(___Last love__) by Jiwinil ตอนที่ 28 Love is Last (05-07-60) [END]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: (___Last love__) by Jiwinil ตอนที่ 28 Love is Last (05-07-60) [END]  (อ่าน 59384 ครั้ง)

ออฟไลน์ นางฟ้าเชียงชุน

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
Re: (___Last love__) by Jiwinil ตอนที่ 19 Love is Trying (18-11-59)
«ตอบ #90 เมื่อ18-11-2016 19:46:04 »

ว้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ไอ้พี่ตุลย์ เอาจนได้สินะ แต่ทำอะไรไม่เป็นจนต้องน้องบอกเนี่ยะ เอิ่ม :ruready :ruready

คนนึงก็ซื่อ คนนึงก็คิดมากแต่ปากแข็ง เฮ้อออออ ความรัก

นิติอุดปากพี่ตุลย์ตอนนอนเอาไว้เลย ถ้าเป็นเรา เราก็น้อยใจนะ ละเมอชื่อคนอื่น แม้จะเป็นน้องแต่ก็ถือว่าเป็นคนอื่นในความสัมพันธ์อยุ่ดี

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
Re: (___Last love__) by Jiwinil ตอนที่ 19 Love is Trying (18-11-59)
«ตอบ #91 เมื่อ18-11-2016 22:25:16 »

เป็นเราก็น้อยใจนะ นอนอยู่กับเราแต่ละเมอถึงคนอื่น :katai1:

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
Re: (___Last love__) by Jiwinil ตอนที่ 19 Love is Trying (18-11-59)
«ตอบ #92 เมื่อ19-11-2016 02:18:35 »

ดีต่อใจ >< เขินเเทนนิ เเต่ก็หน่วงเเทนนิเช่นกัน

ออฟไลน์ threetanz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 766
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1
Re: (___Last love__) by Jiwinil ตอนที่ 19 Love is Trying (18-11-59)
«ตอบ #93 เมื่อ19-11-2016 12:05:09 »

ติดตามอ่านต่อไปค่ะ เพิ่งมาอ่านครั้งแรก

ชอบๆๆๆ

ออฟไลน์ kyungploy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
Re: (___Last love__) by Jiwinil ตอนที่ 19 Love is Trying (18-11-59)
«ตอบ #94 เมื่อ19-11-2016 17:52:50 »

สงสารนิแฮะ เข้าใจตุลนะมันเป็นอะไรที่แสดงให้เห็นว่า ลึกๆก็มีเนอยู่ในใจมากกว่านิ ฮืออ เศร้าจัง

ออฟไลน์ agava1313

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-5
Re: (___Last love__) by Jiwinil ตอนที่ 19 Love is Trying (18-11-59)
«ตอบ #95 เมื่อ19-11-2016 19:07:50 »

แนะนำได้ดี แต่ว่ามันบังคับกันได้ด้วยเรอะ 55+

ออฟไลน์ leenanhyun

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 66
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +102/-2
Re: (___Last love__) by Jiwinil ตอนที่ 20 Love is Care (21-11-59)
«ตอบ #96 เมื่อ21-11-2016 18:22:19 »

Chapter
20


 

            แล้วจะทำวิธีไหนวะ!?

            นั่นคือคำถามที่ผมถามไอ้ธามไป แต่คำตอบที่ได้กลับมา ล้วนเป็นคำตอบที่ทำให้ผมคันไม้คันมืออยากจะเดินไปหยิบน้ำมันมาราดใส่บ้านแล้วจุดไฟเผาบ้านไอ้ธามซะ

            ผมคงคิดผิดจริงๆที่มาถามไอ้ผู้ชายบ้ากามเจนโลกแบบมัน

            น่าขยะแขยงเป็นบ้าแต่ละวิธี

            ถึงปากจะพูดแบบนั้น แต่ผมดันมานั่งกุมขมับอยู่ที่บันไดหน้าตึกคณะอักษรสรรหาวิธีที่จะให้ไอ้ตุลเรียกชื่อผมแทนเรียกชื่อเน

            ฝันเหรอไอ้นิ ตุลมันคบกับเนมากี่ปี มึงเพิ่งเข้ามาในชีวิตมันไม่กี่วันจะให้มันเรียกชื่อมึงน่ะเหรอ

            อย่ามโนเลย

            “หือ อ้าวพี่นิ” เสียงทุ้มๆที่ดังขึ้นด้านหน้าทำให้ผมเงยหน้าจากเท้าของตัวเองไปสบตากับเจ้าของดวงตาสีน้ำตาลอ่อน พอเห็นว่าเป็นใครเท่านั้นแหละ ผมก็โกยอ้าวชนิดที่เรียกว่าไฟลนตูด

            นี่ขนาดไม่ไปที่บ้าน ยังมาเจอมันที่มหา’ลัย ไม่ต้องเดาก็รู้ มันมารอไอ้เจล แล้วถ้าถามว่ามันมาได้ไง ไอ้เด็กม.ปลาย นานาชาติตัวแสบที่มาพักร้อนที่บ้านไอ้เจลจะตอบว่า

            แหม บังเอิญน่ะ

            แต่จริงๆแล้วมันตั้งใจมาหาผมแน่นอน

            คนตรงหน้าผมชื่อ เดล ญาติห่างๆของไอ้ไนเจล มีฉายาว่าเด็กนรก

            “เฮ้ยๆ! อะไรวะ เห็นหน้าก็หนีกันซะงั้น” มือซุกซนของไอ้เดลคว้าคอเสื้อของผมเอาไว้ เป็นแค่เด็กม.ปลายแท้ๆ แต่เพราะตัวสูงโย่งเหมือนเสาไฟฟ้าพอๆกับญาติของมัน เลยทำให้พอมายืนข้างไอ้เดลผมนั่นแหละที่กลายเป็นเด็กม.ปลาย

            “กูมีธุระ” ผมว่า ไอ้เจ้าของหัวทองๆแถมยังเจาะหูสามสี่รูยิ้มร่าใส่ผม นิ้วเรียวๆของไอ้เดลสัมผัสลงบนคอของผมก่อนจะทำหน้าเหมือนกับตื่นตูม

            “อะไรเนี่ย”

            ไอ้เดลกระชากผมเข้าไปหามัน ก่อนจะดึงคอเสื้อผมเปิดออก

            “ถ้ามึงไม่หยุดลวนลามกู กูจะบอกไอ้เจลจริงๆนะ” ผมขู่ ไอ้เดลไม่สะทกสะท้านสักนิด

            “ก็บอกไปดิ แต่ตอนนี้ผมสนใจพี่มากกว่า ใครทำคิสมาร์คกับพี่เนี่ย แอบมีกิ๊กแล้วไม่บอกผมเหรอ”

            “ห้ะ”

            “ก็นี่ไง คิสมาร์ค แหม กลับจากปารีสก็เร่าร้อนเชียวนะพี่นิ”

            ‘ผั่วะ’

            ผมฟาดกบาลไอ้เดลจนมันหัวทิ่มก่อนจะเดินไปหยุดที่กระจกบานใหญ่ใต้ตึกเรียนแล้วมองดูคอตัวเองในกระจก ผมขมวดคิ้วแล้วมองรอยบนคอที่ช้ำจนเกือบจะกลายเป็นสีม่วงพลางลูบมันเบาๆ

            อะไรวะเนี่ย

            ก่อนภาพๆหนึ่งจะแวบขึ้นมาในหัว

            ‘โอ้ยไอ้หมาบ้า กัดทำซากอะไรวะ’

            ‘ก็มันหมั่นเขี้ยว’

            ‘ก็ไปกัดอย่างอื่น อย่ามากัดคนอื่นซี้ซั๊วะ’

            ‘ไม่ใช่คนอื่นซะหน่อย คนรักต่างหาก’

            ฉ่า…

            เหมือนมีเสียงผัดผักบุ้งไฟแดงดังขึ้นข้างหู ไอ้ตุลมันกัดผมแรงขนาดนี้เลยเหรอวะ รอยชัดขนาดนี้ ดีนะที่ไม่ได้ปลดกระดุมคอเสื้อตั้งแต่แรก ไม่งั้นล่ะมึงไอ้นิ โดนมองเป็นเพนกวินในตู้กระจกแน่

            “จะบอกได้ยัง ว่าใครทำ” ไอ้เดลกอดอกยืนทำหน้าบึ้งอยู่ด้านหลัง ผมมองมันผ่านกระจกพลางแลบลิ้นใส่

            “เป็นเด็กเป็นเล็ก ไม่ยุ่งเรื่องชาวบ้านดิ”

            “อยากยุ่ง แล้วอีกอย่าง พี่นิของผมคนเดียว ห้ามใครแตะ”

            ผมกำลังจะเดินเข้าไปสั่งสอนไอ้เด็กปากเสีย แต่เพราะใครอีกคนที่ไม่รู้ว่ามายืนด้านหลังไอ้เดลตั้งแต่เมื่อไรยืนทำหน้าบอกบุญไม่รับอยู่

            ตุลมันนิ่งอยู่แบบนั้น สีหน้าบึ้งตึงแบบนั้นคงได้ยินที่ไอ้เดลพูดเข้าไปเต็มสองรูหู

            จู่ๆไอ้ตุลก็ก้มหน้าแล้วเดินหันหลังกลับไป ผมถลึงตาใส่คนที่เดินจ้ำอ้าวกลับไปก่อนจะรีบเดินตามไป รู้อยู่ว่ามันเป็นคนคิดมาก ขืนปล่อยไว้ไอ้ตุลต้อง…

            ผมชะงักอยู่กับที่เมื่อไอ้เดลคว้าแขนผมเอาไว้ ต่อให้มันไม่คว้า ผมก็ทำได้เพียงแค่ยืนนิ่งอยู่กับที่

            นี่ผม … แคร์ความรู้สึกของตุลาการขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน

            ตั้งแต่เมื่อไรกัน ที่ผม … เดินตามคนอื่น

            “จะไปไหน ยังไม่ได้สะสางเรื่องที่ค้างคาเลยนะ” ไอ้เดลว่า ผมสะบัดมือมันแล้วมองมันนิ่งๆ

            ผมเริ่มจะหงุดหงิดมากๆแล้วจริงๆ

            “พี่นิ…” เมื่อไอ้เดลเห็นว่าผมไม่เล่น มันเลยปล่อยแขนผมเป็นอิสระ

            ผมหันกลับหลังแล้ววิ่งตามไอ้ตุลออกไป ทั้งๆที่ฝนเริ่มจะซาลงมาแต่ผมก็ไม่ได้หาที่หลบฝน หันซ้ายหันขวาอยู่นานสองนานผมก็ไม่เห็นไอ้ตุลแล้ว มันเดินไปไหนของมันวะ

            ไอ้บ้าขี้แยนั่น ป่านนี้ร้องไห้ขี้มูกโป่งไปแล้วหรือยังก็ไม่รู้

            ฝนที่ตกลงมาเหมือนพระเจ้าลงโทษทำให้โทรศัพท์ของผมสองเครื่องที่ใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงพังไม่เป็นท่า แถมกระเป๋าก็ยังเปียกแฉะไปหมด รถเมล์หรือแท็กซี่ก็ไม่โผล่หัวมาสักคัน สองแถวก็ไม่มี ทีตอนเวลาไม่อยากเรียกล่ะมากันจังเลย สุดท้ายผมก็ต้องเข้าไปหลบฝนที่ตู้โทรศัพท์ด้านหลังมหา’ลัย

            ตกอะไรขนาดนี้วะ แบบนี้จากที่จะเดินหาไอ้ตุลต่อ กลายเป็นว่าผมต้องมาง่อยอยู่กับที่

            สภาพแบบนี้ ไอ้ตุลคงเปียกพอๆกับผมแน่นอน

            มันจะกลับห้องไปแล้วหรือยังนะ หรือว่าไปมุดอยู่ที่ไหนในมหา’ลัย

            ร้องไห้หรือเปล่า

            เป็นอะไรไหม

            คิดมากหรือเปล่า

            ผมทึ้งหัวตัวเองด้วยความหงุดหงิดพลางมองขึ้นไปบนฟ้า ก่อนจะขมวดคิ้วแล้วคุยกับเนทางโทรจิต

            สั่งให้เทวดาหยุดฉี่แตกเป็นเขื่อนซะที ไอ้น้องบ้า!

            ไม่รู้หรือไงว่ากูเป็นห่วงแฟนมึงเนี่ย

            …

            ห่วงงั้นเหรอ

            นั่นสินะ

            อือ ผมเป็นห่วงไอ้หมาบ้านั่น ผมเป็นห่วงไอ้ตุลจริงๆ

            ผมควักเหรียญห้าบาทในกระเป๋าก่อนจะยืนนิ่งอยู่ที่หน้าโทรศัพท์ในตู้ โทรศัพท์มือถือสองเครื่องดับอนาถไปแล้ว สาบานได้ว่ากลับจากปารีสผมเปลี่ยนโทรศัพท์มากกว่าเปลี่ยนกางเกงใน แล้วตอนนี้ที่น่าหนักใจที่สุดคือ

            ดันจำเบอร์ไอ้ตุลไม่ได้

            โถ่เว้ย แล้วแบบนี้น่ะเหรอจะมีปัญญาทำให้ตุลเรียกชื่อมึงตอนมันหลับได้

            ฝันเหอะไอ้นิติ

            ยืนอยู่เกือบสองชั่วโมง ฝนก็ยังไม่หยุดตกแถมยังตกหนักกว่าเดิมอีก ผมได้แต่นั่งกอดตัวเองอยู่ในตู้กระจกที่ถูกเกาะด้วยคราบน้ำฝนจนมองไม่เห็นอะไรด้านนอก ไปไหนก็ไปไม่ได้เพราะมองไม่เห็นทาง ในใจก็เป็นห่วงคนที่ชอบคิดมาก อยากจะอธิบาย อยากจะบอกว่าไม่มีอะไร

            แต่ทิฐิในตัวเองกลับสูงลิ่วยิ่งกว่าอะไร

            ผมไม่ได้ทำอะไรผิดนี่ ไอ้ตุลคงไม่คิดมากหรอก ผมไม่ได้เล่นด้วยกับไอ้เดลนี่

            ไอ้ตุลคงรู้แหละ มันคงไม่โง่มั้ง

            “โอ้ย” สุดท้ายก็ทำได้แค่แหกปากออกมาแล้วกอดเข่าเอาไว้พลางซุกหน้าลงบนเข่า

            ถึงจะพูดแบบนั้น แต่ผมก็อดห่วงไม่ได้จริงๆ

            กว่าฝนจะหยุดตกก็มืดพอดี ผมเดินย่ำน้ำแฉะๆที่ท่วมเกือบถึงฟุตบาทถนนไปขึ้นรถสองแถวก่อนจะไปลงที่คอนโดของไอ้ตุล ผมเดินลากตัวที่หนักมวลน้ำของตัวเองไปยืนอยู่หน้าห้องของตุลาการพลางแตะคีย์การ์ดลงบนประตูแล้วผลักเข้าไป

            ไฟที่ปิดมืดบ่งบอกว่าไม่มีใครอยู่ในห้อง แถมรองเท้าไอ้ตุลก็ไม่มี

            มันยังไม่กลับ…

            ผมลากสังขารของตัวเองเข้าไปในห้องแล้วทรุดตัวลงนั่งที่ริมกำแพงข้างห้องน้ำ

            มันโกรธผมเหรอ

            มีเพียงคำนี้คำเดียวที่ดังชัดในหัว ผมนั่งอยู่กับที่ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานขนาดไหน ทั้งหนาวทั้งเปียกแต่ก็ไม่มีแรงจะลุกยืนเลยสักนิด

            ทั้งๆที่ผมไม่ได้ทำอะไรผิด

            ทำไมวะ ทำไมมันถึงไม่กลับห้อง

            ผิดเหรอที่กูจำเบอร์โทรศัพท์มึงไม่ได้ ผิดเหรอที่กูไม่วิ่งไปคว้ามึงให้เร็วกว่านี้

            … มึงโกรธกูเหรอ ตุล …

            ผมนั่งรอจนนาฬิกาบ่งบอกเวลาตีสองครึ่ง นั่งอยู่นิ่งๆแบบนั้นจนตัวเกือบแห้งแต่ก็ยังชื้นอยู่ ประตูห้องที่ปิดสนิทมานานถูกเปิดออกพร้อมกับแสงสว่างด้านนอกนั่นที่สาดเข้ามา ผู้ชายที่ผมตามหามาตั้งแต่ตอนเย็นยืนเบิกตากว้างอยู่หน้าห้องราวกับตกใจ

            ไอ้ตุลเปียกก็จริง แต่ไม่เปียกโชกแบบผม

            มันไม่ได้ไปกระโดดน้ำตายที่ไหน มันยังยืนอยู่ตรงนี้

            โล่งอกจัง

            “นิ…”

             เจ้าของห้องเดินมานั่งคุกเข่าตรงหน้าผม ฝ่ามืออุ่นๆของไอ้ตุลที่แตะลงบนใบหน้าของผมทำให้จากที่หนาวๆกลับอบอุ่น เจ้าตัวมีสีหน้าตกใจที่ผมเปียกแฉะขนาดนี้

            “ทำไมไม่อาบน้ำ เดี๋ยวก็เป็นหวะ…!”

            ผมกระชากคอเสื้อของผู้ชายตรงหน้าเข้ามาก่อนจะกดริมฝีปากลงไปที่ริมฝีปากของอีกคน คนที่ไม่ทันได้ตั้งตัวถึงกับร้องเหวอในลำคอ ผมไม่รอให้ไอ้ตุลได้หายใจก็ผลักมันลงไปนอนที่พื้น ก่อนที่ผมจะนั่งคร่อมร่างของผู้ชายที่ทำให้ผมเป็นบ้าอยู่ตอนนี้

            พอริมฝีปากของไอ้ตุลเป็นอิสระ มันก็คว้าแขนของผมทั้งสองข้างเอาไว้ ไอ้ตุลทำหน้าตกใจนิดๆก่อนมันจะยื่นมือมาแตะที่แก้มของผม

            “ร้องไห้ทำไม” ผมชะงักไป ฝ่ามืออุ่นๆที่สัมผัสและไล่ไปตามใบหน้าของผมทำให้ผมร้องไห้ออกมาหนักกว่าเดิม

            ทั้งๆที่ผมไม่เคยร้องไห้ให้ใคร

            ทำไม… ทำไมต้องเป็นมันวะ

            ทำไมต้องเอาหินมาถ่วงหัวใจกูไว้ด้วย

            “นิครับ” ไอ้ตุลพยายามดันตัวขึ้นมานั่ง แต่ผมใช้มือกดร่างมันเอาไว้

            “มึงมันไม่ยุติธรรม มึงมันนิสัยไม่ดี”

            “นิ…”

            “กูไม่ได้ทำอะไรผิด ทำไมกูถึงต้องกลัวมึงโกรธ กูไม่ได้สนใจไอ้เดลด้วยซ้ำ แล้วทำไมกูต้องวิ่งตามหามึง ทำไมกูต้องตามมึงด้วย มึงมีดีอะไรงั้นเหรอ!!” ผมตะคอกเสียงดัง

            “…”
           
            “มึงมันแย่ จะให้กูพูดกี่ครั้งว่ามึงมันแย่”

            “…”

            “ทำไมกูต้องชอบมึงขนาดนี้ด้วยวะ” ผมสะอื้นเสียงแผ่ว ไอ้ตุลคว้าผมลงไปกอดเอาไว้

            ไม่มีคำพูดใดๆออกจากปากของผู้ชายที่ผมบอกชอบออกไป มีเพียงแค่อ้อมกอดที่อุ่นซะจนทำให้ผมลืมไปสนิทว่าตัวผมเปียกแฉะอยู่ ฝ่ามืออุ่นๆ กลุ่มผมนุ่มๆ อ้อมกอดกว้างๆของมัน

            “อย่าโกรธกูนะ” ผมกระซิบข้างหูไอ้ตุล มันหัวเราะในลำคอนิดๆ

            “โกรธลงที่ไหนล่ะ”

            ไอ้ตุลพาผมมาแช่น้ำอุ่นหลังจากที่ผมกอดมันซะจนตัวมันเปียกไปด้วย เจ้าของห้องนั่งหย่อนขาอยู่ที่อ่างอาบน้ำให้ผมพิงขามัน ส่วนผมนอนแช่ฟองสบู่อยู่ ไอ้ตุลสระผมให้ผมเหมือนเด็กๆ

            “ทำไมนิถึงกลัวว่าผมจะโกรธล่ะ” คนขี้สงสัยถามขึ้น ผมเงยหน้ามองผู้ชายที่เคยกุมหัวใจน้องชายฝาแฝดของผมเอาไว้ แล้วตอนนี้มันก็กุมหัวใจของผมด้วยอีกคน

            “ก็มึงชอบคิดมาก”
           
            “ก็จริงที่ผมเป็นคนคิดมาก แต่ผมไม่เคยโกรธนินะครับ ถึงบางครั้งนิจะทำตัวไม่มีเหตุผลไปบ้าง” ผมถลึงตาใส่ไอ้ตุล มันยกมือสองข้างขึ้นขอสงบศึกเหมือนทุกครั้ง

            อยากตายมากนักหรือไง

            “แล้วทำไมมึงต้องเดินหนีด้วยล่ะ”

            “ก็ … คนมันหวง” ไอ้ตุลเบือนหน้าหนี ผมที่กำลังเงยหน้ามองมันเลยแอบเห็นว่าหูมันแดงๆ

            ห่ะๆ เขินเป็นกับเขาด้วยหรือไง

            “กลัวว่าถ้าเข้าไปตอนนั้น ผมจะทำตัวให้นิไม่ชอบเอาได้ เลยคิดว่าเดินหนีดีกว่า”

            “อ๋อ งั้นเองเหรอ”

            ผมมองไปที่ฟองสบู่ในอ่างน้ำพลางมองเป็ดยางที่ลอยผ่านหน้าไป บางที คนที่คิดมากไม่ใช่ไอ้ตุลหรอก แต่เป็นผมเนี่ยแหละ ผมเงยหน้าขึ้นไปมองตุลาการอีกครั้ง พลางขยับปากพูดในสิ่งที่ผมไม่รู้ว่าควรจะพูดออกไปดีหรือเปล่า

            “กูเรียกมึงว่าพ่อเป็ดได้มั้ย”

            ไอ้ตุลหันกลับมาสบตากับผม พลางจ้องหน้าผม ผมหลบตามัน

            นั่นสินะ เนเรียกได้คนเดียวอยู่แล้ว

            “เลิกเปิดอ่านข้อความของผมกับเนเถอะครับ แล้วพ่อเป็ดนั่นน่ะเนก็เป็นคนตั้ง”

            ผมได้แต่นั่งหุบปากเงียบๆ ก่อนแขนหนักๆของไอ้ตุลจะโอบรอบคอของผมเอาไว้ มันก้มลงมาวางคางของมันไว้ที่ไหล่ของผม

            “ถ้านิอยากเรียก ก็ตั้งชื่อผมเองซะเลยสิครับ”

            “!!!”

            ตอนแรกผมก็ว่าน้ำมันออกจะเย็นอยู่หรอก แต่พอไอ้ตุลพูดแบบนั้นออกมา ผมว่าน้ำนี่มันชักจะร้อนเกินไปแล้ว ผมทำได้แค่นั่งนิ่งๆพลางเหลือบตามองคนที่ถูไถอยู่ข้างๆแก้ม

            “แน่ใจนะ” ผมถามไอ้ตุล มันร้องฮืมในลำคอเหมือนกับตกลงให้ผมตั้งชื่อมัน

            ในใจจริงๆตัวผมแทบจะลอยติดเพดานห้องแล้ว แต่เพราะต้องรักษาฟอร์ม ผมเลยทำได้เพียงแค่กระเถิบตัวลงไปในน้ำจนน้ำถึงคาง ซ่อนความเขินอายเอาไว้ใต้ฟองสบู่

            ผมไม่รู้จะเรียกมันว่าอะไร ผมไม่ใช่คนแบบเนที่ชอบตั้งชื่อของๆตัวเองไปซะหมดทุกอย่าง

            แต่ว่าไอ้ตุล มันเหมาะกับชื่อนี้ที่สุดแล้ว

            “มึงมัน ไอ้ลูกหมาชัดๆ”

            TBC

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4
Re: (___Last love__) by Jiwinil ตอนที่ 20 Love is Care (21-11-59)
«ตอบ #97 เมื่อ21-11-2016 18:48:49 »

 :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: (___Last love__) by Jiwinil ตอนที่ 20 Love is Care (21-11-59)
«ตอบ #98 เมื่อ21-11-2016 20:42:48 »

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ นางฟ้าเชียงชุน

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
Re: (___Last love__) by Jiwinil ตอนที่ 20 Love is Care (21-11-59)
«ตอบ #99 เมื่อ21-11-2016 20:48:45 »

ว้ายๆๆๆๆ ไอ้ลูกหมา เค้ามีชื่อพิเศษกันแล้วว

แต่ทำไมเรารู้สึกหวานปนหน่วง อ่านไประแวงไปว่านิติจะหันหลังให้ความรัก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: (___Last love__) by Jiwinil ตอนที่ 20 Love is Care (21-11-59)
« ตอบ #99 เมื่อ: 21-11-2016 20:48:45 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
Re: (___Last love__) by Jiwinil ตอนที่ 20 Love is Care (21-11-59)
«ตอบ #100 เมื่อ21-11-2016 21:09:29 »

เขินนนน

ออฟไลน์ threetanz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 766
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1
Re: (___Last love__) by Jiwinil ตอนที่ 20 Love is Care (21-11-59)
«ตอบ #101 เมื่อ21-11-2016 22:27:15 »

ทำน้องนิคิดมากได้นี้สุดยอดดดดอิอิ

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
Re: (___Last love__) by Jiwinil ตอนที่ 20 Love is Care (21-11-59)
«ตอบ #102 เมื่อ21-11-2016 23:21:18 »

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ zuu_zaa

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
Re: (___Last love__) by Jiwinil ตอนที่ 20 Love is Care (21-11-59)
«ตอบ #103 เมื่อ23-11-2016 18:05:37 »

 o13

ออฟไลน์ magic-moon

  • magKapleVE
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 495
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
    • Freedom of meetups, no obligations
Re: (___Last love__) by Jiwinil ตอนที่ 19 Love is Trying (18-11-59)
«ตอบ #104 เมื่อ27-11-2016 21:17:46 »

หึหึหึ รอความแซ่บค่ะ 5655

ออฟไลน์ leenanhyun

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 66
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +102/-2
Re: (___Last love__) by Jiwinil ตอนที่ 21 Love is Trust (28-11-59)
«ตอบ #105 เมื่อ28-11-2016 22:14:50 »

Chapter
21



            “ไอ้แห้ง!!!”

            เสียงดังๆที่ตะโกนมาก่อนจะเห็นตัวไม่ได้ทำให้ผมหยุดเดินไปตามทาง ช่วงนี้มันช่วงสอบ ผมกับไอ้ตุลต่างคนต่างก็อ่านหนังสือกันเป็นบ้าเป็นหลัง ไอ้ตุลใกล้จะเรียนจบแล้ว ซึ่งผมไม่ได้ถามว่าหลังจากเรียนจบแล้วมันจะทำอะไร จะไปสอบทนาย หรือเรียนต่อมั้ย

            ผมแค่พยายามทำวันนี้ให้ดีที่สุด

            นั่นคือสิ่งที่ผมเริ่มต้นจะคิดได้

            “กูเรียกทำเมินนะ!!!”

            ไอ้เจลเดินมากางแขนกางขากั้นผมไม่ให้เดินหนีมัน ผมเหลือบตามองมันนิดๆก่อนจะเดินเลี่ยงไปอีกทาง ไอ้เจลรีบเดินตามผมต้อยๆ

            “เมื่อวานกูกลับจากค่าย ไอ้เดลมาเล่าให้ฟังว่าพี่นินอกใจมัน มีคิสมาร์คที่คอด้วย” พอได้ยินแบบนั้น ผมก็รีบสาวเท้าไวขึ้นไปอีก จากเดินธรรมดา กลายเป็นว่าตอนนี้ผมวิ่งหนีไอ้จรัส บราวน์ ไปเรียบร้อย

            “มึงมีอะไรกับมันแล้วจริงๆใช่ม้ายยยย!!!”

            “จะตะโกนทำซากอะไรวะหา!!!”

            “ฮือ แห้งของกู ของๆกูทะนุถนอมมาตั้งนาน ไอ้หน้าปลาบู่นั่นมันต้องชดใช้!!!”

            นี่แหละคือสาเหตุที่ผมเลือกปรึกษาไอ้ธาม เพราะผมมั่นใจว่ามันจะไม่โวยวายเหมือนไอ้เจลไง

            ผมบอกธาม ก็รู้กันแค่ผมกับธาม แต่ถ้าไอ้เจลรู้ คนทั้งโลกก็รู้!

            “เลิกหนีกูนะ หยุดเดินเลยนะแห้ง!”

            “ไม่!!!”

            “แห้งของกูหัดเดินหนีกูแล้ว”

            ถ้ามีผ้าเช็ดหน้า ไอ้เจลคงยืนกัดผ้าเช็ดหน้าร้องไห้ทำหน้าตาน่าสงสารไปแล้ว

            ผมเดินก้าวฉับๆไปที่ห้องสมุด เพราะรู้ว่าเป็นที่เดียวที่ไอ้เจลไม่สามารถแหกปากได้ ผมเดินฉับๆเข้าไปที่ด้านหลังชั้นหนังสือรอให้ไอ้คนที่มีคำถามเต็มสมองไปหมดเดินตามเข้ามา

            “กูจะคุยกับมึง ก็ต่อเมื่อมึงเลิกแหกปากโวยวาย”

            ไอ้เจลทำหน้าเหมือนหมาโดนดุ มันยอมเดินเข้ามาหาผมดีๆแล้วนั่งลงที่พื้นข้างๆชั้นหนังสือ ผมนั่งลงข้างๆมันพลางมองหน้าคนที่ทำท่าเหมือนจะงอนไม่เข้าท่า

            “กูไม่ง้อหรอกนะ”

            “อ๋อ เดี๋ยวนี้มีคนที่ชอบแล้ว เพื่อนเพิ่นก็ไม่ง้อแล้ว”

            ผมมองหน้าไอ้เจลเอือมๆ พลางยื่นมือไปขยี้หัวมัน

            “ขี้งอนว่ะ”

            “ก็มึง…” ไอ้เจลหันมามองผมพลางนิ่งไปนิดๆ มันเข้ามาใกล้ๆผมก่อนจะทำท่าสูดจมูกฟุดฟิด

            “ไม่มีกลิ่นบุหรี่” ผมเลิกคิ้วใส่สมหมาย

            “แล้วไง?”

            “ปกติอยู่กับมึงกลิ่นบุหรี่นี่ติดตัวอย่างกับกลิ่นธูป”

            “แล้วกูต้องสูบตลอดหรือไง”

            “มึงเปลี่ยนไปจริงๆนะนิ” ไอ้เจลจับคางผมแล้วบิดซ้ายบิดขวาเหมือนจะสำรวจ ผมทำหน้าแหยงๆการกระทำนั่นพลางพ่นลมหายใจที่เต็มไปด้วยกลิ่นหมากฝรั่งรสมิ้นต์ใส่หน้ามัน

            “เลิกทำหน้าเหมือนกูเป็นตัวประหลาดสักที กูยังเป็นไอ้นิคนเดิมที่มึงรู้จัก” ผมว่า ไอ้เจลส่ายหน้า

            “กูไม่ได้บอกว่าที่มึงเปลี่ยนไปไม่ดี กูชอบมึงตอนนี้มากกว่าเมื่อก่อนด้วยซ้ำ”

            “…”

            “มึงดูมีความสุขขึ้น ดูน่าเข้าหาขึ้น ดูไม่ใช่ไอ้นิที่มีกำแพงสามชั้นกั้นเอาไว้”

            ผมนิ่งไปนิดๆ ไม่เคยรู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่าผมลดกำแพงของตัวเองลงขนาดนั้น แต่ไอ้เจลคนที่เป็นเพื่อนสนิทของผมมานานมันสังเกตเห็น แสดงว่ามันก็คงเป็นอย่างที่มันพูด

            แต่ทำไมล่ะ…

            “คนมีความรักล่ะม้าง” ไอ้เจลแซว ผมตบกบาลมันไปฉาดใหญ่

            “อยู่ดีๆไม่ชอบ ชอบยืนๆอยู่แล้ววูบ”

            “แหม แซวแค่นี้เอง”

            “ว่าแต่ไปค่ายมาเป็นไงมั่ง” ไอ้เจลมันไปค่ายอาสามา เพิ่งจะกลับมาเมื่อวาน ช่วงนี้ที่เห็นมันผลุบๆโผล่ๆก็เป็นเพราะว่ามันต้องไปติวแถมยังทำกิจกรรมไปด้วย ผมล่ะทึ่งในความสามารถของไอ้เจลที่ดูมีพลังเต็มเปี่ยมไปกับทุกๆอย่าง

            “ก็ดี เหมือนทุกครั้ง” จรัส บราวน์ทำหน้าหงอย ผมยีหัวมันอีกครั้ง

            นอกจากไอ้ตุลที่ดูน่าหมั่นเขี้ยวตลอดเวลาแล้ว ก็มีไอ้เจลเนี่ยแหละที่ผมชอบแกล้งมันบ่อยๆ

            “เอ้อ กูลืมไปเลยว่ามีเรื่องจะบอกมึง” จู่ๆไอ้เจลก็ทำหน้าเหมือนนึกอะไรออก ผมหันไปมองมันนิ่งๆ

            “เมื่อตอนไปค่ายอาสา กูดันไปบังเอิญรู้จักกับรุ่นพี่คนหนึ่งที่จะจบปีนี้ เขาบอกเขารู้จักกับไอ้ตุลว่ะ” ผมพยักหน้าแบบขอไปที

            “แล้วไง”

            “เขาบอกว่าเขารู้จักพี่ชายของตุลมันด้วย”

            จากที่ไม่ค่อยอยากจะสนใจ กลายเป็นว่าผมดันรู้สึกสนใจขึ้นมานิดๆ ไอ้เจลมีสีหน้าจริงจังแบบที่เรียกว่านานๆจะเห็นที ปกติมันไม่ค่อยจะจริงจังอะไรน่ะนะ

            จริงๆผมก็เพิ่งรู้ว่าตุลมันมีพี่ชาย ก็ตอนที่มันบอกผมนั่นแหละ พี่มันชื่อ อัยการ อายุมากกว่ามันสี่ปีเห็นจะได้ เห็นว่าทำงานสายการบินเลยไม่ค่อยเห็นหน้าค่าตากันเท่าไร อีกอย่างไอ้ตุลก็ไม่ค่อยสนิทกับพี่ อาจจะเป็นเพราะช่องว่างอายุ แต่ถึงอย่างนั้นเวลามันเล่าถึงพี่ชาย แววตาของมันก็ดูมีความภูมิใจอยู่ไม่น้อย

            “เขาบอกว่าพี่ชายของไอ้ตุลไม่ชอบเนว่ะ”

            “!!!” ผมชะงักไป ไอ้เจลเกาหัวเหมือนจริงๆแล้วมันไม่อยากจะเล่าเรื่องนี้ให้ผมฟัง

            “คือตอนแรกกูคิดว่าจะบอกมึงดีมั้ยเพราะมึงกับตุลก็เพิ่งจะแบบเข้าใจกัน แต่กูก็อยากบอกมึงไว้เผื่อว่า… เฮ้ยนิ!!”

            ไม่รอให้ไอ้เจลได้พูดจบผมก็รีบตรงออกไปจากห้องสมุดแล้วกดโทรศัพท์หาคนที่อาจจะกำลังสอบอยู่ แต่ปรากฏว่าไม่นานนักไอ้ตุลก็รับสาย

            (โทรมาได้จังหวะพอดีเลย ผมเพิ่งสอบเสร็จ…)

            “ทำไมมึงไม่บอกว่าพี่มึงไม่ชอบเน” ผมกรอกเสียงลงไปในโทรศัพท์โดยไม่รอให้ตุลได้พูดอะไรก่อน เจ้าตัวเงียบเหมือนตกใจว่าผมไปรู้เรื่องนี้มาจากไหน

            (นิ…)

            “มีเรื่องอะไรที่ยังไม่บอกกูอีก”

            (นิอย่าทำแบบนี้สิครับ ถ้าให้ผมบอกทั้งหมดดีไม่ดีต้องใช้เวลาทั้งวันเลยมั้ง)

            “งั้นก็ใช้ซะสิ อีกครึ่งชั่วโมงกูจะไปรอที่ร้านกาแฟหน้ามหา’ลัย มาเล่าให้ฟังทั้งหมด”

             

            ผมไม่รู้ว่าผู้ชายที่ชื่อตุลาการยังมีอะไรปิดบังผมอยู่อีกมั้ย หรือการคบกับเน ไอ้ตุลมีอุปสรรคอะไรหรือเปล่า ทุกอย่างมันจะเป็นเรื่องง่ายถ้าไม่ใช่ผมดันเป็นพี่ชายฝาแฝดของเน ทำไมมันถึงไม่เคยบอกว่าพี่ชายมันไม่ชอบน้องชายของผม เพราะอะไรล่ะ ก็ไหนมันเคยบอกว่าแม่ของมันรับได้ที่เนคบกับมัน

            เรื่องครอบครัวฝั่งผม มันไม่มีอะไรมากด้วยซ้ำ พ่อเองก็รู้ว่าเนคบกับไอ้ตุล แม่เองก็ชอบไอ้ตุลมาก แต่ที่ผมไม่รู้คือครอบครัวฝั่งตุล เขาอคติอะไรกับเนมั้ย แล้วถ้าเขารู้ว่าลูกชายของเขาดันมาคบพี่ชายฝาแฝดของแฟนที่ตายไปแล้วล่ะ

            เขาจะรับได้อย่างนั้นเหรอ

            บางทีเรื่องนี้ผมควรจะต้องคุยกับมันให้เข้าใจ

            ก่อนที่เรื่องมันจะบานปลายไปมากกว่านี้ ก่อนที่ผมจะไม่สามารถปล่อยไอ้ตุลไปได้จริงๆ

            ‘กริ๊ง’

            เสียงกระดิ่งหน้าร้านกาแฟดังขึ้น เจ้าของร่างสูงโย่งเดินมานั่งตรงหน้าผม ตุลาการมีสีหน้าไม่ค่อยดีนัก ก่อนมันจะเป็นฝ่ายเริ่มบทสนทนา

            “นิอยากรู้อะไรมั่งครับ”

            “ทุกอย่าง เรื่องครอบครัวของมึง” ผมกอดอกแล้วมองหน้าผู้ชายตรงหน้า ตุลมันหลบตาผมเหมือนกับว่าซ่อนอะไรบางอย่าง เจ้าตัวถอนหายใจพลางเริ่มเล่าเรื่อง

            “เฮียอัยไม่ชอบเนมาตั้งแต่ตอนที่ผมคบกับเนแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่เคยมายุ่งเกี่ยว ส่วนเรื่องแม่ แม่รู้เรื่องว่าคบกับเนตั้งนานแล้วเหมือนกันและไม่คัดค้าน แต่พ่อนั้นยังไม่รู้เรื่องอะไร”

            “แล้วมึงไม่คิดเหรอว่าพี่มึงจะเกลียดกูเหมือนที่เกลียดเน”

            “เฮียไม่ได้เกลียดเน แต่เพราะเฮียอคติกับพวกที่ชอบเพศเดียวกัน”

            “ถ้าพ่อมึงรู้ พ่อจะให้กูกับมึงเลิกกันหรือเปล่า” คำถามของผมสับสวิตซ์ของตุลให้ดับลง คนข้างหน้าหลุบตาต่ำแล้วมองไปที่อื่นโดยไม่คิดจะมองหน้าผม

            “จะไปรอดเหรอ”

            “…”

            “ตุล”

            “นี่มันไม่แฟร์เลย” เสียงทุ้มๆของคนตรงหน้าฟังดูสั่นเครือ ผมไม่รู้ว่าพูดอะไรผิดหรือเปล่า แต่ไอ้ตุลเงยหน้าขึ้นมามองผมพร้อมกับดวงตาที่คลอไปด้วยน้ำตา

            ผมทำอะไรผิดไป … งั้นหรอกเหรอ

            แค่กังวล ว่าเราจะไปรอดกันมั้ย

            ผมจะได้…

            หยุด

            หยุดงั้นเหรอ … นี่ผมคิดบ้าอะไรอยู่

            “มันไม่แฟร์เลยสักนิด นิเอาแต่คั้นว่าอยากจะรู้เรื่องราวเกี่ยวกับผม เพราะนิอยากจะเชื่อใจว่าผมจะไม่ทำให้นิเสียใจ แต่มันไม่ยุติธรรมเลยสักนิด” น้ำเสียงของตุลเหมือนกำลังตัดพ้อผม ผมไม่รู้จะทำยังไง ไม่รู้จะพูดอะไร ผมแค่… ยังไม่มั่นใจ

            “นิรู้เรื่องของผมทั้งหมดแล้ว แต่ผมไม่เคยรู้เรื่องของนิเลย”

            “…” ทุกอย่างรอบตัวเงียบไปยกเว้นก็แต่เสียงวิ้งในหู ผมมองไอ้ตุลที่เงยหน้าพยายามไล่น้ำตากลับเข้าไปในดวงตา มันซื่อสัตย์ขนาดไหน มันเสียใจมันก็บอกว่ามันเสียใจ มันดีใจมันก็ทำหูตั้งหางตั้ง

            แต่ผม มีแต่ทำให้มันเสียใจอยู่ตลอด

            “ผมไม่รู้ว่าพ่อจะว่ายังไง ผมไม่รู้ว่าแม่จะรู้สึกยังไงถ้าได้เจอนิที่หน้าเหมือนเน ผมไม่รู้ว่าเฮียจะรู้สึกยังไงถ้าได้เจอนิที่เป็นพี่ชายฝาแฝดของเน … ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเราจะไปรอดกันมั้ย”

            “ตุล…”

            “แต่ผมไม่เคยคิดว่ามันจะไม่รอด ผมไม่เคยคิดเลยด้วยซ้ำว่าจะปล่อยมือจากนิ”

            ความรู้สึกผิดมันก่อตัวขึ้นลึกๆในใจผม กำแพงที่พังลงมาเพราะตุล มันกำลังก่อตัวขึ้นใหม่อีกครั้ง แต่การที่ตุลยื่นมือมาจับมือผมแล้วบีบเอาไว้ ทำให้กำแพงมันร่วงกราวลงมาอีกรอบ

            “ถ้านิไม่เชื่อมั่น หรืออยากจะปล่อยมือเพราะว่ากลัวความผิดหวัง ผมจะไม่ห้าม”

            “…”     

            “แต่ขอล่ะ แค่เชื่อมั่นในตัวผมบ้างสักนิดก็ยังดี”

            ไอ้ตุลพูดจบก็เดินออกจากร้านกาแฟไปโดยไม่หันมามองผมสักนิด ผมมองแผ่นหลังของผู้ชายที่ผมรักเดินออกไปโดยไม่แม้แต่จะห้าม

            นั่นสินะ ผมคิดถึงแต่ความพอใจของตัวเองฝ่ายเดียว กลัวว่าจะต้องรับกับความผิดหวัง กลัวว่าจะต้องเจ็บ กลัวว่าจะต้องอ่อนแอ แต่ผมไม่เคยคิดเลย ว่ามีใครอีกคนที่พยายามแทบตายเพื่อปกป้องผม

            ผมวางเงินเอาไว้บนโต๊ะก่อนจะวิ่งตามไอ้ตุลออกไป คนตัวสูงเดินคอตกไวๆไปตามถนน

            ก็แค่คิดว่าถ้าปล่อยไป มันอาจจะร้องไห้อีกแน่ๆ

            ขายาวๆของผมวิ่งตามแผ่นหลังของไอ้ตุลไป วิ่งจนแทบจะหกล้มหัวทิ่มไปตามฟุตบาท โชคดีที่ว่าเด็กมหา’ลัยยังไม่เลิกเรียนกันเลยไม่มีใครมาสนใจผม ผมวิ่งจนกระทั่งฝ่ามือเอื้อมไปคว้าชายเสื้อนักศึกษาสีขาวของไอ้ตุลเอาไว้ได้ คนถูกดึงโดนกระชากกลับมาจนหัวแทบทิ่มแต่โชคดีผมคว้ามันเอาไว้ ตุลาการมีสีหน้าประหลาดใจที่ผมมายืนอยู่ตรงนี้

            ผมยืนหอบแฮ่กๆเหมือนวิ่งรอบสนามมา ก่อนจะคว้ามือของคนตรงหน้ามาจับเอาไว้ มืออุ่นๆของมัน อุ่นและพึ่งพาได้เหมือนอย่างที่เนบอก

            “ขะ…” เสียงที่เปล่งออกไปดันชะงักอยู่แบบนั้น ผมกับไอ้ตุลมองตากันกระพริบตาปริบๆ แถมยังมีซาวด์รถบรรทุกข้างหลังดังกระหึ่มจนกลบเสียงของผมหมด

            มาวิ่งอะไรตอนนี้วะ!!

            “นิ” ตุลเรียกชื่อผมเหมือนกับสงสัยว่าผมจะพูดอะไร พอผมจะพูดขอโทษอีกที

            “ขะ…”

            ‘บรื้นนนน!!!’

เสียงมอเตอร์ไซค์ติดท่อขนาดยักษ์ก็วิ่งผ่านไป…

            ไอ้…

            เวรนี่

            พอเจอคนตรงหน้าจ้องมากๆเข้า จากที่อยากขอโทษกลายเป็นว่าผมพูดไม่ออกไปซะอย่างนั้น สุดท้ายผมเลยวิ่งหนีไอ้ตุลแทน

            ผมไม่ค่อยได้พูดคำขอโทษออกจากปากสักเท่าไร ส่วนมากเวลาผมทำผิดผมก็มักจะติ๊ต่างไปเองว่าผมไม่ได้ผิดแล้วก็เอาแต่กร่นด่าว่าไอ้ตุลนั่นแหละที่ทำตัวไม่แฟร์ทั้งๆที่เป็นผมเองที่เอาแต่ใจจนไม่สนใจว่ามันจะรู้ยังไง

            มันคงอึดอัดมากๆที่ครอบครัวไม่ชอบเน มันคงอึดอัดที่พ่อของมันอาจจะสั่งให้มันเลิกกับเน แต่ถึงอย่างนั้น ผู้ชายคนนี้ก็ยังยืนยันที่จะคบกับน้องชายของผม จนกระทั่งเนจากไป พอมันได้เจอผม ความจริงจังบวกกับความเข้มแข็งของมัน มันก็ยืนยัน ว่าทุกอย่างจะต้องไปได้ดี

            ‘หมับ’

            มือของตุลคว้าแขนของผมเอาไว้พลางกระชากไปด้านหลัง ผมตัวลอยเข้าไปหาไอ้ตุลง่ายๆเพราะไม่ได้ตั้งหลัก โชคดีที่ว่าไม่ได้อยู่ริมถนน ผมวิ่งเข้ามาในซอยที่แยกเป็นซอยเล็กๆ

            “อะไร!!!”

            ริมฝีปากเย็นๆของตุลแตะลงบนริมฝีปากของผมเบาๆแล้วถอนออก ผมมองไอ้ตุลอึ้งๆด้วยความตกใจ เจ้าตัวคลี่ยิ้มออกมานิดๆพลางกอดผมเอาไว้

            ซอยที่ไม่มีคนผ่านไปผ่านมาเงียบซะจนได้ยินเสียงลมหายใจของไอ้ตุลดังข้างๆหู

            “เชื่อใจเถอะ ผมบอกแล้วไง ต่อให้เกิดอะไรขึ้น ผมก็จะไม่ปล่อยนิไปอีก”

            ผมขยำเสื้อบนแผ่นหลังของไอ้ตุลแน่น พลางซบหน้าลงบนไหล่กว้างๆของมัน

            นั่นสินะ

            มึงมันเก่งจะตาย ไอ้ลูกหมาบ้า

            “ขอโทษ…”

            อย่าคิดจะปล่อยมือกูก็แล้วกัน ตุลาการ ไม่อย่างนั้นกูไม่เอามึงไว้แน่

            TBC

ออฟไลน์ นางฟ้าเชียงชุน

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
Re: (___Last love__) by Jiwinil ตอนที่ 20 Love is Trust (28-11-59)
«ตอบ #106 เมื่อ28-11-2016 22:28:58 »

ทำไมเรารุ้สึกว่าพี่ตุลย์เจ้ามารยาจัง หรือคิดไปเอง :hao4: :hao4: :hao4:

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4
Re: (___Last love__) by Jiwinil ตอนที่ 21 Love is Trust (28-11-59)
«ตอบ #107 เมื่อ28-11-2016 23:26:24 »

 :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
Re: (___Last love__) by Jiwinil ตอนที่ 21 Love is Trust (28-11-59)
«ตอบ #108 เมื่อ29-11-2016 02:27:34 »

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
Re: (___Last love__) by Jiwinil ตอนที่ 21 Love is Trust (28-11-59)
«ตอบ #109 เมื่อ29-11-2016 22:58:55 »

ตุลมีความเล่นใหญ่หนักมาก 55555555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: (___Last love__) by Jiwinil ตอนที่ 21 Love is Trust (28-11-59)
« ตอบ #109 เมื่อ: 29-11-2016 22:58:55 »





ออฟไลน์ leenanhyun

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 66
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +102/-2
Re: (___Last love__) by Jiwinil ตอนที่ 22 Love Irresistible (12-12-59)
«ตอบ #110 เมื่อ12-12-2016 11:17:04 »

Chapter
22



            การสอบผ่านพ้นไปด้วยดีเหมือนกับยกภูเขาออกจากอก ผมปล่อยให้ตุลมันอ่านหนังสือใช้สมาธิไปกับหนังสือหนึ่งอาทิตย์เต็มๆโดยไม่เข้าไปยุ่งจุ้นจ้าน จะมีก็โทรคุยกันบ้าง ตอนนี้ผมย้ายมานอนบ้านไอ้เจลแทน ส่วนไอ้เดลน้องชายไอ้เจลน่ะเหรอ โดนเด้งกลับไปอยู่หอนู่นเพราะไอ้เจลมันไม่ชอบให้ไอ้เดลมาวุ่นวายกับชีวิตส่วนตัวมันเท่าไร

            พ่อของผมกลับจากญี่ปุ่นก็โทรชวนผมไปกินข้าวกับน้าเบลและไอ้สาม เพื่อนของพ่อและลูกชายของเธอที่ผมเคยเจอกันเมื่อตอนเด็กๆ แต่ผมปฏิเสธไปเพราะว่าผมยังไม่พร้อมตอบคำถามอะไรเกี่ยวกับเนและแม่ทั้งสิ้น พ่อชอบไปเที่ยวญี่ปุ่นบ่อยๆเพราะชอบอากาศและบ้านเมือง ผิดกับผมที่ชอบขลุกอยู่ที่เมืองโรแมนติคอย่างปารีส

            ผมว่าจะเริ่มคุยกับไอ้ตุลเรื่องที่ว่ามันจะไปเรียนต่อหรือจะสอบเป็นทนายเลยในเร็วๆนี้ รอให้มันผ่านการสอบและโปรเจคมากมายก่ายกองนั่นไปซะก่อน ที่ตุลมันต้องอ่านหนังสือหนักขนาดนี้ก็เป็นเพราะว่าเนดันมาจากไปซะก่อน

            น่าแปลกที่หลังจากอะไรๆลงตัวผมก็ไม่ได้กันไปสนใจข้อความของเนอีก แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่ได้ทิ้งโทรศัพท์ของเนไปเพราะยังมีข้อความที่ผมเคยคุยกับเนเอาไว้ บางที การอยู่เงียบๆไม่หาอะไรเข้ามาให้ปวดหัวก็ดีไปอีกแบบ

            “ซ้าย … เอ้ย น่าจะขวา เบอร์สี่ต้องอยู่นี่” ผมมองแผ่นหลังของเพื่อนตัวเองที่กำลังจริงจังกับการวางแผนแข่งบาสเกตบอลที่จะมีตอนปิดเทอม ไอ้ตุลเองก็อยากจะลงแข่ง แต่เพราะมันเรียนจบแล้ว เลยต้องสนใจอนาคตมากกว่า

            ไอ้เจลช่วงนี้ก็ดูอารมณ์ดีผิดปกติ สอบถามจากไอ้ธามมาถึงได้รู้ว่ามันแอบชอบผู้หญิงคนหนึ่ง ก็ดี ผมไม่อยากให้ไอ้เจลอยู่คนเดียว บางทีการมีใครอีกคนอยู่ข้างๆมันก็ไม่ได้แย่

            ห่ะๆ ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงด่าไปแล้วว่าเรื่องแบบนี้มันไร้สาระ

            แต่ก็นะ … การมีไอ้ตุลตามไปไหนมาไหนคอยถามเรื่องนู้นเรื่องนี้ ถึงจะน่ารำคาญ แต่มันก็ไม่ได้แย่

            “ว่าแต่มึงกับตุลคบกันเป็นแฟนยังวะ” จู่ๆไอ้เจลก็ถามขึ้นมาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ผมเลิกคิ้วมองมัน

            “ยัง”

            ผมไม่ได้สนใจสถานะ แค่รู้ว่าเป็นคนพิเศษแค่นั้นก็พอ ทำไมต้องสนใจว่าจะเป็นแฟนหรือเป็นอะไร ยังไงซะถ้าคนมันจะพิเศษ มันก็พิเศษไม่ว่าจะอยู่ในสถานะอะไร บางทีคนที่เรียกตัวเองว่าแฟนๆ ยังรักกันไม่เท่าคนที่รักกันแบบไร้สถานะ

            “เอ้า ไอ้ตุลไม่เคยขอเหรอวะ”

            “ไม่ กูไม่ชอบด้วย” ผมก้มหน้าอ่านหนังสือการ์ตูนต่อ ไอ้เจลที่ง่วนอยู่กับการวางแผนแข่งบาสก็ไม่ได้เซ้าซี้อะไรมากนัก

            นั่นสิ เป็นแบบนี้น่ะดีแล้ว เรื่องแบบนี้มันไม่ใช่สิ่งที่ต้องรีบสักหน่อย

 

            หลังจากไอ้ตุลสอบเสร็จ มันก็นัดผมออกไปดูหนังคลายเครียด ดีที่ไอ้ตุลไม่ได้เป็นคนชอบดูหนังรักโรแมนติคอะไรเทือกนั้นเพราะผมเองก็ไม่ชอบ เราสองคนเลยมาดูหนังไซไฟยิงๆกันแทน ที่ตลกที่สุดคือ คนที่บอกว่าอยากจะดูหนัง แค่เดินเข้าโรง หนังฉายไม่ถึงยี่สิบนาที ไอ้ตุลก็หลับหัวทิ่มหัวตำ

            ผมเห็นไอ้ตุลผงกหัวจนแทบจะทิ่มไปด้านหน้า เลยต้องจำใจจับหัวมันมาวางที่ไหล่

            อ่านหนังสือหนักจนแทบไม่ได้นอนสินะ

            ผมนั่งดูหนังไปเรื่อยๆด้วยความตั้งใจ จนกระทั่งหนังจบ ไอ้คนข้างๆก็ตื่นขึ้นมาพอดีเหมือนกับว่าตั้งนาฬิกาปลุกเอาไว้ ตุลหันมามองหน้าผมงงๆก่อนจะอ้าปากหาว

            “ขอโทษ เผลอหลับซะงั้น”

            “วันหลังง่วงก็ไม่ต้องออกมาเจอก็ได้ นอนพักให้เต็มอิ่มก่อนดิ” ผมดุมันเหมือนพ่อ แต่ไอ้ตุลส่ายหน้ายิกๆขณะที่เราสองคนค่อยๆลุกออกจากที่นั่งในโรงหนังแล้วเดินไปที่ประตูทางออก

            ผมกับตุลเดินออกเป็นสองคนสุดท้าย จู่ๆมือของไอ้ตุลก็ยื่นมาจับมือผมไว้ เจ้าตัวยิ้มโชว์ลักยิ้มจนแก้มบุ๋ม

            “ก็ไม่ได้เจอกันตั้งหนึ่งอาทิตย์ ผมก็คิดถึงนินี่”

            ตาผมแทบถลนออกจากเบ้าเมื่อคนตรงหน้าพูดอะไรไม่เกรงใจเจ้าที่เจ้าทางเลยสักนิด

            “ตลก!!!”

            ผมสะบัดมือไอ้ตุลออกแล้วเดินไวๆออกจากโรงหนัง คนที่เหมือนจะปั่นหัวผมสำเร็จเดินยิ้มร่าตามมาไม่ติด เราสองคนไปหยุดอยู่ที่ร้านข้าวร้านหนึ่งก่อนจะสั่งอาหารมาคนละที่

            พอกินข้าวเสร็จ ผมกับตุลก็ใช้เวลาทั้งวันไปนั่งเล่นที่สนามบาสของมหา’ลัยที่ไม่มีใครใช้เนื่องจากปิดเทอม ไอ้ตุลโยนลูกบาสลงห่วงแทบจะทุกลูก ผมได้แต่นั่งเท้าคางมองคนที่โยนลูกบาสลงห่วงเหมือนกับคิดถึงมันเสียเต็มประดา

            ตุลมันดูดีจริงๆเวลาเล่นบาส ไม่แปลกที่เนมันมักจะชอบมาอวยให้ผมฟังประจำว่าแฟนมันหล่ออย่างนั้น เท่อย่างนี้ ดูดีอย่างนั้น เก่งอย่างนี้

            ยอมรับว่าบางทีก็น่าหมั่นไส้

            “นิ เล่นมั้ย” คนตรงหน้าถามขึ้น ผมส่ายหน้า แต่ไอ้ตุลเหมือนจะไม่ฟัง มันลากผมลงไปในสนามแล้วแข่งกันสิบแต้ม ใครชนะสามารถสั่งอะไรคนแพ้ก็ได้

            พอเห็นแบบนั้น เกมมันก็ชักจะน่าสนุก

            ถ้าไม่ติดที่ว่า ผมเตี้ยกว่าไอ้ตุล ถึงจะไม่มาก แต่ผมก็ยังเตี้ยกว่ามันอยู่ดี อีกอย่าง ไอ้ตุลเป็นนักบาส

            “มึงโคตรขี้โกง!!!” ผมด่าไอ้ตุลที่โยนนำแต้มผมไปหกลูกได้ คนถูกด่าหันมาทำหน้างงๆใส่

            “โกงไงวะ”

            “มึงเป็นนักบาส แน่จริงมาแข่งเทควันโดกับกูสิ!!!”

            “อ้าว ผมก็แพ้สิ นิเป็นนักเทควันโดไม่ใช่เหรอ!!”

            “ไม่รู้ล่ะมึงขี้โกง!!! กูไม่ทำตามคำสั่งมึงแน่!!!” เมื่อแพ้ผมก็เริ่มจะพาลใส่ไอ้ตุล เจ้าตัวหัวเราะเหมือนกับไม่มีเรื่องอะไรน่าเป็นห่วง

            ผมหันหลังจะเดินออกจากสนาม แต่ไอ้ตุลกลับคว้าแขนผมเอาไว้แล้วดึงเข้าไปใกล้ คนตัวสูงมันยืนซ้อนหลังผมแล้วจับลูกบาสยัดใส่มือผม มือสองข้างของตุลจับมือสองข้างของผมเอาไว้

            “ทำอะไรของมึงหา!!!”

            “ก็จะทำให้นิชนะไง” ไอ้ตุลว่า ผมขมวดคิ้ววุ่นแล้วจะหันไปตวาดใส่มัน จมูกโด่งๆของคนด้านหลังกดลงบนแก้มของผมแล้วถอนออกไวๆจนไม่ทันได้ตั้งตัว
           
            “ไอ้วิปริตนี่!!!”

            “ถ้านิชนะ นิจะได้สั่งอะไรผมก็ได้ไง ไม่ดีเหรอครับ”

            ดี!!!

            สุดท้ายผมก็ปล่อยให้ไอ้ตุลจับแขนผมแล้วโยนลูกบาสลงห่วงไปจนครบสิบลูก แม้มันจะทุลักทุเลและขี้โกงแต่ผมก็ชนะ ตุลาการยืนจำใจรับคำสั่งของผมแต่โดยดี แต่ผมเพียงแค่กระชากเสื้อมันลงมาแล้วจ้องหน้าไอ้ตุลเขม็ง คนตรงหน้ากระพริบตาปริบๆเหมือนหมาเชื่องๆ

            “กูขอสั่งห้าม ห้ามมึงเลิกรักกู”

            มันเป็นคำสั่งที่ผมทำใจอยู่นานแต่ก็ผลก็ออกมาดี

            “คำสั่งมีผลตลอดชีวิตใช่มั้ย” ไอ้ตุลถาม ผมแค่หันหลังหนีมันแล้วเดาะลูกบาสเล่น

            “เออ”

            “งั้นมาแข่งเทควันโดกัน ถ้าผมชนะ นิต้องยอมทำตามคำสั่งผมบ้าง”

            คำขอของไอ้ตุลทำให้ผมถึงกับแสยะยิ้ม ผมเป็นแชมป์เทควันโดหลายสมัยนะไม่อยากจะบอก อีกอย่างก็เล่นเทควันโดมาตั้งแต่เด็กๆ คราวนี้แหละไอ้ตุลแพ้แน่ๆ ไม่รอด!!!

            …

            หนึ่งชั่วโมงผ่านไป

            “โอ้ยเจ็บๆๆๆ!!!!” ผมตะโกนแหกปากเมื่อไอ้ตุลนั่งทับตัวของผมอยู่ ถึงจะพูดว่าจะไม่ออมแรงให้แต่ผมก็ทำได้แค่เตะต่อยไอ้ตุลเบาๆ ไม่กล้าจับมันทุ่ม พอมันได้ใจว่าผมจะไม่ทำอะไรมันแรงๆเท่านั้นแหละ ไอ้คนขี้โกงก็ขัดขาผมแล้วดันร่วงตามลงมา แล้วร่วงลงมาดีๆไม่ได้

            ก้นกบแม่งทับท้องผมเข้าจังๆ

            “โอะ ขอโทษๆ” ไอ้ตุลขอโทษขอโพย แต่สุดท้ายก็ยิ้มเผล่ออกมา ผมมองหน้าคนเจ้าเล่ห์ด้วยความไม่พอใจ เหงื่อแตกจนเป็นน้ำตกเพราะสู้กับมันเนี่ยแหละ แม่งเป็นต้นไม้หรือไงวะ ล้มไม่ลงเลย!

            “คราวนี้ตาผมสั่งมั่ง” ผมมองคนที่มีสีหน้าจริงจัง หวังว่ามันคงไม่สั่งอะไรแผลงๆหรอกนะ จู่ๆคนที่นั่งทับผมอยู่ก็ก้มลงมาใกล้ๆก่อนจะกัดหูผมทำท่าเหมือนตัวเองเป็นหมา

            พอเห็นว่าจะเสียเปรียบผมเลยต่อยท้องไอ้ตุลไปแล้วเป็นฝ่ายพลิกตัวมานั่งทับมันแทน มือสองข้างของตุลาการจับแขนสองข้างของผมเอาไว้แล้วยิ้มโชว์ลักยิ้มแบบที่ชอบทำ

            “ผมขอสั่งให้นิรักผมซักที”

            “!!!”     

            ผมนั่งใบ้กินพลางเบือนหน้าหนีไอ้ตุล นี่มันเกินกว่าที่ผมคาดไว้ ตอนแรกผมนึกว่ามันจะเล่นอะไรแผลงๆซะอีก แต่นี่มัน … นี่มันอันตรายสุดๆ!!!

            ผมพยายามจะลุกหนีผู้ชายที่ทำให้ใจเต้นรัวจนแทบจะหลุดออกมากลิ้งที่พื้น แต่เพราะไอ้ตุลยังจับมือผมไว้แน่น สุดท้ายผมเลยทำเนียนด่ามันไป

            “ปล่อยดิวะ ร้อน!!!”

            “ออกจะหนาว ดูดินิหน้าแดงมือเย็นไปหมดเลย” ไอ้ตุลเริ่มจะกวนประสาทผม ผมยกมือจะฟาดหัวมันแต่เจ้าตัวกลับคว้ามือผมเข้าไปกดจูบเบาๆเล่นเอาหน้าร้อนผ่าว

            “แต่ต่อให้นิไม่รักผม ผมก็รักนิมากๆนะครับ”

            ‘ปัง’

            เสียงเหมือนใครเอาปืนมายิงจนสมองไหล ระบบควบคุมตนเองของผมถูกไอ้คนตรงหน้าพังทลายย่อยยับไม่เหลือซาก

            “ปล่อย!!”

            “ไม่”

            “บอกให้ปล่อยไง!!!”

            “โน”

            “ไอ้หมาบ้าปล่อย!!!”

            ไอ้ตุลดึงผมเข้าไปกอดแล้วขยี้หัวผมเบาๆ พอเจอแบบนั้น สติผมก็หลุดไปแทบจะทั้งหมด

            คนตรงหน้าทำให้ผมไม่มีแรงต้านทานเลยสักนิด

 

             “ผมว่าจะไปเรียนต่อ” คำพูดของตุลที่พูดขึ้นระหว่างที่เรากำลังเดินกลับคอนโดทำให้ผมชะงักไปพลางมองหน้ามัน เจ้าตัวยิ้มนิดๆก่อนจะบีบมือผมแน่น

            งั้นเหรอ ตัดสินใจแล้วอย่างนั้นน่ะเหรอ

            “ผมล้อเล่นน่ะ”

            “ห้ะ!!!” ผมหันไปถลึงตาใส่ไอ้ตุลด้วยความโมโห เจ้าตัวทำหน้าเหรอหราเหมือนสนุกที่ได้แกล้งผมแต่ผมไม่สนุกด้วย ผมใช้เท้าถีบขาคนตรงหน้าจนไอ้ตุลร่วงลงไปนั่งกุมขาร้องโอดโอย

            “เจ็บนะนิติ”

            “ก็ใครใช้ให้ล้อเล่นเล่า!”

            ถ้าเกิดมันไปเรียนต่อจริงๆ ผมไม่อยากอยู่คนเดียว

            ไอ้ตุลเดินตามผมแล้วกอดคอผมเอาไว้ก่อนจะใช้มือของมันยีหัวผม

            “ไม่ไปหรอก เดี๋ยวคนแถวนี้คิดถึงอกแตกตาย”

            ตายกับผีแกเถอะ

            “ผมว่าจะทำสิ่งที่อยากทำก่อนน่ะครับ ก่อนจะเรียนต่อแล้วก็สอบทนาย เพราะว่าถ้าสอบทนายไปแล้ว คงไม่มีเวลามานั่งทำสิ่งที่อยากทำแน่ๆ” ไอ้ตุลพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ไม่มีแววตลกเหมือนเมื่อตะกี้ ผมถอนหายใจด้วยความโล่งอก ถึงจะพูดว่ายังไงก็จะเรียนต่อ แต่แค่เลื่อนระยะเวลาออกไปแค่นั้นก็พอแล้ว

            “แล้วมึงอยากทำอะไร”

            “อยากเป็นติวเตอร์ให้เด็กอักษรศาสตร์แถวนี้น่ะครับ”

            ผมหันไปมองไอ้ตุลแล้วเลิกคิ้วถามว่านี่เล่นตลกอีกหรือเปล่า แต่เจ้าตัวมีสีหน้าจริงจังไม่ล้อเล่น

            “ใครวะ”

            “เอ้า กระรอกบนเสาไฟฟ้ามั้ง”

            ‘ผั่วะ’

            ไอ้ตุลร้องโอยแล้วนั่งกุมหัวตัวเองที่โดนผมเอากระเป๋าฟาดไปเมื่อกี้ ผมรีบเดินไวๆขึ้นคอนโดไปโดยไม่สนใจไอ้คนที่กึ่งวิ่งกึ่งเดินตามมา

            ติวเตอร์เด็กอักษรศาสตร์อย่างนั้นเหรอ ผมมองใบหน้าของตัวเองที่สะท้อนอยู่บนกระจกในลิฟต์ หน้าของผมแดงเหมือนไปวิ่งรอบสนามมาสามรอบ

            กูไม่ได้อยากได้ติวเตอร์สักหน่อย ไอ้บ้า

            TBC

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4
Re: (___Last love__) by Jiwinil ตอนที่ 22 Love Irresistible (12-12-59)
«ตอบ #111 เมื่อ12-12-2016 11:53:59 »

 :impress2: :impress2: :impress2:

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
Re: (___Last love__) by Jiwinil ตอนที่ 22 Love Irresistible (12-12-59)
«ตอบ #112 เมื่อ14-12-2016 01:41:10 »

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ magic-moon

  • magKapleVE
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 495
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
    • Freedom of meetups, no obligations
Re: (___Last love__) by Jiwinil ตอนที่ 22 Love Irresistible (12-12-59)
«ตอบ #113 เมื่อ14-12-2016 04:58:48 »

น่ารักกกก

ออฟไลน์ นางฟ้าเชียงชุน

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
Re: (___Last love__) by Jiwinil ตอนที่ 22 Love Irresistible (12-12-59)
«ตอบ #114 เมื่อ14-12-2016 15:11:04 »

 ขำนิติ ภายในช่างสวนทางกับภายนอกสุดๆ

ออฟไลน์ B u T t e R

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
Re: (___Last love__) by Jiwinil ตอนที่ 22 Love Irresistible (12-12-59)
«ตอบ #115 เมื่อ25-12-2016 23:24:32 »

งื้ออออ น่ารักกกกกก
กำลังแฮปปี้
เดี๋ยวต้องเตรียมรอระเบิดจากทางบ้านตุลใช่มั้ยเนี่ย

ออฟไลน์ leenanhyun

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 66
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +102/-2
Re: (___Last love__) by Jiwinil ตอนที่ 23 Love is Trouble (06-01-60)
«ตอบ #116 เมื่อ06-01-2017 21:56:37 »

Chapter
23

 

            “นิ แล้วคำตอบล่ะครับ”

            ตุลาการวิ่งตามผมมาไวๆพร้อมกับขอคำตอบว่าผมจะยอมเป็นนักเรียนให้มันไหม แต่ยิ่งมันทำแบบนั้นก็ทำให้ผมรู้สึกอยากจะหนีมันไปให้ไกลๆ ไม่ใช่เพราะโมโหหรือโกรธ แต่เป็นเพราะดีใจ

            เคยรู้สึกดีใจตัวจะแตกไหม เวลาที่ใครคนหนึ่งอยากทำอะไรเพื่อเราขนาดนี้

            มันคงรู้ว่าถ้ามันไปเรียนต่อตอนนี้เลย ผมคงทำใจไม่ได้ ทั้งๆที่มันยืนยันว่าจะเรียนต่อก็เถอะ

            ถ้าเป็นตัวผม ผมคงไม่ลังเลที่จะไปเรียนต่อเลย แต่เพราะนี่คือไอ้ตุล เพราะแบบนี้ไง ทำไมเนถึงรักผู้ชายคนนี้ และทำไม ผมถึงละสายตาจากผู้ชายคนนี้ไปไม่ได้

            “ติดไว้ก่อนแล้วกัน!”

            ผมตะโกนบอกไอ้ตุลที่วิ่งตามมาด้วยความหมั่นไส้ ก่อนจะแตะคีย์การ์ดลงที่หน้าประตูแล้วผลักประตูห้องเข้าไป ขาสองข้างที่กำลังจะก้าวเข้าไปในห้องชะงักกึกอยู่กับที่ สายตาผมไปสบกับแววตาดุๆของผู้ชายตัวสูงที่อยู่ในห้อง เขามองมาที่ผมด้วยความตกใจ ผู้ชายที่สวมชุดยูนิฟอร์มของนักบินสายการบินชื่อดัง ใบหน้าที่เหมือนกับเจ้าของห้องแค่เห็นก็เดาออกว่าผู้ชายคนนี้เป็นใคร

            พี่ชายไอ้ตุลแน่ๆ … อัยการ

            “หนีไปไหนไม่รอดหรอก!!” ตุลาการโผล่มาด้านหลังผมแล้วพุ่งเข้ามากอดเอวผม ผมพยายามสะบัดมันออกเพราะสายตาของพี่ชายมันจ้องมาตรงนี้ราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ

            จู่ๆไอ้ตุลก็นิ่งไป มันคงเห็นแล้วว่าพี่ชายของมันยืนอยู่ในห้อง มือของมันคว้าแขนของผมแล้วลากผมไปยืนอยู่ด้านหลัง แผ่นหลังกว้างๆของตุลบังสายตาของผู้ชายอีกคนมิด

            “เฮียอัย…” เสียงของตุลาการอ่อนลง ผมรู้ว่าตุลมันเป็นคนที่ไม่ค่อยกลัวอะไร แต่จากการที่ฝ่ามือของมันที่จับแขนผมอยู่เหงื่อชื้นขึ้นขนาดนั้น แสดงว่าผู้ชายที่ชื่อ อัยการ มีอิทธิพลต่อน้องชายจริงๆ

            “นั่นมัน … เน” ว่าแล้ว … พี่ชายของไอ้ตุลคงนึกว่าผมเป็นผีเนจริงๆด้วย

            “ไม่ใช่ นี่พี่ชายเน ชื่อนิติ” ไอ้ตุลว่า ยังไม่ทันไรพี่ชายของมันก็ปราดเข้ามากระชากเสื้อน้องชายอย่างแรงจนผมต้องหลบไปยืนอยู่ด้านหลัง ผมมองภาพตรงหน้านิ่งๆ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมตุลถึงกลัวพี่มัน

            “นี่มันเรื่องตลกอะไรห้ะตุล!!!”

            “ผู้ชายคนนี้เป็นแฝดพี่ของเน”

            “แล้วทำไมเขาถึงมาอยู่ในห้องแก”

            “ผมรักเขา”

            คำพูดของไอ้ตุลทำเอาทั้งห้องเงียบไป อัยการหันมามองผมด้วยสายตาแบบอธิบายไม่ถูก เขาคงไม่อยากจะเชื่อล่ะมั้งว่าน้องชายจะมารักคนที่หน้าตาเหมือนแฟนเก่าที่ตายไป

            “ตั้งแต่เมื่อไร?” อัยการทำหน้าไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่น้องชายพูด ผู้ชายที่มีการงานทำเป็นถึงนักบินดูมีความรับผิดชอบมองผมกับตุลสลับกันไปมา

            “หลายเดือนแล้ว หลังจากเนตายได้สักพัก” ไอ้ตุลก้มหน้ามองพื้นแถมยังกำหมัดแน่น ผมมองภาพตรงหน้าด้วยความอึดอัด

            รู้ว่าวันหนึ่งต้องเจอกับเรื่องแบบนี้ แค่ไม่นึกว่ามันจะมาเร็วขนาดนี้

            “นี่แกทำบ้าอะไร! ไม่มียางอายเลยหรือไง แกไปรักคนที่หน้าเหมือนแฟนแกที่ตายไปแล้วเนี่ยนะ!!?” อัยการตะคอกใส่น้องชายของเขา ผมกัดริมฝีปากแน่น

            “มันคนละคนกัน”

            “แต่เขาเป็นฝาแฝดกัน!!”

            “ถ้าไม่ใช่เขา ป่านนี้ผมอาจจะตายไปแล้วก็ได้”

            “แกคิดจะฆ่าตัวตายหรือไง”

            “ก็แค่เคย”

            “นี่มันจะบ้าไปกันใหญ่ ถ้าพ่อรู้เรื่องนี้จะว่ายังไง”

            อัยการถามคำถามที่ทำให้ตุลถึงกับเงียบเป็นใบ้ไป ผมเดินเข้าไปหาไอ้ตุลแล้วจับไหล่มันบีบเบาๆพลางหันไปมองหน้าพี่ชายของตุล

            ผมรู้ว่าตุลมันกดดัน ผมรู้ว่ามันคิดมาก ผมก็เป็น ไม่ใช่ผมไม่เคยคิดว่าสักวันมันจะต้องเป็นแบบนี้ ผมคิดมาตลอด คิดมากกว่ามันด้วยมั้ง ผมถึงได้ว่ามันตอนที่มันไม่ยอมบอกว่าพี่ชายมันแอนตี้น้องชายผม

            “ไม่ว่าคุณจะอคติอะไรกับน้องชายของผม หรือคุณจะอคติที่ผมหน้าตาเหมือนน้องชายผมคนที่คุณไม่ชอบ แต่ผมเป็นคนละคนกับเน”

            อัยการกุมขมับแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่

            “แล้วนายไม่คิดหรือไงว่ามันแปลก ครอบครัวนายไม่รู้สึกอะไรบ้างหรือไงที่ลูกมีผู้ชายคนเดียวกัน”

            ‘เพี้ยะ!!!’

            ผมฟาดหลังฝ่ามือลงบนใบหน้าของอัยการจนเขาหน้าหัน ไอ้ตุลถึงกับคว้ามือผมไว้ด้วยความตกใจที่ผมตบพี่ชายของมัน แต่การพูดจาแบบนั้น มันน่าเกลียดน่าขยะแขยงชิบ

            “แม่ผมตายไปแล้ว พ่อผมอนุญาตให้ทำอะไรตามใจก็ได้ แล้วอีกอย่าง ผมก็มาดูแลน้องชายของคุณตามที่น้องชายผมขอ”

            “นิ…” ไอ้ตุลเขย่าแขนผมเพราะไม่อยากจะให้ไปต่อกรอะไรกับพี่ชายของมัน แต่ยิ่งเห็นผู้ชายตรงหน้า มันก็ยิ่งทำให้ผมขยะแขยง ผู้ชายคนเดียวกับน้องชายเหรอ เหอะ

            ดูถูกกันชัดๆ

            อัยการมองหน้าผมด้วยความตกใจ ตาเขาแทบจะถลนออกมาจากเบ้า ผมชี้หน้าผู้ชายตรงแบบไม่คิดจะเกรงใจอะไร เพราะเขาไม่คิดจะเกรงใจผมตั้งแต่แรก

            “ผมไม่ได้อยากจะมีผู้ชายคนเดียวกับน้องชายหรอก ถ้าไม่ใช่เพราะตอนที่ไอ้ตุลมันจะตาย พี่ชายมันดันหายหัวไปเสวยสุขที่ไหนไม่รู้ ผมจะไม่พูดถึงพ่อกับแม่เพราะไม่อยากล่วงเกิน”

            “ถ้าไม่ได้ผม ป่านนี้น้องชายคุณกรีดข้อมือ กินเหล้าหัวทิ่มตายห่า เรียนไม่จบไปแล้ว”

            ผมพูดด้วยเสียงเรียบนิ่ง ไม่ตะคอกไม่โวยวายอะไรทั้งนั้น

            แต่ถ้าคิดว่าคำพูดแค่นั้นจะทำให้คนอย่างพี่ชายของไอ้ตุลยอมลงได้ มันก็ไม่ใช่

            อัยการคว้ากระเป๋าของเขาแล้วเดินชนไหล่ผมออกไปจากห้อง โดยไม่ลืมทิ้งท้ายคำพูดไว้ให้กับน้องชาย ที่บ่งบอกว่าต่อจากนี้ มันคงยากและวุ่นวายกว่านี้ขึ้นเป็นอีกเท่าตัว

            “ยังไงพี่ก็จะบอกพ่อ”

            ประตูห้องปิดลงพร้อมกับบรรยากาศที่เงียบราวกับป่าช้า ผมยืนกลอกตาด้วยความหงุดหงิดพลางกอดอกแล้วถอนหายใจหลายรอบๆเพื่อระบายความโกรธ

            “นิ” ตุลเขย่าแขนผมเบาๆ ส่วนผมก็ทำได้แค่ยืนมองพื้นพรมสีเทาอ่อนนิ่งๆ

            หลังจากนี้ อะไรๆมันจะต้องแย่ลงแน่ๆ

            ผมกุมฝ่ามือของคนที่ยืนอยู่ข้างๆแน่น

            แล้วแบบนี้ ผมจะมั่นใจได้ยังไง ว่าจะจับมือของตุลแน่นพอ

            จู่ๆไอ้ตุลก็เปลี่ยนเป็นฝ่ายกุมฝ่ามือของผมเอาไว้ มืออีกข้างของมันดึงร่างผมเข้าไปไว้ในอ้อมกอด อ้อมกอดหลวมๆแต่รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นและความเข้มแข็งที่ตุลาการมี มันทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นมานิดหน่อย

            “ทุกอย่างต้องผ่านไปด้วยดี ผมสัญญา”

            อือ ทุกอย่างมันต้องผ่านไปด้วยดี

            นั่นสินะ ต่อให้ผมจับมือมันไม่แน่น แต่มันก็สัญญาแล้วนี่ ว่าจะไม่มีวันปล่อยผมไป

 

            ตกกลางคืน ผมนอนไม่หลับ แต่ไอ้ตุลที่เหนื่อยจากการอ่านหนังสือสอบยังคงหลับเป็นตายเหมือนเดิม ผมมองผู้ชายที่นอนหลับตาพริ้ม ถึงอย่างนั้นคิ้วของมันก็ยังขมวดวุ่น คงเพราะเรื่องพี่ชายแหละมั้ง เพราะผมเองก็นอนไม่หลับเพราะเรื่องนั้น

            ผมควานมือสะเปะสะปะหากระเป๋าสะพายพลางพยายามควานหามือถือของเนในกระเป๋าแต่ก็พบว่ามันว่างเปล่า มาคิดได้อีกที ผมเกือบจะลืมไปแล้วว่าน้องชายของผมเคยนอนอยู่ข้างๆผู้ชายคนนี้ น้องชายของผมเคยครอบครองทุกอย่างที่เป็นตุลาการ เคยครอบครองริมฝีปาก จมูก กลุ่มผม และฝ่ามือหยาบๆนี่

            นั่นสินะ ตั้งแต่เมื่อไรกันที่ผมหยุดอ่านข้อความของเน

            ตั้งแต่เมื่อไรกัน ที่ผมลืมไปว่า ผมสัญญากับตัวเองว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับตุลาการ

            จะเกิดอะไรขึ้นนะ ถ้าเกิดว่าพ่อของไอ้ตุลสั่งให้มันเลิกยุ่งกับผม จะเกิดอะไรขึ้นถ้าครอบครัวของมันรู้เข้าว่าตุลมีแฟนที่หน้าตาเหมือนเน เนที่ตายไปแล้ว

            ฝ่ามือของตุลคว้ามือของผมเอาไว้ เจ้าตัวสะลึมสะลือตื่นขึ้น

            “นิ … ไม่ง่วงเหรอครับ?” ไอ้ตุลถาม ผมส่ายหน้า

            “นอนไม่หลับ”

            “กังวลเหรอ” อือ กังวล

            “ผมบอกแล้วไง ว่าทุกอย่างมันต้องผ่านไปได้ด้วยดี”

            คนที่นอนอยู่ดึงฝ่ามือผมไปกดจูบเบาๆแล้วหลับตาต่อ ริมฝีปากของไอ้ตุลขยับพึมพำเสียงเบา

            “ผมเสียเนไปคน ผมจะไม่มีวันเสียนิไป”

            ผมเม้มริมฝีปากแน่นแล้วล้มตัวนอนข้างๆผู้ชายที่ทำให้ผมใจเต้นอยู่บ่อยๆ

            ขอโทษที่กูเป็นคนไม่เอาไหน ต้องคอยให้มึงจับมืออยู่ฝ่ายดี แต่สัญญานะ ว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น กูจะยืนอยู่ข้างๆมึงให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้

 

            ผมเผลอหลับไปอีกครั้ง ก่อนจะสะดุ้งตื่นเมื่อเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ผมโน้มตัวไปคว้าโทรศัพท์ที่วางนอนอยู่ในกระเป๋าเป้ที่วางไว้ข้างเตียง พลางกดรับแล้วเพิ่งสังเกตได้ว่าตุลาการไม่ได้นอนอยู่ข้างๆ

            อาบน้ำเหรอ หรือทำอาหารเช้า

            (แห้ง มึงอยู่ไหนเนี่ย) เสียงไนเจลดังลอดมาตามสาย ผมขมวดคิ้วงงๆ

            “คอนโดไอ้ตุล”

            (กูเพิ่งเห็นตุลมันขึ้นรถบีเอ็มไปเมื่อตะกี้ ก็นึกว่ามึงไปกับมัน)

            “!!” ห้ะ

            ผมลุกออกจากเตียงแล้ววิ่งไปที่ห้องน้ำ พลางออกไปที่ห้องครัว ไม่มีวี่แววของไอ้ตุลเลย ผมวิ่งกลับเข้ามาในห้องนอนก่อนจะชะงักไปเมื่อเห็นกระดาษโน้ตสีขาวที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียง มีแก้วน้ำทับเอาไว้

            ‘ผมจะกลับบ้านไปคุยกับพี่และพ่อ ถ้าได้เรื่องยังไงจะโทรไปหานะครับ อย่าคิดมากนะ รัก –ตุล’

            (แห้ง ยังอยู่ป่ะวะ) ไอ้เจลย้ำเมื่อเห็นผมเงียบไป ผมพยักหน้าแม้จะรู้ว่ามันคงไม่เห็น

            “ตุลกลับบ้านว่ะ”

            (อ้าวเฮ้ย มีเรื่องไรป่ะวะ)

            “ไม่รู้ว่ะเจล จู่ๆ กูก็รู้สึกกลัวขึ้นมาเฉยเลย”

            ทำไมลางสังหรณ์ของผม มันรู้สึกเหมือนกับวันที่เนตาย…

            ทำไมจู่ๆผมก็ดันรู้สึกราวกับว่า ผมจะไม่ได้เจอไอ้ตุลอีกแล้ว


            TBC


ออฟไลน์ imymild

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 354
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
Re: (___Last love__) by Jiwinil ตอนที่ 23 Love is Trouble (06-01-60)
«ตอบ #117 เมื่อ06-01-2017 23:26:33 »

กลัวดราม่าครอบครัว :hao5:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: (___Last love__) by Jiwinil ตอนที่ 23 Love is Trouble (06-01-60)
«ตอบ #118 เมื่อ07-01-2017 00:15:15 »

 :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4
Re: (___Last love__) by Jiwinil ตอนที่ 23 Love is Trouble (06-01-60)
«ตอบ #119 เมื่อ07-01-2017 00:45:58 »

 :mew6: :mew6: :mew6:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด