Play รักเล่น เล่นรัก (3P) : Chapter 21 : อ้อนหน่อยนะ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Play รักเล่น เล่นรัก (3P) : Chapter 21 : อ้อนหน่อยนะ  (อ่าน 51615 ครั้ง)

ออฟไลน์ oiruop

  • เ รื่ อ ง โ ง่ โ ง่ นี่ ฉ ล า ด นั ก ⊙﹏⊙∥
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 490
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
    • https://www.facebook.com/book.yaoi?fref=ts
เกลียดพระเอกอ่ะ

 :m16: :m16: :m16:

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
เกลียดพระเอกเรื่องนี้ได้ไหม :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ angel_Z4

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
อ่านเเล้วรู้สึกอยากยกขาเตะเจ้ารามิลแทนนิทานจริงจริ๊ง พับผ่าสิ! :ling2:

ออฟไลน์ tukkata bambola

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ทำไมทำกับนิทานอย่างนี้ :m16:

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
เหอ เหอ

ออฟไลน์ ราตรีสีน้ำเงิน

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 121
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
จะรักกันยังไงเนี้ยเรื่องนี้

เกลียดพระเอก!!!! ขอให้นิทานไม่รัก



 :call: :call: :call: :call: :call:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :z6:   รอบทเรียนของนายโรคจิตสองคนนี้นะคะ
นิทานสู้ๆ  :o12: 

ออฟไลน์ oiruop

  • เ รื่ อ ง โ ง่ โ ง่ นี่ ฉ ล า ด นั ก ⊙﹏⊙∥
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 490
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
    • https://www.facebook.com/book.yaoi?fref=ts

ออฟไลน์ Akikoneko17

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-2
14

คนรัก

 

            “อึก”

                กายเล็กสะดุ้งเฮือก เมื่อริมฝีปากร้อนผ่าวเริ่มงับเข้าที่ซิบกางเกง เขาดึงลากลงมาอย่างเชื่องช้า แต่ก็ทำให้ขนกายของนิทานลุกชันด้วยความระทึก

                “น่าสนใจดีนะ”

                เสียงของพนักงานที่ร่วมประชุมเอ่ยชมถึงสินค้าที่นำเสนอตัวต่อไป นิทานพยายามตั้งสมาธิกับงานตรงหน้า เขาเลื่อนมือไปดันศีรษะของรามิลให้ออกห่าง แต่ก็โดนรามิลจับมือมางับเลีย

                ไอศูรย์ขยับกายเข้ามาใกล้ เขากระซิบลงข้างใบหูเล็ก

                “ทำตัวน่าสงสัยแบบนี้ เดี๋ยวคนอื่นก็รู้หมดหรอกครับ”

                เพราะแบบนั้น นิทานถึงได้รู้ตัวว่าเขามัวแต่ก้มลงไปต่อต้านรามิล เขารีบเงยหน้าขึ้นมามองการนำเสนองานจนเปิดโอกาสให้รามิลได้รุกล้ำเข้ามาสัมผัสกับสิ่งสงวนที่อยู่ภายใต้เนื้อผ้า

                “อึก”

                นิทานสะดุ้งเฮือก เมื่อแก่นกายโดนมือใหญ่สัมผัส เขากำมือแน่น เหมือนกับว่าตอนนี้กำลังฝึกความอดทน เขาไม่ยอมให้ทุกอย่างต้องพังทลายเพียงเพราะว่าเขายอมแพ้ นิทานนั่งตัวเกร็ง ใบหน้าเริ่มบิดเบี้ยว แต่เขาก็รู้ตัวว่ากำลังจะแสดงอาการที่ผิดปกติ

                “หยุด”

                คนตัวเล็กกระซิบบอกกับรามิลที่กำลังลากลิ้นเลียไปตามความยาวของอวัยวะเพศ แต่เหมือนยิ่งห้ามกลายเป็นยิ่งยุ เพราะนอกจากรามิลจะไม่หยุดแล้ว เขายังขยับตัวมาอ้าปากอมส่วนปลายของแก่นกายเล็ก ในขณะที่ไอศูรย์ยืนมองอย่างพอใจ

                “อื้อ”

                ใบหน้าน่ารักก้มต่ำลง เสียงครางดังขึ้นในลำคออย่างแผ่วเบาจนไม่มีใครได้ทันสังเกต ยกเว้นไอศูรย์ ในขณะที่รามิลยังเอร็ดอร่อยกับการทานไอศกรีมแท่งร้อนผ่าวขนาดเล็กในปากของเขา นิทานหลับตาลง พยายามไม่ให้ตัวเองสติแตก แต่ทว่าร่างกายเขาก็ร้อนรุ่มเกินกว่าจะถอยกายหนี เขายังต้องการสัมผัสที่เร่าร้อนจากรามิล

                เพียงปลายนิ้วเรียวสวยแตะลงไปที่ต้นแขน ขนกายของนิทานก็ลุกชันด้วยความเสียวซ่าน เขาเหลือบตาไปมองไอศูรย์ที่ก้มลงมากระซิบพูดคุย

                “มีสมาธิหน่อยสิครับ ท่านประธาน”

                ทุกอย่างเหมือนย้ำเตือน นิทานหลับตาลง มันก็จริงอย่างที่ไอศูรย์บอก เขาควรจะตั้งใจในการทำงานมากกว่านี้ มันคงจะดีไม่น้อย ถ้าหากรามิลไม่ได้เล่นสนุกกับร่างกายเขา กายเล็กสั่นระริก ความเป็นชายชูชัน รับสัมผัสอย่างน่าอาย สะโพกเล็กแอ่นรับความร้อนที่ถ่ายทอด ริมฝีปากสวยขยับขึ้นลงอย่างรัวเร็วและหนักหน่วง ราวกับต้องการรีดน้ำหวานให้หมดจากกายเล็ก

                “อื้อ อึก”

                นิทานได้แต่กัดฟันแน่น เขาจะปล่อยเสียงครางไม่ได้ แม้ร่างกายจะพยายามอดทนอย่างไร แต่เขาก็ไม่อาจจะต้านความทรมานที่ช่วงล่างได้เลย ร่างเล็กบิดเร่าไปมาอย่างทรมาน ฝ่ามือใหญ่ไล่ขึ้นจากต้นแขนไปหยุดที่ไหล่เล็กแล้วบีบคลึงเบาๆ ก่อนจะกระซิบบอก

                “จะอดกลั้นไว้ทำไมล่ะครับ”

                “อึก”

                เหงื่อเริ่มผุดเต็มใบหน้าน่ารัก นิทานตัวสั่น เขาจับปากกาเอาไว้แน่น เหมือนว่าต้องการหาที่ยึดตัวเองเอาไว้

                “ท่านประธานไม่สบายหรือเปล่าครับ”

                การนำเสนอสินค้าตัวใหม่สิ้นสุดลง พนักงานระดับสูงหันมาถามประธานบริษัทที่สีหน้าไม่สู้ดีนัก คนตัวเล็กส่ายหน้ารัวเร็ว

                “ไม่ครับ ผะ ผมสบายดี”

                “อย่างนั้นเหรอครับ แต่สีหน้าดูไม่ดีเลยนะครับ”

                “ไม่ต้องกังวลหรอกครับ ผมจะดูแลท่านประธานเองครับ”

                ไอศูรย์เดินเข้ามาบอก เขาหันไปยิ้มเพียงเล็กน้อยให้กับนิทาน คนตัวเล็กได้แต่กัดฟัน เพราะไม่มีเรี่ยวแรงจะพูดออกไป เขาจะเสร็จในตอนนี้ไม่ได้ เพราะไม่อย่างนั้น ทุกคนต้องรู้เรื่องที่เขาทำเรื่องน่าอายกับรามิลอยู่แน่ๆ

                “งั้นพวกผมขอตัวก่อนนะครับ”

                สติของนิทานแทบไม่หลงเหลือ เขาได้แต่มองพนักงานที่เดินออกจากห้องไปจนหมด ไอศูรย์จึงเดินไปปิดประตูแล้วกดล็อกอย่างแน่นหนา

                “อะ อ๊ะ อ๊า!”

                เมื่อไม่จำเป็นต้องอดกลั้น สายธารร้อนอุ่นก็พวยพุ่งเข้าไปในโพรงปากของ    รามิล จนหมดสิ้น คนตัวเล็กฟุบหน้าลงกับโต๊ะ หอบหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน ในขณะที่รามิลดูดกินน้ำหวานลงคออย่างพอใจ ก่อนจะผละริมฝีปากออกห่าง

                “อดทนได้เก่งจังเลยนะครับ ท่านประธาน”

                ไอศูรย์ก้มหน้าต่ำลงมาคุยด้วย จมูกโด่งคลอเคลียที่แก้มนิ่ม นิทานตกใจ ขยับกายถอยหนี รามิลออกมาจากใต้โต๊ะ

                “อร่อยจังเลยนะครับ”

                ว่าพลางเลียริมฝีปากที่เปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำหวานสีขาวขุ่น นิทานตัวสั่นเทาด้วยความโกรธและอาย เขารีบเลื่อนมือไปกุมใจกลางลำตัว

                “นี่มันจะเกินไปแล้วนะ!”

                “แต่ท่านประธานก็ดูมีความสุขไม่ใช่เหรอครับ”

                รามิลจี้จุด นิทานชะงักไป เขาทั้งตื่นเต้น เสียวซ่านและหวาดกลัวว่าคนอื่นจะรู้ว่าพวกเขาทำอะไรกันอยู่ ไอศูรย์เดินเข้าไปหาคนตัวเล็ก แล้วจับมือบางที่กุมใจกลางลำตัวให้ขยับออก

                “พวกเราเป็นคนรักกันแล้ว ไม่ต้องอายหรอกนะครับ”

                “ปะ ปล่อยนะ”

                “เดี๋ยวผมจะแต่งตัวให้เอง”

                ไอศูรย์จัดการเสื้อผ้าในช่วงล่างของนิทานให้เรียบร้อย นิทานได้แต่เบือนหน้าหนีด้วยความอาย ทั้งที่เขาควรจะเกลียดทั้งคู่ แต่ร่างกายกลับโอนอ่อนไปกับสัมผัส และรู้สึกตื่นเต้นจนไม่เข้าใจตัวเอง

                “ออกไปห่างๆได้ไหม ฉันจะทำงานต่อ”

                “ขยันจังเลยนะครับ”รามิลกล่าวยิ้มๆ

                “ใช่สิ ฉันไม่ได้เอาแต่ทำเรื่องบ้าๆแบบพวกนาย”

                อดไม่ได้ที่แขวะทั้งคู่ เพราะหมั่นไส้และขุ่นเคือง ไอศูรย์และรามิลหัวเราะในลำคอกับท่าทางประชดประชันที่แสนน่ารัก นิทานผลักไอศูรย์ให้ออกห่าง แล้วเดินไปนั่งที่โต๊ะ

                “แยกย้ายไปทำงานสิ!”

                แม้จะหวาดกลัวว่าทั้งคู่จะพุ่งเข้ามาทำเรื่องเลวร้ายกับเขา แต่นิทานก็ต้องแข็งใจสู้ เขาจะไม่ยอมให้ทั้งสองรุมทำร้ายเขาไปมากกว่านี้

                ท่าทางที่เหมือนลูกแมวขู่สิงโต ทำให้ไอศูรย์และรามิลต่างระบายยิ้ม ยอมผละออกแต่โดยดี เพราะว่าวันนี้ พวกเขาแกล้งท่านประธานตัวน้อยจนเหนื่อยอ่อนไปเสียแล้ว

                “เฮ้อ”

                พอเห็นไอศูรย์ยอมออกไปแต่โดยดี นิทานจึงลอบถอนหายใจออกมา เขาหันไปมองรามิลอย่างหวาดระแวง

                “นายก็กลับไปนั่งที่โต๊ะตัวเองสิ”

                “รับทราบครับ”

                รามิลตอบรับด้วยรอยยิ้ม หากไม่ได้เกิดเหตุการณ์น่าอายมาก่อน นิทานคงไม่รู้ว่าผู้ชายคนนี้ไม่ต่างกับโรคจิต เขาอายก็จริง จนไม่อยากจะพบหน้าทั้งคู่ แต่เขาก็ไม่อาจจะละทิ้งหน้าที่ของตัวเองได้

                …ยังไง เขาก็ต้องหาหนทาง เพื่อที่จะหลุดพ้นไปจากทั้งคู่ให้ได้…

                การทำงานในวันนี้ราบรื่นไม่ต่างจากทุกวัน เว้นแต่ว่านิทานรู้สึกอึดอัด ที่เวลาทำงานก็หวาดระแวงว่ารามิลและไอศูรย์อาจจะเข้ามาหาเขา แต่ก็ดูเหมือนว่าทั้งคู่ไม่ได้เข้ามารบกวนแต่อย่างใด กลับกัน ทั้งคู่ต่างตั้งใจทำงานที่ได้รับมอบหมายเหมือนเป็นพนักงานที่ขยันทำงานอย่างเต็มที่

                “ฉันกลับล่ะ”

                พอหมดเวลาทำงาน นิทานก็เตรียมที่จะพุ่งตัวออกจากห้องทำงานทันที แต่เสียงทุ้มของรามิลที่ดังขึ้นก็ทำให้คนตัวเล็กที่กำลังรีบเดินต้องหยุดชะงัก

                “ผมว่าจะชวนท่านประธานไปทานมื้อเย็นน่ะครับ”

                “อะไรนะ”

                นิทานหันขวับไปมองรามิลทันที เป็นจังหวะเดียวที่ไอศูรย์เปิดประตูห้องเข้ามา

                “ดูเหมือนว่ารามิลจะชวนท่านประธานแล้ว”

                “เฮ้อ”

                ในที่สุด เขาก็ถอนหายใจออกมาอย่างไม่คิดจะปิดบัง นิทานพูดออกมาดังที่ใจคิด เพราะไม่อยากจะเก็บซ่อนมันไว้อีกแล้ว

                “ที่พวกนายทำกับฉันวันนี้มันยังไม่พออีกเหรอ!”

                “พวกเราก็แค่อยากจะชวนท่านประธานไปทานมื้อเย็นด้วยกัน ตามประสาคนรักก็เท่านั้นเอง”

                รามิลตอบหน้าตาย เหมือนไม่ได้สะทกสะท้านหรือรู้สึกผิดแต่อย่างใด นิทานหัวเราะออกมาเบาๆในลำคอ

                “ตลกไปมั้ง พวกนายทำกับฉันขนาดนั้น แต่ก็ยังจะมาชวนฉันให้ไปทานข้าวเนี่ยนะ บ้าไปแล้วหรือไง”

                เขาไม่คิดจะเป็นตัวตลกให้ทั้งรามิลและไอศูรย์ทำอะไรได้ตามใจ นิทานทำท่าจะเดินเลี่ยงเพื่อออกจากห้อง แต่ทว่าร่างกายใหญ่โตของไอศูรย์กลับยืนขวางทางเอาไว้ ดวงตากลมวาวโรจน์อย่างไม่พอใจ

                เพราะเติบโตเป็นลูกคนเล็ก เขาได้รับการเอาใจใส่ ทั้งพี่ชายและพี่สาวต่างก็เอาใจและดูแลอย่างดี นิทานไม่คิดจะยอมให้ใครมากดขี่ข่มเหงได้ตลอดเวลา เขายอมได้ แต่ไม่อยากจะยอมจนไม่เหลือความเป็นตัวเอง

                “ถอยไป”

                “ไม่ครับ คุณต้องไปทานมื้อเย็นกับพวกเรา”

                “ฉันไม่ไป ฉันจะกลับบ้าน พวกนายอยากไป ก็ไปกันเองสิ พวกนายไม่มีสิทธิ์มาออกคำสั่งกับฉัน”

                “แน่ใจเหรอครับว่าไม่มี”

                รามิลเข้ามาประชิดตัวจากด้านหลัง ใบหน้าคลอเคลีย นิทานอยากจะขยับกายหนี แต่ทว่าก็ไม่อาจจะหนีไปไหนได้

                “รู้ไหมว่าวิธีที่พวกนายทำกับฉันมันขี้ขลาดและต่ำทราม”

                “ผมไม่สนหรอกว่ามันจะเป็นวิธีไหน แค่มันช่วยให้ผมได้เข้าใกล้ท่านประธานได้มากที่สุด ก็เพียงพอแล้ว”

                รามิลสอดมือเข้ามาจับสะโพกเล็ก นิทานสะดุ้งเฮือก หันไปมองรามิลด้วยสายตาหวาดระแวง

                “ไม่ต้องทำท่ารังเกียจพวกเราขนาดนั้นหรอกครับ”         

                ไอศูรย์กล่าวเสียงเรียบ แล้วเปิดประตูห้อง

                “เชิญครับ”

                นิทานพรูลมหายใจ เขาไม่อยากจะไปทานมื้อเย็นกับทั้งคู่ แต่ดูเหมือนว่าถ้าเขายิ่งต่อต้าน ทุกอย่างก็จะแย่ลงไปอีก เพราะทั้งคู่กุมความลับของเขาเอาไว้

                ไอศูรย์เป็นคนขับรถ รามิลนั่งที่เบาะหน้า ทั้งคู่ทำเหมือนว่านิทานเป็นคนสำคัญ เขาเองค่อนข้างแปลกใจและสงสัยไม่หยุด ว่าทำไมเลขานุการทั้งสองของเขาถึงได้ทำแบบนี้

                …ถ้าคิดจะทำเรื่องเลวร้าย ทำไมถึงได้ไม่บอกจุดประสงค์ ถ้าคิดจะทำลายกัน ก็น่าจะมีเหตุผลอื่นที่ดีกว่าการทำตัวมาเป็นคนรัก…

                “ท่านประธานควรจะจำให้ขึ้นใจนะครับ ว่าตอนนี้พวกเราเป็นคนรักกัน”

                คำเตือนจากไอศูรย์ส่งมา เมื่อรถยนต์หยุดจอดที่สัญญาณไฟแดง เขาเหลือบตามองนิทานจากกระจก ทำให้เห็นว่าคนตัวเล็กมีสีหน้าเคร่งเครียดขนาดไหน

                “ทำไมต้องเป็นคนรัก พวกนายทำกับฉันขนาดนี้ ทำไมไม่บอกให้ฉันเป็นทาสไปเลยล่ะ คนรักกัน เขาทำกันแบบนี้เหรอ”

                “แล้วทำไมท่านประธานถึงไม่คิดว่ามันคือการแสดงความรักของพวกเราบ้างล่ะครับ”

                รามิลหันมาคุยด้วย แววตาระยิบระยับ เมื่อมองใบหน้าน่ารัก นิทานรู้สึกร้อนวูบ เพราะสายตานั่นแฝงไปด้วยความปรารถนาที่ร้อนแรงเอาไว้ ราวกับจะมองผ่านทะลุเสื้อผ้าของเขาจนหมดสิ้น

                “พวกนายจะบอกว่ารักฉันงั้นเหรอ”

                “แล้วท่านประธานคิดว่ายังไงล่ะครับ เชื่อแบบนั้นหรือเปล่า”ไอศูรย์ถามกลับ

                รถยนต์เคลื่อนที่ต่อไปเมื่อถึงสัญญาณไฟเขียว นิทานเม้มปากแน่น

                “ไม่มีวัน ก็บอกแล้วไง ว่าไม่มีคนรักที่ไหนเขาทำกันแบบนี้”

                “แต่ตอนนี้คุณก็เป็นคนรักของพวกเราแล้ว ดังนั้นก็อย่าคิดมากแล้วเครียดไปเลยนะครับ”รามิลบอกเหมือนเป็นห่วง

                “บ้าหรือไง ใครเขามีคนรักพร้อมกันสองคนบ้างล่ะ!”

                “นั่นสินะครับ ผมเองก็ไม่ได้ชอบให้คนรักไปมีคนอื่นเหมือนกัน”

                ไอศูรย์พูดขึ้นด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย นิทานสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ แล้วกล่าวออกมา

                “แล้วอีกอย่างพวกเราเป็นผู้ชาย”

                “แต่คุณก็ทำกับผู้ชายแล้วรู้สึกดีนี่นา”

                รามิลเหมือนย้ำเตือนความทรงจำ นิทานสีหน้าขึ้นสี เขาหลุบสายตาของ       รามิลที่มองมา ไม่อาจจะโต้ตอบได้

                “มีคนรักสองคน แล้วไม่ดีตรงไหนเหรอครับ”รามิลถามต่อ

                “มันผิด”

                “เรื่องถูกหรือผิด มันก็แค่กฎเกณฑ์ที่ตั้งขึ้นของคนบางกลุ่ม แต่สำหรับผมแล้วไม่ใช่เรื่องผิดสักนิด ท่านประธานเองก็น่าจะยินดี ที่มีคนดูแลถึงสองคน”

                “จะให้ฉันยอมรับคนโรคจิตแบบพวกนายเป็นคนรักงั้นเหรอ”

                นิทานสุดจะทนที่ต้องฟังความคิดแปลกๆของเลขานุการทั้งสองของเขา

                “ผมว่าเราคุยเรื่องนี้กันไปแล้วนะครับ แล้วท่านประธานเองก็น่าจะเข้าใจอยู่แล้ว”

                ไอศูรย์ตัดบท นิทานรู้ดีว่าไม่ว่าอย่างไรก็ไม่สามารถเปลี่ยนได้ สิ่งที่เขาตั้งใจจะทำ คือต้องทำให้ทั้งคู่ยอมมอบสร้อยทั้งสองเส้น และอีเมลล์และรหัสผ่านที่ซ่อนคลิปเหล่านั้นไว้

                “ช่างเถอะ ฉันเข้าใจแล้ว”

                เมื่อไม่รู้จะโต้แย้งอย่างไร นิทานจึงตัดบท แล้วกรอกตาไปมา ในขณะที่รามิลถูกใจกับท่าทางนั้น

                “ท่านประธานน่ารักจนผมอยากจะเข้าไปจูบปากสวยๆนั่นจริงๆครับ”

                ทั้งที่เป็นคำลวนลามที่ดูหยาบโลนและน่าอาย แต่นิทานก็ได้แต่เบือนหน้าหนี ไม่กล้ามองรามิลและสายตาที่ส่งมา ไหนจะสายตาคมกริบของไอศูรย์ที่มองผ่านกระจก ทั้งที่ควรจะขยะแขยงสายตาเหล่านั้นให้มากกว่านี้ แต่นิทานกลับใจเต้นแรงเหมือนอกจะระเบิด หรือว่าเขากลายเป็นพวกโรคจิตตามคนเหล่านี้ไปแล้วจริงๆ

                “ท่านประธานอยากทานอะไรเป็นพิเศษไหมครับ”

                “ไม่”

                นิทานทำท่าไม่อยากจะสนทนากับทั้งคู่เลยแม้แต่น้อย แต่ทว่าชายหนุ่มทั้งสองก็ไม่ได้แสดงท่าทางไม่พอใจ

                “งั้นเอาอย่างนี้ดีกว่า ท่านประธานอยากกินอาหารไทย หรือว่าอาหารต่างชาติครับ”

                รามิลถามต่อ นิทานยังคงเงียบ

                “หรือว่าจะให้พวกเรากินท่านประธานแทนดี”

                เพียงประโยคเดียว จากคนที่ทำท่าไม่สนใจอะไรก็หันขวับมาหาทั้งคู่ ใบหน้าน่ารักขุ่นเคืองอย่างไม่พอใจ

                “อาหารไทย!”

                “ดีจังเลยครับ ผมก็ชอบเหมือนกัน เอาเป็นอะไรดีครับ ผัดไทยดีไหม เอ หรือท่านประธานอยากจะทานเป็นข้าว”

                “ผัดไทยก็ได้”

                นิทานเหนื่อยจะพูดคุยกับรามิล เขารู้สึกไม่ชอบใจ เพราะเหมือนโดนบังคับ แต่ทว่าเจ้าตัวก็ไม่อยากให้รามิลใช้คำพูดแทะโลมเขามากไปกว่านี้

                ทั้งที่ตอนทำงาน ทั้งคู่ดูเหมือนคนทำงานปกติทั่วไป แต่ทว่าในเวลานี้ กลับแตกต่างออกไปจนไม่อยากจะเชื่อว่าเป็นคนคนเดียวกัน

                เมื่อขับรถมาถึงร้านอาหาร ทั้งสามจึงลงจากรถ แล้วเปิดประตูเข้าไปในร้านที่ตกแต่งไว้อย่างสะอาดพร้อมกับเครื่องปรับอากาศที่ทำงานจนเย็นสบายทั้งร้าน นิทานโทรหาทางบ้านแล้วว่า วันนี้เขาจะไม่กลับไปทานมื้อเย็น แต่เขาไม่ได้บอกเหตุผลไปว่าโดนบังคับมา

                “ผัดไทยกุ้งสด สามที่ครับ”

รามิลหันไปสั่งกับพนักงานที่มารับออเดอร์

“ท่านประธานจะสั่งอะไรเพิ่มอีกไหมครับ”

นิทานมองดูเมนูอาหาร ตอนนี้กระเพาะของเขากำลังทำงานอย่างเต็มที่ ที่นี่ไม่ได้มีแต่ผัดไทยเท่านั้น แต่ยังมีอาหารไทยอื่นๆอีกด้วย คนตัวเล็กส่ายหน้าไปมา เขาไม่อยากจะแสดงความสนิทสนมหรือสนใจทั้งสองไปมากกว่านี้

“ไม่ล่ะ”

“แล้วจะดื่มน้ำอะไรครับ”

คราวนี้เป็นไอศูรย์ที่ถามบ้าง นิทานมองเมนูน้ำ แล้วหันไปสั่งกับคนรับออเดอร์

“เอาชาเย็นหนึ่งแก้วครับ”

“พวกผมสองคนขอน้ำเปล่าแล้วกันครับ”ไอศูรย์สั่งต่อ

เมื่อสั่งอาหารเสร็จแล้ว นิทานก็ทำทีเป็นหยิบโทรศัพท์มากดเล่น เขารู้สึกอึดอัด ที่ต้องมานั่งเผชิญหน้ากับทั้งคู่แบบนี้

“ผ่อนคลายเถอะครับ พวกเราพาคุณมาทานข้าว ไม่ได้ทำอะไรไม่ดี”

คำกล่าวของไอศูรย์ไม่ได้ทำให้นิทานรู้สึกหายหวาดระแวง เพราะถึงอย่างไรเสีย ทั้งสองก็คือคนที่เคยบุกเข้ามาลวนลามเขาถึงในห้องทำงาน แถมยังทำเรื่องใจร้ายจนไม่อาจจะให้อภัยได้

“ฉันไม่ได้เป็นโรคความจำเสื่อมนะ จะได้ลืมว่าพวกนายเคยทำอะไรกับฉันเอาไว้”

เขาตอบโดยเหลือบตามองเพียงครู่ แล้วก้มลงไปมองหน้าจอโทรศัพท์ของตนเอง ไอศูรย์และรามิลระบายยิ้มอย่างเอ็นดู

“ดีจังเลยครับ ที่ท่านประธานจำได้ไม่ลืม พวกผมสองคนจะได้ฝังลึกอยู่ในความทรงจำของคุณไปนานๆ”

“ความทรงจำแย่ๆน่ะสิ”

เจ้าตัวพึมพำ เพียงไม่นานอาหารน่าทานก็ถูกยกมาเสิร์ฟหลังจากน้ำที่ทั้งสามสั่งได้มาเสิร์ฟก่อนหน้านี้

คนตัวเล็กตักทานพร่องไปเพียงครึ่ง แต่ทั้งไอศูรย์และรามิลก็ทานจนหมดแล้ว แถมทั้งคู่ยังมองเขาไม่วางตา

“มะ มองอะไร”

เขารู้สึกขัดเขิน รามิลระบายยิ้มแล้วตอบคำถาม

“เวลาท่านประธานทานอาหาร แล้วเหมือนสัตว์ตัวเล็กๆ ผมว่าน่ารักน่ะครับ”

“จะ…จะบ้าเหรอ!”

การจู่โจมด้วยคำพูดและรอยยิ้มชวนฝันของรามิล ทำให้นิทานถึงกลับไปไม่เป็น คนตัวเล็กเม้มปากแน่น รีบวางช้อนและส้อม

“ฉันอิ่มแล้ว”

“โกหกกันแบบนี้ ไม่ดีนะครับ”

เหมือนว่าไอศูรย์จะดูออก ว่านิทานไม่ได้อิ่มจริงๆ เพียงแต่คงไม่มีอารมณ์จะทานต่อมากกว่า

นิทานไม่คิดจะสนทนาต่อ เขายกน้ำขึ้นดื่ม เปิดกระเป๋าเงิน แล้ววางธนบัตรวางไว้บนโต๊ะ

“ฉันอิ่มแล้ว ฉันกลับล่ะ”

เขาลุกขึ้นเพื่อจะเดินออกจากร้าน ไอศูรย์และรามิลไม่ได้เรียกไว้ แต่รีบวางเงินไว้บนโต๊ะ แล้วรีบเดินตามนิทานไปนอกร้าน

“จะไปไหนครับ”

ไอศูรย์รีบเดินไปดักหน้า นิทานหมุนกายหนี แต่ก็เจอรามิลมาดักเอาไว้

“ถอยไป ฉันจะกลับแท็กซี่”

“กลับคนเดียวตอนค่ำๆแบบนี้ มันอันตรายนะครับ”รามิลตอบอย่างเป็นห่วง

“คงไม่มีอะไรอันตรายกว่าพวกนายแล้วล่ะ”

“ท่านประธานเป็นคนรักของพวกเรา พวกเราจะไปส่งคุณเอง”

ไอศูรย์จับเข้าที่ข้อมือเล็ก แล้วเปิดประตูรถ ดันกายเล็กให้เขาไปนั่ง นิทานดันตัวจะลงจากรถ แต่ทว่าไอศูรย์ก็พลิกกายเข้ามาหา แล้วชะโงกหน้าเข้าไปพูด

“อย่าให้ผมต้องโมโห”

สิ้นประโยคนั้น นิทานก็หยุดขัดขืน เขาไม่รู้ว่าภายใต้หน้ากากอันเรียบเฉยของไอศูรย์ และหน้ากากแสนใจดีของรามิล ทั้งคู่ซ่อนเรื่องน่ากลัวไว้มากแค่ไหน สุดท้ายเขาจึงได้แต่ยอมนั่งเงียบๆ ให้ทั้งคู่ขับรถพากลับมาส่งที่บ้าน

ทันทีที่มาถึงบ้าน นิทานไม่ยอมให้ทั้งคู่ขับรถเข้าไปจอดในบ้าน ให้จอดที่ด้านนอกประตูรั้ว ก่อนจะถึงประตูรั้วหน้าบ้าน เพราะเขาไม่อยากให้มีคนอื่นมาเห็น รามิลเป็นคนที่ลงจากรถมาเปิดประตูรถให้ นิทานไม่คิดจะกล่าวขอบคุณ เพราะเขาไม่พอใจและคิดอยู่ตลอดเวลาว่าจะต้องหาทางขโมยสร้อยที่อยู่ใต้เสื้อของทั้งคู่ให้ได้

“เดี๋ยวครับ”

ขาเล็กหยุดชะงัก เมื่อจะเดินไปยังประตูรั้ว เขาหันมาตามเสียงของไอศูรย์ ทันทีที่หันกลับมามองทั้งคู่ แก้มนิ่มสวยทั้งสองข้างก็โดนช่วงชิงไปด้วยริมฝีปากร้อนผ่าวของทั้งสองคน

“ฝันดีครับ”ไอศูรย์เอ่ย

“ผมหวังว่าท่านประธานจะฝันถึงผมด้วย”

รามิลส่งยิ้มให้ นิทานอึ้งไป ยกมือทั้งสองกุมแก้มตัวเอง อยากจะชี้หน้าด่าทั้งสอง แต่ก็เปลี่ยนใจ เมื่อเห็นสายตาที่มองมา เขารีบเดินเข้าไปในบ้านแทนด้วยความเขินระคนโกรธจนแยกไม่ออก

               

100%



แจ้งข่าวการเปิดพรีออเดอร์นะคะ

นิยายเรื่องนี้จะ เปิดพรีออเดอร์วันที่ 10 สิงหาคม ราคาหนังสือ 390 บาท (ไม่รวมส่ง)

รายละเอียดต่างๆจะอัพ เมื่อถึงวันใกล้เปิดพรีค่ะ



ติดตามได้ที่เพจนะคะ

ฝากเพจด้วยค่ะ https://www.facebook.com/akikoneko17fiction/


               

 

 

 

 

 

 

 

     

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
นิทานเจอโรคจิตของจริง แต่ท่าทางเหมือนจะใจอ่อนหน่อยๆมั้ยอ่ะ ใจอ่อนเร็วๆสิ 5555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Play รักเล่น เล่นรัก (3P) : chapter 14 คนรัก
« ตอบ #129 เมื่อ: 03-08-2016 21:11:18 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
ขู่ตลอดดดดด  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
รอตอนนิทานสตรองง

ออฟไลน์ angel_Z4

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
งืมๆ ตอนนี้เเลดูละมุนสุดเเล้วละ(มั้ง?) :katai5:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
อ่านไปก็เกิดความคิดที่ว่า นิทานหวั่นไหวง่ายไปหรือเปล่า ลองคิดถึงตอนแรก ๆ ที่ต้องอยู่กับความหวาดระแวงและหวาดกลัวสิ (ตอนนี้ก็ยังระแวงและถูกข่มขู่อยู่เรื่อย ๆ ล่ะนะ) อะไร ๆ มันจะง่ายอย่างนั้นเลยเหรอ กับมนุษย์ที่มีความคิดจิตใจซับซ้อน
สนใจเขา อยากได้เขาเป็นคนรัก แต่เริ่มด้วยการล่วงละเมิดทางเพศ แถมสร้างความหวาดระแวงนี่นะ ถ้าเป็นชีวิตจริงนิทานอาจจะเกลียดสองคนนี้เข้าไส้ หรืออาจจะกลัวจนมีอาการทางจิตด้วยซ้ำ การจะทำให้รักคงต้องใช้ความพยายามกว่านี้มาก (นี่สองคนนั้นพยายามแล้วเหรอ... เห็นมีแต่บังคับกับกลั่นแกล้ง)
รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
โรคจิตเข้าขั้นแล้วล่ะ ทำแบบนี้เรียกว่าคนรัก  :ling1:

ออฟไลน์ tukkata bambola

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
นิทานแข็งนอกอ่อนในไปแล้วว่าแต่ว่าสองคนนั้นเป็นแค่พนักงานกินเงินเดือนจริงๆเหรอ :m28:

ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
นิทานอย่างไปใจอ่อนกับโรคจิตสองคนนั้นนะ พวกมันจะต้องได้บทเรียนราคาแพงซอก่อน! :m16:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ไอศูรย์ รามิล เคยพบนิทานมาก่อนหรือเปล่า :mew2:
ไม่งั้นอยู่ๆ มาทำเรื่องแบบนี้ เคยแอบชอบนิทานกันมาทั้งคู่ใช่มั้ย :katai1:
รอ  :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
รอ ๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Play รักเล่น เล่นรัก (3P) : chapter 14 คนรัก
« ตอบ #139 เมื่อ: 08-08-2016 21:10:28 »





ออฟไลน์ puchi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 762
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-5
 :call: :call:
รอจ้า

ออฟไลน์ yuyie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-5
สองคนนั้นทำเกินไปนะ   :mew2:

ออฟไลน์ Akikoneko17

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-2
15

ทนให้ได้

 

 

                แม้นิทานจะรู้สึกไม่ชอบหน้ารามิลและไอศูรย์มากแค่ไหน แต่เขาก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าทั้งคู่ทำงานได้ดีเยี่ยมจนเขาไม่อาจจะตำหนิได้ ทั้งการดูแลเอาใจใส่และช่วยคิดแทนในบ้างครั้งในยามที่จำเป็น ทุกอย่างถูกกลั่นกรองมาอย่างรอบคอบจนทำให้ช่วยเรื่องงานของนิทานให้ดีขึ้นตามลำดับจนแทบจะก้าวกระโดด

                หากไม่ติดที่ว่า ทั้งสองเคยทำเรื่องต่ำช้ากับเขา นิทานคงทำงานกับทั้งคู่ได้มีความสุขมากกว่านี้

                เกือบครบหนึ่งสัปดาห์ที่ใช้สถานะของคำว่าคนรัก นิทานไม่ได้คิดจะซาบซึ้งกับสถานะที่ได้รับ หลังจากวันนั้นที่รามิลและไอศูรย์กลั่นแกล้งเขาในขณะที่มีการนำเสนอสินค้าตัวใหม่ ทั้งคู่ก็ไม่ได้เข้ามาล่วงเกินเขาอีก จนนิทานเริ่มรู้สึกสบายใจขึ้นมา และคิดว่าบางทีทั้งสองอาจจะเบื่อเล่นสนุกกับเขาแล้วก็เป็นได้

                แต่บางครั้ง สิ่งที่คิดกับความเป็นจริง ก็ไม่ได้เหมือนกันเสมอไป….

                “ท่านประธานดื่มน้ำหน่อยไหมครับ”

                รามิลเป็นคนหันมาถาม ท่านประธานตัวน้อยที่กำลังเหม่อมองไปนอกกระจกรถยนต์ เพราะวันนี้พวกเขากำลังเดินทางไปดูโรงงานที่ผลิตของเล่นเด็ก

                “ไม่เป็นไร”

                รถยนต์เลี้ยวจอดแวะปั๊มเพื่อเติมน้ำมัน รามิลเป็นฝ่ายลงจากรถ เพื่อไปหาซื้อเครื่องดื่มดับกระหายให้กับท่านประธาน นิทานเหลือบตามองไอศูรย์ที่ยื่นเงินจ่ายค่าน้ำมัน ก่อนจะเลี้ยวรถไปหยุดจอดรอรามิลขึ้นรถ

                “เอ้านี่”

                กาแฟแก้วใหญ่ถูกส่งให้ไอศูรย์ เขารับมันมาดื่มโดยที่ไม่ได้เอ่ยขอบคุณ นิทานทำเป็นไม่สนใจ

                “จะลงไปเข้าห้องน้ำด้วยไหมครับ”

                เป็นไอศูรย์ที่หันมาถาม นิทานส่ายหน้า รามิลระบายยิ้มแล้วยื่นแก้วกาแฟให้นิทาน

                “นี่คร้าบ จะได้สดชื่น”ว่าพลางยิ้มร่า

                “ฉันไม่อยากดื่ม”

                “ไม่ชอบกาแฟเหรอครับ”รามิลเลิกคิ้ว

                “ฉันบอกว่าไม่อยากดื่ม ไม่เข้าใจหรือไง”

                คนตัวเล็กเบือนหน้าหนี ไอศูรย์และรามิลมองหน้ากัน ทั้งคู่ไม่ได้เซ้าซี้ท่านประธานต่อ

                รถยนต์เคลื่อนที่ต่อไปจนถึงเขตปริมณฑล เพียงไม่นานก็มาหยุดจอดที่หน้าโรงงาน นิทานเลี่ยงไปเข้าห้องน้ำก่อน เพราะเขารู้สึกปวดปัสสาวะขึ้นมา หลังจากที่ทำธุระส่วนตัวเสร็จ กายเล็กที่จะออกจากห้องน้ำก็ต้องหยุดชะงัก เพราะว่าทั้งไอศูรย์และ  รามิลต่างเดินเข้ามาหาเขา สายตาคมทั้งคู่ที่จ้องมองมาแตกต่างจากเวลาปกติ

                ลางสังหรณ์บางอย่างกำลังบอกนิทานว่าอีกไม่นานเขาจะไม่ปลอดภัย

                “พวกนายจะมาเข้าห้องน้ำเหรอ”

                แทนคำตอบ กลับเป็นรอยยิ้มที่ชวนให้ขนลุก ยิ่งเห็นรามิล นิทานก็รับรู้ได้ถึงสิ่งที่น่ากลัวจะตามมา เขารีบเดินจะไปเปิดประตูห้องน้ำ แต่ทว่าไอศูรย์ก็มายืนขวางประตูไว้ นิทานมองอย่างไม่พอใจ

                “ถอยไป”

                “ไม่ครับ”

                กึก

                ประตูห้องน้ำถูกกดล็อกจนนิทานใจคอไม่ดี เขามองซ้ายมองขวา จะหาทางหนี แต่ทางออกมีแค่ทางเดียวคือจุดที่ไอศูรย์ยืนบังอยู่

                “ฉันต้องเข้าโรงงานนะ”

                “พวกเราให้ท่านประธานได้ไปแน่ครับ แต่ต้องเล่นสนุกกับพวกเราก่อน”

                รามิลเข้ามาจากด้านหลัง แล้วกระซิบบอก นิทานขนลุกซู่ เขาหันขวับไปมองรามิลทันที

                “เล่น…เล่นอะไร!”

                คนตัวเล็กแทบจะตะโกนถามด้วยความตกใจ แทนการตอบคำถาม รามิลกลับเลื่อนมือไปเค้นคลึงก้นนิ่ม นิทานสะดุ้งเฮือก พยายามเบี่ยงตัวหนี

                “อยากให้คนอื่นรู้เหรอครับ”

                ไอศูรย์เอ่ยบอกอย่างเหนือกว่า นิทานกัดปากแน่นอย่างเจ็บใจ ร่างกายเริ่มร้อนขึ้นมาเสียอย่างนั้น เพียงแค่โดนมือของรามิลเล้าโลม ส่วนยอดอกที่ซ่อนภายใต้เสื้อเชิ้ตตัวยาวกำลังโดนปลายนิ้วทั้งสองของไอศูรย์เลื่อนมาบีบขยี้ จนเจ้าตัวต้องเผลอปล่อยเสียงครางพร่าออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ

                “ยะ หยุดนะ”

                เขาพยายามยกมือดันแผงอกของไอศูรย์ สะโพกเล็กก็พยายามขยับหนี แต่ทว่าสุดท้ายก็โดนรามิลจับถอดกางเกงจนเหลือแต่ชั้นใน

                “อย่านะ พวกนายจะทำแบบนี้ไม่ได้”

                นิทานได้แต่บอกเสียงสั่นพร่า เมื่อไอศูรย์ย่อกายต่ำลง จนใบหน้าอยู่ตรงใจกลางลำตัว ส่วนรามิลเองก็ไม่ต่างกัน

                “ถ้าคิดจะเปิดประตูให้คนข้างนอกเห็น ก็ทำเลยสิครับ”

                ฝ่ามือเล็กมีอันต้องหยุดชะงัก เพราะไม่กล้าจะเปิดประตูออกไป สภาพของเขาตอนนี้ไม่ได้น่าดูเลยสักนิดเดียว ริมฝีปากร้อนผ่าวจูบไล้ไปตามเป้ากางเกงในที่นูนเน้นขึ้นมาตามรูปร่างของอวัยวะ ในขณะที่รามิลเองก็ดันจมูกและริมฝีปากไปตามก้นนิ่ม

                “ยะ หยุดเถอะ เราต้องทำงาน”

                แม้จะพยายามอ้างเหตุผลที่น่าฟัง แต่ก็ไม่อาจจะหยุดความต้องการเล่นสนุกของเลขานุการทั้งสองของเขาได้ นิทานได้แต่ยืนตัวสั่น แก่นกายใต้ร่มผ้าเริ่มชูชันตามแรงอารมณ์ กางเกงในเปียกชื้นเพราะน้ำลายของรามิล ไอศูรย์ตัดสินใจดึงรั้งกางเกงในลงมาจนเห็นแท่งเนื้อร้อนที่ตื่นตัวจากการปลุกเร้า นิทานหลับตาลง ยกมือปิดปาก เขาไม่อยากจะปล่อยเสียงตัวเองออกมา

                “อะ อึก”

                แม้พยายามจะกลั้นเสียง แต่ก็ยากที่จะกลั้นได้ เพราะว่าแก้มก้นนิ่มทั้งสองถูกจับแยกออก ก่อนที่ปลายลิ้นร้อนจะลากเลียไปตามช่องทาง แล้วดุนดันดูดเม้มจนกายเล็กสั่นระริกอย่างน่าสงสาร ไอศูรย์ตวัดปลายลิ้นชิมรสหยาดน้ำสีขาวใสที่เริ่มไหลปริ่ม นิทานบิดเร่า เลื่อนมือไปบีบไหล่แกร่ง

                “อะ ฮ่า…อื้อ”

                ช่องทางด้านหลังโดนโลมเลียจนอ่อนนุ่ม สะโพกสวยสั่นระริก นิ้วเรียวยาวเริ่มสอดเข้าไปในช่องทาง พร้อมกับปากร้อนที่อ้าอมความเป็นชายไปจนสุดโคน นิทานแทบจะส่งเสียงหวีดร้องแห่งความสุขสม แต่เขาก็ต้องยกมือมาปิดปากตัวเองไม่ให้ร่างกายตอบสนองไปมากกว่านี้

                จากหนึ่งนิ้วเปลี่ยนเป็นสองและเป็นสาม ร่างกายกระตุกเกร็งแทบทุกครั้งที่นิ้วขยับเข้าออก และริมฝีปากเคลื่อนขยับ นิทานแทบจะยืนทรงตัวไม่อยู่ ขาของเขาสั่นเทาจนแทบจะล้มพับ

                เมื่อสุดปลายทางที่ไม่อาจจะอดกลั้นได้ คนตัวเล็กก็ปลดปล่อยออกมา ไอศูรย์เป็นคนดื่มกินน้ำจากตัวของนิทานจนหมดสิ้น

                แม้คิดว่าเรื่องทรมานร่างกายจะจบสิ้นลง แต่กลับไม่ใช่อย่างนั้น เพราะช่องทางด้านหลังรับรู้ได้ถึงวัตถุบางอย่างที่ถูกจับยัดเข้ามาในร่างหลังจากที่รามิลถอนนิ้วทั้งสามออก ฟันคมงับก้นขาวนิ่มอย่างหมั่นเขี้ยว แล้วดันวัตถุสีชมพูสวยให้เข้าไปลึกในช่องทาง

                “นะ นายเอาอะไรใส่เข้ามาในตัวฉัน”

                ไม่เพียงแต่รามิล แต่ไอศูรย์เองก็หยิบบางสิ่งออกมาจากกระเป๋ากางเกงของเขา มันเหมือนเส้นเชือกที่ถูกถักเป็นตาข่ายสีดำสนิท มีรูปทรงประหลาดเหมือนไว้สวมใส่วัตถุรูปร่างทรงกระบอก

                “ยะ หยุดนะ”

                เขาพยายามจะจับมือของไอศูรย์ แต่ทว่าร่างกายก็แทบจะดิ้นพล่าน เมื่อวัตถุกลมรีในช่องทางด้านหลังเริ่มสั่นสะเทือน ดวงตากลมเบิกกว้าง ร่างกายแทบจะเซล้ม หากแต่รามิลได้ประคองเอาไว้ทัน

                “นะ นี่มันอะไร”

                “อุปกรณ์เพิ่มความสนุกไงครับ”

                น้ำเสียงโรคจิตปนกระเส่าไม่ได้ทำให้นิทานสบายใจ เขาหวั่นใจและหวาดกลัวจนต้องยกมือผลักดันทั้งคู่ แต่เรี่ยวแรงก็เหมือนหายไป เชือกสีดำขลับถูกรัดไว้กับอวัยวะเพศชายที่กำลังตื่นตัว หากตื่นตัวจนเต็มที่ คงถูกบีบรัดจนเจ็บปวด

                “อะ เอามันออกไป”

                “เอาออกไปก็ได้นะครับ แต่มันจะต้องแทนที่ด้วยของพวกเราสองคนแทน ท่านประท่านอยากให้เอาออกไหมล่ะครับ หึหึ”

                มันไม่ใช่เพียงคำขู่ของรามิล แต่ทั้งสองพร้อมจะทำจริงเสมอ นิทานรู้ดีว่าทั้งคู่คงไม่จะสนใจสถานที่

                ปังๆๆๆ

                “ขอโทษครับ ข้างในมีคนอยู่ไหมครับ เปิดประตูที”

                ห้องน้ำแห่งนี้ มีประตูด้านหน้าที่ไอศูรย์ได้ล็อกเอาไว้ และภายในจะมีห้องน้ำย่อยๆอีกสามห้อง มันถูกล็อกจากประตูใหญ่ด้านหน้า เมื่อมีผู้อื่นที่จะเข้ามาใช้

งาน จึงไม่สามารถเข้ามาได้

                “จะให้ผมไปเปิดประตูดีไหมครับ”

                นิทานเบิกตากว้าง รีบจับแขนไอศูรย์เมื่อชายหนุ่มทำท่าจะเดินไปเปิดประตูห้องน้ำ เขาคงแทบคลั่ง หากคนงานในโรงงานมาเห็นเขาสภาพนี้ แล้วเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน

                “อย่า…ไม่ได้นะ”

                “งั้นเราก็คงต้องแต่งตัวให้ท่านประธานให้เรียบร้อยเสียก่อน”

                นิทานพยายามยืนนิ่งๆ เขาอยากจะก้มลงไปแต่งตัวให้ตัวเอง แต่ภายในร่างของเขากำลังมีวัตถุที่สั่นไม่หยุด มันกระตุ้นให้ความต้องการทางเพศเพิ่มมากขึ้น

                “อะ เอามันออกไปทีเถอะ ฉันจะไม่ไหว”

                ใบหน้าน่ารักบิดเบี้ยว ทั้งเสียว ทั้งทรมาน จนดวงตากลมเริ่มคลอไปด้วยหยาดน้ำ แม้จะยังไม่ได้มีอารมณ์สูงสุด แต่ก็ทำให้นิทานแทบจะขาดใจ

                “ถ้าท่านประธานอดทน จนงานเสร็จ พวกผมจะเอาออกให้ครับ”รามิลบอก

                เหมือนเป็นข้อแลกเปลี่ยนที่ดี แต่สำหรับนิทานมันไม่ใช่เลยสักนิด ไม่ใช่ว่าเดินแค่นาทีสองนาทีแล้วทุกอย่างจะจบลง

                “ได้โปรด”

                แม้ไม่อยากวิงวอนแต่ก็จำเป็นต้องร้องขอ

                “ถ้าท่านประธานไม่ปล่อยออกมาก่อนจะเสร็จงาน ผมสัญญาว่าจะเอาออกให้ และไม่ทำอะไรคุณ”

                คำกล่าวของไอศูรย์ดูจริงจัง นิทานส่ายหน้ารัวเร็ว เขาคิดว่าตัวเองคงทนไม่ได้จนทำงานเสร็จเป็นแน่ เขาต้องการปลดปล่อยเดี๋ยวนี้

                “เอามันออกไปที”

                “งั้นผมจะไปเปิดประตูนะครับ”

                รามิลผละออกจะไปเปิดประตู นิทานรีบห้ามด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ

                “ยะ อย่า ไม่เอานะ ไม่เปิด”

                “งั้นผมจะแต่งตัวให้นะครับ”

                ไอศูรย์ระบายยิ้ม แล้วก้มลงไปแต่งตัวให้กับคนตัวเล็กจนเสร็จเรียบร้อย นิทานกำมือแน่น เขาทั้งอาย ทั้งเจ็บใจ อยากจะทำร้ายร่างกายของทั้งคู่ แต่สภาพของเขาตอนนี้ก็น่าอายเกินกว่าที่จะทำแบบนั้น

                เพียงไม่นาน ทั้งสามก็เดินออกจากห้องน้ำ วัตถุที่สั่นในร่างกาย เบาแรงลงจนนิทานเริ่มจะชินขึ้นมา เขาเดินตรวจโรงงาน เพื่อดูความเรียบร้อยและสิ่งต่างๆ ถึงแม้จะเป็นประธานบริษัท  แต่การเข้าถึงแหล่งผลิตก็ถือว่าเป็นหน้าที่อย่างหนึ่งที่มาเป็นครั้งคราว ไม่ได้มาดูตลอด เขาต้องการรู้ว่าการทำงานในโรงงานนั้นเป็นอย่างไรบ้างด้วยสายตาของตัวเอง

                “ท่านประธานเหงื่อออกเยอะมากเลยนะครับ”

                นายธงชัย พนักงานที่เดินนำนิทานให้ดูสิ่งต่างๆในโรงงานเริ่มหันมาถามท่านประธานตัวน้อยที่ดูเหงื่อออกเยอะกว่าปกติ แถมยังดูเหนื่อยหอบ

                “มะ ไม่เป็นไร อากาศมันคงร้อนน่ะ”

                “อ่อ ครับ”

                นิทานหยุดชะงัก แทบจะทรุดล้ม เมื่อวัตถุในร่างกายสั่นรุนแรงมากขึ้น ฝีมือนั้นไม่ใช่ใครนอกจากรามิล สายตาที่จ้องมองเหยื่อตัวน้อยอย่างหื่นกระหาย ทำให้นิทานไม่อาจจะหันไปมองได้ คนตัวเล็กรีบก้าวเดินต่อไปเรื่อยๆ พร้อมๆกับมองสิ่งต่างๆรอบกาย มีพนักงานหลายคนเข้ามาทักทาย เขากำลังภาวนาให้การเยี่ยมชมโรงงานในวันนี้เสร็จสิ้นลงเร็วๆ

                …การตั้งสติทำงานไปด้วย และรู้สึกเสียวซ่านไปด้วย มันช่างยากลำบาก…จนบางครั้งนิทานก็เริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าทั้งไอศูรย์และรามิลเป็นเลขานุการที่ดี หรือว่าไม่ดีกันแน่…

                ยิ่งตื่นตัวมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งโดนเชือกนั้นบีบรัดแน่นจนเกิดความเจ็บปวด นิทานเดินสะดุดล้ม จนไอศูรย์เข้ามาประคอง

                “ไหวไหมครับ ท่านประธาน”

                เขาหันไปมองอย่างขุ่นเคือง ทุกอย่างเกิดขึ้นก็เพราะทั้งคู่กลั่นแกล้งเขา เห็นเขาเป็นของเล่น แล้วแบบนี้น่ะเหรอ ที่เรียกว่าคนรัก

                “ฉันจะฆ่านาย”

                “ใจร้ายจังนะครับ”

                รามิลหยอกเย้า นิทานประคองตัวเองให้ลุกขึ้น เขาทั้งเสียว ทั้งทรมาน แถมยังต้องกลัวว่าจะมีคนอื่นมารู้ว่าเขากำลังโดนกระทำเรื่องน่าอับอาย

                ความอดทนของนิทานเหมือนจะสัมฤทธิ์ผล เขาทนได้จนเดินออกจากโรงงาน เจ้าตัวรีบเดินตรงไปยังห้องน้ำ แม้มันอาจจะเดินช้าในสายตาบางคน แต่เขาก็ไม่อาจจะเดินไปได้เร็วกว่านี้

                “เดี๋ยวพวกผมช่วยเอาออกให้เองครับ”

                ไอศูรย์และรามิลเข้ามาช่วย หลังจากที่ทั้งคู่ล็อกประตูห้องน้ำแล้ว นิทานรีบยกมือปัดป่าย

                “ไม่ต้องเลยนะ เจ้าพวกโรคจิต ออกไปเลย”

                “ว่าพวกผมโรคจิต แต่ท่านประธานเองก็ตื่นตัวจนเป็นขนาดนี้เลยนะครับ”

                ว่าพลางแตะปลายนิ้วบนปลายยอดแก่นกายเล็กที่มันปริ่มไปด้วยหยาดน้ำ

                “ฉันไม่ได้ชอบสักนิด เจ้าพวกสารเลว ฉันเกลียดพวกนาย พวกนายมันเลว ต่ำช้า ฉันจะ อื้อ”

                ไม่ทันให้ด่าได้นานกว่านี้ ไอศูรย์ก็ก้มลงมากดจูบปิดปากเล็ก รามิลหัวเราะในลำคอเบาๆ ที่ท่านประธานตัวเล็กโดนกระทำลงโทษที่พูดจาไม่น่ารัก เขาก้มลงไปงับใบหู ร่างกายของนิทานร้อนผ่าวจนแทบจะทนไม่ไหว

                “อะ อื้อ อึก”

                เป็นจังหวะเดียวที่ไอศูรย์ดึงเชือกที่รัดแก่นกายเล็กออก คนตัวเล็กก็ปลดปล่อยออกมาทันที เพราะคิดว่าการเล่นสนุกครั้งนี้จบลงแล้ว แต่นั่นกลับไม่ใช่ เพราะกลายเป็นว่าทั้งสองกลับคลี่ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

                “ท่านประธานปล่อยแบบนี้ได้ยังไงครับ แบบนี้ก็บอกให้พวกเรากินได้เต็มที่เลยน่ะสิ”รามิลยิ้มหวาน

                “มะ ไม่นะ”

                แต่เหมือนว่าคำกล่าวของนิทานจะถูกกลืนหายไปเสียอย่างนั้น เพราะคนตัวเล็กถูกจับอุ้ม จนแขนเล็กต้องโอบเกี่ยวรัดคอแกร่งของไอศูรย์เอาไว้เป็นที่ยึด ขาทั้งสองถูกยกขึ้นไปเกี่ยวเอวสอบ โดยมีรามิลซ้อนหลังประคองสะโพกสวย

                “พวกนายคงไม่คิดที่จะ”

                ภาพความอับอายที่เขาเคยมีอะไรกับทั้งสองไหลเข้ามาในหัว นิทานหน้าแดงก่ำ แต่ดูเหมือนความคิดของเขาจะเป็นจริงเสียแล้ว เพราะความเป็นชายร้อนรุ่มกำลังเสียดสีไปมาที่ช่องทางร้อนของเขา นิทานตัวสั่น กอดคอของไอศูรย์เอาไว้เสียแน่น เขาส่ายหน้าไปมา เริ่มหวาดกลัวเหมือนกับเด็กตัวน้อย

                “ไม่เอา ไม่เอา”

                มันเกินที่จะรับไหว หากจะต้องมามีเซ็กกับทั้งคู่ในห้องน้ำแบบนี้ นิทานตัวสั่นด้วยความกลัว เขาอยากจะขัดขืน แต่ก็ต่อต้านแรงของทั้งสองไม่ได้

                “แต่ท่านประธานทำผิด ปล่อยออกมาก่อนนะครับ”

                “แต่ฉันทำเสร็จงานแล้ว อึก พวกนายต้องเอามันออกไปจากตัวฉัน”

                ไอศูรย์มองหน้ารามิล วันนี้พวกเขาสองคนคงจะแกล้งท่านประธานตัวเล็กมากเกินไปจริงๆ ทั้งสองจึงอุ้มนิทานไปวางที่อ่างล้างหน้า

                “พวกเราไม่เข้าไปก็ได้ แต่จะทำยังไงล่ะครับ ในเมื่อมันตื่นแบบนี้แล้ว”รามิลแกล้งทำหน้าเศร้า

                นิทานไม่คิดว่าตัวเองทำอะไรผิดสักนิด เรื่องที่ทั้งคู่ตื่นตัวกันนั้น เขาไม่ได้เป็นคนทำ แต่ทั้งสองหื่นเอง แล้วมาโทษเขาต่างหาก

                “ท่านประธานต้องรับผิดชอบนะครับ ถ้าไม่อย่างนั้น ผมก็ไม่เอาออกให้ แล้วถ้าเอาออกเอง มันยากนะครับ”

                รามิลไม่ได้ขู่ แต่พูดความจริง เพราะเขายัดมันไว้เสียลึก เป็นการยากไม่ใช่น้อย ถ้านิทานจะพยายามสอดนิ้วเข้าไปดึงวัตถุที่สั่นในช่องทางหลังออกมา

                “ถ้าไม่ทำ ผมก็จะทำต่อจากเมื่อกี้”

                ไอศูรย์รั้งร่างนิทานให้ลงมา นั่งย่ออยู่กับพื้น ฝ่ามือร้อนลูบศีรษะเล็กอย่างแผ่วเบา

                “ใช้ปากกับมือ ช่วยพวกเราแล้วกันนะครับ”

                นิทานเงยหน้าไปจ้องทั้งคู่ด้วยสายตาที่ขุ่นเคือง แต่เขาก็ยอมทำตามอย่างไม่โต้เถียง เพราะนี่อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดที่เขาเลือกได้ในตอนนี้ ริมฝีปากร้อนผ่าวจึงรุกไล้เข้าไปกับสัมผัสกับความเป็นชายที่ตื่นตัวอย่างน่ากลัว แม้นิทานจะรู้สึกว่าสิ่งที่เขาทำมันไม่ถูกต้อง แต่ร่างกายเขาก็เคลื่อนเข้าไปสัมผัสกับความใหญ่โตนั้นจนไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้ ใช้ทั้งมือและริมฝีปากปรนเปรอทั้งคู่จนกระทั่งไปสุดปลายทาง

 

-------+++++-------

 

                สายลมพัดแผ่วเบาในยามค่ำคืน นิทานนั่งเล่นอยู่ที่เก้าอี้ม้าหินอ่อนที่หน้าบ้านรับลมเย็น ดวงตากลมน่ารักเหม่อลอยอย่างไร้จุดหมาย  เขาเผลอถอนหายใจออกมาเสียงดัง การใช้ชีวิตร่วมอยู่กับเลขานุการทั้งสองคนนั้นผ่านมาร่วมเดือนแล้วตั้งแต่ร่วมงานกันวันแรก

                “ขอแม่นั่งด้วยนะจ๊ะ”

                เสียงของมารดาเรียกสติที่หายไปของนิทานให้กลับมา เขาหันขวับไปหานิสา เธอส่งยิ้มให้กับลูกชายอย่างอ่อนโยน

                “ครับ”

                นิสานั่งลงข้างๆลูกชาย

“คิดอะไรอยู่เหรอลูก”

                “ผมกำลังคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยน่ะครับ”

                นิทานบอกไปตามที่คิด เพราะเรื่องที่เขาคิดนั้นคงเป็นเรื่องเรื่อยเปื่อยจริงๆ แม้แต่เขาเองก็ยังสงสัย ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องเล็กๆ แต่ทำไมเขาถึงได้ปล่อยให้มันค้างคาแบบนี้ การทำงานระหว่างเขาและเลขานุการทั้งสองเป็นไปได้ด้วยดี ทั้งคู่คอยสนับสนุนเขาในเรื่องการทำงาน แต่มีบ้างบางครั้งที่เล่นสนุกกับเขา จนดูเหมือนกลั่นแกล้ง แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ก่อให้เกิดผลเสียจนกระทบต่องานที่ได้รับมอบหมาย

                “เครียดเรื่องงานเหรอนิทาน”

                “เอ่อ ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ”

                “แต่แม่ว่าพักนี้ลูกดูเหนื่อยๆนะจ๊ะ ไม่ค่อยได้กลับมาทานข้าวที่บ้านตอนเย็นเลย”

                ที่นิทานไม่ค่อยได้กลับบ้านมาทานมื้อเย็นกับครอบครัว นั่นก็เป็นเพราะว่าเจ้าตัวไปทานมื้อเย็นกับเหล่าเลขานุการทั้งสองแทบทุกวัน จากที่ตอนแรกรู้สึกเกร็งๆ และอึดอัด กลายเป็นว่าตอนนี้เริ่มจะชินขึ้นมา

                “ก็ไม่มีอะไรหรอกครับคุณแม่”

                “ไม่ใช่ว่านิทานไปเจอสาวคนไหนถูกใจอยู่หรอกนะจ๊ะ”

                คนตัวเล็กตาโตทันทีกับข้อสงสัยของมารดา นิสาหัวเราะออกมากับท่าทางของลูกชาย

                “เอ๊ะ หรือว่าแม่ไปพูดจี้จุดถูกขึ้นมากันนะ”

                “ไม่ใช่นะครับคุณแม่ ผมไม่ได้มีสาวที่ไหน”

                …แต่มีหนุ่มๆต่างหาก…

                นิทานตกใจกับความคิดของตัวเอง เราอยากตบสมองตัวเองให้หลุดออกมา เพราะไม่อยากจะเชื่อว่าประโยคนี้จะไปอยู่ในสมองของเขาได้

                “เอ…จริงเหรอจ๊ะ แต่ถ้าไม่ใช่เรื่องงาน แล้วที่ลูกคิดมากแบบนี้ เป็นเรื่องอะไรกันล่ะ พอเดาว่าเป็นเรื่องความรัก ก็ไม่ใช่ซะอย่างนั้น”

                ความจริงที่เขาเผชิญอยู่ไม่ใช่เรื่องที่จะสามารถบอกใครได้ง่ายๆ เขาไม่อยากให้มารดามากังวล และบิดาต้องผิดหวังในตัวของเขา ถึงเขาจะโง่ทำให้ถูกกระทำ แต่มันก็เป็นเพราะเขาเองที่ไม่ฉลาดมากพอที่จะจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นได้ แถมยังเผลอใจอ่อนไปกับเจ้าคนร้ายโรคจิตทั้งสองคนอีกด้วย

                “ถ้ามีอะไรก็บอกพ่อกับแม่ได้นะนิทาน อย่าเก็บไว้คนเดียว”

                “ผมสงสัยครับ”

                “หืม”

                นิทานเอนศีรษะพิงไหล่บางของนิสา เขาถอนหายใจออกมา

                “เป็นไปได้ไหมครับ ที่คนที่เขาทำไม่ดีกับเรา เขาจะรักเรา”

                “หมายความว่ายังไงน่ะลูก”

                เธอเลิกคิ้วมองลูกชายอย่างไม่เข้าใจนัก นิทานมองไปเบื้องหน้า เขาสับสนไปหมด ทั้งที่ควรกำจัดไอศูรย์และรามิลไปให้พ้นชีวิต แต่เขากลับทำไม่ได้

                “คุณแม่ตอบผมมาสิครับ”

                “อืม…”

                มือเรียวบางยกลูบผมนิ่มของลูกชาย เธอระบายยิ้มน้อยๆ

                “เรื่องของความรัก แม่ก็ไม่รู้ว่าแต่ละคนเป็นยังไงหรอกนะลูก พวกนิยามความรัก หรือการแสดงออกของแต่ล่ะคนก็ต่างกัน บางทีที่เขาทำไม่ดีกับเรา เขาอาจจะเรียกร้องความสนใจก็ได้ แต่ถ้าไม่ดีมากๆ แม่ว่าเขาอาจจะเกลียดเรา”

                “แต่ว่าถึงเขาทำเรื่องเลวร้ายกับเรา แต่เขาก็ยังทำดีกับเรา แบบนี้ เขาจะมีเหตุผลร้ายๆแอบแฝงหรือเปล่าครับ”

                “มันก็เป็นไปได้นะลูก ว่าแต่ที่ลูกถามแม่แบบนี้ เพราะว่าไปเจอคนที่ทำเรื่องไม่ดีกับลูกมาเหรอจ๊ะ”

                “ไม่ใช่ครับ”

                ได้แต่รีบปฏิเสธออกไปอย่างรัวเร็ว เขาไม่ต้องการให้มารดาต้องวิตกกังวลเรื่องของเขา นิสาระบายยิ้ม

                “เอ่อ ผมง่วงแล้ว ขอตัวไปนอนก่อนนะครับ”

                ชายหนุ่มยันกายลุกขึ้น แต่ไม่ลืมที่จะหอมแก้มมารดาแล้วส่งยิ้มหวานให้ เขาไม่ต้องการให้นิสาคิดมาก เธอได้แต่มองตามลูกชายที่เดินกลับเข้าไปในบ้าน

 

-------++++-----

 

ออฟไลน์ Akikoneko17

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-2
(ต่อ)


                นิทานเข้ามาในบริษัท วันนี้มีการประชุมของบริษัท เขาและเลขานุการทั้งสองเข้ามาในห้องประชุม สายตาทุกคนในห้องประชุม จับจ้องที่เขากันเป็นตาเดียว

                “ฉันว่าวันนี้ดูแปลกๆนะ”

                รามิลหันไปคุยกับไอศูรย์ ร่างสูงพยักหน้าเล็กน้อยเป็นเชิงเห็นด้วย เขานั่งลงใกล้ๆกับประธานตัวน้อย

“วันนี้สีหน้าทุกคนดูไม่ค่อยดีเลยนะครับ มีปัญหาอะไรกันหรือเปล่าครับ”นิทานเอ่ยขึ้น พลางกวาดสายตามองบุคคลที่เข้าการประชุม

                “ค่ะ คงจะแสดงสีหน้าสบายใจไม่ได้ เมื่อทางฝ่ายตรวจสอบรายงานมาทางคณะกรรมการว่าพบความผิดปกติในการจัดซื้อสินค้าที่จะนำมาประกอบเป็นสินค้าต้นทุน”หนึ่งในคณะกรรมการเอ่ยขึ้น

                “ส่วนเอกสารตรงหน้าคุณนิทาน ก็คือเอกสารการสั่งซื้อวัสดุที่สูงกว่าราคามาตรฐานที่คุณนิทานเซ็นอนุมัติ จากการตรวจสอบฝ่ายจัดซื้อบอกว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ  เพราะท่านประธานเป็นคนเซ็นอนุมัติเอง”

                ชายวัยห้าสิบปีเอ่ยขึ้น เขาเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนของบริษัท

                “อะไรนะครับคุณฉัตรชัย!”

                 นิทานอึ้งจนพูดไม่ออก เอกสารตรงหน้า แม้เขาจะเคยเห็น แต่ก็จำได้ว่าตัวเองไม่เคยเซ็นลงไป  ไอศูรย์รับเอกสารมาดูด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย

                “ผมเองก็ไม่เคยเห็นเอกสารพวกนี้”

                “ดูเหมือนว่ามันจะถูกเซ็นก่อนที่คุณจะมาเป็นเลขาของท่านประธานนะคะ”

                หนึ่งในคณะกรรมการเอ่ยขึ้น เพราะวันที่ที่ลงลายเซ็นนั้นเป็นช่วงสองเดือนก่อน

                “สิ่งที่คุณนิทานทำ ถือว่าเป็นการยักยอกเงินของบริษัท เป็นความผิดร้ายแรง พวกเราอยากให้คุณนิทานลาออกจากตำแหน่ง แล้วก็รับผิดชอบเรื่องเงินสั่งวัสดุอุปกรณ์ทั้งหมดที่มีปรับราคาของวัสดุ รวมทั้งยอมให้ดำเนินคดีทางกฎหมายด้วย”

                “แต่ผมไม่ได้เป็นคนเซ็นเอกสารพวกนี้”

                นิทานส่ายหน้ารัวเร็ว ใบหน้าซีดเผือด

                “แต่ลายเซ็นในนั้น เป็นของคุณนิทานนะคะ”

                “แต่คุณนิทานก็บอกแล้วไงครับ ว่าไม่ได้เซ็น”

รามิลกล่าวแย้ง ใบหน้าที่มักจะยิ้มแย้ม ในยามนี้กลับบึ้งตึงเต็มไปด้วยความไม่พอใจที่เหล่าคณะกรรมการต่างรุมปรักปรำท่านประธานตัวน้อย ถึงแม้รามิลและไอศูรย์จะจำได้ว่าในเอกสารคือลายเซ็นของนิทาน แต่เขาก็เชื่อว่านิทานไม่ได้โกหก นั่นทำให้คนตัวเล็กรู้สึกอุ่นใจขึ้นมาอย่างที่ไม่เข้าใจในตัวเอง

                “หรือว่าที่จริงแล้ว พวกนายสองคน ก็มีส่วนรู้เห็นในเรื่องนี้ด้วย ถึงได้ช่วยกันปกป้องขนาดนี้”

                หญิงวัยกลางคนหรี่ตามองเลขานุการทั้งสองเป็นเชิงสงสัย

                “ผมยืนยันได้ครับ ว่าท่านประธานไม่มีวันหักหลังบริษัทแน่นอน”ไอศูรย์กล่าวด้วยสีหน้าที่จริงจัง

                “ผมไม่ยอมให้ท่านประธานโดนใส่ร้ายทั้งๆที่ไม่ได้ทำอะไรผิด ตราบใดที่เรื่องนี้ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ พวกเราก็ไม่ยอมให้พวกคุณบอกให้ท่านประธานลาออกหรือดำเนินคดีทางกฎหมาย”รามิลเองก็ไม่ยอมเช่นกัน

                ราวกับว่ากำลังมีเกาะป้องกันที่แผ่รังสีปกป้องท่านประธานตัวน้อยเอาไว้ ทั้ง  รามิลและไอศูรย์ไม่ได้ต่างนกอินทรีย์ตัวใหญ่ที่กำลังกางปีกสยายปกป้องคนตัวเล็กไม่ให้คำพูดปรักปรำเหล่านั้นที่เปรียบเสมือนหอกแหลมและคมอาวุธมาทิ่มแทงให้เจ็บปวด

                ร่างเล็กเงยหน้าขึ้นมองเลขานุการทั้งสองที่ออกรับแทนเขา โดยไม่สนสายตาของเหล่าคณะกรรมการในที่ประชุม

                “ในเมื่อผมตกเป็นผู้ต้องสงสัย ดังนั้นในระหว่างนี้ ผมจะหยุดการทำงานเอาไว้ชั่วคราว แล้วให้คุณวสินช่วยรักษาการแทนผม ผมขอเวลาพวกคุณเพียงหนึ่งเดือนในการพิสูจน์ความจริง หวังว่าพวกคุณทุกคนจะให้ผมได้”

                เหล่าคณะกรรมการในที่ประชุมเริ่มปรึกษาคุยกัน แล้วก็ได้ข้อสรุป

                “ก็ได้ค่ะ พวกเราจะให้เวลาคุณนิทานแค่หนึ่งเดือนเท่านั้นเพื่อพิสูจน์ตัวเอง หากคุณไม่ได้ทำจริงๆ คุณต้องหาคนร้ายให้พบด้วย แต่ถ้าคุณทำผิดจริง ดิฉันก็หวังว่าคุณจะยอมรับความผิดของคุณนะคะ หวังว่าคุณจะรักษาสัญญานี้”

                นิทานยืดอก แล้วตอบทุกคนด้วยท่าทางที่ชัดเจน แม้ในใจจะหวาดกลัวมากแค่ไหนก็ตาม

                “ครับ ผมจะรักษาสัญญาอย่างแน่นอน”

               

 

 100%

แจ้งข่าวเรื่องพรีออเดอร์นิยายเรื่องนี้นะคะ

รายละเอียด จิ้มลิ้งเลยจ้า


http://www.tunwalai.com/chapter/695333/%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C-10816-10916?page=1




ออฟไลน์ aommama

  • เป็ดมึน คนเซอร์
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-5
เห้ยยยยยยยยยย ใครบังอาจมาเเกล้งนิทานของฉันนนนนนนนนน

ออฟไลน์ puchi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 762
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-5
ใครเป็นคนปลอมลายเซ็นหว่า  ใส่ร้ายกันชัดๆเลย

ออฟไลน์ angel_Z4

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
ตายล่ะ ใครทำอะไรอีกละเนี้ย o22 o22

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2

ออฟไลน์ Akikoneko17

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-2
16

ความจริง

 

 

                ว่ากันว่า เพียงแค่มีเงินและอำนาจก็สามารถเปลี่ยนสีขาวให้เป็นดำ กลับผิดให้เป็นถูกได้ ถึงแม้ว่าบารมีของบิดาเขาจะยิ่งใหญ่มากแค่ไหน แต่นิทานก็ไม่เคยต้องการจะให้สิ่งนั้นมาเป็นตัวช่วยในการแก้ปัญหาของเขา เขาไม่อยากให้ทุกคนในบ้านต้องมาเป็นกังวล แต่ถึงอย่างไร ปัญหาที่เกิดขึ้นที่บริษัทก็ไม่อาจจะเล็ดรอดไปจากสายตาของผู้เป็นบิดาไปได้

                ก๊อกๆๆ

                นิทานมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องทำงานของธานินทร์ซึ่งอยู่ในบ้าน เขายังไม่เข้าไปข้างใน รอจนกระทั่งได้ยินเสียงบิดาอนุญาต จึงได้เข้าไป

                “มาแล้วเหรอลูก”

                “ครับ คุณพ่อ”

                ข่าวเรื่องที่นิทานยักยอกเงินบริษัทนั้นรู้ถึงธานินทร์ แต่เขาก็ไม่ได้บอกเรื่องนี้กับภรรยาและลูกอีกทั้งสองคนของเขา

                “คุณพ่อครับ เรื่องนั้น”

                เมื่อทั้งสองนั่งลงที่โซฟาแล้ว นิทานก็อึดอัดใจเหลือเกินที่จะต้องพูดถึงเรื่องที่เขาไม่อยากจะพูดมันออกมา เพราะเขาเองไม่อยากนำปัญหามาทำให้คนในครอบครัวต้องกลุ้มใจไปด้วย

                “พ่อไม่คิดว่าลูกจะเป็นคนทำหรอกนะ”

                “ผมขอโทษครับ ที่ทำให้คุณพ่อผิดหวัง”

ใบหน้าน่ารักก้มต่ำลง เขารู้สึกผิดจากใจ ธานินทร์พ่นลมหายใจอย่างแผ่วเบา เขาไม่อยากโกรธเคืองลูกชาย ฝ่ามือใหญ่จับเข้าที่ไหล่เล็ก

                “อยากให้พ่อช่วยอะไรไหม”

                “ผมอยากลองต่อสู้ด้วยกำลังของตัวเองดูก่อนครับ ไม่อยากให้ทุกคนคิดว่าผมใช้อำนาจของคุณพ่อ”

                เพราะครอบครัวเขาถือหุ้นในบริษัทถึง 70 เปอร์เซ็นต์ นิทานไม่อยากให้ทุกคนคิดว่าเขาใช้อำนาจปิดบังความจริง ในครั้งนี้เขาต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าตัวเขาบริสุทธิ์

                “ถ้าหากมันเหนื่อยเกินไป ก็บอกพ่อได้นะลูก”

                “ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับคุณพ่อ”

                รอยยิ้มของเขาพอจะทำให้ธานินทร์สบายใจขึ้นมาได้บ้าง เขาเชื่อในตัวลูกชายว่าคงไม่ได้ยักยอกเงินในบริษัทอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้เจ้าตัวยังไม่มีหลักฐานไปยืนยัน จึงยังตกเป็นผู้ต้องหา แต่เขาก็เชื่อว่าสักวัน ความจริงจะต้องปรากฏออกมา

 

-------+++++-------

 

                แม้นิทานจะไม่ได้ทำงานดังที่ให้สัญญาเอาไว้ แต่เขาก็ยังเข้ามาที่บริษัท เพื่อมาสืบหาความจริง ชายหนุ่มพบเจอกับเลขานุการทั้งสอง เขารู้สึกไม่ค่อยดีนัก แต่ก็ไม่อยากจะให้ความสนใจ

                “ฉันไม่มีเวลามาเล่นสนุกกับพวกนายหรอกนะ พวกนายอาจจะสนุกที่เห็นฉันเจอเรื่องเลวร้าย แต่ฉันไม่สนุกด้วย”

                ถึงภายนอกนิทานจะดูเหมือนคนเข้มแข็ง แต่ลึกๆแล้วก็เหมือนจะเปราะบางแตกสลายได้ตลอดเวลา

                ในตอนนี้นิทานแทบไม่ได้คิดถึงเรื่องที่เขาโดนรามิลและไอศูรย์ข่มขู่ เพราะการที่ถูกกล่าวหาว่ายักยอกเงินในบริษัทนั้นทำให้เขาเสียชื่อเสียง รวมทั้งครอบครัวของเขาที่ต้องจะเสียชื่อเสียงตามไปด้วย ถ้าเขาไม่สามารถพิสูจน์ตัวเองว่าบริสุทธิ์ได้

                “พวกเราส่งเอกสารให้คนตรวจสอบลายเซ็นแล้วนะครับ”

                รามิลเอ่ยขึ้น เขาเดินเข้าไปหาคนตัวเล็กที่ยืนเครียดอยู่ นิทานหันไปมองทั้งคู่ที่จัดการเร็วจนเขาไม่ทันได้สั่ง

                “พวกนายไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ก็ได้”

                นิทานเมินหน้าหนี สภาพจิตใจเขาตอนนี้ไม่พร้อมที่จะโวยวาย เขาได้แต่ประชดประชันเพราะส่วนหนึ่งก็เป็นผลมาจากความรู้สึกต่อต้านที่ตัวเองเหมือนเป็นเพียงแค่ของเล่นสำหรับทั้งคู่ เขาเองก็คิดเอาไว้แล้วว่าตัวเองไม่ได้เซ็นลงไป ลายเซ็นนั้นน่าจะเป็นของปลอม  แม้มันจะเหมือนที่ลายเซ็นเขามากแค่ไหนก็ตามที

                “ระหว่างนี้ พวกผมจะสืบถึงเอกสารที่เป็นปัญหา ท่านประธานไม่ต้องกังวล”ไอศูรย์เอ่ย

                “ต้องการอะไร”

                นิทานก้มหน้าถามเสียงเรียบ เหมือนว่าไม่พอใจ เขาเงยหน้ามองทั้งคู่ที่ยืนอยู่

                “พวกนายกลัวว่าฉันจะต้องถูกไล่ออกใช่ไหม เลยกลัวว่าจะไม่มีงานทำ”

                “มองโลกในแง่ร้ายจังเลยนะครับเนี่ย”

                รามิลคลี่ยิ้ม แล้วขยับเข้ามาใกล้นิทาน เขาย่อกายคุกเข่าข้างเดียว จับมือเล็กมาจูบอย่างปลอบโยน แล้วเอ่ยต่อพร้อมกับรอยยิ้ม

                “พวกผมเป็นคนรักของท่านประธานนะครับ”

                “ทำไมต้องคิดว่าพวกเราทำเพื่อเรื่องแค่นั้น”

                ไอศูรย์เข้ามาใกล้ แล้วหย่อนกายนั่งลงข้างๆ จับใบหน้าน่ารักให้หันมามองเขา

                “ไม่ว่าใครก็จะทำร้ายท่านประธานไม่ได้ นอกจากพวกเรา”

                เกือบจะซึ้งกับทั้งคู่ไปแล้ว ถ้าไม่สะดุดกับประโยคที่รามิลกล่าวออกมา สุดท้ายยังไงเสียทั้งสองก็ไม่ต่างจากพวกโรคจิตอยู่ดี

                “พวกนายมันโรคจิต”

                “โรคจิต…คำพวกนี้มันก็นิยาม สำหรับบางคน คนบางจำพวกคือโรคจิต แต่สำหรับพวกเรา ก็คือปกติ สำหรับคนรักกัน”

                ไอศูรย์อธิบาย แต่นิทานไม่อยากจะฟัง แต่ถ้าคิดตามในอีกมุมมองหนึ่งก็อาจจะเป็นอย่างนั้น ทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะมีคนกำหนดขึ้นมา แล้วถ้าเขาเชื่อว่าทั้งสองคิดว่าเขาเป็นคนรักจริงๆ แล้วมันจะเป็นอย่างไรต่อไป

                “พวกเราสองคนเป็นเลขาของท่านประธาน และยังเป็นคนรัก ถ้าท่านประธานต้องการให้พวกเราช่วยอะไร ก็บอกมาได้เลยนะครับ”

                รอยยิ้มสวยของรามิลทำให้นิทานรู้สึกสบายใจขึ้นมา ไอศูรย์เองก็จับมือเล็กมากุมกระชับเอาไว้เหมือนเป็นการส่งกำลังใจให้ นิทานระบายยิ้มจางๆ

                “พอได้แล้ว ออกไปห่างๆเลย”

                “ถ้าพวกเราทำงานได้ดี ท่านประธานจะให้รางวัลได้ไหมครับ”

                รามิลขยับตัวเข้ามาคลอเคลีย นิทานขยับตัวหลบ แต่ก็กลายเป็นว่าไปเบียดชิดกับไอศูรย์แทน

                “พวกนายก็คิดจะทำดีหวังผล”

                คนตัวเล็กรีบเอ่ยออกไปเหมือนตำหนิ แต่กลับทำให้ทั้งคู่เข้ามาคลอเคลียมากขึ้น ปลายจมูกโด่งเฉียดที่แก้มนิ่ม

                “ก็ผลที่ได้รับมันน่าให้หวังนี่ครับ”

                ถึงแม้เขาจะเคยมีเซ็กกับทั้งสองมาแล้ว แต่ก็แค่เพียงครั้งเดียวเท่านั้น หลังจากวันที่มีเซ็กครั้งแรก ถึงแม้จะโดนลวนลามก็จริง แต่ก็ไม่ได้มีการสอดใส่เข้ามา

                “ถ้าปัญหาครั้งนี้ผ่านไปได้ด้วยดี ท่านประธานจะยอมไหมครับ”

                ไอศูรย์เป็นคนตั้งคำถาม ในขณะที่รามิลไม่ละสายตาจากใบหน้าหวาน

                “ยอมหรือไม่ยอม พวกนายก็บังคับฉันอยู่แล้ว”

                เหมือนประชดประชันใส่ รามิลอมยิ้มกับท่าทางน่ารักที่เหมือนเด็กกำลังงอนอย่างหนัก นิทานสะบัดหน้าหนีทั้งคู่

                ลำพังปัญหาเรื่องยักยอกเงินบริษัทก็มากพอแล้ว นี่เขาต้องมากังวลเรื่องของเจ้าคนโรคจิตแสนเจ้าเล่ห์ที่อยู่ข้างกายอีก

                “การบังคับเพื่อให้ได้มาครอบครองครั้งแรกเป็นเพียงการเริ่มต้น แต่ถ้าอยากให้เป็นของเราตลอดไป ก็ต้องเป็นการยินยอม”

                นิทานอึ้งไปกับความคิดของไอศูรย์ที่อีกฝ่ายยอมบอกสิ่งในใจออกมา นิทานรู้สึกหมั่นไส้ ผลักไสทั้งสองให้ออกห่างแล้วรีบยันกายลุกขึ้นด้วยแก้มที่ขึ้นสีเพราะสายตาที่ทอดมองมาเหมือนปรารถนาในตัวของเขาอย่างรุนแรง

 

-------+++++--------

 

                การตรวจสอบลายเซ็นบนเอกสาร ได้ผลออกมาว่า เป็นลายเซ็นปลอม ทำให้ นิทานพ้นข้อกล่าวหา แต่ถึงกระนั้น ก็ใช่ว่าจะพ้นความผิดทั้งหมด เพราะเขายังต้องหาตัวคนที่ทำความผิดเรื่องนี้มาให้ได้ เนื่องจากเจ้าตัวได้ให้สัญญากับคณะกรรมการบริษัทไปแล้ว

                “เอกสารฉบับนี้ ท่านประธานก็เคยอ่านแล้วใช่ไหมล่ะครับ”

                รามิลถามย้ำ ในขณะที่ทั้งสามกำลังนั่งคิดหาวิธีการเพื่อสืบหาคนร้ายที่แท้จริง นิทานพยักหน้าตอบรับ เขาเคยอ่านเอกสารฉบับนี้แล้ว แต่ทว่าไม่ได้เซ็น จึงได้ส่งเอกสารกลับไป แต่ก็ไม่รู้ว่าเอกสารนั้นผ่านมือใครบ้างก่อน จนได้รับลายเซนปลอมในการอนุมัติ

                “แล้วเราจะรู้ได้ยังไง ว่าใครเป็นคนปลอมลายเซ็นนี้ขึ้นมา”

รามิลหันไปถามไอศูรย์ ทั้งคู่ครุ่นคิด

“มีความจำเป็นที่เราจะต้องรู้ว่าเอกสารเดินทางไปที่ไหนบ้าง”

“มีความเป็นไปได้ไหมว่า เอกสารจะถูกขโมยไปก่อนที่จะไปถึงฝ่ายจัดซื้อ”

นิทานถามบ้าง เขาเริ่มคิดหนักว่าใครกันแน่ที่เป็นคนทำเรื่องพวกนี้ ความผิดที่ยักยอกเงินบริษัท เขาต้องจับตัวคนร้ายให้ได้

“ผมจะไปรวบรวมข้อมูลการเดินเรื่องเอกสาร เพราะก่อนหน้านี้ที่พวกเราจะมาเป็นเลขาให้ท่านประธาน เอกสารได้ส่งต่อไปหลายทอด”ไอศูรย์พูดขึ้น

“งั้นแสดงว่า พอพวกนายมาทำงานกับฉัน นายเอาเอกสารที่ฉันพิจารณาแล้วไปถึงฝ่ายต่างๆเองกับมือเลยใช่ไหม”

“ครับ”

เพราะมีคนคอยดูแลถึงสองคน ไอศูรย์จึงเป็นฝ่ายจัดการเรื่องการรับส่งเอกสารที่นิทานต้องอ่านและเซ็นทั้งหมด เขาไม่ได้ปล่อยให้เอกสารต้องถูกส่งผ่านหลายมือจนเกินไป ชายหนุ่มทั้งสองมักจะตรวจสอบเอกสารทั้งหมดก่อนเสมอ

“ท่านประธานได้สงสัยใครบ้างไหมครับ”

รามิลถาม แต่นิทานก็ส่ายหน้าไปมาอย่างช้าๆ เพราะเขาเองก็คิดไม่ออกว่าควรสงสัยใคร การทำงานเป็นประธานบริษัทไม่ได้ราบรื่นนัก นิทานรู้ดีว่าเขายังอ่อนประสบการณ์และที่สำคัญเขาเองก็ไม่ได้บริหารเก่งเทียบเท่าบิดา

“แต่ก็มีความเป็นไปได้ ว่าอาจจะเป็นคนจากฝ่ายจัดซื้อสินค้า”

“แบบนั้นมันไม่อันตรายไปหน่อยหรือไง”รามิลพูดบ้าง

“หรือว่าจะเป็นคนจากฝ่ายอื่น ที่ต้องการใส่ร้ายฉัน”

“แต่ก็เป็นไปได้ครับ ว่าอาจจะเกิดจากการร้อนเงิน เลยทำแบบนี้ เพราะมูลค่าค่าเสียหายก็หลายล้านบาท แต่ตอนนี้เรายังหาสาเหตุไม่ได้ เพราะเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเอกสารฉบับนี้ ถูกส่งผ่านไปมือใครบ้าง ก่อนจะถึงฝ่ายจัดซื้อสินค้า”ไอศูรย์หน้าเครียด

“แล้วถ้าดูกล้องวงจรปิด จะช่วยได้บ้างหรือเปล่า”

นิทานเสนอความเห็น แม้จะรู้สึกมืดแปดด้าน แต่ก็อยากจะหาทางออกให้ดีที่สุด รามิลและไอศูรย์มองหน้ากัน

“ลองดูก็ได้ครับ แต่ท่านประธานพอจะจำวันที่อ่านเอกสารได้ไหมครับ

ว่าเป็นวันไหน”
                “ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน เพราะมันนานมากแล้ว แต่ก็น่าจะใกล้ๆกับเวลาที่ปรากฏในเอกสาร”

“งั้นเอาเป็นว่าพวกเราจะไปหาคลิปจากกล้องวงจรปิด แล้วมาไล่ตรวจสอบนะครับ”

“อืม”

นิทานค่อนข้างที่จะเห็นด้วยว่าอาจจะหาคนที่เป็นคนเดินเอกสารเหล่านั้นได้ ทั้งสามได้นำคลิปจากกล้องวงจรปิดตั้งแต่หน้าห้องของนิทาน ในเวลาสองเดือนก่อนไล่ดู ใช้เวลาอยู่ร่วมสัปดาห์ กว่าจะไล่หาวันเจอ

“แบบนี้ก็ยากเอาเรื่องเลยนะ เพราะเอกสารที่เข้าออกจากห้องท่านประธานนั้นมีแทบทุกวัน”   

สุดท้ายชายหนุ่มผู้อารมณ์ดีก็มองวิดีโอจนตาแฉะ นิทานพยักหน้าเห็นด้วย ปิดเปลือกตาลงเล็กน้อยอย่างผ่อนคลายสายตา

“อย่ากังวลไปเลยครับ นักสืบที่ผมส่งไปจะต้องทำงานได้เรื่องเร็วๆนี้แน่ครับ”

ชายหนุ่มขยับกรอบแว่นตา นิทานลืมตามองไอศูรย์ ช่วงเวลาเพียงเดือนเดียว ไม่ได้ยาวนานมากนัก นิทานเหน็ดเหนื่อยกับการสืบหาข้อมูล

“พรุ่งนี้พวกเราจะเข้าไปคุยกับบริษัทที่ส่งวัสดุครับ”ไอศูรย์พูดต่อ

“ฉันไปด้วย”

                นิทานไม่อาจจะทนได้ เขาอยากเคลียร์เรื่องนี้ให้เร็วที่สุด ไอศูรย์และรามิลมองหน้ากัน

                “ที่จริงเรื่องนี้ ท่านประธานไม่จำเป็นต้องจัดการเอง ให้เป็นหน้าที่เลขาอย่างพวกผมก็พอแล้วครับ”
                “จะให้ฉันทำแบบนั้นได้ยังไง นี่มันเป็นปัญหาของฉันนะ”

                คนตัวเล็กไม่ยอมง่ายๆ รามิลระบายยิ้มอย่างอ่อนโยน แล้วก้มลงไปจูบแก้มนิ่ม จนนิทานหันขวับไปมองอย่างขุ่นเคือง

                “ฉวยโอกาส”

                “แค่ขอกำลังใจเท่านั้นเองนะครับ”

                ว่าแล้วก็ขยิบตาส่งให้  เขาได้ยินไอศูรย์หัวเราะในลำคอหึๆ นิทานจึงอดไม่ได้ที่จะปรายตามองเหมือนไม่พอใจ แต่ชายหนุ่มก็ไม่ได้แสดงท่าทางสะทกสะท้าน กลับยื่นหน้าเข้าไปหานิทาน

                “ของผมด้วยสิ”

                “จะบ้าหรือไง! พวกนายมันบ้า!”

                เมื่อไม่อาจจะต่อสู้ด้วยกำลังและความเจ้าเล่ห์ได้ นิทานก็ยันกายจะลุกหนีเหมือนทุกครั้ง แต่ครั้งนี้ไอศูรย์ไม่คิดจะยอม เขาจับข้อมือเล็กแล้วรั้งกายนิทานให้เซล้มลงมานั่งทับบนตักแกร่ง  แขนยาวแข็งแรงโอบกอดรอบเอวเล็ก

                “ตัวอุ่นดีจังเลยนะครับ”

                “ปะ ปล่อยนะ”

                สัมผัสอ่อนโยนทำให้นิทานใจเต้นแรง รามิลเข้ามาหาจากข้างหน้า แล้วยกมือลูบไล้กลุ่มผมนิ่ม

                “พวกผมอยากจะกินท่านประธานจะแย่แล้วนะครับ”

                ทันทีที่ได้ฟังรามิลพูด ดวงตาของเขาก็เบิกกว้าง เขาดิ้นขัดขืนไอศูรย์ที่เริ่มมืออยู่ไม่เป็นสุข จะอ้าปากร้องห้าม แต่ก็โดนรามิลก้มลงมาจูบปิดปาก

                “อื้อ”

                เสียงครางหวานดังในลำคอ ปากสวยโดนรุกล้ำ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ร่างกายเขาโดนสัมผัส บางครั้งก็ปลอบโยน บางครั้งก็รุกเร้าจนแทบหายใจไม่ทัน ครั้งนี้เองก็ไม่ต่างกัน ช่างร้อนรุ่มจนนิทานแทบจะทนไม่ไหว เขาหลับตาลง ยกมือไปจับต้นแขนทั้งสองของรามิล

                …ลืมไปเสียสนิท ว่าที่ยอมไปเพราะอะไร…

                สัมผัสที่ทำให้รู้สึกดี ทำให้นิทานเผลอปล่อยให้ทั้งคู่ได้สัมผัสจนพอใจ เขาเบี่ยงตัวหลบ เพราะถ้ามากกว่านี้ สติของเขาคงต้องกระเจิง

                “ถ้าเรื่องราวคลี่คลายเมื่อไหร่ ต้องให้รางวัลนะครับ”

                ไอศูรย์ยังคงย้ำเตือน แม้การทำงานช่วยเขา จะบอกว่าในฐานะเลขานุการ และในฐานะคนรัก แต่ก็ยังแฝงไปด้วยความเอาเปรียบเขาอยู่ดี

                “พวกนายมันนิสัยไม่ดี”

                “ถ้านิสัยไม่ดี แล้วได้อยู่กับท่านประธานตลอดไป ผมก็ยินดี”

                นิทานไม่อยากจะเผลอหลงไปกับคำพูดของรามิล เพราะถึงคำพูดชวนใจเต้น แต่สายตาที่ส่งมาก็เต็มไปด้วยความกระหายจนเขาขนลุกซู่ แต่น่าแปลกที่เขาไม่ได้รู้สึกรังเกียจหรือขยะแขยง

                …นี่คงเป็นสิ่งที่นิทานรู้สึกว่าน่ากลัวกว่าสิ่งใดๆ…

 

-------+++++-------

 

                การสืบหาความจริงเริ่มได้เบาะแสมากขึ้น บริษัทที่ได้ทำการส่งวัสดุให้กับทางบริษัทที่นิทานบริหารงานอยู่มีความสัมพันธ์ที่ติดต่อกับใครคนหนึ่ง  ทั้งไอศูรย์และรามิลเหมือนเป็นนักสืบชั้นเยี่ยม จนนิทานคิดไม่ถึง

                “คลิปจากกล้องวงจรปิด พวกเราก็ได้คนที่น่าสงสัยอยู่สามคนที่เข้าออกห้องเก็บเอกสารก่อนส่งไปที่ส่วนต่างๆอยู่ตลอด”

                ไอศูรย์เลื่อนเอกสารที่มีรายชื่อ และใบหน้าของบุคคลที่มีการเคลื่อนไหวที่น่าสงสัย นิทานไล่สายตามองดูรูปแต่ละคนแล้วเงยหน้ามองอีกฝ่าย

                “ผมคิดว่าเรื่องนี้ต้องมีเบื้องหลังอย่างแน่นอนครับ คนที่ทำเรื่องนี้ ไม่ใช่แค่พนักงานธรรมดา แต่ดูเหมือนว่าต้องการใส่ร้ายท่านประธานและต้องการให้ท่านประธานออกจากตำแหน่ง”

                รามิลวิเคราะห์จากข้อมูลทั้งหมดที่ได้รับมา ตอนนี้เขาและไอศูรย์เริ่มมีความมั่นใจขึ้นมาบ้างแล้ว เหลือเพียงแค่อีกนิดเดียว พวกเขาก็จะสามารถระบุตัวคนร้ายได้แล้ว

                “เหลือเวลาอีกแค่เจ็ดวัน พวกเราจะสืบเรื่องนี้ทันหรือเปล่า”นิทานกังวล

                “แล้วคุณไว้ใจพวกผมไหมล่ะครับ”

                ไอศูรย์สบตากับนิทาน แม้ไม่อยากจะเชื่อ แต่ความสามารถในการทำงานของเลขานุการทั้งสองก็ไม่ได้ทำให้นิทานผิดหวังเลยจริงๆ

                เพราะสุดท้ายแล้ว ในวันที่เข้าประชุมอีกครั้ง นิทานได้หลักฐานทั้งหมดที่สามารถหาตัวคนร้ายได้ ความดีความชอบนี้คงไม่อาจจะยกใครได้นอกเสียจากไอศูรย์และรามิล ที่ช่วยเขาสืบหาจนพบกับคนร้ายที่แท้จริงที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมด

                ความจริงปรากฏ เมื่อคนที่วางแผนกลั่นแกล้งเขาก็คือคณะกรรมอาวุโสท่านหนึ่ง ที่เคยมีแนวโน้มว่าจะได้รับเลือกเป็นประธานบริษัท แต่ทว่าเพราะนิทานได้รับเลือกเป็นประธานบริษัทแทนตัวเอง จึงทำให้เกิดความคับแค้นใจและพยายามใส่ร้ายเพื่อให้นิทานได้หลุดออกมาจากตำแหน่ง

                ปัญหาทุกอย่างได้คลี่คลาย นิทานหลุดพ้นจากข้อครหา และกลับมาทำงานได้เหมือนดังปกติ คนตัวเล็กกลับมานั่งพักในห้องทำงาน เมื่อสิ้นสุดการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง

                “สบายใจขึ้นแล้วใช่ไหมครับ”

                รามิลยื่นหน้ามาถามคนตัวเล็ก นิทานสะดุ้งเฮือกลืมตาขึ้นมาอย่างตกใจ เมื่อเห็นใบหน้าของชายหนุ่ม

                “ทะ ทำอะไรของนาย”

                “แค่ดีใจน่ะครับ ที่ดูเหมือนท่านประธานจะเหนื่อยจนอยากหลับให้สบาย ให้ผมอุ้มไปที่โซฟาไหมครับ”ว่าพลางยิ้มกริ่ม

                “อยู่เฉยๆน่าจะดีกว่านะ”

                ไอศูรย์เปิดประตูเข้ามาในห้อง เขามาพร้อมน้ำหวานแก้วใหญ่ แล้วเข้ามาหาคนตัวเล็ก

                “น้ำครับ ดื่มสักนิด น่าจะทำให้สดชื่นขึ้น”

                “ดื่มน้ำแล้ว เดี๋ยวผมอุ้มไปนอนพักดีกว่านะครับ”

                รามิลยังไม่หยุดเซ้าซี้ด้วยน้ำเสียงที่น่าฟัง นิทานหลบสายตาทั้งคู่ รับน้ำหวานมายกจิบ

                “เอ่อ ฉันอยากพัก พวกนายออกไปได้แล้ว”

                เกือบตลอดหนึ่งเดือน นิทานนอนหลับไม่ค่อยสนิท เพราะกังวลกับเรื่องที่โดนกล่าวหาว่ายักยอกเงินบริษัท พอทุกอย่างคลี่คลาย เขาก็แทบจะหมดแรง ไม่อยากจะคิดอะไรอีก

                นิทานมองชายหนุ่มทั้งสองที่เข้ามาจูบหน้าผากเขา ก่อนจะเดินออกจากห้อง มีเพียงประโยคแผ่วเบาที่ดังขึ้นแม้เปลือกตาคนพูดจะปิดลง แต่ก็ทำให้เลขานุการทั้งคู่คลี่ยิ้มกับถ้อยคำที่ได้ยิน

                “ขอบใจนะ”



100%

แจ้งข่าวเปิดพรีจ้า



เปิดพรีออเดอร์ จิ้มลิ้ง

รายละเอียดพรี
เด็กดี http://goo.gl/ElehDg
ธัญ http://goo.gl/CMbGlR





 

 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-08-2016 22:25:18 โดย Akikoneko17 »

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
ปัญหาที่เกิดขึ้นก็เป็นอีก1เรื่องที่บอกได้ว่าไอศูรย์กะรามิลสามารถดูแลปกป้องนิทานได้ ทำงานดีและเร็ว เว้นแค่หื่น+จิตเบาๆเท่านั้นแหละ 55555555 นิทานเองก็เริ่มใจอ่อนนิดนึงแล้วซิ  :katai3:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด