พระลักษณ์
Writer : Tan-Yung0209
File : 31 (THE END)
"พี่พาย"
"ใช่พี่เอง ดีใจจังได้เจอน้องลักษณ์อีกรอบ" พี่พายเดินเข้ามาหาผมทีละก้าวช้าๆ ตรงข้ามกับผมที่เดินถอยหลังหนี
"พี่พายมาที่นี่หรือว่า...."
"ใช่ อย่างที่น้องลักษณ์คิดพี่มาเผาร้านไอ้ทศ ถ้าน้องไม่อยากถูกย่างสดน้องมากับพี่ดีกว่า" พี่พายพูดจบก็เข้ามาจับข้อมือและกระชากตัวผมอย่างแรง
'พลั่ก'
"ผมไม่ไปกับพี่หรอก พี่มันเลวจริงๆพี่ทศอุตส่าห์ไม่เอาเรื่องพี่แต่พี่กลับมาจะเผาร้านพี่ทศ" ผมรวบรวมแรงเท่าที่มีผลักพี่พายลงไปนั่งกับพื้น
"ลักษณ์!!!" ในตอนนั้นเองพี่ทศที่คงจะตามผมมาก็เปิดประตูออกมาพอดี
"มาพอดีเลย...ไอ้ทศ" พี่พายพูดเสียงเหี้ยมโดยเฉพาะชื่อพี่ทศนั้นพี่พายจงใจเน้นเสียง สายตาที่จ้องมองก็ไม่ต่างจากคนที่แค้นเคืองมาเป็นร้อยๆปี
"ไอ้พาย ทำไมมึงถึงอยู่ที่นี่..." พี่ทศถึงกับนิ่ง คงตกใจที่ได้เจอกับพี่พาย
"กูก็มาเอาคืนมึงไงไอ้ทศ" พี่พายยืนขึ้นพลางปัดรอยเปื้อนตามเสื้อผ้าไปด้วย ท่าทางของพี่พายไม่มีความทุกข์ร้อนอะไรเลย
"เอาคืนเหี้ยไรอีกไอ้พาย เรื่องที่มึงมาทำร้ายลักษณ์กูก็ไม่เอาเรื่องแจ้งความ" พี่ทศเอ่ย สีหน้าดูเหนื่อยหน่ายเพราะเบื่อที่จะมาแก้แค้นไปมา มีเรื่องกับพี่พาย
"แต่มึงไม่รู้หรอกว่ากูโดนพ่อกูลงโทษจนกูต้องหนีมา ดีแค่ไหนที่กูมาแวะเผาร้านมึงส่งท้าย" พี่พายพูดพร้อมกับชูไฟแช็คขึ้นมา มุมปากกระตุกยิ้มราวกับผู้มีชัย
"ลักษณ์หนีไป.." พี่ทศหันหน้ามาบอกกับผมที่ยืนหลบอยู่ด้านหลัง
"ลักษณ์ไม่หนี" ผมเอ่ย มือก็จับเสื้อร่างสูงไว้แน่น
"แต่ลักษณ์ต้องหนี" พูดจบพี่ทศก็ผลักผมให้ออกห่าง ส่วนตัวเองก็วิ่งไปเตะพี่พายจนล้มล้ม
ในเมื่อมึงอยากจะลองดีกับกู ในเมื่อกูปล่อยมึงแต่มึงเสือกวกกลับมากูก็จะสู้กับมึงเอง!!!" พี่ทศตะคอกใส่หน้าพี่พายพร้อมกับคร่อมทับตัวพี่พายเอาไว้ พี่พายเองก็พยายามดันตัวพี่ทศออก ในขณะเดียวกันพี่ทศก็แย่งไฟแช็คออกจากมือพี่พายแล้วโยนมาทางผม ผมก็รีบเก็บไฟแช็คไว้กับตัว แล้วรีบหยิบโทรศัพท์แจ้งตำรวจให้มาที่ร้าน
'ผลัวะ...พลั่ก...'
หมัดแล้วหมัดเล่าที่ทั้งสองผลัดกันชกไปมาจากที่ตอนแรกพี่พายนอนอยู่บนพื้นก็พลิกตัวกลับเล่นงานพี่ทศ
"พี่ทศ!!" ผมวิ่งเข้าไปหา
"ไม่ต้องเข้ามาลักษณ์ นี่มันเป็นเรื่องระหว่างมันกับพี่" พี่ทศร้องห้าม ผมก็ทำได้แต่ยืนดูพี่ทศถูกชกทั้งน้ำตา
"พี่ทศ..ฮึก...ฮือ..อ..." พอเห็นเลือดจำนวนมากไหลออกตามแผลที่ใบหน้าพี่ทศ ผมก็ปล่อยโฮออกมา ผมเจ็บใจที่ช่วยอะไรพี่ทศไม่ได้
"เมียมึงร้องไห้แล้วไอ้ทศ ฮ่า ฮ่า ฮ่า" พี่พายพูดกลั้วเสียงหัวเราะเหมือนกับคนบ้า คนโรคจิต ที่เห็นความช้ำใจเป็นเรื่องสนุก
"เดี๋ยวเมียกูก็หยุดร้อง!!" พี่ทศเอ่ย ก่อนจะพลิกตัวกลับขึ้นคร่อมพี่พายอีกครั้งแล้วระดมกำปั้นซัดใส่ทั้งใบหน้าและลำตัวของพี่พายจนเลือดสีแดงฉานกระอักออกมาจากมุมปาก
"มึงจำเอาไว้ไอ้พาย ว่าอย่าคิดมาลองดีกับกูอีก" พี่ทศลุกออกจากร่างคนที่นอนหายใจโรยรินอยู่บนพื้น แล้วเดินตรงมาหาผม
"ผมต่างหากไอ้ทศที่อย่าคิดมาลองดีกับกู!!!!"
พี่พายยันตัวขึ้นนั่ง มือก็คว้าปืนที่ซ่อนเอาไว้ด้านหลังออกมา ปลายกระบอกเล็งไปที่พี่ทศที่หันหลังอยู่
"พี่ทศ!!!!!!!"
'ปัง!!!!!'
ทันทีที่พี่พายเหนี่ยวไก ลูกกระสุนสีเงินก็ออกจากรังเพลิงพุ่งมาทางพี่ทศ ร่างกายของผมก็รีบขยับไปตามสัญชาตญาณเพื่อเป็นเกราะบังกระสุนให้พี่ทศ ผมต้องช่วยคนรักถึงต้องแลกด้วยชีวิตของตัวเองก็ตาม
"อึก..."
ร่างกายทรุดลงกับพื้นพร้อมกับเลือดที่กระจายตามเนื้อผ้าเป็นบริเวณกว้างแต่ร่างกายที่บาดเจ็บกลับไม่ใช่ผมหรือพี่ทศ
"พี่ราม!!!!!!"
ผมวิ่งเข้าไปประคองพี่รามที่นอนกองกับพื้นขึ้นมาหนุนตักพร้อมกับพี่ทศที่วิ่งมาดูอาการเช่นกัน
"พี่ราม...พี่รามอย่าเพิ่งเป็นอะไรนะ ลืมตามาคุยกับลักษณ์ก่อน" ผมตบแก้มพี่รามเบาๆให้พี่รามมีสติ ส่วนพี่ทศก็ถอดเสื้อตัวเองออกแล้วใช้เสื้อมาห้ามเลือดที่ไหลออกมาบริเวณช่องท้องของพี่ราม
"คุณทศเกิดอะไรขึ้น เมื่อกี้ผมได้ยินเสียงปืน" พี่ดินที่วิ่งออกมาเพราะได้ยินเสียงปืนเมื่อครู่ก็ตกใจกับภาพที่เห็นตรงหน้า
"อย่าเพิ่งตกใจรีบบอกให้คนเรียกรถพยาบาลแล้วจับตัวไอ้พายไว้ก่อน" พี่ทศตะโกนสั่งพี่ดินจึงเรียกคนในร้านให้โทรเรียกรถพยาบาล ก่อนจะรีบมาควบคุมตัวพี่พายที่นั่งเงียบ ตัวสั่น ที่พลั้งมือยิงคนออกไป
"ลักษณ์..อึก.ก..พี่ขอโทษกับทุกเรื่องๆ" พี่รามพูดออกมาเสียงแผ่ว ทำให้ผมกลับมาสนใจคนในอ้อมแขนอีกครั้ง ทว่าตาเรียวสวยก็เหมือนจะใกล้ปิดอยู่ทุกวินาที
"พี่รามไม่ต้องขอโทษอะไรลักษณ์แล้ว ลักษณ์ไม่โกรธอะไรพี่รามแล้ว แต่พี่รามต้องอดทนนะเดี๋ยวรถพยาบาลก็จะมาแล้ว
"อดทนหน่อยไอ้ราม มึงยังแก้แค้นกูไม่สมใจมึงเลย อย่าเพิ่งเป็นอะไรไป" พี่ทศเป็นฝ่ายพูดขึ้นมาบ้าง พี่รามปรายตามองพี่ทศก่อนที่จะยิ้มออกมา ทั้งที่ตัวเองนั้นยังเจ็บอยู่
"กูไม่แก้แค้นอะไรมึงแล้ว..ไอ้ทศ..แค่ก..แค่ก" พี่รามเอ่ยแล้วกระอักเลือดออกมา
"พี่ราม!!! พี่ราม!!!" ผมเรียกพี่รามออกมาทั้งน้ำตา พี่รามจะต้องไม่เป็นอะไรสิ
"อย่าร้องสิลักษณ์...พี่ไม่อยากให้ลักษณ์ร้องไห้อีก..พี่ดีใจที่ตามลักษณ์มาทันนะ...แค่ก..ก...อย่างน้อยพี่ก็ได้ชดใช้สิ่งพี่ทำไว้กับลักษณ์กับดา" พี่รามพูดออกมาทั้งน้ำตา
"ส่วนมึงไอ้ทศกูฝากดูแลลักษณ์ด้วย ห้ามนอกใจน้องกู ห้ามทำน้องกูเสียใจเป็นอันขาด"
"มึงไม่ฝากกูก็ทำอยู่แล้ว" พี่ทศเอ่ย พี่รามยิ้มออกมาเล็กน้อย มือเรียวก็ยกมาทาบแก้มของผมเอาไว้
"ลักษณ์..ยิ้ม..ชะ...ช่วยยิ้มให้พี่ดูหน่อย" พี่รามพูดเสียงสั่นและเบาลงกว่าเดิม จนผมเริ่มใจเสีย
"พี่บอกให้ยิ้ม..อึก..ก..จะหน้านิ่งทำไม?" พี่รามพูดต่อ
ผมใช้มือเช็ดน้ำตาข้างแก้มออกแล้วยิ้มกว้างออกมาตามที่พี่รามต้องการ พี่รามมองหน้าผมตาแทบไม่กระพริบก่อนที่เปลือกตาจะปิดลงพร้อมกับฝ่ามือที่ทาบแก้มนิ่มของผมนั้นก็อ่อนแรงจนร่วงตกลงสู่พื้นปูน
"พี่ราม!!!!!!!!"
☆-☆-☆-☆-☆-☆-☆-☆
เสียงสวดมนต์ดังก้องไปทั่วบริเวณ ภายในปีนี้ผมมาที่วัดแห่งนี้สองครั้งแล้ว ครั้งแรกคืองานศพของพี่ดาและครั้งที่สองก็คืองานบวชของพี่ราม
ย้อนเหตุการณ์กลับไปในวันที่พี่รามวิ่งมารับกระสุนแทนผมกับพี่ทศ ตอนแรกทั้งผมและพี่ทศก็คิดว่าพี่รามได้จากพวกเราไปเสียแล้ว แต่โชคยังเข้าข้างที่รถพยาบาลและรถตำรวจมาถึงพอดี พี่รามจึงถูกหมอและพยาบาลยื้อชีวิตเอาไว้ได้และต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลอยู่สองอาทิตย์ พอหายดีพี่รามจึงคิดที่จะเข้าสู่ทางธรรม ตัดทางโลก นั่นคือการบวช พี่รามตั้งใจที่จะบวชให้พี่ดาและทุกคนรวมถึงตั้งใจศึกษาพระธรรมไปด้วย
ส่วนพี่พายก็ถูกตำรวจจับกุมเอาไว้แต่ล่าสุดได้ข่าวมาว่าพ่อของพี่พายได้ประกันตัวและมาคุยตกลงกับพี่ทศ ขอร้องพี่ทศให้ช่วยบอกตำรวจว่าปืนลั่นไม่ได้ตั้งใจยิง ตอนแรกพี่ทศไม่ยอมเพราะถือว่าเคยให้อภัยไปแล้วแต่พี่รามและผมช่วยพูดให้เพราะอยากให้พี่ทศให้อภัยพี่พายไม่อยากให้เกิดการจองเวรจองกรรมอีกอีกทั้งผมสงสารคุณอาอาทิตย์ที่ต้องมาคุกเช่าขอร้องคนอายุน้อยกว่าอย่างพวกเรา พี่ทศจึงให้อภัยคุณอาอาทิตย์จึงชดใช้ค่าเสียหาย ค่ารักษาพยาบาลให้พี่รามและบอกว่าจะส่งตัวพี่พายไปเมืองนอก
"ลักษณ์นวดบ่าให้พี่หน่อยสิ" ผมที่นั่งพนมมือสวดมนต์อยู่ในอุโบสถก็ต้องเหลือบมองผู้ชายที่นั่งขยุกขยิกอยู่ข้างๆ
"พี่ทศนั่งให้ดีๆสิครับ อดทนหน่อยพิธีใกล้เสร็จแล้ว" ผมดุพี่ทศ ก่อนจะสวดมนต์ต่อจนจบพิธี พี่รามก็กลายเป็นพระภิกษุสงฆ์เป็นที่เรียบร้อย ผู้คนต่างก็แยกย้ายทยอยออกจากอุโบสถ
"เป็นอะไรล่ะโยมทศ อาตมาเห็นโยมนั่งไม่นิ่งเอาเสียเลย" พี่รามไม่สิต้องเรียกว่าหลวงพี่ถึงจะถูก
"คือพี่ทศปวดบ่าครับหลวงพี่" ผมพนมมือตอบแทนพี่ทศ
"สงสัยเพราะตอนแห่นาครอบโบสถ์แน่เลย ไม่คิดเลยว่าหลวงพี่จะหนัก" พี่ทศเอ่ย ผมก็หยิกเบาๆไปที่หลัง
"โอ๊ย!!! ลักษณ์หยิกพี่ทำไม?" พี่ทศโวยวาย
"ก็ดูพี่ทศพูดจาเข้าสิ" ผมพูดหน้าก็บึ้งตึงไม่พอใจ
"พี่แค่พูดเล่นเองหรือจะให้พี่บอกหลวงพี่ว่าพี่ปวดบ่าเพราะอะไร" พี่ทศเอ่ยขึ้นมา ผมถึงกับหน้าแดงเพราะรู้ความหมายที่พี่ทศพูดดีว่าคงหมายถึงกิจกรรมเมื่อคืนนี้
"อย่าเพิ่งทะเลาะกันสิโยมทั้งสอง" หลวงพี่รีบห้ามทัพก่อนที่เราสองคนจะก่อสงครามขนาดย่อมในวัด
"ขอโทษครับหลวงพี่" เราทั้งสองกล่าวคำขอโทษพร้อมกัน
"ทั้งสองคนกลับไปพักผ่อนได้แล้วนะ นี่ก็บ่ายแล้ว เมื่อวานก็วุ่นช่วยงานช่วยเตรียมของกันอาจไม่ได้พักผ่อนเต็มที่" หลวงพี่เอ่ย
"ไม่เป็นไรครับ พวกเรากลับช่วงเย็นก็ได้"
"กลับไปพักเถอะ ไม่ต้องอยู่เป็นเพื่อนอาตมาที่นี่มีพระหลายรูป มีทั้งแม่ชีบัวแล้วก็...สีกาดา" หลวงพี่เอ่ยโดยตอนพูดถึงพี่ดานั้นน้ำเสียงเจือความเศร้านิดๆ จากนั้นหลวงพี่ก็เดินออกไปจากอุโบสถ
"หลวงพี่คงอยากอยู่คนเดียว เราสองคนก็กลับกันเถอะ" พี่ทศเอ่ย เราทั้งสองจึงเดินออกไปโดยไม่ลืมกราบพระประธานเพื่อเป็นสิริมงคล
เราทั้งสองก็เดินทางออกจากวัดมุ่งหน้ากลับคอนโด ที่จริงต้องกลับไปที่ร้านก่อนแต่วันนี้พี่ทศปิดร้านและให้พี่ดิน พี่ดาว พี่แหวน พี่กัลป์ พี่อิน มาช่วยงานที่วัด กลายเป็นว่าวันนี้ผมจึงกลับคอนโดเร็วเป็นพิเศษ
"พี่ทศจอดรถทำไม?" อยู่ๆพี่ทศก็เลี้ยวไปข้างทางเพื่อจอดรถ
"เดี๋ยวก็รู้.." พี่ทศไม่ตอบแถมเอาผ้าสีดำมาผูกปิดตาผมอีก
"พี่ทศจะทำอะไร!!" ผมโวยวายมือก็จะแกะผ้าปิดตาออก
"ผูกเอาไว้เลยนะอย่าแกะออกมา เดี๋ยวพี่จะพาไปเที่ยวแล้วถ้าไม่ฟังที่พี่บอกพี่จะมัดมือลักษณ์ด้วย" พี่ทศพูดขู่ ผมจึงต้องจำใจนั่งนิ่งๆภายใต้ความมืดมิดจากตาที่ถูกปิดไว้
รถเคลื่อนที่ไปสักพักผมก็รู้สึกว่ารถหยุดจอด เสียงประตูด้านคนขับเปิดออกแล้วปิดลงก่อนที่ประตูทางด้านผมจะเปิดออก
"เดินลงมาช้าๆ ห้ามแกะผ้าออกนะ" พี่ทศเอ่ยมือก็ประคองผมตัวผมเอาไว้
"ยืนนิ่งเดี๋ยวพี่ปิดประตูรถก่อน" พี่ทศบอกกับผม ผมก็ยืนนิ่งตามคำสั่งไม่นานพี่ทศก็จับมือผมแล้วจูงเดินไปข้างหน้า
"พี่ทศจะพาลักษณ์ไปไหน?"
"เดี๋ยวลักษณ์ก็รู้ ตอนนี้เชื่อใจพี่ก็พอนะครับ" พี่ทศบอกกับผม คำพูดที่แสนอบอุ่นทำให้ผมใจชื้นและก้าวเดินไปข้างหน้าต่อ
"ลักษณ์ก้าวขาขึ้นสูงๆแล้วก้มหัวลงหน่อย"
"เหวอ" ผมแทบขะหงายหลังก็ไอ้พื้นทีผมเหยียบมันเหมือจะแกว่งไปมา
"ไม่เป็นไรลักษณ์ พี่อยู่กับเรานะ ขยับเข้าไปแล้วนั่งลง" พีทศเอ่ย จากนั้นผมก็รู้สึกว่าพี่ทศก็นั่งอยู่กับผมที่ฝั่งตรงข้าม
"อ๊ะ!!" ผมร้องเสียงหลง ที่ผมนั่งอยู่ๆก็ขยับ ผมจับมือพี่ทศแน่นกว่าเดิมด้วยความกลัว สักพักผมก็รู้สึกว่าที่นั่งมันหยุดเคลื่อนที่แต่ผมก็ไม่ได้ทันที่จะคิดอะไรต่อ ริมฝีปากก็ถูกทาบทับด้วยริมฝีปากอุ่นที่มีลิ้นร้อนค่อยๆเคลื่อนตัวแทรกเข้ามาในโพลงปาก ผมเผยอปากรับสิ่งที่รุกล้ำพร้อมกับตวัดลิ้นของตนเกี่ยวพันลิ้นอีกคนอย่างเชื้อเชิญ มือก็โอบกอดและลูบไปมาที่แผ่นหลังกว้าง พี่ทศเองก็บดเบียดปากจนแทบไม่มีที่ว่างให้อากาศได้ถ่ายเท อีกทั้งตักตวงความหวานภายในปากของผมอย่างช่ำชอง
"อืม..." พี่ทศครางในลำคอด้วยความพอใจที่ผมดูดปลายลิ้นเบาๆอย่างเป็นการเป็นงานตามที่พี่ทศเคยสอนเอาไว้ก่อนหน้านี้
"จุ๊บ.." ริมฝีปากของเราก็ผละกันพร้อมกับผ้าปิดตาของผมที่ถูกพี่ทศแกะออก ผมลืมตาช้าๆเพื่อปรับแสงแล้วหันมองไปรอบๆ ผมกับพี่ทศอยู่ในกระเช้าของชิงช้าสวรรค์และตำแหน่งก็อยู่บนสุดเสียด้วย แสงอาทิตย์สีส้มทอแสงให้บรรยากาศโดยรอบสวยงามและโรแมนติกเป็นอย่างมาก
"จำที่พี่เคยบอกลักษณ์ได้ไหม? ว่าพี่จะเหมาชิงช้ามาจูบลักษณ์" พี่ทศเอ่ย ผมพยักด้วยความรู้สึกร้อนผ่าวที่แก้ม ต้องขอบคุณแสงยามเย็นที่ช่วยกลบสีหน้าของผมที่แดงจัด
"ลักษณ์ครับ นอกจากพี่จะมาจูบลักษณ์แล้วมีอย่างหนึ่งที่พี่อยากจะบอก" พี่ทศพูดกับผม ทั้งน้ำเสียงและท่าทางจริงจัง จนผมไม่อาจจะละสายตาไปจากใบหน้าหล่อเหลานี้ได้
"พี่รักลักษณ์มากนะครับ" พี่ทศเอ่ย
ผมคลี่ยิ้มออกมาตามด้วยโอบกอดพี่ทศเอาไว้แน่น พี่ทศเองก็กอดตอบผมกลับเช่นกัน
"พี่ทศครับ..." ผมกระซิบข้างหูของคนรัก ก่อนจะพูดในสิ่งที่ผมไม่เคยพูดออกมาด้วยความรู้สึกของผมที่มีต่อพี่ทศ
"ลักษณ์รักพี่ทศนะครับ"
หลายคนอาจจะอ่านเรื่องวรรณคดีรามเกียรติ์มาคงจะรู้ว่าทศกัณฐ์กับพระลักษณ์ไม่ได้คู่กัน เรื่องราวของผมเองก็เกือบจะเป็นเหมือนในวรรณคดีเช่นกัน เพียงแต่ผมนั้นได้ให้อภัยกับพี่ทศและพี่ทศเองก็สำนึกผิดด้วย กลายเป็นว่าเรื่องราวของผมนั้น...ทศกัณฐ์กับพระลักษณ์รักกัน...ถึงตอนนี้จะเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของก็ตามแต่ผมเชื่อว่าจากนี้ไปเราสองคนจะจับมือกันตลอดไป
.............................................
จบแล้ววววว วี้ดบึ้ม
ตอนจบอาจจะไม่ถูกใจใคร บางคนอาจจะเดาผิด แต่อยากที่บอกไรท์แต่งนิยายพล็อตเรื่องเดาง่ายสุดๆ
ที่เคยบอกว่านิยายนี้อิงวรรณคดีมาบางส่วน นั่นคือ
พระลักษณ์ - รักพระรามกับสีดามาก สามารถทำได้ทุกอย่างเพื่อคนทั้งสอง
ทศกัณฐ์ - เป็นคนที่ครองบ้านเมืองได้ดี เลยเอามาใช้กับการทำงานที่ร้านและเป็นผู้นำในมหาลัย ความเจ้าชู้แน่นอนว่ามีแต่ไรท์ไม่เอามาหมด 5555 อีกอย่างถึงทศจะเจ้าชู้แต่ก็รักนางมณโฑคนเดียว (ของไรท์คือเฮียทศรักซ้อลักษณ์)
พระราม×สีดา - รักกันมาก มีแค่กันและกัน ส่วนที่อิงคือ ในวรรณคดีพระรามไม่เชื่อใจสีดา สีดาจึงจากไป ไรท์จึงเอาความไม่เชื่อใจนี้มา วรรณคดีสีดาไม่ตายแต่ของไรท์สีดาจากไปด้วยความตาย
มีเรื่องอยากเมาส์มอยหอยสังข์อีกเยอะแต่กลัวคนอ่านรำคาญ 5555
ตอนพิเศษจะตามมาติดๆ ภายในอาทิตย์นี้ และจะประกาศเปิดจองหนังสือ หวังว่าจะติดตามกันนะคะ ไรท์จะแจ้งทั้งในนี้และเพจเฟสบุ๊ค ยังไงก็ติดตามกันได้
https://m.facebook.com/gingerale0209/?locale2=th_THหนังสือจะจัดหน้าแบบติดๆกันเพื่อตัวเล่มจะไม่หนา ในนั้นมีการ์ตูนจิบิตัวละครสี่ตัว มีภาพสีประกอบสองภาพ ของแถมคือที่คั่นและโปสการ์ดสองใบ
สุดท้ายนี้ขอบคุณที่ติดตามนะคะ รักทุกคน ทุกคนคือกำลังใจให้ไรท์ปั่นนิยายต่อไป
30/10/2559
>>>Next บันทึกรักบ้านไร่(Yaoi) 20+