Just you and I เพราะนายคือของฉัน [ตอนพิเศษ ฮาโลวีนที่ไม่น่าจดจำ][P.43][31/10/61]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Just you and I เพราะนายคือของฉัน [ตอนพิเศษ ฮาโลวีนที่ไม่น่าจดจำ][P.43][31/10/61]  (อ่าน 628715 ครั้ง)

ออฟไลน์ aiaea83

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 676
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +494/-5

Just you and I :7



       จะบอกว่างานเข้าก็ได้หรือความซวยมาเยือนก็ได้ ก็เพราะตอนนี้ผมกำลังนอนเหยียดยาวอยู่บนเตียงนุ่มแถมยังมีแขนหนักๆ พาดลำตัวจนแทบขยับเขยื้อนไม่ได้ นั่นไม่น่าตกใจเท่าปลายเตียงมีผู้หญิงสวยยืนอยู่ และดูเธอจะอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก ดวงตากลมโตเบิกกว้างพอๆ ปากที่อ้ารอแมลงวี่บินเข้าไป

   “แม่คะ คุณน้าคนนี้เป็นใครเหรอคะ ทำไมมานอนบนเตียงกับน้าโช” เสียงใสถามแม่ตัวเองพร้อมกับนิ้วป้อมๆ ชี้มาที่คนแปลกหน้า

   “แม่ก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ” เธอตอบลูกสาวพร้อมๆ กับยกมือปิดดวงตากลมของเด็กเล็กก่อนเงยหน้ามองคนที่นอนร่วมเตียงกับเจ้าของห้อง “เธอเป็นใครแล้วทำไมมานอนกับโชแบบนี้...หรือว่าแฟน”

   “มะ ไม่ใช่ครับ ไม่ใช่” ผมรีบปฏิเสธจนลิ้นแทบพันกัน แม้สภาพผมกับไอ้คนที่ยังไม่ยอมเอาแขนออกจากเอวผมมันจะโคตรขัดก็เถอะ

   ผมจำได้ว่าตอนง่วงแล้วเผลอหลับ เสื้อผ้าผมยังอยู่ครบนะ แล้วไหงตอนนี้มันเหลือแค่บ๊อกเซอร์ เสื้อกับกางเกงผมหายไปไหน

   “ไม่ใช่แล้วทำไมนอนกันสภาพแบบนี้ พวกเธอคงจะ...ไม่อยากพูด” สาวสวยตรงหน้าที่ผมไม่รู้จักทำท่าทางเหมือนกับขนลุก ก่อนเธอจะเดินดุ่มๆ มายืนข้างเตียงแล้วยกเท้าขึ้นถีบช่วงเอวของไอ้คนนอนขี้เซา

   ผู้หญิงคนนี้โคตรโหด

   “ตื่น โชตื่น ถ้าแกไม่ตื่นฉันจะเอาน้ำมาสาดแก ตื่นโว้ย” เสียงพูดกึ่งตะโกนบวกกับความโหดทำให้ผมแทบอยากจะลุกหนี มือผมพยายามแงะ แกะ งัดแขนหนักๆ “ไอ้โช อย่าให้พี่แกต้องโมโหนะเว้ย”

   ได้ผลครับ ไอ้พี่โชเริ่มขยับ พอลืมตาตื่นขึ้นมามันก็ยื่นหน้ามาหอมแก้มผมอย่างไวจนผมหลบไม่ทัน เต็มๆ ตาเลยครับ คนปลุกสายโหดอ้าปากค้าง ดีที่เด็กตัวน้อยเดินออกไปข้างนอกแล้ว ไม่งั้นได้อธิบายยาวเหยียดแน่
 
   “นี่แก...”

   “อ่าวพี่ มาตั้งแต่เมื่อไหร่” พี่โชมองสาวสวยที่ยืนข้างเตียงอย่างเรียบเฉย ไม่มีท่าทีตกใจ ต่างจากผมที่เบิกตากว้างจนจะถึงท้ายทอย

   พี่สาว! มิน่าโหดเหมือนกันทั้งพี่ทั้งน้อง

   “มานานพอจะเห็นแกนอนกอดกับผู้ชายนี่แหละ” พี่สาวคนสวยทำตาดุมองน้องชายตัวเองแล้วเผื่อแผ่มาถึงผม ไม่ต้องทำตาดุใส่ผมขนาดนั้นก็ได้ แค่นี้ก็กลัวจะแย่แล้วครับ “แล้วนี่ แกจริงจังใช่มั้ยถึงพามานอนที่ห้องเนี่ย”

   “ก็อย่างที่เห็น โอ้ย เจ็บนะโว้ย” พี่โชโดนฝ่ามือเน้นๆ ตรงกลางหัวเลยครับ

   “ก็พูดให้มันเคลียร์ๆ หน่อย”

   “ไม่เคลียร์ตรงไหนวะ”

   พูดจบก็โดนฝ่ามืออีกรอบครับแต่เปลี่ยนเป็นหลังแทน ผมละสงสารพี่โชแกจริงๆ พี่สาวคนสวยก็หวดไม่ยั้งจนหลังแดงเถือก ส่วนน้องชายก็ดิ้นหนีไปมาจนกลิ้งตกเตียง

   “เหนื่อย” พี่สาวสายโหดหอบหนักก่อนจะเหล่ตามองผม “ฉันให้เวลาสองนาที แต่งตัวให้เรียบร้อย แล้วเราค่อยคุยกัน” ไอ้ประโยคหลังทำเอาผมขนลุกซู่ไปทั้งตัว มันเป็นความรู้สึกแบบเดียวกับที่เจอพี่โชครั้งแรกเลย ทั้งสายตา น้ำเสียง ท่าทาง พี่น้องคู่นี้เหมือนกับลอกบุคลิกกันมาเปี๊ยบ

   เมื่อคนให้เวลาเดินออกจากห้องนอน ผมก็ตาลีตาเหลือกมองหาเสื้อกับกางเกงของตัวเอง ซึ่งมันถูกขว้างมาจนถึงประตูห้องน้ำ นี่ผมละเมอมาถอดเองหรือว่าไอ้พี่โชมันถอดวะเนี่ย ผมสะบัดหัวตัวเองก่อนจะรีบเดินตามเจ้าของห้องที่ใส่เสื้อกล้ามกับกางเกงบอล

   ด้านนอก เสียงการ์ตูนดังพร้อมๆ กับเสียงหัวเราะของเด็กตัวเล็ก แต่ความตลกไม่เรียกความสนใจได้อีกเมื่อเห็นน้าตัวเองเดินออกมา เด็กหญิงตัวน้อยก็รีบวิ่งเข้ามากอดขาพี่โชทันที ผมก็ไม่ได้เกลียดเด็กหรอกนะครับ แต่ทำตัวไม่ถูก ยิ่งโดนมองหน้าแบบนี้ยิ่งทำอะไรไม่ถูก

   “น้าโชขา พี่คนนี้เป็นใครเหรอคะ” เด็กตัวป้อมชี้นิ้วมาที่ผม อามันก็ยิ้มกริ่มก่อนก้มกระซิบทำให้ผมไม่ได้ยินที่มันตอบหลานตัวเอง “อ๋อ แบบนี้นี่เอง...น้าสะใภ้”

   ผมร้องเสียงหลงเมื่อถูกเรียกว่าน้าสะใภ้ ไอ้พี่โชมันไปบอกอะไรหลานมันวะ แล้วหลานมันก็ขยับมาตรงหน้าผม มือป้อมๆ นั่นกวักให้ผมย่อตัวนั่งลง พอผมทำตาม เด็กน้อยก็ยื่นหน้ามาหอมแก้มฟอดใหญ่ ก่อนจะเปล่งเสียงพูดดังฟังชัดทำเอาผมแทบหงายหลังลงไปนั่งกองกับพื้น พร้อมๆ กับเสียงหัวเราะดั่งปีศาจของน้าของเด็กตัวเล็ก

   “รักกันนานๆ นะคะน้าสะใภ้”

   หลังจากพูดจบ เด็กตัวเล็กก็ได้สองนิ้วโป้งจากน้าของตัวเอง แต่ผมแทบอยากจะยกนิ้วอื่นให้น้าเด็กแทน มันต้องสอนพูดแน่ๆ แถมยังต่อหน้าพี่สาวตัวเองอีก ไม่กลัวถูกฝ่ามืออีกหรือไง
 
   แต่ผมคิดผิดครับ เพราะตอนนี้พี่สาวของพี่โชกำลังรื้ออาหารในตู้เย็นออกมากองบนโต๊ะไม่ได้สนใจพวกผมเลย ผมมองถุงที่อยู่บนโต๊ะอย่างงงๆ ทั้งที่ของที่วางอยู่ก็เยอะซะขนาดนั้นแล้ว ไม่รู้จะค้นออกมาทำไมอีก ผมมองไอ้เจ้าของห้องกำลังเล่นกับหลานตัวเองไม่สนใจใคร เลยเลือกที่จะเดินเข้าไปหาพี่สาวคนสวย แม้จะแอบกลัวหน่อยๆ ก็เถอะ ก็ภาพการปลุกด้วยเท้ากับสายตาโหดยังติดตาอยู่เลย
 
   “พี่หาอะไรเหรอครับ” ผมกลั้นใจส่งเสียงออกไป คนถูกถามตีหน้ายุ่งหันกลับมามอง

   “หาซุปไก่ก้อนน่ะสิ จำได้ว่ามาครั้งก่อนซื้อติดตู้เย็นไว้แล้ว”
 
   ผมมองคนที่ก้มๆ เงยๆ หาของก่อนจะชี้นิ้วไปที่ด้านล่างของช่องใส่ไข่

   “ตรงนั้นหรือเปล่าครับ ก้อนเหลืองๆ นั่น”

   “ไหน อ๋า มันอยู่นี่เอง ขอบใจนะ ว่าแต่ทำกับข้าวเป็นหรือเปล่า” ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อได้รอยยิ้มจากพี่สาวของพี่โชบ้าง เพราะบรรยากาศมันดูผ่อนคลายกว่าเดิมเยอะ

   “พอเป็นครับ ผมช่วยแม่ทำกับข้าวขายบ่อย”

   “งั้นก็ทำอร่อยน่ะสิ”

   “ไม่หรอกครับ”

   “งั้นดีเลย มาช่วยพี่ทำหน่อย วันนี้มันรู้สึกปวดเมื่อยจนไม่อยากเดินไปมา ได้เธอมาช่วยฉันจะได้เบาแรง” พี่สาวคนสวยว่า ก่อนเธอจะส่งผ้ากันเปื้อนลายหมีพูให้ผมใส่ “เข้ากับหน้าเธอดีนะ ว่าแต่ชื่ออะไรน่ะเรา พี่ชื่อชีสนะ ไม่น่าเชื่อว่าจะคบกับไอ้โชได้”
 
   ผมว่าพี่ชีสกับพี่โชเริ่มไม่ค่อยเหมือนกันแล้วล่ะครับ คำพูดน่ะนะ ดูพี่ชีสจะเป็นมิตรมากกว่า แม้ในยามโหดจะเหมือนกันก็เถอะ

   “ผมชื่อกลอยครับ เป็นรุ่นน้องเฉยๆ” ผมตอบตามความจริง แต่พี่ชีสดูไม่ค่อยเชื่อ เพราะเธอเดินมาซะชิดตัวผมจนจมูกโด่งๆ ของเธอแทบจะทิ่มแก้ม

   “หึ” เสียงเค้นหัวเราะจากลำคอของพี่ชีสทำให้ผมมองอย่างสงสัย ก่อนพี่แกจะถอยหลังกลับไปยืนที่เดิม แล้วชี้นิ้วสั่งให้ผมเก็บของสดใส่ตู้เย็น ส่วนของแห้งก็แยกใส่ตู้ลิ้นชัก

   “พี่มีไรกินบ้าง” พี่โชครับ มันเดินอุ้มหลานมันมายืนข้างเคาน์เตอร์

   “มีแต่จานเปล่าๆ จะกินมั้ย” ไม่พูดเปล่านะครับ พี่ชีสแกหยิบจานเซรามิกขึ้นมาให้ด้วยจนพี่โชล่าถอย “เกะกะจริงๆ ไอ้น้องคนนี้ ว่าแต่ชื่อไรเราน่ะ ไม่เห็นตอบ”

       “ผมตอบพี่ไปแล้วเมื่อกี้ แต่บอกใหม่ก็ได้ฮะ ผมชื่อกลอย”

   “โอเค งั้นกลอยก็ช่วยพี่ล้างผักกาดขาวนะ รู้จักใช่มั้ย”

   “อ่า ครับ”

   “เยี่ยม สมแล้วที่จะมาเป็นน้องเขย หรือว่าน้องสะใภ้นะ”

   ไม่ใช่ทั้งสองนั่นแหละครับพี่

   ผมไม่ตอบแต่เลือกที่จะหยิบเอาถุงผักกาดขาวที่มีอยู่สองหัวไปล้าง เด็ดใบที่แก่ทิ้งเหลือแต่ใบอ่อน ผมล้างน้ำสองรอบก่อนจะยกไปวางบนเคาน์เตอร์ ส่วนพี่ชีสก็เริ่มผสมหมูสับกับวุ้นเส้น ดูเหมือนหมูจะถูกคลุกกับรากผักชีกับกระเทียมมาเรียบร้อยแล้ว ผมจ้องมองพี่ชีสอย่างปลื้ม เขาว่าผู้หญิงที่ทำกับข้าวเป็นมักจะมีเสน่ห์ พี่ชีสก็เป็นแบบนั้นแหละครับ

   ใบหน้าขาวเนียนไร้สิว ตัดกับคิ้วที่ถูกแต่งด้วยดินสอเขียนคิ้วสีน้ำตาลเพื่อให้เข้ากับสีผม จมูกโด่งเป็นสันสวย ปากเคลือบลิปสติกสีชมพูอ่อนๆ พี่ชีสเป็นผู้หญิงที่สวยจริงๆ เหมือนกับน้องชายของพี่เขาที่ก็หล่อไม่มีที่ติเหมือนกัน

   ผมช่วยเท่าที่พอจะช่วยได้ จนต้มจืดหมูสับหอมกรุ่นไปทั่วห้อง ผมมองนาฬิกาติดผนังก่อนจะรู้สาเหตุที่ท้องร้อง เพราะนี่มันก็เกือบๆ จะทุ่มหนึ่งแล้ว ผมมาที่ห้องพี่โชตอนบ่ายสามแล้วนอนยาวเกือบทุ่มเลยเหรอเนี่ย

   พี่ชีสตีไข่ไก่ห้าฟองในถ้วยที่ผมตอกให้ ก่อนจะเทลงในกระทะเพื่อทำไข่เจียว กลิ่นหอมที่เล็ดลอดจากเครื่องดูดควันเพิ่มความหิวโหยให้กับผมและสองน้าหลานที่กำลังเกาะเคาน์เตอร์มองกับข้าวตาละห้อย

   “เอาไปวางที่โต๊ะเลยจ้ะ เดี๋ยวพี่ตามไป” พี่ชีสเอาตะหลิวชี้บอก ผมรีบพยักหน้าแล้วยกแกงจืดกับไข่เจียวออกไปวางที่โต๊ะกินข้าวโดยมีพี่โชกับหลานเดินทำจมูกฟุดฟิดตาม

   เห็นท่าทางแบบนี้แล้วตลกดี ไม่คิดว่าจะได้เห็นพี่โชมาดโหดกลายเป็นเด็กเดินตามอาหารแบบนี้

   เราทั้งสี่เริ่มลงมือจัดการกับข้าวบนโต๊ะ ขอบอกว่าอร่อยมากครับ แม้จะเป็นกับข้าวธรรมดาก็เถอะ หรือเป็นเพราะว่าบรรยากาศสนุกด้วยละมั้งครับ พี่ชีสกับพี่โชเถียงกันตลอด ขนาดแย่งหมูก็ทะเลาะกันผมล่ะยอมสองพี่น้องนี้เลย

   “นี่ค่ะ น้องบีมตักให้น้ากลอย” มือป้อมๆ ที่ถือช้อนสำหรับเด็กตักหมูที่ถูกแบ่งครึ่งมาใส่จานผม ผมมองใบหน้าน่ารักที่ยิ้มจนแก้มยุ้ยอย่างแปลกใจ “น้ากลอยไม่ชอบหมูเหรอคะ” คงเห็นผมไม่ยอมแตะเพราะเอาแต่จ้องหน้า

   “อ่า ชะ...”

   “น้ากลอยเขาต้องชอบน้าโชมากกว่าหมูสิคะ”

   เสียงพี่โชพูดแทรกขณะที่ผมกำลังจะตอบว่าผมชอบกินหมูมากที่สุด คำตอบของน้าตัวเองเรียกเสียงหัวเราะคิกคักของหลานพร้อมกับเสียงอ้วกของพี่สาว ส่วนผมน่ะเหรอ ก้มหน้าอย่างเดียวครับ ไม่ใช่เขินนะ แต่อาย มันเหมือนกันหรือเปล่า? ช่างมันเถอะครับ รู้แต่ว่า ผมยังไม่พร้อมมองหน้าไอ้พี่โชได้ในตอนนี้ก็แล้วกัน

   “จะก้มหน้ากินข้าวหรือไง เงยหน้า” ไอ้พี่โชครับ มันพูดพร้อมเอามือมาจับหน้าผมให้เงยขึ้น

   “พี่ก็ วู้” ผมไม่รู้จะตอบอะไรแต่ก็ปัดมือมันออกแล้วกินข้าวต่อครับ

   เสียงหัวเราะของสองพี่น้องประสานกันจนผมอยากจะวิ่งออกจากห้องให้มันรู้แล้วรู้รอด ก็รู้ว่าชอบแต่ไม่คิดว่าจะถูกรุกขนาดนี้ อยากจะรบกวนให้ช่วยเพลาๆ ความเสี่ยวลงหน่อยเพราะผมกลัวจะทนไม่ไหว

   มื้ออาหารหน้าแสนร้อนผ่านไป ผมก็รับอาสาล้างจานให้ ได้ยินเสียงสองพี่น้องคุยกันบ้างทะเลาะกันบ้างก็ตลกดีนะครับ จะว่าไป ผมกับพี่สาวก็เป็นแบบนี้แหละ แต่ไม่โหดขนาดพี่ชีส โหดสุดก็แค่เอาจานเขวี้ยงใส่หัวผมแตกก็แค่นั้น

   ผมล้างมือหลังจากจานใบสุดท้ายเสียงกับตะแกรง พอเดินออกมาก็เจอดวงตาดุสองคู่มองมาจนผมเริ่มทำตัวไม่ถูก

   “พี่สองคนมีอะไรหรือเปล่าครับ” จ้องหน้าผมซะขนาดนั้นผมก็กลัวน่ะสิ

   “มานั่งนี่” พี่โชบอก มือขาวๆ นั่นก็ตบโซฟาข้างๆ

   ผมเดินซุยๆ ไปนั่งข้างแต่ขยับให้ห่างจนโดนมือขาวนั่นลากให้มานั่งซะจนชิด ถ้าพี่จะให้นั่งตรงนี้ไม่ให้นั่งตักไปเลยล่ะวะ ผมส่งตาเขียวมองแต่พี่โชทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ยิ่งมีสายตาของพี่ชีสจับผิดแบบนั้นยังกล้าทำแบบนี้กับผมอีก เดี๋ยวก็ถูกเข้าใจผิดกันพอดี

   “จะพาเข้าบ้านเมื่อไหร่ แม่บอกรีบๆ หน่อยเพราะอาทิตย์หน้าจะไปเที่ยวยุโรป” ผมฟังพี่ชีสถามน้องชายตัวเองอย่างงงๆ พี่โชจะไปเที่ยวกับครอบครัวเหรอเนี่ย อิจฉาอ่ะ ผมก็อยากไปต่างประเทศบ้าง

   “ไม่รู้”

   “อ่าว ยังไงล่ะพี่บอกแม่ไปแล้วนะ ส่งรูปให้ดูแล้วด้วย แกก็รู้ว่าอย่าให้แม่มาหาเอง”

   “ก็พี่จะบอกทำไม”

   “อ่าว ฉันก็ตกใจสิ นานแค่ไหนที่แกไม่ให้นอนเตียงด้วย”

   ผมมองพี่โชทำท่าทางอึกอักไม่ยอมตอบคำถามพี่สาวตัวเองว่าทำไมถึงยอมให้ผมมานอนเตียง ทั้งที่เป็นคนหวงของ

   “แล้วพี่มาทำไม” เปลี่ยนประเด็นไปซะแล้ว

   “ฉันก็ห่วงน้องชายฉันบ้างไม่ได้หรือไง”

   “เอาเรื่องจริง”

   “รู้ทันตลอด ฉันทะเลาะกับพี่เขยนายน่ะสิ คนบ้าอะไรไม่รู้ มาสั่งให้ฉันห้ามตัดผม ไม่เข้าใจหรือไงว่าฉันอยากปรับลุค บลาๆฯ”

   เหตุผลของผู้หญิงมันช่างยากที่จะหยั่งถึงนะครับ เหมือนความกว้างของท้องฟ้าที่เราไม่รู้จุดสุดสิ้นมันอยู่ตรงไหน ผมไม่รู้ว่าทำไมถึงผู้หญิงถึงอยากทำโน้นทำนี่ ทั้งที่บางทีทำลงไปแล้วมันไม่มีผลอะไรเลย อย่างเรื่องตัดผม จะผมสั้นผมยาวมันก็อยู่ที่เราจัดแต่งไม่ใช่เหรอ ผมว่า ผมชอบผู้หญิงผมยาวมากกว่านะ

   เรื่องมากมายของพี่ชีสถูกขัดจังหวะด้วยเสียงโทรศัพท์ของพี่โช ผมได้ยินเสียงปลายสายโวยวายก่อนสายจะถูกตัด ผมว่า คงมีเรื่องเกิดขึ้น พี่โชรีบไล่พี่สาวกลับเพราะต้องไปทำธุระ ซึ่งผมต้องติดไปด้วยอยู่แล้ว คืนนี้ผมก็ต้องกลับไปนอนห้องสิ ผมไม่ได้ใจง่ายหรอกนะ...เอ่อ ง่ายนิดนึงก็ได้

   ใช้เวลาบนท้องถนนไม่นานผมก็พาร่างแห้งๆ มายืนอยู่หน้าสถานีตำรวจ สงสัยคนที่โทรมาอาจมีเรื่องราวใหญ่โต ว่าแต่ใครทำพี่โชต้องรีบเหาะมาแบบนี้ได้

   ถ้าไม่ใช่...ไอ้พี่จอม

   คืออยากจะหัวเราะแต่ก็ไม่กล้า ตอนนี้พี่จอมแกนั่งหัวเราะอยู่ในห้องขัง โหนกแก้มซ้ายมีรอยช้ำ ริมฝีปากก็แตกมีเลือดติดเกรอะ สงสัยฝีมือจะตก เพราะคราวนั้นสิบคนรุมยังไม่มีบาดแผล พี่แกคงคุยกับผู้ต้องขังคนอื่นเพลินเกินจนลืมมองผมที่ยืนหัวโด่อยู่หน้ากรงจนผมต้องกระแอม

   “อ่าว มึงมากับไอ้โชเหรอ” ทักแค่นั้นละครับ พี่แกก็หันไปเล่าเรื่องตลกให้คนอื่นฟังต่อ พี่ครับ พี่ติดคุกอยู่นะครับ ไม่มีท่าทางเสียใจอะไรเลยเหรอ

   ผมยืนเป็นวิญญาณไร้ร่างอยู่สักพักก่อนพี่โชจะเดินมาพร้อมกับคุณตำรวจที่มาเปิดประตูห้องขัง

   “ออกมาๆ”

   “ผมต้องไปแล้ว ไว้จะมาเล่าเรื่องตลกให้ฟังใหม่นะ” คำล่ำลาของพี่จอมกับคนที่ยังถูกขัง
 
   นี่พี่ยังอยากจะเข้ามาอยู่ในนี้อีกเหรอ ยอมเขาเลย

   ระหว่างที่ผมเดินมึนๆ ตามหลังออกมา หูผมก็ได้ยินเหมือนคนเรียกชื่อ จะว่าพี่โชก็ไม่ใช่ เพราะพี่เขาคุยกับพี่จอมอยู่หน้าผมเนี่ย แล้วใครวะ

   หันซ้ายที ขวาที พอมองลึกไปในห้องขังที่พี่จอมเพิ่งออกมา ชัดเลย เต็มสองตา

   “ไอ้อัธ ไอ้ม่าน”

   พวกมันสองคนเห็นผมก็รีบปรี่เข้ามาเกาะซี่กรงทำหน้าตาเหมือนเด็กที่ถูกเอามาปล่อยโรงเรียนแล้วอยากกลับบ้าน

   “พวกมึงเข้าไปอยู่ทำไมในนั้นวะ”

   “พวกกูไม่ได้อยากเข้าโว้ย แค่ตกกระไดพลอยโจร มึงช่วยกูด้วยนะไอ้กลอยใจเพื่อนรัก” ไอ้ม่านโวยวาย ทรุดตัวนั่งดีดดิ้นเหมือนเด็กอยากได้ของ ถ้าเด็กทำมันก็คงน่ารัก แต่ไอ้นี่ทำแล้วดูไม่ได้จริงๆ

   ผมกำลังจะอ้าปากถามเพื่อนแต่อยู่ๆ ไอ้พี่จอมก็ถลาทำหน้าตื่นเข้ามาจนพวกผมตกใจ

   “กูลืมพวกมึงไปเลย ออกมาๆ กูให้ไอ้โชประกันตัวแล้ว”

   “ทำพวกผมเข้ามาในนี้ ทำเป็นลืมนะ”

   “ก็พวกมึงไปนั่งมุมห้องกูก็ลืมสิวะ ออกมาๆ”

   คุณตำรวจเดินมาเปิดประตูห้องขังรอบสอง ไอ้อัธ ไอ้ม่านเดินออกมาอย่างโรยแรง โดยเฉพาะไอ้ม่านที่มันพุ่งเข้ามากอดผมแน่น

   “ไอ้กลอยใจ กูโคตรกลัวเลยสัด” ผมยกมือลูบหัวไอ้ม่านที่มันกำลังเอาหน้ามาเช็ดกับไหล่ผม เลยโดนผมโบกหัวไปทีแต่มันก็ไม่ยอมปล่อย

   มึงเอาขี้มูกมาเช็ดเสื้อกูไอ้สาด

   พวกเราสี่คนเดินออกมาด้านนอกเห็นพี่โชยืนพิงกับรถคู่ใจตัวเองรอ

   “พี่โชแมร่งเท่ตลอดอ่ะสัด” ไอ้ม่านครับ

   “กูเท่กว่าอีก” นี่ไอ้พี่จอมมันเกทับ เลยโดนสายตาดูถูกจากรุ่นน้องไปถึงสามคู่
 
   “แล้วพวกมึงอยู่กับพี่จอมได้ยังไง แล้วทำไมสภาพพี่จอมถึงเละแบบนี้อ่ะ”

   “พี่จอมเป็นเพื่อนพี่รหัสกู” ไอ้อัธตอบผมครับ

   “ส่วนกูรู้จักเพราะพี่เขาเป็นเพื่อนของพี่รหัสไอ้อัธ ซึ่งไอ้อัธคือเพื่อนของกู” อธิบายตามที่มึงเข้าใจเลยไอ้ม่าน
 
   “สรุปว่ารู้จักกัน”

   “เออ” สามเสียงประสานกันจนผมตกใจ

   เดี๋ยวนะ ถ้าพวกนี้รู้จักกัน งั้นเรื่องของผมกับไอ้พี่โชล่ะ ซวยแล้วไอ้กลอยเอ้ย

   “เอ่อกูว่าจะถาม มึงมากับพี่โชได้ไง แล้วรู้จักกันตอนไหนทำไมกูไม่รู้” นั่นปะไร ไอ้อัธมึงไม่ต้องสงสัยทุกเรื่องก็ได้

   “คือกู...”

   “ตอบยากตรงไหนวะ นี่เมียไอ้โชมัน”

   “ห๊า/เฮ้ย/เชี่ย” ทั้งไอ้อัธ ไอ้ม่าน รวมทั้งผมต่างก็อุทานออกมาพร้อมกัน แม้จะคนละแบบก็เถอะ

   “มึงเป็นเมียพี่โช เรื่องจริงเหรอวะ” ไอ้ม่านเบิกตากว้าง ถามอย่างตกใจ

   “เชี่ยไม่ใช่เว้ย”

   “มึงกับพี่โชเนี่ยนะ กูต้องพูดต้องถามแบบไหนดี” ไอ้อัธมันคงสับสน ซึ่งผมก็สับสันเหมือนมันนั่นแหละ

   “กูยังไม่ได้เป็นเมียโว้ย พี่จอมอย่าพูดเรื่องไม่จริงได้ป่ะ ผมเสียหายนะเว้ย”

   “กูพูดผิดตรงไหน”

   “ก็ผิดตรงที่ผมยังไม่ได้เป็นอะไรกับเพื่อนพี่ไงเล่า”

   “อ่าวเหรอ”

   ดูมันครับ พูดเสร็จก็เดินไปหาเพื่อนมันที่ยืนรอ ผมรู้ว่าพี่โชได้ยินทุกประโยค เพราะใบหน้าพี่เขาดูเรียบเฉย ต่างจากตอนที่พวกเราเดินออกมา มุมปากยังมีรอยยิ้ม ผมมองพี่โชด้วยแววตาที่สับสน แค่เสี้ยวหน้าเท่านั้นที่พี่เขามองมาก่อนเดินอ้อมไปขึ้นรถตัวเองโดยมีพี่จอมเข้าไปนั่งแทนที่ที่ผมนั่งมา...

   เสียงกระหึ่มของรถสปอร์ตคาร์ดังลั่นพร้อมกับออกตัวอย่างไว แสงสีแดงของท้ายรถทำเอาผมใจหาย บางทีผมควรจะต้องทำ ทำอะไรสักอย่างแล้ว แล้วผมจะมายืนร้องเพลงทำไมวะ ผมควรสนใจเพื่อนตัวเองที่กำลังจ้องจนแทบจะทะลุร่างของผมอยู่ต่างหาก พวกมึงไม่ต้องทำสายตาเผือกเรื่องกูขนาดนั้นก็ได้




   ผมติดรถของไอ้อัธมาลงที่หอพัก ระหว่างทางมาไม่มีใครพูดอะไรสักอย่าง จนผมลงจากรถ ไอ้อัธกับไอ้ม่านต่างก็เดินลงมาด้วย บอกแค่อยากให้เคลียร์เรื่องของตัวผม คือเรื่องของกู กูไม่รู้อะไรเลยนะ ผมเดินนำพวกมันมาถึงห้อง พวกมันก็แทรกตัวเข้าไปนั่งก่อนผมซะอีก นี่กูเจ้าของห้องนะโว้ย แต่ท่าทางนิ่งเงียบของพวกมันสองคนทำเอาผมไม่กล้าปริปาก จะเครียดอะไรขนาดนั้นวะ

   “กูขอถามเลยนะ เรื่องมึงกับพี่โช” ไอ้อัธเปิดประเด็นทันทีที่ผมหย่อนก้นลงนั่งกับพื้น เพราะโซฟาเล็กๆ ถูกพวกมันนั่งก็เต็มแล้ว “มึงคบกับพี่โชอยู่เหรอวะ”

   “ไม่ได้คบโว้ย” ผมตอบทันที

   “ไม่ได้คบก็ดี ที่กูพูดแบบนี้เพราะกูเป็นห่วงมึง พี่โชน่ะ ไม่เหมาะกับคนธรรมดาแบบมึงหรอก” แม้ผมจะไม่ค่อยชอบคำพูดแบบนั้นแต่มันก็เป็นเรื่องจริง “ถ้ามึงคบกับพี่เขา ชีวิตมึงจะไม่มีความสงบ ผู้หญิงที่วนเวียนรอบตัวพี่เขามันน่ากลัวเกินกว่ามึงจะรู้ ที่มหาลัยผู้หญิงกี่คนที่ต้องตบตีแย่งกัน กูไม่อยากให้มึงเข้าไปเกี่ยว” ไอ้อัธพูดจริงจังจนผมเริ่มคิดหนัก

   จะว่าไปผมก็รู้สึกแบบนั้นตอนไปที่มหาลัยพี่โช ผมยังจำภาพที่พี่โชยืนคุยกับสาวหุ่นดีที่โรงอาหารนั่นได้ เธอถูกกลุ่มนักศึกษาสาวที่นั่งโต๊ะไม่ไกลจ้องด้วยสายตาเกลียดชังและดูถูก ผมรู้ว่าไอ้การมองตั้งแต่ตัวหัวจรดเท้าคือการดูถูก หมายถึงจากคนที่ไม่ชอบกันอะนะ

   “แต่กูก็ไม่ได้เป็นอะไรกับพี่เขาจริงๆ”

   “กูแค่อยากให้มึงอยู่ห่างจากพี่เขาบ้าง”

   “ช่าย อย่าทำตัวเป็นไอซ์ศรัณยู” ทั้งผมและไอ้อัธต่างก็มองไอ้ม่านอย่างไม่เข้าใจ

   “อะไรไอซ์ศรัณยูวะ” ไอ้อัธมันถามก่อนผม

   “ก็เป็นคนใจง่ายไง พวกมึงนี่ไม่รู้เรื่องเลย โง่มาก” เอาตามที่มึงสบายใจเลยไอ้ม่าน

   ผมมองเพื่อนสนิทอย่างระอา แต่ก็ดีนะครับ มีมันก็ไม่เหงาดี เวลามีเรื่องเครียดๆ ได้คุยกับมันก็หาย โดยเฉพาะมุกควายๆ แบบนี้แหละ

   “ขอบใจพวกมึงที่เตือน กูจะระวังตัว ไม่เอาตัวเองเข้าไปยุ่งอีก”

   “ได้ก็ดี ส่วนเรื่องบลูแฟนมึง กูให้เพื่อนช่วยสืบมาละ” ไอ้อัธว่าพลางยื่นซองสีน้ำตาลมาให้ผม ไอ้นี่เป็นนักสืบเหรอวะ

   ผมเปิดซองแล้วหยิบแผ่นกระดาษด้านในออกมาดู ข้อความมากมายที่บอกว่าบลูไม่ได้ตั้งใจเรียน แถมยังติดเอฟจนแทบจะโดนรีไทร์ ทั้งๆ ที่เธอบอกกับผมว่าถ้าจบภายในสามปีครึ่งเธอจะได้เกียรตินิยม แต่กระดาษแผ่นหลังๆ ทำเอาผมขมวดคิ้ว รูปภาพบลูกับผู้ชายคนอื่นๆ ซึ่งไม่ใช่เพื่อนของพี่โช

   “มึงได้รูปพวกนี้มาจากไหน” ไม่ใช่ผมคนเดียวสินะที่เป็นควายถูกบลูสวมเขา

   “บอกไม่ได้ว่ะ แต่รูปพวกนี้มาจากเฟซของเจ้าตัวซึ่งมีหลายแอคเคาท์ แต่ละแอคเคาท์สถานะก็จะคบคนต่างกัน อย่างเช่นเฟซที่มึงกับบลูขึ้นสถานะด้วยกัน เป็นต้น” ไอ้อัธร่ายยาวจนผมพูดไม่ออก

   “มึงมันเทพมาเกิดชัดๆ เพื่อนกูครับเพื่อนกู”

   “มึงเพิ่งรู้เหรอครับเพื่อนม่าน” ไอ้อัธยืดรับคำชม ก่อนมันจะหันมาจ้องหน้าผม “ไอ้กลอย ไม่ใช่กูเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ ยังมีคนที่ตามสืบเหมือนกันแต่ก็ไม่รู้ว่าใคร ดังนั้นมึงควรรีบเคลียร์ตัวเองจากผู้หญิงคนนี้ซะ แล้วหลังจากนั้นมึงค่อยคิดว่าจะทำยังไงดีเรื่องพี่โชกับความสัมพันธ์ที่มึงเริ่มเป็นไอซ์ศรัณยูแบบที่ไอ้ม่านว่า”

   ผมมองหน้าเพื่อนทั้งสองอย่างกังวล มันไม่ง่ายเลยที่จะต้องเดินไปบอกบลูเรื่องพวกนี้ ผมเคยรักเธอ และตอนนี้ก็ยังคงชอบ ผมอยากกลับไปเป็นเพื่อนเหมือนครั้งแรกที่รู้จักกัน แต่มันคงจะเป็นไปได้ยาก ถ้าผมเคลียร์เรื่องนี้ได้ ทั้งผมและบลูคงจะเข้าหน้ากันไม่ติด ผมคงต้องรีบทำใจแล้วเดินหน้าต่อ ผมจะได้เลิกเป็นควาย ส่วนเรื่องพี่โช ผมก็คงต้องเลิกเป็นไอซ์ศรัณยูแบบที่ไอ้พวกนี้บอกจริงๆ.....

        แล้วผมจะบ้าจี้กับพวกมันทำไมเนี่ย!!


................... TBC

มีคนเดาถูกเรื่องพี่ซันด้วย แล้วพี่ซันจะทำอะไรกลอยหรือเปล่านี่ไม่รู้ได้ ที่แน่ๆ ความสัมพันธ์ของพี่โชกับกลอยเริ่มสั่นคลอนตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่ม ..

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามและรักพี่โชของน้องกลอยนะคะ >w<~~~

... อัพวนไปค่ะ ...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-07-2016 11:13:50 โดย aiaea83 »

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3593
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
กลอยค่อยๆๆเรียนรู้พ่โชไปน่ะ เรารู้ว่าคู่กัน อิอิ
แอบคิดว่าอยากให้พี่ซันคู่อัจจังเลย พี่ศันคงไม่ใช่เบาๆๆแน่ ให้บลูเงินไปเลย ทำกับกลอยได้ พี่จอมคู่ทู มโนไปแล้ว ฮ่าๆๆๆๆ

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3593
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
บูลคบซ้อนอะไรขนาดนี้ ต้องจัดการน่ะ
พี่โชงอนไปแล้วกลอย ฮ่าๆๆๆ กลอยไม่รับรู้ ณ ตอนนี้ อิอิ โลกกลมอ่ะเป็นเพื่อนพี่รหัสซะงั้น รอลุ้นต่อ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
บลู ความลับถูกเปิดเผย  ทั้งเรื่องเรียน เรื่องผู้ชาย
ชีคบหลายคน สับรางเก่งจริงๆ ว่าแต่คนที่สืบอีกคน คงเป็นพี่ซัน สินะ
อยากอ่านมุมของพี่โช มุมของบลู บ้าง บลู มีปม หรือโรคจิตป่ะ
รอ  :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1226
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
ขออีกเยอะๆๆๆๆๆๆๆๆ ^^

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
กลอยเปิดใจให้พี่โชสักหน่อยสิ อาจไม่แย่นักก็ได้ :hao3: :hao3:
ส่วนเรื่องนังบลู รีบๆปิดฉากรักร้าวได้แล้วววว :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ mkianit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 301
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-3
ขอให้นังบลูไม่เหลือใคร  :m31:

ออฟไลน์ ammchun

  • Don't Worry,Be Happy
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-4
สนุกกกกกกกกค่ะ บลูเยอะได้อีก :katai1: :katai1:อะไรมันจะขนาดดดดดนั้นนน. รอตอนต่อไปนะคะ :mew1:

ออฟไลน์ rubymoona

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-5
ตอนใหม่มาเร็วมากกกกก เชื่อเพื่อนค่ะกลอยเชื่อพี่!

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
พี่โชคงโกรธน่าดู

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
เป็นเรื่องที่สนุกดี  ฮากลอยมากเปิ่นๆงงๆเอ๋อๆ ส่วนพี่โชก็ตามแบบเมะวาย หล่อ รวย แบดบอยแต่เหมือนจะขี้น้อยใจนะ ฮ่าๆๆ เรื่องนี้มีกี่คู่อะอยากให้พี่จอมคู่ทูอะ แล้วซันจะเล่นงานกลอยไหมนี่สิ กลอยไม่ควรยื้อนะเดี๋ยวซวยไปใหญ่
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-07-2016 20:42:53 โดย R@iNi@r »

ออฟไลน์ aiaea83

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 676
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +494/-5
Just you and I : 8



         “กระเพาหมูไข่ดาวโต๊ะสองได้แล้วจ้า” เสียงตะโกนจากหน้าร้านทำให้ผมเดินวนไปหยิบแล้วเอาไปเสิร์ฟ เสียงแม่ผมเองครับ บ้านผมเปิดร้านขายอาหารตามสั่งมาตั้งแต่ผมอายุสิบขวบ...หลังจากตาเสียแม่ก็ได้ส่วนแบ่งมาพอสมควร พวกเราเลยออกจากบ้านเช่ามาซื้อตึกแถวสองชั้นล็อกเดียวแทน เพราะทำเลดี แถมไม่กี่เมตรก็เป็นโรงพยาบาล หากเปิดร้านขายอาหาร ลูกค้าร้านต้องเยอะแน่
 
         และมันก็จริงครับ หลังจากเปิดร้านได้ไม่กี่เดือน ลูกค้าที่ร้านก็เยอะจนโต๊ะนั่งแทบไม่พอ ยิ่งฝีมือการทำกับข้าวของแม่ผมไม่เป็นรองใครด้วยแล้ว แม้ด้านข้างของร้านเขาก็เปิดขายข้าวแกงเหมือนกัน แต่เปิดได้แค่ห้าปี ร้านเขาก็โดนพิษเศรษฐกิจต้องปิดตัวลง แม่ผมเลยตัดสินใจเซ้งต่อ เนื่องจากเจ้าของเขาต้องการเงินไปทำธุรกิจอื่นต่อ

   เมื่อแม่เซ้งร้านข้างๆ ต่อ พวกเราจึงนำเงินที่เก็บตั้งแต่เปิดร้านมาขยายร้านให้กว้างขึ้น โดยทำสองหลังให้เชื่อมกัน ร้านผมเลยกว้างขวางพอที่จะมีโต๊ะรองรับลูกค้าได้มากขึ้น ชั้นล่างทำใหม่แล้ว ชั้นบนของที่นี่เราก็ทำใหม่เหมือนกันครับ คือทำให้มันเชื่อมกันเพื่อทำให้มีพื้นที่กว้างขึ้น และทำห้องส่วนตัวของทุกคน แม้ในตอนแรกเราสามคนแม่ลูกต้องนอนเบียดกันให้ห้องๆ เดียว ด้านพี่สาวผมทำงานแล้วครับ แต่ก็ยังกลับมานอนที่บ้านและช่วยทำงานในวันหยุด ส่วนผมที่มักจะนอนหอพักมากกว่าบ้าน ด้วยความสะดวกในการเดินทาง อีกทั้งหอพักผมไม่ไกลจากมหาลัยมากเป็นการประหยัดเงินค่าเดินทางไปในตัว
 
   วันนี้ผมไม่มีเรียนเลยตัดสินใจกลับมาบ้านเพื่อตั้งหลัก แต่ก็อยู่เฉยๆ ไม่ได้เพราะผมต้องช่วยงานที่ร้าน เสิร์ฟบ้าง รับรายการอาหารบ้าง ล้างจานบ้าง แม้แม่จะจ้างลูกจ้างช่วยแล้วก็ตาม แต่ผมก็อยากจะช่วยแบ่งเบา ใจจริงผมอยากจะทำอาหารแทนด้วยซ้ำ แต่กลัวลูกค้าติดใจจนไม่กลับมาอีก แบบนั้นมันคงไม่ดีเท่าไหร่

   เสียงตะหลิวกระทบกับกระทะดังขึ้นพร้อมกับกลิ่นฉุนของพริกทำเอาคนที่อยู่ใกล้ถึงกับน้ำตาไหลเพราะแสบตาแสบจมูก แต่ผมว่ามันก็ดีนะ อยากกินก็ต้องทน แค่กๆ ขนาดผมไม่ได้กินยังต้องทนเลยคิดดู
 
   “ตายๆ สงสัยวันนี้ฝนจะตกหนัก น้องชายฉันกลับบ้าน” ผมกำลังเช็ดโต๊ะที่ลูกค้าเพิ่งลุกออกไปก็มีเสียงแหลมดังขึ้นจากด้านหลัง

   “ฝนตกก็ดีสิ ร้อนจะตาย แล้วพี่ทำไมกลับเร็ว ยังไม่ห้าโมงเลยนะ” ผมเงยหน้ามองนาฬิกาติดผนัง

   “ฉันทำงานธนาคารนะยะ กลับแบบนี้ทุกวัน แกแหละ ไม่เห็นหน้ามานานนึกว่านอนขึ้นอืดอยู่ที่หอ โอ้ย แม่ กิ่งเจ็บนะ” พี่กิ่งพี่สาวผมครับ เธอตัวสูงเกือบจะเท่ากับผม ถ้าเทียบกับผู้หญิงถือว่าเป็นคนสูงเลยทีเดียว ส่วนหน้าตาก็ใกล้เคียงกัน ก็พี่น้องกันนี่เนอะ

   “สมน้ำหน้า” ผมแลบลิ้นปลิ้นตาใส่หลังจากพี่กิ่งโดนแม่หยิกแขน

   “แม่เข้าข้างไอ้กลอยตลอด” งอนไปแล้วครับ แต่ก็รู้ว่าแกล้งทำ

   “ก็เราไปแช่งน้องทำไม น้องมันเรียนหนัก กลับบ้านมาเราควรจะพูดดีๆ กับน้องสิ” แม่เริ่มบ่นครับ แต่ก็ปกติ พี่สาวผมกับผมไม่ค่อยจะพูดหวานใส่กันหรอก ส่วนมากก็พูดแมนๆ ใส่กัน

   จุ๊ๆ อย่าบอกใครนะครับ ว่าพี่สาวผมไม่ชอบผู้ชาย

   เรื่องนี้แม่ผมก็รู้ครับ ตอนพี่กิ่งเรียนปีสาม เธอเข้าไปสารภาพกับแม่ว่าไม่ชอบผู้ชายแถมกำลังดูใจกับผู้หญิง แม่ถึงกับไม่ยอมพูดด้วยเป็นอาทิตย์ จนสุดท้าย แม่ก็เดินเข้ามาบอกว่า แม่รักกิ่ง แค่คำว่ารักมันก็มากพอที่จะมองข้ามเรื่องพวกนั้นไป แล้วเรื่องที่ไม่ชอบผู้ชายมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แม่รับได้ ก็ความรักมันเป็นสิ่งสวยงาม ไม่ว่าจะรักในรูปแบบไหน แม่บอกเคยโดนกีดกันความรัก ดังนั้นแม่จะไม่ยอมเป็นคนทำลายความรักของลูกๆ ผมฟังแล้วน้ำตาไหลเลยครับในตอนนั้น
 
   ผมน่ะโคตรรักแม่เลย

   พี่กิ่งเดินขึ้นไปชั้นบนโดยมีผมเดินตามไปต้อยๆ ผมอยากลองปรึกษาใครสักคนเรื่องของบลู และพี่กิ่งนี่แหละเหมาะที่สุด ผมนั่งรอพี่สาวที่กำลังเปลี่ยนชุดอยู่ในห้องน้ำ ไม่นานก็เดินออกมา

   “มีอะไรว่ามา” รู้ใจจริงพี่สาวผม

   “พี่จำบลูได้ป่ะ” ผมเข้าเรื่องทันทีครับ

   “แฟนแกอะนะ” พี่กิ่งมองหน้าผม “ทำไม มันนอกใจแกใช่ป่ะ ฉันบอกแล้วว่าเด็กนี่ไม่จริงใจ” ครับ อย่างที่พี่กิ่งบอก ไม่ใช่แค่ไอ้อัธที่ไม่ชอบบลู พี่สาวผมก็ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ แต่เป็นคนไม่แสดงออก เวลาพี่กิ่งเจอบลูก็จะทำตัวเป็นปกติ ยิ้มแย้มพูดคุย แต่พอบลูกลับไป ก็พ่นไฟเลยครับ น่ากลัวนะครับผู้หญิงเนี่ย

   “พี่โคตรแม่นอ่ะ” ผมว่าพลางยื่นซองที่ไอ้อัธให้มาให้พี่สาวผมดู พอเธอเห็นก็หัวเราะอย่างเดียวครับ “พี่ว่าไง”

   “จะไปว่ายังไง แกต่างหากที่ต้องว่า”

   “นั่นล่ะที่ผมอยากปรึกษา ผมจะทำยังไงดี จะเดินเข้าไปบอกตรงๆ แล้วเอาพวกนี้ให้ดูดีป่ะ”

   “ไม่ดีๆ ฉันว่าแกควรทำให้ยัยเด็กนี่ได้รับผลกรรมที่หลอกคนอื่นไปทั่ว”

   “ยังไงอ่ะ”

   พี่กิ่งส่งเสียงจิ๊จ๊ะก่อนจะร่ายยาว ผมก็ได้แต่นั่งฟังแผนการเกือบสิบที่ถูกเสนอมา บางอันก็เข้าท่า บางอันก็โหดเกินไป อย่างให้ผมเอารูปพวกนี้ไปประจาน มันเกินไปหน่อยนะผมว่า

   “แกรู้จักผู้ชายคนไหนบ้างล่ะในรูปพวกนี้” รูปห้ารูปถูกยื่นมาตรงหน้า ผมจ้องหน้าพี่สาวก่อนจะจิ้มไปที่รูปของพี่ซัน “งั้นแกไปตีสนิทเขาเอาไว้ ทำให้ยัยเด็กบลูนั่นหัวปั่นไปเลย...อย่าทำหน้าโง่แบบนั้น แกต้องตีสนิทแล้วไปไหนมาไหนด้วย ให้ยัยเด็กนั่นร้อนตัวจนเปิดเผยตัวเองมาน่ะ ทำได้มั้ย”

   ทำไมผมโดนด่าว่าโง่ตลอดวะ ไม่เข้าใจเลย ผมออกจะฉลาด...ใช่มั้ย

   ผมกลับมานอนแผ่บนเตียงของตัวเอง มือก็ยกรูปพี่ซันขึ้นมาดู แล้วผมจะไปตีสนิทพี่แกได้ยังไง ในเมื่อตอนนี้ผมกับพี่โชไม่ได้คุยกันเลยตั้งแต่วันที่ไปประกันตัวพี่จอม...อาทิตย์หนึ่งแล้วสินะ เหมือนมันจะดีแต่ก็รู้สึกแปลกๆ ยังไงซะ เรื่องผมกับพี่เขามันก็เป็นไปไม่ได้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว

   แล้วทำไมใจผมมันรู้สึกหวิวๆ สับสนจริงๆ

   เสียงริงโทนของผมดังปลุกให้ผมที่กำลังเคลิ้มตื่น ไอ้เชี่ยม่านโทรมาได้จังหวะพอดี

   “ไรมึงกูกำลังจะนอน” ผมกรอกเสียงไปพร้อมกับหาวเสียงดัง

   “นอนตอนนี้ระวังปวดหัวนะเว้ย”

   “ปวดก็กินยาดิ่วะ แล้วมึงโทรมาทำไม วันนี้วันอาทิตย์”

   “ก็วันอาทิตย์ไง มีของฟรีสนหรือไม่เพื่อนกลอยสุดเลิฟ”
 
   พอได้ยินของฟรีผมก็ดีดตัวขึ้นมานั่งเลยครับ

   “ว่ามาๆ ของฟรีจากไหน”

   “วันเกิดพี่โต๋ว่ะ แกฝากไอ้อัธมาชวน สนใจป่ะ” พี่โต๋คือปู่รหัสไอ้อัธครับ พวกผมเคยไปก๊กเหล้าด้วยกันหลายครั้งเลยสนิทกันพอสมควร

   “สนๆ กี่โมงวะ กูต้องไปซื้อของขวัญด้วยใช่ป่ะ”

   “หกโมงเดี๋ยวกูไปรับที่หอ ส่วนของขวัญก็ไปซื้อเอาดาบหน้า โอเคแค่นี้เลิกกัน”

   ไอ้ม่านวางสายไปผมก็ลุกขึ้นมาเก็บของครับ เสื้อผ้าผมขนมาซักที่บ้านตากไว้ตั้งแต่เช้าตอนนี้แห้งหมดแล้ว พับๆ ไป ประตูห้องผมก็เปิดออก แม่ที่เดินยิ้มเข้ามาทำให้ผมโผเข้าไปกอด
 
   “จะกลับแล้วเหรอ ไม่นอนค้างเลยนะเราน่ะ ไม่คิดถึงแม่บ้างเหรอ”

   “คิดถึงตลอดเวลาเลยครับ” ผมหอมแก้มแม่ฟอดใหญ่ แม้จะมีกลิ่นของอาหารติดอยู่ แต่ผมก็ว่ามันช่างหอมเหลือเกิน

   “มีปัญหาหรือเราน่ะ” มือของแม่กำลังลูบหัวผมอยู่ ความอบอุ่นมันทำให้ผมไม่อยากไปไหน และแม่คือคนที่รู้ทุกอย่างแม้ในยามที่มีปัญหา อย่างคราวนี้นี่แหละ

   “นิดหน่อยฮะ ไม่ใช่เรื่องใหญ่”

   “เรื่องแฟนล่ะสิ อย่างเราคงไม่มานั่งเครียดเรื่องเรียนใช่มั้ย”

   “โธ่แม่”

   แม่นตลอดครับแม่ผม

   “บอกแม่ได้ตลอดนะกลอย แม้แม่จะแก่ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไร แต่อย่าลืมว่าแม่ก็เก่งนะ ให้คำปรึกษาได้ดีเหมือนกัน”

   “คร้าบ” ผมหอมแก้มแม่อีกฟอด ก่อนถามเสียงอู้อี้ “ถ้าผมไม่ได้เป็นอย่างที่แม่หวังไว้ แม่จะเสียใจหรือเปล่าฮะ”

   แม่ดันผมออกก่อนมองหน้า ดวงตาที่มักจะมีแต่ความรักให้ผมกับรอยยิ้มสนอบอุ่นที่ผมได้มันมาตลอดสิบกว่าปี “ไม่ว่ากลอยหรือกิ่งจะเป็นอะไร ลูกก็คือลูกของแม่ แม้ว่ากิ่งจะมีแฟนเป็นผู้หญิง หรือแม้แต่กลอยจะคบกับผู้ชาย แม่ก็ไม่โกรธ”

   คำพูดของแม่ทำเอาผมกระพริบตาถี่ ถ้าผมเปิดสำนักดูดวงให้แม่ ผมว่าต้องมีคนสนใจมากแน่ๆ เพราะท่าทางอึกอักของผมแม่ถึงกับหัวเราะออกมา

   “พาเข้าบ้านมาหาแม่สิ แม่จะดูให้ ว่าเขารักลูกแม่จริงหรือแค่จะมาหลอก” แม่ว่าพร้อมรอยยิ้ม

   “แม่อ่ะ ไม่มีหรอกฮะ ใครจะมารักกลอย ขนาดคบกับแฟนมาตั้งนานเขายังไปมีคนอื่นเลย”
 
   “โดนสาวทิ้งหรือเนี่ยลูกแม่”

   “แม่อ่า...กลอยรักแม่นะครับ”

   “แม่ก็รักทั้งกลอยทั้งพี่กิ่งนั่นแหละ” แม่ว่าก่อนจะกลับลงไปข้างล่างเพราะทิ้งร้านไว้ให้ลูกจ้างดูแลแทนเนื่องจากคนเริ่มบางตา แต่ก็ไม่ลืมทิ้งท้ายก่อนจะปิดประตู “อย่าลืมพาลูกเขยมาหาแม่บ้างนะ”

   จะลูกขงลูกเขยก็ไม่มีสักคนนั่นแหละ ถ้าจะมีก็มีลูกสะใภ้เท่านั้น...ใช่มั้ย



   
   ตอนนี้ผมกำลังนั่งรอไอ้ม่านครับ กลับมาจากบ้านครั้งนี้ผมได้ข้าวกล่องกับของแห้งมาตุนไว้เพียบ ต่อไปจะได้ไม่ต้องพึ่งบะหมี่ในยามดึกแล้ว ผมนั่งดูนั่นดูนี่ไปจนไอ้ม่านโทรเรียกให้ลงไปด้านล่างเพราะมันมารออยู่แล้ว พอลงไปก็เจอไอ้ทูที่นั่งยิ้มแป้นแล้นอยู่ข้างคนขับ

   “ไงเพื่อน” ไอ้ทูทักผมทันทีที่ผมสอดตัวเข้าไปนั่งด้านหลัง ทั้งไอ้ทู ไอ้อัธ ไอ้ม่านต่างก็มีรถยนต์ส่วนตัว ต่างจากผมที่มีแค่น้องฟีโน่ ก็เรามันคนจนนี่เนอะ

   “แล้วไอ้อัธล่ะ” ผมถามไอ้ม่านที่มองซ้ายขวาเพื่อจะเลี้ยวออกหน้าหอพัก

   “มันไปอยู่ที่งานแล้ว ครั้งนี้พี่โต๋เปิดบ้านรับทุกคนเลยนะเว้ย” ไอ้ม่านตอบ

   “บ้านที่ซื้อใหม่อ่ะนะ พี่โต๋ก็ดีว่ะ เล่นหุ้นจนซื้อบ้านได้ทั้งที่ยังเรียนไม่จบ” ไอ้ทูออกความเห็นบ้างซึ่งผมก็เห็นด้วย แก่กว่าผมแค่สองปีเองนะ

   “ก็ทั้งบ้านทำงานธนาคารกันหมด ไม่เล่นหุ้นจะให้เล่นหวยเหรอวะ ไม่น่าถามเลยไอ้ทูสมองน้อย”
 
   “มึงสมองใหญ่จริงนะไอ้ม่าน”

   “แน่นอนสิ กูฉลาด”

   “ฉลาดน้อย”

   ผมปล่อยให้พวกมันเถียงกันโดยไม่คิดจะห้ามครับ เพราะมันเป็นเรื่องปกติมาก สนุกด้วยฟังพวกมันเถียงกัน ไม่ง่วงดี

   ขับไปไม่ไกลไอ้ม่านก็เลี้ยวรถแวะห้างสรรพสินค้าเพื่อหาซื้อของขวัญก่อนไปบ้านพี่โต๋ ผมเดินเลือกของอย่างมึนๆ เพราะไม่รู้จะให้อะไรดี ตุ๊กตาจะเหมาะกับพี่เขาหรือเปล่า หรือจะต้นไม้ ไม่ดีๆ พี่โต๋แกไม่มีเวลาดูแลแน่ ไหนจะแฟน ไหนจะเรียน แล้วเอาอะไรดี

   “เลือกได้ยังวะ” ไอ้ทูเดินมาถามผมที่ยังหมุนไปหมุนมาไม่รู้จะหยิบอะไร

   “มึงเอาอะไรให้วะ” มือมันมีกล่องของขวัญที่ห่อเรียบร้อยแล้ว

   “แก้ว”

   “แก้วอะไรวะ”

   “แก้วใส่เหล้าไงไอ้เชี่ยกลอย พี่โต๋มันชอบกินเหล้า เราก็ให้แก้วเหล้ามัน ดีจะตาย” มันก็คิดได้เนอะ ผมคงคิดมากเกินไป
 
   “กูจะให้อะไรดีวะ” ไอ้ทูยักไหล่ก่อนมันจะปลีกตัวไปหาไอ้ม่าน

   ผมเดินมาจนเมื่อยเลยตัดสินใจหยิบตุ๊กตาหมีขนสีน้ำตาลตัวขนาดกลาง แต่ราคาก็แอบสูงอยู่นะ ผมต้องกลั้นใจหยิบไปคิดเงินพร้อมกับให้พี่เขาห่อของขวัญ หวังว่าพี่โต๋มันคงจะชอบนะ และในระหว่างที่ผมกำลังรอพี่เขาติดริบบิ้น ผมก็ดันตาดีเห็นบลูเดินอ้อล้อกับผู้ชายคนหนึ่งซึ่งหน้าตาไม่ใช่พี่ซันแน่ นี่ควงคนใหม่แบบนี้เลยเหรอเนี่ย

   ไม่รู้อะไรทำให้ผมเดินตามคู่นั้นที่คงจะเพิ่งดูหนังเสร็จ สนุกกันใหญ่เชียวนะ ปล่อยให้ผมเป็นควายกินหญ้าอยู่ตั้งนาน ความโกรธทำให้ผมยื่นมือจะคว้าแขนของบลูแต่มือผมกลับถูกกระชากพร้อมกับโดนลากให้ออกห่าง ใครมาขัดกูวะ

   “ห้ามทำแบบนั้น” เสียงนุ่มๆ ดังขึ้น ผมเบิกตากว้างมองคนที่ฉุดผมมาที่มุมอับ

   “เฮ้ยพี่”

   “ชู่ว อย่าเอ็ดไปเดี๋ยวไก่ตื่น”

   ผมก็ไม่ได้จะส่งเสียงดังอะไรหรอก แต่พี่ก็ควรจะปล่อยแขนผมหรือเปล่าวะ ดูเหมือนเจ้าตัวจะรู้มือใหญ่ก็รีบปล่อยทิ้งแขนผมทันที

   “พี่ตามบลูมาเหรอ” เสียงไอ้อัธลอยมาเข้าหูที่บอกว่ามีคนตามเรื่องบลูอยู่ก็คงเป็นพี่ซันนี่แหละ...แต่

   “เปล่า พี่มาซื้อของให้ไอ้โต๋มัน เห็นเราเดินตามบลูก็กลัวจะไปทำอะไรรุนแรง” พี่ซันตอบแบบเฉยๆ คือพี่ไม่โกรธสักนิดเลยเหรอวะ เป็นควาย (เหมือนผม) เลยนะ

   “พี่ไม่โกรธ?”

   “เรื่องพี่กับบลูมันมีอะไรมากกว่านั้น”

   “ยังไง”

   “ถ้าบอกแล้วจะได้อะไร”

   ผมโคตรไม่ชอบพวกที่ทำให้อยากรู้โดยที่เราต้องแลกกับอะไรบางอย่างเลย

   “อะไรก็ได้ที่ผมทำได้” ผมตอบ พี่ซันหัวเราะขึ้นมาทันที

   “จะไปงานไอ้โต๋ใช่มั้ย มากับพี่แล้วพี่จะเล่าให้ฟัง” แม้จะงงๆ ผมก็พยักหน้าตกลง

   พี่ซันเดินตามผมไปที่โต๊ะห่อของขวัญที่ตอนนี้ไอ้ม่านกับไอ้ทูยืนกินไอศกรีมกันอยู่ ไอ้พวกนี้ไม่คิดจะซื้อมาเผื่อเพื่อน แล้งน้ำใจสัดๆ ผมมองพวกมันกินอย่างเคืองๆ พอพวกมันหันมาเห็นผมก็ยักคิ้วให้ แต่ไอ้ม่านที่เห็นคนข้างหลังผมก็รีบปรี่เข้ามาหา

   “อ่าวพี่ซัน จะไปวันเกิดพี่โต๋เหรอ” ไอ้ม่านรู้จักพี่ซันด้วยว่ะ

   “อืม แล้วเดี๋ยวเพื่อนมึงจะไปกับกูนะ” พี่ซันบอก ไอ้ม่านถึงกับมองผมสลับกับรุ่นพี่ร่วมสถาบัน

   “พี่รู้จักไอ้กลอยด้วยเหรอ นี่นอกจากพี่โชกับพี่จอมยังสนิทกับพี่ซันด้วย ไอ้กลอยมึงไม่ธรรมดา รู้จักเดือนเด่นของวิศวะตั้งสามคน” ไอ้ม่านมึงก็รู้จัก มึงจะชมตัวเองใช่มั้ยว่าตัวเองก็ไม่ธรรมดา

   ผมส่ายหน้าให้เพื่อนตัวเองก่อนคว้ากล่องของขวัญแล้วลาเพื่อนทั้งสองเพื่อไปกับพี่ซัน บางทีทำตามที่พี่กิ่งบอกก็น่าจะดีนะ ที่ตีสนิทกับพี่ซัน...

   ท้องถนนในยามค่ำๆ รถก็ยังติดหนึบ ผมไม่ชอบเพราะแบบนี่แหละ บางทีน้องฟีโน่ของผมก็มีประโยชน์ในช่วงเวลาเร่งรีบ แสงไฟท้ายรถแดงเถือกจนแสบตา ผมเลยเลือกจะหันกลับมาสนใจรถที่เพิ่งเคยได้นั่ง แม้จะไม่หรูเท่ารถที่ผมเคยนั่ง แต่ก็แพงน่าดู พี่ซันเห็นผมมองนั่นมองนี่ก็หัวเราะขึ้นมา
 
   “พี่ขำไร”

   “มองหาอะไร รถพี่ไม่มีเลขหวยหรอกนะ”

   “ถ้ามีก็ดีดิ่ ผมอยากรวยบ้าง”

   “ฮ่าๆ เอางั้นเลยเหรอ”

   บรรยากาศระหว่างผมกับพี่ซันมันดูผ่อนคลายกว่าอยู่กับพี่โชนะ เพราะพี่โชมักจะเงียบเวลาขับรถทำให้ผมไม่กล้าชวนคุย ขนาดจะเปิดเพลงพี่แกยังเหล่ตามองจนผมต้องปิด แต่กับพี่ซันแกจะชวนคุยตลอดทำให้ไม่เครียดในเวลารถติดแบบนี้

   “เรื่องของบลู...” ผมเริ่มเข้าเรื่องเพราะความอยากรู้ “พี่ได้ตามสืบเรื่องบลูป่ะ” พี่ซันยิ้มก่อนส่ายหน้า อ่าว แล้วใครเป็นคนสืบวะ “ไม่ใช่พี่แล้วใคร ก็พี่เป็นแฟนของบลู”

   “เราเองก็เป็นไม่ใช่เหรอ” คำถามของพี่ซันทำให้แอร์รถหนาวขึ้นมาทันตา “สงสัยละสิว่าทำไมพี่ถึงรู้”

   “อื่อๆ”

   “โทรศัพท์ของบลูมีอยู่หกเครื่อง แล้วแต่ละเครื่องจะตั้งรหัสเอาไว้” พี่ซันบอกดวงตาก็คอยมองดูถนน “หลายครั้งที่เราโทรหาแต่บลูไม่รับ พี่ก็จะเห็นหน้าจอที่โชว์เป็นรูปหน้าเอ๋อๆ พี่ก็เลยรู้ ว่ามีเราอยู่ในกลุ่มนั้นด้วย”

   “พี่เคยเห็นรูปผม แล้วทำไมที่ตึกวันนั้นพี่ทำเหมือนไม่รู้จักผมล่ะ” ที่เจอครั้งแรกตอนผมไปหาพี่โชที่คณะ
 
   “ก็ไม่ทำไม แค่อยากดูอะไรที่มันสนุกๆ”

   “แล้วมันสนุกป่ะ”

   “นิดหน่อย”

   ที่ผมบอกว่าผมเริ่มกลัวพี่ซัน ตอนนี้บอกได้เลยว่าสมควรกลัวให้มาก พี่คนนี้ต้องไม่ธรรมดาแน่ ขนาดรู้จักผมก่อนหน้ายังแสร้งทำเป็นเพิ่งเคยเจอ ผมควรจะอยู่ห่างให้มากที่สุดต่างหากพี่กิ่ง

   “พี่รู้เรื่องบลูคบกับคนอื่นมาตลอด แล้วพี่ก็ไม่คิดจะทำอะไรเลยเหรอ” พี่ซันหันมามองผมแปบหนึ่งก่อนหันไปสนใจการจราจรต่อ

   “รู้แล้วจะทำยังไงได้ ในเมื่อพี่กับบลูไม่ได้คบกันจริงจัง” คำตอบของพี่ซันมันช่างผิดคาด

   “หมายความว่ายังไง”

   “พี่กับบลูเริ่มต้นจากความใคร่ คงจะพูดแบบนั้นได้น่ะนะ” ผมขมวดคิ้วไม่ชอบคำพูดแบบนี้เลย เหมือนไม่ให้เกียรติผู้หญิง “อย่าเพิ่งทำหน้าบึ้งสิ ที่พี่พูดมันคือแบบนั้นจริงๆ บลูมาหาพี่ที่คอนโดเอง แล้วก็เอาไปป่าวประกาศเอง พี่ไม่อยากทำให้เสียหน้าเลยเออออไปก็แค่นั้น”

   พี่ซันแมร่งโคตรเป็นคนดีอ่ะ

   “ไม่ได้รักแล้วพี่จะยอมคบทำไม”

   “คบเพื่อรอคนที่ใช่มั้ง” เอ่อ พี่อย่ามองผมด้วยแววตาเชื่อมด้วยน้ำตาลแบบนั้น ผมกลัว “บลูน่ะ ไม่ได้จริงจังกับพี่มากหรอก ไม่งั้นจะไปคบกับคนอื่นทำไม ว่าแต่กลอยเถอะ เริ่มคบกับบลูนานหรือยัง”

   “ตั้งแต่อยู่ม.หก จีบตอนม.ห้า แต่เพิ่งมารู้ว่าบลูคบกับพี่ตั้งแต่ผมเริ่มจีบใหม่ๆ โคตรเสียใจ” ผมแสร้งทำเป็นเศร้าเลยโดนพี่ซันหัวเราะ “ตอนนี้ผมกำลังจะเลิกแล้วว่ะ”

   “แล้วจะทำยังไง”

   “ไม่รู้อ่ะ พอรู้ว่าพี่กับบลูไม่ได้รักกันจี๋จ๋าแบบที่เห็นก็เริ่มคิดไม่ออก”

   “นี่กะมาตีสนิทพี่เพื่อแก้แค้นเหรอ เสียใจว่ะ”

   “คนแก่ขี้น้อยใจ หัวล้านนะจะบอกให้”

   ผมกับพี่ซันคุยกันตลอดทางสร้างเสียงหัวเราะจนปวดท้องไปหมด จนเมื่อรถหยุดนิ่งหน้าบ้านจัดสรรหลังหนึ่ง หน้าบ้านมีรถจอดเรียงแถวโคตรเยอะ คงจะเป็นบรรดาเพื่อนพี่น้องของเจ้าของงาน ดีที่เป็นโครงการใหม่ ไม่งั้นข้างบ้านคงออกมาโวยที่ไปจอดรถขวางหน้าบ้านเขา

   รถที่ซันจอดต่อท้ายเป็นรถคันที่ผมเห็นบ่อยๆ และเจ้าของก็ยังยืนสูบบุหรี่อยู่ข้างตัวรถ ผมไม่อยากลงไปเจอตอนนี้ แต่ก็ทำไม่ได้เพราะพี่ซันเปิดประตูลงไปแล้ว แถมยังส่งเสียงทักทายเพื่อนตัวเองอีก พี่โชพยักหน้าตอบรับเพื่อนก่อนจะหันมาสนใจผมที่เปิดประตูลงไป อาจเพราะมืดเลยไม่เห็นดวงตาดุที่จ้องมาว่ารู้สึกยังไง ผมได้แต่เม้มปากเพราะไม่รู้ว่าจะทักดีหรือเดินหนีเข้าบ้านเลย

   ระหว่างที่ผมลังเล รถไอ้ม่านก็มาจอดต่อท้าย ไอ้ทูเดินลงมากอดคอผมก่อนมันจะเห็นพี่โชที่ยืนนิ่งอยู่ข้างพี่ซัน ส่วนไอ้ม่านเดินมาสมทบแล้วยกมือไหว้รุ่นพี่ที่มันรู้จัก มันคงรู้สึกถึงบางอย่าง มันเลยเดินนำไปหารุ่นพี่ร่วมสถาบันแล้วชวนให้เข้าไป ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่เดินตามหลังเพื่อนและรุ่นพี่ที่รู้จัก

   ทำไมถึงรู้สึกอึดอัด ผมคิดถูกหรือผิดเนี่ยที่มางานนี่ เพราะไอ้คำว่าของฟรีมาล่อกิเลสแท้ๆ กลับบ้านตอนนี้ทันมั้ย ... คงไม่ทันสินะ หลบหน้าเอาก็ได้ไม่เห็นจะยาก หวังว่าพอได้ดื่มไปบ้าง ความอึดอัดมันจะเลือนหายไปไม่มากก็น้อย



................... TBC


พี่ซันน้องกลอยพอไหวไหมคะ แต่พี่โชน้องกลอยดีกว่าเนอะ

ขอบคุณสำหรับการติดตามค่าาา

อัพวนไปค่า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-07-2016 15:38:45 โดย aiaea83 »

ออฟไลน์ panitanun

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
ขนาดไม่มีบทให้พี่โชพูดยังรู้สึกเท่เลยอะ555555555555

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1226
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3

ออฟไลน์ kyungploy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
พี่ซันก็ดีนะคะ 555555555555555555555555555

ออฟไลน์ Sweettemp

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 169
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
ทำไมบทนี้พี่ซันดูดีจัง แอบนอกใจพี่โชไปแว๊บนึง  :hao3: คราวหน้าอาจจะเผลอไปกับพี่จอมกระเพาะอวกาศ  :laugh:

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
พี่โชเป็นไรก็บอกน้องมันตรงๆสิเอ้อ มาทำงอนแบบนี้ระวังพี่ซันทำคะแนนนะ แอบโล่งนิดที่พี่ซันไม่ได้จะทำไรกลอย รึเปล่านะ ฮ่าๆๆ พี่จอมกระเพาะครากหายไปหนายยย

ออฟไลน์ cheezett

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
พี่ซันชอบกลอยแน่ๆ :a5:

บทนี้พระเอกค่าตัวแพงมาแวปนึง555 แต่ก็เท่นะ อิอิ

จัดการนังบลู :m31: :m16: :m16:

 :pig4: :pig4: :L2:

ออฟไลน์ rubymoona

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-5
ไม่เอาพี่ซันค่ะ โละให้น้องไคนอื่นไปเนอะ โชกลอยอะดีแล้วเนอะ

ออฟไลน์ mkianit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 301
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-3
ฮือออพี่ซัน อยากได้ๆๆๆ /ลงไปนอนดิ้น\ 555555555  :ling1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
บลู คบทีเดียวหกคน แม่เจ้า  :hao7: ชี ล่าแต้มหรอ  :katai1:
แต่ คนที่ไม่ได้แตะต้องเลย คงเป็นกลอย คนเดียวสินะ แต่แล้ว ชีร้ายเกินไป
พี่ซัน เหมือนจะอ่อยกลอยนะ
พี่โช โกรธแน่เลย เห็นกลอยมากับซัน
รอ  :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
ไม่รู้สิ แต่คิดว่าพี่ซันเหม่ะกับพี่กิ่งอ่ะ แบบน่าจะพอฟัดกันได้อ่ะ :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ aiaea83

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 676
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +494/-5
Just you and I : 9




        บรรยากาศงานวันเกิดคึกคักซะจนเหมือนจะเป็นงานวัด แสงสีเสียงจัดเต็มสุดๆ พวกที่มาก่อนหน้าเริ่มได้ที่ก็พาโยกตามจังหวะ นี่คงจะเริ่มตั้งวงตั้งแต่บ่ายแน่ เพราะดูปริมาณขวดที่วางเกลื่อนใต้โต๊ะมันเยอะจนเกินจะนับ ผมเดินข้างไอ้ทู ตาก็คอยจ้องมองแผ่นหลังของคนที่เดินข้างหน้า บางครั้งเหมือนพี่โชจะแอบมองมาผมก็รีบเสหน้าไปมองทางอื่น

   เป็นแบบนี้คงจะดีกว่า ต่างคนต่างอยู่

   พวกผมเดินเข้าไปบริเวณสนามหญ้าที่มีคนนับสิบส่งเสียงโวกเวกจนฟังไม่ได้ศัพท์ พอพวกที่เฮฮาหันมาเห็น ต่างก็ชี้มาที่พี่ซันแล้วก็วิ่งมากอดคอลากเข้าไปในวงเหล้า ส่วนพี่โชก็เดินตามไปนิ่งๆ ผม ไอ้ทู ไอ้ม่านเริ่มมองหาเจ้าของงาน จนเห็นพี่โต๋แกเดินถือยำวุ้นเส้นจานใหญ่ออกมา พวกผมเลยรีบเดินเข้าไปหาพร้อมยกมือไหว้

   “พวกมึงมาช้านะ” พี่โต๋แกทักครับ ส่วนแฟนพี่แกก็ยิ้มทักทายตามประสาแล้วเดินเอากับแกล้มไปวางที่โต๊ะ “มาๆ ไอ้อัธนั่งรอพวกมึงจนจะร่วงอยู่แล้ว”

   ผมถือจานยำแทน เพราะพี่โต๋ต้องเอาของขวัญสามกล่องไปวางกองรวมกับคนอื่นด้านใน แล้วพี่เขาก็ออกมาพาพวกผมไปนั่ง ผมเห็นไอ้อัธนั่งฟุบหน้าอยู่ที่โต๊ะ สงสัยจะถูกมอมหนัก สภาพมันกับเพื่อนอีกสองคนที่นั่งข้างกันนี่ถึงขั้นดูไม่ได้ ผมส่ายหน้าให้กับภาพที่เห็นก่อนจะหย่อนก้นนั่ง

       ...ถ้าไม่ติดเสียงพร้อมแรงดึงให้ยืนจากคนด้านหลัง
 
   “นี่มันเด็กไอ้โชนี่หว่า” พี่ที่ผมไม่รู้จักดึงให้ผมยืนก่อนจะออกแรงลากผมให้มารวมกลุ่มเพื่อนตัวเอง หนึ่งในนั้นมีพี่โชนั่งอยู่ด้วย

   “เอ่อใช่ กูไปดูเมื่อวันนั้น แล้วทำไมไม่มานั่งกับมึงล่ะไอ้โช”

   “สงสัยจะงอนกัน ผัวเมียก็เงี้ย” ไม่ใช่พี่โชตอบนะครับ คนตอบเป็นพี่ที่ชื่อเบ (ฉายาขี้เสือก)

   แล้วพวกเขาก็หัวเราะกันสนุกสนานแต่ไม่ใช่ผมแน่ครับ ผมอยากจะเดินหนีก็ทำไม่ได้เพราะถูกบังคับให้นั่งลงข้างพี่โช ซึ่งพี่ท่านก็ขยับที่นั่งให้อีกต่างหาก

   “เอ้าๆ มึงกินเหล้าเป็นใช่มั้ย” แก้วสีน้ำอำพันที่ผมชอบถูกยื่นมาให้ ผมมองหน้าคนยื่นที่ยิ้มแป้นแล้นก่อนจะยื่นมือไปหยิบ หากไม่โดนมือคนข้างๆ แย่งไปดื่มรวดเดียวจนหมดแก้วเรียกเสียงเฮได้อีกระลอก
 
   “ไอ้เหี้ยโชมีหวงเว้ย”

   “มันรักของมันมึงก็ไปยุ่ง มานั่งนี่” แม้จะโดนเรียกแต่พี่ที่ลากผมมาแกไม่ยอมครับ คว้าแก้วมาชงให้ผมอีกรอบ แถมคราวนี้เอามาจ่อปากผมเลย และก็ตามเดิม พี่โชยื่นมือมาแย่ง แต่พี่คนชงกลับโยกหลบแล้วเอามาจ่อปากผมอีกรอบ คือพี่สนุกเหรอวะ

   “ไอ้เหี้ยบอม” พี่โชเรียกชื่อเพื่อนเสียงนิ่งมากครับ แต่เพื่อนแกก็ไม่ยอมยังพยายามจะให้ผมดื่ม ผมเลยดันก้นแก้วดื่มเหล้าจนหมด พวกนั้นเลยโฮ่กัน

   “หมดแล้วผมกลับไปนั่งกับเพื่อนได้หรือยัง” ตอนนี้ผมไม่สนุกแล้วครับ อยากกลับโคตรๆ

   “โห ขี้งอนด้วย ไม่งอนสิคร้าบ” พี่ที่ชื่อบอมยื่นมือมาลูบหัวผมไปมาจนพี่โชถึงกับยืนขึ้นคว้าแขนเพื่อนตัวเองแน่น  ท่าทางที่เหมือนจะเอาจริงทำเอาเสียงเฮฮาเมื่อกี้เงียบลงทันที บรรยากาศตอนนี้โคตรแย่ หากไม่ได้พี่โต๋มาห้ามละก็ ไม่อยากจะคิด

   “อ่าวๆ ได้ที่ก็จะตีกันเหรอพวกมึง ส่วนไอ้บอม มึงห้ามรังแกน้องกลอยกูนะเว้ย นี่เพื่อนของหลานรหัสกู” พี่โต๋ดึงพี่บอมไปนั่งที่ตามเดิม ส่วนพี่โชก็ทิ้งตัวนั่งหน้านิ่ง ดูก็รู้ว่ากำลังข่มความโกรธ
 
   “กูก็ไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย แล้วก็ยังไม่อยากตายก่อนวัยอันควร” พี่บอมบอกครับ แต่ไอ้ประโยคหลังนั่นทำเอาพี่โต๋แกตาโต “กูแค่อยากแหย่เด็กไอ้โชมันนิดๆ หน่อยๆ เอง”

   “เฮ้ย จริงเหรอวะ ไอ้กลอยมึงเป็นเด็กไอ้โชเหรอ” พี่โต๋อย่าไปบ้าจี้กับพวกเขาสิครับ

   “ไม่ใช่พี่” ผมปฏิเสธทันที พี่โชก็ดูจะนิ่งๆ ไม่มีอาการใดๆ กับคำตอบของผม

   “อ่าว” เสียงร้องของบรรดาเหล่ารุ่นพี่หลังจากได้ยินคำตอบของผม

   “เอ่อๆ เรื่องของพวกมึง แล้วไอ้พวกนี้จะไปยุ่งเรื่องเขาทำไม วันนี้วันเกิดกูนะเว้ย แดกๆ”
 
   พี่โต๋ยกแก้วเหล้าตัวเองก่อนคนอื่นจะยกตาม ผมก็เลยแอบเดินตัวลีบกลับมานั่งที่โต๊ะที่มีเพื่อนตัวเองนั่งอยู่ ที่จริงงานนี้คนในงานคงจะเป็นพวกที่เรียนนิติเหมือนพี่โต๋ แต่พอดูอีกทีคณะวิศวะก็เยอะเหมือนกันนะ ที่ผมรู้เพราะผมจำหน้าได้บางส่วน ก็ที่ไปนั่งใต้ตึกคราวนั้นไง พอผมเดินมานั่งปุ๊บ ไอ้ม่านก็รีบคว้าคอผมเข้าใต้รักแร้ทันที

   “สรุปแล้วยังไงวะ มึงกับพี่โชอ่ะ”

   “กูก็ทำตามที่มึงกับไอ้อัธบอกไง”

   “มึงทำได้เหรอวะ”

   ผมไม่ตอบเพราะไม่รู้จะตอบอะไร อยากจะบอกว่าทำได้ แต่ในใจก็รู้สึกแปลกๆ เลยเลือกที่จะเงียบแทน ไอ้ม่านส่งเสียงจิ๊จ๊ะเมื่อไม่ได้ดั่งใจ มันเลยหันไปโซ้ยยำวุ้นเส้นแทน ส่วนไอ้ทูก็กำลังชงเหล้าของตัวเอง ไอ้นี่พอของฟรีหน่อยก็จัดเต็มตลอด และมันคงรู้ว่าผมจ้อง มันเลยส่งแก้วที่ชงแล้วให้ผม ส่วนของมันก็ใช้แก้วใบใหม่



   งานวันเกิดเริ่มคึกครื้นขึ้นเมื่อเจ้าภาพเริ่มเปิดฟลอเพราะได้ที่ เมาขนาดนั้นจะเป่าเค้กได้มั้ยเนี่ย พี่อิงแฟนพี่โต๋คงทนเห็นสภาพอุบาทไม่ได้เลยดึงแขนแฟนตัวเองให้กลับไปนั่ง แต่คิดว่าคนเมาจะฟังเหรอ นั่งแป๊บเดียวก็กลับไปเซิ้ง (เพลงร็อคกลายเป็นหมอลำไปแล้ว) ใหม่ แถมยังมีเพื่อนลุกเซิ้งด้วยหลายคน หนึ่งในนั้นก็พี่จอมครับ พี่แกสายย่อด้วยนะ ย่อจนเข่าแทบจะติดพื้น ผมดูไปหัวเราะไป โคตรฮา

   พอได้ที่เรื่องที่ผมกลุ้มใจก็ถูกดีดปลิวหายเลยครับ ตอนนี้ไม่ว่าใครเดินมาชนแก้ว ผมก็ยกตลอด ขนาดไอ้พี่บอมที่เกือบมีเรื่องเมื่อกี้ยังเดินมาชนแก้วแถมยังเกือบจะลากผมออกไปเซิ้ง ดีที่ไอ้ม่านอาสาไปแทน ตอนนี้เพื่อนผมมันเซิ้งอยู่กลางวง ก็คู่แข่งพี่จอมสายย่อนั่นแหละครับ

   ผมนั่งหัวเราะไปยกแก้วไปจนมีแรงสะกิดจากด้านหลัง หันไปมองก็เจอหน้าพี่ซันที่ทำตาเยิ้มมานั่งข้างๆ ในมือนี่ถือแก้วไม่วางเลยทีเดียว ขี้เมานี่หว่า
 
   “ไม่ออกไปเป็นสายย่อเหรอพี่” ผมถาม พี่ซันแกส่ายหน้าทันทีครับ

   “ไม่ไหวมั้ง ปล่อยพวกนั้นไปเถอะ” ผมกับพี่ซันมองกลางวงเซิ้งแล้วก็พาหัวเราะ ก่อนจะมองหน้ากันเลิกลักเมื่อเห็นพี่จอม (สายย่อ) เดินเซมาทางพวกเรา “มีอะไรมึง” พี่ซันรีบรวบร่างเพื่อนตัวเองที่เซจนเกือบจะลงไปนั่งจับกบที่พื้น

   “กูอยากนั่งเฉยๆ เต้นเหนื่อยเหี้ย” พี่จอมมันหอบหนัก ทำเสียงอ้อแอ้มาก

   “กูเห็นมึงแดกไม่กี่แก้ว เมาน้ำเปล่าหรือเปล่ามึงอ่ะ” คำถามของพี่ซันเรียกเสียงหัวเราะของพี่จอมเลยครับ ก่อนพี่แกจะยืนเหมือนคนปกติจนผมงง สรุปไม่ได้เมา?
 
   “ฉลาดตลอดนะมึงไอ้ซัน” พี่จอมตบบ่าเพื่อนแต่สายตามองมาที่ผมครับ “แต่กูอยากจะเตือนมึงเรื่อง....” ผมได้ยินแค่นั้นก่อนพี่จอมจะกระซิบข้างหูพี่ซันแทน คือพี่มีความลับอะไรกันวะ ผมไม่ได้อยากรู้หรอกนะ แค่อยากมีส่วนร่วมเฉยๆ

   ผมจ้องพี่จอมกับพี่ซันที่ซุบซิบกันแต่ตาเหล่มามองผม แบบนี้จะไม่ให้สงสัยได้ยังไง พอพี่จอมผละออกมาพี่แกก็หันไปสนใจไอ้ทูที่แดกกับแกล้มจนหมดไปหลายจาน
 
   “อ่าว ไอ้ลูกคนที่สอง มึงมาด้วยเหรอวะ ปะ ไปเซิ้งกัน” แล้วก็รอไม่ฟังคำตอบครับ เพราะพี่จอมลากมือไอ้ทูไปทันทีทั้งที่วุ้นเส้นยังคาอยู่ที่ปากอยู่เลย
 
   ยังไงๆ อยู่นะคู่นี้ หรือจะเป็นอย่างที่พี่โชบอก แต่พี่จอมดูจะชอบผู้หญิงนะ คงไม่ใช่หรอกมั้ง...เนอะ

   “คิดอะไรอยู่” ผมสะดุ้งเมื่อโดนมือจิ้มหน้าผาก

   “เล่นแรงว่ะพี่” ผมบ่น “แล้วเมื่อกี้พี่จอมพูดถึงผมป่ะ”

   “ทำไมมึงคิดงั้น” เมื่อเช้าเรียกผมว่ากลอยอยู่เลย ตอนนี้ขึ้นมึงกูเรียบร้อย พอเหล้าเข้าปากคนเราก็เปลี่ยน มันเป็นแบบนี้นี่เอง
   
   “ก็พี่กับพี่จอมมองผมอ่ะ ผมก็อยากรู้ดิ่”
 
   “บอกแล้วกูจะได้อะไร” มาอีกแล้วครับ ไอ้สิ่งแลกเปลี่ยนแบบนี้

   “ไม่อยากรู้ก็ได้” พี่ซันหัวเราะอย่างอารมณ์ดีพร้อมกับยกแก้วในมือดื่มรวดเดียวจนหมด แล้วหันมายิ้มหวานให้ผมจนผมต้องเบือนหน้าหนี

   แล้วความสนุกก็ถูกเบรกเมื่อพี่อิงประกาศออกไมค์ว่าจะเป่าเค้กแล้ว เพราะเจ้าของวันเกิดดูท่าจะไม่ไหว ถ้าไม่รีบเป่าตอนนี้ คงได้เป่าพรุ่งนี้แทน หลังจากพี่อิงพูดจบ เค้กก็ออกมาโดยมีสาวหน้าตาจิ้มลิ้ม (น้องพี่อิง) ที่ผมไม่รู้จักชื่อถือออกมาจากบ้าน พี่โต๋ก็ยืนโอนเอนจนถูกมือแฟนตัวเองตีไปหลายรอบ ผมก็ลุ้นว่าพี่โต๋แกจะเอาหน้าจุ่มลงไปในเค้กตอนไหน เพราะหน้าจะทิ่มอยู่เป็นรอบๆ

   แสงไฟในงานถูกดับลงและเริ่มสว่างด้วยแสงเทียนเล็กๆ ที่ปักอยู่บนเค้กแทน ผมยืนปรบมือตามจังหวะเพลงวันเกิด (แบบเพี้ยนๆ) จากพวกขี้เมา ฟังแล้วตลกดี พี่บางคนถึงตะโกนหาบันไดเพื่อมาปีนหาคีย์ที่สูงเกิน เมื่อเพลงจบ พี่โต๋ก็เป่าฟู่เดียวทั้งงานกลับมามืดไร้แสงสว่าง หวังว่าตอนเป่าคงไม่เอาน้ำลายลงไปผสมนะ ไม่งั้นผมคงผ่านว่ะ
 
   เพราะมัวแต่รอแสงไฟเพื่อจะกลับไปนั่งที่โต๊ะ อย่าลืมนะครับว่าเป็นโครงการใหม่ แล้วโซนนี้มีแค่บ้านพี่โต๋ ดังนั้นถ้าไฟในงานถูกปิด ทั่วบริเวณจะมืดจนแทบมองไม่เห็น ขนาดได้ยินรุ่นพี่บางคนตะโกนด่ากันเมื่อโดนเหยียบเท้า ผมยืนรออยู่ข้างๆ ไอ้ม่าน แต่ทำไมไอ้ม่านต้องจับมือผมด้วย ไอ้เชี่ยนี่เมาแล้วเนียนตลอด คงคิดว่าผมเป็นเด็กของมันแน่
 
   “ไอ้เชี่ยม่าน มึงปล่อยมือกูเลย” ผมบอกมันแต่มันกลับเงียบ หรือมันเมาไม่ได้สติ “ไอ้ม่าน มึงเมาเหรอวะ” ไฟก็ไม่เปิดสักที ผมมองไม่เห็นเว้ย

   “กูไม่ใช่ไอ้ม่าน” เสียงกระซิบข้างหูทำเอาผมขนลุก เสียงนี้มัน...

   ยังไม่ทันได้อ้าปากพูด ผมก็ถูกเจ้าของเสียงฉุด เฮ้ยๆ จะลากผมไปไหนวะ

   “พี่โชจะพาผมไปไหน” มันไม่ตอบ เอาแต่ลากๆ ให้ผมเดินตาม จนไฟในบ้านติด ผมถึงได้เห็นแผ่นหลังคนลาก ไอ้พี่โชมันกำลังพาผมไปที่รถ แล้วมันก็ยัดให้ผมลงไปนั่งข้างคนขับ ส่วนมันก็อ้อมไปนั่งประจำที่แล้วออกรถทันที
 
   “กูมีเรื่องจะตกลงกับมึง” คำตอบของมันพร้อมกับการเหยียบร้อยกว่า ผมนั่งหลับตากลัวมันจะพาผมเสยต้นไม้สักต้น แถมมันยังกินเหล้าไปหลายแก้ว หากมีด่าน ผมกับมันเสร็จแน่
   “เบาๆ หน่อยพี่ ผมขี้จะราดแล้ว” ผมโวยวาย คือมันน่ากลัวจริงๆ นะ มันขับปาดซ้าย ปาดขวารถคันอื่น บางคนบีบแตรลากยาวใส่เลยครับ นี่ถ้ารถพวกนั้นมีปืน คงตามมายิงผมทิ้งไปแล้ว

   ความแรงทะลุนรกค่อยชะลอลงจนจอดสนิทหน้าร้านสะดวกซื้อภายในปั๊ม ผมรีบเปิดประตูลงไปโก่งคออ้วกข้างถังขยะทันที ยำต่างๆ กับพวกกุ้งหอยปูปลาทะลักออกจากปากจนท้องเบาโหวงเลยครับ ส่วนพี่โชมันก็ยังนั่งรออยู่ในรถไม่ยอมเปิดประตูออกมาดูสภาพผม แมร่งโคตรใจดำ ทำกับผมขนาดนี้ไม่คิดจะออกมาดูดำดูดี
 
   “เชี่ยอะไรวะ” ผมสะดุ้งเมื่อแก้มถูกของเย็นจัดแนบ พี่โชมันออกจากรถไปตอนไหนวะ
 
   “กินซะจะได้ดีขึ้น” ขวดน้ำที่ถูกเปิดฝาถูกยื่นมาให้ผมอีกรอบหลังจากผมคว้าอากาสเพราะมันดึงคืนกลับ ผมก็ยกดื่มรวดเดียวหมดไปเกือบครึ่งขวด เหลืออีกครึ่งผมก็เอาราดหัวแล้วสะบัด ตอนนี้มันมึนๆ ตื้อๆ สงสัยจะเมารถ
 
   “ขอบคุณครับ” เมื่อกี้ที่ผมด่าขอถอนคำพูดละกัน ผมถูกพี่โชดึงให้ลุกขึ้นยืน ก่อนมันจะพยุงพามานั่งบนรถตามเดิม
 
   แอร์รถเย็นๆ กับยาแก้ปวดที่ผมถูกบังคับให้กินหลังจากกลับมานั่งบนรถเริ่มทำให้ดีขึ้น ผมมองคนที่นั่งอยู่หน้าพวงมาลัยจนมันหันมามองตอบ

   “พี่มีอะไรจะตกลงกับผม”

   “เรื่องกูกับมึง”

   “ผมกับพี่...ทำไม”

   พี่โชจ้องหน้าผมนิ่ง นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนนั่นสั่นระริกจนผมอยากหันหน้าหนี แต่ก็ทำไม่ได้ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน

        “ทำยังไงมึงถึงจะให้โอกาสกู” เสียงที่คล้ายกับอ้อนวอนทำให้ผมอยากขยี้หูตัวเองหลายๆ รอบ
 
   “พี่ว่าอะไรนะ” ผมถามกลับจนพี่โชส่งเสียงฮึดฮัด

   “กูอยากขอโอกาส” ใบหน้าดูจริงจังจนผมต้องกัดริมฝีปากล่างตัวเอง “กูรู้ว่าที่ผ่านมา กูบังคับมึงตลอด แต่ต่อจากนี้กูอยากขอโอกาส”

   “พี่จะขอโอกาสอะไรจากผม พี่คิดจะจริงจังกับผมจริงๆ เหรอ ผมเป็นผู้ชายนะ คนรอบตัวพี่ คนในสังคมของพี่จะรับได้เหรอ แล้วก็ผู้หญิงของพี่มีเป็นร้อยผมสู้พวกเขาไม่ไหวหรอกนะ” คิดแล้วสยองกับฤทธิ์เดชของผู้หญิง

   “กูไม่เคยสนใจคนพวกนั้น”

   “แต่พี่ก็ปฏิเสธคนพวกนั้นไม่ได้อยู่ดี”

   “กูปฏิเสธพวกนั้นไม่ได้ แล้วทำไมมึงถึงปฏิเสธกู” แทบไปไม่เป็นเลยไอ้กลอยกับประโยคนี้

   “ก็...เรายังไม่รู้จักกันดีพอเลยด้วยซ้ำ” ผมบอกเสียงอ่อย
 
   “แล้วมึงไม่อยากรู้จักนิสัยจริงๆ ของกูเหรอ” น้ำเสียงคล้ายกับอ้อนวอนทำเอาใจผมอ่อนยวบลงไปเกือบครึ่ง “กูอยากเริ่มใหม่”

   “เรายังไม่เคยเริ่มต้นเลยด้วยซ้ำ” ผมบอก

   “ขนาดไม่เคยเริ่ม กูยังจูบมึงไปแล้ว”

   เชี่ย แบบนี้มันควรจะให้โอกาสหรือเปล่า

   “ผมขอเวลาอีกหน่อย”

   “ถ้ากูไม่ให้”

   “ไหนบอกจะรอโอกาสจากผมไง”

   “เออ!” พี่โชทำหน้าบึ้งกระแทกเสียงใส่เพราะเถียงไม่ออก

   “ใช่ผมจะเล่นตัวนะ แต่ผมต้องการเคลียร์บางอย่างก่อน พี่ก็ด้วย ผู้หญิงของพี่เยอะจนแทบจะเดินชนกันอยู่แล้ว” ผมย่นจมูกเมื่อนึกถึงภาพคนที่มีสาวๆ ห้อมล้อมในวันนั้น

   “กูไม่เคยมีใคร”

   “ให้มันจริงเถอะ”

   “มึงนั่นแหละ กูรู้เรื่องมึงกับแฟนไอ้ซันแล้ว”

   เหยด คำบอกเล่าของพี่โชทำเอาผมสะดุ้ง มันรู้ได้ยังไงวะ หรือผมเผลอพลั้งปากบอก ไม่น่าจะใช่ แล้วทำไม...

   “พี่รู้ได้ไงวะ”

   “กูเห็นมึงกับเด็กนั่นที่โรงอาหารเลยให้เพื่อนไปสืบมา”

   “พี่เป็นคนส่งคนไปสืบ?” พี่โชพยักหน้ารับ ผมนี่มึนเลย ตอนแรกปักใจคิดว่าเป็นพี่ซัน ไหงกลายเป็นพี่โชไปซะได้ “สืบทำไมอ่ะ”

   “กูอยากรู้เรื่องทุกอย่างเกี่ยวกับมึง กูทำขนาดนี้มึงยังจะใจดำไม่ให้โอกาสกูอีกเหรอ”

   ฉ่า หน้าผมเหมือนถูกเตารีดทาบ มันร้อนวาบขึ้นมาทันที บทมันจะโหดก็โหด บทจะเลี่ยนก็เลี่ยนจนเขิน นี่ผมกำลังจะแพ้ทางผู้ชายเหรอเนี่ย

   “กะ ก็ขอเวลาหน่อยไง”

   “สรุปมึงยอมให้โอกาสกูจีบมึง?”
 
   “พี่จะจีบผม?”

   “มึงโคตรโง่เลยว่ะ” แล้วพี่โชมันหัวเราะออกมาจนผมงง มันคงเห็นผมทำหน้าเอ๋อเลยยื่นมือมาขยี้หัวผมซะฟู “แล้วก็นะ...”

   “หือ...”

   “ถึงมึงเป็นผู้ชาย มึงก็ยั่วอารมณ์กูขึ้นได้เหมือนกัน”

   อารมณ์ขึ้นอะไรวะ ผมทำหน้าเหมือนหมางงหนัก ก่อนสายตาเจ้าเล่ห์ที่มันมองมา จะทำให้ผมเริ่มมองตาม คือมันมองหน้าผมแล้วค่อยๆ ไล่ลงมาที่คอแล้วก็อก...แล้วก็ เชี่ย เสื้อผมเปียกจนแนบกับตัว มันจะไม่เป็นอะไรถ้าเสื้อผมไม่ใช่เสื้อสีขาว ไอ้พี่โชแมร่งหื่นว่ะ กับผู้ชายก็ไม่เว้น


   แล้วกูจะเขินทำซากอะไรเนี่ย โว้ย!!!!!!   



...TBC


พี่จอม (สายย่อ) มาแปบเดียวได้ใจหลายๆ คน เลยพาพี่แกมาราตรีสวัสดิ์ ..

เจอกันตอนหน้าค่ะ ^^ Love Love
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-07-2016 15:39:18 โดย aiaea83 »

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5
น้องกลอยเนื้อหอมมม~~ :hao7:

ออฟไลน์ mmello07

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
รีบๆเคลียร์เลยน้องกลอย
พี่โชจะได้เดินหน้าจีบเต็มที่ซักที :-[

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
 :ling1: :ling1: :ling1: พี่จอมค้าาาาาาาาาถึงพี่จะหล่อก็ไม่ได้หมายความว่าจะทำอะไรก็ได้นะคะ เห็นพี่เซิ้งแล้วปวดตับเลยจริงๆ หัวเราะลั่นบ้าน ฮ่าๆๆๆๆๆๆ ขอบคุณที่พาพี่จอมมาส่งเราเข้านอนค่ะ ส่วนพี่โชขอบคุณมากที่พี่ยอมบอกกลอยตรงๆสักที

ออฟไลน์ ammchun

  • Don't Worry,Be Happy
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-4
ฮาาาาพี่จอม สายย่อ  :m20:  พี่โชน่ารักดีจัง มีขอโอกาสซะด้วย หลงงงงงง :katai2-1:

ออฟไลน์ mkianit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 301
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-3
ยังไงก็อยากได้พี่ซัน55555 *หลบตีน* แต่พี่โชก็สู้ๆนะะะ เป็นกลจ.ให้ เย่ :z2:

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
น้องกลอยเสน่ห์แรง :katai2-1: :katai2-1: ทั้งพี่โชทั้งพี่ซันแต่พี่จอมน่าจะบอกพี่ซันให้รู้แล้วใช่ไหม

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด