ตอนที่ 12 ด้ายสีแดง
“ทางนี้ครับน้อง มาคณะนี้ไม่มีขาดทุน มาเศรษฐศาสตร์ม.T ครับ” เสียงเรียกน้องๆมัธยมปลายที่เดินถือเอกสารงุนงงมองซ้ายมองขวาดังกันให้ลั่น
วันนี้มีโอเพ่นเฮ้าส์มหาวิทยาลัย น้องๆจากโรงเรียนมากมายมารวมตัวกันจนละลานตา ภามบิดตัวหลังจากช่วยพี่ๆ ในชมรมเตรียมทุกอย่างจนเสร็จ ที่ใต้ถุนคณะตอนนี้มีบูธขนมไทยเล็กๆ ไว้แจกขนมเด็กที่เข้ามาดูวิชาการสอน เมื่อคืนพวกเขานึ่งขนมกันตั้งแต่ตี2จนหกโมงเช้า แล้วยังทยอยทำเผื่อเอาไว้ตอนนี้มึนกลิ่นขนมไปจนหมด
“ขนมถ้วยเหรอคะพี่” เด็กสาวหน้าตาน่ารักถักเปียเรียบร้อยเดินมากับเพื่อนอีกสองคน จดๆจ้องๆ ขนมหน้าตาแปลกที่อยู่ในถ้วยตะไล
“ขนมถ้วยฟิวชั่น? สีน้ำเงินมีจุดเหลืองตรงกลาง” น้องคนหนึ่งหยิบมือถือขึ้นถ่ายรูปเพื่อนำไปอัพโซเชี่ยลตามนิสัย
ภามหัวเราะแล้วใช้ไม้พายคว้านเอาขนมใส่ถ้วยกระดาษให้น้องคนละชิ้น
“บุหลันดั้นเมฆครับ รู้จักไหม”
เด็กๆสายหัวพรืดทำหน้าเหมือนไม่ใช่ภาษาไทย
“เป็นขนมไทยโบราณ ตรงกลางทำจากไข่ บุหลันแปลว่าพระจันทร์ครับ ทำเพื่อสื่อถึงพระจันทร์อยู่กลางท้องฟ้า ลองกินดูสิ”
สาวๆ มองสบตากันก่อนจะกินขนมในมือทีเดียวทั้งชิ้นก่อนจะทำตาโตมองหน้ากัน
“เฮ้ยพี่!! อร่อยอ่ะ หนูจะหากินได้ที่ไหน!!”
“เหมือนกินขนมถ้วยไส้สังขยาเลย หอมอร่อยมาก”
“แป้งเหมือนขนมน้ำดอกไม้เลย โอ้ย พี่ ชอบบบ”
คนอื่นๆ ในชมรมขนมไทยหัวเราะเอ็นดู แค่เห็นน้องๆ ชอบพวกเขาก็ดีใจหายเหนื่อย เมื่อคืนสมาชิกชมรมขนมต้องนั่งนึ่งแป้งเป็นร้อยถ้วย แถมเจ้าบุหลันดั้นเมฆเนี่ยต้องมีจับจังหวะพอแป้งเริ่มสุกจับตามขอบถ้วยต้องยกออกพักให้ขนมยุบตัวเป็นหลุมจากนั้นก็หยอดไข่แดงผสมน้ำตาลลงไปเพื่อนึ่งต่อ กว่าจะออกมาหน้าตาสวยแบบนี้เล่นเอาคนทำขนมแต่ละคนน้ำหนักลงไปตามๆกัน บางคนนี่นั่งสัปหงกหน้าที่นึ่งเลยด้วยซ้ำ
“คนละชิ้นนะคะ ถ้าอยากได้เพิ่มให้ไปเดินดูคณะเศรษฐศาสตร์จนทั่วก่อนแล้วตอบคำถามพี่ๆเขา ถ้าตอบถูกจะได้คูปองมาแลกขนมเพิ่มจ้ะ มีขนมพระพายด้วยนา” พี่กิ๊ฟฟี่โชว์ขนมน่ารักในถ้วยกระดาษ เป็นแป้งก้อนกลมๆสีพาสเทล หลากหลายสีสอดไส้ถั่ว
เด็กๆ ร้องชอบใจเพราะไม่เคยเห็นขนมน่ารักแบบนี้มาก่อน แล้วรีบพากันเดินดูคณะอย่างตั้งอกตั้งใจ ดูท่าทางแผนล่อด้วยขนมของคณะเศรษฐศาสตร์จะได้ผล
“ภามไปพักก่อนไหม เมื่อคืนกว่าจะได้นอน เดี๋ยวให้คนอื่นมาผลัด” หัวหน้าชมรมเอ่ยทักเพราะเห็นน้องง่วนทำโน่นนี่จนดึกแถมนอนไปไม่นานก็ลุกแต่เช้ามาเตรียมของอีก
เด็กหนุ่มขยี้ตาจะว่าไปก็อยากพักเหมือนกัน “งั้นเดี๋ยวผมมารับช่วงต่อบ่ายๆนะครับ”
พอได้รับคำอนุญาตภามก็อดไม่ได้ที่จะแบ่งขนมบางส่วนใส่กล่องเพื่อเอาไปแบ่งเพื่อนๆ ด้วย เขาเดินลัดเลาะตามตึกพลางมองนาฬิกา ตอนนี้ก็สิบโมงจะครึ่งแล้วแว่บไปดูมะนาวกับเดลหน่อยน่าจะดี
โรงยิมที่เขาเคยมาตอนปฐมนิเทศตอนนี้เต็มไปด้วยสมาชิกชมรมการแสดงที่กำลังวิ่งวุ่น ช่วงบ่ายจะมีละครโชว์ให้น้องๆ ดูทำให้ตอนนี้เตรียมฉากกันวุ่นวาย ภามใช้สิทธิ์ความเป็นเพื่อนเนียนเข้าไปด้านในแล้วพบกับสองสาวกำลังท่องบทงึมงำพอดี
“โห ไม่ธรรมดา” เขายิ้มกว้างเพราะสาวๆวันนี้ใส่ชุดกระโปรงฟูฟ่อง แต่งหน้าสดใสสวยมาก
“ภามมมมม ฮือ ตื่นเต้นอ่ะ” ทั้งมะนาวทั้งเดลแย่งกันพุ่งเข้าใส่ “เราต้องการขนมชโลมใจ” แล้วก็เผลอเผยความในใจออกมา
ภามส่ายหัวขำๆ เขาเปิดกล่องขนมส่งให้เรียกเสียงอุทานตื่นเต้น สองสาวควักมือถือถ่ายรูปโพสต์ลงโซเชี่ยลอย่างรวดเร็ว
“อันนี้ของทีมเหรอ” มะนาวชี้กล่องขนมในถุงที่วางเอาไว้ข้างๆ
“อือ ไม่เผื่อไว้เดี๋ยวโดนงอน”
“แล้วของพี่ดีนล่ะ” เดลเอียงคอมองตาแป๋ว
“กล่องข้างล่า...เอ้ย!!” คนหลุดปากปิดปากหมับแต่ก็ไม่ทัน สาวๆหัวเราะคิกคักโดยเฉพาะเดลที่หยิบกล่องขนมมาถ่ายรูปแล้วพิมพ์มือถือยุกยิก
ภามชักใจไม่ดี “ทำอะไรอ่ะเดล”
พิมพ์เสร็จกดส่ง เจ้าหล่อนก็หันมือถือมาให้เพื่อนดู “แฮ่...........”
“เฮ้ย!!”
ภาพกล่องขนมแถมมีภาพเขาเป็นฉากหลังลางๆ ถูกโพสต์ลงเฟสบุ้ค พร้อมแคปชั่นชวนป่วนหัวใจ
@ Rattanon_dean พี่ขา มีคนจะเอาเสบียงไปให้ ♡ ♡
แถมมีการแท็กชื่อเขาลงบนเงาลางๆ นั่นด้วย!!
“เดล!!!!” เด็กหนุ่มหน้าแดงโวยวายจะลบสเตตัส แต่ก็ไม่มีทางทันพลังแฟนคลับที่ดูจะพร้อม24ชั่วโมง คอมเมนท์และไลค์กระหน่ำอย่างรวดเร็ว
มะนาวไฮไฟว์กับเพื่อนแล้วยิ้มร้ายจนคนมองอยากจะบ้าตาย นับวันสองคนนี้ชักเข้ากันจนเกินไปแล้วนะ
“อุ้ย พี่ดีนตอบมาแล้ว”
ภามสะดุ้งโหยง ทำเป็นเมินมองไปทางอื่นไม่สนใจ
“พี่บอกว่า ให้มาหาที่คณะบริหาร พี่จะอยู่ที่นี่จนถึงเที่ยง” หญิงสาวทั้งคู่หันมามองเพื่อนแล้วทำตาวับวาว “นะจ้ะ ภาม” ลงท้ายเสียงได้น่าตีสุดๆ
คนโดนล้อแยกเขี้ยวใส่แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไรแขนหนักๆก็พาดไหล่เขาจนตัวเอียง
“เอาขนมมาอีกแล้ว?” อเล็กซ์เอื้อมมือหยิบขนมจากกล่องของสาวๆ พลางทำหน้าพึงพอใจกับรสชาติ
ภามยิ้มให้รุ่นพี่พลางล้วงกระเป๋ากางเกง ใช้แขนเป็นตัวกั้นไม่ให้เบียดกับอีกฝ่ายมากนัก
“ตอนนี้ที่คณะยังมีอีกครับ”
อเล็กซ์ส่ายหัว “ไปตอนนี้ภามก็ไม่อยู่” เขารั้งร่างอีกฝ่ายใกล้เข้ามาอีก “ตกลงไปคิดมาบ้างรึยัง”
“ภาม..” มะนาวเรียกเสียงเบาหวิว หากภามกลับยิ้มให้แล้วส่ายหัวน้อยๆ เขาจับแขนของรุ่นพี่ออกอย่างสุภาพ
“ผมจำได้ว่าเคยปฏิเสธพี่แล้ว”
หนุ่มลูกครึ่งยักไหล่ “ถึงถามไงว่าคิดดูบ้างรึยัง”
“เสียเวลาคิดทำไมละครับ” ภามยิ้มจนตาหยี “เพราะผมไม่เคยรู้สึกอะไรแบบนั้นกับพี่”
อเล็กซ์เดาะลิ้นหรี่ตามอง ท่าทางยิ้มง่ายแต่ดูเหมือนจะไม่ค่อยง่ายอย่างที่เห็น “เพราะมีคนที่ชอบแล้ว?”
“ครับ” ตอบชัดเจนจนสองสาวที่ฟังอยู่แอบกรี๊ดเบาๆ
ชายหนุ่มกอดอกยิ้ม “หืม...เจ้าดีนนะเหรอ” เขาเลิกคิ้วยั่วเย้าเพราะจริงๆแล้วทั้งเขาทั้งดีนอยู่คณะบริหารปีเดียวกัน
ภามเม้มปากแน่นแล้วถอนใจออกมา “พอเหอะครับผมมีธุระ มะนาวเดล เราไปนะ” ก้มลงหยิบถุงขนมพร้อมหมุนตัวเตรียมจะออกจากโรงยิม
“ยังไม่เป็นแฟนกันพี่ก็มีสิทธิ์” ชายหนุ่มส่งเสียงไล่หลังก่อนจะชะงักงันเมื่อน้องหันมายิ้มให้
“พี่รู้ได้ไงครับว่า
ยังไม่ได้เป็น” ทิ้งท้ายพร้อมโบกมือลา เขาได้ยินเสียงกรี๊ดของเดลกับมะนาวดังลั่น สองขารีบก้าวฉับๆคอแข็งหน้านิ่ง ทันทีที่พ้นหัวมุมโรงยิมคนใจกล้าก็นั่งยองๆ ปิดหน้าปิดตาตัวเอง
แม่ง
โคตร
อาย!!คณะบริหารตอน11โมงมีคนดูงานอยู่ประปราย อาจเป็นเพราะใกล้เที่ยงแล้วทำให้น้องๆไปหาที่กินข้าวกันหมด ภามมองตึกคณะขนาดใหญ่สะอาดตายืนลังเลว่าจะเข้าไปดีไหมหรือไลน์บอกพี่ดีนให้มาเอาขนมดี
“อ้าวน้องภาม”
เสียงเรียกมาพร้อมสัมผัสหนักๆที่ไหล่จากด้านหลัง เด็กหนุ่มสะดุ้งโหยง เหลียวมองเจ้าของเสียงไม่คุ้นหู
...ใครฟะ??
คนไม่คุ้นหน้ายิ้มแฉ่ง “มาหาดีนใช่ไหม พี่เห็นในเฟส มาๆจะพาไปส่ง” เขาคว้าข้อมือเด็กที่ยังยืนงงแล้วลากเข้าลานอเนกประสงค์ของคณะ ไม่สนใจใบหน้าแตกตื่นของน้องแม้แต่นิด
“ดีน น้องมาแล้ว”
“เหวอ พี่ไม่ต้องตะโกน” พยายามห้ามคนนำทางแต่ไร้ประโยชน์สุดๆ เพราะคนแถวนั้นหันมามองเป็นตาเดียวกัน
ภามเบะปากปล่อยให้พี่เขาลากพรืดๆไปถึงจุดลงทะเบียนของคณะ ตรงนั้นมีนักศึกษาคณะบริหารติดบัตรสต๊าฟนั่งกันอยู่เป็นกลุ่มแต่ละคนก็ยิ้มกรุ้มกริ่มให้หน้าร้อน ส่วนคนโดนเรียกเหมือนเพิ่งคุยโทรศัพท์เสร็จเพราะเห็นเก็บมือถือเข้ากระเป๋าแล้วหันมามองภามเต็มตา
“เชิญครับ ไหนเสบียง พี่ได้ยินฝีมือมานานแล้วต้องขอลองสักหน่อย” พี่คนหนึ่งในกลุ่มถามถึงค่าผ่านทางก่อนใคร โดยไม่ได้รู้สึกรู้สมของสายตาหงุดหงิดของเจ้าของขนมตัวจริงด้านหลัง
ดีนกวักมือเรียกแต่น้องก็ฝ่าเข้าไปหาไม่ได้เพราะไอ้เพื่อนเวรจงใจบังเขาไว้ด้านหลังสุด จะลุกก็ไม่ได้อีกสุดท้ายเขาก็ได้แต่มองสบตาแล้วพยักหน้าให้ภามยอมๆไปซะ
เด็กหนุ่มหัวเราะแห้งๆ เขาหยิบกล่องขนมออกมาแล้วหยิบแจกพี่ทุกคน ส่วนของทีมก็โดนไถไปจนเรียบ ภามรีบหยิบบุหลันดั้นเมฆกับขนมพระพายออกมาอย่างละชิ้นส่งให้คนที่เขาตั้งใจมาหากลัวจะอดกินเสียก่อน
ด้วยความที่ขนมชิ้นเล็กไม่ถึง5นาที ขนมสองชนิดก็หมดเกลี้ยงพร้อมเสียงฮือฮาตื่นเต้นของชาวคณะบริหารที่ไม่เคยกินขนมไทยโบราณ
“อร่อย” ดีนเลียปลายนิ้วตัวเอง น่าเสียดายที่โดนแย่งขนมไปหมดทำให้ได้ลิ้มลองแค่นิดเดียว
“อร่อยมากเหอะมึงงง” เพื่อนคนหนึ่งโวยวาย “ขนมอะไรวะไม่เคยเห็น ก้อนกลมๆเนื้อแป้งเหนียวแต่ไส้ข้างในหวานกำลังดีเลย ยิ่งมีกะทิหอมๆเพิ่มเค็มนี่เด็ดมาก”
“ใช่ๆ สีน่ารักมากอ่ะ ใส่ถ้วยแบบนี้แล้วน่าเอ็นดู” สาวๆ ก็ถ่ายรูปกันใหญ่
“บุหลันดั้นเมฆกับขนมพระพายดีนตอบแบบไม่มีลังเล
ภามเลิกคิ้วแปลกใจ พี่ดีนดูเหมือนจะรู้จักขนมไทยเยอะมากจนไม่น่าเชื่อว่านักศึกษามหาวิทยาลัยปี3จะรู้มากขนาดนี้
“คุณย่าพี่ชอบทำขนมไทย” ดีนตอบให้โดยไม่ต้องถามเพราะหน้าน้องบอกชัดว่าสงสัย
เสียงวิพากษ์วิจารณ์ขนมดังขรมลากยาวไปจนถึงวิธีทำ หนุ่มๆสาวๆเปิดมือถือเสิร์จหาข้อมูลว่าจะไปหากินที่ไหนได้บ้างสร้างรอยยิ้มบนใบหน้าของคนทำ
“ว่าแต่ พี่ทำอะไรอยู่เหรอครับ” ภามมองกลุ่มพี่ๆ ที่นั่งรวมกลุ่มอยู่หลังโต๊ะแน่นอนว่าพี่ดีนด้วย ที่ดูน่าสงสัยคือเชือก? ด้าย? เหมือนเป็นด้ายที่รวมกันเป็นเส้นหนาขึ้นมาหน่อยสีแดงสดผูกกับนิ้วก้อยทุกคนเอาไว้ ส่วนปลายของมันนั้นหายไปใต้ผ้าที่อยู่บนโต๊ะ
“อ๋อ อันนี้นะคะน้องภาม” พี่สาวคนหนึ่งที่ไม่มีด้ายผูกนิ้วรีบลุกขึ้นมาอธิบาย ไหนๆแล้วเธอก็เชิญน้องมัธยมอีกสองสามคนแถวนั้นมาฟังพร้อมกัน
“เพื่อเป็นการสร้างสัมพันธ์อันดีและอยากให้น้องๆรู้จักคณะบริหารอย่างถ่องแท้ พี่ๆ ก็เลยจัด “บัดดี้รุ่นพี่นำทาง” ขึ้นมา โดยพี่ที่ถูกเลือกจะเป็นคนพาน้องทัวร์คณะตั้งแต่ชั้นบนของตึกไล่ลงมาถึงงานจัดบอร์ดชั้นล่าง ปกติพี่หนึ่งคนเราให้นำน้อง 1-5คน ตอนนี้น้องมีน้อยเลือกหนึ่งต่อหนึ่งได้เลยค่ะ วิธีเลือกไม่ยากเราใช้วิธีจับด้ายแดงค่ะ ” พี่สาวหยิบปลายด้ายที่โผล่พ้นจากผ้าขึ้นมาให้ดู
“พี่เอาผ้าคลุมปิดเอาไว้จะได้ไม่รู้ว่าปลายด้ายเราเป็นใคร ส่วนที่นั่งหน้าหล่อหน้าสวยอยู่ตรงนี้คือปลายด้ายทั้งหลายค่ะ” ผายมือไปยังรุ่นพี่ที่ฉีกยิ้มให้น้องๆ แต่ไม่นับประธานชมรมว่ายน้ำที่ทำหน้าเบื่อโลกอยู่
น้องมัธยมส่งเสียงชอบใจ บางคนยกมือพนมเหนือหัวเล่นไสยศาสตร์แล้วจับด้ายขึ้นมา หนุ่มน้อยที่ได้พี่สาวนำทางก็กระโดดร้องเยสหน้าชื่นตาบาน สาวๆก็ลุ้นให้ได้พี่หล่อๆ
“น้องภาม ไหนๆแล้วลองไหม” พี่สาวหันมาหาภามที่กำลังขำน้องผู้ชายที่ได้บัดดี้เป็นพี่กล้ามโต
“เอ๊ะ ห๊ะ ผมเนี่ยนะ” ชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง “ผมอยู่ปี1แล้วนะพี่”
“เอาน่า จะได้รู้จักคณะบริหารมากขึ้นไงจ้ะ คนก็ไม่ค่อยมีเลือกเลยๆ” ดันร่างน้องมายืนหน้าโต๊ะ
คราวนี้หนุ่มๆสาวๆถึงกับส่งเสียงเชียร์ พี่สาวผู้อยากได้น้องมาไว้ในการปกครองก็พยายามดึงด้ายตัวเองให้มันกระตุกจะได้รู้ว่าเป็นเส้นไหน เลยโดนเพื่อนสั่งฟาลว์อดไป ภามยืนจ้องหน้าเครียดเขาพิจารณาปลายด้ายแล้วเหลือบตามองพี่ดีน ทางนั้นก็แค่ยิ้มมุมปากให้นิดหน่อยปล่อยน้องผจญภัยเพียงลำพัง
เอาวะ!!
เด็กหนุ่มคว้าหมับเข้าที่ปลายด้ายใกล้มือที่สุดแล้วส่งให้พี่สาว เจ้าของปลายด้ายทั้งหลายมองหน้ากันว่าใครเป็นผู้ถูกเลือก หญิงสาวไล่ตามเส้นดายที่ทอดยาวก่อนที่ทุกคนตรงนั้นจะเบิกตากว้างตกตะลึง
“โหแม่ง ทำบุญด้วยอะไร”
“คนมันใช่ก็คือใช่ว่ะ”
“นี่ไม่มีส่งซิกอะไรกันใช่ไหมวะ”
“เชี่ย นี่คู่แท้ของจริง”
เสียงอุทานดังขรม พี่ๆบางคนมีการอัพโซเชี่ยลพร้อมถ่ายภาพ ส่วนพี่สาวนี่กระโดดกรี๊ดๆกับเพื่อน ในขณะที่ภามอ้าปากค้าง
...ปลายด้ายของเขาผูกอยู่ที่นิ้วก้อยพี่ดีน
ดีน รัฐนนท์เองก็ยังนั่งอึ้งจนโดนเพื่อนผลักออกมาหาน้อง คราวนี้คนพี่ถึงกับเก้อเขินทำอะไรไม่ถูกไปอีกคน พี่สาวแห่งคณะบริหารยิ้มกว้างจัดการตัดด้ายให้สั้นลงแล้วผูกปลายอีกข้างไว้ที่นิ้วก้อยของน้อง
“ปกติเดินงานแค่ครึ่งชั่วโมงก็เสร็จแล้ว แต่อีก45นาทีเจ้าดีนก็หมดเวลาช่วยงานแล้ว งั้นพี่ให้เหมาไปเลยค่ะ 45นาที เชิญตามสบายนะคะ” หล่อนตบไหล่เพื่อนตัวสูงพร้อมโบกมือหย่อยๆ
ดีนกรอกตาแล้วหันมาหาภามที่ยังทำหน้าพูดไม่ออกบอกไม่ถูก “ไปกันเถอะ..”
ทันทีที่ทั้งสองคนก้าวออกเดิน เพื่อนๆก็แกล้งตะโกนแซวกันให้สนั่นตึก
“ขอให้มีความสุข ลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมือง!!”
“สัส!!!” ดีนหันไปด่าพร้อมชูนิ้วให้เรียกเสียงหัวเราะครืน แม้แต่น้องที่โดนล้อเองยังหัวเราะชอบอกชอบใจ
ตึกคณะบริหารมหาวิทยาลัย T นั้นเป็นตึกรูปตัว U ตรงกลางเป็นลานอเนกประสงค์ที่ตอนนี้จัดบอร์ดแนะนำคณะและวิชาเอกต่างๆ ดีนพาอีกฝ่ายเดินดูทีละชั้นแนะนำห้องเรียนทั้งขนาดเล็กและใหญ่ อีกทั้งห้องสมุดของคณะที่มีหน้าต่างพาโนราม่าเห็นวิวสวนของมหาวิทยาลัยภายนอก เรียกว่าดูดีสุดๆ
“คณะภามเป็นลูกเมียน้อยเลย” ยืนเกาะกระจกดูวิวเพลิดเพลิน “ตึกคณะเล็กนิดนึง ห้องสมุดคณะก็ไม่มีต้องใช้ห้องสมุดกลางคนอย่างเยอะ”
ดีนโคลงหัว “เห็นว่ากว่าจะได้ขนาดนี้รุ่นพี่ที่จบแล้วได้ดีเป็นเจ้าของกิจการเขาสมทบทุนช่วยสร้างน่ะ” รอจนน้องมองวิวจนพอใจก็พาเดินไปส่วนอื่น
ห้องโสต ห้องคอมพ์ ห้องประชุม เสียงทุ้มนุ่มอธิบายเป็นจังหวะจะโคนน่าฟัง ไม่รู้ว่าระยะห่างของพวกเขาลดลงตั้งแต่เมื่อไหร่ ใกล้กว่าด้ายสีแดงที่คล้องนิ้วเอาไว้คือสองมือที่สอดประสานกันโดยไม่รู้ตัว
“เดี๋ยวจบชั้นนี้ก็ลงไปดูบอร์ดแล้วไปหาอะไรกินกันไหม” ชายหนุ่มถามคนข้างๆ ที่ฉีกยิ้มส่งมาให้ ภามพยักหน้าหงึกๆ แล้วเปลี่ยนเรื่องคุยจากตึกเรียนเป็นของกิน
“ไว้ผมเอาขนมมาให้ใหม่ตอนเย็น ต้องเอาไปให้ทีมด้วยโดนไถหมดเกลี้ยงเลย” นึกถึงเพื่อนซี้ที่ตอนนี้คงวุ่นวายอยู่ชมรมว่ายน้ำ ขืนไม่มีขนมไปให้ได้มีการงอนเกิดขึ้นแน่นอน “อ้อ ต้องฝากพี่วินด้วย”
“ช่างหัววินมันเถอะ” ดีนพูดขำๆ แต่เขารู้ดีว่าน้องเขามาเผื่อคนในชมรมด้วยซ้ำ “ว่าแต่ทำไมถึงนึกทำขนมพระพายล่ะ”
“อ๋อ ขนมมันความหมายดี...แล้ว..ผมอยากให้พี่ได้ลองกินด้วย” ก้มหน้างุดๆ
ดีนเลิกคิ้ว เขากระชับมือน้องแน่นขึ้นเล็กน้อย “อยากให้พี่กิน? แล้วมันความหมายว่าอะไรครับ? “ คราวนี้คนพี่เป็นฝ่ายถาม ถึงเขารู้จักแต่ไม่ใช่ว่าจะรู้ความหมายขนมด้วย
“ขนมพระพายเป็นขนมที่ใช้ในพิธีแต่งงาน” ภามเอ่ยอ้อมแอ้ม “ทำจากแป้งข้าวเหนียวโดยสื่อถึงความรักที่เหนียวแน่น..มั่นคง” เขาค่อยๆ ช้อนตาขึ้นมองดวงตาสีสวยที่จ้องมองมา “ส่วนไส้ถั่วหวานหมายถึง..” เม้มปากข่มความร้อนที่ผิวแก้ม “ความรักอันแสนหวาน”
ตึกตัก
ชายหนุ่มหัวใจกระตุก เขาหายใจเข้าปอดหนักๆ หลับตาพร้อมขมวดคิ้ว
“ใครสอนให้ทำแบบนี้เนี่ย” สบถอุบ
“ครับ? เหวออออออ” ร้องเสียงหลงเมื่อโดนพาไปไหนสักที่
ครืดดด ปังภามยืนตัวแข็งทื่อเมื่อโดนไล่ต้อนจนติดอะไรสักอย่าง เขาหันไปมองแล้วพบว่าด้านหลังคือหน้าต่างบานโตที่ตอนนี้มีผ้าม่านโปร่งปิดเอาไว้และตอนนี้พวกเขาอยู่ในห้องเรียนว่างๆที่ไม่มีใครเลย เด็กหนุ่มใบหน้าแดงก่ำทำตัวไม่ถูกเพราะไม่รู้ว่าจะรับมือพี่ดีนเวอร์ชั่นนี้ยังไง
คนตัวโตเสยผมเหมือนหงุดหงิด ด้ายสีแดงหลุดจากนิ้วของทั้งคู่แต่ดูเหมือนกันจะไม่ได้มีความหมายอะไรอีกแล้ว ดีนหยิบมือถือขึ้นมากดอะไรยุกยิกแล้วหันหน้าจอให้น้องดู ภามเพ่งมองตาปริบๆ
มันคือคลิปภาพพร้อมเสียงตอนเขาเถียงกับพี่อเล็กซ์!!!!!!!!!
“เดลส่งมาให้พี่ก่อนเรามาที่คณะแป๊บเดียว” ตอนนี้ดวงตาสวยๆ ชักมีประกายแวววับ เสียงในคลิปดังก้องในห้องกว้าง มันชัดทุกคำพูดแม้แต่ประโยคที่เด็กหนุ่มตอบดาราขี้ตื้อก่อนที่จะเดินจากมา
[ “หืม...เจ้าดีนนะเหรอ”
“พอเหอะครับผมมีธุระ มะนาวเดล เราไปนะ”
“ยังไม่เป็นแฟนกันพี่ก็มีสิทธิ์”
“พี่รู้ได้ไงครับว่ายังไม่ได้เป็น” ]
เสียงกรี๊ดของสาวๆ ตบท้ายก่อนคลิปจะดับตัวลง ภามอ้าปากเหวอไม่ใช่แค่หน้าแดงแล้วแต่เขามั่นใจว่าตอนนี้แดงไปทั้งตัวแน่นอน!!
“ภาม” ดีนขยับเข้าใกล้หากภามกลับรีบคว้าผ้าม่านมาปิดหน้าปิดตา เขาเกือบจะหัวเราะออกมาเพราะทั้งหูทั้งคอน้องแดงไปหมด “น้องภาม” เขาเรียกย้ำแล้วพยายามยื้อมือคนดื้อให้คลายผ้าม่านออก “ผ้ามีแต่ฝุ่น”
แรงที่เยอะกว่าดึงดันจนผ้าม่านหลุดออกจากมือ แต่ภามยังไม่ยอมแพ้
“ไม่เอา อย่ามอง” พยายามฝืนใช้ทั้งมือทั้งแขนบังใบหน้าตัวเองแต่ก็ไม่รอด คนขี้แกล้งดันมือเขาออกจากการบดบัง เกิดมาภามไม่เคยอายจนอยากตายขนาดนี้มาก่อนเลย
ดีนขยับรอยยิ้มกว้างดวงตาเป็นประกายระยับ เอ็นดูใบหน้าแดงก่ำอีกทั้งดวงตาที่เหมือนจะร้องไห้อยู่รอมร่อ
“ปิดไปก็เท่านั้น แดงไปหมดแล้ว” เขาแกล้งหยอก คราวนี้เลยเจอน้องขึงตาใส่
“พี่ดีน!!” ทำอะไรไม่ได้ก็โวยวายเรียกชื่อพี่เข้าสู้
“พี่ดีใจที่ภามตอบแบบนั้น..” คนฟังไพล่ตอบไปเรื่องอื่น
ภามเม้มปากแน่น บอกตรงๆว่าตอนนี้ขาสั่นไปหมดแล้ว
“ถ้าคราวหน้าเขายังมากวนอีก...” ขยับใบหน้าเข้าใกล้แล้วกระซิบริมหู “พี่จะเป็นคนจัดการเอง..ตกลงไหม”
เด็กน้อยพยักหน้ารัวๆ ถ้าตอนนี้พี่ดีนปล่อยรับรองได้ว่าเขาวิ่งสี่คูณร้อยกลับคณะแน่ๆ หัวใจจะวายอยู่แล้ว
“ไม่ปล่อยหรอกนะ” คนพี่พูดพลางหัวเราะดักทางน้องไว้เสร็จสรรพ
“ห๊ะ”
“พี่รอมานานแล้ว และจะไม่รออีก..ภามเข้าใจใช่ไหม” รอมานานทั้งชีวิต เขาจะไม่ยอมปล่อยมือนี้ไปเด็ดขาด
ภามสูดลมหายใจเข้าลึก เขาพยักหน้าอีกครั้งลดแรงขัดขืนลง จนดีนยอมปล่อยข้อมือน้องแล้วเปลี่ยนเป็นโอบรั้งเอวอีกฝ่ายกระชับเข้าหาตัว
“ตอบสิครับ” จมูกโด่งไล้ไปตามขมับจงใจกดจูบที่รอยปานแรงๆ จนร่างในอ้อมแขนสะดุ้งโหยง
“เข้าใจ....ครับ” เสียงตอบพร่าเบา สองมือเลื่อนขึ้นกุมแขนเสื้ออีกฝ่ายขยำแน่น ลมหายใจร้อนๆและสัมผัสนุ่มนวลแถวแก้มกำลังทำให้เขาละลาย
“เข้าใจว่า..” เคลื่อนริมฝีปากมาที่แก้มร้อนผ่าวสัมผัสแผ่วรอคำตอบ
“..เข้าใจว่า..” ภามขยับใบหน้าเล็กน้อย ริมฝีปากของพวกเขาห่างกันไม่กี่เซ็น
...
...
“เรารักกัน ...อื้อ”
ริมฝีปากร้อนแนบประทับบดเบียดความนุ่มหยุ่น ดูดดุนริมฝีปากบางจนมันแดงช้ำ ลมหายใจของทั้งคู่ถี่กระชั้นกับสัมผัสที่ทั้งนุ่ม ทั้งร้อน และหอมหวาน ภามรู้สึกได้ว่าขาตัวเองสั่น เขาขยำเสื้ออีกฝ่ายแรงขึ้นทิ้งน้ำหนักให้คนรุกรานประคองเอาไว้เพราะแข้งขาอ่อนไปหมดแล้ว
“แฮ่ก...”
ดีนผละริมฝีปากออกเล็กน้อยให้น้องได้หายใจ พลางไล้นิ้วโป้งบนความนุ่มที่เปียกชื้น เขากดเบาๆให้ริมฝีปากเผยอออกแล้วประกบลงไปอีกครั้ง
ไม่ใช่แค่ปากสัมผัสปาก หากลึกซึ้งกว่านั้นลึกล้ำกว่านั้น
ภามค่อยๆ เลื่อนมือจากต้นแขนแน่นขยับโอบรอบลำคอชายหนุ่ม เผยอปากตอบรับลิ้นร้อนที่ดูดดุนจนเกิดเสียงน่าอาย กลิ่นหอมหวานของขนมยังติดอยู่ที่ปลายลิ้นชักชวนให้ลิ้มรสกันเร่าร้อนขึ้นไปทุกที
ขนมพระพาย...ความรักอันแสนหวาน..
เนิ่นนานจนดีนคิดว่าเขากลืนกินลมหายใจน้องจนแทบหมดปอด ถึงได้ถอนริมฝีปากออกเล็กน้อยพลางรวบเอวภามแน่นขึ้นอีก รู้สึกได้ว่าคนในอ้อมกอดสั่นไปทั้งตัว ชายหนุ่มใช้ปลายจมูกถูไถกับอีกฝ่ายเบาๆ คลอเคลียผิวแก้มแดงจนพอใจถึงยอมหอมแก้มแถมจูบที่ขมับส่งท้ายแล้วช่วยจัดเสื้อผ้าหน้าผมที่ดูจะยับย่นจากการเบียดเสียดตัวเข้าหากัน
“โอเคไหม”
ดีนเอ่ยถามภามที่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นมุดหน้างุดกับอกเขาสองมือยังกำเสื้อแน่นไม่ปล่อย เจ้าตัวส่ายหน้าไม่ยอมเงยทำเอาคนพี่อยากกุมขมับ มาไถอกกันแบบนี้มันลำบากใจจริงๆ
“ไหน พี่ดูหน่อย” พยายามจะดันใบหน้าน้องออกจากอก แต่ภามดื้อเกินคาดเจ้าตัวยิ่งฝืนซุกหน้ากับอกเขาไม่ปล่อย
สุดท้ายประธานชมรมว่ายน้ำจอมเผด็จการก็ทำการก้มลงเม้มใบหูแดงๆเข้าเต็มที่ ทำเอาภามสะดุ้งเฮือกรีบตะปบหูผละถอยออกมาหน้าตาเหวอ ดีนเลิกคิ้วให้ยิ้มๆ
“ตกลงโอเคหรือยัง”
“คะครับ” ภามตอบกลับตะกุกตะกัก รู้สึกถูกเอาเปรียบยิ่งกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เขาพยายามตั้งสติหายใจเข้าลึกๆแล้วผ่อนลมหายใจออก แต่พอเงยหน้าสบตาคนพี่ สติที่เรียกมาก็เปิดแน่บไปอีก เดือดร้อนให้ดีนต้องจูงมือพาน้องหลบออกจากตึกเรียนไปทางด้านหลัง
ขืนให้ไอ้พวกเวรนั่นเห็นสภาพภามตอนนี้คงล้อยันเรียนจบแหง
โรงอาหารวันนี้เต็มไปด้วยผู้คนมากมาย ดีนมองเวลาก็พบว่าใกล้จะเที่ยงแล้ว เขาบอกน้องให้ไปนั่งรอที่โต๊ะก่อนพร้อมส่งเสื้อแจ็คเก็ตกันหนาวให้ไปปิดหน้าปิดตา พอคนตัวสูงๆ เดินหายไป ภามก็มุดหน้างุดในกองเสื้อหยิบมือถือมาเปิดดูแก้เขิน ตอนแรกก็กะจะเล่นเกมรอแต่พอเหลือบเห็นแอพสีฟ้าๆ นิสัยส่องโลกโซเชี่ยลก็บังคับมือเขาจิ้มจึกโดยไม่รู้ตัว
“ห๊ะ”
ภามอุดปากตัวเองหมับ เกือบร้องคำหยาบออกมาลั่นโรงอาหาร ตอนนี้เฟสเขาถูกถล่มอีกครั้งจนโนติเด้งเตือนพุ่งเข้าไปหลายร้อย เหตุเป็นเพราะภาพที่พี่ดีนโดนแท็กจากเพื่อนในคณะ
ภาพตอนเขาส่งขนมให้พี่ดีน
ภาพตอนจับด้ายแดง โดยที่เขาถือปลายด้ายเอาไว้ส่วนสุดปลายอีกข้างอยู่ที่นิ้วพี่ดีน
ภาพแผ่นหลังของพวกเขาสองคนที่เดินขึ้นตึกพร้อมด้ายที่นิ้วก้อย
ตบท้ายด้วย..ภาพตอนจูงมือเดินด้วยกันบนตึก!!!!
เดี๋ยวนะ!!!!!!! ภาพสุดท้ายถ่ายตอนไหนยังไง เฮ้ยยยยยย?? แล้วแชร์บ้าอะไรกั๊น!!
“เป็นอะไร” ดีนวางจานข้าวให้พร้อมน้ำเย็น เขาขมวดคิ้วเมื่อเห็นน้องทำหน้าพิลึกพิลั่นเหมือนจะร้องไห้แต่ร้องไม่ออก
“พี่” ภามเรียกเสียงละห้อยแล้วส่งมือถือให้ดู
ดีนเลิกคิ้ว เลื่อนรูปดูทีละรูป ใบหน้านิ่งเสียจนน้องเดาอารมณ์ไม่ถูก
“สวยดี” คืนมือถือให้ภามแล้วนั่งที่ฝั่งตรงข้าม “พี่ชอบภาพตอนภามจับด้าย”
“แต่มัน” คนน้องร้องอู้อี้ในกองเสื้อขยำขยี้จนดีนเกือบจะขำ
“ตราบใดที่ไม่ละลาบละล้วงจนเกินเหตุ เท่านี้พี่โอเค” ตักแบ่งกับข้าวในจานให้อีกฝ่าย “บางครั้งก็ควรทำให้บางคนรู้..” เขามองสบดวงตาใสแจ๋ว “ว่าไม่ควรยุ่งกับคนมีเจ้าของ”
ครับ ...ภามเห็นภาพพี่อเล็กซ์ลอยมาแต่ไกล เปลี่ยนอารมณ์จากกังวลกลับมาเขินอีกรอบ เขาอ้ำอึ้งได้ไม่นานพี่ดีนก็เอานิ้วมาเคาะขอบจานเรียกให้กินข้าว สุดท้ายคนขี้อายก็ตั้งหน้าตั้งตากินไม่กล้าสบตากับใครบางคนจนข้าวหมดจาน
--------
Talk
ขอบคุณที่รอนะคะ ^^ ขอบคุณทุกคนที่มาคอมเมนท์และมาทักทายในเพจกันสนุกสนานมาก (ฮา) น้อมรับคำติชมค่ะ
ดีใจมากที่หลายคนไปหาของกินในเรื่องมาลอง อยากให้ได้กินกันจริงๆนะ แต่หายากไปหน่อย
อ้อ บางคอมเมนท์นี่แบบ เดาเรื่องได้ตรงจนตกใจเลยค่ะ ดีใจมากที่จับประเด็นเรื่องได้ด้วย
ส่วนที่ถามว่าแล้วเรื่องครอบครัวล่ะ ทุกอย่างจะมีการเฉลยตอนท้ายค่ะ ผู้เขียนจะพยายามเก็บให้หมดทุกเม็ด ฮึบๆ
ยังมีหลายคนที่อ่านแล้วกล้าๆกลัวๆ ดราม่าไหม อะไรยังไง ขอให้ทำใจสบายๆแล้วอ่านเรื่องนี้ไปพร้อมสร้างอารมณ์ไปกับตัวละครค่ะ อย่ากลัวๆ
ขอให้สนุกกับตอนนี้นะคะ
ป.ล ภาพประกอบมาไม่ทันค่ะ 5555 ผู้วาดงานเข้า เสียดายมากเห็นภาพร่างแล้วน่ารักมากเลย ผู้เขียนไม่อยากรอเพราะจะข้ามวันที่สัญญาเอาไว้ ถ้าภาพเสร็จค่อยไปดูในเพจนะคะ