิท่า  เพิ่งสังเกตว่าข้อศอกขวามีแผลถลอกเลือดซิบ  วันนี้มันใส่เสื้อกล้ามเลยเห็นรอยช้ำที่หัวไหล่ซ้าย  อ้อ...เท้าซ้ายด้วยสินะ  บาดแผลแห่งรักมันคงจะหอมหวานน่าดู
   ใช่...บาดแผลแห่งรัก
   ขอแค่ได้เห็นหน้าเธอคนนั้นจะถูกทำร้ายยังไงก็ยอม  โง่...โง่จนเกินเยียวยา  หากนเรนทร์รู้จักรักตัวเองเพียงสักนิดคงไม่ทำอะไรแบบนี้  ถึงจะมั่นใจว่าทางนั้นไม่เอาถึงตายแต่มันใช่เรื่องที่ต้องเข้าไปเสี่ยงเหรอ  เคยคิดหรือเปล่าว่าร่างกายตัวเองจะเป็นยังไง...
   อา...  โง่  โง่  โง่!  โง่จนน่าหงุดหงิด
แล้วแสงล่ะ...  เขาเป็นอะไรทำไมต้องต้องโกรธมันด้วย...

   “เฮีย....”

   เพราะทางนั้นนิ่งไปนานเรนจึงเป็นฝ่ายขยับเข้าไปใกล้  ดวงตาหลุบมองพื้น  เห็นเพียงปลายรองเท้ามันปลาบของแสง  หลังจากใช้เวลาใคร่ครวญแล้วเรนก็พบคำตอบ  เขาเอ่ยคำเดิมอย่างไม่รู้เบื่อ....

   “ผมขอโทษ”

ขอแค่อย่าเฉยชาใส่อย่างนี้จะให้เรนทำอะไรก็ยอม....





   “ที่ซื้อกะเพราไข่เยี่ยวม้ากลับมาไม่ได้...”
   “หา!?” คนตีหน้าขรึมถึงกับชะงัก  อยากจะยกมือแคะหูให้มั่นใจ “ว่ายังไงนะ?”
   “ก็ไอ้กิจมันดันโผล่มาพอดีอะ!” นอกจากไม่ย้อนความแล้วยังไม่ต่อแบบไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม  สมแล้วที่มันตกวิชาภาษาไทย “ป้าเขาผัดแล้วนะ  ผมยังจามกลิ่นพริกอยู่เลย แต่ไอ้ห่านั่นโผล่มาปุ๊บเตะเก้าอี้โชว์เลย  ผมเลยต้องเผ่นแน่บ”
   “แกว่า...”
   เพราะกลัวเฮียแสงไม่ยอมฟังเหตุผลไอ้เรนจึงรัวต่ออีกชุด “โชคดีที่ยังไม่ได้จ่ายเงินไม่งั้นเสียฟรีเลย แต่อีแบบนี้ป้าต้องขึ้นแบล็กลิสผมแน่ ๆ  ผัดเก้อแถมเก้าอี้ยังพังไปตัวหนึ่ง  ลูกค้าวิ่งกันกระเจิดกระเจิง  รอบหน้าถ้าโผล่หัวไปอีก----”
   “หยุด! สต๊อป! เงียบ!” แสงออกคำสั่งแบบเดียวกันถึงสามรอบเพื่อสงบสติอารมณ์  เขาจ้องดวงตาที่เบิกกว้างของไอ้เด็กซ่ง “แกจะบอกว่า...ไปที่นั่นเพราะซื้อข้าวให้ฉัน”

   หงึก ๆ  ผมสีทองขยับขึ้นลง
   เรนเอียงคอพลางขมวดคิ้ว “แล้วไม่ใช่เหรอครับ”

   อา...เป็นไอ้บ้าโดยเนื้อแท้เลย...
   ผลุบ!  ฉับพลันร่างสูงก็ทรุดลงฮวบลงไปนั่งยอง ๆ บนพื้น  บรรยากาศอันน่าอึดอัดถูกปัดเป่าไปเสียสิ้น  ไม่ต่างจากอกรุ่มร้อนที่ได้รับน้ำเย็นสาดรด  และเมื่อความเครียดที่ทำให้ใช้กล้ามเนื้ออย่างหนักหายไปสังขารที่แท้จริงก็ปรากฏ
   “เฮ้อ~” แสงพ่นลมหายใจ
   “เฮียเป็นอะไรหรือเปล่า” อยู่ ๆ คนแก่ก็ทรุด  ไม่ตกใจก็บ้าแล้ว “หน้ามืดเหรอ  ให้ผมอุ้มขึ้นไปไหม”
   “ไม่ต้อง” ทางนั้นดุกลับ  แถมซบใบหน้าซ่อนไว้กับแขนเสื้อ “แค่เหนื่อยนิดหน่อย”
   “ผมว่า....”
   “เรน...” น้ำเสียงนั้นเจือความรู้สึกบางอย่าง  เรนไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่ไม่มีครั้งไหนที่เฮียแสงเรียกชื่อเขาอย่างอ่อนโยนเท่านี้ “แกแหกกฎทุกอย่างที่พยายามหนีตีนเพื่อข้าวกล่องเดียวเนี่ยนะ”
   “ก็เฮียบอกว่าอร่อย...”
   เฮ้อ....  จะด่ายังเหนื่อยหน่ายเลย  หนุ่มใหญ่พ่นลมหายใจออกอีกครั้งก่อนจะยันตัวเองขึ้นมา  แผ่นหลังกว้างตั้งตระหง่าน  สง่างามจนลืมภาพตาลุงหัวร้อนเมื่อครู่ไปได้เลย
   ว่ากันตามตรงแสงยังหาคำตอบให้กับตัวเองไม่ได้ แต่เขาเลือกที่จะทิ้งเหตุและผลไปก่อน  ทำอย่างที่ใจปรารถนาโดยไม่สนผลที่ตามมา  บางทีคนเราก็เป็นแบบนั้นไม่ใช่เหรอ
   ขายาวก้าวเข้ามาใกล้  หลุบตาลงเล็กน้อยเพื่อมองใบหน้าของอีกฝ่ายให้เต็มตา  เจ้าจิ้งจอกหลบตาวูบก่อนจะเหลือบขึ้นสบใหม่อีกครั้ง  ทำหน้าเหมือนกลัวโดนเขาทุบตีอย่างนั้นแหละ  อีกะแค่นี้จะกลัวอะไร  แกอัดคลิปแบล็กเมล์ฉันนะ  เผื่อว่าจะลืมไปแล้ว
ให้ตายเถอะ….

   ตุบ  แรงจากกำปั้นแปรเปลี่ยนเป็นฝ่ามืออุ่นซ่านที่แนบลงมาบนศีรษะ

   “ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว”
   น้ำเสียงแหบทว่าเจือความอ่อนโยนค่อย ๆ กลืนกินประสาทสัมผัสของชายหนุ่ม  ราวกับในอกมีบางอย่างฟูฟ่องอัดแน่นเต็มพื้นที่  นเรนทร์ถึงได้หายใจติดขัดเช่นนี้
   คำตอบลอยเด่นชัดอยู่ตรงหน้า
   ใช่แล้ว...หากตัดองค์ประกอบอันวุ่นวายออกมันไม่ได้ยากเลยสักนิด  ทำไมเรนต้องกลัวจะถูกเกลียด  ทำไมต้องคาดหวังว่าเฮียจะมาช่วย  ทั้งที่หนีพวกไอ้กิจแทบตาย แต่กลับยอมเสี่ยงเข้าไปถึงถิ่นมันเพื่อข้าวร้านที่เฮียบอกว่าชอบ
   ชายหนุ่มไถศีรษะเข้าหาฝ่ามือกร้าน  สัมผัสนั้นอุ่นร้อนไม่ต่างจากอกในเวลานี้เลย...

   “ใครว่าไม่เป็นอะไรล่ะ  ผมน่วมไปทั้งตัวเลยนะเฮีย”
“ฮะ ๆ  โง่เอ๊ย!”

อ๊ะ!  ยิ้มแล้ว
หัวใจกระตุกวูบ  เรนรู้จักสิ่งนี้...ทำเรื่องบ้า ๆ แลกกับรอยยิ้มเพียงไม่กี่วินาที...







แย่ล่ะ...เขาชอบเฮียแสงเข้าซะแล้ว


TBC

สิบตอนแล้ว....  เขาชอบกันแล้วค่ะแม่//ปาดน้ำตา
น้องเรนเด็กใสซื่อตกหลุมพรางตาเฒ่าเสียแล้ว  ก็นะคะ....อาแสงพระเอกซีรีส์ซะขนาดนั้น  ไม่หลงได้ไง
พออ่านทวนแล้วเป็นตอนที่มีคำว่าโง่เยอะมากเลยค่ะ  ไม่รู้อาเก็บกดมาจากไหน 5555555
สักวันอาต้องพูด รักนะเด็กโง่ นะคะ คอยดูวววววว #ทีมเรน
เจอกันตอนหน้าค่า//กอดๆ

ปล.สุขสันต์วันตรุษจีนด้วยนะคะ  ขอให้เฮง เฮง เฮงตลอดปีค่า <3

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
ก๊าวใจมาก

รู้สึกอยากพุ่งตัวไปซบอกเฮีย

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ 2pmui

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-6
นี่มันแมวป่วนๆ ไม่ใช่จิ้งจอกแล้วเฮีย น่ากลัวกว่าจิ้งจอกอีกกก
วันนึงพอเรารักมัน มันจะกลายร่างเป็นเจ้านายเราไง
หลักฐานก็ตอนนี้ไง เฮียหึงเด็ก คิดว่าเด็กไปเฝ้าหญิง
เฮียตกหลุมพลางแล้ว  เผลอเก็บมาเลี้ยงแล้วก็ต้องเลี้ยงต่อไปแล้วละลุง
น้องเรนน่าเอ็นดู อยากจับไปอาบน้ำ แล้วฟัดๆๆ  :man1:

ออฟไลน์ winndy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
ขำตอนเปิดรถ แล้วเจอหน้ากากถุงกระดาษ พวกที่ตามรุมเหยียบยังอึ้งเลย

ออฟไลน์ em1979

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 464
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
เฮียแสงสุดยอด มนุษย์ถุง เท่เฉียบขาดบาดใจมาก 55555

ออฟไลน์ larynx

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 821
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
ขำตอนเปิดรถมาเจอถุงกระดาษเนี่ยแหละ อาแสงเป็นคนที่คูลมากๆ 555555555555555555 โอ้ยยย เขาชอบกันแล้วค่ะ เหลืออาแสงว่าจะรู้ตัวไหมนะ ว๊ายยย เขิน

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด