《ใจยักษ์❤[เมฆ-เก่ง]:ตอนที่1❤[25/03/61]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: 《ใจยักษ์❤[เมฆ-เก่ง]:ตอนที่1❤[25/03/61]  (อ่าน 220500 ครั้ง)

ออฟไลน์ Tuffina

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 109
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: 《•ใจยักษ์•》♡ตอนที่ 8♡ [20/11/59]
«ตอบ #90 เมื่อ21-11-2016 17:27:09 »

โอ้ยยยยย น่ารักมาก น้องรันต์แทนตัวเองว่าน้องแล้วมุ้งมิ้งตะมุตะมิมากๆเลย ฮือออออ

ออฟไลน์ cookie_

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: 《•ใจยักษ์•》♡ตอนที่ 8♡ [20/11/59]
«ตอบ #91 เมื่อ21-11-2016 17:29:18 »

ย๊ากกกกกก เขินแรงงงงง :m3: :m3:

ออฟไลน์ จอมจุ้น6002

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 86
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
Re: 《•ใจยักษ์•》♡ตอนที่ 8♡ [20/11/59]
«ตอบ #92 เมื่อ24-11-2016 20:21:09 »

คิดถึงยักษ์ กะน้องรันต์  :mew1: :กอด1:

ออฟไลน์ 111223

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 910
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-5
Re: 《•ใจยักษ์•》♡ตอนที่ 8♡ [20/11/59]
«ตอบ #93 เมื่อ25-11-2016 10:00:09 »

น่ารักจังเลยแหะ >< เมาบ่อยๆนะลูก

ออฟไลน์ lovenadd

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 601
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-11
Re: 《•ใจยักษ์•》♡ตอนที่ 8♡ [20/11/59]
«ตอบ #94 เมื่อ25-11-2016 21:33:04 »

เป็นเรื่องที่อ่านสนุกครับ

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
Re: 《•ใจยักษ์•》♡ตอนที่ 8♡ [20/11/59]
«ตอบ #95 เมื่อ26-11-2016 17:09:07 »

คุ้นๆเหมือนเคยอ่านเรื่องนี้มาแล้ว แต่น่าจะนานจนลืมไม่เป็นไรมาอ่านทวนใหม่ก้ได้ แต่ฉากสุดท้ายนี่แปลกๆมั้งคะ คือรันต์ก็สูงตั้ง 180 นะ ส่วนทศก็สูงไม่ต่างกันมากแค่ 6-7 cm. เองใช่รึเปล่า แล้วพอรันต์มานั่งตักเราว่าระดับความสูงของหน้าน่าจะใกล้กันจนแทบเสมอเลยมากกว่านะคะ แล้วก็ตอนอุ้มด้วย ทศอุ้มเหมือนรันต์สูงแค่ 160 อะ

ออฟไลน์ mirage

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
Re: 《•ใจยักษ์•》♡ตอนที่ 8♡ [20/11/59]
«ตอบ #96 เมื่อ26-11-2016 19:08:43 »

555 น่ารักดีนะคะ
ตอนแรกๆ รัตน์ดูผ่านโลกมามากนะ(ไม่รู้จะใช้คำว่าอะไรดี คำนี้แล้วกัน)

ติดตามค่ะ
 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ binggosoda

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: 《•ใจยักษ์•》♡ตอนที่ 8♡ [20/11/59]
«ตอบ #97 เมื่อ27-11-2016 21:06:30 »

ติดตามนะครับ รอมาต่อไวๆครับ :katai5:

ออฟไลน์ natt lUcky

  • อะโย่ อะเย่
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 312
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
Re: 《•ใจยักษ์•》♡ตอนที่ 8♡ [20/11/59]
«ตอบ #98 เมื่อ27-11-2016 21:31:39 »

น้องงง น่ารักไปมั้ย
ยักษ์ของเราไปไม่เป็นเลย 555

ออฟไลน์ YINGPREM

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 131
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1
Re: 《•ใจยักษ์•》♡ตอนที่ 9♡ [28/11/59]
«ตอบ #99 เมื่อ28-11-2016 20:16:35 »

คุ้นๆเหมือนเคยอ่านเรื่องนี้มาแล้ว แต่น่าจะนานจนลืมไม่เป็นไรมาอ่านทวนใหม่ก้ได้ แต่ฉากสุดท้ายนี่แปลกๆมั้งคะ คือรันต์ก็สูงตั้ง 180 นะ ส่วนทศก็สูงไม่ต่างกันมากแค่ 6-7 cm. เองใช่รึเปล่า แล้วพอรันต์มานั่งตักเราว่าระดับความสูงของหน้าน่าจะใกล้กันจนแทบเสมอเลยมากกว่านะคะ แล้วก็ตอนอุ้มด้วย ทศอุ้มเหมือนรันต์สูงแค่ 160 อะ

ตอบความคิดเห็นนี้นะคะ
จริงๆทศกัณฐ์กับน้องรันต์ส่วนสูงห่างกันเพียง 7 เซนติเมตรค่ะ มันก็สูงห่างกันไม่มากเนอะ  แต่เวลานั่งช่วงตัวบนก็ห่างกันนิดหน่อย  มันก็พอจะก้มหัวซบได้อยู่  เปรมไม่ได้อธิบายว่าซบทั้งตัวเนอะ(เป็นความผิดของคนเขียนเองที่ไม่อธิบายให้ชัดเจน)
ส่วนเรื่องที่สามารถอุ้มได้นั้น  ทศกัณฐ์ก็ตัวหนากว่ารันต์มาก  บุคลิกรันต์จะเป็นแบบเด็กผู้ชายตัวสูงแต่ตัวผอมน่ะค่ะ(คนเขียนเคยโดนน้องชายกระโดดขี่หลังโดยที่มันสูงกว่าประมาณสิบกว่าเซนฯ(แต่มันผอมกว่า)ได้ค่ะ)

ปอลอลิง เรื่องนี้ไม่เคยลงที่ไหนมาก่อนนะคะ เปรมพึ่งลงเรื่องยาวเป็นครั้งแรกที่นี่และอีกเว็บ(ธัญวลัย)  เริ่มเรื่องอาจจะมีไปคล้ายๆกับนิยายเรื่องอื่นบ้างแต่เปรมกล้ารับรองว่าไม่เคยก็อปนิยายของใคร  อยากให้ติดตามกันไปเรื่อยๆ  เดี๋ยวก็จะเห็นความแตกต่างเนอะ

สุดท้ายนี้เปรมขอบคุณความคิดเห็นของคุณR@iNi@r มากๆ ที่ใส่ใจรายละเอียดที่เปรมมองข้ามไปบางจุด  เปรมจะนำไปปรับแก้แน่นอนค่ะ และขอบคุณมากๆสำหรับทุกๆความคิดเห็นอื่นๆนะคะ 

ไปอ่านกันเถอะเสียเวลา อิอิ


+++++++++++++++++++++


9



ฮื่ออออ  ปวดหัวว่ะ  รู้สึกเหมือนหัวจะหนักกว่าทุกที   มึนๆด้วยแฮะ  ผมค่อยๆขยับเปลือกตาเปิดขึ้นช้าๆค่อยๆให้สายตาปรับโฟกัส  ภายในห้องยังมืดอยู่ม่านยังปิดไว้  รู้สึกว่าจะเป็นห้องพักผมที่คอนโดฯของทศกัณฐ์นี่แหละ

ว่าแต่   ผมเข้ามาได้ไงวะครับ? ที่จำได้คือต้องกลับหอ  แต่โดนไอ้พี่สมิธมันกวนตีนเอากระเป๋าผมไปซ่อน  เลยต้องอยู่เล่นเกมกะมัน  แล้วก็ยกเหล้าไป2แก้วรึเปล่านะ  จากนั้นผมก็จำอะไรไม่ได้อีก  นี่กูเมาใช่ไหมวะ  ผมหวังว่าตัวเองคงไม่ได้ทำอะไรแย่ๆออกไปหรอกนะครับ

ผมขยับตัวลุกขึ้นจากเตียง  เอื้อมมือไปเปิดโคมบนโต๊ะข้างหัวเตียง  หยิบแว่นขึ้นมาสวม  มองไปที่นาฬิกาดิจิตอลที่อยู่บนผนังอีกฝั่ง  อืม  จะสิบโมงเช้าแล้วครับ  ผมลุกไปเข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตาให้เรียบร้อยก่อนออกจากห้อง

แก็ก

ข้างนอกเงียบสนิทไร้ความเคลื่อนไหว  ผมเดินไปทางห้องนั่งเล่น  ซากหมอนและผ้าห่มกองรวมอยู่ที่หน้าโซฟา  แต่ไร้วี่แววมนุษย์ทั้งสี่คน  ที่แปลกกว่านั้นคือแก้วเหล้า  ขวดเหล้าและจานชามถูกเก็บเรียบร้อย  ไม่มีเศษซากให้เห็น

ผมเดินเข้าไปที่ห้องครัว  ผมกะจะทำอาหารอ่อนๆเอาไว้ให้ทศกัณฐ์แล้วจะรีบกลับหอไปอาบน้ำนอนต่อ  เอ่อ  แล้วกระเป๋าผมอยู่ไหนวะครับ  แม่งไอ้พี่สมิธเล่นกูอีกละ

ผมทำข้าวต้มปลาไปด้วยความหงุดหงิด  ลองไปถามทศกัณฐ์ดูก็ได้วะเผื่อเขาจะรู้  พอคิดหาทางได้ผมก็ทำไข่เจียวเพิ่มให้เขาอีกอย่างดีกว่า   ของในตู้เย็นก็จะหมดเกือบทุกอย่างแล้วคงต้องไปหาซื้อมาไว้แล้วล่ะ

ฟู่! เสียงไข่เจียวแตกฟู่ในกะทะเรียกน้ำย่อยมากครับ คิดไปคิดมาผมก็ยังไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เย็นเมื่อวานเลยนี่หว่า 

หมับ!

ขณะที่ผมกำลังคิดอะไรเพลินๆอยู่ๆก็มีมือปริศนาที่ไหนไม่รู้จับหมับเข้าที่บ่าผมโดยไม่ทันตั้งตัว

“เฮ้ย!!!” ผมตัวสะดุ้งโหยง  กะทะทอดไข่เกือบคว่ำ  หันไปมองคนที่ย่องมาด้านหลังเงียบๆ  เผลอถลึงตาใส่เขาอย่างโกรธๆ  สายตาคนตรงหน้าเหมือนแม่งสนุก

“เล่นอะไรของคุณครับ  ถ้าเกิดผมเผลอเอากะทะทอดไข่ปาใส่คุณจะขำไม่ออกนะครับ”

“ก็หลบ”ยักไหล่ไม่แคร์แล้วเดินไปเปิดตู้เย็น  มันน่าโดนจริงๆ  ผมหันไปทอดไข่ต่อ  ดีที่เป็นกะทะเทฟลอนไข่เลยไม่ค่อยไหม้  พอไข่สุกก็ตักใส่จาน

“คุณมาก็ดีแล้ว  เห็นกระเป๋าผมที่คุณสมิธเอาไปซ่อนไหม” ทศกัณฐ์ยืนพิงตู้เย็นคิดไปพักนึงแล้วยกขวดน้ำในมือขึ้นดื่มก่อนส่ายหัวเบาๆ

โอเค  ใจเย็นๆไว้รันต์  มึงต้องใจเย็น  อย่าหงุดหงิด  ผมสูดหายใจเข้าลึกๆอย่างระงับอารมณ์

“คุณช่วยถามเขาให้หน่อยได้ไหมครับ  แบบโทรหาน่ะ  ผมจะกลับหอ น้ำยังไม่ได้อาบตั้งแต่เมื่อวาน” ผมก้มมองสภาพตัวเองอย่างอดสู  ทศกัณฐ์มองตามพยักหน้าเหมือนเข้าใจ  แต่ไอ้สายตาเหยียดเหมือนรังเกียจนั่นคืออะไรครับ?  ใช่ดิมันอยู่ในชุดนอนสะอาดสะอ้าน  หลับสบายๆบนเตียงนุ่มๆ หน้างี้ก็ใสวิ้งอย่างกับคนไม่ได้ดื่มเลย

เขาเดินออกไปข้างนอกครัว  ส่วนผมก็เก็บทำความสะอาดครัวให้เรียบร้อย  ไม่ถึงสิบนาทีทศกัณฐ์ก็เดินกลับเข้ามาในครัวพร้อมกับผมที่ล้างจานชามเสร็จพอดี

“มันปิดเครื่อง  โทรเข้าโทรศัพท์ที่ห้องก็ไม่รับสาย  สงสัยยังไม่กลับ” ทศกัณฐ์บอกทันทีโดยที่ไม่ต้องถาม  ผมอ้าปากพะงาบๆ  คือไรวะ กูอยากอาบน้ามมมมม

“โอเค  ผมหาเอง  อาจจะอยู่ในห้องนี้แหละ” ผมกำลังเดินออกจากห้องครัวไปหากระเป๋าอย่างที่ปากว่าแต่ก็โดนทศกัณฐ์คว้าแขนเอาไว้ก่อน  ผมหันไปเลิกคิ้วถาม

“ไม่ต้องหาหรอก  ไม่ได้อยู่ในห้องนี้”

“แล้วอยู่ที่ไหน!”ผมเผลอเสียงดังใส่ทศกัณฐ์อย่างลืมตัว  แต่เขาก็ไม่ได้ตกใจอะไร

“ไม่รู้เมื่อคืนเห็นสมิธมันเดินออกจากห้องไปพักนึง  มันคงเอากระเป๋ามึงออกไปด้วย” อาการปวดหัวจี๊ดเข้าแทรกผมทันที  ไอ้เหี้ยสมิธ…  ถึงหอผมจะอยู่ถักจากที่นี่ไปสองซอย  แต่ก็เป็นสองซอยที่ไกลนะครับ  คือขึ้นรถเมย์ก็ตั้งสองป้ายอ่ะ  เหนื่อยไปดิถ้าเดินกลับจริงๆ

“เดี๋ยวไปส่งอย่าคิดมาก  กินข้าวก่อนๆ”ทศกัณฐ์ลากผมไปนั่งที่เก้าอี้  ส่วนตัวเขาเดินไปเปิดหม้อข้าวต้มหยิบถ้วยกับช้อนออกมาสองชุด  ตักข้าวต้มใส่แล้วนำมาเสิร์ฟผมถึงที่

หืม  แปลกๆไปรึเปล่านะ  รู้สึกบรรยากาศผ่อนคลายตั้งแต่ที่เขาเข้ามาแล้ว

“เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นรึเปล่าครับ” ผมถามอย่างสงสัย  จ้องหน้าเขาอย่างหาคำตอบ

“ไม่นี่” ร่างสูงทรุดนั่งตรงข้าม  ก้มหน้าก้มตากินข้าวต้มกับไข่เจียวไม่สนใจผม

“หรอ  คุณดู…แปลกๆ”ผมตั้งข้อสังเกต  เขาดูว่าง่ายกว่าปกติ และ…อ่อนโยน  เฮ้ยๆๆๆ  บ้าไปแล้วรันต์  มึงเมาค้างแน่ๆ  ผมตบหน้าตัวเองเบาๆเรียกสติ

“หึๆ  เป็นบ้าไปแล้วหรอ”ได้ยินเสียงหัวเราะจากฝั่งตรงข้ามกับสายตาขำๆของมันทำให้ผมรู้สึกแปลกๆว่ะครับ  แต่ไม่รู้จะเรียกความรู้สึกนี้ว่าอะไรดี  ช่างมันเถอะ

เราสองคนนั่งกินข้าวกันเงียบๆจนหมดถ้วย  ผมกินแค่ถ้วยเดียวก็อิ่ม  ส่วนทศกัณฐืสองถ้วยเต็ม  ไข่เจียวห้าฟองก็หมด(ผมกินนิดเดียว)
“คุณ!ไม่ต้องทำๆ  เดี๋ยวผมทำเอง  คุณไปอาบน้ำเถอะ”ผมรีบไปหยิบชามออกจากมือทศกัณฐ์ที่กำลังเดินจะเอาไปล้าง

“ช่วยทำ”เขาไม่ยอม  จะแย่งคืนจากมือผมให้ได้

“คุณไม่ต้องช่วย  นี่มันหน้าที่ผม  รีบไปอาบน้ำเถอะ  ผมอยากกลับจะแย่แล้ว” ผมว่าดุๆแล้วเดินเอาชามไปล้างที่ซิงค์  ทศกัณฐ์ก็มองตามก่อนจะหายใจหน่อยๆแล้วเดินออกจากครัวไป

ผมล้างชามเสร็จไม่เกินสิบนาที  ก่อนจะออกไปนั่งรอทศกัณฐ์ที่ห้องนั่งเล่นเปิดทีวีดูการ์ตูนช่องโปรดอย่างสบายใจ

เกรงใจไหม?

ไม่นี่   ผมทำให้เขามากกว่านี้อีก  เดี๋ยววันจันทร์จะต้องไปเอาเสื้อผ้าจากร้านซักรีดที่ใต้คอนโดมาไว้ให้อีก   ชีวิตขี้ข้าเต็มตัวแล้วตอนนี้
.
.
.
.
.

15 นาทีต่อมา

ตึกๆๆ

เสียงฝีเท้าดังมาจากชั้นสอง   ผมหันไปมองทศกัณฐ์ที่วิ่งลงมาอย่างรีบๆมือถือหมวกกันน็อคลงมาด้วย  แล้วเขา…

ก็วิ่งเลยผมไปที่หน้าห้อง

ผมรีบปิดทีวีแล้ววิ่งตามออกไป

“หอผมไม่ได้ย้ายหนีไปไหน  ไม่ต้องรีบขนาดนี้ก็ได้มั้งคุณ” ทศกัณฐ์ที่กำลังใส่รองเท้าชะงักเงยหน้ามองผมแล้วขมวดคิ้วมุ่น

“ขับรถยนต์เป็นไหม” เขาถามนิ่งๆยืนขึ้นเต็มความสูง

“ก็…พอได้ครับ  ทำไม?” ผมถามงงๆ  โดยส่วนตัวเมฆก็เป็นคนสอนผมขับรถ  รถสปอร์ตทุกคันของมันผมก็ลองขับมาหมดแล้ว  ทศกัณฐ์พยักหน้ารับ  วิ่งผ่านหน้าผมขึ้นไปบนชั้นสอง 

อะไรของเขาวะ?

ผมเดินไปเปิดตู้หยิบรองเท้ามาใส่รอ  สักพักทศกัณฐ์ก็วิ่งลงมาพร้อมโยนสิ่งที่อยู่ในมือเขามาทางผม   มือผมก็ยกขึ้นรับโดยอัตโนมัติ  เมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ในมือผมก็เงยหน้าขึ้นมองทศกัณฐ์งง

“หมายความว่าไงครับ?”ผมถามแล้วชูกุญแจรถที่มีสัญลักษณ์แอสตันมาร์ตินเด่นหรา

“กูไม่ว่างไปส่งมึงแล้ว  ขับกลับไปเลย  เดี๋ยวกระเป๋าจะหาไปคืนให้” ทศกัณฐ์ร่ายยาวแล้วเดินฉับๆจะออกจากห้อง

“เฮ้ยๆ  เดี๋ยวก่อนคุณ  มีเรื่องอะไรรึเปล่า”ผมรั้งแขนทศกัณฐ์ให้หันกลับมาคุยกันดีๆ  มันมองหน้าผมนิ่งๆ  แล้วถอนหายใจใส่

“ไอ้สมิธโดนรุมกระทืบ  ตอนนี้อยู่โรพยายบาล”

“ห๊ะ  แล้ว…เป็นอะไรมากรึเปล่า”

“ไอ้ดีบอกว่าโดนแทงที่ท้อง” ผมรู้สึกว่าประโยคนี้ของทศกัณฐ์ดูเย็นเยียบ  สายตาเขาดูกดต่ำลง  แวบนึงผมรู้สึกเหมือนสายตาเขา…ไม่เหมือนสายคนปกติ

“งั้นคุณรีบไปเถอะ”ผมดุนหลังเขาไปที่ประตู  เขาก็ออกรีบไปแต่โดยดี

ทศกัณฐ์ออกไปแล้วส่วนผมยังอยู่ในห้องเขา   ก็มีเรื่องต้องทำอีกนิดหน่อยน่ะครับ
.
.
.
.
.

ผมกลับมาถึงห้องตัวเองตอนบ่ายนิดๆ   ตอนขี่รถเข้ามาพี่ยามก็มองงงๆ  แน่ล่ะครับอพาร์ทเมนท์ที่นี่ส่วนใหญ่คนที่อยู่ก็เป็นนักศึกษาธรรมดาๆ   รถแพงๆคันเป็นสิบๆล้านก็ไม่ค่อยเห็นกันหรอกครับ   ผมไปทำเรื่องขอคีย์การ์ดสำรองไม่นานนักก็ได้ขึ้นห้อง  ผมอยู่ชั้น3 ครับ  ตึกนี้มี5ชั้น  ลิฟท์ไม่มี  ก็โอเคพอเดินไหวอยู่  พอเข้ามาในห้องแล้วรู้สึกคิดถึงอย่างบอกไม่ถูก(เว่อร์)  ผมรีบถอดเสื้อผ้าตรงดิ่งเข้าห้องน้ำทันที  พอตัวถูกน้ำเหมือนตายแล้วได้เกิดใหม่เลยแฮะ

วันนี้ผมอาบน้ำสระผมนานก็ที่เคย  รู้สึกตัวเองสกปรกไปหน่อย

ก็อกๆๆๆ

เสียงเคาะประตูรัวขึ้นขณะที่ผมกำลังนั่งเช็ดผมอยู่   ผมลุกขึ้นไปเปิด  เจอไอ้เมฆหน้าบึ้งจะเคาะประตูลงมาอีก

“เป็นบ้าอะไร” ผมหลบให้มันเข้ามาในห้องแล้วถาม

“โทรศัพท์เป็นอะไร  ทำไมติดต่อไม่ได้” เดินเข้ามาปุ๊บก็คั้นกูทันที  ผมเดินกลับไปนั่งเช็ดผมที่เตียงอย่างไม่สนใจก่อนจะตอบ

“แบตหมดมั้ง  สงสัยมันดับเอง”จริงๆอยู่กับไอ้พี่สมิธเว้ย  แต่มือถือผมก็ชอบดับเองจริงๆนะ

“ซื้อใหม่ซะทีเถอะรันต์  มึงก็ไม่ได้ขาดเงินอะไรขนาดนั้น  ถ้ามึงไม่ซื้อเดี๋ยวกูซื้อให้” เมฆเดินมานั่งลงข้างๆแล้วบ่น  มือมันก็แย่งผ้าเช็ดตัวจากผมมาเช็ดผมให้แทน

“ก็…มันยังพอใช้ได้อยู่”

“หรอออ  แล้วมีอะไรจะบอกกับพี่เมฆไหมครับน้องรันต์” ตอนแรกก็เหมือนจะล้อเลียน  แต่ประโยคหลังของเมฆก็ทำผมอดสะดุ้งไม่ได้

“อะไร?  ไม่มีนิ” ผมตอบขณะที่ก้มหัวให้มันเช็ดผมให้อยู่  แต่เมฆกลับหยุดมือแล้วเชยคางให้หน้าผมเงยขึ้นสบตากับมัน

“แล้วนี่อะไร  อธิบายพี่มาซิ” เมฆล้วงมือไปหยิบมือถือในกางเกง  กดยุกยิกก่อนจะยื่นจอมาใกล้หน้าผมเพราะตอนนี้ผมไม่ได้ใส่แว่น 

อ่า   รูปที่ไอ้พี่สมิธมันทำแสบไว้

“ก็…แค่เล่นๆกันไง”ผมตอบอ้อมแอ้ม  พยายามหลบสายตาเมฆแม้จะทำได้ไม่มากก็เถอะ  แต่น้ำเสียงเย็นๆที่มันไม่ค่อยใช้ก็ทำผมอดกลัวไม่ได้  เมฆหรี่ตามองนิ่ง  ใจผมก็เต้นรัวกลัวมันรู้ว่ารู้จักกับพวกนี้แล้วไม่บอกมัน

“พวกเขาได้แกล้งมึงรึเปล่า”

“ไม่นี่  กูเป็นพี่สาธิตแต่เล่นแพ้  ก็เลย…แบบนั้นแหละ”

“แล้วทำไมต้องลงโทษแบบนั้น”ไอ้พี่สมิธมันอยากแกล้งกูไง”ถ้าไอ้อ๋องไม่ส่งมาให้กูดูก็ไม่คิดจะบอกกูเลยใช่ไหมห๊ะ   กูคลาดสายตาแปบเดียวยังขนาดนี้”ไอ้แก่บ่นยาวเลยทีนี้

“เออน่ะ   มันไม่มีอะไรเสียหายหรอก”

“ไม่เสียหายได้ไง  แก้มมึงกูหอมได้คนเดียวยกเว้นแฟนมึง  แต่ตอนนี้มึงยังไม่มีแฟนกูหอมได้คนเดียว”ผมขำนิดๆกับความคิดมัน”หรือว่า…มึงมีแฟนแล้ว?” ผมรีบส่ายหัวโดยอัตโนมัติ  เมฆก็พยักหน้ารับเหมือนพอใจในคำตอบผม

“ดีมาก  ไหนแก้มข้างไหนที่ไอ้ผู้ชายคนนั้นมันหอมกูจะลบรอยแม่ง”ไม่พูดเปล่ามันยังเอามือทั้งสองข้างมารั้งใบหน้าผมเข้าไปใกล้  ก่อนจะกดจมูกโด่งๆลงหอมแก้มผมรัวทั้งสองข้าง  ส่วนตัวผมได้แต่ยื่นมือผลักหน้ามันออกไปไกลๆแต่ก็สู้แรงมันไม่ไหวอ่ะนะ

“เหี้ยเมฆ  พอเลยเล่นเป็นเด็กๆ”ผมบ่นหลังจากสลัดตัวหลุดออกจากมันได้  แต่มันกลับหัวเราะเสียงดังอย่างอารมณ์ดีที่ผมบ่น

“ก็มึงมันน่าโดน” โดนเหี้ยไรวะ

++++++++++++++++++++++

หลังจากนั้นเมฆก็ชวนผมออกไปหาอะไรกินข้างนอกที่ห้างใกล้ๆ  กินเสร็จเมฆก็บ่นๆอยากดูหนังไปๆมาๆก็โดนมันลากไปดูจริงๆ  พอดูเสร็จก็หิวไปหาอะไรกินกันอีก  ท้องผมจะแตกอยู่แล้วครับ

สี่ทุ่มเศษๆเมฆก็มาส่งผมที่หอ  มีถามด้วยว่าแอสตันใคร  ไม่เคยเห็นมาก่อน   ผมก็ตีมึนบอกไม่รู้

เมฆตามผมขึ้นไปบนห้องเพราะจะยืมการบ้านไปลอกส่งพรุ่งนี้  พอเอาของเสร็จผมก็เดินออกไปส่งมันหน้าห้อง

“ล็อคห้องให้เรียบร้อย  เดี๋ยวพรุ่งนี้กูมารับ  โอเค๊?”

“อือ  มึงก็ขับกลับดีๆดึกละ”ผมตอบ

“ครับ  มาจุ๊บลาสิ”

“จุ๊บป้ามึงดิ  ไปเลยไป”ผมไล่

“จุ๊บ!  หึๆ”มันไม่สนใจแต่ก้มลงมาจุ๊บมุมปากผมเร็วๆทีนึง  แล้วหัวเราะในลำคอก่อนจะวิ่งลงไป

“เชี่ยเมฆ  เล่นอะไรไม่รู้เรื่อง”ผมบ่นกับตัวเองเบาๆ  ไม่กล้าตะโกนด่าครับเดี๋ยวข้างห้องออกมาด่าผมแทน

ผมกลับเข้ามาในห้อง  คว้าผ้าเช็ดตัวเตรียมจะไปอาบน้ำแต่อยู่ๆเสียงเคาะประตูห้องผมก็ดังขึ้น   เมฆลืมอะไรไว้รึเปล่านะ

ก็อกๆ

“มีอะไรอีก”ผมเปิดประตูแล้วบ่นทันทีโดยไม่ทันมองว่าเป็นใคร  พอเงยหน้าขึ้นมองชัดๆเท่านั้นแหละ

“เอาของมาให้” ทศกัณฐ์พูดนิ่งๆ  มือข้างนึงชูเป้ผมขึ้นให้ดู

“คุณขึ้นมาได้ไงวะ  คนดูแลหอไม่รู้จักคุณนี่(เมฆขึ้นได้เพราะคนดูแลหอเปิดประตูขึ้นตึกให้  ผมบอกไว้อีกที)” ทศกัณฐ์ไม่ตอบ  แต่ใช้มืออีกข้างดันผมเข้าไปในห้อง  ตัวเขาก็ก้าวตามเข้ามาติดๆ  ใช้เท้าปิดประตูห้องกูอีก

“หิว” เขาวางเป้ลงที่โต๊ะเขียนหนังสือผมกวาดสายตามองรอบห้อง บอกว่าหิวสั้นๆก่อนจะล้มตัวลงบนเตียง

“หิวก็ไปหาซื้ออะไรกินสิ  แล้วก็ลุกออกจากเตียงผมด้วยครับมันสกปรกนะ”ผมสังเกตว่าชุดเขาคือตัวเดียวกันตั้งแต่เมื่อเช้านี้  ทศกัณฐ์ยอมลุกขึ้นนั่งแต่โดยดี  แต่ก็ยังไม่ลุกออกจากเตียงผม   ท่าทางดูเหนื่อยๆ

“เฮ้อ  มันดึกแล้ว  ร้านอาหารแถวนี้ก็ปิดหมดแล้ว  คุณกินมาม่าได้ไหมล่ะ”ผมบอกอย่างเหนื่อยใจ  นึกขึ้นได้ว่ายังพอมีมาม่ากับผักสดในตู้เย็นเหลืออยู่นิดหน่อย  ห้องผมไม่มีห้องครัวนะ  มีบ้างที่ทำนั่นนี่ใส่กระทะไฟฟ้าเอา   ทศกัณฐ์พยักหน้ารับ  สายตาเขามองผมนิ่งๆไม่พูดไม่จา

“มีอะไรติดหน้าผมอยู่รึเปล่าครับ” ผมถามอย่างสงสัย  ทศกัณฐ์ก็ยังนิ่ง  ผมจึงเลิกสนใจเขา  เดินไปหยิบกะทะไฟฟ้ามาต่อ  หยิบแครรอทกับคะน้าจากตู้เย็นแกะมาม่าให้เขาสองห่อดีที่เป็นรสหมูสับ

“อาบน้ำได้ไหม?”เสียงดังขึ้นจากด้านหลัง  ผมหันไปมอง  ตอนแรกว่าจะไล่ให้กลับไปอาบที่ห้องตัวเอง  แต่พอเห็นสภาพแล้วมันอด…ใจอ่อนไม่ได้

“ก็…ได้อยู่หรอก  แล้วชุดล่ะ?”

“มีชุดไหม”กูถามไม่ได้ให้ถามตอบ  ผมเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าคุ้ยๆหาเสื้อผ้าผมที่เขาพอจะใส่ได้  ถึงเราจะสูงต่างกันไม่มากแต่ทศกัณฐ์ตัวหนากว่าผมมาก  เกรงว่าเขาจะใส่ไม่ได้น่ะสิ

ผมได้กางเกงเลให้เขากับเสื้อยืดที่ได้ฟรีมาผิดไซส์แล้วก็ผ้าเช็ดตัวที่ยังไม่ได้ใช้  หวังว่าจะใส่ได้นะ  แล้วอันเดอร์แวร์ล่ะวะ

“อ่ะ  น่าจะใส่ได้  แต่…” ผมยื่นเสื้อผ้าให้ทศกัณฐ์  แต่ไม่กล้าพูดว่าไม่มีอันเดอร์แวร์ว่ะ  ทศกัณฐ์ก็เลิกคิ้วถาม

“มะ  ไม่มีอันเดอร์แวร์นะ”ผมพูดรัว  ทำไมต้องรู้สึกอายๆวะ  ยิ่งไอ้หน้าหล่อๆนิ่งๆยกยิ้มที่มุมปาก  หน้าผมยิ่งร้อนขึ้นไปอีก

“หึๆ  ผู้ชายเขาไม่ใส่นอนกันนะboy”มันแซวผมเสร็จก็เดินเข้าห้องน้ำไปเลย

กร๊าซซซซซ  เคยโมโหที่ทำอะไรไม่ได้ไหมครับ  แม่ง  พอตั้งสติได้ก็เดินไปทำมาม่าต้มให้คุณชายเขาต่อ

พอทศกัณฐ์ออกจากห้องน้ำ  ผมก็ชี้ไปที่มาม่าชามใหญ่ตรงโต๊ะ  แล้วเดินเข้าห้องน้ำอย่างไม่สน  แอบเหล่นิดหน่อยที่ขนาดมันใส่ชุดบ้านๆยังดูดีสุดๆ

ผมอาบน้ำแต่งตัวเสร็จในห้องน้ำ  ปกติก็แต่งด้านนอกแต่วันนี้มีตัวปัญหา

พอออกมาก็เห็นทศกัณฐ์นอนคว่ำอยู่บนเตียงผมแล้ว  ชามมาม่าไม่มีสงสัยกินเสร็จล้างเรียบร้อยแล้วมั้ง  ผมเอาผ้าเช็ดตัวไปตากที่ระเบียงแล้วเดินกลับไปที่เตียง  เขย่าแขนเรียกทศกัณฐ์

“นี่คุณ  อิ่มแล้วก็กลับบ้านไปนอนดิ”ผมเย่าแขนเขา  จนในที่สุดทศกัณฐ์ก็หันกลับมามอง  ท่าทางเขาสะลึมสะลือเหมือนหลับไปแล้ว

“กลับไปนอนห้องตัวเองได้แล้วครับ”ผมบอกนิ่ง  ยกมือขึ้นกอดอก

“ง่วง  จะนอน”แล้วมันก็หลับตาลงอีกครั้ง  คือกวนตีนใช่ป่ะ?

“ง่วงก็ลุกกกกก”ผมดึงแขนเขาให้ลุกขึ้น  แต่แม่งไม่ขยับเลย  หนักเป็นบ้า

“นอนนี่นะ”นี่ผมหูฝาดไปรึเปล่าครับทุกคน

“อย่ามาตลก  ขี่รถไม่ถึงสิบนาทีก็ถึงห้องคุณละ”ผมบอก  ยังพยายามลากแขนให้เขาลุกขึ้นให้ได้

“สิบนาทีก็ง่วง”อะไรของเขาวะ  มางอแงอะไรวันนี้เนี่ยทำเอาผมไปไม่ถูกเลย

“เตียงมันแคบ”เตียงผมประมาณ6ฟุตครับ  จริงๆมันก็พอนอนได้สองคนแหละ  แต่ไม่อยากนอนกับมันนี่

ไม่ได้สนิทกันสักหน่ย

“นอนได้” มันพูดแล้วเขยิบไปชิดอีกฝั่งให้ผม  เฮ้ออออออ

ผมถอนหาใจแรงๆใส่หน้ามันอย่างคนทำอะไรไม่ได้

ถามว่าทำไมไม่นอนพื้น  เรื่องอะไรผมต้องทำแบบนั้นกันครับ  นี่ห้องผมโว้ย

ผมหยิบหมอนข้างมากั้นตรงกลาง  แล้วเดินไปปิดไฟก่อนจะล้มตัวลงนอน

“ห้ามข้ามมาแม้แต่นิดนะครับ”ผมบอก  ยังคงระแวงนิดๆกับเรื่องเมื่อตอนนั้น
.
.
.
.
.
.
.


เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้  ผมก็ยังคงนอนไม่หลับ  เกร็งตัวนอนอยู่อย่างนั้น  จนกระทั่งเสียงโทรศัพท์ไม่คุ้นหูดังขึ้น  น่าจะเป็นมือถือของทศกัณฐ์    ผมสัมผัสได้ว่าร่างสูงที่นอนอยู่ข้างๆผมลุกขึ้น  ไม่รู้อะไรดลใจให้ผมทำเป็นแกล้งหลับ  เสียงโทรศัพท์หยุดไปพร้อมๆกับเสียงทศกัณฐ์ที่ดังขึ้น

“มีอะไร” เขาพูดเป็นภาษาอังกฤษ

(…)

“ผมจัดการแล้ว  พี่ไม่ต้องเข้ามายุ่งเรื่องนี้” ทศกัณฐ์เสียงกดต่ำลงยิ่งกว่าเดิม

(…)

“ถ้ามันรู้ว่าพี่เข้ามายุ่ง  มันหนีอีกแน่”

(…)

“ตามใจ  แต่ถ้าคราวนี้พี่หามันไม่เจอ  รู้ไว้ว่าผมคือคนที่พามันไปเอง”

(…)

“ถ้ามันเป็นอะไรไป  ผมไม่ให้อภัยพี่แน่ลุค” แล้วทศกัณฐ์ก็วางสายไป  ผมเกร็งตัวยิ่งกว่าเดิมที่เตียงด้านข้างยวบลง   ไม่กี่นาทีต่อมาผมก็ได้ยินเสียงลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอของคนข้างๆ

ทศกัณฐ์คุยกับใครกัน  น้ำเสียงเขาดูซีเรียสมากจริงๆ  จะเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดวันนี้รึเปล่านะ

คิดไปคิดมาผมก็ผร็อยหลับตามทศกัณฐ์ไปติดๆ  โดยไม่รู้เลยว่าหมอนข้างที่กั้นไว้ได้กระเด็นตกจากเตียงด้วยฝีมือคนที่ผมคิดว่าหลับไปแล้ว
.
.
.
.
.
.

ก็อกๆๆๆ

“รันนนนนนนน  ตื่นนนนนนนน”

เสียงเคาะประตูรัวหน้าห้องผมดังขึ้น  ตามมาติดๆด้วยเสียงตะโกนจากเมฆ

ชิบ!ผมลืมตั้งนาฬิกาปลุก  เมื่อคืนกว่าจะหลับก็ดึกดื่น

ผมรีบจะลุกจากเตียงไปเปิดประตูให้เมฆที่เรียกอยู่ด้านนอก  แต่ตัวผมกลับดีดลงไปนอนที่เดิม 

What?  พอตั้งสติได้ดีๆก็เห็นแท่นแขนของคนพาดอยู่บริเวณเอวผม  ผมไล่สายตามองตา

WTF!!!ทศกัณฐ์  มึงกอดกู!  แล้วหมอนข้างไปไหนวะครับ  ผมเตรียมยกเท้าจะถีบมันออก

“ไอ้รันต์  ทำเหี้ยไรอยู่เนี่ยยยยย”  เชี่ยยย  ทำไมปัญหามันรุมเร้าแบบนี้วะเนี่ย  ผมลดเท้าลงแล้วเปลี่ยนเป็นปลุกมันดีๆแทน

“คุณณณณณ  ตื่นนนน”ผมทั้งเรียกทั้งเขย่าสุดแรง  แต่เรียกไม่ดังนะเดี๋ยวไอ้เมฆได้ยิน

“เมฆแปปปป  กูพึ่งตื่น”  ปากพูดกับไอ้เมฆ  มือก็เขย่าไอ้เหี้ยข้างๆนี่ให้ตื่น  จนในที่สุดมันก็ค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น(คือเสียงโครมครามขนาดนี้มึงควรตื่นได้ตั้งแล้ว)

“มีอะไร  ปลุกแต่เช้า”ไม่พูดเปล่ามีการกระชับแขนดกับเอวผมแน่นขึ้น  หน้าซุกหมอนนอนต่อ

“เชี่ยยย  ปล่อยกู   เพื่อนผมมาๆ”ผมดึงมือมันออก  ทศกัณฐ์ยอมเอาหน้าออกจากหมอนมามองผม

“แล้วไง   ก็ไปเปิดประตูดิ” พูดควายๆอีกละ  ยังไมทันที่ผมจะด่ามัน  เสียงไอ้หน้าห้องก็ดังขึ้นอีก

“ไอ้รันต์  มึงเปิดดิ  อยู่กับใครกูได้ยินเสียงคนคุยกัน” นรกแล้ววววว

“ไม่มี  เสียงทีวี  แปปนึงกู  กู  กูแก้ผ้านอน  เมื่อคืนไฟดับ  ใส่เสื้อผ้าก่อน”ผมตะโกนบอก  ทำไมกูต้องมาทำอะไรแบบนี้ด้วยวะ

“ลุกเดี๋ยวนี้  ถ้าเพื่อนผมเข้ามาเห็นคุณผมตายแน่ๆ”ผมบอกเขาลนๆ  ตอนนี้มันยอมปล่อยแขนออกจากเอวผมแล้วครับ  ผมรีบวิ่งไปเก็บรองเท้ากับเสื้อผ้าทศกัณฐ์มายัดใส่มือร่างสูงที่ลุกขึ้นนั่งบนเตียงแต่ยังไม่ยอมลุกออกมา   ผมได้แต่กัดฟันกรอดๆ

“ออกไปหลบที่ระเบียงเลย  เร็วๆ”ผมชี้นิ้วไปที่ระเบียง  ไม่รู้จะให้หลบที่ไหนนี่หว่า  แล้วไอ้เมฆมันก็ไม่ค่อยเปิดระเบียงห้องผมด้วย  มันบอกวิวไม่สวย

“ทำไมต่องทำอย่างนั้น”ถามหน้านิ่ง  แต่ไอ้ตาเขียวๆนั่นดูเจ้าเล่ห์มาก

“ห้ามเพื่อนผมรู้แค่นั้น  รีบไปเลยเร็วๆ”ผมบอก  ยังได้ยินไอ้เมฆบ่นนานบ้าบออะไรอยู่หน้าห้อง

“ก็ได้  แต่…”

“แต่อะไร  เร็วๆ”ผมเร่ง  เริ่มหงุดหงิดยิ่งกว่าเดิม

ทศกัณฐ์ไม่ตอบ  เขาลุกขึ้นยืนเต็มความสูง  ระดับสายตาเราใกล้เคียงกัน  เราสบตากันอยู่ไม่กี่วินาที  ก่อนริมฝีปากสีซีดจะฉกวูบลงมาประทับกับมุมปากผมเบาๆ

“หึๆ”เขาผละออกไปแล้ว  ก่อนจะเดินไปที่ระเบียงแล้วเลื่อนปิดแต่ผมก็ยังนิ่งค้างอยู่ท่าเดิม

“ไอ้รันต์  มึงตายแล้วหรอออออ” ผมสะดุ้งกับเสียงเมฆ  รีบวิ่งไปเปิดประตู  ไม่ลืมเปิดทีวีเพื่อความเนียน

“ช้า!”เปิดมาปุ๊บโดนทันที

“ก็แต่งตัวอยู่”ผมบอกอ้อมแอ้ม  ทำไมรู้สึกเหมือนผัวแอบมีเมียน้อยแล้วกลัวเมียหลวงจับได้เลย

“แต่งทำไม  ผ้าเช็ดตัวก็พอมั้งเดี๋ยวก็ต้องอาบน้ำไปเรียน”มันหรี่ตามองอย่างจับผิด”มีอะไรปิดบังกูรึเปล่าเนี่ย”ผมส่ายหัวอย่างแรง

“ไม่มี”ผมรีบปฏิเสธ  เมฆพยักหน้าเดินเข้ามาในห้องก่อนจะตรงดิ่งไปที่ประตูระเบียง”เฮ้ย”ผมอุทานอย่างตกใจ  เมฆมันกระชากประตูให้เปิดออก  เมฆเงียบ  ผมรีบวิ่งออกไปเตรียมจะอธิบาย

“ตกใจอะไร”เมฆหันมาถาม  ผมกวาดสายตามองระเบียงที่ว่างเปล่าไร้วี่แววของบุคคลที่สามอยู่  หายไปไหนของเขา

“ก็มึงอ่ะเป็นอะไร  คิดว่ากูปิดบังอะไรวะ”โมโหกลบเกลื่อนแม่ม  ไอ้เมฆอึ้งพูดไม่ออก  ผมเดินหนีมันไปหยิบผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำทันที

เฮ้ออออ  รอดตัวไป

มือผมเผลอยกขึ้นแตะมุมปากที่พึ่งโดนขโมยจูบหมาดๆ  ไม่เข้าใจว่ามันทำไปเพื่ออะไร  เข้าใจว่าครั้งแรกคือแม่งเมาขาดสติ  โดนหอมแก้มครั้งที่สองคือโดนไอ้พี่สมิธแกล้ง  แล้วครั้งนี้ล่ะ?   ไม่รู้ผมคิดไปเองหรือว่ามันคือเรื่องบังเอิญที่ทศกัณฐ์จูบมุมปากผมข้างเดียวกับที่ไอ้เมฆแกล้งจุ๊บเมื่อคืนเลย   งงกับมันจริงๆ

ช่างเถอะ  ตอนนี้ต้องรีบอาบน้ำแล้วล่ะครับ  เดี๋ยวไปเรียนไม่ทัน

ซวยแต่เช้าเลย

ช่างเป็นวันที่ดีของไอ้รันต์จริงๆ

+++++++++++++++++++++++++

เค้าขอโต๊ดดดดดดดดดด  ผิดไปแล้ว  มาช้าไปหน่อย(หรอ) อาทิตย์ที่แล้วมีสอบนอกตาราง2ตัวเป้งๆเลย  ไม่ได้มาบอกไว้(ลืม)  จริงๆจะว่างแต่งตั้งแต่วันศุกร์แล้ว  แต่ไอ้เพื่อนบ้ามันพาไปต่อแถวซื้อของเซลล์แถวสยามเกือบตาย  เลยลากยาวมาจนถึงวันนี้แล  ฮืออออ  อภัยให้เค้านะ  อย่าหายไปนะ จุ๊ฟ  :mew1: :L2:

{โปรดติดตามตอนต่อไป...} :bye2:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-11-2016 20:21:07 โดย YINGPREM »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: 《•ใจยักษ์•》♡ตอนที่ 9♡ [28/11/59]
« ตอบ #99 เมื่อ: 28-11-2016 20:16:35 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
Re: 《•ใจยักษ์•》♡ตอนที่ 9♡ [28/11/59]
«ตอบ #100 เมื่อ28-11-2016 21:02:38 »

รอออ เขาจะรักกันตอนไหนคะซิสสส

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1226
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
Re: 《•ใจยักษ์•》♡ตอนที่ 9♡ [28/11/59]
«ตอบ #101 เมื่อ28-11-2016 21:28:14 »

 o13

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
Re: 《•ใจยักษ์•》♡ตอนที่ 9♡ [28/11/59]
«ตอบ #102 เมื่อ28-11-2016 21:42:55 »

เหมือนจะมีคู่แข่ง

ออฟไลน์ ►MoNkEy-PrInCe◄

  • อินเตอร์ไลน์
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 728
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
Re: 《•ใจยักษ์•》♡ตอนที่ 9♡ [28/11/59]
«ตอบ #103 เมื่อ28-11-2016 22:14:00 »

รอมาต่อน้าา

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: 《•ใจยักษ์•》♡ตอนที่ 9♡ [28/11/59]
«ตอบ #104 เมื่อ28-11-2016 22:49:54 »

เมฆนี่คือยังไง ทำไมดูหวงรันต์แปลก ๆ แถมถึงเนื้อถึงตัวอีกต่างหาก

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
Re: 《•ใจยักษ์•》♡ตอนที่ 9♡ [28/11/59]
«ตอบ #105 เมื่อ28-11-2016 23:26:12 »

ชวบความป่วนของพี่เมฆอยู่นะ

ว่าแต่...เนียนเลยน๊าาาาา คุณยักษ์

ออฟไลน์ pui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2194
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-3
Re: 《•ใจยักษ์•》♡ตอนที่ 9♡ [28/11/59]
«ตอบ #106 เมื่อ29-11-2016 16:06:30 »

 :hao7:

ออฟไลน์ ป้ากิ่งkingkarn

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 308
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
Re: 《•ใจยักษ์•》♡ตอนที่ 9♡ [28/11/59]
«ตอบ #107 เมื่อ29-11-2016 17:08:25 »

ยักษ์จะพาใครหนีไปจากลุค ใช่สมิธมั้ย????
ยักษ์หายไปจากระเบียงได้ยังไง????
ยังสนุกและน่าติดตามมากๆเหมือนเดิมค่ะ จะรออ่านตอนต่อไปนะคะ :กอด1:

ออฟไลน์ ▶August5th◀

  • it was fate
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2218
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +184/-2
Re: 《•ใจยักษ์•》♡ตอนที่ 9♡ [28/11/59]
«ตอบ #108 เมื่อ29-11-2016 17:42:18 »

สนุกมากกก
มาต่อไวๆนะ

อยากรู้จะหลุดพ้นจากยักษ์ได้ไหม หึหึ

ออฟไลน์ จอมจุ้น6002

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 86
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
Re: 《•ใจยักษ์•》♡ตอนที่ 9♡ [28/11/59]
«ตอบ #109 เมื่อ29-11-2016 18:03:16 »

ถ้าหนูรันต์มองลงไปข้างล่างจะเห็นยักษ์ลงไปนอนเล่นอยู่ตรงนั้น
 :laugh: อยากอ่านยาวๆๆๆ
คิดถึงยักษ์กะหนูรันต์ :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: 《•ใจยักษ์•》♡ตอนที่ 9♡ [28/11/59]
« ตอบ #109 เมื่อ: 29-11-2016 18:03:16 »





ออฟไลน์ NuTonKaw

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 532
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
Re: 《•ใจยักษ์•》♡ตอนที่ 9♡ [28/11/59]
«ตอบ #110 เมื่อ29-11-2016 23:18:15 »

 o13 o13 :mew1:

ออฟไลน์ Tamora

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
Re: 《•ใจยักษ์•》♡ตอนที่ 9♡ [28/11/59]
«ตอบ #111 เมื่อ29-11-2016 23:39:58 »

หืม แล้วพี่นักษ์ไปไหนแล้วหล่ะ

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
Re: 《•ใจยักษ์•》♡ตอนที่ 9♡ [28/11/59]
«ตอบ #112 เมื่อ30-11-2016 04:13:04 »

 :z13:

ออฟไลน์ kaokorn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 903
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-2
Re: 《•ใจยักษ์•》♡ตอนที่ 9♡ [28/11/59]
«ตอบ #113 เมื่อ30-11-2016 13:43:53 »

ยกมือรอฮะ
ท่าทางเมฆจะแปลกๆ คิดกับรันต์แค่เพื่อนก้อพอเนอะ
ยังไงๆรันต์ก็ของพี่ยักษ์อยู่แล้ว อิอิ

ออฟไลน์ JeabT.

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: 《•ใจยักษ์•》♡ตอนที่ 9♡ [28/11/59]
«ตอบ #114 เมื่อ30-11-2016 14:26:06 »

เมฆนี่ยังไง   :hao4:

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3494
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
Re: 《•ใจยักษ์•》♡ตอนที่ 9♡ [28/11/59]
«ตอบ #115 เมื่อ30-11-2016 17:17:35 »

อ้าว พี่ยักษ์หายไปไหน

ออฟไลน์ Fonz_Juz19

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: 《•ใจยักษ์•》♡ตอนที่ 9♡ [28/11/59]
«ตอบ #116 เมื่อ30-11-2016 23:17:44 »

หุยยย  กำลังสนุกเลยยยย
ลุ้นแทนรันต์ 555555


อยากอ่านอีกอ่ะ
มาต่อเร็วๆนะคะคนเขียน  สู้ๆ

ออฟไลน์ tear0313

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 319
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: 《•ใจยักษ์•》♡ตอนที่ 9♡ [28/11/59]
«ตอบ #117 เมื่อ01-12-2016 00:25:24 »

 :z3:

ออฟไลน์ YINGPREM

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 131
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1
Re: 《•ใจยักษ์•》♡ตอนที่ 10♡ [6/12/59]
«ตอบ #118 เมื่อ06-12-2016 21:45:46 »

10




“ขอบคุณนะรันต์”


“ยินดีครับ” เป็นครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้ของวันที่ผมพูดประโยคนี้   ตั้งแต่ผมก้าวเข้ามาเหยียบมหาวิทยาลัย  ก็มีวันนี้แหละครับที่ผู้คนสนใจตัวผมเป็นพิเศษ  อาจจะเพราะรูปทศกัณฐ์กับผมแพร่ไปทั่วโลกโซเชียลอย่างรวดเร็ว  เพื่อนในคณะที่แทบไม่เคยคุยกันเลยยังเข้ามาคุยกับผมอย่างกับสนิทมาตั้งแต่ชาติก่อน  เมื่อกี้ก็เป็นอีกคนนึงที่เดนมาคุยกับผมเพื่อนสาขาเดียวกันที่ไม่เคยคุยกันเลย  อยู่ๆก็มาถามเรื่องเรียนกูซะงั้น


ป้าบ!


“เฮ้ย  ฮอตนี่หว่า”แรงตบหลังผมจนหน้าแทบคว่ำมาพร้อมกับเสียงกวนๆของอ๋อง


“มารยาทดีอีกแล้วนะครับคุณอ๋อง”ผมหันไปมอง  อ๋องมากับเก่ง(ประธานภาค)


“สาสส  จะด่าก็ด่าไอ้รันต์  ไม่ต้องมาประชดหรือหลอกด่ากู”


“ฮ่าๆๆๆ  สมควรโดนไอ้ห่า”เมฆหัวเราะอย่างอารมณ์ดี  หลังจากที่ทั้งวันมันหน้าบึ้งหงุดหงิดที่ผม(แกล้ง)ไม่ยอมคุยกับมันทั้งวัน  แล้วยังมีบรรดาผู้คนแวะเวียนมาหาผมไม่ขาด  ตัวมันก็พูดอะไรมากไม่ได้


“ปากดี  ได้ข่าวโดนไอ้รันต์โกรธอยู่”เก่งสวนขึ้น  ทำเอาเมฆหุบปากฉับ  มันหันมาส่งสายตาอ้อนๆให้ผม  แต่ผมกระตุกยิ้มให้ทีนึง  เมฆก็หงอยลงทันที


“โธ่  นึกว่าจะแน่”อ๋องซ้ำอีกที


“พวกมึงมีอะไรรึเปล่า”ผมเลิกสนใจ  แล้วหันไปถามเก่งแทน


“อีกไม่ถึงเดือนเราก็จะสอบมิดเทอมกันแล้วใช่ป่ะ”ผมพยักหน้ารับ เมฆก็หันมาสนใจที่เก่งพูด


“อาฮะ”


“แล้วหลังจากนั้นอีกประมาณ1อาทิตย์ก็จะมีแข่งกีฬาระหว่างคณะ” อันนี้ผมก็พอได้ยินมาบ้าง


“กูเลยมีเรื่องอยากขอร้องพวกมึงสองคนหน่อย”


“โอ้โห  คุณเก่งพูดซะขนาดนี้จะไม่ช่วยได้ยังไงคร้าบบบ”ไอ้เมฆกวนตีน  เก่งก็ถลึงตาใส่แต่ก็ไม่ได้พุ่งมาจะเอาเรื่องเหมือนปกติ


“เมฆ”ผมหันไปยิ้มปรามๆให้เมฆ  มันเลยหุบปากได้


“ไอ้เมฆ  มึงไปลงเป็นตัวจริงกีฬาบอลให้หน่อย  คนขาดว่ะ”อ๋องพูดกับเมฆ


“ก็ได้อยู่นะ  ไม่เห็นต้องมากพิธีเลยนี่หว่า”เมฆพยักหน้ารับ


“ส่วนมึงรันต์”


“เฮ้ย  กูเล่นกีฬาไม่เป็นสักอย่าง อย่าเลย”ผมรีบโบกมือปฏิเสธ


“เปล่า  พวกกูไม่ได้จะให้มึงลงเล่น”เก่งรีบบอกผม


“แล้วจะให้กูทำอะไร?”


“ไปกล่อมแก็งค์พี่ทศกัณฐ์ให้ลงกีฬาให้หน่อยดิ  ท่าทางมึงจะสนิทกับเขา”เหมือนสายฟ้าฟาดลงมากลางหัวผมเต็มๆหลังจากที่เก่งพูดจบ  ผมพูดไม่ออก  กูไปสนิทกับพวกนั้นตอนไหนฟระ


“มึงเข้าใจผิดแล้ว  กูไม่ได้สนิทอะไรกับพวกเขาทั้งนั้น   เรื่องวันนั้นก็แค่แกล้งกันเล่นๆ”


“หรอ  กูจะบอกอะไรให้นะ  กลุ่มนี้ไม่ใช่ว่าจะเล่นกับใครไปทั่วนะเว้ย  แบบถึงจะอยู่คณะเดียวกันแต่มันก็คนละระดับอ่ะ  พวกพี่เขาไม่ใช่คนที่จะสุงสิงกับใครก็ได้แต่เขากับเดินเข้าไปเล่นเกมเองแล้วระบุตัวคนเล่นว่าต้องเป็นมึง  ยิ่งคนที่ชื่อทศกัณฐ์นะ  พูดยังแทบนับคำได้  นี่หอมแก้มมึงเลยนะเว้ย  มึงไม่คิดว่ามันไม่ธรรมดาหรอ”เก่งร่ายยาว  เมฆหันมาจ้องผมเขม็ง  ตายแน่ๆเลยกู


“กูจะรู้ไหมเล่า”ผมเสียงแข็งใส่อย่างไม่ยอมจำนน


“ไม่รู้ล่ะ  มึงทำยังไงก็ได้ให้พวกเขามาลง  ดูหุ่นก็รู้ละว่านักกีฬากันถ้าพวกเขาไม่ลงมึงก็ต้องลงแทน  อ่อ ขอรายชื่อก่อนศุกร์นี้นะ”เก่งไม่สนใจเสียงปฏิเสธผม  พูดจบก็เดินหนีทันที  ไอ้อ๋องก็ยักไหล่ยิ้มแหยๆให้แล้วตามเก่งออกไป


“ไม่มีอะไรจะพูดกับกูจริงๆใช่ไหม”เสียงเมฆดังขึ้นข้างๆ  ผมหันไปมองก็เห็นมันมองก่อนอยู่แล้ว


“ก็...เฮ้ออออ  เรื่องมันเป็นแบบนี้...”ผมจำใจต้องเล่าให้เมฆฟังเรื่องที่ต้องไปข้องเกี่ยวกับทศกัณฐ์  ผมเล่าแบบคร่าวๆไม่ได้ลงรายละเอียดนัก


“มันเป็นแบบนี้ได้ยังไง  ทำไมต้องเป็นมึง”เมฆวิเคราะห์  หัวคิ้วชนกันอย่างใช้ความคิด


“ไม่รู้สิ”


“เดี๋ยวกูช่วยมึงเอง”


“ช่วยยังไง? ลุงกับป้ากูอยู่ในกำมือเขา  พวกเขาเป็นใครกูยังไม่รู้เลย” ผมบอกปลงๆ  ตัวไถลไปกับโต๊ะอย่างไม่รู้จะทำยังไง  เมื่อวานนี้หลังทศกันฐ์ไปผมก็ไปหาโจเซฟ  ได้คุยกับป้าตามที่พวกเขาสัญญาไว้  พวกเขาสบายดีผมก็สบายใจไปเปาะหนึ่ง  แต่ก็ยังคิดหาทางแก้ปัญหานี้ไม่ออกจริงๆ


“เดี๋ยวกูให้คนของพ่อช่วยสืบให้”เมฆลูบหัวผมปลอบๆ  ครอบครัวของเมฆก็กว้างขวางมีอิธิพลพอสมควร


“ถ้ามันลำบากก็ไม่เป็นไรนะเว้ย  กูไม่อยากให้มึงกับครอบครัวมาเดือดร้อน”แม้กูจะยังแก้ปัญหาไม่ได้ก็เถอะ


“รันต์อย่าพูดแบบนี้  มึงก็เป็นครอบครัวกู  ม๊ากับป๊ากูก็รักมึงเหมือนลูก”


“อือ”ผมไม่รู้จะพูดอะไรตอบกลับไป  เพราะแบบนี้ไงถึงไม่อยากบอกเมฆ  ไม่อยากให้มันมายุ่งเรื่องนี้  ผมรู้สึกสังหรณ์ไม่ดีตะหงิดๆ


+++++++++++++++++++++++++++


หลังเลิกเรียน


ผมแยกกับเมฆกลับ  เพราะเมฆต้องไปลงรายชื่อนักกีฬากับอ๋อง  ส่วนผมก็ต้องไปคอนโดฯทศกัณฐ์  ผมเดินลงบันไดมาเรื่อยๆเดินสวนกับใครเขาก็พอกันมอง  ตลกดี


จนกระทั่งผมเดินมาถึงหน้าคณะ  สายตาผมไปสะดุดกับร่างสูงสง่าที่ยืนพิงดูคาติสีแดงสดอยู่หน้าคณะ  ผมสาบานว่ามองเขาแค่แปบเดียวแต่ทศกัณฐ์ก็หันหน้ามานัยน์ตาสีเขียวขุ่นสบเข้ากับผมพอดี  ผมไม่รู้จะทำตัวยังไงเลยเบี่ยงตัวเลี้ยวไปอีกทาง


ก็...แค่มองหน้าเรื่องเมื่อเช้าก็แวบเข้ามาในหัวเลยนี่หว่า


หมับ!แรงดึงที่แขนทำให้ตัวผมหยุดชะงักจากการเดิน  ตัวผมเหวี่ยงไปตามแรงดึงเล็กน้อยทำให้ผมเห็นหน้าผู้กระทำได้ชัดเจน


“มีอะไรครับ”ผมเลิกคิ้วถาม  แขนก็พยายามบิดออกจากมือทศกัณฐ์อย่างเนียนๆ  ทศกัณฐ์ยิ่งบีบแน่นกว่าเดิม


“เดินหนีทำไม”


“ผมไม่ได้เดินหนี  ผมจะกลับ  ปล่อยแขนผมด้วยครับ”


“หรอ  งั้นไปด้วยกันหน่อย”ไม่พูดเปล่ายังลากผมกลับไปทางเดิม


“เฮ้ยเดี๋ยวๆ  ไปไหน  ปล่อยผมแล้วคุยกันดีๆก่อนคนมองกันหมดแล้ว”เวลานี้คนก็เลิกเรียนเยอะพอสมควรครับ  ทศกัณฐ์หยุดแล้วมองไปรอบๆแต่ไม่ได้ปล่อยแขนผมอยู่ดี


“ตามมาเหอะ”


“ก็บอกมาสิจะไปไหน”อยู่ๆก็มาลากเอาๆผมคนนะเว้ยไม่ใช่กระต่ายจะได้จูงไปไหนก็ได้น่ะ


“รันต์อย่าดื้อดิ  อยากอายคนมากกว่าเดิมไหม”


“ไอ้...เออ!ก็ไปเร็วๆสิ” ผมเคยขัดอะไรแม่งได้บ้างวะ
.
.
.
.
.
.


ห้างเนี่ยนะ!  ผมหันไปมองทศกัณฐ์อย่างตั้งคำถามหลังจากถอดหมากกันน็อคส่งให้เขา  ทศกัณฐ์ไม่ได้ตอบอะไรคว้ามือผมแล้วพาเดินเข้าห้าง


“คุณ!ผมเดินเองได้นะครับไม่ต้องลาก”


“มึงช้า”แล้วมันก็พาผมลากดุ่มๆเข้าห้างไป  เหอะเห็นผอมกว่าหน่อยอย่าคิดว่าจะใช้กำลังกับกูได้นะเว้ย(ก็ใช้ได้จริงๆนี่)


ทศกัณฐ์พาผมเดินมาโซนซุปเปอร์มาเก็ตของห้าง  เขาปล่อยมือผมแล้วเดินไปเอารถเข็น


“เดินดิ”มันไม่พูดเฉยๆนะ  มีการเอารถเข็นมาผมให้เดินอีก


“คือจะซื้อของสด?”


“น้ำยาล้างห้องน้ำมั้ง”กวนตีนกูอีกไอ้ฝรั่งบ้า


“ไหนคุณบราวนบอกถ้าของสดหมดจะมีคนๆๆซื้อเตรียมไว้ให้ไง”ผมพึ่งไปคุยกับโจเซฟเรื่องนี้มาน่ะครับ  เรื่องทำความสะอาดห้องก็ไม่ต้องแล้ว  จะมีแม่บ้านมาคอยทำให้อาทิตย์ละ3วันยกเว้นห้องทศกัณฐ์ที่ผมยังต้องคอยดูแลให้อยู่  นอกนั้นผมมีหน้าที่ทำอาหารอย่างเดียว  อารมณ์ขึ้นๆลงๆจริงๆไอ้คุณยักษ์วัดแจ้ง


“ซื้อเองจะเป็นไรไป”ทศกัณฐ์เดินตรงไปทางผัก  ส่งสายตาให้ผมเลือก  แน่จริงก็เลือกเองเดะ


ผมเลือกหยิบผักที่มักจะใช้ทำอาหารเป็นประจำใส่รถเข็น  เดินนำเขาเลือกนั่นนี่  ทศกัณฐ์ก็เข็นรถตามหลังผมเงียบๆ


“คุณกินมะเขือเทศรึเปล่า”ทศกัณฐ์พยักหน้ารับผมก็หยิบใส่รถเข็นหนึ่งถุง   เราพากันเดินเลือกซื้ออาหารสดเรื่อยๆ  อันไหนที่ทศกัณฐ์ไม่กินมันก็หยิบกลับไปวางไว้ที่เดิมไม่ให้ผมเห็น  คือมึงไม่บอกดีๆวะทำยังกับเด็กกลัวแม่ดุเวลาไม่ชอบกินผัก


“แค่นี้ก็พอแล้วมั้ง  คุณจะเอาอะไรอีกไหม”ผมหันไปถามทศกัณฐ์  ของพวกนี้ผมกะไว้ว่าประมาณหนึ่งอาทิตย์น่าจะหมดไม่ควรเกินนี้


“ไม่”บอกแล้วก็ยื่นกระเป๋าตังค์หนังสีดำมาให้ผม  ดูเรียบๆแต่น่าจะแพงพอดู


“จ่าย”ผมรับมาถือไว้แล้วเราก็พากันไปที่เคาน์เตอร์คิดเงิน  เราเดินไปต่อคิวระหว่างนั้นคนที่รอจ่ายเงินก็พากันมิงเขากันพรึ่บส่วนมากจะเป็นพวกแม่บ้านที่มาซื้อ  เอาจริงๆคนเขาก็มองตั้งแต่มันเดินเข้าห้างแล้วล่ะครับ  ก็สูงโดดเด่น  ตาสีเขียว  เบ้าหน้าฝรั่งก็ก็กินขาดแล้วอ่ะครับ


พอถึงคิวเราคิดตังค์  ทศกัณฐ์ก็เป็นคนหยิบของขึ้นเคาน์เตอร์  ผมก็ช่วยหยิบนะครับ  แต่ทำไมคนถึงจ้องเอาๆขนาดนั้นวะ


“ทั้งหมด 4,276  บาทค่ะ”เสียงพนักงานแคชเชียร์แทรกเข้ามาในความคิด  ผมรีบเปิดกระเป๋าตังค์ทศกัณฐ์  มีบัตรแค่2-3ใบ  แต่บัตรนั้นมัน...ช่างเถอะ  ผมหาเงินสดที่อยู่อีกช่อง  หยิบแบงค์พันออกมา5ใบส่งให้พนักงาน  พอพนักงานแคชเชียร์จะส่งเงินทอนให้ผมทศกัณฐ์ก็พูดขึ้น


“ไม่ต้อง ทิป”แล้วมันก็เอาถุงใส่รถพาผมเดินออกมา  ได้ยินเสียงพนักงานกล่าวขอบคุณแว่วๆ


“โห  มีทงมีทิป  อ่ะเอาคืนไป”ผมแซว  ยังไงก็เงินเขาผมไม่มีสิทธิ์พูดอัไรมากอยู่แล้ว  ผมยื่นกระเป๋าตังค์คืนให้ทศกัณฐ์เมื่อนึกขึ้นได้


“ถือไว้ก่อน  มือไม่ว่าง”ผมก็พยักหน้ารับไม่ได้พูดอะไร  ไว้ใจกูไปไหมวะ  จนเราเดินออกมาถึงลานจอดรถผมก็นึกอะไรขึ้นมาได้


“คุณ  แล้วจะเอากลับยังไง  ของตั้งเยอะ”ตอนซื้อก็เพลินจนลืมนึกถึงตอนกลับเลยกู  ทศกัณฐ์ไม่ได้ตอบผมแต่พยักหน้าไปอีกทาง  ผมมองตามเจอโจเซฟกับสตีฟยืนรอไม่ไกลจากเรามากนัก  พวกเขาเดินตรงเข้ามาหา  ค้อมหัวให้ทศกัณฐ์นิดๆและ...ผมด้วย


“จะไปกันเลยใช่ไหมครับ”สตีฟถามทศกัณฐ์ก่อนหันมายิ้มให้ผมนิดๆ  ถึงจะงงๆแต่ผมก็ยิ้มคืนให้อย่างที่ควรทำ  ผมไม่ลืมหรอกนะครับว่าเขาทำอะไรไว้


“อืม”ทศกัณฐ์พึมพำตอบ


“ถ้าอย่างนั้นพวกเราจะเอาของไปเก็บให้นะครับ”สตีฟบอกเสียงนุ่ม  ผมสังเกตว่าถ้าสตีฟอยู่ด้วย  โจเซฟมักจะไม่ค่อยพูด  แต่ถ้าได้พูดก็นะ  รู้ๆกันอยู่


สตีฟและโจเซฟช่วยกันถือของในรถเข็นแล้วเข็นรถไปเก็บให้ก่อนจะก้มหัวให้นิดๆเหมือนลาแล้วเดินจากไปอีกทาง


“เราจะไปไหนกันหรอ”ผมหันไปถามทศกัณฐ์  ร่างสูงก็มองหน้าผมนิ่ง


“โรงพยาบาล”


+++++++++++++++++++++++++++


“อ้าว  ไอ้น้องรันต์”ยังไม่ทันจะก้าวพ้นประตูเข้าไปเลย  เสียงมาก่อนแล้ว  ผมกวาดสายตามอง  พี่สมิธนอนเบ็บอยู่บนเตียง  พี่เซนท์กินขนมดูทีวีอยู่ที่โซฟาเขาหันมาโบกมือยิ้มให้ผมอย่างสดใสด้วย  พี่ดีไม่เห็นแฮะ


“สวัสดีครับ”ผมยกมือไหว้สวัสดีทั้งสองคน  ทศกัณฐ์แยกตัวไปนั่งกับพี่เซนท์  ส่วนผมเอากระเช้าที่แวะซื้อมาไปวางไว้ชั้นวาง


“ลมอะไรหอบมึงมาได้วะ”ไอ้พี่สมิธถามกวนๆมือก็หยิบผลไม้ใส่ปาก


“ลมทศกัณฐ์น่ะครับ”ผมตอบไปตามความจริง


“ฮั่นแน่  เดี๋ยวเปิดตัวอ๋อ”


“ปากแบบนี้คงไม่เป็นอะไรมากสินะครับ  ตายยากจัง”ผมพูดยิ้มๆ  ไม่มีความเกรงกลัวอะไรทั้งนั้น


“โห่  มึงไม่เป็นกูไม่รู้หรอก  นี่กูพึ่งฟื้นเมื่อเช้านะเนี่ย”ทำไมมึงดีดขนาดนี้  เมายาแก้ปวดเรอะ


“ครับ  ผมคงไม่มีทางเป็นแบบนี้แน่ๆ”


“มึงเอามีดมาทางกูอีกรอบดีกว่ามารันต์ถ้าจะพูดขนาดนี้”


“ฮ่าๆๆๆ  น้องรันต์พูดถูกใจกูจริงๆ”พี่เซนท์หัวเราะลั่นห้องจนน้ำตาเล็ด  ไอ้พี่สมิธเห็นอย่างนั้นก็ขว้างผลไม้ใส่พี่เซนท์  รายนั้นก็ขว้างขนมใส่คืน  โยนกันไปกันมาจน...โดนยักษ์เข้าจนได้


“สมิธ!”ทศกัณฐ์ปรามดุๆ


“อะไรวะ  มึงไม่ว่าไอ้เซนท์บ้างอ่ะ”เถียงอย่างไม่ยอมแพ้


“ทั้งคู่  เก็บให้หมดด้วย”


“กูเจ็บอยู่”


“หรอสมิธหรอ”เสียงพี่เซนท์โคตรประชด  ผมเดินไปเก็บขนมที่เตียงให้พี่สมิธ  สงสารหรอกเห็นว่าเจ็บ


“มันต้องแบบนี้น้องรักของพี่  แม่ศรีเรือนจริงๆ”พูดเฉยๆไม่ได้ต้องกอดคอกูด้วยวะ  ผมตวัดสายตามองเป็นเชิงว่าให้ปล่อย  เขาก็ปล่อยแต่โดยดี


“น้องรันต์นี่นิสัยดีจริงๆ”พี่เซนท์พูดมือก็เก็บทั้งขนมทั้งผลไม้ที่ตัวเองนั่งอยู่  ทศกัณฐ์ก็ช่วยเก็บอีกแรง


“ไม่ม้างงง”นอนอยู่เงียบๆไม่ได้สินะ


“เก็บเองไหมครับ”ผมฉีกยิ้มให้  พี่สมิธถึงได้สงบปากลง


“หึๆ”


‘รายงานความคืบหน้า  พบศพวัยรุ่นชายเสียชีวิตบริเวณxxx มีบาดแผลฉกรรจ์ทั่วร่างกาย  โดยเฉพาะบริเวณข้อมือที่โดนตัดขาดทั้งสองข้าง  เจ้าหน้าที่ตำรวจคาดปมทะเลาะวิวะ...ติ้ด!’เสียงรายงานข่าวด่วนแทรกเข้ามา  ทั้งห้องเงียบกริบ  ทศกัณฐ์เป็นคนหยิบรีโมทปิดก่อนนักข่าวจะรายงานจบ


“เดี๋ยวมา”พูดแค่นั้นก่อนจะผลุนผลันออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว


“เป็นอะไรของมันวะ  เอารีโมทไปอีก”พี่เซนท์เกาหัวงงๆแล้วก้มหน้าเก็บขยะต่อ  ผมลอบมองพี่สมิธ  เขาเงียบไปเลยไม่พูดไม่จาสายตาเหม่อลอยออกไปนอกระเบียง


“พรุ่งนี้พี่อยากกินอะไรเป็นพิเศษรึเปล่าครับ  เดี๋ยวตอนเย็นผมทำเข้ามาให้”ผมเอ่ยขึ้นทำลายบรรยากาศชวนน่าอึดอัด  พี่สมิธละสายตามามองผมเลิกคิ้วให้นิดๆ


“กินๆ  แกงเขียวหวานนะน้องรันต์พี่ชอบๆ”พี่เซนท์วิ่งมาเกาะผมทันที  ผมยิ้มให้พยักหน้ารับ


“อืม...ทอดมันปลากรายกับต้มยำปูม้าน้ำใสละกัน  อ้อๆขอบัวลอยไข่หวานด้วยนะ”ผมยิ้มรับให้พี่สมิธ  เอาเถอะอย่างน้อยเขาก็ไม่ได้ทำหน้าเหมือนคนอมทุกข์แล้ว  มันไม่เหมาะกับเขาเลยจริงๆ


“เย้  กูกินด้วยๆ”


“สัด  แย่งคนป่วยกินหรอมึงๆ”พี่สมิธคว้าตัวพี่เซนท์ที่ยืนใกล้ๆมาล็อคคอแกล้งๆ  พี่เซนท์ก็ไม่กล้าดิ้นมากเพราะกลัวพี่เซนท์เจ็บแผล


“เล่นอะไรไม่ดูสังขารเลยนะครับ”ผมส่ายหัวให้ขำๆ


แกร๊ก!  ประตูห้องเปิดออก  เราทั้งสามหันไปมองอัตโนมัติ  พี่เซนท์เดินเข้ามาเลิกคิ้วมองอย่างงงๆ  ผมยกมือไหว้เขาก็พยักหน้ารับพร้อมยิ้มให้นิดๆ


“ไอ้ทศล่ะ”พี่ดีถามไม่เจาะจงเมื่อไม่เห็นทศกัณฐ์อยู่ในห้อง


“ไม่รู้  วิ่งเฟี้ยวออกไปเมื่อกี้”ศัพท์พี่เซนท์น่ารักดีนะครับ


“อ่อ  แล้วทำไรกัน”พี่ดีหรี่ตามองมาทางพี่สมิธกับพี่เซนท์  ผมขยับถอยห่างอัตโนมัติไม่อยากโดนลูกหลงไปด้วยน่ะครับ


“ช่วยกูด้วยดี  ไอ้สมิธมันแกล้งกู”


“เล่นเป็นเด็กๆ”พี่ดีส่ายหัวให้แล้วเดินเลี่ยงไปนั่งที่โซฟา  ผมเก็บเศษขยะทั้งหมดไปทิ้งที่ถังขยะแล้วเดินไปล้างมือในห้องน้ำ  กลับออกมาก็เห็นพี่เซนท์ไปนั่งที่โซฟาข้างๆพี่ดีแล้ว


“น้องรันต์พี่รบกวนอยู่เป็นเพื่อนไอ้เหี้ยสมิธหน่อยดิ  เดี๋ยวพี่กับไอ้ดีจะไปหาอะไรกินแปบนึงแล้วเดี๋ยวมา  น้องรันต์เอาอะไรไหม”พี่เซนท์ทำหน้าอ้อนๆแกมขอร้อง


“ไม่เป็นไรครับ  เดี๋ยวผมอยู่เป็นเพื่อนพี่สมิธเอง  พี่เซนท์กับพี่ดีไปเถอะครับ”ผมบอกยิ้มๆ


“ทิ้งเพื่อนไปกับผัว  เชอะ”พี่สมิธแกล้งทำเป็นสะดีดสะดิ้งใส่พี่เซนท์


“ผัวพ่อมึงดิ  เดี๋ยวก็ปากแตกเพิ่มหรอก”พี่เซนท์ทำท่าจะเดินเข้ามาเอาเรื่องแต่โดนพี่ดีลากออกไปก่อน  อีกคนก็ทำเป็นลอยหน้าลอยตาใส่เขา


“เฮ้อ  เหงาก็บอกไปตรงๆสิครับ”ผมนั่งลงที่เก้าอี้ข้างเตียง  พี่สมิธมองผมอย่างไม่เข้าใจ


“นักจิตวิทยากล่าวไว้ว่า  คนที่ชอบหัวเราะบ่อยๆลึกๆคือคนที่มีเรื่องเศร้าอยู่ในใจ  พี่ว่าจริงไหมครับ”ผมพูดเนิบๆเหมือนคุยเรื่องทั่วไป  พี่สมิธมองสบตาผม  สายตาเขาดูเศร้าสร้อยเหมือนคนเป็นทุกข์มากจริงๆ


“มึงเคยมีตราบาปไหมรันต์  มันจะติดตัวแล้วอยู่ในใจมึงไปตลอดชีวิต  อยากลืมก็ลืมไม่ได้ถึงตายก็ไม่รู้จะลืมได้ไหม”พี่สมิธละสายตาจากผมเหม่อไปที่ระเบียง  น้ำเสียงเขาขมขื่นจนผมคาดไม่ถึง  มือทั้งสองข้างขยุ้มผ้าห่มแน่น


“ถึงลืมไม่ได้   แต่ถ้าเวลาผ่านไปมันน่าจะดีขึ้นนะครับ”


“เวลาไม่ได้ช่วยอะไรเลยรันต์  ไม่ช่วยจริงๆ”พี่สมิธพึมพำกับตัวเองผมเงียบไม่ได้พูดอะไรต่อ  เหมือนตอนนี้พี่สมิธปิดสวิซเข้าสู่โลกของตัวเองไปแล้ว  ผมยังยืนยันคำเดิมว่าต้องใช้เวลา...และต้องทำให้ถูกวิธี
.
.
.
.
.
.


“งั้นผมกลับก่อนนะครับ”ผมพูดเบาๆกับพี่ใจดีและพี่เซนท์ที่กลับมาเมื่อกี้  พี่สมิธหลับไปแล้วก่อนหน้านี้คุณหมอมาเช็คอาการแล้วฉีดยาให้คงหลับไปเพราะฤทธิ์ยา


“จะกลับยังไง  เดี๋ยวพี่ไปส่ง”พี่ใจดีถามอย่างเป็นห่วง


“ผมกลับเองได้ครับ  ขึ้นแท็กซี่ก็ได้”


“แต่...”


แก็ก  เสียงเปิดประตูห้องดังขึ้น  คนที่หายไปเป็นชั่วโมงๆโผล่หน้ามาแล้ว


“เออ  ไอ้ทศมาละ  มึงไปส่งน้องรันต์ไป  น้องกำลังจะกลับพอดี”พี่เซนท์บอก  ทศกัณฐ์มองผมก่อนสายตาจะเหลือบไปมองพี่สมิธบนเตียง


“มันหลับนานยัง”


“ไม่นานครับ  สักสิบนาที  หมอมาฉีดยาให้แล้วก็หลับไป”ทศกัณฐ์แค่พยักหน้ารับ


“ไปเถอะ”แล้วก็เดินออกจากห้องไป  ผมรีบหันไปไหว้ลาพี่ทั้งสองแล้วรีบวิ่งตามทศกัณฐ์ออกไป  เค้ายืนรออยู่หน้าห้อง


“จริงๆคุณไม่ต้องไปส่งผมก็ได้  เดี๋ยวผมกลับเอง”


“จะไปส่ง”พูดจบก็หมุนตัวเดินไปที่ลิฟท์  โอเค  ไปส่งก็ไปส่ง


ใช้เวลาไม่นานทศกัณฐ์ก็พาผมมาส่งถึงหน้าหอ  ผมลงจากรถแล้วถอดหมวกกันน็อคคืนให้  ทศกัณฐ์ก็เปิดหน้ากากหมวกขึ้น


“ขอบคุณครับ”ผมยกมือไหว้  ถึงจะไม่เรียกเขาว่าพี่และก็ไม่เคยไหว้เขาเลย  แต่จริงๆเขาก็เป็นรุ่นพี่  แม่ผมสอนให้เคารพผู้ใหญ่เสมอ  วันนี้เขาก็ทำให้ผมหลายอย่าง


ผม...ก็ควรขอบคุณ


ทศกัณฐ์มองผมอึ้งๆ  อะไรวะคนอุตส่าห์ไหว้ยังมามองเหมือนไม่เชื่อ


“กลับไปได้แล้ว  ว่างๆก็ให้คนมาเอารถไปด้วยนะครับ  จอดนานผมใจคอไม่ดี”กลัวหายครับ  รถเป็นไรมาผมก็ซวยดิ


“ไว้ก่อน  อย่าลืมไปหาอะไรกินด้วย”


“ครับ  ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมไปนะ”ทศกัณฐ์พยักหน้ารับ  ผมหันหลังให้จะเดินเข้าหอ  ได้ยินเสียงสตาร์ทรถอีกครั้ง เสียงสุดท้ายของเขาแว่วเข้ามาในหูก่อนรถจะเคลื่อนตัวออกไป


“ฝันดีนะ ‘น้องรันต์’ ” เท้าผมหยุดกึกอยู่กับที่   เมื่อกี้ผมแค่หูฝาดไปเองรึเปล่า  เขาไม่เคยเรียกผมแบบนี้  น้ำเสียงที่ใช้ก็แตกต่างจากเดิม  ความรู้สึกหลากหลายตีกันอยู่ในอก  แต่มีความรู้สึกหนึ่งที่ชัดเจน


...อบอุ่น...


ริมฝีปากผมกระตุกยิ้มอย่างกลั้นไม่อยู่


ผมเม้มปากตัวเองแน่นเมื่อรู้ว่าเผลอคิดอะไรแปลกๆ


เขาก็แค่เรียกเหมือนคนอื่นๆนั่นแหละรันต์


ผมสะบัดหัวแรงๆไล่ความคิด  แต่พยายามยังไงมันก็สบัดไม่หลุด


ไอ้ยักษ์บ้ามึงทำอะไรกับกูวะ!!!


+++++++++++++++++++++


มาแล้วววว  อาทิตย์ละตอนกันเลยทีเดียวแถมน้อยจนน่าละอาย  ขอโทษค่าาาาเปรมติดภารกิจระดับชาติ  ไฟนอลมันจี้ตูดเข้ามาทุกที  อยากจะบ้าตาย  ช่วงนี้อาจจะได้แค่นิดหน่อยจริงๆค่ะ  หลังสอบเสร็จก็จะสามารถมาได้ถี่กว่าเดิม  แต่ตอนหน้าเจอกันวันพฤหัสฯนี้นะคะ :กอด1: :pig4:

{โปรดติดตามตอนต่อไป...}


ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8896
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
Re: 《•ใจยักษ์•》♡ตอนที่ 10♡ [6/12/59]
«ตอบ #119 เมื่อ06-12-2016 22:09:02 »

 :pig4: :pig4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด