พิมพ์หน้านี้ - -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ หลังแต่งงาน [03/07/2562]

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: ละอองฝน ที่ 27-05-2016 06:15:32

หัวข้อ: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ หลังแต่งงาน [03/07/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: ละอองฝน ที่ 27-05-2016 06:15:32
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ 

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

18.เรื่องสั้นให้จั่วคนว่าเรื่องสั้นด้วยนะครับ และนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม



*****************************************************************



คุณคือความรัก






สารบัญ



บทนำ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54038.msg3388091#msg3388091)
บทที่ 1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54038.msg3388093#msg3388093)
บทที่ 2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54038.msg3388673#msg3388673)
บทที่ 3 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54038.msg3390415#msg3390415)
บทที่ 4 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54038.msg3415819#msg3415819)
บทที่ 5 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54038.msg3419700#msg3419700)
บทที่ 6 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54038.msg3422099#msg3422099)
บทที่ 7 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54038.msg3433563#msg3433563)
บทที่ 8 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54038.msg3438676#msg3438676)
บทที่ 9 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54038.msg3465449#msg3465449)
บทที่ 10 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54038.msg3478588#msg3478588)
บทที่ 11 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54038.msg3486314#msg3486314)
บทที่ 12 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54038.msg3487767#msg3487767)
บทที่ 13 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54038.msg3535672#msg3535672)
บทพิเศษ วันเกิด (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54038.msg3579022#msg3579022)
บทที่ 14 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54038.msg3581184#msg3581184)
บทที่ 15 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54038.msg3583295#msg3583295)
บทที่ 16 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54038.msg3598103#msg3598103)
บทที่ 17 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54038.msg3598855#msg3598855)
บทที่ 18 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54038.msg3623766#msg3623766)
บทที่ 19 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54038.msg3624352#msg3624352)
บทที่ 20 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54038.msg3626170#msg3626170)
บทที่ 21 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54038.msg3645685#msg3645685)
บทที่ 22 ครึ่งแรก (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54038.msg3677857#msg3677857)
บทที่ 22 ครึ่งหลัง (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54038.msg3688454#msg3688454)
บทที่ 23 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54038.msg3697396#msg3697396)
บทที่ 24 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54038.msg3718340#msg3718340)
ตอนพิเศษ วันลอยกระทง (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54038.msg3730613#msg3730613)
บทที่ 25 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54038.msg3734412#msg3734412)
บทที่ 26 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54038.msg3739940#msg3739940)
บทที่ 27 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54038.msg3748001#msg3748001)
บทที่ 28 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54038.msg3750350#msg3750350)
บทที่ 29 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54038.msg3755934#msg3755934)
บทที่ 30 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54038.msg3758539#msg3758539)
ตอนพิเศษ ปีใหม่ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54038.msg3764104#msg3764104)
บทที่ 31 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54038.msg3767731#msg3767731)
บทที่ 32 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54038.msg3770461#msg3770461)
บทที่ 33 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54038.msg3773861#msg3773861)
บทที่ 34 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54038.msg3778622#msg3778622)
บทที่ 35 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54038.msg3803195#msg3803195)
บทที่ 36 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54038.msg3804535#msg3804535)
บทที่ 37 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54038.msg3805991#msg3805991)
บทที่ 38 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54038.msg3808794#msg3808794)
บทที่ 39 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54038.msg3818632#msg3818632)
คุณคือความรัก ตอนพิเศษ ย้อนหลังวันสงกรานต์ (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54038.msg3823492#msg3823492)
บทที่ 40 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54038.msg3845627#msg3845627)
บทที่ 41 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54038.msg3848512#msg3848512)





*****************************************************************


นิยายเรื่องอื่นๆ ของฝนค่ะ  :-[


โปรดจงรัก (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=42865.0)  (จบ)

คีตมาลา (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46939.0)  (จบ)

หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทนำ [27/05/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: ละอองฝน ที่ 27-05-2016 06:32:24
คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก









บทนำ








ผมเชื่อมาโดยตลอดว่า การแต่งงานคือการยินยอมด้วยหัวใจ ยินยอมด้วยจิตวิญญาณ ว่าคนสองคนจะมีส่วนร่วมดูแลเอาใจใส่กัน ซื่อสัตย์ต่อกัน และที่สำคัญคือเดินเคียงข้างกันไปจนตลอดชั่วชีวิต เพราะฉะนั้น การแต่งงานย่อมเกิดขึ้นจากความรัก ความรักที่แปรเปลี่ยนเป็นคำมั่นสัญญาด้วยหัวใจที่บริสุทธิ์
 

 
 
 
ชายหนุ่มรูปร่างเพรียวเล็กในชุดกางเกงแสลกสีน้ำตาลอ่อนกับเสื้อแขนยาวสีขาวทรงสวย มุ่งไปยังห้องรับรองแขกพิเศษของ I promise Tower อย่างเร่งรีบ เสียงลงส้นรองเท้าหนังสั่งตัดกระทบพื้นหินอ่อนเย็นเฉียบเป็นจังหวะสม่ำเสมอดังกังวานก้องไปทั้งโถงทางเดินเหมือนกำลังเต้นรำ ทว่าแม้จะเร่งรีบเพียงใด หากแต่ดวงหน้าหวานละมุนราวกับดรุณีแรกแย้ม ก็ยังผลิยิ้มสดใสให้กับพนักงานทุกคนที่เดินผ่านเป็นโบนัสในการทำงานระหว่างวัน เมื่อเดินมาถึงหน้าประตูกระจกสีลายดอกพิทูเนีย ชายหนุ่มก็พบกับน้องสาวคนรอง คือ หทัย หรือ อ้าย ยืนรอรับอยู่ก่อนแล้ว เขาหยุดยืนข้างๆเธอ จากนั้นจึงเอ่ยถามถึงความเรียบร้อยภายในห้องรับรอง
 
 
"แขกของเราเป็นยังไงบ้าง ข้างในเรียบร้อยดีไหม"
 
"ไม่มีอะไรต้องกังวลค่ะพี่ไอ ข้างในเรียบร้อยดี" หทัยบอกด้วยน้ำเสียงปรกติ ทำให้รู้สึกคลายกังวลได้มาก
 
 
แม้ I promise Tower จะเคยต้อนรับลูกค้าระดับวีไอพีมานักต่อนักแล้วก็ตาม หากแต่ประธานของ I promise Tower รุ่นที่สอง ซึ่งก็คือ คุณกมล เปรมอนันต์ หรือที่ใครต่อใครเรียกว่า คุณไอ ก็ยังอดรู้สึกกระตือรือร้นที่จะมอบบริการสุดแสนประทับใจให้กับลูกค้าไม่ได้ เนื่องจากคู่แต่งงานคู่นี้ ถือเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลต่อสื่อและแวดวงสังคมมากพอสมควร เจ้าสาวคือ คุณเกษสุดา นาฏหิรัญ ลูกสาวคนเดียวของรัฐมนตรีชื่อดังของประเทศ ส่วนฝ่ายเจ้าบ่าวก็ไม่น้อยหน้า เขาคือ คุณณธิป โชติตระกูล ทายาทคนเล็กของเอ็นพีกรุ๊ป กลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมทั้งธุรกิจโรงแรมและธุรกิจสายการบินชื่อดัง
 
 
"พี่ดูโอเคหรือยังอ้าย ไม่รู้ว่าคุณเกษสุดาเขาจะมาวันนี้ ไม่อย่างนั้นคงแต่งตัวเรียบร้อยกว่านี้แล้ว" กมลถามพลางกระชับคอเสื้อให้แน่ใจว่าเรียบร้อยดีแล้ว
 
"ใน I promise ของเรา อ้ายเชื่อว่าไม่มีใครเนี้ยบได้เท่าพี่ไอแล้วล่ะค่ะ" เมื่อได้ยินคำชมจากปากน้อง กมลก็ยิ้มหวานส่งกลับไปให้แทนคำขอบคุณ ก่อนจะผลักประตูเข้าไปยังห้องรับรองแขก
 
 
ภาพที่เห็นออกจะทำให้กมลเกิดความรู้สึกประหลาดใจอยู่ไม่น้อย เมื่อคู่แต่งงานที่เป็นลูกค้าวีไอพีของเขาต่างก็เบือนหน้าไปคนละทางทั้งที่นั่งบนโซฟาเดียวกัน คนหนึ่งก้มหน้ากดโทรศัพท์มือถือไม่สนใจอะไร ส่วนอีกคนกลับพลิกหน้าแคตตาล็อกรูปแบบงานแต่งงานที่หทัยนำเข้ามาให้ดูก่อนหน้านี้อย่างขะมักเขม้น ไม่รู้ว่าคิดมากไปเองหรือเปล่า แต่ทว่าบรรยากาศรอบตัวของทั้งสองคนมันดูเย็นชาและอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก
 
 
กมลรีบปัดความคิดเหล่านั้นทิ้งไปทันทีที่ว่าที่เจ้าสาวเงยหน้าขึ้นมอง ชายหนุ่มคลี่ยิ้มหวานอันเป็นภาพจำของทุกคนส่งไปให้ ก่อนจะเอ่ยทักทายด้วยน้ำเสียงสุภาพเป็นมิตร
 
 
“สวัสดีครับคุณเกษสุดา ต้องขอโทษด้วยที่ให้รอนะครับ”
 
“เรียกเกษเฉยๆก็ได้ค่ะ คุณไอ” หญิงสาววางแคตตาล็อกลงแล้วลุกขึ้นยืนรับชายหนุ่มตามมารยาท
 
 
เกษสุดารู้จักกับกมลเพราะเพื่อนๆในวงสังคมของเธอเป็นคนแนะนำ ใครๆต่างก็ให้เครดิตว่าบริษัทจัดการงานวิวาห์ภายใต้การดูแลของผู้ชายหน้าสวยคนนี้นั้นอยู่ในระดับดีเยี่ยมแค่ไหน เรียกได้ว่าเป็นแถวหน้าของวงการเลยก็ว่าได้ นอกจากการบริการที่ทำให้รู้สึกประทับใจตั้งแต่ครั้งแรกที่ต่อสายมาสอบถาม รอยยิ้มและความเป็นกันเองของผู้บริหารที่ลงมาควบคุมงานด้วยตัวเอง ยิ่งทำให้ว่าที่เจ้าสาวไฮโซไว้วางใจมากขึ้นอีกหลายเท่าตัว
 
 
“ด้วยความยินดีครับ” กมลยิ้มอีกครั้ง ก่อนเข้าไปที่โซฟาตัวเล็ก แล้วผายมือให้เธอนั่งลงตามเดิม “นั่งเถอะครับ”
 
“เกษต้องขอโทษด้วยนะคะที่โทรนัดกะทันหัน พอดีว่าวันนี้คุณณธิปเขาว่าง คุณพ่อคุณแม่ก็เลยให้รีบมาคุยกันก่อน”
 
 
เมื่อถูกเอ่ยถึง คนที่นั่งก้มหน้าจมอยู่กับเครื่องมือสื่อสารตลอดเวลาตั้งแต่แรกจึงเงยหน้าขึ้นมาสบตากับกมล ดวงตารีเรียวของณธิปเบิกขึ้นนิดๆคล้ายประหลาดใจ ก่อนหน่วยตาทรงเสน่ห์คู่นั้นจะเปลี่ยนเป็นพราวระยับขณะทอดมองกมลถ้วนทั่วทั้งใบหน้า แล้วใบหน้าหล่อเหลาก็มีรอยยิ้มจุดขึ้นบางๆราวกับพบสิ่งต้องใจ
 
 
ส่วนกมลนั้น เมื่อเห็นรอยยิ้มกับแววตาของลูกค้าหนุ่มก็ยังคงควบคุมสีหน้าเป็นมิตร ไม่แสดงอาการอะไรมากเกินไปกว่ายามที่ยิ้มให้กับเกษสุดาหรือลูกค้าคนอื่นๆ ทั้งที่ข้างในรู้สึกไม่ชอบใจที่ถูกมองด้วยสายตาเจ้าชู้แบบนั้น หนุ่มหน้าสวยแสร้งทำทีเบือนหน้ากลับมาหาเกษสุดา จากนั้นจึงเริ่มต้นคุยคอนเซ็ปต์ของงานที่ลูกค้าต้องการ
 
 
การพูดคุยดำเนินไปกว่าชั่วโมง ในที่สุดว่าที่เจ้าสาวไฮโซก็บอกและเลือกสิ่งที่ต้องการในงานแต่งงานของตนเองเป็นภาพรวมทั้งหมดคร่าวๆให้กับทาง I promise ได้ทราบทั้งหมด โดยที่ผู้เป็นเจ้าบ่าวกลับนั่งฟังเฉย ไม่ออกความคิดเห็นใดๆทั้งสิ้นหากว่าไม่ถูกถาม ราวกับไม่ใส่ใจในงานซึ่งเป็นงานแต่งของตัวเองเลยสักนิด
 
 
“สรุปก็คือ คุณเกษไว้วางใจให้ทาง I Promise ของเราวางแผนและติดต่องานทั้งหมด ยกเว้นแค่ในส่วนของชุดเจ้าสาว ที่ทางคุณเกษจะเป็นคนจัดการเอง ถูกต้องไหมครับ”
 
“ถูกต้องตามนั้นค่ะ” หญิงสาวตอบรับด้วยรอยยิ้ม
 
“ถ้าอย่างนั้น คุณเกษกับคุณณธิปสะดวกจะเซ็นสัญญากับเราได้วันนี้เลยหรือเปล่าครับ หรือว่าต้องการนำสัญญากลับไปอ่านทบทวนดูก่อนแล้วค่อยตัดสินใจอีกครั้ง”
 
“เซ็นเลยดีไหมคะคุณเล็ก” หญิงสาวหันไปถามความเห็นหนุ่มหล่อที่นั่งกอดอกทำหน้าเบื่อหน่ายอยู่ด้านข้าง
 
“แล้วแต่คุณเลย ผมยังไงก็ได้” ไม่รู้เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วที่ณธิปตอบอย่างขอไปทีเช่นนี้ เกษสุดามีสีหน้ากระอักกระอ่วนใจเป็นอย่างมาก เธอก้มหน้าบีบมือตัวเองด้วยความกังวลใจอย่างไม่อาจปิดบัง กมลซึ่งนั่งดูอยู่ใกล้ๆ เห็นว่าคงปล่อยสถานการณ์เช่นนี้ดำเนินต่อไปไม่ได้ เขาจึงเป็นฝ่ายหันไปพูดกับว่าที่เจ้าบ่าวเพื่อช่วยลดความตึงเครียดแทนว่าที่เจ้าสาว
 
“คุณณธิปมีส่วนไหนจะเสนอหรือต้องการเพิ่มเป็นพิเศษไหมครับ”
 
“ไม่ล่ะ เอาตามที่คุณเกษเขาว่านั่นแหละ” เว้นไปนิดเหมือนคิดอะไรได้บางอย่าง ชายหนุ่มจึงหันไปเอ่ยกับเกษสุดา “แต่เซ็นเสียเลยวันนี้ก็ได้ เพราะจากนี้ผมต้องไปดูโรงแรมที่เชียงใหม่ คงไม่มีเวลาว่างมากับคุณบ่อยๆหรอก”
 
“อย่างนั้นเหรอคะ” สาวเจ้ามีสีหน้าสลดวูบ ก่อนจะหันมาบอกกับกมลด้วยยิ้มที่ฝืดเฝื่อนเต็มทน “เราเซ็นวันนี้เลยก็ได้ค่ะ ทางคุณไอสะดวกจะทำสัญญาวันนี้เลยไหมคะ”
 
“สะดวกครับ เชิญคุณเกษกับคุณณธิปรอสักครู่“ กมลหันไปสั่งงานกับเลขาส่วนตัว ซึ่งก็คือน้องสาวของเขา เสร็จแล้วหทัยจึงเดินออกจากห้องรับรองไปจัดการเรื่องสัญญา
 
 
ผ่านไปครู่หนึ่งหทัยก็กลับมาพร้อมกับหนังสือสัญญาสองฉบับ ทางลูกค้าอ่านและตรวจสอบตัวสัญญากันเงียบๆ ก่อนตกลงใจเซ็นร่วมงานกับทาง I promise Tower เมื่อลูกค้าเซ็นแล้วกมลจึงหยิบสัญญามาเซ็นบ้าง เรียบร้อยหมดสิ้นทุกกระบวนการ ลูกค้ากับผู้ถูกว่าจ้างก็เก็บสัญญาไว้ฝ่ายละชุด
 
 
ทันทีที่การทำสัญญาเสร็จสิ้นเรียบร้อยเป็นที่น่าพอใจทั้งสองฝ่าย ลูกค้าวีไอพีทั้งสองคนจึงลากลับ กมลเดินออกไปส่งเกษสุดากับณธิปถึงหน้าบริษัทก่อนบอกลาด้วยรอยยิ้มละมุน มองคนสองคนเดินไปยังลานจอดรถจนลับตา ชายหนุ่มหน้าหวานจึงหันหลังกลับ เตรียมตัวเรียกประชุมฝ่ายต่างๆเพื่อวางแผนงาน แต่แล้ว ขณะที่ยังไม่ทันได้ไปไหนไกล เสียงเรียกจากด้านหลังก็ทำให้กมลต้องหยุดเดิน
 
 
“คุณไอ”
 
“ครับ” กมลขานรับ พร้อมกับหันมาหา
 
“ผมลืมคืนให้น่ะ” ณธิปยื่นปากกาเรียบหรูสีบรอนซ์ตลอดทั้งด้ามให้กับหนุ่มหน้าหวาน
 
“ขอบคุณครับ” กมลยิ้มบางก่อนยื่นมือออกไปรับคืน ทว่าแทนที่จะได้ปากกาคืนมาอย่างที่หวัง อีกฝ่ายกลับออกแรงรั้งปากกาด้ามนั้นไว้ ไม่ยอมปล่อยให้อย่างปากว่า คนหน้าสวยจึงเงยหน้าขึ้นมองฝ่ายตรงข้ามด้วยความไม่เข้าใจ
 
 
แล้วกมลก็สบเข้ากับดวงตาคู่รีเรียวทรงเสน่ห์ซึ่งมองมาที่ตนอยู่ก่อนแล้ว สายตาวามวับถูกใจกับรอยยิ้มบางๆที่ได้รับ ทำให้กมลรู้สึกถึงความไม่พอใจเล็กๆในอก เขาไม่ใช่เด็ก ทำไมถึงจะดูไม่ออกว่าฝ่ายตรงข้ามต้องการจะสื่ออะไร แม้เลือกที่จะมองข้ามไม่สนใจตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้รับ แต่นี่ณธิปยังกลับมากระลิ้มกระเหลี่ยไม่เลิก มันออกจะเกินไปสักหน่อยกระมัง
 
 
“มีอะไรจะพูดกับผมอีกหรือเปล่าครับ คุณณธิป?” แต่ด้วยความที่กมลเป็นคนใจเย็น เขาจึงแก้ปัญหาด้วยวิธีที่มักใช้อยู่ประจำ นั่นคือแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจไปเสีย
 
“เปล่าหรอกครับ” เมื่อเห็นว่าหนุ่มหน้าหวานตรงหน้าไม่เล่นด้วย ณธิปจึงต้องรามือไปก่อน เวลานี้ไม่เหมาะที่เขาจะเซ้าซี้อีกฝ่าย แม้จะรู้สึกถูกใจในรูปร่างหน้าตาของกมลมากก็ตาม มือหนาปล่อยปากกาให้อีกฝ่าย จากนั้นจึงหันหลังกลับไปโดยไม่พูดอะไรอีก
 
 
คราวนี้กมลยืนรอจนกระทั่งรถหรูคันนั้นแล่นออกไปแล้วจริงๆ จึงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก หากก็ยังอดรู้สึกหนักใจแทนว่าที่เจ้าสาวอย่างคุณเกษสุดาอยู่ลึกๆไม่ได้ ต้องแต่งงานกับคนเจ้าชู้แบบนั้นถือเป็นโชคไม่ดีเอาเสียเลย แต่เรื่องของความรักและชีวิตคู่ของลูกค้าไม่ใช่สิ่งที่เขาจะเข้าไปยุ่มย่ามหรือคิดแทนได้ กมลปัดความคิดซึ่งนอกเหนือจากหน้าที่ของตนเองออกไป จากนั้นจึงตั้งใจกลับไปสั่งงานตามที่คิดไว้ก่อนหน้า ทว่าเขาก็ต้องชะงักอีกรอบ เมื่อเห็นว่าน้องสาวยืนกอดแท็บเล็ตมองอยู่
 
 
“ดูไม่น่าไว้ใจเลยนะคะ คุณณธิปคนนั้น”
 
“ไม่มีอะไรหรอก ช่างเขาเถอะ เราไปทำงานของเราดีกว่า พี่วานอ้ายเรียกทุกฝ่ายให้ไปคุยกันที่ห้องประชุมตอนบ่ายสามด้วยนะ” คนหน้าหวานสั่งด้วยน้ำเสียงรื่นหู
 
“ค่ะ พี่ไอ” เมื่อเห็นว่าพี่ชายของเธอไม่ได้คิดติดใจอะไร หทัยจึงเลิกคิดแล้วหันมาสนใจงานที่รออยู่ข้างหน้าแทน







++++++++++++++++++++++++++++++++++++






หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 1 [27/05/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: ละอองฝน ที่ 27-05-2016 06:35:24




บทที่ 1
 
 
 
 
 
 
      เมื่อเสียงนาฬิกาปลุกดังบอกเวลาตีสี่ครึ่ง คนที่หลับตาพริ้มอยู่ใต้ผ้าห่มก็ลืมตาตื่นขึ้น กมลเสียเวลางัวเงียอยู่ครู่หนึ่งก่อนเอื้อมมือออกไปกดปิดเสียง จากนั้นจึงลุกขึ้นพับผ้าห่มเรียบร้อยแล้วค่อยเดินไปล้างหน้าแปรงฟันและเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดลำลอง
 
 
   ตอนที่ลงมายังชั้นล่าง บ้านยังคงปิดไฟเงียบไร้สุ่มเสียง เนื่องจากน้องสาวและหลานๆของเขายังไม่ตื่นนอน กมลหยิบธนบัตรในกระปุกหลังตู้เย็นมาหนึ่งใบพร้อมกุญแจบ้าน ก่อนใส่รองเท้าผ้าใบแล้วไขประตูออกไปวิ่งที่สวนสาธารณะประจำหมู่บ้าน เขาชอบออกมาวิ่งในเวลาเช่นนี้เพราะตอนเช้าๆผู้คนจะยังบางตาอยู่ ไม่วุ่นวายเหมือนช่วงชั่วโมงเร่งด่วน
 
 
ขณะที่วิ่งผ่านหมู่แมกไม้ตามรายทาง ผิวเนื้อรู้สึกได้ถึงไอเย็นเบาบางชวนให้ตื่นตัวกว่าทุกที ถึงแม้ใครๆก็มักจะบอกว่ากรุงเทพมหานครนั้นไม่มีฤดูหนาว ทว่ายามเช้าตรู่ของเดือนธันวาคมเป็นต้นไปก็ให้ความรู้สึกเย็นสบายกว่าเวลานี้ในฤดูอื่นๆอยู่บ้างล่ะ ยิ่งถ้าเป็นคนขี้หนาวเหมือนกมลแล้วล่ะก็ ยิ่งจะรู้สึกถึงฤดูที่แตกต่างมากกว่าใคร
 
 
ชายหนุ่มร่างบางวิ่งรอบสระบัวใหญ่ในสวนได้สองรอบก็ถึงเวลาที่ต้องกลับพอดี ขากลับนั้นค่อนข้างจะแตกต่างจากขามาอยู่มากเหมือนกัน เนื่องจากระหว่างทางเริ่มมีสมาชิกในหมู่บ้านยกโต๊ะและอุปกรณ์ต่างๆออกมาเปิดร้านรวงและทำกิจวัตรยามเช้า
 
 
กมลเดินตามฟุตบาทไปเรื่อยๆไม่เร่งร้อน มีบ้างที่ระหว่างทางจะหยุดทักทายคนคุ้นหน้า อย่างเช่นคุณน้าประไพที่ออกมารอตักบาตรพร้อมกับส่งลูกสาวไปทำงานทุกวัน หรือถัดออกไปหน่อยก็เป็นคุณป้าสุรีที่ขายน้ำเต้าหู้ปลาท่องโก๋แสนอร่อย และร้านนี้เองที่เป็นสาเหตุให้กมลเตรียมเงินใส่กระเป๋ามา เนื่องจากเด็กๆที่บ้านรวมถึงตัวเขาติดใจน้ำเต้าหู้งาดำของคุณป้ากันทุกคน
 
 
“น้ำเต้าหู้งาดำสี่ถุง ขอน้ำตาลน้อยสองถุงนะครับ” ชายหนุ่มสั่งอย่างสุภาพพร้อมแนบรอยยิ้มจริงใจส่งไปให้ด้วย
 
“ตื่นเช้าทุกวันเลยนะคะคุณไอ” เจ้าของร้านน้ำเต้าหู้ว่า
 
“ครับ”
 
“เอ แต่ช่วงนี้ป้าว่าคุณไอดูเซียวๆไปนิดนะคะ” คนช่างสังเกตเอ่ยทัก
 
“ช่วงนี้งานเยอะหน่อย ธันวาก็แบบนี้ล่ะครับ คนแต่งงานกันเยอะ”
 
“ยังไงก็ดูแลตัวเองด้วยนะคะคุณไอ ป้าเป็นห่วงค่ะ” ป้าสุรีว่าพลางส่งถุงน้ำเต้าหู้ให้
 
“ขอบคุณครับป้า” กมลยิ้มให้กับความอารีของหญิงชรา ก่อนจะรับถุงมาพร้อมกับจ่ายเงิน “ผมไปก่อน ขายดีๆนะครับ”
 
 
เมื่อซื้อของเรียบร้อยหนุ่มร่างบางก็เดินกลับเข้าบ้านที่อยู่ในซอยถัดมา พอมาถึงเขาจัดแจงเอาน้ำเต้าหู้ไปเก็บ จากนั้นจึงขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อเตรียมตัวไปทำงาน ตอนเช้ากมลจะอาบน้ำไม่นานมากเท่าไหร่ เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายก็มักจะเตรียมไว้ตั้งแต่ตอนกลางคืน ดังนั้นเขาจึงใช้เวลาไม่นานในการจัดการธุระส่วนตัว
 
 
ตอนที่ลงมาจากห้อง หยินและหยางหลานรักทั้งสองคนต่างก็ตื่นนอนและอาบน้ำกันหมดแล้ว เหลือแค่สวมชุดนักเรียนเท่านั้น กมลจึงเข้าไปช่วยหลานแต่งตัว ส่วนน้องสาวซึ่งเป็นแม่ของเด็กแฝดทั้งสองก็ได้ผละไปจัดเตรียมอาหารเช้า
 
 
ครอบครัวของกมลเหลือกันเพียง 4 คนเท่านี้ แต่เดิมทีบ้านหลังนี้เคยมีแค่เขา พ่อ แม่ และน้องสาว พอกมลอายุได้ยี่สิบย่างเข้ายี่สิบเอ็ด พ่อกับแม่ก็ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เสียชีวิต กมลจึงใช้ชีวิตอยู่กับน้องสาวที่ตอนนั้นอายุเพียงสิบแปดมาลำพังสองคน เมื่อเติบโตและทำงานสืบต่อกิจการของพ่อแม่ได้ไม่นาน น้องสาวของเขาก็แต่งงานมีครอบครัว กมลจึงยกบ้านหลังนี้ให้น้องอยู่กับสามี ส่วนตัวเองย้ายไปอยู่คอนโดที่ซื้อใหม่ด้วยหวังว่าน้องจะได้สร้างครอบครัวใหม่อย่างเป็นสัดเป็นส่วน แต่ทว่าทุกสิ่งทุกอย่างก็เกิดการเปลี่ยนแปลง เพราะน้องสาวของเขาเลิกรากับสามีตอนที่คลอดลูกแฝดออกมาได้ไม่นาน ดังนั้นกมลจึงต้องย้ายกลับมาอยู่บ้านเพื่อช่วยเลี้ยงหลาน ตั้งแต่วันที่เจ้าแฝดแบเบาะจนถึงตอนนี้ก็เกือบห้าปีมาแล้ว ส่วนคอนโดที่ซื้อไว้ก็กลับไปนอนบ้างเป็นครั้งคราวยามที่ต้องการความสงบเพื่อคิดโครงการใหม่ๆ
 
 
“วันนี้ลุงไอไปส่งหยางที่โรงเรียนได้ไหมครับ” หลานชายคนเล็กเข้ามาเกาะขาออดอ้อนขณะที่กมลกำลังแต่งตัวให้แฝดคนพี่
 
“ได้สิครับ แต่มีข้อแม้ว่าเด็กๆต้องทานอาหารเช้าให้หมดนะครับ”
 
“โอเคครับ! คุณลุงไอใจดีที่สุดในโลกเลยครับ” น้องหยางรับคำเสียงใสก่อนวิ่งตื๋อเข้าไปนั่งประจำที่ในครัว
 
“เราก็ด้วยนะพี่หยิน ทานให้หมดเข้าใจไหม”
 
“ดื่มแต่น้ำเต้าหู้ที่ลุงไอซื้อมาได้ไหมครับ” หยินต่อรอง
 
“ไม่ได้ครับ หนูต้องทานแซนวิชด้วย ไม่อย่างนั้นแม่อ้ายจะเสียใจเอานะ” ได้ยินลุงว่า หยินก็ช่างใจครู่หนึ่ง ก่อนตอบตกลงเพราะกลัวคุณแม่เสียใจ
 
“ก็ได้ครับ แต่แค่ชิ้นเดียวนะ”
 
“ตกลงครับ” ตกลงกันเรียบร้อยก็พอดีกับที่แต่งตัวเสร็จ คุณลุงกับคุณหลานจึงเดินจูงมือเข้าไปนั่งทานอาหารเช้าในครัวพร้อมหน้ากัน
 
“ได้ยินน้องหยางบอกว่าวันนี้พี่ไอจะไปส่งเด็กๆเหรอคะ” อ้ายถอดผ้ากันเปื้อนแขวนเก็บก่อนถือจานแซนวิชเดินมานั่งที่โต๊ะด้วย
 
“อืม ก็เจ้าตัวดีเขาอ้อนน่ะสิ”
 
“แต่พี่ไอมีนัดคุยกับลูกค้าตอนเก้าโมงที่สุขุมวิทนะคะ ถ้าไปส่งเด็กๆที่โรงเรียน อ้ายกลัวพี่ไอไปตามนัดไม่ทัน”
 
“น่าจะทันอยู่หรอกไม่ต้องเป็นห่วง เพราะน้องหยางกับพี่หยินเขาสัญญากับพี่แล้ว ว่าวันนี้จะจัดการมื้อเช้าไม่อิดออดชักช้า ใช่ไหมครับ” ประโยคหลังกมลหันไปถามเจ้าสองแสบยิ้มๆ
 
“ครับ/ครับ” สองเสียงประสานรับอย่างพร้อมเพรียงกัน จากนั้นก็รีบจัดการอาหารเช้าตรงหน้าเพราะกลัวคุณลุงเปลี่ยนใจ
 
“งั้นก็ตามใจค่ะ” แม่อ้ายของเด็กๆยอมรับอย่างจำใจ ก็ลุงไอมักจะทำตามคำขอของเด็กๆไปเสียทุกอย่างจนคนเป็นแม่อย่างเธออดอ่อนใจไม่ได้ในบางครั้ง
 
“ว่าแต่อ้ายเถอะ เข้าไปที่ I Promise ใช่ไหมเช้านี้”
 
“ค่ะ อ้ายก็ว่าจะเข้าออฟฟิศก่อน”
 
“อย่าลืมแจ้งให้ฝ่ายบัญชีสรุปงบที่จะใช้ปรับภูมิทัศน์สวนด้านหลังบริษัทมาด้วยนะ” ผู้บริหารอายุน้อยว่าไปพลางจิบน้ำเต้าหู้ของตัวเองไปพลาง อีกทั้งตาก็ยังคอยสังเกตไม่ให้หลานๆทานอาหารเลอะเทอะ
 
“ตกลงว่าจะสรุปงบกันวันนี้ด้วยเหรอคะ อ้ายคิดว่าจะประชุมแต่เรื่องออกบูธที่ปักกิ่ง”
 
“เรื่องนั้นคราวที่แล้วเราประชุมความคืบหน้าไปแล้วนี่ วันนี้แค่สรุปความพร้อมก่อนพี่กับอ้ายเดินทางไป คิดว่าคงใช้เวลาไม่มากหรอก เอาเรื่องงบปรับปรุงภูมิทัศน์เข้าไปแจกแจงด้วยเลยจะได้ไม่เสียเวลา อีกอย่างถ้าผ่าน พี่จะได้สั่งให้เขาเรียกช่างมาเซ็นสัญญาเริ่มงานเลย อย่างลืมนะว่าปลายมกรามีลูกค้าจองจัดงานในส่วนของสวนด้านหลังริมสระ ไม่รีบทำพี่กลัวจะไม่ทันการ”
 
“โอเคค่ะ เดี๋ยวอ้ายจะเข้าไปบอกที่แผนกบัญชีไว้ แต่คิดว่าคงจะวุ่นกันน่าดูล่ะ เห็นวันก่อนยังสรุปปิดงบเตรียมยื่นภาษีกันไม่เสร็จเลย”
 
“อย่างนั้นเหรอ” หนุ่มหน้าหวานครุ่นคิด ก่อนบอก “ก็ให้ลองทำคร่าวๆจากที่คุยกันไว้คราวก่อนก็แล้วกัน ยังไงก็ต้องรอทางช่างเสนอราคามาอีกทีอยู่ดี”
 
“โอเคค่ะ” ผู้เป็นน้องสาวรับคำ
 
 
เมื่อทานอาหารเช้าเสร็จกมลก็พาหลานๆขับรถออกจากบ้านก่อน ส่วนหทัยเอารถอีกคันไปบริษัทเลย ดังนั้นเช้านี้เมื่อไม่ได้ไปส่งเจ้าสองแสบ เธอจึงมีเวลาเก็บล้างทำความสะอาดครัวก่อนนิดหน่อย
 
 
พอมาถึงโรงเรียนกมลก็ให้น้องหยินกับน้องหยางสะพายกระเป๋าเองก่อนจูงมือหลานเข้าไปส่งในโรงเรียน หยินกับหยางมักจะชอบให้กมลมาส่งบ่อยๆ นั่นก็เพราะว่ายามที่คุณลุงของเขามา เพื่อนๆมักจะเดินตามล้อมหน้าล้อมหลังเพื่อที่จะได้ทักทายลุงไอ ก็ลุงไอของเด็กๆน่ะยิ้มหวานท่าทางใจดีที่สุด บางครั้งก็มักจะเอาช็อกโกแลตเม็ดเล็กๆมาแจกด้วย เมื่อมาถึงหน้าห้องเรียนเขาปล่อยให้เด็กๆสวัสดีคุณครูเรียบร้อย คุณลุงยิ้มหวานของเด็กๆก็สั่ง
 
 
“ตั้งใจเรียนนะครับ เดี๋ยวเย็นๆลุงให้แม่อ้ายมารับนะ” กมลก็ส่งมือเด็กๆต่อให้คุณครูประจำชั้น
 
“ครับ/ครับ” หยินกับหยางรับคำก่อนยกมือไหว้ กมลลูบหัวหลานคนละที จากนั้นจึงเงยหน้าพูดกับคุณครูประจำชั้น
 
“ผมฝากเด็กๆด้วยนะครับ”
 
“ค่ะคุณไอ”
 
 
ส่งหยินกับหยางเรียบร้อยก็ได้เวลาขับรถไปพบลูกค้า กระทั่งบ่ายโมงกมลจึงกลับเข้า I Promise Tower เพื่อเข้าประชุม การประชุมแผนงานและสรุปงบประมาณเป็นไปอย่างราบรื่น แต่กว่าจะเลิกประชุมได้ก็เกือบๆห้าโมงเย็น น้องสาวของกมลออกไปรับเด็กๆตั้งแต่บ่ายสาม เขาจึงให้พนักงานที่เป็นผู้ช่วยอีกคนจดสรุปวาระการประชุมมาให้ หลังจากที่ทุกคนทยอยกลับกันไปแล้ว ผู้บริหารหน้าหวานก็นั่งอ่านสรุปทั้งหมดในห้องทำงานส่วนตัว จนเวลาล่วงเลยไปเกือบทุ่มจึงมีสายโทรเข้ามาขัดจังหวะ
 
 
“สวัสดีครับ กมลพูดสายครับ”
 
‘คุณไอ  นี่เกษเองค่ะ’ เสียงหวานของเจ้าสาวไฮโซลอดมาตามสาย
 
“อ๋อครับ คุณเกษมีอะไรให้ผมช่วยครับ”
 
‘คือเกษอยากเปลี่ยนสถานที่จัดงานน่ะค่ะ พอดีตอนแรกทางเกษแจ้งว่าจะจัดที่โรงแรมในเครือของคุณเล็กที่เชียงใหม่ใช่ไหมคะ’
 
“อ้อครับ ปางณภัทร เชียงใหม่”
 
‘ค่ะ แต่ตอนนี้เกษจะเปลี่ยนมาเป็นสาขาที่กรุงเทพแทนน่ะค่ะ คุณไอพอจะสะดวกมาดูสถานที่วันไหนก็โทรบอกเกษได้เลยนะคะ เพราะเกษอยากให้คุณไอมาช่วยเกษดูเมนูอาหารด้วยน่ะค่ะ’
 
“เอาเป็นอย่างนี้ดีกว่าครับ คุณเกษสะดวกวันไหนผมจะได้นัดพาทีมงานไปดูสถานที่”
 
‘สักวันพุธแล้วกันค่ะ คุณไอว่างนะคะ’
 
“อืม…สักครู่นะครับ” กมลพลิกดูตารางงานของตัวเองในวันพุธที่จะถึงก่อนตอบหญิงสาว “ผมว่างครับวันนั้น เอาเป็นช่วงเช้าเลยไหมครับ”
 
‘บ่ายๆก็ได้ค่ะ เกษไม่รีบ’
 
“ตกลงครับ” ชายหนุ่มเติมชื่อเกษสุดา สถานที่และช่วงเวลานัดเข้าไปในช่องว่างของวันพุธ
 
‘โทษด้วยจริงๆค่ะ เกษผิดเองที่ไม่ได้ปรึกษาผู้ใหญ่ให้ดีก่อน ดีนะคะเนี่ยที่ยังไม่เริ่มทำการ์ดแต่งงาน ไม่อย่างนั้นคงต้องเปลี่ยนทั้งหมดเลย’
 
“ไม่เป็นไรครับ ในช่วงแรกนี้หากคุณเกษมีไอเดีย หรือต้องการเปลี่ยนแปลงอะไรก็โทรมาหาผมโดยตรงได้เลยครับ เราเตรียมงานแต่เนิ่นๆช่วงใกล้ๆจะได้ไม่ฉุกละหุกมาก อ้อ! แล้วก็จะให้ผมนัดวัดตัวกันวันนั้นเลยไหมครับ คุณณธิปจะว่าอะไรหรือเปล่า”
 
‘เอ่อ…เกษไม่ทราบค่ะ คงต้องถามเขาดูก่อน แล้วยังไงเกษจะแจ้งนะคะ’
 
“ได้ครับ” กมลจับได้ถึงน้ำเสียงไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่ของเกษสุดา ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ซักไซ้อะไรเพิ่มเติม
 
‘ขอบคุณคุณไอมากๆนะคะ ไม่ได้คุณไอเกษคงแย่แน่ๆ’
 
“ไม่เป็นไรครับ ผมยินดี”
 
‘แล้วพบกันวันพุธค่ะ’
 
“แล้วพบกันครับ” บอกลากันเรียบร้อยเกษสุดาก็วางสายไป พอวางจากสายของเกษสุดาชายหนุ่มก็เริ่มโทรประสานงานกับพนักงานที่ดูแลเรื่องสถานที่ หนึ่งในนั้นรวมถึงจงรัก ลูกพี่ลูกน้องคนสนิทของเขาที่ตอนนี้เจ้าตัวไปเยี่ยมพ่ออยู่ที่เชียงใหม่
 
 
เมื่อประสานงานกับทุกคนเรียบร้อยกมลจึงเก็บของเตรียมตัวกลับบ้าน แต่ทว่าระหว่างเดินไปที่รถ เสียงโทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้นอีก แต่คราวนี้เป็นเบอร์ที่ไม่รู้จัก
 
 
“สวัสดีครับ กมลพูดสายครับ” ชายหนุ่มกรอกเสียงรื่นหูไปตามสาย ฝ่ายตรงข้ามเงียบอยู่อึดใจก่อนพูดโต้ตอบด้วยเสียงทุ้มห้าวอย่างที่ไม่คุ้นหู
 
‘วันพุธผมไม่ว่าง ถ้าคุณจะวัดตัว มาเจอผมที่โรงแรมปางณภัทร สาทร ในวันศุกร์’
 
“ขอโทษนะครับ นั่นคุณ…” อยู่ๆอีกฝ่ายก็พูดออกมาห้วนๆ กมลจึงไม่อาจเดาได้ว่าคนปลายสายเป็นใคร
 
‘ผมณธิปไง อะไรกัน ไม่กี่วันก็ลืมกันเสียแล้วเหรอ’ ณธิปเย้าเสียงคล้ายผิดหวัง แต่ฟังดูก็รู้ว่าแกล้งทำ
 
“อ๋อ คุณณธิป ขอโทษครับ ผมไม่ได้เมมเบอร์ของคุณไว้ ก็เลยไม่ทราบว่าเป็นใคร” ก็ช่วงตลอดหลายวันที่ผ่านมา ณธิปมาพบเขาพร้อมกับเกษสุดาเพียงสองครั้ง ครั้งแรกวันเซ็นสัญญา ส่วนอีกวันก็ตอนนัดคุยรายละเอียดธีมงานพร้อมฝ่ายจัดสถานที่ นอกจากนั้นเขาก็ไม่เคยโทรมาประสานงานอะไรกับกมลเลยสักครั้ง จะมีก็แต่เกษสุดาที่วิ่งเต้นเรื่องงานแต่งอยู่คนดียว “วันศุกร์กี่โมงดีครับ ผมจะได้บอกช่างถูก”
 
‘ประมาณบ่ายโมงก็แล้วกัน เห็นคุณเกษบอกว่าคุณทำหน้าที่ดูแลงานแต่งของเธอได้ดี ผมก็หวังว่าจะได้เจอคุณด้วยในวันศุกร์นะ’
 
“ครับ แล้วผมจะไปพบคุณด้วย เพราะบางทีคุณอาจมีอะไรเกี่ยวกับงานแต่งงานของคุณกับคุณเกษที่อยากเสนอผมบ้าง”
 
 
ความจริงกมลตั้งใจว่าจะส่งไปเพียงช่างจากห้องเสื้อ แต่เมื่อถูกพูดดักทางราวกับรู้ทางหนีทีไล่ขนาดนี้ ผู้บริหารหน้าหวานจึงไม่อาจปฏิเสธได้ แต่ก็พยายามคิดในแง่ดีว่าลูกค้าพิเศษก็คงจะต้องการบริการที่แสนพิเศษเท่ากับเม็ดเงินที่จ่ายออกไปเช่นกัน แม้ในใจยังไม่ลืมแววตาที่อีกฝ่ายจ้องมองตนเมื่อไม่กี่วันก่อนก็เถอะ
 
 
‘ตกลง แล้วผมจะรอพบคุณ’ ทว่าก่อนกมลจะกดวางสาย ณธิปก็สั่งบางอย่างออกมาอีกประโยค ‘อ้อ! วางสายแล้วก็อย่าลืมเมมเบอร์ผมเอาไว้ด้วยล่ะ คุณไอ’
 
“ครับ”
 
 
หลังจากวางสายแล้วจริงๆดวงตาคู่งามก็อดไม่ได้ที่จะจ้องมองเบอร์โทรศัพท์ที่หน้าจอของตัวเองเขม็ง ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า แต่เขามีลางสังหรณ์ว่าผู้ชายที่เพิ่งวางสายไปคนนี้ กำลังจะสร้างเรื่องให้เขาปวดหัวในอนาคต แต่คิดได้แค่นั้นกมลก็เลื่อนนิ้วไปกดบันทึกชื่อของณธิปเอาไว้ในโทรศัพท์ และบอกตัวเองว่าบางทีเขาอาจคิดมากเกินไป เมื่อเรียบร้อยชายหนุ่มก็เก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าแล้วไปขึ้นรถเพื่อนขับกลับบ้าน
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
   “คุณเล็ก”
 
   “หืม?”
 
   “ยิ้มอะไรอยู่คนเดียวครับ หนึ่งเรียกคุณตั้งนานแล้วนะ ไม่เห็นคุณจะตอบ” เสียงชายหนุ่มร่างบางที่เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าว่าอย่างกระเง้ากระงอด
 
   “หนึ่งเรียกผมเหรอ ขอโทษที พอดีคิดอะไรเพลินๆน่ะ” ณธิปบอกพลางเก็บโทรศัพท์มือถือลงกระเป๋ากางเกง
 
   “แหน่ะ! ดูมีพิรุธนะครับ คิดถึงใครอยู่หรือไง” ไม่ว่าเปล่า คนจ้องจับผิดยังเขม่นมองด้วยแววตาสงสัย เมื่อถูกมองเช่นนั้น คนที่ถูกจ้องก็ทำคิ้วขมวดแล้วว่าด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
 
   “คิดถึงใครกันล่ะ เรื่องงานทั้งนั้น นี่พรุ่งนี้มีประชุมโครงการบ้านพักตากอากาศที่หัวหินอีก อย่าจับผิดน่ารำคาญน่าหนึ่ง ผมไม่ชอบ”
 
   “ผมก็แค่สงสัย ทำไมต้องหงุดหงิดใส่ผมด้วยล่ะ”
 
   “ก็มันน่ารำคาญ อย่าจุกจิกกวนใจให้มากนัก บอกให้มาหาก็มาแล้วนี่ไง ถ้ามาจ้องจับผิดกันแบบนี้ไม่เลิกผมจะกลับไปนอนที่บ้านแล้วนะ” พอได้ยินอย่างนั้นหนึ่งนทีก็เปลี่ยนท่าทีจากหน้ามือเป็นหลังมือทันที มือเรียวรีบวางแก้วไวน์ในมือลงที่โต๊ะกลางโซฟาก่อนขยับเดินไปนั่งตักแล้วซบลงตรงบ่ากว้างของณธิป
 
   “อย่าเพิ่งกลับซิครับ คุณไม่ได้มาหาผมหลายวันแล้วนะ ก็คุณเอาแต่ทำงานจนลืมผมไปเลยนี่ ผมคิดถึงคุณจะแย่ มันก็ต้องหงุดหงิดเป็นธรรมดา”
 
   “ก็อย่าให้มันมากนัก ผมเหนื่อยกับงานมาแล้วไม่อยากทะเลาะกับคุณในเรื่องไร้สาระอีก”
 
   “ขอโทษครับ” ร่างบางเงยหน้าขึ้นมาก่อนเอามือคล้องคออีกฝ่ายแล้วจูบเบาๆที่ปลายคาง “ยกโทษให้ผมเถอะนะ นะคุณเล็ก”
 
 
   พอได้เห็นสายตาสำนึกผิดแกมออดอ้อนกับอาการขยับบดเบียดสะโพกบางที่หน้าตัก ณธิปก็ยอมอ่อนลงให้อีกฝ่าย ก่อนจะใช้มือหนาประคองลูบไล้เอวบางเล่น
 
 
   “อย่างนี้ค่อยคุยกันง่ายหน่อย” ใบหน้าหล่อเหลาว่าพลางกระตุกยิ้ม ก่อนเริ่มประกบจูบริมฝีปากของหนึ่งนทีจนอีกฝ่ายแทบหายใจไม่ทัน
 
   “ด…เดี๋ยวสิคุณเล็ก” หนึ่งนทีหาทางหนีทีไล่ให้ตัวเองไม่ตกเป็นเหยื่อง่ายนัก มือเรียวดันแผ่นอกกว้างของร่างสูงไว้จากนั้นจึงเริ่มพูดสิ่งที่ตั้งใจเตรียมมาบอกอีกฝ่ายแต่แรก “ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณก่อน”
 
   “เอาไว้พูดทีหลังสิ” ไม่ปฏิเสธเปล่า มือหนายังรุกไล่เข้าไปใต้ชายเสื้อของร่างบางที่หลุดลุ่ยออกมา
 
   “แต่เรื่องนี้สำคัญนะครับ” ทว่าหนึ่งนทีก็ไม่ยอมแพ้ ณธิปจึงยอมรามือชั่วคราวแล้วฟัง
 
   “เรื่องอะไรล่ะ”
 
   “เรื่องร้านของผมน่ะสิ”
 
   “ทำไม”
 
   “คุณก็รู้ว่าร้านจะเปิดตอนต้นปีหน้า ผมว่าจะลงข่าวในนิตยสาร---น่ะ นิตยสารหัวนั้นค่อนข้างคัดกรองแบรนด์สินค้า คุณพอจะมีเส้นสายบ้างไหม”
 
   “อืม…ก็พอรู้จักอยู่คนสองคน เดี๋ยวจัดการให้แล้วกัน”
 
   “จริงเหรอคุณเล็ก ขอบคุณนะครับ” พอได้ดั่งใจหนึ่งนทีก็ยิ้มกว้าง จนเกือบลืมว่าก่อนหน้านี้กำลังจะทำอะไรกันอยู่
 
   “เปลี่ยนคำขอบคุณเป็นอย่างอื่นดีกว่า” ณธิปว่าพลางยิ้มร้าย ก่อนจะเริ่มสานต่อกิจกรรมที่กำลังทำอยู่เมื่อครู่ให้ดำเนินต่อไปบนโซฟาใหญ่ในห้องรับแขกนั้น โดยที่หนึ่งนทีก็ไม่ได้ขัดขืนอีกทั้งยังให้ความร่วมมืออย่างเต็มใจ
 
 
   เมื่อผ่านพ้นช่วงเวลาวาบหวามไปแล้ว ณธิปก็อาบน้ำแต่งตัวแล้วเตรียมกลับคอนโดของตัวเอง เขาเป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร แม้ว่าจะคั่วใครสักกี่คน เมื่อทุกอย่างผ่านพ้นไปชายหนุ่มจะไม่ยอมค้างกับใครหน้าไหนทั้งนั้น แม้แต่หนึ่งนที ดีไซเนอร์หนุ่มที่ควงกันมายาวนานที่สุดเป็นประวัติการณ์ จนหลายๆคนแม้แต่เพื่อนสนิทยังคิดว่าคนนี้ตัวจริง แต่สำหรับณธิปแล้ว ไม่ว่าจะหนึ่งนทีหรือว่าใครก่อนหน้า ก็ไม่เคยมีคนไหนที่ยกย่องได้ว่าเป็นตัวจริงสักคนเดียว เพราะเขาเป็นคนรักสนุก ชอบอิสระ ไม่อยากผูกมัดกับใคร เนื่องจากมันทำให้รู้สึกวุ่นวายและยุ่งยากกันการที่ต้องเอาตัวไปผูกไว้กับคนๆหนึ่ง
 
 
ถึงแม้เขาจะไม่เชื่อ ไม่ศรัทธาในความรู้สึกรักๆใคร่ๆอะไรทำนองนั้น แต่เขาก็ยุติธรรมกับคู่นอนทุกคนที่เข้ามาในชีวิต เพราะการที่เข้ามาเป็นคู่นอนให้เขา ทุกคนก็จะได้รับค่าตอบแทนที่สมน้ำสมเนื้อกัน ยกตัวอย่างเช่น ผู้หญิงบางคนอาจจะอยากได้เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋าราคาแพง มันก็ไม่ได้เหนือบ่ากว่าแรงอะไร หรือแม้แต่อยากให้เปิดกิจการให้อย่างคนโปรดเช่นหนึ่งนที มันก็ไม่ได้สะเทือนทรัพย์ในกระเป๋าของณธิปเท่าไหร่ ขอเพียงคนคนนั้นมอบความสุขในแบบที่เขาพอใจได้เท่านี้ก็ถือว่าหายกัน
 
 
   ดังนั้นที่ผ่านมา ไม่ว่าณธิปอยากครอบครองใคร คนที่หมายปองก็มักจะไม่ปฏิเสธสักราย และเขาก็มั่นใจว่ารายล่าสุดที่เขาหมายตาอยู่ตอนนี้ ก็คงไม่ปฏิเสธเขาเช่นกัน
 
 
 
 
 
แต่บางทีณธิปอาจไม่รู้ว่า บางสิ่งบางอย่างก็ไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิดเสมอไป
 
 
 
 
 

 
++++++++++++++++++++++++++++





สวัสดีอีกครั้งค่ะ

เรื่อง 'คุณคือความรัก' เป็นสปินออฟอีกเรื่องของโปรดจงรัก
ตัวละครที่เราคุ้นเคยจะได้มีเรื่องราวเป็นของตัวเองเป็นอีกพาร์ทหนึ่ง

ถ้าใครไม่เคยอ่านโปรดจงรัก ก็สามารถอ่านเรื่องนี้ได้นะคะ
แต่หากอ่านโปรดจงรักไปด้วยก็จะดีมากๆ ค่ะ  >///<

เรื่องนี้เคยลงแล้วครั้งนึง แต่ฝนไม่ได้มาต่อนานเกินไป
ก็เลยถูกลบไป ต้องขอโ?ษด้วยจริงๆที่ปล่อยให้รอนานค่ะ
ตอนนี้จะกลับมาต่อเรื่อยๆ แล้วนะคะ
ยังไงก็ฝากติดตามและเป็นกำลังใจให้ด้วยเน้อ  :o8:
ชอบไม่ชอบติชมได้ค่ะ น้อมรับคำแนะนำเสมอค่ะ


ละอองฝน.
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทนำ+บทที่ 1 [27/05/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 27-05-2016 10:36:35
พี่ไอ จะกลับมาอีกครั้งแล้ว :katai2-1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทนำ+บทที่ 1 [27/05/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: ZYSQ_ ที่ 27-05-2016 13:54:00

แอบชอบคุณไอมาตั้งแต่ตอนที่อ่านโปรดจงรักแล้วค่ะ
ดีใจที่มีพาร์ทของคุณไอมาลงให้อ่าน
แต่ที่เหนือความคาดหมายคือบทบาทของคุณเล็ก
จากเรื่องที่แล้วเหมือนจะถูกจัดหมวดไว้เป็นตัวประกอบฝั่งดาวร้าย
แต่พอมาเรื่องนี้บทก็ดูจะเด่นขึ้นมาอีกโข....

จะรอตอนต่อๆไปอย่างใจจดใจจ่อค่ะ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทนำ+บทที่ 1 [27/05/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: monetacaffeine ที่ 28-05-2016 00:24:04
ปักเรื่องพี่ไอค่ะ  :mc4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 2 [28/05/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: ละอองฝน ที่ 28-05-2016 02:53:31





บทที่ 2







วันนี้เป็นวันที่เกษสุดานัดให้กมลและทีมงานไปพบกันที่โรงแรมซึ่งใช้ในการจัดงานแต่งงานของเธอกับณธิป ช่วงเช้ากมลจึงเร่งเคลียร์งานให้เสร็จโดยเร็วเพราะมีนัดว่าที่บ่าวสาวอีกคู่เพื่อเข้ามาเซ็นสัญญาจัดงานวิวาห์ตอนสิบเอ็ดโมงตรง แต่กว่าจะเจรจาตกลงกันเรียบร้อยเวลาก็ล่วงเลยไปเกือบเที่ยงครึ่ง โชคดีที่กมลให้ทีมงานเดินทางไปที่โรงแรมก่อนแล้ว ส่วนตัวเขาขับรถตามไปทีหลังจึงไม่ฉุกละหุกนัก


เมื่อมาถึงโรงแรมปางณภัทร พนักงานต้อนรับก็พากมลเข้าไปที่ห้องรับรองซึ่งทุกคนกำลังรอเขาอยู่ ผู้บริหารหน้าหวานกล่าวขอโทษลูกค้าอย่างสุภาพ แม้ว่าเขาจะมาทันเวลาก็ตาม เมื่อขอโทษขอโพยเสร็จดวงตาคู่งามก็สังเกตเห็นที่นั่งข้างๆของเกษสุดา เขาพบชายหนุ่มในชุดสูทเรียบหรูท่าทางสุขุมกำลังมองมาที่เขาอยู่ก่อนแล้ว พอประสานสายตากัน กมลก็คลี่ยิ้มการค้าส่งไปให้พร้อมกับแนะนำตัวเอง ฝ่ายนั้นจึงลุกขึ้นจับมือแล้วแนะนำตัวเองเช่นกัน


“ผมณภัทร เป็นพี่ชายของณธิป ยินดีที่ได้รู้จักครับ”

“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับคุณณภัทร”

“เรียกภัทรเฉยๆก็ได้ครับคุณกมล ไม่ต้องมากพิธีขนาดนั้นหรอก” เจ้าตัวว่าอย่างเป็นกันเอง กมลรู้สึกว่าพอเขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนน้อมเช่นนั้น มันทำให้ผู้ชายคนนี้ช่างน่าคบกว่าคนน้องเป็นไหนๆ


ณภัทร โชติตระกูล แทบจะไม่มีใครในวงการธุรกิจที่ไม่รู้จัก เขาเป็นลูกชายคนโตของคุณอนันต์ โชติตระกูล และเป็นทายาทอันดับหนึ่งที่จะรับช่วงต่อในการบริหารงานของกลุ่มธุรกิจในเครือเอ็นพีกรุ๊ปเกือบทั้งหมด แต่ไม่ใช่ว่าเขาเกิดมาบนกองเงินกองทองจึงทำให้คนจดจำ หากแต่ที่ผ่านมาเมื่อเอ่ยถึงชื่อของเขาก็จะปรากฏผลงานที่โดดเด่นเป็นที่ประจักษ์ จนทำให้ผู้ใหญ่ในวงการธุรกิจต้องจับตามอง และยกย่องว่าเป็นนักธุรกิจคนรุ่นใหม่มากความสามารถ


“ถ้าอย่างนั้นคุณภัทรก็ต้องเรียกผมว่าไอเหมือนคุณเกษด้วยนะครับ”

“ตกลงครับคุณไอ” เมื่ออีกฝ่ายยอมทำตาม กมลก็ยิ้มตาหยี ทำเอาคนมองเผลอยิ้มตามไปด้วยอีกคน


   หลังจากทักทายกันเรียบร้อยเกษสุดาก็ชวนให้กมลนั่งคุยกันเรื่องอาหารที่จะใช้ในการจัดเลี้ยง แต่เหมือนจะลืมที่คุยตกลงกับณธิปเอาไว้เมื่อวันก่อน กมลจึงเผลอถามถึงว่าที่เจ้าบ่าวซึ่งยังไม่เห็นแม้แต่เงา


“คุณณธิปล่ะครับ”

“คุณเล็กติดงานน่ะค่ะ” เกษสุดาว่าไม่เต็มเสียงนัก ก่อนเหลือบมองหน้าณภัทร ครั้นจะทำนิ่งไม่แก้ต่างอะไรแทนน้องสักคำก็คงกระไรอยู่ เขาจึงหันมาเอ่ยกับกมลว่า

“ในส่วนของงานก็จัดการตามที่คุณเกษต้องการ แต่ถ้าหากตรงไหนที่มีปัญหา ต้องการจะปรับเปลี่ยนก็ติดต่อกับคุณเกษหรือไม่ก็ผมได้เลยครับ เจ้าเล็กมันยุ่งๆช่วงนี้”

“ครับ” ไอพยักหน้ารับ

“จัดการตามนั้นได้เลยค่ะ อันที่จริงแล้วคุณเล็กเขาคงไม่มีปัญหาอะไร” เกษสุดากล่าวสำทับอีกคำก่อนจะเริ่มเลือกเมนูอาหาร


พอได้อย่างที่พอใจเธอก็คุยรายละเอียดการตกแต่งสถานที่ และพากันออกไปดูห้องแกรนด์บอลรูมที่จะใช้จัดพิธีในวันจริง เมื่อตกลงกันเข้าใจเรียบร้อยทุกอย่างหญิงสาวจึงขอตัวกลับไปก่อนโดยณภัทรเป็นคนเดินไปส่งว่าที่น้องสะใภ้ แต่ทางกมลและทีมงานยังอยู่ดูสถานที่ต่ออีกหน่อย


   กมลมองตามหลังเกษสุดากับณภัทรไปจนลับตา ก่อนถอนหายใจออกมาเบาๆ ดวงหน้าหวานเปลี่ยนไปจากตอนที่อยู่กับลูกค้าราวคนละคน เนื่องจากรู้สึกไม่สบายใจเท่าที่ควร ขณะที่ทีมงานต่างก็แยกตัวไปสำรวจดูส่วนที่ต้องการวางแท่นยกพื้นเพื่อทำเวที จงรักผู้เป็นลูกพี่ลูกน้องซึ่งกมลขอให้ช่วยงานนี้ด้วยก็เข้ามาแตะแขนเบาๆ แล้วถามด้วยน้ำเสียงแสดงความเป็นห่วง


“พี่ไอมีเรื่องอะไรไม่สบายใจหรือเปล่าครับ”

“ก็นิดหน่อยน่ะรัก” คนไม่สบายใจทำหน้าม้านลงกว่าเดิม จงรักจึงยิ่งเป็นห่วงมากขึ้น

“เรื่องงานของคุณเกษเหรอครับ”

“อืม… เรื่องของคุณเกษนั่นแหละ แต่ไม่ใช่เรื่องงานหรอก” ไอถอนหายใจอีกรอบ นัยน์ตาใสเหมือนลูกแก้วหม่นลงเล็กน้อยแล้วว่าต่อ “เรื่องงานพี่ไม่ได้หนักใจมากนัก ทาง I promies ของเราใช่ว่าจะไม่เคยจัดงานใหญ่ๆทำนองนี้ คุณเกษเธอลงรายละเอียดที่ต้องการมาครบถ้วน ดูๆแล้วไม่มีจุดไหนที่ไม่โอเค ถึงมีเราก็คุยได้ เธอมีเหตุผลพอ ทำงานด้วยง่ายไม่ได้เรื่องมากอะไรหรอกถ้าเทียบกับคนระดับเดียวกัน”

“แล้วพี่ไอเครียดเรื่องอะไรล่ะครับ”


ถึงตรงนี้เป็นเรื่องที่กมลชักไม่อยากปริปาก เนื่องจากเขาไม่อยากเอาใครก็ตามโดยเฉพาะลูกค้ามาวิจารณ์ในแง่ลบ แต่เพราะรู้สึกว่าจงรักมีท่าทีเป็นห่วงเป็นใยตนเองอย่างเห็นได้ชัด อีกทั้งน้องก็ถือเป็นคนในครอบครัว ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจพูด โดยลอบมองซ้ายขวาให้ใจว่าไม่มีใครอยู่ใกล้ตัวแล้วก้มลงมากระซิบให้ได้ยินกันเพียงสองคน


“เรื่องเจ้าบ่าวของคุณเกษน่ะสิ”

“หา? เรื่องคุณณธิปน่ะเหรอครับ” จงรักทำหน้างงงวยเล็กๆ กมลจึงอธิบายต่อ

“ใช่ พี่รู้ว่าอาจดูจุ้นจ้านเกินไป แต่รักทำงานกับพี่มาสักพัก รักก็น่าจะรู้นิสัยพี่ดี พี่ไม่ชอบแบบนี้เลย รู้สึกว่าคุณณธิปเขาไม่ใส่ใจกับงานแต่งที่กำลังจะเกิดขึ้น แทบทุกอย่างคุณเกษจัดการเองหมด ทุกครั้งที่นัดคุยงานเขามาสายตลอด ทำหน้าหงุดหงิด ไม่ช่วยออกความเห็น แถมบางครั้งยังพูดขัดคุณเกษหรือไม่ก็ตอบรับแบบส่งๆ ขนาดงานจัดที่โรงแรมของคุณณธิปเอง วันนี้เขายังไม่มา มีอย่างที่ไหนให้พี่ชายตัวเองมาแทน” ฟังจากที่ไอพูด จงรักก็เข้าใจทันที


   นอกจากกมลจะเป็นคนที่ลงมือทำงานภาคสนามเองแทบทุกงานแล้ว ผู้บริหารหน้าหวานจาก I promise Tower ยังเป็นคนที่เชื่อและศรัทธาในเรื่องของความรักมากๆ จนมักจะได้ยินคำพูดติดปากบ่อยๆว่า


การแต่งงานที่ดีย่อมเกิดขึ้นจากความรักของคนสองคน


   ทุกครั้งที่กมลเห็นคู่บ่าวสาวยิ้มอย่างมีความสุขในวันสำคัญ กมลก็จะยิ้มอย่างมีความสุขมากๆเช่นกัน เพราะเขารู้ว่างานเหล่านั้นตัวเองมีส่วนร่วมในการลงแรงสร้างสรรค์ ด้วยเหตุนี้จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมกมลถึงขัดใจในตัวณธิปนัก ก็เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา ณธิปแสดงให้เห็นว่าไม่ยินยอมพร้อมใจจะแต่งงานกับเจ้าสาวไฮโซอย่างเกษสุดาเลยสักนิด


“พี่ก็ไม่รู้ว่าเรื่องราวมันเป็นยังไงหรอกนะ แต่เห็นแบบนี้ก็อดสงสารคุณเกษไม่ได้ เธอดูมีความสุขขนาดนั้น แต่เจ้าบ่าวท่าทางไม่เต็มใจเลย แต่เอาเถอะ พวกเรามีหน้าที่จัดงาน ก็ดูแลในส่วนของเราให้ดี” ว่าจบกมลก็ถอนหายใจอีกครั้งปิดท้าย

“ครับ แต่พี่ไอก็อย่าคิดมากนะ ผมเป็นห่วง” พอได้ยินจงรักพูด กมลก็ยิ้มหวานตามแบบที่ใครเห็นเป็นต้องหลงรักพร้อมขอบใจน้อง

“อืม ขอบใจนะรัก ว่าแต่เราไปทางโน้นกันเถอะ ไปดูว่ากลองถ่ายรูปได้เยอะไหม เดี๋ยวต้องไปคุยงานต่ออีกที่ ส่วนเรื่องอาหารที่โรงแรมเขาจะจัดการเอง เอาไว้เราค่อยคุยเรื่องจัดซุ้มอีกที”

“ครับ”


เมื่อปัดเรื่องส่วนตัวของลูกค้าเจ้าปัญหาให้พ้นสมองได้ กมลก็กลับมาเป็นคนที่เอางานเอาการเหมือนเดิม จงรักเดินตามลูกพี่ลูกน้องของตัวเองไปหาทีมงานที่เหลือ พอตรวจเช็ครูปที่ถ่ายมาเรียบร้อย ทั้งหมดก็ออกจากโรงแรมไปที่รถ ข้างนอกท้องฟ้ามืดครึ้มแล้ว โชคดีที่ลูกค้าอีกรายนัดพวกเขาไว้ที่ร้านกาแฟใกล้กับโรงแรมพอดี ดังนั้นทุกคนจึงไม่ต้องกังวลปัญหาการจราจรติดขัดช่วงเลิกงาน ทว่าอีกไม่กี่ก้าวก็จะถึงรถ กมลก็ได้ยินเสียงจงรักเรียกชื่อเมฆาระรัวเสียจนฟังแทบไม่ได้ศัพท์


“เดี๋ยวครับ! พี่เมฆ พี่เมฆ!”

“มีอะไรหรือเปล่ารัก” กมลรีบเดินมาถามน้องด้วยความเป็นห่วงทันที

“พี่เมฆเกิดอุบัติเหตุเข้าโรงพยาบาลครับพี่ไอ”

“เป็นอะไรมากไหมรัก!” กมลถามด้วยความตระหนกเมื่อได้ยินอย่างนั้น

“ไม่รู้เหมือนกันครับ คุยกันยังไม่ทันรู้เรื่องเลย เห็นว่าหมอเข้ามาพี่เมฆเลยวางไปก่อน” จงรักกำโทรศัพท์ในมือแน่น กระวนกระวายจนทำอะไรไม่ถูก กมลจึงเสนอ

“อยู่โรงพยาบาลไหน รักไปดูเขาเถอะ ไม่ต้องห่วงนะ ที่จะไปคุยงานเดี๋ยวพี่จัดการเอง”

“ขอบคุณครับ” จงรักยกมือไหว้ ก่อนเปิดประตูรถเข้าไปหยิบกระเป๋าของตัวเองเพื่อเอาสมุดบันทึกงานเก็บแล้วรีบเร่งออกไปทันที


เมื่อจงรักผละไปแล้วนายกลองหัวหน้าทีมช่างภาพก็ขอตัวกลับไปทำรูปของลูกค้าที่ค้างเอาไว้ต่อ กมลจึงเดินทางไปตามนัดกับพนักงานที่เหลืออีกสองคน


ลูกค้าที่มาพบคุยตกลงกันไม่นานก็สรุปภาพรวมของงานทั้งหมดได้ ที่ดูเหมือนไม่ยืดเยื้อเพราะบ่าวสาวทั้งสองต้องการแบบเรียบๆแต่อบอุ่น จะมียุ่งยากนิดหน่อยก็ตรงไปจัดกันที่ต่างจังหวัด เนื่องจากพวกเขาต้องการจัดงานฉลองที่ทะเล และเพราะยังไม่มีที่ที่พิเศษในใจ ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของกมลและทีมงานที่จะทำรายการมาให้พวกเขาเลือกอีกครั้ง


สรุปว่ากว่าจะจบภารกิจทั้งหมดวันนั้นกมลก็ถึงบ้านเกือบสี่ทุ่ม เขาทานกีวี่ที่น้องสาวซื้อมาแช่ตู้เย็นไว้สองสามลูกแก้หิว ก่อนขึ้นไปอาบน้ำแล้วหลับอย่างรวดเร็วเพราะเหนื่อยอ่อน


วงจรชีวิตของกมลเป็นแบบนี้มาตั้งแต่ยังเรียนไม่จบมหาวิยาลัย เพราะตอนที่พ่อกับแม่เสีย ท่านมีธุรกิจการจัดการงานวิวาห์อยู่ก่อนแล้ว แม้ตอนนั้น I promise จะเป็นเพียงบริษัทเล็กๆ แต่สำหรับนักศึกษาอย่างกมลก็ค่อนข้างยากที่จะดูแลไปพร้อมๆกับเรียนหนังสือ ทว่ามันก็ผ่านพ้นมาได้ด้วยความพยายาม อดทนและความช่วยเหลือของคุณอาจรัญพ่อของจงรัก ซึ่งเป็นญาติผู้ใหญ่เพียงคนเดียวที่เหลืออยู่


ทุกวันนี้แม้ไม่ได้เรียนไปด้วยทำงานไปด้วยหลายปีแล้ว แต่เขาก็ยังเหนื่อยเพราะทำงานหนักขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า ถึงอย่างนั้นมันก็เป็นการทำงานที่มีความสุขมากๆ และการบริหารงานที่อุทิศตนและทุ่มหัวใจของกมลส่งผลให้ I promise เติบโตขยายพื้นที่เป็น I promise Tower บริษัทจัดการงานแต่งงานครบวงจรที่มีลูกค้าอยู่แทบทุกระดับ ตั้งแต่บุคคลธรรมดาไปจนถึงคนในวงสังคมชั้นสูง และกมลก็คาดหวังว่าต่อไปในอนาคต I promise Tower คงจะเติมโตอย่างมั่นคงแข็งแรงขึ้นไปอีกอย่างแน่นอน









สามวันมาแล้วที่ณธิปต้องเดินทางไปดูพื้นที่และเจรจาซื้อที่ดินเพื่อทำโครงการบ้านพักตากที่หัวหิน แม้มันจะยืดเยื้อเอามากๆในความคิดของชายหนุ่ม แต่ในที่สุดงานที่ได้รับมอบหมายก็ผ่านไปด้วยดี เขาเดินทางกลับมาถึงกรุงเทพในช่วงสายของวันศุกร์ แต่แทนที่จะได้พักผ่อนชายหนุ่มกลับมีงานเอกสารกองโตที่โรงแรมให้กลับไปสะสาง ดังนั้นเขาจึงเดินทางเข้าไปทำงานทันทีโดยไม่แวะพักที่คอนโดก่อน


ด้วยความที่ไม่ค่อยได้พักผ่อนณธิปจึงอารมณ์แปรปรวนมากกว่าทุกวัน ซึ่งผิดกับปรกติที่หว่านเสน่ห์ไปทั่ว ดังนั้นวันนี้จึงไม่ค่อยมีใครกล้าเล่นหูเล่นตาส่งยิ้มยั่วเย้าให้เช่นทุกที


แต่เดิมชายหนุ่มจะเป็นผู้บริหารที่ได้รับความนิยมในหมู่พนักงานมากพอสมควร เรียกได้ว่ามากกว่าพี่ชายผู้เคร่งขรึมจริงจังเป็นไหนๆ ด้วยรูปร่างหน้าตาที่หล่อเหลือร้าย บุคลิกดีมีความมั่นใจ แถมด้วยรอยยิ้มทรงเสน่ห์แพรวพราวพาให้หัวใจระทดระทวย ไม่ต้องพูดถึงฐานะหรือการศึกษา เท่านี้พนักงานสาวๆก็มองข้ามนิสัยโมโหร้ายและเปลี่ยนคู่นอนเหมือนเปลี่ยนเสื้อผ้าของเขาไปจนหมดสิ้น


ขณะที่กำลังเซ็นเอกสารจนหัวหมุน อยู่ๆก็มีสายโทรศัพท์ต่อตรงมาจากมารดาของชายหนุ่ม ทันทีที่กดรับเขาก็พบว่าตัดสินใจพลาดไป เนื่องจากธุระที่คุณหญิงประภัสสรโทรมาเป็นเรื่องที่ทำให้ณธิปอารมณ์เสียเพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าตัว


‘ตาเล็ก’

“ครับแม่”

‘ลูกอยู่ที่ไหน’

“อยู่โรงแรมที่สาทรครับ แม่มีอะไรหรือเปล่า ผมกำลังยุ่งๆอยู่เลย” คราวนี้เขาไม่ได้โกหกคุณหญิงเหมือนทุกทีที่หนีเที่ยว แต่เสียงแหลมๆของแม่ก็ทำให้รู้ว่า ไม่ว่าเขาทำอย่างไร คงไม่อาจทำให้คุณหญิงประภัสสรคลายความเกรี้ยวกราดได้
‘ทำงานอะไร ยุ่งมากแค่ไหน ถึงไม่มีแม้แต่เวลาพาหนูเกษไปลองชุด เมื่อวันพุธก็ทีนึงแล้วนะ มีอย่างที่ไหนเราเป็นเจ้าบ่าวแต่ให้พี่ภัทรเขาไปแทน ทางนั้นเขาก็งานยุ่งเหมือนกัน ทำไมเขายังสละเวลามาทำธุระให้เราได้เลยนะตาเล็ก เรามันเหลวไหลจริงๆ แม่ไม่รู้จะบ่นลูกยังไงแล้ว’

“ก็ผมต้องทำงานจริงๆนี่ครับ”

‘อ้างทำงานเพราะไม่อยากไปใช่ไหม อย่าคิดว่าแม่ไม่รู้ ดูอย่างพี่ภัทร—‘ พอพูดถึงตรงนี้ณธิปก็พูดแทรกด้วยแรงอารมณ์ที่คุกรุ่นไม่แพ้กัน

“ก็ถ้าพี่ภัทรเขาได้ดั่งใจคุณแม่มากนัก ทำไมคุณแม่ถึงไม่ให้พี่ภัทรเขาแต่งกับเกษสุดาเสียเลยล่ะครับ” หลังจากอึ้งอยู่ครู่หนึ่งเพราะโดนเหวี่ยงชุดใหญ่ ณธิปก็เริ่มปฏิบัติการตอบกลับอย่างเอาแต่ใจ จนคุณหญิงประภัสสรแทบกระอักเลือด

‘ตาเล็ก! อย่ามาย้อนแม่นะ’

“ก็ผมพูดความจริง แม่ครับ ผมไม่ได้อยากแต่ง—“

‘หยุด! ไม่ต้องพูดเลย เรื่องนี้เราคุยกันแล้ว ตกลงกันแล้ว ดังนั้นไม่ต้องมาพูดโยกไปโยกมาทั้งนั้น แม่ไม่ใจอ่อนให้เราอีกแล้ว’ ณธิปกรอกตาไปมาอย่างเหนื่อยหน่าย ถึงเขาจะดื้อแพ่งอย่างไรครั้งนี้แม่ก็ไม่ยอมอ่อนให้จริงๆ


ทั้งที่เหตุผลของคุณแม่เรียกได้ว่างี่เง่าและหัวโบราณสุดๆ คิดจะจับเขาแต่งงานตามคำสั่งของคุณพ่อ ด้วยหวังว่าจะหยุดไม่ให้เขามีข่าวฉาวเพราะควงคู่นอนไม่ซ้ำหน้า ณธิปอยากบอกแม่จะแย่ว่ามันไม่ได้ผล เพราะถึงแม้ว่าเขาต้องแต่งงานกับเกษสุดาจริงๆ เขาก็จะยังทำทุกอย่างเหมือนเดิม ทุกคนจะว่าเขาเป็นคนเลวทรามก็ได้ แต่การแต่งงานครั้งนี้มันเกิดขึ้นเพราะผู้ใหญ่บังคับ คนที่ต้องแต่งไม่ได้เต็มใจสักนิด อีกอย่างณธิปก็ไม่เคยคิดว่าจะหยุดอยู่ที่เกษสุดาหรือใครหน้าไหนทั้งนั้น


“ตกลงครับ วันนี้ผมจะยอมคุณแม่ก็ได้ แต่คุณแม่จะให้ผมทำยังไง จะให้ทิ้งงานไปหาเขาตอนนี้เลยดีไหมถึงจะพอใจกัน”

‘หยุดประชดประชันนะตาเล็ก’ คุณหญิงประภัสสรว่าก่อนจะเงียบปรับอารมณ์เพื่อหันมาคุยกับลูกด้วยเหตุผลอีกครั้ง ‘ครั้งนี้แม่จะไม่ว่าเราแล้วก็ได้ แต่ครั้งหน้าต้องไม่มีแบบนี้อีก ถึงยังไงนี่ก็เป็นงานแต่งงานของเรา ดังนั้นเราก็ต้องรับผิดชอบหน้าที่ของตัวเองด้วย ให้ทางผู้หญิงเขาจัดการคนเดียวมันใช้ไม่ได้ เข้าใจที่แม่พูดหรือเปล่า’

“เข้าใจครับ” ณธิปรับคำอย่างแกนๆ

‘นี่ดีที่เรื่องยังไม่ถึงหูคุณพ่อ ไม่อย่างนั้นเราโดนหนักแน่ๆ’ พอนึกถึงพ่อผู้แสนเข้มงวดของตัวเอง ณธิปก็รู้สึกขนลุกขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

“ขอบคุณนะครับที่ไม่บอกคุณพ่อ”

‘เราก็อย่าทำให้แม่ปวดหัวบ่อยแล้วกัน’

“ครับ ผมเข้าใจแล้ว”

‘ถ้าอย่างนั้นก็ทำงานเถอะ แม่ไม่กวนแล้ว’

“ครับ”


เมื่อณธิปรับคำ ผู้เป็นแม่ก็วางสายไป ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกเพราะในที่สุดการปะทะคารมที่แสนยาวนานก็จบลงเสียที ขณะที่เขากำลังก้มหน้าทำงานต่อ โทรศัพท์บนโต๊ะทำงานก็ส่งเสียงดังขึ้น ชายหนุ่มมองตาขวางราวกับอยากจะจับมันขว้างทิ้งเสียเดี๋ยวนั้น แต่ก็ตัดใจยกหูรับสายเพราะรำคาญเสียง


“มีอะไรแนท”

‘มีคนมาขอพบค่ะคุณเล็ก ไม่ทราบว่าจะให้เข้าพบไหมคะ’ เลขานุการสาวตอบตัวน้ำเสียงหวาดๆ ถึงแม้เธอจะแอบปลื้มเขามากแค่ไหน แต่อารมณ์ไม่ดีเช่นนี้ เธอก็ไม่อยากเสนอหน้าเข้าไปหาเรื่องใส่ตัวด้วยหรอก

“ใคร” เสียงทุ้มถามห้วนๆ

‘คนจากห้องเสื้อของ I promise ค่ะ’

“อ้อ~ เกือบลืมแหน่ะ ให้เข้ามาได้”

‘ค่ะคุณเล็ก’

เขาทำงานยุ่งจนลืมไปเสียสนิทว่าวันนี้มีนัดกับคุณไอคนนั้น บางทีการได้พบกับกันยามนี้อาจจะทำให้อารมณ์ขุ่นมัวของเขาคลายลงก็เป็นได้ รอไม่นานเลขาของเขาก็พากมลเข้ามาในห้อง ทันทีที่เห็นดวงหน้าหวานเต็มๆตา อารมณ์เสียที่สะสมมาทั้งวันมาก็ค่อยๆคลายลงอย่างที่คิดจริงๆ


“สวัสดีครับคุณณธิป” บทสนทนาเริ่มต้นที่รอยยิ้มสุภาพของกมล ณธิปจึงทักทายกลับอย่างสุภาพเช่นกัน

“สวัสดีครับคุณไอ”

“ขอโทษที่ทำให้คอยนะครับ นี่ทีมงานของผม พวกเขาจะมาช่วยดูแลคุณในวันนี้ครับ” มือเรียวผายไปยังพนักงานสองคนที่ยืนอยู่ด้านหลังพร้อมกับกระเป๋าอุปกรณ์และราวเสื้อสูทย่อมๆหนึ่งราว


ณธิปมองหน้าปัดนาฬิกาข้อมือแล้วพบว่ามันเลยเวลานัดมาเพียงแค่ห้านาทีเท่านั้น และเขาก็ไม่ได้ตั้งหน้าตั้งตาคอยอะไรขนาดนั้นตั้งแต่แรก ชายหนุ่มจึงยิ้มบางแล้วบอกด้วยท่าทางสบายๆ


“ไม่เป็นไรหรอกครับ สำหรับคุณนานกว่านี้ผมก็รอได้” แม้จะโดนหมัดแรกซัดเข้าไปอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว แต่กมลก็ยังคงตีสีหน้าเรียบเฉยได้ไม่ต่างจากเดิม

“ขอบคุณครับ ว่าแต่เรามาเริ่มกันเลยไหมครับ จะได้ไม่เสียเวลาทำงานของคุณมากนัก” คนช่างสังเกตว่าแล้วเหลือบตาไปที่กองเอกสารกองพะเนินบนโต๊ะ

“เอาสิครับ” ร่างสูงเดินนำทุกคนไปที่โซฟารับรอง ก่อนจะเริ่มคุยกันเรื่องแบบเสื้อ

“อันที่จริงทางเรามีแบบจริงให้เลือกให้ลองมากกว่านี้ครับ และจะสะดวกมากกว่าด้วยถ้าคุณณธิปว่างไปลองที่ร้าน”

“ขอโทษที พอดีงานผมมันยุ่งจริงๆ แต่ก็ไม่เป็นไรหรอกเพราะแบบที่คุณเลือกมามันก็คล้ายๆแบบที่ผมชอบใส่ เก่งนะครับ เลือกได้ถูกใจผมทั้งนั้นเลย”

“ผมสังเกตจากรูปร่างและบุคลิกของคุณ รวมถึงแบรนด์ที่คุณใส่มาคราวก่อนๆน่ะครับ ไม่ได้เก่งกาจอะไรหรอก แต่จะว่าไปถ้าหากคุณณธิปอยากสั่งตัดกับทาง Valentino หรือ Tom Ford ทางเราก็สามารถติดต่อให้ได้นะครับ”

“ไม่ดีกว่า ถึงผมจะสั่งกับทางนั้นอยู่ประจำก็เถอะ แต่คราวนี้ผมอยากสั่งกับแบรนด์ไทยดูบ้าง” กมลเห็นแล้วว่าถูกมองด้วยสายตาวิบวับ แต่เขาก็ไม่ได้เล่นหูเล่นตากลับ มิหนำซ้ำยังอยากเอาดินสอแท่งให้ตาหลุดไปเลยด้วยซ้ำ


พอเลือกลองเสื้อตามแบบเรียบร้อยก็ถึงเวลาวัดตัว อันที่จริงถ้าตัดพฤติกรรมอันไม่พึงประสงค์ออกไป ณธิปก็มีข้อดีที่กมลแอบชื่นชมอยู่เงียบๆเหมือนกัน อย่างเช่น เจ้าตัวเป็นคนรูปร่างดีไม่มีที่ติ ทั้งสูงโปร่งและมีกล้ามเนื้อเป็นสัดส่วนชัดเจน จนสาวๆช่างเสื้อของกมลแอบอมยิ้มตอนที่ได้วัดตัวให้ชายหนุ่ม แต่ก็อย่างว่าล่ะนะ เจ้าชู้ประตูดินขนาดนี้ก็คงต้องดูแลตัวเองอย่างดีเอาไว้บริหารเสน่ห์กระมัง


ขณะที่กมลคอยจดสัดส่วนตามที่ช่างเสื้อทั้งสองบอก ณธิปเองก็ลอบสังเกตผู้บริหารของ I promise อยู่เช่นกัน ในสายตาของณธิปนั้นมองว่ากมลหน้าหวาน ผิวก็สวย ยิ่งมองนานๆก็ยิ่งรู้สึกว่าอีกฝ่ายเหมือนตุ๊กตากระเบื้องเคลือบอย่างไรอย่างนั้น แต่ใต้ใบหน้าที่สวยหวานเกินกว่าผู้ชายทั่วไป ณธิปกลับรู้สึกว่ากมลไม่เหมือนกับพวกผู้ชายหน้าหวานที่เขาเคยเจอ เพราะเจ้าตัวดูไม่ใช่คนที่จะมีจริตจะก้านอย่างนั้น แม้จะยิ้มหวานเอามากๆ แถมลักยิ้มสองข้างก็ขับให้ดูน่ารักขึ้นอีกเป็นกอง แต่ดูอย่างไรก็ไม่ใช่ผู้ชายที่จะชอบผู้ชายด้วยกันทำนองนั้นแน่ๆ


“มีอะไรจะเพิ่มเติมหรือเปล่าครับ” กำลังมองหน้าเพลินๆ อยู่ๆกมลก็ช้อนตาขึ้นราวกับรู้ว่าถูกแอบมองอยู่ ณธิปส่ายหัวแล้วยิ้มมุมปาก นึกขำตัวเองที่เผลอจ้องอีกฝ่ายนานขนาดนั้น

“เสร็จแล้วค่ะ” เมื่อช่างวัดตัวเสร็จก็ช่วยกันเก็บของ


ณธิปเดินมาทรุดตัวนั่งลงข้างๆกับกมลซึ่งต่างจากตอนแรกที่นั่งตรงข้ามกัน เขายื่นหน้าเข้าไปใกล้อีกฝ่าย จงใจเบียดเข้าไปใกล้ทำทีว่าดูแบบที่อีกฝ่ายเขียนสรุปไว้ คนตัวบางกว่ารู้สึกได้ถึงลมหายใจที่เป่ารดต้นคอจึงค่อยๆขยับออกห่างอย่างแนบเนียน แล้วยัดแบบใส่มือให้คนรุ่มร่ามช่วยดูอีกครั้ง


“สรุปว่าแบบนี้เป็นแบบที่ต้องการนะครับ”

“อืม…แบบนี้แหละที่ต้องการ” ไม่ว่าเปล่า มือปลาหมึกก็ยังแสร้งฉวยเอามือเรียวของกมลเอาไว้ด้วย

“ขอโทษครับ” ความจริงกมลก็อยากจะดึงมือออกมาเงียบๆ ทว่าอีกฝ่ายกลับรั้งไว้แน่นเกินไป เจ้าตัวจึงต้องเอ่ยขอด้วยเสียงเยียบเย็น เพราะชักไม่สบอารมณ์มากขึ้นทุกที

“อ้อ!~ ขอโทษครับ” คนหน้ามึนแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ก่อนปล่อยมือนิ่มอย่างแสนเสียดาย เมื่อได้รับอิสระกมลก็ลุกขึ้นยืน แล้วว่า

“เสร็จเรียบร้อยแล้วล่ะครับ ผมคงต้องขอตัวกลับก่อน อย่างไรถ้าชุดเสร็จแล้ว เราจะโทรมานัดให้คุณณธิปลองอีกทีนะครับ”

“ครับ แล้วผมจะรอ” ณธิปยืนส่งกมลจนกระทั่งอีกฝ่ายออกจากห้องไป เขาจึงยกยิ้มร้ายออกมาแล้วคิดในใจว่านานๆทีเจอคนแบบที่ได้มายากๆอย่างนี้ก็น่าสนใจดีเหมือนกัน






++++++++++++++++++++++++++++


บทที่ 2 มาแล้วค่ะ
บทต่อไปจะทยอยเอามาลงนะคะ
ฝนอ่านคอมเม้นแล้วชอบคำๆนึงมากๆ ของคุณ ZYSQ_
ที่เรียกคุณเล็กว่า #ตัวประกอบฝั่งดาวร้าย
ชอบมากจนอยากจะใช้เป็นแท็กฝั่งทวิตเตอร์เลยค่ะ
แต่ตัวประกอบฝั่งดาวร้ายจากเรื่องโปรดจงรักนี่อัพเกรดแรงนะคะ
โผล่มาอีกทีก็มีบทเด่นเป็นของตัวเองเลยทีเดียว 555555555

คนที่เคยตามอ่านโปรดจงรักมาก่อนก็จะเห็นความอิทธิฤทธิ์ร้ายกาจของคุณเล็กดีเนอะ ว่าไม่เป็นรองน้องหนึ่งนทีเลย
เรื่องนี้มีหลายคนมากระซิบถามว่าตาคนนี้จะคู่กับพี่ไอจริงเหรอ อยากให้เปลี่ยนพระเอก
เห็นพี่ไอคนดีต้องมาเจอกันคนแบบนี้แล้วสงสาร ฝนอยากให้ลองดูก่อนค่ะ เพราะคุณเล็กเค้าก็ไม่ได้แย่ขนาเนั้นนะคะ(หราาา)

ยังไงก็ฝาก "คุณคือความรัก" ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วย
แม้เรื่องจะหวือหวาขึ้นมาจากโปรดจงรักสักหน่อย แต่รับรองว่าจะไม่ทำให้ผิดหวังค่ะ  :mew1:


ละอองฝน.

 
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 2 [28/05/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 28-05-2016 16:06:57
อยากให้ พี่ไอมีฝีมือ ด้านการต่อสู้ ที่เป็นงานอดิเรก



เอา  จรเข้ฟาดหาง  ฟาดปาก อิคุณเล็ก แรงๆซักที



หื่นไร้มารยาท  ไร้จิตสำนึก
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 3 [30/05/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: ละอองฝน ที่ 30-05-2016 10:49:18





บทที่ 3








   ผ่านเทศกาลปีใหม่มากว่าสองเดือน แต่ทว่ามันเป็นสองเดือนสุดแสนหฤโหดของกมลเลยก็ว่าได้ เพราะตารางงานในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์นั้นแน่นเอียด อย่างที่ใครๆก็รู้กันดีว่าเดือนมกราคมมักเป็นเดือนที่มีฤกษ์มงคลเยอะที่สุด ถือเป็นเดือนเปิดปีเปิดฟ้าใหม่ ดังนั้นคนจึงนิยมจูงมือเข้าพิธีวิวาห์อย่างล้นหลาม ส่วนเดือนแห่งความรักอย่างเดือนกุมภาพันธ์ก็คงไม่ต้องพูดถึง เพียงเดือนนี้เดือนเดียว I promise Tower ต้องจัดงานให้ลูกค้ามากกว่าค่าเฉลี่ยของทุกเดือนตลอดทั้งปีถึงสองเท่า ผู้บริหารหน้าหวานจึงแทบไม่มีวันได้หยุดพัก


   มือเรียวถือปากกาจดรายละเอียดกำหนดการทำงานของเดือนมีนาคมอย่างขะมักเขม้น กมลคิดคำนวณบริหารจัดการเวลาเงียบๆในใจ แล้วพบว่ากว่าเขาจะได้พักผ่อนจริงๆจังๆก็คงจะเป็นช่วงสงกรานต์ เพราะก่อนสงกรานต์เขามีงานใหญ่งานยักษ์อีกงานที่ต้องจัดการให้ผ่านพ้นไปด้วยความราบรื่นเรียบร้อย ซึ่งงานที่ว่าก็คือ งานแต่งงานระหว่างคุณเกษสุดาและคุณณธิป


   แม้การจัดเตรียมทุกอย่างจะลุล่วงไปกว่า 70% แต่ทว่าก็ยังมีรายละเอียดปีกย่อยเล็กๆน้อยๆที่ต้องคอยสะสางอยู่ ซ้ำยังเหลืองานตกแต่งสถานที่ซึ่งจะเริ่มทำได้ตอนสามวันก่อนวันจริง และก่อนหน้าที่จะถึงวันงาน กมลยังมีแผนการเดินทางไปออกบูธเวดดิ้งแฟร์ที่ปักกิ่ง ซึ่งแผนงานนี้ได้เตรียมการเอาไว้ราวๆครึ่งปีก่อนหน้านี้ ดังนั้นกมลจึงมีความพร้อมกับงานนี้มากๆ งานที่เหลือทาง I promise ก็จัดสรรและแบ่งงานให้ตามหน้าที่เรียบร้อย เสียก็แต่ตรงที่เวลาของการเตรียมงานให้ลูกค้ามาเบียดให้กระชั้นจนมีเวลาจัดกระเป๋าแค่คืนเดียวก่อนไป


   การเดินทางไปประเทศจีนครั้งนี้ กมลตัดสินใจพาหทัยไปด้วยกันอีกคน เพราะเขาคงไม่มีใครรู้ใจและเหมาะสมต้องเรียนรู้งานอย่างใกล้ชิดเท่าน้องสาวเพียงคนเดียวอีกแล้ว จะติดก็ตรงที่หลานแฝดหยินหยางต้องถูกนำไปฝากเลี้ยงที่บ้านลูกพี่ลูกน้องอย่างจงรัก ตรงนี้เขาก็รู้สึกเป็นห่วงและเกรงใจน้องมากเอาการอยู่เหมือนกัน แต่นอกเหนือจากจงรักแล้ว กมลก็ไม่มีญาติมิตรชิดใกล้ที่สามารถพึ่งพาได้อีก


   “พี่ไอคะ” ขณะที่กำลังทบทวนแผนงานของตัวเองในห้องทำงาน หทัยก็เปิดประตูเข้ามาเรียกหา

   “ว่าไงอ้าย”

   “ไปรับหลานกันเถอะค่ะ เด็กๆน่าจะใกล้เลิกเรียนว่ายน้ำกันแล้ว”

   “จริงเหรอ” เขาลืมดูเวลาไปเสียสนิท ดังนั้นมือเรียวจึงรีบเก็บข้าวของลงกระเป๋าลุกขึ้นจากเก้าอี้ แล้วเดินไปหาน้อง “ไปกันเถอะ”


   ระหว่างทางเดินพนักงานหลายคนในบริษัทก็พากันออกมาส่งกมลกับหทัย อีกทั้งอวยพรให้เดินทางปลอดภัยและประสบความสำเร็จในการทำงานที่โน้น กมลจึงถือโอกาสกำชับให้ทุกคนทำงานในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ดี หากมีปัญหาก็สามารถแจ้งเรื่องกับหัวหน้าฝ่ายได้เลย เพราะเขามอบอำนาจให้หัวหน้าทุกฝ่ายจัดการทุกอย่างตามที่เห็นสมควรตอนเขาไม่อยู่ เมื่อพูดคุยกันเรียบร้อยแล้วผู้บริหารหนุ่มหน้าหวานกับน้องสาวก็เดินมาขึ้นรถก่อนขับออกไปรับหลานชายที่โรงเรียน


   รับหลานชายที่โรงเรียนเสร็จกมลก็พาทุกคนในครอบครัวไปทานอาหารเย็นในห้างสรรพสินค้าใกล้บ้าน เนื่องจากเขามีบางอย่างที่ยังขาดจะต้องซื้อติดกระเป๋าไปปักกิ่งด้วย ส่วนเด็กๆพอทานอาหารเสร็จก็ถูกผู้เป็นแม่พาไปทานไอศกรีมเป็นการฆ่าเวลารอคุณลุงซื้อของ


   หลังจากได้ของครบกมลจึงพาหลานๆไปส่งที่บ้านของจงรัก ตอนนี้เจ้าตัวย้ายไปอยู่กับเมฆาซึ่งเป็นคนรักไม่ได้อยู่คอนโดคนเดียวเหมือนแต่ก่อน บ้านของเมฆาอยู่ห่างจากตัวเมืองมากสักหน่อยเพราะเป็นเขตกรุงเทพรอบนอก กว่าจะเดินทางมาถึงก็ค่ำแล้ว กมลบีบแตรครั้งหนึ่ง รอไม่นานร่างเล็กๆของลูกพี่ลูกน้องก็วิ่งออกมาเปิดประตูให้ เมื่อขับรถเข้าไปจอดสนิทด้านในเรียบร้อย หลานคนเล็กของเขาก็วิ่งตื๋อออกจากรถเพื่อไปหาคุณน้าคนโปรดทันที จนหทัยต้องรีบปรามเสียงเขียวเพราะกลัวเจ้าแสบจะล้ม










“น้ารัก!~”

“น้องหยางอย่าวิ่งลูก!!”


ลูกพี่ลูกน้องของเขาถูกหลานชายวิ่งเข้าชาร์จจนเซถอยหลังไปหลายก้าว เมื่อตั้งตัวได้จงรักจึงย่อตัวลงนั่งในระดับเดียวกับหลาน ก่อนจะปรามเด็กซ่าด้วยท่าทางใจดี


“โดนคุณแม่ดุแล้วเห็นไหมครับน้องหยาง”

“ก็หยางคิดถึงน้ารักนี่ครับ” เด็กน้อยบอกซื่อๆจงรักจึงหอมแก้มใสทั้งสองข้างเป็นรางวัลให้คนปากหวาน

“น้ารักสวัสดีครับ” มัวแต่สนใจหลานชายคนเล็กจนลืมหลานอีกคนที่กมลจูงมือตามหลังมา

“สวัสดีครับน้องหยิน ตัวโตขึ้นหรือเปล่าครับ ไหนมาให้น้าหอมแก้มหน่อยเร็ว” ได้ยินผู้เป็นน้าบอกแบบนั้นเด็กชายหยินจึงปล่อยมือคุณลุงแล้วเดินเข้ามายื่นแก้มให้หอมอย่างว่าง่าย


   แม้หยินกับหยางจะเป็นฝาแฝดกันแต่นิสัยนั้นค่อนข้างต่างกันอย่างเห็นได้ชัด อาจด้วยความเป็นพี่ทำให้หยินมีนิสัยสงบเรียบร้อยและเชื่อฟังคำสั่งมากกว่า ส่วนหยางเป็นเด็กร่าเริง ยิ้มง่าย ค่อนข้างเอาแต่ใจนิดๆตามสไตล์น้องชายคนเล็ก ไม่เพียงแต่นิสัย แม้กระทั่งหน้าตาของทั้งสองก็ยังต่างกันจนสามารถแยกออกได้ง่ายว่าคนไหนหยิน คนไหนหยาง


“น้องหยางสวัสดีน้ารักกับน้าเมฆหรือยังครับ”

“สวัสดีครับน้ารัก” เมื่อได้ยินเสียงเตือนของกมล หยางจึงผละจากอ้อมกอดของจงรักแล้วก้มหัวสวัสดีจนเกือบทิ่มพื้น ก่อนจะหันไปมองผู้ชายตัวใหญ่ที่ยืนทำหน้าทะมึนดุดันอยู่ข้างๆจงรัก

“สวัสดีครับน้าเมฆ” หยินเป็นคนเริ่มต้นทักทายก่อน จากนั้นจึงสะกิดน้องชายที่ดูเหมือนจะช็อคอยู่กับหน้าตาดุดันของเจ้าบ้าน

“สะ…สวัสดีครับ น้าเมฆ” หยางเอ่ยออกมาเบาๆ แล้วค่อยๆกระเถิบเข้าไปชิดจงรักจนแทบจะเกยตัก

“สวัสดีเด็กๆ”


เสียงทุ้มต่ำของเมฆาผนวกกับรอยยิ้มเกร็งๆที่มุมปากจนคล้ายเจ้าตัวกำลังแสยะยิ้ม ยิ่งเพิ่มความน่ากลัวขึ้นไปอีกเท่าตัวในสายตาเด็กๆ ทำเอาหยินที่ไม่ได้คิดอะไรในตอนแรก ผงะตัวถอยหลังไปคว้ามือของกมลจับไว้แน่น หทัยมองเห็นท่าทางของลูกชายทั้งสองเป็นคนแรกจึงรีบบอกกับเมฆา


“สงสัยเด็กๆคงยังไม่ชินน่ะค่ะ”

“ไม่เป็นไรครับ เข้าบ้านกันก่อนดีกว่า มืดแล้วยุงเยอะ”


คนรักของจงรักว่าอย่างไม่ถือสาเอาความอะไรกับเด็ก  ก่อนให้จงรักพาหลานเข้าบ้านพร้อมกับคุณแม่ ส่วนตัวเองก็หันมาช่วยกมลยกสัมภาระของเด็กน้อยทั้งสองที่ขนมาราวกับจะย้ายสำมะโนครัว


“ของเยอะนิดนึงนะครับ พอดีมีชุดนักเรียนกับเครื่องเรียนของเด็กๆด้วย” คนหน้าสวยว่าขณะส่งกระเป๋าเสื้อผ้าสองแฝดให้กับเมฆา

“คุณไอกับคุณอ้ายไปกันกี่วันครับ”

“สามวันครับ บินวันนี้ตอนตีหนึ่ง เพราะพรุ่งนี้มีงานแต่เช้าเลย” เมื่อเอาของออกจากรถหมดแล้วเมฆาก็เดินนำกมลเข้ามาในบ้าน

“เหนื่อยแย่เลยนะครับ”

“ก็แบบนี้แหละครับ ใครว่าเป็นผู้บริหารแล้วสบาย ผมเถียงขาดใจเลยนะ” กมลบอกพร้อมกับทำหน้าขึงขังจริงจังทำให้เมฆาอดรู้สึกขำขึ้นมาไม่ได้


   เมื่อถึงห้องนั่งเล่นเมฆาก็อาสาเป็นคนขนของทั้งหมดขึ้นไปเก็บบนห้องแทน เพราะคิดว่ากมลอาจต้องการเวลาในการคุยกับจงรักและเด็กๆก่อนเดินทาง ระหว่างนั้นกมลกับหทัยจึงนั่งลงที่โซฟาตัวใหญ่ของบ้านแล้วจับเด็กๆสองคนมานั่งด้วยกัน ก่อนกำชับให้เด็กสองคนเชื่อฟังคุณน้าจงรักระหว่างที่เขาและน้องสาวไม่อยู่


   “พี่หยินกับน้องหยางครับ ลุงไอกับแม่อ้ายต้องไปทำงานเหมือนที่เราคุยกันไว้ก่อนหน้านี้ ดังนั้น เมื่อหนูๆมาอยู่กับน้ารัก หนูสองคนต้องเป็นเด็กดี เชื่อฟังน้ารักกับน้าเมฆ ไม่ดื้อไม่ซน เข้าใจไหมครับ”

   “เข้าใจครับ” หยินว่า

   “ดีมากครับพี่หยิน” กมลดึงหลานชายคนโตมากอดและหอมแก้มยุ้ย ก่อนหันไปหาเจ้าคนเล็กที่เอาแต่ซุกอยู่กับผู้เป็นแม่ พาลทำให้หทัยทำหน้าเหยเกร่ำๆจะร้องไห้ไปด้วย “แล้วน้องหยางล่ะครับ เข้าใจที่ลุงบอกหรือเปล่า”

   “เข้าใจแล้วครับ” หยางว่าหงอยๆ ก่อนหันไปอ้อนแม่ “แต่คุณแม่กับลุงไอต้องกลับมาเร็วๆนะครับ”

   “ตกลงจ้ะลูก” หทัยกอดลูกด้วยความอาลัย ก่อนกางแขนเรียกน้องหยินให้เข้าไปหาเพื่อกกกอดเช่นกัน


   แต่อารมณ์แสนเศร้าเคล้าน้ำตานั้นอยู่ไม่นาน พอผ่านไปสักพักเด็กๆก็หันไปสนใจคุณน้าจงรักซึ่งเป็นคนโปรด จนลืมแม่อ้ายกับลุงไอไปเสียสิ้น กมลมองหลานยิ้มๆ รู้สึกเบาใจไปมากเมื่อเห็นว่าสองแสบเศร้าได้ไม่นาน นั่งคุยกันอยู่ครู่หนึ่ง เมฆาที่หายขึ้นไปบนชั้นสองสักพักก็ลงมาข้างล่าง เป็นเวลาประจวบเหมาะกับที่กมลกับหทัยต้องเตรียมตัวกลับไปเอากระเป๋าเพื่อเดินทางไปขึ้นเครื่องที่สุวรรณภูมิ


เมฆาสังเกตเห็นว่าแววตาของหทัยมีแววกังวลอยู่ไม่น้อย ระหว่างที่เดินไปส่งขึ้นรถชายหนุ่มจึงพูดบางอย่างเพื่อบอกกับเธอให้คลายกังวล


“คุณอ้ายไม่ต้องห่วงนะครับ ผมกับจงรักจะดูแลพวกเด็กๆให้ดีที่สุด”

“ขอบคุณนะคะ อ้ายรู้ว่าคุณเมฆกับรักต้องดูแลเด็กๆดีอยู่แล้ว แต่ที่อ้ายกังวลเพราะไม่ค่อยห่างกับเด็กๆนานๆ อีกอย่างก็กลัวว่าพวกแกจะสร้างปัญหาให้คุณเมฆน่ะค่ะ”

“ผมรับปากจะดูแลพวกแก เรื่องอื่นๆไม่ต้องกังวลนะครับ”

“ขอบคุณจริงๆค่ะ ยังไงอ้ายฝากน้องหยินกับน้องหยางด้วยนะคะ ถ้าพวกแกดื้อมากๆก็ดุได้เลยนะคะ ไม่ต้องเกรงใจ”

“ครับ” เมฆาคลี่ยิ้มรับ

“ถ้าอย่างนั้นพวกเราไปก่อน ถ้ามีปัญหาอะไรคุณเมฆให้จงรักโทรติดต่อพวกเราได้ตลอดเวลาเลยนะครับ” กมลหันมาบอกเมฆาเมื่อสั่งเสียเรื่องหลานๆกับจงรักเรียบร้อยแล้ว

“ครับ” หนุ่มหน้าดุตอบรับ

“พี่ไปก่อนนะรัก ฝากดูหลานด้วย” กมลว่า

“เดินทางปลอดภัยนะครับพี่ไอ พี่อ้าย”

“เดินทางปลอดภัยนะครับ” กมลกับหทัยยิ้มรับคำอวยพรของน้องชายกับคนรักก่อนขึ้นรถแล้วขับออกไป


กระเป๋าเดินทางถูกจัดไว้ตั้งแต่เมื่อคืนถูกนำขึ้นรถ สองคนพี่น้องช่วยกันดูแลปิดบ้านเรียบร้อยก่อนเดินทางไปยังสนามบิน เมื่อไปถึงก็ใกล้เวลาเดินทางแล้ว กมลตรวจเช็คสัมภาระและเอกสารต่างๆเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนส่งข้อความไปหาเจ้าหน้าที่ที่เดินทางไปจัดบูธที่ปักกิ่งก่อนหน้าถึงกำหนดเวลาที่จะเดินทางไป พร้อมสอบถามการทำงานทางโน้นว่ามีปัญหาอะไรหรือไม่ เมื่อเห็นว่าทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อยอย่างที่วางแผนเอาไว้ ตอนขึ้นเครื่องกมลจึงได้หลับโดยที่ไม่มีความกังวล อย่างน้อยได้พักสายตาสักสี่ห้าชั่วโมงก็ถือว่าดีมากแล้ว








สามวันหลังจากเดินทางไปปักกิ่งกมลก็กลับมากรุงเทพโดยสวัสดิ์ภาพ การทำงานเป็นไปได้ด้วยดี แม้จะมีปัญหาเล็กๆน้อยๆให้แก้กันอยู่บ้าง ทว่าโดยรวมก็ถือว่าไม่เลว เนื่องจากเขาสามารถเจรจากับคู่ค้ารายใหม่ของทางโน้นได้เจ้าหนึ่ง ซึ่งถ้าหลังจากนี้ตกลงรายละเอียดส่วนแบ่งและสัญญากันเรียบร้อย บริษัทนั้นก็จะส่งลูกค้ากระเป๋าหนักจากทางจีนเข้ามาทำกิจกรรมต่างๆกับ I promise ในไทย ทั้งถ่ายพรีเวดดิ้ง หรือจัดงานแต่งที่ไทยเลยด้วยซ้ำ


ส่วนลูกค้ารายย่อยหรือเรียกง่ายๆว่าบุคคลทั่วไป ก็เข้ามาขอข้อมูลและเซ็นสัญญาที่จะบินมาจัดงานที่ไทยหลายคู่ ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลก็ถือว่าประสบความสำเร็จกว่าที่กมลคาดไว้มาก


จบจากการเดินทางครั้งนี้กมลก็เหนื่อยล้าเสียจนอยากหลับไปเสียตอนนั้น ติดแต่ว่าเขายังต้องไปรับหลานๆจากบ้านของจงรัก เมื่อรับหลานๆกลับมาบ้านพร้อมกับน้องสาว กมลก็อาบน้ำอาบท่าก่อนกระโจนลงเตียงแล้วหลับไปราวกับปิดสวิตช์



   เป็นเวลากว่าเดือนที่กมลวุ่นวายอยู่กับงานหลายๆอย่าง ทั้งงานนอกและงานในประเทศ จนเผอเรอลืมสนใจเรื่องเล็กน้อยแต่จะว่าไปก็ไม่เล็กสำหรับคนบางคน กระทั่งพนักงานที่เป็นฝ่ายดูแลเรื่องเครื่องแต่งกายของ I promise ขอเข้ามาพบและแจ้งว่า ชุดของณธิปเจ้าบ่าวไฮโซตัดเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ทางเจ้าบ่าวกลับไม่มีเวลามาลองชุดด้วยตัวเอง มิหนำซ้ำยังไม่มีแม้แต่เวลาจะให้ทางช่างตัดเสื้อเข้าพบ


   ไม่ต้องมองวันที่ในสมุดบันทึก กมลก็รู้ได้ทันทีว่างานแต่งของณธิปกับเกษสุดาจะมีขึ้นในอีกสามวันข้างหน้า ผู้บริหารหนุ่มหน้าสวยขมวดคิ้วเป็นปมชั่วแวบหนึ่ง ก่อนจะตีสีหน้าเหมือนเก่าแล้วสั่งช่างเสื้อเสียงเรียบ


   “เดี๋ยวผมต้องออกไปพบลูกค้าข้างนอกตอนสี่โมง เจี๊ยบช่วยเอาชุดของคุณณธิปตามไปให้ผมที่รถทีนะครับ ผมจะแวะเอาไปให้เขาลองเอง”

   “แต่คุณไอคะ…เอ่อ…เมื่อเช้าเจี๊ยบโทรไป ทางเลขาเขาบอกว่าวันนี้คุณณธิปมีประชุมค่ะ” ช่างตัดเสื้อสาวว่าอย่างเกรงๆ เธอรู้สึกว่า แม้คุณไอของพวกเธอจะยิ้มน้อยๆที่มุมปาก แต่ก็มีรังสีบางอย่างแผ่ออกมาบางๆชวนให้ขนลุก

   “ไม่เป็นไรครับ ผมจะโทรเข้าไปก่อน ลองเสื้อแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น ทำธุระเสร็จผมก็ไปรอให้เขาเลิกประชุมได้ ขืนปล่อยให้นานกว่านี้ ถ้าเกิดว่าชุดต้องแก้ เราจะทำทันได้ยังไง นี่เหลือเวลาอีกแค่สามวันเท่านั้นนะครับ ผมจะไปรอที่รถ ยังไงเจี๊ยบตามไปแล้วกันนะครับ”

   “ค่ะ” หญิงสาวรับคำแกนๆก่อนเดินตัวลีบออกจากห้องทำงานของกมลไป


   กมลเองพอเห็นว่าพนักงานออกไปแล้วก็ระบายลมหายใจออกมาอย่างเหนื่อยอ่อน รู้สึกได้ถึงอารมณ์ขุ่นมัวเล็กๆในใจ ได้แต่ปลอบตัวเองว่าอีกไม่กี่วันก็จะผ่านพ้นไปแล้ว สำหรับงานของคู่วิวาห์ที่ชวนให้หัวหมุนคู่นี้








   หลายสิ่งหลายอย่างเป็นไปด้วยความราบรื่นหลังจากที่กมลต่อสายตรงไปหาณธิปด้วยตัวเอง พอฝ่ายนั้นรู้ว่าเป็นใครโทรมา ไม่ว่าด้วยธุระอะไรก็พร้อมจะให้เข้าพบทันทีหลังทานอาหารกลางวันเสร็จ แต่กมลก็เอ่ยย้ำด้วยความเกรงใจว่าจะขอใช้เวลาไม่นานเท่านั้น เนื่องจากไม่อยากรบกวนอีกฝ่ายที่ต้องเตรียมตัวเข้าประชุมบอร์ดบริหารในช่วงบ่าย


     กมลขับรถมาถึงก่อนเวลาที่นัดหมายไว้จึงตั้งใจว่าจะขึ้นไปรอด้านบน ทว่าขณะที่ก้าวเข้าไปในลิฟต์ เขาก็พบบุคคลซึ่งได้นัดเอาไว้ยืนอยู่ในนั้นโดยบังเอิญ ทันทีที่ดวงตาเรียวมองเห็นกมลยืนอยู่ตรงหน้าเขาก็ยกยิ้มให้อีกฝ่าย ก่อนจะเดินเลี่ยงไปกดลิฟต์รอให้กมลขึ้นไปพร้อมกัน


   คนหน้าหวานเอ่ยขอบคุณเรียบๆขณะเดินหอบถุงใส่ชุดสูทเข้าไปยืนเคียงข้างคนตัวสูงกว่า หลังจากประตูลิฟต์ปิดลงกั้นสรรพเสียงของผู้คนภายนอกเอาไว้ความเงียบก็มาเยือน ดวงตาคู่สวยเพ่งมองไปที่จุดเดียวนั่นคือหน้าปัดบอกตัวเลขระดับชั้นที่กำลังเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ส่วนดวงตาคู่เรียวฉายแววเจ้าเล่ห์กลับจ้องมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของกมลนิ่ง ราวกับพยัคฆ์จ้องเหยื่ออย่างไรอย่างนั้น


   ก่อนจะถึงชั้นที่ต้องการ เสียงทุ้มมีเสน่ห์ของผู้บริหารโรงแรมก็เอ่ยขึ้นทำลายความเงียบอันชวนอึดอัด ทำให้ผู้บริหาร I promise Tower อย่างกมลต้องส่งเสียงตอบอย่างเสียไม่ได้


   “คุณไอนี่เป็นผู้บริหารที่ทุ่มเทนะครับ แค่เรื่องเล็กๆน้อยๆอย่างนี้ ถึงกับต้องมาด้วยตัวเอง”

   “ขอบคุณที่ชมครับ ตัวผมคิดว่าทุกเรื่องที่เกี่ยวกับลูกค้าไม่มีเรื่องไหนเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่เห็นคุณณธิปยุ่งจนไม่มีเวลา พนักงานที่ I promise ก็ไม่กล้ากวน ผมก็เลยต้องมาเอง เพราะถ้ามีตรงไหนต้องแก้ เราจะได้แก้ทันท่วงทีก่อนวันงานน่ะครับ” กมลว่าด้วยสีหน้าที่ถูกฉาบไว้ด้วยรอยยิ้มการค้า แต่คนฉลาดอย่างณธิปก็พอจะรู้ตัวว่าตนเองกำลังถูกตำหนิอ้อมๆ ที่เป็นสาเหตุให้ทางผู้จัดงานวุ่นวาย เนื่องจากบอกปัดไม่ไปตามนัดหลายต่อหลายครั้ง


   “ผมล่ะซึ้งใจจริงๆ ทั้งที่เป็นงานแต่งของผมแท้ๆ แต่คุณดูจะทุ่มเทกว่าผมเยอะเลย ไม่รู้เสร็จงานจะต้องตกรางวัลด้วยอะไรดีถึงจะชดเชยให้กับความเหนื่อยยากครั้งนี้ได้” ประโยคหลังณธิปจงใจหยอกเอิ้นอีกฝ่ายเป็นนัยๆ แต่สีหน้าเรียบนิ่งที่เขาเห็นก็ไม่เปลี่ยนแปลงไปสักนิด ทั้งอีกฝ่ายยังยิ้มบางๆให้ราวกับไม่รู้ความหมาย ทว่าคำตอบของกมลกลับทำให้ณธิปรู้สึกว่าเขาโดนหลอกด่าไปอีกคำ


   “อย่ากังวลไปถึงเรื่องนั้นเลยครับ มันเป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้วครับ”

   “อืม…นั่นสินะ ผมควรจะต้องกังวลในส่วนของผมมากกว่า”

   “…” ถึงตรงนี้เป็นจุดที่กมลชักไม่อยากตอบโต้ โชคดีว่าประตูลิฟต์เปิดพอดี พวกเขาจึงต้องเดินออกมาสู่โถงด้านนอก และเป็นณธิปที่เดินนำกมลเข้าไปยังห้องทำงานส่วนตัว ตอนที่เดินผ่านหน้าเลขาสาวสวยยังไม่วายกำชับว่าไม่ให้ใครเข้ามากวนจนกว่าแขกของตนเองจะกลับ


   กมลเดินตามเข้าไปในห้องแล้วเริ่มทำงานของตนเองในทันทีเพราะไม่ต้องการจะรั้งรอให้เสียเวลา อีกทั้งยังรู้สึกไม่อยากอยู่กับณธิปตามลำพังด้วย มือเรียวรูดซิปเอาชุดสูทสีขาวงาช้างออกมาก่อนนำไปยื่นให้กับคนที่ยืนกอดอกรออยู่ก่อนแล้ว


   “ลองสวมดูนะครับ เสร็จแล้วช่วยออกมาให้ผมดูสักนิด เผื่อถ้าตรงไหนคับไปหรือหลวมไปผมจะได้วัดและนำไปแก้ไขได้ถูก”

   “ถ้างั้นก็นั่งรอผมตรงนี้สักประเดี๋ยวแล้วกัน” ณธิปว่าก่อนเดินเข้าไปในห้องพักผ่อนที่มีแยกออกไปทางด้านข้าง แต่กมลไม่ทันสังเกตว่าอีกฝ่ายหยิบไปแต่กางเกง ทว่าวางเสื้อเชิ้ตและเสื้อสูททิ้งไว้ข้างนอก


   รอไม่นานอย่างที่เจ้าตัวว่า ณธิปก็ออกมาจากห้องพักส่วนตัวพร้อมกับกางเกงแสลกสีขาวที่ตัดเย็บอย่างประณีต กมลมองดูแวบเดียวก็รู้ว่ามันพอดีตัวเหมาะเจาะ ตัวกางเกงคงไม่ต้องแก้อะไร แต่ส่วนที่ทำให้หนุ่มหน้าหวานเริ่มรู้สึกหนักใจคือร่างกายช่วงบนต่างหาก มีอย่างที่ไหน เป็นผู้บริหารออกใหญ่โตกลับเดินโทงๆไม่ใส่เสื้อออกมาโชว์คนอื่นเสียอย่างนั้น ในทีแรกกมลก็ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจงใจทำอะไร แต่พอคนเจ้าเล่ห์หยิบเสื้อแล้วเดินตรงมาหาเขา ก่อนยื่นให้แล้วสั่ง


   “คุณใส่ให้ผมหน่อยสิ ผมผูกหูกระต่ายไม่ค่อยเก่ง”


กมลรู้สึกว่ามันไม่เกี่ยวกันตรงไหนกับไอ้การผูกหูกระต่ายไม่ได้ แล้วเดินโชว์กล้ามท้องออกมาให้เขาใส่เสื้อติดกระดุมให้ อยากจะปฏิเสธเสียเหลือเกิน แต่ก็คิดว่ารีบๆทำให้จบไป เขาจะได้รีบหนีออกจากที่นี่เร็วๆ พอคิดได้แบบนั้นหนุ่มหน้าหวานก็พยายามตีสีหน้าเรียบเฉยไว้อย่างสุดกำลัง ก่อนเอื้อมมือไปใส่เสื้อให้ณธิปราวกับกำลังช่วยหลานชายสวมเสื้อผ้า


แต่ไอ้คนคิดไม่ซื่อก็ยังดำเนินแผนร้ายที่คิดไว้อยู่ในใจไม่เลิกรา เพราะขณะที่กมลติดกระดุมให้อีกฝ่ายก็ค่อยๆขยับเข้ามาใกล้จนกมลต้องขยับถอยหนี หนีไปสุดทางจนสัมผัสได้ว่าด้านหลังมันสิ่งของวางอยู่ คนโดนรังแกจึงเงยหน้าจากกระดุมเม็ดสุดท้าย แล้วเอ่ยเสียงเรียบ


“ใกล้ไปหรือเปล่าครับ”

“คุณรู้สึกอย่างนั้นเหรอ” ณธิปทำหน้าเหรอหราอย่างตั้งใจ ก่อนก้มลงไปกระซิบเสียชิดริมติ่งหูกลมกลึงน่าขบเล่นของคนตัวเล็กกว่า “แต่ผมว่าเราน่าจะใกล้ได้อีกนะ”


แทนที่กมลจะเคลิบเคลิ้มอย่างที่ณธิปตั้งใจให้เป็น เหมือนกับคนอื่นๆที่เขาใช้วิธีนี้ด้วย แต่ทว่าอีกฝ่ายกลับยกข้อศอกขึ้นมาขนานกับลำตัวแล้วดันให้ณธิปออกห่าง


“คงไม่ได้หรอกครับ เพราะใกล้ขนาดนั้นผมผูกหูกระต่ายไม่ถนัด”


นอกจากจะตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชาแล้ว ดวงตาที่ช้อนขึ้นมองด้วยแววโกรธกรุ่นบางๆ ก็ทำให้ณธิปเป็นฝ่ายที่ต้องยอมถอยมาตั้งหลักใหม่ แต่ถึงอย่างนั้นณธิปก็ยังรู้สึกว่า ยามที่กมลทิ้งหน้ากากยิ้มแย้มหลอกลวงนั่นไป แล้วเผยให้เห็นแววตาที่บอกความรู้สึกแบบอื่น มันก็ให้ความรู้สึกเร้าอารมณ์เขาอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว


ส่วนฝ่ายกมล เมื่อถูกปล่อยให้เป็นอิสระและมีพื้นที่ให้หายใจ เจ้าตัวก็ฝืนกดอารมณ์โกรธกรุ่นและหงุดหงิดเอาไว้ ก่อนขยับเข้าไปผูกหูกระต่ายให้เสร็จ โดยทำเป็นไม่สนใจสายตาที่คอยจ้องจะฮุบเหยื่ออยู่ตลอดของอีกฝ่าย พอเสร็จเรียบร้อยดีแล้วคนหน้าหวานจึงทำการสำรวจตรวจดูว่ามีจุดไหนต้องแก้บ้าง


ชุดที่ตัดออกมาพอดีตัวอย่างเหลือเชื่อ ณธิปใส่ได้เหมาะเจาะเข้ากับรูปร่างโดยไม่ต้องปรับเปลี่ยนตรงไหนเพิ่มอีก อีกทั้งคนตาเจ้าเล่ห์ยังยืนยันเองว่าใส่สบาย เดินได้สะดวกดีด้วย ดังนั้นกมลจึงตกลงใจกันว่าจะไม่แก้ไขตรงไหนแล้ว ทุกอย่างดูจะผ่านพ้นไปด้วยดี แต่เรื่องก็มาเกิดอีกจนได้ เพราะเมื่อตอนใส่กมลเป็นคนใส่ให้ ดังนั้นตอนถอดณธิปจึงไม่ยอมถอดเองเสียดื้อๆ ทั้งยังจ้องมองราวกับว่า ถ้าคุณไม่ทำ คุณก็กลับไปไม่ได้


กมลจึงกลั้นใจปลดกระดุมเสื้อให้อย่างรวดเร็ว ไม่พูดอะไรออกมาสักคำเดียว แต่หลังจากถอดเสื้อเสร็จ อะไรๆก็ไม่เสร็จตามอย่างใจปรารถนา เพราะหูของกมลได้ยินเสียงโวยวายดังอยู่ด้านนอกครู่หนึ่ง ก่อนจะมีใครบางคนเปิดกระชากประตูห้องทำงานของณธิปเข้ามาอย่างอุกอาจ


   คนที่เข้ามาใหม่เป็นผู้ชายดวงหน้าติดจะเซ็กซี่เล็กๆ ซึ่งกมลได้ยินณธิปเรียกอีกฝ่ายว่า หนึ่งนที ทันทีที่หนึ่งนทีพบคนรักของตัวเองกำลังยืนอยู่กับผู้ชายคนหนึ่งที่มีหน้าตาสวยหวานราวกับตุ๊กตากระเบื้องเคลือบ เขาโกรธจนแทบจะลุกเป็นไฟ เพราะคิดไปว่าณธิปกล้านัดคนอื่นมาคั่วถึงห้องทำงานทั้งที่เวลาเขาโทรมากลับบอกว่ายุ่งนักยุ่งหนา


“หนึ่ง เข้ามาได้ยังไง! ผมบอกให้รอก่อนไม่ใช่หรือไง” ณธิปพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด

“ถ้ารอหนึ่งก็ไม่เห็นสิว่าคุณเล็กทำอะไรอยู่”

“ทำอะไร” แทนที่อีกฝ่ายจะร้อนใจหรือมีท่าทีลนลาน แต่เปล่าเลย ณธิปกลับค่อยๆ หยิบเสื้อเชิ้ตทำงานขึ้นมาสวมอย่างไม่ทุกข์ไม่ร้อน

“ยังจะมาถามอีกว่าทำอะไร ก็เห็นกันอยู่ตำตาขนาดนี้นะคุณเล็ก ตกลงว่าคุณมีคนอื่นซ่อนอยู่กี่คนกันแน่ ทั้งนายคนนี้หรือแม้กระทั่งลูกสาวรัฐมนตรีนั่น!”

“ขอโทษนะครับ”


แล้วในที่สุด หนุ่มหน้าสวยที่ถูกพาดพิงถึงก็เอ่ยขึ้นมาเรียบๆ ด้วยน้ำเสียงที่ฟังแล้วทำให้รู้สึกรื่นหูแต่ก็แฝงไปด้วยความเย็นชา หนึ่งนทีตวัดตากลับไปมองด้วยความไม่พอใจ ดวงตารีเหลือบมองคนที่ยืนถือสูทสีขาวตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วพิจารณา สวยทั้งรูป น้ำเสียงหรือก็เพราะ ทั้งที่เป็นผู้ชายแท้ๆ มิน่าเล่าณธิปจึงพามาคั่วถึงนี่โดยไม่อายว่าจะเป็นขี้ปากพนักงาน


“มีอะไร”

“ผมไม่รู้ว่าคุณเข้าใจเรื่องอื่นๆยังไง แต่อยากจะแก้ไขความเข้าใจผิดในส่วนของผมนิดหน่อย” เมื่อเห็นว่าหนึ่งนทีหยุดฟัง กมลจึงพูดต่อ “ผมกับคุณณธิปไม่ได้เป็นอะไรกัน ที่ผมมาที่นี่ก็แค่เอาชุดแต่งงานมาให้ลูกค้าซึ่งก็คือ คุณณธิป ลองตามที่ตกลงกันไว้เท่านั้น”

“ลองชุด?”

“ครับ แค่ลองชุดเท่านั้น ต้องขอโทษด้วยที่ทำให้คุณเข้าใจผิด” หนุ่มหน้าสวยว่าแค่นั้น ก่อนจะเก็บเสื้อผ้าที่นำมาให้ว่าที่เจ้าบ่าวลองใส่กลับลงในถุงที่เตรียมมาเงียบๆ เมื่อเรียบร้อยดีแล้ว เจ้าตัวก็หันไปพูดกับเจ้าของห้องด้วยน้ำเสียงเย็นชาที่สุด “ชุดที่ผมนำมาวันนี้พอดีตัว ไม่มีตรงไหนที่ต้องการจะแก้นะครับ”

“ไม่มีครับ” ณธิปว่า

“ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อน ขอบคุณที่สละเวลาครับ” รอยยิ้มน้อยๆที่มุมปากช่วยส่งให้คนพูดดูมีเสน่ห์ขึ้นอีกหลายเท่าตัว ติดอยู่เพียงแต่ว่าตาคู่หวานนั้นฉายแววเย็นชาออกมาอย่างชัดเจน


กมลหอบชุดเจ้าบ่าวออกมาด้วยความรู้สึกหลากหลายยากที่จะบรรยาย แต่หนึ่งในความรู้สึกนั้น มีอยู่ความรู้สึกหนึ่งที่ชัดเจนที่สุดคือ โกรธ


เขาโกรธเพราะณธิป โกรธที่ต้องมาเจอกับพฤติกรรมของคนร้ายกาจใจโลเลอย่างนั้น กมลเคยคะเนมาตลอดว่าณธิปเจ้าชู้ แต่ไม่เคยคิดเลยว่าจะเป็นถึงขนาดนี้ ทั้งที่อีกฝ่ายกำลังจะแต่งงานอยู่รอมร่อแล้ว ยังมีหน้ามาทำเจ้าชู้ยักษ์ใส่เขา ซ้ำยังมีใครคนอื่นตามมาอาละวาดหึงหวงถึงที่ทำงาน


กมลกดลิฟต์ด้วยมือที่สั่นเทาอย่างห้ามไม่อยู่ เขาอดไม่ได้จริงๆที่จะสงสารคุณเกษสุดาอย่างสุดหัวใจ แม้เขาไม่รู้ตื้นลึกหนาบางอะไร ไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ของคนสองคนเป็นแบบไหนมาก่อน หากเมื่อคิดว่าคุณเกษสุดาจะต้องทนอยู่กับคนที่ไม่พร้อมจะลงหลักปักฐานเช่นนี้ไปชั่วชีวิต ผู้หญิงดีๆอย่างนั้นจะต้องทุกข์ทนแค่ไหนกัน


กมลทำงานนี้ งานที่ต้องคอยดูแลคู่บ่าวสาวมานับไม่ถ้วน ทุกครั้งที่ทำหน้าที่เขาจะมีความสุขมากๆ เพราะเห็นว่าผลงานที่เขาคอยดูแลจัดการให้เป็นส่วนที่ทำให้คู่รักมีความสุขแค่ไหน


การแต่งงานที่เกิดจากความรัก แม้บางครั้งคู่บ่าวสาวอาจทะเลาะเบาะแว้งกันบ้าง แต่ทั้งคู่ก็มีเป้าหมายเดียวกันคืออยากใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน แต่งานแต่งงานที่เขากำลังจัดให้ของเกษสุดา กลับไม่เป็นอย่างที่เคยทำเช่นที่ผ่านมาเลย เพราะว่าที่เจ้าบ่าวเป็นคนไม่ได้ความแบบนั้น


คำว่างานประสบความสำเร็จลุล่วงไปด้วยดีในแบบของกมล ไม่ใช่เงินทองหรือชื่อเสียงเป็นตัวชี้วัดอย่างเดียวเท่านั้น แต่คุณค่าที่เขาใช้ประเมินคือ งานที่เขาทำจะช่วยสนับสนุนความสัมพันธ์และทำให้คู่รักมีความสุขแค่ไหน ตอนนี้ยังไม่ถึงวันงานของคุณเกษสุดา แต่กมลก็พอจะประเมินได้ว่า การทำงานของเขาครั้งนี้คงไม่ประสบความสำเร็จไปในทิศทางที่ตั้งใจแต่แรกอีกแล้ว เรื่องที่ต้องพบเจอในครั้งนี้มันจึงบั่นทอนความรู้สึกของกมลเหลือเกิน






++++++++++++++++++++++++++++



บทที่ 3 ค่าาาาา
ฝากติดตามด้วยนะคะ
เจอกันตอนหน้าค่ะ  :katai4:


ละอองฝน.
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 3 [30/05/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: ZYSQ_ ที่ 30-05-2016 12:04:20

ดีใจที่คุณฝนชอบนะคะ
ตอนเราพิมพ์ไปเราก็แอบขำเหมือนกัน555
ถึงอย่างนั้นเราก็ไม่ได้เกลียดชังอะไรคุณเล็กหรอกนะคะ
ถึงจะดูอารมณ์แรง ปากร้าย เจ้าชู้ประตูดิน แถมยังดูเลือดเย็นนิดๆ
และแม้จะแอบหมั่นไส้ทุกทีเวลาที่นึกถึงฉากที่นางไปแย่งหนึ่งนทีมาจากพี่เมฆก็ตาม
แต่คุณเล็กก็เป็นคนที่เอาใจใส่ในหน้าที่การงานดี
คิดว่าข้อดีอื่นๆก็คงจะค่อยๆโผล่มาให้ได้รู้ได้เห็นมากกว่านี้
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 3 [30/05/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 30-05-2016 12:37:53
ดูท่าพี่ไอคงเป็นคนจริงจังและทุ่มเทกับงานนะคะ คนจัดงานแต่งพอมาเจอสัญญาณของงานแต่งที่(ชีวิตคู่ในอนาคต)ส่อแววมีปัญหา ก็คงไม่สบายใจเท่าไหร่
รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 3 [30/05/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: arissara ที่ 30-05-2016 14:34:58
อื้อหือออ ชื่อเรื่องกับเนื้อหานี่แนวเดียวกันมั้ยอ่าาาส พระเอกสุดตีนเลย เจ้าชู้
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 3 [30/05/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: ✥Gryffindor✥ ที่ 25-06-2016 02:53:18
คุณไอของน้อง ในที่สุดเคะนางพญาของน้องก็มีสตอรี่เป็นของตัวเองแล้ว กรี๊ดดด
ส่วนคุณเล็ก...เราอยากเห็นนางคว่ำครวญจะเป็นจะตายขอความรักจากคุณไอที่สุด
แบบว่าแค้นแทนพี่เมฆ เยาะเย้ยพี่เมฆาของเราเอาไว้ใช่ไหม แกต้องโดน!! 55555555
#ปล.คิดถึง 'จงรักง มากๆนะ ชุ้ฟๆ ทูนหัวของบ่าว
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 3 [30/05/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: JUST_M ที่ 25-06-2016 04:32:31
ไอจ๋าาา

 :mew1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 3 [30/05/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 25-06-2016 14:10:38
คิดถึงพี่ไอแล้ว



คิดถึง หยิน หยางด้วย



รออออออออออออออ



นานนนนนนนนนนนนน :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 4 [04/07/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: ละอองฝน ที่ 04-07-2016 11:31:15




คุณคือความรัก  บทที่ 4








   หลังจากหนุ่มหน้าสวยออกไปแล้ว ภายในห้องจึงเหลือหนึ่งนทีกับณธิปเพียงสองคน ทั้งสองคนมองสบตากันท่ามกลางบรรยากาศชวนให้อึดอัด แต่ในที่สุดหนึ่งนทีก็เป็นคนปริปากพูดขึ้นมาก่อน



“เรื่องที่คุณเล็กจะแต่งงาน เป็นเรื่องจริงหรือเปล่าครับ”

“จริง” ไม่รอให้ตั้งตัว ณธิปก็เฉลยว่าข่าวที่ได้รับรู้มาเป็นความจริง หนึ่งนทีหน้าชา รู้สึกเหมือนตัวเองแทบจะล้มทั้งยืน

“คุณเล็กทำแบบนี้ได้ยังไง” น้ำเสียงที่ครางออกมาจากลำคอฟังดูแหบแห้งราวกับสิ่งมีชีวิตที่กำลังจะตาย “ถ้าจะเลิกก็บอกสิ ทำไมถึงหลอกหนึ่งแบบนี้ คุณเล็กจะปล่อยให้หนึ่งโง่ไปอีกนานแค่ไหน ถ้าไม่เห็นข่าวเองหนึ่งก็ไม่มีวันได้รู้ใช่ไหม”

“ที่ไม่บอก เพราะผมไม่ได้อยากจะเลิก” ณธิปว่า และสิ่งที่เขาพูดก็เป็นความจริง เขาไม่ได้อยากเลิกกับหนึ่งนทีแล้วไปแต่งงานกับผู้หญิงคนไหนที่พ่อกับแม่จัดการหาให้ทั้งนั้น แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเขารักปักใจที่คนคนนี้ เพียงแต่เขาชอบที่จะมีอิสระไม่ต้องผูกมัดมากกว่า

“ไม่เลิกแล้วจะทำยังไงครับ ให้หนึ่งคบกับคุณทั้งๆ ที่คุณจะแต่งงานกับผู้หญิงนั่น คุณวางหนึ่งไว้ในฐานะไหนไม่ทราบ ชู้ของคุณเหรอ!” ทั้งรู้สึกโกรธและหมดแรงไปพร้อมๆ กัน ไม่เคยมีใครทำให้หนึ่งนทีตกอยู่ในสภาพเหมือนคนไม่มีทางเลือกแบบนี้มาก่อน

“ทำไมถึงพูดแบบนั้น ทั้งที่คุณไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผมต้องเจอกับอะไร ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผมคิดจะแก้ปัญหายังไง แบบนี้ไงผมถึงไม่อยากบอกอะไรคุณ เพราะผมรู้ว่าคุณต้องโวยวาย” ณธิปเสียงดังกลับ โดยที่ลืมคิดไปว่าอันที่จริงแล้ว แม้เขาจะมีโอกาสบอกหรือหนึ่งนทีเป็นคนที่เข้าใจง่ายและพร้อมรับฟัง แต่ณธิปก็คงจะเลือกทำแบบเดิม นั่นคือไม่บอกเหตุผลให้หนึ่งนทีรับรู้

“แล้วคุณมีปัญหาอะไร ไหนบอกซิ ต่อจากนี้ไปคุณคิดจะทำอะไร”

“ผมแต่งกับเขาก็เพราะคุณแม่บังคับ คุณก็รู้ว่าผมขัดไม่ได้”

“คุณเป็นลูกแหง่หรือไง ไม่อยากแต่งก็ไม่ต้องแต่งสิ จะกลัวอะไรกับแค่พ่อแม่บังคับ ที่ผ่านมาคุณเคยกลัวอะไรพวกนี้ด้วยเหรอ” หนึ่งนทีรู้ดี เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาณธิปมักจะทำตามใจตัวเอง ไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมที่ไหนทั้งสิ้น ทว่าทำไมคราวนี้จึงเป็นเดือดเป็นร้อนนัก

“ผมก็ไม่ได้กลัว แต่คุณรู้ไหมว่าถ้าไม่แต่งจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ที่ผ่านมาไม่ว่าจะมีเรื่องอะไร คุณแม่ก็อยู่ข้างผมตลอด แต่ครั้งนี้ผมขัดใจคุณแม่ไม่ได้ เพราะท่านไม่ได้อยู่ข้างผมเหมือนทุกที” ณธิปบอกอย่างหมดท่า เขาค่อยๆ เข้าหาหนึ่งนทีก่อนจะรวบกอดเอาไว้แล้วพูดเบาลงเพื่อตะล่อมให้อีกฝ่ายใจอ่อน “พอแต่งเสร็จไม่นานผมก็หย่า ผมทนอยู่กับผู้หญิงจืดชืดแบบนั้นไม่ได้หรอก คุณก็รู้ว่าผมไม่มีทางจริงจังกับเธอ คุณอดทนหน่อยได้ไหมหนึ่ง”

“ถึงอย่างนั้นก็เถอะ คุณจะให้หนึ่งอดทนไปถึงเมื่อไหร่ ใครๆ เขาก็รู้ว่าเราเป็นอะไรกัน หนึ่งมีสังคมของหนึ่งนะคุณเล็ก แล้วคุณจะให้หนึ่งเอาหน้าไปไว้ที่ไหน”

“แล้วคุณจะเอายังไง” ณธิปว่าเสียงแข็ง เขาเองก็เริ่มจะหมดความอดทนกับหนึ่งนทีเต็มทนแล้วเหมือนกัน คนอย่างเขาใช่ว่าจะมานั่งง้องอนใครนานๆ

“หนึ่งไม่ยอมหรอก ถ้าคุณแต่ง ผมจะถือว่าเราจบกัน”



ทันทีที่หนึ่งนทีประกาศกร้าวออกมาห้องทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบ ผ่านไปสักพัก อ้อมกอดที่เคยประคองร่างบางเอาไว้ก็ค่อยๆ ถอยห่างแล้วผละออกไป หนึ่งนทีหันไปมองเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาราวรูปสลักที่ยืนอยู่ไม่ไกลด้วยความไม่เข้าใจ



“คุณเป็นคนที่ถือว่าอยู่กับผมได้นานที่สุด ผมยอมรับว่าถูกใจคุณกว่าใคร แต่รู้ไหมหนึ่ง ผมมีกฎของผม และกฎที่ว่าก็คือผมเป็นคนสั่ง ไม่ใช่คนทำตามคำสั่ง คุณรู้ดีอยู่แล้วตั้งแต่ที่เราเริ่มคบกัน คุณรู้ว่าไม่มีสิทธิ์มาบีบบังคับหรือบอกให้ผมทำอะไร สิ่งที่ผมพูดไปแล้วถือว่าตามนั้น ถ้าคุณรับไม่ได้ รอไม่ได้ อยากเลิกนักก็ตามใจคุณ ต่อไปนี้ถือว่าเราไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันอีก”

“คุณเล็ก! คุณไม่มีสิทธิ์บอกเลิกผม ไม่มีสิทธิ์ทำกับผมแบบนี้!”



ในสมองของหนึ่งนทีกรีดร้องออกมาว่า ยอมรับไม่ได้ มันไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดเหมือนคนที่ความรักหลุดลอยไป แต่หนึ่งนทีกลับรู้สึกถึงความพ่ายแพ้ และสิ่งที่เขาเกลียดที่สุดบนโลกใบนี้คือคำว่า พ่ายแพ้



“หนึ่ง ผมอยากรู้นัก ที่คุณโวยวายอยู่นี่เพราะอะไร เพราะคุณรักผมหรือว่าคุณไม่พอใจที่ทุกอย่างไม่เป็นอย่างที่คุณคิดกันแน่”

“คุณ!” คำพูดของณธิปตรงเสียจนหนึ่งนทีสะอึก

“ผมรู้จักคุณดีพอๆ กับที่คุณรู้จักตัวเองดีนั่นแหละหนึ่ง ที่ผ่านมาเราสองคนก็ win-win นะ คุณให้ความสุขผม ผมก็ให้หน้าตา ฐานะทางสังคมแบบที่คุณใฝ่ฝัน และทุกวันนี้ผมเองก็คิดว่าคุณพอจะยืนด้วยตัวเองได้แล้ว ถ้าเราจะเลิกกันมันก็ไม่ส่งผลกับคุณเท่าไหร่หรอก แค่ยอมเสียหน้าบ้างนิดๆ หน่อยๆ แต่ทุกอย่างที่ผมให้คุณไปนั่นน่ะ ผมจะไม่เรียกร้องคืนสักอย่างเดียว” ในเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่สามารถพูดดีๆ ด้วยได้ ณธิปก็เห็นว่าไม่จำเป็นที่ต้องถนอมน้ำใจกันอีก

“คุณมันเลว เลวร้ายที่สุด” เมื่อได้ฟังคำพูดไม่ถนอมน้ำใจของคนที่ตัวเองเลือกมาเป็นคนรัก หนึ่งนทีก็สบถออกมาอย่างเหลืออด

“ผมก็ไม่เคยบอกนะว่าเป็นคนดีมีคุณธรรมอย่างไอ้เมฆแฟนเก่าคุณ” ณธิปว่าอย่างไม่ใส่ใจ อีกทั้งยังเหน็บแนมถึงคนรักเก่าให้อีกฝ่ายเจ็บใจเล่นด้วย

“อย่าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับเขา เพราะมันเทียบกันไม่ได้” ไม่มีทางเปรียบเทียบกันได้ เพราะพี่เมฆที่หนึ่งนทีเคยคบก่อนปันใจมาหาณธิป เขาเป็นคนดีกว่าผู้ชายคนนี้หลายเท่านัก

“แต่ถึงมันจะดียังไงคุณก็ทิ้งมันมาหาผม ถ้าผมเลว คุณมันก็ร้ายพอๆ กันนั่นแหละหนึ่ง ลองถามใจตัวเองดูว่าที่ผมพูดมาทั้งหมดมันถูกหรือเปล่า” พอพูดจบณธิปก็เดินกลับไปนั่งที่เก้าอี้ทำงานของตัวเอง ก่อนจะกอดอกแล้วมองหนึ่งนทีด้วยสายตาเหนือกว่า

“นับจากนี้ไม่ว่าคุณจะกลับมาง้อยังไง จำเอาไว้ว่าผมไม่มีวันกลับมาคบกับคุณอีกเป็นครั้งที่สองแน่ ลาก่อน”

“ไม่มีวันนั้นหรอก แต่ยังไงก็ขอให้โชคดีแล้วกัน”

“เก็บไว้บอกตัวเองเถอะ” หลังจากโต้กลับเป็นคำสุดท้ายหนึ่งนทีก็หุนหันออกมาจากห้องทันที



   ทีแรกก่อนเข้าไปหนึ่งนทีรู้สึกผิดหวัง ไม่เข้าใจและไม่ยอมรับอะไรๆ หลายอย่าง ทว่ายามออกมาจากห้องผู้บริหารหนุ่ม หนึ่งนทีกลับมีแต่อารมณ์โมโหและเดือดดาลเป็นที่สุด ระยะเวลาเกือบปีที่คบกันมาแม้จะพูดไม่ได้เต็มปากว่ารักลึกซึ้ง ทว่าความผูกพันมันย่อมมีเป็นธรรมดา



ณธิปไม่ใช่คนรักที่ซื่อสัตย์นัก แต่ก็ช่างเอาใจ ตามใจทุกอย่างขอแค่เขาทำตัวว่าง่าย ฝ่ายนั้นมีพร้อมทั้งรูป ทรัพย์และหน้าตาทางสังคม คนที่พร้อมขนาดนี้จะหาที่ไหนได้ง่ายๆ หากมองในแง่ดีมันก็ดีที่เขาได้อะไรติดมือมามากมายหลังจากคบกับณธิป แต่สิ่งที่หวังไว้ในตอนแรกมันไม่ใช่แบบนี้ เขาไม่ได้ต้องการคบแล้วเลิก เขาต้องการคบให้ยืนยาวต่อไปอีก เพราะธุรกิจที่เริ่มก็กำลังไปได้ดี หากมันก็ยังไม่มั่นคงพอ หนึ่งนทียังต้องอาศัยชื่อเสียงและเม็ดเงินสนับสนุนจากทายาทคนรองของเอ็นพีกรุ๊ปอีกมาก



สำคัญที่สุดคือ เขาได้วาดฝันชีวิตแสนสมบูรณ์ของตัวเองไว้ อีกเพียงนิดเดียวก็ใกล้จะถึงความจริงแล้ว ทว่าทุกอย่างกลับพังทลายลงไม่เป็นท่าเพราะเรื่องไม่คาดฝันที่เกิดขึ้น ตอนนี้จึงถือได้ว่าหนึ่งนทีกำลังตกอยู่ในสภาวะเสียศูนย์อย่างที่สุด



   ฝ่ายณธิปนั้น หลังจากที่หนึ่งนทีออกไปจากห้องทำงานของเขาเรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มก็ยังคงมองประตูบานที่เพิ่งปิดลงไปไม่เลิก แต่ที่มองไม่ใช่เพราะอาลัยอาวรณ์ ที่มองเพราะกำลังไตร่ตรองถึงคำพูดซึ่งหนึ่งนทีเอ่ยเอาไว้เมื่อกี้



“คุณเป็นลูกแหง่หรือไง ไม่อยากแต่งก็ไม่ต้องแต่งสิ จะกลัวอะไรกับแค่พ่อแม่บังคับ ที่ผ่านมาคุณเคยกลัวอะไรพวกนี้ด้วยเหรอ”



   ถูกอย่างที่อีกฝ่ายบอก ที่ผ่านมาเขาไม่เคยเกรงกลัวในคำสั่งที่บงการให้ทำอะไร เพราะณธิปทำตามใจตัวเองมาโดยตลอด แต่ครั้งนี้ที่ต้องทำก็เพราะคำพูดหนึ่งของผู้เป็นพ่อ ซึ่งเอ่ยกับเขาในคืนที่ตัดสินใจบอกเรื่องงานแต่งงาน



“คนอย่างแกมันต้องมีคนคอยควบคุมให้อยู่กับร่องกับรอย ไม่อย่างนั้นก็จะเอาแต่สร้างชื่อเสียๆ ทำตัวเป็นพ่อพวงมาลัยไปวันๆ ฉันเบื่อจะต้องมาคอยฟังข่าวฉาวโฉ่ของแกเต็มทนแล้วตาเล็ก”

“แต่ผมไม่อยากแต่ง ผมไม่ได้รัก ไม่ได้อยากอยู่กับคุณหนูเกษสุดาที่พ่อหามาให้เสียหน่อย”

“เจ้าชู้อย่างแกมันรักใครเป็นด้วยหรือไง รักเป็นแต่ตัวเอง หัดทำตัวให้พ่อแม่ชื่นใจเหมือนพี่ภัทรเขาบ้างมันจะตายไหม”





คนอย่างณธิปจะไปรักใครให้เสียเวลาทำไม ในเมื่อทุกคนที่เข้ามาก็ไม่ได้มาเพราะรักเขาอยู่แล้ว อย่างเกษสุดาก็ต้องแต่งเพราะถูกบังคับ ไม่ได้รักเขาสักนิด เธอแค่ยอมทำตามใจพ่อนักการเมืองที่อยากดองกับครอบครัวนักธุรกิจเพื่อเพิ่มฐานเงินทุนในการหาเสียงให้ตัวเองก็เท่านั้น แล้วอย่างนี้มันสมควรแล้วหรือที่เขาต้องยอมอยู่กับเธอไปทั้งชีวิต ด้วยเพียงแค่หน้าตาทางสังคมและฐานะเหมาะสมกัน นี่คือสิ่งที่ชายหนุ่มนึกแย้งในใจมาโดยตลอด



แต่ทั้งหมดทั้งมวล เรื่องที่ทำให้ณธิปตัดสินใจยอมแต่ง ก็เพราะคำกล่าวประโยคหลังของผู้เป็นพ่อมากกว่า คำว่าอยากชื่นใจที่มีเขาเป็นลูก ให้เหมือนมีพี่ชายของเขาเป็นลูก ถ้าการแต่งงานครั้งนี้จะทำให้พ่อมองเขาดีได้สักเสี้ยวหนึ่งของพี่ชาย ณธิปก็จะยอมทำให้














   เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขณะที่ณธิปกำลังรอคนเปิดประตูรั้วสูงใหญ่ให้ เขาคว้าโทรศัพท์มากดรับโดยไม่มองชื่อคนโทร ก่อนกรอกเสียงเข้าไปตามสาย



   “ถึงหน้าบ้านแล้ว โทรจิกอะไรนักหนาวะเชษฐ์”

“ฉันกลัวแกเบี้ยวนี่ ทั้งงานเขารอแกคนเดียวเลยนะเล็ก รีบเข้ามา’

   “รู้แล้วๆ” ณธิปกดวางสายขณะที่มือหมุนพวงมากลับรถให้เลี้ยวเข้าไปในคฤหาสน์หลังโตของพ่อดาราใหญ่ พิเชษฐ์ เพื่อนสนิทของเขาเอง



   เพราะพรุ่งนี้จะเป็นวันวิวาห์ของณธิป ดังนั้นพิเชษฐ์จึงอาสาจัดงานเลี้ยงฉลองให้กับสถานะภาพใหม่ที่ไร้ซึ่งความโสดของเพื่อนรักซึ่งได้ชื่อว่าสนิทที่สุด เพราะคบกันมาตั้งแต่สมัยประถม



   ในทีแรกณธิปก็คิดลังเลใจว่าจะมาดีหรือไม่ เพราะวันรุ่งขึ้นเขาต้องเข้าพิธีแต่เช้า ทว่าลองมาคิดดูอีกที ไหนๆ เพื่อนก็สู้อุตส่าห์จัดงานให้เสียใหญ่โต ถ้าเขาไม่มาก็จะเสียน้ำใจกันเปล่าๆ ชายหนุ่มจึงตัดสินใจมาตามคำขอ หากตั้งใจว่าจะอยู่ไม่ดึกนักเพราะกลัวขับรถกลับบ้านไม่ไหว



   เมื่อมาถึงหน้าประตูบ้านชายหนุ่มก็ลงจากรถพร้อมกับโยนกุญแจให้คนเอารถไปเก็บอย่างเคย ก่อนเดินเข้าไปข้างใน งานเลี้ยงของพิเชษฐ์เป็นงานสูตรสำเร็จริมสระที่ณธิปเคยเห็นจนชินตา มีดนตรี มีแสงไฟ มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่ที่ออกจะพิเศษขึ้นมาหน่อยก็ตรงที่งานของพิเชษฐ์จะมีดาราสาวๆ สวยๆ เดินกันหยุบหยับ



ทันทีที่ณธิปปรากฎตัว พิเชษฐ์ก็รีบเดินยิ้มกว้างออกมารับพร้อมกับ ดังตฤณ เพื่อนสนิทอีกคนของเขา ที่ทำหน้าไม่สบอารมณ์เท่าไหร่ หากให้เดาณธิปคิดว่าเป็นเพราะดังตฤณไม่เห็นด้วยกับงานเลี้ยงในคืนนี้นัก แต่ที่ยอมมาก็เพราะขัดใจเจ้าจอมแผนการอย่างพิเชษฐ์ไม่ได้



   “ทำไมแกมาช้า อย่าบอกนะว่าหนีแม่มา” พิเชษฐ์เอ่ยทัก

   “เปล่า ฉันเพิ่งเสร็จงาน ช่วงนี้งานยุ่งๆ” ณธิปต้องดูแลเรื่องโครงการบ้านและคลับเฮาส์แห่งใหม่ซึ่งกำลังสร้างขึ้นที่หัวหิน ทั้งเขายังต้องหัวหมุนกับการดูแลบริหารงานโรงแรมในเครือ เพราะปีนี้ธุรกิจในประเทศกำลังซบเซา แม้คนจะเที่ยวกันมากกว่าแต่ก่อน หากก็มีโรงแรมที่พักใหม่ๆ ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด งานวางแผนรับมือของเขากับบอร์ดบริหารคนอื่นๆ จึงวุ่นวายน่าดูชม

   “แล้วนี่คุณหญิงแม่ท่านรู้ไหมว่าแกแวะมานี่ก่อน” พ่อดาราดังถามต่อ

   “ไม่รู้หรอก รู้ก็ตายน่ะสิ แค่นี้ก็บ่นจะแย่อยู่แล้วว่าไม่ช่วยเกษสุดาดูแลเรื่องจัดงาน” ณธิปว่าอย่างเหนื่อยหน่ายเมื่อนึกถึงเรื่องที่ผู้เป็นแม่โทรมาวีนใส่เมื่อสามวันก่อน

   “ก็น่าสงสารคุณเกษเขาเหมือนกันนะเล็ก แกจะขัดใจที่พ่อแม่สั่ง แต่ผู้หญิงเขาไม่ได้ผิดอะไรด้วยนี่หว่า” คนที่เงียบมาตลอดอย่างดังตฤณเอ่ยขึ้น เพราะรู้สึกเห็นใจฝ่ายหญิงไม่น้อย ต้องถูกบังคับแต่งงานอย่างไม่เต็มใจ ซ้ำผู้ชายที่เป็นว่าที่สามียังมีประวัติเจ้าชู้แบบสุดๆ ไม่ว่ามองอย่างไร ดังตฤณก็อดสงสารเธอไม่ได้จริงๆ

   “นี่แกเป็นเพื่อนไอ้เล็กหรือเปล่าเนี่ย” พิเชษฐ์ตัดพ้อแทน

   “ก็เพราะเป็นเพื่อนน่ะสิถึงได้บอกว่าสงสารผู้หญิง” ดังตฤณตอกกลับ “เพื่อนพวกเรามันเจ้าชู้น้อยเสียที่ไหน ประวัติโชกโชนขนาดนั้น ผู้หญิงที่ไหนได้แต่งงานด้วยก็น่าสงสารด้วยกันทั้งนั้นแหละ”

   “แกนี่มัน…” พิเชษฐ์แทบกระอักแทนคนที่โดนพาดพิง ส่วนณธิปได้แต่ขมวดคิ้วนึกหงุดหงิดขึ้นมานิดหน่อยเท่านั้น เขาไม่อยากเก็บมาใส่ใจแล้วทำให้ต้องทะเลาะกับเพื่อน เพราะตอนนี้เขามีปัญหามากพออยู่แล้ว

   “เอาน่า แกไม่ต้องเป็นห่วงหรอกตฤณ ฉันไม่ปล่อยให้คุณเกษเขาทนทุกข์นานนักหรอก คิดว่าถ้าตกลงกันได้ไม่นานน่าจะหย่า” ประโยคอย่างไม่อนาทรร้อนใจของณธิปทำเอาสองคนที่เถียงกันเมื่อครู่ถึงกับชะงัก

   “แกนี่มันใจร้ายจริงๆ ระวังเถอะ ถ้าได้เจอของจริงวันไหนแล้วมานั่งร้องไห้ ฉันคนหนึ่งล่ะที่ไม่ปลอบ”

   “พอเลยไอ้ตฤณ แกนี่มันชักใบให้เรือเสีย นี่งานเลี้ยงเพื่อนนะเว้ย เดี๋ยวเล็กมันหงุดหงิดแล้วหนีกลับ งานกร่อยกันพอดี” พิเชษฐ์หันไปแหวใส่ดังตฤณ ก่อนพาว่าที่เจ้าบ่าวไปดื่มกับสาวๆ ที่อยู่ในงาน



   เนื่องจากรู้ว่าเพื่อนหวังดี ณธิปจึงเก็บคำพูดของดังตฤณมาคิด แต่ผ่านไปแค่ไม่กี่วินาที เสียงของสาวๆ ที่คอยออดอ้อนออเซาะ บวกกับปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดที่เพิ่มขึ้นก็ทำให้เขาเลิกสนใจประโยคพวกนั้นไป เหลือเพียงความหฤหรรษ์ที่วนเวียนอยู่ตรงหน้า แสงสี เสียงเพลง  ความสุขฉาบฉวยที่ทำให้สติเลอะเลือน จนหลงลืมความรับผิดชอบที่คอยท่าเอาไว้เบื้องหลังไปหมดสิ้น











   กมลคิดว่าตัวเองคงไม่ได้นอนในคืนนี้แน่ๆ เนื่องจากงานในความรับผิดชอบรอเขาอยู่ตรงหน้า งานที่ว่าคืองานวิวาห์ยิ่งใหญ่ของคุณเกษสุดากับคุณณธิป ทั้งที่ทุกอย่างถูกจัดเตรียมให้พร้อมพรักเริ่มมาตั้งแต่หลายเดือนก่อน ทว่าเมื่อถึงวันจริงปัญหาเล็กๆ น้อยๆ ต่างก็ดาหน้าเข้ามาจนกมลรวมถึงพนักงานใน I promise Tower ต่างก็หัวหมุนกันไปหมด ไหนจะพิธีในตอนเช้า งานเลี้ยงในตอนเย็น รวมถึงช่วงพบปะสื่อมวลชนที่เพิ่งถูกขอให้เพิ่มเข้ามาแทรกก่อนงานเลี้ยง กมลจึงต้องแก้ปัญหา จัดลำดับบริหารเวลาใหม่ และดูแลสถานที่ให้เรียบร้อยที่สุด



   พิธีสงฆ์จะเกิดขึ้นในตอนเช้าตรงส่วนของห้องบอลรูม โดยแขกในงานจะมีแต่ครอบครัว เพื่อนฝูง และผู้หลักผู้ใหญ่บางท่านเท่านั้น ในส่วนงานเลี้ยงฉลองจะจัดขึ้นตอนค่ำบนโดมหลังคากระจกชั้นบนสุดจะมีแขกเรื่อมาร่วมเป็นสักขีพยานนับพันคน เป็นงานจัดเลี้ยงที่ยิ่งใหญ่สมฐานะ แต่กมลคาดว่ามันจะต้องวุ่นวายมากเช่นกัน แต่เขาได้พูดคุยซักซ้อมกับบ่าวสาวถึงขั้นตอนต่างๆ เรียบร้อยแล้วก่อนงานจริงหนึ่งวัน



   กมลต้องเพิ่มทีมช่างภาพที่มาเก็บภาพบรรยากาศในงานมากเป็นพิเศษ เพราะคุณเกษสุดาต้องการภาพในหลายๆ มุมมอง ก่อนงานนี้เขาจึงต้องพาทีมตากล้องทั้งภาพนิ่งและวีดีโอเข้าไปพบและพูดคุยกับเกษสุดา เพื่อให้เข้าใจความต้องการของลูกค้ามากที่สุด



   ส่วนสุดท้ายคือส่วนที่เกษสุดาเพิ่งบอกให้กมลจัดการเพิ่ม คือพื้นที่สำหรับแถลงข่าว เดิมทีในตอนแรกทางเกษสุดาไม่ได้ต้องการพื้นที่ในส่วนนี้ ฝ่ายครอบรัวของณธิปเองก็ไม่ต้องการเช่นกัน แต่ด้วยความที่ว่าที่บ่าวสาวเป็นที่ถูกจับตามองของวงสังคม จึงทำให้คุณพ่อของเกษสุดาบอกเพิ่มตรงนี้ลงมา ด้วยหวังให้ตนเองถูกพูกถึงในหน้าข่าว กมลจึงต้องลำดับเวลาใหม่ ให้มีการสัมภาษณ์สั้นๆ ช่วงบ่าย เพื่อให้เจ้าสาวมีเวลาในการแต่งตัว แต่งหน้าทำผมใหม่



เมื่อเดินตรวจดูสถานที่ในงานเป็นครั้งสุดท้ายจนพอใจ กมลจึงตัดสินใจกลับไปอาบน้ำและพักผ่อนในห้องพักบนโรงแรม แม้ช่วงเวลาสองสามชั่วโมงก่อนงานเริ่มจะถือว่าน้อยนิด แต่มันก็พอทำให้รู้สึกสดชื่นได้บ้าง ส่วนพนักงานคนอื่นๆ นั้นได้มีการผลัดเวรกันไปพักผ่อนในห้องที่จัดไว้ให้เหมือนกัน จะมีก็แต่หทัยที่ไม่ได้พักที่โรงแรมเพราะต้องกลับไปดูแลลูกชายฝาแฝดที่บ้าน



ก่อนนอนกมลรู้สึกกระวนกระวายนิดหน่อย เพราะงานในครั้งนี้มีสื่อสนใจมากพอสมควร ถือเป็นงานใหญ่อีกงานที่ทาง I promise ได้รับเกียรติให้จัดขึ้น ดังนั้นกมลจึงไม่อยากให้เกิดอะไรผิดพลาดแม้แต่ข้อเดียว ผู้บริหารหน้าสวยนึกภาวนาอยู่ในใจก่อนหลับตาลงว่า ขอให้ทุกอย่างในวันพรุ่งนี้ผ่านไปด้วยความราบรื่นด้วยเถอะ








++++++++++++++++++++++++++++++++++++





มาแล้วค่า~~~~~
สวัสดีสำหรับคนที่ตามมานานแล้ว แล้วก็สวัสดีนักอ่านหน้าใหม่ด้วย
อ่านถึงตรงนี้ จะด่าคุณเล็กก็ได้ แต่อย่าด่าแรงมาก ช่วยเผื่อใจให้พี่แกนิดนึง
เผื่อคุณเล็กเขาจะกลับตัวกลับใจ ว่าต้องใช้เวลาสักหน่อย /ปาดเหงื่อ
เห็นกระแสคนเกลียดคุณเล็กเยอะ คนเขียนก็รู้สึกประสบความสำเร็จไปครึ่งนึง 555555

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะคะ ยังไงก็ช่วยติดตามกันต่อไปด้วยเน้อ

เจอกันตอนหน้าค่ะ


ละอองฝน.
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 4 [04/07/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 04-07-2016 12:11:15
ตอนใหม่มาแล้ว ได้เห็นถึงความคืบหน้าของงานแต่งสักที
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 4 [04/07/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: Coaramach ที่ 04-07-2016 23:19:46
สู้ๆ ค่ะคุณไอ
เจ้าบ่าวคงไม่หนีงานแต่งหรอกนะ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 5 [09/07/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: ละอองฝน ที่ 09-07-2016 10:45:02



คุณคือความรัก บทที่ 5





   กมลลุกขึ้นมาทั้งๆ ที่เพิ่งหลับไปได้ไม่ถึงสองชั่วโมง สาเหตุที่ทำให้เขาต้องตื่นก่อนเวลาไม่ใช่เพราะนาฬิกาปลุกรวน หรือมีพนักงานคนไหนมาเรียกเนื่องจากงานมีปัญหา แต่มันมาจากว่าที่เจ้าสาวเป็นผู้โทรมาด้วยน้ำเสียงแสดงถึงความกังวล เขานั่งพิงหลังกับหัวเตียงถือโทรศัพท์แนบหู ฟังคำบอกเล่าของคนปลายสายไปพร้อมๆ กับสะบัดหัวไล่ความง่วงงุน



   “คุณไอพักผ่อนอยู่ใช่ไหมคะ เกษขอโทษที่โทรมารบกวนนะคะ” เธอว่าอย่างรู้สึกผิด

   “ไม่เป็นไรครับ คุณเกษมีอะไรให้ผมช่วยก็บอกได้เลยครับ” กมลพูดด้วยประโยคสุภาพเป็นมิตรเช่นทุกครั้ง และน้ำเสียงของเขาก็ทำให้เกษสุดายอมเอ่ยเรื่องหนักใจออกมาง่ายๆ ทั้งที่จริงแล้วเธอควรปรึกษาเรื่องนี้กับคนใกล้ชิดมากกว่า

   “เกษกลัวค่ะคุณไอ” กมลจับได้ว่าน้ำเสียงของเธอไม่มั่นคงเอาเสียเลย มันจึงเป็นตัวกระตุ้นให้กมลตื่นเต็มตา

   “เกิดอะไรขึ้นครับคุณเกษ”

   “ก็เรื่องคุณเล็กน่ะค่ะ” เธอเว้นวรรคไปไม่ยอมพูดต่อ

   “คุณณธิปทำไมครับ คุณเกษพูดออกมาเถอะ ผมใจไม่ดีเลย” กมลไม่อยากคาดเดา เขาไม่รู้ว่าสิ่งที่เกษสุดาต้องการจะบอกคืออะไร เพราะมันสามารถตีออกมาได้หลายแง่ ดังนั้นเขาจึงอยากให้เธอพูดออกมาเลยมากกว่า

   “คือตอนนี้เกษแต่งตัวใกล้เสร็จแล้ว แต่คุณเล็กยังไม่มาเลย เกษได้ยินพี่ภัทรคุยกับคุณหญิงป้าว่าเมื่อคืนคุณเล็กไม่กลับบ้าน เกษจะทำยังไงดีคะคุณไอ”



   สิ่งที่กมลได้ยินมันค่อนข้างเลวร้ายอย่างที่กลัวจริงๆ เขาเองก็ไม่รู้ว่าจะจัดการอย่างไรกับเรื่องที่ณธิปหายไปในตอนนี้ เพราะเขาไม่ใช่คนในครอบครัว ที่ทำได้ก็เพียงแค่ปลอบว่าที่เจ้าสาวให้สงบลงก่อนเท่านั้น



   “บางทีคุณณธิปคงจะกำลังเดินทางมา เมื่อคืนเขาอาจไปค้างที่ไหน หรือทำงานอยู่ก็ได้ เมื่อวันก่อนที่เราซ้อมคิวกัน ผมเห็นคุณณธิปบ่นว่าเขายุ่งใช่ไหมครับ”

   “แต่ยุ่งยังไงก็ควรจะเว้นไว้สักวันนี่คะ วันนี้เป็นวันแต่งงานของเขานะ” เธอว่าอย่างตัดพ้อ

   “คุณเกษใจเย็นๆ นะครับ ตอนนี้แต่งตัวให้เสร็จก่อน เดี๋ยวผมลงไปหาที่ห้องแต่งตัวดีไหม” พอกมลเอาน้ำเย็นเข้าลูบ หญิงสาวก็ยอมสงบลง

   “ดีค่ะ ขอบคุณนะคะคุณไอ” เธอกล่าวขอบคุณอย่างจริงใจ ก่อนกดวางสายไป กมลจึงลุกขึ้นจากเตียงแล้วไปล้างหน้าล้างตา ก่อนออกมาเปลี่ยนเสื้อผ้า โชคดีที่เมื่อวานเขาเพิ่งไปตัดผมมาจึงทำให้ผมเซ็ตง่าย ใช้เวลาไม่นานก็แต่งตัวเสร็จ



   กมลออกจากห้องพักไปที่ลิฟต์ เมื่อลงลิฟต์มาถึงชั้นล่าง ชายหนุ่มก็บังเอิญพบกับณภัทรเข้าพอดี ใบหน้าที่คล้ายกับน้องชายของเขาทำให้กมลตกใจไปแวบหนึ่ง เพราะนึกว่าว่าที่เจ้าบ่าวตัวดีมาที่งานแล้ว



   ชายหนุ่มหน้าสวยเดินออกมาจากลิฟต์ แล้วหลีกทางให้อีกฝ่ายเข้าไป แต่ณภัทรกลับไม่ทำเหมือนที่กมลคาดไว้ คนตัวสูงกว่าขยับมาขวางหน้าเขา ก่อนเอ่ยด้วยสีหน้าแบ่งรับแบ่งสู้



   “คุณไอทราบเรื่องเจ้าเล็กหรือยังครับ” ณภัทรพูดขึ้นก่อน

   “คุณเกษบอกแล้วครับ ไม่ทราบตอนนี้ติดต่อคุณณธิปได้หรือยังครับ”

   “ยังเลยครับ ตอนนี้วุ่นกันไปหมด ผมสั่งคนออกไปตามหาแล้ว แต่ยังไม่ได้เรื่อง ยังไงคุณไอคอยช่วยประสานเรื่องเวลาที่ต้องเลื่อนออกไปให้ผมทีนะครับ” ณภัทรว่า เขารู้สึกไม่สบายใจเลย ไม่คิดว่าน้องชายตัวดีจะเหลวไหลเช่นนี้ ในทีแรกก็พอจะดูออกว่าณธิปไม่อยากแต่งงานตามที่คุณพ่อสั่ง หากเมื่อเวลาผ่านไป แม้ณธิปจะไม่พอใจอยู่บ้าง แต่เจ้าตัวก็ไม่ได้ปฏิเสธหรือคัดค้านอะไรอีก เขาจึงคิดว่าน้องชายยอมตกลงปลงใจแล้ว ทว่าดูเหมือนสิ่งที่พวกเขาต้องเผชิญตอนนี้กลับไม่เป็นอย่างที่คิดเอาไว้สักนิดเดียว



   เสี้ยวหนึ่งในใจณภัทรยังหวังว่าเจ้าน้องชายตัวดีจะไม่หนีหายไปดื้อๆ เหมือนที่ชอบทำเวลาถูกพ่อสั่งเมื่อครั้งเป็นเด็ก แต่ถึงอย่างนั้น หากณธิปไม่โผล่มาที่งานแต่งของตัวเองด้วยเหตุผลอื่น เช่น เกิดเรื่องอันตราย หรือมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น ไม่ว่าอะไรก็ไม่ดีทั้งนั้น



   “แล้วเรื่องฤกษ์จะทำยังไงครับ” เสียงของหนุ่มหน้าสวยเรียกให้ณภัทรได้สติ

   “ตอนนี้ผู้ใหญ่คุยกันคร่าวๆ ว่าให้ใช้ฤกษ์สะดวกแทนครับ งานมันจะเลื่อนเป็นวันอื่นคงไม่ทันแล้ว” ไม่ใช่เพียงเขาที่ร้อนใจ ยามนี้แม้แต่คุณพ่อที่มักวางเฉยอยู่เป็นนิจทุกครั้งที่เกิดปัญหาก็ถึงกับนั่งไม่ติดที่

   “เอาอย่างนั้นก็ได้ครับ ยังไงผมจะประวิงเวลาแล้วก็ประสานงานกับฝ่ายต่างๆ ให้  แต่คุณภัทรคงต้องช่วยผมชี้แจงกับทางแขกผู้ใหญ่ที่มาในงานเช้าด้วย เพราะถ้าจะให้ผมประกาศแทนคงไม่เหมาะ” กมลเห็นด้วยกับวิธีของณภัทร ตอนนี้คงต้องช่วยกันแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน

   “อื้ม…จริงสินะครับ” เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนว่า ”ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวเราไปด้วยกันเลยดีไหมครับ” ณภัทรเสนอ

   “ก็ได้ครับ แต่ผมต้องไปหาคุณเกษที่ห้องแต่งตัวก่อน เธอไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่กับเรื่องนี้”

   “…ครับ” ณภัทรถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนตอบรับ แล้วเดินไปห้องของเกษสุดาพร้อมกับกมล








   เมื่อมาถึงห้องแต่งตัวของเจ้าสาว กมลพบว่าหญิงสาวแต่งหน้าแต่งตัวเสร็จแล้ว มีคนเอาอาหารเช้าให้เธอทานรองท้องก่อน แต่เธอทานไม่ลง เพราะทั้งตื่นเต้นและคิดมาก ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรในเช้าวันสำคัญที่ฉุกละหุกเช่นนี้



   เมื่อเห็นกมลมาพร้อมณภัทร เกษสุดาก็พอจะเดาได้ว่าเรื่องราวต่างๆ คงไม่บรรเทาลงอย่างที่เธออยากให้เป็น แม้ว่าผู้จัดการหน้าหวานจะทั้งปลอบ ทั้งให้กำลังใจ และขอให้เธอทานอะไรบ้างเพื่อตัวเธอเองก็ตาม



   “ระหว่างที่คุณไอกับพี่ภัทรออกไปจัดการเรื่องต่างๆ ให้ เกษต้องรออยู่ในนี้ก่อนใช่ไหมคะ”

   “ครับ คุณเกษอยู่ที่นี่ก่อน ถ้าถึงเวลาที่คุณณธิปมา ผมจะมาพบคุณเกษอีกครั้งเพื่อแจ้งกำหนดการที่อาจจะมีบางอย่างปรับเปลี่ยนไปตามเวลาที่เหลือครับ” กมลอธิบาย ก่อนเดินมาถึงห้องแต่งตัว เขาได้ปรึกษากับณภัทรว่าไม่ควรให้เกษสุดาออกไปพบผู้คน ไม่เช่นนั้นคำถามต่างๆ คงพุ่งมาที่เธอ เพราะเจ้าบ่าวเจ้าสาวย่อมเป็นที่สนใจของแขกเรื่อในงานมากกว่าญาติๆ หรือคนที่คอยดูแลความเรียบร้อยอย่างกมล

   “แต่ถ้ามีอะไรที่เกษพอจะช่วยได้…”

   “เกษไม่ต้องกังวลนะ ปัญหาข้างนอกนั่นพี่จะเป็นคนจัดการให้เอง เกษรออยู่ในนี้อย่างที่คุณไอบอกเถอะ ถ้าออกไปข้างนอกแล้วคนรู้ว่าเจ้าเล็กยังไม่อยู่ในงาน เกษจะตกเป็นเป้าเสียเปล่าๆ” ณภัทรว่า

   “จริงอย่างที่คุณภัทรว่านะครับ คุณเกษอยู่ในนี้กับเพื่อนๆ ดีกว่า เดี๋ยวข้างนอกผมจะค่อยช่วยคุณภัทรจัดการทุกอย่างให้เองครับ” กมลกล่าวเสริม สุดท้ายเกษสุดาจึงยอมทำตาม

   “ขอบคุณนะคะ”



   เมื่อคุยกับว่าที่เจ้าสาวเรียบร้อยแล้ว กมลกับณภัทรก็ออกมาจัดการงานด้านนอก เวลาแต่ละชั่วโมงผ่านไปอย่างรวดเร็ว เผลอนิดเดียวก็ได้ฤกษ์ที่ต้องเริ่มทำพิธี แต่คนของณภัทรก็ยังไม่พบณธิป แม้ว่าจะได้เพื่อนสนิทของณธิปที่ชื่อดังตฤณมาช่วยหาอีกแรงก็ตาม



   แต่ทุกคนก็พอจะรู้สาเหตุที่ณธิปหายไปแล้ว เนื่องจากเพื่อนของเขาเล่าว่าเมื่อคืนณธิปดื่มหนักในงานปาร์ตี้สละโสด แม้จะถูกทัดทานอย่างไรก็ไม่ฟัง ซ้ำเจ้าตัวยังออกไปกับดาราสาวมีชื่อในวงการคนหนึ่งอีกด้วย ถึงจะสามารถบอกได้ว่าว่าที่เจ้าบ่าวไปเหลวไหลอะไรมา แต่ก็ไม่อาจระบุได้อยู่ดีว่าเขาไปอยู่ที่ไหนในตอนนี้



   ขณะที่คนของบ้านโชติตระกูลเร่งหาที่อยู่ของดาราสาวคนนั้น ณภัทรก็ขึ้นเวทีมาประกาศต่อแขกในงานว่าจำเป็นต้องเลื่อนเวลาออกไปสักหน่อย เนื่องจากเจ้าบ่าวป่วยกะทันหัน ส่วนกมลก็วิ่งวุ่นระงับทั้งเรื่องพระสงฆ์ที่นิมนต์มาทำพิธีและขบวนขันหมากที่ต้องแห่



   ครั้นเวลาผ่านไปเกือบบ่ายโมงก็ยังไม่มีใครหาณธิปกับดาราสาวคนนั้นพบ งานแต่งงานในช่วงเช้าจึงมีอันต้องยกเลิกไป กระทั่งบ่ายแก่กองทัพสื่อมวลชนก็แห่แหนกันมาที่งาน ทั้งที่กมลได้ยกเลิกคำเชิญไปเมื่อช่วงสายแล้วก็ตาม ทว่าข่าวงานวิวาห์ล่มของไฮโซคนดังกลับดึงดูดให้เหยี่ยวข่าวเหล่านี้มาออกันเต็มหน้าล็อบบี้โรงแรมไปหมด



   ที่สุดแล้วเมื่อเวลาล่วงเลยมาจนเย็นย่ำ ทุกคนในครอบครัวจึงเข้ามารวมตัวกันที่ห้องของเจ้าสาว รวมถึงกมลที่ถูกเกษสุดารั้งเอาไว้หลังจากเข้ามาแจ้งเรื่องนักข่าว



   บรรยากาศภายในห้องแต่งตัวของเจ้าสาวเต็มไปด้วยเมฆหมอกอึมครึม ผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่ายนั่งประจันหน้ากัน โดยมีเกษสุดาอยู่ตรงกลาง



   “ตกลงจะเอายังไงคุณอนันต์ นี่เจ้าบ่าวคงมาไม่ทันงานกลางคืนแล้วใช่ไหม” รัฐมนตรีทรงศักดิ์พ่อของเกษสุดาเป็นคนพูดขึ้นก่อน

   “จะมาได้ทันได้ยังไงคะคุณ ยังหาเขาไม่เจอแม้แต่เงาเลย” คุณหญิงจินดาเอ่ยขึ้นขณะเอื้อมมือมากุมมือของลูกสาวเอาไว้ “ประวิงเวลามาทั้งวันแล้วก็ยังไม่มา ปล่อยให้ลูกสาวของฉันใส่ชุดเจ้าสาวรอเป็นม่ายขันหมาก นี่พวกคุณคิดว่ากำลังเล่นขายของอะไรกันอยู่” เธอว่าคอแข็ง ทั้งโกรธและสงสารลูกสาวคนเดียวที่ต้องมาเจออะไรเช่นนี้

   “ผมขอโทษครับ ผมมันไม่ดีเองที่เลี้ยงลูกออกมาแบบนี้” คุณอนันต์ผู้บริหารใหญ่แห่งเอ็นพีกรุ๊ปถึงกับยอมก้มหัวให้ครอบครัวของเกษสุดา เขารู้ว่าลูกชายของเขาผิดเต็มประตู และเขาซึ่งเป็นพ่อ เป็นผู้จัดแจงให้เกิดงานนี้ขึ้น ย่อมมีความผิดเช่นเดียวกันกับลูกชายคนเล็ก เผลอๆ จะมากกว่าด้วยซ้ำ



เกษสุดามองเหตุการณ์ตรงหน้า แล้วก็ต้องยอมรับว่างานแต่งงานที่เพียรสร้างมาล่มไม่เป็นท่า หญิงสาวจึงปล่อยโฮออกมาอย่างสุดกลั้น เธอรับรู้มาตั้งแต่แรกว่าณธิปไม่รักเธอ ไม่เต็มใจแต่งงานกับเธอ แต่เกษสุดาไม่คิดว่าเขาจะหักหาญน้ำใจและหักหน้าเธอเช่นนี้ เธอรู้ว่าความรักมันห้ามกันไม่ได้ เพราะเธอเองก็ไม่ได้รักณธิปเหมือนกัน แต่เพราะทุกอย่างถูกผู้ใหญ่กำหนดเอาไว้หมดแล้ว เธอจึงทำใจและเชื่อว่าต่อไปมันอาจดีขึ้น



   เกษสุดาเชื่อที่แม่ของเธอบอกว่า อยู่ๆ กันไปก็รักกันเอง เชื่อที่พ่อบอกว่า พ่อเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูก แต่เธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าสุดท้าย ชีวิตคู่กับคนแปลกหน้าที่เธอเคยกังวลและยอมทำใจยอมรับ กลับไม่มีโอกาสแม้แต่จะเกิดขึ้นด้วยซ้ำ



   เธอจะไม่ร้องไห้เลย ถ้าณธิปบอกเธอสักคำว่าจะไม่แต่ง บอกเธอว่าให้ยกเลิกตั้งแต่ก่อนวันงาน ไม่ใช่หนีหายไปทิ้งทุกอย่างให้เธอต้องแบกรับคนเดียวเช่นนี้



   “แค่ขอโทษคงไม่พอหรอกหรอกมั้งคุณอนันต์” รัฐมนตรีทรงศักดิ์ว่า

“เราจะชดใช้ให้ทุกอย่างเท่าที่เราทำได้ ค่าเสียหายทั้งหมด สินสอดทองหมั้นที่ตกลงกันไว้ ทุกสิ่งทุกอย่างจะตกเป็นของหนูเกษ แม้ว่างานวันนี้จะไม่เกิดขึ้น หากคุณมีข้อเรียกร้องอะไรอีกก็ขอให้บอกผมมาอย่าได้เกรงใจ และขอให้คุณรู้เถอะครับว่าทางครอบครัวของเราก็เสียใจไม่ต่างกันที่เจ้าเล็กมันเหลวไหลอย่างนี้” นายอนันต์ว่า “ลุงเสียใจจริงๆ ขอโทษด้วยนะหนูเกษที่ทำให้หนูต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง”


“ในเมื่อคุณอนันต์พูดว่าจะรับผิดชอบอย่างนี้ก็ดีครับ เพราะในเมื่อคุณเล็กไม่รับผิดชอบ ไม่ยอมแต่งงานกับลูกสาวของผม ทำให้ลูกเกษเสียชื่อเสียง ดังนั้นผมคิดว่าคุณอนันต์น่าจะให้คุณภัทรแต่งงานกับลูกเกษแทน หรือคุณอนันต์กับคุณหญิงจะปล่อยให้ลูกสาวของผมต้องอับอายขายหน้าไปมากกว่านี้” ท่านรัฐมนตรีว่า หากแต่ข้อเสนอของท่านกลับทำให้เกษสุดาต้องร้องไห้หนักกว่าเก่า เธอเริ่มไม่แน่ใจแล้วผู้เป็นพ่อทำเพื่อเธอจริงๆ หรือท่านกำลังทำเพื่ออะไรกันแน่


   “แต่คุณทรงศักดิ์คะ ตาภัทรเขาไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องนี้เลย” คุณหญิงประภัสสรเองก็รู้สึกว่านี่ไม่เป็นธรรมกับทั้งลูกชายคนโตของเธอที่ต้องมารับผิดชอบแทนน้อง อีกทั้งยังไม่เป็นธรรมกับเกษสุดาที่ต้องเปลี่ยนว่าที่เจ้าบ่าวไปมาเหมือนเล่นขายของ หากให้จบลงอย่างที่รัฐมนตรีทรงศักดิ์ว่า เห็นทีลูกสาวของท่านคงได้ขายหน้ามากกว่าเดิมเป็นแน่

   “แล้วคุณจะทำยังไง! ลูกเกษของผมจะม่ายขันหมากไม่ได้”

   “คุณพ่อคะ…” เกษสุดากลืนก้อนสะอื้นเข้าไปในอก พยายามปรามพ่อ แต่ท่านไม่สนใจเธอเลย

   “เงินทองพวกนั้นน่ะ ผมไม่สนใจหรอก แต่ลูกสาวผมจะไม่มีเจ้าบ่าวในงานแต่งของตัวเองไม่ได้” เงินทองที่เป็นค่าสินสอดแม้จะมากก็จริง แต่มันเทียบไม่ได้เลยกับผลประโยชน์มหาศาลที่จะตามมาหากลูกสาวของเขาได้เป็นสะใภ้บ้านโชติตระกูล ยิ่งถ้าได้เป็นสะใภ้ใหญ่ก็ยิ่งดี เพราะเท่าที่ดูณภัทรก็ถือว่าเป็นผู้ชายที่ดีกว่าน้องของเขามากนัก



   คำขอของรัฐมนตรีทรงศักดิ์ทำให้ทั้งคุณอนันต์หรือแม้แต่คุณหญิงประภัสสรเห็นว่าจริงๆ แล้วอีกฝ่ายต้องการแต่งงานเพราะอะไร แม้ทั้งคู่จะรู้สึกผิดที่ลูกชายคนเล็กของตนเองไม่เป็นโล้เป็นพาย แต่ก็ชักจะโล่งใจที่ทั้งสองบ้านยังไม่ทันได้เกี่ยวดองกัน



   “ว่ายังไงครับ นี่ก็ใกล้จะถึงเวลาของงานเลี้ยงตอนค่ำแล้วด้วย” ทรงศักดิ์เร่ง


   “ขอประทานโทษนะครับ แต่ว่าเมื่อครู่ท่านได้บอกยกเลิกงานไปแล้วนี่ครับ แขกที่จะมาก็ทราบแล้วด้วย” กมลรู้ว่าไม่สมควรที่ตัวเองจะพูดออกมา มันไม่ใช่เรื่องของเขาสักนิด นี่เป็นปัญหาในครอบครัวของคนอื่น แต่กระนั้นเขาก็ทนเห็นเรื่องแบบนี้ไม่ได้จริงๆ ใครจะคิดว่าคนระดับรัฐมนตรีทำเพื่อตัวเองถึงขนาดเอาชีวิตของลูกสาวคนเดียวมาเป็นเครื่องมือในการสร้างฐานอำนาจ


   “ไหนลูกสาวผมบอกว่าคุณเก่ง คุณก็จัดการให้ได้สิ จะเรียกเท่าไหร่คุณอนันต์เขาก็จัดการให้ได้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ” คำที่ตอบกลับมาเล่นเอากมลนึกอยากเถียงใจแทบขาด เพียงแต่เขาต้องควบคุมตัวเองและคิดว่านี่เกินกว่าขอบเขตรับผิดชอบของเขาแล้ว


“ถ้าท่านต้องการแบบนั้น ผมก็จะรับผิดชอบแทนน้องให้เองครับ” จู่ๆ ณภัทรที่ฟังเงียบๆ อยู่นานก็เอ่ยขึ้น

   “ตาภัทร!” คุณหญิงประภัสสรถึงกับร้องเสียงหลง เธอไม่อยากให้ณภัทรต้องทำถึงขนาดนั้น

   “ดี คนที่จะแต่งงานกับลูกสาวของผมต้องแบบนี้สิ ผมถึงจะวางใจฝากชีวิตลูกเกษไว้กับเขาได้” คนเห็นแก่ตัวยิ้มออกมาในที่สุด แต่เมื่อได้ยินประโยคต่อมาของณภัทรเขาก็ต้องหุบยิ้มลง

   “ผมจะยอมแต่งงานตามที่ท่านต้องการครับ แต่มีข้อแม้ข้อเดียวเท่านั้น”

   “อะไร”

   “มันต้องมาจากความสมัครใจของคุณเกษ ไม่ใช่พวกเราคิดแทนเธอแบบนี้ ถ้าเกิดคุณเกษยอมตกลง ผมก็ไม่มีปัญหาอะไรอีก” ณภัทรพูดกับท่านทรงศักดิ์ด้วยน้ำเสียงฉะฉาน ก่อนจะหันไปยิ้มให้หญิงสาวที่นั่งร้องไห้อยู่ไม่ไกล

   “เกษว่ายังไงลูก บอกพี่เขาไปสิ” ผู้เป็นพ่อเองก็หันไปเร่งลูกสาวของตนเองเหมือนกัน

   “…” หญิงสาวมองหน้าณภัทรน้ำตานอง ก่อนเอ่ยออกมา “ขอโทษด้วยนะคะ เกษแต่งงานกับพี่ภัทรไม่ได้หรอกค่ะ”

   “ยายเกษ! ทำไมถึงพูดแบบนั้น” ทรงศักดิ์ตะคอกลูกสาวอย่างลืมตัว เพราะสิ่งที่ท่านรัฐมนตรีได้ยินขัดแย้งกับสิ่งที่ต้องการให้เป็นอย่างสิ้นเชิง

   “ขอโทษค่ะคุณพ่อ เกษไม่อยากฝืนใจใครอีกแล้ว แม้แต่ตัวเกษเองด้วย ขอตัวนะคะ” พูดจบเธอก็ลุกขึ้นเดินหนีออกไปทันที ปล่อยให้ทุกคนในห้องนิ่งอึ้งกับสถานการณ์นั้น กว่าที่รัฐมนตรีทรงศักดิ์จะได้สติ ก็เป็นตอนที่คุณจินดาวิ่งตามลูกสาวออกไป

   “พวกคุณต้องชดใช้กับสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้” ว่าแล้วทรงศักดิ์ก็หุนหันออกจากห้องไปอีกคน

   “ตาเล็กนะตาเล็ก แล้วทีนี้จะทำยังดีคะคุณ” คุณหญิงประภัสสรพูดกับสามีด้วยเสียงสั่นเครือ

   “จะทำยังได้ล่ะ เรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว เราก็คงต้องชดใช้ให้เขาตามสมควรนั่นแหละ” เขาบอกกับภรรยาเช่นนั้น ก่อนหันไปหาลูกชายคนโต “แล้วนี่รู้หรือยังว่าเจ้าเล็กมันไปมุดหัวอยู่ที่ไหน”

   “ผมส่งคนให้ออกไปตามแล้วครับคุณพ่อ แต่ไม่เจอเลย ไม่รู้เจ้าเล็กไปนอนค้างบ้านใคร เพื่อนสนิทก็มาที่งานหมด ที่บ้านของผู้หญิงก็ไม่มี”

   “แล้วเช็คกับทางโรงพยาบาลดูหรือยังตาภัทร ไม่ใช่ว่าน้องจะเป็นอะไรไปนะลูก” แม้จะเสียใจ แต่ผู้เป็นแม่ก็ยังอดไม่ได้ที่จะห่วงลูก

   “ผมเช็คเรียบร้อยแล้วครับ ไม่มีเลย สถานีตำรวจก็ด้วย”

   “สร้างปัญหาไม่ได้หยุดหย่อน ทำไมมันถึงกลายเป็นคนแบบนี้ไปได้นะ พ่อไม่รู้จะจัดการยังไงกับมันแล้ว” อนันต์ว่าด้วยเสียงเหนื่อยอ่อน

   “ผมว่าคุณพ่อกับคุณแม่กลับไปพักผ่อนที่บ้านก่อนดีไหมครับ เดี๋ยวที่เหลือผมจะจัดการเอง ได้ข่าวยังไงผมจะรีบติดต่อไป”

   “ก็ดีเหมือนกันนะคะคุณ ฉันปวดหัวไปหมดแล้ว” ประภัสสรเห็นดีด้วย ก่อนจะนึกเรื่องบางอย่างขึ้นได้ “นี่ก็เลยเวลาอาหารค่ำแล้วด้วย คุณเองก็ต้องทานยานะคะ”

   “อืม งั้นเรากลับกันเลยดีกว่า” พอลุกขึ้นจากเก้าอี้ เขาก็หันมาถามลูกชายอีกคำ “ว่าแต่คุณย่าล่ะ ภัทรให้คนพาท่านกลับไปรอที่บ้านแล้วหรือเปล่าลูก”

   “พอรู้ว่าเจ้าเล็กมันไม่มา ท่านก็บินกลับเชียงใหม่ทันทีเลยครับ คงจะโกรธเอาการอยู่”

   “อย่างคุณย่าเราน่ะเหรอจะโกรธ กลับไปรอที่บ้านเตรียมต้อนรับเจ้าหลานชายตัวดีตอนมันลี้ภัยไปหาน่ะสิ ตามใจกันจนเคยตัว” อนันต์ว่าอย่างรู้ทัน เพราะลูกชายคนเล็กของเขาเป็นถึงหลานคนโปรดของท่านนี่นา “ยังไงพ่อฝากภัทรจัดการที่เหลือด้วยนะ”

   “ครับคุณพ่อ”

คล้อยหลังคุณอนันต์และภรรยา ณภัทรก็หันมาหาหนุ่มหน้าสวยที่ยืนอยู่ด้านหลัง พร้อมกับเอ่ยด้วยน้ำเสียงเกรงใจ

“ขอโทษด้วยนะครับคุณไอที่พวกเราดึงคุณเข้ามา เมื่อกี้คุณคงอึดอัดมากเลย”

“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมเสียอีกที่ต้องขอโทษ เมื่อกี้ผมเสียมารยาทไปหน่อย”

“ไม่หรอกครับ ผมเข้าใจ”

“เอาเป็นว่าเราอย่ามัวมายืนขอโทษกันแบบนี้เลยนะครับ ผมว่าคุณภัทรออกไปจัดการกับกองทัพนักข่าวข้างนอกดีกว่า ส่วนผมจะได้แยกตัวไปดูให้เด็กๆ เก็บของ”

“ก็ดีเหมือนกันครับ ขอบคุณคุณไออีกครั้งนะครับ ถ้าไม่ได้คุณผมก็ไม่รู้จะทำยังไง งานนี้ผมจัดการคนเดียวไม่ได้จริงๆ” ณภัทรขอบคุณด้วยความรู้สึกจากใจจริงๆ

“มันเป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้วครับ คุณภัทรเองก็พยายามเข้านะ” กมลยิ้มให้กำลังใจ “ยังไงผมขอตัวออกไปจัดการข้างนอกก่อน” จากนั้นต่างคนต่างก็แยกกันไปทำหน้าที่ของตัวเอง








++++++++++++++++++++++++++++++++++++




มาต่อแล้วค่าาาา :hao7:
เขียนตอนนี้จบไม่รู้จะสงสารใครดีกว่ากันเลย
ทั้งพ่อแม่ พี่ภัทร คุณไอ และที่สำคัญ คุณเกษ
ไปค่ะ ไปช่วยกันล่าตัวไอ้คุณเล็ก  :fire: :fire: :fire:

มีคนอินกับเราบ้าง ทางเราก็ดีใจค่ะ
ยังไงก็ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ

เจอกันตอนหน้าค่ะ


ละอองฝน.

หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 5 [09/07/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 09-07-2016 12:14:08
 :pig4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 5 [09/07/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 09-07-2016 14:58:19
เรื่องนี้ ยังมีความต้องการพระเอกชื่อ คุณเล็กอยู่ใหม



ได้ยินเสียงพี่ไอ แว่วๆ ว่า ใสหัวมันไป 



ฮ่าๆๆๆๆๆ ไม่มีใครต้องการ คนไร้ความรับผิดชอบแล้วล่ะ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 5 [09/07/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 09-07-2016 14:59:53
ติดลบเข้าไปอีก
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 5 [09/07/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: monetacaffeine ที่ 09-07-2016 15:50:49
คุณเล็กกกกก ไปมุดหัวอยู่ไหนคะเนี่ย!
ไร้ความรับผิดชอบแบบสุดๆอ่ะ มาเปลี่ยนใจไม่แต่งเอาวินาทีสุดท้ายขนาดนี้ได้ยังไงกัน
คือถ้าจะไม่แต่งก็ไม่ว่า แต่ก็ควรจะรู้ตัวเร็วซักหน่อยไหม ไม่ใช่แบบพอถึงวันงานไม่โผล่หน้ามา แบบนี้สงสารคุณเกษตายเลย
ไหนจะหน้าตา ชื่อเสียง แวดวงสังคมอีก จะต้องถูกนินทาขนาดไหนที่อยู่ๆงานแต่งยกเลิกกระทันหัน
แถมยังได้เห็นธาตุแท้ของพ่อตัวเองไปอีก งานนี้สงสารคุณเกษสุดเลยค่ะ ผู้หญิงดีๆแบบนี้ไม่น่าต้องมาเจอผู้ชายเลวๆเลย
ไม่น่าต้องถูกใช้เป็นเครื่องมือด้วย ใจจริงก็อยากให้เธอลงเอยกับพี่ภัทร(ผู้แสนดี TT)นะคะ แต่ก็ไม่อยากให้พ่อชั่วได้ผลประโยชน์ไปอยู่ดี

ส่วนของคุณไองานนี้คงติดลบไปเป็นล้าน ยังจินตนาการไม่ออกเลยค่ะว่าจะกลับมารักกันได้ยังไง
เป็นเรานะ เกลียดคนแบบนี้มากกกกกกกกกก ยิ่งทำให้เจ้าสาวดีๆแบบคุณเกษต้องเศร้านี่เรายังเคืองอ่ะ 5555555555
รอติดตามค่ะ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 5 [09/07/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 09-07-2016 16:13:31
เอาจริง ๆ เราก็แอบคิดอยู่ก่อนหน้านี้ละ ว่าถ้าให้คุณเกษแต่งงานกับคุณภัทรน่าจะพอเข้ากันได้
ประมาณว่าชีวิตหลังแต่งงานน่าจะมีความสุขและราบรื่นกว่าแต่งงานกับคุณเล็ก
แต่ในเมื่อพ่อคุณเกษแสดงจุดยืนเสียขนาดนั้นว่าที่ให้ลูกสาวแต่งเข้าตระกูลนี้เพราะหวังผลประโยชน์ คุณเกษคงรู้สึกแย่น่าดู เพราะนอกจากพ่อแม่จะบอกให้แต่งกับคุณเล็กที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน (อ้างว่าอยู่ไปก็รักกันเอง หรือเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้) แต่พอมีเรื่องยังจะให้เปลี่ยนตัวเจ้าบ่าวแบบไม่คิดถึงจิตใจลูกอีก ก็เหลือรับจริงน่ะล่ะ (แต่สงสัยอยู่นิดหน่อยว่าคุณเกษไม่คิดชอบคุณภัทรเลยเหรอ ในสายตาเราคุณภัทรดูน่าอยู่ด้วยมากกว่าคุณเล็กนะ) จริง ๆ ถ้าคุณเกษมั่นใจในตัวเองและคิดถึงอนาคตของตัวเองล่ะก็ น่าจะยกเลิกงานแต่งตั้งแต่ตอนเตรียมงานแล้วล่ะ ขนาดยังไม่ได้แต่ง ว่าที่เจ้าบ่าวยังไม่ใยดี แต่งไปแล้วจะเหลือเหรอ แล้วอนาคตชีวิตคู่จะเป็นยังไง จะว่าไปงานแต่งงานล่มเสียก็ดีนะ ไม่งั้นคุณเกษจะน่าสงสารมากกว่านี้แน่
ทีนี้มาฝั่งบ้านคุณเล็ก ที่พ่อคุณเล็กบอกว่าตัวเองก็ผิดเหมือนกันที่มีส่วนให้เกิดงานนี้ขึ้นมาอ่านแล้วรู้สึกว่า อืม พ่อคุณเล็กก็เป็นคนมีเหตุผลนี่ แต่เรื่องการเลี้ยงดูอบรมหรือใช้เหตุผลกับลูกไหมนี่ต้องดูอีกที เรื่องพ่อแม่ผิดนี่เห็นด้วยเต็มประตู เพราะเห็นละว่าบังคับกันเสียจริง ๆ ไม่คิดถึงจิตใจคุณเกษ (ผู้ต้องรับกรรมกับสามีนิสัยอย่างคุณเล็ก) เลย เอาแต่คิดว่าจะหาภรรยามาผูกคุณเล็กให้อยู่ติดบ้าน... คิดว่าจะทำได้หรือ ถ้าไอ้คุณเล็กมันไม่ยอมหยุด นิสัยลูกตัวเองก็รู้อยู่ แถมตอนเตรียมงานก็เห็นอยู่ว่าไม่สนใจ ก็ยังดึงดัน (นี่ไม่ได้เข้าข้างคุณเล็กนะ คนนั้นน่ะก็กำลังรอจังหวะจะด่าอยู่ ฮา)
จริง ๆ เรื่องนี้จะโทษใครก็พูดได้ไม่เต็มปากนักหรอก (เพราะมันน่าจะต้องเท้าความกันไปตั้งแต่... เลี้ยงลูกมายังไงให้เป็นคนแบบนี้) ทุกคนมีส่วนผลักดันให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นทั้งนั้น
ส่วนคุณเล็ก... คนนี้ถ้าพูดอาจจะยาว เรื่องลงลึกเอาไว้คราวหลัง (ถ้ามีฟีลลิ่ง) คงต้องรอตอนต่อไปว่าทำไมไม่ไปงานแต่ง จงใจหรือไม่ตั้งใจ แต่เราคิดว่าไม่น่าจะจงใจไม่ไปนะ อาจจะลุกไม่ขึ้น หรืออะไร (ที่จริงตามหน้าที่ความรับผิดชอบต้องไม่ออกไปดื่มแล้ว เพราะควรรู้ตัวว่าวันรุ่งขึ้นมีงานสำคัญ แถมคบเพื่อนแต่ละคนนี่ก็ดี ๆ ทั้งน้าน~ ) ต้องดูก่อนว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุณเล็ก แล้วค่อยด่า ฮา
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 5 [09/07/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: kyungploy ที่ 09-07-2016 16:35:41
ไอ้คุณเล็กนี่มันตัววุ่นวายจริงๆ  :fire:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 5 [09/07/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: Veesi3 ที่ 09-07-2016 19:27:00
อิคุณเล็กกกกกกก ไปอยู่หนายยยย
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 5 [09/07/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: dear77 ที่ 09-07-2016 23:30:09
 :m31:  คุณเล็กหาย ภาษาสวยเหมือนเดิม ตามมาจากเรื่องโปรดจงรักค่ะ

เป็นกำลังใจให้ผู้เขียนเสมอ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 6 [12/07/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: ละอองฝน ที่ 12-07-2016 11:51:50



คุณคือความรัก บทที่ 6






   ณธิปนอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียงหลังกว้าง เขาหลับเป็นตายจนกระทั่งรู้สึกหนาวจากความเย็นของเครื่องปรับอากาศที่ปะทะเข้ากับแผ่นหลังเปลือยเปล่าซึ่งโผล่พ้นผ้าห่มผืนโตออกมา และได้ยินเสียงน้ำจากฝักบัว ชายหนุ่มจึงค่อยๆ ลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ



   เขารู้สึกวิงเวียนและปวดหัวจนแทบระเบิด มิหนำซ้ำยังอยากอาเจียนมากหากแต่ยังลุกขึ้นไม่ไหว แค่ผงกหัวขึ้นมามองบรรยากาศรอบๆ ตัวได้ครู่เดียวก็ต้องฟุบลงไปบนหมอนใหม่ มองจากผ้าม่านที่ถูกเปิดทิ้งเอาไว้เขาเห็นว่าท้องฟ้ายังคงมืดครึ้ม ชายหนุ่มคะเนว่ามันคงเป็นยามรุ่งสางจึงไม่นึกเร่งรีบมากนัก เขารอจนกระทั่งคู่นอนอาบน้ำเสร็จเรียบร้อย จากนั้นค่อยลุกเดินโซเซผ่านเธอเพื่อเข้าห้องน้ำไป



   กับขาประจำที่มักเจอกันและมาจบลงบนเตียงบ่อยๆ ชายหนุ่มจะไม่ค่อยเสียเวลาพูดอะไรมากนัก เพราะรู้อยู่แล้วว่าต่างฝ่ายต่างก็ได้ผลประโยชน์ร่วมกันทั้งคู่ อย่างดาราสาวสวยที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จนั่นชื่อวิเวียน เธอมักเจอกับณธิปเสมอเวลาที่เขาไปปาร์ตี้ของพิเชษฐ์ ณธิปไม่ได้คบกับเธออย่างจริงจัง เธอเองก็ไม่ได้ต้องการความสัมพันธ์ที่เป็นเครื่องผูกมัดใดๆ สิ่งที่เธอต้องการมีแค่พื้นที่บนหน้าสื่อสำหรับข่าวซุบซิบเล็กๆ น้อยๆ ถึงความสัมพันธ์ลับๆ กับไฮโซคนดัง รวมถึงตัวเลขที่เพิ่มขึ้นในบัญชีหลังจากทุกอย่างผ่านพ้นไป ซึ่งถือเป็นเรื่องง่ายๆ ที่ณธิปสามารถตอบแทนเธอได้ ซ้ำยังมากกว่าหลายคนที่เธอเคยเจอด้วยซ้ำ บางทีเบื้องหลังวงการบันเทิงก็เป็นเช่นนี้ ดาราหลายคนพร้อมทำทุกอย่างเพื่อความอยู่รอดของตัวเอง



   เมื่ออาบน้ำไล่ความรู้สึกไม่สบายตัวออกไปจนหมด ณธิปก็กลับออกมาควานหาโทรศัพท์มือถือของตัวเอง เขาคิดว่าตอนนี้อาจมีคนโทรเข้าจนแบตเตอรี่ใกล้หมดแล้วก็ได้ ทว่าเดินหาเท่าไหร่ก็ไม่พบ



   “วิเวียน”

   “คะคุณเล็ก” หญิงสาวตอบรับขณะปัดแก้มให้ตัวเองอยู่หน้ากระจก

   “คุณเห็นมือถือผมไหม”

   “นี่คุณจำไม่ได้เหรอคะคุณเล็ก” วิเวียนเลิกคิ้วขึ้นอย่างไม่อยากเชื่อ

“ก็จำไม่ได้น่ะสิ ตกลงว่าเห็นไหม” ชายหนุ่มถามเสียงหงุดหงิด เขาอยากโทรบอกพี่ชายว่าอาจไปช้าสักหน่อย

“เห็นสิคะ” เธอว่าพลางกลั้วหัวเราะ

“อยู่ไหน”

“อยู่ในสระว่ายน้ำที่บ้านคุณเชษฐ์ค่ะ” เธอตอบ

“อะไรนะ! สระว่ายน้ำบ้านไอ้เชษฐ์” ชายหนุ่มถามซ้ำอย่างไม่เชื่อหู

“ค่ะ อยู่ในสระว่ายน้ำ ก็เมื่อคืนคุณเล็กเป็นคนโยนทิ้งลงไปเองนี่คะ ตอนที่มีคนโทรตาม แถมยังบอกอีกว่าไม่แต่งแล้ว เมื่อเช้าวิเลยไม่ได้ปลุกคุณ เพราะคิดว่าคุณพูดจริง แต่เอาจริงๆ วิเองก็เพิ่งตื่นเมื่อก่อนหัวค่ำนิดเดียวเองค่ะ หิวจะแย่แล้วเนี่ย แต่ค่ำนี้วิคงไม่ไปทานข้าวกับคุณนะคะ ไม่อยากเป็นข่าวนี้เท่าไหร่ กลัวคุณหนูเกษอะไรนั่นจะให้พ่อนักการเมืองมาเฉ่งวิ” ดาราสาวเล่าอย่างไม่ทุกข์ไม่ร้อน ราวกับเคยชินกับพฤติกรรมเหลวแหลกของณธิปมาหลายต่อหลายครั้ง แต่เธอไม่ได้สังเกตเลยว่าคนที่ยืนอยู่ด้านหลังตอนนี้นิ่งงันจนผิดปรกติ พอหันมามองอีกทีก็เห็นใบหน้าเขียวคล้ำของไฮโซหนุ่มเสียแล้ว


   “เดี๋ยวๆ นี่คุณพูดอะไรน่ะ หมายความว่าไงกัน” ชายหนุ่มถามอย่างจับต้นชนปลายไม่ถูก

   “คุณเล็กจะให้วิเริ่มเล่าใหม่หรือเปล่าคะ”

   “อย่ามาเล่นลิ้นนะ!” พอถูกตะคอกเสียงดังและเห็นว่าณธิปไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะล้อเล่นด้วยได้อีกแล้ว วิเวียนจึงพอจะเดาอะไรได้ลางๆ

   “นี่อย่าบอกนะคะว่าคุณเล็กไม่ได้ตั้งใจจะไม่ไปงานแต่งอย่างที่ประกาศไว้เมื่อคืน” เธอวางอุปกรณ์แต่งหน้าในมือแล้วหันมามองเขาให้เต็มตา

   “ก็ใช่น่ะสิ”

   “แล้วจะทำไงล่ะคะ นี่จะสามทุ่มแล้วนะ ที่งานคงยกเลิกกันไปหมดแล้วด้วย เพื่อนวิส่งข่าวมาให้ดูกันเต็มไปหมดตั้งแต่บ่ายๆ แล้ว”




เมื่อได้ฟังความที่วิเวียนบอก ณธิปก็ตกอยู่ในภาวะไม่รู้ต้องทำอย่างไรไปชั่วครู่ ก่อนจะเห็นภาพคนในครอบครัวกำลังวุ่นวายและเดือดดาลเพราะเขาไม่ไปที่งานแต่งผุดขึ้นมาในสมอง เขาเดินวนไปวนมาอยู่ในห้อง คิ้วขมวดมุ่นอย่างเครียดขึง พยายามคิดหาข้อแก้ตัวไม่ออกว่าเพราะอะไรจึงไม่ไปร่วมงานแต่งของตนเอง



   “ตายล่ะ” ชายหนุ่มคราง “คุณพ่อต้องโมโหสุดๆ แน่”

   “งั้นรีบแต่งตัวดีไหมคะคุณเล็ก เผื่อจะทัน” วิเวียนพูดในสิ่งที่รู้ว่าเป็นไปไม่ได้ออกมาเพราะเธอไม่เคยเห็นณธิปร้อนรนขนาดนี้จึงนึกกลัวขึ้นมาด้วย เธอไม่ได้กลัวที่จะเป็นข่าว แต่เนื่องจากเรื่องนี้มีบุคคลที่มีอิทธิพลเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยหลายคน และดูท่าว่าณธิปเองก็อาจช่วยอะไรเธอไม่ได้ เธอจึงต้องรีบช่วยหาวิธีก่อนดีดตัวออกห่างปัญหาให้มากที่สุด

   “เมื่อกี้วิเพิ่งบอกไม่ใช่เหรอว่าจะสามทุ่มแล้ว มันจะไปทันได้ยังไงล่ะ แต่รีบแต่งตัวก็ดี ยังไงคืนนี้ก็ต้องกลับไปรับหน้าคุณพ่อคุณแม่อีก” เอ่ยออกมาถึงตรงนี้ณธิปก็นึกถึงอดีตว่าที่เจ้าสาวของตัวเองที่คงโกรธเขาไม่แพ้ใคร ไม่แน่อาจกลายเป็นเกลียดไปแล้วก็ได้ แม้เขาจะไม่ได้รักเธอ แต่จิตสำนึกในทางดีส่วนหนึ่งก็ต้องยอมรับว่ารู้สึกผิดกับเธออยู่เหมือนกัน

   “วิจะเสร็จแล้ว คุณเล็กนั่นแหละค่ะรีบแต่งตัวเข้า”

   “อืม” เมื่อตอบรับแล้วชายหนุ่มก็เดินไปห้องแต่งตัวที่อยู่ติดกัน



   คอนโดแห่งนี้สร้างขึ้นมาได้สองสามปีแล้ว แต่สภาพห้องยังใหม่เพราะไม่เคยผ่านการใช้งาน ข้าวของภายในห้องเป็นเฟอร์นิเจอร์ใหม่ทั้งหมด เพราะเพื่อนที่เป็นเจ้าของเดิมซื้อที่นี่ไว้และตกแต่งใหม่เพื่อขายเก็งกำไร ณธิปเพิ่งตกลงซื้อคอนโดแห่งนี้มาได้ไม่ถึงสองอาทิตย์ และทำเรื่องโอนไปเมื่อไม่กี่วันก่อน เนื่องจากคอนโดที่เขาเคยอยู่แห่งเดิมได้ยกให้หนึ่งนทีไปแล้ว อีกทั้งณธิปก็ไม่สะดวกจะกลับไปอยู่บ้านในช่วงนี้ เพราะอยากหลบเลี่ยงคุณแม่ที่คอยจ้องแต่จะให้พาเกษสุดาไปโน้นมานี่ ถึงแม้ก่อนหน้าที่จะมีเรื่องแต่งงานเข้ามาเขาจะมีคอนโดอยู่แล้วก็ตาม หากตอนนั้นก็ยังกลับไปนอนบ้านตลอด



   ที่สำคัญคือยังไม่มีใครรู้ว่าณธิปใช้เงินส่วนตัวซื้อคอนโดแห่งนี้ ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ไม่มีใครตามหาตัวเขาเจอ ถ้าเขายังอยู่ที่เดิมล่ะก็ ป่านนี้เขาคงกำลังทำพิธีอยู่ในงานแต่งของตัวเองแล้ว เพราะคนของพ่อและพี่ชายจะรู้เสมอว่าเขาไปพักที่ไหน



   ใช้เวลาไม่นานณธิปก็แต่งตัวเสร็จ เขามองความเรียบร้อยของตัวเองอยู่หน้ากระจกครู่หนึ่ง มองสีหน้าไม่สู้ดีของตนเองซึ่งไม่ค่อยแสดงออกมาบ่อยนักแล้วถอนหายใจ เขาไม่นึกเลยว่าทุกอย่างจะจบลงแบบนี้ แม้จะโล่งใจที่สุดท้ายก็ไม่ต้องแต่งงาน หากก็ไม่รู้ว่าอนาคตข้างหน้าเขาต้องเจอกับบทลงโทษอะไรบ้าง













   กมลยืนมองเวทีกลางที่คนงานค่อยๆ เก็บของลง มองโต๊ะ เก้าอี้ ไฟประดับและดอกไม้สวยงามที่เจ้าสาวร่วมมือกับทีมงานออกแบบถูกทยอยขนย้ายออกไปโดยที่ยังไม่ทันได้อวดโฉมแล้วรู้สึกปวดหน่วงในใจ นี่เป็นงานแต่งครั้งแรกภายใต้การจัดการของเขาที่ไม่ประสบความสำเร็จราบรื่นเหมือนทุกครา และเหตุผลที่มันล่มไม่เป็นท่าก็ยิ่งทำให้รู้สึกแย่เข้าไปใหญ่



   หลายครั้งที่จัดงานแต่งให้คู่บ่าวสาว ไม่ว่าจะด้วยกรณีใด พระเอก-นางเอกของงานจะรักกัน หรือถูกบังคับให้แต่งงานกัน สุดท้ายมันก็จะจบลงด้วยความชื่นมื่นเสมอ ไม่เคยมีครั้งไหนที่เขาต้องทำงานด้วยความลำบากใจและรู้สึกเห็นใจฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเท่านี้มาก่อน ยิ่งครั้งนี้กมลถูกดึงเข้าไปเกี่ยวและรับรู้เรื่องราวหลายอย่างด้วยตัวเองอย่างไม่ได้ตั้งใจ ความรู้สึกเห็นอกเห็นใจในว่าที่เจ้าสาวที่ต้องแบกรับทุกอย่างไว้เพียงลำพังก็ยิ่งมีมาก เขาไม่เคยรู้สึกสงสารเจ้าสาวคนไหนมาก่อนเลย แต่ครั้งนี้เขารู้สึกสงสารเกษสุดาจับใจ ทั้งยังสงสารพ่อแม่ของณธิปด้วยที่ลูกชายเหลวไหลและทำให้ต้องเสียใจขนาดนี้ แม้จะรู้ว่าพวกท่านเป็นผู้บังคับ แต่ทั้งหมดคงเต็มไปด้วยความหวังดี ไม่เหมือนกับฝ่ายเจ้าสาวที่ดูท่าว่าจะต้องเสียใจซ้ำซ้อนหลายเรื่อง



   “คุณไอคะ” พนักงานสูงวัยจาก I promise เรียกให้กมลหลุดจากภวังค์ความคิดของตนเอง

   “ว่าไงครับพี่รวี”

   “ทางนี้ไม่น่ามีอะไรแล้วนะคะ พี่ว่าคุณไอกลับไปพักผ่อนเถอะค่ะ” เธอเอ่ยด้วยความปรารถนาดี เนื่องจากเห็นสีหน้าของผู้เป็นนายไม่ดีตั้งแต่เมื่อบ่าย



   รวีเป็นพนักงานที่ทำงานที่ I promise Tower มาตั้งแต่สมัยที่พ่อกับแม่ของกมลยังอยู่ เธอจึงเป็นเหมือนกับมือซ้าย เป็นคนสำคัญมากๆ สำหรับกมลอีกคน



   “ไม่เป็นไรครับ ผมว่าจะอยู่ดูความเรียบร้อยอีกสักหน่อย” เขายิ้มบางก่อนก้มมองนาฬิกาแล้วพบว่าตอนนี้เพิ่งสองทุ่มตรง คิดว่าแม้กลับบ้านตอนนี้เขาก็คงยังนอนไม่หลับ

   “แต่สีหน้าคุณไอดูเหนื่อยๆ นะคะ คุณไอแทบไม่ได้พักตั้งแต่เมื่อวาน แถมยังมีเรื่องวุ่นๆ อีก พวกเราทุกคนเป็นห่วงค่ะ กลัวว่าคุณไอจะไม่สบาย” ไม่ใช่แค่เธอคนเดียว แต่พนักงานทุกคนก็รับรู้ได้ว่าเจ้านายผู้แสนดีของตนเองนั้นต้องรับมือกับอะไร พนักงานตัวเล็กๆ มีกันหลายคน เวลาเหนื่อยก็ยังผลัดกันไปพักได้ แต่ผู้บริหารอย่างคุณไอมีแค่คนเดียว ไม่แปลกที่เจ้าตัวจะต้องรับบทหนักที่สุด ยิ่งเป็นคนทุ่มเทกับงานมากๆ ด้วยแล้ว ไม่ต้องรอดูผลลัพธ์ก็สามารถมารู้ล่วงหน้าได้เลยด้วยซ้ำ

   “แต่ว่าผม…”

   “นะคะ เชื่อพี่สักครั้ง ทุกคนจะได้สบายใจด้วยค่ะ” เธอว่าด้วยน้ำเสียงเอ็นดูแกมของร้อง สุดท้ายกมลจึงใจอ่อนและยอมกลับไปพักอย่างที่เธอขอ

   “ก็ได้ครับ แต่พวกเราก็กลับกันไม่เกินสามทุ่มนะ ที่เหลือค่อยมาจัดการต่อวันพรุ่งนี้ ส่วนพนักงานของทางโรงแรมที่คุณภัทรให้มาช่วย เขาจะเป็นคนขนย้ายของหนักให้เองครับ เรื่องทำความสะอาดสถานที่ก็ด้วย พรุ่งนี้เก็บของกันเรียบร้อยก็ไปแจ้งเขาทีนะครับ เพราะผมคงไม่ได้เข้ามาที่นี่แล้ว” จบจากงานที่นี่กมลยังมีคิวไปดูแลงานที่สุพรรณบุรีอีกในวันมะรืน ดังนั้นวันพรุ่งนี้เขาจึงต้องประชุมความพร้อมกับอีกทีมที่ออฟฟิศ

   “ได้ค่ะ คุณไอไม่ต้องห่วง พี่จะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย ไม่ให้เสียชื่อบริษัทเราแน่ๆ ค่ะ” เธอยืนยันหนักแน่น

   “ผมรู้ครับ ขอบคุณนะครับพี่รพี” เขายิ้มให้เธออีกครั้ง ก่อนขึ้นไปเก็บกระเป๋าบนห้องที่นอนเมื่อคืน จากนั้นจึงไปที่รถแล้วขับกลับที่พัก





V
V
V
V
V
(อ่านต่อด้านล่างค่ะ)
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 6 [12/07/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: ละอองฝน ที่ 12-07-2016 12:03:25








   ตอนแรกกมลตั้งใจว่าจะขับไปนอนที่บ้าน แต่เมื่อคิดดูอีกที ชายหนุ่มก็ตัดสินใจเลี้ยวไปทางคอนโดส่วนตัวที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากโรงแรมเท่าไหร่ ด้วยเพราะตอนนี้เขารู้สึกแย่จึงไม่อยากเอาความเครียดไปฝากคนที่บ้าน เพราะกมลรู้ว่าน้องสาวของเขาคงจะพลอยคิดมากไปด้วย



   จะว่าไปมันก็เป็นความผิดของเขาเองที่เอาความรู้สึกของตัวเองไปผูกกับงานของลูกค้ามากเกินไป หลายครั้งเคยมีผู้หวังดีเตือนเขาว่าไม่ควรคิดเรื่องพวกนี้ให้มากความ เรื่องรักๆ ใคร่ๆ ที่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรา หน้าที่ของเราแค่ช่วยเขาจัดงานเท่านั้น แต่กมลก็ทำไม่ค่อยได้สักที



   กมลระลึกอยู่เสมอว่าทำงานนี้เพราะเขารัก เขาชอบมองความรักและความสุขสมหวังของคนอื่น ชอบที่จะเป็นคนช่วยเพิ่มความสุขให้คู่บ่าวสาวที่จะเริ่มใช้ชีวิตด้วยกัน



   แม่ของเขาเคยบอกว่า การแต่งงานคือจุดเริ่มต้นของชีวิตคู่ ดังนั้นแม่กับพ่อจึงเริ่มทำงานนี้เพราะอยากเป็นคนช่วยสร้างความทรงจำแรกเริ่มของชีวิตคู่ให้กับคนอื่นๆ ถ้าเราทำได้ดี ก็เหมือนเป็นการอวยพรที่ดี และกมลเองก็เห็นด้วยกับสิ่งที่แม่บอก ดังนั้นเขาจึงใส่ความรู้สึกของตัวเองไปกับงานอย่างเต็มที่ เมื่อมันจบดีเขาก็รู้สึกดี แต่พอเกิดเรื่องแบบนี้ กมลจึงพลอยรู้สึกแย่มากๆ ไปด้วย



   ขับรถออกมาสักพักชายหนุ่มหน้าสวยก็พบว่าการจราจรบนถนนติดขัดเล็กน้อยเพราะเป็นพื้นที่ใจกลางเมือง ดังนั้นกมลจึงใช้ช่วงเวลานี้โทรไปหาน้องสาวเพื่อบอกกับเธอว่าคืนนี้ไม่กลับบ้าน



   ‘พี่ไอโอเคไหมคะ’ เมื่อได้ยินเสียงเขา น้องสาวผู้น่ารักก็ส่งเสียงถามด้วยความเป็นห่วงทันที

   “โอเคสิ ทำไมจะไม่โอเคล่ะ” แม้จะบอกอย่างนั้น แต่ชายหนุ่มก็ปั้นน้ำเสียงสดใสไม่ได้อีกแล้ว

   ‘อย่าคิดมากเรื่องงานวันนี้นะคะ พี่ไอทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีที่สุดแล้ว แม้ว่างานมันจะไม่เกิดขึ้น แต่ทางคุณเกษต้องรับรู้ถึงความตั้งใจของเรานะคะ’

“พี่รู้ ก็เพราะเธอขอบคุณพี่เสมอเลยนี่นา” เธอขอบคุณและขอโทษเขาบ่อยครั้ง จนบางทีกมลยังคิดว่ามันมากเกินไปเสียด้วยซ้ำ

‘ถ้างั้นพี่ไอก็อย่าคิดมากนะ เรื่องที่เกิดเราควบคุมไม่ได้สักหน่อย อ้ายเป็นห่วงพี่ไอนะคะ’

“นอนพักเต็มอิ่มคืนนึง วันพรุ่งนี้พี่ก็ตื่นมาอารมณ์ดีเหมือนเดิม อ้ายไม่ต้องห่วง เราเองก็ปิดบ้านดีๆ ฝากฝันดีเจ้าตัวเล็กสองคนแทนพี่ด้วย”

‘ไม่ต้องฝากหรอกค่ะ พี่ไอพูดเองเลยดีกว่า นี่นั่งตาแป๋วรอคุยกับคุณลุงตั้งแต่เมื่อกี้แล้วค่ะ’ พูดจบปลายสายก็เปิดลำโพงให้เจ้าสองแสบได้คุยด้วย

“ไหนมีใครคิดถึงลุงไอบ้างไหมนะ” กมลกรอกเสียงไปตามสาย เพียงครู่เดียวเท่านั้นหลานฝาแฝดก็รีบแย่งกันตอบจนแทบฟังไม่ได้ศัพท์

‘หยางคิดถึง~~~’ หลานคนเล็กของกมลรีบส่งเสียงตอบทันที ก่อนตามด้วยเจ้าคนโตที่มักยอมให้น้องออกตัวก่อนเสมอ

‘หยินด้วยครับ คิดถึงลุงไอมากๆ เลย’

“ฮ้า~~ ชื่นใจจังเลย” คำว่าคิดถึงของสองแสบทำให้กมลรู้สึกดีขึ้นมามากทีเดียว

‘ลุงไอคิดถึงหยางกับพี่หยินไหม’ หยางรีบอ้อนตามสไตล์

“คิดถึงสิครับ”

‘แล้วเมื่อไหร่ลุงไอจะกลับครับ’ เจ้าหยินจึงถามบ้าง เพราะไม่ได้เจอคุณลุงแค่วันสองวันก็รู้สึกคิดถึงแล้ว เนื่องจากทุกวันจะเจอกันตลอด

“เดี๋ยวพรุ่งนี้ลุงก็กลับแล้ว ไปรับที่โรงเรียนด้วยดีไหม”

‘ดีครับๆ พาไปกินไอศกรีมด้วยนะครับ’ เป็นแฝดน้องคนเดิมที่รีบยื่นขึ้นเสนอจนคนเป็นลุงนึกขำ

“ได้สิครับ แต่คืนนี้ต้องรีบนอนนะครับ ลุงจะให้แม่อ้ายดูเด็กๆ ถ้าใครดื้อแล้วแม่อ้ายมาฟ้อง ลุงจะไม่พาไปกินไอศกรีมนะ”

‘หยางไม่ดื้อ พี่หยินก็ไม่ดื้อด้วย จริงไหมพี่หยิน’

‘ใช่ๆ พวกเราจะไม่ดื้อครับ’ เมื่อเห็นว่าจะได้ทานของอร่อย ไม่ว่าอะไรหยินก็เห็นด้วยกับหยางทั้งนั้น

“ดีมาก งั้นเดี๋ยวลุงขับรถก่อน พวกหนูเตรียมเข้านอนกันได้แล้วนะครับ” กมลสังเกตว่ารถเริ่มเคลื่อนตัวแล้ว ดังนั้นจึงบอกวางสายก่อน

‘คร้าบ/ครับ’







ไม่นานหลังจากนั้นกมลก็มาถึงคอนโดของตัวเอง เขาจอดรถเอาไว้ในที่ประจำก่อนหิ้วกระเป๋าลงมาเจอฝนหลงฤดู ฝนหนักเม็ดขึ้นตอนที่เขาวิ่งมาถึงทางเข้าพอดี



กมลเดินผ่านส่วนรักษาความปลอดภัยเข้ามาด้านใน ก่อนกดลิฟต์แล้วยืนรอ เขาเพิ่งรู้สึกเหนื่อยจริงๆ ก็ตอนที่เห็นใบหน้าอันอ่อนล้าของตัวเองตรงเงาสะท้อนของประตูลิฟต์ เขาจึงคิดว่าถ้าถึงห้องแล้วจะกระโดดขึ้นเตียงเลยหรือว่าแช่น้ำในอ่างก่อนกันดีนะ



ทว่าขณะที่กำลังคิดเกี่ยวกับตัวเองอยู่นั้น เสียงสัญญาณว่าลิฟต์ลงมาถึงแล้วก็ดังขึ้น พร้อมกับประตูที่ค่อยๆ แยกออกจากกัน และเมื่อกมลเงยหน้าขึ้นมอง เขาก็พบกับคนบางคนที่ใครๆ ต่างก็ตามหากันมาทั้งวัน



“คุณณธิป”

“คุณไอ” ณธิปเองก็มีสีหน้าตื่นเล็กน้อยตอนเห็นว่าใครรออยู่ตรงหน้า ก่อนเขาจะเดินออกมาด้านนอกพร้อมกับสาวสวยคนหนึ่ง “ไม่คิดว่าจะเจอคุณที่นี่”

“ผมก็ไม่คิดว่าจะได้เจอคุณที่นี่เหมือนกัน” กมลเอ่ยขึ้นเมื่อณธิปออกมายืนประจันหน้าใกล้ๆ

“ก็แหงสิ เพราะตลอดทั้งวันมานี้ผมเพิ่งเจอคุณคนแรก นี่บอกหน่อยว่าคุณทำได้ยังไง หาตัวผมเจอได้ยังไงกัน” คนรูปหล่อถามด้วยความรู้สึกประหลาดใจจริงๆ แต่กมลกลับมองว่ามันดูกวนประสาทเสียเหลือเกิน

“ผมไม่ได้มาหาคุณ มันแค่บังเอิญ” กมลตอบตามจริง

“งั้นแปลว่าคุณอยู่ที่คอนโดนี้เหรอ” กมลไม่ยอมตอบแต่ก็ไม่ปฏิเสธ ณธิปจึงสรุปเอาเองว่าใช่ “งั้นต่อไปเราก็เป็นเพื่อนบ้านกันแล้วสิ”

“…”

“ว่าแต่คุณเพิ่งมาจากงานแต่งหรือเปล่า ที่นั่นเป็นไงบ้าง คุณพ่อกับคุณแม่ของผมยังอยู่ที่งานไหม” ณธิปถามขึ้น เพราะคิดว่าถ้าท่านไม่อยู่ที่นั่นแล้วจะได้ขับรถกลับบ้านทีเดียว

“ท่านกลับบ้านไปแล้วครับ” กมลตอบด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง บรรยากาศรอบกายดูคล้ายจะเยียบเย็นขึ้น

“อืม ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อน” แต่ขณะที่ณธิปกำลังจะเดินจากไป หนุ่มหน้าสวยกลับพลั้งปากถามบางอย่างขึ้นมา ทั้งที่รู้ว่าไม่ควร แต่คำพูดกลับไวกว่าความคิด และคำถามนั้นก็ทำให้ณธิปต้องหันกลับมามองกมลอย่างพิจารณาใหม่อีกรอบ

“คุณไม่คิดจะถามถึงคุณเกษบ้างเหรอ”

“ทำไมผมต้องถามถึงด้วยล่ะ ป่านนี้เธอเองคงกลับบ้านไปแล้วเหมือนกัน ก็ที่งานไม่มีเจ้าบ่าวให้เธอนี่นา” แม้คำพูดที่ณธิปเอ่ยออกมาจะเป็นความจริง แต่มันกลับทำให้กมลรู้สึกถึงความโกรธกรุ่นที่ปะทุอยู่ในใจ

“คุณมีหัวใจบ้างหรือเปล่า ทำไมพูดแบบนั้นออกมาได้หน้าตาเฉย”

“ก็ผมพูดเรื่องจริง ที่นั่นไม่มีเจ้าบ่าวให้เกษสุดา แต่คุณไม่ต้องโกรธแทนเธอหรอกนะ เพราะอีกไม่นานพ่อของเธอคงแก้หน้าด้วยการหาเจ้าบ่าวคนใหม่ให้เองนั่นแหละ”

คุณนี่มัน!...



สิ้นคำนั้นหมัดขวาของหนุ่มหน้าสวยก็พุ่งเข้าปะทะปลายคางของหนุ่มหล่อไฮโซอย่างจัง จนร่างของเขาเซไปตามแรง โชคยังดีที่วิเวียนคล้องแขนของเขาไว้ตั้งแต่แรก เธอจึงช่วยพยุงไม่ให้ณธิปล้มลงไปกองกับพื้น



“กรี๊ด!!!”

“ไอ! คุณมีสิทธิ์อะไรมาทำร้ายผม…” ณธิปหันกลับมาด้วยใบหน้าบอบช้ำ ภายในช่องปากรู้สึกได้ถึงรสชาติเค็มปร่าของเลือด

“คนอย่างคุณเองก็ไม่มีสิทธิ์พูดถึงคุณเกษหรือคุณพ่อของเธอแบบนั้นเหมือนกัน จำเอาไว้ว่าอย่าได้ไปทำพฤติกรรมไร้ความรับผิดชอบอย่างนี้กับใครอีก”



แม้ว่าณธิปจะรู้สึกโมโห แต่ก็อึ้งกับการกระทำของคนตรงหน้าเหมือนกัน เขาไม่เคยคิดว่าคนที่ดูท่าทางยิ้มๆ ใจดี ไร้พิษภัยอย่างกมลจะกล้าลงมือกับคนอื่นเช่นนี้ ทั้งที่เรื่องทั้งหมดไม่ได้เกี่ยวข้องกับตัวเองสักนิด เขาไม่เข้าใจว่าทำไมกมลต้องมาแค้นเคืองแทนคนอื่นด้วย



“แกทำอะไรลงไป รู้ไหมว่าเขาเป็นใคร” วิเวียนถลึงตาใส่หนุ่มหน้าสวย ก่อนหันมาช่วยซับเลือดให้ณธิป “วิจะเรียกรปภ.ให้นะคะคุณเล็ก”

“ไม่ต้อง” ตอนณธิปปฏิเสธเป็นเวลาเดียวกับที่ผู้รักษาความปลอดภัยของคอนโดเข้ามาพอดี

“เกิดเรื่องอะไรกันขึ้นครับคุณ” ผู้รักษาความปลอดภัยถาม

“ไม่มีอะไร เราแค่เข้าใจผิดกันนิดหน่อย” ณธิปบอก ก่อนเงยหน้าขึ้นถามความเห็นกมล “จริงไหมคุณไอ”

“…” และกมลก็ได้แต่มองกลับไปด้วยสายตาเย็นชา จากนั้นจึงกดลิฟต์ก่อนเข้าไปข้างในทันที ทิ้งให้คนที่เพิ่งมางงงวยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก

“ตกลงว่าไม่มีอะไรนะครับ” ผู้รักษาความปลอดภัยถามณธิปอีกครั้ง

“ไม่ครับ” ชายหนุ่มยังยืนยันคำเดิม คนในเครื่องแบบจึงกลับไปนั่งประจำที่ของตนเหมือนเก่า

“แต่คุณเล็กคะ วิว่า…”

“ผมบอกว่าไม่มีอะไรไงวิ” แม้จะถูกวิเวียนแย้ง แต่ยังณธิปก็ไม่ยอมเอาเรื่องตามที่เธอเห็นควร ทั้งที่ถ้าเป็นปรกติ ป่านนี้เขาคงจัดการสวนกลับไปเองแล้วด้วยซ้ำ หากตอนนี้เขากลับทำได้เพียงยืนจ้องตัวเลขที่หยุดบนแผงควบคุมของลิฟต์ ก่อนจะเดินนำวิเวียนออกไปที่รถเท่านั้น







   
   กมลปิดประตูห้องแล้วยืนเงียบท่ามกลางความมืดอยู่หลายนาที แม้ภายในใจของเขาจะเริ่มสงบลง แต่มือข้างที่ต่อยหน้าคนคนนั้นยังคงสั่นไม่หาย



กมลไม่เคยหลุดจากการควบคุมตัวเองอย่างนี้มานานมากแล้ว เพราะเท่าที่จำได้ ครั้งสุดท้ายที่เขาทำร้ายคนอื่นก็เป็นตอนจับได้ว่าสามีของน้องสาวแอบมีบ้านเล็ก วันนั้นเขาก็ต่อยผู้ชายคนนั้นแบบนี้ เพราะนั่นก็พอจะสมเหตุสมผลกับความเดือดดาล แต่วันนี้ที่เขาลงมือกับณธิปซึ่งเป็นคนอื่น เขาใช้อารมณ์ของตัวเองตัดสินมากเกินไป



แม้ใจหนึ่งจะรู้สึกว่าสาสมกับสิ่งที่อีกฝ่ายทำแล้ว แต่อีกใจก็รู้ว่าตัวเองไม่ควรทำการอุกอาจเช่นนั้น เมื่อไตร่ตรองแล้วก็พบว่าคราวนี้เขาผิดเต็มประตู หากแต่ถ้าจะให้ขอโทษเขาก็คงไม่อยากทำเช่นกัน เพราะคิดว่าชาตินี้ทั้งชาติกมลไม่อยากพบหน้าคนอย่างนายณธิปอีกแล้ว






++++++++++++++++++++++++++++++++++++





สวัสดีค่าาาาา
มาต่อตอนใหม่แล้วน้า  :katai4:

ตอนนี้มีความรุนแรงแฝงอยู่ 555555 /หัวเราะด้วยความสะใจ
คือนั่งคิดนอนคิดหลายตลบมากว่าควรเป็นแบบนี้ไหม
คือทั้งที่เราคิดฉากนี้เอาไว้ตั้งแต่แรกแล้ว แต่พอถึงจุดนึงเริ่มหันกลับมามอง
คุณไอควรอารมณ์รุนแรงแบบนี้ดีไหมนะ :really2:
แต่สุดท้ายพอลงมือเขียนจริงๆ อารมณ์กับบทพูดของคุณเล็กที่ใส่ไปก็ดึงให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นจนได้
อ่านแล้วเราก็พอใจนะคะ หวังว่าคนอ่านจะชอบเหมือนกัน
ดีใจที่เริ่มมีคนอ่านแวะเวียนกันเข้ามามากขึ้น  :mew1:

ส่วนท้ายนี้เป็นบทพูดที่คิด แต่ใส่จริงไม่ได้

คุณไอ : "ผมจะต่อยคุณให้ปากระบม จนคุณคุณไม่สามารถเอาปากไปให้ใครต่อยได้อีก"
คุณเล็ก : ...........

(เอ่อ... คุณไอของบ่าวต้องใจเย็นๆนะคะ ) :hao7: :hao7:



แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ



ละอองฝน.
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 6 [12/07/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 12-07-2016 12:52:10
ตกใจที่คุณไอใช้กำลังเหมือนกัน  แต่คุณเล็กก็พูดไม่เข้าหูคนอ่านเหมือนกัน สมควรๆ

แต่ก็สงสัยนะว่าทำไมคุณเล็กเหมือนไม่แคร์ใครอย่างนี้ พี่ชายก็ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไรเลย

รอตอนต่อไปค่ะ อยากรู้ว่าอ่านๆไปจะชอบคุณเล็กขึ้นมาได้ไหม เพราะในโปรดจงรักนี่คือไม่ชอบคุณเล็กแต่ก็ไม่ได้เกลียดอะไรนะคะ

เพราะคุณเล็กในตอนนั้นก็แฟร์ๆดี เว้นแต่ไปซ้อมพี่เมฆนี่แหละที่เคือง
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 6 [12/07/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 12-07-2016 13:58:59
 :z6:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 6 [12/07/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 12-07-2016 14:50:33
ว่าละว่าต้องตื่นไม่ทัน ไม่ได้ตั้งใจไม่แต่ง แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจพอจะเตือนตัวเองสินะ
รอตอนต่อไปค่ะ

ปล.จะมีพาร์ทของคุณเล็กไหมคะ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 7 [26/07/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: ละอองฝน ที่ 26-07-2016 20:35:52





บทที่ 7







   ณธิปแยกกับวิเวียนที่หน้าคอนโดเพราะเธอเป็นคนเอ่ยปากขอไม่ให้ชายหนุ่มไปส่ง เนื่องจากกลัวว่าจะถูกนักข่าวหรือคนตาดีเห็นเข้า ซึ่งณธิปเองก็ไม่ขัดศรัทธา เขารีบไปที่รถแล้วขับออกจากคอนโด โดยจุดมุ่งหมายเดียวที่คิดได้คือ บ้าน



   ระหว่างที่ขับรถเขาไม่ได้รู้สึกร้อนใจอย่างที่ควรเป็น แต่ชายหนุ่มกลับพยายามเค้นหาเหตุผลดีๆ ที่จะใช้แก้ตัวกับผู้เป็นพ่อมากกว่า ถึงแม้จะรู้อยู่แล้วว่าเหตุผลอะไรก็คงฟังไม่ขึ้น แต่เขาก็ต้องทำอะไรสักอย่าง เพราะเกิดความรู้สึกผิดในใจไม่น้อย



   ตอนรถติดไฟแดงดวงตารีเผลอเหลือบมองกระจกส่องหลังแวบหนึ่ง รอยช้ำบนใบหน้าที่ปรากฏขึ้นมาทำให้เขาต้องยกมือลูบริมฝีปากเบาๆ นึกย้อนไปถึงท่าทางโกรธจัดของคนหน้าหวานคนนั้น เขาก็ต้องประหลาดใจด้วยไม่คิดมาก่อนว่ากมลจะกล้าลงมือ ซ้ำยังหมัดหนักเอาการอีกด้วย



   คิดแล้วก็ขำตัวเองนิดหน่อย เพราะก่อนหน้านี้เขายังเล็งคนคนนั้นอยู่เลย แต่ดูเหมือนกมลจะไม่ใช่อะไรแบบที่เขาคิด เป็นคนที่จับมาเคี้ยวไม่ได้ง่ายๆ



   เรื่องในหัวของณธิปถูกปัดออกไปเมื่อเขาหันเหความสนใจกลับมาที่ปัจจุบัน ทันทีที่เลี้ยวมาถึงปากทางเข้าบ้าน ณธิปสังเกตเห็นรถแปลกตาหลายคันจอดอยู่บริเวณนอกรั้ว ด้านข้างรถมีบางคนคล้องกล้องไว้ที่คอ เมื่อคนพวกนั้นเห็นว่ารถของเขาเคลื่อนมาหยุดรอตรงหน้าประตู หลายคนตื่นตัวและเดินเข้ามาใกล้ บ้างก็ยกกล้องขึ้นถ่ายรูป แต่โชคดีที่รถของณธิปติดฟิล์มดำ คนพวกนั้นจึงได้รูปที่ดีอย่างใจต้องการ



   หลังจากเข้ามาในบ้านเรียบร้อย ณธิปก็ลงรถแล้วยื่นกุญแจส่งต่อให้เด็กรับใช้เอาไปเก็บ เด็กหนุ่มคนนี้ชื่อบาส เป็นลูกชายของแม่ครัวใหญ่ ตามปรกติบาสจะไม่ค่อยได้รับหน้าที่ออกมารับณธิปนัก เพราะรู้ตัวว่าเจ้านายคนนี้ไม่ชอบขี้หน้าตน แต่วันนี้คนอื่นๆ วุ่นวายกันหมด บาสจึงต้องออกมารับหน้าแทน เขาเก็บกุญแจมาอย่างกล้าๆ กลัวๆ ก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยเสียงสั่น



   “คุณเล็กครับ”

   “มีอะไร” ณธิปหันกลับมาถามด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์นัก

   “คุณผู้หญิงสั่งว่า ถ้าคุณเล็กมาถึงแล้วให้ไปพบที่ห้องทำงานของคุณผู้ชายครับ” พอได้ยินเด็กหนุ่มพูด ณธิปก็รู้สึกเสียวสันหลังวาบ

   “อยู่กันครบเลยหรือเปล่า” เขาถามต่อ

   “คุณท่านไม่อยู่ครับ”

   “คุณย่ากลับเชียงใหม่ไปแล้วเหรอ”

   “ผมไม่ทราบครับ” คนตอบเผลอหดคอเล็กน้อยตั้งท่ารอคอยการดุด่า แต่ณธิปกลับไม่ตะคอกใส่เหมือนทุกที

   “ให้คนจัดการอะไรสักอย่างกับนักข่าวที่รออยู่หน้าบ้านด้วย” เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาสั่งคำสุดท้ายจากนั้นจึงเดินขึ้นบ้าน บาสได้แต่รับคำแล้วมองตามแผ่นหลังกว้างหายลับไปจากสายตา ก่อนจะถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก








   ฝ่ายณธิปเมื่อเดินขึ้นมาถึงหน้าห้องทำงานของผู้เป็นพ่อเขาก็หยุดอยู่ตรงนั้นพักใหญ่ ก่อนสูดหายใจลึกๆ แล้วเปิดเข้าไปโดยไม่เคาะ ภายในห้องมีทั้งพ่อ แม่ และพี่ชายของเขาอยู่ครบ ดูเหมือนว่าก่อนเขาจะเข้ามาทุกคนกำลังนั่งปรึกษาอะไรกันอยู่ แต่เมื่อเห็นสมาชิกคนสุดท้ายในครอบครัวปรากฏตัว เสียงพูดคุยก็เงียบลง สายตาทั้งสามคู่มองตรงมาที่เขาเป็นจุดเดียว



   “มาแล้วเหรอพ่อตัวดี” นั่นเป็นคนทักทายที่คุณหญิงประภัสสรมีให้ลูกชาย เธอกำลังตั้งท่าจะดุว่าณธิปอีกคำแต่ดันเหลือบไปเห็นรอยแผลตรงมุมปากเข้าเสียก่อน เธอจึงรีบลุกขึ้นมาจากเก้าอี้แล้วถลาเข้ามาหาลูกชายคนเล็กพร้อมกับถามด้วยความเป็นห่วง “หน้าไปโดนอะไรมาเล็ก ใครทำอะไรลูก”

   “มีเรื่องนิดหน่อย แต่ไม่เป็นไรแล้วครับ” ณธิปบอกปัดเพราะไม่อยากลงรายละเอียด

   “แล้วนี่เจ็บตรงไหนอีกเหรอเปล่า” เธอมองสำรวจร่างกายของลูก ความรู้สึกขุ่นเคืองที่มีก่อนหน้าล้วนมลายหายไปด้วยความเป็นห่วง

   “ไม่ครับคุณแม่ ผมไม่เป็นไรจริงๆ” ณธิปตอบ แต่ยังไม่ทันที่คุณหญิงประภัสสรจะพูดอะไร ใครคนหนึ่งก็แทรกขึ้นมาเสียก่อน

   “ขยันสร้างแต่เรื่อง ถึงเจ็บมากกว่านี้มันก็ไม่รู้จักจำหรอก โดนเสียบ้างก็ดี” อนันต์พูดด้วยน้ำเสียงสุดที่จะกลั้นเพราะนึกโมโหลูกชายคนเล็กที่ไม่ได้ความของตัวเองมากๆ

   “คุณคะ ไหนตกลงกันแล้วว่าจะใจเย็นไงคะ” คนที่เป็นภรรยาได้แต่เตือนสติสามีไม่ให้พูดจารุนแรงนัก เพราะเธอไม่อยากให้สถานการณ์มันแย่ลงไปกว่านี้

   “นั่นสิครับคุณพ่อ ใจเย็นแล้วฟังเจ้าเล็กพูดก่อนดีกว่านะครับ” ณภัทรช่วยแม่พูดอีกแรง เพราะเขาเองไม่อยากให้พ่อต้องโมโหจนความดันขึ้นเหมือนเมื่อตอนเย็นอีก

   อนันต์ไม่ได้เพิกเฉยต่อสายตาขอความเห็นใจแทนณธิปของลูกชายคนโตกับภรรยา เขาพยายามปรับลมหายใจกระชั้นเพราะความโกรธลง จากนั้นจึงเอ่ยปากถามคนชอบก่อเรื่องที่ยืนเฉยราวทองไม่รู้ร้อน

   “แกไปมุดหัวอยู่ที่ไหนมาทั้งวันตาเล็ก”

   “ผมจะไปที่ไหนมันก็ไม่สำคัญแล้วมั้งครับ ตอนนี้ผมก็กลับมาแล้วนี่ไง” ณธิปคิดว่าไม่มีประโยชน์ที่ตนจะแจกแจงรายละเอียดอีก ในเมื่อเขาก็กลับมารอรับคำดุด่าหรือบทลงโทษตามแต่ใจของผู้เป็นพ่อแล้ว แต่ชายหนุ่มกลับไม่ได้คิดถึงว่า คำตอบคล้ายยอกย้อนกวนประสาทของตัวเองจะทำให้อารมณ์ที่ควบคุมเอาไว้เมื่อครู่ของผู้เป็นพ่อเดือนปะทุขึ้นมาอีกระลอก

   “ดูมันพูดเข้าสิ แล้วอย่างนี้จะให้ใจเย็นได้ยังไง” อนันต์พูดกับภรรยา ก่อนหันมาว่าณธิปอีกครั้ง “แกรู้ไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง ทำอะไรลงไปรู้ตัวบ้างหรือเปล่า ความรับผิดชอบของแกมันอยู่ไหนหมด อายุก็ไม่ใช่น้อยๆ แล้ว มองดูรอบตัวซิว่ามีใครเป็นแบบแกบ้าง ตกลงอะไรกับใครไว้ทำไมถึงทำไม่ได้ แกนี่มันเกินเยียวยาจริงๆ”

   “ก็ผมไม่ได้อยากแต่ง แล้วคนที่ตกลงกับเขาก็คุณพ่อเอง ไม่ใช่ผม”

   “ตาเล็ก พูดกับพ่อดีๆ สิลูก” คุณหญิงประภัสสรรีบปราม แต่ก็ไม่ทันแล้ว ในเมื่อทั้งสองฝ่ายต่างก็สาดคำพูดใส่กันไม่หยุด

   “ถ้าแกไม่อยากแต่ง แกก็ต้องปฏิเสธหรือบอกให้ชัดเจน ไม่ใช่มาหนีวันงานแบบนี้ รู้ไหมว่ามันสร้างความอับอายให้คนอื่นขนาดไหน เคยคิดถึงใจใครบ้างหรือเปล่า”

   “แล้วทำไมผมต้องคิดถึงใจใครด้วย”

“ไอ้เล็ก!” คำถามที่ณธิปเอ่ยออกมาทำให้อนันต์ถึงกับหมดความอดทน เขาผุดลุกขึ้นยืนตบโต๊ะเสียงดังสนั่น

“ทำไมครับ คุณพ่อรับไม่ได้เหรอ ในเมื่อผมพูดความจริง มีใครคิดถึงผมบ้างไหมตอนบังคับผม เคยถามไหมว่าผมรู้สึกยังไง ไม่มีเลย ไม่มีใครฟังผมสักคน แล้วทำไมผมต้องคิดถึงคนอื่นด้วยล่ะ”



อนันต์ไม่คิดว่าจะได้ยินคำพูดที่เห็นแก่ตัวแบบนี้จากคนที่ได้ชื่อว่าเป็นลูก เขาไม่รู้ว่าตนเองพลาดไปตอนไหน ไม่รู้ว่าเพราะอะไรที่ทำให้ณธิปกลายเป็นคนเช่นนี้ไปได้ ความรู้สึกเสียใจและผิดหวังพุ่งเข้าจู่โจมหัวใจอย่างรุนแรง จนเผลอเอ่ยประโยคต้องห้ามออกไป



“ฉันผิดหวังจริงๆ ที่มีลูกอย่างแก”

“…”



ตอนนี้ณธิปรู้สึกชาราวกับถูกตบหน้า เขาขบกรามแน่นโดยไม่รู้ตัว อารมณ์ต่างๆ ที่เคยกดเก็บเอาไว้ภายในค่อยๆ ทะลักออกมาจนท่วมท้นหัวใจ ที่ขอบตารีเรียวจึงร้อนผ่าวไปหมดแต่กลับไม่มีน้ำไหลออกมาสักหยด



ณธิปเคยจินตนาการเอาไว้ว่าบางทีพ่ออาจรู้สึกแบบนั้นกับเขามาตลอด แต่ไม่คิดเลยว่าเมื่อได้ยินจริงๆ มันจะเจ็บขนาดนี้



ชายหนุ่มสบตากับคนที่มีใบหน้าละม้ายคล้ายตนเองซึ่งจ้องมองมาด้วยดวงตาปวดร้าวไม่ต่างอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหลุบตาลงแล้วหันหลังเดินออกจากห้องโดยที่ไม่พูดอะไรออกมาอีกแม้แต่คำเดียว และเมื่อคล้อยหลังณธิปไปแล้ว อนันต์ก็ทรุดตัวนั่งลงกับเก้าอี้อย่างหมดแรง
   


“คุณคะ!”
   
“คุณพ่อ!” ณภัทรกับประภัสสรรีบเข้าไปประคองและช่วยดูอาการของอนันต์ เนื่องจากกลัวว่าอีกฝ่ายจะเป็นอะไรขึ้นมา

“พ่อไม่เป็นอะไร แค่เหนื่อยเท่านั้น” อนันต์ว่า


“ผมว่าคุณพ่อไปพักดีกว่านะครับ เดี๋ยวผมพากลับไปที่ห้องนะ”

“จริงด้วยค่ะ วันนี้เราพักกันก่อนเถอะนะคะคุณ”



ประภัสสรว่าพลางน้ำตาคลอเบ้า เธอเองก็อยากจะโกรธกับพฤติกรรมของลูกชายตัวดี แต่ด้วยความที่รักลูกมาก พอเห็นว่าเจ้าตัวเงียบงันไปเมื่อได้ยินประโยคนั้น เธอก็โกรธไม่ลง เธอรู้ว่าณธิปคงจะเสียใจกับคำพูดของพ่อ ยิ่งเจ้าตัวชอบคิดว่าพ่อไม่รักมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วด้วย แต่ลูกจะรู้ไหมว่าพ่อนั้นรักและเป็นห่วงเจ้าตัวมากขนาดไหน ที่พูดออกไปก็เพราะความโมโหทั้งสิ้น ซ้ำครั้งนี้ลูกชายคนเล็กของเธอก็ทำผิดร้ายแรงจริงๆ เธอจึงตัดสินใจไม่ตามลูกออกไปเหมือนที่เคยทำเช่นทุกที









V
V
V
V
(ต่อรีพลายล่างค่ะ)
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 7 [26/07/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: ละอองฝน ที่ 26-07-2016 20:45:25





เมื่อณภัทรพาพ่อกับแม่ไปส่งที่ห้องนอนแล้ว เขาก็ขอตัวออกมาเพื่อให้ทั้งสองได้พักผ่อน ในทีแรกเขาตั้งใจว่าจะกลับไปพักที่ห้องของตนเองเช่นกัน แต่เมื่อเห็นว่าน้องชายไม่ได้ขับรถหนีออกจากบ้านไปเหมือนครั้งก่อนๆ เขาจึงตัดสินใจเปลี่ยนทิศทางมายังห้องของณธิปแทน



ณภัทรเคาะประตูและรออยู่ไม่นานเจ้าของห้องก็มาเปิดให้ เขามองหน้าน้องชายอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะขอเข้าไปในห้องเพราะมีเรื่องที่จะต้องพูดกับอีกฝ่ายให้รู้เรื่อง ณธิปเองก็ไม่ได้ขัดอะไร เขาหันหลังเดินออกไปนั่งนอกระเบียงปล่อยให้พี่ชายตามเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัวโดยไม่หวงห้าม ณภัทรตามน้องมาแล้วทรุดลงนั่งที่เก้าอี้ยาวซึ่งอยู่ข้างๆ ก่อนจะเริ่มเอ่ยปากถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง



“เมื่อคืนไปพักที่ไหนมาเจ้าเล็ก”

“ที่คอนโดของผมไง”

“แต่พี่ส่งคนไปหา เห็นคุณหนึ่งนทีบอกว่านายไม่ได้อยู่ที่นั่นแล้วนี่” แม้ณภัทรจะรู้เรื่องของน้องชายหลายอย่าง เพราะเขาต้องคอยจับตาดูไม่ให้ณธิปเหลวไหลมากเกินไปตามที่คุณแม่สั่ง แต่เขาก็เว้นระยะห่างให้ณธิปมากพอ และไม่เข้าไปยุ่งย่ามในความสัมพันธ์แม้ว่าน้องจะคบใครหรือเลี้ยงดูใครอยู่ก็ตาม

“อืม ผมไปอยู่อีกที่นึง เพิ่งซื้อ”

“ถึงว่าสิ วันนี้ไม่มีใครหานายเจอเลย”



เงียบกันไปอีกครู่หนึ่ง ณภัทรสังเกตเห็นว่าน้องจมอยู่ในความคิดของตัวเอง โดยที่ไม่สนใจจะโวยวายว่าเขายุ่งเหมือนทุกครั้ง ณภัทรจึงเริ่มพูดเข้าเรื่อง



“เล็ก เล่าให้พี่ฟังได้หรือเปล่าว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”

“เกิดอะไร พี่ภัทรหมายความว่ายังไง…”

“พี่ไม่รู้ว่านอกเหนือจากเรื่องที่ไม่อยากแต่งงานกับคุณเกษแล้ว นายยังมีเหตุผลอื่นอีกเหรอเปล่าที่มาไม่ทันงานแต่งเมื่อเช้า แต่พี่เชื่อว่า ไม่ว่ายังไงนายก็คงไม่ได้มีเจตนาแบบนั้นตั้งแต่แรกใช่ไหม”



ณภัทรรู้ว่าหลายครั้งที่น้องชายมักทำตามใจและเหลวไหลอย่างที่ใครๆ ว่า แต่ณธิปเองก็เป็นคนชัดเจนคนหนึ่ง ถ้าหากต้องการที่จะไม่ไปงานแต่งจริงๆ แล้วล่ะก็ ณธิปจะขอยกเลิกตั้งแต่แรก ไม่ใช่ทำอะไรอุกอาจเช่นนี้



“หึ…” ณธิปหันมามองพี่ชายให้เต็มตา ก่อนยกยิ้มเหยียดหยันออกมา “ถึงขนาดนี้พี่ยังเชื่ออย่างนั้นอยู่อีกเหรอ”

“ใช่” ณภัทรพูดด้วยน้ำเสียงและท่าทางหนักแน่น

“เราสองคนต่างกันเกินไปนะว่าไหม”

“นายหมายความว่ายังไง”

“ช่างเถอะ พี่ไม่จำเป็นต้องรู้ไปหมดทุกเรื่องหรอก”

“เล็ก ถ้านายมีอะไรในใจก็พูดกับพี่ได้ ไม่เห็นจำเป็นต้องเก็บเอาไว้คนเดียวเลย”



ณภัทรมีน้องชายคนเดียว เขาไม่อยากให้สาเหตุที่น้องทำตัวเหลวไหลมาจากการเปรียบเทียบโง่ๆ นั่นอีกแล้ว อยากให้น้องปรับเปลี่ยนความคิดเสียใหม่และมองว่าณธิปเองก็ไม่ได้ต่างอะไรกับเขาสักนิด แต่ดูเหมือนสิ่งที่เขาคิดนั้นยังอยู่ไกลเกินเอื้อม



“ผมไม่มีอะไรจะพูด อยากนอนมากกว่า พี่ภัทรกลับห้องไปเถอะ” พอถูกพูดตัดบทแบบนี้ ณภัทรก็รู้ได้ทันทีว่าเขาหมดโอกาสที่จะพูดต่อแล้ว

“ก็ได้” ชายหนุ่มถอนหายใจออกมา ก่อนจะว่า “นายไม่อยากพูดกับพี่ก็ไม่เป็นไร แต่พี่จะบอกอะไรให้อย่างหนึ่งนะเจ้าเล็ก”

“ครับ?”

“อย่ามัวมานั่งเสียใจกับคำที่คุณพ่อพูด เพราะท่านไม่ได้คิดแบบนั้นจริงๆ หรอก คุณพ่อเองก็รักนายมาก แต่ท่านเสียใจที่นายทำตัวเหลวไหล ดังนั้นที่นายควรทำคือขอโทษท่านเสีย เข้าใจหรือเปล่า”

“…”



เมื่อเห็นว่าณธิปไม่ยอมตอบ ณภัทรจึงยอมรามือและออกจากห้องตามคำขอ ทิ้งให้อีฝ่ายนั่งอยู่ที่ระเบียงเช่นนั้นตามลำพัง



ณธิปทอดสายตามองออกไปที่สนาม ไม่ได้โฟกัสที่จุดใดเป็นพิเศษ เพราะในหัวกำลังคิดเรื่องต่างๆ ให้วุ่นไปหมด ใช่ว่าเขาไม่รู้สึกผิด ใช่ว่าเขาไม่อยากขอโทษ เดิมทีก่อนที่จะเปิดประตูเข้าไปในห้องทำงานห้องนั้น ณธิปได้เตรียมคำขอโทษสำหรับสิ่งที่เขาทำลงไปเอาไว้แล้ว แต่พอได้ยินพ่อดุด่าด้วยความเกรี้ยวกราด ได้ยินคำกระทบกระเทียบว่าตัวเขามันไม่มีอะไรดี ความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจและทิฐิที่มีอยู่ข้างในก็สกัดกั้นคำขอโทษไม่ให้หลุดออกมาอย่างที่ตั้งใจ
   


และนี่ก็เป็นอีกครั้งที่เขาทำตัวเป็นวายร้ายบ่อนทำลายความสุขของครอบครัว ซึ่งมันก็คงจริงอย่างที่พ่อว่า เขามันชอบทำให้ผิดหวัง ถ้าครอบครัวนี้ไม่มีเขามันคงดีกว่า

   







หลังจากเหตุการณ์วิวาห์ล่มวันนั้นชื่อของณธิปก็ถูกกล่าวถึงในสื่อหลักอยู่เป็นอาทิตย์ นักข่าวต่างเพียรพยายามที่จะสัมภาษณ์หนุ่มไฮโซให้ได้ แต่ติดที่คนของณธิปคอยดูแลและช่วยกันเขาให้ออกห่างจากเหยี่ยวข่าวเหล่านั้น เขางดออกงานปาร์ตี้สังสรรค์ทุกอย่างและเดินทางไปมาระหว่างกรุงเทพฯ กับประจวบคีรีขันธ์เพื่อคอยดูแลโครงการใหม่จนหัวหมุน คุณหญิงประภัสสรจึงเบาใจว่าลูกชายจะไม่สร้างเรื่องขึ้นมาใหม่อีกเร็วๆ นี้
   


ส่วนเรื่องบาดหมางระหว่างครอบครัวรัฐมนตรีใหญ่ก็ซาลงไปบ้าง เพราะทางนั้นไม่ได้มาเรียกร้องอะไรและไม่ได้ติดต่อมาอีก ซ้ำข่าวที่ออกมาก็ทำให้ฝ่ายหญิงดูน่าเห็นใจ ศักดิ์ศรีที่คิดว่าเสียไปหรือความอับอายจึงมาตกที่ครอบครัวของฝ่ายชายฝ่ายเดียว



   แต่ปัญหาที่ทำให้คุณหญิงประภัสสรถึงกับเครียดจนไม่รู้จะทำอย่างไร คือ ปัญหาในครอบครัว เพราะตอนนี้ทั้งสามีและลูกชายคนเล็กของเธอไม่พูดกันเลย แม้แต่หน้าตายังไม่มองด้วยซ้ำ ณธิปที่ซื้อคอนโดใหม่ก็เอาแต่พักอยู่ที่โน้นไม่ยอมกลับบ้าน ฝ่ายอนันต์ก็ไม่ถามไถ่หาลูกชายเหมือนเดิม คนกลางอย่างเธอจึงได้แต่ทุกข์ใจเพราะกลัวว่าถ้าทิ้งไว้นาน ความร้าวฉานนี้จะไม่สามารถประสานให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้



   ประภัสสรจึงนำความทุกข์ใจของปัญหาที่แก้ไม่ตกไปรายงานให้ย่าของณธิปทราบ คนเป็นทั้งย่าและแม่จึงวางแผนเรียกตัวหลานชายสุดที่รักขึ้นไปหา เพื่อจะได้บอกกล่าวและตะล่อมให้หลานชายยอมอ่อนให้พ่อ
   




   ณธิปถูกตามตัวให้ขึ้นไปพบคุณย่าที่เชียงใหม่ในวันหยุดสุดสัปดาห์ต่อมา เขาจึงรีบขึ้นไปหาท่านโดยไม่อิดออดสักนิด ด้วยเพราะท่านเป็นผู้เลี้ยงดูเขามาตั้งแต่จำความได้ ความรัก ความเกรงใจจึงมีอยู่มาก



   คุณหญิงนฤมลมีลูกชายคนเดียวคืออนันต์ ดังนั้นเธอจึงมีหลานเพียงแค่สองคนเท่านั้น แต่เมื่อครั้งที่ณธิปเกิดออกมาใหม่ๆ สามีของเธอได้เสียชีวิตลง ด้วยความเหงาและว้าเหว่ นฤมลจึงขอหลานคนเล็กมาเลี้ยงที่เชียงใหม่ นี่จึงเป็นเหตุให้เธอรักและเอ็นดูณธิปมากกว่าใคร ไม่ว่าหลานจะขออะไรเธอก็ไม่เคยขัดสักครั้ง จวบจนกระทั่งณธิปต้องเข้าเรียนมัธยมปลาย ประภัสสรจึงขอให้ลูกย้ายไปเรียนในโรงเรียนที่กรุงเทพฯ แทน



   ตอนณธิปมาถึงบ้านของคุณย่า ผู้สูงวัยก็ออกมาต้อนรับหลานชายด้วยอ้อมกอดถึงประตูบ้าน ก่อนพาหลานเข้าไปทานอาหารที่ลงครัวทำด้วยตนเอง รสมือของคุณย่ากับบรรยากาศที่คุ้นเคยทำให้ณธิปรู้สึกสบายใจ บ้านหลังนี้เป็นเหมือนอาณาจักรของเขาจริงๆ เพราะอาศัยมาตั้งแต่เด็กๆ หลายครั้งที่คิดอยากย้ายกลับมาอยู่ที่นี่เหมือนเดิม แต่ด้วยภาระที่ต้องรับผิดชอบก็ทำให้ไม่สามารถทำตามใจได้ทุกเรื่อง



   หลังทานอาหารกลางวันจนอิ่มเรียบร้อย นฤมลก็พาหลานชายไปนั่งเล่นที่ศาลาริมน้ำ ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกันอยู่สักครู่ ผู้เป็นย่าก็เริ่มเอ่ยเรื่องสำคัญที่เป็นเหตุให้เรียกหลานมาหา



   “เห็นแม่เราบอกว่าเล็กตึงๆ กับพ่อเขาอยู่เหรอลูก”



   พอได้ยินคำถามมือหนาที่กำลังบีบนวดขาให้ย่าก็หยุดชะงัก ณธิปเงยขึ้นสบตากับหญิงชราตรงหน้า ดวงตารีเรียวสะท้อนอารมณ์หมองหม่นจนคนถามเกิดความรู้สึกสงสารขึ้นมา



   “ก็…ผมไม่รู้จะคุยอะไร” เสียงทุ่มเอ่ยแผ่วๆ ก่อนจะโน้มหน้าลงไปซบกับเข่าของย่า

   “โธ่~ ตาเล็ก” ในสายตาเธอ ไม่ว่าเมื่อไหร่ณธิปก็ยังเป็นเหมือนเด็กตัวเล็กๆ ที่เคยอุ้มชูเหมือนครั้งในอดีตอยู่เสมอ หญิงชราลูบหัวหลานรักด้วยความเอ็นดู ก่อนจะเริ่มสอนไปด้วย “ย่าไม่ได้ว่าที่เล็กจะชอบทำอะไรตามใจ เล็กก็รู้ว่าเวลาเล็กขออะไรย่าก็ไม่เคยขัด แต่ครั้งนี้ย่าคิดว่าเราทำไม่ถูกนัก เล็กเข้าใจใช่ไหมลูก”

   “แต่ว่า…”

   “เชื่อย่าสิ กลับกรุงเทพเมื่อไหร่ เราก็ไปขอโทษพ่อเขาเสีย แม่สรเองก็กินไม่ได้นอนไม่หลับ อย่าทำให้พ่อกับแม่ต้องทุกข์ใจรู้ไหม”

   “แล้วถ้าเกิดว่าพ่อเขาไม่ยอมยกโทษให้ล่ะครับ” เพราะพ่อประกาศกร้าวว่าผิดหวังในตัวเขาขนาดนั้น ซ้ำที่ผ่านมายังหมางเมินกันตลอด ณธิปจึงไม่มั่นใจว่าอะไรๆ มันจะง่ายดายเหมือนที่ผู้เป็นย่าคิด

   “ถ้าพ่อนันต์เขาทำอย่างนั้น ประเดี๋ยวย่าจะจัดการให้เอง เล็กเป็นลูก จะตั้งตัวถือทิฐิกับพ่อแม่ไม่ได้ ส่วนคนอื่นๆ เขาจะว่ายังไงก็ช่างเขาเถอะ”

“ครับ”



นฤมลเป็นคนเดียวที่ณธิปพร้อมจะเชื่อฟังและยอมทำตามหากเอ่ยปาก ดังนั้นคำพูดของเธอจึงมีอานุภาพรุนแรงจนยากจะปฏิเสธด้วยความถือดีเหมือนที่ทำกับคนอื่น  หญิงชรามองหลานชายที่สิ้นพยศด้วยความโล่งใจ ก่อนจะคิดคำนวณว่าเย็นนี้จะโทรไปแจ้งข่าวดีแก่ลูกสะใภ้ พร้อมทั้งแนะนำให้ฝ่ายนั้นช่วยพูดกับสามีเรื่องลูกชายอีกแรงด้วย






+++++++++++++++++++++++++++++




มาต่อแล้วค่าาา

ตอนนี้เป็นพาทคุณเล็กทั้งหมดเลย
เราจะได้เห็นความเป็นอยู่ ครอบครัวของคุณเล็กโดยสังเขปนะคะ
สำหรับเรา คุณเล็กไม่ใช่คนที่น่าสงสารเลย
เป็นคนที่มีพร้อมทุกอย่าง แต่ชอบเอาตัวเองเป็นหลัก คิดถึงแต่ตัวเอง
ถือว่าเป็นพระเอกที่มีความคิดและพื้นฐานนิสัยที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่
แต่เราอยากให้รอดูตอนที่คุณเล็กเริ่มมีดวงตาเห็นธรรม5555555
ความจริงคือยากให้คนอ่านค่อยๆ มองเห็นความเปลี่ยนแปลงของผู้ชายคนนี้ค่ะ
เขาอาจไม่ใช่พระเอกที่ดีที่สุด แต่เราจะเขียนให้เขาค่อยๆ เติบโต
ยังไงก็คอยดูไปด้วยกันนะคะ

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ

เจอกันตอนหน้า


ละอองฝน.
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 7 [26/07/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 26-07-2016 22:28:41
 :z6:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 7 [26/07/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 27-07-2016 06:58:12
เฮ้อ สงสัยคุณเล็กทำดีไม่ขึ้น

เห็นนามสกุลคุณเกษกับพี่เมฆเหมือนกัน เอ..ยังไง
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 7 [26/07/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 27-07-2016 07:59:26
อิคุณเล็ก ตัวเองผิดยังเหวี่ยวใส่พี่ใหญ่อีก



สงสารพี่ใหญ่มีน้องชายปัญญาอ่อน
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 7 [26/07/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: Pa'veaw ที่ 27-07-2016 10:04:23
เข้ามารอดูว่าคุณเล็กจะมีดวงตาเห็นธรรมตอนไหน

55

หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 7 [26/07/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: suck_love ที่ 27-07-2016 13:18:14
 :katai5: สนุกมากกกก รอติดตามค่ะ
ทำไมเรารู้สึกว่าจับไอคู่กับพี่ภัทรดีกว่า  :hao6:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 7 [26/07/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 27-07-2016 16:29:51
ครอบครัวที่มี คุณพ่อขี้โมโหอย่างงี้ ไม่อยากใหเไอเข้าไปยุ่งเกี่ยวเลย คุณเล็กนี่เห็นแก่ตัวจัง
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 8 [01/08/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: ละอองฝน ที่ 02-08-2016 00:49:47





บทที่ 8









   หลังเหตุการณ์วิวาห์ล่มผ่านไปหนึ่งเดือนเต็ม ผู้คนก็ค่อยๆ เลิกสนใจข่าวฉาวที่เกิดขึ้นไปจนหมด กมลเองก็เป็นอีกคนที่ค่อยๆ ลืมเลือนเหตุการณ์ครั้งนั้นเช่นกัน เขาไม่ได้ติดต่อกับเกษสุดาหรือณธิปอีก ผู้บริหารหนุ่มยังคงมีชีวิตก็ปรกติสุขดีตามอัตภาพและยังคงทำงานหนักไม่ได้หยุดพักเหมือนเดิม




ทว่าค่ำคืนนี้เป็นครั้งแรกในรอบครึ่งปีที่กมลมีโอกาสได้เหยียบย่างเข้ามาในผับอันเต็มไปด้วยแสงไฟและเสียงอึกทึก เพราะเพื่อนของเขานัดรวมกลุ่มสังสรรค์กันหลังสมาชิกคนสำคัญเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ อันที่จริงแล้วกมลไม่ได้ไม่ชอบสถานที่เริงรมย์แบบนี้ เขาสามารถเที่ยวได้ ดื่มได้เหมือนกับคนทั่วๆ ไป แต่ที่ไม่เคยแวะเวียนมาเลยก็เพราะหน้าที่การงานคอยบีบบังคับให้ต้องดูแลร่างกายอยู่เสมอ กมลจึงถูกเพื่อนสนิทรวมหัวกันตัดพ้ออยู่บ่อยๆ และครั้งนี้พอพวกเขารวมตัวกันได้ครบแก๊งค์ กมลจึงไม่อาจเฉไฉปฏิเสธได้อีก



   ร้านที่เพื่อนๆ ของกมลนัดรวมตัวกันเป็นร้านค่อนข้างมีชื่อซ้ำยังอยู่ใจกลางเมือง ตัวร้านแบ่งออกเป็น 3 โซนให้ลูกค้าเลือกนั่งได้ตามใจ โดยมีทั้งโซนนั่งชิลกับกลุ่มเพื่อน โซนดนตรีสด และโซนสำหรับขาแด๊นซ์เอาไว้โชว์สเต็ปที่อยู่ถัดออกไปอีกด้าน ด้วยความหลากหลายในการบริการทำให้พอตกดึกจะมีผู้คนหลั่งไหลเข้ามากันไม่ขาดสาย



   ด้านที่กมลนั่งเป็นโซนดนตรีสดที่มีไว้สำหรับนั่งคุยกันไป จิบเครื่องดื่มและฟังเพลงสบายๆ และด้วยความที่นานครั้งจะได้พบกัน เพื่อนๆ ทุกคนจึงแลกเปลี่ยนเรื่องราวในชีวิต ทั้งเรื่องหน้าที่การงานและความรัก กมลฟังเพื่อนเล่าเพลินจนเกือบค่อนคืนก็ได้เพื่อนเป็นลูกค้าเพิ่มมาสองราย เนื่องจากเพื่อนๆ ของเขาวางแผนจะขอแฟนสาวแต่งงานภายในปีนี้ และต้องการให้กมลเป็นคนคอยดูแลให้



   “อย่าคิดแพงมานะไอ นี่แค่ค่าสินสอดก็จะไม่ไหวอยู่แล้ว”

   “ไม่ต้องห่วงหรอก กับเพื่อนเราคิดให้ราคาพิเศษอยู่แล้ว ว่าที่เจ้าสาวตกลงเมื่อไหร่ก็โทรมาแล้วกัน” เมื่อตกลงกันเป็นมั่นเป็นเหมาะ พวกเขาก็ดื่มสรวลเสเฮฮากันต่อ



   จวบจนเวลาล่วงเลยถึงเที่ยงคืนนิดๆ ทุกคนจึงพากันแยกย้ายกลับเนื่องจากวันรุ่งขึ้นยังต้องไปทำงานอีก ร่ำลาเพื่อนเรียบร้อยหนุ่มหน้าหวานจึงเดินไปที่ลานจอดรถ ระหว่างทางที่เดินเขาโทรหาน้องสาวก่อนเพื่อบอกเธอว่าคืนนี้เขาจะกลับไปนอนที่คอนโด เพราะจะได้ไม่ต้องขับรถไกล อีกทั้งร้านที่มาดื่มก็อยู่ใกล้คอนโดมากกว่าด้วย



[ขับรถกลับดีๆ นะคะพี่ไอ] หทัยย้ำเป็นรอบที่สาม ความจริงเธอเองก็อยากให้พี่ชายได้เที่ยวและเข้าสังคมบ้าง แต่พอเห็นว่าอีกฝ่ายต้องขับรถกลับเองดึกๆ เธอจึงอดเป็นห่วงไม่ได้

“อ้ายไม่ต้องเป็นห่วง พี่ดื่มไปไม่เท่าไหร่หรอก ติดจะคุยซะมากกว่า”

[ถ้าอย่างนั้นก็ดีแล้วค่ะ เจอกันพรุ่งนี้นะคะ]

“อืม”



เขาจบการสนทนาเพียงแค่นั้นก่อนมุ่งหน้าเดินต่อไปที่รถ ทว่ายังไม่ทันที่หมาย กมลก็ได้พบกับกลุ่มชายฉกรรจ์สามคนกำลังรุมทำร้ายใครบางคนอยู่ กมลไม่รู้จะทำเช่นไร เนื่องจากพละกำลังของเขาเพียงคนเดียวก็คงสู้คนพวกนั้นได้ หนุ่มหน้าหวานจึงส่งเสียงตะโกนขอให้คนช่วย



“ช่วยด้วยครับ! มีคนถูกทำร้าย!”



เมื่อชายทั้งสามเห็นว่ามีคนร้องโวยวาย พวกนั้นก็ทิ้งเป้าหมายแล้วหนีไปทันที กมลจึงรีบวิ่งเข้าไปช่วยคนเจ็บที่นอนคุดคู้อยู่กับพื้น



“คุณเป็นอะไรมากไหมครับ ลุกไหวหรือเปล่า” เขาถามพลางพลิกตัวคนเจ็บให้หันกลับมา หากก็ต้องตกใจเพราะใบหน้าของคนที่ปรากฏ คือคนที่เคยถูกกมลต่อยเมื่อเดือนก่อน “คุณณธิป!”

“คุณ…ไอ” สบตากันชั่วแวบหนึ่งกมลก็ช่วยพยุงณธิปขึ้น แต่ยังไม่ทันที่จะพูดอีกคำณธิปก็อาเจียนออกมาจนเลอะเสื้อผ้าไปหมด

“คุณ!” หนุ่มหน้าหวานร้องด้วยความตกใจ โชคดีที่เขาอยู่ด้านข้างดังนั้นจึงไม่เลอะไปด้วย กมลนั่งยองๆ อยู่ข้างๆ คอยลูบหลังให้จนณธิปหยุดอาเจียน ก่อนจะพยุงตัวชายหนุ่มขึ้นแล้วพาไปที่รถด้วยความทุลักทุเล



กมลล้วงกุญแจออกมาไขเปิดประตูรถ จากนั้นจึงดันให้คนตัวโตกว่านั่งที่เบาะหลัง แล้วผละไปหยิบขวดน้ำกับผ้าขนหนูผืนเล็กจากกระเป๋า ซึ่งเขามีติดรถอยู่เสมอเพราะมักเผื่อเอาไว้ใช้ในเวลาไปออกกำลังที่ฟิตเนส เขาเทน้ำใส่ผ้าแล้วบิดจนหมาดก่อนกลับมาหาคนที่นอนคอพับไปกับเบาะรถ แล้วเริ่มลงมือเช็ดหน้าเช็ดตาให้อีกฝ่าย



ครั้นเรียบร้อยดีกมลก็ขับรถออกมาจากสถานเริงรมย์แห่งนั้น เขาไม่รู้ว่าเมื่อครู่ณธิปถูกทำร้ายสาหัสแค่ไหน ร่างกายจะบอบช้ำภายในมากหรือเปล่า แต่ตอนนี้เจ้าตัวสลบไสลไม่ได้สติ  ดังนั้นเขาคิดว่าควรพาอีกฝ่ายไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลให้เร็วที่สุดจะดีกว่า












   ใช้เวลาไม่นานกมลก็มาถึงโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ที่สุดในแถบนั้น ทันทีที่แอดมิดหนุ่มไฮโซเข้าห้องฉุกเฉินไปแล้ว กมลก็ทำการติดต่อหาณภัทรเพื่อแจ้งให้ทราบว่าน้องชายของเจ้าตัวถูกทำร้าย โชคดีที่ณภัทรยังไม่นอน เขาจึงรับโทรศัพท์ได้ทันที



   “สวัสดีครับคุณภัทร ผมกมลนะครับ”

   [ครับคุณไอ ไม่ทราบมีอะไรให้ผมช่วยครับ]

   “ขอโทษที่โทรมารบกวนกลางดึกนะครับ คือผมจะโทรมาแจ้งว่า ผมพบคุณณธิปถูกทำร้ายที่ร้าน---ครับ”

   [อะไรนะ! แล้วตอนนี้เจ้าเล็กอยู่ที่ไหนกันครับ ยังอยู่ที่ร้านไหม] ณภัทรรีบถามกลับมาด้วยน้ำเสียงร้อนรนเพราะเป็นห่วงน้องชาย

   “คุณภัทรใจเย็นก่อนนะครับ ตอนนี้ผมพาคุณณธิปมาโรงพยาบาล---แล้ว เพิ่งเข้าห้องฉุกเฉินไปเมื่อครู่”

   [จริงเหรอครับคุณไอ ขอบคุณมากๆ นะครับ ผมจะรีบไปที่นั่นให้เร็วที่สุด]

   “โอเคครับ”



เมื่อพูดจบกมลก็กดวางสาย ซึ่งเป็นเวลาพอดีกับที่คุณหมอเรียกให้เข้าไปพบ ตอนนี้ณธิปถูกพาออกจากห้องฉุกเฉินไปยังห้องพักฟื้นแล้ว อาการไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงมากนัก เพียงแค่พกช้ำจากการถูกรุมทำร้ายเท่านั้น ไม่ถึงกับกระดูกหักหรือสมองกระทบกระเทือนตรงไหน
   


“ไม่มีอวัยวะสำคัญส่วนไหนได้รับความกระทบกระเทือนนะครับ คุณสบายใจได้ แต่แผลพกช้ำตามร่างกายอาจจะมากหน่อย คืนนี้คงต้องค้างโรงพยาบาลสักคืน เพราะคนไข้ไม่ได้สติด้วย ยังไงพรุ่งนี้เช้าผมจะลงตรวจอีกครั้งครับ ถ้าคนไข้รู้สึกตัวดีแล้ว ก็สามารถพากลับบ้านได้”
   
“ขอบคุณครับคุณหมอ”
   


หลังจากนั้นกมลก็พยายามจัดการเป็นธุระให้หลายอย่างเท่าที่ตนเองจะมีสิทธิ์ทำได้ เพราะเขาไม่ใช่ญาติของคนเจ็บ โชคดีที่ณธิปเคยมีประวัติการรักษาที่นี่ อะไรๆ จึงง่ายขึ้น พอเสร็จเขาก็ขึ้นไปยังห้องพักฟื้นที่หนุ่มไฮโซนอนอยู่ เขาเปิดประตูเข้าไปในห้องอย่างเงียบเชียบ ตาคู่สวยมองคนที่หลับอยู่บนเตียงแวบหนึ่งก่อนเดินไปนั่งรอณภัทรที่โซฟา
   


กมลหาวเล็กน้อยเพราะรู้สึกง่วงนอน พอพลิกข้อมือมองนาฬิกาพบว่าตอนนี้เป็นเวลาเกือบตีสอง ซึ่งถ้าเป็นปรกติก็เลยเวลานอนของเขามาหลายชั่วโมงแล้ว เขาอยากรู้ว่าณภัทรใกล้ถึงหรือยัง แต่ก็ไม่อยากโทรไปถามเจ้าตัวตอนนี้ เนื่องจากคะเนว่าอีกฝ่ายคงกำลังขับรถอยู่ ด้วยกลัวว่าตนเองจะง่วงนอนและเผลอหลับไปก่อน กมลจึงตัดสินใจออกไปหากาแฟดื่มสักกระป๋องให้ตาสว่าง
   


แต่ขณะลุกขึ้นจากโซฟา คนเจ็บที่นอนอยู่บนเตียงก็รู้สึกตัวเสียก่อน ทำให้กมลต้องล้มเลิกแผนการและเดินเข้าไปหาอีกฝ่ายที่ข้างเตียง
   


“รู้สึกตัวแล้วเหรอครับคุณณธิป” กมลถามย้ำให้แน่ใจ เพราะดวงตารีเรียวของอีกฝ่ายดูลอยๆ ชอบกล

   “…” เมื่อใบหน้าช้ำๆ หันมา ดวงตาลอยๆ คู่นั้นก็โฟกัสที่กมลได้ แล้วชายหนุ่มก็เค้นเสียงแหบแผ่วเบาเรียกชื่อของกมลเป็นครั้งที่สองในคืนนี้ “คุณไอ”

   “ครับ ผมเอง” กมลว่า “คุณรู้สึกยังไงบ้างครับ”

   “เจ็บ” ตอนนี้ณธิปไม่อยากวางฟอร์มอะไรทั้งนั้นเพราะรู้สึกเจ็บจริงๆ

   “คุณหมอฉีดยาให้แล้วตอนที่คุณหลับ อีกเดี๋ยวก็คงดีขึ้น”

   “คุณเป็นคนพาผมมาโรงพยาบาลเหรอ”

   “ครับ”

   “ได้ไง” เขารู้สึกมึนงงไปหมดเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ อีกทั้งยังเจ็บร้าวไปทั้งตัว ในหัวมีภาพตัดไปตัดมาไม่ชัดเจน ไม่สามารถจับต้นชนปลายได้ถูกว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองบ้าง

   “ผมเจอคุณถูกรุมทำร้ายที่ลานจอดรถของร้าน--- ก็เลยพามาส่งที่โรงพยาบาลน่ะครับ”



   เมื่อได้ฟังที่อีกฝ่ายบอก ณธิปก็พอจะจำได้ลางๆ ว่าตัวเองมีเรื่องผิดใจกับคนที่เข้าไปดื่มในร้าน เพราะผู้หญิงที่มากับเขาดันเป็นแฟนคนในกลุ่มนั้น พวกเขาจึงออกมาเคลียร์กันข้างนอก แต่เพราะความที่เมาด้วยกันทั้งหมดจึงทำให้เกิดการโต้เถียงและจบลงด้วยการใช้กำลัง ณธิปที่มาคนเดียวจึงมีสภาพอย่างที่กมลเห็น



   “คุณเป็นคนช่วยผมเหรอ” ณธิปถามราวกับไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน “ทำไม…?”

   “ก็ผมเห็นว่าคุณกำลังลำบาก จะให้ทำเฉยได้ยังไงล่ะ”

   “แต่คุณเกลียดผมไม่ใช่เหรอ คราวที่แล้วคุณยังต่อยผมอยู่เลย…” ภาพที่ได้พบกันครั้งสุดท้ายของพวกเขายังเด่นชัดในความทรงจำของณธิป เขาไม่เคยเห็นใครช่วยคนที่ตัวเองเกลียดมาก่อน แล้วเช่นนี้จะให้เขาเข้าใจว่าอย่างไรได้

   “ถึงจะเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่คุณผมก็ช่วย หากว่าผมพอช่วยได้น่ะนะ เรื่องนั้นกับเรื่องนี้มันคนละส่วนกันครับ อีกอย่างผมก็ไม่ได้เกลียดคุณด้วย” กมลว่าตามจริง เพราะหากเป็นคนอื่นเขาก็คงช่วยเหมือนกัน ไม่ได้จำเพาะเจาะจงว่าต้องเลือกปฏิบัติกับใคร

   “ไม่ได้เกลียดเหรอ?” ตอนแรกที่ตื่นขึ้นมาณธิปยังเบลอๆ อยู่ แต่ตอนนี้สติของเขากลับมาหมดแล้ว แม้แต่ความเจ็บปวดทางร่างกายยังถูกลืมไปจนหมด เพราะความสนใจถูกดึงมาใช้กับคำพูดของผู้ชายหน้าหวานคนนี้คนเดียว

   “ไม่ได้เกลียด แต่ไม่ชอบสิ่งที่คุณทำ” กมลเว้นจังหวะเล็กน้อย ก่อนพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมา “ถึงผมจะไม่รู้ตื้นลึกหนาบางอะไร แต่สิ่งที่คุณทำวันนั้นมันทำร้ายจิตใจใครหลายคนนะ โดยเฉพาะครอบครัวที่รักและหวังดีกับคุณ ผมไม่ชอบที่คุณทำแบบนั้นเลย”

   “…” ณธิปแปลกใจที่ตนเองไม่ได้เถียงอีกฝ่ายกลับไปเหมือนตอนทำกับคนอื่น ทั้งที่กมลก็พูดเองว่าเจ้าตัวไม่รู้ตื้นลึกหนาบางอะไรทั้งนั้น แต่ก็ยังกล้าที่จะวิจารณ์เขา

   “แต่ผมก็เก็บมันมาเป็นอารมณ์มากไปหน่อย เรื่องที่ทำร้ายคุณวันนั้น ผมเองก็ทำไม่ถูก” กมลคิดว่าตนเองไม่นึกเสียใจที่ต่อยณธิป แต่วันนี้เขาเพิ่งทบทวนได้ การที่เขาใช้ความรุนแรงตัดสินปัญหา มันไม่ต่างอะไรกับพวกที่ทำร้ายณธิปวันนี้เลย ดังนั้นสิ่งที่เขาควรทำมีเพียงอย่างเดียว คือ… “ขอโทษนะครับ

   ณธิปประหลาดใจในตัวกมลอีกครั้ง เขามองใบหน้าหวานๆ จ้องดวงตาคู่สวยซึ่งมองตอบกลับมาเช่นกัน ชายหนุ่มเห็นเพียงความจริงใจในคำขอโทษของอีกฝ่ายเท่านั้น




ทั้งที่ไม่จำเป็นเลย

ไม่จำเป็นต้องทำทั้งหมดนี้ด้วยซ้ำ

แต่ทำไมกมลถึงเลือกที่จะทำเช่นนี้กัน





ณธิปได้แต่คิดและต้องการล่วงรู้คำตอบเหลือเกิน เนื่องจากการกระทำของกมลทำให้เขาเกิดความรู้สึกบางอย่างในใจ ซึ่งยากจะบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้ ตอนนี้เขารู้เพียงว่า ความรู้สึกเหล่านั้น



ไม่ใช่เรื่องไม่ดี…




   ทางด้านของกมล เมื่อได้ขอโทษไปแล้วก็รู้สึกสบายใจขึ้น แม้ณธิปจะไม่ตอบอะไรกลับมาสักคำก็ตามที เขาก็ถือว่าต่อไปจะไม่มีเรื่องค้างคาใจอีก


   ทั้งสองต่างคิดและจมอยู่ในความเงียบ กระทั่งเสียงโทรศัพท์ของกมลดังขึ้น เขาจึงกวาดสายตาผ่านหน้าจอเร็วๆ ก่อนกดรับสาย



“ครับคุณภัทร”

[คุณไอ เจ้าเล็กอยู่ตึกไหน ห้องอะไรครับ]

“อาคาร A3 ห้องพิเศษ A3606 ครับ”

[โอเคครับ ตอนนี้ผมกำลังหาที่จอดรถ แล้วเจอกันครับ]

“เดี๋ยวครับคุณภัทร”

[ว่าไงครับ?]

“มีเอกสารที่คุณภัทรต้องเซ็นที่เคาน์เตอร์ด้วย เดี๋ยวผมลงหาไปดีกว่า เพราะนี่ก็ดึกแล้วด้วย ผมจะได้กลับบ้านเลย” หากจะรอให้ณภัทรขึ้นมาก็อาจต้องใช้เวลานาน วันนี้ดึกมากแล้วและพรุ่งนี้กมลก็มีงานต้องทำด้วย ดังนั้นเขาจึงอยากกลับไปพักผ่อน

[ได้ครับ ถ้าอย่างนั้นก็เจอกันที่เคาน์เตอร์ชั้นล่าง]

“ครับ” กมลว่าก่อนกดวางสาย จากนั้นจึงหันมาบอกณธิปที่นอนจ้องเขาตั้งแต่ได้ยินว่าณภัทรโทรมา “ผมโทรเรียกพี่ชายคุณมาเองครับ เพราะเอกสารบางอย่างต้องให้ญาติเซ็นเท่านั้น”

“ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรคุณไอนี่ครับ” แม้จะไม่ค่อยชอบใจที่ต้องรบกวนพี่ชายให้เป็นคนเข้ามารับผิดชอบตนเองอีกครั้ง แต่ณธิปก็ต้องยอมรับว่าการตัดสินใจของกมลนั้นถูกต้องและเหมาะสมแล้ว

“ครับ” กมลพยักหน้าเบาๆ อย่างโล่งใจ ก่อนว่า “ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับ”
   


ยังไม่ทันที่ณธิปจะพูดตอบ กมลก็กลับหลังหันตั้งท่าออกจากห้อง คนเจ็บจึงเผลอเอื้อมมือออกไป ตั้งใจคว้ามือของอีกฝ่ายเอาไว้ ทว่าคว้าได้ทันเพียงแค่นิ้วก้อย
   


“เดี๋ยวคุณ!”
   
“ครับ?” กมลหันกลับมาหาทันที ก่อนจะมองนิ้วก้อยที่ถูกรั้งเอาไว้ของตนเองนิ่งๆ จากนั้นก็ดึงมันออกจากการเกาะกุมของอีกฝ่ายเงียบๆ “คุณณธิปมีอะไรหรือเปล่า”



   
ขอบคุณนะ
   


คราวนี้เป็นกมลที่รู้สึกประหลาดใจบ้าง เขามองณธิปที่มีสีหน้ากระดากอายอยู่ชั่วครู่ ก่อนยิ้มออกมาบางๆ มันเป็นรอยยิ้มแท้จริงซึ่งมีให้อีกฝ่ายเป็นครั้งแรก ไม่ใช่รอยยิ้มการค้าที่เสแสร้งปั้นแต่งขึ้นมาเหมือนทุกครั้ง
   


“ไม่เป็นไรครับ”
   


หลังจากนั้นกมลก็เดินออกจากห้องไปโดยที่ณธิปไม่รั้งไว้อีก ชายหนุ่มได้แต่จ้องมองไปที่ประตูบานนั้นไม่วางตา แต่ที่สำคัญ ลึกลงไปข้างใน หัวใจของเขายังคงเต้นแรงไม่เป็นจังหวะเพราะรอยยิ้มเมื่อครู่ แม้ว่าเวลาจะผ่านไปหลายนาทีแล้วก็ตาม









><><><><><><><><><><><><><><><><><><><









มาต่อแล้วค่ะ   :katai4: :katai4:
ในที่สุดพ่อพระเอกก็เริ่มกระบวนการตกหลุมรักขั้นต้น
ต่อไปคุณเล็กผู้ไม่เคยรักใครจะทรมานด้วยโรคตกหลุมรักนี้หนักขึ้นเรื่อยๆ
แม้ว่าคุณหมอคนไหนก็ไม่อาจรักษาได้ วะฮะฮ่าๆๆๆๆ /หัวเราะอย่างก้าวร้าว :hao7:

อันที่จริงมีสาเหตุหนึ่งที่คนไม่ชอบคุณเล็กนะ
สาเหตุนั้นคือ คุณเล็กเคยทำร้ายพี่เมฆจากเรื่องโปรดจงรักมาก่อน
ตอนนี้เราได้แก้แค้นให้พี่เมฆเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะคะ วะฮะฮ่าๆๆๆๆ /หัวเราะอย่างก้าวร้าวอีกครั้ง  :hao7: :hao7:

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะคะ
เจอกันตอนหน้าค่ะ


ปล.เจอคำผิดสะกิดได้นะคะ ดึกแล้วคนเขียนมีความเบลอเล็กน้อยถึงปานกลาง


ละอองฝน.


หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 8 [01/08/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 02-08-2016 01:10:11
 :pig4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 8 [01/08/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 02-08-2016 06:03:28
ไม่ชอบคุณเล็กที่เจ้าชู้ไปเรื่อย อย่ามายุ่งกับคุณไอน้าาาา
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 8 [01/08/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 02-08-2016 12:33:28
ความไม่ชอบมันเกิดขึ้นในใจแล้วมันยากที่จะเปลี่ยน ต้องทำงานหนักหน่อยนะคุณเล็กถ้าจะจีบคุณไอของพวกเรา
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 9 [07/09/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: ละอองฝน ที่ 07-09-2016 21:33:39





บทที่ 9








   ณธิปรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้นเพราะเสียงคุ้นหูของใครบางคน เขาลืมตาขึ้นมาช้าๆ ก่อนจะมองตามเสียงนั้นไป เขาจึงพบมารดาของตนกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ที่โซฟาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด



   ยามนี้ชายหนุ่มรู้สึกเจ็บระบบไปหมดทั้งตัว โดยเฉพาะหัวที่ปวดราวจะระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ เขาทั้งพะอืดพะอมและวิงเวียนคล้ายโลกหมุน จนต้องผินหน้ากลับมาแล้วหลับตาลงอีกครั้ง คาดว่ามันคงเป็นผลมาจากที่ถูกทำร้ายและมีภาวะเมาค้างร่วมด้วยอีกส่วนหนึ่ง



   การเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยนั้น เรียกสายตาของผู้เป็นแม่ให้หันกลับมาสนใจ คุณหญิงประภัสสรลุกขึ้นจากโซฟาตัวยาว ก่อนจะสาวเท้าเข้ามาหาลูกชายคนเล็กด้วยความเป็นห่วง



   “ลูกฟื้นแล้ว เท่านี้ก่อนนะคะคุณ” เธอพูดกับปลายสาย ก่อนจะกดวางโทรศัพท์ แล้วหันมาคุยกับณธิปแทน  “ตาเล็ก ตื่นแล้วเหรอลูก รู้สึกเป็นยังไงบ้าง หืม…”

   “ปวดหัว ปวดตามเนื้อตัว แล้วก็คลื่นไส้ด้วยครับ” ณธิปว่าเสียงแหบทั้งที่ยังหลับตา นาทีนี้เขารู้สึกแย่มากจริงๆ อีกทั้งยังไม่อยากพูดมากนัก เพราะกลัวว่าจะเผลออาเจียนออกมา

   “ถ้าอย่างนั้นแม่กดเรียกพยาบาลดีกว่า  คุณหมอจะได้เข้ามาดูอาการลูกอีกรอบ”



   ประภัสสรว่าพลางกดออดตรงหัวเตียงเพื่อเรียกเจ้าหน้าที่ ก่อนที่หมอและพยาบาลจะเข้ามาที่ห้อง เธอก็เทน้ำให้ลูกชายดื่มแก้กระหาย พอได้น้ำณธิปจึงรู้สึกดีขึ้นมาบ้างตามลำดับ ไม่นานนักหมอก็เข้ามาในห้องพร้อมพยาบาล เขาตรวจดูอาการชายหนุ่มเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรน่าห่วงจึงสั่งจ่ายยาให้ตามเห็นสมควร และอนุญาตให้กลับบ้านได้



ประภัสสรโทรสั่งให้คนของตนมารับ ในระหว่างนั้นณธิปก็จัดการอาหารเช้าและทานยา เมื่อเรียบร้อยเขาก็นั่งพักสักครู่ให้รู้สึกดีขึ้น ก่อนเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องน้ำและเตรียมตัวกลับบ้านพร้อมแม่



ตลอดเวลาณธิปไม่ได้พูดอะไรออกมามากนัก แม้ประภัสสรจะอยากรู้ว่าลูกชายไปทำอีท่าไหนจึงถูกทำร้ายมาขนาดนี้ แต่เธอก็ไม่ได้เอ่ยปากถาม เพราะเห็นว่าไม่เหมาะจะซักไซ้ไล่เรียงในช่วงที่ลูกชายคนดีของเธอเจ็บอยู่แบบนี้ จนกระทั่งพวกเขาสองคนแม่ลูกอยู่บนรถระหว่างทางกลับบ้าน ณธิปจึงเอ่ยปากถามบางอย่างออกมาก่อน



“พี่ภัทรล่ะครับแม่ เมื่อคืนเห็นคุณไอบอกว่าพี่ภัทรมาที่โรงพยาบาล แต่ผมยังไม่เห็นเลย”

“พี่เขาไปทำงานตั้งแต่เช้าแล้วล่ะจ้ะ เห็นว่าเมื่อคืนเล็กนอนไม่ได้สติ คงไม่รู้ตัวสินะว่าพี่เขาเฝ้าเราอยู่ค่อนคืน” คนเป็นแม่ว่า

“ครับ ผมคงเผลอหลับไปหลังจากที่คุณไอออกจากห้อง”

“ต้องขอบคุณ คุณไอเขานะ ไม่ได้เขาเราแย่เลย” เธอเว้นช่วงไปนิด ก่อนจะพูดต่อ “ว่าแต่เรื่องคนที่ทำร้ายเราน่ะ พี่ภัทรเขาให้คนไปขอกล้องวงจรปิดจากทางร้านแล้วนะ เล็กจะแจ้งความหรืออะไรยังไงก็ว่ากันไป นี่ก็รอให้เล็กตัดสินใจอยู่ แต่แม่อยากให้แจ้งนะ เขาทำเล็กเจ็บขนาดนี้”

“ไม่ต้องแจ้งหรอกครับ เรื่องทะเลาะวิวาทกันธรรมดา ช่วงนี้ผมไม่อยากเป็นข่าวอีก” เขาเบื่อที่จะเห็นตัวเองอยู่บนหน้าหนังสือพิมพ์เอามากๆ ตั้งแต่เจอข่าวฉาวเมื่อคราวเกษสุดาครั้งนั้น ณธิปก็ถูกจับตามองตอนออกงานสังคมจนรู้สึกรำคาญเลยทีเดียว

“ถ้าอย่างนั้นก็ตามใจเล็กก็แล้วกัน แต่คราวหลังแม่สั่งห้ามนะ ห้ามไปเมาแล้วมีเรื่องแบบนั้นอีก ตอนรู้เรื่องแม่เกือบจะหัวใจวายตายเข้าให้แล้ว นี่คุณพ่อเขาก็เป็นห่วงเรามากนะลูก”

“เหรอครับ” ณธิปเอ่ยเบาๆ ก่อนจะแสร้งถามไปเรื่องอื่น เพราะไม่อยากพูดถึงพ่อเท่าไหร่ “แล้วนี่คุณแม่รู้ตอนไหนครับ ว่าผมเจ็บอยู่ที่โรงพยาบาล”

“พี่ภัทรเขาโทรบอกแม่เอาตอนเช้าแล้วล่ะ เพราะเขาต้องเข้าประชุมบอร์ดบริหารด้วย ทีแรกคงคิดจะปิดเงียบ  แต่เห็นว่าไม่มีใครคอยดูเล็กแทนน่ะสิรายนั้น ถึงได้ยอมโทรบอกแม่ได้ ”

“อ๋อ…ครับ” ณธิปพยักหน้ารับน้อยๆ ก่อนจะเสมองออกไปนอกรถและไม่ถามอะไรอีก



พี่ชายของเขาเป็นแบบนี้แต่ไหนแต่ไร ไม่ว่าเรื่องไหนขอแค่อยู่ในมือ ณภัทรจะสามารถจัดการให้มันลงตัวและผ่านไปด้วยดีอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งหน้าที่การงาน หน้าที่ลูกที่ดี และหน้าที่ของพี่ชายที่แสนดี ไม่ว่าบทบาทไหนณภัทรก็ไม่เคยขาดตกบกพร่อง คนคนนั้นดีเยี่ยมเสียจนณธิปไม่กล้าเอาตัวเองเข้าไปยืนอยู่ใกล้ๆ ดีเสียจนไม่ว่าเขาจะทำเท่าไหร่มันก็ไม่เคยดีพอ



แต่ถึงอย่างนั้นณธิปก็ไม่ได้เกลียดพี่ชายตัวเอง แต่มันเป็นความรู้สึกอิจฉา อิจฉาที่ไม่อาจเป็นเหมือนเขาคนนั้นได้ อิจฉาที่ไม่ว่าณภัทรจะทำอะไรก็เหนือกว่าเขาไปเสียหมด แต่เอาเถอะ เขาคงไม่เหมาะกับบทผู้ชายแสนดีอย่างนั้นหรอก ณธิปได้แต่คิดและแค่นยิ้มขื่นๆ ให้ตัวเอง











เมื่อกลับมาถึงบ้าน ณธิปก็เดินขึ้นห้องของตัวเองทันที เขานอนพักอยู่ในห้องตลอดวัน เพราะช่วงเที่ยงชายหนุ่มเกิดมีไข้ขึ้นมา หลังจากวันนั้นเขาก็มีไข้สูงอยู่สามวันเต็มๆ ทำเอาคนในบ้านป่วนกันไปหมด แต่ที่ดูจะเป็นมากกว่าใครก็คือคุณย่า เพราะเมื่อท่านรู้ว่าณธิปไม่สบาย ท่านก็รีบขึ้นเครื่องมาจากเชียงใหม่ทันที



กว่าณธิปจะหายดีก็ประจวบเหมาะกับที่รอยช้ำบนในหน้าลดเลื่อนไป ชายหนุ่มกลับไปทำงานเป็นปรกติได้ในปลายอาทิตย์ และเพราะไม่อยู่ แฟ้มงานที่ต้องรอให้เขาอนุมัติก็กองสุมอยู่เต็มโต๊ะ กว่าจะเคลียร์ให้หมดไปได้ก็เล่นเอาไข้เกือบตีกลับมาอีกรอบ



คืนนั้นณธิปรู้สึกเหนื่อยและเพลียมากจนไม่ได้กลับไปนอนที่บ้าน เขาขับรถมาค้างที่คอนโดใหม่ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงแรมเท่าใดนัก และแน่นอนว่าเขาถูกผู้เป็นแม่ซักเสียจนละเอียดยิบ เพราะท่านกลัวว่าณธิปจะหนีเที่ยวอีก



[ถือว่าแม่ขอ งดเที่ยวสักระยะนะตาเล็ก เพราะเราเพิ่งจะหาย]

“ผมรู้แล้วครับ นี่ก็ไม่ได้เที่ยวที่ไหน แค่ขับรถไม่ไหวเลยมานอนคอนโดเท่านั้น”

[บอกให้เรียกใช้คนขับรถก็ไม่เชื่อ] เธอตำหนิด้วยน้ำเสียงขัดอกขัดใจ ก่อนจะย้ำอีกครั้ง [อย่าผิดสัญญากับแม่นะเล็ก นี่คุณย่าก็เป็นห่วงเรามาก]

“ครับๆ ผมรู้แล้วล่ะครับ” ตาเรียวมองตัวเลขแสดงชั้นของลิฟต์เลื่อนลงมาจนสุด เขาจึงเอ่ยตัดบท “เท่านี้ก่อนนะครับคุณแม่ ผมจะขึ้นห้องแล้ว”

[จ้ะๆ แล้ววันอาทิตย์จะกลับมาบ้านไหมลูก แม่กับพ่อไม่อยู่นะ พอดีว่าจะตามคุณย่าไปดูที่ที่เชียงใหม่สักหน่อย]

“อาจจะกลับครับ”

[ยังไงก็โทรรายงานแม่ด้วยล่ะ เผื่อคุณย่าท่านถาม]

“ครับ ตัดสินใจยังไงผมจะบอกอีกที” รับคำแล้วเขาก็กดตัดสายไป



ณธิปกดลิฟต์ขึ้นไปชั้นของตัวเอง ระหว่างที่ตัวเลขค่อยๆ เปลี่ยนไปเรื่อยๆ เขาก็นึกถึงใครบางคนขึ้นมา ใครคนนั้นเคยเจอกับเขาที่นี่ เคยต่อยเขาที่หน้าลิฟต์ชั้นล่างนั่น มิหนำซ้ำยังเป็นคนเดียวกับที่ช่วยเขาเอาไว้อีก


คุณไอ



นึกถึงตรงนี้ชายหนุ่มก็ยกยิ้มขึ้นมาน้อยๆ เขาถูกใจหนุ่มหน้าหวานคนนั้นมากจริงๆ ไม่ใช่แค่รูปลักษณ์ภายนอกที่เป็นไปในแบบที่เขาชอบ แต่ด้วยความที่ดูจะได้มายากของกมล ทำให้ณธิปยิ่งอยากเอาชนะ



คิดได้ดังนั้นชายหนุ่มก็ล้วงเอาโทรศัพท์ออกมาต่อสายหาคนคนนั้นทันที หลังออกมาจากลิฟต์และเดินกลับห้อง ณธิปก็ฟังเสียงรอสายไปพลางๆ โชคดีที่เขายังไม่ลบเบอร์ติดต่อของกมลหลังจากจบงานวิวาห์ป่วนครั้งนั้น ชายหนุ่มจึงยังมีเบอร์ค้างอยู่ในเครื่อง



ไม่รู้ว่าอีกคนทำอะไรอยู่ ถึงไม่ยอมรับโทรศัพท์เสียที ระหว่างที่ณธิปกำลังไขประตูเข้าห้อง และคิดว่าสายคงจะตัดไปในไม่ช้า จู่ๆ เสียงสัญญาณรอสายก็เปลี่ยนมาเป็นเสียงพูดนุ่มๆ แสนคุ้นหู



[สวัสดีครับ กมลพูดครับ]

“สวัสดีครับคุณไอ ผม—“

[ใครโทรมาครับลุงไอ! / ลุงไออยู่บ้านต้องไม่ทำงานนะ หยางจะฟังนิทานต่อ / รอก่อนเด็กๆ ขอลุงคุยธุระเดี๋ยวเดียวนะครับ]



ณธิปได้ยินเสียงเด็กเล็กๆ พูดแข่งกันเจี๊ยวจ๊าว แม้จะฟังไม่ค่อยชัดนักแต่ก็พอรู้เรื่อง และนั่นก็ทำให้เขาประหลาดใจในตัวหนุ่มหน้าหวานมากขึ้นอีก เพราะไม่เคยเห็นด้านที่อีกฝ่ายมีสถานะต้องแทนตัวเองว่า ลุง ปรกติจะเห็นแต่ผมอย่างนั้น ผมอย่างนี้



[ขอโทษครับ เมื่อกี้ผมไม่ทันได้ยิน พอดีเด็กๆ กวนนิดหน่อย ไม่ทราบว่าคุณคือ…]

“ผมณธิปไง นี่คุณไอลบเบอร์ผมแล้วเหรอ เสียใจนะครับเนี่ย” พอพูดจบ ปลายสายก็เงียบไปชั่วครู่ ก่อนถามกลับ

[ไม่ทราบว่าคุณณธิปมีอะไรหรือเปล่าครับ]

“คือผมจะชวนคุณไปทานข้าว เลี้ยงตอบแทนที่คุณช่วยผมไว้น่ะ เรื่องวันนั้น ถ้าไม่ได้คุณผมคงแย่”

[คุณณธิปไม่ต้องตอบแทนหรอกครับ ผมไม่คิดว่ามันเป็นบุญคุณหรืออะไร อีกอย่างผมก็เกรงใจด้วย]

“คุณพูดแบบนี้ แปลว่าจะปฏิเสธผมเหรอ”

[ต้องขอโทษนะครับ พอดีผมไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ ช่วงนี้งานค่อนข้างยุ่งด้วย] ปลายสายบอกปัดด้วยน้ำเสียงลำบากใจ ณธิปฟังดูก็รู้ว่ากมลไม่ยอมมาพบเขาแน่ๆ แต่ไม่รู้ทำไม เขาจึงรู้สึกว่าอยากทำให้อีกฝ่ายยอมมา ณธิปจึงเอ่ยประโยคที่เพิ่งคิดสดๆ ร้อนๆ ออกไป

“แต่คุณแม่ท่านอยากเลี้ยงอาหารเย็นตอบแทนคุณจริงๆ นะ นี่ท่านยังบอกให้ผมชวนคุณมาที่บ้านให้ได้ในวันอาทิตย์นี้ เพราะท่านจะลงครัวเอง”

[คุณยิ่งพูดแบบนี้ ผมยิ่งเกรงใจครับ ไม่เห็นต้องตอบแทนกันถึงขนาดนั้นเลย ลำบากคุณหญิงท่านเปล่าๆ ผมฝากคุณช่วยบอกท่านได้ไหม ว่าผมขอบคุณท่านมากจริงๆ แต่ผมไม่ว่างน่ะครับ]

“อืม…ก็ได้อยู่หรอก แต่ท่านคงเสียความตั้งใจนิดหน่อย เอาเถอะ ก็คุณไม่ว่างจริงๆ นี่นะ” คนเจ้าเล่ห์แสร้งทำเสียงเสียดาย จากนั้นจึงตัดบท “ถ้าอย่างนั้นผมไม่รบกวนคุณแล้วล่ะ คุณยุ่งอยู่กับเด็กๆ ใช่ไหม”

[อ้อ…ครับ หลานๆ ผมเอง พอดีผมกำลังจะส่งพวกเขาเข้านอน ก็เลยงอแงกันนิดหน่อย]

“ครับ ถ้าอย่างนั้นเท่านี้ก่อนนะ ประเดี๋ยวผมต้องโทรไปบอกคุณแม่ว่าคุณไม่ว่าง คือพอดีท่านรออยู่น่ะครับ ผมกลัวว่าท่านจะนอนเสียก่อน”



ได้ยินอีกประโยคของณธิป กมลก็ยิ่งรู้สึกไม่ดี เขาไม่อยากไปไหนมาไหนกับพ่อไก้แจ้คนนี้ก็จริง หากก็อดที่จะเกรงใจคุณแม่ของณธิปไม่ได้ ในเมื่อผู้ใหญ่ท่านออกปากชวนขนาดนั้น หนุ่มหน้าหวานกัดปากช่างใจอยู่ครู่หนึ่ง เป็นจังหวะพอดีกับที่อีกฝ่ายเรียกมา



“คุณไอครับ ยังอยู่ในสายหรือเปล่า”

[ครับๆ]

“ผมวางแล้วนะครับ”

[เดี๋ยวครับคุณ!]

“ว่ายังไงครับ” ณธิปหูผึ่งทันทีที่ถูกเรียกเอาไว้ หากเขาเดาไม่ผิด แผนของเขาน่าจะเป็นไปตามคาด

[ผมเปลี่ยนใจแล้วครับ ฝากบอกคุณหญิงด้วยว่าผมจะไปพบ ไม่ทราบว่านัดกี่โมงครับ]

เมื่อได้ยินคนขี้เกรงใจบอก คนเจ้าเล่ห์ก็ยิ้มกริ่มอย่างผู้ชนะ “ห้าโมงครึ่งก็แล้วกันครับ เดี๋ยวผมจะส่งที่อยู่ให้อีกทีนะ”

[ครับ]

“แล้วเจอกันครับ คุณไอ”



   ทันทีที่วางสายณธิปก็โยนโทรศัพท์ไว้บนเตียง ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำพร้อมกับผ้าเช็ดตัวด้วยความอารมณ์ดี เขาคิดอยู่แล้วว่ากมลต้องยอมไปด้วยถ้าอ้างออกแบบนั้น เจ้าตัวคงยังไม่ไว้ใจเขาเท่าไหร่ แต่ถ้าได้ดินเนอร์แบบโรแมนติกด้วยกันสักมื้อ หรือตอบแทนด้วยข้อเสนออะไรสักอย่างที่กมลพอใจ ณธิปเชื่อว่าเขาสามารถทำให้กมลยอมอ่อนลงเหมือนกับคนที่เคยผ่านมาได้ไม่ยาก







V
V
V
V
(ต่อด้านล่างค่ะ)


หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 9 [07/09/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: ละอองฝน ที่ 07-09-2016 21:47:19



(ต่อ)







แม้ว่าจะเป็นวันอาทิตย์ แต่กมลก็ตื่นเช้าติดเป็นนิสัย วันหยุดเช่นนี้กมลมีเวลาเอกเขนกอยู่บ้านจนถึงเที่ยง ก่อนจะเป็นคนพาหลานชายสองคนไปเรียนว่ายน้ำ ส่วนหทัยก็เป็นคนทำงานบ้านแทน


หลังจากหลานเรียนว่ายน้ำเสร็จเขาก็พาเด็กๆ กลับบ้าน แต่ตามปรกติถ้าว่าง กมลจะพาเจ้าแฝดไปทานไอศกรีมร้านประจำก่อน ทว่าวันนี้กมลมีนัด เขาจึงต้องกลับไปอาบน้ำแต่งตัว ด้วยไม่อยากไปสายกว่าเวลา



ก่อนออกจากบ้านกมลบอกน้องสาวว่าจะไปทานข้าวที่บ้านของณธิป เรื่องที่เคยช่วยหนุ่มไฮโซไว้เขาก็เล่าให้หทัยฟังไม่คิดปิดบัง แต่น้องสาวของเขาก็ไม่เห็นด้วยเท่าไหร่ที่จะไปตามนัด เพราะรู้สึกไม่ชอบณธิปเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว



“ไม่ได้ไปกันสองต่อสองหรอก มีผู้ใหญ่อยู่ด้วย อีกอย่างพี่โตขนาดนี้แล้ว เราคิดว่าพี่ดูแลตัวเองไม่ได้หรือไงแม่อ้าย อย่างคุณณธิปน่ะ เขาทำอะไรพี่ไม่ได้หรอกนะ”

“รู้ค่ะว่าพี่ไอเก่ง เพียงแต่อ้ายเป็นห่วง ดูคุณณธิปไม่น่าไว้ใจเอาเสียเลย อีกอย่างอ้ายก็ไม่ค่อยชอบเขาค่ะ” เหตุการณ์ล่มงานวิวาห์ของณธิป สร้างความรู้สึกไม่ดีต่อใครหลายคนทีเดียว เดิมทีกมลเองก็ไม่ชอบผู้ชายคนนี้เอามากๆ แต่เมื่อเรื่องราวมันผ่านมาแล้ว เขาก็ไม่อยากเก็บมาคิดให้เป็นอารมณ์อีก

“เอาน่า ไม่ต้องห่วงหรอก แล้วพี่จะรีบกลับ” กมลตัดบทเพียงเท่านั้น ก่อนจะขับรถออกจากบ้าน



เขามุ่งหน้าไปตามที่อยู่ที่ณธิปส่งมาให้ แต่ยังไม่ทันถึงคฤหาสน์หลังใหญ่ของครอบครัวโชติตระกูล ก็ดูเหมือนว่าอะไรๆ จะไม่เป็นไปตามที่กมลคิดเสียแล้ว



กมลได้รับโทรศัพท์แจ้งว่าต้องเปลี่ยนที่ทานอาหาร เนื่องจากตอนนี้ที่บ้านไม่สะดวกเท่าไหร่ โดยหนุ่มไฮโซไม่ได้บอกเหตุผลว่าทำไมจึงไม่สะดวก บอกแค่ว่าตนเองรออยู่ ซ้ำกมลก็กำลังขับรถ เขาจึงไม่ทันซักไซ้ให้มากความ



สถานที่ที่ถูกเปลี่ยนให้มานั้น เป็นภัตตาคารหรูในโรงแรมของเครือเอ็นพีกรุ๊ป หนุ่มหน้าสวยกดลิฟต์ขึ้นไปบนชั้นลอยฟ้าซึ่งเป็นที่หมาย ทันทีที่มาถึงบริกรก็เป็นคนนำทางเขาไปที่โต๊ะซึ่งถูกจัดเอาไว้ล่วงหน้า ที่ตรงนั้นเป็นจุดที่สามารถเห็นวิวมหานครยามราตรีได้อย่างชัดเจน



กมลมองไปที่โต๊ะใต้แสงเทียน เขาเห็นทายาทสุดหล่อของเอ็นพีกรุ๊ปนั่งรออยู่ก่อนแล้ว ณธิปในวันนี้ดูดีตั้งแต่หัวจรดเท้า ชายหนุ่มสวมชุดที่ดูไม่มาก แต่เรียบหรูเหมาะกับบุคลิก และทันทีที่เห็นกมล เจ้าตัวก็ส่งยิ้มละลายหัวใจมาให้



หากเป็นคนอื่นก็อาจรู้สึกเหมือนตัวเองตกอยู่ในละครดีๆ นี่เอง โดยฉากที่ว่าคือ การถูกพระเอกรูปหล่อ พ่อรวย ปิดร้านเซอร์ไพรส์ท่ามกลางบรรยากาศสุดโรแมนติก แต่กมลกลับรู้สึกชาเหมือนโดนตบหน้า เพราะรู้ได้ทันทีว่าตัวเองถูกหลอกให้มาโดยไม่เต็มใจ และมันก็ไม่ตลกสักนิดเดียว



เมื่อเห็นสีหน้าของกมล คนเจ้าเล่ห์ก็เริ่มเล่นละคร เขาสวมหน้ากากอำพรางแผนร้ายของตัวเองเอาไว้อย่างแนบเนียน ก่อนจะเอ่ยทักทายและแจ้งเหตุสุดวิสัยกับกมลทันที



“ขอโทษด้วยนะครับที่ทำให้คุณต้องลำบากเปลี่ยนที่ไปมา พอดีกว่าคุณแม่ท่านบินไปเชียงใหม่กะทันหัน จะให้ผมยกเลิกนัดก็คงน่าเกลียด”

กมลสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เพื่อระงับอารมณ์ ก่อนจะตอบเมื่อหาเสียงของตัวเองเจอ “…เหรอครับ”

“ครับ นี่ท่านก็ฝากมาขอโทษคุณด้วย”

“ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าใจว่าท่านติดธุระ”

“คุณนี่เข้าใจอะไรง่ายดีจัง มานั่งเถอะครับ ท่าทางจะหิวแล้วใช่ไหม หน้าบึ้งเชียว”



ยามปรกติกมลมักไม่โมโหหรือหลุดหงุดหงิดใครง่ายๆ ทว่าคนคนนี้กลับทำให้เขาแทบหมดความอดทนมาหลายต่อหลายครั้ง หนุ่มหน้าหวานนับเลขในใจถึงห้า ก่อนจะปรับสีหน้าแล้วเดินมานั่งที่โต๊ะ อันที่จริงเมื่อครู่เขามีความคิดว่าอยากจะเดินกลับออกไปเลย แต่ก็คิดว่าควรทำให้เรื่องนี้มันจบ กินๆ เสียให้เสร็จ ต่อไปคนเจ้าเล่ห์จะได้ไม่มีข้ออ้างในการติดต่อกันอีก



“สั่งอาหารดีกว่า ไหนดูซิว่ามีอะไรน่าอร่อยให้คุณไอทานบ้าง”



ณธิปพูดเองเออเอง พร้อมกับส่งสัญญาณให้บริกรยื่นเมนูให้คนที่นั่งตรงข้าม กมลเลือกอาหารง่ายๆ แค่สองจาน เป็นจานสลัดและจานเนื้อ และปฏิเสธที่จะดื่มไวน์ตามคำชักชวนของณธิปอีกด้วย



“คุณไม่ดื่มเหรอ” ณธิปตั้งข้อสังเกตเพื่อชวนคุย เนื่องจากกมลนั่งเงียบมาตั้งแต่เมื่อครู่

“ดื่มได้ครับ”

“แล้วทำไมถึงเลือกน้ำเปล่าล่ะ”

“พรุ่งนี้ผมต้องไปทำงาน” กมลตอบสั้นๆ

“ก็แค่ไวน์เอง”

“ผมคออ่อนน่ะ” หนุ่มหน้าสวยว่าไปอย่างนั้น ทั้งที่จริงๆ แล้วเหตุผลของเขาคือไม่อยากดื่ม ไม่อยากเสียเวลาละเลียดจิบไวน์อยู่กับอีกคนนานๆ



เมื่ออาหารมาเสิร์ฟทั้งคู่ก็ลงมือทานเงียบๆ มีบ้างที่ณธิปชวนคุย แต่กมลก็แค่ถามคำตอบคำ ไม่มีการต่อยอดหาเรื่องคุยต่อ จนแทบเรียกได้ว่าเป็นมื้อที่ดูน่าเบื่อเอามากๆ สำหรับณธิป แต่ก็ไม่รู้เพราะเหตุใด เขากลับชอบที่จะมองอีกฝ่ายแสร้งทำหน้ารักษามารยาท แต่แววตาแสนพยศอย่างชัดเจน ความดื้อดึงเล็กๆ นั่นดึงดูดณธิปเอาไว้เสียอยู่หมัด จนรู้สึกว่า



อยากปราบพยศให้กลายเป็นแมวน้อยเชื่องๆ เหลือเกิน




   หลังทานอาหารเสร็จ กมลปฏิเสธที่จะไปดื่มต่อ ด้วยเหตุผลเดิมคือวันรุ่งขึ้นต้องไปทำงาน ณธิปจึงยอมโอนอ่อนตาม ด้วยคิดว่าคราวหน้าค่อยหาวิธีตะล่อมอีกฝ่ายใหม่



   “เดี๋ยวคุณถึงบ้านแล้ว ช่วยโทรบอกผมหน่อยได้ไหมครับ ผมจะได้รู้ว่าคุณกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัย” ประโยคนี้เป็นประโยคที่ณธิปใช้ทุกครั้งเวลาเริ่มจีบใคร และส่วนใหญ่อีกฝ่ายก็จะติดกับเขาทุกราย เพียงแต่เขาลืมไปว่า กมลไม่เหมือนคนที่ผ่านๆ มา

   “ขอโทษนะครับ ผมขอเสียมารยาทพูดอะไรสักหน่อยจะได้ไหม”

   “ได้สิครับ” หนุ่มหล่อยิ้มรับ

   “ผมคงโทรหาคุณไม่ได้ เพราะเราไม่ได้มีธุระจำเป็นที่จะต้องติดต่อกันอีก คุณเองก็เหมือนกัน กรุณาอย่าโทรหาผมอีกนะครับ” คำประกาศจุดยืนที่จัดเจนของกมล ทำเอารอยยิ้มที่ค้างเติ่งอยู่บนใบหน้าของณธิปดูแปลกไปจากตอนแรกทันที

   “ถ้าไม่มีธุระห้ามติดต่อเหรอครับ” ณธิปถามซ้ำ

   “ครับ ธุระจำเป็นอย่างเช่นเรื่องงานน่ะ” กมลก็ตอบให้ฟังอย่างชัดเจน

   “เฉพาะเรื่องงาน…” ซึ่งมันหมายถึง ต่อไปอย่าโทรหาอีก เนื่องจากพวกเขาไม่มีงานที่ต้องทำร่วมกันอยู่แล้ว หนุ่มโฮโซหุบยิ้ม ก่อนถอนใจออกมาเบาๆ “ครับ ผมเข้าใจแล้ว”

   “ขอบคุณที่เข้าใจครับ แล้วก็ขอบคุณสำหรับอาหารด้วย มันอร่อยมากครับ” คนว่ายิ้มสุภาพ ก่อนจะขอตัวกลับโดยไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้เดินไปส่งที่รถเหมือนกับแผนที่วางเอาไว้



   ดวงตารีเรียวมองแผ่นหลังตั้งตรงของคนตัวเล็กกว่าหายลับไป รู้สึกประหลาดใจที่ตนเองไม่ได้โกรธหรือโมโหกับถ้อยคำปฏิเสธอย่างอวดดีของอีกฝ่าย หากแต่เขากลับมั่นใจว่า กมลเป็นคนแรกที่ทำให้เขารู้สึกสนใจได้มากขนาดนี้จริงๆ









><><><><><><><><><><><><><><><><><><><






มาต่อแล้วค่ะ
ตอนนี้ได้แต่อ่านแล้วคิดว่า
ควรเปลี่ยนชื่อเรื่องจากคุณคือความรัก เป็นบันทึกรักของตัวร้าย 555555
มีคนถามมาว่า เมื่อไหร่จะรักกัน ในเมื่อพระเอกยังเป็นอีกแบบนี้อยู่
คือไม่รู้จะตอบว่าประมาณตอนไหน แต่บอกได้แค่ว่า
พระเอกในคราบตัวร้ายคนนี้ จะค่อยๆ ดีขึ้นเองค่ะ ไม่ใช่ปุ๊บปับหรอกนะ

ช่วงนี้งานฝนค่อนข้างเยอะมากจริงๆ ค่ะ อาจจะหายหน้าหายตาไปบ้าง
จะพยายามเคลียร์งานให้ไว แล้วมาแต่งต่อนะคะ
ตอนนี้กำหนดตัวเองไว้ว่าอยากแต่งให้ได้อาทิตย์ละ 1 ตอน มาดูว่าจะไหวไหม
เพราะตอนนี้มีอยู่สองเรื่อง ส่วนคีตมาลาฝนแต่งจบแล้วค่ะ แค่ขอเวลาปรับนิดหน่อย เพราะมีบ้างส่วนของเนื้อที่เราไม่ค่อยพอใจอยู่

ขอบคุณที่ยังติดตามอ่านกันนะคะ

แล้วเจอกันต่อหน้าค่ะ

ละอองฝน.
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 9 [07/09/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 07-09-2016 22:54:25
กรี้ดดดดด
พี่ไอคนน่ารัก
ปล.ยังคาใจเรื่องพี่เมฆกับเกษสุดาอยู่อ่ะ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 9 [07/09/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 07-09-2016 23:58:32
 :z6:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 9 [07/09/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 08-09-2016 02:48:48
55
ควรเปลี่ยนชื่อเรื่องจากคุณคือความรัก เป็นบันทึกรักของตัวร้าย 555555 <<เห็นด้วยกับอันนี้

 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 9 [07/09/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 08-09-2016 05:44:32
ไม่ชอบคุณเล็กเลยจริงๆ นิสัยไม่ดีอ่ะ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 9 [07/09/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 08-09-2016 20:49:58
 :กอด1: :pig4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 9 [07/09/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: dear77 ที่ 09-09-2016 22:49:44
กลับมาต่อแล้ว รอตอนต่อไปนะค่ะ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 9 [07/09/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 10-09-2016 13:46:17
คุณไอ



เข้มแข็ง



ฉลาด



และ



เด็ดขาดสุดๆ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 9 [07/09/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: imvodka ที่ 10-09-2016 14:11:09
 :katai5: รอ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 9 [07/09/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: Onlylyn ที่ 21-09-2016 08:46:37
เห็นคุณฝนเปิดเรื่องนี้นานแล้ว ไม่ได้เข้ามาอ่านสักที
แต่พอรู้ว่าเป็นคู่ของพี่ไอเท่านั้นแหละ ให้ไว :katai4:

คุณเล็กเป็นพระเอกที่น่าติดตามมากค่ะ
อยากเห็นความเปลี่ยนแปลง ว่าจากเสือร้ายจะเชื่องให้แมวอย่างพี่ไอยังไง
จากเรื่องโปรดจงรักเราก็ค่อนข้างชอบคุณเล็กนะคะ โดยเฉพาะตอนตัดขาดกับหนึ่งนที กร๊ากกกก

มาเป็นกำลังใจและรอตอนต่อไปค่ะ ชอบสำนวนคุณฝนมาก อ่านแล้วละมุนสุดๆ
โปรดจงรักอ่านซ้ำไป5รอบ มาดูเรื่องนี้กัน จะอ่านซ้ำกี่รอบ :katai5:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 10 [25/09/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: ละอองฝน ที่ 25-09-2016 08:39:04






บทที่ 10







วันนี้เป็นอีกวันที่กมลมีโอกาสได้มารับหลานๆ หลังเลิกเรียนพร้อมกับหทัย ก่อนเดินทางไปทานอาหารค่ำนอกบ้านกันต่อ ซึ่งมันเป็นช่วงเวลาที่เจ้าฝาแฝดทั้งสองคนมีความสุขเอามากๆ เพราะนอกจากคุณลุงสุดที่รักจะมีเวลาให้แล้ว ยังพาไปทานของอร่อยๆ บ่อยๆ ด้วย



ฤดูฝนเป็นช่วงที่กมลมักไม่ค่อยมีงานวุ่นวายมากเท่าไหร่ เพราะด้วยสภาพอากาศชื้นแฉะของประเทศไทย ทำให้คู่บ่าวสาวส่วนใหญ่เลือกที่จะหลีกเลี่ยงฤดูนี้ ดังนั้นเขาจึงค่อนข้างมีเวลาในการคิดสร้างสรรค์และปรับปรุงสิ่งต่างๆ ใน I promise มากขึ้น



อย่างช่วงต้นเดือนกมลก็สั่งให้มีการปรับปรุงภูมิทัศน์ แม้ว่าก่อนหน้าจะเนรมิตด้านหลังของตึกใหญ่ให้กลายเป็นสวนสวยไปแล้ว แต่เขาก็ยังสั่งให้มีการเพิ่มสะพานข้ามทะเลสาบเทียมเป็นจุดเด่นขึ้นมาอีกหนึ่ง มิหนำซ้ำยังรีโนเวทสตูดิโอถ่ายรูปภายในตึกเป็นรูปแบบใหม่ด้วยกันหลายห้อง ทั้งหมดเพื่อรองรับลูกค้าใหม่ๆ ในช่วงปลายปี



“วันนี้เราจะไปทานอะไรกันครับ” น้องหยางที่นั่งอยู่เบาะหลังร้องถามทันทีที่รถเคลื่อนตัวจากหน้าโรงเรียน

“วันนี้เราจะไปให้อาหารแพะ แล้วก็ไปดูว่าตัวอัลปาก้ามันชอบพ่นน้ำลายอย่างที่น้องหยางบอกลุงจริงไหม” กมลว่ายิ้มๆ

“ลุงไอจะพาพวกเราไปสวนสัตว์เหรอครับ” น้องหยินแฝดผู้พี่ตั้งข้อสังเกต “แต่นี่มันเย็นแล้วนะครับ”

“ไม่ใช่สวนสัตว์หรอกครับพี่หยิน”

“แล้วมันคือที่ไหนกันครับ”

“เดี๋ยวถึงแล้วก็รู้ครับ” คุณลุงคนดีของเด็กๆ ว่าพลางหันมาขยิบตาให้นิดหน่อยก่อนสนใจถนนต่อ แต่นั่นก็เพียงพอให้หยินกับหยางอดไม่ได้ที่จะภาวนาให้ถึงที่หมายเร็วๆ แล้ว



หากเมื่อผ่านไปสักพัก รถของครอบครัวเปรมอนันต์ก็เคลื่อนเชื่องช้าลง เพราะการจราจรบนถนนติดขัดเอามากๆ ด้วยวันนี้เป็นเย็นวันศุกร์ อีกทั้งร้านที่จะไปก็อยู่บนถนนเส้นที่มีรถมากอยู่แล้ว เด็กทั้งสองคนก็เลยเผลอหลับคอพับไปอย่างช่วยไม่ได้



“วันนี้รถติดนะคะพี่ไอ”

“อืม ก็วันศุกร์นี่นะ แถมเส้นที่เราไปเป็นเส้นลาดพร้าวด้วย พี่ว่ากว่าจะถึงห้าแยกเจ้าตัวแสบคงตื่นขึ้นมาป่วนก่อนแน่ๆ”

“คงไม่หรอกค่ะ” หทัยหันไปมองลูกชายทั้งสองคน “พวกแกเพิ่งหลับไปเมื่อกี้เอง ว่าแต่พี่ไอหิวไหมคะนี่ เมื่อกลางวันก็กินข้าวแค่นิดเดียวเอง”

“หิวนิดหน่อย แต่ไม่เป็นไร พอทนไหวอยู่”

“ก็อ้ายบอกแล้วว่าให้ทานขนมด้วยกันตอนบ่ายก็ไม่เชื่อ”

“ก็ต้องไปดูเจ้ากลองถ่ายพรีเวดดิ้งให้ลูกค้าที่สตูฯ นี่ เห็นว่ารีเควสสตูฯ ใหม่มาด้วย พี่เลยไปช่วยดูเด็กๆ มันจัดไฟ ไม่รู้ว่าสว่างมากไปไหม”

“โธ่…กลองน่ะเก่งจะตาย เขาคุมเด็กๆ ได้อยู่แล้วล่ะค่ะ พี่จะไปดูเสียทุกขั้นก็ไม่ไหวนะคะ ดูแลตัวเองบ้างสิ ชอบทำให้อ้ายต้องบ่นอยู่เรื่อยเลย”

พอเห็นแม่น้องสาวทำหน้ามุ่ย กมลจึงหันมายิ้มหวาน “ก็พี่ไม่มีอะไรทำนี่นา ช่วงนี้ลูกค้าน้อย”

“ก็ไม่น้อยนะคะ มันเป็นปรกติของหน้าฝนอยู่แล้ว พวกห้องเสื้อก็วุ่นกันจะตาย เพราะพี่ไปเปรยว่าอยากได้ชุดใหม่”


ส่วนใหญ่แล้วฝ่ายที่ดูจะวุ่นวายที่สุดก็คือทางฝั่งห้องเสื้อ เนื่องจากปีที่ผ่านมามีการอัพเดตแฟชั่นชุดแต่งงานใหม่ๆ มากมาย และดูเหมือนงานลูกไม้จะเป็นที่นิยมมากในซีซั่นนี้ ทางทีมวางแผนการตลาดจึงสนับสนุนให้เพิ่มแบบเข้าไปเพื่อเรียกลูกค้าเพิ่ม กมลที่เห็นดีด้วยจึงมีคำสั่งลงไปที่ห้องเสื้อให้จัดการต่อ

   “ก็ไอเดียพี่หวานเขาดีนี่ พี่ว่ามันโอเคเลยนะ” กมลกล่าวถึงหวาน ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมงานการตลาด

   “ค่ะๆ อ้ายไม่เถียงกับพี่ไอแล้วล่ะ พ่อคนขยันทำงาน นี่ถ้าเป็นลูกน้องนะ อ้ายจะสั่งให้พี่หยุดพักร้อนสักอาทิตย์นึงเลย”

   “หยุดแล้วจะให้พี่ไปไหนล่ะ ให้นอนอยู่บ้านเฉยๆ ไม่เอาด้วยหรอกนะ”

   “ให้วันหยุดพร้อมแพคเกจเที่ยวมัลดีฟเป็นไงคะ เห็นพี่เคยอยากไปไม่ใช่เหรอ”

   “โห งั้นเรามาเปลี่ยนตำแหน่งกันดีกว่านะ พี่ชักอยากเป็นลูกน้องแล้วสิ สวัสดิการดี้ดี” คนพูด พูดพลางยิ้มระรื่น ก่อนจะเงียบเสียงเมื่ออ้ายมีสายโทรศัพท์เข้ามา

   หญิงสาวกดรับ ก่อนกรอกเสียงเข้าไปตามสาย “ว่ายังไงแม่หนูดี ตั้งแต่มาถึงไทยก็หายเงียบไปเลยนะ”



กมลนั่งฟังน้องสาวคุยกับเพื่อนสนิทอย่างออกรส ตาก็มองถนนไปด้วย จนกระทั่งได้ยินประโยคหนึ่ง ซึ่งอ้ายทำเสียงอ้อมแอ้มลำบากใจ เขาจึงหันไปมอง



“ไม่ได้หรอกหนูดี ตอนนี้ฉันอยู่บนรถ กำลังจะไปทานข้าวกันที่บ้าน” เธอเงียบฟังฝั่งตรงข้ามถาม ก่อนตอบ “อยู่แถวลาดพร้าวเหมือนกัน แต่คงไม่ค่อยสะดวก เอาไว้นัดกันใหม่ได้ไหม นี่มันออกจะกะทันหันไปสักหน่อยน่ะ”

พูดกันอีกสองสามประโยค สุดท้ายฝ่ายเพื่อนของหทัยก็ยอมวางสายไป

“หนูดีกลับมาไทยแล้วเหรอ” เพราะกมลรู้จักกับเพื่อนสนิทของน้องสาวคนนี้ดี เขาจึงถาม

“ค่ะ กลับมาได้หลายวันแล้ว”

“แล้วเธอมีเรื่องอะไรหรือเปล่า”

“เขาจะชวนไปซื้อเสื้อผ้าน่ะค่ะ แต่อ้ายปฏิเสธไปแล้ว”

“อ้ายอยากไปเจอเพื่อนไหม ถ้าอยากไปก็ไปได้นะ ไม่ได้เจอกันนานแล้วนี่ เกิดเลื่อนไปแล้วเรามีงานยุ่งๆ พี่กลัวหนูดีจะกลับวอชิงตันเสียก่อน” ฟังจากน้ำเสียงกมลก็รู้ว่าน้องสาวของเขาอยากไปเจอเพื่อนรักที่ไม่ได้พบกันนานมากแค่ไหน

“แต่ว่าพี่ไอกับเด็กๆ ล่ะคะ”

“พี่ไม่มีปัญหาหรอก เด็กๆ ก็คงไม่มีปัญหาเหมือนกัน ประเดี๋ยวเจออัลปาก้ากับแพะก็ขี้คร้านจะลืมแม่ลืมลุงหมดแล้ว อ้ายอยากไปก็ไปเถอะ นานๆ คุณแม่ลูกสองจะได้เที่ยวร่าเริงสักที พี่ดูแลเด็กๆ แทนได้”

“เอาอย่างนั้นเหรอคะ” หญิงสาวลังเลนิดหน่อย ใจหนึ่งก็อยากไปทานอาหารกับครอบครับ แต่อีกใจก็อยากพบเพื่อนรักที่ไม่ได้พบกันนาน อีกทั้งยังนึกเกรงใจพี่ชายด้วยที่ต้องทิ้งให้ดูแลลูกๆ แทนเธอ

“ไม่ต้องคิดอะไรมาหรอก เราก็ใช่ว่าจะเที่ยวบ่อยเสียเมื่อไหร่ ออกไปช็อปเสื้อผ้า แต่งหน้าทำผมกับเพื่อนบ้างก็ดีนะ”



กมลรู้ว่าตั้งแต่ที่อ้ายทำหน้าที่แม่เลี้ยงเดี่ยว น้องสาวของเขาไม่เคยทำตามใจตัวเองเลย เธอทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างเพื่อลูกชายทั้งสองมาโดยตลอด ทุ่มเทจนบางครั้งก็ลืมที่จะคิดถึงตัวเอง เหมือนกับที่เธอว่าเขาเมื่อครู่ไม่มีผิด



“แต่…”

“หนูดีเขาอยู่ที่ไหนล่ะตอนนี้”

“เซ็นทรัลลาดพร้าวค่ะ”

“ใกล้ๆ แค่นี้เอง เดี๋ยวพี่แวะส่งเราก่อน แล้วค่อยพาหลานๆ ไปทานอาหารดีไหม”

“ก็ดีค่ะ” หทัยตอบรับเบาๆ

“ไม่ใช่ก็ดี แต่ดีเลยล่ะ เสร็จแล้วพี่จะแวะรับเรากลับพร้อมกัน หรือถ้าเราจะไปต่อก็โทรมาบอกพี่ได้ พรุ่งนี้วันหยุด พี่อนุญาตให้เที่ยวได้หนึ่งวัน” กมลว่าพลางยื่นมือออกไปลูบหัวของน้องสาวเบาๆ

“ขอบคุณนะคะพี่ไอ”

“เห็นไหม พี่เป็นเจ้านายที่ดีนะ มีแพคเกจไปส่งถึงที่ แล้วให้คุณแม่เที่ยวฟรีด้วย”

“ค่ะ…พี่ชายของอ้ายน่ะดีที่สุดในโลกเลย”










หลังจากส่งน้องสาวเรียบร้อย กมลก็ขับรถต่อมาเรื่อยๆ กระทั่งถึงที่หมายในที่สุด เขาไม่ต้องวนหาที่จอดรถนานนัก เพราะตัวร้านมีบริเวณค่อนข้างกว้าง เมื่อดับเครื่องเรียบร้อยแล้วชายหนุ่มก็หันไปปลุกหลานชายทั้งสองคน โดยเจ้าตัวโตตื่นขึ้นมาก่อน ตามด้วยคนเล็ก



“ถึงแล้วเหรอครับ” หยางขยี้ตางัวเงีย

“ถึงแล้วครับ”

“แล้วแม่ไปไหนครับลุงไอ” เจ้าหยินที่สังเกตเห็นก่อนจึงร้องถาม

“แม่อ้ายไปเจอน้าหนูดีครับ เด็กๆ จำน้าหนูดีได้ไหม ที่ซื้อเครื่องบินบังคับมาฝากเราปีก่อนไง” กมลทบทวนความจำให้ ขณะที่เอี้ยวตัวไปถอดเข็มขัดนิรภัยให้หลาน

“จำได้ครับ”

“จำได้ครับ” เด็กทั้งสองตอบพร้อมกัน

“น้าหนูดีเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ แต่อีกไม่นานคงกลับแล้ว แม่อ้ายก็เลยไปทานข้าวกับน้าหนูดีก่อน วันนี้พวกเราอยู่ด้วยกันสามคน เด็กๆ ไม่ว่าอะไรนะครับ”

“ไม่เป็นไรครับ เพราะน้าหนูดีเจอแม่อ้ายไม่บ่อย แต่น้องหยางกับหยินได้เจอแม่อ้ายทุกวัน” หยินว่า

“ใช่ๆ ถ้าน้าหนูดีไม่ได้เจอแม่อ้าย เดี๋ยวจะร้องไห้แงๆ” หยางสมทบอีกคำ



ประโยคของเด็กๆ ทำให้กมลยิ้มกว้างออกมา รู้สึกภูมิใจในตัวหลานชายทั้งสองที่เป็นเด็กน่ารัก คิดถึงคนอื่น ไม่ได้คิดถึงแต่ตัวเองฝ่ายเดียว



“เด็กดีของลุง” เขาว่า ก่อนจะหยิบกระเป๋าเงิน “ไปครับ ว่านี้ลุงจะให้รางวัลโดยการพาไปกินวัฟเฟิลอร่อยๆ ด้วยดีไหม”

“ดีครับ” แฝดสองประสานเสียงกันอีกครั้ง ก่อนลงจากรถแล้วเดินจูงมือกมลคนละข้างเพื่อเข้าไปในร้าน










โชคดีที่วันนี้ฝนไม่ตก ดังนั้นสามหนุ่มบ้านเปรมอนันต์จึงได้นั่งกินบรรยากาศตรงส่วนสวนของร้าน ถัดไปไม่ใกล้ไม่ไกลจะเห็นคอกของแพะและตัวอัลปาก้าอย่างชัดเจน เด็กทั้งสองดูจะตื่นเต้นเอามากๆ จนแทบอยากจะวิ่งออกไปจากโต๊ะทุกครั้งที่คุณลุงเผลอ หากก็ต้องอดใจเอาไว้ เพราะลุงไอบอกว่าจะเป็นคนพาไป แต่ขอสั่งอาหารให้เสร็จเสียก่อน



กระทั่งสั่งอาหารเรียบร้อย กมลจึงจูงเด็กๆ ไปป้อนหญ้า ป้อนนมแพะ ทั้งยังไปยืนดูอัลปาก้าที่ข้างรั้วอย่างใกล้ชิด ที่นี่ไม่ได้มีเพียงแค่สัตว์สองชนิดเท่านั้น  ทว่ายังมีกระต่ายตัวกลมกระโดดไปมาในกรงอัลปาก้าอีกด้วย



ขณะที่หลานๆ กำลังตื่นเต้นกับสัตว์ขนปุยตรงหน้า และกมลเองก็กำลังรัววีดีโอเจ้าสองแสบไว้ อยู่ๆ ก็มีใครบางคนเดินมาหยุดที่ด้านหลัง พร้อมกับเรียกให้หนุ่มหน้าหวานหันไปหา



“เจอกันอีกแล้วนะครับ คุณไอ”

“…คุณณธิป” กมลไม่รู้จะพูดอะไร เขาได้แต่มองอีกฝ่ายเงียบๆ เท่านั้น



ตั้งแต่ดินเนอร์หลอกลวงนั่นจบลงก็ผ่านมากว่าเดือนแล้วที่กมลไม่ได้พบหรือติดต่อกับณธิปอีก ซึ่งกมลก็ไม่คิดว่าจะได้พบเจอกับอีกครั้งในสถานที่ที่ดูเป็นร้านอาหารครอบครัวแบบนี้


โลกช่างกลมเสียจริง จึงได้เหวี่ยงให้เขาต้องโคจรมาพบกับคนคนนี้อยู่เรื่อย


“มากับใครครับ”

“มากับหลานๆ ครับ” กมลตอบ ก่อนจะเรียกหยินกับหยางให้มาหา “เด็กๆ สวัสดีก่อน นี่คุณณธิป เป็นคนรู้จักของลุงครับ”

“สวัสดีครับคุณลุงณธิป” หยินกับหยางยกมือขึ้นไหว้ผู้ใหญ่ ก่อนขยับเข้าไปเกาะขาแล้วแอบอยู่ด้านหลังของกมล เพราะรู้สึกกลัวท่าทางของผู้ชายคนนี้อย่างบอกไม่ถูก

“นี่น้องหยินกับน้องหยาง หลานชายของผมครับ”

“สวัสดีครับเด็กๆ แต่เรียกว่าอาเล็กจะเหมาะกว่านะ” ณธิปยิ้มบาง “ได้โต๊ะกันหรือยังครับ ไปนั่งด้วยกันกับอาไหม”

“พวกเราได้โต๊ะแล้วครับ คงไม่รวบกวนคุณ” กมลเป็นคนตอบแทน

“อ๋ออย่างนั้นเหรอครับ งั้นก็ไม่เป็นไร ผมเองดันลืมนึกไปว่ามาดื่มกับเพื่อนๆ คงไม่เหมาะถ้าเด็กๆ ไปนั่ง” พูดกับคนหน้าหวานจบ ณธิปก็หันไปหาเด็กๆ “เอาไว้คราวหน้าอาค่อยพาไปทานขนมอร่อยๆ นะครับ”


เมื่อได้ยินคำว่าขนมอร่อยๆ เด็กๆ ก็คลายความเกรงกลัว แล้วรีบพยักหน้ารับทันที


“ครับคุณอาเล็ก” น้องหยางตอบก่อน พร้อมกับยิ้มกว้างน่ารัก

“ไม่เป็นไรดีกว่าครับ จะรบกวนคุณณธิปเปล่าๆ”

“ไม่รบกวนสักหน่อยครับ ผมเต็มใจนะ” สุดท้ายณธิปก็ยังไม่นึกขยาดกับคำปฏิเสธหลายครั้งหลายคราของกมล แต่หนุ่มหน้าหวานรู้ การกระทำในลักษณะนี้มันเหมือนหมาหยอกไก่ บางครั้งก็หยอกไปเรื่อย ไม่ได้เก็บมาคิดจริงจังเหมือนคนที่ต้องการจริงจังสักนิด


ก็แค่คนเข้าชู้คนหนึ่ง


“ผมเคยบอกคำขอกับคุณไปแล้ว หวังว่าคุณจะจำได้นะครับ ขอโทษที่เสียมารยาท แต่ผมขอตัวก่อน” ว่าจบหนุ่มหน้าหวานก็เตรียมจูงมือเด็กๆ ไปล้างมือที่ห้องน้ำ จะได้พากลับไปที่โต๊ะเพราะเห็นว่าอาหารมาเสิร์ฟแล้ว


แต่เขาก็ถูกหยุดไว้ด้วยคำพูดหนึ่งก่อน…


“ผมจำได้ครับ แต่ก็ยังมั่นใจว่าเราจะได้พบกันอีกแน่นอน แล้วก็อยู่ในเงื่อนไขของคุณด้วย ผมไม่ยอมแพ้ง่ายๆ หรอกนะคุณไอ” เขากระซิบประโยคท้ายให้กมลได้ฟังเพียงคนเดียว ก่อนจะก้มลงบอกเด็กๆ “อาไปก่อนนะครับเด็กๆ”

“ครับคุณอาเล็ก” เด็กทั้งคู่ยังคงตอบพร้อมๆ กันเช่นเคย หนุ่มหล่อยิ้มรับความน่ารักนั่นบางๆ ก่อนเดินกลับไปที่โต๊ะของตัวเอง ปล่อยให้กมลยืนกังวลอยู่ตรงนั้น ด้วยไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะมาไม้ไหนอีก



เขารู้สึกเสียใจนิดหน่อยที่เคยช่วยณธิปไว้ เพราะถ้าไม่มีวันนั้น เขากับณธิปคงไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกันอีก คงไม่ต้องมีเรื่องให้อีกฝ่ายตามมาวุ่นวายเช่นนี้ ทั้งที่กมลก็ยังหาสาเหตุไม่ได้เลยว่าณธิปติดใจอะไรกับเขานัก หรือบางที่อีกฝ่ายเพียงแค่อยากแกล้งเขาคืน ข้อหาที่เคยไปตะบั้นหน้าเจ้าตัวต่อหน้าสาว



คิดแล้วชายหนุ่มก็ได้แต่ถอนใจ เพราะไม่รู้จะทำอย่างไร ทั้งที่ไม่อยากยุ่งเกี่ยวด้วยอีกแท้ๆ



เป็นเวรกรรมอะไรของเราหนอ…

   









“นั่นคุณกมลที่เป็นออแกไนซ์งานแต่งของแกไม่ใช่เหรอเล็ก” ดังตฤณถาม



วันนี้เขาชวนณธิปมาทานข้าวที่ร้านซึ่งเป็นกิจการของครอบครัว เพราะอยากคุยเกี่ยวกับเรื่องของใครคนหนึ่งที่เพื่อนเคยคบด้วย แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้เอ่ยปากออกไป เนื่องจากมีเพื่อนสนิทอีกคนตามมาด้วย นั่นคือนายพิเชษฐ์ตัวป่วน

   “อืม ใช่”

   “แล้วคุยอะไรกัน เห็นคุยอยู่นานสองนาน แกจะให้เขาดูงานแต่งให้อีกรอบหรือไง”

   “กินข้าวไปไอ้เชษฐ์ ปากเสียจริง” หนุ่มไฮโซตอกกลับ เขายังนึกขยาดกับการถูกจับคลุมถึงชนไม่หาย

   “แล้วคุยอะไรกัน ตอบดีๆ”

   “ก็ไม่มีอะไร” ณธิปยิ้ม และเป็นยิ้มที่ดูปราดเดียวก็รู้ว่ามีอะไรแอบแฝง

   “นี่อย่าบอกนะว่าจะจีบ” ดาราหนุ่มซักไซ้ต่อ

   “คงงั้น”

   “หน้าตาจัดว่าสเปคแก แต่คนนี้ไม่น่าจะเล่นง่ายนะ จากที่ดูเมื่อวันงาน ฉันว่าเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน” ดังตฤณยังจำได้ดีถึงตอนวันงานแต่งงานของเกษสุดากับณธิป เขารู้สึกว่าคนที่เพื่อนหมายปอง ไม่ใกล้เคียงกับคนที่ณธิปเคยคั่วด้วยสักนิด “แบบนี้ฉันว่าแกสนได้ไม่นานหรอก เดี๋ยวก็เบื่อเขา อย่าไปยุ่งกับเขาเลย เชื่อฉันสิ”

   “ฉันก็อยากเชื่อแกนะตฤณ แต่ของแบบนี้มันต้องลองดูถึงจะรู้ เพราะฉันว่ากับคนคนนี้ ไม่น่าจะทำให้ฉันรู้สึกเบื่อได้ง่ายๆ แน่” ณธิปว่ายิ้มๆ อันที่จริงกว่าเดือนมานี้เขาได้คิดทำอะไรบางอย่างลงไป และตอนนี้มันก็อยู่ในขั้นตอนที่ใกล้จะเผยออกมาเต็มที



   แล้วเราจะได้รู้กัน ว่าคุณจะยังปฏิเสธที่จะพบผมได้อีกหรือเปล่า…คุณไอ







><><><><><><><><><><><><><><><><><><><





อาจจะดำเนินเรื่องเนิบนาบไปบ้าง
ยังไงก็จะลองแต่งไปก่อน
แล้วลองปรับหรือรีใหม่ทีหลังนะคะ
อย่าเพิ่งเบื่อกันน้า

ส่วนที่ถามถึงเรื่องนามสกุลพี่เมฆกับคุณเกษนั้น
ไว้จะเฉลยในตอนหน้าๆ ค่ะ
แต่ก็ไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรหรอกนะคะ 5555
แค่อยากให้รออ่านไปพร้อมๆ กันกับเนื้อเรื่องค่ะ

เจอกันตอนหน้าค่ะ



ละอองฝน.
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 10 [25/09/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 25-09-2016 09:48:59
เกลียดผู้ชายเจ้าชู้!!!
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 10 [25/09/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 25-09-2016 12:06:57
 :z6: อยากให้ทุกรอบไป
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 10 [25/09/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 25-09-2016 13:03:40
 :L2: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 10 [25/09/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 25-09-2016 15:53:10
ตัวร้ายของเรามีแผนอะไรอีกกกก  :hao6:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 10 [25/09/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: anntonies ที่ 25-09-2016 17:15:06
สนุกมากเลยค่ะ อ่านรวดเดียวมาถึงตอนนี้
ส่วนตัวยังไม่รู้สึกดีกับพระเอกมาก แต่พอเข้าใจเหตุผล หวังว่าอนาคตคุณเล็กจะชนะใจเราและคุณไอได้นะคะ
แต่แค่ตอนนี้ยังไม่ได้ เทใจไปหาพี่ภัทรก่อน เพราะรู้สึกระทวยเหลือเกิน 555555 :ling3:
เอาใจช่วยนะคะคุณตัวแสบ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 10 [25/09/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: Onlylyn ที่ 25-09-2016 19:33:58
ไม่ใช่เวรกรรมนะพี่ไอ
มันคือพรหมลิขิต ขีดเขี่ย ให้เหี .... /โดนคุณเล็กถีบ  :z6:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 10 [25/09/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 25-09-2016 20:22:53
สนุกครับ
อ่านแล้วติดเลย
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 10 [25/09/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: Honeyhoney ที่ 25-09-2016 21:46:27
 :ling1: สนุกมากกกกกกกก.  ชอบมากเลยค่ะ ชอบนายเอกแบบนี้ หนึ่งร้ายอะอนาคตจะโผล่มาสร้างเรื่องเยอะแยะไหมเนี้ย
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 10 [25/09/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 25-09-2016 22:31:53
รู้สึกสงสารตัวร้ายแทน TvT หนึ่งเอ้ยยยยย
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 10 [25/09/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: Honeyhoney ที่ 29-09-2016 05:55:52
 :mew3:  คิดถึงไอจัง
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 11 [06/10/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: ละอองฝน ที่ 06-10-2016 01:13:06




บทที่ 11








   เสียงฉะฉานของสาวสวยตัวแทนจากโรงแรมปางปาลีกำลังอธิบายข้อเสนอที่จะร่วมงานกับ I promise ภายในห้องทำงานที่อุณหภูมิเย็นเฉียบ กมลและตัวแทนจากฝ่ายต่างๆ นั่งฟังเงื่อนไขและโปรเจคต่างๆ ของทางโรงแรมจนจบ ก่อนซักถามรายละเอียดต่างๆ จนกระทั่งพอใจ ถึงหันมาปรึกษากันเองในองค์กร



   “เรื่องที่ต้องการร่วมงานกับ I promise ของเรา ทางผมและทุกคนมีความยินดีอย่างยิ่งครับ แต่การตัดสินใจว่าจะตกลงหรือไม่ ผมคงต้องขอประชุมกันก่อนอีกครั้ง เพราะเรามีแผนงานอยู่พอสมควร กลัวว่าถ้ารับข้อเสนอทันที อาจทำให้มีปัญหาได้ในภายหลัง” กมลเอ่ยกับตัวแทนของโรงแรมปางปาลี



เขาเองคิดว่าโปรเจคของทางนั้นน่าสนใจ หากก็คงต้องปรึกษากับทุกฝ่ายเสียก่อน เพราะมันไม่ใช่เรื่องที่จะรับไปได้ในทันที



   “ไม่เป็นไรค่ะ ดิฉันทราบว่าการตัดสินใจต้องผ่านกระบวนการหลายอย่าง เอาเป็นว่าถ้าคุณไอและทาง I promise สนใจจะร่วมงานกับทางปางปาลีของเรา สามารถติดต่อกลับมาที่ดิฉันได้โดยตรงนะคะ แล้วเราค่อยนัดคุยกันอีกครั้ง” หญิงสาวว่าอย่างนอบน้อม

   “ได้เลยครับ ขอบคุณมากๆ ที่ให้ความสนใจในบริษัทของเรานะครับ”

   “แหม ทางเราสิคะ ต้องขอบคุณที่คุณไอสนใจโปรเจคที่เสนอไป” เธอกล่าวยิ้มแย้ม ก่อนจะจัดเก็บเอกสารและลุกขึ้น “วันนี้ดิฉันต้องขอตัวกลับก่อน หวังว่าเราจะได้ร่วมงานกันนะคะ”

   “ผมก็หวังแบบนั้นเช่นกันครับ”



   กมลเดินไปส่งคนของปางปาลีที่รถ ก่อนจะบอกลากันด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม จากนั้นเขาจึงกลับมาที่ห้องทำงานอีกครั้งเพื่อสะสางงานที่คั่งค้างเอาไว้ และแจ้งให้ทุกฝ่ายเตรียมประชุมกันในวันรุ่งขึ้น









   ปางปาลีเป็นโรงแรม 5 ดาว ที่กำลังจะสร้างเสร็จ ตั้งอยู่ที่จังหวัดภูเก็ต ใกล้กับหาดพันวา นอกจากจะสร้างขึ้นมาเป็นที่พักให้แก่นักท่องเที่ยวแล้ว โรงแรมปางปาลียังสามารถรับกรุ๊ปทัวร์ใหญ่ๆ จัดงานสมนาต่างๆ และงานแต่งงานได้อีกด้วย เพราะตัวโรงแรมค่อนข้างกว้างขวาง



   ดังนั้นเพื่อเป็นการโปรโมทโรงแรมน้องใหม่แห่งนี้ ทางผู้บริหารจึงอยากร่วมมือกับทาง I promise Tower เพื่อจัดโปรโมชั่นให้แก่คู่บ่าวสาวที่สนใจจะถ่ายพรีเวดดิ้งหรือจัดงานวิวาห์ในปางปาลี โดยมีทีมงานของ I promise เป็นผู้รับผิดชอบจัดการดูแล



   ซึ่งแพคเกจที่ได้ก็คือ นอกจากจะได้จัดงานวิวาห์อย่างครบวงจรกับ I promise แล้ว ค่าใช้จ่ายในส่วนของสถานที่ก็ยังลดราคาให้เป็นกรณีพิเศษอีกด้วย เพราะฉะนั้น ไม่ใช่แค่ปางปาลีจะได้ประโยชน์ในการโปรโมทโรงแรม แต่ I promise ยังมีสิทธิ์ขาดในการเป็นบริษัทเดียวที่ได้จัดการงานแต่งงานให้กับคู่บ่าวสาวที่สนใจจะจัดในโรงแรมนี้อีกด้วย



   ตัวกมลที่คอยมองหาโปรเจคใหม่ๆ เสมอรู้สึกค่อนข้างชอบใจกับข้อเสนอนี้ เพราะนอกจากจะได้ลูกค้ามากขึ้นแล้ว บริษัทของเขายังได้คอนเนคชั่นกับโรงแรมที่อาจจะมีชื่อเสียงต่อไปในอนาคต เพราะปางปาลีเป็นโรงแรมในเครือของเอ็นพีกรุ๊ป บริษัทยักษ์ใหญ่ระดับแนวหน้าของประเทศ ดังนั้นหากได้ทำงานร่วมกันและผลตอบรับเป็นไปได้ด้วยดี มันย่อมส่งผลดีต่อ I promise Tower ในอนาคตอย่างแน่นอน








   วันรุ่งขึ้นหลังจากเริ่มประชุมกันกับหัวหน้าฝ่ายต่างๆ ในบริษัท กมลก็ได้ข้อสรุปที่เป็นเอกฉันท์ นั่นคือทุกคนเห็นด้วยที่จะทำงานร่วมกับปางปาลี แม้ว่าอาจจะต้องทำงานหนักเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว แต่บริษัทก็จะเป็นที่รู้จักและเติบโตขึ้นอีกก้าว ซึ่งไม่แน่ว่าอาจเป็นก้าวสำคัญเลยทีเดียว



   “ถ้าทุกคนเห็นด้วยตามนี้ ผมก็จะให้อ้ายติดต่อกับทางปางปาลี เพื่อจะได้นัดเจรจาและตกลงกันถึงสัญญาต่างๆ หลังจากนี้คงมีอะไรให้ทำเพิ่มมากขึ้น แต่ผมก็ยังไม่มีนโยบายจะรับพนักงานเพิ่มในปีนี้ คงต้องรอประเมินสถานการณ์ตอนสิ้นปีอีกครั้ง ถ้าการคอนเนคชั่นกับปางปาลีไปได้ดีอย่างที่เราหวังกัน ทุกคนคงต้องช่วยกันหาน้องใหม่เพิ่มในแผนก” กมลกล่าวสรุปกับที่ประชุม


   “ว่าแต่ว่า สิ้นปีนี้…เอ่อ” รุ้งนภาฝ่ายห้องเสื้ออ้ำอึ้ง อยากจะถามถึงโบนัสจะแย่ แต่ก็แอบเกรงใจ

   “จะทวงโบนัสผมเหรอพี่รุ้ง”

   “แฮร่ๆ ใช่ค่ะ” เธอหัวเราะเจื่อนๆ “แต่แหม ปีนี้แผนกเราปักเลื่อมกันตาแทบบอดเลยนะคะคุณไอ”

   “ทำงานหนักขึ้น ผลประกอบการโตขึ้น ส่วนจำนวนคนเท่าเดิม คิดว่าผมจะใจร้ายกับทุกคนได้ลงคอเหรอครับ เอาเป็นว่าพอฝ่ายบัญชีสรุปยอดไตรมาสหน้า ผมค่อยประกาศแล้วกันว่าจะให้กี่เท่า แต่ไม่น้อยกว่าปีที่แล้วหรอกนะ” กมลว่าอย่างติดตลก

   “คุณไอของบ่าว ดีที่หนึ่งเลยเจ้าค่ะ” รุ้งนภายิ้มยินดี ทั้งยังหยอดคำหวานขำๆ ไปอีกประโยค เรียกเสียงหัวเราะให้กับทุกๆ คนในห้องประชุมได้เป็นอย่างดี

   “ไม่ดีได้หรือครับ เดี๋ยวพี่รุ้งขนเด็กๆ ไปปักเลื่อมให้เจ้าอื่นกันหมด ผมก็แย่เลยทีนี้”



   แม้แต่ละฝ่ายใน I promise Tower จะถูกแบ่งเป็นสัดส่วน การทำงานก็ค่อนข้างเป็นระบบต่างกับตอนรุ่นที่พ่อและแม่บริหาร หากกมลก็ยังคงบรรยากาศเป็นกันเอง ทำให้พนักงานทุกคนรู้สึกว่าร่วมงานกับพี่น้องหรือเพื่อนๆ เป็นดั่งครอบครัวเดียวกัน



   “ใครจะไปทิ้งคุณไอลงล่ะคะ” เธอยิ้มตาหยี ก่อนจะนึกบางเรื่องขึ้นได้ “อ้อ แบบชุดใหม่ที่คัดมาให้คราวที่แล้ว รุ้งตัดเสร็จแล้วนะคะ เสร็จจากตรงนี้คุณไอจะไปดูไหม”

   “ได้ครับ ผมว่างพอดี” ผู้บริหารหน้าหวานตกลง ก่อนหันไปหาน้องสาว “เดี๋ยวพี่ฝากอ้ายติดต่อไปทางปางปาลีด้วยนะ เผื่อจะนัดคุยกันเร็วๆ นี้ พวกเราจะได้ประชุมวางแผนงานอีกที”

   “ได้ค่ะพี่ไอ”







   
   หลังจากวันที่ประชุมกัน กมลได้นัดพบกับตัวแทนของปางปาลีเพื่อตกลงเกี่ยวกับสัญญาต่างๆ ซึ่งก็สามารถผ่านไปได้ด้วยดี จนกระทั่งถึงกำหนดการที่ต้องเดินทางไปดูสถานที่ กมลได้ตกลงกับทางนั้นว่าจะเดินทางไปด้วยตัวเอง เพราะนอกจากจะมีทีมช่างภาพกับครีเอทีฟไปช่วยกันดูแล้ว ตัวเขาเองก็อยากเห็นสถานที่จริงด้วยเช่นกัน เพราะต่อไปจะได้คุยและนำเสนอกับลูกค้าได้ถูก



   กำหนดการเดินทางของกมลคือ 2 สองวัน 1 คืน ที่ต้องค้างก็เพราะเขาต้องการให้ช่างภาพเก็บภาพบรรยากาศในตอนกลางคืนด้วย ดังนั้นกมลจึงตัดสินใจนอนที่นั่นหนึ่งคืน ซึ่งคนของทางโรงแรมยินดีเป็นอย่างยิ่ง



   คณะของ I promise Tower เดินทางด้วยกัน 3 คน มี กมล นายกลองที่เป็นช่างภาพ และนิดาจากฝ่ายครีเอทีฟ ทันทีที่ลงเครื่องที่สนามบินภูเก็ต ทางโรงแรมปางปาลีก็ส่งคนมารอรับอยู่แล้ว พวกเขาเดินทางต่ออีกไม่นานก็ถึงที่หมาย



เมื่อถึงตัวโรงแรมกมลก็เกิดความประทับใจในสถานที่ทันที เพราะไม่ใช่แค่ตัวอาคารที่สวยทันสมัย ทว่าการตกแต่งโดยรอบ รวมถึงทิวทัศน์ และการบริการก็ดีเยี่ยม



พวกเขาถูกผู้จัดการพาไปที่ห้องพักก่อนเริ่มงาน เพราะต้องเก็บกระเป๋าและเตรียมกล้องให้พร้อม อีกทั้งยังอยากให้คณะของกมลได้พักเหนื่อยจากการเดินทาง



“ขอบคุณนะครับคุณวิมล” กมลกล่าวขอบคุณผู้จัดการของโรงแรมที่ออกมาดูแลเขาด้วยตัวเอง

“ไม่เป็นไรครับ ผมต้องดูแลคุณไอให้ดีที่สุดอยู่แล้ว ว่าแต่ห้องพักของคุณไอไม่ใช่ที่นี่นะครับ สองห้องนี้เป็นของทั้งสองท่านผู้ติดตามครับ” วิมลแจ้ง

“อ้าว หรือครับ” กมลทำหน้าเหรอหรา เขาเองก็คิดว่าทางโรงแรมจะจัดให้นอนห้องเดียวกับกลอง ไม่คิดว่าจะจัดแยกอีกห้อง

“ต้องขอประทานโทษด้วยที่ผมไม่ได้แจ้งก่อน เชิญคุณไอทางนี้เลยครับ”

“เอ…แต่ผมพักกับคนของผมก็ได้นะครับ อยู่กันสองคน ห้องก็กว้างขวางด้วย” หนุ่มหน้าหวานว่าอย่างเกรงใจ เพราะดูท่าห้องที่เปิดให้พวกเขาพักจะเป็นห้องระดับพรีเมี่ยม เพราะขนาดห้องและการตกแต่งดูไม่ใช่ห้องระดับธรรมดา

“ทางเราได้จัดที่พักอีกที่ให้คุณไอแล้ว อย่าปฏิเสธเลยนะครับ ไม่งั้นผมจะโดนเจ้านายเอาเรื่องได้” วิมลอ้าง ก่อนจะหว่านล้อมอีกคำ “อีกอย่าง คุณไอจะได้ดูห้องพักอีกแบบของเราด้วย พอดีว่าส่วนที่ผมจัดให้คุณไอพัก เป็นส่วนที่เราเพิ่งเพิ่มเข้ามาทีหลัง มันเป็นบ้านพักส่วนตัว มีอยู่แค่ 9 หลังเท่านั้น น่าจะเหมาะกับการเสริมแพคเกจฮันนีมูนนะครับ”

“อ๋อ ถ้าอย่างนั้นก็ได้ครับ” เมื่อได้ยินดังนั้นกมลจึงตามวิมลออกมา และนัดเจอกับคนของตัวเองในเวลาเที่ยง



ที่พักที่ถูกจัดให้อยู่ห่างจากตัวโรงแรมไม่มากนัก ระหว่างทางมีส่วนที่เป็นพื้นที่ส่วนกลางจำพวกบริการสปานวดแผนไทย ยิม และส่วนของห้องนันทนาการของเด็ก กมลนึกชื่นชมเจ้าของโรงแรมอยู่ในใจระหว่างนั่งรถผ่าน ว่าเขาคิดอะไรได้ครอบคลุมทุกอย่าง เพราะโรงแรมนี้ค่อนข้างตอบโจทย์กับลูกค้าหลายรูปแบบ ทั้งแบบที่มาเป็นครอบครัว มากับกลุ่มเพื่อน มากันเป็นหมู่คณะ และเฉพาะคู่รัก



บ้านพักของกมลเป็นพูลวิลล่าสไตล์ทรอปิคอลร่วมสมัย ตั้งอยู่บนเนินที่สามารถมองออกไปเห็นวิวทะเลได้อย่างชัดเจน ทั้งยังมีสระว่ายน้ำสุดสวยส่วนตัวอีกต่างหาก



“วิวสวยมาก ห้องก็สวย เหมาะกับการมาฮันนีมูนจริงๆ ครับ” กมลเอ่ยปากชม

“ใช่ไหมครับ เจ้านายผมท่านคิดไว้แล้วว่าคุณไอต้องชอบใจแน่ๆ”

“ครับ ประทับใจมากๆ เลย แล้วก็พอจะนึกไอเดียดีๆ ออกแล้วด้วยครับ” กมลว่ายิ้มๆ

“เอาไว้เดี๋ยวเราค่อยคิดกันตอนที่ไปทานข้าวกลางวันดีกว่านะครับ ตอนนี้เชิญคุณไอพักผ่อนก่อนดีกว่า ยังไงทางผมจะให้คนรถมารับเมื่อถึงเวลาอาหารกลางวันครับ”

“ขอบคุณมากนะครับคุณวิมล คุณดูแลพวกเราดีมากๆ จนผมเกรงใจไปหมดเลย” เขารู้สึกเกรงใจจริงๆ ทั้งๆ ที่โรงแรมยังไม่เปิดให้บริการด้วยซ้ำ แต่วันนี้พนักงานก็ออกมาต้อนรับพวกเขาพร้อมหน้า ทำราวกับไม่ใช่หุ้นส่วนทางธุรกิจ

“เป็นหน้าที่ของพวกเราอยู่แล้วครับ ที่ต้องดูแลคุณไอกับคณะจาก I promise ให้ดีที่สุด” เพราะเจ้านายเขากำชับมานักหนา ว่าหากมีใครทำให้คนคนนี้ขุ่นเคืองใจแม้แต่น้อย ต้องโดนเล่นงานสถานหนัก ตัวของวิมลเองก็ต้องทำตามอย่างเคร่งครัด เพราะไม่อยากถูกเด้งออกจากโรงแรมตั้งแต่ยังไม่เปิดให้บริการ

“ขอบคุณอีกครั้งครับ ทางเราเองก็จะทำงานในหน้าที่ให้ดีที่สุดเหมือนกัน” คนพูดยิ้มหวานจริงใจให้อีกฝ่าย ก่อนจะขอตัวเข้าห้องพักของตน



   ชายหนุ่มมองกระเป๋าที่ถูกนำมาเก็บไว้ให้ก่อนหน้ายิ้มๆ ก่อนจะยกไปจัดใส่ตู้เสื้อผ้าให้เรียบร้อย จากนั้นก็ไปล้างหน้าล้างตาให้สดชื่อ แล้วเดินสำรวจรอบๆ บริเวณห้องพักพร้อมกับเก็บรูป



   ในตอนแรกที่ดูผาดๆ เขารู้สึกว่าห้องนี้วิวดีและสวยมาก แต่เมื่อสำรวจดูให้ละเอียด ดูเหมือนว่าห้องที่เขาได้พักจะเป็นห้องที่วิวดีที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะมันยื่นล้ำออกมาจากวิลล่าอื่นๆ พอสมควร จึงไม่ถูกบดบังทัศนียภาพ กล่าวคือสามารถมองเห็นทะเลและท้องฟ้าสีครามได้เกือบ 180 องศา



    “สวยจัง” หนุ่มหน้าหวานครางออกมาเบาๆ ขณะยืนชมวิว



   ไม่รู้ว่าถ้าจะเข้าพักในวิลล่าหลังนี้สักคืนต้องใช้เงินเท่าไหร่ เขารู้สึกว่าตัวเองโชคดีเอามากๆ หากว่าพวกหลานๆ มาเห็น คงจะตาลุกวาวกันหน้าดู คิดถึงตรงนี้กมลก็หยิบโทรศัพท์ออกมาเฟสไทม์หาน้องสาว และเอาภาพให้หล่อนกับลูกๆ ดูเป็นขวัญตา



   เด็กๆ ร้องครวญด้วยความอิจฉากันยกใหญ่ ก่อนจะอ้อนวอนขอให้กมลพาไปในครั้งหน้า



   “ไม่รู้ว่าพักคืนนึงจะถึงแสนหรือเปล่า เอาเป็นว่าถ้าไม่แพงมาก คราวหลังลุงจะพามานะ”



   เขาคุยกับน้องสาวและเด็กๆ อยู่พักใหญ่ ก่อนจะกดวางสายไปเพราะสองแฝดต้องไปเรียนว่ายน้ำต่อ ซึ่งก็เป็นเวลาพอดีกับที่มีคนมารับกมลที่ห้อง เพื่อพาไปทานอาหารกลางวันและคุยงานกับทางเจ้าของโรงแรม รวมทั้งผู้บริหารคนอื่นๆ

















   ครั้นมาถึงกมลก็เห็นกลองกับนิดามองหน้าเขาแปลกๆ ชายหนุ่มเดินเข้าไปหาทั้งสอง กำลังจะถามว่ามีเรื่องอะไรกัน สายตาของเขาก็ถูกหยุดเอาไว้ที่ใครคนหนึ่งเสียก่อน



   ดวงตาเจ้าเล่ห์กับรอยยิ้มที่แสนคุ้นตาทำให้กมลเกือบถอนหายใจออกมาแรงๆ แต่ดีที่หนุ่มหน้าหวานยั้งตัวเองเอาไว้ได้เสียก่อน



   คนคนนั้นเดินเข้ามาใกล้ ก่อนยิ้มกว้างขึ้นอีกนิด แล้วเอ่ยออกมาด้วยท่าทางมั่นใจไม่เปลี่ยน



   “สวัสดีครับคุณไอ”

   “สวัสดีครับ คุณณธิป”

   “การเดินทางเป็นยังไงบ้างครับ ราบรื่นดีใช่ไหม”

   “ครับ”

   “แล้ววิลล่าที่ผมจัดไว้ให้ล่ะ คุณชอบหรือเปล่า” อีกฝ่ายถามด้วยความกระตือรือร้น

   “ครับ มันสวยมาก” กมลพูดความจริง ทว่ารอยยิ้มที่มอบให้กลับเป็นรอยยิ้มตามมารยาทเท่านั้น

   “ดีแล้วครับที่คุณชอบ คุณจะได้เอาไปโปรโมทกับลูกค้าได้ถูก เห็นว่าคราวนี้พาช่างภาพมือหนึ่งของ I promise มาด้วย หวังว่าผมคงได้เห็นภาพสวยๆ นะครับ”

   “ครับ” กมลพยักหน้ารับ ก่อนแนะนำให้ณธิปได้รู้จักกับกลองและนิดา เมื่อแนะนำตัวกันเรียบร้อย เจ้าของโรงแรมก็เอ่ยชวนทุกคนไปทานอาหาร

   “เอาล่ะครับ อย่าเสียเวลายืนคุยเลย ไปทานอาหารกันดีกว่า พวกคุณจะได้เริ่มงานกัน เห็นว่าวันนี้จะมีพายุเข้าด้วย ผมกลัวว่าแสงหมดแล้วจะทำงานลำบาก อีกอย่างจะถ่ายภาพข้างนอกไม่ได้ด้วย”

   “ครับ”



   กมลได้แต่ตอบรับและไม่ได้ต่อความอะไร อันที่จริงเขาแอบประหลาดใจกับท่าทีที่ดูเปลี่ยนไปของณธิปเล็กน้อย เพราะดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่ได้จ้องกะลิ้มกะเหลี่ยเขาเหมือนทุกทีที่พบกัน ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีแล้ว



   ระหว่างมื้ออาหารพวกเขาคุยเกี่ยวกับงานที่ต้องทำร่วมกันเสียส่วนใหญ่ มีบ้างที่ณธิปถามกมลเกี่ยวกับปางปาลี เพราะต้องการนำความคิดเห็นของคนอื่นๆ ไปใช้ปรับปรุงเพิ่มเติมก่อนเปิดให้บริการจริง



   กมลรู้สึกพลาดนิดหน่อย ตรงที่ไม่ได้นึกถึงว่าณธิปจะเป็นผู้บริหารงานโรงแรมสาขานี้ ด้วยความที่เอ็นพีกรุ๊ปค่อนข้างใหญ่ เขาจึงเดาเอาว่าพวกผู้บริหารระดับสูงเช่นเจ้าของอย่างณธิปหรือคุณณภัทรจะไม่ได้ลงมาดูงานเองทั้งหมด ทว่าเมื่อไตร่ตรองดูดีๆ แม้เขาจะไม่ค่อยอยากพบเจอคนคนนี้เท่าไหร่นัก แต่ถ้ามันเป็นเรื่องงาน กมลคิดว่าอีกฝ่ายน่าจะมีความรับผิดชอบพอ ไม่เช่นนั้นคงไม่ดำรงตำแหน่งสูงๆ ในกลุ่มผู้บริหารได้แม้ว่าจะเป็นหุ้นส่วนหลักก็ตาม เพราะสมัยนี้ใช่ว่าแค่มีเงินก็ซื้อได้ทุกอย่าง หากไม่เก่งจริง คงไม่สามารถพาธุรกิจไปรอดได้



   และจากการพูดคุยและการวางตัวต่อหน้าทุกคน ณธิปทำให้กมลวางใจไปได้หลายส่วน กระทั่งตอนที่เจ้าตัวรวมถึงผู้จัดการพากมลไปชมรอบๆ โรงแรม และจัดการให้คนมาช่วยกลองถ่ายภาพ ณธิปก็พูดคุยกับเขาแค่เรื่องงานเท่านั้น



   “ฝนจะตกแล้ว ผมว่าคุณไอบอกให้กลองเขาพอแค่นี้ดีกว่านะครับ วันนี้ถ่ายพระอาทิตย์ตกดินไม่ได้ พรุ่งนี้ค่อยตื่นเช้าๆ มาถ่ายตอนพระอาทิตย์ขึ้นแทน” ณธิปเสนอ

   “ก็ดีเหมือนกันครับ เพราะจุดที่สามารถใช้จัดงานนอกอาคารกลองเขาก็เก็บภาพไว้หมดแล้ว”



   คนหน้าหวานเดินไปบอกคนของตนก่อนจะพากันเข้าอาคาร จากนั้นจึงขอตัวไปดูรูปกับกลองที่ห้องพัก แต่ช่างภาพหนุ่มกลับบอกให้กมลกลับไปพักผ่อนที่ห้อง เพราะเขาต้องการเช็คและปรับด้วยตัวเองเสียก่อน กมลจึงต้องแยกกลับที่พักของตนเอง



   ทว่าระหว่างที่เดินไปขึ้นรถกอล์ฟที่ทางโรงแรมเตรียมไว้ ณธิปกลับเดินตามเขามา ในทีแรกกมลคิดว่าอีกฝ่ายคงแค่มาส่งที่รถตามมารยาท ทว่าเมื่อได้ยินเสียงทุ้มสั่งให้พนักงานลงจากรถและขอกุญแจเอาไว้เอง กมลก็รีบทักท้วงทันที




   “คุณจะไปส่งผมหรือครับ”

   “ใช่ครับ ขึ้นมาสิ” ไม่ว่าเปล่า ณธิปยังตีลูกมึนเดินไปนั่งบนรถเสียอย่างนั้น

   “ไม่เป็นไรครับ ผมเกรงใจ” หากกมลเองก็ไม่ยอมง่ายๆ เช่นกัน

   “ฝนจะตกแล้วนะคุณไอ ขึ้นมาเถอะครับ”

   “แต่ผมกลับเองได้ครับ”

   “ผมมีเรื่องงานจะคุยกับคุณ”

   “เราไว้คุยกันพรุ่งนี้ก็ได้นี่ครับ”

   “แต่ผมต้องถามตอนนี้ครับ”

   “ผมไม่สะดวก…”


   ครืน!


   ยังไม่ทันจบประโยค เสียงฟ้าคำรามก็ดังก้องไปทั่ว ณธิปจึงได้ทีมัดมือชก


   “ถ้าคุณไม่ขึ้นมา เราต้องเปียกแน่ๆ” ณธิปว่า ก่อนพยักพเยิดไปที่พนักงานขับรถที่ยืนมอง ให้รู้ว่าพวกเขาตกเป็นเป้าสายตาของคนอื่นอยู่




   กมลมองฟ้า มองพนักงานคนนั้น ก่อนจะหันกลับมามองตาของคนมากแผนการ สุดท้ายจึงจำใจขึ้นไปนั่งบนรถอย่างไม่มีทางเลือก



   “คุณนี่ดื้อเหมือนกันนะ” ณธิปว่ายิ้มๆ ก่อนออกรถ

   “คุณก็เหมือนกันนั่นแหละ”

   “หึ”



   อีกฝ่ายไม่ได้เถียงอะไรกลับมา ได้แต่หัวเราะเบาๆ ทำให้กมลคิดเสียใจที่ยั้งปากไว้ไม่ทัน ความจริงแล้วกับคนคนนี้ เขาไม่ควรต่อล้อต่อเถียงด้วยเลยสักนิด



   พวกเขาขับรถไปตามทาง แม้ไม่ไกลมากเท่าไหร่ แต่ก้อนเมฆสีเทาก็ไม่อาจทนรับน้ำหนักของหยดน้ำได้ไหว สุดท้ายฝนก็ตกลงมาระหว่างทาง ตอนอยู่บนรถนั้นไม่เปียกเท่าไหร่ แต่ตอนที่วิ่งจากรถไปยังวิลล่าไม่กี่ก้าว พวกเขากลับตัวเปียกชุ่มไปหมด



   กมลรีบไขกุญแจเปิดห้องเร็วๆ แล้วถอดรองเท้าเข้าไปด้านใน ณธิปรีบก้าวตามเข้าไปและปิดทันที และเสียงล็อคประตูก็ทำให้คนหน้าหวานหันกลับมาตามสัญชาตญาณ



   ทั้งคู่จ้องหน้ากันครู่หนึ่ง เหมือนต่างฝ่ายต่างกำลังคิดว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี



   “ข้างนอกฝนยังตกหนัก…” ระหว่างที่ณธิปกำลังหาข้ออ้างเพื่อจะได้มีโอกาสอยู่กับอีกฝ่ายสองต่อสอง กมลก็เอ่ยสิ่งที่ทำให้คนเจ้าเล่ห์ต้องยิ้มออกมาจนหน้าบาน

   “คุณรออยู่ตรงนี้ก่อน ผมจะไปเอาผ้าขนหนูมาให้”

   “คุณให้ผมอยู่ที่นี่กับคุณไอได้หรือครับ”

   “ได้สิ จนกว่าฝนจะหยุด คงไม่นานหรอกใช่ไหมล่ะครับ” กมลรีบเอ่ยข้อแม้ขึ้นมาป้องกันตัวเอง

   “ขอบคุณนะ”



   กมลปล่อยให้อีกฝ่ายยืนยิ้มอยู่ตรงนั้น ก่อนผละเข้าไปหาผ้าเช็ดตัวมาให้ตัวเองและณธิป โดยที่ไม่รู้เลยว่าคนที่เขายอมให้อยู่ด้วยกำลังนึกลิงโลดอยู่ในใจ



   เพราะคุณไอคงไม่รู้ว่าเมื่อเกิดพายุปลายฤดู ฝนของที่นี่มักตกนาน และบางที…อาจใช้เวลาถึงเช้าเลยก็ได้









++++++++++++++++++++++++++++





มาต่อแล้ววววว
ตอนนี้ก็ อะแฮ่มๆ พระเอกมีความเล่นใหญ่  :hao7:
แต่นางก็ทำงานด้วยน้า ไม่ใช้แค่จะจีบหนุ่มอย่างเดียว
เอาเป็นว่าไม่พูดมาก มารอดูตอนต่อไปกันเนอะ
ตอนที่แล้วเริ่มมีนักอ่านหน้าใหม่มาอ่านมากขึ้น
ยินดีต้อนรับนะค้าาา


เจอกันตอนหน้าค่ะ


ละอองฝน.





หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 11 [06/10/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 06-10-2016 01:27:08
รออ่านตอนหน้าใจจดจ่อมาก  :hao3:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 11 [06/10/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 06-10-2016 01:28:21
แผนช่างล้ำลึก หนูไอจะหลงกลไหมเนี่ย 555555  :hao7:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 11 [06/10/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 06-10-2016 02:14:12
 :z6: ยังคงไม่ชอบหน้าเหมือนเดิม
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 11 [06/10/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 06-10-2016 02:49:39
ไอสู้ๆอย่าไปยอมนะ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 11 [06/10/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 06-10-2016 07:54:41
 :L2: :L1: :pig4:

ไอออออออ มาแล้ว ใจดีตลอดอะ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 11 [06/10/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 06-10-2016 14:03:52
พี่ไอ ระวังตัวด้วยนะ



อย่าใว้ใจไอ้คุณเล็กเด็ดขาด



ดูๆแล้วคุณเล็กมีแผนร้ายอยูาในใจแน่ๆ



พี่ไอ ต้องฉลาดและรู้ทันให้มาก
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 11 [06/10/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 06-10-2016 15:37:59
ไม่ชอบคุณเล็กนะ ริสัยไม่ดี ไออย่าใจอ่อนนะ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 12 [08/10/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: ละอองฝน ที่ 08-10-2016 03:02:03







บทที่ 12









   กมลเลื่อนดูรูปในคอมพิวเตอร์ที่กลองเพิ่งส่งอีเมลล์มาให้เมื่อครู่อย่างไม่ค่อยมีสมาธิเท่าใดนัก เพราะในหัวคิดเรื่องของคนที่กำลังร้องเพลงอย่างสบายอารมณ์อยู่ในห้องน้ำ เมื่อครู่ต่างฝ่ายต่างก็เปียกมะลอกมะแลก ดังนั้นกมลจึงตัดสินใจอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน และอนุญาตให้ณธิปอาบบ้างเป็นลำดับถัดไป



   เขาพยายามคิดว่านี่คือเหตุสุดวิสัย และก็คงไม่อาจทำตัวใจไม้ไส้ระกำกับหุ้นส่วนทางธุรกิจได้ จึงได้ตัดสินใจเช่นนั้น แต่เมื่อลองคิดๆ ดูจากประสบการณ์ที่เคยผ่านมา กมลก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกระแวงอีกฝ่ายอยู่บ้างเหมือนกัน เขาถอนหายใจออกมาเบาๆ รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังก้าวเข้าไปติดกับดักอย่างไรอย่างนั้น



   แต่เอาเถอะ คนคนนั้นคงไม่กล้าทำอะไรอุกอาจ อย่างมากก็คงแค่พูดเหมือนหมาหยอกไก่แบบทุกทีเท่านั้น ชายหนุ่มคิด ก่อนจะหันไปมองลมพายุด้านนอกว่ามีท่าทีจะสงบลงบ้างหรือยัง ซึ่งเป็นจังหวะที่ณธิปออกมาจากห้องน้ำพอดี



   “ขอบคุณสำหรับเสื้อนะครับ ใส่ได้พอดีเลย”




มองแค่หน้าหวานๆ ณธิปก็เผลอคิดไปว่าคุณไอคงตัวบางๆ น่าทะนุถนอม แต่พอลองใส่เสื้อและประเมินจากส่วนขาที่โผล่ออกมาจากกางเกงนอน เขาก็รู้ได้ทันทีว่าผู้ชายหน้าหวานคนนี้เป็นคนมีกล้ามเนื้อพอสมควรทีเดียว



   “ดีแล้วครับ” โชคดีที่กมลหยิบเสื้อนอนติดมาสองตัว จึงมีให้ณธิปยืมเปลี่ยนได้ก่อน ส่วนขนาดก็ไม่ได้เล็กมากเกินไปจนดูน่าเกลียด

   “คุณไอทำอะไรอยู่ครับ”

“ดูรูปที่กลองส่งมาให้ครับ”

“ส่งมาให้แล้วเหรอ ทำงานเร็วดีจริง ผมขอดูด้วยสิครับ”



ครั้นณธิปเดินเข้ามาใกล้ กมลก็ผุดลุกขึ้น ก่อนจะเดินไปค้นเอาสายชาร์จแบตเตอรี่มาถือ และหอบคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คไว้ในอ้อมแขน



“เราออกไปนั่งที่โต๊ะด้านนอกดีกว่าครับ ผมว่าคงสะดวกกว่า”

“ได้ครับ” ณธิปพยักหน้ารับ ก่อนเดินตามอีกฝ่ายออกไปจากส่วนของห้องนอน



กมลหาทางเลี่ยงที่จะนั่งอยู่ในห้องนอนกับอีกฝ่ายได้อย่างแนบเนียน ไม่ใช่ว่าเขาป้องกันตัวเองไม่ได้ หรือระแวงจนขี้ขึ้นสมอง แต่ชายหนุ่มรู้สึกว่ามันไม่เหมาะนัก อีกอย่างเขากับณธิปก็ไม่ได้สนิทกันขนาดนั้นด้วย



เมื่อมาถึงโต๊ะทานอาหารด้านนอก หนุ่มหน้าหวานก็เสียบสายชาร์จแล้วนั่งดูรูปข้างๆ กับณธิป ระว่างที่เลื่อนรูปไปเรื่อยๆ พวกเขาไม่ได้พูดคุยกันมากนัก กระทั่งถึงไฟล์สุดท้าย ณธิปจึงเริ่มเอ่ยก่อน



“กลองเขาถ่ายรูปสวยนะครับ ผมอยากซื้อไฟล์เอาไว้โปรโมตลงในเว็บไซด์ของโรงแรมเลย”

“ไม่ต้องซื้อหรอกครับ เดี๋ยวผมส่งให้ก็ได้ คุณมีอีเมลล์หรือเปล่า”

“มีสิ” เจ้าของดวงตารีเรียวพยักหน้ารับ “ว่าแต่คุณไอนี่ใจดีจังนะครับ ไม่คิดเงินด้วย”

“ไม่หรอกครับ เรื่องเท่านี้เอง อีกอย่างเราก็ทำธุรกิจร่วมกัน”

“แบบนี้ก็ดีแล้วครับ ผมจะได้เซฟงบด้วย คุณรู้ไหมกว่าปางปาลีจะเสร็จ งบบานปลายจนผมถูกทางบอร์ดบริหารติงมาเหมือนกัน”

“เป็นธรรมดาครับ ตอนผมปรับภูมิทัศน์ที่บริษัทงบก็ค่อนข้างบานปลายเหมือนกัน เพราะอยากทำให้มันออกมาดีที่สุด แต่ก็ต้องคอยตบให้อยู่กับร่องกับรอยด้วย”

“นั่นสิ ยิ่งปางปาลีนี่ถือเป็นลูกคนแรกของผม ก็เลยเห่อมากไปหน่อย กว่าจะจัดสรรลงตัวจนเปิดให้บริการได้ ทำเอาปวดหัวน่าดู”



นึกๆ ดูแล้วณธิปก็ขำตัวเอง ตอนที่จบมาใหม่ๆ เขาก็มีโอกาสได้จับโปรเจคใหญ่ทันที นั่นคือคุมโครงการก่อสร้างรวมทั้งบริหารโรงแรมที่ภูเก็ต ตอนนั้นเขาแบกความคาดหวังจากหลายๆ คนเอาไว้มาก แต่ถึงตอนนี้มันก็ผ่านมาได้ด้วยดี แม้ต้องศึกษาและลองผิดลองถูกอยู่นานก็ตาม



“ลูกคนแรกหมายถึง…” กมลถามต่อ เพราะเมื่อหัวข้อสนทนาอยู่ที่เรื่องงาน มันก็ดึงความสนใจของเขาได้อยู่หมัด

“ก็ตอนเริ่มเข้ามาช่วยงานที่บ้าน ผมได้จับโครงการนี้โครงการแรก แถมพี่ภัทรยังเสนอให้ทำอย่างเต็มตัวด้วย” ณธิปขยายความ

“อ๋อ แล้วตอนนี้คุณมีโครงการอื่นที่ดูแลอยู่ด้วยหรือเปล่าครับ”

“ตอนแรกดูที่นี่ที่เดียวก็หัวหมุนแล้วล่ะ แต่พอลงตัวก็ไปช่วยดูที่สาธรกับโครงการใหม่ที่หัวหินด้วย เพราะพี่ภัทรต้องไปลงเวลาให้กับสายการบินเต็มตัวน่ะครับ"

“ที่หัวหินเป็นโรงแรมเหมือนกันหรือครับ”

“ไม่ใช่หรอกครับ เป็นโครงการบ้านพักตากอากาศน่ะ แต่ไม่ได้มีหลายยูนิตนักหรอก เป็นโครงการขนาดกลางน่ะครับ”

“อ๋อ” กมลพยักหน้ารับ นึกชื่นชมคนคนนี้อยู่ในใจอีกหนึ่งข้อ “คงจะเหนื่อยน่าดูเลยนะครับ รับผิดชอบตั้งมากขนาดนั้น”

“ก็พอสมควรเลยล่ะ” ชายหนุ่มยอมรับตามตรงแบบไม่วางฟอร์ม

“แต่ก็เก่งนะครับ อายุเท่านี้ ทำได้ขนาดนี้ อย่างผมแค่ดูแลงานที่บริษัทอย่างเดียวก็แทบแย่แล้ว” หนุ่มหน้าหวานเอ่ยออกมาอย่างจริงใจ

“ขอบคุณครับ” คนเจ้าเล่ห์กระตุกยิ้ม ก่อนจะทำตาพราวระยับแล้วหยอกอีกฝ่ายไปประโยคหนึ่ง “แต่ผมไม่ได้เก่งแค่เรื่องงานอย่างเดียวนะ”

“อ้อ…” จากเรื่องงานเปลี่ยนมาเป็นคำพูดที่แฝงนัยได้ในประโยคเดียว กมลจึงเกือบจะตั้งตัวไม่ติด

“คุณไอไม่อยากรู้เหรอว่าผมเก่งเรื่องอะไร” ครั้นเห็นอีกฝ่ายชะงัก ณธิปยิ่งนึกสนุก

“ไม่ล่ะครับ สำหรับผม รู้แค่เรื่องงานเรื่องเดียวก็พอแล้วล่ะ” เห็นคนตอบ ตอบหน้าตาย คนที่แกล้งเย้าเอาไว้ก็เผลอหลุดขำออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่
   
“ให้ตายสิ คุณนี่เป็นคนที่สุดยอดจริงๆ นะ” ณธิปเอียงหน้าแล้วเท้าคางจ้องกมลยิ้มๆ “ไม่เหมือนคนในแบบที่ผมคุ้นเคยเลยรู้ไหม”
   
“เหรอครับ” กมลยังคงสีหน้าเฉยสนิทเอาไว้ แล้วเบนสายตาไปมองจอคอมพิวเตอร์แทนหน้าตากรุ้มกริ่มของคนที่นั่งข้างๆ

“อืม ไม่เหมือนเลย”
   



ดวงตาเรียวมองสำรวจใบหน้าของอีกฝ่ายตั้งแต่ปลายคาง ริมฝีปาก จมูก ดวงตา คิ้ว หน้าผาก ไปจนถึงปลายเส้นผม ทุกสิ่งทุกอย่างถูกจัดสรรอย่างลงตัว และเหมือนที่เคยเห็นก่อนหน้าไม่เปลี่ยน ทว่าความรู้สึกที่มีต่อเจ้าของใบหน้านี้กลับค่อยๆ เปลี่ยนไปในทุกครั้งที่มอง
   


เขาคิดว่ามันคงไม่ใช่เพราะรูปลักษณ์ภายนอก แต่เป็นอะไรสักอย่างที่อยู่ภายในตัวคนคนนี้ ที่มันดึงดูดความสนใจของเขาได้อยู่หมัด



   ความรู้สึกอึดอัดของกมลแผ่ขยายมากขึ้น เขาเริ่มทำตัวไม่ถูกเมื่ออีกฝ่ายเอาแต่จ้องหน้าไม่ลดละ จนในที่สุดเขาก็ไม่มีสมาธิมองอีเมลล์ของลูกค้าที่เพิ่งส่งมาให้อ่านเมื่อครู่



   กมลหันหน้ากลับมามองเจ้าของโรงแรมหนุ่มตาขวาง คิ้วที่ขมวดเล็กๆ ตรงกลางหน้าผากไม่ได้ทำให้ณธิปรู้สึกเกรงกลัวเลยสักนิด แต่เขากลับยิ่งรู้สึกตื่นเต้นที่ทำให้อีกฝ่ายเปลี่ยนสีหน้าได้



   “จะมองให้ทะลุไปเห็นหูอีกข้างของผมด้วยไหมครับ”



   คำประชดประชันที่ได้ยินทำให้ณธิประเบิดเสียงหัวเราะออกมาอีกรอบ และเสียงหัวเราะนั่นก็ทำให้กมลหงุดหงิดมากขึ้น ทว่าก่อนจะพูดอะไรออกมาอีกคำ คนเจ้าเล่ห์ก็ขยับโน้มตัวเข้าไปใกล้ คล้ายจะโอบคนหน้าหวานกลายๆ



   “ทำยังไงดีล่ะคุณไอ”


   “อะไร?”

   “ผมว่า ผมชักจะชอบคุณจริงๆ เสียแล้วสิ
   










   เมื่อคืนกว่าณธิปจะกลับไปนอนที่ห้องของตัวเองได้ก็ดึกพอสมควร เพราะพอฝนซา คนคนนั้นก็โทรศัพท์สั่งให้คนนำอาหารมาให้ทานมื้อดึก ทั้งๆ ที่กมลก็ปฏิเสธไปแล้ว แต่เจ้าตัวก็ไม่ยอมท่าเดียว สุดท้ายหนุ่มหน้าหวานจึงยอมทำตามใจ เพื่อตัดปัญหาไม่ให้อีกฝ่ายยื้อเวลาอยู่ต่อนานมากกว่าเดิมอีก



   ครั้งเมื่อทานกันเสร็จเรียบร้อย ณธิปก็ยอมกลับไปง่ายๆ หากยังทิ้งข้อความให้กมลต้องขบคิดว่าอีกฝ่ายยังมีแผนอะไรซ่อนเอาไว้อยู่หรือไม่



   “พอผมกลับก็รีบเข้านอนเลยนะครับ พรุ่งนี้ตื่นมาทำงานแต่เช้า ถ้าเสร็จเร็วผมจะได้พาไปดูอะไรดีๆ”



   และกมลก็ยังเดาไม่ออกว่า อะไรดีๆ ที่อีกฝ่ายบอกไว้ คืออะไรกันแน่



   “เฮ้อ~”



หนุ่มหน้าหวานสลัดความคิดที่วนเวียนอยู่กับคำพูดและการกระทำของณธิปทิ้ง ก่อนจะสำรวจเครื่องแต่งกายให้เรียบร้อยแล้วออกจากห้อง เพื่อไปพบกับทีมงานที่รออยู่ที่ล็อบบี้โรงแรม



   อาจเป็นเพราะเมื่อคืนฝนตก เช้าวันนี้อากาศจึงแจ่มใสเป็นพิเศษ ทีมงานทุกคนมาทันเวลาพระอาทิตย์ขึ้นพอดี จึงสามารถเก็บภาพสวยๆ เอาไว้ได้พอสมควร



   กระทั่งเดินเก็บภาพตามจุดต่างๆ ที่ถ่ายค้างเอาไว้เมื่อวานจนเสร็จ ผู้จัดการวิมลก็พาพวกเขาไปรับประทานอาหารเช้าที่จัดไว้ให้ ระหว่างทานอาหารทุกคนก็ได้พูดคุยถึงงานที่เรียบร้อยก่อนเวลาที่กำหนดไว้



   “งานเสร็จเร็วแบบนี้ คุณไอจะเลื่อนไฟล์กลับไหมคะ”

   “อืม” คนถูกถามหยุดคิดเล็กน้อย ก่อนตอบ “เดี๋ยวขอดูเที่ยวบินก่อนนะ เพราะเลื่อนไฟล์กะทันหันแบบนี้ ไม่รู้จะมีที่นั่งหรือเปล่า”

   “คุณไอจองไฟล์กลับกรุงเทพตอนกี่โมงครับ” เป็นวิมลที่ถามบ้าง

   “คืนนี้ตอนสองทุ่มครึ่งครับ แต่เราเสร็จงานกันแต่เช้าเลย เมื่อวานก็คุยรายละเอียดต่างๆ กับคุณณธิปไปหมดแล้ว เพราะฉะนั้นวันนี้ก็ไม่น่าจะมีอะไรอีก”

   “เอ…แต่เห็นคุณณธิปว่าคุณไอยังมีโปรแกรมอยู่กับเราทั้งวันนี่ครับ”

   “โปรแกรมอะไรกันครับ”

   “ล่องเรือไงครับ นี่ผมก็เตรียมการไว้หมดแล้ว ท่านว่าตกลงกับคุณไอแล้วเมื่อคืน อีกอย่างป่านนี้ก็คงไปรอที่เรือแล้วด้วย” วิมลเฉลย “พอพูดแล้วผมก็เพิ่งนึกขึ้นได้ ประเดี๋ยวผมไปสั่งให้คนเตรียมรถก่อนดีกว่า เดี๋ยวทุกท่านทานอาหารเสร็จได้เดินทางไปที่ท่าเรือของเราเลย จะได้ไม่เสียเวลารอ” พูดจบวิมลก็ขอตัวออกไปประสานงานกับคนรถ ทิ้งให้ทีมงานจาก I promise ทุกคนนั่งงงเป็นไก่ตาแตก

   “ล่องเรืออะไรกันคะคุณไอ” นิดาหันมาถามด้วยความตื่นเต้น

   “เอ่อ…” กมลเองก็ไม่รู้ เพราะเมื่อคืนเขาไม่ได้ตกลงอะไรไว้กับคนเจ้าเล่ห์สักนิด “พี่ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน คุณณธิปไม่ได้บอกรายละเอียดพี่ไว้ด้วย ยังไงเดี๋ยวไปดูก็คงจะรู้ ว่าแต่พวกเราสองคนมีใครเมาเรือไหม” ผู้เป็นหัวหน้าถามลูกน้องสองคนด้วยความเป็นห่วง

   “ไม่ครับ”

   “นิดาก็ไม่เมาค่ะ ว่ายน้ำเก่งด้วย ดีจังที่เราได้เที่ยวก่อนกลับ” หญิงสาวบอกอย่างร่าเริง ก่อนจะขอตัวไปหยิบหมวกสานที่ห้องเพื่อนำติดตัวไปด้วย

   “คุณณธิปนี่เขาดูแลเราดีเกินไปหรือเปล่าครับ เหมือนไม่ได้มาทำงานเลย” นายกลองตั้งข้อสังเกตขณะเช็คเลนส์กล้อง

   “อืม นั่นสิ” กมลเองก็คิดเช่นเดียวกับช่างภาพหนุ่ม “แต่ก็ดีแล้วไม่ใช่หรือไง มาทำงานด้วย มาเที่ยวด้วยแบบนี้”

   “สำหรับผมก็ดีนะครับ สนุกดี” ชายหนุ่มเว้นวรรค ก่อนหันมามองหน้าเจ้านายตัวเอง “แต่กลัวว่าคุณไอจะไม่สนุกน่ะสิ”

   “ทำไมล่ะ”

   “ก็เขาดูวอแวกับคุณไอยังไงก็ไม่รู้ ยังไงถ้าอึดอัดก็บอกผมได้นะ ผมจะช่วยกันๆ ให้”



   กมลมองหน้าลูกน้องคนสนิทที่ทำงานด้วยกันมานานอย่างอึ้งๆ ด้วยไม่คิดว่ากลองเองก็สังเกตเห็น ก่อนยิ้มอย่างอ่อนโยนให้อีกฝ่าย



“ขอบใจนะกลอง”

“ไม่เป็นไรครับ แต่สิ้นปีนี้ผมขอโบนัสเพิ่มมากกว่าคนอื่นหน่อยจะดีมาก”

“เดี๋ยวเถอะ ไอ้เราก็นึกว่าอยากช่วยจริงๆ”

“หึ ผมอยากช่วย แต่ถ้ามีข้อแลกเปลี่ยนด้วยก็ดีครับ เพราะดูท่าผู้ชายคนนั้นจะไม่ธรรมดานะ มองดูก็รู้ว่าอยู่ในระดับที่ทำให้คุณไอของพวกเราปวดหัวได้แน่ๆ จริงไหมครับ”



กมลไม่ได้ตอบ แม้คำพูดของกลองค่อนข้างจะตรงกับความจริงทุกประการก็ตาม เพราะไม่ว่าจะพบกันกี่ครา ณธิปก็สามารถทำให้เขาปวดเศียรเวียนเกล้าได้ทุกครั้งไป











   ช่วงสายของวันกมลและทีมงานถูกพานั่งรถมาที่ท่าเรือซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตัวโรงแรมเท่าไหร่นัก ที่นั่นมีเรือยอร์ชจอดเทียบท่าอยู่ละลานตาไปหมด วิมลเดินนำพวกเขาไปยังเรือ Catamaran สุดหรู ลำที่เตรียมพร้อมจะออก และที่นั่นกมลก็ได้พบกับณธิปซึ่งรออยู่ก่อนแล้ว



   “มีใครเมาเรือกันหรือเปล่าครับ”

   “ไม่มีครับ” กมลตอบแทนทุกคน

   “ถ้าอย่างนั้นก็ดีเลย เดี๋ยวจะหมดสนุกเสียก่อน เชิญครับ เรือของเราพร้อมออกเดินทางแล้ว” ณธิปว่าอย่างยิ้มแย้ม พร้อมผายมือเชิญให้ทุกคนขึ้นมาบนเรือ



   การเดินทางคราวนี้คนที่ดูจะตื่นเต้นที่สุดก็เห็นจะเป็นหญิงสาวคนเดียวของคณะ เพราะหลังจากทานอาหารเช้าเรียบร้อย นิดาก็ขอตัวขึ้นไปเตรียมข้าวของและกลับมาพร้อมกับเสื้อผ้าสวยๆ ชุดใหม่



   ส่วนกมลนั้นก็แต่งตัวง่ายๆ ไม่ได้เตรียมอะไรมากมาย เขาสวมชุดเดิมที่สวมเมื่อเช้า รับเครื่องดื่มเย็นๆ มาจากบริกร ก่อนเดินไปนั่งรับลม ปล่อยให้พนักงานทั้งสองเดินถ่ายรูปตามมุมต่างๆ ขณะที่เรือแล่นไปยังจุดหมายแรก



   “คุณชอบไหม” เจ้าของเสียงถามเดินมาหยุดอยู่ใกล้ๆ ก่อนนั่งลงข้างๆ กมล

   “ก็ดีครับ คู่แต่งงานหลายๆ คู่คงชอบแบบนี้ มันค่อนข้างโรแมนติกดี ผมว่าใส่โปรแกรมนี้ลงไปด้วยก็ดีนะครับ นอกจากจะเสียค่าเช่าสถานที่แล้วได้รับบริการห้องพัก ถ้าเป็นแพคเกจแบบพรีเมี่ยมขึ้นไปอีก ก็มีโปรแกรมล่องเรือแถมไปด้วย” 

   “ผมไม่ได้หมายถึงเรื่องงานสักหน่อย แล้วมันแค่ก็ดีเองเหรอ อุตส่าห์คิดว่าคุณจะตื่นเต้นเสียอีก นี่ผมไม่เคยพาใครมาแบบนี้เลยนะ” ชายหนุ่มแสร้งทำเสียงน้อยใจนิดๆ เขาสู้อุตส่าห์ทำให้อีกฝ่ายประทับใจ แต่คุณไอกลับไม่สนเรื่องพวกนั้นเลย

   “พูดอย่างนี้หมายความว่าไงครับ” คนหน้าหวานเลิกมองท้องฟ้าและผืนน้ำ เปลี่ยนมาดูหน้าคนข้างๆ แทน “จะบอกว่าปฏิบัติกับผมพิเศษกว่าใครเหรอ”

   “จะว่าอย่างนั้นก็ได้ครับ” ณธิปยิ้ม เมื่ออีกฝ่ายเข้าใจสิ่งที่เขาอยากจะสื่อตั้งแต่แรก

   “อืม…” กมลเม้มปากราวกับใช้ความคิด ก่อนจะตัดสินใจถามออกมาตรงๆ “ที่เขาว่าคนเจ้าชู้มักจะคารมดี เป็นแบบนี้เองสินะครับ”

   “ผมไม่ได้เจ้าชู้สักหน่อยนะ” ณธิปรีบบอก

   “เหรอครับ” กมลพยักหน้ารับราวกับว่าเพิ่งรู้สิ่งที่ไม่น่าเชื่อ

   “ดูทำหน้าเข้า จริงๆ นะ เวลาคบใครจริงจัง ผมคบทีละคน” ชายหนุ่มแก้ต่างให้ตัวเอง

   “แปลว่าที่ผมเคยเห็นคือไม่จริงจังใช่ไหม”

   “เคยเห็นด้วยเหรอครับ แหม…งั้นแปลว่าที่ผ่านมาผมอยู่ในสายตาของคุณไอตลอดเลยน่ะสิ ดีใจจัง” คนเจ้าเล่ห์ว่าพลางยิ้มระรื่น ทำเอากมลเกือบกรอกตาใส่ให้รู้แล้วรู้รอด



   ความจริงอย่างที่เขาเคยวิเคราะห์ผู้ชายคนนี้ไว้ก็คงจะถูกแล้ว ณธิปเป็นคนหน้าตาดี หน้าที่การงานเด่น แต่เจ้าชู้มาก ซ้ำยังมีชั้นเชิงในการเข้าหาคนที่สนใจหลากหลายวิธี คนแบบนี้กมลไม่เคยคิดอยากยุ่งด้วยเลยสักนิด และไม่รู้สึกประทับใจในสิ่งที่อีกฝ่ายทำให้ มีแต่อยากถอยให้ห่าง


   และอย่างเช่นตอนนี้ ตอนที่ณธิปกำลังขยับเข้ามาหาเขาอย่างแนบเนียน พร้อมกับวางมือไว้ข้างหลังเหมือนจะโอบกลายๆ คนหน้าหวานยิ่งอยากจะถอยห่างให้ไกล


   “ผมแค่หยอกเล่นนิดเดียว ทำหน้าเบื่อหน่ายใส่ผมอีกแล้วนะครับ” พอเห็นสถานการณ์ไม่ดีณธิปก็ถอยออกมานั่งที่เดิม ก่อนจะชวนกมลคุยเรื่องอื่นแทน “คุณชอบทะเลไหม”

   “ก็ชอบนะครับ”

   “แล้วได้เที่ยวบ่อยหรือเปล่า”

   “ก็บ่อยนะ แต่ไม่ได้เที่ยวหรอกครับ ส่วนใหญ่ไปทำงาน”

   “อ๋อ ก็คล้ายๆ กันนะ ผมน่ะไม่ค่อยได้มาทะเลหรอก ส่วนใหญ่จะอยู่เหนือมากกว่า มีที่ได้มาบ่อยๆ ก็ตอนดูแลปางปาลีนี่แหละ”

   “เอ็นพีกรุ๊ปมีโรงแรมทางเหนือด้วยเหรอครับ” กมลถามด้วยความสนใจ

   “ก็มีครับ แต่ผมไม่ได้ไปดูหรอก ตรงนั้นหุ้นส่วนของเราดูแลอยู่”

   “งั้นแปลว่าคุณชอบเที่ยวภูเขา”

   “ก็ไม่ใช่อีกแหละครับ แต่ผมโตที่โน้น ก็เลยชอบกลับไปหาคุณย่าบ่อยๆ”

   “อ๋อ”



   แม้จะคุยกันได้เรื่อยๆ แต่กมลก็ยังเว้นระยะห่างระหว่างตัวเองกับณธิปอยู่ กระทั่งเรือเดินทางมาถึงที่สำหรับให้ดำน้ำดูปะการังได้ นิดาจึงมาเรียกให้เขาไปลงน้ำด้วยกัน


   “นิลงคนเดียวมันแปลกๆ น่ะค่ะ”

   “แต่ผมไม่ได้เตรียมชุดมาน่ะสินิดา ขอนั่งให้กำลังใจอยู่บนเรือได้ไหม จะคอยให้กลองถ่ายรูปสวยๆ ให้ด้วย” กมลว่าอย่างลำบากใจ เพราะเขาไม่ได้เตรียมชุดมาผลัดเปลี่ยนจริงๆ

   “งั้นก็ได้ค่ะ รู้อย่างนี้ชวนพวกตัวแสบในแผนกมาด้วยดีกว่า เป็นหญิงสาวคนเดียวมันเปล่าเปลี่ยวหัวใจค่ะ” เธอบ่นกระปอดกระแปด ก่อนจะเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วลงเล่นน้ำ



   กมลนั่งอยู่ตรงโซนที่สามารถมองเห็นนิดาเล่นน้ำได้ชัดเจน แต่ก็คุยกับณธิปไปด้วย ส่วนกลองนั้นเดินถ่ายรูปวิวทิวทัศน์ไปไม่ได้สนใจอะไรมากเท่าที่ควร



   ผ่านไปสักระยะ ขณะที่ณธิปกำลังชวนให้กมลไปมาที่โรงแรมอีกครั้งในวันเปิดตัว ชายหนุ่มก็สังเกตเห็นว่าหญิงสาวเพียงคนเดียวที่กำลังว่ายน้ำอยู่ทีท่าทีแปลกๆ คล้ายกับว่าจะจมน้ำอย่างไรอย่างนั้น เขาจึงรีบวางแก้วลงแล้วเดินไปดูให้แน่ใจ และก็เป็นจริงดังที่คาด



   “นิดา!!” ชายหนุ่มรีบกระโดดลงไปในน้ำ ก่อนว่ายตรงเข้าไปช่วยเธอ ท่ามกลางความตกใจของทุกคนบนเรือ



   เขาพานิดากลับขึ้นเรือได้ในเวลาต่อมา เธอเป็นตะคริว และไม่ยอมสวมเสื้อชูชีพที่ทางเจ้าหน้าที่จัดให้ เพราะคิดว่าแค่ว่ายอยู่ใกล้ๆ เท่านั้น นับว่าเป็นโชคดีที่เธอว่ายน้ำเก่ง จึงสามารถพยุงตัวอยู่ได้นานกว่าที่คิด



   กมลตกใจจนหน้าเสียเช่นเดียวกันกับคนอื่นๆ ทว่ามีเพียงณธิปคนเดียวเท่านั้นที่มีสติที่สุด เจ้าของดวงตารีตวัดหันกลับมามองกมล ก่อนออกเสียงสั่งอย่างลืมตัว



   “ขอผ้าเช็ดตัวให้เธอหน่อย”

   “ครับๆ”



   ระหว่างที่กมลรีบรับผ้าเช็ดตัวจากพนักงานในเรือมาห่อตัวหญิงสาวไว้ ณธิปก็ช่วยปฐมพยาบาลขั้นต้นให้กับนิดา รอจนกล้ามเนื้อที่แข็งตัวคลายลงสีหน้าของหญิงสาวจึงดีขึ้น



   “ขอบคุณนะคะคุณณธิป” นิดายกมือไหว้ชายหนุ่ม ด้วยน้ำตาคลอหน่วย

   “ไม่เป็นไรครับ” ณธิปทำหน้าเครียด ก่อนจะหันไปหาลูกน้องของตัวเอง แล้วเรียกให้ทุกคนลงไปที่ห้องใต้ท้องเรือเพื่อตำหนิที่ปล่อยให้หญิงสาวลงเล่นน้ำโดยไม่สวมเสื้อชูชีพ



   กมลเองก็รู้สึกไม่ดีอย่างมาก เขาขอโทษนิดาที่ไม่ได้จับตาดูเธอเหมือนที่สัญญา แต่หญิงสาวก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะเธอมีส่วนผิดเต็มๆ ที่ประมาทเกินไป



   บ่ายนั้นณธิปจึงให้เรือกลับเข้าฝั่งทันที ไม่ได้ไปเที่ยวต่อตามที่ตั้งใจไว้แต่แรก เพราะต้องพาหญิงสาวส่งโรงพยาบาลเพื่อตรวจเช็คร่างกาย



   หลังจากเข้าฝั่งและพานิดาไปโรงพยาบาลเรียบร้อย กมลก็กลับมาเก็บของที่ห้องเพื่อเตรียมตัวกลับกรุงเทพฯ เขาเองยังรู้สึกผิดและยอมรับว่ารู้สึกไม่ดีเท่าไหร่ แม้ว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจะผ่านพ้นไปด้วยดีแล้วก็ตาม เช่นเดียวกันกับณธิปที่ยังรู้สึกว่าการดูแลของพนักงานยังหละหลวม เหตุการณ์นี้ยังถือว่าโชคดี แต่ถ้าเกิดเรื่องทำนองนี้กับลูกค้าจริงๆ พวกเขาอาจไม่โชคดีเช่นนี้



   ดังนั้นก่อนจากกัน สีหน้าของทั้งสองหนุ่มจึงไม่ค่อยดีเท่าที่ควร


   “ขอบคุณสำหรับเรื่องวันนี้มาก ถ้าไม่ได้คุณ พวกผมคงแย่” กมลเอ่ยกับคนที่ยืนยันจะมาส่งถึงสนามบินด้วยความรู้สึกขอบคุณจากใจจริง

   “ไม่ต้องขอบคุณหรอก ผมสิต้องขอโทษ มันเป็นความสะเพร่าของทางเราเอง โชคดีที่คุณนิดาไม่เป็นอะไรมาก” ณธิปว่า

   “ยังไงก็ต้องขอบคุณครับ”

   “ถ้าอย่างนั้นผมก็จะรับเอาไว้นะ” เห็นกมลดื้อและเอาแต่จะขอบคุณท่าเดียว สุดท้ายณธิปจึงต้องยอม

   “ยังไงวันนี้ผมขอตัวก่อนนะครับ แล้วพบกันตอนคราวหน้าตอนที่ผมนำงานเข้าไปเสนอ”

   “ได้ครับ ถ้าทางคุณเรียบร้อยแล้วก็ติดต่อมาก่อน เพราะหลังจากนี้ผมคงไปๆ มาๆ ระหว่างกรุงเทพกับภูเก็ต”

   “แล้วยังไงผมจะโทรไปนัดล่วงหน้าครับ แต่ความคืบหน้าต่างๆ แล้วก็ไฟล์รูปที่คุณขอ ผมจะส่งไปให้ทางอีเมลล์” กมลว่า

   “ได้ครับ” ณธิปยิ้มออกเมื่อได้ยินประโยคที่เป็นต้นเหตุให้เขาต้องลงทุนทำทั้งหมดนี้ตั้งแต่แรก “ผมจะรอโทรศัพท์จากคุณนะ

   “ครับ แล้วผมจะโทรไป”


กมลไม่ได้ย้ำว่าเฉพาะเรื่องงานเท่านั้น เพราะคิดว่าณธิปคงรู้ดีอยู่แล้ว เมื่อบอกลากันเรียบร้อยเขาก็เดินเข้าเกตมาพร้อมกับพนักงานสองคนที่รออยู่ ตอนที่กมลกำลังจะเลี้ยวไปอีกด้าน หางตาของเขายังเห็นว่าผู้ชายคนนั้นยืนมองมาจากจุดเดิม



เขารู้ว่าตัวเองไม่ได้หวั่นไหวกับสิ่งที่ณธิปทำ และยังให้อีกฝ่ายได้แค่ฐานะผู้ที่ร่วมงานกันเช่นเก่า ทว่าความเป็นคนเอางานเอาการ และเหตุการณ์ที่เข้ามาช่วยนิดา รวมทั้งขอโทษเรื่องอุบัติเหตุทั้งที่ไม่ใช่ความผิดของตัวเอง ทำให้ ณ ตอนนี้กมลมองณธิปในแง่ดีขึ้นเล็กน้อย









++++++++++++++++++++++++++++++++++++





แอบมาลงดึกมากกกก คือไฟกำลังติดแล้วมีเวลาว่างจากงานหลวงค่ะ :katai4:
ตอนนี้คุณไอบวกคะแนนให้คุณเล็กมานิดนึง แต่หนทางข้างหน้าก็ยังอีกยาวไกล
นี่ปาเข้าไป 12 ตอนแล้ว คนดีของบ่าวเพิ่งจะมองพระเอกดีบ้าง
สู้ต่อไปนะคุณเล็กสายเปย์ 55555 :hao7:

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ

เจอกันตอนหน้าน้า

ละอองฝน.
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 12 [08/10/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 08-10-2016 03:37:15
ตามมาอ่านตอนจะตีสี่
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 12 [08/10/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 08-10-2016 10:57:48
 :L2: :L1: :pig4:

หนทางยังอีกไกล ความดีคนต้องทำอีกเยอะอะ เลวมามาก 55 จนคนดูสับสนว่านี่พระเอกหรออออ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 12 [08/10/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 08-10-2016 12:59:08
ดูดีในสายตาไอมานิดนึงอะนะ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 12 [08/10/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: monkey_saru ที่ 08-10-2016 15:26:31
 :katai1: :katai1: :katai1:

รู้สึกสงสารคุณไอ 55555555 คุณเล็กนี่มันคุณเล็กจริงๆเลย
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 12 [08/10/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: Honeyhoney ที่ 08-10-2016 16:34:36
 :hao7: ชอบมาก ๆๆๆๆๆ. อยากจะรู้มากเลยพระเอกจะทำยังไงให้นายเอกหลงรักได้ รอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 12 [08/10/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 08-10-2016 17:09:57
ผู้ชายเจ้าชู้นี่นะ ไม่เชียร์ๆๆๆ คุณไอคงให้ +  ยากๆหน่อยนะ อิอิ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 12 [08/10/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: XVIII.88 ที่ 08-10-2016 19:37:25
พิสูจน์ว่าเลิกเจ้าชู้ได้จะให้ 10 เต็มนะคุณเล็ก

 o18
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 12 [08/10/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: Onlylyn ที่ 10-10-2016 18:20:02
ตอนโผล่ในจงรักคุณเล็กเหมือนเสือร้าย แบดๆ
พอมาเรื่องนี้ เป็นพ่อบ้านใจกล้า 55555
 เอาใจช่วยนะคะ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 12 [08/10/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: Honeyhoney ที่ 25-10-2016 05:03:44
 :katai4: คิดถึงแล้วนะคะ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 12 [08/10/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 20-11-2016 16:45:09
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 13 [15/12/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: ละอองฝน ที่ 16-12-2016 01:04:33










บทที่ 13








   การทำงานร่วมกันของ I promise และปางปาลีในขั้นต้นนั้นเป็นไปได้ด้วยดี โปรโมชั่นและสิทธิพิเศษที่จัดเตรียมไว้เพื่อลูกค้าของทั้งสองฝ่ายพร้อมเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว ที่เหลือก็แค่โปรโมตหลังจากงานเปิดตัวโรงแรมปางปาลีเท่านั้นเป็นอันเรียบร้อย



   กมลไม่ได้พบณธิปบ่อยนักหลังกลับจากภูเก็ต เพราะตัวเขามีงานหลายอย่างที่ต้องสะสาง ณธิปเองก็งานรัดตัวเช่นเดียวกัน เวลาที่นัดประชุมกันแต่ละครั้งทางโน้นจึงส่งทีมงานมาพูดคุย ส่วนตัวณธิปกลับโทรหาเอาตอนค่ำๆ หลังเลิกงานแทน



   แรกๆ ที่ณธิปโทรมามักถามไถ่เกี่ยวกับเรื่องงาน ซึ่งกมลก็ไม่ได้ขัดข้องที่ต้องรับสาย กระทั่งกว่าจะรู้ตัวอีกที กลับกลายเป็นว่าอีกฝ่ายเริ่มโทรบ่อยขึ้น ซ้ำยังถามโน่นถามนี่ชวนคุยอยู่หลายนาทีจนเป็นเรื่องเคยชินไปเสียแล้ว



   วันนี้ก็เช่นกัน ในขณะที่หนุ่มหน้าสวยกำลังล้วงหากุญแจห้องอยู่นั้น เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นพอดี



   “สวัสดีครับ กมลพูดสายครับ”

   [คุณไอ] น้ำเสียงทักทายที่คุ้นเคยในระยะนี้ ฟังดูกระตือรือร้นเป็นพิเศษกว่าทุกวัน

   “ครับคุณณธิป” กมลใช้ไหล่หนีบโทรศัพท์เอาไว้ขณะไขกุญแจเข้าห้อง เพราะมือเต็มไปด้วยข้าวของและกระเป๋าเอกสาร

   [คุณอยู่คอนโดหรือเปล่า]

   “ใช่ครับ ว่าแต่คุณรู้ได้ยังไง”

   [หึๆ ก็ผมเห็นรถคุณจอดอยู่นี่ไง] คนพูดเว้นช่วงไปนิด ก่อนเอ่ยชวน [กินอะไรหรือยังครับ ไปหามื้อดึกกินกันไหม]

   “ไม่ดีกว่า…” ยังไม่ทันปฏิเสธจนจบประโยคดี คนปลายสายก็รีบแทรกเข้ามาก่อน

   [นี่คุณเพิ่งเลิกงานใช่ไหม]

   “ใช่ครับ” กมลตอบกลับไปแบบงงๆ

   [คิดว่าคงยังไม่ได้กินมื้อเย็นใช่ไหมล่ะ ปรกติคุณชอบทำงานเพลินไม่ยอมกินมื้อเย็นนี่ เดี๋ยวป่วยนะ ออกไปหาอะไรกินกับผมเถอะ]

   “คุณรู้ได้ไงว่าผมไม่ค่อยกินมื้อเย็น” กมลนึกสงสัยขึ้นมาทันที เพราะณธิปไม่ได้อยู่กับเขาทุกวัน มิหนำซ้ำตอนโทรคุยกันก็ไม่ได้บอกเรื่องนี้สักหน่อย แล้วเจ้าตัวรู้ได้อย่างไร

   [เอาเป็นว่าผมรู้ก็แล้วกัน อย่าสนใจเลย วันนี้ออกไปด้วยกันเถอะ ผมอยากคุยเรื่องงานเปิดตัวปางปาลีพอดี จะเอาบัตรเชิญให้คุณด้วยน่ะ ช่วงนี้ผมไม่ค่อยว่าง จะเอาเข้าไปให้ที่ I promise ก็ไม่มีเวลา]

   “ก็ฝากคนอื่นมาให้สิครับ ไม่เห็นจำเป็นต้องมาด้วยตัวเองเลยนี่นา”

   [ได้ยังไง หุ้นส่วนคนสำคัญผมต้องมอบให้เองกับมือสิ มาเถอะนะครับ ไม่นานหรอก ให้คุณเลิกร้านเองก็ได้] ครั้นได้ยินข้อเสนอ กมลจึงชั่งใจสักพัก สุดท้ายจึงใจอ่อนยอมตกลงในที่สุด

   “ก็ได้ครับ คุณอยู่ตรงไหน”

   [ผมอยู่หน้าลิฟต์ชั้น 1]

   “งั้นเดี๋ยวผมลงไปหา”



   กมลเอาข้าวของที่หอบหิ้วหลับมาไปวางไว้ในห้อง หยิบแค่กระเป๋าสตางค์ โทรศัพท์มือถือและกุญแจรถติดตัวมา ระหว่างลงไปชั้นล่าง ในหัวก็คิดว่าตัวเองอาจตัดสินใจพลาดที่ยอมไปทานมื้อดึกกับณธิป



   “เฮ้อ…”



ชายหนุ่มถอนหายใจทิ้ง พยายามสลัดความกังวนเหล่านั้นทิ้งไปด้วย เพราะอย่างไรเสียเขาก็เลือกให้มันเป็นเช่นนี้เอง อีกทั้งที่ผ่านมาณธิปก็ไม่ได้แสดงท่าทีรุ่มร่ามเหมือนก่อน ฉะนั้นคงไม่มีอะไรต้องห่วงนัก



   ติ้ง!



   ทันทีที่ประตูลิฟต์เปิดออก คนหน้าตาดีก็ยิ้มบาดใจสว่างไสวมาให้ทีหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยทักด้วยประโยคที่ดูเป็นห่วงมากกว่าเพื่อนร่วมงานไปสักหน่อย ทั้งยังเดินมาแตะข้อศอกเพื่อมองสำรวจร่างกายของกมลอย่างหน้าตาเฉย



   “ดูผอมลงจริงๆ ด้วยนะครับ นี่ไม่ค่อยได้กินอะไรอย่างที่ผมได้ยินมาจริงๆ ใช่ไหม”

   “ผมกินปรกติครับ ว่าแต่คุณยังไม่บอกว่าใครที่เล่าให้คุณฟัง” หนุ่มหน้าสวยว่าพลางดึงข้อศอกคืนอย่างแนบเนียน รู้สึกงงงวยไม่น้อยว่าพวกเขาสนิทสนมกันขนาดนี้เชียวหรือ

   “สายสืบของผมน่ะ” ณธิปว่าพลางยิ้มเจ้าเล่ห์

“สายสืบงั้นหรือ”



เมื่อเห็นว่าคิ้วของคนถามกำลังขมวดมุ่นอย่างไม่พอใจ ณธิปจึงรีบชวนเปลี่ยนเรื่องทันที ราวกับว่านั่นจะหยุดความสงสัยของกมลได้



“ไปที่รถเถอะครับ ผมหิวจะแย่แล้ว”



เมื่อถึงลานจอดรถก็เกิดปัญหาขึ้นมาอีกข้อ เพราะต่างฝ่ายต่างมีความเห็นไม่ตรงกัน กมลยืนอยู่ระหว่างรถของตัวเองกับรถหรูของผู้บริหารหนุ่ม ขณะบอกความประสงค์ของตัวเอง
   


“คุณขับตามผมนะ เดี๋ยวผมแชร์โลเคชั่นให้”

   “ขับตามกันทำไมให้วุ่นวาย คุณไอไปรถผมดีกว่า เผื่อรถติดด้วย”
   


กมลไม่อยากไปรถของณธิป ก้มมองนาฬิกาก็รู้ว่าเวลานี้รถไม่น่าติดแล้ว ทว่าเมื่อนึกดูดีๆ ร้านที่จะไปอาจไม่มีที่จอดรถเพียงพอ ดังนั้นจึงตัดสินใจบอกกับอีกฝ่าย




   “ถ้างั้นไปรถผม ผมรู้ทาง ขับเองสะดวกกว่า” เห็นณธิปชะงักไปนิด กมลจึงเอ่ยเสริม “ก็คุณว่าให้ผมเลือกร้าน”

   “งั้นก็ได้ครับ แล้วแต่คุณไอเลย”



   ณธิปถอนลอบถอนหายใจออกมาเบาๆ เพราะคนหน้าหวานไม่ยอมเปิดช่องว่างให้เขาสักนิดเดียว แผนที่คิดว่าหลังจากทานข้าวแล้วจะมัดมือชกให้อีกฝ่ายไปฟังเพลงเพราะๆ พร้อมกับนั่งดื่มด้วยกันในบรรยากาศดีๆ ก็เป็นอันต้องตกไป นี่ถ้าเป็นคนอื่นๆ ที่เคยจีบล่ะก็ เพียงแค่เห็นรถของเขาก็ตาลุกวาวแล้วด้วยซ้ำ ทว่าพอเป็นกมลแล้ว ดวงตาสวยๆ คู่นั้นกลับไม่เหลือบแลลูกรักของเขาเลยสักนิด



   หลังกลับจากภูเก็ต แม้ณธิปไม่มีเวลา แต่ก็พยายามสรรหาของกำนัลราคาแพงที่คิดว่าใครๆ ก็น่าจะชอบส่งไปให้ ไม่เว้นแม้กระทั่งขนมนมเนยหรือดอกไม้ที่ใช้ได้เฉพาะกับผู้หญิง แต่กมลก็ปฏิเสธทุกคราไป สิ่งเดียวที่รับไว้คือข้อเสนอในการร่วมงานกัน และยอมรับโทรศัพท์กับข้อความของเขาเพื่อคุยเรื่องงานเท่านั้น เล่นเอาไอ้เสืออย่างณธิปแทบหมดมุข ทั้งยังเสียความมั่นใจไปมากเลยทีเดียว



   คนอะไรจีบยากจีบเย็น ชายหนุ่มคิดขณะที่นั่งลงตรงตำแหน่งข้างๆ คนขับ



   ท่ามกลางความเงียบหลังออกรถได้ไม่นาน ณธิปก็เริ่มมองสำรวจภายในตัวรถของอีกฝ่ายไปด้วย รถคันนี้ดูไม่ได้มีอะไรพิเศษมากนัก คล้ายกับรถบ้านทั่วๆ ไป ซ้ำยังรกผิดคาด ที่ด้านหน้านั้นไม่เท่าไหร่ แต่เบาะหลังกลับมีทั้งหุ่นยนต์ตัวเล็กๆ กับที่นอนปิกนิกลายยีราฟและเพนกวินวางระเกะระกะ



   “ของหลานผมน่ะ” เห็นสายตาสอดรู้ของผู้โดยสารมองสำรวจไปทั่ว กมลจึงอธิบายให้ฟัง

   “อ๋อ” ณธิปพยักหน้าเข้าใจ ก่อนถามต่อ “ปรกติคุณไม่ได้อยู่ที่คอนโดหรือครับ เห็นโทรไปทีไรก็อยู่บ้านตลอด”

   “ครับ ทุกทีก็นอนที่บ้าน”

   “แล้ววันนี้ทำไมถึงมาคอนโดล่ะ”

   “พวกเด็กๆ กับน้องสาวผมไม่อยู่ ก็เลยมานอนคอนโด มันค่อนข้างสะดวกดี”

   “อืม ว่าแต่คุณไอพักอยู่ห้องไหน” พอได้ยินคำถาม กมลก็หันมามองตาขวางแวบหนึ่ง

   “ถามทำไมครับ”

   “นี่อย่ามองผมอย่างนั้นสิ ไม่ได้คิดจะทำอะไรหรอกน่า แค่อยากรู้เฉยๆ เผื่อมีปัญหาอะไรจะได้ช่วยเหลือกันได้ไง ผมไม่รู้จักใครเลยด้วย มีเพื่อนก็อุ่นใจกว่า ถึงจะเพิ่งย้ายมา แต่ผมอยู่ที่นี่บ่อยกว่าที่บ้าน” คนร้อนตัวรีบแสดงความบริสุทธิ์ใจ

   “คุณอยู่ห้องไหน”

   “จะไปหาผมเองเลยหรือครับ” ณธิปแสร้งทำตาโตล้อเลียน แต่กมลไม่เล่นด้วย จึงรีบบอก “909 ครับ ชั้น 9”

   “ผมอยู่ชั้น 7 ห้อง 703”

   “ยอมบอกนี่แปลว่าถ้าผมมีปัญหา ผมไปหาคุณไอได้ใช่ไหม”

   “ถ้ามีปัญหาจริงๆ ก็ได้ครับ แต่ผมไม่ค่อยอยู่หรอกนะ ทางที่ดีถ้าคุณมีปัญหา ลงไปติดต่อที่รีเซ็ปชั่นดีกว่า”



คำแนะนำแบบจริงจังของกมลทำให้ณธิปยิ้มอ่อนใจ เขารู้ว่าเจ้าของใบหน้าหวานๆ นี่รู้สิ่งที่เขาอยากสื่อ แต่เจ้าตัวก็ปฏิเสธอย่างแนบเนียนได้ทุกที ทำราวกับมองไม่เห็น ทั้งที่เห็นเต็มชัดสองตา



   “มีอะไรที่คุณณธิปกินไม่ได้ไหม” กมลถามขึ้น ปัดความคิดที่กำลังวิเคราะห์อยู่ในหัวของณธิปให้กระจายหายไปทันตา

   “ผมแพ้พวกสัตว์มีเปลือก กุ้ง ปู อะไรเทือกๆ นั้น”

   “นอกนั้นกินได้หมดนะครับ”

   “ครับ”

   “งั้นร้านนี้ก็กินได้หายห่วง”



   พูดจบคนหน้าหวานก็เทียบจอดต่อกับรถคันอื่นๆ ที่อยู่ข้างฟุตปาท จากนั้นก็หันมาบอกด้วยใบหน้ายิ้มๆ ตามแบบฉบับ



   “กลับไปต้องทำงานต่อ กินอะไรแซ่บๆ จะได้ตื่น คุณณธิปกินได้นะครับ”



   ณธิปหันไปมองร้านที่เป็นคูหาเล็กๆ มีโต๊ะเรียงยาวจากในร้านล้นออกมาบนฟุตปาท คนที่นั่งกินก็เต็มไปหมด บางคนซื้อกลับบ้านก็ยืนรอเป็นแถวเต็มหน้าร้าน ป้ายเสียบหลอดไฟที่ตั้งเอาไว้ปรากฏชื่อ



   ต้มขาไก่ซุปเปอร์แซ่บ



   เห็นแค่นั้นชายหนุ่มก็ถึงกับกลืนน้ำลายดังเอือก ไม่ใช่เพราะหิว แต่รู้สึกหวาดเสียวต่างหาก อันที่จริงมีบางเรื่องที่เขาไม่ได้บอกกมลไปเมื่อครู่ ตอนที่เจ้าตัวถามว่าอะไรที่กินไม่ได้บ้าง นั่นคือ



   ณธิปไม่กินเผ็ด



   และขาไก่ที่ว่าเขาก็ไม่เคยกิน แค่นึกภาพง่ามแง่งๆ ผิวย่นๆ กับเล็บแหลมยาวที่ไก่พวกนั้นใช้คุ้ยลงไปในดินท่าทางสกปรก ณธิปก็คลื่นไส้แล้ว ไม่ต้องพูดถึงร้านที่ดูไม่มีมาตรฐานความสะอาดนี่ด้วยซ้ำ



   แวบแรกที่เขาคิดได้ต่อจากนั้นคือ งานนี้ต้องโดนกมลเอาคืนเข้าแล้วแน่ๆ เพราะเขาเป็นคนตามตื้ออีกฝ่ายให้มากินข้าวด้วย ทั้งที่เจ้าตัวไม่อยากมาสักนิด



   “คุณไอ…” ยังไม่ทันได้ตอบว่าเขากินไม่ได้ คนที่เคยนั่งอยู่ข้างๆ ก็โดดลงไปจากรถแล้ว



   เห็นคนหน้าหวานยืนรออยู่บนฟุตปาทด้วยใบหน้าแสนสงสัย สุดท้ายณธิปจึงทำใจดีสู้เสือ ยอมลงจากรถตามไปหาที่นั่งด้วยเช่นกัน



   จะแกล้งก็แกล้ง เขาจะลองดูสักตั้งว่ามันขนาดไหนกันเชียว



   “เป็นอะไรหรือเปล่าครับ สีหน้าดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลย” กมลถามหลังจากได้ที่นั่งเรียบร้อยแล้ว

   “ไม่เป็นไรครับ” ณธิปตอบพลางเอี้ยวหลบพนักงานตัวเล็กแกร็น หน้ามันแผลบที่เอาแก้วน้ำสแตนเลสใส่น้ำแข็งสองสามก้อนพร้อมปักหลอดสีสดมาวางให้

   “เอาไรพี่” เด็กรับออเดอร์คนนั้นยกกระดาษปากกาขึ้นมาถือและมองณธิปอย่างกดดัน คล้ายจะบอกว่าให้สั่งเสียที



   คนที่ไม่เคยแม้แต่จะชายตาแลร้านอาหารริมทางเช่นนี้ได้แต่มองหาเมนูที่เขียนติดอยู่ไกลๆ ในร้าน ทว่าตัวหนังสือเล่านั้นก็เลือนรางเหลือเกิน สุดท้ายเมื่อสั่งไม่ได้ เขาจึงหันไปเพิ่งคนที่พามาด้วย



   “คุณไอสั่งก่อนเลยครับ”

   “แล้วคุณล่ะ”

   “ผมก็กินเหมือนคุณนั่นแหละ สั่งเลยไม่ต้องเกรงใจ”

“อ๋อ งั้นก็ได้ครับ” เมื่อได้ยินคำอนุญาต กมลก็หันมาสั่งอย่างที่ไม่เกรงใจจริงๆ “ต้มซุปเปอร์เผ็ดๆ พิเศษเพิ่มข้อไก่ ผัดคะน้าปลาเค็ม ผัดเกี่ยมฉ่ายกระเพาะหมู หมูกรอบพิเศษ แล้วก็ข้าวต้มสองถ้วย”

“รอแปปนะพี่” จดเสร็จเด็กคนนั้นก็เดินไปติดส่งกระดาษให้เจ้าของร้านที่ควงตะหลิวพร้อมกับตะโกนโฉงเฉงให้เด็กเสิร์ฟยกอาหารไปให้ลูกค้า



เจ้าของดวงตารีเรียวที่มองตามไปลอบกลืนน้ำลายเงียบๆ อีกครั้ง ในใจอดคิดไม่ได้ว่า พ่อครัวคนนั้นจะเผลอทำน้ำลายกระเด็นใส่กระทะไปบ้างหรือเปล่า



เมื่อคิดเรื่องน่าขนลุก ริมฝีปากบางๆ ก็เกือบเผลอเบ้ออกมาอย่างนึกรังเกียจ โชคดีที่กมลเรียกสติของชายหนุ่มเสียก่อน ณธิปจึงไม่แสดงพฤติกรรมเช่นนั้นออกมา



“ถ้าไม่พอค่อยสั่งเพิ่มก็ได้ครับ”

“ไม่พอหรือครับ” ณธิปถึงกับงงไปชั่วขณะ สั่งไปมากขนาดนั้น ซ้ำยังกินกันอยู่แค่สองคนอาหารจะไม่พอได้อย่างไร “ปรกติคุณสั่งแบบนี้ประจำหรือเปล่า”

“ก็ประมาณนี้แหละครับ แต่คราวนี้เพิ่มหมูกรอบ ต้มซุปเปอร์ก็สั่งแบบพิเศษ คิดว่าน่าจะพอ”

“ครับ ผมว่าพอเหลือเฟือ คุณไอเองก็ไม่ค่อยหิวไม่ใช่หรือครับ” ที่พูดออกไปเช่นนั้นเพราะณธิปรู้ว่าเขาคงกินได้ไม่มากเท่าไหร่ แล้วผู้ชายที่ตัวไม่ได้ใหญ่โตมากแบบกมลก็คงกินไม่จุกว่าอาหารทั้งหมดนั่นเช่นกัน แต่ณธิปเพิ่งได้รู้ในตอนหลังว่าตัวเองนั้นคิดผิด

“ตอนแรกก็คิดว่าไม่หิว แต่พอได้กลิ่นน้ำซุปตอนลงรถมา ท้องมันก็ร้องโครกครากเลย น่าอายสุดๆ” คำพูดที่ดูจะเป็นกันเองมากขึ้นเพราะกมลลดเกราะป้องกันตัวลง เนื่องจากได้อยู่ในสถานที่ที่ตนเองคุ้นเคย ทำให้ณธิปปัดความคิดที่ว่าคนหน้าหวานพาเขามาที่นี่เพราะอยากแกล้งออกไปส่วนหนึ่ง



พวกเขาสองคนไม่ค่อยได้พูดคุยอะไรกันมากนัก หนึ่งเพราะกมลไม่ชวนคุย สองเพราะณธิปเองก็ไม่ชวนคุยเช่นกัน ผู้บริหารของเอ็นพีกรุ๊ปคอยระแวดระวังคนที่เดินผ่านมาบนฟุตปาทไม่ให้ชนแขนและไหล่กว้างๆ ของตนเองขณะเดินผ่านหน้าร้านแคบๆ



ซ้ำยังต้องคอยโบกคอเสื้อให้ลมผ่านเนื่องจากอาการค่อนข้างร้อน ไหนจะควันจากอาหารกับรถราริมถนนก็ผสมปนเปกันไปหมดอีกด้วย



นึกแล้วก็อยากถอดใจ คนอย่าง ณธิป โชติตระกูล ไหนเลยจะคิดว่าตัวเองต้องมาลงทุนทำอะไรขนาดนี้เพียงแค่จีบผู้ชายคนหนึ่ง เขาไม่จำเป็นต้องมาคลุกฝุ่นอยู่ริมถนนเลยสักนิด ทั้งที่มีอาหารดีๆ ให้ทานในภัตตาคารของโรงแรมระดับห้าดาว



อยู่ดีไม่ว่าดีแท้ๆ








   ไม่นานเด็กเสิร์ฟก็ยกอาหารที่สั่งมาวางให้จนเต็มโต๊ะ ณธิปมองถ้วยข้าวต้มตรงหน้าของตัวเอง ก่อนจะมองข้ามไปยังถ้วยของกมลที่บัดนี้มีเกี่ยมฉ่ายวางแหมะอยู่บนนั้นแล้วด้วย



   “ลองทานดูครับ ร้านนี้อร่อย คุณน่าจะชอบ” กมลว่าพลางตักขาไก่ในน้ำแกงแดงเดือดให้ณธิป ก่อนก้มหน้าก้มตากินอาหารตรงหน้าของตนเองอย่างเอร็ดอร่อย



   ณธิปมองของที่อยู่ในถ้วยแล้วเกิดความรู้สึกขนลุก แต่ก็ต้องจำใจหยิบช้อนขึ้นมาตักข้าวต้มเข้าปาก เพราะไม่อยากให้คนตักให้เสียน้ำใจ ทั้งยังกลัวเสียฟอร์มถ้ากมลรู้ว่าเขากินเผ็ดไม่ได้อีกต่างหาก



   ตลอดมื้ออาหารพวกเขาคุยกันเรื่องงานนิดหน่อย ที่เหลือก็เป็นช่วงเวลาที่หนุ่มหน้าหวานเพลิดเพลินกับอาหาร ส่วนณธิปนั้นทรมานแทบแย่ ขนาดว่าเขาแทะขาไก่ชิ้นนั้นส่งๆ ยังเผ็ดจนต้องกลั้นใจดื่มน้ำในแก้วสแตนเลสนั่นถึงสองแก้ว



ส่วนอาหารที่ตักทานได้ก็มีแต่หมูกรอบ เพราะเขาไม่ชอบเครื่องใน ผัดเกี่ยมฉ่ายใส่กระเพาะจึงต้องงด ทั้งยังไม่ชอบปลาเค็มในผัดผักคะน้าเนื่องจากมันเหม็น แถมยังกินแล้วคันยุบยิบในปากอีกด้วย



มื้ออาหารมื้อแรกที่กมลตอบรับคำชวนและยอมออกมากินด้วยกันดีๆ สำหรับณธิปแล้วมันเละไม่เป็นท่า ที่ยังทนนั่งอยู่ก็เพราะเห็นคนตรงหน้ากินด้วยท่าทางมีความสุข แม้แก้มขาวๆ จะแดงก่ำเพราะเผ็ดสุดๆ ก็ยังไม่หยุดง่ายๆ นี่ถือเป็นอีกเรื่องที่ณธิปนับถือกมลเลยจริงๆ



คนอะไรกินเผ็ดเก่งชะมัด
















เมื่อมื้อดึกริมทางผ่านพ้นไป ทั้งคู่ก็ตรงกลับคอนโดทันที ไม่มีการแวะร้านไหนเพื่อจิบเครื่องดื่มเย็นๆ ฟังเพลงเพราะๆ ปลอบใจณธิปทั้งนั้น อันที่จริง ณ ตอนนี้ณธิปก็ไม่มีอารมณ์แบบนั้นแล้วด้วย เนื่องจากร้อนจนเสื้อตัวในเปียกชุ่มไปหมด ยามนี้เขาอยากอาบน้ำ จิบไวน์แดงกับเห็ดแชมปิญอง แล้วนอนตากแอร์สิบแปดองศาเป็นที่สุด



ครั้นถึงคอนโด ณธิปก็เอาบัตรเชิญไปงานเปิดตัวโรงแรมปางปาลีจากในรถให้กมล ก่อนทั้งคู่จะเดินไปขึ้นลิฟต์พร้อมกัน



ทันทีที่มาถึงชั้นเจ็ด กมลก็เดินออกไปยืนนอกลิฟต์ ก่อนหันกลับมากดปุ่มด้านนอกเพื่อรั้งไม่ให้ประตูปิดลงเร็วนัก แล้วจะเอ่ย



“ขอบคุณสำหรับอาหารมื้อนี้นะครับ แล้วก็ขอบคุณที่ไปนั่งกินเป็นเพื่อนแม้ว่าจะไม่ชอบ”



กมลไม่ได้จะแกล้งณธิปแม้แต่น้อย ทว่าเมื่อเขาเห็นสีหน้าตอนอีกฝ่ายอยู่ที่ร้าน และเห็นว่าณธิปกินข้าวไปน้อยขนาดไหน ชายหนุ่มก็อดรู้สึกผิดนิดๆ ไม่ได้ หากในความรู้สึกผิดนั้น กมลก็ยังรู้สึกขำด้วย



“ผมไม่ได้ไม่ชอบ” ณธิปรีบบอกทันที ก่อนจะนึกได้ว่าท่าทางของเขากับคำปฏิเสธพวกนั้นดูไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกันเท่าไหร่ สุดท้ายจึงพูดไปตามตรง “อันที่จริงก็ไม่ชอบนั่นแหละ ร้านอาหารมีตั้งเยอะ คุณเลือกไปนั่งร้านอย่างนั้นได้ยังไง นอกจากบรรยากาศจะไม่น่านั่งแล้ว กับข้าวที่สั่งผมก็กินไม่ได้เลยด้วย”

“ฮ่าๆๆ” กมลเผลอหลุดหัวเราะออกมาในที่สุด ยิ่งเห็นอีกฝ่ายทำหน้าไม่พอใจเหมือนเด็กๆ ยิ่งทำให้นึกถึงหลานๆ ฝาแฝดของตัวเองสุดๆ

“นี่อย่าบอกนะว่าคุณแกล้งผมน่ะคุณไอ” ณธิปถามคิ้วกระตุก

“ผมเปล่านะครับ ผมอยากกินจริงๆ แต่ใครจะรู้ว่าคุณไม่ชอบ ก็คุณไม่บอกนี่นา ผมถามคุณแล้วนะจำไม่ได้หรือไง”

“โอเค คราวนี้ผมพลาดเอง แต่คราวหน้าผมไม่ยอมแล้วนะ”

“เอาไว้ให้ถึงคราวหน้าก่อนแล้วกันครับ” คนหน้าหวานว่า ก่อนจะยิ้มกว้างแบบที่ไม่ค่อยยิ้มให้กับณธิปทีหนึ่ง ซึ่งนั่นทำให้ชายหนุ่มนิ่งไปครู่ คล้ายกับว่าหัวใจกำลังถูกโจมตีอีกครั้ง



เมื่อประตูลิฟต์ปิดสนิทจนมองไม่เห็นคนที่ยืนส่งอยู่ด้านนอก ณธิปก็ยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว เขาคิดกับตัวเองว่า แม้เดทมื้อดึกของเขากับกมลจะค่อนข้างห่วย แต่ก็ใช่ว่ามันจะมีแต่เรื่องแย่ๆ เสียเมื่อไหร่



อย่างน้อยมันก็ทำให้เขาได้รับรอยยิ้มหายากแบบนั้นล่ะนะ
   


ส่วนกมลที่ยืนอยู่อีกด้านของประตู ก็กำลังคิดเช่นกันว่า ความจริงผู้ชายที่ชื่อ ณธิป โชติตระกูล อาจไม่ได้เลวร้ายอย่างที่เขากลัวก็เป็นได้…









++++++++++++++++++++++++++++








/คลานเข่าเข้ามาให้ลงหวาย

เรากลับมาแล้วค่ะ

ตอนนี้ก็นะ เขียนไปหิวไปมากๆ

อยากกินต้มซุปเปอร์มากกกกก

หิวตอนดึกด้วย ฮืออออ

อะแฮ่ม เอาเป็นว่าไปหาไรกินก่อนค่ะ

เจอกันตอนหน้า ไม่ทิ้งนานแล้ว จริงๆ




ละอองฝน.

หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 13 [15/12/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 16-12-2016 02:19:17
 :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 13 [15/12/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: Varsator ที่ 16-12-2016 03:14:16
คุณพระ.... อ่านตอนนี้แล้วหิวค่ะ
พลาดมาก /ทีมนอนเช้า

เหนือสิ่งอื่นใด เกราะคุณไอเริ่มร้าวแล้วค่ะ แม่ขาาา
ใจหนึ่งอยากหวังให้คุณไอคลูบิวตี้ต่อไป.... แต่อีกใจก็อยากเห็นคนหลงเมีย
/เดี๋ยวๆ

ดีใจที่มาต่อมามากๆ นะคะ
รอติดตามค่ะ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 13 [15/12/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 16-12-2016 07:07:09
คุณเล็กนี่ลูกคุณหนูจริงๆนะ 5555
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 13 [15/12/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 16-12-2016 10:26:40
ใจแข็งไปนานๆนะไอ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 13 [15/12/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 16-12-2016 10:35:53
มีความทนได้ ทนทุกอย่างแค่ได้จีบ 555555555
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 13 [15/12/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: pigarea ที่ 16-12-2016 15:13:49
เราหิววววววววววว แต่ละอย่างที่สั่งมาของโปรดเรา อ่านตอนนี้จบไม่มีอะไรจะพูดนอกจาก หิว
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 13 [15/12/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 16-12-2016 17:12:11
555 ขำณธิป ไปกินต้มแซ่ป ฮ่าๆ แต่ก็ยังดีที่พูดตรงๆว่าไม่ชอบร้านแบบข้างทาง
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 13 [15/12/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 06-01-2017 05:50:21
เอิ่อม คบซ้อน แย่งแฟนคนอื่น(เมฆ) หนีงานแต่ง
นี้ยังไม่เลวร้ายอีกเหรอเนี้ย สงสัยต้องทำคนท้องแล้วทิ้งสิน่ะถึงจะเลวร้ายพอ
คือ งงว่าคนนิสัยแบบนี้ยังเขียนให้เป็นพระเอกได้ด้วยเหรอ
ไม่มีอะไรดีเลยสักนิด
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทพิเศษ วันเกิด [14/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ละอองฝน ที่ 14-02-2017 20:07:21





บทพิเศษ วันเกิด









   ชายหนุ่มหน้าหวานนั่งบริกรรมบทสวดแผ่เมตตาพร้อมกับกรวดน้ำในขันเงินใบเล็กใต้ต้นโพธิ์ใหญ่ เมื่อกรวดน้ำเรียบร้อยชายหนุ่มก็จับเส้นผมยาวที่เคลียข้างแก้มชวนให้รู้สึกรำคาญทัดหู เขาตั้งใจว่าหลังกลับจากทำบุญคงต้องตัดผมเสียที



เขาจัดการเก็บอุปกรณ์กรวดน้ำไว้บนศาลเช่นเดิม ก่อนเดินไปหาหลานๆ และน้องสาวที่ท่าน้ำ ตอนเดินผ่านข้างโบสถ์สายลมพัดมาต้องระฆังใบเล็กให้ส่งเสียงดังกรุ๋งกริ๋งเสนาะหู มองไปไกลๆ เห็นแดดยามสายส่องกระทบระลอกคลื่นบนผิวน้ำเป็นประกายจับตา กมลยิ้มออกมาน้อยๆ ขณะนึกเปรียบเทียบกับเวลาในอดีต



ในวันคล้ายวันเกิดปีนี้ไม่ได้มีอะไรแตกต่างจากหลายๆ ปีที่ผ่านมามากนัก เขายังคงมาทำบุญและวางแผนไปทานอาหารกับครอบครัว ถึงแม้สมาชิกในครอบครัวจะเปลี่ยนแปลงไปบ้าง แต่ความอบอุ่นที่มีก็ไม่เคยเปลี่ยนเลย



“ลุงไอ! มาเร็วครับ” เจ้าหยางแฝดน้องตะโกนเรียกกมลด้วยเสียงตื่นเต้น

“มีปลาเยอะเลยครับ” เจ้าหยินแฝดพี่รายงานต่อ

“ครับๆ ลุงกำลังไปแล้ว” กมลเร่งสาวเท้าไปหา พอถึงท่าน้ำก็ปรามเสียงดุ “อย่ากระโดดโลดเต้นนักสิครับน้องหยาง เดี๋ยวก็พลัดตกน้ำไปกลายเป็นอาหารปลาแทนหรอก”



พอได้ยินคำขู่เจ้าตัวดีก็หยุดกระโดด ก่อนขยับเท้าเข้ามาด้านในให้ห่างจากขอบท่ามากกว่าเดิม ส่วนแฝดพี่พอเห็นน้องทำเช่นนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะทำตาม ด้วยกลัวว่าจะพลัดตกลงไปด้วยเหมือนกัน



หลังจากนั้นเด็กน้อยสองคนก็ให้อาหารปลาอย่างระมัดระวัง แต่ผ่านไปครู่หนึ่งพอเห็นปลาสวายตัวใหญ่ว่ายขึ้นมาฮุบเหยื่อก็อดที่จะขยับเข้าไปดูใกล้ๆ ไม่ได้



“ปลาอะไรครับคุณแม่ ตัวใหญ่มากๆ เลย”

“ปลาสวายน่ะลูก” หทัยตอบ เธอนั่งย่อลงในระดับเดียวกันพร้อมเกาะเอวลูกชายคนเล็กไว้

“ปลาสวายกินได้ไหมครับ” แฝดพี่ถาม

“กินได้ครับ แต่เจ้าตัวนี้พี่หยินจะกินลงเหรอ พี่หยินเพิ่งให้อาหารมันเองนะ” กมลว่า

“ไม่กินหรอกครับ หยินแค่คิดว่าตัวมันใหญ่ เนื้อมันน่าจะเยอะ” เด็กชายตอบซื่อๆ

“พี่หยินใจร้าย” น้องหยางกล่าวหา

“พี่แค่ถามเฉยๆ ยังไม่ได้กินมันสักหน่อย” คนพี่แก้ต่างให้ตัวเอง

“นั่นแหละ หยางว่าพี่หยินใจร้าย”

“พอแล้วครับเด็กๆ ไม่เถียงกันนะ” กมลปรามอีกครั้ง ก่อนเบี่ยงประเด็น “หิวกันหรือยัง ไปกินกุ้งแม่น้ำตัวโตๆ กันดีกว่า”

“ไปครับ ไปๆ หยางหิวแล้ว” หยางขืนตัวออกมาจากอ้อมกอดของแม่ ปัดไม้ปัดมือของตัวเอง ก่อนเดินมาจูงมือคุณลุงไปที่รถ ทิ้งให้พี่ชายกับแม่มองหน้ากันอยู่ที่เดิม

“ตัวเองจะกินกุ้งตัวโต แล้วมาว่าเราใจร้าย” แฝดพี่บ่นงึมงำ แต่หทัยที่อยู่ใกล้ๆ ก็ได้ยิน เธอจึงหัวเราะออกมาอย่างนึกขัน ก่อนจะจูงมือลูกชายคนโตเดินตามลูกชายคนเล็กไป

“เราตามพวกเขาไปกันดีกว่าเนอะ คุณแม่หิวแล้วล่ะ”

“ครับ” หยินพยักหน้ารับอย่างว่าง่ายเพราะเด็กน้อยก็รู้สึกหิวเหมือนกัน









กมลขับรถพาครอบครัวไปทานกุ้งแม่น้ำบนเรือแถบชานเมือง เด็กๆ ดูจะตื่นเต้นกันยกใหญ่ที่ได้นั่งเรือไปด้วย ได้ทานของอร่อยไปด้วย เมื่อทานเสร็จพวกเขาก็พากันขับรถเล่นนิดหน่อยก่อนกลับบ้าน



เมื่อกลับมาถึงกมลก็โทรเช็คความเรียบร้อยกับพนักงานหลายคน เพราะอันที่จริงวันนี้เป็นวันที่ I promise ต้องจัดงานให้ลูกค้าหลายคู่มาก หากแต่พนักงานหลายคนขอร้องแกมบังคับให้กมลหยุด เพราะเจ้าตัวทำงานมาตลอดทั้งปีแล้ว แรกๆ กมลไม่เห็นด้วย แต่พอเห็นว่าทุกคนตั้งใจให้เขาได้ฉลองกับครอบครัว และงานที่ได้รับมอบหมายก็ออกมาน่าพอใจ เขาจึงยอมหยุดเพื่ออยู่กับครอบครัวหนึ่งวัน



เมื่อตามงานเสร็จเรียบร้อย กมลก็พบว่างานมีข้อติดขัดบางอย่าง ชายหนุ่มขึ้นไปอาบน้ำอาบท่าเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วตามไปช่วยดูแลควบคุมที่งานของลูกค้ารายหนึ่ง



ครั้นไปถึงงาน กมลก็ช่วยทีมงานดูแล จัดการปัญหาต่างๆ จนสุดท้ายก็ลุล่วงไปด้วยดี แต่กว่าจะเสร็จก็ปาเข้าไปเกือบเที่ยงคืน ชายหนุ่มจึงตัดสินใจค้างที่คอนโดเพื่อความสะดวก เพราะวันนี้เขาเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว และพรุ่งนี้ยังมีงานที่ต้องจัดการอีกหลายคู่



เพราะดึกแล้วถนนจึงโล่ง กมลขับรถไม่นานก็ถึงห้องพัก ขณะเลี้ยวรถเข้าไปจอดตรงที่ประจำเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ กมลเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมามองชื่อที่แสดงอยู่บนหน้าจอ เห็นเป็นชื่อของใครคนหนึ่งที่ช่วงนี้พยายามโทรหาและส่งข้อความมาอย่างสม่ำเสมอ แต่ตัวเขาเองก็ยังรู้สึกไม่สนิทใจที่จะยอมให้ความสัมพันธ์มันดีเหมือนก่อนเกิดเรื่อง



เขาจึงลังเลว่าจะกดรับดีไหม กระทั่งสายตัดไปเสียก่อน



ชายหนุ่มถอนหายใจโล่งอกที่กดรับไม่ทัน เขาจึงหันไปเก็บข้าวของและลงจากรถ แต่แล้วโทรศัพท์กลับส่งเสียงดังอีกรอบ คราวนี้กมลจึงตัดสินใจกดรับเสียให้สิ้นเรื่อง



   “สวัสดีครับ”

   [คุณไอ ผมณธิปนะ] ถึงอีกฝ่ายไม่บอก กมลก็รู้อยู่แล้วจากรายชื่อที่ขึ้นหราอยู่ตรงหน้าจอโทรศัพท์

   “ครับ คุณมีอะไรหรือเปล่า”

   [ขอโทษที่กวน แต่คุณอยู่ที่ไหน]

   “ผมกำลังจะนอนแล้ว” คำโป้ปดที่บอกอีกฝ่ายนั้น ก็เพื่อกันไม่ให้ณธิปรั้งคุยอยู่นาน

   [นอนเหรอ คุณนอนที่ไหน] คำถามที่ถูกส่งมาตามสายทำให้กมลต้องขมวดคิ้ว ยิ่งเสียงของณธิปดูแปลกใจมากขึ้นเรื่อยๆ กมลก็ยิ่งสงสัยมากขึ้น

   “นอนในห้องของผมสิครับ คุณมีอะไร”

   [แต่ผมอยู่หน้าห้องคุณมาทั้งวัน มันไม่เหมือนว่าคุณอยู่เลย ผมเคาะเรียกคุณตั้งหลายครั้ง] ประโยคที่ได้ยินทำให้กมลนึกสงสัยขึ้นมาอีกข้อ ว่าณธิปไปทำอะไรที่หน้าห้องของเขากันแน่

   “นี่คุณอยู่หน้าห้องของผมเหรอ”

   [ใช่]

   “ที่คอนโด?”

   [ใช่ แล้วคุณอยู่ไหน]

   “อยู่…บ้าน” หนุ่มหน้าหวานอึกอัก “ว่าแต่คุณไปทำอะไรที่หน้าห้องของผมกันล่ะ”

   [ผม…เอ่อ…ผมมีธุระกับคุณ]

   “สำคัญมากเลยหรือครับ ถึงขนาดว่าคุณต้องไปหาผมที่ห้องน่ะ”

   [สำคัญสิ สำคัญมาก]

   “งั้นก็พูดมาเลยครับ”

   [ไม่ ไม่ได้] อีกฝ่ายตอบด้วยน้ำเสียงร้อนรน

   “ทำไม”

   [ผมต้องเจอคุณ ต้องพูดต่อหน้าคุณ]

   “แต่ผมอยู่บ้าน และกำลังจะเข้านอนแล้ว ผมคงพบคุณตอนนี้ไม่ได้ เอาไว้พรุ่งนี้ หรือมะรืนนี้ได้ไหมครับ ผมจะโทรไปนัดอีกที แต่ต้องเป็นธุระสำคัญจริงๆ นะครับ”

   [ไม่ได้ ต้องวันนี้เท่านั้น บ้านคุณอยู่ไหน ผมจะขับรถไปหาเอง]

   “นั่นไม่ได้หรอก มันจะรบกวนน้องสาวและหลานๆ ของผม”

   [ไม่รบกวนหรอก ผมขอเจอคุณเดี๋ยวเดียวเท่านั้น นะครับคุณไอ ผมรอคุณอยู่นี่มาตั้งแต่เช้าแล้ว ขอเวลาแค่นิดเดียวจริงๆ] พอเห็นว่ากมลจะไม่ยอมอ่อนให้ ณธิปจึงเริ่มอ้อนวอน

   “เฮ้อ…”


กมลถอนหายใจออกมาอย่างคิดหนัก เขาไม่อยากออกไปทั้งสภาพอย่างนี้ เพราะณธิปจะรู้ว่าที่เขาพูดว่าอยู่ที่ไหนนั้นคือคำโกหก แต่ไอ้ประโยคที่ว่ารออยู่หน้าห้องมาทั้งวัน มันทำให้กมลนึกสงสารขึ้นมา หรือบางทีณธิปอาจมีเรื่องสำคัญจริงๆ



   [นะครับคุณไอ ให้ผมได้เจอคุณเถอะ]

   “งั้นก็ได้ครับ เดี๋ยวผมจะไปหาคุณที่นั่น รอสักครู่”

   [ไม่ให้ผมไปหาที่บ้านคุณเหรอ ทำแบบนี้คุณจะลำบากน่ะสิ]

   “ไม่เป็นไร ผมไปเองดีกว่า ไม่สะดวกให้มาที่นี่น่ะ”

   [ครับๆ ยังไงก็ได้ครับ ผมจะรอนะ] ปลายสายตอบด้วยน้ำเสียงดีใจ ก่อนกมลจะตัดสายไป



   เพราะโกหกออกไปแล้วว่าอยู่บ้าน สุดท้ายกมลก็ต้องหยิบเอาชุดลำลองหลังรถมาเปลี่ยน และนั่งรถอยู่ในรถสักพัก เพื่อทำทีว่ากำลังขับรถมา จนเมื่อเห็นว่าเหมาะสมแก่เวลา ชายหนุ่มจึงออกจากรถแล้วขึ้นไปยังห้องของตัวเอง








   ตอนที่ก้าวออกจากลิฟต์ กมลเห็นร่างสูงใหญ่ของณธิปกำลังยืนพิงกำแพงแถวๆ หน้าห้องของตนเอง ในมือมีของหิ้วพะรุงพะรัง ทั้งถุงทั้งกล่องเต็มสองมือ แล้วพอดวงตารีคู่นั้นหันมาเห็นเขา เจ้าตัวก็ยิ้มกว้างต่างจากยิ้มกรุ้มกริ่มแบบที่ชอบทำบ่อยๆ ออกมา



   “คุณมีอะไร” กมลถามเมื่อเดินมาหยุดตรงหน้าคนตัวสูง

   “เข้าห้องก่อนสิครับ”

   “ไม่ครับ” หนุ่มหน้าหวานปฏิเสธชัดเจน เขาไม่อยากยอมให้ถึงขนาดนั้น เพราะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายมีจุดประสงค์อะไรกันแน่ถึงมาที่นี่

   “ได้ยังไงล่ะ ก็ผมเตรียม…”

   “คุณบอกว่าขอเวลานิดเดียว ดังนั้นพูดเรื่องสำคัญของคุณมาเถอะ ผมง่วง”

   “…” พอเห็นว่ากมลไม่ยอมจริงๆ ณธิปจึงคว้าข้อมือของอีกฝ่ายไว้ แล้วสวมหูของถุงกระดาษใบใหญ่เข้าไปคล้อง จากนั้นก็หยิบกล่องใบเล็กอีกกล่องขึ้นมาวางบนสองมือของกมล ก่อนสั่ง “ช่วยผมถือหน่อย แล้วก็ยกขึ้นสูงๆ นิดนึงครับ”



   กมลยกกล่องขึ้นตามที่อีกฝ่ายบอก แล้วรอดูว่าณธิปกำลังจะทำอะไรอีก เมื่อกล่องปริศนาถูกยกขึ้นมาในระดับพอดี ณธิปก็แกะฝากล่องให้เปิด จากนั้นจึงหยิบเทียนเล่มเล็กที่เตรียมเอาไว้มาปักบนหน้าของเค้กชิ้นเล็กในนั้นแล้วจุดไฟ



   “อะไรกันคุณณธิป”

   “เค้กวันเกิดไง” ณธิปทำให้กมลรู้สึกเหมือนตัวเองปัญญาอ่อนที่ถามคำถามแบบนั้นออกไป

   “ผมรู้แต่—“ และพอกมลจะแย้ง อีกฝ่ายก็ดันขัดขึ้น พร้อมกับเริ่มต้นร้องเพลงอวยพรที่หลานๆ ร้องให้เขาฟังมาสดๆ ร้อนๆ วันนี้

   “อย่าเพิ่งพูดสิ ฟังก่อน…” เจ้าตัวกระเอมเล็กน้อย ก่อนเริ่มร้องเพลงด้วยเสียงเพี้ยนน้อยๆ “Happy birthday to you, Happy birthday to you, Happy birthday Happy birthday Happy birthday to you.”



   กมลอึ้งไปเพราะไม่คิดว่าณธิปจะทำอะไรแบบนี้ สองมือถือเค้กค้างไว้เช่นนั้น ไม่ยอมก้มหน้าลงไปเป่าเทียนเหมือนที่คนตัวสูงคิด



   “อธิษฐานแล้วก็เป่าสิคุณ ถึงจะเลยวันเกิดมาแล้ว แต่แค่ไม่กี่นาทีก็คงไม่เป็นไร” คนตัวสูงสั่ง และสถานการณ์ที่เผชิญอยู่ก็บีบให้กมลต้องยอมทำตามอย่างช่วยไม่ได้


   “อืม” กมลรับคำแล้วก็เป่าเทียนทันที ไม่ได้อธิษฐานอะไรทั้งนั้น

   “สุขสันต์วันเกิดนะ”

   “ขอบคุณครับ” กมลเงยหน้ามองอีกฝ่ายแล้วขอบคุณเบาๆ

   “ไม่เป็นไรครับ ผมเต็มใจ ในถุงนั่นของขวัญ ผมไม่รู้คุณจะชอบไหม แต่อย่าทิ้งมันนะ” เจ้าตัวพูดออกมายืดยาวในคราวเดียว

   “ผมไม่เคยทิ้งของที่คนอื่นตั้งใจให้หรอกครับ” กมลว่า

   “อืม…แค่นี้ก็ดีแล้วล่ะ” เจ้าตัวยิ้มออกมาอีกครั้งเมื่อได้ยินคำตอบ ก่อนหุบยิ้มเมื่อถูกตัดบท

   “คุณหมดธุระของคุณแล้วใช่ไหม”

   “อื้ม”

   “ถ้าอย่างนั้นก็กลับเถอะ ผมจะเข้าห้องแล้ว พรุ่งนี้ต้องไปทำงานแต่เช้า ขอบคุณอีกครั้งนะครับ”

   “ไม่เป็นไร งั้นผมไปล่ะ”



ณธิปพูดหง่อยๆ แค่นั้นก่อนเดินไปที่ลิฟต์ กมลไม่ได้รอส่งอีกฝ่าย เพราะทันทีที่คนคนนั้นหันหลัง เขาก็ไขกุญแจเข้าห้อง เก็บเค้กเข้าตู้เย็น วางกล่องของขวัญทิ้งไว้บนโซฟาแล้วเดินไปยังห้องนอนเพื่อพักผ่อน



   พอปิดไฟแล้วหัวถึงหมอน กมลก็คิดถึงกล่องที่อยู่ในถุงกระดาษใบโตนั่นเล็กน้อย ลองเดาเล่นๆ ว่าอะไรกันนะที่อยู่ข้างใน เดาไป เดามาหลายอย่าง สุดท้ายกมลก็ตัดสินใจว่าเอาไว้ว่างๆ เขาค่อยเปิดดูก็แล้วกัน









:L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:






วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ตรงกับวันเกิดพี่ไอค่ะ
ตอนแรกฝนกะจะเขียนตอนหลักแล้วลงให้ทันวันเกิด แต่มันไม่ทันจริงๆ
ดังนั้นก็เลยเอามาแยกเป็นพาร์ทของพี่ไอ เเล้วทำเป็นตอนพิเศษแทน
ส่วนตอนหลักที่เป็นเนื้อเรื่องเกี่ยวกับวันเกิดก็มีค่ะ แต่เป็นพาร์ทมุมคุณเล็ก
ถัดจากนี้ประมาณ 4-5 ตอนก็จะถึง แต่ในระหว่างนี้จะมีอะไรที่ทำให้คะแนนคุณเล็กติดลบอีก :เฮ้อ: ต้องรออ่านค่ะ

ตอนนี้ฝนเคลียร์คีตมาลาจบแล้ว ดังนั้นก็จะพยายามมาอัพเรื่องนี้บ่อยๆ
ฝากติดตามด้วยน้า

สุขสันต์วันเห็นความรักค่ะ  :mew1: :mew1: :mew1:


เจอกันตอนหน้า


ละอองฝน.
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทพิเศษ วันเกิด [14/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 14-02-2017 20:32:09
 :3123: :3123:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทพิเศษ วันเกิด [14/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 14-02-2017 20:47:49
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทพิเศษ วันเกิด [14/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Onlylyn ที่ 14-02-2017 21:06:14
พี่ไอใจแข็งมากกกก เอาใจช่วยคุณเล็ก
แต่ขอพิจารณาอีกที เพราะตอนหลักเห็นว่าคะแนนจะติดลบไปอีก
ไปก่อเรื่องอะไรไว้หืมม รอ~
สุขสันต์วันแห่งความรักค่ะ :กอด1: :L1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทพิเศษ วันเกิด [14/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: pigarea ที่ 15-02-2017 13:50:43
อ่านแล้วสงสารคุณเล็กเลย มีความพยายามมากๆ แต่คุณไอไม่ใจอ่อนสักนิด  :mew2:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทพิเศษ วันเกิด [14/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 15-02-2017 23:27:12
 :mew1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทพิเศษ วันเกิด [14/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: A-J.seiya* ที่ 16-02-2017 02:25:54
สารภาพว่าเป็นทาสนิยายคุณฝนค่ะ
ชอบสำนวนการเล่า มันละมุนละไม น่าอ่านมาก
ุทุกเรื่องคืออ่านไป 1 ย่อหน้า รู้ตัวเลยว่าติดแน่ๆ
เรื่องนี้ล่าสุดใช่มั้ยคะ
มันดีมากเลยค่ะ คุณไอยะมาปราบเด็กดื้อ
เราอ่านแฃ้วเราไม่โกรธคุณเล็กเลย คุณเล็กเอาตัวเองไปเทียบกับพี่เลยน้อยใจ
เด็กขี้น้อยใจก็ทำอะไรแบบนี้ทั้งนั้นค่ะ เราเข้าใจ
ฮือออ สงสารคุณเล็กด้วยซ้ำไป เอาใจช่วย
ขอให้ไอได้ขัดเกลานิสัยคุณเล็กหน่อยค่ะ
รับรองว่าจะพลิกหน้ามือเป็นหลังตีนเลย
ฮอลลลล รอตอนต่อไปด้วยใจจดจ่อค่ะ
<3
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 14 [17/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ละอองฝน ที่ 17-02-2017 22:35:01


คุณคือความรัก บทที่ 14









นับเป็นเวลากว่า 2 เดือน ที่กมลไม่ได้พบกับณธิปอีกเลยหลังจากไปทานซุปเปอร์ขาไก่ด้วยกันในคืนนั้น เพราะว่าเขาและณธิปต่างก็ยุ่งวุ่นวายกับงานของตัวเองทั้งคู่



ฤดูหนาวกำลังมาเยือนอีกครั้ง นั่นเป็นสัญญาณของวันสำคัญและวันพิเศษมากมาย ตารางการจัดงานวิวาห์ของ I promise แน่นเอี๊ยดไปถึงปีใหม่ ซึ่งก็นับว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่ง



แต่ทั้งหมดนั้นก็ต้องแลกกับการที่พนักงานทุกคนหัวปั่นเพราะทำงานกันไม่หยุดหย่อน โชคดีที่กมลสั่งให้แผนกต่างๆ เปิดรับพนักงานเข้ามาเพิ่มมาตั้งแต่ช่วงก่อนหน้า ไม่เช่นนั้นก็คงไม่อาจรับมือโปรเจคงานต่างๆ ได้ทันเป็นแน่



ส่วนงานที่ร่วมมือกับปางปาลี ตอนนี้เรียบร้อยหมดทุกอย่างแล้ว เหลือเพียงแค่ให้ถึงวันที่โรงแรมเปิดตัวเท่านั้น ทีมงานของกมลก็จะได้เริ่มปฏิบัติหน้าที่ในส่วนต่อไปได้ทันที ซึ่งกำหนดการเปิดตัวของโรงแรมก็ถึงคือสุดสัปดาห์ที่จะถึงนี้เอง



งานนี้กมลเองก็ได้รับเชิญให้ไปร่วมด้วยเช่นกัน ทั้งยังได้รับบัตรผ่านเข้าร่วมงานจากเจ้าของโดยตรงเสียด้วย ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นในแง่ของธุรกิจหรือความสัมพันธ์ส่วนบุคคล ทุกสิ่งทุกอย่างก็บังคับไปในตัวแล้วว่ากมลจำเป็นต้องไปร่วมงานด้วยตัวเอง



แต่แล้วก่อนถึงวันเปิดตัวโรงแรงปางปาลีสองวัน เจ้าของงานก็ไม่วายโทรหากมลด้วยตัวเอง เพื่อขอร้องแกมบังคับให้กมลต้องไปให้ได้



[ผมเตรียมบ้านพักไว้ให้แล้ว เป็นห้องเดิมที่เมื่อคราวก่อนคุณพักไง จำได้ไหมครับ]



เพราะณธิปได้ยินจากผู้จัดการโรงแรมว่า เมื่อคราวที่กมลมาพัก หนุ่มหน้าหวานดูจะถูกใจวิลล่าของเขามาก ดังนั้นชายหนุ่มจึงถือโอกาสเอาใจ และทำคะแนนเพิ่มให้ตัวเอง เพราะช่วงที่ผ่านมาเขาไม่ได้พบหน้ากมลเลย จะมีก็แต่คุยกันทางโทรศัพท์กับข้อความเท่านั้น



“ไม่เห็นจำเป็นต้องให้ผมพักที่วิลล่านั่นเลยครับ ห้องแพงๆ วิวดีๆ แบบนั้น ให้แขกผู้ใหญ่คนสำคัญพักดีกว่านะ ผมพักห้องในตัวโรงแรมจะเหมาะสมกว่าด้วย”


[ได้ไงล่ะ คุณเองก็คนสำคัญ] เสียงของคนปลายสายหยอดคำหวานออกมาดื้อๆ ก่อนจะยื่นข้อเสนออย่างกระตือรือร้น [จะพาน้องสาวกับหลานๆ มาพักด้วยก็ได้นะ เป็นวันสุดสัปดาห์พอดีด้วย ผมว่าเด็กๆ ต้องชอบหาดส่วนตัวของปางปาลีแน่ๆ]

“จะเอาเด็กๆ ไปด้วยได้ยังไง เท่านี้ก็เกรงใจจะแย่แล้วครับ”

[คุณก็เหมือนหุ้นส่วนที่ร่วมงานกับผม ต่อไปคงต้องประสานงาน และช่วยเหลือกันอีกหลายอย่าง เกรงใจทำไมกัน]

“จะว่าอย่างนั้นก็เถอะ แต่คราวนี้ผมไปทำงาน”


[ไม่ได้มาทำงานสักหน่อย มาแสดงความยินดีต่างหาก] ณธิปเถียงอย่างไม่ยอมแพ้ ทั้งยังรีบสวนกลับจนกมลหาข้ออ้างไม่ทัน [อีกอย่างงานเลี้ยงก็มีในตอนกลางคืน คุณมาถึงเที่ยงๆ ก็ยังมีเวลาเดินเล่นพักผ่อนตั้งหลายชั่วโมง เช้าวันต่อมาก็ด้วย กลับไฟล์ทค่ำหน่อยก็ไม่เป็นไรหรอกจริงไหมครับ จะได้อยู่ทานข้าวเที่ยงด้วยกัน ไหนคราวก่อนบอกจะให้ผมแก้มือไง ถึงจะผ่านมาเดือนกว่าแล้ว แต่ผมก็ยังจำได้นะ หรือคุณไอคิดจะเบี้ยว]


“เปล่าครับ ผมแค่คิดว่าคุณน่าจะยุ่ง แล้วก็อย่างที่บอก ว่าผมเกรงใจ”

[เอาอย่างที่ผมว่านี่แหละ พาเด็กๆ มาด้วย คุณจะได้ลองพื้นที่นันทนาการต่างๆ ให้ผมไง เผื่อว่ามีตรงไหนที่ไม่ดีพอเมื่อต้องใช้งานจริง ผมจะได้แก้ไขทัน เท่านี้ก็หายกันแล้วเห็นไหม ได้ประโยชน์ทั้งคู่]



กมลรู้สึกคล้อยตามที่ณธิปพูดเล็กน้อย ความจริงหากจะให้เอาแต่หาประโยชน์จากสิ่งที่อีกฝ่ายยื่นมาปรนเปรอให้ เขาก็คงไม่ต่างอะไรกับคนอื่นๆ ที่ณธิปเข้าหา แต่ถ้าต่างฝ่ายต่างได้ผลประโยชน์ร่วมกันจริง ชายหนุ่มคิดว่าข้อเสนอนี้ก็ดีไม่น้อย เพราะรู้ว่าหลานๆ คงดีใจมากถ้าได้ไปเที่ยวตามที่เคยให้สัญญาเอาไว้ เขาเองก็ได้ไปร่วมงานในเวลาเดียวกัน



เมื่อไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนแล้ว กมลจึงตกลงปลงใจรับปากออกไป “ก็ได้ครับ ผมจะลองไปชวนเด็กๆ กับอ้ายดู ถ้าพวกเขาไปด้วย ผมจะช่วยกลับมารีวิวให้ว่าพื้นที่ส่วนกลางของคุณเป็นยังไง”

[ดีครับเลยครับ ว่าง่ายอย่างนี้ เอาไว้ผมจะตกรางวัลให้นะ]

“หึ” กมลแค่นหัวเราะเย็นชา ปลายสายจึงหัวเราะร่วนออกมาแล้วแก้ตัว

[ฮ่าๆๆ อย่าเพิ่งทำเสียงเอือมกันน่า ผมแค่ล้อเล่นนิดหน่อยเอง] ณธิปเว้นไปนิด ก่อนว่าเอ่ยด้วยน้ำเสียงเป็นงานเป็นการขึ้น [งั้นเอาไว้เจอกันวันเสาร์นะครับ ผมจะให้คนเอารถไปรับที่สนามบิน]


“ขอบคุณครับ”



พูดคุยกันต่ออีกสองสามคำ กมลก็วางสายไป



ตั้งแต่ไปกินข้าวด้วยกันคืนนั้น กมลกับณธิปก็สนิทกันมากขึ้น ไม่ใช่แค่ณธิปที่เริ่มพูดคุยหยอกล้อและวางตัวสบายๆ เวลาพูดคุยกันเท่านั้น ตัวของกมลเองก็รู้สึกว่าเขาลดการระแวดระวังอีกฝ่ายลงไปเยอะพอสมควร อาจเป็นเพราะรู้จักกันมาได้พักใหญ่ และนอกจากนิสัยเจ้าชู้กะลิ้มกะเหลี่ย ทำทีเล่นทีจริงไปเรื่อยแล้ว ณธิปก็ไม่ได้รุ่มร่ามอะไรกับเขามากเกินกว่าจะรับมือได้ ยามที่ต้องคุยงานก็จริงจังดี ความสัมพันธ์ที่เคยวางไว้ในขั้น คนที่ไม่อยากยุ่งด้วย จึงเปลี่ยนมาเป็น คนที่ร่วมงานได้ผสมกับมิตร โดยที่ไม่ทันได้รู้ตัว

   










ทุกอย่างเป็นไปตามที่กมลคาดไว้ไม่มีผิด เพราะเมื่อเขาเอ่ยให้ครอบครัวไปเที่ยวที่ปางปาลีด้วยกัน เด็กๆ ก็ตื่นเต้นกันยกใหญ่ ไม่คิดปฏิเสธสักนิด แม้กระทั่งน้องสาวของเขาเองก็เห็นดีเห็นงามด้วยเช่นเดียวกัน สุดท้ายเมื่อทุกคนตกลงใจและยินดีอย่างยิ่งที่จะไป กมลก็จำต้องทำตามโดยไม่กล้าขัด



“หยินเอาคุณรอยไปด้วยได้ไหมครับลุงไอ” แฝดคนพี่รีบยกกระตุกมือขวาถามผู้เป็นลุงอย่างตื่นเต้น เพราะต้องการนำของเล่นที่เป็นเจ้ารถดับเพลิงสุดหวงไปเที่ยวด้วย


กมลยิ้มให้หลาน ก่อนพยักหน้า “ได้สิครับ”

“หยางเอาคุณโพลี่ไปด้วยนะครับ” ครั้นได้ยินคุณลุงออกปากอนุญาตให้พี่ชาย แฝดคนน้องก็รีบกระโดดมาเกาะมือซ้ายแล้วเขย่าถามบ้าง


“ได้ครับน้องหยาง” กมลหันมายิ้มให้เจ้าคนเล็กบ้าง ก่อนจะเอ่ยรวบหลานๆ มากอดแล้วเอ่ยกับทั้งคู่ “แต่เอาของเล่นติดไปได้แค่คนละชิ้นนะครับ แล้วหลังจากนี้ก็ห้ามไปงอแงกับแม่อ้ายอีกรู้ไหม”

“ครับ”

“ครับ” เด็กสองคนส่งเสียงรับคำพร้อมกัน

“งั้นตอนนี้ก็ขึ้นห้องนอนดีกว่าครับ คืนนี้ลุงจะเล่านิทานให้ฟังแทนแม่อ้ายนะ”

“เย้ๆ”



เจ้าฝาแฝดพลิกกายออกจากอ้อมกอดของกมล ก่อนจะจับมือชายหนุ่มไว้คนละข้าง จากนั้นก็จูงมือพาขึ้นไปบนห้อง ให้ชายหนุ่มเล่านิทานให้ฟัง



ครั้นเด็กๆ หลับสนิทแล้ว กมลก็ลงมาหาน้องสาวที่ง่วนอยู่ในครัวเพื่อเตรียมอาหารเก็บไว้ในตอนเช้าให้ลูกๆ ก่อนไปโรงเรียน



“เสร็จหรือยังอ้าย”

“ใกล้แล้วค่ะพี่ไอ” หญิงสาวค่อยๆ คีบผักต้มสุกที่หั่นเป็นชิ้นพอดีคำขึ้นมาพักไว้ ตั้งใจว่าจะรอให้เย็นก่อนค่อยเก็บเข้าตู้เย็นเพื่อเอาไว้ประกอบอาหาร

“ความจริงวันเสาร์เด็กๆ มีเรียนว่ายน้ำนี่ โทรไปลาได้ไหม เผื่อเก็บชั่วโมงเรียนไว้คราวหน้าได้ ค่าเรียนว่ายน้ำก็ไม่ใช่ถูกๆ “ ซ้ำกมลก็อยากให้หลานๆ ได้เรียนจนจบคอร์ส เขาจึงค่อนข้างห่วงเรื่องนี้เล็กน้อย


“ลาได้ค่ะ เดี๋ยวอ้ายจัดการเอง พี่ไอไม่ต้องห่วงนะ” หญิงสาวหันมายิ้มให้พี่ชาย เธอพิงหลังกับเคาน์เตอร์ แล้วเปลี่ยนไปถามอีกเรื่องแทน “ว่าแต่ทำไมถึงคิดจะพาเด็กๆ กับอ้ายไปด้วยคะ เห็นทีแรกพี่ไอว่าจะรีบไปรีบกลับมาดูงานต่อตอนบ่ายวันอาทิตย์”


“พอดีคุณณธิปเขาเสนอให้พักวิลล่าน่ะ แลกกับให้เราไปช่วยลองดูพื้นที่ส่วนกลาง พี่เห็นว่ามันมีพื้นที่สำหรับครอบครัวด้วย แล้วคราวก่อนก็เคยสัญญากับเด็กๆ ไว้ ก็เลยอยากให้ไป ได้เที่ยวพร้อมๆ กับทำงานด้วยก็น่าจะดีเหมือนกัน เราสี่คนก็ไม่ได้ไปไหนเป็นครอบครัวมานานแล้ว”


“อ๋อ ก็เป็นความคิดที่ดีนะคะ อ้ายเห็นรูปที่ถ่ายกันมาทำงานก็คิดว่าสวยน่าเที่ยวดีค่ะ”

“ก็สวยจริงๆ นั่นแหละ”


“ว่าแต่…คุณณธิปนี่เขาก็ดีนะคะ จริงๆ เราก็ไม่ใช่หุ้นส่วนของเขา โครงการที่ทำร่วมกันก็เหมือนจะเป็นทางนั้นมากกว่าที่จ้างเรา ทางเราได้ประโยชน์มากกว่าเห็นๆ แต่เขาก็ดูแลเราดีทีเดียวนะคะ”


“อืม พี่ก็คิดอย่างนั้น ถึงได้นั่งเกรงใจอยู่นี่ไง แต่ก็อย่างว่า ข้อเสนอมันน่าสน เราก็ไม่ได้เสียอะไร เลยถือเสียว่าพาเด็กๆ ไปเที่ยวก็แล้วกัน”


“ก็จริงค่ะ” หญิงสาวยิ้มรับ ก่อนจะหรี่ตาอย่างจับผิด “แต่อ้ายก็ยังไม่ค่อยไว้ใจเขาเป็นการส่วนตัวนะคะ เพราะดูก็รู้ว่านอกจากงานแล้ว หลายๆ อย่างเขาทำเพื่อเอาใจพี่ ไอ ขนมนมเนย ดอกไม้ ข้าวของที่ส่งมาให้บ่อยๆ นั่นอีก พี่ไอระวังไว้ก็ดีนะคะ”

“ขอบใจนะ แต่พี่พอรู้ทันเขาอยู่ ไม่ต้องเป็นห่วงนะ”

“อ้ายก็ถึงได้บอกไง ให้รีบมีแฟนเป็นตัวเป็นตน คนเจ้าชู้เขาจะได้ไม่ต้องมาขายขนมจีบให้วุ่นกันอย่างนี้”

พอถูกน้องสาวคนดีสัพยอก กมลก็ยิ้มอ่อนใจ “งานเยอะขนาดนี้ คบใครเขาก็ทนไม่ไหวหรอก เวลาให้ตัวเองยังไม่ค่อยจะมีเลย”

“ก็พี่ของอ้ายเคร่งครัดกับตัวเองเกินไปนี่คะ ผ่อนปรนเสียบ้าง ลูกน้องก็ออกเยอะแยะ” หญิงสาวว่าพลางหันไปจัดการเก็บของเข้าตู้เย็น เธอบ่นเรื่องนี้กับพี่ชายไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบแล้ว

“เอาน่า…”

“เอาน่าอะไรคะ” พอเก็บของเสร็จ เธอก็หันมาเผชิญหน้าพี่ชายสุดที่รักอีกครั้ง ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงและสีหน้าจริงจังขึ้น “นี่อ้ายพูดจริงๆ นะ พี่ไอจะอยู่เป็นโสดไปถึงเมื่อไหร่”

“อย่ามาว่าพี่นะ เราเองก็ไม่มีใคร” กมลเถียง


“แต่อ้ายมีลูก แล้วก็เข็ดขยาดเกินจะหาพ่อใหม่ให้เด็กๆ กับพี่ไอน่ะเหมือนกันเสียที่ไหน แฟนคนสุดท้ายคบกันตั้งแต่สมัยอยู่มหาลัยฯ โน้น อ้ายเข้าใจว่าพี่ต้องทำงานหนัก แต่นี่ก็เป็นสิบปีที่ห่างเรื่องรักใคร่ๆ มา พี่ไม่เหงา ไม่อยากหาใครมาอยู่ข้างๆ บ้างหรือคะ”


“ก็พี่ทำงาน ไม่ได้คิดเรื่องนี้หรอก อีกอย่างพี่ก็มีอ้าย มีเด็กๆ อยู่ด้วยไง”


“พี่ไอไม่ใช่ว่าจะอายุน้อยๆ แล้วนะคะ งานมีก็ค่อยๆ ทำไปได้ ชีวิตส่วนตัวก็อีกเรื่อง อ้ายเป็นห่วงจริงๆ นะ พี่เอาชีวิตทั้งหมดทุ่มให้กับงาน กับอ้าย กับพวกเด็กๆ แล้วเคยคิดทำเพื่อตัวเองบ้างไหมคะ”


“อย่าทำหน้าซีเรียสแบบนั้นสิ” กมลเดินเข้าไปดึงน้องสาวเข้ามากอด “ทำไมเราคุยกันจนมาถึงเรื่องนี้ได้เนี่ย”

เธอกอดตอบ พลางบอกด้วยน้ำเสียงอู้อี้ “ก็อ้ายเป็นห่วง อยากให้พี่มีความสุขบ้าง”


“ทุกวันนี้พี่ก็มีความสุขนะ ได้ทำงานที่รัก ได้ดูแลอ้าย ได้เห็นหลานๆ โต” กมลลูบหัวน้องสาวเบาๆ แล้วบอกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เรื่องคนรักของพี่น่ะ ถ้าจะมีเดี๋ยวก็มีเองแหละ ไม่ใช่ว่าไม่อยากหรอก แต่ยังหาคนที่พร้อมจะรับเราได้ไม่เจอเท่านั้นเอง”


“พี่ของอ้ายเป็นคนดีแล้วก็น่ารักจะตาย ถ้าเปิดใจสักหน่อยก็น่าจะเจอได้ไม่ยากหรอกค่ะ”

“เปิดใจเหรอ” แม้นทิวทัศน์จะเป็นห้องครัว แต่ครู่หนึ่ง กมลรู้สึกเหมือนสายตาของตัวเองมองเห็นแต่ความเวิ้งว้างหลังกำแพงสูงใหญ่

“ลองดูนะคะ ลองเปิดใจดู คนที่ใช่อาจจะอยู่ใกล้ๆ พี่ก็ได้”

คำพูดของหทัยดึงเขากลับมาสู่ปัจจุบัน “อืม…ถ้าได้แบบนั้นก็ดีนะ แต่ระหว่างนี้ เราก็อยู่ด้วยกันไปแบบนี้ก่อน อย่าเพิ่งไล่พี่ไปไกลๆ โอเคไหม”

“ใครจะไปกล้าไล่ล่ะคะ พี่ไอก็พูดไปเรื่อย”

“เมื่อกี้ยังไล่พี่ไปมีแฟนอยู่เลย” กมลว่าพลางดึงน้องสาวออกมาดูหน้า “แล้วนี่ร้องไห้ทำไม ไม่ใช่เด็กๆ แล้วนะแม่อ้าย”

“ไม่ได้ร้องสักหน่อยค่ะ อ้ายร้อนต่างหาก” เธอผละออกจากอ้อมกอดของพี่ ก่อนเช็ดหน้าเช็ดตาแล้วเลี่ยงออกมาจากครัว “อ้ายไปอาบน้ำนอนแล้วนะคะ ฝันดีค่ะพี่ไอ”

“ฝันดีจ้ะ คุณแม่ขี้แย” ประโยคหลังของกมล เรียกให้หทัยหันมาแยกเขี้ยวใส่ไปที ก่อนเดินหนีขึ้นห้องนอน



กมลยิ้มกับท่าทางนั้นของน้องสาว น้องสาวสุดที่รักที่ไม่ว่าเมื่อไหร่กมลก็มองว่าเธอเป็นเด็กสำหรับเขาเสมอ ยิ่งหลังจากที่เขาปล่อยเธอไป และถูกทำร้ายกลับมาพร้อมกับชีวิตใหม่อีกสอง กมลก็ยิ่งไม่อยากทิ้งเธอไปไหน ทั้งหทัยและหลานๆ



เขาไม่รู้เลย ถ้าหากเปิดใจให้ใครเข้ามา คนคนนั้นจะรับได้ไหม เขามันคนมีภาระเยอะ ทั้งครอบครัว ทั้งเรื่องงาน ถ้าหากต้องแบ่งเวลาไปดูแลคนอื่นอีก ก็กลัวว่าจะทำหน้าที่ของคนรักได้ไม่ดีพอ



แม้กมลจะเชื่อมั่นในความรัก และเชื่อว่ารักแท้นั้นมีอยู่จริง แต่เขากลับกลัวถ้าวันหนึ่งจะต้องมีความรักเป็นของตัวเองเช่นกัน และกลัวยิ่งกว่าถ้าต้องสูญเสียความรักนั้นไป ซึ่งนี่เป็นความลับอีกข้อหนึ่งที่ไม่เคยเปิดเผยให้ใครล่วงรู้











   ครอบครัวเปรมอนันต์เดินทางถึงสนามบินภูเก็ตในช่วงเที่ยงของวันเสาร์ ในทีแรกกมลเข้าใจว่าคนรถของปางปาลีจะมารับเขาที่เดิมเหมือนครั้งที่แล้ว แต่เมื่อลากกระเป๋าออกมาจากเกต กมลก็พบกับคนที่ไม่คิดว่าจะได้พบยืนรออยู่



   ณธิปมองนาฬิกาข้อมือที มองตรงทางออกผู้โดยสารที เมื่อเห็นครอบครัวของกมลเดินลากกระเป๋ามา ดวงตารีเรียวคู่นั้นก็แพรวพราวขึ้นทันที ผู้บริหารหนุ่มยิ้มกว้าง ก่อนจะเดินเข้ามาดึงกระเป๋าสัมภาระจากมือของกมลส่งให้พนักงานของโรงแรมที่ตามมาด้วย



   “ผมคิดว่าคุณจะมาถึงเร็วกว่านี้เสียอีก”

   “เครื่องดีเลย์น่ะครับ” กมลบอก “ว่าแต่ทำไมคุณมาเอง ไม่ใช่ว่ายุ่งอยู่เหรอ”

   “ก็ยุ่ง แต่ไม่ได้เจอคุณตั้งนาน ผมเลยอยากมารับ”



   กมลนิ่งไปนิด ไม่คิดว่าณธิปจะกล้าพูดแบบนี้ต่อหน้าน้องสาวและหลานๆ ของเขา คนหน้าหวานทำอะไรไม่ได้ เขาจึงแสร้งทำเป็นไม่สนใจเช่นเก่า แล้วหันไปคุยกับเด็กๆ แทน



   “เด็กๆ สวัสดีคุณณธิปหรือยังลูก”

   “สวัสดีครับคุณอาเล็ก”

“สวัสดีครับคุณอาเล็ก” เด็กๆ ยกมือไหว้พร้อมกัน ทั้งยังเรียกณธิปตามที่เหมือนเดิมตามที่เคยถูกสอนไว้ด้วย

“สวัสดีครับเด็กๆ” ณธิปยิ้มรับ “สวัสดีครับคุณอ้าย การเดินทางเรียบร้อยดีนะครับ”

“เรียบร้อยดีค่ะ ขอบคุณที่อุตส่าห์มารับพวกเรานะคะ” หทัยยิ้มรับ แม้จะรู้สึกแปลกใจไม่น้อยที่ลูกทั้สองไม่กลัวคนแปลกหน้าอย่างณธิป ทั้งยังเรียกด้วยความสนิทสนม

“กระเป๋ามีเท่านี้นะครับท่าน” พนักงานของโรงแรมถาม

“มีเท่านี้ ไปบอกคนรถให้มารับข้างหน้าได้เลย” เมื่อณธิปสั่ง ชายคนนั้นก็รีบยกกระเป๋าเดินนำหน้าไปก่อน “หิวกันหรือยังครับ”

“ไม่เท่าไหร่ครับ--” ยังไม่ทันพูดจบดี เด็กน้อยสองคนก็รีบแทรกขึ้น

“แต่หยางหิวครับคุณอา” หยางเอามือกุมท้องของตัวเอง
“หยินก็หิวครับ”
“พอดีเลยเวลาอาหารของเด็กๆ แล้วน่ะค่ะ” หทัยบอก

“งั้นเรารีบกลับกันครับ” แล้วณธิปก็หันกลับมาจูงมือเด็กๆ เอาไว้คนละข้างแทนแม่และลุง “อาเตรียมของอร่อยไว้เยอะเลย ถึงโรงแรมแล้วเราไปทานกันนะครับ”

“ครับ/ครับ!!~”



ทั้งที่ปรกติเด็กๆ จะไม่ค่อยสนิทกับคนแปลกหน้าง่ายๆ แต่กับณธิปนั้นต่างออกไปจนแม่และลุงเขาพวกเขาแปลกใจ กมลมองผู้บริหารหนุ่มเดินจูงมือหลานๆ ของตนออกไป ก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ



“ไม่ธรรมดาเลยนะคะผู้ชายคนนี้ เข้าทางเจ้าตัวไม่ได้ ก็เข้าทางหลาน เอาใจเก่งแบบนี้คนถึงบอกว่าเขาเจ้าชู้” เธอละสายตาจากลูกชายทั้งสองคน ก่อนหันมาพูดกับพี่ชายด้วยความเป็นห่วง “พี่ไอต้องระวังไว้นะคะ”

“อืม…พี่รู้แล้วล่ะ” กมลรับคำ จากนั้นจึงชวนน้องสาวให้เดินตามชายคนนั้นไป








<><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><>





ดึบๆ มาแล้วววว  :katai5:

เพียงแค่เปิดใจ ก็จะพบว่าคุณเล็กอยู่ไม่ไกลนะคะ

ปึ้ง!! /ปิดประตูหัวใจเหมือนเดิม 555

มาดูว่าตอนหน้าจะมีเรื่องป่วนๆ อะไรให้คุณไอปวดหัวอีก /สปอย 555555

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ


แล้วเจอกันค่ะ


ละอองฝน.
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 14 [17/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: A-J.seiya* ที่ 18-02-2017 03:32:05
เปิดใจค่ะ ถ้าทางนั้นปิด คุณเล็กมาทางนี้ก็ได้ค่าาา
ฮืออออ รอเอ็นดูอยู่นะคะ
ใครๆก็เตือนคุณไอให้ระวัง ถถถถถ
คุณเล็กผู้ไม่มีกองสนับสนุน
เราเป็นแบคให้ ฮึ้บบบบ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 14 [17/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 18-02-2017 04:38:55
เราผู้สนับสนุนให้คุณไอใจแข็งไปนานๆ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 14 [17/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 18-02-2017 08:50:20
 :L2: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 14 [17/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 18-02-2017 17:17:36
สู้ๆนะคะคุณเล็ก ฉาวมาเยอะก็งี้  :hao7:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 14 [17/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 18-02-2017 20:22:46
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 15 [20/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ละอองฝน ที่ 20-02-2017 21:16:04






คุณคือความรัก บทที่ 15











   เมื่อมาถึงปางปาลี ณธิปก็สั่งให้คนเอากระเป๋าของกมลและครอบครัวไปเก็บไว้ที่บ้านพัก ส่วนตัวเขาก็พาทุกคนไปทานกลางวันที่ห้องอาหาร ทางพ่อครัวที่รับคำสั่งโดยตรงจากนายใหญ่ได้ตระเตรียมทั้งของคาวของหวานให้เลือกทานมากมาย เป็นที่ถูกอกถูกใจหลานๆ ของกมลมากทีเดียว



   “อาเล็ก หยางอยากกิน…กุ้งเหมือนพี่หยินด้วยครับ” เจ้าแฝดคนเล็กสะกิตบอกกับณธิปที่นั่งอยู่ใกล้ๆ ปากก็เคี้ยวปูที่ผู้เป็นแม่แกะใส่จานให้ตุ้ยๆ


   “ได้สิครับ เดี๋ยวอาเล็กสั่งให้นะ” ณธิปยิ้มใจดี แล้วหันไปสั่ง “เอาล็อบสเตอร์ย่างซอสเนยอีกที่”

   “ครับท่าน” พนักงานบริการรับคำ แต่ยังไม่ทันเดินไปบอกกับพ่อครัว เสียงของกมลก็หยุดเขาเอาไว้เสียก่อน

   “เดี๋ยวครับ”

“คุณจะเอาอะไรเพิ่มเหรอ” ณธิปเงยหน้ามองกมลอย่างกระตือรือร้น แต่กลับถูกหนุ่มหน้าหวานปฏิเสธ


“ไม่เอาแล้วครับ เท่านี้ก็กินกันไม่หมดแล้ว แล้วก็ขอยกเลิกเมนูล็อบสเตอร์เมื่อกี้ด้วยนะครับ” ประโยคหลังกมลนั้นพูดกับพนักงาน ทำให้พนักงานคนนั้นถึงกับทำตัวไม่ถูก ไม่รู้จะเลือกเชื่อใครดีระหว่างกมลหรือเจ้านายอย่างณธิป


“อ้าว แต่น้องหยางเขาจะกินนะคุณ” ณธิปแย้ง


“แบ่งกันกินกับพี่หยินก็ได้ครับ ตัวเบ้อเร่อขนาดนั้น เด็กๆ เขากินไม่หมดหรอก ไหนจะปูนึ่งแล้วก็อย่างอื่นอีก เดี๋ยวก็คงอิ่มกันแล้ว” กมลมองจานอาหารของน้องหยางที่เต็มไปด้วยอาหาร เขารู้ว่าไม่นานหลานๆ คงจะอิ่ม ถ้าปล่อยให้สั่งเพิ่มคงจะเหลืออย่างแน่นอน


“แต่หยางอยากกินกุ้งครับลุงไอ” หยางได้ยินคุณลุงคนดีขัดก็กลัวว่าตัวเองจะไม่ได้กิน ด้วยวิสัยของเด็กจึงห่วงกินไว้ก่อนไม่ได้ประมาณตน


แต่กมลยังไม่ทันให้เหตุผล คนเป็นพี่ก็ตักเนื้อล็อบสเตอร์ที่แม่แกะให้ใส่จานน้อง แล้วว่า “อ่ะ…พี่ให้”

“แล้วพี่หยินล่ะ” แฝดคนน้องหันมาถาม

“พี่จะกินปลาหมึกหนวดหย่าย” ว่าแล้วก็ลากเสียงยาว พลางชี้นิ้วป้อมๆ ไปที่หนวดหมึกยักษ์ทอดน้ำปลา


“โห!~ ใหญ่จริงๆ ด้วย” หยางทำตาโต แล้วจึงหันมาบอกกับณธิป “อาเล็กครับ หยางไม่เอากุ้งแล้ว หยางจะกินปลาหมึกหนวดหย่าย” เจ้าตัวทำเสียงตามพี่ชาย แล้วก็เลิกสนใจเมนูกุ้งที่ร้องจะกินเมื่อครู่


“ตกลงว่าไม่เอาแล้วนะครับ” คนหน้าหวานสรุปอีกครั้ง

   “ครับๆ ไม่เอาก็ไม่เอา” ณธิปจึงได้แต่หันไปส่งซิกกับพนักงานให้ทำตามที่กมลบอก ก่อนจะหันมาเอาใจทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่นั่งร่วมโต๊ะแทน




   ผ่านไปสักครู่ ยังไม่ทันที่จะได้ทานของหวาน คุณวิมลผู้จัดการโรงแรมก็เดินเข้ามาที่โต๊ะเพื่อกล่าวทักทายกมลและครับครัว ก่อนกระซิบบอกบางอย่างแก่ณธิป คิ้วพาดเฉียงนั่นขมวดน้อยๆ ด้วยความขัดใจเมื่อได้ฟัง จากนั้นจึงหันกลับมาหากมล



   “เดี๋ยวผมต้องไปดูความเรียบร้อยข้างในก่อน คุณกับเด็กๆ อยู่ทานต่อกันตามสบายนะครับ ค่ำนี้ค่อยเจอกันในงาน” ณธิปว่า

   “ครับ” พอกมลพยักหน้ารับ ณธิปก็เดินจากไปพร้อมกับผู้จัดการวิมล

   “อาเล็กไปไหนครับลุงไอ”

   “ไปทำงานครับพี่หยิน” ชายหนุ่มตอบหลาน

   “ว้า~ อดกินขนมกับพวกเราเลยเนอะพี่หยิน”


   “อื้ม” เด็กชายสองคนโต้ตอบกันกระหนุงกระหนิงตามประสาพี่น้อง ไม่นานก็เลิกสนใจคนรอบตัวเพราะพนักงานยกขนมหวานท่าทางน่าทานออกมาเสิร์ฟให้




   กมลมองตามทิศทางที่คนคนนั้นเดินไป ชายหนุ่มรู้สึกหนักใจขึ้นเล็กน้อยด้วยไม่คิดว่าคนคนนั้นจะเริ่มรุกหนักมากขึ้นขนาดนี้ แม้ที่ผ่านมาอีกฝ่ายจะขยันโทรมาบ่อยๆ แต่มันก็ไม่เหมือนกันการได้พูดคุยต่อหน้า การที่เขาไม่ได้เจอกับณธิปเป็นเดือน พอกลับมาเจอกันอีกครั้งแล้วฝ่ายนั้นทำตัวสนิทสนมได้อย่างเป็นธรรมชาติ มันทำให้กมลค่อนข้างตั้งรับไม่ทันเหมือนกัน




   ทว่าเขาก็เคยบอกกับตัวเองไว้แล้ว ผู้ชายคนนี้อันตรายเกินไป ทั้งยังไม่น่าไว้ใจสักนิด ที่ตอนนี้เข้ามาดูแลอย่างดีก็เพราะมันเป็นช่วงโปรโมชั่นตอนเริ่มต้น ตอนจีบก็คงดีกับทุกคนเช่นนี้ และกมลไม่เคยคิดสนใจโปรโมชั่นลดแลกแจกแถมพวกนี้สักนิดเดียว เขามองไกลไปถึงบริการหลังการขายมากกว่า ซึ่งตามประวัติของณธิปแล้วมันค่อนข้างจะติดลบเอามากๆ นี่ยังไม่นับรวมวีรกรรมที่เคยทำมาเมื่อครั้งรู้จักกันใหม่ๆ อีก



   ดังนั้นเขาจึงต้องหนักแน่น ไม่หวั่นไหว หากจะให้ก็คงได้มากที่สุดก็แค่มิตรภาพอย่างเพื่อนเท่านั้น











   หลังทานกลางวันเรียบร้อยคนของปางปาลีก็เอารถไปส่งครอบครัวเปรมอนันต์ที่วิลล่า ทั้งหทัยและเด็กๆ ต่างก็ตื่นเต้นกับที่พักกันมาก เพราะนอกจากจะใหญ่โตหรูหราแล้ว ยังเห็นวิวทะเลที่สวยงาม อีกทั้งยังมีสระว่ายน้ำสวยๆ ของตัวเองด้วย



   หยินกับหยางจูงมือกันวิ่งสำรวจไปทั่ว ก่อนจะรีบกลับมารายงาน “แม่อ้าย! ที่สระน้ำมีเป็ดด้วยล่ะครับ” แฝดคนพี่ว่า



“ตัวเบ้อเร่อเลย” แฝดคนน้องเสริม ทั้งยังกางมือกว้างๆ เทียบขนาดให้แม่รู้


“เป็ดอะไรกันครับเด็กๆ” กมลนึกฉงนในใจ เพราะตอนมาครั้งที่แล้ว เขายังไม่เห็นว่าที่สระว่ายน้ำจะมีเป็ดตัวใหญ่เหมือนที่เด็กๆ ว่าสักนิด



เมื่อได้ยินผู้เป็นลุงถาม ทางสองแฝดก็รีบช่วยกันจูงมือพาไปดูให้เห็นกับตาทันที



“นั่นไงๆ เป็ดตัวใหญ่” นิ้วป้อมๆ ชี้ชวนให้กมลดู




ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างนิดๆ เมื่อเห็นห่วงยางแฟนตาซีตัวใหญ่ยักษ์ลอยน้ำอยู่ในสระ เขาประหลาดใจมากที่เห็นเจ้าสิ่งนี้ และค่อนข้างมั่นใจว่าเป็นอภินันทนาการพิเศษจากเจ้าของโรงแรมส่งตรงมาเอาใจเด็กๆ เป็นแน่ เนื่องจากสไตล์การตกแต่งและแนวทางของห้องพักนั้น ค่อนข้างขัดกับเจ้านกยักษ์ตัวสีชมพูแปร๋นนั่นมากพอควร นั่นแสดงว่าคนคนนั้นจงใจเตรียมไว้



กมลเผลอหลุดยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนก้มลงพูดกับหลานทั้งสองคน



“นั่นไม่ใช่เป็ดนะเด็กๆ มันคือนกฟลามิงโก้ต่างหากครับ”

“นกฟามจิงโจ้เหรอครับ หยางไม่เห็นเคยได้ยิน”

“พี่ก็ไม่เคยได้ยินเหมือนกัน” หยินเองก็เกาหัวแกรกๆ ด้วยความสงสัยไปด้วย


“ไม่ใช่ๆ นกฟลามิงโก้ต่างหาก เจ้านกตัวนี้มันตัวสีชมพู ชอบกินกุ้งหอยปูปลาที่อยู่ในน้ำ เอาไว้ลุงจะเปิดสารคดีให้ดูนะครับเด็กๆ” ชายหนุ่มลูบหัวของเด็กๆ ทั้งสองด้วยความเอ็นดู แล้วว่า “เดี๋ยวเราเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดสบายๆ แล้วนอนกลางวันกันก่อนเนอะ พอตื่นมาลุงจะพาไปดูสนามเด็กเล่น แล้วก็ไปก่อปราสาททรายที่ชายหาดด้วยดีไหมครับ”


“ดีครับ/ดีครับ” เด็กสองคนตอบรับอย่างว่าง่าย และยอมตามผู้เป็นลุงเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้อง ก่อนจะให้แม่ที่รออยู่พาเข้านอนตอนกลางวัน เพื่อตื่นมาจะได้ไปเที่ยวเล่นตามที่ต้องการ












กมลกับหทัยช่วยกันจัดกระเป๋าเสื้อผ้าเล็กน้อยระหว่างที่เด็กๆ นอนหลับ ครั้นเรียบร้อยก็ออกไปนั่งจิบน้ำหวานที่ริมสระส่วนตัว สองคนพี่น้องนั่งพูดคุยกันถึงลักษณะการออกแบบรวมถึงบริการของโรงแรม พวกเขาต่างเห็นเหมือนกันว่าปางปาลีเป็นโรงแรมระดับห้าดาวที่เหมาะสำหรับคู่รักเอามากๆ คาดการณ์กันว่าลูกค้าที่เลือกแพคเกจแต่งงานที่นี่ต้องประทับใจเป็นอย่างมากแน่นอน



นั่งคุยเรื่องงาน คุยเรื่องเล่นกันไปเรื่อย พอบ่ายคล้องเด็กน้อยฝาแฝดก็ลุกจากที่นอน ขนาดว่าผมชี้ฟู หน้าตาสะลืมสะลือก็ยังออกมาตามหาลุงไอกับแม่อ้ายเพื่อท้วงให้พาไปเล่นตามสัญญา



กมลกับหทัยจึงพาฝาแฝดไปล้างหน้า ก่อนจูงกันออกจากห้องเดินลัดเลาะลงไปชายหาดที่เห็นอยู่ไกลๆ จากหน้าต่างของที่พัก



หาดที่ว่าเป็นหาดส่วนบุคคลของโรงแรมปางปาลี และโรงแรมก็ยังไม่เปิดใช้บริการ ดังนั้นรอบบริเวณจึงแทบไม่มีคนอยู่เลย



แผ่นน้ำสีครามกว้างใหญ่โอบล้อมผืนทรายขาวสะอาดของหาดแคบๆ เอาไว้ ทะเลช่วงปลายฝนต้นหนาวมีคลื่นแรงพอควร ดังนั้นกมลจึงต้องตกลงกับหลานๆ ว่าสามารถเล่นน้ำกันได้แค่ริมๆ เท่านั้น หยินกับหยางจึงตัดสินใจนั่งก่อปราสาททรายตรงชายหาดแทน



ขณะที่ทั้งครอบครัวง่วนอยู่กับการสร้างปราสาทหลังน้อย จู่ๆ เสียงของใครคนหนึ่งก็เรียกให้ทุกคนหันไปหา



“คุณไอ”

กมลหันมามองเจ้าของเสียง ก่อนยิ้มกว้างส่งไปให้ “คุณภัทร”

“มาเที่ยวกันทั้งครอบครัวเลยนะครับ” ณภัทรยิ้มตอบ

“นี่หทัยน้องสาวของผมครับ ส่วนนี่หลานของผม คนโตน้องหยิน ส่วนคนเล็กน้องหยาง” คนหน้าหวานแนะนำสมาชิกในครอบครัวเรียงตัว



หทัยจำณภัทรได้ เธอยิ้มหวานและทักทายชายหนุ่ม ส่วนพี่น้องฝาแฝดเมื่อสวัสดีทักทายแล้ว กลับขยับหลบหลังแม่ เพราะไม่ชินกับการมาของคนแปลกหน้า



“อย่าทำหน้าเหมือนอา…ไม่สิ ปูนนี้คงต้องเป็นลุงเนอะ” ลูกชายคนโตของโชติตระกูลแก้กับตนเอง “อย่าทำหน้าเหมือนกลัวลุงภัทรอย่างนั้นสิครับ ลุงไม่ดุหรอกนะ” ณภัทรเอ่ยอย่างใจดี


“แกคงยังไม่ชินน่ะครับ” กมลบอก “ว่าแต่คุณภัทรมาเดินเล่นหรือครับ คิดว่าจะยุ่งๆ อยู่เสียอีก”


“เมื่อครู่ตอนเจ้าเล็กแวบหายไปก็ยุ่งกันนิดหน่อยครับ แต่ตอนนี้ให้คนไปตามกลับมาแล้ว ผมก็เลยปล่อยให้เขาดูแลเอง ออกหน้าช่วยเยอะเดี๋ยวจะเคยตัว นี่ผมก็เลยหนีออกมาเดินเล่นบ้าง” ณภัทรว่า


“ครับ” กมลปั้นหน้ายิ้มเรื่อยๆ ให้ณภัทร ในใจรู้สึกผิดเล็กน้อยที่เป็นสาเหตุให้ณธิปหนีหน้าที่มาคอยเทคแคร์ตนเองกับครับครัว แม้ว่าที่ทำทั้งหมดนั่นเขาจะไม่ได้ร้องขอก็ตาม



ทักทายกันอยู่สักพัก หทัยก็เห็นว่าณภัทรปักหลักคุยกับพี่ชายของเธอเป็นเรื่องเป็นราว ไม่มีทีท่าจะเดินไปทางอื่น เธอจึงขอตัวไปเข้าห้องน้ำ แล้วฝากลูกๆ ไว้กับชายหนุ่มทั้งสองคน



ครั้นเมื่ออยู่ตามลำพัง ณภัทรจึงเป็นฝ่ายชวนกมลคุยเรื่องสัพเพเหระไปเรื่อย และสุดท้ายก็วกกลับเข้ามาพูดเรื่องน้องชายของตน



“แล้วคุณไอเป็นไงครับ เห็นว่าทำงานร่วมกับเจ้าเล็กด้วย เขาไม่ได้ทำให้หนักใจอะไรใช่ไหม”


“ไม่ครับ คุณณธิปเขาทำงานเก่ง อีกอย่างโดยทั่วไปผมจะติดต่อกับทางตัวแทนของปางปาลีมากกว่า นานๆ ทีถึงจะเจอกันน่ะครับ”

“เหรอครับ ผมก็คิดว่าสนิทกันเสียอีก เห็นเด็กๆ บอกว่าเจ้าเล็กไปรับคุณไอที่สนามบิน”

“ก็ไม่ได้สนิทขนาดนั้นหรอกครับ เขาคงเห็นว่าผมพาหลานๆ มาด้วย ก็เลยมารับ”



ณภัทรรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำตอบของกมล แต่เขาก็พอจะอ่านความกระอักกระอ่วนจากบรรยากาศรอบตัวของกมลออก ชายหนุ่มจึงทำเป็นไม่สนใจเรื่องนี้ และเก็บความสงสัยไว้ในใจแทน



ส่วนกมลนั้นค่อนข้างลำบากใจพอสมควร เขาไม่รู้จะอ้างเหตุผลว่าทำไมตัวเองจึงดูเหมือนสนิทจนณธิปต้องดูแลขนาดนั้น จึงได้แต่ตอบสั้นๆ แล้วเหยียบเรื่องที่ถูกเทียวไล้เทียวขื่อเอาไว้ ด้วยกลัวจะถูกมองว่าที่ได้เข้ามามีส่วนร่วมกับงานเพราะผลประโยชน์ส่วนตัว



เหมือนเด็กๆ จะรู้จังหวะ เพราะเมื่อชายหนุ่มทั้งสองไม่อาจต่อบทสนทนาให้เป็นธรรมชาติได้เหมือนก่อนหน้า หยินกับหยางก็ตะโกนเสียงดังเรียกความสนใจของพวกผู้ใหญ่ไป



“ลุงไอครับ! ปราสาทเราจะล้มแล้ว”

“ช่วยด้วย เร็วๆ ครับ”



ปราสาททรายของเด็กๆ ที่ช่วยกันสร้างขึ้นมานานสองนานถูกคลื่นลูกใหญ่ซัดเข้ามาใส่จนพังไปกว่า 1 ใน 3 ของหลัง กมลได้แต่รีบเอาตัวเข้าไปกันระลอกคลื่นที่จะพัดมา เพื่อไม่ให้ตัวปราสาทพังเสียหายมากกว่าเดิม



“เดี๋ยวลุงช่วยด้วยปกป้องปราสาทอีกแรงครับเด็กๆ ไม่ต้องกลัวนะ”



ณภัทรเห็นหนุ่มหน้าหวานลงทุนกระโดดไปนั่งจนกางเกงเปียกแล้วนึกสนุก จึงพับแขนเสื้อแล้วเข้าไปช่วยเด็กๆ ก่อกำแพงกันแนวคลื่นหลายๆ ชั้น ไม่ให้น้ำทะเลเข้าไปพังพื้นที่ด้านในได้


“เดี๋ยวเลอะนะครับคุณภัทร” กมลร้องบอกเมื่อเห็นทายาทเอ็นพีกรุ๊ปกระโจนเข้ามาเล่นกับเด็กๆ อย่างสนุกสนาน ขัดกับภาพลักษณ์ที่เคยคุ้นตา


“ไม่เป็นไร เดี๋ยวใกล้ๆ ถึงเวลางานก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่อยู่แล้ว”

“อ๋อครับ” กมลยิ้มรับ


“น้ำมาตรงนั้นด้วยครับลุงภัทร!” น้องหยางชี้ไปที่ด้านริมสุดของกำแพงแล้วร้องบอกอย่างลืมตัว ที่เคยเกรงๆ กลัวๆ ณภัทรเมื่อครู่ก็หายกลัวเป็นปลิดทิ้ง

“หนูมาช่วยลุงภัทรตรงนี้หน่อยได้ไหมครับ”

“ได้ครับ” เด็กน้อยตอบรับแข็งขันแล้วละจากตัวปราสาทเพื่อวิ่งเข้าไปช่วยป้องกันอีกแรง



หทัยที่เพิ่งเดินกลับมาจากบ้านพักค่อนข้างแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นพี่ชายกับณภัทรลงไปคลุกทรายกับเด็กๆ แต่ทุกคนก็ดูสนุกสนานดี เธอจึงยิ้มชอบใจและเข้าไปร่วมวงด้วยอีกคน



ผิดกับชายหนุ่มอีกคนหนึ่งที่ละจากงานออกมาสูดอากาศที่ระเบียงใหญ่ของโรงแรมปางปาลี ดวงตารีเรียวนั่นจ้องมองไปที่แผ่นหลังพี่ชายของตนกับหนุ่มหน้าหวานอีกคนที่นั่งพิงกัน จากตรงนี้เขาไม่เห็นหน้าของณภัทร ทว่าถ้าเป็นกมลนั้นกลับเห็นชัดเจน รอยยิ้มกับเสียงหัวเราะที่ดูมีความสุขถูกเผยออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งมันแทบไม่เคยมีเลยเวลาอยู่กับเขา




“หึ” ณธิปแค่นหัวเราะ เยาะเย้ยตัวเองเบาๆ



เขาไม่น่ามานั่งแปลกใจกับเรื่องแค่นี้เลยสักนิด เพราะคนอย่างพี่ภัทร ไม่ว่าอยู่ใกล้ใคร ก็มักทำให้คนคนนั้นมีความสุขได้เสมอ ไม่เว้นแม้กระทั่งคนที่ตั้งกำแพงสูงชันอย่างกมลด้วย






แต่เอาเถอะ…ครั้งนี้เขาไม่มีวันยอมแพ้ง่ายๆ แน่นอน










<><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><>





มาต่อแล้วจ้าาาาา

ตอนนี้เปิดเผยแล้วนะคะ หน้ากากพระเอกที่แท้จริงก็คือ...พี่ภัทรนั่นเอง  :-[  :o8:

ส่วนตาเล็กรับบทเป็นเงาเเค้นค่ะ  o22

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านน้า ตอนต่อไปก็จะรีบมาค่ะ


แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ  :katai4:


ละอองฝน.
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 15 [20/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: about ที่ 20-02-2017 21:30:37
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 15 [20/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 20-02-2017 23:11:43
ถ้ายังต้องการเป็นพระเอกต่อไป ต้องปรับปรุงตัวให้ดีได้ไวไวนะคุณเล็ก
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 15 [20/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 20-02-2017 23:29:53
 :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 15 [20/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 21-02-2017 01:48:06
อ้าววว คุณพี่!!!!!!
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 15 [20/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: graciej ที่ 21-02-2017 01:58:18
"กมลร้องบอกเมื่อเห็นทายาทเอ็นพี่กรุ๊ป"

เอ็นพี กับ เอ็นพี่ มันต่างกันมากนะคะ     :hao6: :hao6:
ทำไมคำนี้มันสะดุดตา  555
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 15 [20/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ละอองฝน ที่ 21-02-2017 03:12:58
"กมลร้องบอกเมื่อเห็นทายาทเอ็นพี่กรุ๊ป"

เอ็นพี กับ เอ็นพี่ มันต่างกันมากนะคะ     :hao6: :hao6:
ทำไมคำนี้มันสะดุดตา  555



กรี๊ดดดดดด ตอนแรกก็งงว่ามันสะดุดมากขนาดนั้นเลยเหรอ แต่พอเห็นสติ๊กเกอร์เท่านั้นแหละ  :hao7:  :hao7: เอ็นคุณพรี่่่่่ 555555555555555 อายมากค่ะ  :mew3:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 15 [20/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 21-02-2017 06:54:08
คุณเล็กน่ะ ปรับปรุงตัวให้ดีก่อนเถอะ ถถถถถ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 15 [20/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 21-02-2017 12:52:02
 :m20:

ขำเรื่องเอ็น
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 15 [20/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: imymild ที่ 21-02-2017 17:23:23
อย่าไปยอมคุณเล็ก
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 15 [20/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 21-02-2017 21:43:20
คุณเล็กต้องพยามยามมากๆน้อ ใครๆเขาก็กลัวคุณทั้งนั้นแหละะะ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 15 [20/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: A-J.seiya* ที่ 21-02-2017 23:08:07
โอยยยยยย
เสียใจอ่ะ รู้สึกเสียใจที่รู้ตัวว่าเป็นคนสร้างรอยยิ้มไม่ได้
อยากให้คุณณธิปพยายามแบบไม่มุ่งเอาชนะอ่ะ
ฮึกกก สู้นะ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 15 [20/02/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: A-J.seiya* ที่ 08-03-2017 23:36:51
เข้ามารอออ ^^
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 16 [16/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ละอองฝน ที่ 16-03-2017 00:11:39







คุณคือความรัก บทที่ 16









   หลังจากพาหลานๆ ไปเล่นน้ำทะเลและก่อปราสาททรายจนบ่ายคล้อย กมลก็ชวนครอบครัวกลับเข้าที่พัก เพราะเขาต้องอาบน้ำแต่งตัวเพื่อไปร่วมงานเปิดตัวโรงแรมปางปาลีที่จะจัดขึ้นในค่ำนี้ ส่วนทายาทคนโตของโรงแรมอย่างณภัทรก็เห็นว่าสมควรแก่เวลาแล้วเช่นกัน เขาจึงแยกกับครอบครัวของกมลที่ชายหาดเพื่อไปเตรียมตัว



   ระหว่างทางกลับที่พัก หยินกับหยางออกอาการงอแงนิดหน่อยเพราะยังรู้สึกสนุกกับการเล่นอยู่ ทั้งแม่และลุงจึงต้องช่วยกันหว่านล้อมอยู่หลายประโยค กว่าที่พวกเด็กๆ จะยอมสงบแต่โดยดี



   ครั้งมาถึงห้อง กมลช่วยน้องสาวอาบน้ำล้างตัวให้หลานๆ ก่อน จากนั้นก็โทรสั่งอาหารเย็นมาให้ แล้วจึงค่อยอาบน้ำแต่งตัวเตรียมไปงานเลี้ยง



   เสื้อผ้าที่เตรียมมาเป็นชุดสูทสีเทาเข้มกระดุมเดี่ยวเข้ากับรูปร่าง เมื่อสวมสูทและเซ็ทผมเก็บหน้าม้ายาวๆ ขึ้นไปให้เรียบร้อย ความหวานของใบหน้าก็ถูกลดทอนลงไปมากโข ยามนี้เขาจึงกลายเป็นหนุ่มที่มีลุคดูภูมิฐานแปลกตาทีเดียว



   ที่กมลค่อนข้างพิถีพิถันแต่งกายเป็นพิเศษในคืนนี้ เป็นเพราะรู้ว่าแขกเหรื่อในงานส่วนใหญ่คงไม่ใช่คนธรรมดาอย่างงานทั่วไป แม้คาดว่าตนเองคงไม่รู้จักนักธุรกิจที่มาร่วมงานมากเท่าไหร่ แต่ก็ต้องรักษาภาพลักษณ์โดยรวมจากการแต่งกายให้ดูดีไว้ก่อน



   เมื่อแต่งตัวเรียบร้อย ชายหนุ่มจึงออกมาหาน้องสาวกับหลานๆ ที่โต๊ะกินข้าว ซึ่งนอกจากอาหารที่สั่งมาแล้ว บนโต๊ะยังมีกระเช้าดอกลิลลี่สีขาวแซมกล้วยไม้แวนด้าสีม่วงวางอยู่



   กมลได้รับความช่วยเหลือจากลูกพี่ลูกน้องอย่างจงรักในการสั่งดอกไม้สดกระเช้านี้ให้ เดิมทีเขาเปรยๆ ว่าอยากให้จงรักจัดดอกไม้ให้ แต่ด้วยความยุ่งยากในการเดินทางรวมทั้งสัมภาระที่มากอยู่แล้ว จงรักจึงช่วยเป็นธุระโทรประสานกับร้านของคนรู้จักในภูเก็ตให้จัดดอกไม้มาส่งกมลที่โรงแรมปางปาลีด้วย ซึ่งนั่นก็ถือว่าเป็นความโชคดีของกมลที่ไม่ต้องวุ่นวายหาร้านด้วยตัวเอง



   “ลุงไอจะไปไหนครับ ไม่อยู่กินข้าวเย็นกับพวกเราเหรอ” หยินเงยหน้าจากจานอาหารเย็นขึ้นมาเห็นคุณลุงคนดีสวมชุดแปลกตา จึงส่งเสียงถามออกมาด้วยความสงสัย




   “ลุงต้องไปทำงานครับ” กมลว่าพลางเดินยิ้มเข้ามาหา ก่อนลูบหัวหลานชายเบาๆ


   “ไปนานไหมครับ” เด็กน้อยถามต่อ


   “ไม่นานครับ ดึกๆ ก็กลับแล้ว พี่หยินเป็นเด็กดี อยู่กับแม่อ้ายแล้วก็น้องหยางได้ไหมครับ”


   “ได้ครับ” เด็กชายพยักหน้ารับ


   “เก่งมาก งั้นเดี๋ยวลุงไปก่อนนะ”


   “กลับเร็วๆ นะครับ ลุงไอ” คราวนี้เป็นน้องหยางที่พูดกับคุณลุงบ้าง


   “ครับ แล้วลุงจะรีบกลับนะ” ชายหนุ่มให้สัญญา “พี่เอามือถือไปด้วย มีอะไรก็โทรเข้ามาได้เลยนะอ้าย แต่คิดว่าพี่คงอยู่ในงานไม่นานหรอก”


   “ค่ะ พี่ไอไม่ต้องเป็นห่วงนะ”


   “อืม พี่ไปก่อนนะ”




   ว่าจบกมลก็ยกกระเช้าดอกไม้ขึ้นมาถือไว้ จากนั้นก็ออกไปขึ้นรถที่มารอรับอยู่ก่อนแล้ว เขารู้สึกแปลกใจนิดหน่อย จึงได้ถามพนักงานขับรถไป ได้ใจความว่า ถูกณธิปสั่งให้มารอกมลที่หน้าวิลล่าตั้งแต่ช่วงเย็นแล้ว



   อันที่จริงวิลล่าหลังอื่นก็สามารถโทรเรียกรถมารับได้เหมือนๆ กัน เนื่องจากเป็นบริการที่ทางโรงแรมจัดไว้เพื่ออำนวยความสะดวกอยู่แล้ว แต่กมลก็ยังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกกระอักกระอ่วนใจอยู่ดี เพราะเขายังไม่ทันโทรไปเอง แต่กลับได้รับอภิสิทธ์จากคำสั่งของเจ้าของโรงแรมโดยตรง



   ยามเมื่อรถแล่นไปตามทาง สายลมก็พัดเอากลิ่นหอมหวานของดอกลิลลี่ที่ถือเอาไว้เข้าจมูก คนหน้าสวยก้มมองดอกไม้ในมือ ก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ พอนึกถึงเจ้าของงานแล้วก็อ่อนใจ ไม่รู้หลังจากนี้ณธิปจะคิดทำอะไรอีก ถ้าเขาไม่แสดงท่าทีว่าเล่นด้วย คนคนนั้นจะเบื่อและเลิกสนใจไปในที่สุดไหม หรือจะยังตามวอแวต่อไปเรื่อยๆ กัน



   หลังจากได้รู้จักกันมาสักระยะ ในสายตาเขา ณธิปไม่ใช่คนเลวร้ายมากมายอะไรขนาดนั้น แต่ความคิดและวิธีการเข้าหาคนอื่นของชายหนุ่ม เป็นอะไรที่ไม่ใช่แบบที่เขาชอบเท่าไหร่



   การเอาอกเอาใจ ไปรับไปส่ง ทำตัวเป็นพ่อบุญทุ่มมันก็ดี แต่ความรักสำหรับกมลมันมีอะไรมากกว่านั้น อย่างน้อยขั้นแรกก็ต้องมีความจริงใจเป็นสำคัญ หากเขายังสัมผัสถึงความจริงใจจากณธิปไม่ได้เลย รู้สึกแต่ว่าอีกฝ่ายเข้าหา เพื่อต้องการบางอย่างที่ไม่ใช่ความรู้สึกดีๆ จากเขา ทั้งยังรู้สึกถึงอารมณ์อยากเอาชนะของอีกฝ่ายอย่างเข้มข้น แล้วแบบนี้จะให้เขายอมอ่อนให้ได้หรือ



   “เฮ้อ~” ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาอีกครั้ง ในขณะที่คิดว่าจำเป็นต้องหาโอกาสพูดกับณธิปให้ชัดเจนไปเลยหลังจากงานนี้ รถที่นั่งก็พากมลมาถึงที่หมายพอดี











   พื้นที่จัดงานเปิดตัวปางปาลีในค่ำคืนนี้กินเนื้อที่เชื่อมต่อกันสองส่วน คือส่วนในตัวอาคารและพื้นที่เปิดโล่งออกมาด้านนอกติดกับชายหาด



กมลเข้างานตามหลังแขกกลุ่มหนึ่ง เมื่อก้าวเท้าเข้าสู่สถานที่ที่ถูกจัดเตรียมไว้ เขาก็สามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของโรงแรมติดชายทะเล ขณะเดียวกันตีมและองค์ประกอบต่างๆ ของงานก็ยังไม่ทิ้งความหรูหรา ซึ่งทำให้แขกที่มาร่วมงานรู้สึกว่าที่แห่งนี้จะสามารถมอบความพิเศษในระดับพรีเมี่ยมได้ยามเมื่อกลับมาเยือนอีกครั้ง



แม้งานจะเพิ่งเริ่มได้ไม่นาน แต่กมลก็คาดว่ามันต้องไปได้สวยและได้รับเสียงตอบรับที่ดีแน่นอนหลังงานจบ และต้องยกความดีความชอบให้กับคนที่บริหารจัดการทุกอย่างด้วยตัวเองอย่างณธิป กมลไม่รู้สึกแปลกใจเลยที่อีกฝ่ายทำหน้าที่ได้ดีขนาดนี้ เพราะเขารู้อยู่แล้วว่าณธิปทำงานเก่ง



ขณะที่กำลังนึกถึง คนคนนั้นก็ปรากฏตัวให้เห็นพอดี ทั้งยังแหวกผู้คนเดินเข้ามาหากมลอีกด้วย



ณธิป โชติตระกูล ดูเปล่งประกายจากคนอื่นๆ มากพอสมควร ด้วยองค์ประกอบหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นใบหน้าที่หล่อเหลา บุคลิกที่มั่นใจ และรอยยิ้มที่ทรงเสน่ห์เหลือร้ายนั่น ยิ่งได้สูทเนี๊ยบๆ แบบทันสมัยสีเบอร์กันดีสวม ก็ยิ่งขับก็ทำให้โดดเด่นจนใครๆ ความสนใจชายหนุ่มกันทุกคน




“คุณมาช้า” พอมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้า กมลก็ถูกตั้งข้อกล่าวหาทันที “ผมมองหาคุณตั้งนานแล้วรู้หรือเปล่า”


“ขอโทษครับ” ครั้นได้ยินกมลกล่าวขอโทษออกมาตรงๆ คนเจ้าเล่ห์ก็ยิ้มพราวราวกับไม่ถือสา ก่อนจะขยับเข้าหาแล้วเอื้อมมือไปแตะที่หลังของกมลเบาๆ


“ไปถ่ายรูปด้วยกันที่แบ็คดรอปดีกว่า อีกเดี๋ยวจะได้แนะนำให้คุณรู้จักเพื่อนๆ ของผมด้วย”




เพราะมีสายตาของคนอื่นจ้องมองมามากมาย กมลจึงได้แต่เออออตามไปถ่ายรูปและมอบกระเช้าดอกไม้ให้อีกฝ่ายที่แบ็คดรอปก่อน



ท่าทางที่ณธิปแสดงออกมาอย่างชัดเจนว่าสนิทสนมกับหนุ่มหน้าสวยเป็นพิเศษ ทำให้เหยี่ยวข่าวจากหลายๆ สำนักที่ถูกเชิญมา รัวกดชัตเตอร์กันมือเป็นระวิง เพราะนอกเหนือจากข่าวเปิดตัวโรงแรมดังแล้ว ตัวเจ้าของโรงแรมเองก็ถือว่าเป็นคนที่อยู่ในความสนใจของสังคมไม่น้อย ด้วยวีรกรรมต่างๆ ที่เคยผ่านมา ถ้าหากวันดีคืนดีจะควงใครสักคนเปิดตัวล่ะก็ ย่อมต้องได้รับความสนใจอย่างมากเป็นแน่



กมลอยากหนีไปซ่อนอยู่ตรงมุมเงียบๆ ของงานเลี้ยงแทบแย่ หากไม่ติดว่าณธิปมัดมือชกพาเขาไปคุยกับเพื่อนนักธุรกิจไม่หยุดหย่อน อยากมองในแง่ดีว่าแค่คุยกันเรื่องธุรกิจเท่านั้น ไม่มีหัวข้อไหนรุกล้ำเกินเลยไปเรื่องความสัมพันธ์คลุมเครือที่เจ้าของงานเป็นคนสร้างขึ้น แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าสายตาของแขกเหรื่อหลายๆ คนที่มองมายังกมลนั้น ไม่ได้หยุดคิดแค่เรื่องธุรกิจ



กระทั่งในที่สุดกมลก็ได้โอกาสแยกตัวจากณธิป เพราะคนเจ้าเล่ห์ต้องขึ้นไปพูดบนเวที หนุ่มหน้าหวานจึงแอบหนีไปอยู่ในโซนที่ค่อนข้างห่างไกล



ระหว่างที่ยืนดูผู้บริหารอายุน้อยแสดงวิสัยทัศน์น่าสนใจอยู่บนเวที จู่ๆ ก็มีมือของใครคนหนึ่งสะกิดไหล่เขาจากด้านหลัง



“มายืนหลบมุมทำไมตรงนี้ครับคุณไอ”


“คุณภัทร!”


ครั้นเห็นกมลสะดุ้งจนตัวโยน ณภัทรจึงรีบขอโทษขอโพยทันที “ผมทำให้ตกใจเหรอ ขอโทษนะครับ”


“ไม่เป็นไรครับ” กมลยิ้มให้อย่างไม่ถือสา


“ว่าแต่ทำไมมาหลบอยู่ตรงนี้ครับ ทำไมไม่เข้าไปฟังข้างใน”


“ข้างในคนเยอะครับ ผมก็เลยเดินออกมาสูดอากาศข้างนอกสักหน่อย”


“หรือครับ” ณภัทรพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ ทว่า… “ผมคิดว่าคุณแอบหนีเจ้าเล็กออกมาเสียอีก เห็นเมื่อครู่มันพาเดินไปแนะนำคนนั้นคนนี้ไม่หยุด”


“เอ่อ…เปล่าหรอกครับ”


“ถ้าอึดอัดก็บอกเจ้าเล็กมันได้นี่ครับ คนเยอะ แถมไม่ค่อยรู้จักทั้งนั้นเลยใช่ไหมล่ะ”


“อ่า…ครับ” กมลได้แต่พยักหน้ารับอย่างจำใจ หากจะให้อธิบาย ก็ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน


“งั้นไปหาอะไรดื่มไหมครับ ผมอยากถามเรื่องรายละเอียดงานที่คุณทำร่วมกับปางปาลีสักหน่อย”


“ได้ครับ” ชายหนุ่มคิดว่า อย่างน้อยก็ดีกว่าถูกณธิปพาไปคุยกับคนนั้นคนนี้ในงานก็แล้วกัน











หลังลงจากเวที ณธิปก็มองหาหนุ่มหน้าหวานที่อยู่ด้วยกันเมื่อครู่ ทว่ากลับหาไม่พบ ขณะที่กำลังจะเดินออกไปดูส่วนจัดงานด้านนอก ชายหนุ่มก็ถูกแขกสำคัญในงานรั้งตัวเอาไว้ เขาจึงยอมละเรื่องของกมลไว้ก่อน



กว่าผู้บริหารหนุ่มจะสามารถปลีกตัวมาอยู่ตามลำพังได้ แขกหลายๆ ท่านก็เริ่มทยอยกลับกันแล้ว ณธิปคุยกับผู้จัดการเรื่องส่งแขกและถามถึงความเรียบร้อยสักพัก จึงเอ่ยถามถึงคนที่ไม่เห็นมาตั้งแต่เย็น




“คุณวิมล”


“ครับคุณเล็ก”


“พี่ภัทรล่ะ” เพราะรู้ว่าเย็นวันพรุ่งนี้พี่ชายมีกำหนดการต้องเข้าประชุมกับบอร์ดบริหารที่กรุงเทพฯ เขาจึงคิดว่าณภัทรอาจจะกลับไปพักผ่อนแล้ว


“ผมเห็นคุณภัทรคุยกับเพื่อนๆ ของท่านที่เลานจ์น่ะครับ”


“อย่างนั้นหรือ ไอ้เราก็นึกว่าหายไปไหน” แม้งานนี้ณภัทรจะไม่ออกหน้าและช่วยรับรองแต่เพื่อนๆ ของพวกเขา เพราะไม่อยากแย่งความสนใจของน้อง แต่แขกผู้ใหญ่ในงานหลายๆ ท่านก็ยังถามหาเจ้าตัวอยู่ไม่น้อย


“แล้วคุณเล็กจะขึ้นที่พักเลยหรือเปล่าครับ หรือจะอยู่จนงานเลิกก่อน” เพราะเห็นเจ้านายตรากตรำมาหลายวัน วิมลจึงค่อนข้างเป็นห่วง


“ต้องอยู่จนเลิกสิ เห็นเจี๊ยบบอกว่ามีสื่อเจ้าหนึ่งขอสัมภาษณ์ด้วย”


“อ้อ เมื่อครู่เลขาของคุณเล็กบอกว่าเธอขอเลื่อนให้เป็นพรุ่งนี้เที่ยงแทนครับ เพราะกว่างานจะเลิกก็คงดึก”


“ทางนั้นเขามีปัญหาหรือเปล่า”


“ไม่ครับ เห็นว่าจะทำสกู๊ปแนะนำด้วย ถ้าเป็นพรุ่งนี้คงจะพร้อมกว่า”


“ถ้าอย่างนั้นก็เอาเถอะ เดี๋ยวฉันไปหาพี่ภัทรสักหน่อย” ก่อนที่จะเดินไปหาพี่ชายที่เลานจ์ ณธิปก็รีบหันกลับไปหาวิมลอีกรอบ “วิมล”


“ครับคุณเล็ก”


“เห็นคุณไอบ้างไหม หรือว่ากลับไปแล้ว”


“อ้อ คุณไออยู่กลับคุณภัทรตั้งแต่คุณเล็กขึ้นเวทีแล้วครับ ตอนนี้ก็น่าจะคุยอยู่กับเพื่อนๆ ของท่านที่เลานจ์”


“อยู่กับพี่ภัทรเหรอ” ชายหนุ่มถามเสียงแข็ง


“ครับ”


เมื่อเห็นวิมลพยักหน้ายืนยัน ณธิปก็หันหลังกลับและมุ่งหน้าไปที่เลานจ์ทันที











เดิมทีกมลก็คุยเรื่องโครงการต่างๆ อยู่กับณภัทรสองคน แต่หลังจากเดินไปหาเครื่องดื่มที่เลานจ์ พวกเขาก็ได้พบกับกลุ่มเพื่อนสนิทของณธิปอยู่ที่นั่นด้วย แรกเริ่มกมลก็ปั้นหน้ายิ้มเกร็งๆ พูดบ้าง ฟังบ้าง ทว่าผ่านไปสักพักก็พบว่าเพื่อนๆ ของณธิปทุกคนดูจะวางตัวสบายๆ พูดคุยอย่างเพื่อนรุ่นเดียวกันมากกว่า เขาจึงผ่อนคลายและสนุกกับบทสนทนาไปด้วย กว่าจะรู้ตัวอีกที เวลาก็ผ่านไปเกือบงานเลิก แขกเหรื่อคนสำคัญทยอยกลับกันหลายท่าน ชายหนุ่มจึงขอตัวกลับบ้าง


“เดี๋ยวผมไปส่งคุณไอที่รถดีกว่า”


“ไม่เป็นไรครับคุณภัทร ผมไปเองได้ แค่นี้เอง” กมลรีบปฏิเสธเพราะเกรงใจ อีกทั้งยังรู้สึกแปลกๆ กับสายตาของเพื่อนณธิปที่มองพวกเขาทั้งคู่ด้วย


“ไม่เป็นไรครับ ไม่รู้ตอนนี้รถจะพอไหม คนทยอยกลับวิลล่ากันก็มาก ถ้ารถไม่พอ ผมจะได้เดินไปเป็นเพื่อน”


“ลำบากเปล่าๆ ครับคุณภัทร ผมเกรงใจ” กมลรู้ว่าณภัทรเป็นคนดีมีน้ำใจ แต่ก็ใช่ว่าเขาจะชอบที่อีกฝ่ายดูแลราวกับเขาเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ


“ไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ” ณภัทรว่า ก่อนจะหันไปหาสองหนุ่มที่นั่งหน้าสลอนอยู่ที่โซฟา “เดี๋ยวพี่มานะตฤณ เชษฐ์”


“ครับพี่” ดังตฤณพยักหน้ารับ ส่วนพิเชษฐ์หันมายิ้มให้กมลแทน


“แล้วเจอกันครับคุณไอ”


“แล้วเจอกันครับคุณเชษฐ์ คุณตฤณ”




แต่เมื่อปฏิเสธไม่ได้ กมลก็จำใจเดินตามณภัทรออกไป นึกในใจว่า ณภัทรเองก็มีมุมเผด็จการเล็กๆ ไม่ต่างจากน้องชายเหมือนกัน



พอกมลเดินลับหลังไปไม่นาน ผู้บริหารหนุ่มที่เป็นเจ้าของงานก็เดินมาหาเพื่อนสนิทที่เลานจ์ด้วยสีหน้าบูดบึ้ง ครั้นมาถึงก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง สอดสายส่ายตาหาเป้าหมายทันที




“คุณไอล่ะ”


“แหม…มาถึงก็ถามหาเลยนะ ห่างกันสักนิดไม่ได้เลย กลัวใครจะมาแย่งไปหรือไง” พ่อดาราดังเอ่ยค่อนขอดเพื่อน


“ตอบมาดีๆ ไอ้เชษฐ์ คุณไอไปไหน”


“นี่ตกลงว่าเป็นอะไรๆ กันแล้วใช่ไหม เพื่อนๆ จะได้วางตัวถูก” พิเชษฐ์เฉไฉไม่ตอบ ซ้ำยังตั้งคำถามที่ค้างคาใจตั้งแต่เห็นเพื่อนพากมลเดินร่อนทั่วงานเมื่อหัวค่ำ




ทว่าณธิปกลับไม่ตอบ ซ้ำยังทำหน้าบึ้ง คิ้วขมวดมากกว่าเก่า ดังตฤณที่นั่งเงียบอยู่นานจึงเฉลยขึ้นมาก่อนที่เพื่อนตัวดีจะอาละวาด




“คุณไอกลับไปเมื่อกี้”


“กลับไปแล้ว?”


“ใช่ พี่ภัทรเพิ่งจะออกไปส่ง เมื่อกี้นี่เอง”


“พี่ภัทรอีกแล้วหรือ!”




ครานี้ไม่ต้องรอให้เพื่อนตอบ ชายหนุ่มก็รีบวิ่งตามออกไปทันที ทิ้งให้เพื่อนสนิททั้งสองนั่งมองหน้ากันด้วยความหวั่นใจระคนสงสัย



“แกว่าจะเกิดศึกสายเลือดไหมวะตฤณ”


“ไม่รู้สิ” ดังตฤณเองก็ไม่อาจล่วงรู้ได้ว่าจะมีเรื่องอย่างที่พิเชษฐ์ถามหรือไม่ แต่ถ้าเป็นไปได้ เขาก็หวังว่าอย่าให้เกิดศึกสายเลือดอย่างที่ว่านั่นเลยจะดีกว่า











<><><><><><><><><><><><>><<>><<>>><><><><>><><>




เรากลับมาแล้ว
กลับมาพร้อมแรงอาฆาตของคุณเล็ก /ไม่ใช่ละ 5555


เหมือนจะจบค้างใช่ไหมคะ แต่อย่าเพิ่งว่ากันนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้มาต่อค่ะ

ชื่อตอนหน้า ศึกสายเลือด!! เอาให้เลือดสาดน้ำกระเซ็นกันไปเลย 55555



เจอกันตอนหน้าค่ะ  :katai4:


ละอองฝน.
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 16 [16/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 16-03-2017 01:08:24
ศึกสายเลือดกำลังจะมาาาา

ติดตามต่อไปปป :mew1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 16 [16/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 16-03-2017 02:10:00
รออีกๆ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 16 [16/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: โอ ที่ 16-03-2017 06:45:58
 :mc4:มาต่อแล้วดีใจจังรออ่านค่ะ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 16 [16/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 16-03-2017 10:26:31
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 16 [16/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: A-J.seiya* ที่ 16-03-2017 14:29:58
คุณไอลำเอียง
เลือกปฏิบัติ ถ้าเป็นคุณเล็กคงปฏิเสธเด็ดขาด
แต่พอเป็นคุณภัทรก็เกรงใจ งี้คุณเล็กก็แย่ดิ
ฮือออออ ร้องไห้ เข้าใจพระเอกเสมอ รอตอนห
ดีใจมาต่อแล้ว แอบไปถามหาในเฟสมาด้วย คึคึ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 16 [16/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 17-03-2017 11:35:45
 :pig4: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 17 [17/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ละอองฝน ที่ 17-03-2017 14:58:20










คุณคือความรัก บทที่ 17







   เมื่อเดินมาถึงฟร้อนด้านหน้าตึก พนักงานของโรงแรมก็รีบกุลีกุจอเข้ามารับหน้านายใหญ่ ณภัทรจึงเอ่ยปากถามถึงรถที่ใช้บริการรับส่งแขกกับเข้าที่พักทันที



   “มีรถหรือเปล่า”


“มีครับท่าน”


   “งั้นไปเอามาส่งคุณเขาคันหนึ่ง”


   “ครับท่าน” พนักงานคนนั้นโค้งให้นายใหญ่อย่างสุภาพ ก่อนจะเร่งไปบอกให้คนนำรถมารับกมลตามคำสั่ง



   พอรถมาถึง กมลก็เดินออกไปขึ้นด้านหน้า  ทว่าก่อนจะก้าวขึ้นไป หนุ่มหน้าหวานก็หันมายิ้มขอบคุณให้กับความมีน้ำใจของณภัทร



   “ขอบคุณคุณภัทรมากนะครับที่มาส่ง แล้วก็อยู่เป็นเพื่อนคุยเสียนานเลย”


   “ไม่เป็นไรครับ” ณภัทรยิ้มใจดี “ว่าแต่พรุ่งนี้คุณไอกับครอบครัวกลับกี่โมงครับ เผื่อกลับไฟล์ทเช้า จะได้เดินทางไปสนามบินด้วยกันเลย”


   “ผมกลับบ่ายครับ ต้องพาเด็กๆ ไปดูพื้นที่บริการโซนครอบครัวสักหน่อย จะได้ไปคอมเม้นกับคุณณธิปได้ถูก” แม้จะพาครอบครัวมาเที่ยว แต่ก็กมลก็ไม่ลืมงานอีกอย่างที่เขารับปากณธิปว่าจะช่วยทำให้


   “อ๋อ งั้นหรือครับ น่าเสียดาย ผมเลยไม่ได้เจอเด็กๆ แต่ไม่เป็นไร เอาไว้ว่างๆ ผมจะโทรไปคอนเฟิร์มนัดอีกทีก็แล้วกัน”


   คนหน้าหวานทำหน้างง ด้วยจำไม่ได้ว่าตัวเองเคยนัดอะไรไว้กับณภัทร “นัดหรือครับ? ขอโทษนะคุณภัทร แต่ผมจำไม่ได้ว่าเรานัดกันไว้ตอนไหน”


   “ผมนัดกับเด็กๆ ไว้น่ะครับ ตอนที่เล่นน้ำที่ชายหาดด้วยกัน ว่ากลับกรุงเทพฯ แล้วจะพาไปทานไอศกรีมอร่อยๆ”


   “อ้อ…” กมลนึกออกทันที คงจะเป็นตอนที่น้องหยางคุณกับณภัทรเรื่องของหวานในโรงแรม และเจ้าตัวเล็กก็ตัดพ้อว่าอยากกินไอศกรีม แต่ตอนนั้นกมลไม่ได้สนใจสิ่งที่พวกเขาตกลงกัน เนื่องจากคอยดูหลานชายอีกคนอยู่ “ความจริงคุณภัทรไม่ต้องลำบากขนาดนั้นก็ได้ครับ เด็กๆ เขาก็พูดไปเรื่อยเปื่อย อีกเดี๋ยวก็ลืมแล้ว”


   “ไม่ได้สิครับ ผมไม่ชอบผิดสัญญาเสียด้วย”


   “แต่ผมเกรงใจ” เพราะกมลรู้ว่าณภัทรมีงานล้นมือรออยู่ คงจะเป็นการรบกวนมากๆ หากจะเจียดเวลาอันมีค่ามาให้พวกเขา อีกอย่าง แม้เขาทั้งคู่จะคุยกันถูกคอ แต่ก็ไม่ได้สนิทถึงขั้นที่จะยอมให้พาครอบครัวไปนั่นมานี่ด้วย


   “ไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ ผมเต็มใจ”


   “เอ่อ…” กมลอยากตอบปฏิเสธเต็มแก่ แต่ก็หักหาญน้ำใจของคนดีๆ อย่างณภัทรไม่ลง จึงได้แต่พยักหน้าแกนๆ ตอนรับกลับไป “ก็ได้ครับ เอาไว้ถ้าว่างตรงกัน เราค่อยนัดกันอีกที”


   “ดีครับ” ณภัทรยิ้มกว้างอีกครั้ง


   ทว่ายังไม่ทันที่จะพูดสิ่งที่ตั้งใจจะพูดแต่แรก เสียงเย็นๆ ของน้องชายตัวดีก็ดังขึ้นขัดจังหวะเสียก่อน


   “นัดกันไปไหนหรือครับ ขอผมไปด้วยได้หรือเปล่า”


   “เล็ก” ณภัทรหันกลับไปหาน้องในขณะที่ใบหน้ายังคงเปื้อนยิ้ม “ข้างในเป็นไงบ้าง แขกทยอยกลับกันมากแล้วล่ะสิ เราถึงออกมานี่ได้”


   “ครับ” ณธิปพยักหน้ารับ “ว่าแต่เมื่อกี้ยังไม่ตอบเลยนะ นัดกันไปไหนหรือครับ”


   “อ้อ พี่ขออนุญาตพาหลานๆ ของคุณไอไปทานไอศกรีมน่ะ พอดีสัญญากับเด็กๆ ไว้เมื่อบ่าย”


   “อืม…ไปสนิทกันได้ยังไงครับเนี่ย”


   “ก็เมื่อบ่ายนั่นแหละ พี่ออกไปเจอเด็กๆ เข้าเล่นกันอยู่ที่หาด ก็เลยเข้าไปร่วมด้วยน่ะ หลานๆ คุณไอเขาน่ารัก”


   “เป็นพี่ภัทรนี่ดีจริง กับใครก็สนิทด้วยไปหมด ไม่ว่าจะเด็ก หรือผู้ใหญ่” ตอนเอ่ยคำสุดท้ายนั้น สายตาของณธิปมองเลยไปหาคนที่ยืนอยู่ด้านหลังพี่ชายอย่างจงใจ



   วินาทีนั้น ณภัทรก็สัมผัสได้ทันทีว่าเขาอาจทำให้น้องชายไม่พอใจเข้าให้แล้ว จึงขยับตัวห่างกมลออกมาเล็กน้อย ส่วนคนหน้าสวยเองก็รู้สึกได้ว่าณธิปดูแปลกไปเช่นกัน แต่เขาก็ไม่ได้อยากรู้นักว่าคำพูดประชดประชันกับบรรยากาศอึมครึมที่ณธิปสร้างขึ้นมาเกิดจากสาเหตุอะไร กมลจึงเอ่ยขึ้นท่ามกลางความอึดอัด



   “ถ้างั้นผมขอกลับที่พักก่อนนะครับ ให้คนขับรถรอนานแล้ว”


   “กลับดีๆ ครับคุณไอ” ณภัทรยิ้มส่งอีกครั้ง


   ทว่าณธิปกลับ…


   “ผมจะไปส่ง” ไม่ว่าเปล่า ชายหนุ่มยังเดินอ้อมไปยืนกดดันให้คนขับลงมา และขึ้นนั่งแทนที่


   “แล้วงานข้างในล่ะเล็ก” ณภัทรถาม


   “ผมสั่งวิมลไว้แล้ว อีกอย่างคนก็กลับกันไปเกือบหมดแล้วด้วย”


   “อย่างนั่นก็แล้วไปเถอะ” ครั้นไม่เห็นว่าติดขัดอะไร ณภัทรก็ไม่ว่า แต่กลับเป็นกมลที่รู้สึกไม่เห็นด้วย


   “ไม่รบกวนดีกว่าครับ คุณณธิปมีงานตั้งมาก ผมเกรง…” ยังไม่ทันพูดจบ กมลก็ถูกแทรกขึ้นก่อน


   “ไม่ต้องเกรงใจหรอก”


   “แต่มัน…”


   “ผมอยากไปส่งคุณ ถ้ากลัวว่าผมจะเสียเวลา คุณก็รีบขึ้นมาสิครับ คุณไอ”




   กมลจ้องดวงตารีเรียวคู่นั้นเขม็งราวกับกำลังวัดใจกัน แต่เขาก็รู้ว่าในสถานการณ์เช่นนี้ หากปฏิเสธไปก็มีแต่จะต้องเถียงกันไม่จบไม่สิ้น จึงได้แต่ถอนหายใจทิ้งเบาๆ แล้วก้าวขึ้นรถ



   ไม่รู้ทำไม สองพี่น้องคู่นี้ถึงชอบบังคับเขานัก แล้วแต่ละสถานการณ์ที่เจอก็ไม่สามารถปฏิเสธได้เสียด้วย กมลนึกหงุดหงิดในใจ




   หลังจากที่หนุ่มหน้าสวยขึ้นมานั่งข้างๆ แล้ว ณธิปก็ออกรถทันที ทิ้งให้ณภัทรยืนส่ายหัวอยู่ด้านหลัง ด้วยเพิ่งระลึกได้ว่าเมื่อครู่ อาจจะเผลอทำให้สองคนนั้นเข้าใจผิดกันก็ได้




   “พี่ภัทร!” ลับหลังณธิปกับกมล ดังตฤณกับพิเชษฐ์ก็ออกมาหาณภัทรที่หน้าโรงแรม


   “ว่าไงตฤณ เชษฐ์”


   “ไอ้เล็กกับคุณไอล่ะครับ” พิเชษฐ์ถาม หน้าตาตื่น


   “เจ้าเล็กพาคุณไอไปส่งแล้ว” ณภัทรตอบ


   “แล้วมันกับพี่ไม่ได้มีเรื่องอะไรกันใช่ไหมครับ”


   “ไม่นี่” ชายหนุ่มส่ายหน้า ทว่าแอบเก็บข้อมูลไว้ในใจ เพื่อสนับสนุนความคิดของตนเอง


   “ไม่มีอะไรก็ดีแล้วครับ ผมล่ะกลัวไอ้เล็กมันจะอาละวาดใส่พี่ เมื่อกี้ตอนรู้ว่าคุณไอมากับพี่นะ ทำหน้าอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อคนอื่นให้ได้ พวกผมล่ะกลัวใจมันกันหมด” พิเชษฐ์ว่าอย่างโล่งอก เพราะเบาใจที่ไม่เกิดศึกสายเลือดระหว่างพี่กับน้องอย่างที่กังวล


   “เล็กกับคุณไอเป็นอะไรกัน” ครั้นได้ยินคำถามของณภัทร เพื่อนสนิททั้งสองคนของณธิปก็เงียบไปชั่วอึดใจ ก่อนดังตฤณจะถามกลับ


   “นี่พี่ภัทรไม่รู้เรื่องของเล็กมันหรือครับ”


   “ก็ไม่รู้น่ะสิ แค่สงสัยเท่านั้นว่ากำลังคบกันอยู่หรือเปล่า แล้วตกลงว่าสองคนนั้นเป็นอะไรกัน”


   “ตายล่ะ…” พิเชษฐ์สบถออกมาเบาๆ เพราะไม่รู้ว่าเรื่องของคุณไอกับเจ้าตัวถูกเก็บไว้เป็นความลับจากพี่ชายแสนเพอร์เฟคคนนี้


“ว่ายังไง นี่ไม่คิดจะมีใครบอกพี่เลยหรือ”




ดังตฤณสบสายตาขอความช่วยเหลือจากเพื่อนแล้วลอบถอนใจออกมา ก่อนจะเอ่ยปากเฉลยเสียเอง ด้วยคิดว่าถึงขั้นนี้ คงไม่มีประโยชน์ที่ต้องปิดบัง ซ้ำอาจจะเป็นเรื่องดี เพราะถ้าหากว่าณภัทรรู้ว่าน้องชายตามจีบคุณไออยู่ จะได้เลิกเข้ามาแทรกกลาง



“เล็กมันกำลังตามจีบคุณไออยู่ครับ ยังไม่ได้คบกันหรอก เพราะดูท่าคุณไอจะไม่ค่อยชอบมันเท่าไหร่”


“แล้วเมื่อกี้ก็คงไม่พอใจที่พี่ภัทรเทคแคร์คุณไอแทนมันน่ะครับ พี่ก็รู้ว่าไอ้เล็กมันขี้อิจฉาจะตาย” นิสัยเด็กๆ อย่างการชอบอิจฉาพี่และน้อยใจพ่อกับแม่ของณธิปมีมานานแล้ว และทั้งเพื่อนสนิทรวมถึงณภัทรเองก็รู้ดี


“เฮ้อ…เล็กเอ้ย” ณภัทรส่ายหัวอย่างอ่อนใจ


“ว่าแต่พี่ภัทรเถอะครับ”


“ทำไม”


“พี่สนใจคุณไอเขาด้วยหรือเปล่า” พิเชษฐ์ถามตรงประเด็นเสียจนถูกเพื่อนถลึงตาใส่


“สนใจ…”


“ห๊ะ!/อะไรนะ” ครานี้สองหนุ่มต่างอุทานขึ้นมาพร้อมกัน


“ฟังใจจบก่อนสิ รีบตีโพยตีพายเชียว” ผู้บริหารหนุ่มว่า “จะว่าสนใจก็ไม่ผิดนักหรอก แต่ไม่ได้สนใจในเชิงชู้สาว แค่สนใจเพราะเขาเป็นคนมีความคิดดี แล้วก็สงสัยเรื่องเจ้าเล็กด้วย เลยอยากรู้จักให้มากขึ้น”




ไม่ใช่แค่ครั้งเดียว แต่หลายครั้งแล้วที่ณภัทรเห็นว่ากมลมีเรื่องเกี่ยวพันกับณธิป ทั้งตอนที่น้องชายของเขาถูกทำร้าย หรือเรื่องณธิปเจาะจงใช้บริษัทของกมลในการทำงานร่วมกัน ไหนจะไปรับจากสนามบิน ไปกินข้าวด้วยอีกล่ะ หลายๆ อย่างมันชี้ชัดว่าเจ้าตัวดีสนใจผู้ชายหน้าหวานคนนั้นมากกว่าคนรู้จักทั่วไปเป็นแน่



ซ้ำช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมา ณธิปยังไปเที่ยวหรืออกงานสังสรรค์น้อยลง ถ้าเกิดว่าเหตุผลที่มีคนคนหนึ่งเข้ามาในชีวิตแล้วทำให้เสือร้ายอย่างน้องชายของเขาเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีได้ เขาก็สนใจและอยากรู้จักคนคนนั้นให้มากขึ้นเป็นธรรมดา



“งั้นก็ดีแล้วครับ มาอยู่ทีมรอดูไอ้เล็กมันจีบคุณไอดีกว่า แต่ผมว่ารายนี้คงไม่ง่ายหรอก” พิเชษฐ์คาดเดา


“ก็คุณไอเขาเป็นคนมีความคิด” ดังตฤณเอ่ยลอยๆ


“นี่แกหลอกด่าเพื่อนหรือเปล่าวะตฤณ” ดาราหนุ่มขมวดคิ้วแล้วมองเพื่อนตาขวาง


“หลอกด่าอะไรกัน ฉันว่ากระทบมันตรงๆ นี่แหละ” ดังตฤณตอกกลับ



“เอาเถอะๆ จะเป็นยังไงก็รอดูกันต่อไปดีกว่า พี่เองก็อยากจะรู้ ว่าทั้งเจ้าเล็กแล้วก็คุณไอจะทำยังไงกันต่อเหมือนกัน”


สองเพื่อนสนิทของณธิปพยักหน้าเห็นด้วย ในที่นี้จึงไม่ได้มีแต่ณภัทรเท่านั้นที่อยากรู้เรื่องราวในอนาคตของณธิป ว่าสุดท้ายแล้วจะออกหัวหรือก้อยกันแน่













เส้นทางระหว่างตัวโรงแรมกับวิลล่าไม่ได้ไกลกันมากนัก แต่ณธิปกลับขับช้าจนคนนั่งรู้สึกหงุดหงิด หากก็ยังควบคุมตัวเองให้นั่งเงียบๆ ไม่พูดไม่จามาได้ตลอดทาง



ทว่าก็มีเรื่องที่ทำให้กมลต้องละสายตาจากทิวทัศน์ยามค่ำคืนข้างทาง กลับมาสนใจคนที่อยู่ข้างๆ ตัวเองแทน เพราะอยู่ๆ สารถีคนสำคัญกลับจอดรถดื้อๆ กลางทางเสียอย่างนั้น



“จอดรถทำไมครับ ยังไม่ถึงเลยนี่”


“แต่ผมมีเรื่องอยากคุยกับคุณก่อน”


“เรื่องสำคัญอะไรครับ ผมว่าเอาไว้ก่อนดีกว่า เพราะคุณยังมีธุระต้องกลับไปจัดการอีกมากไม่ใช่หรือ” กมลยังคงบ่ายเบี่ยง เพราะเขาไม่รู้สึกอยากพูดคุยกับณธิปสักนิด



อันที่จริงวันนี้คนตรงหน้าทำให้เขาไม่พอใจอยู่เรื่องหนึ่ง นั่นคือเรื่องที่พยายามทำตัวราวกับประกาศให้ใครต่อใครเข้าใจว่าพวกเขามีความสัมพันธ์มากกว่าเพื่อนร่วมงาน แค่เรื่องแรกก็ดูจะเป็นอะไรที่หนักหนาพอควรแล้ว นี่ยังทำท่าราวกับหวงกางใส่พี่ชายของตัวเองเมื่อครู่อีก ไม่รู้ว่าคราวนี้คนอื่นจะเข้าใจไปถึงไหน เพราะเชื้อไฟจากเล่ห์เหลี่ยมที่ณธิปสุม มันมากพอที่จะลุกลามไปใหญ่โตทีเดียว



“ดูคุณจะอยากให้ผมไปเหลือเกินนะ ทำไมทีกับพี่ภัทรไม่เห็นคุณจะปฏิเสธบ้าง”


“คุณต้องการจะพูดอะไรกันแน่”



เรียวคิ้วของกมลกระตุกไปนิดๆ เมื่อถูกณธิปพูดใส่แบบนั้น เขาพยายามควบคุมอารมณ์ของตัวเองอย่างที่สุด และท่องในใจว่าจะไม่หลุดเพราะคนคนนี้อีก แต่ไม่รู้ทำไมณธิปกลับชอบทำให้เขาหงุดหงิดจนอยากโต้ตอบกลับไปนัก



“พวกคุณดูสนิทสนมกันดีนี่”


“แล้วยังไงครับ” ดวงหน้าหวานนิ่งขึง ด้วยเริ่มเดาได้ว่าอีกฝ่ายต้องการสื่ออะไร


“คุณเองก็คงชอบแบบนั้นสินะ ประเภทคนแสนดี” ชายหนุ่มเอ่ยออกมาพร้อมกับผุดรอยยิ้มเยาะ ไม่ใช่เย้ยกมล หากแต่ยิ้มเหยียดตัวเองมากกว่า


“แล้วมีใครไม่ชอบคนดีบ้างล่ะคุณณธิป” กมลยกมือขึ้นกอดอกระหว่างตอบ ซึ่งเป็นท่าที่มักจะทำโดยไม่รู้ตัวเวลาที่ดุหลานๆ “ใครๆ ก็ชอบคนดีทั้งนั้น ยิ่งถูกทำดีด้วย มันก็ยิ่งดีเข้าไปใหญ่ไม่ใช่หรือ”


“หึ…”


“หัวเราะทำไม”


“ผมเปล่า”


ทั้งที่เห็นตำตา แต่อีกฝ่ายก็ยังกล้าปฏิเสธว่าไม่ได้ทำ “หรือคุณชอบคนเลว ชอบให้คนอื่นร้ายใจใส่กัน”


“ไม่รู้สิ บางทีผมอาจเป็นอย่างนั้นก็ได้ เพราะคนที่ผมชอบอยู่ตอนนี้ เขาใจร้ายกับผมมาก แต่กับคนอื่นกลับดีแสนดี”


“เฮ้อ…” กมลถอนหายใจออกมาอีกครั้ง เพราะมองดวงตาขวางๆ เมื่อครู่เปลี่ยนเป็นพราวระยับ เขาก็รู้ได้ทันทีว่าณธิปหมายถึงใคร


“ว่ายังไงล่ะคุณไอ เมื่อไร่จะเลิกใจร้ายกับผมสักที คุณก็เห็น ว่าผมตามจีบคุณมาเป็นเดือนๆ แล้วนะ”


“ผมว่าบางทีเราคงต้องคุยเรื่องนี้กันให้รู้เรื่องสักที” เว้นไปนิด กมลก็ตัดสินใจพูดออกมาทั้งหมด “ผมว่าคุณเลิกเทียวไล้เทียวขื่อผมดีกว่านะ มันไม่มีประโยชน์หรอก”


“นี่…คุณจะปฏิเสธผมหรือไง ทำไมล่ะ ที่ผ่านมามันก็ดีขึ้นไม่ใช่เหรอ”


“ผมว่ามันดีขึ้นในแง่ของเพื่อนมากกว่า ผมไม่สามารถให้ในสิ่งที่คุณต้องการได้หรอก คุณเองก็ให้ในสิ่งที่ผมต้องการไม่ได้เหมือนกัน”



ตอนที่เอ่ยประโยคนี้ กมลไม่ได้เอ่ยออกมาเพื่อตัดรำคาญ แต่เขาคิดทบทวนหลายครั้งหลายครา ณ ตอนนี้ เขาว่าตัวเองมองคนแบบณธิปออก และรู้ว่าอีกฝ่ายต้องการแค่เอาชนะเท่านั้น ไม่ได้คิดที่จะผูกสัมพันธ์หรือมีความจริงใจให้ในแบบที่เขาต้องการ


“มีอะไรที่ผมยังให้คุณไม่ได้อีก คุณลองบอกมาสิ คุณต้องการอะไร ผมจะหามาให้”


“ขอโทษนะคุณณธิป ผมว่าคุณในตอนนี้ ให้สิ่งที่ผมต้องการไม่ได้จริงๆ”


ทว่าสุดท้าย ณธิปก็ไม่เข้าใจในสิ่งที่กมลต้องการจะบอกจริงๆ “คุณชอบผู้หญิงเหรอ”


“มันไม่เกี่ยวกับผู้หญิงหรือผู้ชายหรอก ไม่ว่าคุณจะเพศไหน ถ้าเป็นในตอนนี้ ผมก็ไม่สามารถคิดกับคุณแบบนั้นได้ ขอโทษด้วยนะครับ”



คนถูกปฏิเสธนิ่งไปชั่วครู่ เพราะไม่คิดว่าตนจะโดนหักหาญน้ำใจอย่างรุนแรงและตรงไปตรงมาเช่นนี้ ทั้งที่คิดว่าที่ผ่านมาเขาพยายามมากแล้ว และความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาทั้งสองก็ดีขึ้นตามลำดับ แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ใช่อย่างที่เข้าใจเลย



หรือจะเป็นเพราะเขายังไม่ใช่คนในแบบที่กมลต้องการ แล้วแบบไหนกันล่ะที่ผู้ชายหน้าหวานคนนี้จะเลือก พอคิดถึงตรงนี้ ใบหน้ายิ้มแย้มของกมลเมื่อยู่กับใครคนหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในห้วงความคิด



พี่ภัทร…


“หรือคุณชอบพี่ภัทร”


“ผมว่า คุณอย่าพูดถึงคุณภัทรจะดีกว่านะ” ที่ไม่อยากให้พูดถึง เพราะกมลรู้ดีแก่ใจว่าณภัทรไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ แต่ณธิปกลับไม่คิดแบบนั้น


“ทำไมล่ะ ที่พูดถึงไม่ได้ เพราะมันจริงใช่ไหม”


“ถ้าคุณจะคิดแบบนั้น ผมก็คงไม่มีอะไรจะพูดกับคุณแล้วล่ะ…เพราะที่บอกไปนั่น คุณก็น่าจะเข้าใจหมดแล้ว” กมลก้าวขาลงจากรถกอล์ฟของโรงแรม เพราะดูท่า ถ้าเขายังรอต่อไป คืนนี้ก็คงไม่ได้กลับง่ายๆ นี่ก็ไม่ไกลจากที่พักของเขาเท่าไหร่ เดินไปเดี๋ยวเดียวก็ถึง


“เดี๋ยวคุณไอ!”




ณธิปรีบกระโดดลงจากรถแล้วตามคนหน้าหวานไป แต่เรียกแล้วกมลก็ไม่หยุด เพราะคิดว่าถ้าต้องหยุดและพูดอะไรกันไปมากกว่านี้ เขาอาจจะระเบิดใส่อีกฝ่ายขึ้นมาจริงๆ ก็ได้



“หยุดก่อน!” อุ้งมือใหญ่คว้าต้นแขนของกมล ก่อนจะดึงให้หันมาเผชิญหน้ากัน


“อะไรของคุณ”


“อย่าเดินหนีผม ผมไม่ชอบ” ณธิปเอ่ยอย่างหงุดหงิด เพราะไม่เคยมีใครกล้าหันหลังให้เขามาก่อน


“แล้วที่คุณทำอยู่นี่ คิดว่าผมชอบหรือไง มีตรงไหนที่ผมพูดไม่ชัดเจนอีก ผมรู้ว่าคุณคงไม่พอใจที่ถูกปฏิเสธ แต่จะให้พูดแบบที่คุณพอใจก็คงไม่ได้หรอก” ทุกคำที่พรั่งพรูออกมาล้วนมาจากสิ่งที่เก็บไว้ในใจทั้งนั้น


“ผมไม่ได้ต้องการให้คุณพูดในสิ่งที่ผมพอใจ” ณธิปโต้


กมลจึงถามกลับ “แล้วคุณอยากได้ยินอะไรจากผมกันล่ะ”


“คุณชอบพี่ภัทรหรือเปล่า”


“มันเกี่ยวอะไรกับเรื่องคุณภัทร”


“ผมถามว่าชอบหรือเปล่า!” คนเอาแต่ใจเผลอขึ้นเสียงใส่ กมลจึงตะคอกกลับ เพราะตอนนี้เขาชักควบคุมตัวเองไม่ได้แล้ว


“ก็ถ้าชอบแล้วจะทำไม!” กมลไม่ได้ชอบ แต่กลับสงสัยว่าถ้าเขาชอบณภัทรอย่างที่คนตรงหน้ายัดเยียดให้จริงๆ อีกฝ่ายจะว่ายังไง “คุณมีปัญหาอะไรกับเรื่องคุณภัทร—อื้อ!”



ต้นแขนที่ถูกจับไว้ถูกปล่อยให้เป็นอิสระ ทว่ามือหนาทั้งสองข้างกลับล็อควงหน้าของกมลไว้แน่น พร้อมกับที่ริมฝีปากร้ายของคนนิสัยไม่ดีนั้นพุ่งเข้ามาประทับที่ริมฝีปากของกมล ก่อนจะบดจูบด้วยอารมณ์รุนแรง



กมลชะงักไปด้วยความตกตะลึง และแค่เสี้ยววินาทีที่ตกใจอยู่นั้น ก็เป็นช่วงเวลาที่ถูกณธิปล่วงเกิน รุกล้ำ และช่วงชิงเอาความหวานล้ำจากริมฝีปากได้อย่างหยามใจ รู้สึกตัวอีกที ความโกรธก็พุ่งทะยานเหนือเหตุผลและสติไปเสียแล้ว



ชายหนุ่มลืมตาจ้องใบหน้าที่แนบชิดอยู่ติดกัน ก่อนจะออกแรงกัดเข้าที่ริมฝีปากของณธิปเต็มแรง จมูกได้กลิ่นคาวเลือดเจือขึ้นมาในวินาทีนั้น ก่อนจะตามมาด้วยเสียงร้องเจ็บปวดของคนที่ถูกกัด



ณธิปรีบผละออกจากหนุ่มหน้าหวานทันที มือที่บังคับจับล็อคหน้ากมลเอาไว้ยามนี้ต้องเปลี่ยนไปกุมปากตัวเองแทน


 “ก็เพราะคุณเป็นแบบนี้ไง ผมถึงบอกว่าคุณไม่ใช่สำหรับผม ที่ผ่านมาผมพยายามรักษาน้ำใจของคุณมากนะ แต่ทำแบบนี้ถือว่าไม่ให้เกียรติกันเลย” กมลหยุดหอบหายใจด้วยความโมโห ก่อนจะว่า “ต่อไปเราอย่ายุ่งกันอีกเลยดีกว่า ต่างคนต่างอยู่ ต่างใช้ชีวิตของตัวเอง”


ใบหน้าเรียบนิ่งกับดวงตาเฉยชาของกมล ทำให้ณธิปสะอึก


อย่าได้คิดทำแบบนี้กับผมอีก


เมื่อประกาศกร้าวจบกมลก็เร่งฝีเท้าเดินหนีไปท่ามกลางความตกใจของณธิป



ณธิปยืนอึ้งอยู่ที่เดิม พอรู้ตัวอีกทีกมลก็ก้าวฉับๆ ไปจนถึงที่พักแล้ว ชายหนุ่มจึงเดินคอตกกลับไปที่รถกอล์ฟ นั่งเป็นคนบื้อใบ้อยู่บนนั้น ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรต่อไป



เสียงคลื่นซักเข้าหาฝั่งดังแว่วมาให้ได้ยิน ทว่าเมื่อมองไปกลับเห็นเพียงความมืดมิด



อารมณ์หลากหลายตีมวนอยู่ในหัวจนไม่สามรถบอกได้ว่ายามนี้รู้สึกอย่างไร เพราะมันมีทั้งตกใจ ไม่พอใจ ขัดใจ หงุดหงิด และที่สำคัญคือ ณธิปรู้สึกได้รางๆ ว่าในอกนั้นเจ็บแปลบอย่างน่าประหลาด



นี่เขารู้สึกเจ็บเพราะแววตาเฉยชาว่างเปล่าคู่นั้นหรือ ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่อยากเชื่อตัวเอง



ณธิปไม่เคยเป็นแบบนี้ และไม่เคยมีใครทำให้เขารู้สึกเช่นนี้เหมือนกัน



ไม่ได้การล่ะ เขาจะปล่อยให้คนคนหนึ่งมีอิทธิพลเหนือตัวเองขนาดนี้ไม่ได้ ไหนไหนก็ถูกตัดรอนขนาดนั้น ก็เลิกยุ่งไปเสีย หันกลับมาใช้ชีวิตอย่างปรกติ และสนใจแค่คนที่พร้อมจะเดินเข้ามาหาเขาด้วยความเต็มใจคงดีกว่า ชายหนุ่มได้แต่บอกตัวเองเช่นนั้น ก่อนจะสลัดความเจ็บหน่วงที่เกิดขึ้นในใจไว้ แล้วสตาร์ทรถขับกลับโรงแรม









<><><><><<><><><><><><><><><><<>><><><



มาแล้วค่าา
ตอนนี้ดุเดือดเลือดพล่านมากๆ 555555
เขียนไปก็อินไป หงุดหงิดอิคุณเล็กแรง อยากให้โดนหนักกว่านี้
แต่คุณไอบอกไม่ไหวละ ไม่อยากเห็นหน้ามัน  :z6:

เขียนเรื่องนี้ เคยคิดเหมือนกันว่าคนแบบนี้ไม่น่าจะคู่กันได้
แต่ในเมื่อคุณไอจับสลากได้คุณเล็กเป็นพระเอกแล้ว เราจะต้องเขียนให้รักกันได้
ขนาดคลื่นชีวิต กว่าจะรักกันยังค่อนเรื่องแหน่ะ (มีความติดละคร 555)
คุณคือความรักยังไม่ครึ่งเรื่องเลย ตามกันไปยาวๆ 555


ฝากด้วยนะคะ จะพยายามมาบ่อยๆ  ค่ะ


ปล. พระเอกฝากบอกว่า ด่าได้ แต่อย่าแรงมาก เพราะ...เล็กเจ็บ ทุกการกระทำ ที่ทำให้เธอเสียใจ~ /ร้องเพลง  :hao7:



ละอองฝน.


หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 17 [17/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 17-03-2017 15:30:27
 :laugh: สะใจ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 17 [17/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 17-03-2017 19:38:21
 :3123: :3123: :3123:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 17 [17/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 17-03-2017 20:02:07
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 17 [17/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 17-03-2017 21:52:36
คุณเล็กกกก ทำไมทำแบบนี้~

รอลุ้นรอติดตามต่อไปปป :mew1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 17 [17/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: angelhani ที่ 18-03-2017 00:30:19
ถถถ เอ็นดูคุณเล็ก o18
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 17 [17/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: โอ ที่ 18-03-2017 07:45:34
คือจะกลับไปมั่วเหมือนเดิมมีไรกับคนอื่นไปทั่วแล้วพอถึงเวลาก็เอาตัวเองที่แสนโสโครกกลับมาหาไม่ไหวอะขยะขแยงแทนไอเลย :katai1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 17 [17/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: A-J.seiya* ที่ 18-03-2017 10:36:56
คุณไอจับสลากได้เหรอ 555
มือหมานเสียจริงพ่อคุณ
แต่ว่าคุณเล็กไม่ผิด ชั้นเชียร์เค้า
คุณไอนั่นแหละยั่วโมโห ชิส์
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 17 [17/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 18-03-2017 11:42:47
ถึงจะแอบเชียร์อิคุณเล็กก็เถอะนะ แต่อยากให้คุณไอเล่นหนักๆดัดนิสัยอิคุณเล็กมันอีกหน่อย
 :hao3:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 17 [17/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: fyfh34 ที่ 18-03-2017 20:06:12
จะคอยติดตามนะคะ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 17 [17/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: A-J.seiya* ที่ 23-03-2017 22:09:51
มารอ
คิดถึงคุณเล็กจุงเบย
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 17 [17/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: anuyasha ที่ 18-04-2017 03:22:58
คุณไอนี่ก็นะ พูดจาคลุมเครือ ไม่ชอบก็ไม่ชอบสิคะ จะถามทำไมว่าถ้าชอบแล้วจะทำไม ยุให้เค้าโกรธนี่นา
คุณเล็กก็ต้องถอยออกมาบ้างนะ จริงๆคนนี่เค้าไม่ชอบเราแบบนี้ ตื้อนานๆก็เหนื่อยนะ เข้าใจ /อินเฉน
ทำใจให้สบาย พร้อมตื้อต่อเมื่อไหร่ก็กลับมานาจา ปรับกลวิธีหน่อยนะ สู้ๆ #ทีมพระเอก
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 17 [17/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 18-04-2017 03:28:28
ดูแค่วัน (17/.../...)ไม่ทันได้ดูเดือน นึกว่าตอนใหม่มาแล้ว ดีใจเก้อเลย
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 17 [17/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 18-04-2017 08:07:06
 :pig4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 17 [17/03/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 18-04-2017 15:26:00
รู้หรอกนะว่า พรเอก แต่แบบนี้ก็สมควรแช้วที่จะโดนดัดนิสัยแรงๆบ้าง เอะอะอะไรก็ใช้ความรุนแรง คุณเล็กนี่นิสัยไม่ดีเลย
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 18 [26/04/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ละอองฝน ที่ 26-04-2017 20:37:50






คุณคือความรัก บทที่ 18










   ตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมาสำหรับณธิป เวลาเคลื่อนผ่านไปอย่างรวดเร็ว ทว่าในบางจังหวะหนึ่งของเวลา มันก็ดูเชื่องช้าอย่างน่าใจหาย



   ณธิปกลับมาเป็นณธิปคนเดิม คนที่สนใจแต่เรื่องงานกับความสุขฉาบฉวยในชีวิตดั่งที่เคยเป็นมาตลอด เขาทำงานอย่างหนัก ทั้งขึ้นเหนือล่องใต้ เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการช่วยดูแลกิจการของเอ็นพีกรุ๊ปได้มากไม่ต่างจากพี่ชายคนโต หากในขณะเดียวกัน ณธิปก็ออกงานสังสรรค์และปาร์ตี้อย่างหนักจนแม้กระทั่งคุณย่ายังรู้สึกไม่สบายใจ



   คนนอกที่ไม่รู้เรื่องราวและเห็นเพียงข่าวคราวของชายหนุ่มตามหน้าสื่อต่างๆ ก็อาจคิดว่านี่ดูเป็นชีวิตปรกติของเจ้าตัว มีเพียงคนใกล้ชิดสนิทสนมเท่านั้นที่มองออกว่าณธิปมีบางอย่างที่แปลกไป



ตัวณธิปเองก็รู้สึกว่ามีบางอย่างที่แปลกไปจริงๆ ทว่าเขากลับพยายามมองข้ามมัน ไม่สนใจ และบอกกับตัวเองว่าเขาไม่เป็นไร ตอนนี้ในตัวเขาคล้ายกับมีเสี้ยนเล็กๆ ทิ่มตำอยู่ในเนื้อเท่านั้น พอมันหลุดไป รอยแผลเล็กๆ นั่นก็จะสมาน เมื่อเวลาผ่านไปสักระยะ ทุกอย่างจะกลับไปเป็นอย่างเดิม



   “เล็ก”

   “คุณแม่!”



   หลังออกจากห้องประชุม ผู้บริหารหนุ่มก็พบว่ามารดาซึ่งไม่เจอหน้ากันมาร่วมอาทิตย์ กำลังนั่งรอเขาอยู่ในห้องทำงานด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก ชายหนุ่มปรายตามองเลขาคนสนิทด้วยสายตาตำหนิเล็กน้อย เหตุเพราะไม่แจ้งเขาก่อนว่ามีใครรอยู่ ก่อนจะเดินเข้าไปสวมกอดและทักทายมารดา



   “จะเข้ามาทำไมไม่โทรหาผมก่อนละครับ” วันนี้มีวาระการประชุมหลายเรื่องด้วยกัน หากเขารู้ว่าประภัสสรจะมา จะได้สั่งให้ลดทอนและยื้อไปต่อวันพรุ่งนี้ได้ เพื่อไม่ให้ผู้เป็นแม่รอนาน

   “เดี๋ยวนี้จะเข้าหาลูกชาย แม่ต้องแจ้งกับเลขาหน้าห้องรออนุญาตก่อนแล้วหรือ” ประภัสสรถามลูกชายด้วยท่าทางแง่งอน

   “ไม่ใช่อย่างนั้นครับ”


   “แล้วมันอย่างไหน” เธอกอดอกตั้งป้อมรอฟังคำตอบ ใจหนึ่งก็รู้สึกเป็นห่วงและคิดถึง เพราะไม่ได้เห็นหน้าค่าตาลูกชายคนเล็กมาหลายวัน ส่วนอีกใจก็หงุดหงิดเพราะรู้ข่าวว่าที่ ลูกไม่ยอมกลับบ้านเนื่องจากลับไปตะลุยปาร์ตี้หนักเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว


   “วันนี้มีประชุมหลายเรื่อง ถ้ารู้ว่าคุณแม่จะมา ผมจะได้เลื่อนบางวาระออกไปต่อวันพรุ่งนี้ คุณแม่จะได้ไม่รอนานไงครับ”



แม้ว่าลูกชายคนเล็กจะชอบทำให้เธอเป็นห่วงบ่อยครั้ง แต่ณธิปก็มีลูกอ้อนที่ใช้กับประภัสสรได้ผลเสมอ พอเจ้าตัวเข้าไปคลอเคลียหน่อย ผู้เป็นแม่ก็เสียงอ่อนลงไปหลายส่วน



   “งั้นก็แล้วไป” เธอเว้นไปนิด ก่อนจะสำรวจใบหน้าหล่อเหลาของเจ้าตัวดี “ไม่เจอกันอาทิตย์กว่า นี่เล็กผอมลงไปอีกแล้วนะลูก ได้กินอาหารดีๆ บ้างมื้อสักไหม”

   “โถ่คุณแม่ ลูกชายของคุณแม่เป็นระดับผู้บริหารนะครับ จะไม่ได้กินอาหารดีๆ ได้ยังไง”

   “แม่ไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น แต่หมายถึงได้กินครบสามมื้อหรือเปล่า พักผ่อนเพียงพอไหม เล็กดูซูบลงไปเยอะเลยนะลูก นี่ไม่ใช่ว่าโหมงานหนัก พอเลิกงานก็ไปเที่ยวตะลอนๆ ทุกคืนเหมือนในข่าวหรอกนะ”

   “ก็มีเข้าสังคมบ้างครับ แต่ไม่ได้ไปทุกคืนหรอก ถ้าไปจริง ผมคงไม่มีแรงทำงานพอดี ข่าวพวกนั้นก็เขียนเอาสนุก เขียนแย่ๆ ให้ขายได้ คุณแม่อย่าไปเชื่อมากนักเลยครับ”

   “งั้นก็ดี เพราะไม่ใช่แค่แม่นะ คุณพ่อท่านก็เป็นห่วงเล็กมาก ยิ่งคุณย่านะ โทรมากำชับให้แม่มาดูเล็กให้ได้ พอรู้ว่าลูกไม่ได้กลับบ้านเลย” ใจหนึ่งประภัสสรก็เป็นห่วงลูกชายไม่น้อยกว่าใคร แต่อีกใจก็คิดว่าลูกโตแล้ว จึงปล่อยๆ ตามใจณธิปบ้าง ทว่าเป็นคุณหญิงนฤมลผู้เป็นแม่ของสามีต่างหากที่ต่อสายตรงมาหาเธอ และสั่งว่า

   [รีบแต่งตัวแล้วไปหาเจ้าเล็กที่ทำงานเดี๋ยวนี้เลยนะแม่สร] ด้วยเหตุนี้คุณหญิงประภัสสรจึงต้องบุกมาหาลูกชายถึงที่ทำงาน

   “ถ้าอย่างนั้นวันนี้ผมจะโทรไปหาคุณย่าเองครับ ท่านจะได้สบายใจ” ครั้นเอ่ยถึงคุณย่า ผู้ที่เลี้ยงดูประคบประหงมชายหนุ่มมาแต่อ้อนแต่ออก ณธิปก็เอ่ยด้วยท่าทางจริงจังขึ้นทันที เพราะเขาไม่อยากให้ย่าต้องเป็นห่วง เนื่องจากรู้ว่าย่ารักและเป็นห่วงเขามากกว่าใคร

   “ดีแล้วลูก”



เธอลูบหัวลูกชายเบาๆ จากนั้นสองแม่ลูกก็ไถ่ถามสารุกข์สุขดิบกันไปเรื่อยเปื่อย มีบ้างที่ณธิปคุยเรื่องงานให้แม่ฟัง แต่ไม่มีสักคำที่ชายหนุ่มจะเอ่ยถามถึงผู้เป็นพ่อ ที่แม้กระทั่งจะผ่านไปหลายเดือนแล้ว แต่ทั้งสองคนยังคงตั้งแง่และมึนตึงใส่กันอยู่



ครั้นผ่านไปพักใหญ่ คุณหญิงประภัสสรก็เห็นว่าสมควรแก่เวลาแล้ว จึงเอ่ยถามลูกชายอีกครั้ง

   “ว่าแต่ตกลงวันนี้เราจะไม่กลับบ้านกับแม่จริงๆ หรือ”

   “ผมมีนัดแล้วน่ะครับ ขอโทษนะครับคุณแม่” ณธิปว่า

   “นัดกับใคร ใช่แม่สาวๆ หรือหนุ่มๆ ที่เป็นข่าวด้วยหรือเปล่า” คนเป็นแม่จ้องหน้าลูกชายอย่างจับผิด

   “ไม่ใช่หรอกครับ ครั้งนี้ผมนัดกับเจ้าเชษฐ์ไว้ วันนี้วันเกิดมัน”

   “อ้อ ถ้าอย่างนั้นก็ฝากลูกอวยพรวันเกิดพิเชษฐ์แทนแม่ด้วยนะ” ทั้งที่รู้ว่าเพื่อนดาราคนนี้ก็เพลย์บอยไม่ต่างกับลูกชายคนดีของเธอ แต่ด้วยความที่สนิทกันมาตั้งแต่เล็กๆ จึงทำให้คุณหญิงรู้ว่าพิเชษฐ์ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไรนัก

   “แล้วผมจะบอกมันให้ครับคุณแม่”



   เมื่อตอบรับเรียบร้อยณธิปก็เดินไปส่งมารดาที่รถ อันที่จริงเขาคิดจะไปส่งถึงบ้านเหมือนกัน แต่คุณหญิงประภัสสรมีคนขับรถมาด้วย สองคนแม่ลูกจึงบอกลากันที่หน้าโรงแรม



   “อาทิตย์นี้กลับบ้านด้วยนะเล็ก แม่อยากกินข้าวพร้อมลูก”

   “ได้ครับ สุดสัปดาห์นี้ผมจะเทคิวให้คุณแม่หมดเลย”

   “ดีจ้ะ” ประภัสสรยิ้มอ่อนใจ พลางคิดว่า ท้ายที่สุดแล้ว เธอเองก็ต้องจองคิวเพื่อจะได้กินข้าวกับลูกชายคนเล็กจริงๆ

   “แล้วเจอกันวันเสาร์ครับคุณแม่”



   ณธิปยืนส่งมารดาจนรถเคลื่อนออกไปลับสายตา จากนั้นจึงขึ้นไปเคลียร์งานที่คั่งค้างจนเรียบร้อย แล้วค่อยเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เตรียมเอาไว้ก่อนออกไปปาร์ตี้วันเกิดของเพื่อนสนิท










   งานปาร์ตี้สังสรรค์นี้ก็ไม่ต่างจากทุกครั้งนัก ณธิปดื่มอวยพรท่ามกลางเสียงดนตรีและแสงไฟวูบวาบ และเพราะพิเชษฐ์เป็นดารา คนที่มาร่วมงานจึงมากมายคับคั่ง



   ระหว่างที่กำลังสนุกได้ที่ ก็มีหนุ่มหน้าสวยคนหนึ่ง ที่รูปร่างและบุคลิกคล้ายกับใครบางคนที่ณธิปพยายามจะลืมและทำเป็นไม่สนใจมาแรมเดือนปรากฏตัวขึ้น ณธิปจ้องมองชายคนนั้นนิ่งงัน ด้วยแววตาพินิจพิเคราะห์ ก่อนตัดสินใจลุกเข้าไปหาทันทีเมื่อหนุ่มหน้าสวยเองก็ส่งสายตาเชื้อเชิญมาให้เช่นเดียวกัน



   แค่เอ่ยปากพูดคุยไม่นาน ณธิปก็รู้สึกถูกใจและเข้ากันได้กับคนๆ นี้อย่างรวดเร็ว พอเริ่มเมาในได้ที่ พวกเขาจึงตามกันออกไปที่ลานจอดรถ โดยมีจุดมุ่งหมายคือรถหรูของณธิปนั่นเอง



   บรรยากาศภายในรถร้อนแรงขึ้นทันทีที่ประตูถูกปิดลง เรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้นก็เป็นไปตามครรลองของมัน ณธิปปล่อยตัวปล่อยใจไปกับหนุ่มหน้าสวยและคล้ายคลึงกับใครคนนั้นตรงหน้า และถ้าให้นับกันจริงๆ นี่ก็เป็นครั้งแรกที่เขาหิ้วใครสักคนมาทำเรื่องอย่างว่าหลังจากถูกปฏิเสธในคืนนั้น



   ในขณะที่ณธิปกำลังจะถึงจุดเข้าได้เข้าเข็ม เสียงสั่นพร่าและเรียกร้องของคนใต้ร่างก็ดังขึ้นท่ามกลางเสียงหอบหายใจ



   “ทำสักทีสิครับคุณเล็ก คิวไม่ไหวแล้ว…”

   คิวอย่างนั้นหรือ



   ชื่อเดียวที่เอ่ยออกมาทำให้ณธิปชะงักกึก ดวงตารีเรียวเคลื่อนมาสบกับดวงตาพร่าพรายเต็มไปด้วยแรงปรารถนาของเจ้าของประโยคร้องขอสุดเร่าร้อนนั่น และเพียงแค่สบตาเท่านั้นณธิปก็รู้สึกเหมือนถูกค้อนทุบที่หัวเต็มแรง



   นี่คือ คิว ไม่ใช่คนคนนั้น



   ชายหนุ่มผุดลุกขึ้นนั่ง ผละจากร่างปวกเปียกที่ยอมทอดกายให้อย่างเต็มใจ เขาตัวชา ใจเต้นแรง เพราะเพิ่งรู้สึกถึงเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่ง



   คนที่เขาอยากกอด อยากจูบ และอยากผูกสัมพันธ์…คือคุณไอ



เพราะเขาเอาแต่มองหาใครที่เหมือนกับคนใจร้ายคนนั้น คิดถึงคนคนนั้นอยู่ตลอด แม้ตนเองพยายามปฏิเสธ หากก็รู้ว่าหนีความรู้สึกในใจไม่พ้น



   ความรู้สึกโหยหาเข้าเกาะกุมจิตใจของณธิปอย่างรุนแรง เขารู้แล้ว ตลอดเวลาที่ปฏิเสธว่าไม่เอา ไม่สนใจก็ได้ หากในใจกลับต้องการมากยิ่งขึ้น และความรู้สึกนี้ก็ทำให้ชายหนุ่มตัวสั่นด้วยความกลัว



   กลัวว่ามันคือความรัก



   และถ้าหากว่ามันคือความรักจริงๆ เขาควรจะทำอย่างไรต่อไปดี นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่คนอย่างณธิป โชติตระกูล รู้สึกสับสนได้ขนาดนี้








   หลังจากเซ็กกับหนุ่มแปลกหน้าเหลวเละไม่เป็นท่า ณธิปผละหนีมาจากรถของตัวเอง คราแรกตั้งใจจะเดินกลับเข้าไปในงาน แต่เสียงเพลงดังกระหึ่มที่ยิ่งกระตุ้นให้ว้าวุ่นใจมากยิ่งขึ้นทำให้ณธิปตัดสินใจเดินเลี่ยงออกมานั่งริมสระน้ำด้านนอกของร้าน โดยทิ้งให้คนหน้าหวานที่ชื่อคิวคนนั้นเอาไว้โดยไม่สนใจใยดีสักนิด



   “เล็ก” เสียงคุ้นหูเรียกชื่อของชายหนุ่มดังขึ้นจากด้านหลัง ณธิปจึงหันกลับไปมองว่าใครที่เรียก

   “หื้ม?”

   ดังตฤณเดินเข้าไปหยุดใกล้ๆ ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ข้างกัน “มานั่งทำหน้าซังกะตายอะไรตรงนี้ เมื่อกี้เห็นว่าพาหนุ่มออกไปด้วยไม่ใช่หรือไง”

   “ใช่”

   “แล้วเขาไปไหนเสียล่ะ แกถึงมานั่งเป็นพระเอกเอ็มวีอยู่นี่”

   “ป่านนี้คงไปแล้ว” ณธิปตอบด้วยน้ำเสียงซังกะตาย

   “เป็นอะไรหรือเปล่า แกดูแปลกๆ นะ” และเพราะบรรยากาศรอบกายของเพื่อนดูต่างไปจากเดิมมาก ดังตฤณจึงนึกเอะใจขึ้นมา

   “แกคิดว่าฉันดูแปลกหรือ”

   “ก็ใช่น่ะสิ ดูซึมๆ นะ มีอะไรหรือเปล่า”

   “ไม่รู้สิ ฉัน…” ดวงตารีเรียวคู่นั้นเหลือบมองเพื่อนด้วยแววสับสน ก่อนจะเคลื่อนกลับไปมองระลอกคลื่นน้อยๆ ในสระน้ำดังเดิม



   ณธิปรู้สึกอับอายหากจะมานั่งเล่าให้ใครฟังว่าตัวเองสับสนและไม่แน่ใจในเรื่องของความรัก เพราะคิดว่ามันน่าขำที่คนอย่างเขาซึ่งเคยปรามาสและไม่เชื่อถือในรักมาก่อน วันนี้กลับกำลังไม่แน่ใจว่าเกิดรู้สึกดีๆ กับใครคนหนึ่งเข้า หากจะให้เอ่ยปากพูดเรื่องน่าอายแบบนี้ แม้จะเป็นเพื่อนสนิท ชายหนุ่มก็ยังรู้สึกกระดากใจ



   “พูดมาเถอะน่า ฉันไม่บอกใครหรอก”



   มองท่าทางเหมือนคนโง่งมของณธิป เพื่อนที่คบกันมาเป็นสิบๆ ปีอย่างดังตฤณก็พอจะเดาออกว่าคงไม่พ้นเรื่องหัวใจ แม้เพื่อนคนนี้ของเขาจะแสดงออกว่าเฉยชาและไม่เคยมอบความรักจริงใจให้ใครคนใดมาก่อนก็ตาม แต่ก็ใช่ว่าณธิปจะนึกรักไม่เป็นเสียเมื่อไหร่



   “ฉันไม่รู้จะเริ่มยังไง”

   “ถ้างั้นแกก็สมมติเอาก็ได้” ดังตฤณว่า

   “ยังไง” ณธิปถาม

   “สมมติว่าไม่ใช่แก แต่เป็นคนอื่นอะไรเทือกๆ นั้น”

   “ทำไมต้องทำแบบนั้นให้ยุ่งยากด้วย”

   “งั้นก็รีบๆ เล่ามา!” อัยการหนุ่มว่าอย่างเหลืออด เรื่องอื่นล่ะฉลาดนัก แต่เรื่องนี้ทำไมเงอะงะนักก็ไม่รู้ เขาคิดในใจ

   “คือ…มีคนคนหนึ่งที่ฉันเคยพยายามจีบ แต่เขาปฏิเสธ เราเลิกติดต่อกันมาสักระยะแล้ว”

   ครั้นได้ยินเท่านี้ อัยการหนุ่มก็สรุปได้ทันที “ที่แท้ก็คุณไอนี่เอง แล้วไงต่อ”

   “นี่แกรู้ได้ไง!” ณธิปถามอย่างไม่อยากเชื่อ

   “แล้วใช่คนนี้ไหมล่ะ” ดังตฤณไม่ตอบ แต่ย้อนถาม

   “ใช่ แต่แกรู้ได้ไง”

   “แกเป็นเพื่อนฉันมานานแค่ไหนแล้วล่ะ ทำไมแค่นี้จะดูไม่ออก เอาเถอะ อย่าสนใจเรื่องที่ว่าฉันรู้ได้ยังไงเลย แกเล่าเรื่องของแกต่อสิ ตกลงว่าเลิกติดต่อกันแล้ว แล้วยังไงอีก”


   “ก็เลิกติดต่อกัน ฉันหงุดหงิดนะ เพราะฉันพยายามทุ่มจีบเขาทุกวิธีเท่าที่ฉันทำได้ แต่ก่อนไม่ว่าใครก็ยอมฉันทั้งนั้น แต่กับคุณไอน่ะไม่ใช่เลย เขาเล่นแง่ ตั้งป้อมไม่สนใจ แต่ก็ไม่ได้รังเกียจ เขาทำเหมือนฉันเป็นแค่คนคนหนึ่งบนโลก ที่เขาทำดีด้วยแค่นิดหน่อย แต่ไม่ยอมให้ฉันเข้าไปในพื้นที่ที่เขาขีดไว้ ไม่ยอมเปิดใจรับฉันสักนิด แต่พอเป็นพี่ภัทรเขากลับยอมยิ้มหวานให้ง่ายๆ” พอได้พูด ณธิปก็พรั่งพรูสิ่งที่อัดอั้นออกมาอย่างรวดเร็ว จนต้องหยุดเพื่อพักหายใจ


   “อะ” คนที่ทำตัวเป็นเพื่อนที่ดีส่งแก้ววิสกี้ที่ถือติดมือมาให้ดื่มดับกระหาย พอเห็นณธิปกระดกหมดแก้วในคราเดียวเรียบร้อย จึงกระตุ้นให้เล่าต่อ “แล้วไงต่อ”

“ทั้งที่ฉันไม่เคยถูกใครปฏิเสธมาก่อนเลยด้วยซ้ำ แต่เขากล้าดียังไง” ยิ่งพูดก็ยิ่งหงุดหงิด ยิ่งหงุดหงิดก็ยิ่งคิดถึงดวงหน้าหวานๆ ที่มองเขาด้วยแววตาเฉยชานั่น “จากนั้นฉันก็ตั้งใจว่าจะไม่เอาแล้ว เลิกยุ่งก็คือเลิกยุ่ง”

“แล้วเขาปฏิเสธแกตอนไหน”

“ก็วันเปิดตัวปางปาลีนั่นแหละ”

“เป็นเดือนแล้วนี่ แล้วแกมีเรื่องอะไร ทำไมอยู่ๆ มาพูดถึงเขาอีกล่ะ”

“ก็เพราะ…เพราะ” ณธิปอึกอักอยู่ครู่ พยายามตั้งสติและคิดให้มากท่ามกลางสติเลอะเลือนเพราะน้ำเมาที่ดื่มเข้าไป และไม่ว่าจะคิดอย่างไร คำตอบก็มีข้อเดียว

“เพราะอะไร”


“เพราะฉันคิดถึงเขา” ชายหนุ่มเอ่ยออกมาก่อนสูดลมหายใจลึก “คิดถึงทั้งที่ไม่ควรคิดถึง คิดถึงทั้งที่เขาไม่สนใจฉันสักนิด ขนาดกำลังจะมีอะไรกับคนอื่นๆ ที่ไม่ใช่เขา ฉันก็ยังทำไม่ได้ พอนึกได้ว่าคนที่เลือก ก็เลือกเพราะคนคนนั้นมีส่วนคล้ายเขา แต่ไม่ใช่เขา ฉันปวดหัวไปหมดแล้ว” ณธิปนั่งกุมหัวรู้สึกทรมานอย่างที่อธิบายออกมาไม่ถูก



ดังตฤณอึ้งไปครู่หนึ่ง เพราะตกใจในสิ่งที่เพื่อนสารภาพออกมาจนหมดเปลือก มันคงเป็นเพราะแอลกอฮอล์ และความรู้สึกข้างในที่กดเอาไว้นานนับเดือน จึงทำให้ณธิประเบิดออกมา



“ฉันไม่รู้ว่าตัวเองจะชอบเขาจริงจังขนาดนี้”

“แกไม่ได้ชอบเขาหรอกเล็ก”

“แกหมายความว่าไง…” ณธิปเงยหน้าขึ้นมามองเพื่อน หัวใจเต้นตุบตับอย่างควบคุมไม่ได้ เพราะกลัวว่าดังตฤณจะเอ่ยคำนั้นออกมา คำที่เขากลัว

“ฉันว่าแกไม่ได้แค่ชอบเขาหรอก แต่แกหลงรักคุณไอเข้าแล้ว”

“รักหรือ”

“อืม”

“อย่างฉันเนี่ยนะ…คือรักจริงๆ หรือ”

“ฉันก็แค่คิดว่าใช่ แต่คนที่รู้ดีที่สุดคือตัวแกเองนั่นแหละเล็ก”



คำพูดและสีหน้าจริงจังของเพื่อนสนิททำให้ณธิปรู้ว่านี่ไม่ใช่ความฝันหรือเรื่องล้อเล่น แต่เขาเองก็ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรต่อไปดี ถ้าหากว่าหลงรักคนใจร้ายคนนั้นเข้าจริงๆ



“แล้วฉันต้องทำไง”

“มีแค่ปล่อยกับพยายามคว้าไว้ แกก็เลือกเอาแล้วกัน ว่าจะทำแบบไหน ถ้าปล่อย แกก็ไม่ต้องทำอะไร ตอนนี้อาจทรมานหน่อย แต่เดี๋ยวก็ผ่านไปเอง คงต้องใช้เวลาน่ะ”

“แล้วถ้าคว้าไว้ล่ะ” ชายหนุ่มถามเสียงงึมงำ

“แกก็ต้องพยายามเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า เพราะจากที่เล่า เขาไม่ได้วางแกไว้ในโซนนั้นเลย ต้องพยายามมากหน่อยถึงจะเอาชนะใจเขาได้” ดังตฤณบอกแนวทางให้เพื่อน แต่อันที่จริงเขาก็ไม่ใช่คนมีประสบการณ์ในความรักมากนัก แต่คิดว่าตัวเองพอเดาออกว่าคนแบบคุณไอต้องการอะไร และณธิปต้องทำอย่างไร

“พยายามหรือ ยังไงล่ะ แกก็พูดง่าย ฉันทำแทบตายเขาไม่แลสักนิด” ณธิปนึกถึงความพยายามที่ทำไปอย่างสูญเปล่าแล้วปวดหนึบในใจ

“แกก็รู้ใช่ไหมว่าคุณไอเขาไม่เหมือนคนที่แกเคยคบมา เพราะฉะนั้นแกจะเขาหาเขาเหมือนคนก่อนๆ ไม่ได้”

“ดอกไม้ไม่ชอบ ของขวัญ ของมีราคาไม่ใช่ โน้นไม่ชอบ นี่ไม่ชอบ แล้วแกว่าฉันต้องใช้อะไรมาสู้ล่ะ เขาถึงจะพอใจ”

“ความจริงใจของแกไง อยากได้ใจเขา ก็เอาหัวใจไปแลกมา”

   “ความจริงใจกับหัวใจงั้นหรือ” ณธิปทำสีหน้าปั้นยากเมื่อฟังคำเพื่อน

   “อาจจะฟังดูเหมือนละคร หรือนิยายน้ำเน่า แต่คนอย่างคุณไอน่ะ ถ้าไม่เห็นว่าแกรักเขาจริงๆ เขาไม่เอาด้วยหรอก ฉันรู้ว่าเดิมพันมันสูง ทุ่มหัวใจสุดๆ ถ้าเขาไม่รับมันก็เจ็บ แต่นอกจากนี้ฉันก็คิดวิธีอื่นไม่ออกแล้ว”

“แล้วฉันต้องเลือกแบบไหนดีตฤณ” คำถามโง่ๆ ถูกเอ่ยออกมาด้วยความสับสนอีกครั้ง



ดังตฤณหยุดและมองหน้าเพื่อน ก่อนจะเอ่ยประโยคสุดท้าย


“อยู่ที่แกแล้วล่ะว่าจะเลือกทางไหน จะหยุดหรือจะไปต่อ ลองชั่งใจดู เพราะสุดท้ายคนที่หลงรักเขาคือแก ไม่ใช่ฉัน”








<><><><><><><><><><><><><><><><><><><>






มาต่อแล้วค่าาา


นี่แหละ คุณคือความรัก กว่าจะมาถึงตอนนี้ เกือบยี่สิบตอนแหนะ
อาจจะอืดอาดไปหน่อย แต่ต่อไปก็จะไม่กัดกันแง่งๆ เท่าไหร่แล้วค่ะ


เม้นชื่อสมัครเป็นแฟนคลับพ่อบ้านใจกล้าคนใหม่ได้เลย 55555


ละอองฝน.
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 18 [26/04/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: maekkun ที่ 26-04-2017 21:03:57
 :pig4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 18 [26/04/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 26-04-2017 21:13:39
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 18 [26/04/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 26-04-2017 21:39:25
สมัครเป็นแฟนคลับด้วยค่าาา 555

ลุยเลยสิ ลุยเลยยยย  :mew1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 18 [26/04/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: B_SRIKHUNLA ที่ 26-04-2017 21:50:24
หมั่นไส้เล็กนะแต่ก็อยากให้สมหวังกับไอสักที
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 18 [26/04/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 26-04-2017 21:53:43
คุณเล็กล่ะก็ อย่าลืมว่า มีคดีติดตัวขนาดนี้คุณต้องใช้ความจริงใจนานๆเลยล่ะ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 18 [26/04/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 26-04-2017 22:02:44
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 18 [26/04/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 26-04-2017 22:02:57
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 18 [26/04/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 27-04-2017 00:00:22
ยังอยู่ทีมคุณไอนะ ไม่รักไม่ชอบและไม่เปลี่ยนใจง่ายๆหรอกนะ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 18 [26/04/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: larynx ที่ 27-04-2017 00:25:54
สู้เขาคุณเล็กหนูเชื่อใจในความคารมดีไหลเป็นน้ำของพี่ พี่ต้องยัดเยียดตัวเองเข้าไปในชีวิตคุณไอได้อีกรอบแน่นอน แต่คราวนี้ต้องจริงใจมากๆแล้วนะ 
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 18 [26/04/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 27-04-2017 01:46:13
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 19 [27/04/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ละอองฝน ที่ 27-04-2017 19:33:05







คุณคือความรัก บทที่ 19








   หลังจากงานเปิดตัวโรงแรมปางปาลีผ่านพ้นไป กมลก็ไม่ได้พบหรือติดต่อโดยตรงกับณธิปอีก ขนาดเรื่องที่เคยถูกขอให้คอมเม้นเกี่ยวกับพื้นที่ส่วนกลางของโรงแรม ณธิปยังให้ตัวแทนของทางโรงแรมคอยประสานงานให้ พวกเขาทั้งสองไม่มีปฏิสัมพันธ์กันเรื่องส่วนตัว มีก็เพียงการติดต่อเรื่องงานผ่านคนกลางเท่านั้น



กมลคิดว่าอันที่จริงเป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน เขาจะได้ไม่ต้องคอยระวังความสัมพันธ์ที่มันกำลังจะล้ำเส้น ไม่ต้องคอยระแวงว่าอีกฝ่ายจะเข้าหาแบบไหน และไม่ต้องอึดอัดใจกันสิ่งที่ถูกยัดเยียดให้โดยไม่เคยร้องขอ เพราะเขารู้สึกว่าการมีคนอย่างณธิป โชติตระกูลวนเวียนอยู่ข้างกาย เป็นอะไรที่ค่อนข้างวางตัวลำบากพอสมควร



ไม่ใช่แค่ลูกตื้อ การเข้าหาและอารมณ์แปรปรวนของอีกฝ่ายที่ทำให้ชายหนุ่มปวดเศียรเวียนเกล้าจนสติหลุดจากการควบคุมอยู่หลายครั้ง แต่ความเป็นคนมีชื่อเสียงและชื่อเสียในแวดวงสังคมก็พลอยทำให้กมลถูกจับตามองไปด้วย



ยกตัวอย่างเช่นตอนงานเลี้ยงที่ปางปาลี หลังจากกลับมาชื่อของกมลก็มีโอกาสได้ขึ้นไปติดบนหน้าสื่อบันเทิงอยู่หลายเจ้า จากที่เป็นแค่นักธุรกิจธรรมดา พอมีข่าวกับไฮโซดัง ประวัติก็ถูกขุดคุ้ยออกมาให้คนในโซเชียลรับรู้ราวกับชีวิตส่วนตัวของเขามันสร้างความบันเทิงหนักหนา



กว่าข่าวที่ว่าณธิปเล่นใหญ่ เปิดตัวคบหนุ่มนักธุรกิจหน้าหวานจะซาไป ก็เล่นเอากมลต้องนั่งตอบคำถามคนรอบข้างและลูกค้าอยู่หลายรอบ เพราะฉะนั้นจึงสรุปได้ว่า การไม่ได้พบ ไม่ได้คุยกันเช่นนี้ ก็ทำให้ชีวิตของกมลสงบสุขดีแล้ว



“คืนนี้พี่จะไปดูเด็กๆ คุมงานแต่งคุณรัลกับคุณเก๋ที่ฝั่งธนฯ เสร็จแล้วคงจะนอนค้างที่คอนโดเลย อ้ายไม่ต้องรอเปิดบ้านให้พี่นะ พาเด็กๆ เข้านอนได้เลย” กมลบอกกับน้องสาวขณะที่เธอเข้ามาลาไปรับลูกชายฝาแฝดหลังเลิกเรียน

“ได้ค่ะ ว่าแต่พี่ไอพอมีเวลาไหมคะ จะไปเลยหรือเปล่า”

“ประมาณสี่โมงก็ว่าจะออกแล้ว พี่กลัวว่ารถจะติดเอาน่ะ วันนี้วันศุกร์สิ้นเดือนเสียด้วย” เขาเงยหน้าขึ้นมาประสานมือไว้ใต้คาง แล้วยิ้มให้กับน้องสาว “อ้ายมีอะไรหรือเปล่า”

“คืออ้ายจะให้พี่ไอช่วยดูโครงการที่เราจะไปทำบุญปีใหม่ที่ลำพูนน่ะค่ะ อ้ายไม่แน่ใจว่าเราต้องจะเอากฐินเข้าวัดอย่างเดียวหรือเปล่า”

“ทำไม มีปัญหาอะไรหรือ”

“พี่ไอดูนี่ค่ะ” เธอวางแฟ้มข้อมูลตรงหน้าพี่ชาย ก่อนเริ่มอธิบาย “คือพอดีตอนที่เราติดต่อไปหาทางวัดเรื่องกฐินบูรณะหลังคาโบสถ์ ทางโน้นเขาเล่าให้ฟังว่าใกล้ๆ กันมีโรงเรียนเล็กๆ อยู่ โรงเรียนนั้นค่อนข้างทรุดโทรมพอสมควร อ้ายก็เลยคิดว่าเราน่าจะบริจาคเงินซ่อมแซมอาคารเรียนให้เด็กๆ ด้วยน่ะค่ะ”

“มีนักเรียนประมาณกี่คน” กมลเปิดดูข้อมูลที่น้องสาวหามาให้ พร้อมกับถามรายละเอียดปลีกย่อยอื่นๆ ไปด้วย

“70 กว่าคนได้ค่ะ มีอาคารเรียนหลังเดียว กับโรงอาหารเล็กๆ” หทัยตอบ



กมลหยุดคิดและคำนวณยอดเงินที่ตั้งเป้าไว้ก่อนหน้า จากนั้นจึงปิดแฟ้มเอกสารหลังตัดสินใจได้แล้ว “อย่างนั้นอ้ายลองติดต่อทางโรงเรียนดูว่าต้องการจะรับการสนับสนุนของทางเราไหม ถ้าหากจะเข้าไปช่วยพัฒนา”



“ได้ค่ะ เดี๋ยวอ้ายจะประสานให้” หญิงสาวยิ้มออกมาอย่างยินดี เธอคิดอยู่แล้วว่าพี่ชายต้องเห็นด้วย เพราะรู้ว่ากมลค่อนข้างอ่อนไหวกับเรื่องของเด็กเล็กๆ เหมือนกับเธอ

“มีเท่านี้ใช่ไหม”

“ใช่ค่ะ”

“หมดเรื่องแล้วก็ไปรับเด็กๆ เถอะ เดี๋ยวหยินกับหยางจะรอนาน”

“ค่ะ”



หลังจากน้องสาวออกจากห้องทำงานไปเรียบร้อยแล้ว กมลก็โทรเช็คคิวกับพนักงานที่ส่งให้ไปดูแลงานแต่งงานของลูกค้า ต่อมาก็ตรวจสอบตารางงานวิวาห์ที่กำลังจะมีขึ้นต่อไปอีกสักพัก ก็ได้เวลาที่ตั้งใจจะออกเดินทางพอดี











กว่างานจะเสร็จ เวลาก็ล่วงเข้าสู่วันใหม่ไปกว่าครึ่งช่วงโมงแล้ว กมลรู้สึกล้ามาก อยากจะทิ้งตัวลงเตียงนอนแล้วหลับไปโดยที่ไม่อาบน้ำ แต่เพราะวิ่งรอกไปมาทั้งวัน คนรักสะอาดอย่างเขาก็คงทนทำเช่นนั้นไม่ได้



ขณะขับรถกลับคอนโด ชายหนุ่มคิดวางแผนในใจว่าจะรีบอาบน้ำแล้วพุ่งตัวลงที่นอนให้เร็วที่สุด แม้จะรู้สึกหิวนิดๆ แต่คงเก็บท้องไว้รอกินมื้อเช้าดีกว่า เพื่อให้ไม่เสียเวลานอน



ถนนยามเที่ยงคืนเกือบตีหนึ่งนั้นรถราค่อนข้างบางตา เหยียบคันเร่งแรงสักหน่อยก็ถึงที่หมายแล้ว พอจอดรถเรียบร้อยชายหนุ่มก็หอบกระเป๋าเอกสาร คว้าสูทพาดแขน คลายเนคไทด์ ก่อนจะเดินลิ่วเข้าตัวตึก ชายหนุ่มแจกยิ้มทักทายเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเล็ก แล้วจึงเดินไปกดลิฟต์



ครั้นเมื่อลิฟต์เคลื่อนลงมา กมลก็ก้าวขาเข้าไปยืนด้านใน เขากดตัวเลขที่แผงควบคุมไปยังชั้นของตัวเอง จังหวะที่ประตูลิฟต์กำลังจะปิด กมลเหลือบตามองนาฬิกาข้อมือเล็กน้อย ยามนี้ตีหนึ่งสิบนาที เขามีเวลานอนน้อยลงไปอีกนิดแล้ว หรือว่าควรจะนอนโดยไม่อาบน้ำดีนะ คนหน้าหวานได้แต่คิดในใจ



และในขณะนั้นเอง ประตูลิฟต์ที่ปิดสนิทเพียงเสี้ยววินาทีก็พลันเปิดออกอีกครั้ง กมลละจากความคิดเรื่องของตัวเอง แล้วเงยหน้าขึ้นสบตากับผู้โดยสารที่เพิ่งมาถึงอีกคน



ไม่ว่าจะเป็นคนที่อยู่ด้านนอกหรือด้านในต่างก็ชะงักไปทั้งคู่ พวกเขามองหน้ากัน ไร้ซึ่งคำพูด แต่เอ่อล้นไปด้วยความรู้สึกกระอักกระอ่วนใจ กว่าจะดึงสติกลับมาได้ ประตูก็คล้ายจะปิดลงอีกรอบ และคนที่มีสติดีกว่าอย่างกมลก็เป็นคนกดปุ่มให้ประตูเปิดค้างเอาไว้อย่างมีน้ำใจ ชายหนุ่มอีกคนที่เพิ่งรู้สึกตัวจึงได้เดินเข้าไปข้างใน และเอื้อมไปกดชั้นที่เป็นจุดหมายของตนเอง



บางทีโลกใบนี้อาจจะเต็มไปด้วยเรื่องบังเอิญ



นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาเจอกันหน้าลิฟต์ด้วยความไม่ตั้งใจเช่นนี้ แม้ว่ามันจะไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้พบ หากเป็นครั้งแรกที่ณธิปรู้สึกกระอักกระอ่วนจนมือไม้เกะกะไปหมด



เมื่อไม่ถึงชั่วโมงที่ผ่านมา ณธิปยังพูดถึงกมลกับเพื่อนสนิทของตัวเอง ยังสับสนเพราะคนคนนี้ และคิดถึงแทบแย่ ทว่าเพียงเข็มนาฬิกาหมุนไปแค่ไม่กี่องศา กลับได้พบคนที่ทำให้รู้สึกมากมายขนาดนั้นอยู่ข้างๆ แม้พวกเขาจะยืนเงียบๆ เว้นระยะห่างพอเหมาะ ไม่ใกล้และไม่ไกลเกินไป ใบหน้ามองตรงไปยังทางออก ไม่มีปฏิสัมพันธ์พูดคุยหรือสบตา หากมันก็ไม่อาจลบเลือนเรื่องที่ว่ายามนี้ กมลอยู่ใกล้ๆ เขาอีกครั้ง



แล้วแวบหนึ่งเขาก็คิดถึงคำพูดของดังตฤณที่บอกว่ามีทางเลือกสองทาง คือปล่อยไปกับคว้าไว้ ณธิปยังไม่ทันรู้ว่าตัวเองควรเลือกอะไร คนที่เป็นประเด็นในหัวใจก็ปรากฏขึ้นชวนให้ว้าวุ่น ทุกครั้งที่ตัวเลขเปลี่ยน ลิฟต์เคลื่อนขึ้นไปเรื่อยๆ หัวใจของณธิปก็ปั่นป่วน ความรู้สึกตีม้วนหมุนวนจนไม่อาจบอกได้ว่าต้องทำเช่นไร



ใจหนึ่งก็คิด เขาควรจะปล่อยความรู้สึกบ้าๆ นี่ไปเสีย อย่าสนใจอะไรอีก เพราะอีกฝ่ายก็ทำเหมือนเขาไม่มีตัวตนเช่นกัน เหตุใดเขาต้องมานั่งคิดนั่งแคร์ให้ปวดสมองด้วย



ทว่าอีกใจกลับดิ้นรน โหยหา อยากมีความกล้าที่จะหันไปมองหน้า อยากเห็นรอยยิ้ม อยากได้ยินเสียงอีกครั้ง



นี่เขาเป็นเอามากจริงๆ หรือเขาแค่เมากันแน่นะ ณธิปคิด



ช่วงเวลาที่คิดโน้นคิดนี่ ดูคล้ายจะเนิ่นนาน แต่ก็เร็วจนน่าใจหาย แค่พริบตาเดียวห้องโดยสายสี่เหลี่ยมก็เคลื่อนที่พาพวกเขามาส่งที่ชั้นของกมลแล้ว พอประตูเปิดคนใจร้ายก็เดินออกไปโดยไม่หันกลับมาเหลือบแล เดินหลังตรงเหมือนคนหยิ่งผยองว่าฉันนี่แหละคือผู้ชนะในสังเวียนนี้ ผู้ชนะที่สามารถปลุกปั่นให้ณธิปหัวหมุนได้



ดวงตารีเรียวมองแผ่นหลังของกมลไปจนประตูปิดลงอีกครั้ง ก่อนลิฟต์จะเคลื่อนตัวพาเขาขึ้นไปยังที่ของตนเอง หัวใจของชายหนุ่มลีบแบนเหมือลูกโป่งถูกปล่อยลม



นี่ฉันเลือกที่จะปล่อยหรือ เขาได้แต่ร้องถามตนเองในใจ จนประตูลิฟต์เปิดอีกครั้ง และทางเดินนั้นว่างเปล่า มืดสลัว เสมือนกับหัวใจของณธิปยามเมื่อคิดว่าจะปล่อยคนคนนั้นไป หัวใจเขาวูบโหวง และที่สุดแล้ว เขารับรู้ว่ามันไม่ดีเลย มันไม่ใช่ทางเลือกที่เขาต้องการ



คิดได้ดังนั้นมือก็พลันกดไปที่ชั้นซึ่งคนคนนั้นอยู่ ณธิปรู้สึกเหมือนสารบางอย่างในตัวของเขาหลั่งออกมา ความรู้สึกหน่วงๆ และมึนๆ ในสมองหายไป ทันทีที่ตัดสินใจว่าอย่างไรวันนี้ก็ต้องพูด มีแค่ตอนนี้เท่านั้น หากปล่อยให้นานไปกว่านี้ เขาคงไม่มีโอกาสแล้ว



ตอนที่ณธิปลงมาถึงชั้นซึ่งเป็นที่ตั้งห้องของกมล ตรงทางเดินไม่ได้ว่างเปล่า เพราะว่าหนุ่มหน้าหวานยังอยู่ที่ประตู และรื้อหาอะไรบางอย่างจากกระเป๋า ณธิปใช้โอกาสนี้รีบเดินเข้าไปใกล้ ราวกับกลัวว่าถ้าช้าอีกนิด คนตรงหน้าจะหายวับไป



กมลที่สังเกตเห็นเช่นนั้นจึงผงะไปเล็กน้อย ดวงตารูปเม็ดอัลมอลมองมาทางณธิปด้วยแววประหลาดใจและไม่ไว้วางใจ ต่อมาเสียงกังวานจึงดังขึ้น



“คุณมีธุระอะไรหรือเปล่าครับ”

“มีสิ…มี” ณธิปอึกอักเล็กน้อย

“สำคัญหรือครับ คือถ้าเป็นเรื่องงาน ผมว่าไว้ค่อยคุยกันพรุ่งนี้ดีกว่าไหม นี่ดึกแล้ว และคุณก็ดื่มมาด้วย” กลิ่นแอลกอฮอล์ที่โชยมาตั้งแต่ในลิฟต์ทำให้กมลรู้ทันทีว่าณธิปไม่มีสติครบถ้วนพอจะคุยธุระสำคัญใดๆ ให้รู้เรื่องได้ตอนนี้ และเขาก็เพลียเกินกว่าจะต่อกรกับอีกฝ่ายด้วย


“ผมขอเวลาเดี๋ยวเดียว”

“แต่ห้องผมไม่สะดวกเท่าไหร่” จากวีรกรรมที่เคยประสบมา และท่าทางแปลกๆ ที่แสดงออกยามนี้ กมลบอกได้เลยว่า เขาไม่ไว้ใจอีกฝ่ายเลยสักนิด ทว่าณธิปกลับทำให้ต้องแปลกใจ

“ผมไม่เข้าไปในห้องคุณหรอก ขอเวลาพูดเดี๋ยวเดียว ตอนที่คุณยังหากุญแจห้องไม่เจอก็ได้” นี่มันเสียศักดิ์ศรีสุดๆ แต่อะไรบางอย่างบอกกับณธิปว่า ยามนี้ไม่ใช่เวลาจะสนเรื่องศักดิ์ศรีบ้าบออะไรนั่น

“เอ่อ…” ณธิปดูแปลกไปจริงๆ กมลคิด และด้วยท่าทาง กับแววตามุ่งมั่นแบบที่ไม่เคยเห็นจากอีกฝ่าย ทำให้สุดท้ายแล้วชายหนุ่มจึงยอมพยักหน้าตกลง “คุณมีอะไรก็พูดเลยครับ ผมรอฟังอยู่”

“เรื่องคืนนั้น ที่ผมล่วงเกิน ทำตัวน่าอายใส่คุณ ผมขอโทษนะ” ณธิปเปิดฉาก



นี่ไม่ใช่สิ่งที่กมลคิดมาก่อนว่าจะได้ยินจากอีกฝ่าย เขาเบิกตากว้างด้วยความตกใจเล็กน้อย จากนั้นความรู้สึกบางๆ ระหว่างโกรธกับเฉยชาก็ค่อยๆ ละลายลง


“ช่างมันเถอะครับ ผมเองก็…ไม่ได้ติดใจเอาความอะไร”

“คุณจะยอมยกโทษให้ผมง่ายๆ อย่างนี้เลยหรือ”

“ก็เรื่องมันผ่านไปแล้ว คุณเองก็สำนึกผิดแล้วนี่ ใช่ไหมครับ ดังนั้นคงไม่มีเหตุการณ์แบบนั้นอีก”

“ครับ” ณธิปพยักหน้ารัวๆ “ผมจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นอีก”



จากคนที่เคยทำตัวหยิ่งยโส ไม่เห็นหัวใคร ยามนี้กลับดูเงอะงะคล้ายเด็กชายตัวเล็กๆ ที่สำนึกในความผิดของตนเอง เพราะชายหนุ่มไม่ได้เตรียมคำพูดพวกนี้ไว้ เพราะไม่รู้ว่าจะได้พบกันเร็วขนาดนี้ ทุกอย่างจึงออกมาจากใจล้วนๆ



“ในเมื่อคุณขอโทษแล้ว ถือว่าเลิกแล้วต่อกันไป ผมก็ไม่ติดใจเอาความอะไร ให้มันจบเท่านี้เถอะ ยังไงผมขอตัวเข้าห้องก่อนนะครับ” กมลชูกุญแจห้องให้อีกฝ่ายเห็น และตั้งใจจะไขเข้าไปพักผ่อนเสียที



ทว่าณธิปกลับรั้งเขาเอาไว้อีก… “เดี๋ยวครับ!”

“ครับ?” กมลหันมา

“ผมมีอีกเรื่อง”

“ว่ามาสิครับ” ถ้าจะบอกว่าไม่ให้พูด ก็คงจะห้ามไม่ได้ กมลจึงยอมให้อีกฝ่ายบอกออกมา จะได้จบๆ กันไป

“คือผมมีอะไรบางอย่างอยากขอคุณ”

“อะไรครับ”



เจ้าของดวงตารีเรียวสูดลมหายใจลึก จากนั้นจึงมองสบตาของกมลตรงๆ แล้วเอ่ยออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำ ราวกับคนมีสติสัมปชัญญะครบถ้วน ไม่ได้เมาอย่างที่หนุ่มหน้าหวานเข้าใจ



“ไอครับ ผมว่าผมหลงรักคุณเข้าแล้วจริงๆ” มือที่อยู่ข้างลำตัวถูกกำไว้แน่นเพราะประหม่า “คุณจะให้โอกาสผมจีบคุณอีกครั้งได้ไหม”

“คือ…ผมว่าพวกเราไม่--”

“อย่าเพิ่งปฏิเสธเลยนะ ผมน่ะ…มีบางอย่างที่เปลี่ยนไปแล้ว ดังนั้นขอให้ผมได้ลองพยายามอีกครั้ง แล้วถ้าเกิดว่ามันไม่ทำให้คุณหวั่นไหวได้เลยสักนิด ผมจะถอยเอง” ณธิปเอื้อมมือไป ตั้งใจจะจับมือคู่นั้นของกมลไว้ แต่แล้วก็ชะงัก เพราะคิดได้ว่า นี่อาจล้ำเส้นและทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจ

“คุณพูดแบบนี้ ผมลำบากใจนะรู้ไหม”



ณธิปบอกว่าตัวเองเปลี่ยนไปแล้ว กมลเองก็ไม่อาจตัดสินได้ในทันทีว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นจริงหรือไม่ แต่พอได้ยินประโยคที่ไม่คิดว่าคนอย่างณธิปจะพูดออกมา ประโยคขอร้องพร้อมกับท่าทางและแววตาที่ดูเหมือนจริงใจนั่น กมลก็ไม่อาจปฏิเสธออกมาได้เต็มเสียง แต่ที่ว่าลำบากใจนั้น เขารู้สึกจริงๆ


“ขอโทษ” ณธิปขอโทษเป็นครั้งที่สองแล้วในคืนนี้ แต่ถ้าเขาเป็นสาเหตุให้กมลต้องลำบากใจ เขาก็อยากขอโทษ

“ไม่ต้องขอโทษหรอกครับ”



บรรยากาศที่รายล้อมรอบกายนั้นน่าอึดอัดเหลือจะกล่าว ทางเดินเงียบเชียบที่ไม่มีเสียงใดเล็ดรอดออกมาเลย มีเพียงเสียงหายใจแผ่วๆ ของคนทั้งคู่ ทำให้กมลไม่รู้จะเบี่ยงเบนความสนใจไปหาอะไรได้ นอกจากการคิดไต่ตรองดูว่า เขาควรให้คำตอบอย่างไรกับอีกฝ่ายดี



ถ้าตอบรับ ก็ไม่รู้ว่าต่อไปจะมีเรื่องยุ่งยากอะไรเข้ามาอีก แต่ถ้าไม่รับล่ะ กมลมองแววตาทรงเสน่ห์ที่เคยทำเจ้าชู้ใส่ทุกครั้งที่พบเจอ บัดนี้กลับดูไม่ออกเลยว่ามันมันเคยเป็นเช่นนั้นมาก่อน เพราะมันดูจริงใจ เหมือนเด็ก…



ทำไมเขาถึงมองว่าณธิปเหมือนเด็กได้นะ กมลหงุดหงิดตัวเอง เพราะเขามักแพ้และใจอ่อนให้อะไรแบบนี้



“ว่ายังไงครับ ให้โอกาสผมได้หรือเปล่า”

“คือว่า…”

“นะครับ ผมสัญญาว่าจะไม่ล้ำเส้น ถ้าคุณไม่อนุญาต”

“ก็ได้ครับ” สุดท้ายกมลก็ตัดสินใจพยักหน้ารับ ซึ่งเขายังไม่แน่ใจเลยว่าตัวเองตัดสินใจถูกไหม

“ขอบคุณครับ!” ณธิปเอ่ยขอบคุณด้วยตาเป็นประกาย ท่าทางดีใจจนแทบกระโดดโลดเต้น ทำให้กมลรู้สึกแปลกใจอีกรอบ ว่าสรุปแล้วตัวตนของณธิปเป็นเช่นไร



ระหว่าง ผู้ชายเจ้าเล่ห์มากรัก หรือ ผู้ชายที่เหมือนเด็กชอบเอาชนะคนหนึ่ง



“ระหว่างนี้ก็รักษาสัญญาของคุณด้วย กรุณาอย่าล้ำเส้น” กมลย้ำ

“ได้ครับ”

“ถ้าเกิดว่าผมรู้สึกว่าไม่ใช่จริงๆ คุณต้องถอยอย่างที่บอกนะ เอาจริงๆ ผมก็ไม่อยากให้คุณมาเสียเวลากับผมหรอก เพราะผมคิดว่าตัวเองไม่น่าใกล้เคียงกับคนในแบบที่คุณชอบเลยสักนิด”

“รู้ไหม ที่ผ่านมาผมไม่รู้เลยว่าตัวเองชอบแบบไหน จนกระทั่งมาเจอคุณ” ณธิปว่า พร้อมกับยิ้มกว้าง



กมลยิ้มแหย ด้วยไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะหยอดมาแบบนี้ เพราะถึงแม้จะดูว่าเป็นคำพูดจริงใจมากกว่าคำหวานที่ใช้สัพยอกเหมือนทุกที แต่กมลก็ยังอดรู้สึกแปลกๆ ไม่ได้อยู่ดี



“เอ่อ…คุณหมดเรื่องที่จะบอกแล้วใช่ไหมครับ”

“ครับ วันนี้ที่จะพูดก็มีเท่านี้”

“งั้นผมขอตัวเข้าห้องก่อนนะ ผมง่วง” ชายหนุ่มง่วงจริงๆ เหมือนกับวันนี้เขาใช้พลังงานหมดแล้ว แถมยังต้องมาตุ้มๆ ต๋อมๆ กับณธิปรอบดึกอีก

“อะ…ครับ ขอโทษที่กวนเวลาพักผ่อนของคุณ” ณธิปถอยห่างออกมาเล็กน้อย ให้กมลได้ไขประตูเข้าห้อง และก่อนที่อีกฝ่ายจะหายลับไป ชายหนุ่มก็เอ่ยออกไปอีกคำ “คุณไอ”

“ครับ?” กมลหันหลังกลับมาหา

“คุณปลดบล็อคด้วยนะ ผมจะได้ส่งข้อความหาได้”

“อ่า…” เพราะหลังกลับมาจากปางปาลี กมลก็บล็อกไอดีทั้งไลน์และเฟสบุ๊คของณธิป ทำให้อีกฝ่ายไม่รู้ความเคลื่อนไหว และไม่สามารถส่งข้อความอะไรให้ได้ดังเดิมอีก “ครับ” คนหน้าหวานตอบรับพลางพยักหน้า

“ขอบคุณนะ”

“อืม”



ณธิปได้ยินเสียงงึมงำตอบรับเท่านั้น อีกฝ่ายก็หนีเข้าห้องไปทันที เขาไม่รู้ว่าการบุกจู่โจมนี้จะได้ผลแค่ไหน มันอาจจะเป็นแค่การกระทำโง่ๆ บางทีกมลอาจจะตอบรับเขาส่งๆ ไปแบบนั้นเพื่อตัดรำคาญก็เป็นได้ แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้ความรู้สึกหน่วงๆ ที่มีตลอดเดือนที่ผ่านมาถูกปัดหลิวให้หายไป และเขาเองที่เป็นคนบอกว่าจะพยายาม ดังนั้นก็คงต้องพยายามเอาชนะใจคนหน้าสวยแต่ใจร้ายคนนั้นดูอีกสักครั้ง



โดยครั้งนี้ณธิปจะใช้หัวใจเป็นเดิมพัน








<><><><><><><><><><><><><><><><><><>



มาต่อเร็วเฉยเลย อิอิ

ตอนนี้เล็กเมามาก พูดจาเลอะเทอะมาก ไม่ไหวๆ เสียฟอร์มหมดเลย /เสยผมขรึมๆ
ส่วนไอก็ง่วงมาก เค้าให้ทำอะไรก็เออๆ ออๆ ไม่ได้ตั้งใจจะใจอ่อนจริงจริ๊ง /ยิ้มอ่อน

รู้สึกว่าตอนที่แล้วคนอ่านเพิ่มขึ้น ดีใจมากเลย ยังไงก็ฝากด้วยนะคะ เราจะไม่ดองแล้ว /นี่ก็พูดงี้ตลอดอ่ะะ

เจอกันตอนหน้าค่ะ 55555




ละอองฝน.

หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 19 [27/04/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 27-04-2017 19:42:10
 :-[ :-[
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 19 [27/04/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: larynx ที่ 27-04-2017 20:11:00
อ้างถึง
“รู้ไหม ที่ผ่านมาผมไม่รู้เลยว่าตัวเองชอบแบบไหน จนกระทั่งมาเจอคุณ”
จะไม่อะไรเลยถ้านี่ไม่ใช่คำพูดจากปากผู้ชายที่ผ่านคนมาเยอะทั้งผู้ชายและผู้หญิงอย่างคุณเล็ก ฮื่ออออ สู้เขานะคะ หนูทีมคุณเล็กค่ะ  :impress2: :man1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 19 [27/04/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 27-04-2017 21:32:00
แปลกใจจจจจจจ
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 19 [27/04/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 27-04-2017 21:40:36
จะเชียร์คุณเล็กก็มีคดีเก่าอยู่ กลัวคุณไอเจ็บ พิสูจน์ซะนะ คุณเล็ก แล้วจะย้ายทีม #ทีมคุณไอ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 19 [27/04/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 27-04-2017 21:47:03
มาเร็วจริงๆ

เดินหน้าจีบคุณไอเลยนะณธิป o13 :mew1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 19 [27/04/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: A-J.seiya* ที่ 27-04-2017 22:12:12
+เป็ดรัวๆ ฮืออออ
ณธิปน่ารักมากกกกกก
แบบว่าเด็กน้อยสุดอะไรสุด
เอาจริงๆเราก็อึ้งไปเหมือนกันที่กล้าเล่าให้เพื่อนฟัง
ยอมรับแบบหงอๆเลยว่า เออ แม่งคงชอบไปแล้ว
ฮือออ แล้วก็อยากได้ก็พยายามอ่ะ เก่งมากเลย
เชียร์อยู่วววว
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 19 [27/04/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 27-04-2017 23:41:13
งานหนักหน่อยนะ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 19 [27/04/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: pigarea ที่ 28-04-2017 12:39:13
เราชอบเรื่องนี้จัง รวมไปถึง น้องรักกับพี่เฆม
นิยายส่วนใหญ่ จะเป็นไปในลักษณะแอบรักกันและกัน หรือไม่ก็อีกฝ่ายแอบรัก แต่พอจีบก็โอเคกันได้ง่ายดาย
แต่เรื่องนี้มันทำให้เห็นถึงความเป็นจริงในชีวิตที่ว่า ไม่มีใครที่จะจีบแล้วได้พบกับรักแท้ หรือได้รับการตอบรับ
ต้องมีเศร้าบ้าง เสียใจบ้าง ผิดหวังบ้าง ต้องมีความพยายามในการคว้าหาความรักมาเป็นของตัวเอง
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 19 [27/04/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 29-04-2017 18:01:21
คราวนี้ก็จีบเขาดีๆล่ะคุณเล็กกกก  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 20 [30/04/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ละอองฝน ที่ 30-04-2017 20:21:49
คุณคือความรัก บทที่ 20

   ก่อนออกไปทำงาน สายสืบลับๆ ใน I promise Tower ที่คอยทำงานเล็กๆ น้อยๆ ได้ส่งข่าวมาบอกณธิปว่า พรุ่งนี้เป็นวันเกิดของกมล ข่าวที่เพิ่งรู้ทำให้ชายหนุ่มกระวนกระวายพอควร เนื่องจากยังไม่รู้เลยว่าจะทำอะไรให้อีกฝ่ายได้บ้าง เพราะถ้าเป็นคนที่เขาเคยคั่วเคยคบมาก่อน ณธิปก็คงเลือกเสื้อผ้า ของมีค่า ของแบรนด์เนม หรือเซอร์ไพร์สโดยการไปดินเนอร์สุดหรูในที่ที่โรแมนติกสักแห่ง



   ทว่ากับคนคนนั้น ณธิปไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรอีกฝ่ายจึงจะพอใจ เพราะตั้งแต่เริ่มกลับมาจีบอีกครั้ง จนผ่านมาเดือนหนึ่งแล้ว อีกฝ่ายก็ไม่มีทีท่าว่าต้องการหรือชอบอะไรเป็นพิเศษ มิหนำซ้ำเขายังพบกันไม่บ่อย ได้แต่โทรหาเช้าเย็นกับส่งข้อความไปคุยบ้างบางคราว ชายหนุ่มจึงจนปัญญาและมืดแปดด้านไปหมด ดังนั้นเขาจึงลองโทรปรึกษาใครสักคนดู เผื่อว่าจะมีความคิดดีๆ ในการเตรียมของขวัญที่กมลชอบได้



   คนแรกคือดังตฤณ เพื่อนสนิทที่ช่วยแก้ไขปัญหาหัวใจของเขาในวันนั้น ทว่านี่เป็นเวลาเช้า คนที่ทำงานราชการจึงไม่มีเวลาให้คำแนะนำอะไรมากนัก ได้แต่บอกว่าควรเป็นของที่ไม่หวือหวาและอวดร่ำอวดรวยเกินไป เพราะดูก็รู้ว่ากมลไม่ชอบคนประเภทป๋าเปย์



   ไม่แพงเกินไป ณธิปจดไว้ในใจข้อแรก



   คนที่สองที่เขาโทรหา ก็ไม่ใช่ใครอื่น นอกเสียจากเพื่อนสนิทอีกคนที่เป็นที่หนึ่งและเก่งเรื่องการเลือกเฟ้นหาของกำนัลให้ใครต่อใคร เขาคนนั้นคือดาราหนุ่มฮอตอย่าง พิเชษฐ์



   หากณธิปก็ต้องผิดหวัง เมื่อโทรไปไม่รู้กี่สายต่อกี่สาย อีกฝ่ายก็ไม่ยอมรับโทรศัพท์เลยสักครั้ง ไม่รู้ว่าติดถ่ายงาน หรือยังไม่ตื่นนอนก็ไม่ทราบ



   “ไอ้เชษฐ์นะไอ้เชษฐ์ ถึงเวลาสำคัญทีไร ก็หายจ้อยไม่ทุกทีสิน่า” ณธิปบ่นกระปอดกระแปดอย่างหัวเสีย ก่อนเสียงเคาะประตูหน้าห้องจะดังขึ้น บอกให้รู้ว่าคนขับรถที่เรียกให้มารับเดินทางมาถึงแล้ว



   วันนี้ณธิปต้องเดินทางไปดูการก่อสร้างโครงการบ้านพักตากอากาศที่หัวหิน  ดังนั้นจึงต้องเรียกให้คนขับรถมารับ เพราะระหว่างทางจะได้ทำงานอื่นไปด้วยได้



   “คุณเล็กมีสัมภาระอื่นๆ อีกไหมครับ” นายเชิด คนขับรถประจำตัวของณธิปถาม

   “ไม่มี ฉันไม่ได้ค้าง”

   “ครับ” เชิดรับคำ ก่อนเดินนำไปกดลิฟต์รอด้วยความนอบน้อม



   ครั้นมาถึงที่รถ ณธิปก็พบเลขาฯ ส่วนตัวของเขารอท่าอยู่ก่อนแล้ว เธอเตรียมอาหารเช้าง่ายๆ กับกาแฟดำมาให้เขาดื่มระหว่างเดินทาง จากนั้นเธอจึงเริ่มรายงานความคืบหน้าของงานที่ทางวิศวกรและผู้ดูแลโครงการส่งมาบอกทางอีเมลล์




   “นอกจากตรวจดูโครงการ ฉันก็ไม่มีกำหนดการต้องไปพบใครหรือทำอะไรอีกใช่ไหม” ณธิปถามขึ้นเมื่อเลขาฯ สาวรายงานจบ

   “ไม่มีแล้วค่ะคุณเล็ก”

   “ถ้าอย่างนั้นก็คงกลับถึงกรุงเทพฯ ช่วงบ่ายๆ สินะ”

   “ประมาณบ่ายแก่ๆ ค่ะ”

   “ถ้าอย่างนั้น เธอช่วยสั่งคนเอารถไปจอดไว้ให้ฉันที่โรงแรมด้วยนะ”

   “ได้ค่ะคุณเล็ก”

   “ส่วยนายเชิด เสร็จงานแล้วส่งฉันที่โรงแรม ฝากกลับไปบอกคุณแม่อีกทีด้วยว่า ฉันจะเข้าไปหาวันเสาร์แน่นอน”

   “ครับคุณเล็ก” สารถีส่วนตัวรับคำ หลังจากนั้นในรถก็เงียบลง



   ณธิปอ่านเอกสารต่างๆ ที่สั่งให้เลขาหอบมาฆ่าเวลา ระหว่างนั้นพักสายตาก็เพียรติดต่อไปหาเพื่อนรัก แต่พิเชษฐ์กลับไม่ยอมรับสายเสียที



   ชายหนุ่มค่อนข้างกระวนกระวายใจ ไม่รู้ว่าจะหาอะไรเป็นของขวัญให้กับกมล จึงได้แต่คิดว่าหลังเลิกงานจะขับรถไปเลือกดูด้วยตัวเอง สงสัยว่างานนี้ต้องใช้เซ้นส์ของตัวเองเลือกเอา แทนที่จะพึ่งคนอื่นเสียแล้ว












   เมื่อกลับถึงกรุงเทพฯ ในเวลาเย็น ณธิปก็ขับรถตรงไปยังห้างสรรพสินค้าดังใจกลางเมืองทันที เขาไม่ได้มาที่นี่นานมากแล้ว ทั้งที่แต่ก่อนตอนที่ยังควงคนนั้นควงคนนี้ เขาก็พาคู่ขามาละลายทรัพย์บ่อยพอดู



   ณธิปเดินเข้าร้านนั้น ออกร้านนี้ พยายามนึกถึงสิ่งที่ดังตฤณบอก แต่ก็ยังหาของที่ต้องการไม่ได้สักที ก็ร้านแบรนด์เนมพวกนี้มีของราคาธรรมดาเสียที่ไหน ส่วนใหญ่ก็เพียงหูฉี่ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเสื้อผ้า รองเท้า นาฬิกา ไปจนถึงเนคไทด์ เขาไม่รู้เลยว่าแบบไหนถึงจะพอดี



   ลองๆ นึกดูว่ากมลแต่งตัวแบบไหน เขาเองก็พอนึกออก แต่จะซื้ออะไรที่โดนใจ ของที่มอบให้แล้วเป็นที่จดจำหรือทำให้อีกฝ่ายยิ้มได้เมื่อเห็น นี่สิที่เขายังนึกไม่ออก บางทีเขาก็อยากให้กมลเป็นพวกเห็นของราคาแพงแล้วตาลุกวาวเหมือนกัน จะได้ไม่ต้องลำบากแบบนี้



   ณธิปเดินดูของจนขาลาก สุดท้ายก็เดินเข้าไปจบในในร้านเครื่องแต่งกายสุภาพบุรุษหรูหราร้านโปรดของตนเอง พนักงานท่าทางเป็นมิตรและดูเหมือนจะรู้ว่าเขาเป็นใครจึงเดินเข้ามาสอบถาม และครั้งนี้ณธิปก็คร้านจะปฏิเสธความช่วยเหลืออีก เพราะจนปัญญาที่จะเลือกแล้ว



   “ยินดีต้อนรับค่ะคุณณธิป ไม่ทราบว่ากำลังมองหาอะไรอยู่คะ ทางXXXของเรายินดีให้คำแนะนำค่ะ”

   “ผมอยากได้ของขวัญที่ดูไม่เว่อร์มากแต่ดูดี จะว่ายังไงดีล่ะ”

   “ใช้เนื่องในโอกาสไหนคะ”

   “อยากให้ใช้ในชีวิตประจำวันได้ จะให้ของขวัญวันเกิดน่ะครับ”

   “ถ้าอย่างนั้นลองดูเป็นน้ำหอมดีไหมคะ”

   “มีอย่างอื่นอีกไหม”

   “เข็มติดเนคไทด์สวยๆ ก็มีค่ะ หรือจะเป็นคัฟลิงค์ดีไหมคะ ชิ้นเล็กๆ แต่สามารถใส่ได้ทุกวัน ตอนนี้มีคอลเลคชั่นใหม่เข้ามา ใช้ได้กับท่านสุภาพบุรุษทุกวัยและทุกโอกาสเลยค่ะ เพราะเป็นแบบเรียบหรู”

   “งั้นขอดูคัฟลิงค์แล้วกัน” ภาพของกมลที่ณธิปเห็นจนชินตาคือ ภาพหนุ่มหน้าหวานสวมเสื้อเชิ้ต ทรงทันสมัยแต่ก็ดูเรียบร้อย กมลมักไม่ค่อยใส่สูทให้เห็นหากไม่ใช่งานเป็นทางการ ไทด์ก็ไม่ค่อยค่อยผูก



   ณธิปเลือกดูเจ้ากระดุมข้อมือเม็ดเล็กที่เรียงอยู่ในตู้กระจกอย่างพิจารณา เขาว่ามันเป็นของที่ดูธรรมดา ถ้าเป็นปรกติเขาคงไม่เลือกซื้อของแบบนี้ให้เป็นของขวัญใคร แต่บางแบบก็ดูน่ารักใช้ได้ ยิ่งถ้ากมลสวมเสื้อแขนยาวสีอ่อน บนร่างกายไม่มีเครื่องประดับชิ้นใด ยกเว้นเพียงแต่ข้อมือที่มีกระดุมเม็ดเล็กๆ ประดับอยู่ มันคงดูดีไม่หยอก



ทว่า เครื่องแต่งกายชิ้นเล็กๆ ที่ดูไม่ค่อยมีใครนึกถึงแบบนี้ มันจะทำให้คนรับรู้สึกดีไหมนะ ขณะที่กำลังคิด คนที่ชายหนุ่มเพียรโทรหาตั้งแต่เช้าก็ติดต่อกลับมา ณธิปจึงชี้คัฟลิงค์คู่หนึ่งในตู้ ก่อนจะบอกให้พนักงานนำไปคิดเงิน จากนั้นจึงกดรับสาย



“เพิ่งจะโทรกลับมาได้นะ”

[รับสายปุ๊บก็เหวี่ยงเลยนะคุณชาย กระผมก็เป็นคนมีงานมีการทำนะครับ] พิเชษฐ์เรียกเขาด้วยสรรพนามที่ชอบใช้ล้อเลียนบ่อยๆ เวลาจะกวน ประสาท

“อ้อ นี่ทำงานหรือ ฉันนึกว่าเมาค้างก็เลยเพิ่งตื่น”

[ฮ่าๆๆ รู้ทันอีก] พิเชษฐ์ว่าพลางหัวเราะชอบใจที่เพื่อนมักรู้ทัน ก่อนจะถามกลับ [ว่าแต่มีอะไรให้เพื่อนรับใช้ล่ะ]

“ก็ว่าจะถามอะไรสักหน่อย แต่ดูเหมือนตอนนี้คงไม่ต้องแล้ว”

[เอ้า! ได้ไง ไหนๆ ก็อุตส่าห์โทรมาแล้ว อย่างน้อยก็เล่าให้เพื่อนฟังหน่อยสิ ว่ามีอะไร] พิเชษฐ์ว่าอย่างไม่ยอมง่ายๆ

“ก็ไม่มีอะไรมากหรอก แค่จะให้ช่วยเลือกของขวัญวันเกิด”

[ให้ใคร]

“คุณไอ”

[อ้อ คุณไอคนสวยนี่เอง ถึงว่าทำเพื่อนเล็กร้อนรนโทรมาเป็นสิบๆ สาย] ดาราหนุ่มว่าสัพยอก ก่อนถาม [ว่าแต่เลือกได้แล้วหรือ]

“อืม” ณธิปตอบรับ พลางเซ็นบัตรเครดิตจ่ายเงินเรียบร้อย

[ซื้ออะไรให้น่ะ]

“คัฟลิงค์”

[ห๊ะ!! คัฟลิงค์เนี่ยนะ]

“ทำไมต้องทำเสียงตกใจขนาดนั้น คัฟลิงค์ของฉันไม่ดีตรงไหน” ณธิปรู้สึกหัวเสียนิดๆ

[นั่นคนที่แกตั้งใจจะจีบจริงจังนะเพื่อน อย่างน้อยต้องเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่กว่านี้ ไม่ก็เป็นที่จดจำกว่านี้สิ ขืนเดินไปยื่นกล่องเล็กๆ พอเปิดมาเป็นกระดุมสองเม็ด แกไม่รู้สึกว่ามันน้อยไปนิดหรือเพื่อนรัก]

คำพูดของพิเชษฐ์ทำให้ณธิปขาดความมั่นใจอย่างรุนแรง ซึ่งเดิมทีมันก็มีน้อยอยู่แล้ว “แล้วฉันต้องให้อะไรเล่า แกเก่งนักก็ลองบอกมาสิ”

[อะไรก็ได้ ที่ไม่ใช่กระดุมน่ะ เอาจริงๆ นะเล็ก แกหอบเค้กสักก้อนไปให้เขาเป่า หรือไม่ก็หิ้วตุ๊กตาตัวโตๆ ไปให้เขาสักตัว ยังดีกว่ากระดุมที่แกซื้อตั้งเยอะ]

ณธิปคิ้วกระตุก “เค้กกับตุ๊กตาเนี่ยนะ มันไม่เด็กไปหน่อยหรือไง”

[แต่มันก็ยังน่าจดจำกว่าหรือเปล่า] พิเชษฐ์ถามกลับ

“คุณไออายุไม่น้อยแล้วนะ และก็ไม่ใช่ผู้หญิง เขาไม่น่าจะเล่นตุ๊กตากับกินของหวานหรอก” ณธิปค่อนขอดกับความไร้รสนิยมของเพื่อน เพราะขนาดพวกผู้หญิงที่เขาเคยควงมาก่อนหน้า ยังไม่มีใครร้องให้เขาพาไปซื้อตุ๊กตาสักคน

[แต่คุณไอไม่เหมือนคนอื่นนะ อีกอย่างเขามีหลาน อาจจะชอบอะไรน่ารักๆ ก็ได้ เห็นแกเคยบอกว่าเขาไม่ชอบของราคาแพงนี่ ดูอย่างพวกแฟนคลับของฉันสิ ตอนวันเกิดของฉันนะ มีหอบเค้ก หอบลูกโป่งมาทำเซอร์ไพร์สให้ถึงกองถ่าย โรแมนติกจะตายไป]




เสียงปลายสายดูจริงจัง ทว่าก็แฝงไปด้วยแววสนุกสนานเสียเต็มประดา ราวกับว่ากำลังคิดแผนการให้เพื่อนมัธยมไปทำเซอร์ไพร์สสาวอย่างไรอย่างนั้น




“ฉันว่ามันงี่เง่าแล้วก็น่าอายจะตาย ให้ไปยืนถือเค้ก หอบตุ๊กตาแบบแกตอนม. 5 ฉันไม่เอาด้วยหรอก ใครเห็นเข้าเขาจะคิดยังไง” เพราะภาพลักษณ์ของณธิปไม่ใช่แบบนั้น และไม่เหมาะกับไอเดียที่ถูกเสนอเอามากๆ แค่เขาคิดภาพตัวเองยืนอุ้มตุ๊กตา เขาก็รู้สึกอับอายขายหน้าจะแย่แล้ว

[งั้นก็ตามใจคุณชายแล้วกัน จะให้แค่กระดุมก็ตามใจ แต่อย่าลืมนะว่า พรุ่งนี้ไม่ใช่แค่วันเกิด แต่ยังเป็นวันวาเลนไทน์ด้วย]

“จริงด้วย ฉันลืมเรื่องนี้ไปสนิทเลย พรุ่งนี้ 14 กุมภานี่นะ”

[ใช่ เพราะฉะนั้น ฉันว่าความคิดของฉันเข้าท่า--] ดาราหนุ่มชะงักไปครู่ ก่อนหันไปคุยกับผู้จัดการส่วนตัว [เล็ก ถึงคิวฉันถ่ายต่อแล้ว เท่านี้ก่อนนะ ได้ผลเป็นยังไงก็บอกกันด้วยแล้วกัน]

“อืม ขอบใจสำหรับคำแนะนำ”



พอกดวางสาย พนักงานก็ส่งถุงของขวัญที่ห่อไว้อย่างเรียบร้อยมาให้ณธิป ชายหนุ่มก้มลงมองกล่องน้อยๆ ที่นอนนิ่งอยู่ในถุงกระดาษ ก่อนถอนหายใจออกมาเบาๆ



คืนนี้เขาจะโทรไปนัดกมลทานดินเนอร์ แล้วก็ให้ของขวัญธรรมดากล่องนี้แทน ส่วนไอเดียตุ๊กตากับเค้กที่พิเชษฐ์แนะนำนั้น คงจะรับไว้ได้แต่ความมีน้ำใจที่ช่วยคิด หากไม่หยิบไปใช้จริงแน่นอน ก็เรื่องน่าอายเช่นนั้น ใครจะไปกล้าทำกัน











ชายหนุ่มร่างรูปร่างสูงสง่า หน้าตาดีจัดจนแว่นดำไม่อาจปกปิดใบหน้าหล่อเหลาได้ เดินหิ้วกล่องเค้กกล่องเล็กๆ ออกมาจากร้านเบเกอรี่ชื่อดัง ความดูดีของเขาทำให้หลายๆ คนเผลอมองตามตาเป็นมัน แต่สำหรับณธิปแล้ว สายตาเหล่านั้นเป็นอะไรที่ทำให้เขายิ่งรู้สึกประหม่าและวางตัวไม่ถูก จนต้องรีบเดินออกจากร้านให้เร็วที่สุด



ครั้นมาถึงรถ ณธิปก็วางกล่องเค้กกล่องเล็กไว้บนที่นั่งข้างคนขับอย่างเบามือ ก่อนหันไปมองกล่องของขวัญกล่องโตและกล่องเล็กซึ่งอยู่เคียงข้างกัน แน่นอนว่ากล่องเล็กคือกระดุมธรรมดาตามที่พิเชษฐ์ปรามาสไว้เมื่อวานอย่างไม่ต้องสงสัย ส่วนกล่องใหญ่ต่างหากที่ทำให้ณธิปหนักใจ



ไม่รู้เขาสติไม่ดีไปแล้วหรือเปล่า ถึงได้กล้าทำตามไอเดียบ้าๆ ที่เพื่อนดาราคนสนิทแนะนำ แล้วซื้อเอาตุ๊กตากระต่ายหน้าโง่สีคาราเมลมาจากห้างสรรพสินค้า ถึงมันจะตัวไม่ใหญ่นักอย่างที่พิเชษฐ์บอกก็เถอะ



เขาเป็นบ้าไปแล้วจริงๆ ณธิปกุมศีรษะแล้วอุทานในใจ ทำไมเขาถึงเป็นไปได้ขนาดนี้นะ



หลังจากด่าตัวเองเงียบๆ เสร็จแล้ว ชายหนุ่มจึงค่อยๆ ตั้งสติ แล้วสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ คิดทบทวนถึงสิ่งที่ต้องทำต่อไปในวันนี้ทีละข้อ



เมื่อวานเขาโทรไปหากมล แต่อีกฝ่ายไม่รับ ไม่อ่านข้อความด้วย สายสืบที่ I promise บอกเขาว่ากมลยุ่งมาก เนื่องจากวันต่อมาจะหยุดพักผ่อนเพราะจากเป็นวันเกิด ดังนั้นจึงคิดว่าเจ้าตัวเลยไม่ว่างรับโทรศัพท์เพราะต้องเตรียมงานต่างๆ ไว้ก่อนหยุด แผนการที่จะชวนไปดินเนอร์ล่วงหน้าก็มีอันต้องล้มไปก่อน แต่ณธิปขอหยุดงาน 1 วัน ซ้ำยังจองร้านอาหารไว้ เพราะคิดว่าในวันนี้จะหากมลให้เจอ และพาไปฉลองด้วยกันให้ได้



เขาจึงแต่งตัวหล่อออกจากบ้านมาสั่งเค้กที่ร้านซึ่งเลขาฯ ของเขาบอกว่าอร่อยสุดๆ เตรียมของขวัญให้พร้อมพรัก และวางแผนไปบุกรับกมลที่ห้อง



ณธิปกลับมาที่คอนโด ก่อนไปหาอีกฝ่ายที่ห้อง เขาเตรียมคำพูดที่จะหว่านล้อมและชวนกมลให้ไปทานข้าวด้วยกัน ไม่ว่าทางนั้นจะเอาอะไรมาอ้าง เขาก็พยายามคิดแผนการต่างๆ เผื่อไว้ จากนั้นจึงลองโทรหาคนหน้าหวานดูอีกที ทว่ากมลก็ยังไม่รับสาย ซ้ำข้อความก็ไม่ยอมอ่านด้วย



ณธิปทำใจเย็นอยู่สักพักใหญ่ เพราะไม่อยากล้ำเส้นมากไป คิดว่าอีกฝ่ายอาจยังไม่ตื่น จากนั้นก็พยายามโทรไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ กระทั่งในที่สุด จากเวลาสายมาเที่ยง เที่ยงมาบ่าย ณธิปจึงตัดสินใจขึ้นไปถึงหน้าห้อง หอบเอาข้าวของพะรุงพะรัง ทั้งกล่องเค้ก กล่องของขวัญ ไปกดกริ่งเรียก



แต่ในห้องกลับไร้วี่แววของคนที่ณธิปตั้งใจมาหา



ชายหนุ่มพยายามโทรหากมลทั้งวัน แต่อีกฝ่ายก็ไม่รับสายหรือยอมอ่านข้อความเลย จนเขารู้สึกท้อและหงุดหงิดไปหมด ด้วยไม่รู้จะทำอย่างไร ต้องร้องขอให้ใครช่วยอีก หรือนี่คือบททดสอบให้เขารู้จักพยายามและรู้จักรอคอยด้วยตัวเอง



ถ้าอย่างนั้นณธิปก็จะคอย ให้มันรู้ไปว่าวันนี้เขาจะไม่ได้เจอคนใจร้ายคนนั้น













ทว่ารอแล้วรอเล่า ณธิปก็ยิ่งรู้สึกเหมือนคนโง่มากขึ้นทุกที เพราะถึงแม้เขาจะรอได้ แต่เวลามันรอไม่ได้ เนื่องจากอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้าก็จะขึ้นวันใหม่แล้ว เป็นวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ซึ่งจะไม่ใช่วันเกิดของกมลอีกต่อไป



หรือเขาต้องรออีกปีหนึ่ง



ดวงตารีเรียวมองของขวัญกับเค้กที่ป่านนี้ไม่รู้จะยังอร่อยอยู่ไหม ในใจพลันรู้สึกปวดแปลบ เขาไม่เคยต้องทำให้ใครแบบนี้เลย ทั้งที่ทำตั้งขนาดนี้ แต่ก็ดูเหมือนจะไม่มีความหมายสักนิด หรือเขาต้องพยายามมากกว่านี้กันนะ ชายหนุ่มได้แต่คิดในใจ



และเมื่อคิดได้ดังนั้น ณธิปก็กดโทรศัพท์หาคนคนนั้นอีกรอบ เพราะถ้าช้ากว่านี้ คงไม่ทันเที่ยงคืน



และราวกับคนบนฟ้าเห็นใจ ในที่สุดกมลก็รับสายณธิป [สวัสดีครับ]
   

“คุณไอ ผมณธิปนะ”
   
[ครับ คุณมีอะไรหรือเปล่า] เสียงปลายสายดูเหนื่อยๆ จนณธิปต้องลดความดีใจของตนลง

   “ขอโทษที่กวน แต่คุณอยู่ที่ไหน”
   
[ผมกำลังจะนอนแล้ว]

   “นอนหรือ คุณนอนที่ไหน” คำตอบที่ได้ยินทำให้ณธิปยิ่งแปลกใจมากขึ้น

   [นอนในห้องของผมสิครับ คุณมีอะไร]

   “แต่ผมอยู่หน้าห้องคุณมาทั้งวัน มันไม่เหมือนว่าคุณอยู่เลย ผมเคาะเรียกคุณตั้งหลายครั้ง” ถ้ากมลอยู่ ก็ต้องได้ยินเขาสิ ณธิปคิด

   [นี่คุณอยู่หน้าห้องของผมหรือ]

   “ใช่”

   [ที่คอนโด?]

   “ใช่ แล้วคุณอยู่ไหน”

   [อยู่…บ้าน] หนุ่มหน้าหวานอึกอัก [ว่าแต่คุณไปทำอะไรที่หน้าห้องของผมกันล่ะ]



   เขามันโง่! โง่จริงๆ นั่นแหละ ดันลืมคิดไปได้ยังไงว่ากมลอาจจะอยู่ที่บ้านน้องสาว พอรู้ตัวว่ามาอยู่ผิดที่ผิดทางตั้งแต่แรก ณธิปจึงไม่รู้จะพูดอย่างไรต่อไป



“ผม…เอ่อ…ผมมีธุระกับคุณ”

   [สำคัญมากเลยหรือครับ ถึงขนาดว่าคุณต้องไปหาผมที่ห้องน่ะ]

   “สำคัญสิ สำคัญมาก” ชายหนุ่มตอบเสียงหนักแน่น พลางมองข้าวของในมือ

   [งั้นก็พูดมาเลยครับ]

   “ไม่ ไม่ได้” เพราะถ้าไม่ได้มอบของขวัญทั้งหมดนี้ให้ ก็ไม่มีความหมายน่ะสิ

   [ทำไม] กมลถาม

   “ผมต้องเจอคุณ ต้องพูดต่อหน้าคุณ”

   [แต่ผมอยู่บ้าน และกำลังจะเข้านอนแล้ว ผมคงพบคุณตอนนี้ไม่ได้ เอาไว้พรุ่งนี้ หรือมะรืนนี้ได้ไหมครับ ผมจะโทรไปนัดอีกที แต่ต้องเป็นธุระสำคัญจริงๆ นะครับ]

   “ไม่ได้ ต้องวันนี้เท่านั้น บ้านคุณอยู่ไหน ผมจะขับรถไปหาเอง”

   [นั่นไม่ได้หรอก มันจะรบกวนน้องสาวและหลานๆ ของผม]

   “ไม่รบกวนหรอก ผมขอเจอคุณเดี๋ยวเดียวเท่านั้น นะครับคุณไอ ผมรอคุณอยู่นี่มาตั้งแต่เช้าแล้ว ขอเวลาแค่นิดเดียวจริงๆ” พอเห็นว่ากมลจะไม่ยอมอ่อนให้ ณธิปจึงเริ่มอ้อนวอน

   [เฮ้อ…]

   “นะครับคุณไอ ให้ผมได้เจอคุณเถอะ”

   [งั้นก็ได้ครับ เดี๋ยวผมจะไปหาคุณที่นั่น รอสักครู่]

   “ไม่ให้ผมไปหาที่บ้านคุณหรือ ทำแบบนี้คุณจะลำบากน่ะสิ”

   [ไม่เป็นไร ผมไปเองดีกว่า ไม่สะดวกให้มาที่นี่น่ะ]

   “ครับๆ ยังไงก็ได้ครับ ผมจะรอนะ” ณธิปตอบด้วยน้ำเสียงดีใจก่อนวางสายไป ในที่สุดมันก็ไม่สูญเปล่า











   ตอนที่กมลออกจากลิฟต์ ณธิปกำลังยืนพิงกำแพงแถวๆ หน้าห้องของอีกฝ่าย ในมือมีของหิ้วพะรุงพะรัง ทั้งถุงทั้งกล่องเต็มสองมือ พอดวงตารีคู่นั้นหันมาเห็นกมล เจ้าตัวก็ยิ้มกว้างออกมาอย่างยินดี



   “คุณมีอะไร” กมลถามเมื่อเดินมาหยุดตรงหน้าคนตัวสูง

   “เข้าห้องก่อนสิครับ”

   “ไม่ครับ” หนุ่มหน้าหวานปฏิเสธชัดเจน

   “ได้ยังไงล่ะ ก็ผมเตรียม…”

   “คุณบอกว่าขอเวลานิดเดียว ดังนั้นพูดเรื่องสำคัญของคุณมาเถอะ ผมง่วง”

   “…” พอเห็นว่ากมลไม่ยอมจริงๆ ณธิปจึงคว้าข้อมือของอีกฝ่ายไว้ แล้วสวมหูของถุงกระดาษใบใหญ่เข้าไปคล้อง จากนั้นก็หยิบกล่องใบเล็กอีกกล่องขึ้นมาวางบนสองมือของกมล ก่อนสั่ง “ช่วยผมถือหน่อย แล้วก็ยกขึ้นสูงๆ นิดนึงครับ”



   กมลยกกล่องขึ้นตามที่ณธิปบอก แล้วรอดูว่าชายหนุ่มกำลังจะทำอะไร เมื่อกล่องเค้กถูกยกขึ้นมาในระดับพอดี ณธิปก็แกะฝากล่องให้เปิด จากนั้นจึงหยิบเทียนเล่มเล็กที่เตรียมเอาไว้มาปักบนหน้าของเค้กชิ้นเล็กในนั้นแล้วจุดไฟ



   “อะไรกันคุณณธิป”

   “เค้กวันเกิดไง” ณธิปตอบ

   “ผมรู้แต่—“ และพอกมลจะแย้ง อีกฝ่ายก็ดันขัดขึ้น พร้อมกับเริ่มต้นร้องเพลงอวยพรที่หลานๆ ร้องให้เขาฟังมาสดๆ ร้อนๆ วันนี้

   “อย่าเพิ่งพูดสิ ฟังก่อน…” เจ้าของดวงตาทรงเสน่ห์กระเอมเล็กน้อย ก่อนเริ่มร้องเพลงด้วยเสียงเพี้ยนน้อยๆ แต่เอาเถอะ เพี้ยนนิดก็คงไม่เป็นไร ไหนๆ คุณไอก็เห็นเขาในสภาพน่าอายขนาดนี้แล้ว ชายหนุ่มคิด “Happy birthday to you, Happy birthday to you, Happy birthday Happy birthday Happy birthday to you.”



   หนุ่มหน้าหวานอึ้งไปเพราะไม่คิดว่าณธิปจะทำอะไรแบบนี้ สองมือถือเค้กค้างไว้เช่นนั้น ไม่ยอมก้มหน้าลงไปเป่าเทียนเหมือนที่คนตัวสูงคิด



   “อธิษฐานแล้วก็เป่าสิคุณ ถึงจะเลยวันเกิดมาแล้ว แต่แค่ไม่กี่นาทีก็คงไม่เป็นไร” ณธิปสั่ง และสถานการณ์ที่เผชิญอยู่ก็บีบให้กมลต้องยอมทำตามอย่างช่วยไม่ได้

   “อืม” กมลรับคำแล้วก็เป่าเทียนทันที ไม่ได้อธิษฐานอะไรทั้งนั้น และนั่นทำให้ณธิปรู้สึกเสียดายนิดหน่อย

   “สุขสันต์วันเกิดนะ”

   “ขอบคุณครับ” กมลเงยหน้ามองอีกฝ่ายแล้วขอบคุณเบาๆ และถ้ามองไม่ผิด ณธิปเห็นว่ามุมปากของอีกฝ่ายนั้นยกขึ้นนิดๆ

   “ไม่เป็นไรครับ ผมเต็มใจ ในถุงนั่นของขวัญ ผมไม่รู้คุณจะชอบไหม แต่อย่าทิ้งมันนะ” ถึงมันจะเห่ยไปนิด น่าอายไปหน่อย แต่เขาตัดสินใจซื้อมาแล้ว ดังนั้นจึงไม่อยากให้กมลทิ้งอะไรสักอย่างเดียว แม้แต่กระต่ายหน้าโง่ตัวนั้นด้วย

   “ผมไม่เคยทิ้งของที่คนอื่นตั้งใจให้หรอกครับ” กมลว่า

   “อืม…แค่นี้ก็ดีแล้วล่ะ” ชายหนุ่มยิ้มออกมาอีกครั้งเมื่อได้ยินคำตอบ ก่อนหุบยิ้มเมื่อถูกตัดบท

   “คุณหมดธุระของคุณแล้วใช่ไหม”

   “อื้ม”

   “ถ้าอย่างนั้นก็กลับเถอะ ผมจะเข้าห้องแล้ว พรุ่งนี้ต้องไปทำงานแต่เช้า ขอบคุณอีกครั้งนะครับ”

   “ไม่เป็นไร งั้นผมไปล่ะ” ณธิปพูดหง่อยๆ แค่นั้นก่อนเดินไปที่ลิฟต์ กมลไม่ได้รอส่ง เพราะทันทีที่เขาหันหลัง คนคนนั้นก็ไขกุญแจเข้าห้องไป



   ใจร้ายจริง ณธิปคิด



   แต่ถึงอย่างนั้น แม้ว่าอีกฝ่ายจะทำเฉยชากับเขาไปบ้าง ทว่าเมื่อคิดว่าตนเองได้รับรอยยิ้มเล็กๆ ตอบแทน หัวใจของณธิปก็พองโตจนไม่อาจหยุดยิ้มได้แล้ว



   “เอาเถอะ ต่อไปผมจะทำให้คุณยิ้มกว้างกว่านี้อีก คุณคอยดูนะ” ณธิปตั้งปณิธานกับตนเอง ก่อนกลับไปพักผ่อนบ้างเช่นกัน











   เช้าวันนี้กมลตื่นเร็วเป็นพิเศษ อาจเป็นเพราะเมื่อคืนเขานอนหลับๆ ตื่นๆ บ่อยครั้ง ชายหนุ่มจึงลุกขึ้นมาและลงไปออกกำลังกายที่ฟิตเนส กระตุ้นให้ตัวเองกระปรี้กระเปร่า เรียบร้อยแล้วจึงขึ้นมาอาบน้ำอาบท่าเตรียมตัวไปทำงาน ทว่าก่อนที่จะออกจากห้อง เขาก็อุ่นอาหารแช่แข็งง่ายๆ ทานรองท้องก่อนไป



   ระหว่างนั้นไม่รู้อะไรดลใจ ชายหนุ่มจึงเดินไปหยิบถุงของขวัญที่ได้รับเมื่อวานมาเปิดดู กล่องสองกล่องในถุงเดียวทำให้กมลรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย



   ทำไมจึงมีสองชิ้นกัน



   แต่ณธิปก็ไม่มีโน้ตเขียนอธิบายไว้สักนิด เขาจึงต้องลงมือเปิดดูว่าอะไรกันที่อีกฝ่ายตั้งใจซื้อมาให้ ของกล่องแรกเป็นคัฟลิงค์รูปทรงเรียบๆ แต่เป็นสไตล์แบบที่กมลชอบพอดี เขายิ้มนิดๆ กับของชิ้นเล็ก ก่อนเลื่อนมาเปิดกล่องใหญ่



   แกะกระดาษไปกินอาหารเช้าไป กระทั่งเปิดฝากล่องออก สิ่งที่ซ่อนตัวอยู่ด้านในนั้นนอนจ้องกมลเขม็งจากก้นกล่อง และแววตาใสซื่อกับขนปุกปุยสีน้ำตาลก็ทำให้อาหารเช้าเกือบจะพุงทะลักออกมาจากปาก



   ตุ๊กตา! คนอย่างณธิป โชติตระกูล ซื้อตุ๊กตาให้เขา!



   “ฮะ…ฮะ ฮ่าๆๆๆ”



ทีแรกแค่หลุดหัวเราะออกมาเบาๆ หากหลังจากที่จ้องเจ้ากระต่ายหน้าตาใสซื่ออีกรอบ กมลก็หลุดหัวเราะออกมาเสียงดังแบบไม่อาจกลั้น เขาไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้ณธิปซื้อมันมาให้เขา แต่เห็นทีว่าต่อไปกมลคงต้องมองณธิปใหม่เสียแล้ว




เพราะผู้ชายคนนั้นน่ะ…น่ารักกว่าที่เขาคิดเยอะเลยนี่นะ







<><><><><><><><><><><><><><><><><><><>




ตอนนี้ต้องอ่านตอนขยายในตอนพิเศษ วันเกิด ค่ะ จะรับรู้อะไรในมุมมองคุณไอมากขึ้น
คือคนน่ารักมักใจร้ายอ่ะนะ 555555555
ตาเล็กก็ต้องพยายามต่อไป นี่ยังจิ๊บๆ

คืออาจจะสงสัยว่าทำไมเล็กเปลี่ยนไปขนาดนี้
ไม่รู้จะอธิบายยังไง ประมาณคนไม่เคยรักใคร พอรักแล้วก็อยากได้เขามาก
ไม่อยากผิดหวัง กลัวเจ็บ คุณเขามีปมของเขา
พฤติกรรมหลายๆ อย่างเหมือนเด็กบ้าง ปนๆ กันไป นี่แหละคุณเล็กล่ะ

ยังไงก็ฝากด้วยนะคะ

เจอกันตอนหน้าน้าาา


ปล.
มีรูปTimeline เรื่องนี้ให้ดูในเพจค่ะ เวลาในเรื่องคือผ่านมาปีกว่าแล้วที่พระ-นายรู้จักกัน
ใครอยากทบทวน หรืออยากรู้ว่าช่วงไหนเกิดอะไรขึ้นบ้างคร่าวๆ  ลองไปดูได้ค่ะ



ละอองฝน.


   
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 20 [30/04/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: A-J.seiya* ที่ 30-04-2017 20:37:10
ฮืออออออ
ุคุณเล็กกกกกกก โอ้ยยย
พ่อเจ้าประคุณ น่าสงสารเหลือเกิน
เชื่อเถอะว่านี่เป็นผลกรรมจากการแช่งของคู่ควงทุกคน ถถถถถ
เอานะ พยายามเข้าไปมากๆ อย่างน้อยวันนี้คุไอก็หัวเราะแล้วน้าาา ^_____^
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 20 [30/04/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 30-04-2017 20:39:13
สรุปก็ทำตามที่เพื่อนแนะนำสินะคุณเล็ก  :hao3:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 20 [30/04/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 30-04-2017 20:55:32
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 20 [30/04/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 30-04-2017 21:12:24
คุณไอ น่ารักจริง เหมาะกับตุ๊กตาซะด้วย ช่างเลือกดีมาก คุณเล็ก
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 20 [30/04/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: larynx ที่ 30-04-2017 21:16:05
กราบขอบพระคุณพี่พิเชษฐ์มา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ 55555555555  :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 20 [30/04/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 30-04-2017 21:50:57
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 20 [30/04/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 30-04-2017 22:00:16
 :pig4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 20 [30/04/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 30-04-2017 23:27:48
แต่ก็แอบสงสารคุณเล็ก ตอนนี้ยังไม่มีวี่แววจะมีใจเลย  :z3:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 20 [30/04/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 30-04-2017 23:58:22
อย่างน้อยความพยายามครั้งนี้ก็ทำให้คุณไอหัวเราะได้นะ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 20 [30/04/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: mkianit ที่ 05-05-2017 02:37:09
โอ้ยใจแข็งสุดๆแต่ก็นะของดีย่อมได้มายากคุณเล็กกสู้เค้าาา ทุ่มสุดใจยังไงนุ้งไอต้องเห็นใจ5555555555555555555ในเมื่อจับฉลากได้แล้ว ย่อมคู่กัน อิอิ :hao7:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 20 [30/04/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 05-05-2017 11:34:18
เชียร์เล็กนะ อยากเห็นโมเม้นหวานๆ
แต่เกิดเป็นแฟนกันจริงๆ คงสนุกน่าดูเพราะคงเจอกัยพี่เมฆบ่อยขึ้น
ปวดหัวแน่ๆ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 21 [02/06/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ละอองฝน ที่ 02-06-2017 02:46:21








คุณคือความรัก บทที่ 21










   วันเกิดของกมลล่วงเลยมากว่าสองอาทิตย์ แต่ณธิปกลับไม่มีโอกาสได้ทำแต้มเพิ่มมากนัก เนื่องจากงานของเขายุ่งเกินกว่าจะไปพบเจอกมลเหมือนดั่งใจคิด ขนาดที่ว่าบางวันเขาแทบไม่มีเวลาโทรไปหาอีกฝ่ายด้วยซ้ำ ได้แต่เพียรส่งข้อความหาก่อนเข้านอนหรือทักทายตอนเช้าเท่านั้น



   แต่หลังจากเคลียร์โปรเจกต์เร่งด่วนจนสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ณธิปก็คิดว่าเป็นโอกาสดีที่จะลองโทรไปนัดหนุ่มหน้าหวานทานข้าวดูสักที



   เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาอีกฝ่าย ในใจก็ภาวนาให้กมลไม่ติดงานและยอมรับสาย ซึ่งดูเหมือนว่าครานี้คำอธิษฐานของเขาจะได้ผล


   [สวัสดีครับ]


   “ยุ่งอยู่หรือเปล่าครับคุณไอ”


   [ไม่ยุ่งครับ คุณณธิปมีอะไรหรือเปล่า]


   ฟังจากน้ำเสียงที่ไม่ได้เย็นชาเหมือนกับที่แล้วๆ มาของคนปลายสาย ชายหนุ่มจึงรีบฉวยโอกาสทันที “เย็นนี้คุณว่างไหม”


   [มีเข้าไปคูความเรียบร้อยในงานให้ลูกค้านิดหน่อยครับ ทำไมหรือ]



   คำตอบที่ได้ยินทำให้ณธิปรู้สึกห่อเหี่ยวลงไปหลายส่วน แต่ด้วยความรู้สึกคิดถึงชายหนุ่มจึงลองดึงดันดูอีกนิด เผื่อจะมีโอกาสได้พบกัน



   “เลิกดึกหรือเปล่าครับ ผมว่าจะชวนคุณทานมื้อเย็น”


   [อืม…ก็คงจะดึกสักหน่อย เอาไว้โอกาสหน้าได้ไหม] กมลปฏิเสธตามคาด


   “งั้นผมให้คุณนัดดีกว่า คุณไอว่างวันไหน อย่าบอกว่าไม่ว่างเลยสักวันนะ ผมจะบุกไปที่ I promise จริงๆ ด้วย” ณธิปทำทีว่าพูดติดตลก แต่ความจริงแล้วเขาคิดทำเช่นนั้นจริงๆ เพราะถ้าไม่ได้พบหน้ากมลนานเข้า เขาคงจะหมดความอดทนแน่ๆ


   [ขอดูตารางเดี๋ยวนะครับ] ปลายสายบอกเช่นนั้น ก่อนเงียบหายไปสักครู่ [วันอาทิตย์คุณว่างไหม]


   “ว่างครับ”



คนรอรีบตอบไปทันทีโดยยังไม่ทันได้เช็คว่าตนเองมีคิวหรือเปล่า แต่เพราะณธิปคือณธิป แม้ว่าในวันนั้นเขาจะมีนัดกับใครไว้ ชายหนุ่มก็สามารถทำให้มันขยับเลื่อนออกไปได้เพื่อรอพบกมล



   [งั้นเป็นช่วงบ่ายวันอาทิตย์นะครับ ส่วนเรื่องสถานที่คุณช่วยเลือกแล้วกัน]


   “ให้ผมไปรับที่บ้านไหม หรือคุณค้างคอนโด เราจะได้ไปด้วยกันเลย”


   [ผมมีธุระก่อนนิดหน่อย เอาเป็นว่าเราเจอกันที่ร้านเลยดีกว่าครับ]


   “เอางั้นก็ได้ครับ ยังไงผมจะแชร์โลเคชั่นไปให้นะ”


   [ครับ]


   “แล้วเจอกันครับ”


   [ครับ]



   ครั้นวางสายแล้วเลขาฯ หน้าห้องของผู้บริหารใหญ่ก็หอบแฟ้มเอกสารเข้ามา พร้อมกับแจกแจงรายละเอียดของงานแต่ละชิ้น



   “วันนี้ผมมีกำหนดการอะไรเร่งด่วนอีกหรือเปล่าเจี๊ยบ”


   “มีแค่เอกสารให้พิจารณาเท่านี้ค่ะ” หญิงสาวรายงาน


   “ไม่ได้มีนัดสำคัญกับใครไว้นะ”


   “ใช่ค่ะ” เธอพยักหน้ารับก่อนขณะค่อยๆ ส่งแฟ้มเอกสารให้ณธิปทีละแฟ้ม รอกระทั่งเรียบร้อยดีหญิงสาวจึงกลับออกไป ทิ้งให้ณธิปนั่งอยู่เพียงลำพังในห้อง



วันนี้ไม่มีงานเร่งด่วนที่ต้องสะสาง ทั้งยังไม่มีนัดที่ไหนอีก ชายหนุ่มจึงตัดสินใจว่าจะกลับไปพักผ่อน เนื่องจากอ่อนล้าจากการโหมงานหนักมาหลายวัน



ณธิปบอกเลขาฯ ไว้ว่าจะกลับ และสั่งให้คนขับรถมารับ สักพักจึงออกจากห้องทำงาน ทว่าระหว่างที่ลงลิฟต์มาชั้นล่าง ชายหนุ่มก็ได้พบกับเพื่อนนักแสดงของตนเองโดยบังเอิญ



“แกมาทำอะไรที่นี่เชษฐ์”


“แล้วแกกำลังจะไปไหนน่ะเล็ก” ทั้งสองถามขึ้นพร้อมๆ กัน ทว่าณธิปเลือกที่จะตอบก่อน


“ฉันกำลังจะกลับ”


“ผู้บริหารมันสบายอย่างที่เขาว่าจริงๆ สินะ กลับบ้านแต่หัววันเลย” พิเชษฐ์สัพยอกเพื่อน


“สบายอะไรล่ะ เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว นี่เพิ่งตกลงเรื่องส่วนต่อขยายที่เชียงใหม่เรียบร้อย ก็เลยมีเวลาหายใจหายคอบ้าง” ณธิปตอกกลับทันที เพราะนาทีนี้หากใครว่าเป็นผู้บริหารแล้วสบายเหมือนในละครหลังข่าว เขาจะเถียงให้หัวชนฝาทีเดียว


“เอาน่าอย่าโมโหสิ ไม่ได้เจอกันตั้งนาน ทำเกรี้ยวกราดใส่เพื่อนไปได้”


“เฮ้อ…” ณธิปถอนหายใจกับท่าทางเล่นหูเล่นตาของพ่อนักแสดงหนุ่ม ก่อนจะถามอีกครั้ง “แล้วตกลงว่ามาทำอะไรที่นี่ ว่างหรือไง”



ในแวดวงการบันเทิงไทย พิเชษฐ์ถือเป็นดาราที่ดังพอสมควร งานจึงค่อนข้างชุก ดังนั้นจึงหาได้ยากที่ชายหนุ่มจะว่างในช่วงที่มีถ่ายละครเช่นนี้ แต่เพราะนี่เป็นงานของน้องชายผู้จัดการส่วนตัวคนสนิท พิเชษฐ์จึงต้องปลีกตัวมาอย่างเสียมิได้



“มางานแต่งน้องชายพี่อ๋อมน่ะ แต่กว่างานจะเริ่มก็เย็นๆ ฉันเลยกะว่าจะขึ้นไปคุยกับแกก่อน ไม่คิดว่าจะกำลังกลับ แล้วนี่ฉันจะอยู่กับใครล่ะ”


“’งั้นไปนั่งที่เลานจ์ด้วยกันก่อน” ถึงจะอยากพัก แต่แค่นั่งคุยกับเพื่อนสักชั่วโมงสองชั่วโมงก็คงไม่เป็นไร ณธิปคิดก่อนเดินนำพิเชษฐ์ไปยังเลาจน์ของโรงแรม
   


พวกเขาเลือกที่นั่งที่เป็นส่วนตัว ก่อนจะสั่งเครื่องดื่มมาจิบแล้วคุยเรื่องสัพเพเหระไปเรื่อย กระทั่งได้เวลา ผู้จัดการของพิเชษฐ์จึงโทรมาหาเพื่อเรียกให้เข้าไปร่วมงาน
   


ณธิปเดินไปส่งเพื่อนที่ห้องบอลรูมเพื่อดูภาพรวมการบริหารของโรงแรมตนเองนิดหน่อย จากนั้นก็ตั้งใจว่าจะกลับ ทว่าก็เกิดเรื่องบังเอิญขึ้นอีกครั้ง และครั้งนี้ชายหนุ่มก็อดคิดไม่ได้แล้วว่า



   หรือนี่จะเป็นสิ่งที่เขาเรียกกันว่า พรหมลิขิต



   บุคคลที่ต่อให้มองเพียงด้านหลังก็จำได้ไม่ลืม ยืนอยู่ท่ามกลางแขกเรื่อในงาน แม้จะกลมกลืน แต่สายตาของณธิปกลับเห็นว่าคนคนนี้ช่างโดดเด่นเสียจนไม่อาจละสายตาไปได้



   ดวงตารีเรียวจ้องแผ่นหลังของใครคนนั้นอยู่เนิ่นนาน กระทั่งเขาหันหน้ามาและสายตาปะทะกัน ณธิปจึงรู้สึกตัวว่านาทีนั้นเขาดูเหมือนคนซื่อบื้อมากแค่ไหน



   เขาไม่รู้ว่าตนเองทำหน้าอย่างไร แต่กลับรู้สึกว่าก้อนเนื้อที่ซ่อนอยู่ในอกกำลังเต้นด้วยความยินดี



   กมลยิ้มทักทายตามมารยาท หากดวงตากลับมีแววสงสัยระริกอยู่วูบหนึ่ง ก่อนเจ้าตัวจะถูกใครบางคนเรียกให้หันกลับไป และเดินหายไปท่านกลางฝูงชนในที่สุด



   “ตกลงจะกลับ หรือจะอยู่ต่อกับฉันในงาน” พิเชษฐ์เอ่ยขึ้นหลังจากที่ยืนดูเพื่อนตกอยู่ในภวังค์แห่งรักมาสักพัก


   “เจ้าภาพเขาไม่ได้เชิญฉัน จะดูน่าเกลียดหรือเปล่า” อันที่จริงเขาก็ถามไปอย่างนั้น เพราะในใจมันตอบตั้งแต่แรกแล้วว่ายังไงก็ต้องอยู่ต่อ


   “เขาจะไปว่าอะไรล่ะ แกเป็นเพื่อนฉัน ใครๆ ก็รู้” พิเชษฐ์ว่า ก่อนจะพาเพื่อนไปถ่ายรูปกับบ่าวสาวที่แบล็คดร็อป
   










   งานวิวาห์นี้จัดการได้ดี ลำดับพิธีการเป็นระบบ คนไม่มากเท่าไหร่ ส่วนใหญ่มีแต่ญาติๆ และเพื่อนสนิท บรรยากาศจึงดูอบอุ่น ไม่ได้น่าเบื่อเลยสักนิด ทว่ากับคนที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับบ่าวสาวอย่างณธิป เขาสารภาพตามตรงว่าค่อนข้างเบื่อนิดหน่อย ดีที่ยังมีคนให้คอยมองหาบ้าง



   กระทั่งเวลาผ่านไปจนถึงช่วงอาฟเตอร์ปาร์ตี้ คนที่ทำให้ณธิปยอมหน้าทนเข้ามานั่งในงานแบบเนียนๆ ก็ทำท่าคล้ายจะกลับ ผู้บริหารใหญ่ของโรงแรมจึงลุกตามไปด้วย หากไม่ลืมล่ำลาเพื่อนก่อนออกจากงาน



   พิเชษฐ์ไม่ได้รั้งเพื่อนสนิทไว้ เพราะรู้ว่าณธิปมาที่นี่ด้วยจุดประสงค์อะไร ทั้งยังสนุกกับงานเกินกว่าจะวุ่นวายกับเรื่องของเพื่อน ณธิปจึงไม่เสียเวลามากในการตามกมลไป



   ขณะที่ย่ำเท้าผ่านโถงทางเดินอยู่นั้น ชั่วแวบหนึ่งณธิปก็มีความคิดว่าเขาดูน่ารำคาญเกินไปหรือเปล่านะ แต่ด้วยความรู้สึกบางอย่างข้างในมันเรียกร้อง ชายหนุ่มจึงผลักความคิดนั้นไปเก็บไว้ข้างๆ ก่อน เพราะขอแค่ตอนนี้ได้มีเวลาสักอึดใจในการเดินไปส่งกมลที่รถ แม้จะถูกหาว่าน่ารำคาญไปสักหน่อยก็นับว่าคุ้มค่า



   ดูเหมือนฟ้าข้างบนจะเป็นใจให้ฝนเทกระหน่ำลงมาอย่างหนัก ซ้ำกมลก็ทำท่าเหมือนจอดรถไว้ด้านนอกเสียด้วย ณธิปจึงรีบฉวยโอกาสล้ำค่านี้เอาไว้ทันที



   ณธิปส่งสายตาหยุดพนักงานของโรงแรมไม่ให้ถือร่มและเดินเข้ามาหากมลในตอนนี้ ก่อนเป็นตัวเองที่เดินเข้าไปหยุดอยู่ด้านหลังของกมลแทน


“คุณไอ”


กมลหันมาหาตามเสียงเรียก “คุณณธิป”


“จอดรถไว้ข้างนอกหรือครับ” ณธิปถามยิ้มๆ ทั้งที่คาดไว้อยู่แล้ว


“ครับ” คนหน้าหวานพยักหน้ารับ พร้อมกับบ่นเบาๆ “แต่ดันลืมร่มไว้ในรถเสียได้ ทั้งที่อุตส่าห์ติดมาด้วยทุกครั้งแท้ๆ”


“ร่มเอาไม่อยู่หรอกครับ รอให้ฝนซาก่อนค่อยไปดีไหม”


“เอ่อ…” กมลอึกอัก “ไม่ดีกว่าครับ ผมอยากกลับไปพักผ่อน”


“ถ้างั้นคุณอยู่ตรงนี้กับผมก่อน เดี๋ยวผมจะให้คนไปเอารถของคุณมาให้”


“อย่าลำบากคนอื่นเลยครับ ผมขอยืมร่มของโรงแรมหน่อย พอจะมีไหมครับ”


“หึๆ ก็ต้องมีสิครับ” ณธิปคิดไว้อยู่แล้วว่ากมลต้องปฏิเสธที่จะอยู่ต่อ เขาหันไปมองพนักงานของตนแวบหนึ่ง พนักงานคนนั้นจึงรีกุลีกุจอเอาร่มคันใหญ่มาให้ทันที


“ขอบคุณมากครับ แล้วผมจะเอามาคืน--” ยังไม่ทันพูดจบ ณธิปก็ยื่นมือไปฉกร่มคันใหญ่ต่อหน้า ก่อนจะเอ่ย


“ผมจะไปส่ง”


“ไม่ต้องลำบากหรอกครับ ผมไปเองได้” กมลเอื้อมแขนไปตั้งใจดึงร่มมาไว้ในมือ ทว่าณธิปกลับไวกว่า


“ผมอยากเดินไปส่งคุณ”


“แต่ฝนมันตกนะครับ ร่มคันแค่นี้ เดี๋ยวก็เปียกพอดี”


“คุณดูสิ” คนเจ้าเล่ห์ชี้ออกไปด้านนอก “ฝนเริ่มซาลงกว่าเมื่อครู่นิดหน่อยแล้วนะ ผมว่าเรารีบไปกันเถอะ”


“เดี๋ยวคุณ!”



เหมือนกับเสียงประท้วงของกมลไม่มีความหมาย เพราะทันทีที่ร้องออกไป คนหน้ามึนก็จับต้นแขนแล้วดึงเบาๆ ให้เขาออกจากล็อบบี้ กมลไม่อยากสะบัดหรือปัดป้องจนทำให้เป็นเป้าสายตาของใครจึงได้แต่ยอมเดินตามไปทั้งอย่างนั้น



เสียงฝนตกกระทบร่มคันใหญ่ดังเปาะแปะ แม้มันจะซาลงเล็กน้อยอย่างที่ณธิปบอกเมื่อครู่จริงๆ แต่ก็ยังไม่น้อยพอ เพราะพวกเขายังต้องเดินเบียดกันใต้ร่มอยู่ดี



กมลรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย ทว่าณธิปกลับรู้สึกรื่นรมย์สุดๆ เขาอยากให้ทางไปลานจอดรถกลางแจ้งอยู่ไกลอีกสักหน่อย



“ทำไมคุณถึงชอบบังคับนักนะ” คนหน้าหวานอดไม่ได้ที่จะบ่นออกมาเบาๆ



ทั้งที่ตอนนั้นยังบอกว่าจะยอมทำตามที่เขาบอกทุกอย่าง หากเขาลำบากใจก็จะไม่บังคับ แต่ทำได้ไม่นาน นิสัยเผด็จการก็กลับมาอีกครั้ง



“ผมเปล่านะ” ณธิปรีบปฏิเสธทันที เขาไม่ได้บังคับ แต่นี่เป็นสิ่งที่เขาจำเป็นต้องทำอยู่แล้วมิใช่หรือ


“ที่ไหนกันล่ะครับ ดูสิ ไม่เห็นจำเป็นต้องตามมาส่งผมเลย”


“จำเป็นสิ มันเป็นหน้าที่อยู่แล้ว”


“ไมใช่หน้าที่สักหน่อย ผมดูแลตัวเองได้ครับ”


“แต่ผมอยากดูแลคุณ”


“…” กมลไม่รู้ว่าประโยคนี้จริงใจแค่ไหน แต่คำนี้ที่ออกมาจากปากณธิปมันก็ทำให้เขาถึงกับแย้งไม่ได้


“อันที่จริงอยากขับรถไปส่งที่บ้านด้วยซ้ำ” จอมเผด็จการยังคงเอ่ยต่อ


“ผมกลับเองได้ครับ รถก็เอามา…”


“ก็นั่นไง เพราะคุณต้องบอกแบบนี้ ผมถึงเดินมาส่ง”


“เฮ้อ…” ถึงจะเถียงไปจนถึงรถ กมลก็คิดว่าเขาไม่มีทางชนะ ดังนั้นจึงได้แค่ถอนหายใจออกมาเบาๆ


“คุณรำคาญผมหรือเปล่า”


“…”


ไม่ทันตอบ ณธิปก็พูดต่อ “อันที่จริงผมแค่อยากใช้เวลากับคุณเพิ่มอีกนิด เราไม่เจอกันหลายวันแล้วนะ”


“เดี๋ยววันอาทิตย์เราก็ได้เจอกันแล้ว”


“ตั้งวันอาทิตย์”


“แค่วันอาทิตย์เอง ไม่กี่วันก็ถึงแล้ว”


“นี่ก็ไม่กี่นาทีเอง ที่ผมเดินมาส่งคุณ” ชายหนุ่มเงียบไปอึดใจหนึ่ง “แค่ไม่กี่นาที อย่ารำคาญเลยนะไอ



อีกไม่กี่ก้าวก็ถึงรถแล้ว แต่หลังจากที่ณธิปพูดประโยคเมื่อกี้ กมลก็ไม่ตอบอะไรออกมาสักคำเดียว เงียบไปจนคนพูดใจหาย เขาไม่รู้ว่าตัวเองควรตีความกับความเงียบของอีกฝ่ายว่าอย่างไร



กมลจะเข้าใจแล้วอ่อนลง หรือ รำคาญจนหมดคำพูดกันแน่ ณธิปได้แต่เก็บความสงสัยไว้เท่านั้น เพราะกลัวว่าถ้าถามออกไป คำตอบอาจไม่เป็นอย่างที่เขาหวังก็ได้



ครั้นมาถึงรถ กมลก็เปิดประตูเข้าไปนั่ง โดยมีผู้บริหารหนุ่มยืนกางร่มให้จนประตูปิดสนิทอีกครั้ง เขาถูกละอองฝนสาดนิดหน่อยเสื้อผ้าจึงชื้นน้อยๆ ทว่าเมื่อมองไปยังคนที่ยืนอยู่ข้างรถ กมลกลับต้องเม้มปากแน่น เพราะร่างกายแถบหนึ่งของณธิปดูเปียกชุ่มไปหมด แม้แต่เส้นผมด้านนั้นยังมีหยดน้ำเกาะจนลู่และเสียทรง
   


นิ้วเรียวกดปุ่มให้กระจกเลื่อนลง กมลมองสบตาของณธิป ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนลง และเรียกชื่อที่ไม่เคยใช้เรียกอีกฝ่าย
   


“ตัวเปียกไปหมดแล้ว รีบกลับเถอะดีกว่านะ ขอบคุณที่มาส่งครับคุณเล็ก
   

เสียงฝนกระทบหลังคารถทำให้ณธิปได้ยินไม่ชัด แต่อะไรบางอย่างบอกณธิปว่าเมื่อครู่คุณไอเปลี่ยนคำที่ใช้เรียกเขาแน่ๆ “หะ…หื้ม?”


   “เจอกันวันอาทิตย์นะครับ”


   “ครับ” หากจะทักท้วงก็ไม่ทันเสียแล้ว เพราะอีกฝ่ายรีบตัดบทแล้วเลื่อนกระจกรถปิด ก่อนสตาร์ทเครื่องออกไป ทิ้งให้ณธิปยืนงงว่า หรือเมื่อครู่เขาหูฝาดไปเองกัน



   แต่เอาเถอะ ถ้ามีครั้งแรกก็ต้องมีครั้งที่สอง และครั้งหน้ามันจะต้องได้ยินชัดจนหัวใจเขาเต้นดังกว่านี้แน่ๆ    









<><><><><><><><><><><><><>




/คลานเข่า

มาต่อแล้วค่าาาาา

ช่วงนี้ฝนค่อนข้างยุ่งมากหน่อย ขอโทษที่หายไปนานนะคะ



ส่วนตอนนี้มีเพลงมาให้คุณเล็ก 1 ท่อน

"อย่ารำคาญกันเลย นะเธอจ๋าาาา"  :laugh:

มีใครเริ่มหันมาเชียร์คุณเล็กนิดหน่อย ลงชื่อไว้เลยค่ะ เล็กจะตามไปกางร่มให้ /ผิด 55555


เจอกันตอนหน้าค่ะ


ละอองฝน.
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 21 [02/06/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 02-06-2017 03:18:58
ได้แต่หวังว่าคงไม่ดีแตกนะ ถ้ารักจริงหวังแต่งก็พยายามต่อไปละกัน
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 21 [02/06/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 02-06-2017 03:30:36
อะ. มีเรียกชื่อเล่นด้วย
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 21 [02/06/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: pigarea ที่ 02-06-2017 06:23:36
ใจแข็งมากๆ เลย แอบสงสารคุณเล็ก
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 21 [02/06/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 02-06-2017 11:10:57
เริ่มจะใจอ่อนแล้วสิคุณไอ~

สู้ต่อไปคุณเล็ก :mew1: o13
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 21 [02/06/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: mkianit ที่ 03-06-2017 01:04:55
วงวารคุณเล็ก แต่เจอของจริงซะบ้างจะได้จำ อิ้อิ้
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 21 [02/06/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 03-06-2017 12:59:23
เพิ่งเข้ามาอ่านค่า

มาเป็นแฟนคลับ คุณเล็ก ว่าที่พ่อบ้านใจกล้า
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 21 [02/06/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: A-J.seiya* ที่ 07-06-2017 00:56:40
คุณเล็กของบ่าว
คลานเข่าเข้าหาเลยค่าาา
ฮือออ คุณไอต้องใจอ่อนแน่ๆๆๆ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 21 [02/06/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Littlesir ที่ 01-07-2017 08:16:20
มารอฮะ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 21 [02/06/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 01-07-2017 15:33:12
 :katai5:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 21 [02/06/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: love boy ที่ 05-07-2017 12:26:50
 :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 21 [02/06/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 05-07-2017 23:47:37
ไอ คู่กับนภัทรได้มั๊ย
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 22 (ครึ่งแรก) [24/07/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ละอองฝน ที่ 24-07-2017 23:28:25






คุณคือความรัก บทที่ 22 ครึ่งแรก




ในวันหยุดแต่ละครั้ง ณธิปมักจะนอนตื่นสายเป็นประจำ ทว่าสุดสัปดาห์นี้เขากลับตื่นขึ้นมาแต่เช้าเพื่ออาบน้ำและบรรจงแต่งตัว  จนลงมาทันได้ทานมื้อเช้าพร้อมหน้าครอบครัว ซึ่งทุกๆ คนก็แสดงออกถึงความประหลาดใจ ไม่เว้นแม้แต่พ่อของเขา


   
“วันนี้มีอะไรพิเศษหรือเปล่านะ ลูกแม่ตื่นเช้าทั้งคู่เลย” คุณหญิงประภัสสรเงยหน้าขึ้นยิ้มหวานให้ลูกชายคนเล็กที่เดินมาเลื่อนเก้าอี้นั่งข้างลูกชายคนโต


“พอดีมีนัดทานข้าวกับเพื่อนน่ะครับคุณแม่” ณภัทรตอบก่อน


“แล้วเราล่ะตาเล็ก”


“ผมก็มีนัดเหมือนกันครับ”


“อะไรกัน วันหยุดแท้ๆ ลูกแม่มีนัดออกนอกบ้านกันหมด” ผู้เป็นแม่บ่นอุบอิบเล็กน้อย ก่อนสั่งให้สาวใช้ตั้งโต๊ะให้ณธิปกับณภัทร



บรรยากาศบนโต๊ะอาหารของบ้านโชติตระกูลผ่านไปเรียบๆ เพราะมีเพียงคุณหญิงประภัสสรคนเดียวเท่านั้นที่คอยชวนคุยนั่นคุยนี่ ส่วนผู้เป็นพ่อกับลูกชายคนเล็ก แม้จะไม่ได้มึนตึงกันเหมือนที่ผ่านมา แต่ก็ไม่ไม่ใครเอ่ยปากพูดอะไรกันสักคำ จนกระทั่งลูกชายทั้งสองออกจากบ้านไปแล้ว ประภัสสรจึงได้เอ่ยกันสามีของเธอ



“คุณนันต์ ยังไม่หายเคืองตาเล็กอีกหรือคะ นี่ลูกก็ทำตัวอยู่กับร่องกับรอยมาพักใหญ่แล้วนะคะ”


“ผมก็ไม่ได้เคืองอะไรมันนี่” อนันต์ว่า


“อ้าว! นี่คุณหายโกรธตาเล็กแล้วหรือคะ” ครั้นสามีพยักหน้าตอบ ประภัสสรก็ยิ้มกว้าง ไม่เสียแรงที่แม่สามีของเธอเกลี้ยงกล่อมให้หลานชายเลิกทิฐิกับพ่อ แล้วกลับมาขอโทษเรื่องล้มงานแต่งงานได้สำเร็จ “เอ…แล้วทำไมคุณไม่คุยกับลูกเลยล่ะคะ”


“มันก็เป็นปรกติของผมอยู่แล้ว เจ้าตัวแสบนั่นต่างหากที่ไม่ยอมพูด”


“เห็นคุณทำหน้าตึงใส่แบบนี้ เจ้าเล็กคงคิดว่าคุณยังโกรธอยู่ เอาเถอะค่ะ ไว้ฉันจะคุยกับลูกเอง”


“อืม” เห็นภรรยายิ้มแย้มแจ่มใส คนเป็นสามีก็พลอยอารมณ์ดีไปด้วย อันที่จริงเขาหายโกรธเจ้าลูกชายตัวดีนานแล้ว ด้วยเห็นว่าลูกยอมอ่อนให้และเข้ามาขอโทษ เพียงแต่ที่ต้องทำขรึมไว้ก็เพราะไม่อยากให้ณธิปได้ใจเกินไปนัก ประเดี๋ยวจะคิดไปเองว่าพ่อยอมให้อภัยง่ายๆ และกลับไปทำเรื่องเหลวไหลซ้ำๆ อีก


“ว่าแต่ช่วงนี้เจ้าเล็กทำตัวดีผิดปรกตินะคะ คุณว่าไหม”


“ทำตัวดีมันผิดปรกติยังล่ะคุณ ให้มันเป็นอย่างคนอื่นเขาบ้างก็ดีแล้วไม่ใช่หรือ”


“ก็ถูกค่ะ แต่ฉันว่ามันผิดปรกติ ไม่รู้ว่ามีอะไรหรือเปล่า เดี๋ยวคงต้องให้คนไปคอยดูสักหน่อย”


“ไม่เข้าเรื่องน่า ทำเหมือนเจ้าเล็กเป็นเด็กไปได้” อนันต์ส่ายหัวไม่เห็นด้วยกับความคิดของภรรยา


“ไม่รู้ละค่ะ ต้องเช็คพฤติกรรมหน่อย เผื่อลูกไปมีแฟนหรือคว้าใครไม่รู้มาเป็นสะใภ้จะทำยังไงคะ นักข่าวยิ่งชอบเล่นข่าวเสียๆ ของตาเล็กอยู่ด้วย เอาเป็นว่าคอยสอดส่องไว้ก่อน เกิดอะไรขึ้นจะได้รีบแก้ไขทัน” ประภัสสรว่าเป็นมั่นเป็นเหมาะ สามีของเธอจึงไม่อาจขัดใจ


“ถ้าอย่างนั้นก็ตามใจคุณแล้วกัน”




ณธิปฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีขณะขับรถไปยังที่หมายที่นัดกับกมลไว้ วันนี้เขาตั้งใจจะทำคะแนนกับอีกฝ่ายเต็มที่ ทั้งเลือกร้านอาหารที่คิดว่ากมลน่าจะชอบ และวางแผนไปถึงว่า หากอีกฝ่ายยอม ก็จะพาไปขับรถเล่นเลียบหาดใกล้กรุงเทพฯ อีกด้วย



เรียกได้ว่าหลายวันมานี้เขาศึกษาจากสายสืบใน I promise Tower มาเป็นอย่างดี ว่าคุณไอของเขานั้นชอบอะไร ทั้งอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว และงานอดิเรก ณธิปมั่นใจว่าอย่างไรก็ตาม วันนี้เขาจะไม่ยอมพลาดอย่างแน่นอน



ทว่า บนโลกใบนี้มีเรื่องไม่คาดฝันมากกว่าที่ณธิปคิดไว้


ครืด ครืด~


เหลือบมองชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอแวบเดียว ชายหนุ่มก็รีบกดรับสายทันที “ครับ คุณไอ”


[คุณณธิปอยู่ไหนแล้วครับ]


“ผมกำลังเดินทาง ใกล้ถึงร้านที่เรานัดกันไว้แล้วล่ะครับ คุณถึงแล้วหรือ”


[ยังครับ] ปลายสายเงียบไปนิด ก่อนเอ่ยต่อด้วยเสียงอ้อมแอ้ม [คือว่า…]


“มีอะไรก็พูดเลยครับ ผมรอฟังอยู่”


[ผมขอโทษนะครับ แต่วันนี้ผมคงต้องขอยกเลิกนัดของเราก่อน]


ประโยคที่ได้ยินทำเอาสมองของณธิปขาวโพลนไปชั่วครู่ ต่อจากนั้นชายหนุ่มก็รีบเบี่ยงรถมาจอดข้างทาง แล้วตั้งใจคุยกับกมลอย่างจริงจัง


“คุณหมายความว่ายังไงไอ จะยกเลิกนัดผมตอนนี้น่ะหรือ”


[ขอโทษจริงๆ ครับ] ฟังจากน้ำเสียงณธิปก็รู้ว่าอีกฝ่ายขอโทษด้วยความรู้สึกผิดจริงๆ หากตัวเขาเองก็อดรู้สึกน้อยใจไม่ได้ที่มาถูกยกเลิกเอาตอนนี้ [ผมมีธุระสำคัญ เป็นความผิดของผมเองที่ไม่ดูวันให้ดีก่อน]


“เรื่องงานใช่หรือเปล่า”


[ไม่ใช่ครับ] กมลเว้นไปนิด เพราะมีเสียงเจี๊ยวจ๊าวดังแทรกขึ้นมา [พอดีวันนี้เป็นวันเกิดของหลานๆ น่ะครับ ผมไม่ได้เขียนไว้ในตารางงานที่ดูวันนั้น แถมยังลืมนึกถึงเลยรับนัดคุณไป]


“วันเกิดน้องหยางกับน้องหยินหรือครับ”


[ครับ]


ครั้นได้ยินกมลยืนยัน คนหัวไวก็คิดบางอย่างออกทันที “ถ้าอย่างนั้นผมไปด้วยได้ไหม จะรบกวนคุณหรือเปล่า”


[ไม่รบกวนหรอกครับ แต่คุณจะเบื่อหรือเปล่า พวกเราไปทำบุญ แล้วก็ปาร์ตี้เล็กๆ ที่บ้าน มีแต่เด็กๆ ทั้งนั้น] กมลว่า


“ผมไม่เบื่อหรอก เอาเป็นว่าผมขอไปด้วยนะ จะได้อวยพรวันเกิดให้เด็กๆ”


[ครับ] คราวนี้กมลยอมตกลงง่ายๆ เพราะรู้สึกผิดที่ยกเลิกนัดกะทันหัน และนั่นทำให้ณธิปกลับมาร่าเริงอีกครั้ง
   

ครั้นวางสายเรียบร้อย ณธิปก็รีบต่อสายหาเลขาฯ คนสวยของเขาทันที เพราะลำพังตัวเขาคงไม่รู้ว่าจะเตรียมของขวัญวันเกิดให้หลานกมลทันได้อย่างไรในเวลาจำกัดเช่นนี้ อีกอย่างเขาก็ไม่เคยซื้อของขวัญให้เด็กเสียด้วย


เมื่อบอกความต้องการให้แก่ผู้ช่วยคนเก่งรู้เรียบร้อย เธอก็ขอเวลาเขาไม่นานในการจัดหาของขวัญ พอถึงเวลาก็มีคนขับเอาทั้งขวัญกล่องใหญ่มาให้ณธิปถึงที่ ณธิปไม่ลืมโทรขอบอกขอบใจเลขานุการสาว ก่อนเดินทางไปบ้านของกมลตามที่เจ้าตัวได้ส่งโลเคชั่นมาให้เขาทันที








ขับรถเดี๋ยวเดียวหนุ่มเจ้าเสน่ห์ก็มาจอดเทียบท่าอยู่หน้าบ้านจัดสรรหลังหนึ่ง ซึ่งระยะทางไม่ไกลอย่างที่ณธิปคิด บ้านของกมลก็เป็นบ้านพิมพ์นิยมทั่วๆ ไป ขนาดกะทัดรัด เหมาะสำหรับครับครัวเดี่ยวในเมืองกรุง แต่ทั้งหมดทั้งมวลสิ่งที่ดึงดูดสายตาของณธิปมากที่สุดคือ รถที่จอดอยู่ตรงถนนนอกรั้วมากกว่า


เพราะในนั้นมีรถคันหนึ่งที่ณธิปรู้จักดี รถของณภัทร


ณธิปไม่อยากรู้ว่าพี่ชายของเขามาทำไม แต่ที่สงสัยคือใครเป็นคนชวนมากกว่า


แล้วคนที่รอคอยอยากพบเจอมาหลายวัน เป็นคนที่เขาสงสัยว่าจะชวนณภัทรมางานวันเกิดของหยินกับหยางก็เดินออกจากบ้าน ตรงมาที่รถของเขา ณธิปจึงเลื่อนกระจกรถลงเพื่อรอฟังสิ่งที่กมลพูด


“จอดตรงนี้เลยก็ได้ครับ ผมขออนุญาตข้างบ้านแล้ว แต่จอดให้ชิดริมฟุตปาธหน่อยนะครับ”


“ครับ” ณธิปรับคำ ก่อนจะจอดรถให้เรียบร้อยตามที่กมลบอก แล้วลงมาพร้อมกับของขวัญกล่องใหญ่ ทว่าพอกมลเห็น ก็ทำตาโตแล้วรีบเข้ามาช่วยถือ


“อะไรกันครับ กล่องใหญ่ขนาดนี้”


“เอาไว้ให้เด็กๆ เปิดดูก็รู้ครับ”


“ขอบคุณแทนเด็กๆ ด้วยนะครับคุณณธิป แต่ไม่จำเป็นต้องซื้อมาใหญ่โตขนาดนี้เลย สิ้นเปลืองเปล่าๆ”


“แค่นี้ไม่เท่าไหร่หรอก คุณอย่าคิดมาก” ณธิปบอกด้วยท่าทางสบายๆ แต่ก็ต้องแย้งบางอย่างออกไปคำหนึ่ง “ว่าแต่ทำไมเรียกณธิปเหมือนเก่าล่ะคุณ เปลี่ยนไปแบบไหนก็แบบนั้น ผมไม่อนุญาตให้เรียกชื่อจริงแล้วครับ” คนเจ้าเล่ห์ยิ้มมุมปาก อันที่จริงเขาไม่ได้ขัดใจแค่เรื่องที่คนหน้าหวานไม่ยอมเรียกชื่อเล่นเท่านั้น หากยังมีเรื่องณภัทรอีกหนึ่งที่ต้องคุยให้รู้เรื่อง กระนั้นณธิปก็ไม่อยากงี่เง่าให้เสียบรรยากาศตั้งแต่เริ่มต้น จึงระงับความหงุดหงิดเล็กๆ นั้นไว้ก่อน


“คุณทานอะไรมาหรือยังครับ” ก่อนเลี้ยวเข้าประตูบ้าน กมลก็เฉไฉไปอีกเรื่อง


“ยังเลย ผมหิ้วท้องรอทานพร้อมใครบางคน แต่ดันถูกเบี้ยวนัดเสียก่อนน่ะสิ พอหาของขวัญให้เด็กๆ ได้ ก็ดิ่งตรงมาที่นี่เลย” คนเจ้าเล่ห์เย้าแหย่


“ขอโทษอีกครั้งนะครับ ผมผิดเองที่ไม่ดูให้ดี” กมลหยุดแล้วหันไปเอ่ยกับคนข้างกายด้วยความสำนึกผิด


“ไม่เป็นไรครับ แค่คุณยอมให้ผมมาทานข้าวกับครอบครัว ผมก็หายน้อยใจแล้วล่ะ”


ได้ยินคำว่าน้อยใจ กมลก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะพรืดออกมานิดหน่อย “หึๆ”


“หัวเราะอะไรครับ” ณธิปรีบถาม


“ก็ผมไม่คิดว่าคนอย่างคุณจะน้อยใจเป็นกับเขาด้วยน่ะสิ”


“ผมก็คนนะครับ รู้สึกผิดหวังได้ น้อยใจได้เป็นธรรมดา คุณอย่าหัวเราะกันสิ” แม้เกือบครึ่งจะเป็นมารยาที่ผสมลงไปด้วยก็ตาม ณธิปคิดต่อในใจ


“โอเคครับ ผมไม่หัวเราะแล้ว เข้าบ้านเถอะครับ พวกเราเพิ่งไปทำบุญกลับมาจากบ้านเด็กกำพร้า กำลังจะทำอะไรทานพอดี”


“ครับ” ณธิปตอบรับขันแข็ง


มันไม่ใช่ความรู้สึกที่คิดไปเอง แต่คงด้วยวันนี้เป็นวันพิเศษ จึงทำให้กมลอารมณ์ดีมากกว่าปรกติ เหตุนี้เองจึงทำให้คนหน้าหวานทำตัวผ่อนคลาย พูดคุย และยิ้มแย้มกับเขาง่ายเป็นพิเศษ ณธิปเกือบจะเริงใจและลิงโลดไปกับบรรยากาศเข้าถึงง่ายของอีกฝ่ายอยู่แล้ว ถ้าหากว่าไม่หันไปเห็นใครอีกคนที่ยืนจ้องมาทางเขาเขม็ง ด้วยสายตาไม่เป็นมิตรชัดเจน


ใครคนนั้นไม่ใช่พี่ชายของเขา แต่เป็นนายเมฆา คนรักเก่าของหนึ่งนที ผู้ชายที่เคยถูกเขาแย่งแฟน


“อ้าวคุณเมฆ จะไปไหนครับ”


“คนอื่นๆ ยุ่งอยู่ในครัว ผมก็เลยอาสาออกมาตาม เห็นรักบอกว่าคุณไอไปหยิบซอสในรถ กลัวว่าจะหาไม่เจอน่ะครับ ไม่คิดว่าคุณไอมีแขก” สายตาคมดุจากเมฆาไม่ได้ทำให้ณธิปหวั่น แต่มันทำให้เขาหงุดหงิด


“ตายล่ะ! ผมลืมซอสเลยครับ” กมลว่า ก่อนจะหันมาแนะนำณธิป “นี่คุณณธิป เป็นเพื่อนของผมครับ”


“เล็กครับ ยินดีที่ได้รู้จัก” ณธิปปั้นหน้ายิ้ม ก่อนจะส่งมือไปหาเมฆา



คนหน้าดุมองหน้าณธิปสลับกับกมล ก่อนจะยื่นมือออกไปจับ ด้วยไม่อยากทำให้เจ้าของบ้านกังวลใจ “เมฆครับ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน”



ทว่าสายตาที่จดจ้องราวกับมีสายฟ้าพาดผ่านของทั้งสอง ไม่อาจรอดพ้นสายตากมลไปได้ ที่แรกหนุ่มหน้าหวานคิดจะเดินออกไปหยิบซอสด้วยตัวเอง แล้วให้เมฆาเดินนำณธิปเข้าบ้าน แต่ดูท่าว่าคงไม่ดีเท่าไหร่ เขาจึงต้องวานให้เมฆาไปเอาซอสให้แทนเสียแล้ว






><><><><><><>



พอดีสัญญาไว้ว่าจะมา แต่มาครึ่งเดียว ขอโทษจริงๆ ค่ะ /หันหลังให้โบย
แต่ไม่ไหวจริงๆ ได้ครึ่งตอนตาจะปิดแล้ว
อีกครึ่งขอมาต่อพรุ่งนี้นะคะ


ละอองฝน.
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 22 (ครึ่งแรก) [24/07/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 25-07-2017 01:32:11
 :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 22 (ครึ่งแรก) [24/07/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 25-07-2017 01:38:47
 :L2: ดีใจ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 22 (ครึ่งแรก) [24/07/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 25-07-2017 07:08:43
พี่เมฆดุจัง
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 22 (ครึ่งแรก) [24/07/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 25-07-2017 12:07:55
 :L2: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 22 (ครึ่งแรก) [24/07/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: bradpitt ที่ 11-08-2017 15:16:38




 
รอ อาเล็ก คุณไอ น้องหยิน น้องหยาง  มาไวไวนะ


:heaven  :heaven  :heaven  :heaven  :heaven

หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 22 (ครึ่งแรก) [24/07/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: XiaoLEE ที่ 13-08-2017 18:13:47
น่ารักกกกกกกกกกกกกกก  :o8: :impress2: :-[ เห็นเเล้วเขินอ่า อยากมีงี้มั้ง หวายๆๆ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 22 (ครึ่งแรก) [24/07/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: suck_love ที่ 14-08-2017 00:02:21
อื้อหือ มาเจอคู่ปรับ 55555555
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 22 (ครึ่งแรก) [24/07/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: kong6336 ที่ 14-08-2017 01:11:03
เมื่อไหร่จะมาต่ออีกน๊าาาาาาาา
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 22 [14/08/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ละอองฝน ที่ 14-08-2017 01:14:07



คุณคือความรัก บทที่ 22 ครึ่งหลัง






“เอ่อ…งั้นผมวานคุณเมฆหน่อยได้ไหมครับ ช่วยเอาซอสให้ที ผมเองก็กลัวจะหาไม่เจอ”


เมฆาปรับสายตาเป็นปรกติ แล้วถามกมล “จงรักให้กุญแจมาแล้วใช่ไหมครับ”


“ครับ” กมลตอบรับ ก่อนส่งกุญแจรถคืนเจ้าของ จากนั้นก็พาณธิปเข้าบ้าน โดยมีสายตาดุๆ ของเมฆาที่มองตามอย่างสงสัย ว่าทั้งสองคนไปสนิทกันตอนไหน








“เด็กๆ มานี่ก่อนครับ” กมลส่งเสียงเรียกหลานชายที่กำลังง่วนอยู่กับการเลือกสีของเทียนปักเค้กวันเกิดให้ตัวเอง


“ครับ/ครับ” เด็กๆ ลงจากเก้าอี้แล้ววิ่งตรงเข้ามาเกาะขาลุง


“อาเล็กมาเที่ยวงานวันเกิดพวกเราด้วย สวัสดีหรือยังครับ”



เมื่อหยินกับหยางมองเลยไปที่ด้านหลังของกมล ก็พบว่าเพื่อนคุณลุงยืนยิ้มกว้างส่งมาให้ พร้อมกับถือกล่องของขวัญกล่องใหญ่ในมือ



“สวัสดีครับอาเล็ก”


“สวัสดีครับอาเล็ก”


“สวัสดีครับเด็กๆ สุขสันต์วันเกิดนะ นี่ของขวัญวันเกิดครับ อาซื้อมาให้”



คราวนี้ไม่ต้องรอให้กมลบอก สองพี่น้องก็รีบวิ่งเข้าไปยกมือไว้ขอบคุณ แล้วช่วยกันยกกล่องของขวัญไปวางที่โต๊ะ ก่อนลงมือแกะทันที


“ค่อยๆ ดึงนะเด็กๆ ระวังกระดาษบาดมือ”


“ครับลุงไอ” หยินตอบรับโดยดีตามนิสัย แต่หยางกลับตั้งหน้าตั้งตาแกะโดยไม่สนใจเสียงของคุณลุงคนดีอีก


เห็นดังนั้นณธิปจึงรีบทำคะแนนเพิ่มโดยการเข้าไปช่วยเด็กแฝดแกะของ “เดี๋ยวอาช่วยดีกว่า”



กมลมองดูเด็กสองคนกับผู้ใหญ่หนึ่งคนรุมทึ้งกล่องของขวัญด้วยแววตาอ่อนใจ ใช่ว่าสิ่งที่ณธิปทำนั้นไม่ดี แต่เขาก็อดเกรงใจไม่ได้ นี่ถือเป็นครั้งที่สองแล้วที่ชายหนุ่มหอบกล่องของขวัญมาหาเขา แม้ต่างเวลาและวาระกันก็ตาม



“ว้าว! รถไฟล่ะ”


“ขบวนยาวจังเลย~”



ทันทีที่เห็นตัวของด้านใน เด็กชายสองคนก็เบิกตาโตราวไข่ห่าน ทั้งยังร้องเสียงดังด้วยอาการตื่นเต้นดีใจที่เก็บไม่มิด ส่วนณธิปเอง เมื่อเห็นว่าของที่นำมาเป็นที่ถูกใจของเด็กๆ เขาก็ยิ่งโล่งใจเข้าไปใหญ่ เนื่องจากก่อนหน้านี้ก็ไม่รู้ว่าข้างในคืออะไร



“ชอบใช่ไหมครับ น้องหยิน น้องหยาง”


“ชอบครับ” หยินว่า


“ชอบมากๆ เลยครับอาเล็ก” หยางต่อ พร้อมกับหันมาจุ๊บแก้มของชายหนุ่ม โดยที่ไม่ทันได้ตั้งตัว “หยางชอบอาเล็กด้วยครับ”


“อา…ครับ” ณธิปตกใจนิดหน่อยที่โดนจู่โจม ทางกมลเองก็ตกใจไม่แพ้กัน เพราะไม่คิดว่าหลานคนเล็กจะกล้าหอมแก้มณธิปทั้งที่เพิ่งเจอกันไม่กี่ครั้ง แม้จะรู้ว่านั่นเป็นวิธีแสดงความขอบคุณแบบที่น้องหยางชอบทำก็ตาม
   


“เสียงดังอะไรกันลูก” หทัยที่เพิ่งออกมาจากในครัวพร้อมกับไก่ทอดจานโตถามขึ้น
   

“อาเล็กครับแม่ อาเล็กซื้อของขวัญวันเกิดให้พี่หยินกับหยาง” น้องหยางชูส่วนหนึ่งของรางรถไฟจำลองที่กำลังจะเริ่มประกอบให้หทัยดู พร้อมกับบอกด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
   

“อ้อ…”หทัยชะงักไปนิดเมื่อเห็นณธิปนั่งอยู่บนพื้นอย่างไร้มาดกับลูกๆ ของเธอ “แล้วน้องหยางกับพี่หยินขอบคุณอาเล็กหรือยังลูก”
   

“ขอบคุณแล้วครับ” หยินตอบ ก่อนหันไปสนใจรถไฟจำลองต่อ
   

“หยางก็ขอบคุณแล้ว จุ๊บๆ แก้มด้วยครับ” ส่วนแฝดน้องจอมทะเล้นก็เอานิ้วจิ้มแก้มพร้อมกับยิ้มแป้น


   “ครับลูก” หทัยยังคงตกใจอยู่ไม่น้อย เธอเหลือบมองพี่ชายคนดีที่ยืนกอดอกดูหลานแวบหนึ่ง แล้วจึงเอ่ยขอบคุณณธิปแทนเด็กๆ อีกครั้ง “ขอบคุณนะคะคุณเล็ก”


   “ไม่เป็นไรครับ” ณธิปส่งยิ้มการค้าให้เธอ แล้วสายตาก็เหลือบไปเห็นคนเดินตามหลังมา “ที่แท้พี่ภัทรก็มากินข้าวกับเพื่อนที่นี่เองนะครับ”


   “เจ้าเล็ก!” ณภัทรมองน้องชายตาโต ก่อนเดินเอาจานส้มตำไปวางไว้กลางโต๊ะทานอาหาร แล้วจึงหันกลับมาคุย “มาได้ไง”


   “แล้วพี่ภัทรล่ะ มาได้ยังไงครับ”



   ช่วงเวลาที่สองพี่น้องมองตากัน เป็นช่วงที่ทุกคนต่างก็รู้สึกอึดอัดตามไปด้วย แต่ณภัทรก็ทำลายบรรยากาศแปลกๆ นั้น ด้วยการเฉไฉไปหาเด็กๆ แทน



   “ฉันก็มาเพราะเป็นงานวันเกิดของหยินกับหยางน่ะสิ”


   “อ้อ งั้นหรือครับ” ณธิปยิ้มกวนประสาทให้พี่ชายไปที ก่อนตอบกลับ “ผมก็มาเพราะเป็นงานวันเกิดเด็กๆ เหมือนกัน จริงไหมครับคุณไอ”



   พอคำตอบนั้นถูกโยนไปที่บุคคลที่สามอย่างกมล ทุกคนจึงหันมามองที่หนุ่มหน้าหวานเป็นตาเดียว และเขาก็ได้แต่ตอบไปก่อน



“ครับ”


“อาหารเสร็จแล้วนะครับ ทานกันเลยไหม” คนที่เอ่ยขึ้นมาคือ จงรัก ลูกพี่ลูกน้องของกมล ที่ยกข้าวเหนียวตามออกมาจากในครัว


“ทานเลยดีกว่า นี่ก็เที่ยงแล้ว” กมลว่า


“งั้นช่วยยกอาหารออกมาเพิ่มหน่อยนะครับ ผมจัดลงจานหมดแล้ว เดี๋ยวขอตัวออกไปตามพี่เมฆแปปเดียว ไม่รู้ไปหยิบซอสถึงไหน” จงรักว่า ก่อนจะส่งยิ้มทักทายพอเป็นมารยาทกับณธิป แล้วออกไปตามคนรักของตนเองมาร่วมโต๊ะ









   บรรยากาศบนโต๊ะอาหารไม่อาจเรียกได้ว่าสนุกสนาน แต่ก็ไม่ได้กร่อยจนเกินไปนัก เพราะมีเด็กวัยกำลังซนถึงสองคนที่ผู้ใหญ่ทุกคนต้องให้ความสนใจ แต่ภายใต้ใบหน้ายิ้มแย้ม หลายๆ คนกลับมีเรื่องให้ขบคิดและสงสัยต่างๆ กันไป





   ทีแรกณธิปเองก็ยังเกร็งและทำตัวไม่ถูกอยู่มาก เพราะสายตาแปลกๆ ของหทัย เมฆา และจงรัก แต่พอเวลาผ่านไปครู่เดียว อาหารบนโต๊ะกับหนุ่มหน้าหวานที่นั่งข้างกายก็ดึงดูดความสนใจของเขาไปจนหมด



   “ทานได้ไหมครับ” หลังจากที่วางกุ้งชุบแป้งทอดในจานของหยินกับหยางเรียบร้อยแล้ว กมลก็หันมาถามณธิปที่ดูเหมือนว่าแทบไม่แตะต้องอาหารใดๆ เลย


   “ได้สิ” ณธิปตอบ ก่อนจะตักไก่ทอดมาหั่นให้ตัวเองเป็นชิ้นเล็กๆ




   ได้ยินกมลถามขึ้น ณภัทรก็เหลือบมองน้องด้วยความเป็นห่วง แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เพราะกลัวณธิปจะหาว่าเขาทำให้เสียฟอร์มต่อหน้าคนที่กำลังจีบ เพราะเจ้าตัวดีเป็นคนที่ค่อนข้างกินยากพอควร เผ็ดไม่กิน ปลาร้าไม่กิน แถมยังแพ้สัตว์มีเปลือกอย่างกุ้งและปูอีกด้วย ดังนั้นหากนับๆ สารพัดเมนูอาหารอีสานที่วางอยู่บนโต๊ะแล้ว มีแค่ไก่ทอดกับข้าวเหนียวเท่านั้นที่ณธิปพอกินได้








   หลังจากทานอาหารเรียบร้อยแล้ว หทัยก็ยกเค้กไอศกรีมมาให้ลูกชายทั้งสองเป่าเทียนพอเป็นพิธี หยินและหยางยิ้มแป้นตลอดงาน เพราะวันเกิดปีนี้ นอกจากจะได้ของขวัญถูกใจหลายชิ้นแล้ว ยังได้ทานเค้กไอศกรีมของโปรดอีกด้วย



   ครั้นพอจัดการทั้งของคาวของหวานจนอิ่มแปล้ ก็เป็นจังหวะพอดีกับที่มีคนจาก I promise โทรเข้ามาคุยธุระกับกมล หทัยจึงอาสาเป็นคนล้างจานเอง เนื่องจากจงรักเป็นคนทำอาหารแทบทุกอย่างให้แล้ว ณภัทรเห็นดังนั้นจึงรีบอาสาช่วยเธอ ส่วนจงรักกับเมฆาถูกหลานชายฝาแฝดขอร้องให้ช่วยประกอบรางรถไฟจำลองเป็นเพื่อน ดังนั้นคนที่ยังว่างอยู่จึงมีแค่ณธิปคนเดียว



   นี่เป็นครั้งแรกที่หนุ่มเจ้าเสน่ห์อย่างณธิปถูกชวนให้มาปาร์ตี้วันเกิดของเด็กอายุ 6 ขวบ ซ้ำยังเป็นปาร์ตี้ที่ต้องเจอแต่คนทำท่าไม่ไว้ใจเขาเกินกว่าครึ่ง ชายหนุ่มนั่งอยู่ที่โซฟาแล้วมองดูเมฆาและคนรักเล่นกับเด็กด้วยความหมั่นไส้



   อะไรจะดูเป็นผู้ชายแสนดีขนาดนั้นกันนะ ณธิปคิด



   มองเข้าไปในครัวก็เห็นพี่ชายของตนเองกำลังทำตัวกลมกลืนกับครอบครัวนี้ได้ดีสุดๆ อยู่อีกคน ดังนั้นเมื่อมองกลับมาที่ตัวเองแล้ว ณธิปคิดว่าเขาอยู่ผิดที่ผิดทางมากทีเดียว



   “เฮ้อ~” ชายหนุ่มถอนหายใจ



   อะไรๆ ในวันนี้ดูจะผิดแผนไปเสียหมด เขาไม่ได้คิดเลยสักนิดว่าต้องมานั่งกระอักกระอ่วนใจในสถานการณ์เช่นนี้ ทั้งที่จุดประสงค์ที่แท้จริงคือการได้มีเวลาอยู่กับกมลสองต่อสองแท้ๆ กว่าจะนัดเพื่อพบกันได้นั้นไม่ง่ายเลย แต่ณธิปกลับต้องเสียโอกาสล้ำค่าไป แล้วอยู่อย่างเป็นส่วนเกินในงานปาร์ตี้ที่ไม่มีใครสนใจแทน



   บางทีถ้ากลับเสียตอนนี้อาจดีกว่า เพราะนอกจากเขาไม่ต้องทนสภาพไร้ประโยชน์ของตัวเอง ทุกคนอาจจะสนุกกับปาร์ตี้มากขึ้นก็ได้ คิดได้ดังนั้นณธิปจึงลุกขึ้นจากโซฟา แล้วเดินออกไปหากมลที่คุยโทรศัพท์อยู่หน้าบ้าน เพื่อบอกว่าเขาต้องการจะกลับแล้ว



   ทว่าเมื่อออกมาถึง เสียงของคนหน้าหวานที่คุยโทรศัพท์อย่างเคร่งเครียดก็ดังเข้าหูโดยไม่ได้ตั้งใจ



   “เรื่องนี้อาจต้องพึ่งผู้รู้ทางกฎหมาย พี่จะลองหาข้อมูลดูก่อน แต่ก็ไม่รู้ว่าจะมีประโยชน์แค่ไหนนะ” กมลเงียบฟังปลายสายพักหนึ่ง ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล “พี่ต้องช่วยสุดความสามารถนั่นแหละ เพราะทางผู้ใหญ่บ้านก็โทรมาขอร้องด้วยตัวเอง แต่คงต้องขอเวลาหาวิธีก่อนนะ เราบอกเขาก่อนแล้วกันว่าให้ใจเย็นๆ ได้เรื่องยังไงจะติดต่อไปอีกที”



   กมลยืนฟังปลายสายพูดอีกครู่หนึ่ง เขาก็กดวางสายไป พอหันกลับมาด้วยตั้งใจจะเข้าบ้าน กมลก็พบณธิปที่ยืนขวางประตูอยู่



   “คุณเล็กมีอะไรหรือเปล่าครับ”


   “คือผมจะกลับแล้ว พอดีมีธุระด่วน” ณธิปว่า


   “อ้อ…งั้นเดี๋ยวผมไปส่งที่หน้าบ้าน”


   “งั้นผมขอไปบอกลาเด็กๆ ก่อนแล้วกัน”



   พอณธิปบอกลาหยินกับหยางแล้ว กมลก็เดินออกมาส่งชายหนุ่มที่รถ ทั้งสองไม่ได้คุยกันแม้แต่คำเดียว เรื่องที่ณภัทรมาที่นี้ได้อย่างไร ณธิปก็ไม่ได้เอ่ยปากถาม ทว่าเมื่อถึงรถ ณธิปก็เอ่ยถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมา



   “คุณไอ”


   “ครับ?”


   “คุณกำลังหานักกฎหมายอยู่ใช่ไหม” ณธิปถาม “ผมไม่ได้ตั้งใจแอบฟังนะ มันบังเอิญได้ยินเข้าพอดีน่ะ”


   “ผมก็ยังไม่ได้ว่าอะไรคุณเลยนี่ครับ” คนหน้าหวานว่า ในใจนึกขันคนร้อนตัว


   “ว่ายังไครับ หานักกฎหมายอยู่หรือเปล่า”


   “อา…ครับ พอดีมีเรื่องยุ่งยากเกี่ยวกับปัญหาที่ดินนิดหน่อย” กมลบอกไปตามตรง เพราะไหนๆ ณธิปก็ได้ยินแล้ว จึงไม่มีประโยชน์ที่ต้องปิดบังอะไร


   “ผมพอรู้จักคนที่รู้เกี่ยวกับกฎหมายดีคนหนึ่ง ถ้าคุณไม่ว่าอะไร ผมติดต่อให้ได้นะ”


   “ใครครับ”


   “เพื่อนสนิทของผมเอง ถ้าคุณสนใจ ผมจะนัดให้” ณธิปยื่นข้อเสนอ พร้อมทั้งโฆษณาเสร็จสรรพ “ไอ้นี่มันเก่งนะคุณ จะลองคุยดูก่อนไหม เผื่อพอช่วยอะไรได้บ้าง”


   “อืม…ก็ดีครับ” กมลไม่ได้คิดช่างใจนานนัก เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นค่อนข้างเร่งด่วนพอควร


   “ถ้าอย่างนั้นคุณนัดวันมา ผมจะพาไปเจอเอง”


   “ได้ครับ” คนหน้าหวานพยักหน้ารับ “ขอบคุณนะครับ”


   “เปลี่ยนเป็นคำขอบคุณแบบน้องหยางได้ไหมครับ” ไม่ว่าเปล่า ณธิปยังอมลมให้แก้มข้างหนึ่งพอง แล้วยื่นหน้าเข้าไปใกล้จนเกือบชิดกับใบหน้าของอีกฝ่าย


   “คุณเล็ก!” กมลผงะถอยด้วยความตกใจ และหน้าตาตื่นๆ แบบนั้นก็ทำให้ณธิปหลุดหัวเราะออกมา


   “หน้าตื่นๆ แบบนี้ผมไม่เคยเห็นเลย น่ารักไปอีกแบบนะคุณ” คนพูด พูดพลางหัวเราะเบาๆ


   “ไม่ตลกสักนิด” กมลต่อว่า ก่อนท้วง “ไหนว่ามีธุระด่วนไงครับ ไม่รีบแล้วหรือ”


   “แหม ไล่กันเชียวนะ ใช่สิ ถ้าผมไปทุกคนก็คงสนุกขึ้นใช่ไหมล่ะ” คนตัวโตกว่าเอ่ยคล้ายแง่งอน “โอเคๆ ผมไปก็ได้ แล้วคราวหน้าอย่าเบี้ยวนัดของเราอีกล่ะ”


   “ผมขอโทษ”


   “ไม่ต้องขอโทษหรอกครับ แค่อย่าเบี้ยวนัดกันอีกก็พอ ผมไปนะ”


   “ครับ” ว่าแล้วณธิปก็เดินไปขึ้นรถ ก่อนขับกลับบ้านทันที ส่วนกมลก็ยืนมองจนรถหรูคันนั้นหายลับไปจึงเดินกลับ



   วันนี้กมลยอมรับว่ารู้สึกผิดกับณธิปไม่น้อย ถึงแม้ว่าตัวเขาจะบอกว่าไม่ได้รู้สึกอะไรกับผู้ชายคนนั้น แต่สิ่งที่ตนเองปฏิบัติกับอีกฝ่ายก็แทบเรียกได้ว่าไม่ใส่ใจมากเกินไปหน่อย ทั้งที่วันนี้ ณธิปดูพยายามอย่างมากที่จะทำให้เขาประทับใจ ทั้งเรื่องมางานวันเกิดหลาน เรื่องของขวัญ และเรื่องที่ทำใจกว้างไม่โวยวายเขาผิดสัญญาอีก ดังนั้นกมลจึงตั้งใจว่า เขาจะต้องใส่ใจอีกฝ่ายให้มากกว่านี้หากจะนัดกันคราวหน้า



อย่างน้อยก็ตามมารยาทที่เพิ่งกระทำล่ะนะ กมลบอกตัวเอง ก่อนเดินเข้าบ้านไป







<><><><><><><><><><><><><><><><><>





เรากลับมาแล้ว หลังจากเป็นไข้เลือดออกหลายวันเลย

ตอนนี้หายดีแล้วค่ะ พร้อมกลับมาอัพแล้ว

ฝากติดตามด้วยนะคะ

แล้วก็รักษาสุขภาพด้วยน้า



ละอองฝน.
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 22 [14/08/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 14-08-2017 01:38:36
 :L2: :L2: :L2: :L2: หายป่วยแล้ว ดีใจด้วยครับ รักษาสุขภาพดีๆนะครับ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 22 [14/08/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 14-08-2017 02:48:58
 :pig4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 22 [14/08/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 14-08-2017 07:46:47
ขอบคุณค่ะ สงสารคุณเล็ก ToT
แต้มบุญเราต่ำต้องพยายามอีกนิดนะคุณเล็ก
แต่รู้สึกจะหมดห่วงเรื่องพี่ชาย ดูท่าทางจะชอบแม่อ้ายแล้วมั้งนั่น
ปล.คิดถึงพี่เมฆ น้องรักนะคะ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 22 [14/08/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 17-08-2017 17:39:59
จะผิดมั้ยย ถ้าจะบอกว่าตอนนี้เราอยู่ทีมคุณเล็ก :a5:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 22 [14/08/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 17-08-2017 19:11:00
แอบมาส่องแบบกล้า ๆ กลัว ๆ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 22 [14/08/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: khwanruen ที่ 17-08-2017 21:49:44
หือ อ่านตอนนี้แล้วสงสารคุณเล็ก เปลี่ยนใจมาทีมคุณเล็กแล้วกันนะคะ  :m13:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 22 [14/08/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: kong6336 ที่ 17-08-2017 22:31:12
แอบเชียร์คุณเล็กเบาๆ :hao3: o18
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 23 [31/08/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ละอองฝน ที่ 31-08-2017 18:24:09




คุณคือความรัก บทที่ 23





   ดังตฤณมองเพื่อนจอมเจ้าชู้คนสนิทของตัวเองกำลังช่วยชายหนุ่มหน้าหวานคนหนึ่งเลือกเมนูอาหารอย่างเอาใจใส่ด้วยความรู้สึกทึ่งๆ แม้ว่าเขาจะเคยเห็นณธิปคอยเอาใจหรือดูแลคู่ควงมานักต่อนักแล้วก็ตาม หากก็ไม่เคยมีใครที่ทำให้หมาป่าเจ้าเล่ห์เชื่องเป็นหมาบ้านได้เท่านี้


   “เมนูนี้ก็อร่อยนะ คุณชอบรสจัดใช่ไหมล่ะ ผมว่าน่าจะถูกปาก”


   “งั้น…ก็ได้ครับ”



   ครั้นการเอาอกเอาใจได้รับการตอบสนองด้วยปฏิกิริยาเพียงเล็กน้อย ดวงตารีเรียวก็เต้นระริกจนปิดบังความดีใจไม่อยู่ ดังตฤณเกือบหลุดปากแซ็วเพื่อนไปแล้วว่า


   ฉันเห็นนะ ว่าหางแกสะบัด



   แต่เพราะไม่อยากทำให้เสียบรรยากาศ อัยการหนุ่มจึงได้แต่เท้าคางมองท่าทางเหมือนเด็กๆ ของณธิปอยู่อย่างสงบปากสงบคำ


   “คุณตฤณทานอะไรครับ” หลังจากที่สั่งอาหารเรียบร้อยแล้ว คนมารยาทดีอย่างกมลก็หันมาให้ความสนใจเพื่อนร่วมโต๊ะ


   “ผมสั่งก่อนที่คุณไอกับเจ้าเล็กจะมาแล้วครับ คุณไออยากทานอะไรสั่งได้เต็มที่เลยนะ”


   “ขอบคุณครับ” หนุ่มหน้าหวานยิ้มให้น้อยๆ แต่ครู่เดียวก็ต้องเผลอกรอกตาเพราะเสียงตัดพ้อจากคนข้างๆ


   “ไม่เห็นคุณถามผมบ้างเลย”


   “ก็คุณเล็กสั่งไปก่อนหน้าผมแล้วไม่ใช่หรือครับ”




   มองณธิปทำท่างอแงอ้อนกมลอีกพักหนึ่ง ดังตฤณก็รู้สึกว่าตัวเองชักขนลุกกับท่าทางของเพื่อนจนทนไม่ไหว เขาจึงเอ่ยถามถึงธุระที่ทั้งสองนัดเขามาในวันนี้



   “ว่าแต่เรื่องที่จะขอคำปรึกษา เป็นเรื่องอะไรหรือ” เมื่อดังตฤณเปิดฉากเข้าเรื่อง ณธิปก็เลิกหยอกกมล แล้วหันมาคุยเรื่องสำคัญก่อน


   “พอดีว่าคุณไอเขามีปัญหาเรื่องที่ดินนิดหน่อย อยากได้ที่ปรึกษาทางกฎหมาย ฉันก็เลยอยากขอให้แกช่วย”


   “ทีมกฎหมายของแกก็มีไม่ใช่หรือ ทำไมมาถามฉันล่ะ” ดังตฤณว่า


   “ก็แกเป็นเพื่อนฉัน อีกอย่าง แกก็รู้จักคุณไอแล้วด้วย แค่ปรึกษาเรื่องเล็กน้อย ฉันไม่อยากทำให้เป็นเรื่องยุ่งยาก ทำไม แค่นี้ช่วยกันไม่ได้หรือ”


 “ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากช่วยนะครับ ถ้าช่วยได้ผมก็ช่วยเต็มที่ แต่ผมแค่สงสัยเพื่อนตัวดีของผมเท่านั้น” ประโยคนี้ดังตฤณหันไปพูดกับกมลโดยตรง เพราะเห็นว่ากมลหน้าเสียที่ได้ยินเขาล้อเล่นกับณธิปเมื่อครู่


“อ่า…ครับ ยังไงก็ขอรบกวนคุณตฤณด้วยนะครับ ถึงคุณจะเป็นเพื่อนคุณเล็ก แต่ผมยินดีจ่ายค่าเสียเวลาให้ อย่าหาว่าผมเสียมารยาทเลยนะ”


“ไม่ต้องทำขนาดนั้นหรอกครับ เมื่อครู่ผมล้อเล่นเท่านั้น ว่าแต่คุณไอมีเรื่องอะไรจะปรึกษาผมครับ”


“ผมอยากจะถามเรื่องปัญหารุกล้ำที่ดินน่ะครับ”


“ถ้าอย่างนั้นคุณช่วยเล่ารายละเอียดให้ฟังได้ไหม”


“ครับ” แล้วก็กมลก็เริ่มต้นเล่าให้ทั้งดังตฤณและณธิปฟัง



ปัญหาที่กมลกำลังประสบ ไม่ใช่ปัญหาของเขาโดยตรง แต่เป็นเรื่องของพนักงานในบริษัท เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อตอนต้นปี กมลและทุกคนใน I promise Tower ได้เดินทางไปสร้างอาคารเรียนหลังใหม่ให้กับเด็กๆ ชาวเขาที่โรงเรียนในจังหวัดเล็กๆ แห่งหนึ่ง ซึ่งที่หมู่บ้านนั้น เป็นบ้านเกิดของพนักงานในบริษัทของกมลเอง


ตอนที่ไปชาวบ้านในหมู่บ้านก็ให้การต้อนรับกมลและพวกเป็นอย่างดี เพราะพวกกมลไม่เพียงแต่ช่วยสร้างอาคาร แต่ยังแจ้งหน่วยงานรัฐให้เข้าไปช่วยซ่อมสะพานทางเข้าหมู่บ้านอีกด้วย ทุกคนจึงซึ้งใจเป็นอย่างมาก


หลังจากที่กมลกลับมาไม่นาน น้องพนักงานคนนั้นก็เอาข่าวมาบอกว่า ตอนนี้มีนักการเมืองผู้มีอิทธิพลคนหนึ่ง ได้ทำเรื่องซ่อมแซมสะพานจะผ่านการอนุมัติเรียบร้อย แต่ทุกอย่างไม่ได้จบเพียงเท่านั้น เนื่องจากนักการเมืองคนนั้นได้เข้ามาข่มขู่และขอกว้านซื้อที่ดินของชาวบ้านหลายคน เพราะต้องการสร้างโรงแรม


แม้หมู่บ้านแห่งนี้จะอยู่ในพื้นห่างไกล แต่ก็เป็นที่ที่สวยงาม ธรรมชาติยังคงบริสุทธิ์อยู่มาก หากได้รับการโฆษณาจากคนใหญ่คนโตของภาครัฐ และทำให้ที่แห่งนี้เป็นที่รู้จัก ผู้คนคงจะหลั่งไหลกันไปเที่ยวอย่างแน่นอน



กลับกัน เม็ดเงินมหาศาลนั้นไม่ได้หมุนเวียนอยู่ในกระเป๋าของคนในหมู่บ้าน หากตกอยู่ในกระเป๋าของนักการเมืองจอมละโมบมากกว่า



ผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านหลายๆ คน จึงอยากขอให้ใครสักคนช่วยเหลือ ด้วยไม่สามารถดำเนินการเองได้สะดวก เพราะถูกข่มขู่จากนักการเมืองเส้นใหญ่คนนั้นไว้มาก



กมลที่ได้ยินดังนั้นก็อยากจะช่วยเหลือ เพียงแต่เขาไม่มีความรู้ทางด้านกฎหมายมากนัก และไม่มีเส้นสายใหญ่โตเลย ธุรกิจที่ทำก็ไม่เกี่ยวกับทางนั้นสักนิด เขาจึงกลัวว่าถ้าทำเรื่องร้องเรียนไปอย่างเดียว ไม่นานทุกอย่างก็จะเงียบหายเหมือนอย่างที่ผู้ใหญ่บ้านเจอมากับตัวแล้ว


เมื่อได้ฟังกมลเล่าจนจบ ดังตฤณก็หน้าเครียดทันที


“เรื่องนี้เรื่องใหญ่เลยนะครับ”


“ใช่ครับ ผมเองก็ไม่รู้ว่าจะช่วยพวกเขายังไง แต่ถ้าจะไม่ช่วยอะไรเลยก็คงไม่ได้ คุณตฤณพอมีคำแนะนำบ้างไหมครับ”


“ถ้าเป็นในทางกฎหมาย ก็คงต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องให้เข้าไปตรวจสอบเท่านั้น”


“แล้วถ้าเรื่องมันเงียบไปอีกล่ะครับ ผมกลัวว่าชาวบ้านจะถูกบีบจนยอมขายที่กันไปเสียก่อน”


“เรื่องนี้อย่างไงเสียก็ต้องให้เจ้าหน้าที่จัดการครับ ผมพอรู้จักตำรวจดีๆ อยู่บ้าง ยังไงจะช่วยประสานให้นะครับ แต่ขอรายละเอียดตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องให้ผมด้วย” ดังตฤณว่า


“ครับ ผมเตรียมมาแล้ว” กมลล้วงกระเป๋าหยิบเอาเอกสารที่เป็นรายละเอียดต่างๆ มาส่งให้


“ตายล่ะ งานนี้ตอใหญ่จริงๆ ด้วย” หลังจากพลิกเอกสารดูผ่านๆ ดังตฤณก็ถึงกับต้องอุทานออกมา


“ใคร” ณธิปถาม


“โจทก์เก่าแก”


“ใคร” ณธิปถาม


“รัฐมนตรีทรงศักดิ์ นาฏหิรัญ”



เมื่อได้ยินชื่อ ณธิปก็ถึงกับต้องถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ “พ่อคุณเกษนี่เอง ตอใหญ่จริงๆ ด้วย”



“คุณไอ” ดังตฤณเรียก


“ครับ”


“คุณจะเข้ามายุ่งกับเรื่องนี้จริงๆ ใช่ไหม ไม่ใช่ว่ากระบวนการทางกฎหมายของเราไม่ดีนะ แต่ผมบอกได้เลย ถ้าชนกับเบอร์ใหญ่ขนาดนี้ คุณลำบากแน่ๆ”


“…ครับ ผมรู้” กมลตอบออกไปด้วยความหนักใจ เขารู้ว่าถ้าพลาดแล้วถูกโจมตีกลับ ตัวเขาเองจะลำบาก และไม่แน่ว่าทั้งบริษัทกับครอบครัวก็อาจจะเดือดร้อนไปด้วย


“แต่ยังไงผมก็จะส่งเรื่องนี้ให้คนเข้าไปตรวจสอบก่อน เรื่องอื่นๆ ค่อยว่ากันอีกที แต่ทางที่ดี คุณไออย่าลงมือเองจะดีกว่าครับ นี่ผมเตือนด้วยความหวังดีนะ”


“ครับ แล้วผมจะคิดดู ขอบคุณคุณตฤณมากนะครับ ที่เตือน”



ณธิปรู้สึกว่าอาหารมื้อนี้ไม่อร่อยสักนิด แม้ว่าพวกเขาจะนั่งทานในร้านดังก็ตาม ตลอดเวลาที่กมลปรึกษากับดังตฤณ ณธิปก็ฟังและลอบสังเกตคนหน้าหวานอยู่ตลอดเวลา แม้กระทั่งคุยกันจบแล้ว เขาก็ยังคอยมองกมลอยู่เสมอ



ฟังจากที่เล่าและเอ่ยชื่อผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว ณธิปสรุปได้อย่างเดียวเลยว่า กมลไม่ควรเข้าไปยุ่งเรื่องนี้เป็นอันขาด เพราะนักธุรกิจที่ดำเนินธุรกิจได้โดยไม่มีปัญหา จะต้องไม่สอดขาเข้าไปยุ่งกับนักการเมือง แต่ทันทีที่มอง เขาก็เห็นความลังเลใจและแววตาคิดไม่ตกของกมล ณธิปกลัวว่าตัวเองคงจะห้ามอีกฝ่ายไม่ทันเสียแล้ว










   เมื่อทานอาหารเสร็จแล้ว ดังตฤณก็ของตัวกลับก่อนเพราะมีธุระที่ต้องไปสะสางต่อ ณธิปจึงพากมลกลับด้วยเหมือนกัน ทันทีที่ขึ้นมานั่งบนรถ กมลก็เอ่ยขึ้น



   “เห็นไหม ผมบอกแล้วว่าจะเอารถมาเอง ทีนี้คุณก็เลยต้องลำบากไปส่งผมอีก”


   “ไม่เป็นไรหรอก เราอยู่คอนโดเดียวกันนี่ แต่ถ้าจะกลับบ้าน บ้านของคุณก็อยู่ไม่ไกลบ้านของผมเท่าไหร่ แล้ววันนี้ผมก็มีเวลาให้คุณทั้งวัน ไม่ต้องห่วง”


   “ชอบทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยากทุกทีเลย ผมบอกแล้วนี่ครับ ว่าดูแลตัวเองได้”


   “ผมรู้ว่าคุณเก่ง แต่ถ้าไม่ยอมให้ผมทำอะไรให้คุณเลย แล้วมันจะมีประโยชน์อะไร เป็นอย่างนี้ต่อไปคุณก็คงมีข้ออ้างปฏิเสธผมน่ะสิ”


   “คนจะคบกัน ไม่ได้คบกันเพราะผลประโยชน์หรอกนะคุณเล็ก”


   “อย่าเรียกว่าผลประโยชน์สิ เรียกว่าพึ่งพาอาศัยน่าจะดีกว่านะคุณไอ”


   “เฮ้อ…” กมลถอนหายใจออกมา


   “ก็จริงนี่ ถึงคุณจะแกร่งแค่ไหน ผมก็อยากช่วยเหลือคุณ อยากให้รู้ว่าคุณพึ่งพาผมได้ เรื่องปัญหาที่คุณกำลังเจออยู่นี่ก็เหมือนกัน ถึงผมจะไม่อยากให้คุณยุ่งกับมันสักเท่าไหร่ แต่ถ้าจะกระโดดเข้าไป จำไว้ว่าผมจะช่วยคุณเอง”


   อาจเป็นเพราะปัญหาที่เจอมันค่อนข้างใหญ่มากสำหรับคนระดับกมล ยามนี้เขาจึงค่อนข้างอยู่ในอารมณ์อ่อนไหวเพราะคิดไม่ตก และคำพูดของณธิปก็เข้ามาทำให้รู้สึกว่า หากเขาจะสู้เพื่อช่วยเหลือคนอื่น ก็ยังมีคนคนนี้คอยช่วยเขาอีกแรง



แต่ถึงอย่างนั้น กมลก็พยายามอย่างยิ่งที่จะดึงสติตัวเองกลับมา



   “ขอบคุณครับ แต่จริงๆ แล้ว คุณจะหยุดแค่นี้ก็ได้นะ เพราะผมเองก็ไม่อยากให้คุณต้องวุ่นวายเพราะเรื่องของผมหรอก ผมเกรงใจ”


   “ไม่รู้ทำไม ผมถึงรู้สึกเหมือนกับ คำว่าเกรงใจของคุณมันเป็นแค่ข้ออ้างมากกว่า”



แม้จะมั่นใจในตัวเองแค่ไหน ณธิปก็รู้ว่ากมลไม่อยากยุ่งกับเขามาตั้งแต่แรก ถึงตอนนี้จะยอมอ่อนลงบ้าง แต่ก็ยังไม่เปิดหัวใจให้ซะทีเดียว หากเพราะว่ารู้ดีอยู่แล้ว ณธิปถึงยิ่งต้องพยายามแสดงความจริงใจของตัวเองออกมาให้มากที่สุด ซึ่งเขาสามารถพูดได้เลยว่า กมลเป็นคนที่เขายอมเปิดเผยและยอมอ่อนให้มากที่สุดแล้ว


มากเสียจนณธิปนึกขำ ว่าความรักมันทำให้เขาเป็นได้ถึงขนาดนี้เชียวหรือ
   

“ผมแค่…ยังไม่มั่นใจ”
   

“เอาเถอะ ผมจะรอวันที่คุณมั่นใจก็แล้วกัน”


   จะรอ…ไม่ว่ามันจะออกหัวหรือออกก้อยอย่างนั้นหรือ กมลต่อคำถามนั้นใจ แต่ก็ไม่ได้พูดออกไป


“เรากลับกันดีกว่า ตกลงว่าคุณจะกลับบ้านหรือกลับคอนโด” หลังจากเงียบกันไปครู่หนึ่ง ณธิปก็ถามขึ้น


“บ้านครับ”


“โอเค งั้นเรากลับบ้านกัน” พอว่าจบ เขาก็สวมเข็มขัดนิรภัยให้ตัวเอง จากนั้นก็หันมาตั้งท่าจะสวมให้กมลด้วย


   “ไม่ต้อง ผมทำเองได้”



   แม้ได้ยินคำปฏิเสธแล้ว แต่ณธิปก็ยังไม่ถอยกลับไปนั่งดีๆ เขาเอามือเท้ากับเบาะข้างคนขับข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างแตะคอนโซลหน้ารถเอาไว้ แล้วมองคนเก่งจัดการคาดเข็มขัดให้ตัวเอง ครั้นพอเรียบร้อยกมลก็เงยหน้าขึ้นมองคนข้างๆ ที่อยู่ห่างแค่คืบ



แม้ใบหน้าของพวกเขาจะอยู่ใกล้กันมาก แต่ณธิปไม่เห็นเลยว่าในดวงตาคู่สวย สะท้อนแววตื่นเต้นหรือหวั่นไหวกับสถานการณ์ใกล้ชิด มันเรียบนิ่งเป็นทะเลสาบในฤดูหนาวที่ลึกสุดหยั่ง แต่ความลึกล้ำนั้น กลับทำให้กลายเป็นเขาเอง ที่ถูกดูดเข้าไปหาอีกฝ่าย


“นี่เรายังไม่ได้คบกันใช่ไหม” ณธิปถาม


กมลจึงตอบ “ครับ”


“แล้วเมื่อไหร่เราจะคบกันสักที”


“เมื่อกี้คุณยังบอกอยู่เลย ว่าคุณจะรอ” หนุ่มหน้าหวานทวนความจำให้อีกครั้ง ณธิปจึงยิ้มออกมาบางๆ หากสายตาที่มองคนพูด กลับเต็มไปด้วยความรู้สึกบางอย่าง ที่ชวนให้กมลรู้สึกประหลาดไปด้วย


“ผมชักจะรอไม่ไหวแล้วสิ” ณธิปว่า พลางขยับเข้าไปใกล้อีก ใกล้เสียจนรู้สึกได้ถึงลมหายใจของกันและกัน


“ทำไม” ความจริงกมลไม่ได้อยากถาม แต่เขาแค่คิดว่า ถ้าเกิดไม่พูดอะไรสักอย่าง เขาก็อาจจะเผลอปล่อยให้ระยะห่างมันสั้นลงอีก


“เพราะผมอยากจูบคุณตอนนี้”


“…”



คำสารภาพอย่างตรงไปตรงมา ทำให้กมลตัวชา และคิดอะไรไม่ออกไปครู่หนึ่ง เขาเผลอหลุบตามองตามริมฝีปากของณธิป แล้วไล่สายตาผ่านโครงหน้าได้รูป ปลายจมูกโด่ง ก่อนมาหยุดที่ดวงตารีเรียว แล้วกมลก็พบว่า ในหน่วยตาคู่นั้นทำหน้าที่ยืนยันว่าสิ่งที่ณธิปพูด ไม่ใช่แค่เรื่องล้อเล่นเหมือนหมาหยอกไก่เช่นทุกที



คนคนนี้ต้องการเขามากขนาดนั้นจริงๆ น่ะหรือ




คิดต่อไปเท่านี้ ในหูของกมลก็คล้ายได้ยินเสียงระเบิดเบาๆ ความร้อนมากมายวิ่งพล่านไปทั่วร่าง จากที่ที่ไม่เคยอายเพราะคำพูดทำนองนี้ ก็เกิดอายขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ


นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน



คนคนนี้คือ ณธิป โชติตระกูลนะ คิดได้ดังนั้นกมลก็ดึงตัวเองออกมาและหันหน้าหนี เขากลืนน้ำลายที่เหนียวหนืดอย่างยากลำบาก ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบที่สุดเท่าที่จะทำได้



“เรากลับกันเถอะครับ”


“ครับๆ” ณธิปตอบรับ ก่อนจะหันมามองพวงมาลัยรถ



อีกนิดเดียวแท้ๆ ชายหนุ่มคิด จากนั้นจึงสตาร์ทรถแล้วขับตรงกลับบ้านกมลโดยที่ไม่แวะไหน



ระหว่างนั้นทั้งคู่ไม่ได้พูดอะไรกันอีกเลย เพราะต่างก็จมจ่ออยู่ในความคิดของตนเอง จนกระทั่งรถเคลื่อนตัวมาจอดที่รั้วหน้าบ้าน เสียงที่หายไปของกมลจึงกลับมาอีกครั้ง


“ขอบคุณที่มาส่งนะครับ”


“ครับ” สารถีเจ้าเสน่ห์ยิ้มรับคำขอบคุณบางๆ


“งั้นผมเข้าบ้านก่อน คุณก็ขับรถดีๆ ล่ะ”


“ครับ”



ทว่าระหว่างที่กมลเปิดประตูและกำลังจะก้าวลงจากรถ ณธิปก็รีบเรียกหนุ่มหน้าหวานไว้อีกครั้ง



“รอเดี๋ยวก่อนคุณไอ!”


กมลจึงหันกลับมาหา “ครับ?”


“ผมพูดจริงๆ นะ ปัญหาเรื่องที่ดินนั่น ถ้าคุณไม่เข้าไปยุ่งน่าจะดีกว่า”


“อ่า…ครับ ผมคิดว่า อาจจะต้องคิดทบทวนอีกที”


“ดีแล้ว” ณธิปพยักหน้าเห็นด้วย ก่อนจะเสริม “แต่ถ้าคุณจะทำมันจริงๆ อย่าลืมล่ะ คุณยังมีผม”


“ครับ ผมรู้แล้ว ขอบคุณนะ” กมลขอบคุณทั้งรอยยิ้ม จากนั้นจึงลงจากรถ แล้วยืนรอให้ณธิปขับรถอกไป



ก่อนหน้านี้ แม้ณธิปไม่บอก กมลก็รู้ว่าตัวเองต้องไตร่ตรองเรื่องสำคัญเรื่องนั้นอีกครั้ง แต่หลังจากที่ลงจากรถแล้ว ดูเหมือนว่าจะไม่ได้มีเรื่องที่ดินเรื่องเดียวที่กมลต้องไตร่ตรองให้ดีอีกสักรอบ







<><><><><><><><><><><<><><><><><>




คุณไอเริ่มโดกิโดกิแล้วหรือเปล่านะ

แต่ก็ 23 ตอนแล้วอ่ะเนอะ 555

ขอบคุณที่เข้ามาตามอ่านกันนะคะ

ขอโทษที่ทำให้รอค่ะ

เจอกันตอนหน้าน้า

ละอองฝน.
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 23 [31/08/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 31-08-2017 18:53:58
 :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 23 [31/08/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: เด็กหญิง ที่ 31-08-2017 19:37:57
ใจอ่อนแทนคุณไอแล้วค่ะ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 23 [31/08/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 31-08-2017 23:09:21
อยากคว้า ต้องพยายามนะคุณเล็ก
อดทน จำให้แม่น
ปล.  ยังคาใจนามสกุลจริงๆ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 23 [31/08/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 01-09-2017 18:43:47
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 23 [31/08/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 03-09-2017 15:47:41
เชียร์คุณเล็กให้จีบติดไวๆ  :hao5:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 23 [31/08/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 04-09-2017 23:00:25
ตอนแรกก็เกลียดอิตาเล็กนี่มากเลย แต่ตอนนี้สงสาร เลยเชียร์ซะหน่อย
แต่ถึงยังไงก็ชอบไอมากกว่า เป็นนายเอกที่เก่ง เป็นตัวของตัวเอง เหนือกว่าเห็น ๆ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 23 [31/08/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: khwanruen ที่ 06-09-2017 14:29:03
หวั่นไหวบ้างแล้วใช่มั้ยคะคุณไอ  o18
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 23 [31/08/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Onlylyn ที่ 30-09-2017 02:34:26
คิดถึงเรื่องนี้มากเลยค่ะ แอบเชียร์คุณเล็กอยู่ห่างๆ อยากให้พี่ไอใจอ่อน แต่อีกใจนึงก็อยากให้ใจแข็งแบบนี้แหละ 5555 ชอบเวลาคุณเล็กหงอยหมดท่าเพราะหวั่นไหวอยู่ฝ่ายเดียว
รอตอนต่อไปนะคะ :L2:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 23 [31/08/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: arnis ที่ 01-10-2017 23:08:16
มาตามอ่านรวดเดียว 23ตอนเลย มาต่อเร็วๆนะ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 24 [11/10/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ละอองฝน ที่ 11-10-2017 19:32:26








คุณคือความรัก บทที่ 24




   หลังจากพบกับดังตฤณคราวนั้น ตอนนี้ผ่านไปเดือนกว่าแล้ว กมลที่หัวหมุนกับการทำงาน จึงไม่ได้ตามเรื่องที่ดินที่วานให้ดังตฤณช่วยเลย จนกระทั่งเช้าวันนี้มีข่าวแจ้งเข้ามาว่า ทินกร พนักงานบริษัทคนสำคัญที่เคยขอร้องให้กมลช่วยเหลือเรื่องหมู่บ้านถูกรุกล้ำที่ดิน ได้ขอลากลับบ้าน เนื่องจากผู้เป็นพ่อที่มีศักดิ์เป็นผู้ใหญ่บ้าน เข้าโรงพยาบาลกะทันหัน



   “ทินเขาว่ายังบ้าง พ่อเป็นอะไรมากหรือเปล่า” กมลถามน้องสาวด้วยความร้อนใจ

   “ทินไม่ได้บอกราบละเอียดอะไรมากค่ะพี่ไอ แค่บอกว่าขอลาเพราะพ่อเข้าโรงพยาบาล พออ้ายอนุมัติ เขาก็ขอบคุณแล้วไปทันที” หทัยว่า ก่อนตั้งข้อสังเกต “เอ…พี่ไอว่ามันจะเกี่ยวกับเรื่องที่ดินหรือเปล่าคะ”

   “พี่ก็ไม่แน่ใจ แต่สังหรณ์ใจไม่ดีเท่าไหร่ เดี๋ยวพี่วานให้อ้ายลองโทรหาทินดูหน่อยแล้วกัน”

   “ลองโทรแล้วค่ะ แต่เขาปิดเครื่อง” หทัยรายงาน

   “อย่างนั้นหรือ…” กมลเงียบไปอย่างใช้ความคิด ก่อนจะบอกให้น้องสาวออกไปทำงานในหน้าที่ของตนเองต่อ เพราะเขาเองก็จะเคลียร์เอกสารด้วยเหมือนกัน

   “อ้ายจะลองติดต่อน้องดูเรื่อยๆ นะคะ ถ้ามีข่าวคราวความคืบหน้า อ้ายจะรีบเข้ามาบอก”

   “อืม” กมลพยักหน้ารับ ก่อนจะหันมาทำงานต่อ แม้ในใจจะยังรู้สึกพะวงเรื่องทินกรอยู่ก็ตาม








   เมื่อมองออกไปนอกหน้าต่าง กมลเห็นท้องฟ้ามืดสลัว เมฆสีหม่นลอยต่ำจับกลุ่มกันไม่ห่างจากยอดตึก ต่อจากนั้นเพียงครู่เดียวท้องฟ้าก็สว่างวาบเป็นระยะๆ และหยาดฝนก็เทกระหน่ำลงมา


   ดีนะที่เช็คดูพยากรณ์อากาศไว้ก่อน กมลคิด เพราะวันนี้ I Promise  ดูแลงานเลี้ยงตอนเย็นของงานแต่งงานให้บ่าวสาวคู่หนึ่ง ทีแรกที่ตกลงกันไว้คืองานนอกสถานที่ในสวน ด้วยช่วงนี้เป็นฤดูร้อนจึงไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่เมื่อกมลดูพยากรณ์อากาศแล้วพบว่าจะมีพายุฤดูร้อนพัดเข้ามา เขาจึงแจ้งและปรับเปลี่ยนสถานที่กันตามความเหมาะสม



   ชายหนุ่มคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยระหว่างรอแม่บ้านเอาอาหารเย็นมาให้ ทีแรกตั้งใจจะโทรไปเช็คงาน แต่กลับมีคนโทรเข้ามาเสียก่อน


   “กมลพูดสายครับ”

   [คุณไอครับ ผมทินกรนะ]

   “ทิน คุณพ่อเป็นยังไงบ้าง”

   [ดีขึ้นแล้วครับ]

   “แล้วท่านเป็นอะไร อยู่โรงพยาบาลไหน”

   [อยู่โรงพยาบาลในตัวอำเภอครับ] ทินกรเว้นวรรคไปครู่หนึ่ง เพราะไม่แน่ใจว่าควรบอกเรื่องนี้กับกมลดีไหม แต่เมื่อคิดดูดีๆ เขาก็นึกไม่ออกแล้วว่าจะขอให้ใครช่วย นอกจากกมล [คุณไอครับ พ่อของผมถูกทำร้าย คุณไอช่วยพวกเราด้วยนะครับ ผมไม่รู้จะพึ่งใครแล้วจริงๆ]

   “ถูกทำร้ายหรือ!” กมลถามด้วยความตกใจ “เรื่องมันเป็นมายังไง ไหนเล่าให้ผมฟังซิ”


   ทินกรบอกว่า หลังจากกมลช่วยส่งเรื่องร้องเรียนให้ ก็ไม่มีนายทุนคนไหนเข้ามาในพื้นที่ กระทั่งผ่านไปเกือบเดือน เรื่องราวที่ดูเหมือนจะสงบ กลับไม่สงบ เพราะมีคนเข้ามาถากถางที่ดินใกล้เชิงเขา ซึ่งเป็นที่ป่า ไม่มีใครจับจองมาก่อน จากนั้นก็ล้อมรั้วเป็นเขตห้ามคนเข้า ทั้งยังส่งคนมาเสนอซื้อที่ดินบริเวณใกล้เคียงของชาวบ้านในราคาที่สูงขึ้นกว่าเดิมถึงสองเท่า


พ่อของทินกรซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้าน จึงช่วยกันปลุกระดม ทั้งหว่านล้อมไม่ให้ชาวบ้านหลงเชื่อพวกนายทุนหน้าเลือดที่เข้ามาวุ่นวายด้วยหวังกอบโกยผลประโยชน์และรุกล้ำพื้นที่ป่า


แต่หลังจากมีการประท้วงจากชาวบ้านได้เพียงสองวัน พ่อของทินกรก็ถูกรถไม่มีป้ายทะเบียนเฉี่ยว ขณะที่กำลังจะไปในตัวอำเภอ


[ตอนนี้ชาวบ้านขวัญเสียกันมาก ผมกลัวว่าพวกเขาจะยอมขายที่ให้ไอ้พวกนั้น เพราะกลัวจะถูกทำร้ายเหมือนพ่อ]

“เราต้องทำอะไรสักอย่างแล้วล่ะ ทินแจ้งตำรวจเรื่องพ่อหรือยัง”

[แจ้งแล้วครับ แต่ยังไม่คืบหน้าเท่าไหร่ เพราะรถไม่มีป้ายทะเบียน ส่วนเรื่องบุกรุกป่า ผมก็แจ้งแล้ว แค่ไม่เห็นมีใครเข้ามาสำรวจอะไร เรื่องนี้คงเกี่ยวข้องกับพวกมีสีด้วย]

“เอาเถอะ ทินดูแลพ่อให้ดี ดูแลตัวเองด้วย ยังไงผมจะลองทำอะไรสักอย่างดู แล้วจะติดต่อไปเร็วๆ นี้”

[ขอบคุณครับคุณไอ]



หลังจากวางสายไปแล้ว กมลก็ถึงกับต้องนั่งกุมขมับ เรื่องนี้ดูจะใหญ่เกินกำลังของเขาไปมากจริงๆ แม้ไม่อยากยุ่งเกี่ยว ทว่าเขาก็ทำใจร้ายใส่คนที่เข้ามาของความช่วยเหลือไม่ได้


กระนั้น กมลก็ยังไม่รู้ว่าตัวเองต้องช่วยเหลือทางไหนได้บ้าง


ขณะที่กำลังคิดไม่ตก อยู่ๆ ก็มีเสียงเคาะประตูห้อง ก่อนพนักงานคนหนึ่งจะก้าวเข้ามา


“คุณไอคะ มีแขกมาขอพบค่ะ”

“ใครหรือ…”

ไม่ทันได้คำตอบจากปากหญิงสาว แขกที่ว่าก็แทรกตัวเข้ามาในห้องเสียก่อน “ผมเอง”

“คุณเล็ก” กมลเอ่ยเรียกอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ “มาได้ยังไงครับ ไหนว่าไปภูเก็ตกลับวันเสาร์”

“ขอบคุณนะครับ” ณธิปหันไปขอบคุณพนักงานสาวที่นำทางมา ก่อนปิดประตูส่งเธอ แล้วจึงหันมาตอบกมล “งานผมเสร็จเร็ว เลยกลับมาก่อนกำหนด”

“อ้อ…แล้วคุณเล็กมีธุระอะไรกับผมหรือเปล่า จึงได้มาหาถึงที่นี่”

“ไม่มีหรอก แค่อยากเจอคุณ ถึงได้แวะมาหา คุณงานยุ่งหรือเปล่า” เมื่อลงจากเครื่องบิน ณธิปก็ตรงมาที่ I promise Tower ทันที เขาตั้งใจแค่แวะมาหาเหมือนที่บอกจริงๆ เพราะไม่ได้พบหน้ากมลมาหลายวันแล้ว ด้วยต่างคนต่างยุ่งกับการทำงานทั้งคู่

“ตอนนี้…” กมลชั่งใจครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบไปตามตรง “ไม่ยุ่งครับ กำลังจะกลับบ้าน”

“จริงหรือ โชคดีจัง” ประโยคหลังเหมือนชายหนุ่มจะพูดกับตนเองมากกว่า

“…ครับ” กมลพยักหน้ารับเบาๆ “คุณว่าแวะมาหา แปลว่าคุณว่างใช่ไหม”

“ว่างสิ ผมถึงได้มาหาคุณนี่ไง”

“ถ้าอย่างนั้น ออกไปทานข้าวด้วยกันไหมครับ” กมลไม่คิดว่าตัวเองจะวันที่เอ่ยประโยคนี้กับคนตรงหน้า ทว่าตอนนี้ เขากลับต้องพูดออกมาจนได้

ณธิปเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ จากนั้นก็รีบตอบจนลิ้นแทบพันกัน ทำเอากมลเกือบหลุดหัวเราะออกมา “ไปครับ ไปๆ”

อะไรจะตื่นเต้นขนาดนั้น

   ถ้าอย่างนั้นรอผมเดี๋ยวเดียว ขอเก็บของก่อน”
   
“ไม่ต้องรีบนะ ผมรอได้” คนพูด พูดพลางยิ้มหน้าบาน แม้รู้ว่าตัวเองเสียจริตมากจนเก็บอาการไม่อยู่ แต่ชายหนุ่มก็อดยิ้มไม่ได้จริงๆ
   

กมลแอบเหลือบตามองอีกฝ่ายนิดๆ ขณะก้มเก็บสัมภาระของตัวเอง ณธิปมาได้จังหวะพอดีกับที่หนุ่มหน้าหวานต้องการเอาเรื่องหนักใจปรึกษาใครสักคน ทั้งณธิปก็เป็นคนหนึ่งที่รู้เรื่องพวกนั้นดี ดังนั้นก็คงไม่แปลกหากเขาจะพูดคุยและขอคำปรึกษา


ทว่าเมื่อมองรอยยิ้มดีใจขนาดนั้น กมลก็ชักลังเลใจว่าตัวเองคิดถูกหรือไม่ที่ชวนคนคนนี้ไปทานข้าวด้วย หากก็ได้ทำลงไปแล้ว คงจะกลับลำไม่ทัน


แค่ไปกินข้าวแล้วก็คุยเรื่องที่ดิน คงไม่เป็นอะไรหรอก กมลได้แต่คิดในใจ และเมื่อเก็บของเสร็จเรียบร้อย พวกเขาก็ออกไปที่ลานจอดรถด้วยกัน ท่านกลางสายตาของพนักงานหลายคนซึ่งมองมาด้วยความสงสัยระคนประหลาดใจ







ครั้นถึงลานจอดรถ กมลก็พบปัญหาใหญ่เข้าให้ เนื่องจากชายหนุ่มลืมไปเสียสนิทว่า รถของหทัยนำไปตรวจเช็คสภาพ วันนี้พวกเขาพี่น้องจึงมาทำงานพร้อมกัน และตอนนี้ หันก็นำรถของเขาไปรับหลานๆ ที่โรงเรียน



“มีอะไรหรือเปล่าคุณ” ณธิปหันมาถามขณะกำลังจะเดินแยกไปที่รถของตัวเอง เพราะคิดว่าอย่างไร กมลก็คงปฏิเสธที่จะนั่งรถไปกับเขาเหมือนเช่นทุกที

“ผมให้อ้ายเอารถไปรับหลาน…” เขาอยากจะขอให้รอน้องสาวกลับมาก่อน เพราะไม่อยากให้ณธิปต้องไปรับไปส่ง แต่ก็รู้ดีว่ามันเสียเวลามากเกินไป

“ถ้าอย่างนั้นก็ไปรถผมสิ”

“คงต้องเป็นแบบนั้น” กมลพยักหน้ารับ “ขอโทษที่รบกวนนะครับ ทั้งที่ผมเป็นคนชวนคุณแท้ๆ”

“รบกวนอะไรกัน อย่าคิดมาก ไปที่รถเถอะ วันนี้ผมมีคนขับรถมาด้วย คุณอยากไปที่ไหนก็บอกกับเขาแล้วกัน” ณธิปคิดว่าตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่เขาเทียวไล้เทียวขื่อกมล เขารู้จักนิสัยของอีกฝ่ายดีในระดับหนึ่ง ยามนี้คนหน้าหวานคงนึกเกรงใจเขาจริงๆ แต่เป็นเพียงเหตุผลข้อหนึ่งเท่านั้น หากส่วนที่กมลกังวลจริงๆ น่าจะเป็นการนั่งรถไปไหนต่อไหนกับเขาสองคนมากกว่า

“ครับ” ยิ่งเห็นกมลทำหน้าโล่งใจที่ได้ยิน ณธิปยิ่งมั่นใจ

ขี้ระแวงจริงๆ


แม้ใจหนึ่งจะรู้สึกเจ็บนิดๆ ที่อีกฝ่ายไม่ยอมไว้ใจเขาเสียที แต่อีกใจก็คิดว่าเพราะกมลเป็นแบบนี้ เขาถึงชอบไม่ใช่หรือ


ไม่หรอก…ความจริงไม่ว่าคุณไอจะเป็นอย่างไร เขาก็ชอบ นี่สิถึงจะถูก


ณธิปเผลอยิ้ม เมื่อเห็นคนหน้าหวานเดินไปที่รถของเขา แล้วเอ่ยขอบคุณทันทีที่คนขับเปิดประตูรถให้


กมลทำให้ณธิปยิ้มบ่อยขึ้น ยิ้มให้กับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ จนบางทีก็นึกสงสัย ว่าทำไมจึงเป็นได้ถึงขนาดนี้ ทำไมจึงค่อยๆ เปลี่ยนไปจากณธิปคนเดิม เพราะอะไรกัน…


แต่แล้วชายหนุ่มก็หยุดหาคำตอบ เพราะไม่ว่ากมลจะทำให้เขาเปลี่ยน หรือความรักทำให้เขาเปลี่ยน อะไรก็ไม่สำคัญเท่ากับว่า เขามีความสุขที่เป็นแบบนี้
   

เมื่อนั่งประจำที่เรียบร้อย คนขับรถจึงถามอย่างสุภาพ ว่าเจ้านายต้องการให้พาไปที่ไหน
   

ณธิปจึงหันมาถามคนข้างๆ ต่ออีกทอด “คนชวนว่ายังไงครับ”
   

“อืม…ไม่รู้เหมือนกัน คุณอยากกินอะไรไหม ผมให้คุณเลือกบ้างแล้วกัน” เพราะทุกครั้งที่ได้ไปทานข้าวกัน กมลจะเป็นฝ่ายตัดสินใจตลอดว่าจะกินอะไร ครั้งนี้จึงผลัดให้ณธิปคิดบ้างจะได้เท่าเทียมกัน

   “ให้ผมเลือกหรือ” เจ้าของดวงตาทรงเสน่ห์ทวงซ้ำ
   
“ครับ คุณเลือกสิ”
   
“วันนี้คุณใจดีผิดปรกติเลยนะเนี่ย” ณธิปว่า
   
“เร็วสิ คนรถรออยู่นะครับ” กมลกระตุ้น และทำไม่สนใจสายตายพราวระยับที่จับจ้องอย่างยินดี
   
ผู้บริหารหนุ่มคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะโพล่งออกมา “อยากกินส้มตำ”
   
“หา…ส้มตำหรือครับ” กมลทวงซ้ำ ราวกับได้ยินไม่ชัดพอ
   
“ครับ ผมอยากกินส้มตำกับไก่ทอด”
   
“คุณไม่ชอบไม่ใช่หรือ” ที่ถามออกไปเช่นนั้น เพราะกมลจำได้ว่าเมื่อวันเกิดหลานๆ ที่ผ่านมา ณธิปแทบไม่แตะต้องเมนูนี้เลยด้วยซ้ำ
      
“ใครว่าผมไม่ชอบ”
   
“ก็คราวก่อนคุณไม่ค่อยกิน”
   
“คุณไอแอบสังเกตผมหรือครับ ถึงได้รู้ว่าผมไม่กิน”
   
“ก็…” กมลชะงักไปเมื่อได้ยินคำถาม
   
นี่คุณเล็กกำลังไล่ต้อนเขาอยู่หรือ หนุ่มหน้าหวานได้คิด
   
“ก็อะไรครับ” ณธิปถามซ้ำ ราวกับจะยืนยันความคิดของกมล
   
“ช่างเถอะครับ ว่าแต่ คุณจะกินจริงๆ ใช่ไหม” เมื่อรู้ตัวว่าถูกต้อน กมลก็ไม่ปล่อยให้ตัวเองเป็นรอง เขารีบเสเปลี่ยนเรื่อง
   
“ครับ” คนเจ้าเล่ห์ยิ้มอย่างรู้ทัน แต่ก็ไม่ได้รุกไล่อะไรอีก ด้วยสิ่งที่เขาต้องการมันต่อจากนี้ต่างหาก
   
“ถ้าอย่างนั้นก็ตามใจ มีพอรู้จักร้านอร่อนอยู่เหมือนกัน” ขณะที่กมลกำลังจะบอกเส้นทางแก่คนขับรถที่ทำตัวราวอากาศธาตุมาพักใหญ่ ณธิปกลับแรกขึ้นมาเสียก่อน
   
“ไม่ต้องไปที่ร้านหรอก”
   
“ทำไมล่ะ”
   
“ผมอยากกินฝีมือคุณมากกว่า ทำให้กินหน่อยได้ไหมครับ”
   
คำขอที่ได้ยิน ทำเอากมลเกือบร้อง ‘ห๊ะ!’ ออกมา ทว่าเขาเกือบอาการได้เสียก่อน
   
“เราจะไปทำที่ไหน”
   
“บ้านคุณไง แต่ถ้าไม่สะดวก ที่คอนโดก็ได้นะ ห้องของผมมีอุปกรณ์ครบทุกอย่าง” คนเจ้าเล่ห์แสร้งทำหน้าซื่อตาใส ก่อนจะกล่าวเสริมคำพูดให้ดูน่าเชื่อถือมากขึ้น “ผมอยากกินจริงๆ นะ วันนั้นได้ชิมไปนิดเดียว มันอร่อยมาก ไม่เคยกินส้มตำแบบนี้ที่ไหนมาก่อน เสียแต่มันค่อนข้างเผ็ด แถมใส่กุ้งแห้ง ปลาร้า แล้วก็ปูดอง เป็นของที่ผมแพ้แทบทั้งนั้นเลย คุณช่วยทำให้ผมกินอีกครั้งไม่ได้หรือครับ”
   

คนขับรถที่อดทนนั่งนิ่งๆ มาโดยตลอด เกือบหลุดหัวเราะเพราะท่าทางออดอ้อนของเจ้านายเสียแล้ว แต่ก็ต้องพยายามกลั้นเอาไว้ เพราะกลัวจะทำให้แผนของเจ้านายเสีย

   “ผมไม่สะดวกเท่าไหร่” กมลปฏิเสธตามตรง ซึ่งนี่ก็เป็นเรื่องที่ณธิปคาดไว้อยู่แล้ว

   “คิดแล้วว่าคุณต้องพูดแบบนี้ ถ้าอย่างนั้นก็ตามใจคุณเถอะครับ คุณเป็นคนชวน ผมกินได้หมด เพราะนอกจากส้มตำฝีมือคุณ ผมก็นึกไม่ออกแล้วว่าอยากกินอะไร” ชายหนุ่มว่าพลางหันหน้ากลับไปมองตรง ไหล่ลู่ ทำหน้าหงอยๆ เหมือนเด็กโดนขัดใจไม่มีผิด

   “เอ่อ…”


ให้อีกฝ่ายทำหน้าขัดใจ ฮึดฮัด หรือหัวเสีย ยังดีกว่าทำหน้าหงอยๆ แบบนี้ เพราะกมลไม่รู้จะรับมืออย่างไร จริงอยู่ที่เขาเป็นคนชวน ซ้ำยังไม่ต้องทำตามที่ณธิปต้องการก็ได้ แต่ท่าทางน้อยอกน้อยใจเหมือนเด็กๆ นั่น ก็ทำให้กมลนึกใจอ่อน และเมื่อคิดถึงวันเกิดหลานๆ กมลก็รู้สึกผิดกับณธิปขึ้นมานิดหน่อย ที่ทำให้ณธิปดูเหมือนเป็นส่วนเกิน ทั้งที่อีกฝ่ายตั้งใจมาอวยพรให้เด็กๆ
   

“ตกลงว่าจะให้ผมไปร้านไหนดีครับ” สถานการณ์ในห้องโดยสารตึงเครียดเสียจนคนขับต้องเอ่ยปาก
   
“ไปคอนโด XXX ของคุณเล็กครับ อ้อ…แต่ช่วยแวะซุปเปอร์มาร์เก็ตที่อยู่ข้างๆ คอนโดด้วยนะครับ ผมต้องซื้อของ”

   “ครับ” คนขับรถยิ้มออกทันที เพราะแผนของเจ้านายสำเร็จดังใจ
   

ส่วนคนที่มารยามากก็เผยยิ้มออกมาเช่นเดียวกัน
   

“ขอบคุณนะไอ”
   
“ไม่เป็นไรครับ ก็ผมชวนคุณเองนี่นะ อีกอย่าง ไปทำที่ห้องผมดีกว่า ผมถนัดใช้ครัวห้องตัวเองมากกว่า”
   
“ได้สิ แบบนั้นยิ่งดีเลย” คนเจ้าเล่ห์ว่า ก่อนจะหันกลับมา โน้มตัวเข้าไปสบตาในระยะประชิด แล้วเอ่ยด้วยเสียงเบาๆ ราวกับกระซิบให้ฟังกันสองคน “ก็เพราะใจดีแบบนี้ แล้วจะไม่ให้หลงรักยังไงไหว”
   

คำก็หลง คำก็รัก แม้กมลจะยังไม่เชื่อใจอีกฝ่ายนัก ทว่ากมลก็ยังเป็นมนุษย์ มีความรู้สึก มีหวั่นไหวได้เหมือนปุถุชนทั่วไป ยิ่งระยะห่างของความสัมพันธ์ที่สั้นลง ความคุ้นเคยสนิทสนมก็ทำให้บางครั้ง หัวใจอาจมีเผลอไผลไปบ้าง


   แม้จะชั่วขณะหนึ่ง ก็ต้องยอมรับว่าก้อนเนื้อในอกของเขา เต้นผิดจังหวะเพราะคนเจ้าเล่ห์คนนี้จริงๆ





<><><><><><><><><><><><><><><><><>



อย่าลืมจุดประสงค์ที่แท้จริงสิคะ
เราจะเลี้ยงข้าวเพราะคุยธุระกับเค้า
คุณไอของบ่าวต้องเข้มแข็งไว้ 555555


หายไปนานเลย ขอโทษด้วยนะคะ
ฝากตอนนี้ด้วยค่ะ


ละอองฝน.
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 24 [11/10/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: khwanruen ที่ 11-10-2017 20:04:09
คุณไอกลับมาแล้ว คิดถึง  :mew1:
หวั่นไหวอีกแล้วนะคุณไอ คุณเล็กก็เจ้าเล่ห์ไม่เบา  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 24 [11/10/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 11-10-2017 20:09:59
เรื่องของไอเป็นปัญหาใหญ่ก็ต้องทุ่มทุนกันหน่อยสิ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 24 [11/10/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 11-10-2017 20:38:57
มาแล้ว
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 24 [11/10/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 11-10-2017 21:22:14
อนาคตต้องฝ่าฝันอุปสรรคที่โหดสุดๆแน่ๆมีเรื่องกะคนมีอิทธิพล
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 24 [11/10/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 11-10-2017 21:54:19
คุณเล็กแผนสูงมว๊าก..กกกกกกกกกก    :hao3: :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 24 [11/10/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 11-10-2017 22:29:22
 :pig4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 24 [11/10/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: MNIMD ที่ 12-10-2017 10:24:35
  คุณเล็กของบ่าว อ่านแล้วชอบคุณเล็กมากๆเลยค่ะ  ถ้าไอเล่นตัวอีกนิดจะไปลากคุณเล็กมาเป็นของตัวเองแล้ว ตอนแรกนึกว่าคุณเล็กจะเป็นผู้ชายที่ร้ายกาจกว่านี้ เพราะอ่านเรื่องโปรดจงรักแล้วคิดว่าคุณเล็กร้าย แต่ความจริงคือคุณเล็กเป็นเด็กที่แค่คิดว่าพ่อไม่รักตัวเอง พี่ชายตัวเองดีกว่าตัวเองเสมอ คุณพ่อก็ไม่น่าปากหนักเลยทั้งๆที่รักลูกและก็พร้อมให้อภัยลูกขนาดนี้ ปัญหาในอนาคตคาดว่าคุณพ่อน่าจะช่วยไอกับคุณเล็กแก้ปัญหาแน่ๆ
  คุณเล็กในตอนแรกเหมือนเด็กอยากเอาชนะ อยากให้คุณพ่อสนใจ อยากดีเทียบเท่าพี่ชาย อ่านแล้วสงสารคุณเล็ก เลยทีมคุณเล็กแต่แรกเป็นต้นมา แต่เรื่องคุณเกษเข้าใจเล็กนะว่าอยากให้คุณพ่อมองตัวเองให้ดีขึ้น แต่ดันเมาเลยล่ม แต่ดีแล้วค่ะที่ล่มถึงแม้จะได้แลกหมัดของไอมาก็ตาม คุณไอใจแข็งมากๆ จนน้ำแข็งหิมาลัยยังต้องยอม ชอบตรงที่คุณเล็กจีบไอไม่ถูกวิธีแล้วอกหัก ปรึกษาคนนู้นคนนี้แล้วใช้วิธีจริงใจเข้าหา
  นี่สงสารคุณเล็กตอนหิ้วเค้กไปให้ไอในวันเกิด ทำไมคะทำไมคุณไอไม่กินกับคุณเล็ก
คุณเล็กนี่รักใครทุ่มสุดตัวเลยจริงๆ ถึงแม้ตอนแรกจะโกรธที่ไปมีอะไรกับคิว แต่ก็เหมือนพอนอนแล้วเห็นดวงตาธรรมว่าต่อให้กี่คนที่เหมือนไอแต่ก็ไม่ใช่ไอ ก็พอให้อภัยได้ค่ะ
  แอบกรี๊ดตอนพี่เมฆมางานวันเกิดหยินหยาง มาเจอกับศัตรูหัวใจคนเก่า แอบสงสัยเล็กๆว่าพี่ภัทรมาจีบอ้ายหรือเปล่า
  กลัวดราม่าเรื่องที่ดินจะเกิดขึ้นจัง อยากให้ทั้งคู่ผ่านมันไปได้ พ่อของคุณเกษนี่คือที่สุดแล้ว เป็นคุณเกษคงทนไม่ได้ บีบบังคับตัวเองเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง มันไม่ใช่วิถีของคนเป็นพ่อนะคะพ่อ แล้วยังจะมาบุกรุกที่ดินอีก
  ชอบนิยายคุณละอองฝนมากๆค่ะ รวมเล่มเมื่อไหร่จะไม่พลาดแน่ๆค่ะ (///▽///)
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 24 [11/10/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 14-10-2017 09:18:47
 :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 24 [11/10/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: A-J.seiya* ที่ 02-11-2017 02:53:30
แงงงงงง โคตรเจ้าเล่ห์ ฮืออ
คุณเล็กของพรี่ ทำไมน่ารักขนาดนี้
คุณไอคงค่อยๆใจอ่อนอ่ะนะ
อ่านมา 23 ตอน ตกใจมากที่นายเอกเพิ่งหวั่นไหว 5555
แบบว่า ยู้ววว เอางัยดี
เดาว่าคุณไอน่าจะเอาเรื่องลำบากใจมาให้คุณเล็กอีกแล้ว
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 24 [11/10/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 02-11-2017 07:24:43
เสือก็คือเสือวันยังค่ำ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ ลอยกระทง [4/11/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ละอองฝน ที่ 04-11-2017 02:39:35






คุณคือความรัก ตอนพิเศษ ลอยกระทง







   ลอยกระทง เป็นประเพณีไทยที่สืบทอดมาอย่างยาว เป็นเทศกาลที่คนออกมาสนุกสนานรื่นเริง แต่สำหรับณธิปแล้ว ลอยกระทงก็ถือเป็นวันธรรมดาวันหนึ่งที่เขายังต้องตื่นแต่เช้าไปทำงาน ถึงจะมีกินดื่มบ้างตามประสา ทว่าไม่ใช่เพราะเป็นเทศกาลนี้


   ด้วยตั้งแต่เรียนจบณธิปก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับวันนี้อีก เขาไม่ใช่เด็กเล็กๆ ที่จะรบเร้าขอให้คุณย่าพาเที่ยวงาน ปล่อยโคม เล่มประทัด หรือพาไปลอยกระทงริมน้ำแม่ปิง ความสำคัญของมันจึงเลื่อนหายไปตามวัยและภาระหน้าที่


   ทว่าเทศกาลลอยกระทงปีนี้ต่างออกไปจากหลายปีที่ผ่านมา เพราะเขาได้รับข้อความจากกมลว่า ที่ I promise มีจัดงานลอยกระทงในช่วงเย็น ถ้าณธิปว่างจะมาเที่ยวก็ได้


   ความจริงหลังจากคุยกันมาสักระยะ การที่กมลจะส่งข้อความมาหาก่อนก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องแปลกอะไร ซ้ำนี่ก็คงส่งมาตามมารยาทเช่นทุกที แต่ทุกครั้งที่ได้รับคำเชื้อเชิญก่อน ณธิปก็มักจะดีใจจนหุบยิ้มไม่ได้ เพราะอย่างน้อยเขาก็เป็นคนหนึ่งที่กมลยังคิดถึงบ้าง


   ตามปรกติ แม้จะเหลวไหลแค่ไหน แต่ถ้าเป็นเรื่องงาน ณธิปจะให้ความสำคัญเต็มที่ ทว่าวันนี้ วันที่ได้รับคำเชิญจากคนหน้าหวาน เขาก็ยอมแหกกฎของตัวเอง แล้วสั่งให้เลื่อนงานช่วงบ่ายไปก่อนทันที ซึ่งโชคดีที่งานที่นั่นไม่ได้สำคัญมากจนส่งผลเสียหายร้ายแรงอะไร


   ดังนั้นหลังทานมื้อเที่ยงกับผู้ร่วมลงทุนคนสำคัญเรียบร้อย ชายหนุ่มก็รีบบึ่งรถไปที่ I promise Tower ทันที ด้วยหวังใจว่าจะมีโอกาสอยู่ใกล้ชิดกมลให้นานที่สุด ให้สมกับไม่ได้พบกันมาร่วมอาทิตย์


   แต่เมื่อมาถึง ณธิปก็มีเรื่องให้หงุดหงิดใจขึ้นมาเรื่องหนึ่ง เพราะก่อนที่จะได้เจอกับกมล เขาดันพบเข้ากับศัตรูเก่า ที่ยังชอบส่งสายตาอาฆาตไม่เลิกรา ทั้งที่ความแค้นซึ่งมีต่อกันมันผ่านมานานมากแล้ว


   “ไม่คิดว่าจะได้เจอนายที่นี่” ณธิปทักขึ้นมาด้วยน้ำเสียงยียวนอันเป็นเอกลักษณ์ หนุ่มหน้าดุที่กำลังกำลังหิ้วของตามหลังคนรักจึงชะงัก และมองมาด้วยสายตาเชือดเฉือน

   “ผมต่างหากที่ต้องบอกว่า ไม่คิดว่าจะได้เจอคุณที่นี่” เมฆาว่า “ใครเชิญมาล่ะ”

   “จะใครล่ะ ถ้าไม่ใช่เจ้าของงานน่ะ” ณธิปยิ้มอวดราวกับเป็นเด็กๆ

   “เขาเชิญตามมารยาทหรือเปล่า ไม่ใช่ว่ามาแล้วเป็นส่วนเกินแบบคราวที่แล้วนะ” ก่อนจะโต้กลับด้วยน้ำเสียงเย็นชาเจือเยาะเย้ยน้อยๆ และนั่นทำให้ณธิปหวนนึกไปถึงงานวันเกิดของหยินและหยาง วันที่เขาถูกกันให้เป็นส่วนเกินโดยสมบูรณ์


   คิดแล้วชายหนุ่มก็หน้าตึงทันที ทว่ายังไม่ทันโต้กลับ เสียงของใครอีกคนก็ดังแทรกขึ้นมาขัดจังหวะเสียก่อน


   “พี่เมฆครับ ไปกันเถอะ”


จงรักเดินย้อนกลับมาเพราะหันมาเห็นว่าคนรักของตนเองกำลังทำท่าแง่งๆ อยู่กับผู้บริหารหนุ่ม แต่เมื่อเห็นว่าเมฆายังยืนปักหลักทำหน้าเหมือนคนที่เหนือกว่าใส่ณธิป หนุ่มตัวเล็กจึงพยายามคลี่คลายสถานการณ์ ด้วยไม่อยากให้บรรยากาศของงานรื่นเริงเริ่มแย่ตั้งแต่ยังไม่เริ่ม


“คุณเล็กก็เข้าไปในงานเถอะครับ พี่ไอคงรออยู่”

“ขอบคุณครับ คุณนี่น่ารักจริงนะ” ณธิปยิ้มหวานให้จงรัก ใจหนึ่งก็นึกขอบคุณ อีกใจก็อยากกวนประสาทเมฆาด้วย

“…ขอบคุณครับ” เห็นณธิปยิ้มหวาน ทำตาวาววับใส่ทีเล่นทีจริง จงรักก็ได้แต่ตอบขอบคุณอึกๆ อักๆ

“รัก” เมฆาเรียกคนรักเสียงเย็น

“ครับ…”

”ไหนเมื่อกี้ว่าจะเข้าไปข้างในไง ไปได้แล้ว” ครั้นพูดจบเขาก็ถลึงตาใส่ณธิปไปที ก่อนจะจับมือและดึงให้หนุ่มตัวเล็กเดินตามเข้าไปในตัวตึกทันที

“เฮ้อ~” ณธิปถอนหายใจ พลางส่ายหัวเบาๆ


เขาไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกับคนรักคนนี้ของเมฆา เพราะทั้งใจมีเพียงแต่คนใจร้ายคนนั้นที่ครอบครอง แต่พอเห็นเมฆาทีไร มันก็อดไม่ได้ที่จะแกล้งสัพยอกอีกฝ่าย เพื่อดูสีหน้าเย็นชานั่นเปลี่ยนไปร้อนรน และหงุดหงิดหัวฟัดหัวเหวี่ยง


หากใครจะว่าเขาโรคจิต เขาก็ไม่ปฏิเสธหรอก


ณธิปปัดเรื่องไร้สาระออกจากหัว ก่อนเดินเข้าตึกสำนักงานของกมล ทันทีที่ผ่านซุ้มประตูเข้าไป เขาก็พบกับพนักงานหลายคนกำลังวิ่งวุ่นเพื่อจัดสถานที่จัดงานลอยกระทงในตอนค่ำ


ชายหนุ่มหยุดยืนเพื่อมองหากมล ทว่าในโถงทางเดินด้านหน้านั้นไม่มีคนที่เขาตามหาอยู่ มีเพียงชายหนุ่มหน้าตากวนประสาทคนหนึ่งซึ่งมองมาทางณธิปอยู่ก่อนแล้ว


ครั้นณธิปยิ้มให้ อีกฝ่ายก็เดินเข้ามาหาเขาทันที


“พี่เล็ก มาเที่ยวงานลอยกระทงที่นี่เหมือนกันหรือครับ”

“อืม” ณธิปพยักหน้า “วุ่นวายกันน่าดูเลยนะ ฉันคิดว่าเป็นงานเล็กๆ ในบริษัทเสียอีก”

“ก็งานเล็กๆ นั่นแหละครับ แต่ก็นะ ถึงจะเป็นงานเล็กงานน้อยยังไง คุณไอเขาก็เต็มที่ตลอดอยู่แล้ว พวกพนักงานเองก็สนุกไปด้วยอีกต่างหาก เพราะมีประกวดโน้นนี่ มีรางวัลให้ด้วย เหมือนช่วยกันจัดปาร์ตี้ อะไรทำนองนั้น”


   ณธิปฟังแล้วมองภาพ เขาเองก็รู้สึกว่าทุกคนดูสนุกกับงานจริงๆ แม้ต้องเหนื่อยก็ตาม เขาค่อนข้างชอบที่กมลให้ความสำคัญกับพวกพนักงาน แม้ที่นี่จะใหญ่โตพอควร แต่ก็อยู่กันเหมือนระบบครอบครัวจริงๆ


   “ว่าแต่คุณไออยู่ไหนล่ะ”

   “เอ้…อยู่ไหนนะ” คนถูกถามยิ้มกวนประสาท

   “ไอ้กลอง บอกมาดีๆ”

   “อยู่ที่สวนด้านหลังครับ กำลังรอทำกระทงกันอยู่ แต่จงรักมาเมื่อกี้ ป่านนี้คงเริ่มทำกันแล้ว”

   “งั้นฉันไปล่ะ”

   “โถ่…ไม่อยู่คุยกับผมอีกหน่อยเหรอพี่ นานๆ จะเจอพี่รหัสกับเขาสักที”

   “ฉันอยากเจอแกตายล่ะ ไปแล้วนะ เสียเวลา”

   “ครับๆ” กลองโบกมือให้พี่รหัสพลางยิ้มออกมาด้วยท่าทางชอบใจที่ได้แกล้งอีกฝ่าย


   โลกนี้มันกลมกว่าที่ณธิปคิดไว้มาก เขาเพิ่งรู้เมื่อไม่นานมานี้ว่าน้องรหัสของตนเองทำงานเป็นลุกจ้างอยู่ที่ I promise Tower ดังนั้นณธิปจึงใช้ความเป็นพี่ให้เป็นประโยชน์ โดยการใช้น้องสายรหัสของตนเองคอยสืบข่าวคราวความเป็นไปของกมลให้ โดยมีค่าตอบแทนเล็กๆ น้อยๆ ให้ด้วย


   เมื่อเดินหลุดออกมาจากตัวอาคาร ด้านหลังตึกก็ปรากฏให้เห็นสระน้ำธรรมชาติขนาดย่อมๆ ภูมิทัศน์ที่ถูกสรรสร้างโดยฝีมือมนุษย์ ดูสวยสมจริงจนไม่น่าเชื่อว่ากำลังยืนอยู่ใจกลางกรุงเทพ


   และที่เต้นท์สีขาวริมสระมีผู้คนนั่งล้อมวงกันอยู่เป็นจำนวนมาก ณธิปมองไล่สายตาหาหนึ่งในบรรดาผู้คนที่ก้มหน้าก้มตาทำงานฝีมือจากใบตอง เพียงครู่เดียวเขาก็พบหนุ่มหน้าหวานนั่งโดดเด่นอยู่ไม่ใกล้จากคนรักของเมฆานัก


   เห็นดังนั้นณธิปจึงเดินเข้าไปหาเป้าหมายทันที


   ทันทีที่เดินเข้าไปใกล้ พนักงานหลายๆ คนก็หันมามองทางณธิปเป็นตาเดียว แล้วต่อจากนั้นทุกคนก็พากันขยับเพื่อหลีกทางให้ชายหนุ่มเดินไปหาเจ้านายของตนโดยไม่ได้นัดหมาย พอกมลเห็นความเคลื่อนไหวนั้น เขาจึงเงยหน้าขึ้นมองคนที่เพิ่งมาใหม่


   “มาเร็วนะครับ เสร็จงานแล้วหรือ” กมลทัก

   “เรียบร้อยแล้วล่ะ แต่ถึงยังไม่เสร็จ ก็รอก่อนได้ แต่ที่จะมาหาคุณ ผมรอไม่ได้”


พนักงานแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งน้อยใหญ่ ต่างก็มองหน้ากันด้วยท่าทางอิหลักอิเหลื่อ เพราะไม่คิดว่าณธิปจะหยอดเจ้านายตนซึ่งๆ หน้า ทั้งที่คนนั่งกันเยอะเช่นนี้ แต่คุณไอของทุกคนก็ไม่มีท่าทีหวั่นไหว ได้แต่ยิ้มบางๆ ตามวิสัย แล้วขยับที่ให้ณธิปนั่งด้วย


“ทำกระทงด้วยกันสิครับ จงรักกำลังสอนพอดี” กมลชักชวน

“ผมไม่ค่อยเก่งงานฝีมือน่ะ ลอยกระทงเดียวกับคุณไม่ได้เหรอ” ณธิปว่า

“กระทงใครกระทงมันสิคุณ ผมก็ไม่เก่งเหมือนกัน”

“งั้นเราช่วยกันทำกันก็ได้” ณธิปเสนอ ทว่าก่อนที่กมลจะตอบอะไร เสียงของใครคนหนึ่งก็เอ่ยขึ้นมาลอยๆ

“ไม่มีน้ำยา”

“พี่เมฆครับ” จงรักรีบปรามคนรักของตนเอง ที่วันนี้ดูเหมือนจะเกเรกว่าทุกวัน

“ว่าไงครับ” เมฆาก้มลงมองน้อง

“ตั้งใจทำของตัวเองสิครับ” จงรักอยากบอกพี่เมฆาว่าอย่าหาเรื่องณธิปเลย เพราะกลัวพี่ชายลำบากใจ ด้วยไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองคนเป็นอย่างไร

“พี่ก็ตั้งใจทำอยู่นี่ครับ” เมฆาบอกพลางยื่นกลีบใบตองเบี้ยวๆ ที่เพิ่งพับให้คนรักดู

“หึ…ขนาดตั้งใจแล้วนะ” ณธิปแอบเหน็บ

“ก็ดีกว่าคนที่ไม่รู้จักพยายามแล้วกัน”

“ใครว่าฉันไม่รู้จัก”

“ถ้างั้นก็ลองทำดูเองสิ”

“ได้ งั้นก็ลองดูว่าใครจะทำสวยกว่ากัน” ณธิปท้า

“เอาสิ” และคนที่เคยนิ่งๆ อย่างเมฆาก็รับคำท้าเสียด้วย พาให้คนทั้งเต้นท์ลอบกลืนน้ำลายกับศึกใหญ่หลวงไปตามๆ กัน มีเพียงกมลกับจงรักที่ลอบมองกันด้วยแววตาเหนื่อยใจ








หลังจากผ่านไปกว่าสองชั่วโมง ณธิปก็เริ่มรู้สึกว่าเขาไม่น่าปากไวรีบส่งสารท้ารบให้แก่ศัตรูก่อนเลย เพราะการทำกระทงมันยากกว่าที่คิดมาก แม้จะได้คุณไอช่วยบ้าง หรือมีจงรักแวะเวียนเข้ามาปรับให้นิดหน่อย แต่โดยรวมแล้วก็ยังดูเหมือนกระทงที่เด็กประถมทำอยู่ดี


สงสัยงานนี้จะแพ้เสียแล้ว…ณธิปคิดเช่นนั้น จนกระทั่งได้เห็นกระทงรูปร่างประหลาดของเมฆา ชายหนุ่มก็ลอบถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เพราะสภาพก็ไม่ต่างจากกระทงของเขามากนัก


“ยิ้มอะไรครับ” กมลถาม เมื่อเห็นคนเจ้าเล่ห์ผุดยิ้มร้าย

“กำลังตลกคนอวดเก่ง” ณธิปว่า

“คุณว่าตัวเองหรือ” กมลตอบกลับหน้าตาย

“นี่คุณว่าผมหรือไอ เดี๋ยวเถอะ ถ้าผมจีบติดเมื่อไหร่ คุณโดนทำโทษแน่” ชายหนุ่มเอ่ยอย่างนึกหมั่นเขี้ยว หมายมั่นปั้นมือว่า ถ้าวันนั้นมาถึงเมื่อใด เขาจะเอาคืนให้สมใจทีเดียว แต่กมลกลับไม่สะทกสะท้าน ทั้งยังตอกกลับนิ่งๆ

“ยังมีหน้ามาขู่คนอื่นอีกนะ จีบให้ติดก่อนเถอะ”

“คอยดูเถอะ ผม…” ยังไม่ทันที่ณธิปจะเอ่ยจบ เสียงของเด็กแสบสองคนก็ดังขัดขึ้นเสียก่อน

“ลุงไอ!~”

“พี่หยิน น้องหยาง” กมลปัดไม้ปัดมือ ก่อนจะอ้าแขนกอด ต้อนรับเด็กทั้งคู่ เด็กๆ หอมแก้มของคุณลุงใจดีคนละฟอด ก่อนจะหันมาสวัสดีทุกคนในเต้นท์รอบสารทิศ รวมทั้งณธิปด้วย


แล้วเจ้าแฝดคนเล็กก็ตาดี เห็นกระทงที่อยู่ในมือของณธิปเข้า เขาจึงเอ่ยทักขึ้น


“อาเล็กทำกระทงเหรอครับ”

“ครับ” ณธิปพยักหน้า “กระทงของอาสวยไหมครับ”

“สวยครับ ดอกไม้เย้อะเยอะ” หยางว่า เขาชอบกระทงของณธิป เพราะมีดอกไม้สีสันสวยงามประดับเต็มกระทง แม้จะบิดเบี้ยว แต่เด็กน้อยก็ไม่ใคร่ใส่ใจ

“ของพ่อเมฆก็สวยนะหยาง” แฝดคนพี่ว่า พลางชี้ชวนให้แฝดน้องมองตาม

“ขอบคุณครับน้องหยิน” เมฆายิ้มรับคำชมของเด็กน้อย

ได้ยินเด็กสองคนเอ่ยชมเช่นนั้น กมลก็นึกไอเดียหนึ่งขึ้นมาได้ และคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ และอาจลดความขัดแย้งของสองหนุ่มได้อีกด้วย

“เด็กๆ ครับ”

“ครับลุงไอ” เด็กสองคนประสานเสียงตอบลุง

“พวกหนูช่วยลุงไอเป็นกรรมการทีได้ไหมครับ”

“กรรมการเหรอครับ” หยินเอียงคอสงสัย

“ครับ” กมลพยักหน้า

“กรรมการอะไรครับลุงไอ” หยางถามต่อ

“ก็เป็นกรรมการตัดสิน ว่ากระทงของใครสวยกว่ากัน ระหว่างพ่อเมฆกับอาเล็ก”


เด็กสองคนหันมองหน้ากัน แล้วพยักหน้าอย่างรู้ใจ ก่อนจะตะโกนออกมาอย่างนึกสนุก


“พวกเราจะเป็นกรรมการให้ครับ!”


ทุกคนลอบยิ้มออกมาทันที ทั้งยังโล่งใจที่ไม่ต้องนั่งตัดสินศึกระหว่างสองหนุ่ม มีเพียงณธิปกับเมฆาเท่านั้นที่นึกหวั่นๆ เพราะเดาใจเด็กๆ ไม่ได้ ซ้ำยังกลัวว่าจะแพ้ฝ่ายตรงข้ามด้วย


เมื่อกระทงเสร็จแล้วทั้งคู่ พวกเขาก็เอามาวางข้างกันเพื่อให้เด็กน้อยได้ดูจนพอใจ จะได้ตัดสินว่าของใครที่เหนือกว่า เดินวนดูอยู่ครู่หนึ่ง เด็กๆ ก็ซุบซิบหารือว่าควรตัดสินอย่างไร ทว่าอยู่ๆ เจ้าแฝดคนน้องก็ร้องโวยวายขึ้นมาเสียก่อน


“หยางชอบดอกไม้มากกว่า” น้องหยางประกาศ

“แต่ของพ่อเมฆมันมีสามชั้น สวยจะตาย” หยินว่า

“แต่ของพ่อเมฆมีดอกไม้นิดเดียว สีไม่สวย” คนนั้นส่ายหน้าพลางวิจารณ์

“แต่ของอาเล็กมีกลีบชั้นเดียว พี่ว่าไม่แข็งแรง” หยินวิจารณ์บ้าง

“แล้วตกลงพี่หยินจะเลือกอันไหน”

“พี่เลือกของพ่อเมฆ” หยินตอบอกย่างมั่นใจ

“แต่หยางชอบของอาเล็ก พี่หยินต้องเลือกของอาเล็กกับหยางสิ”

“ใครชอบอันไหนก็เลือกอันนั้น น้องหยางอย่าเอาแต่ใจ” คนพี่พูดอย่างมีเหตุผล แต่ดูเหมือนคนน้องจะไม่ยอม พลางงอแงไม่เลิกอีกด้วย

“แต่ถ้าเลือกคนละอัน ก็ไม่มีใครชนะสิ แข่งแล้วต้องมีคนชนะ”

“หยางเอาแต่ใจ”

“พี่หยินก็เอาแต่ใจ อย่าว่าน้องนะ!” เจ้าตัวดีฮึดฮัด


   ดูเหมือนการละเล่นสนุกๆ ของผู้ใหญ่ จะทำให้เด็กไม่รู้เรื่องรู้ราวของคนทะเลาะกันเสียแล้ว ดังนั้นผู้ใหญ่จึงต้องออกโรงก่อนเรื่องราวจะลุกลาม


   “ไม่ต้องทะเลาะกันแล้วนะครับ พวกเราเสมอกันก็ได้” เมฆาเข้ามาหาเด็กๆ เจ้าหยินจึงกระโดดกอดขาชายหนุ่มไว้

   “นั่นสิ เด็กๆ ให้คนละหนึ่งคะแนนนี่นะ เสมอกัน” ณธิปเข้ามาอุ้มน้องหยางที่ทำหน้าเบี้ยวด้วยความขัดใจ

“หยางไม่อยากให้เสมอ เดี๋ยวไม่มีคนได้รางวัล” เจ้าตัวเล็กพูดกับณธิป

“เสมอกัน ก็เหมือนชนะทั้งคู่ ได้รางวัลทั้งสองคนเลย แบบนี้ดีไหม”

“แล้วคนให้คะแนนได้รางวัลด้วยไหมครับ” หยางถามเบาๆ

“เจ้าเล่ห์นี่นา” ณธิปหัวเราะออกมาเสียงดัง เด็กคนนี้เหมือนเขาตอนเด็กๆ ไม่มีผิด “วันนี้อาไม่มีของรางวัลเลย อามีแต่กระทงอันเดียว”

“หยางอยากได้กระทงของอาเล็ก หยางจะลอยกระทง”

“แล้วกระทงขนมปังนี่ล่ะคะลูก” หทัยยกกระทงขนมปังที่เจ้าตัวดีได้มาจากโรงเรียนให้ดู

“กระทงขนมปังเอาไว้ไปลอยที่วัด ที่มีปลาเยอะๆ” เด็กน้อยว่า “วันนี้ขอหยางลอยกระทงดอกไม้ของอาเล็กนะครับ”

ณธิปยิ้มออกมาจนเต็มแก้ม เพราะไม่คิดว่าจะมีคนชอบกระทงเบี้ยวๆ ที่เขาประดิษฐ์ “ได้สิครับ อายกให้นะ”
“ถ้าอย่างนั้นหยินขอของพ่อเมฆนะครับ” เห็นน้องได้กระทงใบตอง ความอยากลอยกระทงขนมปังของแฝดพี่ก็หมดลง

“ครับ” เมฆาพยักหน้ารับ

“เย้ๆ”


เมื่อเด็กทั้งสองได้สิ่งที่พอใจแล้ว ทั้งคู่ก็กลับมาดีกันเหมือนเก่า ราวกับเมื่อครู่ไม่ได้ตั้งท่าเลาะกัน เห็นดังนั้นเมฆากับณธิปกับเผลอหันมายิ้มให้กันอย่างโล่งใจ ด้วยไม่ต้องเป็นสาเหตุให้เด็กๆ งอแง แต่พอนึกขึ้นได้ว่าอีกฝ่ายเป็นคนที่ไม่ชอบขี้หน้า สองหนุ่มก็แสร้งเบือนหน้าหนีไปคนละทาง ท่ามกลางสายตาขบขันของกมลและจงรัก








   งานลอนกระทงที่ I promise สนุกกว่าที่ณธิปคิด แม้จะวุ่นวายและหลังขดหลังแข็งเพราะนั่งทำงานฝีมือตั้งแต่บ่าย แต่พอตกเย็นก็มีเลี้ยงอาหารและประกวดนางนพมาศกันสนุกสนาน กว่าจะได้ลอยจริงๆ ก็ปาเข้าไปเกือบสามทุ่ม


   เนื่องจากกระทงที่ทำแข่งก่อนหน้าให้หลานๆ ของกมลไปแล้ว ณธิปก็หันมาเรียกร้องเอารางวัลจากคนคิดเกมแทน ครั้นเห็นกมลเดินไปทำท่าจะลอยกระทงเหมือนคนอื่นๆ ชายหนุ่มก็ลุกจากเก้าอี้และเดินตามไปที่สระน้ำ


   “ให้ผมลอยด้วยสิ” เจ้าของดวงตารีเรียวว่า

   “ได้ยังไง นี่ของผมนะ” กมลบอก

   “แต่ผมยกของตัวเองให้น้องหยางไปแล้วนี่” ชายหนุ่มอ้าง “แถมยังไม่ได้รางวัลเลยด้วย ที่แข่งกับนายเมฆน่ะ”

   “ผมไม่ได้บอกว่าจะให้รางวัลสักหน่อย” คนหน้าหวานค้าน เพราะเขาไม่ได้บอกจริงๆ

   “โถ่…อย่าใจร้ายสิครับ ดูนายคนนั้นยังไปลอยกระทงเดียวกับจงรักได้เลย” ณธิปบุ้ยใบ้ไปทางจงรักกับเมฆา ที่กำลังช่วยกันวักน้ำส่งกระทงที่ริมสระด้านหนึ่ง

   “ก็เขาเป็นคนรักกัน” กมลตอบ

   “คุณไอก็เป็นคนรักของผมเหมือนกัน” คนเจ้าเล่ห์บอกหน้าทะเล้น ก่อนจะว่าต่อ “ผมแค่กำลังรอให้คุณรับผมเป็นคนรักเท่านั้นเอง”

   กมลมองคนหน้าไม่อาย ก่อนจะถอนหายใจเบาๆ “งั้นก็รอไปก่อนครับ”

   “ใจร้าย” ณธิปบ่นเมื่อเห็นอีกฝ่ายพูดจาเย็นชา ทั้งยังเดินไปที่ริมน้ำโดยไม่รอเขา


   ทว่าก่อนที่กมลจะนั่งลงอธิษฐานและลอยกระทง คนใจร้ายก็หันมาปรายตามองณธิปด้วยสีหน้าอ่านไม่ออก ก่อนจะเอ่ย


   “ถ้าจะลอยด้วยกันก็รีบมาสิครับ”


   ครั้นได้ยินณธิปก็ยิ้มกว้างออกมา ก่อนจะรีบเดินไปทรุดนั่งข้างๆ อีกฝ่ายทันที


มองกระทงค่อยๆ เคลื่อนไกลออกไป แสงประทีปสว่างไสวท่ามกลางแสงจันทร์เฉิดฉัน เมื่อครู่ ก่อนที่จะลอยกระทง ณธิปอธิษฐานไปข้อหนึ่ง เขาไม่ได้ขอให้กมลรัก แต่ขอให้คนใจร้าย ใจดีกับเขาทุกๆ วัน เท่านั้นก็พอใจแล้ว…







<><><><><><><><><><><><><><><><><><>




มาแล้วค่าาา

แต่มาเป็นตอนพิเศษนะคะ
ตอนนี้มี feat.กับโปรดจงรัก ด้วยล่ะ
ถ้าจะพูดถึงเรื่องช่วงเวลาในเรื่องแล้ว ตอนนี้ไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่องหลักนะคะ
แค่อยากเขียนออกมาเป็นโมเม้นพิเศษเฉยๆ
ส่วนตอนหลักจะลงให้อ่านไม่เกินวันอาทิตย์ค่ะ


ฝากด้วยนะคะ


ละอองฝน.
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ ลอยกระทง [4/11/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 04-11-2017 03:32:45
 :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ ลอยกระทง [4/11/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 04-11-2017 03:33:15
 :pig4:  :pig4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ ลอยกระทง [4/11/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: pigarea ที่ 04-11-2017 09:30:01
คุณเล็กทำไมมักน้อยจัง 555
โอ๊ย...หวานอ่ะ เราชอบจงรัก ชอบเรื่องนี้มาก ชอบทุกอย่างเลย
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ ลอยกระทง [4/11/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: kobyp_lu ที่ 04-11-2017 10:33:02
น่ารักกกกกก  ชอบแบบนี้ ค่อย ๆ เป็น ค่อยๆ ไป  ขอให้พี่ไอใจอ่อนกับคุณเล็กเร็ว ๆ นะคะ  คุณเล็กดูนิสัยดีขึ้นเลยอ่ะ  น่ารักกกกกกก
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ ลอยกระทง [4/11/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 04-11-2017 12:36:10
เก็บออมความสุขไว้เยอะๆ คุณเล็ก
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ ลอยกระทง [4/11/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: panpang ที่ 04-11-2017 12:49:00
 :call:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ ลอยกระทง [4/11/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 04-11-2017 16:19:11
เมื่อไหร่อ้อยที่ปลูกไว้จะโตเสียที...ใจจิขาด   :hao5:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ ลอยกระทง [4/11/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: khwanruen ที่ 05-11-2017 09:54:41
คุณเล็กน่ารักอีกแล้ว พี่เมฆก็น่ารัก  :mew1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ ลอยกระทง [4/11/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: AeAng11 ที่ 05-11-2017 16:21:15
ชอบเรื่องของคุณฝนมากๆค่ะมันละมุนละไมดีจริงๆรอติดตามตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ ลอยกระทง [4/11/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: myapril ที่ 05-11-2017 17:59:32
น่ารักดีค่ะ ถึงจะยังหมั่นไส้คุณเล็ก
แต่บางทีก้อสงสารนะ^^
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ ลอยกระทง [4/11/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 05-11-2017 20:43:36
เจอคนใจเย็นและเด็ดขาดแบบพี่ไอ นายเล็กก็ร้องเพลงรอไปเรื่อย ๆ ก็แล้วกัน
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ ลอยกระทง [4/11/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 06-11-2017 09:31:07
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 25 [10/11/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ละอองฝน ที่ 10-11-2017 21:05:17




คุณคือความรัก บทที่ 25






   เกือบสามสิบปีที่ณธิปลืมตาเกิดมาดูโลก ชายหนุ่มมีโอกาสเข้ามาเลือกซื้อของด้วยตัวเองในซุปเปอร์มาเก็ตน้อยเสียจนนับครั้งได้ ซึ่งส่วนใหญ่จะเข้ามาแบบรีบๆ หรือด้วยสถานการณ์ฉุกละหุกแทบทั้งสิ้น ดังนั้นการมาซื้อวัตถุดิบทำอาหารกับกมลในครั้งนี้ จึงถือเป็นประสบการณ์ใหม่ที่น่าสนใจมากทีเดียว


   ระหว่างที่กมลกำลังเลือกซื้อมะละกอดิบ โดยมีณธิปคอยวุ่นวายถามโน้นถามนี่อยู่ข้างๆ นายอุดม พนักงานขับรถประจำตำแหน่งของผู้บริหารเอ็นพีกรุ๊ปก็คอยเข็นรถเข็นตามหลังไปด้วย


   มีหลายครั้งที่อุดมต้องคอยดูแลและบริการคนของเจ้านายตามคำสั่ง ซึ่งคนเหล่านั้นมีตั้งแต่ดารา นักร้อง คุณหนูไฮโซ และชายหญิงหน้าตาดีมากมาย แต่อุดมไม่เคยเห็นว่ามีคนไหนที่พาณธิปมาเลือกซื้ออาหารไปทำกินที่บ้าน ทั้งยังรักษาระยะห่าง ไม่ฉอเลาะเอาใจเจ้านายของเขาเพื่อหวังปลอกลอกเหมือนกับหนุ่มหน้าสวยจาก I promise คนนี้


   ในทางกลับกัน ผู้ชายคนนี้ดันมาทำให้เจ้านายเปลี่ยนสีหน้าไปมา ประเดี๋ยวยิ้มแย้ม บึ้งตึง หรือแม้กระทั่งทำตาละห้อยอย่างหมดท่ายามที่ถูกปฏิเสธน้ำใจ


   ผู้ชายคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ…อุดมคิด


   ขณะที่อุดมกำลังลอบมองปฏิกิริยาของกมลเวลาที่อยู่กับณธิป อยู่ๆ เจ้านายก็หันกับมาหาเขา พร้อมกับล้วงธนบัตรสีเทาออกมาให้ใบหนึ่ง


   “นั่งแท็กซี่กลับบ้านไปเลยนะอุดม เดี๋ยวฉันจะขับรถเอง ฝากบอกคุณแม่ด้วยว่าคืนนี้ฉันนอนที่คอนโด” เจ้านายหนุ่มรูปหล่อสั่ง

   “ครับ” อุดมรับธนบัตรใบนั้นมาไว้ในมือ แล้วหยิบกุญแจรถให้เจ้านาย


   ทว่าก่อนที่เขาจะเดินทางกลับบ้านโชติตระกูล เสียงของคนที่เลือกซื้อมะละกอก็เอ่ยขึ้นเรียบๆ และดูท่าว่าจะไม่ค่อยพอใจเท่าไรด้วย


   “ทำไมให้เขากลับล่ะครับ”

   “คืนนี้ผมจะนอนที่คอนโด” ณธิปตอบ ทว่าเมื่อเห็นสายตาไม่ไว้ใจของกมล เจ้านายของอุดมก็รีบแก้ตัวเป็นพัลวัน “ผมกลับไปนอนที่ของผมห้องน่าไอ อย่าทำหน้าเหมือนไม่ไว้ใจกันสิ ผมไม่ทำอะไรคุณหรอกถ้าคุณไม่ยอม ที่ผ่านมาผมก็ไม่เคยล้ำเส้นนี่…จริงไหมครับ”


   อุดมรู้สึกตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน เขาไม่อยากเชื่อว่าเจ้านายจะยอมปล่อยให้คนที่หมายตารอดมือมาได้นานขนาดนี้ เพราะเท่าที่จำได้ เขาเห็นณธิปเทียวไปเทียวมาหากมลได้หลายเดือนแล้ว ซ้ำพักหลังๆ มานี้ก็ไม่เที่ยวเตร็ดเตร่ให้คุณพ่อคุณแม่เป็นห่วงอีกด้วย


   ความจริงอันน่าตกใจทำให้อุดมแทบอดไม่ไหวและอยากโทรไปรายงานคุณท่านที่เชียงใหม่เสียเดี๋ยวนี้…


   “ก็จริง” กมลตอบรับ “แต่เตือนไว้ก่อนนะ ถ้าคุณล้ำเส้น…”

   “ผมไม่ทำหรอก สัญญา” ณธิปยกนิ้วก้อยขึ้นมา ราวกับจะเกี้ยวก้อยสัญญากับหนุ่มหน้าสวย ทว่ากมลกลับเบือนหน้าหนีแล้วหันมาหาอุดมแทน “ขอบคุณที่ช่วยขับรถให้นะครับ”

   “ครับ” อุดมถูกยิ้มหวานๆ พุ่งเข้าหาจนตาพร่าไปหมด เขาไม่แปลกใจเลยที่เจ้านายจะหลงผู้ชายคนนี้หัวปักหัวปำ เพราะขนาดเขาอายุปูนนี้ยังรู้สึกประทับใจทันทีที่ได้รับคำขอบคุณอย่างจริงใจนั่น

   “ไปได้แล้วอุดม” นายน้อยคนดีของอุดมส่งสายตาไม่พอใจนิดๆ มาให้ เพราะชายหนุ่มถูกเมิน ซ้ำกมลยังส่งยิ้มให้เขาอีกด้วย


   ครั้นรู้ตัวว่าชักทำให้นายไม่พอใจ อุดมก็ก้มหัวและถอยฉากออกมา ระหว่างเดินไปขึ้นรถแท็กซี่ เขาก็อดไม่ได้ที่จะหวังลึกๆ ในใจ ให้หนุ่มหน้าหวานคนนั้นเป็นตัวจริงของณธิปเสียที







   หลังจากสั่งให้คนขับรถกลับบ้านแล้ว ณธิปก็ทำหน้าที่เข็นรถตามหลังคนใจร้ายแทน แรกๆ ดูเหมือนกมลจะไม่ค่อยสนใจเขาเท่าไร ทว่าพอผ่านไปสักพัก อีกฝ่ายก็หันมาถามเรื่องเมนูอาหารกับวัตถุดิบนิดหน่อย ด้วยอาหารที่ทำ ต้องทำให้เขากินนั่นเอง


   “คุณกินกุ้งกับปูไม่ได้ใช่ไหม”

   “อืม” ณธิปพยักหน้า

   “ถ้าอย่างนั้นเป็นตำผลไม้ดีไหม ทำง่ายด้วย ไม่ต้องสับเส้นมะละกอ เพราะผมเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าไม่มีมีดขูดเส้นที่บ้าน”

   “ได้สิ” ณธิปพยักหน้ารับ ถ้าเป็นส้มตำผลไม้ก็คงไม่ต่างกับสลัดเท่าไหร่ แบบนี้น่าจะกินง่ายกว่า


   คนหน้าหวานเลือกแอปเปิ้ลแดงและเขียวมาอย่างละลูก แครอทหนึ่งหัว องุ่นแดงครึ่งกิโล ฝรั่ง และข้าวโพดที่ต้มสุกแล้ว ก่อนเดินนำมาถึงจุดขายเนื้อสัตว์ แล้วสั่งเนื้อไก่ส่วนปีกครึ่งกิโลกรัม เพราะคิดว่ากินกันแค่สองคน ซื้อมามากเกินไปก็คงจะเหลือ


   “คุณจะกินแค่ส้มตำกับไก่ทอดใช่ไหมครับ”

   “แค่นั้นก็พอแล้ว คุณจะได้ไม่ต้องทำเยอะ” ถึงแม้ณธิปจะคิดแผนการมาเพื่อให้มีโอกาสอยู่กันตามลำพังสองคน แต่เขาก็ไม่ได้อยากให้กมลวุ่นวายและลำบากกับการทำอาหารมากเกินไป

   “เดี๋ยวเราซื้อข้าวเหนียวสำเร็จรูปไปเลย จะได้ไม่ต้องนึ่งให้เสียเวลา”

   “ก็ได้ครับ”


   ครั้นตกลงกันเรียบร้อย พวกเขาก็หยิบเครื่องดื่มติดมือมาอีกนิดหน่อย ก่อนนำข้าวของทั้งหมดไปจ่ายเงิน ซึ่งกมลปฏิเสธทันทีเมื่อเห็นณธิปหยิบบัตรเครดิตสีดำแวววาวออกมาจากกระเป๋า


   “มื้อนี้ผมเลี้ยงเอง”

   “แต่คุณเป็นคนทำแล้ว ผมจ่ายเองดีกว่า”

   “เอาไว้ครั้งหน้านะครับ” กมลยังคงปฏิเสธเหมือนเดิม ก่อนจะเบี่ยงเบนความสนใจโดยการใช้งานอีกฝ่ายแทน “วานคุณไปซื้อข้าวเหนียวในศูนย์อาหารให้ผมที จ่ายเงินเสร็จแล้วเราจะได้กลับกัน ผมจ่ายเสร็จแล้วจะไปรอคุณที่รถ”

   “แต่ของคุณเยอะ จะถือไปยังไงหมด”

   “ไม่เยอะหรอก อย่างมากก็ไม่เกินสามถุง ผมถือได้ครับ” กมลยิ้มบางๆ แม้ใบหน้าและภาพลักษณ์ของคนคนนี้จะสวยงามและดูอ่อนโยน แต่เมื่อมองตาของอีกฝ่าย ณธิปก็รู้ได้ทันทีว่า กมลกำลังบอกเขาว่าตนเองไม่ใช่คนอ่อนแอที่ต้องให้ใครคอยประคบประหงมอยู่ตลอดเวลา

   “เอางั้นก็ได้” สุดท้ายณธิปก็ไม่อาจปฏิเสธกมลได้


   ทั้งที่เขาอยากดูแลอีกฝ่ายให้มากกว่านี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงิน หรือแม้กระทั่งเรื่องที่ช่วยถือของให้ แต่ณธิปก็ได้เรียนรู้ว่า ถ้าคิดจะรักคนคนนี้ เขาควรปล่อยให้อีกฝ่ายได้ทำอะไรด้วยตัวเองบ้าง เพราะกมลมีความภาคภูมิใจในแบบของตนเอง


   เอาไว้ความรู้สึกของเขาซึมเข้าหัวใจของคนใจร้ายเมื่อใด เขาค่อยพูดเรื่องนี้กับกมลอีกครั้งก็ยังไม่สาย








   “ห้องผมรกนิดหน่อย คุณไปนั่งรอที่เคาน์เตอร์ในครัวดีกว่า” เมื่อก้าวเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัวของกมล ณธิปก็ถูกสั่งให้เดินตามเข้าไปนั่งในครัวทันที


ดวงตารีกวาดมองสำรวจไปรอบๆ ห้องของกมลตกแต่งด้วยโทนสีอบอุ่น แบ่งเป็นสัดส่วนคล้ายๆ กับห้องของเขาที่อยู่ชั้นบน เพียงแต่มีขนาดเล็กกว่า โต๊ะกลางหน้าทีวีมีกองเอกสารระเกะระกะกับคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค มองแล้วสภาพห้องไม่ได้เรียบร้อยเท่าที่คาดการณ์สักเท่าไร แต่ก็ดูเป็นห้องที่เหมือนมีคนใช้ชีวิตอยู่จริงๆ ไม่เรียบกริบราวกับห้องตัวอย่าง


   “คุณไม่ได้จ้างแม่บ้านหรือ” ณธิปถามขณะวางถุงผลไม้ไว้บนเคาน์เตอร์ ก่อนจะนั่งลงตรงเก้าอี้ทรงสูง

   “ไม่ครับ ความจริงผมไม่ค่อยได้อยู่ห้องนี้นานนัก ส่วนใหญ่เอาไว้นอน หรือไม่ก็มาเวลาที่ต้องการปลีกวิเวกมาคิดงาน”

   “ไม่ค่อยได้อยู่ แต่เฟอร์นิเจอร์ก็ครบนี่ เครื่องครัวด้วย” มองครัวขนาดเล็กที่มีอุปกรณ์ครบครัน ณธิปก็อดสงสัยไม่ได้

   “อืม…แต่ก่อนผมเคยอยู่ที่นี่เป็นหลัก แต่พออ้ายเลิกกับสามี ผมก็เลยย้ายกลับไปอยู่ที่บ้านเดิม เพราะต้องช่วยดูแลหลานๆ อาทิตย์หนึ่งจะมาค้างที่คอนโดสักที เพราะมาทำความสะอาด และหากวันไหนกลับดึก ผมจะได้ไม่ขับรถไกล”

   “อ๋อ แบบนี้ก็ดีนะ เพราะคอนโดนี้ใกล้ที่ทำงานของคุณมากกว่า” ชายหนุ่มพยักหน้าอย่างเข้าใจ ก่อนจะเล่าเรื่องตัวเองบ้าง ในขณะที่กมลสวมผ้ากันเปื้อนและเริ่มทำอาหาร “ผมเองก็ซื้อคอนโดนี้เพราะไม่ไกลจากที่ทำงานเหมือนกัน อีกอย่างก็เพราะอยากมีพื้นที่ส่วนตัวบ้างละมั้ง”

   “เพราะพาสาวๆ กลับบ้านไม่สะดวกหรือเปล่าครับ” กมลถามหน้านิ่ง ทว่าเมื่อฟังจากน้ำเสียง ณธิปรู้สึกว่าเขากำลังถูกกระแนะกระแหนนิดๆ แต่ก็ไม่แปลกที่กมลจะพูดแบบนี้ เนื่องจากอีกฝ่ายเคยเห็นเขาควงผู้หญิงขึ้นคอนโดจริงๆ

   “โธ่…คุณ เกือบปีแล้วนะครับนั่น ยังจำได้อยู่อีกหรือ”

   “จำได้สิครับ ก็วันนั้นผมเผลอต่อยคุณนี่” กมลหันมายิ้ม ในมือก็ถือมีดฝานเข้าโพดไปด้วย

   “แต่ตอนนี้ผมไม่พาใครมาแล้วนะ ไม่ได้ขึ้นห้องใครด้วย” คนเจ้าเสน่ห์พูดอย่างภูมิใจ “ที่เคยควงไม่ซ้ำหน้า ตอนนี้ก็เลิกหมด”

   “ทำไมล่ะ” ครั้นพอถามออกมาแล้ว กมลก็นึกเสียใจนิดๆ ที่ตัวเองปากไวไปหน่อย

   “ก็ผมกลัวคุณเข้าใจผิดนี่ เดี๋ยวคิดว่าผมยังเจ้าชู้เหมือนเดิม จะพานตัดโอกาสไม่ให้จีบอีก”

   “ความจริงถ้าคุณอยากมีไลฟ์สไตล์แบบเดิม ผมก็ไม่ได้ว่านะ” คนหน้าหวานบอก เพราะเขาเองก็ไม่อยากทำเหมือนตัวเองเป็นเจ้าโลก ที่มีสิทธิ์ไปบังคับกะเกณฑ์หรือเปลี่ยนแปลงใคร

   “คุณจะว่าหรือไม่ว่าก็ช่าง แต่เอาเป็นว่าผมไม่ทำแบบนั้นก็แล้วกัน ตอนนี้ผมมีแต่งาน แล้วก็คุณเท่านั้นแหละ”


ณธิปเอ่ยยิ้มๆ แม้จะดูเหมือนเป็นการหยอดคำหวาน แต่เขาก็พูดออกมาจากใจจริง เพราะเมื่อเว้นว่างจากภาระหน้าที่แล้ว เขาก็มีแค่กมลให้คิดถึงคนเดียวเท่านั้น


   กมลชะงักมือไปนิด แต่เขาก็ไม่ได้หันไปมองหน้าคนข้างหลัง ไม่ได้คิดอยากพิสูจน์คำพูดนั้นด้วยการจ้องตาอีกฝ่ายตรงๆ ด้วยรู้สึกว่าคำพูดมันสุ่มเสี่ยงและมีผลกับอัตราการเต้นของหัวใจมากเกินไปหน่อย ชายหนุ่มจึงพยายามควบคุมตัวเอง และก้มหน้าก้มตาทำอาหารเงียบๆ ไม่ตอบโต้อะไรอีก








ณธิปนั่งเท้าคางมองกมลหมักไก่ หั่นนั่นหันนี่ ยืนหมุนไปหมุนมาในครัวเล็กโดยไม่รู้สึกเบื่อ ทั้งที่ไม่ได้พูดคุยอะไรกันเลยสักประโยค


กมลดึงดูดสายตาเขาได้อยู่หมัด ไม่ว่าอีกฝ่ายจะหยิบจับหรือทำอะไร ณธิปก็คิดว่ามันน่ามองไปเสียหมด สีหน้าตั้งอกตั้งใจกับงานที่ทำอยู่ตรงหน้าก็น่ามองจนไม่อยากคลาดสายตา


ทำไมเขาถึงหลงคุณไอได้มากขนาดนี้นะ…ณธิปได้แต่นึกสงสัย


ทว่าระหว่างที่คิดไปมองไปเรื่อยเปื่อย อยู่ๆ น้ำมันในกระทะก็ปะทุจนกระเด็นขึ้นมาถูกแขน คนที่อยู่หน้าเตาจึงเผลอร้องโอ๊ยขึ้นมาคำหนึ่ง


ณธิปผุดลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันที ก่อนจะอ้อมเคาน์เตอร์แล้วรุดเข้าไปจับข้อมือของอีกฝ่ายตามสัญชาตญาณ ไม่ทันร้องห้าม กมลก็ถูกพามาที่อ่างล้างจานเสียแล้ว


ณธิปเปิดก๊อกให้น้ำไหลผ่านแผล ความเย็นจึงช่วยลดอาการแสบร้อนไปได้มากโข ผ่านไปครู่หนึ่ง ความรู้สึกอุ่นๆ ซึ่งโอบล้อมรอบกายก็ทำให้คนถูกดูแลจึงเพิ่งสังเกตเห็นว่า ตัวเองคล้ายโดนโอบกอดจากด้านหลัง กมลเอี้ยวหน้ามองเจ้าของคางที่วางเกยไหล่ตนอย่างถือวิสาสะ


เขาเห็นคิ้วพาดเฉียงนั่นขมวดมุ่น ดวงตาที่เคยวิบวับเจ้าเล่ห์มองไปยังแผลถูกน้ำมันร้อน ปลายนิ้วหนาหากแต่นุ่มนิ่มอย่างคนไม่เคยทำทำงานหนักค่อยๆ ลูบมือกมลเบาๆ ราวกับปลอบประโลม


เวลาที่ผ่านไปเพียงชั่วขณะหนึ่งนั้น เป็นช่วงเวลาที่กมลไม่อาจปฏิเสธความหวังดี หรือเอ่ยอะไรออกมาได้แม้แต่คำเดียว…


ทว่าสุดท้ายกมลก็ต้องเตือนตัวเองไม่ให้โอนอ่อนไปง่ายๆ ด้วยไม่รู้ว่านี่เป็นหนึ่งในแผนการของคนเจ้าเล่ห์หรือไม่ เขาขยับตัวน้อยๆ เตือนให้ชายหนุ่มรู้ ณธิปจึงยอมขยับห่าง หากมือก็ยังถูกจับไว้ไม่ปล่อย


“เป็นไงบ้างไอ คุณดีขึ้นหรือยัง”

“ผมไม่ได้เป็นอะไรมากหรอก โดนนิดเดียวเอง คุณตื่นตูมเกินไป” กมลว่า

“นิดเดียวอะไร ดูสิ แดงเป็นปื้นเลย” ณธิปยกให้เห็นรอยชัดๆ “ที่คุณซื้อของมาเมื่อกี้ มีแตงกวาไหม”

“มีสิ ผมล้างแล้วเอาไปแช่ไว้ในตู้เย็นเมื่อกี้”

“งั้นคุณไปนั่งรอก่อน”

 “ผมกำลังทอดไก่นะ” กมลชี้ไปที่กระทะ

“มันยังไม่สุกหรอก หรี่ไฟไว้ก่อน แล้วไปนั่งเร็วเข้า” ณธิปสั่ง แม้จะดูเผด็จการไปนิด ทว่าน้ำเสียงที่ใช้กลับตรงกันข้าม

“คุณจะเอาไปทำอะไร”

“เอาเถอะน่า”

“อืม” เห็นณธิปรบเร้าถึงขนาดนั้น กมลจึงยอมอ่อนให้ เพราะใจหนึ่งก็อยากรู้ว่าคนเจ้าเล่ห์จะทำอะไรเช่นกัน


คนตัวสูงเดินไปเปิดตู้เย็นแล้วหยิบแตงกวาออกมา เขาล้างเขียงกับมีดลวกๆ ด้วยน้ำเปล่า ก่อนจะหั่นแตงเป็นชิ้นบางๆ กมลมองทักษะการใช้มีดของณธิปแล้วหวาดเสียว เกือบจะเอ่ยถามอยู่แล้วเชียวว่าให้ช่วยไหม อีกฝ่ายก็ได้แตงกวาหั่นเป็นแว่นตามที่ต้องการพอดี


“ขอมือหน่อยครับ”

“อะไรของคุณ” คนหน้าหวานถาม แต่ก็ยอมยื่นมือให้


ครั้นวางมือบนอุ้งมือใหญ่กว่าเรียบร้อย ณธิปก็ว่าชิ้นแตงกวาลงบนรอยแผลจากน้ำมันกระเด็นใส่ทันที ความเย็นซ่านที่สัมผัสผิวช่วยให้อาการแสบร้อนที่ยังคงหลงเหลือคลายลงอย่างรวดเร็ว


“แปะไว้ก่อนสักพักนะ มันจะได้ไม่เป็นแผลพุพอง” เสียงทุ้มเข้มว่า


กมลมองคนตรงหน้าทึ่งๆ ไม่คิดว่าชายหนุ่มจะรู้จักวิธีปฐมพยาบาลอะไรแบบนี้กับเขาด้วย พอเจ้าของดวงตารีเงยเหลือบขึ้นมาเห็นเข้า เขาจึงเอ่ยออกไปทันที


“คุณทำหน้าอย่างนั้นทำไม ประหลาดใจมากหรือ”

“ก็นิดหน่อย” กมลยอมรับ “ไม่คิดว่าคุณจะทำอะไรแบบนี้ได้ด้วย”

“หึๆ” ณธิปหัวเราะเบาๆ “แต่ก่อนผมเคยซนอยู่ข้างๆ เตาตอนคุณย่าทำทองพลุให้ทาน แล้วน้ำมันกระเด็นมาโดน คุณย่าท่านก็เลยเอาแตงกวามาหั่นๆ วางบนแผลให้ ผมก็เลยรู้”

“คุณย่าคุณเก่งนะ หยิบเอาของรอบตัวมาใช้ประโยชน์ได้” กมลเอ่ยอย่างชื่นชม

“ท่านเก่งและใจดีมากเลยล่ะ เอาไว้ถ้ามีโอกาสผมจะพาคุณไปเยี่ยมท่านนะ รับรองว่าคุณต้องชอบท่านมากแน่ๆ” ดวงตาของณธิปทอประกายอ่อนโยนยามเมื่อเอ่ยถึงผู้เป็นที่รัก ซึ่งมันเป็นแววตาแบบที่กมลไม่เคยเห็นมาก่อน


กมลค่อยๆ พบว่าที่ผ่านมาเขามองเห็นณธิปเพียงด้านเดียว เป็นด้านแย่ๆ ไม่น่าอภิรมย์นัก เขาจึงตัดสินชายหนุ่มจากการมองเพียงแค่นั้น แต่พอได้ลองรู้จักตัวตนของคนคนนี้มากขึ้นแล้ว มันก็ทำให้เขาต้องกลับไปคิดใหม่ ว่าการตัดสินคนจากการรู้จักเพียงผ่านๆ นั้น มันถูกต้องแล้วหรือ


เห็นกมลมองเหม่อ ณธิปจึงถามซ้ำ


“ว่ายังไง คุณจะไปพบคุณย่ากับผมไหม”

ได้ยินอีกฝ่ายถาม หนุ่มหน้าหวานจึงหลุดจากภวังค์ “ถ้ามีโอกาสนะครับ”

“รับรองว่ามีโอกาสแน่ๆ” ณธิปยิ้มเมื่อได้ยินคำอนุญาต ทว่าชายหนุ่มก็ต้องหุบยิ้ม เมื่อได้กลิ่นไหม้ๆ ของอะไรบางอย่าง “คุณไอ…”

“ครับ?”

“ผมว่าก่อนจะถึงตอนนั้น ตอนนี้คุณช่วยอะไรผมสักอย่างก่อนได้ไหม”

“อะไร”

“ช่วยจัดการกับไก่ในกระทะหน่อย ผมทอดไม่เป็น”

“ตายล่ะ!” กมลลุกพรวดจนชิ้นแตงกวากระเด็นหลุดจากหลังมือ ทว่าเมื่อไปถึงเตา ภาพไก่ทอดที่ดำเป็นตอตะโกก็ปรากฏแก่สายตา เขาช้อนไก่ขึ้นมาวางในจานที่เตรียมไว้ ก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างแสนเสียดาย “นี่เป็นครั้งแรกเลยนะ ที่ผมทอดไก่ไหม้ขนาดนี้ เสียดายชะมัดเลย”


ณธิปมองคนทำหน้าหงอยเพราะเสียดาย ก่อนจะมองไปที่ก้อนเนื้อสีดำนั่น เขาเองก็เพิ่งเคยเห็นเพอร์เฟคชั่นนิสต์อย่างไอทำอะไรผิดพลาดเป็นครั้งแรกเหมือนกัน


“หึๆๆ” ณธิปพยายามกลั้นหัวเราะ

“นี่คุณ! อย่าหัวเราะกันสิ” กมลหันมาทำหน้ายู่อย่างหลุดมาด และนั่นก็ทำให้ณธิปกลั้นขำไม่ได้อีกต่อไป

“ฮ่าๆๆ”

“บอกว่าอย่าหัวเราะไง”

“ก็มันขำนี่ ฮ่าๆ ดำปี๋เลย”


เห็นณธิปยืนหัวเราะร่วน กมลก็ยิ่งฉุน แต่เมื่อมองกลับมาที่ไก่ดำๆ ของตนเอง ชายหนุ่มก็นึกขำจนอดหัวเราะออกมาไม่ได้เหมือนกัน


เป็นครั้งแรกที่ทั้งคู่หัวเราะออกมาด้วยกัน บรรยายกาศที่ฝ่ายหนึ่งคอยระแวดระวัง ฝ่ายหนึ่งมุ่งมั่นที่จะหาโอกาสรุกเข้าหาจึงค่อยๆ ผ่อนคลายลงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน






<><><><><><><><><><><><><><>




มาต่อแล้วค่าาา

ไหนใครว่าคุณไอเป็นน้ำแข็งหิมาลัยคะ
ตอนนี้น้ำแข็งเริ่มละลายแล้วน้า /เหลือบมองเลขตอน
มาถึงตรงนี้ ทีมของคุณเล็กเริ่มอบอุ่นขึ้นแล้ว สมาชิกเริ่มเยอะแล้ว
ใครชอบพี่เมฆแบทเทิลคุณเล็ก รับรองว่าได้เจออีกแน่ๆ ค่ะ 555

ฝากด้วยนะคะ


ละอองฝน.
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 25 [10/11/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: kong6336 ที่ 10-11-2017 21:36:27
เดี๋ยวนี้คุณเล็กทำตัวน่ารักขึ้นเยอะมากๆเลย

คุณไอก็รีบๆใจอ่อนบ้างก็ดีนะ อยากเห็นฉากหวานๆๆเยอะๆๆ :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 25 [10/11/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 10-11-2017 21:41:18
แหม ละมุนเชียว
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 25 [10/11/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: A-J.seiya* ที่ 10-11-2017 22:07:30
น่ารักมากน้ำตาไหล
แค่ทำให้เขายิ้มได้ขนาดนี้ รู้สึกคุณเล็กประสบผลสำเร็จมากอ่าา
ฮืออ เอาใจช่วยยยย
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 25 [10/11/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 10-11-2017 22:20:12
อยู่กับคนที่ชอบอะไร ๆ ก็ดีไปหมด ทอดไก่ไหม้ยังยิ้มได้เลย
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 25 [10/11/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 10-11-2017 22:24:47
รอคุณไอใจละลาย..ยยยยย #ทีมคุณเล็ก  :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 25 [10/11/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 11-11-2017 04:15:41
 :hao6:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 25 [10/11/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 11-11-2017 08:20:15
อยากกินไก่ทอดขึ้นมาทันที แต่ไม่เอาไหม้นะ อิอิ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 25 [10/11/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 11-11-2017 09:45:02
 :pig4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 25 [10/11/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: khwanruen ที่ 11-11-2017 10:28:39
คุณเล็กมีพัฒนาการ  :katai2-1: ตอนนี้น่ารักมาก
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 25 [10/11/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 11-11-2017 13:44:29
เป็นกำลังใจให้คุณเล็กเสมอค่ะ ถึงแม้ตอนแรกจะถล่มไว้ยับก็ตาม  :hao7:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 25 [10/11/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: kobyp_lu ที่ 11-11-2017 21:22:16
น่ารักกกกกกกกกก  ดูหวานมากกก  ขอให้คุณไอใจอ่อนไวๆนะคะ 
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 25 [10/11/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 13-11-2017 16:42:32
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 25 [10/11/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: tkung ที่ 19-11-2017 21:28:17
 :z13: :z13:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 26 [20/11/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ละอองฝน ที่ 20-11-2017 03:29:35








คุณคือความรัก บทที่ 26







   
   หลังจากจัดการกับไก่ดำปี๋และน้ำมันเหม็นกลิ่นไหม้ในกระทะเรียบร้อย กมลก็ลงมือทำอาหารต่อจนเสร็จ กว่าพวกเขาจะทานมื้อค่ำจึงดึกกว่าที่ควรเป็นพอสมควร


   กมลนึกขำเมื่อเห็นณธิปกินส้มตำผลไม้ด้วยท่าทางเอร็ดอร่อย ต่างจากคราวที่พาไปกินต้มขาไก่ซุปเปอร์ลิบลับ วันนี้เขาปรุงรสเน้นเปรี้ยวเค็มหวานใส่พริกเม็ดเดียว รสชาติก็เลยไม่เผ็ดมาก พอกินกับไก่ทอดที่เลี่ยนน้ำมันนิดๆ จึงเข้ากันได้ดี ส่วนข้าวเหนียวที่ซื้อสำเร็จรูปถูกหยิบออกมากินตัดรสจัดจ้าน ชายหนุ่มกินไม่นานก็หมดถุง


   “เอาข้าวเหนียวอีกไหมครับ” กมลถาม เพราะเขาไม่ค่อยกินแป้งมากเท่าไรในมื้อเย็น

   “ไม่เอาแล้วล่ะ” ณธิปส่ายหน้า

   “อิ่มแล้วหรือครับ”

   “ยังหรอก แต่ปรกติผมกินข้าวไม่ค่อยเยอะอยู่แล้ว เน้นกับมากกว่า” ณธิปบอก ก่อนจะเดินไปหยิบเบียร์กระป๋องที่ซื้อจากซุปเปอร์มาร์เก็ตออกมาจากตู้เย็น “คุณเอาด้วยไหม”

   “ครับ”


เห็นกมลพยักหน้ารับ ณธิปจึงหยิบเบียร์ออกมาสองกระป๋องแล้วเปิดให้อีกฝ่ายเสร็จสรรพ แม้จะแอบรู้สึกแปลกใจนิดๆ ที่กมลตอบรับคำชวนยอมดื่มแอลกอฮอล์กับเขาด้วย ทว่าเมื่อคิดดูดีๆ คนคนนี้ก็ถือเป็นผู้ชายคนหนึ่ง  ถึงภาพลักษณ์ภายนอกจะดูบริสุทธิ์ผุดผ่อง แต่ก็ใช่ว่าอีกฝ่ายต้องครองตนเป็นเหมือนผู้ทรงศีลเสียหน่อย


ยิ่งกมลมีด้านที่พอจับต้องได้ ณธิปก็ยิ่งรู้สึกดี เพราะระยะห่างและความต่างของพวกเขาจะได้ไม่มากเกินไป จนเหมือนขาวตัดดำอะไรทำนองนั้น


ซ้ำตอนนี้กมลกำลังผ่อนคลาย ไม่รู้สึกว่าการอยู่กับเขามันอันตรายเท่าแต่ก่อน จึงไว้ใจและปล่อยตัวตามสบายได้บ้าง หากณธิปรู้ดีว่าในการปล่อยตัวตามสบายนั้น อีกฝ่ายก็คงไว้ซึ่งความระมัดระวังตัวอยู่บ้างตามนิสัยขี้ระแวง


ขณะที่ณธิปกำลังคิดถึงเรื่องราวระหว่างพวกเขาทั้งสองคน คนหน้าหวานก็ลอบพิจารณาพฤติกรรมของคนเจ้าเล่ห์ไปด้วย


ยามนี้ดูเหมือนณธิปจะอิ่มแล้ว ท่าทางอารมณ์ดีสุดๆ กมลเองก็อิ่มแล้วเช่นกัน เขาจิบเบียร์เย็นๆ ลงคอไปอึกหนึ่ง ก่อนจะเริ่มเอ่ยถึงเรื่องหนักๆ ที่ต้องการจะปรึกษาอีกฝ่าย ซึ่งถือเป็นจุดประสงค์หลักในการเลี้ยงอาหารค่ำมื้อนี้


“คุณเล็ก”

“หืม?”

“คือ…ไม่ทราบว่า คุณตฤณติดต่อมาบ้างหรือเปล่าครับ”

“ตั้งแต่ที่ไปเจอพร้อมกับคุณวันนั้น ผมก็ยังไม่ได้โทรหาอีกเลย เพราะผมก็ยุ่งๆ ทางนั้นเองก็คงยุ่งเหมือนกัน คุณมีอะไรหรือเปล่า”

“ผมอยากรู้ความคืบหน้าเรื่องที่เคยขอให้คุณตฤณช่วยน่ะครับ ไม่รู้จะรบกวนไหม ถ้าหากจะให้คุณช่วยถามให้หน่อย พอดีตอนนี้ทางชาวบ้านกำลังเดือดร้อน เพราะโดนคุกคามหนักขึ้นแล้ว” กมลเอ่ยอย่างระมัดระวัง


ความจริงเขาไม่อยากรบกวนทั้งณธิปและดังตฤณ แต่ก็อย่างที่รู้ ปัญหานี้มันใหญ่เกินกว่าเขาจะจัดการคนเดียวได้ หากยอมขอความช่วยเหลือจากคนที่มีพาวเวอร์มากกว่า ก็อาจช่วยคนที่กำลังเดือดร้อนได้มากกว่า


   “หึๆ” ณธิปหัวเราะ ก่อนจะเอามือเท้าคางกับโต๊ะ แล้วมองคนตรงหน้ายิ้มๆ

   “หัวเราะอะไรครับ” หนุ่มหน้าหวานถาม

   “คุณนี่เจ้าเล่ห์เหมือนกันนะ” คนที่ถูกตราหน้าว่าเจ้าเล่ห์แสนกลมากว่าครึ่งชีวิตเอ่ยปากกล่าวหา

   “หมายความว่ายังไง” กมลถามกลับ ทั้งที่ความจริงรู้อยู่แล้วว่าอีกฝ่ายมองแผนการของตัวเองออกทะลุปรุโปร่ง

   “ที่ชวนผมมาทานข้าวและยอมทำมื้อค่ำให้กิน เพราะมีแผนจะถามผมเรื่องนี้ใช่ไหม”

   “เฮ้อ…” กมลถอนใจออกมาเบาๆ ถึงแม้แผนการจะดูสิ้นคิด แต่เขาว่ามันก็ดีกว่าไม่ลงมือทำอะไรเลย แล้วเข้าไปขอความช่วยเหลืออีกฝ่ายตรงๆ “ก็อย่างที่คุณว่านั่นแหละ”

   “ร้ายจริง”


ถึงปากว่าอย่างนั้น แต่ณธิปกลับไม่รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังโดนหลอกใช้ กมลที่เป็นแบบนี้ก็เหมาะกับเจ้าตัวแล้ว เพียงแต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะเสียดายนิดหน่อย เพราะอยากให้กมลชวนกินข้าว เนื่องจากอยากชวนจริงๆ ไม่ใช่ด้วยเหตุผลอื่นแอบแฝง


“ขอโทษครับ”


แต่คนที่ถูกจับได้กลับเอ่ยขอโทษแทน ทีแรกเขาไม่ได้นึกว่าจะรู้สึกเช่นนี้ คิดแค่ว่าอยากให้ณธิปช่วย ก็ต้องลงทุนเสียก่อน ทว่าพอมาเห็นอีกฝ่ายมองเขายิ้มๆ หากแววตาเจ้าเล่ห์นั้นคล้ายมีแววผิดหวังวูบหนึ่ง กมลก็อดรู้สึกผิดไม่ได้


“ขอโทษทำไมล่ะ ความจริงคุณไม่ต้องถึงขนาดเลี้ยงข้าว หรือฝืนใจทำอะไรให้ผมเลยก็ได้ เพราะแค่คุณจะเอ่ยปากขอให้ช่วย ผมก็พร้อมจะช่วยอยู่แล้ว เคยบอกไปแล้วไม่ใช่หรือ”


ยิ่งได้ฟังณธิปบอกแบบนั้น กมลก็ยิ่งรู้สึกผิด


“ผมยอมรับครับ ว่าที่ผมคิดจะเลี้ยงข้าวคุณก็เพราะอยากถามความคืบหน้าเรื่องนั้น แต่ที่ทำไป ผมก็ไม่ได้ฝืนใจนะ”

“รู้สึกดีจัง” ณธิปยิ้มกว้าง ดวงตารีเรียวคู่นั้นไหวระริกด้วยความดีใจ ก่อนชายหนุ่มจะตัดบทดราม่าที่ก่อตัวขึ้นเมื่อครู่ทิ้งไปง่ายๆ ด้วยเขาไม่คิดเคืองกมลจริงๆ

“งั้นคุณรอเดี๋ยว”

“ครับ?”


ณธิปล้วงโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายหาเพื่อนรักแทนคำตอบ กมลจึงเงียบฟังความคืบหน้าด้วยใจเป็นกังวล รออยู่ครู่หนึ่ง ดังตฤณจึงรับสาย ณธิปจึงเปิดลำโพงให้กมลได้ยินด้วย


“ตฤณ แกอยู่ไหน”

[อยู่บ้าน แกมีอะไร ทำไมวันนี้โทรมาได้]

“ฉันอยากถามแกเรื่องข้อพิพาทที่ดิน ที่คุณไอเขาขอให้ช่วยน่ะ มีความคืบหน้าอะไรไหม”

[ตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบอยู่ แต่อย่างที่พวกเราคิด เรื่องนี้เกี่ยวพันกับนักการเมืองระดับรัฐมนตรี พอมีเรื่องร้องเรียนเข้าไปให้ตรวจสอบ สักพักก็เงียบ ฉันกำลังคิดอยู่ว่าจะโทรปรึกษาแกอยู่พอดี ว่าจะเอายังไงต่อ ทางนั้นไม่ใช่เล่นๆ นะเล็ก]

“ฉันรู้” ณธิปรับคำเพื่อน เพราะรู้อิทธิพลของรัฐมนตรีทรงศักดิ์ดี แต่เมื่อมองไปเห็นว่ากมลทำหน้านิ่วคิ้วขมวด เขาก็พอรู้แล้วหัวดื้อของเขาคงไม่ยอมง่ายๆ “จะให้วางมือตอนนี้คงไม่ได้ เพราะได้ยินมาว่าทางโน้นกำลังถูกคุกคาม ฉันไม่อยากให้คนของคุณไอเดือดร้อนไปมากกว่านี้ มีวิธีไหนที่พอจะกดดันให้การตรวจสอบเป็นไปอย่างโปร่งใสได้ไหมตฤณ”


ปลายสายเงียบไปพักหนึ่ง ก่อนเอ่ย [ฉันจะลองปรึกษากับผู้ใหญ่ดูก่อน คิดว่าคงมีคนพร้อมช่วย เพราะถ้าพูดกันในแง่ของการเมือง รัฐมนตรีทรงศักดิ์เองก็มีคู่แข่งอยู่หลายคน ยิ่งถ้าให้พูดถึงความถูกต้อง ก็น่าจะมีคนอยากร่วมมือเอาเขาลง แต่อย่างที่ฉันพูดไป มันต้องใช้เวลา เราบุ่มบ่ามไม่ได้]


“ฉันเกลียดกระบวนการตรวจสอบพวกนี้จริงๆ ชักช้าไม่ทันใจเลย” ณธิปบ่น

[ใจเย็นน่า ยังไงตอนนี้เราก็ไม่มีวิธีที่ดีและเร็วกว่านี้ คงต้องรอไปก่อน แกเตือนทางคุณไอด้วยแล้วกัน บอกให้ชาวบ้านระวังตัวด้วย]

“อืม ฉันรู้แล้ว” ณธิปรับคำก่อนจะเงยหน้าสบตากับกมล ส่งสัญญาณเป็นอันว่ารู้กัน

[แล้วมีความเคลื่อนไหวอะไร ฉันจะติดต่อไปแล้วกัน]

“ขอบใจมาก”

[ไม่เป็นไร] ดังตฤณเงียบไปนิด ตอนแรกทำท่าจะวางสาย แต่กลับเอ่ยถามความเป็นไปของเพื่อนก่อน [ว่าแต่แกเป็นไงบ้าง ช่วงนี้ไม่เห็นข่าวฉาวๆ เลยนี่ ทำตัวดีขึ้นขนาดนี้ คุณไอเขาไม่ใจอ่อนบ้างหรือ]

“อืม…” ณธิปยิ้ม ดวงตารีเรียวคู่นั้นมองกมลพราวระยับ ครั้นทั้งคู่สบตากัน บรรยากาศที่ไม่อาจอธิบายได้ก็อบอวลไปทั้งห้อง  “ฉันก็ไม่รู้ว่าเขาใจอ่อนบ้างหรือเปล่า แต่คิดว่าดีขึ้นนะ”

[เสียงแกดูมีความสุขนะ คงมีเรื่องดีๆ ใช่ไหมล่ะ]

“คิดว่างั้นหรือ”

[ฉันเดาว่าอย่างนั้น] คนเป็นเพื่อนสนิทว่า

“หึๆ”


ณธิปหัวเราะเบาๆ เมื่อคนตรงหน้ากระดกเบียร์ดื่ม หลุบตาหนี และเสมองที่จานอาหารบนแทน แม้สีหน้าของอีกฝ่ายจะไม่เปลี่ยน แต่อาการที่แสดงออกมานั้น แค่มองปราดเดียวก็รู้แล้วว่าคงจะทำตัวไม่ถูก


จะรู้สึกเขินหรือเปล่านะ…ณธิปได้แต่คาดเดา ทว่าก่อนที่ความคิดเข้าข้างตัวเองจะเตลิดไปมากกว่านี้ เสียงของคนที่ไม่รู้อะไรอย่างดังตฤณก็เอ่ยแทรกขึ้นมาขัดจังหวะเสียก่อน


[ถ้ามีเรื่องดีๆ ก็ดีแล้วล่ะ แต่ก็ระวังตัวด้วยแล้วกัน อย่าไปทำอะไรให้เป็นข่าวอีก ฉันขี้เกียจฟังแกนั่งปรับทุกข์แบบคืนนั้น]

“หยุดพูดเลย แกนั่นแหละกำลังทำให้ฉันหมดมาด” ตอนแรกที่เปิดลำโพงให้กมลได้ยิน ณธิปก็คิดว่าดี แต่พอเพื่อนเริ่มแฉว่าเขาเฮิร์ตแค่ไหนช่วงที่โดนคุณไอปฏิเสธ ณธิปก็ชักทนไม่ไหว


ใครใช้ให้พูดถึงเรื่องน่าอายเล่า ไอ้เพื่อนซื่อบื้อ…ชายหนุ่มได้แต่กัดฟันกรอดอย่างนึกเคือง แต่แล้วอยู่ๆ ณธิปก็ผุดความคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ชายหนุ่มจึงรีบเอ่ยถามก่อนที่เพื่อนสนิทจะวางสาย


“ตฤณ!”

[อะไร]

“แล้วถ้าใช้สื่อกดดันล่ะ”

เมื่อได้ยินที่ณธิปเสนอ กมลก็เงยหน้าขึ้นมามองอีกฝ่ายทันที

[แกหมายถึง…]

“ถ้าสื่อรู้เรื่องฉาวของรัฐมนตรีทรงศักดิ์ งานตรวจสอบน่าจะเร็วและขึ้น เพราะยังไงทางนั้นก็ผิดจริง และคงไม่มีใครยืนข้างคนผิดให้ตัวเองเสียไปด้วยหรอก สำหรับนักการเมืองแล้ว ภาพลักษณ์เรื่องความโปร่งสำคัญยิ่งกว่าอะไรดี”

[ก็จริงของแก แต่เราจะทำยังไงล่ะ ส่งเรื่องไปให้พวกนักข่าวง่ายๆ แกเองก็อาจจะโดนโจมตีได้นะ ให้คุณไอ…] ก่อนที่ดังตฤณจะเอ่ยจบ ณธิปก็รีบแย้งทันที

“ไม่ได้! ใช้คุณไอไม่ได้ เพราะเขาเป็นแค่นักธุรกิจธรรมดา ไม่มีพาวเวอร์พอจะงัดกับระดับรัฐมนตรีหรอก”

[แล้วแกจะใช้ใคร]

“แกคิดว่าระดับเอ็นพีกรุ๊ปเป็นไง”

[นี่อย่าบอกนะว่าแกจะออกหน้าเองน่ะ]

“ก็ต้องเป็นแบบนั้น”

“ไม่--” กมลเอ่ยปากแย้งอีกคน แต่ณธิปยกมือห้ามอีกฝ่ายไว้เสียก่อน

[มันเรื่องใหญ่นะเล็ก แกควรปรึกษาคุณพ่อกับพี่ภัทรก่อนดีไหม] ดังตฤณเอ่ยด้วยความเป็นห่วง เขารู้ว่าณธิปอยากช่วยคนที่รัก แต่ทำแบบนี้ก็อาจเสี่ยงเสียหายหลายทาง

“ฉันคิดว่าถ้าจะทำ พี่ภัทรกับพ่อไม่น่าขวางหรอก”

“แต่คุณทำแบบนั้นไม่ได้นะ” กมลร้องห้าม ด้วยกลัวว่าจะลากให้คนอื่นเดือดร้อนไปกันใหญ่

“คุณไอใจเย็นก่อนนะ ฟังผมพูดก่อน”

[นั่นคุณไออยู่ด้วยหรือ]

“อืม” ณธิปบอกเพื่อน “เอาเป็นว่าใจเย็นและฟังฉันก่อน ทั้งสองคนเลย”

[ว่ามาเพื่อน]


“ฉันว่าถ้าเราทำโครงการแล้วเข้าไปในพื้นที่ เป็นโครงการของทางเอ็นพีกรุ๊ป เพื่อช่วยเหลือเด็กๆ ที่ยากไร้อะไรก็ว่ากันไป เหมือนที่ทางเอ็นพีกรุ๊ปทำทุกปี ก็จะมีสื่อสนใจเข้าไปทำข่าวในพื้นที่ด้วย ทีนี้เราก็ปล่อยให้ชาวบ้านทำงาน จะเดินขบวนประท้วงเรื่องรุกที่ดินป่า หรืออะไรก็ตาม เราให้ทางผู้ใหญ่บ้านเตี๊ยมกับชาวบ้านไว้ก่อน ถึงจะดูคล้ายกับว่าจงใจ หากจะมองว่าไม่จงใจก็ได้ เพราะทางนั้นก็มีเรื่องกับชาวบ้านอยู่แล้ว แค่บังเอิญที่ทางเราเข้าไปตรงนั้นพอดี นักข่าวจึงตามไปเจอเรื่องนี้เอง”

[ก็ดูเป็นความคิดที่ดีนะ แต่มันจะเสี่ยงไปไหม]


“ก็เสี่ยง แต่รัฐมนตรีทรงศักดิ์จะทำอะไรได้ ฉันว่าเราไม่ต้องแคร์หรอก ยังไงพลังมวลชนก็น่าจะน่ากลัวที่สุด ยิ่งถ้าพวกสื่อได้ข่าวใหญ่ขนาดนี้ รับรองว่าทั้งขุดทั้งคุ้ยแน่ ไหนจะพวกชาวโซเชียลอีกล่ะ รัฐมนตรีทรงศักดิ์คงหัวหมุนจนไม่มีเวลามาจัดการพวกเราแน่” ณธิปเว้นไปนิด ก่อนจะเอื้อมมือไปวางบนหลังมือของกมล “แต่ถึงจะทำ ผมก็จัดการได้อยู่แล้ว”


ไม่เพียงเอ็นพีกรุ๊ปจะเป็นผู้นำที่น่าเกรงขามทางธุรกิจ แต่ทางคนมีสี กลุ่มทางการเมืองเองก็ยังต้องเกรงใจ เพราะหลังฉาก พวกเขาก็ใช้เม็ดเงินสนับสนุนกลุ่มคนพวกนั้นด้วย ดังนั้นจึงไม่มีใครคิดอาจหาญเข้ามายุ่งวุ่นวาย จะเรียกว่าผู้มีอิทธิพลก็ไม่ผิด


กมลมองหน้าคนที่กุมมือตัวเองไว้ เขาพอรู้ว่าณธิปเป็นบุคคลระดับไหน แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นสาเหตุให้ในใจรู้สึกอุ่นๆ เท่ากับที่กมลรู้ว่า


คนคนนี้พยายามทำทั้งหมดเพียงเพราะเขา


การได้เป็นคนพิเศษซึ่งมาจากความรู้สึกที่ใครสักคนมีให้อย่างจริงใจ มันทำให้เขาอดดีใจไม่ได้ แต่กระนั้น สิ่งที่ณธิปคิดทำมันก็ใหญ่เกินไป เสี่ยงเกินไป จนกมลนึกหวั่นใจอยู่ดี


“ผมว่ามันเสี่ยงเกินไป คือไอเดียของคุณก็ดีนะครับ ใช้สื่อมาเล่นงาน แต่ไม่ต้องออกหน้าลงพื้นที่ด้วยตัวเองก็ได้ เพราะมันอาจทำให้คุณเดือดร้อน” กมลว่า

“คุณไม่ต้องเกรงใจ ผมยินดีทำเพื่อคุณนะไอ” เจ้าของดวงตาทรงเสน่ห์กระชับมือ

“แต่ว่าผมไม่อยากให้คุณต้องเดือดร้อนถึงขนาดนั้น”


   ทั้งสองจ้องตากันท่ามกลางความเงียบ แม้แต่ดังตฤณเองก็ยังหยุดเพื่อให้เวลากับพวกเขา จนผ่านไปพักหนึ่ง ณธิปจึงเป็นฝ่ายทำลายความเงียบนั้นลง ด้วยตัดสินใจได้อย่างเด็ดขาดแล้ว


“ผมตัดสินใจแล้ว ผมว่าทางที่ดีที่สุดคือทำอย่างที่บอกไปเมื่อกี้ แต่ผลจะเป็นยังไง จะทำแน่นอนไหม ผมจะกลับไปคุยและลองปรึกษากับพ่อและพี่ภัทรดู น่าจะได้คำแนะนำดีๆ หรือบางทีพวกท่านอาจมีความคิดที่ดีกว่านี้ก็ได้”

[ก็ดีเหมือนกัน ฉันฟังดูแล้วค่อนข้างเห็นด้วย ใช้สื่อกดดันดีกว่าวิ่งเต้นเอาเองลับหลังแบบนี้ เพราะวิธีของฉันมันสาวถึงตัวง่าย ถ้าสมมติทางโน้นจะเล่นงานแก เราก็แค่ทำไม่รู้ไม่เห็นแบบที่แกว่า ก็ไม่มีหลักฐานอะไรมากล่าวหาว่าพวกเราเป็นคนอยู่เบื้องหลังได้] อัยการหนุ่มวิเคราะห์

“ใช่ ถ้าทางรัฐมนตรีทรงศักดิ์จะเล่นงานเรา ก็ต้องหาหลักฐานมายืนยันแล้วล่ะว่าเป็นฝีมือของพวกเราจริงๆ”

[งั้นตอนนี้แกก็ไปคุยกับพ่อให้เรียบร้อยนะเล็ก ตัดสินใจยังไงก็โทรบอกฉันด้วย]

“ได้” ณธิปรับคำ

[ฝากบอกคุณไอด้วยว่าไม่ต้องคิดมาก ช่วยๆ กันคิดหาทางไป ยังไงเรื่องที่ทำนี่ก็ถือเป็นเรื่องที่ถูกต้อง]

“อืม”

[งั้นฉันวางก่อน อย่าลืมโทรมาล่ะ]

“รู้แล้วน่า”


เมื่อวางสายแล้ว ณธิปก็ต้องกลับมาเผชิญหน้ากับกมลอีกครั้ง คิ้วเข้มของคนหน้าหวานขมวดมุ่นเป็นปม ท่าทางดูวิตกกังวลจนลืมแม้กระทั่งดึงมือกลับไปจากการถูกจับเอาไว้ ทว่าพอเห็นณธิปมองที่มือด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ กมลจึงรู้สึกตัว และดึงมือข้างนั้นกลับไป หากไม่วายทำหน้านิ่วคิ้วขมวดอย่างเดิม


“นี่อิ่มแล้วหรือครับ ผมเห็นคุณวางส้อมตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว”

“อิ่มแล้วครับ” กมลพยักหน้ารับ ก่อนจะกัดริมฝีปากของตนเองด้วยความไม่สบายใจ

“กัดปากทำไม คิดจะยั่วผมหรือ” ณธิปเอ่ยกระเซ้า ด้วยหวังให้บรรยากาศดีขึ้น แต่กมลกลับไม่เล่นด้วย

“คุณเล็ก” ครั้นกมลส่งเสียงปราม ณธิปก็ลากเสียงยาวอย่างยียวน

“คร้าบ”

“อย่าเพิ่งเล่นสิ ผมไม่สบายใจจริงๆ นะ”

“ทำไมล่ะ ผมอุตส่าห์คิดแผนการดีๆ ได้ แต่คุณกลับไม่สบายใจเนี่ยนะ”

“ก็ผมไม่เห็นด้วย เพราะทำแบบนั้นอาจจะทำให้คุณเดือดร้อนไปด้วย ที่ผมต้องการจากคุณและคุณตฤณ ก็แค่คำปรึกษาและกระตุ้นเรื่องคำร้องที่ส่งไปเท่านั้น ไม่ได้อยากให้คุณคิดการใหญ่แบบนี้”


กมลทั้งเกรงใจ ทั้งไม่สบายใจไปในคราวเดียวกัน เพราะไม่อยากให้ณธิปต้องลำบากเพราะช่วยเหลือเขาถึงขนาดนั้น ด้วยปัญหานี้ไม่เกี่ยวกับณธิปสักนิด ถ้าหากเกิดความผิดพลาดอะไรขึ้น แล้วส่งผลให้ณธิปกับเอ็นพีกรุ๊ปต้องเดือดร้อน เขาคงไม่รู้จะชดใช้ยังไง


“จะไม่ให้คิดการใหญ่ได้ยังไง คุณก็รู้อยู่แล้วว่าเรื่องนี้มันใหญ่ระดับไหน เราค่อยๆ ทำเงียบๆ ไม่ได้หรอก เพราะถ้ารอคอยเงียบๆ ก็จะไม่มีอะไรคืบหน้าเหมือนที่ผ่านมา แล้วอย่างนี้คุณยอมได้หรือ คุณจะปล่อยคนพวกนั้นไปตามยถากรรมหรือเปล่า ผมจะไม่ลงมืออะไรเลยก็ได้ ถ้าคุณไม่ยุ่ง ผมก็จะไม่ยุ่ง ถามว่าผมสนใจคนพวกนั้นแค่ไหน ตอบเลยว่าแค่สงสารเท่านั้น แต่ที่ผมสอดมือเข้ามา ก็เพราะคุณจะทำมันไงล่ะ”


“คุณเล็ก…” เป็นครั้งแรกที่เหตุผลของณธิปทำให้กมลจนด้วยคำพูด


ถ้าเขาช่วย ณธิปก็จะเข้ามาร่วมด้วย แต่ถ้าเขาไม่ช่วย ณธิปก็จะหยุดอย่างนั้นหรือ…


ไม่ว่าอย่างไรเรื่องนี้ก็ยากเกินจะตัดสินใจได้ในทันที เพราะกมลอยากช่วยคนพวกนั้น อยากช่วยพนักงานที่เขารักเสมือนครอบครัว แต่กมลก็ไม่อยากให้ณธิปต้องวุ่นวายเพราะตัวเอง


“คุณลองตัวสินใจดู ระหว่างนี้ผมจะปรึกษาคุณพ่อกับพี่ภัทรไว้ก่อน ตัดสินใจได้เมื่อไหร่ก็บอกผมได้ทันที”

“ขอบคุณครับ แล้วก็…ขอโทษด้วยที่เอาเรื่องปวดหัวมาให้”

“ปวดหัวจริงๆ แหละนะ เฮ้อ…” ณธิปถอนหายใจออกมาเบาๆ เขาเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ พลางกอดอกมองคนตรงหน้ายิ้มๆ “แต่ไม่เป็นไรหรอก เพื่อคุณ…ผมทำได้”

“หึๆ” กมลหลุดหัวเราะ “คุณเนี่ย…ขยันหยอดจริงนะ”


ที่ผ่านมากมลพยายามมองข้ามและทำเป็นไม่สนใจมากตลอด แต่คราวนี้กลับหันเหความสนใจของตัวเองและทำเฉยไม่ได้ เพราะคำพูดและความรู้สึกที่ณธิปส่งมาให้มันสะเทือนกำแพงที่กั้นเอาไว้ จนรู้สึกไหวไปถึงหัวใจ


กมลไม่ได้ปลื้มที่ณธิปยอมลงทุนลำบากหรือโชว์พาวเวอร์ด้วยพื้นเพที่ยิ่งใหญ่ แต่เขาตื้นตันที่ณธิปทุ่มเทเพราะรู้สึกกับเขาจริงๆ โดยไม่มีการเสแสร้งมากกว่า


กมลรู้สึกดีที่ณธิปไม่ได้สร้างภาพโดยการบอกว่าอยากช่วยเพราะชาวบ้านเหล่านั้น แต่ณธิปกลับสารภาพอย่างตรงไปตรงมาว่าทำเพราะอะไร ซึ่งมันทำให้สัมผัสได้ถึงหัวใจของอีกฝ่าย


จนตอนนี้กมลเริ่มเชื่อแล้วว่า ณธิปรู้สึกกับเขาจริงๆ อย่างที่เคยประกาศไว้


“ก็หยอดไปเรื่อยล่ะ เผื่อว่าคุณจะรู้สึกอะไรบ้าง”

“จะใช้มุขน้ำหยดลงหิน ทุกวันหินมันยังกร่อนหรือครับ”

“แล้วใช้ได้ไหมล่ะครับ” คนเจ้าแผนการยิ้ม

“…”


กมลไม่ตอบ แต่ยกยิ้มบางๆ ประมาณว่า คิดเอาเองสิ จากนั้นคนหน้าหวานก็ลุกจากที่นั่ง เอาจานของตัวเองไปเก็บในอ่างล้างจาน ทิ้งให้ณธิปนั่งตีความกับท่าทางยิ้มยั่วเมื่อครู่เพียงลำพัง
   







   หลังจากจัดการกับอาหารตรงหน้าไม่ไหวอีกต่อไป ณธิปก็ต้องยกธงขาวยอมแพ้ ชายหนุ่มมองนาฬิกาข้อมือเห็นเข้มสั้นเกือบชี้เลขสิบสอง ก็รู้ว่าตนยื้อเวลาไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว


   ณธิปอาสาช่วยกมลล้างจาน แต่ก็ไม่คุ้นชินกับงานบ้าน จึงได้แต่ยืนเช็ดจานอยู่ข้างๆ และจัดเรียงไว้ในที่ของมันเท่านั้น เมื่อเรียบร้อยทุกอย่างแล้ว กมลจึงเดินมาส่งเขาที่หน้าห้อง


   “ผมไปก่อนนะ”

   “อืม” กมลพยักหน้า

   “ไม่อยากไปเลย ออกอยากนอนมันเสียที่นี่” ใบหน้าหล่อเหลานั่นดูหง่อยลงท่าทางน่าสงสาร ขัดกับประโยคอุกอาจที่เจ้าตัวเอ่ยออกมาลิบลับ

   “ให้มันน้อยๆ หน่อยคุณ ได้ทีก็เอาใหญ่เชียวนะ”

   “ก็แค่อยากเท่านั้นแหละ รู้อยู่แล้วว่าคุณไม่อนุญาต” ณธิปว่า

   “แล้วถ้าผมอนุญาตล่ะ” กมลยิ้มหวานพลางเอ่ยอย่างนึกสนุก แต่คำเย้าแหย่ของหนุ่มหน้าหวานกลับทำให้ใบหน้าของคนฟังรู้สึกว่าเป็นคำที่ยั่วเย้า เชิญชวน


ณธิปพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ เส้นความอดทนที่กดเอาไว้มาโดยตลอดดีดผึง ก่อนชายหนุ่มจะดันประตูกลับเข้ามาในห้องอย่างรวดเร็ว ไม่ฟังเสียงทัดทานของเจ้าของห้องเลยสักนิด


   “คุณเล็ก!”


   ปึง!


   ณธิปผลักประตูปิดและดันให้กมลหันหลังชนประตู โดยมีวงแขนของเขากั้นอาณาเขตไว้ไม่ให้อีกฝ่ายไปไหน กมลตกตะลึงกับสถานการณ์พลิกผันที่เกิดขึ้นจนลืมดิ้นหนี หนุ่มหน้าหวานยืนตัวแข็งทื่อ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตากับณธิปท่ามกลางความเงียบ


   “คุณเล็ก…” กมลเรียก เมื่อเห็นว่าณธิปค่อยๆ เคลื่อนหน้าเข้ามาใกล้จนลมหายใจรดริน

   “หืม?”

   “ผมแค่ล้อเล่นเท่านั้นเอง”

   ณธิปแค่นหัวเราะ แต่ก็ไม่ถอยห่างออกไป “หึ…”

   “ผมไม่ได้…” ยังไม่ทันพูดจบ ณธิปก็เอ่ยขัด

   “ไอ”

   “ครับ”

   “แต่ผมไม่เล่นด้วยหรอกนะ”

   “…” กมลเงียบ ด้วยไม่คิดว่าความรู้สึกต้องการของอีกฝ่ายจะรุนแรงถึงเพียงนี้ “ผมรู้แล้วว่าคุณไม่เล่น แต่คุณถอยออกไปก่อนดีไหม”


   ทว่าครานี้ณธิปกลับไม่ตอบตกลง ซ้ำยังเคลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้มากขึ้น กมลคาดเดาได้ว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น วินาทีที่ณธิปโฉบเข้ามาใกล้ มือที่ดันแผ่นอกไว้จึงยกขึ้นปิดปากของตัวเองโดยอัตโนมัติ


   ทว่า…


   คนเจ้าเล่ห์กลับจูบลงที่ปลายจมูกรั้น ก่อนจะเผยอริมฝีปากงับมันเบาๆ อย่างนึกหมั่นเขี้ยว ทำให้ความร้อนผ่าวจากปลายจมูกค่อยๆ แผ่ขยายไปทั่วทั้งใบหน้า จนดวงหน้าเรียวนั้นแดงก่ำไปหมด ณธิปยิ้มเมื่อเห็นเช่นนั้น ก่อนเขาจะผละออกไปแล้วปล่อยให้คนที่ยืนตัวแข็งทื่อเป็นอิสระ


   “ที่ผ่านมาผมต้องอดทนแค่ไหนรู้ไหม ดังนั้นอย่าล้อเล่นแบบนี้อีก เพราะผมจะอดใจไม่ไหวแล้วเล่นคืนบ้างเหมือนกัน” ว่าจบณธิปก็เปิดประตูออกจากห้อง ทิ้งให้กมลเลื่อนมือขึ้นมากุมจมูกของตัวเองแทน


การถูกจู่โจมโดยไม่ทันตั้งตัวในครั้งนี้ ทำให้กมลรู้ว่าหมาป่าเจ้าเล่ห์ อย่างไรเสียก็เป็นหมาป่าเจ้าเล่ห์อยู่วันยังค่ำ ไม่มีทางเปลี่ยนเป็นหมาบ้านเชื่องๆ ได้


“ใครกันแน่ที่ร้ายกว่ากัน” กมลครางเบาๆ ด้วยรู้สึกว่าตนเองกำลังเสียรู้หมาป่าเจ้าเล่ห์ตัวนั้นเข้าให้แล้ว






<><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><>





บทตอนนี้ส่งมาก พระเอกมาก
แต่จะพระเอกมากไปไม่ได้ คุณเล็กต้องคงคอนเสปหล่อร้าย เป็นหมาป่าเจ้าเล่ห์ต่อไป 55555555
ในส่วนของคุณไอนั้น…เอาแล้วสิ เสียรู้แล้วสิพ่อน้ำแข็งหิมาลัยของบ่าว
แต่ไม่ต้องกลัวนะคะ คุณไอยังมีกระบวนการช่างใจอีกหลายชั้น 55555
แต่ความกรุบกริบก็จะค่อยๆ เพิ่มขึ้นไปทีละนิดแล้วล่ะค่ะ /นิดจริงๆ/
ผ่านครึ่งเรื่องมาแล้วนี่นะ 555555
ยังไงก็ฝากด้วยนะคะ เห็นฟีดแบคกลับมา ไม่ว่าจะทีมคุณเล็กหรือทีมคุณไอ ฝนก็ดีใจหมดเลย
เจอกันตอนหน้าค่ะ

ปล. ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดหรือติดงานตรงไหน ฝนจะมาทุกวันศุกร์นะคะ /ประกาศกร้าว 5555/

ละอองฝน.


หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 26 [20/11/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: khwanruen ที่ 20-11-2017 09:09:44
คุณเล็กรุกเต็มที่เลย น้ำหยดลงหินทุกวัน หินมันยังกร่อน เดี่ยวคุณไอก็ใจอ่อนเองแหละ :impress2:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 26 [20/11/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 20-11-2017 09:11:09
พี่จะมารอที่ท่าน้ำทุกวันศุกร์ คุณไอหวั่นไหวบ้างรึยัง?? #ทีมคุณเล็ก   :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 26 [20/11/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: kobyp_lu ที่ 20-11-2017 09:29:31
น่ารักมากกกก คุณเล็กกก  เป็นนี่ใจอ่อนแล้ว   :-[
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 26 [20/11/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 20-11-2017 12:48:26
 :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 26 [20/11/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 20-11-2017 14:59:43
หวั่นไหวแล้วอะ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 26 [20/11/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Fahsaizzz ที่ 20-11-2017 20:09:24
รอเขารักกัน ฟินยังเลยค่ะ เขินแทนไอ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 26 [20/11/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 20-11-2017 22:09:09
เรามารอวันที่คุณเล็กจะเอาจริง
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 26 [20/11/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 20-11-2017 22:27:01
 :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 26 [20/11/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: inspirer_bear ที่ 21-11-2017 06:35:16
หึหึ  คุณเล็กต้องพิสูจน์ไปอีกนานนน 555 พี่ไอใจแข็งเข้าไว้
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 26 [20/11/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 21-11-2017 16:02:13
อื้อหือ ตอนนี้คุณเล็ก หล่อ มาก 555
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 26 [20/11/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: pigarea ที่ 21-11-2017 19:27:02
คนอะไร​ใจแข็ง​เกิ๊น
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 27 [04/12/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ละอองฝน ที่ 04-12-2017 15:28:58




คุณคือความรัก บทที่ 27

   ณภัทรมองน้องชายที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกันนิ่งๆ อย่างพิจารณา ขณะรอผู้เป็นพ่อที่กำลังจะตามมาสมทบในอีกไม่อีกนาทีข้างหน้า เมื่อสามวันก่อนณธิปโทรหาเขาพร้อมกับบอกว่ามีเรื่องต้องการปรึกษา ก่อนจะนัดให้มาเจอกันที่บ้าน ซึ่งวันที่นัดก็คือวันที่ทุกคนว่างตรงกัน



   ทว่าสิ่งที่ทำให้ณภัทรประหลาดใจก็คือ ทันทีที่มาถึงบ้าน คุณแม่ก็รีบเข้ามาดักทางไว้ พร้อมกับบอกว่าณธิปมารออยู่ก่อนแล้ว ซ้ำยังบอกอีกว่าณธิปไม่ได้นัดแค่เขาคนเดียว หากยังเอ่ยปากนัดคุณพ่อที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากันอีกด้วย



   แม่ของพวกเขาเป็นห่วงมาก ด้วยกลัวว่าณธิปจะไปก่อปัญหาวุ่นวายอะไรให้ต้องตามแก้กันอีก ณภัทรเองก็รู้สึกกลัวไม่แพ้กัน แต่อีกใจก็คิดไปในทางหนึ่งว่าอาจไม่เป็นเช่นที่แม่คาดเดา ด้วยรู้ดีกว่าถ้าเกิดปัญหาแก้ไม่ตกจริงๆ ณธิปจะต้องบอกเขากับแม่ก่อน ไม่เคยสักครั้งที่เจ้าตัวดีจะเอ่ยปากกับพ่อ ดังนั้นณภัทรจึงได้แต่บอกให้แม่คลายกังวล และรับปากว่าจะพยายามช่วยไม่ให้เรื่องเลวร้ายลงถ้าหากน้องสร้างปัญหาจริงๆ


   “เรามีเรื่องอะไรกันแน่เจ้าเล็ก บอกพี่ก่อนไม่ได้หรือไง” ทว่าจนแล้วจนรอดณภัทรก็ทนไม่ไหว จึงเปิดฉากถามไปเสียก่อน

   “รอฟังพร้อมคุณพ่อไม่ดีกว่าหรือครับ ผมขี้เกียจเล่าหลายรอบ” น้องชายตัวดีเอ่ยด้วยเสียงเนือยๆ จนณภัทรนึกขัดใจ

   “ก็เผื่อว่ามีปัญหาอะไรพี่จะได้ช่วยคิดก่อนที่คุณพ่อจะมา”

   “อืม…” ดวงตารีเรียวคู่นั้นเหลือบมองนาฬิกาข้อมือของตัวเอง ก่อนจะเอ่ย “คุณพ่อน่าจะใกล้ถึงแล้วนะครับ”

   “แต่ว่า…” ยังไม่ทันที่ณภัทรจะเกลี้ยกล่อมสำเร็จ เสียงเปิดประตูก็ดังขึ้นขัดจังหวะ ก่อนบุคคลที่ทุกคนรอคอยจะเดินเข้ามาด้วยสีหน้าเรียบเฉย


   ด้วยบุคลิกภูมิฐานและใบหน้าดุๆ ของผู้มีอาวุโสสูงสุดของบ้าน จึงทำให้บรรยากาศในห้องเปลี่ยนไปทันที ณธิปเองก็ขยับตัวนั่งหลังตรง เลิกปล่อยตัวตามสบายผิดกับเมื่อครู่



   ครั้นอนันต์เดินไปนั่งบนเก้าอี้ประจำตัว สามพ่อลูกโชติตระกูลจึงอยู่ในตำแหน่งล้อมวงเผชิญหน้ากัน ซึ่งนับเป็นเวลาหลายเดือนมาแล้วที่พวกเขาสามคนไม่ได้อยู่ด้วยกันตามลำพังเช่นนี้ และผู้เป็นพ่อก็ไม่ปล่อยเวลาให้เสียเปล่า เพราะเขาหันมาสบตาของลูกชายคนเล็ก ก่อนจะบอกให้ณธิปพูดเรื่องที่เรียกตนมาในวันนี้



   “แกมีเรื่องอะไรตาเล็ก ถึงได้เรียกพ่อกับพี่ภัทรมาวันนี้”

   “ผมอยากปรึกษาเรื่องทำโครงการทำ CSR  ของเราปีนี้ครับ”

   “หา?” ไม่ใช่แค่ณภัทรที่รู้สึกประหลาดใจจนต้องอุทานออกมา แต่อนันต์เองก็ทำตาโตอยู่ครู่หนึ่งเหมือนกัน เพราะไม่อยากเชื่อว่าลูกชายคนเล็กจะสนใจเกี่ยวกับเรื่องทำประโยชน์เพื่อส่วนรวมอย่างคนอื่นด้วย


   “ทำไมต้องทำหน้าแบบนั้นกันด้วยครับ” ณธิปถามเพราะรู้สึกฉุนนิดๆ เนื่องจากพ่อกับพี่ชายทำท่าราวกับว่าไม่เชื่อว่าคนแบบเขาจะทำอะไรเพื่อคนอื่นอย่างนั้น

   “ไม่มีอะไรหรอก พี่แค่ประหลาดใจ” ณภัทรตอบ

   “เอาเถอะๆ ไหนโครงการเล่าให้พ่อฟังหน่อย เราอยากทำอะไร” อนันต์ถามด้วยน้ำเสียงและแววตาอ่อนลง

   “โครงการสนับสนุนการศึกษาพัฒนาชุมชนครับ”

   “พวกเราก็ทำทุกปีอยู่แล้วนี่” ณภัทรว่า

   “แต่โครงการนี้ไม่ใช่ชุมชนที่เราเคยทำ คือผมอยากขยายโครงการจากที่เราเข้าไปช่วยมาก่อนหน้านี้เพิ่มอีก พอดีว่าผมไปเจอที่ที่น่าสนใจมา”

   “ที่ไหน” ณภัทรถาม


   “หมู่บ้านป่างาม จ.ลำพูนครับ เป็นหมู่บ้านที่อยู่บนดอยช้าง ค่อนข้างเดินทางลำบาก แต่ไม่ไกลจากที่ที่เราเคยทำในเชียงใหม่เท่าไหร่ ผมอยากทำโครงการพวกโครงการสื่อการเรียนและอาหารกลางวันที่โรงเรียนบ้านป่างาม เพราะเด็กๆ ยังขาดอีกหลายอย่าง ถ้าเข้าไปช่วยให้พวกเขาดูแลตัวเองและติดตามผลเหมือนที่เราเคยทำก็คงจะดีมาก เพราะเขาน่าจะต้องการตรงนี้จริงๆ”


   “แนวทางเหมือนที่เราเคยทำมาใช่ไหม” ณภัทรถาม

   “ครับ” ณธิปพยักหน้า

   “ก็เอาสิ” อนันต์อนุญาตทันทีโดยไม่ต้องคิด เพียงแต่เขายังนึกแปลกใจว่าลูกชายตัวดีรู้จัดที่แห่งนี้ได้อย่างไร จึงเอ่ยถามเรื่องที่สงสัยออกไปเช่นกัน “แล้วไปรู้จักที่นี่มาจากไหน”

   “เอ่อ…พอดีคนรู้จักเขาเคยเข้าไปช่วยซ่อมแซมอาคารเรียนที่นั่นมาก่อน แต่หลายๆ อย่างก็ยังขาดอยู่ ผมได้ยินเขาเล่าก็เลยอยากช่วย”

   “อืม” อนันต์รับคำ “โครงการนี้ก็ออกหน้ารับผิดชอบไปก็แล้วกัน ดูจากแนวทางเก่าๆ ของเรา เรื่องงบประมาณก็จัดประชุมตามเห็นควรได้ คิดอยากช่วยคนแบบนี้พ่อก็ไม่ขัดหรอก”

   “ครับคุณพ่อ” ณธิปตอบรับ ดูแล้วพ่อกับพี่ชายของเขาสนับสนุนโครงการดี แต่ชายหนุ่มก็ไม่แน่ใจว่าถ้าเอ่ยเรื่องปัญหาที่ดินในหมู่บ้านให้ฟัง ทั้งสองจะยังเห็นด้วยอยู่หรือไม่

   “พวกเราไปกินข้าวเถอะครับ คุณแม่น่าจะรออยู่” ณภัทรว่า แต่ก่อนที่ทุกคนจะลุก ณธิปก็กลั้นใจเอ่ยออกไป

   “เดี๋ยวครับ”

   “มีอะไรตาเล็ก” ผู้เป็นพี่หันมาถาม

   “ยังมีอีกเรื่องที่ผมยังไม่ได้บอก”

   “อะไร” เป็นอนันต์ที่ถาม

   “คือหมู่บ้านที่ผมกำลังจะไปทำโครงการน่ะครับ มันมีปัญหาบางอย่าง”

   “ปัญหาหรือ” จากที่เพิ่งนึกสบายใจว่าน้องจะไม่นำเรื่องปวดหัวมาให้ ณธิปกลับต้องลองคิดดูใหม่เสียแล้ว

   “ครับ” ณธิปพยักหน้า “คือว่า…นอกจากโรงเรียนแล้ว ตอนนี้พวกชาวบ้านยังได้รับความเดือนร้อนเรื่องนายทุนรุกล้ำที่ดินด้วย…”



   ณธิปเล่าเรื่องนายทุนที่เข้าไปรุกล้ำที่ป่าและตามรังควานชาวบ้านเพราะต้องการจะซื้อที่ดิน ก่อนจะเล่าแผนการที่จะใช้สื่อเข้าไปขยายเรื่องที่เกิดขึ้นเพื่อกระตุ้นกระบวนการยุติธรรมด้วยแรงกดดันจากสังคม และเมื่อสองพ่อลูกได้ฟังเรื่องราวที่เจ้าตัวแสบประจำบ้านเล่า ใบหน้าของทั้งคู่ก็ค่อยๆ เครียดขรึมลงจนบรรยากาศเปลี่ยนไปจากเมื่อครู่ลิบลับ



   “ตาเล็ก”

“ครับคุณพ่อ”


“รู้หรือเปล่าว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่” อนันต์เอ่ยถามหลังจากได้ฟังเรื่องที่ณธิปเล่าว่าได้ส่งเรื่องร้องเรียนชาวบ้านเข้าไปที่หน่วยงานของรัฐแล้ว แต่ทุกอย่างยังคงเงียบหายราวกับมีมือมืดของใครบางคนปัดมันทิ้งไป


   “ทราบครับ”

   “นี่ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ และแกอาจจะเดือดร้อนเพราะเรื่องนี้”

   “ผมทราบอยู่แล้วครับคุณพ่อ”

   “แต่ก็ยังเดินหน้าส่งเรื่องร้องเรียนไปอีกหรือ”


   “ครับ” คนหัวดื้อพยักหน้า ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงแน่วแน่ สายตาที่มองตรงไปที่ผู้เป็นพ่อนั้น ทำให้อนันต์รู้สึกราวกับว่าลูกชายไม่เอาถ่านของตัวเองได้เปลี่ยนไปมากจริงๆ “ผมรู้ว่าเรื่องนี้อาจทำให้ตัวเองและบริษัทเดือดร้อน แต่ผมก็คิดว่าเราจะจัดการเรื่องนี้ได้โดยไม่เกิดปัญหาแน่นอน”


   “นี่คือการสู้กับผู้มีอิทธิพลนะตาเล็ก แกไม่กลัวหรือ” อนันต์ถาม

   “จะกลัวไปทำไมกันครับคุณพ่อ เพราะความจริงแล้วเราไม่ได้ทำอะไรผิด ดังนั้นคนที่ไม่ผิดก็ไม่ต้องกลัวอะไร จริงไหมครับ”


   ท่าทางมั่นอกมั่นใจของณธิปทำให้ณภัทรรู้สึกทึ่ง เขารู้มาตลอดว่าณธิปเป็นคนมั่นใจในตัวเองเช่นนี้แต่ไหนแต่ไร ทว่าเมื่อเจ้าตัวเอามันมาใช้กับเรื่องที่ดูมีสาระ มันก็ทำให้คนเป็นพี่รู้สึกภูมิใจมากกว่าหมั่นไส้เหมือนที่แล้วๆ มา


   “ถ้าอย่างนั้นก็วางแผนดีๆ อย่าให้บริษัทต้องเดือดร้อนกับเรื่องนี้ รวมทั้งตัวแกเองด้วย เข้าใจไหม”

   “คุณพ่อยอมให้ผมทำหรือครับ!” คนหัวดื้อถามอย่างไม่อยากเชื่อ

   “อืม แต่จะทำอะไรก็คิดให้รอบคอบก่อน ถ้าไม่แน่ใจให้ปรึกษาพ่อกับพี่ภัทรทันที อย่าด่วนตัดสินใจเองล่วงหน้า” อนันต์สั่งเสียงเข้ม

   “ครับ” ณธิปพยักหน้ารับ ชายหนุ่มรู้ดีว่าเรื่องนี้อาจทำให้เขาลำบาก ทว่าก็อดรู้สึกดีใจไม่ได้ที่พ่อเห็นด้วยกับสิ่งที่เขาจะทำ เหมือนกับว่าณธิปโตพอที่พ่อจะเชื่อใจได้อย่างที่เชื่อใจณภัทรแล้ว

   “หมดเรื่องแล้วใช่ไหม”

   “หมดแล้วครับ” ณธิปตอบ

   “ถ้าอย่างนั้นก็ไป พ่อหิวแล้ว”

   “ครับ” ณธิปลุกไปเปิดประตูให้พ่อ ระหว่างที่ลูกชายคนเล็กหันหลัง อนันต์ก็หันไปสบตากับลูกชายคนโตที่ดูท่าจะยังกังวลเรื่องของน้องอยู่

   “คุณพ่อ ผมว่า…”

   “ไม่เป็นไรหรอก ปล่อยให้เขาทำ” อนันต์กระซิบบอกกับณภัทรเท่านั้น ก่อนจะเดินออกไปหาณธิปที่เปิดประตูรอ



   อนันต์ไม่รู้ว่าณธิปไปเอาความคิดเล่านี้มาจากไหน ไม่ว่าใครหรืออะไรจะจุดประกายให้ลูกชายหัวดื้อของเขา เขาไม่คิดสนใจไปมากกว่าเรื่องที่ณธิปลุกขึ้นมาสู้เพื่อคนอื่น



แม้อนันต์จะรู้ว่าเรื่องนี้ไม่ง่ายอย่างที่ณธิปคิด แต่เขาจะปล่อยให้เจ้าตัวดีได้ลอง ได้เรียนรู้เพื่อที่จะคิดถึงคนอื่นให้มากขึ้น และถ้าหากว่าเกิดพลาดพลั้ง เขาจะคอยพยุงอยู่ข้างๆ ด้วยกำลังที่มี จะไม่ยอมให้ใครเข้ามาทำร้ายลูกชายของเขาได้อย่างแน่นอน



   ณภัทรมองผู้เป็นพ่อกับน้องชายเดินออกจากห้องไปด้วยกันแล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ แม้ว่าเขาจะเป็นกังวล แต่ถ้าณธิปมั่นใจขนาดนั้นและพ่อบอกว่าไม่เป็นไร ณภัทรก็จะยอมเชื่อ เพียงแต่งานหนักกว่านั้นก็คือ จะทำอย่างไรไม่ให้แม่ตกใจ ถ้ารู้ว่าเจ้าเล็กของแม่คิดทำเรื่องวุ่นๆ อีกแล้ว









   อาหารเย็นมื้อนี้ราบรื่นมากเสียจนณธิปเกือบลืมไปแล้วว่าเขากับพ่อเคยมึนตึงใส่กัน ดูท่าว่าพ่อจะไม่ใช่แค่เห็นด้วย แต่สนับสนุนเรื่องที่เขาจะทำเลยทีเดียว ณธิปไม่รู้ว่าเหตุใดท่านจึงยอม แต่เมื่อผลลัพธ์ที่ได้มันออกมาดี ชายหนุ่มก็สบายใจและมั่นใจมากขึ้น



   หลังจากนี้เขาคงมีงานเพิ่มขึ้นพอสมควร แต่เมื่อระลึกถึงว่าแรงขับเคลื่อนงานนี้เป็นเพราะได้ทำเพื่อคนใจแข็งคนนั้น ณธิปก็ยินยอมพร้อมใจจนลืมว่าต้องเหนื่อยหนักขึ้นเท่าไร หลังจากนี้ก็ได้แต่หวังให้กมลเห็นใจเขาบ้าง เห็นว่าเขาทุ่มเทและยอมเจ้าตัวขนาดไหน


   หวังว่าคนใจร้ายจะไม่ใจแข็งนานนัก...


   ครั้นอิ่มเรียบร้อยทุกคนก็แยกย้ายกันไปพักผ่อน ณธิปเองก็ขึ้นห้องของตัวเองเช่นกัน ชายหนุ่มโยนเสื้อสูทไว้ที่โต๊ะยาวปลายเตียง มือข้างหนึ่งคลายเนคไทด์ อีกข้างก็ล้วงเอาโทรศัพท์มือถือขึ้นมาต่อสายหาคนที่คิดถึง ซึ่งโชคดีเหลือเกินที่ไม่ต้องรอนานอีกฝ่ายก็รับสาย



   [สวัสดีครับ]

   “คุณไอ”

   [ครับคุณเล็ก]

   “ผมมีข่าวดีจะบอก”

   [ข่าวดีหรือครับ]

   “อืม อยากรู้ไหม”

   [ถ้าคุณไม่อยากบอก…]

   “แค่บอกว่าอยากรู้ก็พอแล้ว พูดให้ยากทำไม”

   [ผมไม่ได้บอกเสียหน่อยว่าอยากรู้] เมื่อได้ยินเสียงสะบัดนิดๆ เหมือนว่าปลายสายกำลังจะหงุดหงิด ณธิปจึงรีบตัดเข้าประเด็น

   “โอเคๆ เอาเป็นว่าผมอยากบอกก็แล้วกัน”

   [งั้นก็บอกเสียทีสิครับ]

   “ผมปรึกษาเรื่องนั้นกับคุณพ่อและก็พี่ภัทรแล้วนะ”

   [จริงหรือครับ] เสียงของกมลตื่นเต้นขึ้นมานิดๆ จนณธิปนึกขำ นี่ถ้าอยู่ใกล้ๆ คงจะได้เห็นตาสวยๆ คู่นั้นเปล่งประกายตอนนี้เขาบอกว่าพ่อพูดอย่างไรแน่ๆ

   “จริงสิ”

   [ท่านว่าอย่างไรบ้างครับ]

“ท่านไม่ห้าม บอกว่าถ้าจะทำก็จัดการให้ดี แต่ถ้ามีปัญหาให้รีบปรึกษา สรุปก็คือคุณพ่อไม่ว่า พี่ภัทรไม่ขัด ยิ่งที่บอกว่าให้ปรึกษาได้ แปลว่าพวกเขาจะคอยสนับสนุนผม”

[ท่านบอกอย่างนั้นจริงๆ หรือครับ] กมลถามอย่างไม่อยากเชื่อ

“จริงสิ ผมจะโกหกคุณทำไม”

[…]



ทันทีที่ได้รับคำยืนยัน กมลก็เงียบไปด้วยพูดอะไรไม่ออก แม้จะยังกังวลกับปัญหาเหล่านั้นอยู่ แต่ก็รู้สึกดีที่ไม่ต้องสู้อยู่เพียงลำพัง อย่างน้อยคนที่สนับสนุนเขาก็เสียงดังพอจะสร้างความเปลี่ยนแปลงได้ และนั่นก็เป็นผลดีกับชาวบ้านมากๆ



“คุณไม่ต้องกังวลนะ ผลลัพธ์มันต้องออกมาดีแน่นอน”

[ขอบคุณนะครับ] กมลเอ่ยออกมาด้วยความตื้นตัน [ขอบคุณจริงๆ]


“ไม่เป็นไร” ได้ยินปลายสายขอบคุณด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูหวานหูที่สุดเท่าที่เคยคุยกันมา ณธิปก็แทบจะหุบยิ้มไม่ได้แล้ว หากก่อนที่ใจจะลอยไปหาคนปลายใจมากกว่านี้ ชายหนุ่มก็ต้องรีบดึงกลับเข้าเรื่องเสียก่อน “จริงสิ มีอีกเรื่องที่ผมจะบอกคุณ”


[เรื่องอะไรครับ]


“หลังจากนี้ผมคงต้องคิดโครงการที่จะทำให้กับหมู่บ้าน แต่ผมบอกคุณพ่อไปว่าเราจะเน้นไปที่โรงเรียนมากกว่า เพราะทางเอ็นพีกรุ๊ปของเรามีโครงการคล้ายๆ กันนี้อยู่แล้ว เพียงแต่ผมไม่ค่อยรู้ว่าที่นั่นขาดอะไรเป็นพิเศษอีกบ้าง คงต้องขอให้คุณช่วยให้ข้อมูลแล้วก็เสนอความคิดหน่อย” แม้จุดประสงค์หลักคือการนำสื่อเข้าไปในพื้นที่ ทว่าโครงการพวกนี้ก็จะปั้นแต่งขึ้นมาเล่นๆ ไม่ได้เช่นกัน


[ได้ครับ ผมเคยไปที่นั่นมาแล้ว และก็สามารถติดต่อกับทางโรงเรียนได้ ผมจะเป็นคนประสานงานส่วนนี้เอง เอาเป็นว่าถ้าคุณว่างตอนไหน เรานัดเจอกัน หรือไม่ก็ให้ผมเอาข้อมูลไปให้ที่โรงแรมก็ได้ ผมจะช่วยเต็มที่ ไม่ให้คุณทำคนเดียวแน่นอนครับ] คนหน้าหวานว่าอย่างกระตือรือร้น


“ความจริงผมอยากนัดเจอคุณแค่สองคนนะ” ณธิปบอกตามจริง “แต่งานนี้เราคงต้องรีบหน่อย เพราะทางหมู่บ้านเขาก็ถูกกดดันจนรอไม่ได้ใช่ไหมล่ะ เอาเป็นว่าพรุ่งนี้ผมจะเข้าบริษัทแล้วดูตารางงานจากเลขาฯ ถ้าเราว่างตรงกันผมจะให้คุณเข้ามาร่วมประชุมด้วย สะดวกไหม”


[มันจะเป็นการก้าวก่ายการทำงานในภายในของคุณหรือเปล่า คุณเล็ก] กมลถามอย่างเป็นกังวล


“ไม่หรอก ผมจะบอกทุกคนว่าคุณจะร่วมกับเราด้วย เพราะยังไง I promise ก็ทำงานกับเราที่ปางปาลีและนี่ก็เป็นงานเพื่อสังคมด้วย ทุกทีผมเองก็มีพันธมิตรมาร่วมด้วยอยู่แล้ว ดังนั้นคุณสบายใจได้”


[ถ้าอย่างนั้นก็ไม่มีปัญหาครับ เอาเป็นว่าคุณว่าพร้อมเมื่อไหร่ก็บอกได้เลย ผมจะไปหาทันที]


“พอคุณพูดว่าจะมาทันทีที่ผมบอก มันรู้สึกดีไม่หยอกเหมือกันนะเนี่ย ไม่เหมือนกับว่าผมวิ่งตามคุณอยู่ฝ่ายเดียว ถึงจะเป็นเรื่องงานก็เถอะ” ณธิปพูดติดตลก แต่คนฟังรู้สึกสะท้อนใจอย่างบอกไม่ถูก กับคำที่ว่า วิ่งตามอยู่ฝ่ายเดียว


[คุณเล็ก ถ้าหากคุณเหนื่อย…] กมลยังพูดไม่จบ ณธิปก็รีบขัดด้วยน้ำเสียงจริงจังทันที

“ถึงจะเหนื่อย แต่ผมไม่หยุดตอนนี้หรอกนะ” ชายหนุ่มเงียบไปนิด แล้วว่าต่อ “คุณไม่ต้องกล่อมผมเสียให้ยาก”

[ผมไม่ได้กล่อม ผมแค่…]

“เอาเถอะๆ เราจะไม่พูดเรื่องนี้แล้ว คุณรู้แค่ว่าผมจะสู้จนกว่าคุณใจอ่อนก็พอ เข้าใจไหม”

[เขาใจแล้วครับ] กมลตอบรับอย่างอ่อนใจ

“ว่าแต่นี่คุณทำอะไรอยู่”

[กำลังเคลียร์งานนิดหน่อยครับ]

“อยู่ที่ไหน”

[ที่คอนโด]

“กินอะไรหรือยัง”

[เรียบร้อยแล้วครับ]

“ว้า…น่าเสียดาย คิดว่ายังไม่กิน จะได้ซื้อขนมเข้าไปฝาก”

[นี่มันดึกแล้วนะครับ อีกอย่างคุณก็อยู่บ้านด้วย ไม่ต้องขับรถมาหรอกครับ มันอันตราย]

“เป็นห่วงผมล่ะสิ” ณธิปแกล้งหยอก แต่กมลกับตอบกลับมาให้คนขี้แกล้งต้องอึ้ง

[ก็ใช่น่ะสิครับ]

“หา!?”

[ตกใจอะไรกันครับ มันเป็นเรื่องธรรมดาไม่ใช่หรือ ขับรถกลางคืนอันตราย แถมผมก็ไม่อยากให้คุณต้องลำบากขนาดนั้น]

“หึ…” ณธิปหัวเราะ “ถึงคุณจะอ้างอะไร ผมก็ดีใจทั้งนั้นแหละ ผมคิดเข้าข้างตัวเองแล้วด้วย”

[ก็แล้วแต่คุณสิ บอกผมทำไมเล่า]



ถ้าฟังไม่ผิด ทั้งน้ำเสียงและรูปประโยคนี้ของคนปลายสาย มันให้ความรู้สึกว่าอีกฝ่ายกำลังกึ่งอายกึ่งประชดนิดๆ ไม่ใช่หรือ…ณธิปยืนเท้ามือกับระเบียงและยิ้มจนเต็มแก้ม กมลจะว่ายังไงก็ช่างเถอะ เขาจะคิดเข้าข้างตัวเองเสียอย่าง ใครก็ห้ามไม่ได้หรอก



“ผมอยากอยู่กับคุณตอนนี้จัง”

[ไม่เอาด้วยหรอก] กมลพึมพำออกไปอย่างลืมตัว และมันยิ่งทำให้ณธิปอารมณ์ดี เพราะเดาว่าคนหน้าหวานคงกำลังคิดถึงเหตุการณ์ในคืนนั้น

“หึๆ คิดถึงเรื่องนั้นอยู่ใช่ไหมล่ะ”

[เรื่องอะไร] กมลทำไขสือ แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธว่ากำลังคิดเรื่องที่ณธิปหมายถึงอยู่จริงๆ

“คุณไม่ต้องอายหรอกนะ อีกหน่อยก็ชินเอง”

ถูกสัพยอกเข้าไปอีกคำ กมลก็ถึงกับเลิกต่อล้อต่อเถียง [คุณมีอะไรอีกไหม ผมจะทำงานต่อแล้วครับ]

“จะหนีหรือครับ”

[ผมจะทำงานจริงๆ ง่วงแล้ว]

“โอเคๆ ผมไม่กวนแล้วก็ได้” เมื่อเห็นว่าไล่ต้อนเท่าไร กมลก็ไม่ยอมหลุดมาดไปมากกว่านี้ ณธิปจึงหยุด วันนี้เขาหยอกอีกฝ่ายแค่หอมปากหอมคอ เอาไว้อยู่ใกล้ๆ กันเมื่อใดค่อยรุกเต็มที่

[ถ้าอย่างนั้นผมวางแล้วนะ อย่าลืมโทรมานัดผมเรื่องนั้นนะครับ]

“ผมก็โทรไปหาคุณทุกวันอยู่แล้วไม่ใช่หรือ ถ้าผมลืมบอก คุณก็ถามผมแล้วกัน” ณธิปว่า

[ตกลงครับ]

“งั้นอย่าทำงานดึกมากนะ รีบพักผ่อน ฝันดีครับ”

[ขอบคุณครับ แล้วก็…] ปลายสายเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนตัดสินใจบอก [ฝันดีเหมือนกันครับ]



พูดจบกมลก็รีบตัดสายหนีไปทันที โดยที่ณธิปยังไม่ทันตั้งตัว ชายหนุ่มถอนหายใจออกมายาวๆ พยายามหุบยิ้มและตั้งสติกับคำว่าฝันดีของกมล แต่จนแล้วจนรอดณธิปก็หยุดยิ้มไม่ได้ เพราะแค่คิดว่าคืนนี้ต้องฝันดีอย่างที่อีกฝ่ายบอกแน่นอน หัวใจมันพองฟูเสียจนคับอก



แค่บอกฝันดีเขายังดีใจถึงเพียงนี้ ถ้ามากกว่านี้เขาไม่สำลักความสุขตายไปเลยหรือ…





<><><><><><><>><><><><<><><><><><><>


ที่บอกว่าจะมาทุกวันศุกร์ ต้องของโทษด้วยจริงๆ ค่ะ ฮืออออ
งานหลวงมันยุ่งนิดหน่อย แต่ศุกร์นี้มาต่อแน่ค่ะ เพราะมีสต๊อกไว้แล้ว เย้ๆ
ตอนนี้ก็เบาๆ หยอดหยอยกันไปตามเรื่องตามราว
แต่หลังจากนี้ก็อย่างที่คุณเล็กบอกค่ะ จะเดินหน้ารุกเต็มที่แล้ว

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะคะ
เจอกันตอนหน้าค่ะ


ปล.
-CSR ย่อมาจากคำว่า Corporate Social Responsibility หมายถึงความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กร
-ส่วนชื่อหมู่บ้านนี้ฝนคิดขึ้นมาเองนะคะ ไม่มีจริง แต่ได้แรงบันดาลใจมากจากหมู่บ้านป่าแป๋ อ.บ้านโฮ่ง จ.ลำพูนค่ะ


ละอองฝน.
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 27 [04/12/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 04-12-2017 16:07:26
สู้ๆ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 27 [04/12/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 04-12-2017 16:10:24
คุณไอใจอ่อนแล้วสินะ ^^
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 27 [04/12/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: PharS ที่ 04-12-2017 17:02:52
 :pig4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 27 [04/12/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 04-12-2017 18:12:08
รอตอนต่อไปค่ะ>\\<
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 27 [04/12/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 04-12-2017 19:08:34
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 27 [04/12/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 04-12-2017 19:13:25
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 27 [04/12/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 04-12-2017 19:27:48
 :L2: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 27 [04/12/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: kobyp_lu ที่ 04-12-2017 20:12:54
เขินอ่ะ   คุณไอใจอ่อนแล้ว  ชอบนะที่ณธิปโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว มีความรับผิดชอบมากขึ้นอ่ะ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 27 [04/12/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 04-12-2017 21:55:58
จนกว่าจะถึงวันนั้น พี่จะไม่ท้อ..ออออออออ  :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 27 [04/12/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: changemoo ที่ 04-12-2017 22:47:35
 อ่านเรื่องนี้แล้วเราอินมากๆ เราว่าดูเรียล แต่ก็ทำให้เราคิดถึงเรื่องของดาราคนหนึ่งที่พึ่งเลิกกับคนรัก ไม่รู้ว่าควรไหมที่กล่าวถึงเธอ เราคิดว่าตอนนี้มันเป็นความรักที่เริ่มก่อตัวช้าๆ และมันก็เป็นความรัก แต่เราชอบคิดล่วงหน้าว่าถ้านี่เป็นชีวิตจริงความรักจะอยู่นานขนาดไหน เราไม่เชื่อในความรักที่ยาวนานเท่าไหร่ อะไรก็เปลี่ยนได้ทั้งนั้น ฮ่าา นี่อินจริงจัง และเรื่องนี้ยังทำให้เราคิดถึงความคิดเห็นหนึ่งที่ติดใจเรามากๆ เขาพูดถึงเพื่อนเขาที่เป็นผู้ชายคบกับแฟนเขาร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา เพื่อนของเขาคนนั้นก็พูดกับเขาว่า ผู้หญิงคนนี้คือคนที่ใช่ คือคนที่จะใช้ชีวิตด้วย และรักเธอคนนั้นมากๆ แต่พอเวลาผ่านไปไม่กี่ปีเพื่อนของคนก็ทิ้งคนที่เคยบอกว่าใช่ไปคบกันคนใหม่ เราก็เลยคิดถึงเรื่องนี้ ถ้าคุณเล็กเปลี่ยนไป เราคงสงสารคุณไอมากๆ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 27 [04/12/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ละอองฝน ที่ 04-12-2017 23:05:47
อ่านเรื่องนี้แล้วเราอินมากๆ เราว่าดูเรียล แต่ก็ทำให้เราคิดถึงเรื่องของดาราคนหนึ่งที่พึ่งเลิกกับคนรัก ไม่รู้ว่าควรไหมที่กล่าวถึงเธอ เราคิดว่าตอนนี้มันเป็นความรักที่เริ่มก่อตัวช้าๆ และมันก็เป็นความรัก แต่เราชอบคิดล่วงหน้าว่าถ้านี่เป็นชีวิตจริงความรักจะอยู่นานขนาดไหน เราไม่เชื่อในความรักที่ยาวนานเท่าไหร่ อะไรก็เปลี่ยนได้ทั้งนั้น ฮ่าา นี่อินจริงจัง และเรื่องนี้ยังทำให้เราคิดถึงความคิดเห็นหนึ่งที่ติดใจเรามากๆ เขาพูดถึงเพื่อนเขาที่เป็นผู้ชายคบกับแฟนเขาร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา เพื่อนของเขาคนนั้นก็พูดกับเขาว่า ผู้หญิงคนนี้คือคนที่ใช่ คือคนที่จะใช้ชีวิตด้วย และรักเธอคนนั้นมากๆ แต่พอเวลาผ่านไปไม่กี่ปีเพื่อนของคนก็ทิ้งคนที่เคยบอกว่าใช่ไปคบกันคนใหม่ เราก็เลยคิดถึงเรื่องนี้ ถ้าคุณเล็กเปลี่ยนไป เราคงสงสารคุณไอมากๆ


ฝนอ่านความเห็นคุณ changemoo แล้วพอจะเข้าใจความรู้สึกที่อินเลยค่ะ
เรื่องความรักนี่มันบอกไม่ได้จริงๆ ว่าจะยืนยาวไปนานแค่ไหนเนอะ
บางคนที่ดูรักกันมาก ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา แต่วันหนึ่งก็เลิกรักกันได้เหมือนกัน
ฝนว่าเป็นธรรมชาติของมนุษย์มากๆ ค่ะ
ส่วนตอนนี้ที่เขียนถึงเรื่องราวของสองคน ฝนก็ยังไม่ได้คิดถึงตอนที่พวกเขาจะอยู่ด้วยกันตลอดไป
แต่ไม่ได้หมายว่าวันหนึ่งจะเลิกรักนะคะ 555
แค่เห็นด้วยที่ถ้าเป็นคนจริงๆ ไม่จำเป็นต้องคุณเล็ก ก็มีสิทธิ์เลิกกันได้ในวันหนึ่ง (ยิ่งมีดีกรีความเจ้าชู้แบบนี้ด้วย555)
แต่อย่าเพิ่งมองคนเจ้าชู้ว่าเลวร้ายไปเสียหมดเลยนะคะ
ฝนอยากให้โฟกัสอีกด้านหนึ่งของความสัมพันธ์ ณ ตอนนี้ ณ ขณะที่เขารัก เขาเองก็รักจริงๆ เหมือนกัน
ถ้าวันหนึ่งจะเลิก แม้จะเจ็บปวด แต่มันก็เป็นความทรงจำที่สวยงามค่ะ เหมือนที่คุณไอเชื่อ ว่าความรักนั้นสวยงามเสมอ
อ่านความคิดเห็นแล้วฝนก็อินตามไปด้วย อยากให้ไปเม้าท์กันในทวิตเตอร์เลยล่ะค่ะ
ดีใจที่นิยายของฝนทำให้อินได้นะคะ >///<
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 27 [04/12/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: khwanruen ที่ 05-12-2017 07:45:00
คุณไอก็เขินเป็นนะ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 27 [04/12/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 05-12-2017 10:49:58
รู้สึกมีความหวังไปพร้อมคุณคนเล็ก  :mew2:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 27 [04/12/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 05-12-2017 12:32:42
สารภาพว่าตอนแรกหมั่นไส้คุณเล็กมากกกก

แต่ตอนหลังก็เอาใจช่วยคุณเขาอ่ะนะ หลายๆด้านของคุณเขาก็น่ารักดีนั่นล่ะ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 27 [04/12/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Mengjie_JJ ที่ 07-12-2017 01:03:48
คุณเล็กสู้ๆ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 27 [04/12/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Panizzz3838 ที่ 07-12-2017 15:32:35
อ่านไปอ่านมาเริ่มลุ้นกะคุณเล็กแล้วเนี่ย เมื่อไหร่จะมีโมเม้นคุณไอตามง้อบ้างอ่ะ :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 27 [04/12/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: sujusaranghae ที่ 07-12-2017 22:21:17
สนุกค่า ชอบมากกกกก พล็อตไม่หวือหวา แต่ทำเราติดงอมแงมเลย
ตอนแรกชอบคุณไอ เกลียดพระเอกมาก คือคิดอย่างเดียวว่านายเอกควรจะด่าพระเอกให้สะอึกไปบ้าง จะได้สำนึกสักที แต่พออ่านไปเรื่อยๆเทใจให้พระเอก อยากให้นายเอกใจอ่อนเร็วๆซะงั้น จะติดตามเรื่อยๆค่ะ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 28 [08/12/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ละอองฝน ที่ 08-12-2017 22:24:20












คุณคือความรัก บทที่ 28







   ผ่านไปเกือบเดือนโครงการที่กมลกับณธิปทำร่วมกันจึงแล้วเสร็จทุกขั้นตอนจนถึงวันดำเนินการ แม้ใจของผู้ที่รอคอยต้องการเร่งวันเร่งคืนเพียงใด แต่ทั้งคู่กันยังมีหน้าที่หลักของตัวเองที่ต้องรับผิดชอบ ระยะเวลาที่ผันผ่านไปในเดือนนี้จึงถูกใช้ไปอย่างเข้มข้นและผลักให้เกิดประโยชน์สูงสุดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน อย่าว่าแต่จะออกไปเที่ยวเตร็ดเตร่หรือสังสรรค์ที่ไหนเลย เพราะเพียงแค่เวลาพักผ่อนก็ยังถูกลดทอนลงไปด้วยเช่นกัน



   หากแม้จะล้าแสนล้า แต่ณธิปก็รู้สึกดีที่ได้ทำอะไรสักอย่างร่วมกับกมล เพราะนอกจากจะได้พบกันบ่อยๆ แล้ว พวกเขายังได้พูดคุยกันมากขึ้น ไม่ใช่แค่เพียงเรื่องงาน แต่เป็นเรื่องสัพเพเหระทั่วไป เนื่องจากกมลดูจะให้ความไว้วางใจในตัวณธิปเพิ่มขึ้นกว่าแต่ก่อน ซึ่งนั่นก็ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกดีอย่างมาก



   มิหนำซ้ำคนรอบข้างของหนุ่มหน้าหวานที่เคยเข้ามากันท่าเขาในตอนแรกๆ เมื่อเห็นว่ากมลให้ความไว้วางใจในตัวณธิป คนพวกนั้นก็เริ่มให้ใจแก่เขาด้วยเช่นกัน ตอนนี้ณธิปจึงเข้านอกออกในที่ I promise Tower ได้โดยไม่ถูกมองด้วยสายตาระแวดระวังอีก


   “คุณจะแวะกินอะไรก่อนไหม” ครั้นกมลนั่งประจำที่ข้างคนขับเรียบร้อย ณธิปก็เอ่ยถามออกไปทันที

   “ไม่ครับ เมื่อหัวค่ำป้าสมเอาน้ำเต้าหู้มาให้ผมกินรองท้องแล้ว” กมลว่า

   “แค่กินรองท้องมันจะไปอิ่มได้ยังไง คุณทำงานหนักขนาดนี้ พักผ่อนก็น้อย ดูแลตัวเองหน่อยสิ” ณธิปบ่นเบาๆ


พอเริ่มสนิทใจ ณธิปก็กล้าที่จะบ่นอีกฝ่ายได้โดยไม่กลัวว่าเจ้าตัวจะไม่พอใจ อยู่กับกมลนานเข้า ณธิปก็เริ่มได้เรียนรู้ว่าเขาไม่ต้องคอยสร้างภาพลักษณ์หรือทำตัวดูดีสุดโต่งเหมือนอย่างที่คิดไว้ในตอนแรกอีก เพราะเมื่อเขาเริ่มปล่อยตัวไปตามธรรมชาติ กมลก็ได้รับอิทธิพลจนยอมทำตัวสบายๆ ออกมาให้เห็นเหมือนกัน


“กล้าว่าผมด้วยหรือคุณน่ะ ตัวเองก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่ นี่ค่ำแล้ว ยังจะขับรถมารับไปส่งบ้านอีก ได้ข่าวว่างานที่กำลังดูแลอยู่ก็หนักเหมือนกันไม่ใช่หรือครับ ถ้าเกิดทรุดขึ้นมาอย่าหาว่าผมไม่เตือนนะ”

“อะไรกัน ผมพูดนิดเดียว แต่คุณบ่นยาวเชียวนะ”

“ก็มีจริงนี่ คุยกันมากี่รอบแล้วหืม? คุณไม่จำเป็นต้องเทคแคร์ผมขนาดนี้ก็ได้ ผมดูแลตัว…” ยังไม่ทันพูดจบ ณธิปก็แทรกขึ้นมาเสียก่อนด้วยรู้เท่าทันความคิด

“รู้ครับ ว่าดูแลตัวเองได้ แต่ก็อยากดูแล้วด้วยคนนี่ ผมเองก็พูดหลายรอบแล้วเหมือนกันนะ” ชายหนุ่มว่า ก่อนจะตัดบทเพราะคร้านจะเถียงเรื่องที่ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกัน เขาว่าเขาหัวดื้อและดันทุรังมากแล้ว แต่ไม่คิดว่ากมลจะเป็นมากกว่า “ว่าแต่คุณจะไม่กินอะไรจริงๆ ใช่ไหม ไม่หิวหรือไง”

   “ไม่ดีกว่าครับ ดึกแล้ว อีกอย่างผมต้องกลับไปเตรียมเสื้อผ้า ยังไม่ได้จัดกระเป๋าเลย แล้วคุณล่ะ จัดกระเป๋าหรือยัง”

“แม่บ้านจัดให้แล้วล่ะ”

“ดีจัง ชักอยากจ้างแม่บ้านบ้างแล้วสิ” ตามปรกติกมลมักชอบทำอะไรด้วยตัวเอง แต่พอภาระหน้าที่มากขึ้น ก็เริ่มอยากได้คนมาช่วยแบ่งเบาภาระในบ้าน แต่ติดที่น้องสาวของเขาไม่ค่อยอยากจ้างใคร

“ก็มาอยู่บ้านผมสิ” ณธิปบอกยิ้มๆ

“ปรกติเขาต้องพูดว่า ก็จ้างสิ ไม่ใช่หรือครับ”

“จ้างทำไมให้เปลืองเงิน มาอยู่กับผมได้ทั้งแม่บ้าน ได้ทั้งคนดูแล”

“หึๆ” กมลไม่ตอบอะไร ได้แต่ส่ายหัวยิ้ม ด้วยเริ่มคุ้นชินกับมุขทำนองนี้ของณธิปแล้ว

“แหนะ! ยังทำเป็นหัวเราะกลบเกลื่อนอยู่อีก”

“แล้วจะให้ผมตอบอะไรล่ะครับ คุณก็พูดแบบนี้ประจำ”

“ตอบว่าโอเค ผมจะไปอยู่กับคุณ แค่นี้เอง ง่ายๆ” ณธิปตอบแทน

“หึๆ” กมลหัวเราะแล้วเสมองออกไปข้างทาง เป็นอันรู้กันว่าเจ้าตัวอยากตัดบทสนทนาให้จบเท่านี้


ถ้าเป็นสักเดือนสองเดือนก่อนณธิปอาจจะรู้สึกใจเสียนิดๆ แต่พอได้เจอกันบ่อย ได้คุยกันบ่อยมากขึ้น เขาเองก็เริ่มชินกับการกระทำเช่นนี้ของอีกฝ่ายแล้ว เพราะรู้ว่าไม่ใช่กมลไม่สนใจ หากเจ้าตัวต้องใช้เวลาคิดเท่านั้น และเขาก็ยอมให้กมลพิจารณาได้นานตามที่ใจต้องการ เนื่องจากมั่นใจเกินครึ่งว่าถ้ากมลคิดให้ถี่ถ้วนจริงๆ ไม่มีทางที่อีกฝ่ายจะปัดความจริงใจของเขาทิ้งได้อย่างแน่นอน


หลังจากนั้นในห้องโดยสารก็เงียบลง ไม่มีหัวข้อใดผุดขึ้นมาให้สนทนากันอีก เพราะต่างฝ่ายต่างจมอยู่กับความคิดของตัวเอง ขณะที่ณธิปทำหน้าที่สารถีได้อย่างดีเยี่ยม ในหัวของชายหนุ่มก็คิดไปถึงการเดินทางไปทำโครงการที่หมู่บ้านป่างามในวันพรุ่งนี้


ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเขาได้จัดตั้งโครงการและปั้นมันขึ้นมาจนเป็นรูปเป็นร่าง แม้มันจะเร่งด่วนมากเอาการ ทว่าทุกอย่างก็พร้อมและไปได้ดี รวมถึงเป้าหมายหลักในการดำเนินโครงการด้วย เพราะในวันรุ่งขึ้น นอกจากณธิปและกมลจะเข้าไปช่วยเหลือเด็กๆ ในพื้นที่แล้ว ยังมีนักข่าวจำนวนหนึ่งที่ถูกเชิญไปทำประชาสัมพันธ์ให้โครงการด้วยเหมือนกัน


ณธิปหวังว่าแผนการที่วางเอาไว้มาจนถึงวันนี้จะสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี หวังว่าจะไม่เกิดปัญหาอะไรที่ทำให้กมลต้องหนักใจอีก หลังจากนี้กมลจะได้หันกลับมาโฟกัสที่ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาทั้งสองคนสักที


คิดไปขับไปเพลินๆ กระทั่งผ่านไปพักใหญ่ ในที่สุดรถคันหรูก็เคลื่อนตัวมาจอดยังที่หมาย มองเข้าไปภายในรั้วบ้านหลังน้อย ทุกอย่างดูเงียบสงบ มีเพียงดวงไฟหน้าบ้านเท่านั้นที่เปิดทิ้งไว้สว่างโร่ ณธิปละสายตาก่อนหันกลับมามองคนที่นั่งอยู่ข้างๆ กัน และเขาก็ได้พบว่า


กมลกำลังหลับ


ระยะหลังมานี้มีหลายครั้งที่กมลปล่อยตัวตามสบายเวลาอยู่กับเขา แต่คนหน้าหวานก็ไม่เคยปล่อยตัวถึงขนาดหลับระหว่างทางขณะนั่งรถกลับบ้านเช่นนี้ แม้จะเหนื่อยขนาดไหนก็ตาม


เลิกกลัวว่าเขาจะพาไปในที่ที่ไม่ควรแล้วหรือ…ณธิปได้แต่นึกสงสัย ก่อนความรู้สึกดีใจเมื่อคิดได้ว่าส่วนหนึ่งกมลคงจะไว้ใจเขามากขึ้นจริงๆ


ดวงตารีเรียวมองใบหน้าของคนที่หลับพริ้มอย่างพิจารณา กมลเป็นคนหน้าตาดี เครื่องหน้ากระเบียดไปทางสวยหวานจนน่าทะนุถนอม ยิ่งในยามนอนก็ยิ่งดูน่าเอ็นดูมากขึ้น ภาพลักษณ์เล่านี้เป็นสิ่งที่ทำให้ณธิปตกหลุมตั้งแต่เจอกันครั้งแรก เพราะไม่ว่าจะมองด้านไหนก็รู้สึกว่าถูกใจถูกสเปคไปหมด


แต่นานวันเข้า ณธิปก็ยิ่งรู้ว่า รูปลักษณ์ที่เห็นนั้นไม่สำคัญเท่าตัวตนของอีกฝ่ายเลยจริงๆ ถ้ากมลเป็นเหมือนคนอื่นๆ ที่เขาเคยจีบ ณธิปก็คงไม่รู้สึกกับอีกฝ่ายขนาดนี้ แต่ที่ผ่านมากมลไม่เคยไหวเอนกับสิ่งเร้าที่เขามอบให้เลยสักครั้ง


นอกจากกมลจะหยิ่งในศักดิ์ศรีของตนเองแล้ว เหนือสิ่งอื่นใด กมลก็เป็นคนเข้มแข็งมากเช่นกัน เข้มแข็งจนเขาอยากเติบโตขึ้นกว่านี้ เพื่อจะได้กลายเป็นหลักให้อีกฝ่ายยึดเวลาที่ล้มหรือเหนื่อยล้า


นอกเหนือจากคนรักแล้ว ณธิปอยากเป็นคนที่พึ่งพาได้สำหรับกมล นั่นคือสิ่งที่ชายหนุ่มคิดมาตลอดหลังจากกลับมาเริ่มต้นใหม่


   ขณะที่กำลังมองและคิดอะไรไปสะระตะ คนหลับไม่รู้เรื่องก็ขยับตัว ก่อนหัวที่วางอย่างหมิ่นเหม่บนพนักจะไถลมาทางฝั่งของณธิป จนชายหนุ่มต้องรีบสอดมือเข้าไปประคองเอาไว้ แก้มนุ่มนิ่มของกมลจึงวางแหมะอยู่ในอุ้งมือของณธิปพอดิบพอดี


   “อือ…” คนหลับสนิทส่งเสียงงึมงำในลำคอนิดหน่อย หัวคิ้วขมวดมุ่นเป็นปม ณธิปจึงเดาว่าอีกฝ่ายน่าจะนอนไม่สบายเท่าไร


   แม้จะเสียดายเวลาที่ได้อยู่กันแบบนี้มากๆ เสียดายโอกาสที่จะได้สัมผัสแก้มนุ่มนิ่ม แต่ชายหนุ่มก็ต้องตัดใจ เพราะเขาอยากให้กมลได้นอนสบายๆ บนเตียงของตัวเองมากกว่า ซ้ำวันรุ่งขึ้นยังต้องตื่นเช้าเพื่อเดินทางไปต่างจังหวัดอีกด้วย ดังนั้นณธิปจึงจำใจปลุกให้กมลตื่นจากนิทรา


   “คุณไอ” ชายหนุ่มเรียก พลางใช้นิ้วจิ้มแก้ม “คุณไอครับ”

   “…” กมลหนีความรู้สึกยุกยิกน่ารำคาญด้วยการยกหัวกลับขึ้นมาพิงเบาะ ก่อนปรือตามองด้วยความงัวเงีย “หืม?”


   ณธิปยิ้มกับท่าทางเหมือนแมวขี้เซาที่ไม่เคยเห็นนั่น ก่อนจะแกล้งหยอกอีกฝ่ายให้ตื่นเต็มตา ด้วยการโฉบหน้าเข้าไปใกล้ แล้วกระซิบข้างหู


“ตื่นได้แล้วครับ ถึงบ้านแล้วนะ”


   น้ำเสียงกับใบหน้าที่ใกล้เข้ามายังไม่เท่ากับความรู้สึกอุ่นร้อนจากลมหายใจที่เป่ารดกกหู เส้นขนบนแขนของกมลจึงพร้อมใจกันลุกชันขึ้นมาทันที ก่อนชายหนุ่มจะทำตาโตแล้วกระเด้งตัวออกห่างไปชิดกับประตู


   “คุณเล็ก!”

   “ฮ่าๆๆ”  ณธิปหัวเราะกับท่าทางหลุดๆ นั้นอย่างกลั้นไม่อยู่ “ดูทำท่าเข้าสิ ฮ่าๆ”

   “ก็เมื่อกี้คุณทำอะไรล่ะ” กมลถามด้วยน้ำเสียงตื่นๆ เพราะแม้จะผ่านมาเกือบเดือน เขาก็ยังจำสัมผัสร้อนๆ ที่ปลายจมูกได้ดี

   “ปลุกคุณไอไงครับ ผมไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย” ทั้งที่พูดแบบนั้น แต่รอยยิ้มของณธิปก็ทำให้กมลรู้ได้ว่าเขาเพิ่งถูกแกล้งไปหมาดๆ อย่างแน่นอน

   “ถึงนานแล้วหรือยังครับ นี่ผมเผลอหลับได้ไงเนี่ย” กมลลูบหน้าของตัวเองเบาๆ ก่อนจะก้มลงหยิบกระเป๋าที่เลื่อนลงจากตักไปที่พื้น

   “คุณคงเหนื่อย อีกอย่างผมขับรถดี คุณถึงหลับได้ไง”

   “อาจจะจริง เพราะปรกติผมไม่ค่อยหลับในรถ”

   “งั้นก็รีบขึ้นไปจัดกระเป๋าแล้วนอนพักผ่อนนะครับ” ณธิปว่าด้วยความเป็นห่วง

   “ครับ ขอบคุณที่มาส่งนะ” หนุ่มหน้าหวานว่า ณธิปเองก็ยิ้มรับ ทว่าก่อนที่จะลงจากรถ เสียงของณธิปก็ดังขึ้นมาครั้ง

   “ถ้าอย่างนั้นเอาไว้พิจารณาด้วยอีกข้อสิ”

   “พิจารณาอะไรครับ” กมลมองตาคนเจ้าเล่ห์ที่เปล่งประกายวิบวับ

   “ถ้าเป็นแฟนผม คุณจะมีคนดูแล มีคนขับรถ แถมบ้านผมก็ยังมีคนจัดกระเป๋าให้ด้วยนะ ลองพิจารณาดู”

   “คุณนี่นะ…เป็นผู้บริหารหรือพนักงานขายกันแน่” กมลว่าขำๆ ณธิปจึงหยอดไปอีกประโยค

   “ก็เป็นได้ทุกอย่างนั่นแหละ ตามใจคุณเลย”

   “ผมเข้าบ้านดีกว่า”

   “อ้าว…จะหนีกันซะแล้วหรือ” ณธิปหยอก

   “หึ” กมลได้แต่หัวเราะ แต่ไม่ปฏิเสธ จากนั้นจึงเอ่ยคำลา “พรุ่งนี้เจอกัน ขับรถดีๆ นะครับ”

   “ครับ เดี๋ยวคุณต้องจัดของคงยังไม่นอนใช่ไหม เอาเป็นว่าถ้าถึงบ้านผมจะส่งข้อความบอก”

   “ครับ” กมลพยักหน้า ก่อนลงจากรถและยืนส่งจนกระทั่งณธิปหายลับสายตา


   เมื่อชายหนุ่มปิดประตูรั้วแล้วเตรียมตัวเข้าบ้าน เขาก็ได้พบกับน้องสาวที่ยืนกอดอกรออยู่ สีหน้าท่าทางจริงจังเสียจนรู้สึกราวกับมีเงาของมารดาซ้อนทับบางๆ


   “อ้าย ยังไม่นอนหรือ”

   “ยังค่ะ อ้ายรอพี่ไออยู่”

   กมลก้มลงมองนาฬิกาข้อมือ ก่อนจะถาม “มีอะไรหรือเปล่า นี่ก็ดึกมากแล้วนะ”

   “อ้ายจะคุยเรื่องที่พี่ไอไปเหนือพรุ่งนี้น่ะค่ะ”

   “ถ้าอย่างนั้นไปคุยกันในบ้านดีกว่า ข้างนอกยุงเยอะ” ว่าแล้วชายหนุ่มก็กอดเอวน้องสาวก่อนพาให้เดินเข้าบ้านมาด้วยกัน


   ครั้นเข้ามาถึงห้องรับแขก สองพี่น้องก็หยุดนั่งลงบนโซฟา ก่อนจะหันมาเผชิญหน้ากัน หทัยมองพี่ชอบคนดีของตัวเองด้วยสายตาเป็นห่วงอยู่ครู่หนึ่ง จึงตัดสินใจเอ่ยออกมาก่อน


   “พี่ไอคะ”

   “ว่ายังไง หืม?”

   “พี่ไอกับคุณเล็กเป็นอะไรกันคะ”

   “…” กมลนิ่งไปครู่หนึ่ง พยายามค้นหานิยายหรือชื่อเรียกความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาในตอนนี้ โดยต้องคำนึงด้วยว่าเขาควรพูดอย่างไรไม่ให้น้องเป็นห่วง คิดอยู่สักพักกมลจึงได้คำตอบ “เป็นเพื่อนร่วมงาน”

   “แค่นั้นหรือคะ” หทัยถามต่อ

   “จะว่าไป…ก็เป็นเพื่อนด้วยล่ะมั้ง เพราะนอกจากเรื่องงาน พวกเราก็ปรึกษากันเรื่องอื่นด้วย”

   “อ๋อ…” เธอรับคำ ก่อนจะจ้องตาพี่ชายนิ่งๆ


   ถ้ากมลจะโกหกใครสักคนด้วยรอยยิ้มและเอาความนิ่งเข้าข่ม ก็คงไม่ใช่เรื่องยากเท่าใดนัก เพราะพี่ชายของหทัยฝึกให้ตัวเองสามารถยิ้มแย้มและพูดจาไปคนละทางกับความคิดมาตั้งแต่เริ่มทำงานแล้ว แต่ท่าทางปั้นแต่งทั้งหมดทั้งมวลนั้น ไม่สามารถใช้กับเธอ คนที่รู้จักกมลมาทั้งชีวิตได้ ดังนั้นหทัยจึงดูออกว่าพี่ชายคนดีต้องมีอะไรบางอย่างปิดบังเธออย่างแน่นอน


   และกมลเองก็มองเธอออกอย่างทะลุปรุโปร่งเช่นเดียวกัน


   “ทำไมมองพี่อย่างนั้นล่ะ สงสัยอะไรก็ถามสิ”

   “ตอนนี้พี่ไอไม่ได้เป็นแฟนกับเขาใช่ไหมคะ”

   “เป็นแฟนหรือ”


   “ค่ะ” น้องสาวคนดีพยักหน้า เธอกัดริมฝีปากอย่างช่างใจ ครั้นเห็นพี่ชายยิ้มน้อยๆ อย่างอ่อนโยนไม่เปลี่ยน หญิงสาวก็พรั่งพรูความในใจออกมาทั้งหมด “ถ้าเป็นจริงๆ อ้ายก็ไม่ว่าหรอกนะคะ แค่อยากให้บอกกันบ้าง คือพี่ไอก็รู้ว่าคุณเล็กเขาเคยเป็นคนแบบไหนมาก่อน ทีแรกที่เขาเทียวไล้เทียวขือพี่ อ้ายก็ไม่ได้สนใจนัก เพราะพี่ก็ดูไม่สนใจเขาเท่าไหร่ แต่ตอนนี้อ้ายชักรู้สึกไม่มั่นใจแล้วค่ะ อ้ายเป็นห่วงจริงๆ นะ”


   “อ้าย…” กมลเรียกน้องอึ้งๆ ด้วยไม่คิดว่าเธอจะกังวลใจถึงเพียงนี้

“อ้ายไม่ค่อยไว้ใจเขา พี่ก็รู้ว่าพวกผู้ชายเจ้าชู้เป็นยังไง อ้ายกลัวพี่ไอต้องเสียใจเหมือนที่อ้ายเคยเจอ”


ในดวงตาคู่งามที่คล้ายกันราวออกมาจากพิมพ์เดียวมีหยดน้ำตาเอ่อคลออยู่ในนั้น ทันทีที่เห็น กมลก็ดึงน้องสาวสุดที่รักเข้ามากอดแนบอก หทัยเองก็กอดซบอกอุ่นของพี่ชายเช่นเดียวกัน


“ใจเย็นๆ ก่อนยายตัวดี” กมลว่า “เรื่องราวมันยังไม่ได้ไปถึงขั้นนั้น พี่กับเขายังไม่ได้เป็นอะไรกันเสียหน่อย”

“แต่อ้ายกลัว”

“ไม่ต้องกลัวนะ รู้ไหมว่าพี่เป็นใคร”

“ก็…” หทัยผละจากอ้อมกอดนิดๆ แล้วมองหน้าพี่ “เป็นพี่ของอ้ายไงคะ”

“ใช่แล้ว และพี่ก็เป็นลุงของเจ้าแสบด้วย เพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัว ไม่มีใครทำอะไรพี่ได้หรอก” กมลพูดยิ้มๆ

“ไม่เห็นเกี่ยวกันเลยนี่คะ”


“อ้าว ไม่เกี่ยวหรือ” กมลหัวเราะ ก่อนจะลูบหัวน้อง แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง “พี่ยอมรับว่าคุณเล็กเขาเข้ามาเพราะต้องการจะจีบพี่จริงๆ แต่เขาก็ไม่ได้รุกล้ำหรือทำให้พี่อึดอัดใจอะไรหรอกนะ เขาให้เกียรติและให้เวลาพี่ได้คิดว่าจะตัดสินใจยังไง ซึ่งการตัดสินใจทั้งหมดมันอยู่ที่พี่ อ้ายก็รู้จักพี่ดีใช่ไหม ถ้าพี่ไม่ชอบใจ ถ้าเขาไม่ใช่จริงๆ สุดท้ายพี่ก็ไม่มีทางเลือกเขาหรอกนะ”


“แต่พวกคนเจ้าชู้คารมดีนะคะ แถมเอาใจเก่งด้วย”


“หึๆ ก็จริง” พอคิดถึงคนที่เป็นประเด็นแล้ว กมลก็นึกขำ “แต่สมมติถ้าชอบและตัดสินใจเลือกเขาเพราะเอาใจเก่ง พูดจาหวานๆ แค่นั้น พี่ก็ไม่สมควรได้เจอคนจริงใจหรอกจริงไหม คนจะรักกันมันมีอะไรหลายๆ อย่างประกอบมากกว่านั้น เอาเป็นว่าถ้าใช่ก็คือใช่นั่นแหละ”


“แล้วคุณเล็กเขาใช่สำหรับพี่ไหมคะ”

เมื่อได้ยินคำถามนี้กมลก็นิ่งไป เพราะเขาเองก็ยังไม่แน่ใจในคำตอบเท่าไร “ไม่รู้สิ พี่ก็ยังดูๆ อยู่”

“ดูให้ดีๆ นะคะพี่ไอ อ้ายไม่ไว้ใจเขาเลย”

“จ้า พี่รู้แล้วล่ะ ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกน่า”

“เป็นห่วงสิคะ” เธอว่า “ว่าแต่พี่ไอกินอะไรมาหรือยังคะ หิวไหม”

“ไม่หิว ง่วงมากกว่า แต่ต้องไปจัดกระเป๋าด้วยเนี่ยสิ”


“อ้ายช่วยจัดให้บ้างแล้วค่ะ พี่ไอไปเช็คอีกทีนะว่าของครบไหม แต่ถ้าไปแล้วขาดเหลืออะไร อ้ายจะตามเอาไปให้วันที่ไปบ้านรักนะคะ” หลังจากเสร็จสิ้นโครงการในหมู่บ้านป่างามจะเป็นเวลาพอดีกับช่วงวันสงกรานต์ ซึ่งปีนี้ครอบครัวของกมลนัดไปเที่ยวบ้านส่วนของคุณพ่อจงรักที่เชียงใหม่ โดยทุกคนจะไปรอที่นั่นในวันหยุด พอเขาเสร็จภารกิจเมื่อใดก็จะตามไปทันที


“ขอบใจมากนะ น้องของพี่น่ารักที่สุดเลย เดี๋ยวพี่ไปดูอีกที ว่าแต่เราก็ดูเด็กๆ คนเดียวไหวนะ ไหนจะขึ้นเครื่องอีก”

“ไหวค่ะ พี่ไอไม่ต้องเป็นห่วงนะ”

“ถ้ามีอะไรรีบโทรหาจงรักเลยนะ พี่ฝากรักกับเมฆไว้แล้ว”

“รู้แล้วค่ะ” หทัยรับคำ

“ถ้าอย่างนั้นก็แยกย้ายกันขึ้นห้องเถอะ เราก็พักผ่อนได้แล้ว พี่เองก็จะอาบน้ำนอนเหมือนกัน พรุ่งนี้ต้องไปแต่เช้า”

“งั้นฝันดีนะคะพี่ไอ”

“ฝันดีเหมือนกัน” กมลรับคำ ก่อนแยกจากน้องสาวแล้วขึ้นห้องส่วนตัว


เมื่อมาถึงห้อง ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะทิ้งตัวลงนอนบนเตียง เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น มือเรียวจึงล้วงมันออกมามองหน้าจอ ก่อนกดรับสายเมื่อเห็นว่าเป็นใคร


“ครับคุณเล็ก”

[ผมถึงบ้านแล้วนะ]

“ถึงเร็วนะครับ”

[ก็บอกแล้วว่าบ้านเราอยู่ไม่ไกลกันเท่าไร ว่าแต่คุณทำอะไร อาบน้ำจัดกระเป๋าหรือยัง]

“อ้ายจัดกระเป๋าไว้ให้แล้ว ผมก็เลยกำลังจะอาบน้ำ”

[งั้นก็ทำธุระของคุณเถอะ จะได้รีบนอนไวๆ]

“คุณก็ด้วย”

[ครับ] เงียบไปนิด แล้วณธิปก็ว่าต่อ [ฝันดีนะครับคุณไอ]

“ครับ”

[แค่ครับเฉยๆ หรือ] ปลายสายประท้วง เพราะตั้งแต่ที่เขาเคยพูดไปครั้งแรก นับจากนั้นณธิปก็ต้องโทรมาให้เขาบอกเช่นนี้ทุกคืนจนกลายเป็นความเคยชิน

“ต้องให้ผมพูดทุกวันเลยหรือไงครับ”

[แน่นอน]

“ฝันดีครับ พอใจหรือยัง”

[พอใจแล้วครับ] อีกฝ่ายว่าอย่างอารมณ์ดี

“ถ้าอย่างนั้นผมวางแล้วนะ”

[ครับ…เจอกันพรุ่งนี้]

   “แล้วเจอกันครับ”


   กมลกดวางสายเมื่อพูดจบ เขาทิ้งตัวลงบนเตียงอย่างเหนื่อยอ่อน มองกองสัมภาระที่วางอยู่บนพื้น มองประตูห้องน้ำที่อยู่ไม่ห่างไปเท่าไร ก่อนจะเคลื่อนสายตามาหยุดที่โทรศัพท์ในมือซึ่งหน้าจอไม่มีชื่อของคนคนนั้นปรากฏแล้ว


ที่บอกกับหทัยไปว่าการตัดสินใจทุกอย่างเป็นสิทธ์ขาดของเขาคนเดียว มันเป็นความจริง แต่กมลชักไม่มั่นใจแล้วว่าการตัดสินใจที่ว่านั่นจะเป็นหัวหรือเป็นก้อย เพราะทุกๆ วัน อะไรหลายๆ อย่างมันผันเปลี่ยนไปด้วยตามเวลา กระทั่งตอนนี้ชายหนุ่มไม่รู้ตัวเลยว่าระหว่างเขากับณธิปเริ่มสนิทใจกันถึงขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อใด เพราะเหมือนความสัมพันธ์มันค่อยๆ ซึมลึกเข้ามาทีละนิด รู้ตัวอีกที เขาก็สามารถบอกว่าฝันดีได้โดยไม่ตะขิดตะขวงใจอีกแล้ว



วันพรุ่งนี้ตัวเขาจะเปลี่ยนแปลงไปเพราะคนคนนั้นมากแค่ไหนกันนะ…นี่คือสิ่งที่กมลสงสัย แต่ก็สุดจะคาดเดา คงมีเพียงเวลาที่นำพาไปให้ถึงวันข้างหน้าเท่านั้น









<><><><><><><><><><><><><>><>><>><>><>><>>






วันศุกร์มาแล้ว คุณไอกับคุณเล็กก็มาแล้วเช่นกัน
ตอนหน้าไปตะลุยนอกสถานที่กันแล้ว
รอติดตามได้วันศุกร์หน้าเหมือนเดิม

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและเม้นให้กำลังใจนะคะ  :mew1:


เจอกันตอนหน้าค่ะ


ละอองฝน.
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 28 [08/12/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: AeAng11 ที่ 08-12-2017 22:37:31
คุณไอเริ่มใจอ่อนแล้วขอให้ความสัมพันธ์มันเติบโตไปกับคนสองคนภายใต้เงื่อนไขของเวลาอย่างเดียวเถอะนะอย่ามีอุปสรรคร้ายแรงอะไรเลยสงสารใจคุณไอกับคุณเล็ก.เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 28 [08/12/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 08-12-2017 22:51:34
 o13 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 28 [08/12/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 08-12-2017 23:39:42
ขยับเข้ามาได้ไหม ขยับมาใกล้กัน ขยับความสัมพันธ์... :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 28 [08/12/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 09-12-2017 00:00:00
เอาใจช่วยคุณเล็กค่าาาา
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 28 [08/12/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 09-12-2017 00:06:14
ช้าๆความสัมพันธ์มั่นคง
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 28 [08/12/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 09-12-2017 00:12:53
 :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 28 [08/12/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: kimlowbatt ที่ 09-12-2017 02:57:26
คุณไอใจอ่อนเร็วๆนะ คุณเล็กเค้าทุ่มสุดตัวสุดใจเลย
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 28 [08/12/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 09-12-2017 13:16:00
 :pig4: :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 28 [08/12/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 09-12-2017 18:10:26
คุณเล็กเปลี่ยนไปแล้ว คุณไอลองให้โอกาสตัวเองแล้วก็คุณเล็กดูนะคะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 28 [08/12/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Jiraapp ที่ 16-12-2017 02:42:06
เห็นถึงความพยายามของคุณเล็ก แล้วก็ได้แต่ภาวนาให้คุณไอยอมเปิดใจรับรักคุณเล็กในเร็ววันนะจ๊ะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 28 [08/12/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Yundori ที่ 17-12-2017 01:05:45
โอยยย เสียใจที่เจอเรื่องดีๆหลังผ่านไปหลายตอนแล้วว
แต่ก็ดีใจเพราะอ่านทีเดียวรวดแล้วก็ยิ้มแก้มแตกรวดไปอีก
ึคุณเล็กเหมือนหมาตัวใหญ่ที่แบบขี้เล่นอะ พอไม่ได้ก็หางลู่หูตก
พอเขาดีเข้าหน่อย หางกระดิิกเชียว 555555 น่ารักอ่าาา
ดูรู้เลยค่ะว่าลูกคนเล็กจริง ถูกตามใจที่สุดจริงๆ
คุณไอเองก็ใจแข็งมากกก สงสารเล็กเลยบางครั้ง
แต่ก่อนหน้านี้พฤติกรรมเล็กคือไม่ใช่จริงๆ อะ ถ้าเป็นคุณไอก็จะทำแบบนั้น
มันน่ากลัวมากกว่าน่ารับรักจริงๆ แต่หลังๆคือนางน่ารัก นางจริงใจ โอยยย
ใจจะละลายไปหมด แพ้คนขี้อ้อนจริงๆ ฮือออออ
ถ้ารักกันนี่ คงเป็นคนที่กลัวคุณไอจริงๆอะคุณเล็กกก  :impress2: :-[
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 29 [18/12/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ละอองฝน ที่ 18-12-2017 04:54:34








คุณคือความรัก บทที่ 29









   กมลเดินทางมาถึงสนามบินตั้งแต่เช้าตรู่ ก่อนเวลาขึ้นเครื่องเกือบสองชั่วโมง ด้วยมีสัมภาระที่ตั้งโหลดลงใต้เครื่องรวมทั้งต้องนัดเจอกับคนอื่นๆ ด้วย ชายหนุ่มจึงกระตือรือร้นเป็นพิเศษ



   ทันทีที่ถึงเขาก็พบว่าพนักงานส่วนหนึ่งของ I promise กับ NP Group เดินทางมาถึงแล้วเช่นกัน ดังนั้นที่เคาน์เตอร์เช็คอินจึงมีคนอยู่มากพอสมควร พนักงานส่วนใหญ่ทักทายกมลด้วยรอยยิ้ม ไม่เว้นแม้กระทั่งทีมงานจาก NP Group คุ้นหน้าคุ้นตากันดี เนื่องจากทีมงานนี้เป็นทีมเดียวกับที่กมลพบตอนเข้าร่วมประชุมวางแผน



   ขณะที่กมลกำละจะเดินเข้าไปรอใน gate เพราะโหลดสัมภาระเรียบร้อยแล้ว ลูกชายคนเล็กของเจ้าของสายการบินก็มาถึงพอดี และรั้งกมลไว้เพื่อจะได้ไปพร้อมกัน


   “รอผมก่อน” ณธิปว่าเช่นนั้น ก่อนหันไปสั่งความกับเลขานุการสาวซึ่งตามมาด้วย จากนั้นจึงเดินตัวปลิวกลับมาหากมล

   “เรียบร้อยแล้วหรือครับ” คนหน้าหวานถาม

   “อืม ผมสั่งให้เจี๊ยบจัดการแล้ว เราไปกันเถอะ” ว่าแล้วเขาก็ดันหลังให้กมลเดินไปเข้าgateพร้อมกัน

   “แล้วสองคนนี้ใครครับ” ระหว่างทาง กมลก็สังเกตเห็นว่ามีชายหนุ่มรูปร่างกำยำเดินตามพวกเขามาอีกสองคน เขาจึงถามด้วยความสงสัย เพราะทุกครั้งที่พบณธิป เขาไม่เคยเจอสองคนนี้เลยสักครั้ง

   “บอดี้การ์ดของผมเอง” ณธิปตอบราวกับเป็นเรื่องปรกติ

   “บอดี้การ์ดหรือครับ”

   “อืม” เจ้าของดวงตาเรียวพยักหน้า ก่อนจะหันมาถามยิ้มๆ “คุณไม่เคยเห็นล่ะสิ”

   “ไม่เคยครับ”

   “แน่ล่ะ เพราะปรกติผมไม่ค่อยชอบให้ใครตามประกบ”

   “แล้วทำไมวันนี้ถึงพามาตั้งสองคนล่ะครับ” กมลถามต่ออย่างใคร่รู้

   “สามต่างหาก” ณธิปว่า “อีกคนผมให้ตามไปช่วยเจี๊ยบถือกระเป๋าน่ะ”

   “อ๋อ”    

   “ที่พามาก็เพราะต้องออกนอกสถานที่ แถมพื้นที่ก็ไม่ค่อยน่าไว้ใจเท่าไหร่ กันไว้ดีกว่าแก้ คุณทนรำคาญหน่อยแล้วกันนะ เวลามีคนเดินตาม”

   “แล้วผมไปเกี่ยวอะไรด้วยล่ะครับ พวกเขาเป็นบอดี้การ์ดของคุณต่างหาก”

   “เกี่ยวสิ ก็ผมจะอยู่กับคุณตลอดนี่ ได้มาทำงานด้วยกันแบบนี้แล้ว ผมไม่ปล่อยให้คุณรอดสายตาหรอกนะ จองตัวทั้งทริปเลย” ณธิปประกาศยิ้มๆ

   “เผด็จการ” คำจำกัดความที่กมลคิดได้ มีเพียงคำนี้เท่านั้น

   “ผมเป็นพวกทุนนิยมต่างหาก แต่เอาเถอะ คุณจะว่ายังไงก็ช่าง ผมไม่สนหรอก เพราะยังไงคุณก็หนีผมไม่พ้น” ชายหนุ่มยิ้มทะเล้น ซึ่งมองอย่างไรก็รู้สึกได้ถึงความเจ้าเล่ห์แสนกลของเจ้าตัว

“หึๆ” กมลได้แต่ส่ายหัวเบาๆ อย่างอ่อนใจ ก่อนจะเดินเข้าไปในเลานจ์เพื่อนั่งรอขึ้นเครื่อง







   เที่ยวบินที่ใช้เดินทางเป็นเที่ยวบินพิเศษที่ได้รับการสนับสนุนจากสายการบินของ NP Group ดังนั้นบนเครื่องจึงมีแต่คนที่จะเดินทางไปช่วยงาน รวมทั้งสื่อมวลชนบางส่วนที่ได้รับอภิสิทธิ์ให้เดินทางไปด้วยกัน



   เพราะความที่เป็นถึงระดับผู้บริหาร ณธิปกับกลุ่มบอดี้การ์ดของเขาจึงนั่งบนชั้นธุรกิจ กมลเองก็ถูกพาให้ขึ้นไปนั่งด้วยเช่นกัน พนักงานต้อนรับพาหนุ่มหน้าหวานไปยังตำแหน่งที่ถูกจัดเตรียมเอาไว้ ซึ่งมันเป็นตำแหน่งที่ใกล้กับณธิปที่สุด



   “ผมเพิ่งรู้ว่าพวกเราไปแบบเหมาลำ” กมลเอ่ยขึ้นหลังจากที่พนักงานแนะนำวิธีการต่างๆ บนเครื่องเรียบร้อยแล้ว


   “คนของเราไปกันเยอะ ไหนจะนักข่าวและข้าวของอีก ถึงผมจะสั่งให้คนส่วนหนึ่งไปแสตนบายรอที่โน้นแล้วส่วนหนึ่งก็เถอะ แต่ผมว่าแบบนี้สะดวกกว่า อีกอย่างคือจะได้ไม่วุ่นวายกับผู้โดยสารปรกติคนอื่นๆ ด้วย” ณธิปอธิบาย ด้วยความจำเป็นและเพื่อความสะดวกหลายๆ อย่าง เขาจึงยื่นเรื่องนี้ไปขอกับณภัทรโดยตรง ครั้นอ่านรายละเอียดต่างๆ แล้ว พี่ชายของเขาเองก็เห็นด้วย


   “เฮ้อ…” กมลถอนหายใจออกมาเบาๆ แล้วพิงหลังกับเบาะนุ่ม

   “เป็นอะไร” เมื่อเห็นคนหน้าหวานถอนหายใจออกมาเช่นนั้น ณธิปก็อดถามกลับไปไม่ได้

   “เปล่าหรอกครับ ผมแค่คิดอะไรนิดหน่อย”

   “คิดอะไรล่ะ” ณธิปถามย้ำ เพราะรู้สึกกังวลใจขึ้นมานิดๆ ด้วยกลัวว่าสิ่งที่เขาตัดสินใจจะทำให้กมลไม่พอใจ

   “ผมรู้สึกผิดกับคุณ” กมลเอ่ยออกมาเบาๆ ก่อนจะเอามือเท้าคางกับที่วางแขนแล้วหันมามองณธิปด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก

   “รู้สึกผิดกับผมหรือ”

   “อืม”

   “เรื่องอะไร ผมไม่เข้าใจ”

   “พอคิดๆ ดูแล้ว ผมรู้สึกว่าตัวเองทำให้คุณต้องลำบากมาก ถ้าผมไม่เอาเรื่องเดือดร้อนไปเล่าให้ฟัง อะไรๆ คงไม่ดำเนินมาถึงขนาดนี้”



   ความมุ่งมั่นที่กมลอยากช่วยคนก็ถือเป็นเรื่องดี แต่พอเขาเทียบอัตราส่วนกับมูลค่าทั้งเม็ดเงิน และแรงกายที่ได้รับความช่วยเหลือจากผู้ชายตรงหน้า มันทำให้กมลอดรู้เกรงใจไม่ได้ ทั้งยังรู้สึกผิดที่ทำให้ณธิปต้องลำบาก แทนที่ณธิปจะเอาเวลาไปทำอย่างอื่นเพื่อตัวเอง แต่คนคนนี้กลับต้องทุ่มเวลาอันแสนมีค่าเพื่อเป็นกำลังให้เขาสู้กับคนไม่ดีพวกนั้น



   “แต่คุณก็รู้นี่ไอ ว่าคุณทำเรื่องคนเดียวไม่ได้”

   “ก็เพราะยิ่งรู้แบบนั้นน่ะสิครับ…” กมลต่อความด้วยท่าทางหนักใจ

   “แค่รู้ว่ามีสักเรื่องที่คุณจำเป็นต้องมีผมอยู่ด้วยถึงจะทำได้ ผมก็รู้สึกดีสุดๆ แล้วล่ะ”



เพราะกมลไม่ต้องการอะไรเลย ทั้งการเอาอกเอาใจ หรือทำอะไรเหมือนที่เขาเคยทำให้คนอื่น ณธิปจึงไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรให้คนคนนี้เห็นความสำคัญของเขาได้บ้าง


“อีกอย่าง ผมว่าเรื่องพวกนี้ก็ไม่ได้ทำให้ผมเดือดร้อนอะไร”



แม้จะน่าหมั่นไส้ยามที่ชายหนุ่มเอ่ยออกมาแบบนั้น แต่สิ่งที่เขาบอกก็เป็นเรื่องจริง จะปัญหาทางการเงินหรือคอนเนคชั่น ณธิปก็ไม่มีปัญหาทั้งนั้น จะมีขลุกขลักบ้างก็ตรงเวลาไม่ค่อยพอนิดหน่อย แต่ถ้าเขาคิดจะทำ เรื่องเท่านี้เขาจัดการได้อยู่แล้ว



“ขอบคุณครับ”



กมลเอ่ยคำขอบคุณพร้อมกับยิ้มให้น้อยๆ ทว่ารอยยิ้มน้อยๆ กับสายตาและท่าทางยามที่มองมานั้น มีเสน่ห์ยวนเย้าบางอย่าง จะว่าอ้อนก็ไม่ใช่ จะว่ายั่วก็ไม่เชิง มันไม่สามารถอธิบายได้ แต่กลับทำให้หัวใจของณธิปสั่นระรัว



คนอะไร ยิ้มน่ารักเป็นบ้า



ชายหนุ่มคิดในใจ หากก็ไม่กล้าเอ่ยออกไป เพราะกลัวว่ากมลจะอายและไม่กล้ายิ้มให้เขาอีก เพราะเขารู้ว่าคนหน้าหวานคนนี้วางตัวขนาดไหน ถ้าเจ้าตัวรู้ว่าเขาสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทีละน้อย ทีละน้อยนี้ เขาเกรงว่ากมลจะควบคุมตัวเองจนไม่ปล่อยตัวให้เป็นไปตามธรรมชาติอีก



ระหว่างที่ณธิปกำลังเคลิบเคลิ้มกับรอยยิ้มพิมพ์ใจ และสายตาพิฆาตของกมลอยู่นั้น บอดี้การ์ดคนหนึ่งของเขาก็เข้ามาขัดจังหวะเสียก่อน


“ท่านครับ”

“ว่ายังไง” ชายหนุ่มปรับสีหน้าให้เป็นปรกติ แล้วถามด้วยเสียงเข้ม

“ผมนำตารางกับคิวของนักข่าวที่จะขอสัมภาษณ์มาให้ตามที่ท่านสั่งครับ”

“อืม ขอบใจ” ณธิปรับแท็บเล็ตมาดู ก่อนจะส่งคืน “ฉันพอรู้คร่าวๆ แล้ว นายไปพักเถอะ ไว้ถึงที่หมายค่อยไปบอกพวกเขาว่าฉันตกลงตามนี้”

“ครับ” บอดี้การ์ดหน้านิ่งรับคำ ก่อนจะถอยกลับไปนั่งที่ของตัวเอง

“มีขอสัมภาษณ์ตัวต่อตัวด้วยหรือครับ” กมลถามขึ้นเมื่อณธิปหันกลับมาสนใจเขาอีกครั้ง

“มีครับ” ณธิปพยักหน้า “แต่แผนการเดิมของเราก็ยังอยู่ พวกนี้มาจากสำนักพิมพ์บางหัวเท่านั้น พรุ่งนี้ก่อนกลับเขาจะมีสัมภาษณ์รวมเหมือนเดิม และก็มีให้เก็บภาพกิจกรรมที่ทำกับเด็กๆ ด้วย”

“เข้าใจแล้วครับ” กมลตอบรับ คิดแล้วก็อดตื่นเต้นไม่ได้ แม้ว่าเขาจะนัดแนะเรื่องที่จะทำกับผู้ใหญ่บ้านหลายต่อหลายครั้ง ทว่ามันก็ยังเสี่ยงอยู่ดี

“ไอ”

“ครับ” กมลมองตามเสียงเรียก

“ไม่ต้องกังวลอะไรทั้งนั้น ทุกอย่างจะต้องเรียบร้อย” ถ้อยคำที่ณธิปเอ่ย ช่วยให้กมลรู้สึกใจชึ้นขึ้นมาเล็กน้อย

“ผมหวังว่าจะเป็นแบบนั้น”

“มันต้องเป็นแบบนั้นแน่นอน คุณไม่ต้องห่วงอะไรทั้งนั้น”

“ครับ”

“นอนพักไหม อีกเป็นชั่วโมงกว่าจะถึง”



ได้ยินณธิปเสนอ กมลก็รู้สึกว่ามันเป็นความคิดที่ดีไม่น้อย ด้วยเมื่อคืนเขานอนดึก ซ้ำยังต้องตื่นแต่เช้ามาสนามบิน และวันนี้ทั้งวันก็ยังต้องไปทำกิจกรรมที่หมู่บ้านป่างาม



“ก็ดีเหมือนกันครับ”

“’ถึงแล้วผมจะเรียกเอง”

“ขอบคุณครับ” กมลเอ่ยขอบคุณเบาๆ จากนั้นจึงปรับเบาะให้เอนลง และนอนพักสายตาตามคำแนะนำ



ณธิปมองคนนอนหลับอย่างว่าง่ายแล้วยิ้มออกมาบางๆ เขาทำสัญญาณมือบอกให้บอดี้การ์ดกันพนักงานต้อนรับออกไป เขาไม่อยากให้ใครเข้ามากวนตอนที่กมลกำลังพักผ่อนทั้งนั้น เพราะชายหนุ่มอยากเป็นคนดูแลคนคนนี้ด้วยตัวของเขาเอง








   กมลรู้สึกสดชื่นขึ้นมากหลังจากงีบหลับไปพักใหญ่ ความรู้สึกตื่นเต้นและกังวลจากหายไปเป็นปลิดทิ้ง เมื่อเช็ดหน้าเช็ดตาเรียบร้อยก่อนลงจากเครื่อง หนุ่มหน้าหวานก็รู้สึกมั่นใจราวกับกลับไปเป็นกมลคนเดิมที่ไม่หวั่นไหวต่อเรื่องกังวลใจง่ายๆ อีก



   ครั้นเครื่องลงจอดที่สนามบินเชียงใหม่ รถที่ถูกเตรียมไว้ก็เคลื่อนตัวมารับทั้งคณะเพื่อเดินทางไปยังหมู่บ้านป่างามทันที เดิมทีณธิปมีรถที่เตรียมไว้เฉพาะเขา กมลและบอดี้การ์ดที่ติดตาม ทว่ากมลเลือกนั่งกับพนักงานของตนเอง เพราะต้องพูดคุยกันถึงสิ่งที่ต้องทำเมื่อไปถึง ทายาทคนที่สองของ NP Group จึงต้องนั่งไปพร้อมกับพวกพนักงาน เนื่องจากอยากเดินทางกับกมล



   การเดินทางจากสนามบินเชียงใหม่ไปถึงหมู่บ้านป่างามใช้เวลาเกือบสองชั่วโมง หนทางในชั่วโมงแรกสะดวกสบายดี จะลำบากก็ตรงตีนเขาก่อนขึ้นดอย เพราะรถต้องขับด้วยความระมัดระวัง การเดินทางจึงช้าลงอย่างเห็นได้ชัด



   เทือกเขาสลับซับซ้อนและทางเลี้ยวหักศอกมากมายทำให้หลายคนถึงกับเวียนหัวและเมารถ ณธิปหมั่นถามคนข้างกายอยู่ตลอดว่าไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า แต่เมื่อเห็นกมลลุกจากที่นั่งไปช่วยหยิบยาดมและดูแลพนักงานของตัวเอง ณธิปจึงเลิกถามและเปลี่ยนมาเป็นดุแทน



   “อย่าเดินไปเดินมาตอนรถวิ่งสิคุณ อันตราย”

   “ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมทรงตัวได้”

   “ครับๆ คนเก่ง” เจ้าของดวงตาเรียวเอ่ยอย่างประชดประชัน แต่กระทั่งถึงที่หมาย กมลก็สามารถดูแลตัวเองได้โดยไม่เกิดอุบัติเหตุใดๆ








   รถคันใหญ่ที่พวกเขานั่งมาจอดได้แค่หน้าหมู่บ้าน เพราะถนนภายในนั้นแคบเกือบกว่ารถจะเข้าไปได้ ทุกคนจึงต้องลงและช่วยกันขนกระเป๋าไปเก็บที่โรงเรียนด้วยตัวเอง



   บรรยากาศโดยรอบค่อนข้างคึกคัก ทั้งจากคนในคณะเดินทางและจากคนในหมู่บ้านเอง เด็กนักเรียน คุณครู ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านทุกคนรวมตัวกับอยู่ที่สนามโรงเรียนเพื่อต้อนรับพวกเขาทุกคน



   “สวัสดีครับผู้ใหญ่” กมลยกมือไหว้ผู้ใหญ่บ้านอย่างนอบน้อม

   “สวัสดีครับคุณไอ ผมดีใจจริงๆ ที่คุณมา” ผู้ใหญ่บ้านเอ่ยด้วยน้ำเสียงยินดี ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยประกายแห่งความหวัง



   กมลยิ้มรับ ก่อนจะแนะนำณธิปให้ผู้ใหญ่บ้านได้รู้จัก ณธิปเองก็ยกมือไหว้ผู้อาวุโสสูงกว่าด้วยท่าทางนอบน้อมเช่นกัน และนั่นก็สร้างความประทับใจให้แก่ผู้ใหญ่บ้านเป็นอย่างมา เพราะเขารู้ว่าคนคนนี้เป็นผู้อยู่เบื้องหลังในการสนับสนุนและช่วยเหลือหมู่บ้านป่างามของพวกเขา



   หลังจากทักทายกันเรียบร้อยแล้ว ผู้ใหญ่บ้านก็ปล่อยให้คณะเดินทางเข้าที่พักเพื่อจัดหาที่หลับที่นอน และเตรียมตัวสำหรับกิจกรรมที่จะจัดขึ้นในวันรุ่งขึ้น แม้วันนี้จะยังพอมีเวลาเหลืออยู่ แต่ด้วยที่ป่างามแห่งนี้เป็นหมู่บ้านเล็ก ดังนั้นที่หลับที่นอนก็ไม่สะดวก คนที่เดินทางมาถ้าไม่อาศัยนอนในอาคารเรียน ก็ต้องกางเต็นท์นอนกลางสนามของโรงเรียนแทน ซึ่งก่อนมาที่นี่ณธิปได้ให้กมลแจ้งกับทางผู้ใหญ่บ้านว่าไม่ต้องเตรียมเครื่องนอนไว้ให้ เพราะเขาจะให้คนขนเอาเครื่องอำนวยความสะดวกไปเอง วันแรกที่มาถึงจึงเป็นวันที่ทุกคนจะต้องช่วยกันกางเต็นท์และจัดสถานที่ในการพักผ่อน และตั้งโรงครัวเฉพาะกิจ



   “คุณจะไปไหนน่ะ” ณธิปถามขึ้นหลังจากที่เห็นกมลรวบกระเป๋าของตัวเองขึ้น เตรียมตัวจะเดินไปทางที่พนักงานของ I promise กางเต็นท์

   “ไปหาที่พักครับ”

   “ไม่ต้อง”

   “หื้ม? คุณหมายความว่าไง”

   “ก็หมายความว่า…” ณธิปเดินมาแย้งกระเป๋าของกมลไปถือ ก่อนส่งต่อให้บอร์ดี้การ์ดคนหนึ่งรับไปเป็นตัวประกัน “คุณไม่ต้องเดินหา เพราะคุณพักเต็นท์เดียวกับผม”

   “พักเต็นท์เดียวกับคุณหรือ” กมลผงะไปเล็กน้อย

   “ใช่”

   “ผมว่า…มันจะไม่สะดวกหรือเปล่า” คนหน้าหวานเอ่ย

   “สะดวกที่สุดแล้วล่ะ”

   “หมายความว่าไงครับ”

   “คนของคุณมีแต่ผู้หญิง คุณจะไปนอนกับพวกเธอได้ยังไงล่ะ ส่วนคนของผมเขาจับคู่กับหมดแล้ว คุณคงไปแทรกไม่ได้ อีกอย่างเต็นท์ก็มีแค่สิบห้าหลัง เรามากันเกือบห้าสิบคน แค่นี้ก็เบียดกันจะแย่แล้ว ดังนั้นจึงมีแค่เต็นท์ของผมที่ว่าง”

   “นี่คุณจัดการไว้หมดแล้วใช่ไหมครับ” กมลกอดอกแล้วถาม

   “ผมไม่ได้เป็นคนทำนะ”

   “โกหก” ให้อมพระมาพูดเขาก็ไม่เชื่อ

   “จริงๆ ผมไม่ได้ทำจริงๆ ทั้งหมดนี่เจี๊ยบเป็นคนคิด” ไม่ว่าเปล่า ณธิปยังบุ้ยใบ้ไปทางเลขานุการสาวของตัวเอง

   “คุณเจี๊ยบน่ะหรือคิด”

   “อืม” ณธิปพยักหน้า “ไม่เชื่อคุณก็ถามเธอได้ เพราะถ้าผมเป็นคนจัดการ ผมคงไม่นอนที่นี่ แล้วให้ฮ.มาส่งพรุ่งนี้แทน ขี้เกียจนั่งรถ แถมที่หลับที่นอนก็ไม่สะดวก”

   “…” กมลนิ่งไปเมื่อได้ยินคำตอบ ก่อนมองไปรอบๆ แล้วตัดสินใจเอ่ยถาม “เต็นท์ผมอยู่ไหนครับ”

   “อยู่ทางนี้” ณธิปยิ้มนิดๆ ตั้งท่าเดินนำไปที่เต็นท์ ทว่าเขากลับหันมาหากมลและเอ่ยคำหนึ่งขึ้นมาก่อน “อีกอย่างหนึ่งที่คุณควรรู้นะครับ”

   “อะไร”

   “มันไม่ใช่เต็นท์ของคุณคนเดียว แต่เป็นเต็นท์ของเรา”



   กมลนิ่งไปนิด ก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ เพราะรู้ดีว่า แม้ณธิปไม่ได้เป็นคนจัดการเรื่องนี้ แต่มันต้องเป็นแผนของคนเจ้าเล่ห์ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งอย่างแน่นอน



   เอาเถอะ…ถึงคนเจ้าเล่ห์จะวางแผนอย่างไร แต่ถ้าเขาไม่ยินยอมเสียอย่าง ณธิปก็ไม่สามารถทำอะไรเขาได้อยู่ดี คิดได้ดังนั้นกมลก็วางใจ ก่อนจะส่งสัญญาณให้อีกฝ่ายเดินนำไปที่เต็นท์ โดยที่ลืมคิดไปว่า…



   คนอย่างณธิปอาจมีวิธีที่จะทำให้เขายอมด้วยตัวเองก็เป็นได้






<><><><><><><><><><><<<><><><><><><><>




ไม่ได้มาตามนัด เพราะคอมฝนมีปัญหาค่ะ
ต้องขอโทษคนรอจริงๆ ตอนนี้แก้ไขเรียบร้อย
ดังนั้นศุกร์หน้าก็เจอกันเหมือนเดิม
ตอนนี้อาจมีคำผิดบ้าง เพราะเพิ่งเขียนใหม่ ของเก่าหายไปแล้วเพราะไวรัสกินค่ะ
ดังนั้นจึงตรวจไปแค่รอบเดียว เอาไว้ฝนจะมาอีดิททีหลังนะคะ เจอคำผิดบอกได้เลยค่ะ

คุณเล็กยังมีเขี้ยวเล็บ แต่ใช้บางเวลา และใช้เวลาที่เห็นว่าคุณไอไม่โวย
ดังนั้นหากรอให้คุณเล็กเปลี่ยนเป็นสุภาพบุรุษร้อยเปอร์เซ็นต์ คงไม่ไหวเหมือนกัน
ตอนนี้ตาเล็กลุกแม่จะรุกหนักแล้ว เอาใจช่วยลูกชายฝนด้วยนะคะ

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านน้า เจอกันตอนหน้าค่ะ

ละอองฝน.


หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 29 [18/12/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: AeAng11 ที่ 18-12-2017 06:25:08
ไอลูกรักดูแลตัวเองดีๆนะคะระวังคุณเล็กด้วย ..ขอบคุณคุณฝนนะคะที่เขียนเรื่องราวดีๆน่าติดตามแบบนี้
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 29 [18/12/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 18-12-2017 09:33:15
ยิ่งอ่านก็ยิ่งหมั่นไส้คุณเล็กยังไงก็ไม่รู้เนี่ย

รู้สึกว่าคุณไอเริ่มเปิดใจขึ้นเรื่อยๆ หวังว่าคุณเล็กจะดีได้เสมอต้นเสมอปลายนะ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 29 [18/12/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: PharS ที่ 18-12-2017 09:57:19
 :pig4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 29 [18/12/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 18-12-2017 09:59:49
 :pig4: >\\\\\\\<
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 29 [18/12/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 18-12-2017 10:06:47
 :L2: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 29 [18/12/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 18-12-2017 11:28:51
 :pig4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 29 [18/12/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 18-12-2017 19:09:28
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 29 [18/12/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 18-12-2017 21:43:59
นอนเต้นท์เดียวกันเพื่อความสะดวกและปลอดภัยนะคะ คุณไอไม่ต้องคิดมาก
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 29 [18/12/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Panizzz3838 ที่ 18-12-2017 22:00:25
น่าจะมีปมดราม่าให้คุณไอได้ง้อมั้งอ่ะ อยากรู้ว่าคุณไอจะทำไง :mew3: :mew3: :mew3:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 29 [18/12/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 18-12-2017 23:25:17
ร้องเพลงรอเลย ปล้ำๆๆๆๆๆๆๆๆๆ 555 อย่าให้เสียชื่อคุณเล็ก  :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 29 [18/12/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Yundori ที่ 19-12-2017 01:42:31
คุณเล็กกกกกก นางจะทำอะไรรรรร
อย่าเชียวนะ คุณไอโกรธขึ้นมา ง้อยากนะ 5555555
ชอบความรวยความป๋าจริงๆอะ
แบบช่วยแค่นี้ ไม่เดือดร้อนอะไรเลยจริงๆ
แบบ จ้าาา พ่อเล็กก พ่อคุณณธิปปปป ได้ทุกอย่างยกเว้นใจไอ  :laugh:
เอาใจช่วยนะจ๊ะะะ ขอให้สมหวังไวๆ  :katai2-1: ยกป้ายไฟเชียร์ทุกตอนเลยย
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 29 [18/12/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 19-12-2017 11:14:22
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 29 [18/12/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: A-J.seiya* ที่ 20-12-2017 20:23:16
โอ้ยยยยยย
บ้าๆๆๆ
เขินคุณเล็กจะแย่อยู่แล้ว คุณไอเก่งมากที่ต้านทานไหวอ่ะ
นี่แบบ มดวกง้งหงกงงๆฃหงวอ
ยอมตั้งแต่หน้าประตู ฮือออ
รออ่านต่อนะคะ
กำลังสนุกเลยยยยย
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 29 [18/12/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Jiraapp ที่ 20-12-2017 22:05:28
คุณเล็กก็ยังเป็นคุณเล็กอยู่วันยังค่ำ ไม่ทิ้งลายค่ะ o13
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 30 [22/12/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ละอองฝน ที่ 23-12-2017 00:36:39










คุณคือความรัก บทที่ 30




   กมลมองเต็นท์โดมขนาดใหญ่ซึ่งแบ่งเป็นสองห้อง ใต้กันสาดผืนใหญ่มีชุดโต๊ะเก้าอี้สนามวางประกอบ ด้านในมีฟูกนอนท่าทางนุ่มนิ่มและสะอาดสะอ้านวางคู่กัน เพียงดูผาดๆ ก็เห็นได้ว่ามีเครื่องใช้อื่นๆ ครบครัน


“คุณเตรียมไว้ขนาดนี้เลยหรือครับ”

“ผมไม่ได้เตรียม แต่คนอื่นจัดการให้ต่างหาก” ณธิปเอ่ยอย่างไม่ทุกข์ร้อน ก่อนเดินนำเข้าไปด้านใน

เห็นดังนั้นกมลจึงเดินตามเข้าไปบ้าง แต่ดวงตาสุกใสก็ยังอดสำรวจไปรอบๆ ไม่ได้ “บอดี้การ์ดของคุณนอนกับเราด้วยใช่ไหม”

“เปล่าสักหน่อย” ณธิปปฏิเสธทันที “มีแค่เราสองคน”

“แล้วทำไมเต็นท์เราใหญ่กว่าชาวบ้านเขาเลยล่ะ อีกอย่างเราก็มาพักชั่วคราวแค่คืนสองคืนเท่านั้น”
 
“น่าแปลกตรงไหน” เจ้าของดวงตาเรียวหันกลับมามองกมล

“คุณหมายความว่ายังไง”

“นี่คุณคิดว่าคุณมากับใครล่ะครับ ไอ”

ครั้นถูกเตือนสติ กมลก็มองหน้าคนพูดนิ่งๆ แล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ “นั่นสินะ ผมลืมไปได้ยังไงว่าคุณเป็นใคร ถึงจะเป็นผู้บริหารใหญ่ แต่ก็ใช่ว่าต้องมาลำบากลำบนนี่นะ”

“นี่ก็ลำบากแล้วคุณ นอนกลางดิน กินกลางทราย” ณธิปต่อคำประชดด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ซึ่งก็ทำให้ดูน่าหมั่นไส้มากขึ้นไปอีก

“ถ้าอย่างนั้นก็ขอโทษครับท่านประธาน ที่ผมพาคุณมาลำบาก”

“หึๆ ผมพูดเล่นนิดเดียว เอาใหญ่เชียวนะ” ณธิปว่าขำๆ แล้วจึงอธิบาย “ความจริงผมจะอยู่แบบคนอื่นก็ได้ แต่คิดว่าทำแบบนี้ก็ดีไปอย่าง เพราะเวลาพวกนักข่าวอยากสัมภาษณ์ตัวต่อตัวจะได้เชิญมาตรงนี้ได้”

ครั้นได้ยินณธิปบอกเหตุผล กมลก็นึกเห็นด้วย “มันก็จริงของคุณ”

“ใช่ไหมล่ะ แต่หลักๆ ก็อยากนอนสบายๆ หน่อย ผมไม่ชอบเต็นท์แคบๆ  มันอึดอัด”

“อืม” กมลพยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย เขาเองก็ไม่ค่อยชอบที่แคบเหมือนกัน เพียงแต่ที่ตกใจไปในนาทีแรกก็เพราะไม่คิดว่าณธิปจะเตรียมพร้อมขนาดนี้ อย่างตอนที่เขามาคราวก่อนกับคนใน I promise ก็ยังใช้ห้องในอาคารเรียนแทนห้องนอน



กมลขอกระเป๋าคืนจากบอดี้การ์ดของณธิป ก่อนจะเลือกฟูกนอนฝั่งหนึ่งให้ตัวเองเสร็จสรรพ เขาทรุดตัวลงนั่งแล้วรื้อกระเป๋าเพื่อหยิบเอาผ้าเช็ดหน้าเล็กๆ ผืนหนึ่งออกมา ตั้งใจว่าจะไปล้างหน้าล้างตาให้สดชื่น แล้วจึงออกไปช่วยงานคนอื่นๆ ที่โรงครัว ด้วยตารางของวันนี้ไม่มีพิธีการอะไรต้องทำเป็นพิเศษ



ระหว่างที่กมลกำลังง่วนอยู่กับสัมภาระของตัวเอง คนของณธิปก็ค่อยๆ ล่าถอยออกไปจากเต็นท์จนหมด ภายในห้องพักชั่วคราวจึงเหลือเพียงณธิปกับกมลสองคนเท่านั้น



กระทั่งผ่านไปครู่หนึ่ง เมื่อกมลเงยหน้าขึ้นมาจากกระเป๋า เขาจึงพบว่าเจ้าของดวงตาวาบวับกำลังมองจ้องตนเองอยู่ ซึ่งชายหนุ่มก็อดที่จะเอ่ยถามไม่ได้



“มองอะไรครับ”

“มองคุณไง” ณธิปตอบตรงๆ

“รู้ครับว่ามองผม แต่ที่อยากรู้คือมองทำไมต่างหากครับ”

“ไม่ทำไมหรอกครับ ก็แค่อยากมองเท่านั้น ไม่ได้หรือ”

“ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร แค่นึกว่าคุณมีอะไรจะพูดเสียอีก”



ณธิปไม่รู้จะพูดอะไร ตอนนี้เขาก็แค่อยากมองเฉยๆ เหมือนที่บอกกับกมล ในอกรู้สึกยินดีอย่างที่ไม่คิดว่าตัวเองจะรู้สึก สารภาพว่าตอนแรกเขาแค่เปรยๆ กับเลขานุการสาวเรื่องจัดแจงที่พักของตนเองและกมล เพราะอยากใกล้ชิดแล้วก็คิดเรื่องที่ผู้ชายทั่วไปคิดในหัวอยู่บ้างเล็กน้อย ในที่นี้ไม่ได้จะล่วงเกินให้กมลเสียหายหรือขู่เข็นบังคับขืนใจ หากแค่ต้องการใกล้ชิดกว่าที่เคย เนื่องจากโอกาสเช่นนี้ไม่ได้หาง่ายๆ ดังนั้นมีหรือคนเช่นณธิปจะไม่คว้าไว้


ทว่าพอได้เห็นกมลยอมเข้ามาพักในที่รโหฐานกับเขาสองต่อสอง ความรู้สึกอยากเข้าไปฉวยโอกาสกลับถูกลดทอน และแทนที่ด้วยความรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจ เพราะรับรู้ได้ว่าตนเองได้รับความไว้วางใจจากคนคนนี้เพิ่มขึ้น


คนอย่างกมล ถ้าไม่คิดจะยอมเสียอย่าง เหตุผลอะไรก็โน้มน้าวไม่ได้ กมลไม่ใช่เด็กไม่รู้ประสา แค่เรื่องจัดการหาที่หลับที่นอนให้ตัวเองเพื่อหนีหน้าเขาไม่ใช่เรื่องยากอะไรหากต้องจัดการจริงๆ แต่นี่พอรู้ว่าต้องอยู่ด้วยกันสองคนตลอดสองคืน เจ้าตัวก็แค่ทำหน้าตกใจนิดๆ ก่อนจะเดินตามเข้ามาง่ายๆ


มันแสดงให้เห็นว่า นอกจากมั่นใจว่าสามารถดูแลสวัสดิภาพของตัวเองได้แล้ว ยังไว้ใจในตัวของณธิปเพิ่มขึ้นอีกด้วย


แล้วอย่างนี้จะไม่ให้ณธิปดีใจจนปัดเรื่องอื่นๆ ทิ้งไปได้อย่างไร


“นั่นคุณจะไปไหนครับ” ขณะกำลังปลื้มที่ตนเองไม่ถูกหนุ่มหน้าหวานปฏิเสธการพักร่วมเต็นท์ กมลก็ลุกขึ้นจากที่นอนของตนเอง

“ผมจะไปล้างหน้าล้างตาสักหน่อย” กมลว่า “อีกเดี๋ยวจะไปช่วยคนอื่นๆ เตรียมโรงครัว”

“ผมไปด้วยสิ”

ว่าแล้วณธิปก็รีบลุกตามอีกคนทันที กมลไม่ได้ร้องห้ามหรือแสดงท่าทางอึดอัดใจที่ถูกตามประกบแจ เขาเพียงแค่ปล่อยให้ณธิปเดินมาด้วยเงียบๆ เท่านั้น








กมลไม่ได้เข้าไปช่วยงานในโรงครัวเหมือนดังที่ตั้งใจ เพราะหลังจากล้างหน้าล้างตาเรียบร้อย อยู่ๆ ผู้ใหญ่บ้านก็ชวนเขากับณธิปไปเดินดูสภาพแวดล้อมรอบๆ หมู่บ้าน


ที่ผู้ใหญ่บ้านชวนออกไป กมลไม่นึกแปลกใจเท่าไร แต่เขากลับแปลกใจที่ณธิปพานักข่าวไปด้วยมากกว่า ทีแรกกมลตั้งใจจะทักท้วง เนื่องจากไม่แน่ใจว่าที่ผู้ใหญ่บ้านชวนออกมานั้นมีจุดประสงค์อยากพูดคุยกันเป็นการส่วนตัวหรือไม่ ทว่าเมื่อไม่เห็นเจ้าบ้านมีท่าทีอึดอัดอะไรกมลจึงได้แต่ปล่อยเลยตามเลย คณะเดินชมหมู่บ้านป่างามของกมลจึงค่อนข้างอบอุ่นไปด้วยจำนวนคนมากกว่าที่คาด


หมู่บ้านบนดอยแห่งนี้เป็นหมู่บ้านเล็กๆ มีกันอยู่ไม่กี่หลังคาเรือน สาธารณูปโภคต่างๆ เพิ่งเข้ามาถึงได้ไม่นาน คนในหมู่บ้านส่วนใหญ่ทำอาชีพเกษตรกรรมและทอผ้าไปขายให้ตลาดในเมือง บ้านแต่ละหลังจึงมีภาพผู้หญิงและคนเฒ่าคนแก่นั่งทอผ้าอยู่ใต้ถุนบ้านให้เห็นเป็นเรื่องปรกติ


คณะของกมลกับณธิปหยุดดูและพูดคุยกับชาวบ้านไปตลอดทาง เด็กๆ ในหมู่บ้านก็วิ่งตามเป็นกระพรวนเมื่อเห็นคนต่างถิ่นมาเยือน ยิ่งช่วงเดือนเมษายนเช่นนี้ เด็กๆ ปิดเทอมพอดี ดังนั้นตลอดทางจึงมีเสียงพูดคุยและหัวเราะเฮฮาของเด็กน้อยสร้างสีสันไปด้วย


แต่ถึงจะเป็นเดือนเมษายน แต่อากาศบนนี้ก็ไม่ร้อนอบอ้าวอย่างที่คิด แม้แดดจะแรงสักหน่อย แต่ด้วยต้นไม้ใหญ่มากและสภาพแวดล้อมที่บริสุทธิ์ ทำให้รู้สึกเย็นสบายกว่าในตัวเมืองเป็นไหนๆ


พวกเขาเดินสำรวจหมู่บ้านและฟังคำบอกเล่าจากผู้ใหญ่บ้านไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงลำธารใสที่ไหลผ่านหมู่บ้าน ทุกคนจึงเห็นทางแยกสองทาง ด้านหนึ่งเป็นทางที่มีอยู่ก่อนแล้ว แต่อีกทางคลับคล้ายว่าจะเป็นถนนที่ถูกตัดขึ้นมาใหม่


โดยไม่ทันให้ผู้ใหญ่บ้านอธิบาย นักข่าวชายคนหนึ่งจากสำนักพิมพ์มีชื่อก็เอ่ยถามขึ้นเสียก่อน

“ผู้ใหญ่ครับ ไม่ทราบว่าทางนี้แยกไปไหนครับ”

   “ถ้าเดินทางขึ้นไปทิศขวา เราจะขึ้นไปบนดอยช้าง ก่อนถึงยอดดอยมีน้ำตกเล็กๆ เป็นต้นน้ำลำธารที่ไหลผ่านหมู่บ้านนี้”

   “แล้วทางซ้ายละครับ” นักข่าวคนนั้นถามต่อ “ดูเหมือนถนนตัดใหม่เลย”

   “ทางนั้น…” ผู้ใหญ่บ้านทำท่าอึกอักนิดหน่อย ก่อนจะเอ่ย “ทางนั้นเป็นของคนที่เขาเข้ามาสร้างรีสอร์ทน่ะคุณ”

   “รีสอร์ทหรือครับ” นักข่าวอีกคนถามด้วยความประหลาดใจ “แต่ถ้าจำไม่ผิด ผมรู้มาว่าที่ป่างามยังไม่เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่พักรีสอร์ทหรือโฮมสเตย์ไม่ใช่หรือครับ แล้วจะมีคนมาสร้างรีสอร์ทได้ยังไง”

   “เรื่องนั้น…” ผู้ใหญ่บ้านทำท่าลำบากใจอีกครั้ง ชวนให้ทุกคนในคณะต่างก็เงียบไปด้วย แม้แต่กมลที่รู้เรื่องนี้ดีอยู่แล้วยังอดรู้สึกแย่ไม่ได้

   “ถ้าผู้ใหญ่ไม่สะดวกเล่าตรงนี้ เรากลับไปคุยกันที่โรงเรียนดีไหมครับ เผื่อพวกเราจะช่วยอะไรได้” นักข่าวที่เป็นคนถามแต่แรกบอก

   “ครับ” ผู้ใหญ่บ้านพยักหน้า ก่อนจะเดินนำทั้งคณะกลับบ้าน แต่ชั่วแวบหนึ่งกมลเห็นว่าเขาหันมาสบตากับณธิปซึ่งยืนเงียบอยู่ในกลุ่มคนอย่างมีความหมาย








หลังกลับมาที่โรงเรียนชุดรับแขกสนามของณธิปที่กมลมองว่าจำนวนเก้าอี้มันมากเกินความจำเป็นในทีแรกก็ได้ใช้งานในทันที โดยผู้ที่ใช้งานคือกลุ่มนักข่าวกับผู้ใหญ่บ้านหมู่บ้านแห่งป่างามนั่นเอง ส่วนกมลและณธิปนั้นกลับมายืนมองห่างๆ อยู่นอกวงสนทนาแทน


เรื่องราวของผู้มีอิทธิพลกับการต่อสู้ของชาวบ้านตัวเล็กๆ ที่อยากจะรักษาที่อยู่อาศัยของตนเองถูกถ่ายทอดออกมาให้ทุกคนได้ฟังอย่างไม่ขาดตอน พวกนักข่าวที่ไม่ได้เตรียมใจจะมาพบกับข่าวฉาวๆ เช่นนี้ทั้งตื่นเต้นและตกใจไปพร้อมๆ กัน


กมลจับตาดูความเป็นไปด้วยใจระทึก แค่ฟังคำถามที่พวกนักข่าวถาม รวมทั้งคำตอบที่ทุกคนได้รับ เขาก็รู้แล้วว่าข่าวนี้จะต้องกลายเป็นข่าวดังและสั่นสะเทือนวงการนักการเมืองอย่างแน่นอน


กมลไม่เคยนึกฝันว่าตนเองจะมีโอกาสเข้ามาข้องเกี่ยวกับบุคคลที่มีอิทธิพลในสายอาชีพอื่นเช่นนี้เลย เหตุใดผู้ชายที่ชีวิตมีแค่งาน น้องสาวหนึ่งคนกับหลานเล็กๆ สองคนอย่างเขาถึงได้กล้าทำเรื่องเช่นนี้ได้ คิดแล้วชายหนุ่มอดรู้สึกหวั่นใจไม่ได้ แต่เมื่อเข้ามามีส่วนแล้ว เขาก็หวังอยากให้ทุกอย่างมันจบลงด้วยดี ใครทำอะไรก็ขอให้ได้รับสิ่งนั้นตอบแทน


ดวงตาคู่สวยละสายตาจากภาพนักข่าวหันมาหยุดที่บุคคลซึ่งยืนอยู่ข้างๆ กัน


ณธิปยังคงเป็นณธิป เขายืนหลังตรง กอดอก และจ้องมองไปที่พวกนักข่าวด้วยสายตาไม่หวั่นไหว คล้ายกับเป็นสิ่งที่เขาคิดไว้หมดแล้ว คล้ายกับคนคนนี้รวมเอาความมั่นใจบนโลกมาไว้ที่ตนเองทั้งหมด


ณธิปไม่ใช่ผู้ชายธรรมดา


กมลรู้เรื่องนี้มานานแล้ว แต่ความไม่ธรรมดาของคนคนนี้ มันมีความหมายซ้อนทับมากกว่าที่มองเห็นผาดๆ ครั้นณธิปรู้ตัวว่ากำลังถูกจ้อง เขาจึงหันมามองกมลยิ้มๆ แล้วโน้มมากระซิบให้ได้ยินกันสองคนว่า


“ไม่ต้องกังวลนะไอ อีกเดี๋ยวมันก็จะจบลงด้วยดี”


ชั่วขณะนั้นความกังวลที่สะสมมานานพลันจางหาย แม้นี่จะเป็นเพียงระหว่างทางของแผนการที่วางกันไว้ แต่เขาคิดว่าท้ายที่สุดเรื่องใหญ่ๆ และหนักหนาเหล่านี้จะต้องผ่านไปได้ด้วยดี กมลเชื่ออย่างนั้น


เชื่อคำปลอบประโลมของณธิปอย่างหมดหัวใจ








   ณธิปนอนตะแคงมองคนที่นอนพิงหมอนอ่านหนังสืออยู่บนฟูกข้างๆ เขาเห็นกมลนั่งอ่านอยู่นานแล้ว ไม่รู้ว่าหนังสือเล่มนี้มีอะไรดีนัก ถึงได้ดึงดูดความสนใจของกมลไปได้ขนาดนี้ เพราะหลังจากกินข้าวเย็น อาบน้ำ จนกระทั่งเข้ามานอนในเต็นท์ กมลก็หยิบมันขึ้นมาอ่านและไม่สนใจเพื่อนร่วมเต็นท์อย่างเขาอีก


“คุณไอ”

“ครับ” กมลละสายตาจากตัวหนังสือ แล้วหันไปหาตามเสียงเรียก

“คุณยังไม่ง่วงหรือ”

   “ยังครับ” พอตอบเสร็จ หนุ่มหน้าหวานก็หันกลับไปสนใจหนังสือในมือต่อ ซึ่งนั่นก็ทำให้ณธิปรู้สึกขัดอกขัดใจพอสมควร



   ผู้บริหารหนุ่มนอนรอเวลาอยู่อีกพักใหญ่ก็ไม่เห็นทีท่าว่ากมลจะเลิกอ่านแล้วหันมาสนใจเขาบ้าง ชายหนุ่มจึงรู้สึกว่าตัวเองน่าจะต้องทำอะไรสักอย่างบ้างแล้ว ไม่อย่างนั้นคงได้เสียเวลาคืนนี้ไปเปล่าๆ


   คิดได้ดังนั้นณธิปจึงผุดลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะขยับตัวไปใกล้ฟูกนอนของกมล แม้ภายในเต็นท์จะมีขนาดค่อนข้างกว้าง แต่โชคดีที่ตอนกมลไปอาบน้ำ ณธิปได้ทำการขยับฟูกนอนให้เข้ามาชิดกัน ช่องว่างระหว่างพวกเขาจึงมีไม่มากเท่าไร


   ครั้นพอสังเกตเห็นความเคลื่อนไหวของคนเจ้าเล่ห์ กมลก็วางหนังสือแล้วรีบถาม แม้นาทีนั้นณธิปจะขยับมานั่งชิดจนเกือบพิงหมอนใบเดียวกันได้อยู่แล้ว


   “มีอะไรครับคุณเล็ก”

   “คุณอ่านอะไรน่ะ ผมอ่านด้วยสิ”

   “คุณจะอ่านหรือครับ หนังสือพระน่ะ”

   “พระเครื่องหรือ” ณธิปทำหน้าตกใจ

   “ฮ่าๆๆ” กมลหลุดหัวเราะเสียงดัง ก่อนจะตอบ “ใช่ที่ไหน หนังสือธรรมะต่างหาก”

   “อ๋อ ตกใจหมด”

   “ตกใจอะไร”

   “ผมคิดว่าคุณสะสมพระเครื่องกับเขาด้วย”

   “ทำไมครับ ดูไม่น่าเป็นไปได้หรือไง”

   “ก็ลุคคุณดูไม่เหมือนเซียนพระที่ผมรู้จัก” ณธิปมีเพื่อนหลายคนที่สะสมเครื่องรางของขลัง เขาไม่แปลกใจถ้าคนมีเงินจะมีของสะสมจำพวกนี้ แค่ไม่คิดว่าอย่างกมลจะชอบ “ว่าแต่เป็นหนังสือธรรมะหรือ อ่านให้ผมฟังบ้างสิ เผื่อจะช่วยกล่อมเกลาจิตใจผมด้วย”

“หึๆ” กมลหัวเราะออกมาเบาๆ ด้วยนึกขำคนข้างๆ

“หัวเราะอะไรครับ”

“ก็ขำที่คุณอยากให้ช่วยกล่อมเกลาจิตใจน่ะสิ” เขาไม่รู้ว่าณธิปแค่พูดเล่นหรือพูดไปอย่างนั้นเอง แต่ประโยคเมื่อครู่ก็ดูเหมาะกับณธิปจริงๆ

“ทำไมครับ ผมให้กล่อมเกลาจิตใจ จะได้เป็นคนดีไง ไม่ดีหรือครับ”

“ก็ดีครับ เหมาะกับคุณดี” กมลตอบยิ้มๆ

“นี่คุณจะหมายความว่าคนอย่างผมควรได้รับการกล่อมเกลาจิตใจจริงๆ ใช่หรือเปล่า”

“ผมเปล่าพูดนะ คุณพูดเอง” คนหน้าหวานส่ายหน้า แต่ดวงตาคู่สวยกลับเต็มไปด้วยประกายขบขัน ดูอย่างไรก็ชัดเจนว่ากมลคิดอย่างนั้นจริงๆ นานๆ ครั้งได้เห็นคนตรงหน้าทำหน้าทะเล้นๆ แบบนี้ ณธิปก็นึกหมั่นเขี้ยวขึ้นมา

“อย่าให้รู้ว่าแอบเหน็บผมนะ” คนหมั่นเขี้ยวส่งเสียงขู่ราวกับคาดโทษ

“ทำไมครับ คุณจะทำอะไร” คนแก้มใสจึงถามด้วยน้ำเสียงท้าทาย

“ก็จะทำแบบนี้ไง” คนเจ้าเล่ห์ยื่นหน้าเข้าไปตั้งใจจะแกล้งอีกฝ่ายเล่น แต่กมลกลับตกใจแล้วดิ้นหนีจนพวกเขาเอนล้มลงไปบนที่นอนทั้งคู่


แต่เพราะณธิปไม่มีผ้าห่มพันกาย จึงตั้งหลักได้ไวกว่า เขาตั้งท่าจะขยับลุกขึ้น แต่พอหันไปเห็นกมลยกผ้าห่มคลุมปิดใบหน้าเอาไว้ คล้านกับกั้นไม่ให้เขาทำอะไรไม่ดีไม่งาม เห็นดังนั้นชายหนุ่มก็อดที่จะแกล้งต่อไม่ได้


ณธิปวางมือสองข้างกับฟูกนอนเพื่อกั้นร่างในผ้าห่มเอาไว้อ้อมแขน ก่อนจะโน้มหน้าเข้าใกล้กับตำแหน่งที่คิดว่าน่าจะเป็นใบหูของคนในผ้าห่ม


“คุณไอ…” ณธิปกระซิบ

“…” และเมื่อกมลไม่ตอบ ณธิปก็กดริมฝีปากของตนเองลงบนกกหูนั้นโดยห่มกั้นกลางเอาไว้

“คุณไอ” ชายหนุ่มเรียกอีกครั้ง และจูบซ้ำลงไป


ณธิปอยากรู้นักว่ากมลจะซ่อนตัวอยู่ใต้ผ้าห่มได้นานแค่ไหน เขาจึงระดมจูบผ่านผ้าห่มอยู่หลายครั้ง แม้จะถูกปัดป้องบ้าง หากมันก็สะเปะสะปะไม่เป็นกระบวน เพราะมีหรือคนที่หลบอยู่ใต้ผ้าจะเห็นโลกภายนอกชัดเจนเหมือนที่ณธิปเห็น


จนกระทั่งริมฝีปากร้ายนั้นเคลื่อนที่ไปจุดที่คาดว่าเป็นหน้าผาก เปลือกตา จมูก และพวงแก้ม ความอดทนของกมลก็สิ้นสุดลง


ครั้นมือเรียวดึงผ้าห่มลง กมลก็ส่งเสียง “คุณเล็ก หยุดเลยนะ…”


ณธิปหยุดจริงเหมือนที่ถูกสั่ง แต่ที่หยุดกลับไม่ใช่เพราะคำสั่ง แต่เป็นเพราะใบหน้าขึ้นสีแดงก่ำราวกับลูกตำลึงของกมลมากกว่าที่ตรึงสายตาเขา


ณธิปรู้ว่าเขาน่าจะทำให้กมลไม่พอใจเสียแล้ว แต่นอกเหนือจากไม่พอใจ หงุดหงิดและโกรธเคือง มันมีอะไรบางอย่างที่ชายหนุ่มรู้ว่ามันไม่เหมือนกับทุกทีที่เขาเคยล้ำเส้น เพราะเมื่อดวงตาของพวกเขาประสานกัน สัญญาณเล็กๆ นั้นก็สร้างบางสิ่งขึ้นระหว่างเขากับกมล มันฟุ้งกระจาย ลอยอวลอยู่ในอากาศ ชวนให้หัวใจเต้นแรง แต่ในขณะเดียวกันก็ดึงดูดจนไม่อาจควบคุมตนเองได้




ท้ายที่สุดแล้ว ท่ามกลางบรรยากาศแปลกประหลาดนั้น พวกเขาจึงเริ่มต้นจาก…จูบกัน









<><><><><><><><><<><><><><>><><>








ตอนใหม่มาแล้วววววว
ตอนนี้ก็นะ มันก็จะเขินหน่อยๆ >////<
ขอบคุณที่ติดตามนะคะ
ฝากเอาใจช่วยคุณไอคุณเล็กต่อด้วยนะคะ

ช่วงนี้อากาศหนาวแล้ว ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ


ละอองฝน.


หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 30 [22/12/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 23-12-2017 00:48:17
ละมุนจังเลยค่ะ สัญญาณดีๆอีกแล้ว
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 30 [22/12/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: nnnnnnni ที่ 23-12-2017 01:06:55
กรี๊ดดดดดดดดด :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 30 [22/12/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Mengjie_JJ ที่ 23-12-2017 01:19:25
คุณเล็กได้จูบแล้ว

เขินมากเลย

 :o8:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 30 [22/12/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Yundori ที่ 23-12-2017 01:25:53
นั่งรีเฟรชรอเรื่องนี้มาอัพทั้งวันเลย  :o8:
โอ้ยยยยยย แกรรรรรรร เขาจูบกันแล้วแกรรรร  :-[ :-[
โอ้ยยยย กว่าจะถึงวันนี้น้อออออออ
คุณเล็กแกฟินไปถึงดาวอังคารแล้วอะจริงๆวันนี้
ทำดีมากคุณเล็ก ทำดี  o13 อีกไม่นานคนใจแข็งต้องใจอ่อน
ฮือออ น่ารักมากเลยยยยยยยย อยากให้ถึงวันศุกร์อีกแล้วง่า  :katai1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 30 [22/12/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 23-12-2017 01:40:44
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 30 [22/12/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 23-12-2017 02:43:41
ว้าว ว้าว ว้าว~~~
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 30 [22/12/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: AeAng11 ที่ 23-12-2017 06:34:57
ว้าว!!!หวานละมุนละไม
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 30 [22/12/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 23-12-2017 07:41:08
จูบกันแล้วววว  คุณไอใจอ่อนแล้ว
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 30 [22/12/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: khwanruen ที่ 23-12-2017 07:53:18
ตอนนี้ละมุนมากเลยค่ะ ฟิน  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 30 [22/12/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 23-12-2017 11:39:19
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 30 [22/12/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: +pEnGuIn+ ที่ 23-12-2017 11:41:33
กรี๊ดดดดดดดดด เค้าจูบกันแล้ววววว
อยากกรีดร้องให้ก้องโลกกก โอ๊ยยยย
ลุ้นจนตัวบิดไปหมดแล้วค่า  :ling1: :ling1:
ตัดจบซะงั้น ฮือออ อยากอ่านต่อเลย
เราเม้นรวดเดียวเลยค่ะ เพิ่งเข้ามาอ่านในที่สุดก็ตามทัน
อ่านตอนนี้แล้วอยากจะอยู่ในผ้าห่มแทนคุณไอเลยค่ะ
จะบอกว่าเราทีมคุณเล็กมาตลอดนะคะ ถึงคุณเล็กจะดูร้ายกาจ
มาตั้งแต่เรื่องโปรดจงรัก แต่เราก็สัมผัสได้ถึงออร่าพระเอกของคุณเล็กค่ะ
สารภาพว่ากรี๊ดตั้งแต่ตอนนั้นเลย เอาใจช่วยคุณเล็กจนเหนื่อย
สงสารก็สงสาร ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่คุณไอจะรับรักเสียที
ถึงตอนนี้จะยอมให้จูบแล้วก็เถอะ แต่อยากอ่านต่อแล้ว เป็นกำลังใจให้ไรท์นะคะ
 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 30 [22/12/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 23-12-2017 13:12:37
ค้าง....งงงงงงงงงงงงงงงงงงงง  :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 30 [22/12/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: kobyp_lu ที่ 23-12-2017 14:12:03
จูบกันแล้ว  คุณเล็กละมุนจัง  เป็นผู้นำด้วย o13 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 30 [22/12/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 23-12-2017 21:47:05
 :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 30 [22/12/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 23-12-2017 22:15:31
คุณเล็กก็พิสูจน์ตัวเองมาพอสมควรไอจะใจแข็งไปได้ยังไง
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 30 [22/12/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 24-12-2017 00:15:12
กรี๊ดดดด เค้าจูบกัน :-[
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 30 [22/12/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 24-12-2017 09:51:07
เป็นสัญญาณที่ดีมากจากคุณไอ ฮื่อออออ  :hao5:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 30 [22/12/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: nkl31 ที่ 24-12-2017 22:04:13
อ่านทันแล้วววว ทีมคุณเล็กนะคะ
คนมีการพัฒนาในทางที่ดี ต้องได้รับการสนับสนุน
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ ปีใหม่ [01/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: ละอองฝน ที่ 02-01-2018 01:01:04









คุณคือความรัก ตอนพิเศษ ปีใหม่










   “คืนนี้ลูกมีนัดไปฉลองปีใหม่กับเพื่อนๆ ที่ไหนตาเล็ก” เสียงของแม่เรียกให้ณธิปเงยหน้าขึ้นจากจานอาหาร  ชายหนุ่มจึงนิ่งคิดเล็กน้อยแล้วจึงตอบออกไป


   “ปีนี้ผมไม่ได้นัดปาร์ตี้ครับ”



ในวันที่ 31 ธันวาคมของทุกปี ณธิปจะหยุดงาน อยู่ทานมื้อเย็นกับครอบครัว และออกไปสังสรรค์กับเพื่อนจนกระทั่งล่วงเข้าสู่วันที่ 1 มกราคมของปีใหม่ ทว่าปีนี้ตารางชีวิตในวันส่งท้ายปีของณธิปต่างไปจากทุกที



   “แปลก” ทันทีที่ลูกชายคนเล็กตอบ ผู้เป็นพ่อก็พูดแทรกด้วยนึกประหลาดใจ โดยมีลูกชายคนโตเสริม


   “นั่นสิครับ” ณภัทรว่า ก่อนจะหันมาถามน้องชาย “ไม่ได้นัดกับเพื่อนๆ จริงหรือตาเล็ก”


   “จริงสิ” ณธิปบอกพี่


   “แล้วจะไปไหนหรือเปล่า หรือจะอยู่สวดมนต์ข้ามปีกับพ่อและแม่ที่บ้าน” คุณหญิงประภัสสรถามออกไปอย่างนั้น โดยที่ไม่ได้คาดหวังในคำตอบ


   “ขอโทษครับคุณแม่ แต่ผมคงไปสวดที่วัด เพราะเขานัดไว้ก่อนแล้ว”


   เคร้ง!



   เสียงช้อนจากมือของอนันต์หล่นกระทบจานดังก้องไปทั่วทั้งห้องอาหาร ทุกสายตาหันมองหน้ากันก่อนพร้อมใจเบนกลับมาที่ณธิป



   “เมื่อกี้ว่ายังไงนะเล็ก” ณภัทรเอ่ยถามออกมาอย่างไม่เชื่อหู


   “นั่นสิ ลูกว่าจะไปไหนนะ” คุณหญิงประภัสสรเองก็ร่วมด้วย


   “ไปวัดไงครับ” ณธิปบอกแม่และพี่ชายอีกครั้ง


   “เล็กจะไปวัดจริงๆ หรือลูก”


   “ทำไมครับ” ณธิปถามกลับ


   “ปะ…เปล่าจ้ะๆ แม่แค่…เอ่อ…แปลกใจนิดหน่อย” ผู้เป็นแม่บอกอ้อมแอ้ม เพราะอันที่จริงเธอไม่ได้แค่รู้สึกแปลกใจนิดหน่อย แต่แปลกใจมากๆ เลยต่างหาก


   “ทำไมครับ ผมจะไปสวดมนต์ข้ามปีที่วัดแค่นี้ มันน่าแปลกใจมากหรือไง”


   “ไม่หรอกลูก ดีแล้ว…” ประภัสสรยังไม่ทันพูดจบ อนันต์กลับแทรกขึ้นมาเสียก่อน


   “แปลกสิถามได้ ร้อยวันพันปีแกเคยเข้าวัดด้วยหรือไง ยิ่งปีใหม่อย่างนี้ก็เห็นไปเคาท์ดาวน์กับพวกนายพิเชษฐ์กับดังตฤณทุกที”


   “พ่อก็…” คนตาเรียวพูดไม่ออก เพราะทุกปีที่ผ่านมา เขาทำเช่นนั้นจริงๆ และปีนี้ก็คงเป็นเช่นนั้น ถ้าหากว่าไม่ถูกชวนเข้าวัดไปสวดมนต์ข้ามปีเสียก่อน ถึงแม้ว่ามันจะแปลกไปกว่าทุกปี แต่ถ้าเป็นคนคนนั้นล่ะก็ มีหรือเขาจะปฏิเสธได้



   เพราะกมลถึงกับเอ่ยปากชวนเขาก่อนทีเดียว



   “แล้วไปวัดอะไร” ประภัสสรถามต่อทันที เธอไม่ปล่อยโอกาสที่จะรีดข้อมูลลูกชายให้หลุดมือไปได้ ส่วนณภัทรกับอนันต์ก็ตั้งใจฟังเสียจนอาหารแสนอร่อยบนโต๊ะไร้คนสนใจ


   “วัดXXXครับคุณแม่”


   “ใกล้บ้านเราด้วยนี่”


   “ครับ”


   “แล้วไปกับใคร เพื่อนคนไหน หรือว่าเป็นสาวๆ ความจริงพากันมาสวดพร้อมพ่อกับแม่ที่บ้านก็ได้นะ จะได้รู้จักกันไว้”


   “เขาคงไม่มาหรอกครับ ขี้เกรงใจขนาดนั้น อีกอย่างก็ตั้งใจไปที่วัดแล้ว ผมไม่อยากขัดใจเขา” ณธิปรู้ดีว่าถ้าชวนอีกฝ่ายมาต้องถูกปฏิเสธอย่างแน่นอน


   “อย่างนั้นก็ไม่เป็นไร” ประภัสสรพยักหน้าอย่างเข้าใจ แต่ก็ไม่ลืมซักไซ้ต่อ “แล้วเราจะบอกแม่ได้หรือยัง ว่าไปกับใคร”


   “คุณไอครับ คุณแม่น่าจะจำได้ เขาเคยเจอกับคุณแม่ตอนจัดงานแต่งให้ผมกับเกษ”


   “อ๋อ…แม่พอจะนึกหน้าออก” ประภัสสรพยักหน้ารับ ก่อนจะหันไปสบตากับสามีและลูกชายคนโตอย่างมีความหมาย



ก่อนหน้านี้เธออาจจะเลือนๆ ไปบ้าง แต่พอรู้ข่าวว่าลูกชายเป็นธุระเรื่องคดีความให้กมลหลายอย่าง อีกทั้งณธิปยังพาคนคนนี้ไปแนะนำให้คุณย่ารู้จัก เธอก็ทำการสืบข้อมูลผู้ชายคนนั้นจนละเอียดยิบ ชนิดที่รู้ไปถึงต้นตระกูลทีเดียว



“ก็นั่นแหละครับ บ้านเขาอยู่ไม่ไกลจากบ้านเราเท่าไหร่ ก็เลยไปวัดนี้” ณธิปอธิบายต่อ ก่อนที่เจ้าตัวจะก้มตักอาหารเข้าปากโดยไม่รับรู้ถึงบรรยากาศแปลกๆ ที่คนในครอบครัวสร้างขึ้นมาเลยสักนิด



“ดูสนิทกันดีนะลูก ไปสนิทกันตอนไหนล่ะ”


“ก็…เรื่องมันซับซ้อนครับ เราทำงานด้วยกันหลายครั้ง”


“แหม คงจะสนิทมากจริงๆ เขาถึงโน้มน้าวจนลูกทิ้งปาร์ตี้ของพิเชษฐ์ได้”


“เขาสำคัญกับผม” ณธิปบอกตรงๆ เพราะเขาไม่คิดปิดบังเรื่องรสนิยมทางเพศกับพ่อแม่อยู่แล้ว ด้วยครอบครัวของเขาค่อนข้างเปิดกว้างเรื่องนี้ อีกทั้งที่ผ่านมาทุกคนก็รู้จากข่าวว่าเขาควงทั้งผู้หญิงและผู้ชาย



ประภัสสรเงียบไปอึดใจหนึ่งเมื่อได้ยินลูกชายคนเล็กเอ่ยเช่นนี้ แต่เมื่อตั้งสติได้ เธอก็ตั้งใจจะถามต่อ ทว่าสามีของเธอกลับตัดบทเสียก่อน



“คบคนดี พากันไปทำเรื่องดีๆ ก็ดีแล้ว คราวหลังก็พามากินข้าวด้วยที่บ้านสิ จะได้รู้จักกันไว้”


ชายหนุ่มมองหน้าพ่อนิ่งๆ จากนั้นจึงพยักหน้าตกลง “ครับ”



หลังจากนั้นมื้ออาหารของบ้านโชติตระกูลก็กลับสู่ภาวะปรกติดังเดิม เมื่อทานเสร็จ พวกเขาก็ไปนั่งดื่มและพูดคุยกันในห้องนั่งเล่นพักใหญ่ จนกระทั่งเห็นว่าเข็มสั้นชี้เลขสิบสอง ณธิปจึงขอตัวออกมาเพื่อไปรับกมลที่บ้าน








   เมื่อมาถึงหน้าบ้านหลังน้อย ณธิปก็กดโทรศัพท์หากมล ทว่ายังไม่ทันที่อีกฝ่ายจะรับสาย เขาก็เห็นประตูรั้วเปิดออก ก่อนคนที่เขาโทรหาจะถือโทรศัพท์แล้วเดินออกมา



   ณธิปยังไม่ทันได้เปิดประตูรถออกไปรับ กมลก็เปิดฝั่งข้างคนขับแล้วเข้ามานั่งเรียบร้อย ทั้งยังไม่ลืมรัดเข็มขัดนิรภัยด้วย



   “คุณมาเร็วกว่าที่ผมคิดไว้เสียอีก” หนุ่มหน้าหวานว่า


   “ผมกลัวคุณรอ อีกอย่างกลัวไม่มีที่จอดรถด้วย”


   “ถ้าอย่างนั้นเรารีบไปกันเถอะครับ จะได้ไปจองที่นั่งดีๆ ด้วย”


   “ครับ” เมื่อรับคำแล้วณธิปก็ออกรถ มุ่งหน้าตรงไปยังวัดที่เป็นเป้าหมายทันที



   ระหว่างทางเขาก็เหลือบมองคนที่นั่งข้างๆ ไปพลาง วันนี้กมลสวมเสื้อสีขาว กางเกงสีขาวตลอดตัว ผมหน้าม้าไม่เซ็ตเรียบร้อยเหมือนยามปรกติ นั่นส่งผลให้อีกฝ่ายดูหน้าเด็กลงไปหลายปี



   “มองอะไรครับ ดูถนนสิ” คนถูกมองเอ่ยเตือน


   “ครับๆ” ณธิปตอบรับ สายตาเบนกลับไปที่ถนน ทว่าปากก็พูดอย่างใจคิด “คุณไม่เซ็ตผมแล้วหน้าเด็กลงเยอะเลย น่ารักดีนะ”


   “พูดว่าน่ารักกับผู้ชายอายุสามสิบหรือครับ ผมว่าไม่เหมาะมั้ง”


   “ไม่เห็นเป็นไร หน้าคุณเด็กจะตาย”


   “ขอบคุณครับ” กมลยิ้มรับคำชมจนแก้มบุ๋ม น่ารักน่าฟัดเสียจนณธิปเผลอมองเพลิน “คุณเล็ก! จะเลยแล้ว เลี้ยวซอย 11 ครับ”


   “ครับๆ”



   คราวนี้ณธิปบอกตัวเองในใจว่าต้องหันกลับมาสนใจทางข้างหน้าจริงๆ แล้ว ไม่อย่างนั้นเขาคงจะพากมลขับออกนอกเส้นทางไปเสียก่อน








   หลังจากเข้าซอยมาไม่นานพวกเขาก็มาถึงวัด ที่จอดรถหาไม่ยากอย่างที่กลัว เมื่อจอดรถเรียบร้อยทั้งสองก็พากันเดินขึ้นไปบนศาลาที่จัดงาน ด้านบนมีคนมาไม่มากเท่าใด กมลคิดว่าอาจเป็นเพราะปีนี้มีจัดสวดมนต์ข้ามปีหลายวัดกว่าปีก่อน ดังนั้นคนจึงกระจายกันไป



   กมลเดินไปนั่งแถวกลางๆ ใกล้กับพัดลมเครื่องใหญ่ เพราะรู้ว่าคุณชายแห่งโชติตระกูลเป็นคนขี้ร้อน ประเดี๋ยวเกิดร้อนจนทนไม่ไหว ปีต่อๆ ไปคงเข็ดจนไม่อยากมาอีก



   เมื่อได้ที่นั่งแล้วไม่นานพระท่านก็ลงมาจากกุฏิเพื่อเริ่มพิธีสวดมนต์ข้ามปีกับญาติโยม ณธิปรับหนังสือบทสวดมนต์มาเปิดและสวดตามด้วยความตั้งใจ แม้จะรู้สึกเมื่อยจนต้องสลับเปลี่ยนท่านั่งอยู่หลายรอบ แต่ชายหนุ่มก็ไม่โอดโอยหรือบ่นออกมาสักคำเดียว กระทั่งพิธีจบลงประมาณเกือบตี 1 พวกเขาจึงช่วยเก็บเบาะและหนังสือสวดมนต์ก่อนกลับไปที่รถ



   ระหว่างเดินกลับณธิปเงียบมาตลอดทางจนกมลนึกแปลกใจ พอเข้าไปนั่งในรถได้ คนหน้าหวานจึงเป็นฝ่ายเปิดปากพูดคุยก่อน



   “ง่วงหรือเปล่าครับ”


   “เมื่อกี้ง่วงนิดหน่อย แต่ตอนนี้ไม่แล้วล่ะ” ณธิปบอก


   “แล้วเป็นไงบ้างครับ เบื่อไหม”


   “ไม่เบื่อหรอก แต่เมื่อยมากกว่า ไม่ค่อยได้นั่งพับเพียบนานๆ แบบนี้ ผมก็เลยไม่ชิน ดีที่ได้นั่งใกล้พัดลม ไม่งั้นร้อนตายเลย หน้าหนาวประเทศไทยทำไมร้อนแบบนี้ก็ไม่รู้”


“ได้ทีบ่นใหญ่เชียวนะครับ ปีหน้าชวนมาอีกจะมาไหมแบบนี้”


   “ถ้าคุณชวน ผมก็จะมา” คนตาเรียวหันมาบอกพร้อมกับทำตาวิบวับใส่


   “ถ้าอย่างนั้นก็เตรียมเมื่อยได้เลย” กมลว่ายิ้มๆ


   “แปลว่าคุณจะให้ผมมาด้วยอีกใช่ไหม”


   “ถ้าคุณว่างนะครับ” กมลตอบ แม้จะดูแบ่งรับแบ่งสู้ แต่ณธิปก็ตีความเข้าข้างตัวเองไปเสียแล้ว


   “ไอ…” ณธิปเอ่ยเรียกด้วยน้ำเสียงจริงจัง นัยน์ตาไร้แววหยอกล้อแบบทุกที ทว่าเต็มไปด้วยความรู้สึกที่อัดแน่นภายใน ยากเกินกว่าจะบรรยาย


   “ครับ?”


   “สวัสดีปีใหม่”


   กมลยิ้มออกมาบางๆ แล้วจึงเอ่ยตอบกลับไปเช่นกัน “สวัสดีปีใหม่ครับคุณเล็ก”


   “ขอให้ปีนี้เป็นปีที่ดีของเรานะ”


   “ขอบคุณครับ…” เอ่ยขอบคุณแล้ว หากเมื่อนึกขึ้นได้ กมลว่านี่ไม่ถูกเท่าไร “เดี๋ยวนะครับ ปีที่ดีของเราหรือครับ ไม่ใช่ของผมหรือ ผมคิดว่าคุณจะอวยพรให้ผมเสียอีก”


   “ก็อวยพรให้คุณไง แต่ก็อวยพรให้เราด้วย”


   “แบบนี้ก็ได้หรือครับ”


   “ผมว่าได้นะ” ณธิปบอกอย่างเอาแต่ใจ “หรือคุณว่ายังไง”



   หลายครั้งหลายคราในปีเก่าที่ณธิปตามใจเขา อย่างเรื่องที่ยอมมาสวดมนต์ข้ามปีแทนที่จะไปสนุกกับเพื่อนๆ ก็ด้วย กมลคิดว่ามันคงไม่เป็นไร ถ้าหากเขาจะตามใจคนคนนี้สักเรื่อง…



“ก็ได้ครับ…แล้วแต่คุณ”


“ขอบคุณครับ” ณธิปเอ่ยขอบคุณ นึกขำตัวเองอยู่เหมือนกันที่เขาต้องขอแม้กระทั่งเรื่องขอพรให้ตนเองแบบนี้ แต่ก็เอาเถอะ ยามนี้คนใจดีอนุญาตแล้ว ณธิปว่าปีใหม่นี้จะต้องเป็นปีที่ดีระหว่างพวกเขาทั้งสองคนอย่างแน่นอน




ถ้ารู้ว่าเข้าวัดสวดมนต์ตอนวันสิ้นปีจะเห็นผลเร็วขนาดนี้ เขาคงจะทำมาตั้งนานแล้ว ชายหนุ่มคิดในใจ ก่อนจะออกรถและพาคนใจดีของเขากลับบ้าน








<><><><>><><><><><><><><><><><>








สวัสดีปีใหม่ค่า
ปีนี้พาคุณไอกับคุณเล็กมาสวัสดีปีใหม่ทุกคน
รับไม้ต่อมาจากน้องรักกับพี่เมฆ
ขอบคุณที่ตามอ่านกันมาตลอดนะคะ
ขอให้ปีนี้เป็นปีที่ดีของคนอ่านทุกคนเลย
สุขภาพแข็งแรง สมหวังทุกประการค่ะ

ตอนนี้เป็นตอนพิเศษไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องหลักนะคะ
ตัวเนื้อเรื่องหลักจะตามมาในวันศุกร์เหมือนเดิมเน้อ
ศุกร์ที่ผ่านมาไม่มาก็เพราะว่าจะปีใหม่ เอาตอนพิเศษมาแทนค่ะ
แล้วเจอกันตอนหน้านะคะ

ละอองฝน.

หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ ปีใหม่ [01/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 02-01-2018 01:14:26
 :z1: :z1: (http://:z1: :z1:)
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ ปีใหม่ [01/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 02-01-2018 01:55:06
 :hao3: แหม
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ ปีใหม่ [01/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 02-01-2018 06:23:56
 :L2: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ ปีใหม่ [01/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: AeAng11 ที่ 02-01-2018 06:30:22
สวัสดีปีใหม่ค่ะคุณฝน..คุณเล็กสวดมนต์คืนเดียวได้ผลบุญเร็วจังในตอนต่อไปครอบครัวจะเข้าใจแบบนี้มั้ยนะกลัวจัง
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ ปีใหม่ [01/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 02-01-2018 13:17:11
 :pig4: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ ปีใหม่ [01/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: Yundori ที่ 02-01-2018 20:32:04
คุณเล็กน่ารักมากกกกกก  :-[ :o8: :impress2:
แพ้อะแพ้ ตลกที่ครอบครัวแบบตกใจที่เข้าวัด  :laugh:
อะไรกัน คุณเล็กไม่เข้าวัดเลยเหรอ ายๆๆ  :m20:
อยู่กับคุณไอนะ รับรองเลยจ้าา ไปทางธรรมแน่นอน
คุณไอก็น่ารักกก ไม่เล่นตัว ไม่ใจแข็ง คือแบบ
เห็นความน่ารักทะลุออกมาจากตัวอักษรเลยทีเดียว   :mew3:

สวัสดีปีใหม่ค่าคุณคนแต่ง
 :mew1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ ปีใหม่ [01/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 02-01-2018 20:40:59
ขอให้คุณเล็กสมหวังไวๆ สวัสดีปีใหม่เช่นกันจ้า  :pig3: new year
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ ปีใหม่ [01/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 03-01-2018 00:35:52
สวัสดีปีใหม่ค่า
 :pig4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ ปีใหม่ [01/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 03-01-2018 01:07:05
คุณเล็กกลายเป็นแมวเชื่องไปแล้ว

สวัสดีปีใหม่จ้า
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ ปีใหม่ [01/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: +pEnGuIn+ ที่ 03-01-2018 08:46:18
จะมาวันศุกร์จริงๆใช่มั้ยคะ นี่คิดถึงคุณเล็กอยากอ่านต่อมากก :mew1:
ว่าแต่คุณไอชวนมาสวดมนต์ข้ามปีนี่ถือเป็นสัญญาณที่ดีมากๆ
คุณเล็กจีบคุณไอมากี่ปีคะอยากรู้ ๕๕๕๕๕๕

สวัสดีปีใหม่ไรท์เตอร์ด้วยนะคะ รออ่านตอนต่อไปน้าาา :mew3: :mew3:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ ปีใหม่ [01/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: khwanruen ที่ 03-01-2018 10:13:36
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ ปีใหม่ [01/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 03-01-2018 15:48:08
สวัสดีปีใหม่ย้อนหลังนะคะ
ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษค่า   :-[
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ ปีใหม่ [01/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 03-01-2018 20:15:21
แหมมมมมม หมั่นไส้คุณเล็กได้ไหมคะเนี่ย? อะไรคือการอวยพรให้ตัวเองแบบนั้น...แหมมมม

ปล. สวัสดีปีใหม่ค่ะ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ ปีใหม่ [01/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 06-01-2018 14:12:40
คิดว่าถ้าไม่ได้มาเจอคุณไอ ชาตินี้อย่าหวังว่าคุณเล็กจะไปวัด ใช่ไหมคะ 5555555555555
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 31 [07/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: ละอองฝน ที่ 07-01-2018 23:33:28



คุณคือความรัก บทที่ 31








   ณธิปยังจำภาพใบหน้าสะเทิ้นอาย แววตาวูบไหว พวงแก้มแดงก่ำ และริมฝีปากฉ่ำๆ ของคนที่ถูกชิงจูบได้ดี มันน่ามองและดึงดูดเสียจนเขาเกือบห้ามตัวเองไม่ไหว คิดอยากทำอะไรมากกว่านั้น แต่เพราะมันเป็นครั้งแรกระหว่างพวกเขาทั้งสองคน ชายหนุ่มจึงต้องตัดใจถอยออกมาให้กมลมีพื้นที่หายใจเสียก่อน ถึงแม้กมลจะอ่อนลง หากเขาก็กลัวว่าการรุกมากเกินไปจะทำให้คนหน้าหวานตระหนก



   หลังจากเกิดเหตุการณ์ให้หัวใจได้หวามไหวชั่วครู่ พวกเขาก็ดับไฟและแยกย้ายกันนอนคนละฟูก ณธิปนอนจ้องแผ่นหลังของคนหน้าหวานอยู่กว่าค่อนคืน สุดท้ายก็ผล็อยหลับไปในที่สุด


   ดังนั้นวันนี้ณธิปตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกสดชื่นแจ่มใสและหัวใจพองโตไปตลอดวัน ทว่ามันกลับแปลกที่ณธิปไม่ได้แจ่มใสขนาดนั้น ซึ่งสาเหตุก็มาจากคนคนเดิมอีกเช่นกัน


   “คุณเล็กดื่มกาแฟอย่างเดียวพอหรือคะ วันนี้ต้องทำกิจกรรมกับเด็กๆ และชาวบ้านตั้งแต่เช้าไปถึงเที่ยง แทบไม่มีเวลาพักเลย ให้เจี๊ยบตักข้าวต้มให้ดีไหมคะ” เลขานุการสาวเอ่ยกับเจ้านายด้วยความเป็นห่วง เพราะตารางวันนี้ค่อนข้างหนัก เธอกลัวว่าณธิปจะหมดแรงเสียก่อน


   “ฉันไม่หิว” ชายหนุ่มปฏิเสธโดยที่ดวงตารีเรียวจ้องมองไปที่ใครอีกคนซึ่งวุ่นวายอยู่ในโรงครัว


   เช้านี้กมลตื่นมาทักทายเขาตามปรกติ ก่อนจะไปล้างหน้าล้างตาและเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อเข้าช่วยงานที่โรงครัวอย่างขยันขันแข่ง เมื่อครู่ตอนที่เจี๊ยบเข้าไปขอกาแฟมาให้ เจ้าตัวก็เป็นคนชงเองกับมือ ทุกอย่างที่เห็นดูเหมือนจะดี แต่ณธิปรู้ว่ามันไม่ดี


   กมลยังคงเป็นกมล ไม่เขินอาย ไม่หลบสายตา ไม่พูดตะกุกตะกัก หรือทำตัวไม่ถูกกับเขา คล้ายเป็นคนละคนกับผู้ชายแก้มแดงที่ใช้ผ้าห่มเป็นเกาะกำบังเมื่อคืน ความปรกติที่เกิดขึ้นมันทำให้ณธิปรู้สึกคันยิบๆ ในหัวใจ เหมือนกับว่าเหตุการณ์ที่จูบกันนั้น เขาแค่ฝันไปคนเดียว ไม่ได้เกิดขึ้นจริง


   เพราะกมลไม่มีทีท่าหวั่นไหวเลยแม้แต่น้อย


   ชายหนุ่มนั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่สักพัก ขณะพยายามคิดว่าตัวเองพลาดที่ตรงไหน คู่กรณีของเขาก็เดินเข้ามาที่เต็นท์ พร้อมกับวางถ้วยข้าวต้มหมูบนโต๊ะสนามสองถ้วย



   “อะไรครับ” ณธิปมองข้าวต้มหมูควันฉุยแวบหนึ่ง ก่อนเงยหน้าขึ้นถาม

   “เห็นเจี๊ยบบอกว่าคุณดื่มกาแฟไปแค่ถ้วยเดียว ผมก็เลยตักมาเผื่อ” กมลว่าพลางทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม

   “ผมไม่หิว”

   “ทานสักหน่อยสิครับ วันนี้ต้องเหนื่อยแน่ๆ ถึงตารางจะบอกว่าไปเปิดโครงการและถ่ายรูปกับเด็กๆ พอเป็นพิธี แต่คงมีกิจกรรมหลายอย่างที่เราต้องทำ เห็นว่ามีให้ช่วยทำแปลงปลูกผักในโครงการอาหารกลางวันด้วยนะ”

   “ปรกติผมไม่กินข้าวเช้าอยู่แล้ว” ณธิปบอก เพราะปรกติเขาดื่มแค่กาแฟดำในมื้อเช้า จะไปหนักเอาตอนมื้อกลางวันมากกว่า

   “ผมก็ไม่ค่อนกินอะไรหนักๆ ตอนเช้าเหมือนกัน แต่วันนี้ต้องกิน คุณก็ฝืนกินสักหน่อยสิ อร่อยนะ” หนุ่มหน้าหวานบอกหลังจากเคี้ยวคำแรกหมดปาก



   ครั้นถูกคะยั้นคะยอขนาดนี้ ณธิปก็จำเป็นต้องตักกินสักหน่อย  อย่างน้อยก็จะได้ไม่เสียน้ำใจคนที่ยกมาให้เองกับมือ ข้าวต้มหมู่ร้อนๆ รสชาติกลมกล่อมและอร่อยกว่าที่ณธิปคิดไว้ เขาจึงกินได้โดยไม่ฝืนใจเหมือนทีแรก



   “คุณช่วยพวกพนักงานทำหรือเปล่า”

   “เปล่าหรอก ผมทำไม่เก่ง กลัวคนอื่นไม่อร่อย” กมลปฏิเสธ

   “คุณเนี่ยนะทำไม่อร่อย” เพราะเคยกินอาหารฝีมือของกมลมาแล้ว ณธิปจึงไม่เชื่อคำพูดถ่อมตนของคนคนนี้เท่าไร

   “ผมทำได้ก็จริง แต่ทำในปริมาณเยอะไม่ได้ครับ กะไม่ถูกว่าต้องปรุงในสัดส่วนเท่าไหร่ ให้คนที่ทำอาหารเป็นน่ะดีแล้ว”

   “อืม” ณธิปตอบรับสั้นๆ พลันสายตาก็เลื่อนไปหยุดมองริมฝีปากที่กำลังเป่าลมไล่ความร้อนจากข้าวในช้อน พอมองแล้วก็อดคิดถึงความรู้สึกอุ่นและนุ่มนิ่มของมันไม่ได้



   อยากสัมผัสอีกครั้ง…



   ทว่าคนเจ้าเล่ห์ก็ได้แต่คิด เพราะสถานการณ์ตอนนี้ไม่เอื้อให้ฉวยโอกาสจากคนหน้าหวานได้ อีกอย่างเขายังรู้สึกหน่วงๆ จากท่าทางปรกติของกมลอยู่เลย



   ดูเหมือนณธิปจะเผลอจ้องกมลนานเกินไป เพราะคนใจร้ายรู้สึกตัวเสียแล้ว “มีอะไรครับ”

   “ไม่มีอะไร”ณธิปบอกปัด

   “อ้อ…” กมลรับคำสั้นๆ แต่แววตาดูเคลือบแคลงสงสัยนิดๆ หากเจ้าตัวก็ไม่เอ่ยถาม แต่ตัดข้าวต้มเข้าปากเร็วๆ แทน

   “ทำไมรีบกินขนาดนั้น”

   “อีกเดี๋ยวเราต้องไปที่โรงอาหารใหม่ของเด็กๆ แล้วครับ ใกล้เวลาแล้ว”

   “งั้นหรือครับ” ณธิปพลิกข้อมือดูนาฬิกาจึงเห็นว่าเป็นเช่นที่กมลบอกจริงๆ

   “คุณเองก็รีบกินเถอะนะ จะได้ไปเตรียมตัวกัน” เมื่อถูกเร่ง ณธิปจึงจำต้องวางเรื่องส่วนตัวลงและทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายก่อน

   “ครับ”








   โรงอาหารเด็กๆ จากโรงเรียนบ้านป่างามถูกสร้างขึ้นใหม่จากงบประมาณที่ NP Group จัดให้ทางโรงเรียน และนอกจากจะมีงบจัดสรรให้แล้ว ตัวโครงการยังมีรายละเอียดต่างๆ ที่สนับสนุนให้ทางโรงเรียนสามารถผลิตอาหารด้วยตนเอง อย่างเช่นการส่งเสริมให้มีการเลี้ยงแม่ไก่พันธุ์ไข่ ทำโครงการผักสวนครัวของน้องเพื่อทานในโรงเรียน ซึ่งถ้าผลผลิตมากก็จะจัดหาตลาดในการกระจายสินค้าให้แก่เด็กๆ ด้วย



   อีกโครงการที่ทำเป็นโครงการสื่อการเรียนการสอน โดยมีการมอบอุปกรณ์ทางการศึกษาที่ขาดเหลือ เช่นคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์กีฬา และยังมีเครื่องมือสื่อสารทางไกลผ่านดาวเทียมที่เชื่อมต่อกับคุณครูพิเศษ โดยโครงการนี้จะเป็นรูปแบบเดียวกันกับทุกโรงเรียนที่ทาง NP Group ดูแลอยู่


   เริ่มแรกของกิจกรรมในวันนี้คือการเปิดโรงอาหารใหม่ ตามมาด้วยการช่วยกันทำแปลงผักสวนครัว จากนั้นจึงต่อไปที่การให้ความรู้เด็กๆ ในการเลี้ยงไก่แม่ไข่อีกด้วย


   แม้ทาง NP Group จะเคยทำโครงการประเภทนี้มาจนนับไม่ถ้วน ทว่าณธิปไม่เคยออกไปทำโครงการด้วยตัวเองสักครั้ง เขาพอเดาออกว่างานการกุศลประมาณนี้เป็นเช่นไร แต่พอมาสัมผัสด้วยตัวเอง ยามที่เด็กๆ ตั้งใจเรียนรู้เพื่อปากท้องของตัวเองในอนาคต หรือเวลาที่พวกชาวบ้านและคุณครูเข้ามาเอ่ยขอบคุณด้วยแววตาซึ้งใจ ณธิปคิดว่ามันเป็นประสบการณ์แปลกใหม่ที่ดีมากทีเดียว เนื่องจากมันทำให้เขาได้เห็นว่าตัวเองมีกำลังทำอะไรเพื่อคนอื่นมากแค่ไหน


มันทำให้ณธิปเห็นคุณค่าในตัวเองมากกว่าที่เคยเห็นมาทั้งชีวิต


หลังจากเปิดห้องคอมพิวเตอร์ใหม่และสาธิตการเชื่อมต่อการเรียนการสอนผ่านดาวเทียมเรียบร้อย ทุกคนก็ได้มีโอกาสใช้โรงอาหารใหม่ร่วมกัน ตั้งแต่เด็กๆ คุณครู ชาวบ้านบางส่วน ไปจนถึงคณะที่เดินทางมาจากกรุงเทพฯ


โต๊ะทานอาหารตัวยาวที่สร้างขึ้นมาใหม่ถูกจับจองแน่นขนัด แต่ทุกคนก็พร้อมแบ่งปันรอยิ้มให้กันและกันโดยที่ไม่มีใครบ่นว่าร้อนหรืออึดอัดเลยสักคนเดียว


ณธิป ผู้ใหญ่บ้านและครูใหญ่ถูกจัดให้นั่งฝั่งหัวโต๊ะตัวหน้าสุด ระหว่างที่คุยเรื่องการเรียนการสอนและทิศทางการศึกษาของเด็กๆ ณธิปก็คอยลอบสังเกตคนที่มีรอยยิ้มประดับบนใบหน้าตั้งแต่ได้พบเด็กๆ กระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่เลิกเดินดูแลเด็กคนนั้นคนนี้


ใบหน้าหวานๆ ของชายหนุ่มดูอ่อนโยนจนบางทีก็อดหวงไม่ได้ ทว่าณธิปก็ต้องข่มใจ เพราะรู้ดีว่ากมลรักเด็กยิ่งกว่าอะไร เขาขอแค่ได้เห็นรอยยิ้มสุขใจของกมลเป็นการตอบแทน ไม่ว่าขัดเคืองใจเรื่องใดก็มองข้ามไปได้หมด



“หลังจากนี้ผมจะติดตามผลของโครงการเรื่อยๆ ถ้าหากว่าทางโรงเรียนมีปัญหาอะไรสามารถแจ้งได้ทันทีเลยนะครับ” ณธิปบอกกับครูใหญ่หลังจากทานอาหารเสร็จ

“ขอบคุณครับ คุณณธิป”

“ไม่ต้องขอบคุณผมหรอกครับ พวกเราพอช่วยได้ก็ถือว่าช่วยกันครับ เด็กๆ จะได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น”

“ผมขอบคุณแทนเด็กๆ จริงๆ” คุณครูใหญ่ว่า ณธิปจึงได้แต่ยิ้มรับ

“ยังไงเดี๋ยวผมต้องขอตัวไปในหมู่บ้านก่อนนะครับ พวกแม่บ้านคงรออยู่ พอดีผมนัดคุยเรื่องผ้าทอไว้”

“เชิญครับๆ” เห็นว่าคนคิวยุ่งไม่มีเวลา ครูใหญ่จึงไม่รั้งไว้อีก ทว่าก่อนที่ณธิปจะเข้าไปชวนกมลให้ไปด้วยกัน ครูใหญ่ก็เรียกณธิปไว้ก่อน เพื่อจะแจ้งเรื่องสำคัญ “คุณณธิปครับ”

“ครับ?”

“คืนนี้ผมและพวกชาวบ้านจะจัดเลี้ยงคุณกับคณะฯ จะมีการแสดงเล็กๆ น้อยๆ จากเด็กๆ ด้วย ไม่ทราบมีใครแจ้งคุณหรือยังครับ”

“ยังเลยครับ”

“ถ้าอย่างนั้น ผมเป็นตัวแทนเชิญคุณเลยแล้วกันนะครับ”

“ด้วยความยินดีครับ ว่าแต่งานจะเริ่มประมาณกี่โมง ผมจะได้แจ้งกับทุกคนอีกครั้ง”

“ประมาณหนึ่งทุ่มตรงครับ ที่ลานรวมของหมู่บ้าน” เพราะสนามโรงเรียนถูกจับจองโดยเต็นท์ของคณะเดินทาง สถานที่จัดเลี้ยงจึงเป็นที่ลานรวมของหมู่บ้านแทน

“ครับ ผมกับทุกคนในคณะฯ จะไปร่วมแน่นอน ขอบคุณมากนะครับ” เมื่อรับปากเรียบร้อยณธิปก็หันไปหาเลขาฯ ส่วนตัวซึ่งยืนคุยบางอย่างอยู่กับกมลและเด็กหญิงคนหนึ่ง ท่าทางกำลังสนุกได้ที่ เพราะกมลยิ้มจนตาแทบปิดให้เด็กน้อยคนนั้น


เมื่อเลขาฯ คนเก่งเห็นเขาเดินเข้าไปหา เธอจึงรีบถามทันที “คุณเล็กมีอะไรให้เจี๊ยบทำหรือเปล่าคะ”


“คืนนี้ครูใหญ่กับชาวบ้านจะเลี้ยงอาหารค่ำพวกเรา พร้อมกับมีการแสดงของเด็กๆ ให้ดูด้วย เจี๊ยบไปกระจายข่าวบอกทุกคนทีว่าทุกคนได้รับเชิญ”


“แล้วพวกนักข่าวล่ะคะ เห็นว่าบางคนจะกลับกันบ่ายนี้ เพราะต้องรีบกลับไปทำข่าวนั้นน่ะค่ะ…” ตรงประโยคหลังเจี๊ยบเบาเสียงลงเล็กน้อย

“ก็ชวนไปด้วย แต่บอกว่าไม่บังคับ ใครอยากอยู่ก็อยู่ ใครจะกลับก็ตามกำหนดการเดิม เราจะให้รถไปส่งที่สนามบิน”

“ได้ค่ะ เจี๊ยบจะรีบจัดการให้ แต่ว่าตอนนี้คุณเล็กต้องรีบแล้วนะคะ กลุ่มแม่บ้านคงรอแล้วค่ะ”

“ได้ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้” เมื่อตกลงกับเลขาฯ ส่วนตัวเรียบร้อย ณธิปก็เข้าไปหากมลที่เพิ่งบอกลาเด็กน้อยคนนั้นไปพอดี

“มีอะไรกันหรือครับ” กมลถามขึ้น เพราะเห็นว่าณธิปยืนคุยกับครูใหญ่อยู่นานสองนาน

“คืนนี้จะมีงานเลี้ยงที่พวกชาวบ้านจัดให้พวกเราน่ะ ครูเขาก็เลยเชิญไป มีการแสดงของเด็กๆ ด้วยนะ”

“จริงหรือครับ ดีจังเลย” กมลยิ้มกว้างจนแก้มบุ๋ม แม้จะรู้สึกเกรงใจพวกชาวบ้านและคณะครู แต่ก็ไม่คิดปฏิเสธเพราะรู้ว่าทุกคนตั้งใจจัดให้เพื่อเป็นการขอบคุณ


“อืม” ณธิปรับคำ ก่อนถาม “ว่าแต่เมื่อกี้คุณคุยอะไรกับเด็ก เห็นยิ้มหวานเชียว”

“อ๋อ เด็กๆ เขาชวนไปเล่นน้ำตกที่ท้ายหมู่บ้านน่ะครับ น้ำตกที่ผู้ใหญ่บ้านบอกเราเมื่อวานไง”

“อย่างนั้นหรือ”

“ครับ นี่ผมก็กำลังจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้า” กมลว่า ก่อนจะเอ่ยปากชวน “คุณอยากไปด้วยกันไหมครับ”

“เห็นสนใจแต่เด็กๆ นึกว่าจะไม่ชวนผมเสียแล้ว” ท่าทางแง่งอนนั่นไม่ได้น่ารักเหมือนเด็กทำเลยสักนิด มีแต่ทำให้กมลนึกขำมากกว่า

“หึๆ” คนหน้าหวานหัวเราะเบาๆ “ว่าแต่จะไปไหมครับ”

“ไปสิ” ไม่ต้องเสียเวลาคิด ณธิปก็รับปากทันที ”แต่ผมต้องไปคุยเรื่องผ้าทอกับพวกกลุ่มแม่บ้านก่อน คุณไปกับผมก่อนนะ เสร็จแล้วเราจะได้เดินไปน้ำตกพร้อมกัน”

“อืม…” กมลทำท่าคิดเล็กน้อย ก่อนพยักหน้าตกลง “ก็ได้ครับ”

“ถ้าอย่างนั้นเราก็รีบกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้ากันก่อน จากนั้นค่อยรีบไปพบกลุ่มแม่บ้านดีไหม”

“ครับ” ครั้นกมลพยักหน้ารับแล้ว พวกเขาจึงเดินกลับเต็นท์ไปด้วยกัน








เมื่อณธิปและกมลไปถึงบ้านที่กลุ่มแม่บ้านนัดไว้ พวกเขาก็พบว่าทุกคนมาคอยอยู่แล้ว โดยมีผลงานที่ทำเก็บไว้ขายส่งให้ตลาดกลางเมืองเชียงใหม่มากมายวางไว้ให้ทั้งสองดูตัวอย่าง


ณธิปสนใจผ้าทอพื้นเมืองเหล่านี้เพราะมันน่าจะนำไปใช้กับโรงแรมของเขาได้ ซึ่งพอได้เลือกดูลายและสีใกล้ๆ ชายหนุ่มก็ตัดสินใจสั่งออเดอร์ กับกลุ่มแม่บ้านทันที



“ผมจะให้เลขาฯ ถ่ายรูปทั้งหมดไปเลือกที่กรุงเทพฯ หลังจากนั้นจึงจะสั่งแบบและสีที่ใช้กับโรงแรมของผมได้อีกครั้งนะครับ ออเดอร์อาจจะมากหน่อย ถ้าต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ก็แจ้งกับทางเราได้เลย”



ณธิปอยากได้ผ้าไปประดับโรงแรมในเครือสาขาเชียงใหม่ เพราะนอกจากเขาจะได้ผ้าที่มีลายเป็นเอกลักษณ์แล้ว ยังสามารถสร้างงานให้ชาวบ้านป่างามเพิ่มอีกด้วย


“ขอบคุณนะคะคุณ” พวกเธอเอ่ยด้วยความดีใจ

“ไม่เป็นไรครับ ถือว่าเราทำงานร่วมกัน ถ้ามีตรงไหนสงสัย ถามคุณเจี๊ยบ เลขาฯ ของผมได้เลย เธอจะตอบทุกอย่าง”



เมื่อดูงานและสั่งการเรียบร้อย ณธิปก็พากมลออกมาจากตัวบ้าน พวกเขาสองคนเดินเคียงกันไปถึงน้ำตก โดยมีบอดี้การ์ดของณธิปเดินตาม แม้ความจริงณธิปอยากได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่านี้ ทว่าเพื่อความปลอดภัย เขาจึงยอมให้คนอารักขาตามมาด้วย



ทันทีที่มาถึงพวกเขาก็ได้ยินเสียงเด็กๆ ดังโหวกเหวกมาก่อนตัว จากตรงนี้กมลก็ก้าวขาเร็วๆ เข้าไปหาเด็กน้อยที่ชาวเขา โดยทิ้งเพื่อนร่วมทางไว้ด้านหลัง



“ทิ้งกันเลยนะ” ณธิปบ่นอิบอุบเล็กน้อย ก่อนจะเร่งฝีเท้าเดินตามไป



สาวน้อยคนนั้นพากมลไปเล่นน้ำกับเพื่อนๆ ของเธอที่น้ำตกชั้นหนึ่ง มันมีลักษณะเป็นแอ่งกว้าง ไม่สูงและไม่ลึกมากนัก จึงปลอดภัยสำหรับเด็กๆ



ณธิปไม่ได้ลงไปเล่นน้ำอย่างที่บอก ความจริงเขาไม่ได้คิดว่าอยากเล่นเลยสักนิด เพียงแต่ตามมาเพราะอีกฝ่ายชวนเท่านั้น ชายหนุ่มจึงเลือกเดินไปนั่งอยู่ใต้ต้นทองกวาวที่ขึ้นอยู่ไม่ไกลจากตรงนั้นเท่าใด ด้วยตรงจุดนี้เป็นจุดที่มองเห็นกมลได้ชัดที่สุด



หนุ่มหน้าหวานที่กำลังเล่นน้ำกับเด็กๆ จนดูคล้ายจะกลายเป็นเด็กไปอีกคน ยามนี้ณธิปมองไม่เห็นภาพคุณไอสุดเนี้ยบของทุกคนเลยสักนิด ตรงกลางกลุ่มเด็กชาวเขามีเพียงผู้ชายยิ้มสวยท่าทางใจดีคนหนึ่งเท่านั้น



กระทั่งเวลาผ่านไปพักใหญ่ ดูเหมือนคุณไอคนดีจะเพิ่งนึกได้ว่าพาณธิปมาด้วย เจ้าตัวจึงเดินกลับมาที่ชายฝั่ง แล้วเอ่ยเรียกคนที่นั่งหลับตาพิงต้นทองกวาว


“คุณเล็กครับ”

“หืม?” ณธิปลืมตาขึ้นมาทันที เพราะเขาแค่พักสายตาเท่านั้น ไม่ได้หลับไปจริงๆ

“คุณกลับเต็นท์ไปก่อนดีไหม ผมเกรงใจ ไม่ต้องนั่งรอหรอกครับ”

“ไม่เป็นไร ผมจะกลับพร้อมคุณ” ณธิปบอก

“ถ้าอย่างนั้นมาเล่นน้ำด้วยกันไหมครับ”

“ไม่เอาล่ะ คุณเล่นกับเด็กๆ เถอะ” ณธิปเอ่ยปฏิเสธ

“ถ้าอย่างนั้นก็ได้ครับ แต่ถ้าคุณจะกลับก่อนก็ไม่เป็นไรนะ แต่ตะโกนบอกผมหน่อย ผมจะได้รู้ว่าคุณกลับ…แล้ว” กมลเอ่ย ทว่าท้ายประโยคปากของชายหนุ่มสั่นเล็กน้อย เสียงจึงสั่นตามไปด้วย

“คุณไอ”

“ครับ?”

“คุณหนาวหรือเปล่า ทำไมปากสั่นอย่างนั้น” ณธิปเอ่ยด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง

“นิดหน่อยครับ เพราะเดินขึ้นมาบนนี้เลยโดนลมพัด แต่ไม่เป็นไรหรอกนะ” คนหน้าหวานว่า

“ได้ยังไงล่ะ” ณธิปขมวดคิ้ว ก่อนจะลุกจากที่นั่งแล้วเดินลงไปหากมลในน้ำ

“ลงมาทำไมคุณเล็ก ผมไม่เป็นไรจริงๆ”

“แต่ปากคุณซีดแถมยังสั่นแล้วนะ” ณธิปเอ่ยประโยคนี้ตอนเดินมาถึงตัวกมลแล้ว

“ผมไม่…”



เสียงที่กำลังจะเอ่ยออกมาขาดหายไปทันทีที่อุ้มมือหนาคว้าจับเข้าที่ปลายคาง ก่อนนิ้วโป้งอุ่นๆ ของคนตัวสูงกว่าจะค่อยๆ ลากไล้ผ่านริมฝีปากเรียวซึ่งสั่นน้อยๆ ของกมล


“ดูสิ ปากคุณเย็นไปหมด”


ณธิปทำเสียงจิ๊จ๊ะราวกับขัดใจเสียเต็มประดา ทว่าการกระทำของเขากลับทำให้กมลรู้สึกว่าความหนาวเย็นถูกผลักออกไปโดยพลัน ซ้ำยังแทนที่ด้วยความเห่อร้อนซึ่งมากขึ้นทุกทีที่นิ้วร้ายๆ นั่นแตะต้องริมฝีปาก เนื่องจากมันย้ำให้ภาพที่พยายามไม่นึกถึงผุดขึ้นมาในสมอง



“ไอ…คุณกำลังจะเป็นไข้หรือเปล่า”

“ทะ…ทำไมครับ” เสียงเบาหวิวเอ่ยถาม

“หน้าคุณแดงมาก แถมตัวเริ่มร้อนแล้ว”

“ผมไม่ได้เป็นอะไร คุณเอามืออกจากปากผมสักที”



กมลยกมือขึ้นคว้ามือของณธิปที่เชยคางของตนเองไว้ ด้วยคิดจะดึงให้อีกฝ่ายเลิกแตะตัวเขาแบบนี้ ทว่าทันทีที่ดวงตารีเรียวของณธิปเบิกกว้างเล็กน้อยเหมือนเข้าใจอะไรบางอย่าง มืออีกข้างที่ว่างก็คว้าเอวของกมลให้ขยับเข้ามาชิดแทน



“คุณเล็ก…!!”



เนื่องจากหินที่อยู่ในน้ำค่อนข้างลื่น คนที่ทรงตัวไม่ดีจึงถลาเข้าไปแนบชิดคนฉวยโอกาสจนหน้าเกือบจะซุกอกอีกฝ่ายอยู่รอมร่อ



“หึๆ ผมนี่มันบ้าจริงๆ” ทั้งที่ณธิปกำลังว่าตัวเอง แต่เสียงที่กมลได้ยินกลับดูเหมือนชายหนุ่มยินดีเป็นคนบ้าเสียเต็มประดา

“คุณเล็ก…ปล่อยผมได้แล้วครับ”

“หึ” นอกจากณธิปไม่ฟัง ชายหนุ่มยังหัวเราะในลำคออย่างชั่วร้าย ก่อนจะโน้มตัวลงมาคล้ายต้องการจุมพิตอย่างไรอย่างนั้น



ภาพที่ตัวเองเสียรู้ให้ณธิปเมื่อคืนแล่นเข้ามาในหัวเป็นฉากๆ กมลหลับตาปี๋ทันทีด้วยสัญชาตญาณ เพราะคิดว่ามันอาจกำลังเกิดขึ้นอีก แต่แทนที่เขาจะถูกสัมผัสตรงตำแหน่งเดียวกับเมื่อคืน กมลกลับรู้สึกถึงลมร้อนที่เป็นรดกกหูแทน



“นี่เป็นการลงโทษที่คุณ…เก็บความรู้สึกเก่งเกินไป” พูดจบณธิปก็แตะริมฝีปากลงบนแก้มนิ่ม ตำแหน่งที่เดิมเคยมีลักยิ้มบุ๋มๆ ปรากฏยามที่คนหน้าหวานยิ้ม

“…” กมลยืนแข็งทื่อ พูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว



ท่ามกลางเสียงน้ำตกและเสียงลมพัดใบไม้ อยู่ๆ เสียงเด็กๆ ที่เหมือนขาดหายไปในตอนแรกก็ดังขึ้นจากทางด้านหลัง เป็นทำนองเดียวกันว่า



แก้มตังใด ตังซ้ายว่าตังขวา แก้มซ้ายหอมแล้วตะวา แก้มขวาหอมแล้วตะคืน~ แก้มตังใด ตังซ้ายว่าตังขวา แก้มซ้ายหอมแล้วตะวา แก้มขวาหอมแล้วตะคืน~



“ฮ่าๆๆ”



คนหน้าไม่อายหัวเราะลั่น กมลจึงได้สติแล้วดิ้นพาตัวเองออกมาจากอ้อมกอด จากนั้นก็วักน้ำใส่ณธิปไม่ยั้งจนอีกฝ่ายเปียกไปหมด ก่อนจะเดินขึ้นจากน้ำเพื่อกลับที่พัก



“เดี๋ยวสิคุณ! จะกลับแล้วหรือครับ” 

“กลับแล้ว” กมลตอบห้วนๆ โดยไม่หันกลับไปมองเพราะเพลงที่เด็กๆ ร้องยังคงดังอยู่

แก้มตังใด ตังซ้ายว่าตังขวา แก้มซ้ายหอมแล้วตะวา แก้มขวาหอมแล้วตะคืน~ แก้มตังใด ตังซ้ายว่าตังขวา แก้มซ้ายหอมแล้วตะวา แก้มขวาหอมแล้วตะคืน~



เมื่อเช้าเขาสู้อุตส่าห์อดกลั้นไม่แสดงอาการผิดปรกติออกมา หวังว่าณธิปจะได้เลิกพูดถึงให้เขาได้อาย แต่ไม่นึกเลยว่าจนแล้วจนรอด ก็ต้องเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้เขาอดทนเอาไว้ไม่ได้อยู่ดี มิหนำซ้ำคราวนี้มีคนเห็นเยอะแยะอีกด้วย



คนหน้าไม่อายเอ้ย!…กมลก่นด่าในใจ ก่อนจะรีบสาวเท้าเดินหนีให้ไวที่สุด คราวนี้ไม่ว่าจะเป็นปาก แก้มซ้ายหรือแก้มขวา เขาก็ไม่รู้ด้วยแล้ว





<
><><><><><><><><><><><><><>






คุณเล็ก! คนหน้าไม่อาย คนอยู่เยอะแยะ ทำอะไรประเจิดประเจ้อมากๆ
ไว้ทำลับหลังกันสองคนสิเนอะคุณไอ /โดนข่วน 55555
ช่วงนี้ฝนยุ่งค่ะ แต่พยายามจะมาลงวันศุกร์ให้ได้เหมือนเดิม เรานัดกันวันศุกร์นะ
แต่ถ้าศุกร์ไหนมาไม่ได้จะแจ้งในเพจนะคะ

เจอกันตอนหน้าค่ะ

ปล.เพลงที่ใช้เป็น เพลง ม๊ะฮื้อหอมแก้มกำ ของศิลปิน ป้อต่อน ลูกตูน ค่ะ


ละอองฝน.

หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 31 [07/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 07-01-2018 23:43:43
น้ำตกหวานก็งานนี้
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 31 [07/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 07-01-2018 23:54:24
สักขีพยานเพียบ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 31 [07/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: Mengjie_JJ ที่ 07-01-2018 23:56:49
 :-[

เขินแทนคุณไอ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 31 [07/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 08-01-2018 01:19:51
 :o8:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 31 [07/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: +pEnGuIn+ ที่ 08-01-2018 09:13:55
เอาอีกกกกกกกก :ling1: :ling1:
ตอนแรกจะหน่วงตามคุณเล็กแล้วเชียว
แต่พอคุณไอเขินก็เล่นเอาน้ำตกหวานเชียวนะคะ
คุณเล็กทำดีมาก พยานเป็นเด็กๆซะด้วย อิอิ
อยากอ่านต่อเลย ขอให้วันศุกร์เร็วๆ  :katai4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 31 [07/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 08-01-2018 12:31:07
 :impress2: o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 31 [07/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: khwanruen ที่ 08-01-2018 23:40:49
แถวน้ำตกคงมีแต่มด  :mew1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 31 [07/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 09-01-2018 00:04:08
แอบใจเสียแทนคุณเล็กที่แท้ก้อ... :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 31 [07/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 09-01-2018 09:07:45
คุณเล็ก ข่นหน้าไม่อาย
แอร๊ยยยย  :-[ :-[
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 31 [07/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 09-01-2018 22:06:49
แหม ใครเขาจูบแล้วมาทำหน้าระริกระรี้อยู่ละคะคุณเล็ก คนออกเยอะแยะ
คุณไอขี้อายนะเออ ทำให้เขินหนัก ๆ เดี๋ยวอดนะจะบอกให้
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 32 [13/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: ละอองฝน ที่ 13-01-2018 06:32:56








คุณคือความรัก บทที่ 32








   ณธิปรู้สึกว่าเขากำลังถูกกมลงอนเข้าให้เสียแล้ว เพราะตั้งแต่กลับมาจากน้ำตก คนใจร้ายก็ไม่ยอมพูดยอมจากับเขาสักคำ ตอนแรกณธิปก็คิดว่าบางทีกมลอาจจะแค่เขินเท่านั้น แต่พอเข้าไปคุยด้วย อีกฝ่ายกลับถามคำตอบคำแล้วเดินหนีไปเฉยๆ นั่นทำเอาชายหนุ่มถึงกับไปไม่เป็น



   หรือที่ทำลงนั้นจะมากเกินไป…ณธิปได้แต่คิดและถามย้ำกับตัวเอง ทว่าสุดท้ายก็ไม่ได้คำตอบ เพราะจริงๆ แล้วคนที่รู้ดีที่สุดก็คือกมลนั่นเอง



   กระนั้นผู้บริหารหนุ่มแห่ง NP Group ก็ไม่ยอมแพ้ ด้วยมีประสบการณ์มาแล้วครั้งหนึ่ง ดังนั้นเขาจึงตั้งใจจะพิสูจน์ให้รู้แน่ชัดกันไปเลยว่ากมลเป็นอะไร ไม่ว่าจะแค่เขินอายหรือโกรธเคือง ณธิปบอกตัวเองว่าเขาต้องรู้ให้ได้ เพราะถ้ากมลแค่เขิน เขาจะไปต่ออีกขั้นหนึ่ง แต่ถ้ากมลไม่พอใจ เขาจะได้ขอโทษให้เป็นเรื่องเป็นราว



   ดังนั้นระหว่างที่กมลอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ณธิปจึงรีบอาบน้ำด้วยเช่นกัน เพราะถ้าเกิดกมลเสร็จก่อนแล้วหนีไปอยู่กับคนอื่นๆ กว่าจะได้ถามกันจริงๆ ก็คงดึกๆ หลังเลิกงานเลี้ยงของครูใหญ่



   ทว่าเมื่อณธิปอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยและเดินกลับมาที่เต็นท์ เขาก็พบทินกร พนักงานของ I promise คนหนึ่งซึ่งเป็นลูกชายของผู้ใหญ่บ้านนั่งอยู่ที่เต็นท์กับกมลด้วย ท่าทางคุยกันเคร่งเครียดราวกับมีอะไรบางอย่าง



เมื่อทั้งคู่สังเกตเห็นเขาเข้ามาใกล้ การสนทนาก็หยุดชะงักลง ณธิปจึงไม่รู้ว่าเจ้านายกับลูกน้องคู่นี้กำลังปรึกษาอะไรกันอยู่



   คนตาเรียวจึงเลือกเดินเลี่ยงๆ เข้าเต็นท์มาก่อนเพื่อผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้า จากนั้นก็รีบออกมาหากมลกับลูกชายผู้ใหญ่บ้านทันที



   “มีเรื่องอะไรกันหรือเปล่าครับ” ณธิปถามออกไปทันทีไม่คิดอ้อมค้อม ทินกรมองสบตากมลอย่างมีนัยยะบางอย่าง คนหน้าหน้าจึงพยักหน้าให้ จากนั้นก็หันมาตอบณธิป

   “ช่องXXXเสนอข่าวของรัฐมนตรีทรงศักดิ์แล้วครับ”

   “ตอนไหน” ณธิปถามพลางทรุดตัวนั่งตรงเก้าอี้สนามข้างๆ กมล

   “เมื่อเย็นครับ เป็นข่าวช่วงเย็น”

   “อย่างนั้นหรือ ไหนมีรายละเอียดหรือเปล่า ผมขอดูหน่อย”

   “นี่ครับ” ว่าจบกมลก็ยื่นแท็บเล็ตให้ณธิป บนหน้าจอปรากฏคลิปข่าวที่ณธิปถามหา ชายหนุ่มจึงกดเล่นคลิปนั้นทันที



   ภาพข่าวถนนที่ถูกตัดขึ้นไปบนรีสอร์ทผิดกฎหมายของรัฐมนตรีทรงศักดิ์และเสียงร้องเรียนจากชาวบ้าน รวมทั้งเอกสารบางส่วนที่แสดงว่าได้มีการยื่นเรื่องร้องเรียนเข้าไปแล้ว ทว่าทุกอย่างก็หายเงียบราวกับไม่มีใครทำอะไรได้ถูกตีแผ่ออกมาโดยสำนักข่าวช่องดัง



ณธิปยิ้มออกมาทันทีที่ดูจนจบ ด้วยเขาคิดว่าคลิปความยาวสามนาทีนี้ รวมถึงเสียงจากผู้ใหญ่บ้านที่ถามหาความถูกต้องก่อนนักข่าวตัดเข้าประเด็นข่าวอื่น จะเป็นตัวจุดกระแสให้คนในโลกออนไลน์พูดถึงและติดตามเรื่องนี้อย่างถึงพริกถึงขิงแน่นอน



“ไม่คิดว่าทางช่อง XXX จะเสนอข่าวเร็วขนาดนี้ หลังจากนี้ทางสำนักข่าวอื่นๆ คงรีบทำข่าวนี้เหมือนกัน เดี๋ยวผมจะให้เจี๊ยบคอยดูความเคลื่อนไหวในโซเชียลไว้ ว่าทิศทางของเรื่องจะไปทางไหน” ณธิปบอกกับกมล

“คุณว่าเขาจะทำอะไรพวกชาวบ้านหรือเปล่า ผมกับทินกำลังปรึกษากันเรื่องนี้ พวกเราไม่อยากให้ชาวบ้านเดือดร้อน”



ทั้งที่ตอนแรกกมลก็คุยกับณธิปแล้ว แต่พอเห็นข่าวที่ออกมา รวมทั้งกระแสสังคมที่กมลเพิ่งเข้าไปเช็คหมาดๆ เมื่อครู่ ชายหนุ่มก็นึกกลัวว่าทางรัฐมนตรีทรงศักดิ์จะเล่นงานชาวบ้าน โดยเฉพาะผู้ใหญ่บ้าน



“เขาไม่กล้าหรอก เพราะยิ่งคนรู้มาก เขายิ่งขยับตัวยาก” ณธิปว่า

“แต่ผมก็ยังเป็นห่วงคนในหมู่บ้านอยู่ดีครับ” เพราะความรุนแรงและความเสียหายที่กำลังจะเกิดกับทรงศักดิ์ทำให้กมลไม่อาจไว้วางใจได้

“ไม่ต้องห่วง ผมติดต่อตฤณแล้ว หลังจากนี้คงต้องให้ตำรวจเข้ามาช่วยดูแล”

“ไว้ใจได้ไหมครับ” ไม่ใช่กมลไม่เชื่อในกระบวนการยุติธรรม แต่เขาก็ยังหวั่นในอิทธิพลของทรงศักดิ์อยู่ดี


“ไว้ใจได้ เพราะเป็นคนฝ่ายเรา คุณไม่ต้องห่วง อีกอย่างตอนนี้ทรงศักดิ์คงกำลังหัวหมุนเชียวล่ะ เขาไม่มีเวลามาทำร้ายพวกชาวบ้านหรอก น่าจะกำลังหาทางแก้ต่างให้ตัวเองอยู่ และเหมือนที่ผมเคยบอกคุณไปแล้ว เขาทำร้ายใครหลังจากที่เรื่องแดงไม่ได้แน่นอน เพราะจะตกเป็นจำเลยอีกข้อหาทันที ด้วยแรงจูงใจมันพุ่งไปทางเขา” พูดกับกมลแล้ว ณธิปก็หันไปบอกทินกร “บอกผู้ใหญ่ให้เข้าใจด้วยเรื่องที่จะมีตำรวจเข้ามาช่วยคุ้มครอง”


“ผมจะบอกพ่อให้ครับ”

“แต่ถ้ามีอะไรไม่ชอบมาพากลให้ติดต่อหาฉันได้โดยตรง ผู้ใหญ่เขารู้วิธีติดต่อกับฉันอยู่แล้ว”

“ขอบคุณคุณเล็กมากนะครับที่ช่วยเหลือ ถ้าไม่ได้คุณ พวกเราคงลำบากมากกว่านี้” ทินกรเอ่ยด้วยความซาบซึ้งใจ



แม้ก่อนหน้านี้เขาจะไม่ค่อยไว้ใจเมื่อกมลเล่าให้ฟังว่าณธิปจะเข้ามาช่วย แต่ตอนนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว เพราะนอกจากณธิปจะจริงจังกับเรื่องนี้มาก ชายหนุ่มยังพึ่งพาได้อีกด้วย



“ไม่เป็นไร ยังไงพวกเราก็ลงเรือลำเดียวกันแล้ว นายก็อย่าลืมบอกกับพ่อด้วยแล้วกันว่าไม่ต้องเกรงใจ มีอะไรให้ติดต่อไปทันที เราจะได้แก้ไขและช่วยเหลือกันทัน”

“ครับ” ทินกรพยักหน้า ก่อนจะเอ่ยลากมลและณธิป เนื่องจากมีหลายอย่างที่ต้องจัดการ “เดี๋ยวผมขอกลับไปคุยกับพ่อที่บ้านก่อนนะครับ เจอกันที่งานเลี้ยงครับ”

“อืม” ณธิปพยักหน้ารับ กมลเองก็เช่นกัน

“ไปเถอะ”



หลังจากทินกรไปแล้ว ณธิปก็วางแท็บเล็ตลง ก่อนจะหันมาสนใจคนข้างกายที่ก่อนหน้านี้ยังทำท่ามึนตึงใส่กัน ใบหน้าหวานๆ ของกมลดูไม่ดีเท่าไร คล้ายกับเจ้าตัวกำลังกังวล ซึ่งกมลจะไม่ค่อยแสดงสีหน้าเช่นนี้บ่อยนัก ทว่าณธิปก็จับสังเกตได้



“คุณคิดมากหรือ” เจ้าของเสียงทุ้มเอ่ยถาม

“ผมกังวลนิดหน่อย” กมลยอมรับตรงๆ

“กลัวทรงศักดิ์ทำร้ายพวกชาวบ้านใช่ไหม” ณธิปปถามต่อ

“เรื่องนั้นก็ด้วยความ แต่ว่า…” ชายหนุ่มเลียริมฝีปากแห้งผากของตัวเอง ด้วยสิ่งที่กำลังจะพูด เป็นประโยคที่ยากจะเอ่ย ดวงตาดังสวยๆ คู่นั้นเหลือบมองณธิปเล็กน้อย จนคนถูกมองอดไม่ไหว


“แต่อะไรครับ คุณอย่าเงียบไปอย่างนี้สิครับ” ณธิปว่าพลางยกตัวขึ้นนิดๆ เพื่อขยับเก้าอีกเข้าไปใกล้กมลมากขึ้น “นี่…รู้สึกไม่สบายใจอะไรก็พูดออกมาเถอะ ไม่ว่าเรื่องชาวบ้านหรือเรื่องทรงศักดิ์ ตอนนี้เราลงเรือลำเดียวกันแล้วนะครับ อย่างน้อยถึงผมช่วยแก้ไม่ได้ในทันที แต่มันก็ดีกว่าเก็บคุณเก็บความกังวลไว้คนเดียวนะ”



ครานี้กมลไม่แค่เหลือบมองณธิป แต่หันไปจ้องเต็มๆ ตา เพราะรู้สึกอุ่นๆ ในอกจากคำพูดของชายหนุ่ม ตั้งแต่ได้รับความช่วยเหลือจากณธิป ดูเหมือนกมลรู้สึกว่าตัวตนอีกด้านหนึ่งของคนคนนี้ชัดขึ้นในสายตาเขา จนเกือบลืมไปแล้วว่าเวลานี้เมื่อปีที่แล้วตนเองคิดยังไงกับคนอย่างณธิป โชติตระกูล



ถ้าไม่ได้เปิดใจคุยกันเช่นนี้ กมลคงไม่รู้ว่าณธิปเองก็พูดให้กำลังใจคนอื่นได้ คงไม่รู้ว่าผู้ชายท่าทางไม่น่าคบจะอ่อนโยนได้ถึงขนาดนี้



เขาไม่รู้เลยว่ามันคือภาพลวงตาที่คนเจ้าชู้สร้างขึ้น เป็นตัวตนจริงๆ หรือเป็นความจริงที่ออกมาจากใจ กระนั้น ยามที่มองเข้าไปในดวงตาเรียวๆ คู่นี้ กมลก็สรุปเอาเองว่ามันคงเป็นความจริงใจ หาใช่สิ่งที่เจ้าตัวเสแสร้ง และด้วยคิดว่ามันคือความจริงใจ กมลจึงต้องยอมรับและทำความเข้าใจกับตัวเองว่า กำแพงน้ำแข็งสูงชันที่กั้นพวกเขาสองคนเอาไว้กำลังละลายลงมาช้าๆ



“ว่ายังไงครับ คิดเรื่องอะไรอยู่ เห็นคุณทำคิ้วขมวดอย่างนี้ ผมใจไม่ดีเลยนะ” ณธิปใจไม่ดี เพราะกลัวว่าที่กมลไม่ยอมพูดต่อ เนื่องจากนึกขึ้นได้ว่ากำลังงอนเขาเรื่องโดนหอมแก้มที่น้ำตก

“คุณคิดว่าเขาจะรู้ไหมครับ ว่าเป็นฝีมือพวกเรา” ทว่าสิ่งที่กมลเอ่ยออกมา กลับไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องที่ณธิปมีชนักติดหลังอยู่สักนิด

“รัฐมนตรีทรงศักดิ์น่ะหรือ”

“ครับ”

“ตอนนี้อาจจะไม่รู้ แต่สักพักคงระแคะระคาย ถึงอย่างนั้นเขาทำอะไรคุณไม่ได้หรอก ไม่ต้องห่วง”

“แล้วคุณล่ะ”



เมื่อนึกดูดีๆ แล้ว กมลพบว่าเขาไม่ได้กลัวตัวเองลำบากสักเท่าไร แต่สิ่งที่เขากลัวและกังวลมากๆ คือ กลัวทำให้ณธิปเดือดร้อน เนื่องจากคนที่ออกหน้าทุกอย่างคือณธิป ทั้งที่เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของณธิปเลยสักนิด



ได้ฟังที่กมลถาม ณธิปก็นิ่งไปสักพัก ก่อนประมวลผลได้ว่าคำถามของกมลมีความหมายว่าอะไร


“คุณห่วงผมหรือครับ”

“ก็คุณเป็นคนออกหน้า อีกอย่างเขาก็รู้จักคุณ ผมกลัวว่าคุณจะเดือดร้อน”

“หึๆๆ”



ครั้นได้ยินณธิปก็หลุดยิ้มกว้าง จากนั้นจึงฉวยมือเรียวของกมลมาจับไว้แล้วค่อยๆ แนบริมฝีปากคลอเคลียเรียวนิ้วนุ่ม โดยที่สายตายังคงจับจ้องดวงตาคู่งามรวมทั้งใบหน้าเหวอๆ ของคนที่ถูกตนเองฉวยโอกาส



“คุณเล็ก…” กมลเรียกชื่อเขาออกมาคล้ายต้องการประท้วงที่ถูกฉวยโอกาสอีกครั้ง ทว่าเสียงของกมลนั้นช่างเบาราวกับเจ้าตัวหาเสียงของตนเองไม่เจอ



เหมือนแมวครางไม่มีผิด…ณธิปคิด อีกทั้งแก้มทั้งสองข้างที่ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีระเรื่อนั่นก็น่าหมั่นเขี้ยวเป็นที่สุด



“ผมกลัวจัง” คนเจ้าเล่ห์ตีหน้าเศร้า “ไม่รู้ว่าเขาจะทำยังไงกับผม เขาเป็นคนมีอิทธิพลด้วยสิ ดังนั้น…ไอช่วยเป็นห่วงผมเยอะๆ ด้วยนะครับ”

“คุณโกหก คุณไม่ได้กลัวเขาเหมือนที่ปากว่าสักหน่อย” กมลเอ่ยท้วงทันที



คนกลัวที่ไหนเขายิ้มระรื่นขนาดนี้กันเล่า มิหนำซ้ำยังเอาแต่วุ่นวายกับมือของเขาไม่หยุด กมลจึงชักมือกลับ ทว่านอกจากจะดึงกลับมาไม่ได้แล้ว ณธิปยังยึดมือของเขาแน่นกว่าเดิมอีกต่างหาก



“โอเคๆ ผมบอกความจริงให้ก็ได้ แต่คุณต้องปล่อยให้ผมจับมือก่อนนะ”

“ได้ยังไงล่ะ เอ่อ…ว่าแต่เรื่องอะไรล่ะ” ปากเอ่ยปฏิเสธ ทว่ากมลก็ไม่ดื้อดึงที่จะชักมือกลับมาเหมือนเดิมอีกแล้ว ณธิปจึงเอ่ยต่อ

“ผมไม่ได้กลัวหรอก แต่ที่ผมบอกว่าอยากให้คุณเป็นห่วง ผมพูดจริงนะ”

“…” ครั้นได้ยินประโยคนี้กมลก็นิ่งไปจริงๆ


“ส่วนเรื่องของรัฐมนตรีทรงศักดิ์ ผมบอกให้คุณคลายกังวลไว้ตรงนี้เลยดีกว่า ไม่ว่าเขาจะเคลื่อนไหวยังไง คุณจำไว้แค่ว่า เขาทำอะไรผมไม่ได้หรอก” ณธิปเว้นไปนิด ก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง “และผมก็จะไม่ให้เขาแตะต้องคุณด้วยเหมือนกัน








<><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><







ตอนนี้อาจจะดูสั้นกว่าปรกตินิดหน่อย
เพราะฝนตัดตอนงานเลี้ยงไว้ต่อตอนหน้าค่ะ
ดังนั้นตอนหน้าอาจจะมาเร็ว
และใช่ค่ะ ความกุ๊กกิ๊กยังไม่หมดเพียงเท่านี้ >///<
เดี๋ยวนี้คุณเล็กชัดเหิมเกริมแล้ว เห็นคุณไอไม่ปฏิเสธก็ได้ใจมาก เอาใหญ่เลยนะ 555555

เจอกันตอนหน้านะคะ ยังไม่แน่ว่าวันไหน แต่มาก่อนวันศุกร์แน่นอนค่ะ

ปล. อาจจะมีคำผิดเยอะหน่อย ฝนจะมาไล่อีดิทอีกครั้งนะคะ ขอโทษด้วยค่ะ


ละอองฝน.
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 32 [13/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: Mengjie_JJ ที่ 13-01-2018 06:58:55
 :-[

คุณเล็กน่าจะรุกหนักๆได้แล้วแหละค่ะ

คุณไอออกจะเขินขนาดนี้ เปิดใจให้คุณเล็กกว้างๆนะคะ

หวานละมุนละไม
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 32 [13/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 13-01-2018 07:53:28
พ่อพระเอก
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 32 [13/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: +pEnGuIn+ ที่ 13-01-2018 09:18:10
รุกเลยค่ะคุณเล็ก เราเชียร์เต็มที่
โอกาสแบบนี้ไม่ได้มีบ่อย นี่รอมานานมาก
กว่าคุณไอจะยอมอ่อนให้ขนาดนี้  :hao5:

ตอนหน้าขอหวานๆเลยนะคะ ชอบให้คุณไอเขินมากค่ะ
ฮี่ๆๆๆ ปูเสื่อรอตั้งแต่วันนี้เลยได้ไหมมมม
อยากอ่านล้าวววว :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 32 [13/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: AeAng11 ที่ 13-01-2018 09:42:30
รอวันอุปสรรคหมดไปคุณเล็กจะได้เดินน้าเต็มที่สักทีชอบให้คุณไอเขินจังอยากกอดคุณเล็กเนี่ยเป็นตัวแทนของผู้ชายเจ้าชู้ที่ยอมหยุดเพื่อคนที่รักเลยน้าสู้ต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 32 [13/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 13-01-2018 13:11:15
รอตอนต่อไปค่ะ^_^
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 32 [13/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: pigarea ที่ 13-01-2018 13:23:03
ตั้งแต่อ่านนิยายมา ไม่เคยเจอใครใจแข็งเท่าคุณไอเลย
สงสารคุณเล็กมาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา เมือไหร่จะได้จับคุณไอกินสักที 5555+
คนเจ้าชู้ต้องเจอแบบนี้แหละ สุดท้ายตายรังไปไหนไม่ได้
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 32 [13/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 13-01-2018 15:26:23
 :mew1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 32 [13/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 13-01-2018 16:49:39
เอาใจช่วย..ยยยย   :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 32 [13/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 13-01-2018 22:29:15
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 32 [13/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: khwanruen ที่ 14-01-2018 10:14:14
น่ารัก  :katai2-1: คุณเล็กรุกใหญ่แล้วเดี่ยวนี้ ถึงเนื้อถึงตัวตลอด
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 32 [13/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 14-01-2018 11:10:01
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 32 [13/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 14-01-2018 15:05:45
ใช้งานหนักต้องได้กำลังใจเยอะ ๆ สิ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 32 [13/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 14-01-2018 22:13:47
คุณเล็กเป็นคนดีขึ้นเยอะเลยค่ะ อาณุภาพแห่งความรัก  :hao7:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 33 [18/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: ละอองฝน ที่ 18-01-2018 23:14:19










คุณคือความรัก บทที่ 33










   บรรยากาศในงานเลี้ยงขอบคุณของชาวบ้านป่างามต่างกับงานเลี้ยงที่ณธิปเคยเจอมากเอาการ เพราะนอกจากสถานที่และอาหารจะดูธรรมดา ผู้คนยังแต่งตัวด้วยชุดพื้นเมือง ไม่ใช่ชุดหรูหราราคาแพงเหมือนไฮโซในวงสังคมชั้นสูง



   เมื่อเจ้าภาพเห็นว่าณธิป กมลและคณะฯ จากกรุงเทพฯ เดินทางมาถึง ก็รีบเข้ามาต้อนรับขับสู้ และพาไปนั่งยังตำแหน่งที่จัดเตรียมไว้ โดยณธิปและกมลถูกจัดให้นั่งหน้าเวทียกพื้นเล็กๆ ไม่ห่างจากกองไฟกองใหญ่ที่สุมเอาไว้เพื่อย่างเนื้อสัตว์



   นอกจากตำแหน่งที่พิเศษกว่าคนอื่นเล็กน้อย อุปกรณ์การจัดเลี้ยงอย่างอื่นก็ดูไม่ต่างกันเท่าไรนัก คือมีโต๊ะเล็กสูงไม่ถึงฟุตตั้งกลางวง มีเบาะผ้าตัดเย็บเองเท่าจำนวนแขก ที่กลางโต๊ะมีข้าวเกรียบทอดสีขาวโรยงาดำวางไว้จานหนึ่ง ให้กินเป็นของเรียกน้ำย่อยก่อนอาหารมื้อหลักจะมาเสิร์ฟ



   ณธิปเลือกนั่งข้างกันกับกมล ที่ตรงข้ามจึงตกเป็นของครูใหญ่ ผู้ใหญ่บ้านและภรรยาของพวกเขาทั้งสองคนเรียงกันตามลำดับ



   ครั้นแขกมาครบแล้ว การแสดงชุดแรกก็เริ่มต้นขึ้น ซึ่งการแสดงชุดนี้เป็นการแสดงของเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ พวกเธอสวมชุดชาวเขาตามแบบชนเผ่าดั่งเดิมของตนเอง พร้อมกับออกมาเต้นในบทเพลงของวงดนตรีพื้นบ้าน ทำนองเพลงเป็นเพลงแปลกหู แต่อยู่ในจังหวะสนุก เครื่องดนตรีที่ไม่เคยเห็นชวนให้รู้สึกตื่นตา อีกทั้งยังทึ่งในความสามารถที่เด็กเล็กๆ แสดงได้น่าเอ็นดูขนาดนี้



ระหว่างที่การแสดงชุดแรกดำเนินไป อาหารที่ชาวบ้านจัดเตรียมไว้ก็ถูกยกมาเสิร์ฟแบบขันโตก ในนั้นมีอาหารพื้นเมืองหลายอย่าง บางอย่างพวกเขาก็รู้จัก แต่บางอย่างก็ไม่เคยเห็นมาก่อน กมลลองชิมทุกอย่างตามที่ได้รับคำแนะนำจากภรรยาของครูใหญ่ เพราะเขาไม่ใช่คนกินยาก



ทว่าคนที่มีปัญหากลับเป็นผู้บริหารหน้าหล่อที่นั่งปั้นหน้าแบ่งรับแบ่งสู้ เมื่อถูกคะยั้นคะยอให้ลองชิมน้ำพริกหนุ่มสูตรชาวดอย



“คุณเล็กลองชิมดูครับ น้ำพริกสูตรนี้หาทานไม่ได้ในเมืองนะ พริกที่ปลูกก็เป็นพันธุ์ของป่างามเอง อร่อยอย่าบอกใครเลยครับ” ครูใหญ่โฆษณาให้ชาวบ้าน เพราะตนเองก็ติดใจน้ำพริกหนุ่มของที่นี่เหมือนกัน

“ครับ” ณธิปพยักหน้ารับ ก่อนจะเอาผัดสดจิ้มน้ำพริกขึ้นมาชิมเล็กน้อย จังหวะนั้นกมลก็เผลอละความสนใจจากการแสดงของเด็กๆ มามองคนข้างๆ เช่นเดียวกัน ด้วยอยากรู้ว่าคนไม่กินเผ็ดจะมีปฏิกิริยาอย่างไร

“เป็นไงครับ” ครูใหญ่ถาม เมื่อเห็นว่าณธิปเคี้ยวข้าวเหนียวที่ใส่ตามเข้าปากจนหมดแล้ว

“อร่อยครับ” คนตาเรียวตอบ สมาชิกที่นั่งร่วมโต๊ะทุกคนจึงยิ้มออก



หลังจากนั้นณธิปก็ถูกเชื้อเชิญให้ลองกินอีกหลายอย่าง ทั้งแกงกระด้าง ไข่ป่าม ส่าจิ้น รวมถึงอาหารพื้นเมืองสารพัด จนคนเมืองอย่างชายหนุ่มจำชื่อไม่หมด


“คุณเล็ก...ไหวไหมครับ” กมลลอบกระซิบถาม ตอนที่ทุกคนกำลังสนใจการแสดงชุดใหม่ เนื่องจากเห็นว่าหน้าผากของอีกฝ่ายมีเม็ดเหงื่อผุดพรายเต็มไปหมด

“ก็พอไหวอยู่” ณธิปตอบ

“ถ้าไม่ไหวก็พอนะคุณ ทานไปเยอะแล้ว จะบอกว่าอิ่มคงไม่มีคนสงสัยหรอก” กมลบอกย้ำคำ และนั่นทำให้คนที่หน้าเขียวหน้าเหลืองกับอาหารพื้นเมืองยิ้มออกมาได้

“ครับ” ชายหนุ่มยิ้มรับ “ขอบคุณนะที่เป็นห่วงผม”



หลังจากนั้นกมลก็ไม่ตอบอะไรอีก ทว่าเจ้าตัวก็ไม่ปฏิเสธว่าเป็นห่วงด้วย ณธิปจึงได้แต่แอบยิ้มเงียบๆ แล้วก็นึกขอบคุณเมนูของชาวบ้านป่างามที่ทำให้คนหน้าหวานนึกเป็นห่วงเขา



ชายหนุ่มดื่มน้ำลงไปแก้วใหญ่ และลอบวางช้อนอย่างแนบเนียน โดยหันไปสนใจการแสดงที่เด็กๆ ช่วยกันร้องเล่นเต้นรำให้ดูอีกชุด นี่ถ้าเป็นเวลาปรกติณธิปคงไม่กินอาหารแปลกๆ พวกนี้ แต่ครั้งนี้มันจำเป็น ด้วยเขาไม่อยากหักหาญน้ำใจชาวบ้านที่อุตส่าห์ทำเลี้ยงชาวคณะ ทั้งๆ ที่สภาพความเป็นอยู่ก็ไม่ได้สบายกว่าพวกเขาเท่าไร อีกอย่างคือโชคดีมากที่อาหารของที่นี่รสชาติไม่จัด ไม่อย่างนั้นในท้องของณธิปคงแน่นเพราะดื่มน้ำมากเกินไปเสียก่อน



   ผ่านไปพักใหญ่จนดูเหมือนว่าทุกคนอิ่มหนำสำราญกับอาหารที่ชาวบ้านนำมาเลี้ยงแล้ว ไฮไลต์เด็ดที่ผู้ใหญ่บ้านเตรียมไว้ก็ถูกนำมาเสิร์ฟให้กับทุกคนได้ลิ้มลองกัน



   “นี่อะไรครับ” กมลถามเมื่อเห็นเครื่องดื่มสีขุ่นที่ถูกรินลงในแก้วกระบอกไผ่

   “ของดีครับคุณไอ” ผู้ใหญ่บ้านว่า

   “ของดีหรือครับ” กมลรับแก้วไม้ไผ่มา ก่อนจะยกขึ้นดมกลิ่นดูจึงได้รู้ว่าเป็นแอลกอฮอล์

   “ชาวบ้านทำเองหรือครับ” ณธิปถามบ้าง หลังจากลองจิบไปแล้วอึกหนึ่ง

   “ครับ ทำดื่มกันในครัวเรือนเฉพาะช่วงเทศกาลน่ะครับ” ผู้ใหญ่บ้านตอบ

   “อึก…ค่อนข้างแรงนะครับ” หนุ่มหน้าหวานพูดติดขัดเล็กน้อยหลังจากลองชิมเข้าไปอึกหนึ่ง

   “เป็นธรรมดาของของทำเองน่ะครับ แต่ที่นี่เขาไม่ดื่มกันบ่อยนะครับ เห็นจะงัดออกมาทีก็ปีใหม่หรือวันสำคัญจริงๆ” ครูใหญ่อธิบายให้ฟัง “ถ้าคุณๆ ไม่ดื่มแอลกอฮอล์อยู่แล้ว จิบๆ พอเป็นพิธีก็ได้ครับ ชาวบ้านเขาไม่ถือหรอก ไม่ต้องฝืนนะ”

   “ครับ” กมลพยักหน้ารับ



   อันที่จริงใช่ว่ากมลไม่ดื่มแอลกอฮอล์ เวลามีงานเลี้ยงสังสรรค์กับเพื่อนเขาก็มีดื่มบ้างเป็นธรรมดาของผู้ชาย แต่เหล้าแรงแบบนี้เขาไม่ค่อยสันทัด ดังนั้นจึงแค่จิบๆ พอให้ไม่เสียน้ำใจเท่านั้น



   ส่วนณธิปเองก็ไม่ดื่มเยอะอย่างที่กมลเข้าใจเหมือนกัน เพราะเมื่อครู่ทานมื้อค่ำเข้าไปมาก รวมทั้งไม่ถนัดเหล้าประเภทนี้เท่าไร กลัวว่าถ้าเกิดเมาขึ้นมา ภาพลักษณ์ดีๆ ที่อุตส่าห์สร้างจะเสียหายจนกู่ไม่กลับ



   พักจากเรื่องดื่มมาที่การแสดงหน้าเวที เด็กๆ ร้องเล่นเต้นรำสนุกสนานไม่น่าเบื่อ แขกต่างบ้านพากันปรบมือประกอบจังหวะ ในขณะที่งานเลี้ยงทวีความครื้นเครงขึ้น จู่ๆ เด็กหญิงตัวน้อยคนเดียวกับที่ชวนกมลไปเล่นน้ำตก ก็กึ่งเต้นกึ่งเดินออกมาจากกลุ่ม ก่อนจะมาจูงกมลลุกขึ้นจากที่นั่งให้เต้นด้วยกันกับเธอ



   ณธิปเบิกตากว้างด้วยความแปลกใจเมื่อเห็นกมลร่วมวงเต้นไปกระโดดไปพร้อมกับเด็กๆ อย่างไม่อิดออด เขาคิดว่ากมลน่าจะเขินอายกับสถานการณ์นี้ แต่เขาคิดผิด เพราะนอกจากหนุ่มหน้าหวานจะให้ความร่วมมือแล้ว ดูท่าอีกฝ่ายยังสนุกมากเสียด้วย



ดวงตาเรียวจ้องกมลไม่ละสายตา เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นกมลทำอะไรแบบนี้ เสียงหัวเราะแบบฉบับของเจ้าตัวฟังรื่นหู และทำให้เขาอดยิ้มตามไม่ได้



คุณไอของเขาน่ารักที่สุด!



กระทั่งก่อนจบเพลง เด็กๆ คนอื่นก็ออกจากแถวมาจูงผู้ชมคนอื่นให้ร่วมร้องร่วมเต้นไปกับตัวเองด้วย ไม่เว้นแม้กระทั่งณธิป ชายหนุ่มออกไปยืนโยกตัวเก้ๆ กังๆ ครู่เดียวเพราะอายสายตาพนักงาน จนในที่สุดเพลงก็จบลง



ครั้นกลับมานั่งที่เรียบร้อย กมลก็คว้าแก้วน้ำดื่มดับกระหาย แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะลืมไปว่าแก้วนั้นมีของดีของผู้ใหญ่บ้านอยู่ พอได้ลิ้มรสแล้ว คนหน้าหวานก็เบ้หน้า และเกือบสำลักออกมา โชคดีที่ณธิปมองอยู่ เขาจึงช่วยลูบหลัง ก่อนยื่นน้ำเปล่าที่อีกฝ่ายต้องการให้



“ระวังหน่อยคุณ”

“ขอบคุณครับ” กมลหันมาขอบคุณหลังจากดื่มน้ำเรียบร้อยพร้อมกับยิ้มน้อยๆ ครั้นเห็นแก้มแดงระเรื่อเพราะอีกฝ่ายเพิ่งออกแรงเต้น ณธิปก็แทบอดใจไม่ไหว อยากหอมแก้มซ้ายแก้มขวาให้สมรัก หากไม่ติดว่ารอบกายมีคนอยู่มากมายล่ะก็



หากชายหนุ่มก็ต้องอดทนไว้ อดทนให้ถึงเวลาที่เหมาะสม…










   เวลานี้ดึกมากแล้ว ลูกเด็กเล็กแดงที่ออกมาทำการแสดงก็กลับเข้าบ้านพร้อมกับของรางวัลซึ่งได้รับจากณธิป ส่วนพวกผู้เฒ่าผู้แก่ก็เริ่มทยอยกลับเช่นเดียวกัน จะเหลือก็แต่คนหนุ่มคนสาวที่นั่งดื่มพร้อมกับฟังนักดนตรีประจำหมู่บ้านเล่นเตหน่า เครื่องดนตรีหน้าตาประหลาดที่ดูจะเป็นกีตาร์ก็ไม่ใช่ จะเป็นพิณก็ไม่เชิง



   อากาศเย็นๆ ยามค่ำคืนที่ดวงดาวเต็มท้องฟ้า มีเสียงเตหน่าบรรเลงเพลงหวานผสานไปกับเสียงพงไพรที่ล้อมด้วยขุนเขากว้างใหญ่ บรรยากาศที่เกิดขึ้นชวนให้คนฟังรู้สึกผ่อนคลาย และดื่มด่ำกับความเรียบง่ายของวิถีชนเผ่าพื้นเมือง



   ที่โต๊ะของด้านหน้าสุดเหลือเพียงผู้ใหญ่บ้าน ครูใหญ่ กมลและณธิป เรื่องที่ควรคุยก็ได้คุยกันไปหมดแล้วตั้งแต่หัวค่ำ ทั้งเรื่องซีเรียสและเรื่องสรรพเพเหระทั่วไป ยามนี้ทุกคนจึงได้แต่นั่งฟังดนตรีเงียบๆ และจิบสุราพื้นบ้านให้ตัวอุ่นเท่านั้น



   กระทั่งเวลาผ่านไปเกือบค่อนคืน งานเลี้ยง ณ ป่างามก็มีอันต้องเลิกรา กมลกับณธิปเอ่ยขอบคุณสำหรับอาหารมื้อค่ำและการดูแลแสนอบอุ่นที่ชาวบ้านมอบให้ จากนั้นพวกเขาจึงแยกย้ายกลับเต็นท์ของตน



   ทั้งสองหนุ่มเดินกลับเต็นท์ด้วยกันเงียบๆ แม้ระหว่างทางค่อนข้างมืด แต่ไม่เงียบเหงานัก เพราะคนอื่นๆ ก็ทยอยเดินกลับเหมือนกัน ที่ด้านหลังไม่ห่างจากพวกเขาบอดี้การ์ดของณธิปก็เดินตามมารักษาความปลอดภัยด้วย จนเมื่อส่งเจ้านายถึงเต็นท์ บอดี้การ์ดของณธิปจึงแยกย้ายกันกลับไปพักผ่อน



   “คุณจะอาบน้ำอีกหรือ” เอ่ยถามเมื่อเห็นว่ากมลหยิบผ้าเช็ดตัวขึ้นพาดบ่า

   “ไม่หรอกครับ แค่จะไปล้างหน้าล้างตาเท่านั้น ดึกแล้วด้วย เอาไว้ค่อยอาบตอนเช้าทีเดียว” หนุ่มหน้าหวานว่า

   “ถ้าอย่างนั้นผมไปด้วยสิ อยากล้างหน้าเหมือนกัน”

   “ถ้าอย่างนั้นผมรอหน้าเต็นท์นะ”

   “ครับ”



   ตกลงกันเรียบร้อยกมลก็ออกไปยืนรอหน้าเต็นท์ เมื่อณธิปหยิบของเสร็จจึงตามออกมา แล้วพวกเขาสองคนก็เดินฝ่าความมืดไปยังบ่อน้ำไม่ไกลจากตัวอาคารเรียน



   ความจริงที่นี่มีห้องอาบน้ำที่ถูกจัดเตรียมไว้อยู่ แต่มันค่อนข้างอยู่ห่างออกไปไกลสักหน่อย ต่างกับบ่อน้ำตรงนี้ ดังนั้นเวลาเช้าหรือตอนที่ทำธุระง่ายๆ อย่างล้างหน้าแปรงฟัน พวกเขาจึงใช้ที่นี่มากกว่า



   ครั้นมาถึงกมลก็อาสาชักรอกตักน้ำขึ้นมา 1 ถังใหญ่ และแบ่งกันใช้ล้างหน้าล้างตากับณธิป จากนั้นทั้งสองคนก็แปรงฟันไล่กลิ่นสุราดีประจำหมู่บ้านของผู้ใหญ่บ้าน แต่พอแปรงเสร็จกมลกลับบ่นงึมงำเพราะรู้สึกได้ว่ากลิ่นเหล้าดีกรีแรงยังไม่หายไป



   “เหล้าของผู้ใหญ่นี่เอาเรื่องเหมือนกันนะครับ ขนาดแปรงฟันแล้วกลิ่นก็ยังอยู่เลย”

   “งั้นหรือ” ณธิปทำหน้าฉงน “ของผมไม่เห็นมีแล้วนะ สงสัยดื่มน้อย”

   “ของผมยังมีอยู่เลย” กมลบ่น ก่อนจะป้องปากแล้วพิสูจน์กลิ่นลมหายของตนเอง

   “คุณเผลอดื่มเยอะน่ะสิ”

   “ก็นิดหน่อยครับ” คนหน้าหวานว่า “ดีนะที่ผมเคยดื่มอยู่บ้าง ไม่อย่างนั้นคงเมาหลับ เหล้าแรงสุดๆ นี่ขนาดแค่จิบๆ ผมยังมึนๆ อยู่เลย”

   “เอ…เพราะเมาหรือเปล่าครับ ถึงได้ออกไปเต้นกับเด็กๆ ได้” ว่าแล้วชายหนุ่มก็นั่งกอดอกพิงขอบบ่อ

   “ไม่เมาสักหน่อย แค่มึนๆ แต่ก็มึนหลังจากเต้นเสร็จแล้วน่ะนะ ผมคิดว่าแก้วนั้นเป็นน้ำเปล่า ไม่ทันดูให้ดี กระดกรวดเดียวหมดแก้ว” เห็นณธิปยืนพิงปากบ่อไม่เดินกลับเต็นท์ กมลก็นึกครึ้มอกครึ้มใจเดินมายืนพิงคุยกับอีกฝ่ายด้วย

   “ไม่เคยเห็นคุณเต้นแบบนั้นเลย ผมแปลกใจมาก”

   “หึๆ แปลกใจหรือครับ แต่สมัยก่อนตอนอยู่มหาลัยฯ ผมเต้นออกบ่อยนะ”

   “มหาลัยฯ ที่ไทยมีรับน้องอะไรแบบนั้นด้วยใช่ไหม”

   “ใช่ครับ” กมลพยักหน้ารับ “คุณเรียนเมืองนอกใช่ไหม”

   “อืม ผมเรียนที่ชิคาโก”

“อยู่ที่นั่นตั้งแต่ไฮสคูลหรือเปล่าครับ”

“ไม่ ผมเรียนมัธยมที่ไทย”



ตอนที่ณธิปจบมัธยมใหม่ๆ ชายหนุ่มอยากอยู่ไทยใจจะขาด เพราะที่นี่เขามีเพื่อน มีทุกอย่างพร้อมหมด แต่ด้วยครอบครัวต้องการให้เขาต้องรับการศึกษาที่ดีที่สุด เจริญรอยตามพี่ชายที่บินไปเรียนไกลถึงอเมริกา ณธิปจึงจำต้องบินไปเรียนต่อที่นั่นด้วย โชคดีที่เขาเกิดมาในครอบครัวที่ให้ความสำคัญกับการศึกษา ดังนั้นชายหนุ่มจึงไม่มีปัญหาในการทำเรื่องเข้าเรียนเท่าไร



“โชคดีนะครับ ได้ประสบการณ์หลายๆ แบบ”

“คุณคิดอย่างนั้นหรือ”

“อืม ผมว่าดีออกนะ” กมลพยักหน้ายืนยัน

“ตอนนั้นผมกลับคิดว่าพ่อไม่รัก”

“ทำไมล่ะครับ” กมลเผลอถามออกไป แต่เพราะนึกขึ้นได้ว่าเป็นเรื่องส่วนตัว จึงรีบบอก “ถ้าคุณไม่สะดวกเล่า ผมก็ไม่ว่านะครับ ขอโทษที่ถามมากไปหน่อย”

“ไม่เป็นไรหรอก ถ้าเป็นคุณ ผมเล่าให้ฟังได้” เจ้าของดวงตารีเรียวว่า ก่อนทอดมองออกไปในความมืด และเริ่มเล่าเรื่องราวในวัยเด็กของตัวเองย่อๆ



ตอนที่ย้ายไปเรียนต่างประเทศใหม่ๆ ณธิปรู้สึกว่าทุกอย่างมันตื่นตาไปหมด ทว่าพอปรับตัวกับสภาพแวดล้อมได้ เขาก็เริ่มรู้สึกเหงา และเอาแต่โทษพ่อว่าอยากกันให้เขาอยู่คนเดียว ทั้งที่ตอนนั้นณธิปก็โตจนรู้ว่าอะไรเป็นอะไรแล้ว แต่เพราะชายหนุ่มฝังใจกับวัยเยาว์ที่ถูกพ่อส่งไปอยู่กับย่าที่เชียงใหม่ ครั้นพอเขาติดย่า พ่อกลับให้ย้ายมากรุงเทพฯ อีกครั้ง ผิดกับพี่ชายที่ได้อยู่กับพ่อและแม่ตลอด



“แล้วตอนนี้เลิกน้อยใจคุณพ่อของคุณหรือยังครับ”

“ผมไม่ได้คิดเรื่องนั้นแล้วล่ะ ก็โตขนาดนี้แล้วน่ะนะ” ชายหนุ่มบอกเสียงอ้อมแอ้ม

“ดีแล้วครับ เพราะผมว่าท่านแค่หวังดี อยากให้คุณได้เรียนในที่ดีๆ เท่านั้นเอง ดูท่าแล้วท่านคงเป็นห่วงคุณมาก ถึงได้คอยเผด็จการกับคุณ ต่างจากคุณภัทร แล้วดูสิ พอคุณจบมาได้ตามที่ท่านวางไว้ ตอนนี้คุณถึงทำงานเก่งไงล่ะ”

“คุณคิดอย่างนั้นหรือ”

“อืม…ผมว่าคุณพ่อคุณก็รักและเป็นห่วงคุณมากๆ เหมือนกัน ลูกทั้งคน จะแกล้งรังเกียจรังงอนอย่างที่คุณเข้าใจทำไม”

“หึๆ คงเป็นแบบนั้น” ณธิปเป็นคนฉลาด พอมีคนมาชี้ให้เห็นในอีกมุมที่เขาไม่เคยมอง ชายหนุ่มก็คิดตามและพยายามเข้าใจ ไม่รู้ทำไม…พอได้ยินกมลพูดแบบนั้น แรงกดหน่วงๆ ยามเมื่อคิดถึงพ่อก็หายไปพลันราวกับไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน “ว่าแต่ชีวิตช่วงมหาลัยฯ ของคุณเป็นยังไง”

“แรกๆ ก็ดีครับ แต่พอพ่อกับแม่เสีย ผมก็ลำบากหน่อย เพราะต้องเรียนไปด้วย ดูแลกิจการไปด้วย แต่ไม่ได้ทำคนเดียวหรอกนะ มีคุณอาแล้วก็พนักงานเก่าแก่ของที่บริษัทคอยช่วยเหลือ”

“งั้นก็แปลว่าคุณไม่ค่อยได้ใช่ชีวิตวัยรุ่นเท่าไหร่น่ะสิ”

“อืม…ก็อาจจะเป็นแบบนั้น แต่ก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ ผมก็ยังมีเพื่อน มีแฟน ร่วมกิจกรรมบ้าง แค่ต้องเรียนรู้งานที่พ่อกับแม่สร้างไปด้วย”

“คุณเคยมีแฟนด้วยหรือ” ณธิปตาโตกับข้อมูลใหม่ที่ได้ยิน

“มีครับ”

“ผู้หญิงหรือผู้ชาย”

“ผู้หญิงครับ” กมลตอบ

“งั้นหรือ”

“อืม ชีวิตผมเพิ่งเคยมีผู้ชายคนแรกที่เข้ามาจีบก็คือคุณนั่นแหละครับ”

“ดีจัง…” พูดได้แค่นั้น ณธิปก็ชะงักไปเพราะคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้

“คุณเล็ก…เป็นอะไรครับ”

“คุณไอ”

“ครับ?” กมลหันมามองอีกฝ่ายด้วยความสงสัย เพราะเห็นว่าเจ้าตัวมีปฏิกิริยาแปลกไป

“ถ้าคุณเคยคบแต่กับผู้หญิง แล้วคุณรับได้หรือเปล่าถ้าผู้ชายอย่างผมเข้ามาจีบ” น้ำเสียงคนถามเต็มไปด้วยความจริงจังจนเหมือนบรรยากาศสบายๆ เมื่อครู่ไม่มีอยู่จริง

“ผม…” ครานี้กมลเป็นฝ่ายชะงักไปบ้าง คิ้วเรียวขมวดมุ่นราวกับใช้ความคิดนั่นทำให้ณธิปเผลอขมวดคิ้วไปด้วย

“คุณจะให้โอกาสผมจริงๆ ใช่ไหม แม้ว่าคุณจะไม่เคยชอบผู้ชายมาก่อน”

“ผมคิดว่า…ความรักไม่ได้ระบุเพศ” กมลตอบ “ผมเห็นคนแต่งงานมาเยอะนะ มีทั้งหญิงชาย หญิงหญิง ชายชาย แต่คุณรู้ไหม ทุกคนมีจุดรวมที่เหมือนกัน คือพวกเขารักกันและกัน ดังนั้นผมคิดว่าถ้าผมจะรักใคร มันไม่เกี่ยวกับเพศสภาพหรอกครับ”

“แล้วรสนิยมคุณ…”

“เรื่องนั้นผมว่า ถ้ารักไปแล้วก็คงรับได้ล่ะมั้ง” กมลทำหน้ายุ่งยากใจ ก่อนจะแหว “คุณอย่าถามอะไรยากๆ ได้ไหมครับ ผมเริ่มมึนแล้วตอนนี้ เอาเป็นว่าผมยอมให้คุณจีบได้ แปลว่าผมก็คงรับได้นั่นแหละ ผมให้ความสำคัญกับความรู้สึกมากกว่า อยู่กับใครแล้วสบายใจก็โอเค ประมาณนี้”

“แปลว่าที่ผ่านมาคุณไม่ได้รังเกียจที่ผู้ชายมาชอบถูกไหม”

“อืม แต่นอกจากรสนิยมคือเราต้องดูๆ กันไปก่อน ตามเงื่อนไขเดิม ผมว่าตรงนั้นสำคัญกว่า” กมลไม่ลืมย้ำเรื่องสำคัญ แต่ดูเหมือนคนลิงโลดจะไม่ใคร่สนใจเสียแล้ว

“เรื่องนั้นผมสู้อยู่แล้วล่ะ ว่าแต่…”

“แต่อะไร”

“ผมอยากรู้น่ะ”

“คุณอยากรู้อะไร”

“ถ้าเกิดผมจูบคุณตอนนี้ คุณจะไม่รังเกียจจริงๆ ใช่ไหม”

“เดี๋ยวนะคุณเล็ก…ผมว่าอันนี้ผิดประเด็นแล้วครับ” กมลดีดผึงขึ้นจะขอบบ่อน้ำ ก่อนถอยหลังหนีไปสองก้าว

“อ้าว คุณไม่อยากรู้หรือครับว่าตัวเองจะรังเกียจไหม สมมติถ้าเกิดวันหนึ่งผมกับคุณลงเอยกันแล้ว เกิดคุณอยากเปลี่ยนใจก็ยากแล้วนะ ลองพิสูจน์เสียตั้งแต่ตอนนี้ดีกว่า” หมาป่าเจ้าเล่ห์หว่านล้อม

“เอ่อ…” เพราะรู้สึกมึนๆ ในหัวตั้งแต่เมื่อครู่ กมลจึงเริ่มงงกับคำพูดหลอกล่อเข้าเสียแล้ว

“ลองดูไหม”

“ลองยังไง” หนุ่มหน้าหวานถาม

“จูบผมสิ” ณธิปบอกยิ้มๆ เขากอดอกพิงขอบสระอยู่ที่เดิม ในหัวตั้งใจหาคำพูดหว่านล้อมเตรียมไว้อีกหลายประโยค ทว่าก่อนที่ณธิปจะทันได้เอ่ยอะไร อยู่ๆ คนที่ถูกท้าให้พิสูจน์ก็เดินตรงเข้ามาใกล้ ใช้มือนิ่มประคองหน้าของเขาเอาไว้ ก่อนริมฝีปากแดงก่ำนั้นจะประทับตามลงมา


กมลจูบเขาก่อน!



ณธิปได้แต่ยืนนิ่ง ตกตะลึงกับผลลัพธ์ที่ไม่ได้คาดหวังว่าจะเกิดขึ้นรวดเร็วขนาดนี้ เรียวปากนิ่มๆ นั่นขบเม้นริมฝีปากของเขาเบาๆ คล้ายชวนเชิญ ลมหายใจอุ่นร้อนที่รดรินมีกลิ่นเหล้าอวบอวลจนรู้สึกได้



ครั้นณธิปเผยอริมฝีปากน้อยๆ ตอบโต้ คนใจกล้าก็แทรกลิ้นร้อนเข้ามากวาดต้อนภายในอย่างชำนิชำนาญ ต่างจากทุกครั้งที่ถูกเขารุกไล่ ต่างจากคุณไอที่ไม่ประสาคนนั้นลิบลับ และนั่นก็ทำให้ณธิปรู้สึกเหมือนถูกไม้แข็งๆ ตีหัวจนมึนงงไปกับสัมผัสหวาบหวาม



และก่อนที่เขาจะพลิกเกมโต้กลับ สัมผัสอ่อนนุ่มก็ทิ้งห่างออกไป กมลถอยห่างไปเกือบสองก้าว ดวงตาคู่งามมองมาที่ปากของเขาเหมือนไม่อยากเชื่อตัวเอง จากนั้นเจ้าตัวก็รีบหันหลังและเดินหนีไปอย่างรวดเร็ว โดยที่ณธิปไม่ทันทำอะไรสักอย่างเดียว นอกจากส่งเสียงเรียกทั้งที่ขายังแข็งจนขยับไม่ได้ และหัวใจก็เต้นกระหน่ำยิ่งกว่ารัวกลองสะบัดชัย



“ไอ…”

กมลหยุดชะงัก และเอ่ยบางสิ่งโดยไม่หันหลังกลับมา “ผมเมา!”

“หา?!”

“ปะ…ไปนอนแล้วนะครับ” ว่าแล้วเจ้าตัวก็รีบสาวเท้าหายไปจากสายตาอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้ณธิปยืนยิ้มอยู่เพียงลำพัง


“ผมเองก็เมาเหมือนกัน แต่ถ้าไม่เมาก็คงกำลังฝันอยู่แน่ๆ…ไอ”









<><><><><><><><><><><><><><><><><><>










วันนี้มาเร็วกว่าปรกติวันนึงค่ะ เย้ๆ 555555
ตอนนี้คุณไอของบ่าวรุก คุณเล็กนี่แข็งเลย /หมายถึงขาแข็ง 55555
ตอนหน้าก็จะมาวันศุกร์เหมือนเดิมแล้วค่ะ เพราะเห็นเค้าลางของงานท่วมตัวอีกแล้ว
เจอกันศุกร์หน้าดึกๆ นะคะ


ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ

ละอองฝน.



หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 33 [18/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 18-01-2018 23:38:30
คุณไอของฉาน~~~~
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 33 [18/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 19-01-2018 00:12:11
ไม่ต้องโทษเหล้าเลยนะคุณไอ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 33 [18/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 19-01-2018 00:22:04
คุณไอตอนเมาน่าร๊ากกกก

คุณเล็กมาล่อลวงตอนคุณไอเมาก็กำไรหน่อยๆ เนอะ 5555
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 33 [18/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 19-01-2018 00:47:35
กรี๊ดดด คุณไอ ทำเอาคุณเล็กอึ้งเลย
 :-[
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 33 [18/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: AeAng11 ที่ 19-01-2018 06:10:15
คุณไอคะปกติคนเมาไม่เคยบอกว่าตัวเองเมานะคะมีแต่บอกว่าไม่เมาทั้งนั้นคุณไอเล่นซะคุณเล็กไปไม่เป็นเลย
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 33 [18/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: khwanruen ที่ 19-01-2018 08:21:52
ไอน่ารัก เมาแล้วน่ารักไปอีก  :กอด1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 33 [18/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 19-01-2018 08:33:32
คุณไอรุกเร็วมากกกก
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 33 [18/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 19-01-2018 09:37:49
ว๊ายยยยย คุณไอของฉันทำอะไรลงไป อิอิ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 33 [18/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: +pEnGuIn+ ที่ 19-01-2018 09:47:16
ถ้าเมาแล้วคุณไอจะใจกล้าขนาดนี้
คุณเล็กจับคุณไอกรอกเหล้าเลยค่าาา
คุณไอจูบเค้าแล้วจะมาตีมึนไม่ได้นะ
คุณเล็กเราช็อคไปเลยนั่น  :hao7: :hao7:
แทบจะรอศุกร์หน้าไม่ไหว กรี๊ดๆๆๆ :ling1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 33 [18/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 19-01-2018 10:14:38
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 33 [18/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 19-01-2018 10:35:09
 o13 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 33 [18/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: PharS ที่ 19-01-2018 17:30:33
 o13 o13
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 33 [18/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 19-01-2018 20:33:21
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 33 [18/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: Mengjie_JJ ที่ 19-01-2018 23:11:07
เมาได้น่ารักมาก ไม่คิดว่าคุณไอจะทำก่อน
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 33 [18/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 20-01-2018 00:03:04
คนเมาที่ไหนเขาบอกว่าตัวเองเมาคะคุณไอ  :hao5:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 33 [18/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: eat2tea ที่ 20-01-2018 13:58:44
คุณเล็กเจ้าเล่ห์มากๆ ท้าคุณไอพิสูจน์อะไรแบบนี้เนี่ยะ  :o8:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 33 [18/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: Yundori ที่ 20-01-2018 18:42:35
คุณไอรุกมากค่าาาา  :ling1:
โอยยยย คุณเล็กกลายเป็นเด็กเดียงสาไปเลย
คราบหมาป่าตอนแรกๆหายไปไหนหมดแล้ว  :laugh: :m20:
ตลกอ่า นี่ขนาดเขายังไม่รักนี่ได้ใจเขาไปเท่าไหร่แล้ว
ถ้ามีพาร์ทคุณไอนี่ บอกเลยว่าต้องเขินหน้าแดงแน่อนน
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 33 [18/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: sjom ที่ 22-01-2018 11:40:59
มัมจนกราวใจจจจจจ  :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 34 [26/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: ละอองฝน ที่ 26-01-2018 23:51:21









คุณคือความรัก บทที่ 34








กมลรู้สึกว่าบางอย่างในตัวของเขากำลังผิดเพี้ยนไปจากเดิม…



เช้าวันนี้ชายหนุ่มตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกประหลาด จะว่าดีก็ไม่ใช่ จะว่าร้ายก็ไม่เชิง ในสมองออกจะสับสนและมึนงงนิดหน่อย แต่โดยรวมแล้วเขายังจำทุกอย่างได้ดี โดยเฉพาะภาพที่ตัวเองทำใจกล้าเข้าไปจูบณธิปก่อนเมื่อคืน มิหนำซ้ำยังใช้เหตุผลโง่ๆ อ้างว่าตัวเองเมาออกไปเช่นนั้น



แต่ก็นะ…เขาว่าเขาเมานิดหน่อยจริงๆ



เวลาเมากมลมักรู้สึกว่าตัวเองใจกล้าขึ้น และชอบหุนหันทำอะไรลงไปโดยไม่ไตร่ตรองให้ดีก่อน ดังนั้น แม้ที่ผ่านมากมลจะดื่มบ้าง เขาก็ไม่เคยดื่มจนควบคุมสติตัวเองไม่ได้ แต่เมื่อคืนเขาคงสนุกมากไปหน่อย อีกทั้งบรรยากาศก็ดี ซ้ำเหล้าของผู้ใหญ่บ้านก็ดีกรีแรงกว่าที่เคยดื่มด้วย



แล้วอย่างนี้เขาควรทำตัวอย่างไรดี…กมลคิด



เขาต้องทำหน้าแบบไหน ต้องวางตัวอย่างไรจึงจะไม่ถูกผู้ชายคนนั้นส่งสายตาล้อเลียนมาให้ เพียงแค่คิดว่าต้องทำอย่างไรต่อไป อาการมึนๆ ในหัวก็ย้อนกลับมาอีกระลอก หนุ่มหน้าหวานลูบหน้าลูบตาของตัวเองเบาๆ เพื่อเรียกสติ ก่อนจะค่อยๆ เปิดผ้าห่มที่คลุมมิดหัวออกให้โผล่มาแค่ดวงตา


ดวงตาคู่งามเหลือบมองไปยังคนข้างๆ จึงได้เห็นผ่านความสลัวยามเช้าตรู่ ว่าคนที่นึกหวั่นเกรงกำลังนอนตะแคงมาทางเขา ห่มผ้าแค่ครึ่งอก ลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ กมลพยายามปรับสายตาให้ชินกับความมืด เพื่อจ้องให้แน่ใจอีกครั้งว่าอีกฝ่ายหลับสนิทจริงๆ เขาจึงถอนหายใจออกมาเบาๆ



ถ้าให้นับแล้ว กมลว่าคงมีเพียงช่วงเวลาแบบนี้ที่ณธิปดูไม่มีพิษมีภัยมากที่สุด เพราะยามปรกตินั้น แม้เจ้าตัวจะเลิกทำตัวกะล่อนเหมือนเมื่อก่อน แต่ก็ยังไม่อาจทิ้งลายเจ้าเล่ห์ได้ทั้งหมด



กมลนอนหนุนแขนตะแคงข้างจ้องณธิปพลางถอนหายใจออกมาเบาๆ เขารู้ว่าตัวเองกำลังเปลี่ยนไป ในตอนแรกอาจไม่รู้สึกตัว แต่พอได้มาอยู่ที่ป่างามด้วยกัน ความรู้สึกหลายอย่างก็ชักจะเด่นชัดขึ้นทีละน้อย ทีละน้อย แม้เขาพยายามมีสติ คิดบวกลบความเป็นณธิปอยู่ในหัวหลายครั้ง ทว่าหลายคราเรื่องบางเรื่องก็อยู่เหนือการควบคุม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ณธิปจูบเขา หรือเขาเป็นคนจูบณธิปเองก็ตาม



ต่อไปจะเป็นอย่างไรนะ



กมลได้แต่ตั้งคำถามในใจ หากก็สุดจะรู้อนาคต หนุ่มหน้าหวานจึงถอนหายใจทิ้งอีกครั้ง ก่อนจะค่อยๆ ลุกขึ้นจากที่นอนไปล้างหน้าล้างตาอย่างเงียบเชียบ










   เมื่อณธิปลืมตาตื่น เขาก็พบว่าคนที่นอนอยู่ฟูกข้างๆ กันหายตัวไปเสียแล้ว ชายหนุ่มผุดลุกขึ้นนั่ง สางผมยุ่งลวกๆ ก่อนจะเอื้อมหยิบนาฬิกาข้อมือขึ้นดู เขาจึงพบว่าเข็มสั้นบนหน้าปัดชี้เลยเลข 7 ไปเสียแล้ว



   “สายป่านนี้แล้วเหรอ”



   ตั้งแต่มีข่าวของรัฐมนตรีทรงศักดิ์ออกมา ณธิปก็ประชุมด่วนร่วมกับเลขาฯ และกมลว่าจะเร่งเดินทางกลับให้เร็วหน่อย เพื่อป้องกันความเสี่ยงอะไรก็ตามที่อาจเกินขึ้นได้



   หากณธิปได้แต่สงสัยว่าอีกแค่ชั่วโมงเดียวก็จะเดินทางแล้ว ทำไมถึงไม่มีใครเข้ามาปลุกเขาสักคน แถมคนที่เขาอยากตื่นขึ้นมาเจอเป็นคนแรกก็หายจ้อย ชายหนุ่มจึงถอนหายใจออกมาเซ็งๆ ก่อนจะลุกขึ้นไปจัดการธุระส่วนตัวให้เรียบร้อย



   ครั้นล้างหน้าแปรงฟันเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ เขาก็กลับเข้าเต็นท์มาพบกมลกำลังเก็บของลงกระเป๋า ส่วนกระเป๋าของณธิปนั้นถูกเก็บให้เรียบร้อยแล้ว โดยบอดี้การ์ดประจำตัวของเขานั่นเอง ชายหนุ่มจึงเดินเข้าไปนั่งข้างๆ กมล แล้วชะโงกดูอีกฝ่ายพับเรียงเสื้อผ้า



   “คุณเล็ก!” คนหน้าหวานสะดุ้งเมื่อหันกลับมาเห็นอีกฝ่ายนั่งอยู่บนฟูกเดียวกัน มิหนำซ้ำยังยื่นหน้าเข้ามาแทบประชิด เพราะเมื่อครู่เขากำลังง่วนกับการเก็บเสื้อผ้า จึงไม่ทันได้ยินเสียงฝีเท้า

   “ตื่นไปไหนมาแต่เช้าครับ” ณธิปไม่ได้สะดุ้งสะเทือนกับท่าทางตกใจของกมล ทั้งยังไม่คิดเว้นระยะห่างออกมาให้กมลมีพื้นที่หายใจหายคอด้วย

   “ไปเดินดูพนักงานแล้วก็เช็คความเรียบร้อยนิดหน่อยครับ”

   “คุณกินมื้อเช้าหรือยัง”

   “ยังครับ” กมลส่ายหน้า ก่อนหันกลับไปเก็บของชิ้นสุดท้ายแล้วรูดซิปกระเป๋า

   “ผมก็ยัง”

   “คุณหิวหรือครับ ออกไปกินกาแฟที่โรงครัวได้นะครับ ข้าวต้มก็มี”

   “ไม่ดีกว่า” ณธิปปฏิเสธ “ผมจะลงไปกินในเมือง”

   “อ้อ” กมลพยักหน้ารับรู้ และตั้งใจว่าจะลุกเอากระเป๋าไปเก็บ ทว่าณธิปกลับรั้งให้นั่งอยู่ก่อน

   “คุณหิวหรือยัง”

   “อืม…ยังไม่ค่อยหิวครับ” ตอนนี้กมลออกจะผะอืดผะอมด้วยซ้ำ ทั้งหมดนั้นน่าจะมาจากฤทธิ์เหล้าต้มของผู้ใหญ่บ้านอย่างแน่นอน

   “ถ้าอย่างนั้นคุณไปทานกับผมในเมืองไหม ต้องรีบกลับกรุงเทพฯ หรือเปล่า”

   “ความจริงผมยังไม่กลับกรุงเทพฯ หรอกครับ”

   “อ้าว ถ้าอย่างนั้นคุณมีนัดไปไหน” ณธิปถามต่อ

   “อีกสองวันจะสงกรานต์แล้ว ผมกับครอบครัวนัดกันมาเที่ยวบ้านคุณอาที่เชียงใหม่น่ะครับ”

   “แปลว่าคุณจะอยู่ต่อจนถึงหลังสงกรานต์เลยหรือครับ”

   “ครับ กลับกรุงเทพฯ วันที่ 17 เช้า”

   “แล้วงานคุณ…” เพราะตั้งแต่เริ่มสนใจกมล ณธิปก็แทบไม่เห็นว่ากมลจะมีวันหยุดพักผ่อนยาวๆ เลยสักครั้ง เพราะคนจะแต่งงานสมัยนี้ส่วนใหญ่จะเลือกวันหยุดราชการ เนื่องจากสะดวกทั้งคนแต่งและคนร่วมงาน

“พอดีช่วงสงกรานต์ปีนี้ ที่ I Promise หยุดครับ”

“อ๋อ” ณธิปพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะนึกอะไรดีๆ ขึ้นมาได้ “ถ้าอย่างนั้นก็ดีเลย ที่คุณอยู่เชียงใหม่ยาวๆ ผมจะได้พาเที่ยวให้รอบ”

“หา?” กมลทำหน้าเหวอไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยต่อ “แล้วคุณว่างหรือครับ”

“ว่างสิ ถ้าคุณว่าง ผมก็ว่าง”

ครั้นได้ยินประโยคเอาแต่ใจตัวเอง กมลก็รีบดักคอณธิปทันที “คุณเล็ก คุณจะเสียงานเพราะผมไม่ได้นะ ยิ่งคุณเป็นนายคนด้วย”

“ไม่เสียหรอก ผมเป็นผู้บริหารนะ ดังนั้นผมบริหารเก่ง ทั้งเวลาและเรื่องงานด้วย ไม่ต้องกังวลหรอก เอาแต่ห่วงว่าผมจะหนีงานมาเที่ยว คุณล่ะ พอมีเวลาให้ผมหรือเปล่า”

“ผมก็…คงเที่ยวกับครอบครัว”

“อ่อ…” ได้ยินว่าเที่ยวกับครอบครัว ณธิปก็ทำหน้าหงอยลงถนัดตา เรื่องงานต่างๆ ของตัวเอง เขาเคลียร์ได้อยู่แล้ว ถ้าหากมันจะทำให้ได้อยู่กับกมลเพิ่มขึ้นอีกนิด แต่ถ้าทำแล้วอีกฝ่ายไม่อยากอยู่ด้วย สิ่งที่วาดฝันมาทั้งหมดก็คงไม่มีประโยชน์

“แต่ถ้าคุณไม่ถือ…” กมลเว้นไปนิด ดวงตาคู่งามเหลือบมองณธิปเล็กน้อย ก่อนหลุบลงต่ำเมื่อเอ่ยประโยคที่เหลือ “จะมาด้วยกันก็ได้ครับ”

“คุณอนุญาตหรือครับ”

“ผมก็ชวนอยู่นี่ไง แต่ถ้าคุณไม่สะดวกล่ะก็”

“สะดวกครับ! สะดวกที่สุดเลย” คนที่ทำท่าเซื่องซึมเมื่อครู่หายไปเสียแล้ว แทนที่ด้วยผู้ชายหน้าเป็นที่มีดวงตาเปล่งประกาย

“อ่า…ครับ” กมลพยักหน้ารับ พลางเกาแก้มของตัวเองเบาๆ แก้เก้อ ณธิปมองภาพอีกฝ่ายตกประหม่าแล้วยิ้มออกมาบางๆ ก่อนจะเอานิ้วเกี่ยวนิ้วที่กำลังเกามาจับไว้

“ขอบคุณนะไอ”

“ขอบคุณอะไรครับ” กมลถามอย่างนึกฉงน

“ขอบคุณที่ให้โอกาสผม”



สายตาจริงจังที่จ้องมองมากับรอยยิ้มอบอุ่นอย่างที่นานๆ จะได้เห็น ทำให้ในอกของกมลรู้สึกประหลาดในอกอีกครั้ง แม้คนหน้าหวานจะรู้สึกทำตัวไม่ถูกเหมือนเดิม ทว่ารอบนี้เขาก็ไม่หลบตาอีกแล้ว



“อืม” กมลครางตอบเบาๆ แล้วส่งยิ้มกลับไปอย่างที่ความรู้สึกในใจสั่งให้ทำ












คณะผู้อุปถัมภ์เดินทางกลับพร้อมๆ กัน โดยมีชาวบ้านและเด็กนักเรียนออกมาส่งที่ทางเข้าหมู่บ้านกันเต็มไปหมด ก่อนกลับกมลยังย้ำให้ผู้ใหญ่บ้านติดต่อหาตนเองทันทีถ้าเกิดปัญหา คนทางนี้จึงยิ่งซึ้งใจจนขอบคุณอีกหลายรอบ และอวยพรให้กมล ณธิป รวมทั้งทุกๆ คนโชคดีมีชัย



การเดินทางกลับคราวนี้ต่างจากขามาเล็กน้อย ตรงที่กมลไม่ได้นั่งรถบัสไปพร้อมพนักงานอีกแล้ว แต่นั่งรถตู้ส่วนตัวของณธิปลงดอยแทน เพราะหลังจากตกลงกันเรื่องเที่ยวช่วงสงกรานต์ในเต็นท์เสร็จ ณธิปก็เสนอให้ลงไปทานอาหารเช้าด้วยกัน



“คุณหิวไหม” ณธิปถามขึ้น หลังลงจากดอยมาเจอถนนใหญ่

“ไม่หิวครับ แต่เวียนหัวนิดหน่อย”



ครั้นได้ยินว่ากมลเวียนหัว ณธิปก็รีบขยับหันมาเต็มตัว ใบหน้าของกมลค่อนข้างซีด ที่ข้างขมับมีเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดพรายหลายเม็ด ดูอาการไม่ค่อยดีเท่าไร



“เมารถหรือเปล่า”

“ปรกติผมไม่เคยเมารถนะ ขามาก็ไม่เห็นเมา แต่ไม่รู้ทำไมตอนนี้ถึงเวียนหัว” มือเรียวนวดขมับให้ตัวเองเบาๆ ณธิปจึงหันไปขอยาดมจากเลขาฯ ส่วนตัวมาให้ พลางใช้ทิชชู่ซับเหงื่อเย็นๆ ออก

“ผมว่าเดี๋ยวจอดที่จุดพักรถสักหน่อยดีกว่า ลงไปล้างหน้าล้างตา ยืดเส้นยืดสาย อาจจะดีขึ้น”

“ขอบคุณครับ”



ครั้นเดินทางมาอีกไม่ไกล พวกเขาก็ถึงจุดพักรถ แต่แทนที่กมลจะลงไปยืดเส้นยืดสายอย่างที่ณธิปบอก คนหน้าหวานกลับต้องรีบวิ่งเข้าห้องน้ำอย่างเร็วรี่ ด้วยรู้สึกอยากอาเจียนจนทนไม่ไหว



เห็นกมลวิ่งไม่เห็นฝุ่น ณธิปก็โยนแว่นกันแดดทิ้งแล้วคว้ากระดาษทิชชู่กับยาดมวิ่งตามไป พอถึงห้องน้ำก็เข้าไปช่วยลูบหลังตอนกมลอาเจียนจนหมดไส้หมดพุง พร้อมกับพยุงออกมาล้างหน้าล้างปาก ทั้งยังเช็ดหน้าให้อย่างไม่นึกรังเกียจ



“ไอครับ คุณไหวหรือเปล่า”

“ไหวครับ” กมลตอบขณะนั่งพักบนเก้าอี้ไม้หน้าห้องน้ำพลางดมยาดม

“แต่หน้าคุณยังซีดอยู่เลยนะ นั่งรถไปต่อได้แน่หรือครับ ผมโทรเรียกฮ.จากโรงพยาบาลมารับดีกว่า เพราะอีกเป็นชั่วโมงกว่าจะถึงตัวเมือง” ณธิปบอกอย่างร้อนใจ ก่อนจะหันหลังไปเรียกเลขานุการสาวของตัวเอง

มือเรียวยื่นไปจับชายเสื้อของณธิปเอาไว้ แล้วเรียก “คุณเล็ก…”

“ครับ” ณธิปหันมาหาทันที ก่อนจะย่อเข่าลงกับพื้นให้อยู่ในระดับกัน

“ไม่ต้องทำอะไรยุ่งยากหรอกครับ ผมแค่แฮงค์นิดหน่อยเท่านั้น ได้อาเจียนออกมาแล้ว อีกเดี๋ยวคงรู้สึกดีขึ้นตามลำดับครับ”

“แค่คุณยังหน้าซีดอยู่เลยนะ” ไม่ว่าเปล่า มือหนายังช้อนแก้มของกมลไว้ในอุ้มมือ “แก้มก็เย็นมากๆ ด้วย ผมว่าทำตามที่บอกเถอะครับ”

“คุณเล็ก ผมไม่เป็นไรจริงๆ นะ เมื่อกี้ก็กินยาเข้าไปแล้วด้วย”

“แต่ผมเป็นห่วง”

“นะครับ เชื่อผม” กมลเอ่ยด้วยเสียงหวานคล้ายจะออดอ้อนกลายๆ ซ้ำยังช้อนตามอง

“ไอ…” ณธิปได้แต่ครางอย่างอ่อนใจ ก็เล่นอ้อนแบบนี้ ใครจะขัดใจไหว “เอาอย่างนั้นก็ได้ครับ แต่คุณไหวแน่นะ”

“ไหวครับ ตอนนี้ผมดีขึ้นแล้วล่ะ เราไปกันเลยก็ได้”

“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวผมพาไปที่รถ”

“ผมไม่…”

“ครั้งนี้ไม่ดื้อแล้วครับ ไม่อย่างนั้นผมจะอุ้มคุณแทน” คนเป็นห่วงเกินกว่าเหตุพยุงกมลไปที่รถทันที คนป่วยจึงได้แต่ยอมทำตาม เพราะกลัวถูกอุ้มจริงๆ









กมลแทบจะคอพับหลับไปทันทีเมื่อขึ้นนั่งบนรถ ณธิปปรับเบาะให้อีกฝ่าย และจัดที่จัดทางให้อีกฝ่ายนอนสบายๆ เขานึกหงุดหงิดในใจที่ไม่สังเกตอาการของกมลตั้งแต่ขึ้นรถ ไม่อย่างนั้นคงมีวิธีการจัดการการเดินทางที่ดีกว่านี้ตั้งแต่แรก



“คุณเล็กครับ” เสียงบอดี้การ์ดที่นั่งอยู่ข้างคนขับหันกลับมาเรียก

“อะไร”

“ให้เปลี่ยนเส้นทางไปโรงพยาบาลเลยหรือเปล่าครับ”

“ไม่ต้อง” ณธิปตอบ “กลับไปที่บ้านคุณย่าเลยก็แล้วกัน”

“ครับ”

“เจี๊ยบ” เมื่อสั่งคนขับรถแล้ว ณธิปก็หันมาสั่งเลขาฯ ส่วนตัว

“คะคุณเล็ก”

“ยกเลิกร้านที่เราจองไว้ซะ”

“ค่ะ”

“แล้วก็โทรบอกให้ตามหมอมารอที่บ้านด้วย”

“ได้ค่ะ แล้วคุณเล็กจะให้เจี๊ยบบอกคุณนฤมลไหมคะ”

“ไม่ต้อง เดี๋ยวฉันจะโทรบอกคุณย่าเอง”

“ค่ะ”



พอสั่งงานเรียบร้อยณธิปก็ล้วงโทรศัพท์ออกมาแล้วกดต่อสายหาคุณย่าสุดที่รัก ระหว่างรอคุณย่ารับสายเขาก็หันมองหน้ากมล และปัดเส้นผมเปียกชื้นที่ปรกหน้าผากของอีกฝ่ายให้เข้าที่อย่างเบามือ



คุณย่าจะว่ายังไงบ้างนะ…ถ้าเขาพากมลเข้าไปที่บ้านในวันนี้






<><><><><><><><><><><><><><><>




มาแล้วค่า
ตอนหน้าจะพาสะใภ้(?)เข้าบ้านแล้วนะคะคุณหญิงย่า
เป็นกำลังใจให้ตาเล็กด้วยนะคะ


ขอบคุณที่ตอดตามอ่านนะคะ เจอกันนะคะ


ละอองฝน.

หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 34 [26/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 27-01-2018 00:17:07
อุ้ยยยยย มีความพาไปหาคุณย่าด้วยล่ะ

คุณเล็กเริ่มเผยด้านน่ารักๆออกมาทำคะแนนนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 34 [26/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 27-01-2018 01:01:57
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 34 [26/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 27-01-2018 01:24:37
อะนอววววว
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 34 [26/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 27-01-2018 01:29:12
 :z2: อัยย่ะ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 34 [26/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 27-01-2018 05:52:07
 o13 คุณเล็กทำดี
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 34 [26/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: pigarea ที่ 27-01-2018 06:23:30
คุณ​เล็ก​หวาน​เวอร์ จะเปิด​ตัวแล้ววววว
คุณ​ไอก็เริ่ม​จะใจอ่อนนิดๆ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 34 [26/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 27-01-2018 07:00:37
จะพาสะใภ้เข้าบ้านตอนนี้เนี่ยนะ ถ่าถูกกีดกัน คุณไอเผ่นแน่ วงวารคุณเล็กไปอีก 555
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 34 [26/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: AeAng11 ที่ 27-01-2018 07:29:07
อีก20ตอนคุณไอกับคุณเล็กจะพบเจอปัญหาอะไรอีกไหมนะตอนนี้อยากให้ทั้งคู่รักกันแล้วก็พร้อมจะเดินผ่านปัญหาไปด้วยกันหวั่นใจคุณนฤมลจัง
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 34 [26/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: Yundori ที่ 28-01-2018 19:30:30
คุณเล็กน่ารักอ่า  :-[ :o8:
โอ้ยย เทคแคร์ ดูแลดี เปย์หนัก แบบนี้จะไปไหนรอดค้าาา
รักเขาอะ เขาน่ารักมากๆอะ  :impress2:
แต่พากมลไปสภาพเพิ่งหายเมา จะดีเหรอ 5555
เจอคุณย่าเร็วไปหน่อย เปิดตัวก่อนไปหาครอบครัวกมลอีก
 :mew1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 34 [26/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 28-01-2018 22:10:33
เปิดตัว..วววว  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 34 [26/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: khwanruen ที่ 28-01-2018 22:28:41
คุณเล็กอ้อนหน่อย คุณย่าก็เห็นดีด้วยแล้ว เป็นผู้เป็นคนขึ้นขนาดนี้เพราะคุณไอ คุณย่าน่าจะชอบมากกว่าด้วยซ้ำ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 34 [26/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 28-01-2018 22:41:47
้ถ้าคุณเล็กจะดูแลดีขนาดนี้ควรเป็นแฟนเรานะคะ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 34 [26/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 29-01-2018 00:14:10
แหน่ะ มีพาไปหาคุณย่าด้วย
ตอนนี้เริ่มมีความละมุนๆหน่อย
 :-[
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 34 [26/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: +pEnGuIn+ ที่ 29-01-2018 09:20:49
คุณเล็กนี่เล่นใหญ่ตลอด คือคุณไอแค่แฮงค์เองนะ
ห่วงเค้าเว่อออ รักมากก็งี้อ่ะนะ
คุณย่าจะชอบคุณไอมั้ยเนี่ย เอาใจช่วยคุณเล็กนะคะ
เอาใจช่วยไรท์ด้วย รออ่านเด้อออ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 34 [26/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 29-01-2018 10:44:50
ความรักมันทำให้ผช.คนหนึ่งเปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้เลยอ่ะ ^_^
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 34 [26/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: unicorncolour ที่ 06-02-2018 15:45:32
ตามติดมาจาก 'โปรดจงรัก' เลยน๊า   :-[

มาต่อไว ๆ นะจ้ะ รอ รอ รอ  :impress2:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 34 [26/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 14-02-2018 10:11:40
จิ้มไว้ก่อน ไปอ่านเสร็จเดี๋ยวมาคอมเม้นค่ะ อิอิ

ตามมาจาก โปรดจงรัก น้องรักกับคุณเมฆ  :m7: :mc2:


****เพิ่มเติม******

 :sad3: เหมือนจะไม่ง่ายนะ ทางคุณแม่เอย คุณพ่อเอย

ไหนจะสงสารคุณเกษอีก แต่นึกไม่ออกว่างานแต่งที่กำลังจะเกิด

ขึ้นจะเป็นยังไง จะถูกยกเลิกไหมหรือแต่งๆไปแล้วค่อยมาหย่า

แอบอยากให้คุณภัทรเป็นคนแต่งกับคุณเกษแทนนะ

เพราะดูแล้วผญน่าจะมีความสุขกว่าแต่งกับคุณเล็ก

เง้อ ได้แต่ลุ้นว่าเรื่องราวจะเป็นยังไง

หลังจากที่ได้อ่านตอนพิเศษใน "โปรดจงรัก"
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 4 [04/07/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 14-02-2018 12:51:31
 o22 ว่าแล้ว น้อยใจตรงที่ถูกพ่อแม่เปรียบเทียบกับพี่น้องด้วยกัน

อยากให้พ่อแม่ภูมิใจที่เราก็ทำได้เหมือนกัน เออนะ ก็ถือว่าเป็น-

อีกหนึ่งปมด้วยเหมือนกัน เรื่องหย่าก็ไม่รู้จะยากจะง่าย

ไหนจะหนึ่งนทีอีก ฮีจะยอมเลิกราง่ายๆหรอ  o12


กำลังเข้มข้นขึ้นอีกนิดดดด ติดตามจ้า

หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 5 [09/07/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 14-02-2018 13:05:32
นั่นไง เพราะความอยากได้นั่นนี่ของพ่อแม่ตลอด

ถามความสมัครใจลูกหน่อยก็ไม่มี บังคับกันตลอด

แต่คุณนภัทรแก้ปัญหาได้ดีมากเลย  :katai2-1:

แอบสะใจตอนคุณเกษตอบว่าไม่แต่งด้วย หุหุ

คุณพ่อนี่ถึงกับลืมตัวทีเดียว ดีนะไม่ความดันขึ้นเอา

แต่ความวุ่นวายนี้จะจบลงเมื่อไรนะ แล้วคุณเล็กล่ะหายไปไหน

ไม่ใช่ไปอยู่กับหนึ่งนทีใช่มะ ทำไมอิฉันรู้สึกสังหรณ์ใจ

ว่าจะเป็นแบบนั้นกันนะ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 7 [26/07/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 14-02-2018 13:42:56
เฮ้อ สงสัยคุณเล็กทำดีไม่ขึ้น

เห็นนามสกุลคุณเกษกับพี่เมฆเหมือนกัน เอ..ยังไง


เอ๋!!  :o เห็นคอมเม้นนี้เราถึงกับต้องกลับไปหาอ่านดูอีกรอบ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 9 [07/09/2559]
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 14-02-2018 14:38:35
นี่ยังไม่เข็ดอีกหรอ  ยังไม่รู้อีกว่าเขาไม่ได้หวังอะไรจากตัวเอง

คุณเล็กนะคุณเล็ก กำลังจะดีขึ้นในสายตาไออยู่แล้วเชียว

อยู่ดีไม่ว่าดี หาเรื่องให้เขาเกลียดตัวเองอีก

ไอควรจัดให้อีกสักสามสี่หมัดนะ ไม่งั้นก็ผ่าหมากให้เป็นหมันไปเลย

ไหนๆ  ก็ดูท่าจะไม่ได้ใช้อยู่แล้วนิ ลูกเลิกคงมีไม่ได้หรอก  :z6:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 22 (ครึ่งแรก) [24/07/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 14-02-2018 17:40:07
คาใจมาหลายตอนแล้ว ใครนะคือสายสืบของคุณเล็ก  :m28:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ ลอยกระทง [4/11/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 14-02-2018 18:22:57
กลองงงงง ชั้นว่าแล้วว่าต้องเป็นนาย


แต่พยายามหาความเชื่อมโยงอยู่

ที่แท้เป็นน้องรหัสคุณเล็กนี่เอง พ่อสายสืบระวังตัวให้ดีนะ

คุณไอจับได้ขึ้นมาเดี๋ยวโดนงอนเอา

หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 26 [20/11/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 14-02-2018 18:53:46
กรี๊ดดดดด ทำไมตอนนี้เราเขินมากเลย   :m4: :m3: :m2:

แต่ก็อดเป็นห่วงคุณเล็กไม่ได้ กลัวรัฐมนตรีนั่นเล่นสกปรก

ส่งคนมาทำร้ายเอา แล้วก็ห่วงคุณไอด้วยเหมือนกัน

กลัวจะโดนลูกหลงกันไปด้วย :m5:

หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 29 [18/12/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 15-02-2018 07:31:02
ว๊ายๆๆๆ  :impress2: เราแอบคิดนะตัวววววววว


แต่คุณเล็กเนี่ยเปลี่ยนไปเยอะเหมือนกันนะ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 30 [22/12/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 15-02-2018 07:44:42
กรี๊ดดดดด  ตายแล้วๆๆ ฟินจังค่ะ จิกหมอน :hao7:  :o8:

แง้งง เขาจูบกันค่ะ อิฉันจะตายลุ้นมานาน  :haun5:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 33 [18/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 15-02-2018 08:21:29
55555555  :laugh: :laugh: ถถถ คุณไอ~~~

ในที่สุดก็ตามทันแล้วดีใจ ดีใจ อิอิ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 34 [26/01/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 15-02-2018 08:27:58
อุ้ยๆ มีพาไปพบคุณย่า ตายล่ะ เปิดตัวหรอคะคุณเล็ก~~
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 35 [12/03/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: ละอองฝน ที่ 12-03-2018 20:10:09







คุณคือความรัก บทที่ 35









   ตอนที่กมลลืมตาขึ้น เขาพบว่าตนเองนอนอยู่บนเตียง ในห้องห้องหนึ่งที่ถูกตกแต่งอย่างสวยงามราวกับโรงแรมห้าดาว ชายหนุ่มนวดขมับเล็กน้อย ก่อนจะผุดลุกขึ้นนั่งแล้วมองสำรวจไปรอบๆ อีกครั้ง อย่างนึกสงสัย



   ที่นี่ที่ไหน…กมลคิด



   ทว่าก่อนที่จะก้าวเท้าลงจากเตียง เลขานุการคนสนิทของณธิปก็เปิดประตูเข้ามาในห้อง เธอยิ้มกว้างให้เขา แล้วสาวเท้ามาหยุดที่ข้างเตียง


   “ตื่นแล้วหรือคะคุณไอ รู้สึกยังไงบ้างคะ”


   “มึนหัวนิดหน่อย แต่โดยรวมก็โอเคขึ้นแล้วครับ” คนหน้าหวานบอก จากนั้นจึงถาม “ว่าแต่…เราอยู่ที่ไหนกันครับ ผมไม่คุ้นเลย”


   เพราะกมลจำได้ว่าก่อนหลับไปเพราะฤทธิ์ยา เขานั่งอยู่บนรถตู้เพื่อเดินทางเข้าตัวเมืองเชียงใหม่กับณธิป เมื่อตื่นขึ้นมาพบสถานที่ไม่คุ้นเคย ชายหนุ่มจึงจับต้นชนปลายไม่ถูก


   “เราอยู่ที่บ้านของคุณหญิงนฤมล คุณย่าของคุณเล็กค่ะ” เธอว่า พร้อมกับรอยยิ้ม


   “หา?...บ้านคุณหญิงนฤมลหรือครับ” กมลถามอีกครั้งให้แน่ใจ และท่าทางพยักหน้าอย่างแข็งขันของหญิงสาวก็ยืนยันได้เป็นอย่างดี


   “ค่ะ”


   “ผมคิดว่าคุณเล็กจะปลุกหลังจากถึงตัวเมืองเชียงใหม่เสียอีก ไม่คิดว่าจะพามาที่นี่” ประโยคหลังชายหนุ่มอ้อมแอ้มคล้ายรำพึงกับตนเองมากกว่า กระนั้น มันก็ไม่อาจเล็ดลอดหูของเลขาฯ สาวไปได้


   “เพราะคุณไอมีไข้ค่ะ คุณเล็กก็เลยพามาที่บ้าน แล้วเรียกคุณหมอมาตรวจ เขาว่าไม่อยากให้คุณเดินทางไปต่อทั้งๆ แบบนี้ แต่ดูท่าคุณไอคงไข้ลดแล้วสินะคะ สีหน้าดูดีขึ้นมากเลยค่ะ”


   “เรียกคุณหมอมาหรือครับ”


   “ค่ะ แต่คุณหมอกลับไปได้สองสามชั่วโมงก่อนหน้านี้แล้ว ฉีดยาเสร็จก็กลับเลย คุณไอรู้สึกไม่ดีตรงไหนอีกหรือเปล่าคะ เจี๊ยบจะได้โทรตาม…”


   “ไม่ต้องครับ ไม่ต้อง” กมลรีบร้องห้าม เพราะเห็นเจี๊ยบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพร้อมจะกดหาหมอตามที่ถูกสั่งเอาไว้ “ผมไม่เป็นไรแล้วจริงๆ ครับ”


   “ถ้าอย่างนั้นก็ดีแล้วค่ะ” เจี๊ยบยิ้มยินดี “คุณเล็กคงวางใจเสียที เพราะเขาเป็นห่วงจนไม่เป็นอันทำอะไร นี่ก็เพิ่งยอมออกไปจากห้อง เพราะคุณย่าเรียกหา แล้วก็ให้เจี๊ยบมาเฝ้าคุณไอแทน”


   “เอ่อ…งั้นหรือครับ” กมลพยักหน้ารับเบาๆ ด้วยไม่คิดว่าอาการเมาค้างของเขาจะทำให้ใครบางคนกระวนกระวายใจถึงเพียงนี้


   “คุณไอตื่นแล้ว ถ้าอย่างนั้นเจี๊ยบจะไปตามคุณเล็กให้นะคะ” หญิงสาวว่าอย่างรู้งาน แต่กมลกลับร้องห้าม


   “อย่าเพิ่งเลยครับ”


   “อ้าว…ทำไมล่ะคะ”


   “ผมว่าจะเข้าไปล้างหน้าแล้วก็เปลี่ยนเสื้อผ้าสักหน่อยค่อยลงไปพบคุณเล็กกับคุณหญิงนฤมลข้างล่างแทน คุณเจี๊ยบช่วยรอสักครู่นะครับ”


   “ได้ค่ะ เจี๊ยบจะรอที่หน้าห้องนะคะ แล้วก็กระเป๋าคุณไอ เจี๊ยบวางไว้ในตู้เสื้อผ้าค่ะ ตามสบายนะคะ”


   “ขอบคุณครับ” ครั้นกมลยิ้มขอบคุณ หญิงสาวจึงออกไปจากห้อง


   ชายหนุ่มก้าวเท้าลงจากเตียง และมองไปรอบๆ อีกครั้ง อดรู้สึกประหลาดใจไม่ได้ ด้วยไม่คิดว่าณธิปจะพาเขามาที่นี่ ทั้งสภาพดูไม่ได้แบบนี้



   หวังว่าคุณหญิงนฤมลจะไม่นึกตำหนิที่การพบกันครั้งนี้ไม่น่าประทับใจเท่าไรนัก ซ้ำเขายังทำตัวเป็นภาระให้หลานชายของเธออีก



   “เฮ้อ…” ชายหนุ่มถอนหายใจเบาๆ ปัดความกังวลใจทิ้ง จากนั้นจึงเดินไปค้นตู้เสื้อผ้าแล้วเข้าไปจัดการธุระส่วนตัวในห้องน้ำให้เรียบร้อย เพราะไม่ต้องการให้เจี๊ยบคอยนาน










   เมื่อจัดการตัวเองเรียบร้อยกมลก็ออกมาจากห้องน้ำด้วยสภาพเรียบร้อย แม้ใบหน้าจะยังอิดโรยเพราะฤทธิ์ไข้ แต่ก็ถือว่าดูดีกว่าตอนตื่นนอนมากพอดู



   เลขาฯ ทำหน้าที่ของเธอได้อย่างดีเยี่ยม ไม่ว่าเจ้านายของเธอจะสั่งอะไรมา กมลก็ดูออกว่าเธอเพิ่มเติมความใส่ใจเข้าไปมากกว่าเดิม



   เธออธิบายให้ฟังว่าที่ที่เขาอยู่คือส่วนปีกขวาของบ้าน หรือก็คือพื้นที่ส่วนตัวของคุณเล็ก ระหว่างเดินผ่านสวนไปศาลาท่าน้ำซึ่งตั้งอยู่ในสวนริมแม่น้ำปิง เธอยังเล่าอีกว่า บ้านหลังนี้เป็นบ้านที่คุณเล็กอาศัยมาตั้งแต่เด็กๆ โดยมีคุณย่าคอยดูแล


   “ถ้าว่างๆ คุณเล็กก็จะบินมาพักที่นี่แหละค่ะ” เจี๊ยบเล่า



กมลฟังเงียบๆ ไปเรื่อย จนเมื่อพ้นซุ้มดอกการเวกใหญ่ เขาก็ได้พบศาลาหลังหนึ่งตั้งอยู่ริมน้ำอย่างที่เจี๊ยบเพิ่งบอกไปก่อนหน้าจริงๆ และบนนั้น มีณธิปนั่งพูดคุยกับหญิงชราท่าทางเป็นผู้ดีทุกกระเบียดนิ้ว คนเดียวกับที่กมลได้มีโอกาสพบเมื่อคราวงานแต่งของเกษสุดาและณธิป



นฤมลเห็นกมลก่อนหลานชายของเธอ และทันทีที่เธอเห็น ใบหน้าที่กำลังยิ้มแย้มให้ณธิปก็เรียบตึงขึ้นทันที และตอนนั้นเองที่หลานชายสุดที่รักรู้ถึงความเปลี่ยนแปลง จึงหันกลับมาหา ก่อนสบตาเข้ากับกมล


“คุณไอ ฟื้นแล้วหรือครับ”


น้ำเสียงดีใจอย่างไม่คิดปิดบังทำให้คิ้วของหญิงชรากระตุกนิดๆ ก่อนกลับเป็นปรกติคล้ายไม่มีอะไรเกิดขึ้น



กมลไม่รอให้ณธิปเดินเข้ามาหา แต่หนุ่มหน้าสวยกลับรีบสาวเท้าเข้าไปใกล้ ก่อนจะยกมือกระพุ่มไหว้ผู้อาวุโสตามมารยาท


“สวัสดีครับคุณหญิงนฤมล ผมกมลครับ ไม่ทราบคุณหญิงจำได้ไหม”


“จำได้สิ คุณกมลที่วิ่งเป็นธุระไปทั่วงานแต่งตาเล็กคราวที่แล้ว” เธอว่าขณะรับไหว้ ก่อนจะเชื้อเชิญให้กมลเข้าไปนั่งบนศาลา “เข้ามานั่งด้วยกันสิคะ คุณกมล”


“ขอบคุณครับ” กมลกล่าวขอบคุณและเข้าไปนั่งตามที่เธอบอก


“เป็นอย่างไรบ้างคะ รู้สึกดีขึ้นไหม”


“ดีขึ้นมากแล้วครับ” ชายหนุ่มตอบ


“ดีแล้วค่ะ ฉันตกใจแทบแย่ตอนเห็นตาเล็กอุ้มคุณเข้ามา”


“…” กมลชะงักไปนิด เมื่อรู้ว่าตนเองเข้ามาในบ้านด้วยสภาพย่ำแย่แค่ไหน เขาจึงเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนน้อมที่สุด “ขอโทษด้วยนะครับที่ผมมารบกวนกะทันหันแบบนี้”


“ไม่ต้องเป็นกังวลนะคะ ฉันเห็นคุณไม่เป็นไรก็โล่งใจขึ้นแล้วค่ะ” เธอเอ่ยอย่างใจดี แต่ใบหน้านั้นยังคงไว้ซึ่งมารยาทตามแบบฉบับผู้ดีไม่เปลี่ยน


“คุณหายปวดหัวแล้วใช่ไหมครับ” ณธิปถามบ้าง


“ครับ” กมลพยักหน้ารับ


“หิวหรือเปล่า”


“ไม่ค่อยหิวครับ”


“แต่เราคงหิวแล้วล่ะสิตาเล็ก” เจ้าบ้านเอ่ยขึ้นมากลางวง ก่อนหันมาเอ่ยกับกมล ทำให้ชายหนุ่มต้องละสายตาจากใบหน้าของณธิปไปหาเธอ “เขาหิ้วท้องรอคุณอยู่น่ะค่ะ บอกให้ทานก่อนก็ไม่ยอม”


“จริงหรือครับคุณเล็ก” กมลหันไปถามเรียบๆ


“อืม” คนตาเรียวพยักหน้ารับน้อยๆ


“ขอโทษนะครับที่ทำให้รอ”


“ไม่ต้องขอโทษ ผมจะรอเอง คุณไม่ผิดสักหน่อย”



ดวงตาหวานเยิ้มที่มองมานั้นทำให้กมลอึดอัดเล็กน้อย เนื่องจากเวลานี้พวกเขาไม่ได้อยู่กันตามลำพัง และณธิปก็ดูเหมือนจะไม่ปิดบังความสนิทสนมของพวกเขาต่อผู้เป็นย่าเลยแม้แต่น้อย



“เอาเป็นว่าฉันจะสั่งให้เด็กตั้งโต๊ะ คุณกมลก็ทานด้วยกันเลยนะคะ”


“นั่นสิคุณไอ กินด้วยกันนะครับ จะได้ทานยา อีกอย่างคุณย่าลงครัวเอง อาหารอร่อยๆ ทั้งนั้นเลยครับ” ณธิปเสริมทัพเต็มกำลัง กมลจึงได้แต่ยิ้มและยอมรับตามที่เจ้าบ้านทั้งสองว่า


“ครับ”










   บทสนทนาบนโต๊ะอาหารตกเป็นของณธิปเสียส่วนใหญ่ ชายหนุ่มเจ้ากี้เจ้าการตักนั่นตักนี่ให้กมลจนชายหนุ่มเกือบกินไม่ไหว ทั้งยังชวนคุยหลายอย่าง คุณหญิงนฤมลเองก็ไถ่ถามและร่วมบทสนทนาเป็นครั้งคราว บรรยากาศจึงไม่น่าอึดอัดเท่าไรนัก



   จากการประเมินของกมล เขาเห็นได้อย่างชัดเจว่าณธิปถูกรักและตามใจจากผู้เป็นย่ามากแค่ไหน เพราะไม่เพียงคำพูดที่ดูเป็นห่วงเรื่องหน้าที่การงานรวมทั้งชีวิตส่วนตัว อาหารหลายอย่างบนโต๊ะก็เต็มไปด้วยของโปรดของณธิป ซึ่งณธิปเล่าว่าเธอจะลงมือปรุงด้วยตนเองทุกครั้งที่ชายหนุ่มกลับมาบ้าน



   “กินเยอะๆ นะครับ หมูหวานของคุณย่าอร่อยมาก” ณธิปโฆษณาพร้อมกับตักหมูชิ้นใหญ่ลงจานให้กมล


   “ขอบคุณครับ” กมลอยากบอกเหลือเกินว่าเขาเกือบอิ่มเต็มที่แล้ว ทว่าสายตาคมปราบของนฤมลก็ทำให้หนุ่มหน้าหวานเกร็งเสียจนต้องตักหมูชิ้นนั้นเข้าปากอีกคำ


   “คุณกมลคงอิ่มแย่แล้วล่ะ มีเราเจ้ากี้เจ้าการตักใส่เสียพูนจาน”


   “โธ่…คุณย่า ผมเปล่าเจ้ากี้เจ้าการนะครับ แต่คุณไอไม่สบาย ต้องทานเยอะๆ จะได้หายเร็วๆ”


   “คนไม่สบายคงขมปากขมคอ ทานของมันๆ เลี่ยนๆ ไม่ลงหรอก”


   “จริงหรือครับคุณไอ” ณธิปรีบหันมาถาม กมลจึงยิ้มเจื่อนๆ กลับไปให้


   “อันที่จริงผมเริ่มอิ่มแล้วครับ”


   “อ้าว…ขอโทษนะ ผมมัวแต่ตัก ไม่ได้ดูเลยว่าเยอะไปหรือเปล่า” คนตาเรียวทำหน้าหงอย


   “ไม่หรอกครับ คุณทานเถอะ ตักให้แต่ผม ข้าวในจานยังไม่พร่องเลย”


   “จริงด้วย”



   เพราะรู้สึกได้ว่ากมลเองก็ใส่ใจตนเองเหมือนกัน ณธิปจึงยิ้มออกอีกครั้ง ก่อนจะหันไปตักอาหารใส่จานและทานบ้าง



กมลมองคนข้างๆ ยิ้มๆ ขณะรวบช้อน ก่อนจะรู้สึกว่ามีสายตาของใครบางคนจับจ้องอยู่ เขาจึงเงยหน้าขึ้นและมองไปทางหัวโต๊ะ



ไม่ผิด…เพราะมีสายตาคู่คมกริบของคุณหญิงนฤมลกำลังมองมาทางนี้พอดี



เธอจ้องเขาตาไม่กระพริบ พอเห็นว่าเขามองกลับ ก็ยกยิ้มที่มุมปากน้อยๆ คล้ายมีเลศนัยอะไรบางอย่าง แต่กมลก็ดูไม่ออกว่าความนัยที่ว่านั้นคืออะไร เพียงแต่ตงิดในใจเท่านั้น



จนกระทั่งจบมื้ออาหาร ระหว่างที่กำลังทานของหวานล้างปาก อยู่ๆ เลขานุการของณธิปก็เข้ามาที่โต๊ะ ก่อนจะยื่นโทรศัพท์ให้ชายหนุ่มเพื่อคุยธุระ เวลานั้นที่โต๊ะจึงเหลือเพียงแค่กมลและคุณหญิงนฤมลสองคน



จากบรรยากาศผ่อนคลายยามณธิปอยู่ จู่ๆ ก็เปลี่ยนเป็นอึดอัดได้อย่างไม่น่าเชื่อ กมลทนนั่งอยู่พักใหญ่ ในที่สุดคนที่อยู่หัวโต๊ะจึงเริ่มเอ่ยปาก



“คุณกมลรู้จักกับตาเล็กนานแล้วหรือคะ”


“เกือบหนึ่งปีแล้วครับ”


เธอนิ่งไปนิด คล้ายคิดอะไรบางอย่าง ก่อนจะเอ่ย


“อ๋อ…คงได้เจอกันตอนช่วงที่คุณมาจัดงานแต่งให้”


“ครับ” ชายหนุ่มพยักหน้า


“แล้วคุยกันแบบนี้มานานหรือยังคะ”


“คุณหญิงหมายถึง…”


“คบหาอย่างคนรักกันนานหรือยังคะ”



กมลอึ้งไปนิด ด้วยไม่คิดว่าจะถูกถามตรงๆ เช่นนี้ แต่คนถามกลับสงบนิ่งเสียจนคนที่ไม่เคยกลัวอะไรนึกหวั่นใจขึ้นมา



กมลรู้ว่าณธิปเป็นหลานชาย ซ้ำยังเป็นหลายชายที่คุณหญิงนฤมลรักมาก ดังนั้นก็คงไม่แปลกที่เธอจะแสดงท่าทางบึ้งตึงหรือนึกไม่พอใจที่หลานชายกำลังคบหากับผู้ชายด้วยกัน



แต่ทั้งหมดทั้งมวล ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น คือ…


“ผมกับคุณเล็ก เราสองคนยังไม่ได้คบกันครับ”


“อะไรนะคะ…ยังไม่ได้คบกันหรือ”


“ครับ” กมลพยักหน้ารับ
   

“ถ้าอย่างนั้นตอนนี้พวกคุณก็เป็นแค่เพื่อนร่วมงานหรือคะ”
   

“ครับ…จะว่าอย่างนั้นก็ไม่ผิด”
   


กมลมองหน้านฤมลที่ดูกระอักกระอ่วนไปในทันทีที่เขาตอบว่าตนกับหลานชายยังไม่ได้คบกับอย่างคนรัก ดูท่าสิ่งที่ณธิปแสดงออกกับเขาคงทำให้เธอเข้าใจไปเช่นนั้น
   


ทว่ากมลก็ไม่สบายใจที่จะบอกว่าณธิปกำลังตามจีบเขาอยู่เช่นกัน แม้เรื่องราวแบบนี้หากอยู่ในสายตาผู้ใหญ่เป็นดี แต่เขาไม่รู้ย่าของณธิปจะรับได้มากน้อยแค่ไหน
   

“ตายล่ะ ฉันคงทำตัวเสียมารยาทกับคุณไป ขอโทษนะคะ”


   “ไม่ครับ คุณหญิงไม่ได้ทำอะไรเลย”


   “จะให้พูดก็พูดเถอะนะคะ ฉันไม่เคยเห็นตาเล็กทำแบบนี้กับใครมาก่อน ถึงจะมีข่าวว่าเขาควงหญิงชายไม่ซ้ำหน้าที่กรุงเทพฯ แต่เขาไม่เคยพาใครมาพบฉันที่บ้านเหมือนคุณเลย แถมตอนหลับยังพูดถึงคุณไม่หยุด ฉันก็เลย…”


   “ผมเข้าใจครับ คุณหญิงไม่ต้องเป็นกังวลนะครับ”


   “ขอบคุณค่ะ”



   เป็นครั้งแรกที่กมลได้รับรอยยิ้มจริงใจจากหญิงชรา ท่าทางโล่งเหมือนยกภูเขาออกจากอกทำให้กมลรู้สึกเหมือนมีบางอย่างกดอยู่ในหัวใจ



   หากเธอรู้ว่าณธิปกำลังจีบเขา เธอจะว่าอย่างไรกันนะ



   หากความคิดของกมลก็ถูกปัดทิ้ง เพราะณธิปกลับเข้ามาในห้องอาหารพอดี นฤมลและกมลจึงปรับสีหน้าให้เป็นปรกติเพื่อไม่ใช้ชายหนุ่มสงสัย



   “ใครโทรมาหรือตาเล็ก”


   “คุณพ่อครับ” ณธิปว่า


   “มีอะไรหรือเปล่า”


   “แค่ถามเรื่องโครงการที่ไปทำมาเท่านั้นครับ ไม่มีอะไร ว่าแต่คุณย่าเถอะครับ ยิ้มแป้นเชียว คุยอะไรกันอยู่หรือครับ” คนตาเรียวมองย่าที มองกมลที ก่อนจะยิ้มรอคอยคำตอบ


   “เปล่าหรอก ย่ากับคุณกมลคุยกันเรื่องอาหาร ย่าว่าเย็นนี้จะทำข้าวต้มปลา แล้วคุณกมลเขาอาสาจะช่วย”



เพราะคิดไม่ทันว่าจะอ้างอย่างไร นฤมลจึงกล่าวไปเช่นนั้น ส่วนคนที่ถูกอ้างก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากยิ้มบางๆ และตามน้ำไปกับเธอ
   


“จริงหรือครับคุณไอ”
   

“ครับ” กมลพยักหน้า
   

“คุณจะนอนที่นี่อีกคืนใช่ไหม ดีจริง ผมกำลังคิดอยู่เลยว่าจะชวนคุณยังไง ผมไม่อยากไปส่งคุณเย็นนี้ เพราะกลัวว่าถ้ากลางคืนคุณมีไข้ ที่ไร่อาของคุณจะไม่มีหมอเหมือนที่นี่”
   

“ความจริงคุณไม่ต้องลำบากถึงขนาดนั้นก็ได้นะครับ ผมดีขึ้นแล้วจริงๆ”
   

“ไม่ลำบากหรอกครับ” ณธิปยิ้มยืนยัน “ว่าแต่เย็นนี้จะทำอาหารกับคุณย่าใช่ไหม ผมขอทำด้วยนะ”
   

“ตามใจคุณสิครับ”
   

“ความจริงผมอยากตามใจคนป่วยนะ ทำไมตอนนี้ให้คนป่วยตามใจเสียได้” ณธิปนั่งลงบนเก้าอี้ตัวเดิม แต่กลับหันมาหาและโน้มหากมลน้อย พร้อมกับยิ้มแย้มแบบเป็นกันเองสุดๆ มากกว่าเพื่อนร่วมงานเขาทำกัน
   


แต่ภาพความสนิทสนมนั้นยังไม่ทำให้นฤมลประหลาดใจเท่าเรื่องทำครัว



ร้อยวันพันปีณธิปไม่เคยคิดจะก้าวย่างเข้าไปในครัว ซ้ำความเป็นห่วงเป็นใยเกินหน้าเกินตานั้น ทั้งหมดทำให้นฤมลคิ้วกระตุกอีกรอบ และคราวนี้กมลก็เห็นชัดทีเดียว มีเพียงหลานชายตัวดีเท่านั้นที่มองไม่เห็น
   


“คุณย่าต้องชอบแน่ๆ คุณไอทำอาหารเก่งมาก”
   

“คุณเขาเคยทำให้ทานด้วยหรือ”
   

“เคยสิครับ ระดับนี้แล้ว”
   

“อืม…ดีจริง” เธอว่ายิ้มๆ ก่อนลอบสบตากับกมลที่ยิ้มเจื่อน
   


ระดับนี้แล้ว อะไรของคุณ



   กมลอยากถามณธิปแบบนั้น อยากเขย่าอีกฝ่ายให้รู้สึกตัวเสียทีว่าผู้เป็นย่ากำลังจับจ้องมาด้วยสายตาอย่างไร แต่ชายหนุ่มก็ได้แต่ลอบถอนหายใจออกมาเงียบๆ เท่านั้น



   กมลคิดเอาไว้ในใจแล้วว่าหากมีโอกาสเหมาะ เขาจะรีบเตือนณธิปเรื่องพฤติกรรมเกินงามเหล่านี้ทันที ก่อนที่คุณหญิงนฤมลจะหัวใจวาย



   ถ้ามีโอกาสน่ะนะ…กมลคิด ขณะที่รู้สึกเหมือนหัวพานจะปวดหัวตุบๆ ขึ้นมาอีกรอบ








<><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><>





มาแล้วค่า
หลังจากหายไปนาน ในที่สุดก็มาลงได้สักที
ตอนนี้ก็นะ มีความกระอักกระอ่วน ทั้งคุณย่าและหลานสะใภ้ /แค่กๆ ทั้งคุณไอ
ส่วนคุณเล็กน้านนนน กระดิกหางใส่คุณไอดิ๊กๆ พรีเซนต์เต็มที่ประหนึ่งเป็นแฟนกันแล้ว

ยังไงก็ฝากติดตามด้วยค่ะ
ตอหน้ามาวันพุธนี้ และวันศุกร์ตามตารางเดิม
มีสต็อกค่ะไม่ต้องกลวหายน้า


ละอองฝน.
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 35 [12/03/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 12-03-2018 20:21:41
เฮ้อออ ไอเจอศึกหนักตั้งแต่ยังไม่คบเลย
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 35 [12/03/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 12-03-2018 21:51:23
คุณย่าโปรดดูหลานท่านด้วย
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 35 [12/03/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 12-03-2018 21:55:29
รอวันเจ้าคุณย่ายอมรับ..คุณไอน่ารักขนาดนั้นจะใจแข็งได้ขนาดไหนกัน
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 35 [12/03/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: Yundori ที่ 12-03-2018 22:25:43
แงงง เม้นท์ไปครั้งนึงแล้วเล้าเป็นไรไม่รู้ ไม่ขึ้นง่า  :ling1:

จะหวีดอีกรอบบ ไม่นะะะะ คุณย่าาาา
อย่าทำอะไรคุณไอนะ  :hao7:
อีตาคุณเล็กก็ไม่ดูบรรยากาศอะไรซะเล้ยยยย
ปล่อยให้คุณย่าส่งรังสีมาอยู่ได้ ฮือออออ
ถ้าคุณไอโดนแกล้งจะยึดคืนจริงๆด้วย
ต้องคุณจีบคุณไอก่อนนนน คุณเล็กต้องปกป้องคุณ"อนะ  :m31: :m16:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 35 [12/03/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 12-03-2018 22:47:24
คุณเล็กไปทำความเข้าใจกับคุณย่าก่อนดีไหม สงสารไอ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 35 [12/03/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: AeAng11 ที่ 12-03-2018 22:48:02
คุณไอใจแข็งไว้ก่อนน้าคุณย่าเล็กดูยังไงๆก็ไม่รู้คุณเล็กจะรู้มั้ยเนี่ย
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 35 [12/03/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: Mengjie_JJ ที่ 12-03-2018 23:22:42
คุณย่าไม่ปลื้มคุณไอเหรอคะ

ถ้าคุณย่ายังเป็นแบบนี้ สงสัยคุณไอคงตกลงปลงใจกับคุณเล็กยากแล้วล่ะค่ะ

หรือคุณย่าจะแอ็คติ้งเอา?
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 35 [12/03/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: khwanruen ที่ 13-03-2018 08:35:38
คุณย่าใจเย็นๆนะคะ คุณเล็กผู้ไม่รู้อะไรจะทำคุณไอเราลำบากนะ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 35 [12/03/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 13-03-2018 10:29:44
รอติดตามตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 36 [15/03/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: ละอองฝน ที่ 15-03-2018 20:23:44







คุณคือความรัก บทที่ 36









   หลังทานอาหารมื้อกลางวันจบลงตอนบ่ายแก่ ณธิปก็พากมลไปเดินเล่นรอบๆ บ้าน โดยมีคุณหญิงนฤมลคอยจับตามองอยู่ไม่ห่าง ความหวังที่จะได้เอ่ยเตือนณธิปถึงพฤติกรรมสนิทสนมเกินงามของเจ้าตัวจึงต้องถูกพับเก็บไว้



   กระทั่งตกเย็น หลังจากที่กมลโทรบอกน้องสาวแล้วว่าจะค้างบ้านคุณย่าของณธิปอีกคืนก็ถึงเวลาเข้าครัวพร้อมสองย่าหลานแห่งโชติตระกูลพอดี


   “คุณย่าว่าจะทำข้าวต้มปลาหรือครับ”

   “ใช่แล้วตาเล็ก ข้าวต้มปลากะพง”

   “คุณหญิงจะให้ผมช่วยทำอะไรบ้างครับ”



หลังจากเดินไปล้างไม้ล้างมือเรียบร้อย กมลก็กลับเข้ามายืนข้างโต๊ะที่วางของสดเต็มไปหมด เขาเคยทำข้าวต้มเครื่องให้หลานๆ หลายครั้ง แต่ไม่รู้ว่าสูตรของเขากับของนฤมลจะเหมือนกันหรือเปล่า ดังนั้นชายหนุ่มจึงต้องทำตัวเป็นลูกมือที่ดีแทน



หญิงชรามองหน้ากมลนิ่งนาน แล้วจึงเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน



“อันที่จริงฉันชักคิดว่าไม่อยากให้คุณกมลต้องลำบากเลยค่ะ เมื่อตะกี้คิดน้อยไปหน่อย ลืมนึกไปว่าคุณเองก็ไม่สบายอยู่ นั่งรอก่อนดีกว่าไหมคะ เสร็จแล้วค่อยทานด้วยกัน”



หนุ่มหน้าหวานชะงักไปนิด เขาอดรู้สึกเกรงกับสายตาของเธอไม่ได้ แต่กมลก็คิดอีกแง่ว่าควรทำใจให้สบายและปฏิบัติเธออย่างเป็นธรรมชาติมากกว่า เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจในทุกๆ เรื่อง



คิดได้ดังนั้นชายหนุ่มจึงยิ้มออกมาบางๆ แล้วว่า


“ผมดีขึ้นมากแล้วครับ ให้ผมได้ช่วยดีกว่า จะได้ขอสูตรจากคุณหญิงเอาไว้ทำให้เด็กๆ ทานด้วย”

“ที่บ้านคุณกมลมีเด็กด้วยหรือคะ”

“ครับ” ชายหนุ่มพยักหน้า “หลานๆ ของผมเอง บางทีผมก็ทำข้าวต้มเครื่องให้พวกเขาทานก่อนไปโรงเรียนบ้าง แต่จะเป็นข้าวต้มหมูเสียส่วนมากน่ะครับ ข้าวต้มปลาไม่เคยทำ เพราะกลัวว่าจะทำไม่ดีแล้วมีกลิ่นคาว เดี๋ยวพวกเด็กๆ จะทานไม่ได้”

“อ๋อ เป็นอย่างนี้นี่เอง” เธอเลิกทำหน้านิ่ง ก่อนจะยิ้มให้กมลบ้าง “ถ้าไม่เป็นการเสียมารยาท มาค่ะ เดี๋ยวฉันจะสอนให้ เผื่อหลานๆ ของคุณกมลจะได้ทานข้าวต้มปลาบ้าง ปลามีประโยชน์กับเด็กๆ นะคะ”

“ครับ” คนหน้าหวานตอบรับ ก่อนจะเดินเข้าไปยืนข้างเธอ

“สูตรของฉันจะทำแยกกันค่ะ มีต้มซุปจากหัวปลาก่อน แล้วต้มข้าวอีกหม้อหนึ่ง ส่วนสุดท้ายก็ลวกปลา” เธออธิบายให้กมลฟังรวบรัด ก่อนจะว่า “คุณกมลหั่นปลาเป็นชิ้นพอดีคำนะคะ ไม่เล็กเกินไป ไม่อย่างนั้นตอนลวกจะเละ”

“ครับ”



เมื่อได้รับมอบหมายหน้าที่แล้ว กมลก็เริ่มทำงานของตนเองทันที ส่วนคนที่ยืนทำหน้างงอยู่ไม่ไกลก็รีบร้องถาม ด้วยอยากโชว์ฝีมือบ้าง



“แล้วผมล่ะครับคุณย่า”

“เราน่ะช่วยป้าจันซอยขิงตรงนั้นก็แล้วกัน ไม่ต้องเข้ามาใกล้หน้าเตา เดี๋ยวจะวุ่นวายเปล่าๆ”

“โธ่…คุณย่า ทำไมให้ผมทำงานง่ายๆ แค่นี้”

“ซอยขิงไม่ง่ายหรอกนะลูก เพราะต้องซอยให้เล็กเรียว ชิ้นเท่าๆ กัน ใหญ่ไปก็เคี้ยวไม่ไหว ทำเสียตาเล็ก เราจะได้มีขิงโรยหน้าข้าวต้ม”

“ครับๆ” ณธิปรับคำง่ายๆ ก่อนหันไปถามแม่บ้านคนเก่าคนแก่ว่าต้องซอยอย่างไร



กมลลอบมองท่าทางเก้ๆ กังๆ นั่นแล้วก็นึกขำ ขณะเดียวกันก็หวาดเสียว ด้วยกลัวอีกฝ่ายจะทำมีดบาดมือตัวเองเข้า พอรู้ตัวอีกทีก็ตอนมีเสียงคนเรียกให้หันไปหา



“คุณกมลคะ”

“ครับ”

“ลวกปลาหม้อนี้นะคะ รอให้น้ำเดือดก่อน”

“ครับ” กมลพยักหน้ารับ แล้วจึงละสายตาจากณธิปกลับมามีสมาธิอีกครั้ง



เมื่อสองหนุ่มต่างก็หันหน้าเข้าหางานในหน้าที่ของตนเองแล้ว สายตาของผู้อาวุโสก็ทอดแววอ่อนลง เธออยู่มาจนอายุปูนนี้ เหตุใดจะดูไม่ออกว่าหลานชายและกมลมีอะไรบางอย่างที่มากกว่า ‘เพื่อนร่วมงาน’ ทั่วไป
   


เพียงเป็นฝ่ายณธิปที่แสดงอาการมากกว่าเท่านั้น แต่ก็ใช่ว่าฟากของกมลจะไม่มีเยื่อใยในสายตาเลย นฤมลลอบถอนหายใจเงียบๆ หน้าเตาด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก ก่อนหันมองกมลอีกครั้ง
   


หนุ่มหน้าหวานคนนี้หน้าตาและลักษณะดีไม่น้อย ท่าทางก็ดูสุภาพอย่างคนที่ได้รับการอบรมมาไม่ขาดตกบกพร่อง ซ้ำยังปฏิเสธไม่ได้ว่า กมล มีหลายอย่างที่ทำให้เธอรู้สึกถูกชะตาอย่างน่าประหลาด



แต่ถึงอย่างนั้น มันก็ไม่ใช่ตัวตัดสินทั้งหมด เรื่องบางเรื่อง หรือคนบางคน ต้องใช้เวลามองไปนานๆ เพราะถึงแม้หลานชายเธอจะนิสัยเจ้าชู้ไก่แจ้อย่างไร หากด้วยฐานะและชาติตระกูลแล้ว ณธิปก็ไม่ใช่คนขี้ริ้ว ซึ่งนั่นก็เป็นสิ่งที่เธอห่วงที่สุด



ห่วงว่าจะมีคนเข้ามาหลอกเพราะเปลือกซึ่งห่อหุ้มอยู่ภายนอกของหลานชาย



“เฮ้อ…”



หญิงชราถอนหายใจออกมาอีกคำรบซึ่งเป็นจังหวะพอดีกับที่กมลเงยหน้าขึ้นมองเธอ ดวงตาแวววาวตรงหน้าสวยคมและเสริมให้เจ้าตัวมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น แต่มันไม่ใช่เสน่ห์อย่างฉาบฉวย หากเป็นอะไรบางอย่างที่ทำให้คนถูกมองรู้สึกหลงรักต่างหาก



บางทีนี่อาจเป็นสิ่งที่ทำให้หลานชายเธอตกหลุมผู้ชายหน้าหวานคนนี้ก็เป็นได้


“ผมหั่นปลาเสร็จแล้วครับ” เขาว่า พลางยิ้มนิดๆ ทำให้แก้มบุ๋มลงไปหน่อย “จะให้ลวกเลยหรือรอให้ข้าวสุกก่อนดีครับ คุณหญิง”

“ลวกเลยก็ได้ค่ะ” นฤมลว่า

“ครับ” เขารับคำและทำตามอย่างว่าง่าย 



ไม่นานหลังจากนั้น เมื่อปลาถูกลวกจนสุก ข้าวในหม้อก็ได้ที่พอดี คุณหญิงนฤมลเคี่ยวซุปในหม้อไว้ก่อน แล้วจึงหันมาหาหลานชายที่ขมักเขม้นกับการซอยขิง ต้นหอม ผักชี ขึ้นฉ่ายอยู่ด้านหลัง โดยมีกมลมาคอยช่วยอีกแรง



“ชิ้นใหญ่ไปครับ แล้วก็ไม่เท่ากันเลย” กมลบอกณธิปเบาๆ ก่อนจะหั่นแก้ให้ขิงเล็กลงกว่าเดิม

“ก็ผมไม่เคยหั่นนี่คุณ”

“ไม่ได้ว่าอะไรครับ แค่บอกเฉยๆ อีกอย่างของแบบนี้มันหัดกันได้ ถ้าคุณได้เข้าครัวบ่อยๆ ก็จะเก่งเอง”

“รู้ไหม ขิงนี่ทำผมไม่อยากเข้าครัวอีกเลย รอให้คุณกับคุณย่าทำให้กินดีกว่า”



ผู้ชายเจ้าเสน่ห์ที่สาวๆ หลงกับคารมและรูปลักษณ์มากมาย บัดนี้กลับไม่หลงเหลือเค้าเดิมที่กมลเคยเห็น เพราะณธิปยืนทำหน้าหงิกขัดใจกับงานในครัวที่ตัวเองได้รับเสียเต็มประดา



“เป็นยังไงบ้างตาเล็ก ไหวไหมลูก”

“พอไหวครับ”

“ดูทำหน้าเข้าสิ อายคุณกมลเขาไหมล่ะลูก หึๆ” ผู้เป็นย่าหัวเราะออกมาเบาๆ กมลเองก็แอบหัวเราะใบหน้าบอกบุญไม่รับของชายหนุ่มเช่นกัน

“หึๆ”

“หัวเราะผมหรือครับ”

“ครับ” กมลบอกไปตามตรง

“ไม่ต้องหัวเราะเลย คอยดูนะ คราวหลังผมจะไปให้คุณสอนทำอาหารบ่อยๆ” ณธิปคาดโทษ

“ถ้าว่างนะครับ” กมลบอกยิ้มๆ และนั่นก็ทำให้ณธิปตาโตขึ้นมา

“คุณไอจะสอนผมจริงหรือครับ”

“ก็…” ชายหนุ่มชะงักไปนิด ครั้นเงยหน้ามองเห็นแววตาคาดหวังของณธิป ปากก็เผลอตอบตกลงไปไม่ทันยั้ง “ครับ ถ้าผมว่างนะ”

“คุณไอใจดีที่สุด” ณธิปยิ้มกว้างออกมาจนเต็มแก้ม



พวกเขาทั้งสองมองหน้าและยิ้มให้กันราวกับโลกนี้มีเพียงเราสอง ก่อนรู้สึกกระดากอายอย่างไม่ทราบสาเหตุ กระทั่งได้ยินเสียงกระแอมของใครอีกคนที่ยังอยู่ในห้องด้วย กมลจึงรีบก้มหน้าลงหั่นขิงต่อ



“อะแฮ่มๆ”

“คุณย่ามีอะไรหรือครับ” เป็นณธิปที่เงยหน้าถามอย่างไม่กลัวฟ้ากลัวดิน

“เปล่าจ้ะ ย่าแค่จะบอกว่า หั่นผักเคียงเท่านั้นคงพอแล้ว ไปล้างไม้ล้างมือกันเถอะ อีกไม่นานซุปคงเรียบร้อย ไม่ต้องเก็บล้างนะ เดี๋ยวย่าให้เด็กๆ จัดการ”



กมลมองผักเคียงที่มากเกินความพอดีแล้วหน้าเจื่อนลงนิดหน่อย เขาจึงวางมีดแล้วไปล้างไม้ล้างมือตามคำสั่ง โดยทิ้งส่วนเก็บล้างให้เด็กรับใช้ทำแทน










ข้าวต้มปลาที่ทุกคนร่วมทำในมื้อเย็นอร่อยมากทีเดียว กมลทบทวนสูตรในใจ และตั้งใจว่าจะต้องกลับไปทำให้หลานๆ กับน้องสาวทานให้ได้



“เป็นยังไงคะ สูตรของฉันพอทานได้ไหม” นฤมลเอ่ยถามขึ้นมาเพราะเห็นคนหน้าหวานนั่งทานเงียบ ไม่พูดไม่จา

“อร่อยมากๆ ครับ ผมคงต้องขออนุญาตเอาสูตรของคุณหญิงกลับไปทำให้เด็กๆ ได้ไหมครับ” ดวงตาใสซื่อของกมลทำให้คำพูดของเขาไม่ได้ฟังดูยกยอเกินจริง


คนถูกชมจึงยิ้มน้อยๆ

“ตามสบายเลยค่ะ”

“ถ้าอร่อย คุณก็เติมอีกนิดดีไหม” ณธิปหันมาถามบ้าง

“ครับ”



เมื่อได้รับการตอบรับ คนตาเรียวจึงเรียกให้เด็กรับใช้เข้ามาเติมอาหารเพิ่ม หลังจากนั้นณธิปก็คอยชวนกมลคุย และเรียกหายาเมื่อกมลจัดการมื้อค่ำเรียบร้อย การดูแลของเจ้าตัวจึงอยู่ในสายตาของผู้อาวุโสทั้งหมด จนกระทั่งมื้อค่ำจบลงก็ถึงเวลาที่จะต้องแยกย้ายกันไปพัก



“เดี๋ยวผมไปส่งคุณที่ห้อง” ณธิปว่า แต่กมลกลับปฏิเสธ

“ไม่ต้องหรอกครับ ผมจำทางได้”

“แต่ผม…”



ขณะที่ชายหนุ่มกำลังจะรบเร้าต่อ เขาก็ถูกผู้เป็นย่าเรียกเอาไว้เสียก่อน


“ตาเล็ก”

“ครับคุณย่า”

“ปล่อยคุณไอเขาไปพักผ่อนเถอะ”

“แต่…”

“ไม่มีแต่ เรานี่มากับย่าหน่อย ย่ามีเรื่องจะคุยด้วย”
   


ไม่รู้กมลคิดไปเองหรือไม่ แต่ตอนที่คุณหญิงนฤมลเอ่ยประโยคหลัง ชายหนุ่มรู้สึกว่าสายตาของเธอเหลือบมาที่เขานิดๆ คล้ายต้องการบอกอะไร
   


เมื่อเข้าใจไปเช่นนั้น กมลจึงช่วยพูดกับณธิปอีกแรง ด้วยไม่อยากมีปัญหาวุ่นวายตามมาทีหลัง
   


“คุณเล็กไปเถอะครับ ผมจะกลับไปพักผ่อนแล้ว”
   
“คุณไอ…”
   
“เจอกันพรุ่งนี้เช้าครับ”



กมลยิ้มหวานให้อีกครั้ง คล้ายนั่นคือสัญญาณบ่งบอกว่า ณธิปไม่มีสิทธิต่อรองอะไรอีกแล้ว ครั้นณธิปเห็นรอยยิ้มกับแววตาของกมล ชายหนุ่มจึงถอนหายใจออกมาเบาๆ แล้วยอมตกลง



“โอเคครับ เจอกันพรุ่งนี้เช้า ฝันดีนะครับคุณไอ”



กมลชะงักกับคำบอกฝันดีของณธิป เขาเหลือบมองใบหน้านิ่งๆ ของเจ้าบ้านอย่างเกรงใจ ก่อนจะตอบกลับเบาๆ ตามมารยาท



“ครับ”


หลังจากนั้นหนุ่มหน้าหวานก็หันหลังเดินกลับห้องพัก ทิ้งให้ย่ากับหลานอยู่ด้วยกันเพียงลำพัง

“ตาเล็ก”

“ครับคุณย่า” ดวงตารีเรียวละสายตาจากแผ่นหลังของกมลไปหาผู้หญิงที่ยืนอยู่ด้านหลังของตนเอง

“ตามย่าไปที่ห้อง”



ทั้งสองจ้องตากันอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายณธิปก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ แล้วยอมตกลง


“ครับ”










   ห้องของคุณย่าเป็นห้องที่ณธิปเคยเข้ามาบ่อยๆ ตอนที่เขาเป็นเด็ก เพราะชายหนุ่มชอบให้ผู้เป็นย่าเล่านิทานให้ฟังก่อนนอน และหลับไปในอ้อมกอดของเธอ เขารู้สึกว่าที่นี่ทำให้รู้สึกอุ่นใจและช่วยให้หลับลงได้โดยที่ไม่กลัวฝันร้าย



   ทว่าวันนี้ หลังจากที่ณธิปโตขึ้น และไม่ได้กลับเข้ามานอนในห้องนี้เหมือนตอนเป็นเด็ก เขากลับรู้สึกว่ามีบางอย่างเปลี่ยนไปเล็กน้อย



   “ตาเล็ก”

“ครับ”

“มานั่งตรงนี้สิ” หญิงชราตบลงตรงที่ว่างข้างตัว ณธิปจึงเดินเข้าไปทิ้งตัวลงนั่ง ก่อนเปิดประเด็นถามออกไปตรงๆ

“คุณย่ามีเรื่องอะไรจะคุยกับผมหรือครับ”



ดวงตารีเรียวถอดแบบกันมามองประสานกันอยู่ครู่หนึ่ง หากณธิปกลับรู้สึกว่าครานี้สายตาของคุณย่ากดดันอย่างบอกไม่ถูก หรือบางทีที่เขารู้สึกเมื่อครู่ ว่าห้องนี้ให้ความรู้สึกเปลี่ยนไป ทั้งหมดอาจไม่ใช่เพราะห้อง



แต่เป็นเพราะอารมณ์ของเจ้าของห้อง



พวกเขาเงียบกันอยู่นาน คล้ายต่างคนต่างก็หยั่งเชิงกันและกัน สุดท้ายคนที่ถูกถามจึงยอมเอ่ยปาก


“เรากับคุณกมลเป็นอะไรกันตาเล็ก”


ณธิปนิ่งไปนิด ไม่ใช่เพราะรู้สึกแปลกใจกับคำถาม ด้วยเห็นอยู่แล้วว่าวันนี้ทั้งวันย่าของตนเองมองกมลอย่างไร แต่ที่ณธิปนิ่งไปก็เพราะเขากำลังคิดถึงคำตอบต่างหาก


“ผม…บอกสถานะไม่ถูกครับ เพราะเรายังไม่ได้เป็นอะไรกัน”

“อืม” นฤมลพยักหน้ารับ

อย่างน้อยเรื่องนี้ทั้งสองคนก็พูดตรงกัน…เธอคิด

“แต่ผมกำลังตามจีบคุณไออยู่”

“…ตามจีบหรือ”

“ครับ” ชายหนุ่มพยักหน้ายืนยัน

“กับคนนี้ เราจริงจังหรือตาเล็ก”

“ครับ”

“ไม่ได้แค่จีบเล่นๆ ไปเรื่อยอย่างที่ผ่านมาใช่ไหม”

“คุณไอไม่เหมือนคนที่ผ่านมาครับคุณย่า ผมจริงจังกับเขา เพียงแต่…”

“แต่อะไร”

“ไม่รู้ว่าเขาจะรับรักและเห็นความจริงใจของผมหรือเปล่า”



คำตอบอย่างตรงไปตรงมาของณธิปกลับทำให้เธอนิ่งไปนาน เธอเลี้ยงหลานคนนี้มาแต่อ้อนแต่ออก เหตุใดจึงจะไม่รู้นิสัยของหลานรักเป็นอย่างไร



และถ้าเจ้าตัวกล้าบอกกับเธอด้วยแววตาเช่นนี้ นั่นแปลว่าสิ่งที่ณธิปพูดไม่ใช่เรื่องโกหก


“คุณย่า” จนเมื่อหลานชายโน้มตัวมากอดซุกอกอย่างออดอ้อน นฤมลจึงเอ่ยออกมาได้อีกครั้ง

“ว่ายังไงพ่อตัวดี”

“คุณย่าโกรธไหมครับ”

“เล็กว่าย่าเหมือนกำลังโกรธอยู่หรือ” เธอยิ้มออกมาน้อยๆ ขณะกอดตอบและลูบหัวราวกับหลานเป็นเด็กชายตัวเล็กๆ



ที่ผ่านมาเธอไม่เคยขัดใจณธิป เพราะอยากให้เขาได้เลือกทุกอย่างด้วยตนเอง เลือกเส้นทางชีวิตของตนเอง ครั้งนี้ก็เหมือนกัน นฤมลจะไม่กะเกณฑ์ให้หลานทำตามใจเธอ เธอปล่อยให้เขาเลือก เพราะสุดท้ายณธิปจะต้องใช้ชีวิตอยู่กับสิ่งที่เขาเลือก



สิ่งที่เขาต้องการจริงๆ

“ไม่ครับ ผมว่าคุณย่าดูสงสัยมากกว่า”

“อืม” เธอยอมรับ

“ไม่มีอะไรให้ต้องสงสัยหรอกครับ ความรู้สึกของผมเป็นแบบนี้”

“ย่าไม่ได้สงสัยความรู้สึกเรา แสดงออกชัดเจนแบบนี้ ไม่ใช้ตามองย่ายังรู้”

“แล้วคุณย่าสงสัยอะไรครับ”

“คุณกมล…” เธอรู้ว่ากมลดูเป็นคนดี แต่จริงๆ แล้วเป็นอย่างไร เธอยังสงสัย ครั้นณธิปได้ยิน ชายหนุ่มก็ผละจากอ้อมกอดแล้วยืนยันด้วยเสียงหนักแน่น

“คุณไอเป็นคนน่ารักมากๆ ครับ”

“ย่าจะเชื่อได้ยังไง ย่าเพิ่งเคยเจอเขา”

“รอดูไปเรื่อยๆ สิครับ พอรู้จักนานๆ เข้า อีกเดี๋ยวคุณย่าต้องรักเขาแน่ๆ ผมรับรอง” เพราะตนเองเคยประสบมาแล้ว ณธิปจึงรู้ดีที่สุด

“ถ้าอย่างนั้นก็พามาให้ย่าเจอบ่อยๆ ย่าจะได้รู้จักเขามากๆ”

“ครับ!” หลานชายสุดที่รักยิ้มกว้างเพราะผู้เป็นย่ายอมไฟเขียว ก่อนจะหงอยลงเมื่อนึกบางอย่างขึ้นได้ “แต่ว่าคงยากหน่อย”

“อะไรยาก”

“ก็จะพาเขาไปไหนมาไหนคงยากหน่อย ยิ่งมาค้างแล้วด้วย ไม่รู้หลังจากนี้เขาจะยอมมาง่ายๆ ไหม คนอะไรก็ไม่รู้ ใจแข็งชะมัดเลย”

“หึๆ” มองหลานชายบ่นกระปอดกระแปด นฤมลก็หัวเราะเบาๆ “อะไรที่ได้มายิ่งยากยิ่งมีคุณค่าไม่ใช่หรือ เราก็พยายามเข้าสิ”

“ก็พยายามอยู่ครับ”

“อืม…พยายามเข้า แล้วพามาให้ย่าเจอบ่อยๆ”

“ครับ”

สองย่าหลานยิ้มให้กัน ภายในห้องห้องเดิม ที่ยังคงอบอุ่นเช่นเดิม









ในช่วงสายของวันใหม่ หลังจากที่ทานอาหารเช้าเรียบร้อย กมลจึงเตรียมตัวเดินทาง เพราะตอนนี้หลานๆ กับน้องสาวของเขา กำลงรอเขาอยู่ที่บ้านสวนของจงรัก เพื่อฉลองเทศกาลแห่งครอบครัวด้วยกัน



ณธิปดูวุ่นวายใจเล็กน้อยที่กมลจะกลับไป แต่ชายหนุ่มก็ไม่ออกปากรบเร้าให้อยู่ต่อ เพราะรู้ว่าถึงเวลาสมควรแล้ว ชายหนุ่มจึงมีหน้าที่เพียงไปส่งอีกฝ่ายที่บ้านสวนของจงรักเท่านั้น



เมื่อเก็บกระเป๋าขึ้นรถแล้ว คุณหญิงนฤมลก็เดินออกมาส่งแขกที่หน้าบ้าน กมลบอกลาและกระพุ่มไหว้เธออย่างนอบน้อม



“ถ้ามีโอกาสก็มาอีกนะไอ”

“อะ…ครับ คุณหญิง” คำเรียกที่เปลี่ยนไปทำให้กมลเสียจังหวะเล็กน้อย กระนั้น ผู้อาวุโสกว่าก็ยิ้มให้เขา ก่อนเอ่ยอย่างใจดี

“ต่อไปไม่ต้องเรียกคุณหญิงแล้ว ให้เรียกคุณย่าเหมือนตาเล็กดีกว่า”

“เอ่อ…คือ” กมลทำตัวไม่ถูกกับท่าทีที่เปลี่ยนไปมากนี้ เขาหันไปมองณธิปราวกับกำลังขอความช่วยเหลือ ทว่าคนตาเรียวกลับเอ่ยอย่างอารมณ์ดี

“เรียกคุณย่าเหมือนผมก็ดีนะคุณ จะได้ฟังดูไม่ห่างเหินจนเกินไปนัก จริงไหมครับคุณย่า”

“อืม เรียกคุณย่าเถอะจ้ะ ย่าก็จะเรียกเราว่าไอ เราสะดวกใจใช่ไหม”

“ครับๆ สะดวกครับ” กมลพยักหน้ารับอย่างเสียไม่ได้

“ดีแล้ว ถ้าอย่างนั้นก็เดินทางปลอดภัยนะลูก เราด้วยตาเล็ก ขับรถดีๆ”

“ครับ คุณย่า” ณธิปรับคำหน้าบาน ก่อนจะพากมลขึ้นรถไปด้วยกัน


หญิงชรามองหลายชายขับรถออกไปจนลับตา ก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ



หากในโลกนี้ณธิปจะแพ้ให้อะไรสักอย่าง ก็มีแค่กมลเท่านั้นที่แพ้ เช่นเดียวกัน ถ้าโลกนี้มีอะไรสักอย่างที่นฤมลจะแพ้ ก็คงมีแค่หลานชายตัวดีคนนี้เท่านั้น



ดังนั้นไม่ว่าณธิปจะเลือก จะรักใคร เธอก็จะยอมรับและยอมรักไปด้วย





<><><><<><><><><><><><><><><><><>





เมื่อวันพุธเรามาไม่ทัน มาวันนี้ไม่ว่ากันเนาะ
ตอนนี้เป็นตอนที่ลงชดเชยให้อ่านหลังจากที่หายไปนาน
ตอนหน้าจะเริ่มลงทุกวันศุกร์เหมือนเดิมแล้วนะคะ
เริ่มจากวันพรุ่งนี้น้า

จากที่กลัวเรื่องคุณย่า ไม่ต้องกลัวค่ะ คุณย่าน่ารักกกกก
และต่อไปคงหลงคุณไอจนหลายรักกลายเป็นหมาหัวเน่าแน่นวล

ฝากด้วยนะคะ
เจอกันตอนหน้าค่ะ

ละอองฝน.

หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 36 [15/03/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 15-03-2018 20:42:36
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 36 [15/03/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: kong6336 ที่ 15-03-2018 21:20:22
ผ่านด่านคุณย่าแย๊ววววววว


เอาใจช่วยคุณเล็กให้คุณไอรับรักเร็วๆ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 36 [15/03/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 15-03-2018 21:26:11
ทางคุณย่าผ่านแล้ว  คุณเล็กก็รุกเข้าไปๆๆ  :mew1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 36 [15/03/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 15-03-2018 21:34:11
ใครที่ไม่ชอบไอคงไม่มี ก็คนมันน่ารักนี่นะ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 36 [15/03/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 15-03-2018 22:04:05
ด่านคุณย่าผ่านจ้า~~~~
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 36 [15/03/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 15-03-2018 22:58:44
รู้สึกได้ถึงความรักของคุณย่าเลย
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 36 [15/03/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: AeAng11 ที่ 15-03-2018 22:59:08
คุณย่าน่ารักที่สุด
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 36 [15/03/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 15-03-2018 23:37:53
โล่ง...งงงงง คุณย่าน่ารัก  o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 36 [15/03/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 16-03-2018 01:00:39
คุณย่าเริ่มชอบคุณไอแล้วล่ะสิ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 36 [15/03/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 16-03-2018 19:24:14
คุณย่าไฟเขียวแล้ว
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 36 [15/03/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: เอมมี่ ที่ 16-03-2018 20:11:53
 กดดันตั้งนาน ที่แท้คุณย่าก็ตามใจหลานนี่เอง
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 36 [15/03/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 16-03-2018 20:23:08
 o13 :กอด1: :pig4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 36 [15/03/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 17-03-2018 17:03:34
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 36 [15/03/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: Mengjie_JJ ที่ 17-03-2018 22:01:40
เย้ คุณย่า ไม่ว่าอะไร ลุยต่อครับคุณเล็ก
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 36 [15/03/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: +pEnGuIn+ ที่ 17-03-2018 23:28:57
ฮือออ ดีใจ มาต่อแล้วววว
คิดถึงคุณเล็กม้ากมาก
นี่อ่านสองตอนรวดเลยค่ะ
โล่งใจหน่อยที่คุณย่าเข้าใจ เชื่อค่ะว่าต้องหลงคุนไอแน่
ว่าแต่คุณไอเมื่อไหร่จะใจอ่อนคะ สงสารคุณเล็ก
รออ่านตอนต่อไปนะคะไรท์
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 36 [15/03/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: BIRD ที่ 18-03-2018 19:51:40
น่ารักดีจังครับเรื่องนี้มารอตอนต่อไปน๊า
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 37 [19/03/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: ละอองฝน ที่ 19-03-2018 00:38:09







คุณคือความรัก บทที่ 37








   วันนี้ณธิปไม่ยอมให้คนขับรถตามมา เพราะอยากเดินทางไปส่งกมลที่บ้านสวนลูกพี่ลูกน้องของกมลซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ไม่ไกลเท่าไรด้วยตัวเอง แต่ทางที่ผ่านค่อนข้างคดเคี้ยว ดังนั้นชายหนุ่มจึงขับไม่เร็วนัก



   ทั้งสองนั่งคุยสัพเพเหระกันมาตลอดทาง กระทั่งโทรศัพท์ของณธิปมีสายเข้า ชายหนุ่มจึงกดรับ ซึ่งข้อความที่ปลายสายบอกนั้น กลับทำให้ใบหน้าที่อารมณ์ดีในทีแรกค่อยๆ เปลี่ยนไปเคร่งขรึม


   “ด่วนมากหรือไง” ณธิปถามปลายสายเสียงห้วน กมลซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ จึงอดไม่ได้ที่จะหันไปมอง “ฉันให้เจี๊ยบแจ้งไปแล้วไม่ใช่หรือไงว่าจะหยุดช่วงสงกรานต์นี้ พวกนายทำงานกันยังไง ไม่ประสานงานกันเลยหรือ”


   ดูท่าณธิปคล้ายหงุดหงิดมากขึ้นเรื่อยๆ คนนั่งข้างจึงเอ่ยเตือนด้วยความหวังดี


   “จอดตรงที่พักรถข้างทางแล้วค่อยๆ คุยกันดีไหมครับ”


   ครั้นได้ยินเสียงกมล ณธิปจึงหมุนพวงมาลัยรถเข้าไปจอดข้างทางตามที่อีกฝ่ายแนะนำ ก่อนคุยต่อ


   “ฉันมีนัดสำคัญแล้ว และถ้าเขารอไม่ได้ ก็ยกเลิกไป”


   กมลไม่ได้ตั้งใจแอบฟัง แต่พอได้ยินใจความคร่าวๆ ก็พอรู้ว่าทางบริษัทของณธิปคงมีปัญหาอะไรสักอย่าง เพราะดูท่าทางโน้นต้องการให้ประธานกลับไปโดยเร็วที่สุด


   “คุณพ่อสั่งให้ฉันจัดการหรือ…ท่านว่าไงบ้าง” เจ้าของดวงตารีเรียวเหลือบมองกมลเล็กน้อย จากนั้นก็ฟังใจความสำคัญ หลังได้รับรู้ทั้งหมด ชายหนุ่มจึงสบถออกมาเบาๆ “บ้าจริง ต้องเป็นตอนนี้ด้วยหรือไง…รู้แล้ว บอกคุณพ่อว่าฉันจะไปแทนให้”


   เมื่อตกลงกันเรียบร้อย ณธิปก็กดวางสายทิ้ง เขาพาดมือบนพวงมาลัยคล้ายกำลังขัดใจ คิ้วเข้มขมวดมุ่น ผ่านไปครู่หนึ่ง ดวงตาที่มองตรงไปยังถนนเบื้องหน้าจึงเบนกลับมาหาคนที่นั่งอยู่ด้านข้าง


   “มีงานด่วนหรือครับ”


ไม่รอให้บอก กมลก็ถามออกมาก่อน ณธิปพยักหน้ารับแกนๆ แล้วจึงอธิบาย


“มีงานที่ผมต้องไปเจรจากับคู่ค้าคนสำคัญแทนพี่ภัทร”


“แทนคุณภัทรหรือครับ”


“ใช่ครับ พี่ภัทรติดธุระอีกที่พอดี แล้วงานนี้ก็สำคัญ ดังนั้นทางเอ็นพีกรุ๊ปคงเลี่ยงไม่ได้ ผมจึงต้องบินด่วนไปสิงคโปร์แทน”


“ในเมื่อมันเป็นงานสำคัญ ก็ถูกแล้วนี่ครับที่คุณจะไป”


“แต่ผมอยากอยู่เที่ยวก่อนนี่”


“คุณเล็ก…” กมลทำเสียงปราม “นั่นงานสำคัญนะครับ เที่ยวน่ะ เมื่อไหร่ก็เที่ยวได้”


“โธ่…ไอ” ณธิปครางออกมาเบาๆ “มันไม่ใช่แค่เที่ยวธรรมดานะ”


“มันไม่ธรรมดายังไงครับ คุณจะหยุดเที่ยวหรือพักผ่อนเมื่อไหร่ก็ได้ แต่โอกาสทางธุรกิจไม่รอท่านะ”


“ผมรู้”



กมลเองก็รู้ว่าคนตรงหน้าของเขารู้เรื่องนี้ดี เพียงแต่กมลไม่รู้ว่าที่ณธิปทำท่างอแงเหมือนเด็กๆ เช่นนี้ อีกฝ่ายมีเหตุผลอะไร


“ในเมื่อรู้อยู่แล้ว คุณเล็กหงุดหงิดทำไมล่ะครับ”


“เพราะ…”


“เพราะอะไรครับ”


ครั้นถูกดวงตาคู่สวยจ้องมองมากๆ คล้ายกับจะคาดคั้นเอาคำตอบ ณธิปก็เริ่มรู้สึกกระดากใจขึ้นมา ด้วยเหตุผลของเขามันค่อนข้างน่าอาย


แต่ถึงอย่างนั้น ณธิปก็คือณธิป ที่ไม่ว่าจะรู้สึกอย่างไร เขาก็มักแสดงมันออกมาตรงๆ


“เพราะครั้งนี้ผมจะได้เที่ยวกับคุณ”


“เที่ยวกับผม…”


“อืม” ณธิปพยักหน้ารับ “แถมคุณยังเป็นคนชวนก่อน โอกาสแบบนี้มีบ่อยๆ เสียที่ไหน”


“ถ้าเราว่างตรงกัน ค่อยหาโอกาสเที่ยวใหม่ก็ได้ครับ”


“คุณจะยอมไปกับผมใช่ไหม”



เมื่อกลั้นใจถามออกไป คนถูกถามก็เงียบเสียงลงคล้ายกำลังขบคิด เสียงเพลงเบาๆ ที่ณธิปเปิดคลอระหว่างทางไม่ได้ช่วยให้หายตื่นเต้นเลยแม้แต่น้อย เพราะหัวใจของเขาเต้นตุ้มๆ ต๋อมๆ ด้วยความรู้สึกคาดหวังเต็มเปี่ยม



ในหัวของกมลคิดชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งว่าควรตอบอย่างไรจึงจะส่งผลดีในอนาคต ทว่าเมื่อจ้องลึกเข้าไปในแววตาคาดหวังของณธิปแล้ว เหตุผลที่ควรใช้ประกอบการตัดสินใจก็ดูจะลดเลื่อนลงไป หากความรู้สึกบางอย่างกลับแทรกขึ้นมาแทนที่



เมื่อระลึกได้เช่นนั้น หนุ่มหน้าหวานจึงเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนลง พร้อมกับยิ้มออกมาบางๆ


“ครับ”



ทันทีที่ได้ยินคำตอบของกมล ใบหน้าห่อเหี่ยวก็พลันสว่างไสวขึ้น ณธิปยิ้มออกมาจนเต็มแก้ม เมื่อมองเห็นรอยยิ้มของกมลที่มีให้ตนเอง



หากไม่คิดเข้าข้างตัวเองจนเกินไปนัก เขารู้สึกว่าคนตรงหน้าเริ่มใจอ่อนให้แล้วจริงๆ


“ดีใจจัง” คนดีใจจนลิงโลดว่า ก่อนคิดบางอย่างขึ้นมาได้ จึงถอนหายใจเบาๆ “เห้อ…”


“ถอนหายใจทำไมอีกล่ะครับ” กมลถามด้วยความสงสัย


“ก็เสียดายน่ะสิครับ นี่ถ้าไม่เป็นงานด่วน ผมไม่มีทางไปแทนแน่นอน”


“เอาเถอะครับ มันก็ช่วยไม่ได้ไม่ใช่หรือ”


“อืม”
   

“ว่าแต่คุณต้องรีบไปหรือเปล่า ส่งผมที่นี่ก็ได้นะ เดี๋ยวผมจะโทรให้คนที่บ้านมารับ”
   

“ผมจะทิ้งคุณกลางทางได้ยังไงล่ะ”
   

“ไม่เห็นเป็นไร ผมอยู่รอที่ร้านกาแฟก็ได้ นี่ก็ไม่ไกลแล้วครับ”
   

“ไม่มีทางเสียหรอก ยังไงผมก็จะไปส่งคุณ”
   

“ถ้าอย่างนั้นก็รีบไปกันเลยดีไหม คุณจะได้ไม่เสียเวลา”
   

“ครับ” รับคำแล้วณธิปก็ออกรถและขับไปตามถนนอีกครั้ง “อยากย้อนเวลากลับไปวันแรกที่มาถึงเชียงใหม่จังเลย รู้ไหม สองสามวันมานี้ พอผมได้อยู่กับคุณทุกวัน เกือบ 24 ชั่วโมง ผมชักไม่อยากอยู่ห่างคุณเสียแล้ว”


“ขนาดนั้นเลยหรือครับ”
   

“ก็ใช่น่ะสิ ผมรู้สึกดีมากเลย เหมือนคุณเปิดใจให้ผมได้รู้จักคุณมากขึ้น”
   

“…” กมลเงียบฟังและคิดตาม
   


ไม่ว่าจากสถานการณ์พาไป หรืออื่นใดก็ตาม สิ่งที่ณธิปพูดก็ไม่ผิด เพราะหลายวันมานี้ ตั้งแต่พวกเขาร่วมมือกันแก้ปัญหาหนักหนาสาหัส กมลรู้สึกว่าตนเองยอมรับ ทั้งเปิดใจให้อีกฝ่ายเข้าสัมผัสตัวตนและความรู้สึกนึกคิดมากขึ้น มากเสียจนหลายครั้งกมลยังตกใจตนเอง
   


กระนั้น แม้จะผ่านจนถึงตรงนี้ กมลก็ยังไม่รู้สึกว่านั่นคือการตัดสินใจที่ผิดพลาด
   

“คุณไอ”
   

“หืม?”
   

“เงียบทำไมครับ คิดอะไรอยู่หรือ”
   

“เปล่าครับ” คนหน้าหวานปฏิเสธ “คิดอะไรไปเรื่อยน่ะครับ”
   

“แล้วเมื่อกี้ได้ยินที่ผมพูดหรือเปล่า”
   

“เรื่องที่คุณว่าผมเปิดใจให้คุณมากขึ้นหรือ”
   

“ไม่ใช่ครับ”
   

“อ้าว…ถ้าอย่างนั้นเรื่องอะไรครับ ขอโทษจริงๆ ผมไม่ทันได้ฟัง”
   


“ผมบอกว่า เราน่าจะย้ายห้องที่คอนโด ขึ้นมาอยู่ห้องเดียวกัน เพื่อศึกษากันและกันให้มันขึ้นครับ” ณธิปบอกหน้าตาย ทว่าคนฟังกลับตกใจจนร้องเสียงหลง
   

“ห๊า! คุณว่าไงนะ”
   

“ผมว่า เราควรย้ายมาอยู่ด้วยกัน แบบศึกษากันอะไรทำนองนี้”
   

“คุณเล็ก…ผมว่านั่นมันออกจะ…” ด้วยไม่คิดว่าจะได้ยินเรื่องนี้ กมลจึงตั้งตัวไม่ทัน


ขณะที่คนหน้าหวานกำลังจับต้นชนปลายไม่ถูก สารถีจำเป็นก็หลุดหัวเราะออกมาดังลั่นรถ ทำเอาเพื่อนร่วมทางหน้าเหวอไปหมด


“ฮ่าๆๆ”


“อะไรของคุณ หัวเราะทำไมครับ”


“ก็ขำคุณน่ะสิ”


“ขำผมเรื่องอะไร”


“หน้าคุณน่ะ ซีดเชียว กลัวผมมัดมือชกหรือ หึๆ” เจ้าตัวขำอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนเฉลย “ความจริงผมไม่ได้พูดอะไรหรอกครับ แค่เห็นคุณเหมือนเหม่อไปก็เลยอำเล่น แต่ไม่คิดว่าคุณจะใจลอยขนาดไม่รู้เรื่องแบบนั้นจริงๆ”


“เดี๋ยวนะ…นี่คุณอำผมหรือ” จากที่กำลังตกใจ กมลก็เปลี่ยนไปถามอย่างเอาเรื่องแทน


“ก็อำน่ะสิครับ ฮ่าๆ”


“หยุดหัวเราะเลยนะคุณ”


“ก็มันขำนี่ ตกใจมากหรือครับ ผมไม่เคนเห็นคุณทำหน้าแบบนั้นมาก่อนเลย”



ใครๆ ก็รู้ว่าปรกติกมลควบคุมสีหน้าเก่งแค่ไหน แม้หลังๆ จะเห็นหลุดอายบ้าง แต่ไม่เคยทำหน้าเหรอหราเท่านี้มาก่อน


“ตกใจสิ อยู่ๆ มาชวนไปอยู่ด้วยกัน เป็นคุณไม่ตกใจหรือ”


“ไม่ตกใจหรอก ผมคงดีใจมากกว่า”


“…”


“อีกอย่าง ถ้าคุณชวนผมไปอยู่ด้วยขึ้นมาจริงๆ ผมคงทิ้งงานทิ้งการแล้วกลับไปขนเสื้อผ้าย้ายที่อยู่แทน”


“พูดไปเรื่อยครับ…” กมลว่า ก่อนแสร้งเบือนหน้ามองข้างทางเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกประหลาดจากคำพูดทีเล่นทีจริงของคนเจ้าเล่ห์



ณธิปลอบมองกมลเล็กน้อย พอเห็นอีกฝ่ายทำตัวไม่ถูก เขาก็เลือกที่จะเงียบ เพราะบางทีการถอยมาตั้งหลักและให้พื้นที่อีกฝ่ายได้คิด มันอาจดีกว่าการรุกไล่และต้อนจนกมลไม่เหลือพื้นทีหายใจให้ตัวเอง



ณธิปไม่อยากให้กมลอึดอัดจนเตลิด ยิ่งช่วงเวลามัวๆ เพราะกำแพงน้ำแข็งกำลังละลาย มันยิ่งเป็นช่วงเวลาที่อันตรายต่อความรู้สึกมากทีสุด



พวกเขานั่งเงียบกันไปตลอดทาง เพลงบนรถได้ทำหน้าที่ของมันอีกครั้ง ทว่าในสถานการณ์ไร้บทสนทนานั้น กลับไม่ทำให้ใครต้องอึดอัดอย่างที่เคยเป็น



จนเมื่อรถหรูเลี้ยวเข้าไปยังที่หมาย กมลจึงหันกลับมาคุยและบอกทางณธิป


“ขับตรงไปจนสุดแล้วซ้ายนะครับ”


“ครับ” ณธิปรับคำ ก่อนจะเปรย “ไม่คิดว่าบ้านของลูกพี่ลุกน้องคุณจะทำสวนดอกไม้ใหญ่ขนาดนี้นะครับ”


“แรกๆ เขาทำกันเล็กๆ ครับ แต่พออยู่นานก็ขยายไปเรื่อย จนตอนนี้เป็นอย่างที่เห็น”


“ปลูกดอกอะไรกันบ้างครับ”


“ส่วนใหญ่เป็นดอกกุหลาบกับกล้วยไม้ครับ”


“อืม” ณธิปพยักหน้า ก่อนจะถาม “ว่าแต่คุณไอชอบดอกไม้ไหม”


“ก็ชอบครับ สวยดี”


“คุณชอบดอกอะไร” รู้จักกมลมาสักพัก ทว่าณธิปยังไม่รู้ว่าอีกฝ่ายชอบดอกไม้อะไร เขาจึงถือโอกาสนี้ถามอย่างแนบเนียน


“อืม…ไม่รู้สิครับ ไม่มีดอกอะไรที่ชอบเป็นพิเศษนะ” คนหน้าหวานมองออกไปนอกตัวรถขณะขับผ่านแปลงดอกกุหลาบและโรงเรือนกล้วยไม่ตามลำดับ


“ไม่มีที่เป็นพิเศษเลยหรือ”


“ดอกไม้แต่ละชนิดก็สวยในแบบของมันครับ ผมเลือกไม่ถูก ความจริงคิดว่ากุหลายก็สวย แต่กล้วยไม้ก็สวยเหมือนกันนะ มีสีแปลกๆ เยอะ”


“เพราะเห็นจากที่ขับผ่านหรือเปล่าครับ ก็เลยตอบแบบนี้”


“คงใช่ครับ ก็บอกแล้วว่าผมไม่มีที่ชอบเป็นพิเศษ ว่าแต่คุณล่ะ ชอบดอกอะไร”


“ผมหรือ…” ครั้นถูกย้อนถาม ณธิปก็เงียบไปครู่ รอจนกระทั่งเขาเลี้ยวตามทางที่กมลบอกเรียบร้อย ชายหนุ่มจึงตอบ “ก็ชอบหมดเหมือนกันมั้งครับ จริงอย่างที่คุณว่านะ ขึ้นชื่อว่าดอกไม้ มันก็สวยทั้งนั้น”


“ชอบของสวยงามสินะครับ” กลมเอ่ยพึมพำ


“ว่าอะไรนะครับ” พอณธิปหันมาถาม คนหน้าหวานก็ส่ายหน้าและเปลี่ยนเรื่อง
   

“เปล่าครับ คุณตรงไปจอดที่หน้าบ้านหลังใหญ่นั่นเลยครับ”
   

“ครับ”
   


บ้านเจ้าของไร่หลังไม่ใหญ่ไม่เล็ก แต่ทรงสวยจนคนที่ไม่ค่อยสนใจอะไรยังนึกชื่นชมในใจ ครั้นเข้ามาจอดตรงที่หมาย ก็มีคนจากด้านในวิ่งออกมารับทันที
   

“นั่นน้องหยินกับน้องหยางนี่ครับ” ณธิปชี้ให้ดูเด็กทั้งสอง ครั้งคุณลุงเห็นเจ้าเด็กแฝดก็ยิ้มออกมาจนหน้าบาน ก่อนจะว่า


   “วิ่งหน้าตั้งเชียว”
   

“คงคิดถึงคุณ”
   

“อืม” กมลพยักหน้ารับ แล้วเปิดประตูลงไปรับหลานชายทันที
   

ณธิปยิ้มกับท่าทางกระตือรือร้นของอีกฝ่าย พลางคิดว่า คงไม่ได้มีแค่หลานชายที่คิดถึง แต่คนเป็นลุงก็คิดถึงไม่ต่างกัน
   

เมื่อกมลลงไปแล้ว ชายหนุ่มจึงดับเครื่องและลงตามไปด้วย
   

“สวัสดีครับอาเล็ก!!”
   

เสียงสองแฝดเอ่ยขึ้นพร้อมเพรียงกัน ณธิปยกมือขึ้นรับไหว้ และยิ้มให้อย่างใจดี
   

“สวัสดีครับเด็กๆ อาพาลุงไอมาส่งคืนแล้วนะ”
   

“ขอบคุณครับ” น้องหยินว่า ส่วนน้องหยางก็อ้อนเสียงอ่อนเสียงหวาน
   

“หยางคิดถึงลุงไอที่สุดในโลก”
   

“ลุงก็คิดถึงน้องหยางครับ คิดถึงพี่หยินด้วย” ครั้นหอมแก้มซ้ายแก้มขวาจนสมใจแล้ว กมลจึงลุกขึ้นยืนตรง แล้วเอ่ยกับณธิป “คุณจะกลับเลยหรือเปล่าครับ อยู่ทานกลางวันด้วยกันก่อนไหม”


“ไม่ดีกว่า” เพราะเห็นว่าจงรักกับเมฆออกมาช่วยยกกระเป๋าลงจากรถ ณธิปจึงเลือกปฏิเสธ



เขาลืมนึกไปว่านี่เป็นบ้านของจงรัก ดังนั้นผู้ชายคนนั้นก็คงติดตามมาด้วย และณธิปไม่อยากให้กมลเห็นสถานการณ์กระอักกระอ่วนระหว่างพวกเขาสองคนในเวลาเช่นนี้ ซ้ำเขายังต้องบินด่วนกลับกรุงเทพ การปฏิเสธจึงเป็นหนทางที่ดีที่สุด


“จริงสิ คุณต้องไปทำงาน ถ้าอย่างนั้นเดินทางปลอดภัยนะครับ”


“คุณก็เที่ยวให้สนุกนะ พักผ่อนเผื่อผมด้วย แล้วเจอกันที่กรุงเทพฯ ครับ”


“ครับ” เมื่อกมลพยักหน้ารับ ณธิปก็บอกลาเด็กๆ ก่อนเดินกลับมาขึ้นรถ แล้วขับกลับไปอย่างอาลัยอาวรณ์



เจ้าของดวงตาเรียวมองกมลที่กระจกหลังกระทั่งลับตา ก่อนถอนหายใจออกมาเบาๆ เขาคิดถึงเรื่องที่ตนเองแกล้งหยอกกมลก่อหน้านี้ เรื่องที่ว่าอยากชวนให้ไปอยู่ด้วยกัน เพื่อศึกษากันให้มากขึ้น


ในทีแรกที่พูดไป ชายหนุ่มก็แค่คิดล้อเล่นธรรมดา แต่พอต้องห่างกัน ณธิปกลับอยากให้เรื่องนั้นเป็นความจริงขึ้นมา ถึงมันจะเป็นเรื่องที่ดูห่างไกลความเป็นจริงไปไกลสักหน่อย



ทว่าเขาก็จะพยายาม…แม้ยากเท่าไรก็ตาม





<><><><><><><><><><><<><><><><><><><><><><



มาแล้ววววว
ขอโทษที่ช้านะคะ แต่มาช้ายังดีกว่าไม่มาเนอะ 555
ตอนนี้กลับไปนั่งอ่านตอนเก่าๆ รู้สึกว่าคุณเล็กเป็นผู้เป็นคนขึ้นมา
ปลื้มในการพัฒนาของลูกชายตัวแสบคนนี้มากค่ะ ฮืออ
ยังไงก็ฝากเอ็นดูคุณเล็กคุณไอต่อไปด้วยนะคะ

เจอกันตอนหน้าค่ะ

ละอองฝน.
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 37 [19/03/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 19-03-2018 00:50:56
 :pig4: รุกหนักเหลือเกิน
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 37 [19/03/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 19-03-2018 03:49:26
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 37 [19/03/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 19-03-2018 04:35:46
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 37 [19/03/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: ToeyTato ที่ 19-03-2018 08:26:38
สนุกจังค่ะ ชอบพัฒนาการมากๆ มันดูมีความจริงอ่ะ ไม่ใช่เอะอะแป๊บๆชอบกัน โดยที่นิสัยแบบคุณเล็กไม่ราจะเปลี่ยนกันได้ง่ายๆ ช้าๆแต่มั่นคงนี่ชอบค่ะ

รอตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 37 [19/03/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 19-03-2018 11:08:02
คุณเล็กสู้ๆน้าาาาาา
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 37 [19/03/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 19-03-2018 13:36:15
คุณเล็กสู้ๆ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 37 [19/03/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 19-03-2018 16:00:37
เอาใจช่วยคุณเล็ก   :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 37 [19/03/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: AeAng11 ที่ 19-03-2018 18:04:19
หวังว่าจะไม่เกิดอะไรขึ้นกับคุณเล็กน้ามองเห็นความสัมพันธ์ที่พัฒนาขึ้นเรื่อยของทั้งคู่อยากให้ถึงวันที่ทั้งสองคนมีความสุขเต็มที่เสียที
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 37 [19/03/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: khwanruen ที่ 19-03-2018 18:13:25
แสดงความจริงใจออกมามากๆ สักวันคุณไอต้องใจอ่อน  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 37 [19/03/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 19-03-2018 19:57:56
ขอให้ไอใจอ่อนเร็ว ๆ นะคุณเล็ก
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 37 [19/03/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 19-03-2018 21:58:33
คุณเล็กน่ะ จริงๆก้ทำงานได้นะ แต่ มัวแต่เจ้าชู้ไง พ่อพวงมาลัยจริงๆ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 37 [19/03/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: +pEnGuIn+ ที่ 20-03-2018 10:17:26
นี่เป็นกำลังใจให้คุณเล็กมาตลอดเลยค่ะ
แอบสงสาร คุณไอใจแข็งเกิ๊นนนน
ถึงตอนนี้จะเริ่มใจอ่อนบ้างแล้วก็เหอะ
คิดๆไปก็อยากให้เค้าย้ายมาอยู่ด้วยกันจริงๆค่ะ
ชอบคุณเล็กสายรุกค่ะ เอาให้คุณไอไปไม่เป็นเลย
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 37 [19/03/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 22-03-2018 02:14:04
อีกไม่นานค่ะคุณเล็ก คุณไออ่อนยวบแล้ว  :hao5:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 38 [24/03/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: ละอองฝน ที่ 24-03-2018 23:11:31










คุณคือความรัก บทที่ 38








   เมื่อณธิปมาถึงกรุงเทพฯ เขาก็บินตรงไปจัดการปัญหาทางธุรกิจตามคำสั่งของบิดาที่ต่างประเทศต่อทันที ชายหนุ่มวุ่นวายอยู่สองวัน พอเข้าวันที่สามก็เดินทางกลับไทย ในทีแรกเขาตั้งใจจะแวบไปหากมลที่เชียงใหม่สักวันสองวัน แต่ก็เป็นอันต้องถูกขัดเพราะงานบริหารที่ปางปาลีอีก ดังนั้นณธิปจึงใช้เวลาว่างของตนเองในการเลื่อนดูภาพที่คนหน้าหวานอัพเดตผ่านโซเชียลแก้คิดถึงไปก่อน



   ช่วงวันหยุดยาวครั้งนี้ เป็นวันหยุดที่เหมือนกมลได้พักผ่อนจากงานหนักทั้งปีจริงๆ เพราะณธิปเห็นอีกฝ่ายลงภาพมากมาย ทั้งที่ในชีวิตปรกติกมลแทบไม่ค่อยได้อัพเดตอะไรเลย



ภาพหนุ่มหน้าหวานอยู่กับครอบครัว ไปเที่ยวบ้าง ทำอาหารบ้าง ทำให้ณธิปยิ้มกับมือถือได้เป็นนาน แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกโหยหาและอยากให้กมลเลิกพักแล้วกลับมาทำงานตามปรกติเสียที เขาจะได้ไม่รู้สึกเหมือนอยู่ห่างไกลกับอีกฝ่ายมากจนเกินไปนัก



ก็ใครใช้ให้กมลมีความสุขเพลินจนไม่ว่างรับโทรศัพท์และตอบกลับข้อความของเขากันล่ะ กว่าจะได้ยินเสียงนุ่มๆ นั่นก็ตอนที่หลานๆ ตัวแสบของอีกฝ่ายเข้านอนไปแล้ว


“น้องหยินกับน้องหยางล่ะครับคุณไอ”


[เด็กๆ หลับแล้วครับ]


นั่นไง เป็นอย่างที่เดาไว้ไม่มีผิด…ณธิปคิด


“เพราะเด็กๆ หลับ คุณก็เลยว่างคุยกับผมใช่ไหม” เสียงคล้ายกระเง้ากระงอดทำให้ปลายสายหัวเราะออกมาเบาๆ


[หึๆ น้อยใจอะไรกันครับ คุณก็ทำงานตลอดทั้งวันไม่ใช่หรือ]


“ก็ใช่ แต่ผมก็มีเวลาพักเหมือนกันนะ คุณเล่นหายไปเลย ไม่ยอมตอบตั้งแต่เช้าจนค่ำ รู้ไหมว่าผมคิดถึงแค่ไหน”


[แค่ไหนล่ะครับ]



ณธิปนึกแปลกใจที่อีกฝ่ายถามกลับ เพราะตามปรกติแล้ว กมลมักเลี่ยงคำถามที่เปิดทางชวนให้หยอดคำหวานต่อประเภทนี้จากเขามากที่สุด


แต่เมื่ออีกฝ่ายเอ่ยออกมาแล้ว ณธิปจึงไม่พลาดโอกาสที่จะบอกไปตามความคิดในหัวตอนนี้


“มากขนาดที่ว่า ผมอยากจะทิ้งทุกอย่างที่นี่แล้วบินไปหาคุณตอนนี้เลยน่ะสิ”


[เวอร์ไปแล้วครับ หึๆ]


“พูดจริงนะ” ณธิปว่า ก่อนจะนึกอะไรขึ้นได้ “แต่…”


[แต่อะไรครับ]



ณธิปตั้งใจจะเอ่ยต่อ ทว่าเสียงของกมลกลับฟังดูจริงจังขึ้น จนณธิปรู้สึกว่า กมลดูเหมือนอยากฟังคำพูดจริงๆ ที่ออกมาจากใจ หาใช่แค่คำสัพยอก



ความรู้สึกคล้ายหมอกมัวๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างพวกเขาทั้งสองคน ทำให้อยู่ๆ คนตาเรียวก็หัวใจเต้นแรงอย่างไร้เหตุผล อาจเพราะรู้สึกประหม่าที่จะเอ่ยความรู้สึกจริงๆ จากใจ



เสียงคลื่นกระทบฝั่งดังครืนๆ เสียงลมทะเลหวีดหวิว ทว่าเสียงหัวใจของณธิปกลับดังขึ้น จนชายหนุ่มกลัวว่ามันจะดังให้กมลได้ยินเข้า



หยอกเขามาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ทำไมครั้งนี้ต้องประหม่าด้วยนะ…ผู้บริหารหนุ่มนึกก่นด่าตัวเองในใจ รองเท้าหนังมันวาวบัดนี้เปื้อนไปด้วยทรายเพราะเขาเดินเตะมันแทนการระบายความรู้สึกที่อัดแน่นในอก



กระทั่งได้ยินเสียงเรียกจากปลายสาย ณธิปจึงดึงความสนใจกลับมาได้อีกครั้ง


[คุณเล็ก…]


“ครับ”


[เงียบทำไมครับ มีอะไรหรือเปล่า]


“เปล่าครับ ผมแค่คิดอะไรนิดหน่อย”


[คิดอะไรครับ เรื่องที่พูดค้างเมื่อครู่หรือ]


“ครับ” ณธิปตอบตามตรง


[แล้วตกลงจะบอกได้หรือยังครับ ว่าแต่อะไร]


“ครับๆ บอกก็บอก” เจ้าตัวกระแอมกระไอเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยด้วยความรู้สึกที่มี “ผมคิดถึงคุณ อยากเจอหน้าคุณเร็วๆ แต่ไม่รู้ว่าคุณจะอยากเจอผมไหม จะคิดถึงเหมือนที่ผมคิดบ้างหรือเปล่า”


[คุณเล็ก…]


“ว่ายังไงครับ คิดถึงผมไหม”


[ก็…] กมลอึกอักเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยเสียงเบา แต่คนฟังได้ยินมันชัดเจน [ถ้าคุณได้มาเที่ยวด้วยก็ดีครับ]



หากเขาไม่เข้าข้างตัวเองจนเกินไปนัก ณธิปคิดว่าที่กมลตอบ แปลว่าเจ้าตัวคิดถึงเขาด้วยเช่นกัน และณธิปก็เป็นคนที่ชอบเข้าข้างตัวเองเสียด้วย


“ผมจะไปเชียงใหม่เดี๋ยวนี้เลย”



ชายหนุ่มพูดอย่างมาดมั่น เขาเดินออกจากชายหาด มุ่งหน้ากลับเข้าโรงแรม เพราะตั้งใจว่าจะสั่งให้คนจัดการเรื่องการเดินทางทันที ทว่าคนปลายสายกลับร้องห้าม


[ไม่ต้องมาหรอกครับ โธ่…พรุ่งนี้ผมก็กลับแล้ว]


“กลับพรุ่งนี้แล้วหรือครับ” ณธิปชะงัก “ยังเหลือวันหยุดอีกสองวันไม่ใช่หรือ”


[วันหยุดราชการน่ะสิครับ แต่อย่างผม ได้หยุด 3 วันก็หรูแล้วล่ะ]


“ผมก็กลับพรุ่งนี้เหมือนกัน คุณกลับกี่โมง”


[ผมออกจากที่นี่แต่เช้าครับ กลับไปเก็บของแล้วก็พักผ่อน]


“ถ้าคุณไม่เหนื่อยจนเกินไปนัก ผมไปเจอคุณได้ไหม”


[คุณทำงานติดต่อกันหลายวัน เป็นคุณมากกว่าที่ต้องเหนื่อย ผมว่า…]


“ผมไม่เหนื่อยหรอก อยากเจอคุณมากกว่า บอกไปแล้วไม่ใช่หรือครับ”


[ถ้าอย่างนั้นก็ได้ครับ เอาตามที่คุณสะดวก เพราะยังไงพรุ่งนี้ผมก็ไม่มีโปรแกรม]


“คนอะไรใจดีที่สุดเลย” ณธิปเอ่ยออกมาอย่างยินดี


[หึๆ ใจดีอะไร แค่ออกมาเจอกัน] กมลตอบพลางหัวเราะเบาๆ แล้วเอ่ยอย่างรู้ทัน [อีกอย่าง ผมรู้ว่าถึงไม่ตกลง คุณก็จะรบเร้าจนเราต้องเจอกันอยู่ดี]


“ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ผมไม่คิดว่าคุณจะยอมง่ายๆ นี่”


กมลเงียบไปเล็กน้อยหลังจากได้ยินสิ่งที่ณธิปเอ่ย ก่อนจะว่า


[เอาเถอะครับ ตกลงว่าพรุ่งนี้เราค่อยคุยกันอีกทีนะ คืนนี้ผมต้องเข้านอนแล้ว เพราะต้องไปขึ้นเครื่องแต่เช้า]


“ได้ครับ ผมเองก็ต้องรีบนอนเหมือนกัน จะได้ตื่นมาเจอคุณไวๆ”


[คุณเล็ก…ผมจะวางแล้วนะครับ]



วันนี้กมลถูกรุกหนักจนต้องยอมแพ้ ซ้ำยังยอมใจอ่อนให้อีกหลายเรื่อง ณธิปจึงปล่อยให้หนุ่มหน้าหวานวางสายแต่โดยดี


“หึๆ โอเค แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะครับ”
   

[แล้วเจอกันครับ]









กมลส่งข้อความมาบอกว่าถึงกรุงเทพฯ ตั้งแต่ช่วงสาย และตอนนี้ก็เก็บข้าวของเสร็จเรียบร้อยแล้ว หากณธิปจะนัดไปที่ไหนก็บอกได้ทันที อีกฝ่ายจะได้ไปรอ



แต่กว่าณธิปจะเคลียร์งานเสร็จเวลาก็ปาเข้าไปเกือบเที่ยงวัน เขาจึงบอกให้หนุ่มหน้าหวานรออยู่ที่บ้าน หากเขาถึงแล้วจะเป็นฝ่ายเข้าไปรับเอง หลังจากนั้นชายหนุ่มก็รีบให้คนขับรถไปส่งที่สนามบินทันทีเพราะหวังใจว่าจะได้ทานกลางวันกับกมล



ชายหนุ่มแจ้งให้คนขับรถมารอรับเพื่อความสะดวก พอลงจากเครื่องจึงก้าวขึ้นรถต่อทันทีโดยไม่เสียเวลา



ไม่นานหลังจากนั้นรถของเขาก็เลี้ยวเข้าหมู่บ้านของกมล ชายหนุ่มมองนาฬิกาข้อมือแล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ ทั้งที่หวังว่าจะทานมื้อเที่ยงด้วยกัน แต่กว่าจะฝ่าการจราจรออกจากบ้านไปถึงร้านก็คงกลายเป็นมื้อเย็นพอดี



“คุณเล็กครับ”


“ว่าไงอุดม” ณธิปเงยหน้ามองคนขับรถ


“ที่หน้าบ้านของคุณไอ มีรถจอดขวางอยู่ครับ ผมจะจอดต่อท้ายออกมาหน่อย คุณเล็กเดินนิดนะครับ” ความจริงอุดมก็อยากให้เจ้านายได้รับความสะดวกสบายที่สุด แต่นี่เป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆ


“อืม” ณธิปรับคำ ก่อนจะมองรถที่จอดขวางไว้ ด้วยอยากรู้ว่าคนที่มาเป็นใคร



แต่แล้วชายหนุ่มก็ต้องขมวดคิ้ว เพราะรถคันนั้นไม่มีป้ายทะเบียน มิหนำซ้ำคนที่ลงมายังสวมเสื้อผ้ามิดชิด ท่าทางด้อมๆ มองๆ ไม่น่าไว้ใจ และทันทีที่ชายคนนั้นเห็นรถของณธิป เขาก็รีบกลับขึ้นรถแล้วขับออกไปทันที



“คุณเล็กครับ ผมว่าคนพวกนี้น่าสงสัย” บอดี้การ์ดที่นั่งอยู่ข้างคนขับเอ่ยขึ้น ซึ่งเป็นความรู้สึกเดียวกับณธิปพอดี ชายหนุ่มจึงสั่งเสียงเรียบ


“ตามมันไป”


“แล้วคุณไอ…” ทุกคนหันมามองหน้าณธิป


“ฉันจะลงนี่ นายขับรถตามมันไป”


“แต่ผมต้องดูความปลอดภัยของคุณ”


“ทิ้งอุดมไว้กับฉัน แล้วเดี๋ยวฉันจะเรียกคนมาเพิ่มพร้อมกับรถคันใหม่” ณธิปบอก แต่เมื่อเห็นใบหน้าลังเลของบอดี้การ์ดประจำตัว ชายหนุ่มจึงสั่งเสียงเย็น “ทำตามที่ฉันสั่งสิ มันจะไปไกลแล้ว”


“ครับ คุณเล็ก”



เมื่อบอดี้การ์ดตอบตกลง ณธิปก็ลงจากรถแล้วกดออดเรียกเจ้าบ้าน โดยมีอุดมตามมาคุ้มกันให้ รอไม่นานนักกมลก็ออกมาเปิดประตู โดยที่แต่งตัวเรียบร้อยพร้อมออกจากบ้าน


ณธิปปรับสีหน้าให้เป็นปรกติ ก่อนยิ้มให้อีกฝ่ายราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น


“คุณเล็ก…อุดม” กมลมองเจ้านายกับลูกน้องทั้งสอง ก่อนมองไปทางด้านหลัง “แล้วรถไปไหนล่ะครับ”


“รถเสียครับ ผมให้คนเอาไปเข้าอู่แล้ว” เจ้าของดวงตาเรียวเอ่ย
   

“ถ้าอย่างนั้นไปรถผมก็แล้วกันนะครับ” กมลบอก ทว่าณธิปกลับปฏิเสธ
   

“ไม่ได้”
   

“หืม?”
   

“คือ…ผมเรียกให้คนเอารถมาอีกคันแล้วล่ะครับ ตอนนี้เขากำลังเดินทาง ไปรถผมดีกว่านะ”
   

“ยุ่งยากไปหรือเปล่าครับ แล้วอีกอย่าง ไหนคุณส่งข้อความมาว่ายังไม่ได้ทานกลางวัน ไม่หิวหรือครับ”
   

“ยังไม่ค่อยหิว คุณล่ะ ทานหรือยัง”
   

“เรียบร้อยแล้ว”
   

“ถ้าอย่างนั้นเราเลื่อนเป็นมื้อเย็นแทนดีกว่า แต่ตอนนี้ผมขอเข้าไปรอในบ้านได้ไหมครับ”
   

“ได้สิครับ” กมลรีบบอกพร้อมเปิดทางให้แขกเข้าบ้าน “ขอโทษนะครับ มัวแต่คุยเพลิน”
   

“ไม่เป็นไร” ณธิปยิ้ม และรอจนกมลปิดประตูรั้วเรียบร้อย จึงเดินเข้าไปพร้อมกัน
   








   เมื่อเข้ามาในบ้าน ชายหนุ่มก็พบกับน้องสาวของกมล อีกฝ่ายมองเขาตาแป๋ว ก่อนจะยิ้มให้น้อยๆ แล้วเดินเข้าไปเอาน้ำเย็นมาให้ระหว่างที่กมลนำเขาไปยังห้องรับแขก


   “ทำไมบ้านเงียบจัง เด็กๆ ไปไหนเสียล่ะครับ”


   “เด็กๆ นอนกลางวันอยู่ข้างบนน่ะครับ เมื่อเช้าตื่นเร็ว วันนี้ก็เลยนอนนาน”


   “อ๋อ…”


   “ว่าแต่คุณไม่หิวจริงๆ ใช่ไหม ให้ผมทำอะไรให้ทานง่ายๆ ดีไหมครับ”


   “แต่คุณเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว เดี๋ยวกลิ่นอาหารจะติดตัวเอานะ”


   “ไม่เป็นไรหรอก” กลมว่ายิ้มๆ “รอตรงนี้เดี๋ยวนะครับ ผมไปทำแปบเดียว”


   “ก็ได้ครับ ขอบคุณนะไอ”



   ณธิปยิ้มให้อีกฝ่ายบางๆ ความรู้สึกกังวลใจจากเหตุการณ์เมื่อครู่คล้ายจะเลือนหายไปชั่วขณะ แต่ระหว่างที่ชายหนุ่มกำลังรู้สึกอารมณ์ดีขึ้น เสียงโทรศัพท์ของเขาก็ขัดจังหวะอารมณ์เสียก่อน



   ครืด ครืด



เห็นชื่อของบอดี้การ์ดประจำตัวปรากฏ ชายหนุ่มก็รีบกดรับแล้วกรอกเสียงไปหาปลายสายทันที


“ว่าไง ได้เรื่องไหม”


[ครับคุณเล็ก]


“คนของใคร”


[รัฐมนตรีทรงศักดิ์ครับ]


“มันต้องการอะไร”


[ส่งมาสอดแนมครับ]


“หึ…ข่าวเร็วดีเหลือเกินนะ ทั้งที่ฉันเป็นคนออกหน้าแทนแท้ๆ”


[มันคงรู้ว่าทำอะไรคุณเล็กไม่ได้ ว่าแต่จะให้เอาอย่างไรกับมันดีครับ]


“ไม่ต้องทำยังไง ปล่อยมันไป”


[แต่คุณเล็กครับ…] ปลายสายประท้วง ทว่าณธิปกลับพูดแทรก


“ฉันยังพูดไม่จบ” ชายหนุ่มเหลือบมองไปทางครัว พอเห็นว่าสองพี่น้องยังไม่มีทีท่าว่าจะออกมา ชายหนุ่มจึงเอ่ยด้วยน้ำเสียงเหี้ยมเกรียม “ให้มันกลับไปบอกนายของมัน ถ้าไม่อยากมีปัญหาไปมากกว่านี้ อย่ายุ่งกับเขา อย่าแม้แต่จะคิด เพราะฉันจะไม่เตือนเป็นครั้งที่สอง”


[ครับ]


เมื่อพูดจบ ชายหนุ่มก็วางสายทันที ด้วยอุดมส่งสัญญาณว่ากมลกำลังเดินมาทางนี้



ณธิปพยายามปรับสีหน้าให้เป็นปรกติอีกครั้ง แต่พอเห็นใบหน้ายิ้มแย้มของกมล เขาอดกังวลไม่ได้ แต่ถึงอย่างนั้น ชายหนุ่มก็สัญญากับตัวเอง



ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เขาจะไม่มีทางปล่อยให้กมลตกอยู่ในอันตรายเด็ดขาด





<<><><><><><><><><><><><><><><><>



มาแล้วค่ะ >__<
เห็นความพระเอกของลูกชายเปล่งประกายขึ้นทุกวัน คนเป็นแม่ก็ดีใจค่ะ 55555
ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน เม้น และทวงด้วยค่ะ ดีใจที่ยังมีคนทวง ฮือออ
ขอโทษทีช้านะคะ จะพยายามมาต่อเรื่องนี้บ่อยๆ แต่เขียนสดไม่มีสต็อก ก็เลยช้าหน่อย
ยังไงฝากเป็นกำลังใจให้คุณเล็ก คุณไอด้วยนะคะ ^^

เจอกันตอนหน้าค่ะ

ละอองฝน.

หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 38 [24/03/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 24-03-2018 23:18:09
 :pig4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 38 [24/03/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 24-03-2018 23:32:34
โหยถ้าคุณเล็กไม่แวะมาจะเป็นยังไง
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 38 [24/03/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: nkl31 ที่ 25-03-2018 00:23:48
คุณเล็กของน้องงงงงง สู้เค้านะคะ คุณไอจะใจอ่อนแล้วววว
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 38 [24/03/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 25-03-2018 00:27:56
คุณเล็กควรบอกคุณไอ เพื่อจะได้ระวังตัวนะ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 38 [24/03/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 25-03-2018 00:41:40
อย่าลืมบอกคุณไอนะคะคุณเล็ก จะได้ช่วยกันระวัง  :hao5:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 38 [24/03/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 25-03-2018 05:42:14
ระทึกเลย คุณไอจะรู้มั้ย อย่าลืมบอกคุณไอนะ จะได้ระวังตัว
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 38 [24/03/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 25-03-2018 08:00:43
 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 38 [24/03/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 25-03-2018 09:30:13
ลุ้นกับคุณไอคุณเล็กจริงๆ ความสัมพันธ์เหมือนจะคืบหน้า แต่ก็เหมือนจะไม่ไปไหนเลย เฮ้อออ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 38 [24/03/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 25-03-2018 10:01:55
ลุ้น. รอตอนต่อไปจ้าาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 38 [24/03/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: AeAng11 ที่ 25-03-2018 10:14:00
ช้าๆได้พร้าสองเล่มงามเรามอบให้คุณเล็กค่ะ น้องไอลูกแม่ใจอ่อนเหอะแม่สงสารว่าที่ลูกเขย
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 38 [24/03/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 25-03-2018 13:39:03
ชักจะเป็นห่วงคุณไอ..คุณเล็กดูแลให้ดีีๆนะ  :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 38 [24/03/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 25-03-2018 17:56:43
ห่วงคุณไออ่า ถ้าคุณเล็กไม่มาเจอจะทำยังไง
 :hao5:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 38 [24/03/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: ToeyTato ที่ 26-03-2018 08:07:04
คุณเล็กต้องโชว์สกิลความเป็นพระเอกเท่ห์ๆ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 38 [24/03/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 26-03-2018 09:01:02
รู้สึกว่าคุณเล็กพึ่งพาได้มากขึ้นทุกวัน ไม่ว่ายังไงก็ดูแลคุณไอและครอบครัวดีๆนะคุณเล็ก
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 38 [24/03/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: +pEnGuIn+ ที่ 26-03-2018 09:38:27
คุณเล็กเหี้ยมกร๊าวใจมากค่ะ
อยากเห็นคุณเล็กเวอร์นี้อีก
แต่ก็กลัวคุณไอเป็นอันตราย โฮวววว
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 39 [16/04/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: ละอองฝน ที่ 16-04-2018 23:34:17



คุณคือความรัก บทที่ 39





   หลังจากได้หยุดพักผ่อนช่วงสงกรานต์หลายวัน กิจวัตรของกมลก็กลับมาเป็นเช่นเดิมอีกครั้ง เช้านี้หนุ่มหน้าหวานออกไปวิ่งที่สวนสาธารณะประจำหมู่บ้าน แวะซื้อน้ำเต้าหู้เจ้าประจำ กลับเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า และช่วยดูแลหลานๆ ไปก่อนโรงเรียนศิลปะ


   ทุกอย่างดูปรกติสุขดีเหมือนเก่า เว้นเสียแต่ว่า กมลดันเป็นคนช่างสังเกตเกินไป เขาจึงจับสิ่งผิดปรกติเล็กๆ ได้ นั่นคือตั้งแต่ออกไปวิ่งจนกระทั่งพาหลานๆ ออกไปส่งที่โรงเรียน เขาพบว่ามีใครบางคนคอยสะกดรอยตามตนเองอยู่ตลอดเวลา


   ชายหนุ่มพยายามทำตัวให้นิ่งที่สุด ทำเหมือนไม่รู้ ไม่กระโตกกระตาก เพื่อให้คนที่ตามไม่รู้ตัวว่าถูกจับได้ เขาไปส่งหลานๆ แล้วไปส่งน้องสาวที่ทำงาน ก่อนออกมาพบลูกค้าที่นัดเอาไว้ในโรงแรมแห่งหนึ่ง


   กมลไม่รู้ว่าคนพวกนั้นมีจุดประสงค์อะไร เขาจึงคิดไปในทางร้ายก่อนว่าไม่ใช่เรื่องดีอย่างแน่นอน ลำพังแค่ตัวเองชายหนุ่มไม่นึกห่วงเท่าไร


แต่ถ้าเป็นน้องสาวกับหลานๆ นี่สิ…เขาได้แต่ขมวดคิ้วมุ่น
   

ตลอดเวลาที่พบลูกค้า จิตใจของกมลไม่อาจสงบได้เลย แม้ภายนอกของเขาจะไม่แสดงอะไรออกมาก็ตาม เพราะมัวห่วงพะวงอยู่กับคนในครอบครัว
   

ครั้นจัดการงานเรียบร้อยและแยกกับลูกค้าแล้ว ผู้บริหารหนุ่มจึงโทรไปหาน้องสาว
   
“อ้าย”
   
[คะ…พี่ไอ]
   
“วันนี้อ้ายไม่ต้องไปรับเด็กๆ นะ พี่เสร็จงานแล้ว เดี๋ยวพี่จะแวะไปรับเอง”
   
[ได้ค่ะ]
   

หญิงสาวตอบรับง่ายๆ ก่อนขอตัวไปทำงานต่อ กมลมองหน้าจอมือถือด้วยแววตาหนักใจ ชั่ววินาทีหนึ่งอยู่ๆ รายชื่อของใครบางคนที่อยู่ถัดลงมาจะทำให้เขาคิดอะไรบางอย่างได้
   

ชายหนุ่มมองชื่อนั้นนิ่งนาน สุดท้ายก็ตัดสินใจกดโทรออก เขารอสายอยู่สักพัก คนปลายสายจึงกดรับ
   

[ทำไมวันนี้โทรหาผมได้ครับ คุณไอ]
   

เสียงร่าเริงของณธิปทำเอาชายหนุ่มรู้สึกผิดทันที เพราะเขากำลังจะเอาเรื่องวุ่นวายมาทำให้ณธิปปวดหัวอีกครั้ง แต่ก็กมลก็ไม่มีทางเลือก เนื่องจากณธิปเป็นคนเดียวที่กมลคิดถึงเป็นคนแรกตอนที่พบกับปัญหา คิดว่าอีกฝ่ายน่าจะพอช่วยอะไรได้บ้าง
   

“คุณเล็ก”
   
[ว่าไงครับ]
   
“คุณว่างหรือเปล่าครับ”
   
[ว่างครับ คุณมีอะไรหรือเปล่า เสียงฟังดูไม่ดีเลยนะ]
   

กมลเผลอยิ้มออกมาเล็กน้อย ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ณธิปใส่ใจเขา จนสามารถรับรู้ถึงความผิดปรกติได้ เพียงแค่ฟังน้ำเสียง


   “ผม…มีเรื่องนิดหน่อยครับ”
   
[มีเรื่องหรือ!]

“เอ่อ…ครับ”


ครั้นกมลตอบรับ อีกฝ่ายก็เงียบไปครู่หนึ่ง คล้ายคิดอะไรบางอย่าง ก่อนจะรีบถามกลับมารวดเร็วจนหนุ่มหน้าหวานเองเกือบตั้งตัวไม่ทัน


[เกิดอะไรขึ้นน่ะไอ! คุณเป็นอะไรหรือเปล่า]
   
“ใจเย็นก่อนครับคุณเล็ก ผมไม่ได้เป็นอะไร”

[แต่คุณบอกว่ามีเรื่องนี่ มันยังไงกันแน่]

“คือ…ผมไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า แต่ผมรู้สึกแปลกๆ”

[รู้สึกแปลกๆ…คุณหมายความว่ายังไง]

“คล้ายกับมีคนกำลังสะกดรอยตามครับ”

[สะกดรอยตามหรือ ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน]

“ที่โรงแรมxxxครับ”

[รออยู่ที่ล็อบบี้ก่อน ผมจะไปหาเดี๋ยวนี้]

“เดี๋ยวก่อนคุณเล็ก!” กมลรีบร้องห้ามทันที เพราะไม่อยากให้ณธิปทิ้งงานมาหาตนกลางคันแบบนี้

[อย่าดื้อน่าไอ รอผมตรงนั้นเดี๋ยวเดียว ห้ามไปไหนเด็ดขาด เข้าใจไหม] ว่าจบ ณธิปก็วางสายไปทันที ปล่อยให้กมลยืนเป็นไก่ตาแตกอยู่ที่เดิม

ใจร้อนเกินไปแล้ว…กมลคิด ก่อนจะเดินไปนั่งยังโซฟาใกล้ล็อบบี้เพื่อรออีกฝ่ายตามคำสั่ง


กมลรู้สึกคล้ายกลังตัดสินใจผิดพลาดที่โทรบอกเรื่องนี้กับณธิป เขานั่งอยู่ที่เก้าอี้ในโรงแรมด้วยความรู้สึกพะว้าพะวง มองออกไปด้านหน้าที มองไปรอบๆ ที


กระทั่งคนที่เขารอเดินเข้ามาที่รอบบี้ด้วยท่าทางร้อนใจ อยู่ๆ ความกังวลกับเรื่องต่างๆ พลันหายไปราวกับไม่เคยเกิดขึ้น เพียงเพราะได้เห็นหน้าของอีกฝ่ายเท่านั้น


“คุณไอ”


ณธิปกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้ามาหา เมื่อถึงตัวกมล ชายหนุ่มก็แทบจะดึงคนหน้าหวานมาไว้ในอ้อมกอด แต่ณธิปยังมีสติ ทำให้รู้ว่าตนเองและกมลไม่อยู่อยู่ในที่รโหฐาน เขาจึงยั้งตัวไว้ได้ทัน


“คุณมาเร็วมาก”

“แหงสิ พอผมได้ยินคุณพูดแบบนั้น ผมก็พุ่งตัวมานี่ทันที”

“ขอโทษนะครับ”

“ไม่ต้องขอโทษหรอก” ณธิปส่ายหน้ายิ้มๆ แล้วใช้นิ้วโป้งลูบที่ระหว่างคิ้วของกมลเพื่อคลายปม “ห่วงผมหรือครับ คิ้วขมวดเชียว”

“ครับ ผมกลัวคุณเสียงาน”
   

จากที่ยิ้มบางๆ คราวนี้ณธิปก็ยิ้มออกมาจนเต็มแก้ม เพราะกมลยอมรับว่าเป็นห่วงเขาโดยไม่เล่นแง่อย่างทุกครั้ง ความจริงอันแสนหวานทำให้ณธิปลืมความกังวลใจไปชั่วครู่ ทว่าเมื่อเห็นกมลยังมีสีหน้ากังวลใจอยู่ ชายหนุ่มจึงกลับเข้าเรื่อง
   

“ว่าแต่ คุณว่ามีคนตามหรือไอ”
   
“ครับ”
   
“มันอยู่ไหน”
   
“เอ่อ…ตอนนี้ผมไม่เห็นแล้ว เขาจะตามผมห่างๆ ไม่ได้เข้ามาประกบ แต่ขับรถตามดูเป็นระยะๆ น่ะ” กมลเล่า
   
“คุณรู้ตัวตั้งแต่เมื่อไหร่” ณธิปถามต่อ
   
“เมื่อเช้าครับ ตอนออกไปวิ่งจ๊อกกิ้ง”
   
“ลักษณะของพวกมันเป็นยังไง คุณพอจะจำได้ไหม”
   
“ผมไม่เห็นตัว แต่ว่า…”
   
ทว่ากมลยังไม่ทันบอก ชายชุดดำที่เพิ่งเดินเข้ามาก็ขัดจังหวะเสียก่อน
   
“คุณเล็กครับ”
   
“ว่าไง” ณธิปขมวดคิ้วนิดๆ ก่อนหันไปหาลูกน้องของตัวเอง
   
“รถพร้อมแล้วครับ”
   
“อืม” ณธิปพยักหน้ารับรู้ ก่อนปรับสีหน้าแล้วหันมาหากมล “ไปคุยกันบนรถดีกว่าไหม ตรงนี้ผมว่าไม่ค่อยสะดวก”

   “แต่ผมเอารถมา”
   
“งั้นให้คนของผมขับรถคุณแทน ส่วนคุณไปกับผมนะครับ”
   
“จะดีหรือครับคุณเล็ก
   
“ดีที่สุด เราจะได้คุยกันด้วย มาครับ”
   

ไม่ว่าเปล่า ณธิปยังคว้ามือของกมลมากุมไว้แล้วดึงให้ไปที่รถด้วยกัน กมลมองมือข้างนั้นนิ่ง อยู่ๆ ความคิดที่ว่าเขาสามารถพึ่งพิงคนคนนี้ได้จริงๆ ก็ผุดขึ้นมาในสมองอีกครั้ง


ดวงตาคู่งามเลื่อนขึ้นมองแผ่นหลังกว้างที่นำไปเล็กน้อย ไม่รู้เพราะท่าทางมั่นคงของณธิปหรือเปล่า วันนี้มือซึ่งถูกกุมไว้จึงอุ่นขึ้นกว่าที่เคย…









   กมลยอมขึ้นรถของณธิปพร้อมทั้งส่งกุญแจรถของตัวเองให้โดยที่ไม่อ้าปากปฏิเสธสักคำ พวกเขานั่งมาด้วยกัน ปลายทางคือโรงเรียนสอนศิลปะของหยินและหยาง ในห้องโดยสารอวลด้วยความรู้สึกประหลาดยากจะบรรยาย เพราะใจหนึ่งก็กังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น อีกใจก็รู้สึกราวกับมีดอกไม้ผลิบานอยู่ข้างใน แต่กมลก็พยายามควบคุมสีหน้าของตนเองไว้ ไม่ให้หลุดไปมากกว่านี้
   


“คุณไปจ๊อกกิ้งตอนเช้าด้วยหรือ” ณธิปเปิดฉากถามหลังจากที่รถเคลื่อนออกมาจากโรงแรม
   
“ครับ” กมลพยักหน้า “ถ้าอยู่บ้าน ผมจะไปวิ่งตอนเช้าก่อนไปทำงานทุกวัน”
   
“ประมาณกี่โมงครับ”
   
“ประมาณตีห้านิดๆ ครับ”
   
“ทำไมออกไปเช้าขนาดนี้ ยังมืดอยู่เลยนะคุณ อันตราย”
   
“หมู่บ้านผมเป็นหมู่บ้านปิด ปรกติไม่เคยมีเรื่องอะไรน่ากลัวๆ เกิดขึ้นเลยสักครั้ง อีกอย่างผมก็ทำแบบนี้มาหลายปีแล้ว”
   
“ออกไปวิ่งคนเดียวมืดๆ ได้ยังไง ใครเขาทำกัน”
   
“คนอื่นก็ทำกันครับ”
   
“ประมาทเกินไปแล้ว เกิดใครมาทำอะไรคุณเข้าจะทำยังไง”

มือที่ยังจับไม่ปล่อยแต่แรกกระชับแน่นขึ้น ใบหน้าจริงจังผิดปรกติของผู้บริหารแห่งเอ็นพีกรุ๊ป บัดนี้ยิ่งดูจริงจังขึ้นกว่าเดิม

“ผมเป็นผู้ชายนะคุณเล็ก ถ้าเกิดอะไรขึ้นก็พอดูแลตัวเองได้ อีกอย่างผมคิดว่าไม่น่ามีอะไร เพราะที่ผ่านมามันปลอดภัยดี”

“แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้วนะครับ ผมขอนะ คุณอย่าไปวิ่งสักพัก หรือไม่ก็…” ณธิปนิ่งไปพักหนึ่ง ก่อนจะสั่งกับบอดี้การ์ดที่นั่งอยู่เบาะหน้าข้างคนขับ “บอกให้จัดคนไปเพิ่มตอนที่คุณไอวิ่งด้วย”

“ครับคุณเล็ก” บอดี้การ์ดประจำกายของณธิปรับคำ

“เดี๋ยวนะคุณเล็ก นี่มันอะไรกันครับ จัดคนมาเพิ่มงั้นหรือ” กมลขมวดคิ้วมุ่น

“ไอ…คือผม” ณธิปอ้ำอึ้งเล็กน้อย เพราะไม่คิดว่ากมลจะจับประเด็นได้เร็วถึงเพียงนี้

“คุณส่งคนมาตามผมหรือครับ”


ณธิปมองประสานสายตากับกมลครู่หนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ และยอมสารภาพความจริงที่ปิดบังเอาไว้


“ครับ”

“ทำไมล่ะ” คราวนี้เป็นกมลที่ขมวดคิ้วบ้างแล้ว

“จำวันที่ผมไปหาคุณที่บ้านได้ไหม”

“วันที่ผมกลับมาจากเชียงใหม่หรือครับ”

“ใช่แล้วล่ะ” ณธิปพยักหน้า ก่อนจะว่า “วันนั้นผมเจอคนมาดูลาดเลาที่บ้านคุณ ผมก็เลยให้ลูกน้องตามไปจับมา”

“เป็นพวกไหนครับ อยากบอกนะว่า…รัฐมนตรีทรงศักดิ์” กมลถามกลับทันที เนื่องจากเขาก็คิดอยู่ว่าเรื่องแบบนี้ไม่น่าเป็นฝีมือคนอื่น เพราะกมลไม่เคยมีศัตรูที่ไหน ซึ่งคำตอบของณธิปก็เป็นเช่นที่กมลคาดเดา

“ครับ พวกมันเป็นคนของทรงศักดิ์จริงๆ หลังจากนั้นผมก็ให้คนคอยจับตาดูคุณกับครอบครัวไว้ เพียงแต่ไม่ได้ตามติด 24 ชั่วโมง เพราะกลัวว่าคุณจะไม่พอใจ”

“คุณเล็ก” กมลปรามเสียงดุ ฝ่ายที่ออกคำสั่งในตอนแรกจึงหงอลงๆ พลางถามเสียงอ่อน

“ว่าไงครับ”

“เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ทำไมคุณไม่บอกผม”

“ผมไม่อยากให้คุณกังวล อยากให้คุณได้ใช้ชีวิตตามปรกติ” ณธิปตอบตามตรง และนั่นก็ทำให้แววตาดุๆ ของกมลมีแววอ่อนลง

“แต่มันไม่ถูกต้อง นี่ไม่ใช่ความรับผิดชอบของคุณแค่คนเดียว คุณก็รู้นี่ครับ เรื่องของรัฐมนตรีทรงศักดิ์ ผมเกี่ยวข้องเต็มๆ”

“เพราะผมรู้น่ะสิ ผมถึงไม่อยากบอก ไม่อยากให้คุณทำหน้านิ่วเหมือนตอนนี้ไง”


ณธิปยกมือข้างที่ไม่ได้จับมือกมลไว้ขึ้นลูบใบหน้าของอีกฝ่ายอย่างอุกอาจ ก่อนจะใช้นิ้วโป้งเกลี่ยเบาราวกับต้องการทะนุถนอมคนคนนี้ให้มากที่สุด


ชายหนุ่มรู้ดี แม้กมลจะหน้าสวยหวานและบอบบางปานนี้ ทั้งนิสัยใจคอก็เหมือนเทวดาแสนดี แต่โดยนิสัยแล้วกมลเป็นคนเข้มแข็งมาก


กระนั้น ถึงณธิปจะรู้ดีมานานแล้ว เขาก็อยากปกป้องกมลจากเรื่องร้ายๆ พวกนั้นอยู่ดี ด้วยไม่อยากให้อะไรหรือใครหน้าไหนมาทำให้คุณไอของเขาต้องคิดมาก


ความรู้สึกรักใคร่และห่วงใยส่งผ่านมาให้กมลได้รับรู้ทั้งหมดผ่านทางสายตา การกระทำ และคำพูด กมลจึงได้แต่ถอนหายใจเบาเท่านั้น ทว่าไม่ได้ปฏิเสธหรือบอกปัดความรู้สึกดีๆ ให้พ้นทางไปได้อย่างทุกที


ที่ใครเขาว่า น้ำหยดลงหิน ทุกวันหินมันยังกร่อน ดูท่าจะจริงก็คราวนี้…กมลได้แต่คิดในใจ


แต่อย่างไรเสีย เรื่องที่ควรบอก ก็จำเป็นต้องบอกอยู่ดี คิดมาถึงตรงนี้ กมลก็สูดหายใจเข้าลึกๆ รวบรวมความคิด ข่มความหวั่นไหว แล้วเอ่ยเรื่องสำคัญก่อน


“ขอบคุณนะคุณเล็ก ขอคุณที่เป็นห่วงผม”

“ก็ถ้าไม่ให้ห่วงคุณ ผมจะไปห่วงใครล่ะ”

“หึ…” กมลเลิกขมวดคิ้วแล้วหัวเราะออกมาน้อยๆ “ครับๆ ผมรู้แล้วล่ะ แต่ยังไง ผมก็ยังยืนยันให้คุณบอกทุกเรื่องกับผมอยู่ดี มันไม่ใช่แค่เรื่องคิดมากหรือไม่คิดมากนะคุณเล็ก อย่างน้อยหากเกิดอะไรขึ้น หากผมรู้ว่าตัวเองกำลังเผชิญสถานการณ์แบบไหน ผมจะได้เตรียมตัวรับมือได้ทันไงครับ คุณก็รู้ไม่ใช่หรือครับ บ้านผมมีหลานสองคน มีน้องสาวด้วย”


“รู้ครับ ผมก็เลยให้คนไปดูแลทั้งคุณและคนในครอบครัว โดยเฉพาะเด็กๆ เป็นพิเศษ แต่ไม่คิดว่าคุณจะออกมาทำอะไรคนเดียวเช้าๆ แบบนั้น แต่ไม่ต้องห่วง คุณใช้ชีวิตตามปรกติ ผมจะสั่งให้คนดูแลคุณกับครอบครัว 24 ชั่วโมงไปเลย และคุณก็ห้ามปฏิเสธด้วยนะ ถึงผมจะแจ้งกับทางตำรวจไว้ก่อนแล้วก็เถอะ แต่ยังไงงานนี้คุณต้องมีผม เข้าใจไหมครับ”


กมลมองหน้าณธิปด้วยความหนักใจ เพราะการจำงัดกับคนระดับรัฐมนตรีไม่ใช่เรื่องง่าย และแต่พอคิดถึงความปลอดภัยเป็นที่ตั้ง ชายหนุ่มจึงพยักหน้ารับ

“ตกลงครับ ขอบคุณคุณมากนะ ผมทำให้คุณลำบากอีกแล้ว”

“ไม่ลำบากหรอก นี่ถ้าทำได้ ผมจะให้พวกคุณย้ายมาอยู่กับผมให้รู้แล้วรู้รอด ผมจะได้ดูแลคุณเองไงล่ะ”


สายตาวิบวับตามแบบฉบับของณธิปไม่ได้ทำให้กมลรู้สึกอึดอัดใจอีกแล้ว ตรงกันข้าม เวลานี้มันกลับทำให้ชายหนุ่มยิ้มออกมาได้ แม้สถานการณ์จะตึงเครียดแค่ไหน


“ขอบคุณอีกครั้งนะครับ”

“เปลี่ยนคำขอบคุณเป็นอย่างอื่นได้ไหม”

“คุณอยากได้อะไรล่ะ”

“อืม…ไม่ยากหรอก ขอแบบน้องที่น้องหยางเคยทำก็ได้”

“น้องหยางหรือครับ”


กมลมุ่นคิ้วน้อยๆ คล้ายกำลังนึกย้อนไปถึงพฤติกรรมของหลานชายคนเล็ก แต่พอณธิปทำแก้มพองลมข้างหนึ่งพร้อมกับยื่นหน้าเข้ามาใกล้ กมลก็นึกออกทันที


“เร็วสิครับ”

“ไม่เอาน่าคุณเล็ก ไม่ล้อเล่นแบบนี้สิครับ คนอยู่เยอะแยะ”


กมลลอบมองคนขับรถกับบอดี้การ์ดที่ทำหน้าที่ของตนเองเป็นอย่างดีแล้วนึกประหม่า รู้สึกเหมือนเลือดลมกำลังจะสูบฉีดขึ้นสู่ผิวหน้า ชายหนุ่มจึงพยายามอย่างยิ่งที่จะควบคุมอารมณ์ความรู้สึกของตนเองไว้


ทว่าณธิปกลับไม่ฟัง และเสี่ยงที่จะทำในสิ่งตรงกันข้าม


“โอเคๆ ไม่ล้อเล่นก็ได้” ว่าจบคนเจ้าเล่ห์ก็หันไปกระตุกม่านเพื่อกั้นระหว่างห้องโดยสารด้านหลังกับส่วนของคนขับรถลงจนมิด ก่อนเปลี่ยนจะขยับกายเข้าไปใกล้ให้กมลถอยหนีจนหลังติดประตูอีกฝั่ง


เมื่อไร้ทางหนี สิ่งที่ทำได้เพียงอย่างเดียวคือร้องปราม แม้เสียงจะสั่นเพียงใดก็ตาม

“คุณเล็ก ไม่เล่นแบบนี้ครับ”

“ผมบอกแล้วไงว่าไม่ได้เล่น”

“ไหนเคยบอกว่า…คุณ…จะไม่ฉวยโอกาสไงครับ” กมลทวงถามข้อตกลงด้วยเสียงตะกุกตะกัก

“อย่าใจร้ายนักสิครับ” ณธิปเว้าวอนด้วยแววตาหน้าสงสาร ทั้งที่ตนเองเกือบจะรวบกมลไว้บนตักอยู่รอมร่อ

“ผมไม่ได้ใจร้าย”

“งั้นก็ให้รางวัลผมหน่อยสิ” ครั้นทวงถาม คำตอบก็ยังเป็นคำเดิม แต่แววตาของกมลไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว ซึ่งในข้อนี้…ณธิปเองก็รู้

“ไม่เอาครับ ผมไม่ทำ”
   
“คุณไม่ทำ แต่ผมทำได้ใช่ไหม”

“…”

“ผมจะถือว่าที่คุณเงียบ แสดงว่าคุณตกลงนะ”

“…”


เมื่อไม่มีเสียงตอบรับจากกมล ณธิปจึงเงียบเสียงลง เขารอจนกระทั่งคนที่ก้มหน้างุดค่อยๆ เคยหน้าขึ้นมองด้วยความสงสัย หมาป่าเจ้าเล่ห์จึงงับเข้าที่ใบหูแดงก่ำ ต่อจากนั้นก็ค่อยๆ กดจมูกย้ำๆ ลงบนแก้มนุ่มหลายครั้งอย่างนึกหมั่นเขี้ยว


“คะ…คุณเล็ก พอแล้วครับ” คนที่มั่นใจในตัวเอง และเป็นที่พึ่งของคนอื่นอยู่เสมอ บัดนี้กลับแนบหน้าลงบนเสื้อสูทหรู ใช้อกกว้างของณธิปเป็นที่พึ่งพิงและหลบลี้จากความอาย


“โอเคครับ พอก็พอ”


ณธิปว่าอย่างนั้น แต่แขนสองข้างกลับโอบกอดกมลไว้แน่น กมลเองก็นิ่งให้ณธิปกอดเข่นนั้นโดยไม่คิดขัดขืน อาจเป็นเพราะเจ้าตัวขัดเขินเกินกว่าจะเคลื่อนไหว หรือไม่ก็ถูกเสียงหัวใจที่เต้นอย่างบ้าคลั่งในอกของณธิปดึงดูดก็เป็นได้


ผ่านไปพักใหญ่ ต่างฝ่ายต่างก็ควบคุมตัวเองให้ใจสงบลงแล้ว คนหน้าหวานจึงพยายามจะดึงตัวเองออกจากอ้อมกอดของหมาป่าเจ้าเล่ห์ ทว่าณธิปก็คือณธิป ผู้ชายที่ไม่เคยทิ้งลายและได้คืบจะเอาศอกคนเดิม


“คุณเล็กครับ ปล่อยผมก่อนดีไหม”

“ให้ถึงโรงเรียนของเด็กๆ ก่อน แล้วผมจะปล่อย”

“แต่ว่า…”

“อีกเดี๋ยวก็ถึงแล้ว…นะครับ”

“…” พอไม่ได้ยินเสียงตอบรับ ณธิปก็ยิ้มออกมาจนปากแทบฉีกไปถึงหู


วันนี้คนใจร้ายทำตัวใจดีเป็นพิเศษ คงเพราะกมลกำลังอ่อนไหวกับเรื่องที่เข้ามาหา คิดได้ดังนั้น ณธิปจึงลูบหลังของคนหน้าหวานเบาๆ แผ่นหลังที่แบกเอาภาระต่างๆ ไว้กับตัวเองมากมาย ก่อนจะเอ่ย


“คุณไม่ต้องกลัวนะไอ ผมจะไม่ปล่อยให้คุณต้องเผชิญเรื่องนี้คนเดียวแน่นอน”
   

กมลไม่ได้ตอบรับเช่นเก่า หากณธิปคงไม่รู้ คำสัญญาคำนั้นได้ทะลุผ่านกำแพงน้ำแข็งเข้าไปประทับอยู่ในหัวใจของกมลอย่างง่ายดาย







<><><><><><><><><><><><><>



คุณเล็กกลับมาแล้ว กลับมาแบบท็อปฟอร์มมากๆ 555
ความพระเอกผสมกับความเจ้าเล่ห์นี้ มันคือคุณเล็กที่สุด /ขีดเส้นใต้คำว่าพระเอกสิบครั้ง 555

ขอโทษนะคะที่มาช้า จากนี้จะพยายามมาให้บ่อยขึ้นค่ะ
ขอบคุณที่รอนะคะ ^^
เจอกันตอนหน้าค่ะ

ละอองฝน.

ปล.คำผิดจะกลับมาอีดิทอีกครั้งนะคะ ^^
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 39 [16/04/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: khwanruen ที่ 17-04-2018 00:02:25
คุณเล็กพระเอกสุดๆไปเลยตอนนี้ ไอเริ่มใจอ่อนด้วยมากละนะ พยายามอีกนิด  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 39 [16/04/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: Mengjie_JJ ที่ 17-04-2018 00:09:33
เขินแทนคุณไอ

คุณเล็กก็... มาหอมแก้มเขา

 :-[ :-[
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 39 [16/04/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 17-04-2018 00:35:36
คนเล็กรุกหนักมาก อย่างนี้คุณไอคงหนีไปไหนไม่รอด
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 39 [16/04/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 17-04-2018 02:02:40
 :o12: คุณไอของฉัน ใจอ่อนแล้วเหรอ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 39 [16/04/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: AeAng11 ที่ 17-04-2018 06:26:25
คุณเล็กลูกแม่พระเอกสุดๆค่ะหล่อมากค่ะขอบคุณคุณฝนนะคะที่กลั่นกรองเรื่องดีๆแบบนี้มาให้นักอ่านอย่างเรา
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 39 [16/04/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: ToeyTato ที่ 17-04-2018 08:48:05
ชอบจัง คันยุ้บยิ้บที่หัวใจสุดๆ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 39 [16/04/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 17-04-2018 10:58:34
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 39 [16/04/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: may27 ที่ 17-04-2018 11:09:32
 :-[​ คิดถึงคุณเล็ก​ จะให้ดีก็รุกให้เยอะกว่านี้หน่อยนะคะ​ ไอก็ยอมๆไปเถอะ​555
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 39 [16/04/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 17-04-2018 11:24:56
 :-[  คุณเล็กพระเอกมากตอนนี้
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 39 [16/04/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 17-04-2018 12:17:48
พระเอกสุดๆไปเลยคุณเล็ก
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 38 [24/03/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 17-04-2018 13:05:38
รัฐมนตรีทรงศักดิ์!  :z6: นี่แหน่ะ อย่านะ อย่า :fire:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 39 [16/04/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 17-04-2018 13:18:24
 :katai2-1: ฟิน มีหอมแก้มกันแล้ว อิอิ  :hao7:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 39 [16/04/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: +pEnGuIn+ ที่ 17-04-2018 16:37:23
คุณเล็กกกกกกกกกกกก
ชอบเวลาคุณเล็กเจ้าเล่ห์งี้อ่า
บางทีก็งงนะคะ ไม่ใจอ่อน
ไม่ได้เป็นอะไรกัน แต่เค้าก็จูบกันแล้ว
หอมแก้มกัน กอดกันอีก โอ๊ยยยย
คุณไอยอมๆคุณเล็กเถอะค่ะ เราไม่ไหวแล้ววว
รออ่านเสมอนะคะ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 39 [16/04/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 17-04-2018 16:56:20
น้ำหยดลงหินทุกวันมันก็ต้องกร่อนกันบ้างเนอะๆ>\\<
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 39 [16/04/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 17-04-2018 20:30:32
เสือ..ยังไงก้อคือเสือ หึหึหึ   :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 39 [16/04/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: uyong ที่ 19-04-2018 13:05:55
เรื่องนี้เหมือนเคยอ่านเมื่อนานมาแล้ว  :really2:
เสือไม่เคยทิ้งลายจริงๆ แต่เสือทำดีมาก o13 o13
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนที่ 39 [16/04/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 25-04-2018 00:26:11
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ ย้อนหลังวันสงกรานต์ [27/04/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: ละอองฝน ที่ 27-04-2018 22:27:10







คุณคือความรัก ตอนพิเศษ ย้อนหลังวันสงกรานต์







   “เด็กๆ เล่นดีๆ สิครับ เสื้ออาเล็กเปียกหมดแล้วเห็นไหม”


   “ไม่เป็นไรครับคุณไอ เดี๋ยวค่อยเปลี่ยนก็ได้” ณธิปว่าพลางหันไปยิ้มให้เด็กๆ ที่ทำหน้าเหยเกเมื่อถูกกมลดุ “เล่นต่อเถอะครับ อาไม่ว่าอะไร”

   “อาเล็กใจดีที่สุด!”


น้องหยางเอ่ยด้วยน้ำเสียงร่าเริง ก่อนจะหันไปเล่นน้ำกับพี่ชายฝาแฝดต่อราวเป็นคนละคนกับเด็กชายที่ทำหน้าหงอยๆ ตอนถูกดุเมื่อครู่
   

ณธิปยิ้มให้ท่าทางของเด็กชาย ก่อนจะก้มมองสภาพของตัวเองแล้วลอบถอนหายใจออกมาเบาๆ ยามนี้เสื้อเชิ้ตเนื้อดีของชายหนุ่มเปียกโชกเป็นวงกว้าง เพราะถูกเด็กๆ สาดน้ำมาโดนตอนเล่นกันในสระเป่าลม โชคดีที่ก่อนออกมาเขาถอดเสื้อสูททิ้งไว้ ไม่เช่นนั้นคงเปียกไปหมดทั้งชุดแน่ๆ
   

เดิมทีณธิปตั้งใจจะรีบมารับกมลไปทานอาหารด้วยกัน แต่เกิดเรื่องที่มีคนมาแอบมองพวกกมลอยู่ที่หน้าบ้านเสียก่อน ชายหนุ่มจึงต้องรอรถอีกคันและบอดี้การ์ดชุดใหม่มารับ ซึ่งคนของเขาเพิ่งโทรมารายงานเมื่อครู่ว่ารถติดมาก ดังนั้นกว่าจะมาถึงคงต้องใช้เวลา ประจวบกับที่หลานๆ ของกมลตื่นจากนอนกลางวัน เด็กๆ ขอเล่นน้ำด้วยอากาศร้อน ณธิปจึงทำหน้าที่ว่าที่แฟนคุณลุงที่ดี อาสาถือสายยางใส่สระเป่าลมให้เด็กๆ
   

แต่ใครจะรู้ว่าเด็กผู้ชายตัวเล็กๆ สองคนจะพลังเยอะจนทำเขาเปียกโชกขนาดนี้
   

“คุณเล็ก”
   
“ครับ” ครั้นณธิปหันมาหา กมลก็ยื่นผ้าขนหนูให้ “ขอบคุณครับ”

“คุณให้คนเอาเสื้อติดมาด้วยไหมครับ ถ้าไม่ ก่อนออกไปข้างนอกใช้เสื้อผมเปลี่ยนไปก่อนดีไหม” คนหน้าว่าอย่างนึกเป็นห่วง

“ก็ดีครับ”

“เห็นไหมครับ ผมบอกแล้วว่าไม่ต้องทำ คุณก็ไม่เชื่อ”

“ก็ผมเห็นเด็กๆ ดูตื่นเต้นที่จะได้เล่นน้ำ ผมเลยนึกสนุกไปด้วย”

“แล้วสนุกไหมล่ะครับ”

“ก็ดีนะคุณ เย็นดี” ณธิปว่าพร้อมกับยิ้มกวน

“หึ…ดีครับ อากาศกำลังร้อนพอดี คุณเล่นไปนะครับ ถือว่าเล่นสงกรานต์ย้อนหลัง เลิกเล่นเมื่อไหร่ค่อยเปลี่ยนเสื้อ”


กมลรับผ้าเช็ดตัวคืนมา ตั้งท่าจะเดินหนี ทว่าคนเจ้าเล่ห์กลับหัวเราะหึในลำคอ ก่อนจะหันสายยางมาทางกมลอย่างนึกสนุก


“คุณเล็ก!”


เสียงเจ้าบ้านหน้าหวานร้องแหวทันทีที่รู้สึกถูกความเปียกชื้นตรงแผ่นหลัง เจ้าตัวหันขวับกลับมา คิ้วเรียวขมวดแน่น จากนั้นจึงถามอย่างเอาเรื่อง


“เล่นอะไรครับเนี่ย”

“เล่นน้ำสงกรานต์ไง เมื่อกี้เห็นคุณบอกว่าดี ผมก็อยากให้คุณได้เล่นด้วย สงกรานต์ปีนี้ผมยังไม่ได้สาดน้ำคุณเลย”


ทั้งที่กมลดูเหมือนจะหงุดหงิด แต่ณธิปกลับไม่รู้สึกกลัวเกรงเลยสักนิด อันที่จริงเขาอยากเห็นกมลในมุมนี้มานานแล้ว


หงุดหงิดบ้าง เหวี่ยงบ้าง ก็น่ารักไปอีกแบบ…ชายหนุ่มคิดในใจ


“ผมพูดประชดเท่านั้น…” กมลเว้นไปนิด ก่อนเอื้อมมือแตะๆ ที่แผ่นหลังสำรวจว่าตัวเองเปียกแค่ไหน “ดูสิ เปียกไปหมดแล้ว--”


ยังไม่ทันพูดจบ หนึ่งในหลานรักก็วักน้ำในสระยางขึ้นสาดใส่คุณลุงคนดี พลางหัวเราะชอบใจ


“คิกๆ”

“น้องหยาง สาดน้ำใส่ลุงทำไมครับ”

“หยางอยากเล่นน้ำสงกรานต์ด้วยนี่ครับ”


เจ้าเด็กแสบเอ่ยอย่างไม่สำนึกผิด กมลได้แต่อ้าปากค้าง จะพูดก็พูดไม่ออก จะดุก็ดุไม่ได้ ในเมื่อผู้ใหญ่ทำเป็นตัวอย่างให้เด็กดูก่อน ส่วนณธิปได้แต่กลั้นหัวเราะจนริมฝีปากเกร็งไปหมด


“งั้นหยินเล่นด้วย”


ฝาแฝดคนพี่ที่ยืนดูสถานการณ์อยู่ก่อนเห็นว่าคุณลุงไม่ได้ดุน้อง จึงนึกสนุกและอยากเล่นขึ้นมา หยินคว้าลูกบอลยางที่มีน้ำอยู่ด้านในมาถือไว้ ก่อนจะบีบแรงๆ ให้น้ำฉีดออกมา ต่างปืนฉีดน้ำ เพื่อใช้ยิงใส่กมลบ้าง


“พี่หยิน!...ไม่เอาแล้วครับ ลุงเปียกหมดแล้ว”


เสียงของกมลดังลั่นลานหน้าบ้าน แต่เสียงนั้นก็ยังแพ้เสียงหัวเราะของเด็กๆ อยู่ดี เพราะหลานฝาแฝดดูสนุกใหญ่ที่ได้แกล้งลุงของตัวเอง


“หึๆๆ”


ณธิปยืนขำกับเหตุการณ์ตรงหน้า พลางคิดในใจว่า คุณไอของเขาตอนหลุดมาดเพราะรบกับพวกเด็กๆ นั้นน่ารักสุดๆ ไปเลย
   

ทว่าชายหนุ่มก็ขำได้ไม่นาน อยู่ๆ กมลที่ตัวเปียกเพราะสู้กับหลานๆ ก็ตรงเขามาหาเขา ก่อนจะคว้าสายยางไว้ ตั้งท่าจะแย่ง โชคดีที่ณธิปไหวตัวทันจึงยื้อไว้
   

“ปล่อยสายยางให้ผมเลยนะคุณเล็ก”

“จะทำอะไรครับ”

“ทำสงคราม” หนุ่มหน้าหวานว่าพลางเข่นเขี้ยวเค้นฟัน


ณธิปทั้งขำ ทั้งเสียวสั่นหลังวาบๆ ด้วยรู้ว่าเป้าหมายแรกของกมลคงเป็นเขาอย่างไม่ต้องสงสัย


“ไม่เอาครับ ถ้าผมยอม คุณจะฉีดน้ำใส่ผมใช่ไหมล่ะ”

“ก็คุณเป็นคนเริ่มก่อนไม่ใช่หรือ”

“เจ้าคิดเจ้าแค้นเหมือนกันนะครับ” คนเจ้าเล่ห์ยิ้ม ตอนที่โฉบหน้าเข้าไปพูดใกล้ๆ ใบหู


จังหวะที่คล้ายจะถูกรุกไล่อย่างไม่ทันตั้งตัวนั้น กมลก็ออกแรงที่มีบังคับสายยางแล้วฉีดน้ำใส่ณธิปทันทีด้วยอารมณ์ตกใจ คราวนี้ไม่ใช่แค่เสื้อ แต่ณธิปถึงกับเปียกไปทั้งตัว

“ไอ! ผมเปียกไปหมดทั้งตัวแล้ว”

“สมน้ำหน้า”

“หึ…ได้”


ได้ยินกมลว่าเช่นนั้น อารมณ์แบบเด็กชอบเอาชนะก็ครอบงำ ณธิปจึงยื้อสายยางกลับมา แล้วจัดการเอาคืนกมลบ้าง


ทั้งสองยื้อยุดกันไปมา จนเด็กๆ เลือกไม่ถูกว่าจะทำอย่างไรกับสถานการณ์ตรงหน้าดี กระทั่งกมลหันมาหาหลาน แล้วสั่ง


“พี่หยิน น้องหยาง ช่วยลุงไอจัดการอาเล็กเร็วเข้า!”

“ครับ!/ครับ!”


สองแฝดรับคำทันที แม้เมื่อครู่จะอยู่ฝั่งเดียวกับณธิปก็ตาม แต่พอเห็นว่าลุงของตัวเองจะโดนรังแกมากเกินไป สุดท้ายจึงรีบย้ายฝั่ง เพื่อช่วยกมลสาดน้ำในสระยางใส่ณธิปอีกแรง







หทัยได้ยินเสียงลูกๆ หัวเราะอยู่พักใหญ่ สลับกับเสียงกมลกับณธิปโวยวายลั่นไปหมด เธอก็นึกแปลกใจอยู่เหมือนกัน แต่เพราะกำลังทำอาหารจึงปล่อยให้พี่ชายคอยดูหลานๆ ให้ แต่เมื่ออกมาหน้าบ้าน ได้เห็นสภาพราวกับสงครามขนาดย่อมๆ โดยฝั่งหนึ่งคือหนุ่มนักธุรกิจมากเล่ห์ อีกฝั่งเป็นพี่ชายคนดีและลูกๆ สองคน กำลังสาดน้ำใส่กันอย่างบ้าคลั่ง หญิงสาวก็ถึงกับอ้าปากค้าง


“ตกใจใช่ไหมครับ” เสียงคนขับรถของณธิปเอ่ยขึ้นจากทางเก้าอี้ข้างๆ เธอ

“ค่ะ” หทัยตอบตามจริง เพราะไม่คิดว่าพี่ชายจะเล่นอะไรเป็นเด็กๆ แบบนี้

“ผมเองก็ตกเหมือนกัน ไม่เคยเห็นคุณเล็กทำแบบนี้กับแฟนคนไหน”

“แฟน…ใครหรือคะ” อาจเพราะใบหน้าของหญิงสาวมีคำถาม ลูกน้องตัวดีของณธปจึงตอบชัดๆ

“ก็คุณไอไงครับ” เขาเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม ก่อนจะพูดต่อ “ผมไม่เคยเห็นคุณเล็กคบกับใครแล้วดูมีความสุขขนาดนี้มาก่อน เขาดูไม่เหมือนคุณเล็กเลย แต่นี่แหละครับคุณเล็กตัวจริง”

“…” หทัยเบนสายตาจากพี่ชายไปที่ณธิป เธอจ้องมองบุคคลที่พร่ำบอกให้กมลระวัง ชั่วครู่หนึ่งในหัวก็คิดเห็นด้วยว่า ณธิปในยามนี้ ดูไม่เหมือนณธิปที่เธอเคยเห็นจริงๆ


ส่วนพี่ชายของเธอ แม้จะเป็นคนเดิม แต่หทัยก็ไม่ได้เห็นกมลปลดปล่อยตัวเอง เลิกวางมาด หัวเราะเต็มเสียง และทำตัวเหมือนเด็กๆ เช่นนี้มานานแล้ว


แต่ก่อนที่จะคิดอะไรมากกว่านั้น บุคคลที่เธอห่วงก็หันมาเห็น และส่งยิ้มกว้างๆ มาให้


“ทำกับข้าวเสร็จแล้วหรืออ้าย”

“ค่ะ พี่ไอ”

“งั้นเราเลิกเล่นกันดีไหม เย็นมากแล้วด้วย”


เด็กๆ งอแงนิดหน่อยที่ต้องเลิกเล่นทั้งที่ยังสนุก แต่พอณธิปยอมรับปากว่าจะเป็นคนอาบน้ำให้ พวกเขาก็ยอมขึ้นจากสระยางแต่โดยดี


หทัยมองณธิปอุ้มลูกชายของเธอทั้งสองคนเข้าไปในบ้าน โดยมีกมลเดินตามหลัง อะไรบางอย่างสั่นคลอนความรู้สึกในหัวใจของเธออย่างรุนแรง มันชวนให้วูบโหวง แต่หญิงสาวรู้ได้ด้วยสัญชาตญาณว่านี่ไม่ใช่เรื่องไม่ดี


หรือบางที…เธออาจต้องยอมรับความจริง


หทัยถอนหายใจออกมาเบาๆ ปัดความรู้สึกสับสนทิ้ง ก่อนชวนให้คนขับรถของณธิปเข้าบ้านเพื่อไปกินมื้อเย็นด้วยกัน








สุดท้าย ณธิปก็ไม่ได้ออกไปทานอาหารกับกมลสองต่อสองอย่างที่หวังไว้ เพราะก่อนอาบน้ำ กมลขอให้เขาอยู่ทานมื้อค่ำที่บ้านแทน โดยให้เหตุผลว่าน้องสาวทำกับข้าวเผื่อแล้ว ณธิปจึงยอมตามใจ เพราะอยากเอาใจน้องสาวของกมลที่ดูจะไม่ชอบหน้าเขาเท่าไร อีกอย่าง ชายหนุ่มคิดว่าก็ดีที่ไม่ต้องออกไปไหน เพราะอยู่บ้านคงปลอดภัยที่สุด


ดังนั้น เมื่อคนของณธิปมาถึง ชายหนุ่มจึงสั่งให้คอยเฝ้าระวังอยู่หน้าบ้านแทน


เป็นครั้งแรกที่ณธิปได้เข้าห้องนอนของกมล เพราะเขาต้องใช้ห้องน้ำ ชายหนุ่มค่อนข้างตื่นเต้นไม่น้อย แต่ชายหนุ่มตัวเปียกไปหมด จึงไม่มีโอกาสได้สำรวจอะไรมานัก


เขาใช้เวลาอาบน้ำพักหนึ่ง พอออกมาก็พบว่าเจ้าของห้องอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว โดยที่ในมือมีเสื้อผ้าอีกชุดถือไว้อยู่ ซึ่งถ้าเดาไม่ผิด นั่นคงเป็นชุดที่กมลเตรียมไว้ให้เขา


“ผมเอาชุดมาให้ครับ ไม่รู้คุณใส่ได้ไหม”

“ขอบคุณครับ” ณธิปเดินมารับในสภาพเปลือยครึ่งท่อน ท่อนล่างพันผ้าเช็ดตัวเอาไว้


ครั้นชายหนุ่มเข้าไปใกล้ กมลก็รีบส่งชุดให้ ก่อนจะหันหลังเดินหนี ตั้งท่าจะออกจากห้องทันที แต่คนเจ้าเล่ห์ไม่มอบโอกาสนั้นให้ เขารู้ว่าด้วยสถานการณ์และสภาพนี้ของตนเอง กมลคงไม่อยากอยู่ด้วยเท่าไร


แต่เขากลับอยากแกล้ง เอาคืนที่เมื่อครู่อีกฝ่ายกับหลานๆ เล่นงานเขาเสียอ่วม

“เดี๋ยวครับ”

“ครับ?” กมลหันมาหา แต่ไม่ยอมเดินเข้าไปหา ณธิปจึงเป็นฝ่ายขยับเข้าไปใกล้แทน

“ไม่ยักรู้ว่าคุณเองก็ชอบประแป้งเหมือนเด็กๆ ด้วย”

“อ๋อ..” กมลจับที่หน้าของตัวเอง แล้วยิ้มบางๆ “เด็กๆ ประให้น่ะครับ เมื่อกี้ผมไปแต่งตัวให้เขามา”

“ดีจัง ผมอยากประบ้าง”

“คุณชอบหรือ” หนุ่มหน้าหวานถามด้วยความแปลกใจ เพราะไม่คิดว่าณธิปจะชอบอะไรแบบนี้

“ก็…หอมดีครับ คุณประให้ผมบ้างสิ จะได้ครบสูตรสงกรานต์ไง เล่นน้ำ ประแป้ง” เผลอนิดเดียว กมลก็ถูกณธิปไล่ต้อนมาถึงประตู สถานการณ์สุ่มเสี่ยงดูจะย้อนกลับมาอีกครั้ง

“งั้นเดี๋ยวผมไปหยิบมาให้ ตอนนี้คุณแต่งตัวก่อนเถอะครับ” กมลบอกข้อเสนอไป เพราะดูจะเป็นทางหนีทีไล่เดียวที่เขาคิดได้ แต่คนเจ้าเล่ห์กลับปฏิเสธ

“ไม่ต้องหรอก”

“ทำไมล่ะ ไหนคุณบอกว่าจะประแป้ง“

“เอาเท่าที่มีก็ได้”


ว่าจบ ณธิปก็โน้มหน้าไปชิด ก่อนเอาแก้มของตัวเองแตะและถูกับแก้มของกมลเบาๆ ครู่หนึ่ง แล้วถอยออกมาดูผลงาน

“แบ่งกัน…คุณคงไม่ว่านะครับ”


กมลมองรอยยิ้มเจ้าเล่ห์นั่น พลางรู้สึกว่าส่วนที่แก้มชนกันร้อนขึ้นมาจนควบคุมไม่ได้ วันนี้วันเดียว เขาถูกณธิปทำให้เสียการควบคุมไปกี่ครั้งแล้วก็ไม่รู้


คิดได้ดังนั้นคนหน้าหวานจึงผละหนีและออกไปจากห้องทันที โดยไม่ลืมสั่ง


“รีบลงมานะครับ ทุกคนรอกินข้าว”


ปัง


เมื่อเสียงประตูปิดไล่หลังไป ณธิปก็หลุดยิ้มกว้างออกมา


เพราะคนน่ารักของเขา แก้มแดงจนทะลุแป้งที่ประออกมาเลยน่ะสิ


นี่เป็นการชดเชยสงกรานต์ที่ดีที่สุด…ณธิปคิดเช่นนั้น ในอกเต็มไปด้วยความรู้สึกสุขจนล้นปรี่ ทว่าเขายิ้มกับตัวเองเดี๋ยวเดียวเท่านั้น เพราะต้องรีบลงไปข้างล่าง ด้วยไม่อยากให้คนแก้มแดงของเขาต้องรอนาน





<><><><><><><><><><><><><><><><><>



ฝนทำโพลล์ในทวิตเตอร์ว่าสงกรานต์นี้อยากอ่านตอนพิเศษของเรื่องไหนที่สุด
ผลออกมาว่าคุณเล็กกับคุณไอฮอตสุดๆ ก็เลยเกิดเป็นตอนพิเศษตอนนี้
ทีแรกฝนเขียนเสร็จสักพักแล้ว แต่ตอนนั้นมันสปอยเนื้อหาบางอย่างที่ยังมาไม่ถึง
สุดท้ายฝนก็เลยแต่งใหม่ค่ะ ส่วนตอนสงกรานต์ที่แต่งไปแล้วนั้น ไว้จะใส่ในเล่มนะคะ

จบตอนพิเศษแล้ว ตอนหน้าเป็นตอนหลักแล้วค่ะ
แล้วเจอกันนะคะ ^^

ละอองฝน.
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ ย้อนหลังวันสงกรานต์ [27/04/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 27-04-2018 23:01:05
ตอนที่เล่นน้ำกัน ครอบครัวสุขสันต์มากๆค่า :-[
ขอบคุณที่แต่งตอนพิเศษให้อ่านนะคะ :pig4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ ย้อนหลังวันสงกรานต์ [27/04/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 27-04-2018 23:01:23
 :o8: :mew1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ ย้อนหลังวันสงกรานต์ [27/04/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 27-04-2018 23:24:19
สาดความหวานแทนน้ำแล้วคุณเล็ก  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ ย้อนหลังวันสงกรานต์ [27/04/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 27-04-2018 23:27:29
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ ย้อนหลังวันสงกรานต์ [27/04/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 27-04-2018 23:54:40
 :pig4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ ย้อนหลังวันสงกรานต์ [27/04/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: +pEnGuIn+ ที่ 28-04-2018 09:28:19
คุณเล็กน่ารักเสมออออ
รอตอนหลักนะคะ
คิดถึงคุณเล็กกับคุณไอจะแย่แล้ว
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ ย้อนหลังวันสงกรานต์ [27/04/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 28-04-2018 19:05:19
่คนมีความรักก็จะมีความสุขประมาณนี้แหละ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ ย้อนหลังวันสงกรานต์ [27/04/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: Yundori ที่ 28-04-2018 23:18:04
จะโจ๊กมากถ้าคนที่ตามคุณไอตอนตีสี่คือบอดี้การ์ดของคุณเล็กเอง  :mew4: :mew4:
แต่ก็นะ คุณเล็กน่ารักกกกอะ มีการห่วง มีการทิ้งงานมาหาา
คือคุณไอไม่ใจอ่อนก็แย่แล้วจริงๆ
ตอนนี้ใครๆก็ห้ามคุณเล็กไม่ได้ ถ้าคุณไอรับรักเมื่อไหร่
ถึงใครกีดขวางคงไม่สนแล้ว ระดับนี้  :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ ย้อนหลังวันสงกรานต์ [27/04/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 29-04-2018 07:25:31
มีความครอบครัวเบาๆ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ ย้อนหลังวันสงกรานต์ [27/04/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 29-04-2018 11:22:53
คุณไอน่ารักจังเลยยยย
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ ย้อนหลังวันสงกรานต์ [27/04/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: may27 ที่ 29-04-2018 17:18:10
นึกว่าตาฝาด5555​ คิดถึงคุณไอกับคุณเล็ก
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ ย้อนหลังวันสงกรานต์ [27/04/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 04-05-2018 11:57:50
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ ย้อนหลังวันสงกรานต์ [27/04/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 07-05-2018 15:02:09
จะรออ่านตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ ย้อนหลังวันสงกรานต์ [27/04/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 07-05-2018 20:52:33
น่ารักกก :mew1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 40 [12/06/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: ละอองฝน ที่ 12-06-2018 22:08:41








คุณคือความรัก บทที่ 40





   
   เป็นครั้งแรกในชีวิตที่คนอย่างณธิป โชติตระกูลมีโอกาสสวมวิญญาณเป็นผู้ปกครองและเข้ามารับเด็กในโรงเรียนอนุบาล แม้ว่าเขาจะไม่ได้มาตามลำพัง แต่การเดินผ่านเด็กตัวเล็กๆ ที่วิ่งวุ่นวาย แถมบางคนก็ร้องไห้กระจองอแงเพราะเพิ่งตื่นนอน เป็นอะไรที่น่าเวียนหัวสุดๆ


   เดินผ่านห้องเรียนของเด็กๆ มาหลายห้อง ในที่สุดก็ถึงที่หมาย เมื่อเขาและกมลโผล่หน้าไปยังห้องอนุบาล 2/1 เด็กชายฝาแฝดที่ณธิปคุ้นหน้าก็ร้องทักพร้อมกับทำตาโตทันที ราวกับมีเรดาร์จับสัญญาณผู้ปกครองอย่างไรอย่างนั้น


   “ลุงไอมาแล้ว!” น้องหยินว่า

   “อาเล็กก็มาด้วย!” ตามมาด้วยน้องหยาง

   “ทำยังไงก่อนคะเด็กๆ” ส่วนคนหลังเป็นคุณครูประจำชั้นคนสวยที่ร้องเตือน
   
“สวัสดีครับลุงไอ สวัสดีครับอาเล็ก!~” สองแฝดเอ่ยขึ้นพร้อมกัน

   กมลยิ้มรับก่อนจะย่อตัวลงนั่งระดับเดียวกับหลานชาย พร้อมเอ่ยถามเหมือนกับทุกวัน

   “สวัสดีครับพี่หยิน น้องหยาง วันนี้เป็นเด็กดีหรือเปล่าครับ”

   “หยินเป็นเด็กดีครับ”

   “หยางก็เป็นเด็กดี ไม่ดื้อ ไม่ซน”

   สองพี่น้องผลัดกันรายงานแข็งขัน ทว่าแฝดคนพี่กลับยกมือฟ้อง

   “แต่น้องหยางดื้อนิดหน่อย”

   “หืม?” กมลเลิกคิ้ว “น้องดื้อยังไงครับพี่หยิน”

   “หยางไม่ยอมนอนกลางวันครับ”

   “อึ้ย…” ครั้นถูกฟ้อง เจ้าตัวเล็กก็ย่นคอ แล้วเถียงเบาๆ “พี่หยินก็ไม่นอนเหมือนกัน”

   “พี่นอนนะ แต่หยางปลุกพี่มาเล่นด้วย”

   “นั่นแหละ พี่หยินก็ไม่นอน”

   “ก็หยาง…”

   “พอครับๆ ไม่เถียงกันนะ คุณครูก็อยู่ อาเล็กกับเพื่อนๆ ก็อยู่ด้วย อายเขานะครับ เดี๋ยวเราไปคุยกันต่อในรถดีกว่า” กมลตัดบท เด็กทั้งสองถึงเงียบเสียงได้ “ผมไปก่อนนะครับคุณครู ขอบคุณที่ช่วยดูแลเด็กๆ ครับ”

   “เป็นหน้าที่อยู่แล้วค่ะคุณไอ”


หนุ่มหน้าสวยยิ้มหวานให้ครูสาวตามมารยาท ก่อนจะจูงมือหลานชายตัวแสบไปที่รถโดยมีณธิปเดินตามหลังอย่างสงบเสงี่ยม


ครั้นมาถึงลานจอดรถ เด็กๆ ก็ทำตาพองโตเมื่อเห็นว่ารถที่มารับในวันนี้ ไม่ใช่รถคันเดิม มิหนำซ้ำยังเป็นรถคันใหญ่ ติดฟิล์มดำ ดูเท่เหมือนในทีวีไม่มีผิด


ด้วยความตื่นเต้น แฝดคนน้องจึงรีบสะกิดคุณลุงแล้วถามทันที

“รถคันใหม่ของลุงไอเหรอครับ”

“ไม่ใช่หรอกครับ นี่รถอาเล็ก”

“ว้าว~” เด็กน้อยร้องออกมาด้วยความตื่นเต้น ณธิปจึงถือโอกาสเข้าแทรกในบทสนทนา

“น้องหยางชอบหรือครับ”

“ครับ” หยางพยักหน้ารับ

“งั้นเอาไว้อาว่าง จะมารับน้องหยางกลับจากโรงเรียนบ่อยๆ ดีไหมครับ”

“ดีครับ!” เด็กน้อยตอบรับเสียงเริงร่า จนพานให้หยินเองก็พลอยตื่นเต้นไปด้วย


ระหว่างที่เด็กทั้งสองกำลังหันไปคุยกัน และสนใจกับรถคันใหม่ กมลก็หันกลับมาหาคนเจ้าเล่ห์ด้านหลัง แล้วกระซิบให้ได้ยินกันแค่สองคน


“หลานๆ ผมสองคนนี้ ความจำดีมากนะคุณเล็ก อย่าไปสัญญาอะไรสุ่มสี่สุ่มห้าสิครับ เดี๋ยวพวกแกงอแงขึ้นมา ผมกับยายอ้ายจะลำบากนะ”

“ผมไม่ได้สัญญาสุ่มสี่สุ่มห้าเสียหน่อย”

“หมายความว่าไงครับ”

“ผมพูดจริงๆ ต่างหาก”

“คุณเล็ก…” กมลเรียกอีกฝ่ายอย่างอ่อนใจ “คุณคงไม่คิดจะมารับเด็กๆ บ่อยๆ หรอกใช่ไหมครับ”

“แล้วคุณคิดว่าไงล่ะ”

“ทำแบบนั้นมันจะเบียดเบียนเวลางานคุณนะ ผมเกรงใจ”

“ถ้าเกรงใจจริงๆ เอางี้ไหมครับ”

“หืม?” กมลหยุดเดิน พลางหันมองด้วยสีหน้าฉงน เพราะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะมาไม้ไหนอีก

“คุณก็รับรักผมเสียสิครับ ต่อไปหากผมทำอะไรให้ คุณจะได้ไม่ต้องนั่งคิดว่าจะเกรงใจ เพราะผมเป็นแฟนคุณ ถือเป็นคนกันเองใช่ไหมล่ะ”


ใช่ไหมล่ะ อะไรกัน…กมลได้แต่คิดในใจ แล้วทำเฉไฉกลับไปโฟกัสที่หลานชาย ทิ้งให้ณธิปยืนยิ้มกับข้อเสนอของตัวเองอยู่เพียงลำพัง


“หึ ใจแข็งจริง” คนตาเรียวส่ายหัวเบาๆ ก่อนจะเดินตามสามคนลุงหลานไปขึ้นรถ








กมลไม่ได้ตรงกลับบ้านหรือไปพบน้องสาวที่ I promise Tower อย่างที่ตั้งใจ เพราะพ่อคนเจ้าเล่ห์ดันมาชักชวนให้หลานๆ ของเขาออกนอกลู่นอกทางโดยการพาไปทานไอศกรีมที่ห้างสรรพสินค้าใกล้โรงเรียนก่อน


แล้วมีหรือที่เด็กวัยไร้เดียงสาจะไม่ถูกล่อลวงง่ายๆ เพราะทันทีที่ได้ยินคำว่าไอศกรีม เจ้าสองพี่น้องฝาแฝดก็ทำตาโต พร้อมกับหันมาจับมือสามัคคีชุมนุม เพื่อเข้ามาออดอ้อนขอให้ลุงไอคนดีอนุญาต


แล้วคนอย่างกมลที่รักหลานชายยิ่งชีพ มีหรือจะปฏิเสธตาใสๆ ของพวกเขาได้


เวลานี้ทั้งสี่คนจึงต้องมานั่งอยู่ในร้านไอศกรีมดัง โดยมีบอดี้การ์ดของคุณชายณธิปคอยเป็นยามเฝ้าระวังอยู่ที่หน้าร้านให้ใครต่อใครผวาเล่น


“เมื่อไหร่ไอศกรีมของพวกเราจะมาน้า…”


น้องหยางว่าพลางถือช้อนคันเล็กราวกับอาวุธประจำกาย พร้อมกับชะเง้อชะแง้คอมองว่าพนักงานคนไหนจะตรงมาที่โต๊ะของพวกเขาด้วยใจจดจ่อ ส่วนน้องหยินก็ไม่แพ้กัน เพียงแต่ยังมีหันมาคุยกับณธิปบ้าง กระทั่งไอศกรีมมาเสิร์ฟ เด็กๆ จึงตั้งหน้าตั้งตาจัดการของหวานของตัวเอง


“อร่อยไหมครับ” กมลเท้าคางมองยิ้มๆ

“อร่อยครับ ลุงไอกินไหม หยางป้อน อ้าม~”

ไม่ใช่แค่ถาม แต่แฝดน้องตักไอศกรีมส่งให้กมลคำโต ชายหนุ่มจึงต้องอ้าปากรับอย่างเสียไม่ได้

“ขอบคุณครับ” กมลยิ้มรับ

“แล้วอาเล็กล่ะครับ จะมีใครใจดีป้อนบ้างไหมนะ”

“นี่ครับ” น้องหยินที่ก้มหน้าก้มตากินอยู่นานเป็นฝ่ายตักบ้างอย่างรู้งาน ณธิปจึงได้ชิมไอศกรีมที่เด็กๆ สั่งมาด้วย

“หวานจัง” คนตาเรียวว่า เพราะเขาไม่ค่อยนิยมทานของหวานเท่าไหร่

“ไอศกรีมก็ต้องหวานสิครับอาเล็ก” หยางบอก

“อ่า…จริงสินะ ไอศกรีมก็ต้องหวานเป็นธรรมดาเนอะ”

“ใช่ๆ อาเล็กไม่รู้เรื่องเลย” เจ้าตัวแสบย้ำ พร้อมกับก้มหน้าก้มตากินต่อ แต่คำพูดของหลานชาย ทำเอากมลเผลอหัวเราะออกมาเบาๆ

“หึๆ”

“หัวเราะอะไรครับไอ”

“เปล่าครับ…อ๊ะ” ขณะตอบ กมลพบว่าที่มุมปากของณธิป มีสีครีมของไอศกรีมวนิลาเปรอะอยู่ ชายหนุ่มจึงดึงกระดาษทิชชู่ไปช่วยเช็ดให้อย่างลืมตัว เพราะเขาก็ทำแบบนั้นกับหลานๆ อยู่แล้ว แต่ความใส่ใจนั้นกลับกระแทกใจของณธิปอย่างจัง

สัมผัสเบาๆ ทำให้ณธิปนิ่งไปนิด ก่อนจะครางออกมา

“ไอ…”

“มันเลอะน่ะครับ” กมลละมือออกมาเมื่อเช็ดสะอาดแล้วแต่คนเจ้าเล่ห์กลับจับเอาไว้ แล้วจูบเร็วๆ ผ่านหลังมืออย่างถือวิสาสะ

“ขอบคุณครับ”

“คุณเล็ก!”


กมลรีบชักมือกลับทันที เพราะกลัวว่าหลานชายสองคนจะเห็น แต่โชคดีที่เด็กๆ ไม่ได้สนใจพวกผู้ใหญ่ กมลจึงรอดตัว


“ก็คุณอยากทำตัวน่ารักเองนี่”

“น่ารักที่ไหนกัน” คนหน้าหวานบ่นอุบอิบ แต่ถึงอย่างนั้นณธิปก็ได้ยินอยู่ดี แต่เขาแค่ไม่คิดตอบโต้ เพราะกลัวทำให้คนใจร้ายนึกเคืองขึ้นมาจริงๆ

แต่เด็กตัวแสบที่ไม่ได้สนใจอะไรแต่แรก ดันแทรกขึ้นมา พร้อมกับเอานิ้วชี้ที่หน้าตัวเอง

“น่ารักที่นี่” หยินบอก

“น่ารักที่นี่ด้วย” แล้วหยางก็ทำตาม

“ครับๆ น่ารักทั้งหมดนี่เลย ทั้งน้องหยิน น้องหยาง แล้วก็ลุงไอด้วย…เนอะ” ณธิปเสริม พร้อมกับมองกมลด้วยสายตาสื่อความหมาย


ครั้นถูกมองราวกับว่าอีกฝ่ายอยากกลืนเขาเข้าไปทั้งตัว กมลก็ต้องเบี่ยงสายตาหลบ แล้วพุ่งความสนใจทั้งหมดไปที่หลานชายอีกรอบ


   ไม่รู้ทำไม ทั้งที่ณธิปทำตัวเหมือนเดิม แกล้งหยอกเขาเหมือนเดิม แต่นับวันกมลชักรู้สึกว่าตัวเองต้านทานคนคนนี้ได้น้อยลงทุกที…ทุกที







   หลายวันต่อมา หลังจากกมลไปทานไอศกรีมกับหลานๆ และณธิปในวันนั้น พวกเขาก็ไม่มีเวลาว่างพอพบกันอีก แต่ณธิปยังขยันโทรหาเขาเช้าเย็น วันไหนยุ่งหน่อยไม่ลืมส่งข้อความมาหา ทำราวกับว่ามันคือกิจวัตร จนกมลเริ่มชินกับการมีผู้ชายคนนั้นอยู่ในชีวิต


   ส่วนเรื่องที่มีคนมาติดตามเขา เวลานี้ทุกอย่างดูเหมือนกลับมาเป็นปรกติแล้ว ที่เห็นก็มีแค่บอดี้การ์ดหน้าเดิมซึ่งผลัดเวรกันมาเฝ้าครอบครัวของกมลทั้งเช้าและเย็น จนเด็กๆ รวมถึงหทัยคุ้นชิน และสนิทสนมกับพวกเขาไปด้วย


   เช้าวันนี้กมลมีงานข้างนอก ใกล้กับโรงเรียนเจ้าแฝด เขาจึงรับอาสาไปส่งหลานๆ ด้วยตัวเอง อะไรๆ ดูเหมือนจะเป็นไปอย่างปรกติสุขทุกอย่าง เพียงแต่ชายหนุ่มรู้สึกว่า เช้านี้มีสายตาหลายคู่ จ้องมองมาที่เขาเป็นพิเศษ


   ในทีแรกเขาคิดว่าตนเองอาจคิดมากไปเอง จนกระทั้งเขาได้รู้เรื่องเอาก็ตอนที่ไปพบลูกค้าในโรงแรมที่นัดเอาไว้


   ขณะที่ตกลงงานเรียบร้อยด้วยดี กมลก็เตรียมจะบอกลากับลูกค้า แล้วกลับไปยัง I promise แต่อยู่ๆ ว่าที่เจ้าสาวก็เอ่ยบางอย่างขึ้นมา ก่อนจากกัน


   เธอหันมองซ้ายขวา คอยดูว่าสามีที่ขอตัวไปเข้าห้องน้ำยังไม่กลับมา จึงเอ่ย

“เอ่อ…คุณไอคะ”

   “ครับคุณวิ”

   “คือวิมีเรื่องอยากบอกคุณไอนิดนึงค่ะ แต่ไม่รู้ว่าจะเหมาะไหม”

   “เรื่องอะไรครับ บอกได้ครับ ไม่ต้องเกรงใจ”

   “พูดได้ใช่ไหมคะ”

   “ครับ” กมลพยักหน้ายิ้มๆ

   “คือวิเห็นข่าวของคุณไอเมื่อเช้า ตอนแรกวิก็กังวลมากๆ แต่พอได้คุยกับคุณไอจริงๆ ดูยังไงคุณไอก็ไม่ได้เป็นเหมือนในข่าวเลย คุณไอก็สู้ๆ นะคะ ไม่ต้องคิดมากนะคะ”

   “หืม? ข่าวหรือครับ”

   ครั้นเห็นกมลทำหน้างง หญิงสาวก็หน้าถอดสี “นี่…คุณไอยังไม่เห็นข่าวหรือคะ”

   “ข่าวอะไรครับ”

   “ตายล่ะ…วิไม่น่าพูดเลย”

   “มันอะไรกันครับคุณวิ ผมงงไปหมดแล้ว” กมลยังยิ้มอยู่ แต่เสียงของเขาดูจริงจังขึ้น หญิงสาวจึงจำต้องเปิดไปในหน้าข่าวที่ว่า แล้วเอาให้กมลดูด้วยตัวเอง แทนการอธิบายตรงๆ


   เผยแล้ว! สาเหตุไฮโซดังสลัดรัก ทิ้งเจ้าสาวกลางงานแต่ง


   หัวข้อข่าวตัวโตพาดหัวดูน่าตกใจ แต่นั่นยังไม่น่าตกใจเท่าภาพของเขาที่ถูกณธิปจูบหลังมือในร้านไอศกรีม แม้ภาพไม่ได้ถ่ายใกล้นัก แต่ก็พอดูออกว่าใครเป็นใคร


   กมลรู้สึกใจสั่นนิดๆ ในตอนแรก แต่หัวใจของเขาต้องหล่นวูบ เมื่อเลื่อนลงไปอ่านเนื้อหาข่าวที่อยู่ด้านล่าง ซึ่งมีใจความใส่สีตีไข่ราวกับคนเขียนมานั่งอยู่ในทุกเหตุการณ์ของชีวิตเขาอย่างไรอย่างนั้น


   ข่าวว่าเหตุที่ทายาทเอ็นพีกรุ๊ปล่มงานวิวาห์เมื่อคราวที่แล้วก็เพราะหลงเสน่ห์นักธุรกิจหน้าหวานหัวปักหัวปำ จนสลัดรักเจ้าสาวของตัวเองอย่างไม่ไว้หน้าสักนิด ข่าวเล่าว่าต้นรักของพวกเขาผลิบานขึ้นตอนที่กมลช่วยจัดงานแต่งให้ อ่านดูอย่างไรก็เหมือนกับว่ากมลไปแย่งชิงเจ้าบ่าวที่เป็นลูกค้าของบริษัทมาเป็นของตัวเอง


   เหมือนกล่าวหาว่ากมลเป็นคนจัดงานวิวาห์ แต่ก็เป็นสาเหตุของการล่มงานวิวาห์ด้วย


   ครั้นอ่านจบ รอยยิ้มหวานๆ บนใบหน้าของกมลก็เลื่อนหายไปจนหมด เขาคืนโทรศัพท์ให้กับลูกค้า ก่อนจะบอกลาและขอตัวกลับออกมาทันที


   ชายหนุ่มรู้สึกโกรธมาก โกรธอย่างที่ไม่เคยเป็นมานานแล้ว เขาก้าวฉับๆ กลับไปที่รถอย่างรวดเร็ว ในหัวคิดอะไรไม่ออกสักอย่าง


   ขณะกำลังก้าวไปถึงรถ อยู่ๆ โทรศัพท์ของเขาก็มีสายเข้า ชายหนุ่มล้วงมันออกมา เขามองชื่อที่ขึ้นอยู่บนหน้าจอ เป็นน้องสาวของเขาเอง กมลจึงถอนหายใจออกมา พยายามปรับอารมณ์ให้เย็นที่สุด ก่อนกดรับทันที


   [พี่ไอคะ]

   “ว่าไงอ้าย”

   [พี่ไออยู่ไหนคะ]

   “อยู่ที่โรงแรมAA เพิ่งคุยกับลูกค้าเสร็จ กำลังจะกลับเข้าบริษัท เรามีอะไรหรือเปล่า”

   [พี่ไออย่ามานะคะ!]

   “หมายความว่าไง”

   [ตอนนี้ที่หน้าตึกมีนักข่าวเต็มไปหมดเลยค่ะ]

   “อะไรนะ!”

   [ไม่รู้พี่ไอ รู้เรื่องข่าวนั่นหรือยัง แต่เชื่ออ้ายนะคะ พี่ไออย่าเพิ่งมา กลับไปที่คอนโดก่อนก็ได้ วันนี้ไม่มีคิวคุยงานอะไรแล้ว เดี๋ยวอ้ายเคลียร์ทางนี้แล้วจะรับเด็กๆ แล้วตามไป…] หญิงสาวเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะว่า [เท่านี้ก่อนนะคะ เดี๋ยวอ้ายโทรหา]

   “อ้าย! เดี๋ยวก่อน อ้าย!”


   น้องสาวของกมลวางสายไปเรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มเผลอสบถออกมาคำหนึ่ง ก่อนจะเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋า เขามือสั่นไปหมด เพราะรู้ว่าเรื่องราวมันไปไวและใหญ่โตเกินกว่าจะตั้งตัว


ที่สำคัญคือกมลคิดอะไรไม่ออก และแก้ไขอะไรไม่ได้เลย


เขาพยายามสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ สงบสติอารมณ์ แล้วไปขึ้นรถก่อนขับไปรอน้องสาวที่คอนโดอย่างที่เธอบอก เพราะไม่ว่าอย่างไร เขาก็ต้องแก้ไขเรื่องเข้าใจผิดนี้ให้ถูกต้อง





<><><><><><><><><><>






คุณเล็กคุณไอคัมแบคแล้ววววว
แล้วพร้อมข่าวร้อนๆ
เป็นกำลังใจให้คุณไอกับคุณเล็กด้วยนะคะ ^^

ขอโทษที่ปล่อยให้รอนานนะคะ
ขอบคุณที่ยังทวงถามหากันอยู่
จากนี้เป็นช่วง 10 ตอนสุดท้ายแล้ว
จะรีบมาต่อค่ะ

ละอองฝน.
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 40 [12/06/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: AeAng11 ที่ 12-06-2018 22:19:53
ตาเล็กอยู่ไหนมาช่วยลูกไอของชัานเดี๋ยวเน้ รุ่มร่ามจริงๆเห็นมั้ยเป็นเรื่องจนได้
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 40 [12/06/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 12-06-2018 22:25:54
Welcome back
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 40 [12/06/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 12-06-2018 22:44:24
 :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 40 [12/06/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 12-06-2018 23:17:57
อีกสิบตอนจะจบแล้ว?? คุณเล็กจะได้สวีทไหม 555 รอจ้า  :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 40 [12/06/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 13-06-2018 00:58:58
แย่แล้วคุณเล็ก คุณไอโกรธจัดแล้ว
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 40 [12/06/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 13-06-2018 02:50:16
ข่าวออกมาอย่างนี้ คุณเล็กได้โชว์แมนให้คุณไอเห็นแน่ๆ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 40 [12/06/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 13-06-2018 04:21:53
คุณเล็กเห็นข่าวยังเนี่ยยย เห้ย
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 40 [12/06/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: may27 ที่ 13-06-2018 06:09:44
รอจนลืมเลยค่ะ​  แต่คิดถึงงงงงงงง
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 40 [12/06/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 13-06-2018 06:38:04
 :mc4: :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 40 [12/06/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: khwanruen ที่ 13-06-2018 06:48:15
เป็นกำลังใจให้คุณไอนะ คุณเล็กต้องทำอะไรสัักอย่างบ้างแล้ว  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 40 [12/06/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: maekkun ที่ 13-06-2018 08:05:27
 :pig4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 40 [12/06/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 13-06-2018 08:07:36
  :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 40 [12/06/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: พันวา ที่ 13-06-2018 08:11:30
รอเลยยยยย

คุณเล็กรีบๆมาเน้อออ หลายเรื่องจัง ไหนจะเรื่องคนที่ตามปองร้ายไหนจะเรื่องข่าวไม่จริงนี่อีก 

 :z3: :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 40 [12/06/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 13-06-2018 17:45:05
กำลังหวาน ๆ ก็งานงอกอีกแล้ว
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 40 [12/06/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: kong6336 ที่ 13-06-2018 18:23:44
งื้ออออออออคุณไอ :sad11:

คุณไอต้องผ่านเรื่องนี้ไปให้ได้นะ...สู้ๆ นะคุณไอ

ขอฉากหวานๆ หน่อยได้ไหม ฉากเศร้าๆ เครียดๆ แบบนี้ใจไม่ดีเลย
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 40 [12/06/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: Yundori ที่ 13-06-2018 22:29:57
สงสารคุณไอจัง คุณเล็กไปไหนนน
ถ้ามองจากสายตาคนนอกมันก็ทำได้แหละ
ที่อยู่ดีๆจะแบบ เอ้ย คบกันได้ไง
เรื่องแบบนี้ต้องให้คุณเล็กออกโรง
คุณไอควรให้คุณเล็กปกป้องง อย่าทำร้ายคุณไอ ฮือออ  :ling3:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 40 [12/06/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 13-06-2018 23:39:02
คุณเล็กอยู่ไหนนนนน มาเคลียร์ข่าวให้ไอไอเราเลยนะ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 40 [12/06/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: donut4top ที่ 14-06-2018 01:45:19
เพิ่งมาตามอ่านทีเดียว 40 ตอนรวดแล้วก็ไม่ผิดหวังเลยค่ะ สนุกมาก จากตอนแรกที่เกลียดพระเอกแต่ตอนนี้รักหมดใจ5555
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 40 [12/06/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: +pEnGuIn+ ที่ 14-06-2018 16:01:52
หายไปนานมากกกกกกกกก
ต้องมาต่อด่วนๆเลยนะคะ
ยังไม่พออ่ะ คุณไอจะวีนคุณเล็กมั้ยเนี่ย
โอยยยยย
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 41 [19/06/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: ละอองฝน ที่ 19-06-2018 01:12:05









คุณคือความรัก บทที่ 41
   







   ทันทีที่กมลมาถึงคอนโดได้เพียงสิบห้านาที ชายหนุ่มก็รู้สึกเหมือนตัวเองตัดสินใจพลาด เขาคิดว่าตัวเองไม่ควรหนีมาหลบแบบนี้ เพราะไม่ได้ทำอะไรผิด ทุกอย่างไม่ได้เป็นเหมือนที่ข่าวนั้นเขียนขึ้นมาสักนิด ถ้าเขากลับไปที่ I promise แล้วพบกับนักข่าว สิ่งที่ต้องทำก็แค่แก้ข่าวให้ถูกต้องเท่านั้น ไม่เห็นต้องกลัวหรือกังวลอะไร
   

แต่การที่หลบมาตั้งหลักแล้วปล่อยให้น้องสาวกับเหล่าพนักงานรับมือแทน วิธีนี้ยิ่งทำให้กมลกังวลใจและนั่งไม่ติดที่มากกว่า
   

ชายหนุ่มตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาน้องสาวอีกครั้ง ทว่าก่อนกดโทรออก ที่หน้าจอมือถือก็ปรากฏชื่อของใครคนหนึ่งขึ้นมาพอดี เขาจึงกดรับสาย
   

“ครับ คุณเล็ก”
   
[คุณยังอยู่ที่คอนโดหรือเปล่า]
   
ครั้นได้ยินณธิปพูด เรียวคิ้วก็ขมวดเข้าหากัน “คุณรู้ได้ยังไง”
   
[คุณอ้ายบอกมา]  ณธิปตอบ [แล้วตกลงคุณยังอยู่ที่คอนโดหรือเปล่า]

   “ครับ ยังอยู่”

   [งั้นรอเดี๋ยวนะ ผมกำลังขึ้นไป]

   “หา! คุณมาที่นี่หรือคุณเล็ก”

   [ครับ เปิดประตูให้ผมด้วยนะ เดี๋ยวผมขึ้นไปคุยด้วย] พูดจบณธิปก็วางสายไปทันที


   กมลนิ่งอึ้งอยู่ตรงนั้นพักหนึ่ง เพราะอะไรๆ มันรวดเร็วไปหมด ตัวเขายังไม่ได้ทำอะไรเลย นอกจากหลบมาอยู่ที่คอนโดตามคำขอของน้องสาว แต่ณธิปกลับตามเขามาถึงนี่ในเวลาอันรวดเร็ว ราวกับรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นล่วงหน้า หรือไม่ก็ติดตามจนรู้ความเคลื่อนไหวของเขาทุกย่างก้าว


   กมลทรุดตัวลงนั่งกับโซฟาแล้วถอนหายใจออกมาเงียบๆ


   ชายหนุ่มรออยู่ครู่เดียว เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น เขาจึงเดินไปเปิดให้แขกที่ไม่ได้รับเชิญเข้ามาเยือน


   หากให้นับ นี่เป็นครั้งที่สอง ที่ณธิปมีโอกาสก้าวล้ำเข้ามาในอาณาเขตส่วนตัวของกมล ทว่าการมาทั้งสองครั้ง ให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันไปอย่างสิ้นเชิง


   พวกเขาเดินตามกันมาที่โซนรับแขกเงียบๆ เมื่อต่างฝ่ายต่างนั่งลงบนโซฟาแล้ว ทายาทคนรองของเอ็นพีกรุ๊ปก็เริ่มต้นก่อน


   “คุณไอ”

   “ครับ”

   “ผมขอโทษนะ”


   คำขอโทษของณธิปทำให้กมลต้องเงยหน้าสบตา และได้พบว่าแววตาเรียวๆ ที่ฉายแววเจ้าเล่ห์มาตลอดนั้น ในวันนี้ดูต่างออกไป


   “ขอโทษเรื่องอะไรครับ”

   “ก็ขอโทษที่ปกป้องคุณไม่ได้ ซ้ำยังไม่ระวังตัว ปล่อยให้พวกที่จ้องจะเล่นงานเอาชื่อคุณไปทำให้เสียหาย”

   “ข่าวเท็จพวกนั้นไม่ใช่ความจริง และมันก็ไม่ใช่ความผิดของคุณสักหน่อย” กมลว่า

“คุณไม่โกรธผมหรือ”


ณธิปถามออกมาอย่างไม่อยากเชื่อ เขากังวลใจเพราะตัวเองเองก็ทำรุ่มร่ามกับกมลในที่สาธารณะ แม้ณธิปจะไม่คิดว่านั่นคือความผิด แต่ชายหนุ่มก็ยังกลัวกมลจะไม่พอใจอยู่ดี


“ผมไม่ได้โกรธคุณหรอก ผมโกรธคนเขียนข่าวพวกนั้นมากกว่าที่ให้ข่าวบิดเบือนความจริง จนเสียหายกันไปหมด”


พอได้ยินคำว่านักข่าว ณธิปก็ขมวดคิ้วเคร่งเครียดลงกว่าเดิม ชวนให้รู้สึกสงสัยว่ามีอะไรอยู่เบื้องหลัง และกมลก็อดที่จะถามไม่ได้


“มีอะไรหรือเปล่าครับ”

“ความจริง…ผมกำลังสงสัยว่าข่าวที่ออกมา จริงๆ แล้วเป็นแค่ฝีมือนักข่าว หรือมีใครชักใยอยู่เบื้องหลังกันแน่”

“ชักใยอยู่เบื้องหลังหรือครับ”

“อืม” ณธิปพยักหน้า “ตอนนี้ผมให้คนไปสืบแล้ว อีกสักพักคงรู้เรื่องว่าความจริงเป็นอะไร แต่ดูจากรูปการแล้ว ถึงไม่ต้องสืบก็พอจะรู้ว่าฝีมือใคร”

“ฝีมือใครกันครับ แล้วทำไมคุณถึงคิดอย่างนั้นล่ะ”

“ผมว่ามันดูจงใจเกินไปที่เรื่องของเราสองคนจะมีเป็นข่าวเอาตอนนี้ เรื่องของผมกับเกษสุดาจบไปเป็นปีแล้ว และคุณก็ไม่ใช่บุคคลสาธารณะที่อยู่ในแวดวงไฮโซหรือเป็นที่จับตามองของสื่อขนาดนั้น อยู่ดีๆ ทำไมถึงมีข่าวที่จงใจทำให้คุณเสียชื่อขึ้นมา”

“นั่นสินะ…” กมลเห็นด้วย ตอนแรกเขาเอาแต่สนใจเนื้อหาข่าว จนลืมสังเกตในข้อนี้ไป


ถูกของณธิป เนื้อหาโดยละเอียดของข่าวก็ดูจงใจให้คนรู้จักเขา ว่าเป็นบริษัทจัดงานวิวาห์ดัง แต่เจ้าของกลับเป็นคนแย่งเจ้าบ่าวของลูกค้าไปเสียเอง แบบนี้มันตั้งใจดิสเครดิต ทั้งที่เขาไม่ใช่คนมีชื่อเสียงอะไร เพียงแค่นักธุรกิจธรรมดาเท่านั้น


“อีกอย่าง ใช่ว่าเราจะไม่เคยไปไหนมาไหนด้วยกันมาก่อนเสียหน่อย แล้วตอนที่ไปทำกิจกรรมในป่างาม นักข่าวก็ตามไปตั้งหลายสำนัก ถ้าใครจะทำข่าวเรา เขาคงทำไปแล้ว แต่กลับปล่อยให้มันล่วงเลยมาถึงตอนนี้ ดูก็รู้ว่าจงใจใช้สื่อเล่นงานให้ผมกับคุณเสียชื่อเสียง”

“ถ้าคนที่ทำ พุ่งเป้ามาหาเราอย่างที่คุณบอกจริงๆ แปลว่าเขาคนนั้นคงเป็นคนที่กำลังไม่พอใจเราสองคนในตอนนี้ใช่ไหม”

“ใช่…แล้วก็มีอยู่คนเดียวด้วย”

“อย่าบอกนะว่าเป็น…รัฐมนตรีทรงศักดิ์”

“ถ้าจากสถานการณ์ คงเป็นเขาอย่างแน่นอน ดูท่าน่าจะร้อนใจมาก แต่ทำอะไรพวกเราไม่ได้ ก็เลยใช้สื่อเล่นงานเรากลับในประเด็นนั้นแทน เหมือนยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว คือทำให้คุณและผมเสียชื่อเสียงด้วยเรื่องโกหก แถมยังหันเหความสนใจของสังคมไปได้ไม่มากก็น้อย วิธีการของหมาลอบกัดชัดๆ” ณธิปแสยะยิ้มเย็นชา


ได้ยินที่ณธิปวิเคราะห์ ภาพในหัวของกมลก็กระจ่างชัด มันคงเป็นเช่นที่อีกฝ่ายพูดไม่ผิดแน่ แต่เมื่อได้รู้แบบนี้ แทนที่กมลจะรู้สึกดีที่ได้ทราบถึงต้นตอที่แท้จริง คนหน้าหวานกลับยิ่งเครียดหนักกว่าเก่า


“ขืนเป็นแบบนี้ต่อไม่ดีแน่…” กมลเอ่ยออกมาเบาๆ

“คุณไอ…”

“ผมว่าผมต้องทำอะไรสักอย่าง”

“ถ้าออกไปพูดอะไรตอนนี้ ผมว่ามีแต่จะทำให้เรื่องมันลุกลาม ทำให้เป็นที่จับจ้องมากขึ้น คนจะมองว่าคุณแก้ตัว เพราะยังไงเราสองคนก็ยังติดต่อกันอยู่ จะปฏิเสธไปร้อยเปอร์เซ็นว่าไม่สนิทสนมก็คงไม่ได้”

“ทั้งที่ความจริงเราไม่ได้ทำหรือครับ”

“อืม”

“ทำไมถึงเป็นแบบนั้น”

“เพราะคนมักเชื่อข่าวที่ออกมาแต่แรก ผมมีข่าวเสียๆ มาเยอะ แต่คุณรู้ไหมธรรมชาติของวงการนี้ ถ้าเราทำเฉยๆ ไปเสีย ไม่ดิ้นรนตั้งโต๊ะแถลง แล้วจัดการที่ต้นตอให้เงียบเร็วที่สุด  อีกเดี๋ยวคนก็เลิกสนใจเอง”

“แต่ผมจะปล่อยให้คนเข้าใจผิดไปเรื่อยๆ โดยไม่พูดไม่ได้ มันส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของ I promise”


แววตาระคนวิตกของกมลทำให้ณธิปพลอยกังวลไปด้วย แน่นอนว่านอกจากค้นหาต้นตอว่าข่าวมาจากไหน ใครเขียน ใครจ้างเขียน เขาก็ได้สั่งให้คนจัดการกับสื่อที่ปล่อยข่าวของเขาออกมาให้เรียบร้อยไปในคราวเดียว เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับณธิปบ่อยจนชายหนุ่มชินชา แต่เขาลืมไปว่ากมลไม่เคยเจอสถานการณ์เช่นนี้ ซ้ำยังมีเรื่องชื่อเสียงของธุรกิจเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย


คนตาเรียวละจากใบหน้าของกมล แล้วหันมาประสานมืออย่างใช้ความคิด


เขาไม่อยากออกมาพูดอะไรมากมาย ไม่อยากเติมเชื้อเพลิง อยากให้ทุกอย่างเงียบในวันสองวัน แต่ดูเหมือนถ้าไม่แก้ต่างอะไร กมลจะไม่พอใจ


ชายหนุ่มนั่งคิดอะไรเงียบๆ อยู่พักหนึ่ง ในขณะที่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าควรทำตามที่กมลบอก หรือทำตามวิธีของตัวเอง โทรศัพท์ของณธิปก็มีสายโทรเข้ามาพอดี


ณธิปจึงกดรับโดยไม่ลุกไปไหน คล้ายกับต้องการให้กมลฟังด้วย “ว่าไง”

   [เป็นคนของทางนั้นจริงๆ ครับ แต่ตอนนี้เราจัดการเรียบร้อยแล้ว]

   “ดี ฉันฝากนายจัดการพวกนักข่าวที่บริษัทของคุณไอด้วยนะ อย่าให้มาวุ่นวายอีก แล้วก็ให้ต้นตอที่ปล่อยข่าว เขียนแก้ความเข้าใจผิดให้เราด้วย บอกไปว่าถ้าไม่ทำ ฉันจะส่งทนายเข้าไปคุยแทน เรียบร้อยแล้วโทรมารายงานฉันด้วย”

   [ครับ คุณเล็ก]


   สั่งงานเสร็จ ณธิปก็กดวางสายไป แล้วหันมาหากมลที่นั่งหน้าเครียดอยู่ข้างๆ


   “ผมให้คนจัดการแล้ว อีกเดี๋ยวทุกอย่างก็คงกลับมาปรกติ คุณไม่ต้องกังวล เลิกขมวดคิ้วได้แล้วครับ” ไม่ว่าเปล่า ณธิปยังยื่นมือไปนวดเบาๆ ที่หัวคิ้ว ก่อนจะใช้หลังมือข้างนั้นลูบแก้มเย็นๆ ของกมล “ผมไม่ชอบให้คุณทำหน้าแบบนี้เลย มันทำให้ผมใจคอไม่ดีรู้ไหม”


   คนตาเรียวว่าอย่างเอาแต่ใจขณะเดียวกันคนฟังก็รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นห่วงด้วย

   “ขอโทษครับ”

   “ขอโทษผมทำไม”

   “ก็ผม…ทำให้คุณต้องเดือดร้อนอีกแล้ว”


   ข่าวที่เกิดขึ้น ทำให้กมลเสียชื่อจริงๆ แต่มันก็ทำให้ณธิปเสียชื่อไปด้วย มิหนำซ้ำเขายังทำให้อีกฝ่ายต้องลำบากคอยจัดการเรื่องต่างๆ ให้ ทั้งที่จุดเริ่มต้นมันมาจากการที่เขาเข้าไปยุ่งกับรัฐมนตรีทรงศักดิ์เองแท้ๆ


   “ผมต่างหากที่ทำให้คุณต้องเดือดร้อน ถ้าผมระวังกว่านี้ก็คงไม่เกิดเรื่อง”


   ยิ่งณธิปพูดแบบนี้ ความรู้สึกผิดก็ยิ่งเกาะกุมจิตใจของกมล และเรื่องวุ่นวายที่เกิดขึ้น มันก็ทำให้ชายหนุ่มคิดอะไรได้บางอย่าง


   บางอย่างที่ไม่รู้ว่าสมควรทำดีหรือไม่ เพราะความสัมพันธ์และความรู้สึกระหว่างเขากับณธิปในเวลานี้ มันทำให้เป็นเรื่องยากที่จะตัดสินใจ…


   “บอกแล้วไง ว่าอย่าทำหน้าเครียด ถ้าคุณไม่เชื่อ ผมจะจูบแล้วนะ” คนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราว เอ่ยขึ้นมาทีเล่นทีจริง หวังจะทำให้บรรยากาศเปลี่ยนไปสักนิด

   “ไม่เห็นเกี่ยวกันเลยครับ”

ครั้นเห็นรอยยิ้มบางๆ ของกมล ณธิปก็ยิ้มออกมาอย่างโล่งใจ “ค่อยโล่งอกหน่อย”

“โล่งอกอะไรครับ” คนหน้าหวานนึกสงสัย

“โล่งอกที่คุณยิ้มได้แล้วนี่ไง”


คำพูด สายตา และสัมผัสอ่อนโยนที่ไล้แก้มกมลเบาๆ ทำให้ความรู้สึกผิดค่อยๆ ลดเลือนลง เปลี่ยนเป็นความรู้สึกเต็มตื้นขึ้นมาในอก


“ผมไม่ชินเลยที่คุณพูดจาแบบนี้ มันชวนให้รู้สึกแปลกๆ น่ะครับ”

“คุณรู้สึกยังไง”

เมื่อถูกถาม กมลจึงคิดตาม


ขณะตกอยู่ท่ามกลางความรู้สึกที่เลือนรางและไม่กระจ่างชัด กว่าจะรู้ตัว ใบหน้าของณธิปกลับเคลื่อนเข้ามาใกล้จนปลายจมูกสัมผัสกัน


“คุณเล็ก…”


เสียงปรามแผ่วเบาเหมือนแมวคราง ไม่ทำให้ณธิปถอยห่างออกไป แต่คนเจ้าเล่ห์กลับยิ่งได้ใจ และเอ่ยถามบางสิ่งแทน


“รู้สึกว่ากำลังตกหลุมรักผมแล้วใช่ไหมครับ”

 “…”

คำถามนั้น ไร้ซึ่งคำตอบ ทว่าดวงตาคู่งามที่กำลังสั่นไหว กลับทำให้ณธิปเผลอเข้าข้างตัวเอง

“คุณไอ”

“…”

“ไอครับ”

“…”

“ไอ---”


ยกมือขึ้นมาปิดปากณธิป แล้วหรุบตาลง ขณะเอ่ย “เลิกเรียกผมสักที”


อาการเหมือนกับกำลังประหม่าที่ณธิปรู้สึกดี ไม่อาจทำให้เขาตีความคำตอบเป็นอื่นไปได้เลย


ชายหนุ่มดึงข้อมือของกมลออก จากนั้นก็ใช้มืออีกข้างเชยคางกมลขึ้น เพื่อจุมพิตริมฝีปากที่เม้มแน่น ในทีแรกเพียงแผ่วเบา ก่อนจะจูบย้ำๆ จนกลีบปากนิ่มนั้นยอมเผยออกให้สอดแทรกเข้าไปครอบครองแนบแน่น


คนถูกจูบหัวหมุนไปกับสัมผัสวาบหวาม ลึกซึ้ง ในสมองไม่ได้คิดถึงถ้อยคำปฏิเสธ ลืมแม้กระทั่งว่าไม่ควรปล่อยให้ตัวเองอยู่ในสภาพนี้


กมลลืมเลือนทุกอย่างไปจนหมดสิ้น หลงเหลือเพียงแค่จุมพิตของณธิปเท่านั้น


หากก่อนที่อะไรๆ จะเลยเถิดจนควบคุมไม่ได้ เสียงโทรศัพท์ที่ตกอยู่ข้างกายก็ดังขึ้น และครั้งนี้เป็นโทรศัพท์ของกมล


ในวินาทีนั้นชายหนุ่มจึงได้สติ เขาเพิ่งรู้ตัวว่าตนเองถูกผลักให้ล้มลงนอนบนโซฟา โดยมีคนตรงหน้าครอมเอาไว้ในท่าทางหมิ่นเหม่


ระหว่างที่โทรศัพท์สายนั้นดังจนเกือบจะดับไป กมลจึงดันตัวคนที่อยู่ด้านบนให้ผละห่าง แล้วลุกขึ้นหยิบมือถือขึ้นรับสาย


“สวัสดีครับ กมลพูดสายครับ” กมลรับโทรศัพท์ทั้งที่หัวใจยังเต้นไม่เป็นระส่ำ

[พี่ไอคะ อ้ายเอง]

“อะ…อ้ายหรือ” คนหน้าหวานลุกขึ้นจากโซฟา เพื่อหนีคนมือปลาหมึกที่บัดนี้ทำหน้าไม่สบอารมณ์เต็มที่เพราะถูกขัดจังหวะ ก่อนจะเดินเลี่ยงๆ ไปที่เคาน์เตอร์ในครัว

[พี่ไอเป็นอะไรหรือเปล่าคะ เสียงหอบๆ]

“เปล่าๆ พี่เดินมากินน้ำน่ะ อ้ายมีอะไรหรือเปล่า”

[อ๋อ คืออ้ายจะโทรมาบอกว่า เมื่อกี้คนของคุณเล็กมาที่นี่ และตอนนี้เขาก็พาพวกนักข่าวกลับไปกันหมดแล้วน่ะค่ะ]

“งั้นหรือ”

[ตอนนี้อ้ายกำลังจะออกไปรับเด็กๆ ค่ะ เราไปเจอกันที่บ้านเลยดีไหมคะ]

“ได้สิ พี่จะตามไปนะ”

[ได้ค่ะ แล้วเจอกันที่บ้าน ขับรถดีๆ นะคะพี่ไอ]

“อืม เราก็ด้วย”


พูดจบกมลก็กดวางสายทันที เขาสูดหายใจลึกๆ แล้วทำจิตใจให้สงบจากเหตุการณ์เมื่อครู่ แต่พอหันกลับมา ใบหน้าของกมลก็เกือบจะชนเข้ากับอกของณธิป


“คุณเล็ก! มาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ”

หากณธิปกลับไม่ตอบ และเลือกที่จะถามแทน “จะกลับบ้านแล้วหรือครับ”

“ครับ”

“ทำไมล่ะ ไม่นอนที่นี่หรือ”

“ไม่ครับ ผมต้องกลับไปหาน้องกับหลานๆ”

“แล้วผมล่ะ…คุณจะทิ้งผมหรือไอ”


น้ำเสียงน่าสงสารทำเอากมลต้องเงยหน้ามอง แต่เมื่อเห็นแววตาเจ้าเล่ห์ คนหน้าหวานก็ได้รู้ว่ามันคือแผนลวงทั้งนั้น


“ครับ”

“ใจร้าย”

“…”

“จะทิ้งผมจริงหรือ”

“ครับ ผมจะกลับบ้านแล้ว” ชายหนุ่มทำใจแข็งตอบเสียงเรียบ ทว่าแก้มทั้งสองข้างกลับแดงก่ำจนคนเจ้าเล่ห์เกือบอดใจไม่ไหว ใจนั้นอยากฟัดจะแย่ แต่ก็ไม่อยากขัดใจกมลเช่นกัน


เขาจะรออดเปรี้ยวไว้กินหวานทีเดียว

“ก็ได้ครับ แต่ให้ผมไปส่งนะ”

“ผมขับรถมา” กมลว่า

“ผมก็จะขับรถคุณไปส่งคุณที่บ้าน”

“แล้วคุณจะกลับยังไง”

“เดี๋ยวโทรให้คนมารับ”

“แต่…”

“ห้ามปฏิเสธครับ” ณธิปว่า “ไม่อย่างนั้นผมไม่ให้กลับแล้วนะ”

“อย่าคิดว่าจะขู่ผมได้ตลอดนะคุณเล็ก” กมลปราม

“ครับๆ ไม่ขู่ก็ได้ แต่ให้ผมไปส่งคุณนะ”


   กมลจ้องตาเรียวๆ นั่นอยู่ครู่หนึ่ง จึงถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนตอบตกลงแล้วจึงเดินเลี่ยงมาที่ห้องรับแขกเพื่อเก็บของ


“ก็ได้ครับ”


กมลและณธิปออกจากห้องมาที่ลานจอดรถพร้อมกัน พวกเขาขึ้นรถของกมลไป โดยมีณธิปเป็นคนขับตามที่ตกลง สถานการณ์ต่างๆ ก่อนหน้านี้ดูเหมือนจะคลี่คลายลงไปด้วยดี ทั้งคู่จึงวางใจและผ่อนคลายขึ้น


จนไม่ทันคิดว่า…บางทีสุนัขจนตรอกก็กัดไม่ปล่อย เพราะมันไม่มีอะไรต้องเสียแล้ว







<><><><><><><><><><><>



คุณไอโดนจู่โจม!!!!! 555555
แต่ก็งวดขึ้นทุกทีแล้ว อีกไม่นานก็จบแล้วค่ะ
ยังไงก็ฝากติดตามจนจบด้วยนะคะ ^^


ละอองฝน.
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 41 [19/06/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 19-06-2018 01:46:04
 :pig4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 41 [19/06/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 19-06-2018 01:55:00
 :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 41 [19/06/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 19-06-2018 02:22:05
ถ้าจับพวกที่ทำได้มันต้อง  :beat: :z6:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 41 [19/06/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 19-06-2018 04:05:08
กรี๊ดด เกือบแล้วไหมล่ะไอไอ ดีนะมือถือเข้าพอดี

ส่วนอิตารัฐมนตรี  :z6:  :beat: แกคิดจะทำอะไรอีก!
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 41 [19/06/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: +pEnGuIn+ ที่ 19-06-2018 09:13:49
แงงงง เค้าจูบกันจริงจังแล้ววววว
คุณไอยอมรับแล้วใช่ไหม ปริ่มมมม
เมื่อไหร่คุณเล็กจะได้กินคุณไอคะ
นี่รอๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
มาต่อเร็วๆนะคะ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 41 [19/06/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 19-06-2018 10:09:26
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 41 [19/06/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: khwanruen ที่ 19-06-2018 13:15:03
เขิน คุณเล็กรุกหนักเกินไปแล้ว  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 41 [19/06/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 19-06-2018 19:01:37
ยิ่งผู้ร้ายออกฤทธิ์ออกเดช คุณเล็กกับพี่ไอเขายิ่งกระชับความสัมพันธ์แน่นแฟ้นไปอีก
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 41 [19/06/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 19-06-2018 21:53:26
หมามันยังกัดไม่ปล่อยเลย ทั้งสองคนจะเป็นอันตรายไหมเนี่ย
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 41 [19/06/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 19-06-2018 23:17:51
คุณเล็กได้จูบแล้ว..ววววว :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 42 [05/07/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: ละอองฝน ที่ 05-07-2018 19:58:21



คุณคือความรัก บทที่ 42




   เอี๊ยด!!!


   เสียงล้อเสียดถนนเพราะรถเบรกกะทันหันดังสนั่น หัวใจคนขับเต้นโครมครามด้วยความตกใจ ก่อนจะตั้งสติได้แล้วรีบหันไปสำรวจคนที่นั่งข้างๆ


   “เป็นอะไรหรือเปล่าไอ!”


   กมลเงยหน้ามาจากคอนโซลรถ แล้วตอบเสียงสั่น


   “ผมไม่เป็นไรครับ คุณล่ะ”


   “ผมก็ไม่เป็นไร” ณธิปตอบ


   “แล้วเมื่อกี้…”


   “น่าจะไม่ได้ชน เพราะผมเบรกทัน” คนขับว่า “แต่เดี๋ยวผมลงไปดูรถหน่อยดีกว่า”


   พูดจบณธิปก็ลงจากรถไปทันที เจ้าของรถตัวจริงอย่างกมลจึงรีบลงตามไปด้วย


   กมลยังใจหายกับเหตุการณ์เมื่อครู่ ที่อยู่ๆ ก็มีมอเตอร์ไซด์จากไหนไม่รู้ขับมาปาดหน้ารถของพวกเขาขณะที่กำลังจะออกจากคอนโด ทำให้ณธิปต้องเหยียดเบรกกะทันหัน


   “รถเป็นอะไรหรือเปล่าครับคุณ!” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของคอนโดหรูรีบเข้ามาสอบถามทันที เพราะเมื่อครู่เขาเป็นคนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด


   “ไม่เป็นไรครับ” ณธิปตอบ


   “ผมนึกว่าจะชนเสียแล้ว โชคดีที่คุณเบรกทัน เจ้าของมอเตอร์ไซด์คันเมื่อกี้ก็คงไม่เป็นไร เพราะเขาขับหนีไปเลย” เจ้าหน้าที่ฯ ว่า


   “เฮ้อ...” ณธิปถอนหายใจออกมา ก่อนจะหันมาทอดเสียงอ่อนให้กมล “ผมเกือบทำคุณเจ็บเสียแล้ว”


   “ผมไม่เป็นไร เรากลับบ้านกันดีกว่านะคุณเล็ก”


   “เอาสิครับ”


   “ให้ผมขับไหม” เจ้าของรถว่า


   “ไม่เป็นไร ผมขับเองดีกว่า หรือคุณไม่ไว้ใจผม”


   “เปล่าครับ ไม่ใช่ไม่ไว้ใจ แต่ผมกลัวคุณเหนื่อยที่ต้องขับรถเทียวไปเทียวมา”


   “โธ่...แค่นี้เอง สบายมากครับ” ณธิปยิ้มให้กมลในท่าทางสบายๆ ก่อนจะหันไปขอบคุณเจ้าหน้าที่ฯ แล้วพากันกลับขึ้นรถเพื่อขับไปส่งอีกฝ่ายที่บ้าน


   หลังจากคาดเข็มขัดนิรภัยเรียบร้อย คนหน้าหวานก็หันมาเรียกสารถีข้างกาย


“คุณเล็ก”


“ครับ?”


“คุณขับได้แน่นะ”


“หึๆ ได้สิ ผมไม่ได้เหนื่อยหรือกำลังเมาอยู่สักหน่อย เมื่อกี้มันแค่เหตุสุดวิสัย ไหนดูซิ...” คนขับรถยกนิ้วโป้งขึ้นเกลี่ยหัวคิ้วของกมล แล้วว่าต่อ “ขมวดคิ้วเป็นปมเชียว วันนี้คุณมีเรื่องให้คิดเยอะเกินไปแล้วนะ ดังนั้นก็เลิกกังวลได้แล้วครับ จะหลับก็ได้ เดี๋ยวถึงบ้านแล้วผมปลุก”


“ใครจะไปหลับลงครับ ฟ้ายังสว่างอยู่เลย อีกอย่าง ตอนนี้ผมหิวมากกว่าง่วงเสียอีก”


“งั้นแวะกินข้าวกันก่อนไหม ผมรู้จักร้านอร่อยแถวนี้เยอะเลย” ณธิปเสนออย่างเอาใจ


“ไม่เอาครับ กลับไปกินที่บ้านดีกว่า ยัยอ้ายคงรออยู่”


“ว้า~ แบบนี้ผมก็อดกินข้าวกับคุณเลยน่ะสิ” ชายหนุ่มดึงมือที่ลูบคิ้วอีกฝ่ายกลับมาแล้วหันไปบ่นกระปอดประแปด


“ก็อยู่กินด้วยกันก่อนสิครับ”


คำชักชวนที่ไม่คิดว่าจะได้ยินทำให้ณธิปตาโต ก่อนจะยิ้มกว้างออกมาแล้วตอบรับอย่างยินดี “งั้นผมไม่เกรงใจล่ะนะ”


“ครับ” กมลยิ้มรับบางๆ แล้วก็เอนกายกับเบาะ เบือนสายตามองออกไปนอกหน้าต่าง


 กมลถึงคิดว่าในเวลานี้เป็นเขาต่างหากที่ต้องเกรงใจณธิป เพราะเขาทำให้อีกฝ่ายต้องวุ่นวายและเดือดร้อนหลายอย่าง ถ้าจะมีเรื่องที่เขาพอตอบแทนอีกฝ่ายได้บ้าง เขาก็อยากจะทำ










ระหว่างทางกลับบ้าน ทั้งสองคนไม่พูดคุยอะไรกันมากนัก ไม่ใช่ณธิปไม่อยากคุย แต่เห็นกมลนั่งเงียบคล้ายครุ่นคิดอะไรอยู่ตลอดเวลา เขาจึงไม่อยากกวนใจ


กระทั่งมาถึงบ้านหลังน้อย น้องสาวของกมลก็เป็นคนเดินมาเปิดประตูรั้วให้


เธอดูแปลกใจเล็กน้อยที่คนขับไม่ใช่พี่ชายของตัวเอง แต่หทัยก็ไม่ได้พูดอะไร หลังจากจอดรถเรียบร้อย ทั้งสามคนจึงเดินเข้าบ้านไปด้วยกัน


“เด็กๆ ล่ะอ้าย”


“วาดรูปอยู่ในห้องนั่งเล่นค่ะ พี่ไอกินอะไรมาหรือยังคะ”


“ยังเลย”


“งั้นเดี๋ยวอ้ายจัดโต๊ะให้นะ เมื่อกี้แวะซื้อเป็ดพะโล้เจ้าอร่อยที่พี่ไอชอบมาให้มาด้วยค่ะ” เธอบอกอย่างเอาใจก่อนหันมายิ้มให้ณธิป “อยู่ทานด้วยกันนะคะคุณเล็ก”


“ขอบคุณครับ” ณธิปยิ้มรับเธอตามมารยาท แล้วจึงเดินตามกมลเข้าไปหาหลานชายฝาแฝดในห้องนั่งเล่น


ระหว่างที่รอน้องสาวตั้งโต๊ะ ณธิปก็ช่วยกมลทำหน้าที่พี่เลี้ยงเด็กอยู่ในห้องนั่งเล่น ทว่าชายหนุ่มก็ยังไม่ลืมสังเกตกมลตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน


เวลานี้กมลไม่ได้เอาแต่ครุ่นคิดและเหม่อลอยแล้ว เพราะมีหลานๆ มาช่วยดึงความสนใจ เจ้าตัวยิ้มหวานออกมาในแบบที่เขาชอบ ท่าทางผ่อนคลายเหล่านี้ทำให้ณธิปคลายกังวลลงไปได้มาก


เมื่อคิดถึงเรื่องที่ทำให้กมลเครียดแล้ว ชายหนุ่มก็ยิ่งหงุดหงิด เขารู้ว่าอย่างไรเสีย ทางรัฐมนตรีทรงศักดิ์จะต้องเล่นงานเขากลับอย่างแน่นอน ข้อหาที่ไปขัดขวางเส้นทางกอบโกยผลประโยชน์ ทั้งที่ณธิปเองก็เตรียมรับมือไว้อยู่แล้ว แต่พอเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อคนที่เขารัก ชายหนุ่มก็อดรู้สึกโมโหไม่ได้


ครั้งที่หนึ่งยังพอทน แต่นี่ฝ่ายนั้นยังกล้าลงมือครั้งที่สอง แล้วอย่างนี้จะให้อดทนอย่างไรไหว แม้เขาจะจัดการให้ทุกอย่างเรียบร้อยได้ในเวลารวดเร็วเท่าไรก็ตาม แต่กมลก็ยังคิดมากอยู่ดี


ณธิปไม่เคยได้รู้ว่า เวลาที่เขารักใครสักคนหนึ่ง ทุกอย่างที่หมุนอยู่รอบตัวคนคนนั้นจะมีผลต่อตัวเองถึงเพียงนี้ ไม่ว่าเรื่องเล็ก เรื่องใหญ่ หรือเรื่องอะไรก็ตาม เขาไม่อยากให้ไปกระทบจิตใจคนคนนั้นแม้เพียงนิดเดียว


เขาอยากให้คนคนคนนั้นยิ้มเหมือนที่เคยยิ้ม พูดเหมือนที่เคยพูด ทำทุกอย่างได้เหมือนที่เคยทำ จะดุ จะว่า จะใจร้ายใส่เขาก็ได้ แต่สิ่งที่ไม่อยากได้คือ


ไม่อยากให้คนคนนั้นทุกข์ใจ


ถ้าณธิปเลือกได้ เขาจะยอมแบกรับความรู้สึกไม่สบายใจเหล่านั้นแทน แต่เพราะเขาควบคุมและแบกรับแทนทุกอย่างไม่ได้ ชายหนุ่มถึงได้หงุดหงิดอยู่แบบนี้


“คุณเล็กครับ”


“ห...หื้ม?”


เพราะเผลอคิดอะไรในหัวอยู่นาน ณธิปจึงไม่รู้สึกตัวตอนที่ถูกกมลเรียก


“ผมเห็นคุณนิ่งไป เป็นอะไรหรือเปล่าครับ”


“เปล่าหรอกครับ ผมคิดอะไรเพลินไปหน่อยน่ะ” ณธิปตอบอ้อมแอ้ม “เมื่อกี้คุณว่า คุณเรียกผมหรือ มีอะไรหรือเปล่าครับ”


“ลุงไอจะชวนอาเล็กไปกินข้าวครับ” น้องหยางเป็นคนตอบให้แทน


“งั้นหรือครับ” ณธิปยิ้มให้เด็กชายบางๆ เขาคงเหม่อนานไปหน่อยจริงๆ เพราะขนาดมือข้างหนึ่งถูกฝาแฝดคนเล็กจับเอาไว้ ชายหนุ่มยังไม่รู้สึกตัว


“ไปกินข้าวด้วยกันนะครับ อ้ายจัดโต๊ะเสร็จแล้ว”


ได้ยินเสียงกมลเอ่ยชวนอีกคำ ณธิปจึงหันมายิ้มให้คนหน้าหวานบ้าง ก่อนพยักหน้า “ไปครับ”








ณธิปรู้สึกว่าอาหารมื้อนี้ที่บ้านกมลไม่ค่อยอร่อยเท่าไร เพราะเขาแอบได้ยินเจ้าของบ้านถอนหายใจอยู่หลายรอบ แถมเอาเข้าจริง คนที่บอกว่าหิวมากกว่าง่วงเมื่อตอนอยู่ในรถก็กินน้อยเหมือนแมวดม


ณธิปอยากพากมลไปกินของอร่อย อยากหยอกล้อหรือชวนคุย อยากทำอะไรให้อีกฝ่ายมากกว่านี้ แต่เขาก็ไม่กล้าทำอุกอาจต่อหน้าญาติๆ ของกมล เพราะกลัวว่าจะกลายเป็นทำให้เจ้าตัวไม่พอใจเข้าไปอีก


ดังนั้นเมื่อถึงเวลาที่คนขับรถของผู้บริหารหนุ่มมารับ ณธิปจึงได้แต่เดินคอตกออกมาเงียบๆ แม้อย่างน้อยกมลจะมาส่งเขาที่หน้าบ้านก็ตาม


“ขอบคุณแล้วก็ขอโทษสำหรับวันนี้นะครับ” คนหน้าหวานเอ่ยเบาๆ ก่อนพวกเขาจะจากกัน


ณธิปจึงเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย ก่อนเอ่ยถาม “ขอบคุณอะไรครับ”


“ขอบคุณที่รีบมาอยู่เป็นเพื่อน ขอบคุณที่ช่วยจัดการข่าวพวกนั้น”


“แล้วเรื่องที่ขอโทษล่ะ” ณธิปถามต่อ


“ขอโทษที่...ทำให้คุณเดือดร้อนครับ”


“ไอ...” ณธิปครางออกมาเบาๆ อย่างอ่อนใจ “ผมบอกแล้วนี่ว่าไม่ใช่ความผิดของคุณสักหน่อย จะมาขอโทษผมอีกทำไมครับ”


“แต่ถึงคุณจะพูดแบบนั้น ความจริงที่ว่าต้นเหตุมาจากใครก็ไม่เปลี่ยนไปอยู่ดี”
   

เมื่อดวงอาทิตย์คล้อยต่ำลง แสงสว่างใกล้มอดดับไปทุกที ณธิปยืนมองตากมลท่ามกลางแสงสลัวในยามเย็นอยู่นาน จนในที่สุดชายหนุ่มจึงเอ่ย
   

“วันนี้ผมยอมให้คุณขอโทษก็ได้ แต่วันต่อๆ ไปผมไม่รับคำขอโทษของคุณแล้วนะ ขอเป็นคำว่ารักแทน”
   

“คุณเล็ก...”


กมลอึ้งไปเล็กน้อย ด้วยไม่คิดว่าอยู่ๆ ณธิปจะพูดคำนี้ออกมา ก่อนหัวใจจะเต้นหนักหน่วงราวกับเพิ่งออกกำลังกายมาอย่างหนัก


พวกเขาต่างเงียบกันไปพักใหญ่ คล้ายกำลังรอให้หัวใจที่เพิ่งทำงานหนักกลับมาสงบ คนหน้าไม่อายจึงเป็นฝ่ายเปิดปากก่อน


“คุณเข้าบ้านไปพักผ่อนเถอะไอ ผมก็จะกลับแล้ว”


“คะ...ครับ” กมลตอบรับเสียงแผ่ว


ทั้งที่เป็นคนมีความมั่นใจในตัวเองสูงมาโดยตลอด แต่ยิ่งนานวัน ณธิปกลับทำให้เขาค่อยๆ เปลี่ยนไปจากที่เคยเป็น กมลในเวลานี้หรุบตามองลงต่ำ และบีบมือสองข้างเข้าด้วยกันแน่นด้วยความไม่มั่นใจ


ณธิปเห็นกมลไม่ขยับ คล้ายกำลังรอให้เขาก้าวออกไปก่อน ชายหนุ่มจึงยอมตามใจอีกครั้ง และเป็นฝ่ายเดินถอยออกมาขึ้นรถ
   

ทว่าก่อนที่รถจะออก คนตาเรียวก็เลื่อนกระจกลง แล้วเอ่ยบางประโยค หวังให้มันช่วยปัดเป่าความไม่สบายใจของกมลให้หายไป


“คุณไอครับ”


“ครับ?” กมลขานรับ


“คุณเชื่อไหม หลังจากคุณเข้านอนคืนนี้ พอตื่นมาในเช้าวันใหม่ อะไรๆ มันจะดีขึ้น”


“คุณรู้ได้ไง”


“เพราะผมเชื่อว่ามันต้องเป็นแบบนั้น” ณธิปว่า


“คุณเชื่อหรือ”


“ครับ ผมเชื่อ แล้วคุณเองก็ต้องเชื่อด้วย” เขาทอดเสียง พลางยิ้มอ่อนโยนแบบที่นานๆ ครั้งจะได้เห็น “เชื่อผมสักครั้งนะครับไอ”


กมลนิ่งไปนิด ก่อนจะค่อยๆ ยกริมฝีปากขึ้นเป็นรอยยิ้ม


“ครับ ผมเชื่อคุณ”









<><><><><><><><><><><><><>







คุณเล็กกลับมาแล้วววววว
กลับมาคราวนี้แปะป้ายให้เป็นพระเอกแล้วนะ ไม่ใช่ว่าที่พระเอก เพราะราศีมันจับแล้ว 55555
ตอนหน้าจะรีบมาค่ะ จะพยายามอัพสลับกับอีกเรื่อง
ฝากด้วยนะคะ

ละอองฝน.
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 42 [05/07/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 05-07-2018 20:06:56
 :pig4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 42 [05/07/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 05-07-2018 20:41:11
คุณเล็กวันนี้กับวันแรกที่รู้จักกันมันคนละคนชัด ๆ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 42 [05/07/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: anntonies ที่ 05-07-2018 21:14:15
ขอให้เป็นเรื่องดีๆจริงๆเถอะนะ ไม่อยากดราม่า
อยากเห็นสวีทกันแล้ว  :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 42 [05/07/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 05-07-2018 22:06:34
พ่อพระเอก...กกกกกกกกกกกกกก คนดีเมื่อไหร่จะหวานกะเค้าซักที รอๆๆๆๆๆๆ  :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 42 [05/07/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 05-07-2018 23:21:04
คุณเล็กโคตรเท่ห์เลย ^^
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 42 [05/07/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 05-07-2018 23:23:33
ปรบมือให้คุณเล็กเลย หล่อมาก :katai2-1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 42 [05/07/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 05-07-2018 23:31:14
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 42 [05/07/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 06-07-2018 08:15:07
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 42 [05/07/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: khwanruen ที่ 06-07-2018 08:41:04
พระเอกออกมาแล้ว  :mew1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 43 [13/07/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: ละอองฝน ที่ 13-07-2018 05:36:24



คุณคือความรัก บทที่ 43




   เมื่อคืนกมลเข้านอนเร็วและกลับหลับสนิทจนถึงเช้าโดยไม่ถูกผลกระทบของข่าวฉาวทำให้ต้องว้าวุ่นจนข่มตาไม่หลับเลยแม้แต่น้อย เช้านี้เขาจึงตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า และพร้อมลุยงานต่อตลอดทั้งวัน
   ที่เป็นเช่นนี้ กมลยกความดีความชอบให้กับคำพูดปลอบใจของณธิปทั้งหมด เพราะปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเมื่อได้ฟัง เขาก็รู้สึกคลายกังวลลงมาก
   หนุ่มหน้าหวานลงมาจากบ้านและช่วยน้องสาวทำอาหารเช้าให้หลานๆ แทนการออกไปวิ่งจ๊อกกิ้ง เพราะเขาไม่อยากเป็นภาระให้กับคนของณธิปมากจนเกินไปนัก อย่างน้อยก็อยากรอให้เหตุการณ์ทุกอย่างคลี่คลายลงก่อนค่อยกลับไปใช้ชีวิตตามปรกติร้อยเปอร์เซ็น
   ระหว่างทำอาหารเช้าหทัยก็ไม่ได้เอ่ยเรื่องข่าวพวกนั้นเลยแม้แต่คำเดียว หากน้องสาวคนดีกลับชวนคุยเรื่องแผนเดินทางไปเที่ยวต่างจังหวัดแทน
   “อ้ายอยากไปเที่ยวต่างจังหวัดก่อนเด็กๆ เปิดเทอมใหญ่ค่ะ พี่ไอคิดว่าไงคะ”
   “ก็ดีนะ เดี๋ยวเด็กๆ เปิดเทอมแล้วเราคงไม่ได้ไปไหนด้วยกันอีกนาน แต่ติดที่พี่ต้องเคลียร์งานก่อนนี่สิ ตารางงานเดือนนี้น่าจะแน่นนะ เพราะใกล้จะหมดฤดูร้อนแล้ว”
   “แต่ถ้าสักหนึ่งคืนสองวัน อ้ายว่าเราน่าจะหาวันหยุดตรงกันได้นะคะ”
   “งั้นก็ลองดูให้พี่หน่อยแล้วกัน”
   “โอเคค่ะ เดี๋ยวอ้ายจัดการให้” เธอรับคำพร้อมกับยิ้มกว้าง ก่อนจะหันไปทำอาหารต่อ
   ทีแรกหทัยไม่คิดว่าพี่ชายของเธอจะจะยอมตกลงง่ายดายเช่นนี้ เพราะรู้ดีว่ากมลเป็นมนุษย์บ้างานขนาดไหน แต่ช่วงนี้อาจมีเรื่องเข้ามากระทบจิตใจพี่ชายของเธอมากหน่อย เจ้าตัวก็คงอยากหยุดพักบ้างเช่นกัน
   ครั้นทำอาหารเช้าเสร็จหทัยก็ขึ้นไปปลุกลูกชายฝาแฝด ปล่อยให้กมลเป็นคนจัดอาหารขึ้นโต๊ะแทน ผ่านไปพักใหญ่เมื่อจัดการอาบน้ำแต่งตัวให้ลูกชายเรียบร้อย บ้านเปรมอนันต์ก็นั่งทานอาหารบนโต๊ะพร้อมหน้าพร้อมตา
   วันนี้หทัยรับหน้าที่ไปส่งลูกชายที่โรงเรียน เพราะกมลต้องเข้าไปเคลียร์งานที่ I promise ด้วยเมื่อวานเขาหยุดงานไปวันหนึ่งแล้ว
   ฝ่าการจราจรติดขัดยามเช้ามาถึงที่ทำงานได้กมลก็ขึ้นห้องทำงานทันที วันนี้ตารางงานของผู้บริหารหน้าหวานคือจัดการเอกสารที่ต้องเซ็นอนุมัติให้หมด ไม่มีงานนอกสถานที่เหมือนที่ทุกที เขาหมกตัวอยู่ในห้องจนเที่ยง แม่บ้านของบริษัทจึงหอบหิ้วอาหารกลางวันมาส่งให้กมลถึงห้องตามคำสั่ง
   สถานการณ์ทั่วไปเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่มีอะไรให้หวั่นใจจนกมลเผลอวางใจ กระทั่งบ่ายแก่ หลังจากทำงานเรียบร้อยหมดแล้ว ชายหนุ่มจึงออกจากห้องทำงาน ตั้งใจไปเดินทักทายพนักงานแผนกต่างๆ อย่างที่ชอบทำ
   ทว่ายังไปไม่ถึงไหน เสียงซุบซิบของพนักงานก็พลันเข้าหูเสียก่อน
   “อย่างคุณไอเนี่ยนะจะคว้าเอาคุณณธิป พูดก็พูดเถอะ ถึงจะหล่อรวยแค่ไหน แต่ประวัติก็โชกโชนเกินป้าจะรับไหว”
   “นั่นสิ คุณไอของพวกเราน่ะหรือจะคบ ไม่น่าเป็นไปได้”
   “แต่ภาพข่าววันนี้ก็ชัดเสียจนปฏิเสธไม่ได้เลยไม่ใช่หรือไง วันก่อนมันไกลๆ ที่จับไม้จับมือนั่นอาจจะพอถูไถว่าเป็นมุมกล้องได้ แถมมีพวกคุณหยินคุณหยางไปด้วยอีก แต่คราวนี้ไม่มีใครเป็นไม้กันหมา แถมออกมาจากคอนโดด้วยกัน หนูว่ามันก็ชัดแล้วค่ะคุณป้า”
   ใครคนหนึ่งแย้งขึ้น ก่อนทั้งวงสนทนาจะเงียบเสียงไปคล้ายกำลังคิดหนัก ผ่านไปสักพักเจ้าของเสียแรกจึงเอ่ยออกมาเบาๆ
   “เฮ้อ...นั่นสินะ นั่นคอนโดนี่ ไม่ใช่โรงแรม ป้าจะแถว่าคุณไอแกไปทำงานก็ไม่ได้”
   “แต่ดีหน่อยนะคะที่วันนี้นักข่าวไม่มารุมคุณไอที่หน้าบริษัทเหมือนเมื่อวาน ไม่งั้นคุณไอคงคิดมากน่าดู แต่ก็อย่างว่าล่ะนะ ทางโน้นเขาไฮโซดังและก็มีชื่อเสียทางนี้อยู่แล้ว พวกนักข่าวคงไปไล่บี้เอากับทางโน้นแทน”
   “จะเรียกว่าโชคดีก็คงพูดไม่ได้เต็มปากหรอกค่ะ”
   ฟังถึงตรงนี้กมลก็เปลี่ยนใจค่อยๆ เดินถอยออกมา และกลับเข้าห้องทำงานส่วนตัวของตนเองเงียบๆ
   เรื่องซุบซิบที่พนักงานพูดกันทำให้กมลรู้สึกหน้าชา เพราะเขาเข้าใจว่าวันนี้เรื่องทุกอย่างจะเงียบ และไม่มีอะไรเกิดขึ้นตามที่ณธิปบอก แต่ดูเหมือนว่าอะไรๆ จะไม่เป็นดังเช่นที่เขาเชื่อ
   กมลเดินวนไปวนมาหน้าโต๊ะทำงานของตัวเองเพื่อทำใจอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนตัดใจเดินมานั่งที่โต๊ะ และเริ่มเปิดหาข่าวที่ทุกคนกำลังพูดถึงกัน
   ทันทีที่เปิดเข้าไปในหน้าเว็บไซด์ข่าวบันเทิงสำนักหนึ่ง กมลก็เห็นภาพของตัวเองอยู่กับณธิปที่หน้าคอนโดแทรกอยู่ในหัวข้อข่าวเด่นๆ ของวัน คาดว่าคงเป็นช่วงที่พวกเขาลงมาดูรถตอนเกิดอุบัติเหตุเมื่อวาน
   หลักฐานมัดตัว! ไฮโซดังควงหนุ่มเข้าออกคอนโดหรู
   จากที่ชาแค่หน้า เวลานี้เขาชาไปหมดตั้งแต่หัวจรดเท้า
   เนื้อหาข่าวอาจไม่ได้เขียนถอยคำรุนแรงจนรับไม่ได้ แต่ก็เป็นประโยคกระทบกระเทียบที่อ่านแล้วชวนให้เจ็บแสบไปหมด ซ้ำคอมเมนท์ใต้ข่าวยังวิจารณ์พวกเขาเสียๆ หายๆ โดยเฉพาะณธิปที่โดนหนักกว่าหลายเท่า
   บ้างสงสารและเห็นใจคุณเกษสุดาที่ถูกล้มงานวิวาห์ บ้างว่ากมลหน้าอายที่เข้ามาพรากคู่รักที่กำลังจะแต่งกัน บ้างก็ว่าณธิปทำตัวฉาวมากจนทำให้ภาพลักษณ์ของเอ็นพีกรุ๊ปดูไม่น่าเชื่อถือ ลามไปถึงการเหยียดหยันและเสียดสีเรื่องรักในเพศที่สาม
   ทว่าสิ่งทำให้กมลรู้สึกแย่และเจ็บปวดมากที่สุด เป็นเรื่องที่พ่อและแม่ของณธิปถูกตำหนิอย่างรุนแรง ข้อหาที่พยายามจับลูกชายแต่งงานกับผู้หญิง ทั้งที่ลูกรักผู้ชาย
   แม้พวกเขาจะเป็นแค่นักธุรกิจ และเรื่องนี้ไม่ได้ถูกพูดถึงในวงกว้างเท่าดารานักร้อง แต่มันก็ลุกลามใหญ่โตกว่าที่จะอยู่เฉยๆ ได้
   อ่านไปอีกไม่เท่าไร กมลก็ปิดหน้าเว็บไซด์นั้นลง ก่อนทิ้งตัวเอนหลังกับพนักเก้าอี้อย่างหมดแรง
   ชายหนุ่มไม่รู้จะแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้อย่างไร ความรู้สึกผิดที่จู่โจมเข้ากลางใจทำให้เขาคิดอะไรไม่ออกสักอย่าง กมลในเวลานี้ไม่เหลือคราบกมลซึ่งเป็นที่พึ่งของทุกคนอีกต่อไปแล้ว
   แก้ปัญหาเรื่องอื่นมาก็มาก กลับต้องมาตกม้าตายเพราะเรื่องของตัวเอง
   ระหว่างที่ชายหนุ่มกำลังมืดแปดด้านเพราะคิดไม่ตก คนเดียวที่กมลคิดถึง และเป็นคนที่เขาทำให้ต้องเดือดร้อนก็โทรเข้ามาหาราวนกรู้
   ดวงตาคู่สวยมองหน้าจอโทรศัพท์ของตัวเองนิ่งงัน และดูเหมือนเขาจะใช้เวลาคิดนานเกินไป โทรศัพท์สายนั้นจึงตัดไปเสียก่อน
   แต่ยังไม่ทันเก็บเครื่องมือสื่อสารลงกระเป๋า สายของใครคนนั้นก็ต่อตรงเข้ามาถึงเขาอีกครั้งอย่างไม่ยอมแพ้ และครานี้กมลไม่ลังเลใจอีกต่อไป เขาตัดสินใจกดรับสายทันที
   [คุณไอ คุณอยู่ที่ไหน!]
ทันทีที่เอาโทรศัพท์แนบหู กมลก็ได้ยินเสียงปลายสายเรียกหาตนเองอย่างร้อนรน
“ผมอยู่ที่บริษัทครับ”
[คุณเห็นข่าวแล้วหรือ]
“คุณรู้ได้ยังไง”
[ได้ยินเสียงคุณ ผมก็รู้แล้ว] คนรู้ดีอวดอ้าง
“ครับ” กมลตอบรับตามตรง เพราะไม่มีประโยชน์ที่จะปิดบัง
[บ้าเอ้ย!] ณธิปสบถลั่น ก่อนปรับเสียงให้อ่อนลง เพราะนึกขึ้นได้ว่ากำลังคุยกับกมลอยู่ [ขอโทษครับ ผมโมโหมากไปหน่อย]
“ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าใจ”
กมลเข้าใจว่าหากณธิปจะโมโหก็คงไม่แปลก เพราะข่าวกับกระแสวันนี้รุนแรงและส่งผลกระทบกับอีกฝ่ายโดยตรง
ทว่าคำต่อมาที่กมลได้ยิน กลับทำให้ความรู้สึกผิดของกมลยิ่งทวีคูณ
[ผมขอโทษนะ]
“ขอโทษหรือครับ...” คนหน้าหวานขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ “คุณจะขอโทษผมทำไม คุณไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย”
[ผิดสิ] ณธิปตอบกลับเสียงหนักแน่น ก่อนร่ายความผิดของตัวเองออกมา [ก็ผมบอกคุณ สัญญากับคุณว่าจะไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก แต่พอถึงเวลาผมก็ทำตามที่พูดไม่ได้ แถมยังมีหน้าขอให้คุณเชื่อ]
“คุณเล็ก...” กมลครางเสียงอ่อน “อย่าพูดแบบนั้นเลยนะครับ”
[ถ้าอย่างนั้น คุณก็อย่างทำเสียงแบบนั้นสิ]
“เสียงแบบไหน”
[แบบที่ผมไม่ชอบเลย] ณธิปว่า [อย่าคิดมากนะครับ เรื่องที่เกิดขึ้น ผมจะจัดการเอง]
“มีอะไรที่ผมพอจะทำได้บ้างไหม” หากจะพึ่งพาณธิปทุกครั้ง กมลก็ยิ่งรู้สึกไม่ดี ทั้งที่เขามันตัวต้นเรื่อง ดังนั้นอย่างน้อยก็ต้องช่วยอีกฝ่ายรับผิดชอบ
[ผมไม่อยากให้คุณทำอะไรทั้งนั้น แต่อย่าเข้าใจผิดว่าตัวเองไม่มีประโยชน์ เพราะผมแค่ไม่อยากให้คุณได้รับผลกระทบอะไรไปมากกว่านี้แล้ว ปล่อยทุกอย่างให้เป็นหน้าที่ผมนะครับ]
“คุณจะทำอะไร”
[ทำทุกอย่างให้เรื่องนี้จบ]
   ทำให้กมลกลับมายิ้มได้เหมือนเดิมสักที...ชายหนุ่มมาดมั่น
   ทว่ายิ่งณธิปยืนยันจะรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว ยืนยันจะที่จะปกป้องเขาทุกทาง หัวใจของกมลยิ่งเจ็บปวด เพราะเขาไม่ได้หวังให้อีกฝ่ายต้องทำถึงขนาดนี้
   มันควรมีอะไรสักอย่างที่คนอย่างเขาทำได้สิ
   ในช่องว่างระหว่างความเงียบงัน ทั้งสองต่างคิดหาวิธีไปคนละทาง แต่เป้าหมายกลับมีสิ่งเดียว นั่นคือ…
เพื่อปกป้องกันและกัน
เงียบอยู่ครู่เดียว ณธิปก็เอ่ย [ผมต้องไปแล้ว เอาไว้คืนนี้ผมจะโทรหานะครับ]
“ครับ”
ครั้นตอบรับเรียบร้อยปลายสายก็วางสายไป
กมลจ้องหน้าจอโทรศัพท์อยู่เช่นนั้น ราวกับจะมองทะลุไปถึงคนที่เขาเพิ่งคุยด้วยเมื่อครู่ จนกระทั่งหน้าจอดับลง เขาจึงถอนหายใจออกมาเบาๆ
คงต้องมีสักเรื่องที่เขาทำได้...ต้องมี

   ค่ำวันนั้น ระหว่างที่กมลกำลังรถติดแหงกอยู่บนถนนสายอัมพาต โทรศัพท์ของเขาสั่นครืดอีกครั้ง แต่คราวนี้เป็นสายที่ไม่รู้จัก หนุ่มหน้าหวานจึงเสียบหูฟังและกดรับ
   “สวัสดีครับ กมลพูดครับ”
   [ไอ...นี่ย่าเอง] น้ำเสียงแสดงความเอื้ออารีของหญิงชราทำให้กมลชะงักและสับสนเล็กน้อย ก่อนชายหนุ่มจะนึกออกว่า ผู้ที่แนะนำตัวว่า ย่าเอง คือใคร
   คุณหญิงนฤมล คุณย่าของณธิป!
   “ครับคุณย่า” กมลเรียกเธอว่าคุณย่าเช่นที่เคยตกลงกันไว้เมื่อครั้งสุดท้ายที่เจอกัน
   [ไออยู่กับตาเล็กหรือเปล่าลูก]
   “เปล่าครับ ตอนนี้ผมกำลังขับรถกลับบ้าน” เขารายงาน ก่อนจะฉุกคิดถึงคนที่ถูกถามถึง “เกิดอะไรขึ้นกับคุณเล็กหรือครับ!”
   [ย่าเพิ่งเห็นตาเล็กให้สัมภาษณ์กับนักข่าวเมื่อเย็นเรื่องความสัมพันธ์ของพวกเราสองคน ย่าก็เลยนึกเป็นห่วงตาเล็กขึ้นมา แม่สรกับตาภัทรโทรไปเขาก็ไม่รับ ย่าเลยโทรมาถามไอ]
   “สัมภาษณ์หรือครับ...ผมไม่ทราบเรื่องเลย”
กมลไม่รู้ว่าการสัมภาษณ์ที่ว่าคืออะไร เพราะตั้งแต่วางสายจากณธิป เขาก็ไม่ได้ติดตามข่าวสารอะไรอีกเลย แต่ถ้าคุณหญิงนฤมลทำเสียงไม่สบายใจเช่นนี้ คงเป็นเรื่องใหญ่พอสมควร
[ไอไม่รู้หรือลูก ย่าคิดว่าเราสองคนจะคุยกันแล้วเสียอีก] เธอเอ่ย ในน้ำเสียงแสดงความผิดหวังเล็กน้อย แต่ความเป็นห่วงคงเปี่ยมล้น [ถ้าไอติดต่อตาเล็กได้ บอกให้ช่วยโทรกลับหาย่าหรือที่บ้านด้วยนะลูก]
“ครับคุณย่า ผมจะพยายามติดต่อคุณเล็ก และจะบอกให้เขารีบโทรกลับครับ”
[ขอบใจนะไอ]
หลังจากเอ่ยคำขอบคุณแล้ว คุณหญิงนฤมลก็วางสายไป ทิ้งให้กมลจมอยู่กับความว้าวุ่นใจเพราะไม่รู้ความเคลื่อนไหวอะไรเลย
ปรี้น!!!
เสียงรถคันหลังบีบแตรไล่ดันสนั่น กมลจึงเพิ่งรู้สึกตัวว่าตอนนี้สัญญาณไฟเปลี่ยนเป็นสีเขียวแล้ว เขารีบออกรถทันที ก่อนตัดสินใจหาทางเบี่ยงออกซ้าย เพื่อกลับรถไปหาที่จอดสงบๆ แล้วติดต่อณธิป
กมลแวะเข้าปั้มน้ำมันข้างทางไม่ห่างจากจุดที่ติดไฟแดงในตอนแรกสักเท่าไร ก่อนจะกดเข้าไปหาข่าวที่ณธิปสัมภาษณ์ตามที่คุณหญิงนฤมลบอกมา จนในที่สุดก็พบ
มันคือคลิปสัมภาษณ์ในงานเปิดตัวคอนโดมิเนี่ยมหรูแห่งหนึ่งของเครือเอ็นพีกรุ๊ป
ต้นๆ คลิปจะเป็นการพูดโฆษณาถึงคอนโด โดยในฉากมีดาราดังที่เป็นพรีเซนเตอร์ยืนอยู่ด้วย กระทั่งผ่านไปพักหนึ่ง ณธิปก็ถูกดึงออกมาสัมภาษณ์เดี่ยวถึงกรณีที่กำลังตกเป็นข่าว
“สรุปว่าเรื่องที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องจริงหรือเปล่าคะคุณณธิป”
“เรื่องไหนครับ” ณธิปย้อนถาม “เรื่องที่บอกผมล่มงานแต่งเพราะคุณกมลน่ะหรือ”
“ใช่ค่ะ” นักข่าวพากันพยักหน้ารับ
“ไม่จริงครับ”
“แต่แหล่งข่าวบอกว่าพวกคุณรู้จักกันในช่วงนั้น ซ้ำยังมีรูปที่หลุดออกมาสองรอบ ตรงนี้มีความเป็นมายังไงคะ คุณณธิปยืนยันว่าใช่รูปของตัวเองหรือเปล่า”
“ผมรู้จักกับเขาในช่วงนั้นจริงครับ และคนในรูปก็คือผม” พอณธิปเอ่ยออกมาถึงตรงนี้ ก็เกิดเสียงฮือฮาดังขึ้นอีก ทว่าผู้บริหารหนุ่มกลับไม่ปล่อยให้ใครได้จี้ถาม “แต่...ช่วงนั้นที่รู้จักกัน เราแค่รู้จัก ไม่ได้สนิทกันแม้แต่น้อย ผมกับเขาเจอกันไม่ถึงสามครั้ง และทุกครั้งก็เจอพร้อมกับคุณเกษ ดังนั้นเรื่องที่ว่าคุณกมลเป็นสาเหตุที่ทำให้วิวาห์ล่ม ข้อนี้ไม่จริงครับ”
“คุณณธิปยืนยันนะคะ ว่าไม่ได้สานสัมพันธ์กันช่วงนั้น”
“ยืนยันครับ เขาไม่ได้เกี่ยวและไม่ได้ทำให้ผมยกเลิกงานแต่ง ส่วนเหตุผลที่ไม่มีงานนั้นเกิดขึ้น เป็นเหตุผลส่วนตัว ตรงนี้ผมขอไม่ลงรายละเอียดนะครับ”
“แล้วเรื่องรูปล่ะคะ”
“หลังจากที่ยกเลิกงานแต่งแล้ว หลายเดือนต่อมาผมได้มีโอกาสร่วมงานกับบริษัท I promise ตอนที่เปิดตัวโรงแรมปางปาลี นั่นเป็นช่วงที่ผมได้กลับมาเจอคุณกมลอีกครั้ง”
“แล้วพวกคุณก็เลยคบกันหรือคะ”
“เปล่าครับ เราไม่ได้คบกัน” ณธิปกระตุกยิ้ม ทว่ารอยยิ้มนั้นกลับทำให้กมลหัวใจกระตุก “แม้กระทั่งตอนนี้เราก็ยังไม่ได้คบกัน แต่ที่เห็นเราอยู่ด้วยกัน เพราะผมกำลังพิสูจน์ตัวเองกับเขาอยู่”
“แปลว่าตอนนี้อยู่ในช่วงจีบ”
“ใช่ครับ”
ณธิปพยักหน้ารับตรงๆ ระหว่างที่เกิดเสียงฮือฮาเพราะคำตอบตรงๆ อย่างขวานผาซากของเขา ชายหนุ่มก็ตัดบทเพราะดูเหมือนเจ้าตัวอยากเลิกให้สัมภาษณ์เต็มที
“แต่ที่ผมยอมให้สัมภาษณ์ในวันนี้ เพราะอยากแก้ไขความเข้าใจผิดที่เกิดขึ้นทั้งหมด ในข่าวที่ออกมามีเรื่องจริงแค่ว่าผมกำลังพยายามเอาชนะใจเขา นอกนั้นไม่มีอะไรเป็นความจริงเลย ผมขอความร่วมมือพี่ๆ สื่อทุกท่านแก้ไขข่าวให้เราด้วยนะครับ เพราะมันส่งกระทบต่อจิตใจคนในครอบครัวของผมและเขามาก หากว่าต่อไปยังมีข่าวทำนองชิงรักหักสวาทเหมือนละครหลังข่าวอีก ผมคงต้องขออนุญาตให้ทนายประจำเอ็นพีกรุ๊ปของเราคุยแทน” ณธิปยิ้มเย็นอย่างที่ไม่ใช่มาดอย่างหนุ่มเพลย์บอยเช่นทุกครั้ง ก่อนจะทิ้งท้าย “ขอบคุณที่สละเวลามากันในวันนี้นะครับ”
หลังจากนั้นบอดี้การ์ดประจำตัวของผู้บริหารหนุ่มมากันตัวเจ้านายออกจากวงให้สัมภาษณ์ และคลิปวีดีโอก็หยุดลงตรงนั้น
ใต้คลิปสัมภาษณ์มีการวิจารณ์อย่างเผ็ดร้อน บ้างก็มองว่าดี บ้างก็มองว่าที่ณธิปทำเพราะต้องการสร้างกระแสนักข่าวมาช่วย PR คอนโดให้
คำด่าทอและเสียงวิพากษ์วิจารณ์แง่ลบในโซเชียลยิ่งทำให้กมลปวดใจมากขึ้น เพราะมีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้ว่าแท้จริงแล้วณธิปทำเพื่ออะไร
ชายหนุ่มนั่งนิ่งเหมือนสมองว่างเปล่าอยู่นาน ก่อนคำว่า ผมกำลังพยายาม ของณธิปจะแทรกเข้ามาในหัว
ในตอนแรกที่ผู้ชายเจ้าเล่ห์คนนั้นกลับมาขอโอกาส กมลไม่ได้รู้สึกว่าณธิปจะพยายามเช่นที่เขาบอกเลยสักนิด แต่พอมาตอนนี้ความคิดของกมลถูกเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ
กมลไม่เคยรู้เลยว่าจริงๆ แล้วมันเริ่มขึ้นเมื่อไร ทว่าพอรู้ตัวอีกที เขาก็เห็นณธิปพยายาม พยายาม และพยายามอย่างหนัก...เพื่อเขา แม้ว่าอีกฝ่ายจะต้องเดือดร้อนเท่าใดก็ตาม
เขาต่างหากที่ไม่เคยตอบแทนอะไรให้ได้ณธิปเลย แค่เรื่องของตัวเองยังจัดการไม่ได้ มีแต่คอยพึ่งพาและหาเรื่องทำให้อีกฝ่ายลำบาก
ขณะที่ชายหนุ่มกำลังจมดิ่งกับความรู้สึกผิดเหล่านั้น ผู้ที่ครองตำแหน่งคนที่อยากเจอและไม่อยากเจอที่สุดก็โทรเข้ามา ในอารมณ์ขุ่นมัวแบบนี้ เขาไม่อยากรับสายเลยสักนิด หากไม่ได้รับปากคุณหญิงนฤมลเอาไว้แล้ว
ปลายนิ้วสั่นๆ ปาดเลื่อนที่หน้าจอ แล้วเงี่ยหูฟังปลายสาย
[คุณไอ ถึงบ้านหรือยังครับ] ทั้งที่เมื่อกี้ยังให้สัมภาษณ์เสียเคร่งขรึม ทว่าพอโทรมาคุยกับเขา เสียงของณธิปกลับสดใสจนกมลเกือบเผลอลืมไปว่าอีกฝ่ายเพิ่งผ่านช่วงยากลำบากมา
“ยังเลยครับ” กมลตอบเบาๆ “คุณอยู่ที่ไหนน่ะ เมื่อกี้คุณย่าของคุณท่านโทรหาผม บอกว่าโทรหาคุณ แต่คุณไม่รับสาย ท่านอยากให้คุณโทรกลับน่ะครับ”
[คุณไอ คุณอยู่ที่ไหนน่ะ ทำไมเสียงอู้อี้ขนาดนั้น]
“เอ่อ...ผมกำลังขับรถกลับ ว่าแต่คุณย่าท่าน...”
[ผมโทรหาท่านแล้ว คุณไม่ต้องห่วง]
“อ้อ อย่างนั้นหรือครับ” กมลรับคำเก้อๆ แม้ใจอยากถามว่าณธิปถูกคุณย่าหรือคนที่บ้านตำหนิเรื่องข่าวหรือเปล่า แต่ปากกลับไม่ขยับอย่างใจ กระทั่งณธิปพูดแทรก
[คุณไอ คุณอยู่ที่ไหนน่ะ] อีกฝ่ายถามคำถามเดิมอีกครั้ง
“ผม...กำลังจะกลับบ้านครับ”
[แล้วจอดรถในปั๊มทำไมตั้งไมตั้งนานสองนานครับ]
“คุณเล็ก...คุณรู้ได้ยังไง”
[คนที่คอยติดตามคุณบอกผมมาน่ะสิ นี่คุณทำอะไรอยู่ที่นั่นกันแน่]
“ผมแวะเติมน้ำมัน เดี๋ยวก็จะกลับแล้ว”
[อย่าเพิ่งไป]
“หื้ม?”
[เดี๋ยวผมจะไปหาคุณที่นั่น รอเดี๋ยวเดียวเท่านั้น ผมใกล้จะถึงแล้ว]
“อะไรนะครับ!”
[เท่านี้ก่อนนะครับ แล้วเจอกัน ห้ามหนีด้วย] อีกฝ่ายออกคำสั่งอีกครั้ง ราวกับรู้ว่าเขามาอยู่ตรงนี้ทำไม และกำลังรู้สึกอะไรอยู่
เมื่อวางสายไปแล้ว กมลก็เงยหน้ามองออกไปนอกกระจกรถ เขาไม่รู้เลยว่าคนที่คอยติดตามเขาคือคนไหน และคนคนนั้นบอกรายละเอียดในพฤติกรรมของเขาไปเท่าใด
กมลร้อนรนอยู่ตรงนั้นได้ไม่นาน รถสีดำคันหรูก็เข้ามาจอดเทียบข้างๆ รถของเขา ก่อนณธิปจะเดินลงจากรถมา เพราะกมลไม่ยอมเป็นฝ่ายลงจากรถ
ณธิปเดินมาเคาะประตูฝั่งที่นั่งข้างคนขับ กมลจึงจำใจปลดล็อคให้ฝ่ายนั้นสอดตัวเข้ามานั่งข้างๆ ดวงตารีเรียวมองสำรวจใบหน้าของเขาอย่างรวดเร็ว แล้วอีกฝ่ายจึงเปิดปากพูด
“เป็นอะไรครับ ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า”
“ผมไม่ได้เป็นอะไรครับ” แน่นอนอยู่แล้วที่กมลจะต้องปฏิเสธ
“แต่สีหน้าคุณไม่ดีเลยนะ” ความอ่อนโยนที่มากับน้ำเสียงทำให้กมลยิ่งรู้สึกอึดอัดในใจมากยิ่งขึ้น
“ผมไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ ครับ”
“ไม่เป็นไรจริงๆ หรือไอ”
ชั่วครู่หนึ่ง ตอนที่ถูกมองดูแววตาเป็นห่วงสุดหัวใจ หน้ากากที่กมลพยายามสวมอยู่ก็ค่อยๆ สลายไป
“ผม...”
“คุณกังวลเรื่องข่าวหรือ” ณธิปคาดเดา “ไม่ต้องเป็นห่วงนะ ผมจัดการให้คุณเรียบร้อยแล้ว ผมปรึกษากับคุณพ่อและพี่ภัทรแล้วด้วย ว่าถ้ามีการนั่งเทียนเขียนข่าวให้เราเสียหายอีก ผมจะฟ้อง”
“ฟ้องเลยหรือ”
“ใช่ เรื่องนี้ผมต้องจัดการให้เด็ดขาด”
“ขอโทษที่ทำให้คุณต้องลำบากนะครับ”
“ไม่หรอก เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น”
ทุกอย่างที่เป็นเรื่องใหญ่ของกมล ดูจะเป็นเรื่องเล็กน้อยของณธิปทั้งหมด ซึ่งกมลไม่รู้ว่ามันเล็กน้อยจริงๆ หรืออีกฝ่ายพูดเพื่อกันเขาคิดมากกันแน่ แต่ถ้าให้เดาจากบทสัมภาษณ์เมื่อกี้ คงเป็นอย่างหลังมากกว่า
จะเห็นแก่ตัวเกินไปหรือเปล่านะ หากเขาคิดจะรั้งคนคนนี้ไว้ข้างกาย...กมลนึกสงสัย
แต่จากสถานการณ์วุ่นวายที่เกิดขึ้น จากสิ่งที่ณธิปต้องแบกรับเอาไว้บนบ่า และอารมณ์ไม่ปรกติของกมลในตอนนี้ มีเพียงคำตอบเดียวที่เขาคิดได้
ใช่...เขาคือคนเห็นแก่ตัว แค่คิดว่าจะทำตามใจตัวเอง ก็เห็นแก่ตัวมากเหลือเกินแล้ว
เกินกว่าที่จะสมควรจะได้รับความรักและความห่วงใยจากคนคนนี้...
“คุณเล็ก”
“ครับ?”
“คุณ...” กมลสูดหายใจลึกๆ “จำที่คุณเคยบอกผมได้ไหม”
“เรื่องอะไรครับ ผมบอกคุณตั้งหลายเรื่อง” ณธิปถามยิ้มๆ
“ก็เรื่องที่คุณบอกว่า ถ้าเกิดวันหนึ่ง ผมไม่หวั่นไหวกับคุณเลยสักนิด คุณจะ...ยอมถอย”
ราวกับฟ้าฟาดลงกลางหัว รอยยิ้มที่ประดับอยู่บนใบหน้าของณธิปเลือนหายไปอย่างรวดเร็ว เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่ากมลจะพูดเรื่องนี้ เพราะมันไม่มีสัญญาณเตือนอะไรเลย ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาสองคนเป็นไปได้ด้วยดี และดีขึ้นมากๆ มาตลอด ครั้นได้ยินประโยคที่กมลทวงถาม ชายหนุ่มก็ถึงกับไปไม่เป็น
กมลมองคนตรงหน้านิ่งๆ แต่ในใจเต้นแรงด้วยความรู้สึกที่คล้ายกับอาการหวาดกลัว ทว่าไม่รู้ตัวเองกำลังกลัวอะไร
เนิ่นนานจนเกือบลืมหายใจ สุดท้ายณธิปก็เค้นเสียงถาม
“คุณพูดเรื่องนี้ทำไม”
“มาคิดๆ ดูแล้ว ผมว่าตัวเองไม่ได้รู้สึกอะไรกับคุณแบบนั้น” กมลพยายามอย่างยิ่งที่จะดึงเอาหน้ากากแหลกละเอียดอันเดิมขึ้นมาสวม ในขณะที่เอ่ยถ้อยคำตัดรอน
“หมายความว่าไง”
“ผมว่าคิดว่าจริงๆ แล้ว คุณเป็นเพื่อนที่ดี ดังนั้นอย่าเสียเวลากับผมเลยนะครับ”
“เพื่อนหรือ...เหอะ” เจ้าของดวงตาเรียวแค่นหัวเราะ แต่ดวงตากลับไม่ได้หัวเราะตามไปด้วย “คุณโกหกใครก็ได้ แต่คุณโกหกตัวเองไม่ได้หรอกนะไอ”
“ผมไม่ได้โกหก”
“แต่ผมไม่เชื่อ!” เสียงของณธิปสั่นคล้ายกำลังโมโห แต่กมลรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังเสียใจ และเขาก็เป็นคนทำให้อีกฝ่ายต้องเสียใจ
“...”
“ผมไม่เชื่อว่าคุณไม่เคยหวั่นไหว ไม่เชื่อว่าคุณไม่ได้รู้สึก...เหมือนที่ผมรู้สึก”
“...”
“รู้ไหมไอ...นี่เป็นครั้งแรกที่ผมไม่เชื่อในสิ่งที่คุณพูด ผมไม่รู้ว่าอะไรทำให้คุณทวงเงื่อนไขนี้กับผม ไม่รู้ว่าคุณคิดอะไรอยู่ แต่ผมตามใจคุณ คุณก็รู้...ผมตามใจคุณทุกเรื่องอยู่แล้ว”
“...” กมลยังคงพูดไม่ออก เพราะรู้สึกว่าหากเขาเอ่ยคำใดออกมา สิ่งที่ตัดสินใจทำคงพังครืนไม่เป็นท่า
“ถ้าคุณบอกว่าคุณไม่ต้องการให้ผมอยู่ข้างๆ ผมจะถอยให้”
ถึงตรงนี้ อยู่ดีๆ หัวตาของกมลก็รู้สึกแสบร้อนขึ้นมา ชายหนุ่มจึงหรุบตาลงต่ำ ก่อนจะเอ่ยเรียบๆ
“ขอบคุณ...และขอโทษด้วยนะครับ”
กมลไม่รู้ว่าณธิปทำหน้าอย่างไรก่อนลงจากรถไปเงียบๆ เขาไม่ได้มองตามแผ่นหลังของอีกฝ่าย ไม่ได้มองว่ารถหรูคันนั้นขับออกไปตั้งแต่เมื่อไร เพราะในหน่วยตาคู่สวยมีน้ำตากลบจนแทบมองอะไรไม่เห็น
   เขาไม่รู้ว่าตัวเองตัดสินใจผิดพลาดหรือไม่ ยามนี้เขารู้เพียงแค่ว่า ความกลัวที่เกาะกุมหัวใจเมื่อครู่ สาเหตุมาจากกมลกลัวที่รู้ว่าต่อไปนี้
เขาจะไม่มีณธิปอยู่ข้างๆ อีกแล้ว








-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------









อย่างสงสารคนตายเลยแฮรี่ สงสารพระเอกเรื่องนี้เถอะ /ทำเสียงดัมเบิลดอร์

หากอ่านตอนนี้จบ ก็อย่าเพิ่งโมโหโกรธากันเลยนะคะ มันเป็นเฮือกสุดท้ายก่อนจบแล้วจริงๆ
ฝนไม่รู้ว่าใครจะเข้าใจคุณไอไหม ว่าที่คนดีทำแบบนั้นไปเพราะอะไร
อย่างที่บอกไปในตอน ทั้งคุณเล็กและคุณไอ ต่างมีวิธีปกป้องอีกฝ่ายในแบบของตัวเอง
คุณเล็กโผงผาง แต่เข้าใจง่าย คิดอะไรทำแบบนั้น ถ้ารักคือทุ่มเลย ทำเลย ไม่กลัวลำบาก
แต่กับคุณไอที่คนอาจคาดหวังให้เก่งกาจ คิดได้อย่างมีสติ ก็มีวันที่คนแบบคุณไอจะแบลงค์ได้เหมือนกัน
เพราะเขาห่วงเกินไป กังวลเกินไป คิดมาก คิดเผื่อทุกอย่างรอบตัวคุณเล็กมากเกินไป จึงทำให้โทษด้วยเองแบบนี้
และที่สำคัญ คุณไอเคยเป็นคนที่ เป็นที่เพิ่งให้ทุกคนมาตลอด พอวันนึงที่ตัดสินใจทำเรื่องสำคัญ แต่นำเอาความยากลำบากมาสู่ตัว แถมเกินกำลังจะจัดการ เขาก็เลยรู้สึกผิดมากๆ คิดว่าถ้าคุณเล็กไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับตัวเอง จะปกป้องคุณเล็กจากทุกอย่างได้ แต่นั่นก็แค่อารมณ์ช่วงที่ดิ่งๆ เท่านั้น

ดราม่านี้ไม่ยาวนานหรอกค่ะ แต่ถ้าไม่มี ความสัมพันธ์และความเข้าใจกันของตัวละครก็จะไม่เป็นอย่างที่ฝนอยากให้เป็น
อีกไม่กี่ตอนจะจบแล้ว ฝากเป็นกำลังใจให้คุณไอของบ่าวกับคุณเล็กของคุณไอด้วยนะคะ ^^

ละอองฝน.
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 43 [13/07/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 13-07-2018 06:41:39
สู้ด้วยกันมาตั้งเยอะ จะปล่อยมือกันง่าย ๆ อย่างนี้ไม่ได้นะ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 43 [13/07/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 13-07-2018 07:05:42
สงสารคุณเล็กอ่ะ คุณไอมีวิธีของคุณไอ แล้วจะไปกันรอดเหรอ สังคมจับตามองตลอดเลย จริงๆ คุณเล็กไม่ต้องแถลงข่าวก็ได้ โอ้ยย น่าจะอยู่เงียบๆไป
คุณไอเหมือนจะใจร้ายอ่ะ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 43 [13/07/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 13-07-2018 08:07:20
คุณเล็กห้ามถอยน้า :hao5:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 43 [13/07/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: พันวา ที่ 13-07-2018 08:26:46
เข้าใจคุณไอนะ เวลาเห้นคนที่เรารักรับผิดชอบทุกอย่างอยู่คนเดียวโดยที่เราช่วยอะไรไม่ได้เลย  มีแต่จะนำความเดือดร้อนมาให้

เลยทำให้ตัดสินใจแบบนั้น เพราะคิดว่า หากไม่ยุ่งเกี่ยวกัน เรื่องแย่ๆพวกนั้นมันจะหายไป หรือไม่อย่างน้อย มันจะไม่ไปทำให้คนที่เรารักเดือดร้อนเพราะเรา 

คุณเล็กสู้เค้านะ  :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 43 [13/07/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: +pEnGuIn+ ที่ 13-07-2018 09:12:41
เราเข้าใจคุณไอ แต่..
สงสารคุณเล็ก ฮืออออออ
สงสารตัวเองด้วย ทำไมอยู่ๆก็มาม่าใส่เรา
 :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:

คุณไอต้องง้อคุณเล็กนะ งืออออ เราทีมคุณเล็ก
มาต่อด่วนๆเลยนะคะ  :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 43 [13/07/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 13-07-2018 10:07:26
คุณเล็กอย่าเพิ่งยอมแพ้ไปนะ สู้ๆนะ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 43 [13/07/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 13-07-2018 10:28:24
 :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 43 [13/07/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 13-07-2018 11:47:17
 :mew2: :mew2: :mew2: :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 43 [13/07/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 13-07-2018 12:18:25
รักกันยากเหลือเกิน  :ling2: :hao4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 43 [13/07/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 13-07-2018 13:09:33
เอ้าาา  :o12: :o12: แง้ สงสารคุณเล็กอ่ะ ทำไมไอไอทำแบบนี้
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 43 [13/07/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 13-07-2018 14:42:05
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 43 [13/07/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: khwanruen ที่ 13-07-2018 21:37:31
ต้องจับมือกันผ่านอุปสรรคสิคะ ไออย่าปล่อยมือคุณเล็กเลยนะ :mew6:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 43 [13/07/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 13-07-2018 22:05:24
แล้วกัน..จะรอจนกว่าคุณเล็กจะสมหวัง  :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 43 [13/07/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 13-07-2018 22:16:07
มันก็เป็นวิธีรักแบบของคุณไอนะคะ คุณเล็กใจเย็นๆน้าาา
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 43 [13/07/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: Mengjie_JJ ที่ 31-07-2018 00:59:52
รอนะคะ ❤
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 44 [01/08/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: ละอองฝน ที่ 01-08-2018 16:26:04








คุณคือความรัก บทที่ 44








ณ ริมหน้าต่างเปิดกว้างบนคอนโดสูง ไฮโซหนุ่มนักธุรกิจทายาทเครือเอ็นพีกรุ๊ปนั่งทิ้งตัวบนโซฟาใหญ่อย่างหมดสภาพ ดวงตารีเรียวเหม่อมองออกไปในยังทัศนียภาพเบื้องหน้า กรุงเทพมหานครในยามค่ำคืนยังคงสว่างไสวไปด้วยดวงไฟระยิบระยับ ต่างกับหัวใจของเขาในยามนี้ที่มันมืดมิดเสียเหลือเกิน

“เฮ้อ~” ณธิปถอนหายใจทิ้ง ก่อนจะยกแก้ววิสกี้จรดริมฝีปาก

แม้ของเหลวดีกรีแรงจะไหลผ่านลำคออึกแล้วอึกเล่า แต่มันก็ไม่ช่วยดับความรู้สึกร้อนใจของชายหนุ่มในยามนี้ได้เลย

ณธิปไม่รู้ว่ามันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้น ไม่รู้ว่าเหตุใดกมลถึงพูดเรื่องสัญญานั่น ไมรู้แม้ตัวเองต้องทำอย่างไรต่อไปหลังจากนี้

ใช่...เขายังต้องลงมือทำอะไรสักอย่าง

ทำก่อนที่มันจะสายเกินแก้ไข

คนที่เคยมีแผนการในหัวมากมายเฝ้าครุ่นคิดหาทางออกให้ความสัมพันธ์ของตัวเอง แต่ไม่ว่าจะคิดอย่างไร ชายหนุ่มก็คิดไม่ออก นี่อาจถือเป็นครั้งแรกที่ณธิปรู้สึกมืดแปดด้านจริงๆ

กริ้ง

ชายหนุ่มรินวิสกี้ให้ตนเองอีกแก้ว ทว่าแม้เทจนปากขวดกระทบแก้วใส เขาก็ไม่พบสิ่งใดไหลออกมาอีก ดวงตารีเหลือบมองขวดเหล้าว่างเปล่าในมือ ด้วยสายตาที่ว่างเปล่าไม่แพ้กัน

คนอย่างเขาจะหมดหนทางได้ขนาดนี้เลยเชียวหรือ...

ชายหนุ่มได้แต่ครุ่นคิดหาคำตอบในคำถามเดิมซ้ำๆ

แม้ในตอนนั้นเขาจะพูดออกไปง่ายๆ เหมือนยอมรับเงื่อนไขที่ตัวเองเป็นคนตั้งได้อย่างสงบ แต่ความจริงเขาไม่มีทางยอมตัดใจเช่นปากพูด ยามนี้ณธิปต้องการเวลาเพื่อถอยมาตั้งหลัก เขาต้องคิดแผนการใหม่ ด้วยเชื่อมั่นว่ากมลเองก็คงไม่ตั้งใจจะตัดเขาทิ้งจากใจจริงเช่นกัน

แต่ปัญหามันอยู่ตรงที่ เขาไม่รู้จะเริ่มแก้ที่ตรงไหน

เพล้ง!

เสียงขวดแก้วแตกกระจายดังก้องไปทั้งห้อง แต่คนทำไม่เหลียวแลมันเลยแม้แต่น้อย ชายหนุ่มได้แต่ก้มตัวลงแล้วยกมือสองข้างขึ้นกุมศีรษะที่ปวดตุบๆ อย่างสิ้นไร้หนทาง

หรือเขาควรเอาเรื่องนี้ไปปรึกษาใครสักคน...ณธิปคิดก่อนเหลือบมองนาฬิกาข้อมือ

03 : 46

เข็มนาฬิกาบอกเวลาตีสามเกือบตีสี่แล้ว ป่านนี้คนที่พอช่วยได้คงไม่มีสติพอจะรับฟัง เหมือนกับตัวเขาที่ยามนี้ไม่มีสติคิดวิเคราะห์ถึงความรู้สึกซับซ้อนของคนใจร้าย

“เฮ้อ...” ณธิปถอนหายใจยืดยาวอย่างอ่อนล้า

บางครั้งการเอาแต่ดันทุรังมากเกินไปก็ไม่มีประโยชน์ คืนนี้เขาควรปล่อยให้ตัวเองได้พักจากเรื่องเครียดๆ ที่รุมเร้ามาทั้งวัน

คิดได้ดังนั้นชายหนุ่มจึงลุกขึ้นจากโซฟา เดินหลบเศษแก้วที่แตกละเอียดไปยังเตียงคิงไซซ์ และทิ้งตัวลงนอนอย่างหมดสภาพ

ตื่นขึ้นมาพรุ่งนี้ อาจมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้น

ชายหนุ่มปลอบใจตัวเองด้วยประโยคเดิม เหมือนกับที่เคยปลอบกมลเมื่อวันก่อน จากนั้นจึงปล่อยให้ตัวเองจมดิ่งสู่ห้วงนิทราเพื่อรอเวลาเพื่อเริ่มต้นใหม่























เริ่มต้น...คำคำนี้ เป็นคำสุดท้ายที่ณธิปนึกถึงก่อนสติหลุดลอยไป และยังเป็นคำแรกที่อยู่ในหัวตอนเขาลืมตาตื่น

เช้านี้ชายหนุ่มรู้สึกเมื่อยขบไปทั้งตัว ร่างกายรู้สึกอ่อนล้าไม่ต่างจากหัวใจ เขาไม่อยากขยับตัวไปไหนเลย แต่ด้วยหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ ณธิปจึงจำต้องลุกไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนเดินทางไปทำงานด้วยสภาพราวกับหุ่นยนต์ไร้ชีวิตตัวหนึ่ง

ระหว่างนั่งรถชายหนุ่มก็คิดถึงเรื่องหนักอกมาตลอดทาง แต่สุดท้าย หลังจากคิดไม่ตกว่าควรทำอย่างไร เขาจึงมองไปยังจุดเริ่มต้นของปัญหาทั้งหมด

กมลชิงตัดโอกาสเพราะเรื่องวุ่นวายของข่าวเสียหายที่เกิดขึ้น ข่าวเหล่านั้นมาจากคนของรัฐมนตรีทรงศักดิ์ที่คิดจะเล่นงานพวกเขากลับ ด้วยแค้นที่ถูกเปิดโปงเรื่องหมู่บ้านป่างาม ส่วนมูลเหตุของข่าวเป็นเรื่องอุปโลกน์รักสามเศร้าระหว่าง ณธิป กมล และเกษสุดา

และเมื่อได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเรื่องอุปโลกน์ แสดงว่ามันไม่เป็นความจริง ซึ่งตอนนี้ตัวณธิปแก้ข่าวไปแล้ว แต่เรื่องคาวๆ ก็ยังคงมีคนพูดถึงอยู่

นั่นแสดงว่าคนไม่เชื่อที่เราให้ข่าวสินะ...ผู้บริหารหนุ่มคิด

แม้ณธิปจะรวยล้นฟ้า แต่เขาก็ไม่อาจจัดการพวกปากหอยปากปูได้หมด ดังนั้นคงมีแต่ต้องทำให้คนเชื่อและเลิกพูด เลิกสนใจเรื่องพวกนี้ไปเอง

ซึ่งถ้าต้องการให้คนเชื่อและเลิกพูดถึง ใครอีกคนที่มีชื่อในข่าวก็ต้องออกมาแก้ความเข้าใจผิดนั้นด้วยตัวเอง โดยคนคนนั้นจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก...เกษสุดา

ณธิปมีสีหน้าลำบากใจเล็กน้อยเมื่อนึกถึงเธอคนนั้น บุคคลซึ่งเขาไม่เคยคิดถึงเลยตั้งแต่แรกจนจบ

หรือนี่จะเป็นเวรกรรมที่เขาทำให้เธอเสียใจและเสียหน้า...ชายหนุ่มคิดขึ้นมาแวบหนึ่ง ก่อนส่ายหน้าไล่ความความฟุ้งซ่านเล่านั้นทิ้งไป เพราะไม่ว่าจะเป็นด้วยเหตุผลกลใดก็ตาม ณธิปก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงความจริงที่ว่า

ครั้งหนึ่งเขาเคยทำผิดต่อเธอ

“ฟู่ว~” ชายหนุ่มระบายลมหายใจออกมาเบาๆ ก่อนรวบรวมความกล้าเพื่อต่อสายหาอดีตว่าที่เจ้าสาว

ดวงตาเรียวมองไปบนถนน แต่ใจของเขาจดจ่ออยู่กับเสียงสัญญาณรอสาย กระทั่งขับมาจนเกือบถึงที่ทำงาน เสียงสัญญาณนั้นก็ขาดไปเพราะเกษสุดาไม่รับ

ไม่รู้เป็นเพราะเธอไม่ว่าง หรือไม่อยากคุยกับเขากันแน่...ณธิปคิดไม่ตก

เขาขับรถเข้าไปจอดในที่จอดประจำตำแหน่ง หลังจากดับเครื่องแล้วและตั้งใจลองกดโทรดูอีกสักครั้งเผื่อว่าหญิงสาวจะยอมรับสายกันดีๆ ทว่าจู่ๆ ก็มีสายแทรกเข้ามา

เกษสุดา!

ณธิปเบิกตาขึ้นเล็กน้อยด้วยความแปลกใจ ก่อนจะกดรับทันทีเพราะกลัวว่าเธอจะตัดสายไปเสียก่อน

“สวัสดีครับเกษ”

[สวัสดีค่ะคุณเล็ก คุณเล็กมีอะไรหรือเปล่าคะ ถึงได้โทรหาเกษ]

“ผมอยากพบคุณ ตอนนี้คุณว่างหรือเปล่า...”

เสียงของหญิงสาวเงียบไปครู่หนึ่ง แต่สำหรับณธิปกลับรู้สึกว่ามันเนิ่นนานเหลือเกิน เวลาแค่ไม่ถึงนาทีทำคนใจร้อนกระวนกระวายนั่งไม่ติดที่จนต้องลองกระตุ้นอีกสักรอบ

“คุณเกษ?”

“...เกษว่างค่ะ” เธอตอบ ก่อนเอ่ยเงื่อนไข “แต่เกษมีเวลาแค่สองชั่วโมง ถ้าคุณเล็กอยากพบเกษจริงๆ คุณเล็กต้องเป็นฝ่ายมาหาเกษที่ร้านxxxก่อนเที่ยงนะคะ จะสะดวกหรือเปล่า”

“สะดวกครับ ผมจะไปเดี๋ยวนี้” ณธิปตอบรับทันทีโดยไม่ต้องคิดซ้ำ ด้วยไม่นึกว่าลูกสาวรัฐมนตรีจะยอมให้พบง่ายๆ

ณธิปสอบถามที่อยู่ร้านที่เกษสุดานัดอีกเล็กน้อยจึงวางสายไป จากนั้นชายหนุ่มก็สตาร์ทรถอีกครั้ง ก่อนขับออกมาทั้งที่ยังไม่ทันเข้าที่ทำงาน























ร้านที่เกษสุดานัดเขามา เป็นร้านคอฟฟี่ช็อปแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ไกลออกไปทางแถบชานเมือง หลังหลุดจากสภาพการจราจรติดขัดของเมืองใหญ่ออกมาได้ ณธิปก็เหยียบคันเร่งเต็มที่ เพราะกลัวว่าจะไม่ทันการ

เมื่อเปิดเข้าไปในร้าน ณธิปก็พบเกษสุดากำลังคุยงานกับใครบางอยู่ที่โต๊ะในสุด โดยทั้งร้านมีแค่เธอกับคนรู้จักอยู่แค่โต๊ะเดียวเท่านั้น

ทันทีที่เห็นว่าณธิปมาแล้ว ชายหนุ่มที่เป็นเพื่อนของเกษสุดาก็ลุกออกไป ทิ้งให้เขาเดินเข้าไปนั่งกับเธอเพียงลำพัง คล้ายกับเปิดโอกาสให้เขาได้พูดคุยเต็มที่

ณธิปนั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามของหญิงสาว ทั้งคู่ได้แต่นั่งจ้องหน้ากันเงียบๆ อยู่นาน จนในที่สุดก็เป็นณธิปอีกตามเคยที่เอ่ยทำลายความเงียบขึ้นมาก่อน

“ขอโทษที่รบกวนกะทันหัน”

“ไม่เป็นไรค่ะ คุณเล็กมีธุระอะไรก็ว่ามาเถอะค่ะ” เกษสุดาเอ่ยเรียบๆ สีหน้าไม่ยินดียินร้าย

ณธิปรู้สึกอึดอัดไม่น้อย แต่เพื่อเป้าหมายที่สำคัญกว่า ชายหนุ่มจึงทำตามสิ่งที่คิดมาตลอดทางก่อนเป็นอันดับแรก

เขาเหลือบตาขึ้นมองจ้องเธอกลับ ก่อนจะเอ่ย

“ผมขอโทษนะคุณเกษ”

“ขอโทษอะไรกันคะ ก็เกษบอกแล้วว่าว่าง”

“ไม่ใช่เรื่องนั้น”

เกษสุดาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย แล้วจึงถาม “แล้วเรื่องไหนคะ”

“ทุกเรื่องที่ผ่านมา” ณธิปตอบด้วยเสียงดังฟังชัด และเปี่ยมไปด้วยความจริงใจที่สุดเท่าที่เขาจะแสดงออกให้เธอเห็นได้ “ขอโทษจริงๆ”

เกษสุดานิ่งไปนิด ท่าทางเหมือนตกใจกับคำสารภาพที่ได้ฟัง ก่อนเธอจะกระตุกยิ้มเล็กน้อยคล้ายขบขัน

“หึๆ ...เกษไม่คิดว่าจะได้ยินคำนี้จากคุณเลยค่ะ”

เกษสุดาคิดอย่างที่เธอพูดจริงๆ เพราะตลอดเวลากว่าหนึ่งปี หลังจากเกิดเรื่องน่าอายขึ้น เธอก็ไม่ได้รับการติดต่อจากณธิปอีกเลย ที่ผ่านมามีเพียงแค่คำขอโทษจากครอบครัวของเขาเท่านั้น

ทว่ามันก็ไม่ได้มาจากณธิปโดยตรงเช่นตอนนี้

“ขอโทษ ผมคงคิดช้าเกินไป”

“ช้าไปมากๆ เลยล่ะค่ะ” หญิงสาวว่า ก่อนจะตอกย้ำให้เขารู้สึกผิดอีกรอบ “ช้าจนเกษเกือบลืมไปแล้วว่าถูกทำให้อับอายขนาดไหน”

“ผมขอ--”

“ไม่ต้องแล้วค่ะ” เธอยกมือที่ประสานกันตรงหน้าขึ้นมาโบกห้าม “ไม่ต้องขอโทษแล้ว เกษโกรธและเสียความรู้สึกจนตอนนี้ไม่รู้สึกอะไรอีกแล้วล่ะ และอีกอย่าง เรื่องนี้ก็ไม่ใช่คุณแค่คนเดียวที่ผิด ทางเกษก็ผิดที่ปล่อยให้มันดำเนินไป ทั้งๆ ที่รู้ว่าคุณไม่เต็มใจและถูกบังคับให้แต่งเพราะผลประโยชน์”

“ไม่หรอก สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น อยากให้คุณคิดว่าผมผิดแต่เพียงผู้เดียว แต่เวลานี้ผมคงมีให้คุณได้แต่คำขอโทษอย่างจริงใจเท่านั้น”

“อะไรทำให้คุณเล็กคนนั้นเปลี่ยนไปมากขนาดนี้คะ” เธอถาม ริมฝีปากเรียบๆ ยกยิ้ม ทำให้ใบหน้าสวยดูอ่อนโยนขึ้น

เกษสุดายังจำ ณธิป โชติตระกูลคนเก่าได้ดี คนที่ไม่เคยเห็นหัวใคร ไม่คิดถึงใจของใครนอกจากความต้องการของตัวเอง แต่แล้วดูผู้ชายตรงหน้าในวันนี้สิ เขายอมติดต่อเธอเพื่อมาขอโทษด้วยตัวเอง แม้ว่าการมาครั้งนี้จะเกิดจากเหตุผลอะไรก็ตาม มันก็ทำให้เกษสุดานึกทึ่งอยู่ดี

“ผมเปลี่ยนหรือครับ...”

“ค่ะ คุณเปลี่ยนไปมาก”

“ไม่รู้สิครับ ผมไม่ได้สังเกต”

“แต่เกษพอรู้ค่ะ ว่าใครทำให้คุณเปลี่ยน”

“ใครครับ”

“ใครสักคนที่ทำให้คุณต้องดั้นด้นมาเพื่อขอโทษเกษในวันนี้ไงล่ะคะ”

เห็นดวงตาของหญิงสาวพราวระยับอย่างล้อเลียน ณธิปจึงรู้ได้ทันทีว่าเธอเห็นคลิปบทสัมภาษณ์ของเขาที่เอ่ยถึงกมลเรียบร้อยแล้ว

“...คงจะจริงอย่างที่คุณว่า”

“แต่เกษแปลกใจมากเลยนะคะ ตอนที่เห็นข่าว ไม่คิดว่าคนคนนั้นจะเป็นคุณไอ” เธอบอก ก่อนจะเปลี่ยนคำพูดเสียใหม่ “ไม่หรอก ความจริงถ้าเป็นคุณไอ ก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่”

“ทำไมล่ะ” ชายหนุ่มขมวดคิ้วมุ่นอย่างนึกสงสัย

“ก็คุณไอน่ะน่ารักจะตายไป ใครอยู่ใกล้ก็คงหลงรักได้ไม่ยากหรอก ขนาดเกษเองยังชอบเลยค่ะ ถ้าตอนนั้นไม่ได้คุณไอ เกษคงแย่แน่ๆ ว่าแต่เรื่องนี้ยังต้องถามอีกหรือคะ คุณที่หลงรักเขาน่าจะรู้ดีที่สุดไม่ใช่หรือไง”

“นั่นสินะ...” ณธิปยิ้มด้วยท่าทางผ่อนคลายลง ก่อนจะกอดอกเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ สายตาที่มองมายังเกษสุดานั้น ไม่คล้ายกับว่าเขามองเธอ แต่มองไปถึงใครอีกคนที่กำลังคิดถึงมากที่สุด

“แต่เอาเถอะค่ะ เรื่องที่คุณรักเขายังไงคงไม่ใช่ประเด็นจะมาพูดในวันนี้หรอกใช่ไหมคะ เกษว่าเราเข้าเรื่องดีกว่า เดี๋ยวเกษต้องคุยงานต่อ”

“คือ...” ณธิปชั่งใจ แต่ในที่สุดก็เลือกที่จะเอ่ย เพราะมาถึงขนาดนี้ เขาไม่มีอะไรต้องเสียแล้ว “ผมอยากขอให้คุณช่วยเรื่องหนึ่ง”

“เรื่องอะไรคะ”

“ช่วยแก้ข่าวเรื่องคุณไอให้ผมหน่อยได้ไหม”

“แก้ข่าวให้คุณไอหรือคะ”

“ใช่” ณธิปพยักหน้า ก่อนอธิบาย “ข่าวที่คุณไอเข้ามาแทรกกลางระหว่างงานแต่งของเราเมื่อปีที่แล้วน่ะ”

“แต่คุณให้สัมภาษณ์ไปแล้วไม่ใช่หรือ”

“ใช่ แต่มันยังไม่น่าเชื่อถือพอ ถ้าหากคุณที่เป็นคนซึ่งสังคมมองว่าถูกกระทำในเหตุการณ์นี้ ออกมาช่วยพูดแทนเขา คุณไอก็จะได้พ้นมลทินโดยไม่มีข้อกังขา”

“คุณเล็กจะให้เกษช่วยพูดแทนคุณไอเท่านั้นหรือคะ”

“ใช่ แค่เรื่องคุณไอเรื่องเดียวที่ผมอยากให้คุณช่วยออกมายืนยัน คุณบอกว่าเขาช่วยคุณไว้มากนี่ เกษคงไม่อยากให้ไอต้องมาถูกใส่ร้ายเพราะเรื่องที่ไม่จริงหรอกใช่ไหม”

เกษสุดานิ่งไป ด้วยเธอเองก็เห็นด้วยกับที่ณธิปบอก ทว่ามันมีบางอย่างที่หญิงสาวนึกสงสัย

“เรื่องนี้เกษช่วยพูดได้ค่ะ ยังไงเกษก็พร้อมจะช่วยยืนยันความบริสุทธิ์ของคุณไออยู่แล้ว แต่เกษแค่สงสัย ในเมื่อมันก็เป็นเรื่องไม่จริง ทำไมต้องใส่ใจด้วยคะ แค่คุณออกมาพูดคนเดียวก็น่าจะพอแล้วนี่ ข่าวพวกนี้ไม่นานก็ซาไปเอง”

“มันไม่เป็นอย่างนั้นน่ะสิ มีเหตุผลหลายอย่างที่ผมคิดว่าต้องเป็นคุณเท่านั้นที่ออกมาพูด ไม่อย่างนั้นเรื่องคงไม่จบ”

“เหตุผลอะไรคะ อย่าบอกนะว่าเกี่ยวกับเกษด้วย” หญิงสาวนึกเอะใจ

“ไม่เกี่ยวกับคุณโดยตรงหรอก”

“แปลว่าเกี่ยวสินะ” หญิงสาวฉลาดพอที่จะจับสังเกตความผิดปรกตินี้ได้ และเธอก็ไม่มีทางปล่อยผ่านแน่นอน “คุณเล็กบอกมาเถอะค่ะ”

“...ความจริง ผมไม่ได้อยากให้คุณรู้เรื่องนี้หรอก แต่ถ้ามันช่วยให้อะไรๆ ดีขึ้นได้ ผมก็คงต้องบอก” เว้นไปนิด ก่อนชายหนุ่มจะเอ่ย “เรื่องข่าวพวกนี้ไม่มีทางเงียบหายไปง่ายๆ แน่ เพราะถึงแม้เรื่องนี้จะจบ ก็ยังต้องมีเรื่องใหม่เข้ามาอีก เพราะว่ามีคนกำลังจ้องเล่นงานผมกับคุณไออยู่ แค่ลำพังตัวผมเองก็ไม่มีปัญหาหรอก เพราะผมไม่แคร์อยู่แล้ว แต่กับคุณไอมันไม่ใช่แบบนั้น”

“ใครกันคะ คนที่จ้องทำร้ายคุณเล็กกับคุณไอ” หญิงสาวถาม แต่ก็นึกสังหรณ์ใจไม่ดี “นี่อย่าบอกนะว่า...”

“ท่านรัฐมนตรีทรงศักดิ์ คุณพ่อของคุณไงล่ะ”

“...อะไรนะคะ!! คุณพ่อหรือ!” ดวงตาคู่หวานเบิกกว้างด้วยความตกใจ หัวใจของเธอหล่นวูบไปที่ตาตุ่มทันทีที่ได้ฟังคำเฉลย “จะเป็นไปได้ยังไงกัน...แล้วคุณพ่อท่านจะทำไปเพื่ออะไรคะ ในเมื่อเรื่องงานแต่งเราก็เคลียร์กันไปหมดแล้ว”

“ไม่ใช่เรื่องนั้นหรอกครับ”

“แล้วเรื่องไหนกันคะ นี่พวกคุณมีปัญหาอะไรกัน”

“คุณพอจะรู้เรื่องคดีของท่านรัฐมนตรีก่อนหน้านี้ไหมครับ” ณธิปถามหยั่งเชิง

“เรื่องรุกล้ำพื้นที่ป่าหรือคะ”

ถึงแม้เกษสุดาจะไม่ได้ยุ่งกับการทำงานของบิดา แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าตัวเองทราบเรื่องข่าวคาวๆ นี้เรียบร้อยแล้ว เพราะมันทำให้สถานการณ์ที่บ้านของเธอตกอยู่ในสภาวะวิกฤต

“ใช่ครับ” ณธิปพยักหน้า “เรื่องนั้นเป็นข่าวเพราะผมกับคุณไอไปทำงานการกุศลที่หมู่บ้านป่างาม แล้วชาวบ้านก็มาขอความช่วยเหลือในช่วงที่นักข่าวตามเราไปทำด้วย เรื่องรุกล้ำพื้นที่ป่าถึงแดงออกมา คุณพ่อของคุณท่านเลยหันมาเล่นงานเรา”

“คุณเล็ก...” หญิงสาวทำหน้าเครียด “คุณจะกล่าวหาพ่อเกษลอยๆ ไม่ได้นะคะ ถ้าไม่มีหลักฐาน”

“เกษ...ที่ผมพูด ไม่ใช่ว่าผมไม่มีหลักฐานนะ ทั้งเรื่องรุกพื้นที่ป่า และเรื่องที่ท่านรัฐมนตรีสั่งให้คนตามประกบผมและคุณไอ รวมถึงครอบครัวของเขาด้วย เพียงแต่ผมไม่ได้แจ้งความเรื่องหลังเท่านั้น ผมแค่ส่งคำเตือนกลับไป แต่ไม่คิดว่าท่านทรงศักดิ์จะหันมาเล่นงานด้วยวิธีนี้”

“จริงหรือคะ...นี่เรื่องจริงหรือ”

“ผมจะโกหกคุณทำไมล่ะ ตามปรกติแล้วเราสองครอบครัวไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกันสักหน่อย” ณธิปพูดให้คิด “ผมรู้ว่าเรื่องนี้มันหนักหนากับคุณมากนะ ผมถึงไม่อยากเล่า แต่ช่วยเห็นใจผมด้วย เพราะทางผมและไอก็ไม่ได้ทำอะไรผิดเช่นกัน โอเค...ผมอาจจะผิดกับคุณเรื่องงานแต่ง แต่ตอนนี้ปัญหามันคนละประเด็นไปแล้ว คุณเข้าใจที่ผมพูดไหมครับเกษ”

เข้าใจสิ...เธอเข้าใจดีทุกอย่างทีเดียว เพียงแต่เรื่องราวมันใหญ่หลวงเกินกว่าที่เกษสุดาจะตั้งตัวได้ทันในเวลาเท่านี้

หญิงสาวนั่งนิ่งอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนจะตั้งสติได้ และเอ่ยออกมาอย่างยากลำบาก

“ขอเวลาให้เกษตรวจสอบเรื่องที่คุณว่าก่อนนะคะ ถ้ามันเป็นเรื่องจริง เกษจะช่วยคุณเองค่ะ แม้เกษจะเป็นลูกสาวของพ่อ แต่เกษจะไม่ยอมให้ท่านทำสิ่งที่ไม่ถูกต้อง”

“ขอบคุณนะคุณเกษ และขอโทษด้วยที่เอาเรื่องนี้มาทำให้คุณต้องปวดหัว แต่ผมไม่รู้จะพึ่งใครแล้วจริงๆ”

“ไม่หรอกค่ะ ดีแล้วที่คุณเล็กเอามาพูดกับเกษตรงๆ เพราะเราจะได้ช่วยกันทำให้เรื่องนี้มันถูกต้อง”

“ขอบคุณที่เข้าใจครับ” ณธิปเอ่ยขอบคุณจากใจ เกษสุดาเป็นผู้หญิงใจกว้างกว่าที่เขาเคยคิดถึง และมันทำให้อดรู้สึกไม่ได้ที่เคยทำร้ายความรู้สึกเธอ

หลังจากตกลงกันอีกนิดหน่อย คนของเกษสุดาก็กลับออกมาเพื่อเตือนว่าหมดเวลาคุยแล้ว เธอกับณธิปจึงบอกลากันเท่านั้น โดยตอนท้ายเกษสุดาไม่ลืมให้คำมั่นว่าจะช่วยแก้ข่าวให้กมลโดยเร็วที่สุด

ได้ยินดังนั้นณธิปจึงกลับมาทำงานได้โดยสบายใจขึ้นมานิดหน่อย เพราะอย่างน้อยเขาก็เคลียร์ไปได้หนึ่งปัญหา ส่วนเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเขากมลคงต้องรออีกสักนิด รอให้กมลใจเย็นและเกษสุดาออกมาแก้ข่าวก่อน ถึงตอนนั้นเขาค่อยลองกลับไปคุยกับคนหน้าหวานดูอีกที

ถึงตอนนั้นณธิปก็คงได้แต่หวังว่า กมลจะไม่ใจร้ายกับเขาและตัวเองจนเกินไปนัก








---------------------------------------------------------




คุณเล็กมาแล้ว พร้อมเทหมดหน้าตัก ให้ไปขอโทษใคร ให้ทำยังไงก็สู้
ตอนหน้ามาเคลียร์กับคนใจร้ายกันค่ะ
ขอบคุณที่ยังทวงถามนะคะ จะพยายามมาให้เร็วที่สุดนะคะ ^^

เจอกันตอนหน้าค่ะ

ละะองฝน.



หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 44 [01/08/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 01-08-2018 16:39:34
ขอให้เรื่องต่างๆดีขึ้นในเร็ววันค่ะ สงสารทั้งสองฝ่ายเลย  :hao5:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 44 [01/08/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 01-08-2018 18:00:30
 :pig4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 44 [01/08/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 01-08-2018 19:18:38
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 44 [01/08/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: may27 ที่ 01-08-2018 19:32:40
 :sad4:   รอคุณเล็กจนแทบลืมเนื้้อเรื่องไปแล้ว55555​  ขอให้คุณไอ​ เข้มแข็งขึ้น​ เห็นเห็นใจคนที่ยอมกลับเนื่อกลับตัวด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 44 [01/08/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 01-08-2018 22:24:26
โหคุณเล็กยอมทุกอย่างจริง ๆ
ถ้าเราเป็นคุณเกษก็ไม่รู้จะอยากช่วยไหมนะ ทำแสบไว้มากนี่
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 44 [01/08/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 01-08-2018 23:22:03
เมื่อไหร่เค้าจะหวานกัน....รอต่อไป  :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 44 [01/08/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 02-08-2018 00:04:59
เชียร์คุณเล็กเต็มที่ให้แก้ปัญหาได้ไวๆนะคะ แล้วก็ขอให้คุณไอเข้มแข็งรักษาความรักกับคุณเล็กไว้ให้ดีๆนะคะ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 44 [01/08/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 02-08-2018 00:19:46
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 44 [01/08/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: Yundori ที่ 02-08-2018 00:48:08
ทำไมรู้สึกว่าการที่นัดเจอกับเกษสุดาเป็นกับดักเลยอะ
แบบ คุณเกษอาจจะหาเรื่องเล่นงาน เพราะแค้น แงงงง
คือแบบ ให้คนแอบถ่ายรูปแล้วไปใส่สีตีไข่ยังได้เลย
โอยยย เราคิดมากไปหรือเปล่านะ ?
แต่สงสารคุณเล็กนะ คุณไอก็ทิ้งไปเลย
การทิ้งแบบนี้คือไม่ได้เรียกว่าช่วยนะคะคุณไอ กลับมาก่อนนนน
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 44 [01/08/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 02-08-2018 10:03:45
สู้ๆนะคุณเล็ก
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 44 [01/08/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 03-08-2018 22:57:48
เป็นกำลังใจให้คุณเล็กนะ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 44 [01/08/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: ToeyTato ที่ 12-08-2018 22:16:24
คุณเล็กสู้ๆ นะ คุณไออย่าคิดเยอะน้าาาาา
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 45 [14/08/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: ละอองฝน ที่ 14-08-2018 00:38:48



คุณคือความรัก บทที่ 45









ทั้งที่ณธิปหวังสุดหัวใจว่ากมลจะไม่ใจร้ายกับเขาเกินไปนัก ทว่าคนคนนั้นก็ทำให้ณธิปได้รู้ ว่าเจ้าตัวใจร้ายได้มากกว่าที่ชายหนุ่มคิดเสียอีก

กว่าสองอาทิตย์ที่ผ่านมา ตั้งแต่อีกฝ่ายบอกให้เขาถอนตัว ไม่ยอมให้ก้าวเข้าไปสานสัมพันธ์มากกว่านี้ กมลก็หายเงียบไปราวกับที่ผ่านมาเป็นเพียงความฝัน

ราวกับว่าพวกเขาไม่เคยสนิทสนมกันมาก่อน

ณธิปอดทนรออย่างทรมานให้คนใจร้ายทักกลับมาบ้าง อย่างน้อยในฐานะเพื่อนแบบที่กมลต้องการก็ยังดี แต่กมลก็ไม่ติดต่อมาเลย เขาส่งข้อความไปก็ไม่อ่าน โทรหาก็ไม่ว่างรับสาย จนณธิปอยากเหาะไปหาอีกฝ่ายวันละหลายสิบรอบ

ถ้าไม่ติดว่าตอนนี้โครงการที่เขาดูแลกำลังมีปัญหาติดพันและวุ่นวายจนไม่เป็นอันทำอะไร ชายหนุ่มคงทิ้งทุกอย่างไปได้โดยไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมที่ไหนทั้งนั้น

ส่วนเรื่องปัญหาข่าวฉาวเมื่อสองอาทิตย์ก่อน เวลานี้ซาลงไปจนไม่มีใครพูดถึงอีกแล้ว เนื่องจากเกษสุดาออกมาให้ข่าวจริงดังที่สัญญากับเขาไว้ เธอยืนยันด้วยคำพูดหนักแน่นน่าเชื่อถือว่ากมลไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการล่มวิวาห์ของสองตระกูลใหญ่ เพราะสาเหตุทั้งหมดเป็นเพราะเธอกับณธิปเองที่ไม่ได้รักกันแต่แรก

ครั้นดราม่าที่คนอยากให้เป็น ไม่เป็นไปดังหวัง ความสนใจก็หันเหไปเรื่องดราม่าอื่นแทน แต่เกษสุดากลับบุกมาหาณธิปถึงที่ทำงาน และประกาศว่าจะช่วยเขากับกมลในเรื่องที่พ่อเธอทำเสียหายไว้ เพราะเธอไม่ต้องการให้บิดาถลำลึกและทำผิดพลาดมากไปกว่านี้

“ยังไม่ได้คุยกันอีกหรือคะ”

“ครับ เขายังไม่ยอมคุยกับผมเลย” ณธิปตอบด้วยท่าทางเซื่องซึม

“คุณได้ไปเจอ ไปปรับความเข้าใจกับคุณไอหรือยังล่ะคะ เพราะเกษฟังจากที่คุณเล่า ท่าทางคุณไอก็คงรู้สึกกับคุณไม่น้อยเหมือนกัน”

“แม้แต่ข้อความก็ยังไม่อ่าน คุณคิดว่าเขาจะยอมเจอผมหรือ”

“แต่คุณไอพูดเองว่าเป็นเพื่อนได้ แปลว่าเขาไม่ได้เกลียดคุณ แล้วทำไมถึงไม่ยอมคุยกับคุณล่ะ”

“นั่นน่ะสิ ผมก็อยากรู้สาเหตุเหมือนกัน”

“อยากรู้ก็ไปหาเถอะค่ะ เกษว่าคุณเล็กรออยู่แบบนี้ไม่ได้แล้ว”

“แต่ผมสัญญากับเขาแล้วว่าจะยอมถอย และจะไม่ทำให้เขาหนักใจ ถ้าเกิดผมเข้าไปวุ่นวาย ผมก็ผิดคำพูดน่ะสิ”

“แต่แวะไปหาในฐานะเพื่อนก็ได้นี่คะ”

“มันจะดีหรือ”

ครั้นเห็นณธิปทำท่าลังเลไม่แน่ใจ เกษสุดาก็หัวเราะออกมาเบาๆ แล้วมองเขาด้วยแววตาขบขัน จนคนถูกมองทำตัวไม่ถูก

“นี่ไม่เหมือนคุณเลยนะ ความมั่นใจของคุณหายไปไหนหมดคะคุณเล็ก”

“ผม...”

ณธิปรู้สึกอับอายขึ้นมานิดๆ เพราะมันจริงดังที่เธอว่า ก่อนหน้านี้เขาเป็นคนที่มีความมั่นใจเต็มเปี่ยม ไม่เคยกลัวอะไรหรือใครหน้าไหนทั้งนั้น จนกระทั่งได้มาพบกมล เขาก็ถูกทำให้สับสนและผิดเพี้ยนไปจนไม่เป็นตัวของตัวเอง

คำปฏิเสธของคนหน้าหวานมีผลต่อหัวใจณธิปมากเกินไป ไม่ใช่แค่ครั้งหรือสองครั้ง แต่มันหลายครั้งจนณธิปใจฝ่อ เขาหลงรักกมลจนกลัวไปหมด กลัวจะได้ยินว่าให้เลิกรัก กลัวคำปฏิเสธ กลัวดันทุรังจนถูกเกลียดเข้าจริงๆ

แล้วเช่นนี้ณธิปจะยังไปสู้หน้าได้อย่างไร แม้หัวใจจะติดปีกไปอยู่ใกล้ๆ อีกฝ่ายแล้วก็ตาม

“เชื่อเกษเถอะค่ะ คุณต้องไปหาและคุยกับเขาให้รู้เรื่อง อย่างน้อยก็ควรถามให้แน่ใจว่าคุณไอไม่รู้สึกอะไรจริงๆ หรือทำไปแค่ต้องการตัดปัญหาที่รุมเร้าเข้ามาเท่านั้น”

เกษสุดารู้สึกทั้งขำทั้งสงสาร เธอก็ไม่คิดมาก่อนว่าตัวเองจะกลับตาลปัตรจากคนที่เกือบแต่งงานด้วย มาเป็นศิราณีให้กับณธิปเช่นนี้

แต่จะว่าไปนอกจากความสงสารแล้ว เธอก็อดนึกสะใจเล็กๆ ไม่ได้...เพราะคนแบบคุณเล็กน่ะ ต้องเจอดีแบบนี้เสียบ้างจึงจะรู้สึก

จากที่เคยปรามาสไว้ว่าคนแบบนี้ไม่มีทางรักใครเป็น และคงไม่เจอความรักที่แท้จริง วันนี้หญิงสาวคงต้องเปลี่ยนความคิดเสียใหม่ เพราะไม่ว่าใครก็มีโอกาสได้พบกับความรักทั้งนั้น แม้ว่าจะเคยเจ้าชู้และทำใครต่อใครเสียใจเท่าไหร่ก็ตาม

แต่คุณเล็กทำกรรมมาเยอะคงต้องชดใช้นานหน่อย

“ยิ้มอะไรน่ะคุณ”

“เปล่าค่ะ” เกษสุดารีบบอกปัด “ตอนนี้อย่าสนใจเกษเลยนะคะ เกษว่าคุณเล็กมาตัดสินใจดีกว่า ว่าจะไปหาคุณไอไหม”

“เฮ้อ~” ณธิปถอนหายใจออกมาอย่างคิดไม่ตก ทว่าก่อนทันตัดสินใจทำอะไร ก็มีสายโทรศัพท์จากมารดาเข้ามาพอดี

[ตาเล็ก ทำอะไรอยู่ลูก ว่างไหม]

“ทำงานครับ แต่คุยได้ คุณแม่มีอะไรหรือเปล่า”

[แม่จะไปมีอะไรได้ ก็แค่คิดถึงลูกชายเท่านั้นแหละ]

“จริงหรือครับ ทำไมวันนี้เสียงคุณแม่ดูร่าเริงแปลกๆ” แม้จะไม่ได้พูดโทรศัพท์กับมารดาบ่อยนัก แต่ณธิปก็จับน้ำเสียงของเธอได้ “มีเรื่องอะไรกันแน่ครับ”

[แม่ได้ข่าวว่าหนูเกษไปหาเล็กหรือลูก]

“ครับ คุณแม่รู้ได้ยังไง”

[แม่มีสายของแม่แล้วกัน] เธอว่าพลางหัวเราะแบบมีเลศนัย ลูกชายคนเล็กจึงต้องรีบพูดดักทางเอาไว้ ด้วยกลัวว่าแม่จะคิดในสิ่งที่ไม่มีวันเกิดขึ้นได้

“ผมมีเรื่องปรึกษากันนิดหน่อยครับ”

[แค่ปรึกษาหรือ]

“ครับ ไม่มีเรื่องอื่นๆ แน่นอน”

[ว้า แม่ก็คิดว่าเล็กจะมีข่าวดีเหมือนพี่ภัทรเขาบ้าง]

“หืม? ข่าวดีของพี่ภัทรหรือครับ มีเรื่องอะไรกันครับแม่”

[อ้าว! นี่พี่เขายังไม่บอกเล็กอีกหรือลูก แม่คิดว่าเราคุยกันแล้วเสียอีก] ประภัสสรถามด้วยความประหลาดใจ เพราะณภัทรพูดกับเธอว่าจะบอกน้องชายด้วยตนเอง

“ยังไม่ได้คุยอะไรกันเลยครับ พี่ภัทรเพิ่งขึ้นเครื่องไปเบอร์ลินเมื่อคืน” คุยกันครั้งสุดท้าย ก็ตอนณภัทรโทรมาบอกว่าจะบินไปเบอร์ลิน ส่วนณธิปก็วุ่นๆ กับงานจึงไม่ได้พูดคุยอะไรกันมากนัก

[อ้อ นี่แปลว่าแม่ทำแผนพี่ภัทรเขาพังน่ะสิ]

“วางแผนอะไรกันครับ”

[ไม่มีอะไรหรอก พี่เขาแค่อยากบอกเล็กด้วยตัวเองน่ะ] ประภัสสรนึกตำหนิตัวเองในใจ กับเรื่องสำคัญแบบนี้ เธอกลับพลาดเสียได้

“แต่ไหนๆ คุณแม่ก็พูดขึ้นมาแล้ว บอกมาเถอะครับว่ามีเรื่องอะไรกัน”

ครั้นเห็นจริงดังที่ณธิปว่า ประภัสสรจึงจำเป็นต้องบอก [พี่ภัทรกำลังจะแต่งงานน่ะตาเล็ก]

“หา!! แต่งงานหรือครับ” ชายหนุ่มตกใจกับสิ่งที่ได้ยินพอสมควร แต่ในความตกใจก็แฝงความดีใจไปด้วย “แต่งกับใครครับ ผมไม่เห็นรู้เลยว่าพี่ภัทรคบกับใครอยู่ เห็นวันๆ ก็ทำแต่งาน”

[เราก็วันๆ ทำแต่งาน จะไปรู้อะไร] เธอประชดเล็กน้อย ก่อนจะบอก [พี่เขาคบกับเจ้าของ I promise น่ะ]

“เดี๋ยวนะครับ คุณแม่ว่าเจ้าของ I promise หรือ”

[ใช่จ้ะ] ประภัสสรรับคำเสียงใส ก่อนจะเล่าต่อ [เล็กเองก็น่าจะสนิทกับเขานะ แม่เห็นเคยทำงานด้วยกันอยู่ไม่ใช่หรือ แถมคราวก่อนเล็กมีข่าวใหญ่กับบ้านนี้อีกต่างหาก นี่แม่ก็ยังไม่รู้รายละเอียดมาก ที่โทรมานี่ก็ว่าจะถามเล็กอยู่เหมือนกัน นึกว่าจะรู้เรื่องหรือระแคะระคายบ้าง พี่เขาไม่ปรึกษาเล็กเลยหรือลูก”

ได้ยินรายละเอียดที่มารดาแจง ณธิปก็หน้ามืดตาลาย หูดับไปหมด ไม่รู้แล้วว่าหลังจากนั้นผู้เป็นแม่เล่าอะไรอีก จนกระทั่งถูกเธอเรียกย้ำๆ ณธิปจึงได้สติ

[ตาเล็กลูก! ได้ยินที่แม่ถามไหม...ตาเล็ก!]

“ครับๆ ได้ยินครับ ว่าแต่คุณแม่ถามอะไรนะครับ” เสียงที่ถามกลับไปนั้นแหบส่า คล้ายเจ้าตัวพยายามเค้นมันออกมาอย่างยากลำบาก

เกษสุดาเองก็หน้าถอดสี เมื่อจับใจความได้คร่าวๆ จากที่ณธิปพูดและเสียงเจื้อยแจ้วของคุณหญิงประภัสสร แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็มีสติมากกว่าณธิปหลายเท่า

[แม่ถามว่า พี่เขาไม่มาปรึกษาเล็กบ้างหรือลูก]

“ไม่ครับ ไม่เคยมีใครบอกอะไรผมเลย” ณธิปเอ่ยอย่างเจ็บปวด

[ตาภัทรก็จริงๆ เลยนะ ชอบทำอะไรลับล่อๆ ตอนมาบอกพ่อกับแม่ว่าอยากแต่งงานกับคนนี้ แม่ตกอกตกใจหมดเลย ไม่เห็นพามาให้แม่เจอบ้าง ดีนะที่แม่เคยเห็นมาตอนงานแต่งเล็กกับหนูเกษคราวที่แล้ว ท่าทางไม่เลว แบบนี้ค่อยวางใจหน่อย--]

“คุณแม่ครับ”

[ว่าไงลูก]

“ผมมีธุระ เท่านี้ก่อนนะครับ”

[อ้อๆ ได้สิ แต่เสาร์นี้กลับบ้านด้วยนะลูก พี่ภัทรเขาจะพาแฟนมาที่บ้าน จะได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน]

“ครับ” เมื่อลูกชายรับปากเรียบร้อย คุณหญิงประภัสสรก็วางสายไป ทิ้งให้ณธิปหน้าชาอยู่กับเกษสุดาเพียงลำพัง

“คุณเล็กคะ มีเรื่องอะไรหรือคะ” แม้จะพอเดาได้แล้ว แต่หญิงสาวก็ยังเอ่ยถามให้แน่ใจว่าเธอไม่ได้หูฝาด

“หึ...ในที่สุดผมก็รู้แล้ว ว่าที่เขาบอกให้ผมถอยเพราะอะไร”

“นี่อย่าบอกนะคะ ว่าคนที่คุณหญิงป้าพูดถึง...”

“ใช่ จะมีใครไปได้ล่ะ”

“เดี๋ยวนะคะ บางทีอาจเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิดก็ได้”

“จะเข้าใจผิดได้ยังไง ในเมื่อคุณแม่พูดขนาดนี้แล้ว” ณธิปกัดฟันกรอด ในดวงตารีแดงก่ำเพราะทั้งโกรธ เสียใจ และน้อยใจปะปนกันไปหมด

ณธิปรู้สึกเจ็บที่ใจ...เจ็บอย่างที่ไม่เคยเจ็บมาก่อน

มันไม่ใช่แค่ความผิดหวัง แต่ยังรู้สึกเหมือนถูกทำลายความไว้ใจทั้งหมดที่มีให้ ยิ่งกว่าการเอาหัวใจของเขาเหวี่ยงลงพื้นและขยี้ด้วยปลายเท้า

ถ้ากมลบอกสักคำว่าอยากคบหรือกำลังคบกับพี่ชายเขาอยู่ ณธิปก็พร้อมจะถอยให้ แต่นี่อีกฝ่ายกลับไม่บอก และหลอกให้เขารักมากขึ้นทุกวันจนไม่อาจถอนใจได้

ทำไมถึงใจร้ายได้ขนาดนี้...

ยิ่งคิด น้ำร้อนๆ ในตาก็ยิ่งเอ่อขึ้นมาคลอเบ้า

เกษสุดาทำอะไรไม่ถูกไปชั่วขณะเมื่อเห็นแบบนั้น เธอคิดอยากปลอบใจ แต่ก็ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร ในเวลาเช่นนี้อาจจะมีแค่เวลาเท่านั้นที่ช่วยชายหนุ่มได้

ครั้นคิดได้ดังนั้น หญิงสาวจึงตั้งใจบอกลา ให้ณธิปได้สงบสติอารมณ์ก่อน ต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น หรือจะหาทางแก้ไขอะไร เอาไว้ค่อยปรึกษากันใหม่

ทว่ายังไม่ทันที่หญิงสาวจะขอตัวกลับ เจ้าของห้องทำงานกว้างก็ผุดลุกขึ้น ดวงตาแดงก่ำที่เหมือนคนกำลังจะร้องไห้นั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกมากมาย แต่ที่เด่นชัดคือความโกรธและเสียใจ

“เกษ คุณกลับไปก่อนนะ ขอบคุณที่มาวันนี้” ณธิปว่า ก่อนจะเดินไปหยิบกุญแจรถในลิ้นชักโต๊ะทำงาน

“นั่นคุณจะไปไหนคะคุณเล็ก”

“ผมจะไปคุยกับเขาให้รู้เรื่อง”

“แต่คุณเล็กคะ รอให้ใจเย็นกว่านี้ก่อนดีไหม” หญิงสาวรีบห้าม

“ให้เย็นยังไงไหว ผมใจเย็นมามากเกินพอแล้ว คุณพูดเองไม่ใช่หรือว่าผมต้องคุยกับเขา นี่ไง ผมกำลังจะไปคุยให้รู้เรื่อง”

“แต่ว่า...”

“ไม่แต่แล้ว ผมไปก่อนนะ” พูดจบณธิปก็หุนหันออกไปทันที ทิ้งให้เกษสุดามองตามด้วยความเป็นห่วง

















ชายหนุ่มขับรถเร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ แต่ก็อย่างที่รู้ สภาพการจราจรในกรุงเทพฯ ไม่ได้เอื้อให้เป็นไปอย่างใจที่ณธิปต้องการสักเท่าไหร่ ระหว่างนั้นเขาก็กดต่อสายหาพี่ชายที่ไปทำงานอยู่แดนไกล แต่พี่ชายตัวดีก็ไม่รับโทรศัพท์เขาสักที

“ทำไมไม่รับสักทีวะ”

หลังจากกดโทรเป็นรอบที่สี่แต่พี่ชายไม่รับ คนใจร้อนก็โยนโทรศัพท์ไปยังเบาะข้างๆ แล้วหันมาก่นด่าไฟแดงข้างหน้าที่ไม่ยอมเขียวสักที

ส่วนกมล เขาไม่คิดจะกดโทรหาตั้งแต่แรก เพราะรู้ว่าอย่างไร อีกฝ่ายก็คงไม่ยอมรับสาย สู้บุกไปหาถึงทีและคุยให้รู้เรื่องเลยดีกว่า

พอได้มาสงบสติอารมณ์บนรถ ชายหนุ่มก็ค่อยๆ เรียบเรียงความคิดเสียใหม่ แม้จะยังร้อนใจ แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากติดแหง็กอยู่บนถนนที่จราจรติดขัด

ใจหนึ่งณธิปก็กลัวความจริงจากปากของคนใจร้าย แต่อีกใจเขาก็ไม่อยากเชื่อว่ากมลจะทำกับเขาได้ลงคอ เพราะตลอดเวลาที่กลับมาให้โอกาสอีกครั้ง ไหนจะเหตุการณ์ต่างๆ ตอนไปบ้านป่างามด้วยกัน ณธิปรู้ว่ากมลไม่มีทางทำเพราะแค่เผลอหรือหลอกให้เขาตายใจอย่างเดียว

กมลไม่ใช่คนที่คบเผื่อเลือกแบบนั้น ถึงจะกล่าวหาว่าอีกฝ่ายใจร้ายบ่อยครั้ง แต่ณธิปก็รู้ว่ากมลเป็นคนดีกว่าใคร ดีอย่างที่เขาไม่เคยพบ

แล้วเช่นนี้อีกฝ่ายจะให้โอกาสเขาและณภัทรพร้อมๆ กันเผื่อเลือกจริงหรือ

ยิ่งคิด ณธิปก็ยิ่งปวดหัว สุดท้ายจึงมีแต่ต้องขับรถไปให้ถึง และถามให้รู้ความ ไม่ว่าเรื่องบ้าๆ นี่จะออกหัวหรือออกก้อยก็ตาม















กว่าจะเลี้ยวรถเข้ามาถึง I promise tower ได้ ณธิปก็ใช้เวลานานกว่าชั่วโมง แต่ถึงอย่างนั้น อารมณ์ที่ควรเย็นลงบ้าง กลับยิ่งทวีความร้อนแรงขึ้นมากกว่าเก่า ด้วยอะไรๆ ก็ไม่เป็นไปอย่างใจเขาสักอย่าง

ครั้นจอดรถเรียบร้อย ณธิปก็ก้าวฉับๆ เข้าไปในตึกทันที

“คุณไออยู่ไหม” เขาถามเมื่อมาถึงโต๊ะประชาสัมพันธ์

“อยู่ค่ะ แต่คุณไอกำลังประชุมอยู่”

“ประชุมอยู่ที่ไหน” ชายหนุ่มถามต่อ

“ได้นัดไว้ไหมคะ” ประชาสัมพันธ์สาวถามตามขั้นตอน ทว่าคนใจร้อนกลับไม่สนใจตอบ

“ประชุมอยู่ที่ไหน”

“คือ...”

“ห้องไหน ชั้นอะไร”

“เอ่อ...คุณณธิปคะ ดิฉันว่าคุณนั่งรอที่ห้องรับรองก่อนดีไหมคะ เดี๋ยวดิฉันพาไป และจะรีบแจ้งให้คุณไอทราบทันทีที่ออกจากห้องประชุมค่ะ”

พนักงานผู้น่าสงสารรู้ว่าชายคนนี้เป็นใคร แต่เธอก็รู้ว่า ไม่ว่าใครก็ไม่มีอภิสิทธิ์ทำอะไรตามใจทั้งนั้น หากไม่ใช่คำสั่งจากเจ้านายของเธอ

“จะตอบหรือจะให้หาเอง”

“คือ...ดิฉันต้องแจ้ง--”

“สรุปคือให้หาเองใช่ไหม”

แล้วมันต่างกันตรงไหน...หญิงสาวโอดครวญในใจ

“ว่ายังไง ฉันไม่มีเวลามากนักหรอกนะ!”

“หะ...ห้องประชุมใหญ่ชั้น 2 ค่ะ” เธอสะดุ้ง ก่อนเผลอบอกด้วยความตกใจ ซ้ำดวงตาเรียวๆ คู่นั้นยังสาดมาที่เธออย่างดุดันทำให้เธอพูดตะกุกตะกักอีกต่างหาก

“ก็เท่านั้น” พูดจบณธิปก็ก้าวต่อไปทันที โดยไม่ฟังเสียงพนักงานสาวหรือใครๆ ที่วิ่งตามมาด้านหลัง

“คุณณธิป! เข้าไปไม่ได้นะคะ!”

นาทีนี้เขาไม่สนอะไรอีกแล้ว

ไม่ว่าใครหน้าไหนก็หยุดณธิป โชติตระกูลคนนี้ไม่ได้!!










---------------------------------------------------------






คุณเล็กมาแล้ว คุณเล็กไม่ยอมแล้ว แตกเป็นแตก 555555555
เจอกันตอนหน้าค่ะ มาดูว่าคุณไอจะว่ายังไง


ละอองฝน.
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 45 [14/08/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 14-08-2018 02:20:35
สมงสมองไปล่ะ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 45 [14/08/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: anntonies ที่ 14-08-2018 02:32:00
คุณเล็กกกกกกก ใจเย็นนนนนน
มีอะไรค่อยๆพูด
จะดีแตกไม่ได้นะ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 45 [14/08/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 14-08-2018 05:05:11
โว้ยยยย คุณเล็กใจเย็นเด้อ  อ้ายไหมล่ะที่จะแต่งอ่ะ

ไม่น่าใช่คุณไอหรอก เราพอจะจำได้ตอนที่ไปทานข้าวบ้านไอไอ

แล้วไปเจอภัทรที่นั่น แต่เหนือสิ่งใดคุณเล็กต้องตั้งสติโว้ย

ไม่งั้นพังแน่ๆ พังหมดแน่  :katai1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 45 [14/08/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 14-08-2018 09:21:33
คุณเล็กฟิวส์ขาดซะแล้ว ใจร่มๆเน้อ จะเป็นคุณไอไปได้ไง อ้ายต่างหาก ถถถถ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 45 [14/08/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 14-08-2018 12:27:49
รอตอนต่อไปค่ะ^^
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 45 [14/08/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 14-08-2018 16:30:16
แต่งกะน้องสาวรึป่าว..ขุ่นเล็กใจเย็นก่อนเด้อ   :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 45 [14/08/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 14-08-2018 17:06:09
เดี๋ยวก่อนนะคะคุณเล็ก คนที่จะแต่งกับคุณภัทรคือน้องอ้ายรึป่าว ใจร้อนบุกไปหาแบบนี้คุณไอจะโกรธไหม
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 45 [14/08/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 14-08-2018 17:38:00
คุณเล็กคะ พี่ภัทรเขาแนวเดียวกับเราเหรอคะ ได้ข่าวว่าไอพรอมิสมีเจ้าของสองคนเน้อ ใจเย็นเย๊น
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 45 [14/08/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 14-08-2018 18:22:05
 :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 45 [14/08/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: Yundori ที่ 14-08-2018 20:08:03
น้องคุณไอชัวร์
แต่คุณเล็กมาแบบนี้คือกลัวนะ
ยิ่งแรงมาก เดี๋ยวคุณไอจะยิ่งหนี
อยากให้คุณเล็กมีสติจัง ฮือออออ กลัวเขาไม่รับรักเด้อ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 45 [14/08/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: khwanruen ที่ 14-08-2018 23:19:27
นี่ก็ใจร้อนเกินไปเด้อ น้องสาวเค้ามั้ยที่จะแต่ง ตั้งสติก่อนค่ะคุณ เดี่ยวโดนโกรธเข้าจริงๆหรอก
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 45 [14/08/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: love-boy ที่ 15-08-2018 10:46:13
ใจเย็นๆคะ คุณเล็ก  :serius2:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 45 [14/08/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 16-08-2018 19:20:03
ไม่ได้แกล้งกันเนาะ หรือยังไงคะ
กับหทัยยังพอเป็นไปได้ แต่ก็ยังไม่น่า

คุณเล็กไฟพุ่งมาอย่างแรง ใจเย็นนะ
กลัวใจเหลือเกินจะทำให้เสียใจกันกว่าเดิม

กมลก็นะ รู้ว่าเค้าทำเพื่อเรา ก็ต้องสู้ไปด้วยกันสิ
ทำไมชิงหนีไปซะก่อนแบบนั้นล่ะ



หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 45 [14/08/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: +pEnGuIn+ ที่ 17-08-2018 16:34:51
คุณเล็กต้องมีสตินะอย่าเกรี้ยวกราด โอ๊ยยย
นี่ว่าต้องเป็นอ้ายแน่ๆเลยที่แต่งงานกับพี่ภัทรอ่ะ
คุณเล็กใจร่มๆอย่าให้เสียคะแนนอีกนะ ฮืออออ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 45 [14/08/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: Mengjie_JJ ที่ 19-08-2018 17:45:24
คุณเล็ก ใจเย็นๆนะคะ

คุณไอไม่น่าจะใช่คนที่แต่งงานด้วย

คิดว่าน่าจะเป็นอ้ายมากกว่า

อย่ารุนแรงนะคะ

 :ling2:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 45 [14/08/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: ToeyTato ที่ 01-09-2018 18:05:30
โอยยยยยย ใจเย็นหน่อยพ่อคุณ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 46 [30/09/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: ละอองฝน ที่ 30-09-2018 18:26:52









คุณคือความรัก บทที่ 46








ระลอกคลื่นขาวฟ่องสาดเข้ากระทบปลายเท้าเรียวที่หยัดยืนบนผืนทราย พริบตาเดียวน้ำทะเลก็ม้วนกลับไป และสาดครืนขึ้นมาอีกครั้งวนเวียนเช่นนั้นไม่รู้จบ


ดวงตาคู่งามทอดมองออกไปยังความมืดในยามราตรี คืนนี้ท้องฟ้าไม่มีดวงจันทร์ แม้แต่ดวงตาวก็เร้นหายไปในกลีบเมฆ สายลมที่พัดมาต้องผิวกายเย็นและชื้นกว่าที่เคย


อีกไม่นานฝนคงตก


ถ้าหากฝนตกลงมาตอนนี้ก็คงจะดี...กมลคิด เพราะบางทีมันอาจทำให้จิตใจที่ห่อเหี่ยวแห้งแล้งของชายหนุ่มสดชื่นขึ้นมาบ้าง


นึกถึงตรงนี้ กมลก็ถอนใจออกมาเบาๆ


ตั้งแต่ที่ตัดสินใจพูดตัดความสัมพันธ์กับณธิปในวันนั้น กมลก็ไม่ได้ติดต่อณธิปอีกเลย แม้อีกฝ่ายจะเพียรโทรและส่งข้อความมาหา กมลก็ไม่ตอบกลับ ด้วยหวังใจว่าพอนานเข้า ณธิปคงเบื่อหน่ายและท้อใจจนเลิกยุ่งกับเขาไปเอง


ในวันนั้นกมลคิดเพียงต้องการตัดความสัมพันธ์เหล่านี้ให้เร็วที่สุด ก่อนที่เขาจะห้ามใจตัวเองไม่ได้อีกต่อไป เพราะไม่อยากให้ณธิปเดือดร้อนกับเรื่องต่างๆ ไปมากกว่า แต่วันนี้กมลเพิ่งได้รู้


ว่าเขาคิดถึงณธิปมากแค่ไหน


คิดถึงจนไม่อาจหยุดพักได้ คิดถึงจนต้องทำตัวให้ยุ่งวุ่นวายมากที่สุด เพราะอย่างน้อยจะได้มีเรื่องอื่นให้คิดแทน แต่พอถึงเวลาเช่นนี้ เวลาที่เขาได้พัก กมลก็ต้องกลับมาทรมานเพราะความคิดถึงเหมือนเดิม


ชายหนุ่มล้วงโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดหน้าจอดู เห็นสายที่โทรมาค้างไว้ หนึ่งในนั้นเป็นคนนั้นความคิด หัวใจก็พลันเจ็บแปลบมากกว่าเก่า แต่ถึงอย่างนั้น ในส่วนที่ลึกที่สุด ยังมีความดีใจซุกซ่อนอยู่


ทั้งที่ผ่านมาพักใหญ่แล้ว แต่คนคนนั้นยังไม่ลืมเขาอีกหรือ ยังพยายามติดต่อมาอยู่ ที่ทั้งเขาใจร้ายไปขนาดนั้น คนแบบณธิป โชติตระกูล ยังเป็นคนที่เหนือความคาดหมายจริงๆ


แล้วแบบนี้ กมลจะทนฝืนทำเป็นไม่สนใจไปได้อีกนานเท่าไหร่กัน...


พลันที่ขอบฟ้าปรากฏเป็นสายฟ้าปราบแปลบชั่วพริบตา กมลจึงถอนสายตาจากหน้าจอมือถือ สวมหน้ากากคุณไอคนเข้มแข็ง แล้วหันหลัง หยิบรองเท้าที่ถอดวางทิ้งไว้มาสวม ก่อนเดินกลับเข้าห้องพักที่อยู่ไม่ไกลจากหาด


เมื่อเปิดประตูเข้ามา เขาก็พบน้องสาวของตนเองอยู่ที่ห้องนั่งเล่น เธอกำลังคุยโทรศัพท์กับใครบางคนด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ดวงตาดูมีความสุข


กมลลอบมองน้องสาวพลางอมยิ้ม และเดาว่าตอนนี้คนที่ทำให้เธอยิ้มได้คงเป็นผู้ชายที่ขอหทัยแต่งงานเมื่อสามวันก่อน


ณภัทร โชติตระกูล คือ ผู้ชายคนนั้น


กมลรู้มาพักใหญ่แล้วว่าณภทัรคบกับน้องสาวของตัวเอง เพราะตั้งแต่ที่พวกเขาได้พบกัน และเริ่มต้นคุยกัน หทัยก็รายงานให้พี่ชายฟังตลอด กมลจึงวางใจ เพราะนอกจากณภัทรจะเป็นคนดีมีความรับผิดชอบ เขายังพิสูจน์ให้ทั้งกมลเห็นถึงความรักและความจริงใจที่มีต่อหทัย จนถึงวันที่เขาขอหญิงสาวแต่งงาน กมลจึงไม่คิดต่อต้าน ด้วยส่วนหนึ่งความรักก็เป็นเรื่องของคนสองคน


ครั้นหทัยหันมาเห็นกมลกลับจากหาดแล้ว เธอจึงวางสาย


“พี่ไอ กลับมาแล้วหรือคะ”

“อืม”

“อ้ายยังคิดๆ อยู่ว่าจะออกไปตาม แต่พอดีติดสายคุณภัทร” เธอลุกขึ้นมาหาเขา แต่กมลรีบเดินเข้ามา และพาให้น้องสาวนั่งลงที่เก่า ก่อนนั่งลงข้างๆ ด้วย

“ไม่เป็นไรหรอก แล้วนี่...คุณภัทรวางไปแล้วหรือ”

“ค่ะ เขากำลังจะเดินทางแล้ว ก็เลยโทรมาบอก”

“เด็กๆ ล่ะ”

“นอนกันหมดแล้วค่ะ” หทัยว่า

 “กลับมาจากต่างประเทศเที่ยวนี้ คุณภัทรจะพาอ้ายไปพบที่บ้านใช่ไหม”

“ค่ะ”

“เด็กๆ ก็คงต้องไปด้วยสิ”

“อ้ายคิดว่าอย่างนั้น คุณภัทรเธออยากให้เด็กๆ ชินกับคุณพ่อคุณแม่น่ะค่ะ”

“อ้อ...ถ้าอย่างนั้นก็ดีแล้วล่ะ เราดูเด็กๆ ไหวใช่ไหม”

“ไหวสิคะ” หญิงสาวพยักหน้า ก่อนจะถาม เพราะเห็นพี่ชายทำหน้าเครียดๆ “พี่ไอมีอะไรหรือเปล่า”
“เปล่าหรอก พี่แค่จะบอกว่า พี่อาจจะไม่ได้ไปด้วย ก็เลยเป็นห่วงเรานิดหน่อย”

“อ้าว! พี่ไอไม่วางหรือคะ ไหนบอกว่าจะไปเป็นเพื่อนอ้ายไง เรื่องเด็กๆ อ้ายไม่เป็นห่วงหรอกนะคะ อ้ายแค่กังวลเรื่องคุณพ่อกับคุณแม่ของคุณภัทรนิดหน่อย แล้วไหนจะคุยกันเรื่องงานอีก อ้ายอยากให้มีพี่ไอไปด้วย”



แม้นี่จะเป็นการแต่งงานครั้งที่สองของหทัย แต่เธอก็ยังรู้สึกประหม่าอยู่ดี เพราะครั้งนี้ผู้ใหญ่ทางฝั่งว่าที่สามีเป็นคนมีหน้ามีตาทางสังคม เธอเองก็ยังอายุน้อย ประสบการณ์เข้าหาผู้ใหญ่ก็มีไม่มากเท่าพี่ชาย ซ้ำยังเป็นเจ้าสาวที่มีลูกติดมาด้วย หทัยจึงกังวลว่าทางบ้านของณภัทรจะไม่พอใจในตัวเธอเท่าไหร่ แล้วเข้าหน้าทางนั้นไม่ติด


ดังนั้นหากมีพี่ชายไปด้วย หทัยคงอุ่นใจกว่า

“พี่...ไม่แน่ใจตารางงานน่ะ” กมลตอบท่าทางกระอักกระอ่วน


เรื่องที่เขากับณธิปเลิกติดต่อกัน ชายหนุ่มยังไม่ได้บอกให้น้องสาวรู้ เพราะไม่อยากให้ใครต้องมาเป็นกังวลเรื่องของตัวเอง


แต่มีหรือ ที่น้องสาวที่อยู่ด้วยกันมาแทบทั้งชีวิตจะไม่ระแคะระคาย


“พี่ไอ...”

“หืม?”

“พี่ไอทะเลาะกับคุณเล็กหรือคะ”
   

กมลเบิกตากว้างไปเสี้ยววินาทีด้วยความประหลาดใจในคำถามที่ได้ยิน ก่อนตั้งสติแล้วฝืนยิ้มทำราวกับไม่มีอะไรออกมา

“ทำไมถามแบบนั้นล่ะ”

“อ้ายสงสัยนี่คะ ก็ตั้งแต่คุณเกษแถลงข่าวช่วยพูดแทนพี่ไอ อ้ายก็ไม่เห็นคุณเล็กมาที่บริษัทอีกเลย ที่บ้านก็ด้วย นี่เกือบเดือนแล้วนะคะที่เขาหายไป แถมพี่ไอก็ยังซึมๆ ต้องมีอะไรแน่ๆ”


หญิงสาววิเคราะห์ออกมาเป็นฉากๆ เพราะเธอลอบจับตาความสัมพันธ์ระหว่างกมลและผู้ชายคนนั้นมาโดยตลอด ยิ่งช่วงนี้กมลทำงานหนักขึ้น แถมดูเซื่องซึมไม่ค่อยพูดจายิ้มแย้มเช่นแต่ก่อน เธอก็ยิ่งสงสัย


“พี่ก็อยู่ของพี่ธรรมดา จะไปมีปัญหากับใครเขาได้ยังไง”

“พี่ไอ” คราวนี้หญิงสาวตรงหน้าทำเสียงเข้ม

“ขู่พี่ทำไมน่ะเรา”

“ก็พี่ไอกำลังโกหกอ้ายอยู่นี่คะ” เธอหรี่ตามองอย่างจับผิด

“พี่จะโกหกเราทำไม” กมลถอนสายตา และเสมองออกไปนอกหน้าต่าง

“อ้ายไม่รู้หรอกค่ะว่าทำไม รู้แค่ว่าพี่กำลังโกหกอยู่” เธอบอก ก่อนจะร่ายยาว “อ้ายเป็นน้องพี่นะคะ มองแค่แวบเดียวก็รู้แล้วว่าต้องมีเรื่องอะไรปิดบังกันแน่ๆ”

“เหลวไหลน่า” กมลถอนชิว ก่อนตั้งท่าลุกขึ้น “พี่จะเข้าไปนอนแล้ว พรุ่งนี้เราต้องกลับกรุงเทพแต่เช้า เดี๋ยวตื่นสายแล้วตกเครื่อง ตอนเที่ยงมีนัดกับลูกค้าที่โรงแรมAAAด้วยสิ”

“นี่! อย่าทำเฉไฉแล้วหนีกันนะคะ” หทัยร้องโวยวาย

“พี่ไม่ได้เฉไฉสักหน่อย แค่จะไปนอน แล้วก็อย่าเสียงดังสิ เดี๋ยวพวกตัวแสบจะตื่นเอานะ”

“นี่แหละค่ะที่กำลังเฉไฉ ทีแรกอ้ายก็ไม่แน่ใจว่าคิดมากไปเองหรือเปล่า แต่ตอนนี้อ้ายแน่ใจแล้ว เพราะฉะนั้น นั่งเลยค่ะ เรามีเรื่องต้องคุยกัน”

“...” กมลหันหลับมามองหน้าน้องสาว พวกเขาจ้องหน้ากันพักใหญ่ สุดท้ายคนเป็นพี่ชายจึงถอนหายใจออกมาอีกรอบ ก่อนจะนั่งลงให้น้องสาวคนดีซักฟอก
   

สุดท้าย ใช้เวลาเกือบค่อนคืนกมลก็ยอมปริบปากบอกน้องสาวไปว่าเขาเอ่ยปากปฏิเสธณธิปไปแล้ว ความสัมพันธ์ของพวกเขาจึงเป็นแค่คนรู้จักทั่วไป ทำให้ไม่เห็นหน้าณธิปอีก


แต่ถึงแม้กมลจะบอกเหตุผลที่หยุดเรื่องเหล่านั้นเอาไว้ แต่เขาก็ไม่ยอมบอกความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อณธิปให้หทัยรู้ แม้น้องสาวคนดีจะคาดคั้นเท่าไรก็ตาม ด้วยกมลอยากให้ความรู้สึกเหล่านั้นจมหายไปในสุดที่ลึกที่สุดของหัวใจ ให้มีเพียงเขาคนเดียวที่ล่วงรู้ก็พอ


    ส่วนเรื่องที่ไม่ไปที่บ้านด้วย หทัยก็ไม่ถามต่ออีก เพราะพอเดาได้ว่าเขาลำบากใจที่จะเจอหน้ากับน้องชายของณภัทร


   “งั้นเอาไว้คราวหน้าก็ได้ค่ะ ครั้งนี้แค่ทานข้าวกันธรรมดาเท่านั้น”


   หทัยบอกเท่านั้น และยอมทำตามใจพี่ชาย กมลเองก็รู้สึกผิดกับน้องเหมือนกันที่ปล่อยให้เธอไปเอง แต่เขาคิดว่าตัวเองก็คงไม่ไหว หากต้องไปพบกับณธิปตอนนี้







   หลังกลับจากพักร้อนกับครอบครัว กมลก็ยุ่งอยู่กับงานตลอดทั้งอาทิตย์ จนแทบไม่มีวันหยุดอีกเลย อย่างเช้าวันนี้เขาก็ต้องไปพบลูกค้า ก่อนกลับมาประชุมเรื่องงานแต่งของน้องสาว   


ชายหนุ่มทำภารกิจตั้งแต่เช้าจรดเที่ยง ก่อนกลับมาที่บริษัทและเข้าห้องประชุมทันที


หัวข้อการประชุมในวันนี้ คือการวางแผนงานคร่าวๆ ก่อน ด้วยกมลต้องการให้ทุกคนในบริษัทร่วมด้วยช่วยกัน และในช่วงสามวันก่อนถึงวันงาน พวกเขาจะหยุดทั้งบริษัท ดังนั้นจึงต้องจัดสรรคิวให้กับลูกค้าดีๆ


“เรื่องวันเวลาคงจะเป็นช่วงกุมภาพันธ์ปีหน้า เดี๋ยวผมจะคุยกับทางบ้านโน้นอีกที ส่วนสถานที่น่าจะเป็นโรงแรมของฝั่งคุณภัทรใช่ไหมอ้าย” กมลหันมาถาม


“ใช่ค่ะพี่ไอ ทางบ้านคุณภัทรอยากให้เป็นแบบนั้น”

“อืม...ถ้างั้นเราก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร คงติดอยู่ที่ส่วนของแขกว่าจะมากขนาดไหน ทางโน้นค่อนข้างกว้างขวาง”

“ความจริงก่อนคุณภัทรไปทำงาน เขาบอกปริมาณแขกของเขาคร่าวๆ มาแล้วค่ะ...”


หทัยแจกแจงรายละเอียด ส่วนทุกคนก็นั่งฟังและออกความเห็นเรื่องธีมงานที่จะเกิดขึ้น การประชุมดำเนินไปอย่างกระชับและราบรื่น เนื่องจากหทัยรู้ขั้นตอนการจัดงานทั้งหมดอยู่แล้ว เธอแค่บอกความต้องการร่วมกันของตนเองและณภัทรเท่านั้น ทุกคนจะได้กระจายและออกแบบงานได้ตรงใจมากที่สุด


ทว่าระหว่างที่พวกเขากำลังประชุมกันอยู่ จู่ๆ ก็มีเสียงโวยวายๆ ดังมาจากทางหน้าประตู ทุกคนจึงหยุดและหันกลับไปมอง


กมลขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเสียงคุ้นเคยดังแว่วๆ แต่เขายังไม่แน่ใจนัก กระทั่งประตูห้องประชุมถูกเปิดผลัวะเข้ามา พร้อมกับคนที่กมลพยายามหลบหน้ามาโดยตลอด


“คุณไอ!”

“คุณเล็ก!?”

“คุณต้องคุยกับผมให้รู้เรื่อง!”


ณธิปปักหลักอยู่อีกฟากของห้อง เขาเท้ามือสองข้างกับโต๊ะตัวยาว ดวงตาที่มองตรงมายังกมลทั้งโกรธ น้อยใจ และสับสนปะปนกันจนแยกไม่ออก


กมลมองหน้าพนักงานประชาสัมพันธ์กับพนักงานรักษาความปลอดภัยที่วิ่งตามณธิปมาด้านหลังท่าทางเหนื่อยหอบ ใบหน้าทุกคนซีดเผือดเพราะคิดว่ากมลต้องตำหนิที่ปล่อยให้มีคนเข้ามาขัดขวางการประชุม


แต่ดูมองหน้าณธิปแล้ว เขาก็รู้ว่าคงไม่มีใครหยุดผู้ชายคนนี้ได้


“คุณเล็กครับ ผมจะคุยกับคุณแน่ แต่ต้องไม่ใช่ตอนนี้” กมลพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ และปั้นหน้าให้นิ่งที่สุดเท่าที่จะทำได้


ทว่า...


“ถ้าเป็นครั้งอื่นผมคงยอม และไม่ทำตัวเสียมารยาทแบบนี้...แต่ครั้งนี้ผมไม่ยอม”


กมลขมวดคิ้วแน่น เขาพอรู้ว่าณธิปเอาแต่ใจตัวเอง แต่ที่ผ่านมาเขาไม่เคยเห็นณธิปเอาแต่ใจและหุนหันพลันแล่นจนถึงขั้นนี้


“แต่ผมกำลังประชุมเรื่องสำคัญอยู่”

“เรื่องที่ผมจะพูดก็สำคัญ”

“สำคัญแค่ไหนก็ต้องรอครับ ขอโทษด้วย แต่ผมคงต้องขอความกรุณา ให้คุณไปรอที่ห้องรับรองก่อน”

“ที่ผ่านมาผมก็รอ รอให้คุณยอมใจอ่อน รออย่างอดทนแม้ว่ามันว่าที่ผ่านมามันจะเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากแค่ไหน แต่ตอนนี้ ในสถานการณ์นี้ ผมรอไม่ได้แล้วไอ” ประโยคหลังณธิปพูดชัดถ้อยชัดคำจนกมลสะอึก

“คุณเล็ก...”

“ผมขอเวลาสิบนาที หลังจากที่ผมรู้เหตุผลแล้ว” ฝ่ายตรงข้ามสูดลมหายใจลึก ก่อนจะเอ่ยประโยคที่เหลือออกมาอย่างยากลำบาก “...ผมจะไป”

“ขอโทษด้วยความ ตอนนี้ไม่ได้”

“หึ” ชายหนุ่มแค่นหัวเราะ ก่อนจะเอ่ยออกมาเหมือนมันเป็นเรื่องตลก ทั้งที่ในความเป้ฯจริง มันไม่ตลกสักนิด “คุณนี่ใจร้ายไม่เปลี่ยนเลยจริงๆ”

กมลสูดลมหายใจเข้าปอดอีกครั้งอย่างอดทนอดกลั้น ไม่รู้เป็นรอบที่เท่าไหร่ แล้วจึงว่า

“คุณจะว่ายังไงก็ได้ แต่คุณต้องรอให้ผมทำงานก่อน”

“โอเค! ได้! ในเมื่อคุณไม่มีเวลา งั้นผมก็จะพูดตรงนี้ให้มันจบๆ ไป ผมจะได้ไม่ต้องโง่เป็นควายอยู่แบบนี้”

“คุณเล็ก! ทำไมถึงพูดแบบนั้น”

“ผมจะพูดอะไร คุณสนด้วยหรือไง”

“คุณเล็ก...”


กว่าจะได้รู้ว่ากมลสน และสนจนเจ็บหัวใจไม่แพ้กัน ณธิปก็พรั่งพรูเรื่องที่อัดอั้นออกมาจนหมด


“หึ...ผมลืมไป คุณไม่สนอยู่แล้ว ไม่ว่าเรื่องงาน เรื่องครอบครัว หรือเรื่องใครๆ ก็สำคัญกว่าผมทั้งนั้น ขนาดรู้ว่าผมจีบอยู่ คุณก็ยังไม่สน แถมหลอกให้ผมรัก แต่สุดท้ายกลับไปแต่งานกับพี่ชาย ก็ใช่สิ...ผมไม่ดีเท่าพี่ภัทร ผมรู้ดี แต่คุณไม่เห็นต้องทำร้ายกันขนาดนี้เลยไอ ถ้าบอกตั้งแต่แรกว่าชอบเขามากกว่า ผมจะถอยให้ก็ได้ ทำไมต้องปล่อยให้มันผ่านมานานขนาดนี้ ทำไมต้องปล่อยให้ผมกลับไปอีกครั้งแล้วหลงรักคุณมากกว่าเดิม”


“เดี๋ยวนะ...” กมลขมวดคิ้ว “คุณว่าใครแต่งงานกับใครนะ”

“ก็คุณกับพี่ภัทรไงล่ะไอ! คุณไม่พูด พี่ภัทรไม่พูด แต่ใช่ว่าผมจะไม่รู้นะ”

“ผมว่าคุณเข้าใจผิด”

“จะเข้าใจผิดได้ยังไง ในเมื่อคุณแม่บอกผมหมดแล้วว่าพวกคุณจะแต่งงานกัน หยุดหลอกกันสักที คิดว่าผมโง่ไม่พอหรือไง!”

“คุณเล็ก! คุณจะบ้าหรือไง”

“ก็ใช่น่ะสิ ผมมันทั้งโง่แล้วก็บ้า บ้าเพราะรักคุณจะตายอยู่แล้วได้ยินไหม!”

“ใช่! คุณมันทั้งโง่แล้วก็บ้าที่สุด!” จากตอนแรกมีเพียงณธิปคนเดียวที่เสียงดัง คราวนี้กมลเองก็ตะโกนเสียงดังตามไปด้วย “คุณหาว่าผมหลอกให้คุณรักหรือ ผมเนี่ยนะหลอก โอเค...ผมอาจทำให้คุณเสียใจ แต่ผมไม่เคยหลอกลวงอะไรคุณสักนิด ถ้าไม่รู้ว่าอะไรจริงไม่จริงก็อย่าพูดดีกว่า”

“แล้วอะไรล่ะที่เป็นความจริง ถ้าคุณรู้ก็ช่วยบอกผมหน่อยสิไอ”

“ก็เรื่องแต่งงานนั่นไง”

“ทำไม คุณจะบอกว่าไม่ใช่คุณหรือไง”

ปัง!

กมลตบโต๊ะ ก่อนจะลุกขึ้นยืน


“ก็เออน่ะสิ! ผมจะไปแต่งกับคุณณภัทรได้ยังไง ในเมื่อคนที่ผมรักคือคุณคนเดียว คนที่แต่งคือน้องสาวผมโน้น หัดฟังอะไรให้ดีก่อนที่จะเอามาโวยวายกล่าวหาคนอื่นด้วย แล้วเรื่องพี่ชายตัวเองแท้ๆ คบใคร ไม่รู้บ้างเลยหรือไง คุณมันสนใจแต่เรื่องตัวเอง”


กมลยืนหอบหายใจหลังจากพูดจบ แม้เป็นครั้งแรกที่กมลตะโกนเสียงดังและหลุดจากการควบคุมตัวเองต่อหน้าคนอื่น แต่ชายหนุ่มก็ไม่ได้สนใจใครรอบข้างเลย เวลานี้เขาแค่อยากตอกกลับณธิปแรงๆ ให้อีกฝ่ายได้รู้ว่าเจ้าตัวโง่เง่าแค่ไหนที่มากล่าวหากันแบบนี้


ทั้งๆ ที่เขามีใจให้ณธิปเพียงคนเดียวมาตลอด


แต่กมลคงลืมไป ลืมไปว่าสิ่งที่ตัวเองพูดออกมาทั้งหมดนั้นคือเรื่องที่เขาต้องการจะปกปิด ไม่ใช่ปกปิดแค่เพียงสมาชิกในห้องประชุม แต่คนที่ไม่อยากให้รู้ความรู้สึกจริงๆ มากที่สุดคือผู้ชายที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้าม


คือนายณธิป โชติตระกูล

ทว่ากมลก็ต้องแปลกใจ เพราะจากที่กำลังโกรธเกรี้ยว บัดนี้ณธิปกลับมือสั่น ใบหน้าเหรอหราราวกับควบคุมตัวเองไม่ได้

“ไอ...”

“เรียกผมทำไมอีก จะว่าอะไรผมอีก”

“...เมื่อกี้คุณพูดว่าอะไรนะ”

“พูดอะไร ผมก็พูดไปตั้งเยอะ” ยิ่งถูกถามเหมือนไม่ได้ฟังที่ตัวเองพูดเลย กมลก็ยิ่งหงุดหงิด

“คุณบอกว่า...รักผมคนเดียวหรือ”

“ก็ใช่น่ะสิ! เพราะงั้นผมถึงไม่มีทางแต่งงานกับ---“


ทันทีที่คิดได้ว่าตัวเองกำลังสติหลุดขนาดไหน และเอ่ยเรื่องอะไรออกไปบ้าง ทุกคำที่กำลังจะเอ่ยออกไปก็ถูกกลืนกลับเข้าไปในลำคอทั้งประโยค


กมลอ้าปากค้าง มองหน้าณธิปที่เวลานี้เปลี่ยนเป็นใบหน้าลิงโลด ดวงตาพราวระยับ เขามองสักขีพยานทุกคนนั่งหน้าสลอนในห้องประชุม


แล้วอยู่ๆ กมลกลับได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองเริ่มเต้นกระหน่ำราวกับจะทะลุออกจากอกแข่งกับเสียงลมของเครื่องปรับอากาศ


ท่ามกลางความเงียบที่ไม่เงียบนั้น ผู้บริหารหนุ่มแห่ง I promise Tower ค่อยๆ ระบายลมหายใจออกช้าๆ เผื่อมันจะข่มให้ความร้อนบนใบหน้าลดลง แล้วจึงกลั้นใจเอ่ยออกมาเบาๆ


“ขอโทษนะครับทุกคน แต่วันนี้ผมขอเลิกประชุมก่อน” ยังไม่ทันที่ทุกคุนจะลุกจากเก้าอี้ กมลก็รีบสาวเท้าไปหาณธิปแล้วคว้าแขนอีกฝ่ายไว้ “ส่วนคุณ...คุณเล็ก ไปกับผม”









เอาจริงๆ ความอืดหลายตอนที่ผ่านมา เป็นแค่ซิทคอม จังหวะมันได้มาก
 เนี่ย คนจะเป็นพระเอกนอกจากจะหล่อรวยแล้ว ต้องตลกด้วยนะ 555555555555555
ต่อไปนี้ก็รักกันจริงๆ แล้ว
ที่คนหาว่าคุณเล็กไม่มีน้ำยา รอเลยค่ะ ลูกชายแม่มาแล้ว

แล้วเจอกันค่ะ

ละอองฝน.

หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 46 [30/09/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 30-09-2018 18:39:47
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 46 [30/09/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 30-09-2018 18:44:31
คุณไอหลุดบอกรักมาแล้วทีนี้คุณเล็กคงไม่ยอมปล่อยให้คุณไอห่างไปแน่ๆ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 46 [30/09/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 30-09-2018 18:52:26
 o13  พยานรักเต็มห้องเลย
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 46 [30/09/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 30-09-2018 19:04:52
ในที่สุดคุณไอก็อัดอั้น แล้วก็ ตู้มมมม!!! บอกรักกันได้ฮาร์ดคอร์ดีค่ะ สักขีพยานเพียบ  :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 46 [30/09/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 30-09-2018 19:38:02
กว่าจะได้รู้ใจกัน...#เตรียมจุดพลุ  :mc3: :mc3: :mc3:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 46 [30/09/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 30-09-2018 20:17:20
พีคมากค่ะคุณขา การมาของคุณเล็กครั้งนี้คุ้มจริง ๆ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 46 [30/09/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: khwanruen ที่ 30-09-2018 21:57:40
บอกรักกันยิ่งใหญ่จริงๆคู่นี้ พยานเต็มห้อง  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 46 [30/09/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 30-09-2018 22:11:13
โอ๊ยยย บทจะบอกความในใจก็บอกง่ายๆตอนโกรธเนาะ 5555 ปากแข่งจริงๆคุณไอ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 46 [30/09/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 01-10-2018 07:05:37
ต้องโมโหถึงจะบอกรักได้สินะ คุณไอ ถถถถ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 46 [30/09/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 01-10-2018 09:48:16
 :serius2: หัวใจจะวาย ลุ้นมากค่ะ กลัวเขาจะยังไม่คืนดีกัน  :mc3: :mc2:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 46 [30/09/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: may27 ที่ 01-10-2018 10:15:16
 :mew6:  นานนนนนนน จนอารมณ์ไม่ต่อเนื่องเลยค่ะ  แต่ก็ดีใจกับคุณเล็กด้วยเน้ออออออ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 46 [30/09/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 01-10-2018 10:18:10
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 46 [30/09/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 01-10-2018 11:22:53
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 46 [30/09/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: ::UsslaJlwaJ:: ที่ 05-10-2018 23:59:26
สนุกมากกกกกจ้า โอยเพิ่งเริ่มอ่าน ดันมาอ่านจังหวะค้างเติ่ง
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 46 [30/09/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: Mengjie_JJ ที่ 13-10-2018 09:57:42
คุณเล็กดีใจมั้ย

เนี่ยดีใจแทนเลย เป็นเราจะขอฟัดคุณไอหลายๆที

 :o8:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 46 [30/09/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: ToeyTato ที่ 20-10-2018 07:55:31
คุณไออออออออ 55555555555 ในที่สุด สักขีพยานเพียบเลยด้วยยย
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 46 [30/09/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: กาแฟมั้ยฮะจ้าว ที่ 26-10-2018 08:11:55
ขอบคุณครับ
+1 ให้กำลังใจคนเขียนครับ o13
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 47 [8/11/09/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: ละอองฝน ที่ 08-11-2018 23:32:17






คุณคือความรัก บทที่ 47







   ตลอดช่วงเวลาที่เดินผ่านโถงทางเดิน ขึ้นบันได จนถึงหน้าห้องประธานบริษัท I promise ณธิปรู้สึกเหมือนสติของตัวเองยังกลับเข้าร่างไม่ครบร้อยเปอร์เซ็นต์ เขากลายเป็นคนบื้อใบ้อย่างสมบูรณ์แบบ เพราะทำได้แค่ปล่อยให้คนตรงหน้าลากจูงไปตามใจ ก่อนพวกเขาทั้งคู่จะไปหยุดที่ประตูบานใหญ่ กมลจึงเปิดประตูออกว้างแล้วออกคำสั่ง


   “เข้าไปสิครับ”
   

“...อืม”


   หลังจากณธิปเดินเข้าไปในห้องนั้น อีกฝ่ายก็เดินตามเข้ามา แล้วปิดประตูลงกลอนเรียบร้อยแล้วหันมาเผชิญหน้ากันตรงๆ


   “คุณเล็ก”


   “ครับ”


   “ทำไมถึงบุกเข้าไปในห้องประชุมของผมแบบนั้นครับ”


   “ผมบอกไปแล้วไม่ใช่หรือว่าอยากคุยกับคุณให้รู้เรื่อง”


   “แต่เรื่องที่คุณอยากพูดมันเป็นเรื่องส่วนตัว และผมกำลังทำงาน”


   “ผมขาดสติ เข้าใจผิด และไม่คิดหน้าคิดหลังให้ดี...ขอโทษนะครับ”


   ครั้นได้ยินณธิปเอ่ยขอโทษออกมาอย่างง่ายดาย ผนวกกับท่าทางเหมือนลูกหมาหางตกประกอบ คำตำหนิที่กมลตั้งใจจะเอ่ยออกไปก็ถูกกลืนเข้าไปจนหมดสิ้น ความรู้สึกหงุดหงิดที่ณธิปไม่ยอมฟังเขาพูดให้เข้าใจตั้งแต่แรกก็หายไปด้วยเช่นกัน


“...”


“...ไอ”


   ณธิปถูกดวงตาคู่สวยจ้องมองเขม็งในตอนแรกดูอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด แม้ดูท่ากมลยังคงขุ่นเคืองเรื่องที่เขาทำลงไปเมื่อครู่ไม่น้อย แต่ถึงจะโกรธอย่างไร จะโมโหแค่ไหน ณธิปก็คิดว่าการตัดสินใจบ้าดีเดือดของตัวเองนั้นคุ้มค่า เพราะเวลานี้เขารู้แล้วว่า...


   กมลแค่โกรธ แต่ไม่ได้เกลียดกัน


   คำว่ารักที่ได้ยิน ไม่ได้หวานล้ำ ไม่ได้ซึ้งจนน้ำตาไหล แต่กลับมีค่าต่อผู้ชายที่เกือบจะสิ้นหวังอย่างณธิปมากมายนัก แม้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้ตั้งใจพูดออกมาแต่แรกก็ตาม


บางทีอาการลอยๆ เหมือนคนไม่มีสติของเขาในยามนี้ อาจมาจากความรู้สึกโล่งใจที่อะไรๆ ไม่ได้เป็นไปอย่างที่กลัว คล้ายว่ายกภูเขาหนักอึ้งออกจากอก


เจ้าของดวงตาเรียวสูดหายใจเข้าปอดลึกๆ เพื่อเรียกสติ ก่อนยกมือขึ้นแตะใบหน้าของกมล


เพราะอยู่ใกล้กันแค่นี้ ณธิปจึงเห็นได้ทันทีว่ากมลตกใจกับการกระทำของเขา ทว่าไม่ได้เบือนหน้าหนี ณธิปจึงทำใจกล้าใช้นิ้วเกลี่ยไล้ที่ข้างแก้มของอีกฝ่ายแผ่วเบา


นี่คือคุณไอตัวจริงเสียงจริง...ณธิปคิด


วันคืนที่ทุกข์ทรมานกับความสับสนได้ผ่านพ้นไปแล้ว การได้สัมผัส ได้เล่นเกมจ้องตากันอยู่ตรงนี้โดยปราศจากคำพูด ถือเป็นเครื่องยืนยันชั้นดี


ไม่ทันที่ชายหนุ่มจะไล้ใบหน้าเกลี้ยงเกลานั้นจนพอใจ มือข้างหนึ่งของกมลก็ปัดมันตกไม่แรงนัก แล้วเจ้าตัวจึงเอื้อนเอ่ย


“พอได้แล้วครับ”


“ไม่อยากพอเลย ทำยังไงดีล่ะ”


“คุณเล็ก!” กมลเอ่ยลอดไรฟัน ท่าทางเหมือนกำลังโกรธ แต่ใบหน้ากลับไม่อาจซ่อนสีแดงระเรื่อได้เลย


ณธิปจำได้ เมื่อครั้งที่ค้างคืนด้วยกันในบ้านป่างาม เขาได้พรมจูบอีกฝ่ายผ่านผ้าห่มทั่วใบหน้า และเขาจำได้ว่าตนเองเคยเห็นใบหน้าแบบนี้ของกมล ซึ่งมันไม่ใช่เพราะอีกฝ่ายโกรธ แต่เป็นเพราะกมลกำลังสะท้านอายจนแทบไม่สามารถควบคุมตัวเองได้มากกว่า


ไม่น่าเชื่อว่าหลังผ่านเหตุการณ์เลวร้ายในรถวันนั้น เขาจะยังได้เห็นกมลในมุมนี้อีก


“...เหมือนฝัน” เจ้าของดวงตาเรียวเผลอหลุดปากออกมา คนตรงหน้าจึงขมวดคิ้วถาม


“คุณว่าอะไรนะครับ”


“ผมว่าอะไรงั้นหรือ”


“นี่! คุณเล็ก ไม่รู้ตัวเลยหรือครับว่าคุณพูดอะไรออกมา”


“เหมือนจะรู้ แต่ก็...ไม่รู้เหมือนกัน” ที่พูด ณธิปไม่คิดจะก่อกวนกันสักนิด แต่เขาแค่บอกอาการจริงๆ ของตัวเองเท่านั้น


“คุณเป็นอะไรกันแน่ เหม่ออะไรตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว จะพูดอะไรก็พูดดีๆ สิ อ้อ...แล้วก็ปล่อยผมด้วยครับ จะจับมือแบบนี้อีกนานไหม”


เพราะมัวแต่เหม่อลอย ก่อนหน้านี้ณธิปจึงไม่ได้สนใจว่าตนเองครอบครองเรียวมือนุ่มนิ่มตั้งแต่เมื่อไหร่ เขาก้มมองอุ้มมือของตน ก่อนจะยิ้ม แล้วว่า


“ผมไม่ปล่อยหรอกนะไอ...จะไม่ปล่อยคุณไปอีกแล้ว”


หลังพูดจบ จากตอนแรกแค่จับมือ ร่างสูงก็ขยับเข้าไปกอดกมลแน่น คนถูกกอดคิดจะหนีก็ยังทำไม่ได้ เพราะเวลานี้ถูกต้อนจนหลังชนประตูแล้ว


“...!”


“จะกอดคุณให้แน่นๆ เลย ห้ามหนีด้วย”


แม้ไม่คิดดิ้นขัดขืน แต่คนหน้าหวานก็อดถามไม่ได้


“คุณเป็นใครถึงกล้ามาสั่งผม”


“เป็นคนที่รักคุณ”


“หึ” เสียงแค่นหัวเราะในลำคอทำเอาณธิปสะดุด


“หัวเราะหึๆ แบบนั้นทำไม ขนาดนี้แล้วคุณยังไม่เชื่อในความรู้สึกของผมอีกหรือ”


“...” กมลไม่ยอมตอบว่าเชื่อหรือไม่เชื่อ เขาเว้นช่องว่างตรงนั้นเอาไว้นานจนคนถามร้อนใจ สุดท้ายจึงรีบยืนยันความรู้สึกตัวเอง


“ผมรักคุณจริงๆ นะ”


“...”


คำรักที่เอ่ยออกมาฟังดูหนักแน่น ทว่าไม่มั่นคงจนคนฟังนึกสงสัย แต่คนพูดไม่มีทางเฉลยหรอกว่า ผู้ชายที่เคยมั่นใจในตัวเองอย่างเขา เวลานี้กลับรู้สึกไม่มั่นใจว่ายังควรพูดความรู้สึกออกไปให้ชัดๆ ดีหรือไม่


เพราะเขากลัวว่าจะผิดหวังอีก


กลัวว่าคำรักของกมลจะเป็นแค่เรื่องที่เขาฝันไปเอง...


ณธิปกลับไปจมจ่ออยู่กับตัวเองอีกครั้ง หากคราวนี้สีหน้ากลับเศร้าหมองจนคนมองเปลี่ยนมาเป็นห่วง ดังนั้นจากที่เคยบอกให้ปล่อยมือ บัดนี้กมลกลับเป็นฝ่ายกระชับอุ้งมือใหญ่นั้นเอาไว้แทน


“...คุณเล็ก”


สัญญาณเพียงเล็กน้อยจากกมลทำให้ต้นไม้ที่ใกล้ตายฟื้นคืนกลับมาอีกครั้ง ความมั่นใจที่เคยติดลบเองก็เพิ่มพูนขึ้นดังเดิมเช่นกัน หรือไม่บางที ณธิปคิดว่ามันอาจมากขึ้นเป็นเท่าตัวก็ได้ เพียงเพราะแค่สัมผัสได้ว่ากมลเป็นห่วงตน


“เฮ้อ...” ณธิปปรับอารมณ์หลังถอนหายใจเฮือกใหญ่ ด้วยรู้ว่าโอกาสดีอย่างน่าเหลือเชื่อเช่นนี้ไม่ได้เวียนมาบ่อยๆ คนเจ้าเล่ห์กลับมาเป็นตัวของตัวเองอีกครั้ง จากนั้นจึงกระชับมือกมลกลับ แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงออดอ้อนอย่างน่าหมั่นไส้ “แต่เอาเถอะ ถ้าคุณไม่เชื่อ ผมเป็นคนที่คุณรักก็ได้”


“หา!? พูดอะไรน่ะ” พออยู่ๆ ณธิปคนหงอยเปลี่ยนเป็นคนเดิมรวดเร็วราวสับสวิตช์ ซ้ำยังพูดถึงเรื่องน่าอายได้หน้าตาเฉย กมลเองก็ถึงกับไปไม่เป็น จะคืนฟอร์มที่วางไว้แต่แรกก็ไม่ทันเสียแล้ว เพราะเมื่อครู่เพิ่งเผลอใจอ่อนกับอีกฝ่ายไป ชายหนุ่มจึงได้แต่ทำเฉไฉอย่างตะกุกตุกัก ”พูดจากหละ...เหลวไหล”


“เหลวไหลที่ไหน คุณเป็นคนบอกผมเองแท้ๆ พยานรู้เห็นก็มีหมด จะให้ผมไปเรียกมาถามรายบุคคลยังได้”


“พอเลย” กมลร้องห้าม


แค่เรื่องอุกอาจที่อีกฝ่ายให้เขาหลุดในห้องประชุม นั่นก็ทำเขาอายแทบแทรกแผ่นดินอยู่แล้ว นี่ยังมีหน้าจะเรียกคนมาเป็นพยานตอกย้ำกันอีกหรือ...กมลได้แต่คิดในใจ


“งั้นแสดงว่าคุณยอมรับแล้วใช่ไหม” คนเจ้าเล่ห์รุกไล่เมื่อเห็นว่ากำลังได้เปรียบ ทว่าคนสวยของณธิปยังคงทำตัวเป็นผู้ร้ายปากแข็ง


   “ใครบอก”


“อ้าว! แล้วยังไงกันครับ คุณจะบอกว่าไม่ได้รักผมหรือ ทั้งๆ ที่คุณพูดออกจากปากเองนะ”


“ผม...ไม่ได้...” กมลอึกอัก จะปฏิเสธก็พูดไม่ได้ เพราะเป็นฝ่ายเผยความนัยออกไปเอง


ระหว่างที่หนุ่มหน้าสวยกำลังทำท่าคิดหนัก หมาป่าเจ้าเล่ห์ก็ใช้โอกาสนี้รวบเอวกมลเข้ามากอดไว้ทั้งตัวด้วยแขนข้างเดียว ก่อนโน้มหน้าเข้าไปใกล้แล้วใช้สันจมูกโด่งไล้ที่ข้างแก้มสีเรื่อ


“คุณจะปฏิเสธจริงหรือ”


“อย่ารุ่มร่ามนะ”


“ก็คุณไม่ยอมรับความจริง”


“ผะ...ผมเปล่า” กมลเสียงสั่น สัมผัสที่แนบชิดขึ้นเรื่อยๆ เป็นอุปสรรค์ต่อการลำดับความคิดและหาคำพูดอื่นใดมาปฏิเสธ


“ถ้าคุณบอกว่าเปล่า อย่างนั้นก็ยอมรับตรงๆ สิครับว่ารักผม” ลมหายใจร้อนที่เป่ารดกกหูพร้อมเสียงกระซิบของณธิปคล้ายคำล่อลวงของซาตานร้ายก็ไม่ปาน


“ผมไม่---“


“อย่าปฏิเสธความรู้สึกตัวเองอีกเลยนะไอ” ณธิปเว้นช่วง ก่อนพรมจูบเบาๆ ลงบนแก้มเนียน พานให้คนฟังตัวสั่นสะท้าน ด้วยความรู้สึกที่เก็บงำกำลังทลายกำแพงออกมา


“...”


“ถ้ารัก...ก็แค่บอกว่ารัก ไม่ยากหรอก”


“ไม่ยากที่ไหน...” กมลพูดอ้อมแอ้ม


“ถ้าอย่างนั้นผมจะทำให้ดูเป็นตัวอย่างดีไหม”


“ยังไง”


“ผมรักคุณนะไอ รักคุณ รักคุณ ผมรักคุ---“


กมลยกข้างที่ว่างขึ้นปิดปากคนตรงหน้า หวังจะหยุดประโยคที่ทำให้เขารู้สึกอายจนทนไม่ไหว


“พอแล้ว”


ทว่าณธิปก็คือณธิป ผู้ชายเอาแต่ใจที่ตั้งใจแล้วว่าจะไม่ปล่อยให้กมลปฏิเสธได้อีก เขาพยายามจับมือกมลออก และพูดว่ารักอีกครั้ง


“ผมรักคุณ และคุณก็หยุดผมไม่ให้พูดไม่ได้หรอก ผม---“


แต่ระหว่างที่ณธิปกำลังจะเอ่ยคำรักอีกคำ กมลที่ถูกรวบมือไปกอบกุมไว้ทั้งสองข้างก็ทำเรื่องไม่คาดฝัน โดยการเป็นฝ่ายเบียดตัวเข้าไปใกล้ และเงยหน้าขึ้นจุมพิตบนริมฝีปากบางเฉียบ หมายจะแสดงให้เห็นว่าเขาหยุดณธิปได้


และรอยจูบนี้ก็หยุดคำรักของณธิปได้จริงๆ


ทว่าจูบของกมลไม่อาจหยุดอย่างอื่นได้ ซ้ำยังเติมเชื้อไฟของความรู้สึกให้ลุกโชนมากกว่าเดิม คล้ายกับเส้นความอดทนและการควบคุมตัวเองที่มีมาตลอดถูกตัดให้ขาดสะบั้น


ในทีแรกณธิปแค่ถูกกมลจูบปิดปาก แต่เพียงเสี้ยววินาทีหลังเครื่องติด เขาก็เป็นฝ่ายครอบครองริมฝีปากของกมลเสียงเอง


ไม่เพียงแค่นั้น เพราะณธิปยังครองครองลมหายใจ และหัวใจที่เต้นรัวเร็วของกมลด้วย


พวกเขาจูบกันหลังประตูห้องของประธาน I promise อยู่นาน จนมารู้ตัวอีกที กมลก็ถูกพาเดินไปอยู่ที่โซฟารับแขกตัวยาวทำงานราวกับเต้นรำ ก่อนณธิปจะจับเขาเอนหลังลงกับโซฟาตัวนั้น ทั้งที่ริมฝีปากยังพัวพันกันไม่ห่าง


เสียงลมหายใจหอบๆ กับเสียงเนื้อผ้าหลุดลุ่ยเสียดสีเป็นเครื่องกระตุ้นชั้นดีให้ความรู้สึกที่มียิ่งปะทุ


“ดะ...เดี๋ยว”


กระนั้น ก่อนที่อะไรต่ออะไรจะเลยเถิดไปมากกว่านี้ กมลก็ดันอกณธิปเบาๆ เป็นสัญญาณให้อีกฝ่ายหยุด ซึ่งณธิปก็ผละออกไปเล็กน้อยตามคำขอ แต่ไม่วายตั้งคำถาม


“คุณอยากหยุดหรือ”


“...ที่นี่...ไมได้” คนหน้าหวานเอ่ยกระท่อนกระแท่น


“อา...นั่นสินะ”


แม้จะเสียงดายแค่ไหน แต่ณธิปก็เข้าใจว่ากมลคงกระดากอายที่ต้องทำอะไรๆ ในที่ทำงานซึ่งไม่รู้จะจะมีใครโผล่ข้ามาตอนไหน อีกอย่างเขาก็ไม่อยากให้มันเกิดขึ้นลวกๆ เพราะควบคุมอารมณ์ไม่ได้ ซ้ำเวลานี้ควรเป็นเวลาแห่งการพูดคุยและปรับความเข้าใจกัน


แต่ที่สำคัญที่สุด คือ ณธิปอยากให้ครั้งแรกระหว่างกมลค่อยเป็นค่อยไปมากกว่า


“งั้นพวกเรา ลุกขึ้นมานั่งตกลงกันดีๆ เถอะ”


กมลถูกฉุดให้ลุกขึ้นนั่ง ก่อนณธิปจะค่อยๆ บรรจงขยับเนคไทและติดกระดุมคอเสื้อที่กมลไม่รู้ตัวเลยว่าถูกแกะออกไปเมื่อไหร่ให้เรียบร้อย


จากนั้นเกมจ้องตาก็เวียนกลับมาอีกครั้ง ท่ามกลางเสียงหัวใจของใครสักคนที่ยังคงเต้นไม่เป็นระส่ำ


“ตกลงว่า คนที่จะแต่งงานกับพี่ภัทรไม่ใช่คุณจริงๆ ใช่ไหม” ณธิปเป็นคนเริ่มต้นประโยคแรกหลังจากเห็นว่ากมลคงไม่ยอมเอ่ยปากก่อน


“ก็จริงน่ะสิ” คนหน้าหวานว่า “คุณไปเอาข่าวนี้มาจากไหน”


“คุณแม่”


“หืม? คุณหญิงประภัสสรเนี่ยนะ” กมลทวนถามอย่างไม่อยากเชื่อ


“ใช่” ณธิปยังคงพยักหน้ายืนยัน “พอคุณแม่โทรมาบอกข่าวเรื่องงานแต่งงาน ผมก็รีบบึ่งมาที่นี่ทันที คุณรู้ไหม ผมร้อนใจจะแย่ ถึงคุณจะพูดตัดขาดในวันนั้น แต่ผมไม่ยอมแพ้หรอกนะ ผมให้เวลาคุณคิดทบทวนคำที่ปฏิเสธผม ให้เวลาคุณได้อยู่กับตัวเองสักพัก คิดไว้แล้วว่ายังไงผมก็จะหาวิธีปรับความเข้าใจกับคุณให้ได้ แค่เรื่องแต่งงานนั่นทำให้ผมสติแตกเสียก่อน”


“ผมว่าคุณคงฟังไม่ดีแล้วเข้าใจผิดไปเอง ท่านจะบอกว่าเป็นผมกับคุณภัทรได้ยังไง ในเมื่อยายอ้ายก็เคยไปพบท่านมาแล้ว อีกอย่าง คุณหญิงจะไม่รู้เชียวหรือว่าใครกันที่แต่งกับคุณภัทร”


“ไม่รู้สิ” ณธิปขมวดคิ้วน้อยๆ พยายามนึกถึงคำพูดของแม่ “ผมคงฟังผิดไปจริงๆ ช่วงนี้ใจผมไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเท่าไหร่ แต่ยังไงซะ มันก็ดีแล้วที่ผมเข้าใจผิด”


“ทำไมล่ะ”


“ก็ถ้าผมไม่เข้าใจผิดแล้วบุกมาที่นี่ ผมกับคุณคงไม่มีทางได้มานั่งอยู่ตรงนี้ด้วยกันง่ายๆ เพราะคุณเล่นไม่ยอมรับการติดต่อจากผมเลย”


“...ผมไม่พร้อมคุย” เป็นอีกครั้งที่กมลตอบเสียงเบา แต่ณธิปกลับไม่ปรานี เพราะพอเห็นว่าตนเองกำลังได้ที เขาก็รีบตัดพ้อไปอีกประโยค


“รู้ไหมว่าทำแบบนี้มันใจร้ายมาก”


“ผม...” คนหน้าหวานก้มหน้างุดๆ ไปครู่หนึ่งอย่างสำนึกผิด ก่อนจะช้อนตาขึ้นมองคล้ายออดอ้อนในที “ผมขอโทษได้ไหมครับ”


“ถ้าคุณยอมให้โอกาสผมอีกครั้ง ยอมที่จะคุยกันด้วยความเข้าใจอีกรอบ บอกผมว่าจริงๆ แล้วคุณรู้สึกยังไงกับความสัมพันธ์ของเรากันแน่ ผมก็จะไม่โกรธที่ถูกคุณใจร้ายใส่”


ความจริงณธิปยอมทุกอย่าง ยอมแพ้ตั้งแต่เห็นหน้ากมล เพราะเขาแค่ต้องการกลับไปดีกันเหมือนเดิม และทำเรื่องของพวกเขาให้ชัดเจนขึ้น ด้วยชายหนุ่มไม่เข้าใจว่ากมลมีปัญหาอะไรกันแน่ อีกฝ่ายจึงได้พูดทำร้ายจิตใจเขาในวันนั้น


ที่สำคัญ...แค่ณธิปรู้ว่าจริงๆ แล้วกมลก็รักเขาเหมือนกัน แค่นั้นเขาก็พอใจที่สุดแล้ว


“ไอ”


“ครับ”


“ให้โอกาสผมได้ไหม...”


“ผม...”


“ให้โอกาสตัวคุณเอง และรักของเราด้วยนะ...”


กมลมองเรียวนิ่ง เพราะนอกจากคำพูดแล้ว ณธิปยังส่งความรู้สึกผ่านทางสายตาให้กมลอย่างจริงใจที่สุด จริงใจจนเขาไม่อาจปฏิเสธได้อีกต่อไป


“ก็ได้ครับ...เรามาลองดูสักครั้ง”






---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------






มาแล้วค่ะ^O^

ที่เคยบอกว่าเรื่องนี้เป็นโค้งสุดท้าย คือโค้งสุดท้ายจริงๆ แล้ว
ตอนนี้เหลือไม่ถึงสิบตอนก็จะจบ
ขอบคุณที่ติดตามกันมาอย่างยาวนาน
ยังไงก็ฝากนิยายเรื่องนี้จนจบด้วยนะคะ

ละอองฝน.


หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 47 [8/11/09/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 08-11-2018 23:57:55
งื้ออออ ฟินนนนน
คุณไอนี่ชอบทำเรื่องที่เราคาดไม่ถึงตลอด เชื่อว่าคุณเล็กเองก็คงคาดไม่ถึงเหมือนกัน ว่าคุณไอจะจุ๊บๆ งื้ออออ :-[ :-[

รออ่านตอนต่อไปอย่าใจจดใจจ่อเลยค่า
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 47 [8/11/09/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 09-11-2018 00:57:42
 :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 47 [8/11/09/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 09-11-2018 02:27:09
 :o8: เขาดีกันแล้ว ดีต่อใจผู้อ่านมากๆ ค่ะ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 47 [8/11/09/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 09-11-2018 02:36:02
 :mc4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 47 [8/11/09/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 09-11-2018 05:55:23
คุณไอ ใจอ่อนเสียที ลุ้นมากกกกกก
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 47 [8/11/09/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: AeAng11 ที่ 09-11-2018 06:06:54
ตาเล็กดูแลหนูไอให้ดีๆนะถ้าทำหนูไอเสียใจละก็
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 47 [8/11/09/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 09-11-2018 09:51:38
ในที่สุดดดดดดดดดดด  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 47 [8/11/09/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 09-11-2018 17:58:41
วันนี้ที่รอคอย...ยยยยยยย  :กอด1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 47 [8/11/09/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: khwanruen ที่ 09-11-2018 21:18:03
 :-[ เข้าใจกันแล้ว ลุ้นๆไปกับทั้งคู่
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 47 [8/11/09/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: kong6336 ที่ 09-11-2018 21:29:38
โอ๊ยยยยยยฟิน
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 47 [8/11/09/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 09-11-2018 21:39:34
 :pig4: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 47 [8/11/09/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 09-11-2018 22:34:34
ไอคะ กลัวอะไร น้องสาวแต่งรอบสองแล้วค่ะ คนอย่างคุณเล็กไม่ได้มีมาให้เชยชมบ่อย ๆ นะ ลุยเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 47 [8/11/09/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: +pEnGuIn+ ที่ 10-11-2018 10:37:53
ในที่สุดก็ยอมรับซักที โอยยยยย
ต่อจากนี้ขอหวานรัวๆนะคะ
คุณไอใจร้ายกับคุณเล็กมาพอแล้ว
มาต่อเร็วๆด้วยนะคะไรท์
คนอ่านจะลงแดงแล้ววววว
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 47 [8/11/09/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: Mengjie_JJ ที่ 10-11-2018 22:09:24
รักกันเยอะๆ ขอหวานๆเลยค่ะ

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 47 [8/11/09/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 11-11-2018 22:48:09
โอกาสที่ได้มาก็ต้องรักษามันไว้ดีๆด้วยนะคุณเล็ก
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 47 [8/11/09/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 13-11-2018 14:34:04
ยอมรับแล้วซะทีนะคุณไอ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 47 [8/11/09/2561]
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 16-11-2018 11:18:45
รอตอนต่อไปค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 48 [25/02/09/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: ละอองฝน ที่ 25-02-2019 09:20:59



คุณคือความรัก บทที่ 48




   ก่อนหน้านี้ณธิปเคยคิดว่า หากกมลใจอ่อนและยอมคบกันจริงๆ พวกเขาทั้งคู่คงมีโอกาสกระชับความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกันมากกว่าที่ผ่านๆ มา เพราะต่างคนต่างก็รู้ใจกันแล้ว อะไรๆ ก็น่าจะยกระดับขึ้นตามไปด้วย

   ทว่าณธิปกลับคิดผิด...

   เพราะเวลานี้ มีบางสิ่งที่แย่งความสนใจของกมลไปจากเขาจนหมด ถ้าจะเรียงลำดับให้เห็นภาพง่ายๆ ก็อาจเรียกได้ว่าแฟนหนุ่มสุดเฟอร์เฟคอย่างเขากำลังตกเป็นรองนั่นเอง

   [ขอโทษนะคุณเล็ก เสาร์นี้ผมต้องไปเชียงใหม่น่ะครับ]

   นี่คือคำตอบที่ได้รับหลังจากณธิปโทรมาชวนกมลไปเที่ยวชมโครงการเฟตใหม่ที่หัวหิน แต่จริงๆ แล้วในความเป็นงานเป็นการ ณธิปตั้งใจพาคนรักไปเที่ยวทะเลด้วยกันสองคนนั่นเอง

   “เชียงใหม่หรือ”

   [ครับ]

   “แต่เมื่ออาทิตย์ก่อนคุณไม่เห็นบอกว่าจะไป ทำไมจู่ๆ ถึงจะเดินทางปุบปับนัก”

   [ก็ทีแรกผมตั้งใจให้ยายอ้ายไปดูสถานที่กับคุณภัทรสองคน แต่พอดีคุณภัทรเกิดไม่ว่างขึ้นมากะทันหัน ผมก็เลยต้องไปเป็นเพื่อนน้อง]

   “พี่ภัทรหรือ เขาไปไหนน่ะ”

   [ผมไม่ได้ถามรายละเอียดครับ แต่เห็นอ้ายบอกมีนัดสำคัญเข้ามาพอดี เลี่ยงไม่ใด้]

   “เลี่ยงไม่ได้ก็เลื่อนสิ นี่งานแต่งใกล้มาถึงอยู่แล้ว เจ้าบ่าวจะยุ่งหัวหมุนไม่มีเวลาไปดูงานเองบ้างเลยหรือไง”

   [คุณเล็ก...] กมลปรามอีกฝ่ายเสียงอ่อน [ไม่เอาสิครับ คุณเองน่าจะรู้ดีที่สุดไม่ใช่หรือว่างานของคุณภัทรน่ะยุ่งแค่ไหน แล้วผมก็เป็นพี่ ปล่อยให้อ้ายทำคนเดียวไม่ได้หรอก ผมต้องช่วยให้งานเขาออกมาดีที่สุด คุณเองก็อย่าตำหนิคุณภัทรเลยนะ]

   “...เฮ้อ~”

   ใช่ว่าณธิปจะไม่เข้าใจที่กมลบอก ตัวเขามีงานมากเท่าใด พี่ชายก็บวกเข้าไปอีกเท่าตัว เพราะณภัทรถือเป็นหัวเรือใหญ่ต่อจากคุณพ่อ อะไรหลายๆ อย่างจึงเทไปทางนั้นเสียมาก

   กระนั้น ณธิปก็อดเสียดายไม่ได้อยู่ดี เพราะกว่าเขาจะหาข้ออ้างสมเหตุสมผลเพื่อช่วงชิงคิวกมลมาเป็นของตัวเองสักวันสองวัน ชายหนุ่มต้องวางแผนมาเป็นเดือน

   [เอาไว้จบงานแต่งยายอ้ายกับคุณภัทรแล้ว เราสองคนค่อยหาเวลาไปดีไหมครับ ระหว่างนี้คุณก็ลงไปดูโครงการเองก่อน]

   “กลัวว่าพอจบงานพี่ภัทร คุณเองก็จะหัวหมุนกับคิวงานของลูกค้าคนอื่นๆ น่ะสิ” ณธิปเอ่ยอย่างรู้ทัน

เพราะรู้ว่าช่วงนี้กมลลดจำนวนรับงานของลูกค้าทั่วไปลง เนื่องจากต้องโฟกัสกับงานแต่งน้องสาว และหลังจากงานสำคัญครั้งนี้แล้ว ตารางงานของกมลคงกลับมาเป็นเหมือนเดิม

   [ผมบริหารเวลาได้]

   “โอเคๆ งั้นเอาตามที่คุณว่าแล้วกัน ไปเชียงใหม่ก็เชียงใหม่”

   [ชอบคุณที่เข้าใจนะครับ แล้วก็ขอโทษด้วยที่ผิดนัด]

   “ไม่เป็นไรหรอก ว่าแต่เย็นนี้คุณว่างไหม”

   [เย็นนี้มีงานแต่งลูกค้าครับ]

   นั่นไงล่ะ! ไม่ทันไรชีวิตกมลก็มีแต่งาน งาน และงานเสียแล้ว เหมือนที่เขาคิดไว้ไม่มีผิด

   “งานที่ไหนครับ ในกรุงเทพฯ หรือเปล่า”

   [ใช่ครับ ที่โรงแรม X แถวฝั่งธนฯ]

   “เลิกกี่โมง”

   [คงราวๆ 5 ทุ่ม ไม่ก็เที่ยงคืน]

   “งั้นผมจะไปรับ”

   [ไม่เป็นไรครับคุณเล็ก งานมันดึก พรุ่งนี้คุณต้องทำงานแต่เช้านี่ กว่าจะไปส่งผมแล้วกลับบ้าน คุณจะได้พักกี่โมงกันเชียว] ปลายสายเอ่ยด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงอย่างไม่คิดปิดบัง

   “คุณเป็นห่วงผมหรือ”

   [ครับ]

   ครั้นได้ยินกมลสารภาพตามตรง คนถามก็หลุดยิ้มออกมาจนเต็มแก้ม ลืมความผิดหวังที่ถูกปฏิเสธการไปเที่ยวหัวหินด้วยกันไปเสียสนิท

   “ถ้าคุณเป็นห่วงผมมาก...” ณธิปลากเสียงถามอย่างเจ้าเล่ห์ ก่อนจะมาสรุปทั้งหมดในประโยคต่อมา “งั้นผมไปรับคุณมาค้างที่คอนโดด้วยกันก็ได้นี่”

[หืม?]

“ผมจะได้ไม่ต้องขับรถไปขับรถมาให้คุณเป็นห่วงไง แถมได้พักผ่อนเต็มที่ด้วย”

[มันจะไม่ลำบากคุณหรือ ต้องมารอผมเลิกงานเกือบเที่ยงคืนเชียวนะ]

“ไม่ลำบากครับ ผมรอได้ รอถึงเช้ายังได้เลย” เจ้าของดวงตาเรียวตอบด้วยความกระตือรือร้น ซ้ำยังอ้อนไปอีกคำ “นะครับ เราแทบไม่ค่อยได้เจอกันเลย สุดสัปดาห์นี้คุณก็ไม่ว่าง...ผมอยากเจอคุณนะไอ”

กลมเงียบเสียงลงครู่หนึ่ง นั่นชวนให้คนรอคอยคำตอบอย่างใจจดใจจดตื่นเต้นมากขึ้น ทว่าอึดใจต่อมาคนปลายก็ยอมตอบให้ณธิปชื่นใจ

[ก็ได้ครับ]

“เยส!” ณธิปอุทานออกมาเสียงดังลั่นห้องทำงาน

[อะไรจะขนาดนั้นคุณเล็ก]

“ก็คนมันดีใจนี่ จะได้เจอแฟนทั้งที”

[เว่อแล้วครับ เราเจอกันออกจะบ่อย]

“บ่อยที่ไหน อาทิตย์ละสองสามครั้งเอง”

[นั่นก็บ่อยแล้วครับ ถ้าเทียบกับงานที่เราสองคนต้องทำน่ะนะ]

“เอาเถอะๆ จะบ่อยไม่บ่อยก็ช่างมันก่อน เอาเป็นว่าถ้าถึงแล้วผมจะโทรบอกนะ”

[ได้ครับ] กมลรับคำ [แต่ไม่ต้องรีบมานักก็ได้ ถ้าคุณมีงานหรือธุระที่ไหนก็ไปทำได้เลยนะ ผมไม่อยากให้คุณต้องมานั่งแกร่วรอนานๆ]

“โอเค ผมจะออกจากออฟฟิศช้าหน่อยก็แล้วกัน”

[งั้นผมไปเตรียมงานต่อนะครับ]

“อืม...แล้วเจอกันนะไอ”

[แล้วเจอกันครับคุณเล็ก]

ณธิปกดวางสายด้วยความรู้สึกปรีดาที่สุด แม้เป้าหมายที่โทรไปหากมลในที่แรกจะไม่สำเร็จลุล่วงดังที่ตั้งใจ ทว่าเขาก็ได้เรื่องดีๆ อีกอย่างมาแทน

ในที่สุดคุณไอก็ยอมมาค้างด้วยกัน...แค่คิดชายหนุ่มก็ดีใจจนเนื้อเต้นแล้ว

แน่นอนว่าณธิปรักกมลจริงๆ เขารอให้อีกฝ่ายมั่นใจและพร้อมกว่านี้ได้ เพราะได้เรียนรู้แล้วว่าการรักใครสักคน มันไม่ใช่แค่หวังเรื่องความสัมพันธ์ทางกายเหมือนสิ่งที่เคยทำมาตลอด หากมันต้องเกิดขึ้นเพราะความรักความมั่นใจซึ่งพวกเขามีให้กันด้วย

กระนั้น ณธิปก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขารออย่างมีความหวัง เพราะหลายๆ ครั้งที่อยู่ใกล้กัน เขาก็นึกหมั่นเขี้ยวอีกฝ่ายจนอยากฟัดให้เต็มรัก ทว่าต้องให้เกียรติกมลก่อน

ณธิปทำงานอย่างอารมณ์ดีตลอดบ่าย กระทั่งได้เวลาที่คิดคำนวณไว้ในใจ เขาจึงลงไปสั่งอาหารของโรงแรมไปเป็นมื้อค่ำ ก่อนขับรถไปหาคนรักตามที่นัดกันไว้ด้วยตัวเอง










ครั้นถึงที่หมาย ณธิปก็โทรบอกกมลและคอยกมลอยู่ที่ล็อบบี้อย่างสงบเสงี่ยม ไม่คิดเข้าไปรบกวนหรือก้าวก่ายการทำงานของอีกฝ่าย ระหว่างนั้นณธิปก็อ่านข่าวสารในโทรศัพท์รอเป็นการฆ่าเวลา

เขาเช็คความเคลื่อนไหวในวงการธุรกิจไปเรื่อย ก่อนจะเปลี่ยนไปอัพเดตข่าวคราวในวงสังคมบ้าง ชายหนุ่มจึงได้เห็นข่าวของอดีตรัฐมนตรีทรงศักดิ์เด่นหราอยู่บนหน้าฟีด

หลังจากที่มีการร้องเรียนเรื่องบุกรุกที่ดินในเขตป่า ทางการได้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงพักหนึ่ง จนในที่สุดเรื่องหลักฐานก็มัดตัวคนผิด ความเลวร้ายที่ทรงศักดิ์ทำถูกเปิดเผยต่อสังคม และมตราการแรกคือการปลดทรงศักดิ์ลงจากตำแหน่งรัฐมนตรี ก่อนเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมต่อไป

ในภาพข่าวมีรูปของเกษสุดาโชว์หราอยู่ในนั้นด้วย แม้เธอจะช่วยกับณธิปเพื่อเปิดโปงความผิดของพ่อตัวเอง แต่เมื่อถึงช่วงเวลาที่ความจริงปรากฏ และพ่อของเธอต้องได้รับโทษ เกษสุดาก็ยังคอยอยู่เคียงข้าง

ณธิปนับถือน้ำใจของผู้หญิงคนนี้อย่างมาก เพราะเธอยอมทำในสิ่งที่ถูกต้อง แม้ผลลัพธ์ของมันจะทำให้พ่อของตัวเองต้องได้รับโทษก็ตาม จากที่คุยกันครั้งล่าสุด เกษสุดายังคงพูดกับเขาว่า

“เกษจำเป็นต้องทำค่ะ เพราะเกษรักคุณพ่อ และไม่อยากให้ท่านทำสิ่งที่ผิดพลาดไปมากกว่านี้”

เมื่อเธอยืนยันเช่นนั้น ณธิปจึงได้แต่ส่งกำลังใจไปให้ แต่สิ่งที่น่ายินดีกว่าอะไรทั้งหมด ก็คือการที่ชาวบ้านในหมู่บ้านผ่างามได้กลับไปใช้ชีวิตอย่างสงบสุขอีกครั้ง ซึ่งเรื่องนี้ทำให้กมลพลอยมีความสุขไปด้วย

ณธิปอ่านข่าวรออยู่พักใหญ่ ในที่สุดเสียงของคนที่แสนคิดถึงก็ดังขึ้น

“รอนานไหมครับคุณเล็ก”

“ไอ...” เขาปิดหน้าจอข่าวก่อนเก็บมือถือใส่กระเป๋ากางเกง ก่อนลุกขึ้นจากเก้าอี้และเดินเข้าไปหากมล ”เสร็จงานแล้วหรือ”

“เรียบร้อยแล้วครับ ที่เหลือมีแค่จัดการกับสถานที่ แต่ผมให้ทีมงานของ I promise คอยดูแลแทนแล้วล่ะ”

“ถ้างั้นเรากลับกันเลยดีไหม กว่าจะถึงห้องคงดึกน่าดู”

“ครับ” คนดีของณธิปยิ้มรับบางๆ จากนั้นจึงปล่อยให้เขาจูงมือไปที่รถ

ตั้งแต่ยอมคบกับ ณธิปไม่เคยต้องปกปิดความสัมพันธ์ระหว่างเขาและกมลเลย กมลเองก็ยอมให้ณธิปทำตามใจ หากสิ่งที่ทำเหมาะสมกับสถานที่และกาลเทศะ

พวกเขาคบกันเหมือนผู้ใหญ่ ไม่ได้หวือหวา ฉูดฉาดเหมือนอะไรที่ณธิปเคยเป็น แต่มันก็จริงจังพอให้มั่นใจได้ว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาจะค่อยเป็นค่อยไปอย่างมั่นคง

“คุณกินอะไรมาหรือยังครับ” กมลถามขึ้นหลังจากขึ้นมานั่งบนรถและคาดเข็มขัดนิรภัยเรียบร้อย

   “ยังเลย”

   “ไม่หิวหรือครับ นี่ดึกมากแล้วนะ”

   “หิวนิดหน่อย” ณธิปสารภาพตามตรง

   “แล้วทำไมไม่หาอะไรกินล่ะ”

   “ผมรอกินพร้อมคุณไง”

   “โถ่...แบบนี้ไม่ดีเลยครับ” กมลทำหน้างอนิดหน่อย อาการแบบนี้เป็นเพราะไม่พอใจที่เขาหิ้วท้องรอแน่นอน

   “ดีสิ นี่ผมให้เชฟทำผัดไทกุ้งสดมาให้คุณด้วยนะ”

   ผัดไทยกุ้งสดที่โรงแรมของณธิปเป็นเมนูโปรดของกมล หลายครั้งที่พวกเขาไม่มีเวลาออกไปทานอาหารด้วยกัน ณธิปก็จะสั่งอาหารจากโรงแรมไปฝากกมลเสมอ เพราะเป้าหมายของพวกเขาอยู่ที่การได้ใช้เวลากินข้าวด้วยกันและพูดคุยกันก่อนกลับไปทำงาน

   “แล้วคุณล่ะ”

   “ผมก็สั่งของตัวเองมาด้วย แต่ไม่ใช่ผัดไทยเหมือนคุณหรอก”

   “คงไม่พ้นลาวีโอรี่ซอสเนื้ออีกตามเคย” คนหน้าหวานเอ่ยอย่างรู้ทัน เพราะณธิปชอบเมนูนี้ เนื่องจากมันไม่ใช่อาหารทะเล ซ้ำยังรสไม่จัด

   “รู้ใจจัง” ณธิปหันมายิ้มหวานให้

   “ว่าแต่คุณเล็กสั่งมานานหรือยัง”

“เมื่อตอนสามทุ่มกว่าๆ”

“ไม่รู้มันเย็นหมดแล้วหรือเปล่า แต่เอาไว้ถึงคอนโดผมจะอุ่นให้เอง”

   “แปลว่าเราจะกินที่ห้องคุณหรือ”

   “ครับ”

   “โอเค...ที่ห้องคุณก็ได้”

   จริงๆ ณธิปอยากให้กมลมาค้างที่ห้องเขา เพราะเตียงของเขาน่าจะใหญ่และนอนสบายกว่า แต่ถึงอย่างนั้นณธิปก็ไม่ได้ทักท้วงอะไร เพราะอยากตามใจอีกฝ่าย ทั้งยังคิดเผื่อว่ากมลจะสบายใจกว่าหากครั้งแรกได้อยู่ในที่ของตัวเอง








   ถนนกรุงเทพฯ ในเวลากลางดึกโล่งกว่าในเวลาปรกติมาก ดังนั้นใช้เวลาไม่นานพวกเขาก็มาถึงที่หมาย

   ณธิปเดินตามกมลเข้าห้องเงียบๆ หากไม่นับช่วงเวลาก่อนคบ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เข้ากมลตั้งแต่เริ่มตกลงปลงใจกัน ณธิปมองสำรวจไปทั่วห้องซึ่งเคยมาแล้ว ภายในไม่ได้ดูเปลี่ยนไปจากเดิมสักเท่าไหร่ เครื่องเรือนยังอยู่ครบ แม้แต่เอกสารบนโต๊ะกลางของโซฟาในห้องนั่งเล่นก็ยังระเกะระกะอย่างเก่า

   “ช่วงนี้ผมมาค้างที่นี่บ่อย” กมลว่าหลังมองตาสายตาของณธิปไปที่กองเอกสาร “พอดีต้องใช้ความคิดในการวางแผนงานแต่งยายอ้ายเยอะน่ะครับ”

   “อย่าหักโหมมากนักล่ะ”

   “ครับ” กมลพยักหน้ารับ ก่อนเดินไปจัดการอุ่นอาหารมื้อเย็นที่กลายเป็นมื้อดึก

   พวกเขาจัดการอาหารที่โต๊ะในห้องครัวเงียบๆ มีบ้างที่พูดคุยเรื่องที่ทำงานและแบ่งปันเรื่องราวที่พบเจอมาในช่วงเวลาที่ไม่ได้เจอกัน

   กระทั่งกินอิ่มแล้ว กมลก็เก็บล้างจานชาม ก่อนเดินไปเตรียมเสื้อผ้าเพื่ออาบน้ำ ทว่าก่อนจะเข้าห้องน้ำไป ณธิปก็เรียกคนหน้าหวานเอาไว้เสียก่อน   

“ไอ”

   “ครับ?”

   “คุณมีเสื้อผ้าให้ผมยืมหรือเปล่า ถ้าไม่มีผมจะได้ขึ้นไปเอาที่ห้องตัวเอง”

   “คุณเล็กจะ...จะค้างที่นี่จริงๆ ใช่ไหม”

   “อืม” ณธิปพยักหน้า ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง “คุณอนุญาตหรือเปล่า”

   พวกเขาสบตากันท่ามกลางความเงียบครู่หนึ่ง ก่อนกมลจะเลื่อนสายตาหลบและตอบเบาๆ

“ถ้าคุณสะดวก...จะค้างก็ได้ครับ”

“ถ้างั้นผมขึ้นไปอาบน้ำที่ห้องตัวเองดีกว่า คุณจะได้อาบข้างล่างนี่เลย”

“เอาคีย์การ์ดไปด้วยนะ เผื่อกลับมาถึงตอนผมยังอยู่ในห้องน้ำ”

“โอเค” เมื่อตกลงกันเรียบร้อย ณธิปจึงออกจากห้องของกมลมา

เมื่อกี้เขาทำนิ่งๆ พยายามไม่แสดงอาการอะไรมากนัก หากความจริง...ข้างในตัวของณธิปเวลานี้มันตื่นเต้นเสียจนแทบควบคุมตัวเองไม่ได้ เพราะรู้ว่าหลังจากนี้จะมีอะไรเกิดขึ้น

ณธิปไม่กลัวที่จะต้องกอดกมล แต่เขาก็อดที่จะประหม่านิดๆ ไม่ได้ เพราะถึงตอนนี้มันก็ยังดูเป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อ

ชายหนุ่มปล่อยให้ความคิดฟุ้งซ่านครอบงำตัวเองอยู่พักหนึ่ง กระทั่งอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อย เขาจึงกลับลงไปยังห้องของกมลซึ่งอยู่อีกชั้น

ณธิปใช้คีย์การ์ดที่ได้มาเปิดประตูเข้าไปง่ายๆ ก่อนปิดล็อกแน่นหนา และเข้าไปยังห้องนอนซึ่งเป็นปราการด่านสุดท้าย

ชายหนุ่มมองลูกปิดที่อยู่ตรงหน้า ก่อนสูดหายใจลึกๆ ครู่หนึ่ง ทำราวกับทหารที่กำลังจะไปรบก็ไม่ปาน อึดใจต่อตากนั้นณธิปจึงรวบรวมความกล้าเพื่อเปิดประตูเข้าไปด้านใน

ไฟในห้องนอนของกมลยังคงเปิดเอาไว้สว่างโร่แทบทุกดวง จึงทำให้เห็นว่าคนรักของเขาขึ้นไปรออยู่บนเตียงเรียบร้อยแล้ว ณธิปทำการปิดไฟกลางห้อง เหลือไว้เพียงไฟสีส้มนวลบนหัวเตียง พอให้เห็นภาพสลัวๆ

ชายหนุ่มเดินไปหยุดข้างเตียงควีนไซซ์ และปีนขึ้นไปหาคนที่นอนตะแคงหันหลังเอาหน้าเข้าหาผนัง

หัวใจของณธิปเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ เขาก่นด่าตัวเองในใจไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ เรื่องที่เขาประหม่าทั้งที่ไม่ควรเกิดอาการเช่นนี้ได้เลย

มันรู้สึกประเดี๋ยวก็ตื่นเต้น ประเดี๋ยวก็ใจฝ่อ ทั้งที่เคยคนซึ่งผ่านสมรภูมิรักมามาก แต่เมื่อคนที่กำลังจะได้กกกอดเป็นกมล หัวใจกลับไม่เต้นในจังหวะปรกติ

...ไอ้เล็กเอ้ย! แกมันปอดแหกสิ้นดี

   พอคิดถึงตรงนั้น ณธิปก็ถอนหายใจออกมาอีกคำรบ แล้วค่อยๆ ยื่นมือไปสะกิดไหล่เรียก

   “คุณไอ”

   “...”

   “ไอ”

   “...”

   “ไอครับ“

พอเรียกแล้วไม่หัน ณธิปจึงเปลี่ยนจากสะกิดมาเป็นบังคับจับไล่ให้กมลหันหน้ากลับมาหากัน

   “ไอครับ ผมมา...”

   ทว่าสิ่งที่ณธิปพบกลับทำให้หัวใจที่เต้นโครมครามเฉาลงในทันที

   “...”

   สิ่งที่คนเจ้าเล่ห์รอมีอันต้องพังครืนลงมาไม่เป็นท่า เพราะใบหน้าหวานละมุนของกมลกำลังหลับใหลอย่างเป็นสุข กมลหลับลึกขนาดที่ณธิปไม่กล้าที่จะอ้างความต้องการของตัวเองเพื่อใช้ในการปลุกจากนิทราได้

   “ไอนะไอ...หลับทิ้งกันได้ ผมอาบน้ำแค่แปปเดียวเอง”

   ณธิปบ่นอุบ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากซุกตัวเข้าผ้าห่ม เขารู้สึกเฟลนิดหน่อย แต่ก็พอเข้าใจได้ ด้วยรู้ว่ากมลทำงานหนักมาทั้งวัน

   ไม่ว่ายังไงคงต้องปล่อยให้นอนแล้วครั้งหน้าค่อยลองพยายามดูใหม่ และถ้าวันนั้นมาถึง เขาจะไม่ยอมให้ลูกกวางหลุดจากปากเสืออีกแน่นอน

   “ครั้งนี้ผมยอมคุณก็ได้ แต่ครั้งหน้าผมไม่ยอมแล้วนะครับ” เขากระซิบบอกคนหลับไม่รู้เรื่อง ก่อนจูบเบาๆ ที่ขมับ จากนั้นจึงรวบกมลเข้ามากอดแนบอกและเข้านอนด้วยเช่นกัน




<><><><><><><><><><><><><><><><><>
   

เรื่องนี้ฝนเขียนจนจบนะคะ ถึงจะนานหน่อย แต่จบแน่นอนค่ะ
เพราะนี่อีกแค่ 4 ตอนก็จบแล้วค่ะ
ขอโทษที่หายไปนานน้า

ละอองฝน.
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 48 [25/02/09/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 25-02-2019 11:12:07
คุณเล็กที่น่าสงสาร  :laugh:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 48 [25/02/09/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 25-02-2019 11:57:37
สงสารรรรร เก้อเรยพ่อคุณ  :laugh:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 48 [25/02/09/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 25-02-2019 12:10:18
 :z1 :z1: :z1: :z1: เสือสิ้นลายเลยนะคุณเล็ก
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 48 [25/02/09/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 25-02-2019 12:32:29
คุณไอแกล้งหลับเปล่าอ่าา 555
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 48 [25/02/09/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 25-02-2019 13:31:08
แกล้งแน่ๆ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 48 [25/02/09/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 25-02-2019 15:27:08
 :pig4: :3123: :L2:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 48 [25/02/09/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 25-02-2019 15:47:41
คุณเล็กมโนได้เป็นตุเป็นตะ สุดท้ายเป็นไง ซดน้ำแห้ว
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 48 [25/02/09/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 25-02-2019 19:09:22
คุณเล็กโหมดน่ารัก

นี่น่าแกล้งเน๊อะคุณไอเน๊อะ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 48 [25/02/09/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 25-02-2019 21:16:14
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 48 [25/02/09/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 26-02-2019 00:43:42
 สงสารคุณเล็กเขานะคะ 55555555555
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 48 [25/02/09/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: may27 ที่ 26-02-2019 12:44:09
 :katai1:  มันนานนนนน.....จนอารมณ์ไม่ต่อเนื่องเลยค่ะ.......แต่ก็ดีใจที่มาต่อ......คงต้องวนกลับไปอ่านใหม่ค่ะ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 48 [25/02/09/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: angelninae ที่ 26-02-2019 15:41:04
ตามอ่านรวดเดียวเลย คุณเล็กคุณไอเค้าน่ารักกันจริงๆ  :-[
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 48 [25/02/09/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: +pEnGuIn+ ที่ 27-02-2019 09:25:46
หายไปนานมากกกกกกกกก
เกือบลืมคุณเล็กไปแล้วนะเนี่ย
มาต่อไวๆนะคะ รอคุณเล็กขย้ำคุณไอแล้วเนี่ย
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 48 [25/02/09/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: Mengjie_JJ ที่ 28-02-2019 02:32:36
คุณไอ โถ่ หลับซะงั้น
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 48 [25/02/09/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 10-03-2019 08:39:55
55555 กลับมาดีกันทั้งที ไอกลับหันหลังให้ซะงั้น
คุณเล็กน่าสงสารเลยจ้า แล้วอ้อนมากด้วยไง ไอแพ้ทางเห็นๆ

ชอบความอ้อนของคุณเล็ก และความยอมตามใจของไอ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 49 [23/03/09/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: ละอองฝน ที่ 23-03-2019 01:42:07






คุณคือความรัก บทที่ 49













และแล้วก็ถึงวันสำคัญที่สุดในชีวิตของหทัย เธอตื่นแต่งหน้า ทำผม และแต่งตัวแต่เช้า เพื่อเป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุดอีกครั้ง โดยมีพี่ชายคนสำคัญคอยช่วยเหลือทุกอย่าง

เมื่อถึงเวลาพี่ชายของเธอก็เปิดประตูเข้ามาอยู่เป็นเพื่อนเพื่อรอขบวนขันหมาก

“พี่ไอ!”

“ตอนนี้คุณภัทรกำลังจะผ่านประตูเงินประตูทองมาถึงห้องแล้ว เตรียมตัวนะอ้าย”

“มาถึงใกล้ขนาดนี้แล้วหรือคะ”

“อืม”

“แล้วเด็กๆ ล่ะคะพี่ไอ”

“เด็กๆ ช่วยกันถือพานแหวนให้คุณภัทรน่ะ ตอนนี้มีพี่เลี้ยงที่คุณพ่อกับคุณแม่ของคุณภัทรหามาดูแลอยู่ใกล้ๆ เดี๋ยวเสร็จจากตรงนี้ ตอนที่ออกไปนั่งบนเวที พี่จะเป็นคนดูแลเด็กๆ เอง” กลมบอกให้น้องสาวสบายใจ ก่อนจะจับเธอหมุนตัว แล้วว่า “วันนี้น้องพี่สวยที่สุดเลย”

“ขอบคุณนะคะ” หทัยยิ้ม ก่อนจะเอ่ยน้ำน้ำเสียงขัดเขิน “แต่อ้ายรู้สึกแปลกๆ ยังไงก็ไม่รู้ค่ะ มันเขินๆ ชอบกล เมื่อกี้แอบมองแง้มประตูดู เห็นคนเยอะมากเลย ตื่นเต้นจนมือเย็นไปหมดแล้ว”

“ไม่ต้องตื่นเต้นนะ มันจะผ่านไปได้ด้วยดี เชื่อพี่”

“ขอบคุณนะคะพี่ไอ”

ไม่ใช่แค่ขอบคุณที่พี่ปลอบ แต่คำขอบคุณของเธอยังหมายถึงที่เรื่องที่กมลทำให้ ขอบคุณที่ดูแลไม่ทอดทิ้ง ตั้งแต่เล็กจนกระทั่งเติบโตและมีครอบครัวถึงสองครั้ง กมลก็ยังเป็นผู้ชายที่ดีที่สุดในโลกสำหรับหทัย

และเป็นผู้ชายที่ควรได้รับคำขอบคุณมากที่สุด

“ไม่เป็นไร แค่เห็นอ้ายมีความสุขพี่ก็ดีใจแล้ว”

“พี่ไอ...”

“ห้ามร้องไห้นะ เดี๋ยวไม่สวย เจ้าบ่าวจะมาถึงแล้วด้วย”

“หึๆ” เจ้าสาวคนสวยหลุดหัวเราะ “โอเคค่ะ ไม่ร้องก็ไม่ร้อง”

“ดีมาก” ชายหนุ่มบีบมือน้องสาวเบาๆ ทั้งรอยยิ้ม

สองพี่น้องสบตากันเงียบๆ ทว่าความรู้สึกข้างในนั้นอิ่มเอมเกินอธิบาย เพราะกว่าจะมีวันนี้ พวกเขาผ่านทั้งทุกข์และสุขด้วยกันมามาก

ซึ้งกันได้ไม่นานเจ้าบ่าวของหทัยก็ผ่านประตูมาถึงด่านสุดท้าย...คือด่านพี่ชายอย่างกมลนั่นเอง

“คุณไอครับ” ณภัทรว่า “ผมขอดูแลน้องสาวของคุณไอได้ไหมครับ”

“ฝากคุณภัทรด้วยนะครับ ถ้าทำน้องผมเสียใจ ผมจะมาของน้องผมคืนนะ”

“ผมไม่มีวันทำอ้ายเสียใจแน่นอนครับ เด็กๆ เองก็เหมือนกัน”

“ขอบคุณครับ”

กมลยิ้มให้คำมั่นสัญญาของชายหนุ่ม ก่อนจะวางมือน้องสาวของเขาบนมือณภัทร ชอยหนุ่มอดรู้สึกใจหายไม่ได้ที่ต้องปล่อยน้องไปให้คนอื่นดูแลอีกครั้ง

ชายหนุ่มมองทั้งสองคนค่อยๆ ประคองกันออกไปจากห้อง และเชื่อว่า...ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ ต้องเป็นเรื่องดีทั้งหมด รักครั้งนี้ของหทัยจะไม่เหมือนครั้งก่อน เขาเชื่อใจณภัทร ที่สำคัญที่สุดคือ...

กมลเชื่อในการตัดสินใจของหทัย

“ไอ”

เสียงของคนที่ไม่คิดว่าจะอยู่ตรงนี้ ฉุดเขาให้หลุดจากภวังค์

“คุณเล็ก!? มาตอนไหนครับเนี่ย”

ก่อนหน้านี้กมลไม่ทันสังเกตว่าณธิปอยู่ตรงนี้ด้วย อันที่จริงขบวนขันหมากของเจ้าบ่าวตามหลายคน แต่กมลมัวแต่สนใจแค่ณภัทรกับน้องสาวของเขาเท่านั้น

“อะไรกัน ไม่เห็นผมหรือ ผมก็อยู่หลังพี่ภัทรไงเมื่อกี้”

“ไม่ทันมองครับ”

“ใจร้ายจริง มองผู้ชายอื่นต่อหน้าแฟนตัวเองได้ไง”

“คุณเล็ก...” กมลปรามอย่างอ่อนใจ ทว่าณธิปไม่สนใจ เพราะเขาเพิ่งสังเกตเห็นว่านัยน์ตาคู่สวยคล้ายมีน้ำตาคลอหน่วย

“นั่นคุณร้องไห้หรือ”

“เปล่าครับ” กมลเบี่ยงหน้าหลบ ก่อนแอบปาดน้ำตาที่รื้นขึ้นมาเร็วๆ

“แต่ผมเห็น” ณธิปกำลังจะเช็ดน้ำตาให้ก่อนอยู่แล้ว หากไม่ติดว่ามือสองข้างของเขาไม่ว่างจับจูงหลานชายฝาแฝดของกมลอยู่

“ลุงไอร้องไห้หรือครับอาเล็ก” น้องหยางถาม สีหน้าเหยเก

“ลุงไอร้องไห้ทำไม ใครรังแกลุงไอครับ” น้องหยินก็ถามด้วยอีกคน แต่น้ำเสียงออกจะเอาเรื่องสักหน่อย เพราะไม่กลัวว่าใครจะมารังแกลุงไอคนดีของตนเอง

“เปล่าครับเด็กๆ” กมลรีบหันกลับมาเมื่อจัดการตัวเองเรียบร้อย จากนั้นจึงนั่งย่อตัวลงในระดับสายตาของเด็กชายทั้งสองคน “ลุงไม่ได้ร้องครับ อาเล็กคงดูผิดไป”

“ผมไม่ได้--- “

“คุณเล็ก”

กมลรีบตัดบท พร้อมกับทำตาขยิบๆ ให้รู้กันว่าไม่ควรพูดเรื่องนี้ต่อหน้าเด็กๆ

“อ่า...สงสัยอาเล็กคงดูผิดไปจริงๆ ครับน้องหยิน น้องหยาง”

“ใช่ครับๆ ดูผิดไป” กมลสมทบอีกแรง

“งั้นเราไปหาแม่อ้ายกันครับ หยินมารับลุงไอ”

“หยางด้วย”

“เด็กๆ ไม่ยอมอยู่กับพี่เลี้ยง ไม่เอาใครเลย เขาร้องจะหาแต่คุณกับคุณอ้าย ผมก็เลยพามา”

เด็กสองคนตื่นคนมาก เห็นคนโห่ในขบวนขันหมากก็ทิ้งพานแหวนแล้วร้องจ้าจะหาแม่ท่าเดียว ณธิปจึงคว้ามือไว้และพูดปลอบ แต่เพราะรู้ว่าหทัยต้องทำพิธีอีกมาก เขาจึงพาทั้งสองมาหากมลแทน

“ให้อยู่กับผมก็ได้ครับ เพราะหลังจากนี้ผมเซ็ตพิธีการกับพนักงานคนอื่นไว้หมดแล้ว ยังไงก็ต้องไปนั่งเป็นผู้ใหญ่ฝั่งอ้ายด้วย”

“งั้นเราก็ออกไปกันเลยดีไหม เดี๋ยวนักข่าวถ่ายรูปเสร็จคงเริ่มพิธีกันแล้ว”

“ได้ครับ” กมลพยักหน้ารับ เพราะรู้ลำดับพิธีเป็นอย่างดี “ไปครับเด็กๆ ไปอยู่เป็นเพื่อนแม่อ้ายกันนะ แต่สัญญากับลุงก่อนว่าพวกเราต้องไม่งอแง เพราะวันนี้เป็นวันสำคัญของแม่อ้าย อย่าทำให้แม่อ้ายเป็นห่วง เข้าใจไหมครับ”

“เข้าใจครับลุงไอ” แฝดคนพี่ตอบก่อน จากนั้นจึงตามมาด้วยแฝดคนน้อง

“หยางก็เข้าใจครับครับ”

“ดีมาก เดี๋ยวจบจากงานนี้ลุงจะมีรางวัลให้เด็กดีนะครับ”

“เย้ๆ หยางอยากได้รางวัล หยางจะเป็นเด็กดี”

“แล้วน้องหยินล่ะ”

“หยินก็จะเป็นเด็กดีครับ”

“ดีมาก งั้นเราไปกันเถอะ” กมลเอ่ยกับหลานๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูงเพื่อพูดกับณธิป “ไปกันครับคุณเล็ก”

“อืม” ณธิปพยักหน้ายิ้มๆ “เดี๋ยวผมคอยช่วยดูแลเด็กๆ ด้วยอีกแรงนะ”

“ขอบคุณครับ”

กลายเป็นว่าน้องหยางจูงมือกมล ส่วนน้องหยินก็จับมือณธิปไว้ไม่ปล่อย แล้วพวกเขาจึงตามคู่บ่าวสาวเข้าไปในงาน ไม่นานหลังจากนั้นพิธีต่างๆ ก็เริ่มขึ้น





















งานวิวาห์ทายาทคนโตของเครือเอ็นพีกรุ๊ปถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ โดยในช่วงเช้าเป็นพิธีสงฆ์ ส่วนตอนค่ำเป็นงานเลี้ยงรับรองแขกเรื่อ กมลรู้อยู่แล้วว่าวันงานจะมีแขกมาแสดงความยินดีมากหน้าหลายตา ทั้งยังมีนักข่าวที่สนใจทำข่าวของนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงด้วย เขาจึงวางแผน เตรียมความพร้อมของงานและจำนวนคนไว้อย่างดีตั้งแต่หลายเดือนก่อน เพื่อให้เกิดข้อผิดพลาดน้อยที่สุด เหมือนรวมเอาประสบการณ์ทั้งหมดที่เคยมีทั้งชีวิตมาทุ่มที่งานนี้

งานแต่งงานที่เกิดขึ้นจึงผ่านไปด้วยดี ไม่มีข้อบกพร่องแม้แต่นิดเดียว ทุกฝ่ายตั้งแต่ฝั่งกมล รวมไปถึงฝ่ายพ่อแม่ของเจ้าบ่าวพอใจเป็นอย่างมาก ตอนที่ส่งตัวบ่าวสาวเข้าหอแล้ว คุณหญิงประภัสสรถึงกับชื่นชมและขอบคุณเขาไม่ขาดปาก

“ขอบใจมากนะคะคุณไอ ถ้าไม่ได้คุณไอ ฉันคงปวดหัวมากกว่านี้ไม่รู้กี่เท่า” เธอจับมือชายหนุ่มและเอ่ยขอบคุณด้วยความตื้นตันใจ

“ไม่เป็นไรครับคุณหญิง ผมยินดีช่วยเต็มที่อยู่แล้ว เพราะยังไงอ้ายก็เป็นน้องสาวคนเดียวของผม” กมลตอบตามความจริง งานนี้เขาตั้งใจกับมันมากๆ เพราะไม่อยากให้น้องขายหน้าใคร

“ถึงอย่างนั้นก็เถอะค่ะ ยังไงฉันก็ต้องขอบคุณ”

“อย่าขอบคุณเลยครับ ต่อไปทางผมต่างหากที่ต้องรบกวน” กมลเอ่ย “ยังไงผมฝากยายอ้ายกับเด็กๆ ด้วยนะครับ”

หลังจากนี้หทัยและลูกๆ จะย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านใหญ่ของครอบครัวโชติตระกูล ดังนั้นนอกจากณภัทรแล้ว คนที่กมลต้องฝากฝังน้องสาวและหลานๆ ของเขาก็คือนายหญิงของบ้านอย่างประภัสสร

“ไม่ต้องห่วงค่ะคุณไอ ฉันจะดูแลหนูอ้ายเป็นอย่างดี โดยเฉพาะเด็กๆ ยิ่งไม่ต้องห่วง แม้ไม่ใช่หลานแท้ๆ แต่ดิฉันก็จะรักและอบรมแกให้เหมือนลูกหลานคนหนึ่ง เพราะเราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว คุณไอวางใจได้เลยนะคะ”

นอกจากคุณหญิงประภัสสรแล้ว นายอนันต์ พ่อของณภัทรก็ยังสัญญากับกมลด้วยอีกคน

“ต่อไปไม่ต้องห่วงอะไรอีก พวกเราจะดูแลพวกเขาให้เหมือนคนในครอบครัวคนหนึ่ง ขอสัญญาด้วยเกียรติของผม”

“ขอบคุณครับคุณอนันต์” กมลยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองด้วยความเคารพ ก่อนจะหันมองเด็กๆ ที่เหนื่อยมาทั้งวันจนหลับพับอยู่บนโซฟาในอีกห้องหนึ่งของโรงแรม

ณธิปที่ยืนคุมเชิงอยู่ด้านหลังคนหน้าสวยเงียบๆ ไม่ออกความเห็นใดๆ ที่พ่อและแม่คุยกับคนรักของเขา มาเวลานี้ เมื่อเห็นว่าสมควรแก่เวลา เขาจึงเอ่ยขึ้นมาก่อน

“คุณพ่อคุณแม่ครับ ผมขอไปส่งคุณไอกับหลานๆ ที่บ้านนะครับ เด็กๆ คงเหนื่อยมากแล้ว พวกแกจะได้นอนพักผ่อนดีๆ”

อนันต์ดูแปลกใจเล็กน้อยที่ณธิปออกตัวก่อนกมล แต่คนเป็นพ่อพอรู้เรื่องของสัมพันธ์ของลูกชายตัวดีกับหนุ่มหน้าสวยคนนี้อยู่บ้าง เขาจึงไม่ขวาง

“เอาสิ ขับรถดีๆ ด้วยล่ะ”

“ครับ” ชายหนุ่มรับคำ แต่คุณหญิงประภัสสรกลับท้วง

“จริงๆ แม่ว่าน่าจะนอนที่นี่กันให้หมดนะ ยังไงเด็กๆ ก็หลับแล้ว คุณไอเองก็เหนื่อยมาทั้งวัน จะเดินทางไปมาให้ลำบากทำไม”

“จริงๆ พรุ่งนี้เด็กๆ มีไปทัศนศึกษานอกสถานที่ครับ ผมเองก็มัวแต่ยุ่งเรื่องงาน ไม่ได้เตรียมอะไรไว้เพื่อที่จะมาค้างด้วย ถ้ากลับไปนอนที่บ้านคงสะดวกกว่า”

จริงๆ ถ้าเป็นวันเรียนตามปรกติ กมลคงให้เด็กๆ นอนที่นี่และอาจหยุดเรียนพรุ่งนี้อีกสักวัน แต่เพราะต้องไปเที่ยวนอกสถานที่กับเพื่อนๆ และหลานของเขาก็ตั้งตารอมานาน เขาจึงไม่อยากให้หลานผิดหวัง

“งั้นก็ตามที่คุณไอเห็นสะดวกค่ะ แต่หลังจากนี้คงเริ่มย้ายของกันเลยใช่ไหมคะ”

“ครับ พรุ่งนี้อ้ายเขาจะไปคุมคนงานย้ายของมาที่บ้านนี้ด้วยตัวเอง คาดว่าวันสองวันน่าจะเรียบร้อย”

“ดีเลยค่ะ ต่อไปเด็กๆ จะได้มาอยู่ที่นี่ บ้านเราจะได้ไหมเหงา ใช่ไหมคะคุณ” ประโยคหลังประภัสสรหันไปถามอนันต์ และเธอก็ได้รอยยิ้มบางๆ ของสามีแทนคำตอบ

“ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวลาก่อนนะครับ”

“เดินทางปลอดภัยค่ะ แล้วพบกันเร็วๆ นี้นะคะ”

“ครับ”

กมลยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งคู่อีกรอบ ก่อนเดินไปหาณธิปที่อุ้มน้องหยางคอยท่าอยู่ก่อนแล้ว กมลจึงเป็นฝ่ายอุ้มน้องหยินขึ้นมา ก่อนจะเดินตามกันไปที่รถซึ่งมีคนคอยเปิดประตูรออยู่

ประภัสสรมองลูกชายคนเล็กที่ทำตัวดีผิดจากแต่ก่อนแล้วยิ้มออกมาบางๆ ก่อนจะเอ่ยกับสามีเบาๆ เมื่อพวกเขาขับรถออกไปแล้ว

“นี่สงสัยเราจะได้สะใภ้ใหญ่สะใภ้เล็กเป็นคนบ้านนี้หมดเสียแล้วละมั้งคะ คุณว่างั้นไหม”

“ถ้าได้ก็ดีสิ ไอ้ตัวดีของคุณมันจะได้เป็นโล้เป็นพายกับเขาเสียที ไม่ใช่สามวันดี สี่วันจะเบื่อเสียนะ”

“นั่นสิคะ ฉันก็กลัวใจลูกเราจริงๆ นี่เท่าที่สืบมา คุณไอเขาเป็นคนดีมากเลยนะ ไม่รู้ตาเล็กจะอยู่กับเขาได้นานหรือเปล่า”

“ก็ต้องดูกันต่อไป แค่ทุกวันนี้มันทำตัวดีขึ้น เท่านี้ก็ถือเป็นพัฒนาการก้าวกระโดดแล้ว” ”

“เอ...” ประภัสสรหันมองหน้าสามี ก่อนจะถามเสียงค่อย “คุณไม่ว่าอะไรหรอกหรือคะ ถ้าตาเล็กจะมีแฟนเป็นผู้ชาย”

“แล้วผมจะไปว่าอะไรมันได้” อนันต์ตอบกลับทันควัน ก่อนจะถอนใจอย่างเหนื่อยอ่อน แล้วว่าต่อ “ขอแค่มันทำตัวดีอย่างนี้ไปเรื่อยๆ จะเป็นใครก็ดีทั้งนั้นแหละ ผมไม่กลัวว่ามันจะทิ้งเขาหรอก ดูท่าเขาจะเป็นฝ่ายทิ้งลูกเรามากกว่า คนดีๆ แบบนั้นจะทนตาเล็กได้นานแค่ไหนก็ไม่รู้”

“โธ่...คุณก็ ให้โอกาสลูกหน่อยสิคะ ว่าแกซะไม่มีดีทีเดียว”

“แล้วมันจริงไหมล่ะคุณหญิง อย่าให้ท้ายลูกให้มากนัก แค่นี้มันก็แทบไม่เห็นหัวใครอยู่แล้ว”

“โอเคค่ะๆ เอาเป็นว่าฉันไม่พูดเรื่องนี้แล้ว ถ้าคุณไม่คิดห้ามเรื่องความรักครั้งนี้ของลูก ฉันก็จะไม่พูดเหมือนกันค่ะ แต่ก็แอบเสียดายนิดๆ นะคะ ถ้าเกิดเขาตกล่องปล่องชิ้นกับคุณไอจริงๆ ฉันคงอดอุ้มหลาน”

“อุ้มลูกตาภัทรแทนสิ ตอนนี้มีสองแล้ว อีกหน่อยคงมีเรื่อยๆ”

“นั่นสินะคะ นี่คงต้องบอกให้คนเตรียมห้องให้เด็กๆ แล้วล่ะ พวกแกน่าเอ็นดูมากนะคะ พูดเจื้อยแจ้ว บอกอะไรก็ฟัง เหมือนตาภัทรกับตาเล็กตอนเล็กๆ ไม่มีผิด”

ประภัสสรชวนสามีคุยไปเรื่อยระหว่างเดินขึ้นไปพักผ่อน ส่วนอนันต์ก็ไม่ได้ขัดอะไร เพราะเขาเองก็รู้สึกว่าต่อไปข้างหน้า ครอบครัวที่ค่อยๆ เริ่มต้นขึ้นของลูกๆ คงจะทำให้บ้านสดใสและมีความสุขมากขึ้นอย่างแน่นอน





















ส่วนทางด้านของลูกชายคนเล็กที่เพิ่งถูกพูดถึง เวลานี้ก็กำลังง่วนกับการช่วยกมลพาหลานๆ อาบน้ำเข้านอน ณธิปไม่เคยรู้มาก่อนว่าเด็กๆ เวลาง่วงนั้นงอแงมากแค่ไหน เขาที่เป็นลูกคนเล็กและไม่ได้ใกล้ชิดกับพวกเด็กๆ จึงรู้สึกว่าตัวเองกำลังอยู่ผิดที่ผิดทางเอามากๆ

กว่าจะอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าให้สองแฝดและพาเข้านอนเรียบร้อย ณธิปก็แทบหืดขึ้นคอ เขานึกภาพไม่ออกเลยว่าถ้าสถานการณ์นี้มีกมลเพียงคนเดียว คนรักของเขาจะลำบากเพียงใด

“ผมไม่คิดว่าเด็กๆ จะงอแงขนาดนั้นเลยนะ เมื่อกลางวันพวกเขาน่ารักกันมาก” ณธิปว่าพลางวางแก้วน้ำที่ดื่มหมดแล้วลงบนเคาน์เตอร์ครัว

“ก็แบบนี้แหละครับ เด็กๆ ง่วงมาก วันนี้เหนื่อยมาทั้งวันด้วย ไม่ว่ากล่อมยังไงก็ไม่รับรู้ทั้งนั้น ทางที่ดีที่สุดคือรีบๆ จัดการอะไรๆ ให้เสร็จแล้วพาเข้านอนทันที”

“แล้วแบบนี้ตอนดึก พวกเขาจะตื่นกันไหม”

“คืนนี้คงไม่แล้วล่ะ เหนื่อยกันขนาดนี้คงหลับสนิทถึงเช้า แต่ถึงตื่นในห้องเขาก็มีกล้อง ผมจะรู้และเข้ามาหาได้ทันที”

“แบบนี้คุณไม่แย่หรือ จะได้นอนเต็มอิ่มได้ยังไง” ณธิปถามด้วยความเป็นห่วง

“ก็ทนเอาตามสภาพครับ”

“แย่เลย จริงๆ ผมว่าน่าจะหาพี่เลี้ยงสักคนสองคนช่วยกันดู”

“เลี้ยงเองน่ะดีที่สุด เพราะไม่มีใครรู้จักหลานเราเท่าเราหรอกครับ อีกอย่างเขาก็โตพอรู้เรื่องแล้วด้วย ถ้าไม่ง่วงหรือหิวมากๆ หยินกับหยางไม่ค่อยงอแงหรอก”

“ถ้าแบบนั้นก็ดีไป” ได้ยินเช่นนั้นณธิปก็รู้สึกเบาใจลงหน่อย เขาละสายตาจากมลแล้วมองเวลา บัดนี้ค่อนข้างดึกมากแล้ว แม้อยากอยู่ต่อแต่ก็คงต้องกลับ เพราะรู้ว่ากลมคงอยากพักผ่อนไม่ต่างจากหลานๆ “ผมกลับก่อนนะ ดึกแล้ว”

“กลับหรือครับ” กมลมุ่นคิ้วถาม “ผมคิดว่าคุณเล็กจะนอนนี่เสียอีก”

ครานี้เป็นฝ่ายณธิปที่ขมวดคิ้วบ้าง

“หืม? คุณจะให้ผมนอนนี่หรือ”

“ก็...ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่ครับ คราวที่แล้วคุณยังนอนที่คอนโดได้ แถมตอนนี้ดึกกว่าวันนั้นมาก ขับรถกลับไปกลับมาอันตรายนะ”

“...”

ณธิปยืนอึ้งอยู่ที่เก่า ด้วยไม่คิดว่าบทอะไรมันจะง่าย มันก็ง่ายแบบนี้ ทั้งที่ก่อนหน้าเขาต้องคิดหาสารพัดวิธีมาหลอกล่อ กว่ากมลจะใจอ่อนยอมให้ใกล้ชิดสักทีนั้นไม่ง่ายเลย พอคราวนี้อีกฝ่ายกลับมาชวนเสียเอง ดูสิว่ามันน่าเหลือเชื่อขนาดไหน

“คุณเล็กครับ”

“ครับ?”

“ตกลงว่าไงครับ คุณจะค้างไหม” พอเห็นว่าณธิปไม่โต้ตอบเสียที กมลจึงเผลอคิดไปว่าอีกฝ่ายอาจไม่สะดวกก็ได้ “ถ้าคุณไม่สะดวก หรือพรุ่งนี้ต้องไปทำงานเช้า คุณจะกลับบ้านก็ได้--- “

“ไม่ครับ!” ยังไม่ทันพูดจบณธิปก็รีบแทรก ด้วยกลัวกมลเปลี่ยนใจ “ผมจะค้างกับคุณ”

พอได้ยินชัดถ้อยชัดคำ กมลจึงไม่ว่าอะไรอีก แต่เลือกที่จะเดินนำออกจากครัวขึ้นไปยังห้องของตัวเองที่อยู่ชั้นสอง

“ถ้าอย่างนั้นก็ค้างที่นี่นะ เดี๋ยวผมไปอาบน้ำก่อน”

“ไม่ได้ครับ!” ณธิปเผลอเสียงดังอีกรอบ เพราะต้องการที่จะหยุดกมลมากเกินไป

“หืม?”

“ผมขออาบก่อน รู้สึกเหนียวตัวมากเลย”

กมลนิ่งไปนิดเมื่อได้ยินคำอธิบายด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง คนหน้าหวานถอนหายใจออกมานิดๆ ก่อนจะเอ่ย

“งั้นก็ได้ครับ คุณอาบก่อน เดี๋ยวผมจะหาชุดนอนให้ใส่”

“ตกลงครับ” ณธิปรับคำด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้น ก่อนจะวิ่งขึ้นบันไดตามหลังกมลไป

ชายหนุ่มมองแผ่นหลังของคนตรงหน้าแล้วลอบยิ้มออกมาบางๆ พลางคิดในใจว่า...

ครั้งนี้ผมจะไม่ให้คุณหลับก่อนผมอีกแล้ว













<><><><><><><><><><>











กลับมาต่อแล้วค่า

ตอนหน้าคุณเล็กจะปล่อยนกออกจากกรงแล้ว

ไม่เลี้ยงแล้วค่ะนกเนิกเนี่ย!!

คราวหน้าลูกชายแม่ต้องได้สมหวัง

555555555555



แล้วเจอกันค่ะ



ปล. อาจมีคำผิดบ้าง แล้วจะมาอีดิทนะคะ



ละอองฝน.

หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 49 [23/03/09/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 23-03-2019 01:50:03
มีสองห้องน้ำก็แป้วเลยนะ
จะเป็นคนนกอีกรอบมั้ย 55555555555555555
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 49 [23/03/09/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 23-03-2019 01:57:45
 :pig4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 49 [23/03/09/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 23-03-2019 07:13:27
เขาจะนอนด้วยกันแล้วอ่ะแก๊ร

แบบนี้เขา มีผีผ้าห่มใหม
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 49 [23/03/09/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 23-03-2019 08:27:36
ตลกคุณเล็ก อะไรจะขนาดนั้น
พอมีรักแล้วทำได้ทุกอย่างจ้า
พาหลานเข้านอน ดูแลหลานได้
หยินหยางก็อยู่ด้วยไหวอยู่ รอดอยู่นะคุณเล็ก

ไอน่ารักมากค่ะ ความรักของพี่น้อง
ทำจากใจ ให้เต็มที่ เดี๋ยวเค้าย้ายออกกันไป
ไอเหงาแย่เลยนะ หรือว่าจะให้คุณเล็กมาอยู่ด้วยคะ

คุณเล็ก รอบก่อนพลาด ไม่ใช่รอบนี้ไอเหนื่อยมาก
หนีไปอาบน้ำนอนอีกห้องแล้วนะ
ไม่งั้นก็ไม่อาบ แต่ชิงหลับก่อน  5555
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 49 [23/03/09/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 23-03-2019 09:09:36
 :-[ ว๊ายยยย
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 49 [23/03/09/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 23-03-2019 09:35:26
ถ้าครั้งนี้นกอีกนะคุณเล็ก จะหัวเราะแรงๆเลย :laugh:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 49 [23/03/09/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 23-03-2019 09:36:27
จะไม่เลี้ยงนกแล้วใช่ไหมค่ะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 49 [23/03/09/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 23-03-2019 10:35:15
 :hao3: หวานมากๆๆๆๆ ชอบๆๆๆ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 49 [23/03/09/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 23-03-2019 14:32:39
ให้คุณเล็กสมหวังซักทีเถอะ 5555
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 49 [23/03/09/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 23-03-2019 15:07:24
ช่วยลุ้นคุณเล็ก...ไม่นก ไม่นก  :call:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 49 [23/03/09/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 23-03-2019 15:12:47
 :hao6: :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 49 [23/03/09/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 23-03-2019 22:57:31
คุณเล็กจะนกไหมเนี่ย
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 49 [23/03/09/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: Mengjie_JJ ที่ 28-03-2019 00:34:59
เราจะเชื่อคนเขียนว่าคุณเล็กจะไม่นก

 :katai1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 49 [23/03/09/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: i.am.wee ที่ 04-04-2019 06:06:30
รอลุ้นกันต่อไป
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 49 [23/03/09/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: bradpitt ที่ 04-04-2019 09:29:29


 :mew4:  คืนนี้ ช่างยาวนานเหลือเกินนนนนนน


 คิดถึง คุณเล็ก กับ คุณ ไอ แล้วนะ :mew1:

หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 49 [23/03/09/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥ believeinme ที่ 04-04-2019 21:07:48
เพิ่งได้มาอ่าน ละมุนมากๆเลยค่ะ
ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆนะคะ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 49 [23/03/09/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 08-04-2019 20:44:53
 :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 49 [23/03/09/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: khwanruen ที่ 12-04-2019 00:55:21
คุณเล็กมีแผนการตลอด  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 49 [23/03/09/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: Honeyhoney ที่ 06-05-2019 02:29:28
 :-[ จะเป็นยังไงต่อไปปป ลุ้นเลยยยย ชอบเรื่องนี้มาก ๆ เป็นกำลังใจให้ไรท์นะคะ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 49 [23/03/09/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: aisen ที่ 06-05-2019 09:53:47
รอตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 49 [23/03/09/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: Mengjie_JJ ที่ 13-05-2019 22:55:35
มาเม้นรอค่ะ

 :hao3:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 50 [26/05/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: ละอองฝน ที่ 26-05-2019 01:50:10






คุณคือความรัก บทที่ 50







“อ้าว! อาบเสร็จแล้วหรือครับ”

“อืม”

“เร็วจัง”


เมื่อโผล่หน้าออกมาจากห้องน้ำ เสียงเจ้าของห้องก็ดังขึ้นจากทางตู้เสื้อผ้ามุมห้อง กมลโผล่หน้ามองเขาเล็กน้อย ก่อนหันกลับไปรื้อตู้เสื้อผ้าต่อ

“นั่นคุณทำอะไร” ณธิปถามพลางเดินเข้าไปใกล้

“ผมกำลังหาชุดนอนให้คุณอยู่ รอเดี๋ยวนะครับ”

“อืม” ชายหนุ่มตอบรับเบาๆ จากนั้นจึงยืนรออย่างสงบตามคำสั่ง

หาของไม่นานกมลก็ได้เสื้อผ้าชุดที่ต้องการมาไว้ในมือ มันคือชุดนอนแขนยาวขายาวเนื้อผ้าเรียบลื่นที่น้องสาวเคยซื้อให้เขานานแล้วแต่ไม่มีโอกาสใส่ กับกางเกงในตัวใหม่ โชคดีที่เขาซื้อสำรองเอาไว้บ้าง ไม่อย่างนั้นก็ไม่รู้จะแก้ปัญหานี้อย่างไร เพราะณธิปไม่ได้เตรียมเสื้อผ้ามาด้วย

“นี่ครับ”

กมลหันกลับมายื่นให้ แต่ไม่ทันเห็นอีกฝ่ายจะยืนคอยอยู่ใกล้เขาขนาดนี้ โชคดีที่ถอยหลังทัน ไม่อย่างนั้นหน้าคงกระแทกกับแผ่นอกเปลือยเปล่าของณธิปไปแล้ว

“นี่ชุดของคุณหรือ”

กมลละสายตาจากหยดน้ำบนอกของคนรัก แล้วตอบ

“ใช่ แต่ผมไม่เคยใส่หรอกนะ วางใจได้”

“งั้นหรือ...น่าเสียดายจัง”

“หืม?”

เห็นกมลทำคิ้วขมวดคล้ายสงสัยในคำพูดเขา ณธิปถึงออกปากไล่ให้เจ้าตัวไปอาบน้ำบ้าง

“ไม่มีอะไรหรอกครับ คุณไปอาบน้ำนะ ดึกแล้ว”

“ครับ”

กมลพยักหน้ารับเบาๆ เพราะเห็นว่าดึกแล้วอย่างที่อีกฝ่ายพูด เขาจึงหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วหายลับเข้าห้องน้ำไป

จากนั้นณธิปก็สวมเสื้อผ้า ขึ้นไปรอบนเตียงและคิดอะไรเงียบๆ เพียงลำพัง

ในทีแรกเขาตั้งใจว่าอย่างไรคืนนี้ก็คงต้องกอดกมลให้สมกับทีรอคอยมานาน ด้วยโอกาสดีมาถึงแล้ว แต่เพราะระยะเวลาที่กมลหายเข้าห้องน้ำไปนั้นนานพอที่จะทำให้คนรอได้คิดอะไรมากขึ้น ไตร่ตรองดูชั่วครู่ อยู่ๆ ณธิปก็เกิดอยากเปลี่ยนใจ

เหตุผลมีเพียงข้อเดียวคือ วันนี้กมลคนเหนื่อยมากแล้ว คนดีของเขาสมควรได้พักผ่อน ไม่ใช่ต้องมายอมรับความเอาแต่ใจของเขาอีก

แบบนี้สิถึงจะถูก...ณธิปคิดพลางถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง

เดิมทีณธิปไม่เคยคิดถึงใคร เขามักทำตามใจตัวเองเสมอ แต่วันนี้เขากลับคิดเพื่อคนคนหนึ่ง เพียงเพราะกลัวว่าคนคนนั้นจะเหน็ดเหนื่อนเกินไป

ชายหนุ่มมองเพดานเงียบๆ ริมฝีปากผุดยิ้มออกมาเล็กน้อย นึกขันที่ตัวเองเป็นไปได้ถึงขนาดนี้  เปลี่ยนไปเป็นคนที่ไม่คล้ายกับเมื่อก่อนเลย

ทว่าคิดแล้วคิดอีก ณธิปก็ไม่รู้สึกเลยว่าการเปลี่ยนแปลงของความคิดเช่นนี้นั้นแย่ที่ตรงไหน เขาแค่นึกเข้าข้างตัวเองเล็กๆ ว่า หากกมลได้ล่วงรู้ว่าเขาทะนุถนอมเจ้าตัวเท่าใด กมลก็คงจะรักเขามากขึ้นเท่านั้น

มัวแต่คิดอะไรไปเรื่อยอยู่พักใหญ่ คิดไปจนลืมเวลา ละสายตาจากเพดานห้องอีกที คนที่เขาเฝ้ารอก็ออกมาพร้อมกับชุดคลุมอาบน้ำแล้ว

"คุณเล็ก...”

“หืม?” ณธิปใช้ศอกดันตัวขึ้นมามอง

“แค่ลองเรียกดู คิดว่าคุณหลับแล้วเสียอีก” กมลว่าพลางใช้ผ้าขนหนูเช็ดผมเปียกๆ ของตัวเอง

“เกือบจะหลับอยู่แล้ว แต่อยากรอให้คุณออกมาก่อน”

“ง่วงก็นอนสิครับ รอผมทำไม”

“ต้องรอสิ” คนพูดผุดลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะยื่นมือออกไปหากมล

“อะไรครับ”

“มานั่งนี่สิครับ ผมจะเช็ดผมให้”

กมลมองมือที่ยื่นมาหาตนเองครู่หนึ่ง ก่อนจะวางมือลงไป และเดินเข้าไปหาณธิปตามแรงดึง

ณธิปจัดให้เขานั่งหันหลังอยู่ระหว่างขา แล้วจึงแย่งผ้าไปซับผมให้กมลแทน เป็นท่าทางที่คล้ายถูกโอบไว้ในอ้อมกอดก็ไม่ปาน

   น้ำหนักมือที่ขยี้สลับกับนวดหนังศีรษะทำเอาคนถูกเอาใจหลับตาพริ้ม ไม่นานก็เผลอเอนหลังพิงอกคนข้างหลังอย่างผ่อนคลาย

   ณธิปยิ้มบางและเช็ดต่ออีกนิด จากนั้นจึงเปลี่ยนเป็นรวบคนข้างหน้ามากอดไว้ทั้งตัว แล้วค่อยๆ ก้มลงแตะริมฝีปากกับท้ายทอย

   ครั้นผิวเย็นๆ เพราะเพิ่งอาบน้ำมาใหม่ๆ ถูกสัมผัสนุ่มอุ่นประทับ ก็ชวนให้คนในอ้อมกอดยิ่งตัวอ่อนมากกว่าเก่า หากคราวนี้กมลกลับไม่ดิ้นหนีเหมือนเคย แต่นั่งนิ่งปล่อยให้คนด้านหลังกระตุกสายรัดเอวจนสาบชุดคลุมอาบน้ำด้านหนึ่งเลื่อนลง เผยให้เห็นไหล่ขาว

   เพียงแค่มองจากด้านหลัง ณธิปก็ถึงกับตาพร่า อดใจสั่นไม่ได้ ถึงอย่างนั้นชายหนุ่มก็ยังพอมีสติกับปฏิกิริยาผิดปรกติของคนในอ้อมกอด

   “...ไอ”

   “ครับ”

   “ทำไมนั่งเงียบเชียวครับ”

   “แล้วคุณจะให้ผมพูดอะไร”

   “ไม่รู้สิครับ” ณธิปเองก็ไม่รู้จะพูดอย่างไร แต่ปฏิกิริยานี้ค่อนข้างผิดจากที่เขาคิดไว้มากทีเดียว “ผมคิดว่าคุณจะห้าม แต่นี่...”

   ...กมลปล่อยให้เขาทำแม้กระทั่งกระตุกสายชุดคลุม

   “คุณ...อยากให้ผมห้ามหรือ” กมลถามกลับ ทว่ากระแสเสียงกลับสั่นนิดๆ

   “ไม่อยาก” ณธิปตอบตามตรง

   “ในเมื่อไม่อยากให้ผมห้าม คุณยังคิดจะให้ผมพูดอะไรอีกล่ะ”

   แม้คนพูดไม่หันมาสบตา แต่ณธิปก็สังเกตเห็นใบหูแดงก่ำของเจ้าตัวได้ชัดเจน

   จากบรรยากาศสบายๆ ในทีแรก เวลานี้กลับถูกแทนที่ด้วยความขวยเขินที่ต่างฝ่ายต่างสัมผัสได้ กระนั้น หากณธิปไม่ได้โง่จนเกินไป เขาก็พอตีความคำพูดและการกระทำของกมลได้

   กมลกำลังอนุญาตให้เขาทำตามใจ...โดยที่ไม่เอื้อนเอ่ยออกมาตรงๆ

   ชายหนุ่มจึงค่อยๆ แนบริมฝีปากลงไปที่จุดเดิมกับเมื่อครู่อีกครั้ง ก่อนจะจูบไล้ลงมาที่ลาดไหล่ กลิ่นหอมสะอาดจากผิวกายให้ความรู้สึกสดชื่น ทว่าก็แฝงไปด้วยความหอมหวานติดจมูก คล้ายกับเป็นกลิ่นจำเพาะกายของกมลเพียงคนเดียว

   คนเอาแต่ใจวางคางบนไหล่เนียน ดวงตาเคลื่อนมองดูเสี้ยวหน้าด้านข้างของกมล สวนทางกับมือซึ่งเดิมเคยโอบกอดค่อยๆ หายเข้าไปในสาบเสื้อช้าๆ ครั้นมันไปสะดุดเข้าไปจุดเล็กๆ ด้านใน ผิวที่แก้มของหนุ่มหน้าสวยจึงคล้ายถูกระบายด้วยสีแดงเรื่อ

   ถึงตอนนี้ กมลก็ยังคงไม่ร้องห้าม ดังนั้นณธิปจึงมั่นใจแล้วว่าคนรักของเขาอนุญาตแล้วจริงๆ มืออีกข้างจึงค่อยๆ สืบไปเบื้องล่าง และหายเข้าไปแตะต้องสิ่งอ่อนไหวที่ไร้ซึ่งปราการขวางกั้น

   หากครานี้ ขณะที่เขาหยอกเย้าร่างกายใต้ชุดคลุมอาบน้ำ กมลจึงเริ่มขยับตัวอย่างอึดอัดบ้างแล้ว ยิ่งมือขยับและปลุกเร้าส่วนอ่อนไหวมากเท่าไร ริมฝีปากอิ่มเม้มเข้าหากันแน่นสนิทมาเท่านั้น

ร่างกายของกมลสั่นเป็นระยะตามการควบคุมของเขา เหงื่อเม็ดใสผุดพรายเต็มหน้าผากทั้งที่เพิ่งอาบน้ำ มือเร็วเกาะแขนของเขาไว้แน่นราวกับอยากระบายอารมณ์ แต่ไม่กล้าจิกเล็บลงไป ทั้งยังไม่กล้าส่งเสียงออกมาสักแอะ ถึงอย่างนั้นก็ยังพยายามควบคุมตัวเองอยู่ได้

ทว่าทันทีที่ณธิปเร่งความเร็วมากขึ้น มากขึ้น จนถึงจุดหนึ่ง ร่างในอ้อมแขนก็เกร็งแล้วสะท้านเฮือก

“อ๊ะ!”

หลังหลุดครางออกมาเสียงหนึ่ง ความต้องการอุ่นๆ ก็ค่อยๆ ทลายออกมารดมือณธิปจนเปียกชุ่ม กมลตัวอ่อน ทิ้งตัวลงกับอกของณธิปอีกครั้ง

ณธิปปล่อยมือข้างหนึ่งที่รังแกยอดอกมาบังคับจับคางให้กมลหันมารับจูบดูดดื่ม เรียวลิ้นร้ายกวาดต้อนเอาความหวานจนคนถูกจูบเกือบหมดลมหายใจ สมองมึนเบลอจนไม่ทันนึกถึงขั้นตอนต่อจากนี้ กระทั่งสัมผัสได้ถึงปลายนิ้วชุ่มของเหลวอุ่นที่ค่อยๆ สอดเข้าไปในจุดเร้นลับที่สุด กมลจึงเกร็งขึ้นมาอีกครั้ง

ณธิปเองก็รับรู้ได้ เขาจึงหลุดมือไม่เคลื่อนไหวชั่วขณะ แล้วกระซิบชิบใบหู

   “คุณไอ”

“หะ...หืม...?”

“คุณโอเคหรือเปล่า”

   “อื้ม”

   “จริงหรือ”

   “...” กมลไม่ส่งเสียง แต่พยักหน้าส่งๆ

“ไม่กลัวใช่ไหม”

   “...ไม่ครับ”

   “...” ณธิปเลิกคิ้วน้อยๆ ด้วยแปลกใจในคำตอบ

   เขามองสำรวจกมลอีกครั้ง พบว่าคนอวดเก่งตัวสั่นไม่หาย ทั้งหยังหลับตาปี๋

   ...แบบนี้เรียกไม่กลัวได้หรือ...

ชายหนุ่มคิดพลางหลุดยิ้ม นึกเอ็นดูหนุ่มวัยสามสิบกะรัตที่กำลังทั้งหวาดทั้งอายจนตัวแดงเป็นกุ้ง หากใครเห็นคงคิดว่ากมลกำลังถูกตัวร้ายอย่างเขารังแกแน่นอน

ถ้าเป็นเมื่อก่อน เขาคงคิดดึงดันทำให้สุดทางโดยไม่สนใจอะไร แต่ในเวลานี้ณธิปเปลี่ยนไปแล้ว

คนคนนี้คือคนที่ณธิปไม่อยากฝืนใจและทำให้เจ็บปวดแม้แต่น้อย

   “ไอครับ”

   “ครับ?”

   “นั่งรอตรงนี้เดี๋ยว” ชายหนุ่มว่าพลางขยับตัวลุกขึ้นให้กมลนั่งลงบนเตียงแล้วจัดสาบเสื้อให้

   “คุณ...จะไปไหนครับ” อีกฝ่ายถามพลางจ้องตาเขาเป็นครั้งแรก

   “ไปหาอะไรมาเช็ดตัวให้คุณ เราจะได้เข้านอนกัน”

   “เข้านอน?” กมลถามอย่างงงงัน

   “ครับ”

   “แล้วคุณไม่...เอ่อ...”

   “ไม่อะไรครับ”

   “...ไม่ทำแล้วหรือ”

   “ไม่แล้วครับ”

   “แต่คุณ...เป็นถึงขนาดนั้น” เจ้าตัวว่าพลางมองส่วนสำคัญที่ตื่นตัวและดันกางเกงนอนของเขาจนสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน

   “ไม่เป็นไรหรอก ไม่สนใจมัน เดี๋ยวมันก็สงบเอง” ณธิปเอ่ย พยายามข่มใจ “คุณรอตรงนี้ก่อน”

   ทว่ายังไม่ทันไปไหน ณธิปก็ถูกกมลรั้งไว้เสียก่อน

   “เดี๋ยวครับคุณเล็ก!” มือเรียวนั้นจับมือของเขาเอาไว้

   “มีอะไรครับ”

   “ที่คุณไม่ทำต่อเพราะเห็นว่าผมกลัวหรือ”

   “แล้วคุณกลัวไหม”

   “กลัว” กมลตอบตามตรง

   “นั่นไง ผมไม่อยากให้คุณรู้สึกไม่ดี---“

   ยังไม่ทันว่าจบ กมลก็เอ่ยแทรก

“ผมกลัวจริง แต่ผมต้องการคุณมากกว่า”

“...หา!?” คราวนี้เป็นณธิปบ้างแล้วที่ถูกทำให้งงงวย “ต้องการผม?”

“อื้ม” กมลพยักหน้า พร้อมกับอธิบายเสียยืดยาวราวกับไม่ใช่เรื่องของตัวเอง แต่ถึงอย่างนั้น ขณะที่เอ่ย แก้มสองข้างนั่นก็ยังแดงก่ำเหมือนเก่า “ผมรู้ว่าคุณต้องการอะไร และผมเองก็ต้องการไม่ต่างกัน ผมไม่ใช่เด็กๆ แล้วนะ เข้าใจเรื่องแบบนี้ดี มันเป็นเรื่องธรรมชาติไม่ใช่หรือครับ เพียงแต่ไม่เคยทำมาก่อน ก็เลย...เลยยังอายอยู่ แล้วก็อดกลัวนิดๆ ไม่ได้”

“...”

ณธิปคล้ายถูกตีหัวจนมึน แต่ก็เป็นความมึนที่พาให้หัวใจพองโตจนคับอก คำสารภาพของกมลเล่นเอาเขาตั้งตัวแทบไม่ติด

“แต่ถ้าคุณว่าไม่แล้ว...ผมก็---“

“ทำครับ!” ณธิปรีบกลับลำทันที

“...”

“ผมจะทำ” ชายหนุ่มยืนยันอีกครั้ง ท่าทางขึ่งขังเหมือนกับทหารที่กำลังจะกระโจนเข้าสู่สงครามอย่างไรอย่างนั้น “แล้วคราวนี้ ต่อให้คุณขอร้อง ผมก็คงหยุดไม่ได้แล้ว”

“งั้นก็ทำตามใจเถอะครับ” กมลยิ้มบางๆ และออกแรงดึงมือเขาเข้ามาหา

พวกเขาล้มลงบนเตียงด้วยกัน ชุดคลุมอาบน้ำที่เพิ่งสวมคืนถูกณธิปกระชากออกอย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มเริ่มจากจูบริมฝีปากที่บอกว่าต้องการเขาเมื่อครู่ ไล่ต้อนเสียจนกมลตัวอ่อน หากครั้งนี้อีกฝ่ายก็โต้กลับ ไม่ปล่อยให้เขาเดินเกมเพียงลำพังนานนัก

ครั้นมอบจุมพิตจนเกือบลืมหายใจ ณธิปก็ค่อยๆ ผละไปจูบไล้ ขบเม้น จากลำคอระหง ลากลงมาถึงแผ่นอก เขาสาละวนกับจุดสีเข้มพักหนึ่ง รังแกจนมันบวมเต่ง จนคนถูกกระทำแผ่นหลังไม่ติดเตียง ชายหนุ่มจึงค่อยๆ ไล่ริมฝีปากต่ำลง ตำลงเรื่อยๆ

ก่อนแตะต้องกับส่วนอ่อนไหวที่สุด

แรกเริ่มมันนิ่งสงบเพราะปลดปล่อยไปแล้วหนึ่งครั้ง ณธิปจึงจัดการปลุกมันขึ้นมา และรับมันเข้าไปในโพลงปากอย่างเต็มใจ

“คุณเล็ก...!!”

กมลรู้สึกวูบวาบในท้อง ความรู้สึกต้องการจากเบื้องลึกเพราะเทคนิคที่เจนสนามทำเอาเขาทนได้ไม่นานก็ปลดปล่อยออกมาอีกรอบ และเขาก็ดันณธิปออกไม่ทัน

“คุณ...อ๊า!”

   กมลตาพร่า เหมือนล่องลอยหลุดไปในดินแดนที่ไม่เคยรู้จัก กระนั้นก็ถูกกระชากกลับมาเพราะณธิปแตะต้องส่วนที่ปิดสนิทนั้นอีกครั้ง

   เขาถูกเบิกทางอีกครั้ง รู้สึกโชคดีที่ไหวตัวทันและพยายามทำความสะอาดตามวิธีในอินเตอร์เน็ตตั้งแต่ตอนที่อาบน้ำ และณธิปดูเหมือนจะรู้ว่าเขาเตรียมตัวมาบ้างแล้ว จึงเงยหน้ามองด้วยสายตาวิบวับอย่างที่ไม่เห็นมานาน

   “แฟนผมน่ารักที่สุด”

   กมลได้ยินอีกฝ่ายบอกแบบนั้น แต่ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป เพราะความรู้สึกทั้งหมดไปรวมอยู่ที่จุดเดียว

   เพียงแค่ไม่กี่นิ้วที่เข้าไป ก็ทำให้อึดอัดแทบแย่ เขาพยายามผ่อนคลายครั้งแล้วครั้งเล่า แต่พอเห็นส่วนนั้นของณธิปเต็มๆ ตา กมลก็รู้สึกกลัวขึ้นมาจริงๆ เสียแล้ว

   “ทำไมหน้าคุณซีด” ณธิปกลับขึ้นมาจูบที่แก้มเขา

   “ก็ของคุณมัน...” กมลกลืนน้ำลาย “มันจะเข้าไปได้ยังไง”

   “หึๆ”

ทั้งทีเขากลัวแทบตาย อีกฝ่ายกลับเริ่มหัวเราะ กมลเกือบรู้สึกเคืองแล้ว แต่กลับถูกจูบอีกครั้ง จูบจนเบลอไปหมด เมื่อรู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ณธิปพยายามพาตัวตนเข้ามาหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน

“คุณเล็ก...ผม...”

“เจ็บหรือ”

“อืม” กมลเหงื่อตก เพราะเจ็บจริงๆ แม้อีกฝ่ายจะเตรียมตัวให้เขาดีแค่ไหน

“ให้ผม...หยุดไหม”

 กมลลืมตามอง จ้องเข้าไปในดวงตาเรียวคู่นั้น

แม้ก่อนหน้านี้ณธิปจะบอกว่าหยุดไม่ได้อีกแล้ว แต่ดวงตาที่เปี่ยมไปด้วยความรักคู่นี้ไม่ได้โกหก หากเพียงเขาเอ่ยปากคำเดียว กมลเชื่อว่าณธิปต้องหยุดอย่างแน่นอน

เมื่อรู้ว่าถูกรักมากขนาดนี้ หัวใจก็พลันอุ่นวาบ

กมลยิ้มออกมาน้อยๆ และตอบแทนความรักของอีกฝ่ายด้วยการยกแขนโอบรั้งคออีกฝ่ายลงมาจูบ ก่อนผละออกมากระซิบ

“ค่อยๆ รักผมนะครับ...เล็ก”

ดวงตาเรียวเบิกว้างเล็กน้อย ก่อนมันจะโค้งเป็นรูปสระอิเพราะคนที่ก้มลงจูบกมลกำลังยิ้ม

ณธิปไม่ได้ตอบรับคำขอของกมล ไม่รู้ว่าเป็นเพราะค่อยๆ รักไม่ได้หรืออย่างไร แต่ระหว่างทาง ระหว่างความสุขแสนทรมานนั้น กมลก็พอรับรู้ได้ว่าณธิปพยายามเบามือกับเขามากที่สุดแล้ว

แม้ว่าในตอนสุดท้าย เขาจะถูกทำให้เสียวซ่านจนหลุดจากการควบคุม เผลอครวญครางออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ และหมดสติไปวูบหนึ่ง

   มารู้ตัวอีกทีตอนที่กำลังถูกจัดท่าให้นอนพิงอยู่บนอก และถูกมือหนาสางผมเบาๆ

“...คุณเล็ก”

“ครับ” เจ้าตัวก้มมองตากมล ริมฝีปากอมยิ้มนิดๆ

“ผมเผลอหลับหรือ”

“ผมยังกลัวคุณจะตื่นขึ้นมาด่าว่าถูกผมทรมานจนสลบ แต่พอคุณบอกว่าเผลอหลับ ผมค่อยสบายใจหน่อย” เจ้าตัวว่า แต่กมลรู้สึกว่าเสียงนั่นดังหึ่งๆ เหมือนผึ้งอย่างไรก็บอกไม่ถูก

“อ่อ...”

   “นอนเถอะครับ ตาจะปิดแล้ว”

   “พรุ่งนี้ปลุกผมด้วยนะ ต้องไปส่งหลาน”

   “รู้แล้วครับ นอนนะ”

   “อื้ม”

   ตอนที่หลับตา กมลรู้สึกว่าอีกฝ่ายจูบหน้าผากเขาซ้ำๆ สองสามครั้ง ก่อนเสียงทุ้มๆ ที่เอ่ยว่ารักจะดังแว่วเข้ามาส่งเขาเข้านอน

   





---------------------------------------------------------






มาต่อแล้วค่ะ
มีความคิดว่า คุณเล็กน้องร้อนแรง เพราะประสบการณ์โชกโชน
แต่ทุกอย่างดูซอฟต์เพราะคนคนนี้คือคุณไอ
นานมากว่าจะเขียนฉากนี้ได้ /นานจริงๆ ;-;
ด้วยฝนเขียน Nc ไม่เก่งอยู่แล้ว
และอยากให้มันไม่โจ่งแจ้งมากเกิน แต่ก็ไม่ตัดเข้าโคมมากเกินไป
ดังนั้นเลยออกมาแบบกลางๆ พอมีวับๆ แวมๆ
คิดว่าน่าจะคุมโทนไปกับเรื่องได้อยู่นะ 555555555
หวังว่าแม่ๆ คุณเล็กจะพอใจนะคะ
ในที่สุดลูกชายก็ได้สมใจแล้ว
แม่ๆ คุณไอก็คงพอใจ เพราะลูกชายไม่ถูกรังแกมากนัก /หรา 5555

ตอนนี้ใกล้จบจริงละค่ะ
อีก 3 ตอนสุดท้าย
เป็นกำลังใจให้ด้วยน้า

ปล.จะกลับมาอีดิทนะคะ

ละอองฝน.
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 50 [26/05/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 26-05-2019 02:27:30
คุณไอทำให้ทุกอย่างดูซอฟต์จริงๆ 5555555
แต่แบบคุณเล็กรักคุณไอม๊ากมาก  :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 50 [26/05/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 26-05-2019 02:36:24
คุณ​ไอ​ทำ​ไม ยอม​เร็วจังคะ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 50 [26/05/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 26-05-2019 03:10:32
 :haun4: :haun4: :haun4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 50 [26/05/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 26-05-2019 04:09:04
คุณเล็กนี่ดีอ่ะ อะไรๆก็คิดถึงคุณไอก่อนทั้งๆที่วางแผนจะกอดคุณไอมาดิบดีแท้ๆ โอยยย  :-[ :-[
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 50 [26/05/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: may27 ที่ 26-05-2019 05:53:21
 :mew1:  คุณเล็กกับไอ อาบน้ำนานนนนนนมาก55555  กว่าจะ....นึกว่าจะล่มซะแล้วค่ะ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 50 [26/05/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 26-05-2019 07:08:04
ได้จุดพลุแล้ว..ววววว  :mc3: :mc2: :mc3:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 50 [26/05/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 26-05-2019 10:55:46
 :oo1: ว๊ายยยยยยคุณไอ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 50 [26/05/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 26-05-2019 15:35:47
 :-[ :-[ :-[ ค่อยๆรักผมนะครับ  :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 50 [26/05/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: khwanruen ที่ 26-05-2019 16:40:27
ความรู้สึกเหมือนลูกได้ออกเรือน  :hao7:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 50 [26/05/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: aisen ที่ 26-05-2019 21:03:29
ขอบคุณค่ะ ตอนที่รอคอยของคุณเล็ก
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 50 [26/05/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 26-05-2019 22:10:05
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 50 [26/05/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 26-05-2019 22:29:08
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 50 [26/05/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 27-05-2019 00:29:32
ใครจะคิดว่าอย่างคุณเล็กจะถนอมคุณไอได้ขนาดนี้ อร๊ายยยยย
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 50 [26/05/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: Mengjie_JJ ที่ 27-05-2019 02:17:43
คุณเล็กรักคุณไอมากๆจริงๆ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 50 [26/05/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: angelninae ที่ 27-05-2019 20:36:16
ว้าววว  :o8: :pighaun: รอตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 50 [26/05/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 27-05-2019 21:01:24
คุณเล็กเปลี่ยนไปมากจริงๆ หวานมากก
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 50 [26/05/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 27-05-2019 23:55:53
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 50 [26/05/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: +pEnGuIn+ ที่ 28-05-2019 13:36:21
จุดพลุ คุณเล็กได้กินคุณไอแล้ว
ฮี่ๆๆๆๆ คุณไอน่ารักอ่าาา
อยู่ๆก็ยอมจนคุณเล็กตั้งตัวไม่ทันเลย
แอร้ยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 50 [26/05/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: jinojino ที่ 30-05-2019 09:40:53
 :o8:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 50 [26/05/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 06-06-2019 21:40:35
ใจบางไปหมดแล้วค่ะ คุณเล็กก็เกรงใจ คุณไอก็สมยอม

น่ารักดีค่ะ คนหนึ่งก็หลอน ไม่อยากทำให้รู้สึกไม่ดี
แต่ในความรู้สึกนั้น อีกคนกลับตอบรับ คุณเล็กได้ไปต่อจ้า

ในที่สุดไอก็ทำเพื่อตัวเองได้เต็มที่สักทีนะ เหมือนได้ปลดปล่อย
แต่ไม่ละทิ้ง และยังดูแลกันอยู่เนาะ คำว่าครอบครัว ไม่ห่างหาย

หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 51 [11/06/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: ละอองฝน ที่ 11-06-2019 20:54:00








คุณคือความรัก บทที่ 51









   ตอนที่กมลตื่นขึ้น เขาก็ไม่พบณธิปในห้องนอนของตัวเองแล้ว ชายหนุ่มรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย แต่เพราะยังสะลืมสะลืออยู่จึงคิดไปเองว่าคนรักอาจลุกไปเข้าห้องน้ำ ขณะที่ตั้งใจว่าจะนอนต่ออีกสักหน่อย สายตาก็ดันเหลือบไปเห็นแสงแดดลอดเข้าทางจากทางระเบียง เขาจึงหันมองไปนาฬิกาบนหัวเตียงที่ไม่ส่งเสียงปลุกเช่นทุกวัน และเมื่อเห็นว่าตอนนี้เป็นเวลากว่าเก้าโมงเช้า ความรู้สึกง่วงงุนก็หายวับไปในทันที


   ชายหนุ่มกระเด้งตัวลุกขึ้นจากที่นอนโดยพลัน ก่อนความรู้สึกขัดๆ และเจ็บหยอกที่บั้นเอวจะทำให้ต้องนิ่วหน้า กระนั้นเขาก็ไม่ยอมเสียเวลามากไปกว่านี้

   เขาพุ่งตัวไปหน้าห้องน้ำ ด้วยหวังว่าณธิปจะอยู่ในนั้น ทว่ามันกลับว่าเปล่า กมลจึงเปลี่ยนทิศทางไปยังห้องนอนของหลานชายแทน และที่นั่นเขาก็พอกับความว่างเปล่าเช่นกัน

   “ไปไหนกันนะ”

กมลนึกสงสัยและนึกร้อนใจไปด้วย เพราะวันนี้เขาต้องส่งสองเจ้าแฝดไปทัศนศึกษานอกสถานที่กับโรงเรียน หากออกจากบ้านสายคงไม่ทันแน่ แต่เมื่อตั้งสติให้ดีอีกครั้ง ก็พบว่าในบ้านเงียบกริบและไม่เห็นใครในบ้านเลย มันออกจะน่าแปลกอยู่เหมือนกัน

นี่ไม่ใช่ว่าคนรักของเขาจะทำหน้าที่แทนไปแล้วนะ...

คิดได้ดังนั้นกมลก็รีบเดินกลับไปที่ห้อง คว้าโทรศัพท์บนหัวเตียงขึ้นมา และกดโทรหาณธิปทันที

รอสายอยู่พักใหญ่ กระทั่งสายตัดไป กมลจึงขมวดคิ้วน้อยๆ อย่างนึกขัดใจ ขณะที่กำลังหาเสื้อคลุมไปพลางกดโทรออกอีกครั้ง คนที่เขาโทรหาก็เปิดประตูเข้ามาพร้อมกับใบหน้ายิ้มแย้ม

“โทรหาผมทำไมครับ ไอคิดถึงผมหรือ”

“ไปไหนมาครับ”

“ไปส่งเด็กๆ มา”

“นี่คุณไปส่งเด็กๆ แล้วหรือ” กมลเลิกคิ้วถาม

“อื้ม” ณธิปพยักหน้ารับ ก่อนเดินมากอดคนที่กำลังถอดเสื้อคลุมแชวนกลับเข้าไปในตู้

คนถูกกอดไม่ได้ห้ามที่ถูกอีกฝ่ายถึงเนื้อถึงตัว แต่เลือกถามสาระสำคัญมากกว่า “ไปได้ไงกันครับ แล้วทำไมไม่ปลุกผม”

“ก็เห็นคุณหลับสบาย นาฬิกาปลุกยังไม่ตื่น ผมจะไปกล้าปลุกได้ยังไงล่ะ”

   กมลสบตาของณธิปผ่านกระจกในตู้เสื้อผ้า เห็นคนเจ้าเล่ห์ตอบหน้าระรื่น ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกหมั่นไส้คนตรงหน้าขึ้นมา

   “แล้วดูแลเด็กๆ คนเดียวได้ด้วยหรือครับ พวกแกไม่งอแงหรือไง”

   “พวกเด็กๆ รู้ความกว่าที่คุณคิดนะ ผมแค่ขอความร่วมมือนิดๆ หน่อยๆ ก็ช่วยกันแต่งตัว เก็บกระเป๋าแล้วก็เดินตามขึ้นรถเรียบร้อย”

   “หืม? ง่ายดายขนาดนั้นเชียว”

ปรกติหลานๆ ของเขาจะงอแงหลังตื่นนอน ต้องใช้ลูกล่อลูกชนพักหนึ่งกว่าจะยอมอาบน้ำแต่งตัวไปเรียนได้ กมลนึกสงสัยว่าณธิปทำเรื่องพวกนี้ง่ายๆ ได้อย่างไร ทั้งที่ไม่เคยมีประสบการณ์เลี้ยงเด็กมาก่อน

   “ง่ายนิดเดียว แค่บอกว่าสุดสัปดาห์นี้หลังจากย้ายไปอยู่บ้านใหญ่แล้ว ผมจะพาไปทานไอศกรีมร้านอร่อยกว่าคราวที่แล้ว พวกแกก็ยอมเลย”

   “เอาของกินมาล่อเด็ก เดี๋ยวหลานผมก็เสียนิสัยพอดี”

   ปรกติกมลจะเลี้ยงหลานด้วยหลักเหตุผล ทุกอย่างจะมีขั้นตอน ไม่ตามใจมากจนเกินไปนัก เพราะกลัวหลานๆ จะเสียนิสัยและไม่รู้จักหน้าที่ของตัวเอง

   “เอาน่า อย่าทำหน้าดุสิครับ” ณธิปวางคางบนลาดไหล่พลางกอดตัวกมลให้โยกไปมาอย่างออดอ้อน “ก็ผมไม่รู้จะทำยังไงนี่ ต้องหลอกล่อสักหน่อยสิ ดีกว่ากวนคุณเป็นไหนๆ”

   “ไม่ได้กวนสักหน่อย ผมบอกแล้วว่าให้ปลุก”

   “เมื่อคืนผมทำคุณเหนื่อย เห็นหลับไม่รู้เรื่องก็คิดว่าเพลียน่ะสิ ผมเลยอยากให้คุณพักผ่อนเยอะๆ หน่อย”

   ความนัยจากสายตาที่มองกันนั้นทำให้กมลนึกถึงเรื่องที่เพิ่งทำกันเมื่อคืนได้อย่างชัดเจน อันที่จริงเขาคิดไว้แล้วว่ามันเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่พอตกอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องพูดถึง ชายหนุ่มกลับรู้สึกร้อนที่ใบหน้าอย่างห้ามไม่อยู่

   “ผมไม่ได้เป็นอะไรมากสักหน่อย”

   เห็นกมลตอบเสียเบาลง ณธิปจึงแสร้งถามย้ำ ด้วยอยากเห็นปฏิกิริยาน่ารักๆ และเขาก็สมหวัง เพราะแก้มของคนรักนั้นแดงขึ้นเรื่อยๆ อย่างน่ามอง

“จริงหรือ”

“อืม”

“ไม่ได้เจ็บหรือปวดตรงไหนเลยสักนิดใช่ไหมครับ”

“...ไม่ครับ”

“ถ้าอย่างนั้นผมค่อยวางใจหน่อย เป็นห่วงแทบแย่ตอนเห็นคนบางคนสลบไป”

“อย่าโอเวอร์นักเลยครับ มันไม่ได้เป็นอะไรมากมายอย่างที่คุณคิดหรอก ผมโอเค แค่เมื่อยเอวนิดหน่อย แล้วก็อยากอาบน้ำ”

ได้ยินดังนั้นณธิปจึงจูบที่ไหล่ซ้ายซึ่งมีรอยแดงๆ โผล่พ้นคอเสื้อออกมา แล้วกระซิบ “งั้นก็ดีแล้ว ผมอยากให้คุณมีความสุขด้วยกัน...ไม่อยากทำคุณเจ็บ”

กมลสบตาเขาต่ออีกแวบเดียว ก่อนจะหลุบตาลง แล้วเอ่ยเบาๆ ราวกระซิบ

“ไม่เจ็บหรอกครับ ขอบคุณที่เป็นห่วง”

บรรยากาศสุขสงบและอ่อนหวานทำให้ณธิปอยากหยุดเวลาไว้เสียเหลือเกิน เขายืนกอดกมลอยู่ตรงนั้น พร้อมกับสังเกตความเปลี่ยนแปลงของคนรักไปด้วย ณธิปไม่เคยคิดเลยว่าสถานการณ์เรียบง่ายเช่นนี้จะทำให้เขามีความสุขมากเสียจนไม่นึกอยากได้อะไรอีก

อยากอยู่กับกมล คลอเคลียกันแบบนี้ทั้งวัน โดยไม่ต้องมีอะไรต่างๆ เข้ามาข้องเกี่ยว แต่กมลก็ยังคงเป็นกมล เพราะหลังจากปล่อยให้ณธิปกอดเงียบๆ อยู่พักใหญ่ หนุ่มหน้าสวยก็ขยับตัวผละจากอ้อมกอดของเขา แล้วว่า

“นี่สายมากแล้ว คุณไม่ต้องไปทำงานหรือครับ”

“ถ้าคุณไม่ไป ผมก็ไม่ไป”

แม้จะพูดเช่นนั้น แต่สายตาของณธิปคล้ายบอกว่า ผมไม่ไป และคุณก็ห้ามไปเหมือนกัน

กระนั้นกมลกลับไม่อาจตอบรับได้ เพราะมีเรื่องมากมายต้องจัดการหลังงานแต่งงานของน้องสาว

“แต่ผมต้องไปนะ...”

ปรกติกมลเป็นคนรู้หน้าที่ของตัวเอง และทำทันทีโดยไม่อิดออด ทว่าไม่รู้ทำไม วันนี้เขากลับรู้สึกขี้เกียจ จนเผลอคิดไปว่า...ถ้าหากณธิปอ้อนสักหน่อย ตนคงพร้อมจะโดดงานอยู่ที่บ้านเป็นเพื่อน

แต่ณธิปกลับยอมให้ง่ายๆ

“งั้นก็ไปครับ”

“โอเค” กมลรับคำ “งั้นผมไปอาบน้ำก่อน”

“เอาสิ”

ทั้งที่ดูเหมือนจะตกลงกันได้แล้ว แต่ตอนที่กมลเดินเข้าห้องน้ำ ณธิปก็ตีหน้ามึนเดินตามเข้ามาด้วย ก่อนเป็นฝ่ายปิดล็อกประตูให้เรียบร้อย

“คุณเข้ามาทำไม”

“ก็เข้ามาอาบน้ำให้คุณไง”

“หา?! อาบน้ำให้ผมเนี่ยนะ” กมลร้องเสียงหลง ผิดกับณธิปที่เอ่ยออกมาได้หน้าตาเฉย

“อืม ก็เมื่อคืนผมทำคุณเลอะเทอะ ถึงจะเช็ดตัวด้านนอกให้แล้ว ติดคิดว่าคงต้องช่วยเช็ดด้านในด้วย กลัวคุณไม่ถนัด”

พอได้ฟังคำอธิบาย ดวงหน้าหวานก็ขึ้นสี กมลรีบโบกไม้โบกมือเป็นพัลวันเป็นการปฏิเสธ ทว่าดูเหมือนจะไม่ได้ผล

“ไม่ต้องครับ ผมทำเองได้”

“ไม่เป็นไร ไม่ต้องเกรงใจนะ เดี๋ยวผมช่วย” พูดไปพลางณธิปก็เดินย่างสามขุมเข้าใกล้กมลไปพลาง มองยังไงก็ดูคุกคามเหมือนนักล่าไล่ต้อนเยื่อให้จนมุมอย่างไรอย่างนั้น

“ผมไม่ได้เกรงใจ--” ยังพูดไม่ทันจบ คนเจ้าเล่ห์ก็ถึงตัวกมลแล้ว

“งั้นก็ดีเลย ผมจะได้ดูแลคุณให้เต็มที่ ไม่ต้องมัวเกรงใจกันแล้วเนอะ”

“คุณเล็ก…!”

ส่งเสียงประท้วงได้คำเดียว กมลก็โดนคนเจ้าเล่ห์จัดการ เขาอายจนแทบมุดห้องน้ำหนี ระหว่างนั้นยังนึกแปลกใจตัวเองที่เมื่อคืนกลับใจกล้าได้ถึงขนาดนั้น หรือบางทีอาจเป็นเพราะตอนกลางคืนมองไม่เห็นอะไรๆ ชัดเจนเท่าตอนกลางวันกระมัง...

ผ่านไปพักใหญ่ ตอนที่เสียงสะอื้นเบาๆ เงียบลง ประตูห้องน้ำก็เปิดออกมาอีกครั้ง โดยณธิปกำลังอุ้มคนที่ถูกดูแลทุกซอกทุกมุมมาวางที่เตียงอย่างเบามือ ครั้นจัดท่าให้กมลนอนเรียบร้อย เขาก็ก้มจูบเบาๆ ที่หน้าผากของคนรักไปหนึ่งที ก่อนจะว่า

“คุณดูเพลียๆ นะไอ งั้นวันนี้นอนพักผ่อนอยู่ที่บ้านสักวันเนอะ”

“...” กมลมองเขม่นคนเจ้าเล่ห์อย่างเคืองๆ เพราะเดิมทีเขาไม่ได้เพลียแล้วก็เมื่อยเนื้อเมื่อยตัวขนาดนี้ แต่พอถูกกอดซ้ำ เรี่ยวแรงที่สะสมเอาไว้หลังจากเมื่อคืนก็พลันหดหาย

ต่อให้ตอนแรกอยากไปทำงานขนาดไหน เวลาก็ไม่อยากขยับตัวแล้ว

“อย่าทำหน้าบึ้งสิ”

“ก็คุณน่ะ เล่นก็ไรก็ไม่รู้” กมลตอบโต้เบาๆ

“ไม่ได้เล่นสักหน่อย แค่อยากอยู่กับคุณให้นานขึ้นอีกนิด เมื่อวานก็เพิ่งผ่านงานพี่ภัทรมา วันนี้คุณจะพักสักวัน ใครก็คงไม่กล้าว่าอะไรหรอก เพราะงั้นวันนี้อยู่บ้านด้วยกันสักพักนะครับ เย็นๆ ค่อยไปรับน้องหยินกับน้องหยาง”

อันที่จริงกมลยอมให้ณธิปทำตามอำเภอใจตั้งแต่ประโยคที่ว่าอยากอยู่ด้วยกันนานๆ แล้ว เขาจึงพยักหน้าเบาๆ แล้วหลับตาลง

“งั้นเดี๋ยวผมให้คนโทรไปบอกคุณอ้ายให้ ว่าคุณจะไม่เข้าไป”

   “วันนี้อ้ายหยุดเหมือนกัน” กมลเตือนความจำ

“นั่นสินะ...งั้นผม--”

“ไม่เป็นไรหรอกครับ” ดวงตาคู่สวยเปิดขึ้นอีกครั้ง “คุณเองก็มานอนบนเตียงเถอะ”

“หืม?” ณธิปส่งเสียงด้วยความประหลาดใจ

“ก็ไหนว่าอยากอยู่ด้วยกันไงครับ”

ครั้นได้รับคำอนุญาตนั้น ณธิปก็พาตัวเองขึ้นไปบนเตียง แล้วซุกตัวเข้าผ้าห่มเพื่อคว้าคนรักมากกอดแนบอก พร้อมกับยิ้มกว้าง

“คุณนี่นะ ชอบทำอะไรให้ผมอยากฟัดทุกที”

“หือ? ผมยังไม่ทันทำอะไรเลย”

“ทำสิ ก็พูดจาน่ารักแบบนี้ไง” ว่าพลางชายหนุ่มก็หอมที่ขมับของกมลเต็มรัก “นี่ถ้าไม่ติดว่าผมฟัดคุณไปแล้วเมื่อกี้ คุณคงโดนผมจัดการอีกทีแน่”

   ได้ฟังประโยคของคนหื่นกาม กมลก็ทำตัวสุขุมไม่ไหว จัดการหยิกอกคนที่กอดตัวเองเอาไว้แรงๆ ทีหนึ่ง ก่อนจะออกคำสั่งเสียงเขียว

   “คุณนี่ชักจะเกินไปแล้วนะ พอผมตามใจก็เอาใหญ่เลย นอนเลยนะครับ ผมเพลีย ไม่อยากคุยด้วยแล้ว”

   “ฮ่าๆๆ” ณธิปหัวเราะจนแผ่นอกกระเพื่อม เพราะไม่ได้ยินกมลดุมานานแล้ว แต่เพราะแกล้งอีกฝ่ายมาพอสมควร ซ้ำยังได้ในสิ่งที่อยากได้จนสมใจ ชายหนุ่มจึงยอมลงให้ “โอเคครับ ผมไม่พูดแล้ว เรานอนกันนะ”


   ณธิปจูบย้ำๆ ที่ขมับด้านเดิมอีกสองสามครั้ง ก่อนจะกอดกมลไว้กลวมๆ แล้วปล่อยให้อีกฝ่ายพักอย่างที่ต้องการ ส่วนตัวเขากลับจ้องมองคนรักอยู่แบบนั้น กระทั่งผ่านไปพักใหญ่ ชายหนุ่มจึงผล็อยหลับไปด้วยกัน ท่ามกลางแสงตะวันซึ่งลอดผ่านเข้ามาตามระยะห่างระหว่างผ้าม่าน











   กว่าจะตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็เป็นเวลากว่าบ่ายโมงแล้ว คราวนี้กมลหลับเต็มตื่น และสดชื่นกว่าตอนเช้ามาก ก่อนจะลุกไปล้างหน้าล้างตาหาอะไรใส่ท้อง กมลก็หันไปมองคนที่นอนเอาแขนพาดเอวเขาไว้ ไล่มองปาก จมูก คิ้ว คาง องคาพยพทุกอย่างรวมกันแล้วเผลออมยิ้ม ณธิปยามนอนดูไร้พิษสง ไม่เหมือนผู้ชายเจ้าเล่ห์ที่ล่อให้เขาจนมุมเมื่อเช้าเลยสักนิด ทว่าคิดๆ ดูแล้ว ไม่ว่าจะหลับหรือตื่น ผู้ชายคนนี้ก็เป็นคนเดียวกับที่เขาหลงรักอยู่ดี

ความรู้สึกที่อบอวลอยู่ในหัวใจผลักดันให้กมลยื่นหน้าเข้าไปจูบเบาๆ ที่ปลายจมูกโด่ง แม้เขินอาย แต่ก็อยากสัมผัส โชคดีที่ณธิปหลับสนิท ไม่เช่นนั้นคงตื่นเพราะสัมผัสเมื่อครู่ และเขาคงถูกอีกฝ่ายล้อเอาเป็นแน่

กมลคิดว่า หลายครั้งความรักก็ทำให้เขาไม่อาจควบคุมตัวเองได้

ชายหนุ่มปล่อยให้ตัวเองจมอยู่ในอ้อมกอดของณธิปอีกครู่ จึงค่อยๆ ลุกขึ้นจากเตียง สวมเสื้อผ้าให้เรียบร้อย จากนั้นก็ลงไปทำอาหารเที่ยงง่ายๆ ให้ตัวเองและเผื่อของณธิปอีกที่ด้วย

ครั้นทำเสร็จ ณธิปก็เดินผมยุ่งเข้ามาในครัวพอดี

“ตื่นนานแล้วหรือ” อีกฝ่ายถามเขา

“สักพักแล้วครับ” กมลตอบ ก่อนชวน “กินเข้าเที่ยงด้วยกันนะครับ ผมทำเสร็จพอดี”

“ทำอะไรกิน หอมเชียว”

“ข้าวผัดกุนเชียงครับ มีไข่ดาวด้วยนะ” กมลยกจานมาวางให้บนโต๊ะ และเดินไปหยิบน้ำ “นั่งเถอะครับ กินรองท้องไปก่อน ตอนไปรับเด็กๆ ค่อยหาอะไรอร่อยๆ กินอีกที”

“ครับ” ณธิปตอบรับอย่างว่าง่าย และนั่งลงทานมื้อกลางวันฝีมือคนรัก

 พวกเขาจัดการอาหารของตัวเองเงียบๆ พอทานเสร็จกมลก็เป็นคนเก็บล้าง เพราะณธิปไม่เคยทำงานบ้านพวกนี้ ชายหนุ่มจึงกลัวว่าอีกฝ่ายจะทำจานในบ้านของเขาแตกหมด

ระหว่างที่ณธิปกำลังมองกมลและคิดว่าจะเดินเข้าไปกอดเอวอีกฝ่ายดีไหม เสียงเปิดประตูรั้วก็ดังขึ้นพร้อมกับเสียงพูดคุยคุ้นหู

“สงสัยยายอ้ายจะมา เห็นว่าวันนี้จะเริ่มเข้ามาเก็บของย้ายบ้าน”

และก็เป็นจริงดังที่กมลคาด น้องสาวคนดีของเขามาพร้อมกับสามีและคนงานช่วยเก็บของ เมื่อเข้ามาในบ้านพวกเขาดูประหลาดใจที่พบกมลกับณธิปอยู่ด้วยกัน

“พี่ไอไม่ไปทำงานหรือคะวันนี้”

“อืม” กมลพยักหน้ารับ

“ไม่สบายหรือเปล่าคะ”

“เปล่าหรอก แค่เพลียๆ” กมลไม่ได้โกหกน้องสาว แค่ไม่พูดความจริงทั้งหมดว่าที่เพลียเพราะอะไร ครั้นเห็นหทัยกับณภัทรเหลือบมองณธิปด้วยแววตาสงสัย กมลจึงเบี่ยงเบนความสนใจไปเรื่องอื่นแทน “พาคนมาช่วยเยอะเลยนะ”

“ผมอยากให้เก็บให้เสร็จวันเดียวน่ะครับ”

“แล้วเด็กๆ ล่ะ จะให้ย้ายไปด้วยวันนี้เลยไหมอ้าย”

“ย้ายเลยค่ะ นี่อ้ายก็ว่าจะไปรับพวกเขาเย็นๆ ตอนดูให้คนเก็บของจนหมดแล้ว”

“เดี๋ยวพี่ไปรับให้ก็ได้ ไหนๆ วันนี้ก็หยุดแล้ว เราจัดการที่นี่ไปเถอะ” กมลอาสา เพราะรู้ว่าข้าวของมีเยอะเกินกว่าที่จะรีบทำให้เสร็จในเวลาแค่ไม่กี่ชั่วโมง

“ขอบคุณค่ะพี่ไอ”

“งั้นเดี๋ยวผมขับรถให้นะ” ณธิปขันอาสา จากที่ยืนนิ่งไม่พูดไม่จามาโดยตลอด 

และกมลก็ตอบรับง่ายๆ “ครับ”

พวกเขาพูดคุยกันอีกนิดหน่อย หทัยก็ขอตัวไปสั่งการคนงาน โดยมีณภัทรช่วยเหลือไม่ห่างกาย ส่วนกมลนั้น ทีแรกก็เข้าไปดูน้องสาวเคลื่อนย้ายสัมภาระของหลานๆ แต่ผ่านไปพักหนึ่ง พอเห็นว่าแทนที่จะช่วย ตนเองกลายเป็นตัวเกะกะมากกว่า เขาจึงชวนณธิปออกไปรอรับเด็กๆ ที่โรงเรียน

ระหว่างทางณธิปรู้สึกว่ากมลเงียบลงไปเล็กน้อย คล้ายคิดอะไรในใจ ทีแรกเขาตั้งใจจะถามว่าอีกฝ่ายมีเรื่องไม่สบายใจอะไรหรือเปล่า แต่คิดๆ ดูแล้ว ชายหนุ่มก็เลือกที่จะไม่ถาม และปล่อยให้กมลมีเวลาคิดอะไรเองเงียบๆ


   ณธิปและกมลมาถึงโรงเรียนก่อนเวลา ดังนั้นจึงต้องรออยู่พักใหญ่กว่าน้องหยินน้องหยางจะมา พอรับหลานชายแล้วพวกเขาก็ตรงกลับบ้านทันที

   เมื่อกลับถึงบ้าน หทัยก็คุมคนงานเก็บของเกือบเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กมลจึงหาของว่างเล็กๆ น้อยๆ ให้ทุกคนกินรองท้องก่อนมื้อเย็น

   หยินกับหยางกินไปคุยไปถึงเรื่องที่ออกไปทัศนศึกษานอกสถานที่วันนี้ กมลฟังหลานๆ เล่าเรื่องที่พบเจอสิ่งแปลกใหม่มากมายจนลืมเวลา รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่น้องสาวเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นพร้อมกับณภัทร

   “เสร็จแล้วหรืออ้าย”

   “เสร็จแล้วค่ะพี่ไอ”

   “อยู่กินข้าวเย็นด้วยกันก่อนไหม”

   “จริงๆ นัดกับคุณแม่ไว้น่ะค่ะว่าจะพาเด็กๆ ไปทานมื้อเย็นด้วย นี่ท่านเพิ่งโทรมาบอกเมื่อครู่ว่าลงครัวเองเลย” ใจจริงหทัยก็อยากอยู่กินมื้อค่ำกับพี่ชาย เพราะเธอยังรู้สึกขัดเขินในฐานะสะใภ้ใหญ่แห่งโชติตระกูลอยู่

   “อ๋อ งั้นก็ไปเถอะ ปล่อยให้ผู้ใหญ่รอไม่ดีหรอก เอาไว้พี่จะแวะไปหา”

   “งั้นอ้ายกับเด็กๆ ไปก่อนนะคะ”

   “อืม” กมลพยักหน้ารับ พร้อมกับเดินไปส่งหลานชายและน้องสาวที่หน้าบ้าน โดยที่ก่อนเด็กๆ ขึ้นรถ กมลก็ก้มลงรวบกอดพวกเขาเอาไว้ พร้อมกับสั่ง “ไปอยู่บ้านกับแม่อ้ายกับพ่อภัทร หยินกับหยางต้องเป็นเด็กดี ไม่ดื้อไม่ซน ฟังคำของคุณปู่กับคุณย่าด้วย เข้าใจไหมครับ”

   “เข้าใจครับ” น้องหยินตอบ และตามมาด้วยน้องหยาง

   “เข้าใจครับ” เด็กชายรับคำอย่างเชื่อฟัง ก่อนเอ่ยถามซื่อๆ “แล้วลุงไอไม่ไปอยู่กับพวกเราหรือครับ”

“ไม่ไปหรอก ลุงจะอยู่เฝ้าบ้านให้”

เด็กสองคนนิ่วหน้าเมื่อเห็นรู้ว่าคุณลุงที่รักจะไม่ตามพวกเขาไปด้วย

“แต่หยางอยากให้ลุงไอไปอยู่ด้วย”

“หยินก็อยาก”

“ถ้าอย่างนั้นใครจะเฝ้าบ้านให้เราล่ะ” กมลถาม “ลุงอยู่ที่นี่ดีแล้ว หยินกับหยางต้องไปอยู่เป็นเพื่อนแม่ เอาไว้ลุงจะไปหาบ่อยๆ เดี๋ยวแม่ไปรับกลับจากที่โรงเรียน เราก็เจอกันที่บริษัทแล้ว”

“แต่ว่า...” หลานคนเล็กกำลังจะแย้ง กมลก็เอ่ยแทรก พร้อมกับลูบหัวเบาๆ

“ไม่มีแต่นะครับ ไหนเมื่อกี้ใครรับปากลุงว่าจะไม่ดื้อไงล่ะ”

“หยางไม่ดื้อ แต่หยางอยากให้ลุงไอไปด้วย ลุงไออยู่คนเดียว เดี๋ยวลุงไอเหงา” เด็กน้อยเอ่ยทั้งน้ำตาคลอเบ้า

   กมลสะอึกไปนิด อดรู้สึกเศร้าไม่ได้ที่ต้องห่างกับหลานชาย ด้วยเลี้ยงดูมาตั้งแต่พวกเขาลืมตาดูโลก ถึงอย่างนั้น ชายหนุ่มก็ต้องทำใจแข็ง เพราะรู้ว่านี่คือเส้นทางที่น้องสาวของเขาเลือกเดิน อีกอย่าง เขาก็ไม่ได้จากเด็กๆ ตลอดไป ยังไปมาหาสู่และดูแลได้เสมอ

“ลุงสัญญา ลุงจะไปหาบ่อยๆ”

“บ่อยแค่ไหนครับ” คราวนี้หยินถามบ้าง

“บ่อยจะพี่หยินกับน้องหยางเบื่อหน้าลุงเลย ดีไหมครับ”

เด็กสองคนมองหน้ากัน ก่อนจะเบะปากตอนหันหลับมามองกมล จากนั้นจึงพุ่งตัวเข้ามากอดแนบอกคุณลุงไว้คนละข้าง พร้อมกับปล่อยโฮ

“หยาง...ฮึก...ไม่เบื่อลุงไอหรอก”

“...หยินก็ไม่เบื่อ”

“ครับๆ ไม่เบื่อก็ไม่เบื่อ ไม่ร้องไห้นะเด็กดี ลุงสัญญาว่าจะไปหาพวกหนูบ่อยๆ หรือถ้าเด็กๆ คิดถึงลุง ก็บอกพ่อภัทรกับแม่อ้ายให้พามาหาที่บ้านได้ตลอดเลย ส่วนตอนนี้ต้องอึบไว้ก่อนนะครับ ไม่ร้องไห้นะ ไม่งั้นลุงจะร้องด้วยแล้ว”

ได้ยินดังนั้น เด็กสองคนก็พยายามกลั้นสะอื้นอย่างสุดความสามารถ กมลมองตรงไปยังน้องสาวกับณภัทร ก่อนพยักหน้าให้ทั้งคู่เข้ามาช่วยปลอบและพาลูกชายทั้งสองไป

“น้องหยิน น้องหยางครับ พะ...พ่อสัญญานะ” ในทีแรกคุณพ่อมือใหม่ก็เอ่ยตะกุกตะกักเล็กน้อย แต่ณภัทรก็สามารถต่อประโยคถัดไปได้อย่างเป็นธรรมชาติ “ว่าจะพาหนูมาหาลุงไอทุกเวลาที่ต้องการเลย เพราะงั้นวันนี้เรากลับบ้านด้วยกันนะครับ ไม่ร้องนะ”

“นั่นสิลูก เด็กร้องไห้แบบนี้ลุงเขาจะไม่สบายใจนะครับ” หทัยช่วยสามีและพี่ชายอีกแรง พวกเขาผลัดกันปลอบจนเด็กๆ สงบลง จึงอุ้มขึ้นรถ “อ้ายไปก่อนนะคะพี่ไอ”

กมลที่สังเกตเห็นว่าในดวงตาของน้องมีน้ำใสๆ คลออยู่ก็ส่งยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยน

“ไปเถอะ เดี๋ยวคุณหญิงจะรอนาน”

“แล้วเจอกันครับคุณไอ” ณภัทรบอกลาบ้าง

“แล้วเจอกันครับ”

“เล็ก” เมื่อลาเจ้าบ้านแล้ว ณภัทรก็หันมาเรียกน้องชาย

“ครับ?”

“วันนี้จะกลับไปกินข้าวที่บ้านด้วยกันไหม”

“ไม่ล่ะ พี่ไปเถอะ ฝากบอกคุณแม่ด้วยว่าผมอยู่กับคุณไอ”

“อืม” ณภัทรพยักหน้ารับ ไม่ได้ขัดใจหรือห้ามปรามน้องชาย เพราะรู้สถานะของคนทั้งคู่อยู่แล้ว

กมลยืนส่งทุกอยู่อยู่ตรงนั้น จนกระทั่งรถของครอบครัวน้องสาวหายลับไปจากสายตาแล้ว อยู่ๆ เมื่อมองเห็นถนนโล่งและว่างเปล่า หัวใจของเขาก็พลันวูบโวงขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

ด้านหนึ่งก็อุ่นใจที่ครอบครัวของเขาได้พบคนที่ดี คนที่พร้อมจะดูแลพวกเขาได้ แต่อีกด้านกลับรู้สึกเหงาขึ้นมาจับใจ

“เฮ้อ~” กมลถอนหายใจเบาๆ และเอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบ “ผมนี่แย่จริงๆ เลย”

“หืม? แย่ตรงไหน” ณธิปนึกสงสัย

“ก็ยังไม่ทันไร ผมก็คิดถึงพวกเขาซะแล้วน่ะสิ”

ณธิปก้มลงมองหน้าคนรัก เห็นปลายจมูกรั้นแดงก่ำ ก่อนน้ำตาหยดหนึ่งจะค่อยๆ ไหลลงมาจากหางตา เร็วเท่าความคิด ชายหนุ่มก็เอื้อมมือไปคว้าไหล่ของกมลเข้ามา และสวมกอดอีกฝ่ายไว้แนบกับหัวใจ โดยที่ไม่ได้เอ่ยอะไรแม้แต่คำเดียว







--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------




มาต่อแล้วนะคะ
ตอนนี้ ตอนจบก็งวดเข้ามาเต็มทีแล้ว
ยังไงฝากติดตามกันต่อด้วยน้า

ละอองฝน.


หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 51 [11/06/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 11-06-2019 21:53:30
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 51 [11/06/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: may27 ที่ 11-06-2019 21:58:19
 :impress2:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 51 [11/06/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 11-06-2019 22:25:18
 :pig4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 51 [11/06/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 11-06-2019 22:31:51
 :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 51 [11/06/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 11-06-2019 22:59:04
คุณล็กดูแลน้องไอด้วย..ยยยยยย     :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 51 [11/06/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 11-06-2019 23:25:47
 :sad4:  คุณไออย่าร้อง
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 51 [11/06/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 11-06-2019 23:43:43
คุณเล็กกับคุณไอหวานมาก :-[

แอบสงสารตอนที่แยกกับเด็กๆ อ่านไปน้ำตาซึมไปเลย :hao5:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 51 [11/06/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: bradpitt ที่ 12-06-2019 00:06:31
คุณเล็ก คุณไอ หวานกันดีมากกกกกกกกกกกกกกกกก

ดูแล ข้ามคืนกันเลย 

:heaven :heaven :heaven :heaven  :heaven



คิดถึง น้องหยิน น้องหยาง  มีบทมานิดเดียว ก้อ ร้องไห้ สะแล้ว

ครั้งหน้า ขอเยอะๆๆนะฮะ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 51 [11/06/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 12-06-2019 00:29:11
เขาก็เลี้ยงของเขามา
ไว้ไปหาหลานบ่อยๆเลยนะ  :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 52 [12/06/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: ละอองฝน ที่ 12-06-2019 22:44:02






คุณคือความรัก บทที่ 52







   ผ่านไปเกือบสองเดือนที่กมลต้องใช้ชีวิตอยู่เพียงลำพัง เมื่อไม่มีคนให้กลับไปหาที่บ้าน ชายหนุ่มจึงไปนอนที่คอนโดสลับกันบ้างอาทิตย์ละสามถึงสี่วัน เพราะคอนโดใกล้ที่ทำงานกว่า และบ้านหลังนั้นก็ใหญ่โตเกินกว่าจะอยู่คนเดียว

   แต่ก่อนชายหนุ่มไม่เคยคิดว่าตนเองจะเป็นคนขี้เหงาจนไม่สามารถอยู่คนเดียวได้ แต่เมื่อวันเวลาผ่านไป เขากลับรู้สึกว่าบางทีเขาอาจจะขี้เหงามากกว่าที่คิด

   ในระยะเวลานี้กมลไปหาหลานๆ บ้างเหมือนกัน แต่พยายามไม่ไปบ่อยนัก เพราะอยากให้เด็กๆ คุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมใหม่ๆ ไม่ร้องไห้กลับบ้านเดิมพร้อมเขาทุกครั้งที่เจอหน้าเขา จนผ่านไปสักสองสามอาทิตย์ หยินกับหยางก็เริ่มปรับตัวได้ และไม่ร้องไห้งอแงเวลาเจอกันอีก

   ตอนนี้กลับเป็นกมลเสียเองที่อยากงอแงแทน เพราะเขายังไม่ชินกับการเปลี่ยนแปลงนี้เลย

   โชคดีที่กมลมีณธิปคอยอยู่ข้างๆ อีกฝ่ายแทบจะเป็นคนที่เข้ามาแทนที่ความว้าเหว่ในใจของกมล ด้วยระยะนี้พวกเขาเจอกันบ่อยขึ้น เรียกได้ว่าแทบจะทุกวัน หากวันไหนต่างคนต่างมีงานเยอะจนไม่ได้พบ ณธิปก็จะส่งข้อความหรือโทรหาเขาอยู่เสมอ

...และแน่นอน เขาก็ส่งกลับไปหรือโทรหาอีกฝ่ายก่อนด้วยเหมือนกัน

ความสัมพันธ์ของพวกเขาค่อนข้างพัฒนาไปมาก หากมองจากตอนแรกที่คบกันใหม่ๆ กมลเริ่มเข้าใจณธิปมากขึ้น เข้าใจว่าทำไมแต่ก่อนอีกฝ่ายถึงโทรเช้าโทรเย็น มีเวลาว่างนิดเดียวก็ยังพยายามมาหา เพราะเมื่อตัดเหตุผลทุกอย่างออกไป คำตอบที่เหลืออยู่ก็มีเพียงแค่ข้อเดียว

เพราะคิดถึง

ดังเช่นเวลานี้ ช่วงเวลาที่เขาไม่ได้เจอกันมากว่าสามวันเพราะณธิปบินไปทำงานที่ต่างประเทศ อีกหนึ่งอาทิตย์ถึงกลับมา กมลจึงได้แต่มองดูปฏิทินแล้วถอนใจ

เหลืออีกสี่วันว่าจะได้เจอ

ไม่สิ...หกวันถึงจะถูก

เพราะเช้าวันที่ณธิปกลับ กมลต้องขึ้นเครื่องไปคุยงานกับลูกค้าคนสำคัญที่เชียงใหม่ ลูกค้าคู่นี้เป็นเพื่อนสนิทสมัยเรียนของกมล และทั้งสองก็เปิดร้านอาหาร ทำให้ไม่สามารถเดินทางมาหากมลที่กรุงเทพฯ ได้ ชายหนุ่มจึงเซอร์วิสเพื่อนด้วยการไปหาถึงที่ตามคำเชื้อเชิญ

[จะเดินทางหรือยัง]

“กำลังจะขึ้นเครื่องครับ” กมลตอบคนปลายสาย ขณะต่อแถวขึ้นเครื่อง “คุณลงเครื่องเย็นๆ หรือครับ”

[อืม] ณธิปตอบกลับ

วันนี้เป็นวันที่อีกฝ่ายกลับมาถึงกรุงเทพฯ แล้ว แต่กมลกลับต้องเดินทางไปเชียงใหม่ ทำให้กว่าจะพบกันเป็นอีกสองวันถัดไป

[ถ้าผมถึงไทยแล้วจะรีบตามไปหาที่เชียงใหม่]

“ไม่เป็นไรครับ คุณกลับมาเหนื่อยๆ พักผ่อนเถอะนะ อีกวันสองวันผมก็กลับกรุงเทพฯ แล้ว”

ใจจริงกมลอยากพบณธิปจะแย่ แต่ก็ต้องอดใจไว้ เพราะไม่อยากเอาแต่ใจตัวเองเกินไปนัก ณธิปโหมทำงานหนักมาทั้งอาทิตย์ อีกฝ่ายควรได้พักผ่อนในวันหยุดสุดสัปดาห์ มากกว่าตะลอนๆ ไปหาเขาข้ามจังหวัด

กระนั้นกมลก็อดยิ้มไม่ได้อยู่ดีเมื่อได้ยินประโยคถัดมา

[ได้เจอหน้าคุณผมก็หายเหนื่อยแล้ว]

“ปากหวาน”

[จริงนะ] ณธิปยืนยัน [ยิ่งถ้าได้กอดแน่นๆ ผมคงหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเลย]

“เกินไปแล้วครับ”

[ไม่เกินไปหรอก ไม่เชื่อให้ผมพิสูจน์ไหมล่ะ]

“ไม่ต้องหรอก ผมเชื่อคุณแล้ว แต่เรื่องจะตามมาเชียงใหม่ ผมขอนะ”

[ทำไมล่ะ]

“ผมอยากให้คุณพัก สัญญาว่าเสร็จงานแล้วจะรีบกลับไปหา...นะครับ” กมลเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนลง เดี๋ยวนี้เขารู้จักวิธีเอาชนะณธิปโดยไม่ต้องเปลืองแรงแล้ว

[คุณอ้อนแบบนี้ ผมก็ขัดใจคุณไม่ได้น่ะสิไอ]

“นะครับ”

[โอเคๆ ไม่ไปก็ได้ แต่ต้องรีบกลับมานะ ผมจะรอที่คอนโด]

“ครับ ผมจะรีบกลับ” กมลอมยิ้มพร้อมกับรับปาก อันที่จริงเขาตั้งใจกลับทันทีหลังงานคุยกับเพื่อนเสร็จ เพราะอยากพบหน้าคนรักเหมือนกัน แต่กมลเลือกที่จะไม่บอกให้ณธิปรู้ พูดง่ายๆ ก็คือกะจะกลับไปเซอร์ไพรส์นั่นเอง

พวกเขาคุยกันอีกสองสามประโยค กมลก็ขอตัววางสายก่อน เพราะถึงคิวเขาขึ้นเครื่องแล้ว เขากดวางและไปนั่งประจำที่เพื่อออกเดินทาง

ใจจริงอยากพูดคุยกันให้มากกว่านี้ เพราะคิดถึง ยิ่งได้ยินเสียง ก็ยิ่งคิดถึง ด้วยหลายวันมานี้ เขาแทบไม่ค่อยได้คุยกับณธิปยาวๆ เลย อีกฝ่ายยุ่งกับการทำงานตลอด ทั้งไทม์โซนยังไม่ตรงกัน

กมลถอนหายใจ มองออกไปนอกหน้าต่างของเครื่องบิน ในหัวมีเรื่องของณธิปอยู่เต็มไปหมด

เมื่อครู่ตอนที่ณธิปบอกว่า ถ้าได้กอดเขาไว้ก็คงหายเหนื่อย กมลอยากตอบกลับไปเหลือเกินว่า หากคุณเล็กกอดเขาไว้ อาการหงอยเหงาจากการคิดถึงก็คงทุเลาลงเช่นกัน...









เดินทางไม่นานกมลก็มาถึงเชียงใหม่ เขางีบหลับบนเครื่องบินนิดหน่อย ตอนลงเครื่องมาจึงรู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาบ้าง ชายหนุ่มเดินทางไปยังโรงแรมซึ่งจองเอาไว้ก่อน เพราะนัดกับเพื่อนไว้ตอนค่ำ

ครั้นเอาของไปเก็บที่โรงแรมเรียบร้อยก็ออกมาเช่ารถเพื่อขับไปหาคุณอาที่บ้านสวน กมลอยู่คุยและทานเข้ากับผู้เป็นอาพักใหญ่ กระทั่งบ่ายคล้อยจึงขับรถกลับเข้าตัวเมือง

เพราะชายหนุ่มไม่เคยไปที่ร้านของเพื่อนมาก่อน ผนวกกับการจราจรติดขัดของเชียงใหม่ในยามเย็นหลังเลิกงาน ทำให้กว่าจะถึงร้าน ท้องฟ้าก็มืดลงแล้ว โชคดีที่เขากะเวลามาเผื่อไว้ ทำให้ไม่สายกว่าเวลานัด

“สวัสดีค่ะ จองโต๊ะไว้หรือเปล่าคะ” ยังไม่ทันเข้าประตูร้าน พนักงานก็เข้ามาต้อนรับเขาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

“ไม่ได้จองครับ ผมมาพบคุณนารา”

“อ้อ คุณไอใช่ไหมคะ”

“ครับ” กมลยิ้มรับ

“เชิญที่ชั้นบนเลยนะคะ คุณนารารอยู่แล้วค่ะ”

กมลเดินตามเธอไป ผ่านโต๊ะอาหารไม่ช้าไม่เร็วนัก เขากวาดสายตาสำรวจรอบร้านคร่าวๆ เพราะเข้าใจว่าเพื่อนต้องการใช้ร้านนี้เป็นสถานที่จัดงานแต่งงาน ร้านนี้ตกแต่งออกมาให้ดูร่วมสมัย มีความโมเดิร์นผมสมกับกลิ่นอายแบบวัฒนธรรมทางเหนือ ทั้งยังดูอ่อนหวานจากดอกไม้และโคมไฟสีนวลที่ประดับประดาทั่วร้าน

ชายหนุ่มมองทะลุผ้าม่านสีขาวออกไป เห็นโซนนั่งทานอาหารด้านนอก เป็นระเบียงซึ่งยื่นออกไปให้ชมทิวทัศน์ริมน้ำปิง

กมลเดินตามพนักงานขึ้นมาถึงชั้นบน ยังไม่ทันผ่านซุ้มประตูซึ่งแขวนไว้ด้วยม่านขาวยาวประพื้น พนักงานคนนั้นก็ขอตัวลงไปชั้นล่างเสียก่อน เขาจึงจำต้องเลิกม่านนั้นเขาไปในส่วนที่คิดว่าเพื่อนกำลังรออยู่

ทว่าทันทีที่กมลเดินเข้าไป เขาก็เห็นเพียงความว่างเปล่า ภายในห้องมืดสลัว ร้างไร้ผู้คน ราวกับส่วนนี้ของร้านยังไม่เปิดใช้บริการ

กมลมุ่นคิ้วด้วยความไม่เข้าใจ ขณะที่กำลังจะหันลังเดินกลับลงไปด้านล่าง อยู่ๆ ไฟดวงหนึ่งก็พลันสว่างขึ้น

ตรงหน้าของกมลปรากฏภาพตุ๊กตากระต่ายสีคาราเมลแสนคุ้นตานั่งอยู่บนเก้าอี้ ณ จุดกึ่งกลางของห้อง ท่ามกลางดอกกุหลาบสีขาวสลับแดงนับร้อยนับพันดอก

มันคือตุ๊กตาที่ณธิปมอบให้เขาในตอนวันเกิดปีแรกที่รู้จักกัน

เร็วเท่าความคิด กมลเดินตรงเข้าไปหาเจ้ากระต่ายตัวนั้น เขาไม่รู้ว่ามันมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร หากความสงสัยของกมลก็ถูกดึงไปหากล่องกำมะหยี่สี่เหลี่ยมสีดำซึ่งถูกว่าอยู่ในระหว่างขาของกระต่ายน้อย

ตั้งแต่เริ่มรับช่วงต่องานของพ่อและแม่ กมลคุ้นเคยเหลือเกินกับการจัดฉากเช่นนี้ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ดังนั้นในสมองจึงพอคาดเดาได้อยู่แล้วว่ากำลังจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นกับตัวเองต่อจากนี้

เขาจ้องกล่องใบนั้นนิ่งนาน อยู่ๆ ก็คล้ายมีก้อนบางอย่างตีตื้นขึ้นมาที่ทรวงอก

กมลกัดริมฝีปากของตัวเองเอาไว้ แข้งขาอ่อนแรง ความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้แทรกตัวอยู่ในอากาศ ความรู้สึกนั้นทำเขาแสบตาไปหมด

คล้ายกับว่า...หากไม่ความคุมสติเอาไว้ น้ำตาอาจไหลออกมาได้ทุกเมื่อ

ถึงอย่างนั้นกมลก็ยังคงเป็นกมล คนที่ควบคุมตัวเองได้ดีเสมอ เขายื่นมือเรียวติดจะสั่นเทาน้อยๆ ออกไปคว้าตุ๊กตาขึ้นมากอดแนบอก จากนั้นก็หยิบเอากล่องเล็กๆ นั่นมาถือไว้

...ยอมเดินตามแผนของผู้จัดฉากอย่างเต็มใจ

กมลไม่รู้ว่าอีกนานไหมกว่าที่คนคนนั้นเดินมาหยุดด้านหลัง เขาพยายามที่จะฟังเสียงฝีเท้ากระทบพื้น...พยายามอย่างยิ่ง แต่เสียงหัวใจของเขากลับดังจนแทบไม่ได้ยินเสียงอื่นใด ซ้ำเขายังไม่กล้าหันกลับไปมอง สุดท้ายจึงได้แต่ยืนนิ่งและรอคอยอยู่ตรงนั้น

จนในที่สุดวงแขนที่แสนคิดถึงโอบล้อมรอบกายพร้อมกับเสียงเรียกชื่อห้วนๆ หากเต็มไปด้วยความสนิทสนมของใครบางคนดังขึ้น

“ไอ”

“...ครับ”

“ผมคิดถึงคุณ”

ประโยคนี้ทำให้กมลต้องพลิกกายหันกลับมาหา หันกลับมาเผชิญหน้าผู้ชายที่หลอกเขาว่าไปทำงาน หลอกให้เขาคิดถึงอยู่หลายวัน และประโยคนี้ ควรเป็นของเขามากกว่า

“...” กมลจ้องดวงตาเรียวนิ่ง

“ทำไมมองผมอย่างนั้น”

“คุณหลอกให้ผมมาที่นี่หรือ”

“คุณคิดว่าไงล่ะ” แทนที่จะตอบ ณธิปกลับถามเขากลับยิ้มๆ เป็นรอยยิ้มที่เจ้าเล่ห์จนกมลอ่อนใจ

“...คุณนี่นะ เล่นอะไรไม่รู้เรื่องเลย”

“ผมไม่ได้เล่นสักหน่อย” จากที่ยิ้มอยู่ จู่ๆ ณธิปก็จริงจังขึ้นมา “ผมตั้งใจนะ”

“ตั้งใจจะแกล้งผมหรือครับ”

“เปล่า” ณธิปส่ายหน้าน้อยๆ ก่อนสารภาพตามตรง ไม่อ้อมค้อม “ผมตั้งใจขอคุณแต่งงานต่างหาก”

“...”

ทั้งที่ก่อนหน้านี้กมลเริ่มผ่อนคลายลงแล้ว แต่พอณธิปพูดว่าจะขอแต่งงาน บรรยากาศแปลกๆ เมื่อครู่ก็กลับมาอีกหน กมลไม่รู้ต้องทำตัวยังในสถานการณ์นี้ เขาไม่เคยคิดด้วยซ้ำว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นกับตัวเอง เขาจึงไม่กล้าสู้หน้าและหรุบตาลงต่ำ

ทว่าณธิปกลับตีความว่ากมลอึดอัดใจ อยากปฏิเสธ จึงรีบถามอย่างร้อนใจ

“ไอ คุณเงียบทำไมล่ะครับ”

“แล้วคุณจะให้ผม...พูดอะไรล่ะ” กมลพยายามควบคุมตัวเองอีกครั้ง แต่ไม่รู้ทำไมเสียงที่เปล่งออกมาถึงได้เบาราวกระซิบเช่นนี้

“ตอบตกลงสิ หรือพูดอะไรก็ได้” ณธิปว่า “แค่อย่าปฏิเสธผมก็พอ”

คนเจ้าเล่ห์รีบรวบรัดดักทาง ไม่ยอมให้กมลพูดคำอื่น ทว่ากลมก็ยังก้มหน้าเงียบ แล้วเช่นนี้จะให้ณธิปตีความเป็นอย่างอื่นได้อย่างไร

“...”

“ไอ...คุณไม่พร้อมเหรอ หรือคิดว่ามันเร็วเกินไป คุณมีข้อแม้อะไร บอกผมได้ทุกอย่าง”

เขาวางแผนนี้ขึ้น ตั้งใจทำให้กมลคิดถึงเขา เพราะคิดว่ากมลจะอาวรณ์และรู้ตัวว่ารักเขาแค่ไหน หากอยู่ห่างไกลกัน แม้ที่ปรึกษาหลายๆ คนจะบอกว่าแผนนี้รวบรัดเกินไป

กระนั้น คนใจร้อนก็รอไม่ไหวแล้ว เขาอยากเอาตัวเองเข้าไปอยู่ข้างกายกมลโดยสมบูรณ์ ไม่อยากเห็นอีกฝ่ายเดินเข้าบ้านด้วยท่าทางหงอยเหงาอีก

ใครๆ ว่าสำหรับการแต่งงาน ทุกอย่างรวดเร็วไปหน่อย แต่ณธิปกลับมองว่าสำหรับคนที่ใช่ จะช้าจะเร็วก็มีผลลัพธ์ไม่ต่างกัน

“...”

“ผมสัญญา ผมจะทำตัวให้ดียิ่งขึ้นไปอีก จะซื่อสัตย์ต่อคุณ ไม่ทำให้คุณเสียใจ”

“...”

   “มอบโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม ให้ผมได้รักและดูแลคุณไปตลอดชีวิต”

แม้กมลไม่ตอบ แต่ณธิปก็ยังพูดสิ่งที่อยู่ในใจของเขาออกไปจนหมด หัวใจของเขาตุ้มๆ ต่อมๆ ด้วยความคาดหวัง แต่ถึงอย่างนั้น แม้วันนี้กมลจะไม่ยอมตอบตกลง ณธิปก็ยังจะสู้และรอคอยให้กมลพร้อมเหมือนที่ผ่านมา

...เพราะเขามั่นใจแล้วว่าคนคนนี้คือความรักของเขา คือคนที่เขาอยากอยู่ด้วยไปตลอดชีวิต ดังนั้นไม่ว่าอย่างไร ณธิปก็จะไม่มีทางยอมแพ้

   วินาทีเดียวที่ต้องรอคอยคำตอบจากปากเหมือนนานชั่วกัป ทว่าเขาก็คอยได้ เพียงแต่ความเปลี่ยนแปลงเล็กๆ ของคนตรงหน้าต่างหาก ที่ทำให้ชายหนุ่มร้อนรนขึ้นมา

“ไอ...?”

เห็นไหล่ที่ตั้งตรงอยู่เสมอสั่นเหมือนควบคุมไม่อยู่ เขาจึงย่อเข่าลงเพื่อมองให้เห็นใบหน้าซึ่งก้มต่ำจนคางชิดอก และณธิปก็ได้เห็น...น้ำตาของคนรักไหลผ่านแก้มเนียนลงมาจึงถึงปลายคาง

   เห็นขนตาเปียกชุ่มกระพริบถี่ คล้ายคนดีของเขาพยายามอย่างยิ่งที่จะสกัดกั้นมัน หากเจ้าตัวทำไม่ได้ก็เท่านั้น

   ...ได้เห็นน้ำตาของกมล หัวใจของณธิปก็พลันเจ็บปวด

   เขายืดตัวขึ้น รวบคนตรงหน้าเข้าสู่อ้อมกอด ให้กมลเช็ดน้ำตากับอกอกเขา น้ำตาเหล่านั้น เขาจะรับมันไว้เอง

   “ไม่ร้องนะไอ ผมขอโทษ ผมจะไม่บังคับคุณแล้ว” คนเจ้าแผนการทำอะไรไม่ถูกขึ้นมาชั่วขณะ ด้วยไม่คิดว่าความเอาแต่ใจของเขาจะแลกมาด้วยน้ำตาของคนรัก

“ผมไม่---“

“ครับๆ ไม่แต่งก็ไม่แต่ง อะไรก็ยอมแล้ว ผมยอมหมดเลย ขอแค่คุณอย่าร้องไห้ก็พอ”

“...ใครว่า@#$)I$#”

“หืม? คุณว่าอะไรนะครับ”

เพราะเขากอดกมลแน่นเกินไป เสียงอีกฝ่ายจึงอู้อี้ฟังไม่รู้เรื่อง คราวนี้ณธิปจึงคลายอ้อมกอดให้หลวมหน่อย แล้วก้มมองหน้าคนพูดอย่างตั้งใจฟัง

กมลเงยหน้ามองเขา ดวงตาคู่สวยแดงก่ำเสียจนทำเขาใจเสียอีกรอบ นึกก่นด่าตัวเองในใจที่ทำอะไรไม่คิด แต่ประโยคที่กมลพูดกลับทำให้ณธิปหยุดความคิดไร้สาระทั้งหมดชั่วขณะ

 “ใครว่าผมจะไม่แต่ง”

“...” นานอึดใจหนึ่ง กว่าณธิปจะหาเสียงของตัวเองเจอ “คุณหมายความว่า...”

“ว่าผมจะยอมแต่งกับคุณ”

ทั้งสองสบตากันท่ามกลางความเงียบ ณธิปเพิ่งรู้ตอนนี้เองว่า ความจริงไม่ใช่แค่ความคิดไร้สาระ แต่โลกใบนี้คล้ายหยุดหมุนไปเลยก็ว่าได้

“คุณพูดจริงหรือไอ!!”

“ก็ถ้าเกิดว่า...คุณขอ...ผมก็ไม่ปฏิเสธหรอก” กมลพูดตะกุกตะกักอย่างหาได้ยาก แต่ณธิปก็เข้าใจมันอย่างชัดเจนโดยไม่ต้องพูดซ้ำ

ดวงตาหม่นเศร้าเปล่งประกายทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น ชายหนุ่มปล่อยกมลออกจากอ้อมกอดก่อน จากนั้นจึงหยิบกล่องแหวนในมือเรียวมาถือไว้เอง และคุกเข่าลงตรงหน้ากมลข้างหนึ่ง

“ไอ” ชายหนุ่มเริ่มเกริ่น

“ครับ”

เมื่อกมลตอบรับ เขาก็เปิดกล่องแหวนและยื่นไปตรงหน้า

“แต่งงานกับผมนะ”


“ครับ” กมลพหยักหน้า ตอบรับทั้งรอยยิ้มและน้ำตา หากมันเป็นน้ำตาแห่งความดีใจ “ผมจะแต่งกับคุณ คุณเล็ก...”







---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทส่งท้าย [12/06/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: ละอองฝน ที่ 12-06-2019 22:46:44





คุณคือความรัก บทส่งท้าย







 
   กมลมองตัวเองในกระจก วันนี้เขาสวมชุดสูทสีขาวสะอาดทั้งตัว ทรงผมก็จัดทรงเรียบร้อยกว่าทุกวัน บนอกเสียบดอกกุหลายสีแดงและริบบิ้นสีเข้ากัน


   เช้านี้ชายหนุ่มรู้สึกไม่เป็นตัวเองนัก ทั้งที่ผ่านประสบการณ์จัดงานแต่งงานมาไม่รู้กี่งานต่อกี่งาน ทว่าเมื่อเป็นงานของตัวเอง ความรู้สึกมันช่างแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง


   “ไอ”

เสียงคุ้นเคยของใครคนหนึ่งดังขึ้นจากทางด้านหลัง ครั้นหันกลับไป กมลก็พบกับชายหนุ่ม ผู้ซึ่งสวมชุดสีเดียวกัน กำลังยื่นมือมาตรงหน้า

   “ได้เวลาแล้วหรือครับ” กมลถาม

   “ครับ” ณธิปพยักหน้ารับ “ผู้ใหญ่มากันหมดแล้ว”

   “...” กมลก้มมองมือที่อยู่ตรงหน้าเขา ก่อนจะวางมือของตัวเองลงไป

   โดยที่ไม่ได้พูดอะไรกันสักคำเดียว หากในใจของกมลกลับรู้สึกอุ่นซ่านอย่างน่าประหลาด

   กมลค่อยๆ ก้าวตามณธิปไป เมื่อผ่านผ่านห้องรับรองออกมายังสวนที่จัดงานก็พบบรรยากาศงานแต่งเรียบง่ายที่ตกแต่งด้วยดอกไม้บานสะพรั่ง

เขามองเห็นพนักงานใน I promise เพื่อนสมัยเรียนของตัวเอง เพื่อนสนิทของณธิป  น้องสาว หลานๆ และครอบครัวของพวกเขาทุกคนรออยู่ด้านหน้าด้วยรอยยิ้ม

   ชายหนุ่มมองภาพนั้นเนิ่นนาน ก่อนหันกลับมามองชายที่ยืนเยื้องไปด้านหน้าเขาเล็กน้อย

   “มาสิครับไอ ทุกคนรออยู่นะ” ณธิปกระตุกมือเขาเบาๆ ส่งสัญญาณให้มายืนข้างกัน เพื่อจะเดินไปพร้อมกัน

กมลยังไม่ก้าวเท้า แต่ก้มมองมือที่กุมมือเขาไว้ กลับนึกขันเรื่องราวมากมายก่อนที่จะถึงวันนี้...

จากเดิมเขาไม่เคยมีภาพในหัวว่าจะจับมือคนคนนี้ด้วยซ้ำ ไม่อยากที่จะโคจรมาพบกันซ้ำสอง ทว่าวันนี้ ณธิปกลับเป็นคนที่กมลยอมจับมือเพื่อเดินเคียงข้างกันไปชั่วชีวิต

ความรักนั้นช่างน่าประหลาด มันมีอิทธิพล มีพลังเปลี่ยนแปลง และสวยงาม

ชายหนุ่มเงยหน้ามองซุ้มกุหลาบเหนือหัวแล้วคิดว่า หากเดินพ้นออกไปจากร่มเงานี้ ทุกอย่างระหว่างเขากับณธิปจะไม่เหมือนเดิมตลอดกาล เนื่องจากคำสัญญารักจะรวมวิญญาณของพวกเขาเป็นหนึ่ง ไม่อาจแยกจาก เพราะหากแยกกัน นั่นหมายถึงความเจ็บปวด

“คุณเล็ก

“ครับ”

“ผมรักคุณ”

“...ผมก็รักคุณ”



ถึงอย่างนั้นกมลก็พร้อมและยินยอมทั้งหัวใจ เพราะณธิปคือคนคนนั้น...คนที่เป็นดั่งความรักของเขา





จบบริบูรณ์








   ในที่สุดนิยายเรื่องนี้ก็จบลงแล้ว!!~
   นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ฝนใช้ระยะเวลาเขียนนานที่สุด เกือบ 5 ปีแหนะ
   ดูจะเป็นการเดินทางที่ยาวนานจริงๆ แต่ในที่สุดแล้วฝนก็พา คุณเล็กกับคุณไอเดินมาจนสุดทาง
   เป็นความรู้สึกที่บรรยายไม่ถูกเลยค่ะ เพราะผูกพันกับตัวละครมาก ตัวละครเอกทั้งสองคนในเรื่องนี้ เป็นตัวละครที่มีพัฒนาการชัดเจนจริงๆ โดยเฉพาะคุณเล็ก
   หากอ่านมาตั้งแต่แรก จะเห็นได้ชัดเจนเลยว่าคุณเล็กโตขึ้นเยอะ เขาอาจเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น แต่ฝนคิดว่าคุณเล็กก็คือคุณเล็ก โดยเนื้อแท้ตัวละครนี้ไม่ได้ชั่วร้าย แค่มีความคิดบางอย่างที่ไม่เข้ารูปเข้ารอย และตัวละครอย่างคุณไอก็เข้ามาทำให้คุณเล็กดึงตัวตนในด้านดีออกมา
   สองคนนี้เป็นคนที่ดูต่างกันในตอนแรก แต่ฝนว่าเขาสองคนเติมเต็มให้กันได้พอดี
   ทีแรกตอนจะเขียนเรื่องนี้ ฝนมีความคิดในหัวว่า อยากเขียนเรื่องราวความรักที่ต้องใช้ระยะเวลาในการบ่มเพาะให้เติบโต ไม่ใช่อย่างเพื่อน พี่น้อง หรือความสัมพันธ์ที่เริ่มด้วยดี
   แต่เป็นความแตกต่างจนเกือบแตกหัก
   ตอนที่เขียนจบ และอ่านทบทวนซ้ำๆ อยู่ๆ ก็ร้องไห้ออกมาหลายครั้งเลยค่ะ
   มันเป็นความรู้สึกที่บรรยายไม่ถูก จะบอกว่าเหมือนเลี้ยงลูกจนโตขึ้นมา ก็ไม่รู้ว่าจะเทียบได้ไหม

   ฝนว่านิยายเรื่องนี้ นอกจากจะเขียนถึงการเปลี่ยนแปลง และการเติบโตของคนสองคน มันยังสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงและเติบโตในของเส้นทางการเขียนของฝนตลอด 5 ปีนี้ด้วย

   มันอาจไม่ใช่นิยายที่ดีที่สุด แต่ฝนก็รักมากเลยแหละ
   หวังเป็นอย่างยิ่งว่านิยายที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลงและเติบโตนี้ จะทำให้คนที่ได้อ่านมีความสุขบ้างไม่มากก็น้อยนะคะ
   ขอบคุณอย่างยิ่งสำหรับคนที่คอยติดตามตั้งแต่แรกเริ่ม หรือแม้แต่คนที่เพิ่งผ่านมาเจอกัน
   คุณทำให้ฝนมีกำลังใจในการเขียนมันจนเสร็จได้ ทั้งที่หลายครั้งก็วางมันทิ้งไว้ตรงนั้นนานหลายเดือน
   ความรู้สึกขอบคุณนี้ ไม่รู้จะบรรยายให้หมดได้ยังไงเลยค่ะ
   แต่ก็ขอบคุณจริงๆ
   ฝนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าหากยังไม่เบื่อกันเสียก่อน อยากให้คนอ่านที่น่ารัก ช่วยติดตามนิยายของฝนต่อไป
   จนกว่าจะเดินกันไปจนสุดทางด้วยนะคะ


   ขอบคุณจากหัวใจ



   ละอองฝน.





ปล. เรื่องหนังสือมีออกกับสนพ.วันเดอร์วายเจ้าเก่าค่ะ

ยังไงถ้ารายละเอียดมาแล้ว ฝนจะมาแจ้งนะคะ

หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 52+บทส่งท้าย [12/06/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: graciej ที่ 12-06-2019 23:22:37
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 52+บทส่งท้าย [12/06/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 12-06-2019 23:25:43
 :pig4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 52+บทส่งท้าย [12/06/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 12-06-2019 23:59:37
 :L1: ขอบคุณมากค่ะ ติดตามกันมานานจริง ๆ  :katai5:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 52+บทส่งท้าย [12/06/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 13-06-2019 00:30:37
 :L2: :L2: :L2: :L2: :L1: :L1: :L1: :L1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 52+บทส่งท้าย [12/06/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 13-06-2019 00:34:23
ดีใจกับทั้งคู่  :hao5: :hao5:
 :pig4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 52+บทส่งท้าย [12/06/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 13-06-2019 00:42:41
จบแบบสวยงามมากค่ะ ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เรารักมาก ดีใจทุกครั้งที่นักเขียนมาอัพ
มีความสุขทุกครั้งที่ได้อ่าน แล้วก็อินกับมันมาก
ยังไงก็จะอุดหนุนเล่มแน่นอนค่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 52+บทส่งท้าย [12/06/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 13-06-2019 07:25:39
ดีใจกับทั้งคู่ กว่านุ้งไอจะใจอ่อน กว่าคุณเล็กจะเลิกนก คงคิดถึงทั้งคู่น่าดู  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 52+บทส่งท้าย [12/06/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 13-06-2019 10:59:36
 :pig4: :pig4: :pig4: ขอบคุณผู้เเต่งค่ะ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 52+บทส่งท้าย [12/06/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: nut2557 ที่ 13-06-2019 12:26:07
 :L1: :L1: :L1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 52+บทส่งท้าย [12/06/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: may27 ที่ 13-06-2019 15:20:56
:mew2: จากการรอคอยอันยาวนานนนนนนน.......ในที่สุดก็คุณเล็กก็สมหวังซะที.......
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 52+บทส่งท้าย [12/06/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 13-06-2019 16:28:50
ปลื้มปริ่ม~~แฮปปี้มีความสุขด้วยกับทั้งคู่จบลงด้วยบรรยากาศซึ้งๆอบอวลไปด้วยความรัก กว่าจะมาถึงวันที่คุณเล็กแสดงให้เห็นว่าคุณไอคือความรักก็พิสูจน์ใจกันมาพอควร จวบจนมาวันนี้ที่รอคอย ทั้งผู้แต่งและผู้อ่าน ตามกันมานานจริงค่ะ 555 ดราม่านิดๆหน่วงหน่อยๆหวานๆเคลิ้มๆครบทุกรส ชอบมากกกกกกกกก ความรักแนวผู้ใหญ่มันกร๊าวใจเราจริงๆ เป็นนิยายที่ดี กลับมาอ่านอีกหลายรอบแน่นอน สนุกกก ชอบจริง ขอบคุณนะคะที่แต่งมาให้อ่านและอัพเรื่อยมาจนจบ รอตามผลงานต่อไป เป็นกำลังใจให้ค่ะ แต่งเก่งมาก แต่งอี๊ก  :)
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 52+บทส่งท้าย [12/06/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 13-06-2019 21:24:27
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 52+บทส่งท้าย [12/06/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 14-06-2019 21:54:41
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 52+บทส่งท้าย [12/06/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์บิน ที่ 16-06-2019 01:06:05
คุณเล็กจากเรื่องโปรดจงรัก กับตอนต้นเรื่องของเรื่องนี้คือคนละคนกับตอนที่รู้ใจตัวเองมากประทับใจมากที่สามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้แบบพลิกกลับอีกด้านไปเลยคือสุดมากทำให้ตัวเองคู่ควรกับไอได้อย่างสมบูรณ์แบบ ปลื้มปริ่มมากจุดนี้ หยินหยางก็น่ารักมากกกกกเอ็นดูมากกกก ขอยคุณสำหรับนิยายดีๆนะจ๊ะ  :o8:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 52+บทส่งท้าย [12/06/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: Aimlovelove ที่ 16-06-2019 01:25:14
รับรู้ถึงพัฒนาการความรักของทั้ง ลุ้นไปว่าจะลงเอยกันแบบไหนวันนี้รู้แล้วค่ะ
ขอบคุณไรท์มากๆ จุ๊บๆ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 52+บทส่งท้าย [12/06/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: Mengjie_JJ ที่ 16-06-2019 16:13:40
 :L1:

แฮปปี้เอนดิ้ง

คุณไอคงดีใจมาก น่ารักมากเลยคุณเล็ก

อยากแต่งกับเค้าบ้างจัง 555
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 52+บทส่งท้าย [12/06/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: ขอบฟ้าสีจาง ที่ 16-06-2019 21:32:24
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ  สนุกมาก อบอุ่นหัวใจดีจังค่ะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 52+บทส่งท้าย [12/06/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: khwanruen ที่ 17-06-2019 20:28:21
เย้ ยินดีกับคุณไอคุณเล็กด้วยนะ  :katai2-1: :mew1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 52+บทส่งท้าย [12/06/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: MezoSone9 ที่ 18-06-2019 14:33:53
แฮปปี้เอนดิ้ง มีความสุขมากๆ ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆจ้า  :L2:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 52+บทส่งท้าย [12/06/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 19-06-2019 15:39:15
จบได้น่ารักมากเลย
ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆน่ารักๆค่ะ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 52+บทส่งท้าย [12/06/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: pamhicc ที่ 22-06-2019 21:32:46
ดีมากๆๆๆๆๆ ได้เห็นคุณเล็กเติบโตเป็นคนที่ดีขึ้นเพราะคุณไอจริงๆ แต่คุณเล็กก็เป็นที่พึ่งที่ดีของคุณไอ คือมันดีไปหมด ชอบมากๆค่ะ ขอบคุณที่แต่งเรื่องดีๆมาให้อ่านนะคะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 52+บทส่งท้าย [12/06/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: +pEnGuIn+ ที่ 25-06-2019 09:17:47
เย้ ดีใจกับคุณเล็กด้วยยย
ขอบคุณที่แต่งนิยายดีๆมาให้อ่านนะคะ
เรารักคุณเล็กมากเลย คุณไอก็น่ารักมาก
อิอิ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 52+บทส่งท้าย [12/06/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: mmachiato ที่ 25-06-2019 15:44:42
อ่านตอนที่ 15 แล้วแอบเชียร์ให้คุณภัทรเป็นพระเอกแทน
แหม แสนดี มีน้ำใจ รักครอบครัวขนาดนี้
หาคนให้คุณภัทรสักคนเถอะ
หัวข้อ: Re: --&gt;✖&lt;คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก&gt;✖&lt;-- บทที่ 52+บทส่งท้าย [12/06/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: A-J.seiya* ที่ 25-06-2019 17:16:30
น้ำตาซึมเลยค่ะ เราหายไปเม้นท์ในเด็กดีอยู่ช่วงนึง ไม่ได้มาเป็นกำลังใจให้คุณฝนในนี้ เราชอบภาษาของคุณฝนมากๆ มันละมุน และดีไปหมด ชอบการดำเนินเรื่อง ชอบการค่อยๆเล่าความรู้สึกตัวละคร ทุกอย่างที่ออกมามันดีมาก ผลงานคุณภาพ ขอบคุณมากจริงๆที่ทำให้เรามีความสุข กับการอ่านเรื่องราวของคุณเล็กกับคุณไอ เราสัมผัสได้ถึงความรักของทั้งสองคน แล้วเราก็ยินดีกับความรักของทั้งสองคนมากๆ ♡

Sent from my SM-N950F using Tapatalk

หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- บทที่ 52+บทส่งท้าย [12/06/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: mmachiato ที่ 25-06-2019 17:36:17
ดังตฤณนี่พ่อพระมาชี้ทางสว่างให้คุณเล็กแท้ๆ
อ่านขาดมากว่าคุณไอเป็นคนแบบไหน
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ หลังแต่งงาน [03/07/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: ละอองฝน ที่ 03-07-2019 15:20:15






คุณคือความรัก ตอนพิเศษ หลังแต่งงาน







   หลังจากแต่งงานกันแล้ว กมลกับณธิปก็มาอยู่ด้วยกันที่คอนโดเพราะใกล้ที่ทำงาน ซึ่งณธิปเป็นฝ่ายย้ายข้าวของลงมาอยู่ห้องกมล โดยให้เหตุผลว่า

   “ผมไม่ค่อยมีของอะไร ส่วนใหญ่ของก็อยู่ที่บ้านพ่อกับแม่หมด ให้ผมย้ายง่ายกว่า” เรื่องราวทั้งหมดจึงลงเอ่ยเช่นนี้

   กมลค่อนข้างเกร็งไม่น้อยเพราะไม่รู้ว่าจริงๆ แล้ว คู่แต่งงานต้องอยู่ด้วยกันอย่างไร ต้องเกรงใจหรือทำอะไรให้กันขนาดไหน ดังนั้นกมลจึงค่อนข้างระมัดระวังเป็นพิเศษ จากเดิมที่เวลาอยู่คนเดียว เขาจะปล่อยตัว ไม่ค่อยเก็บข้าวของในห้องนัก ตามประสาผู้ชายทั่วไป เมื่อมีณธิปอยู่ด้วย กมลก็ต้องเก็บห้องบ่อยขึ้น ด้วยไม่อยากให้ถูกมองไม่ดี

    แต่พออยู่ด้วยกันไปเรื่อยๆ ทั้งเรื่องงานที่หนักหนาสาหัสทั้งคู่ ก็ทำให้กมลกลับไปเป็นตัวเองมากขึ้น จนวันหนึ่งที่เขากลับมาเอาของในห้อง กมลก็พบกับแม่บ้านกำลังทำความสะอาดห้องให้เขาอยู่

“คุณเข้ามาได้ไง” ชายหนุ่มถาม เพราะเขาไม่เคยจ้างแม่บ้านมาก่อน

“ดิฉันเป็นคนจากโรงแรม A คุณเล็กส่งดิฉันมาช่วยทำความสะอาดห้องค่ะ”

“คุณเล็กหรือครับ...” กมลรับคำ

“ค่ะ” เธอพยักหน้ารับ ก่อนจะเรียกเขาด้วยความสนิทสนม “คุณไอไม่ต้องตกใจนะคะ ก่อนหน้านี้ดิฉันเคยมาหลายครั้งแล้ว เพียงแต่ไม่เคยพบกับคุณไอเท่านั้น”

“อ่อ...”

กมลลองนึกย้อนไป และพบว่าอาจจะจริงอย่างที่เธอบอก เพราะช่วงอาทิตย์สองอาทิตย์ที่ผ่านมา เขาค่อนข้างยุ่ง จึงลืมเรื่องเก็บกวาดห้องไปเสียสนิท แต่ถึงอย่างนั้น ข้าวของ เสื้อผ้า จานในอ่าง ทุกอย่างก็เรียบร้อยเข้าที่โดยที่เขาไม่ได้ทำ...และคงไม่ใช่ณธิปแน่ๆ ที่เป็นคนลงมือ

ทำไมก่อนหน้านี้ไม่เอะใจว่ามีคนอื่นเข้ามาช่วยดูแลนะ...กมลนึกตำหนิตัวเอง ซึ่งต่อมาเขาก็ได้คำตอบจากณธิปในคืนนั้น

“ผมเห็นคุณยุ่งๆ แล้วก็กลับดึกทุกวัน ก็เลยสั่งให้แม่บ้านมาทำให้”

“ไม่เห็นคุณบอกผมเลย”

“ก็มันเรื่องเล็กน้อยเองนี่” ณธิปบอกด้วยน้ำเสียงสบายๆ ฝ่ามือใหญ่นั่นลูบแผ่นหลังเปลืองเปล่าของเขาไปด้วย “ปรกติก่อนหน้านี้ผมก็ให้แม่บ้านมาทำให้ประจำอยู่แล้ว”

“แต่จริงๆ นี่บ้านเรา ผมว่าเราน่าจะทำเอง” กมลบอกอย่างเคยชิน เพราะที่ผ่านมาเขาใช้ชีวิตแบบนั้นจนชิน หลายครั้งห้องก็รกสุดๆ แต่สุดท้ายเขาก็ทำความสะอาดด้วยตัวเอง ไม่เคยพึ่งพาคนนอก

“ไม่จำเป็นหรอก ผมว่าคุณเหนื่อยทำงานมาทั้งวันแล้ว ยังจะมาเหนื่อยที่บ้านอีกก็ไม่ไหวมั้ง แบบนี้ขึ้นเตียงก็หลับเป็นตายน่ะสิ ไม่สู้ให้คนมาช่วยผ่อนแรงดีกว่าหรือ”

ได้ยินแบบนั้น กมลก็เงยยันตัวขึ้นจากอกคนรัก แล้วหรี่ตาถาม

“พูดแบบนี้ คุณหวังอะไร”

“ก็...หวังให้คุณสบายไง”

“ไม่ใช่ว่าหวังเรื่องบนเตียงเหมือนที่พูดเมื่อกี้เหรอ”

“นั่น...ก็ด้วย” ณธิปตอบอ้อมแอ้ม ก่อนจะดึงกมลลงมานอนเหมือนเดิม แล้วเอาน้ำเย็นเข้าลูบ “แต่ที่ผมหวังที่สุด คืออยากให้คุณสบาย ไม่ต้องเหนื่อยมาก แล้วเรื่องจ้างคนก็ไม่ได้ทำให้เราเดือดร้อน ยกเว้นว่าคุณไม่อยากให้ใครเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัว ผมก็จะไม่จ้างมาอีก”

กมลนิ่งเงียบ ไม่ใช่ไม่พอใจ แต่กำลังคิดตามที่ณธิปบอก นอนหนุนอกคนรักคิดไปคิดมาหลายตลบ สุดท้ายก็ลงความเห็นว่าวิธีของณธิปเป็นวิธีที่ดีเหมือนกัน

“ว่าไงครับ คุณอยากให้ผมยกเลิกไหม”

“ไม่ต้องก็ได้ แต่วันหยุดของเรา ไม่ต้องให้เขามาหรอก ผมจะทำเอง”

“เอางั้นก็ได้ครับ” ณธิปยอมตกลงง่ายๆ เพราะเขาเองก็อยากอยู่กับกมลสองต่อสองในวันหยุดเหมือนกัน







ถัดจากเรื่องดูแลความเรียบร้อยในบ้าน มาถึงอาหารการกิน

ก่อนหน้านี้ เวลาที่กมลอยู่คนเดียว เขาจะใช้ชีวิตด้วยการซื้อหาของกินมาจากข้างนอก เพราะทุ่นแรงและประหยัดเวลา พอณธิปเข้ามาอยู่ด้วยใหม่ๆ อีกฝ่ายก็หอบอาหารของเชฟที่โรงแรมกลับมาบ้าน วันหยุดบางครั้งก็กลับไปกินข้าวกับครอบครัว ดังนั้นเรื่องอาหารก็ไม่ใช่ปัญหาของพวกเขาอีก

กระทั่งกมลได้ยินสิ่งที่จงรักพูดในที่ทำงาน มันก็ทำให้เขาฉุกคิดบางอย่างขึ้นมาได้

   “ผมทำอาหารให้พี่เมฆกินทุกวันครับ” จงรักว่า

“ทุกวันเลยหรือ”

“ครับ บางวันก็ทำข้าวกลางวันห่อให้ด้วย”

“ไม่เหนื่อยแย่หรือไง”

“ไม่เหนื่อยหรอกครับ ผมชอบทำอาหารกินเอง เพราะกินที่ไหนก็ไม่ปลอดภัยเท่าเราทำเอง เพื่อสุขภาพที่ดีด้วยครับ ว่าแต่พี่ไอทำให้คุณเล็กบ้างไหมครับ”

“พี่ไม่ค่อยมีเวลาทำ นานๆ ครั้งถึงจะเข้าครัว แต่ส่วนใหญ่เป็นวันหยุด”

“อ๋อ...แล้วพี่คุณเล็กชอบทานอะไรหรือครับ ทานยากไหม”

“จะว่ายากก็ไม่ยากหรอก อาจจะมีอะไรบางอย่างที่เขาไม่กินและกินไม่ได้ กเป็นจำพวกของเผ็ดกับอาหารทะเล นอกนั้นพี่ก็เห็นเขากินหมด แต่จะชอบเนื้อเป็นพิเศษ”

“แล้วคุณเล็กทานคลีนไหมครับ”

“ไม่ถึงกับคลีน แต่ปรุงรสน้อยหน่อย”

“ผมมีสูตรสเต็กอร่อยๆ อยู่นะครับ พี่ไอสนใจไหม”

“ก็น่าสนนะ”

“งั้นเดี๋ยวผมส่งไลน์ให้ วันหยุดว่างๆ พี่จะได้ทำเอาใจคุณสามี”

“เดี๋ยวเถอะ เรานี่” พอโดนจงรักสัพยอกไปคำ กมลก็เสเปลี่ยนเรื่อง “พี่ไปทำงานแล้ว เราล่ะ จะกลับร้านไหมวันนี้”

“กลับครับ บ่ายนี้ดอกไม้เข้า ผมจะไปเช็คด้วยว่าครบตามที่สั่งไหม”

“อืม งั้นก็ไปเถอะ พี่ไปทำงานแล้ว”

“ครับๆ” จงรักยิ้มรับ และไม่ลืมทิ้งท้าย “แล้วผมจะส่งสูตรให้นะ”

“หึๆ โอเค”

หลังจากแยกกันแล้ว ญาติผู้น้องของกมลก็ส่งสูตรสเต็กเนื้อให้จริงๆ ก่อนเดินทางออกไปพบลูกค้าตามนัด กมลจึงนั่งเปิดดูคร่าวๆ และตั้งใจว่าวันหยุดสุดสัปดาห์นี้จะลองทำให้ณธิปทาน








ยามเมื่อณธิปลืมตาขึ้นมา เขาก็ไม่พบคนข้างกายแล้ว ชายหนุ่มขยี้ตาอย่างง่วงงุน ขยับขึ้นพิงหัวเตียง และมองดูนาฬิกา

น่าแปลก...ทั้งที่เป็นวันหยุด เข็มนาฬิกาเพิ่งชี้เลขแปด แต่กมลกลับลุกไปไหนก็ไม่รู้ ลูบคลำที่นอนดูก็พบแต่ความเย็นชืด แสดงว่าอีกฝ่ายลุกไปนานแล้ว

ชายหนุ่มนั่งเรียกสติครู่เดียว ก็ลุกจากเตียงตามไปหา ด้วยอยากรู้ว่าคนดีของเขาหายไปอยู่หนไหน

“ไอ”

“...”

“ไอครับ!”

“...”

หลังจากเดินหารอบห้อง ทั้งในครัว ห้องรับแขก ห้องน้ำ ณธิปก็ไม่พบกมล ชายหนุ่มจึงมุ่นคิ้วด้วยความสงสัย พยายามทบทวนความทรงจำว่าวันนี้กมลได้บอกหรือไม่ว่าจะไปทำงาน ทว่าคิดอย่างไรก็ไม่มีความทรงจำเช่นนั้นเลย

“หรือจะลงไปฟิตเนส” เขาตั้งข้อสังเกต

หากยังไม่ทันไปหยิบโทรศัพท์เพื่อโทรตามคนรัก อีกฝ่ายก็เปิดประตูห้องเข้ามา พร้อมกับหิ้วข้าวของพะรุงพะรังเต็มมือ

“อ้าว! ตื่นแล้วหรือครับคุณเล็ก” เมื่อมองเห็นเขา กมลก็เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสดใส “ทำไมวันนี้ตื่นเช้าจัง”

“ผมสิต้องถามว่าทำไมคุณตื่นเช้าจัง” ณธิปถามกลับพร้อมกับเดินไปช่วยถือของ เพราะปรกติหากเป็นวันหยุด กมลจะนอนหลับอยู่ข้างๆ เขา กว่าจะลุกจากเตียงก็ตอนที่ถูกณธิปก่อกวนจนอยู่ไม่ได้

“ผมไปซื้อของมา”

“ซื้ออะไรมาเยอะแยะ วันนี้ไม่ไปกินกับที่บ้านหรือ”

“ไม่ไปครับ วันนี้ผมจะทำอาหารให้คุณกินเอง” กมลบอกความตั้งใจด้วยรอยยิ้มพราย

“คุณทำหรือ” ณธิปถามด้วยความประหลาดใจ “นึกยังไงครับ”

ที่เขาถามเช่นนี้ ไม่ใช่ไม่ดีใจ แต่อยากรู้ว่าเพราะอะไรมากกว่า เนื่องจากพักหลังๆ มานี้ กมลไม่ได้เข้าครัวทำอาหารให้เขากินเลย แต่ณธิปก็พอเข้าใจว่าอีกฝ่ายทำงานหนักไม่ต่างกับเขา เวลาที่จะทำอะไรต่ออะไรก็น้อยลงตามไปด้วย

“ผมได้สูตรสเต็กเนื้อมาจากจงรัก คิดว่าคุณน่าจะชอบ ก็เลยอยากทำให้กิน”

“น่ารักจัง” พอณธิปเอ่ยชม กมลก็เดินเลี่ยงเข้าไปในครัว

ณธิปรู้ว่าที่คนรักเลี่ยง เพราะกำลังเขิน ชายหนุ่มจึงเดินตามเข้าไปอยู่ในครัวด้วยกัน

“มีอะไรให้ผมช่วยไหม”

“ไม่รู้จะให้คุณช่วยอะไร จริงๆ นั่งรอก็ได้นะ ทำเสร็จแล้วผมจะเรียก”

“ผมอยากช่วย งานเล็กๆ น้อยๆ ก็ได้”

เห็นว่าวันนี้เป็นโอกาสดีที่จะได้อยู่ด้วยกัน ได้ทำนั่นทำนี่ร่วมกัน อีกอย่างวันนี้กมลก็ลงมือทำอาหารให้เขาเป็นพิเศษ ณธิปเองก็อยากดูแลหรือช่วยเหลือคนรักบ้าง

“งั้น...ช่วยล้างผักที่จะเอามาทำเครื่องเคียงก็ได้ครับ”

“เอาสิ”

เมื่อได้รับมอบหมายงาน ณธิปก็ลงมือทำอย่างตั้งใจ ผ่านไปสักครู่ งานง่ายๆ ของเขาก็เสร็จเรียบร้อย ตอนนี้ก็เหลือแต่ในส่วนของกมลที่ก้มๆ เงยๆ ปรับอุณหภูมิเตาอบ

ณธิปยืนพินิจกมลอย่างตั้งใจ ไม่ว่าคนตรงหน้าจะหยิบจับทำอะไร สีหน้าเปลี่ยนไปแค่ไหน ก็พานให้เขารู้สึกตกหลุมรักไปหมดทุกอย่าง

รอจนกระทั่งกมลหันลุกขึ้นมาล้างอุปกรณ์ที่ใช้ในการหมักเนื้อ ณธิปก็อดใจไม่ไหว และเดินเข้าไปรวมกอดเอวบางไว้

“อะไรครับ” กมลส่งเสียงถามเมื่อถูกสัมผัส

“นึกยังไงวันนี้ถึงทำอาหารให้ผมกิน”

“ก็...ไม่นึกยังไง” ที่แรกณธิปคิดว่ากมลจะปากแข็งไม่เอ่ยความรู้สึกหรืออะไรออกมาให้รับรู้ แต่อึดใจต่อมาอีกฝ่ายกลับพูดต่อ “ผมแค่อยากทำอะไรให้คุณกินด้วยตัวเองบ้าง”

“หืม?”

“ไม่รู้สิ” กมลเอี้ยวหน้ากลับมามองคนที่วางคางบนไหล่ ก่อนหันกลับไปแล้วว่า “ตั้งแต่มาอยู่ด้วยกันจริงๆ ผมแทบไม่ค่อยทำอะไรให้คุณเลย ไม่ค่อยได้ดูแลคุณเท่าที่ควร”

“ก็คุณทำงาน ผมเข้าใจ”

“แต่ผมรู้สึกเหมือนทำหน้าที่ไม่สมบูรณ์”

“คิดมากน่า ผมเองก็ไม่ได้ทำอะไรให้คุณเหมือนกัน”

“อย่างน้อยคุณก็มองเห็นในเรื่องที่ผมไม่ได้สนใจ”

ณธิปรู้ว่าตรงนี้กมลคงหมายถึงเรื่องดูแลบ้าน เขาจึงอธิบาย

“ไอครับ”

“ครับ?”

“ผมแต่งงานกับคุณ ไม่ได้หวังให้คุณดูแลผมฝ่ายเดียว ไม่ได้หวังว่าคุณต้องกลายเป็นภรรยาผู้เพียบพร้อม ที่ผมแต่งกับคุณ เพราะผมรักคุณ อยากอยู่กับคุณเท่านั้น”

“ผมเข้าใจ”

“ไม่ๆ คุณไม่เข้าใจนะ มานี่มา ล้างมือแล้วหันมาฟังผมก่อน”

ณธิปช่วยกมลล้างมือจนสะอาด ก่อนจะพลิกตัวกมลกลับมาเผชิญหน้ากัน เขากุมมือกมลไว้ทั้งสองข้าง จ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่สวย จ้องนานเสียจนกมลประหม่า

“จ้องผมทำไม มีอะไรก็พูดสิครับ”

“ชีวิตแต่งงานของเรา อาจจะไม่เหมือนสูตรสำเร็จของคนอื่น เรื่องนี้คุณรู้ใช่ไหม”

“รู้”

“ตอนคุณอยู่ข้างนอก คุณจะเพียบพร้อม จะดูแลคนอื่นยังไงก็แล้วแต่คุณ แต่เวลาที่คุณอยู่กับผม ผมอยากให้คุณเป็นตัวเอง”

“คุณเล็ก...”

“จริงนะไอ คุณอยากทำอะไรก็ได้ นอนตื่นสาย ไม่ทำความสะอาดบ้าน ไม่ทำกับข้าว อยากทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น ผมไม่จะไม่ว่าเลย เพราะเรื่องพวกนั้น ผมก็ไม่ทำเหมือนกัน เราสองคน เป็นคนเท่ากัน ไม่ได้อยากรับการดูแลจากคุณเพียงฝ่ายเดียวหรอกนะ ถ้าวันไหนคุณเกิดอยากทำอะไรให้ผม คุณก็ทำ แต่ไม่ต้องเหนื่อยหรือพยายามเกินไปหรอก”

กมลมองตาณธิป ฟังทุกคำพูด และจดจำใส่ใจ

เขารู้สึกว่าคำพูดนี้ ปลดล็อกบางอย่าง ทำให้เขาทั้งผ่อนคลาย และสบายใจอย่างที่ไม่เคยเป็น คล้ายกับว่าเวลานี้ กมลได้อยู่ในที่ของตัวเองอย่างแท้จริง

หนุ่มหน้าหวานค่อยๆ ยิ้มออกมา ยิ้มอย่างที่ณธิปรักที่สุด จากนั้นจึงเอ่ย

“ขอบคุณนะครับคุณเล็ก”

“ไม่เห็นต้องขอบคุณเลย ผมพูดความจริง”

“ต้องขอบคุณสิ คุณทำให้ผมสบายใจมากเลย ต่อไปก็ไม่ต้องทำงานบ้านแล้ว ฮ่าๆๆ”

ครั้นเห็นกมลหัวเราะ ณธิปก็พลอยหัวเราะไปด้วย

“หึๆ ผมบอกแล้วว่าจ้างแม่บ้านคนสองคน ไม่ทำให้เราเดือดร้อน คุณก็ไม่เชื่อ”

“ก็ผมไม่เคยให้ใครทำให้นี่” กมลเอ่ยตามความสัตย์จริง

“ไม่ต้องสนใจเรื่องแบบนี้หรอก สนใจแค่ผมก็พอแล้ว” สุดท้ายแล้ว ณธิปก็ไม่วายพูดพร้อมกับขยิบตาเจ้าเล่ห์อย่างที่ชอบทำ

“ครับๆ ที่คิดมากอยู่นี่ ก็เพราะสนใจเรื่องของคุณนั่นแหละ” กมลสารภาพ

“น่ารักจัง” ณธิปยิ้มกว้างเมื่อได้ยิน จากนั้นจึงก้มจูบบนหน้าผากมน

“แต่วันนี้คุณน่ารักกว่านะ” คนหน้าหวานว่า พร้อมกับเงยหน้าจูบปลายคางของอีกฝ่าย “ผมไม่คิดว่าจะเห็นคุณมุมนี้เลย ลุคนี้ดูไม่ใช่คุณจริงๆ นะ”

“ผมก็เป็นของผมแบบนี้แหละ จะไม่ใช่ได้ยังไง” ณธิปบอกปัดๆ แล้วหันมาโฟกัสที่อีกฝ่ายจูบปลายคางตัวเองเมื่อครู่ “แล้วนี่ยังไงครับ ยั่วกันแบบนี้ ไม่ต้องทำแล้วดีไหมอาหารน่ะ”

ได้ยินแบบนั้น กมลก็ดันอกณธิปไว้ ไม่ยอมให้คนเจ้าเล่ห์ขยับเข้ามาใกล้ตนเองมากกว่านี้

“ไม่เอานะคุณเล็ก อย่างน้อยก็ไม่ใช่ในครัว”

“ในครัวก็ดีออก เปลี่ยนบรรยากาศไปอีกแบบ” ณธิปยิ้มกริ่ม สลัดภาพชายผู้เข้าอกเข้าใจคนรักไปหมดสิ้น

“พอเลยๆ หยุดคิดเรื่องลามก แล้วมาช่วยผมจัดจานก่อน”

“ไม่ทำอย่างอื่นก่อนหรือ”

“ไม่ทำครับ!”

“ปฏิเสธเสียงแข็งเชียวนะ ทั้งที่คัวเองยั่วเขาแท้ๆ” ณธิปแกล้งพูดเหมือนเสียดายไปอย่างนั้น อยากหยอกให้กมลแหวใส่เล่นๆ

“ไม่ได้ยั่วสักหน่อย คุณนี่...คิดแต่งเรื่องอะไรก็ไม่รู้”

“หึๆ” ณธิปหัวเราะเบาๆ ก่อนจะยอมปล่อยกมลให้ทำอาหารต่ออย่างที่อีกฝ่ายต้องการ “ไหนครับ ให้ผมช่วยจัดอะไร”

กว่าจะทำอาหารเสร็จก็สายๆ มื้อพิเศษนี้จึงเป็นมื้อเที่ยงของพวกเขาพอดี ทั้งสองกินไปคุยไป กินเสร็จเรียบร้อยก็ทิ้งจานชามไว้ และหอบขนมขบเคี้ยวไปหน้าทีวี ก่อนนอนเอกเขนกข้างกันเพื่อดูซีรี่ส์อย่างที่ชอบทำทุกวันหยุด


   ...แล้วชีวิตหลังแต่งงานของกมลและณธิปก็ดำเนินไปอย่างเรียบง่ายเช่นนี้





<><><><><><><><><><><><><><><><><><>




มีตอนพิเศษออกมาแล้ว
เป็นความน่ารักกุบกิบๆ เบาๆ
หวังว่าจะชอบกันนะคะ
ตอนพิเศษตอนนี้จะรวมอยู่ในหนังสือด้วยค่ะ
ซื้อในหนังสือที่ตอนนี้กำลังเปิดจอง มีตอนพิเศษที่ไม่ได้ลงในเว็บอีดหลายตอนเลยน้า
ใครสนใจก็ไปจองกันได้นะคะ
เข้าไปที่หน้าเพจละอองฝน หรือ onederwhy ก็ได้ค่ะ มีรายละเอียดการจองกับรูปหน้าปกให้ดู


ละอองฝน.


ปล.มีคำผิดจะตามมาอีดิททีหลังนะคะ ถ้าเจอก็ช่วยชี้ได้เลย ขอบคุณค่า
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ หลังแต่งงาน [03/07/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 03-07-2019 16:40:08
 :man1:  ทำไมคุณ​ไอ​น่ารัก​จัง​
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ หลังแต่งงาน [03/07/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: aisen ที่ 03-07-2019 17:09:49
น่ารักหวานๆ คุณเล็ก&คุณไอ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ หลังแต่งงาน [03/07/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 03-07-2019 22:19:37
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ หลังแต่งงาน [03/07/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 03-07-2019 22:44:57
 :L2: :L1: :pig4:

น่ารัก
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ หลังแต่งงาน [03/07/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: about ที่ 03-07-2019 23:17:29
 :pig4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ หลังแต่งงาน [03/07/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 04-07-2019 00:12:23
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ หลังแต่งงาน [03/07/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: Honeyhoney ที่ 04-07-2019 04:35:25
 :mew1: น่ารักมาก ๆๆ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ หลังแต่งงาน [03/07/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: พระสนมฝ่ายซ้าย ที่ 04-07-2019 19:49:02
น่ารักมากๆค่ะ
ดูเป็นคู่ที่อบอุ่น อยู่ด้วยกัน ดูแลกัน ><
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ หลังแต่งงาน [03/07/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: pamhicc ที่ 04-07-2019 20:30:41
คุณเล็กน่ารัก เป็นสามีที่ดีจังเลย  :pig4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ หลังแต่งงาน [03/07/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: JingJing ที่ 04-10-2019 17:55:30
 สนุกมาก ขอบคุณคนแต่งสำหรับนิยายดีๆ อบอุ่นหัวใจเรื่องนี้นะคะ  :L2: :กอด1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ หลังแต่งงาน [03/07/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: may27 ที่ 08-10-2019 09:04:55
 :katai2-1: มีตอนพิเศษด้วย ......เรียบง่ายแต่มีความสุข
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ หลังแต่งงาน [03/07/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: Gatjang_naka ที่ 11-10-2019 19:53:27
น่ารัก มากจ้า
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ หลังแต่งงาน [03/07/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 16-10-2019 20:05:00
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ หลังแต่งงาน [03/07/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 16-10-2019 22:25:35
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ หลังแต่งงาน [03/07/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: New_atcha ที่ 18-10-2019 17:07:54
ไม่คิดเลยว่าคุณเล็กที่ตอนอยู่เรื่องโปรดจงรัก (บอกเลยตอนนั้นเป็นคนชั่วโดยสมบูรณ์ ส่งคนไปทำร้ายเมฆ) จะเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ถึงขนาดนี้ นับถือความพยายามในการปรับปรุงตัวเองเพื่อให้คู่ควรกับคุณไอได้ดีเยี่ยม  :pig4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ หลังแต่งงาน [03/07/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: airjang ที่ 25-10-2019 00:53:08
จากที่เกลียดขี้หน้าคุณเล็ก กลายเป็นตามลุ้นให้คุณไอใจอ่อนรับรัก
เห็นความเติบโต ความเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นของคุณพระเอก
คนที่หยิ่ง แข็ง ไม่เห็นหัวใคร กลับยอมก้มหัวให้กับความรัก
เห็นถึงความทุ่มเท ความพยายามที่ค่อยๆโน้มใจคุณไอมาหาตัวเองจนได้ในที่สุด

เราชอบตอนที่พระเอกไปขอโทษ (ถึงจะช้าไปเป็นปี) และขอร้องคุณเกษเพื่อนายเอก
ส่วนคุณเกษสปิริตสูงมาก เป็นเราไม่เอารองเท้าเขวี้ยงหัวให้ก็บุญแล้ว

เรื่องนี้เติมเต็มจิตใจ อิ่มมาก

เราว่าเรื่องนี้ plot การดำเนินเรื่อง ภาษา มีความเข้ม ความลึกกว่า โปรดจงรัก มากทีเดียว
เป็นกำลังใจให้กับงานดีๆเรื่องนี้และต่อๆไปค่ะ
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ หลังแต่งงาน [03/07/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์บิน ที่ 25-10-2019 01:17:00
กว่าจะใจอ่อน ยอมคบ รัก ตกลงปลงใจสุดยอดมากกกกคุณไอของป้าช่างสุดยอดดดใจแข็ง(?)มากจนอ่อนลงได้ เล็กนี่หมั่นไส้นางจากเรื่องก่อนมากกกกกกกกแทบไม่อยากจะให้นางเป็นพระเอกของสักเรื่องเด็กน้อยผู้ขี้อิจฉาถูกเลี้ยงมาผิดๆไปหน่อยในที่สุดวันนี้เขามีความรักของตัวเองแล้วววว
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ หลังแต่งงาน [03/07/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: mpalism31 ที่ 10-11-2019 10:11:27
ขอบคุณมากค่ะ ติดตามกันมานานจริง ๆ  :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ หลังแต่งงาน [03/07/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: tonpaicat ที่ 13-11-2019 09:49:13
ชอบเรื่องนี้จัง สไตล์แบดบอยกลับใจ
นายเอกน่ารัก มีความเป็นผู้ใหญ่ ดูไม่เพ้อฝันจนเกินไป
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ หลังแต่งงาน [03/07/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: unicorncolour ที่ 13-11-2019 16:02:54
 o13
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ หลังแต่งงาน [03/07/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: Maeo ที่ 15-11-2019 00:39:20
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆค่ะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ หลังแต่งงาน [03/07/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: mrsnikiforov ที่ 20-01-2020 08:04:15
 :katai4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ หลังแต่งงาน [03/07/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 31-01-2020 00:03:44
 o13
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ หลังแต่งงาน [03/07/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: mareeyah ที่ 15-02-2020 12:09:58
 :กอด1: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ หลังแต่งงาน [03/07/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 22-02-2020 20:34:26
น่ารักกกกก :impress2:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ หลังแต่งงาน [03/07/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 15-04-2020 14:01:28
 :pig4:
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ หลังแต่งงาน [03/07/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: LETUS ที่ 28-05-2020 00:56:30
สนุกมากเลย ชอบเรื่องนี้มากก ตามมาจากเรื่องของจงรักกับพี่เมฆ อันนั้นก็น่ารัก

คนเขียนเขียนดีมากอะ คาแรคเตอร์ตัวละครคือชัดมาก อินกับเนื้อเรื่อง และความเรื่อยๆของตัวละคร
ที่ดูมีพัฒนาการ ภาษาอ่านง่ายแต่ก็ดูสละสลวย ชื่นชมครับ

นับถือความพยายามของคุณเล็ก และรักความเป็นผู้ใหญ่ของคุณไอมาก รักก

ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆแบบนี้นะครับ

ปล. แอบสงสัยเล็กน้อย คุณไอนี่อายุมากกว่าคุณเล็กรึป่าว?
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ หลังแต่งงาน [03/07/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 16-06-2020 11:46:17
พอมีความรักจริงๆ คุณเล็กก็สามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ ส่วนคุณไอน่ารักจริงจัง ขอบคุณมากค่า
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ หลังแต่งงาน [03/07/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: Bb nale ที่ 18-06-2020 22:50:12
คุณไอเป็นคนที่แบบเป็นผู้ชายที่สมบูรณ์แบบคนนึงเลยแหละค่ะ และเป็นคนดีมาก การที่คุณเล็กสามารถเปลี่ยนตัวเองได้ขนาดนี้เพราะความรักด้วยไม่ใช่ความฝืน พอเมื่อมีคนที่เรารักก็ทำให้พฤติกรรมต่างๆมันปรับเปลี่ยนไป แล้วก็พยายามหลายๆอย่างเพื่อให้คุณไอสบายใจ คุณไอก็เป็นคนที่มีเหตุผลมีความเป็นผู้ใหญ่ แต่ก็มีมุมขี้เกรงใจกลัวคนที่รักเดือดร้อนด้วย คู่นี้คืออบอุ่นมาก น่ารักเป็นความรักที่ส่งเสริมกันดีสุดๆ ส่วนคู่คุณภัทรกับอ้ายลงเอยกันได้ก็น่ารักมากเพราะคุณภัทรดูเป็นคนที่เรียบร้อย อบอุ่น และน่ารัก น่าจะดูแลอ้ายที่เคยช้ำใจมาได้ อีคนที่ต้องนับถือใจคือคุณเกษเลย เป็นผู้หญิงที่แสนดีและเข้มแข็งมากคนนึงเลย สมควรได้เจอคนดีๆในชีวิตมาก สุดท้ายนี้คือชอบครอบครัว I promise มากดูเป็นบริษัทที่เป็นครอบครัวกันดีค่ะ ขอบคุณคนเขียนมากเลยสำหรับนิยายดีๆเรื่องนี้ ประทับใจมาก
หัวข้อ: Re: -->✖<คุ ณ คื อ ค ว า ม รั ก>✖<-- ตอนพิเศษ หลังแต่งงาน [03/07/2562]
เริ่มหัวข้อโดย: KKIMKIMMY ที่ 20-06-2020 09:18:47
พึ่งอ่านถึงบทที่3 ทนไม่ไหวขอเม้นก่อนแล้วกัน
จริงๆอ่านค้างไว้ตั้งแต่โปรดจงรัก แต่พึ่งมีเวลาอ่านต่อเลยอ่านใหม่ทั้งหมด
// เราชอบคุณเล็กนะ เค้าอาจไม่เลวร้ายขนาดนั้น มั้ง!! :D คือเค้ามีมุมขยัน เอาการเอางานอยู่
แต่ลุ้นให้คุณไอเอาคืนหนักๆก่อนเหมือนกันนะ แบบจากเสือกลายเป็นหมาเลยยิ่งดี 5555555555555555555