ตอนที่ ๓๙
พิมพ์เมื่อวันพฤหัสบดี ที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๕๙
:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
.
.
.
วันเวลาผ่านไป หลายอาทิตย์ ผมเริ่มปรับตัวได้กับสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ เริ่มชินกับหอใหม่ ผมกับพี่เบสท์ ถึงแม้จะรู้ว่าในใจของเราคิดอะไรอยู่ รู้สึกอะไรต่อกัน แต่ก็ไม่ได้แสดงออกมามากมาย เพราะต่างฝ่ายต่างก็เกร็งๆ เขินๆ กันอยู่
การใช้ชีวิตแต่ละวัน เป็นไปตามปกติ เหมือนรูมเมท เหมือนเพื่อนหอใน เหมือนพี่น้องกันซะมากกว่า ไม่มีอะไรหวือหวาหรือเกินเลย ไม่ทำอะไรที่จะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกอึดอัด ไม่ลวนลามหรือล่วงเกิน ถึงแม้ลึกๆผมอยากทำแทบจะขาดใจ (>_<)
เท่าที่อยู่ด้วยกันมา พี่เบสท์เหมือนผู้ชายทั่วไป เพียงแต่ติดหรู ติดแบรนด์ และสำอางไปหน่อย หน้ากระจกมีครีมสารพัด บำรุงนั่นนี่เต็มไปหมด ภาพตัดมาที่ผม อย่างมากก็ครีม ลดจุดด่างดำและกันแดดเท่านั้น ซึ่งใช้ไม่ได้ผลกับหน้าหนังส้นตีนอย่างผม
เปิดเทอมมาได้หลายสัปดาห์แล้ว ผมกับพี่ก่อตัดขาดกันอย่างหมดจด ไม่เคยแม้แต่จะขับรถสวนกัน หรือบังเอิญเจอกันสักครั้ง พี่เบสท์บอกว่าไม่คุยกับพี่ก่อตั้งแต่วันนั้นที่ทะเลาะกัน เวลาเจอกันที่คณะก็ไม่มองหน้ากัน เจอกันที่ชมรมก็ไม่คุยกัน จนทั้งเมเจอร์รู้ว่าพี่เบสท์กับพี่ก่อไม่ถูกกัน
มีครั้งนึงที่ต่อยกันรอบสองเพราะพี่ก่อส่งบอลแรงไปหน่อยเลยโดนเข้าที่ท้ายทอยพี่เบสท์เต็มๆ พี่เบสท์ล้มตึงกลางสนาม มึนเลย พออาการดีขึ้น พี่ก่อเดินๆอยู่พี่เบสท์วิ่งไปกระโดดถีบพี่ก่อเต็มแรง ละใส่หมัด นัวเนียกันกลางสนาม
พี่เบสท์ก็ยังคงถามผมตลอดว่า อยากเจอพี่ก่อไม๊ ยังรักพี่ก่อไม๊ บางทีก็ชวนทะเลาะเรื่องพี่ก่อโดยไม่มีเหตุผล กล่าวหาว่าผมยังรักพี่ก่อ อยากกลับไปหาพี่ก่อ
วันดีคืนดี นอนๆอยู่มันลุกขึ้นมานั่ง แล้วถามผมว่า “มึงคิดถึงไอ้ก่อใช่ไม๊” พอผมปฏิเสธก็ไม่เชื่อ จนผมเบื่อ ผมบอกมันว่า “จับกูมัดไว้เลยไม๊ จะได้ไม่ต้องระแวง” มันก็จับผมมัดจริงๆ เอาเชือกรองเท้ามามัดมือผม ผมนึกว่ามันทำเล่นๆ แต่เชือกแน่นจริง ไม่พอเท่านั้น มันมัดตีนผมด้วย พอผมบอกว่าเจ็บมันก็แกะ บางทีมันก็ไร้เหตุผลเกินไปนะ
พักหลังพี่เบสท์เริ่มเอารถผมไปซ่อน ละมาบอกผมว่ารถหาย ผมก็รู้ว่ามันล้อเล่น มันหลอกผมไม่ได้หรอก ดูหน้าก็รู้แล้ว มันให้ผมซ้อนท้ายมอไซค์มันไปเรียน ผมถามว่าเพื่อไร มันบอกประหยัดน้ำมัน แต่ที่จริงผมว่ามันคิดว่าผมจะไปหาพี่ก่อหรือไปเหลวไหลที่ไหนมากกว่า
บางทีผมเรียนเช้า มันเรียนบ่าย มันก็ต้องแหกขี้ตาตื่นมาส่งผมละกลับไปนอนต่อ ก็ดี สบายเลย ไม่ต้องเปลืองน้ำมัน มอไซค์ผมมันเอาไปฝากไว้ที่พักยาม พี่เบสท์เริ่มเข้ามามีบทบาทในชีวิตผมขึ้นเรื่อยๆ จนแทบจะเป็นพ่อคนที่สอง ผมพยายามไม่รำคาญ และคิดว่านั่นคือความหวังดีตลอด
เวลาล่วงเลยจากหลายอาทิตย์เป็นเดือนกว่า ความสัมพันธ์ของเราก็ยังคงเป็นเส้นตรง มันไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือตื่นเต้นหวือหวา จนผมเริ่มรู้สึกเบื่อ เริ่มคิดว่าพี่เบสท์ไม่คิดจะคบผมจริงจัง
แต่สิ่งที่มันลบความคิดนั้นคือ มันมีเวลาให้ผม อยู่ข้างๆผม ดูแลผม เพียงแต่มันไม่เคยแสดงออกว่ามันรักหรือชอบอะไรเลย มันแสดงออกไปในเชิงที่ว่าห่วงใยแบบพี่น้องมากกว่า หรือบางทีมันอาจจะไม่พร้อมในการมีแฟนเป็นผู้ชายก็ได้
ด้วยความเบื่อหน่ายที่เกิดขึ้น ผมเริ่มวอกแวกและทำตัวเหลวไหล แอบไปกับเพื่อนจนกลับหอดึกดื่น บางวันไปนอนหอเพื่อน ไม่รับโทรศัพท์มัน พอกลับมาหอในตอนเช้า พี่เบสท์มองผมตาขวาง
“คิมทำไมไม่รับโทรศัพท์กู มึงไปไหนมา” พี่เบสท์พูดเสียงนิ่ง
“นอนหอเพื่อน เมื่อคืนกลับดึก” ผมตอบเสียงนิ่งเช่นกัน
“ไปหาไอ้ก่อมาใช่ไม๊”
“ไม่”
“โกหกสัส” พี่เบสท์เริ่มเสียงดัง
“ไม่เชื่อก็เรื่องของมึง” ผมพูดอย่างไม่สนใจ
“ผัวะ!!!!!!!” พี่เบสท์เอากำปั้นตีหัวผมอย่างแรง
“มึงรู้ไม๊กูห่วงมึงขนาดไหน กูเกือบไปแจ้งตำรวจ ทำไมมึงไม่บอกอะไรกูบ้างคิดจะหายก็หายไปแบบนี้หรอวะ”
พี่เบสท์เสียงสั่น ผมนิ่งเงียบไม่รู้จะพูดอะไร พี่เบสท์มันทั้งห่วงทั้งโกรธผม มันก็ผิดที่ผมเองด้วยที่ไม่บอกอะไรมันเลย
“เออ กูขอโทษ”
เรื่องนี้จบไป นอกจากกลับหอดึกๆดื่นๆ ผมก็ยังแอบไปหาคนคุยในแอพเกย์ ซึ่งใช้หาเกย์ใกล้ตัว คุยกัน ส่วนใหญ่ใช้คุยแล้วก็นัดมีอะไรกัน มักจะเป็นแบบ One night stand หรือนัดไปเจอกันพอไม่ถูกใจกันก็แยกย้าย
สำหรับผมแอพนี้จะเข้ามาครอบงำผมได้ก็ตอนที่ผมเหงาแบบสุดขีดหรือเบื่อเซ็งกับชีวิต แอพนี้จะช่วยเติมสีสันให้กับชีวิตผม เราสามารถรีเควสท์ได้ว่าอยากได้คนอายุเท่าไหร่ สัญชาติไหน แต่ละคนก็จะอธิบายสรรพคุณตัวเองว่าเป็นแบบไหน หาอะไร อารมณ์ประมาณ แมนๆคุยกับครับนั่นแหละ
แต่ผมจะไม่โชว์หน้าหรอกเพราะไม่ต้องการให้ใครรู้สนใจใครเราก็เข้าไปคุยกับเข้าขอดูรูป สเป็คผมที่หาในแอพคือ แมนๆ ไม่สาว ไม่เปิดเผย ล่ำๆหน่อย ขาวๆ แหะๆ รู้หมดเลยสินะ แต่ผมไม่สนับสนุนให้เล่นแอพนี้เท่าไหร่ เพราะมันเหมือนวงจรอะไรซักอย่าง เราไม่รู้ว่าคนในแอพเคยผ่านใครมาแล้วบ้าง
ผมเคยนัดเจอกับคนๆนึง แค่คุยกันเฉยๆ แล้วบอกเขาว่านี่ตอนนี้กำลังคุยกับคนนี้อยู่ เขาก็บอกว่า “อ๋อ คนนี้หรอ เคยเจอมาแล้ว” พร้อมกับบรรยายว่าไปเจอแล้วเป็นยังไง ของเขาดีไม๊ เขาตอบอย่างภูมิใจ แล้วผมก็ถามอีก “แล้วคนนี้ล่ะ” เขาก็บอกว่าเคยเจอมาแล้วเหมือนกัน มีอะไรกันแล้วด้วย ผมอึ้งไปเลย…… มากกว่าห้าคนที่อยู่ในลิสต์ที่ผมคุย ละเขาบอกว่าเคยเจอมาหมดแล้ว หึๆ น่ากลัวป้ะ
ก็นั่นแหละครับ มันกลับมาครอบงำผมในช่วงที่ผมกำลังเบื่อชีวิตที่อยู่กับพี่เบสท์สุดขีด มันเหงา มันไม่ตื่นเต้น เอาตรงๆคือ ผมไม่ได้มีอะไรกับพี่เบสท์เลยนั่นแหละ ไม่ได้เห็นเบสท์น้อยเลย ไม่กล้าที่จะล่วงเกินพี่เบสท์เพราะมันบอกว่ายังไม่ชินที่อยู่กับผู้ชาย ไม่เคยมีแฟนเป็นผู้ชาย ผมก็เลยต้องหาทางออกแบบนี้ ผมก็เริ่มเล่นไป เจอคนถูกใจก็หลายคน ส่วนใหญ่จะหาแบบที่ไม่เปิดเผยเหมือนกัน
จนวันนึงพี่เบสท์คงเริ่มผิดสังเกต ผมติดโทรศัพท์มากขึ้น มีแจ้งเตือนข้อความเข้าตลอด ผมก็พอรู้ตัวว่าพี่เบสท์เริ่มได้กลิ่นความเลวของผม เวลาผมหยิบมือถือเพื่อพิมพ์ข้อความ มันจะเดินมาด้อมๆมองๆอยู่ข้างหลัง ทำเป็นหยิบของนั่นนี่ แต่ตามันมองที่โทรศัพท์ผม ผมก็รู้ตัวทันรีบเปลี่ยนเป็นเล่นเฟสแทน (นี่รู้สึกแปลกกๆนะ มาเล่าความชั่วให้คนอ่านฟัง)
มีครั้งนึงที่ผมไปอาบน้ำและทิ้งโทรศัพท์ไว้บนเตียง ไม่คิดอะไร ผมก็อาบน้ำจนเสร็จ เปิดประตูห้องน้ำออกมา ตัวเปียกโชก
“คิม” เสียงทุ้มต่ำเรียกผม ท่าทีพี่เบสท์ คือมองทีวีแต่ทำตาขวาง และนั่งนิ่ง
“มึงเล่นแอพใช่ไม๊” พี่เบสท์ยังนิ่ง ข่มอารมณ์ไว้ แต่ผมรู้ว่าข้างในคงเดือดสุดๆ
“ไม่ได้เล่น” ผมตอบแบบไปตายเอาดาบหน้า พร้อมกับเดินไปหยิบโทรศัพท์รีบกดซ่อนแอพพลิเคชั่น แล้วเอาให้มันด่าไม่มีแอพนั่นในโทรศัพท์
“โทรศัพท์มันสั่นตลอด กูไปกดดู มันมีคนส่งข้อความมาหามึง ไอ้คิม” พี่เบสท์พูดแบบนั้น ผมก็ไม่รู้จะพูดอะไร ผมก้มหน้ารับผิด
“เดี๋ยวกูลบละ แต่กูยังไม่ได้นัดเจอใครนะ”
“แล้วมึงเล่นทำไม ห้ะ กูนั่งหัวโด่อยู่นี่มึงก็ยังเล่นหรอ” พี่เบสท์ไม่พูดตะคอกใส่ผมเหมือนทุกครั้ง แต่พูดเบาๆใช้เสียงสูงใกล้ๆหน้าผม น้ำเสียงเต็มไปด้วยอารมณ์โกรธ ตัวพี่เบสท์สั่นไปหมด พร้อมต่อยผมได้ทุกเวลา
“ทำไมมึงทำให้กูทุกข์ใจอยู่ตลอดวะคิม ทำไมมึงไม่เหมือนเมื่อก่อน” ในความโกรธนั้น แฝงไปด้วยความห่วง ความทุกข์ใจ ตาพี่เบสท์เริ่มมีน้ำคลอๆ กรามขบกันแน่น หน้าเกร็งไปหมด ผมเห็นละกลัว ผมทำอะไรไม่ถูกได้แต่นั่งนิ่ง พี่เบสท์คงข่มความโกรธไว้ไม่ไหว ตบหน้าผมแรงๆ ทีนึง หูผมได้ยินเสียงวิ้ง ผมยืนขึ้น เซเล็กน้อย ผมคิดว่ามันทำเกินไป
“ไอสัสเจ็บนะเว้ย” ผมพูดละก็ชกอกพี่เบสท์ดังตุบอย่างจัง พี่เบสท์ร้อง “อั๊ก” คงจุก น้ำตาผมไหล เลยตัดสินใจระบายออกไปทั้งหมด
ผมพูดออกไปประมาณว่า ที่ผมทำแบบนี้ก็เพราะพี่เบสท์เองนั่นแหละ พี่เบสท์ก็งงว่าทำไม มาโทษมันทำไมแล้วทำท่าเหมือนจะต่อยผมอีกครั้ง มันเอามือมาอุดปากเพราะผมเสียงดัง ซึ่งตอนนั้นก็ยอมรับว่าเสียงดังจริง คิดว่าข้างห้องคงได้ยินหมดแล้ว มันยากตรงที่ผมจะอธิบายว่าเพราะพี่เบสท์ไม่ยอมมีอะไรกับผม ไม่ยอมให้เห็นเบสท์น้อย ไม่ทำอะไรเสียวๆบ้างเลย มันยากตรงที่จะบอกไปให้มันไม่น่าเกลียดยังไง ผมนิ่งอยู่นาน เลยพูดประมาณว่า
“พี่เบสท์กูถามหน่อยมึงเห็นกูเป็นไรวะทุกวันนี้”
“.........................................”พี่เบสท์นิ่งเงียบ
“นี่ไง มึงยังไม่รู้เลยว่าจะให้กูเป็นอะไร มึงไม่ได้คิดจะจริงจังกับกู” ผมโคตรผิดหวังที่มันไม่ตอบออกมาว่าคิดกับผมแบบคนรัก หรือ แฟน แต่มันเลือกที่จะเงียบ
“เพราะแบบนี้ใช่ไม๊มึงถึงหวงเนื้อหวงตัวไม่ยอมมีไรกับกูอ่ะ ใช่ไม๊”
“มึงคิดได้แค่เรื่องแบบนี้หรอวะ”
“งั้นกูถามหน่อย ตอนมึงคบกับแฟนชะนีของมึง มึงเคยเอามันไม๊”
“เรื่องของกู” พี่เบสท์ตะหวาดผม
“หึ ทำไมวะ อย่ากลืนน้ำลายตัวเองสิ จะบอกว่ามึงไม่เคยเอามันเลยว่างั้นดิ” ผมยั่วโมโหมัน มันโกรธขึ้นเรื่อยๆ
“ตอนกูอยู่กับพี่ก่อ เรื่องแบบนี้กูไม่เคยขาด มันเติมเต็มให้กูได้ตลอด มึงไม่คิดว่ากูจะเงียนบ้างหรอ”
“หรือมึงไม่ได้คิดว่ากูเป็นคนที่มึงอยากมีอะไรด้วย มึงบอกมาตรงๆเลย”
“ถ้ามันดีนักก็ไปอยู่กับมันเลย” พี่เบสท์ตัดพ้อ
“เออกูไปแน่” พูดจบผมก้าวผลุนๆ หยิบกระเป๋าตัง และมือถือ เดินไปที่ประตู พี่เบสท์คว้าคอเสื้อฉุดผมกลับมาผมล้มตึง
ครั้งที่สองแล้วที่มันทำกับผมแบบนี้ ถ้าเกิดหัวฟาดพื้นขึ้นมาละเรื่องใหญ่
“มึงปล่อยกู มึงไม่ได้จริงใจไรกับกูเลย เชี่ยเบสท์”
“แล้วมึงจะให้กูทำยังไง ทุกวันนี้กูยังให้มึงไม่พออีกหรอ”
“กูทำให้มึงทุกอย่าง ไปรับไปส่ง รับมึงมาอยู่ด้วย ค่าหอก็ไม่ต้องจ่าย กูดูแลมึงไม่ดีหรอคิม”
“อยู่แบบนี้มึงไม่มีความสุขหรอ”
“มึงอย่าโลกสวยได้ป้ะ กูเป็นคน มึงก็คน มึงจะไม่เงียนเลยหรอ กูถามหน่อย”
“กูก็เงียน แต่กูไม่รู้จะทำยังไง”
“ก็บอกกูสิสัส กูจะทำให้ กูอยู่แบบนี้กูไม่ไหวหรอกว่ะ อึดอัด เบื่อโว้ย”
“ไม่พอใจก็ไม่ต้องอยู่ด้วยกัน กูจะไปเอง พอ จบ”
พี่เบสท์ไม่รั้งผมต่อ มันปล่อยผมและ มีท่าทีอ่อนลงผมเดินออกจากห้อง ก้าวฉับๆ ควบมอไซต์จุดหมายคือหอเก่าผม
---------------------------------------------------------------------------
TO BE COTINUED
เรื่อง ราวจะเป็นไงต่อไปโปรดติดตามด้วยนะครับ ในเรื่องอาจมีการใช้คำที่ไม่สุภาพ ไม่เหมาะสม อาจจะไม่ถูกใจคุณผู้อ่านบางคน ต้องขอโทษด้วยนะครับ