《ใจยักษ์❤[เมฆ-เก่ง]:ตอนที่1❤[25/03/61]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: 《ใจยักษ์❤[เมฆ-เก่ง]:ตอนที่1❤[25/03/61]  (อ่าน 258397 ครั้ง)

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 20♡ ++100%++[27/3/60]
«ตอบ #390 เมื่อ27-03-2017 21:06:56 »

 :L2: :pig4:

ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3
Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 20♡ ++100%++[27/3/60]
«ตอบ #391 เมื่อ27-03-2017 21:21:23 »

อยากให้ถึงวันพฤ นี่อยากอ่านต่อ
นี่ติดนะคะ
สงสัย
และเฟลมาก
เจ็บกับความรู้สึกของรัน
กลัวใจ ทั้งรัน แล้วก็ทศ
น้องรันจะเจ็บอีกแค่ไหน
ทศ จะเข้าใจอะไรบ้างไม๊
ต่างคนจะต้องเสียอะไรไปแค่ไหน ถึงจะผ่านเรื่องราวต่างๆไปได้
เอาจิงๆนะ  อินสุดๆ เจ็บอะ ยิ่งอ่านยิ่งเจ๋บ

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4982
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 20♡ ++100%++[27/3/60]
«ตอบ #392 เมื่อ27-03-2017 21:28:01 »

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 20♡ ++100%++[27/3/60]
«ตอบ #393 เมื่อ28-03-2017 01:59:22 »

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ itsgonnabeme

  • It's me, not you.
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 263
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 20♡ ++100%++[27/3/60]
«ตอบ #394 เมื่อ28-03-2017 07:17:59 »

น้องรันต์เคยทำอะไรไว้ในอดีตอ่ะก็พอเดาได้

แต่ที่เดาไม่ได้คือไม่รู้เค้าจะรักกันแบบไหน
ใครจะเป็นฝ่ายลดอีโก้ลง จะปากแข็งนานไหม

ทั้งพี่ทศทั้งน้องรันต์พอกันทั้งคู่เลยฮือออออ

ออฟไลน์ PKT

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 20♡ ++100%++[27/3/60]
«ตอบ #395 เมื่อ28-03-2017 15:36:01 »

รอครัชชช

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 20♡ ++100%++[27/3/60]
«ตอบ #396 เมื่อ29-03-2017 01:17:02 »

จะรออ่านตอนต่อไปนะคะ

ออฟไลน์ MissMay

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 20♡ ++100%++[27/3/60]
«ตอบ #397 เมื่อ29-03-2017 09:10:29 »

รอพี่ทศ น้องรันต์  :ling1: สนุกมากกกก อ่านรวดเดียวเลยค่ะ

ออฟไลน์ YINGPREM

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 131
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1
แจ้งเรื่องสำคัญ


สวัสดีค่ะทุกคน ก่อนอื่นเลยเปรมต้องขอโทษนะคะที่ไม่สามารถมาตามนัดได้ หลังจากที่กลับมาจากงานวันเกิดพี่วันต่อมาเปรมก็ป่วยหนักเลย พึ่งจะดีขึ้นเมื่อวันศุกร์ แต่ก็มีข่าวร้ายที่เปรมไม่อยากจะให้เกิดขึ้น คุณยายเปรมป่วยถึงขั้นต้องเข้าโรงพยาบาล เปรมต้องรีบกลับบ้านไปดูแล ซึ่งอาการของคุณยายเปรมยังไม่ดีขึ้น เปรมเป็นกังวลใจเป็นอย่างมาก การอัพนิยายเรื่องใจยักษ์จึงต้องขอหยุดไปสักพัก ตัวเปรมเองก็ไม่สามารถรับปากได้ว่าจะมาต่อได้ตอนไหน ซึ่งนักอ่านบางคนก็คงจะรำคาญที่เปรมนั้นข้ออ้างเยอะเหลือเกิน เปรมไม่แก้ตัว แค่มาบอกให้รับรู้เหตุผลแค่นั้นจะไม่ตามต่อก็ได้เปรมไม่โกรธ ไม่มีใครที่จะแช่งให้คนที่ตัวเองรักเป็นอะไรไปหรอกนะคะ ขอบคุณทุกคนมากๆที่ติดตามนิยายเรื่องใจยักษ์ เปรมรักเรื่องนี้จริงๆ อ่านทุกๆคอมเม้นท์ ดีใจมากๆที่มีคนติดตาม ได้แต่หวังว่าทุกอย่างจะดีขึ้นโดยเร็ว


รัก…YINGPREM
  :pig4: :กอด1:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ไรท์ ไปดูแลคุณยายอย่างสบายใจเถอะ
ดูแลสุขภาพไรท์ ออกกำลังกายด้วยนะ
ขอให้คุณยายหายป่วยไวๆ
และขอให้สุขภาพไรท์แข็งแรงดีด้วย
เรื่องงานเขียน สบายใจแล้วค่อยมาเขียน
คนอ่าน ยังติดตามต่อ
ก็เรื่องสนุก ไม่ตามได้อย่างไร
ขอบคุณไรท์ แวะมาส่งข่าว
        :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Laliat

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 253
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0

ออฟไลน์ PharS

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
สู้ๆนะคะะะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ  :L2: :3123:

ออฟไลน์ mook0007

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 159
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
ขอให้คุณยายหายเร็วๆนะคะ

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4982
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ itsgonnabeme

  • It's me, not you.
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 263
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
ไม่ต้องคิดมากเรื่องนี้นะน้องเปรม
ไปทำหน้าที่ของหนูให้เต็มที่

ทางนี้รอได้อยู่แล้ว

ส่งกำลังใจไปให้น้องเปรมและครอบครัวค่ะ :))

ออฟไลน์ me12inzy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
,ขอให้คุณยายหายไวๆนะคะ :กอด1:

ออฟไลน์ patsakon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 236
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-2

ออฟไลน์ Fonz_Juz19

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เป็นกำลังใจให้นะคะ ขอให้คุณยายหายไวๆด้วยค่ะ
รอได้เสมอ มาเมื่อไหร่ก็พร้อมอ่านเสมอนะคะ สู้ๆค่ะ

ออฟไลน์ YINGPREM

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 131
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1
Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 21♡P.14[22/4/60]
«ตอบ #408 เมื่อ22-04-2017 17:22:43 »

ใจยักษ์ 21


“อ้าวรันต์ มาทำอะไรที่นี่เนี่ย ไม่ไปดูคณะเราแข่งบาสรอบชิงฯ หรอ” ผมเงยหน้าขึ้นจากวรรณกรรมแปลที่กำลังอ่านเพลินๆ เจอหญิงและกิ่งเพื่อนสาขายืนอยู่ข้างๆโต๊ะที่ผมกำลังนั่งอยู่

“เอ่อ...ไม่ดีกว่า คงมีคนไปเชียร์เยอะแล้ว ขาดเราไปคนเดียวคงไม่เป็นไร” ผมส่ายหน้าบอกกับสองสาวยิ้มๆ ความจริงแล้วผมขี้เกียจเองน่ะ วันนี้มีแข่งบาสตัดสินรอบชิงชนะเลิศระหว่างคณะเศรษฐศาสตร์และคณะสถาปัตย์ฯ แชมป์เก่า  ตอนแรกเมฆมันก็คะยั้นคะยอให้ผมไปดูด้วยกันนั่นแหละ แต่ผมก็ยังยืนยันคำเดิมว่าไม่ เมฆจึงยอมและไม่ได้เซ้าซี้อะไรผมอีก ตอนนี้ผมเลยมานั่งอ่านหนังสืออยู่ในร้านกาแฟเล็กๆ ไม่ใกล้ไม่ไกลจากโรงยิมที่กำลังมีการแข่งขัน

“อ่า...งั้นหรอ ถ้าอย่างนั้นพวกเราไม่กวนรันต์แล้ว บายจ้ะ” กิ่งพูดพร้อมรอยยิ้มเจื่อนก่อนจะเอ่ยลา ผมยิ้มให้พวกเธอเล็กๆ แล้วก้มลงไปไล่สายตาอ่านตัวหนังสือในมือต่อเป็นการตัดบทลากลายๆ  ไม่นานก็ได้ยินเสียงฝีเท้าห่างออกไป ผมรู้ดีว่าการกระทำของผมเป็นการเสียมารยาทต่อพวกเธอขนาดไหน  แต่ว่าเป็นแบบนี้ก็ดีแล้ว ผมรักษาระยะห่างความสัมพันธ์กับทุกคนแบบนี้เสมอ  แม้ช่วงนี้มีพูดมากกว่าปกติก็คือเก่งกับอ๋องเพราะเมฆสนิทกับพวกเขา แต่นอกเหนือจากนั้นผมก็ไม่พูดมากเกินความจำเป็น  ถึงอย่างนั้นก็มีตัวป่วนโผล่เข้ามาในชีวิตเรื่อยๆ อย่างนัอยตอนนี้ก็เพิ่มมาอีกสี่คนล่ะนะ -_-

Rrrr  Rrrr  Rrrr

“อือ ว่าไง” ส่งเสียงถึงปลายสาย ตายยากจริงๆ พูดถึงก็โทรมาเลย

(อยู่ไหนวะ) เสียงเมฆตะโกนดังแข่งกับเสียงเซ็งแซ่รอบๆ กายเขา

“ก็ที่เดิมอ่ะแหละ  ผลเป็นไงบ้างล่ะ”

(ก็สูสี เหลือควอเตอร์สุดท้ายกำลังจะแข่งนี่แหละ)

“อ่าฮะ แล้วโทรมามี’ไร” ถามเขาเสียงเนือย สายตาก็กวาดไล่อ่านตัวหนังสือในมือต่อ

(ก็ไม่มีอะไร กลัวมึงจะเบื่อ ชวนมาก็ไม่มา) เมฆบ่นหงุงหงิงในลำคอ

“กูไม่เบื่อหรอกน่า”

(เออ เป็นอย่างนั้นก็ดีไป ก่อนแข่งพี่สมิธก็เดินมาถามหามึงเนี่ย  แกบอกไลน์หามึงก็ไม่ตอบ)

“หรอ ไม่เห็นอ่ะ มีอะไรสำคัญรึเปล่า?” จริงๆ ก็เห็นแจ้งเตือนแว่บๆ แต่ไม่ได้สนใจเปิดดู

(ไม่รู้ว่ะ มึงก็เข้าไปดูหน่อยแล้วกัน แค่นี้ก่อนนะ แข่งเสร็จแล้วเดี๋ยวไปหา)

“เค”

หลังจากวางสายจากเมฆ ผมก็เข้าโปรแกรมแชทชื่อดังสีเขียว มีข้อความจากพี่สมิธจริงๆ ด้วย

สะมุด สะมิด : ไอ้น้องรันต์ อยู่ไหนวะครับ  (10:24)

สะมุด สะมิด : ออกมาเจอกูดิ๊  มึงจะมาดูเขาแข่งบาสป่ะเนี่ย  (10:25)

สะมุด สะมิด : เห้ยยยยยย ตอบกูหน่อยยยย  (10:30)

สะมุด สะมิด : มึงตายยังเนี่ย หรือว่าขี้อยู่อ่ะ  (10:33)

สะมุด สะมิด : รันนนนนนนนนนน (10:55)

สะมุด สะมิด : เฮลโลลลลลลลลลลล (10:57)

สะมุด สะมิด : เมี๊ยววววววววววว (11:02)

สะมุด สะมิด : ฮือออออออ  (11:17)

เอิ่ม มึงว่างจังวะพี่ พยายามเหลือเกิน หรือว่าวันนี้ประสาทขึ้นก็ไม่แน่ใจ

Run Run : ครับ?  (11:42)

ผมพิมพ์ตอบกลับเขาสั้นๆ ก่อนจะวางสมาร์ทโฟนลงแล้วหันมาสนใจหนังสือต่อ

ติ้ง! เสียงแจ้งเตือนดังขึ้นภายในเวลาไม่ถึงสองนาที ก็จากพี่สมิธนั่นแหละ

สะมุด สะมิด : สาสสสส มึงไม่ตอบกูปีหน้าเลยล่ะ (11:44)

Run Run : ก็ได้นะครับ  (11:45)

สะมุด สะมิด : กูประชดโว้ยยย  กวนตีนนะมึงนิ  (11:45)

Run Run : แล้วพี่มีอะไรรึเปล่าครับ? ถึงได้โหยหวนอะไรขนาดนั้น  (11:46)

สะมุด สะมิด : ก็ที่ถามตอนแรกไง๊  มึงไม่มาดูเขาแข่งบาสกันอ่ะ เพื่อนมึงก็ลงเล่นนี่หว่า (11:47)

Run Run : ไม่ครับ  (11:47)

สะมุด สะมิด : ทำไมง่ะ  (11:48)

Run Run : ผมไม่สะดวก  (11:50)

สะมุด สะมิด : ตอแหล ไอ้เมฆบอกกูหมดแล้ว  (11:52)

ไอ้เมฆ ไอ้เพื่อนทรยศ

Run Run : ครับ (11:54)

สะมุด สะมิด : มึงเนี่ยน้า หัดเข้าสังคมบ้างดิ  (11:56)

Run Run : ไปดูเขาแข่งไป  (11:57)

พิมพ์ตัดบทส่งหาพี่สมิธเสร็จผมก็ล็อคหน้าจอแล้วไม่ได้สนใจโทรศัพท์อีก  ผมนั่งละเลียดเสพวรรณกรรมได้สักพักใหญ่ก็มีอันต้องสะดุ้ง เมื่ออยู่ๆ ก็ถูกรัดคอจากด้านหลัง

“ไง ถึงกับสะดุ้งเลยหรอ” เสียงจากพี่สมิธดังขึ้นข้างๆ หู ผมเอี้ยวตัวกลับไปมองด้านหลัง กวาดสายตามองพบว่าเขาไม่ได้มาแค่คนเดียว แต่มีพี่เซนท์ พี่ใจดี เมฆ และทศกัณฐ์ ยืนอยู่ด้วย ผมกรอกตามองพี่สมิธหน่ายๆ พร้อมดึงแขนเขาที่รัดคอผมอยู่ออก พี่สมิธก็ยอมปล่อยแต่โดยดี

“แข่งเสร็จแล้วหรอครับ” ผมเอ่ยถาม ตอนนี้ทุกคนพากันหยิบเก้าอี้คนละตัวสองตัวจากโต๊ะอื่นมานั่งล้อมผมไว้ ดีนะที่คนในร้านไม่ค่อยเยอะเลยไม่มีใครว่า ถึงอยากว่าก็คงไม่กล้าอยู่ดี  ดูขนาดตัวแต่ละคนดิครับ

“ไม่เสร็จมึงจะเห็นพวกกูเสนอหน้าอยู่ที่รึไง” ผมยักไหล่ให้ไอ้พี่สมิธ เขามันปากคอเราะร้ายจริงๆ

“อ่อ แล้วผลการแข่งเป็นยังไงบ้างครับ” ผมพยักหน้ารับแล้วหันไปถามพี่เซนท์แทน  รายนั้นก็ยิ้มกว้างให้ผมเมื่อผมถาม แค่ดูหน้าเขาก็พอจะรู้แล้วล่ะครับว่าผลเป็นยังไง

“แน่นอนว่าต้องชนะอยู่แล้ว” เห็นไหมว่าเป็นอย่างที่ผมคิด

“ยินดีด้วยนะครับ” ผมกล่าวแสดงความยินดีทั้งกับพี่เซนท์และพี่ใจดี

“งั้นมึงก็ต้องบอกไอ้ทศด้วยเพราะมันก็แข่งชนะเหมือนกัน นี่ถ้ากูได้ลงแข่งด้วยนะรางวัลที่หนึ่งไม่มีเหลือให้คณะอื่นหร๊อก” พี่สมิธพูดโม้ๆ ผมหันไปมองทศกัณฐ์ที่นั่งเยื้องด้านหลังผมนิดๆ รู้สึกปากหนักขึ้นเป็นเท่าตัวที่ต้องแสดงความยินดีกับเขาตามที่พี่สมิธบอก

“ยินดีด้วยครับ” ผมพูดเสียงเรียบๆ ไม่แสดงสีหน้าก่อนจะหันกลับมาทางเดิมอย่างรวดเร็ว บรรยายกาศมาคุขึ้นทันตาเมื่อทุกคนเงียบกริบกันทั้งกลุ่ม ก่อนที่พี่ใจดีบุคคลที่พูดน้อยสุดในกลุ่มจะเอ่ยปากทำลายความเงียบขึ้น

“เย็นนี้พวกเราว่างหรือเปล่า” เขาน่าจะหมายถึงผมกับเมฆ

“ผมก็ว่างนะ  แล้วมึงล่ะ” เมฆตอบพี่ดี ก่อนจะหันมาเลิกคิ้วถามผม

“ผมก็...ไม่มีอะไรเป็นพิเศษครับ”

“ดีเลย! เย็นนี้พวกพี่จะเลี้ยงฉลองกลุ่มบาสที่แข่งชนะวันนี้ น้องรันต์ไปนะๆ” เซนท์คะยั้นคะยอผมเต็มที่

“เอ่อ...คือผม” จะปฏิเสธไปตรงๆ ก็ทำไม่เต็มปาก ดวงตารีสวยของพี่เซนท์ก็จ้องมองมาอย่างคาดหวัง ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาชอบดึงผมเข้าไปมีส่วนร่วมนัก

“มึงก็ไปเถอะน่า พี่อุตส่าห์เอ่ยปากชวนขนาดนี้แล้ว” เมฆพูดกดดันผมอีกแรง รู้สึกเหมือนพวกเขากำลังไล่ต้อนผมเลยแฮะ

“ก็ได้ครับ” ผมตอบตกลงอย่างไม่มีทางเลือก

“โอเค งั้นแยกย้ายได้ เจอกันสองทุ่ม Club C” พี่สมิธเอ่ยพร้อมลุกขึ้นอย่างที่ปากว่า นี่ตกลงพวกเขาลงทุนมาที่นี่แค่เพื่อชวนผมไปด้วยเนี่ยนะ ลงทุนไปไหม

“ป่ะกลับ เดี๋ยวกูไปส่ง” เมฆบอกผมแล้วช่วยเก็บของใส่กระเป๋าให้ ทศกัณฐ์มองผมนิดๆ ก่อนจะเดินตามหลังเพื่อนออกไป เหลือเพียงผมกับเมฆที่ยังยืนอยู่

“ทุ่มหนึ่งเดี๋ยวมารับนะ” เมฆบอกหลังBMW จอดสนิทที่หน้าหอพักผม ผมพยักหน้ารับ เมฆขยี้หัวผมอย่างที่ชอบทำก่อนปล่อยลงจากรถ

เอี๊ยด! ทันทีที่BMWเมฆ เคลื่อนตัวพ้นจากหอพักผมออกไป Aston martin สีเทาควันบุหรี่ก็จอดเทียบสนิทตรงหน้าผมทันที  ผมเปิดประตูก้าวขึ้นรถอย่างรู้งาน  ทศกัณฐ์ไม่ได้หันมามองผม เขาแตะคันเร่งเคลื่อนรถมุ่งหน้าสู่สถานที่ที่เราคุ้นเคยกันดี
.
.
.
.
.
.
.

เมื่อกลับถึงคอนโดฯ ทศกัณฐ์ ผมก็มุ่งหน้าเดินเข้าห้องน้ำ ล้างมือล้างเท้าด้วยความเคยชิน  จังหวะที่จะเดินออกไปก็เจอร่างสูงของทศกัณฐ์ยืนดักหน้าประตูไว้

“มีอะไรครับ?” ผมเอ่ยถามเขาด้วยความสงสัย อยู่ๆ มายืนจ้องหน้ากันนิ่งๆ แบบนี้ก็ทำเอาไปไม่เป็นเหมือนกัน

“หิว” เขาบอกผมสั้นๆ ไม่ได้แสดงท่าทีอะไรเพิ่มเติม

“ก็ไปหาอะไรกินสิครับ มาบอกผมทำไม”

“ทำให้กินหน่อย” ทำไมผมถึงรู้สึกว่าน้ำเสียงเขาดูอ้อนๆ สายตาเขาก็อ่อนลง แต่คงเป็นไปไม่ได้ แค่คิดว่าผู้ชายอย่างทศกัณฐ์อ้อนก็ขนลุกไปทั้งตัวแล้ว

“คุณก็โทรเรียกคุณบราวนมาทำให้สิ” ผมบอกปัดเขาไป ตั้งใจเอาไว้แล้วว่าจากนี้จะไม่ทำอะไรเพื่อเขาอีก

“สตีฟทำงานอยู่” เหอะ ถ้าคนของเขาไม่ว่างก็คงไม่นึกถึงผม

“โทรไปที่ครัวของคอนโดสิ อยากกินอะไรก็สั่งเอา หลีกทางผมด้วยครับ” ทศกัณฐ์หลีกทางให้ผมเดินออกจากห้องน้ำแต่โดยดี ผมรู้สึกได้ว่าเขาก็เดินตามหลังผมออกมา  ผมเดินเข้าไปที่ครัว ไม่ได้จะไปทำอาหารให้เขาหรอกนะครับ แค่จะไปหาอะไรกินรองท้องก็เท่านั้นเอง ขนมปังที่กินไปในร้านกาแฟก็ย่อยไปหมดแล้ว ช่วงนี้ผมหิวบ่อยจริงๆ

ผมเปิดตู้เย็นสำรวจว่าพอมีอะไรที่จะรองท้องก่อนตอนเย็นได้บ้าง ขณะที่กำลังหาอยู่ จู่ๆ ก็มีแรงกอดรัดที่เอวจากด้านหลัง  คงไม่ต้องเดาก็คงจะรู้ว่าเป็นใคร

“ปล่อย” เอ่ยบอกเขาเสียงเรียบ มือก็ยังค้นหาของกินในตู้เย็นต่อไป ไม่ได้สนว่าลมหายใจอุ่นๆ ของอีกคนอยู่ในระยะประชิดจนสัมผัสได้

“หิว” สัมผัสเปียกชื้นที่หลังคอ ทำให้มือที่กำลังค้นหาของกินชะงักไป ผมถอนหายใจหน่ายๆ

“อย่าทำเป็นรอยละกัน” แม้จะรู้ดีว่าทศกัณฐ์เป็นพวกที่ไม่ชอบทิ้งรอยในจุดโจ่งแจ้งโดยเฉพาะบริเวณต้นคอที่เขาไม่เคยทำเลย ผมก็เตือนเขาไปอย่างนั้นเอง ถ้าจะห้ามคนอย่างทศกัณฐ์ก็คงจะยาก

โอ้ย!

พูดยังไม่ทันขาดคำ ความรู้สึกเจ็บจี๊ดบริเวณหลังต้นคอทำให้ผมหลุดปากอุทานเสียงดังลั่น  ต้นเหตุก็มาจากไอ้คนที่ผมพึ่งบอกไปหยกๆ นั่นแหละ  ผมเอี้ยวตัวหันไปตวัดสายตาไม่พอใจใส่ทศกัณฐ์ทั้งๆ ที่อยู่ในอ้อมแขนของเขา นัยน์ตาสีเขียวแสนเจ้าเล่ห์ก็มองตอบอย่างไม่ยอมแพ้  ทศกัณฐ์ก็มักเป็นอย่างนี้ ไล่ต้อนบีบบังคับผู้อื่นให้ทำในสิ่งที่เขาปรารถนาเสมอ

หลังต่อสู้กันทางสายตาพักใหญ่ ผมก็ยักไหล่ใส่เขาเหมือนไม่แคร์ว่าเขาจะทำอะไร ถ้าได้ยอมเขาแล้วมันก็ต้องยอมไปเรื่อยๆ สิ ผมจะสอนให้เขาได้รู้ว่าไม่มีใครได้ในสิ่งที่ต้องการเสมอไปหรอก ผมหันกลับไปหยิบสลัดทูน่าในตู้เย็นออกมา  กินกับขนมปังแก้ขัดไปก่อนก็ได้วะ  ไม่ว่าผมจะเดินไปทางไหน ทศกัณฐ์ก็จะเดินเกาะเอวตามผมไปในทุกที่   คงเป็นท่าที่แปลกๆ พิลึก

“นี่คุณ เป็นปลิงหรือไงถึงได้ตามเกาะผมไม่ปล่อยแบบนี้” ผมบ่นให้ทศกัณฐ์ด้วยความรำคาญเล็กๆ ของตัวเอง  แต่มือก็ยังป้ายสลัดทูน่าใส่ขนมปังไม่หยุด

“หึ” ทศกัณฐ์ไม่ได้ตอบโต้อะไรผมอีก เขาเพียงกอดเอวผมนิ่งๆ อยู่อย่างนั้น  เมื่อผมทำแซนวิชใส้สลัดทูน่าสำหรับตัวเองเสร็จ ผมก็เตรียมหยิบเข้าปากโดยไม่สนใจอีกคนข้างหลัง  ยืนกินมันทั้งอย่างนี้นี่แหละ

“อ๊ะ” แซนวิชในมือผมร่วงผล็อย  ความรู้สึกเสียวแปลบเกิดขึ้นกะทันหันทำเอามือไม้ผมอ่อนแรงอย่างไม่น่าเชื่อ มือหนาของทศกัณฐ์ไปอยู่ที่ยอดอกภายใต้เสื้อนิสิตผมตั้งแต่เมื่อไหร่กัน

“อื้ออออ ยะ...หยุดนะ!”  ทศกัณฐ์ลงมือบดขยี้ยอดอกผมอย่างต่อเนื่อง  ริมฝีปากหนาได้รูปพรมจูบไปทั่วหลังคอและใบหู  ความเสียวซ่านเข้าจู่โจมไม่หยุดจนผมต้องค้ำมือทั้งสองข้างลงกับเคาน์เตอร์หินอ่อนในครัว นี่ถ้าอีกมือหนึ่งของทศกัณฐ์ไม่ประครองเอวผมไว้ ไม่แน่ว่าตอนนี้ผมอาจทรุดลงไปกับพื้นแล้วก็ได้

“หยุดทำไม? มึงบอกว่ากูเป็นปลิงนี่ ปลิงก็ต้อง ‘ดูด’ เลือดสิ” ว่าจบเขาก็จัดการ ‘ดูด’ อย่างที่ปากว่าจริงๆ  ผมพยายามเบี่ยงตัวหลบทศกัณฐ์แต่ก็ทำได้ยากเต็มที  ตอนนี้กระดุมเสื้อผมถูกปลดออกทุกเม็ด มือทศกัณฐ์ย้ายไปบดคลึงยอดอกอีกข้างเพื่อไม่ให้เสียเปรียบกัน  แนวฟันบนขบริมฝีปากล่างแน่นเพื่อสะกดกลั้นเสียงจากห้วงอารมณ์ที่อีกคนก่อ  ยังไงผมก็จะต้องไม่ใช่คนแพ้ในเกมส์นี้

“หึ กลั้นไปให้ได้จนจบนะรันต์” น้ำเสียงทศกัณฐ์มีความเย้าแหย่ให้ผมปรี๊ดแตก  ทศกัณฐ์ละมือออกจากยอดอกผมก่อนจะกวาดข้าวของบนเคาน์เตอร์ลงพื้นแล้วยกสะโพกผมขึ้นไปนั่งแทนโดยพลิกให้ผมหันหน้าเข้าหาตัวเอง  แล้วสอดกายแทรกระหว่างขาผมอย่างรวดเร็วแถมยังถอดแว่นผมไปเสียบไว้กระเป๋าหลังกางเกงอีก ว่าแต่ผมเบาจนยกง่ายๆ ได้ขนาดนี้เลยหรอวะ

“อุ๊บ!…อื้อ”  เมื่อสบโอกาส ริมฝีปากหนาก็ประกบจูบลงมาอย่างรวดเร็ว รสจูบที่ทศกัณฐ์มอบให้เต็มไปด้วยความร้อนแรงและอยากเอาชนะ  แน่สิก็ผมไม่ยอมเขาจริงๆ  ทศกัณฐ์บดจูบกับริมฝีปากผมอย่างดูดดื่ม การจูบครั้งนี้ไม่เรียกว่าจูบซะทีเดียว น่าจะเรียกว่าดูดริมฝีปากซะมากกว่า  มันทั้งเจ็บและชาจนผมมึนไปหมด  รู้ตัวอีกทีช่วงล่างผมก็สัมผัสกับความโล่งเย็นของเคาน์เตอร์หินอ่อนเข้าซะแล้ว  นี่เขาจะมือไวเกินไปแล้วนะ

“อึก...อ๊ะ!” ทศกัณฐ์ย้ายริมฝีปากมาละเลงลิ้นลงกับยอดอกผมรัวเร็ว มือก็บดขยี้กับยอดอกข้างที่ว่าง  ผมแทบจะกลั้นเสียงเอาไว้ไม่อยู่  มือผมก็ผลักหน้าทศกัณฐ์ให้ออกห่างแต่กลับสู้แรงของเขาไม่ได้เลย รู้อย่างนี้ผมน่าจะตั้งใจออกกำลังกาย เผื่อจะสู้แรงของเขาได้บ้าง

“พอ...อ๊า...” ผมพยายามจะบอกให้เขาหยุดแต่ก็ต้องร้องจนเสียงหลงเมื่อมือหนาอีกข้างของทศกัณฐ์กำลังหยอกล้อกับส่วนอ่อนไหวของผมอยู่  เขาใช้หัวแม่มือขยี้ส่วนปลายซ้ำๆ พร้อมชักขึ้นชักลงอย่างเป็นจังหวะเน้นๆ จนมันแข็งสู้มือเขาอย่างน่าอาย   ผมหนีบขาเข้าหากันเพื่อหยุดยั้งการกระทำของเขา แต่ขาผมช่างง่อยเปลี้ยเหลือเกิน ลำแขนทศกัณฐ์เกือบจะหนาพอๆกับขาอ่อนผมเลยเถอะ(?)

จุ๊บ...จ๊วบ...  เสียงดูดจากริมฝีปากของทศกัณฐ์ดังแข่งกับเสียงหอบหายใจผมท่ามกลางความเงียบภายในห้อง  มือหนาก็ทำหน้าที่ขยับไม่หยุด จนสุดท้ายผมต้านทานความต้องการไม่ไหวจึงปลดปล่อยหยาดน้ำสีขุ่นออกมาเปรอะเปื้อนเต็มมือทศกัณฐ์และหน้าอกของเขาและผม

“แฮ่ก...แฮ่ก...” ผมหายใจหอบถี่  สองมือเกาะบ่าอีกคนอย่างไม่รู้ตัว รู้สึกว่าจะเผลอจิกเล็บลงไปด้วยสิ เพิ่งสังเกตว่าเขาถอดเสื้อออกไปแล้วเหลือเพียงแค่กางเกงยีนส์ติดร่างกายไว้  ทศกัณฐ์ผละใบหน้าออกจากร่างกายผม  เขายกมือที่มีน้ำกามผมขึ้นตวัดเลียเบาๆ สายตาคมกริบจับจ้องมาที่ผมเหมือนนักล่ากำลังจ้องจะตะครุบเหยื่ออย่างไรอย่างนั้น  ผมมองเขาอึ้งๆ ไม่คิดว่าเขาจะกล้าลิ้มลองมัน  เขากระตุกยิ้มให้กับสีหน้าผม

พรึ่บ! ไม่รอช้า ทศกัณฐ์ยกขาทั้งสองข้างผมขึ้นบนเคาน์เตอร์พร้อมแยกออกกว้างจนเห็นอะไรต่อมิอะไรหมด  ผมก็หนีบแล้วหนีบอีกแต่สู้แรงไอ้ยักษ์หื่นกามนี่ไม่ไหวจริงๆ

อึ่ก  เขาใช้นิ้วข้างที่เปื้อนน้ำของผมสอดเข้ามาที่ช่องทางด้านหลังตอนผมเผลออย่างรวดเร็ว  ร่างกายผมรัดเกร็งขึ้นโดยอัตโนมัติเมื่อมีสิ่งแปลกปลอมสอดแทรกอยู่ภายใน  แต่คิดว่าคนอย่างทศกัณฐ์จะสนหรอ แม้ข้างหลังผมจะเกร็งเพียงใดเขาก็ยังดึงดันจะขยับนิ้วอยู่ดี

“ถ้าไม่อยากเจ็บตัวก็อย่าเกร็ง” เกร็งไม่เกร็งกูก็เจ็บโว้ย  เขามันผู้ชายเลือดเย็นของจริง  ทำไมชั่วขณะหนึ่งผมถึงเคยคิดว่าเขาน่าจะอ่อนโยนได้นะ  สุดท้ายผมก็ต้องค่อยๆ ผ่อนคลายร่างกายตัวเอง  ไม่ใช่เพราะทศกัณฐ์ แต่ผมรักตัวเองต่างหาก

นิ้วที่สามถูกสอดเพิ่มเข้ามา  มันคับแน่นจนแทบขยับไม่ได้  ทศกัณฐ์จึงก้มลงไปถ่มน้ำลายใส่นิ้วตัวเองเพื่อเพิ่มน้ำหล่อลื่นแล้วขยับอีกครั้ง  มือหนาอีกข้างของเขาก็ช่วยขยับรูดรั้งส่วนกลางกายของผมให้มีอารมณ์ร่วม  ความเสียวซ่านละลอกใหม่เริ่มก่อตัวอีกครั้ง  มือทั้งสองข้างผมจิกลงที่ไหล่หนาระบายความเสียวที่เกิดขึ้น  ไม่นานทศกัณฐ์ก็ถอนนิ้วทั้งสามออก  ผมหลับตาปี๋เมื่อรู้ว่าสิ่งที่ใหญ่กว่ากำลังจะเข้ามาแทนที่

เฮือก...ทันทีที่ส่วนหัวชำแหละเข้ามาในร่างกายก็ทำเอาผมสะดุ้งสุดตัว  แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังหลับตาและพยายามผ่อนคลายร่างกายตัวเองเอาไว้

“ซี๊ดดด...ลืมตาดูรันต์  ดูว่าตอนนี้กูกำลังอยู่ในตัวมึง” เสียงแหบพร่าของทศกัณฐ์ดังขึ้นเบาๆ ที่ข้างหู  ผมส่ายหน้าแรงๆ อย่างไม่ต้องการ  ได้ยินเสียงทศกัณฐ์หัวเราะเบาๆ ที่ข้างหูและสะโพกหนาเริ่มขยับช้าๆ เนิบนาบอย่างเป็นจังหวะ  สัมผัสที่หนักหน่วงเริ่มทำให้ผมมีอารมณ์คล้อยตามจังหวะที่ทศกัณฐ์นำพา  มันช่างร้อนและแนบแน่นมากกว่าปกติอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

เสียว...ยิ่งกว่าครั้งไหนๆ ที่เคยทำกัน

“อ่าห์...เสียวชิบ” ทศกัณฐ์ครางต่ำในลำคอ  ซอยสะโพกเร็วและลึกขึ้นจนไปโดนจุดกระสันภายในของผม  ร่างกายกายสั่นสะท้านและเสียววูบวาบที่ท้องน้อย ช่องทางรักและกลางกายไม่หยุด  ผมกัดริมฝีปากกลั้นเสียงจนห้อเลือด  ภายในผมขมิบถี่รัวๆ ทศกัณฐ์ก็ยิ่งขยับสะโพกถี่เร็วเมื่อรู้ว่าผมใกล้จะถึง  ในที่สุดผมก็ปลดปล่อยออกมาอีกครั้งทศกัณฐ์จึงขยับสะโพกช้าลง  ทศกัณฐ์ไม่ปล่อยให้ผมพักหายใจได้นาน เขาจับพลิกตัวผมนอนตะแครงข้างแล้วจับขาอีกข้างของผมขึ้นพาดบ่า  จากนั้นก็ไถลตัวตนเข้ามาจนสุดลำ

“อ๊า...” มันเสียวมากจนผมหลุดปากครางลั่น  สายตาผมเหลือบเห็นเขาหลุดยิ้มพอใจออกมา  ผมสะบัดหน้าหนีไปอีกทางมือเรียวยกขึ้นปิดปากตัวเองไว้ไม่ให้เสียงใดๆ เล็ดลอดออกไปได้อีก  รู้สึกแย่ที่ตัวเองร้องอย่างกับผู้หญิงอย่างไรอย่างนั้น

ฟอดดดด...ทศกัณฐ์ก้มตัวลงมาหอมแก้มผมฟอดใหญ่ก่อนจะขยับกายอีกครั้ง  เขาคงภูมิใจมากสินะที่ทำผมหลุดเสียงได้  แน่นอนว่าการที่เขาทำแบบนี้ก็เป็นการเยาะเย้ยผมกลายๆ

“หึๆ  ถ้าเสียวก็ร้องออกมาเถอะน่า  ไม่ล้อหรอก” กายหนาบอกพลางขยับส่วนล่างไปด้วย  สายตาที่เขาจ้องมองมาทำเอาเลือดในกายร้อนรุ่มแปลกๆ  ผมยังเงียบแม้จะเสียวแทบขาดใจก็ตาม

ทศกัณฐ์ขยับจังหวะซอยสะโพกหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ  มันโดนจุดนั้นผมครั้งแล้วครั้งเล่า  ท่านี้ทำให้แก่นกายของทศกัณฐ์ขยับเข้ามาได้ลึกมากและมันกำลังจะทำให้ผมเสร็จอีกแล้ว  ผมกัดฟันแน่นเมื่อทศกัณฐ์ก้มลงมาดูดแถวๆ ติ่งหูเพิ่มความเสียวสะท้านมากขึ้นไปอีก ตัวผมสั่นคลอนอย่างรุนแรงเมื่อทศกัณฐ์ขยับกายถี่ขึ้นเรื่อยๆ เขาก็ใกล้จะถึงฝั่งเต็มที ข้างหลังผมขมิบตอดรัดตัวตนของเขาอย่างรู้งานจนน่ารังเกียจ

พายุอารมณ์ถาโถมเข้ามาอย่างไม่หยุดยั้ง จนในที่สุดร่างกายผมเกร็งกระตุกถี่ๆ ช่องทางก็ขมิบรัวแล้วปลดปล่อยออกมาเป็นครั้งที่สามโดยที่ไม่ได้แตะต้องส่วนนั้นของตัวเองแม้แต่น้อย  ทศกัณฐ์ขยับสะโพกต่ออีกเพียงไม่กี่ครั้งก่อนจับสะโพกผมตรึงแน่นกดกายเข้ามาจนสุดแล้วกระตุกปลดปล่อยหยาดน้ำออกมา

สัมผัสจากการฉีดพ่นน้ำกามและความอุ่นวาบที่ผมได้รับเต็มท้องน้อยและช่องทางด้านหลังที่ผมไม่เคยได้สัมผัสมาก่อนทำเอาผมเบิกตากว้างและตัวสั่นขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่


[ต่อ reply ถัดปายยยย :katai3:]

ออฟไลน์ YINGPREM

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 131
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1
Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 21♡P.14[22/4/60]
«ตอบ #409 เมื่อ22-04-2017 17:26:04 »

ใจยักษ์ 21 (ต่อ)


“คุณ...ไม่ได้ใส่ถุงยางงั้นหรอ” นานกว่าที่ผมจะเรียกสติและหาเสียงตัวเองเจอ  ทศกัณฐ์ก็เหมือนจะอึ้งๆ ไปเหมือนกัน  เขาก็คงลืมทั้งๆ ที่ไม่ควรจะลืมได้เลย  ผมไม่น่าสะเพร่าเลยจริงๆ  มิน่า มันถึงรู้สึกมากกว่าที่ผ่านๆ มา

“กูสะอาดพอ  เรื่องโรคกูกล้ารับรองว่าไม่มี” ทศกัณฐ์เอ่ยเสียงเรียบ ชั่วแว่บนึงผมเห็นแววตาเขาวูบไหวแปลกไปจากเดิม แต่ตอนนี้ผมไม่มีกะจิตกะใจมาสนเรื่องนั้นหรอก

“ถ้าแค่เรื่องนั้นก็ดีน่ะสิ  ออกไปจากตัวผมได้แล้ว” ทศกัณฐ์เงียบแต่ยังไม่ยอมถอนกายออกไป  เราสองคนต่างก็รู้ดีว่าเรื่องที่ผมพูดหมายความว่าอะไร  คู่ขาที่ไหนเขาทำสดกันหรอ  ใครไม่ถือผมไม่รู้แต่เรื่องนี้ผมถือ ถ้าถึงขั้นนั้นมันก็เลยคำว่าคู่ขากันแล้ว  ผมไม่ได้หมายถึงว่าผมเป็นสถานะนั้น  แต่ว่าผมไม่อยากที่จะเฉียดกายหรือยื่นขาเข้าไปใกล้มันแม้แต่นิดเดียวต่างหาก ซึ่งทศกัณฐ์ก็น่าจะคิดแบบเดียวกับผม

“บอกให้เอาออกไปไง” ผมย้ำเสียงเข้มแกมหงุดหงิดเมื่อเห็นว่าทศกัณฐ์ยังนิ่งอยู่  แต่ทศกัณฐ์กลับจับขาผมทั้งสองข้างของผมให้เหนี่ยวเอวสอบตัวเองไว้ แล้วโน้มตัวมาอุ้มผมขึ้น  มือผมจึงต้องเหนี่ยวลำคอของอีกฝ่ายไว้กันตก

“ทำบ้าอะไรวะ” ผมหงุดหงิดยิ่งกว่าเดิมรู้ตัวว่ากำลังชักสีหน้าใส่เขา  จากที่เหนื่อยๆ อยู่แล้วพอมีเรื่องนี้เข้ามาอีก ผมแทบจะเย็นไม่อยู่แล้ว

“จะพาไปห้องน้ำ  ถ้าเอาออกตอนนี้ เดี๋ยว...ไหลออกมาเต็มพื้น” ทศกัณฐ์ยังพูดเสียงเรียบ รักษาสีหน้าสงบนิ่งของตัวเองได้เป็นอย่างดี

“ก็ช่างหัวมันดิ” ผมยังคงดื้อดึงแม้จะรู้ตัวดีว่าภายในเฉอะแฉะมากแค่ไหน  ถ้าทศกัณฐ์ถอนกายออกจริงๆ ก็คงจะไหลเต็มพื้นอย่างที่เขาว่านั่นแหละ

“อยากให้เจฟกับสตีฟมาเห็นหรือไง” ทศกัณฐ์เอาจุดอ่อนผมขึ้นมาอ้าง  ผมจำนนต่อเหตุผลจึงเงียบแทนคำตอบ  ทศกัณฐ์จึงขยับเท้าก้าวเดินทั้งๆ ที่ร่างกายเรายังเชื่อมกันอยู่  ดีหน่อยที่ส่วนล่างของทศกัณฐ์ยังมีกางเกงยีนส์ติดอยู่ เพราะเขาเพียงแค่ปลดตะขอและรูดซิปลงเท่านั้น  ทุกย่างก้าวของทศกัณฐ์เป็นไปอย่างเชื่องช้าขยับแรงมากไม่ได้ ผมเห็นเขาขบกรามเสียแน่น  ตัวผมเองก็ทำอะไรไม่ได้ คงได้แค่ภาวนาให้ถึงห้องน้ำโดยเร็ว

ในที่สุดคำภาวนาผมก็เป็นผลทศกัณฐ์พาผมมาถึงห้องน้ำในห้องนอนเก่าผม  วางผมลงในอ่างก่อนค่อยๆ ถอนกายออกช้าๆ ได้ยินเสียงบ๊วบ ตอนเขาถอนกายออกเต็มสองรูหู  ผมหันหน้าหนีไปอีกทางอย่างปั้นหน้าไม่ถูก  ทศกัณฐ์กดเปิดระบบน้ำในอ่างให้ทำงาน  น้ำอุ่นที่ค่อยๆ เพิ่มสูงขึ้นทำให้ร่างกายผมกลับมาผ่อนคลายอีกครั้ง  ได้ยินเสียงทศกัณฐ์เดินออกจากห้องน้ำไป  ผมจึงไถลตัวตามความยาวของอ่าง  แม้อ่างห้องนี้จะไม่ใหญ่และหรูหราเท่าของห้องน้ำในห้องนอนทศกัณฐ์  แต่ผมว่ามันก็ใช้ได้ดีเลยล่ะ  ผมหลับตาพริ้มปลดปล่อยความเครียดที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้  ไม่นานก็ได้ยินเสียงฝีเท้าใกล้เข้ามาจนกระทั่งหยุดอยู่เหนือหัวผม

“ครีมอาบน้ำอยู่นี่นะ ชุดอยู่บนเตียง อย่าแช่นานเดี๋ยวไม่สบาย” เสียงทศกัณฐ์ดังขึ้นใกล้ๆ  ผมพยักหน้ารับทั้งๆ ที่ยังหลับตาอยู่  ผมได้ยินเสียงขยับตัวจึงเอ่ยสิ่งที่วนเวียนในหัวก่อนเขาจะเดินออกไป

“อย่าให้เกิดเรื่องแบบวันนี้ขึ้นอีก  ให้มันพลาดแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว โอเคนะ” ผมเอ่ยบอกเขาด้วยโทนเสียงราบเรียบไม่ใส่อารมณ์ใดๆ หลังคิดทบทวนกับตัวเองสักพัก

“อืม” เสียงปิดประตูดังขึ้นเบาๆ  เป็นแบบนี้ดีที่สุดแล้วระหว่างเรา…
.
.
.
.
.
.

“รันต์ตื่น...รันต์” เสียงปลุกพร้อมแรงที่เขย่าตัวทำให้ตื่นขึ้นด้วยความสะลึมสะลือ  หรี่ตาดูปรากฏว่าเป็นทศกัณฐ์นั่นเอง

“มีอะไรครับ” ผมค่อยๆ ขยับตัวลุกขึ้น นี่มันห้องนอนทศกัณฐ์นี่นา มาอยู่นี่ได้ไงวะ จำได้ว่าก่อนจะหลับไปผมนอนอยู่ที่โซฟาห้องนั่งเล่น(ห้องนอนเล็กนอนไม่ได้ ฝุ่นเยอะ) ถึงว่าทำไมนอนสบายจัง

“โทรศัพท์เข้า” ทศกัณฐ์บอกพร้อมยื่นโทรศัพท์ของผมมาตรงหน้า  ผมรับจากเขามาถืองงๆ สติยังไม่จูนเต็มที่

‘พี่เมฆเอง’

“อือ ว่าไง” กดรับสายพร้อมหาวไปด้วย  ทศกัณฐ์เดินไปที่ห้องแต่งตัว

(พึ่งตื่นหรอ กูกำลังไปรับนะ) ชิบหาย! ผมลืมเรื่องเมฆไปเลย  ความง่วงหายวับไปทันตา ผมเหลือบดูนาฬิกาตอนนี้หนึ่งทุ่มตรง ผมหลับไปตั้งแต่บ่ายสาม นานเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน

“เมฆ...คือมึงไม่ต้องมารับกูนะเว้ย เดี๋ยวกูไปเองได้”

(ทำไมอ่ะ  ก็กูบอกแล้วไงว่าจะไปรับ  มีอะไรรึเปล่าวะ...)

“กูอยากกินกระเพาะปลาน้ำแดงที่เยาวราชเมื่อตอนที่เราไปกินกันก่อนเปิดเทอมอ่ะ” กูขอโทษนะเว้ยเมฆ

(ตอนนี้เนี่ยนะ! ไกลแถมรถติดจะตายห่า ไปพรุ่งนี้ก็ได้มั้งเดี๋ยวกูพาไปกินไม่อั้น)

“กูอยากกินวันนี้  ตอนนี้” ผมยังคงดื้อดึงใส่เมฆ  รู้ว่าทำแบบนี้โคตรแย่ แต่ก็ไม่มีทางเลือกจริงๆ

(ก็ได้...มึงไปรอที่ร้านเลยแล้วกัน  ไปถูกใช่ไหม?)

“ไปถูกๆ ขอบคุณนะเมฆ ”  แล้วน้องก็ขอโทษนะเมฆ  แต่เรื่องนี้น้องให้เมฆรู้ไม่ได้จริงๆ

(กูรักมึงนะ) ที่มันพูดแบบนี้ แสดงว่ามันต้องการบอกผมว่ายังมีมันอยู่ข้างๆ เสมอ มีอะไรก็บอกมันได้ทุกเรื่อง

“รู้” แต่ผมก็เลือกที่จะเงียบต่อไป

(งั้นแค่นี้ก่อนนะ เดินทางดีๆ ล่ะ มีอะไรก็โทรหากู) แล้วเมฆก็วางสายไป  ผมรู้ว่าเมฆไม่เชื่อหรอกว่าผมอยากกินกระเพาะปลาจริงๆ  แต่ที่มันยอมและไม่คาดคั้นอะไรก็ทำเพื่อความสบายใจของผมเท่านั้นเอง

“ไปล้างหน้าล้างตาไป จะได้แต่งตัวแล้วออกไป” เสียงทศกัณฐ์ดังขึ้นขัดความคิด  เขายืนพิงกรอบประตูกอดอกมองผมอยู่  ไม่รู้ว่าเข้ามาตั้งแต่ตอนไหน เสื้อเชิ้ตตามแฟชั่นสีขาวพอดีล็อคในด้วยกางเกงชิโน่สีกรมท่าพับเลยตาตุ่มขึ้นมาเล็กน้อยที่เอวก็สอดทับด้วยเข็มขัดHermes หัวสีทองโดดเด่น เครื่องประดับคือนาฬิกาสีเงินเรียบหรู  ผมทรงคลาสสิกอันเดอร์คัตเสยไปข้างหลังเปิดหน้าหล่อๆ และนัยน์ตาสีเขียวหม่นอันเป็นเอกลักษณ์ของเขาให้ชัดเจนยิ่งขึ้น  ทุกอย่างดูเข้ากันและลงตัวเมื่อมาอยู่บนร่างของผู้ชายคนนี้  ผมเบ้ปากนิดๆ ด้วยความหมั่นไส้ก่อนเดินผ่านหน้าเขาเข้าห้องน้ำไป  ดีที่ตอนลงจากเตียงขาไม่ทรุดลงให้เสียหน้าเข้าไปอีก  ไอ้ขานี่ก็สั่นไม่หยุดตั้งแต่เมื่อบ่ายละ ผมล่ะเซ็งจริงๆ

ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงเราก็มาถึงที่หมาย  ตอนแรกผมก็ให้ทศกัณฐ์จอดให้ก่อนถึงร้านนั่นแหละ  แต่ไอ้ยักษ์บ้านี่ก็ยังเฉยทำหูทวนลม  ผมเลยได้แต่ฮึดฮัดภายในใจอยู่คนเดียว

“ผมเข้าไปก่อนนะ  อีกสิบนาทีคุณค่อยเข้าไป” ผมบอกพร้อมเปิดประตูรถ ส่องซ้ายขวาไม่เจอคนรู้จักก็เตรียมวิ่งออกไป

“รันต์อย่าวิ่ง!” ได้ยินเสียงทศกัณฐ์ตะโกนไล่หลังมา  แต่ ณ จุดนี้ไม่สนอะไรแล้วครับ  เจ็บเป็นเจ็บ ดีกว่ามีคนมาเห็นว่ามาด้วยกันล่ะนะ

ผมเบียดกายแทรกผู้คนเข้าไปข้างใน  ที่ผ่านการ์ดเข้ามาได้ง่ายๆ เพราะพี่สมิธบอกว่าให้บอกเขาว่าเป็นน้องชายพี่ดี  ตอนแรกผมก็งงว่าทำไมต้องบอกแบบนั้น  มารู้ตอนหลังว่าพี่ดีเป็นเจ้าของร้านจากทศกัณฐ์น่ะครับ  เก่งชะมัดที่ทำร้านระดับนี้ขึ้นมาได้ด้วยอายุแค่นี้  แม้จะมีพ่อแม่คอยให้ความช่วยเหลืออยู่ก็เถอะ

ผมเดินขึ้นไปยังชั้นสองเห็นสมาชิกที่คุ้นหน้าคุ้นตากลุ่มใหญ่เด่นชัดมาก

“น้องรันต์  ทางนี้ๆ” เสียงพี่เซนท์กวักมือเรียกเสียงดังแข่งกับดนตรี  ผมเดินตรงเข้าไปหาพวกเขา  แม้ข้างหลังจะยังขัดๆ อยู่บ้างแต่ก็เดินได้ไม่แสดงอาการอะไร  ผมยกมือไหว้พวกพี่ๆ ทุกคนแล้วหันไปยกมือทักทายเมฆและอ๋อง  ภายในโต๊ะมีพี่ใจดี พี่เซนท์ พี่สมิธ เก่งและอ๋อง  โต๊ะข้างๆ กันก็เป็นกลุ่มนักกีฬาคณะที่ผมก็คุ้นๆ หน้าบ้างแต่ไม่รู้จักเป็นพิเศษเลยปล่อยผ่านไป  ผมทรุดนั่งโซฟาคู่ที่ยังไม่มีใครจับจอง เพราะพี่ดีนั่งคู่กับพี่เซนท์ เมฆกับอ๋อง พี่สมิธนั่งคนเดียว ซึ่งผมไม่อยากโดนกวนประสาท เลยเลือกที่จะนั่งตัวที่ว่างแทน พอเมฆมาก็จะให้มันนั่งกับผม เป็นอันจบ

ฟุ่บ! แรงยวบของโซฟาตัวเดียวกับผม ทำให้ผมหันไปมองอีกคนตาเขียวทันที  ทศกัณฐ์ทรุดนั่งลงข้างๆ อย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว

“ฮิ้วววว ก็ว่าอยู่ว่าทำไมไม่มานั่งข้างกู ที่แท้ก็รอไอ้ทศมานั่งด้วยนี่เอง” ไอ้พี่สมิธชงทันที  กูว่าละว่าต้องไม่พลาดช็อตนี้

“ไม่ใช่อย่างนั้นซะหน่อย พี่ชอบกวนประสาทผมเถอะ” ผมบอกหน้าบูดๆ

“หรอออออ” กวนติงชะมัดเลยไอ้พี่คนนี้

“แล้วไอ้เมฆทำอะไรอยู่ ยังไม่มาอีก” พี่ดีถามขึ้น

“ไปซื้อกระเพาะปลาให้ผมอยู่ครับ”

“มึงมาอยากกินกระเพาะปลาอะไรตอนนี้เนี่ย” พี่สมิธมองงงๆ

“เรื่องของผม” แลบลิ้นแถมให้ด้วย ไอ้พี่สมิธเลยทำท่าจะเข้ามาขย้ำคอซะให้ได้ถ้าไม่โดนพี่ดีมองดุๆ ซะก่อน

“น้องรันต์กินข้าวมารึยัง  สั่งอะไรหน่อยไหม” พี่เซนท์ถามผม ร้านนี้มีทั้งอาหารและเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ครับ

“ไม่ครับ  ผมรอกินกระเพาะปลาน้ำแดงจากเมฆ” มันอุตส่าห์ถ่อไปซื้อให้ซะขนาดนั้น ถ้าไม่กินผมก็จะใจร้ายกับเมฆเกินไปแล้ว

“อ่อ  แล้วมึงล่ะทศ  จะสั่งอะไรเพิ่มป่ะ ถึงพวกกูจะสั่งไปเยอะแล้วก็เถอะ” พี่เซนท์หันไปถามทศกัณฐ์แทน  เขานิ่งไปครู่หนึ่ง เหมือนกำลังครุ่นคิด  ก่อนคำตอบของเขาจะทำให้ใจผมกระตุกไปวูบหนึ่ง

“แซนวิชสลัดทูน่าละกัน” ผมไม่กล้าหันไปมองทศกัณฐ์เลย  ไม่รู้จะเผลอทำหน้าแบบไหนออกไป  ได้แต่ยกแก้วน้ำเปล่าขึ้นดื่มอย่างไม่รู้จะทำตัวยังไง

ระหว่างที่รออาหารภายในโต๊ะก็เต็มไปด้วยความครื้นเครงเพราะมี 3 ตัวชง ที่ค่อนข้างพูดเก่งรวมตัวกันอยู่ นั่นก็คือ พี่สมิธ พี่เซนท์ และอ๋อง นั่นเอง  ระหว่างที่ทุกคนกำลังคุยกันด้วยความสนุกสนาน ผมจึงได้โอกาสเปิดปากคุยกับทศกัณฐ์เบาๆ

“คุณ  ถ้าเมฆมาเมื่อไหร่ คุณย้ายไปนั่งข้างพี่สมิธนะ” ทศกัณฐ์หันมามองหน้าผมตรงๆ แล้วส่ายหน้าให้แบบมึนๆ ผมเลยถลึงตาใส่ทันที “ทำไม?”

“จะให้ผู้ชายตัวโตๆ สองคนนั่งเบียดกันรึไง  ตลกจะตายชัก” มันก็จริง พี่สมิธกับทศกัณฐ์นี่ตัวพอๆ กันเลย แต่ทศกัณฐ์น่าจะหนากว่าหน่อย  แล้วโซฟามันก็ไม่ได้แคบขนาดนั้นหรอก นั่งเบียดหน่อยสามคนยังได้เลย

“ไม่รู้ล่ะ แต่ผมจะนั่งกับเมฆ คุณต้องย้าย” ผมยังยืนยันเสียงแข็ง มองสบตาเขาอย่างไม่ยอมแพ้

“พี่ๆ หวัดดีครับ...ไงพวกมึง” เสียงเมฆดังขึ้นจากทางด้านหลัง ผมเงยหน้าขึ้นไปมองในมือเมฆมีถุงกระเพาะปลาหลายถุงเชียว  ไม่ได้ซื้อมาประชดกูใช่ไหมเนี่ย

“เออๆ ช้านะมึง มานั่งเร็วๆ จะได้แดกเหล้ากันซะที” อ้าวไอ้พี่สมิธ กูก็นึกว่าห่วงเพื่อนกู  ผมใช้สายตาไล่ทศกัณฐ์ ร่างสูงทำท่าว่าจะขยับลุกแต่เมฆดันไปนั่งลงข้างพี่สมิธซะก่อน  ทศกัณฐ์เลยนั่งลงแล้วยักใหล่ให้ผมอย่างช่วยไม่ได้  ผมแอบเบ้ปากให้เขานิดๆ ด้วยความหมั่นไส้

“อ่ะไอ้น้อง  กระเพาะปลาน้ำแดง แดกให้หมดนะมึง” เมฆส่งกระเพาะปลามาให้จากฝั่งตรงข้าม พี่ดีจึงเรียกพนักงานให้เอาชามมาให้ ประจวบเหมาะกับอาหารที่กำลังทยอยเอามาเสิร์ฟพอดี  เราจึงลงมือรับประทานด้วยความหิวโหย

หลังจากจัดการอาหารบนโต๊ะ และเคลียร์พื้นที่เรียบร้อย ก็เข้าสู่ช่วงที่ทุกคนรอคอย นั่นคือการดื่มเครื่องดื่มมึนเมานั่นเอง ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าอร่อยตรงไหน

“เอาเหล้ากันหมดเลยใช่ไหม” พี่ดีหันมาถามสมาชิกทุกคนก่อนจะสั่งพนักงานให้จัดแก้วได้ถูก

“ผมดื่มเบียร์นะพี่  กินเหล้าแล้วเมาง่าย” เก่งเอ่ยปากบอก หรือว่าผมจะเอาแบบเก่งดี เพราะเหล้าผมเมาง่ายมาก

“ผมก็เอาเบียร์เหมือนกัน” ผมยกมือบ้าง ทุกคนพากันหันมามองด้วยความแปลกใจ

“ค็อกเทลก็พอมั้งมึงอ่ะ” เมฆขัดขึ้น

“ไม่เอา จะกินเบียร์” ความรู้สึกเหมือนจะเป็นผู้ใหญ่ขึ้นอีกระดับ หึๆ

“เออๆ ตามใจมันเหอะ” พี่สมิธจึงตัดรำคาญในที่สุด

“กูเปิดโกลด์นะ” พี่เซนท์ว่า เห็นสายตาของไอ้อ๋องเป็นประกายเชียว

“เปิดบลูให้กูก่อน” ทศกัณฐ์ว่าเสียงเรียบ

“เฮ้ย! เอาจริงดิพี่” อ๋องพูดอึ้งๆ

“ฮ่าๆๆ มึงคิดว่ากำลังพูดอยู่กับใคร นี่ป๋าทศนะเว้ย” พี่สมิธพูดขึ้นอย่างอารมณ์ดี

“แต่มันไม่มีในโปรร้านนี่ครับ ก็เกิดมาผมยังไม่เคยดื่มเลยนี่พี่ บุญปากสุดก็โกลด์ที่ไอ้เมฆเลี้ยง” อ๋องบ่นอุบอิบ

“ไม่มีในโปร แต่สั่งเองได้ไง  แดกๆ ไปเถอะมึงไม่ได้เป็นคนจ่ายหรอก” ไอ้เมฆว่า ผมก็พยักหน้าเห็นด้วย ก็ดี จะกินให้แม่งหมดตัวเลย

“เหลือลังเดียวนะ ของมาอีกทีอาทิตย์หน้า” พี่ดีหันมาพูดกับทศกัณฐ์

“เปิดแค่ขวด สองขวด พอหายเสี้ยนก็ได้” พี่เซนท์บอก ทศกัณฐ์ก็พยักหน้าตกลง  รอไม่นานวิสกี้ราคาแพงก็ถูกนำมาเสิร์ฟแก่ทุกคนบนโต๊ะ พร้อมแก้วเบียร์ไซส์ใหญ่วางตรงหน้าผม  มีกับแกล้มสองสามอย่างทยอยมาทีหลัง  ผมยกเบียร์ขึ้นจิบ รสชาติเป็นขมฝาดๆ ลิ้นจนต้องเบ้หน้าเบาๆ หรือมันยังไม่ชินลิ้นวะ

“เป็นไง อร่อยไหม” ทศกัณฐ์ก้มลงมากระซิบถาม อยากจะพูดว่าอร่อยมากเพราะกลัวเสียหน้า แต่มันไม่อยากฝืนกินแล้วง่ะ ไม่อร่อยเลย  ทศกัณฐ์เลิกคิ้วมองท่าทางผมก่อนจะหลุดยิ้มขำแล้วยกมือเรียกพนักงาน

“โรเซ่ แก้วเล็กที่หนึ่ง” พนักงานรับคำก่อนจะเดินไป

“อะไรเล่า ผมกินได้เหอะ” ไม่ยอมให้เขาดูถูกง่ายๆ แน่  บรรยากาศภายในโต๊ะเต็มไปด้วยความครื้นเครง พอเหล้าเข้าปากก็เหมือนจะคล่องกันหมด  ไม่นานแก้วที่บรรจุน้ำสีเข้มกว่าเบียร์ที่ผมดื่มอยู่ก็วางลงตรงหน้าเป็นฟองๆ เหมือนกันเลยแฮะ

“ลองดื่มดู เป็นเบียร์เหมือนกันนั่นแหละ แต่มึงน่าจะชอบ” ทศกัณฐ์พยักหน้าไปทางแก้วเบียร์แก้วใหม่ตรงหน้าผมแล้วหันไปสนใจที่เพื่อนคุยกันไม่ได้มองผมอีก  ตอนแรกก็ไม่อยากจะฟังเขาเท่าไหร่หรอก แต่ว่าลองสักหน่อยก็ได้วะ

หอมดีแฮะ...อืม  กินง่ายกว่าเมื่อกี้เยอะเลย รสชาติเหมือนมีสตอรว์เบอร์รีผสมอยู่ด้วย

ผมดื่มอึกๆ เพลินไปหน่อยจนหมดแก้ว  รู้สึกไม่เมาเหมือนเหล้าแฮะ(เดี๋ยวแกก็รู้//YINGPREM)  ผมอยากดื่มอีกจึงตัดสินใจกระตุกเสื้อทศกัณฐ์ เขาหันมามองนิดๆ ว่ามีอะไร ผมยังเงียบ เขาเลยเหลือบมองไปแก้วที่ว่างเปล่า ก็ฉีกยิ้มมุมปากมาให้ผม  เขาชักจะยิ้มบ่อยเกินไปแล้วนะวันนี้

“โรเซ่ ไซส์แอล...อย่าดื่มเยอะนักล่ะ เมาเหมือนกันนะ” ทศกัณฐ์หันไปบอกพนักงานก่อนจะวกกลับมาคุยกับผม  ผมเลยยู่จมูกใส่เขานิดๆ  อย่ามาสอนซะให้ยาก คราวนี้ผมไม่เมาแน่ๆ

++++++++++++++++++++++++++++++++++

สมิธหันไปมองฝั่งตรงข้ามกับที่เขานั่งอยู่  ไอ้เด็กจอมกวนยกเบียร์ขึ้นดื่มอึกใหญ่ไปแก้วที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้  ตาก็เริ่มปรือแล้วด้วยสิ  แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีอะไรที่ต้องห่วงนัก เพราะไอ้น้องรันต์ไม่ว่าจะทำอะไรหรือขยับตัวไปไหนก็จะอยู่ในสายตาของเพื่อนเขาตลอด   ตั้งแต่ที่เขาเป็นเพื่อนกับทศกัณฐ์มายังไม่เคยเห็นมันสนใจใครเท่านี้มาก่อน  อย่าว่าแต่กับคนอื่นเลย  ขนาดเพื่อนมันก็ยังมีกำแพงของมัน  แต่พอเขาได้เห็นทศกัณฐ์เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นเขาก็ดีใจมากแล้ว  อยากให้เพื่อนได้มีความสุขเหมือนคนอื่นๆ เขาสักที

“ไปไหนอ่ะพี่” เมฆหันมาทักท้วงสมิธที่ลุกขึ้นยืน กำลังจะออกจากโต๊ะ

“ห้องน้ำ” สมิธหันมาตอบรุ่นน้อง ก่อนจะเดินแยกตัวออกมา  ยิ่งดึกผู้คนในคลับยิ่งเยอะเบียดเสียด  กว่าจะผ่านฝูงชนมาถึงห้องน้ำได้ก็เล่นเหนื่อยเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน

วูบ! สมิธหันไปมองรอบๆ ตัวด้วยความสงสัย  ความรู้สึกเหมือนกำลังโดนจ้องมองอยู่ตลอดเวลา มันทำให้กายเขาขนลุกซู่อยู่ตลอดเวลา  เขาบีบมือตัวเองที่สั่นขึ้นอย่างไม่มีสาเหตุ  ปฏิกิริยาแบบนี้ของร่างกายไม่น่าจะเกิดขึ้นอีก

ร่างสูงรีบเดินเข้าไปยังโถด้านในสุด จัดการรูดซิปแล้วควักน้องชายออกมาทำธุระให้เสร็จอย่างรวดเร็ว  เมื่อจัดการเสร็จก็ตรงดิ่งไปยังอ่างล้างมือ กวักน้ำใส่หน้าตนเองจนเริ่มสร่าง  หรือว่าเขาจะเมาจนคิดไปเอง

“หึๆ” เสียงปริศนาดังขึ้น ร่างสูงที่พึ่งจะสร่างหมาดๆ รีบหันไปทางต้นเสียงที่หน้าทางเข้า เห็นเพียงเสี้ยวแว่บๆ เดินออกไป  ใครมันกล้ามากวนประสาทเขากันถ้าจับได้แม่งจะกระทืบให้ คิดได้ดังนั้นสมิธก็รีบสาวเท้าตามไปติดๆ  เขาเห็นแผ่นหลังที่คาดว่าจะเป็นของบุคคลปริศนา

“หยุดนะเว้ย!” สมิธตะโกนสั่งอีกคนให้หยุด แต่บุคคลคนนั้นก็ยังเดินต่อไปด้วยท่าทีสบายๆ โชคดีที่เสียงเพลงค่อนข้างดังเลยไม่มีใครหันมาสนใจเขามากนัก  จนกระทั่งเขาตามมาจนทะลุหลังร้าน  ร่างปริศนาจึงได้หยุดยืนอยู่นิ่งๆ ทำให้สมิธที่เดินตามมาพลอยหยุดตามไปด้วย  แสงไฟจากลานจอดรถสาดส่องเข้ามา ทำให้เขาเห็นแผ่นหลังของบุคคลที่เขาเดินตามได้เต็มสองตา  ผมยาวสลวยสีบลอนด์ทองถูกมัดขึ้นลวกๆ แต่กระนั้นก็ยังยาวมาถึงกลางแผ่นหลังกว้างที่คุ้นตา

“ตามกูทำไม มึงเป็นใครกันแน่!” ไม่รู้เพราะอะไรดลใจให้เขาถามออกไปแบบนั้น  แม้ตอนนี้สัญชาตญาณเขากำลังร้องเตือนอย่างหนักว่าให้รีบถอยห่างจากคนๆ นี้

“จะให้หันไปจริงๆ น่ะหรอ” เสียงทุ้มแหบเอื้อนเอ่ยออกมาเพียงเท่านั้น ก็ทำให้อาหารที่สมิธเพิ่งกินไปแทบจะขย้อนออกมาให้ได้ ตัวเขาสั่นเทิ้มอย่างรุนแรงมองร่างตรงหน้าด้วยความรู้สึกหลากหลาย  เขาอยากหนีไปจากตรงนี้แต่ร่างกายเขาตอนนี้ราวกับมีโซ่จากทุกทิศทางมาตรึงไว้จนขยับไม่ได้  ระยะห่างราวสิบเมตรไม่ได้ช่วยให้เขารู้สึกดีขึ้นเลยสักนิด

ในตอนนั้นเองร่างสูงตรงหน้าสมิธกำลังจะขยับกาย ทำให้เขารีบร้องจนเสียงหลง

“อย่าแม้แต่จะหันมาเด็ดขาด” สมิธแทบจะไม่ได้ยินเสียงของตัวเอง ในหูของเขามันอื้ออึงไปหมด แต่อย่างน้อยบุคคลตรงหน้าก็ไม่ได้ขยับหันมาอย่างที่คิด

“หึๆ ไม่คิดถึงกันเลยหรือไง” น้ำเสียงทุ้มแหบพร่าเอ่ยกับสมิธด้วยโทนเสียงสบายๆ เหมือนถามสารทุกข์สุขดิบ

“มึงฝันกลางวันอยู่รึไง!” สมิธกัดฟันตอบโต้อีกคนอย่างสุดจะทน  เท้าของเขาก้าวถอยหลังเรื่อยๆ

“ก็คงจะฝันต่อไปอีกไม่นานหรอก” อีกคนตอบกลับออกมาปนหัวเราะเบาๆ ราวกับว่าจะมีเรื่องอะไรดีๆ เกิดขึ้นอย่างนั้น

“อย่ามาผิดสัญญา มึงต้องไม่โผล่หน้ามาให้กูเห็นอีก” เขาท้วงติงถึงพันธะสัญญาในอดีต  ความทรงจำอันเลวร้ายกำลังจะกลับมาหลอกหลอนเขาอีกครั้ง

“พี่ไม่เคยผิดสัญญา แต่จะเป็นนายต่างหาก ที่จะเดินเข้ามาหาพี่เอง” จบประโยคนั้นสมิธตัดสินใจหันหลังออกวิ่งกลับเข้าไปในร้านทันที  แต่เขาก็ยังไม่วายได้ยินเสียงของไอ้ปีศาจลอยเข้ามาในอากาศ

“มาหาพี่ได้ทุกเมื่อนะ มิตตี้” รอยยิ้มร้ายถูกจุดขึ้นบนใบหน้าคมสวยนิดๆ  สมิธวิ่งอย่างไม่ลืมหูลืมตาตรงดิ่งไปยังห้องน้ำข้างใน เมื่อปิดประตูยังไม่สนิทดี เขาก็ขย้อนสิ่งที่พึ่งกินไปออกมาอย่างกักเก็บไว้ไม่ไหว  สมิธโก่งคออ้วกซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนไม่เหลืออะไรจะหลุดออกจากกระเพาะได้อีก

ร่างสูงทรุดตัวนั่งอยู่ข้างโถส้วมด้วยความอ่อนแรง

เขาจะทำยังไงดี...สัตว์นรกนั่นกำลังคืบคลานเข้าใกล้เขามากขึ้นทุกทีแล้ว!!!

+++++++++++++++++++++++

เฮลโลลลล เปรมคัมแบ็คคคคค อิอิ ตอนนี้ช่างยาวเหยียดเหลือเกิน ชดเชยที่ห่างหายไปนานให้เต็มอิ่มกันไปเล้ย ขอบคุณทุกๆ คนมากนะคะสำหรับกำลังใจ  ตอนนี้ทุกอย่างเริ่มโอเคเคขึ้นมากแล้ว  แต่คงไม่ได้มาถี่มากเพราะเปรมก็ยังยุ่งๆ อยู่ อาจจะมาได้อาทิตย์ละประมาณ 2 ตอนนะคะ คิดถึงทุกคนเน้อ จุ๊ฟฟฟ :กอด1:
ป.ล.ถ้าไม่เป็นการรบกวนมากไปก็อยากให้ช่วยคอมเม้นแสดงความคิดเห็นให้หน่อยนะคะ จะได้เป็นแนวทางนำไปปรับปรุงงานเขียนต่อไป ชุ้บๆ :-[
ป.ล.2 ถ้าเม้นเยอะๆ ตอนหน้าจะมาเร็วเป็นพิเศษ จุ๊ฟฟฟ(หลบรองเท้าแพรพ อิอิ) :z6: :z3:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-04-2017 15:13:26 โดย YINGPREM »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 21♡P.14[22/4/60]
« ตอบ #409 เมื่อ: 22-04-2017 17:26:04 »





ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8891
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 21♡P.14[22/4/60]
«ตอบ #410 เมื่อ22-04-2017 17:32:16 »

 :pig4:

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 21♡P.14[22/4/60]
«ตอบ #411 เมื่อ22-04-2017 18:02:27 »

 :a5: อย่าบอกนะว่ามิตตี้มีสามีน่ะ

ออฟไลน์ Tennyo_Y

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 739
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 21♡P.14[22/4/60]
«ตอบ #412 เมื่อ22-04-2017 18:37:01 »

ฮึก ร้องไห้ ดีใจมากที่กลับมาสักที คิดถึงรันต์ ว่าแล้วมิตตี้ต้องมีสามีคึคึ

ว่าแต่น้องรันต์ เมื่อไหร่ เรื่องกับพี่ทศจะหลุด ว่าแต่ คู่นี้กำแพงหนาพอ ๆ กันเลย รันต์ทศเนี่ย

ออฟไลน์ question09

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1501
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-10
Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 21♡P.14[22/4/60]
«ตอบ #413 เมื่อ22-04-2017 19:09:16 »

 :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 21♡P.14[22/4/60]
«ตอบ #414 เมื่อ22-04-2017 19:09:43 »

ฮึ่ย......คนนั้นที่สมิธกลัว เป็นใครกันนะ
เพราะสมิธ ก็ตัวใหญ่ใกล้เคียงทศกัณฐ์
แต่เรียกสมิธ ซะน่าร้าก น่ารัก "มิตตี้"
น่าจะติดใจ ชอบสมิธ มากเลย
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 21♡P.14[22/4/60]
«ตอบ #415 เมื่อ22-04-2017 19:12:28 »

 :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ oilzaza001

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 619
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 21♡P.14[22/4/60]
«ตอบ #416 เมื่อ22-04-2017 20:41:06 »

สงสัยใจยักษ์นี่คงไม่ใช่หมายถึงทศกัณฑ์ละม้างงงง สงสัยคงเป็นรันต์ละที่ "ใจยักษ์ :hao7: :hao7:" อิอิ

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4
Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 21♡P.14[22/4/60]
«ตอบ #417 เมื่อ22-04-2017 23:39:59 »

 o13 o13 o13 o13

ออฟไลน์ คนคิ้วท์คิ้วท์

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 339
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 21♡P.14[22/4/60]
«ตอบ #418 เมื่อ23-04-2017 00:26:40 »

เจอคำว่ามิตตี้มาในหัวเราคือคิตตี้เลยค่ะ
พี่สมิธตัวใหญ่แล้วยังมีคนล้มได้อีกเหรอคะ แต่แบบนี้แหละค่ะที่ต้องการ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 21♡P.14[22/4/60]
«ตอบ #419 เมื่อ23-04-2017 01:33:45 »

ดีใจที่ได้อ่านต่อ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด