ตอนที่ 19
หลังจากที่จ่ายเงินค่าเคสโทรศัพท์แล้วเรียบร้อยทั้งคู่ก็มายังร้านขายกางเกง กานต์รักชอบกางเกงเสมอเข่าลายน้ำทะเลสีน้ำเงินจึงซื้อมาเป็นคู่ให้ตัวเองและแพทริก
ตลอดทางนั้นแทบจะต้องได้แวะเข้าทุกร้านเพราะคนตัวเล็กตื่นตาไปหมดทุกสิ่งอย่าง มือทั้งสองข้างเริ่มเต็มไปด้วยข้าวของจนต้องให้ลูกน้องเอาไปเก็บแล้วบางส่วน ก่อนสุดท้ายจะมาหยุดนิ่งอยู่ที่หน้าร้านวาดรูปที่ระลึก
“วาดรูปคู่กันนะครับ รักอยากวาดภาพเราเก็บเอาไว้” คนข้างตัวหันมาเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงติดจะเว้าวอน ดวงตาคมทอดมองใบหน้าหวานที่มีแววคาดหวังแล้วไม่อาจจะปฏิเสธลงได้
ต่อให้กานต์รักไม่อ้อนขอแพทริกก็พร้อมจะตามใจอยู่แล้ว
“วาดรูปสวยๆเก็บไว้เป็นที่ระลึกครับ มีชิ้นเดียวในโลกหาไม่ได้จากที่ไหนอีก ราคาเป็นกันเองเลยครับ” จิตรกรหนุ่มเอ่ยเรียกลูกค้าพร้อมด้วยรอยยิ้ม มองคนทั้งคู่ที่เดินเข้ามาอย่างเป็นมิตร
“วาดรูปคู่ได้ไหมครับ”
เสียงเล็กเอ่ยถามขึ้นในขณะที่แพทริกกำลังกวาดสายตามองฝีมือการวาดภาพรอบๆร้าน คนถูกถามไม่ได้นึกแปลกใจพร้อมทั้งพูดคุยด้วยรอยยิ้มเป็นมิตร
“ได้ครับ ได้หมดเลยแล้วแต่ลูกค้าต้องการ”
“งั้น...วาดรูปเราสองคนแล้วบรรยากาศข้างหลังเป็นทะเลนะครับ” คนหน้าหวานเอ่ยบอกถึงความต้องการของตัวเอง ประโยคที่ทำให้แพทริกละสายตาจากบรรดาภาพวาดกลับมามอง
“ได้ครับ เอาขนาดเท่าไหนดีครับ”
“อืม...เท่าเอสี่ก็ได้ครับ” กานต์รักนิ่งคิดไปชั่วครู่ก่อนจะตอบออกมา คิดเอาไว้ว่าจะเอารูปนี้ไปวางไว้ในห้องนอนจึงไม่อยากจะได้ภาพที่ใหญ่จนเกินไปนัก
“งั้นเชิญทางนี้เลยครับ” เจ้าของร้านเดินนำลูกค้าทั้งสองเข้าไปในร้านก่อนจะเอ่ยบอกเมื่อมาถึงที่ที่เป็นมุมสำหรับการวาดภาพ
แพทริกมองบรรยากาศรอบๆก่อนจะจูงมือคนตัวเล็กเดินเข้าไปนั่ง ตรงหน้านั้นมีกระดานวาดรูปอันใหญ่พร้อมกับถาดสีและพู่กันมากมายหลายชนิดวางอยู่ข้างกัน
“ลูกค้าจะเอาเป็นสีไม้หรือสีน้ำดีครับ” จิตรกรหนุ่มเอ่ยถามพลางนั่งลงตรงตำแหน่งของตัวเอง
“เอาแบบไหนดีครับคุณแพท” คนถูกถามนิ่งไปคิดไปชั่วครู่ก่อนจะเอ่ยตอบว่าสีไม้เพราะจากการดูลายเส้นเมื่อครู่แพทริกรู้สึกชอบมากกว่า
“ลูกค้านั่งตามอิริยาบถที่ต้องการให้ภาพออกมาได้เลยนะครับ ไม่ต้องเกร็ง ปล่อยตัวตามสบาย”
ทันทีที่ได้ยินท่อนแขนแข็งแรงก็เลื่อนมาโอบเอวเล็กให้ขยับแนบชิด ใบหน้าคมเคลื่อนต่ำลงกระทั่งปลายจมูกโด่งห่างกันเพียงไม่กี่เซน กานต์รักที่ไม่ทันได้ตั้งตัวไม่แม้แต่จะได้ผละออก
“เอาแบบเมื่อกี้” แพทริกผละหน้าออกมาเพียงเล็กน้อยก่อนจะหันมาเอ่ยกับคนวาดภาพ
อืม ถ้าจะให้อยู่อย่างนี้กับกานต์รักทั้งวันเขาก็อยู่ได้
ความใกล้ชิดที่ทำให้สัมผัสได้ถึงกลิ่นน้ำหอมอ่อนๆจากกันและกัน
“คะ คุณแพท” คนขี้อายเอ่ยออกมาเสียงสั่น ก่อนแก้มนวลจะค่อยๆแดงปลั่งขึ้นยามรู้ว่ามีใครอีกคนที่มองอยู่
กานต์รักยังคงนั่งตัวเกร็งทื่อไม่กล้าขยับออกเพราะแพทริกเอ่ยออกไปอย่างนั้น บุคคลที่สามรับคำพร้อมกับอมยิ้มน้อยๆกับท่าทางของคนทั้งคู่ ดูท่าแล้วคนตัวโตคงจะรักอีกคนมาก ซึ่งนั่นก็ไม่ได้น่าแปลกใจเลยซักนิด
“รักอาย”
เอ่ยออกมาเสียงเบา กานต์รักอยากจะก้มหน้างุดเพื่อปิดซ่อนความเขินอายแต่เพราะรู้ดีว่าตอนนี้คนวาดกำลังร่างแบบอยู่จึงไม่สามารถทำอย่างนั้นได้ ดูเหมือนว่าคนที่พึงพอใจกับการวาดภาพจะเป็นคนตัวโตที่นั่งยิ้มกริ่มอยู่ตรงหน้ามากกว่าตัวเองที่เป็นฝ่ายร้องขอเสียอีก
“อายอะไร รู้ไหมว่าที่จริงแล้วภาพนี้ยังไม่ใช่ภาพที่ฉันอยากได้ที่สุด” ไม่พูดเปล่าสายตาคมยังเลื่อนลงมองริมฝีปากสีสดให้ไม่ต้องเดาเลยว่าภาพที่อีกฝ่ายอยากได้ที่สุดนั้นคือภาพอะไร
“คุณแพท...อย่าแกล้งรักนะครับ”
ด้วยเพราะกลัวว่าอีกคนจะทำอะไรให้รู้สึกเขินอายยิ่งกว่าเดิมจึงเอ่ยร้องขอเสียงเบา ประโยคที่ทำให้แพทริกตะโกนขึ้นในใจว่าแล้วอย่างนี้จะให้เขาทนได้ยังไง
ใบหน้าหวานแดงเรื่อ ดวงตาโตที่มองมานั้นราวกับกำลังออดอ้อน ขณะที่เสียงหวานก็เอ่ยแผ่วเบา
ให้ตาย! ตอนนี้เขาไม่ได้รู้สึกอยากวาดภาพเลยซักนิด หากแต่อยากอุ้มร่างเล็กกลับห้องแล้วจับขึ้นเตียงเสียมากกว่า
“หันหน้ามาทางนี้นิดนึงนะครับ” ราวกับเป็นเสียงที่ดึงรั้งให้ทั้งสองผละตัวออกจากกัน
แพทริกขยับตัวเล็กน้อยก่อนจะหันหน้าตรงเพื่อให้คนวาดนั้นได้เก็บรายละเอียดได้เต็มที่ในขณะที่อีกคนก็นั่งหน้าแดงอยู่ข้างๆ ใจดวงน้อยเต้นแรงจนแทบหลุดเมื่อหันมาเห็นของบุคคลที่สามซึ่งมีใบหน้าอมยิ้ม ไม่ต้องบอกก็รู้เลยว่าเหตุการณ์เมื่อครู่นั้นอยู่ในสายตาของอีกฝ่ายตลอด
แน่ล่ะ ก็คนวาดนั่งอยู่ตรงนั้นนี่นา
หลังจากนั้นยังดีที่แพทริกไม่ได้ทำอะไรให้ต้องเขินยิ่งกว่าเดิมกานต์รักจึงพอเบาใจ ทว่าพอได้รับรูปที่ถูกวาดแล้วเรียบร้อยกลับต้องรู้สึกสะเทิ้นอายขึ้นมาอีกครั้ง
“ผมเห็นว่ามันเป็นภาพที่สวยงามและบ่งบอกความรู้สึกได้เป็นอย่างดีเลยวาดภาพนี้ หากลูกค้าไม่พอใจทางเรายินดีไม่รับเงินครับ”
คนวาดเอ่ยบอกพร้อมด้วยรอยยิ้มเข้าใจเมื่อไม่ได้วาดรูปตรงตามอย่างที่ลูกค้าต้องการ ภาพที่อยู่ในมือเป็นภาพที่ใบหน้าทั้งสองนั้นใกล้ชิดจนปลายจมูกชนกัน ใบหน้าคมมีแววหยอกล้อโดยมุมปากได้รูปยกยิ้มนิดๆขณะที่คนหน้าหวานหลบตาหน้าแดงเล็กน้อยอย่างเขินอาย ส่วนเบื้องหลังยังคงเป็นภาพที่ต้องการ
“ผมพอใจมากและชอบมาก” เสียงทุ้มเอ่ยตอบพร้อมกับหยิบเงินจากกระเป๋าตังเป็นแบงค์พันหลายใบส่งให้ ก่อนที่คนวาดจะรีบปฏิเสธเป็นพัลวัน
“ไม่ต้องให้มากขนาดนั้นหรอกครับ” อีกฝ่ายเลือกหยิบเงินมาเพียงแบงค์เดียวแล้วทอนเงินคืนให้ “ขอบคุณที่ใช้บริการนะครับ”
“ขอบคุณที่วาดรูปให้เราออกมาสวยขนาดนี้นะครับ ถ้ามีโอกาสเราจะมาใช้บริการอีกแน่นอน”
กานต์รักเอ่ยขอบคุณพร้อมด้วยรอยยิ้ม แม้จะขัดเขินแต่ว่าก็ชอบรูปนี้มากโดยเฉพาะสายตาคมที่มองมาจากในภาพ ถึงใบหน้านั้นจะดูนิ่งเรียบทว่าในดวงตาสีเทาอมฟ้านั้นกลับมีบางอย่างที่ทำให้รู้สึกอุ่นๆในใจยามจ้องมอง
แพทริกและกานต์รักกล่าวลาเจ้าของร้านก่อนจะเดินออกมาเพื่อไปดูอย่างอื่นต่อ ตลอดทางนอกจากของใช้ ของที่ระลึกกานต์รักยังได้ของกินติดไม้ติดมือมาทั้งที่พึ่งทานข้าวไปไม่นาน
“คุณแพทครับ รักอยากนั่งทานน้ำแข็งใสแบบอย่างนั้น...คุณแพทขึ้นห้องไปก่อนได้เลยนะครับ เดี๋ยวทานเสร็จแล้วรักตามขึ้นไป”
คนตัวเล็กหันมาเอ่ยอย่างไม่แน่ใจด้วยเพราะรู้ว่าคนอย่างแพทริก เบรนเนแกนคงแปลกที่จะมาทำอะไรแบบนี้เลยเอ่ยออกไปอย่างเสร็จสรรพ
ร้านน้ำแข็งใสที่มีที่นั่งริมทะเลมันดูน่ารักและบรรยากาศดีจนกานต์รักอยากจะลองทำอย่างนั้น และทันทีที่ได้ยินคิ้วเข้มก็ขมวดมุ่นเข้าหากัน
“ทำไมฉันต้องขึ้นห้องไปก่อน” เสียงทุ้มเอ่ยเข้มขึ้น
“ก็...รักกลัวว่าคุณแพทจะไม่ชอบทำอะไรแบบนี้”
นักธุรกิจหนุ่มชื่อดังนั่งกินน้ำแข็งใสริมทะเลอย่างนี้คงเป็นภาพที่หาดูได้ยากและไม่น่าเชื่อ กานต์รักรู้ว่าอีกคนอาจจะไม่ชอบและรำคาญต่อผู้คนจึงเอ่ยออกไปอย่างนั้น ไม่ได้นึกน้อยใจที่ต้องนั่งอยู่คนเดียวเลยซักนิด
“อะไรที่นายอยากทำฉันก็โอเคทั้งนั้น จำคำที่ฉันเคยพูดไม่ได้หรือยังไง” คนตัวสูงเอ่ยย้ำคำที่ตัวเองเคยพูดและกานต์รักก็จำเหตุการณ์นั้นได้เป็นอย่างดี
“รักจำได้ครับ แต่ถ้าคุณแพทไม่ชอบรักก็ไม่ว่าเลย รักอยู่คนเดียวได้สบายมาก คุณแพทขึ้นไปพักให้สบายตัวคงจะดีกว่า”
แค่วันนี้อีกคนยอมตามใจพาเดินที่นี่จนแทบจะครบทุกร้านนั้นก็เกรงใจมากพอแล้ว แพทริกตามใจจนกานต์รักคิดว่าอีกคนช่างใจดีกับเขาเหลือเกิน ไม่เหมือนกับแต่ก่อนที่คิดเอาไว้เลยซักนิด
กานต์รักคิดว่าอีกคนค่อนข้างเย็นชาและใจร้าย หากแต่วันนี้ที่ได้รับรู้มันกลับไม่ใช่อย่างนั้น
“ฉันไม่ยอมปล่อยให้นายอยู่คนเดียว และฉันไม่ได้ไม่ชอบ...
ตรงไหนที่มีนายแค่นั้นมันก็เพียงพอ”
คนฟังนิ่งอึ้งไปกับคำตอบที่ได้รับก่อนความอบอุ่นจะแผ่ซ่านเข้าไปถึงหัวใจ ใบหน้าหวานระบายยิ้มออกมาก่อนริมฝีปากสีสดจะขยับเอ่ย
“ขอบคุณนะครับ”
แพทริกมองคนข้างตัวที่ส่งกำลังยิ้มให้แล้วนึกอยากจะดึงตัวมาลงโทษกับความคิดก่อนหน้า ทว่าเพราะตรงนี้นั้นไม่ใช่ห้องส่วนตัวจึงทำได้เพียงรั้งมือเล็กให้เดินตรงไปยังร้านน้ำแข็งใสที่เจ้าตัวอยากทานเพียงเท่านั้น
นักธุรกิจตัวโตกับคนตัวเล็กนั่งอยู่กับพื้นคนละฝั่งโดยที่ตรงกลางโต๊ะนั้นมีน้ำแข็งใสถ้วยใหญ่วางอยู่เป็นภาพที่ดูสะดุดตาหลายคนหากแต่แพทริกไม่ได้นึกสนใจ สายตาคมทำเพียงแค่มองคนรักที่กำลังมีความสุขอยู่กับการกินของหวานตรงหน้านี้เท่านั้น
“คุณแพทไม่ทานจริงๆเหรอครับ” ปากสีสดวาววับไปด้วยสีของน้ำแข็งใสขยับเอ่ยถามพร้อมกับยิ้มกว้างให้คนถูกถามทำเพียงแค่ส่ายหน้าตอบ
กานต์รักพยักหน้ารับไม่ได้คะยั้นคะยออะไรอีกก่อนจะลงมือทานของหวานตรงหน้าต่อ ขณะที่อีกคนก็ทำเพียงแค่นั่งมองเงียบๆโดยไม่ได้รู้สึกเบื่อเลยซักนิด ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่การนั่งมองคนอื่นอย่างนี้ไม่ทำให้แพทริกหงุดหงิดทั้งที่ก่อนหน้าแม้แต่การนั่งกินข้าวยังดูน่าเบื่อ
เพราะเป็นกานต์รักทุกอย่างเลยแตกต่างอย่างสิ้นเชิง หลังจากที่ทานน้ำแข็งใสเสร็จทั้งคู่ก็กลับขึ้นห้องเพื่อพักผ่อน ของมากมายถูกวางไว้ให้อย่างเรียบร้อยบนโต๊ะโดยลูกน้องซึ่งตามมาดูแลและถือว่าเป็นการให้ทุกคนได้พักผ่อนไปในตัว กานต์รักเปิดดูของต่างๆอย่างเป็นสุขจนเมื่อพอใจแล้วจึงเดินเข้าห้องน้ำไป
“คุณแพทจะอาบก่อนหรือให้รักอาบก่อนครับ”
คนตัวเล็กเดินออกมาถามเมื่อเข้าไปดูบรรยากาศของห้องน้ำยามที่ท้องฟ้าเต็มไปด้วยหมู่ดาวด้วยความพึงพอใจ น้ำเสียงดูตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัดจนคนที่กำลังถอดเสื้อออกจากตัวย่างกรายเข้ามาหา
“อาบพร้อมกันจะได้ไม่เสียเวลา”
“คุณแพท!”
เสียงอุทานตกใจดังขึ้นเมื่อร่างกายลอยหวือเข้าสู่อ้อมแขนแข็งแรง คำตอบที่กานต์รักรู้ดีว่ายิ่งจะทำให้เสียเวลามากขึ้นกว่าเดิม
“พะ พรุ่งนี้รักต้องเล่นน้ำนะครับ”
เสียงหวานเอ่ยแย้งแผ่วเบายามถูกวางลงใต้ฝักบัวท่ามกลางแสงนวลของไฟที่เข้ากับบรรยากาศท้องฟ้ายามค่ำคืนของห้องน้ำที่ด้านบนนั้นเปิดโล่ง
เนื่องด้วยวันนี้กว่าจะตื่นนั้นก็เป็นเวลาค่ำแล้วโปรแกรมเล่นน้ำที่ใฝ่ฝันจึงต้องถูกยกยอดไป กานต์รักเอ่ยเตือนเมื่อกลัวว่าพรุ่งนี้ร่างกายจะอ่อนล้าจนไม่สามารถเล่นน้ำได้
“อืม ฉันจะทำเบาๆ”
พูดไปพร้อมกับมือหนาที่ค่อยๆปลดเปลื้องอาภรณ์ออกจากกายบาง เสื้อที่สวมใส่หลุดออกไปเป็นอันดับแรกก่อนจะตามด้วยกางเกงและชั้นใน
บรรยากาศรอบข้างยิ่งทำให้แพทริกรู้สึกหลงใหลคนในอ้อมแขนนี้มากขึ้น เช่นเดียวกับกานต์รักที่ความตื่นเต้นและความโรแมนติกโอบล้อมให้ขยับกายเข้าหาเมื่อร่างสูงผละออกไปถอดเสื้อ
ร่างสองร่างเปลือยเปล่าอย่างเท่าเทียมก่อนริมฝีปากบางจะขยับเข้าหากัน เสียงดูดดึงดังขึ้นในความเงียบยามที่ลิ้นร้อนกวาดต้อนความหอมหวานไปทั่วโพรงปาก ขณะที่ลิ้นเล็กนั้นก็ตอบรับสัมผัสอย่างเต็มใจ ประสบการณ์การร่วมรักหลายครั้งเริ่มทำให้กานต์รักได้เรียนรู้กระทั่งรู้จักการตอบสนอง การกระทำที่ทำให้แพทริกแสนจะพึงพอใจ
มือหนาเอื้อมไปยังฝักบัวทางด้านหลังก่อนจะเปิดหมุนให้น้ำไหลลง คนในอ้อมกอดสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อถูกความเย็นของน้ำไหลผ่านร่าง กานต์รักถูกผลักให้แผ่นหลังแนบชิดไปกับผนังทั้งที่สัมผัสร้อนจากริมฝีปากนั้นยังคงไม่ผละออกซักเสี้ยววินาที
“อะ อื้อ อืม”
เสียงครางหวานดังอื้ออึงไม่เป็นคำเมื่อความร้อนแรงเริ่มเล่นงานมากขึ้นเรื่อยๆ ท่อนแขนเล็กยกขึ้นคล้องลำคอแกร่งก่อนจะรั้งเข้าหาให้ร่างกายแนบชิดกันยิ่งกว่าเคย
ฝ่ามือใหญ่ลูบไล้เคล้นคลึงไปตามร่างกายบอบบางยิ่งกระตุ้นให้ความรู้สึกของกานต์รักโหมกระหน่ำ ไม่ว่าจะกี่ครั้งคนตัวโตก็เล่นงานจนร่างกายอ่อนปวกเปียกราวกับถูกหลอมละลายด้วยเพียงปากและฝ่ามือ
แสงจันทร์อาบไล้เรือนร่างที่กำลังโรมรันกันขลับให้บรรยากาศนั้นทั้งร้อนแรงและอุ่นละมุน หากแต่คนทั้งสองนั้นไม่มีโอกาสได้เห็น
เรียวปากร้อนผละออกจากความหอมหวานสีสดก่อนจะเลื่อนลงมายังซอกคอบาง ขบเม้มอยู่ชั่วครู่ก่อนจะไล้ต่ำลงเรื่อยมากระทั่งถึงเม็ดตุ่มไตกลางอกเล็ก
“อ๊ะ คุณ พะ แพท”
ลิ้นหนาตวัดเลียจนความเสียวซ่านแล่นเข้าเล่นงานให้เสียงครางแผ่วดังเล็ดลอดออกมา ปากล่างถูกขบกัดจนเลือดแทบซิบเมื่อแพทริกครอบครองเม็ดสีสวยนั้นอย่างหมดสิ้น ความเปียกชื้นทั้งไล้วน ดูดดึง ขบเม้มและตวัดเลียสลับเป็นจังหวะ จนคนถูกเล่นงานทำได้เพียงพยายามอดกลั้นเสียงครางอันน่าอายนั้นเอาไว้
จากอีกข้างไปสู่อีกข้างก่อนมือหนาจะคอยสัมผัสข้างที่ว่างเว้นอยู่ไม่ห่างจนมันแข็งเป็นไต ร่างเล็กส่ายสะบัดระบายความเสียวซ่านกระทั้งแพทริกพอใจจึงได้ผละออกวกกลับขึ้นมายังริมฝีปากบางอีกครั้ง
หากแต่คราวนี้สิ่งที่เสียวซ่านกว่ากลับคลืบคลานเข้ามาเล่นงาน เรียวขาเล็กถูกรั้งให้ขยับอ้ากว้าง ฝ่ามือหนาลูบไล้ตามโคนขาขาวไปมาก่อนจะสัมผัสเข้ากับแก่นกายเล็กแผ่วเบา
“อึก คุณแพท อะ คุณแพทครับ”
เสียงเรียกชื่อเอ่ยกระเส่ายามเรียวปากร้อนผละออกไปหากแต่มือหนากลับขยับเล่นงานจนเสียงหวานนั้นดังขึ้นยิ่งกว่าเดิม ใบหน้าเล็กเปียกชื้นเชิดขึ้น ตาโตหลับลงพริ้ม ปากบางอ้าครางอย่างไม่เป็นศัพท์
จังหวะมือหนาเร่งเร้ามากขึ้นเรื่อยๆจนความเสียวซ่านไหลทะลักในเวลาต่อมา สายน้ำจากฝักบัวชำระคราบคราวออกไปจนหมดสิ้นขณะที่ร่างเล็กนั้นหอบฮัก ทิ้งน้ำหนักตัวทั้งหมดเข้าสู่อ้อมแขนของคนตัวโตอย่างอ่อนแรง
จมูกโด่งเป็นสันซุกเข้าหาข้างซอกคอหอมก่อนจะขบเม้มเบาๆเพื่อรอเวลาให้ลมหายใจของคนที่พึ่งปลดปล่อยเริ่มกลับมาเป็นปกติ
“ทำให้ฉันบ้างได้ไหม” กานต์รักรับรู้ได้ทันทีเมื่อได้ยินสิ่งที่อีกฝ่ายกระซิบอยู่ข้างหู ใบหน้าหวานเห่อร้อนจนแทบไหม้เมื่อรู้ดีว่าต้องทำอะไรให้ร่างสูง
แพทริกผละตัวออกห่างจากร่างเล็กก่อนจะเอื้อมมือไปปิดน้ำเพื่อไม่ป้องกันการที่กานต์รักจะสำลัก ดวงตาคมทอประกายร้อนแรงจนคนมองต้องเสหลบอย่างไม่กล้าสบ กานต์รักกัดริมฝีปากและสูดลมหายใจลึกเรียกความมั่นใจให้ตัวเอง ก่อนจะค่อยๆขยับทรุดตัวนั่งคุกเข่าจนมองเห็นความใหญ่โตผงาดอยู่ตรงหน้า
แม้ไฟจะสลัวแค่ไหนแต่ถึงอย่างนั้นความใกล้ชิดก็ทำให้ภาพแจ่มชัดจนต้องเบือนหน้ามองไปทางอื่นเพื่อทำใจ แพทริกมองคนข้างล่างก่อนจะยกยิ้ม ไม่ว่ากี่ครั้งกานต์รักก็ไม่เคยชิน ต่อให้มันจะเข้าไปในตัวหลายต่อหลายรอบแล้วก็ตาม
ร่างสูงไม่เร่งรัดรอเวลาอีกคนพร้อมอย่างใจเย็นกระทั่งมือเล็กเอื้อมมาจับแก่นกายใหญ่อย่างแผ่วเบา ดวงตาโตช้อนขึ้นมามองก่อนจะรีบก้มลงไปอีกครั้งเมื่อรู้ว่าถูกจับจ้องอยู่ก่อนแล้ว
ระยะห่างระหว่างใบหน้ากับสิ่งนั้นน้อยลงเรื่อยๆ กระทั่งมันอยู่ห่างจากริมฝีปากเพียงไม่กี่เซนลิ้นเล็กจึงแลบออกมาแตะอย่างไม่มั่นใจ
“อืม” เพียงแค่สัมผัสแรกที่ได้รับก็ทำให้แพทริกครางออกมาอย่างพึงพอใจ
กานต์รักผละออกก่อนจะกลืนก้อนเหนียวๆลงคอ ใช่ว่าไม่เคยทำให้คนตัวโตแต่ไม่ว่าจะกี่ครั้งก็ไม่เคยชินและไม่มีความมั่นใจ หากแต่ไม่ว่าอย่างไรก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด
ลิ้นเล็กแลบออกมาอีกครั้งก่อนจะค่อยๆไล้เลียความใหญ่โตนั้นอย่างแผ่วเบา มือบางทั้งสองก็คอยประคองอยู่ไม่ห่าง จากส่วนปลายไล้เรื่อยมาจนถึงโคน เสียงครางฮือจากเจ้าของร่างทำให้เริ่มมีความมั่นใจจนทุกอย่างไหลลื่นขึ้นอย่างที่ควรจะเป็น
กานต์รักจินตนาการว่าตัวเองนั้นกำลังทานไอศครีมแท่งโปรด ค่อยๆไล้ชิมไปรอบๆอย่างไม่รีบร้อน กระทั่งเมื่อได้เวลาปากเล็กจึงอ้าออกรับเอาความแข็งขืนนั้นเข้าไปในโพรงปาก
“อาห์” เสียงทุ้มครางในลำคอก่อนมือหนาจะยกขึ้นมาวางลงบนด้านหลังของหัวเล็กแล้วชักนำให้เป็นจังหวะที่ถูกต้อง เสียงสั่งที่เคยได้ยินดังเข้ามาในหัวจนปากบางพยายามขบเม้มเข้าหากันแน่นและเก็บฟันเพื่อไม่ให้ครูดกับความใหญ่โตให้อีกคนต้องรู้สึกเจ็บ
แม้จะรับร่างกายของแพทริกได้ไม่หมดแต่กานต์รักก็พยายามเท่าที่จะทำได้ ความอุ่นร้อนโอบรอบพร้อมกับจังหวะที่ถูกเร่งเร้าขึ้นทำให้กรามแกร่งต้องขบกัดเข้าหากัน ลมหายใจร้อนถูกพรูออกเพื่อระบายความรู้สึก เส้นเลือดตามร่างกายแกร่งปูดโปนอย่างอดกลั้น
“พอแล้วกานต์รัก”
กระทั่งเมื่อถึงจุดที่พอใจแพทริกจึงรั้งอีกคนให้ขยับขึ้นยืนก่อนจะฉกริมฝีปากลงมาดูดดึงอย่างรวดเร็วพร้อมกับที่นิ้วมือแกร่งแทรกเข้ามาในช่องทางเล็กโดยไม่ให้ตั้งตัว
“อ๊ะ อะ อึก”
แพทริกขยับมือเข้าออกอย่างเชื่องช้าเพื่อรอจังหวะให้คนตัวเล็กได้ปรับร่างกาย ก่อนจะค่อยๆเร่งจังหวะนั้นขึ้นจนเกิดเสียงเสียดสีระหว่างนิ้วแกร่งกับช่องทางเล็ก
อารมณ์เสียวซ่านถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนไม่นานนิ้วมือนั้นจะผละออกไป ร่างเล็กถูกพลิกให้หันหลัง ท่อนแขนแข็งแรงสอดเข้าหาขาเรียวหนึ่งข้างก่อนจะรั้งขึ้นจากพื้นจนกลางกายอ้ากว้าง
ใบหน้าหวานและฝ่ามือเล็กแนบเข้ากับผนังเย็นชืด เรือนร่างสูงใหญ่ขยับเข้ามาซ้อนด้านหลังก่อนความร้อนผ่าวใหญ่โตจะค่อยๆแทรกเข้าหาจนกานต์รักต้องกัดปากเอาไว้แน่น
ความคับแคบบีบเคล้นสิ่งแปลกปลอมจนแพทริกต้องพยายามอดกลั้นอย่างใจเย็น ขยับกายได้เพียงทีละนิดกระทั่งเข้าไปได้หมดในที่สุด
“อึก คุณแพท”
ขาเล็กที่ยืนอยู่บนพื้นเพียงข้างเดียวสั่นระริก แพทริกหยุดนิ่งไม่ยอมขยับจนความอึดอัดจากใต้ร่างทำให้กานต์รักเอ่ยชื่อเรียกอีกคนอย่างร้องขอ
เสียงหวานที่เป็นสัญญาณแห่งความพร้อมทำให้แพทริกเริ่มขยับตัว เสียงครางหลุดออกมาทันทียามถูกเสือกกายเข้าหาจุดกระสัน ร่างเล็กงอตัวเล็กน้อยด้วยเสียวซ่าน มือก็จิกแน่นเข้ากับผนังเพื่อระบายอารมณ์ เสียงเฉอะแฉะดังขึ้นดูน่าอายแต่ความซ่านกระสันกลับกลบทุกอย่างไปจนหมดสิ้น
ยามความอึดอัดถอดถอนออกจากร่างความโล่งก็เข้ามาแทนที่หากแต่วินาทีต่อมาก็ต้องเสียวซ่านยิ่งกว่าเดิม จังหวะสอบสะโพกยังคงเชื่องช้าหากแต่ก็หนักแน่นจนร่างบางสะท้อนเฮือกขึ้นด้านบน ยิ่งยามขาเล็กข้างหนึ่งถูกพาดไว้ให้เปิดกว้างแก่นกายใหญ่ยิ่งแทรกลึกกว่าที่เคย
“อ๊ะ อะ อา อึก อื้อ”
จังหวะเชื่องช้าค่อยๆแปรเปลี่ยนไปจนร่างเล็กสั่นคลอน แพทริกกัดฟันแน่นยามดันกายเข้าหาความอ่อนนุ่มที่ตอดรัดจนรู้สึกวูบวาบไปทั่วร่าง เสียงการเสียดสีดังขึ้นอย่างหยาบโลนและมากขึ้นเรื่อยๆจนเสียงครางหวานนั้นดังกระเส่า จังหวะการตอดรัดถี่รัว
“อึก ระ รัก อื้อ ไม่ไหว อา ไม่ไหว อ๊ะ ละ แล้วครับ”
ทุกอย่างเริ่มพุ่งสูงขึ้นจนกานต์รักนั้นอดกลั้นต่อไปอีกไม่ไหว รู้ดีว่าหากสะโพกแกร่งยังขยับเข้าออกอย่างแน่นหนักอย่างนี้อีกไม่นานร่างกายต้องปลดปล่อยออกมา คำพูดที่ยิ่งทำให้แพทริกแทรกกายเข้าหาอีกคนรัวเร็วขึ้น
“อืมห์”
เสียงสะโพกที่กระทบกันดังจนแทบไม่เป็นจังหวะ ร่างเล็กเริ่มเกร็งจนแพทริกเร่งความรัวเร็วนั้นมากขึ้น แรงตอดรัดโอบล้อมรอบกายให้รู้ว่ากานต์รักไม่ไหวอีกต่อไป แก่นกายใหญ่แทรกเข้าออกอีกเพียงไม่กี่ครั้งร่างเล็กก็เกร็งกระตุก เสียงครางหวานลากยาวก่อนจะปลดปล่อยความต้องการออกมาในขณะที่แพทริกก็แช่ตัวให้ลึกสุดนิ่ง แก่นกายใหญ่กระตุกในช่องทางแคบปลดปล่อยทุกหยาดหยดออกมาจนหมด
กานต์รักหอบหายใจซบหน้าลงกับผนังอย่างอ่อนแรง สัมผัสได้ถึงบางอย่างที่ฉีดพ่นเข้ามาในร่างกายยามความแข็งขืนกระตุกอยู่ในร่าง ใบหน้าคมซบเข้าหาแผ่นหลังเนียน สอดท่อนแขนเข้าหาเอวคอดก่อนจะรั้งร่างเล็กให้แนบชิดยิ่งกว่าเดิม
“คะ คุณแพท...ระ แฮก รักหนาวครับ”
เมื่อความเร้าร้อนผ่านไปลมหนาวที่โชยมาบางเบาก็ทำให้ทั้งร่างสั่นสะท้าน เสียงเล็กเอ่ยบอกให้แพทริกรีบถอนกายออก น้ำรักสีขุ่นมากมายไหลทะลักออกมาตามซอกขาขาว แพทริกมองภาพนั้นตาวาวก่อนจะรีบเอื้อมมือไปเปิดน้ำอย่างกลัวว่าจะอดใจไม่ไหวรังแกร่างเล็กไปอีกรอบ
นิ้วมือแกร่งสอดเข้าหาช่องทางที่บวมแดงเล็กน้อยนั้นอีกครั้ง ควานเอาคราบคราวที่ตัวเองทิ้งไว้ภายในออกมาให้จนหมด ขณะที่กานต์รักต้องกัดฟันแน่นยามนิ้วนั้นสะกิดโดนจุดบางอย่าง จนเมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแพทริกจึงจัดการอาบน้ำให้ทั้งตัวเองและกานต์รักอย่างรวดเร็ว ก่อนจะอุ้มร่างเล็กเข้ามาในส่วนที่ถูกปิดคลุมด้วยหลังคาเพื่อแปรงฟันและออกไปแต่งตัวให้เรียบร้อย
“ฉันชอบห้องน้ำที่นี่”
เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นยามที่ทั้งสองร่างนอนซบกันอยู่บนเตียงกว้าง ทั้งห้องถูกปกคลุมด้วยความมืดเพื่อที่จะเตรียมตัวเข้านอนเอาแรงสำหรับการเที่ยวในวันพรุ่งนี้หลังจากผ่านกิจกรรมอันแสนร้อนแรงมาเมื่อซักครู่
“รักก็ชอบครับ สวยดี”
พูดไปทั้งที่หน้าเห่อร้อนในความมืด ยามพูดถึงห้องน้ำแล้วภาพกิจกรรมที่พึ่งผ่านมาก็ฉายชัดขึ้นในหัวจนต้องซุกหน้าเข้าหาอกแกร่งยิ่งกว่าเดิม
“กลับไปฉันจะสั่งให้คนมาตกแต่งห้องน้ำใหม่”
“คุณแพทชอบมากนาดนั้นเลยเหรอครับ”
“อืม เร้าใจดี”
ฉ่า
คราวนี้กานต์รักรับรู้ได้ในทันทีว่าสิ่งที่ทำให้อีกคนนั้นชอบคืออะไร
“งั้นไม่ต้องทำหรอกครับ แค่นี้รักก็จะแย่แล้ว” เอ่ยออกมาแผ่วเบาก่อนเสียงหัวเราะในลำคอแกร่งจะดังขึ้น
ก็จริงอย่างที่กานต์รักพูด ต่อให้ไม่มีห้องน้ำที่บรรยากาศโรแมนติกแพทริกก็สามารถรังแกอีกคนได้ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนหรือเวลาใด แต่ไม่ว่าจะยังไงแล้วแพทริกก็ชอบจนตั้งใจเอาไว้ว่าจะสั่งให้คนเข้ามาจัดการให้เร็วที่สุด
“เปลี่ยนบรรยากาศบ้างก็ดี”
“แค่นี้ก็พอแล้วครับ...รักง่วงแล้ว นอนได้ไหมครับ” เสียงเล็กเริ่มอู้อี้เพราะความง่วงและความอ่อนล้าที่แล่นเข้าเล่นงานจนไม่อาจถ่างตาได้อีกต่อไป
“นอนเถอะ ฝันดีกานต์รัก”
หน้าผากเนียนถูกกดจูบลงมาอย่างแผ่วเบา คนง่วงเอ่ยฝันดีตอบในลำคอก่อนจะขยับกายอีกครั้งแล้วหลุดเข้าสู่ห้วงนิทรา ฝ่ามือหนาลูบไล้ไหลบางราวกับเป็นการกล่อมก่อนจะหลับตาลงตามเมื่อได้ยินเสียงหายใจจากคนในอ้อมกอดเป็นจังหวะคงที่
❋❋❋❋❋❋❋❋❋❋