ตอนที่ 13
หลังจากที่เมื่อวานศตคุณโดนปล้ำจูบจากเจ้าของที่นี่ ร่างบางก็แทบจะไม่เฉียดเข้าใกล้ร่างสูงถ้าไม่จำเป็น แต่ถึงจำเป็น เขาก็ระวังตัวมากที่สุด ไม่ยอมให้พ่อเลี้ยงแตะต้องโดนตัวเลยแม้แต่นิดเดียว อาทิตย์เองก็รู้ดี แต่ก็ยอมปล่อยไป เพราะเข้าใจว่าศตคุณต้องการเวลาบ้าง
รุกเร็วไป มันไม่ดีต่อตัวเองหรอก
นี่เป็นความได้เปรียบของคนที่ผ่านอะไรมาเยอะกว่า เพราะจะรู้ว่าตัวเองควรจะทำแบบไหนถึงจะเอาชนะหัวใจใครได้ ประสบการณ์ที่ผ่านมา ร่างสูงจะเอามันมาใช้กับศตคุณทั้งหมด ถึงจะรู้อยู่ว่ายังไงตัวเองก็สมหวัง แต่อย่างน้อย เขาก็ต้องการให้ร่างบางเห็นความพยายามของเขา
“พ่อไปทำอะไรมันเนี่ย มันถึงได้เมินพ่อขนาดนี้” คณินถามขณะที่สายตาก็มองเพื่อนสนิทของตนที่กำลังช่วยแม่บ้านจัดโต๊ะอาหารเย็น
“หึหึ นิดหน่อย”
“พ่อเป็นเด็กป่ะเนี่ย แกล้งมันทำไม”
“ก็จะมีเมียเด็ก ก็ต้องเด็กตามหรือเปล่าล่ะ ว่าแต่แก อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะว่าช่วงนี้แกกำลังทำอะไร” คนเป็นพ่อหันมามองลูกชายอย่างจริงจัง ทำเอาคณินถึงกับชะงักไปเลย
ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน คณินยังอยู่ในสายตาของพ่อเลี้ยงอาทิตย์เสมอ
ทำอะไรก็ไม่เคยรอดพ้นสายตาของคนเป็นพ่อไปได้เลย
“ผมทำอะไร ไม่มีนี่ครับ” ร่างสูงใหญ่เกือบเท่าผู้เป็นพ่อยักไหล่ ปฏิเสธออกไปหน้าตาย
“หึหึ...ฉันไม่ได้จะห้ามหรอก แต่จะบอกเอาไว้เฉยๆ ว่าสิ่งที่ทำอยู่มันไม่ถูกต้อง ก็แล้วแต่แกแล้วล่ะว่าจะทำให้มันถูกหรือว่าจะทำมันต่อไป ลูกผู้ชายมันต้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง...แต่ฉันก็ไม่อยากให้เดินทางที่ผิด”
“ผมก็ไม่ได้จะทำเรื่องเลวร้ายอะไรสักหน่อย”
“ไม่เลวร้ายก็จริง แต่มันใจร้าย ระวังความดีของเขาจะทำให้แกเสียใจล่ะ” พ่อเลี้ยงเตือนลูกชายอย่างเป็นห่วง
“รู้แล้วครับ”
“จำเอาไว้นะเขต...เขาสองคน เป็นคนละคนกัน” สายตาและเสียงของอาทิตย์จริงจังที่สุดเมื่อสอนลูกชายและเตือนลูกชายของตน
อาทิตย์ไม่อยากให้ประวัติซ้ำรอย...
ไม่ควรมีใครต้องเกิดมาจากความไม่พร้อม และไม่ตั้งใจให้เกิดอีก...
“ครับ...พ่อคิดว่าลูกชายตัวเองจะเลวขนาดนั้นเลยหรือไง”
“แล้วทำไปทำไม เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเขาทำไม” ถามเสียงเข้ม
“ก็แค่...เอ่อ” คณินอึกอัก หลบสายตาของพ่อเลี้ยงเพราะตอบอะไรไม่ถูก
“ก็แค่สนใจเขา...แต่เข้าหาไม่เป็น เด็กว่ะ...” นอกจากจะรู้ทันลูกชายแล้ว ยังมีการดูถูกคณินให้รู้สึกโกรธอีกด้วย พ่อเลี้ยงรู้ว่าการที่เขาว่าคณินเด็กออกไปแบบนั้น
มันจะเป็นการกระตุ้นอะไรบางอย่างในตัวลูกชาย
“ผมไม่เด็กแล้วนะพ่อ มีหลานให้พ่อได้แล้วด้วย”
“อย่าคิดเลย...ให้ฉันมีก่อน ส่วนแก เรียนจบก่อน ทำงานก่อน ชีวิตมั่นคงพอจะรับผิดชอบใครให้ได้ก่อน จากนั้นจะทำหลานมากี่คนฉันก็ไม่ว่าหรอก” พ่อเลี้ยงสั่งเฉียบขาด ทำเอาคณินถึงกับถอนหายใจด้วยความเซ็ง
เห็นเขายังเรียนอยู่ ชอบเที่ยว และยังไม่ค่อยเอางานเอาการเท่าไหร่ แต่คณินมีความฝันที่อยากจะมีครอบครัวที่แสนอบอุ่น มีทั้งพ่อ แม่ ลูกอยู่พร้อมหน้าพร้อมตา ความฝันสูงสุดของเขา คือการเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดี และเก่งเหมือนกับอาทิตย์
“รู้แล้วคร้าบบบบบ ว่าแต่พ่อแน่ใจเหรอว่าไอ้หมูมันจะมีลูกได้น่ะ ไม่ใช่ทุกคนที่จะท้องได้นะพ่อ”
“ก็ไหนแกบอกฉันว่าหมูท้องได้ไง”
“ก็จริงที่ว่าผมเคยพูดแบบนั้น แต่ตอนนี้เริ่มไม่แน่ใจว่าผลเลือดที่เคยเห็นมันจะถูกต้องหรือเปล่าเนี่ยสิพ่อ”
“แต่ฉันมั่นใจว่าได้ เพราะเวลาฉันพูดถึงเรื่องลูก เรื่องท้อง หมูไม่เคยปฏิเสธมันเลย แสดงว่าต้องรู้อยู่เต็มอกว่าท้องได้แน่ๆ” พ่อเลี้ยงพูดพลางลูบคางของตัวเองไปด้วย
“ถ้ามันท้องไม่ได้ พ่อก็จะไม่รักมันหรือไง” คณินถาม
“หึหึ ถึงฉันจะอยากมีลูกอีกก็เถอะ แต่ถ้าคนที่ฉันรักมีไม่ได้ มันก็ไม่เป็นไร ยังไงฉันก็มีแกอยู่แล้วทั้งคน”
เพราะแบบนี้แหละ คณินถึงอยากจะให้พ่อมีความสุขบ้าง แต่ต้องไม่ใช่กับพวกผู้หญิงพวกนั้นแบบที่ผ่านมา เพราะไม่มีใครจริงใจกับอาทิตย์เลยสักคน หวังแค่เงินและทรัพย์สมบัติทั้งนั้น
“นี่พ่อกะจะทำให้ไอหมูมันท้องก่อนเรียนจบหรือไง ขอพ่อกับแม่ของมันแล้วดิ” พอคณินถามออกมาแบบนี้ พ่อเลี้ยงก็ทำหน้าเหมือนเพิ่งจะคิดถึงเรื่องนี้ได้
จริงสินะ...ตัวของศตคุณไม่มีปัญหาเท่าไหร่ แต่ปัญหาคือเขายังไม่ได้พูดคุยเรื่องนี้กับพ่อแม่ของร่างบางเลย เห็นทีว่าต้องรีบทำอะไรสักอย่างแล้ว
“จริงด้วย งั้นพรุ่งนี้ฉันไปเลยดีกว่า ไปแบบไม่ให้หมูรู้”
“ก็ขอให้พ่อโชคดี ผมคิดว่ายังไงพ่อก็ต้องผ่านด่านไปได้แหละ พ่อแม่ของไอหมูชอบพ่ออย่างอะไรดี”
“หึหึ ถ้าในฐานะลูกเขย ฉันคิดว่ามันไม่ง่ายหรอกมั้ง”
“ไม่แน่หรอกพ่อ”
“แกเองก็เหมือนกัน กูรู้ๆ อยู่ว่าครอบครัวเราไม่ถูกกัน อุปสรรคของแกก็คงจะลำบากกว่าฉันหน่อยล่ะนะ”
“ยากอะไรล่ะพ่อ ไม่ได้อย่างถูกต้อง ก็ ’ลักลอบ’ กินแค่นั้น” พ่อเลี้ยงหัวเราะในลำคอกับความคิดของคณินที่ทำให้คิดถึงพี่ชายตัวเอง
พ่อลูก เชื้อไม่ทิ้งแถวจริงๆ
“แกนี่เหมือนพ่อแกจริงๆ”
“พ่อตะวันน่ะเหรอครับ แน่นอน ก็ผมเป็นลูกของพ่อตะวันนี่” ยอมรับอย่างภาคภูมิใจ ทำเอาพ่อเลี้ยงอาทิตย์ทำหน้าระอา
“น้อยๆ หน่อย ให้เกียรติคนที่เลี้ยงแกมาด้วย” พ่อเลี้ยงทำท่าจะเขกหัวลูกชาย แต่คณินก็ลุกขึ้นหนีก่อนไปหาร่างบางที่เดินเข้ามาหาพอดี
“หมู...พ่อจะตีกูอ่ะ”
“หืม...ตีเขตทำไมครับ มันทำอะไรผิดเหรอ”
“เปล่า...”
“ไม่ได้ทำอะไรผิดแล้วตีลูกทำไมครับ อย่าใช้กำลังพร่ำเพรื่อ มันไม่ดีหรอกนะครับ”
คำว่าลูก ออกมาจากปากร่างบางอย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้คณินและพ่อเลี้ยงหันมองหน้ากันอย่างชอบอกชอบใจ...
“หึหึ ก็ได้ๆ ฉันผิดไปแล้ว”
“ช่างเถอะครับ อาหารเย็นเรียบร้อยแล้ว ผมมาตามทั้งสองไปกินข้าว”
“โอเคๆ ไปกินข้าวกัน”
ศตคุณรีบเดินออกไปก่อนที่พ่อเลี้ยงจะเดินมาถึงตัว เป็นการระมัดระวังตัวเองที่ทำให้พ่อเลี้ยงรู้สึกเอ็นดู แต่คณินรู้สึกสมน้ำหน้า
...
...
“พ่อเลี้ยงไปไหนแต่เช้าเลย มีธุระอะไรทำไมกูไม่เห็นรู้เรื่อง” ศตคุณถามเพื่อนสนิทด้วยความสงสัย คิ้วสวยขมวดแน่น แต่นั่นก็ไม่ทำให้ดูสวยน้อยลงเลยสักนิด
“ไปหาเพื่อนน่ะ”
“เพื่อน?”
“อืม...เพื่อนของพ่อกูไง ประมาณเที่ยงๆ คงกลับมาน่ะ” คณินตอบ
“งั้นเหรอ” หากแต่ศตคุณก็ไม่เชื่อ เพราะเวลาไปไหนมาไหนพ่อเลี้ยงจะบอกเขาก่อนเสมอ แต่นี่ไม่คิดจะบอกกัน แต่ก็หายไปแต่เช้าเลย เพื่อนที่ว่านี่เป็นใครกัน
“เออน่า...กูขอตัวไปทำงานก่อนก็แล้วกัน เดี๋ยวพ่อหักเงินเดือน”
“อือๆ อย่าเกเรนะมึง ตั้งใจทำงาน”
“คร้าบแม่”
“แม่พ่อมึงสิ!!” ศตคุณตะโกนไล่หลังคณินไป ส่วนตัวเองก็เดินขึ้นไปยังสำนักงานของไร่เพื่อเรียนรู้งานจากพายัพต่อไป โดยที่พยายามไม่คิดมากเรื่องที่พ่อเลี้ยงหายไปไม่บอกกล่าว
ที่ร่างบางกังวลเพราะเมื่อวานเขาเมินพ่อเลี้ยงทั้งวันเลย กลัวว่าพ่อเลี้ยงจะโกรธเขาจนเป็นฝ่ายเมินแทนน่ะสิ ความจริงแล้วศตคุณไม่ได้โกรธพ่อเลี้ยงเลยสักนิด แค่เขินเท่านั้น
จะไม่ให้เขินได้ยังไง ก็ตัวเองเล่นปล่อยให้อีกคนปล้นจูบเป็นชั่วโมงขนาดนั้น
ศตคุณมาเดินดูไร่องุ่นเพราะไม่มีอะไรทำ เนื่องจากพายัพไปดูโรงงานเขาเลยไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไรต่อ แล้วศตคุณก็รู้ตัวเองดีว่ามาในฐานะพนักงานพาร์ทไทม์ ได้เงินเดือน ได้ค่าตอบแทน ไม่ควรจะอยู่เฉยๆ ก็เลยมาในไร่เผื่อจะช่วยงานพี่ๆ ได้
“มึงๆ น้องหมูมาเว้ย”
“นั่นดิ มาทำอะไรวะ”
คนงานในไร่ที่อยู่ใกล้กับศตคุณที่สุดกระซิบกระซาบคุยกัน มองร่างบางด้วยความกังวล เพราะรู้อยู่ว่าศตคุณถือว่าเป็นคนของพ่อเลี้ยง ก็เหมือนเจ้านายของพวกเขา
“พี่เข้ม พี่โม่ง มีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ”
“เอ่อ...มันจะดีเหรอน้องหมู”
“ก็ดีสิครับพี่เข้ม ทำไมถามผมอย่างนี้ล่ะ ผมก็เป็นพนักงานคนหนึ่งเหมือนกันนะ” ศตคุณพูดด้วยใบหน้าและน้ำเสียงที่ใสซื่อ เล่นทำเอาสองหนุ่มที่ศตคุณทักว่าพี่เข้ม พี่โม่ง มองหน้าปรึกษากันทางแววตา
“เอาไงดีวะมึง”
“กูจะไปรู้เหรอ ถ้าให้น้องหมูช่วยพ่อเลี้ยงจะไม่ว่าอะไรใช่ไหม”
เป็นการปรึกษากันที่ร่างบางได้ยินเต็มสองหูเลย ก็เลยพูดขึ้นมาด้วยความจริงจังว่า
“พ่อเลี้ยงไม่ว่าอะไรหรอกครับ ก็ผมมาที่นี่ในฐานนะเด็กพาร์ทไทม์อยู่แล้ว จะให้ผมรับเงินเดือนแบบไม่ได้ทำอะไรได้ยังไง เอาเปรียบพวกพี่ตายเลย” ศตคุณว่า
“งั้นน้องหมูมาช่วยพวกพี่ตัดแต่งกิ่งนะครับ”
“ได้เลยครับ ช่วยสอนด้วยนะครับ”
ร่างบางตรงเข้าไปหาพี่ๆ คนงานทั้งสองอย่างดีใจ แล้วเริ่มลงมือช่วยงานพร้อมกับชวนพี่ๆ คุยอย่างสนุกสนานเหมือนตอนแรกๆ ที่ยังไม่มีใครรู้ว่าพ่อเลี้ยงชอบศตคุณ ไม่นาน คนงานก็ต่างพากันมายืนทำงานใกล้ๆ กับร่างบางเพราะเอ็นดูในความน่ารักและเอาการเอางาน
ไม่ได้เสแสร้งแกล้งทำ...และไม่ได้ดูเหมือนจะมาจับพ่อเลี้ยงอย่างที่พวกเขาคิดเลยสักนิด
“น้องหมูนี่ตลกจริงๆ เลย พรุ่งนี้ก็มาทำงานกับพวกพี่อีกนะ”
“ฮ่าๆ ถ้าอาพายัพไม่อยู่แบบวันนี้อีก ผมจะมานะครับ ผมชอบทำงานที่นี่ มีคนเยอะดี สนุกไม่เหงาด้วย”
เป็นประโยคที่เจ้าของไร่เดินมาได้ยินพอดี ร่างสูงยิ้มออกมาที่ได้เห็นภาพแบบนี้ แต่ความเป็นกันเองของศตคุณมันคงเป็นเรื่องธรรมดา เพราะยังไงเจ้าตัวก็เป็นแค่คนฐานะปานกลาง ทำนาทำไร่เหมือนกัน รวมทั้งการปลูกฝังของครอบครัวด้วย
เชื่อเถอะว่าต่อให้ศตคุณเลื่อนขึ้นมาเป็นภรรยาของเขา ร่างบางก็จะยังเป็นเหมือนเดิม แต่นั่นแหละ พ่อเลี้ยงเองก็ไม่ได้ต้องการจะให้ศตคุณมาเปลี่ยนแปลงตัวเองมาก เป็นแบบนี้ ดีที่สุดแล้วสำหรับเขา
“อ่ะแฮ่ม!” เจ้าของไร่กระแอมขัดจังหวะคนงานทุกคนจนรีบกระจายออกหากจากร่างบางแทบจะไม่ทัน
“พ่ะ พ่อเลี้ยง พวกเราไม่ได้อู้นะครับ” หนึ่งในคนงานรีบก็ตัวออกมา เพื่อเห็นสีหน้านิ่งๆ ของผู้เป็นนาย ต่างคนต่างก็พากันคิดไปแล้วว่า พ่อเลี้ยงต้องโกรธแน่ๆ เลย
“เหรอ ก็เห็นๆ กันอยู่” พ่อเลี้ยงแสร้งทำเป็นดุ จนศตคุณเม้มปากด้วยความกังวล มองพ่อเลี้ยงสลับกับพี่ๆ คนงานไปด้วย
“พวกเราแค่มาคุยกับน้องหมูเฉยๆ ครับ”
“ใครให้นายมาที่นี่งั้นหรือ ต้องฝึกงานกับพายัพไม่ใช่หรือไง” เบนเข็มมาหาคนสวยตรงหน้าแทน ทำเอาหัวใจของศตคุณเต้นแรงด้วยความกลัว
เพราะพ่อเลี้ยงอาทิตย์มีชื่อเสียงในเรื่องของความจริงจังมาก ผิดก็ต้องว่าไปตามผิด แต่ศตคุณก็พยายามคิดว่าตัวเองทำอะไรผิด ถึงได้โดนดุ
แค่มาช่วยพี่ๆ เขาทำงานเอง
“อาพายัพไปโรงงานครับ ผมไม่มีอะไรทำก็เลยมาช่วยๆ ทำงาน”
“งั้นเหรอ...งานของพวกนายทำเองกันไม่ได้หรือไง ถึงต้องให้หมูมาช่วยน่ะ” คราวนี้พ่อเลี้ยงหันไปถามกับคนงานอีกครั้งหนึ่ง แต่หนนี้ไม่มีใครกล้าตอบเนื่องจากกลัวไปแล้ว
“พี่ๆ เขาไม่ผิดนะครับพ่อเลี้ยง ถ้าจะผิดก็คงผิดที่ผมเอง พ่อเลี้ยงดุผมคนเดียวเถอะครับ”
ร่างบางเดินมาหยุดตรงหน้าของพ่อเลี้ยงอย่างไม่กรงกลัวตรงข้ามับที่ใจกำลังหวาดกลัวสุดๆ แต่เขาก็เป็นคนที่ไม่ชอบให้คนอื่นมาถูกตำหนิเพราะตนแน่ๆ
“งั้นนายก็พูดความผิดของตัวเองมาสิ”
“นั่นคือสิ่งที่ผมอยากรู้จากพ่อเลี้ยงมากกว่าครับว่าอยากจะให้ผมผิดยังไงบ้าง” สิ้นเสียงของร่างบาง พ่อเลี้ยงก็กระตุกยิ้มมุมปากนิดๆ ส่วนเหล่าคนงานก็ต่างมองหน้ากันเลิกลัก เป็นห่วงกลัวว่าคนที่กล้าต่อปากต่อคำกับพ่อเลี้ยงจะโดนดี ถึงแม้ว่าจะเป็นคนของพ่อเลี้ยงก็ตาม เพราะที่ผ่านๆ มาก็ไม่เคยเห็นพ่อเลี้ยงจะไว้หน้าใครเลย ถ้าไม่ใช่พ่อแม่และลูกชาย
แผนการต่อไปของพ่อเลี้ยงเริ่มได้...
“ฉันจะกล้าหาความผิดมาให้กับนายได้ยังไง แค่เรื่องนั้นฉันก็โดนนายเมินมาตั้งวันหนึ่งแล้ว ถ้าฉันว่าอะไรนายอีก ฉันคงจะทนไม่ได้หรอกที่ต้องโดนนายเมินและโกรธน่ะ”
ก็คือทำเป็นยอมให้เหล่าคนงานรับรู้ว่าศตคุณ คือตัวจริง...และเพื่อให้ร่างบางเองรู้สึกด้วยว่าตัวเองพิเศษว่าใคร
“พ่อเลี้ยง...”
“อะไร จะดุฉันหรือไง”
ใบหน้าหวานหันมองคนงานรอบๆ ก่อนจะระงับอารมณ์ของตัวเองเพื่อไม่ให้ลืมตัวทำอะไรที่ไม่ดีกับพ่อเลี้ยงต่อหน้าทุกๆ คนออกไป
“พ่อเลี้ยงแกล้งผมเหรอ?” กัดฟันถาม
“หึหึ น่ารักดี ฉันชอบ”
“คนบ้า!!” ร่างบางว่าเจ้าของไร่อย่างเขินๆ ก่อนจะเดินหนีไปจากตรงนี้ทันที ทิ้งให้พ่อเลี้ยงมองตามด้วยรอยยิ้มมีความสุขที่ได้แกล้ง ก่อนจะหันไปหาเหล่าคนงานของตน
“ทำงานต่อได้แล้วไป เมื่อกี้ฉันแค่แกล้งหมูเฉยๆ อยากรู้ว่าหมูจะทำยังไงถ้าฉันดุพวกนายน่ะ”
“โหย...พวกเราก็กลัวจนเยี่ยวเหนียวแล้วมั้งเนี่ย”
“เวอร์ไปไอ้โม่ง ไปๆ ทำงานต่อได้แล้ว ฉันไปล่ะ” สั่งเสร็จ คนตัวใหญ่ก็ก้าวเท้ายาวๆ เร็วๆ ไปขนาบข้างร่างบอบบางที่เดินหน้านิ่งหนีไป
สายตาของคนงานมองตามทั้งคู่ด้วยความรู้สึกเดียวกัน
“เหมาะสมกันจังเลย”
“นั่นดิ...กูว่านะ น้องหมูเนี่ยตัวจริงเลย”
“เออๆ ไม่คิดว่าพ่อเลี้ยงจะชอบเด็ก”
“พ่อเลี้ยงไม่ได้ชอบเด็กหรอกเว้ย แต่ชอบน้องหมู มึงก็ดูน้องหมูดิ ผู้ชาย แต่หุ่นบอบบาง หน้าสวยกว่าผู้หญิงขนาดนั้น ไหนจะผมยาว ผิวขาวอีก นิสัยก็ดี น่ารัก ยิ้มสวยด้วย เป็นกูกูก็ชอบ”
“ชอบได้ แต่ห้ามจีบว่ะคนนี้...บุคคลต้องห้ามเลย จำเอาไว้ล่ะ”
“อ้าว? แล้วถ้าน้องหมูทัก น้องหมูคุยด้วยล่ะวะ”
“ไอ้โง่ ก็ตอบก็พูดกันปกตินั่นแหละ”
“เออๆ ไปๆ ทำงานกันต่อได้แล้ว เดี่ยวพ่อเลี้ยงกลับมาตัดเงินเดือนหรอก”
“หมู...โกรธหรือไง” พ่อเลี้ยงถามพลางเดินไปด้วย
ไม่รู้ว่าตัวเองโรคจิตหรือไง แต่ชอบเห็นหน้านิ่งๆ ไม่พอใจของร่างบอบบางข้างกายจริงๆ ทั้งๆ ที่ตัวเองไม่ชอบคนนิสัยเด็กแท้ๆ แต่พ่อเลี้ยงเชื่อว่า ร่างเล็กกว่าไม่ได้โกรธหรืองอนอะไรจริงจังขนาดนั้น
ก็วางฟอร์มไปงั้นแหละ
“เปล่าครับ ผมจะไปกล้าโกรธพ่อเลี้ยงได้ยังไง” ตอบนิ่งๆ
“ถ้าอย่างนั้นก็งอนสินะ ฉันง้อคนไม่เป็นด้วยสิ”
“ผมไม่ได้งอน!” ปฏิเสธเสียงห้วน พร้อมๆ กับสะบัดหน้าหนี
โอเค...นี่คืออาการของคนที่ไม่งอนล่ะนะ
“ถ้าไม่งอน งั้นก็ไปรอรับแขกกับฉันก็แล้วกัน” พ่อเลี้ยงพูดบอก ใบหน้าสวยก็เลยหันมามองด้วยความสนใจทันที
“ใครจะมาเหรอครับ” ถามอย่างสนอกสนใจ ดวงตาแพรวแพรวไปด้วยความตื่นเต้น ซึ่งพ่อเลี้ยงก็ไม่รู้ว่าถ้ารู้ชื่อของ ‘แขก’ แล้ว ศตคุณจะอารมณ์ดีหรือว่าอารมณ์เสียกันแน่
แต่เขาคิดว่าอย่างหลัง
“เดี๋ยวก็รู้น่ะ คงใกล้จะมาถึงแล้วล่ะมั้ง”
“ก็ได้ครับ”

1 เดือนที่ทิ้งเรื่องนี้ไปขออภัยจริงๆ นะคะ ตอนนี้ก็มีเวลากลับมาอัพเหมือนปกติได้แล้วค่ะ ขอโทษจริงๆ แต่ยูกิแจ้งในเพจแล้วบ่อยๆ ว่าจะหยุดอัพไปก่อนน่อ แต่ใครไม่ทราบไม่เป็นไร เพราะตอนนี้ ยูกิคัมแบ็คแล้ว ฮ่าๆ
ในส่วนของตอนนี้อาจจะดูแปลกๆ ซึ่งยูกิก็รู้สึกกับมันมากๆ ต้องขออภัยด้วย เอาไว้ยูกิจะหาเวลาแก้ไขมันใหม่นะคะ อ่านแล้วเม้นท์ให้ด้วยนะคะที่รักของยูกิ
มีอะไรพูดคุย สอบถาม ติดตามข่าวสารกับอัพนิยายได้ที่แฟนเพจเลยนะคะ
https://www.facebook.com/sawachiyuki/