คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ ความสุข < [P.21] // [02/10/60]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ ความสุข < [P.21] // [02/10/60]  (อ่าน 214293 ครั้ง)

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
แบกฟอร์มไว้เยอะขนาดนี้หนักไหมคะ

ออฟไลน์ มะเขือม่วง

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 435
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
สนุกค่ะๆ :)

ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
โถ่ ลุงปากไม่ตรงกับใจเลยย

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
คุณใหญ่จะซึนไปไหนคะ ชอบเขา หึงเขา หวงเขาออกนอกหน้าขนาดนี้ ยังทำมึนได้อีกนะ 555555

ออฟไลน์ aiaea83

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 676
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +494/-5
9




        “แม่ได้ยินมาว่า ใหญ่ให้น้องนอนที่พื้น เรื่องจริงหรือ” คนตักข้าวเข้าปากชะงักเมื่อได้ยิน พอๆ กันอัษฎาที่กำลังดื่มน้ำจนเกือบสำลัก

   “ใครบอกแม่หรือครับ” ดวงตาดุตวัดมองคนนั่งข้าง แต่คนถูกมองส่ายหน้าเป็นพัลวัน

   “ไม่ใช่อัดหรอกที่บอกแม่ ตาเล็กต่างหาก” คุณพิกุลบอกเสียงเรียบ แต่คนมีชื่อโวยวายขึ้นมาเพราะถูกพี่ชายส่งสายตาดุดันมาให้ราวกับจะกินหัว

   “แม่! ทำไมพูดแบบนั้นเล่า” เล็กย่นหน้าเมื่อแม่บอกต้นตอ ทั้งที่ก่อนบอกได้ย้ำแล้วว่าห้ามบอกพี่ใหญ่ว่ารู้มาจากไหน แล้วแบบนี้จะโดนทำโทษหรือเปล่าละนี่

   “ไอ้เล็ก” คิดยังไม่ถึงไหนเสียงดุก็ตวาดขึ้นมา    

   “ผมพูดเรื่องจริงนี่นา” สุดท้ายก็ต้องยอมรับว่าเป็นคนบอก “ผมเห็นที่นอนวางอยู่มุมห้องตอนเข้าไปเรียกพี่ใหญ่ มันไม่ใช่เรื่องจริงตรงไหน มันคือเรื่องจริง” เล็กพูดเสียงสูงในประโยคสุดท้าย

   “ไม่ต้องไปมองน้องแบบนั้นเลยนะ เราน่ะผิด ทำไมถึงให้อัดไปนอนพื้น แต่งงานกันแล้วนะ ไม่มีบ้านไหนเขาให้ภรรยาไปนอนที่พื้นหรอก แล้วก็...”

   “ครับๆ”

   “คือคุณใหญ่ไม่ได้ผิดหรอกครับ ผมลงไปนอนที่พื้นเอง” อัษฎาออกตัวแทน คุณพิกุลขมวดคิ้วมองสะใภ้คนใหม่อย่างสงสัย “พอดีผมนอนดิ้นเลยกลัวจะไปรบกวนคุณใหญ่...”

   “พี่ใหญ่”

   “ครับ?”

   “ต่อไปให้เรียกว่าพี่ใหญ่ คุณใหญ่อะไรกัน แต่งงานกันแล้วนะลูก” คุณพิกุลบอกเสียงเข้มทำเอาอัษฎารีบหันไปมองหน้าคนข้างๆ ใหญ่ปรายหางตามองนิดๆ ก่อนพยักหน้า “เราด้วยตาใหญ่ แม่ไม่เคยเห็นเราเรียกอัดว่าน้องเลยนะ เรียกนายๆ ตลอด แม่ไม่ชอบ” อุตส่าห์ไม่พูดยังโดนจนได้ ใหญ่เงยหน้ามองแม่ตัวเองนิ่งๆ “ใหญ่”

   “ครับๆ ต่อไปจะเรียกน้องตลอด”

   “อย่ามาประชดแม่นะ มันน่าหยิกให้เนื้อเขียว”
 
   ทั้งเล็กและอัษฎาต่างพากันหัวเราะ รวมไปถึงนมอิ่มกับสาวใช้อีกคนที่พากันขำท่าทางของแม่ลูกที่คอยแหย่กัน ใหญ่ที่เห็นว่าแม่หน้าบึ้งก็เอาใจรีบตักกุ้งตัวโตให้

   “นี่ครับกุ้ง” แม้จะน่าหมั่นไส้ แต่คุณพิกุลก็ยิ้มออกมา

   “ขอบใจย่ะ นั่น ตักให้น้องบ้าง” คนเป็นแม่พยักพเยิดหน้าไปทางอัษฎา แต่ใหญ่กลับตีหน้าแสร้งไม่รู้

   “ให้ไอ้เล็กหรือครับ อะ” ว่าแล้วก็ตักบล็อกโคลี่ให้ ก่อนจะถูกแม่ยื่นมือมาตีจนช้อนแทบหลุดมือ “ผมเจ็บนะแม่” ใหญ่มุ่ยหน้าเมื่อถูกตี แถมยังต่อหน้าต่อตาอัษฎาอีก ขานี้ก็เอาแต่หัวเราะจนใหญ่ต้องกระแอมพร้อมเหล่ตามอง

   “ตักให้ภรรยาแกสิ ตาเล็กมันตักเองได้” อิดออดจริงๆ คุณพิกุลมองท่าทางคนไม่ค่อยเต็มใจตัก เหมือนกุ้งตัวนั้นจะหนักเป็นร้อยกิโลจนยกช้อนไม่ขึ้น “ตาใหญ่ จานน้องน่ะวางสิ”

   “รู้แล้วๆ”

   อัษฎาได้แต่ลอบยิ้มเมื่อเห็นท่าทางของคนฟอร์มจัด กว่ากุ้งจะวางในจานได้ก็ใช้เวลาอยู่เป็นนาที

   “ขอบคุณครับ” บอกพร้อมรอยยิ้ม ใหญ่ถลึงตาใส่ก่อนก้มหน้ากินข้าวในจานตัวเอง แล้วต้องเงยหน้าอีกรอบเมื่อมือขาวตักตับไก่มาให้ “คุณใหญ่ชอบกินนี่ครับ ผมจำได้”

   พูดไม่ออก ใหญ่รีบก้มหน้าเขี่ยตับไก่ในจาน ดูเหมือนไม่อยากกิน แต่จริงๆ แล้วแอบลอบยิ้มอยู่ต่างหาก คุณพิกุลส่งสายตาให้นมอิ่มมองคนท่ามากแล้วพากันขำ

   วันนี้มื้อเช้ามีคุณพิกุลที่เดินทางมาในวันหยุดสุดสัปดาห์ ที่สำคัญ ตอนลูกชายคนเล็กโทรไปบอกเรื่องที่อัษฎานอนที่พื้นยิ่งอยากจะมาในคืนนั้น แต่ดึกเกินไปที่จะเดินทาง พอรุ่งสางก็รีบตรงมาทันที แต่พอเห็นท่าทางและอากัปกิริยาของลูกชายคนโตแบบนี้แล้ว แทบไม่อยากจะเชื่อว่าไม่ได้นอนร่วมเรียงเคียงหมอนกัน

   “แล้วคุณทัศนัยเขามีเรื่องอะไรหรือเปล่า ถึงมาที่ไร่ของเรา” พอได้ยินชื่อคนต่างถิ่นใหญ่แทบจะวางช้อนเพราะไม่อยากนึกถึง

   “เขาโทรมาคุยกับผม ว่าน้องชายเขาทำรายการทีวีแล้วสนใจอยากจะเข้ามาทำรายการในไร่เราน่ะครับ ผมว่าจะคุยกับพี่ใหญ่เรื่องนี้อยู่เหมือนกัน” เล็กหันไปมองพี่ชายที่นั่งกอดอกเอนหลังพิงพนัก “พี่ใหญ่อิ่มแล้วหรือ”

   “เออ” ท่าทางไม่สบอารมณ์เช่นเดียวกับเมื่อวาน

   “งั้นเดี๋ยวค่อยคุยกันดีกว่า กินข้าวเถอะ” คุณพิกุลเห็นอาการของลูกชายคนโตแล้วต้องรีบขัด ขืนคุยตอนนี้จะยิ่งทำให้อารมณ์เสีย แม้ไม่รู้สาเหตุก็เถอะ แต่หน้าตาบึ้งตึงก็สามารถทำให้ความอร่อยลดลงได้ และพอดูดีๆ ตับไก่ชิ้นโตหายไปจากจานเรียบร้อย

   “คุณใหญ่กินนี่สิครับ” เสียงพูดเบาๆ เรียกสายตาของหลายคนให้มอง อัษฎาตักไก่เนื้อแน่นพร้อมมะเขือเทศให้ เจ้าของจานปรายตามองนิ่งทำเป็นไม่สนใจ แต่พอของวางบนจาน มือกร้านก็หยิบช้อนและส้อมขึ้นมาแล้วตักเข้าปาก ท่ามกลางเสียงหัวเราะของคนอื่นๆ


   นี่แหละหนา คนท่ามาก




   “ใหญ่ว่ายังไงล่ะ เรื่องที่คุณทัศนัยเขาบอก” คุณพิกุลเอ่ยถามลูกชายคนโตที่ตอนนี้กลายเป็นเจ้าของไร่นี้

   “ผมว่ามันจะวุ่นวายมากกว่า คนเยอะเรื่องก็แยะ” ตอบพร้อมยกมือกอดอก “เดี๋ยวจะมีพวกมือบอลเด็ดดอกไม้เราจนเสียซะเปล่าๆ” เหตุผลที่เจ้าของไร่พูดมาก็น่าคิด แต่สำหรับคนเพิ่งมาอยู่อย่างอัษฎาชักจะไม่เห็นด้วย “นายว่าไง” ใหญ่ลองถามความคิดเห็นจากคนที่ทำหน้ามุ่ยไม่เห็นด้วยในสิ่งที่เขาพูด

   “ถามผมหรือครับ” อัษฎาเลิกคิ้วมอง แค่ให้เข้ามาฟังด้วยก็มากเกินไปซะด้วยซ้ำ เพราะไร่นี้อัษฎาแทบไม่รู้อะไรเลย รู้แค่ว่า ดอกขนาดไหนต้องไปอยู่ตะกร้าไหน

   “เออ...ใช่” คนถามรีบเปลี่ยนคำตอบเมื่อถูกแม่ถลึงตาใส่ ทั้งที่กำชับว่าให้เรียกน้อง นี่ยังเรียกนายอยู่อีก

   “ผมว่า ก็ดีนะครับ” พอได้ยินคำตอบที่ไม่ได้เป็นไปในทางเดียวกัน ใหญ่ก็แทบสำลักน้ำที่กำลังยกขึ้นดื่ม “หากเขามาถ่ายรายการที่ไร่ ผมว่าน่าจะมีประโยชน์มากเหมือนกันนะครับ อย่างเช่น ไวน์ที่คุณใหญ่บ่มเอง ทำเอง ผมว่าอร่อยมากด้วย เรานำสินค้าที่เรามีออกมาโปรโมท ผมว่า ดีมากเลยนะครับ”

   “เล็กก็เห็นด้วยกับอัดนะครับพี่ใหญ่ ได้โฆษณาไม่เสียเงินสักบาท คุ้มจะตาย”

   “ไม่ใช่แค่ไวน์จะขายได้อย่างเดียว ทั้งองุ่นสดๆ ดอกไม้ในไร่ ผมว่า ผู้คนต้องชอบมากแน่ๆ”

   “จริงๆ”

   ใหญ่มองดูน้องชายกับภรรยาคนใหม่อย่างเคืองขุ่น เข้ากันดีเป็นปี่เป็นขลุ่ย เขาเลยกลายเป็นหมาที่ไม่มีหมู่ไปซะนี่

   “แม่ว่ายังไงครับ” คนสุดท้ายที่จะออกความคิดเห็นคือแม่ที่นั่งฟังนิ่งๆ ใหญ่ลุ้นน่าดูว่าแม่จะเข้าข้างเขาหรือไปฝั่งนู้น

   “แม่ว่า...” คำตอบที่รอคอยกำลังใกล้เข้ามา ท่าทางลุ้นยิ่งกว่าลอตเตอรี่จะออกทำเอาเล็กขำ “แม่เห็นด้วยกับเล็กแล้วก็อัดนะ”

   “แม่!” กลายเป็นหมาหัวเน่าโดยสมบูรณ์

   “พอคิดๆ ดูแล้ว ไร่เราสวยออกอย่างนี้ น่าจะเปิดให้คนที่สนใจมาชื่นชมนะ อากาศก็ดี ดอกไม้ก็สวย น้ำองุ่นก็หวาน ไวน์ก็มี แล้วทำอะไรอีกน้า”

   “ร้านอาหารเล็กๆ ดีไหมครับแม่ เล็กว่า”

   “ก็ดีๆ”

   “ไม่ดี” เสียงขัดขึ้น สายตาสามคู่จ้องไปที่คนไม่เห็นด้วย ใหญ่กระแอมเล็กๆ ขายาวยกขึ้นไขว่ห้าง “ไร่ของเราจะกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันนั้นผมก็ว่าดี แต่ผลที่จะตามมาคือ ขยะ แล้วยิ่งดอกไม้ในไร่หากคนหนึ่งไปถ่าย อีกเป็นร้อยเป็นพันก็เข้าไป ดอกไม้ของเราตายหมดไร่พอดี”

   “มันก็จริง”

   “อ่าวแม่” เล็กรีบท้วงเมื่อแม่เริ่มเอนเอียงไปอีกทาง ใหญ่ยิ้มแย้มคล้ายผู้ชนะ

   “ผมว่า ถ้าจัดสัดส่วนให้ดี แล้วบอกบริเวณเข้าออกไว้ น่าจะป้องกันความเสียหายได้นะครับ หรือไม่ก็ จัดให้มีแค่เที่ยวรอบๆ ไร่ดอกไม้แล้วก็ไร่องุ่น” อัษฎาออกความคิดเห็น

   “นายจะให้คนมาถ่ายรายการนั่นให้ได้สินะ” ใหญ่อดไม่ได้ที่จะแขวะ

   “ผมแค่คิดว่าผลิตผลในไร่น่าจะกระจายได้มากกว่าที่เราออกไปหาเอง...”

   “ยุ่งไม่เข้าเรื่อง” เสียงห้วนแทรกขึ้นมาทันที คนช่วยคิดจึงหยุดพูดแล้วโค้งศีรษะขอโทษ

   “ขอโทษที่ผมก้าวก่ายมากเกินไปครับ” ทั้งน้ำเสียงและท่าทางของอัษฎาเล่นงานคนตำหนิ ใหญ่พูดไม่ออกเมื่อเห็น เลยได้แต่อึกอัก

   “ไม่ได้ก้าวก่ายเลย อัดเป็นภรรยาเจ้าของไร่ ดังนั้นไร่นี้อัดก็เป็นเจ้าของเหมือนกันนั่นแหละ ความคิดของอัดแม่ว่า ก็ดีกับไร่เช่นกัน” คุณพิกุลชักสีหน้าไม่พอใจลูกชายคนโตที่พูดไม่คิดก่อนจะเดินเข้าไปลูบศีรษะทุยสะใภ้ให้คลายความกังวล 

   “อีกหน่อยก็ใหญ่กว่าเจ้าของไร่เองนั่นแหละครับ” เล็กเอ่ยล้อเลยถูกขายาวเตะเข้าหน้าแข้งจนเบ้หน้าร้องซี๊ดด้วยความเจ็บ
 
   “เรื่องนี้ ให้ใหญ่ไปคิดดูก่อนก็แล้วกันว่าจะทำอย่างไรดี” ตัดบทเสร็จคุณพิกุลก็เดินลงไปด้านล่างเพราะนัดกับนมอิ่มจะทำขนมในวันพรุ่ง



   สามหนุ่มต่างตกอยู่ในห้วงความคิดของตัวเอง ใหญ่นั่งทำคิ้วขมวดเมื่อต้องตัดสินใจในการจะให้รายการที่เขาแทบไม่รู้อะไรเลยมายุ่มย่ามในไร่ ส่วนเล็กกำลังวางแผนจะสร้างร้านอาหารเล็กๆ แม้ท่าทางพี่ชายจะไม่อยากให้ไร่เป็นที่ท่องเที่ยว แต่หากทำได้ ร้านนี้น่าจะสร้างรายได้อย่างงาม ยิ่งเป็นอาหารพื้นบ้านด้วยแล้ว มันจะเข้ากับบรรยากาศได้ดี พอคิดแบบนี้ก็ทำให้นึกถึงภรรยาที่มีความใฝ่ฝันในการเปิดร้านอาหาร และสุดท้ายอัษฎาที่นั่งนิ่งเพราะยังรู้สึกผิดที่พูดล่วงเกินหน้าที่ไป แม้จะได้ชื่อว่าเป็นภรรยา แต่เอาเข้าจริง ชายหนุ่มก็เป็นแค่ลูกจ้างในไร่

   “เอ่อ ผมขอตัวไปทำงานก่อนนะครับ” อัษฎาที่นั่งอยู่นานคิดถึงงานขึ้นมาก็รีบขอตัว ตอนนี้โรงคัดแยกยังมีงานอีกเยอะ

   “เดี๋ยว” กำลังจะลุกแต่เสียงเรียกจากใหญ่ทำให้อัษฎานั่งลงอีกรอบ

   “คุณใหญ่มีอะไรหรือครับ” แม้จะขัดใจนิดๆ กับคำเรียก ก็แม่ของเขาบังคับให้เรียกอย่างอื่นนี่นา

   “ทำเอกสารมาด้วย” คำบอกที่ไม่เกริ่นอะไรทำเอาอัษฎาตีหน้างงพอๆ กับเล็กที่กระพริบตาปริบๆ มองพี่ชาย เมื่อเห็นสายตาสองคู่มองอย่างฉงน ใหญ่ก็ส่งเสียงจิ๊จ๊ะ “เอกสารที่จะให้พวกนั้นมาถ่ายรายการน่ะ ลงรายละเอียดด้วยว่าให้เข้าใกล้ตรงไหนได้บ้าง ตรงไหนข้ามเข้า ห้ามแตะ เอาให้ละเอียดๆ นะ” คำสั่งกลายๆ ที่ได้ยินแทบต้องขยี้รูหู ทั้งอัษฎากับเล็กหันหน้ามองกันแล้วเผลอยิ้มออกมา

   “พี่ใหญ่ให้พวกเขามาทำรายการแล้วหรือ” เล็กถามท่าทางกระตือรือร้น แต่พี่ชายไม่ตอบอะไร ทำแค่ปรายตามองคนที่เขาสั่งให้ทำเอกสารที่เอาแต่ยิ้ม

   “งั้นเดี๋ยวคืนนี้ผมจะรีบทำ...”

   “ทำตอนนี้แหละ ต่อไปนี้นายก็เข้ามาทำงานในออฟฟิต ไม่ต้องไปทำโรงงานนั่นแล้ว” ใหญ่บอกเรียบๆ ก่อนจะลุกออกจากเรือนไป สร้างความแปลกใจให้คนที่ถูกสั่ง

   เมื่อใหญ่ลงเรือนชานไปแล้ว เล็กก็หัวเราะขึ้นมา ดวงตารีมองหน้าพี่สะใภ้ที่ทำหน้าเหลอหลา ไม่น่าเชื่อว่าพี่ใหญ่จะตกหลุมรักจนถอนตัวไม่ขึ้น ที่ให้ทำงานในออฟฟิตคงไม่อยากปล่อยให้คลาดสายตา ฟอร์มจัดแบบนั้นน้องชายอย่างเขารู้ทันหรอก

   “ไปออฟฟิตเถอะ” เล็กเอ่ยชวนเมื่อเห็นอัษฎายังนั่งอยู่ที่เดิม

   “ครับ” ตอบรับพร้อมกับเดินตามหลัง “คุณเล็กว่า ตรงไหนที่ไม่ควรให้คนเข้าไปยุ่งหรือครับ” เพราะมาใหม่แถมยังเดินไม่ทั่วไร่ด้วยซ้ำ แบบนี้จะรู้ได้อย่างไรว่าตรงไหนให้เข้า ตรงไหนห้ามเข้า

   “อัดต้องไปถามพี่ใหญ่แล้วล่ะ ผมอยู่กับเอกสาร นานๆ ถึงจะลงไร่ที” ที่จริงก็พอจะรู้บ้าง แต่อยากให้พี่ใหญ่รีบรู้หัวใจตัวเองโดยเร็วมากกว่า การได้อยู่ใกล้ชิดน่าจะเพิ่มโอกาสให้พี่ชายเปิดหัวใจและยอมรับมันสักที

   เมื่อถูกปัด อัษฎาก็มุ่ยหน้า ขืนไปถามก็ถูกบ่นอีก แต่ไม่ถามก็ไม่รู้จะทำเอกสารได้ยังไง ที่แน่ๆ ต้องโทรไปบอกคุณทัศนัยหรือเปล่า

   งานในออฟฟิตไม่มีอะไรเลยที่อัษฎาต้องทำ เพราะเอกสารส่วนใหญ่เล็กจะเป็นผู้ดูแลทั้งหมด เพิ่งจะรู้ว่าเล็กจบด้านบริหารมา แต่ที่น่าตกใจกว่านั้นคือ ใหญ่ก็จบบริหารแถมได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่งซะด้วย สองพี่น้องช่างเรียนเก่งซะจริงๆ

   คนไม่มีอะไรทำก็เอาแต่นั่งคิดเนื้อหาในเอกสาร แม้จะเป็นแบบคร่าวๆ เพื่อให้เล็กจัดทำให้สมบูรณ์อีกที แต่มันก็ยากพอสมควรเมื่อไม่รู้ข้อมูล ตอนทำงานที่เก่า อัษฎาจะต้องไปรับงานจากลูกค้ามาก่อนถึงค่อยกลับมาคิดงาน แต่นี่ไม่มีอะไรเลย จู่ๆ จะให้มานั่งคิดก็คงยากเกินไป

   “เบื่อหรือครับ” เล็กที่นั่งอีกฝั่งถาม เห็นพี่สะใภ้นอนฟุบกับโต๊ะตัวเตี้ยมานานแถมยังทำหน้าบึ้งก็อดที่จะถามออกมาไม่ได้ อัษฎามองเล็กพร้อมพยักหน้าลง

   “นิดหน่อยครับ” จะว่าไป งานในโรงงานยังสนุกกว่านี้ซะอีก ได้พูดคุย บ้างก็นั่งฟังผู้หญิงคุยกันเรื่องไร้สาระบ้าง นินทาคนอื่นบ้าง แบบนั้นก็สนุกดี

   “งานในนี้ก็ไม่มีอะไรมาก อัดออกไปข้างนอกได้นะ” บอกจบก็ได้เห็นท่าทางดีใจของพี่สะใภ้ เล็กขำพรืด ก่อนส่ายหน้าเมื่ออัษฎาเดินออกไปด้วยความกระตือรือร้น อยากออกไปนานแล้วสินะ

   เล็กลองลุกไปดูกระดาษที่วางอยู่บนโต๊ะตัวเตี้ย คราแรกคิดว่าจะมีแต่กระดาษเปล่าซะอีก ที่ไหนได้มีรายละเอียดค่อนข้างเยอะแล้วด้วยซ้ำ ติดอยู่ที่สถานที่ต้องห้ามตามคำสั่ง จะว่าไปอัษฎาก็คงทำงานเก่งเหมือนกัน แบบนี้คงเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงอีกคนของไร่ได้อย่างแน่นอน สมแล้วที่ได้เป็นพี่สะใภ้ คิดว่าจะเป็นพวกไม่เอาไหนเสียอีก



   ด้านอัษฎาที่ออกจากออฟฟิตมาแล้วไม่ได้หนีไปไหน ขาเรียวก้าวเข้าไร่ดอกดาวเรืองสีเหลืองสวยที่บานสะพรั่งรอการเก็บ กลิ่นฉุนของดอกไม้ช่างต่างจากหน้าตาสะสวยซะจริง แรกๆ ก็หอมดีอยู่หรอก พอเดินมาอยู่ตรงกลางๆ กลิ่นมันฉุนจนต้องยกมือปิดจมูก

   “เอาไป” ผ้าคาดจมูกถูกยื่นมาให้ อัษฎามองผ้านั่นและค่อยๆ มองไล่ตั้งแต่มือ แขน จนไปถึงใบหน้าของคนใจดีที่ยื่นผ้าให้ แม้ใบหน้าจะไม่บึ้งตึง แต่ก็น่าตกใจอยู่ดี

   “ขอบคุณครับ” อัษฎารับผ้าคาดปากมาสวม ใหญ่มองนิดๆ ก่อนเดินผ่านไปอีกฝั่ง คนเพิ่งมาก็รีบเดินตามไปทันที “ดอกดาวเรืองพวกนี้คนเข้ามาคงปวดหัวแย่นะครับ” เสียงอู้อี้ผ่านผ้าคาดปาก ใหญ่ทำแค่เพียงพยักหน้า มือกร้านกวักเรียกคนงานให้เดินมาหา

   “ช่วงนี้หนอนลง ดูแลดีๆ หน่อยนะ” น้ำเสียงธรรมดาของใหญ่แต่อัษฎาเพิ่งเคยได้ยิน ปกติไม่ประชดก็จะตวาด พอคนงานเดินไป ใหญ่ก็หันมาสนใจคนเดินตาม “มีอะไร ทำเสร็จแล้วหรือที่ฉันสั่ง” ปากก็ถาม แต่ดวงตาคมยังมองดูดอกไม้ดอกใหญ่ตรงหน้า

   “ยังครับ” คราแรกคิดว่าต้องถูกด่า แต่กลับเงียบจนน่าแปลกใจ “คุณใหญ่...”

   “แม่บอกให้เรียกพี่ใหญ่ อยากให้ฉันถูกแม่หยิกอีกหรือไง” ไหงถูกดุเรื่องคำเรียกซะได้ “ดอกไม้แปลงนี้ไม่อนุญาตให้คนนอกเข้ามา เพราะเป็นพันธุ์ใหญ่ที่ฉันจะส่งออก” อยู่ๆ คนเดินนำก็บอก อัษฎาเตรียมกระดาษปากกามาอยู่แล้ว พอได้ข้อมูลก็รีบจดบันทึกทันที

   รายละเอียดมากมายระหว่างที่ใหญ่พาคนเดินชมไร่ดอกไม้ มีแค่แปลงดอกกุหลาบด้านหน้าเท่านั้นที่เข้าได้ เพราะแปลงด้านหลังมีพันธุ์ที่ไร่เพาะเองเป็นพันธุ์พิเศษที่มีดอกใหญ่และสีสวยกว่าท้องตลาด เมื่อเดินพ้นแปลงดอกดาวเรือง ด้วยความอึดอัดมือเรียวจึงปลดผ้าคาดจมูกออก   

   “ดอกกุหลาบสีแปลกหรือครับ” อดไม่ได้ที่จะถามเมื่อได้ยินว่ามีดอกกุหลาบสีแปลกกว่าที่อื่น หากเป็นสีน้ำเงิน สีม่วง สีดำอัษฎาก็เคยเห็นมาแล้ว มันจะมีแปลกแค่ไหนกันเชียว

   “อยากเห็นหรือเปล่าล่ะ” ไม่น่าเชื่อว่าจะได้ยิน อัษฎายิ้มทั้งปากและตาทำเอาคนชวนผงะนิดๆ ยิ้มในแบบที่ไม่ชอบอีกแล้ว เห็นทีไรใจมันคอยจะสั่นแปลกๆ ทุกที

   “อยากเห็นครับ” คนอยากเห็นไม่สังเกตคนจะพาไปสักนิด ใหญ่รีบเดินนำหน้าไปทันที ใบหูขึ้นสีแดงจนสังเกตเห็นได้

   แปลงดอกกุหลาบด้านหลังมีรั้วลวดหนามกั้นไว้ มีประตูเปิดเข้าไป ความตระการตาของดอกกุหลาบดอกใหญ่ที่เรียงรายสวยงาม สีสันแปลกตาสมกับที่ถูกคุยเอาไว้ ดอกกุหลาบสี่สี บางดอกมีห้าสี น่าแปลกแต่ก็ต้องยอมรับว่าสวยมาก

   “คุณใหญ่...เอ่อ พี่ใหญ่เพาะเองหรือครับ” รู้สึกขัดเขินและไม่ชินปาก อัษฎายังคงจ้องดอกกุหลาบห้าสีอย่างทึ่ง เคยเห็นสามสีแต่ห้าสีแบบนี้ไม่เคยเห็น ชั้นล่างเป็นสีแดงสดสลับกับสีเลือดนก ด้านบนเป็นสีชมพูสลับสีเหลืองแซมขาว ดูสวยแปลกตา “เหมือนดอกกระดาษเลย”

   “อยู่ในช่วงทดลองสายพันธุ์อยู่ เพราะสียังไม่นิ่ง” ใหญ่ว่า ดวงตาคมจ้องมองดอกกุหลาบอย่างภูมิใจ เพราะกว่าจะได้ก็ต้องแลกกับเวลานอนไปมาก ยังดีที่มีเพื่อนที่เก่งด้านนี้มาแนะนำ ทำให้ผลผลิตเป็นไปอย่างที่หวัง

   “แค่นี้ก็สุดยอดแล้วครับ” อัษฎายกนิ้วโป้งสองข้างให้คนเพาะ แม้จะทำนิ่งแต่ก็แอบยืดนิดๆ

   “อยากได้หรือเปล่า” อยู่ๆ ก็ถูกถามขึ้นมา คนที่ชื่นชมความสวยหันไปมองอีกทีด้วยความแปลกใจ นี่หูฝาดไปเองหรือเปล่า และคนถามไม่รอฟังคำตอบ ใหญ่เดินไปด้านหลัง มือกร้านหยิบกรรไกรตัดดอกไม้มาหาแล้วให้คนชื่นชมเลือก

   “ให้ผมจริงๆ หรือครับ” ดีใจปนความแปลกใจ แต่พอใหญ่พยักหน้ายืนยัน อัษฎาก็เดินไปชี้ดอกไม้สามสีอีกฝั่ง แม้จะดูไม่น่าทึ่งเท่าห้าสี แต่ดูจะถูกกว่าหากเทียบกัน “เอาดอกนี้ครับ”

   ดอกนี้ของอัษฎาคือสีแดงชมพูและขาว เป็นสีที่เห็นได้หลายที่บนแหล่งท่องเที่ยวบนดอยสูงที่มีแหล่งเพาะพันธุ์ ใหญ่ตัดฉับให้คนที่ทำตาใสรออย่างตื่นเต้นจนอดจะขำไม่ได้

   “อยากได้ขนาดนั้น” เสียงพูดเจือขบขันทำให้คนอยากได้เบ้ปากนิดๆ ก่อนมือหนาจะยื่นดอกกุหลาบให้

   เข็มนาฬิกาคล้ายหยุดหมุน อยู่ๆ ลมอ่อนพัดมาดังละครน้ำเน่าที่เคยเห็น อัษฎามองดอกกุหลาบในมือคนตรงหน้าด้วยใจสั่นไหว แม้จะรู้จักไม่นานและยังทำเหมือนไม่ชอบหน้าตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ แต่ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าได้ตกหลุมรักคนตรงหน้าไปแล้วอย่างเต็มเปา แม้จะว่าใจง่ายก็เถอะ

   อัษฎายื่นมือไปรับและไม่ทันมองเมื่อมือที่ยื่นไปสัมผัสมือของใหญ่ ร่างผอมก็รีบดึงมือกลับจนดอกกุหลาบเกือบร่วง คนใจดีให้ดอกกุหลาบส่งสายตาดุมาให้ คนชักมือกลับได้แต่โค้งศีรษะขอโทษพร้อมยื่นมือไปรับอีกครั้ง

   “สวย” พอถือไว้ อัษฎาก็ลองยกดอกกุหลาบสีสวยขึ้นดอมดมกลิ่นหอมซึ่งฟุ้งกว่าที่เคยได้เจอ “หอมด้วย”

   หากดอกกุหลาบห้าสีว่าสวยแล้ว คนตรงหน้าที่ถือดอกกุหลาบสามสีด้วยยิ่งกว่า แสงแดดที่ส่องเข้ามาคล้ายกับถูกปรับให้เข้ากับใบหน้าเนียนให้ดูผ่องใสจนมิอาจละสายตา ยิ่งรอยยิ้มหวานนั่นยิ่งไม่อยากกระพริบตาเมื่อกลัวจะหายไป

   ภาพดังภาพวาดตรงหน้าสะดุดลงเมื่อคนงานตะโกนเรียกเจ้านาย ใหญ่ฮึดฮัดแต่ก็ต้องเดินออกไปโดยมีอัษฎาเดินตามเช่นเดิม จุดตรงที่เรียกเป็นแปลงดอกไม้ด้านนอก พอไปดูแล้วก็ได้เห็นถึงปัญหา

   “เอายามาพ่นด้วย ปล่อยให้มันกินไปขนาดนี้ได้ยังไงกัน ดูแลกันดีหรือเปล่า” เสียงตวาดดังลั่นทำเอาคนงานที่เรียกต้องก้มหน้ายอมรับความผิด อัษฎาเห็นก็สงสาร หนอนที่เห็นจะห้ามมันกินได้ยังไง ก็ผีเสื้อในไร่นี้เยอะจะตาย “หนอน” คนโมโหตวัดสายตามาปะทะกับหน้าคนเดินตาม ที่สะดุดตาจนต้องขมวดคิ้วคือตรงไหล่มีหนอนสีเขียวไต่อยู่ และที่บอกไปไม่รู้จะกลัวจนร้องไห้หรือเปล่า

   อัษฎามองตามนิ้วที่ชี้มาที่ไหล่ ดวงตากลมมองหนอนตัวเขียวค่อยๆ ไต่ตามไหลลาด รอยยิ้มเล็กๆ จุดขึ้นพร้อมกับเอามือมาจับมันออก ภาพเช่นนั้นสร้างความแปลกใจให้คนเห็น คนกรุงไม่กลัวหนอนหรือไง

   “ไม่กลัว?” น้ำเสียงตวาดเมื่อครู่กลับมาเป็นปกติ

   “น่ารักออกครับ ตัวเขียวๆ ดิ้นดุ๊กดิ๊ก” อัษฎาเอาหนอนตัวโตมาวางบนฝ่ามือ ตัวนุ่มๆ ช่างน่าบีบเล่น แต่หากบีบแรงไปก็กลัวมันจะตาย “เอาไปไว้ที่ไหน...คุณใหญ่” กำลังจะหาที่วาง แต่เจ้าของไร่หน้าดุกลับยื่นมือมาหยิบแล้วปาลงพื้น ไม่พอแค่นั้นยังใช้เท้าบี้จนแบนติดพื้นดิน

   “เอาวางไว้แถวนี้มันก็ขึ้นไปกินดอกไม้อีก” สิ่งที่ได้ยินดูจะไม่เข้าหูคนไม่กลัวหนอนสักเท่าไหร่ เพราะใบหน้าหวานบึ้งตึงก่อนจะเดินหนี

   คนไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิดรีบเดินตาม มือหนายกขึ้นเกาท้ายทอยอย่างสงสัยในความผิด แค่ฆ่าหนอนก็ผิดร้ายแรงงั้นหรือ ใหญ่เร่งฝีเท้าตามคนตรงหน้า พออยู่ในระยะที่คว้าได้ แขนยาวก็ยืดไปดึงข้อศอก คนหน้าบึ้งหันมามองค้อนนิดๆ

   “โกรธอะไร” ใหญ่เอ่ยถาม

   “ฆ่าหนอน” คนโมโหตอบแบบมะนาวไม่มีน้ำ คนถูกงอนถึงกับขำพรืดออกมาก่อนจะเพิ่มเสียงกลายเป็นหัวเราะลั่น “ไม่ตลกเลยนะ”

   “อย่าโลกสวยหน่อยเลยน่า” ใหญ่ยื่นมือไปยีหัวคนตรงหน้า สายตาอ่อยโยนอย่างไม่เคยได้เห็นทำให้ลืมความโกรธไปซะหมด อัษฎาเผลอหน้าร้อนจนแก้มแดงเป็นลูกตำลึง ยิ่งมีฝ่ามือลูบศีรษะอยู่ยิ่งทำให้รู้สึกว่าคนตรงหน้าช่างอ่อนโยนและนุ่มนวล

   “พี่ใหญ่” เสียงหวานเอ่ยเรียกคนตรงหน้าที่ยังคงมีรอยยิ้ม “ตัวบุ้ง” นิ้วเรียวชี้ไปที่คอเสื้อ ใหญ่เอี้ยวคอมองดูเห็นตัวบุ้งมีขนแหลมไต่ที่คอเสื้อ ร่างกำยำรีบกระโดด มือก็คอยปัดให้มันร่วง คนบอกอยากจะขำแต่ก็ต้องกลั้นไว้ เพราะหนอนเมื่อกี้กับตัวบุ้งมันต่างกัน “มันคงมาเอาคืนที่พี่ฆ่าเพื่อนมันแน่ๆ”

   สุดท้ายก็อดไม่ได้ที่จะขำ แต่ก็ต้องรีบพาคนถูกตัวบุ้งไปล้างออกก่อนจะเกิดอาการแพ้ ไม่รู้ว่าใหญ่จะแพ้ขนมันหรือเปล่า หากเป็นเช่นนั้นอาการอาจจะหนักจนถึงขั้นนอนโรงพยาบาลได้

   “เชี่ยเอ้ย” คนเริ่มมีอาการคันสบถคำหยาบออกมา มือก็คอยเกาคอตัวเองจนแดงเป็นปื้น

   “อย่าเกาสิพี่ใหญ่ เดี๋ยวมันก็ลามไปทั่วตัวหรอก” บอกขณะเอาน้ำล้างคอคนมีอาการคัน “แดงไปหมดเลย”

   “แสบด้วย” ใหญ่บอก มือพยายามจะยกเกาแต่ถูกมือเล็กปัดลงทุกที “เมียหรือแม่วะ” อดไม่ได้ที่จะบ่น ก็คนมันคันไม่ให้เกาแล้วจะให้ทำยังไงเล่า

   อาการแสบๆ คันๆ คงจะเป็นต่อไปอีกหลายวัน แม้จะทายาและกินยาแก้แพ้แล้วก็เถอะ ยังโชคดีที่คนโดนไม่มีอาการแพ้รุนแรง ใหญ่เหล่ตามองคนสั่งห้ามเกาหลายครั้ง หากเผลอเมื่อไหร่ก็จะรีบเกาทันที ในใจก็ได้แต่คิดแค้นตัวบุ้ง คอยดูเถอะ เจอที่ไหนพ่อจะเผาให้เรียบ

   “พี่ใหญ่ ผมบอกว่าอย่าเกา” เสียงแหลมตะโกนมาพร้อมปรี่เข้ามาหา

   “ก็มันคันๆๆ เข้าใจหรือเปล่า คันโว้ย” โวยวายพร้อมหน้างอ คนห้ามได้แต่ขำหนัก บางทีเจ้าของไร่นี้ก็ตลกเหมือนกัน แถมยังน่ารักซะด้วย เอ่อ ในบางมุมน่ะนะ

....TBC

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ Coffeeblack

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
โอ้ย น่าร๊ากกก ขำคนท่ามาก ท่าเยอะ 555

ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
กำลังไปได้สวยยยย

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
คุณใหญ่ หวงเมียและ
ทั้งที่เป็นเมียในนามนะเนี่ย
อัด เริ่มรักพี่ใหญ่แล้ว
คุณเล็ก จะเจอแคท เมื่อไหร่นะ
คิดถึงขนาดจะทำร้านอาหารให้
       :L1: :L1: :L1:
:pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
แหมะ คุณใหญ่จะเก็กไปไหนคะ 5555555

ออฟไลน์ Asmknrt

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 24
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ต่ออีกๆๆ  :hao6:อ่านแล้วเขิลลหนักมากกก :-[

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
พี่ใหญ่ท่ามากเหลือเกิน :hao3:

ออฟไลน์ PIMJOO

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 68
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ Pakeleiei

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 862
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9
 :laugh: ตอนนี้คุณใหญ่จี่มาก วางท่าไม่ออกเลย

ออฟไลน์ Peung002

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 870
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
แอบเขินพี่ใหญ่กะน้องอัท
ว่าแต่คุณเล็กก็เป็นคนตลกดีนะคะ กลัวพี่หงอเชียว 555  :hao3:

ออฟไลน์ rainiefonnie

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-2
น่ารักกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก :กอด1: :กอด1: :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
5555 คันโว้ยยยย ทาคาลามายด์ให้หน่อย

ออฟไลน์ mkianit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 301
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-3
น่าร้ากกกกก แอบเขินตอนเขาอยู่ด้วยกัน55555

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6
ต้องมีตัวกระตุ้นนะ ไม่งั้นก็จะฟอร์มจัด  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ leemmm

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-6
คุณใหญ่ทาเยอะจะเก๊กไปไหน เดี๋ยวจะเชียรืและสนับสนุนคุณทัศนัยแย่งอัดไปเลย รายนี้ชอบอัดอยู่แล้ว จะเอาให้ต่อมเก๊กหระเจิงไปเลย หมั่นไส้ลุง :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ aiaea83

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 676
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +494/-5
10



        ขวางหูขวางตาจริงๆ ตอนนี้คนที่เดินยุบยับเต็มบ้านทำให้เจ้าของไร่ขมวดคิ้วไม่ค่อยจะพอใจเท่าไหร่ นี่ขนาดเข้ามาสำรวจคนยังเยอะขนาดนี้ ไม่รู้น้องชายประสานงานยังไงบอกมาได้ว่าทีมงานมาแค่สามคน แล้วที่ยืนสลอนนี่ไม่ใช่คนหรือไง

   “พี่ใหญ่ทำหน้าดีๆ หน่อยสิครับ” เล็กสะกิดพี่ชายตัวเองที่นั่งหน้าบูดไม่รับแขก จนไม่มีทีมงานกล้าเข้าใกล้สักคน

   “ไหนแกบอกมีไม่กี่คนไง” อดไม่ได้ที่จะบ่น น้องชายรีบหัวเราะกลบเกลื่อน

   “ก็ไม่กี่คนไง” เอาจริงๆ เล็กก็ตกใจอยู่เหมือนกันที่คนมาเยอะกว่าที่ได้คุยเอาไว้ แต่จะให้ไล่ไปก็ดูไม่ดีต่อภาพลักษณ์ “แล้วอัดล่ะ พี่ใหญ่ไม่เห็นหรือ” ตั้งแต่เช้าแล้วที่พี่สะใภ้หายไป และพี่ชายดูไม่เป็นห่วงอย่างที่ควรจะเป็น

   “อยู่ในไร่” ใหญ่ว่า ตั้งแต่เช้ามืดที่บอกให้อัษฎาลงไปอยู่ในไร่ เพราะวันนี้จะมีคนไม่ชอบขี้หน้ามา ดังนั้นเพื่อเป็นการดีต่ออารมณ์ควรจะให้ตัวแปรไปอยู่ที่อื่น ใบหน้ายิ้มแย้มแลดูจะมีแผนการ แต่เล็กก็ปล่อยผ่านแล้วเดินเข้าไปหากลุ่มคนที่มาดูสถานที่ก่อนถ่ายทำจริง

   ใหญ่ยังนั่งนิ่งมองดูทีมงานยกกล้องถ่ายรูปขึ้นถ่ายนั่นนี่ ขนาดตุ๊กตาปั้นรูปกบยังลงไปนั่งถ่าย อะไรจะขนาดนั้นแม่คุณ

   “คุณอัดล่ะครับ” สายตารีบเบนมาหาคนที่ยืนค้ำศีรษะ ทัศนัยยืนยิ้มจนเหงือกแทบแห้งแต่ไม่ได้รอยยิ้มตอบกลับ มีเสียงสายตาที่มองแบบไม่ชอบใจ “เอ่อ...”

   “พอดีอัดเขาทำงานอยู่น่ะครับ” เล็กรีบวิ่งเข้ามายืนขวางระหว่างพี่ชายกับเจ้าของร้านอาหารที่เป็นลูกค้าของไร่ ด้วยความกลัวว่าพี่ชายจะอาละวาดแบบไร้เหตุผลขึ้นมา

   “อ๋า ถึงว่าไม่เห็น” เมื่อคนถามหาอัษฎาเดินไป เล็กรู้สึกถึงรังสีบางอย่างที่พุ่งมาจากด้านหลัง ร่างสมส่วนค่อยๆ เอี้ยวตัวไปมอง ทันทีจะสบกับดวงตาดุของพี่ชาย คนเป็นน้องก็แทบอยากยกมือไหว้ ความโหดพุ่งออกมาจนน่ากลัว

   “ขอโทษค่ะ” เสียงใสร้องเรียกขัดการต่อว่าทางสายตาจบลง เล็กรีบหันไปยิ้มตามสไตล์ สาวเจ้าดูจะเขินนิดๆ ซะด้วยซ้ำ “คือที่นี่มีไร่องุ่นด้วยใช่ไหมคะ หากจะไปดูสักหน่อยจะได้หรือเปล่า” คำขออนุญาตจากทีมงาน คนที่ตัดสินคือเจ้าของไร่ เล็กหันไปมองพี่ชายอย่างถามความเห็น ใหญ่ทำนิ่งก่อนลุกขึ้นยืนเต็มความสูง

   “ผมจะพาไปชมเอง” เจ้าของไร่บอกเสียงเข้ม พอได้ยินว่าจะได้ชมไร่ ทีมงานทุกคนดูจะตื่นเต้นจนอดไม่ได้ที่จะร้องวี๊ดว๊าย ใหญ่ขมวดคิ้วไม่ชอบใจสักเท่าไหร่ แต่ที่ต้องพาชมเองก็เพราะคนพวกนี้จะได้กลับไวๆ อีกอย่างจะได้พาห่างจากจุดที่สั่งให้อัษฎาไปทำด้วย ขืนให้เล็กพาไป มีหวังได้เจอกันแน่ๆ 

   ทีมงานจากเมืองกรุงพากันถ่ายภาพไร่ดอกไม้แสนสวย ยังดีที่เอกสารที่ส่งให้ก่อนหน้าระบุอย่างชัดเจนถึงการเข้าไร่เพื่อสัมผัสดอกไม้ แม้เหล่าทีมงานจะแอบเสียดายที่เข้าไปใกล้ชิดแนบสนิทไม่ได้ แต่แค่ได้ชื่นชมความงามแบบนี้ก็ต่างกันชื่นชอบ

   “เสียดายที่เข้าไปใกล้ๆ ไม่ได้” หนึ่งในทีมงานพูดออกมา ซึ่งกลุ่มคนที่มาด้วยต่างพากันพยักหน้าเห็นด้วย บ้างก็ใช้สายตาอ้อนมองเจ้าของไร่เผื่อจะใจดียอมให้ได้สัมผัสสักครั้ง

   ใหญ่ยิ้มตามฉบับของตนเรียกเสียงชอบจากสาวๆ ได้เป็นอย่างดี จะว่าไปเจ้าของไร่ทั้งสองหน้าตาหล่อเหลา หากแต่อยู่ในไร่สาวๆ ข้างนอกจึงไม่ได้เห็น

   “คุณใหญ่ขา พวกเราขอเข้าไปดูใกล้ๆ สักหน่อยได้หรือเปล่าคะ พวกเราสัญญาว่าจะไม่แตะต้องดอกไม้เลย” หัวหน้าทีมงานทนสายตาทีมงานไม่ไหวเลยต้องออกหน้าร้องขอแทน ใหญ่ขมวดคิ้วนิดๆ ก่อนจะพยักหน้าตกลง

   “ก็ได้ครับ แต่คงให้เฉพาะแปลงด้านหน้านะครับ” คราแรกลังเลอยู่นาน แม้จะมีสายตานับสิบคู่ส่งมาอย่างเว้าวอน สุดท้ายก็ทนไม่ไหวต้องอนุญาตไป “แต่ผมขออย่างหนึ่งนะครับ ขออย่าจับดอกไม้เพราะดอกจะเฉาได้” คนดูแลทุกขั้นตอนย่อมห่วงหวงเป็นธรรมดา

   เมื่อได้รับการยืนยัน ใหญ่ได้เดินนำเหล่าทีมงานลงไปในไร่ ทุกคนต่างก็เตรียมกล้องถ่ายรูปไว้ในมือ ขนาดเห็นไกลๆ ยังสวยขนาดนี้ แปลงสองฝั่งมีดอกดาวเรืองกับดอกกุหลาบ แม้จะปลูกไม่ห่างกันมาก แต่ก็มีแนวกั้นอยู่

   ทัศนัยที่เดินมาด้วยอดที่จะทึ่งกับไร่ไม่ได้ ด้านบนว่าสวยแล้ว ด้านล่างสวยยิ่งกว่า ดอกดาวเรืองดูสวยงามกว่าที่เคยเห็นในท้องตลาด สีเหลืองทองอร่ามสดสวยซะจนอดที่จะถ่ายภาพเก็บไว้ไม่ได้ ขนาดเขาทำร้านอาหารมา สั่งดอกไม้จากร้านมากมาย แม้ดอกดาวเรืองจะไม่ได้อยู่ในส่วนที่ต้องการ แต่ก็ว่าไม่ได้หากจะนำไปตกแต่งเมื่อเห็นความงามเช่นนี้

   กลุ่มคนกลุ่มใหญ่เดินผ่านด้านหน้าของแปลงดอกดาวเรือง คนงานที่เดินผ่านไปมาต่างก็โค้งศีรษะให้นายใหญ่ คนไม่เคยเห็นต่างก็อดที่จะปลื้มไม่ได้ อย่างกับละครที่เคยได้ดู ระหว่างที่ทุกคนสนใจความงามตรงหน้า ใหญ่ที่ตัวสูงเห็นศีรษะคนที่เขาสั่งในอยู่แต่ในไร่เดินออกมา ดวงตาคมรีบหันไปมองเจ้าของร้านอาหารที่เดินปะปนกับกลุ่มคนเมืองกรุง ไม่รู้จะเดินออกมาทำไม
 
   อุตส่าห์พามาไร่ดอกดาวเรืองแท้ ยังเดินออกมาเจออีกจนได้ อัษฎาเดินออกมาเรียกสายตาจากคนกลุ่มใหญ่ที่มองอย่างสังเกต คนงานคนนี้ดูขาวเหมือนไม่เคยเจอแดด แถมยังหน้าตาน่ารักอีก ทัศนัยที่หันมาเจอก็รีบปรี่เข้ามาหา ชายหนุ่มไม่สนสายตาจ้องราวจะกัดของเจ้าของใหญ่ เมื่อเดินผ่านหน้าไปถึงทัศนัยก็รีบช่วยคนที่มองหามาตั้งแต่เช้าถืออุปกรณ์ตัดแต่งกิ่งอย่างกรรไกร แม้ไม่ได้หนักอะไรแต่อย่างน้อยก็ได้ใกล้ชิด

   “คุณใหญ่บอกคุณมาทำงานตั้งแต่เช้า คิดว่าจะไม่ได้เจอกันเสียแล้ว” อัษฎายิ้มนิดๆ ให้กับประโยคที่ได้ฟัง อาจเพราะไม่ได้คิดว่าจะมีอะไรแอบแฝงอยู่ในประโยคเหล่านั้นเลยไม่ได้คิดอะไรมาก ต่างจากเจ้าของไร่ที่ยืนกอดอกจ้องไม่วางตา “แล้วนี่คุณอัดทำงานเสร็จแล้วหรือครับ”

   “ครับ” ตอบสั้นๆ ก่อนจะเดินมายืนข้างคนหน้าบึ้งที่คล้ายกับสะกิดจิตทางสายตาให้มายืนข้างๆ “คุณใหญ่มานานแล้วหรือครับ” กระซิบถามเบาๆ

   “ออกมาทำไม งานที่ฉันสั่งเสร็จแล้วหรือไง” ไม่มีคำตอบ แต่กลายเป็นถามกลับซะอย่างนั้น อัษฎากระพริบตามองคนถาม

   “ลุงเหมือนบอกไม่มีอะไรแล้วผมเลยออกมานี่ไง” หัวหน้าคนงานเก่าแก่ที่คราแรกสงสัยว่าทำไมเจ้านายถึงให้อัษฎามาช่วยตัดดอกไม้ อันที่จริงคนงานที่มีก็มากพอจนเหลือด้วยซ้ำ เมื่ออัษฎาลงไปช่วยเลยกลายเป็นว่า ต้องยืนเฉยๆ มอง

   “จะออกมาทำไมตอนนี้นะ” ใหญ่พึมพำกับตัวเอง แม้เสียงจะเบาแต่คนที่ยืนชิดใกล้อย่างอัษฎาก็ต้องได้ยิน ใบหน้าขาวหันไปมอง ดวงตากลมโตมองอย่างสงสัยแต่ก็มิได้ถามอะไรออกไป “ไปช่วยพวกที่โรงงานคัดดอกไม้ไป” เพราะไม่อยากให้อยู่เป็นอาหารตาของคนไม่ชอบขี้หน้า หากไปอยู่ในนั้นอีกนานคงจะได้ออกมา พอถึงเวลานั้น กลุ่มพวกนี้คงกลับไปแล้ว

   “แต่คุณใหญ่บอกไม่ให้ผมไปทำที่นั่น” คำสั่งนี้เพิ่งได้ยินมาไม่กี่วัน คิ้วเรียงสวยขมวดเป็นปม

   “เออ แค่วันนี้นั่นแหละ ดอกไม้มันเยอะไง ถามมากจริง” คนสั่งเริ่มโมโหนิดๆ จะซักไซ้อะไรนักหนา ขนาดมายืนข้างๆ แบบนี้ ทัศนัยยังมองมาเป็นระยะ “รีบๆ ไปเลย”

   ขณะอัษฎากำลังจะก้าวเดิน เสียงร้องทักทำให้ต้องหยุดแล้วหันไปมอง หญิงสาวร่างผอมที่ดูจะตกใจปนดีใจ น้ำเสียงแหลมตะโกนเรียกชื่ออย่างสนิทสนมพร้อมเดินเข้ามาหา ใหญ่เหล่ตามองทั้งคู่สลับกันไปมาอย่างอยากรู้

   “อัดใช่ไหม...ใช่จริงๆ ด้วย” หญิงสาวฉีกยิ้ม มือเล็กยื่นมาจับแขนขาว

   “แอนเหรอ ไม่ได้เจอตั้งนาน สบายดีใช่ไหม” อัษฎายิ้มร่าเมื่อเจอเพื่อนเก่า จะมีก็แต่คนขี้หวงไม่รู้ตัวที่ไม่ชอบรอยยิ้มนั่น เพราะมันถูกยิ้มให้คนอื่น

   “สบายดี อัดล่ะ ทำไมมาอยู่ที่นี่” เพราะไม่ได้พบกันเสียนาน อัษฎาจึงลืมคำสั่งเมื่อกี้ไปซะสนิท ร่างผอมเดินนำเพื่อนสาวไปอีกทางเพื่อไปหาที่นั่งสนทนา

   ใหญ่ยืดคอมองตามแผ่นหลังนั้นไป อุตส่าห์กันทัศนัยได้ ยังมีคนรู้จักเพิ่มมาอีกคนหรือนี่ หวังว่าคงไม่ใช่แฟนเก่าที่เคยได้ยินจากแม่มาหรอกนะ แต่เอ...ไม่น่าใช่ แฟนเก่าของอัษฎาเป็นผู้ชาย พอคิดเช่นนั้นใหญ่ก็ถอนหายใจออกมา แต่ไม่พ้นสายตาของคนที่เอนไปทางชอบอัษฎา

   “คุณใหญ่ถอนหายใจทำไมหรือครับ” หากเป็นคนอื่นถามคงจะตอบแบบสุภาพ แต่นี่แค่เห็นหน้าก็รู้สึกเกลียดจนไม่อยากมอง ใหญ่ปรายตานิดๆ ก่อนจะยิ้มให้แล้วเดินนำกลุ่มทีมงานไปต่อ ทัศนัยมองตามเจ้าของไร่อย่างงงๆ นี่เขาไปทำอะไรให้เจ้าของไร่โกรธหรือเกลียดหรือเปล่า

   การเดินชมภายในไร่แม้จะใช้เวลานานแถมยังเหนื่อยจนขาแทบลากแต่ก็รู้สึกสนุก ใหญ่พาทีมงานทุกคนกลับมาที่เรือน นมอิ่มพาสาวใช้เตรียมน้ำองุ่นที่ทำเองออกมาให้ดื่มคลายร้อน อีกทั้งยังมีน้ำสมุนไพรต่างๆ เพื่อให้ได้ลองชิม บางคนถึงกับดื่มทุกแก้วอย่าเช่นทัศนัย จนชายหนุ่มออกปากชมว่าอร่อยทุกอย่าง

   “ไวน์ว่าอร่อยแล้ว น้ำองุ่นกับน้ำสมุนไพรก็อร่อยไม่แพ้กันเลยนะครับ” เจ้าของร้านอาหารรู้สึกทึ่งกับไร่นี้มาก ขนาดน้ำดื่มพวกนี้ยังน่าทึ่งจนอดที่จะชมไม่ได้

   “ขอบคุณสำหรับคำชมค่ะ” นมอิ่มยิ้มแย้มเมื่อมีคนชม “ทุกคนที่ตั้งใจทำต้องดีใจมากแน่”

   “พอมีสูตรไหมครับ น้ำสมุนไพรรสชาติดีจริงๆ”

   “ไม่มีหรอกค่ะ” คำตอบนั้นทำเอาคนอยากได้สูตรเสียดาย หากนำไปเสิร์ฟในลูกค้าที่ร้านละก็ ทุกคนจะต้องติดใจอย่างเขาและทีมงานทุกคน

   ใหญ่ที่ยืนอยู่มุมบันได ดวงตาคมมองออกไปด้านนอก เมื่อไม่เห็นคนอู้งานที่หายไปนานสองนาน อาการหงุดหงิดนั่น นมอิ่มที่รู้สาเหตุได้เดินนำน้ำเก๊กฮวยไปให้

   “ทานสักหน่อยค่ะคุณใหญ่ อารมณ์จะได้เย็นขึ้น” พอได้ยินใหญ่ก็รีบยิ้มนิดๆ มือกร้านรับแก้วน้ำขึ้นจิบ “เอ ตาอัดหายไปไหน ทำไมไม่มาช่วยคุณใหญ่ดูแลแขก” พูดไปดวงตาก็มองเจ้าของไร่ไป จนคนที่ตามหาเดินมาพร้อมหญิงสาว นมอิ่มรู้ได้ทันทีว่าทำไมเจ้านายของเธอถึงอารมณ์บูดนัก

   “อ่าวแม่ คุณใหญ่” อัษฎาเดินยิ้มร่ามาถึงหน้าเรือน พอปะทะสายตาดุรอยยิ้มก็ค่อยๆ จางหาย “นี่แอน เพื่อนผมครับ นี่แม่เราเอง” อัษฎาแนะนำเพื่อนให้รู้จัก มันคงจะเรียบร้อยหากใหญ่ไม่กระแอมออกมา นั่นเพราะเขาไม่ถูกแนะนำด้วย คนเจอเพื่อนลังเลอยู่ชั่วครู่ก่อนจะหันไปยิ้มให้เพื่อน “นี่คุณใหญ่ แฟนเราเอง”

   เพื่อนสาวได้ยินก็เบิกตาโตมอง แม้จะรู้ว่าเพื่อนชายเลิกรากับแฟนไปแล้ว แต่ไม่คิดว่าจะมีแฟนใหม่รวดเร็วเพียงนี้ ครั้งล่าสุดเธอเพิ่งจะด่าแฟนเก่าของอัษฎามาหยกๆ

   “โห เพื่อนได้ดีขนาดนี้เชียวหรือ” แอนเอ่ยแซว ดวงตาเรียวมองแฟนใหม่ของเพื่อนอย่างทึ่ง ครั้งแรกที่เจอเธอรู้สึกชอบเจ้าของไร่นี้ด้วยซ้ำ ยังคิดอิจฉาคนโชคดีที่ได้แฟนหล่อเหลาเช่นนี้

   “ไม่หรอกน่า” ตอบเพื่อนสาวด้วยความขวยเขิน และดูคนหน้าบึ้งจะยิ้มออกมาบ้างแล้ว “ไปเถอะ คุณเล็กรออธิบายนั่นแล้ว”
 
   อัษฎาพาเพื่อนสาวเดินมารวมกลุ่มกับทีมงานที่ตอนนี้ผู้ประสานงานอย่างเล็กกำลังแจกแจงรายละเอียดต่างๆ ให้ฟัง ซึ่งรายละเอียดส่วนใหญ่ก็มาจากเขาทั้งสิ้น อาจมีบางส่วนที่เล็กเปลี่ยนแปลงไปให้เหมาะสมยิ่งกว่า

   “นี่” แรงสะกิดจากด้านหลังทำให้คนที่ตั้งใจฟังหันไปมอง อัษฎามองแก้วน้ำในมือของใหญ่ที่ยื่นมาให้ เพราะหิวน้ำด้วยคนรับเลยไม่คิดอะไร มือขาวยื่นไปรับแล้วยกขึ้นดื่มจนหมด “ฉันกินเหลือ” รอยยิ้มกับน้ำเสียงกวนโมโหทำให้คนที่ดื่มน้ำเก๊กฮวยรวดเดียวสำลัก ดวงตากลมมองค้อน แต่อีกคนกลับหัวเราะร่า

   “สนุกมากหรือเปล่าคุณใหญ่” อัษฎากัดฟันถาม คนถูกถามพยักหน้าจนน่าหมั่นไส้

   ตลอดเวลาของการฟังรายละเอียด อัษฎามักถูกคนตัวโตแหย่เสมอ บางครั้งก็แทบอยากตวาดออกไป แต่กลัวทีมงานต่างจากเมืองกรุงจะตกใจ เลยได้แต่กัดฟันทำเป็นเฉย และนั่นยิ่งทำให้คนชอบแหย่ยิ่งชอบใจ

   “ที่นี่มีลานกว้างสำหรับกางเต็นท์ด้วยนะครับ หากพวกคุณชอบ” เล็กพูดไปสายตาก็เหล่มองพี่ชายกับพี่สะใภ้แหย่กันไปมา อยากจะตะโกนว่าไปหลายครั้งเพราะทำให้เสียสมาธิ “ถ้าสนใจช่วยแจ้งให้ทราบล่วงหน้านะครับ ทางเราจะได้จัดเตรียมสถานที่และอาหารไว้รอ”

   “ดีเลย เราชอบแบบนั้น” ทีมงานทุกคนพากันเห็นชอบ คงจะมีหนึ่งคนที่ไม่ใช่ทีมงาน เป็นเพียงแค่ผู้แนะนำที่อดจะเสียดายไม่ได้

   มื้อเที่ยงที่ทุกคนรอคอย วันนี้แม่ครัวได้ทำกับข้าวพื้นเมืองไว้รอ อาหารทุกอย่างอร่อยมาก บางอย่างก็อร่อยกว่าร้านอาหารในตัวเมือง โดยเฉพาะต้มยำไก่บ้านที่ทุกคนชอบใจขอตักเพิ่มหลายครั้ง

   เจ้าของไร่ทั้งสองอยู่ร่วมรับประทานอาหารด้วย แต่ดูจะกินน้อยเมื่อเทียบกับทุกคน ใหญ่เขี่ยข้าวไปมาเพราะไม่ชอบความวุ่นวาย บนโต๊ะอาหารทีมงานแย่งชิงหมู ไก่กันอย่างสนุก แต่กับคนนั่งมุมโต๊ะกลับไม่ชอบ

   “คุณใหญ่อิ่มแล้วหรือครับ” อัษฎาที่นั่งข้างๆ เอ่ยถามเมื่อเห็นใหญ่แทบไม่แตะต้องอะไรเลย ต่างจากเขาที่มีทัศนัยคอยตักนั่นตักนี่มาให้จนพูนจาน

   “อืม” เสียงนิ่งๆ ตอบกลับ ดองตาคมจ้องจานข้าวที่มีกับจนล้น

   “นี่ครับ” ดูก็รู้ว่าไม่อิ่ม อัษฎาใช้ช้อนกลางควานหาตับไก่จนเจอ ยังดีที่ชามนี้ไม่มีคนมาตัก อาจเพราะเกรงเจ้าของไร่ที่นั่งหน้าบึ้งก็เป็นไปได้ “ทานน้อยจะปวดท้องนะครับ”

   การเอาใจใส่ของอัษฎาที่มีต่อใหญ่ไม่พ้นสายตาคนที่จ้องมองตลอดอย่างทัศนัย คิ้วดำขมวดมุ่น จับสังเกตอาการมาได้สักพักใหญ่ๆ อย่างตอนฟังรายละเอียด หลายครั้งที่หันไปมองเมื่อได้ยินเสียงคนหัวเราะ แม้อัษฎาจะดูหน้าบึ้งไม่ชอบใจ แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะหลบ ยังคงปล่อยให้อีกคนคอยแกล้งอย่างสนุกสนาน

   อิ่มท้องกันแล้ว ทีมงานก็พากันกลับ เจ้าของไร่สุดหล่อสองคนยืนส่งอยู่หน้าประตู สาวๆ ต่างโบกมือลาจนรถตู้สีขาวเคลื่อนออกไปจนลับตา เสียงถอนหายใจหนักๆ ของน้องชายทำให้ใหญ่สงสัย

   “อะไรของแกตาเล็ก” คนถามได้สายตาขึงตอบ

   “ก็เมื่อสักครู่ พี่ใหญ่กับอัดทำให้ผมไม่มีสมาธิ” เล็กว่า “ต่อไปถ้าจะแหย่กัน กรุณาไปเล่นที่อื่น” น้ำเสียงสะบัดงอนจนพี่ชายต้องขำออกมา

   “แกก็ทำได้ดีนี่น่า ไปทำงานกันเถอะ” ใหญ่วาดแขนกอดไหล่น้องชาย ขายาวกำลังจะก้าวเดินต้องหยุดชะงักเมื่อเจอคำถามที่ทำเอาพูดไม่ออก

   “ทำไมพี่ใหญ่ไม่ให้อัดออกมาส่งด้วยล่ะ” อากัปกิริยาของพี่ชายเกือบทำให้เล็กหลุดขำ “หรือเพราะกลัวคุณทัศนัยเขาส่งสายตาหวานมาให้” คนกลัวถึงกับกรอกสายตาไปมาเมื่อคำถามช่างแทงใจดำ

   “กลัวอะไรที่ไหนของแกวะ” กว่าจะหาเสียงตัวเองเจอก็ถูกหัวเราะใส่ไปแล้ว

   “พี่ใหญ่หวงก็บอกมาเถอะ ชอบพี่สะใภ้แล้วใช่ไหม ไม่ต้องเก๊กหรอก ผมรู้ๆ” เล็กกลั้นยิ้ม ยกมือตบบ่าพี่ชายที่ยืนนิ่งอยู่ที่เดิม คนออกเดินส่ายหัวให้กับพี่ชายท่ามาก

   เมื่อเล็กไปแล้ว ใหญ่ยืนนิ่งทบทวนตัวเอง คำถามเมื่อกี้จากน้องชายที่ว่าเขาหวง เขาเนี่ยนะหวง ไม่ได้ชอบจะหวงได้อย่างไร บ้าไปแล้วๆ ที่ไม่ให้ออกมาส่งนั่นก็เพราะให้อยู่ช่วยนมอิ่มเก็บจานชามต่างหาก ไม่เกี่ยวกับการที่กลัวทัศนัยมองตาหวานเลย ไม่เกี่ยว....

   ระหว่างที่กำลังสับสนอยู่ คนที่ทำให้ต้องคิดมากวิ่งตาตื่นมาหา ท่าทางคล้ายกับตกใจจนต้องรีบเดินเข้าไปหา อัษฎาพยายามจะพูดและเพราะวิ่งมาไกลเลยได้แต่หอบหนัก

   “ใจเย็นๆ” ใหญ่ยกมือพัดลมเย็นๆ ให้เพื่อคลายความเหนื่อย ใบหน้าขาวแดงกล่ำคงเพราะร้อน
 
   “พี่นงกำลังจะคลอดลูกครับ แต่ไม่มีรถเข้าเมือง” พี่นงที่ว่า คือคนงานภายในไร่ที่คัดแยกดอกไม้ในโรงงานที่อัษฎาไปทำด้วย “คุณใหญ่ พาพี่นงไปโรงพยาบาลด้วยนะครับ” ใหญ่รีบพยักหน้าแล้วออกวิ่ง มือใหญ่ยื่นไปจับมืออุ่นให้วิ่งตาม ทั้งคู่วิ่งมาจนถึงบ้านพักคนงานที่มีคนรุมล้อม พอมาถึง ใหญ่ก็รีบบอกให้ทุกคนถอย แขนหนาเข้าช้อนใต้รักแร้เตรียมอุ้ม หากมีเสียงตะโกนจนต้องรีบวาง

   “น้ำคล่ำแตกแล้ว” เสียงเอะอะดังจนอัษฎาใจไม่ดี

   “รีบไปหาหมอเถอะคุณใหญ่” อัษฎาจับแขนหนาออกแรงเขย่าเล็กๆ ยิ่งเสียงครวญครางราวจะขาดใจยิ่งทำให้ขวัญเสีย “คุณใหญ่”

   “ไม่ทันหรอก จากไร่ไปโรงพยาบาลในเมืองใช้เวลาหลายชั่วโมง” คนมีสติว่า “ไปเรียกป้าบุญกับนมอิ่มมา เร็ว” สั่งเสียงดังจนคนงานพากันวิ่งไปตาม แต่คนต้องการตัวได้กึ่งเดินกึ่งวิ่งมาแล้ว

   “เป็นยังไงบ้างคะคุณใหญ่” นมอิ่มทรุดตัวนั่งข้าง มีป้าบุญลูบคลำท้องโต

   “น้ำคล่ำแตกแล้วครับ” เป็นอัษฎาที่บอกเสียงเครือ นมอิ่มมองลูกชายตัวเองที่น้ำตาเอ่อ คงจะกลัวล่ะสิ “แม่ เราต้องพาไปโรงพยาบาล”

   “ไม่ต้องหรอก ป้าบุญแกเคยทำคลอดมาก่อน อัดไม่ต้องห่วงนะลูก” นมอิ่มบอกเสียงนุ่ม ดวงตารีมองไปยังเจ้าของไร่ ซึ่งคนถูกมองพอจะรู้ว่าถูกมองเพราะอะไร ใหญ่ดึงให้อัษฎาลุกขึ้นยืน แต่เรี่ยวแรงที่มีหดหายไปหมด ยิ่งเสียงทรมานนั่นยิ่งทำให้แข้งขาอ่อน

   “คุณใหญ่” อัษฎาเงยหน้ามองคนที่ฉุดแขน ดวงตากลมมีน้ำใสๆ ไหลออกมาจาหางตา จมูกรั้นแดงเป็นลูกตำลึงช่างน่ารัก แต่เวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะมานั่งพิจารณา ใหญ่ตัดสินใจรวบร่างอ่อนปวกเปียกพาดบ่าแล้วพาออกจากห้อง คนถูกแบกอ้าปากค้างไม่ทันที่จะโวยวายจนออกมานั่งม้านั่งด้านนอกถึงได้มองค้อน

   เสียงด้านในห้องตะโกนให้เตรียมน้ำร้อน ทุกคนดูจะกระตือรือร้นพากันจัดเตรียมของทุกอย่างๆ เร่งรีบ อัษฎาอยากจะช่วยแต่ไม่รู้จะทำเช่นไร

   “ไม่เป็นไรหรอก เด็กกับแม่จะต้องปลอดภัย” ใหญ่ลูบศีรษะทุยเบาๆ เพื่อปลอบ คนใจเสียเงยหน้ามองนิดๆ ก่อนพยักหน้าลง

   การรอคอยมันช่างนานเสียจริง คนงานที่ยืนรออยู่หน้าบ้านต่างก็พากันลุ้น บ้างก็ช่วยกันเบ่งคลอด แม้ไม่ให้ด้านในแต่เสียงเจ็บปวดก็ดังออกมาถึงม้านั่งที่อัษฎานั่งอยู่

   “ทำไมยังไม่คลอดอีก คุณใหญ่” คนใจเสียจับมือคนข้างกายไว้แน่น ความวิตกกังวลก่อกวนจนยากจะผ่อนคลายตามคำบอกของเจ้าของมือที่จับ “เราต้องไปช่วยเบ่งอีกแรงไหม” คำถามที่ดูเคร่งเครียด แต่สร้างความขบขันให้แก่คนได้ยิน ใหญ่ขำออกมาไม่สนสายตาขึงค้อน

   “ไม่ต้องหรอกน่า เดี๋ยวก็คลอด ฉันเห็นบ่อยๆ” คนเห็นบ่อยๆ ดูไม่กังวลเลย

   “เห็นที่ไหน คุณใหญ่เคยทำคลอดด้วยหรือ” ไม่น่าเชื่อว่าจะทำคลอดเป็น
 
   “เคยสิ” ยืนยันหนักแน่นจนคนฟังทำตาโต “ฉันเคยทำคลอดม้าออกจะบ่อย”

   ไร้คำโต้เถียง อัษฎาเบือนหน้าหนี จนคนเคยทำคลอดม้าหัวเราะ ก่อนจะบีบมือเพื่อให้คนกลัวรู้สึกดี

   เวลาผ่านไปนานจนคนนั่งต้องยืนขึ้น ขาเรียวเดินไปเดินมา ทำให้คนยืนอยู่ด้วยเวียนศีรษะ พอจับให้นั่ง ครู่เดียวก็เดินใหม่ อัษฎาเครียดจนไมเกรนแทบจะขึ้น หากไม่ได้ยินเสียงแผดร้องของเด็กแรกเกิด เขาคงต้องไปกินยาที่บ้านก่อน เสียงร้องดังไปทั่วบริเวณพาให้คนเฝ้ารอกระโดดโลดเต้นกันใหญ่

   “คลอดแล้วคุณใหญ่” ด้วยความดีใจ ร่างผอมกระโดดเข้ากอดคนคอยปลอบใจแน่น รอยยิ้มกว้างไม่หุบส่งให้คนในอ้อมกอด ใหญ่ก็พลอยยิ้มแย้มไปด้วย

   มือใหญ่กำลังจะโอบกอด ประตูห้องทำคลอดดันเปิดออกมา คนที่กอดเขาวิ่งถลาไปหาทันที มือที่ยกขึ้นมาจึงค้างเติ่งอยู่แบบนั้น ดวงตาคมจ้องฝ่ามือตัวเองแล้วขำออกมาเบาๆ ชักหนักขึ้นแล้วนะอาการของเขาเนี่ย รอยยิ้มแก้เก้อผุดขึ้นมา ก่อนจะถูกเรียกให้เข้าไปหาเด็กทารกเพิ่งคลอดตัวแดงแจ๋

   “น่าเกลียดน่าชังจริงๆ” อัษฎามองลูกในอ้อมกอดแม่อย่างดีใจ ไม่นานพ่อของเด็กที่ขับรถไปส่งดอกไม้มาถึงก้ปรี่เข้ามาหา ภาพความรักของครอบครัวอบอุ่นช่างน่าดูยิ่งหนัก

   “มาด เดี๋ยวรถที่ไร่ไปส่งเมียกับลูกไปโรงพยาบาลนะ ให้ป้าบุญไปด้วย” ใหญ่บอก คนงานทุกคนต่างชื่นชมเจ้าของไร่ที่เมตตาคนงานทุกคน เพราะแบบนี้ถึงไม่มีคนงานคนไหนอู้งานเลยสักครั้ง

   อัษฎายังคงนั่งมองหน้าเด็กทารกตัวแดงอย่างหลงใหล อยากจะยื่นมือไปจับแต่ก็กลัวมือตัวเองสกปรกเลยได้แต่ชื่นชมด้วยสายตา กว่าจะผละมาได้ก็ตอนที่ใหญ่ดึงให้ออกมายืนด้านนอกเพื่อให้สามีอุ้มภรรยาไปขึ้นรถ ป้าบุญอุ้มเด็กแรกเกิดไว้อย่างทะนุถนอมไปด้วย

   “มองทำไม” ใหญ่ก้มมองคนที่จ้องมาตั้งแต่เมื่อครู่นี้ สายตาอ้อนวอนคล้ายกับต้องการอะไรบางอย่าง

   “ผมอยากไปด้วย” คำร้องขอถูกปฏิเสธทันที คนอยากไปยู่ปากก่อนเดินตามเด็กน้อยไปถึงรถ ใหญ่ขำนิดๆ กับอาการที่เห็น

   “ตาอัดแกคงเอาแต่ใจมากไปหน่อย คุณใหญ่อย่าถือสาเลยนะคะ” นมอิ่มเดินมายืนข้างๆ ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนออกอาการดื้อแพ่งซะแล้ว

   “ไม่เป็นไรครับ” ใหญ่หันมายิ้มอ่อนโยนเช่นดังก่อนให้กับนมอิ่ม หรือแม่ของภรรยาของเขา นมอิ่มมองลูกเขยอย่างปลื้มใจ เพราะเลี้ยงมาตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอย นิสัยทุกอย่างเธอรู้ดี เนื้อแท้คุณใหญ่เป็นผู้ชายที่อบอุ่นและอ่อนโยน แต่เพราะเสียภรรยาไปอย่างกะทันหันทำให้กลายเป็นคนคิดมาก ปากร้ายและถือตัวไปสักหน่อย

   ท่าทางอยากไปมากของอัษฎาทำเอาคนห้ามถึงกับคลอนศีรษะ สุดท้ายก็ทนต่อสายตาอ้อนวอนไม่ได้ ใหญ่เอารถส่วนตัวออก พาคนขอร้องตามติดรถอีกคันไปจนถึงโรงพยาบาล กว่าเรื่องทุกอย่างจะเสร็จสิ้นก็กลับซะจนมืดค่ำ

   “ขอบคุณที่พาผมมา” อัษฎายกมือไหว้คนใจดี

   “ไม่เป็นไร” ใหญ่หันมายิ้มให้นิดๆ แล้วหันไปสนใจถนนมืดมิดต่อ

   ดวงตากลมโตมองเสี้ยวหน้าคนเคยดุอย่างพิจารณา จากที่ยอมรับว่าตกหลุมรักไปแล้ว มาวันนี้หลุมนั้นยิ่งลึกกว่าเดิมจนไม่รู้จะมีทางขึ้นทางไหน ความอ่อนโยนที่เจ้าตัวเผลอแสดงออกมาคงจะเป็นตัวตนจริงๆ ถ้าไม่ติดเป็นคนฟอร์มจัด ท่ามาก ไม่แน่ อัษฎาอาจจะกล้าสารภาพไปก่อน

   “หิวนะคะ” เสียงป้าบุญที่ติดรถมาด้วยเรียกสติและสายตาให้หันไปมอง อัษฎาพยักหน้าเห็นด้วยเมื่อท้องดันร้องออกมาเสียงดัง

   ใหญ่ไม่พูดอะไรออกมา แต่กลับหักเลี้ยวไปจอดริมถนนที่มีร้านบะหมี่ตั้งขายอยู่ คนหิวสองคนพากันมองตาอย่างดีใจ อัษฎารีบลงจากรถรอประคองป้าบุญให้เดินไปด้วยกัน พอมาถึงโต๊ะ ใหญ่อาสาไปสั่งบะหมี่ให้ คนรอต่างก็มองท้องถนนที่มีรถวิ่งไปมา

   “ตอนแรกป้าก็คิดว่าผู้ชายแต่งงานกันเองมันไม่น่าจะรอด ขนาดหลานสาวป้าคบกันแฟนมันมานานแต่งงานไปยังเลิกกันเลย” ป้าบุญบอกความคิดของตัวเองหลังจากเหลือบมองใหญ่ที่คงไม่ได้ยิน อัษฎายิ้มนิดๆ แล้วพยักหน้าเข้าใจ

   “ผมว่า ทุกอย่างอยู่ที่การปรับตัว ทั้งตัวเราแล้วก็เขานะครับ” คนถูกถามพูดตามสิ่งที่เคยเจอ ครั้งแฟนคนก่อน ทั้งที่พยายามปรับตัวแต่ก็ไปไม่รอดเมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมปรับตาม “คุณใหญ่คงลำบากที่ต้องมาแต่งงานกับผู้ชาย” ดวงตากลมมองคนยืนสั่งบะหมี่ด้วยรอยยิ้ม

   “คงเป็นงั้นแหละ แต่ดูแกก็มีความสุขดีนะ นานแล้วที่ไม่ได้เห็นคุณใหญ่หัวเราะเสียงดัง” ป้าบุญมองเจ้านายตัวเองอย่างปลื้มใจ “แบบนี้คงเป็นแบบที่นมอิ่มว่า รักไม่ได้อยู่ที่เพศหรืออายุ แต่มันอยู่ที่ตรงนี้” ตรงนี้ของป้าบุญคือหัวใจที่เต้นอยู่

   บทสนทนาจบลงเมื่อชามบะหมี่มาวาง คนเดินไปสั่งเดินมานั่งพร้อมน้ำสามแก้ว ความหิวทำให้สามคนสั่งเพิ่มอีกคนละถ้วย ป้าบุญที่กินไม่หมด มีอัษฎาอาสาจัดการให้ แก้มเนียนป่องเมื่อเคี้ยวลูกชิ้นตุ้ยๆ สร้างเสียงหัวเราะในเพื่อนร่วมโต๊ะ ความสุขมักจะอยู่รอบตัวเสมอหากเรามองเห็น อย่างบะหมี่มื้อค่ำนี้ ก็เป็นมื้อธรรมดาแต่มันความสุขกว่าการไปนั่งกินที่ร้านอาหารแพงๆ เสียอีก


...TBC

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
เลิกท่ามาก ปากแข็งซะทีเฮอะคุณใหญ่
อัด เขาแทบจะบอกรักก่อนแล้ว
        :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :L1: :pig4:

รถอ้อยจงมา น้ำตาลจงมาาาาาาาา
เอ ต้องให้คุณใหญ่เลิกฟอร์มจัดสินะ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
เสพติดเรื่องนี้

ออฟไลน์ Pakeleiei

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 862
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
อ่านแล้วรู้สึกร่มเย็นมากๆๆๆๆ
อบอุ่น น่ารัก :katai2-1:

ออฟไลน์ leemmm

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-6

คุณใหญ่ปากแข็งตลอดเลยนะ :katai2-1: :katai1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด