-->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ หลังแต่งงาน [03/07/2562]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ หลังแต่งงาน [03/07/2562]  (อ่าน 203213 ครั้ง)

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
มีความทนได้ ทนทุกอย่างแค่ได้จีบ 555555555

ออฟไลน์ pigarea

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
เราหิววววววววววว แต่ละอย่างที่สั่งมาของโปรดเรา อ่านตอนนี้จบไม่มีอะไรจะพูดนอกจาก หิว

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
555 ขำณธิป ไปกินต้มแซ่ป ฮ่าๆ แต่ก็ยังดีที่พูดตรงๆว่าไม่ชอบร้านแบบข้างทาง

ออฟไลน์ kms

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-14
เอิ่อม คบซ้อน แย่งแฟนคนอื่น(เมฆ) หนีงานแต่ง
นี้ยังไม่เลวร้ายอีกเหรอเนี้ย สงสัยต้องทำคนท้องแล้วทิ้งสิน่ะถึงจะเลวร้ายพอ
คือ งงว่าคนนิสัยแบบนี้ยังเขียนให้เป็นพระเอกได้ด้วยเหรอ
ไม่มีอะไรดีเลยสักนิด

ออฟไลน์ ละอองฝน

  • แมวดำ
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 261
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +398/-2





บทพิเศษ วันเกิด









   ชายหนุ่มหน้าหวานนั่งบริกรรมบทสวดแผ่เมตตาพร้อมกับกรวดน้ำในขันเงินใบเล็กใต้ต้นโพธิ์ใหญ่ เมื่อกรวดน้ำเรียบร้อยชายหนุ่มก็จับเส้นผมยาวที่เคลียข้างแก้มชวนให้รู้สึกรำคาญทัดหู เขาตั้งใจว่าหลังกลับจากทำบุญคงต้องตัดผมเสียที



เขาจัดการเก็บอุปกรณ์กรวดน้ำไว้บนศาลเช่นเดิม ก่อนเดินไปหาหลานๆ และน้องสาวที่ท่าน้ำ ตอนเดินผ่านข้างโบสถ์สายลมพัดมาต้องระฆังใบเล็กให้ส่งเสียงดังกรุ๋งกริ๋งเสนาะหู มองไปไกลๆ เห็นแดดยามสายส่องกระทบระลอกคลื่นบนผิวน้ำเป็นประกายจับตา กมลยิ้มออกมาน้อยๆ ขณะนึกเปรียบเทียบกับเวลาในอดีต



ในวันคล้ายวันเกิดปีนี้ไม่ได้มีอะไรแตกต่างจากหลายๆ ปีที่ผ่านมามากนัก เขายังคงมาทำบุญและวางแผนไปทานอาหารกับครอบครัว ถึงแม้สมาชิกในครอบครัวจะเปลี่ยนแปลงไปบ้าง แต่ความอบอุ่นที่มีก็ไม่เคยเปลี่ยนเลย



“ลุงไอ! มาเร็วครับ” เจ้าหยางแฝดน้องตะโกนเรียกกมลด้วยเสียงตื่นเต้น

“มีปลาเยอะเลยครับ” เจ้าหยินแฝดพี่รายงานต่อ

“ครับๆ ลุงกำลังไปแล้ว” กมลเร่งสาวเท้าไปหา พอถึงท่าน้ำก็ปรามเสียงดุ “อย่ากระโดดโลดเต้นนักสิครับน้องหยาง เดี๋ยวก็พลัดตกน้ำไปกลายเป็นอาหารปลาแทนหรอก”



พอได้ยินคำขู่เจ้าตัวดีก็หยุดกระโดด ก่อนขยับเท้าเข้ามาด้านในให้ห่างจากขอบท่ามากกว่าเดิม ส่วนแฝดพี่พอเห็นน้องทำเช่นนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะทำตาม ด้วยกลัวว่าจะพลัดตกลงไปด้วยเหมือนกัน



หลังจากนั้นเด็กน้อยสองคนก็ให้อาหารปลาอย่างระมัดระวัง แต่ผ่านไปครู่หนึ่งพอเห็นปลาสวายตัวใหญ่ว่ายขึ้นมาฮุบเหยื่อก็อดที่จะขยับเข้าไปดูใกล้ๆ ไม่ได้



“ปลาอะไรครับคุณแม่ ตัวใหญ่มากๆ เลย”

“ปลาสวายน่ะลูก” หทัยตอบ เธอนั่งย่อลงในระดับเดียวกันพร้อมเกาะเอวลูกชายคนเล็กไว้

“ปลาสวายกินได้ไหมครับ” แฝดพี่ถาม

“กินได้ครับ แต่เจ้าตัวนี้พี่หยินจะกินลงเหรอ พี่หยินเพิ่งให้อาหารมันเองนะ” กมลว่า

“ไม่กินหรอกครับ หยินแค่คิดว่าตัวมันใหญ่ เนื้อมันน่าจะเยอะ” เด็กชายตอบซื่อๆ

“พี่หยินใจร้าย” น้องหยางกล่าวหา

“พี่แค่ถามเฉยๆ ยังไม่ได้กินมันสักหน่อย” คนพี่แก้ต่างให้ตัวเอง

“นั่นแหละ หยางว่าพี่หยินใจร้าย”

“พอแล้วครับเด็กๆ ไม่เถียงกันนะ” กมลปรามอีกครั้ง ก่อนเบี่ยงประเด็น “หิวกันหรือยัง ไปกินกุ้งแม่น้ำตัวโตๆ กันดีกว่า”

“ไปครับ ไปๆ หยางหิวแล้ว” หยางขืนตัวออกมาจากอ้อมกอดของแม่ ปัดไม้ปัดมือของตัวเอง ก่อนเดินมาจูงมือคุณลุงไปที่รถ ทิ้งให้พี่ชายกับแม่มองหน้ากันอยู่ที่เดิม

“ตัวเองจะกินกุ้งตัวโต แล้วมาว่าเราใจร้าย” แฝดพี่บ่นงึมงำ แต่หทัยที่อยู่ใกล้ๆ ก็ได้ยิน เธอจึงหัวเราะออกมาอย่างนึกขัน ก่อนจะจูงมือลูกชายคนโตเดินตามลูกชายคนเล็กไป

“เราตามพวกเขาไปกันดีกว่าเนอะ คุณแม่หิวแล้วล่ะ”

“ครับ” หยินพยักหน้ารับอย่างว่าง่ายเพราะเด็กน้อยก็รู้สึกหิวเหมือนกัน









กมลขับรถพาครอบครัวไปทานกุ้งแม่น้ำบนเรือแถบชานเมือง เด็กๆ ดูจะตื่นเต้นกันยกใหญ่ที่ได้นั่งเรือไปด้วย ได้ทานของอร่อยไปด้วย เมื่อทานเสร็จพวกเขาก็พากันขับรถเล่นนิดหน่อยก่อนกลับบ้าน



เมื่อกลับมาถึงกมลก็โทรเช็คความเรียบร้อยกับพนักงานหลายคน เพราะอันที่จริงวันนี้เป็นวันที่ I promise ต้องจัดงานให้ลูกค้าหลายคู่มาก หากแต่พนักงานหลายคนขอร้องแกมบังคับให้กมลหยุด เพราะเจ้าตัวทำงานมาตลอดทั้งปีแล้ว แรกๆ กมลไม่เห็นด้วย แต่พอเห็นว่าทุกคนตั้งใจให้เขาได้ฉลองกับครอบครัว และงานที่ได้รับมอบหมายก็ออกมาน่าพอใจ เขาจึงยอมหยุดเพื่ออยู่กับครอบครัวหนึ่งวัน



เมื่อตามงานเสร็จเรียบร้อย กมลก็พบว่างานมีข้อติดขัดบางอย่าง ชายหนุ่มขึ้นไปอาบน้ำอาบท่าเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วตามไปช่วยดูแลควบคุมที่งานของลูกค้ารายหนึ่ง



ครั้นไปถึงงาน กมลก็ช่วยทีมงานดูแล จัดการปัญหาต่างๆ จนสุดท้ายก็ลุล่วงไปด้วยดี แต่กว่าจะเสร็จก็ปาเข้าไปเกือบเที่ยงคืน ชายหนุ่มจึงตัดสินใจค้างที่คอนโดเพื่อความสะดวก เพราะวันนี้เขาเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว และพรุ่งนี้ยังมีงานที่ต้องจัดการอีกหลายคู่



เพราะดึกแล้วถนนจึงโล่ง กมลขับรถไม่นานก็ถึงห้องพัก ขณะเลี้ยวรถเข้าไปจอดตรงที่ประจำเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ กมลเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมามองชื่อที่แสดงอยู่บนหน้าจอ เห็นเป็นชื่อของใครคนหนึ่งที่ช่วงนี้พยายามโทรหาและส่งข้อความมาอย่างสม่ำเสมอ แต่ตัวเขาเองก็ยังรู้สึกไม่สนิทใจที่จะยอมให้ความสัมพันธ์มันดีเหมือนก่อนเกิดเรื่อง



เขาจึงลังเลว่าจะกดรับดีไหม กระทั่งสายตัดไปเสียก่อน



ชายหนุ่มถอนหายใจโล่งอกที่กดรับไม่ทัน เขาจึงหันไปเก็บข้าวของและลงจากรถ แต่แล้วโทรศัพท์กลับส่งเสียงดังอีกรอบ คราวนี้กมลจึงตัดสินใจกดรับเสียให้สิ้นเรื่อง



   “สวัสดีครับ”

   [คุณไอ ผมณธิปนะ] ถึงอีกฝ่ายไม่บอก กมลก็รู้อยู่แล้วจากรายชื่อที่ขึ้นหราอยู่ตรงหน้าจอโทรศัพท์

   “ครับ คุณมีอะไรหรือเปล่า”

   [ขอโทษที่กวน แต่คุณอยู่ที่ไหน]

   “ผมกำลังจะนอนแล้ว” คำโป้ปดที่บอกอีกฝ่ายนั้น ก็เพื่อกันไม่ให้ณธิปรั้งคุยอยู่นาน

   [นอนเหรอ คุณนอนที่ไหน] คำถามที่ถูกส่งมาตามสายทำให้กมลต้องขมวดคิ้ว ยิ่งเสียงของณธิปดูแปลกใจมากขึ้นเรื่อยๆ กมลก็ยิ่งสงสัยมากขึ้น

   “นอนในห้องของผมสิครับ คุณมีอะไร”

   [แต่ผมอยู่หน้าห้องคุณมาทั้งวัน มันไม่เหมือนว่าคุณอยู่เลย ผมเคาะเรียกคุณตั้งหลายครั้ง] ประโยคที่ได้ยินทำให้กมลนึกสงสัยขึ้นมาอีกข้อ ว่าณธิปไปทำอะไรที่หน้าห้องของเขากันแน่

   “นี่คุณอยู่หน้าห้องของผมเหรอ”

   [ใช่]

   “ที่คอนโด?”

   [ใช่ แล้วคุณอยู่ไหน]

   “อยู่…บ้าน” หนุ่มหน้าหวานอึกอัก “ว่าแต่คุณไปทำอะไรที่หน้าห้องของผมกันล่ะ”

   [ผม…เอ่อ…ผมมีธุระกับคุณ]

   “สำคัญมากเลยหรือครับ ถึงขนาดว่าคุณต้องไปหาผมที่ห้องน่ะ”

   [สำคัญสิ สำคัญมาก]

   “งั้นก็พูดมาเลยครับ”

   [ไม่ ไม่ได้] อีกฝ่ายตอบด้วยน้ำเสียงร้อนรน

   “ทำไม”

   [ผมต้องเจอคุณ ต้องพูดต่อหน้าคุณ]

   “แต่ผมอยู่บ้าน และกำลังจะเข้านอนแล้ว ผมคงพบคุณตอนนี้ไม่ได้ เอาไว้พรุ่งนี้ หรือมะรืนนี้ได้ไหมครับ ผมจะโทรไปนัดอีกที แต่ต้องเป็นธุระสำคัญจริงๆ นะครับ”

   [ไม่ได้ ต้องวันนี้เท่านั้น บ้านคุณอยู่ไหน ผมจะขับรถไปหาเอง]

   “นั่นไม่ได้หรอก มันจะรบกวนน้องสาวและหลานๆ ของผม”

   [ไม่รบกวนหรอก ผมขอเจอคุณเดี๋ยวเดียวเท่านั้น นะครับคุณไอ ผมรอคุณอยู่นี่มาตั้งแต่เช้าแล้ว ขอเวลาแค่นิดเดียวจริงๆ] พอเห็นว่ากมลจะไม่ยอมอ่อนให้ ณธิปจึงเริ่มอ้อนวอน

   “เฮ้อ…”


กมลถอนหายใจออกมาอย่างคิดหนัก เขาไม่อยากออกไปทั้งสภาพอย่างนี้ เพราะณธิปจะรู้ว่าที่เขาพูดว่าอยู่ที่ไหนนั้นคือคำโกหก แต่ไอ้ประโยคที่ว่ารออยู่หน้าห้องมาทั้งวัน มันทำให้กมลนึกสงสารขึ้นมา หรือบางทีณธิปอาจมีเรื่องสำคัญจริงๆ



   [นะครับคุณไอ ให้ผมได้เจอคุณเถอะ]

   “งั้นก็ได้ครับ เดี๋ยวผมจะไปหาคุณที่นั่น รอสักครู่”

   [ไม่ให้ผมไปหาที่บ้านคุณเหรอ ทำแบบนี้คุณจะลำบากน่ะสิ]

   “ไม่เป็นไร ผมไปเองดีกว่า ไม่สะดวกให้มาที่นี่น่ะ”

   [ครับๆ ยังไงก็ได้ครับ ผมจะรอนะ] ปลายสายตอบด้วยน้ำเสียงดีใจ ก่อนกมลจะตัดสายไป



   เพราะโกหกออกไปแล้วว่าอยู่บ้าน สุดท้ายกมลก็ต้องหยิบเอาชุดลำลองหลังรถมาเปลี่ยน และนั่งรถอยู่ในรถสักพัก เพื่อทำทีว่ากำลังขับรถมา จนเมื่อเห็นว่าเหมาะสมแก่เวลา ชายหนุ่มจึงออกจากรถแล้วขึ้นไปยังห้องของตัวเอง








   ตอนที่ก้าวออกจากลิฟต์ กมลเห็นร่างสูงใหญ่ของณธิปกำลังยืนพิงกำแพงแถวๆ หน้าห้องของตนเอง ในมือมีของหิ้วพะรุงพะรัง ทั้งถุงทั้งกล่องเต็มสองมือ แล้วพอดวงตารีคู่นั้นหันมาเห็นเขา เจ้าตัวก็ยิ้มกว้างต่างจากยิ้มกรุ้มกริ่มแบบที่ชอบทำบ่อยๆ ออกมา



   “คุณมีอะไร” กมลถามเมื่อเดินมาหยุดตรงหน้าคนตัวสูง

   “เข้าห้องก่อนสิครับ”

   “ไม่ครับ” หนุ่มหน้าหวานปฏิเสธชัดเจน เขาไม่อยากยอมให้ถึงขนาดนั้น เพราะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายมีจุดประสงค์อะไรกันแน่ถึงมาที่นี่

   “ได้ยังไงล่ะ ก็ผมเตรียม…”

   “คุณบอกว่าขอเวลานิดเดียว ดังนั้นพูดเรื่องสำคัญของคุณมาเถอะ ผมง่วง”

   “…” พอเห็นว่ากมลไม่ยอมจริงๆ ณธิปจึงคว้าข้อมือของอีกฝ่ายไว้ แล้วสวมหูของถุงกระดาษใบใหญ่เข้าไปคล้อง จากนั้นก็หยิบกล่องใบเล็กอีกกล่องขึ้นมาวางบนสองมือของกมล ก่อนสั่ง “ช่วยผมถือหน่อย แล้วก็ยกขึ้นสูงๆ นิดนึงครับ”



   กมลยกกล่องขึ้นตามที่อีกฝ่ายบอก แล้วรอดูว่าณธิปกำลังจะทำอะไรอีก เมื่อกล่องปริศนาถูกยกขึ้นมาในระดับพอดี ณธิปก็แกะฝากล่องให้เปิด จากนั้นจึงหยิบเทียนเล่มเล็กที่เตรียมเอาไว้มาปักบนหน้าของเค้กชิ้นเล็กในนั้นแล้วจุดไฟ



   “อะไรกันคุณณธิป”

   “เค้กวันเกิดไง” ณธิปทำให้กมลรู้สึกเหมือนตัวเองปัญญาอ่อนที่ถามคำถามแบบนั้นออกไป

   “ผมรู้แต่—“ และพอกมลจะแย้ง อีกฝ่ายก็ดันขัดขึ้น พร้อมกับเริ่มต้นร้องเพลงอวยพรที่หลานๆ ร้องให้เขาฟังมาสดๆ ร้อนๆ วันนี้

   “อย่าเพิ่งพูดสิ ฟังก่อน…” เจ้าตัวกระเอมเล็กน้อย ก่อนเริ่มร้องเพลงด้วยเสียงเพี้ยนน้อยๆ “Happy birthday to you, Happy birthday to you, Happy birthday Happy birthday Happy birthday to you.”



   กมลอึ้งไปเพราะไม่คิดว่าณธิปจะทำอะไรแบบนี้ สองมือถือเค้กค้างไว้เช่นนั้น ไม่ยอมก้มหน้าลงไปเป่าเทียนเหมือนที่คนตัวสูงคิด



   “อธิษฐานแล้วก็เป่าสิคุณ ถึงจะเลยวันเกิดมาแล้ว แต่แค่ไม่กี่นาทีก็คงไม่เป็นไร” คนตัวสูงสั่ง และสถานการณ์ที่เผชิญอยู่ก็บีบให้กมลต้องยอมทำตามอย่างช่วยไม่ได้


   “อืม” กมลรับคำแล้วก็เป่าเทียนทันที ไม่ได้อธิษฐานอะไรทั้งนั้น

   “สุขสันต์วันเกิดนะ”

   “ขอบคุณครับ” กมลเงยหน้ามองอีกฝ่ายแล้วขอบคุณเบาๆ

   “ไม่เป็นไรครับ ผมเต็มใจ ในถุงนั่นของขวัญ ผมไม่รู้คุณจะชอบไหม แต่อย่าทิ้งมันนะ” เจ้าตัวพูดออกมายืดยาวในคราวเดียว

   “ผมไม่เคยทิ้งของที่คนอื่นตั้งใจให้หรอกครับ” กมลว่า

   “อืม…แค่นี้ก็ดีแล้วล่ะ” เจ้าตัวยิ้มออกมาอีกครั้งเมื่อได้ยินคำตอบ ก่อนหุบยิ้มเมื่อถูกตัดบท

   “คุณหมดธุระของคุณแล้วใช่ไหม”

   “อื้ม”

   “ถ้าอย่างนั้นก็กลับเถอะ ผมจะเข้าห้องแล้ว พรุ่งนี้ต้องไปทำงานแต่เช้า ขอบคุณอีกครั้งนะครับ”

   “ไม่เป็นไร งั้นผมไปล่ะ”



ณธิปพูดหง่อยๆ แค่นั้นก่อนเดินไปที่ลิฟต์ กมลไม่ได้รอส่งอีกฝ่าย เพราะทันทีที่คนคนนั้นหันหลัง เขาก็ไขกุญแจเข้าห้อง เก็บเค้กเข้าตู้เย็น วางกล่องของขวัญทิ้งไว้บนโซฟาแล้วเดินไปยังห้องนอนเพื่อพักผ่อน



   พอปิดไฟแล้วหัวถึงหมอน กมลก็คิดถึงกล่องที่อยู่ในถุงกระดาษใบโตนั่นเล็กน้อย ลองเดาเล่นๆ ว่าอะไรกันนะที่อยู่ข้างใน เดาไป เดามาหลายอย่าง สุดท้ายกมลก็ตัดสินใจว่าเอาไว้ว่างๆ เขาค่อยเปิดดูก็แล้วกัน









:L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:






วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ตรงกับวันเกิดพี่ไอค่ะ
ตอนแรกฝนกะจะเขียนตอนหลักแล้วลงให้ทันวันเกิด แต่มันไม่ทันจริงๆ
ดังนั้นก็เลยเอามาแยกเป็นพาร์ทของพี่ไอ เเล้วทำเป็นตอนพิเศษแทน
ส่วนตอนหลักที่เป็นเนื้อเรื่องเกี่ยวกับวันเกิดก็มีค่ะ แต่เป็นพาร์ทมุมคุณเล็ก
ถัดจากนี้ประมาณ 4-5 ตอนก็จะถึง แต่ในระหว่างนี้จะมีอะไรที่ทำให้คะแนนคุณเล็กติดลบอีก :เฮ้อ: ต้องรออ่านค่ะ

ตอนนี้ฝนเคลียร์คีตมาลาจบแล้ว ดังนั้นก็จะพยายามมาอัพเรื่องนี้บ่อยๆ
ฝากติดตามด้วยน้า

สุขสันต์วันเห็นความรักค่ะ  :mew1: :mew1: :mew1:


เจอกันตอนหน้า


ละอองฝน.

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ Onlylyn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
พี่ไอใจแข็งมากกกก เอาใจช่วยคุณเล็ก
แต่ขอพิจารณาอีกที เพราะตอนหลักเห็นว่าคะแนนจะติดลบไปอีก
ไปก่อเรื่องอะไรไว้หืมม รอ~
สุขสันต์วันแห่งความรักค่ะ :กอด1: :L1:

ออฟไลน์ pigarea

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
อ่านแล้วสงสารคุณเล็กเลย มีความพยายามมากๆ แต่คุณไอไม่ใจอ่อนสักนิด  :mew2:

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ A-J.seiya*

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +306/-8
สารภาพว่าเป็นทาสนิยายคุณฝนค่ะ
ชอบสำนวนการเล่า มันละมุนละไม น่าอ่านมาก
ุทุกเรื่องคืออ่านไป 1 ย่อหน้า รู้ตัวเลยว่าติดแน่ๆ
เรื่องนี้ล่าสุดใช่มั้ยคะ
มันดีมากเลยค่ะ คุณไอยะมาปราบเด็กดื้อ
เราอ่านแฃ้วเราไม่โกรธคุณเล็กเลย คุณเล็กเอาตัวเองไปเทียบกับพี่เลยน้อยใจ
เด็กขี้น้อยใจก็ทำอะไรแบบนี้ทั้งนั้นค่ะ เราเข้าใจ
ฮือออ สงสารคุณเล็กด้วยซ้ำไป เอาใจช่วย
ขอให้ไอได้ขัดเกลานิสัยคุณเล็กหน่อยค่ะ
รับรองว่าจะพลิกหน้ามือเป็นหลังตีนเลย
ฮอลลลล รอตอนต่อไปด้วยใจจดจ่อค่ะ
<3

ออฟไลน์ ละอองฝน

  • แมวดำ
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 261
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +398/-2


คุณคือความรัก บทที่ 14









นับเป็นเวลากว่า 2 เดือน ที่กมลไม่ได้พบกับณธิปอีกเลยหลังจากไปทานซุปเปอร์ขาไก่ด้วยกันในคืนนั้น เพราะว่าเขาและณธิปต่างก็ยุ่งวุ่นวายกับงานของตัวเองทั้งคู่



ฤดูหนาวกำลังมาเยือนอีกครั้ง นั่นเป็นสัญญาณของวันสำคัญและวันพิเศษมากมาย ตารางการจัดงานวิวาห์ของ I promise แน่นเอี๊ยดไปถึงปีใหม่ ซึ่งก็นับว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่ง



แต่ทั้งหมดนั้นก็ต้องแลกกับการที่พนักงานทุกคนหัวปั่นเพราะทำงานกันไม่หยุดหย่อน โชคดีที่กมลสั่งให้แผนกต่างๆ เปิดรับพนักงานเข้ามาเพิ่มมาตั้งแต่ช่วงก่อนหน้า ไม่เช่นนั้นก็คงไม่อาจรับมือโปรเจคงานต่างๆ ได้ทันเป็นแน่



ส่วนงานที่ร่วมมือกับปางปาลี ตอนนี้เรียบร้อยหมดทุกอย่างแล้ว เหลือเพียงแค่ให้ถึงวันที่โรงแรมเปิดตัวเท่านั้น ทีมงานของกมลก็จะได้เริ่มปฏิบัติหน้าที่ในส่วนต่อไปได้ทันที ซึ่งกำหนดการเปิดตัวของโรงแรมก็ถึงคือสุดสัปดาห์ที่จะถึงนี้เอง



งานนี้กมลเองก็ได้รับเชิญให้ไปร่วมด้วยเช่นกัน ทั้งยังได้รับบัตรผ่านเข้าร่วมงานจากเจ้าของโดยตรงเสียด้วย ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นในแง่ของธุรกิจหรือความสัมพันธ์ส่วนบุคคล ทุกสิ่งทุกอย่างก็บังคับไปในตัวแล้วว่ากมลจำเป็นต้องไปร่วมงานด้วยตัวเอง



แต่แล้วก่อนถึงวันเปิดตัวโรงแรงปางปาลีสองวัน เจ้าของงานก็ไม่วายโทรหากมลด้วยตัวเอง เพื่อขอร้องแกมบังคับให้กมลต้องไปให้ได้



[ผมเตรียมบ้านพักไว้ให้แล้ว เป็นห้องเดิมที่เมื่อคราวก่อนคุณพักไง จำได้ไหมครับ]



เพราะณธิปได้ยินจากผู้จัดการโรงแรมว่า เมื่อคราวที่กมลมาพัก หนุ่มหน้าหวานดูจะถูกใจวิลล่าของเขามาก ดังนั้นชายหนุ่มจึงถือโอกาสเอาใจ และทำคะแนนเพิ่มให้ตัวเอง เพราะช่วงที่ผ่านมาเขาไม่ได้พบหน้ากมลเลย จะมีก็แต่คุยกันทางโทรศัพท์กับข้อความเท่านั้น



“ไม่เห็นจำเป็นต้องให้ผมพักที่วิลล่านั่นเลยครับ ห้องแพงๆ วิวดีๆ แบบนั้น ให้แขกผู้ใหญ่คนสำคัญพักดีกว่านะ ผมพักห้องในตัวโรงแรมจะเหมาะสมกว่าด้วย”


[ได้ไงล่ะ คุณเองก็คนสำคัญ] เสียงของคนปลายสายหยอดคำหวานออกมาดื้อๆ ก่อนจะยื่นข้อเสนออย่างกระตือรือร้น [จะพาน้องสาวกับหลานๆ มาพักด้วยก็ได้นะ เป็นวันสุดสัปดาห์พอดีด้วย ผมว่าเด็กๆ ต้องชอบหาดส่วนตัวของปางปาลีแน่ๆ]

“จะเอาเด็กๆ ไปด้วยได้ยังไง เท่านี้ก็เกรงใจจะแย่แล้วครับ”

[คุณก็เหมือนหุ้นส่วนที่ร่วมงานกับผม ต่อไปคงต้องประสานงาน และช่วยเหลือกันอีกหลายอย่าง เกรงใจทำไมกัน]

“จะว่าอย่างนั้นก็เถอะ แต่คราวนี้ผมไปทำงาน”


[ไม่ได้มาทำงานสักหน่อย มาแสดงความยินดีต่างหาก] ณธิปเถียงอย่างไม่ยอมแพ้ ทั้งยังรีบสวนกลับจนกมลหาข้ออ้างไม่ทัน [อีกอย่างงานเลี้ยงก็มีในตอนกลางคืน คุณมาถึงเที่ยงๆ ก็ยังมีเวลาเดินเล่นพักผ่อนตั้งหลายชั่วโมง เช้าวันต่อมาก็ด้วย กลับไฟล์ทค่ำหน่อยก็ไม่เป็นไรหรอกจริงไหมครับ จะได้อยู่ทานข้าวเที่ยงด้วยกัน ไหนคราวก่อนบอกจะให้ผมแก้มือไง ถึงจะผ่านมาเดือนกว่าแล้ว แต่ผมก็ยังจำได้นะ หรือคุณไอคิดจะเบี้ยว]


“เปล่าครับ ผมแค่คิดว่าคุณน่าจะยุ่ง แล้วก็อย่างที่บอก ว่าผมเกรงใจ”

[เอาอย่างที่ผมว่านี่แหละ พาเด็กๆ มาด้วย คุณจะได้ลองพื้นที่นันทนาการต่างๆ ให้ผมไง เผื่อว่ามีตรงไหนที่ไม่ดีพอเมื่อต้องใช้งานจริง ผมจะได้แก้ไขทัน เท่านี้ก็หายกันแล้วเห็นไหม ได้ประโยชน์ทั้งคู่]



กมลรู้สึกคล้อยตามที่ณธิปพูดเล็กน้อย ความจริงหากจะให้เอาแต่หาประโยชน์จากสิ่งที่อีกฝ่ายยื่นมาปรนเปรอให้ เขาก็คงไม่ต่างอะไรกับคนอื่นๆ ที่ณธิปเข้าหา แต่ถ้าต่างฝ่ายต่างได้ผลประโยชน์ร่วมกันจริง ชายหนุ่มคิดว่าข้อเสนอนี้ก็ดีไม่น้อย เพราะรู้ว่าหลานๆ คงดีใจมากถ้าได้ไปเที่ยวตามที่เคยให้สัญญาเอาไว้ เขาเองก็ได้ไปร่วมงานในเวลาเดียวกัน



เมื่อไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนแล้ว กมลจึงตกลงปลงใจรับปากออกไป “ก็ได้ครับ ผมจะลองไปชวนเด็กๆ กับอ้ายดู ถ้าพวกเขาไปด้วย ผมจะช่วยกลับมารีวิวให้ว่าพื้นที่ส่วนกลางของคุณเป็นยังไง”

[ดีครับเลยครับ ว่าง่ายอย่างนี้ เอาไว้ผมจะตกรางวัลให้นะ]

“หึ” กมลแค่นหัวเราะเย็นชา ปลายสายจึงหัวเราะร่วนออกมาแล้วแก้ตัว

[ฮ่าๆๆ อย่าเพิ่งทำเสียงเอือมกันน่า ผมแค่ล้อเล่นนิดหน่อยเอง] ณธิปเว้นไปนิด ก่อนว่าเอ่ยด้วยน้ำเสียงเป็นงานเป็นการขึ้น [งั้นเอาไว้เจอกันวันเสาร์นะครับ ผมจะให้คนเอารถไปรับที่สนามบิน]


“ขอบคุณครับ”



พูดคุยกันต่ออีกสองสามคำ กมลก็วางสายไป



ตั้งแต่ไปกินข้าวด้วยกันคืนนั้น กมลกับณธิปก็สนิทกันมากขึ้น ไม่ใช่แค่ณธิปที่เริ่มพูดคุยหยอกล้อและวางตัวสบายๆ เวลาพูดคุยกันเท่านั้น ตัวของกมลเองก็รู้สึกว่าเขาลดการระแวดระวังอีกฝ่ายลงไปเยอะพอสมควร อาจเป็นเพราะรู้จักกันมาได้พักใหญ่ และนอกจากนิสัยเจ้าชู้กะลิ้มกะเหลี่ย ทำทีเล่นทีจริงไปเรื่อยแล้ว ณธิปก็ไม่ได้รุ่มร่ามอะไรกับเขามากเกินกว่าจะรับมือได้ ยามที่ต้องคุยงานก็จริงจังดี ความสัมพันธ์ที่เคยวางไว้ในขั้น คนที่ไม่อยากยุ่งด้วย จึงเปลี่ยนมาเป็น คนที่ร่วมงานได้ผสมกับมิตร โดยที่ไม่ทันได้รู้ตัว

   










ทุกอย่างเป็นไปตามที่กมลคาดไว้ไม่มีผิด เพราะเมื่อเขาเอ่ยให้ครอบครัวไปเที่ยวที่ปางปาลีด้วยกัน เด็กๆ ก็ตื่นเต้นกันยกใหญ่ ไม่คิดปฏิเสธสักนิด แม้กระทั่งน้องสาวของเขาเองก็เห็นดีเห็นงามด้วยเช่นเดียวกัน สุดท้ายเมื่อทุกคนตกลงใจและยินดีอย่างยิ่งที่จะไป กมลก็จำต้องทำตามโดยไม่กล้าขัด



“หยินเอาคุณรอยไปด้วยได้ไหมครับลุงไอ” แฝดคนพี่รีบยกกระตุกมือขวาถามผู้เป็นลุงอย่างตื่นเต้น เพราะต้องการนำของเล่นที่เป็นเจ้ารถดับเพลิงสุดหวงไปเที่ยวด้วย


กมลยิ้มให้หลาน ก่อนพยักหน้า “ได้สิครับ”

“หยางเอาคุณโพลี่ไปด้วยนะครับ” ครั้นได้ยินคุณลุงออกปากอนุญาตให้พี่ชาย แฝดคนน้องก็รีบกระโดดมาเกาะมือซ้ายแล้วเขย่าถามบ้าง


“ได้ครับน้องหยาง” กมลหันมายิ้มให้เจ้าคนเล็กบ้าง ก่อนจะเอ่ยรวบหลานๆ มากอดแล้วเอ่ยกับทั้งคู่ “แต่เอาของเล่นติดไปได้แค่คนละชิ้นนะครับ แล้วหลังจากนี้ก็ห้ามไปงอแงกับแม่อ้ายอีกรู้ไหม”

“ครับ”

“ครับ” เด็กสองคนส่งเสียงรับคำพร้อมกัน

“งั้นตอนนี้ก็ขึ้นห้องนอนดีกว่าครับ คืนนี้ลุงจะเล่านิทานให้ฟังแทนแม่อ้ายนะ”

“เย้ๆ”



เจ้าฝาแฝดพลิกกายออกจากอ้อมกอดของกมล ก่อนจะจับมือชายหนุ่มไว้คนละข้าง จากนั้นก็จูงมือพาขึ้นไปบนห้อง ให้ชายหนุ่มเล่านิทานให้ฟัง



ครั้นเด็กๆ หลับสนิทแล้ว กมลก็ลงมาหาน้องสาวที่ง่วนอยู่ในครัวเพื่อเตรียมอาหารเก็บไว้ในตอนเช้าให้ลูกๆ ก่อนไปโรงเรียน



“เสร็จหรือยังอ้าย”

“ใกล้แล้วค่ะพี่ไอ” หญิงสาวค่อยๆ คีบผักต้มสุกที่หั่นเป็นชิ้นพอดีคำขึ้นมาพักไว้ ตั้งใจว่าจะรอให้เย็นก่อนค่อยเก็บเข้าตู้เย็นเพื่อเอาไว้ประกอบอาหาร

“ความจริงวันเสาร์เด็กๆ มีเรียนว่ายน้ำนี่ โทรไปลาได้ไหม เผื่อเก็บชั่วโมงเรียนไว้คราวหน้าได้ ค่าเรียนว่ายน้ำก็ไม่ใช่ถูกๆ “ ซ้ำกมลก็อยากให้หลานๆ ได้เรียนจนจบคอร์ส เขาจึงค่อนข้างห่วงเรื่องนี้เล็กน้อย


“ลาได้ค่ะ เดี๋ยวอ้ายจัดการเอง พี่ไอไม่ต้องห่วงนะ” หญิงสาวหันมายิ้มให้พี่ชาย เธอพิงหลังกับเคาน์เตอร์ แล้วเปลี่ยนไปถามอีกเรื่องแทน “ว่าแต่ทำไมถึงคิดจะพาเด็กๆ กับอ้ายไปด้วยคะ เห็นทีแรกพี่ไอว่าจะรีบไปรีบกลับมาดูงานต่อตอนบ่ายวันอาทิตย์”


“พอดีคุณณธิปเขาเสนอให้พักวิลล่าน่ะ แลกกับให้เราไปช่วยลองดูพื้นที่ส่วนกลาง พี่เห็นว่ามันมีพื้นที่สำหรับครอบครัวด้วย แล้วคราวก่อนก็เคยสัญญากับเด็กๆ ไว้ ก็เลยอยากให้ไป ได้เที่ยวพร้อมๆ กับทำงานด้วยก็น่าจะดีเหมือนกัน เราสี่คนก็ไม่ได้ไปไหนเป็นครอบครัวมานานแล้ว”


“อ๋อ ก็เป็นความคิดที่ดีนะคะ อ้ายเห็นรูปที่ถ่ายกันมาทำงานก็คิดว่าสวยน่าเที่ยวดีค่ะ”

“ก็สวยจริงๆ นั่นแหละ”


“ว่าแต่…คุณณธิปนี่เขาก็ดีนะคะ จริงๆ เราก็ไม่ใช่หุ้นส่วนของเขา โครงการที่ทำร่วมกันก็เหมือนจะเป็นทางนั้นมากกว่าที่จ้างเรา ทางเราได้ประโยชน์มากกว่าเห็นๆ แต่เขาก็ดูแลเราดีทีเดียวนะคะ”


“อืม พี่ก็คิดอย่างนั้น ถึงได้นั่งเกรงใจอยู่นี่ไง แต่ก็อย่างว่า ข้อเสนอมันน่าสน เราก็ไม่ได้เสียอะไร เลยถือเสียว่าพาเด็กๆ ไปเที่ยวก็แล้วกัน”


“ก็จริงค่ะ” หญิงสาวยิ้มรับ ก่อนจะหรี่ตาอย่างจับผิด “แต่อ้ายก็ยังไม่ค่อยไว้ใจเขาเป็นการส่วนตัวนะคะ เพราะดูก็รู้ว่านอกจากงานแล้ว หลายๆ อย่างเขาทำเพื่อเอาใจพี่ ไอ ขนมนมเนย ดอกไม้ ข้าวของที่ส่งมาให้บ่อยๆ นั่นอีก พี่ไอระวังไว้ก็ดีนะคะ”

“ขอบใจนะ แต่พี่พอรู้ทันเขาอยู่ ไม่ต้องเป็นห่วงนะ”

“อ้ายก็ถึงได้บอกไง ให้รีบมีแฟนเป็นตัวเป็นตน คนเจ้าชู้เขาจะได้ไม่ต้องมาขายขนมจีบให้วุ่นกันอย่างนี้”

พอถูกน้องสาวคนดีสัพยอก กมลก็ยิ้มอ่อนใจ “งานเยอะขนาดนี้ คบใครเขาก็ทนไม่ไหวหรอก เวลาให้ตัวเองยังไม่ค่อยจะมีเลย”

“ก็พี่ของอ้ายเคร่งครัดกับตัวเองเกินไปนี่คะ ผ่อนปรนเสียบ้าง ลูกน้องก็ออกเยอะแยะ” หญิงสาวว่าพลางหันไปจัดการเก็บของเข้าตู้เย็น เธอบ่นเรื่องนี้กับพี่ชายไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบแล้ว

“เอาน่า…”

“เอาน่าอะไรคะ” พอเก็บของเสร็จ เธอก็หันมาเผชิญหน้าพี่ชายสุดที่รักอีกครั้ง ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงและสีหน้าจริงจังขึ้น “นี่อ้ายพูดจริงๆ นะ พี่ไอจะอยู่เป็นโสดไปถึงเมื่อไหร่”

“อย่ามาว่าพี่นะ เราเองก็ไม่มีใคร” กมลเถียง


“แต่อ้ายมีลูก แล้วก็เข็ดขยาดเกินจะหาพ่อใหม่ให้เด็กๆ กับพี่ไอน่ะเหมือนกันเสียที่ไหน แฟนคนสุดท้ายคบกันตั้งแต่สมัยอยู่มหาลัยฯ โน้น อ้ายเข้าใจว่าพี่ต้องทำงานหนัก แต่นี่ก็เป็นสิบปีที่ห่างเรื่องรักใคร่ๆ มา พี่ไม่เหงา ไม่อยากหาใครมาอยู่ข้างๆ บ้างหรือคะ”


“ก็พี่ทำงาน ไม่ได้คิดเรื่องนี้หรอก อีกอย่างพี่ก็มีอ้าย มีเด็กๆ อยู่ด้วยไง”


“พี่ไอไม่ใช่ว่าจะอายุน้อยๆ แล้วนะคะ งานมีก็ค่อยๆ ทำไปได้ ชีวิตส่วนตัวก็อีกเรื่อง อ้ายเป็นห่วงจริงๆ นะ พี่เอาชีวิตทั้งหมดทุ่มให้กับงาน กับอ้าย กับพวกเด็กๆ แล้วเคยคิดทำเพื่อตัวเองบ้างไหมคะ”


“อย่าทำหน้าซีเรียสแบบนั้นสิ” กมลเดินเข้าไปดึงน้องสาวเข้ามากอด “ทำไมเราคุยกันจนมาถึงเรื่องนี้ได้เนี่ย”

เธอกอดตอบ พลางบอกด้วยน้ำเสียงอู้อี้ “ก็อ้ายเป็นห่วง อยากให้พี่มีความสุขบ้าง”


“ทุกวันนี้พี่ก็มีความสุขนะ ได้ทำงานที่รัก ได้ดูแลอ้าย ได้เห็นหลานๆ โต” กมลลูบหัวน้องสาวเบาๆ แล้วบอกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เรื่องคนรักของพี่น่ะ ถ้าจะมีเดี๋ยวก็มีเองแหละ ไม่ใช่ว่าไม่อยากหรอก แต่ยังหาคนที่พร้อมจะรับเราได้ไม่เจอเท่านั้นเอง”


“พี่ของอ้ายเป็นคนดีแล้วก็น่ารักจะตาย ถ้าเปิดใจสักหน่อยก็น่าจะเจอได้ไม่ยากหรอกค่ะ”

“เปิดใจเหรอ” แม้นทิวทัศน์จะเป็นห้องครัว แต่ครู่หนึ่ง กมลรู้สึกเหมือนสายตาของตัวเองมองเห็นแต่ความเวิ้งว้างหลังกำแพงสูงใหญ่

“ลองดูนะคะ ลองเปิดใจดู คนที่ใช่อาจจะอยู่ใกล้ๆ พี่ก็ได้”

คำพูดของหทัยดึงเขากลับมาสู่ปัจจุบัน “อืม…ถ้าได้แบบนั้นก็ดีนะ แต่ระหว่างนี้ เราก็อยู่ด้วยกันไปแบบนี้ก่อน อย่าเพิ่งไล่พี่ไปไกลๆ โอเคไหม”

“ใครจะไปกล้าไล่ล่ะคะ พี่ไอก็พูดไปเรื่อย”

“เมื่อกี้ยังไล่พี่ไปมีแฟนอยู่เลย” กมลว่าพลางดึงน้องสาวออกมาดูหน้า “แล้วนี่ร้องไห้ทำไม ไม่ใช่เด็กๆ แล้วนะแม่อ้าย”

“ไม่ได้ร้องสักหน่อยค่ะ อ้ายร้อนต่างหาก” เธอผละออกจากอ้อมกอดของพี่ ก่อนเช็ดหน้าเช็ดตาแล้วเลี่ยงออกมาจากครัว “อ้ายไปอาบน้ำนอนแล้วนะคะ ฝันดีค่ะพี่ไอ”

“ฝันดีจ้ะ คุณแม่ขี้แย” ประโยคหลังของกมล เรียกให้หทัยหันมาแยกเขี้ยวใส่ไปที ก่อนเดินหนีขึ้นห้องนอน



กมลยิ้มกับท่าทางนั้นของน้องสาว น้องสาวสุดที่รักที่ไม่ว่าเมื่อไหร่กมลก็มองว่าเธอเป็นเด็กสำหรับเขาเสมอ ยิ่งหลังจากที่เขาปล่อยเธอไป และถูกทำร้ายกลับมาพร้อมกับชีวิตใหม่อีกสอง กมลก็ยิ่งไม่อยากทิ้งเธอไปไหน ทั้งหทัยและหลานๆ



เขาไม่รู้เลย ถ้าหากเปิดใจให้ใครเข้ามา คนคนนั้นจะรับได้ไหม เขามันคนมีภาระเยอะ ทั้งครอบครัว ทั้งเรื่องงาน ถ้าหากต้องแบ่งเวลาไปดูแลคนอื่นอีก ก็กลัวว่าจะทำหน้าที่ของคนรักได้ไม่ดีพอ



แม้กมลจะเชื่อมั่นในความรัก และเชื่อว่ารักแท้นั้นมีอยู่จริง แต่เขากลับกลัวถ้าวันหนึ่งจะต้องมีความรักเป็นของตัวเองเช่นกัน และกลัวยิ่งกว่าถ้าต้องสูญเสียความรักนั้นไป ซึ่งนี่เป็นความลับอีกข้อหนึ่งที่ไม่เคยเปิดเผยให้ใครล่วงรู้











   ครอบครัวเปรมอนันต์เดินทางถึงสนามบินภูเก็ตในช่วงเที่ยงของวันเสาร์ ในทีแรกกมลเข้าใจว่าคนรถของปางปาลีจะมารับเขาที่เดิมเหมือนครั้งที่แล้ว แต่เมื่อลากกระเป๋าออกมาจากเกต กมลก็พบกับคนที่ไม่คิดว่าจะได้พบยืนรออยู่



   ณธิปมองนาฬิกาข้อมือที มองตรงทางออกผู้โดยสารที เมื่อเห็นครอบครัวของกมลเดินลากกระเป๋ามา ดวงตารีเรียวคู่นั้นก็แพรวพราวขึ้นทันที ผู้บริหารหนุ่มยิ้มกว้าง ก่อนจะเดินเข้ามาดึงกระเป๋าสัมภาระจากมือของกมลส่งให้พนักงานของโรงแรมที่ตามมาด้วย



   “ผมคิดว่าคุณจะมาถึงเร็วกว่านี้เสียอีก”

   “เครื่องดีเลย์น่ะครับ” กมลบอก “ว่าแต่ทำไมคุณมาเอง ไม่ใช่ว่ายุ่งอยู่เหรอ”

   “ก็ยุ่ง แต่ไม่ได้เจอคุณตั้งนาน ผมเลยอยากมารับ”



   กมลนิ่งไปนิด ไม่คิดว่าณธิปจะกล้าพูดแบบนี้ต่อหน้าน้องสาวและหลานๆ ของเขา คนหน้าหวานทำอะไรไม่ได้ เขาจึงแสร้งทำเป็นไม่สนใจเช่นเก่า แล้วหันไปคุยกับเด็กๆ แทน



   “เด็กๆ สวัสดีคุณณธิปหรือยังลูก”

   “สวัสดีครับคุณอาเล็ก”

“สวัสดีครับคุณอาเล็ก” เด็กๆ ยกมือไหว้พร้อมกัน ทั้งยังเรียกณธิปตามที่เหมือนเดิมตามที่เคยถูกสอนไว้ด้วย

“สวัสดีครับเด็กๆ” ณธิปยิ้มรับ “สวัสดีครับคุณอ้าย การเดินทางเรียบร้อยดีนะครับ”

“เรียบร้อยดีค่ะ ขอบคุณที่อุตส่าห์มารับพวกเรานะคะ” หทัยยิ้มรับ แม้จะรู้สึกแปลกใจไม่น้อยที่ลูกทั้สองไม่กลัวคนแปลกหน้าอย่างณธิป ทั้งยังเรียกด้วยความสนิทสนม

“กระเป๋ามีเท่านี้นะครับท่าน” พนักงานของโรงแรมถาม

“มีเท่านี้ ไปบอกคนรถให้มารับข้างหน้าได้เลย” เมื่อณธิปสั่ง ชายคนนั้นก็รีบยกกระเป๋าเดินนำหน้าไปก่อน “หิวกันหรือยังครับ”

“ไม่เท่าไหร่ครับ--” ยังไม่ทันพูดจบดี เด็กน้อยสองคนก็รีบแทรกขึ้น

“แต่หยางหิวครับคุณอา” หยางเอามือกุมท้องของตัวเอง
“หยินก็หิวครับ”
“พอดีเลยเวลาอาหารของเด็กๆ แล้วน่ะค่ะ” หทัยบอก

“งั้นเรารีบกลับกันครับ” แล้วณธิปก็หันกลับมาจูงมือเด็กๆ เอาไว้คนละข้างแทนแม่และลุง “อาเตรียมของอร่อยไว้เยอะเลย ถึงโรงแรมแล้วเราไปทานกันนะครับ”

“ครับ/ครับ!!~”



ทั้งที่ปรกติเด็กๆ จะไม่ค่อยสนิทกับคนแปลกหน้าง่ายๆ แต่กับณธิปนั้นต่างออกไปจนแม่และลุงเขาพวกเขาแปลกใจ กมลมองผู้บริหารหนุ่มเดินจูงมือหลานๆ ของตนออกไป ก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ



“ไม่ธรรมดาเลยนะคะผู้ชายคนนี้ เข้าทางเจ้าตัวไม่ได้ ก็เข้าทางหลาน เอาใจเก่งแบบนี้คนถึงบอกว่าเขาเจ้าชู้” เธอละสายตาจากลูกชายทั้งสองคน ก่อนหันมาพูดกับพี่ชายด้วยความเป็นห่วง “พี่ไอต้องระวังไว้นะคะ”

“อืม…พี่รู้แล้วล่ะ” กมลรับคำ จากนั้นจึงชวนน้องสาวให้เดินตามชายคนนั้นไป








<><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><>





ดึบๆ มาแล้วววว  :katai5:

เพียงแค่เปิดใจ ก็จะพบว่าคุณเล็กอยู่ไม่ไกลนะคะ

ปึ้ง!! /ปิดประตูหัวใจเหมือนเดิม 555

มาดูว่าตอนหน้าจะมีเรื่องป่วนๆ อะไรให้คุณไอปวดหัวอีก /สปอย 555555

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ


แล้วเจอกันค่ะ


ละอองฝน.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-02-2017 23:06:06 โดย ละอองฝน »

ออฟไลน์ A-J.seiya*

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +306/-8
เปิดใจค่ะ ถ้าทางนั้นปิด คุณเล็กมาทางนี้ก็ได้ค่าาา
ฮืออออ รอเอ็นดูอยู่นะคะ
ใครๆก็เตือนคุณไอให้ระวัง ถถถถถ
คุณเล็กผู้ไม่มีกองสนับสนุน
เราเป็นแบคให้ ฮึ้บบบบ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
เราผู้สนับสนุนให้คุณไอใจแข็งไปนานๆ

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
สู้ๆนะคะคุณเล็ก ฉาวมาเยอะก็งี้  :hao7:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ ละอองฝน

  • แมวดำ
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 261
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +398/-2






คุณคือความรัก บทที่ 15











   เมื่อมาถึงปางปาลี ณธิปก็สั่งให้คนเอากระเป๋าของกมลและครอบครัวไปเก็บไว้ที่บ้านพัก ส่วนตัวเขาก็พาทุกคนไปทานกลางวันที่ห้องอาหาร ทางพ่อครัวที่รับคำสั่งโดยตรงจากนายใหญ่ได้ตระเตรียมทั้งของคาวของหวานให้เลือกทานมากมาย เป็นที่ถูกอกถูกใจหลานๆ ของกมลมากทีเดียว



   “อาเล็ก หยางอยากกิน…กุ้งเหมือนพี่หยินด้วยครับ” เจ้าแฝดคนเล็กสะกิตบอกกับณธิปที่นั่งอยู่ใกล้ๆ ปากก็เคี้ยวปูที่ผู้เป็นแม่แกะใส่จานให้ตุ้ยๆ


   “ได้สิครับ เดี๋ยวอาเล็กสั่งให้นะ” ณธิปยิ้มใจดี แล้วหันไปสั่ง “เอาล็อบสเตอร์ย่างซอสเนยอีกที่”

   “ครับท่าน” พนักงานบริการรับคำ แต่ยังไม่ทันเดินไปบอกกับพ่อครัว เสียงของกมลก็หยุดเขาเอาไว้เสียก่อน

   “เดี๋ยวครับ”

“คุณจะเอาอะไรเพิ่มเหรอ” ณธิปเงยหน้ามองกมลอย่างกระตือรือร้น แต่กลับถูกหนุ่มหน้าหวานปฏิเสธ


“ไม่เอาแล้วครับ เท่านี้ก็กินกันไม่หมดแล้ว แล้วก็ขอยกเลิกเมนูล็อบสเตอร์เมื่อกี้ด้วยนะครับ” ประโยคหลังกมลนั้นพูดกับพนักงาน ทำให้พนักงานคนนั้นถึงกับทำตัวไม่ถูก ไม่รู้จะเลือกเชื่อใครดีระหว่างกมลหรือเจ้านายอย่างณธิป


“อ้าว แต่น้องหยางเขาจะกินนะคุณ” ณธิปแย้ง


“แบ่งกันกินกับพี่หยินก็ได้ครับ ตัวเบ้อเร่อขนาดนั้น เด็กๆ เขากินไม่หมดหรอก ไหนจะปูนึ่งแล้วก็อย่างอื่นอีก เดี๋ยวก็คงอิ่มกันแล้ว” กมลมองจานอาหารของน้องหยางที่เต็มไปด้วยอาหาร เขารู้ว่าไม่นานหลานๆ คงจะอิ่ม ถ้าปล่อยให้สั่งเพิ่มคงจะเหลืออย่างแน่นอน


“แต่หยางอยากกินกุ้งครับลุงไอ” หยางได้ยินคุณลุงคนดีขัดก็กลัวว่าตัวเองจะไม่ได้กิน ด้วยวิสัยของเด็กจึงห่วงกินไว้ก่อนไม่ได้ประมาณตน


แต่กมลยังไม่ทันให้เหตุผล คนเป็นพี่ก็ตักเนื้อล็อบสเตอร์ที่แม่แกะให้ใส่จานน้อง แล้วว่า “อ่ะ…พี่ให้”

“แล้วพี่หยินล่ะ” แฝดคนน้องหันมาถาม

“พี่จะกินปลาหมึกหนวดหย่าย” ว่าแล้วก็ลากเสียงยาว พลางชี้นิ้วป้อมๆ ไปที่หนวดหมึกยักษ์ทอดน้ำปลา


“โห!~ ใหญ่จริงๆ ด้วย” หยางทำตาโต แล้วจึงหันมาบอกกับณธิป “อาเล็กครับ หยางไม่เอากุ้งแล้ว หยางจะกินปลาหมึกหนวดหย่าย” เจ้าตัวทำเสียงตามพี่ชาย แล้วก็เลิกสนใจเมนูกุ้งที่ร้องจะกินเมื่อครู่


“ตกลงว่าไม่เอาแล้วนะครับ” คนหน้าหวานสรุปอีกครั้ง

   “ครับๆ ไม่เอาก็ไม่เอา” ณธิปจึงได้แต่หันไปส่งซิกกับพนักงานให้ทำตามที่กมลบอก ก่อนจะหันมาเอาใจทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่นั่งร่วมโต๊ะแทน




   ผ่านไปสักครู่ ยังไม่ทันที่จะได้ทานของหวาน คุณวิมลผู้จัดการโรงแรมก็เดินเข้ามาที่โต๊ะเพื่อกล่าวทักทายกมลและครับครัว ก่อนกระซิบบอกบางอย่างแก่ณธิป คิ้วพาดเฉียงนั่นขมวดน้อยๆ ด้วยความขัดใจเมื่อได้ฟัง จากนั้นจึงหันกลับมาหากมล



   “เดี๋ยวผมต้องไปดูความเรียบร้อยข้างในก่อน คุณกับเด็กๆ อยู่ทานต่อกันตามสบายนะครับ ค่ำนี้ค่อยเจอกันในงาน” ณธิปว่า

   “ครับ” พอกมลพยักหน้ารับ ณธิปก็เดินจากไปพร้อมกับผู้จัดการวิมล

   “อาเล็กไปไหนครับลุงไอ”

   “ไปทำงานครับพี่หยิน” ชายหนุ่มตอบหลาน

   “ว้า~ อดกินขนมกับพวกเราเลยเนอะพี่หยิน”


   “อื้ม” เด็กชายสองคนโต้ตอบกันกระหนุงกระหนิงตามประสาพี่น้อง ไม่นานก็เลิกสนใจคนรอบตัวเพราะพนักงานยกขนมหวานท่าทางน่าทานออกมาเสิร์ฟให้




   กมลมองตามทิศทางที่คนคนนั้นเดินไป ชายหนุ่มรู้สึกหนักใจขึ้นเล็กน้อยด้วยไม่คิดว่าคนคนนั้นจะเริ่มรุกหนักมากขึ้นขนาดนี้ แม้ที่ผ่านมาอีกฝ่ายจะขยันโทรมาบ่อยๆ แต่มันก็ไม่เหมือนกันการได้พูดคุยต่อหน้า การที่เขาไม่ได้เจอกับณธิปเป็นเดือน พอกลับมาเจอกันอีกครั้งแล้วฝ่ายนั้นทำตัวสนิทสนมได้อย่างเป็นธรรมชาติ มันทำให้กมลค่อนข้างตั้งรับไม่ทันเหมือนกัน




   ทว่าเขาก็เคยบอกกับตัวเองไว้แล้ว ผู้ชายคนนี้อันตรายเกินไป ทั้งยังไม่น่าไว้ใจสักนิด ที่ตอนนี้เข้ามาดูแลอย่างดีก็เพราะมันเป็นช่วงโปรโมชั่นตอนเริ่มต้น ตอนจีบก็คงดีกับทุกคนเช่นนี้ และกมลไม่เคยคิดสนใจโปรโมชั่นลดแลกแจกแถมพวกนี้สักนิดเดียว เขามองไกลไปถึงบริการหลังการขายมากกว่า ซึ่งตามประวัติของณธิปแล้วมันค่อนข้างจะติดลบเอามากๆ นี่ยังไม่นับรวมวีรกรรมที่เคยทำมาเมื่อครั้งรู้จักกันใหม่ๆ อีก



   ดังนั้นเขาจึงต้องหนักแน่น ไม่หวั่นไหว หากจะให้ก็คงได้มากที่สุดก็แค่มิตรภาพอย่างเพื่อนเท่านั้น











   หลังทานกลางวันเรียบร้อยคนของปางปาลีก็เอารถไปส่งครอบครัวเปรมอนันต์ที่วิลล่า ทั้งหทัยและเด็กๆ ต่างก็ตื่นเต้นกับที่พักกันมาก เพราะนอกจากจะใหญ่โตหรูหราแล้ว ยังเห็นวิวทะเลที่สวยงาม อีกทั้งยังมีสระว่ายน้ำสวยๆ ของตัวเองด้วย



   หยินกับหยางจูงมือกันวิ่งสำรวจไปทั่ว ก่อนจะรีบกลับมารายงาน “แม่อ้าย! ที่สระน้ำมีเป็ดด้วยล่ะครับ” แฝดคนพี่ว่า



“ตัวเบ้อเร่อเลย” แฝดคนน้องเสริม ทั้งยังกางมือกว้างๆ เทียบขนาดให้แม่รู้


“เป็ดอะไรกันครับเด็กๆ” กมลนึกฉงนในใจ เพราะตอนมาครั้งที่แล้ว เขายังไม่เห็นว่าที่สระว่ายน้ำจะมีเป็ดตัวใหญ่เหมือนที่เด็กๆ ว่าสักนิด



เมื่อได้ยินผู้เป็นลุงถาม ทางสองแฝดก็รีบช่วยกันจูงมือพาไปดูให้เห็นกับตาทันที



“นั่นไงๆ เป็ดตัวใหญ่” นิ้วป้อมๆ ชี้ชวนให้กมลดู




ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างนิดๆ เมื่อเห็นห่วงยางแฟนตาซีตัวใหญ่ยักษ์ลอยน้ำอยู่ในสระ เขาประหลาดใจมากที่เห็นเจ้าสิ่งนี้ และค่อนข้างมั่นใจว่าเป็นอภินันทนาการพิเศษจากเจ้าของโรงแรมส่งตรงมาเอาใจเด็กๆ เป็นแน่ เนื่องจากสไตล์การตกแต่งและแนวทางของห้องพักนั้น ค่อนข้างขัดกับเจ้านกยักษ์ตัวสีชมพูแปร๋นนั่นมากพอควร นั่นแสดงว่าคนคนนั้นจงใจเตรียมไว้



กมลเผลอหลุดยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนก้มลงพูดกับหลานทั้งสองคน



“นั่นไม่ใช่เป็ดนะเด็กๆ มันคือนกฟลามิงโก้ต่างหากครับ”

“นกฟามจิงโจ้เหรอครับ หยางไม่เห็นเคยได้ยิน”

“พี่ก็ไม่เคยได้ยินเหมือนกัน” หยินเองก็เกาหัวแกรกๆ ด้วยความสงสัยไปด้วย


“ไม่ใช่ๆ นกฟลามิงโก้ต่างหาก เจ้านกตัวนี้มันตัวสีชมพู ชอบกินกุ้งหอยปูปลาที่อยู่ในน้ำ เอาไว้ลุงจะเปิดสารคดีให้ดูนะครับเด็กๆ” ชายหนุ่มลูบหัวของเด็กๆ ทั้งสองด้วยความเอ็นดู แล้วว่า “เดี๋ยวเราเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดสบายๆ แล้วนอนกลางวันกันก่อนเนอะ พอตื่นมาลุงจะพาไปดูสนามเด็กเล่น แล้วก็ไปก่อปราสาททรายที่ชายหาดด้วยดีไหมครับ”


“ดีครับ/ดีครับ” เด็กสองคนตอบรับอย่างว่าง่าย และยอมตามผู้เป็นลุงเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้อง ก่อนจะให้แม่ที่รออยู่พาเข้านอนตอนกลางวัน เพื่อตื่นมาจะได้ไปเที่ยวเล่นตามที่ต้องการ












กมลกับหทัยช่วยกันจัดกระเป๋าเสื้อผ้าเล็กน้อยระหว่างที่เด็กๆ นอนหลับ ครั้นเรียบร้อยก็ออกไปนั่งจิบน้ำหวานที่ริมสระส่วนตัว สองคนพี่น้องนั่งพูดคุยกันถึงลักษณะการออกแบบรวมถึงบริการของโรงแรม พวกเขาต่างเห็นเหมือนกันว่าปางปาลีเป็นโรงแรมระดับห้าดาวที่เหมาะสำหรับคู่รักเอามากๆ คาดการณ์กันว่าลูกค้าที่เลือกแพคเกจแต่งงานที่นี่ต้องประทับใจเป็นอย่างมากแน่นอน



นั่งคุยเรื่องงาน คุยเรื่องเล่นกันไปเรื่อย พอบ่ายคล้องเด็กน้อยฝาแฝดก็ลุกจากที่นอน ขนาดว่าผมชี้ฟู หน้าตาสะลืมสะลือก็ยังออกมาตามหาลุงไอกับแม่อ้ายเพื่อท้วงให้พาไปเล่นตามสัญญา



กมลกับหทัยจึงพาฝาแฝดไปล้างหน้า ก่อนจูงกันออกจากห้องเดินลัดเลาะลงไปชายหาดที่เห็นอยู่ไกลๆ จากหน้าต่างของที่พัก



หาดที่ว่าเป็นหาดส่วนบุคคลของโรงแรมปางปาลี และโรงแรมก็ยังไม่เปิดใช้บริการ ดังนั้นรอบบริเวณจึงแทบไม่มีคนอยู่เลย



แผ่นน้ำสีครามกว้างใหญ่โอบล้อมผืนทรายขาวสะอาดของหาดแคบๆ เอาไว้ ทะเลช่วงปลายฝนต้นหนาวมีคลื่นแรงพอควร ดังนั้นกมลจึงต้องตกลงกับหลานๆ ว่าสามารถเล่นน้ำกันได้แค่ริมๆ เท่านั้น หยินกับหยางจึงตัดสินใจนั่งก่อปราสาททรายตรงชายหาดแทน



ขณะที่ทั้งครอบครัวง่วนอยู่กับการสร้างปราสาทหลังน้อย จู่ๆ เสียงของใครคนหนึ่งก็เรียกให้ทุกคนหันไปหา



“คุณไอ”

กมลหันมามองเจ้าของเสียง ก่อนยิ้มกว้างส่งไปให้ “คุณภัทร”

“มาเที่ยวกันทั้งครอบครัวเลยนะครับ” ณภัทรยิ้มตอบ

“นี่หทัยน้องสาวของผมครับ ส่วนนี่หลานของผม คนโตน้องหยิน ส่วนคนเล็กน้องหยาง” คนหน้าหวานแนะนำสมาชิกในครอบครัวเรียงตัว



หทัยจำณภัทรได้ เธอยิ้มหวานและทักทายชายหนุ่ม ส่วนพี่น้องฝาแฝดเมื่อสวัสดีทักทายแล้ว กลับขยับหลบหลังแม่ เพราะไม่ชินกับการมาของคนแปลกหน้า



“อย่าทำหน้าเหมือนอา…ไม่สิ ปูนนี้คงต้องเป็นลุงเนอะ” ลูกชายคนโตของโชติตระกูลแก้กับตนเอง “อย่าทำหน้าเหมือนกลัวลุงภัทรอย่างนั้นสิครับ ลุงไม่ดุหรอกนะ” ณภัทรเอ่ยอย่างใจดี


“แกคงยังไม่ชินน่ะครับ” กมลบอก “ว่าแต่คุณภัทรมาเดินเล่นหรือครับ คิดว่าจะยุ่งๆ อยู่เสียอีก”


“เมื่อครู่ตอนเจ้าเล็กแวบหายไปก็ยุ่งกันนิดหน่อยครับ แต่ตอนนี้ให้คนไปตามกลับมาแล้ว ผมก็เลยปล่อยให้เขาดูแลเอง ออกหน้าช่วยเยอะเดี๋ยวจะเคยตัว นี่ผมก็เลยหนีออกมาเดินเล่นบ้าง” ณภัทรว่า


“ครับ” กมลปั้นหน้ายิ้มเรื่อยๆ ให้ณภัทร ในใจรู้สึกผิดเล็กน้อยที่เป็นสาเหตุให้ณธิปหนีหน้าที่มาคอยเทคแคร์ตนเองกับครับครัว แม้ว่าที่ทำทั้งหมดนั่นเขาจะไม่ได้ร้องขอก็ตาม



ทักทายกันอยู่สักพัก หทัยก็เห็นว่าณภัทรปักหลักคุยกับพี่ชายของเธอเป็นเรื่องเป็นราว ไม่มีทีท่าจะเดินไปทางอื่น เธอจึงขอตัวไปเข้าห้องน้ำ แล้วฝากลูกๆ ไว้กับชายหนุ่มทั้งสองคน



ครั้นเมื่ออยู่ตามลำพัง ณภัทรจึงเป็นฝ่ายชวนกมลคุยเรื่องสัพเพเหระไปเรื่อย และสุดท้ายก็วกกลับเข้ามาพูดเรื่องน้องชายของตน



“แล้วคุณไอเป็นไงครับ เห็นว่าทำงานร่วมกับเจ้าเล็กด้วย เขาไม่ได้ทำให้หนักใจอะไรใช่ไหม”


“ไม่ครับ คุณณธิปเขาทำงานเก่ง อีกอย่างโดยทั่วไปผมจะติดต่อกับทางตัวแทนของปางปาลีมากกว่า นานๆ ทีถึงจะเจอกันน่ะครับ”

“เหรอครับ ผมก็คิดว่าสนิทกันเสียอีก เห็นเด็กๆ บอกว่าเจ้าเล็กไปรับคุณไอที่สนามบิน”

“ก็ไม่ได้สนิทขนาดนั้นหรอกครับ เขาคงเห็นว่าผมพาหลานๆ มาด้วย ก็เลยมารับ”



ณภัทรรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำตอบของกมล แต่เขาก็พอจะอ่านความกระอักกระอ่วนจากบรรยากาศรอบตัวของกมลออก ชายหนุ่มจึงทำเป็นไม่สนใจเรื่องนี้ และเก็บความสงสัยไว้ในใจแทน



ส่วนกมลนั้นค่อนข้างลำบากใจพอสมควร เขาไม่รู้จะอ้างเหตุผลว่าทำไมตัวเองจึงดูเหมือนสนิทจนณธิปต้องดูแลขนาดนั้น จึงได้แต่ตอบสั้นๆ แล้วเหยียบเรื่องที่ถูกเทียวไล้เทียวขื่อเอาไว้ ด้วยกลัวจะถูกมองว่าที่ได้เข้ามามีส่วนร่วมกับงานเพราะผลประโยชน์ส่วนตัว



เหมือนเด็กๆ จะรู้จังหวะ เพราะเมื่อชายหนุ่มทั้งสองไม่อาจต่อบทสนทนาให้เป็นธรรมชาติได้เหมือนก่อนหน้า หยินกับหยางก็ตะโกนเสียงดังเรียกความสนใจของพวกผู้ใหญ่ไป



“ลุงไอครับ! ปราสาทเราจะล้มแล้ว”

“ช่วยด้วย เร็วๆ ครับ”



ปราสาททรายของเด็กๆ ที่ช่วยกันสร้างขึ้นมานานสองนานถูกคลื่นลูกใหญ่ซัดเข้ามาใส่จนพังไปกว่า 1 ใน 3 ของหลัง กมลได้แต่รีบเอาตัวเข้าไปกันระลอกคลื่นที่จะพัดมา เพื่อไม่ให้ตัวปราสาทพังเสียหายมากกว่าเดิม



“เดี๋ยวลุงช่วยด้วยปกป้องปราสาทอีกแรงครับเด็กๆ ไม่ต้องกลัวนะ”



ณภัทรเห็นหนุ่มหน้าหวานลงทุนกระโดดไปนั่งจนกางเกงเปียกแล้วนึกสนุก จึงพับแขนเสื้อแล้วเข้าไปช่วยเด็กๆ ก่อกำแพงกันแนวคลื่นหลายๆ ชั้น ไม่ให้น้ำทะเลเข้าไปพังพื้นที่ด้านในได้


“เดี๋ยวเลอะนะครับคุณภัทร” กมลร้องบอกเมื่อเห็นทายาทเอ็นพีกรุ๊ปกระโจนเข้ามาเล่นกับเด็กๆ อย่างสนุกสนาน ขัดกับภาพลักษณ์ที่เคยคุ้นตา


“ไม่เป็นไร เดี๋ยวใกล้ๆ ถึงเวลางานก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่อยู่แล้ว”

“อ๋อครับ” กมลยิ้มรับ


“น้ำมาตรงนั้นด้วยครับลุงภัทร!” น้องหยางชี้ไปที่ด้านริมสุดของกำแพงแล้วร้องบอกอย่างลืมตัว ที่เคยเกรงๆ กลัวๆ ณภัทรเมื่อครู่ก็หายกลัวเป็นปลิดทิ้ง

“หนูมาช่วยลุงภัทรตรงนี้หน่อยได้ไหมครับ”

“ได้ครับ” เด็กน้อยตอบรับแข็งขันแล้วละจากตัวปราสาทเพื่อวิ่งเข้าไปช่วยป้องกันอีกแรง



หทัยที่เพิ่งเดินกลับมาจากบ้านพักค่อนข้างแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นพี่ชายกับณภัทรลงไปคลุกทรายกับเด็กๆ แต่ทุกคนก็ดูสนุกสนานดี เธอจึงยิ้มชอบใจและเข้าไปร่วมวงด้วยอีกคน



ผิดกับชายหนุ่มอีกคนหนึ่งที่ละจากงานออกมาสูดอากาศที่ระเบียงใหญ่ของโรงแรมปางปาลี ดวงตารีเรียวนั่นจ้องมองไปที่แผ่นหลังพี่ชายของตนกับหนุ่มหน้าหวานอีกคนที่นั่งพิงกัน จากตรงนี้เขาไม่เห็นหน้าของณภัทร ทว่าถ้าเป็นกมลนั้นกลับเห็นชัดเจน รอยยิ้มกับเสียงหัวเราะที่ดูมีความสุขถูกเผยออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งมันแทบไม่เคยมีเลยเวลาอยู่กับเขา




“หึ” ณธิปแค่นหัวเราะ เยาะเย้ยตัวเองเบาๆ



เขาไม่น่ามานั่งแปลกใจกับเรื่องแค่นี้เลยสักนิด เพราะคนอย่างพี่ภัทร ไม่ว่าอยู่ใกล้ใคร ก็มักทำให้คนคนนั้นมีความสุขได้เสมอ ไม่เว้นแม้กระทั่งคนที่ตั้งกำแพงสูงชันอย่างกมลด้วย






แต่เอาเถอะ…ครั้งนี้เขาไม่มีวันยอมแพ้ง่ายๆ แน่นอน










<><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><>





มาต่อแล้วจ้าาาาา

ตอนนี้เปิดเผยแล้วนะคะ หน้ากากพระเอกที่แท้จริงก็คือ...พี่ภัทรนั่นเอง  :-[  :o8:

ส่วนตาเล็กรับบทเป็นเงาเเค้นค่ะ  o22

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านน้า ตอนต่อไปก็จะรีบมาค่ะ


แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ  :katai4:


ละอองฝน.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-02-2017 03:13:57 โดย ละอองฝน »

ออฟไลน์ about

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 254
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ถ้ายังต้องการเป็นพระเอกต่อไป ต้องปรับปรุงตัวให้ดีได้ไวไวนะคุณเล็ก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
อ้าววว คุณพี่!!!!!!

ออฟไลน์ graciej

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 148
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
"กมลร้องบอกเมื่อเห็นทายาทเอ็นพี่กรุ๊ป"

เอ็นพี กับ เอ็นพี่ มันต่างกันมากนะคะ     :hao6: :hao6:
ทำไมคำนี้มันสะดุดตา  555

ออฟไลน์ ละอองฝน

  • แมวดำ
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 261
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +398/-2
"กมลร้องบอกเมื่อเห็นทายาทเอ็นพี่กรุ๊ป"

เอ็นพี กับ เอ็นพี่ มันต่างกันมากนะคะ     :hao6: :hao6:
ทำไมคำนี้มันสะดุดตา  555



กรี๊ดดดดดด ตอนแรกก็งงว่ามันสะดุดมากขนาดนั้นเลยเหรอ แต่พอเห็นสติ๊กเกอร์เท่านั้นแหละ  :hao7:  :hao7: เอ็นคุณพรี่่่่่ 555555555555555 อายมากค่ะ  :mew3:

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
คุณเล็กน่ะ ปรับปรุงตัวให้ดีก่อนเถอะ ถถถถถ

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :m20:

ขำเรื่องเอ็น

ออฟไลน์ imymild

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 354
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
อย่าไปยอมคุณเล็ก

ออฟไลน์ hoshinokoe

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
คุณเล็กต้องพยามยามมากๆน้อ ใครๆเขาก็กลัวคุณทั้งนั้นแหละะะ

ออฟไลน์ A-J.seiya*

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +306/-8
โอยยยยยย
เสียใจอ่ะ รู้สึกเสียใจที่รู้ตัวว่าเป็นคนสร้างรอยยิ้มไม่ได้
อยากให้คุณณธิปพยายามแบบไม่มุ่งเอาชนะอ่ะ
ฮึกกก สู้นะ

ออฟไลน์ A-J.seiya*

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +306/-8
เข้ามารอออ ^^

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด