เป็นเช่นรัก ตอนที่ 7.1
วันนั้นจบลงด้วยการแยกย้าย
อาหารที่คิดเช่นทำอร่อยมาก และเป็นหลักคงเผลอแสดงสีหน้าออกไป
ก่อนคิดเช่นกลับจึงทำอาหารที่อุ่นง่ายๆอีกสองสามอย่างทิ้งไว้ให้เขา
“ลักกี้กินแต่มาม่า ขนก็จะร่วงหมดน่ะสิ” คิดเช่นยิ้มเผล่ตอนที่ยกเอากับข้าวที่แพคใส่กล่องวางเรียงบนโต๊ะ
“ต้องสำนึกบุญคุณด้วยนะลักกี้ ของฟรีไม่มีในโลก แล้ววันหลังจะแวะมาเอาค่ากับข้าวนะ”
“ผมไม่ได้ขอให้พี่ทำสักนิด” เป็นหลักเริ่มระแวงว่าสิ่งตอบแทนที่คิดเช่นอยากได้คงไม่ธรรมดา
คิดเช่นเหล่มองแล้วยิ้ม “ลักกี้ไม่รู้ตัวหรอกว่า พอลักกี้งับไก่ทอดกระเทียมเข้าไปคำแรกแล้วทำตาเป็นประกายขนาดไหน แล้วก็ทำตาละห้อยแบบไหนตอนที่หมูผัดพริกมันหมดน่ะ”
คราวนี้เป็นหลักไม่เถียง เพราะมันเป็นอย่างนั้นจริงๆ
รักแท้ไม่ได้พูดอะไรเลยหลังจากตื่นนอน สองครั้งก่อน ที่เจอกันเป็นหลักคิดว่ารักแท้ดูขี้เล่นมากกว่านี้ รักแท้มักแหย่ให้เขาหงุดหงิดจากนั้นเจ้าตัวก็จะอมยิ้มชอบใจ
แต่นี่ รักแท้ไม่ได้เข้าใกล้เขาเลย มีเพียงสายตาที่มักเผลอมองตามความเคลื่อนไหวของเขาอยู่บ่อยครั้ง
คงกลัวแฟนตัวเองจะเข้าใจผิดละมั้ง เป็นหลักคาดเดา
ทั้งๆที่เป็นหลักไม่ได้คำตอบชัดๆว่า ทั้งคู่มีความสัมพันธ์กันแบบคนรักหรือเปล่า แต่มันต้องมากกว่าการเป็นเพื่อนกันแน่ๆ
รู้สึกได้ว่ามีสายสัมพันธ์อันบางเบาลอยอวลระหว่างรักแท้และคิดเช่น
เป็นหลักปวดหนึบๆในอกนิดหน่อยแล้วรีบปัดทิ้งไป เมื่อเช้าเขาเริ่มคิดว่าตัวเองจะพิเศษสำหรับใครบ้างเสียอีก สรุปแล้วก็ไม่ใช่สินะ
อย่าเรียกร้อง เขาด่าตัวเอง และรีบเก็บงำความเจ็บปวดบางอย่างไว้ในที่ของมัน ซ่อนมันไว้ในใจให้มิดชิด
คิดเช่นเป็นคนแรกที่กลับไป เขาถอดผ้ากันเปื้อน บิดขี้เกียจ แล้วเดินออกจากบ้านไปเสียเฉยๆ
เป็นหลักรีบวิ่งตามไป
“ขอบคุณครับ” เขาไหว้ ถึงจะไม่ชอบที่ถูกแกล้งและล้อเลียน แต่สิ่งที่คิดเช่นทำตั้งแต่เมื่อคืนก็ควรตอบแทนด้วยคำนี้
คิดเช่นยิ้ม และนี่เป็นยิ้มจริงๆครั้งแรก มันอ่อนโยนและมีเสน่ห์ แต่แค่แวบเดียวเท่านั้น ยิ้มอ่อนโยนนั่นก็เปลี่ยนเป็นเจ้าเล่ห์
“แค่คำขอบคุณไม่พอหรอก บอกแล้วไง วันหลังจะมารับสิ่งตอบแทน”
“ครับ” เป็นหลักกลับรับคำง่ายๆ
เขาเคยชินกับการต้องแลก เพื่อให้ได้มาอยู่แล้ว ไม่เคยมีใครที่ให้อะไรเขาฟรีๆ
รักแท้ยืนขึ้นบ้าง เมื่อเป็นหลักกลับเข้ามา
“ปิดบ้านดีๆ” เขาพูดแค่นั้นแล้วหันหลัง
เขาชะงัก
เป็นหลักสวมกอดเขาจากด้านหลัง
“แทนคำขอบคุณครับ” เสียงจากด้านหลังค่อนข้างเบา อาจเพราะเขินอายที่ต้องทำอะไรแบบนี้
รักแท้สบถ แกะมือของเด็กนี่
เมื่อหันมาเผชิญหน้ากัน ก็พบว่า เป็นหลักหน้าเสียและซีดเผือด
“ผมขอโทษ พี่กลัวแฟนพี่ว่าใช่ไหม ผมแค่จะขอบ...”
ถ้อยคำที่เป็นหลักพยายามจะอธิบายต้องหยุดลง เพราะรักแท้คว้าตัวเขาเข้าไปกอด
“แย่ นายมันแย่” รักแท้ต่อว่าคนในอ้อมกอดเสียงดัง แต่กลับกระชับวงแขนแน่นเข้า
.
.
.
ฝนตกติดกันมาสามวันแล้ว คงเป็นพายุฤดูร้อนจริงๆ
ทุกวันเขาจะได้รับโทรศัพท์จากรักแท้
“อยู่ได้ไหม”
รักแท้จะไม่พูดมากเกินกว่านี้ ไม่มีการชวนคุย หรือเล่านิทานใดๆอีก
“ครับ” เป็นหลักก็ตอบกลับเพียงคำนั้น
“ถ้าฟ้าร้องก็โทรมา” แล้วก็วางสายไป
เป็นหลักตั้งใจอย่างแน่วแน่ ที่จะไม่โทรกลับไปหารักแท้
ต้องอยู่ได้สิ ฟ้าไม่ได้ร้องในวันนี้เป็นครั้งแรกเสียหน่อย ผ่านมันไปได้ตลอดนี่นะ อย่าสำออย
แต่อาจเพราะ รักแท้หรือไม่ก็คิดเช่นที่ทำให้เขาอ่อนแอลงกว่าเดิม
สิ่งที่เคยทนได้ จึงไม่ใช่อีกต่อไป
ครืน! ครืน!
เป็นหลักยกมือปิดหู
ไม่เป็นไร อดทน อย่าโทรเด็ดขาด อย่าก่อปัญหานะเป็นหลัก
เป็นหลักทั้งขู่ทั้งปลอบตัวเอง
แต่สุดท้าย
“พี่...”
“อือ...”
ไม่มีบทสนทนาระหว่างกัน ทั้งเป็นหลักและรักแท้ต่างถือสายไว้แบบนั้น ปล่อยให้สายฝนโรยรา ให้ความเงียบทำหน้าที่ของมัน
สายจะถูกตัดไปเมื่อฝนหยุดตกแล้ว
เย็นวันที่สี่
เป็นหลักยืนล้างจานอยู่ในครัว ลมโชยมาวูบหนึ่ง พาเอากลิ่นบุหรี่ยี่ห้อคุ้นเคยมาด้วย
เป็นหลักขมวดคิ้ว ปิดน้ำ แล้วเดินออกมาดู
พบว่า เขากลับมาแล้ว
“ไวกว่ากำหนดนะครับ”
“เป็นห่วง”
“ครับ?”
“ก็หลักโทรไปไม่ใช่หรือ”
อ้อ คงเป็นคืนนั้น ที่เขากลัวจนเสียสติ
“ปกติหลักไม่เคยโทรไปหา ถ้าไม่ใช่เรื่องจำเป็น ก็เลย...เป็นห่วงนิดหน่อย แล้วก็เลยรีบปิดงานแล้วกลับมา”
เป็นหลักคลี่ยิ้ม ห้ามตัวเองให้ดีใจไม่ไหว “ครับ วันนั้นฟ้าร้องน่ะครับ หม้อแปลงระเบิดด้วย”
“มิน่าล่ะ กลัวมากไหม”
“ไม่เป็นไรแล้วครับ”
เขาพยักหน้า สายตาที่ทอดมองมามีความหมายแบบหนึ่ง เป็นหลักเกลียดที่ตนเองเข้าใจมัน
เขาเดินขึ้นชั้นบน
เป็นหลักเดินไปล็อคประตูบ้าน แล้วเดินตามขึ้นไป
“อยู่กับฉันมากี่ปีแล้ว” เสียงคำถามกระท่อนกระแท่น
“จ..เจ็ด...ปี...ครับ” คำตอบก็กระท่อนกระแท่นพอกัน
“เจ็ดปีแล้วหรือ” เสียงนั้นเหมือนกำลังรำพึงกับตัวเอง แล้วก็เร่งเร็วขึ้น
มือของเป็นหลักกำผ้าปูแน่นเข้า กลั้นเสียงครางเครือสุดกำลัง เขาไม่ชอบให้ร้อง
ในจังหวะที่ลอยคว้าง เขาหลุดเรียกชื่อใครคนนั้นที่เป็นหลักรู้จักดี
เป็นหลักยิ้มขื่น
คนด้านบนทรุดกายลงทาบทับกับแผ่นหลังของเป็นหลัก
เขาหอบ
“รู้ใช่ไหม ว่าฉันไม่เคยอยากให้เรื่องมันเป็นแบบนี้” เขาซบหน้าแล้วพูดอู้อี้อยู่กับแผ่นหลังขาว
“ครับ” เป็นหลักรู้สึกได้ว่า หยดน้ำตามากมายไหลลงเปียกแผ่นหลัง “ทั้งหมดมันเริ่มที่ผม ไม่เป็นไรนะครับ เรื่องทั้งหมดผมเต็มใจ” น้ำเสียงเป็นหลักปลอบประโลม แม้ตัวของเขาเองก็กำลังร้องไห้อยู่เช่นกัน
“อยากได้อะไรฉันจะให้ ฉันขอโทษ ขอโทษจริงๆ”
“คุณรู้อยู่ตลอดว่าผมอยากได้อะไร”
กอด แค่อยากให้กอดไว้
-โปรดติดตามตอนต่อไป-
ช่วยกอดเด็กนี่ไว้แน่นๆทีค่ะ
@tonswind