<<คดีรักนักดูดวง>>
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: <<คดีรักนักดูดวง>>  (อ่าน 145261 ครั้ง)

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
Re: <<คดีรักนักดูดวง>> บทที่ 11 [27/11/59]
«ตอบ #180 เมื่อ28-11-2016 01:57:52 »

รวดเดียวจบ เป็นอะไรที่ต้องตามมม

เหมือนจะไม่ซับซ้อน แต่ก้อวางใจมิได้

ออฟไลน์ YounIn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-8
Re: <<คดีรักนักดูดวง>> บทที่ 11 [27/11/59]
«ตอบ #181 เมื่อ28-11-2016 10:28:05 »

เสี่ยพิชัยมีปืน นักแม่นปืน อาจจะเป็นคนฆ่าก็ได้
แต่ทำไมพาลีจำเสียงคนร้ายในโทรศัพท์ไม่ได้หรอ

ออฟไลน์ อ้วนน้อย

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
Re: <<คดีรักนักดูดวง>> บทที่ 11 [27/11/59]
«ตอบ #182 เมื่อ28-11-2016 11:03:11 »

 :sad4:แงงชื่อแฟนเค้าอ่ะจิ้นไม่ออก

ออฟไลน์ FaiiFay_Elle

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 116
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: <<คดีรักนักดูดวง>> บทที่ 11 [27/11/59]
«ตอบ #183 เมื่อ28-11-2016 21:45:24 »

 :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
Re: <<คดีรักนักดูดวง>> บทที่ 11 [27/11/59]
«ตอบ #184 เมื่อ30-11-2016 19:13:27 »

ไม่มีอะไรมาก แค่สงสารไข่จังเลย
อย่าขับรถ พาผู้ใหญ่ลีหลงเข้าโรงแรมละ
 :hao6:

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove
<<คดีรักนักดูดวง>> บทที่ 12 [02/12/59]
«ตอบ #185 เมื่อ02-12-2016 11:15:36 »


                                                            คดีรักนักดูดวง

                                                                บทที่ 12


           “คือว่า...”


           “พาลีครับ ไม่สงสารคนที่กำลังดวงตกบ้างเหรอ ไหนพาลีบอกว่าผมต้องทำบุญไงล่ะ”


          ยังไม่ทันจะหาทางออกติณณ์ก็ส่งเสียงออดอ้อนแทรกมาทันที และเป็นเหตุผลที่ยากจะปฏิเสธเพราะพาลีบอกกับติณณ์เช่นนั้น

จริงๆ


           “นะครับพาลี”


           “ถ้าอย่างนั้นไปตอนเช้าได้ไหมครับ สักเจ็ดโมง”


           เสนอเวลาตั้งแต่เช้าตรู่เพราะคิดว่านักแสดงอย่างติณณ์ไม่น่าจะชอบการตื่นเช้า หากแต่พาลีคาดการผิดเพราะติณณ์รีบตอบกลับ

ด้วยน้ำเสียงร่างเริงสุดฤทธิ์


          “ได้เลยครับพาลี ให้ผมไปรับไหม พาลีอยู่ที่ไหนบอกผมได้เลยนะครับ”


          “อย่าดีกว่าครับ”  ห้ามเสียงหลงเพราะตอนนี้สุดเขตมองตาถลนแล้ว


         “ผมไปเองจะสะดวกกว่า พบกันที่วัด...นะครับ”


           พูดจบพาลีก็ชิงตัดสายทิ้งและหันไปมองน้ำทิพย์อย่างไม่ค่อยพอใจนัก


         “ผมจำไม่ได้ว่าเคยอนุญาตให้พี่ทิพย์บอกเบอร์ของผมกับคนอื่นตั้งแต่เมื่อไหร่”


         “โธ่ น้องลี พี่ขอโทษ” น้ำทิพย์ยิ้มจืดเจื่อน


          “พี่เห็นว่าเป็นติณณ์ไง เขาเป็นคนดังแถมยังหน้าตาดีแบบนี้คงไม่ได้คิดร้ายอะไรกับลี เขาโทรมาขอเบอร์ลีกับพี่บอกว่าจะให้ลีช่วย

พาไปทำบุญพี่ก็เลยให้ไป อย่าเคืองพี่แบบนี้สิจ๊ะ”


           พาลีถอนหายใจกับนิสัยการดูคนแต่ภายนอกของน้ำทิพย์ เพียงแค่คนๆนั้นหน้าตาดี มีชื่อเสียงและมีฐานะทางสังคมคนอย่างน้ำ

ทิพย์ก็พร้อมที่จะไว้เนื้อเชื่อใจไปเสียทั้งหมด


            “ช่างเถอะครับ แต่หวังว่าจะไม่มีคราวหน้าอีกนะครับ”


           พาลียกมือไหว้น้ำทิพย์ก่อนจะเดินกลับออกไป แต่สุดเขตยังไม่ยอมจบเขาหันขวับไปมองน้ำทิพย์ด้วยดวงตาดุจนสาวใหญ่สะดุ้ง


           “ว้าย อะไรยะไอ้มหาโจร”


            สุดเขตยกนิ้วขึ้นทำท่าปาดคอแล้วชี้ไปทางน้ำทิพย์เป็นการขู่สำทับคำพูดของพาลีก่อนจะหันหลังกลับเดินตามพาลีออกไปทิ้ง

ให้น้ำทิพย์ยืนอกสั่นขวัญแขวน


          “โอ๊ย คนขับรถน้องลีนี่มันเป็นฆาตกรต่อเนื่องหรือเปล่านะ ไม่ได้การละต้องโทรบอกให้คุณติณณ์ระวังแทนน้องลีให้มากๆ”


          รำพึงจบน้ำทิพย์ก็รีบจัดแจงโทรหาคนที่ตนเองกล่าวถึงทันที







         พาลีนั่งนิ่งมาในรถยนต์ที่สุดเขตเป็นคนขับ ตลอดทางสุดเขตมีสีหน้าบึ้งตึงและไม่หันมามองพาลีแม้แต่ครั้งเดียว พาลีเม้มริมฝีปาก

พลางสะกัดกั้นความร้อนรนในจิตใจที่เกิดขึ้นในหัวใจ จนในที่สุดพาลีก็ทนไม่ไหวเมื่อสุดเขตขับรถใกล้จะถึงตึกแถวของเขา


          “ไอ้เขต” เอ่ยทำลายความเงียบแต่สุดเขตก็ยังมีทีท่าเหมือนเดิมจนเสียงพาลีเริ่มจะอ่อยลงเรื่อยๆ


          “เขต มึงเป็นอะไร ทำไมทำคอแข็งเหมือนเป็นโรคพิษสุนัขบ้าเลยวะ”


          ได้ผล สุดเขตหันมามองเขาแวบหนึ่งก่อนจะหันกลับไปมองท้องถนนด้วยท่าทางเช่นเดิม


          “ใช่สิ กูมันหมาบ้า ทำอะไรก็บ้าไปหมด จะไปเหมือนไอ้ดาราหน้าหล่อเสียงหวานได้ยังไง”


          เสียงแข็งๆของสุดเขตทำให้พาลีเป็นกังวล เขางงตัวเองเหมือนกันที่สมองคิดหาคำแก้ตัวจ้าละหวั่น


          “มึงจะเอาไปเทียบกับเขาทำไม ติณณ์ก็เป็นติณณ์ มึงก็คือมึง แล้วกูก็ไม่ได้เป็นคนติดต่อเขาไปนะ”


          “แต่มึงก็ไม่ปฏิเสธที่มันชวนไปทำบุญบังหน้าใช่ไหมล่ะ” สุดเขตตวัดสายตาใส่


           “ทั้งๆที่มึงก็ดูออกว่ามันไม่ได้คิดจะทำบุญอะไรนั่นหรอกนอกจากอยากเจอมึง”


           “แล้วมึงจะให้กูทำยังไง”  พาลีย้อนถาม “เขายกเหตุผลที่กูเป็นคนแนะนำให้เขาทำ มึงลองบอกสิว่าเป็นมึงจะปฏิเสธเขายังไง”


           “ก็บอกมันไปสิว่าพ่อป่วย น้าเสีย ป้ามึงเป็นไข้ทับระดู หมาบ้านมึงออกลูกแล้วเบ่งไม่ออก หรือมึงบอกไปเลยว่ากูไม่อยากให้มึง

ไปกับมัน”


            สุดเขตส่งเสียงดังลั่นรถเมื่อความอดทนของเขาสิ้นสุดลง


           “บอกมันไปเลยว่ากูห้ามมึงเพราะกูหึง กูหวงไม่อยากให้มึงไปเจอกับมัน”


             รถยนต์เลี้ยวขวับเข้าจอดริมถนนหน้าตึกแถวของพาลีแล้วเบรกดังเอี้ยด สุดเขตก้าวลงไปยืนหน้าห้องแถวอย่างหงุดหงิดใน

ขณะที่พาลีแอบยิ้มกับข้อความสุดท้ายก่อนจะลงจากรถตามมาด้วยหัวใจที่ระยิบระยับราวกับมีพลุไฟไปจุดอยู่ในนั้น

            หึง หวง

          นั่นคือสาเหตุที่ทำให้ร่างสูงหน้าดุภายใต้หนวดเคราปลอมเฟิ้มอยู่บนใบหน้ายืนหงุดหงิดงุ่นง่านอยู่หน้าประตูตึกแถวรอให้พาลีลง

ไปจากรถและเดินตามไป


            “เอ้า มึงจะลีลาอีกนานไหม รีบเปิดประตูสิวะ กูหนาวแล้วนะ”


           “เออ มึงก็ใจเย็นๆให้เหมือนอากาศหน่อยสิวะ”


           พาลีเปิดประตูห้องแถวแล้วเดินนำเข้าไป สุดเขตก้าวตามและหยุดรอให้พาลีปิดประตู เขามองสำรวจความเรียบร้อยจนมั่นใจเมื่อ

เห็นว่าปลอดภัยดีจึงได้สะบัดหน้าใส่พาลีก่อนจะชิงเดินนำขึ้นไปชั้นบนทิ้งให้พาลียืนขำ

          เวลาคนตัวใหญ่ๆงอนเหมือนเด็กนี่มันก็น่าเอ็นดูไปอีกแบบหนึ่ง


            เดินตามขึ้นบันไดไปแล้วพาลีเห็นสุดเขตเดินไปอาบน้ำอย่างรวดเร็วแล้วกลับเข้าห้องมาใส่ชุดนอนโดยที่ยังไม่ได้ถอดหนวด

เคราปลอมออก พาลีเลิกคิ้วมองอย่างสงสัย


           “จะนอนทั้งหนวดแบบนี้เลยเหรอ”


           “ก็มึงจะไปหาไอ้พระเอกนั่นแต่เช้าไม่ใช่หรือไง กูขี้เกียจถอดแล้วติดใหม่ ไมอะ ทนความน่าเกลียดของกูไม่ได้เหรอ ทนไม่ได้ก็

ต้องทนโว้ย”

       
             พาลีส่ายหน้าเมื่อเจออาการเกเรของสุดเขตที่หนีหน้าเขาด้วยการหันไปสนใจกับการเล่นเกมในโทรศัพท์มือถือ เขาจึงเดินไป

อาบน้ำบ้างและเมื่อกลับเข้าห้องมาจึงได้เห็นว่าสุดเขตหอบหิ้วหมอนมานอนอยู่บนโซฟาที่อาศัยนอนในวันแรกๆ พาลีถึงกับใจแป้ว


           “เขต ทำไมไปนอนตรงโซฟาล่ะ ไม่นอนที่เตียงแล้วเหรอ”


           ถามเสียงอ่อนราวกับจะง้ออีกฝ่ายให้หายโกรธแต่สุดเขตก็ยังนอนนิ่งไม่ขยับ


           “กูนอนตรงนี้แหละ บนเตียงแอร์ตกใส่มันหนาว”


           “อืม ตามใจนะ”


             รับคำเสียงแผ่วพร้อมกับก้าวขึ้นเตียงพลางมองแผ่นหลังของสุดเขตที่ตะแคงหันหลังให้สายตาละห้อย พาลีเปิดโคมไฟเพื่อ

อ่านหนังสือด้วยจิตใจที่ไม่อยู่กับเนื้อกับตัวนัก จนกระทั่งเขาได้ยินเสียงกรนเบาๆมาจากคนที่นอนบนโซฟาเมื่อเวลาผ่านไปพักใหญ่พาลี

จึงปิดโคมไฟจนทั้งห้องมืดสนิทและรอจนสายตาคุ้นชินกับความมืด

                 พาลีค่อยๆลุกจากเตียงและย่องไปทางโซฟาในความมืดมิด เขาหอบผ้าห่มมาด้วยเพราะรู้ว่าสุดเขตไม่ชอบอากาศเย็นนัก

สุดเขตนอนหงายยกแขนทั้งสองวางพาดที่วางแขนเหนือหัว ดวงตาคมปิดสนิทเปิดปากกรนเบาๆ เมื่อพาลีไปถึงเขาก็ชะโงกหน้ามองด้วย

ความห่วงใยและคลี่ผ้าห่มลงไปบนลำตัวของสุดเขต

            หมับ!!

            สะดุ้งโหยงเมื่อข้อมือของตนเองถูกคว้าไว้ พาลีมองเห็นดวงตาคู่คมลืมตาอยู่ในความมืดและมองเขาด้วยสายตาลึกล้ำที่พาลีไม่

อยากจะแปลความหมาย ความเก้อกระดากกรูขึ้นมาสุมอยู่บนใบหน้าจนเห่อร้อนอยู่ในความมืด


            “ปล่อย กูจะกลับไปนอนแล้ว อ้าว เฮ้ย!”


           นอกจากไม่ปล่อยแล้วสุดเขตยังกระชากแขนให้พาลีล้มทับมาใส่ตัวของเขาและกอดกระชับไว้แน่นหนาจนพาลีได้แต่ดิ้น

ขลุกขลักอยู่บนร่างหนาด้วยมัดกล้ามบนโซฟาเล็กๆนี้


          “เขต ปล่อยกู”


         “ไม่ปล่อย มึงเดินมาหากูเองนะลี”


            สุดเขตขยับดึงผ้าห่มคลุมลงไปบนตัวของพาลี กลายเป็นว่าตอนนี้พาลีนอนตะแคงหันหน้าเข้าหาสุดเขตภายใต้ผ้าห่มที่เขาเป็น

คนถือมาอยู่บนโซฟาเล็กแคบจนแค่ดิ้นก็แทบจะตกลงไปกับพื้นห้องแล้ว


           “มึงอย่าดิ้นสิวะ เดี๋ยวกูปล่อยร่วงลงไปให้หลังหักเลย”


            เสียงขู่เบาๆไม่ดังนักข่มขวัญอยู่ใกล้หูส่งผลให้พาลีต้องนอนนิ่งเป็นหุ่นปั้นอยู่ในอ้อมกอดของวงแขนแข็งแกร่งแถมสุดเขตยัง

พาดขามากอดก่ายราวกับเขาเป็นหมอนข้างแสนวิเศษ พาลีนอนกะพริบตาปริบๆอยู่ในความเงียบสงัดยามดึกจนได้ยินเสียงหัวใจของเขา

เต้นแข่งกับหัวใจของสุดเขต


            “ลี”


           เสียงเรียกชื่อนั้นมันทั้งนุ่มทั้งหวานจนพาลีใจสั่น รู้สึกถึงเคราปลอมสากๆบนคางของสุดเขตสัมผัสเบาๆอยู่เหนือหน้าผากของเขา


           “อะไรอีกเล่า”


             “พรุ่งนี้น่ะ ถ้าไอ้เวรติณณ์มันพูดอะไรมามึงก็อย่าไปสนใจมันนะ มึงรู้ใช่ไหมว่ากูไม่ชอบให้มึงไปยุ่งกับมัน”


             สุดเขตพูดเหมือนสั่งแต่ก็คล้ายอ้อนวอนขอร้องจนริมฝีปากของพาลีคลี่ยิ้มออกมาเองโดยไม่รู้ตัว เขาก้มหน้างุดซบศีรษะลงกับ

บ่ากว้างก่อนจะพึมพำตอบเสียงอู้อี้


            “เออ รู้แล้วล่ะน่า กูไม่ยุ่งกับเขาหรอก”


             “ลี”


             คนที่กอดเขาไว้แน่นยังไม่เลิกส่งเสียงออดอ้อน


            “เรียกทำไมอีก กูง่วงแล้วนะ”


           “ขอกู๊ดไนท์คิสหน่อยได้ไหม”


            “อะ อะไรนะ!”


             เงยหน้าขึ้นมาอย่างไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวและทันใดนั้นสุดเขตก็ฉวยโอกาสที่เขาวางแผนไว้แล้วด้วยการประกบริมฝีปาก

ลงไปบนกลีบปากนุ่มของพาลีทันที อ้อมกอดแน่นหนาทำให้พาลีไม่อาจหลีกหนีได้เมื่อสุดเขตเพิ่มน้ำหนัก

ประทับลงไปและเม้มเรียวปากเข้าหาอย่างติดใจ


          “อื้อ”


            หนวดเคราปลอมรอบปากของสุดเขตถูไถอยู่บนใบหน้าจนพาลีจั๊กจี้ หากแต่มันกลับทำให้เขารู้สึกแปลกไปกับรสจูบยิ่งกว่าเดิม

จนเผลอไผลเปิดรับให้ลิ้นร้อนฉกเข้ามารวดเร็วยิ่งกว่างูพิษ พาลีสูดลมหายใจอย่างยากเย็นเมื่อสุดเขตตักตวงความหวานจากเขาไปจน

แทบไม่เหลือช่องว่างให้หายใจ

               กว่าที่สุดเขตจะค่อยๆผ่อนปรนและผละปลายลิ้นออกมาพาลีก็มึนงงจนตาลอย สุดเขตยังตามย้ำด้วยการขบเม้มกลีบปากของ

เขาอย่างติดใจอีกพักใหญ่กว่าจะยอมคืนอิสรภาพให้เขา พาลีสบตากับดวงตาดุที่บัดนี้กลับกลายเป็นหวานฉ่ำพร่างพราวอยู่ในความมืด

ก่อนที่สุดเขตจะเหนี่ยวให้เขาซุกหน้าเข้าหาอกกว้าง


                “นอนนะลี พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าอีก”


               เสียงนั้นเหมือนบทเพลงเห่กล่อม พาลีปล่อยให้ความอบอุ่นของอ้อมกอดทำให้เขาหลับไปบนโซฟาแคบๆพร้อมกับสุดเขต

ตลอดทั้งคืน




มีต่ออีกนิด...


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-12-2016 11:24:56 โดย Belove »

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove
<<คดีรักนักดูดวง>> บทที่ 12 [02/12/59]
«ตอบ #186 เมื่อ02-12-2016 11:26:15 »

ต่อกันตรงนี้...



           สุดเขตขับรถพาพาลีไปถึงวัดแต่เช้าตรู่ เมื่อจอดรถเรียบร้อยเขาจึงหันไปมองเสี้ยวหน้าของคนที่นั่งมาด้วยก่อนจะยิ้มจางๆออกมา

พาลีคลายพิษสงลงไปได้มาก ชายหนุ่มยินยอมนอนนิ่งเป็นหมอนข้างให้เขากอดแม้ว่าทั้งคู่จะตื่นมาอย่างเมื่อยขบที่ต้องนอนบนพื้นที่

เล็กๆแต่มันกลับสร้างความอบอุ่นในหัวใจจนสุดเขตติดใจ ยิ่งนับวันที่ได้ใกล้ชิดเขาก็รู้สึกราวกับว่าพาลีกำลังเข้ามาเติมเต็มให้ชีวิตของ

เขาสมบูรณ์พร้อม


              “ผู้ใหญ่ลี” สุดเขตเรียกชื่อแล้วคว้ามือเรียวของพาลีมากุมไว้


               “จำที่กูบอกเมื่อคืนได้ไหม”


              “อย่าสนใจติณณ์ กูรู้แล้วน่า มึงจะย้ำอะไรนักหนา”


               มองเห็นเลือดฝาดฉีดขึ้นมาบนสีหน้าที่ทำเป็นเมินหนีมองไปนอกหน้าต่างรถ สุดเขตหัวเราะก่อนจะเปิดประตูเดินลงไปเพื่อจะ

เปิดประตูรถให้พาลีก้าวลงตามมา ยืนอยู่แค่อึดใจรถยนต์คันหนึ่งก็แล่นเข้ามาจอดเคียงข้างพร้อมกับคนที่ทำให้รอยยิ้มของสุดเขตหุบฉับ

ลงทันที


           “สวัสดีตอนเช้าครับพาลี”


            ติณณ์รักษาเวลาได้ดี เขามาตรงตามเวลานัดพร้อมกับรอยยิ้มที่โปรยมาให้เพียงแค่พาลีเท่านั้น ไม่ได้เผื่อแผ่มาถึงนายไข่ที่ยืน

นิ่งอยู่เบื้องหลังของพาลี


             “ให้ผมไปรับก็ไม่ยอม พาลีจะได้ไม่ต้องให้ “คนอื่น” มาส่ง”


              ปรายตาดูหมิ่นไปยังชายที่แต่งตัวมอซอหนวดเคราไม่โกน คนขับรถของพาลีไม่น่าไว้วางใจตั้งแต่วันแรกที่ติณณ์พบที่สตูดิโอ

ถ่ายทำรายการเรียลลิตี้แล้ว และยิ่งตอนค่ำของเมื่อวานนี้น้ำทิพย์โทรศัพท์มาหาเขาเพื่อบอกเรื่องนายไข่ ติณณ์ก็ยิ่งนึกเกลียดขี้หน้าและ

สายตาโอหังที่นายไข่ส่งมาให้


              “ไข่เป็นคนที่ผมไว้ใจครับคุณติณณ์ เขาไม่ใช่คนอื่นสำหรับผม”


              ติณณ์หน้าม้านกับคำพูดของพาลี และเมื่อเห็นสายตาขำขันที่มองเขาเป็นตัวตลกจากชายที่ยืนอยู่เบื้องหลังพาลี ติณณ์ก็ยิ่ง

เจ็บใจ ถ้าไม่ติดว่าต้องรักษาภาพพจน์ต่อหน้าพาลีที่เขากำลังหมายปองติณณ์ก็คงจะไม่ปล่อยให้มันมายืนยักคิ้วเบ้ปากล้อเลียนเขาอยู่

อย่างนี้ ติณณ์ฝืนยิ้มส่งให้พาลี


               “งั้นหรือครับ ช่างเถอะ เราไปทำบุญกันดีกว่า ผมเตรียมชุดถวายสังฆทานมาแล้ว”


               ติณณ์ก้าวไปด้านหลังรถเพื่อหยิบชุดสังฆทานชุดใหญ่ออกมาสองชุด


              “มาครับ ผมช่วยถือ”


              พาลีคว้าชุดสังฆทานจากมือของติณณ์มาชุดหนึ่งเพื่อช่วยติณณ์ แต่สุดเขตก็คว้าไปต่อจากเขาอีกที ติณณ์มองหน้าสุดเขตและ

ยื่นชุดในมือของเขาให้สุดเขต


             “ถือชุดนี้ไปด้วย”


             ออกคำสั่งเพื่อให้สุดเขตทำ แต่ชายหนุ่มกลับมองอย่างเฉยเมยและไม่ยอมรับมาถือให้ติณณ์จนเจ้าตัวส่งสายตาเกลียดชังมา

ทางเขา สุดเขตแอบสะใจที่เห็นติณณ์เสียหน้าจนคิ้วแทบจะชนกัน


            “รีบไปกันเถอะครับ หลวงพ่อน่าจะกลับจากบิณฑบาตแล้ว”


            พาลีเอ่ยห้ามทัพเมื่อเห็นสุดเขตกับติณณ์ยืนห้ำหั่นกันด้วยสายตา เขานึกปวดศีรษะขึ้นมาครามครันจนไม่รู้ว่าวันนี้จะได้บุญหรือ

บาปกันแน่ จากนั้นพาลีจึงเดินนำไปทางกุฏิพระโดยมีติณณ์ที่หิ้วชุดสังฆทานของเขารีบก้าวขึ้นมาเดินเคียงคู่ ทิ้งให้สุดเขตเดินตามหลัง

เสร็จจากถวายสังฆทานแล้วพาลีเสนอให้ติณณ์มาปล่อยปลาที่บึงน้ำกว้างด้านข้างของวัดด้วย ตลอดเวลาที่มาทำบุญติณณ์นึกโมโหที่

เขาไม่ได้อยู่เพียงลำพังกับพาลีเลยสักครั้งเพราะสุดเขตแทบจะกางปีกปกป้องพาลีไว้และดูเหมือนพาลีจะไม่ได้เดือดร้อนกับการกระทำ

ของคนขับรถซอมซ่อเลยสักนิด


                 “อิ่มใจจังเลยครับพาลี” ติณณ์ฝืนความขัดเคืองฉีกยิ้มให้พาลี


                 “ดีจังที่พาลีมาทำบุญกับผม คราวหน้าถ้ามีเวลาอีกเรามาทำบุญกันอีกนะครับ”


                  พาลียิ้มจางๆตอบกลับพลางคิดในใจว่า เพียงแค่ครั้งนี้ครั้งเดียวเขาก็เกือบจะทะเลาะกับสุดเขตแล้ว หากมีครั้งหน้าเขานึก

ไม่ออกว่าเรื่องจะจบลงที่ใด แต่ด้วยมารยาทพาลีก็ไม่ได้ปฏิเสธให้ติณณ์เสียหน้าไปมากกว่านี้


              “ทำบุญเรียบร้อยแล้ว เราไปหาอะไรกินดีไหมครับ ผมหาข้อมูลมาว่าเลยจากวัดนี้ไปไม่ไกลมีร้านอาหารอร่อยอยู่ร้านหนึ่ง ผม

พาพาลีไปเองให้ไอ้ เอ๊ย นายไข่ขับรถตามไป”


             ยังไม่ทันที่พาลีจะตอบเขาก็ต้องตกใจเมื่ออยู่ๆมีกลุ่มวัยรุ่นนับได้เกือบสิบคนกรูกันมายืนล้อมพวกเขาทั้งสามไว้ด้วยจุดประสงค์

ที่ไม่ดีนัก


            “พวกพี่ชายมาทำบุญกันแล้วก็แวะมาทำทานให้พวกผมบ้างสิคร้าบ”


             คนที่น่าจะเป็นหัวโจกแสยะยิ้มพร้อมกับมองอย่างมาดร้าย สุดเขตหน้าขรึมลงทันทีเขาก้าวขึ้นมาบังพาลีไว้อย่างระแวดระวัง


            “ถอยไป พวกเราจะกลับแล้ว”


              พวกมันไม่ยอมถอยซ้ำยังหัวเราะเยาะเย้ย ติณณ์ยืนหน้าซีดพลางเหลียวมองรอบตัวจนรู้ว่าฝั่งเขาเสียเปรียบด้านจำนวนคน


             “จะกลับมันก็ต้องมีค่าผ่านทาง” ไอ้หัวโจกข่มขู่ “โยนกระเป๋าพวกพี่มา ไม่งั้นก็คลานผ่านตีนพวกผมไปก็แล้วกัน”


               สุดเขตกวาดสายตามอง อะไรบางอย่างทำให้เขาสังหรณ์ใจว่าพวกนี้ไม่ใช่เด็กจิ๊กโก๋ธรรมดาที่แค่ข่มขู่และจี้ชิงทรัพย์คนผ่าน

ไปผ่านมาแน่ๆ และดูเหมือนว่าหัวหน้าของพวกมันจะรู้ว่าสุดเขตมองออก มันรีบสั่งการลูกน้องทันที


            “จัดการพวกมัน!”



                  TBC


              :a5: :a5:



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-12-2016 11:30:01 โดย Belove »

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4982
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: <<คดีรักนักดูดวง>> บทที่ 12 [02/12/59]
«ตอบ #187 เมื่อ02-12-2016 11:43:53 »

ใครส่งมาเล่นงานพาลีหรือเปล่า
จูบกันอีกแล้วววววววว

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
Re: <<คดีรักนักดูดวง>> บทที่ 12 [02/12/59]
«ตอบ #188 เมื่อ02-12-2016 11:59:31 »

กรี๊ดดดดดดด ค้างมั่กๆ TT

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
Re: <<คดีรักนักดูดวง>> บทที่ 12 [02/12/59]
«ตอบ #189 เมื่อ02-12-2016 12:36:24 »

คนเขียนตัดฉับใจร้ายมากๆ
นี่ขนาดอยู่ในวัดนะทำได้ขนาดนี้
 :ling1: :ling1: :ling1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: <<คดีรักนักดูดวง>> บทที่ 12 [02/12/59]
« ตอบ #189 เมื่อ: 02-12-2016 12:36:24 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
Re: <<คดีรักนักดูดวง>> บทที่ 12 [02/12/59]
«ตอบ #190 เมื่อ02-12-2016 13:24:12 »

 :m16: ตัวซวยมาด้วยก็งี้แระ กันออกไปไกลเลยนะพ่อเขต ดูแลนู๋ลีดีๆ ละ อิอิ  :กอด1:

ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
Re: <<คดีรักนักดูดวง>> บทที่ 12 [02/12/59]
«ตอบ #191 เมื่อ02-12-2016 14:03:36 »

มีเรื่องเข้ามาอีกแล้ววว

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: <<คดีรักนักดูดวง>> บทที่ 12 [02/12/59]
«ตอบ #192 เมื่อ02-12-2016 14:53:13 »

งานเข้า ในวัดก็ยังทำร้ายคนได้ลงเหรอ

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
Re: <<คดีรักนักดูดวง>> บทที่ 12 [02/12/59]
«ตอบ #193 เมื่อ02-12-2016 15:03:09 »

 :L2: :pig4:

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
Re: <<คดีรักนักดูดวง>> บทที่ 12 [02/12/59]
«ตอบ #194 เมื่อ02-12-2016 15:17:49 »

อ้าวววเฮ้ยยยย!!!อะไรมันจะมาลงมือเร็วปานนั้นเพิ่งทำบุญไปแม่บๆ ใครส่งมาว่ะ สุดเขตเอาอยู่ ลุยเล้ยย จับมันให้ได้นะ //เขินจุงนอนด้วยกันบนโซฟา >//< ชอบค่ะหวานไปสืบคดีไปแบบนี้ อิอิ!! รอตอนต่อไปค่ะ ใครว๊าาส่งมา!!!ตลกไอ้ติณณ์กับสุดเขตเบ้ปากใส่กันรัวๆ 555555

ออฟไลน์ bluecoco

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 194
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
Re: <<คดีรักนักดูดวง>> บทที่ 12 [02/12/59]
«ตอบ #195 เมื่อ02-12-2016 16:16:01 »

ลุ้นมาก
สนุกมาก
ฟิน

ออฟไลน์ Silvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3
Re: <<คดีรักนักดูดวง>> บทที่ 12 [02/12/59]
«ตอบ #196 เมื่อ02-12-2016 18:32:17 »

ส่งว่าลอบฆ่าใครนะพาลีหรือนายติน :katai1:

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
Re: <<คดีรักนักดูดวง>> บทที่ 12 [02/12/59]
«ตอบ #197 เมื่อ02-12-2016 20:22:03 »

ได้เวลาโปรดสัตว์

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
Re: <<คดีรักนักดูดวง>> บทที่ 12 [02/12/59]
«ตอบ #198 เมื่อ02-12-2016 20:57:01 »

เอิ่ม

ออฟไลน์ kothan

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
Re: <<คดีรักนักดูดวง>> บทที่ 12 [02/12/59]
«ตอบ #199 เมื่อ02-12-2016 20:58:02 »

ก็ยังคงคิดว่าน่าจะเป็นเจ้าของค่ายแหละที่ฆ่าคุณนายสมร

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: <<คดีรักนักดูดวง>> บทที่ 12 [02/12/59]
« ตอบ #199 เมื่อ: 02-12-2016 20:58:02 »





ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2276
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6
Re: <<คดีรักนักดูดวง>> บทที่ 12 [02/12/59]
«ตอบ #200 เมื่อ02-12-2016 21:11:41 »

 :hao4:

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
Re: <<คดีรักนักดูดวง>> บทที่ 12 [02/12/59]
«ตอบ #201 เมื่อ03-12-2016 01:14:21 »

 :angry2:


แผนของใคร ?

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
Re: <<คดีรักนักดูดวง>> บทที่ 12 [02/12/59]
«ตอบ #202 เมื่อ03-12-2016 01:50:33 »

ห๊ะะะ

ออฟไลน์ yymomo

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-3
Re: <<คดีรักนักดูดวง>> บทที่ 12 [02/12/59]
«ตอบ #203 เมื่อ03-12-2016 03:00:30 »

โอ๊ยยยย  ไอ้ตีนสินะ  คงกะวางแผนว่าเหมือนดวงตกสุดขีดแล้วเครมผู้ใหญ่ลีให้พาไปทำบุญต่อ

หึ  แต่เสียใจนะนู๋ บอดี้การ์ดผู้ใหญ่ลีเค้าเก่ง (มั้ง)

งานนี้ไอ้ตีนต้องเสียแผนแน่นวลลลลล 

ปล.อ่านรวบยอดมาก 555

ออฟไลน์ ChabaSri

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
Re: <<คดีรักนักดูดวง>> บทที่ 12 [02/12/59]
«ตอบ #204 เมื่อ03-12-2016 11:13:46 »

จูบบ่อยๆเดี๋ยวก็ใจอ่อนเองแหละค่ะสุดเขต

ออฟไลน์ YounIn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-8
Re: <<คดีรักนักดูดวง>> บทที่ 12 [02/12/59]
«ตอบ #205 เมื่อ03-12-2016 20:01:54 »

โดนเด็กขู่?

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove
<<คดีรักนักดูดวง>> บทที่ 13 [04/12/59]
«ตอบ #206 เมื่อ04-12-2016 00:10:33 »



                                                           คดีรักนักดูดวง

                                                               บทที่ 13


             “ลี ระวังนะ”


             หันไปเตือนคนด้านหลังด้วยความเป็นห่วงก่อนจะหันกลับไปกวาดสายตาใส่ผู้คุกคามพลางนับจำนวนอย่างรวดเร็ว พวกมันที่

เริ่มต้นขยับล้อมกรอบเข้ามามีเกือบสิบคนที่สุดเขตจะต้องรับมือ ส่วนติณณ์นั้นสุดเขตไม่หวังพึ่งพา เขาตั้งการ์ดขึ้นมาตั้งรับเมื่อพวกมันคน

แรกกระโจนเข้าใส่เขาด้วยหมัดลุ่นๆ

             สุดเขตฉากหลบแล้วสวนไปด้วยกำปั้นของเขา เท้าง้างขึ้นมาแล้วถีบยอดอกจนมันเสียหลักล้มลง สุดเขตใช้วิชาการต่อสู้ที่เขา

ถนัดทั้งมวยไทย เทควันโดและยิวยิตสูสลับกันทั้งหลบลีกและสวนกลับจนหมอบไปได้หลายคน


            “เหี้ย ปล่อยกู”


           ได้ยินเสียงเอะอะดังขึ้นด้านหนี่ง สุดเขตหันขวับไปดูอย่างตกใจจึงเห็นไอ้ตัวหัวหน้าล็อกคอพาลีเอาไว้โดยมีติณณ์ทำท่าจดๆ

จ้องๆอยู่ตรงหน้า


           “ปล่อยพาลีสิวะ”


            ติณณ์ทำท่าตั้งการ์ดหากแต่ขาทั้งสองข้างสั่นระริก และเมื่อพวกมันคนหนึ่งโผเข้าใส่ติณณ์ก็หลับหูหลับตาชกลมไปหนึ่งครั้ง

ก่อนที่เบ้าตาของเขาจะถูกหมัดไม่มีรูชกเข้าใส่จนหน้าหงายลงไปนอนเห็นดาวระยิบระยับอยู่บนพื้นดิน สุดเขตเห็นดังนั้นเขาก็รีบจัดการ

เตะฟร้อนคิกใส่คนที่ยังวอแวกับเขาด้วยท่าของนักกีฬาเทควันโดสายดำ

             คนที่ยังเหลืออีกสามคนตรงเข้ามาขวางทางเขาพร้อมกับแสยะยิ้ม สุดเขตจ้องตาพวกมันทีละคนก่อนที่พวกมันทั้งสามจะตรง

เข้ามาตะลุมบอนกับเขา พวกมันทั้งสามฝีมือดีกว่าพวกที่นอนหมอบกระแตจากฝีมือของสุดเขตมาก สุดเขตถูกทั้งหมัดและเท้าเตะเข้าใส่

จนแทบจะหมดแรง แต่เมื่อเห็นพาลีที่ถูกรัดคอด้วยท่อนแขนของไอ้หัวโจกจนหน้าเขียวสุดเขตก็ต้องรีบฮึดขึ้นมา


          “ไอ้เลวเอ๊ย”


           เขากัดฟันเค้นพลังจากความห่วงใยที่ทำให้อะดรีนาลินหลั่งพล่านกระโจนแทงเข่าใส่มันคนหนึ่งเข้าที่ลิ้นปี่จนมันล้มลงไปนอน

กองกับพื้น และอีกสองคนก็เรียบร้อยตามมาจนกระทั่งถึงไอ้หัวโจกที่ใบหน้าเริ่มซีดเมื่อเห็นลูกน้องหลายคนล้มลงไปกองระเนระนาดด้วย

ฝีมือของสุดเขตเพียงคนเดียว


            “ถ้าไม่ปล่อยพาลี มึงตายแน่!”


            “ถ้ามึงเข้ามากูก็รัดคอมันตายเหมือนกัน”


             มันตวาดเสียงดังใส่หูพาลีที่แทบจะหมดสติ ลำคอของเขาถูกรัดจนแทบหมดลมหายใจ ดวงตาเลื่อนลอยของพาลีสบตากังวล

ของสุดเขต เขารวบรวมสติทั้งที่เหลือน้อยเต็มทีและเงื้อศอกตนเองก่อนจะแทงศอกไปด้านหลังกระทุ้งเข้าที่ลิ้นปี่ของคนที่รัดคอเขา

อย่างพอดิบพอดี


            “โอ๊ย!”


            มันอุทานออกมาจังหวะนั้นเองที่ลำแขนคลายล็อกจากคอ พาลีฉวยโอกาสนั้นดันแขนมันออกและพุ่งตัวออกห่างทันที สุดเขต

สบช่องที่จะถลาเข้าใส่ เขาตรงเข้าไปประเคนหมัดใส่ทั้งใบหน้าและลำตัวไม่ยั้งจนในที่สุดมันก็ลงไปนอนสลบเหมือดอยู่กับพื้นในขณะ

ที่สุดเขตเองก็แทบทรุด ลูกน้องของมันที่พอจะลุกขึ้นมาได้ต่างก็พากันหิ้วปีกเพื่อนๆของมันหนีไปจากสุดเขตด้วยความกลัวเกรงในฝืมือ

ต่อสู้ของสุดเขต


          “เขต!”


          พาลีวิ่งไปประคองสุดเขตไว้ก่อนจะล้มลง สุดเขตต้องฝืนยืนให้อยู่เพื่อไม่ให้พาลีเป็นห่วง เขาค่อยๆสูดลมหายใจเข้าปอดเพื่อ

บรรเทาอาการปวดตึงจากความบอบช้ำ ส่วนติณณ์นั้นเพิ่งจะลุกได้และพุ่งเข้ามาหาพาลีด้วยท่าทีตื่นตกใจ


         “เป็นยังไงบ้างครับพาลี”


         “อย่าเข้ามา” เสียงสุดเขตตวาดดังลั่นจนติณณ์สะดุ้งโหยง


         “ไอ้ตัวซวย อยู่ใกล้ใครคนนั้นก็ซวยหมด”


          “เดี๋ยวเหอะ ไอ้ขี้ข้า” คราวนี้เป็นติณณ์บ้างที่ส่งเสียงดัง


          “เป็นแค่คนขับรถบังอาจมาด่ากูเหรอ กูนี่โว้ยเป็นดารานะมึง”


           “พอเถอะครับคุณติณณ์”  พาลีขัดอย่างเหลืออด


            “ตอนนี้อย่าเพิ่งพูดอะไรเลย เขต เอ๊ย ไข่เองก็กำลังเจ็บอยู่ ผมขอตัวก่อนแล้วกัน”


            “อ้าว เดี๋ยวกันสิครับพาลี”


             พาลีไม่รอช้าเขาประคองสุดเขตผ่านหน้าติณณ์ไปยังรถยนต์ของสุดเขตให้นั่งลงที่เบาะข้างคนขับโดยที่เขาเป็นคนขับรถเอง

พาลีบังคับรถจากไปโดยมีติณณ์มองตามหลังอย่างเจ็บใจ เขานึกโมโหเมื่อเสียงโทรศัพท์มือถือของเขาดังขึ้นมาจนต้องรับอย่างหงุดหงิด


            “ฮัลโหล ฝีมือคุณใช่ไหมที่ส่งไอ้พวกนี้มา”


            “ฉันเคยบอกหลายหนแล้วว่าไม่ชอบให้นายไปยุ่งกับใคร”


           เสียงเหี้ยมดังตอบกลับมาจนติณณ์หนาวยะเยือก


             “กี่ครั้งแล้วที่ฉันต้องจัดการแต่นายก็ไม่เคยหลาบจำ และโดยเฉพาะครั้งนี้ถ้ายังทำอีกฉันนี่แหละที่จะทำลายนายเอง จำไว้นะ

ติณณ์ ฉันรักนายมากแต่ฉันก็ทำได้ถ้านายทำให้ฉันโกรธ อย่าให้ฉันหมดความอดทนลงล่ะ”


             สัญญาณโทรศัพท์ถูกตัดสายไปนานแล้วแต่ติณณ์ยังยืนกัดฟันกรอดอยู่ที่เดิม ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความอดสูและคับแค้น

ใจเมื่อชีวิตคือเบี้ยล่างอย่างไม่อาจปฏิเสธได้







                พาลีขับรถพาสุดเขตไปที่โรงพยาบาลตำรวจ จากการตรวจร่างกายแล้วมีเพียงอาการบอบช้ำจากการต่อสู้เท่านั้น เขาจึงได้

พาสุดเขตกลับไปที่ตึกแถวของเขา ระหว่างทางแม้จะอ่อนเพลียเพราะฤทธิ์จากยาแก้ปวดแต่สุดเขตก็ยังไม่ลืมหน้าที่ เขาโทรหาสมบัติ

และเล่าเรื่องให้รุ่นพี่รับรู้


              “แปลกนะพี่ ดูเหมือนไอ้พวกเวรนั่นมันจ้องจะเล่นงานแต่ไอ้ลีกับผม ส่วนไอ้ติณณ์นั่นไม่โดนห่าอะไรเลยนอกจากโดนต่อยไป

แค่หมัดเดียว”


             สุดเขตสะกิดใจ เขามองเห็นแววตามาดร้ายจากอันธพาลกลุ่มนั้นได้ดี เหมือนกับว่าพวกมันไม่ได้มีจุดประสงค์มากรรโชกทรัพย์

โดยตรงแต่มาเพื่อทำร้ายพาลีและเขาเสียมากกว่า


            “ไอ้เวรนั่นก็ตัวซวยของแท้ ใครอยู่ใกล้ถ้าไม่เจ็บก็ตาย เวรเอ๊ย!”


             สุดเขตสบถออกมาก่อนจะนิ่วหน้าเพราะอาการบอบช้ำ เขานิ่งฟังสมบัติอีกพักหนึ่งจึงได้วางสายและพิงศีรษะไปกับเบาะนั่ง


           “เป็นไงบ้างวะ”


            เมื่อเห็นสุดเขตเงียบไปพาลีจึงได้ละสายตาจากถนนเบื้องหน้าแล้วหันมาถาม เขารีบทำเวลาขับรถไปยังตึกแถวเพราะอยากให้

สุดเขตได้พักโดยเร็วที่สุด สีหน้ากังวลของพาลีทำให้สุดเขตถอนหายใจ


          “ยังอยู่กวนมึงได้อีกนานว่ะ กระดูกกูแข็ง”
 

              “มึงคิดว่าพวกมันมาทำร้ายเราจริงเหรอ”


               คำว่า “เรา” ที่พาลีใช้โดยไม่รู้ตัวทำให้สุดเขตแอบยิ้ม เพราะมันทำให้สุดเขตรู้ว่าพาลีมองเห็นเขาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของ

พาลีแล้ว


               “คิดว่างั้นนะ ฝีมือพวกมันเหนือชั้นกว่าพวกขี้ยาธรรมดาอยู่เยอะ แต่ว่าเพราะกูเก่งไงกูเลยช่วยมึงได้”


               “โอ๊ย ไอ้เขต หน้าสิ่วหน้าขวานก็เลิกเล่นมั่งเหอะ”


               “หรือไม่จริง”


               สุดเขตหันไปยักคิ้ว


               “ไอ้ดาราของมึงมันทำอะไรบ้างนอกจากยืนว้ากด้วยเสียงอย่างเดียว”


               พาลีส่ายหน้าอย่างระอากับคำโอ้อวดของสุดเขตถึงแม้เขาจะยอมรับว่ามันเป็นเรื่องจริง การต่อสู้ในครั้งนี้ทำให้พาลีได้เห็น

ความสามารถของสุดเขตที่ไม่ต่างจากเมื่อสมัยวัยเด็กที่สุดเขตเก่งทั้งเรื่องกีฬาและการเรียนจนกลายเป็นหนุ่ม

ป๊อบของโรงเรียน


                เมื่อเลี้ยวรถมาจอดสนิทที่หน้าตึกแถวแล้วสุดเขตจึงได้ลงมายืนตัวงออยู่บนฟุตปาธ พาลีรีบล็อกรถและตามมายืนขนาบข้าง

อย่างรวดเร็ว


               “ไหวไหมวะ”


               สุดเขตพยักหน้ารับทั้งคู่จึงได้เดินเข้าไปในตัวตึก และเมื่อจะขึ้นบันไดสุดเขตก็ถึงกับยืนหน้าซีดจนพาลีต้องคว้าแขนของสุด

เขตให้พาดมาบนบ่าของเขา


               “มานี่ กูพาขึ้นไปเอง”


               พาลีประคองสุดเขตขึ้นบันไดอย่างไม่อิดออดจนถึงห้องนอนเขาจึงได้ให้สุดเขตนั่งบนเตียงของเขา


               “หมอบอกให้มึงนอนพัก”


                พาลีกล่าวขึ้นพร้อมทั้งมองอย่างเป็นห่วง


               “หน้ามึงแม่งช้ำหมดแล้ว พักผ่อนก่อนเถอะ”


               “ลี” สุดเขตเรียกเสียงอ่อย


               “ถอดเสื้อให้กูหน่อยสิ กูล้าจนยกแขนไม่ไหวแล้ว”


               พาลีโน้มตัวลงปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตลายสก็อตซอมซ่อของสุดเขตออกรวมถึงเสื้อกล้ามสีขาวของสุดเขตจนเหลือแต่ลำตัวที่มี

มัดกล้ามแน่นหนาอย่างไม่อิดออด สุดเขตมองเขาตาละห้อย


               “ลี เช็ดตัวเอาคราบเหงื่อคราบดินออกให้กูมั่งสิ กูอาบน้ำไม่ไหว”


               พาลีชักเอะใจ เขาเหลือบตาจึงมองเห็นความแพรวพราวซ่อนอยู่เบื้องหลังนัยน์ตาคมคู่นั้นจนต้องยืนเท้าเอวมองสุดเขต


               “มากไปละมั้งไอ้เขต หมอเขาเอ๊กซเรย์ดูแล้วกระดูกมึงไม่ได้หัก และมึงก็ไม่ได้เป็นง่อยด้วย”


               “โห ไอ้เหี้ยลี” สุดเขตทำหน้าง้ำ


               “กล้ามเนื้อกูฉีกนะโว้ย ตรงนี้ก็เขียว ตรงนี้ก็ช้ำ เพราะกูช่วยมึงนะ มึงจะแล้งน้ำใจไม่ตอบแทนอะไรกูเลยเหรอ แค่เช็ดตัวแค่นี้ก็

ทำให้กูไม่ได้”


               “เออ เออ แค่เช็ดตัวใช่ไหม หุบปากแล้วนั่งเฉยๆ”


               พาลีกระแทกเสียงใส่ก่อนจะเดินออกไปห้องน้ำเพื่อไปยกกะละมังใส่น้ำและผ้าขนหนู ระหว่างนั้นสุดเขตก็ยิ้มอยู่คนเดียวอย่าง

สมใจ และเมื่อพาลีเปิดประตูกลับเข้ามาสุดเขตก็รีบหุบยิ้มพร้อมกับทำตาละห้อยเหมือนเดิม


               “ยื่นแขนมาสิวะ”


               พาลีสั่งเสียงดุสุดเขตจึงรีบยื่นแขนออกไปให้พาลีเช็ดคราบสกปรกออกให้  จนกระทั่งสะอาดเอี่ยมพาลีจึงได้เลื่อนมาเช็ดที่ลำ

ตัวของสุดเขต


               “ไอ้ผู้ใหญ่ลี มึงเช็ดเบาแบบนี้เศษขี้ดินร้องว้าวเลยนะ”


               พาลีเหลือบตามองอย่างหมั่นไส้ เขากระแทกมือลงไปบนแผงอกล่ำทันที


               “โอ๊ย!”


               สุดเขตสะดุ้งโหยงเมื่อมือของพาลีกระแทกเข้ากับรอยช้ำบนหน้าอกของเขา สีหน้าแสดงความเจ็บปวดอย่างแท้จริงของสุด

เขตทำให้พาลีตกใจ


               “เฮ้ย กูขอโทษ”


               ละล่ำละลักพูดพลางตั้งใจเช็ดตัวให้สุดเขต  คนบาดเจ็บอมยิ้มพลางก้มหน้ามองอีกฝ่ายด้วยหัวใจเริงร่า


               “ถอดกางเกงให้กูด้วยสิลี กูปวดหลัง ปวดสะโพก ปวดขาด้วย นะลีนะ”


               ส่งเสียงออดอ้อนออเซาะจนใบหน้าของพาลีชักเปลี่ยนสี แต่เพราะเห็นรอยช้ำกระจายอยู่รอบลำตัวของสุดเขตพาลีจึงยอม

ถอดกางเกงยีนส์ตัวเก่ามอซอที่มีรอยเปื่อนฝุ่นออกให้สุดเขต


               “พ่อมึงเข้าฝันบอกให้มึงใส่ขาเดฟไปรึไง”


                พาลีชักหงุดหงิดเมื่อกางเกงพอดีกับท่อนขานั้นมันช่างถอดยากเย็นจนเขาแทบจะแนบหน้าไปกับแผงอกของสุดเขตอยู่แล้ว

สุดเขตเองก็ขยับช่วยอย่างทุลักทุเลเพราะอาการบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อทำให้เขาระบมไปทั้งตัว


            “พ่อกูยังไม่ตาย สัสลี”


            พาลีเป่าปากเมื่อเขาถอดกางเกงสุดเขตจนเหลือแต่บอกเซอร์ได้สำเร็จ เขาเดินไปรินน้ำใส่แก้วและหยิบยาคลายกล้ามเนื้อมาส่ง

ให้สุดเขต


            “แดกยาแล้วนอนซะ”


            “มึงป้อนกูหน่อยสิ ป้อนด้วยปากน่ะ กูเห็นในหนังแม่งชอบทำ ไอ้ที่อมน้ำไว้ในปากแล้วจูบกู”


            “พ่องตายเหอะไอ้เขต ชักมากไปแล้ว จะแดกหรือไม่แดก”


             พาลีหน้าแดงก่ำ เขายัดเม็ดยาเข้าไปในปากของสุดเขตจนเกือบติดคอ


            “เอ้าน้ำ แดกเข้าไป”


              สุดเขตกลั้นหัวเราะอย่างยากเย็นที่ได้แหย่ให้พาลีหัวเสีย เขารับแก้วน้ำจากมือของพาลีมาดื่มจนหมดก่อนจะเอนกายลงนอน

บนเตียงพลางนิ่วหน้า เขาขยับตัวอีกไม่กี่ครั้งก็หลับไปเพราะฤทธิ์ของยาโดยมีพาลีมองอย่างห่วงใย

              ทรุดนั่งบนขอบเตียงพลางพิจารณาสีหน้าของสุดเขตที่แม้จะหลับไปแล้วแต่ก็ยังมีร่องรอยของความอิดโรยปรากฏอยู่ พาลีรู้ดี

ว่าที่สุดเขตแหย่เขานั้นเป็นเพราะอยากให้เขาสบายใจหายจากความวิตก พาลีเอื้อมมือไปแตะรอยช้ำบนใบหน้าของสุดเขตแผ่วเบาก่อน

จะเลื่อนมันไปตามรอยฟกช้ำบนลำตัวราวกับจะช่วยแบ่งเบาความเจ็บปวดจากสุดเขตมาได้บ้าง

                สุดเขตพิสูจน์แล้วว่าในยามคับขันเขาสามารถปกป้องพาลีได้และพร้อมที่จะอยู่เคียงข้างกันเพื่อช่วยแก้ปัญหา หัวใจของพาลี

อบอวลไปด้วยไออุ่นจนเขาไม่อยากที่จะปฏิเสธความรู้สึกตนเองอีกต่อไป เขายอมรับแล้วว่ากับสุดเขตนั้นมันเกินกว่าคำว่าเพื่อนเก่า

                พาลีทอดสายตามองใบหน้าที่หลับสนิทลมหายใจมีระยะห่างสม่ำเสมอ ใบหน้าของสุดเขตใกล้เข้ามาเรื่อยๆเมื่อพาลีโน้มตัว

ลงไปช้าๆจนกระทั่งพาลีแนบกลีบปากตนเองลงไปบนริมฝีปากแห้งผากของสุดเขต



        มีต่ออีกนิด...


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-12-2016 00:17:16 โดย Belove »

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove
<<คดีรักนักดูดวง>> บทที่ 13 [04/12/59]
«ตอบ #207 เมื่อ04-12-2016 00:18:51 »



ต่อกันตรงนี้...



                เสี่ยพิชัยอัดควันบุหรี่เข้าปอด เขามองแผ่นกระดาษที่อยู่ในมือด้วยความตึงเครียดพลางนึกถึงความระหองระแหงที่มีกับ

ภรรยาที่เสียชีวิตไปแล้วในช่วงสุดท้ายที่ได้อยู่ด้วยกัน


              “สมร ลื้อเป็นเมียที่ไม่ได้เรื่อง เลิกไปหาไอ้หมอดูนั่นสักทีได้ไหม งมงายไม่เข้าท่า”


              “เฮียอย่ามายุ่ง ฉันไม่ได้งมงาย หมอลีเขาไม่ใช่หมอดูอย่างคนอื่นๆที่ผ่านมา”


               สมรเถียงกลับทันควัน


              “ดีเท่าไหร่แล้วที่ฉันได้คุยกับหมอลี ไม่อย่างนั้นฉันคงทนไม่ไหวกับไอ้เรื่องร้อนๆในบ้านนี่”


              “นี่เอาเรื่องในบ้านไปพูดกับคนอื่นด้วยรึไง”


             พิชัยตาลุกวาบ เขาตรงเข้าไปกระชากแขนสมรด้วยความโมโห


           “ปากไม่มีหูรูด แล้วบอกมันไปด้วยหรือเปล่าล่ะว่าลื้อน่ะทำตัวเลวจนไปมีชู้”


           “เฮียพูดแบบนี้หมายความว่าไง ฉันไปทำเลวตอนไหน”


             สมรเอ่ยอย่างตกใจ ใบหน้าที่ขาวอยู่แล้วยิ่งซีดลงไปอีก พิชัยมองอย่างเดือดจัด


            “อย่าคิดนะว่ากูจะโง่จนดูไม่ออก มึงน่ะไปนอนกกอยู่กับไอ้ดารานั่นที่มึงปรนเปรอเงินให้มันใช่ไหมอีสมร”


            จิกเรียกด้วยโทสะจนสมรตาลุกวาบก่อนจะสะบัดแขนให้หลุดจากการเกาะกุม


               “ถ้าใช่แล้วจะทำไม ก็สมกันแล้วนี่ฉันก็หาความสุขของฉันเพราะเฮียให้ฉันไม่ได้ อย่าให้ฉันต้องโพนทะนาออกไปนะว่านอก

จากเฮียจะนกกระจอกไม่ทันกินน้ำแล้ว เฮียยังไปเอากับตัวผู้เหมือนเฮียด้วย”


             “มึงหมายความว่าไง”


              พิชัยตะคอกเสียงดังด้วยความตกใจบ้าง สมรยิ้มเยาะและกระแทกเท้าเดินไปที่กระเป๋าถือ หล่อนล้วงมือเข้าไปหยิบแผ่น

กระดาษออกมาขยุ้มในมือแล้วปาใส่สามีของหล่อน


            “ดูซะเฮีย แล้วบอกฉันมาทีว่ามันคืออะไร”


            พิชัยคว้ากระดาษที่สมรขว้างใส่มาเปิดออกดู มันคือแผ่นกระดาษอัดรูป เมื่อเห็นรูปในกระดาษพิชัยก็เบิกตากว้างเมื่อมันคือรูป

ของเขากับกิจจาที่กำลังซุกไซ้กันอยู่ในมุมลับตาคนที่สนามแข่งรถ มือที่กำกระดาษแผ่นนั้นสั่นไปหมด


            “อีสมร!”


           คนถูกจิกเรียกเชิดหน้าอย่างเป็นต่อ


            “ฉันได้กับดารามันก็สมกับที่เฮียทำไว้กับฉัน แต่อย่างน้อยฉันก็ยังไม่ผิดเพศเหมือนเฮีย รู้ถึงไหนอายไปถึงนั่นว่าเสี่ยพิชัยเป็น

เกย์และยิ่งถ้าป๊ากับม้าเฮียรู้จะช้ำใจแค่ไหน ถ้าไม่อยากให้ใครรู้ก็ช่วยหุบปากด้วย ก่อนที่ฉันจะทนไม่ไหวแล้วเอาเรื่องเฮียไปโพนทะนา

อย่างที่เฮียด่า”


                นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่เสี่ยพิชัยทะเลาะกับภรรยา จนกระทั่งสมรไม่มีวันได้โพนทะนาความลับของเขาอีกแล้ว พิชัยจุดไฟแช็ค

ให้เปลวไฟลามเลียรูปนั้น เขาทิ้งมันลงไปที่เขี่ยบุหรี่และจ้องมองเมื่อมันเผาไหม้จนหมด พลันหูของเขาสะดุดกับเสียงจากจอโทรทัศน์ที่

เปิดไว้อย่างไม่สนใจนัก


               “ขอเชิญพบกันหมอดูชื่อดังที่สุดในยุคนี้ที่จะมาทำนายโชคชะตาให้คุณติณณ์ หมอดูพาลีค่ะ”


               เสี่ยพิชัยหันขวับไปมองรายการเรียลลิตี้ที่กำลังออกอากาศ เขาจ้องมองผู้ชายสองคนที่กล้องสลับกันจับภาพใบหน้า ดวงตา

เล็กหยีพลันลุกวาบ


               หนึ่งคือดาราที่ภรรยาของเขาติดพัน

               หนึ่งคือหมอดูที่ภรรยาของเขามักจะเล่าเรื่องในครอบครัวให้ฟังเพื่อปรึกษาปัญหาชีวิต

                เสี่ยพิชัยกำลังชั่งใจว่าเขาควรจะทำเช่นไรกับผู้ชายในจอโทรทัศน์ทั้งสองคนนี้ดี



                   TBC

        :mew5: :mew5:



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-12-2016 00:21:54 โดย Belove »

ออฟไลน์ yymomo

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-3
Re: <<คดีรักนักดูดวง>> บทที่ 13 [04/12/59]
«ตอบ #208 เมื่อ04-12-2016 00:31:18 »

 :katai1:  โอ๊ยยยย อิรุงตุงนังมากอ่ะบอกเลย  ตอนแรกก็คิดนะว่า อิเสี่ยเนี่ยแหละ มีเปอสูงสุด  แต่พอมาเจอเมียไอ้ตีนแล้ว เอิ่มมมม  พอกันเลย

แต่ถ้าชั่งจากน้ำหนักของเหตุผลแล้ว อิเสี่ยน้ำหนักมากกว่าเมียไอ้ตีนเยอะ  เพราะไหนจะเรื่องเสียหน้า เสียชื่อ เรื่องพ่อแม่    เทียบกับอีกฝั่งแล้วคือแค่หึงหวง  แต่ที่น้ำหนักเบากว่าเพราะ เมียไอ้ตีนไม่ได้ทำครั้งแรก  แสดงว่าทำมาหลายครั้งแล้วแต่ก็ยังไม่มีใครตาย    ตอนนี้เทฝั่งอิเสี่ยเหมือนเดิม

ปล.  ตอนที่แล้วลืมบอกว่าเกลียด นังน้ำทิพย์   คือ ปากยิ่งกว่าบ่อเกลอะอีก ดกทงมาก

ออฟไลน์ Peung002

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 870
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
Re: <<คดีรักนักดูดวง>> บทที่ 13 [04/12/59]
«ตอบ #209 เมื่อ04-12-2016 01:55:52 »

มีคนเลวเยอะจนไม่กล้าเดาเลยค่ะว่าใครเป็นฆาตกร  :hao3:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด