10
สมยอมหรือข่มขืน
“สารเลว”
ไม่มีคำพูดอื่นใดที่นิทานนึกออก เขาจ้องมองไอศูรย์และรามิลราวกับต้องการสาปแช่งให้ทั้งสองคนได้รับบทลงทัณฑ์จากความเลวทรามนี้ แต่ทั้งคู่กลับยิ้มรับอย่างไมไม่รู้สึกเกรงกลัวต่อคำด่านั้นแม้แต่น้อย
“ด่าพวกเราไปก็เท่านั้นล่ะครับ”
กล้องในมือถูกจับพลิกไปมาเล็กน้อย นิทานกำมือแน่น เขาไม่คิดจะรับข้อเสนอบ้าๆนั้นแน่
“นายต้องการอะไร ฉันไม่เชื่อว่าผู้ชายอย่างพวกนายจะไปหาคนเล่นสนุกด้วยไม่ได้ ถ้าอยากทำเรื่องทุเรศแบบนั้นก็ไปซื้อเอาข้างนอกสิ!”
นิทานไม่ได้ใสซื่อจนไม่รู้ว่าในโลกนี้มีการค้าบริการผู้ชายอยู่ด้วย เขาหวังว่าคำพูดของเขาจะเรียกสติของทั้งสองได้บ้าง แต่ไอศูรย์หัวเราะในลำคอ
“ไม่เอาหรอกครับ ผมไม่มีรสนิยมบริโภคของต่ำๆแบบนั้น”
“พวกนายก็เลยมาลงที่ฉันแทนงั้นเหรอ!”
“อย่าเครียดสิครับท่านประธาน พวกเรามาสนุกกันดีกว่า ผมคิดว่าคุณอาจจะชอบมันก็ได้”รามิลบอกด้วยรอยยิ้ม
“ฉันไม่บ้าไปเล่นกับพวกนายหรอกนะ”
“แต่ยังไงคุณก็ไม่มีทางเลือก”ไอศูรย์ย้ำเตือน
“ทุเรศ! ฉันไม่มีวันทำเรื่องแบบนั้นกับพวกนายแน่!”
“แน่ใจเหรอครับว่าไม่มีวัน ในเมื่อคุณ ยังไงก็หนีพวกเราไม่พ้น”
เขาขยับกรอบแว่นตาเล็กน้อย นิทานพยายามจะหลบหนี แต่เขาก็โดนชายตัวสูงใหญ่ทั้งสองล้อมเอาไว้จนไปไหนไม่ได้
“ดูเหมือนว่าท่านประธานจะไม่ยอมรับข้อเสนอ”
รามิลยิ้มกริ่ม ท่าทางเผยให้เห็นว่าตั้งใจจะตั้งกล้องถ่าย จนนิทานหน้าซีดเผือด เขาจ้องมองราวกับจะฆ่าแกงรามิลให้ตายเสียตรงนี้
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!”
แม้จะกลัว แต่นิทานก็ฝืนโต้ตอบออกไปอย่างคนกล้าหาญ แต่ไอศูรย์และ
รามิลไม่ใช่คนโง่ เขาดูออกว่าคนตัวเล็กกำลังหวาดกลัวจนตัวสั่นเทา แถมเหงื่อยังผุดขึ้นเต็มหน้า
“ผมจะนับหนึ่งถึงสาม ถ้าท่านประธานไม่ยอมเลือกเสียที ผมจะถือว่าคุณยอมให้ผมตั้งกล้องถ่ายทันที”
คนที่อยู่เหนือกว่าคือรามิล เขากดยิ้มที่มุมปาก มีความเชื่อมั่นกับสิ่งที่จะทำว่ามันจะไม่มีทางผิดพลาด ในขณะที่นิทานใจเต้นแรงด้วยความหวาดกลัว เขาพยายามมองหาทางหนี ใบหน้าเล็กหันซ้ายหันขวา
“หนึ่ง”
ไม่มีเลย เขาไม่รู้จะทำยังไง ไอศูรย์กำลังจับกุมเขาอยู่ด้วยมือที่ใหญ่ที่แข็งแกร่ง นิทานพยายามตั้งสติ
“สอง…”
แต่เสียงนับเลขของรามิลก็ทำให้นิทานเบิกตากว้าง สติของเขาที่พยายามจะประคองนั้นหายไปทันที
“สะ…”
“ตกลง!”
นิทานอยากจะตบปากตัวเองเสียหลายครั้ง เขามองเห็นใบหน้าที่เผยความพอใจของรามิลที่อยู่ตรงหน้า ชายหนุ่มเดินไปเปิดลิ้นชักโต๊ะตัวใหญ่ แล้วเอากล้องเก็บไว้ในลิ้นชัก
“ผมดีใจ ที่ท่านประธานฉลาดพอที่จะเลือกทางนี้”
เขาไม่ได้รู้สึกยินดีสักนิดเดียวที่ได้ยินคำชมนี้จากปากของไอศูรย์ กลับกัน เขายิ่งรู้สึกไม่พอใจและรังเกียจ
“พวกนายทำให้ฉันไม่มีทางเลือกต่างหาก!”
นิทานตะโกนบอกกลับไปด้วยหัวใจที่เครียดแค้น เขาอยากจะฆ่าทั้งสองให้ตายเสียในห้องนี้ แต่รามิลกลับหัวเราะอย่างอารมณ์ดีเมื่อเห็นท่าทางที่พยายามต่อต้านของประธานตัวน้อยที่ไม่ว่ายังไงก็ไม่มีทางจะสู้กับพวกเขาได้
“เอาล่ะ ผมว่าเรามาทำตามข้อตกลงกันดีกว่านะครับ”
“พวกนายจะให้ฉันทำอะไร”
แทบจะเค้นเสียงถามด้วยความเจ็บใจ ไอศูรย์กระตุกยิ้ม แล้วกดจมูกลงไปที่ซอกคอหอมกรุ่น นิทานสะดุ้งเฮือก
“ทำให้พวกเราพอใจยังไงล่ะครับ”
“ฉันไม่เข้าใจ!”
“ท่านประธานไม่น่าจะเข้าใจยาก”
รามิลไล้นิ้วไปตามแก้มเนียน คนตัวเล็กตวัดสายตามองรามิลอย่างอาฆาตแค้น
“คิดซะว่าพวกเราสองคนเป็นคนรักของท่านประธานเป็นไงครับ”
“บ้าหรือไง! ฉันคิดแบบนั้นไม่ได้! พวกนายสองคนเป็นผู้ชาย”
“โลกนี้มีการร่วมรักกับเพศเดียวกันตั้งเยอะแยะ คุณไม่น่าจะคิดมาก”ไอศูรย์กล่าวเพิ่ม
ไม่ใช่ว่านิทานไม่รู้ว่า ในโลกใบนี้ เพศเดียวกันมีการร่วมรักกัน เรื่องความรักไม่ได้เกิดขึ้นแค่กับชายหญิง เขารู้ว่าความรักชายชายก็มี แต่สิ่งที่เขากำลังจะทำกับ
รามิลและไอศูรย์ มันไม่ใช่ความรัก แต่มันคือขืนใจ
“ทำสิครับท่านประธาน ทำให้กับพวกเรา”
“ฉันทำไม่เป็น”
นิทานไม่ได้โกหก เขาไม่มีประสบการณ์เรื่องอย่างว่า ไม่ว่าจะเป็นทั้งกับผู้หญิง หรือว่ากับผู้ชาย
“อย่างนั้น ท่านประธานทำตามที่เราบอก น่าจะง่ายกว่า”
คำกล่าวนี้เหมือนจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด ไอศูรย์เองก็เห็นด้วยกับรามิล แต่คนที่คับแค้นใจก็คือนิทาน เขาไม่คิดจะยอมแพ้ง่ายๆ ถ้าทั้งสองยอมปล่อยให้เขาเป็นอิสระเมื่อไหร่ เขาจะรีบวิ่งไปที่ประตูแล้ว แล้วออกไปจากห้องนี้
ไอศูรย์และรามิลเดินมาหยุดนั่งที่โซฟา ทั้งคู่นั่งใกล้กัน นิทานไม่ค่อยเข้าใจ เขากำลังรอให้ทั้งคู่เผลอ
“เดินมาหาพวกเราสิครับ”ไอศูรย์ออกคำสั่ง
นิทานนิ่งคิด เขาสูดลมหายใจลึกๆ ก้าวเท้าออกไปเพื่อจะเดินไปหาทั้งคู่ แต่สักพักก็เปลี่ยนเป้าหมาย วิ่งตรงไปยังประตูเพื่อจะเปิดประตูออก
กึก กึก
ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างอย่างตกใจ เมื่อประตูที่เขาต้องการจะเปิด กลับเปิดไม่ได้
“พวกเราคิดแล้ว ว่าท่านประธานต้องหนี”
คนที่ดูจะวางแผนไว้อย่างดิบดี เหมือนจะเป็นรามิล เขาหัวเราะในลำคอ นิทานหันขวับไปมองทั้งคู่ที่ยังคงนั่งอยู่ที่โซฟาราคาแพง
“นี่มันอะไรกัน!”
“ประตูมันถูกล็อกจากข้างนอก คุณจะออกไปได้ ก็ต้องให้คนจากข้างนอกเข้ามาเปิด”
ร่างเล็กล้วงเข้าในกระเป๋ากางเกง เพื่อจะหยิบโทรศัพท์ออกมา แต่ทว่ามันกลับมีแต่ความว่างเปล่า
“หานี่อยู่เหรอครับ ว้า น่าเสียดายจังเลยนะครับ คุณโทรให้ใครมาช่วยไม่ได้แล้วล่ะ”
ความพยายามเขาไม่หยุดแค่นั้น นิทานวิ่งตรงไปที่โต๊ะทำงาน เขาหยิบโทรศัพท์ของบริษัทที่โต๊ะขึ้นมากดโทร แต่กลับโทรหาใครไม่ได้ เพียงครู่ก็เห็นว่าสายโทรศัพท์ถูกตัดขาดไปเสียแล้ว
“นี่มันเป็นฝีมือของพวกนายใช่ไหม!”
“ครับ ผมเป็นคนตัดเอง”ไอศูรย์เหยียดยิ้ม
นิทานลนลาน อย่างน้อยตอนนี้เขาต้องหาวิธีสักอย่างเพื่อให้ตัวเองปลอดภัย เขารีบตรงไปเปิดลิ้นชักที่มีกล้องวิดีโอซ่อนอยู่ เขาต้องทำลายมันทิ้ง
ชายทั้งสองที่นั่งบนโซฟา ได้แต่มองนิทานที่ร้อนรนราวกับหนูติดจั่น พยายามหาทางออกให้กับชีวิตของตัวเอง เขาหยิบกล้องวิดีโอมาทุ่มลงพื้นจนเสียหาย
“จากนี้ฉันก็ไม่ต้องกลัวพวกนายแล้ว”
“เก่งจังเลยนะครับ แต่ว่า เทคโนโลยีสมัยนี้มันก็ทันสมัย ไม่จำเป็นต้องเป็นกล้องแบบนั้นก็ได้ กล้องในมือถือของพวกเราก็ชัดมากพอที่จะเห็นว่าเป็นคุณ”
รามิลหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโชว์ให้นิทานดู ไอศูรย์ยังคงทำหน้านิ่ง และมองนิทานด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย
“คุณไม่มีทางเลือก ยืดเวลาต่อไป มันก็เท่านั้น”
“จะให้ผมกดถ่ายคลิปตั้งแต่ตอนนี้เลยก็ได้นะ รับรองได้ฉากเด็ดๆ แน่นอน”
ใจของนิทานแทบสลาย เขาทรุดกายลงกับพื้น เขาไม่มีทางหนีแล้ว ไม่ว่ายังไง เขาก็คงจะไม่พ้นจากคนชั่วทั้งสอง
“ยังไงคุณก็หนีพวกเราไม่พ้น เลือกสักทางสิครับ”รามิลถามซ้ำ
“ก็ได้ ฉัน…ฉันจะทำตามที่พวกนายบอก”
สุดท้ายเขาก็ต้องยอม โดยสมองไม่อาจจะคิดขัดขืนได้อีก ไม่ว่าหนียังไง ก็คงหนีผู้ชายตัวใหญ่ทั้งสองไปไม่รอด
“คลานเข้ามาสิครับ”
นิทานหันขวับเมื่อได้ยินเสียงของรามิล สายตาของรามิลบ่งบอกได้เลยว่าความคิดเขาไม่เหมือนคนปกติ ลิ้นร้อนที่เลียมุมปาก นิทานขนลุกขึ้นมาทันที
“ฉันไม่ใช่หมานะ!”
“ใช่…คุณเหมือนลูกแมวน้อยน่าขย้ำมากกว่า”
น้ำเสียงรามิลไม่ปกปิดถึงความต้องการ
“จะทำหรือไม่ทำ”
ไอศูรย์เอ่ยขึ้น นิทานกัดริมฝีปากตัวเอง เขาไม่มีทางเลือก เขาต้องยอมเสียศักดิ์ศรีในครั้งนี้ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมาทีหลัง คนตัวเล็กค่อยๆย่อกายนั่งลง แล้วเริ่มอยู่ในท่าคลานเหมือนกับลูกสุนัข
“มาสิครับ ได้เวลาให้อาหารแล้วนะครับ”
เขาเจ็บใจกับคำกล่าวของรามิล นิทานหลับตาลง ค่อยๆคลานเข้าไปหาทั้งสองอย่างเชื่องช้า
“มัวแต่ยืดยาดอยู่ได้”คำตำหนิออกมาจากปากของไอศูรย์
ในที่สุด ท่านประธานตัวน้อยก็คลานมาอยู่อยู่ตรงหน้าชายหนุ่มแสนร้ายกาจทั้งสองคน เขาไม่อยากจะเงยหน้าไปมองทั้งคู่
“ทำให้พวกเรามีความสุขสิครับ ท่านประธาน”
ไอศูรย์ช้อนคางของนิทานให้เงยขึ้น นิทานลืมตามอง เขาเจ็บใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะรามิลพร้อมที่จะยกกล้องถ่ายได้ทุกเมื่อ ถ้าเขาไม่ผิดข้อตกลง
“จะให้ฉันทำอะไร ก็พูดออกมาตรงๆเลย ฉันเดาใจพวกโรคจิตอย่างพวกนายไม่ได้หรอกนะ!”
นิทานสุดจะทน ถึงเขาจะยอมทำเรื่องต่ำช้ากับทั้งคู่ แต่ใช่ว่าเขาจะรู้ว่าควรจะทำยังไง
“เอาของพวกเราออกมา”
คำกล่าวของไอศูรย์ไขข้อข้องใจ นิทานไม่อยากจะเห็นสายตาของทั้งคู่ มือทั้งสองนั้นสั่นเทา เข้าไปปลดเข็มขัดกางเกงให้กับไอศูรย์ แต่เพียงครู่เขาก็ต้องสะดุ้งด้วยความตกใจ เมื่อรามิลยกมือมาลูบไล้ตามร่างกายของเขา
“อย่านะ”
“ไหนบอกว่ายอมไงครับ ไม่ว่าพวกเราจะทำอะไร คุณก็ต้องยอม”
รามิลเหยียดยิ้ม เลื่อนมือไปบีบขยี้ยอดอกเล็ก จนนิทานตัวงอ ชายหนุ่มใช้ปลายเล็บสะกิดเข้าที่ยอดอกเล็กไปมา จนนิทานต้องเบือนหน้าหนี รีบดึงเข็มขัดของไอศูรย์ออก
“เอามันออกมา”
เขาเกลียดการถูกสั่งให้ทำ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากทำตามที่ไอศูรย์ต้องการ นิทานหยิบสิ่งที่ใหญ่โตนั้นออกมา มือของเขาสั่นเทา แต่นิทานก็พยายามสะกดกลั้นความอับอายเอาไว้ เขาต้องรีบทำให้มันจบสิ้นเสียที
“ยะ อย่า อื้อ”
นิทานสะดุ้ง เมื่อปลายเท้าของไอศูรย์บดขยี้เข้าที่ใจกลางลำตัวของนิทาน
รามิลจับตัวคนตัวเล็กให้หันมาหา
“ทำให้ผมด้วยสิครับ”
เขาไม่ต้องการให้นิทานปรนเปรอให้ไอศูรย์เพียงแค่คนเดียว นิทานสูดลมหายใจ เขาสะกดกลั้นความเจ็บใจแล้วทำสิ่งที่ทำให้กับไอศูรย์ให้กับรามิลอีกครั้ง
“จับของพวกเราสิครับ”
รามิลก้มลงไปกระซิบข้างหู นิทานขนลุกซู่ เขาก้มหน้าหนี แต่มือก็เลื่อนไปจับความเป็นชายของไอศูรย์และรามิลไปพร้อมๆกัน โดยที่มือของเขากำได้ไม่รอบ
“คุณต้องทำให้มันตื่น…รู้ใช่ไหมว่าต้องทำยังไง”
เสียงทุ้มเหมือนเย้ยหยัน นิทานเงยหน้ามองไอศูรย์อย่างไม่พอใจ เขาได้แต่กำบีบของไอศูรย์ไว้แน่น จนร่างสูงนิ่วหน้า
“โอ๊ย”
ชายหนุ่มไม่ใช่คนที่จะยอมให้ใครมาทำร้ายฝ่ายเดียว ปลายเท้ากดขยี้เข้าที่ใจกลางลำตัวนิทานอย่างแรงจนคนตัวเล็กร้องเสียงหลงด้วยความเจ็บ
“ถ้าไม่อยากเจ็บตัว ก็อย่าดื้อสิครับท่านประธาน เดี๋ยวจะหาว่าพวกผมใจร้าย ที่ไม่เตือนไม่ได้น้า”
รามิลยิ้มเหมือนคนใจดี นิทานรู้ดีว่ามันเป็นแค่หน้ากากเท่านั้น เขารู้สึกร้อนผ่าวที่ดวงตา อยากจะหนีไปจากความอับอายนี้ อยากจะตายเสียให้รู้แล้วรู้รอด เพราะมันอาจจะดีกว่าทนอยู่กับคนโรคจิต
“ทำสิครับ อย่าให้ผมโมโห”
นิทานรับรู้ได้ว่า ไอศูรย์เป็นพวกชอบใช้ความรุนแรง ถ้าเขาไม่อยากจะเจ็บตัว เขาต้องทำตามร่างสูงต้องการ มือเล็กทั้งสองเริ่มขยับอย่างกล้าๆ กลัวๆ ชักรูดแท่งเนื้อทั้งสองที่อยู่ในมือที่มีขนาดใหญ่พอๆ กัน
“อ่า…เสียวสุดๆ ผมอยากแตกใส่หน้าท่านประธานอีกครั้งจังเลย”
รามิลเผยความต้องการอย่างไม่คิดจะเก็บไว้ในใจ นิทานกัดปากตัวเองแน่น เขารู้สึกแย่เหลือเกิน
“หึหึ เร็วๆหน่อยสิครับ มันทำให้ผมหงุดหงิดจริงๆ”
“ผมอยากให้คุณดูด”
ไม่รอให้นิทานได้เตรียมใจ รามิลก็กระชากกายเล็กเข้ามาใกล้ แล้วกดใบหน้าเล็กให้อยู่ตรงส่วนสำคัญ นิทานเม้มปากแน่น เขาไม่มีวันยอมทำเรื่องแบบนั้น แต่เพียงครู่เขาก็ต้องอ้าปากร้องคราง เมื่อไอศูรย์แทรกนิ้วเข้าไปในช่องทางที่คับแน่น
“อ๊า!”
รามิลอาศัยจังหวะนั้น กดศีรษะเล็กให้ริมฝีปากสวยกลืนกินแท่งเนื้อจนคับแน่นในโพรงปาก เขาจับศีรษะให้โยกขึ้นลงตามความต้องการของตัวเอง
“อะ อื้ออึก”
“ดูดแรงๆสิครับ ของผมไม่อร่อยหรือไงหืม”
ไอศูรย์เหยียดยิ้ม เขากดกระแทกนิ้วสวยเข้าไปในช่องทางที่คับแน่นย้ำๆ แล้วงอนิ้วเล็กน้อยก่อนจะลากครูดกับผนังภายใน ขนกายของนิทานลุกชัน พร้อมกับร่างกายที่เกร็งด้วยความกลัว
“ผ่อนคลายสิครับ ไม่งั้นคุณจะเจ็บ”
เหมือนจะเป็นความหวังดี แต่ไม่ใช่เลย ไอศูรย์บีบขยำก้นนิ่ม เพื่อให้นิทานได้ผ่อนคลาย พร้อมกับสอดนิ้วเพิ่มเข้าไปอีกนิ้วหนึ่ง
“อื้อ”
ความรู้สึกทรมานเกิดขึ้นอย่างไม่ลดละ นิทานน้ำตาคลอ เขาหายใจไม่ออก แต่ปากก็ต้องรองรับสิ่งที่ไม่ควรเข้ามาในปากของเขา รามิลร้องครางอย่างสุขสม เขาเด้งสะโพกสวนใส่ความเป็นชายเข้าไปในโพรงปากร้อนอย่างพอใจก่อนจะหยุดพัก
“ผมอยากให้คุณดูดแรงๆ ตรงหัว แล้วก็เลียมัน เหมือนเวลาเลียไอศกรีม”
ความต้องการนั้นช่างน่าอายสำหรับคนฟัง นิทานไม่ยอมขยับ เขาไม่อยากจะทำเรื่องทุเรศแบบนั้น แต่พอเหลือบตาเห็นว่ารามิลจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายคลิป เขาก็รีบทำมันทันที
ส่วนหัวของแก่นกายถูกดูดเม้มอย่างรุนแรง เรียกเสียงคำรามในลำคอ ก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็นใช้ลิ้นเล็กลากเลียไปตามรูปร่างและความยาวของความเป็นชาย
“มือน่ะ อย่าหยุดขยับ”
ไอศูรย์เริ่มหงุดหงิด ที่นิทานลืมหน้าที่ที่ต้องปรนเปรอให้กับเขาด้วย พอได้ยินดังนั้น มืออีกข้างที่จับของไอศูรย์อยู่ก็เริ่มทำงาน ขยับชักรูดสิ่งที่ตื่นตัวที่มือกำรอบไม่มิด
“อย่าหนี ไม่อย่างนั้น เจอของใหญ่กว่านี้มันจะเจ็บ”
นี่ไม่ใช่คำปลอบโยน แต่คือคำเตือน เพราะทันทีที่เขาแทรกเข้าไปได้สามนิ้ว นิทานก็ขยับตัวหนีอย่างหวาดกลัว ช่องทางด้านหลังบีบรัดสิ่งแปลกปลอม ราวกับต้องการขับไล่ แต่ไอศูรย์ไม่ยอมง่ายๆ เขาลากลิ้นเลียไปตามกกหู พรมจูบไล่ไปถึงลำคอและแผ่นหลัง
“อื้อ อื้อ”
นิ้วทั้งสามพยายามขยายช่องทางที่คับแน่น จนมันเริ่มใช้งานได้ เขาจึงผละออกจากการให้นิทานใช้มือช่วย
…ไม่นะ ไม่…
นิทานรับรู้ได้ถึงบางอย่าง และจะถอยกายหนี เพราะไอศูรย์ถอนนิ้วออก
“หนีเหรอ…หรืออยากเป็นดาราหน้ากล้องกันหืม”
รามิลกระซิบบอกข้างหู ทำให้นิทานตัวแข็งทื่อ รามิลเหยียดยิ้ม จับศีรษะเล็กให้ขยับอีกครั้งจนนิทานหลงลืมไปว่าส่วนล่างของร่างกายกำลังจะถูกรุกราน
“อื้อ!”
ไม่ต้องให้ได้เตรียมใจ ความเป็นชายแทรกเข้ามาในร่างกายของเขาอย่างรวดเร็ว พร้อมกับรามิลที่กระชากใบหน้าน่ารักออก พ่นฉีดน้ำขาวขุ่นจนเปรอะเลอะเต็มใบหน้าน่ารัก ไอศูรย์กัดฟันแน่น เพราะความคับแน่นภายในนั้นทำให้เขารู้สึกเจ็บ มือหนาพยายามบีบเค้นสะโพกเพื่อให้นิทานได้ผ่อนคลายความเกร็งนี้
“ไม่เอาน่า ดูเหมือนว่าหมอนี่จะเจ็บ คุณควรจะผ่อนคลาย”
น้ำตาแห่งความเจ็บปวดไหลอาบแก้ม มีเพียงเสียงสะอื้นที่น่าสงสารในลำคอ รามิลรั้งใบหน้าเล็กขึ้นมากดจูบ ก่อนจะลากลิ้นเลียไปตามแก้มนิ่ม
“โอ๋ๆ ร้องไห้เหมือนเด็กเลยนะครับเนี่ย น่ารักจังเลย”
“เลว”
เขาคิดออกแต่คำนี้ นิทานสะอื้น ไม่อาจจะทนเก็บความเจ็บปวดนี้ได้ ไอศูรย์โน้มกายมาจากด้านหลัง แล้วงับกัดที่หัวไหล่
“เลวงั้นเหรอ…แต่ผมก็เป็นผัวคุณแล้วนะ”
คำกล่าวแสนหยาบคายนี้ นิทานคิดไม่ถึงว่าจะได้ยินจากไอศูรย์ รามิลระบายยิ้มเล็กน้อย
“ถึงจะเจ็บใจที่จะได้เป็นผัวคนที่สองของท่านประธานก็เถอะ แต่ได้ทำให้หน้าคุณเต็มไปด้วยน้ำของผมแบบนี้ก็ไม่เลว”
เขายันกายลุกขึ้นยืน นิทานอยู่ในท่าคุกเข่า รามิลจับแท่งเนื้อที่เพิ่งปลดปล่อยไปนั้นถูไถไปกับหน้าเล็ก นิทานพยายามขยับหน้าหนี แต่เขาก็ไล่ตาม
“ทำให้มันแข็งสิครับ ท่านประธาน”
นิทานเม้มปากแน่น เขาอยากจะขัดขืน แต่ดูเหมือนรามิลจะเตรียมพร้อมถ่ายคลิปตลอดเวลา เขาหลับตาลงแล้วใช้มือและปากปรนเปรอให้กับชายหนุ่ม ในขณะที่ไอศูรย์เริ่มขยับสะโพกสวนใส่ความเป็นชายเข้าออกอย่างช้าๆ
“อื้อ อื้อ”
เขาเจ็บจนน้ำตาไหล นิทานพยายามข่มความทรมาน แต่เขาก็เก็บมันเอาไว้ไม่ได้ ไอศูรย์พรมจูบไปตามแผ่นหลังเล็ก ราวกับปลอบโยน พร้อมกับมือหนาที่จับแท่งเนื้อที่อ่อนปวกเปียกรูดชักให้ตื่นขึ้นตามแรงอารมณ์ เพื่อที่คนตัวเล็กจะได้ผ่อนคลายมากขึ้น
“อะ อื้อ อื้อ”
เสียงครางในลำคอของทั้งสามดังขึ้นในห้อง ทั้งไอศูรย์และรามิลต่างก็ขยับสะโพก เพื่อให้ความเป็นชายของตนได้สูบเข้าออกจากร่างกายของท่านประธานตัวเล็ก นิทานไม่อาจจะหนีรอดไปจากซาตานทั้งสองได้ แม้ทั้งคู่จะบอกว่ามันคือการที่เขาสมยอม แต่นิทานก็รู้สึกเหมือนว่าตัวเองกำลังถูกข่มขืนอย่ดี
เสียงเนื้อกระทบกันดังจนได้ยิน ทั้งช่องทางด้านบนและด้านล่าง ต่างถูกใช้งานจนคนตัวเล็กรู้สึกเจ็บร้าวระบม เลือดสีแดงสดไหลลงตามง่ามขา เพราะแรงกระแทกกระทั้นที่รุนแรง ไอศูรย์บีบเค้นแก่นกายเล็ก รูดชักไม่หยุด จนนิทานปลดปล่อยออกมา เขาหมดแรงจนแทบจะต้องทรุดตัวลง แต่ก็ต้องถูกผู้ชายใจร้ายทั้งสองรั้งร่างเอาไว้ เพื่อรองรับตัณหาที่แสนหนักหน่วง
สิ้นสุดความทรมาน ความอุ่นร้อนก็พุ่งพวยเข้ามาทั้งในโพรงปากและช่องทางด้านหลัง มันเอ่อล้นออกมาจนนิทานนึกสมเพชตัวเอง เขาอยากจะทรุดกาย แล้วหลับใหลไม่อยากจะลืมตาตื่นเพราะอดสูกับชีวิต แต่ทว่าเสียงทุ้มของรามิลก็ทำให้คนตัวเล็กตัวสั่นระริก ไม่อาจจะปิดเปลือกตาลงได้อย่างที่ใจต้องการ
“มันยังไม่จบง่ายๆหรอกนะ…อย่าลืมสิครับท่านประธานผู้น่ารัก ว่าคุณจะต้องได้ผมเป็น ‘ผัว’ เพิ่มอีกคน”
100%
ผ่านไป 1ยก นิทานก็จะตายแย้ววว
ฝากเพจด้วยนะจ๊ะ
https://www.facebook.com/akikoneko17fiction/