(___Last love__) by Jiwinil ตอนที่ 28 Love is Last (05-07-60) [END]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: (___Last love__) by Jiwinil ตอนที่ 28 Love is Last (05-07-60) [END]  (อ่าน 59374 ครั้ง)

ออฟไลน์ imymild

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 354
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
Re: (___Last love__) by Jiwinil ตอนที่ 15 Love is Sadness (12-10-59)
«ตอบ #60 เมื่อ13-10-2016 09:43:40 »

อ่านแล้วโมโห สันดารจริงๆ :m16:

ออฟไลน์ oilzaza001

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 619
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
Re: (___Last love__) by Jiwinil ตอนที่ 15 Love is Sadness (12-10-59)
«ตอบ #61 เมื่อ13-10-2016 14:03:59 »

อิงกับแม่คือตัวแทนบรรดาญาติๆทั้งหลายที่มีอยู่จริงในสังคมสมัยนี้ เฮ้ออออ เบื่อจริงๆพวกอยากได้อยากมีแต่ไม่พยายามจ้องแต่จะทำลายคนอื่นแล้วแย่งเอามา แย่!  :katai1: :katai1:  :m31: :m31:

ออฟไลน์ hoshinokoe

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
Re: (___Last love__) by Jiwinil ตอนที่ 15 Love is Sadness (12-10-59)
«ตอบ #62 เมื่อ13-10-2016 19:35:29 »

มาต่อด่วนนน

ออฟไลน์ panitanun

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
Re: (___Last love__) by Jiwinil ตอนที่ 15 Love is Sadness (12-10-59)
«ตอบ #63 เมื่อ13-10-2016 20:48:47 »

ยอมใจเลยค่ะคุณพี่อิง :z3:

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
Re: (___Last love__) by Jiwinil ตอนที่ 15 Love is Sadness (12-10-59)
«ตอบ #64 เมื่อ14-10-2016 15:07:10 »

 ไอ้อิง :z6:

ออฟไลน์ leenanhyun

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 66
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +102/-2
Re: (___Last love__) by Jiwinil ตอนที่ 16 Love is Awareness (16-10-59)
«ตอบ #65 เมื่อ16-10-2016 19:00:04 »

CHAPTER
16

            อาการปวดตัวร้าวไปถึงไขสันหลังทำให้ยากต่อการขยับตัว ผมค่อยๆลืมตาขึ้นจากการนอนหลับที่แสนจะยาวนานเหมือนกับว่าตัวเองตายไปแล้ว แต่จริงๆแล้วยังไม่ตาย กลิ่นน้ำหอมจางๆภายในห้องนอนบ่งบอกว่าผมอยู่ที่บ้านไอ้เจล

            นี่ผมหลับไปนานขนาดไหนกันถึงได้รู้สึกเหมือนหัวจะระเบิดขนาดนี้

            “นิยังไม่ตื่นเหรอ” เสียงของใครสักคนดังขึ้นหน้าห้องนอน ผมจำเสียงได้ มันคือเสียงไอ้ธาม

            “ยัง กว่าจะหลับได้ก็ตีสี่ ร้องไห้งอแงไม่หยุด” แล้วก็เสียงของเจล

            ผมนิ่งไปนิดหน่อยที่ได้ยินพวกมันพูดว่าผมร้องไห้ จริงๆผมไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรไปบ้าง รู้แค่ในหัวมีแต่เรื่องของแม่กับเนเต็มไปหมด ทั้งรู้สึกผิด ทั้งรู้สึกแย่จนไม่อยากจะอยู่อีกต่อไป

            แต่พอไอ้ตุลเดินเข้ามา แค่มันเรียกชื่อผม ผมรู้สึกแค่อยากจะร้องไห้งอแงเหมือนเด็ก ทำตัวอ่อนแอให้คนอื่นสงสาร ไม่อยากจะทำตัวเข้มแข็งอีกแล้ว

            “สาบานได้ว่าถ้ากูเจอไอ้อิงกูไม่เอามันไว้แน่”

            “เออเจอเมื่อไรบอกกูด้วย งานนี้ต้องมีแชร์”

            “ว่าแต่ไอ้นิเนี่ยนะร้องไห้ ปกติโดนด่าแค่ไหนก็ไม่เคยเห็นน้ำตาสักหยด”

            “ไม่รู้ว่ะ แค่ไอ้ตุลเรียกชื่อมันแม่งก็งอแงเป็นเด็กเลย กูก็เพิ่งเคยเห็นมันร้องหนักขนาดนี้เนี่ยแหละ แหมมึงนะ มีของดีก็ไม่บอก”

            ประตูถูกเปิดเข้ามาพร้อมกับคนที่ทำให้ผมร้องไห้งอแงเป็นเด็กๆ ไอ้ตุลแบกกระเป๋าเป้ใบโตมาวางไว้ข้างเตียงพลางหันมามองผม

            “นิ!”

            พอมันเห็นว่าผมลืมตามองมันอยู่มันก็รีบพุ่งเข้าใส่ แขนหนักๆของตุลาการกอดผมเอาไว้จนอุณหภูมิห้องที่เคยเย็นเพราะเครื่องปรับอากาศร้อนขึ้นมาเฉยๆ

            “หนัก” ผมพูดเสียงแผ่ว ไอ้ตุลที่นอนทับผมอยู่ก็รีบลุกออก

            “โอเคมั้ย เจ็บตรงไหนมั้ย ปวดหัวมั้ย ตัวร้อนหรือเปล่า” คำถามที่ถูกส่งมาเป็นชุดทำให้ผมหัวเราะในลำคอพลางค่อยๆพยุงตัวลุกขึ้นนั่ง ปวดหัวก็ปวด แต่ความดื้อด้านมันมีมากกว่า

            คนที่นั่งอยู่บนเตียงมองหน้าผมพลางใช้มือของมันแตะลงเบาๆที่โหนกแก้มฝั่งที่ผมโดนไอ้อิงต่อย ไอ้ตุลมีสีหน้าเป็นห่วงผมเอามากๆ

            “ผมขอโทษ ที่ไม่ได้มาส่งที่บ้าน ถ้าผมมาส่งนิ ไอ้เวรนั่นไม่มีทาง…”

            “ช่างมันเถอะ มึงไม่ได้ผิด กูแค่อ่อนแอเกินไป” ผมพูดขัดไอ้ตุล ไม่อยากให้มันคิดมากว่ามันเป็นสาเหตุที่ทำให้ไอ้อิงเข้ามาทำร้ายผม

            แผลภายนอกแปปเดียวก็หาย

            แต่แผลภายใน มันต้องใช้เวลาเท่าไรถึงจะเยียวยาได้

            พอเห็นว่าผมเงียบไป คนตรงหน้าถึงได้ดึงผมเข้าไปกอด คางของไอ้ตุลเกยอยู่บนหัวของผม อ้อมกอดของมันอุ่น อุ่นจนทำให้ไม่อยากจะละไปไหน

            “นิเข้มแข็งมากๆต่างหาก”

            หึ งั้นหรอกเหรอ

            “เอางี้เป็นไง ต่อหน้าผมนิไม่ต้องเข้มแข็งก็ได้”

            “ห้ะ” ผมร้องในลำคอ

            “เอ้าก็นิร้องไห้เพราะผมไม่ใช่เหรอ” ไอ้ตุลมองหน้าผมเล่นเอาผมรู้สึกเหมือนจะบ้าตาย มันคิดว่าผมร้องไห้เพราะมันงั้นเหรอ มึงจะหลงตัวเองมากไปแล้ว

            “ไอ้ประสาท” ผมเอามือยันหน้าของไอ้ตุล แต่มันก็ฝืนกอดเอาไว้ไม่ขยับไปไหน

            “ปล่อย”

            “ไม่”

            “บอกให้ปล่อย” เราสองคนเล่นมวยปล้ำกันจนเหนื่อย ในที่สุดผมก็เป็นคนยอมแพ้แล้วล้มตัวลงนอนด้วยความปวดล้าร่างกาย

            ผมเอาแขนก่ายหน้าผากพลางหอบหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน ไอ้ตุลเหมือนจะรู้ว่าผมเหนื่อยมันเลยล้มตัวลงนอนข้างๆ

            “ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมอยู่ข้างๆนะ” ฝ่ามืออุ่นๆของตุลาการจับมือของผมเอาไว้ ราวกับว่ากลัวว่าผมจะหายไปไหน

            กลับกัน คนที่กลัวกลับกลายเป็นผม

            มึงต่างหาก

            อย่าหายไปไหนนะ

 

            มันเหมือนกับว่าพายุลูกใหญ่พัดมาแล้วก็ผ่านไป การร้องไห้ออกมาเหมือนจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุด มันเหมือนว่าผมได้ระบายทุกอย่างที่จะพูดออกไปผ่านทางน้ำตา

            หลังจากวันนั้นเพราะว่าไอ้ตุลรู้สึกผิด ทั้งกับเนและกับผม มันเลยไม่ปล่อยให้ผมคลาดสายตาแม้แต่วินาทีเดียว ไม่ว่าจะกินข้าว จะนอน จะเรียน จะเลิกเรียน จะไปเที่ยวกับเพื่อน จะไปดูไอ้เจลซ้อมบาส ผู้ชายที่ชื่อตุลาการจะตามติดเกาะผมเป็นปลิงจนเรียกได้ว่า

            น่ารำคาญ…

            “มึงเคยรู้สึกว่าตัวเองน่ารำคาญบ้างมั้ยวะ” ผมถามคนที่ตามติดตลอด24 ชั่วโมงยิ่งกว่ารายการวาไรตี้ตามติดชีวิตดารา

            “ไม่นะครับ” แถมมันยังตอบคำถามได้หน้าตายอีกต่างหาก

            ผมถอนหายใจแล้วเดินเข้าไปที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า วันนี้ผมจองคอร์ทแบดมินตันเอาไว้เล่นกับพวกไอ้เจล นานๆทีจะได้กลับมาเจอกันพร้อมหน้าพร้อมตา ถ้าไม่ติดที่ว่าไอ้ตุลตามติดมาด้วย ผมอาจจะรู้สึกดีกว่านี้

            เพราะเวลาพวกผมเล่นแบดกัน มันไม่ได้เล่นกันแบบปกตินี่ดิ

            “ไหนๆวันนี้มีหกคนครบคู่พอดี จะเล่นกันแบบปกติก็จะเป็นอันหมดมู้ด” ไอ้ป้องพูด ผมกับไอ้ธามมองหน้ากันพลางทำหน้าหน่ายๆ

            แล้วยิ่งถ้ามีไอ้ป้องนะ ชีวิตบรรลัยแน่จริงๆ

            “จะเอาไง จะเอาไงว่ามา” นักกีฬาอย่างจรัส บราวน์ยอมรับคำท้าทุกสถานการณ์ มันควงไม้แบดเก่งพอๆกับควงลูกบาส ไอ้เจลเล่นกีฬาเก่งทุกอย่าง ดังนั้นมันนี่แหละที่จะเป็นผู้ชนะในเกมของไอ้ป้อง

            “เอาเป็นว่าวันนี้เรามีหกคน แบ่งกันทีมละสอง สองทีมที่แพ้ต้องผูกข้อมือติดกันหนึ่งคืน!”

            “เชี่ย”

            “เควี่ย”

            “เฮี่ย” สามคำออกมาจากปากคนสามคน ทั้งไอ้เจล ไอ้ธาม ไอ้สิท มีไอ้ปกป้องคนเดียวที่ยิ้มโชว์ฟันขาวซ่อนดวงตาเจ้าเล่ห์ไว้ภายใต้กรอบแว่นสี่เหลี่ยม ผมถอนหายใจแล้วมองหน้าไอ้ตุลที่ดูจะประหลาดใจกับบทลงโทษประสาทๆของเพื่อนสนิทผม

            “เล่นไรของมึงเนี่ยป้อง” ไอ้เจลบ่น ไอ้ป้องยักคิ้วหลิ่วตาใส่ไอ้เจล

            “อะไรบ่นอะไร หรือมึงป้อด?”

            เจอคำว่าป้อดเข้าไปเท่านั้นแหละ ไนเจลสู้ไม่ถอย

            “ใครป้อด ไม่มี๊ เนอะธาม”

            “เออ เพราะมึงนั่นแหละจะแพ้ไอ้ห่าป้อง” ไอ้ธามเสริม

            “แล้วจะจับคู่ยังไง” ไอ้สิทถามบ้าง ทุกสายตาจับจ้องไปที่ไอ้ป้อง ดวงตาฉายแววขี้โกงของมันทำให้ผมรู้สึกว่าการที่ผมพาไอ้ตุลมาด้วยไม่ใช่เรื่องดีแน่
           
            “โอ น้อย ออก!!!”

            “เชี่ย กูไม่อยากคู่กับไอ้ป้องงงงงง!!!” ไอ้สิทโวยวายแหกปากเมื่อโอน้อยออกแล้วได้คู่กับไอ้ป้อง ส่วนไอ้เจลคู่กับไอ้ธาม และผมคู่กับไอ้ตุล

            บอกแล้วว่าทำไมผมถึงไม่อยากให้ไอ้ตุลมาด้วย เพราะผมรู้ว่าไอ้ป้องมีแผนอะไรนี่ดิ

            มันคงวางแผนกันมาก่อนหน้าแล้วว่าจะคู่กับใคร

            ไอ้พวกเช็ดแมว

            ยกที่หนึ่งคือนัดระหว่างเจล ธาม กับป้องและสิท ผมนั่งอยู่ข้างสนามกับไอ้ตุลแล้วมองพวกมันเล่นกัน คะแนนตัดที่ 21 แต้ม ใครได้ 21 แต้มก่อนถือเป็นผู้ชนะ

            ถึงจรัส บราวน์จะเก่งทุกอย่าง แต่ไม่มีทางชนะนักแบดอย่างไอ้คุณปกป้องแน่นอน แต่ก็นะ อะไรๆก็เกิดขึ้นได้ ไอ้สิทมันถึงได้โวยวายไง เพราะไอ้ป้องเป็นพวกชอบแกล้ง ยิ่งไอ้สิทเนี่ยนะคู่อริไอ้ป้องเลย ขืนมันถูกมัดติดกันหนึ่งคืนล่ะก็ ไอ้สิทตายแน่นอน

            “ไม่ต้องเล่นก็ได้นะ ยังไงก็แพ้” ผมบ่น ไอ้ตุลหันมาขมวดคิ้ว

            “ไม่หรอก เราต้องชนะเชื่อสิ”

            “มึงทำอย่างกับว่ามึงเอาชนะไอ้ป้องได้ มันนักแบดทีมชาตินะนั่น”

            “นักแบดทีมชาติก็แพ้คนมีทริคได้นะครับ” ไอ้ตุลยิ้มโชว์ลักยิ้ม ผมมองคนที่มักจะมองโลกในแง่บวกตั้งแต่ตอนที่มันเริ่มค่อยๆพยายามที่จะลืมเน

            คิดในแง่บวกมันก็ดี

            แต่ครั้งนี้มันคิดผิดมากๆเลยว่ะ

            “นิ ทางซ้ายๆ” ปากบอกทางซ้ายแต่ไอ้ส้นตีนป้องตีมาทางขวา

            “นิ ทางขวาๆ” ปากบอกทางขวาแต่ไอ้หน้าฮวกสิทตีมาทางซ้าย

            “นิๆๆ ข้างหน้าๆ” บอกข้างหน้าตีข้ามหัวกูไปซะอย่างนั้น

            “โว้ยไอ้พวกส้นตีนหุบปาก!!!” ผมตะโกนใส่พวกมัน ลืมบอกไปหรือเปล่าว่าผมนี่สกิลการตีแบดถึงขั้นติดลบ มีไอ้ตุลวิ่งลิ้นห้อยอยู่คนเดียว

            คนที่วิ่งหอบแฮ่กเหงื่อแตกจนเสื้อเปียกไปหมดหันมามองเมื่อลูกแบดถูกตีมาที่ฝั่งผม พอจะตบกลับดันวืดลูกปลิวไปกระแทกหัวไอ้ตุลซะเฉยๆ ไอ้ป้องกับไอ้สิทงี้หัวเราะขี้แตกส่วนผมได้แต่ทำหน้าตายยกนิ้วกลางใส่พวกมันด้วยความโมโห

            “นิสู้ๆ นิสู้ตาย” มีไอ้เจลยืนเชียร์อยู่ข้างสนามก็ไม่ได้ช่วยให้ผมรู้สึกฮึดอยากชนะขึ้นเลย

            “ไหวมั้ยครับ” ไอ้ตุลเดินเข้ามาหาผมหลังจากที่โดนนำไปครึ่ง ผมมองมันตาขวาง

            “ดูสภาพสิว่ากูไหวมั้ย” ผมบ่น วิ่งเป็นหนูติดจั่นแต่ดันตีลูกไม่ได้สักลูกนี่กูไหวมากดิ

            ไอ้ตุลยิ้มเผล่อย่างไม่ได้รู้สึกโกรธอะไรแต่กลับเอาผ้าขนหนูมาเช็ดหัวยุ่งๆของผมที่ชุ่มด้วยเหงื่อ

            “นิเหมือนเนเลยนะครับ ตอนตีแบดเนก็ตีไม่เคยได้เลย” ผมชะงักไป ไม่ได้เงยหน้าขึ้นไปมองไอ้ตุลที่มักจะยิ้มออกมาทุกครั้งเวลาพูดถึงเน แต่กลับเหม่อมองออกไปไกลแสนไกล

            นั่นสินะ เนเองก็เล่นแบดไม่เก่งเหมือนกับผม ต่อให้พ่อพยายามสอนเราก็ไม่เคยตีได้ทั้งคู่เลย

            แต่บางทีผมก็มักจะคิดเองเออเองว่า เนเหมาะสมกับไอ้ตุลมากกว่าผมจริงๆ

            ครึ่งหลังเริ่มขึ้นและจบด้วยสกอร์อันอุบาทว์ชาติชั่วสุดๆ ไอ้ป้องกับไอ้สิทชนะไปอย่างง่ายดาย ผมหน้าทิ่มหัวคะมำเพราะรองเท้าลื่นไปสองครั้ง ก้นกบกระแทกพื้นไปอีกครั้ง เล่นแบดหรือเล่นเทควันโดวะสะบักสะบอมยิ่งกว่าอะไร

            เล่นกันจนแต่ละคนเหมือนไปตกน้ำมา เหงื่อนี้ท่วมกันเป็นแถบๆ สุดท้ายผู้ชนะก็คือไอ้ป้องกับไอ้สิท ส่วนไอ้เจลกับไอ้ธาม และผมกับไอ้ตุลจะถูกมัดมือติดกันหนึ่งคืน

            ผมอ่ะทำใจไว้แล้ว แต่ไอ้เจลกับไอ้ธามนี่ดิ

            “นรก นรกชัดๆ” ไอ้เจลบ่น

            “แหมกูอยากนอนกับมึงตายห่านล่ะ” ไอ้ธามด่ากลับ

            สองคนตะโกนด่ากันเหมือนเด็กๆ ผมมองภาพนั้นนิ่งๆอย่างมีความสุข อย่างน้อยเพื่อนๆก็ยังคอยเป็นกำลังใจให้ผมอยู่ห่างๆ ถึงจะห่างกัน เวลามีเรื่องทีไรมันก็จะคอยอยู่ข้างๆเสมอ

            “กูไปเปลี่ยนชุดนะ เหนียวตัวโคตรๆ”

            “ผมไปด้วย”

            ผมกับไอ้ตุลขอตัวออกมาเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน เราเล่นกันจนคอร์ทแบดใกล้ปิด เหลือเพียงแค่สนามของพวกผมที่ยังเปิดไฟอยู่เพราะไอ้ป้องเป็นสมาชิกของชมรมที่นี่ มันเลยมีสิทธิ์อยู่จนดึกจนดื่นได้ ดูเหมือนพวกมันจะเล่นกันต่อหลังจากที่ผลแพ้ชนะออกมาแล้ว เพราะว่านานๆทีจะได้เจอกัน

            พอเข้ามาในห้องน้ำ ผมก็รีบหาที่เปิดไฟก่อนอันดับแรก ตุลาการวางของลงบนอ่างล้างหน้า เจ้าตัวสวมเสื้อแขนกุดกับกางเกงบาสฯ เพื่อให้ไม่อับจนเกินไป ผิดกับผมที่สวมเสื้อยืดธรรมดา พอเหงื่อออกมันก็แทบจะบิดน้ำออกมาได้เป็นถังๆ

            “อาบน้ำก่อนนะ”

            “ให้ถูหลังให้มั้ย” ผมหันขวับไปมองไอ้ตุลที่กระพริบตามองผมปริบๆไม่สะทกสะท้านกับสิ่งที่พูด ยังไม่ทันที่มันจะได้พูดอะไรต่อผมก็ปาผ้าเช็ดหัวใส่มันแล้ววิ่งเข้าห้องน้ำไป

            “โรคจิต”

            น้ำเย็นๆช่วยคลายความเหนียวตัวขึ้นเยอะ หลังจากที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายพอเหงื่อออกเยอะๆผมเลยรู้สึกตัวเบาๆ บางทีมันก็ดี เลิกคิดเรื่องที่ทำให้ปวดหัวมาหาอะไรทำ อยู่กับเพื่อนๆกับคนที่เราสบายใจ

            พออาบน้ำเสร็จผมก็เดินออกมาข้างนอก สวมเสื้อยืดตัวใหม่กับกางเกงขาสั้นเหนือเข่าที่สบายตัวเพราะเห็นว่าพวกไอ้เจลจะไปกินข้าวกันต่อ ผมยันตัวขึ้นไปนั่งบนอ่างล้างหน้าพลางกดโทรศัพท์เครื่องใหม่เล่นไปเรื่อยเปื่อยจนกระทั่งเสียงกลอนประตูห้องน้ำดังขึ้น

            ไอ้ตุลเดินขยี้หัวเปียกๆของมันเดินออกมาจากห้องน้ำ ผมเหลือบมองเจ้าของหัวทุยๆแวบหนึ่งแล้วหันมาสนใจมือถือของตัวเองต่อ

            “นิ” เสียงทุ้มๆทักขึ้น ผมร้องฮืมในลำคอเพื่อตอบกลับ

            “อือ”

            “นิเอามาห้อยด้วยเหรอ” ผมเงยหน้าจากจอโทรศัพท์แล้วมองไปยังไอ้ตุลที่ยืนจับพวงกุญแจจระเข้ที่ผมห้อยไว้ที่กระเป๋าสะพายข้างใบเล็ก ผมพยักหน้าหงึกหงักตอบคำถามของตุลาการ

            “อือ”

            “ตอบอย่างอื่นนอกจากอือ อืม อ่าฮะได้มั้ยเนี่ย” คนชอบคิดมากเดินมาหยุดอยู่ข้างๆผมแล้วก้มลงล้างหน้าในอ่างล้างหน้า ผมมองไอ้ตุลด้วยหางตา

            เอาจริงๆผมไม่รู้จะพูดอะไรเวลาอยู่กับมัน รู้แค่ว่าอยู่ด้วยกัน มันอยู่ตรงนี้ แค่นั้นก็พอใจแล้ว

            พอมันล้างหน้าเสร็จมันก็เช็ดหน้าด้วยผ้าขนหนู ผมเหลือบตามองไอ้ตุล เห็นว่ามันยังล้างหน้าไม่สะอาดเพราะโฟมยังติดอยู่ที่หน้า ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้มือของผมเอื้อมไปปาดโฟมที่ติดอยู่ที่หางคิ้วของคนตรงหน้าออก

            ราวกับเวลาทั้งหมดหยุดชะงัก ภายในห้องน้ำมีเพียงแค่เสียงหายใจของผมกับตุลที่แข่งกันดัง ไอ้ตุลค่อยๆเขยิบมาใกล้ผม พอมารู้ตัวอีกทีมันก็มาหยุดอยู่ที่ระหว่างขาของผมแล้ว ใบหน้าของมันค่อยๆเคลื่อนเข้ามาใกล้จนลมหายใจอุ่นๆสัมผัสลงบนปลายจมูกของผม ใจที่เต้นรัวทำให้ผมต้องเบือนหน้าหนี

            แต่เหมือนกลับว่ายิ่งพยายามหนี ยิ่งจนมุม

            ผมบอกแล้วไงว่าการจูบกับคนที่รู้สึกดีด้วย มันทำให้เราพลาดแล้วพลาดอีก

            ริมฝีปากของคนตรงหน้าแตะลงบนริมฝีปากของผมแผ่วเบา แค่ได้สัมผัสเบาๆมันก็เหมือนยิ่งต้องการ มือสองข้างของผมยันอ่างล้างหน้าเอาไว้ด้วยความกลัวว่าจะลื่นหัวทิ่ม แต่ไอ้ตุลกลับลุกล้ำเข้ามา มันเขยิบดันตัวเองเข้ามาใกล้จนกระทั่งศีรษะของผมสัมผัสกับกระจก

            จูบที่ควรจะเป็นจูบเบาๆแล้วถอนออกกลับถลำลึกลงเรื่อยๆ อุณหภูมิรอบๆกายก็เพิ่มสูงขึ้นทั้งๆที่เพิ่งจะอาบน้ำแต่เหงื่อกับท่วมไปหมด มือข้างหนึ่งของผมกำโทรศัพท์ไว้แน่นในขณะที่อีกข้างเหมือนเป็นปฏิกิริยาต่อต้านให้ดันร่างของไอ้ตุลออก

            แต่มือมันกลับอ่อนปวกเปียกไปหมด

            “ตุล เดี๋ยว” คนตรงหน้าไม่แม้แต่จะฟังคำทักท้วงของผม ริมฝีปากของมันบดเบียดลงบนริมฝีปากของผมซ้ำแล้วซ้ำเล่า ปล่อยให้ผมได้หายใจสักพักก็กดย้ำลงมาใหม่ เสียงหอบหายใจกับเสียงครางในลำคอเพราะความต้องการของคนตรงหน้าทำให้ผมห้ามตัวเองไม่ได้ และไม่รู้จะผลักไสวิธีไหน

            มันเหมือนกับว่ากำลังดิ่งลงไป

            ดิ่งลงไป

            ‘ปัง’

            “โอ้ย”

            “ไอ้ขี้หมา! พ่อมึงเป็นนักทวงหนี้เหรอ กะอิแค่ห้าบาทค่าชีโตสแม่งก็ทวง…จัง”

            ประตูห้องน้ำถูกกระแทกเปิดพร้อมกับไอ้ป้องที่เดินเช็ดแว่นตาเข้ามาพร้อมกับไอ้สิท ผมผลักไอ้ตุลกระเด็นไปนอนกองที่พื้นด้วยความตกใจจนมันร้องโอ้ยออกมา ไม่รู้ว่ามันเจ็บมั้ย แต่ผมถือว่าผมไม่ใช่คนผิดเพราะผมห้ามแล้วมันก็ไม่ฟัง

            สองคนที่เข้ามาใหม่มองหน้าผมสลับกับไอ้ตุล มันยืนนิ่งอยู่ที่ประตูห้องน้ำแล้วกระพริบตาปริบๆ

            “นี่กูเข้ามาขัดจังหวะอะไรหรือเปล่า…” ไอ้ป้องถาม ไอ้สิทตบกบาลไอ้ป้องดังผั่วะ

            “โอ้โหปากหรือโถส้วม”

            ทุกคนตกอยู่ในความเงียบ ไอ้ป้องกับไอ้สิทมองหน้าผมสลับกับไอ้ตุลที่นั่งอยู่ที่พื้น ไอ้ตุลลูบท้ายทอยเบาๆที่เมื่อกี้เราสองคนเกือบจะทำอะไรมากกว่าจูบ ในห้องน้ำ และ ไม่ได้ล็อคประตู

            ผมเบือนหน้ามองไปทางอื่นพลางใช้แขนปิดริมฝีปากของตัวเองเอาไว้

            จนกระทั่งไอ้เจลเดินแหกปากเข้ามานั่นแหละ

            “เฮ้ยไปกินหมูทะกัน!” ไอ้เจลโพล่งขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ มันมองซ้ายมองขวาด้วยความประหลาดใจที่ทุกคนเหมือนเป็นใบ้ขึ้นมากะทันหัน

            “มีอะไรกันวะ เกิดไรขึ้น วอทเฮพเพ่น” จรัส บราวน์ยังคงถามต่อ จนโดนไอ้ธามกระทุ้งสีข้างไปครั้ง

            ผมกระโดดลงจากอ่างล้างหน้าแล้วเลือกที่จะคว้าไอ้ธามออกไปข้างนอก

            บางทีผมควรจะรู้ตัวเองได้แล้ว

            ว่าการที่หัวใจเต้นแรงขนาดนี้

            มันเป็นเพราะว่าผมชอบผู้ชายที่ชื่อตุลาการเข้าแล้วจริงๆ
           
            TBC

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
Re: (___Last love__) by Jiwinil ตอนที่ 16 Love is Awareness (16-10-59)
«ตอบ #66 เมื่อ16-10-2016 19:32:53 »

รู้สึกชอบเรื่องนี้มากกว่าเดิมแล้ว  ติดตามจ้า

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
Re: (___Last love__) by Jiwinil ตอนที่ 16 Love is Awareness (16-10-59)
«ตอบ #67 เมื่อ16-10-2016 20:03:01 »

อ๋อยยยยยยย เขิลลลลลลลล

ออฟไลน์ นางฟ้าเชียงชุน

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
Re: (___Last love__) by Jiwinil ตอนที่ 16 Love is Awareness (16-10-59)
«ตอบ #68 เมื่อ16-10-2016 23:36:53 »

สัมผัสได้ถึงความกลัวของนิติ กลัวที่จะรักกลัวที่จะจาก แบบอยากออกประตูบ้านนะ แต่ไม่อยากเหยียบทราย

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
Re: (___Last love__) by Jiwinil ตอนที่ 16 Love is Awareness (16-10-59)
«ตอบ #69 เมื่อ17-10-2016 01:39:24 »

เราร่วมลงขันช่วยกระทืบไอ้หมาอิงด้วยอีกคน :z6:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: (___Last love__) by Jiwinil ตอนที่ 16 Love is Awareness (16-10-59)
« ตอบ #69 เมื่อ: 17-10-2016 01:39:24 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ imymild

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 354
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
Re: (___Last love__) by Jiwinil ตอนที่ 16 Love is Awareness (16-10-59)
«ตอบ #70 เมื่อ17-10-2016 08:58:56 »

นิยอมรับใจตัวเองแล้ว ดีๆ

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
Re: (___Last love__) by Jiwinil ตอนที่ 16 Love is Awareness (16-10-59)
«ตอบ #71 เมื่อ17-10-2016 14:29:18 »

กรี๊ดดดดด เกือบแล้ว เกือบแล้ว เกทอบได้กันแล้วววว

ออฟไลน์ leenanhyun

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 66
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +102/-2
Re: (___Last love__) by Jiwinil ตอนที่ 17 Love is Not Hate (20-10-59)
«ตอบ #72 เมื่อ20-10-2016 17:14:57 »

Chapter
17

           

            การกินหมูกระทะวันนี้เป็นการกินหมูกระทะที่ไม่อร่อยที่สุดในชีวิตเพราะบรรยากาศมันมาคุมาก ไอ้ตุลนั่งเงียบแถมยังก้มหน้าไม่พูดไม่จาเหมือนกับพิศวาสหมูในจานสุดๆ ส่วนไอ้ธามก็นั่งติดกับผมจนแทบจะสิงร่างหลังจากที่ผมไปปรึกษากับมันว่าอาการหนาวๆร้อนๆที่ผมเป็นคือผมกำลังชอบไอ้ตุลใช่มั้ย ไม่ได้เป็นไข้มโนอะไรไปเองใช่หรือเปล่า

            คำตอบของไอ้ธามคือ ผมหลงไอ้ตุลเข้าไปเต็มๆ

            ผมกับตุล แล้วก็เจลกับธามโดนมัดมือติดกันหลังจากกินหมูกระทะเสร็จ เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีใครโกง ไอ้ป้องเลยใช้สิ่งที่เรียกว่ากุญแจมือเด็กเล่นที่เป็นพลาสติก โดยไอ้กุญแจมือเนี่ยทำหน้าที่เหมือนของจริงเด๊ะๆ คือถ้าไม่ใช้กุญแจไขก็จะถอดไม่ออก แล้วไอ้ป้องก็เป็นคนเก็บลูกกุญแจเอาไว้ จะมาไขออกให้ก็พรุ่งนี้บ่ายๆนู่นแหละ

            บัดซบที่สุด

            “เฮ้ย แล้วเวลาเข้าห้องน้ำจะทำไงวะ” ไอ้จรัส บราวน์ถามขึ้นอย่างใสซื่อ โดนล็อคแขนติดกันไว้ ให้ตัดแขนไอ้ธามมั้งถามได้ ไอ้ป้องใช้นิ้วกลางดันแว่นของมันเล็กน้อยเหมือนกำลังจะบรรยายฟังก์ชั่นการใช้งานของกุญแจมือ

            “ก็ต้องเข้าพร้อมกันไง”

            “ส้นตีนดิ!” ไอ้เจลโวยวาย

            “ไรสมหมาย มึงกับไอ้ธามก็เห็นกันมาตั้งแต่เด็กๆจะอายอะไร”

            “มึงก็พูดได้มึงลองมามัดติดกับไอ้สิทมั่งเป็นไง”

            “อายที่ตัวเองเล็กเท่าหนอนชาเขียวอ่ะดิ”

            “ไอ้ห่าป้อง!!!”

            สายตาเจ้าเล่ห์ของไอ้ป้องดูยังไงก็กวนตีนไอ้เจลอยู่ชัดๆ ผมมองไอ้เจลที่ไล่เตะไอ้ป้องโดยลากไอ้ธามตามไปด้วยเพราะแขนถูกล็อคไว้ด้วยกัน เลยได้แต่ถอนหายใจหน่ายๆพลางมองกุญแจมือพลาสติกสีฟ้าลายกบเคโระที่คล้องแขนผมกับแขนไอ้ตุลเอาไว้

            จะซื้อทั้งทีซื้อลายธรรมดาไม่ได้ คิดว่าน่ารักมากมั้งดิ

            ผมเหลือบตาไปมองผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างๆ คนตัวสูงเหม่อมองไปอีกทางราวกับคิดอะไรอยู่

            ตั้งแต่ผมกับไอ้ตุลจูบกัน เราสองคนก็แทบจะไม่ได้มองหน้ากันเลย ไม่ใช่เพราะว่าผมโกรธที่มันจูบผมแล้วเกือบจะโดนไอ้ป้องกับไอ้สิทเข้ามาเห็น ผมไม่ใส่ใจเรื่องพวกนั้นหรอก แต่มันเป็นเพราะว่าผมรู้สึกแปลกๆเวลามองหน้าไอ้ตุล ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไรกันที่ความรู้สึกที่อธิบายยากแบบนี้มันเริ่มขึ้น

            นี่สินะที่เนมักจะชอบพูดให้ผมฟังว่า

            ‘มันเหมือนมีหินร้อยๆก้อนถ่วงอยู่ในอกเลย’

            “นิ มึงกลับไง ให้ไปส่งป่ะ” ไอ้เจลถามขึ้น ผมพยักหน้าเพราะขี้เกียจจะรอรถ

            ผมตัดสินใจนอนคอนโดไอ้ตุลแทนที่จะนอนบ้านเจลในคืนนี้เพราะว่าไอ้เจลกับไอ้ธามจะต้องแหกปากบ้านแตกแน่ๆ มันสองคนถึงจะสนิทกันแต่อย่ามัดติดกันเชียว นรกชัดๆนั่นแหละ

            แล้วอีกอย่าง ผมยังมีอะไรบางอย่างที่อยากจะถามไอ้ตุล

            พอเข้าคอนโดมา คนที่เงียบมาตลอดทางถึงได้พูดขึ้นบ้าง ผมที่กำลังจะเดินลากไอ้ตุลเข้าไปในห้องโดนดึงเอาไว้ เพราะถูกล็อคแขนไว้เลยไปไหนไม่ได้ถ้าอีกคนไม่ยินยอมที่จะไปด้วย

            “นิ … โกรธเหรอ” เสียงทุ้มๆดังขึ้นด้านหลัง น้ำเสียงบ่งบอกถึงความไม่สบายใจ ผมขมวดคิ้วแล้วหันไปมองไอ้ตุล เจ้าตัวมีสีหน้าไม่ค่อยดีนัก พูดง่ายๆมันกำลังทำหน้าเหมือนหมาจ๋อย

            “กูไม่ได้โกรธอะไรมึงสักหน่อย” ผมว่า ไม่เห็นมีเรื่องอะไรที่ผมต้องโกรธเลยสักนิด

            “แต่นิไม่ยอมมองหน้าผมตั้งแต่ตอน…”

            …

            ตอนจูบสินะ

            …

            ห่ะๆ ถ้ากูโกรธ มึงคงไม่ได้มายืนเสนอหน้าตรงนี้หรอกน่า

             “กูไม่ได้โกรธ”

            “แล้วทำไมนิไม่มองหน้าผมล่ะ” ไอ้ตุลถามด้วยความสงสัย ผมทำแค่เงียบไปไม่ได้ตอบคำถามของมัน คนที่เอาแต่ถามจ้องหน้าผมตาไม่กระพริบจนผมชักจะเริ่มประหม่า

            โอย มึงจะถามอะไรนักหนาวะ กูก็ไม่รู้ว่ากูเป็นอะไรเหมือนกัน อยากจะรู้อะไรนัก

            ผมไม่รู้จริงๆว่าตอนนี้มันคืออะไร ผมแค่ … ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ไม่รู้จะอธิบายยังไง

            ทำไมต้องถามเยอะแยะด้วยไม่เข้าใจ น่ารำคาญ

            “ถ้านิไม่สบายใจ เอาคีมมาตัดกุญแจออกก็ได้นะครับ” ผมหันไปถลึงตาใส่ไอ้ตุลที่พูดจาอะไรไม่เข้าเรื่อง คนตรงหน้าทำหน้าแบบนั้นอีกแล้ว หน้าที่เหมือนคนกำลังอมทุกข์อยู่ตลอดเวลา ทำหน้าเหมือนตัวเองกำลังรู้สึกผิดทั้งๆที่ยังไม่ได้ทำอะไร

            “กูเป็นคนรักษาสัญญา ถ้ากูให้สัญญากับใครไว้ กูก็ต้องทำ” ไอ้ตุลสะอึกไปเมื่อเห็นผมทำสีหน้าจริงจัง เจ้าตัวหลุบตาต่ำลงแล้วมองไปทางอื่น

            เหมือนที่ผมให้สัญญากับเนเอาไว้ ว่าผมจะดูแลไอ้ตุลแทนเน เมื่อก่อนผมเคยคิดว่าทำให้มันจบๆไปเพราะสัญญาเอาไว้ แต่ตอนนี้ผมไม่แน่ใจเลยสักนิด

            ว่าเป็นเพราะสัญญาที่รั้งที่ผมอยู่ข้างๆผู้ชายที่ชื่อตุลาการ

            หรือเป็นเพราะความต้องการของตัวเอง

            “บางทีผมก็อยากรู้ว่านิคิดอะไรอยู่”

            “…”

            “ถึงนิจะพูดว่าไม่โกรธ แต่นิไม่ยอมมองหน้าผม ไม่ยอมบอก ถ้าขืนเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ ผมก็ไม่รู้สักทีสิว่านิต้องการอะไร”

            “แล้วทำไมมึงถึงอยากรู้มากนักวะ กูบอกว่ากูไม่ได้โกรธ ไม่ได้รู้สึกอะ…”

            “อย่าพูดคำนั้นออกมานะ อย่าพูดว่าไม่ได้รู้สึกอะไรเลยที่ผ่านมา”

            สีหน้าของไอ้ตุลทำให้ผมหยุดคำพูดของตัวเองเอาไว้ สีหน้าที่รู้สึกแย่ เจ็บ ปั่นป่วนเหมือนตอนแรกที่ผมเจอหน้ามัน ครั้งแรกที่ผมเคยพูดเอาไว้ว่า

            ‘นี่เหรอผู้ชายที่น้องชายกูรักนักรักหนา มึงมันก็แค่ไอ้ไก่อ่อนนั่นแหละ’

            ผมอยากจะกอดมัน แต่ก็ทำได้แค่ยืนกำมืออยู่นิ่งๆ

            ความรู้สึกนี่มันอะไรกัน

            บรรยากาศตรงหน้านี่มันอะไรกัน

สาบานได้ว่าถ้าไม่มีไอ้กุญแจมือบ้านี่ ผมคงเดินหนีไอ้ตุลไปแล้ว แต่เพราะไปไหนไม่ได้นี่ดิ

            “ที่ผมอยากรู้ ก็เพราะว่าผมชอบนิมากจริงๆ”

            “!!”
                       
            “นิบอกให้ผมเริ่มต้นใหม่ แล้วผมก็อยากเริ่มกับนิ ไม่ใช่เพราะว่าผมรู้สึกผิดต่อเน ไม่ใช่เพราะว่าผมสัญญาอะไรไว้กับเน แต่นิเป็นคนเดียวที่ผมสามารถเริ่มต้นใหม่ได้ แล้วผมก็อยากจะทำเพื่อนิให้ดีที่สุด”

            ตัวผมเองตอนนี้ทำได้เพียงแค่ยืนฟังไอ้ตุลพูดเงียบๆแค่นั้นจริงๆ ทั้งๆที่ตัวเองก็มีคำถามมากมายที่อยากจะถาม แต่ดันพูดอะไรออกไปไม่ได้

            “ถ้านิไม่ชอบ ผมก็จะไม่ทำ ขอแค่นิบอก” ผมปราดเข้าไปกระชากคอเสื้อของไอ้ตุลพลางผลักมันไปกระแทกกับผนังห้องด้วยความไม่ชอบใจ

            “กูก็ไม่ได้บอกว่าไม่ชอบนี่!!”

            เลิกคิดแทนคนอื่นสักทีได้มั้ย ไอ้บ้าเอ้ย!

            ผมและไอ้ตุลนิ่งกันไปทั้งคู่ก่อนผมเพิ่งจะรู้ตัวว่าพูดอะไรไม่ทันคิดออกมา มันก็แค่รำคาญหงุดหงิดไอ้คนที่ทำเหมือนตัวเองผิดไปซะทุกอย่าง โทษตัวเองไปซะทุกเรื่อง

            มึงไม่ใช่หุ่นยนต์นะตุลาการ ทำอย่างกับว่าถ้ากูสั่งให้มึงไปตายมึงก็จะไปอย่างนั้นแหละ!

            หวังว่าจะให้คนตรงหน้าเห็นค่าของตัวเองมากกว่านี้ แต่แววตาของไอ้ตุลกลับเปลี่ยนท่าทีไป มันเหมือนมีความหวัง เหมือนต้นไม้เหี่ยวเฉาที่ถูกรดน้ำแล้วกลับมาสดใสอีกครั้ง

            ถ้าคนตรงหน้ามีหู มันก็คงกำลังกระดิกหูดิ๊กๆอย่างชอบใจ

            ไอ้ตุลถลาเข้ามากอดผม แต่เพราะมือถูกล็อคไว้ด้วยกันทำให้มันแทบจะบิดแขนผมไปด้านหลัง

            “โอ้ย! เบาๆดิวะ!!”
           
            “แต่ว่า … ผมอยากกอด”
           
            คนตรงหน้าเขยิบตัวเข้ามาใกล้ ผมผลักไอ้ตุลออกไปแต่ไม่เป็นผล มือข้างที่ถูกมัดติดกันถูกไอ้ตุลดึงไปด้านหลังของมันทำให้ผมต้องโน้มตัวไปใกล้มันมากขึ้นจนหน้าแทบจะทิ่มไหล่อีกคน มืออีกข้างที่จะผลักออกก็โดนมือของไอ้ตุลคว้าแล้วบีบไว้แน่น

            “กูไม่เล่นนะ” ผมพยายามดิ้นให้หลุดจากคนตรงหน้า แต่ไอ้ตุลตะครุบผมไม่ยอมปล่อย

            “ผมก็ไม่ได้บอกว่าจะเล่นนี่ครับ”

            ผมกับไอ้เจ้าของห้องทั้งยื้อทั้งผลักกันไปมาจนเหนื่อย เพราะล้าจากการเล่นกีฬาหนักๆมาเลยทำให้ผมขาอ่อนร่วงลงไปกองที่พื้น ไอ้ตุลนั่งลงตรงหน้าผม ก่อนจะก้มหน้าลงมาใกล้จนลมหายใจอุ่นๆของมันเป่ารดข้างแก้มของผม

            “ขอบคุณนะครับ ที่ไม่โกรธผม” เสียงทุ้มๆกระซิบข้างหูทำให้ผมต้องเบือนหน้าหนีไอ้ตุล พอใช้หางตามอง ผมก็เหมือนจะเห็นหางงอกออกมาที่ก้นมันแล้วส่ายดุ๊กดิ๊ก

            ไอ้ … หมาบ้านี่

            “กูเริ่มจะโกรธจริงๆแล้วนะ”

            “เดี๋ยว อย่าเพิ่งโกรธ”

            “ก็เลิกทำตัวดี๊ด๊าซักที!!!” น่าหมั่นไส้เป็นบ้า

            เหมือนคนตรงหน้าจะฟังอย่างนั้นแหละ ไอ้ตุลไม่ได้ฟังในสิ่งที่ผมพูดสักนิด มันยังคงซุกไซร้ผมเหมือนกับเจ้าถิ่นที่กำลังดมกลิ่นคนแปลกหน้า

            “ที่นิบอกว่า ก็ไม่ได้ไม่ชอบนี่ … คือชอบเหรอครับ” ไอ้ตุลถามขึ้น ผมถลึงตาใส่มัน

            “ไม่ได้ชอบ!!!”

            “อะ… อ้าว แล้วตกลงชอบหรือไม่ชอบกันล่ะ”

            “ใครจะไปรู้เล่า!!!”

            “นิติ!”

            “อะไร!!!”

            ริมฝีปากของคนตรงหน้าแตะลงเบาๆลงบนริมฝีปากผม ไม่มีการล่วงล้ำ แค่จูบเบาๆค้างเอาไว้ก่อนจะถอนออก ผมนิ่งค้างไปด้วยความตกใจ แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธการกระทำของไอ้ตุลเลยแม้แต่นิด

            ไอ้กุญแจมือบ้านี่

            เป็นเพราะกุญแจมือนั่นแหละ ใช่ เป็นเพราะกุญแจมือเลย ที่ทำให้ผมไปไหนไม่ได้ ที่ทำให้ผมต้องนั่งนิ่งๆปล่อยให้ไอ้ตุลทำอะไรก็ได้ ปล่อยให้มันจูบ ทั้งๆที่ผมยังตั้งตัวไม่ทัน ปล่อยให้มันกอดทั้งๆที่หัวใจผมมันยังเต้นรัวราวกับจะกระเด็นออกมาจากอก

            “ขอบคุณนะครับ ที่มาหาผมวันนั้น”

            “…”

            “ถ้าไม่ได้นิวันนั้น ผมคงไม่มีความสุขขนาดนี้”

            คนที่ทำหน้าเหมือนมีความสุขเต็มล้นอกกอดผม คางของตุลวางอยู่บนไหล่ผมเหมือนกับต้องการที่พักพิง บางครั้ง หรืออาจจะหลายครั้งเวลาที่อยู่ต่อหน้าผู้ชายตรงหน้า ผมก็ทำอะไรไม่ถูกเลย

            ผมลดการ์ดป้องกันตัวลงก่อนจะใช้มือข้างที่ไม่ได้ถูกมัดติดกับมือของอีกคนกอดคนตรงหน้าเอาไว้แล้วใช้มือขยำลงไปบนเสื้อยืดสีดำสนิทนั่นจนมันยับยู่ยี่

            สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี่ มึงต้องรับผิดชอบนะ ไอ้บ้าเนติ

 

 

            ค่ำคืนที่เลวร้ายสุดๆผ่านไป ผมกับตุลาการนั่งมองขนมปังปิ้งที่ไหม้ไปครึ่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร มือของเราสองคนยังคงถูกคล้องไว้ด้วยกัน ไอ้กุญแจมือบ้านี่โคตรเกะกะ ผมไม่น่าหลวมตัวไปเล่นเกมกับไอ้ป้องเลยสักนิด ไงล่ะ เมื่อคืนกว่าจะได้นอน ล่อไปตีสามครึ่ง

            สภาพของผมกับไอ้ตุลก็เลยไม่ต่างจากแพนด้า เราสองคนแชร์ความคล้ำของขอบตาจากการไม่ได้นอนกันคนล่ะครึ่ง

            “ผมไปทำไข่ดาวให้ใหม่มั้ย” ไอ้ตุลถามขึ้น ผมเงยหน้าจากจานขนมปังปิ้งไปมองหน้าผู้ชายหน้าตาดีตรงหน้า ที่ตอนนี้เป็นได้แค่แพนด้าหน้าโง่

            “ไม่ต้อง ทำมือเดียวเดี๋ยวก็ไหม้อีกอ่ะ” ผมแขวะ

            ก็เพราะเมื่อกี้ผมกับไอ้ตุลเกี่ยงกันทำขนมปังปิ้ง แถมมือที่ถูกคล้องไว้ด้วยกันมันก็ไม่สะดวกเลยสักนิด เราสองคนเลยแทบจะลงไปตีกันตาย สุดท้ายเลยต้องมานั่งไว้อาลัยขนมปังปิ้งเงียบๆกันทั้งคู่

            “ครั้งนี้ไม่ไหม้แน่นอนครับ … ถ้าเกิด…”

            “ถ้าเกิดอะไร” ผมแยกเขี้ยวใส่ไอ้ตุล มันเกาท้ายทอยนิดๆ

            “ถ้าเกิดนิปล่อยให้ผมทำคนเดียว…”

            “เงียบปากไปเลย!!!”

            น่าหงุดหงิดชะมัด

            น่าหงุดหงิดเป็นบ้า

            ใครจะยอมให้มึงมาดูแลวะ

            ไม่มีอีกแล้วนิติคนอ่อนแอ หมดยุคไอ้ขี้แยนิติแล้วเว้ย

            โอ้ย ทำไมการต่อกรกับคนตรงหน้ามันถึงได้ผลาญพลังงานผมมากขนาดนี้กันนะ

            “นิครับ…”

            “อะไร”

            “ผมอยากเข้าห้องน้ำ”

            “เมื่อกี้ก็แปรงฟันไปแล้วจะเอาอะไรอีก!” ผมพูดตอบไอ้ตุลด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด ก่อนจะชะงักไปเมื่อรู้ความหมายของการจะเข้าห้องน้ำ

            เพราะเมื่อคืนผมกับตุลไม่ได้เข้าห้องน้ำเลยทั้งคืน คนตรงหน้าเลยทำหน้าขอร้องผม ฉุดกระชากลากถูกันอยู่สักพักผมก็มายืนอยู่ข้างชักโครก พลางหันหน้าออกไปที่ประตู

            ผมจะไม่มีวันเล่นเกมกับไอ้ป้องอีกเลยตลอดชาติ สาบาน!

            มือข้างที่ถูกคล้องด้วยกันไว้ถูกไอ้ตุลดึงไปเพราะมันจะถอดกางเกง ผมหันไปถลึงตาใส่มันแล้วใช้มือข้างที่ว่างอยู่ฟาดกบาลไอ้ตุลไปอย่างแรง

            “โอ้ยเจ็บ”

            “ถอดกางเกงก็ถอดมือเดียวก็ได้ ไม่ต้องเอามือกูไปช่วยด้วย!!!”

            “แต่ว่า… มันลำบากนี่ครับ” ไอ้ตุลทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ ผมเข้าใจว่ามันลำบาก เพราะเป็นผู้ชายเหมือนกัน แต่นี่มันไม่ใช่ ไม่มีทางที่ผมจะเอามือเข้าไปใกล้…
           
            จู่ๆความร้อนจากร่างกายก็พุ่งปรี๊ดขึ้นมาบนใบหน้าจนแทบจะทำให้หัวผมระเบิดเป็นเสี่ยงๆ

            “เลิกถามนู่นถามนี่ซักที!!!”

            มันไม่ง่ายหรอกนะที่ต้องมาโดนมัดติดกับคนที่ทำให้หัวใจเต้นรัวขนาดนี้

            มันไม่ง่ายหรอกเว้ย

            ไอ้ตุลทำธุระของมันจนเสร็จพลางลากผมเดินไปที่อ่างล้างหน้าเพื่อจะล้างมือ ผมยืนพิงกำแพงห้องน้ำพลางมองคนที่ได้แต่ก้มหน้าล้างมืองกๆ

            “ถามอะไรอย่างดิ…” ผมอยากถามคำถามที่ค้างในใจมาตั้งแต่เมื่อวาน ไอ้ตุลเงยหน้าจากอ่างล้างหน้าแล้วเม้มปากโชว์ลักยิ้ม

            “ครับ”

            “มึงเคย … ทำอะไรเนมากกว่าจูบมั้ย”

            คนตรงหน้าสะดุ้งแล้วหลบสายตาหนี

            นี่มัน … หมายความว่าไง…

            มึงทำอะไรเนมากกว่าจูบงั้นเหรอ!!!

            “ทำไมถึงถามแบบนั้น”

            “ก็!!” ผมชะงักไปพลางก้มลงมองฝ่าเท้าของตัวเอง

            มันเป็นคำถามที่คาใจ คามาตั้งแต่วันแรกๆที่เจอกับตุลแล้วด้วยซ้ำ มันจูบผม เพราะนึกว่าเป็นเน แล้วหลังจากนั้นมันก็จูบผมครั้งแล้ว ครั้งเล่า ถ้ามันกล้าที่จะจูบผม แสดงว่ามันก็ต้องจูบเนด้วย

            แล้วมากกว่าจูบล่ะ…

            มันทำอะไรน้องชายฝาแฝดของผมมากกว่าจูบหรือเปล่า!!

            “จริงๆแล้ว ก็ …” ไอ้ตุลเกาแก้มของมันแต่ไม่ได้สบตาผม ผมขมวดคิ้วจ้องหน้าผู้ชายตรงหน้า

            “จริงๆแล้วก็เคยครั้งนึงน่ะครับ เกือบจะมีอะไรกะ…”

            ‘ผั่วะ!!!’

            ผมหยิบขวดแชมพูที่วางอยู่บนอ่างล้างหน้าปาใส่หัวไอ้ตุลอย่างแรงพลางจะเดินหนี ลืมตัวไปว่ามีกุญแจมือคล้องแขนเอาไว้เลยทำให้ผมกระเด้งกลับมาเพราะแรงดึงจากตุลาการ

            “มึงทำอะไรน้องชายกู!!!”

            “ผมเปล่านะนิ ผมยังไม่ได้…” ไอ้ตุลอ้าปากพะงาบๆแล้วเปลี่ยนเป็นคนที่จะเดินหนีผมแทน คงจะลืมไปเหมือนกันว่าแขนเราถูกคล้องติดไว้ด้วยกัน ผมมองไอ้ตุลด้วยสายตาอาฆาตเหมือนจะฆ่าคนได้

            “บอกมานะไอ้หื่นกาม มึงมีอะไรกับเนแล้วใช่มั้ย” ผมปราดเข้าไปบีบคอไอ้ตุล เจ้าตัวร้องลั่นใหญ่

            “ไม่ใช่ ไม่ใช่นะนิ ผมยังไม่เคยมีอะไรกับเน ก็แค่ช่วยเนแค่นั้น อะ … เอง”

            ช่วย

            ช่วยอะไร ช่วยอะไรของมึง!!!

            “ตายซะเหอะ ไอ้โรคจิต!!!”

            TBC

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
Re: (___Last love__) by Jiwinil ตอนที่ 17 Love is Not Hate (20-10-59)
«ตอบ #73 เมื่อ20-10-2016 18:47:44 »

5555 หวงช้าไปมาก

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
Re: (___Last love__) by Jiwinil ตอนที่ 17 Love is Not Hate (20-10-59)
«ตอบ #74 เมื่อ20-10-2016 19:31:01 »

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ นางฟ้าเชียงชุน

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
Re: (___Last love__) by Jiwinil ตอนที่ 17 Love is Not Hate (20-10-59)
«ตอบ #75 เมื่อ20-10-2016 20:58:12 »

หืมมมมมมม น่าสนใจๆความสัมพันธ์ระหว่างพี่ตุลย์กะเนติซะแล้วสิ เหมือนเค้าจะอยู่กันแบบพี่น้องอ้ะป่าว

ออฟไลน์ Fasai25448

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: (___Last love__) by Jiwinil ตอนที่ 17 Love is Not Hate (20-10-59)
«ตอบ #76 เมื่อ22-10-2016 12:47:41 »

นิติน่ารักกกกกกกก

ออฟไลน์ hoshinokoe

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
Re: (___Last love__) by Jiwinil ตอนที่ 17 Love is Not Hate (20-10-59)
«ตอบ #77 เมื่อ22-10-2016 13:01:59 »

ตายและ ยังเวอร์จิ้นๆ ป่าวเนี่ยยย กิ๊วๆ 555 น่ารัก

ออฟไลน์ magic-moon

  • magKapleVE
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 495
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
    • Freedom of meetups, no obligations
Re: (___Last love__) by Jiwinil ตอนที่ 17 Love is Not Hate (20-10-59)
«ตอบ #78 เมื่อ24-10-2016 09:32:34 »

สงสัยมาก เนติทำอะไรเอาไว้นะ

ออฟไลน์ นอนกินแรง

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-4
Re: (___Last love__) by Jiwinil ตอนที่ 17 Love is Not Hate (20-10-59)
«ตอบ #79 เมื่อ02-11-2016 15:35:53 »

ตอนนี้น่ารัก ไหงนิทำตัวซึนแบบนี้ล่ะ o13

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: (___Last love__) by Jiwinil ตอนที่ 17 Love is Not Hate (20-10-59)
« ตอบ #79 เมื่อ: 02-11-2016 15:35:53 »





ออฟไลน์ leenanhyun

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 66
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +102/-2
Re: (___Last love__) by Jiwinil ตอนที่ 18 Love is Knowing (06-11-59)
«ตอบ #80 เมื่อ06-11-2016 20:44:38 »

Chapter
18

           

            ไอ้ป้องเอากุญแจที่ไขกุญแจมือมาให้ผมกับตุลตอนบ่ายๆก่อนมันจะรีบดิ่งไปหาไอ้สิทที่ดูเหมือนจะมีปัญหากับรุ่นพี่นิดหน่อย ตอนนี้ผมเลยเป็นอิสระ

            “นิ จะอยู่ในห้องอีกนานมั้ย ออกมาเหอะ” เสียงทุ้มๆยังคงดังเป็นระยะๆ

            ผมนั่งกอดเข่าตัวเองอยู่ในห้องหลังจากแยกจากตุลาการ ไม่ใช่เพราะว่าอยากหลบหน้าไอ้ตุล แต่เพราะว่าผมต้องการจะเคลียร์อะไรบางอย่าง และผมก็ยังไม่อยากให้ใครมารบกวนตอนนี้

            นิ้วของผมไล่เปิดข้อความของเนที่คุยกับตุลจากโทรศัพท์ของเน ผมตัดสินใจที่จะอ่านข้อความพวกนั้นขึ้นมาดื้อๆ แต่ยิ่งอ่าน มันก็ยิ่งทำให้รู้สึกหงุดหงิด

            หงุดหงิดเป็นบ้าเลย

            ไอ้ตุลรักเนมาก แล้วเนก็รักตุลมาก นั่นแหละที่ทำให้ผมหงุดหงิด

            “นิครับ ออกมาเถอะ”

            ผมเมินเสียงของตุลาการไปพลางซบหน้าลงบนเข่าของตัวเอง

            จะทำยังไงดี

            ที่ผมรู้สึก … อิจฉาน้องชายฝาแฝดของตัวเอง

 

            ไม่นานนักหลังจากที่อะไรลงตัว ผมก็ย้ายไปอยู่ที่คอนโดเดียวกับไอ้ตุล ตอนแรกไอ้เจลคัดค้านไม่ยอม แต่เพราะว่าญาติห่างๆของไอ้เจลจะมาอยู่ที่บ้านสามเดือน ผมที่ไม่ค่อยชอบน้องไอ้เจลเลยย้ายออก ถ้าถามว่าทำไมไม่กลับไปนอนที่บ้าน ทำไมไม่กลับไปอยู่กับพ่อ

            ผมไม่อยากกลับไปเจอป้าอร กับไอ้อิง

            นั่นแหละคือเหตุผล

            “ไม่อ่ะป๊า … ว่าปิดเทอมคงอยู่ไทยเนี่ยแหละ ไม่อยากไปไหน”

            (แน่นะ ป๊าอยากให้แกไปด้วย ลูกชายของน้าเบลบ่นคิดถึงแก จำได้หรือเปล่า)

            “ไอ้สามอ่ะเหรอ”

            (ใช่ ตัวโตขึ้นเยอะ เผลอๆสูงกว่าแกอีกมั้ง)

            “โห่ป๊า นิก็ไม่ได้เตี้ยป่ะ”

            (แน่ใจเหรอว่าจะไม่ไปญี่ปุ่นกับป๊าจริงๆ)

            “แน่สิ เที่ยวให้สนุกเถอะ ฝากบอกน้าเบลด้วยว่าคิดถึง”

            (แกเนี่ยน๊า หัวรั้นเหมือนแม่แกเลย)

            ผมนิ่งไปนิดหน่อยเมื่อพ่อพูดถึงแม่ออกมา ตั้งแต่แม่เสียผมก็ไม่อยากจะคุยอะไรเรื่องนั้นเลย ไม่ว่ากับใคร ผมเลือกที่จะสนใจแต่น้องชายฝาแฝด จนลืมแม่ไปสนิท

            อาจจะเป็นเพราะว่า ผมไม่ได้สนิทกับแม่เหมือนกับเนล่ะมั้ง

            “ผมรักป๊านะ”

            ปลายสายเงียบไป ก่อนที่ผมจะกดวางโทรศัพท์แล้วกดลิฟต์ขึ้นไปยังห้องของไอ้ตุล

            ผมออกจากคอนโดตอนเย็นเพื่อไปเอาของที่บ้านไอ้เจลอีกสามสี่อย่างที่ลืมไว้ กว่าจะถึงคอนโดไอ้ตุลก็ปาไปเกือบเที่ยงคืน ผมมองถุงขนมปังไส้หมูหยองในมือพลางถอนหายใจ

            สุดท้ายก็ลงเอยด้วยการอ่านข้อความของเนกับตุลจนผมรู้ว่าไอ้ตุลชอบกินอะไร ชอบทำอะไร มีนิสัยแบบไหน อันที่จริงตั้งแต่รู้จักกับไอ้ตุลมา ผมก็ไม่เคยรู้ว่ามันชอบอะไรหรือไม่ชอบอะไร จะรู้ก็เพียงเท่าที่เนบอก         

            แต่ก็นะ ปกติผมไม่ค่อยได้ใส่ใจใครอยู่แล้วนี่

            แค่มันคนเดียวที่ …

            ผมแค่อยากรู้เรื่องเกี่ยวกับผู้ชายที่ชื่อตุลาการบ้าง

            ผมแตะคีย์การ์ดที่ตุลให้ไว้ลงหน้าประตูพลางดันประตูเข้าไปแล้วถอดรองเท้าเอาไว้หน้าห้อง ห้องที่ปิดไฟมืดบ่งบอกว่าเจ้าของห้องคงจะหลับไปแล้ว

            สายตาของผมไปสะดุดกับร่างของคนตัวสูงที่นอนกอดตุ๊กตาเป็ดอยู่ที่โซฟา บนโต๊ะข้างๆโซฟามีแก้วน้ำแก้วหนึ่งที่ถูกกินหมดไปแล้ว กับโทรทัศน์ที่ถูกเปิดค้างอยู่

            มันรอผมเหรอ…

            ไม่หรอกมั้ง

            มันไม่ได้รอผมหรอก

            ผมนั่งคุกเข่าลงข้างๆไอ้ตุลพลางถอดเสื้อคลุมสีดำของตัวเองออกแล้วห่มให้กับมัน ดวงตาที่ปิดสนิทกับขอบตาคล้ำๆนั่นบ่งบอกว่ามันคงจะอ่านหนังสือหนัก จะเรียนจบแล้วนี่เนอะ

            แล้วถ้าเรียนจบ มึงจะทำอะไร จะไปไหนต่อ

            จะทิ้งกูไปมั้ย…

            ผมสะบัดหัวของตัวเองที่คิดอะไรบ้าบอ อนาคตมันจะเป็นยังไงก็ช่างหัวมันไปสิ ตอนนี้ไอ้ตุลยังอยู่ตรงนี้ อยู่ข้างๆผม มันยังไม่ได้หนีไปไหน

            แขนของผมท้าวลงบนโซฟาข้างๆร่างของตุลาการ ผมมองใบหน้าของผู้ชายที่ซื่อสัตย์ต่อหัวใจของตัวเองมากกว่าตัวผมเอง มันรักผม มันเคยพูดว่ารู้สึกผิดกับเน แต่มันก็ไม่สามารถจะหยุดรักผมได้ เพราะผมเป็นคนเดียวที่มันอยากจะเริ่มต้นใหม่ด้วย

            ทำไมมึงถึงอยากจะเริ่มใหม่กับคนที่ดูไม่มีอนาคตแบบกูล่ะ

            ผมมีคำถามมากมายอยากจะถามผู้ชายคนนี้ แต่ผมทำได้เพียงแค่เก็บมันไว้ในใจ

            ฝ่ามือของผมยื่นไปสัมผัสกลุ่มผมสีดำสนิทที่ดูนุ่มนิ่มนั่นพลางจับมันเบาๆเพราะกลัวคนที่หลับอยู่จะตื่น

            ‘ผมพี่ตุลโคตรนุ่มเลย’

             ผมกำมือข้างที่ถือถุงขนมปังไว้แน่นพลางกัดริมฝีปากของตัวเอง คำพูดของเนยังดังซ้ำๆอยู่ในหัวของผมราวกับว่าเป็นฝันร้ายที่ลืมไม่ลง

            จู่ๆคนที่นอนหลับอยู่ก็ขยับตัวเหมือนจะละเมอ เสียงทุ้มๆของไอ้ตุลพูดคำๆนึงออกมา คำที่ทำให้ผมขยำขนมปังหมูหยองจนมันเละแล้วทิ้งให้มันวางนอนอยู่ที่พื้นก่อนที่ผมจะเดินออกมาจากห้อง

            ไอ้ตุล มันเรียก ‘เน’

            โถ่เว้ยไอ้นิ มึงเป็นอะไรของมึงวะ ปกติมึงไม่ใช่คนที่เก็บเรื่องงี่เง่าแบบนี้มาคิดเลยนี่

            ผมทรุดลงบนพื้นหน้าห้องพลางกอดเข่าตัวเองเอาไว้

            ข้อความหลายร้อยข้อความที่ผมนั่งอ่านมาทั้งวันไหลพรั่งพรูเข้ามาในหัว

            ‘ตัวเล็กอย่าไปไหนมาไหนคนเดียวรู้มั้ย’

            ‘คิดถึงพี่ตุลจัง’

            ‘คิดถึงเนเหมือนกัน’

            ‘จะกลับบ้านหรือยัง ซื้อขนมปังหมูหยองมาฝากด้วยนะ’

            ‘ใกล้ถึงแล้ว อยากกอดจะแย่’

            ‘เป็นห่วงรู้มั้ย อย่าทำอะไรหักโหมสิ’
         
            ‘บอกตัวเองเถอะ อย่านอนดึกมากนะ’

            ‘รักเนนะ’

            ‘เนก็รักพี่ตุล’


            ผมใช้ฝ่ามือกุมใบหน้าของตัวเองเอาไว้พลางหายใจเข้าลึกๆให้อากาศเข้าไปถึงปอด

            น่าสมเพชมั้ยล่ะนิติ นี่แหละคือผลของการชอบผู้ชายคนเดียวกับน้องชายของตัวเอง

            แต่ให้ทำไงได้

            ก็คนมันชอบไปแล้วนี่

 

            ผมเผลอหลับไปตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น ผมค่อยๆลืมตาขึ้นก่อนจะชะงักไปเมื่อผมนั่งอยู่ในอ้อมกอดของใครสักคน คนที่คุ้นเคย คนที่ผมไม่อยากจะเผชิญหน้า

            ไอ้ตุลกอดนั่งพิงโซฟาแล้วกอดผมไว้จากด้านหลัง เราสองคนอยู่ใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน คนข้างหลังหลับปุ๋ยเหมือนเหนื่อยล้ามาก ผมได้แต่นั่งอยู่นิ่งๆ ความอุ่นภายใต้ผ้าห่มทำให้ผมทิ้งตัวลงพิงกับร่างกายของคนที่นอนหลับไม่รู้เรื่องรู้ราว

            จำได้ว่าผมออกไปนั่งหน้าห้องนี่นา

            ไอ้ตุลลากผมเข้ามาในห้องแล้วนั่งกอดไว้อย่างนั้นเหรอ

            ห่ะๆ

            ตลกเป็นบ้า

            ทำไมวะ ทำไมมึงถึงต้องทำดีขนาดนี้

            กูไม่ใช่เนนะ…

            ผมขยับตัวเพื่อจะหนีจากความอบอุ่นของร่างกายของไอ้ตุลที่มักจะทำให้ผมรู้สึกอึดอัดทุกครั้ง แต่พอขยับนิดเดียวคนที่หลับอยู่ก็สะลึมสะลือตื่นขึ้นมา ผมลุกออกจากอ้อมกอดของเจ้าของห้องพลางไปหยุดอยู่ที่ห้องครัว

            “นิตื่นตั้งแต่เมื่อไร ... แล้วทำไมเมื่อคืนถึงออกไปนอนหน้าห้องล่ะ” ไอ้ตุลถามขึ้น ผมชะงักไปนิดหน่อย

            ก็เพราะ...

            มึงเรียกชื่อเนตอนที่มึงนอนอยู่ไง

            ผมคงกลายเป็นไอ้โง่จริงๆ ที่ดันไปอิจฉาน้องชายฝาแฝดตัวเองกับแฟนของเขา ทั้งๆที่น้องชายฝาแฝดของผม ตายไปแล้ว

            “กูออกไปรับลมเฉยๆ เลยเผลอหลับไป” ผมไม่ได้หันไปมองหน้าตุล ไม่รู้ว่ามันจะทำสีหน้าแบบไหน แต่เจ้าตัวคงจะเข้าใจแบบที่ผมบอกไป

            “ระเบียงห้องก็มีนี่” คนขี้สงสัยถามต่อ

            ผมเลยเปลี่ยนเรื่องคุย

            “อยากกินอะไรป่ะ เดี๋ยวกูทำให้ โกโก้ร้อนมั้ย” ผมเดินไปหยิบแก้วมาเพื่อจะเตรียมโกโก้ร้อนให้คนที่เพิ่งจะตื่นนอน แต่คำตอบของไอ้ตุลกลับทำให้ผมรู้สึกแย่มากขึ้นไปอีก

            “ไม่ชอบกินโกโก้ เอาเป็นกาแฟแทนได้มั้ย”

            ทำไม…

            ทั้งๆที่มันคอยพูดว่าชอบผม รักผม

            ทั้งๆที่ผมเองก็ใจเต้นกับไอ้ตุลตลอดทุกครั้ง

            แต่ทำไม … ผมถึงไม่เคยรู้เรื่องราวของมันเลยสักนิด

            ขนาดอยู่ด้วยกันบ่อยๆ ผมยังไม่รู้เลยว่ามันไม่ชอบโกโก้

            ถ้าไม่ได้อ่านในสิ่งที่เนคุยกับตุล หรือสิ่งที่เนบอก ผมก็ไม่มีทางรู้ด้วยตัวเอง

            “นิ … เป็นอะไรหรือเปล่า” ไอ้ตุลถามเมื่อเห็นผมเงียบไป ผมหัวเราะนิดๆราวกับสมเพชในความไม่รู้ของตัวเอง ผมไม่รู้อะไรสักอย่าง ผมไม่รู้ว่าตุลชอบกินอะไร ไม่รู้ว่ามันชอบทำอะไร ไม่รู้ว่ามันอยากเป็นอะไร ไม่รู้อะไรเลย

            ผมไม่เคยรู้อะไร … เกี่ยวกับคนที่ตัวเองชอบเลยสักนิด

            “เปล่า”

            ฝ่ามืออุ่นๆของตุลจับลงบนแขนที่เย็นเฉียบของผม เหมือนมันกำลังส่งผ่านความเป็นห่วงผ่านการกระทำ แต่ผมทำเพียงแค่สะบัดมือของไอ้ตุลออกเพราะตกใจ

            “นิ…” คนตรงหน้ามีสีหน้าแย่ลงไป ทั้งยังมีแต่เครื่องหมายคำถามเต็มหน้ามันไปหมด

            “อะไร”

            “นิเป็นอะไรทำไมไม่บอก”

            “กูไม่ได้เป็นอะไร”

            “ถ้าไม่ได้เป็นอะไรแล้วทำไมต้องหลบตาด้วยล่ะ!!!”

            ผมนิ่งไปเมื่อไอ้ตุลขึ้นเสียงใส่ก่อนจะเงยหน้าสบตากับคนตรงหน้า ไอ้ตุลขมวดคิ้วมองผมเหมือนจะคาดคั้นคำตอบ

            “กูแค่…”

            “แค่อะไร” เพราะไอ้ตุลเซ้าซี้ มันเซ้าซี้ผมมากเกินไปจนทำให้ผมเริ่มจะหงุดหงิดขึ้นมาจริงๆ

            “กูก็แค่หงุดหงิดตัวเองที่ไม่เคยรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับมึงเลย!!!” จนในที่สุดผมก็ตะโกนมันออกไปจนได้

            ตุลาการดูมีท่าทีตกใจที่ผมตะโกนออกไปแบบนั้น ผมก้มหน้าพลางพยายามสงบอารมณ์ ทั้งๆที่เมื่อก่อนใครๆก็ว่าว่าผมเหมือนทะเล เป็นอะไรที่สงบนิ่งแต่พอมีพายุก็โหมกระหน่ำจนน่ากลัว แต่พอผมมาเจอไอ้ตุล ผมกลับกลายเป็นไต้ฝุ่น ที่ไม่ว่าเมื่อไรก็สามารถพัดพังทุกอย่างลงไป

            “กูไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามึงไม่ชอบโกโก้ กูไม่รู้อะไรเกี่ยวกับมึงสักอย่าง ไม่รู้เลยว่ามึงชอบอะไร หรือไม่ชอบอะไรถ้าเนไม่บอก ถ้ากูไม่อ่านข้อความของมึงกับเน กูก็คงไม่รู้ว่ามึงชอบขนมปังหมูหยอง” เหมือนทุกอย่างที่อัดอั้นมันถูกปล่อยออกมาหมด

            ผมแหกปากโวยวายอยู่คนเดียวโดยไม่คิดจะมองหน้าไอ้ตุล

            “ทั้งๆที่มึงบอกว่ารักกู มึงคอยเอาใจใส่กู กูก็อยากตอบแทนมึงบ้าง แต่…”

            มือของตุลคว้าข้อมือของผมเอาไว้ทำให้ผมนิ่งไป

            แค่อยากจะทำอะไรให้มึงบ้าง

            แค่อยากจะรู้บ้างว่ามึงชอบอะไร

            กูผิดมากนักหรือไงวะ!

            “นิติ” เสียงทุ้มๆที่ดังขึ้นทำให้ผมต้องเงยหน้ามองตุลาการ

            “ถ้าขืนยังทำตัวน่ารักไปมากกว่านี้ จะไม่ทนแล้วนะ

            “!!!”

             TBC

ออฟไลน์ imymild

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 354
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
Re: (___Last love__) by Jiwinil ตอนที่ 18 Love is Knowing (06-11-59)
«ตอบ #81 เมื่อ06-11-2016 21:08:46 »

อย่าทนค่ะพี่ตุล :hao6:

ออฟไลน์ นางฟ้าเชียงชุน

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
Re: (___Last love__) by Jiwinil ตอนที่ 18 Love is Knowing (06-11-59)
«ตอบ #82 เมื่อ06-11-2016 21:33:59 »

นิติ อย่ากังวลไปเลยค่ะ มันก็แค่อาการปกติของความสัมพันธ์

พี่ตุลย์รีบๆสร้างความมั่นใจให้น้องเร็วๆเลย

ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
Re: (___Last love__) by Jiwinil ตอนที่ 18 Love is Knowing (06-11-59)
«ตอบ #83 เมื่อ08-11-2016 20:21:41 »

นิติอย่ากังวลไปก่อนเลยนะ ความสัมพันธ์มันสร้างกันได้ ค่อยๆเรียนรู้กันไปดีกว่าเนาะ

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
Re: (___Last love__) by Jiwinil ตอนที่ 18 Love is Knowing (06-11-59)
«ตอบ #84 เมื่อ09-11-2016 02:49:27 »

เพราะพี่ตุลย์ชอบละเมอถึงเนรึเปล่าถึงทำให้นิคิดมาก  :hao4:

ออฟไลน์ leenanhyun

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 66
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +102/-2
Re: (___Last love__) by Jiwinil ตอนที่ 19 Love is Trying (18-11-59)
«ตอบ #85 เมื่อ18-11-2016 15:14:45 »

Chapter

19

 
 

            “ออกไปนะเว้ย!!!”

            ผมใช้เท้าของตัวเองยันไหล่ของคนตรงหน้าเอาไว้ แต่ตุลาการกลับกระชากขาผมแล้วแทรกตัวเข้ามาอย่างง่ายดายเหมือนกับปลอกกล้วยเข้าปาก

            นี่มันบ้าอะไรวะเนี่ย!

            ก็พอหลังจากผมตะโกนบอกความในใจที่มันอัดอั้นมานั่นออกไป ไอ้ผู้ชายที่ทำตัวเหมือนหมาเข้าไปทุกวันก็ลากผมเข้าห้องนอนแล้วผลักผมลงบนเตียง

            “ก็อยากทำตัวน่ารักเอง”

            “น่ารักบ้าอะไรวะ!”

            ไอ้ตุลกดจูบลงบนริมฝีปากผม ครั้งนี้ไม่ได้จูบเบาๆ แต่จูบเหมือนกับครั้งที่เราสองคนจูบกันในห้องน้ำที่คอร์ทแบด จูบที่แทบกระชากวิญญาณผมออกจากร่าง ลิ้นร้อนๆที่ไล้ไปตามริมฝีปาก ลมหายใจร้อนๆแผดเผาร่างกายของผมจนแทบจะตัวลอย แต่สติยังคงชัดเจนว่าให้ผลักร่างตรงหน้าออกไป

            “ไอ้หมาบ้า ปล่อย!”

            “ถ้านิอยากรู้เรื่องเกี่ยวกับผม ถามสิครับ” ไอ้ตุลว่า ผมนิ่งไป

            “เลิกเปิดข้อความของผมกับเน แล้วถามผมแทนสิ”

            “!!!”

            บรรยากาศภายในห้องเงียบไป ผมเงยหน้าสบตากับเจ้าของกลุ่มผมสีดำสนิทที่นุ่มนิ่มเหมือนขนแมว มีแต่คำถามเต็มหน้าผมไปหมด

            มันรู้ได้ยังไงว่าผมอ่านข้อความที่มันคุยกับเน

            “มึงรู้…”

            “ขนมปังหมูหยองที่ผมชอบ มันคงไม่ได้เหาะมาใช่มั้ยล่ะ”

            ผมทำได้แค่หุบปากเงียบแล้วเบือนสายตาหนีดวงตาเรียวๆของตุลาการ

            โดนจับได้แล้วไง

            มือของไอ้ตุลจับมือของผมเอาไว้แล้วยกขึ้นไปกดจูบเบาๆ ผมเบิกตากว้างด้วยความตกใจ นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่มีคนมาจูบมือแบบนี้ จูบเบาๆแต่ทำให้ร้อนไปทั้งร่าง

            มันจะอ่อนโยนไปแล้ว

            มันจะอบอุ่นมากไปแล้ว

            “ผมจะบอกทุกอย่างที่นิอยากรู้ แค่นิถาม”

            “กูไม่ได้…” ผมกำลังจะพูดสิ่งที่ไม่ตรงกับใจออกจากปาก ไอ้ตุลโผเข้ามากอดผมเอาไว้เล่นเอาพูดอะไรต่อไม่ออก คำพูดคำด่าคำที่จะตัดพ้อมันถูกกลืนเข้าไปในลำคอซะหมด

            “แค่นิบอกว่าอยากจะตอบแทนผม แค่นั้นผมก็ดีใจแล้ว”

            “มึงเลิกพูดผมกับครับซักทีได้มั้ย” ผมแยกเขี้ยวใส่ผู้ชายตรงหน้า เพราะไม่รู้จะหาเรื่องอะไรมาบ่นมาด่าเพื่อกลบเกลื่อนความร้อนบนใบหน้าเลยทำให้ผมขุดเรื่องที่ไม่น่าจะขุดขึ้นมาเป็นประเด็น ไอ้ตุลถอนกอดออกพลางเลิกคิ้วสงสัย

            “ทำไมล่ะครับ”

            “มันขนลุก!”

            “ปกติแล้วถ้าเป็นคนพิเศษ ผมจะพูดเพราะๆกับเขา”

            “…”

            กูเป็นคนพิเศษของมึงอย่างนั้นเหรอ…

            “ผมอยากให้นิจดจำแต่เรื่องดีๆของผม”

หยุดทำตัวแบบนี้ได้มั้ย

            จมูกโด่งๆของตุลกดลงที่แก้มผมเบาๆแล้วถอนออก มันยิ้มเผล่อย่างชอบใจ ผมยกมือขึ้นจะฟาดหัวคนที่เอาแต่คอยฉวยโอกาสจากร่างกายคนอื่นแต่ก็โดนคว้ามือไว้

            “เลิกอ่านข้อความของผมกับเนเถอะ มันไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลย”

            ไม่…

            ผมทำไม่ได้

            เมื่อก่อนผมอาจจะอ่านข้อความของเนเพราะคิดถึงเน แต่ไม่รู้เมื่อไรที่ผมอ่านข้อความของเน

            เพราะดันอยากรู้เรื่องของคนตรงหน้ามากขึ้น

            “ตอนนี้คนที่ผมรัก ไม่ใช่เน เนเป็นเพียงแค่ความทรงจำที่ดีของผมไปแล้ว”

            ผมเม้มริมฝีปากของตัวเองจนกลายเป็นเส้นตรง ปกติก็ไม่ใช่คนชอบพูดอะไรเจื้อยแจ้วอยู่แล้ว พอมาเจอคนอย่างไอ้ตุล ยิ่งทำให้ผมกลายเป็นใบ้ไปได้ง่ายๆเลย

            “ตอนนี้ … ผมรักผู้ชายที่ชื่อนิติ”

            ทำไม…

            ทำไมล่ะ

            “ทั้งๆที่กูไม่เคยคิดจะสนใจมึงเลย ทำไมถึงรักกูล่ะ” ผมยกแขนขึ้นมาปิดหน้าตัวเอง ไอ้ตุลจับแขนผมพยายามจะดึงออกแต่ผมฝืนเอาไว้

            “การรักใครสักคน มันไม่ได้หมายความว่าเราต้องรอเขามาสนใจนี่ครับ”

            “กูไม่เคยคิดจะรักมึงเลยนะ กูเกลียดมึงตั้งแต่เห็นหน้าด้วยซ้ำ”

            “ผมรอได้”

            “กูเคยสัญญาว่าจะไม่สนใจมึง เพราะมึงเป็นแฟนของเน แต่ทำไมมึงต้องทำแบบนี้วะ”

            “นิ…”

            “มันไม่ยุติธรรมเลย ทำไมมึงต้องคอยเอาแต่ไล่ตาม ไปไหนก็เรียก นิ นิ นิ ทั้งๆที่กูด่าว่ารำคาญ มึงก็ไม่เคยคิดจะยอมแพ้เลย”

            “นิครับ”

            “จากที่รำคาญ ตอนนี้ในหัว ดันมีแต่มึง”

            มืออุ่นๆของคนที่คร่อมร่างของผมอยู่แตะลงบนใบหน้าของผม เพียงแค่คำกระซิบเบาๆข้างหู มันก็ทำให้สติของผมหลุดลอยไปหมด จากที่เคยสัญญาว่าจะไม่แตะต้องผู้ชายตรงหน้า จากที่เคยสัญญากับตัวเองว่าจะไม่ยุ่งกับแฟนของน้องชาย

            ผมทำไม่ได้อีกแล้ว

            “ผมรักนินะ”

            “มึงมันนิสัยไม่ดี”

            “ผมรักนิมากๆ”

            “ไอ้ขี้โกง”

            “ขอบคุณ ที่เข้ามาตอนที่ผมไม่เหลือใคร”

            “มึงมันแย่ที่สุด”

            “ขอบคุณนะครับ”

            ผมไม่เคยแพ้ใคร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร

            แต่วันนี้ ผมกลับแพ้คนตรงหน้า ผมแพ้ผู้ชายที่ชื่อตุลาการอย่างราบคาบเลย

 

 

            ‘ติ๊ดๆ ติ๊ดๆ’

            เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น ผมค่อยๆยันตัวลุกขึ้นจากเตียงพลางปรายตามองเจ้าของกลุ่มผมสีดำสนิทเหมือนขนแมวที่ซุกหน้าอยู่ที่เอวผม สายตาค่อยๆปรับให้ชินกับความมืดภายในห้อง ผ้าม่านที่ถูกปิดอยู่กันแสงได้ดีถึงขนาดที่ว่านี่แปดโมงกว่าแล้วยังไม่มีแสงเล็ดลอดเข้ามา

            ความรู้สึกเจ็บแปลบที่ช่วงล่างกับสะโพกทำให้ผมต้องหยีตาแล้วค่อยๆขยับตัวลุกขึ้น ผมมองไอ้ตุลที่หลับสนิทเหมือนกับว่าเป็นครั้งแรกที่มันหลับสนิทขนาดนี้พลางถอนหายใจแล้ววางมือลงบนกลุ่มผมนุ่มนิ่มนั่น

            คอที่แห้งผากทำให้ผมต้องควานหาขวดน้ำที่หัวเตียงแต่กลับไม่พบซักขวด ผมเลยจับหัวของไอ้ตุลไปนอนที่หมอนดีๆพลางลุกจากเตียง เข้าห้องน้ำจัดการตัวเองแล้วสวมกางเกงเดินไปหาน้ำกินที่ห้องครัว

            สิ่งที่แวบเข้ามาในหัวทำให้ผมต้องยืนกำขอบอ่างล้างจานจนแทบจะบีบมันให้แตก

            เมื่อคืนผมพลาดท่าให้ไอ้ตุลไปจริงๆ แต่เพราะความกากของไอ้ตุล ผมต้องคอยบอกมันทุกอย่าง แถมไอ้ตุลที่ทำตัวเหมือนสัตว์ยังล่อซะจนเอวผมแทบเคล็ด คอผมถึงได้แห้งขนาดนี้ไง แถมอีกอย่าง ระหว่างที่ทำเรื่องแบบนั้นกันอยู่ ไอ้ตุลก็ร่ายสาธยายเรื่องชีวิตของมันให้ผมฟังทั้งหมด ตั้งแต่ว่ามันเกิดวันไหน เลือดกรุ๊ปอะไร ชื่อจริงนามสกุลอะไร ชอบกินอะไร ไม่ชอบอะไร ชอบสัตว์อะไร พ่อแม่อยู่ไหน พี่ชายชื่ออะไร ชอบทำอะไร มันบอกผมหมด แต่ทุกอย่างนั่นกลับเลือนไปเพราะสติของผมมันขาวโพลนไปหมด ... แย่ แย่มากๆเลย

            บ้าฉิบ

            มึงมันไอ้คนเห็นแก่ตัว

            ผมเดินกระเผลกกลับเข้าไปในห้องนอนเพื่อจะล้มตัวลงนอนอีกครั้งเพราะร่างกายล้าจนแทบจะล้ม แต่กลับชะงักไปเมื่อคนที่นอนอยู่บนเตียงพึมพำอะไรบางอย่างออกมา

            “อือ เน …”

            ไอ้ตุลนอนละเมออีกแล้ว แล้วก็พูดชื่อของเนเหมือนทุกครั้ง ผมรู้ว่ามันเป็นฝันร้ายที่ต้องสูญเสียคนรักไป เนยังอยู่ในความทรงจำของไอ้ตุลลึกๆ แต่ผมเองก็เป็นคนอนุญาตให้ไอ้ตุลเข้าใกล้จนความสัมพันธ์เปลี่ยนจากคนรู้จัก เป็นความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน

            ผมเป็นคนอนุญาตให้มันเข้ามาทำให้หัวใจผมปั่นป่วนเอง ทั้งๆที่เพียงแค่ดีดนิ้วผมก็สามารถดีดมันปลิวไปได้แล้วถ้าใจผมไม่ได้ต้องการจริงๆ

            ผมไม่ควรจะมาน้อยใจเพราะเรื่องแค่นี้เลยจริงๆในเมื่อผมเองที่ไม่ยอมผลักไสมันออกไป

            ขาสองข้างของผมเปลี่ยนจากการที่จะเดินไปซุกตัวลงบนที่นอน ไปหยิบเสื้อที่กองอยู่ที่พื้นขึ้นมาแทน ผมสวมเสื้อและจัดการตัวเองให้เรียบร้อยก่อนจะคว้าโทรศัพท์ทั้งของเนและของผมออกจากห้องไอ้ตุลไป

            ตอนนี้ผมแค่อยากปรึกษาใครสักคน

            คนที่ปรึกษาแล้วจะไม่โวยวายจนบ้านพัง หรือด่าว่าผมโง่มากที่ยอมมีอะไรกับไอ้ตุล

            สุดท้ายผมเลยมาหยุดลงที่หน้าบ้านไอ้ธาม

            ผมโทรเข้ามือถือไอ้ธาม เจ้าตัวรับโดยไม่ต้องรอเลยด้วยซ้ำ ไอ้ธามวิ่งออกมาจากบ้านแล้วเดินเข้ามาหาผมที่มีท่าทีไม่ค่อยสู้ดีนัก ก็โดนจัดหนักมาจนแทบจะไม่ได้นอน ทำให้สภาพผมสโลสเลเหมือนคนใกล้ล้มอยู่ตลอดเวลา

            “ปกติมึงจะไปหาไอ้เจลไม่ใช่เหรอ หรือเพราะกลัวน้องมันจะยุ่มย่ามถึงได้มาหากู” ไอ้ธามตัดพ้อด้วยน้ำเสียงน้อยใจพลางวางแก้วน้ำลงตรงหน้าผม

            ก็จริงที่ปกติผมเลือกจะไปหาเจล เพราะไอ้เจลมันพึ่งพาได้ทุกเรื่องแถมยังไม่เคยโกรธผมจริงจังสักครั้ง แล้วก็จริงที่ผมไม่ชอบน้องไอ้เจลเพราะน้องไอ้เจลมันเป็นไบ ที่สำคัญมันเจ้าเล่ห์ ดูยังไงก็เป็นเพลย์บอย แต่ที่น่าขนลุกที่สุดคือ

            ไอ้ไนเจลเคยบอกผมว่า ผมอ่ะเป็นสเปคไอ้เดล

            จริงๆผมไม่ค่อยแคร์หรอก แต่ถ้าคุณได้เจอไอ้เดล ผมว่าจากไม่แคร์มันก็ต้องแคร์บ้างล่ะ

            ถ้าไอ้เจลไม่อยู่บ้านแล้วปล่อยผมอยู่กับไอ้เดลสองต่อสองปุ๊บ อย่างแรกที่มันจะทำคือมอมยาแล้วลากผมขึ้นเตียง พอผมตื่นขึ้นมามันก็ยิ้มใส่แล้วบอกว่า พี่เป็นของผมแล้วนะ แต่ขอโทษที ผมไม่คิดจะจริงจังอะไรกับพี่เลยสักนิด

            “อือ คงงั้น” ผมตอบไปตามตรง

            ไอ้ธามนั่งลงตรงหน้าผม มันใส่เสื้อยืดกางเกงขาสั้นเหมือนเพิ่งจะตื่นนอนเพราะนี่เพิ่งจะแปดโมงกว่าๆ แต่ถึงอย่างนั้นเด็กนอกอย่างไอ้ธามก็ไม่ได้ว่าอะไรที่ผมบุกมาที่บ้านมันแต่เช้า

             “ว่าไง อะไรทำให้มึงตาบวมฉึ่งขนาดนี้” ไอ้ธามถาม ผมหลบตามันนิดๆแค่นั้นก็พอให้คนตรงหน้าจับพิรุธได้

            “ไอ้ตุลทำอะไรมึงงั้นเหรอ”

            นั่นแหละ ที่อยากจะบอก

            ผมพยักหน้านิดๆ ไอ้ธามเริ่มจะขมวดคิ้ว

            หวังว่าการที่ผมมาหาธาม จะไม่ได้คิดผิดหรอกนะ…

            “กูมีอะไรกับมันแล้ว”

            ‘พรวด’

            ไอ้ธามพ่นน้ำที่กำลังกินใส่หน้าผมเต็มๆจนผมต้องหลับตาแล้วทำหน้าเอือมใส่มัน ไอ้ธามรีบปราดเข้ามาใช้ชายเสื้อของมันเช็ดหน้าของผมให้ ผมได้แต่นั่งหน้านิ่งอยู่เฉยๆ

            บางทีผมอาจจะคิดผิดก็ได้

            “ได้ไงวะ มันขืนใจมึงเหรอ มันปล้ำมึงหรือเปล่า!” ไอ้ธามขึ้นเสียง ผมฟาดกบาลมันไปฉาดใหญ่ เจ้าตัวกุมหัวพลางร้องโอดโอย

            “ที่กูมาหามึง ไม่ใช่ให้มึงมาโวยวายเหมือนไอ้เจลนะ” ผมว่า ไอ้ธามทำหน้าสำนึกผิด

            “เปล่ากูแค่สงสัย ปกติมึงไม่ใช่คนที่แบบป้องกันตัวเองไม่ได้ … หรือว่า …” คนตรงหน้าทำหน้าเหมือนคิดอะไรออก และดูเหมือนความคิดนั่นจะถูกซะด้วย

            “อือ กูยอมมัน”

            “นิ…”

            “กูแค่จะมาคุยกับมึง กูแค่ … อึดอัดเฉยๆ” ไอ้ธามนั่งลงข้างๆผมแล้วตั้งใจฟัง

            “ไอ้ตุลมันเพ้อเรียกชื่อเนตลอดเวลานอน พอเวลากูได้ยิน มันไม่ใช่ว่ากูโกรธ แต่กูดันไปอิจฉาน้องชายตัวเองที่ทำให้ไอ้ตุลเพ้อถึงได้ทั้งๆที่มันไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ”

            ผมบ่นอุบ ตอนนี้ทุกอย่างผมไปลงที่เนมันหมดแล้ว มึงมันผิดที่สุด ไอ้ธามทำหน้าอึ้งๆ ก่อนจะอมยิ้มออกมานิดๆ

            “ยิ้มทำซากอะไร”

            “กูเพิ่งเคยเห็นมึงพูดมากก็วันนี้แหละ”

            “อยากตายหรือไง” ไอ้ธามยกมือสองข้างขึ้นเหมือนยอมแพ้ มันขยี้หัวผมเหมือนทุกครั้ง

            “น้อยใจแบบนี้ แสดงว่าชอบไอ้นั่นขั้นสุดละดิ”

            “กูเปล่า!!!”

            “ปากแข็ง” พอโดนตอกกลับเท่านั้นแหละ ผมไปไม่ถูกเลยได้แต่นั่งบ่นอุบอิบเงียบๆคนเดียว

            “ถ้ามึงชอบไอ้ตุล เรื่องแค่นี้ไม่ใช่ประเด็นหรอก ไอ้ตุลน่ะดูยังไงก็ไม่เหมือนคนอย่างกู หรือไอ้เจล มันเป็นคนที่ดูแวบเดียวก็รู้ว่าซื่อตรงขนาดไหน”

            ผมมองไอ้ธามแล้วคิดตาม

            มันก็จริง

            เป็นคนที่ อยากร้องไห้ก็ร้อง อยากพูดอะไรก็พูด อยากถามอะไรก็ถาม ไม่เคยคิดจะสนใจกาลเทศะ

            “มันละเมอนี่ ไม่ได้เรียกชื่อเนตอนมีอะไรกับมึงไม่ใช่เหรอ” ผมหันไปถลึงตาใส่ไอ้ธาม มันหัวเราะ

            “กูขอถามข้อนึงนะนิ ตอบตรงๆ ไม่อ้อมค้อม ไม่เก็บเอาไว้คนเดียว” ไอ้ธามมีสีหน้าจริงจัง เพราะแบบนี้แหละผมจึงเลือกที่จะปรึกษาเรื่องนี้กับไอ้ธาม

            มันมีความเป็นผู้ใหญ่สูงกว่าไอ้เจลอยู่

            “มึงทนได้เหรอวะที่ต้องนั่งฟังคนที่รักคอยพูดชื่อของอีกคนตลอดเวลาน่ะ”

            ทนเหรอ กูมันถึกอยู่แล้ว

            ถ้าไม่ทนจะให้กูทำไง

            ทำไงได้ ก็มันรักไปแล้วนี่

            รักอย่างนั้นเหรอ…

            ผมรักตุลจริงๆอย่างนั้นเหรอ…

            “ถ้ามึงทนไม่ไหว ก็ไม่ต้องทนเพราะยังไงไอ้ตุลก็คงจะต้องละเมอเรียกเนต่อไปเรื่อยๆ มึงห้ามอะไรไม่ได้ แต่ถ้าทนไหว กูก็มีอีกทางเลือกให้มึง”

            ผมมองไอ้ธามด้วยความตั้งใจ มันยิ้มเจ้าเล่ห์เหมือนทุกครั้งเวลาคิดแผนอะไรออก

            “ก็ทำให้มันละเมอเรียกชื่อมึงแทนสิ”

            TBC

ออฟไลน์ kokoro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
Re: (___Last love__) by Jiwinil ตอนที่ 19 Love is Trying (18-11-59)
«ตอบ #86 เมื่อ18-11-2016 16:34:53 »

เพิ่งได้เข้ามาอ่าน
หลงรักคนปากแข็งอย่างนิเข้าแล้ว
เห็นด้วยกับธามค่ะ ถ้าทนไม่ได้ที่ตุลเรียกชื่อเน ก็ต้องให้เปลี่ยนมาเรียกนิแทนเนอะ 555

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
Re: (___Last love__) by Jiwinil ตอนที่ 19 Love is Trying (18-11-59)
«ตอบ #87 เมื่อ18-11-2016 16:53:24 »

แนะนำได้ดีมาก

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
Re: (___Last love__) by Jiwinil ตอนที่ 19 Love is Trying (18-11-59)
«ตอบ #88 เมื่อ18-11-2016 17:59:09 »

เป็นคำแนะนำที่ตรงกับใจจิงๆ 555555
(แต่เค้าได้กันแล้วอ่ะ กรี๊ด!!!!)

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4
Re: (___Last love__) by Jiwinil ตอนที่ 19 Love is Trying (18-11-59)
«ตอบ #89 เมื่อ18-11-2016 18:45:19 »

เพิ่งเจอเรื่องนี้ สนุกอะ ชอบมากกกกกกกกกก
ของคุณที่อัพให้อ่านนะค่ะ

 :mew1: :mew1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด