☪... ด้วยรัก และโหงพราย ...☪ { ๐๙.๐๖.๒๕๖๐ } ตอนที่ ๒๐
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ☪... ด้วยรัก และโหงพราย ...☪ { ๐๙.๐๖.๒๕๖๐ } ตอนที่ ๒๐  (อ่าน 14836 ครั้ง)

ออฟไลน์ naoai

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-5
เมื่อไรต๊ะจะใช้สัมผัสที่หกให้เป็นประโยชนน์สักที

ออฟไลน์ Undee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ด้วยรัก และโหงพราย
ตอนที่ ๘

“ฮาโหล ไอ้ต๊ะ”
“เออ ว่าไง”
“ม๊ากูบอกว่าจะไปหัวหินวะ”
“เจ๋ง แลัวตกลงไปวันไหน”
“น่าจะวันศุกร์ตอนเย็นๆวะ เดียวกูบอกอีกที่”
“เออ เดียวกูไปขอพ่อกูก่อนแล้วโทรบอก”

ว้าววว นานๆจะได้ไปเที่ยวทะเลสักทีครับ ดีชะมัด เพราะปกติแล้วผมกับพ่อไม่ได้ไปเที่ยวไหนหรอกครับ ตั่งแต่เด็กเวลาจะไปเที่ยวต่างจังหวัดก็มักจะได้ไปกับครอบครัวของไอ้กรอยู่เสมอ เวลาชวนพ่อไปไหนก็มักจะโดนดุอยู่เสมอว่า “พ่อไปไหนไม่ได้พ่อต้องอยู่ที่สำนักลูกอย่าดื้อได้ไหม” จนช่วงที่ครอบครัวของผมกับไอ้กรได้รู้จักกันม๊ามันก็มักจะชวนผมไปไหนมาไหนด้วยเสมอ

“พ่อคร้าบบบบบบบบ”
“ว่าไง ไอ้ตัวแสบทำเป็นอ้อนแต่หัววันจะเอาอะไรอีกหละ”
“พ่อนี่เห็นลูกเป็นคนยังไง”
“รีบพูดมาไม่งั้นไม่ให้ไป”
“โอยยยย  พ่ออะ ก็ได้ๆ  ศุกร์เสาร์อาทิตย์นี้ ต๊ะไปเที่ยวทะเลกับที่บ้านไอ้กรนะ”
“เออ ได้”
“รักพ่อที่สุดเลยครับ”
“เอ็งมันก็ดีแต่รักข้าตอนได้ผลประโยชน์นี่แหละ”
“ใครว่า ต๊ะ รักพ่อจะตาย”

เยส ได้ไปเที่ยวแล้ว แต่รู้สึกพ่อทำตัวไม่เหมือนทุกครั้ง ปกติจะต้องบ่นว่า ไปรบกวนบ้านไอ้กรเขาอีกแล้ว อย่าไปสร้างปัญหาให้เขาหละ และอีกเยอะแยะมากมาย แต่วันนี้กลับตกลงแบบไม่ปริปากบ่นสักคำ น่าเป็นห่วงแล้วสิ กลัวพ่อจะแอบไปแบบวันก่อนอีกถึงผมจะรู้ว่าพ่อเก่งก็เถอะแต่การที่ต้องไปเจอกับเหตุการณ์รุนแรงแบบนั้นบ่อยๆก็คงไม่ดีแน่  ผมอยากให้พ่อห่วงตัวเองบ้าง

“อย่าลืมนะมึง พรุ่งนี้เย็น”
“เออๆ แล้วมึงเอาไงจะไปรับกูที่บ้าน หรือให้กูเตรียมของมาเลย”
“ไปรับที่บ้านมึงก็ได้ จะไปหวัดดีพ่อมึงด้วย”

ไอ้กรมันมาเตือนแต่เช้าเลยครับ เรื่องที่ผมต้องไปเที่ยวกับมัน สงสัยมันก็คงจะตื่นเต้นไม่แพ้ผมเหมือนกัน

“ไปไหนกันวะ”
“ไปหัวหิน กับที่บ้านไอ้กรวะ”
“กูไปด้วยดิ”
“มึงก็ไปขอไอ้กรเองดิวะ”
“จำไว้”

ไอ้ตัวข้างๆนี่ก็งอนเป็นเด็กอีกแล้วครับ ผมนี่น่าจะไปเปิดเนอร์สเซอรี่รับเลี้ยงเด็กให้มันรู้แล้วรู้รอดน่าจะได้กำไรอยู่นะครับ

“เออๆ เดี๋ยวกูไปพูดกับไอ้กรให้”
“จริงนะ แท้งคิ้ววะ”
“ทำเป็นหน้าระรื่นเชียวนะมึง กูแค่บอกว่าจะคุยให้แต่ไม่รับรองผลนะเว้ย”

ผมบอกแล้วไงครับว่าเชี่ยวชาญในการจัดการไอ้พวกเด็กโข่งพวกนี้ แต่ละคนตัวโตยังกับควาย แต่ชอบทำเป็นใจเล็กใจน้อย ถ้าใครมาลองใช้ชีวิตกับไอ้พวกนี้แบบผมสักเดือนคงมีสติแตกกันบ้างแหละครับ

ตึง ตรึง ตึง ตรึ๊งงงงงงง!!!!
ประกาศจากงานประชาสัมพันธ์ขอให้ นายอภิรักษ์  เย็นอยู่ และนางสาวขวัญหทัย วัฒนาสกุล พบท่าผู้อำนวยการที่ห้องฝ่ายอำนวยการ ณ เวลานี้ด้วยคะ ขอบคุณคะ

“ผอ. เรียกพบมึงทำไมวะ”
“แล้วอีกคน ชื่อใครวะไม่คุ้นเลย”
“ชื่อขวัญวะ”
“คงไม่ใช่เรื่องที่กูกับขวัญแอบเข้าไปในตึกช่างหรอกนะ”
“แล้วมึงไปทำไรวะ เชี่ยต๊ะ”
“มันไปดูที่คนตาย”
“มึงก็รู้หรอวะเชี่ยเก้า ว่าเชี่ยต๊ะเข้าไป”
“เออ มันเล่าให้กูฟัง”
“แล้วมึงจะเรียกคนอื่นว่าเชี่ยไปถึงไหนไอ้กร”
“โทษวะกูตื่นเต้น”
“งั้นกูไปและ  กูฝากมึงสองคนทำงานกูส่งด้วย บายยยยยยย”

ผมเดินผ่านเสียงนินทาเบาๆของหลายกลุ่มในห้องแต่ผมไม่สนใจหรอกครับ หรือจะบอกตัวเองว่าชินแล้วดี ตลกนะครับคนเราชอบเอาความคิดของตนเองมาตัดสินคนอื่น ถ้าเขาเจอแบบผมบ้างเขาจะทนได้ครึ่งของผมหรือเปล่า เลิกคิดๆ เฮ้ออออ  ผมเดินไปคิดไปจนมาหยุดอยู่หน้าห้องอำนวยการ ถึงจะรู้ว่าโดนเรียกมาคุยเรื่องอะไรก็เถอะ แต่การเข้าห้องอำนวยการก็ยังทำให้ผมตื่นเต้นอยู่ไม่น้อย

ก๊อก!! ก๊อก!! ก๊อก!!

“ขออนุญาตครับ”
“เชิญ”

ผมเข้ามาในเขตห้องกว้างสีขาว เดินผ่านชุดโซฟาหรูที่ใช้สำหรับรับแขกสำคัญของโรงเรียน ตรงไปยังโต๊ะทำงานของผอ.แขไข ซึ่งตอนนี้กำลังทำหน้าเคร่งขึมคุยอยู่กับเด็กสาวอีกคน

“เธอสองคนมาพร้อมกันแล้ว ครูขอเริ่มพูดเลยแล้วกัน”
“ครับ/ค่ะ”
“วันหยุดที่ผ่านมาพวกเธอแอบเข้าไปในเขตตึกช่างใช่ไหม”
“ครับ”
“อภิรักษ์ เธอเข้าไปทำอะไร”
“ผม แอบตามท่านผอ.กับพ่อครับ”
“แล้วเธอเห็นอะไรบ้าง”
“ทั้งหมด หมดทุกอย่างครับ”
“แล้วเธอหละ ขวัญหทัย”
“หนูไม่เห็นอะไรนะคะ หนูเข้าไปทีหลังไม่เจอใครสักคน”
“แล้วเธอเข้าไปทำอะไรที่นั้น”
“หนูอยากรู้ว่าข่ามันจริงไหมคะ เลยเข้าไปดู”
“ครูจะแจ้งผู้ปกครองของเธอสองคนเพราะจากการที่พวกเธอแอบเข้าไปในเขตอันตรายแบบนี้ถ้าเกิดอันตรายขึ้นใครจะรับผิดชอบ คนร้ายก็ยังจับไม่ได้!@#$%^&*()_

ผมกับขวัญโดนอบรมอยู่เกือบครึ่งชั่วโมงกว่าจะโดนปล่อยตัวออกมาเล่นเอาหูชา สมองเบลอกันทีเดียวเลยครับ

“นายเห็นอะไรหรอที่นายตามผอ.เข้าไปในตึกช่าง”
“ไม่รู้ขวัญจะเชื่อเราหรือเปล่านะ”
“เล่ามาเถอะนะ”
“คื คือ เราเห็น……..”

ผมเล่าสิ่งที่ได้เห็นทั้งหมดในวันนั้นให้ขวัญฟังระหว่างทางที่เดินกลับห้องเรียน ขวัญดูสนใจในสิ่งที่ผมกำลังพูด แต่จากสีหน้าของเธอผมยังไม่รู้ว่าเธอเชื่อมากน้อยแค่ไหน แต่คงไม่เป็นไรหรอกคับเพราะยังไงขวัญก็เป็นแฟนไอ้เก้ามันก็คงเล่าอะไรเกี่ยวกับผมให้ขวัญฟังอยู่บ้างแหละ ตอนคุยกันเธอถึงได้ไม่ทำหน้าแปลกใจเท่าไร

“ถึงห้องเราแล้ว เราขอตัวก่อนนะ”
“ได้ๆ เราก็ไปแล้วไม่รู้สองคนนั้นทำงานส่งอาจารย์ให้ยัง”

ขวัญเดินเข้าห้องไปแล้วผมก็รีบตรงกลับไปที่ห้องเรียน เพราะนี่ก็ใกล้หมดเวลาเรียนแล้ว ถ้าไอ้บ้าสองตัวนั้นไม่ทำงานส่งมีหวังผมต้องมานั่งปั่นอีกแน่ 

♫♪  For all the times that you rain on my parade
And all the clubs you get in using my name

ใครโทรมาตอนมาตอนนี้วะยิ่งรีบๆอยู่  อ้าวไอ้เชี่ยกรโทรมานี่หว่า

“เออ ว่าไงทำงานส่งให้กูยัง”
“เรียบร้อยแล้ว สันเป็นคนทำให้มึงรีบมาเลี้ยงหนมขอบคุณเลย”
“มึงนี่เลวจริงๆใช้ไอ้สันมัน  แล้วมึงอยู่ที่ห้องใช่ปะ”
“เปล่าเว้ยอยู่โหงอาหารตึกคหกรรมวะ กำลังกินข้าวอยู่”
“ยังไม่หมดคาบไม่ใช่หรอ มึงโดดไง”
“เปล่า จารย์ปล่อยก่อนเวลาวะ มึงรีบมาได้และ กูเอากระเป๋ามึงมาแล้ว”
“เออๆ”

♫♪  For all the times that you rain on my parade
And all the clubs you get in using my name

วางสายไอ้กรได้ไม่พอสามวิใครโทมาอีกวะ  ผมมองดูเบอร์โทรศัพท์แปลกที่โทรมาตอนนี้ ก่อนจะตัดสินใจกดรับสาย เพราะปกติแล้วผมจะไม่ชอบรับสายเบอร์ที่ไม่คุ้นแบบนี้

“สวัสดีครับ”
“กูเองเก้า  มึงมาหากูที่ตึกช่างหน่อยได้ไหม”
“ไม่ไปไม่ได้หรอวะ กูพึ่งโดนเรียกผู้ปกครองเรื่องแอบเข้าไปตึกช่างวะ”
“มึงมาให้ได้นะเว้ย”

ตุด!! ตุด!! ตุด!!

ไอ้เชี่ยคุยยังไม่ทันรู้เรื่องก็วางสายใส่กูอีก ไอ้เชี่ยกรก็รออยู่ เอาไงดีวะกู  ยังไงก็รีบไปลากไอ้เก้าออกจากแถวนั้นก่อนแล้วกัน ถ้ามันโดนอาจารย์เจอเข้าจะเดือดร้อน


.............................................................................................
มาแล้วครับสำหรับตอนใหม่ ตอนจะเป็นตอนที่เริ่มเข้าสู่เรื่องสำคัญๆของเรื่อง และก็พึ่งเขียนเสร็จหลังจากคนเขียนหนีไปเที่ยวเชียยงรายมาสองวัน ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านเข้ามาแสดงความคิดเห็น ขอบคุณครับ สำหรับคำถามที่ว่าทำไมต๊ะถึงไม่ใช้ความสามารถเห็นผีสักทีมันมีเหตุผลนะครับแต่เดียวคงโผล่มาในตอนไหนสักตอน สักตอนแหละ ๕๕๕
:hao4:

ออฟไลน์ naoai

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-5
เข้าสู้เรื่องหลักแล้ว เย้ๆ

ออฟไลน์ Undee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ด้วยรัก และโหงพราย
ตอนที่ ๙

“ไอ้เชี่ยเก้าอยู่ไหนของมันวะเนี่ย”

หลังจากที่ตัดสินใจจะมาลากไอ้ตัวแสบออกจากตึกช่าง เพราะกลัวมันจะซวยโดนอาจารย์จับได้ ผมก็มาวิ่งวนๆอยู่รอบตึกช่างจนแทบบ้าก็ยังหามันไม่เจอ มันไปอยู่ที่ไหนเนี่ยใครก็ได้ช่วยลากมันออกมาตรงหน้าผมที หรือว่ามันจะอยู่ข้างในตึกช่างวะโอยยย อยากจะบ้า คนยิ่งไม่อยากเข้าไปข้างในอยู่ เหตุการณ์วันนั้นมันยังติดตาผมอยู่นี่ครับ ทำยังไงดีวะกู เอาวะตายเป็นตายยังไงก็เอามันออกมาให้ได้ก่อนดีกว่า  หลังจากทำตัวบ้าบอด้วยการคุยกับตัวเองอยู่พักใหญ่ตอนนี้ผมก็ได้พาตัวเองเข้ามาในตึกช่างอีกครั้ง บรรยากาศยังสยองเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน เครื่องมือระเกะระกะ แสงที่ลอดช่องระบายอากาศ ฝุ่นที่จับหนาไปทั่ว ยิ่งทำให้ที่นี่ดูน่าขนลุกทุกครั้งที่ได้เข้ามา

“ไอ้เก้า  ไอ้เก้า  มึงอยู่ไหนวะ”

ผมค่อยเดินไปเรื่อยพร้อมร้องเรียกไอ้เก้าด้วยเสียงเบาๆไปตลอดทาง

ตึก!! ตึก!! ตึก!!
เสียงยางของพื้นรองเท้าผ้าใบนักเรียนกระแทกพื้นดังอยู่ไกลๆ เรียกความสนใจจากผมให้ค่อยๆเดินตามเสียงนั้นจนใกล้มาทุกทีเสียงของมันค่อยแจ่มชัดขึ้น พร้อมๆกับที่ผมเห็นตัวเจ้าของเสียงนั้น ที่ยืนหันหลังให้ผมอยู่ในห้อง

“มึงมาทำอะไรที่นี่วะ”
“กูมารอคนที่ชอบเสือกเรื่องของคนอื่นอยู่”
“เสียงมึงทำไมถึงแปลกๆวะ  แล้วมึงก็หันหน้ามาคุยกับกูดีๆด้วย”

ผมตะโกนถามมันอย่างไม่สบอารมณ์ เพราะรู้สึกคนที่มันกำลังพูดถึงเหมือนจะเป็นตัวผมเอง อุตส่าห์เป็นห่วง แล้วแม่งยังต้องมาโดนด่าว่าเสือกอีก

“มึงออกจากที่นี่ได้แล้ว เดี๋ยวอาจารย์มาเจอมึงจะซวย”
“กูไม่ไป กูไม่ไป กูไม่ไป”

ไอ้เก้าค่อยๆหันตัวช้าๆมาทางผม ก่อนจะพูดคำว่า กูไม่ไป กุไม่ไป ซ้ำอยู่อย่างนั้น ผมว่ามันไม่ปกติแล้วครับ ทำไงดีวะ ดันมาเจอเรื่องแบบเดียวกันในที่เดียวกัน คงไม่ใช่ว่า ผีสายพิณ เข้าสิงมัน

“สายพิณ สายพิณ ใช่เธอไหม เธอออกจากร่างเพื่อนเราเหอะนะ สิงมันไปมันก็ช่วยอะไรมันไม่ได้หรอกนะ”
“เข้ามาใกล้เราสิ เข้ามาใกล้เราสิ”
“ได้ๆ แต่สายพิณต้องสัญญานะว่าจะออกจากร่างเพื่อนเรา”
“เข้ามาใกล้เราสิ เข้ามาใกล้เราสิ”

ผมค่อยก้าวเข้าไปใกล้ๆไอ้เก้าขึ้นเรื่อย ตอนนี้ถึงจะกลัวจนแทบจะก้าวขาไม่ออกก็เถอะ ทุกอย่างรอบตัวดูเงียบสงัดจนผิดปกติ บรรยากาศรอบๆดูมืดมน และเย็นเยือก ใบหน้าของไอ้เก้าที่มองตรงเข้ามาสบตากับผมยิ้มอย่างมีความสุข แต่ผมว่ามันดูสยองมากกว่า

อ็อก อิอื  อิอื อ็อก!!!!
“ปล่อยกูนะเว้ย”

จังหวะที่ผมก้าวเข้ามาใกล้ ร่างไอ้เก้าที่ยืนอยู่ก็ยื่นมือทั้งสองข้างเข้ามาบีบที่คอผมเต็มแรง แต่นี่มันไม่ใช่แรงของมนุษย์ มันรุนแรงจนผมสู้แรงมันไม่ได้แม้แต่น้อย ผมออกแรงดิ้นไปมาพยายามจะเหวี่ยงตัวเองให้ออกจากแรงบีบมหาสารของมือทั้งสองข้าง ตอนที่มันกำลังยกตัวผมให้ลอยขึ้นจากพื้น แต่ก็ทำได้เพียงแกว่งตัวเองมาในอากาศเท่านั้น

“มึงคิดว่ากูเป็นวิญญาณอีโง่นั่นหรอ ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
“ปล่อยกู กูหายใจไม่ออก”
“คนสอดรู้อย่างมึงตายไปก็สมควรแล้ว”

ร่างกายผมตอนนี้เหมือนจะค่อยๆหมดแรง เพราะอากาศที่เริ่มลดน้อยลงทุกที ผมได้แต่ดิ้นทุรนทุรายเหมือนปลาที่ถูกทุบอยู่ในกำมือของร่างไอ้เก้า ก่อนสติจะค่อยๆเลือนรางลงไปสายตาผมก็มองเห็นสิ่งที่สิงอยู่ในร่างไอ้เก้า วิญญาณดวงนั้นวิญญาณที่ผมเห็นตอนที่ได้เจอกับไอ้เก้าครั้งแรก วิญญาณพรายที่คอยตามเอาชีวิตไอ้เก้าตอนนี้ มันคอยควบคุมร่างของไอ้เก้าอยู่

“ปล่อยมันก่อน อย่าพึ่งให้มันตาย”

นี่เสียงสุดท้ายที่ผมได้ยินก่อนที่จะหมดสติไป เสียงมันคุ้นหูจนผมหวาดกลัวว่าสิ่งที่ผมกำลังคิดอยู่ในหัวจะกลายเป็นความจริง ขอร้องเถอะครับขอให้ไม่ใช่อย่างที่ผมคิด

“ตื่นแล้วหรอหรอจ๊ะ  ไอ้ต๊ะ”

ผมค่อยลืมตาขึ้นมาช้าๆ รอบตัวตอนนี้มืดสนิทจนผมมองแทบจะไม่เห็นอะไรเลย ก่อนสายตาผมจะค่อยชินกับความมืดจนมองเห็นเงาของคนสองคนลางๆยืนอยู่ไม่ไกลจากตัวผมนัก เสียงที่ผมได้ยินเป็นเสียงแรกหลังจากที่พึ่งฟื้นแม้ในประโยคแรกน้ำเสียงจะดูใสซื่อ แต่คำที่ใช้เรียกชื่อผมนั้นกลับดูเหยียดหยันเสียเหลือเกิน เงาของคนสองคนที่ผมเห็นลางๆในตอนแรกนั้น ตอนนี้กลับค่อยชัดเจนขึ้นทั้งในดวงตา สมอง และหัวใจของผม อันอยากเกินกว่าผมจะยอมรับกลับความจริงนี้ได้ ผมไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นจริง ขอให้มันเป็นเพียงฝันไม่ได้หรอ

“นั่งนิ่งเชียว เป็นอะไรหรือเปล่าจ๊ะ หรืออยากให้แก้มัดให้ แต่ไม่ได้หรอกนะ เพราะเก้าเขาคงไม่ยอมแน่”
“ขวัญ ทำแบบนี้ทำไม”
“ขวัญไม่ได้เป็นคนทำนะ เก้าต่างหาก ขวัญไม่ได้ทำอะไรสักอย่างเลย”
“ขวัญปล่อย เรากับเก้าไปเถอะนะ ขวัญทำแบบนี้มันไม่ถูกต้องนะ”
“ขวัญบอกแล้วไงว่าขวัญไม่ได้ทำอะไรเลย แล้วต๊ะจะให้ขวัญปล่อยเก้าทำไม ขวัญไม่ได้ทำอะไรเก้าสักหน่อย เก้าเขาก็ทำของเขาเอง”

คนตรงหน้าที่เคยเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กน่ารัก นิสัยดีในสายตาผม  แต่กริยาของเธอตอนนี้ทุกอย่างกลับดูกวนประสาทผมไปเสียหมด ทั้งท่าทาง สีหน้า น้ำเสียง มันกลับตรงข้ามกับจิตใจข้างในของเธอ ถึงตอนนี้ผมยังจะยังปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมดไม่ได้ แต่คงเป็นเอแน่ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมด

“เรารู้นะว่าขวัญ เล่นของใส่เก้า”
“ฮ่า ต๊ะเชื่อเรื่องแบบนั้นด้วยหรอ ตลกจังนะ”
“แล้วเราก็คิดว่าคนที่ตายในโรงเรียน เป็นฝีมือขวัญใช่ไหม”

พอผมพูดประโยคนั้นออกไปดูเหมือนเธอจะไม่เก็บซ่อนตัวตนของเธออีกต่อไปแล้ว ทุกอย่างแสดงออกมาชัดเจน ทั้งสีหน้า และน้ำเสียงที่เกี้ยวกราด

“คนเขาถึงพูดกันว่า พวกชอบเสือกมักจะตายเร็ว มึงก็ด้วยสอดรู้สอดเห็นทั้งเรื่องเก้า แล้วก็เรื่องอีคนที่ตาย มึงถึงต้องมานั่งรอความตายอยู่อย่างนี้ไง”
“ขวัญพอเถอะนะ ทำฆ่าเราไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้นหรอก”
“ไม่ดีขึ้นหรอ ฮ่า ฮ่า ฮ่า  ดีขึ้นสิ ดีขึ้นมากเลย”
“ดียังไงขวัญ ยังไงขวัญก็หนีไม่รอดหรอกทุกคนต้องตามจับขวัญแน่”
“ตามไปก็ไม่เจอหรอก เพราะกูกำลังจะได้สิ่งที่กูต้องการครบแล้ว ตอนแรกกูคิดว่าจะเลือกใครมาเป็นเหยื่อดี แต่มึงมันแส่หาที่ตายเอง กูก็เลยเลือกมึง กูก็จะได้สิ่งทีกูต้องการแล้วก็ได้ปิดปากมึงด้วย ดีใช่ไหมหละ ฮ่ ฮ่า ฮ่า”

เด็กผู้หญิงที่หัวเราะอยู่ตรงหน้าผมดูเป็นคนละคนกับที่ผมเคยรู้จัก เธอหัวเราะอย่าบ้าครั่งกับทุกคำพูดของตัวเอง เธอพูดถึงเรื่องการฆ่าคนออกมาได้อย่างสนุกปาก เธอไม่เหมือนคนที่ผมรู้จักเลยสักนิด คนเราแกล้งเป็นคนดีได้ขนาดนั้นได้ยังไง ทำดีกับทุกคนรอบตัว แต่จิตใจข้างในกลับคิดร้ายอะไรต้องมากมาย
“ถ้าขวัญจะฆ่าปิดปากเราได้ แต่เราขอให้ขวัญปล่อยไอ้เก้าไปเถอะนะ มันกำลังจะตายนะขวัญรู้ไหม”
“เก้าเนี่ยนะจะตาย  เก้าเขาไม่ตายหรอก เก้าเขาจะอยู่กับขวัญตลอดไป”
“ขวัญ จริงๆนะมันจะตายจริงๆ คนโดนของมันอยู่ได้ไม่นานหรอกนะขวัญ”
“เสือก!!!! ทำเป็นรู้ดี เก้าเขาไม่ตายหรอก ถ้ากูไม่สั่งให้ตายมันก็ไม่มีสิทธิตายหรอก”
“ขวัญ”

ผมตะหวาดร้องชื่อเธอจนสุดเสียง ตอนนี้ทุกอย่างรอบตัวเงียบสงัด ก่อนที่ขวัญจะค่อยเดินเข้ามาใกล้ผม แล้วใช้มือเล็กๆของเธอจิกถึ้งเส้นผมของผมจนต้องเงยหน้าขึ้นตามแรงของเธอ

“มึงเสือกอะไรด้วย มึงรู้ไหมกว่ากูจะได้มันมากูต้องทำอะไรบ้าง มึงคิดว่ามันง่ายหรอ แล้วพอมันเจอมึง มึงก้จะเอามันไปง่ายๆ กูไม่ยอม กูไม่ยอม กู!  ไม่!! ยอมมมมม!!!!”

ขวัญดูเหมือนคนที่คลุ้มคลั่ง เธอทั้งกรีดร้อง หัวเราะ ร้องไห้ ชีวิตผมตอนนี้อยู่ในกำมือของเธอ กำมือที่บ้าคลั่งและพร้อมจะพรากชีวิตของผมไปอยู่ตลอดเวลา ตอนนี้ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสิ่งที่เธอพูดคืออะไรกันแน่ ผมไม่ได้แย่งไอ้เก้ามาจากเธอ มันกับผมเป็นเพื่อนกัน แล้วผมจะไปแย่งมันมาจากเธอทำไม
 
พ่อครับช่วยผมด้วย ผมกลัวเหลือเกินกลัวจะไม่ได้กลับไปเจอพ่ออีก
...
:hao4:

ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
คนร้ายเผยโฉมแล้วววววว :ling3:

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
เอาแล้ว
ขวัญเล่นของตามที่คาดจริงๆ

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
 :ling3: :ling3: :ling3: :ling3:

จะมีใครมาช่วยไหม

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ korinasai

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1

ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ naoai

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-5
นั่นไง ไม่รู้จักร่ำเรียนวิชาจากพ่อ หรือพ่่อไม่สอนหว่า พอจวนตัวแล้วเป็นไงล่ะ  :katai1:  รอตอนต่อไป

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
เพิ่งมาอ่านสนุกมากๆคับ ชอบแนวนี้ด้วย
รอ รออ่านตอนใหม่คับ

ออฟไลน์ Undee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ด้วยรัก และโหงพราย
ตอนที่ ๑๐

“มึงรู้ไหมว่ากูต้องทำอะไรมาบ้าง กว่ากูจะได้เก้ามา แล้วกูต้องทนทำเรื่องเลวร้ายขนาดไหน กูต้องยอมทำเรื่องชั่วๆกว่าเก้าเขาจะมารักกู มึงจะให้กูยอมปล่อยเขาไปง่ายๆหรอ”
“แต่ตอนนี้ขวัญยังหยุดทุกอย่างได้นะ อย่าให้มันเลวร้ายไปกว่านี้เลย”
“เลวร้ายหรอ ไม่เห็นจะมีอะไรเลวร้าย กูก็สวยขึ้น เก้าก็รักกู ไม่เห็นจะมีอะไรเลวร้าย มีแต่ตัวจัญไรอย่างมึง ที่เอาเรื่องชิบหายมาในชีวิตกู”
“ขวัญหยุดเถอะนะ เราขอร้อง”
“ขอร้องหรอ กูจะบอกอะไรให้มึงรู้นะ ทุกคนที่กูฆ่า พวกมันก็ร้องขอชีวิตกูแบบนี้แหละ แต่กูไม่เคยให้พวกมัน”

ผมพยายามเกลี้ยกล่อมให้ขวัญใจเย็นลง แต่ดูเหมือนทุกคำพูดที่ผมพูดไปจะกลับกลายเป็นคำยั่วยุให้ขวัญยิ่งคลุ้มคลั่งเสียยิ่งกว่าเก่า

“อีคนแรกที่กูฆ่ามึงรู้ไหมกูทำกับมันยังไง กูจับมันมัดกับเตียง แล้วมันก็ดิ้น ดิ้น ดิ้น กูเลยเอาไม้ทุบจนมันนิ่ง แล้วค่อยๆเอามีดเล็กเลาะเอาฟันมันออกจากปาก กูตัดออกมาทั้งเหงือกทั้งฟันมันเลย เลือดมันนี่นะเต็มปาก จนมันร้องไม่ได้แล้วมันก็สำลักเลือดตัวเองจนตาย หรือมันทนเจ็บไม่ไหวกูยังไม่รู้เลย  อีอีกคนกูหลอกมันไปที่ตึกร้าง ทุบ ทุบ ทุบ จนกระดูกขามันโผล่ออกมา แล้วกูก็ค่อยๆเฉือนเอาหนังมันออกทั้งเป็น มึงรู้ไหมมันยากขนาดไหน อีนั้นมันทั้งดิ้น ทั้งร้อง ดีนะที่ไม่มีใครมาเห็น ฮ่า ฮ่า”
“ขวัญพอแล้ว เราไม่อยากฟัง”
“ไม่อยากฟังหรอ แต่มีอีกหลายคนเลยนะที่กูอยากเล่าให้มึงฟัง”
“พอเถอะนะ เราขอร้อง”
“แล้วรู้ไหม คราวนี้กูจะเอาอะไรจากมึง”
“พอเถอะ เราขอร้อง หือ หือ อือ”

จิตใจผมเกินจะทนรับทุกอย่างไหว น้ำตาผมไหลอย่างห้ามไม่อยู่ ปากร่ำร้องขอให้ขวัญหยุดเล่าสิ่งน่าสยดสยองที่เคยทำมา

“หยุดร้อง มึงจะร้องทำไม เดียวตาสวยๆของมึงก็ช้ำหมด”
“ขวัญหยุดเถอะนะ เราขอร้อง”
“เราก็จะหยุดอยู่นี่ไงจ๊ะต๊ะ เราได้ตาเธอมาเราก็จะได้ทุกอย่างครบแล้ว เราก็จะหยุดไง”
“ขวัญ หืห หืหืหหืหืหท”

ผมได้เพียงแค่ร้องเรียกชื่อขวัญซ้ำไปซ้ำมา หวังว่ามันจะช่วยให้ขวัญคนที่ผมรู้จักกลับมา ขอให้ทุกอย่างเป็นเพียงฝันร้ายในค่ำคืนหนึ่ง แต่เหมือนเหตุการณ์ที่เกิดตรงหน้าผมจะคอยย้ำเตือนให้ผมยอมรับสิ่งเลวร้ายที่เกิดอยู่ตอนนี้

“แล้วมึงรู้ไหมทำไมกูถึงอยากได้ของพวกนี้”

ผมปิดปากเงียบไม่กล้าแม้แต่จะสบตาขวัญ

“กูถามทำไมไม่ตอบ”
“….”
“รู้ไหมทำไมกูต้องทำแบบนี้ เก้าไงหละ กูรักเขา กูรักเขาต้องแต่แรก แต่มึงรู้ไหม มึงรู้อะไรไหม สภาพกูแต่ก่อนเก้าไม่แลตามองด้วยซ้ำ กูทำทุกอย่างทุกทางให้กูสวย แต่มึงรู้ไหมเก้าบอกกูว่ายังไง เก้าบอกว่าเขาไม่ได้ชอบกู ตอนนั้นกูแทบบ้า กูจะฆ่าตัวตายอยู่แล้ว แต่ฟ้าคงเห็นใจคนอย่างกู ทำให้กูได้เจอครูเขา คนที่ช่วยให้กูได้รักกับเก้า แต่มึงรู้ไหมกูต้องเจอกับอะไรบ้าง ครูเขาบอกว่าถ้ากูทำอย่างที่เขาบอก เก้าจะมารักกู กูจะสวยแบบที่เก้าชอบ เก้าจะหลงกู แล้วกูก็ทำทุกอย่างตามที่ครูบอก ครูบอกให้กูฆ่าเอาของสวยทั้งเก้ามาให้ครู กูก็ทำ มึงรู้ไหมการฆ่าคนครั้งแรกมันรู้สึกยังไง กูทั้งอ้วก ทั้งหลอน กินไม่ได้นอนไม่หลับอยู่เป็นเดือน แต่กูก็ต้องฆ่าอีก กูหยุดไม่ได้ ทำไมรู้ไหม ก็พอกูฆ่าแล้วเอาของมาให้ครูเขา เก้าก็เริ่มมาสนใจกู  เขาทักทายกู เขาตามจีบกู เป็นอย่างที่ครูเขาพุดจริงๆ”

ขวัญพร่ำเพ้ออยู่ในโลกของเธอเพียงลำพัง พรั่งพรูเรื่องราวต่างๆของเธอออกมาไม่หยุดหย่อน จากความรู้สึกกลัวในตัวตนของขวัญในตอนแรก ตอนนี้ผมกลับสงสารเสียมากกว่า ที่ต้องมาเจอคนร้ายที่ถีบส่งให้ขวัญก้าวเข้าสู่อวิชชาเช่นนี้ คนที่มีวิชาอาคมก็เหมือนคนทั่วไปที่มีทั้งดีและเลวผสมปนเปกันไป ด้วยความที่มีอำนาจเหนือผู้อื่นหากก้าวพลาดเพียงน้อยไปสู่โลกแห่งความดำมืด หรือชักจูงผู้อื่นสู่ความโสมมย่อมไม่มีทางกลับสู่หนทางแห่งสิ่งดีงามได้

แอดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!!!

เสียงประตูบานเก่าที่อยู่ท้ายห้องค่อยๆเปิด มันเหมือนเสียงแห่งความหวังที่อาจจะนำพาผมออกไปจากเหตุการณ์เลวร้ายตรงหน้า ผมมองตามเงาเลือนรางที่ค่อยก้าวอย่างเชื่องช้าเข้ามาบริเวณกลางห้อง เมื่อเธอเข้ามาใกล้จนผมเห็นเค้าหน้าลางๆ ก็ยิ่งจุดความหวังของผมให้สว่างไสวขึ้นกว่าเก่า เธอคือผู้หญิงคนนั้น คนที่มารับพ่อในวันนั้น คนที่อยู่ข้างท่านผอ.ในวันที่พ่อมาที่ตึกช่าง

“คุณครับช่วยผมด้วย ช่วยผมด้วยครับ”

ผมร้องเรียกเธออยู่นาน แต่กลับไม่ได้รับการตอบรับจากเธอแม้แต่น้อย สายตาเธอตอนนี้มองกวาดไปรอบๆบริเวณ ไม่จดจ่อกับสิ่งใด เหมือนกับว่าเธอจะมองไม่เห็นทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้า คงไม่ใช่ว่าขวัญใช้คาถาอาคมอำพรางทุกสิ่งไว้  ถ้าเป็นอย่างนั้นผมคงได้แต่นอนรอความตายอย่างไม่มีใครช่ยเหลือได้
 
“ไหนที่ทำพิธี ขวัญ”

คำพูดเพียงหนึ่งประโยคที่เธอนั้นกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบ กลับทำลายความหวังทั้งหมดของผม ความหวังที่จะหลุดพ้นออกไปจากเหตุการณ์เลวร้าย กลับโดนตอกย้ำว่าทุกอย่างมันเลวร้ายยิ่งกว่าเดิม

“ทางนี้คะครู”

กริยาที่ดูเคารพนพน้อมแตกต่างจากความบ้าครั่งของขวัญเมื่อก่อนหน้านี้อย่างกับคนละคน ขวัญเดินนำผู้หญิงคนนั้นไปที่ห้องมุมหนึ่งที่เก้ายืนนิ่งอยู่ตรงนั้นตั่งแต่แรก ผู้หญิงที่ขวัญนั้นเรียกว่าครู เดินหยิบจับสำรวจดูโต๊ะ และสิ่งของอีกมากมายที่ถูกจัดเรียงไว้เหมือนเตรียมการสำหรับทำพิธีอะไรสักอย่าง แต่ที่แน่ชัดมันคงไม่ใช่พิธีอันเป็นมงคลแน่ เพราะสิ่งที่เป็นประธานบนโต๊ะเครื่องบูชาดูเหมือนจะเป็นกะโหลกครู พ่อเคยเล่าว่าการตั้งโต๊ะทำพิธีหากกลางมีพระพุทธรูปเป็นประธานเป็นพิธีมงคล แต่ถ้าเป็นของอัปมงคลอย่างอื่นให้ผมอย่าเข้าประยุ่ง เพราะของพวกนั้นล้วนได้มาจากการกระทำที่ไม่ดี หากเป็นหุ่นหรือเทวรูปล้วนสร้างมาจากของต่ำ หุ่นปั้นดินได้จาก ดินป่าช้า ดินใต้โลง ดินท้ายตลาด ดินใต้ตีนใต้รองเท้า  เถ้ากระดูก หนองจากศพ หุ่นโลหะได้จากตะปูโลง ตะแกรงเหล็กเชิงตะกอนเผาศพ และที่ร้ายและชั่วเกินมนุษย์จะทำได้คือโต๊ะบูชาที่ตั้งด้วยหัวกะโหลกครูเพราะคนทำพิธีจะต้องไปตัดเอาหัวของครูที่ร่ำสอนวิชาคุณไสยแก่ตนมาบูชา ผู้ที่จะคุมหัวครูนั้นย่อมมีอาคมที่ชั่วและรุนแรงที่สุด

“ครูลืมบอกอะไรไปอย่าง”
“อะไรหรอคะครู”
“ครูเจอคนมาป้วนเปี้ยนอยู่แถวนี้สองคน เป็นผู้ชาย แต่จัดการไปแล้ว ไปลากมันเข้ามาข้างในด้วยเดี๋ยวใครจะมาเจอเข้า”
“ได้คะ ครู”

ขวัญหันไปสั่งเก้าให้ออกไปจัดการตามคำสั่งของคนที่เรียกว่า ครู จากนั้นขวัญก็เดินไปลากกล่องเหล็กไปใหญ่ออกมาจากด้านหลังโต๊ะพิธี และกำลังท่าทีเหมือนกำลังจะเปิดมันออก

 “เดี๋ยวก่อนขวัญ อย่าพึ่งเปิด”
“ทำไมคะ ครู”
“ไม่ต้องสงสัย แล้วเธอก็ออกไปรอฉันข้างนอก”
“ได้คะ”

ขวัญได้เพียงทำตามคำสั่งของเธอคนนั้น อย่างไม่อาจมีข้อโต้เถียงจะด้วย ความเคารพ ความยำเกรง หรือความกลัว อะไรก็ตามที่ทำให้เธอเชื่อในผู้หญิงคนนี้ มันทำให้ผมรู้ว่าผมกำลังเผชิญกับคนที่ไม่อาจคาดการณ์ถึงความน่ากลัวของเธอได้

“เราเจอกันนับครั้งไม่ถ้วนแล้วนะ แต่เธอคงจำฉันไม่ได้”
“ผมเคยเจอคุณที่นี่ คุณมากับผอ.”
“ไม่ใช่หรอกเราเคยก่อนหน้านั้นอีก ที่หน้าเสาธงวันที่เธอเป็นลม”
“คุณคือ ครูที่ย้ายมาใหม่ ครูเพ็ญศรี “
“ไม่ใช่สิ ก่อนหน้านั้นอีก ตอนที่เธอยังเด็ก แต่ช่างมันเถอะเธอคงจำไม่ได้”
“ตอนผมเป็นเด็ก?”
“พ่อเธอสบายดีไหม”
“รู้จักพ่อผมด้วยหรอ”
“แต่ฉันก็ไม่หวังให้มันสบายดีหรอกนะ คนอย่างมันน่าจะตายไปตั่งแต่ตอนนั้น

.......
:hao4:

ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6

ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
คนเขียนค่าาาาาาา กำลังสนุกเลย

อยากได้แบบยาวๆ :ruready

ออฟไลน์ wnkth

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-2
ค้างละครับ

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
พึ่งได้เข้ามาอ่านค้างกันไปสิเธอ

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ naoai

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-5
เกลียดที่ต๊ะอ่อนแอ ไม่ใสใจ

ออฟไลน์ Undee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ด้วยรัก และโหงพราย
ตอนที่ ๑๑

“บอกมาสิว่ารู้จักผม กับพ่อได้ยังไง”
“ขวัญ เข้ามาได้แล้ว”
“บอกมา บอกผมมาเดียวนี้”
“ขวัญรีบเข้ามา ครูจะเริ่มพิธีแล้ว”
“บอกมาสิโว้ย”

เพียะ!!!

“คนอย่างแกไม่มีสิทธิมาขึ้นเสียงกับครู”

ขวัญเข้ามาตบผมจนหน้าชา ตอนที่ผมกำลังหัวเสียจนขาดสติ ผมควบคุมตัวเองไม่อยู่กับการที่มีใครมาพูดเรื่องร้ายๆให้กับคนที่ผมรักที่สุด ถึงแม้ผมจะไม่รู้ต้นสายปลายเหตุที่ทำให้ผู้หญิงคนนี้เกลียดพ่อผมขนาดต้องแช่งให้ตาย แต่ผมก็ยังมั่นใจเสมอว่าพ่อผมไม่ทำอะไรไม่ดีแน่นอน

“ไปเตรียมของได้แล้วขวัญ ครูจะเริ่มแล้ว”
“คะครู”

ขวัญหยุดมือก่อนที่เธอจะได้เข้ามาตบผมเป็นครั้งที่สอง แล้วรีบทำตามคำสั่งของครูเพ็ญศรี ตรงใบที่หีบเหล็กใบใหญ่ที่เธอลากมาไว้หน้าโต๊ะทำพิธีก่อนที่จะถูกสั่งให้ออกไปรอนอกห้อง  ขวัญกุลีกุจอค้นหาอะไรสักอย่างในกระเป๋านักเรียนจนเจอเข้ากับลูกกุญแจสีเงินดอกหนึ่ง และนำกุญแจมาหยุดยืนอยู่หน้าตัวเมียบใบนั้นหยุดนิ่งสักพักเหมือนกำลังตัดสินใจอะไรบางอย่าง เธอถอนหายใจแรงก่อนจะค่อยไขกุญแจเปิดฝาหีบออก  กลิ่นเหม็นเน่าคละคลุ้งตลบอบอวลไปทั่วบริเวณ กลิ่นที่ผมได้สัมผัสทำเอาปวดหัวคลื่นไส้จนแทบจะอ้วกออกมา
 
“ครูจะให้หนูทำยังไงกับของพวกนี้คะ”
“เอาออกมาเรียงตรงหน้าโต๊ะให้เหมือนรูป คน เลยนะ”

ขวัญยื่นมือเข้าไปหยิบของที่ส่งกลิ่นเน่าเหม็นในหีบอย่างไม่รังเกียง เธอค่อยหยิบของพวกนั้นออกมาที่ละชิ้น มาเรียงเป็นรูปร่างของมนุษย์ที่ประกอบไปด้วยชิ้นส่วนต่างทีเธอหามาได้  ชิ้นส่วนหนังของมนุษย์ที่ขวัญหยิบขึ้นมาวางเป็นชิ้นแรกกลางพื้นที่หน้าโต๊ะพิธีแล้วน้ำชิ้นส่วนอื่นๆวางตามตำแหน่งจนชิ้นส่วนพวกนั้นคล้ายกับรูปร่างของมนุษย์

 “ ชยะ ชยะ ชยะ ชยะ อิติปิโส ภควา ข้าพเจ้าจะขอไหว้พระอิศวรเป็นเจ้า ซึ่งเสด็จลงมาเป็นประธาน บัดนี้ทรงเสด็จมาชุบเทวานพพระเคราะห์ทั้ง9พระองค์ไห้บังเกิดเป็นราชาเทวะ ท่องเที่ยวไปทั่วทิศาแล้ว ท่านจงเสด็จลงมายังเมืองอุตรกุรุทวีป อมรโคยานทวีป ปุพพวิเทหทวีป และชมพูทวีป แล้วท่านจึงเสด็จลงมาประทานพระพรตามยุบทแบบโบราณมีนานมา ทรงเสด็จมาประทาน ทรงพระกรุณาเชิญช่วยอภิบาลบริรักษ์แด่ข้าให้ ดังคำที่ข้านั้นได้ประกาศโองการบัดนี้เทอญ.......”

เสียงบริกรรมคาถาของครูเพ็ญศรีดังก้องไปทั่วบริเวณ ภาพตรงหน้าผมดูคล้ายกับภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่เคยดู เรื่องราวเกี่ยวกับครูสาวคนหนึ่งที่โดนทำของใส่จนสุดท้ายเธอกลับมาแก้แค้นคนที่ทำของใส่เธอด้วยการเล่นของกลับคืน ภาพที่ถ่ายทอดผ่านภาพยนตร์เรื่องนั้นดูสยดสยองสมจริงติดตาผมจนนอนฝันร้ายอยู่เป็นอาทิตย์ แล้วเหตุการณ์จริงที่อยู่ตรงหน้าหละจะทำให้ผมหวาดกลัวไปอีกนานเพียงใด

“ครูคะ แล้วลูกตาหละคะ จะให้หนูควักออกมาเลยไหม”

เพียงคำถามเดียวของขวัญทำเอาผมสั่นสะท้านไปทั้งตัวเพราะสิ่งที่ขวัญต้องการในตอนนี้ไม่ใช่เพียงสิ่งที่เธอต้องทำมันเพื่อพิธี แต่มันคือการทรมานตัวผมเพื่อระบายความคับแค้นใจดังที่เธอได้หวังไว้ตั่งแต่จับตัวผม

“ไม่ต้องหรอกจ๊ะ ขวัญ”
“ทำไมคะครู”
“ครูรู้นะว่าเธอต้องการอะไร แต่ครูจะทำให้เธอสะใจยิ่งกว่าควักออกมาด้วยมือเธอสะอีก แต่ตอนนี้เธอต้องมารับสิ่งที่เธอได้ทำไว้ มันจะสำเร็จแล้วนะขวัญ”

เสียงบริกรรมคาถายังดังต่อไปเรื่อยเหมือนจะไม่มีที่สิ้นสุด แต่สิ่งที่ผมเห็นตอนนี้กลับทำให้ผมได้รู้ชัดเจนแล้วว่ากิเลสของมนุษย์สามารถเปลี่ยนให้เรากลายเป็นคนที่ไม่มีความอายได้ ขวัญปลดเปลื้องเสื้อผ้าของเธอออกที่ละชิ้นอย่างไม่มีความอายใดๆ  ร่างกายอันเปลือยเปล่าค่อยก้าวลงนอนช้าๆบนซากชิ้นส่วนมนุษย์ที่ถูกจัดเรียงไว้

“หลับตาแล้วประนมมือขึ้น ฟังครู เธอจะหลับใหลไปยังโลกหน้าเพื่อเตรียมตัวกลับมาในร่างใหม่ ร่างที่งดงาม ร่างที่เธอต้องการ ร่างที่ทุกคนจะลุ่มหลง หลับขวัญ หลับไป”

ขวัญเหมือนต้องมนต์หลังจากได้ยินคำพูดของครูเพ็ญศรี เธอก็ค่อยๆหลับตาลง และร่างของเธอนิ่งสงัดเหมือนวิญญาณที่เคยใช้ร่างนี้ได้หลุดลอยไปแล้ว

“…เหล่าองค์เทวา อสุรา ที่เข้ามาชุมนุมดังบทโองการที่ข้าได้กล่าว บัดนี้ข้าขอถวายกุณโป (ซากศพ) เพื่อเป็นเครื่องเซ่นสรวงให้ก่อกำเนิดกายาใหม่ ผู้ทรงรูปโฉมงามตามลักษณะเครื่องเซ่นสรวงเหล่านี้ ฉวี (ผิวหนัง) ขาวผุดผ่องเรื่องรองนิรันด์กาล  อุณหิโส (ใบหน้า) งดงามไม่เปลี่ยนแปลง เกโส (เส้นผม) ดำมืดมิสิ้นสุด มุขํ(ปาก)แดงงามฉ่ำชื่น หฺตโถ(มือ) เรียวงามนิ่มนวลลออ ปาโท(เท้า) แกร่งกล้าหากแม้นดูนุ่มนวล ทฺนโต(ฟัน) เรียงงดงามขาว กนีนิกา อิต.(ลูกตา) ลึกล้ำดำสนิทคิดรัญจวนสืบเสน่หา ของงามน่าบูชาทั้งอัฎฐ(แปด) ผสานร่วมรวมกับร่างเป็นหนึ่งโดยโลหิตข้านี้เป็นตัวกลาง….”

 ครูเพ็ญศรี หยิบมิดอันเขื่องติดมือเดินมาร่ายรำรอบร่างของขวัญที่นอนอยู่ ก่อนจะจรดปลายมีดอันคมกรีดลงบนข้อมือของตัวเอง เธอส่ายข้อมือร่ายรำ เลือดหลั่งไหลอาบร่างของขวัญที่นอนอยู่ที่พื้น จนร่างขาวนวลของขวัญกลายเป็นสีแดงเลือดจนทั่ว ครูเพ็ญศรีใช้มือทั้งสองข้างลูบไล้น้ำเลือด และก้อนเลือดเล็กๆบนตัวขวัญให้มันอาบแนบชิดเคลือบทุกสัดส่วนของร่างกายเธอ ก่อนจะค่อยหยุดพิธีกรรมอันสนุกสนานของเธอ แล้วหยิบขันใบเล็กที่ใส่ผงขี้เถ้ามาโรยรอบเก้าอี้ที่มัดผมอยู่ ครูนั่งลงตรงหน้าก่อนเริ่มสวดคาถาอีกครั้ง

“กนีนิกา อิต. กนีนิกา อิต. กนีนิกา อิต. กนีนิกา อิต. กนีนิกา อิต กนีนิกา อิต. กนีนิกา อิต.”

บทสวดที่มีแต่คำบาลีที่หมายถึงลูกตาดังก้องในหัวผมมันทั้งดัง และทำให้ผมเจ็บไปทั่วบริเวณหัวก่อนจะค่อยๆแคบลง แคบลง มาเจ็บปวดเป็นการมากอยู่บริเวณรอบกระบอกตา ผมรู้สึกเหมือนลูกตามันจะหลุดออก มันทั้งเจ็บทั้งแสบทั้งทรมาน

“หลับตาแล้วฟังข้า ทำใจให้สงบ ข้าจะบอกเจ้าเพียงครั้งเดียว จงเอ่ยนามของข้าภายในใจเจ้า นนทลี ”

เสียงนุ่มละมุนที่คุ้นเคย เสียงที่คอยปลอบผมในยามร้องไห้ เสียงที่คอยคุ้มครองผมในวัยเด็ก เสียงที่ไม่ได้ยินมาเนินนาน แม้จะผ่านไปสักเท่าไรเสียงนี้ยังคอยปกป้องผมอยู่เสมอ ใจผมตอนนี้กลับมาสงบอีกครั้ง จากเสียงสวดคาถาชั่วร้ายที่เคยดังก้องอยู่ในหัว ตอนนี้กลับมีเพียงเสียงเดียง เสียงที่ผมคิดนึกอยู่ในใจ นนทลี นนทลี นนทลี ความเจ็บปวดคลายออกไม่เหลือทิ้งไว้แม้แต่ความทรงจำ  ขี้เถ้าสีขุ่นมัวที่รายรอบเก้าอี้ลุกโชนขึ้นเป็นเปลวไฟก่อนที่จะสลายหายไปต่อหน้าของครูเพ็ญศรี

“เทวดาประจำตัวงั้นหรอ ปกติพวกมึงจะอ่อนแอจนทำอะไรไม่ได้ แต่นี่ถึงกับสลายมนต์ขี้เถ้าเผาศพได้ คงจะมีบุญมากสินะ”

ครูเพ็ญศรีพูดล่องลอยไปในอากาศเหมือนต้องการจะสื่อสารกับอะไรบางอย่าง สายตาสอดสายมองหาสิ่งที่หลบซ่อนอยู่ แต่เหมือนหาอย่างไรก็คงไม่พบ เธอจึงกลับไปที่โต๊ะพิธีอีกครั้ง ก่อนจะหยิบหีบเก่าใบเล็กๆออกมา

“ขี้เถ้าเผาศพคงไม่แรงพอ  ลองใช้เถ้ากระดูกผีตายโหง กูก็อยากรู้บุญมึงจะมีมากขนาดไหน”

เสียงประกาศท้าทายของครูเพ็ญศรีดังไปทั่ว ก่อนเธอจะเริ่มทำซ้ำเดิมอีกครั้ง นำผงเถ้ากระดูกในมือโรยรอบเก้าอี้ที่ผมถูกมัดอยู่แล้วสวดคาถาดังเดิม แต่ทุกอย่างคงไม่เป็นดังใจเธอหวัง คราวนี้แม้ผมจะไม่ได้ยินเสียงนั้นอีกครั้ง แต่เถ้ากระดูที่โรยรอบตัวผมกลับลุกโชนขึ้นเป็นเปลวไฟก่อนจะสลายไปก่อนที่เธอจะสวดคาถาจบบทแรกเสียอีก

“เก่งนักนะมึง กูจะทำให้พวกมึงดูว่าบุญก็ช่วยมันไม่ได้ไม้ได้”

ครูเพ็ญศรีลุกขึ้นด้วยความโมโห มือหนึ่งจิกเข้าเส้นผมบริเวณท้ายทอยจนผมต้องเงยหน้าตามแรงดึง มืออีกข้างหยิบเอาผงกระดูกผีมาบริกรรมมนตร์ไสยเวทย์  พูดพร่ำทั้งคำด่า สาปแช่งมากมาย รวมถึงเหตุที่ต้องควักลูกตาผมด้วยมนต์

“มึงรู้ไหมทำไมกูไม่ใช่มีดควักลูกตามึงออกมา มึงมีใช่ไหมหละพลังนั้น พลังที่พ่อของมึงไม่ยอมให้มึงใช้  พลังที่พ่อมึงพยามยามปกปิด แต่พ่อมึงมันโง่มันไม่รู้ถึงอำนาจของพลัง มันห่วงแต่มึงมันถึงไม่ยอมให้มึงใช้ แต่มันก็ปิดไม่มิดทุกคนเขารู้กันหมด ต่อให้ไม่ใช่กูต่อไปก็ต้องมีคนมาทำแบบนี้กับมึงอีก”

ผมไม่เข้าใจสิ่งที่ครูเพ็ญศรีกำลังพูดอยู่ในตอนนี้ พ่อพยายามปกปิด พ่อไม่ให้ผมใช้อะไร ในเมื่อจะพูดถึงพลังของผม ก็แค่การเห็นวิญญาณได้เท่านั้น และก็ไม่ได้เห็นตลอดเวลาด้วย เห็นเป็นบางครั้ง เห็นแค่บางคน แล้วพ่อปกปิดอะไร

“และมึงคิดว่าทุกสิ่งที่กูให้อีเด็กนั่นทำกูทำเพื่อตัวมันงั้นหรอ เปล่าเลยกูแค่จะเอาร่างของมันมาเป็นของกู แล้วพลังทุกอย่างก็จะเป็นของกู”

มือที่กำผงเถ้ากระดูกอยู่นั้นถูกยืนมาตรงใบหน้าของผมเธอค่อยโรยฝุ่นผงเหล่านั้นลงบนดวงตาแต่เมื่อผงฝุ่นแรกสัมผัสกับเปลือกตา มันกลับลุกขึ้นเป็นเปลวไฟเหมือนทุกครั้ง และลุกไหม้ต่อกันเป็นทอดๆเหมือนกับไฟที่วิ่งเข้าหาเชื้อเพลิง มันลุกไหม้อยู่ในมือของครูเพ็ญศรีจนทั่วทั้งผ่ามือเหมือนทะเลเพลิงที่มีขี้เถ้าเหล่านั้นเป็นเชื้อ ครูเพ็ญศรีกรีดร้องลั่นด้วยความเจ็บปวดวิ่งโร่ตรงไปที่ขั้นน้ำมนต์ที่โต๊ะพิธี ก่อนจะจุ่มมือลงไฟจนไฟทั้งหมดมอดดับลง

“อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย”

เธอกรีดร้องอย่างไม่พอใจ เหมือนคนที่คุ้มคลั่ง

ตุบ!!!

ปากทางเข้าประตูห้องร่างของชายสองคนถูกทิ้งลงกับพื้น ไอ้เก้าที่หายไปนานตามคำสั่งที่ให้ออกไปเก็บคนที่ครูเพ็ญศรีได้จัดการไว้เดินกลับเข้ามาในห้อง แล้วกลับเข้าไปยืนที่มุมเดิมที่เข้ายืนอยู่ตอนแรก ไอ้เก้าในตอนนี้ดูไม่ต่างอะไรกับหุ่นที่ถูกเชิด ที่รอฟังแต่คำสั่งของคนที่เชิดตัวมันเอง  ครูเพ็ญศรีที่คลุ้มคลั่งอยู่ในตอนแรก ตอนนี้กลับมีรอยยิ้มหน้าสะอิดสะเอียนผุดขึ้นมาบนใบหน้า

“เก้า  ทำอะไรให้ครูหน่อยสิ”
“ครับครู”
“เอาผงขี้เถ้าไปโรยบนหน้ามันให้ครูหน่อย”
“ได้ครับครู”

.....
เขียนตอนแบบนี้แล้วเครียดครับ อยากกลับไปเขียนแบบรักใสใสแล้ว
 :hao4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
อ่านแล้วลุ้นมากกกกก เครียดมากด้วย :katai1:

ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
สนุกมากคับ ลุ้นมากตอนนนี้และก็ค้างอยากอ่านต่อคับ

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
เครียดจริงๆ

ออฟไลน์ Undee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ด้วยรัก และโหงพราย
ตอนที่ ๑๒


คู่สมพงศ์ร่วมรักสมัครสมาน  พรากพบพานอดีตกาลกลับมาสู่
คนสองคนเมื่อพบกันได้รับรู้  เราเป็นคู่แม้นสองร่างแต่ใจเดียว


มือข้างหนึ่งของไอ้เก้ากำผงขี้เถ้าเดินตรงเข้ามาด้านหน้าของผม เสียงทุกอย่างรอบตัวเงียบลงอีกครั้ง เงียบจนผมได้ยินเสียงฝีเท้าของมันก้าวเข้ามา เงียบสนิทจนได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองเต้นรัว น้ำตาผมเอ่อไหลแต่ภาพที่มองเห็นกลับชัดเจน ภาพของมันที่เข้ามาโรงเรียนนี้ในวันแรก ภาพของเด็กผู้ชายที่มีวันญาณติดตาม ถ้าผมช่วยมันได้ตั่งแต่วันนั้นผมกับมันก็คงไม่ต้องเจอเรื่องแบบนี้ แต่ตอนนี้ภาพนั้นกลับชัดเจนอยู่ตรงหน้ามือสีดำที่ควบคุมมันอยู่

“มึงหยุดนะเว้ย ไอ้เก้า มึงจะทำอะไรวะ”
“ไอ้กร หือ หื หือ ”

น้ำตาผมไหลออกมาไม่หยุดเมื่อได้ยินเสียงแหบแห้งดังขึ้นจากพื้น ไอ้กรคลานพาตัวเองจากประตูห้องมาถึงจุดที่ผมถูกมัดอยู่มือของมันกำอยู่รอบข้อเท้าของไอ้เก้า พยายามไม่ให้ไอ้เก้าเดินมาหาผมได้ ร่างการของมันตอนนี้ดูเหมือนคนที่ถูกทำร้ายมาอย่างรุนแรง แม้จะไม่มีเลือดให้เห็นแต่กลับมีรอยช้ำทั่วไปหมดทั้งตัว มันมองมาที่ผม มันยิ้ม มันยิ้มให้ผมเหมือนกับมันจะตองการจะบอกอะไรผมบางอย่าง

“มึงไม่ต้องกลัวนะ กูอยู่นี่แล้ว”
“ไอ้เหี้ย หื หือ  มึงจะมาทำไม มึงจะตามกูมาทำไม ทำไมมึงไม่หนีไป”

ผมได้แต่ด่ามันซ้ำไปซ้ำมา หวังว่าคำด่าของผมจะไล่มันให้พ้นจากตรงนี้ ทำไมผมต้องเป็นคนที่พาทุกคนมาเจอแต่เรื่องร้ายๆ ผมอยากให้ทุกคนที่อยู่รอบตัวผมมีแต่ความสุข แล้วทำไมผมต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ด้วย

“กูไม่เป็นอะไรหรอก มึงไม่ต้องห่วง”
“มึงมาทำไม หื หื หือ ทำไมไม่หนีไป

ตุบ!!!

ไอ้เก้าสะบัดขาข้างที่ไอ้กรกำอยู่สุดแรงจนมือไอ้กรคลายออก ก่อนที่มันจะเตะเข้ากลางลำตัวของไอ้กรจนปลิวไปกระแทกเข้ากับผนัง

“มึงหยุดนะเว้ย มึงทำมันได้ยังไงวะมันเป็นเพื่อนมึงนะ”
ถึงผมจะรับรู้ว่าไอ้เก้าในตอนนี้ ไม่ใช่ตัวตนของมันแต่ผมก็ทำอะไรไม่ได้ ผมได้แต่ทำอะไรที่ไร้ประโยชน์ ถึงรู้ว่าด่า หรือขอร้องมันแค่ไหนมันก็คงไม่กลับมาเป็นคนเดิม แต่ผมก็ทำได้แค่นั้น คนอย่างผมคงทำได้แค่นั้น  ไอ้เก้ายังคงก้าวเข้ามา มันไม่ได้รู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำ มันไม่ได้ยินเสียงของผม

“พอเถอะ กูขอร้อง”

ไอ้เก้าใช้มือข้างที่กำผงขี้เถ้าอยู่ขึ้นมาบริกรรมคาถา ท่าทางของมันตอนนี้ดูไม่ต่างกับหุ่นที่ถูกครูเพ็ญศรีควบคุมอยู่ ท่าทางของมันเหมือนครูเพ็ญศรีที่นั่งอยู่ที่โต๊ะพิธีทุกอย่าง

“กนีนิกา อิต. กนีนิกา อิต. กนีนิกา อิต. กนีนิกา อิต. กนีนิกา อิต กนีนิกา อิต. กนีนิกา อิต.”

มนต์คาถาถูกร่าย มือข้างที่กำขี้เถ้าเลื่อนเข้ามาใกล้หน้าของผม ไอ้เก้าค่อยๆใช้ผงขี้เถ้าละเลงจนทั่วใบหน้าของผม แต่คราวนี้ขี้เถ้านั้นกลับไม่ลุกโชนหรือสลายไป มันติดแน่นทั่วใบหน้าผม ความร้อนจากผงขี้เถ้าเหล่านั้นวิ่งวนไปทั่วทั้งใบหน้า ก่อนที่พวกมันจะวิ่งมารวมกันที่เบ้าตา ความรู้สึกตอนนี้เหมือนโดนของเหลวร้อนแทรกเข้ามาที่เบ้าตา พวกมันพยายามดัน ดัน ดัน เอาลูกตาผมออกจากเบ้า ผมทรมานกรีดร้องดิ้นทุรนทุราย

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า คู่สมพงษ์กันงั้นหรอ  สะใจจริงโว้ย บุญที่ว่าแน่ยังยังแพ้ดวง พวกคู่เวรคู่กรรมสินะ สองร่างจิตเดียว ชาติที่แล้วคงสาบานว่าจะรักกันทุกชาติไปสินะ ฮ่า ฮ่า ตลกชิบหาย”

เสียงหัวเราะร่าอย่างสะใจของหญิงคนหนึ่งดังไปทั่วห้อง สะใจที่ทำให้ผมทรมาน สะใจที่ทำให้ผมเจ็บใจ สะใจที่เธอได้สิ่งที่ต้องการ สะใจที่เธอทำสำเร็จทุกอย่าง  ผมได้แต่ทรมานแค่ช่วยเหลือตัวเองยังทำไม่ได้

“โอ้ย ไม่ไหวหัวเราะจนปวดท้องไปหมดแล้ว นี่ถ้าขวัญมันตื่นขึ้นมาได้แล้วเห็นภาพแบบนี้ไม่รู้มันจะเสียใจหรือสะใจกันแน่ แต่คงจะเสียใจที่พวกแกเป็นคู่กัน แต่ก็คงสะใจแบบสุดๆที่มันได้เห็นพวกมึงทำร้ายกันเอง ฮ่า ฮ่า ฮ่า”

รอบตัวผมตอนนี้มืดสนิทมองไม่เห็นสิ่งใด ผมโดนเอาไปแล้วตาของผม ผมจะทำยังไงดีถ้าผมตอนนี้ทำอะไรได้บ้างก็คงดี

“เก้าเอามาให้ครู เอาของสิ่งนั้นมาให้ครู”
“ครับครู”

เสียงฝีเท้าไอ้เก้าค่อยๆห่างออกไปจากตัวผมทุกที ตาผมในตอนนี่มองไม่เห็นอะไร แต่หูกลับได้ยินเสียงทุกอย่างชัดเจน เสียงฝีเท้าคน เสียงสวดคาถา  เสียงพิธีกรรมของครูเพ็ญศรีที่กำลังดำเนินต่อไป เสียงฝีเท้าของไอ้เก้าที่ตอนนี้หายไปแล้ว เสียงหอบหายใจของไอ้กร เสียงโทรศัพท์
และเสียงพูดเบาๆที่ห่างออกไปจากที่ผมอยู่

“สวัสดีครับ ไม่ทราบว่าใครครับ
“พ่อ พ่อ ต๊ะ ใช่ไหมครับ ตอนนี้ทุกคนอยู่ที่ตึกช่าง ได้โปรดมาช่วยพวกเราด้วยเถอะครับ”

ไอ้สัน เสียงไอ้สัน ไอ้สันมันอยู่ที่นี่ หรือว่าคนที่โดนลากมากับไอ้กรจะเป็นไอ้สัน ไอ้สันโทรหาพ่อผมหรอ พ่อจะมาช่วยพวกเราใช่ไหม พ่อครับรีบมาช่วยพวกเรานะครับ มาช่วยพวกเราที ผมอยากให้ทุกคนปลอดภัย

อ้า!!! โอ้ยยยย!!!

“ เสือกไม่เข้าเรื่องนะมึง”

เสียงร้องเจ็บปวดของไอ้สันดังเล็ดลอดออกมาเพียงเล็กน้อย เสียงพูดในตอนแรกของมันก็เหมือนจะไม่มีแรงอยู่แล้ว  มันคงเจ็บมาหนักไม่น้อยกว่าไอ้กร ความพยายามที่มันจะช่วยพวกเราทุกคนทำให้มันกลับต้องโดนทำร้าย

“หยุดนะเว้ย หยุดอย่าทำเพื่อนกูนะเว้ย”
“จ้าๆ พ่อคนเก่ง ลุกมาช่วยเพื่อนสิ  ลุกมา   ออ อ๋อ อ๋อ ฉันลืมไปแกมองไม่เห็นนี่นา งั้นคลานมาสิคลานมา ออ อ๋อ ฉันลืมไปไปอีกแล้วแกถูกมัดอยู่ ฮ่า ฮ่า ฮ่า “
“หยุดนะเว้ย หยุด”
“มึงอยากรู้ไหมกูทำอะไรเพื่อนมึง กูจะเล่าสงเคราะห์คนมองไม่เห็นอย่างมึงแล้วกัน เพื่อนมึงมันเสือกไงมันโทรให้คนมาช่วยกูเลยจัดการกับปากขี้เลือกของมันด้วยการเอา ตีน ปิดปากมันสะ แล้วกูยังจัดการกับมือขี้เสือกของมันด้วยนะ อยากรู้ไหมกูยังไง อยากรู้ ไหม อยากรู้ไหม….”

เสียงล้อเลียนกวนประสาท มันตอกย้ำในความอ่อนแอของผมที่ปกป้องใครไม่ได้สักคน ตอนนี้ผมแทบบ้าที่ทำอะไรไม่ได้เลย ผมจะทำยังไงดี ทำไงดี

“แกก็ได้ทุกอย่างแล้ว ทำไมแกไม่ยอมปล่อยทุกคนไป”

ทันที่ที่ผมตะโกนประโยคนี้ออกไปทุกอย่างเงียบลงในทันที ไม่มีเสียงร้องของไอ้สัน ไม่มีเสียงกวนประสาทของครูเพ็ญศรี ทุกอย่างเงียบลงจนดูน่ากลัว

“แกคิดว่าฉันจะปล่อยคนที่รู้เรื่องนี้ทุกคนไปงั้นหรอ ใสซื่อจริงนะพ่อหนุ่ม”

เสียงฝีเท้าที่ค่อยๆก้าวเข้ามาใกล้ทำเอาผมเดาไม่ถูว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป จิตใจของผู้หญิงคนนี้น่ากลัวจนยากที่ผมจะคาดเดาได้ สิ่งที่เธอทำอยู่ สิ่งที่เธอทำอยู่ มันเกิดจากเหตุผลไหนกันแน่

“กูจะทำให้พ่อมึงเจ็บที่ต้องเสียคนที่รักไป เหมือนที่กูต้องเคยเสียไป”

........
อย่าทำร้ายกันด้วยคำว่า "ตอนนี้สั้นจังเลย" (ล้อเล่น บ่นได้นะ คนเขียนจะได้มีแรงกระตุ้น)
  แต่เริ่มเขียน งง งง สงสัยสมองเริ่มเบลอ
 :hao4:

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
มันสั้นจริงแหละอ่านแปปเดียวจบล่ะ

ออฟไลน์ PongPongpang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
มันค้างงงงง รีบมาต่อนะ พลีสสส

ออฟไลน์ wnkth

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-2
ค้างแรงเลยครับ

ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6
มันสั้นไปไหม

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
เพิ่่งเข้ามาอ่าน กำลังสนุกเลย รอๆๆๆๆๆๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด