มนุษย์แฟนเด็ก
36
มีความเป็นผู้ใหญ่ใจต้องนิ่ง
“สวัสดีค้าบ~” คนตัวเล็กเอ่ยทักทายเสียงสดใสพร้อมยกมือไหว้คนที่เปิดประตูให้ ในช่วงเช้าของสุดสัปดาห์ ลูกหมูเดินยิ้มอารมณ์ดีเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ เอ่ยทักทายและยิ้มแย้มให้ผู้คนที่เดินผ่านอย่างเป็นกันเอง ก่อนจะเดินไปยังห้องครัวเพื่อตามหาเจ้าของบ้านตามที่สาวใช้คนหนึ่งได้บอกไว้
“สวัสดีตอนเช้าครับคุณป้า ทุกคนด้วยครับผม~”
“อ้าว หนูจันทร์เจ้า มาแต่เช้าเชียว”
“หนูตื่นเต้น!” คุณรัตติกาลแย้มยิ้มเอ็นดู หากมือเธอไม่เปื้อนล่ะก็เธอจะหยิกแก้มยุ้ย ๆ นั่นสักทีสองทีด้วยความเอ็นดู “คุณป้าทำอะไรอยู่เหรอครับ?”
“อาหารเช้าจ้ะ แล้วก็ของทานเล่นบนรถ”
“อู้หูย! น่าทานจังเลย ให้หนูช่วยไหมฮะ?”
“หนูทำอาหารเป็นเหรอจ๊ะ?”
“เป็นคับ!” ตอบรับขันแข็ง มองวัตถุดิบสำหรับทำอาหารตาวาว งานนี้ได้ทานของอร่อยอีกเพียบแน่เลย!
แค่คิดหัวใจก็ฟูฟองคับอก
“ทานข้าวเช้ามาหรือยังจ๊ะ? ทานก่อนแล้วค่อนมาช่วยป้าดีกว่าเนอะ”
“หนูทานจากบ้านคุณย่ามาแล้วนิดหน่อยครับ สำรองพื้นที่มารอทานที่นี่ด้วย คุณป้าลำดวนทำอาหารอร่อยที่สูดดดดดดด~~~” ตอบคำถามคุณรัตติกาลฉะฉาน ก่อนหันไปอ้อนคุณป้าลำดวนผู้ซึ่งเป็นหัวหน้าแม่ครัว คนถูกชมยิ้มชื่นใจ ดีใจที่คนทานชอบอาหารที่ทำ
“แหม ช่างอ้อนจริงเชียวนะคะ คุณหนูอยากทานอะไรเดี๋ยวป้าลำดวนคนนี้จะทำให้”
ลูกหมูยิ้มแฉ่งตากลมโตวาววับเป็นประกาย “จริงเหรอฮะ!? ว้า แย่จัง หนูคิดไม่ออกเลย...”
“ไว้คิดออกแล้วมาบอกป้านะคะ”
“ได้คับ!”
รับคำขันแข็ง ระหว่างที่ช่วยเหลือจับของในครัวก็พูดคุยไปด้วย
“พี่ทิวายังไม่ตื่นเหรอครับ?”
“ยังหรอกจ๊ะ พี่น้องบ้านนี้ค่อนข้างตื่นสายนะ” ลูกหมูมองนาฬิกาบนข้อมือ ตอนนี้เพิ่งเจ็ดโมงนิดหน่อย... “ถ้าหนูอยากไปหาพี่เขาก็ขึ้นไปข้างบนเลยนะคะ ป้าฝากปลุกด้วย”
“หนูช่วยคุณป้าก่อนดีกว่าฮะ เสร็จแล้วค่อยขึ้นไป”
เพราะป่าป๊ะกับหม่ามะเคยบอก อย่าทำอะไรครึ่ง ๆ กลาง ๆ ถ้าลงมือทำแล้วก็ทำให้เสร็จ ดังนั้นเมื่อช่วยคุณป้าเตรียมอาหารเช้าแล้วจันทร์เจ้าถึงได้ขอตัวออกมา
เปิดประตูเข้าไปเบา ๆ ถึงเคาะเจ้าของห้องก็ไม่ออกมาเปิดให้อยู่ดี ตากลมกลอกมองรอบห้อง ห้องนอนของนิสัยไม่ดียังเป็นเหมือน ทุกอย่างถูกวางเอาไว้ที่เดิมไม่เปลี่ยนแปลง แต่มีอย่างหนึ่งที่ถูกนำมาตกแต่งเพิ่มใหม่จากครั้งที่แล้วที่เคยมา จันทร์เจ้ายิ้มตาหยีเมื่อมองไปที่กรอบรูปบนโต๊ะข้างเตียง มันเป็นรูปคู่ของเราในกรอบรูปสีขาว ตอนแรกก็ตกใจ ไม่คิดว่าทิวากาลจะทำอะไรแบบนี้ หลังจากหายตกใจก็เขินย้อนหลังให้คนนิสัยไม่ดีได้ล้อ
ย่องเบา ๆ ไปใกล้เตียง มองคนที่หลับตาพริ้มหายใจเข้าออกสม่ำเสมอแล้วไม่อยากปลุก ถือเป็นบาปอย่างหนักเลยนะหากปลุกคนที่กำลังนอนอยู่ ถ้าอยากมีแต้มบุญเยอะ ๆ ก็อย่าทำกันล่ะ... แต่จริงใจบาปหนาและแต้มบุญเหลือน้อยเพราะชอบปลุกลูกหมูอยู่บ่อย ๆ นิสัยไม่ดีเลยจริง ๆ ลูกหมูนั่งคุกเข่าที่ลง เกยคางไว้ที่ขอบเตียงแล้วมองหน้าคนหลับ
ทิวากาลหล่อจังเลยน้า... ดูสิ ตอนหลับก็มีเสน่ห์ไปอีกแบบ เสน่ห์เหลือล้นจนละสายตาไม่ได้ ทั้งคิ้วเข้ม ๆ ขนตาเป็นแพยาว จมูกโด่ง ริมฝีปากหยักเป็นกระจับ ยื่นมือออกไป แตะปลายนิ้วบนผิวแก้มทิวากาลแผ่วเบา เมื่อนิ้วสัมผัสโดนแก้มลูกหมูก็สะดุ้ง แอบหัวเราะตัวเอง ก่อนควักโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วเข้าไปที่กล้องถ่ายรูป ถ่ายภาพคนหลับไว้แบล็คเมล์
jjindahouse × Sleeping prince × ถ้ายังไม่ตื่นจะทิ้งให้เฝ้าบ้าน
teamchantiwa จูบปลุกเลยค่ะลูก จูบเลยยยยยยย
itsmic ทิ้งเลย ทิ้งมัน!!!
charissa_cp ทิ้งมันเลยค่ะชับบี้ ทิ้งมานนนน
tankthag_ ปล่อยมันครับ แล้วเราไปเที่ยวกัน
mnnnxn ดึงขนจมูกเลยน้องจิ๋วววว
wavewavewave ไอ้แรด! เข้าห้องผู้ชาย!
jin9jai @phloengfa_ @jjaochiwan + อูยยยยย เสิร์ฟความฟินแต่เช้า
+ ยังไม่นอนแต่ตอนนี้หายง่วงเลย จันทิว้าาาาา *เสียงสูง*
+ พี่กาลตอนหลับโคตรงานดี ฮือออ อยากได้
+ ให้เธอได้กับเขาแล้วจงโชคดีอย่ามีอะไรให้เสียใจ ร้องไห้ing
+ โอ้โห งานออริจินัล งานลิมิเต็ด งานชิ้นเดียวในโลก งานพรีเมียม
itsthebest เพิ่งเคยเห็นหมูกลายร่างเป็นแรด
finnif เพิ่งเคยมีหลัวหรอคะ อวดจังเลย ลำไยยยยย
phloengfa_ ปุ่มรีพอร์ตสแปมอยู่ตรงไหนครับ?
ลูกหมูหัวเราะขำ คนสุดท้ายมาพีคสุด เช้าขนาดนี้ทำไมยังตื่นมาคอมเม้นต์กันได้อีก แล้วจริงใจสิ แท็กไปหาพี่ฟ้ากับน้าเจ้า ฮึ่ย ๆ เจ้าคนกบฏ! เก็บโทรศัพท์วางไว้ที่โต๊ะ ต้องปลุกทิวาละ ขี้เกียจมองแล้ว!!!
“พี่ทิวาตื่นได้แล้ว~~~”
เงียบ...
“ทิวาครับ!”
เพิ่มระดับเสียงขึ้นมาอีก แต่ก็ยังคงเงียบ...
ยื่นมือไปเขย่าตัว คนตัวสูงพลิกตัวหนี แต่ยังไม่ลืมตาตื่น ลูกหมูหน้ามุ่ยขึ้นไปนั่งทับขาตัวเองบนเตียงกว้าง
“ทิวากาล! ตื่นได้แล้วนะ!”
“อื้อ...”
“หลับอะไรนานจัง ตื่น ตื่น ตื่นนนนนน!”
“อย่ากวน”
“ตื่นแล้วก็ลุกสิ ไปอาบน้ำได้แล้ว~~”
“หลับอยู่...”
“หลับแล้วพูดได้ไงอ่ะ” ลูกหมูข้ามตัวทิวากาลเพื่อไปอีกฝั่ง ก้มหน้าลงจนเกือบชิดกัน ตอนนี้คนนิสัยไม่ดีก็เหมือนคนหลับปกติ แต่คนหลับที่ไหนเขาพูดตอบโต้กันแบบนี้เล่า! ตื่นสิ ตื่นนนนนนนน
“อือ! อยากหลับก็หลับเลย เราจะไปปลุกพี่กร!”
หมับ!
แค่ขยับตัวเพียงนิดเดียวข้อมือก็ถูกคว้าเอาไว้ ทิวากาลลืมตาขึ้น จ้องเด็กแก้มกลมเขม็งด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง ความง่วงยังมีให้เห็นแต่ก็ทำเอาลูกหมูกลืนน้ำลายอึกเพราะหน้าดุ ๆ ของคนนิสัยไม่ดี
“จะไปไหนนะ?”
“ไปปลุกพี่ กะ....กาลครับ” ปิดท้ายด้วยการยิ้มหวาน แต่ทิวากาลยังทำหน้าดุอยู่ เจ้าหมูส่งนิ้วไปเกลี่ยคิ้วเข้ม
“ไปอาบน้ำ”
“.......”
“งั้นนอนเหอะ เราไม่กวนแล้ว” ปลดมือหนาออกแล้วไถลไปนั่งที่ขอบเตียง
ก็แล้วแต่ อยากนอนก็นอนไปเลย ไม่กวนก็ได้ ฮึ่ย!
ทิวากาลยื่นมือไปดึงเสื้อของเด็กขี้งอนเอาไว้ก่อนกลิ้งเข้าไปหา โอบแขนกอดเอวจากด้านหลังและซบหน้ากับผิวนุ่มนิ่มของเด็กแก้มกลม จันทร์เจ้ายังไม่ได้พูดอะไร มือก็กดโทรศัพท์เล่นไปด้วย
“งอนเหรอวะ”
“เปล่า... ก็พี่จะนอน เราเลยไม่กวนไง”
ร่างสูงหัวเราะในลำคอ ลุกขึ้นนั่งซ้อนหลังเด็กตัวนิ่มก่อนเกยคางบนไหล่เล็ก
“ไม่นอนแล้ว หันมาคุยกันหน่อยดิ”
“เราไม่ว่าง คุยกับตะวันอยู่”
“เตี้ย!!!!” ลุกหมูผุดตัวจากอ้อมกอดอุ่นของคนนิสัยไม่ดี แลบลิ้นใส่คนที่ทำหน้าโหดแล้ววิ่งปรู้ดออกจากห้องไป ทิ้งให้ทิวากาลหัวเสียอยู่คนเดียว
หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยแล้วทิวากาลจึงลงมาข้างล่าง เจอเจ้าเด็กแก้มกลมวอแวอยู่กับทินกรยิ่งโมโห เขาเดินเข้าไปแทรกระหว่างทั้งสองคน ทินกรส่ายหน้ากับความหวงของน้องชายแล้วยอมผละออกไปแต่โดยดี ปล่อยให้ตีกันไปแล้วกัน
“เรียบร้อยหรือยัง?” คุณสุริยะถามคนงานที่จัดข้าวของใส่รถตู้คันใหญ่ โดยมีเด็กตัวกลมนั่งมองอยู่บนขั้นบันไดด้วยตาวาว ๆ ในมือซ้ายมีจานผลไม้ ส่วนมือขวานั้นถือส้อมเป็นอาวุธประจำกาย
“มานั่งทำอะไรตรงนี้”
แหงนหน้ายิ้มแฉ่งให้เจ้าของคำถาม “หนูเหงา”
“หือ”
“ทิวาชอบแกล้งหนู หนูเลยออกมาข้างนอก แต่ออกมาแล้วหนูก็เหงา”
“กลับเข้าไปข้างในสิ”
“พี่ทิวากับพี่กรจะแกล้งหนู” ทำหน้าหงอยมองคุณลุง “คุณลุงเล่นกับหนูหน่อย หนูเหงา”
“เฮ้อ ไป ๆ เข้าบ้านไป”
“คิคิ” ลูกหมูกระโดดไปเกาะแขนคุณสุริยะแล้วจึงเดินเข้าบ้านและคุยกันเรื่องตกปลาไปด้วย
วันนี้เราจะออกเดินทางไปพักผ่อนกันที่ต่างจังหวัด จากทีแรกจะไปวันเสาร์ แต่เนื่องจากสอบเสร็จกันเร็วจึงเปลี่ยนเป็นศุกร์แทน พักอยู่ที่นั่นสองคืนและกลับวันอาทิตย์ ที่พักของเราคือบ้านพักตากอากาศติดชายทะเลของครอบครัวธนภูมิเมธี เนื่องจากเป็นวันธรรมดาแต่คุณสุริยะก็ยอมหยุดงานหนึ่งเพื่อไปเที่ยวกับครอบครัว และถือเป็นการผ่อนคลายความตึงเครียดจากการทำงานไปด้วย
ผู้ร่วมทริปนอกจากครอบครัวธนภูมิเมธีแล้วยังมีเหล่าผองเพื่อนของทิวากาลและจันทร์เจ้าไปด้วย แต่ว่าเพื่อนมัธยมไม่ไป หนึ่งรามินทร์และพี่มีน รามินทร์บอกว่าอยากอยู่กับพี่มีนสองคนจึงไม่ขอไปด้วย ไต้ฝุ่นก็ติดสัญญาต้องพาเจนิซไปเที่ยว ส่วนเวฟมีนัดเดทกับสาวตั้งแต่ก่อนสอบแล้วจึงไปด้วยไม่ได้ เศร้า... แต่ยังมีเบสท์กับฟินน์ไปด้วย อ๊า! เราไปชวนจริงใจกับจ๋าจ้า เจ้าเด็กนั่นบอกไม่ว่างไปเล่นไร้สาระด้วยหรอก ลูกหมูอยากมองจนจริงใจไปเกิดใหม่เลย ไม่ว่างเพราะจะเสนอหน้าไปหาพี่ภัคล่ะสิ ชิ! ส่วนจ๋าจ้า รายนั้นติดเรียนพิเศษจึงไม่สามารถมาด้วยได้
ฮือ ต้องการเพื่อน~
ใช้เวลาในการเดินทางพอสมควร และแล้วก็มาถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพ ลูกหมูวิ่งลงจากรถไปคนแรก พร้อมกับตะโกนด้วยเสียงตื่นเต้นสดใส ตั้งแต่เปิดเทอมมายังไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหนเลยสักครั้ง การมาทะเลครั้งนี้ดีกับใจที่สูดดดดดดดดดด ดูนั่นสิ ท้องฟ้าสดใสก้อนเมฆสีขาวลอยล่องในอากาศ แสงอาทิตย์สาดส่องกระทบกับผืนทะเลให้เป็นประกายระยิบระยับ ลมพัดโชยกลิ่นเค็มของทะเลมาเข้าจมูก...
อ๊า! สดชื่นที่สุดเลยยยยย
ผลัวะ!
“โอ๊ย! เบสท์ตบหัวเราทำไม!?”
“เพ้อเจ้ออะไรของมึง ไปขนของ!!” ลูกหมูยู่หน้า เดินกระทืบเท้าไปฟ้องทิวาว่าโดนเบสท์ทำร้าย ทว่าคนตัวสูงกลับไม่ช่วย แถมยังแกล้งล็อกคอซ้ำอีก ฮือ ทำร้ายเรา!
“แง!!!”
“ไป เข้าบ้าน” ชกหลังของคนนิสัยไม่ดีเบา ๆ ยอมเดินตามเข้าไปในบ้านแต่โดยดี “จัดของก่อนไหม?”
“พี่จัด” พูดแล้วส่งยิ้มหวานไปให้ ทิวากาลส่ายหน้าเบา ๆ แต่ก็ไม่ว่าอะไร ลูกหมูวิ่งไปเลื่อนประตูกระจกบานกว้างให้เปิดออกจนสุดแล้วออกไปยืนที่ระเบียง จากตรงนี้สามารถมองออกไปเห็นทะเลได้ สวยสุด ๆ ทำเลห้องนอนของทิวากาลโคตรดีเลย ยกนิ้วให้!!!
เมื่อชมวิวจนพอใจแล้วจึงเดินกลับเข้าห้องแต่ยังไม่ปิดประตู ปล่อยให้ลมพัดผ้าม่านสีขาวให้ปลิวไสว
“ให้เราช่วยไหม?”
“ถ้ามีจิตสำนึกก็ไม่ควรถามไหม?”
“โห โอ้โห หัวใจเราเจ็บจัง”
“ไอ้ห่า”
“คิคิ เดี๋ยวเราช่วยก็ได้ เห็นว่าสงสารนะเนี่ย”
“เอาความจริง”
“เราหิวแล้ว อยากไปกินข้าวไว ๆ”
นั่นไง ต้องมีเรื่องกินมาเกี่ยวทุกที แล้วดูสิ เขาจัดของจะเสร็จอยู่แล้วเพิ่งมาช่วย มันหน้าขย้ำให้เละจริง ๆ เมื่อจัดของเสร็จเรียบร้อยแล้วเจ้าเด็กแก้มกลมดันอุตริอยากเปลี่ยนชุดขึ้นมา เขาจะโอเคถ้าเสื้อที่เจ้าตัวอยากเปลี่ยนไม่ใช่เสื้อแขนกุดที่เว้าแขนลึกไปถึงเอวนั่น จะไปโชว์ผิวขาว ๆ ให้ใครดู แค่เสื้อยืดแค่สั้นธรรมดาเขาก็อยากให้ถอดออกแล้วใส่เสื้อแขนยาวแล้ว กางเกงก็เหมือนกัน จะใส่สั้นไปถึงไหน มันสูงกว่าเข่าขึ้นไปอีกนะ ขาขาว ๆ เนียน ๆ นั่นของเขาไหม เขาต้องได้เห็นคนเดียวสิโว้ย!
ตอนอยู่บ้านไม่ได้โวยวายเพราะเด็กแสบตัวติดกับพ่อและแม่ของเขาแจ จะเขาไปคุยด้วยทียังถูกมองด้วยสายตาดุ ๆ จากคนเป็นพ่อ โคตรเซ็ง นั่นแฟนเขาไหม ยังไง
“เป็นลูกสะใภ้เจ้าของบ้านแล้วจะช้ายังไงก็ได้เหรอคะ!?” ฟินน์ถามค่อนแขวะ เจ้าเด็กแก้มกลมยิ้มแฉ่งไม่สลด พุ่งตัวผ่านเพื่อนสนิทไปหลังจากเห็นสิ่งมีชีวิตตัวกลม ๆ อยู่ด้านหลัง
“น้องไลลา~~”
“เจ่เจ๊!!!”
หนูน้อยไลลาปล่อยมือคุณพ่อแล้ววิ่งเข้าไปกอดจันทร์เจ้าที่นั่งบนส้นเท้าอ้าแขนรอรับร่างนุ่มนิ่มของเด็กหญิงวัยขวบครึ่ง ไลลาร้องกรี๊ดหัวเราะคิกคักเมื่อถูกเจ่เจ๊หอมแก้มไปฟอดใหญ่
“ไหนบอกน้องไลลาไม่มาไง” หันไปถามทิวากาล ร่างสูงไหวไหล่
“โกหกไง”
“นิสัยไม่ดี!”
“เอ่า ๆ อย่าเพิ่งทะเลาะกันลูก ไปหาอะไรทานกันก่อนนะคะ”
“เย้เย้ ไปทานข้าวกันครับน้องไลลา go go~~~”
“โกะ โกะ~~~”
จันทร์เจ้ารวบตัวน้องไลลาขึ้นอุ้ม ทว่าเดินออกจากบ้านไม่เท่าไหร่ก็ส่งคืนให้กับแดนไท หัวเราะเขิน ๆ แล้วชิ่งวิ่งหนีไปหาเพื่อน น้องไลลาเป็นเด็กน้อยผิวขาวตัวอวบ เป็นเรื่องปกติที่อุ้มนาน ๆ แล้วจะเมื่อย อีกอย่างจันทร์เจ้าเป็นเพียงผู้ชายตัวเล็ก ๆ บอบบาง ไม่มีแรงเยอะ ๆ เพื่อรองรับน้ำหนักเจ้าหญิงน้อย
“กินเยอะ ๆ จะได้โตไว ๆ” ลูกหมูยิ้มกว้างหลังจากตักต้นหอมและหอมหัวใหญ่ที่เขี่ยออกจากข้าวผัดปูใส่จานให้ทิวากาล
“เออ ก็ตักของที่ไม่กินนั่นแหละมาให้”
“ผักมีประโยชน์นะครับ เราอยากให้พี่แข็งแรงไง” เอียงคอทำหน้าซื่อก่อนตักข้าวผัดปูแสนยั่วยวนกระเพาะเข้าปาก ทิวากาลกลอกตาไม่ต่างจากเหล่าผองเพื่อน เหตุผลของมันนี่มัน...
“เหอะ”
“เราเป็นห่วงพี่นะ ทำไมทำเสียงแบบนั้นล่ะ เศร้าจังเลย เบสท์ตักกุ้งตรงนั้นให้เราหน่อยสิ เราจะย้อมใจ”
“แค่หาเรื่องกินมึงจำเป็นต้องดราม่าขนาดนี้ไหมวะ” เบสท์บ่น แต่ก็ตักกุ้งที่ว่านั้นไปใส่จานให้ลูกหมูด้วย
“เราเสียใจก็ต้องดราม่าสิ ทิวาไม่เห็นค่าความห่วงใยของเราเลย”
“เพ้อเจ้อ!!”
ลูกหมูหัวเราะเสียงใสเมื่อทุกคนพร้อมใจกันบอกมาแบบนั้น เพ้อที่ไหนกัน ไม่ได้เพ้อ โวะ!!
“คุณลุงค้าบบบบบบบ” ลูกหมูวิ่งขึ้นจากทะเล ตัวเปียกมะลอกมะแลกเข้าไปหาคุณสุริยะที่นั่งพักผ่อนที่เก้าอี้ริมหาด
“โดนแกล้งมาอีกหรือไง?”
“ใช่คับ! เมื่อกี้พี่รถถังกับพี่ต้นจับหนูโยนลงน้ำ” หน้ามุ่ยบอกออกไปก่อนจะสะบัดหัวเมื่อที่จะพูดไม่ใช่เรื่องนี้ “เอ๊ย! ไม่ใช่สิ หนูจะมาถามว่าคุณลุงจะไปตกปลาเมื่อไหร่ครับ?”
“ไม่ไปแล้ว”
“อ้าว...”
“ฉันไม่ได้เอาอุปกรณ์มา”
ลูกหมูคอตก หน้าเศร้า คิดว่าจะได้มาตกปลาเสียอีก แย่จัง ไม่มีอะไรให้เล่นเลย ในขณะที่กำลังเศร้าอยู่นั้นลูกหมูก็ไม่ทันได้สนใจรอยยิ้มเจ้าเล่ห์จากคนที่เรียกว่าคุณลุงและผู้รู้เรื่องราว ไม่รู้ว่าเมาน้ำทะเลหรือยังไง เด็กจันทร์เจ้าถึงได้ลืมไปว่าเจ้าตัวไปนั่งมองตอนคุณสุริยะยกอุปกรณ์ตกปลาขึ้นรถ
“เจ่ เจ๊”
“ขอพาน้องไปเล่นน้ำได้ไหมครับ?” เอ่ยขออนุญาตคุณพ่อคุณแม่ของเด็กน้อยตาละห้อย เมื่อภาณุมาศพยักหน้าลูกหมูก็ยิ้มแฉ่งลืมว่าจะไม่ได้ตกปลาแล้วคว้าหมับอุ้มน้องขึ้นแล้ววิ่งลงทะเลโดยไม่ลืมหยิบห่วงยางสำหรับเด็กน้อยมาด้วย
“ไลลา~”
“กรี๊ดดดดดด” หนูน้อยร้องกรี๊ดเมื่อเหล่าพี่ ๆ รีบพุ่งเข้ามาหา น้องดีดแรงจนจันทร์เจ้าแทบจับไว้ไม่ไหว สุดท้ายก็โดนพี่มิคแย่งน้องไป แถมยังพาว่ายไปลึก ๆ อีก
ไอ้พี่มิคบ้า!!
โป้งแล้ว!
นั่นน้องเรานะ เราพามานะ ฮือ เอาน้องไลลาคืนเรามา!!!!
“ได้มาพักผ่อนแบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะคะ” ภาณุมาศเอ่ยขึ้นขณะมองไปยังท้องทะเลกว้างที่มีเด็ก ๆ เล่นน้ำกันอยู่
“นั่นสิ เราก็ไม่ได้มาเที่ยวพักผ่อนแบบนี้นานมากแล้วเหมือนกัน” คุณรัตติกาลกล่าวเสริมลูกสาว
“ทำไมจู่ ๆ พ่อถึงได้ชวนมาเที่ยวล่ะครับ?” ทินกรถามขึ้นบ้าง ทิวากาลที่อยู่ข้าง ๆ เองก็อยากรู้เหมือนกัน พ่อของเขาน่ะ บ้างานจะตายไป เรื่องที่ชวนมาเที่ยวพักผ่อนแบบนี้มันจึงค่อนข้างน่าอัศจรรย์ ถึงมีเวลาว่าง ก็มักไปกับคุณรัตติกาลแค่สองคน ทิ้งลูก ๆ ให้เหงาหงอยไม่สนใจใยดี เฮอ....
คนถูกถามไม่ตอบ แต่ทอดสายตามองไปยังเด็กหนุ่มตัวเล็กคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนของลูกชายที่กำลังระบายยิ้มกว้างระหว่างที่เล่นกับเพื่อน ทุกคนมองตามสายตาของคุณสุริยะ
แม้ใบหน้าของทุกคนจะมีเครื่องหมายคำถาม เขาก็ไม่ได้อธิบายอะไรเพิ่มเติม เพราะมันไม่ได้มีอะไรพิเศษ เพียงแค่เจ้าเด็กพูดมากคนนั้นทั้งส่งข้อความ ทั้งโทรศัพท์มาป่วนบ่อยเสียเหลือเกิน บ่นตัดพ้อว่าอ่านหนังสือหนักจนปวดหัว ทิวากาลที่ช่วยติวก็ดุแสนดุ อยากไปเที่ยวทะเลเป็นการผ่อนคลายสมอง จนกระทั่งเผลอหลุดปากไปให้เด็กมันดีใจ ไหน ๆ ก็พลั้งไปแล้วจะคืนคำก็กลัวจะเสียผู้ใหญ่ ให้เด็กมันได้ถอนหงอก
“ฉิบหายแล้วมึง” ทินกรหันไปหาน้องชาย “พ่อโคตรหลงน้องจันทร์เจ้าอ่ะตอนนี้”
ทิวากาลหน้าบึ้ง อาการเหมือนเด็กถูกขัดใจนั้นเรียกเสียงหัวเราะเอ็นดูจากคนได้ครอบครัว เขามองค้อนพ่อตัวเอง ฉิบหายจริง ๆ นั่นแหละ เป็นพระเอกที่บทไม่เด่นก็แย่พออยู่แล้ว พอมีแฟนก็โดนคนที่บ้านแย่งไปจนเขากลายเป็นหมาหัวเน่า ส่วนแฟนเด็กก็ช่างออดอ้อนครอบครัวเขาเสียเหลือเกิน มันน่าหงุดหงิดจริง คุณสุริยะยกยิ้มมุมปากให้ลูกชายคนเล็กที่หน้าบึ้ง ทิวากาลเสยผมไปด้านหลังก่อนลุกจากที่นั่งไปหาเด็กแก้มกลมที่เล่นสนุกกับเพื่อนอยู่กลางทะเล
มาเที่ยวแล้วไม่สนใจเขาเลย ไอ้เด็กห่านี่
“พี่กาลมาเล่นน้ำกันค่ะ!” รพินทร์ร้องเรียกพี่ชาย หากแต่ร่างสูงส่ายหน้าปฏิเสธ มือทั้งสองข้างล้วงกระเป๋ากางเกงและมองไปยังจุดเดียวไม่ละสายตา จุดที่เจ้าเด็กแก้มแกลมแหวกว่ายลอยคออยู่ ลูกหมูเมื่อเห็นทิวากาลก็ส่งยิ้มกว้างไปให้ ก่อนจะว่ายเข้าฝั่งเพื่อไปหาทิวากาล
“พี่ไม่เล่นน้ำด้วยกันเหรอ สนุกนะครับ”
“ไม่ล่ะ” เขาปฏิเสธ “ขึ้นเถอะ เล่นนานแล้ว ปากซีดหมดแล้วเนี่ย”
ลูกหมูแย้มยิ้ม จับมือหนาที่เกลี่ยริมฝีปากตนออกแล้วจับเอาไว้เฉย ๆ แทน “ยังสนุกอยู่เลย...”
“เล่นนานแล้ว เดี๋ยวก็ไม่สบาย พรุ่งนี้ค่อยเล่นต่อก็ได้”
“พรุ่งนี้เล่นพี่ด้วยกันนะ” ช้อนตาขึ้นมอง ตากลมฉ่ำน้ำเป็นสีแดงเล็กน้อยเพราะน้ำทะเลเข้าตา ทิวากาลยื่นมือไปขยี้ศีรษะกลม
“หัวเหนียวว่ะ ไปอาบน้ำเลย”
“พรุ่งนี้เล่นกับเรานะ”
“อือ ๆ” ลูกหมูร้องเย้เมื่อทิวากาลตกลง หันไปตะโกนบอกเพื่อนว่าจะไปอาบน้ำ และในขณะเดียวกันนั้นแดนไทก็มาพาน้องไลลาขึ้นจากน้ำเหมือนกัน
“หิวจังเลยคับ” พูดเสียงอ่อยระหว่างกำลังรื้อหาเสื้อผ้าเพื่อสวมใส่
“หิวก็รีบไปอาบ จะได้พาไปหาอะไรกิน”
“เย้เย้!” ร้องดีใจกระโดดหย็องเหยงคว้าผ้าเช็ดตัววิ่งเข้าห้องน้ำ
เดี๋ยว... แล้วเสื้อผ้าที่วางอยู่บนโต๊ะนั้นทำไมไม่หยิบเข้าไปด้วย
ลืมจริงหรือตั้งใจวะ!!!!!
ทิวากาลนั่งกอดอก จ้องบานประตูห้องน้ำอย่างใจจดใจจ่อ เชี่ยเอ๊ย! ทำไมลุ้นขนาดนี้วะ!
แกรก!
เขามองตามเสียงที่ดังขึ้น ร่างขาวเนียนออกมาจากห้องน้ำพร้อมกับมีชุดคลุมสีขาวคลุมกาย เส้นผมเปียกชื้นแนบไปกับใบหน้าและมีผ้าผืนเล็กวางโปะอยู่บนหัว ชายหนุ่มกลืนน้ำลายลงคอเมื่อเห็นว่าสาบเสื้อคลุมนั้นแหวกออกจนมองเห็นแผ่นอกขาวได้อย่างชัดเจน แล้วเหมือนตัวก่อเรื่องจะยังไม่รู้ตัว เด็กแก้มกลมหันซ้ายหันขวามองหาชุดของตัวเอง พอเห็นว่ามันวางอยู่บนโต๊ะก็เดินเข้าไปหยิบโดยไม่ได้สนใจเจ้าของห้องที่นั่งอยู่ปลายเตียง ทิวากาลสูดหายใจลึก พยายามสงบสติอารมณ์
เด็กนั่นไม่รู้ตัวเลยหรือไงว่าทุกครั้งแค่ก้าวเดินสาบเสื้อด้านล่างมันแหวกออกเนี่ย
ขาแม่งจะขาวไปไหนวะ!!!
“เข้าไปใส่เสื้อผ้าในห้องน้ำ” ทิวากาลสั่งเสียงเข้มเมื่อเจ้าเด็กแก้มกลมทำท่าว่าจะปลดเชือกที่มัดอยู่เอวออก เด็กน้อยเงยหน้าขึ้นมาทำตาโตตกใจรวบเสื้อกลับมาคลุมแล้วกอดตัวเองไว้
“เรานึกว่าพี่ไม่อยู่” ว่าเสร็จก็วิ่งเข้าห้องน้ำ
ร่างสูงหลับตาผ่อนลมหายใจและกำมือแน่น พึมพำกับตัวเองอยู่ในใจด้วยประโยคเดิม ๆ ซ้ำ ๆ
ใจเย็นไว้ลูกพ่อTBCมาแล้วววววววววววววววววว
อาจมีคำผิดอยู่ ถ้าเจอรบกวนบอกด้วยนะคะ .__.
ขอบคุณทุกท่านที่แวะเข้ามาอ่าน ไว้เจอกันตอนหน้าครับผม~
♥
ฝาก >
• ค ว า ม จ ริ ง ใ จ • ด้วยนะคะ