กับดักพิศวาส
ตอนที่18
ขนมเม้มปากแน่นก่อนจะปรับสีหน้าคลี่ยิ้มหวานให้แดนไทอย่างไม่สนใจต่อสายตาของแดนไทที่มองมาอย่างจับผิด
“ขนมไปข้างนอกมาครับ”
แดนไทมองขนมอย่างสำรวจ อีกฝ่ายแต่งตัวดูดี ไหนจะถุงเสื้อผ้าแบรนด์เนมที่ถืออยู่อีก
“ไปไหนมา!” แดนไทกดเสียงต่ำกว่าเดิมกดดันขนม แต่ขนมกลับฉีกยิ้มอย่างไม่รู้สึกถึงภาวะกดดันที่แดนไทจ้องมองอยู่
“ขนมไปซื้อของกับเพื่อนที่ห้างมา”
“ไหนบอกว่าออกไปทำธุระกับยาย” แดนไทเข้าประเด็นทันที เขาไม่ชอบตัวเองตอนนี้ที่กำลังหงุดหงิดกับสิ่งที่อีกฝ่ายทำ
“ก็ขนมไปทำธุระกับยายเสร็จก็ออกไปกับเพื่อนต่อ” ขนมยังแถไปเรื่อย
“หึ เอาเงินจากไหนมามากมายไปซื้อของแพงแบบนี้” แดนไทเดินข้าไปใกล้อีกฝ่ายพร้อมกระชากถุงแบรนด์ตรงหน้าอย่างแรง
“ขนมก็มีเงินเก็บของขนมบ้างสิ” ขนมพยายามยื้อกลับแต่ก็สู้แรงอีกฝ่ายไม่ไหวจนต้องยอมให้แดนไทกระชากไป
“หึ เงินเก็บนายคงเยอะสินะถึงซื้อของรวมๆกันแล้วหลายหมื่นแบบนี้” แดนไทพูดพร้อมปาถุงใส่ขนมอย่างแรง เขาจ้องขนมด้วยสายตาที่หลากหลายความรู้สึก
ขนมยืนสูดลมหายใจอย่างระงับอารมณ์ เขาต้องแสร้งเป็นคนดี แต่บางทีมารร้ายในตัวเรียกร้องจะออกมา ขนมจ้องหน้าแดนไทอย่างไม่ยอมแพ้พร้อมเก้บถุงของที่อีกฝ่ายปาทิ้ง
“พี่แดนจะคิดยังไงก็เรื่องของพี่แดน ขนมเบื่อที่จะอธิบายคนที่ไม่คิดจะฟังตั้งแต่แรก” ขนมเสียงเข้มขึ้นอย่างรับรู้ได้
“ฉันก็ไม่อยากจะฟังคำโกหกเหมือนกัน”
“ก็ดีครับ งั้นก็ไม่ต้องฟัง” ขนมเดินหนีอีกฝ่ายเข้าบ้านแต่ไม่ทันจะได้เข้าก็โดนกระชากแขนไว้อย่างแรงจนเสียงหลัก
“โอ๊ย!”
“จะเดินหนีไปไหนขนม!”
“ปล่อยขนม!” ขนมเริ่มขึ้นเสียงบ้าง ขนมจ้องหน้าแดนไทอย่างไม่ลดละ
“ไม่ปล่อย นายไปกับใครมา ใครซื้อของพวกนี้ให้นาย!!”
“ขนมซื้อเอง บอกไปแล้วก็ยังไม่ฟังจะเอาอะไรอีก!!” ขนมเถียงขึ้นอย่างไม่ยอมแพ้
“ฉันไม่ใช่ควาย อย่าคิดจะมาสวมเขาให้ฉัน!!”
ขนมยกยิ้มทันทีที่อีกฝ่ายพูดจบ ขนมวางถุงของลงบนพื้นก่อนจะกอดอกยืนมองอีกฝ่าย
“ถ้ามั่นใจในตัวเองนักแล้วจะมาหาคำตอบอะไรจากขนมอีก ถ้าคิดว่าตัวเองไม่ใช่
ควาย” ขนมเน้นเสียงตรงคำว่าควายเสียงดังจนแดนไทขมวดคิ้วกระชากขนมอย่างแรงให้เข้ามาใกล้ตัว
“อย่าปากดีขนม”
“ขนมดีกว่าปากพี่แดนก็รู้นี้” ขนมพูดจบกัดปากพร้อมยิ้มเยาะอีกฝ่าย แดนไทเห็นแบบนั้นอารมณ์ยิ่งพุ่งสูงขึ้น แดนไทบีบหน้าขนมอย่างแรงจนต้องเบ้หน้า
“มีอะไรกันหรือเปล่าลูก” ยายแก้วออกมาจากบ้านทันทีเมื่อเห็นว่าสถานการณ์ตรงหน้าไม่สู้ดีนัก
แดนไทชะงักพร้อมลดมือลง ขนมมองแดนไทอย่างเคียดแค้น เขาเจ็บที่อีกฝ่ายบีบหน้า ขนมพยายามสูดลมหายใจควบคุมอารมณ์ตัวเองที่กำลังพลุ่งพล่าน
“ไม่มีอะไรครับยาย” ขนมหันไปตอบยายตัวเอง
“มีอะไรกันก็ค่อยๆคุยกันนะลูก อย่าทะเลาะกันเสียงดังหน้าบ้าน เข้าไปคุยกันในบ้านดีกว่า” ยายแก้วพูดอย่างใจเย็นแม้ว่าในใจจะเป็นห่วงหลานชาย
“งั้นผมขอรบกวนคุณยายหน่อยนะครับ” แดนไทพูดจบเดินเข้าไปในบ้านพร้อมยกมือไหว้ยายแก้ว ก่อนจะหันมามองขนมทิ้งท้าย
ขนมกัดฟันแน่นที่แดนไทลุกล้ำเขตส่วนตัวของเขา แดนไทไม่หมูอย่างที่คิด ขนมหยิบถุงเสื้อผ้าเข้าไปในบ้าน พร้อมยิ้มให้ยายแก้วน้อยๆ
ยายแก้วมองเด็กสองคนเข้าไปในบ้านแล้วรู้สึกหนักใจ กลัว กลัวเหลือเกินว่าหลานชายจะเปผ็นเหมือนลูกสาวของตน
ยายแก้ววางแก้วน้ำบนโต๊ะให้แดนไทที่กำลังนั่งหน้าเข้ม
“กินน้ำก่อนนะลูก จะได้ใจเย็น” ยายแก้วยิ้มอย่างใจดีแต่ก็ไม่ทำให้ความรู้สึกภายในของแดนไทบรรเทาลง
“ครับยาย”
ขนมเดินลงมาหลังจากไปเก็บถุงเจ้าปัญหาบนห้อง ขนมเดินหน้านิ่งมานั่งตรงข้ามกับแดนไทอย่างประจันหน้า
“ยายได้ยินหนูสองคนทะเลาะกันเสียงดัง คนเราเป็นแฟนกันต้องใจเย็นกันนะลูก” ยายแก้วพูดขึ้นไปตามที่คิด
แดนไทชะงักไปทันที ส่วนขนมยกยิ้มก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะเป็นฝ่ายพูดขึ้น
“เราสองคนไม่ได้เป็นแฟนกันหรอกครับ”
ขนมพูดจบแดนไทรู้สึกหน้าชาไม่น้อย การกระทำของเขาไม่ต่างจากคนเป็นแฟนกัน ทั้งๆที่เขาสองคนไม่ได้เป็น เขากำลังหึงหวงอีกฝ่าย
“อ้าว แล้วงั้นเกิดอะไรขึ้นละลูก” ยายแก้วตกใจไม่น้อย เธอชักไม่เข้าใจความสัมพันธ์ของเด็กสมัยนี้แล้วสิ
“วันนี้คุณยายได้ออกไปทำธุระกับขนมหรือเปล่าครับ” แดนไทเปลี่ยนเรื่องพร้อมตีแสกหน้าขนมทันที เขาอยากรู้ความจริง และไม่ยอมเป็นลูกไล่ขนมเด็ดขาด
ขนมกัดฟันแน่น แดนไททำแบบนี้ถือว่าฉีกหน้าเขาได้ทันที อีกฝ่ายจะรู้ทันทีว่าเขาโกหกทุกอย่าง ขนมหันไปมองยายดูสายตาอ้อนวอนจนยายแก้วต้องถอนหายใจเบาๆแล้วพูดขึ้น
“เอ่อ ยายออกไปทำธุระกับขนมตั้งแต่เช้าแล้วลูก” ยายแก้วพูดออกมาอย่างจำใจ เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เธอก็เลือกที่จะรักษาหน้าหลานเอาไว้ แม้ว่าจะต้องผิดศีลก็ตาม
ขนมยิ้มหวานทันทีที่พูดจบก่อนจะมองแดนไทพร้อมเชิดหน้ายิ้มอย่างพอใจ
“จะหยุดสงสัยได้หรือยังละพี่แดน”
แดนไทบดฟันแน่นแม้ว่าเขาจะรู้สึกเสียหน้า แต่ลึกๆในใจเขากลับรู้สึกโล่ง
“ขนมมีเงินเก็บเยอะแยะขนาดที่ซื้อของแบรนด์เนมได้หลายหมื่นเลยเหรอครับ” แดนไทหันไปถามยายแก้วต่อ
ยายแก้วสังเกตถุงเสื้อผ้าตั้งแต่แรกอยู่แล้ว จนมาถึงตอนนี้เธอพอจะเดาเรื่องราวได้บ้าง
“ขนมมีเงินเก็บจากทำงานตอนปิดเทอมเยอะลูก ยายก็ให้ไปส่วนนึง นานๆขนมจะซื้อเสื้อผ้าใหม่ นานๆซื้อทียายก็อยากให้ซื้อดีไปเลย” ยายแก้วพูดจบหันไปยิ้มให้แดนไทก่อนจะพูดต่อ “ยายขอตัวดีกว่า ให้เด็กๆคุยกันเอง แต่อย่ารุนแรงกันนะลูก คุยกันด้วยเหตุผล”
ขนมมองยายที่เดินออกไปก่อนจะถอนหายใจอย่างโล่งอก เขาดีใจยายช่วย แต่หลังจากนี้เขาก็ต้องตอบคำถามยายเยอะเหมือนกัน
“พี่แดนสงสัยอะไรอีกมั้ยครับ” ขนมถามขึ้น
แดนไทจ้องมองอีกฝ่ายเขม็ง แม้จะไม่อยากเชื่อนักเรื่องของแบรนด์เนม แต่เขาจะยอมเชื่ออีกฝ่ายเพราะเห็นแก่ยายของขนมก็แล้วกัน
“ถ้าทุกอย่างคือเรื่องจริง ฉันก็ไม่สงสัยอะไรละ” แดนไทพูดจบดื่นน้ำที่วางอยู่ตรงหน้าเพื่อให้ตัวเองใจเย็นลง
ขนมขยับไปนั่งใกล้อีกฝ่ายก่อนจะลูบท่อนขาแกร่งของอีกฝ่ายไปมา
“ขนมอยากให้พี่แดนเชื่อขนมนะครับ ขนมไม่ได้โกหกพี่แดน” ขนมพูดเสียงหวานอย่างเอาใจ
“ฉันจะพยายามเชื่อ” แดนไทพูดพร้อมจ้องมองหน้าอีกฝ่ายอย่างเต็มตา เขาไม่คิดว่าเขาจะมาได้ถึงขนาดนี้ นี่เขากำลังหึงขนมใช่มั้ย
“ขนมก็จะพยายามทำให้พี่แดนเชื่อใจขนมให้ได้” ขนมยิ้มหวานพร้อมซบลงบนบ่าแกร่งของอีกฝ่าย
แดนไทมองขนมเล็กน้อยก่อนจะลูบหัวอีกฝ่ายเบาๆ
“ฉันไม่ชอบการหักหลัง ถ้าคิดจะเป็นของฉัน นายต้องเป็นของฉันคนเดียว” แดนไทพูดเสียงเข้มจนขนมรับรู้ได้ถึงความจริงจังของอีกฝ่าย
“ขนมเป็นของพี่แดนคนเดียวเสมอ” ขนมพูดจบจูบแก้มอีกฝ่ายเบาๆ
แดนไทจับหน้าอีกฝ่ายก่อนจะลูบที่แก้มที่เขาบีบไป
“เจ็บมั้ย ฉันขอโทษ”
“เจ็บครับ ช่วยปลอบขนมหน่อยสิ” ขนมพูดพร้อมสบตาแดนอย่างมีความหมาย
แดนไทมองอีกฝ่ายอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนจูบที่ริมฝีปากขนมเบาๆก่อนกระซิบ
“ไปปลอบกันที่คอนโดฉันดีกว่า”
ยายแก้วลงมาจากชั้นสองหลังจากได้ยินเสียงรถของแดนไทออกไป เธอได้แต่ถอนหายใจเบาๆก่อนจะหันไปมองรูปลูกสาวของตัวเองแล้วพูดขึ้น
“อย่าให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเลย”
ขนมนอนซบแดนไทพร้อมเกลี่ยนิ้วเล่นแผ่นอกแกร่งไปมาหลังจากทั้งคู่ปลอบกันไปสองรอบ
“พี่แดนโมโหร้ายจังเลย ขนมกลัว” ขนมพูดขึ้นพร้อมเงยหน้ามองอีกฝ่ายอย่างล้อๆ
“หึ นี่ขนาดกลัวยังตอกกลับฉันได้ขนาดนี้” แดนไทพูดพร้อมเกลี่ยผมขนมเล่นไปมา
“ขนมไม่ยอมให้พี่แดนแรงใส่ขนมฝ่ายเดียวหรอก” ขนมยู่ปากใส่อีกฝ่าย
“ถ้าไม่อยากให้ฉันแรงใส่ก็อย่าทำแบบนี้อีก อย่าทำให้ฉันสงสัย”
“ขนมไม่ได้ทำอะไรนะครับ พี่แดนคิดมากไปเอง”
แดนไทเงียบไปก่อนจะเปลี่ยนเรื่องคุย
“ทีหลังจากได้อะไรก็บอกฉัน ไม่ต้องไปรบกวนยาย ส่วนเงินเก็บ เก็บไว้ใช้เวลาจำเป็นเถอะ”
“ขนมเกรงใจ” ขนมเงยหน้ามองอีกฝ่ายพร้อมยิ้ม
“คิดจะเป็นของฉัน ไม่ต้องเกรงใจ” แดนไทพูดจบจับหน้าอีกฝ่ายมาบดจูบอย่างหมั่นเขี้ยว
“ได้เลยครับป๋า”
ทั้งสองมองหน้ากันก่อนจะเริ่มปลอบกันในรอบที่สาม
ขนมกลับบ้านมาในตอนเช้า แดนไทจะลงมาไหว้ยายให้ได้แม้ว่าเขาจะพยายามกันยังไง เขาเลยยอมอ่อนให้ ไม่อยากให้อีกฝ่ายสงสัยไปมากกว่านี้
“สวัสดีครับยาย” แดนไทยกมือไหว้พร้อมยื่นรังนกให้ ขนมขมวดคิ้วทันที แดนไทไปเตรียมมาตั้งแต่ตอนไหน
“สวัสดีลูก อะไรกัน ไม่ต้องมีอะไรมาให้ยายหรอก”
“ขอโทษที่เมื่อวานผมเสียมารยาทหลายเรื่อง” แดนไทยิ้มเล็กน้อยก่อนจะยกมือไหว้ยายอีกรอบ
“ไม่เป็นไรหรอกลูกยายเข้าใจวัยรุ่นก็ใจร้อนเป็นธรรมดา” ยายแก้วยิ้มให้อีกฝ่าย
“ผมลืมแนะนำตัวเลย ผมชื่อแดนนะครับ แดนไท สิทธิ...” แดนไทพูดแนะนำตัว จังหวะนั้นเองขนมที่เดินไปเอาน้ำมาให้แดนไทต้องชะงักทันที ยังไม่ทันที่แดนไทจะพูดจบขนมก็พูดสอดขึ้นมาทันที
“นี่ครับน้ำ” แดนไทพูดเสียงดังจนแดนไทต้องหยุดพูดก่อนจะแนะนำตัวเสร็จ
“เอ่อ ยายแก้วนะจ้ะ เป็นยายของขนม” ยายแก้วไม่รู้จะพูดอะไรต่อเมื่ออยู่ดีดีหลานชายตัวเองก็โพล่งออกมาแบบนั้น
“ครับ วันนี้ผมต้องขอตัวก่อนนะครับ ต้องรีบกลับไปทำธุระที่บ้าน รอบหน้าผมจะมาฝากท้องกับคุณยายนะครับ” แดนไทพูดพร้อมยิ้มน้อยๆ
“ได้เลยลูก” ยายแก้วยิ้มรับ
ยายแก้วมองขนมที่ออกไปส่งอีกฝ่ายเมื่อหลานชายตัวเองเข้ามายายแก้วก็ถึงเวลาที่ต้องพูดคุยกัน
“ขนมมานั่งคุยกับยายหน่อย” ขนมเดินไปนั่งข้างยาย เขาเตรียมพร้อมมาแล้ว
“ยายอยากรู้ว่าขนมไปโกหกพี่เขาทำไม” ยายแก้วถามขึ้นทันที
“ขนมก็แค่อยากมีเวลาส่วนตัวบ้างครับ”
“ก็เลยโกหกว่าไปทำธุระกับยายอย่างนั้นเหรอ” ยายแก้วจ้องมองหลานชายตัวเอง
“ใช่ครับ”
“แล้วขนมไปซื้อของพวกนั้นกับใครมา ของแพงแบบนั้นเอาเงินที่ไหนไปซื้อ” ยายแก้วซักต่อ
“มีคนซื้อให้ขนม” ขนมพูดออกไปตามความจริง ยายเป็นคนสุดท้ายบนโลกที่เขาอยากจะโกหก แต่บางเรื่องอาจจะต้องพูดปดกันบ้าง
“ใคร ใครซื้อให้ขนม” ยายแก้วเบิกตากว้างทันที
“รุ่นพี่ที่รู้จักนะครับ เขาซื้อของชดใช้ที่เกือบขับรถชนขนม”
“ขนมเกือบถูกรถชนเหรอลูก” ยายแก้วลูบตามตัวหลานชายไปมาอย่างเป็นห่วง
“ใช่ครับ แต่ขนมไม่เป็นไรมากหรอกครับ ขนมจะไม่อยากไดหรอกครับ เขาให้เงินขนมก็ไม่เอา พี่เขาเลยซื้อเป็นการชดใช้แทน” ขนมอธิบายเพื่อเพิ่มน้ำหนัก
“แล้วทำไมหนูไม่บอกความจริงแดนไทเขาไปละ”
“พี่แดนขี้สงสัยนะครับ ขนมไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด”
ยายแก้วพยักหน้าเข้าใจ เพราะดูจากอารมณ์แดนไทแล้วคงจะร้อนไม่น้อย
“แต่ทีหลังอย่าเอาไปยายไปเกี่ยวข้องแล้วนะลูก ยายไม่อยากเสียคนตอนแก่”
“ครับผม ขนมจะไม่ให้ใครมายุ่งกับยายอีก” ขนมพูดจบเข้าไปกอดเอวยายแก้วอย่างออดอ้อน
“ขนมดูแลตัวเองดีดีนะลูก” ยายแก้วพูดพร้อมลูบหัวหลานชายอย่างเป็นห่วง
“ยายไม่ต้องห่วงนะครับ ไม่มีใครทำอะไรขนมได้หรอก”
ยายแก้วได้แต่มองหน้าชายอย่างเป็นห่วง เธอไม่อยากจะก้าวก่ายหลานชายมากเกินไป ถือว่าโตแล้ว แต่สุดท้ายก็อดที่จะห่วงไม่ได้อยู่ดี เธอไม่รู้ว่าหลานชายกำลังทำอะไรอยู่กันแน่
____________________________________________________________________________
ถึงพี่ดินจะดูง่าย แต่พี่แดนไม่ง่ายนะครับ ไม่งั้นคงไม่สูสีกับขนม แต่คนที่รักมากกว่ามักจะแพ้เสมอ
ขอบคุณทุกคนที่อ่านและคอมเม้นต์ครับ