บทที่ 59 ลูกค้าคนสำคัญ
สาม สี่วันหลังจากวันนั้น... ผมใช้เวลาในการออกไปสมัครงานตามที่ต่างๆ ที่โฆษณาในหน้าหนังสือพิมพ์ หรือในหนังสือเกี่ยวกับการสมัครงานต่างๆ แต่ละที่ก็ให้คำตอบแตกต่างกันออกไป
เช่น... “แล้วเราจะเรียกมาสัมภาษณ์อีกทีนะคะ...”
หรือ... “แล้ว เราจะติดต่อกลับไปอีกที”
หรือ... “เราอยากได้คนที่ใช้ภาษาอังกฤษได้ด้วยน่ะ... ของน้อง ภาษาไม่ดีเลย”
หรือไม่ก็... “น้องไม่มีประสบการณ์เลย... เราอยากได้คนมีประสบการณ์มากกว่าค่ะ” (ใครบอก... ประสบการณ์ ตูเพียบ... )
ผม จำได้ว่า หลายที่มากๆ ที่ผมสมัครไว้ ทั้งๆ ที่ไม่ได้เลือกงานหรือเลือกบริษัทแต่อย่างใด แต่... ดูเหมือนความหวังมันจะมืดมนเต็มที... หลายๆ ที่ ต้องการคนมีประสบการณ์ แต่ทำไมไม่มีคนคิดบ้างว่า ถ้าไม่ให้โอกาส จะไปเอาคนที่มีประสบการณ์มาจากไหนกัน...
‘ท่าทาง... มึงจะต้องขายน้ำเลี้ยงตัวไปจนตายหรือไงวะ ไอ้ดิน...’ ผมรำพึงในใจ ตอนเดินกลับมาที่หอในเย็นวันที่สี่...
“ดิน... รับโทรศัพท์ด้วย” ป้าเจ้าของหอตะโกนเรียกผม... เพราะแกเห็นผมกลับมาแล้ว
ผมเดินไปรับสายอย่างงงๆ... ปรกติไม่ค่อยมีใครโทรมาหาผมที่หอสักเท่าไร...
“ดิน... เจ๊รัตน์นะ... เป็นอะไรหรือเปล่า... เห็นหายไป...” เจ๊รัตน์นั่นเอง ผมไม่ได้ไปทำงานตั้งแต่วันนั้น...
“เปล่าครับ... ผมไปสมัครงานมาครับ...”
เจ๊รัตน์เงียบไปอึดใจนึง... “อึดอัดอะไรหรือเปล่า...”
“ไม่มีอะไรครับ พี่รัตน์” ผมบอกเนือยๆ
“คืนนี้เข้ามาคุยกันหน่อยสิ... ดิน”
ผมดูนาฬิกา... ห้าโมงกว่า... “ครับ พี่”
..........................................................................
สอง ทุ่มกว่า... ผมเดินเข้าไปในร้าน... นักดนตรียังไม่มา เด็กนั่งอยู่เรียงรายเต็มไปหมด... ใช่ดิ... วันนี้ วันที่ 30 ธันวา แล้วนี่หว่า... (ผมจำแม่นเลยครับ)... พรุ่งนี้ก็เป็นวันหยุด ส่งท้ายปีเก่าแล้ว
ผมยกมือไหว้พี่ปิ๊กที่เดินสวนออกมาพอดี... พี่ปิ๊กรับไหว้ธรรมดา... ไม่ได้ทักทายอะไรกัน
เจ๊รัตน์เสียอีก ที่มองหน้าผม... รับไหว้ แล้วยิ้มให้... “หวัดดี ไอ้ตี๋เจี๊ยวโต...”
ผมยิ้มแห้งๆ ยกมือไหว้พี่ป้อม ก่อนจะกวาดสายตาออกไปมอง ผมไม่ได้มาหลายวัน มีเด็กหน้าตาใหม่ๆ หลายคน...
“ไอ้เพชร ออกไปแล้วเหรอครับ พี่รัตน์”
“ฮื่อ... ไอ้ชลด้วย... มีแขกโทรมาอ๊อฟแต่วันเลย...” พี่รัตน์มองดูหน้าผม... “เป็นไงบ้าง...ดิน หางานได้ไม๊...”
“ยังครับพี่” ผมส่ายหน้า
“ดิน... ถ้ายังหาไม่ได้ ก็ทำไปพลางๆ ก่อนก็ได้นี่นา... ไม่ต้องเข้ามาทุกวันก็ได้... เดี๋ยวพี่คุยกับพี่ปิ๊กเอง... นะ” พี่รัตน์บอกเบาๆ “พี่ไม่ได้ใจดีอะไรหรอกดิน... ไม่ต้องมองแบบนั้น แต่ คิดดูอีกมุมสิ... เราเข้ามา พี่ก็ไม่ได้เสียอะไร ถ้าเราได้อ๊อฟ พี่ก็ได้ตังค์เหมือนกัน” พี่รัตน์หาทางออกให้ผมสบายใจ.... มันก็จริง... แต่ผมรู้ว่าลึกๆ แล้วพี่รัตน์ หวังดีกับผม...
“ครับ... พี่รัตน์”
..........................................................................
วัน นั้น แขกเข้าร้าน หนาตากว่าปรกติ... อาจจะเป็นเพราะเป็นวันหยุด...ก่อนสิ้นปี... แต่คนแล้วคนเล่า ผมก็ยังนั่งอยู่ที่เดิม... ไม่ได้ออกไปไหน... ครับ... ก็ธรรมดา... ทะเลาะกับแม่เล้า คนเชียร์แขก คงรุ่งหรอก ไอ้ดิน...
ห้า ทุ่มแล้ว... เด็กเริ่มเหลือบางตา... ดาวในร้าน ออกไปหมดแล้ว ไอ้ป้อง ไอ้ดล ไอ้ชล... ฯลฯ... เหลือแต่เสือลำบากอย่างผม แต่ผมก็ไม่สนใจ...
พี่รัตน์ขึ้นไปร้องเพลง... ตามเคยครับ เป็นเพลงจีนเพราะพริ้งสองสามเพลง... แล้วพี่รัตน์ก็ทำให้ผมอึ้ง...
“ต่อไป ขอเชิญ ดิน... ขึ้นมาร้องเพลงหน่อย”
ผมอ้าปากค้าง... มองพี่รัตน์... เล่นอะไรกับกรูอีกล่ะเนี่ยะ...
“ไม่ดีมั๊งพี่...” ผมบอกเบาๆ “อายเค้า...”
แต่พี่รัตน์ก็ไม่สนใจ เดินถือไมค์มาที่ผม... “ร้องให้เจ๊ฟังหน่อยน่า... ชลมันบอกว่าเราก็ร้องเพลงเพราะเหมือนกัน”
“... เล่นกูแล้ว ไอ้ชล”... ผมพึมพำ ก่อนจะรับไมค์มาจากพี่รัตน์
“พี่หน่องครับ” ผมบอกนักดนตรีหลังจากขึ้นไปนั่งบนเวทีเรียบร้อย “ขอ จูบมัดจำ ครับพี่”
พี่หน่องนักดนตรีแดนใต้ ยิ้มให้ แกสนิทกับผมพอสมควร... ขึ้นอินโทร... เพลงที่ผมขอ...
...ต่าง... วิงวอนอ้อนรักพรอดพร่ำ
รักแสนหวานฉ่ำ พี่จูบมัดจำตลอดทั้งคืน
กอดนวลไว้ แนบกายฝังใจระรื่น
ไออกอุ่นหนุนรักชื่น พี่กอดทั้งคืนไม่จางห่างน้อง... ... ... ...
(เอาเท่านี้นะครับ... จริงๆ เพลงนี้ หวานมากครับ ผมชอบมาจนทุกวันนี้...)
พอจบ ผมก็หันไปบอกพี่หน่องอีกที “น้ำตาจ่าโทครับ”....
....สิ้นสุดกันที ไม่ว่าชาตินี้ชาติไหน
เท่านี้ก็สาแก่ใจ ซาบซึ้งทรวงในอกเรา
โบรานท่านว่า บรรดาช้างสารงูเห่า
อีกทั้งข้าเก่าเมียรัก ท่านเปรียบไว้นักอย่าได้วางใจ....
.... ระหว่างร้องเพลง ผมก็เห็นมีลูกค้าคนนึงเดินเข้ามา... ไม่เคยเห็นหน้า... มาดแมน...ท่าทางใจดี... พี่รัตน์ออกจากเคาน์เตอร์เดินเข้าไปคุย เพราะพี่ปิ๊กกับพี่น้อยคุยกับลูกค้าอยู่อีกสองโต๊ะ...
พอ ร้องเพลงที่สองจบ ผมก็คืนไมค์ให้พี่หน่อง... ยกมือไหว้... “ขอบคุณครับพี่” ก่อนจะเดินลงมา จะไปนั่งที่เดิม แต่พี่รัตน์เรียกไว้ “ดิน... มาคุยกับลูกค้าหน่อยสิ...”
ผมเดินเข้าไป ยกมือไหว้... “สวัสดีครับ พี่” ก่อนจะทรุดตัวลงนั่ง
“สวัสดี... ร้องเพลงเพราะนี่ เรา... พี่ชื่อธีร์... เราจะดื่มอะไรไม๊”
“ถ้าพี่รีบไม่ต้องก็ได้ครับ” ผมบอกเบาๆ
“ไม่รีบหรอก...”
“เบียร์ก็ได้ครับ”
พี่ธีร์พยักหน้า... ผมหันไปสั่งเบียร์ ไม่นานก็ถูกนำมาตั้งอยู่หน้าผม...
“เห็นเจ๊บอกว่า เราเรียนจบปริญญาตรีด้วยเหรอดิน...”
“ครับ...” ผมพยักหน้า “เพิ่งจบครับ กำลังหางานทำ...”
“เก่งนะ... แล้วหาได้หรือยังล่ะเรา”
“ยังครับพี่...” ผมตอบสั้นๆ ไม่อยากพูดถึงมันนัก...
“อือ... งานมันหายากนะ... อดทนหน่อย...”
“ครับ”
คุยกันไม่นาน พี่ธีร์ก็สั่งเช็คบิล พร้อมกับเอาผมออกไปด้วย...
บ้านพี่ธีร์... เป็นทาวน์เฮาส์อย่างหรู... เราขึ้นไปชั้นสามที่เป็นห้องนอน... ตกแต่งสวยงาม...
“พี่ เป็นช่างตกแต่งภายใน...” พี่ธีร์บอกผม หลังจากอาบน้ำเสร็จ แล้วเห็นผมนั่งมองไปรอบๆ ห้องอย่างทึ่ง ในการจัดวางของพร้อมกับแสงไฟที่ส่องลงมา...
“สวยมากครับ” ผมบอก
“แล้วเราล่ะดิน... เห็นเจ๊บอก เราก็ตกแต่งภายในมาด้วยไม่ใช่เหรอ...” พี่ธีร์มานั่งข้างๆ ผม
“อะไรครับ” ผมทำท่างง
“อ้าว... ก็เห็นบอก มังกรประดับมุกตั้งหลายเม็ดนี่...”
“อ๋อ... ก็นิดหน่อยครับพี่” ผมยิ้มให้ เริ่มคุ้นเคย... อยากดูมังกรกรูก็ไม่บอก...
“ไหน ดูหน่อยซิ...” พี่ธีร์ล้วงไปในกางเกงขาสั้นที่ผมใส่อยู่ ก่อนจะงัดเอาไอ้ตัวดี (ที่คนอยากดูมันหลายคน) ออกมาชมโลกภายนอก... รูดเข้ารูดออก ไม่ถึงนาที มันก็ผงาดขึ้นมาเต็มมือพี่ธีร์...
“ใหญ่ว่ะดิน... มิน่า เสียงร่ำลือไปไกล...”
‘... เอาอีกแล้ว...’ ผมนึก... ‘Kกรู... ดังกว่ากรูอีกนะเนี่ยะ’
พี่ธีร์จับเล่นอยู่พักใหญ่ ผมเห็นเป้ากางเกงพี่แกตุงๆ ก็เลยล้วงลงไปจับของแกบ้าง... ‘บา... ไม่เบาเหมือนกันนี่...’
..........................................................................
เด๋วมาต่อให้ครับ คนดี... อากาศเย็น อย่าลืมห่มผ้านะครับ... เด๋วเป็นหวัด...
รักษาสุขภาพนะครับ...
ดินครับ