ตอนที่ 1
ที่มาของ “ก้นใหญ่”
คุณเคยอายอะไรมากๆแล้วทำอะไรกับมันไม่ได้จนมาน่าโมโหและหงุดหงิดสุดๆ จนอยากเอาหัวกดน้ำตายให้รู้แล้วรู้รอด เคยมั้ย
ผมคนหนึ่งที่มีเรื่องให้อับอายตั้งแต่เด็กยันโต มันคือความเลวร้ายมากมายในช่วงชีวิตของเด็กผู้ชายคนหนึ่ง ที่มีความผิดปกติบนร่างกายตัวเอง ไม่ใช่ว่าผมจะพิกลพิการอะไรนะ หรือหน้าตาขี้ริ่วขี้เหร่ก็ไม่ใช่ ออกจะน่าตาดีมาแต่เกิดด้วยซ้ำ อันนี้พูดจริง ไม่ได้เข้าข้างตัวเองเลย เห็นหน้าบนกระจกแล้วมันออกมาแบบนี้ ทำไงได้ โกบอมยังอายเลย คิดดู
ทุกอย่างดูหล่อลงตัวหมด และมันน่าจะเป็นแบบนั้นไปตลอดใช่ป่ะ
แต่ทำไม
ทำไมต้องมีสิ่งที่ทำให้ความหล่อของผมลดลงมากมายขนาดนี้ จนทุกคนไม่สนใจมองที่หน้าผมเลย ทุกคนเอาแต่จ้องมาที่
ก้น ของผม!!
ซึ่งเป็นอะไรที่น่าอับอายมาก ที่ถูกใครๆมองมาที่ก้นตัวเอง แถมผมไม่ใช่ผู้หญิงด้วยที่จะถูกมองแล้วไม่ใช่เรื่องแปลก แต่นี้ผมเป็นผู้ชายไง มีอย่างที่ไหนมามองก้นผู้ชายกันแบบนี้ มันใช่เรื่องมั้ย!!
มีครั้งหนึ่ง ตอนผมสิบขวบ ก็พอจะรู้เรื่องรู้ราวอะไรบ้างแล้ว ตอนนั้นลูกพี่ลูกน้องผม “พี่เซน” พี่แกอายุมากกว่าผมสามปี ชวนไปเล่นน้ำที่คลองแถวหลังบ้าน ด้วยความเป็นเด็กและไม่คิดอะไร ผมแก้ผ้าล่อนจ้อนจนหมด กระโดดเล่นน้ำอย่างสนุกสนาน พ่อแม่ไม่ห่วงผมที่มาเล่นน้ำแบบนี้ เพราะผมว่ายน้ำเป็น และมีพี่เซนมาเล่นด้วย จึงไม่ห่วงอะไรมาก พอเล่นได้ซักพัก ผมก็ปีนขึ้นฝั่ง ยืนมองพี่เซนที่กำลังว่ายตรงมาที่ผม
“นนท์ หันหลังดิ๊” พี่เซนแกยืนมองผมนิ่ง ก่อนจะบอกให้ผมหันหลัง ซึ่งผมก็ทำหน้าสงสัย แต่ก็หันหลังตามที่พี่แกบอก
“มีอะไรพี่เซน ให้นนท์ยืนหันหลังทำไมอ่ะ” ผมยืนหันหลังแล้วเอี้ยวหน้ามาถาม
“ปะ เปล่า ทำไมก้นมันกลมเด้งใหญ่ดีจังว่ะ” พี่แกตอบเสียงอ้อมแอ้มเบือนหน้าหนี ประโยคสุดท้ายผมฟังไม่ชัดเพราะแกพูดเสียงเบา
“อะไรของพี่เนี้ย” ผมบ่น แล้วหันหน้ากลับมาเหมือนเดิม
“ไปๆ ใส่เสื้อผ้า เด่วจะเป็นหวัดเอา” พี่แกไล่ผม ผมเห็นแกหน้าแดงลามถึงหู จึงถามออกไปอย่างสงสัย กลัวว่าพี่แกจะไม่สบายรึเปล่า
“ พี่เซนหน้าแดง ไม่สบายหรอ รีบขึ้นเลยๆ” ผมควักมือเรียก กลัวว่าแกจะไม่สบายจริงๆ
“เปล่าๆ แดดมันร้อน หน้าเลยแดง เรารีบใส่เสื้อเร็วๆจะได้กลับบ้าน” พี่แกพูดรัวๆ ก่อนจะว่ายขึ้นฝั่งแล้วเดินออกไปยืนรอผมที่หลังต้นไม้ ผมรีบใส่เสื้อผ้า แล้วเงยมองบนท้องฟ้า ที่มันเริ่มมืด ก่อนจะหันไปมองคนที่อยู่หลังต้นไม้อีกครั้ง
“แดดไม่เห็นมีเลย”
หลังจากวันนั้นพี่เซนแกก็บอกผมแปลกๆ แล้วชอบมองที่ก้นผมบ่อยๆ ตอนแรกก็ไม่คิดอะไร แต่มันเริ่มมองมากเกินไป เวลาผมถามอะไร พี่เซนแกจะไม่มองหน้าผมเลย เอาแต่ก้มมองมาที่ก้นผมท่าเดียว จนผมถามออกไปอย่างสงสัย
“พี่เซน มองก้นนนท์ทำไมอ่ะ”
“ปะ เปล่าหนิ ไม่ได้มอง” พี่แกรีบเงยหน้าตอบผม แล้วส่ายหัวปฏิเสธไปมา
“หรือมีอะไรติดที่ก้นนนท์หรอ” ผมถามแล้วก้มลงดูที่ก้นของตัวเอง แต่ก็ไม่เห็นมีอะไรติด “ก็ไม่มีอะไรติดนี่นา”
“ไม่มีอะไรติดหรอก” พี่แกบอก ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องคุย จนทำให้ผมเลิกสนใจเรื่องก่อนหน้านั้นทันที และไม่ติดใจสงสัยอะไรเลย
จนพอผมเข้ามอสี่ ปกติผู้ชายจะเริ่มสูงขึ้นเรื่อยๆจนถึงมอหก แต่ของผมมันหยุดสูงตั้งแต่มอสอง ผมสูงแค่ 160 และไม่มีทีท่าว่าจะสูงขึ้นอีกเลย นอกจากจะไม่สูงขึ้นแล้ว บางสิ่งก็เริ่มใหญ่ขึ้นเรื่อยๆจนมันผิดปกติเกินไป
นั่นคือ ก้นของผม
มันเริ่มใหญ่และกลมเด้งเป็นก้อนน่าเกลียด มันเหมือนก้นของผู้หญิงขึ้นทุกที มีครั้งหนึ่งผมใส่ขาสั้นผ้านิ่ม ที่มันจะแนบเนื้อเห็นสัดส่วนเวลาใส่ แล้วใส่ออกไปวิ่งที่สวนหลังบ้าน ก่อนถึงสวนมันจะมีตลาดเช้าตั้งอยู่ ผมก็วิ่งผ่าน ตอนวิ่งผมเห็นผู้ชายหลายคนมองมาที่ผมเป็นจุดเดียว แรกๆก็ไม่สนใจนึกว่าเขาแค่มองผ่านๆ คงไม่ได้มองผมหรอก แต่พอวิ่งเสร็จเตรียมจะกลับบ้าน จะมีกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งนั่งรวมกลุ่มประจำที่ตลาด มันเอ่ยแซวขึ้นมา
“น้องนนท์กูมาแล้วโว้ยย ก๊ากก” มันโห่แซวร้องกู่อย่างสนุกปาก ผมทำเป็นไม่สนใจเสียงเหล่านั่น เตรียมจะเดินผ่านไม่อยากเข้าไปยุ่งกับพวกมัน
“วันนี้ก้นสวยเหมือนเดิมเลยนะจ๊ะ วี้ดวิ้วว ” วัยรุ่นคนหนึ่งมันผิวปากแซว ก่อนจะมีประสานเสียงจากพวกมันโห่ร้องอย่างสนุกสนาน ขาผมหยุดชะงักก่อนจะหันไปมองพวกมันอย่างหาเรื่อง
“พูดอะไรของพวกมึง”
“ก็พูดเรื่องก้นของน้องนนท์ไง ฮ่าๆๆ”
“ก้นกูมันทำไม หนักหัวพวกมึงหรอ”
“ไม่หนักหัวพวกพี่หรอก มันหนักที่หน้าพี่ว่ะ เวลามันทับแล้วหายใจไม่ออก ฟรืดด หอมจังง ก๊ากกก” มันทำท่าดม แล้วทำหน้าเคลิ้ม ก่อนจะหัวเราะออกมา
“ไอ้พวกโรคจิต” ผมด่ามัน แล้วเดินหนี แต่ถูกอีกคนดึงแขนไว้ซะก่อน
“ไปไหนจ๊ะน้องนนท์ วันนี้พี่ขอจับก้นใหญ่ๆของน้องหน่อยสิครับ” มันว่าแล้วเอื้อมมาจับที่ก้นผมแล้วบีบขย้ำอย่างแรง ผมดิ้นหนีจากมือนั้นทันทีอย่างรังเกียจ จนผมหลุดออกจากมันได้ แล้วรีบวิ่งหนีกลับบ้านทันที ไม่วายมันตะโกนตามหลัง
“ก้นน้องนนท์ทั้งใหญ่ทั้งนุ่มจังโว้ยย”
ผมวิ่งกลับบ้านอย่างรวดเร็ว กลัวพวกมันตามมา พอถึงบ้านผมรีบวิ่งขึ้นห้องแล้วตรงเข้าไปที่ห้องน้ำ ถอดกางเกงตัวเองออกทันที
“ทำไมมันดูใหญ่เหมือนพวกมันพูดจังว่ะ” ผมเอี้ยวหน้าผมก้นตัวเอง ก่อนจะจับแล้วลูบไปมา พอนึกว่าถูกมือไอ้พวกนั้นจับ จากที่ลูบๆก็ถูกจนมันแดงไปหมด
“แม่งเอ้ย จับมาได้” ผมสบถ มือก็ถูที่ก้นแรงๆไม่หยุด
พอหลังจากนั้น ผมก็ไม่ออกไปวิ่งอีกเลย กลับจากโรงเรียนก็ดิ่งตรงกลับบ้าน ทันทีช่วงนี้ผมรู้สึกไม่ค่อยอยากไปไหน เพราะเวลาไปไหนทีไรคนชอบมองผมแปลกๆ โดยเฉพาะผู้ชาย จนผมประหม่าและรู้สึกไม่ดี จึงเลือกที่จะอยู่บ้านมากกว่า
“นนท์วันนี้ไปบ้านพวกกูนะ” ไอ้น้ำที่เป็นเพื่อนที่ชั้นเรียนเอ่ยชวนผมหลังเลิกเรียน วันนี้มีทำกลุ่มวิชาที่จะต้องรีบทำส่ง พวกผมเลยต้องเร่งทำกัน
“เออได้ๆ เสร็จละ ” ผมตอบ แล้วก้มลงเก็บของใส่กระเป๋าแล้วตามพวกเพื่อนออกทันที
“บ้านน่าอยู่เนอะมึง ใหญ่มากก ” ไอ้แหวน สาวห้าวในกลุ่มอุทานขึ้น เมื่อพวกผมมาถึงบ้านไอ้น้ำ มันวิ่งสอดส่องภายในบ้านอย่างไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน ผมรู้ว่าทางบ้านไอ้แหวนมันค่อนข้างลำบาก จึงไม่แปลกที่มันจะตื่นตากับบ้านไอ้น้ำ ที่มันโครตจะรวย
“มึงเว่อไปป่ะไอ้แหวน ทำอย่างกับไม่เคยเห็น” ไอ้อิท ผู้ชายอีกคนในกลุ่ม มาพูดแขวะขึ้นมา ก่อนมันจะนั่งลงที่โซฟาแล้วนั่งยกขาขึ้นกระดิก ทำตัวอย่างกับเจ้าของบ้าน
“แล้วมึงจะไปว่าแหวนมันทำไมว่ะ มึงก็รู้ หรือบ้านพวกกูไม่รวยเหมือนพวกมึง”ผมหมั่นไส้มันจึงสวนมันไป
“ไอ้เตี้ย!!” มันทำท่าจะพุ่งเข้ามาหาผม ไอ้น้ำเห็นท่าไม่ดีจึงรีบกันผมออกจากกันก่อน มันไม่ชอบให้ใครว่าหรือดูถูกมัน ซึ่งผมมักขัดมันตลอดและผมไม่ชอบนิสัยไอ้อิทเท่าไหร่ ผมกับมันต่างไม่ถูกกัน เจอหน้ากันทีไรกัดกันตลอด มันไม่ชอบให้ใครมาดูถูกมัน แต่มันชอบดูถูกคนอื่น แม่งนิสัยเสียสุดๆ
“พอๆ พวกมึง มาทำงานะเว้ย ไม่ได้ให้มาทะเลาะ นั่งๆ” ไอ้น้ำฉุดมือผมนั่ง ด้านล่างโซฟาทันที ที่มันมีฟูกนุ่มปูกางไว้ พวกผมก็กองรวมกันอยู่ด้านล่าง มีเพียงไอ้อิทเท่านั้น ที่มันไม่ยอมลงมา ซึ่งพวกผมก็ไม่ได้ว่าอะไรมัน เพราะแบ่งงานกันเรียบร้อยแล้ว ผ่านไปซักพักความเมื่อยก็เล่นงานผม
“โอ้ย เมื่อยชะมัด” ผมร้องโอด แล้วล้มนอนคว่ำหน้าใส่หมอน หลังจากที่นั่งทำหลายชั่วโมง ผมหลับตาซุกหมอนอย่างขี้เกียจ ซักพักก็มีบางอย่างมาลูบๆที่ก้นผม
“เฮ้ย ทำไรว่ะ” ผมเงยหน้าขึ้นมอง ปรากฏว่าเป็นมือไอ้น้ำ ที่มันลูบก้นผมอยู่ และไม่ทีท่าว่าจะเอาออกจนผมต้องปัดมือมันทิ้ง มันเป็นบ้าไรขึ้นมา อยู่ๆมาจับก้นผู้ชาย
“ก้นมึงใหญ่กว่ากูอีกว่ะ” มันทำท่าจะเข้ามาจับอีกครั้ง ผมจึงจำต้องลุกนั่งทันที แล้วแว๊ดใส่มันทันที ใครมันจะชอบให้มาทักก้นตัวเองแบบนี้
“ มึงบ้าป่ะเนี้ย มาดูก้นกู กูผู้ชายนะโว้ย ใหญ่ตรงไหน ไม่เห็นใหญ่เลย” ผมแถไป ตอนนี้เริ่มไม่รู้สึกมั่นใจละ ขนาดเพื่อนผมยังทักขนาดนี้
“ไหนๆกูดูหน่อย ไอ้น้ำมึงกดมันไว้” ไอ้แหวนพุ่งเข้ามาที่ผมทันที มันให้ไอ้น้ำจับผมนอนคว่ำแล้วขึ้นนั่งทับหลังผมไว้แน่น มึงคิดว่าตัวพวกมึงเบากันมากหรือไง
“โอ้ย กูหนัก ไอ้น้ำปล่อยกู”ผมดิ้นอย่างแรง แต่มันทับที่หลังผมไว้แน่น จนผมขยับดิ้นได้ไม่ถนัด แม่งนั่งทับมาได้ ไอ้พวกผู้หญิงเถื่อน
ป๊าบ
“โอ้ยย พวกมึงตบก้นกูทำไมเนี้ย!” ผมสะดุ้งแล้วร้องโวยวายทันที เมื่อมันตบเข้าที่ก้นผมอย่างแรง
“เออ ใหญ่จริงว่ะ แม่งถ้าถอดเสื้อออกแล้วมองแต่ด้านหลัง กูก็นึกว่าเป็นผู้หญิงเลยนะเนี้ย เซกซี่สัส ฮ่าๆๆ” ไอ้แหวนมันหัวเราะออกมากับความคิดของมัน ซึ่งผมอย่างจะจับหัวมันโขกพื้นซักสิบที มันเซกซี่ตรงไหนว่ะ
“ฮ่าๆ พอมึง เด่วไอ้นนท์มันจะอาย ที่ก้นมันใหญ่กว่าพวกเรา ฮ่าๆๆๆ” ไอ้น้ำลุกขึ้นแล้วหัวเราะจนตัวงอ ผมที่หลุดจากการนั่งทับ ชี้หน้าบอกว่าผมไม่พอใจสุดๆที่มาวิจารณ์ก้นของผมแบบนี้
“กูเป็นผู้ชายโว้ย มาพูดแบบนี้ได้ไงว่ะ” น้ำเสียงไม่พอใจสุดของผมเหวี่ยงออกมา ใครบ้างละที่ไม่พอใจ ยิ่งตอกย้ำมากเท่าไหร่ผมยิ่งรู้สึกเสียความมั่นใจมากเท่านั้น
“
เป็นผู้ชาย แต่ตูดมึงใหญ่น่าล่อขนาดนี้อ่ะนะ” ไอ้อิทมันพูดแทรกขึ้นมา มันทำให้อารมณ์ผมที่เสียสุดๆกับต้องระเบิดออกมา
“ไอ้อิท ไอ้ปากหมา!” ผมหันไปด่ามัน แล้วกระชากที่คอเสื้อมันอย่างแรงด้วยความโมโหที่มันพูดอะไรน่าเกลียดแบบนั้นออกมา
“รับความจริงไม่ได้หรอ” มันยังยียวนตอบผม ยักคิ้วให้ผมอีก หน่อยย ไอ้ปากปีจออ
“ไอ้เชี่ยอิท วันนี้กูจะเอาเลือดปากมึงออกให้ได้!! เหวออ” ผมกำลังจะง้างมือต่อยมัน แต่มันดันจับเข้าที่มือผมแล้วจับดึงเข้าหามัน จนผมเสียหลักนั่งทับมันทันที
“สิบปียังเร็วไป ที่จะทำร้ายกูว่ะ ฮ่าๆๆ ป๊าบ” มันว่าก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผม จนผมผงะ แล้วมันก็ตบก้นผมอย่างแรง จนผมตาโตกับความบังอาจของมัน อยากจะจับมันฉีกทึ้งออกมาเป็นชิ้นๆอย่างเดือดดาล
“ไอ้อิท กูจะฆ่ามึงง!!”
และหลังจากนั้นมา ผมกับไอ้อิทก็ไม่คุยกันอีกเลย มันชอบมาแขวะ มากัดผม แต่ผมก็ไม่สนใจ เดินเลี่ยงและหลบหน้ามันตลอด ส่วนเรื่องก้นผมที่เป็นปัญหาระดับชาติ ผมจึงจำต้องเปลี่ยนมาใส่กางเกงใหญ่ๆแทนเพื่อปกปิด ซึ่งตอนแรกก็ถูกหัวเราะเยอะจากคนรอบข้าง รวมทั้งไอ้อิทด้วย ที่ดูมันจะถูกใจนักหนา ซึ่งผมก็ไม่ใส่ใจ อยากจะหัวเราะก็ให้มันหัวเราะไป เมื่อผมใส่แบบนี้ มันดีตรงที่กลับถูกมองลดลงจากคนแปลกหน้า หรือพวกผู้ชายที่ชอบมองที่ก้นผม ซึ่งทำให้ผมเบาใจ และมั่นใจมากขึ้นที่จะออกไปไหน ถึงแม้จะต้องแต่งตัวแบบนี้ก็ตาม จนกระทั่งผมเรียนจบ
ผมเคยถามแม่อย่างไม่อายเลยว่า ทำไมก้นผมถึงใหญ่แบบนี้ แล้วรู้มั้ยแม่ผมตอบว่าอะไร
“ก็ดูก้นแม่สิ” นางพูดพร้อมกับชี้ที่ก้นตัวเอง แล้วหัวเราะออกมาอย่างภูมิอกภูมิใจ
ผมมองตามนิ้วที่นางชี้ แล้วเห็นก้นอันอวบอั๋นของนางที่มันกลมเด้งน่ามอง และน่าสัมผัสมาก ถ้ามันอยู่ในร่างกายของผู้หญิง ผมเผลอจ้องนานไปหน่อย จนถูกพ่อตบหัวเข้าให้อย่างแรงจนเกือบไปวัดพื้น
ป๊าบ
“มึงเลิกมองก้นเมียกูได้แล้ว”
“เมียพ่อก็แม่ผมป่ะว้าา โอ้ยย ตบมาได้” ผมเถียงออกไป เกือบได้ถูกตบอีกรอบ เมื่อพ่อยกมือจะง้างตบอีกรอบ จึงรีบมาหลบที่หลังของเมียท่านซะก่อน ไม่งั้นหัวช้ำแน่นอน
“ฮ่าๆ เราต้องภูมิในในสิ่งที่เรามีนะนนท์ อย่าไปอาย” แม่ผมพูดขึ้นมาแล้วลูบหัวผมปลอบเบาๆ แต่คำพูดพวกนั้นไม่เข้าหัวผมเลย
ภูมิใจบ้าบออะไร ผู้ชายคนไหนมันจะไปภูมิใจที่มันมีก้นใหญ่แบบนี้
“นนท์ผู้ชายนะแม่ ก้นใหญ่มันน่าเกลียด” ผมพูดตามความจริง แม่งทำไมได้เชื้อแม่มาเยอะขนาดนี้ว่ะ ทั้งส่วนสูงและก้นอีก โอ้ย อยากจะบ้า
“ไม่เห็นน่าเกลียดเลย ถ้าน่าเกลียดผู้ชายแถวนี้มันจะหลงแม่จนไปไหนไม่รอดขนาดนี้หรอ” แม่พูดพลางชายตาไปมองพ่อ ที่สะดุ้งเมื่อถูกทัก จนผมหัวเราะออกมาอย่างตลก ซึ่งมันคือเรื่องจริง พ่อผมหวงแม่ผมมาก ตามติดยันเงาเลยก็ว่าได้ เห็นผู้ชายมองก้นแม่ไม่ได้ แยกเขี้ยวขู่เขาไปทั่ว
“มันไม่เหมือนกันนะแม่” แม่เข้าใจสิ่งที่ผมพูดมั้ยเนี้ย
“ไม่เหมือนยังไง ก้นเราก็เหมือนแม่จะตาย อีกหน่อยลูกเขยเราคงเต็มบ้าน คิกคิก” แม่ว่าพลางหัวเราะอย่างถูกอกถูกใจ แต่ผมนี่สิไม่ตลกเลยเว้ยยย
“แม่ นนท์ผู้ชายนะ!!”
“จ้าๆๆ คิกคิก”
โอ้ย อยากจะบ้ากับผัวเมียคู่นี้ ไม่เห็นความเดือดร้อน ปัญหาที่มันคับอกคับใจของลูกบ้างเล้ยย ยังจะยุยงส่งเสริมหาเขยเข้าบ้านอีก ทำไมไม่เข้าใจลูกบ้าง อยากจะไปผ่าตัดออก ก็ดูไอ้หมูในห้องที่มันไส้แห้ง ไม่มีอะไรมาตกถึงท้องมันหลายวัน ภายนอกมันอ้วนกลมแต่ข้างในกลวงเชียว เฮ้ออ
มีก้นใหญ่แล้วลำบากจังเว้ย
มาแล้วตอนแรก อาจจะคนละอารมณ์กับเรื่องอสูรมาก แต่สุดท้ายก็จบที่เรื่องเดียวกันคือ หื่น หุหุ
ติชมให้กำลังใจได้ค่าา