ด้วยรัก และโหงพราย
ตอนที่ ๑๔
(อดีตของครอบครัว)
“พี่ชาติ พี่ชาติ พี่อยู่ไหน”
“อย่าวิ่งสิจ๊ะแรม กำลังท้องกำลังไส้”
“พี่มานี่ก่อนเร็ว มาช่วยแรมดูนี่หน่อยสิ”
“ดูอะไร ค่อยเดินสิแรมระวังหน่อย ไม่ต้องวิ่ง”
ผมแต่งเข้ามาในตระกูลที่เป็นเจ้าของตำหนักร่างทรง ความรักของเราทั้งคู่ในช่วงแรกโดนคัดค้านอย่างหนักด้วยตามจารีตแล้วร่างทรงจะสืบตระกูลผ่านทางผู้หญิง ทำให้ครอบครัวของแรมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ แต่หลังจากพี่เพ็ญพี่สาวของแรมรับองค์เพื่อสืบตระกูลแล้วทำให้ปัญหานี้ค่อยๆคลายลง
“พี่ดูนี่สิ แรมว่าช่วงนี้พี่เพ็ญดูแปลกไปนะ”
“แปลกยังไง พี่เห็นพี่เพ็ญก็สวดมนตามปกติ”
“พี่ดูนั่นสิ นั่นอะ หนังสือเล่มเล็กๆนั่นอะ”
“มันทำไหมหรอแรม”
“ก็ฉันเห็นมันมีแสงแปลกๆออกมานะสิ แถมยังเหมือนจะมีวิญญาณคอยเฝ้าด้วยนะ”
“พี่ไม่รู้หรอกนะ เพราะพี่ไม่มีพลัง แถมยังมองไม่เห็นวิญญาณแบบแรมอีก แต่ถ้าแรมสงสัยพี่ก็จะช่วยแรมสืบนะ”
“พี่ชาติของแรมใจดีที่สุดเลยจ๊ะ”
แรมเป็นผู้หญิงน่ารัก นิสัยขี้เล่นของเธอมักจะเติมความแช่มชื่นให้กับหัวใจของผมเสมอ แต่ดังคำที่พระท่านว่า ไม่มีสุขหรือทุกข์ใดที่อยู่ได้คงทนถาวร ด้วยสิ่งที่เธอสงสัยจนสืบเสาะหาความจริงว่าสิ่งนั้น คืออะไร กลับทำให้ชีวิตของทุกคนเปลี่ยนไป
“พี่เพ็ญ ถ้าพี่ไม่เลิกยุ่งกับของแบบนี้ แรมจะไปบอกยาย”
“แรม แรมก็รู้ว่าที่บ้านเราต้องการเงิน แล้วไอ้การช่วยคน ดูดวงเงินมันไม่พอหรอกนะแรม”
“พี่ก็รู้ ว่าอวิชชาที่พี่เรียนอยู่ไม่มันใช่ของดี สุดท้ายมันจะกลับมาทำร้ายครอบครัวเรา”
“แต่ถ้าพี่รับงานพวกนี้เราจะมีเงินมากพอที่จะช่วยไม่ให้บ้านเราถูกยึดนะ”
“พี่ก็เลยรับงานเล่นของฆ่าคนแบบนี้นะหรอ พี่เลิกเถอะนะ แรมไม่อยากให้พี่ต้องเจอกับเรื่องไม่ดี”
“ได้แรม หลังจากงานนี้พี่จะเลิกทำ แต่พี่ขอทำงานนี้ก่อน ให้เราได้เงินมาจ่ายหนี้ก่อนนะ”
ผมจับตาดูพี่เพ็ญอยู่จนรู้ว่าเธอไม่ได้ทำตามสัญญาให้กับแรมไว้ พี่เพ็ญยังทำแบบนั้นอยู่นานจนคนในตระกูลเริ่มรู้เรื่องราวอันผิดแปลกจากปกติ
“อีเพ็ญ มึงทำแบบนี้ได้ยังไง มึงก็รู้ถ้ามึงทำแบบนี้ ความชิบหายจะมาสู่ครอบครัว มึงรู้ไหม”
“ยายจ๋าใจเย็นๆ พี่เพ็ญเขไม่ได้ตั้งใจหรอกจะ จริงไหมพี่บอกยายสิ”
“ยายรู้ไหมอีเพ็ญที่ยายด่าอยู่ฉอดๆเนี่ย มันเป็นคนไถ่บ้าน ไถ่ที่ ให้เรามีที่ซุกหัวนอน แล้วยายว่าอีเพ็ญคนนี้มันยังผิดอยู่ไหม”
“อีเพ็ญญญญญ มึงไม่สำนึกเลยหรือว่า ตัวมึงกำลังทำชั่วอยู๋ มึงก็รู้คำสาบานต่อเทพยาฟ้าดินก่อนมึงรับองค์ ว่าหากมึงทำเรื่องอัปรีย์ ระยํา จัญไร เลวทราม ตํ่าช้า ไม่เป็นมงคล สิ่งพวกนั้นจะกลับคืนมาสู่ตัวมึง”
“ฉันไม่สนหรอกนะยาย แล้วอีเทพที่ยายว่ามันเคยมาช่วยยายตอนที่ไม่มีที่ซุกหัวนอนไหม”
“อีเพ็ญ อีเพ็ญญ อีเพ็ญญญญญญญญญญญญญญญญ”
“ยาย ยาย ยายใจเย็นๆก่อนนะจ๊ะ พี่ชาติช่วยด้วย พี่ชาติช่วยด้วย ยายเป็นลม”
นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นการมีปากเสียงกันในบ้านหลังนี้ มันก็เป็นจุดเริ่มต้นของหายนะอีกมากมายที่ตามมา ยายเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลด้วยความเครียด และซมเศร้าจากเหตการณ์ที่เกิดทำให้หลายโรคที่เป็นอยู่รุมเร้าหนักจนทรุด หลังจากนั้นไม่นานยายก็เสีย แรมเสียใจมากจนแทบจะตัดพี่ตัดน้องกับพี่เพ็ญ แม้จะอยู่ในขอบรั้วบ้านเดียวกันแต่ลูกสาวทั้งสองของบ้านนี้ไม่ไปมาหาสู่กันอยู่เป็นเดือน จนถึงวันที่เกิดเหตุการณ์นั้น ผมยังจำวันนั้นได้ดีวันที่ผมต้องเสียคนที่ผมรักที่สุดไป ผมสูญเสียแม้กระทั่งตัวตนของผมเอง
“โอ้ย พี่ชาติ แรมเจ็บท้องอะ โอ้ยพี่ แรมว่าลูกจะคลอดแล้วนะ”
“จริงหรอแรมใจเย็นๆนะ เดี๋ยวพี่ไปเอารถก่อน อดทนก่อนนะ เย้ เย้ พี่จะได้เจอลูกแล้ว”
“พี่ก็ ดีใจมากไปแล้วนะ”
“รอแปปเดี๋ยวนะแรม รอพี่ตรงนี้ก่อน พี่จะรีบไปเอารถมา”
ด้วยความดีใจผมรีบตรงดิ่งไปที่โรงจอดรถ เอารถยนต์คันเก๋าที่นานๆจะได้ใช้มาจอดตรงลานหน้าบ้าน
“แรมจ๋ารถมาแล้ว เรารีบไปกันเถอะนะ พี่อยากเจอลูกเร็วๆแล้ว”
ผมเดินเข้ามาที่เก้าอี้ที่แรมนั่งรออยู่แต่กลับไม่เจอแรม จิตใจผมตอนนั้นกระวนกระวายไปหมดด้วยใจเป็นห่วงว่าแรมจะได้รับอันตราย ผมเดินหาเธอจนทั่วบ้าน ทั้งในห้องน้ำ ห้องนอน ห้องครัว แต่ไม่มีแม้แต่เงาของแรมให้เห็นในทุกที่ของบ้าน
“แรมอย่าเล่นแบบนี้นะ พี่กลัวนะแรม ออกมาเถอะ”
“กริ๊ดดดดดดดดดด”
ผมออกเดินหาทั่วบริเวณพื้นที่รอบบ้าน จนได้ยินเสียงกรีดร้องจากบ้านพี่เพ็ญที่ตั้งอยู่ไม่ห่าง กับบ้านของพวกเรานัก ผมตัดสินใจเดินเข้าไปดูด้วยห่วงว่าจะเกิดเหตุด่วนเหตุร้ายกับพี่เพ็ญ
“พี่เพ็ญครับ พี่เพ็ญเป็นอะไรหรือเปล่า”
ผมค่อยๆเดินสอดส่ายสายตาไปทั่วบริเวณห้องก็ไม่เห็นมีใครอยู่แม้แต่คนเดียว ผมเดินลึกเข้าไปในตัวบ้านเรื่อยๆจนถึงห้องที่ใช้เป็นสำนักที่อยู่ด้านท้ายสุดของตัวบ้าน ผมค่อยๆยื่นมือออกไปแหวกม่านลูกปัดผืนหนาที่บังประตูอยู่ แต่สิ่งที่เห็นตรงหน้าทำเอาผมอ่อนแรงไปทั้งตัว
“แรม แรม เป็นอะไรหรือเปล่าทำไมเลือดเต็มไปหมดอย่างนี้”
“พี่ชาติ แรมขอโทษ แรมดูแลลูกไม่ดี แรมขอโทษ”
ร่างของแรมนอนหายใจแผ่วอยู่กลางห้อง เลือดไหลท่วมตัวจนชุดคลุมท้องของแรมเปียกชุ่มไปหมด มีสายสิญจน์กางล้อมรอบตัว ขั้นน้ำมนต์มากมายวางรายล้อมเทียนและธูปถูกจุดจนขวัญฟุ้งทั่วห้อง
“แรม ไม่เป็นไรนะ ไม่ต้องขอโทษพี่ แรมแข็งใจไว้นะ แรมกับลูกต้องเข้มแข็งไว้ ไม่ต้องกลัวนะพี่อยู่ตรงนี้แล้ว”
“พี่ชาติระวัง!!!!”
ผมตื่นมาอีกครั้งก็ถูกจับมัดไว้ที่มุมห้อง กลิ่นควัน และคาวเลือดยังคละคลุ้งทั่วห้อง พร้อมๆกับที่หูของผมเริ่มได้ยินเสียงสวดดั่งมาจากกลางห้องที่แรมนอนอยู่ ผมเห็นเงาลางๆของผู้หญิงคนหนึ่งนั่งทำพิธีอยู่
“พี่เพ็ญ พี่ทำอย่างนี้ทำไม ปล่อยผมกับแรมไปเถอะนะ”
“มึงอย่าพูดมากไอ้ชาติ อีแรมมันไม่ตายหรอก กูแค่จะเอาของที่มันยายให้มันคืนมา”
“พี่ปล่อยแรมไปเถอะนะ หือห หื หือ”
ผมได้แต่นั่งร้องอยู่อย่างนั้นทำอะไรไม่ได้ ด้วยตัวผมเองก็เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งที่ไม่ได้มีวิชาอาคมอะไร การที่จะเข้าไปช่วยแรมออกมายิ่งไม่ต้องคิดฝัน พี่เพ็ญยังคงสวดอยู่อย่างนั้น เหมือนเวลาผ่านไปนานพี่เพ็ญก็ยิ่งดูเกี้ยวกราดยิ่งขึ้น
“อีแรม มึงทำไมไม่ยอมกูดีๆ เมื่อมึงไม่คิดจะใช้ของที่ยายให้มาแล้วมึงจะเก็บไว้ทำไม”
“พี่เพ็ญน่าจะรู้ดีกว่าฉันว่าทำไมยายไม่ยกมันให้พี่”
“อีแรม มึงจะเอาแบบนี้ใช้ไหม กูอุตส่าห์จะไว้ชีวิตมึงกับลูก กูเลือกไม่ใช้วิธีรุนแรง”
“ต่อให้พี่ทำยังไงพี่ก็เอามันไปไม่ได้หรอก”
“กูจะทำให้มึงดูอีแรม ว่ากูเอามันมาได้”
พี่เพ็ญเริ่มสวดคาถาอีกครั้งแต่คราวนี้มันแตกต่างเชือกที่มัดตัวผมอยู่แน่นค่อยๆคลายออก ร่างของผมค่อยๆขยับ มือ แขน ขา มันขยับไปเองอย่างควบคุมไม่ได้
“ไอ้ชาติ ไปหยิบผงขี้เถ้ามา”
“พี่เพ็ญ พี่จะทำอะไรพี่ชาติหนะ หยุดเดี๋ยวนี้นะ”
“มึงจะโวยวายทำไมอีแรมมึงไม่ได้จะตายสักหน่อย กูรู้ว่ากูแตะต้องตัวมึงไม่ได้ แต่ถ้าเป็นไอ้ชาติกูว่าไม่แน่”
ร่างกายผมขยับเดินตรงไปที่โต๊ะบูชา ก่อนจะค่อยเปิดเศียรครูออก ใต้เศียรครูนั้นซ่อนตลับกระเบื้องเคลือบเล็กๆที่ข้างในมีผงเถ้าอัดอยู่ มือผมหยิบมันขึ้นมากำไว้จนแน่น ก่อนที่ขาผมจะค่อยก้าวเดินตรงมาหาพี่เพ็ญ
“เปิดออกแล้วขี้เถ้าป้ายที่ตาอีแรม”
นิ้วผมค่อยๆขยับเปิดผาตลับออก นิ้วชี้และนิ่วกลางปาดลงไปบนผงขี้เถ้าจนสีดำของผงขี้เถ้าติดาเต็มสองนิ้ว ปลายนิ้วทั้งสองค่อยๆยื่นออกไปจนถึงหน้าผากของแรม
“พี่ชาติ พี่ต้องตั้งสติให้ได้นะ พี่อย่างไปกลัวมัน พี่อย่าไปเชื่อมัน พี่ต้องเข้มแข็งนะ พี่คิดถึงลูกของเราสิ พี่ชาติ”
เสียงของแรมก้องอยู่ในหัวของผมอยู่แบบนั้น จนผมได้สติถีบตัวเองออกมาจากตรงนั้นจนหลังของผมชนเข้าผนังเต็มๆ
“ไอ้ชาติ ทำไมมึงไม่ฟังกู”
“พี่เพ็ญพี่ไม่มีทางทำสำเร็จหรอก ไม่ว่าพี่จะทำยังไงพี่ก็ไม่มีทางที่จะเอาอะไรไปจากฉันได้ ไม่ใช่เพราะว่าชั้นเก่ง หรือมีพรสวรรค์มากกว่าพี่ แต่เพราะความโลภโมโทสันในใจพี่มันจะกัดกินตัวพี่เอง”
“อีแรม อีแรม กูจะฆ่ามึง”
อาการของพี่เพ็ญตอนนี้ดูขาดสติ พี่เพ็ญวิ่งวนทำลายข้าวของไปทั่วห้อง ขนของทุกอย่างพังยับระเนระนาด พี่เพ็ญหยิบมีดกำไว้แน่นจนมือโปนไปด้วยเส้นเลือด ตรงเข้าไปหาร่างของแรมที่นอนอยู่
“ตายซะ อีแรมมมมมมมมมมมมมมม”
ผมพุ่งตรงเข้าไปกอดร่างของแรมไว้ พี่เพ็ญแทงมีดเข้ากลางแผ่นหลังของผม ความรู้สึกของผมตอนนี้มันไม่อาจบรรยายออกมาได้ ผมรู้แค่เพียงว่าถึงแม้ตอนนี้ผมจะตายก็ไม่เป็นไร แค่ผมได้ปกป้องลูกกับแรมผมก็มีความสุขแล้ว
“ไอ้ชาติ มึงทำลายพิธีกู ไอ้ชาติไอ้เลว มึงทำลายตระกูลกู มึงมันสารเลว”
พี่เพ็ญกรีดร้องด่าผมสารพัด เธอเริ่มคลั่งอีกครั้งวิ่งทำลายข้าวของ ปัดธูปเทียนล้มกองเต็มพื้น เสาตะเกียงน้ำมันอันใหญ่ลมจนน้ำมันก๊าดที่อยู่ด้านในไหลนองพื้น
“ถ้าพวกมึงอยากตายก็ตายกันให้หมด ตายอยู่ในห้องนี้”
“พี่เพ็ญตะโกน ก่อนจะวิ่งไปที่ประตู พี่เพ็ญปิดประตูลงกลอนขังพวกเราทั้งคู่ไว้ในห้อง หวังให้เราทั้งคู่โดนไฟครอกตาย
“แรมเป็นไรไหม อดทนไว้นะ พี่จะพาแรมออกไป”
“พี่ชาติแรมรู้ตัวดีว่าแรมคงไม่รอด พี่หนีออกไปเถอะจ๊ะ”
“ไม่นะแรมพี่อยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีแรมนะ”
“พี่ชาติ แรมเชื่อว่าพี่อยู่ได้ พี่เก่งจะตายพี่เชื่อฉันสิ พี่ไม่ต้องห่วงฉันกับลูกนะ”
“ไม่เอานะแรมไม่เอา แรมอย่าทิ้งพี่ไปนะ”
“พี่ชาติ พี่สัญญาอะไรกับฉันสักอย่างจะได้ไหมพี่”
“ได้สิแรม พี่สัญญาได้ทุกอย่างแต่แรมต้องอยู่กับพี่นะ”
“พี่ช่วยรับของต่อจากฉันได้ไหม ฉันไม่อยากให้พลังในการช่วยเหลือผู้คนต้องสูญสิ้นไป พี่ต้องรับมันไว้ และสาบานต่อท่านผู้นั้นว่าจะดูแลช่วยเหลือผู้คนที่ตกทุกข์ได้อยาก แรมขอนะพี่ ได้ไหม”
“ได้ พี่สัญญาจ๊ะแรม”
“ขอบคุณจะ พี่ชาติ แรมรักพี่นะ”
“แรม แรมมมมม”
แรมหมดสติไป ผมค่อยช้อนร่างของเธอมาไว้ในอ้อมอก อุ้มแรมตรงมาที่ประตู ผมใช้หลังของตัวเองกระแทกจนพังประตูออกมาได้ ผมรีบวิ่งออกมาให้ไกลจากตัวบ้านที่สุดเพราะตอนนี้บ้านทั้งหลังลุกท่วมไปด้วยไฟ ผมทรุดเข้าลงกับพื้นและหมดสติไป ผมมารู้หลังจากที่ฟื้นที่โรงพยาบาลว่า มีชาวบ้านเห็นควันไฟเลยโทรแจ้งหน่วยกูภัยให้เข้ามาดู และพาผมกับแรมมาที่โรงพยาบาล ผมโชคดีที่แผลที่โดนแทงไม่ลึกมาก แต่แรมกลับโชคร้ายที่เสียเลือดมากจนร่างกายทนไม่ไหว แต่ในความโชคร้ายก็ยังมีชีวิตน้อยได้ถือกำเนิดขึ้นมา หมอได้ช่วยผ่าเอาเด็กออกมาก่อนที่เด็กจะตาย แรมได้ให้สมบัติล้ำค่าไว้ให้ผมดูแล ผมจะปกป้องเด็กคนนี้ให้ดีที่สุด จะไม่ให้ใครมาพรากเขาไปได้ ไม่ให้เหมือนที่ผมรักษาแรมไว้ไม่ได้
..................
ทีแรกคิดว่าจะเล่าถึงเรื่องครอบครัวของต๊ะแค่นิดเดียวแต่เขียนไปเขียนมายาวเป็นตอนสะงั้น