☪... ด้วยรัก และโหงพราย ...☪ { ๐๙.๐๖.๒๕๖๐ } ตอนที่ ๒๐
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ☪... ด้วยรัก และโหงพราย ...☪ { ๐๙.๐๖.๒๕๖๐ } ตอนที่ ๒๐  (อ่าน 14837 ครั้ง)

ออฟไลน์ Undee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************


ด้วยรัก และโหงพราย
ตอนที่ ๐


โอมปิด นะมิด พุทธคุ้ม เทวครอง !@#$%^&*(@#$%
“พ่อ!!!! หยุดสวดได้แล้วนะครับ มันดึกแล้ว ต๊ะ จะนอนนน”
“แกอย่ามายุ่งหน่า พ่อกำลังทำเพื่อแกอยู่นะ”
    เฮ้อ น่าเบื่อจริงๆครับทุกคืนผมจะต้องมานั่งฟังพ่อผมสวดคาถา หยึกๆ หยักๆ ของพ่อ จนดึกดื่นทุกวัน เล่นเอาแทบไม่มีอารมณ์อ่านหนังสือ แต่พอบ่นก็มักจะได้ยินเหตุผลข้างๆคูๆ ว่าทำเพื่อตัวผมตลอด อ้างเหตุผลแบบนี้ใครจะไปกล้าเถียงต่อหละครับ
“พ่อครับ”
“ว่า”
“อย่านอนดึกมากนะครับ ผมนอนแล้วนะครับ พรุ่งนี้ต้องไปลอกการบ้านแต่เช้า”
“ไอ้เด็กนี่!! ตั้งใจเรียนหน่อยไม่ได้หรือไงหา @#^@4^!$^#$%^!$%#^”
พูดกวนพ่อจบผมรีบวิ่งปรู๊ดขึ้นห้อง แต่ไม่วายมีเสียงบนลอยตามมาอีกยาวเหยียด อ่านหนังสือต่ออีกหน่อยดีกว่า ใกล้สอบทีไร ผมก็มักจะวุ่นวนอยู่กับการอ่านหนังสือทบทวนนี่หละครับ ถึงผมจะมีนิสัยค่อนข้างที่จะกวนบาทานิดๆน่ารักหน่อยๆ แต่ผมก็พยายามมากๆเรื่องเรียนเพื่อให้พ่อภูมิใจ ยังไงก็เหลือกันอยู่สองคนพ่อลูกนิครับ

“ต๊ะ!! ต๊ะ!! ต๊ะ!! ตื่น  ไปเข้าแถวได้แล้ว”
“เออๆ เดี๋ยวเก็บของแปปนึง”
“อะไรของมึงวะวันนี้หลับคาโต๊ะเรียนแต่เช้า”
“ก็พ่อกูเหมือนเดิมแหละ แม่ง!! ช่วงนี้ยิ่งใกล้สอบอยู่”
ผมบ่นให้ “ไอ้กร” เพื่อนคนเดียวในโรงเรียนของผม ฟังไม่ผิดหรอกครับ เพื่อนคนเดียวจริงๆ เหตุผลที่ในโรงเรียนนี้ไม่มีใครคบกับผมหรอครับ ขอไล่ไปเป็นข้อๆเลย แล้วกันนะครับ
1.   โรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนเอกชนที่มีแต่ลูกคนรวยๆเรียนกันให้ยั้วเยี้ยไปหมด
2.   ผมมีฐานะ………… แน่นอนครับฐานะ “ยากจน”
3.   เข้ามาเรียนได้เพราะเส้นสายของ พ่อ
และข้อสุดท้าย

4.   พ่อผมเป็น  “ร่างทรง”


:heaven
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-06-2017 00:41:12 โดย Undee »

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
ต่ออีกนิดสิครับ ท่าทางน่าสนุก

ออฟไลน์ wnkth

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-2
ท่าจะสนุกนะครับ

ออฟไลน์ Undee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ด้วยรัก และโหงพราย
ตอนที่ ๑


“ มึงว่าโรงเรียนเราแปลกๆเปล่าวะ”
“ยังไง”
“ก็เป็นเอกชนแล้วยังต้องเข้าแถวอีก โรงเรียนคริสเตียนแถวบ้านกูไม่เห็นมีวะ”
“บ่นได้ตลอดนะมึงเนี่ย เดียวก็โดนจารย์ยรรยงจับยืนตากแห้งกลางสนามนะเว่ย”


ไอ้กรทำหน้าเอือมกับพฤติกรรมขี้บ่นของผม แต่มันคงชินแล้วหละครับ มันยังเคยแซวผมว่า นิสัยขี้บ่นคงถ่ายทอดผ่านกรรมพันธุ์จากพ่อสู่ลูกแบบเต็มๆ ไอ้นี่มันปากเสียพอๆกับผมแหละครับ แต่จะดีกว่าก็ตรงที่มันดูเป็นผู้ใหญ่กว่าผม ก็มันเป็นพี่ชายคนโตของครอบครัวคนจีนนี่ครับ แต่แม่มันนี่อีสานขนานแท้ ล้านนนนน เปอร์เซ็นต์ ก็มันเล่นหน้าตี๋แต่ดันได้ผิวสีน้ำผึ้งของแม่มันสะเต็มๆ เล่นเอาสาวๆเสียดายกันเป็นแถว ถ้ามันขาวกว่านี้อีกหน่อยคงได้มีสาวๆรุมล้อมหน้าหลังไม่ต้องทำอะไรกันพอดี

นักเรียนเคารพ!!!

เชี่ย!!! สะดุ้งหมด เสียงประทานนักเรียนพูดผ่านไมโครโฟน เล่นเอาผมสะดุ้งโหยง ก็กำลังคุยกับไอ้กรเพลินๆไม่ได้สนใจรอบข้างเลยนี่ครับ

"โหลๆ โหลๆ โหลๆ"
“สวัสดีนักเรียนทุกคน วันนี้ก็เป็นวันพฤหัสบดี ใกล้ช่วงสอบเข้าไปทุกที ขอให้ทุกคนได้ตั้งใจทบทวนบทเรียนอย่าได้ละเลยความตั้งใจ ที่จะเป็นผู้ที่ปัญญา ก้าวสู่ความตั้งใจ ที่จะเป็นผู้ที่จะร่วมกันสร้างสรรค์ให้สังคมเจริญ!@#$%^&*()_)(*&^%$#W$ %^&)(*^@#$%^&**&^$”

โรงเรียนนี้มันเกินเยียวยาจริง นี่ผมอยู่ในโรงเรียนเอกชนหรูกลางเมืองจริงๆหรอครับเนี่ย เสียภาพพจน์ตั้งแต่เสียง โหลๆ ลองเสียงไมโครโฟนของ คุณหญิงแขไข ผู้ดำรงตำแหล่ง ผอ. และเป็นเจ้าของโรงเรียนแห่งนี้ ( หลายคนคงสงสัยจากตอนที่แล้วว่า เฮ้ยพ่อมึงเป็นแค่ร่างทรง แล้วเอาเส้นสายมาจากไหนให้มึงเข้ามาเรียน ขอตอบตอนนี้เลยแร้วกันครับ ก็อาจารย์ส่วนใหญ่ในโรงเรียนผมเป็นท่านหญิง ท่านชาย ที่มีความเชื่อเรื่องผีๆสางๆกันเต็มองค์ และคุณพ่อของผมนั้นก็ได้เป็น “ปรึกษาทางจิตวิญญาณ”( เรียกสะหรูเชียว) ให้กับทุกๆท่าน ผมเลยได้โดนยัดเยียดให้เข้าเรียนที่นี่ได้หละครับ)

“และวันนี้ยังมีเรื่องให้พวกเธอทุกคนได้ร่วมยินดีกันอีกเรื่อง วันนี้โรงเรียนของเราได้มีครูใหม่เข้ามาสอนวันนี้เป็นวันแรก ขอให้ทุกคนปรบมือต้อนรับ ครูเพ็ญศรี   เชิญคะ ครูเพ็ญศรี”
“สวัสดีนักเรียนทุกคน นะคะ”

ตุบ!!

ต๊ะ!!! ต๊ะ!!! ต๊ะ!!! เป็นไรวะมึง ช่วยด้วยครับมีคนเป็นลม

ไอ้กรโวยวายอะไรของมันหวะ เสียงดังน่ารำคาญ คนยิ่งง่วงๆอยู่ แต่ทำไมผมหมดแรงอย่างนี่เนี่ย โอ้ย ปวดหัวชิบ ขอหลับสักงีบแล้วกันไม่ไหวแล้วครับ
 
ผมค่อยลืมตาตื่นขึ้นมา แต่เอ๊ะ ไม่ได้อยู่ในห้องเรียนนี่หว่า ที่ไหนวะเนี่ย

“ตื่นแล้วหรอมึง”
“เออ กูอยู่ที่ไหนวะ”
“ห้องพยาบาล ก็มึงเล่นเป็นลมอยู่หน้าเสาธง กูแบกมาเนี่ยโคตรหนัก”

ไอ้นี่ติดเชื้อขี้บ่นมาจากกูหรือไงวะ สงสัยอยู่ด้วยกันมากเกินคงต้องปล่อยให้มันไปเจอสาวๆบ้างและ เดียวแก่ตัวไปให้มันมาเกาะติดแจ แบบนี้ก็ไม่ไหว  คิดแล้วแม่งปวดหัวชิบ

“มึงไหวเปล่าวะ จะไปเรียนเลยไหม”
“เออ ไปเลยก็ได้หวะ ไม่อยากอยู่ห้องพยาบาลด้วย แม่งหลอนนนนน”
“ได้ เดียวกูไปบอกจารย์ห้องพยาบาลแปป มึงพับผ้าจัดเตียงดีๆ แล้วหยิบกระเป๋าไปรอตรงทางออกนะ”

ห้องพยาบาลโรงเรียนอื่นอาจจะน่าหลบไปนอนเวลาอยากโดดเรียน แต่สำหรับโรงเรียนแห่งนี้แม่งไม่ควรทำอย่างยิ่งครับ ห้องพยาบาลอยู่ตึกท้ายสุดหลังโรงเรียน แถมยังอยู่ในอาคารเดียวกับกลุ่มวิชานาฏศิลป์อีก หลอนขั้นสุดไหมหละครับ

“อะ จารย์ห้องพยาบาลฝากวิตามินมาให้มึง”
“เออ ขอบใจ”

ผมรับซองยา ที่มีเม็ดยายาวรีสีส้มอยู่ด้านมาจากไอ้กร ก่อนจะพากันเดินลัดเลาะผ่านสวนหย่อมของตึกวิทย์มายังด้านหน้าโรงเรียน ที่ตอนนี้แทบจะไม่มีใครเดินไปเดินมาเพราะอยู่ในช่วงคาบเรียน หลังจากเดินไปเล่นไปถ่วงเวลาให้หมดคาบเรียนสุดท้ายของช่วงเช้า ผมสองคนก็มานั่งอยู่ที่โรงอาหารข้างตึกสังคม

“แดกไรมึง”
“ไม่รู้หวะ อะไรก็ได้มึงซื้อมาเหอะ”
“เค งั้นมึงนั่งรอกูแปป”

มันดูแลผมอย่างดีครับวันนี้ บริการทุกอย่าง ป่วยนี่ก็ดีเหมือนกันนะครับ

“อ้าว!! อ้าว!! อ้าว!!  เข้าทรงแต่เช้าหน้าเสาธงเลยหรอวะ เล่นเอาสะเขากลัวตัวสั่นกันทั้งโรงเรียน”
“มึงนี่เจ๋งจริงวะ ฮ่าๆ”

พวกเชี่ย มาแล้วครับ หายนะของผมชัดๆ ดันมานั่งเป็นตัวเด่นคนเดียวอยู่กลางโรงอาหาร

“เอาไงจ๊ะ คราวนี้อะไรมาสิงอีกวะ”
“เฮ้ยมึง อย่าไปโดนตัวมัน เดี๋ยวก็โดนสิงหรอกสาสสสสสส”
ฮ่าฮ่าฮ่า

เอา เอาเลย หัวเราะกันเข้าไป หนึ่งในเหตุผลที่ผมเกลียดโรงเรียนนี้ก็ไอ้ พวกเชี่ย นี่แหละครับ ทุกคนก็รู้อยู่นะครับว่าผมไม่มีใครคบ แต่พวกที่ทำเหมือนผมไม่มีตัวตน หรือทำเป็นขยะแขยงแล้วไม่เข้าใกล้ผม ยังดีกว่าไอ้พวกนี้เยอะ ได้แต่นั่งสงบสติ แล้วก็ทำใจครับ แต่คนอย่างผมหรอครับจะยอมใครง่าย ฮ่า ฮ่า ฮ่า (หัวเราะแบบชั่วร้ายสุด)

“หัวเราะเสียงดังมันรบกวนคนอื่นเขานะเว่ย พวกมึง”

อาวุธลับผมกลับมาแล้วครับ แน่นอนอย่างที่ทุกคนคิดเลยครับ ไอ้กร เพื่อนรักเพื่อนเลิฟ นั่นเอง ภาพไอ้กรค่อยแทรกตัวมาตรงกลางระหว่างไอ้สองตัวกวน ก่อนจะค่อยๆใช้มือทั้งสองข้างกดคอไอ้พวกตัวกวนจนหน้าพวกมันแนบชิดสนิทเป็นเนื้อเดียวกับพื้นโต๊ะเล่นเอาผมกลัวไปด้วย ไอ้นี่มันโหดจริงครับ ระดับนักมวยตัวแทนโรงเรียนนี่ไม่ธรรมดาจริงๆครับ

“พวกมึงไม่เคยจำสิ่งที่กูบอกเลยใช่ไหม บอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่ามายุ่งกับเพื่อนกู อยากตายหรือไงวะ”
“กร ใจเย็นๆนะมึง เดียวมันก็ตายหรอก”

เออ อันนี้เสียงผมเองครับ ไม่ได้เป็นคนดีหรือสงสารอะไรใครหรอกนะครับ แต่ผมกลัวไอ้สองคนนั้นมันตายจริงๆ ผมขอร้องไอ้กรอยู่นานกว่ามันจะยอมปล่อยตัวไอ้สองตัวแสบ ผมกลัวใจไอ้กรจริงๆครับสักวันมันจะไปฆ่าใครเขาตายเอา แค่คิดนี่ก็ขนลุกขนชันแล้ว

กริ๊งงงงงงงงงงง!!!!!!


หลังจากผ่านเหตุการณ์อันแล้วร้ายมาตลอดช่วงเช้า ผมก็มานั่งจุมปุก อยู่ห้องเรียนภาษาไทย ได้เรียนสักทีนะครับวันๆนี่เจออะไรเยอะจนปวดสมองไปหมด ว่าแต่ไอ้กรหายไปไหนของมันก็ไม่เนี่ย ทิ้งให้กูนั่งอยู่คนเดียว ยิ่งกลัวๆไอ้พวกเชี่ยนั่นจะกลับมาล้างแค้นอยู่

“อะ นักเรียนเปิดหนังสือหน้า ๑๗๑ นะคะ”

!!!ตกใจหมด  ( กูจะตกใจบ่อยไปไหนเนี่ย ) อาจารย์เข้าสอนแล้ว ไอ้กรยังไม่มาอีก ไปไหนของมันวะชักจะห่วงแล้วสิ

“หลักการแต่งโครงสี่สุภาพนะคะ นักเรียนเราจะเริ่มด้วย”

ก๊อก!! ก๊อก!!

“อนุญาตคะอาจารย์ คือว่าท่าน ผอ.ให้หนูพานักเรียนใหม่มาที่ห้องคะ”

เสียงเจื้อยแจ้วของเลขาสภานักเรียนพูดกับอาจารย์เล่นเอานักเรียนชายในห้องเคลิ้มไปตามๆกัน ก็คนอะไรไม่รู้ ตัวเล็ก น่ารัก ผมยาวสวย แถมด้วยความสารถอีกเพียบ ถ้าได้เป็นแฟนก็คงจะดี เฮ้อ แต่คงเป็นได้แค่ฝัน ก็ผมมันคือ ไอ้ คน ที่ ไม่ มี ใคร คบ นี่ ครับ

“ขอบใจจ๊ะ รติกาล เอ้า เด็กใหม่เข้ามาสิ”

กริ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

คราวนี้คงถึงคราวของนักเรียนหญิงโรงเรียนเราได้แสดงภาพลักษณ์อันงดงาม หลังจากนักเรียนชายเคลิบเคริ้มไปกับสาวน่ารักอย่าง รติกาล แต่เด็กใหม่นี่เล่นเอาสะกุลสตรีโรงเรียนผมนี่กรีดร้องกันลั่น ก็จะอะไรหละครับ เล่นเอาสะหล่อลากดินขนาดนี้ เล่นเอาอาจารย์มาลี ต้องกระแอมห้ามเป็นการใหญ่

“เงียบนะคะทุกคน  เด็กใหม่เชิญแนะนำตัวคะ”
“สวัสดีทุกคนนะครับ อธิพงศ์ เกียรติเจริญธรรม เก้า นะครับ ยินดีที่ได้รู้จัก”

เชี่ย!!!!

ทุกสายตาจับจ้องมาที่ผม หลังจากโพลงคำไม่สมควรออกไปดังลั่น

“อภิรักษ์ เธอเป็นอะไร”
“เปล่าครับอาจารย์ ขอโทษครับ”
“งันเด็กใหม่เธอไปนั่งกับ อภิรักษ์ แล้วกัน จะได้สนิทกันไว้”
“ครับผม”

เป็นการตัดสินใจที่ดีมากครับอาจารย์ ประชดโว้ย ให้เด็กใหม่ที่ผมพึ่งตะโกนคำว่า “เชี่ย" ใส่มันดังลั่นห้องมานั่งด้วยกัน เพื่อจะได้สนิทสนม เป็นตรรกะที่ดีมากครับ อาจารย์ เด็กใหม่เดินมาจากหน้าห้อง ตรงมายังเก้าอี้ข้างผมที่อยู่ท้ายห้องสุด ผ่านเสียงยินดียินร้ายต่างๆนาๆ

“หล่ออะแก”
“น่ารักเนอะ อยากได้เลยคร่า”
“ซวยชะมัดดันได้ไปนั่งกับไอ้ร่างทรง”

แต่มันกลับยิ้มไม่ได้สนใจอะไรเลย สงสัยจะเป็นพวกหน้าตาดีแต่ปัญญาอ่อน แต่เดียวก่อนนะครับได้ยินว่าช่วงนี้เป็นช่วงใกล้สอบ แต่มีเด็กใหม่ย้ายเข้ามาได้ ไอ้นี่คงเส้นใหญ่ไม่เบา เป็นพวกลูกมาเฟีย ลูกเจ้าพ่ออะไรทำนองนั้นหรือเปล่าวะ แต่ดูจากท่าทางแอ๊บ สุภาพบุรุษหน้าชั้นเรียนขนาดนั้น นิสัยแม่งเกรียนชัวร์

“หวัดดี กูชื่อ เก้า นะ”

นั่นไงกูว่าแล้วว่าแม่งต้องเกรียนผิดจากทีทายไว้ไหมหละ มึงเป็นคนเดียวกับได้คุณชายที่อยู่หน้าชั้นเรียนเมื่อครู่จริงๆนะหรอครับ

“กูถามอะไรมึงหน่อยดิ”
“อือ”
“ทำไมตอนกูอยู่หน้าห้องมึงต้องร้อง เชี้ย ด้วยวะ”

ห่วงแต่วิเคราะห์ชาวบ้านเกือบลืมสิ่งที่ตัวเองทำไปแล้วไง ทำไมผมถึงร้องเชี้ยนะหรอครับ แน่นอนว่าสิ่งที่ผมได้รับถ่ายทอดจากพ่อ ไม่ใช่แค่นิสัยขี้บ่นอย่างเดียว ยังมีสิ่งอื่นอีกมากมายแต่ที่สำคัญที่สุดของผู้ที่เกี่ยวข้องกับวิญญาณ แน่นอนผมรับถ่ายทอดจากพ่อมาเต็มๆ เห็นนะสิครับ ความสามารถที่ผมไม่ค่อยเต็มใจรับเท่าไหร่ “การมองเห็นวิญญาณ” สยองใช่ไหมหละครับ แต่ก็แปลกนะครับ ที่เหมือนกับว่าพวกมันจะมองไม่เห็นผม เฮ้อ ชีวิตผมนี่บัดซบจริงนะครับ ในโลกมนุษย์ก็ไม่มีตัวตน ขนาดโลกของผีก็เหมือนจะไม่มีตัวตนอีก น่าสงสารไหมหละครับ

“มึงเหม่อ อะไรวะ”
“เปล่า”
“แล้วที่กูถามอะ ตกลงว่าไง”
“ไม่มีไรหรอก กูแค่ตกใจอะ ไม่คิดว่าจะมีเด็กใหม่เข้ามาช่วงปลายเทอม”

จะให้ผมบอกมันได้ยังไงหละครับ ว่าผมเห็นผีติดตามมันอยู่ มันคงจะว่าผมบ้า หรือไม่ก็พลอยกลัวผมเหมือนกับทุกคนในโรงเรียน แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสก็ได้นะครับที่ผมจะได้มีเพื่อนใหม่กับเขาสักที


...........................................................................................


แต่ละตอนอาจจะสั้นบ้างยาวบ้างตามที่คนเขียนคิดออกนะครับ เรื่องราวอาจจะอ่านแล้วไม่ค่อยเป็นเรื่องเป็นราวเท่าไร แต่เพราะอยากลองเขียนนิยายดูสักเรื่อง ผิดพลาดตรงไหนช่วยแนะนำด้วยนะครับ ขอให้ทุกคนอ่านให้สนุกนะครับ
:hao4:

ออฟไลน์ darinsaya

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1

ออฟไลน์ wnkth

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-2
รอให้เด็กใหม่จับต๊ะกด ฮิๆ

ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
สนุกดีค่า :katai2-1:

ออฟไลน์ Undee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ด้วยรัก และโหงพราย
ตอนที่ ๒


“พ่อคร้าบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ”

เย็นขนาดนี้แล้วพ่อไปไหน ยิ่งมีเรื่องสำคัญจะปรึกษาอยู่  หรือว่า!!! เหมือนร่างกายทำงานสัมพันธ์กับสมองได้ดีไปชั่วขณะ ผมรีบวิ่งตรงจากบ้าน ไปที่สำนักของพ่อที่อยู่ท้ายซอย ที่สมองทำงานได้ดีไม่ใช่จับสัญญาณ หรือมีพรายมากระซิบบอกอะไรได้หรอกนะครับ แต่ดันเหลือบไปเห็นปฏิทินที่อยู่กลางบ้าน ว่าวันนี้ตรงกับวันที่ ๑๕ นะสิครับ จึงมั่นใจได้ว่าวันนี้พ่อต้องอยู่ที่สำนัก และคนต้องเต็มสำนักแน่นอน จะอะไรได้อีกหละครับชาวบ้านก็มาขอหวยกันตามเคย  ก็ช่วงเปิดสำนักใหม่พ่อตั่งใจจะทำเพื่อช่วยเหลือคนตามที่ย่าได้สั่งเสียไว้  แต่ดันมีชาวบ้านคิดว่าจะเปิดเพื่อหลอกเอาเงิน เลยท้าว่าถ้าแน่จริงใบ้หวยให้ถูก ๓ งวดติด แล้วพ่อผมใช่ขี้ๆที่ไหนหละครับ จัดไป ๓ งวด ๓ ตัวตรง เล่นเอาชื่อเสียงกระฉ่อน จนเสาสำนักสะเทือน ชาวบ้านแห่กันมาทะลักทลาย

“พ่อ!!  เป็นไงบ้าง”
“เอ็งเข้ามายังไงวะ”
“ข้ามาทางประตูหลังสำนักจ๊ะ”
“เออ เออ มาช่วยกันดันประตูเร็ว”

บอกไว้ก่อนเลยนะครับ เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นประจำคืนก่อนวันหวยออก เพราะพ่อที่เป็นเจ้าทรงจะต้องมาทำพิธีไหว้องค์เทพ แต่วันไหว้องค์เทพมาตรงกับวันก่อนหวยออกมีหรอครับที่ชาวบ้านแถวนี้จะอยู่เฉย บุกมาจนประตูสำนักเปลี่ยนไปแล้วตั้ง ๓ บาน จนตอนนี้พ่อต้องไปปรึกษาสถาปนิกเป็นการใหญ่ “เอาประตูแบบที่รถถังชนก็ไม่พัง” เป็นคำที่พ่อพูดขึ้นกับสถาปนิกที่ไปปรึกษา เล่นเอาฮากันไปทั้งสำนักงาน

“ท่านเจ้าขา พวกเราเดือดร้อนจริงๆนะเจ้าคะ”
“เรื่องแบบนี้ข้าจะไม่ช่วยอีกแล้วนะ มันผิด มันมอมเมาชาวบ้าน พวกเอ็งกลับไปเถอะ”
“ไหนท่านบอกว่าจะช่วยพวกเราไงเจ้าคะ เรื่องเงินก็ถือเป็นเรื่องเดือดร้อนนะเจ้าคะ”
“ก็ไปทำงานทำการกัน สิโว้ยยยยยยยยยย!!!!!”

หลังจากเถียงกันมาเกือบชั่วโมง เหมือนท่านพ่อของข้าพเจ้านั้น จะเริ่มทนไม่ไหวแล้วหละขอรับ แถมตอนนี้พ่อของข้าพเจ้านั้น ได้หันหน้ามามองข้าพเจ้าที่ยืนอยู่ข้างๆด้วยสายตาอันมีเลศนัยแอบแฝงอะไรบางอย่าง

“ต๊ะ ใช้ไอ้นั่นสะ”
“ไม่นะพ่อ ผมไม่อยากใช้ไอ้นั่น”
“ข้าสั่ง เอ็งต้องไปทำ”

สิ่งที่น่ากลัวที่สุดกำลังจะเกิด คำสั่งประกาศิตจากเทพผู้ครองสำนัก ทำเอาข้าพเจ้าที่เป็นเพียงข้ารับใช้หวาดกลัวต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ ข้าขออโหสิกรรมต่อป้าน้อยร้านขายข้าวแกง ลุงแดนมอไซต์วิน ป้าต้อยร้านขายผลไม และก็ลุงป้าๆทั้งหลายนะจ๊ะ ลาก่อนนนนนนนน

ซ่า!!!!

“ไอ้ต๊ะ ไอ้เด็กเปรตตตตตตตตต”
“ขอโทษจ๊ะป้า เขาขอโทดดดดดดดด”
เครื่องสูบน้ำขนาดสิบหกสูบประจำสำนัก พ่นน้ำด้วยความเร็วหกสิบน็อตต่อชั่วโมง (เครื่องสูบน้ำ หรือเครื่องบินรบวะ) สร้างความชุ่มช่ำให้ลุงๆป้าๆที่พยายามจะทำลายประตูสำนักกันถ้วนหน้า พร้อมเสียงก่นด่าสาปแช่งอีกเป็นชุด ก่อนจะทยอยกันออกจากสำนักเพราะเริ่มจะทนไม่ไหวกับความหนาวเย็น จากน้ำที่เปียกชุ่มตัวอยู่

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า กลับกันได้สักที่”
“พ่อเป็นโรคจิตปะเนี่ย หัวเราะนี่สบายใจที่ชาวบ้านกลับไป หรือสะใจที่ลูกโดนรุมด่าเนี่ย”
“เอ็งนี่ขี้บ่นไปได้ ติดนิสัยมาจากใครกันนะ น่ารำคาญจริง”

เหมือนพวกขี้บ่นนี่จะไม่ค่อยรู้ตัวนะครับว่าตัวเองขี้บ่น (เหมือนด่าตัวเองยังไงไม่รู้) แต่ช่างเหอะ วันนี้ปล่อยไปวันนึงแล้วกัน ขี้เกียจเถียงกับคนแก่ขี้บ่น แบบตาลุงนี่ด้วย

“เอ็งกลับไปบ้านก่อนไป พ่อจะเริ่มพิธีแล้ว”
“จ๊ะ”

คนอุตส่าห์รีบมาช่วยดันไล่กลับบ้านอีก น่าเบื่อจริง กลับบ้านไปนะจะกินกับข้าวที่ป้าบัวทำไว้ให้แบบไม่เหลืออะไรให้สักอย่าง ปล่อยให้กินข้าวคลุกน้ำปลาสะให้เข็ด

“อย่าพึ่งกลับสิอยู่ที่นี่ก่อน เจ้ามีเรื่องจะให้ข้าช่วยมิใช่หรือ”

เสียงผู้หญิงที่ไหนดังมาจากไหนดังมาจากในสำนักนะ เมื่อกื๊พ่อก็อยู่ข้างในคนเดียวนี่นา เข้าไปดูหน่อยดีกว่า รีบไล่เรากลับนี่คงไม่ได้แอบซ่อนสาวที่ไหนไว้หรอกนะ ร้ายนะตาลุงขี้บ่น เดียวนี้มีซุกกงซุกกิ๊กแบบไม่ขออนุญาตจากลูกชายสุดที่รักด้วย

“มาแล้วหรอบุตรแห่งข้า”

พ่อ!! พ่อ!! พ่อ!! นี่หว่านั่งอยู่คนเดียวด้วย แล้วทำไมเสียงพ่อถึงเป็นแบบนั้น แล้วไอ้วิธิการพูดแปลกๆแบบนี้มันอะไรกัน

“สงสัยอะไรกันเล่าบุตรแห่งข้า นี่ข้าเอง ผู้ประทานเจ้าให้ชายผู้นี้เป็นผู้ดูแลไงเล่า”

ถึงผมจะพูดเสมอว่าตัวเองเป็นลูกชายของ ร่างทรง ก็เถอะ แต่นี่คงเป็นครั้งแรกที่ผมได้พูดคุยกับองค์ต่างๆของพ่อแบบตัวต่อตัว เพราะปกติพ่อมักจะไล่ผมไม่ให้มาเข้าใกล้เวลาเข้าทรง หรือไปช่วยเหลือใคร ด้วยเหตุผลต่างๆนาๆ แต่ผมก็ไม่ค่อยใส่ใจอะไรนัก เพราะคิดว่าพ่อคงกลัวผมจะอายที่ต้องมีพ่อทำอะไรแบบนี้ ทั้งที่จริงแล้วตัวผมจะไม่ได้คิดอะไรก็เถอะ แถมยังจะค่อนข้างภูมิใจด้วยซ้ำ เวลามีชาวบ้านหอบข้าวหอบของมาขอบคุณพ่อที่คอยช่วยเหลือให้พ้นทุกข์ แต่การเจอเหตุการณ์ต่อน่าต่อตา แถมยังพูดคุยใกล้ชิดแบบนี้คงไม่ต้องบอกนะครับว่าผมจะขนลุกขนาดไหน

“เจ้าเป็นอะไรไป กลัวข้างั้นหรือ”
“ปะ ปะ เปล่า ครับ แค่ตกใจมากกว่า”
“ผี สาง วิญญาณเจ้าก็มองเห็น แต่กับตกใจกับการเข้าทรง น่าขันสิ้นดิ”
“คะ ค ครับ”
“เจ้ามีปัญหาให้จะให้พ่อเจ้าช่วยไม่ใช่หรอ บอกข้ามาเลยสิ สุดท้ายพ่อของเจ้าก็ต้องให้ข้าเป็นคนช่วยอยู่ดี”

เกือบลืมไปแล้วสิ อยากด่าในความจำสั้นๆของตัวเองนัก แต่ทำไงได้หละ คนโง่ๆอย่างผม ถ้ามีไม่มีคนคอยเตือนเรื่องนั้นเรื่องนี้ก็มักจะลืมจนกลายเป็นเรื่องปกติ

“คือ คือ เพื่อนที่โรงเรียนคนนึงนะครับ เขามีผีตามอยู่ แต่ผมว่ามันแปลกๆนะครับ”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฉลาดสมเป็นลูกของข้าจริงๆ เล่าต่อสิที่ว่าแปลก มันแปลกยังไง”

ถึงผมจะเห็นวิญญาณลอยไปลอยมาในโลกของเรา หรือวิญญาณที่เกาะติดตามญาติ หรือคนรักเพราะยังไม่หมดห่วง หรือเพราะอะไรก็ตาม แต่ครั้งนี้มันดูแตกต่าง ปกติวิญญาณเหล่านั้นจะไม่ตอบสนองต่อการมองเห็นของผม จะลอยผ่าน หรือทำเหมือนผมไม่มีตัวตน นอกจากผมจะพยายามเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย พวกเขาตกใจด้วยซ้ำที่ผมเข้าไปทัก แถมยังพยายามไล่ไม่ให้ผมเข้าไปยุ่งด้วย แต่ครั้งนี้มันแปลก ทั้งที่ผมไม่ได้ทัก หรือเข้าไปยุ่งแต่เหมือนวิญญาณที่เกาะติด “เก้า” อยู่จะพยายามหลบผมแบบแปลกๆ และยังดูหวาดกลัวในตัวผมอีก หน้าของมันก็ดูทรมาน แววตาอาฆาตเหมือนโกรธแค้นทุกคน ผมยังจำดวงตานั้นได้ดี แววตาแห่งความทรมานนั้น

“โหงพราย ไงหละ”
“โหงพราย ???”

โหงพรายหรือวิญญาณคนตายที่เรียกมาด้วยอาคม แล้วผูกไว้ใช้งานด้วยอาคม มันก็เหมือนสัญญาทาส จะต้องจำใจทำบาป ร่วมคนเลี้ยง หน้าตาพวกมันถึงได้ดูทรมาน เพราะบางตัวก็ไม่เต็มใจจะทำ แต่เพราะอาคมที่ผูกไว้เลยไม่อาจขัดขืนได้ วิญญาณพวกนี้มักเป็นพวกตายโหงแล้วหมอผีต่างๆก็จะไปเรียกวิญญาณตรงจุดที่เกิดการตาย หรือที่เก็บศพ เรียกมาด้วยอาคม แล้วผูกไว้ด้วยอาคม เอาไว้ใช้ในงาน เวลาหมอผีพวกนี้ใช้มนตร์ดำ ปล่อยคุณไสย์ใส่ใคร ก็ต้องใช้ผีแฝงไปกับคุณไสยไปกระทำเหยื่อ ที่มีคนว่าจ้างให้ทำด้วย เล่นหนักเล่นหนักเบาก็ขึ้นอยู่กับคนจ้าง ว่าต้องการให้ทำอะไร เบาะๆ แค่สั่งสอน หรือจะให้เป็นบ้า หรือว่าจะเอาให้ตายกันทันที

“คุณพระ”

ถึงครอบครัวจะอยู่ในวงการผีสางก็เถอะ แต่การมาเจอเรื่องแบบนี้ก็ไม่ใช่คนอย่างผมจะรับไหวนะครับ ความน่ากลัว เรื่องร้ายๆ เหมือนจะเริ่มประเดประดังเข้ามาในชีวิตแล้วสิ เชี่ย ขอพูคำนี้อีกแสนครั้งให้ลั่นจนคอแตกไปเลย ถ้าไม่เพราะเราอยากได้ ไอ้เก้า มาเป็นเพื่อนคนใหม่ ก็คงไม่ต้องมารับรู้กับเรื่องน่ากลัวแบบนี้ กูนะกู คิดอะไรของกูกันนะ ชอบหาเหาใส่หัวเสียจริง โอ้ยยยยย!!!!

“พาเด็กนั่นมาที่นี่สิ”
“อะ อะ อะไรนะครับ”
“ข้าบอกให้พาเด็กหนุ่มนั่นมาที่นี่”

เชี่ยยยยยยยยยยยย  ให้พา ไอ้เก้า มาที่บ้านนนนนนนนนนนน!!!!!!!!!!!


...


ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะครับ ตอนที่สามเริ่มมีผีแล้ว เย้ๆๆๆๆๆๆๆ  แต่ตอนที่สี่กับภารกิจพา ผช กลับบ้านของต๊ะ อย่าลืมติดตามอ่านกันนะครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-05-2016 17:53:35 โดย Undee »

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
น่าติดตามเป็นที่สุด
ท่าทางน้องต๊ะคงไม่อยากให้เพื่อนใหม่หน้าหล่อรู้ว่าที่บ้านทำอะไร

ออฟไลน์ zombi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-5
พาหนุ่มเข้าบ้าน

คุณพ่อเปิดทางขนาดนี้ก็พามาเถอะค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ rinny

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 517
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
เปิดมาแปปๆก็จะพาผู้ชายเข้าบ้านซะแล้วหรอเนี่ย //ไม่ใช่และ 55555
เปิดเรื่องมาได้น่าสนุกดี ติดตามนะคะ มาอัพตอนใหม่ต่ออีกไวๆเลยนะ

ออฟไลน์ Undee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ด้วยรัก และโหงพลาย
ตอนที่ ๓


“มึง  ไปบ้านกูเปล่า”
“เฮ้ย!!! ไปบ้านกูเดี๋ยวกับกูนี้”
“ไปบ้านกูหน่อยยยยนะ”

โอ้ยยยยยย!!! อยากจะบ้า  ทำไงดีวะกู สำหรับคนอื่นการแค่ชวนเพื่อนมาบ้านคงเป็นเรื่องปกติ และง่ายมากกกกกกกกก แต่สำหรับผมหรอคับ เคยทำที่ไหน สงสารตัวเองก็สงสารที่ต้องมาทำอะไรแบบนี้ แต่จะปล่อยให้เพื่อน(ในอนาคต) ต้องมาเจอเรื่องร้ายที่อาจถึงชีวิต กูดันมาเป็นคนดีสะอีก  เฮ้ออออ เหนื่อยใจ หลับดีกว่า

ปัง!!!

“เชี่ยกร  ไอ้ห่ามึงจะทุบโต๊ะทำไมวะ”
“กูเจอมึงทีไรแม่งหลับอยู่ทุกที”
“เออ กูเครียดๆวะ นอนไม่ค่อยหลับ”
“เรื่องไรวะ บอกหน่อยดิ”
“ไม่มีไรหรอก ไปนั่งที่มึงได้แล้ว ไป ไป ไป”

ไอ้เชี่ยนี่รู้ทันตลอด มีผีคอยกระซิบหรือไงวะ เอ๊ะๆ  ได้ยินคนแอบด่าว่าไอ้กรก็เพื่อนมึง แล้วมึงจะไม่เคยชวนมันไปบ้านเลยหรอ แน่นอนครับไอ้กรต้องเคยไปบ้านผม แต่ผมเคยชวนมันไปที่ไหนหละ ก็ที่ได้สนิทกับมัน ก็เพราะแม่มันไปที่สำนักของพ่อผมบ่อยๆแล้วก็มีมันนี่และที่ติดสอยห้อยตามมากับแม่ ก็เลยเล่นกันมาตั่งแต่เด็กๆ สนิทกันอยู่สองคน เฮ้อออ ยิ่งเล่าก็ยิ่งเศร้าในชะตาชีวิตของตัวเอง

“ก็ที่กู อยู่ข้างมึง มึงจะให้กูไปไหน”
“เสียใจด้วยวะเพื่อน ที่มึงโดดเรียนคาบจารย์มาลี เมื่อวาน เจ๊แกได้จัดการย้ายที่นั่งมึงไปโน้นนนนนนนนนนนนนน  เรียบร้อยแล้วคับ”

ไอ้กรทำหน้าเหวอมองตามปลายนิ้วผมที่ชี้ไปที่เก้าอี้มุมห้องคนละด้านกับที่นั่งผม หน้าตามันตลกดีครับ อ้าปากกว้างจนตาหยีเป็นขีด ฮ่า สะใจก็สะใจสงสารก็สงสาร ที่มันเหวอไม่ใช่อะไรหรอกครับก็ที่ที่มันจะได้ไปนั่ง คนที่นั่งคู่กับมันคือ ไอ้สัน หัวหน้าห้องจอมเฮี้ยบ ที่ไม่ค่อยมีใครอยากจะนั่งด้วย แต่เวลาทำงานกลุ่มนี่วิ่งแย่งกันไปจับกลุ่มยังกับฝูงอะไรสักอย่าง

“จริงดิมึง”
“อือ”
“แล้วมึงนั่งกับใคร”
“เด็กใหม่”
“มันโอเคเรื่องมึงนะ”

เฮ้ออออออ  วันนี้จะถอนหายใจอะไรกันนักหนา คำถามของไอ้กร เล่นเอาวันนี้ทั้งที่ยังเรียนไม่จบคาบแรกแต่ผมถอนหายใจเกินสิบครั้งไปแล้ว ก็ตั่งแต่เรียนจบคาบอาจารย์มาลี ครั้งที่แล้วมันก็หายตัวไปเลยครับ ผมว่าจะตีสนิทสักหน่อย ผมก็อยากพูดกับมันตรงๆนะครับเรื่องของตัวเอง ไม่อยากให้มันไปได้ยินเรื่องข่าวลือต่างๆของผมจากคนในโรงเรียน แต่ทำไงได้ ถ้ามันไม่โอเค ผมก็จะทำอะไรได้หละครับ แต่ยังไงก็ต้องลองดูแหละครับ เพื่อเพื่อนใหม่คนที่สองในชีวิต ฮ่า ฮ่ ฮ่า

“มันก็คงโอเคมั้ง เหมือนมันจะยังไม่รู้เรื่องกูหวะ”
“ถ้ามึงไม่โอเค กูไปบอกจารย์มาลีขอกลับมานั่งกับมึงก็ได้นะเว่ย”
“เออ กูโอเค มึงไม่ต้องห่วง”

เสียงมันเศร้าแปลกๆแฮะ มันคงเศร้าที่ต้องไปนั่งกับไอ้สัน แต่ช่างมันเหอะครับ ตอนนี้คงต้องห่วงตัวเองก่อน ท่านเทพนะท่านเทพ ทั้งที่เมื่อวานพูดเรื่องน่ากลัวแบบนั้นออกมาได้หน้าตาเฉย แล้วยังสั่งให้หอบเอาคนนั้นคนนี้กลับบ้านไปด้วย แต่กลับไม่หาทางช่วยให้เรื่องมันง่ายขึ้นเลย น่าจะขอขอวิเศษ หรือให้ท่านเทพไปเข้าฝันดลใจให้ไอ้เก้าไปบ้านผมเองถ้าจะง่ายกว่าให้ผมมาลากมันไป 

“มึงทำไรอยู่วะ  หน้าเครียดเหมือนพ่องตาย”

ไอ้เชี่ย!!!! นี่คือคำทักทายคนที่กำลังนั่งเครียดเพราะหาทางช่วยมึงใช่ไหม ไอ้ตัวปัญหา โผล่มาแล้วยังปากหมาใส่กูอีก ปล่อยให้ผีสิงจนตายห่าไปเลยยยยย

“พ่องมึงสิตาย”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า”

หัวเราะอะไรของมึงวะ กูด่ามึงอยู่นะเนี่ย

“หน้าตาค่อยดูมีอารมณ์ขึ้นมาหน่อย ดีกว่าหน้าเมื่อกี้เยอะเลย”

ไอ้นี่มันกวนจริงครับ แต่ปากเสียๆของมันก็ทำให้ผมคลายกังวลว่ามันยังคงไม่เกลียดผม เหมือนคนอื่นๆที่อยู่รอบตัว รีบหาเรื่องคุยตีสนิทมันดีกว่าครับ จะได้ทำตามแผนต่อ

“กูถามอะไรมึงได้เปล่าวะ”
“เออ ว่ามา”
“มึงทำไมย้ายมาช่วงปลายเทอมได้วะ”
“กูขอพ่อย้ายตามหญิงมาวะ”
“แล้วพ่อมึงก็ให้”
“เออ”

ผมถามมันไปเรื่อยเปื่อยครับ เรื่องเรียน เรื่องครอบครัว เยอะแยะ มันตอบจริงบ้าง เล่นบ้าง แต่จากที่ดูมันก็เป็นคนดีนะครับ มันดูรักเพื่อนมันดี เล่าเรื่องที่โรงเรียนเก่า เล่าเรื่องแฟนมันที่ย้ายมาด้วยกัน ผมสบายใจอย่างบอกไม่ถูกเลยครับ นี่คงเป็นการปลดปล่อยตัวผมจากเรื่องที่ผมเก็บกดมาตั่งแต่เด็ก การไม่มีเพื่อน การได้แลกเปลี่ยนเรื่องราว ความรู้สึกกับคนที่ไว้ใจได้ การได้พูดคุยกับใครสักคนในที่ที่โหดร้ายมาตลอดสำหรับผม ที่ที่สร้างแต่ความทรงจำไม่ดีให้กับผม ที่ที่ทุกคนเรียกว่า โรงเรียน การมีเพื่อนเยอะๆ มันคงดีอย่างที่ผมฝันมาตลอด คนตรงนี้นี้ยืนยันได้กับความรู้สึกของผมจริงๆครับ ว่าการมีเพื่อน มันดีจริงๆ

“มึงเป็นโจรปะเนี่ย มาหลอกถามข้อมูลกูแล้วก็ไปปล้นบ้าน”
“สัส สมองมึงปกติปะเนี่ย คิดเรื่องแบบนี้ได้”
“เอาฮาวะ มึงอย่าคิดมาก”
“งั้นคราวนี้ตากูสอบประวัติมึงบ้างเอาครามจริงนะเว่ย โกหกกูถีบตกเก้าอี้แน่”

นี่ไงครับเรื่องที่ผมกลัวมันเกิดขึ้นจนได้ ถ้ามันรับเรื่องของผมไม่ได้ ถ้ามันเกลียดผมเหมือนทุกคน ถ้ามันไม่ยอมไปกับผม มันจะตายไหมถ้าผมช่วยมันไม่ได้ คำถามมากมายผุดขึ้นมาวนไปวนมาไม่รู้จบสิ้น เอาวะ ยังไงมันก็ต้องรู้อยู่ดี ให้มันรู้จากตัวเราเองดีกว่าไปฟังที่คนอื่นใส่สี สู้โว้ยยย ยังไงเราก็เคยตรียมใจไว้พร้อมกับเรื่องแบบนี้มาตลอด ขอแค่ครั้งนี้ ขอแค่ครั้งนี้จริง ขอให้คนคนนี้รับสิ่งที่ผมจะพูดออกไปได้ก็พอ ขอร้องหละครับ

“บ้านกู เออ บ้านกู ทำ พ่อกูเป็นคนเข้าทรง เออ แบบ ประมาณหมอผีอะ แต่เป็นคนดีนะเว่ย”

หลังจากลั้นใจพูดอธิบายเรื่องพ่อของผมให้มันฟัง ถึงจะเป็นการบอกเล่าที่ไม่ค่อยรู้เรื่องก็เถอะ แต่ผมก็พยายามสรรหาคำที่จะอธิบายให้มันเข้าใจได้ง่ายที่สุด ตอนนี้ก็ได้แต่คอยลุ้นสิ่งที่กำลังจะตอบรับกลับมาจากคนที่นั่งอยู่ตรงหน้า ถ้ามันรับได้ผมก็คงดีใจอย่างที่สุด แต่ถ้ามันรับไม่ได้ผมจะทำยังไงดีหละ ขอโทษมัน ร้องไห้ หรือทำไม่สนใจ ผมสงสารตัวเองจังครับที่ต้องมาเศร้ากับเรื่องแค่นี้ รู้สึกน้ำตาผมจะรื้นอยู่ตรงขอบตาแล้วครับ ไอ้คนตรงหน้าก็ได้แต่ทำหน้านิ่ง ไม่ตอบเชี่ยอะไรสักอย่าง โอ้ยกูอยากจะบ้า ถ้ามึงยังไม่ตอบอะไรกูจะร้องแล้วนะ T-T

“เล่าต่อดิ เงียบทำไมวะ”

เสียงตอบของมันทำเอาผมสับสน ตอนนี้ผมควรรู้สึกยังไงดี ควรดีจี่มันรับเรื่องครอบครัวขอผมได้ หรือผมไม่ควรรู้สึกอะไร เพราะมันอาจจะแกล้งแสดงว่ารับได้แต่ในใจอาจเกลียดผม แต่แสดงออกมาตรงๆตอนนี้ไม่ได้ บางครั้งผมโง่ๆอย่างผมก็ต้องการความชัดเจนนะครับ

“มึงคิดยังไงกับกูวะ”
“กูว่ากู ชอบมึง นะ”
“ชอ ชอบ กู”
“เออ แบบครอบครัวมึงดูแปลกๆดี น่าสนใจดีหวะ”

บทสนทนาแปลกๆเมื่อสักครู่เล่นเอาสาวที่นั่งรายรอบโต๊ะพวกผมสองคน หันมามองกันตาขวาง ผมก็ยังตะโกนบอกทุกคนเหมือนกันแหละครับ ว่ากูก็อึ้งกับคำตอบของไอ้หน้าหล่อนี่เหมือนกัน เล่นเอาหัวใจแทบวาย แต่ไอ้คนตอบสิครับกลับนั่งลอกการบ้านของผมหยิกๆ ไม่ได้สนใจสายตารอบข้างเลย ผมไม่กล้าคุยอะไรต่อ ปล่อยให้มันลอกการบ้านไป ส่วนผมก็ได้แต่นั่งเงียบ ตลอดทั้งวันจนช่วงเย็น เชี่ย!!! กูนี่ควรไปเกิดเป็นปลาทองจริงๆ ลืมเรื่องสำคัญไปจนได้ แล้วนี่ไอ้เก้า มันหายไปไหนวะ อยากจะทุบหัวตัวเองให้ขี้เลื่อยมันไหลออกมาทางหูจริงๆจะได้ไม่ลืมว่าต้องเอาไอ้เก้ากลับไปหาท่านเทพ กูนี่มันน่านัก ผมวิ่งวุ่นตามหาไอ้เก้าจนทั่วโรงเรียน แต่แปลกหายังไงก็หาไม่เจอ หรือว่ามันไปรอรถที่หน้าโรงเรียนวะ ผมวิ่งตรงไปที่หน้าประตูโรงเรียน แต่เหลียวซ้ายแลขวายังไงก็ไม่เจอมัน ช่างมันก่อนแล้วกัน ยังไงมันก็คงไม่รีบตายช่วงนี้หรอกมั้ง รีบกลับบ้านก่อนดีกว่า ผมเดินตามถนนมาเรื่อยๆจนเห็นหลังใครคุ้นๆ ไอ้กรนี่หว่า

“กร ไอ้กร ไอ้กรรรรรรรรร”

ไอ้นี่ หูหนวกหรือไงวะ เรียกตั้งหลายครั้งทำเป็นไม่ได้ยิน ได้จะเล่นกลับนักวิ่งหนีผีอย่างผมหรอ ฝันไปเถอะไอ้นักมวยว่าจะหนีกูพ้น ผมเร่งฝีเท้าวิ่งจนใกล้ถึงตัวมัน แต่เหมือนมันก็จะเร่งฝีเท้าหนีผมเหมือนกัน ได้เลยไอ้เพื่อนรัก มึงจะได้เห็นพลังของกู

“โอ้ยยยย  เจ็บบบบ”
“มึงเป็นไรมากเปล่าวะ แม่งก็เล่นวิ่งเชี่ยอะไรของมึงก็ไม่รู้”

ไอ้กรบ่นผมเป็นการณ์ใหญ่ หลังจากที่มันวิ่งกลับมาดูผมที่กุมข้อเท้านั่งกองอยู่กับพื้น แต่เสียใจด้วยนะเพื่อนมึงติดกับดักกูแล้ว

“ปล่อยเลยนะเว่ย เล่นเชี่ยอะไรของมึงวะ”

ไอ้กรร้องใหญ่ ตอนที่ผมอาศัยจังหวะที่มันกำลังดูข้อเท้าผมอยู่กระโดดขึ้นขี่หลังมัน และใช้แขนคล้องรัดไว้รอบคอมันจนแน่น ถึงผมจะเกาะแกะชาวบ้านเก่งขนาดไหน แต่โดนไอ้นักมวยนี่เหวี่ยงไปเหวี่ยงมาก็กลัวตกเหมือนกันนะครับ ขอรัดคอมันไว้แน่นๆก่อนแล้วกัน

“มึงไม่ต้องบ่นมา นี่คือการทำโทษ”
“ทำโทษ??”
“โทษฐานที่มึงเมินทำเป็นไม่ได้ยินเสียงกู มึงต้องให้กูขี่หลังไปกินขนมฝีมือม๊ามึง”
“เออ”

มันตอบผมแค่นั้น แล้วก็แบกผมเดินตามทางต่อมาเรื่อย ปล่อยให้เสียงรถที่วิ่งผ่านไปผ่านมาช่วงตอนเย็นทำลายความเงียบระหว่างทาง โดยเราไม่ได้พูดอะไรกันสักคำ มันแบบกผมจนมาถึงปากซอยทางเข้าบ้านมัน ก่อนมันจะปล่อยให้ผมลงจากหลังแล้วเดินเข้าซอยไปด้วยกัน

“กูคิดว่ามึงจะกลับบ้านกับเด็กใหม่”
“ทำไม่กูต้องกลับกับมันวะ”
“ก็กูเห็นมึงวิ่งตามหามันทั่วโรงเรียน”
“กูมีธุระกับมันนิดหน่อยวะ”

เราจบเรื่องที่คุยกันเท่านั้นจนเดินมาถึงหน้าบ้านไอ้กร

“กูกลับและ”
“อ้าว ไหนมึงบอกจะมากินขนมม๊ากู”
“ไว้วันหลังแล้วกัน วันนี้กูแค่อยากแกล้งมึงเฉยๆ ฝากหวัดดีป๊าม๊ามึงด้วยบอกว่าวันหลังกูจะมากินข้าวด้วย”
“เออ กลับดีๆนะมึง”

ไอ้นี่ทำงอนไปได้เล่นกูต้องใช้แผนแสดงละครที่ไม่ได้ใช้มานานตามง้อจนถึงบ้าน ทำเป็นเด็กไปได้ สงสัยกลัวผมจะรักเพื่อนใหม่มากกว่า ไอ้เด็กขี้งอนเอ้ย ยังไงมึงก็สำคัญกับกูเสมอนะเว่ย "ไอ้กร"

................

ตอนใหม่มาแล้วนะครับ เรื่องอาจจะค่อยเป็นค่อยไปอย่างช้าๆ (ช้าตามสมองคนเขียน) อยากให้ความรักค่อยๆเกิด และให้มันค่อยๆชัดเชน ขอให้อ่านให้สนุกนะครับ
:hao4:

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
ระหว่างเก้ากับกรใครเป็นพระเอกหนอ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Undee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ด้วยรัก และโหงพราย
ตอนที่ ๔


“มึงไม่เบื่อหรอวะ นั่งมา ๓ ชั่วโมงแล้วนะเว่ย”
“เบื่อวะ”
 
ไอ้กรเริ่มบ่นหลังจากผมบังคับให้มันมานั่งเป็นเพื่อนแก้เซ็งอยู่ที่สระว่ายน้ำท้ายโรงยิมหลังจากที่พึ่งสอบวิชาคณิตของอาจารย์ยรรยงเสร็จเป็นวิชาสุดท้ายในช่วงบ่าย

“งั้นกลับบ้าน”
“ม่ายยย อาววว”
“ไปกินขนมบ้านกู”
“ม่ายยย อาววว”
“ไปหาไอ้เก้า”

ทางเลือกสุดท้ายนี่ทะแม่งๆเหมือนจะประชดประชันผมยังไงไม่รู้  แต่ช่างมันเถอะครับผมก็ชักจะเบื่อที่จะง้อมันแล้วด้วย นี่ก็สองอาทิตย์ผ่านมาแล้วมันก็ยังดูงอนๆเรื่องที่ผมตามติดไอ้เก้าแจ ก็อยากจะบอกเหตุผลที่ต้องทำแบบนั้นอยู่หรอก แต่เพราะผมรู้นิสัยมันดี ว่ามันคงเอาตัวเองเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้แน่นอน ยังไงผมก็ห่วงมันครับ ถึงเรื่องใช้กำลังมันจะเก่ง แต่เรื่องที่ต้องใช้สมองและความเชื่อในการแก้ปัญหาแบบนี้ มีหวังมันได้สติแตกก่อนเรื่องจะจบ ไหนก็พูดถึงไอ้ตัวปัญหาแล้ว ผมขอบ่นเลยแล้วกัน ไอ้ผมก็หวังจะตั้งแก็งค์ทรีโอ้เพื่อนซี้สามคนให้คนอื่นเขาอิจฉา ที่ไหนได้ ไอ้เก้าดันติดหนึบกับแฟนมันเหมือนกับตังเม คาบว่าง คาบพักเป็นไม่ได้ต้องรีบวิ่งแจ้นไปคลุกอยู่กับแฟนมัน แต่แปลกนะครับไม่เห็นเคยจะเอาแฟนมันมาให้เพื่อนได้เชยชมบ้าง ปกติผู้ชายเขาก็เป็นกันทั้งนั้นไม่ใช่หรอครับ ไอ้นิสัยชอบอวดแฟนเนี่ย
“ปะ ไปกัน”
“ไปไหนวะ”
“ไปหาไอ้เก้าไง”
“มึงนี่มัน........”
“โอ๋ๆ กูล้อเล่นไปกินขนมที่บ้านมึงกัน”

แหมๆล้อเล่นนิดเดียวทำเป็นของขึ้น ไอ้นี่น่ารำคาญมากขึ้นทุกวัน หลังจากง้อไอ้กรอยู่สักพักจนมันอารมณ์ดีขึ้นบ้าง ผมก็รีบชวนมันกลับก่อนที่มันจะงอแงเดียวผมจะอดกินขนม ผมเดินเรื่อยเปื่อยตามหลังไอ้กรทาเรื่อยๆจนใกล้ถึงหน้าประตูโรงเรียน อยู่ดีๆมันก็หยุดเดินสะงั้น เล่นเอาหน้าผากผมกระแทกเข้าเต็มไหล่มัน กำลังจะอ้าปากด่ามันแล้วเชียว แต่มันเล่นกระชากข้อมือให้ผมวิ่งตามไปอีกทาง เกือบล้มหัวฟาดพื้นแล้วไหมหละ ไอ้นี่เล่นอะไรอันตรายจริงๆ

“กลับทางประตูข้างดีกว่า ประตูหน้าแม่งคนเยอะ”
“เออ เออ”

ผมตอบไปแบบงงๆ มึงลากกูมาขนาดขี้แล้วกูจะทำอะไรได้ แต่ไอ้ประตูข้างที่มึงบอก??? นี่คือกรูต้องปีนออกแล้วใช่ไหม!!! ผมยังจำไอ้ประตูข้างมรณะนี่ได้ดีครับ มันเป็นประตูโครงเหล็กเก่าๆที่จะเปิดใช้เฉพาะช่วงที่โรงเรียนมีกิจกรรมสำคัญ เพื่อเพิ่มช่องทางการเข้ามาจอดรถ ไม่ค่อยมีใครมาแถวนี้หรอกครับ คงมีแค่พวกผมสองคนที่กล้าเสี่ยงชีวิตกับไอ้โครงเหล็กเก่าๆบานนี้ ด้วยการเอาร่างกายป่ายปีนข้ามมันไป แต่อย่าได้เป็นห่วงสวัสดิภาพการใช้ชีวิตของพวกผมสองคนเลยครับ เพราะเราใช้เส้นทางนี้ในการโดดเรียนอยู่บ่อย จนกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญว่าส่วนไหนของประตูโครงเหล็กเหยียบได้ หรือส่วนไหนควรก้าวข้ามไป วันนี้ก็ยังง่ายเหมือนเดิมครับ พวกเรากระโดดลงจากประดูโครงเหล็กลงมาได้อย่างหล่อ ตอนโดดลงผมยังแอบเห็นไอ้ก่อนแอบเสยผม ทำตาวิ้งๆ ให้สาวๆที่เดินผ่านทางผมพอดี บอกได้คำเดียวเลยครับว่า

“ไอ้สาสสสสส  โคตรสะเหล่อ”

ผมเดินกันมาสักพักใหญ่จนถึงบ้านไอ้กรครับ ผมรีบเดินนำไอ้กรเข้าบ้านมันมาทางประตูเล็กตรงเข้าบ้านก่อนจะรีบกระโจนเข้าไปอ้อนป๋ากับม๊ามันก่อนเลยครับ

“ป๊า ม๊า หวัดดีครับ”    พร้อมกระโดดกอด และหอมแก้มอีกฟอดใหญ่
“อ้าว ลูกต๊ะ มาได้ยังไงลูก ม๊ากำลังบ่นคิดถึงให้ป๊าฟังอยู่พอดี นั่งก่อนๆ เดียวม๊าให้แจนเอาขนมมาให้”
“ม๊าน่ารักที่รู้ใจที่สุดเลยครับ รู้ใจต๊ะจริงๆ”
“ม๊านี่โดนมันอ้อนทีไรใจอ่อนให้ทุกที ทีผมอ้อนบ้างไม่เห็นจะเคยได้”
“ก็ดูสภาพแกสิตัวโตๆ จะทาอ้อนน่ารักๆแบบลูกต๊ะได้ยังไง”

แม่ลูกคู่นี้จิกกัดกันได้น่ารักจริงๆครับ เห็นแล้วก็แอบอิจฉาเล็กๆ แต่ยังไงผมก็เหมือนลูกชายบ้านนี้อีกคนก็ดูเหมือนม๊าไอ้กรจะอยากได้ผมเป็นลูกจนออกนอกหน้า แถมยังดูจะเอ็นดูผมมากกว่าลูกในไส้ตัวเองอีก ฮ่าๆๆๆๆ คนเกิดมาน่ารักน่าเอ็นดูอย่างผมก็แบบนี้แหละครับ ช่วยไม่ได้นะเว่ยไอ้กร

“ม๊า ให้พี่แจนเอาขนมไปที่ห้องนะครับ ผมกับต๊ะจะติวหนังสือกันครับ”
“ได้ๆ เดี๋ยวม๊าเอาแปะก๊วยไปให้กินด้วยจะได้บำรุงสมอง”

หลังจากปลีกตัวจากการพูดคุยกับป๊าม๊ามาได้ ก็ต้องมาสู้กับความรู้กองพะเนินที่ไอ้กรพยายามจะยัดเอาความรู้อันมหาศาลเข้ามาในรูสมองเล็กๆของผม แต่น่าสงสารความรู้ที่เข้ามาใหม่ที่ต้องต้องไปเบียดเบียนพื้นที่กับขี้เลื่อยในหัวสมอง หลังจากพยายามอ่านหนังสืออยู่นานสุดท้ายก็ต้องยอมแพ้มานั่งจิ้มๆ XBOX ไอ้กรอย่างเมามันพร้อมยัดขนมฝีมือม๊ามันอย่างเอร็ดอร่อย เพลินจนลืมเวลา รู้ตัวอีกทีก็เกือบสองทุ่ม ผมเลยรุกรี้รุกรนเก็บของเข้ากระเป๋า

“ไอ้กร ไปส่งกูบ้านหน่อยดิ”
“อ้าว วันนี้ไม่นอนบ้านกูหรอวะ”
“วันนี้ไม่ได้หวะ มีธุระ”
“เออๆ มึงรอกูหน้าบ้านนะ กูไปเอามอไซต์ที่โรงจอดรถก่อน”

ไอ้กรขี่MSXสีแดงคันโปรดของมันมาส่งผมที่หน้าบ้าน ก่อนจะรีบกลับบ้านเพราะม๊ามันกำชับให้กลับไปช่วยม๊ามันเคลียบัญชี หลังจากไอ้กรเสียงรถไอ้กรวิ่งออกไปไกลผมก็รีบวิ่งตรงไปที่สำนักที่ท้ายซอย เพราะตอนเล่นเกมอยู่ที่บ้านไอ้กรอยู่ดีๆก็รู้สึกกระวนกระวายใจจนอยู่ไม่สุข หลายคนอาจคิดว่าผมอาจจะคิดมากไปเอง แต่ลางสังหรณ์ของผมไม่เตยผิดพลาด ผมมักจะเชื่อในสังหรณ์ของตัวเองอยู่เสมอ และทุกครั้งมันมักจะมีเหตุการณ์หรือเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นเสมอ วิ่งครู่เดียวผมก็มาถึงเขตสำนัก แต่แปลกแฮะ ไฟในสำนักก็ปิดแล้วแต่ประตูกลับเปิดอยู่ ผมรีบวิ่งเข้าไปดูข้างในด้วยใจนึงก็กลัวจะมีขโมยขโจรเข้ามาเอาของในสำนัก แต่ในใจกลับรู้ว่าไม่ใช่แบบนั้นแน่  มองไปรอบๆก็เป็นอย่างที่คิดไม่มีเงาของคนหรืออะไรแปลกๆในสำนัก แต่กลับมีกระดาษแปลกๆวางอยู่บนพานหน้าแท่นบูชา ทั้งที่ปกติแล้วพ่อมักจะทำความสะอาดทุกเย็น ผมรีบคลานเข่าไปหน้าแท่นบูชาก่อนจะหยิบกระดาษแปลกๆที่วางอยู่บนพานมากางดู

จงอย่าปล่อยเวลาให้เนิ่นนาน     หากเกินกาลจะเกิดเรื่องไม่ดี
หากเจ้าอยากจะช่วยชายคนนี้    จงใช้ใจที่เจ้ามีแลกเขามา

.........................

ตอนนี้สั้นๆนะครับ ตอนนี้โน๊ตบุ๊คพัง แอบมาพิมพ์ตอนที่ ๔ อยู่ห้องสโมสรนักศึกษา แอบพิมพ์อยู่ ๓ วันกว่าจะจบตอน  ตอนต่อไปคงอีกสักพัก อ่านตอนนี้ให้สนุกนะครับ โน๊ตบุ๊คซ่อมเสร็จจะรีบพิมพ์ให้ได้หลายๆตอน
 :hao4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-07-2016 16:16:19 โดย Undee »

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ angel_Z4

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 783
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
อู้วววถึงขนาดต้องใช้ใจเเลกเลยเรอะ?!! ง่อววววรอๆ :katai2-1:

ออฟไลน์ zombi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-5
กรน่ารัก
เปลี่ยนจากเพื่อนเป็นสถานะอื่นก็เหมาะสมนะ

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
เดี๋ยวจะไม่ทันการ ฉุดเข้าบ้านเลย แล้วค่อยใช้ใจแลกทีหลัง

ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6

ออฟไลน์ naoai

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-5
ชอบเรื่องเเนวนี้จัง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Undee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ด้วยรัก  และโหงพราย
ตอนที่ ๕
หลังจากอดตาหลับขับตานอนมาทั้งคืนเพราะห่วงคิดเรื่องข้อความบนกระดาษเมื่อคืน ผลกรรมเลยส่งให้ต้องมานั่งถ่างตาสู้กับความง่วงในคาบเรียน สภาพผมคงตลกแค่ไหนดูจากท่าทางไอ้คนที่นั่งข้างๆก็คงจะรู้ ก็มันเล่นนั่งแอบยิ้มคิกคัก เอานิ้วมาจิ้มๆดันหน้าผากผมไว้เวลาสับหงกจนหน้าผากเกือบจะกระแทกเข้ากับโต๊ะเรียนอยู่หลายครั้ง

“มึงไปทำอะไรมาวะ ท่าทางยังกับคนที่ไม่ได้นอนมาทั้งคืน”
“ปล่าวววววว”
“บอกกูมาเหอะน่า หรือว่าเมื่อคืนมึงแอบจัดหนักวะ”
“ไอ้เชี่ย ทะลึ่งนะมึง”
“กูทะลึ่งตรงไหนวะ กูหมายถึงเล่นเกม”
“เออๆ กูขี้เกียจจะเถียงกับมึง”

อยากจะพูดจริงๆ ว่ามึงคือ ตัวปัญหา ที่ทำให้กูนอนไม่หลับทั้งคืน แล้วยังจะมากวนประสาทกูอีกนะ โอ้ยยยยยยยยยยย มันจะเกินไปแล้วนะเว้ย

“เออ พักเที่ยงมึงไปกินข้าวกะกูปะ”
“ทำไมชวนกูวะ ปกติมึงไปกินกับแฟนมึงไม่ใช่หรอ”
“ขวัญเขาอยากเจอพวกมึงวะ”
“อยากเจอพวกกู”
“เออ เขาอยากเจอเพื่อนกู เลยให้ชวนมึงกับไอ้กรไปกินข้าวด้วย”
“กูไม่ไปได้เปล่าวะ ง่วงชิบ”

“มึงต้องไป”

อะไรของมันวะอยู่ดีๆก็มาทำเสียงแข็งใส่  มันบ้าหรือเมนส์มาวะ อารมณ์ขึ้นๆลงๆ  สงสัยเป็นพวกกลัวแฟน แฟนสั่งอะไรก็ต้องทำ น่ารำคาญชิบ

“ทำไมต้องเสียงดังด้วยวะ”
“ขวัญเขาอยากเจอพวกมึงจริงๆนะเว้ย  ไปเหอะนะ”
“เออๆ”

ผมตอบตกลงแบบขอไปที มันจะได้เลิกยุ่งกับผมสักที ตอนนี้ร่างกายผมไม่ไหวจริงๆแล้วครับ ขอโทษนะพ่อที่ต๊ะไม่ตั้งใจเรียน ขอโทษนะครับอาจารย์สวัสดิ์ที่ผมจะแอบหลับในห้องเรียน ผมค่อยฟุปหน้าลงกับโต๊ะเรียนที่มีพื้นผิวเย็นสบาย แล้วผล็อยหลับไป ตอนที่เปลือกตากำลังจะปิดสนิทก็ได้ยินเสียงแปลกๆจนต้องพยามถ่างตามาดู ถึงจะทำได้นิดเดียวก็เถอะ

ตึก!!!
เสียงขอบหนังสือเรียนที่ถูกกางออกกระแทกลงกับพื้นโต๊ะเรียนเพื่อใช้บังผมที่กำลังฟุบหลับอยู่

“ไม่ไหวก็นอนสะมึง เดี๋ยวกูคอยดูจารย์ให้”

เป็นเสียงสุดท้ายก่อนที่ผมจะเข้าสู่ช่วงหลับลึกจนไม่สนใจอะไรรอบข้างตัวอีกแล้ว ผมจะเชื่อมันได้หรือเปล่าครับกับผมพูดของคนที่อารมณ์แปรปรวนแบบมัน แต่ก็ช่างเหอะ ผมหยุดคิดอะไรที่ทำให้ปวดหัวก่อนที่จะรีบใช้เวลากับการนอนให้มากี่สุด

“ต๊ะๆ  ตื่นดิมึง”
“ออือือือ”
“ลุกได้แล้ว ไปกินข้าว”
“อิอือิอือออื”

ผมค่อยลืมตา แล้วบิดขี้เกียจไปมาอยู่สักพัก การนอนในท่าแปลกๆทำเอาผมปวดไปทั้งตัว ก่อนจะมองไปรอบๆตัวก็เห็นว่าทุกคนออกไปจากห้องเรียนหมดแล้ว

“คนในห้องไปไหนกันหมดวะ”
“นี่มันเที่ยงครึ่งแล้วนะเว้ย”
“อ้าว แล้วทำไมมึงไม่ปลุกกูวะ”
“กูเห็นมึงกำลังหลับสบายเลยไม่อยากปลุกวะ”
“เออๆ ขอบใจนะเว้ย”
“ปะ ไป”
“ไปไหน”

ช่วงนี้รู้สึกเหมือนจะโดนคนนั้นคนนี้ลากไปไหนมาไหนจนทั่วไปหมด เหนื่อยนะครับแบบนี้

“ไปกินข้าวกับแฟนกูไง”
“เออ เกือบลืม”
“แล้วไอ้กรอะ”
“โดนไอ้สันลากไปทำรายงานตั่งแต่หมดคาบ”
“เออๆ งั้นรีบไปเหอะกูหิววะ”

ผมกับไอ้เก้าเดินออกจากตึกเดินตรงไปที่โรงอาหารชั่วคราวที่ถูกย้ายมาตั้งอยู่ใต้ตึกคหกรรม เดินวนอยู่สักพักก็มีผู้หญิงตัวเล็กๆโบกไม้โบกมือจากโต๊ะที่ตั้งอยู่ช่วงท้ายสุดของตึก แถวๆร้านก๋วยเตี๋ยว ไอ้เก้าโบกมือรับก่อนจะรีบเดินนำไปนั่งที่โต๊ะ ผมเดินตามไปอย่างเชื่องช้าเพราะยังรู้สึกงัวเงียอยู่ เป็นครั้งแรกเลยครับที่ไอ้เก้าพาผมมาเจอกับแฟนมัน ขวัญเป็นผู้หญิงตัวเล็กน่ารักเชียวครับ ท่าทางเป็นคนสดใสเห็นแล้วพลอยสดชื่นไปด้วย  แต่แปลกตรงที่พอผมเดินมาใกล้เธอทำไมต้องทำหน้าตกใจขนาดนั้น

“ขวัญ นี่ไอ้ต๊ะเพื่อนที่ห้อง”
“หวะ หวัดดีจ๊ะ”
“หวัดดี”
“เป็นไรหรือเปล่าขวัญหน้าดูซีดๆนะ”
“เปล่าจ๊ะเก้า  สงสัยอากาศร้อนมั้ง”
“หรอ รอนานเปล่า ขอโทษนะ ไอ้ต๊ะมันไม่ค่อยสบาย  มันนอนพัก พึ่งตื่น”
“แล้วเป็นอะไรมากหรือเปล่าต๊ะ  กินยาหรือยัง”
“ดีขึ้นแล้ว”
“งั้นเดี๋ยวกูไปซื้อข้าวนะ มึงกับขวัญนั่งคุยกันไปก่อน”

ไอ้เก้ารีบวิ่งไปซื้อนั้นซื้อนี่ สักพักกลับมาก็วางของกินเต็มโต๊ะ ผมเลือกกินขนมปังที่มันซื้อมาเพราะยังรู้สึกพะอืดพะอมไม่อยากกินอะไรท้องจนเกินไป

“กินน้อยจังวะมึง”
“ยังไม่ค่อยหิววะ”
“แล้วมึงมียายัง”
“ยัง”
“เดี๋ยวกูไปเอาให้”
ไอ้เก้ารีบวิ่งออกจากโต๊ะไปทั้งที่ยังไม่คำห้ามของผมด้วยซ้ำ ไอ้นี่ชอบยุ่งเรื่องคนอื่นจริงๆ

“เก้าดูจะเป็นห่วงต๊ะมากเลยนะ”
“เพื่อนกันนะ”
“ถ้าเป็นเมื่อก่อนขวัญคงคิดว่าเก้าชอบต๊ะแล้วหละ แต่ตอนนี้คงเป็นไปไม่ได้”

ผมหัวเราะเบาๆกลบบรรยากาศแปลกๆเมื่อครู่ อะไรของเขาวะไอ้เก้าเมื่อก่อนกับไอ้เก้าเดี๋ยวนี้ งงไปหมด แล้วไอ้เก้าเนี่ยนะจะชอบผม แถมไอ้ท่าทางกับสายตาร้ายๆที่ส่งมาให้ผมนี่คือต้องการจะสื่ออะไร ผมเลือกที่จะเลี่ยงการสบตากับขวัญ ก้มน่าก้มตากินขนมปังในมือ สักพักไอ้เก้าก็กลับมาพร้อมยาในมือก่อนจะคะยั้นคะยอให้ผมรีบกิน แล้วให้ไปนอนพักที่ห้องพยาบาล จริงๆมันจะตามาส่งแล้วแต่ผมบอกให้มันอยู่กินข้าวกับขวัญ ผมไม่รู้สึกไม่ชอบจริงๆครับผู้หญิงคนนี้แปลกๆยังไงก็ไม่รู้

ผมเข้ามานอนอยู่ที่ห้องพยาบาลตลอดช่วงคาบบ่าย แต่สงสัยมีเรื่องให้คิดเยอะเลยนอนไม่จะหลับ ได้แต่นอนพลิกไปมา อยู่ๆก็เหมือนจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเพราะมีเสียงคนวุ่นวายไปหมดในห้องพยาบาล

“ครูเบิร์ดคะทำยังไงดีคะ แบบนี้ได้กลายเป็นเรื่องใหญ่แน่”
“อย่าพึ่งตีโพยตีพายไปสิครับ งั้นพี่มาลีไปบอก ผอ. ก่อนเดี๋ยวจะกันเด็กไม่ให้เข้าไป”
“ได้ๆ แล้วอย่าให้เด็กๆรู้นะว่ามีคนตายในโรงเรียน ไม่งั้นได้แห่กันไปมุงดูแน่”
“ครับ พี่มาลี”


..............................
เย้ๆๆๆ  ตอนใหม่มาแล้ว ขอบคุณทุกคนนะครับที่รออ่าน สนุกไม่สนุกยังไงบอกกันได้นะ เรื่องร้ายๆเริ่มก่อตัวแล้วเป็นกำลังใจให้ "ต๊ะ" กันด้วยนะครับ
:hao4:

ออฟไลน์ naoai

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-5
ง่ะ สั้นอะ เก้าตายใช่ไหม ไม่นะ ถ้าเป็นจริงจะโกรธต๊ะ :m31:

ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6

ออฟไลน์ Undee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ด้วยรัก และโหงพราย
ตอนที่ ๖
[/shadow]

“ ข่าวต่อไป เย็นวานนี้ พบศพเด็กหญิงอายุ ๑๕ ปี ที่อาคารท้ายโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่ง โดยสภาพศพถูกตีด้วยของแข็งเข้าที่ท้ายทอย  ชิ้นส่วนหนังศีรษะถูกถลกหายไป  จากการคาดการของเจ้าหน้าที่คาดว่าเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า ๔ ชั่วโมง  โดยผู้เสียชีวิตเป็นเด็กสาวที่กำลังได้รับความนิยมทางสังคมออนไลน์ จากการถ่ายวีดีโอรีวิวผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผม …………”

เสียงโทรทัศน์รายงานข่าวการเสียชีวิตของเด็กสาวผ่านรายการข่าวหลายช่องโทรทัศน์นับว่าเป็นข่าวใหญ่ของช่วงนี้เลยก็ว่าได้ เพราะจากสภาพศพนับเป็นคดีสะเทือนขวัญที่ส่งผลให้ตำรวจต้องเร่งสืบหาคนร้ายกันยกใหญ่  และแน่นอนว่าต้องเป็นเหตุการณ์เดียวกับที่ผมแอบได้ยินมาเมื่อวาน ถึงครูหลายๆท่านจะพยายามช่วยกันปิดข่าวไม่ให้แพร่กระจายออกไป แต่สุดท้ายก็กลายเป็นข่าวใหญ่จนต้องประกาศหยุดเรียนไปหลายวัน เพื่อความปลอดภัยของนักเรียน

“หยุดเรียนต้องหลายวัน เอาแต่นั่งๆนอนๆเดียวก็เป็นง่อยตายหรอก”
“ถ้า  ต๊ะ  เป็นง่อยพ่อจะลำบากเอานะ”
“ไอ้เด็กนี่ เถียงคำไม่ตกฟาก”

ผมนั่งฟังพ่อบนมาเป็นวันที่สองแล้วครับหลังจากเมื่อวานกลับมาบอกว่าโรงเรียนประกาศหยุดเรียนไม่มีกำหนด มันใช่ความผิดผมไหมละครับเนี่ย  ผมก็ไม่ได้หยุดอยู่เฉยๆสักหน่อย เช้ากลางวันยังคอยช่วยปัดกวาดเช็ดถู   เย็นก็ไปให้กรติวหนังสือให้ ผมกินๆนอนๆอยู่เฉยที่ไหน

“พ่อว่าคนร้านมันเอาหนังหัว กับเส้นผมไปทำไหม”
“ถามแปลกๆ ข้าจะรู้กับมันไหมหละ”
“ก็ถ้าเป็นในความคิดพ่อไง”
“ข้าไม่รู้หรอกโว้ย  แต่ถ้าเป็นพวกที่เล่นของหละก็คงเอาไปทำคุณไสย”
“ยังไงหรอพ่อ”
“เองก็น่าจะเคยเห็นที่เขาเอาเส้นผมไปเล่นของใส่กัน แต่นี่มันแปลกตรงที่เอาไปทั้งหนังหัวนี่สิ”
“แปลกจริงๆด้วย”
“โอ้ย  เลิกถามเรื่องแปลกๆได้แล้ว ข้าจะไปข้างนอก เองก็อยู่บ้านอย่าไปเถลไถลที่ไหนหละ”
“คร้าบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ”
 
เรื่องที่พ่อพูมันก็แปลกจริงแหละ แต่แปลกกว่าตอนนี้สำหรับผมก็คือพ่อนี่แหละครับ ปกติช่วงกลางวันนี่แทบไม่ออกจากบ้าน วันนี้จะไหนของเขานะ หรือว่าจะไปหาสาว ไม่ใช่มั้ง ตาลุงหัวโบราณคงไม่มาใจแตกเอาตอนนี้หรอก ตามไปดูดีกว่าเพื่อจะเจออะไรดีๆ ฮ่าฮ่าฮ่า  พ่อออกจากบ้านไปได้สักครู่ผมก็รีบตามออกมาดีนะที่ตัดสินใจวิ่งไปหยิบจักรยานก่อนออกมาก ไม่งั้นคงได้วิ่งตามรถยนต์ที่มาจอดรับพ่อขึ้นไป  ผมขี่ตามอยู่สักพักรถก็วิ่งไปในเส้นทางที่ผมใช้อยู่แทบทุกวัน ใช่แล้วครับนี่มันทางไปโรงเรียนผมนี่ แล้วพ่อจะไปที่โรงเรียนทำไม แปลกยิ่งกว่านั้นคือรถคันนี้ไม่เข้าทางประตูหน้าแต่กลับอ้อมไปเข้าประตูหลัง จะไปที่ไหนกันนะ พ้นประตูทางเข้าด้านหลังรงเรียนมาได้นิดหน่อยรถสีดำก็เข้าจอดเทียบที่ตึกช่าง ซึ่งเป็นตึกเก่าที่ยกเลิกกรใช้งานเพราะโรงเรียนเปลี่ยนมาสอนในสายสามัญ กลุ่มวิชาสายอาชีพทั้งหมดจึงถูกยกเลิก

“เชิญคะ”
“ขอบคุณครับ”

ผมแอบอยู่หลังพุ่มไม้แถวๆนั้นหลังจากรออยู่สักพักก็มีผู้หญิงลงมาจากที่นั่งคนขับตรงมาที่ประตูหลังด้านซ้ายก่อนจะเปิดประตูให้พ่อผมลงมา และนำทางเข้าในตึก  ผมรอสักพักจนทั้งคู่เข้าไปในตัวอาคารจึงค่อยๆออกมาจากพุ่มไม้ แล้วตามทั้งคู่เข้าไปข้างใน เข้ามาข้างในแล้วบรรยากาศมันชวนสยองจริงๆครับ ตัวตึกที่เหมือนโรงงานเก่าๆ มีช่องระบายอากาศที่มีพัดลมกลมเหมือนลูกฟักทองสีเงินหมุนๆ ไหนจะเครื่องมือเก่าๆทั้งเครื่องเจียเหล็ก เครื่องตัด เครื่องขัด ก็ยังกองกันเกลื่อนห้อง  ทำไม ผอ. ยังปล่อยให้มีที่น่ากลัวแบบนี้ไว้อีกเนี่ยน่าจะรื้อทิ้งไปได้แล้วนะ

“ท่าอาจารย์คะ ดิฉันอยากจะให้ช่วยสื่อกับวิญญาณให้หน่อยคะ”
“ท่าน ผอ. อยากจะรู้อะไรหรอครับ”
“ดิฉันอยากให้รู้ตัวคนร้ายโดยเร็วคะ  ไม่งั้นโรงเรียนแย่แน่”

เดินตามทางมาเรื่อยๆจนได้ยินเสียงพ่อคุยอยู่กับ ผอ.แขไข ผมเลยได้ซุกตัวไปแอบอยู่ข้างโต๊ะเขียนแบบเก่าๆห่างจากตรงจุดที่พ่อ ผอ. และหญิงแปลกหน้าที่ไปรับพ่อเล็กน้อย ใกล้ตรงที่ทุกคนกำลังคุยกันคงเป็นจุดที่พบศพ เพราะบนพื้นมีลายพ่นสีขาวๆเป็นรูปคน

“ได้ครับ ผมจะลองดู”
“ขอบคุณคะ ท่านอาจารย์”
“โอมสักกาบูชาครู ข้าขออัญเชิญครูมาปกปัก อันตัวข้าจะเข้าทรง ให้ปกร้าง ปักวิญญาณอย่าหนีหาย อย่าให้ผีร้ายมาช่วงชิง………”

เสียงพ่อร่ายบทบูชาครูก่อนจะทำการขึงสายสิญจน์ รอบๆตัวกว้างสักวาคูณวา ให้ ผอ. กับหญิงแปลกหน้าเข้าไปนั่งด้านใน

“เกิดอะไรขึ้นก็ห้ามออกมานะครับ”

หลังจากพูดจบพ่อก็เดินตรงไปที่รอยสเปร์สีขาวที่พ่นลงที่พื้นก่อนจะนอนลงและทำท่าตามเส้นสีขาวที่วาดไว้  หลับตาพนมมือว่าคาถาตามที่ครูท่านได้สั่งสอนสักพักก็หลับลงเหมือนคนหมดสติ

“ท่านคะ  ท่านคะ  ท่านคะ”

เสียง ผอ. ร้องเรียกหลายครั้งแต่กลับไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับจากร่างที่นอนนิ่ง สักพักเหมือน ผอ. จะเริ่มห่วงจนทนไม่ไหว ทำท่าทางเหมือนจะก้าวออกจากเขตสายสิญจน์  แต่หญิงแปลกหน้ากระชากแขนไว้ทันเสียก่อน

“ไม่ได้นะคะ ผอ. ท่านสั่งไว้ว่าห้ามออก”
“แล้วเธจะให้ฉันทำยังไง นี่ท่านก็นิ่งไปนานแล้วนะ”
“อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย”

เสียง ผอ. เถียงกับหญิงแปลกหน้าไม่ทันจบ อยู่ดีๆร่างที่นิ่งงันของพ่อกลับลุกขึ้นมากรีดร้อง อย่างบ้าครั่ง เสียงแหลมเล็กจนบาดแก้วหู  นอนบีดร่างไปมาอย่างทรมาน  ภาพตรงหน้าสยดสยองจนหญิงทั้งสองต้องกอดกายกันด้วยความกลัว

“หนูยังไม่อยากตาย  หนูยังไม่อยากตาย  หนูยังไม่อยากตายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย”

ร่างที่นอนอยู่ร่ำร้องวนซ้ำไปซ้ำมาอย่างเวทนา  สถานการณ์ตอนนี้ดูย่ำแย่ลงทุกนีจนผมแทบทนไม่ไหวจะลุกออกไปช่วยพ่อ แต่เหมือน ผอ. จะเริ่มตั้งสติได้และเริ่มถามสิ่งที่อยากรู้ ผมจึงได้กลับไปซ่อนอยู่ที่เดิม

“หนู หนูลูก  หนูใช่สายพิณไหมจ๊ะ  ถ้าใช่หนูบอกได้ไหมใครเป็นคนร้าย”
“ผอ. ผอ. หนูกลัว หนูกลัวววววววววววววว”

ร่างพ่อค่อยคลานมาที่เขตสายสิญจน์ตรงเข้าไปหาผอ.ก่อนจะเอื้อมมือเข้าไปหา แต่พอเข้าเขตอาคมกลับต้องถอยหนีด้วยแรงอาคมที่พ่อเป่าเสกไว้

“ผอ. หนูกลัว มันฆ่าหนูทำไม  มันฆ่าหนูทำไม”
“หนูไม่ต้องกลัวนะ  ผอ.จะช่วยหนูเอง แต่หนูบอผอ.ได้ไหมว่าใครทำหนู”
“หนูไม่รู้  หนูไม่รู้”
“ใจเย็นๆนะสายพิณ ค่อยๆคิด”
“หนูไม่รู้ หนู!! หนู!! หนูเจอ ผู้ชายคนนึง เขามาเป่าอะไรใสหน้าหนูก็ไม่รู้ รู้อีกทีหนูก็มาอยู่ทีนี่ หือ หือ หือออออ”

ร่างของพ่อกลับมาร้องไห้อย่างบ้าครั่งก่อนจะเกิดแสงสีอำพันคลุมรอบตัวพ่อ ร่างถึงได้สงบลง

“ขอสักกาบูชาครูบาผู้ปกปัก”
 
พ่อค่อยก้มลงกราบลงพื้น ท่องบทบูชาครูก่อนจะรีบตรงเข้าไปคุยกับ ผอ.

“ได้เรื่องไหมครับ”
“นิดหน่อยเองคะ เขาบอกแค่เจอผู้ชายเป่าอะไรใส่หน้าแล้วก็จำอะไรไม่ได้เลย  ทำยังไงดีคะ ท่านอาจารย์”
“วันนี้คงทำอะไรไม่ได้แล้ว เรารีบกลับกันก่อนเถอะครับ”

ผมซ่อนตัวอยู่อีกสักพักรอจนทั้งสามคนพยุงกันออกไปด้านนอก ได้ยินเสียงแว่วรถกำลังวิ่งออกไป ผมถึงได้ออกจากที่ซ่อน  ผมรีบไปที่หลังพุ่มไม้ที่ซ่อนจักรยานไว้ ต้องรีบแล้วครับถ้าพ่อเห็นว่าผมไม่อยู่ที่บ้านได้โดนซักแน่ว่าไปไหนมา  คิดได้อย่างนั้นผมรีบวิ่งตรงไปที่ประตูทางออก ก่อนจะชนเข้ากับใครบางคน

“โอ้ย”

เสียงเล็กๆของเด็กผู้หญิงร้องเมื่อชนเข้ากับผมจนล้ม

“ต๊ะ”
“ขวัญ”

ท่าทางขวัญดูจะตกใจมากที่เห็นผม เธอรีบลุกลี้ลุกลนยืนขึ้น ก่อนจะพยายามพูดบางอย่างกับผม

“ต๊ะมาทำอะไรที่นี่อะ

จุกสิครับเจอคำถามแบบนี้ จะตอบว่าอะไรดีหละครับ

“แล้วขวัญหละ มาทำอะไร”

เธอก็ดูอ้ำอึ้งเหมือนกันแหละครับที่ผมเลือกที่จะถามสวนกลับเธอไป
“เราอยากมาดูหนะว่าที่ข่าวออกมันจริงไหม”
“หรอ เราก็เหมือนกกัน ใจตรงกันเลยเนอะ”

ผมรีบชิงเอาคำตอบที่เธอตอบมาตอบแก้เก้อ  ถึงจริงๆมันจะแปลกที่ผู้หญิงไม่กลัวเรื่องแบบนี้ก็เถอะ  แต่ตอนนี้ผมต้องรีบกลับด้วยสิ  เอาไว้ค่อยสงสัยวันหลังแล้วกัน

“เออ งั้นเรากลับก่อนนะ ขวัญก็รีบกลับหละมาคนเดียวมันอันตราย”
“จ้า”

ผมล่ำลาเธอเสร็จก็รีบตรงกลับบ้าน  ถึงบ้านก็ได้แต่กลับมานั่งคิดนะครับว่าวันนี้เจอแต่เรื่องแปลกๆ  พ่อทำตัวแปลกๆ  ผู้หญิงที่มากับผอ.ก็แปลก  เจอเหตุการณแปลกๆ  แล้วยังเจอคนที่ไม่สมควรมาในที่ที่แปลกๆ  โอ้ยยยย  หรือจริงๆผมนี่แหละที่เป็นคนแปลก


.................................................
มาอีกตอนแล้วครับพยายามจะลงวันละตอนจริงๆครับแต่เขียนไม่ออกจริงๆ แถมช่วงนี้รู้สึกว่าเวลาแต่งชอบใช้ภาษาแปลกๆไม่เหมือนภาษาที่แต่งปกติ สมองไปหมดแล้วครับ สนุกไม่สนุกแปลกไปไหมยังไงบอกกันได้นะครับ
 :hao4:

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
น่าสงสารอ่ะ ตายเลยแถมโดนถลกหนังหัวอีกด้วย :ling3: :ling3:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ naoai

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-5
ชอบนิยายแนวนี้มาก เป็นกำลังใจให้ครับผม

ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6

ออฟไลน์ Undee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ด้วยรัก และโหงพลาย
ตอนที่ ๗


เพี๊ยะ!!!!
“โอ้ย  เชี่ยกรตีกูทำไมวะ”
“กูคิดถึงวะ ช่วงนี้ไม่ค่อยได้คุยกันเลย”
“มึงแหละ ชอบไปคลุกอยู่กับไอ้สัน"

วันนี้ผมมาโรงเรียนแต่เช้าครับ โชคดีก็เลยมาเยือนโดนไอ้กรเจิมกลางหลังแต่เช้า  มันก็บ่นเรื่องที่ช่วงนี้ไม่ได้ค่อยคุยกัน หลังจากช่วงที่มันติวหนังสือให้เมื่อสองสามวันก่อนก็ไม่ค่อยได้คุยกันเลย หลังจากเหตุการณ์ข่าวเงียบลงสรุปโรงเรียนปิดไป ๕ วัน ก็ยังจับคนร้ายไม่ได้ แต่ทุกคนก็ทำตัวกันเหมือนปกติ มีบ้างที่แอบๆเข้าไปดูแถวตึกช่าง แต่นอกจากนั้นก็ดูไม่มีอะไรเปลี่ยนไป

“ไอ้เก้า ยังไม่มาหรอวะ”
“ไม่รู้วะ”
“ถามถึงมันทำไมวะ”
“ไม่มีไรหรอก”

ไอ้กรถ้าจะสติไม่ค่อยดีปกติไม่เห็นจะถามถึงไอ้เก้า พูดถึงทีไรก็ทำหน้าหงิกหน้างอ แต่วันนี้มาถามถึงไอ้เก้าแต่เช้า

“เออ  มึงทำการบ้านจารย์ยรรยงหรือยัง”
“เชี่ย ลืมวะ เอามาลอกหน่อย”
“ ได้ แต่เอาไปฟรีๆไม่ได้นะครับ”
“จะเอาอะไรครับ คุณกร”

ผมพูดอ้อนเป็นแมวน้อย ทำตาแป๊วใส่ ท้าไม้ตายครับ ไอ้กรแพ้แน่นอน

“ไม่ต้องมาทำท่าลูกแมว กูไปฝึกภูมิต้านทานมาแล้ว ทำไรกูไม่ได้หรอก”
“เออๆ  จะเอาอะไรว่ามา”
“เสาร์อาทิตย์นี้ว่างปะ”
“อือ ว่างนะทำไมวะ”
“ไปเที่ยวกับที่บ้านกู ม๊าฝากชวน”
“ไปไหนวะ”
“ไปทะเลมั้ง แต่ไม่รู้ที่ไหน”
“เชี่ย เจ๋งวะ บอกม๊ามึงเตรียมของกินไปเยอะนะเว้ย”
“เออ”

ไอ้กรหัวเราะเบาๆกับท่าทางตื่นเต้นของผม ก่อนมันจะเอาสมุดการบ้านออกมาให้ผมลอกแล้วกลับไปนั่งที่โต๊ะมัน ผมนั่งลอกการบ้านอยู่สักพักไอ้เก้าก็มานั่งที่โต๊ะมัน 

“ทำไรวะแต่เช้า”
“การบ้านจารย์ยรรยง มึงทำยัง”
“เรียบร้อยแล้ว ขวัญทำให้วะ”
“เชี่ย ดีวะ”

ไอ้เก้านั่งยิ้มหัวเราะแบบผู้กำชัยชนะที่ไม่ต้องมาร่วมชะตากรรมลอกการบ้านแบบผม เห็นแล้วหมั่นไส้

“เออ วันก่อนกูเจอขวัญด้วยนะเว้ย”
“ที่ไหนวะ”
“ตึกช่าง  ตอนเย็นๆ มึงดูแลแฟนดีๆหน่อยดิวะปล่อยให้เขามาที่อันตรายคนเดียว………..”

ผมบ่นไปเรื่อยครับไม่ได้มองหน้ามันด้วยซ้ำ ก็คนมันรีบปั่นการบ้าน เดี๋ยวก็เข้าเรียนแล้วรีบเอาตัวเองให้รอดดีกว่าครับ

“แล้วมึงรู้ไหม ว่าขวัญเขามาทำไร”
“ไม่รู้วะ กูทักเขาแปปเดียว พอดีกูรีบกลับ”

มันก็ไม่ได้ถามอะไรผมอีก จนเริ่มเรียนคาบเช้าถึงพักเที่ยงเราก็ไม่ได้คุยอะไรเลย  พอเที่ยงมันก็หายตัวไปกับขวัญ  ซึ่งก็ปกติอยู่แล้วผมเลยไม่ได้สนใจอะไร  แล้ววันนี้ยังโดนไอ้กร กับไอ้สัน ลากไปช่วยแบกเครื่องแก้วจากห้องเก็บอุปกรณ์หมวดวิทย์มาจัดที่ห้องทดลอง เพราะมีคาบเรียนช่วงบ่าย  นี่คงเป็นครั้งแรกๆที่ผมได้คุยกับไอ้สันแบบจริงจัง มันก็เป็นคนดีนะครับ มันบอกว่ามันก็ไม่ได้เกลียดผมเหมือนคนอื่นๆ แต่จะให้มันเข้าไปเสือกเสนอตัวเข้ากลุ่มกับผมมันก็คงไม่อยากทำ ผมชอบนะครับมันเป็นคนตรงๆดี

“ว่าแต่พวกนายรู้ปะ ว่าตอนนี้มีข่าวคนตายเพิ่มอีกแล้วนะ”
“จริงดิ”
“คนในโรงเรียนเราหรือเปล่าวะ”
“แล้วมึงรู้ได้ไงวะ”
“บอกพวกกูเร็ว”

ไอ้คนเปิดประเด็นโดยการพูดนายๆเราๆไม่ใช่ผมกับไอ้กรแน่นอนครับ แต่ไอ้การยิงคำถามกูๆมึงๆ ผมกับไอ้กรล้านเปอร์เซ็นต์  ก็มันยากรู้นี่ครับเรื่องคอขาดบาดตายขนาดนี้มัวแต่พูดอ้ำอึ้งอยู่ได้

“ไม่ใช่คนในโรงเรียนเรา แต่เป็นเด็กโรงเรียนที่เด็กใหม่ห้องเราพึ่งย้ายมา  แต่ที่น่ากลัวกว่านั้นพวกนายรู้ไหมคืออะไร”

เพี๊ยะ!!!

เออ อันนี้เสียงผมประทับมือลงบนกระบาลมันเองครับ ก็คนมันรำคาญนี่ครับถึงจะไม่สนิทกันก็เถอะ แต่ขอสักหน่อยแล้วกัน

“เฮ้ยขอโทษ มือไวไปหน่อยวะ”

มันดูอึ้งไปเลยครับผมคิดว่ามันจะโกรธสะอีก แต่มันกลับเล่าต่อหน้าตาเฉย

“ช่างมันเถอะ   แต่ที่น่ากลัวกว่านั้นคือ!!! ศพที่พบน่าจะตายมาได้เกือบ ๖ เดือนแล้ว เนื้อนี่แห้งจนติดกระดูก และที่สำคัญผิวหนังถูกถลกออกทั้งตัว ทำให้ตำรวจเชื่อว่ามันเกี่ยวข้องกับคดีที่เกิดขึ้นที่โรงเรียนเราไง”

ไอ้นี่มันเกรียนน่าตายจริงๆครับ แทนที่ผมสองคนได้ฟังแล้วรู้สึกกลัวกลับต้องมานั่งกลั้นหัวเราะแทบตาย  ก็คนบ้าอะไรขนาดโดนเจิมกลางกระบาลไปแล้วยังกลับมาเล่นมุขบิลท์อารมณ์ได้หน้าตาเฉย

“พวกนายเป็นอะไรกัน  กลัวจนพูดไม่ออกกันเลยหรอ ผมไม่น่าเล่าให้ฟังเลยนะครับ”
“เปล่า  ช่างมันเหอะ  แล้วสันไปรู้มาได้ไง”
“น้องเราเรียนอยู่ที่นั่น”
“ครับ”

เดี๋ยวนะๆ ไอ้กรไม่พูดกูมึง แถมยังพูดครับ ไอ้นี่โดนล้างสมองหรือเปล่าวะ ไอ้สันกูชักจะกูมึงแล้วสิ

“เป็นไร เชี่ยต๊ะ”
“ปล๊าววววววว”
“เสียงมึงสูงไปและ”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า”

  พวกผมคุยกันไปเตรียมอุปกรณ์กันไป เล่นกันไป กวนกันไปจนหมดช่วงพักกลางวัน ก็เตรียมเข้าเรียนในช่วงบ่าย แต่วันนี้ผมเริ่มรู้สึกแปลกๆแล้วครับ ก็ปกติเรียนวิทยาศาสตร์จะต้องนั่งเป็นกลุ่มซึ่งแน่นอนว่าโต๊ะที่ผมนั่งก็คงไม่มีใครอยากจะมานั่งด้วย ก็มีแค่ผมกับไอ้กรที่นั่งด้วยกันสองคนมาตลอด  แต่ตอนนี้มีทั้งไอ้เก้าตัวสร้างปัญหา กับไอ้กรเจ้าระเบียบ รอบๆตัวผมเริ่มมีคนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆแล้วสิครับ ผมจะทำยังไงดีครับตอนนี้ผมโคตรจะมีความสุขเลยจากที่เคยโดดเดี่ยว ตอนนี้รอบตัวผมก็เริ่มมีคนที่ก้าวเข้ามาเยอะขึ้น ผมอยากให้มันเป็นแบบนี้ตลอดไป อย่าหายไปเลยใครแม้แต่คนเดียวอย่าหายไป ผมยอมทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้ความสุขของผมในตอนนี้หายไป ต่อให้ต้องแลกด้วยอะไรก็ยอม

.....................................................................
ตอนนี้สั้นๆ ตอนต่อไปน่าจะยาวขึ้นมั้ง
 :hao4:

ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด