━╃ ♥ ☞ ★ ค น ใ น ใ จ ★ ☜ ♥ ╄━บทที่ 16 20/12/18
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ━╃ ♥ ☞ ★ ค น ใ น ใ จ ★ ☜ ♥ ╄━บทที่ 16 20/12/18  (อ่าน 10055 ครั้ง)

ออฟไลน์ midnight

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +168/-8
    • Fanpage
บทที่ 12

ให้เราใกล้กัน




หลังจากที่เขมทิวาตกลงใจย้ายมาอยู่กับมารดา มันทำให้เขาได้รู้ว่าคอนโดที่แม่เขาซื้ออยู่นั้น คือคอนโดเดียวกับรณกฤตเพียงแค่อยู่คนละชั้น มันยิ่งทำให้เขาใกล้ชิดกับคนในใจมากขึ้น... แม้ว่าก่อนหน้าเขาจะมาค้างที่นี่บ่อย ๆ อยู่แล้วก็เถอะ

ใกล้เข้ามาอีกนิด ชิดเข้ามาอีกหน่อย เป็นพรหมลิขิตน้อย ๆ คอยเวลามาบรรจบกัน

ห้องของราตรีเป็นห้องสูทสองห้องนอน ที่มีครัวเล็ก ๆ อยู่ในตัว ขนาดห้องไม่ได้กว้างเท่ากับห้องของต่าย แต่ก็ดูดีกว่าห้องพักรูหนูที่เขมอยู่ไม่รู้กี่เท่า ดวงตาสีน้ำตาลเข้มกวาดมองไปรอบ ๆ แอบหาร่องรอยของผู้พักอาศัยคนอื่น ๆ แต่ก็ไม่พบอะไร

“แม่ยังโสดนะคะ คุณเขม”ราตรีหรี่ตามองลูกชายที่ทำเป็นสำรวจเนียน ๆ แต่ไม่เนียน มุมปากเรียวยกขึ้นอย่างเจ้าเล่ห์ “แต่ไม่รู้ว่าคุณเขมของแม่จะโสดอยู่ไหมนะ”

“ผมยังไม่ได้มีใครสักหน่อยครับ”แต่ยกเว้นคนที่อยู่ในใจชั้นบน ๆ ไว้คนนึงละกัน

“จริงเร้อออ”คนเป็นแม่เอ่ยล้อเลียนลูกชายราวกับว่ารู้อะไรมาก่อนแล้ว “ไม่มีใครจริง ๆ เหรอจ๊ะ เขมทิวา”

“ก็ไม่มีน่ะสิครับ”เขมทำปากยื่น ก่อนจะตัดบทสนทนาด้วยการลากกระเป๋าเดินไปหาห้องนอนของตัวเอง “ห้องนี้ใช่ไหมครัย”

นิ้วเรียวที่เห็นข้อชัดเจนชี้ไปที่ประตูห้องที่ไม่มีป้ายอะไรแขวนอยู่ และเมื่อเขาได้รับการยืนยันด้วยการพยักหน้ารับจากคุณแม่แล้ว เขาถึงเปิดประตูเข้าไป

ภายในห้องนอนขนาดกำลังพอดีสำหรับคนหนึ่งคนมีเตียงเดี่ยว ตู้เสื้อผ้า และโต๊ะหนังสือจัดวางอยู่ชิดกำแพงห้อง ฝาผนังมีแอร์และพัดลมติดผนังอย่างละตัว ทุกอย่างดูเรียบง่ายไม่หวือหวา แต่สำหรับผู้ที่มาเป็นเจ้าของห้องนั้น  พอใจกับความน้อยชิ้นของสิ่งของต่าง ๆ สุด ๆ

“ถ้าอยากได้อะไรเพิ่มก็บอกนะเขม เดี๋ยวแม่พาไปซื้อ”ราตรีก้าวมาโอบบ่าลูกชายที่สูงนำเธอไปแล้ว “แม่ไม่แน่ใจว่าลูกขาดอะไรบ้าง เลยซื้อไว้แต่ที่จำเป็น ๆ”

“เท่านี้ก็พอแล้วครับ เหลือที่ให้ตะวันได้วิ่งเล่นกว้าง ๆ พอดีเลย”เขมยิ้มหวานเมื่อนึกถึงลูกสุนัขที่มีพี่เลี้ยงเป็นกระต่ายของตน จะได้พาน้องกลับมานอนด้วยกันง่าย ๆ ไม่ต้องลำบากพี่ต่ายแล้ว

“งั้นแม่ไปทำงานก่อนนะ มืด ๆ เจอกันครับ”ราตีเอื้อมมือไปลูบผมนุ่มนิ่มของลูกชายเบา ๆ ก่อนที่เธอจะผละออกไปทำงานที่ร้าน “ให้แม่ซื้ออะไรเข้ามากินเลยไหม”

“เดี๋ยวผมทำให้ครับ”เขมโบกมือบ๊ายบายมารดาที่กำลังจะเดินออกจากห้องไป

ตอนนี้ก็เหลือแค่เขาที่อยู่คนเดียว... แต่วันนี้เขมเองก็ไม่ได้ว่างทั้งวันหรอก ช่วงบ่ายต้องไปซ้อมควงคทาเตรียมเดินขบวนแล้ว หลังจากขอเลื่อนมาหลายวัน

เขมยืดตัวบิดขี้เกียจไปทีนึงก่อนที่จะลงมือจัดของเข้าตู้ให้เรียบร้อย เขาขนของจากหอพักย้ายมาจนหมดเพื่อคืนห้องให้กับทางเจ้าของ มันเซ็งหน่อย ๆ ที่โดนยึดค่ามัดจำไป แต่ครั้นจะหาคนมาเข่าต่อก็ไม่รู้ว่าจะหาได้ไหมในตอนเปิดภาคเรียนมาพักนึงแล้วแบบนี้ ยิ่งเป็นหอเล็ก ๆ ที่ไม่ได้ใกล้มหา’ลัยมากมาย ห้องก็พัดลมที่ไม่ค่อยเย็นแต่ยังดีที่พอจะโปร่งแบบนี้แล้ว...

ปลง ๆ กับเงินสองพันนั้นไปเถอะ

จัดของไปได้พักนึง สารถีคนดีคนเดิมเพิ่มเติมคือมาอยู่คอนโดเดียวกันแล้วก็มารับถึงหน้าห้อง พร้อมกับเจ้าขนปุยแสนรักอีกสองตัว

“ยังจัดไม่เสร็จเหรอ”ต่ายที่มีคีย์การ์ดสำรองของห้องแม่เขมได้ยังไงก็ยังเป็นปริศนาเดินเข้ามานั่งยอง ๆ ข้างตัวเด็กหนุ่ม “ยังเหลือเวลา พี่ช่วย”

“เดี๋ยวผมกลับมาจัดต่อที่หลังก็ได้ครับ”เขมก็ยังคงเป็นเขม เขายังคงเป็นคนขี้เกรงใจไม่เปลี่ยน ไมอยากให้อีกฝ่ายเสียเวลารอเขาทำธุระเล็ก ๆ ของตัวเองที่จะทำเมื่อไหร่ก็ได้

“ไม่เป็นไรหรอก เวลามีอีกตั้งเยอะ”ต่ายหยิบเสื้อนอนตัวย้วย ๆ ของเขมขึ้นมาพับ มุมชนมุม ขอบชนขอบไม่มีเหลื่อมกันสักมิล

เห็นเฉย ๆ แต่รณกฤตก็แฝงความเป็นเฟอร์เฟกต์ชั่นนิสต์ในตัวอยู่เหมือนกัน แต่ไม่ได้คลั่งขนาดที่ทุกอย่างจะต้องสมบูรณ์แบบเป๊ะ ๆ พวกไข่แดงบนไข่ดาวยังไม่จำเป็นต้องอยู่กลางใบ เช่นเดียวกับขนคุณมณีที่ไม่จำเป็นต้องเท่ากันทุกเส้น

“หืม...”ดวงตาคมหรี่มองของในมือ แล้วหันไปมองคนที่กำลังก้มหน้าก้มตาพับกางเกงอยู่ “อืม...”

“มีอะไรเหรอค—-“เขมหันมาตามเสียงก่อนจะเห็นชิ้นส่วนเสื้อผ้าที่เล็กที่สุดอยู่มือของใครอีกคน “อะ อันนั้นผมเก็บเองดีกว่าครับ”

“ไม่เป็นไร พี่ทำให้”รอยยิ้มยั่วเย้าที่มุมปากหยักพาหัวใจกระตุกรัว สายตาพราวระยับที่จับจ้องมาที่ใบหน้าของรุ่นน้องที่กำลังแดงเรื่อนั้นฉายแววล้อเลียน “ซื้อเสื้อเบอร์ใหญ่ไปหน่อยนะครับ น้องเขม”

“เปล่าสักหน่อย”ถึงความจริงมันจะใช่ก็เถอะ แต่จะยอมรับตรง ๆ มันก็ยังไงอยู่... เขาซื้อเสื้อใหญ่กว่าตัวเบอร์นึงเผื่ออ้วนขึ้น แล้วก็ให้ดูตัวใหญ่หน่อย ๆ ไม่แห้งไปนัก แต่ก็ดันไม่เคยตัวพองขึ้นมากว่าเดิมเลย

แต่อันเดอร์แวร์มันซื้อไซส์ใหญ่ ๆ มาใส่ไม่ได้นี่! แล้วมันก็ไม่จำเป็นด้วย!!

รณกฤตหัวเราะในลำคอเบา ๆ ก่อนจะนั่งพับเสื้อผ้าที่ไม่ได้มีเยอะสักเท่าไหร่ต่อ ไม่แซวอะไรให้น้องเขินอีก ส่วนเขมก็ลุกไปจัดการเอาชุดนักศึกษาไปแขวนตู้แทน

สองคนสี่มือช่วยกันไม่นาน เสื้อผ้าที่ขนมาก็ถูกนำใส่ที่ ๆ มันควรอยู่จนหมด เหลือของจิปาถะพวกหนังสือที่ยังวางเรียงเอาไว้ในลังอย่างสวยงาม แต่ไม่มีเวลาพอจะลงมือจัดแล้ว

ใกล้สายแล้ว...

จากคอนโดมามหา’ลัยใช้เวลาไม่นานนักถ้ารถไม่ติดหนึบอย่างวันศุกร์แห่งชาติ

เมื่อเขมทิวาและรณกฤตมาถึงสถานที่ตามเวลานัด ทั้งคู่ก็ต้องหันมามองหน้ากัน ก่อนที่จะก้มลงมองเวลา

โรงยิมว่างเปล่า... พวกเขามาผิดเวลา ผิดวัน หรือผิดที่?

“อ้าว มาแล้วเหรอ”พรีมที่เพิ่งเปิดประตูเข้ามาเห็นชายหนุ่มสองคนที่เธออุตส่าห์ไปทาบทามมายืนงง ๆ อยู่กลางสนามก็พลันรู้สึกปลื้มปลิ่มหัวใจอย่างบอกไม่ถูก

นี่สิ! หน้าตาของมหา’ลัย!!!

“คนอื่น ๆ กำลังทยอยมาน่ะ”พรีมส่งยิ้มแห้งให้กับคนที่มาตรงเวลา ไม่ใช่พวกช่างยืดอย่างใครหลาย ๆ คน “ต่ายควงไม้เป็นอยู่แล้ว ละน้องเขมเคยเป็นดรัมฯ มาก่อนไหมคะ”

“เคยแต่ถือป้ายโรงเรียนครับ”คนที่มักจะถูกส่งไปยืนหน้าสุดของขบวนแย้มยิ้มแหย ๆ “เคยเอาคทาเพื่อนมาถือเล่น แต่ไม่เคยลองควงหรอกครับ”

“จ้า ไม่เป็นไรหรอก น้องเขมบุคลิกดีอยู่แล้ว ซ้อมควงให้คล่อง ๆ รับรอง ดูดี!”สาวเจ้าไม่ว่าเปล่า ชูมือกดไลค์ให้เป็นขวัญกำลังใจด้วย “ต่ายจะสอนน้องเอง หรือจะให้พี่เรียกคนอื่นมาสอน”

“ผมสอนน้องเองสะดวกกว่าครับ”ต่ายระบายยิ้มอ่อนมองคนที่ทำหน้าเจี๋ยมเจี้ยมอยู่ข้าง ๆ “เอาไว้ท่ายาก ๆ ค่อยมาฝึกพร้อมกันเนอะ”

“ครับ”เขมทิวารู้สึกใจชื้นขึ้นมาหน่อย ถ้าฝึกกับพี่ต่ายเขาสามารถไปฝึกนอกรอบได้โดยไม่ต้องคอยรบกวนคนโน้นที คนนี้ที ถึงจะรู้สึกเกรงใจที่พี่เขาต้องแบ่งเวลามาให้ แต่ความสบายใจมันก็มีมากกว่า...

ยังไงก็ต้องซ้อมเหมือนกันอยู่แล้วนี่เนอะ

“ไม้อยู่ห้องเก็บอุปกรณ์ใช่ไหมครับ”เจ้าชายเศรษฐ์ศาสตร์เบือนหน้ามาถามสามัญชนที่ยืนทำตาปริบ ๆ เป็นส่วนเกินอยู่

“จ๊ะ...”ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะได้พูดอะไรต่อ ชายหนุ่มทั้งคู่ก็จูงมือกันเดินไปห้องเก็บอุปกรณ์แล้ว

มองแล้วยังไงก็ให้ความรู้สึกว่าโลกนี้มีกันสองคน... ส่วนเกินอย่างเธอนั้นควรไปนั่งเงียบ ๆ เก็บรูปไปอวดคนอื่นสินะ

ต่ายจูงเขมมาจนถึงห้องเก็บอุปกรณ์ เขามองประตูห้องที่ปิดสนิทนั้นนิ่งก่อนจะดันให้รุ่นน้องขยับถอยหลังไปโดยไม่บอกอะไรมากไปกว่านั้น แต่คำตอบก็ถูกเฉลยเมื่อเปิดประตูเข้าไป ฝุ่นที่ฟุ้งกระจายออกมาบังสภาพภายในเหมือนกับหมอกบาง ๆ ยามเช้าและเมื่อฝุ่นจางลงก็เห็นความรกที่สมควรได้รับการทำความสะอาดและจัดเรียงอุปกรณ์ใหม่อย่างเร่งด่วน

“มีเครื่องดูดฝุ่นไหมครับ...”เขมไม่ใช่คนที่รักสะอาดถึงขั้นต้องทำความสะอาดทุกวันไม่ให้มีฝุ่นสักเม็ด จะมีบ้างตามความขี้เกียจก็ได้ แต่ฝุ่นฟุ้งขนาดนี้นี่ก็ไม่ไหวนะ

“ไม่มีหรอก แต่เดี๋ยวก็คงจะมีคนมาทำความสะอาดแล้วมั้ง”ต่ายปัดฝุ่นที่โดนตัวออกเบา ๆ เขาพยายามหลบแล้วแต่ก็ไม่ทันทั้งหมดเลยเปื้อนตัวหน่อย ๆ “ห้องนี้ไม่ค่อยได้เปิดใช้กันเท่าไหร่เลยไม่ค่อยมีคนสนใจน่ะ แต่เห็นว่าเดี๋ยวจะปรับปรุงห้องใหม่ให้เป็นห้องพักนักกีฬาแทนแล้วล่ะ”

ซึ่งข่าวนี้มีมาตั้งแต่ช่วงงานกีฬาปีก่อน...

“อา... ครับ”คุณหนูอักษรพยักหน้ารับรู้ ก่อนเปลี่ยนเรื่องพูดไป “แล้วไม้นี่...”

“มีให้เลือกหลายขนาดอยู่นะ ไม่ค่อยมีคนมาเอาไปใช้หรอก ส่วนใหญ่มักจะไปซื้อกันเอง”ต่ายก้าวเท้าเข้าไปหยิบไม้ที่ฝุ่นเกาะขึ้นมาจับ ๆ ดู “คนที่สมัครมาเพราะอยากเป็นคฑากรกันเขาก็จะซื้อเก็บไว้เลยเป็นความทรงจำ"

“พี่ต่ายได้ซื้อเป็นของตัวเองไหมครับ”เขมนึกถึงห้องของร่างสูงที่เคยไป เหมือนจะไม่เห็นอะไรที่หน้าตาเป็นแท่งยาว ๆ เลยด้วยซ้ำ

“พี่ไม่ได้ซื้อครับ”ไม้ดรัมฯ อันแรกถูกเอามาทาบความสูงกับเด็กหนุ่ม “ไม่รู้จะซื้อมาวางไว้ตรงไหนดี แล้วก็ไม่รู้ว่าจะเอามาทำอะไรด้วย จะดันแอร์พี่ก็มีไม้กวาดอยู่แล้วเลยไม่ซื้อ... หรือว่าน้องเขมอยากได้ครับ?”

“ไม่ล่ะครับ”ขนาดพี่ต่ายไม่มีที่จะวาง เขายิ่งไม่ต้องพูดถึง ยังไม่นับเรื่องค่าใช้จ่าย อะไรยืมได้ยืมเอาดีกว่า

“อะ เอานี้น่าจะได้”ต่ายลากไม้สองอันที่เลือกมาจากกองไม้เก่าที่วางสุมเอาไว้ออกจากห้องไปส่งให้รุ่นพี่สาวที่รับผิดชอบพวกเขาทำความสะอาด

ขยับจากการเป็นส่วนเกินมาเป็นแจ๋ว... เหมือนจะน่าดีใจหน่อย ๆ นะ

สละทิชชู่เปียกไปหนึ่งแพ็คกว่าไม้ดรัมฯที่ฝุ่นเกาะจะสะอาดเอี่ยมพร้อมใช้

แรกเริ่มของการฝึกซ้อม ต่ายสอนเรื่องการจับไม้ การตวัดแขนและการเดินก่อน ซึ่งไม่ยากสำหรับคนที่มีพื้นฐานด้านกีฬาและผ่านการฝึกรด.มาเรียบร้อยแล้ว

“การควงไม้เริ่มจากท่าควงสองมือที่เป็นท่าพื้นฐานก่อนแล้วกัน”เมื่อรณกฤตสวมบทคุณครู ใบหน้าที่ยิ้ม ๆ นั่นก็เริ่มจริงจังขึ้น เขาจับไม้ให้ลูกศิษย์ของตนดูด้วยท่วงท่าทะมัดทะแมง “ตบไม้ขึ้น ก่อนจะหมุน ใช้แรงส่งจากข้อมือ อย่าส่งจากนิ้ว ไม่งั้นจะปวดมาก...”

ร่างสูงควงไม้สองมืออย่างช้า ๆ ให้กับเด็กหนุ่มได้ดูเป็นตัวอย่าง ก่อนจะให้ลองทำดู

“ค่อย ๆ ลองทำดู ช้า ๆ พอชินมือแล้วค่อยเพิ่มจังหวะ”เสียงทุ้มเอ่ยอยู่ข้างหลังของเขมที่กำลังตั้งสมาธิ ดวงตาจับจ้องที่ข้อมือขาว “ใช้แรงส่งจากข้อมือ นั่นล่ะ แขนอย่างอ สมดุลเสียมันจะร่วง”

เขมทิวาเริ่มควงไม้อย่างช้า ๆ ทำความคุ้นเคยกับเจ้าท่อนกลมเรียวยาวในมือ ซ้ายจับ ขวาปล่อย ขวาจับ ซ้ายปล่อย จากจังหวะที่เชื่องช้าและสะดุดเวลาเปลี่ยนมือ เมื่อความเคยชินเริ่มเข้ามา ทุกอย่างมันก็พลันลื่นไหล ความเร็วเริ่มเพิ่มขึ้น แต่ก็ยังไม่ได้ถึงครึ่งของคนที่เคยฝึกฝนมาก่อน

ระหว่างที่เจ้าชายรูปงามกำลังสอนคุณหนูน้อยควงไม้อยู่นั้น เหล่าคนที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นคฑากรของงานกีฬาครั้งนี้ก็พากันทยอยเดินเข้ามาฝึกซ้อม บางคนก็เหลือบมองชายหนุ่มสองคนที่ยืนฝึกท่าพื้นฐานกันอยู่ด้วยความสนใจ และในขณะเดียวกันก็มีคนที่มองด้วยแววตากังขา

ก็ได้ยินมาอยู่ว่ามีคฑากรที่ทางสโมฯ ทาบทามมา แต่ไม่คิดว่าจะเลือกเอาคนที่ดูทำไม่เป็นเลยแบบนี้ แล้วยังมาเริ่มซ้อมช้ากว่าคนอื่นอีก

ดูจะเป็นอภิสิทธิ์ชนเกินไปหน่อยนะ

ต่อหน้าประธานและเลขาสโมสรนักศึกษา เด็กใหม่ปีหนึ่งที่ไม่ค่อยจะพอใจในตัวคนที่ถูกเลือกมาเท่าไหร่นักก็ไม่กล้าที่จะพูดอะไร

ต้องรอจังหวะดี ๆ ก่อน...

วันนี้ทั้งวันเขมคงได้แต่ซ้อมควงคทาสองมือให้คล่อง ส่วนต่ายนั้นผละออกไปลำดับท่าที่เขาเริ่มซ้อมกันไปแล้วมารอถ่ายทอดให้กับอีกคน ดูมีความตั้งใจมากกว่าตอนที่ได้เป็นคฑากรปีที่แล้วเสียอีก

พรีมที่แอบหลบมุมถ่ายรูปคนดังของมหา’ลัยอยู่นั้นมองรูปที่เก็บไว้ในแกลลอรี่ด้วยความปลื้มปลิ่มใจ

ในที่สุดก็มีอะไรให้อัพเดทในเพจแล้ว!

เธอจิ้มเปิดเพจของสโมสรนักศึกษาที่เป็นแอดมินอยู่ พิมพ์ข้อความโปรโมทงานกีฬารัว ๆ หลังจากอัดอั้นมานาน หยั่งกระแสคนอื่น ๆ ไปเสียงตอบรับไม่ถึงเป้านัก ถ้าคราวนี้ไม่ถึงเป้าอีกนะ

เธอจะไปเอาหัวโขกเต้าหู้เหม็นให้ตายกันไปข้างเลย!



สโมสรนักศึกษา XUT

สวัสดีค่า เพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ผู้ติดตามเพจสโมฯ ของเราทุกคน วันนี้ทางสโมฯ มีเรื่องเซอร์ไพรท์มาให้ทุกคนได้ตื่นเต้นกันล่ะค่ะ

อย่างที่ได้แจ้งกันเอาไว้ในโพสก่อน ๆ แล้ว ว่าทาง XUT จะมีงานกีฬาในอีกสองเดือนข้างหน้านี้ ทั้งยังจัดงานออกร้านให้บุคคลภายนอกได้เข้ามาเยี่ยมชมมหาวิทยาลัยของเรากันนะคะ

ฮั่นแน่~ กิจกรรมพิเศษ ๆ แบบนี้ เราย่อมมีเรื่องพิเศษ ๆ ให้ได้ชมกันเช่นกันค่ะ นั่นก็คือออออออ

เจ้าชายเศรษฐศาสตร์ และ คุณหนูอักษร ของ XUT เราจะมาร่วมเป็นคฑากรในงานเปิดการแข่งขันกีฬาครั้งนี้ด้วยล่ะค่ะ เย่~ ตอนนี้ทั้งคู่กำลังตั้งใจฝึกซ้อมกันอยู่ มาร่วมเป็นกำลังใจให้สองหนุ่มของพวกเรากันนะคะ

(แนบรูปต่ายโอบเขมจัดท่าถือคทา)



หลังจากกดโพสลงไปก็รอดูผลตอบรักอยู่สักพักนึง เมื่อเห็นยอดไลค์ ยอดแชร์ และเริ่มมีคอมเม้นต์อย่างรวดเร็ว คนโพสอย่างพรีมก็ค่อยเบาใจขึ้นหน่อย

มามุงกันเยอะ ๆ เถอะ อาจารย์จะได้ไม่มีเฉ่งอีก

เมื่อพรีมเงยหน้าขึ้นมาดูสถานการณ์ตรงหน้าอีกครั้ง ก็เห็นว่ารุ่นพี่ปีแก่ที่ดูแลเรื่องขบวนนั้นมาเริ่มจัดแถวให้กับเหล่าคฑากรแล้ว ไม้หนึ่งที่ถูกฟิกเอาไว้ก็เป็นไปตามเดิมไม่เปลี่ยน แต่ไม้อื่น ๆ นั้นยังสลับกันได้ตามความเหมาะสม ในตอนนี้สองหนุ่มที่เป็นความภูมิใจของหญิงพรีมนั้นได้อยู่ช่วงกลาง ๆ แถว ซึ่งเป็นจุดที่มีเพื่อนด้านหน้าและด้านหลังคอยประคอง

“ทุกคนจำตำแหน่งตัวเองในตอนนี้เอาไว้นะ อาจจะมีการสลับอีกถ้าเกิดมีแอคซิเดนท์อะไรขึ้น แต่ตอนนี้เราจะยึดตำแหน่งนี้กันเอาไว้”รุ่นพี่สาวประเภทสองมองรุ่นน้องของเธอที่อยู่ในกำมือด้วยความพอใจ “วันนี้พอแค่นี้ แยกย้ายได้”

“ขอบคุณครับ/ค่ะ”



หลังจากเลิกซ้อม ทุกคนต่างก็แยกย้ายกันไปทำธุระของตัวเอง เขมกับต่ายไม่ได้มีอะไรต้องทำเป็นพิเศษ เลยพากันกลับคอนโด

“ผมขอแวะซื้อของนิดนึงนะครับ”เขมบอกกับคนขับรถกิตติมศักดิ์ “เย็นนี้พี่ต่ายจะมากินข้าวด้วยกันไหมครับ”

“จะโชว์ฝีมือเหรอ”ดวงตาคมเหล่มองคนที่นั่งอยู่ข้างคนขับด้วยแววตาอ่อนโยน “เอาสิ ให้พี่ช่วยอะไรไหม”

“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมทำเอง”น้ำเสียงของเด็กหนุ่มรุ่นน้องแฝงความเกรงใจเอาไว้จาง ๆ “วันนี้ผมรบกวนพี่เยอะแล้ว...”

“ไม่เอาน่า เขม”ต่ายขยับมือไปวางบนตักนุ่มแล้วบีบเบา ๆ “เขมไม่ได้รบกวนอะไรพี่เลย พี่เต็มใจทำให้นะครับ”

“ครับ...”เขมก้มหน้าปิดบังแก้มที่ขึ้นสีเรื่อ แต่เส้นผมที่ปรกลงมานั้นไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก

“กับเขม พี่เต็มใจทุกอย่างนะ”คำหยอดที่ตามมายิ่งทำให้แก้มใสนั้นแดงก่ำ

เขาไม่ได้คิดไปเองคนเดียวใช่ไหม ใช่ไหม!!

ทันทีที่รถจอดนิ่งหน้าซุปเปอร์มาร์เก็ตสีเหลือง ร่างโปร่งก็พุ่งออกไปจากรถโดยไม่คิดจะถามหรือรออะไรอีกคนเลย

รณกฤตที่หยอกน้องจนเจ้าตัวต้องหลบไปหาที่พักหัวใจนั้นนั่งหัวเราะกับตัวเองอยู่บนรถ ไม่ลงไปช่วยเด็กน้อยของเขาหิ้วของเหมือนปกติ

เว้นจังหวะให้น้องได้หายใจสักหน่อย ทุกอย่างจะต้องพอดี ๆ ไม่มากเกิน ไม่น้อยไป แต่ต้องสม่ำเสมอ

เกือบชั่วโมงกว่าเขมทีวาจะกลับมาขึ้นรถพร้อมกับของเต็มของมือ เยอะจนชักจะไม่แน่ใจว่านี่สำหรับสามคนหรือสามโต๊ะกันแน่

ด้วยความที่ซื้อมาเยอะ เพราะคิดว่าจะทำมื้อใหญ่ แต่เมื่อนึกได้ว่าเป็นมื้อเย็นเลยต้องดร็อปลงมาสักหน่อย

กินตอนเย็นเยอะ ๆ แล้วไม่ออกกำลังกายจะอ้วนเอาไว้ ตัวเขาน่ะไม่เท่าไหร่ แต่ผู้ใหญ่อย่างแม่เขา ถ้าเกิดอ้วนมาก ๆ โรคจะถามหาเอาได้

สุดท้ายเขมเลยเลือกทำผัดผักบุ้ง ต้นจืดเต้าหู้ และหมูอบซอสพริกไทยดำ

เพราะวันนี้จะเป็นมื้อแรกในรอบหลายปีที่ราตรีจะได้กินข้าวกับลูกชายของเธอ อีกทั้งยังเป็นครั้งแรกที่ลูกรักคนนี้ทำอาหารให้เธอกิน แน่นอนว่าเธอจะต้องรีบกลับบ้านเร็วกว่าปกติอยู่แล้ว

บ้านที่เป็นบ้าน บ้านที่มีครอบครัวรออยู่ ในที่สุดเธอก็ทำสำเร็จจนได้

“กลับมาแล้วจ้า”หญิงวัยกลางคนเดินฉับ ๆ เข้ามาในครัวด้วยรอยยิ้มกว้าง “ไหน ลูกรักของแม่ทำอะไรกินเอ่ย”

เธอมองจานอาหารที่วางอยู่บนโต๊ะด้วยความอิ่มอกอิ่มใจ แต่หัวใจที่พองฟูนั่นก็พลันฟีบลงเมื่อเห็นหาหล่อ ๆ ของใครบางคน



นี่เธอจะสามารถกอดลูกชายคนเดียวไว้ได้นานแค่ไหนกันนะ



เฮ้อ~



@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@



สงสารคุณแม่จังเลยยยย น้องเขมเล่นตัวไว้นะลูกกก (ห๊ะ อะไรนะ ค่าตัวจะหมดแล้ว งั้นอย่าเล่นตัวเลยลูก พี่ไม่มีเงินจ้างหนูแล้ว)



ติดชมกันได้เหมือนเดิมเลยนะคะ ฝาก #คนในใจ #พี่ต่ายน้องเขม ด้วยน้าา



ปล. Indispensable แนวโอเมก้าเวิร์สของไนท์ทำอีบุ๊คแล้วนะคะ จุ๊บๆ



ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

น่าสงสารคุณแม่นะเนี่ย  อุตส่าห์ได้ลูกชายมาอยู่ด้วย

แต่คงอีกไม่นาน คงเสียลูกชายไปให้ลูกเขย  อิอิ 

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ดีจังเลย

ออฟไลน์ Januarysky

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 507
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
พี่ต่ายคุมแจเลย คุงแม่ควรดีใจ มีลูกชายหล่อย รวย และแสนดีเพิ่มขึ้นมาอีกคน
ได้ลูกแถมแฟนลูกฟรีๆ
+1 ขอบคุณ
 :mew3:

เป็นกำลังใจให้น้องคุณหนูเก่งคฑากรแบบเทพๆ นะ เอาให้คนที่จ้องจะบูลลี้อ้าปากค้างไปเลย
เค้ามิชมชอบเสพมาม่า
 :mew2:

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
คุณแม่ 55555555555555555555

ออฟไลน์ midnight

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +168/-8
    • Fanpage
บทที่ 13

คืบหน้า



เช้าวันที่สามของการไปเรียนหลังจากที่เขมย้ายมาอยู่กับแม่ เขาตื่นขึ้นมาแต่เช้าเหมือนปกติเนื่องจากมันเป็นกิจวัตรประจำวันมานาน นาฬิกาชีวิตสั่งให้ตื่น พอตื่นแล้วเขาก็นอนไม่หลับอีก เลยตัดสินใจลุกขึ้นมาทำข้าวกล่องอาหารกลางวันให้แม่ไว้กิน... ซึ่งแม่จะกินไหมเขาก็ไม่รู้

ไหน ๆ ทำแล้วก็ทำให้ตัวเองด้วยเลยแล้วกัน

เขมตั้งไฟรอต้มไข่เป็ด ระหว่างนั้นก็หั่นปลาหมึก ปอกกุ้ง แร่เนื้อปลา มาเตรียมผัดขี้เมาแซ่บ ๆ

เด็กหนุ่มมัวแต่คิดถึงมื้อกลางวันจนลืมอาหารเช้า เมื่อนึกขึ้นได้เลยรีบปิ้งขนมปังและทอดไข่ดาวง่าย ๆ เตรียมเอาไว้ให้แม่ได้กิน แล้วก็เผื่อใครบางคนด้วย...

ใครบางคนที่อาจจะมาเยี่ยมเยียนในตอนเช้า

เขมทืวารื้อเอากล่องข้าวขนาดกลางที่แบ่งสามช่องขึ้นมาวางเรียง แล้วตักข้าวสวยร้อน ๆ ใส่ลงในช่องใหญ่สุด เอาใส่ต้มที่ปอกเปลือกและผ่าด้วยด้ายจนสวยงามแล้วใส่อีกช่อง ตามด้วยผัดขี้เมาซึ่งใส่ถุงแยกวางลงไปจนครบ วางไว้รอเย็นลงสักหน่อยก่อนจะปิดฝา เขามองผลงานตรงหน้าด้วยความพึงพอใจ สวยงามทั้งสามกล่อง...

เดี๋ยวนะ! สามกล่อง จำนวนมันเกินหรือเปล่า?

เพราะคำสั่งจากจิตใต้สำนึก เลยกลายเป็นว่านอกจากเตรียมมื้อเช้าเผื่อคนในใจแล้ว ยังมีมื้อกลางวันแถมให้อีกด้วย

แล้วคนรับจะยินดีรับไปกินไหมนะ...

“เขม ตื่นมาทำอะไรแต่เช้าน่ะ”ราตรีที่แต่งตัวเรียบร้อยเตรียมจะออกไปทำงานเห็นเงาลาง ๆ ในครัวเลยเดินเข้ามาหาลูกชาย “ทำข้าวเช้าให้แม่เหรอ อ๊ะ มีข้าวกล่องด้วย... หืม สามกล่อง”

ดวงตาคู่สวยหรี่มองคุณลูกชายที่ยืนส่งยิ้มอบอุ่นตรงหน้าอย่างจับผิด แต่เธอเองก็ไม่อยากจะพูดอะไรมากมาย

ก็นะ คนมันมีชนักติดหลัง ทั้งการที่ไม่ได้เลี้ยงดู ไม่พอตัวเธอเองก็มีแฟนตั้งแต่อายุยังน้อย... น้อยกว่าลูกชายเธอด้วยซ้ำ

“เขมเคยมีแฟนมาก่อนไหม”หญิงร่างเล็กทรุดตัวนั่งลงเพื่อกินมือเช้าที่ลูกรักของเธอทำให้ด้วยรอยยิ้ม

“เคยครับ”เด็กหนุ่มไม่คิดจะตอบเลี่ยง ๆ หรือปฏิเสธอะไร การมีแฟนไม่ใช่เรื่องน่าอาย โดยเฉพาะกับเขาที่ไม่เคยทำเรื่องเสื่อมเสียอะไรด้วย “ทำไมเหรอครับ”

“เคย... เอ่อ ปะหลึ่มตึ่มโป๊ะกับเขาไหมลูก”ความจริงมันไม่ใช่เรื่องที่ควรจะถามตอนเช้าสักเท่าไหร่หรอก แต่ลูกชายของเธอมีแววจะโดนกระต่ายหน้าซื่อชั้นบนงาบลงท้องในเร็ว ๆ นี้ เธอเลยอยากรู้ว่าลูกเธอยังใสซื่ออยู่ไหม

“ไม่เคยหรอกครับ”รอยยิ้มสวย ๆ บนใบหน้าจางไปหลายส่วน “แม่ไม่วางใจผมเหรอครับ”

“เปล่าหรอก”เป็นไปตามที่เธอคาดไว้ ลูกชายเธอทั้งใสซื่อ ทั้งบริสุทธิ์ดุจผ้าขาว “แม่คิดอะไรเรื่อยเปื่อยไปอย่างนั้นแหละ เวลามีเยอะแยะไม่ต้องรีบมีมันหรอกแฟนเฟินน่ะ ลูกชายแม่แสนดีขนาดนี้ ต้องมีคนดี ๆ ที่คู่ควรแน่ ๆ ใครตาไม่ถึงก็ปล่อยไป”

แต่ไอ้คนตาถึงน่ะมันอยู่ชั้นบน!!!

“แล้วถ้า... ผมไม่ได้ชอบผู้หญิงล่ะครับ”แม่จะรับได้ไหม... เขมกลัวคำตอบที่จะออกมาจากปากของผู้หญิงคนสำคัญที่สุดในชีวิต แต่เขาก็ไม่อยากให้แม่รู้เกี่ยวกับรสนิยมของเขาเป็นคนสุดท้าย

“ก็คบผู้ชายสิ ไม่ยาก”คำถามนี้ราตรีเตรียมคำตอบเอาไว้ในใจนานแล้ว ตั้งแต่รู้ว่าใครบางคนแอบเต๊าะคนสำคัญของเธอ “มันไม่สำคัญว่าเขมจะชอบผู้ชายหรือผู้หญิงหรอก เขมจะรักชอบกับผู้ชาย หรือเขมอยากจะแปลงเพศเป็นผู้หญิงแม่ก็รับได้ ออกเงินให้ด้วย เพราะเขมเป็นลูกคนสำคัญของแม่ ความหวังของแม่มีแค่อยากให้เขมเป็นคนดี มีความสุข เท่านี้ก็พอแล้ว เรื่องเพศ เรื่องความชอบไม่สำคัญทั้งนั้น”

“ขอบคุณครับ”รอยยิ้มที่ส่งไปถึงดวงตานั้นทำให้คนมองยิ้มตามอย่างมีความสุข

“เป็นอย่างที่ลูกเป็น ดีที่สุดแล้วล่ะ”หญิงสาววัยใกล้สี่สิบส่งมื้อเช้าคำสุดท้ายเข้าปาก จะว่าไปเธอได้กินมื้อเช้าที่เป็นมื้อเช้าไม่ใช่กาแฟแก้วนึงครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่กันนะ “กล่องไหนของแม่เนี่ย”

“สีชมพู... กล่องนี้ครับ”เขมเอากล่องข้าวใส่ถุงผ้ายื่นให้แม่ของตน “อย่าลืมกินนะครับ”

“จ้า แม่จะกินให้หมดเลย”ราตรีขยิบตาให้ลูกชายทีนึง แล้วหัวเราะออกมาเสียงดัง “แม่ไปก่อนนะ เจอกันตอนเย็น”

“แล้วเจอกันครับ”เขมเดินออกไปส่งแม่ที่ประตูห้อง แต่ยังไม่ทันที่จะเปิดประตูออกไป เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ก่อนที่บานประตูจะถูกเปิดออกมา “อรุณสวัสดิ์ครับพี่ต่าย”

คนที่เขาคิดไว้ว่าอาจจะมา ในที่สุดก็มา รอยยิ้มบนใบหน้ามนนั้นอ่อนหวานขึ้นโดยไม่รู้ตัว

“อรุณสวัสดิ์ครับ น้องเขม”ต่ายเอ่ยทักร่างโปร่งกลับด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน “น้าราตรีจะไปทำงานแล้วหรอครับ”

“จ๊ะ”หญิงแกร่งคนเดียวในห้องกระตุกยิ้มแข็ง ขอบใจที่ไม่ให้เธอเป็นส่วนเกินนานนัก “ฝากน้องด้วยล่ะ น้าไปละ”

“เดินทางปลอดภัยนะครับ”ต่ายเบี่ยงตัวหลับให้ผู้สูงวัยกว่าไปก่อน แล้วถึงจะเดินเข้าห้องของคนที่เพิ่งออกไปเมื่อกี้ด้วยท่าทีสบาย ๆ “พี่มารับไปมหา’ลัย ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าได้แล้วนะ เด็กขี้เกียจ”

“ขี้เกียจอะไรกันครับ”เขมทำปากแหลมใส่คนที่ใส่ร้ายเขาหน้าตาเฉย “ผมลุกมาทำมื้อเช้ากับข้าวกล่องให้แม่ต่างหาก เลยยังไม่ได้แต่งตัว”

“มื้อเช้า? ข้าวกล่อง?”ต่ายนึกถึงถุงผ้าที่ที่ในอ้อมแขนของราตรีแล้วก็เข้าใจ “โอเค เด็กขยัน”

“มีส่วนของพี่ด้วย... อยู่บนโต๊ะ”คุณหนูอักษรหลบตาที่พราวประกายของเจ้าชายต่างคณะด้วยความเขิน “ถ้าพี่ยังไม่กินมา ไปกินระหว่างรอก็ได้ครับ”

“ไม่เกรงใจนะ”รณกฤตเดินยิ้มไปกินมื้อเช้าที่มีคนใจดีทำเอาไว้ให้ทั้งที่ไม่รู้ว่าเขาจะมาไหม

ดวงตาสีน้ำตาลมองตามร่างสูงไป เมื่อเขาเห็นว่าคนในใจคนนั้นนั่งลงกินมือเช้าที่ตนทำไว้ให้อย่างไม่รังเกียจก็วางใจ แล้วพาตัวเองไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมตัวออกไปเรียนอย่างอารมณ์ดี

เขมยื่นกล่องข้าวสีฟ้าให้กับต่ายเงียบ ๆ ไม่พูดอะไรและแก้มใสก็ขึ้นสีเรื่ออีกครั้ง ต่ายเองก็รับมาโดยพูดกลับไปแค่คำว่าขอบคุณ

ชายหนุ่มทั้งสองช่วยกันล้างชามปิดไฟแล้วออกจากห้องมาพร้อมกัน

และนี่เป็นอีกครั้งของหลาย ๆ ครั้งที่เห็นคุณหนูอักษรลงจากรถของเจ้าชายเศรษฐศาสตร์หน้าคณะอักษรศาสตร์ มันเริ่มจะเป็นภาพชินตาของหลาย ๆ คนที่คอยเฝ้ามองกันแล้ว

แต่! ทั้งคู่ก็ยังอมพะนำ ไม่บอกความสัมพันธ์ในตอนนี้ระหว่างกันและกันออกมาสักที ถามไปก็ได้แต่รอยยิ้มบ้างล่ะ การตอบเลี่ยง ๆ บ้างล่ะ ไม่มีความกระจ่างเลย

ช่างเป็นคนหน้าตาดีที่ไม่เห็นใจคนใฝ่รู้ซะจริง ๆ

วันนี้ก็คงจะเหมือนปกติที่มาเรียน กินข้าว เรียน กลับบ้าน ช่วงนี้ก็เพิ่มการซ้อมควงคทามาอีกอย่างนึง ถ้าไม่ใช่ว่ามีคนตาตีบางคนไปเห็นมาว่าคุณเจ้าชายแห่งคณะเศรษฐศาสตร์นั้นถือข้าวกล่องมากินเป็นมื้อกลางวันด้วย

และมันคงไม่ฮือฮา ถ้าไม่ใช่ว่ามีคนจับภาพคุณหนูคณะอักษรที่นั่งกินข้าวกล่องอยู่ท่ามกลางเพื่อน ๆ เหมือนกัน

มันจะบังเอิญอย่างนั้นเหรอที่ทั้งสองคนหิ้วข้าวกล่องมากินเหมือนกัน และไม่ใช่แค่นั้น มีคนใจกล้าไปถามทั้งคู่ว่ามื้อกลางวันกินอะไร คำตอบที่ได้มาคือข้าวกับไข่ต้มและผัดขี้เมาเหมือนกันเป๊ะ ๆ

สรุปว่าเขาทำข้าวกล่องให้กัน... นี่เขาอยู่ด้วยกันแล้วอย่างงั้นใช่ไหม ใช่ไหม!

แอนเดรียแห่งคณะอักษรศาสตร์เป็นตัวแทนไปซักหาคำตอบจากเพื่อนร่วมคลาสที่รักของเธอ ร่างสูงที่ติดจะใหญ่ไปสักหน่อยเดินเข้าไปแซะ ๆ ซุก ๆ หนุ่มเนื้อหอมเป้าหมายของเธอพร้อมส่งสายตาวิ้ง ๆ ให้

“มีอะไรเหรอครับ แอนเดรีย”น้ำเสียงนุ่มนวลที่เอ่ยออกมาชวนสาวน้อยในร่างชายหนุ่มใจละลาย

“แบบว่า ตัวเองขาาา มีคนให้เค้ามาถามตัวว่าตัวกับสามีเบอร์หนึ่งของเค้าอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม ตัวเองบอกเค้าหน่อยสิ”สาวเจ้าช้อนตามองอย่างอ้อดอ้อนน่ารัก

น่ารัก... ขนาดที่เพื่อนของเขมต้องหันไปมองทางอื่น

“สามีเบอร์หนึ่ง?”

“ใช่ ๆ พี่รณกฤต สามีเบอร์หนึ่งของเค้าไง”

“อ่อ พี่ต่ายน่ะเหรอ”รอยยิ้มบางฉาบทับใบหน้ามน “ไม่ได้อยู่ด้วยกันหรอกครับ”

แค่อยู่คอนโดเดียวกัน... แต่เขาไม่พูดไปหรอก

“งั้นหรอออ แล้วทำไมสามีเค้ามีข้าวกล่องเหมือนของตัวเองได้ล่ะ”แอนเดรียถามต่อตาใส แต่ก็แฝงความคุกคามกดดันให้เพื่อนหนุ่มตอบกลับมา

“ก็... ลองไปถามพี่เขาดูสิ”เขมขยิบตาให้คู่สนทนาครั้งนึง ก่อนที่จะลุกขึ้นยืดตัว “เราไปซ้อมควงคทาก่อนนะ วันนี้ต้องเริ่มท่าใหม่แล้วล่ะ”

รอยยิ้มที่แย้มกว้างนั้นดูสดใสร่าเริงแต่แววตาของเด็กหนุ่มกลับเคลือบด้วยความกังวลจาง ๆ ถึงแม้จะเป็นเพียงเสี้ยววินาที แต่เพื่อน ๆ ที่นั่งอยู่รอบ ๆ ก็ยังสังเกตได้

“ยัยดอกขาว เธอตามไปดูหน่อยสิ”แอนเดรียสวมวิญญาณเจ้ใหญ่หันไปสั่งเพื่อนที่นั่งจิ้มมือถือจึก ๆ อยู่ “ฉันมีนัดแล้ว เธอว่างนี่ ไปดูคุณหนูหน่อยสิ ไม่ต้องขี้เกียจ”

“ย่ะ”ลิลี่เก็บโทรศัพท์ในมือใส่กระเป๋าแล้วลุกขึ้นเดินตามหลังคุณหนูของคณะไป

ถ้าไม่ใช่เขมทิวาที่เป็นที่รักของเพื่อน ๆ รับรองว่าเธอไม่มียอมมาดูให้หรอก เสียเวลา

ดาวคณะอักษรขยับตัวเนียน ๆ เดินมานั่งข้างเลขาสโมฯ เธอเมินต่อสายตาที่ตั้งคำถามของรุ่นพี่สาวแล้วมองเพื่อนเธอเอาไว้

อืม... วันนี้รุ่นพี่คณะเศรษฐศาสตร์คนนั้นไม่มา คงเพราะแบบนี้เพื่อนเธอเลยไม่ค่อยสบายใจสินะ

แต่... มันจะแค่นี้หรือเปล่า

“เพื่อนหนูเข้ากับทุกคนได้ใช่ไหมคะ”ลิลี่เปรยถามคนที่นั่งข้าง ๆ ในขณะที่เธอมองเพื่อนของเธอวิ่งเหยาะ ๆ รอบสนามกับกลุ่มคนอื่น ๆ ที่หน้าตาดี... ก็ดีแหละ แต่เธอสวยกว่าแค่นั้นเอง

“ก็เข้าได้นะ”พรีมตอบเป็นกลาง มันก็มีกลุ่มคนที่ชอบพอเด็กคนนี้ ขณะเดียวกันก็มีคนที่กังขา... แต่จะให้เธอไปบังคับให้ชอบคนที่พวกเธอเลือกมามันก็ไม่ได้

“งั้นเหรอคะ”ลิลี่พยักหน้ารับแล้วกวาดมองคนอื่นต่อ เธอไม่ใช่คนที่อวยเพื่อนไม่ลืมหูลืมตาอย่างไอ้เอ แต่มันก็จะเหลือเชื่อหน่อย ๆ ที่มีคนไม่ชอบเพื่อนคนนี้

ก็นะ คนที่ดีทุกมุมมองแค่เห็นก็อาจจะหมั่นไส้ได้ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อนั่นล่ะ

ตอนวิ่งวอร์มร่างกายอาจจะไม่เห็นความแบ่งกลุ่มของคนจำนวนสิบคนตรงหน้า แต่พอเรื่องซ้อมควงก็เห็นถึงการแบ่งฝ่ายอย่างชัดเจน

เรื่องแค่นี้ยังต้องทำแบ่งพรรคแบ่งพวกอีก จะอยากเด่นอยากดังอะไรขนาดนั้น

ซ้อมควงสองมือกันอยู่พักนึงทุกคนก็มายื่นตั้งแถวกระจายกันเป็นฟันปลา วันนี้รุ่นพี่ปีแก่จะมาสอนท่าควงอ้อมหลังและหมุนตัว เป็นท่าที่ค่อนข้างยากสำหรับมือใหม่ไม่น้อย

แน่นอนว่าเขมทิวาที่เพิ่งจะเริ่มฝึกควงคทามือเดียวย่อมทำได้ช้ากว่าคนอื่นมาก บางครั้งก็ทำไม้หล่น มันเป็นธรรมดาของมือใหม่ซึ่งคนที่มีประสบการณ์ส่วนใหญ่จะเข้าใจ

แต่มันไม่ใช่กับทุกคน...

สายตาที่บ่งบอกถึงความไม่พอใจเหลือบมองคนที่ทำพลาดบ่อยที่สุดราวกับต้องการคาดโทษไว้ว่า เพราะคน ๆ นี้ทำให้การซ้อมเป็นไปอย่างล่าช้า

ตัวเขมเองก็ได้แต่ส่งยิ้มขอโทษ ไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้สึกแย่ แต่ในตอนนี้เขาทำได้เท่านี้...

ยังต้องซ้อมอีกมาก

การซ้อมวันนี้ก็จบลงที่ท่าอ้อมหลัง ให้ไปฝึกกับให้คล่องแล้ววันมะรืนจะมาเพิ่มท่าใหม่

ในขณะที่คนอื่นนั้นต่างแยกกันไปเก็บของกลับบ้าน เด็กหนุ่มจากคณะอักษรกลับยืมกำคทาอยู่กับที่ ก้มหน้าลงต่ำจนเพื่อนสาวที่นั่งมองอยู่อดที่จะเป็นห่วงไม่ได้

วันนี้เขาทำได้แย่จนเป็นภาระทุกคน จนในหลาย ๆ ครั้งเขมก็รู้สึกว่าตัวเองไม่เหมาะที่จะรับหน้าที่นี้ อยากจะขอลาออก แต่มันก็เหมือนเป็นการยอมแพ้ เหมือนคนขี้แพ้

“ไหวไหม”ลิลี่เดินเข้าไปจับบ่าเพื่อนเอาไว้

“อื้อ ไม่เป็นไรหรอก”คำว่าไม่เป็นไรที่หลุดออกมาจากริมฝีปากสีอ่อนนั่นไม่ได้น่าเชื่อถือเลยสักนิด “เราแค่รู้สึกแย่ที่เป็นตัวถ่วงน่ะ ไม่มีอะไรหรอก”

“แล้วปกติเขมซ้อมยังไงน่ะ”เธอว่าเธอไม่เคยเห็นเพื่อนมีท่าทีซึม ๆ ขนาดนี้มาก่อนเลย ทั้งที่ซ้อมมาก็หลายวันแล้ว

“พี่ต่ายเขาสอนทริคให้น่ะ”เขมตอบกลับเบา ๆ

“อ่อ... วันนี้พี่คนนั้นไม่มาสินะ”ลิลี่พอจะเข้าใจอะไรขึ้นมาราง ๆ บ้างแล้ว และตอนนี้เธอไม่อยากซักอะไรให้เพื่อนรู้สึกแย่ไปมากกว่านี้ “คราวหลังเขมถามเราหรือถามไอ้เอก็ได้ คนเราน่ะมันก็ต้องมีอะไรที่ไม่รู้ อะไรที่ไม่ได้บ้างเป็นเรื่องธรรมดา ไม่จำเป็นต้องเก็บเอาไว้โทษหรือกดดันตัวเองหรอกนะ”

“ถามแอนเดรียเหรอ...”

“เชื่อสิว่ายัยนั่นน่ะคล่องเรื่องของยาว ๆ รูดๆ ควง ๆ แบบว่ามันส์มือชีล่ะ”คำพูดติดตลกของหญิงสาวทำให้เขมหลุดหัวเราะออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ “ส่วนฉัน สวยเซ็กซี่หุ่นดีขนาดนี้ต้องเคยเป็นดรัมฯมาก่อนล่ะย่ะ เรื่องสิว ๆ สามเดือนเพิ่งควงมือเดียวเป็น”

“เดี๋ยวนะ”เด็กหนุ่มแทบสำลักอากาศกับช่วงท้ายประโยคของลิลี่

“นั่นมันสมัยก่อน ตอนนี้ฉันโปรแ---“

“เขม”เสียงนุ่มทุ้มของคนที่ติดงานไม่ได้มาซ้อมดังแว่วขึ้นมาขัดคอสาวเจ้า

“พี่ต่าย”น้ำเสียงและท่าทางดีใจเหมือนหมาเจอเจ้าของของเขมทิวาทำเอาสาวน้อยคนเดียวในโรงยิมตอนนี้กรอกตาเป็นเลขแปด

ออกท่าออกทางขนาดนี้ยังบอกไม่ได้เป็นอะไรกันอีก ใครเชื่อคำมันแม่จะแจกเขาให้!

“เป็นไงบ้างครับวันนี้ โอเคไหม”ต่ายเดินตรงเข้ามาหาเป้าหมายของตนเองโดยไม่สนใจรอบข้างที่กำลังยืนแอคร้อยหน้าอยู่เลย

ไก่ ไข่ ควาย! ที่ดีต้องรู้หน้าที่ พระเอกมาตัวเองต้องหลบไป และหนึ่งในก้างที่ดีอย่างลิลี่ ก็จำต้องหลบฉากไป...

“โอเคครับ”เขมยิ้มกว้างจนตาหยีทำให้จับความรู้สึกได้ยากขึ้น “แต่ท่าอ้อมหลังยากหน่อย ผมคงต้องฝึกให้มากขึ้นอีกล่ะครับ”

“ท่าอ้อมหลังเหรอ...”รณกฤตพึมพำเบา ๆ ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน “งั้นเราไปฝึกด้วยกันนะ”

“ครับ”คนเป็นรุ่นน้องขานรับเสียงใส สีหน้าก็ดูผ่อนคลายลงอีกหลายส่วน

“แฮ่ม”ลิลี่กระแอมส่งเสียงในลำคอก่อนที่ระดับน้ำตาลเธอจะขึ้นจนเกินขีดจำกัด

“เพื่อนน้องเขมเหรอครับ”ต่ายเอ่ยถามคงตรงหน้าที่ยืนยิ้มอยู่โดยที่ดวงตาไม่ละไปจากร่างโปร่งเลย

“ใช่ครับ ลิลี่เป็นดาวคณะผมเอง”

“งั้นเหรอ”

“เอาเป็นว่านะ ฉันจะกลับแล้ว”สาวสวยที่ถูกเมินขัดคอหนุ่ม ๆ อีกครั้ง “ถ้าจะสวีทกันก็ช่วยทำอะไรให้มันเคลียร์ ๆ หน่อย มัวแต่เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาไม่เดินหน้าสักทีเดี๋ยวก็ได้ถอยหลังพอดี”

ลิลี่ปรายตามองคนหน้าตาดีแต่ชอบเพื่อนเธอด้วยสายตาเย็น ๆ แฝงคำเตือน

“เอาหัวใจของคณะเราไปแล้วไม่ดูแลให้ดี ๆ ระวังพวกเราจะมาเอาคืนนะคุณ คุณเจ้าชาย”ดาวคณะอักษรทิ้งท้ายไว้ก่อนที่จะสะบัดผมเดินฉับ ๆ ออกไป

“อ่า... ไม่ต้องไปสนใจคำของลิลี่ก็ได้นะครับ”คุณหนูอักษรยิ้มแหยให้คนที่กำลังทำหน้าครุ่นคิด “พวกเขาก็ชอบล้อเล่นไปเรื่อยนั่นล่ะครับ”

“อืมมม ก็นั่นสินะ”คำพูดที่ไม่ได้สื่อถึงความคิดอะไรออกมาชวนให้คู่สนทนารู้สึกโหวง ๆ ในใจไม่น้อย

เขากลัวว่าคนในใจจะรู้สึกอึดอัดเพราะคำพวกนั้น...

“น้องเขมหิวหรือยังครับ”ต่ายเปลี่ยนเรื่องไปคุยเรื่องอื่น แต่ในสมองยังคงคิดอะไรบางอย่างอยู่

“หิวแล้วครับ”พอพูดถึงเรื่องกิน ท้องมันก็เริ่มส่งเสียประท้วงขึ้นมาหน่อย ๆ “ไปกินข้างต้อมร้านเจ้สวยกันไหมครับ”

“ไปสิ”ต่ายตอบรับทันที เพราะมันก็เป็นร้านที่เขาคิดจะชวนเด็กดีของเขาไปเหมือนกัน

แต่ไม่บอกน้องดีกว่า เดี๋ยวน้องจะเขิน

รณกฤตยื่นมือไปตรงหน้าของเขมทิวา และรอให้อีกฝ่ายยื่นมือออกมาวางบนมือเขาเอง

“ไปกันนะครับ”เขมเอามือวางลงบนมืออุ่นที่คอยจับเขาเอาไว้เสมอตั้งแต่วันที่ได้คุยกัน

มือคู่นี้ที่เขารู้สึกวางใจ

“ไปกันครับ”ต่ายหลุบตามองมือขาวที่เขากำลังจับเอาไว้ มือที่วางลงบนมือเขาอย่างไม่ลังเล



บางที... มันก็คงถึงเวลาที่จะคืบหน้าความสัมพันธ์ของเราได้แล้วสินะ




@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

ความหวานต้องมาทุกช่วงเวลา~

มาอัพเต็ม ๆ แล้วค้าาา วันนี้มาเร็วไม่ดึกด้วยน้าา



หวานตามเคยย อั๊ยยะ ๆ พี่ต่ายจะทำอะไรน้าาาา



เช่นเคยค่ะ ฝาก #คนในใจ  #พี่ต่ายน้องเขม เอาไว้ในอ้อมใจด้วยน้าาา



L O V E

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

พี่ต่ายก็ขอน้องคบเป็นแฟน  ประกาศออกสื่อไปเลย  อิอิ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
พอคนพี่มาก็หวานกันเลยนาจา

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
มันถึงเวลาแล้วค่ะคุณพี่

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Keane

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 247
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-0

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
พี่ต่ายต้องชัดเจนกว่านี้แล้วนะคะ

ออฟไลน์ midnight

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +168/-8
    • Fanpage
บทที่ 14

ใจเอย



หลังจากวันที่ทำพลาดบ่อยจนน่าโมโห เขมทิวาก็ตั้งใจฝึกซ้อมการควงไม้คทาในท่าต่าง ๆ มากขึ้น เขาทุ่มเทกับมันถึงขั้นเพิ่มเวลาซ้อมให้กับตัวเองมากขึ้น และขอคำปรึกษาจากแอนเดรียและลิลี่เป็นระยะ

“หลังตรงกว่านี้ แขนไม่งอ นั่นล่ะ”แอนเดรียที่ฟังเรื่องจากเพื่อนสาวมาแล้ว พอได้รับสัญญาณขอความช่วยเหลือก็ไม่มีรอที่จะพุ่งหลาวออกมาช่วยเลย

คุณหนูอักษร ถ้าไม่ไปเป็นเมียเจ้าชายเศรษฐศาสตร์ก็เป็นหนึ่งในตองอู เอ๊ย สามีแห่งชาติเถอะ คนอะไร หน้าตาดี เรียนเก่ง ใจดี ยิ้มสวย ขาดแค่ความรวยแค่นั้นเอง

“คล่องขึ้นเยอะเลยนะเขม”ลิลี่ปรบมือแปะ ๆ ให้กับเพื่อนที่ตอนนี้เริ่มโปรขึ้นถึงขั้นโยนไม้แล้วไม่หล่นทั้งยังควงต่อได้เลยด้วย

   “ได้แอนเดรียกับลี่ช่วยสอนด้วยแหละ”เขมทิวายิ้มกว้างให้เพื่อนที่ผันตัวมาเป็นครูพิเศษให้เขา “ขอบคุณนะ”

“โอ้ย มาขอบคงขอบคุณ”แอนเดรียทำปากบี้ใส่คุณหนูของคณะพร้อมมองบน “ฉันสอนยี่สิบนาทีแล้วก็มีเจ้าชายรูปหล่อพ่อรวยแต่... ใหญ่ไหมก็ยังไม่รู้มารับไปสอนเองตลอด ชิชะ”

“ไม่เรียกสามีแล้วเหรอยะ”สบโอกาสกัดลิลี่ย่อมไม่พลาดที่จะดึงจังหวะนั้นมาใช้ “พี่เขามารับเขมไป แกก็มีโอกาสได้เกาะแขนได้ซบตั้งหลายทีนิ”

“แล้วเขาก็ผลักออกอย่างนุ่มนวลในวินาทีถัดมา”น้ำเสียงของชายหนุ่มหัวใจสาวน้อยติดจะเซ็งอย่างแรง แถมกรอกตาให้ด้วย “ยังไม่ทันจะได้สูดกลิ่นรับอุ่นไอเลยเถอะ”

“พี่ต่ายเขาคงไม่ชินน่ะ ไม่โกรธนะ”

“ใครจะไปโกรธหนุ่มหน้าตาดี ดีกรีแฟนเพื่อนได้กันล่ะยะ แหม ขอตัดพ้อนิดนึงก็ไม่ได้”

“ไม่ใช่แฟนสักหน่อย...”

“งั้นข้ามไปเก้าตัวอักษรเป็นสามีเลยละกัน”

“ไม่คิดว่าเราจะเป็นฝ่ายรุกพี่เขาบ้างเหรอ...”เพียงแค่ประโยคนี้หลุดออกไปให้สองสาวได้ยิน สิ่งที่เขาได้รับกลับมาคือสายตามองบนสองคู่ทำเอาเขมต้องหัวเราะแห้ง ๆ

“บางทีเขมก็ควรจะตื่นนอนได้แล้ว”ลิลี่พูดด้วยเสียงเหนื่อยอ่อน “อย่านอนนานนัก”

“ช่ายยย เป็นคุณหนูแต่งจะไปรุกเจ้าชาย ตื่นค่ะลูกกก”แอนเดรียบีบเสียงแหลมเสียดแทงโสตประสาท “อ้อ อันที่จริงก็พอรุกได้ล่ะนะ on top เอาสักยก รับรองผัวรักผัวหลง”

“อีเอ มึงนี่นะ... ลามกตลอด”สาวแท้คนงามแห่งคณะอักษรพ่นลมหายใจแรง ๆ ใสคนที่กำลังทำท่าเชิด ๆ อยู่ตรงหน้า “ออนทง ออนท๊อปบ้าบออะไร เพื่อนเราชันเข่าอ้าขาเป็นไหมยังไม่รู้เลย”

“แหมมมม ที่มึงพูดมาไม่ลามกเลยนะอีลี่”ใบหน้าที่แต่งแต้มเครื่องสำอางเอาไว้ตวัดไปหาเพื่อนสาว “ช่างเป็นคำพูดที่สุภาพ อ่อนน้อม อ่อนโยน สมเป็นกุลส้นตีนจริง ๆ”

เขมมองเพื่อนที่ศีลเสมอกันพ่นน้ำลายใส่กันด้วยรอยยิ้มขำ เห็นถกกับรุนแรงขนาดนั้นก็เถอะแต่ทุกวันนี้ก็ยังเห็นสนิทกันดีเหมือนเดิม ออกจะมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยซ้ำ

“น้องเขม”เสียงนุ่ม ๆ ของคนในใจที่เดินเข้ามาตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้กระซิบที่ข้างหูแผ่วเบา “ซ้อมกับเพื่อนเสร็จแล้วเหรอครับ คนเก่ง”

“เสร็จแล้วครับ”เขมหันไปคุยกับคนที่เขากำลังแอบรอด้วยรอยยิ้มที่หวานขึ้นอย่างไม่รู้ตัว “พี่เขมหิวหรือยังครับ”

“ก็นิดหน่อยนะ”มือหนาขยับไปลูบท้องตัวเองเบา ๆ “แล้วเขมหิวหรือยังครับ”

“ผมกินขนมก่อนมาซ้อมแล้ว ตอนนี้ยังไม่ค่อยหิวหรอกครับ”เด็กหนุ่มตอบตามความจริง ซากอารยธรรมของถุงขนมตอนนี้ยังถูกยัดอยู่ในกระเป๋าอยู่เลย “งั้นวันนี้เราไปกินที่บ้านดีไหมครับ แม่บอกว่าวันนี้จะกลับเร็วด้วย”

“เอาสิ ทำอะไรร้อน ๆ กินก็ไม่เลว”

“ซื้อของไปทำสุกี้กินดีไหมครับ”

“ก็ดีนะ ซื้อเป็นชุดไปเลย ไม่ต้องทำอะไรดี”

“เอาชุดเดียวก็พอมั้งครับ ที่เหลือเดี๋ยวซื้อของไปหั่นเพิ่มเอา”

“มันจะเหนื่อยเขมนะ”

“ไม่หรอกครับ”

...

สองหนุ่มหน้าตาดีพูดคุยกันอยู่ในโลกส่วนตัวโดยที่ไม่รู้เลยว่ารอบข้างของเขาไม่มีเสียงอะไรเลย... มีแต่หูสองคู่สี่ข้างที่กางอย่างเต็มที่จับใจความคำพูดพวกนั้นไว้

กลับบ้าน? ทำกิน? แม่?

เดี๋ยวนะ!! เดี๋ยว ๆ สรุปว่าอะไร ยังไง ไหนบอกไม่ใช่แฟนไง หรือพวกเธอฟังผิดกัน

แต่ข้อสงสัยพวกนี้ก็ยังเป็นได้แค่ข้อสงสัยที่อยู่ในสมอง เพราะคนที่จะแก้ข้อสงสัยได้จูงมือกันเดินออกไปแล้ว

จูงมือ!!!

“อีลี่ เขายังไม่คบกันจริงดิ”

“ฉันจะไปตรัสรู้ได้ยังไงล่ะยะ อีเอ”

“ชิ ให้มาเฝ้าคุณหนูตั้งหลายวันไม่ได้เรื่องเลย”

“ฉันไม่ได้ขี้เสือกเหมือนแกนิ”

“แหมมม แม่คนดีศรีตระกูลหยาง ไม่ขี้เสือกเล้ยยย”

“อะไรกันยะ!”

แล้วสองสาวก็ยังคงเถียงกันไฟแลบไม่เลิกจนกระทั่งเดินไปถึงหอของตนเอง...



รณกฤตพาเขมทิวาไปเลือกซื้อของสดในซุปเปอร์สีเหลืองส้มในห้างเครือดัง ระหว่างที่ร่างโปร่งกำลังเล็งเลือกซื้อผักสดว่าจะเอาหัวไหน ต้นไหนดีอยู่นั้น ชายหนุ่มก็ผละออกไปเดินทำธุระของตน

แต่เขาบอกกับน้องเขมของเขาแล้วนะว่าจะเดินไปที่อื่น น้องจะได้ไม่ตื่นตกใจตอนที่หันมาแล้วไม่เจอเขา

แต่จะไปทำอะไร ที่ไหน... ไม่บอกหรอก มันยังไม่ถึงเวลา

หลังจากทำธุระของตนเสร็จเรียบร้อย ต่ายก็มายืนรอคนที่เลือกผักเสร็จแล้วแต่ยังเลือกเนื้อไม่เสร็จ เหมือนว่าเดี๋ยวนี้เจ้าตัวจะเลือกของสดประณีตกว่าเมื่อก่อนด้วย คงเพราะมาอยู่กับแม่แล้ว เลยอยากให้แม่ได้กินแต่อะไรดี ๆ

ต่ายเลยต้องรออยู่แถวนั้นไปอีกครึ่งชั่วโมง... ระหว่างนั้นเลยไปหยิบน้ำผลไม้และน้ำอัดลมมาใส่รถเข็นเอาไว้ด้วยเลย จะได้ไม่เสียเวลามากนัก

“อกไก่ สันในหมู กะหล่ำปลี ผักกาด หัวไชเท้า... น้ำส้ม น้ำฝรั่ง น้ำองุ่น โค้ก...”เขมไล่ลิสรายการของที่หยิบมาในรถเข็นว่ายังขาดเหลืออะไรบ้างหรือเปล่า แต่ดูเหมือนจะครบแล้วติดจะเกิน ๆ ด้วยซ้ำ “โอเคครับ เราไปจ่ายเงินกันเถอะ”

มือขาวยื่นมาจับเข็นรถเข็นไปจ่ายเงิน แต่คนตัวสูงแขนยาวนั้นกลับไวกว่า ชิงรถเข็นไปเข็นเอง ไม่พอ ยังใช้ความเร็วมือนั้นชิงจ่ายเงินกับแคชเชียร์ก่อนด้วย

เขมค้อนตาใส่คนที่ทำเป็นยิ้มอยู่ข้าง ๆ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะใจไม่กล้าพอ

ใครจะไปกล้ากับคนในใจของตัวเองได้ล่ะ...

เฮ้อ

เมื่อกลับมาถึงห้อง สองหนุ่มก็พบว่าคุณราตรีกลับมาถึงห้องแล้ว ทั้งยังอาบน้ำเรียบร้อยนั่งเล่นกับคุณมณีและตะวันอยู่ในห้องนั่งเล่น

ใช่... คุณมณีจะลงมาอยู่กับน้องตะวันในช่วงที่เจ้านายไม่อยู่ทุกวัน เพราะเด็กชายตะวันติดพี่กระต่ายขนปุยมาก

“ซื้อของมาทำกินเหรอลูก”ราตรีลุกขึ้นจากกองหมอนของเด็ก ๆ แล้วเดินมาหาลูกชาย “วางไว้สิ เดี๋ยวแม่ทำให้”

“ผมทำเองก็ได้ครับ”เขมเอาของในมือไปวางบนโต๊ะในห้องครัว “แค่หั่นของสำหรับทำสุกี้เอง เรื่องแค่นี้ผมทำได้ สบายมาก”

“ใช่ ๆ มันเป็นเรื่องง่าย ๆ สบายมาก เพราะงั้นเขมไปอาบน้ำอาบท่าซะนะ เดี๋ยวแม่ทำเอง”คุณหญิงแม่ไม่ว่าเปล่า เดินไปเปิดน้ำใส่กะละมังใบเล็ก หยิบมีดหยิบเขียงเตรียมอาวุธพร้อมครบมือ “อะไรง่าย ๆ ทำเอง เดี๋ยวยาก ๆ เขมก็ทำไปไง”

“อา...”เด็กหนุ่มยืนกระพริบตาพริบ ๆ กับท่าทางกระตือรือร้นเกินร้อยของมารดา “งั้นผมไปอาบน้ำนะครับ”

“จ้า”คุณแม่ที่ยังดูสาวตอบรับเสียงใส “อย่าลืมเอาข้าวให้ตะวันด้วยนะลูก”

“โอเคครับ”เขมเดินไปที่กองหมด กะว่าจะมาเทข้าวให้ตะวันเลยน้องจะได้ไม่ต้องแขวนท้องรอเขาอาบน้ำ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ต้องให้แล้วล่ะมั้ง...

ภาพของหมาขุนฟูสีขาวที่นอนหงายท้องโชว์พุงป่อง ๆ ช่างบาดตาบาดใจคนเป็นเจ้านายนัก

อะไรมันจะอิ่มหนำสำราญข้าวไม่เหลือไว้เป็นหลักฐานสักเม็ดขนาดนั้น

เขายืมมองลูกหมาที่โตวันโตคืนอย่างหมั่นไส้อยู่แป๊ปนึง ก่อนที่จะพาตัวเองเข้าห้องน้ำไป

เพราะอยากจะรีบออกมาช่วยแม่เตรียมมื้อเย็น เขมทิวาเลยรีบอาบน้ำอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เช็ดตัวยังไม่ทันแห้งสนิทก็ใส่เสื้อผ้ารีบร้อนออกมาแล้ว

แต่ดูเหมือนว่าเขาจะประเมินฝีมือคนครัวเก่าต่ำไปสักหน่อย

เวลาเพียงแค่ห้านาทีผักที่ซื้อมานั้นก็ถูกซอยหั่นเป็นชิ้นพอดีคำแล้ว และตอนนี้แม่ของเขากำลังเริ่มหันเนื้อ

คมมีดที่ปาดลงบนเนื้อสดนั้นฉึบเดียวขาด ๆ ไม่มีการซ้ำสอง ชิ้นที่หันออกมาก็พอดีคำซะจนคนตั้งใจจะเดินมาช่วยรู้สึกอายตัวเอง

จริง ๆ เขมก็ไม่ได้หั่นได้ขี้เหล่กินเนื้อหรืออะไรหรอก แค่ความไวในการหั่นนี่สิ ทิ้งห่างกันแบบไม่เห็นฝุ่นเลย

แทนที่จะไปรบกวนเวลากับเฉือนเนื้อของแม่ เขมหันไปเตรียมหม้อจัดโต๊ะให้พร้อมกินมื้อเย็นกันคงมีประโยชน์มากกว่า

สองแม่ลูกใช้เวลาไม่นานในการเตรียมมื้อเย็นให้เสร็จเรียบร้อยพร้อมรับประทาน

ราตรีมาจำนวนจานชามบนโต๊ะแล้วยิ้มอ่อน เธอเดาไว้ไม่ผิดเลยว่ามันจะต้องไม่ได้มีแค่สองชุด

แล้วไม่ต้องบอกเช่นกันว่าไอ้ชุดที่สามเนี่ย ของใคร เธอพนันได้เลยว่าอีกไม่ถึงห้านาทีเจ้าของมันต้องโผล่หัวมา

และมันก็เป็นอย่างนั้น เมื่อเขมกับแม่นั่งลงก้นยังไม่ทันแตะเก้าอี้ เสียงประตูห้องเปิดก็ดังแว่วเข้ามาในหู ก่อนที่ร่างสูงโปร่งของใครบางคนจะเดินมานั่งตรงที่ของเขา

อืม... ราวกับว่าเป็นบ้านของตัวเองจริง ๆ

เขมยิ้มให้กับคนในใจของตัวเองที่ดูจะตัวชื้น ๆ ไม่ต่างจากเขาสักเท่าไหร่ ก่อนจะจัดการเทผักลงหม้อ แล้วตามด้วยลูกชิ้นและเนื้อสัตว์ พอพวกมันสุดแล้วเขาก็คีบใส่ชามของแม่กับรณกฤตจนแทบจะเต็มชาม

“เขมก็กินบ้างสิ”ต่ายคีบเนื้อปลาวางลงในชามของเด็กหนุ่มรุ่นน้อง “ไม่ต้องผอมนักก็ได้”

“ผมไม่ได้กลัวอ้วนสักหน่อย”เขมทำหน้ายู่ใส่คนที่มากล่าวหาเขา “ผมออกกำลังกายอยู่เกือบทุกวันนะครับ”

“ออกกำลังกาย?”ต่ายทวนคำแล้วเลิกคิ้วขึ้นน้อย ๆ “อ่อ ทำงานบ้านน่ะเหรอ”

“แค่ขยับเท่ากับออกกำลังกายไงครับ”

“ไม่เถียง ๆ”

ราตรีมองชายหนุ่มสองคนที่คุยกับจุกจิกด้วยความรู้สึกเหม็นเบื่อ เหม็น ๆ ๆ กลิ่นความรักที่อบอวลเสียจริง บางทีเธอก็อยากจะแหวกทะลุกลางปล้องเหมือนกันนั่นล่ะว่าเนี่ย แม่อยู่ตรงนี้ เห็นหัวแม่ด้วย แต่ก็เกรงว่าตัวเองจะกลายเป็นคนที่ดูจะไร้มารยาทพูดแทรกคนอื่น

เป็นผู้ใหญ่นี่มันลำบากจริง ๆ

เฮ้อ



ชีวิตการเรียนของเขมทิวายังดูเป็นปกติสุข เช้ามีรณกฤตไปส่ง เย็นหลังซ้อมควงคฑาเสร็จก็กลับพร้อมรณกฤตเหมือนเดิม ตอนนี้แทบจะเรียกได้ว่าทั้งคู่ตัวติดกันยิ่งกว่าฝาแฝดซะอีก

เสียงกระซิบที่ตั้งข้อสงสัยเที่ยวกับความสัมพันธ์ของสองหนุ่มหน้าตาดีที่เคยแผ่วเบา ในระยะนี้กลับดังขึ้นมาจนแว่วเข้าหูของคนคิดมากจนได้

เขมเหลือบมองคนที่ซุบซิบกันตอนที่เขาเดินผ่าน ดวงตาคู่สวยนั้นฉาบแววกังวลเอาไว้จาง ๆ

กับเขาที่โดยเพื่อน ๆ ล้ออยู่เรื่อย ๆ ก็ยังพอทำเมินกับเสียงพวกนี้ไปได้ แต่ว่าพี่ต่ายจะคิดอย่างนั้นหรือเปล่า...

ถ้าพี่เขาไม่ชอบ... ไม่พอใจขึ้นมาจะทำยังไง

แต่จะให้เขาไปบอกกับทุกคนที่พูดคุยกันในกลุ่มของตัวเอง มันก็คงเป็นไปไม่ได้

คงได้แต่หวังว่าคนในใจของเขาจะไม่ได้ยินคำพูดพวกนั้นล่ะนะ...

เพราะมีความคิดกังวลวนเวียนอยู่ในหัวทำให้เด็กหนุ่มที่เป็นอันดับหนึ่งของคลาสนั้นทำข้อสอบควิชออนไลน์ผิดไปสามข้อ เป็นที่ตกใจปนสงสัยของเพื่อน ๆ ในคลาส

แต่ถึงจะตอบพลาดไปถึงสามข้อ เขมก็ยังได้คะแนนเป็นอันดับหนึ่งอยู่ดี ทำให้อาจารย์ผู้สอนไม่รู้สึกติดใจอะไรนัก

“นี่ ๆ คุณหนูขราาาา วันนี้เป็นอะไรไปเหรอคะ”แอนเดรียถูกส่งมาเป็นตัวแทนซักถามคุณหนูของพวกเขาอีกครั้งของอีกครั้ง “สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวอีกแล้ว หรือว่าพวกนั้นยังไม่เลิกหาเรื่องคุณหนูขราของแอนเดรียกันล่ะคะ”

“อ่า... ไม่ได้เป็นอะไรหรอก”เขมหันไปยิ้มให้เพื่อนตาหยี “แต่มีเรื่องให้คิดนิดหน่อย แต่มันก็ไม่ได้สำคัญอะไรมากมายหรอก”

“ไม่มั้ง  สีหน้าของคุณหนูบอกให้เห็นชัด ๆ ว่าคุณหนูต้องมีปัญหาในใจ”หนุ่มน้อยหัวใจใสปิ๊งเอนหน้าซบแขนที่ไร้ไขมันส่วนเกินของคนข้างตัว “ไหน ๆ บอกแอนเดรียหน่อยสิคะ”

“ไม่มีอะไรจริง ๆ นะ”เขมหันไปสบตากับคนที่เกาะแขนเขาอยู่ “แอนเดรียไม่เชื่อผมเหรอครับ”

น้ำเสียงนุ่มทุ้มกับสายตาที่ดูอบอุ่นชวนใจละลายทำเอาหนุ่มน้อยวัยใสหัวใจอ่อนยวบ

“พวกกูก็อยากรู้ว่ามึงเป็นอะไรไปนะเขม”เทนนิสยื่นหน้าเข้ามาหาเพื่อนสนิทที่ทำตัวให้เป็นห่วงอยู่เรื่อย “มึงไม่มีทางเป็นปกติแน่ ๆ ไม่งั้นมึงไม่มีทางตอบคำถามข้อโง่ ๆ ง่าย ๆ ผิดแน่นอน”

“นั่นสิ มีอะไรให้คิดอยู่เหรอ”ทัศน์หันมาย้ำถามอีกคน พอเจอสามรุมหนึ่งเขมก็ได้แต่ยิ้มเจื่อน ๆ

เหมือนเขาจะเห็นสาวสวยกำลังเดินมาสมทบเป็นคนที่สี่ด้วย...

“มันไม่ได้มีอะไรจริง ๆ นะ”เขมทำตาใสใส่ทุกคนที่มายืนล้อมเขาราวกับว่าจะจับเขาไปทำพิธีอะไรสักอย่าง แต่ทุกคนก็จ้องตรงมาตาเขม็งจนเป็นเขาเองที่ต้องถอนหายใจ  “ก็แค่ได้ยินคนพูดถึงเรา... กับพี่ต่ายแค่นั้นเอง ไม่ได้มีอะไรหรอก”

คำว่าไม่มีอะไรมักจะมีอะไรเสมอ และมันก็มีจริง ๆ

“เรื่องที่เขาคุยกันว่านายกับรุ่นพี่เศรษฐศาสตร์คนนั้นคบกันใช่ไหม”ลิลี่ที่มาคนสุดท้ายถามขึ้นคนแรก

“อือ...”

“ก็บอกไปสิว่าคบกันแล้ว เขาจะได้เลิกซุบซิบ”

“ไม่ได้คบกันสักหน่อย”

“จ้า ๆ ไม่ได้คบกัน”

“แค่ย้ายไปอยู่ด้วยกัน”

“แค่ทำข้าวกล่องให้กิน”

“แค่มาเรียนและกลับบ้านด้วยกัน...”

จากการบังคับให้ระบายความคิดเล็ก ๆ ไปสู่การหยอกล้อให้เพื่อนเลิกคิดมากซึ่งมันก็ดูจะสำเร็จเพราะตอนนี้เจ้าตัวเปลี่ยนไปเขินหน้าแดงแทนแล้ว

“อ๊พ หน้าแดง ๆ”แอนเดรียจิ้มแก้วนิ้ม ๆ ของเพื่อนหยอก ๆ ท่ามกลางเสียงหัวเราจะคนอื่น ๆ

“น้องเขม”เสียงที่ทุกคนในที่นี้คุ้นหูกันดีดังขึ้นจากทางหน้าประตูห้องเรียน “เลิกเรียนแล้วใช่ไหมครับ”

ต่ายเดินเข้ามาหาร่างโปร่งที่นั่งยิ้มแก้มขึ้นสีอยู่กลางวงเพื่อน ๆ เขาพยักหน้ารับการสวัสดีจากเหล่าเด็กปีหนึ่งมือไม้อ่อนแต่ไม่ได้หันไปมองเลย

สายตามองคน ๆ เดียว...

ทุกคนที่ถูกเมินสนิทพากันสำรวจเพดานห้องเรียนอย่างพร้อมเพรียง นั่ง ๆ ยืน ๆ ดมกลิ่นเหม็น ๆ ไปด้วยกัน

เหม็นทั้งความรัก เหม็นทั้งหัวเน่า ๆ ของพวกเขานี่ล่ะ!

“ไปกันเถอะ”รณกฤตยื่นมือส่งให้คนที่นั่งอยู่จับ ก่อนที่จะพาใครอีกคนออกจากห้องไป

“วันนี้ไม่มีซ้อมนะครับ”เขมกระซิบคนที่เอาแต่จูงเขาเดินไปข้างหน้าไม่พูดอะไรสักคำ

“ครับ พี่จำได้”น้ำเสียงของต่ายยังคงอบอุ่นเหมือนปกติ ทำให้เด็กหนุ่มใจชื้นขึ้นมาหน่อย

“... พี่ต่ายครับ”

“ครับ น้องเขม”

“ได้ยินที่เขาพูดกันหรือยังครับ”เสียงของเขมสั่นน้อย ๆ ด้วยความประหม่า

“เรื่องที่คนคุยกันว่าเราคบกันใช่ไหม พี่ได้ยินแล้วครับ”ต่ายอมยิ้มบาง ๆ เมื่อนึกภาพอะไรบางอย่างออกมาได้ “ทำไมเหรอครับ”

“พี่คิดมากไหม...”น้ำเสียงอ่อย ๆ ของเด็กหนุ่มทำเอาใครอีกคนต้องกลั้นหัวเราะเอาไว้

“ไม่หรอก พี่จะต้องคิดมากทำไมกันล่ะครับ”ชายหนุ่มยังคงตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลเหมือนเดิม “เรื่องจริงในอนาคต พี่ไม่คิดมากหรอก”



ดีจัง พี่ต่ายไม่คิดมาก



แต่เดี๋ยวนะ...



เรื่องจริงในอนาคตงั้นเหรอ?!!!

 



$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$

พี่ต่ายนี่ลีลาจริง ๆ เลยน้าาาา ทำใจน้องเต้นเอา ๆ เดี๋ยวน้องก็ช็อกหรอก // ตีมือ



ติชมกันได้นะคะ #คนในใจ #พี่ต่ายน้องเขม

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

เหม็นฟาร์มรัก

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ท่ามากนะพี่ต่าย 5555

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
คุณแม่ 55555555555555555555
อนาคตใกล้มาถึงยังคะคุณพี่  :hao7:

ออฟไลน์ midnight

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +168/-8
    • Fanpage
บทที่ 15

สองใจ



เขมขยับตัวลงจากรถที่นั่งจนชินในตอนเช้า เขาหันไปยิ้มแล้วโบกมือลาคนที่มาส่งเขาและยืนมองจนรถคันนั้นเคลื่อนลับสายตาเขาไป

“เฮ้อ”เด็กหนุ่มถอนหายใจเบา ๆ สองสามวันมานี้พี่ต่ายดูแปลก ๆ ถึงจะยังมารับมาส่งเหมือนปกติ แต่ก็ไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไหร่ ข้าวเย็นก็ไม่มากินด้วยกัน

ดูยุ่ง ๆ ยังไงไม่รู้

เขมปรับอารมณ์ตัวเองให้เป็นปกติก่อนจะเดินเข้าไปในตึกคณะพร้อมใบหน้าที่ยิ้มแย้มสดใสเหมือนเคย

คราวนี้ต้องไม่ให้พวกเพื่อน ๆ จับได้

“เย็นนี้ไปกินหมูทะบุฟเฟ่ต์กันไหม ทัศน์ เขม”ลิลี่เดินเข้ามาชวนหนุ่ม ๆ ที่พูดง่ายที่สุดในคณะเป็นกลุ่มแรก “วันนี้วันเกินฉันน่ะ”

“วันเกิดเหรอ?”เขมทวนคำที่ได้ยินพร้อมทั้งเบิกตากว้างขึ้นเล็กน้อย “แฮป——“

“เกิดอยากจะกินเยอะๆ”สาวสวยขัดคอหนุ่มหน้าตาดีของเพื่อน ๆ ไว้ก่อนที่เจ้าตัวจะหน้าแตกหมอไม่รับเย็บ “ไปนะ นี่กูจะชวนไปทั้งชั้นปีเลยเนี่ย”

“เดี๋ยวถะ... เอ่อ ไปก็ได้”ตอนแรกเขมจะขอไปถามผู้ปกครองหัวใจของเขาก่อน แต่ก็ชะงักไว้เพราะคน ๆ นั้นดูจะยุ่ง ๆ อยู่ เขาไม่อยากเข้าไปกวน “กินแถวมอ.เลยใช่ไหม”

“ช่ายย”ลิลี่พยักหน้ารับอย่างพอใจ ก่อนที่จะเดินอาด ๆ ไปชวนกึ่งบังคับเพื่อนคนอื่นต่อ “ไปโว้ยยย คนที่ยุ่งที่สุดยังไปได้ ไอ้พวกว่างงานอย่ามาปฏิเสธ”

มีการเอาคนยุ่งหัวปักเพราะงานกีฬาไปอ้างด้วย...

เพราะช่วงเย็นทุกคนมีเป้าหมายในการไปกินให้เต็มคราบ วันนี้ทั้งวันเหล่าอาจารย์เลยได้เป็นปลื้มเพราะนักศึกษาที่น่ารักทั้งหลายของพวกเขานั้นไม่เอาของจุกจิกเข้ามากินเลย

ทันทีที่สิ้นเสียงอาจารย์ในคาบเลคเชอร์สุดท้ายของวันนี้ เหล่านักศึกษาผู้โหยหิวต่างพร้อมใจกันกวาดของทุกอย่างลงกระเป๋า หยิบแก้วชานมพุ่งออกจากห้องกันไปก่อนอาจารย์จะออกไปซะอีก

“แหม วันนี้เด็ก ๆ ขันแข็งกันจริง ๆ”อาจารย์วัยกลางคนมองลูกศิษย์อย่างเป็นปลื้ม พวกเขาจะต้องรีบเร่งไปทำรายงานที่จะต้องส่งในสัปดาห์หน้ากันแน่ ๆ

ถ้าขยันกันแบบนี้ตลอด ปีนี้เธอคงได้แจก A รัว ๆ ให้กับเด็ก ๆ อักษรศาสตร์... เยี่ยมไปเลย

“หกโมงเจอกันที่ร้านเลยนะทุกคน”ลิลี่หันมาย้ำเพื่อน ๆ อีกครั้ง ก่อนที่ทุกคนจะสลายตัวไปเปลี่ยนเสื้อผ้าให้หลวม ๆ ปิดพุงที่จะป่องเหมือนคนท้องสามเดือนขึ้นไปหลังกินเสร็จ

เขมเองก็ต้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเหมือนกัน โชคดีที่วันนี้ไม่มีนัดซ้อมเพราะคณะพยาบาลมีงานรับหมวก สาว ๆ ในขบวนจะหายไปเกือบครึ่งทางสภาเลยถือโอกาสนี้ให้ทุกคนได้พักผ่อนกันไป แล้วมาลุยซ้อมกันต่อวันพรุ่งนี้แทน

“เขม”ต่ายที่นั่งอยู่กับกลุ่มเพื่อนผุดลุกขึ้นเมื่อเห็นร่างโปร่งเดินเข้ามาในคณะ “เลิกเรียนแล้วเหรอ”

“ครับ พี่ต่ายยุ่งอยู่หรือเปล่า”เขมมองไปยังโต๊ะหินอ่อนที่มีหนังสือวางกองอยู่

“ติวหนังสือกันนิดหน่อย จะเสร็จแล้วล่ะ”เพื่อน ๆ ของรณกฤตพยักหน้ารับคำกล่าวของคนหล่อหัวดีนิสัยเยี่ยมประจำคณะ ทั้งที่ในใจแอบก่นด่ากันนเบา ๆ

จะเสร็จพ่อง เพิ่งเริ่มไหม

“งั้นเหรอครับ”เด็กหนุ่มรุ่นน้องไม่ซักต่อทั้งที่เขาเห็นสายตาของรุ่นพี่บางคนกรอกไปกรอกมา

“เขมจะกลับเลยไหม”เขมส่ายหน้าเป็นคำตอบให้กับคนถามแล้วส่งยิ้มบางให้เจ้าตัว

“เพื่อน ๆ นัดไปกินหมูกะทะข้างมหาลัยกันน่ะครับ ผมเลยมาบอกก่อน”ดวงตาหลังกรอบแว่นหลุบลงมองพื้นเมื่อเห็นหัวคิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน “พี่ต่ายจะได้ไม่ต้องรอ...”

“กินร้านไหนกันล่ะ”น้ำเสียงของชายหนุ่มเปลี่ยนไปเล็กน้อย แน่นอนว่าคนที่ใส่ใจเจ้าตัวอยู่ตลอดเวลาย่อมสัมผัสได้

“เอ่อ...”เด็กหนุ่มรู้สึกเกร็งขึ้นมาเมื่อรุ่นพี่เหมือนจะดุเขา “มิสเตอร์อินดี้ครับ”

“แล้วจะกลับกี่โมง”ต่ายซักต่อทันทีไม่เว้นจังหวะให้อีกฝ่ายได้หายใจเลยแม้แต่วินาทีเดียว

“น่าจะประมาณสองสามทุ่มน่ะครับ”

“งั้นเหรอ แล้ว...”

ต่ายยังคงถามโน้นถามนี่ละเอียดยิบจนเหล่าเพื่อน ๆ ที่นั่งเท้าคางรออยู่อดที่จะคิดไม่ได้ว่าเป็นรุ่นพี่หรือเป็นแม่น้องมันกันแน่

กว่ารุ่นพี่หนุ่มจะปล่อยรุ่นน้องต่างคณะไปเปลี่ยนเสื้อผ้าได้ก็กินเวลาไปเป็นสิบนาที

“แล้วนายจะเอาไง คุณเจ้าชาย”

“ตามแผนเดิม”

ก็แค่เปลี่ยนที่เท่านั้นเอง



เขมนั่งรถขนส่งสารธารณะยอดฮิตสำหรับคนทั่วไปอย่างรถเมล์มาจัดการตัวเองที่ห้องในคอนโด เขาทำอาหารง่าย ๆ อย่างผัดผักคะน้าและปลานึ่งกับน้ำจิ้มเอาไว้ให้แม่ของเขา ถ่ายรูปอีกนิด ไลน์ไปบอกอีกหน่อยก่อนจะออกจากห้องไปหาเพื่อน ๆ ที่น่าจะทยอยกันไปร้านหมูกระทะแล้ว

จะว่าไปเขาก็ไม่ได้กินหมูกระทะมาพักนึงแล้ว ตั้งแต่ได้รู้จักกับคนในใจของเขา...

วันนี้จะกินให้เต็มคราบเลยคอยดู

เวลาที่ลิลี่นัดไว้คือหกโมงตรง แต่เด็กหนุ่มที่ต้องฝ่าวิกฤตการจราจรบนท้องถนนนั้นย่อมมาไม่ทัน กว่าเขาจะมาถึงร้านฟ้าก็มืดแล้ว เพื่อน ๆ ส่วนใหญ่ก็มากันหมดจนแน่นโต๊ะที่เอามาต่อเรียงกันยาวเป็นแถวเดียวเหมือนโต๊ะโรงอาหารสมัยเด็ก กระทะบนเต่าถ่ายนั้นก็ร้อนจี๋พร้อมให้เอาเนื้อหมูและเพื่อน ๆ ของมันไปวางนาบ

“คุณหนูมาแล้ว เอ้า ปรบมืออออ”เสียงปรบมือต้อนรับคนมาสายดังกลบเสียงดนตรีที่ทางร้านเปิดเอาไว้ให้แขกที่มาใช้บริการฟังกัน “นั่ง ๆ เดี๋ยวหมูหมดไม่รู้ด้วยนะ”

หมูหมด... เดี๋ยวนะ นี่จะมาล้างบางร้านบุฟเฟ่ต์เหรอ...

“ทำไมถึงชวนกินหมูทะวะ ลี่”เพื่อนคนนึงที่กำลังพลิกเนื้อบนกะทะหันไปถามตัวตั้งตัวตีที่ยกทั้งชั้นปีมานั่งกินหมูกะทะด้วยกันแบบนี้

“อ้อ เมื่อวานฉันฟังเพลงแล้วอยากขึ้นมานะ”สาวเจ้าตอบกลับสบาย ๆ เหตุผลก็... สบาย ๆ ไม่ต่างกันเท่าไหร่

“เพลง?”

“จับเธอมาปิ้ง พลิกไปพลิกมา
ย่างเธอจนเกรียมน้ำมันหยดซู่ซ่า
คุณหมูจ๋า ฉันสัญญาจะเคี้ยวเธอเบาๆ
เข้าปากแล้วรอให้เธอละลาย นี่คือพาราไดซ์ ที่อยู่ตรงหน้าเตา
ขอบคุณจริงๆ ที่ยอมหลอมละลายไปกับลิ้นเรา (ปิ้งย่าง – Swet 16)”ลิลี่ร้องไปเต้นไปให้เพื่อน ๆ ดู

“นี่เธอตามไอดอลด้วยเหรอเนี่ย”เสียงจากเพื่อนอีกคนนึงถามขึ้นอย่างประหลาดใจ

“เปล่านะ ฉันเห็นในข่าวช่องน้อยสี”ดาวคณะหันไปตอบเพื่อนคนนั้นตาใส “แล้วมันดี๊ดี เลยไปกดไลค์ติดตามสักหน่อย”

เขมทิวาที่ไม่รู้จักไอดอลนั้นเปิดมือถือเสิร์จหาเพลงเต็ม ๆ ไว้กลับไปลองฟัง แต่ดูจากเนื้อร้องแล้วเขาก็อดคิดไม่ได้...

นี่มันเพลงชาติหมูกะทะชัด ๆ

มือขาวคีบเอากุ้งไปวางแอบ ๆ เอาไว้สองสามตัว ตามด้วยหมูสไลด์ ตาแอบมองเพื่อนซ้ายขวาด้วยเกรงว่าใครจะมาแย่งของเขาไปอีก

เขาคีบเนื้อลงปิ้งเต็มเตา ได้กินสองชิ้น... อย่างงั้นก็ไปปิ้งกันเองเถอะนะทุกคน

การล้อมวงกินหมูกะทะของคณะอักษรศาสตร์นั้นไร้แอลกอฮอล์มาเกี่ยวข้อง  งานนี้ต้องเนื้อเน้น ๆ ผักนิด ๆ น้ำอัดลมช่วยย่อยหน่อย ๆ อย่างอื่นนั้นขอเชิญป้ายหน้าเวลานี้ไม่ยินดีต้อนรับ

ฟาดฟันกระชากมิตรกันอยู่ตรงหน้าเตาร้อน ๆ ชั่วโมงเศษอัตราเร็วในการกินถึงผ่อนลง ในขณะเดียวกันก็มีคนที่เริ่มอิ่มแล้ว

หนึ่งในคนที่อิ่มจนหันมานั่งจิบน้ำแทนแล้วคือคุณหนูเขมของทุกคน ซึ่งมันไม่ได้สร้างความประหลาดใจให้กับใครเลยสักนิด ออกจะตกใจที่เจ้าตัวกินได้เยอะกว่าที่คาดไว้มากกว่าอีก

เห็นหุ่นลีน ๆ ไร้ไขมันส่วนเกินแบบนั้นก็กินดุใช่ย่อยแหะ

“นายมานานแบบนี้ พี่เขาไม่ว่าเหรอเขม”ทัศน์กระซิบถามคนที่นั่งโปรยยิ้มหวานอยู่ข้าง ๆ

“พี่? พี่ต่ายน่ะเหรอ”เขมทิวาหันไปเอียงคอใส่เพื่อนแล้วส่ายหน้า “ก็ไม่อะไรนะ เราบอกพี่เขาไว้แล้วด้วย”

“งั้นเหรอ”ทัศน์ยังคงมีข้อสงสัยในใจ แต่เขาไม่ถามอะไรออกมาอีก

ก็ปกติเห็นรุ่นพี่ต่างคณะคนนั้นหวงเพื่อนเขาอย่างกับจงอางหวงไข่ จะไปไหนก็ตามติดมาด้วยเป็นแพ็คคู่ซื้อหนึ่งแถมหนึ่งแบบบังคับไม่มีตัวเลือก  ขนาดติดธุระไม่ว่างก็ยังปลีกตัวมารับไม่ขาดด้วยซ้ำ

แต่นี่ปล่อยให้มากินข้าวกับเพื่อน ๆ ได้นานขนาดนี้ โดยไม่มีแม้แต่การติดต่อมา... มันแปลกเกินไปหน่อยนะ

ทัศน์จดข้อสงสัยนี้ไว้ในใจ เก็บเอาไว้หาคำตอบทีหลัง แต่ดูเหมือนว่าคำตอบอาจจะมาหาถึงที่เองแล้ว

“น้องเขม”เสียงของคนที่เด็กหนุ่มแอบคิดถึงดังขึ้นจากทางด้านหลัง “อิ่มแล้วเหรอครับ”

“พี่ต่าย”รอยยิ้มบนใบหน้าคุณหนูอักษรหวานขึ้นหลายส่วนจนเพื่อน ๆ ที่แอบมองต่างหันหน้าหนีไปกรอกตามองบน

แค่ได้ยินเสียงเรียกก็ยิ้มหวานขนาดนี้ แต่ปากบอกยังไม่คบกัน ยังไม่คบกัน!!

“อร่อยไหม”รณกฤตนั่งลงข้างรุ่นน้องต่างคณะหลังจากที่เทนนิสเฟดตัวเองออกไปนั่งตรงอื่นอย่างรู้หน้าที่

“อร่อยนะครับ”เขมคีบเอาหมูจากทัศน์ขึ้นปิ้งบนเตา “เอาไว้พวกเรามากินด้วยกันวันหลังนะครับ”

“ได้สิ”ต่ายตอบกลับยิ้ม ๆ “น้องเขมครับ”

“ครับ?”เด็กหนุ่มหันมามองใบหน้าของผู้ที่เรียกเขาเสียงนุ่มปนหวาน

“พี่มีของจะให้”ต่ายยิ้มขบขันเมื่อเห็นสีหน้าฉงนของเด็กดีของเขา “อยากหลับตาไหมครับ”

“ต้องหลับตาด้วยเหรอครับ”เขมกระพริบตาปริบ ๆ มองคนตรงหน้างง ๆ

“ไม่ต้องหรอกครับ”

“อ้าว...”ไม่ใช่แค่เขมทิวาที่อ้าว ก๊วนคนใส่ใจผู้อื่นที่แอบฟังอยู่รอบ ๆ ก็อุทานออกมาเหมือนกัน

รณกฤตหัวเราะออกมาแล้วหันไปรับของจากเพื่อนที่ยื่นมาให้ส่งให้กับน้องเขมของเขา

ของที่เขาใช้เวลาอยู่พักใหญ่ถึงจะเตรียมมันขึ้นมาได้

“อะไรน่ะครับ”เขมรับกล่องกระดาษสีหวานมาไว้ในมือ เขามองของสิ่งนั้นอย่างสงสัย

“เปิดดูสิ”รอยยิ้มบนหน้าของเจ้าชายเศรษฐศาสตร์ดูหวานขึ้นและดูแฝงความนัยน์บางอย่างไว้ด้วย

ทัศน์ขยับตัวมาเคลียร์โต๊ะให้กับเพื่อนอย่างรู้หน้าที่ไม่จำเป็นต้องให้ใครมาสั่ง สารพัดจานชามถ้วยน้ำจิ้มที่วางอยู่ก็ถูกส่งไปวางที่อื่น เขาจัดการเช็ดโต๊ะตรงหน้าเพื่อนสนิทจนสะอาดเอี่ยมแม้แต่คราบน้ำจิ้มน้ำมันหยดกระเด็นก็ไม่เหลือ

ขอขอบคุณสนับสนุนทิชชู่เปียกสำหรับทำความสะอาดจากสาว ๆ แห่งคณะอักษรศาสตร์ที่ทำให้งานทุกอย่างง่ายขึ้น

เขมวางกล่องที่ได้รับมาลงบนโต๊ะ เขาดึงริบบิ้นออกก่อนแล้วค่อย ๆ  แกะเทปที่ติดรอบ ๆ ออก

“เปิดแล้วนะครับ”เขมเอ่ยขึ้นเบา ๆ

“อื้อ”เสียงขานรับมาจากทั่วทิศ ยกเว้นต่ายคนเดียวที่ส่งยิ้มให้เป็นคำตอบ

มือขาวเปิดกล่องออกมาพบเค้กรูปหนังสืออยู่ภายในบนหน้าเค้กเขียนประโยคนึงเอาไว้



Will you be my Valentine?



เสียงฮือฮาจากคนรอบข้างดังอื้ออึง แต่มันไม่อยู่ในความสนใจของเด็กหนุ่มที่นั่งตาค้างหน้าขึ้นสีไปเรียบร้อยแล้ว

พี่ต่ายของเขาเป็นแฟน!

คนในใจของเขาขอคบกับเขา!!

“ว่าไงครับ เด็กดี”เสียงทุ้มกระซิบข้างใบหูขาวแผ่วเบา “คบกับพี่ไหมครับ เขมทิวา”

“พี่ต่าย...”เขมหันไปมองใบหน้าหล่อเหลาของคนในใจที่พราวไปด้วยรอยยิ้มที่แสนอ่อนโยน “...ครับ”

เขมตอบตกลงไปอย่างเขิน ๆ แล้วเบือนหน้ามามองเค้กหลบสายตาใครอีกคน

ตอนนี้ไม่อยากจะเชื่อในสิ่งตาเห็น เขาไม่ได้หูแว่วหรือตาฝาดไปเองจริง ๆ ใช่ไหม แล้วก็ไม่ได้ฝันไปด้วยใช่หรือเปล่า

“ไม่กินเค้กเหรอครับ”ต่ายเปรยถามขึ้นเมื่อเห็นแฟนหมาด ๆ ของตนเองมองเค้กที่เขาเอามาให้นิ่ง

“กินครับกิน”เขมเรียกสติของตัวเองกลับมาเข้าร่าง หยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปเค้กก้อนนี้เก็บเอาไว้เป็นความทรงจำก่อนจะหยิบมีดพลาสติกขึ้นมาเตรียมตัดเค้กสวย ๆ ตรงหน้า

“พี่ต่ายซื้อเค้กร้านไหนมาอ่ะ”เทนนิสเสนอหน้ามี่ยิ้มร่ามาถามชายหนุ่มรุ่นพี่ “โอ๊ะ!! พี่ต่ายขอไอ้เขมเป็นแฟนแล้วล่ะพวกเรา”

“เออ!!”ทุกคนขานรับแบบหน่าย ๆ ใจ เห็นกันอยู่ตำตาเนี่ย หูก็เงี่ยฟังกันจนแทบจะยืดแข่งกับจมูกของพิน็อคคิโอ้แล้ว

มึงไปอยู่ไหนมา ไอ้ลูกหมา!!!

“ดูแลเพื่อนผมดี ๆ นะพี่ เนี่ย ไอ้เขมมันน่าสงสาร เมื่อก่อนก็ต้องทำงานพิเศษงก ๆ ไม่เคยจะมีใครดูแลมันสักคน”เทนนิสร่ายยาวฝากฝังเพื่อนสนิทเอาไว้กับคุณแฟนของเพื่อนราวกับตัวเองเป็นแม่ของเขมทิวายังไงยังงั้น “ได้เพื่อนผมไปดูแลแล้วอย่าทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ นะ เอาใจมันให้เยอะ ๆ ด้ว--- ฮะ เฮ้ย ทัศน์ กูยังพูดไม่จบบบ”

ทัศน์หิ้วเพื่อนที่เอาแต่พูดไม่ดูตาม้าตาเรือไปเก็บไว้ในดงสาวงามของคณะ ให้เหล่าเพื่อนชายใจสาวคอยดูแลปากของมันเอาไว้

“มันตัดได้ไม่สุดนะครับ พี่ต่าย”เขมเอียงหัวมองเจ้าก้อนขนมปังที่มีครีมโป๊ะข้างหน้าด้วยความงุนงง “ทำไมล่ะ”

มีดใส ๆ เขี่ยเอาเนื้อเค้กที่ตัดออกได้ให้ขยับออกไปเพื่อดูว่าข้างในมีอะไรอยู่ เม็ดช็อกโกแล็ตเหรอ

“กรี๊ดดดด”เสียงกรี๊ดของแอนเดรียดังลั่นจนคนที่อยู่รอบ ๆ ทุกคนต้องหันควับไปมองเป็นตาเดียว

เกิดอะไรขึ้นน่ะ ทำไมเขมถึงถือมีดค้างไว้แบบนั้น... หรือว่าเกิดปัญหาอะไรขึ้น?

“อิลี่ ขุดเร็ว!!”เสี้ยวตัว D ที่โผล่มาแวบ ๆ นั้นช่างบาดใจกระเทยยิ่งนัก เธอไม่รอให้เพื่อนที่กำลังตกใจอยู่เป็นคนตัดแล้ว มันไม่ทันใจ

“พะ พี่ต่าย นั่นมัน”เขมหันไปพูดกับคนที่นั่งหัวเราะอยู่ข้าง ๆ ด้วยเสียงตะกุกตะกัก

“เซอร์ไพรท์ไงครับ ไม่ชอบเหรอ”น้ำเสียงของรณกฤตเต็มไปด้วยการหยอกล้อคนที่หน้าแดงก่ำ “เค้กนี่พี่ทำเองเลยนะครับ น้องเขม”

ถึงจะทำเองก็เถอะ แต่ข้างที่อยู่ข้างในมัน...

“ว๊ายยย ไซส์ 56”สาว ๆ ของอักรศาสตร์วี๊ดว้ายกับกล่องถุงอย่างอนามัยแบบบางเฉียบที่อยู่ใต้เค้กกันยกใหญ่ “ที่ห้องฉันมีKY เดี๋ยวฉันเอามาให้!!!”

“เดี๋ยวสิ ทำไมห้องเธอมีเจลหล่อลื่นได้ล่ะ”

“ฉันมีแล้วมันแปลกหรือไงกัน”

“แปลกดิ เธอเอาไว้ทำอะไรน่ะ!! อย่าบอกนะว่า...”

“หยุดความคิดบ้า ๆ ของเธอเดี๋ยวนี้นะะะะ”

...

ท่ามกลางเสียงถกเถียงกันขำ ๆ ของเพื่อน ๆ เขมเหลือบมองคนที่ยังหัวเราะในลำคอไม่หยุดด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ

“โกรธเหรอ”ต่ายถามเด็กน้อยของเขาเสียงนุ่ม “น้องโกรธพี่เหรอครับ คนดี”

“เปล่าครับ”เขมก้มหน้ามองมือตัวเอง สองแก้มเห่อร้อนลามไปถึงใบหูที่ขึ้นสีก่ำไม่แพ้กันมันก็บ่งบอกอยู่แล้วว่าเขากำลังรู้สึกอะไร แต่ใครบางคนก็ยังแกล้งเขาไม่เลิกสักที “ผม...”

“โอ๋ ๆ พี่ไม่แกล้งแล้วก็ได้”มืออุ่นยื่นมาลูบหัวทุย ๆ ของเขมทิวาอย่างอ่อนโยน “จริง ๆ แล้วพี่ก็มีของที่จะให้จริง ๆ นะครับ”

“อะไรเหรอครับ”สายตาของเขมมีประกายหวั่น ๆ ด้วยเกรงว่าใครอีกคนจะแกล้งเขาอีกยกหนึ่ง

ต่ายยิ้มให้กับท่าทีน่าเอ็นดูเหมือนลูกหมาน้อยของเด็กหนุ่ม ก่อนที่จะหยิบกระเป๋าที่วางอยู่ข้าง ๆ ตัวมาเปิดแล้วหยิบของที่เขาตั้งใจจะให้น้องจริง ๆ ออกมา

ต้นแคคตัสในกระถางใบน้อยน่ารักถูกส่งมาให้กับเด็กหนุ่ม เขมมองต้นไม้สีเขียวที่ยังเล็กในกระถางด้วยความสนใจ

“กระบองเพชรเหรอครับ”ปลายนิ้วเรียวลูบกระถางสีอ่อนแผ่วเบา “ยังต้นเล็กอยู่เลย...”

“พี่ปลูกมันเมื่ออาทิตย์ก่อน”รณกฤตมองเจ้าต้นไม้ตนน้อยในมือขาวด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น เช่นเดียวกับน้ำเสียงที่เอื้อนเอ่ยออกมาด้วยความอ่อนโยน “ปลูกเอาไว้สองต้น ต้นนึงให้เขม อีกต้นเป็นของพี่”

“ทำไมถึงเป็นกระบองเพชรล่ะครับ”

“พี่อยากให้ความรักของเราค่อย ๆ เติบโตงอกงามเหมือนต้นไม้ แข็งแรงอดทนเหมือนต้นกระบองเพชร ที่แม้ว่าวันนึงอาจจะแห้งแล้งแต่ก็ยังยืดหยัดอยู่ได้อย่างมั่นคงจนถึงวันที่ความชุ่มชื้นกลับอีกครั้ง”

“พี่ต่าย...”

“เรามาช่วยกันเลี้ยงดูความรักของเรากันนะครับ ที่รักของพี่”

“ครับ”



เขาจะเลี้ยงดูความรักที่คนในใจมีให้กับเขาด้วยหัวใจของเขาเอง






 @@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@



ต่าย : คำเตือน อย่าลืมเตรียมยาลดระดับน้ำตาลในเลือดกันไว้นะครับ (ขยิบตา)

พวกเขาเป็นแฟนกันแล้วค่าาาา กรี๊ดดดดด พี่ต่ายยังคงแอบแกล้งน้องทุกทีสิน่าาาา ตีๆๆๆๆๆ

ฝาก #คนในใจ #พี่ต่ายน้องเขม เอาไว้ในใจทุกคนด้วยน้าาา

ติชมกันได้เช่นเคยค่ะ รักกก

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

หวัย ๆ เปิดตัว เปิดเผย ต่อสาธารณชนว่าคบกันเป็นพัดลมแล้ว  อิอิ

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยย คือมันเขินไปหมด TT
ถึงจะแอบใส่ถุงยางมาใต้เค้กก็ไม่โกรธละ ให้กระบองเพชรน่ารักมาก :hao5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ midnight

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +168/-8
    • Fanpage
บทที่ 16

คนของเรา



หลังจากกินหมูกะทะกันเสร็จทุกคนก็แยกย้ายกลับบ้านกันไป และไม่ลืมที่จะหันมาแซวคู่รักคู่ใหม่ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการหน้าเตาหมูกะทะด้วย

เค้กที่โดนขุดจนเละทุกคนก็ช่วยกันสวาปามจนหมด ไม่แคร์กล่องถุงยางที่แอนเดรียห่อด้วยทิชชู่เก็บกลับไปด้วยเลย

“พี่ต่ายครับ”เขมเอ่ยเรียกชื่อคนที่อยู่ข้างตัวเบา ๆ “ขอบคุณนะครับ”

“เรื่องอะไรเหรอครับ”ดวงตาคมที่ทอประกายอ่อนโยนเหลือบมองคนที่นั่งก้มหน้ามองต้นกระบองเพชรในมือก่อนที่รอยยิ้มบนใบหน้าจะหวานขึ้นอีกหน่อย “เรื่องที่พี่ทำให้ ‘คนในใจ’ กลายเป็น ‘คนในขีวิตจริง’ เหรอครับ”

“...”เด็กหนุ่มผมน้ำตาลชะงักไปเมื่อได้ยินประโยคนั้น หัวใจของเขาพลันเต้นรัวขึ้นรับกับสองแก้มที่ขึ้นสีเรื่อ “พี่รู้ด้วยเหรอครับ”

“ไม่มีอะไรเกี่ยวกับน้องเขมที่พี่ไม่รู้”ชายหนุ่มรุ่นพี่ตบไฟเลี้ยวเข้าคอนโด ก่อนจะขยับมือไปกุมมือเย็นของใครบางคนไว้ “ไม่ว่าจะเรื่องส่วนตัวหรือรอบตัว พี่ก็รู้ทุกเรื่องครับ”

เขมเหลือบมองคนที่หยอดเขาอย่างเขิน ๆ อีกครั้ง แต่ไม่พูดอะไรต่อ ปล่อยให้ความเงียบที่เปี่ยมไปด้วยความหวานละมุนโอบล้อมพวกเขาไว้

และเมื่อราตรีที่รอลูกชายกลับบ้านอยู่เห็นทั้งสองเดินมาด้วยกันก็หันไปถอนหายใจสามครั้วรวด ไม่บ่งบอกเลยนะ ไม่เลยสักนิด

ไอ้หน้าแดง ๆ เขิน ๆ ของคุณลูกชาย กับหน้ายิ้มหวานโลกสีชมพูของลูกชายอดีตเจ้านายเนี่ย ไม่บ่งบอกเล้ยยย ไม่พอ จับมือกันมาอีก!

ไม่ ไม่ต้องหันมาจะบอกอะไรแม่ แม่รู้แล้ว!

ตอนนี้แม่จะเป็นลมมมมม



ปีหนึ่งคณะอักษรเป็นขาเม้าส์ที่ใครหลายคนรู้กันดี เพราะคณะนี้เป็นคณะที่รวมคนหลายประเภทเอาไว้ด้วยกัน... แต่ถึงจะชอบเม้าส์มอยหอยสังข์ยังไง เรื่องที่คุณหนูของคณะมีเจ้าชายมาสู่ขอ พวกเขากลับรูดซิปปากแน่น ไม่บอกใคร

มีก็แต่มองเพื่อนท่เดินลงมาจากรถที่คุ้นตาด้วยสายตากรุ้มกริ่ม

น่อ ๆ ๆ มาส่งอีกแล้ว

จริง ๆ มันก็เป็นภาพที่ชินตาของทุกคนแล้ว แต่ที่แปลกไปคือความรู้สึกตอนที่พวกมองนี่แหละ แหม นั่งลุ้นมาตั้งเดือน ๆ ว่าจะคบกันเมื่อไหร่ พอคบกันแล้วจากที่เฉย ๆ มันก็ดูหว๊าน หวาน หวานขึ้นเยอะมากมาย

ให้หมูกะทะเป็นพยาน!!!

เขมเดินยิ้มเข้ามาในคณะเหมือนปกติแม้ว่าสายตากรุ้มกริ่มของเหล่าเพื่อน ๆ จะจ้องมาที่เขาซะจนแทบจะพรุนไปทั้งตัวแล้ว

ถ้าไม่ทำตัวปกติก็จะโดนแซวมากกว่าเดิมน่ะสิ

“รายงานคราวที่แล้วได้คะแนนเกินครึ่งมานิดหน่อยเอง คราวนี้จะรอดไหมวะเนี่ย”ผู้มีปัญหากับการเรียนนัมเบอร์วันเอ่ยขึ้นกับเพื่อนที่นั่งเปิด ๆ ชีทเรียนอยู่ด้วยน้ำเสียงเจ็บปวด “จะต้องเขียนยังไงให้ได้คะแนนเยอะ ๆ อย่างพวกมึงบ้างวะ”

“ใส่ความตั้งใจไปเวลาเขียน ไม่ทำลวก ๆ ส่ง คะแนนมันก็ต้องดีอยู่แล้ว”ทัศน์กรอกตามองเพื่อนที่โหยหวนเรื่องงานอยู่ข้าง ๆ อย่างอ่อนใจ “เอาเวลาที่ไปคิดแผนเล่นเกมมานั่งเขียนสักครึ่งนึงสิ”

“ไม่ได้เว้ย กูเป็นความหวังของหมู่บ้านเลยนะ!”เทนนิสยกนิ้วโป้งชี้เข้าหาตัวอย่างภาคภูมิใจในตัวเองขั้นสุด “ถ้ากูไม่วางแผนดี ๆ ทุกคนจะแพ้ ยอมไม่ได้เด็ดขาด”

ยางลบดำ ๆ จากเศษผงของไส้ดินสอถูกปาใส่คนที่เอาแต่มุ่งมั่นในเรื่องเล่น ไม่ใช่ว่าทัศน์อคติกับการเล่นเกม แต่มันต้องรู้จักการแบ่งเวลาในการทำงานสิ

เขมมองเพื่อนที่เริ่มตีกันยิ้ม ๆ มือควงแกนกระดาษแข็งที่ขอมาจากร้านถ่ายเอกสารที่รับห่อปกใกล้ ๆ มหา’ลัย เอามาใช้ซ้อมแทนคทาในระหว่างอยู่ในห้องเรียน

ยังไงก็ต้องขยันซ้อมเอาไว้ แม้ว่าตอนนี้เขมจะไล่ตามคนอื่นทันแล้ว แต่พอต่อท่าใหม่เขาก็เป็นอันต้องช้ากว่าคนอื่นก้าวนึงอยู่ดี

ความพยายามมี แต่ขาดก็ความชำนาญ...

“วันนี้ต้องไปซ้อมใช่ไหมเขม”ทัศน์ที่หน่ายใจกับคนติดเกมจนหมดคำพูดแล้วหันมาถามเพื่อนอีกคนที่นั่งทำหน้าเยิ้มอยู่ข้าง ๆ “นี่ก็อินเลิฟ...”

“อื้ม เย็นนี้ต่อท่าใหม่”เขมเมินประโยคหลังไปแบบเนียน ๆ อินลงอินเลิฟอะไรไม่มีสักหน่อย



ก็เหมือนเดิมนั้นล่ะ





หลังเลิกเรียนลิลี่กับแอนเดรียที่ปวารนาตัวเป็นครูของเขมทิวา และตั้งมั่นทำตัวเป็นแม่ด้วยในใจนั้นเดินมาจะพาลูกชายของพวกเธอไปซ้อมควงคทาสักหน่อย แต่ก็ต้องเบรกตัวโก่งหลบฉากไปเป็นผู้ติดตามแทน

ลูกเขยมา!

“ขยันซ้อมแบบนี้ระวังข้อมือจะเจ็บเอานะ”ต่ายดึงเอาแกนกระดาษมายัดใส่กระเป๋าแล้วจับมือของเขมไปบีบ ๆ นวด ๆ อย่างนุ่มนวล “ไม่หักโหมนะครับรู้ไหม”

เขมเม้มปากนิด ๆ ไม่ตอบรับคำของร่างสูงเพราะตัวเขารู้ดีว่าเขาทำไม่ได้... ถ้าเขาไม่ขยันเขาก็จะกลายเป็นตัวถ่วง ซึ่งมันเป็นสิ่งที่เขาไม่ต้องการและจะไม่ให้มันเกิดขึ้นอีก

ต่ายมองคนที่เงียบไปแล้วยิ้มบาง เขาไม่แปลกใจที่รุ่นน้องคนนี้ของเขาจะไม่รับปาก เพราะเขมทิวาที่เขารู้จักเป็นคนที่จะไม่รับปากถ้าทำไม่ได้ มันเป็นสิ่งที่เขาชื่นชมในขณะเดียวกันก็เหนื่อยใจเหมือนกัน

แต่ยังไงเขาก็รักคน ๆ นี้อยู่ดี

เมื่อมาถึงโรงยิม เขมกับต่ายก็พากันไปวิ่งเหยาะ ๆ วอร์มร่างกายทันทีโดยมีสองสาวนั่งเฝ้ากระเป๋าไปถ่ายรูปคู่รักที่เพิ่งจะคบกันเหวี่ยงลงกลุ่มไป

โมเม้นต์ โมเม้นต์ โมเม้นต์จงมาาา มาเถอะ!

สาวสวยแห่งอักษรจ้องหน้าจอมือถือที่จับภาพหนุ่มหน้าตาดีสองคนเอาไว้ รอ รอ รอ!!! ฉากที่พวกเธอต้องการและมนุษย์เลือดสีม่วงอีกหลายร้อยหลายพันชีวิตต้องการ

มาแล้ว!

แอนเดรียหันไปชูนิ้วโป้งให้กลับลิลี่ แววตาของทั้งคู่ประกายวิบวับถูกอกถูกใจกับสิ่งที่พวกเธอรอคอย ใช่ แม้ว่ามันจะเป็นแค่โมเม้นต์เล็กน้อยอย่างซับเหงื่อให้กันแค่นั้นก็ตามที

มันต้องแบบนี้ถึงจะฟิน! ถ้าเอาแบบจิ๊จ๊ะกันเลยมันไม่เขินว้อย!! แถมยังไปนั่งดูไม่ได้ด้วย!!!

เสียงหัวเราะคิกคักจากคนที่นั่งอยู่บนแสตนด์เรียกความสงสัยจากคนที่กำลังวอร์มแขนตัวเองอยู่ แต่ชายหนุ่มทั้งสองไม่เอ่ยถามอะไร มันมีความรู้สึกว่าถ้าถามออกไปอาจจะเข้าตัวได้

รอรวมพลอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมงถึงจะได้เริ่มซ้อมจริง ๆ จัง ๆ โดนเริ่มจากการทวนท่าเดิมที่เคยฝึกกันไปก่อนหน้าและการแปรแถว ก่อนที่จะเริ่มฝึกท่าใหม่กันซึ่งในส่วนของวันนี้เป็นท่าไคล์แมทของโชว์ที่จะเป็นการแสดงกลุ่ม โดยจะคัดเลือกคนที่โดดเด่นออกมาแสดงห้าคนและคนที่เหลือจะเป็นแบล็กกาวน์

รายชื่อที่ถูกเรียกออกมาไม่ทีเขมทิวา ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่น่าประหลาดใจอะไรเพราะเขารู้ตัวเองอยู่แล้วว่าความสามารถของเขามีไม่ถึง และเขาก็ดีใจกับต่ายที่มีชื่ออยู่ในนั้น

“ผมสละสิทธิ์ ให้คนอื่นไปเถอะ”รณกฤตไม่ก้าวออกไปรวมกับคนที่ได้รับคัดเลือกไปโชว์ และไม่คิดจะทำด้วย

“ทำไมล่ะต่าย”พรีมลุกขึ้นจากที่นั่งเดินเข้ามาถามด้วยความไม่เข้าใจ

“ผมมาเป็นคฑากรเป็นเพื่อนน้อง ไม่ได้มาเพราะความต้องการของตัวเอง”เขมหันไปมองต่ายด้วยความตกใจและเป็นกังวล “ให้คนที่เขาอยากเป็นเหมาะสมกว่า”

“พี่—-”ไม่ทันที่เขมจะได้พูดอะไรออกมามากต่ายก็ยกขึ้นขึ้นมาแตะริมฝีปากสีอ่อนให้หยุดพูดซะก่อนแล้ว

“มันแฟร์กับคนที่มีความตั้งใจในการมาสมัครเป็นคฑากรมากกว่าครับ”ทุกคนในที่นี้รู้กันดีว่าชายหนุ่มสองคนนี้มาร่วมเดินขบวนจากการทาบทามของสโมสรนักศึกษา แต่ก็ไม่มีใครคาดคิดว่าจะมีคนที่มาด้วยความจำใจด้วยแบบนี้

งั้นถ้าให้น้องมาโชว์ด้วยล่ะ”เจ้ฝันที่เป็นผู้ฝึกซ้อมให้กับทุกคนถามขึ้น “น้องต่ายจะมาโชว์รวมไหม”

“ผมจะช่วยน้องฝึก แต่ไม่ร่วมด้วย”ต่ายส่ายหน้าน้อย ๆ และยันความคิดเดิมของตนเองไว้

“แต่ว่า...”สีหน้าของพรีมมีความกังวลใจฉายชัด ถ้ารณกฤตไม่ร่วมแสดงแบบนี้ ก็จะขาดจุดรวมสายตาไป งานคงจะถูกลดทอนความน่าสนใจไปหน่อยแน่ ๆ “น้องเขม...”

แววตาอ้อนวอนของหญิงสาวที่จับจ้องมาที่รุ่นน้องทำให้เขาจำต้องหลบสายตาของเธอ และก้าวถอยหลังไปอีกก้าว

“พี่ต่ายตัดสินใจแบบนั้น ก็เป็นสิทธิ์ของพี่เขานะครับ”มือเรียวกำไม้คทาในมือแน่นจนขึ้นข้อขาว “ผมก็ไม่ขอร่วมเหมือนกัน”

“น้องเขม!”

“ทำไมพวกพี่จะต้องไปอ้อนวอนคนที่ไม่เต็มใจแบบนั้นด้วยล่ะครับ”หนึ่งในคนที่ได้รับเลือกชักสีหน้าไม่พอใจออกมาให้เห็น เขาสุดทนแล้วนะ “เขาไม่เต็มใจก็ปล่อยเขาไปสิ จะไปดึงเอาตัวถ่วงมาถ่วงงานเพื่อนให้อีกคนมาร่วมด้วยทำไม”

คำว่าตัวถ่วงมันแทงใจดำคนที่พยายามมาตลอดจนทำให้หน้าเปลี่ยนสี ได้แต่ยิ้มเจื่อน ๆ ไม่โต้เถียงอะไร

“คำพูดบางคำมันบอกถึง... ของคนพูดนะครับ”ความเย็นชาที่ส่งออกมาทั้งทางน้ำเสียงและสายตา คำในช่องว่างที่เว้นไว้ให้เติมนั้นทำให้คนที่เก็บอารมณ์ไม่อยู่ต้องสะอึก

คำดี ๆ มันคงเอามาใส่ไม่ได้...

“เอาตัวเองเป็นที่ตั้งโดยไม่คิดถึงจิตใจคนอื่น... เป็นคนดีจังนะ”ลิลี่ที่ตอนนี้ไฟแทบจะลุกโชนท่วมหัวเดินดุ่ม ๆ ลงมาจากแสตนด์ เกรี้ยวกราดยิ่งกว่าแอนเดรียที่กำลังทำหน้ายักษ์ซะอีก “พี่เอาคนแบบนี้มาเป็นหน้าตาของมหา’ลัยเหรอคะ”

ทั้งพรีมและฝันถึงกับหน้าเสีย เพราะพวกเธอเป็นหนึ่งในคนคัดเลือกคฑากรของปีนี้มาเองกับมือ

จะโต้ก็โต้ไม่ได้ จะเถียงก็เถียงไม่ออก

“ไม่เอาน่า มันก็เป็นความจริงนี่...”เป็นเขมที่ออกมาพูดก่อนที่เรื่องมันจะบานปรายไปกันใหญ่

“คุณหนูน่ะอยู่เฉย ๆ ไปเลย”แอนเดรียหันมาแว้ดใส่เพื่อนที่ทำใจดีพร่ำเพรื่อ “เป็นนางเอกอยู่หลังสุดไป ตรงนี้นางร้ายอย่างพวกฉันจะเคลียร์ทาง”

“...”ริมฝีปากบางอ้าหุบอ้าหุบเหมือนปลาขาดน้ำ อยากจะหาคำมาดับความหัวร้อนของเพื่อนสักสองสามคำ แต่ดูจากความลุกโชนแล้วน้ำมันอาจจะกลายเป็นน้ำมันก็ได้

“เขาก็ยอมรับนี่ ว่าเขาเป็นตัวถ่วง มันผิดตรงไหน”ชายหนุ่มที่เพิ่งจะรวมรวมสติและความกล้าที่กระจายไปกลับมาได้เริ่มเถียงกับสาวสวยที่เป็นพวกกับคนที่เขาไม่ชอบ “จะเข้าข้างเพื่อนตัวเองก็อย่าให้มันมากเกินไปสิครับคุณผู้หญิง”

“อิลี่ หลบ”องค์เจ้แอนลงแล้ว เพื่อนสาวสัมผัสได้เลยยอมหลบโดยดี “นี่คุณผู้ชายผู้มองเห็นแต่เงาตัวเอง ถามจริงมีตาไว้มองอย่างอื่นนอกจากกระจกหรือน้ำในตุ่มบ้างมะ? เคยมองเห็นถึงความพยายามของคนอื่นบ้างไหม? หรือชีวิตนี้คุณผู้ชายเป็นคนเฟอร์เฟคทุกอย่าง เกิดมาก็ท่องกขคง.ได้เลยไม่ต้องเรียนกันล่ะ ถึงมาพูดว่าคนอื่นเขาเป็นตัวถ่วงได้หน้าตาเฉยแบบนี้

หยุด! และหุบปากเหม็น ๆ เก็บคำกะหลั่ว ๆ ของคุณไว้ฟังเองเถอะพ่อคนสมบูรณ์แบบ ว่าง ๆ อย่าลืมไปตัดแว่นด้วยล่ะ จะได้มองเห็นอะไรที่คนอื่นเขาเห็นกันบ้าง อ้อ ไหน ๆ ก็ ไหน ๆ แล้วไปลงเรียนวิชาคิดวิเคราะห์กับวิชาศาสนาสักเทอมล่ะเผื่อทัศนคติจะเป็นผู้เป็นคนมากขึ้น

และ! อย่าลืมว่าเพื่อนฉันได้รับ ‘เชิญ’ มาเป็นคฑากร ไม่ได้มาสมัครเอง อย่าเอาความขี้อิจฉามาลงที่เพื่อนฉัน จำไว้!!”

รัวจนไม่มีจังหวะให้ได้ขัดเลยสักนิด...

“ถ้ามันทำให้ทุกคนไม่สบายใจ... ผมออกได้นะครับ ตอนนี้ก็ยังพอจะหาคนที่มีพื้นฐานอยู่แล้วมาแทนผมทัน”คนที่รักสงบอย่างเขมยอมที่จะปล่อยทิ้งสิ่งที่เขาได้ลงมือพยายามถึงที่สุดแล้วออกไป ดีกว่ารั้งเอาไว้พร้อมกับปัญหามากมาย

“พี่แล้วแต่เขม”ต่ายออกตัวก่อนที่ใครจะหันมาถามอะไร คนรักของเขาว่ายังไง เขาก็เอาตามนั้น

ถึงยังไงตัวเขาเองก็ไม่ได้อยากมาเป็นคฑากรอยู่แล้ว

“พอ ๆ หยุดทั้งสองฝั่งเลยค่ะคุณน้อง”ฝันแหวกขึ้นมากลางวง  เธอค้อนควักใส่เด็ก ๆ ที่เธออุตส่าห์ปั้นมาด้วยความขุ่นเคืองใจ “ฉันเป็นคนรับผิดชอบพวกเธอมา ฉันจะตัดสินใจเอง”

ดวงตาที่กรีดอายไลน์เนอร์จนคมกริบกวาดมองเด็ก ๆ ที่ยืนหน้าสลอนตรงหน้า

“น้องเขมกับน้องต่ายขึ้นมาอยู่ไม้ 2 และ 3”เจ้ฝันตวัดสายตาใส่คนปากเสียที่ทำท่าจะค้านอะไรออกมาสักอย่าง “ส่วนเธอกับเพื่อนไปอยู่ไม้ 10และ 11”

“ทำไมล่ะครับ/คะ!”เด็กหนุ่มและเด็กสาวที่ถูกดีดไปอยู่ด้านหลังถามขึ้นเป็นเสียงเดียวกัน

“พวกเธอคิดว่าฉันไม่รู้เหรอว่าพวกเธอดูถูกคนที่อ่อนกว่ามาตลอดน่ะ”สาวประเภทสองคนเก่งประจำสโมฯ เท้าเอวมองปีหนึ่งที่บังอาจมาชักสีหน้าใส่เธอด้วยสีหน้าพร้อมจะเหวี่ยงเต็มที่ “ที่ฉันไม่พูดเพราะไม่มีใครมีปัญหาอะไร พวกเธอก็ไปสรรหาปัญหามาบังคับฉันจนได้”

“พี่ก็คิดว่าน้องควรจะไปอยู่ตรงนั้นนะคะ”พรีมหันมาพูดสมทบ “คฑากรเป็นหน้าตาของมหา’ลัยเรา ไม่ใช่ว่างแค่หน้าตาดี บุคลิกดี ควงคทาเก่งแล้วมันจะพอ พี่เคยบอกแล้วใช่ไหมคะว่าทุกอย่างจะต้องดี มันจะต้อง ‘ทุกอย่าง’ จริง ๆ ทั้งภายนอกและภายใน”

“ถ้าไม่พอใจจะออกก็ออกซะตั้งแต่ตอนนี้นะจ๊ะ อย่ามาทำตัวให้คนสาปแช่ง”คำดักคอที่เล่นเอาเด็กเฟรชชี่จี๊ดหัวใจ

แต่พูดกับเพื่อนไปเยอะแล้ว ยังไงก็ต้องอยู่...

เพราะวันนี้ซ้อมโชว์กลุ่มห้าคนกัน หลังจากที่วางตำแหน่งยืนแล้วคนที่ไม่ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในห้าก็แยกย้ายกันไปพักผ่อน

เขมยิ้มแหย ๆ ให้แม่ ๆ ทั้งสองคนของเขา  ก่อนจะถูกคุณแฟนดึงให้เดินไปขึ้นรถด้วยกัน

แอนเดรียที่หายหัวร้อนแล้วหยิบมือถือขึ้นมาเปิดเข้ากลุ่มเม้าส์ของตัวเอง เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นแบบจัดเต็ม

มีจุดไฟให้คนอื่นตัวร้อนต่อ...



เขมทิวาหันไปมองคนที่ทำหน้าเรียบเฉยไม่หือไม่อือเลยสักนิด

“พี่ต่ายโกรธเหรอครับ”เขมถามคนรักเสียงอ่อย “ผมไม่ได้อยากที่จะละทิ้งความพยายามที่ผ่านมานะครับ แต่ผมไม่อยากให้มันมีปัญหา...”

“พี่ไม่ได้โกรธเขมครับ”ต่ายยกยิ้มขึ้นน้อย ๆ ดวงตาเริ่มฉายแววอ่อนลง “พี่แต่โกรธที่มีคนเห็นความพยายามของเขมเป็นเรื่องเล่น ๆ”

“นไม่ใช่ความจริงนี่ครับ พี่ต่ายไม่ต้องคิดมากนะ”เด็กหนุ่มเอ่ยปลอบใจคนที่เป็นกังวลพร้อมส่งรอยยิ้มสดใสไปให้

“พี่สิ ต้องบอกเขมว่าอย่าคิดมาก เขมไม่ใช่ตัวถ่วงของใครสักหน่อย”มืออุ่นเลื่อนมากุมมือเย็น ๆ ของแฟนของเขาเอาไว้หลวม ๆ “ไม่ต้องไปเก็บคำพูดของคนที่มีอคติมาคิดมากนะ”

“ครับ”เขาพยักหน้ารับให้อีกฝ่ายสบายใจ เขาจะพยายามไม่เก็บมันมาคิดฟุ้งซ่าน

แม้ว่ามันจะเป็นนิสัยเสียของตัวเขาเองก็เถอะ

การจราจรในเมืองหลวงของประเทศไทยก็ยังคงเป็นการจราจรที่ชวนให้คนขับรถหงุดหงิดเหมือนเดิม ไม่รู้ว่ารถจะติดอะไรนักหนา จนบางครั้งขาเป็นตะคริวก่อนจะถึงบ้านด้วยซ้ำไป ไม่เห็นจะแก้ไขให้มันดีขึ้นได้สักที

“พี่ต่ายจะมากินข้าวกับผมไหมครับ”เขมถามคนที่กำลังจะดับเครื่องยนต์เสียงเบา “เดี๋ยวผมทำเผื่อ...”

“น้าราตรีน่าจะกลับมาแล้ว น้องเขมไปอาบน้ำแล้วกินข้าวกับน้าราตรีนะครับ”ต่ายปฏิเสธคำชวนนั้นด้วยรอยยิ้มบาง

“ทำไม...”

“เดี๋ยวน้าราตรีเขาน้อยใจลูกชายเอา”รณกฤตหัวเราะออกมาเมื่อคิดถึงสีหน้าของแม่แฟน “เอาไว้ตอนเช้าพี่ค่อยไปกินด้วยนะครับ”

“ครับ”เขมตอบรับเสียงอ่อย ๆ แล้วหันไปจะเปิดประตูรถลง

“เขมครับ”มือขาวชะงักกึก ก่อนที่ใบหน้ามนจะหันมาหาคนที่เรียกเขาไว้

มืออุ่นยื่นมาเชยคางเขาขึ้นก่อนที่ริมฝีปากร้อนจะเข้ามาประกบริมฝีปากของเด็กหนุ่มไว้

ต่ายขบริมฝีปากล่างของคนรักเบา ๆ ให้เผยออกก่อนจะส่งลิ้นรุกล้ำเข้าไปกวาดต้อนความหอมหวานภายในอย่างตะกละตะกลาม

“อือออ”เสียงหวานครางแผ่วเมื่อลมหายใจของตนเริ่มขาดห้วง ทำให้คนที่มาปล้นจูบเขาไปต้องถอนใบหน้าออกอย่างจำใจ

รณกฤตมองหน้าของเขมทิวาที่แดงก่ำด้วยความรักใคร่ ปลายนิ้วโป้งแตะลงบนริมฝีปากที่บวมแดงขึ้นมาน้อย ๆ ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ



“ฝันถึงพี่ด้วยนะคะ เด็กดี”



“ครับ...”


๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑



ช่วงเวลาไหนที่ต่ายก็หวานได้นะคะ เย่ ><



มาอัพเลทอีกแล้วล่ะค่ะ ฮืออออออ อีกสามตอนก็จะจบแล้ว อย่าเพิ่งทิ้งกันไปน้าาา



ฝาก #คนในใจ #พี่ต่ายน้องเขม ด้วยนะคะ



จุ๊บบ





ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

สะใจ  อิพวกอยากเด่น ฝีมือดี แต่หน้าตาไม่ให้  แถมเสือกสันดานไม่ดีอีก

เจอรุมด่าเข้าไป  แถมถูกส่งไปเป็นตัวท้าย ๆ อีก  อดเด่นเลย  สมน้ำหน้ามัน คนสันดานไม่ดี  ชิส์


ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
น้องไม่คิดมากนะคับ มีพี่ต่ายกับเพื่อนๆทั้งคน  :hao5:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด