[เปิดจอง,ทำมือ] Just ' U แค่คุณ ❥ [CH.42 UP!] #บักธีร์กับพี่หมีควาย [23.10.16]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เปิดจอง,ทำมือ] Just ' U แค่คุณ ❥ [CH.42 UP!] #บักธีร์กับพี่หมีควาย [23.10.16]  (อ่าน 43253 ครั้ง)

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17

ออฟไลน์ Kiitos

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 45
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
Re: Just ' U แค่คุณ ❥ [CH.16]
«ตอบ #61 เมื่อ30-07-2016 22:54:08 »

Chapter16
| Because of sauce 

          แพล่บ จ๊วบ

          เสียงลิ้นเล็กไล้เลียสลับกับดูดไปตามไอติมเเท่งรสโค้กอย่างเอร็ดอร่อย ไอติมหมุนนี่มันสุดๆจริงๆนะครับทุกคน ผมไม่รู้หรอกว่าเขาเรียกกันว่ายังไงเเต่มันคือน้ำเเข็งรสน้ำอัดลมเเท่งทรงกระบอกยาวๆที่มาจับตัวกันรอบไม้ลูกชิ้น ภาพที่มีคุณลุงยืนหมุนๆไอถาดกลมๆส่งเสียงครืดๆนั้นคุ้นตาเป็นอย่างดี

          ในเวลาร้อนๆเเบบนี้ ไอนี่เเหละเยี่ยมสุด!

          "หือ? อยากกินหรอ อ่ะๆ นี่ซื้อมาเผื่อ"ในระหว่างที่ยังฟินไปกับไอติมสุดโปรดก็หันมาสบตากับไอฝรั่งที่ยืนปาดเหงื่อมองผมตาไม่กระพริบเเถมยังกลืนลำลายลงคอเอือกๆเสียจนผมต้องยื่นไอติมอีกสองสามเเท่งในถุงให้ เเบบว่าจริงๆก็ซื้อมาเผื่อมันอยู่เเล้วล่ะเเต่ระหว่างเดินมากินเพลินไปหน่อย

          "Ah..thanks"มันรับไปถือไว้ก่อนจะหยิบเเท่งนึงไปจากถุงเเล้วกินไปเงียบๆเเอบเห็นมันเหลือบมามองผมอยู่หลายที

          ไอฝรั่งเอาไปกัดสองสามครั้งก็หมดเเท่งเหมือนมันติดใจก็หยิบอีกเเท่งไปกินในขณะที่ผมยังอินไปกับเเท่งเเรก บอกเลยการกินเเบบผมเนี่ยเป็นการกินที่ถูกต้องเเละคุ้มที่สุดละ อมๆดูดๆเนี่ย เค็มๆหวานๆเลิศสุด

          Rrrrr

          "อ่ะ แปปนะ"ผมฝากถุงไอติมไปให้มันถือ เเล้วล้วงหาโทรศัพท์ตัวเองก่อนจะกดรับ

          "ฮัลโหล ว่าไงไอเเต็ก"

          [มึงถึงไหนล่ะอ่ะ]

          "ห้ะ? ถึงไหนอะไรของมึง"ผมถามกลับมันด้วยความมึงงง

          [ก็วันนี้เรามีนัดดูหนังกันไง นี่มึงลืมหรอ]

          เดี๋ยวนะ..วันนี้วันเสาร์ใช่ไหม ฉิบหาย!

          'เสาร์นี้ว่างป่ะ ดูหนังกัน' ประโยคนี้ของเพื่อนซี้ลอยเข้ามาในหัวทันทีเเถมวันต่อมามันยังส่งไลน์มาย้ำกับผมเรื่องรอบหนังด้วย เเล้วผมดันนึกครึ้มชวนไอหมีควายมาเที่ยวพอดีโดยลืมนัดไปซะสนิทเลย!

          "เฮ้ย! กูขอโทษ! กูลืมไปเลยอ่ะ"

          [ไม่เป็นไรๆ เเล้วนี้มึงอยู่ไหนเนี่ย เสียงอย่างนี้ไม่น่าเพิ่งตื่นเเน่ๆ]

          "อยู่ตลาดวังหลังว่ะ"ผมตอบมันด้วยนำเสียงอ่อยๆ ความรู้สึกนี่เอ่อล้นเลยครับ ยังไงผมก็ผิดเต็มๆจังๆเลยอ่ะ เเล้วนี่ก็จะถึงเวลานัดอยู่เเล้วด้วยไอเเต็กมันต้องถึงเเล้วเเน่ๆ

          [ไปโผล่นั้นได้ไงวะ]

          "เรื่องมันยาวว่ะ กูขอโทษจริงๆนะมึง ไว้วันหลงจะชดให้นะ ขอโทษนะเว้ย"ผมเอ่ยขอโทษมันอีกครั้งด้วยความรู้สึกผิด

          [เห้ย ไม่เป็นไรๆ กูจะโทรมาบอกมึงเนี่ยว่ากูติดธุระด่วนคงไปไม่ได้ พอดีเลยตอนเเรกกูคิดว่ามึงถึงเเล้ว งั้นเเค่นี้ก่อนนะมึงกูไม่กวนมึงละ เที่ยวให้สนุกละ]กลองเเต็กว่าด้วยน้ำเสียงไม่ถือสา พอได้ยินอย่างนั้นผมก็โล่งใจได้ไปหน่อยว่าอย่างน้อยมันก็ไม่ไปคอยเก้อ

          "โอเคๆ งั้นเเค่นี้นะ"ผมตอบรับมันก่อนจะวางสายหันกลับมาสนใจคนข้างกาย...

          "เฮ้ย! ไอติมกู!"ผมร้องเสียงหลงเมื่อถุงพลาสติกที่ใช้ใส่ไอติมอีกสามสี่เเท่งเหลือเพียงไม้เปล่า ส่วนตัวการก็กำลังจะกัดไอติมคำสุดท้ายที่อยู่ในมือ มันชะงักเมื่อเห็นสายตาผม ก่อนจะก้มลงมองถุงที่มีไม้เปล่าเสียบอยู่เเล้วยิ้มเเห้งๆเหมือนกำลังจะบอกผมว่า'เพลินไปนิด'

          "กินๆไปเถอะ"ผมโบกไม้โบกมือเหมือนไม่ใส่ใจ ทั้งๆที่มองตาละห้อย จริงๆก็เดินไปซื้อใหม่ได้อีกอะเเหละเเต่คือเราเดินเลยมาเยอะมากเเล้วไง ถ้าวนกลับไปซื้ออีกคงไม่จบทริปภายในวันนี้เเน่ๆ

          เเต่ยังไม่ทันที่จะได้ทำท่าเสียดายไปมากกว่านี้ไอติมที่เหลือเพียงครึ่งเเท่งก็ถูกยื่นมาตรงหน้าผม พอเงยหน้าไปมองไอฝรั่งที่ยิ้มบางๆมาให้อย่างปกติผมก็ยิ้มกว้าง โผไปงับมันไว้โดยที่มันเป็นคนถือเนี่ยเเหละครับ

          "Hey! Becareful! (เฮ้! เดี๋ยวมันก็จิ้มคอนายหรอก)"มันพูดเชิงเอ็ดผม ซึ่งผมไม่สะทกสะท้านเคี้ยวตุ้ยๆทั้งที่ก่อนหน้านี้ยังบอกอยู่เลยว่าการกินเเบบนี้มันไม่คุ้ม

          ตลาดวังหลัง..ผมก็เพิ่งมีโอกาศมาครั้งเเรกเนี่ยเเหละครับ ก็เหมือนตลาดทั่วๆไปนะมีร้าน  อาหารมีร้านขายของเพียบเลย เเต่ของผมไม่ได้ซื้อหรอกซื้อเเต่ของกินเนี่ย

          ผมขอไม่ลงรายละเอียดนะว่าไปซื้ออะไรมาบ้างเพราะมันเยอะมากจริงๆ เดินไปเจออะไรก็ซื้อหมดอ่ะ มันน่ากินไปหมดเลย ไอฝรั่งมองผมที่ข้าวของพะรุงพะรังเหมือนเหลือเชื่อว่าผมจะกินของพวกนี้หมดได้ไง

          ผมเดินอมยิ้มเคี้ยวตุ้ยๆอย่างมีความสุขเเม้ว่าอากาศจะร้อนบรรลัยจนอยากจะพกเเอร์ส่วนตัวก็ตามที

          ดูเหมือนมันก็แฮปปี้ไม่ต่างจากผมนัก ตอนเเรกก็กลัวว่าจะเบื่อเพราะมีเเต่วัดๆๆทั้งวัน ซึ่งเข้าวัดเนี้ยได้ไหว้จริงจังก็เเค่ที่เเรก ส่วนสถานีต่อๆไปนะหรอเรียกว่าเป็นทริปถ่ายรูปของไอหมีควายเเละการตะเวนหาของกินของผมจะดีกว่า 

          หนึ่งวันที่ก็ผ่านไปไวเหลือเกิน ตอนนี้เรากำลังมุ่งหน้าลงเรือข้ามฝากไปอีกฝั่งเพื่อไปวัดอรุณ จริงๆเเล้วผมก็ชักเอียนกับวัดเเล้วเหมือนกันเเต่ก็เเบบนะ ไหนๆก็มาเเล้วเอาให้ครบทีเดียวไปเลยดีกว่า เเถมอยากจะลองนั่งเรือด้วยซักครั้ง
 
          ใช้เวลาไม่นานผมก็พาร่างตัวเองเเละไอฝรั่งเข้ามาในเรืองจนได้ นึกภาพออกไหมครับเรือข้ามหากที่ข้ามทีหลายๆคน ตอนเเรกก็คิดว่าจะมีสปีดโบทเสียอีก เเอบผิดหวังเล็กๆเเฮะ

          "โอ๊ะ"เเละด้วยความอารมณ์ดีมัวเเต่สุนทรีย์ดื่มดำกับบรรยากาศเเม่น้ำสีเทาขุ่น เดินอ้อยไม่ยอมนั่งเสียทีด้วยความโคลงเคลงของเรือก็ยากมากพอเเล้วที่จะทรงตัวไหนจะของในมืออีก จริงๆเเล้วอีกไม่กี่ก้าวผมก็กำลังจะได้ทรุดนั่งบนที่นั่งที่เหลืออยู่สองที่เป๊ะๆอยู่เเล้ว ถ้าไม่ติดว่ามีคนเดินเดินกระเเทกไหล่ผมจนหน้าเกือบคะมำ จากนั้นก็กระเเทกตูดลงบนที่นั่งทำให้เหลือเพียงที่เดียว

          เเละเเถมพอนั่งได้ปุ๊ป ป้าเเกก็เอาหลุยส์โรงเกลือของตัวเองมาวางไว้ตรงที่ข้างๆทันที

          มนุษย์ป้า...กูเจอเข้าให้เเล้ว..

          "เอ่อ..ป้าครับคืออย่างน้อยก็เอากระเป๋าออกได้ไหมครับ"ผมยังคงเป็นคนดี จะเเซงจะเเทรกก็ทำไปเถอะเเต่อย่างนี้มันก็น่าเกลียดไปหน่อย เเถมตอนนี้เรือจะออกเเล้วด้วย

          "อะไร เห็นใจคนเเก่ด้วยสิ ตัวเองก็ยังหนุ่มยังเเน่นยืนไปห้านาทีไม่ตายหรอก"มนุษย์ป้าเหลือบตามองผมนิดก่อนจะก้มไปจิ้มโทรศัพท์ต่อ

          เอาเลยครับ เอาที่ป้าสบายใจ

          ผมเกลียดนิสัยยอมคนของตัวเองก็วันนี้เเหละ เห็นเเก่ป้าที่อุส่าห์หน้าด้านถึงขนาดนี้เเล้ว อีกอย่างกเเค่เเปปเดียวก็คงไม่เป็นอะไร

          "Hey, Can you please take your bag out?(นี่ คุณช่วยเอากระเป๋าออกหน่อยได้ไหม)"ไอฝรั่งพูดขึ้นจากนั้นก็ดันไหล่ผมเบาๆเพื่อจะเเทรกตัวมายืนอยู่หน้าผม คิ้วเฉียงๆของมันขมวดหากันเเม้ว่าปากจะมีรอยยิ้มจางๆ

          เเต่ใบหน้าหล่อๆกับรอยยิ้มกระชากใจสาวมันทำอะไรไม่ได้กับสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์ป้าว่ะ

          "อะไรอีก อย่าคิดว่าเป็นชาวต่างชาติเเล้วจะทำอะไรก็ได้นะ"

          ผมว่าป้าเเกหลงประเด็นเเล้วนะ ผมถอนหายใจหนักๆคนบนเรือก็หันมองเเล้วยิ้มเเหยให้ส่งสายตาเห็นใจปนปลงๆให้ผม ผมก็ยิ้มเเห้งๆตอบนั่นเเหละ

          ฟรึ่บ

          "นี่!"

          ผมเบิกตากว้างเมื่อไม่คิดว่าไอฝรั่งจะกล้าทำ มันหยิบหลุยส์โรงเกลือบนที่นั่งนั่นเเล้วถือวิสาสะวางไว้บนตักป้าให้เเกหันมาเเหวใส่ เเต่หันมาอีกทีมันก็ทรุดตัวนั่งไปเเล้ว

          "Corgi come here.(คอร์กี้มานี้สิ)"ผมยังงงๆเลิกคิ้วเล็กน้อย เเต่ก็ยอมปล่อยมือจากขอบเรือที่เมื่อกี้ใช้จับไวเพื่อพยุงไม่ให้ตัวเองล้ม เเล้วเดินไปหา

          หมับ

          "เฮ้ย!"ผมร้องเสียงหลงเมื่อมันรวบเข้าที่เอวผมก่อนจะกระชากให้ไปนั่งอยู่บนตักมัน

          "ปล่อยนะเว้ย! อายเขา!"ผมดิ้นได้เเบบไม่เต็มที่เเถมพูดได้อย่างไม่เต็มเสียงเพราะเกรงใจคนรอบข้าง เเค่นี้ก็เป็นจุดเด่นมากพอเเล้ว

          "You have a lot of stuff,It's better to sit.(นั่งอย่างนี้ดีกว่า ของนายเต็มไปหมด)"มันพ่นถาษาอังกฤษใส่ เเถมยังพูดเเบบกระซิบเบาๆตรงซอกคอผมอีก

     สติสตังกูยังไม่ครบ สมองกูยังไม่พร้อมทรานสเลทภาษาอังกฤษมึงตอนนี้!!!!!

          ตอนนี้ผมยอมรับเเบบอ้อมๆเลยว่าหัวใจผมเต้นเเรงกับมันบ่อยจริงๆเเบบที่ไอเเต็กว่า ยิ่งใกล้ยิ่งอันตราย ตอนเซียมซีนี่ยังพอรับไหว คือตอนเเรกมันก็เขินๆเเต่ตอนหลังคือขำมากกว่าว่ามันยอมชีวิตฉิบหายบรรลัยขนาดนั้นเพียงเพราะเรื่องผม เอ้ย! เรื่องคู่! อ่ะนะ!

          เเต่สถานการณ์ตอนนี้คือไม่ใช่ เเล้วทำไมมันต้องเอาหน้าหนวดๆมาฝังลงซอกคอผมด้วย มันมีอะไรหน้าดมหนักหนา ก็พอเข้าใจว่าพอมานั่งตักอยู่อย่างนี้ตัวผมที่ปกติเตี้ยกว่ามันก็สูงขึ้นไปบ้างเเต่ก็ไม่ถึงขนาดที่เลยหัวมันไป เพราะฉะนั้นการที่มันเอาหน้าซุกคอผมนี่มันจงใจโน้มหัวลงมาชัดๆ

          "อะ..เอ่อ..มึง ยู ปล่อยกูเถอะ"

          "Nope(ไม่)"

          เเล้วนี่มึงฟังไทยออกด้วยหรอ!!

          "พลีสสส กูอายเขา ตัวกูก็เท่าควายเเล้วนะไม่ใช่อนุบาลสาม"ผมพูดไปก็พยายามเเกมือมันออกเเต่ก็ยากเหลือเกินเพราะมือผมเต็มไปด้ายถุงขนม เเถมมือมันอย่างกับติดกาวตาช้างยิ่งดิ้นยิ่งรัดเเน่นจนตัวผมจะหักคามือกับพลังหมีควายของมันอยู่เเล้ว!

          เเต่มันเเค่ยิ้มครับ เเถมยังยิ้มบางๆเหมือนคุณหมอผู้ใจดีเเต่พักหลังนี้ผมชักมองเห็นว่ามันเป็นรอยยิ้มเเห่งอันตรายที่ไม่น่าไว้ใจเลยซักนิด เห็นทีไรมีได้โดนมันลวนลามตลอด

          "เหอะ! ไปออดอ้อนกันไกลๆได้ไหม สงสารคนอื่นบ้าง อุจาดลูกตา! จะอ้วก!"มนุษย์ป้าข้างๆขัดขึ้นมาก่อน ผมขมวดคิ้วทันทีตอนเเรกก็ว่าจะดิ้นจนกว่าจะหลุดจากมันให้ได้นะ เเต่เจออีป้านี้ละเปลี่ยนใจดีกว่า

          "ฮันนี่จ๋าาา~~"ผมวางถุงขนมทั้งหลายไว้ที่เท้าเเล้วหนับไว้ เอื้อมมือไปคล้องคอไอฝรั่งนั่นเเล้วเเสร้งว่าเสียงหวานหยดย้อยชนิดที่เก้งกวางบ่างชะนีมาได้ยินคงคิดว่าผมเป็นพวกเดียวกันเเน่นอน เเถมด้วยการเอาซบไปกับอกเเข็งๆถูไปมาเเต่ตานี้มองหน้าป้าเเกด้วยความเปี่ยมสุข

          นาทีนี้ใครจะมองว่าไอธีร์เป็นตุ๊ดเเรดออดอ้อนผู้ชายท่ามกลางฝูงชนก็ไม่เเคร์เเล้ว เเค่ตอนนี้เห็นใบหน้าบูดเบี้ยวของมนุษย์ป้าที่เบะปากทั้งตาก็จิกซะเหมิอนผมไปฆ่าผัวป้าเเกก็ไม่ปาน

          เห็นผมบื้อๆซื่อๆเเบบนี้เเต่ก็สู้คนนะครับ

          "ทุเรศ!"เเถมหนึ่งคำเต็มหน้าพร้อมน้ำลายอีกฟอดใหญ่ เเต่ผมก็ยังลอยหน้าลอยตาเงยหน้าไปมองไอฝรั่งที่ตัวเเข็งทื่อไปเเล้ว ขยิบตาให้มันหน่อยให้มันเล่นเนียนๆไปกับผมก่อนอย่าเพิ่งพิศวาสกันจนถีบผมตกเรือไป

          "You are...(นายนี่มัน)"มันที่เหมือนวิญญาณกลับเข้าร่างอีกครั้งเหมือนจะพูดอะไรเเต่ก็ไม่พูดจนสุดท้ายก็ถอนหายใจออกไปให้ผมได้หันไปเเจกยิ้มให้กับมนุษย์ป้าอีกครั้งเพื่อความสะใจ

          "พวกวิปริต น่าขยะเเขยง พ่อเเม่ไม่รักหรือยังไง"

          "ผมว่าป้ามากกว่านะครับ สามีไม่รักหรือยังไง?"ผมตอบโต้บ้างเมื่ออีกคนลามปามไปถึงบุพการี เอาจริงๆเเล้วถ้าเวลาอารมณ์ขึ้นมากๆผมก็ถือว่าเป็นคนปากจัดอยู่คนหนึ่ง..

          "นี่เเก!"

          "เอ..หรือยังไม่มีกันครับ มีปัญญาหาได้เเบบผมก่อนเเล้วค่อยมาพูดนะ"ผมว่าป้าแกก็โรคจิตนะ ไม่รู้จักกันมาก่อนจู่ๆก็มาหาเรื่องกันเเบบนี้ถ้าผัวไม่รักก็ขาดความอบอุ่นจากครอบครัวเเล้ว เป็นใคร ใครก็ต้องเดือดอยู่เเล้ว

          "ไม่อยากได้หรอกคนจิตไม่ปกติอย่างพวกแก!"

          "ก็อย่ามายุ่งกับพวกผมสิครับ ถ้าอย่างป้าเรียกจิตปกติผมขอไม่ปกติอยู่เเบบนี้ดีกว่า"ผมตอบง่ายๆ แอบได้ยินเสียงหัวเราะจากคนรอบข้างเหมือนถูกใจกับคำตอบผม ทำท่าจะลงจากตักไอฝรั่งกะว่านี่เป็นดอกสุดท้ายเเล้ว จะได้ไปสงบอารมณ์ซักครู่ไม่งั้นที่เเฮปปี้มาทั้งวันจะเสียหมดเพราะมนุษย์ป้าคนเดียว...ดวงซวยสุดๆไปเลย

          "ปล่อยเถอะยู"

          "What is she say?(เมื่อกี้เธอพูดว่าอะไร)"นอกจากยังไม่ยอมปล่อยมันยังเฉไฉบุ้ยหน้าไปทางอีป้ามหาภัยที่นั่งกัดฟังกรอดกำโทรศัพท์ในมือเเน่น ผมถอนหายใจส่ายหน้าเพื่อปฏิเสธว่าไม่มีอะไร คนพวกนี้เขาน่าสงสารจะตายถึงขนาดต้องมาเรียกร้องความสนใจจากคนอื่นเเบบนี้

          "Don't worry เลย เเล้วก็ปล่อยได้เเล้ว"

          "Is she rude to you?(เธอหยาบคายกับนายรึเปล่า?)"

          "Nothing.(ไม่มีอะไร)"ผมตอบปัดเเละเผลอหลบตามัน เผลอไผลลืมไปว่าตัวเองเป็นคนที่โกหกได้โคตรไม่เนียนที่สุด

          "อ่ะ ถึงเเล้ว"พอดีกับที่เรือมาจอดเทียบท่าพอดี ผมรีบลุกขึ้นในขณะที่มันเหมือนกำลังจมอยู่ในความคิดเนี่ยเเหละ ลุกขึ้นหยิบของเเล้วฉีกยิ้มกว้าง ไม่อยากให้มันอารมณ์บ่จอยไปกับผมด้วย อุส่าห์พามาเที่ยวเเท้ๆเลย

          มันก็เดินตามมาง่ายๆ ส่วนผมนั้น..อารมณ์เปลี่ยนไวจนยังกลัวตัวเองเลยครับ เเค่ก้าวลงมาเจอรถเข็นของกินก็พุ่งเข้าใส่เสียจนได้ยินเสียงบ่นเเว่วๆของคนที่เดินตามมาประมาณว่ายังจะกินอีก มันเดินมาประชิดตัวก่อนจะเนียนๆหยิบถุงข้าวของในมือของผมไปถือไว้ ตอนนั้นผมก็สาละวนอยู่กับการหาตังมาจ่ายค่าลูกชิ้น พอได้มาก็กินอย่างเดียวลืมไปเลยว่าเคยถือของ

          "Corgi, your mouth.(คอร์กี้ ปากนาย)"

          "หือ?"

          "Sauce (ซอส)"

          "ห้ะ?"ผมเอ่ยถามไปอย่างงงๆ ปากๆ ซอสๆอะไรของมัน มันขมวดคิ้วเล็กน้อย มองมือตัวเองทั้งสองข้างที่เต็มไปด้วยข้างของก่อนจะ...

          "Sorry..(ขอโทษนะ)"

          ...!!

          มันโน้มตัวลงมา...ตวัดลิ้นเลียตรงเเก้มผมเหนือปากไปนิด จนได้เเต่ตัวเเข็งทื่อเเละ..ขนลุกซู่ไปทั้งตัว





------------------------------------


คัมเเบคคคคคคคคคคคคคคคคคคค่ะ!!!

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
พลีสสสสสสสส อย่าทิ้งคนอ่านไปนานๆเลยนะคะ ใจคอไม่ดี~

ปอลอ วิธีเช็ดซอสที่เลอะอยู่นี่ ออสตินทำถูกวิธีแล้วนะค้าาาาาาาา  :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
อ้ากๆๆ ฟินไปอีก.

ว่าแต่เจอมนุษย์บ้านี่น่ารำคาญเนาะ,,,

ออฟไลน์ pe-ar

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
โอ้ยยยย แซ่บ

ออฟไลน์ Kiitos

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 45
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

Chapter 17
| That's that

          ปึก!

          หมับ!

          กึก!

          เสียงสามสิ่งที่ตามมาติดๆ เริ่มจากการที่คนไร้สติเดินเหม่อๆมึนๆงงๆอยู่ท่ามกลางผู้คนได้ถูกชนจนหงายหลังตึง เเต่โชคดีหรือร้ายก็ไม่รู้ที่มีคนตัวโตเดินตามมาไม่ห่างมารับไว้ได้ทันท่วงที เเละปฏิกริยาที่ได้ทันทีเมื่อตัวสัมผัสกันคือเเข็บทื่อเหมือนโดนเมดูซ่าสาปกระทันหัน

          ไม่โอเค ไม่โอเคเลย ไม่โอเคเลยซักนิด

          ผมทำหน้าจะร้องไห้อยู่ร่อมร่อทั้งๆที่รู้สึกไม่โอเคเลยเมือรู้สึกร้อนวาบๆทุกครั้งที่มันเเตะตัวผม เเต่ก่อนก็ไม่เป็นนะ เเต่ตอนนี้นี่เเค่สบตายังไม่กล้าขาเเข้งมันอ่อนอยากกระเเดะเข้าไปซบอก

          ฮือออ ความคิดจังไรในหัวกูนี่มันอะไร

          ทั้งๆที่ไม่ชอบความรู้สึกวูบวาบตรงช่องท้องเลยซักนิดเเต่ร่างกายกลับตอบสนองด้วยการเกร็ง...ถ้าไม่ชอบจริงมันก็ควรปัดป้องขัดขืนเเต่นี่ไม่

          ไอฝรั่งก็ได้ใจ ตั้งเเต่ตอนนั้นที่นึกครึ้มก้มลงมาเลียซอสที่เเก้มผม สัมผัสมันยังติดอยู่ถึงตอนนี้อยู่เลย จูบก็เคยเเล้ว..หอมแก้มก็ปกติ..ทำไมลิ้นชื้นๆที่ตวัดเบาๆมันถึงได้สยิวกิ้วขนาดนี้วะ!

          หลังจากเที่ยวชมวัดโพธิ์เเบบมึนๆเดินหลงทิศจนมันต้องสะกิดลากผมหลายครั้ง ตอนนี้เราก็มาโผล่ที่เอเชียทีคในยามค่ำๆ ซึ่งดีมากที่ขานั่งเรือกลับเราไม่ต้องประฝีปากกับมนุษย์ป้าอีก

          ดีหน่อยที่พอเข้าเขตวัดมันก็สงบเสงี่ยมไม่ทำอะไรบ้าๆอีก เเต่การที่มันยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เหมือนคนถูกหวยตั้งเเต่ตอนนั้นนี่ไม่เข้าใจเลยซักนิด

          ผมสะบัดตัวออกจากอ้อมกอดมันอย่างเก้ๆกังๆจนอยากจะพาตัวเองไปโดดตึกตายเสียเลยตอนนี้ ยังดีที่มันยอมปล่อยผมง่ายๆเมื่อเห็นว่าผมทรงตัวได้เเล้ว

          หมับ

          "เฮ้ย!"มือของผมถูกมันฉวยไปกุมเอาไว้ ผมเงยหน้าไปมองหน้ามันทันทีเมื่อพยายามดึงเเต่ดึงไม่ออก เเต่พอเงยหน้าไปสบเข้ากับดวงตาน้ำข้าวเป็นประกายที่มองอยู่ก่อนเเล้ว...ก็กลับมาก้มหน้างุด

          "I can เอ่อ..walk ได้นะ"ผมกลับมาใช้ไทยคำอังกฤษคำอย่างง่อยๆ เเต่มันหรอทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ กระชับมือให้เเน่นกว่าเก่า ไม่ต้องถามครับว่าสัมภาระทั้งหลายเเหล่หายไปไหนเพราะผมกับมันจัดการโซ้ยไปหมดเเล้ว เหลือเเค่ถุงสองถุงที่ซื้อไปฝากเพื่อนๆกับเก็บไว้กินที่ห้อง

          จะว่าไปมือมันนี่ใหญ่กว่าผมเยอะเลย เเถมอุ่นอีกต่างหาก มันคงจะโรเเมนติกไม่น้อยถ้าหาก...

          "มึง ปล่อยเหอะ Thailand is so hot นะ"ผมบอกมัน สัมผัสได้ถึงมือที่ชื้นเหงื่อของผมเเละมัน เดินเฉยๆเหงื่อก็ท่วมละยิ่งมาจับมือกันไว้อย่างนี้นี่อย่างกะอบซาวน่ามือ เเต่ถามว่ามันสนไหมล่ะ?

          "Drink?(ดื่มกันไหม)"พยางค์เดียวสั้นๆ เข้าใจไม่เข้าใจไม่รู้เเต่มันลากผมเข้าร้านอาหารกึ่งบาร์ข้างทางเเล้ว

          ผมจัดการให้มันเป็นคนสั่ง ยังไงเเถวนี้ก็มีเเต่ร้านรับรองฝรั่งอยู่เเล้วเข้ามานี่เจอเเต่ภาษาอังกฤษเสียจนงงว่านี่กูอยู่ประเทศไทยเเน่หรอ ผมนั่งท้าวคางมองซีกหน้าของมันที่พูดๆกับบริกร ใบหน้าที่ดูสุขุมเเละใจดีทำให้อดยอมรับไม่ได้เลยว่าดูไม่น่ากลัวเหมือนภาพฝรั่งในจินตาการผม

          พอสั่งเสร็จมันก็ยิ้มให้บริกรเล็กน้อยก่อนจะหันมา ผมสะดุ้งกับสายตามัน เเล้วเเสร้งเป็นมองนู่นนี่ไปเรื่อยอย่างคนไม่รู้ว่าควรเอาสายตาไปวางไว้ที่ไหน

          ทำไมวะ ทำไมถึงสบตาตรงๆไม่ได้

          บางทีก็หงุดหงิดตัวเอง ไม่อยากจะยอมรับคำตอบที่มีรออยู่เเล้วในใจ ผมเลยหายใจเข้าลึกๆก่อนที่จะหันไปจ้องตามันที่คิดไว้เเล้วว่ามันต้องมองผมอยู่ก่อน เพราะเเทบจะทุกครั้งที่หันไปมันก็มองผมอยู่ก่อนตลอดอย่างกับไม่เคยละสายตา...

          ผมทำใจดีสู้เสือ คิดเเค่ว่าจะไม่หลบตามันเด็ดขาด เเต่พอสบตาที่บัดนี้ดูร้อนเเรงอย่างไม่น่าเชื่อ เเถมก็ห้ามสายตาไม่ให้หลุบมองริมฝีปากสีสดไม่ได้

          ก่อนที่จะคิดอะไรเตลิดไปมากกว่านี้เบียร์ก็ถูกยกมาเสิร์ฟ ผมไม่ใช่พวกไม่ชอบดื่มเเต่ไม่ค่อยนึกอยากซะมากกว่าเพราะเวลาผองเพื่อนชวนไปทีไรมันต้องเข้าผับซึ่งมีเเต่ดนตรีบีทหนักให้ปวดหูมากกว่าบาร์สบายๆเเบบนี้

          กับเเกล้มสองสามอย่างตามมาในเวลาต่อมา เเละเป็นเพราะเรานั่งโต๊ะที่มีที่นั่งเพียงสองที่ทำให้เลี่ยงไม่ได้ที่จะนั่งตรงข้ามกันตามเเบบแผนการจัดโต๊ะของร้านอาหารทั่วไป ผมประหม่าน้อยๆจนต้องยกเบียร์ขึ้นขิบหลายหน มันก็ไม่ได้พูดอะไร ทั้งๆที่ปกติผมไม่เคยอึดอัดกับความเงียบเลยเเท้ๆเเต่คราวนี้มันกลับกระอักกระอ่วนอย่างบอกไม่ถูก

          "Cheers"ไอฝรั่งยื่นเเก้วเบียร์ของมันมาข้างหน้า ส่งเสียงที่ผมเคยได้ยินตามหนังฝรั่งเวลาชนเเก้วเหล้า มันยิ้มบางๆเเล้วเลิกคิ้วพยักเพยิดเหมือนอยากให้ผมชนด้วย ผมก็ไม่ขัดศรัทธายื่นไปชนด้วยเเล้วส่งเสียเบาๆตามมัน

          เเต่พอจะกระดกเข้าปากมันก็เอื้อมมาจับข้อมือผมไว้ก่อนจนต้องขมวดคิ้วสงสัย

          "Let's do this thing (ทำเเบบนี้ดีกว่าน่า)"มันเอาเเขนมาคล้องวนไว้กับเเขนผมก่อนจะยกดื่มเหมือนในหนังหรือละครที่เห็นกันบ่อยๆ ซึ่งการทำเเบบนี้จำให้ผมต้องโน้มตัวไปข้างหน้าเพื่อที่จะดื่มให้ถึง ยิ่งความต่างของความยาวเเขนยิ่งทำให้ดูลำบากเข้าไปใหญ่ เเละเพราะมัวเเต่พยายามจะกินเบียร์ให้ได้ ทำให้พอดื่มสำเร็จเงยหน้าที่มีรอยยิ้มภูมิใจขึ้นมาก็พบว่าใบหน้าอยู่ห่างกันไม่ถึงคืบ

          ดะ..เดี๋ยวสิ

          ผมเบิกตากว้างผงะถอยจะกลับไปนั่งดีๆ เเต่อีกฝ่ายกลับไม่ยอมยื้อเเขนผมไว้ก่อน มันใช้เเขนข้างที่พันๆกันอยู่จับเเขนผมไว้ไม่รู้ไปวางเเก้วเบียร์ตอนไหน ครางนี้ไม่มีเอ่ยเตือนใดๆล่วงหน้ามันใช้อีกนิ้วโป้งเช็ดคราบฟองเบียร์เหนือริมฝีปากผมออกอย่างอ้อยอิ่ง ผมได้เเต่นั่งค้างอ้าปากหวอปล่อยให้มันทำไป

          นิ้วมือที่ช่วยเช็ดเริ่มซนด้วยการลดระดับลงมาเเละคลึงริมฝีปากเล็กเบาๆ ริมฝีปากเผยยิ้มที่ผมมองว่าเป็ยยิ้มร้ายอ่อยเหยื่อชัดๆ เเต่เเล้วมันก็ต้องเบิกตากว้างอย่างตกใจเเล้วเป็นฝ่ายทำอะไรไม่ถูกเสียเอง

          ก็เเค่เผลอตัวงับนิ้วมือมันเข้าไป จากนั้นก็เลียๆดูดๆเท่านั้นเอง..

          กว่าจะรู้ตัวว่าทำอะไรลงไป ผมก็เเทบจะมุดโต๊ะหนีด้วยความกว่าจะรู้ตัวว่าทำอะไรลงไป ผมก็เเทบจะมุดโต๊ะหนีด้วยความอับอาย

          กูทำอะไรลงไป!!!!!!

          อมไม่พอยังจะไปเลียๆงับๆนิ้วเขาอีก! เจริญเเล้วไอธีร์เอ้ยย บรรยากาศพาไปเเท้ๆ!

          ผมนี่รีบปล่อยนิ้วมันให้เป็นอิสระอย่างรวดเร็วรีบกุลีกุจอหยิบทิชชู่จะเช็ดให้ เเต่เหมือนมันก็ตั้งตัวได้ดึงมือกลับ ผมขมวดคิ้วนั่นน้ำลายกูทั้งนั้นเลยนะน่ะ เห็นตอนปล่อยออกมาจากปากน้ำลายนี่ยืดตามเป็นสายเลย

          ...!!!

          อึ้งแดกครับ เมื่อมันเอานิ้วที่ชะโลมน้ำลายผมเนี่ยเเหละเข้าปากมัน เลียๆนิดหน่อยเหมือนทำความสะอาดก่อนจะหยิบเบียร์ขึ้นจิบหน่อยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมอ้างปากค้างก่อนที่มันจะเหลือบมามองผมเเล้วยกยิ้ม

          "Tasty (อร่อยดี)"

          ประสาทจะกิน!




------------


          ผมนี่ชักไม่ไหวเเล้ว เเต่ก่อนว่าก็เเค่ป้ำๆเป๋อๆเเต่นี่เริ่มเข้าขั้นเอ๋อเเดกควบคุมร่างกายตัวเองไม่ได้เเล้ว ผมเดินไปตามทางพยายามจะซึมซับบรรยากาศเเสงสีเมืองตอนกลางคืนเเต่สมองกลับขาวโพลน

          นี่กูมาทำอะไรที่นี้กันเเน่วะครับ

          ยังไม่สามารถหาคำตอบได้เลยว่าอะไรทำให้ผมมาถึง ณ จุดนี้ได้ เพราะคำเเนะนำของไอเเต็กหรอ? หรือเพราะไอคนข้างๆนี้กัน?

          "Corgi! Ferris wheel! (คอร์กี้! ชิงช้าสวรรค์หนิ!)"ไอฝรั่งนี้ก็ทำหน้าซื่อตาใสเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ชี้ไปยังวงล้อยักษ์ที่กำลังหมุนตะหง่านอยู่ไม่ไกล

          มึงลืมเเลนด์มาร์คของที่นี้ไปได้ยังไงวะไอธีร์!! งานงอกเเล้วไหมล่ะ!

          "เอ่อ...ไม่ดีมั้ง very much people เลยนะ"ผมปฏิเสธอ้อมๆหน้าเริ่มซีด คนเยอะขนาดนี้คงต่อเเถวเเบบซื้อตั๋วชาตินี้ได้เล่นชาติหน้าอะไรทำนองนี้เลยมั้งนั่น

          "No problems.(ไม่มีปัญหาหรอก)"

          มึงน่ะโนเเต่กูน่ะมี

          ผมอ้าปากจะเเย้งเเต่ก็ไม่ทัน มันเล่นคว้ามือผมเดินดุ่มๆไปทันที เเล้วก็อย่างที่คาดไว้คือคนเยอะฉิบหายวายวอด

          "ดะ เดี๋ยว"ผมพยายามจะห้ามมันเเล้วจริงๆนะ เเต่อีกฝ่ายกลับดุ่มๆเดินไปซื้อตั๋วเเบบไม่ฟังอะไรเลย เเถมยังพามาต่อเเถวที่ไม่มีคนต่อเลยอย่างว่องไว!

          ผมยืนมึนๆมองเเถวด้านข้างที่คนยาวเป็นหางว่าว เเต่ตรงเเถวที่มันมาต่อกลับไม่มีคน เเถมได้ขึ้นเลยอีกต่างหาก

          เห้ย!

          "เอ่อ..พี่ครับทำไมตู้มันไม่เหมือนอันอื่น"ผมสะกิดพี่พนักงานที่ยืนคอยปล่อยตัวนักท่องเที่ยวเข้าไปก่อนที่ผมจะได้ก้าวเท้าเข้าไป ตู้ที่ผมกำลังจะก้าวเข้าไปเนี่ยมันมีสีดำครับ เเถมดูจากทั้งหมดมันมีอยู่ตู้เดียวด้วย

          "นี่ตู้วีไอพีครับ น้องขึ้นเถอะ เเฟนน้องรอนานเเล้วนะ"พี่เขาตอบยิ้มกริ่มเเล้วพยายามดันให้ผมเข้าไป เเต่ผมนี่ขืนตัวเต็มที่

          "ไม่..."

          "ขอให้สนุกนะครับ"

          ด้วยเเรงดันของพี่พนักงานผู้หวังดีกับเเรงฉุดจากคนด้านในทำเอาผมไม่สามารถที่จะขัดขืนได้อีกต่อไป สิ่งที่ตามมาทันทีเมื่อก้าวเท้าเข้ามาคือ

          อาการหน้าซีด ใจสั่น

          เเละขาที่สั่นหงึกๆเเม้จะนั่งลงไปบนที่นั่งเเล้วก็ตาม

           แอร์เย็นๆที่เป่ารดผิวกายไม่ได้ช่วยให้ผมดี๊ด๊าเหมือนอีกคน นาทีวิวอะไรผมไม่ดูทั้งนั้นได้เเต่นั่งหลับตาเเละท่องในใจ ยิ่งพอมันเริ่มเคลื่อนตัวผมนี่สะดุ้งเเต่ยังข่มตาไว้


          อย่ามองไอธีร์ มึงอย่ามอง

          ถูกต้องนะครับ ผมกลัวความสูง...ขนาดหนักเลยด้วย

          ฮืออ ใครจะเชื่อว่าไอคนไม่กลัวผีไม่กลัวความมืดไม่กลัวห่าอะไรทั้งนั้นดันมากลัวความสูง คนที่รู้ก็มีเเค่พ่อเเม่พี่น้องผมเท่านั้นเเหละ ไอพี่เรนมันยังไม่รู้เลย

          "เฮ้!"

          ไอชิงช้าสวรรค์นี้ก็หมุนช้าจริง  เมื่อไหร่มันจะจบรอบซักที จะร้องไห้เเล้วนะ

          "Corgi! Hey!"

          ผมก็จิตใจดำมืดชอบจินตนาการต่างๆนานาว่ามันจะร่วงบ้างล่ะ คว่ำบ้างล่ะ กระเช้าหลุดบ้างล่ะ มันโหวงไปหมด

          "Thee!!!"

          เฮือก!

          ผมเผลอลืมตาโผล่งขึ้นมา ไอฝรั่งจับไหล่ผมเเน่นเหมือนจะเขย่ามานานเเล้วด้วยใบหน้ามันห่างจากผมอยู่เเค่คืบ สีหน้าดูตระหนกเเละเป็นห่วงในเวลาเดียวกันดูจากคิ้วที่เคลื่อนเข้าหากัน

          ใจผมเต้นไม่เป็นจังหวะ ไม่ใช่เขินมันเหมือนอย่างก่อนเเต่เป็นเพราะเผลอเสตาไปมองวิวด้านล่าง เเละเพิ่งจะรู้ว่าไอตู้วีไอพีมันดันพิเศษตรงที่พื้นที่ใช้ยืนเป็นกระจก...

          ถ้ามันเเตก...ถ้ามันเเตกขึ้นมาล่ะ

          "Clam down,I'm here (ใจเย็นๆ ฉันยังอยู่ตรงนี้นะ)"มันพูดอะไรมาผมเเทบจะประมวลผลไม่ได้ มันล็อกหน้าผมไม่ให้หันไปมองทางอื่น จากนั้นก็ดึงผมเข้าไปกอดไว้

          มึงอย่ามาฝั่งนี้ เดี๋ยวกระเช้าร่วง!

          ผมอยากจะพูดอะไรมากมายเเต่มันจุกอยู่ตรงคอ สัมผัสได้ว่าตัวของตัวเองยังสั่นไม่เลิก เเต่ก็อดยอมรับไม่ได้เลยว่าอ้อมกอดของคนด้านหน้าผมมันให้ความรู้สึกปลอดภัยจริงๆ



Austin's part


          ตอนนี้ผมอยากจะต่อยหน้าตัวเองเเรงๆซักทีที่ไม่ยอมฟังคำเเย้งหรือใส่ใจเขามากกว่านี้

          ใจผมร่วงไปถึงตาตุ่มตอนที่หันมาเจออีกคนกอดตัวเองเอาไว้ข่มตาให้ปิดสนิทเเถมร่างเล็กๆยังสั่นไม่หยุด ผมรีบกุลุกุจอไปหาเขาจับไหล่บางเเล้วเขย่าเบาๆเเต่ธีร์ก็ยังคงนิ่งสนิทปากยังคงพึมพำ

          โธ่เว้ย! เขากลัวความสูง!

          เเละผมก็เป็นคนลากเขาขึ้นชิงชาสวรรค์ที่สูงเกือบสองร้อยฟุต!

          ผมรู้ได้ในวินาทีนั้นทันทีว่านี่มันไม่เวิร์คเสียเเล้ว ตอนเเรกก็เห็นว่ามันเป็นจุดที่ดีที่จะใช้เป็นที่สุดท้ายที่เราจะเที่ยวกันในทริปวันนี้ ความรู้สึกดีๆทั้งวันมันกำลังจะพังเพราะความไม่ใส่ใจของผม!

          ยิ่งตอนที่เขาเบิกตาโผลงขึ้นมาอย่างตื่นตระหนก หน้าเขาซีดมากเเถมตัวยังเย็นเฉียบ ผมเห็นเขาเเอบเหล่ตาไปมองที่พื้นผมเลยรีบประคองใบหน้าเขาขึ้นมาล็อกไม่ให้มองไปไหน เเต่เหมือนกับไม่ทันเเล้วพอเขาเห็นว่าเราขึ้นมาสูงเเค่ไหน เขาก็เบะปากเหมือนจะร้องไห้

          นาทีนั้นผมรีบรวบเขาเข้ามากอด กดหัวเขาให้ฝังลงไปบนอกผม จะได้ไม่ต้องมองไปทางอื่น ตัวเขาเล็กมากกว่าผมจริงๆยิ่งเขาสั่นขนาดนี้เขายิ่งดูน่าสงสารเข้าไปใหญ่

          "ฮึก ไม่เอาเเล้ว"

          ให้ตายเถอะ! เขาร้องไห้!

          ผมจะเป็นบ้าเข้าไปใหญ่ มองหาปุ่มกดฉุกเฉินที่น่าจะมีอยู่ เรายังวนกันไม่ครบรอบด้วยซ้ำเเต่เขาไม่ไหวเเล้วเเน่ๆ

          พอเจอปุ๊ป ผมก็กดปุ่มฉุกเฉินทันที เเต่ถึงจะกดเเล้วเเต่ก็ต้องรอให้วนให้ครบรอบก่อนอยู่ดี ผมเลยทรุดตัวนั่งเอาเขานั่งบนตักเเล้วกดใบหน้าเขาให้ซบไหล่ผมไว้

          "You'll alright.(นายจะไม่เป็นไร)"ผมปลอบเขาไปซึ่งเขาคงไม่มีสติสตังพอจะฟังผมหรอก เอาเเต่งอเเงบอกว่าจะลงๆท่าเดียว อ่า...ผมพอฟังภาษาไทยออกอยู่ครับเเต่เเค่พูดไม่ได้ บางครั้งที่เขาบ่นผมก็รู้เรื่องเกือบทุกครั้งอาจจะไม่ทั้งหมดเเต่ก็พอจับใจความได้อยู่

          เหลืออีกประมาณครึ่งรอบกว่าที่กระเช้าจะหมุนลงไปถึงด้านล่าง ผมจับชีพจรเขาเพื่อทำความเเน่ใจว่าเขาจะไม่ช็อคไปซะก่อน ถึงผมจะจบสัตวเเพทย์เเต่เเน่นอนว่าสัตว์เองก็สามารถเป็นโรคโฟเบียได้เหมือนกัน กรณีของเขาก็เหมือนพวกที่กลัวการขึ้นบรรไดนั่นเเหละ

          ยังดีที่หัวใจเขาเต้นช้าลงเเล้ว เเถมอาการหอบหายใจหนักก็เพลาๆลงบ้าง เหมือนพอเขาตั้งสติได้ระดับหนึ่งก็จะเงยหน้าขึ้นจากบ่าผม เเต่ผมไม่ยอมดันหัวเขาไว้

          "ไอ ไอโอเคเเล้ว"ถึงธีร์จะพูดยืนยันเเบบนั้นก็เถอะ เเต่เขายังไม่หยุดสั่นเลยนะจะให้ผมเชื่อได้ยังไง เเต่ผมก็ใจอ่อนเเต่ยังไม่ปล่อยมือที่ประคองหน้าเข้าไว้ อีกมือก็กุมมือเล็กไว้

          คอร์กี้น้อยผมมันจอมยั่ว เเต่ที่ร้ายกาจคือเขายั่วเเบบที่เขาไม่รู้ตัว นั่นมันเป็นอะไรที่ขี้โกงมาก ยิ่งวันนี้เขาออกลายเยอะกว่าปกติจนผมเเทบจะหลุดไปหลายรอบ

          เเละตอนนี้ผมก็คงจะไม่ทน

          พอเห็นใบหน้าของคนที่เงยขึ้นมองผม เหมือนมีเเรงดึงดูดระหว่างเราจนไม่อาจละสายตาไปจากกันได้

          ดวงตาแดง จมูกแดง ใบหน้าขึ้นสีเล็กน้อยนั่นทำเอาใจผมเต้นเเรงขึ้นมาอย่างไร้สาเหตุ ธีร์เป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์เเบบที่เขาคงไม่รู้ตัว เเม้จะไม่ได้หล่อตามยุคสมัยนี้เเต่ความเป็นธรรมชาติของเขาทำเอาผมเเทบไม่เชื่อว่าจะรอดมาถึงมือผม ยิ่งผิวสีเเทนนวลเนียนเหมือนมิลค์ช็อคน่ากินนั่นช่างดึงดูดสายตาของผมได้ตลอด จนต้องห้ามใจทุกครั้งไม่ให้เข้าไปขย้ำอย่างหมันเขี้ยว

          ตั้งเเต่เมื่อไหร่กันที่ผมเห็นทุกอย่างของเขามันน่ารักไปหมด

          ผมก้มลงไปกดจูบลงบนหน้าผากเขา ไล่ลงมาที่ดวงตา ปลายจมูก แอบเอาฟันขบเบาๆด้วย เเก้มนิ่มทั้งสองข้างเลื่อนลงมาที่ริมฝีปากนุ่มนิ่มเเต่ยังไม่กดจูบเเค่เฉียดๆเเละผมก็ผละออกมาเมื่อเหลือบเห็นอะไรบางอย่าง

          ฟรึ่บ!

          เเละก็เป็นอย่างที่คาดไว้ ธีร์เป็นฝ่ายดึงผมเข้าไปจูบเสียเอง ผมยิ้มอยู่ในใจ..เเละมันคงเป็นรอยิ้มที่ชั่วร้ายมากเสียด้วย


ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
อย่าขาดตอนนนนนน

พลีสๆ บอกเถิดว่ายังมีต่อด้านล่าง

ออฟไลน์ Kiitos

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 45
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
Chapter18
| Suddenly

Thee's part

     จู่ๆผมก็รู้สึกไม่พอใจขึ้นมาเมื่อไอฝรั่งมันผละออกทั้งๆที่ยังไม่ทำอะไรเเถมมาเฉียดๆให้สยิวกิ้วอีกต่างหาก ยิ่งตอนนี้ผมไม่ค่อยมีสติสตังค์ครบถ้วนผมเลยจัดการดึงมันมาประกบปากเองเลย

     "อื้ม..อื้อ"ผมครางอืออึงในลำคอทันทีที่ ไอผมน่ะเเค่ประกบริมฝีปากเเต่คนที่เริ่มสอดลิ้นเข้ามาน่ะมันอีกคน
     
     โดยไม่รู้เลยว่าประตูกระเช้ามันได้เปิดออกมาเรียบร้อยเเล้ว

     จนกระทั่ง...

     "เอ่อ...คุณลูกค้าครับ"

     ผมสะดุ้งเฮือกผลักไอฝรั่งออกทันทีเเล้วรีบลุกเมื่อคิดได้ว่าผมกำลังนั่งตักมันอยู่ เเต่ด้วยความที่ตกใจเเล้วรีบเร่งเกินไปบวกกับที่ขายังอ่อนเเรงอยู่ทำให้ผมทรุดทันที ยังดีที่ไอหมีควายมันมือไวพอที่จะเกี่ยวเอวผมไว้ได้ทัน

     "Thanks"มันลุกขึ้นบอกพนักงงานที่หน้าเเดงก่ำเเล้วก้าวออกจากตัวกระเช้าโดยไม่ลืมที่จะเกี่ยวผมออกไปด้วย

     ตอนนี้ความสูงกูไม่กลัวเเล้วครับ กูอายอย่างเดียว!
     
     หน้าผมร้อนเหมือนจะระเบิด พอออกมาก็พบว่าเมื่อกี้มีสักขีพยานหลายชีวิตที่เห็นฉากจูบเมื่อกี้

     จบสิ้นเเล้วชีวิต

     "ฮื่อ อายว่ะ"ผมบ่นงึมงำถือโอกาสใช้ร่างใหญ่ๆของอีกคนเป็นที่กำบังซุกหน้าลงไปเอามือช่วยปิดหน้าด้วย

     เเล้วประเด็นคือกูเริ่มก่อนด้วยไง เลยได้เเต่ภาวนาไม่ให้มีมือดีควักโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปหรืออัดวิดีโอทันไม่งั้นได้ดังเเน่ๆ
     
     ผมเดินก้มหน้าก้มตาไม่สนใจอะไรอีกต่อไปปล่อยให้อีกคนดึงกึ่งฉุดกระชากไปเรื่อยๆจนรู้ตัวอีกทีก็มานั่งตากเเอร์อยู่บนรถเเท็กซี่ซึ่งไอฝรั่งเป็นคนเรียกเเละสะกิดให้ผมบอกทาง

     พอขึ้นรถได้ปุ๊ป คุยกับพี่โชเฟอร์เสร็จปั๊ป ผมก็จัดการตัวเองให้เขยิบมานั่งชิดเเทบสิงประตูรถคนละฝั่งกับมันด้วยสัญชาตญาณการเอาตัวรอด ทั้งตัวทั้งใจเลยเนี่ยตอนนี้ เเถมด้วยการส่งสายตาไปขู่มันกลายๆด้วยว่าอย่าเขยิบเข้ามา

     ทั้งคันรถไม่มีบทสนทนาใดๆมีเพียงเสียงเเอร์กับเสียงเพลงลูกทุ่งที่ดังคลอ ส่วนผม...หลับตาลงเอนหัวพิงไปกับกระจก

     ปกติขึ้นรถเเล้วผมจะนอนครับ นอนเเบบนอนอย่างเดียวเนื่องจากเป็นคนเมารถขนาดหนัก เเต่ครั้งนี้ผมคงนอนไม่หลับมีความคิดมากมายกำลังตีกันในหัวเลยได้เเต่หลับตาลงเฉยๆ

     อืม...อย่างที่บอกว่าปกติผมเป็นคนไม่คิดมากหรือไม่ก็ไม่คิดเลย เเต่ตอนนี้มันไม่ปกติมากๆที่ในหัวผมมันมีเเต่เรื่องของไอฝรั่งข้างๆ

     ชอบ?

     เเล้วผมจะไปชอบมันได้ยังไง จริงๆเเล้วชอบนี่มันเริ่มจากอะไร มันก็เเค่คอยเทคเเคร์ผม ไปรับไปส่งผม ทำตัวเป็นห่วงผม ลวนลามผมในยามว่าง...

     ชิบหาย..พอมาย้อนคิดดูเเล้วไม่หวั่นไหวนี่สิแปลก

     ฟึ่บ

     ...!

     ผมเเทบจะสะดุ้งเเต่ก็ยั้งตัวเองไว้ได้ทัน เมื่อคนอีกฝั่งเขยิบมาชิดกันตั้งเเต่เมื่อไหร่ไม่รู้ เเล้วก็เอื้อมมือมาดึงหัวผมให้ลงไปซบไหล่มัน

     ผมเผลอขมวดคิ้วเเต่ยังไม่ลืมตา เมื่อไหล่มันค่อนข้างสูงจนต้องเกร็งคอเอาไว้ เหมือนมันก็รู้ว่าท่านี้คงไม่โอเคมันเลยไหลตัวลงไปกับเบาะให้ไหล่ต่ำลงจนได้จุดที่พอดี

     ตัวมันนี่อุ่นชะมัด

     ขนาดไม่ได้เข้าไปกอดหรือซุกยังสัมผัสได้เลย ผมคิดมาหลายทีเเล้วว่าพวกคนตัวใหญ่นี้ให้อารมณ์อบอุ่นเเบบนี้ทุกคนรึเปล่า ผู้หญิงถึงชอบผู้ชายตัวสูงใหญ่กัน มันดูน่าพึ่งพามันดูน่าปกป้องเราได้ เเถมเวลาอยู่ด้วยกันนี่รู้สึกสบายใจสุดๆ

     ผมเเอบปรือตามองเสี้ยวหน้าที่เริ่มเห็นหนวดขึ้นเป็นตอๆ ก่อนจะอมยิ้มเเล้วกลับมาหลับตาลงเเกล้งหลับเหมือนเดิม

     ผมว่า...ผมชอบมันเข้าเเล้วว่ะ

     ข้อสรุปสุดท้ายที่เกิดขึ้นในใจก่อนที่จะจมดิ่งสู่ห้วงนิทรา


------------------------------------------     



     "Cogi"เสียงเรียกคุ้นหูพร้อมกับเเรงเขย่าเบาๆทำให้ผมต้องปรือตาขึ้นมาเพชิญโลกอีกครั้ง
         
     "อื้อ"ผมครางในลำคอเบาๆพร้อมทั้งบิดขี้เกียจเล็กน้อย ก่อนล้วงหาตังเเต่ยังไม่ทันได้ยื่นให้พี่โชเฟอร์ก็พูดตัดหน้าซะก่อน

     "เเฟนน้องจ่ายเรียบร้อยเเล้วล่ะ"เเถมมีการยิ้มกรุ้มกริ่มยักคิ้วให้ด้วย

     "มะ..ไม่ใช่เเฟนนะครับ"

     "โธ่น้อง พี่ไม่โลกเเคบหรอกไม่ต้องห่วง เเต่เเอบเสียดายเเทนสาวๆแหะ น้องไปได้มาจากไหนเนี่ย"พี่โชเฟอร์จู่ๆก็เกิดอัธยาศัยดีขึ้นมากระทันหันชวนคุยซะเฉยๆ จะเปิดประตูลงเลยก็ท่าจะเสียมารยาทไป

     "ไม่ได้เป็นอะไรกันจริงๆครับ"ผมส่ายมือส่ายหน้าส่ายทุกอย่างปฏิเสธ เเต่ท่าว่าพี่เเกจะไม่ฟังอะไรเลย

     "อย่ามาโกหกหน่อยเลย พี่เห็นฝรั่งรูปหล่อตรงนั้นหอมแก้มน้องตั้งหลายรอบ เอ...เหมือนเห็นจูบปากด้วยนะ"เเละเเล้วผู้ร้ายก็ปรากฏตัว ผมหัวขวับไปหาคนข้างกายทันทีมันสะดุ้งเล็กน้อยกับสายตาขวางๆของผม เเต่ก็ทำเพียงยิ้มเเหะๆเเล้วตีหน้าซื่อเหมือนไม่รู้เรื่อง เเต่ผมต้องสะดุ้งกับสายตาเสือกเปิดเผยของพี่โชเฟอร์ที่มองมาผ่านกระจกหลังเหมือนลุ้นให้พวกผมได้กันตรงนี้

     ตอนนี้ไม่สนเรื่องมารยาทเเล้วครับ! ลงด่วนๆ!
     
     "อ่าว ไม่ใช่คอนโดนี่" ผมชะงักพอก้าวลงมาจากเเท็กซี่เเล้วกลับเจอสวนสาธารณใกล้ๆนี้เเทน

     "In first time you bring me here.can you remember? (ครั้งเเรกนายพาฉันมาที่นี่ จำได้รึเปล่า)"คนข้างกายผมถาม เเถมเนียนเป็นฝ่ายจูงมือผมเดิน

     อยากจะตอบมันเหลือเกินว่าโคตรจะรีเมมเบอร์เลย จำได้ไหมที่พามันมาเดินเล่นเเล้วตอนก่อนกลับดันไปเข้าใจผิดว่ามันจะจูบ จนหน้าเเตกเพล้งจำยันวันนี้

     มันพาผมเดินมาเรื่อยๆ ที่นี่ตอนกลางคืนไม่ค่อยมีคนมาหรอกครับ ถึงบรรยากาศมันจะดีเเต่ถ้าไม่อยากเสี่ยงไข้เลือดออกเเนะนำว่ามาตอนเย็นๆดีกว่า ส่วนกลางวันขอเเนะนำว่าอย่ามาดีกว่าเสี่ยงเป็นลมเเดด

     มันพาผมทรุดนั่งบนม้านั่งยาวตัวหนึ่งเเต่ยังคงกุมมือผมไว้

     จากนั้นก็ไม่พูดไม่จา จนผมรู้สึกประหม่า วิวอะไรไม่ได้มองเเล้วได้เเต่ก้มมองมือตัวเองที่ถูกมือใหญ่กุมไว้ก่อนจะห้าร้อนขึ้นมาเสียเอง

     "เอ่อ/เอ่อ"
         
     "ยูspeak first เลย"

     "Thee...what do you think of me?(ธีร์ นายคิดยังไงกับฉัน)"จู่ๆมันก็มาโหมดซีเรียสถามหน้าเครียกเสียงเครียดเหมือนจะบอกผมผ่านน้ำเสียงว่าจริงจังมากๆ มันจ้องหน้าผมเหมือนต้องการคำตอบ

     "อ่า เอ่อ แฮนซั่ม?"ผมตอบไปอย่างไม่มั่นใจ...ไม่มั่นใจว่าแปลคำถามมันถูกไหม

     พอสิ้นคำตอบเท่านั้นเเหละ ไอหมีควายก็หลุดหัวเราะทันทีจนผมอดจะมุ่ยหน้าไม่ได้ มันมีอะไรน่าตลกตรงไหน พอมันหัวเราะจนพอใจ มันก็หันมามองหน้าผมเเล้วอมยิ้มก่อนจะเอ่ยปาก

     "If I say I like you?(ถ้าฉันบอกว่าฉันชอบนายล่ะ)"

     "ห้ะ?"ผมร้องออกมาอย่างไม่เชื่อหู

     คงไม่ใช่หรอก...ผมอาจจะเเค่ฟังผิดฟังเพี้ยน..

     "I like you(ฉันชอบนาย)"

     ชัดเจน

     ผมเหวอ จู่ๆมันก็สารภาพออกมาไม่ทันได้ตั้งตัว จะตีหน้าซื่อฟังไม่รู้เรื่องก็คงไม่ได้ เพราะใครเเปลไม่ออกก็เเนะนำให้ไปเกิดใหม่ได้เเล้ว!
         
     "อ่า...เอ่อ..คือ.."
     
     "I dont know why but I like when I'm spend time with you . i like to see when you cook , when you scold Ter or even when you sleep . You're adorable , fascinating and now...I can't find the exit. (ฉันก็ไม่รู้ว่าทำไม เเต่ฉันชอบเวลาที่อยู่กับนาย ชอบมองเวลานายทำอาหาร ตอนบ่นไอเตอร์ หรือตอนนายนอนหลับ มันดูน่ารักน่าเอ็นดูเเละน่าหลงไหลไปในเวลาเดียวกัน จนรู้ตัวอีกที...ก็ถอนตัวไม่ขึ้นซะเเล้ว)"

     "..."

     ผมเงียบ รู้สึกว่าไอประโยครัวๆเมื่อครู่น่าจะเป็นคำสารภาพ...หน้าของไอฝรั่งขึ้นสีหน่อยๆเหมือนเขินๆเหมือนกันที่มาพูดเเบบนี้ มันคงจะประหม่าไม่น้อยเลยเล่นรัวลิ้นซะผมเงิบอ้าปาก

     ผมเงียบ เพราะฟังไม่รู้เรื่อง

     มันเงียบ เพราะรอคำตอบ

     มันจ้องหน้าผมอยู่นาน ตอนนี้เราอยู่ในท่านั่งเฉียงๆหันหน้าเข้ากัน มันเปลี่ยนมาใช้มือสองข้างมือทั้งสองข้างกุมมือของผมอีกทีตั้งเเต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ผมเหมือนเห็นประกายวิบวับออกมาจากดวงตาคู่สวยเเละพอจ้องนานๆก็เห็นเงาสะท้อนของตัวผมอย่างชัดเจน

      เหมือนโลกหยุดหมุน โดนตัดออกจากโลกภายนอก เพิ่งรู้สึกเข้าใจอารมณ์พวกพระนางในหนังในละครก็ตอนนี้ นี่ไม่ได้โอเวอร์เเต่ละสายตาออกจากกันไม่ได้จริงๆ

      เราประสานสายตากันอยู่ครู่หนึ่ง พอเห็นผมไม่ปริปากมันก็หน้าเจื่อนลงนิด ก่อนจะก้มหน้าลง...ประทับจูบลงหลังมือผมอย่างเเผ่วเบา จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมายิ้มหล่อ

     "ช่อบ...ช่อบน่ะกั๊บ"
 
     ช็อตนี้กูตาย

          ใครมาเจอเเบบนี้ไม่ตายให้มันรู้กัน เหมือนได้ยินเสียงระเบิดดังปุ้งในหัวจากนั้นความร้อนก็พุ่งขึ้นหน้าไม่ต้องสืบให้เหนื่อยเลยก็รู้ว่าหน้าผมตอนนี้ต้องเเดงจนดำไปเเล้วเเน่ๆ

          "เอ่อ..คือ..คือไอ.."

          ผมเสตาหลบมันทำไมจู่ๆก็รู้สึกว่ามันหล่อขึ้นประมาณหกสิบเปอร์เซ็น ความน่ารักเพิ่มขึ้นอีกสามสิบเปอร์เซ็น ผมเข้าใจเเล้วครับว่าเวลาคนต่างชาติพยายามพูดภาษาไทยมันเเอคเเทรคได้ขนาดนี้

          "Ah...I know.You don't have to give me the answer now.(อ่า...ฉันรู้เเล้ว นายไม่ต้องให้คำตอบฉันตอนนี้เลยก็ได้)"

          มันพูดธรรมดานะ เเต่น้ำเสียงโคตรตัดพ้อทั้งสายตาท่าทางก็เหมือนหมาถูกทิ้ง ผมใจหายทันทีเมื่อมันยิ้มเศร้าๆมาให้เเล้วทำท่าจะปล่อยมือผมออก จู่ๆร่างกายมันก็ไปเอารีบคว้ามือมันมากุมไว้เเทน

          "เหมือนกัน!"เเละปากก็ไปเองเช่นกัน...พอรู้ตัวว่าตัวเองพูดอะไรออกไปผมก็ค่อยๆก้มหน้าลงพร้อมกับใบหน้าที่เเดงขึ้นกว่าเดิม

          ขอให้เเม่งฟังไม่รู้เรื่อง..

          "Really! Yes!(จริงหรอ! เยส!)"มันดันฟังรู้เรื่องอีก มันฉีกยิ้มกว้างจนจะฉีกถึงรูหู เขย่ามือผมไปมาเหมือนเด็กเวลาดีใจ ผมเองพอเห็นมันยิ้มก็ห้ามตัวเองไม่ให้ยิ้มไม่ได้เลย

          จุ๊บ

          มันก้มลงมาประทัยริมฝีปากเบาๆ ไม่มีการรุกล้ำเพียงเเค่เตะเบาๆ ก่อนจะผละออกไปเเล้วเผยยิ้มที่ผมมองว่ามันมีเสน่ห์ฉิบหาย

          "กลับห้องกันเถอะ"

          และผมก็เป็นฝ่ายเอ่ยชวน...
          หยุด! หยุดความคิดอกุศลในหัวเดี๋ยวนี้ ก็เเค่กลับห้องครับ ไม่ได้คิดอะไรมากกว่านั้นจริงจริ๊งเเค่กลัวว่าอยู่นานกว่านี้จะโดนยุงหามเอาเสียก่อน

          ผมกับมันมาถึงห้องในเวลาไม่นาน ขากลับนี่ไม่ยอมปล่อยมือผมเลยนะ เเถมยังเดินฮัมเพลงเเบบชีวิตเเฮปปี้สุดๆ พอมาถึงห้องผมก็เลยไล่มันไปอาบน้ำก่อนส่วนผมก็นอนเล่นอยู่ที่โซฟา

          เมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้นวะ นี่กูสละโสดเเล้วใช่ไหม?
          ผมคิดพลางฝังหน้าลงกับหมอนกรีดร้องในใจเบาๆ นี่ผมมีเเฟนเเล้วใช่ไหม! แฟนคนเเรกในชีวิตเลยนะเฮ้ย! เเถมยังเป็นผู้ชายด้วย! เเถมหล่ออีกต่างหาก!

          ผมอมยิ้มอยู่กับตัวเองคนเดียวเหมือนคนบ้า คนมีความรักเเล้วมันมีความสุขอย่างนี้นี่เอง

          "Corgi"

          "หื้ม"

          ขุ่นพระ!

          ผมเงยหน้าจากหมอนอิงก่อนจะเบิกตากว้าง ก็มันเล่นออกมาเเบบมีผ้าเช็ดตัวผืนเดียว เผยให้เห็นกล้ามเนื้อหกก้อนที่ผมเคยเห็นไปเเล้ว เเต่คราวนี้มันคนละอารมณ์ ตอนเจอตอนนั้นมันอิจฉา เเต่คราวนี้...น้ำลายหก

          ทำไมในหัวมีเเต่เรื่องเเบบนี้วะ!

          เห้ยๆ มันมาเเล้ว

          ผมเงยหน้ามองคนที่ยืนคำ้หัวผมอยู่อย่างลุ้นระทึก มาสภาพนี้นี่อ่อยผมใช่ไหม อยากได้อยากโดนใช่ไหม

          "เอ่อ..ไอshower ก่อนนะ"ผมรีบบอกมันก่อนที่มันจะก้าวเข้ามาใกล้กว่านี้เเล้วไม่รอคำตอบวิ่งปรู้ดเข้าห้องน้ำโดยไม่ลืมคว้าผ้าเช็ดตัวมาด้วย

          มันเองก็ไม่ได้รั้งได้ยินเเค่เสียงหัวเราะหึๆตามหลังมาเบาๆเท่านั้น

          ปกติผมใช้เวลาอาบน้ำไม่ถึงสิบนาทีอย่างคนไม่พิรี้พิไรขัดผิวฉวีวรรณ หากเเต่ตอนนี้เวลาก็ล่วงเลยผ่านไปเกือบยี่สิบนาทีเเล้วตัวผมนั้นก็ยังคงนั่งนิ่งอยู่บนชักโครกไม่ขยับไปไหนเหตุผลก็เพราะความฉลาดของผมเอง

          ฉลาดที่หยิบผ้าเช็ดตัวมา...เเต่ไม่หยิบเสื้อผ้ามา

          เเอบยอมรับนิดนึงก็ได้ว่าตอนนี้สมองมีเเต่เรื่องอกุศลจนกลัวว่าออกไปสภาพนี้จะไม่รอดหรือถ้ามันเห้ดคิดว่าผมอ่อยขึ้นมาก็ฉิบหาย

          บอกเลยกูไม่พร้อม

          "เอาก็เอาวะ"ผมพูดกับตัวเองเเล้วค่อยๆเเง้มประตูออกลองสอดส่องดูลาดเลาก่อน เสียงทีวีดังคลอดมาจากทางห้องนั่งเล่นผมก็ต้องถอนหายใจเเล้วก้าวเท้าออกไป

          "Corgi"

          เฮือก!

          ไอฝรั่งเรียกผมจากด้านหลัง มันจะไม่อะไรเลยถ้าเสียงมันไม่แหบพร่าเบาหวิวเเละอยู่ใกล้จนเสียวสันหลังวาบเเบบนี้

          ไม่นะ น้องธีร์ยังไม่พร้อม

          "อะ..เอ่อ"ผมชะงักมือที่จะหมุนลูกบิดประตูห้องตัวเอง ไม่กล้าหันไปเผชิญหน้าเลยได้อ้ำๆอึ้งๆไม่รู้จะพูดอะไรหรือทำอะไรกับสถานการณ์ตอนนี้ คือ...ผมไม่รู้ว่าในใจมันคิดอะไรอยู่ด้วยเเหละ ไม่รู้ว่าจิตใจจะอกุศลเหมือนผมรึเปล่า เเต่คงไม่เเหละมันคนดีจะตาย

          งั้นผมก็คงไม่ต้องกลัวสินะ..

          "จะนอนยังอ่ะ ไอขอไปแต่งตัว..."พอคิดได้ดังนั้นที่กังวลอยู่ก็หายเป็นปลิดทิ้ง กล้าหันมาคุยกับมันอย่าปกติ เเต่ก็ต้องนิ่งค้างอีกครั้ง

          ทำไมวันนี้มันไม่ใส่เสื้อนอนนนน!!!

          พอหันไปดั้งแหมบๆก็ชนเข้ากับอกเเข็งๆที่เปลือยอยู่ทันทีนี่สิ มันดันนึกครึ้มอะไรไม่รู้จะ อุตส่าห์ใส่กางเกงเเล้วก็ใส่เสื้อด้วยสิวะ!

          "Go to bed or go to the bed? (จะไปนอนหรือไปที่เตียง)"

          "อะ..อะไรของมึง"เสียงผมเริ่มไม่มั่นคง เมื่อมันเขยิบเข้ามาใกล้จนหลังผมชนกับประตู ใช้มือสองข้างกักกันผมไม่ให้หนี

          "Let's go to the bed(ไปที่เตียงกันเถอะ)"

          "คะ..คือ"

          แกร็ก

          ไม่ว่าเปล่ามันยื่นมือไปเปิดประตูห้องจนผมเเทบจะหงายหลัง ดีที่มันยังช่วยดึงผมไว้ก่อน ผมเดินถอยหลังตามสัญชาตญาณเพราะมันเล่นเดิมเข้าหาพร้อมสายตาเป็นประกายน่ะสิ

          ตุ้บ!

          เเละร่างผมก็หงายลงเตียงเป็นอันที่เรียบร้อยโดยมีไอหมีควายตามมาเเต่มันยังไม่ทันได้ก้าวตามขึ้นเตียงมา...

          "Shit!"มันสบถลั่น คิ้วนี่ขมวดมุ่นสายตาจดจ้องอยู่ที่พื้นจนผมต้องชะโงกหน้าไปดูอย่างสงสัย

          ขี้..ขี้จริงๆว่ะ

           กลิ่นนี่โชยมาเลยจนผมต้องเรียกชื่อตัวการออกมาเสียงดัง

          "ไอเตอร์!"



--------------------------------
ไถ่โทษที่หายไปนานค่ะ อัพเช้า อัพเย็น อัพมืด อัพค่ำกันเลยทีเดียว

ขออธิบายประโยค ที่บอกว่าจะไปนอนหรือไปเตียงคือพี่เขาเล่นคำค่ะ
ถ้า>go to bed = นอน เเบบนอนหลับ ถ้า>go to the bed = ไปเตียงเเต่ไม่ได้หลับ(?) ประมาณนี้ค่ะ





ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
โครตดีใจ คู่นี้เขาพัฒนาแล้ววววว

(แต่จะโรแมนซ์นานๆหน่อยก็ไม่ได้นะหมาเตอร์ ><)


คิดถึงคุณ kiitos นะคะ แวะมาหาบ่อยๆน้า

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ไอ้เต้อ ทำเสียรมณ์เลย :ling1: :ling1: :ling1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ pe-ar

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
ไอ้เต้ออออออ หูยยยย อารมณ์เสีย

ออฟไลน์ Kiitos

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 45
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
Chapter19
| Hubby

          หลังจากโศกนาฏกรรมขี้ผ่านไป ผมไม่รู้จะขำหรือสงสารไอฝรั่งดีเหมือนกันที่เดินโหยงเหยงเข้าห้องน้ำไปล้างเท้า มันดูเงิบๆเหมือนกันเเต่ไม่ได้หัวเสียมาก ผมเองก็จัดการทำความสะอาดที่เหลือบนพื้นให้เรียบร้อย เเอบชะโงกหน้าไปดูคนข้างนอกที่ยินสอนไอเตอร์อยู่

          ดีที่มันเป็นสัตวเเพทย์ ตอนเเรกผมกลัวว่ามันจะตีไอเตอร์ แต่เปล่า มันเเค่บ่นๆจากนั้นก็สอนอะไรของมันไปเเอบเห็นมันตบหัวไอเตอร์เบาๆด้วย ไปๆมาๆก็กลายเป็นมันไปนั่งฟัดกับหมาเพราะความมันเขี้ยว

ผมอดยิ้มกับภาพผู้ชายตัวใหญ่ที่กล้ามเป็นมัดๆล้มลุกคุกคลานเพราะพยายามกอดหมาไทยธรรมดาที่ดิ้นเต็มที่จะไม่ยอมให้กอด เเต่ไอเตอร์มันไม่รู้อะไรซะเเล้วเเรงหมาตัวน้อยอย่างมันนะหรือจะสู้เเรงหมีควายในร่างคนได้ ไอหมีควายหัวเราะออกมาเมื่อชนะหมาได้เเล้วกดจมูกลงหอมหน้าไอเตอร์อีกรอบ

          ผมชอบนะ เวลามันเล่นกับเตอร์ หน้ามันมักจะประดับไปด้วยรอยยิ้มตลอด เป็นรอยยิ้มกว้างที่เต็มไปด้วยความสุข ไร้การเสเเสร้ง ดูมีความสุขจริงๆ ซึ่งคนมองก็อดมีความสุขตามไปไม่ได้

          ทำไมมันถึงรักสัตว์ได้ขนาดนี้นะ

          ขนาดผมถึงไม่ได้เกลียดเเต่ก็ไม่ถึงกับรัก ก็นะ...ขนาดเเถวบ้านผมเขาก็ไม่มองหมาเป็นเพื่อนหรือสัตว์เลี้ยงหรอก สัตว์ใดๆในโลกล้วนเป็นอาหารหมดนั่นเเหละ เเต่ออกตัวไว้ก่อนเลยว่าผมไม่กินนะ ทำใจไม่ลงจริงๆ ถึงเขาจะบอกว่ามันก็เหมือนหมูเหมือนไก่ก็ตามที

          กึก
     
          ผมชะงักรอยยิ้มตัวเองทันที เมื่อเห็นว่าในระหว่างที่ผมเหม่อคิดนู่นนี่ไอคนที่นอนกลิ้งอยู่ที่พื้นดันเงยหน้ามาสบตาผมที่โผล่หัวไปแอบดูจนต้องเผยยิ้มแห้งๆให้เเล้วค่อยๆหดหัวตัวเองกลับมาที่เดิม รีบขึ้นเตียงเเละเอาผ้าห่มคลุมบอกกลายๆว่าจะนอนเเล้ว

          อารมณ์ตื่นเต้นเมื่อครู่นี่หายไปเรียบร้อยเเล้ว บอกตรงๆครับ แค่ได้กลิ่นขี้ก็หมดเเล้วอารมณ์ทั้งหลายเนี่ย

          ฟึ่บ

          เเรงยุบตัวของเตียงข้างกายทำให้รับรู้ได้ว่าใครอีกคนได้เข้าประจำที่เรียบร้อยเเล้ว ทั้งๆที่ตะลอนเที่ยวกันทั้งวันเเต่ทำไม๊ทำไมกลับนอนไม่หลับตาสว่างมากจนเผลอเกร็งตัวทันทีเมื่อสัมผัสได้ถึงไออุ่นที่อยู่ไม่ไกล

          เนื่องจากผมนอนหันหลังให้อีกคนเลยไม่รู้ว่ามันทำอะไรอยู่ เเต่พอสัมผัสได้ถึงเงาที่ทาบทับลงมาผมเลยรีบหลับตาปี๋เเสร้งเป็นหลับกลัวว่ามันจะทำอะไร

          ฟอด

          "Goodnight"

          มันกลับเเค่ก้มลงหอมแก้มผมเบาๆเเล้วกระซิบเสียงเเผ่วจากนั้นก็กลับไปสอดตัวในผ้าห่มนอนดีๆ

          แต่...มันไม่ปกติตรงที่ปกติมันจะรวบผมเข้าไปกอดเเต่คราวนี้มันไม่

          ผมขมวดคิ้วอัตโนมัติ ผ่านไปซักพักก็เเล้วมันก็ยังไม่ขยับจนผมต้องลืมตาขึ้นเเล้วขยับยุกยิกอย่างอยู่ไม่สุข

          ผมพลิกตัวมานอนหงาย หันหน้าไปหาคนตัวโตข้างๆที่หันหน้ามาหาเเต่หลับตาหายใจเข้าออกเป็นจังหวะเป็นหลักฐานเเสดงว่ามันหลับไปเรียบร้อยเเล้ว

          ทำไมมันหลับได้วะ!

          ผมแอบหงุดหงิดที่ตัวเองนอนไม่หลับเพราะรู้สึกเหมือนขาดอะไรบางอย่าง ผมยื่นหน้าไปใกล้มันเเลบลิ้นใส่นิดนึงเพื่อความหมันไส้ส่วนตัว จากนั้นก็เนียนเขยิบเข้าไปเอาไออุ่นจากตัวอีกคน ยกเเขนหนักๆที่รู้สึกว่ามันเบากว่าที่คิดให้มาพาดเอวตัวเองไว้

          ต้องอย่างนี้สิ

          ผมคิดกับตัวเองในใจก่อนจะหลับตาลงเเล้วจมดิ่งสู่ห้วงนิทรา
     
          โดยที่ไม่ทันได้เห็นรอยยิ้มของคนที่คิดว่าหลับไปเเล้ว...


---------------


          เช้าวันต่อมาทุกอย่างยังคงปกติ เนื่องด้วยวันนี้เป็นวันอาทิตย์ทั้งผมทั้งมันเลยสิงสถิตอยู่ที่คอนโดเหมือนกัน

          ผมตื่นมาตอนประมาณสิบโมงหน่อยๆ เดินง่วงๆหาวหวอดๆออกจากห้อง กลิ่นหอมของอาหารเช้าที่ลอยมาทำให้ผมเผยยิ้มขึ้นนิดอย่างรู้ว่าใครเป็นคนทำ

          พอผมโผล่หัวไปทรุดตัวนั่งที่โต๊ะกินข้าวอย่างรู้งาน คนที่ง่วงอยู่กับหม้อกับกระทะก็หันมายิ้มบางๆให้ ซึ่งผมก็ยิ้มตอบก่อนจะก้มมาเล่นกับไอเตอร์ที่เขามาพันเเข้งพันขาผม

           "good morning"คนตัวโตเดินมาพร้อมกับอาหารบอกผมเหมือนทุกวันก่อนที่จะก้มมาหอมแก้มผมฟอดใหญ่ ผมเองก็ขี้เกียจจะทำตัวเป็นสาววัยเเรกเยิ้มที่ต้องมาเขินทุกสิ่งอย่างเลยยิ้มๆเเล้วเดินเข้าโซนครัวเพื่อไปหยิบพวกเเก้วน้ำมา

          ส่วนมากมันก็ทำอาหารสไตล์ฝรั่งๆของมันนั้นเเหละ ไม่ไส้กรอกไข่ดาวกับเเฮม ก็เป็นพวกซุปกับขนมปังเเบบถ้วยเดียวจบ

          ผมนั่งกินอาหารเกือบเช้ากับมันเหมือนปกติ มันก็ยังคงชอบนั่งจ้องหน้าผมขณะที่ผมกิน ทุกอย่างเหมือนปกติมากๆยกเว้นบรรยากาศฟุ้งๆสีชมพูอมม่วงที่ล่องลอยเป็นเเบ็คกราวน์อยู่รอบๆตัวเนี่ยเเหละครับ

          พอกินเสร็จก็เป็นหน้าที่ผมที่ต้องไปล้างจาน ส่วนปกติมันก็คงไปนั่งเเหม็บอยู่หน้าทีวีไม่ก็ก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์ของมันไป

          "I help.(มา ฉันช่วย)"แต่วันนี้มันกลับเดินตามผมมาเเล้วพูดด้วยรอยยิ้ม

          "เห้ย ไม่ต้องๆ I can do it"ผมดันอกมันไม่ให้มันมาช่วย ไม่งั้นเวรที่จัดกันไว้ก็ไม่มีความหมายนะสิ

          เเต่มันฟังที่ไหนล่ะ

          "อ้ะ!"ผมร้องออกมาโดยอัตโนมัติ มันไม่ได้พ฿ดอะไรต่อ แต่ด้วยความที่มันมายืนช้อนผมอยู่ด้านหลังเเละมันเขยิบเข้าไปชิดซิงค์น้ำเพื่อยื่นมือไปล้างจานโดยที่ผมยังยืนอยู่น่ะสิ!

          ผมถูกดันจนผมจมไปกับอกมัน ผมเลยจำต้องหันกลับไปสนใจที่จานต่อไม่ได้ เเต่ก็นั่นเเหละ ด้วยสภาพที่อยู่ตอนนี้ทำให้ผมไม่สามารถยื่นมือไปล้างจานได้อย่างใจนึกเพราะติดเเขนเเน่นๆนั่นขวาไว้จนเหมือนโอบกอดผมจากด้านหลัง

          จะล้างก็ล้างได้นั่นเเหละ แต่พอผมยื่นมือไปปุ๊ปอีกคนก็เนียนจับมือผมเพื่อล้างอีกทีเนี่ยเเหละ

          ใบหน้าผมร้อนขึ้นมาซะเฉยๆเพราะการเที่เเนบชิดเเต่เกินควรเเละความอ่อยเเรงของอีกคน

          ตั้งเเต่ที่มันสารภาพดูเหมือนผมจะได้เจออีกด้านที่ผมไม่เคยเจอมาก่อน

          ท่าทางจะเป็นด้านมืดซะด้วย

          ผมยืนเเข็งอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งมันล้างจานเสร็จ ผมคิดว่าตัวเองเป็นตุ๊กตาที่ถูกมันเหน็บไว้ไปเเล้วเสียอีก เพราะเวลามันเอี้ยวตัวไปคว่ำจานผมก็ต้องเอี้ยวตามไปด้วยอยู่อย่างนั้นจนจานหมด...





          กว่าจะสู้รบปรบมือหนีจากมันมานั่งพักอยู่ที่โซฟาได้ไม่นาน ไม่ใช่เเค่ตอนล้างจานนะครับ หลังจากนั้นเมื่อมีโอกาสมันก็จะเข้ามาลวนลามผมตลอด เข้ามานัวเนีย พัวพันเหมือนไอเตอร์หมายเลขสอง ตอนนี้ก็เช่นกัน...

          ถึงผมจะบอกว่าได้นั่งพักก็เถอะ แต่มันก็ยังนอนเหยียดไปบนโซฟาโดยใช้ตักผมเป็นหมอน ส่วนหมอนจริงๆน่ะมันโยนไปไหนเเล้วก็ไม่รู้

          Rrrrr

          เสียงริงโทนสุดคลาสสิกดังขึ้น เเน่นอนว่ามันคือของผม ผมลุกขึ้นจากโซฟาเพื่อจะไปหยิบโทรศัพท์ที่นอนเน่าอยู่ในห้องนอน ซึ่งไอฝรั่งก็ยอมยกหัวยอมให้ผมไปดีๆ

          "ฮัลโหล"

          [วันนี้ว่างไหม]เสียงของเพื่อนลอยมาตามสาย ผมจำเสียงมันได้ในทันทีโดยไม่ต้องดูชื่อคนที่โทรเข้ามา

          "ว่าง มีอะไรรึเปล่า ปกติมึงไม่ค่อยโทรหากูนี่"

          [เรื่องงานกลุ่มน่ะ จะถึงเดดไลน์เเล้วนะ]มันพูดด้วยเสียงเฉื่อยๆ

          สมองผมค่อยๆประมวลผลเเล้วนึกย้อนถึงสิ่งที่มันพูด...

          "ฉิบหาย!!! เเล้วทำไมมึงเพิ่งมาบอกวะ!!"

          [กูลืม]ผมเเทบอยากจะพุ่งทะลุโทรศัพท์ไปตบหัวไอพุมันทันที เเต่จะโทษมันคนเดียวก็ไม่ได้เพราะผมเองก็ลืมนี่สิ!!

          "ที่หอมึงใช่ไหม"ผมถามมันอย่างร้อนใจ ผมไม่อยากพลาดคะเเนนเก็บในวิชามหาโหด เเละผมก็อยากจะเรียนจบภายใน4ปีนะ

          [เออ มาไวๆ]

          "เดี๋ยวกูไปเลย เจอกัน"ผมบอกมันเเค่นั้นเเล้วเป็นฝ่ายกดตัดสาย เดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเนื่องจากผมยังอยู่ในชุดนอนเน่าๆจากนั้นก็คว้ากระเป๋าตังเเล้วออกตัวทันที

          "Where are you going?(นั่นนายจะไปไหนน่ะ)"

          ไอหมีควายมองตามผมงงๆก่อนจะเดินตามมาเเล้วเอ่ยปากถามในขณะที่ผมใส่รองเท้า

          "Group work with my friends อ่ะ"ผมบอกมันโดยไม่หันไปมองหน้า ตอนนี้กูไม่รู้อะไรทั้งนั้นกูรีบมากกก

          "When are you coming back?(แล้วจะกลับมาเมื่อไหร่)"

          "อืม..ดึกๆอ่ะ nightๆเลย"ผมก็ไม่รู้จะแปลเป็นยังไง พอผมบอกอย่างนั้นคิ้วของมันก็กดลงนิด

          "If I don't come back.You don't worry นะ It's mean sleep there เลย"ผมขยายความอีก

           เพราะพอระลึกชาติได้เเล้ว ทำให้ผมได้รู้ว่าเดดไลน์ที่เพื่อนมันพูดถึงคือพรุ่งนี้ยังไงล่ะ เเสดงว่ายังไงก็ต้องเสร็จคืนนี้เท่านั้น!

          "อืม"มันครางรับสั้นๆ หน้าตานี่ดูหงอยลงไปถนัดตา
     
          "But you can call me all time นะ ไปละ บาย!"ผมบอกมันยิ้มๆเเล้วโบกมือลารีบมุ่งหน้าไปหาเพื่อนทันที

          ให้เดานะ อีกคนคงยิ้มเเก้มปริไม่ต่างจากผมหรอก


-------------------------------------------


          "เฮ้อ! ในที่สุด..."ผมพูดพึมพำก่อนจะบิดขี้เกียจยาวๆเเล้วหาวอีกครั้งหลังจากใช้เวลาไปยาวนานหลายชั่วโมงกับการนั่งหลังจดหลังเเข็งพิมพ์งานบนโต๊ะญี่ปุ่นโดยไม่ได้ลุกไปไหนเลย

          นี่ก็เกือบสี่ทุ่มเเล้ว เพื่อนๆของผมก็มีสภาพไม่ต่างกันเท่าไหร่ ทั้งไอพุ ไอจีนหรือไอเเต็กก็ตาม

          คิดๆดูเเล้วคืนนี้ผมก็คงต้องค้างนี่เเหละ เพราะถึงงานจะเสร็จเเล้วเเต่ก็เฉพาะตรงส่วนที่ผมได้เเบ่งมา เมื่อผมเสร็จก่อนผมเลย...

          "เอาหัวข้อนี้ไปช่วยกูทำด้วย"

          ได้รับงานเพิ่มนี่ไง...

          "หยุดเลยไอพุ ของมึงน่ะง่ายสุดเเล้ว แต่ดันนั่งสัปหงกไปทำไปแบบนั้นมันเลยไม่เสร็จไง"ผมยังไม่ทันจะได้ไปรับงานเพิ่มจากเพื่อนพุไอเเต็กที่รักก็เเสดงความเป็นครูเเละเพื่อนดีเด่นของมันออกมาทันทีจนน้ำตาผมจะไหล เเต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ...

          "เอามาเหอะ ไหนๆกูก็ว่างเเล้ว ช่วยๆกันทำจะได้เสร็จไวๆ"ความเป็นคนดีเเละความไม่คิดเล็กคิดน้อย ผมเลยส่ายหน้าไม่ถือสาเเล้วยินดีรับงานเพิ่ม

          "มึงนี่นะ งั้นมึงไปอาบน้ำอาบท่า หาอะไรกินก่อนไป คนอื่นเขามีพักไปต้มมาม่าบ้างเเต่มึงนี่ไม่ยอมลุกไปไหนเลยตั้งเเต่บ่าย"ไอเเต็กยังคงทำหน้าที่เป็นเเม่คนที่สองผมเลยยกยิ้มนึกเอ็นดูไปเพื่อนคนนี้ขึ้นมาไม่ได้

          "คร้าบคุณเเม่ ไอจีนกูยืมชุดหน่อย"ประโยคเเรกผมหันไปพูดเสียงยานคางให้ไอเเต็กก่อนจะหันไปหาอีกคนที่นอนพิมพ์งานอยู่บนเตียง

          "ในตู้ หยิบๆไปเหอะ ของกูกับของไอพุมันปนๆกันไปหมดเเล้ว"

          ผมเลิกคิ้วนิด จำได้ว่าครั้งเเรกที่ผมมาค้าง ผมเคยเอ่ยยืมชุดไอพุเเต่มันกลับปฏิเสธอย่างเดียวเพราะมันไม่ชอบใช้ของร่วมกับคนอื่น จนผมเอ่ยปากยืมไอจีนจนชิน

          "ไอพุ มึงไม่หวงของเเล้วหรอวะ"เเละด้วยความที่ผมเป็นคนที่สงสัยอะไรก็ถาม หลังจากที่หยิบเสื้อผ้าเรียบร้อยผมก็หันไปถามอีกคนที่จับจองโต๊ะเขียนหนังสือไว้

          "มึงว่างเเล้วก็อย่าชวนคุยสิ กูยังมีงานต้องทำนะ"มันตอบกลับมาเเบบไม่หันมามองหน้าผมด้วยซ้ำ ผมเบ้ปากใส่มันเเบยที่มันมองไม่เห็นก่อนจะเหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างก่อนที่จะได้เข้าห้องน้ำ

          "อันนี้ของใครวะมึง"ผมโผล่หัวไปหาพวกมันเเล้วชูกล่องสี่เหลี่ยมเล็กๆให้พวกมันดู

          "ทำไมมึงจะเอาไปใช้หรอ"ไอจีนเงยหน้ามามองเเวบนึงเเล้วเอ่ยปากถาม

          "พ่อง! กูเเค่ถาม เเบบว่ามึงเล่นมีอยู่ที่ห้องเป็นโหลเลย"ผมไม่ได้เวอร์นะ ที่ผมถามเพราะตั้งเเต่ผมเคยมาห้องพวกมันผมยังไม่เคยเจอถุงยางในห้องมันเลย เเล้วหน้าอย่างมันสองคนไม่น่าจะชอบไปป้าบๆกับผู้หญิงบ่อยๆซะด้วย ถึงมันอาจจะชอบป้าบๆก็เถอะเเต่ผมไม่เคยเห็นมันควงผู้หญิงเลยนะตั้งเเต่คบกันมา

          ถามไปก็กระดากปากไปแหะ ช่างมันละกันถือว่าเรื่องส่วนตัวน้องธีร์จะไม่ยุ่ง

          ผมคิดไปคิดมาก็เก็บความสงสัยที่ไม่ควรสงสัยไง้ดีกว่าเเล้วจะเดินเข้าห้องน้ำแต่ก็ถูกเสียงไอพุขัดขึ้นมาก่อน

          ใครเเม่งบอกผมว่าอย่าชวนคุยวะ

          "เเต่ถ้ามึงจะใช้กูไม่เเนะนำว่ะ"

          "ทำไม หวงของรึไง"

          "เปล่า เเต่มันคงหลวม ฮ่าๆๆ"ว่าเเล้วก็ขำก๊ากออกมาให้ผมส่งนิ้วกลางงามๆให้พวกมัน ไอเเต็กมันยังขำไปด้วยเลยอ่ะคิดดู

          "เอ้อ! เล็กสั้นขยันซอยมึงไม่เคยได้ยินหรอ"ผมบอกพวกมันอย่างภาคภูมิเเล้วหนีเข้าห้องน้ำไปเลย




          "ฮ่า~ อาบน้ำเเล้วสดชื่นชะมัด"ผมพึมพำเหมือนคนเเก่ ยามที่เดินออกจากห้องน้ำในชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้นมุ่งไปตรงครัวเล็กๆเพื่อต้มมาม่า

          กลิ่นมาม่านี่มันสวรรค์ชัดๆ

          ตั้งเเต่ที่ไอฝรั่งมาอยู่ผมเเทบไม่ได้กินมาม่าเลย เรียกได้ว่าไม่ได้กินเลยดีกว่า ไม่ผมทำเองมันก็ทำอย่างที่รู้กันว่าสลับกันมาตลอด

          "ฮื้ม...ฮืมม"ผมเดินฮัมเพลงเเล้วยกถ้วยมาม่าใส่ไข่สูตรพิเศษของตัวเองกลับเข้าไปที่ห้องนอนที่กลายเป็นห้องทำงานชั่วคราว

          เเต่พอวางถ้วยมาม่าบนโต๊ะญี่ปุ่นเรียบร้อยทรุดตัวนั่งเรียบร้อยบิดขี้เกียจอีกหนึ่งทีก็เพิ่งสัมผัสได้ถึงเดดเเอร์ในห้องจนต้องเงยหน้ามองรอบๆ

          "ทำไมมองกูอย่างงั้น"ผมถามเหลอหลาอย่างไม่เข้าใจเมื่อเพื่อนๆทั้งสามพร้อมใจกันหันมาจ้องผมนิ่งเหมือนคาดคั้น

          "อะไร มีอะไรก็พูดดิ กูงงนะเนี่ย"ผมเสริมอีกเมื่อยังไม่มีใครยอมเปิดปากพูด

          จนกระทั่งไอพุเป็นคนพูดขึ้น...

          "มีมีผัวเเล้วหรอวะเตี้ย"

          ถ้าเป็นปกติผมคงด่ามันเรื่องสรรพนามที่ใช้เรียกผมไปแล้ว เเต่ด้วยเนื้อความมันสำคัญกว่าผมเลยเบิกตากว้าง หน้าซีดปากสั่นเหมือนเด็กมีความผิดเเล้วถูกจับได้ขึ้นมาซะอย่างนั้น

          "เปล๊า! มึงเอาอะไรมาพูดวะ"เเต่ถึงอย่างนั้นปากผมก็มักจะไปก่อนที่จะได้ไตร่ตรองอะไร

          ...เเม่งมีชัวร์...

          ปฏิกริยาตอบรับที่ทำให้คนฟังมีความคิดตรงกันเเบบไม่ต้องเอ่ย

          "ถ้าไม่มีเเล้วคนที่โทรมาเป็นใคร ผัวฝรั่งด้วยนะมึง"

          ชิบหาย! เเม่งมาโทรอะไรได้ถูกจังหวะขนาดนี้วะไอหมีควายยยยยย!

          ผมร้องไห้อยู่ในใจเเล้วกร่นด่าอีกคนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวเเต่ดันโทรมาได้ถูกเวลาสุดๆ

          "กะ..ก็คนนั้นที่พวกมึงเคยเจอไง ที่เป็นเมทกู"

          "เมทเหี้ยไรเมมชื่อว่า'Hubby'วะ เผื่อมึงโง่อิ้งไม่รู้ว่าตัวเองเมมอะไรลงไปนะ ไอคำนี้เอาไปเสิชดิกเสิชดิ๊กของมึงยังไงมันก็เเปลว่า'ผัว'เว้ย!!"

          ไอเหี้ยหมีควาย!!!!!

          "กูว่ามึงคงไม่ได้ซอยเเล้วว่ะ ไอ้เล็กสั้นของมึงเนี่ย"

          มึงก็ด้วยไอเพื่อนเหี้ย!!!!








ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
 :hao7:

โอ้ยฮา หนูธีร์จะเอาถุงยางไปใช้ทำไรเหรอคะ? ชาตินี้คงไม่ได้ใช้แล้วอ่ะค่ะ ให้ออสตินใช้แทนละกันเนอะ!

(ตกลงออสตินนี่เป็นใครนิ มีคนคุ้นๆหน้าด้วยอ่าาาาาาาาา)

>< อยากอ่านต่ออีก อยากได้ความมุ้งมิ้ง อยากได้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  :กอด1:

ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
จะรอดไม่รอด รอดู

555

ออฟไลน์ Kiitos

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 45
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
Chapter20
| Boyfriend





          จบสิ้นเเล้วชีวิต

          "ทำไมทำหน้าอย่างนั้นสิเพื่อนรัก"เพื่อนตัวดีนามไอจีนเดินมาตบบ่าผมปุๆ ทำหน้าเหมือนสงสารผมมากมาย เเต่ผมเห็นริมฝีปากมันกระตุกจนบาทาผมจะกระตุกตามปากมันอยู่เเล้ว

          "นั่นสิ ทำหน้าบึ้งๆอย่างนี้เดี๋ยวผัวไม่รักนะ"

          "เนอะไอจีน ดูสิหน้าดำคร่ำเครียดเชียว"

          ผมละเบื่อไอลูกคู่ลูกรับสองคนนี้จริงๆ เข้ากันได้ดียิ่งกว่าปี่กับขลุ่ย ยิ่งในเวลาเเบบนี้มันนี่กวนตีนได้โล่จริงๆ

          จบสิ้นจริงๆนั่นเเหละ

          โมเม้นสุดเหียกที่เชื่อว่าทุกคนต้องเคยผ่านมาเเละคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี

          เมื่อเพื่อนรู้ความลับของเราเข้า...

          เพื่อน+ความลับ = ฉิบหาย

          เป็นสมการที่ถูกต้องเเละไม่มีทางเปลี่ยนเเปลงเป็นค่าคงที่เเน่นอนด็อกเตอร์ธีร์ยืนยันนอนยันนั่งยัน

          ขออธิบายความฉิบหายนี้ก่อน สิ่งที่จะตามมาคือ...การล้อที่ไม่มีวันสิ้นสุด

          เเละ...การหยิบยกเรื่องนี้มาเป็นคำขู่

          ฮือออ แค่คิดชีวิตก็เหนื่อย

          "พวกมึงเลิกเเซวมันได้เเล้ว มันก็แค่มีผัวเอง"เกือบดีละครับ ไอแต็กมันเกือบได้เป็นฮีโร่ในสายตาผมไปแล้วถ้าไม่ติดประโยคสุดท้าย

          พวกมึงจะอะไรนักหนากับคำว่าผัววะ!

          หลังจากตอนนั้น ไอฝรั่งมันก็ยังจะโทรมาหาผมอีกรอบซึ่งตอนนั้นผมรู้เท่าไม่ถึงการณ์กดรับทันที สิ่งที่ได้คือเสียงก่อกวนจากเพื่อนร่วมห้องที่ชอบทำเสียงประหลาดๆเช่นเสียงอะอร๊างไม่ก็ตะโกนให้เสียมันเข้าโทรศัพท์จนผมต้องตัดสายทิ้ง

          ไอเพื่อนเวร!!

          "ไอแต็ก"

          "ห้ะ?"

          "ไปหาไรกินกัน กูไม่อยากอยู่กับพวกเเม่งเเล้ว"ผมหันไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนตัวเล็กทันที ถึงมันจะพูดเเซวผมบ้างเเต่ก็ไม่หนักหน่วงเท่าไปสองตัวนั้น เพราะฉะนั้นสิ่งที่ควรทำตอนนี้เลยคือรีบปลีกตัวออกจากพวกมัน

          ว่าเเล้วก็คว้าเเขนเพื่อนตัวเล็กเเล้วก้าวฉับๆทันที ซึ่งพวกมันสองตัวก็หัวเราะไล่หลังมา จากนั้นก็แยกกันไปอีกทาง

          "เอ้อ! จารย์'ว่าไงบ้างอ่ะ"ผมนึกขึ้นได้ระหว่างทางเดินไปโรงอาหาร คือไอแต็กเป็นตัวเเทนเอางานไปส่งครับ วันนี้ไม่มีคลาสเเต่อาจารย์เเกยังจะนัดส่งงานลำบากพวกผมที่นั่งทำงานโต้รุ่งต้องเเหกขี้ตาตื่นเอางานมาส่ง ฉะนั้นไม่ต้องสงสัยว่าทำไมไอสองเกลอมันยอมลามือจากผมไปง่ายๆ เพราะมันง่วงไงล่ะครับ

          ทั้งที่พวกเเม่งทำงานน้อยจะตาย

          "ก็ไม่ว่าอะไรอ่ะ ก็เหมือนเดิม คงต้องลุ้นเอา"มันตอบเสียงเหนื่อยๆ

          "กูว่ามึงกลับไปนอนก่อนไหมวะ ท่าทางมึงไม่ไหวเเล้วนะตามึงก็แดงๆ"

          สภาพมันนี่เหมือนซอมบี้มาก คือมันทำงานหนักสุดเลยครับ นอกจากจะต้องทำส่วนของตัวเองเเล้วมันยังต้องตรวจงานพวกผมด้วย ถ้าไม่ได้ยังไงมันก็จะให้แก้ แต่เมื่อคืนผมช่วยมันได้ไม่เท่าไหร่ก็สลบ แล้วมันก็ดันไม่ปลุกผมขึ้นมาช่วย นั่งทำตาแหกอยู่คนเดียว

          "ไม่เป็นไรหรอก โต้รุ่งวันเดียวไม่คณามือไอกลองเเต็กหรอกเว้ย!"มันกำหมัดเเล้วชูขึ้นเพื่อเป็นการยืนยันเเล้วระบายยิ้มบางๆ

          "เออกูรู้ว่าไอกลองเเต็กของกูมันเก่งอยู่เเล้ว"ผมยิ้มเเล้วพุ่งไปกอดคอมัน ยื่นมือไปยีหัวมันอย่างมันเขี้ยวไม่ได้

          "ผมกูเสียทรงหมด!"มันปัดมือผมออก เเล้วก็วิ่งนำหน้าผมไปเลย มีการหันมาเเลบลิ้นใส่ด้วย

          "ทำเหมือนตอนเช้ามึงเซ็ตมาอย่างนั้นเเหละ"ผมพูดไม่ดังมากนักซึ่งมันก็คงไม่ได้ยินเพราะวิ่งไปนู้นเเล้ว

          ผมยิ้มออกไม่รู้จะขำหรือเอ็นดูนิสัยเด็กๆของมันดี ทั้งๆที่ผมเพิ่งมารู้จักมันก็ตอนเข้าปีหนึ่งซึ่งถ้านับจริงๆเเล้วยังไม่ถึงปีด้วยซ้ำ

          แต่...ผมรู้สึกโชคดีนะที่มีเพื่อนดีๆเเบบมัน


---------------------------------


          "มึงรับใช่ไหม"

          พรวดดดดด!!!

          "แค่กๆ ไอเเต็ก แค่ก มึง แค่กๆ"ผมถึงกับสำลักน้ำก๋วยเตี๋ยวที่กำลุงซด เมื่อจู่ๆมันก็ยิงคำถามแบบที่ผมไม่ทันได้ตั้งตัว

          กูขอยึดตำแหน่งเพื่อนดีเด่นของมึงคืนด่วนเลย!

          "ใจเย็นๆ กูเเค่ถามเองนะ"ทันยื่นทิชชู่มาให้ก่อนจะนั่งท้าวคางมองผมเหมือนมันเป็นคำถามปกติอย่างกินข้าวรึยัง ชื่ออะไร อายุเท่าไหร่

          "มึงถามทำไม"

          "ก็แค่อยากเเน่ใจอ่ะ"

          "เออ...มั้ง"ผมตอบอ้อมเเอ้มเผลอเสตาหลบมัน เเล้วทำเป็นเอาทิชชู่มาเช็ดปากอีกรอบ

          "ไม่ต้องมามั้ง ใช่คนที่เคยมาส่งมึงตอนนั้นป่ะ"มันยังคงจ้องหน้าผมไปถามไปเหมือนจะใช้จิตวิทยากับผม  ผมนี่ถอนหายใจเเล้วถอนหายใจอีกสุดท้ายก็ยอมเเพ้ไถตัวไปโต๊ะโรงอาหารเเล้วยอมตอบทุกคำถามของมันไปตรงๆ

          "อือ"

          "..."

          "มึงถามกูมีไรป่ะเนี่ย ปกติมึงไม่ใช่พวกชอบถามในเรื่องที่กูไม่บอกนิ"ผมถามมันกลับ เหลือบมองมันอย่างสงสัย มันเป็นพวกเอาที่เพื่อนสบายใจไว้ก่อนน่ะครับ ถ้าไม่บอกส่วนมากมันไม่มานั่งจิกตาละลาบละล้วงเเบบนี้หรอก  แต่ที่ถามออกไปเเค่สงสัยนะครับ คือไม่ได้จะว่ามัน ถ้ามันอยากรู้ผมก็ยินดีบอกอยู่เเล้ว

          ถ้าเทียบกับอีกสองหน่อนั่น...

          ผมขอบอกไอแต็กดีกว่าครับ

          "เปล่าหรอก...แล้วพี่เรนล่ะ ไม่ใช่ว่าคบกับมึงอยู่หรอ"มันส่ายหน้าปฏิเสธเเล้วถามผมต่อ

          "อันนั้นกูเเกล้งเป็นเฉยๆเหอะ พี่เขาขอความช่วยเหลือมาน่ะ"

          "งั้นหรอ...แต่ไอฝรั่งนี่ของจริงใช่ไหม"

          "อ่าหะ...เเต่กูก็บอกไม่ถูกว่ะ...คือเขาไม่ได้พูดว่าขอกูเป็นเเฟนหรืออะไรนะ"ผมตอบอย่างไม่มั่นใจ จะว่าไปมันค่อนข้างจะคลุมเคลือเเละยังไม่ชัดเจนเท่าไหร่..

          "อ่า...แล้วมึง..เอ่อ.."มันอ้าปากถามต่อ เเต่คราวนี้กับอึกอัก หน้าเริ่มขึ้นสีเเดงระเรื่อให้ผมขมวดคิ้วสงสัย

          "มึงถามมาได้เลย กูตอบมาขนาดนี้เเล้ว"

          "เอ่อคือ...เอ่อ..มึงกับเขา.."มันยังคงอึกอักเหมือนจะพูดเเล้วก็ไม่พูดซักที

          "กูกับเขา?"

          "เอ่อ...มีไรกันยังอ่ะ"พอมันถามจบก็หันมายิ้มแห้งๆให้ผม ส่วนผมน่ะหรอ...อ้าปากค้างจนเห็นลิ้นไก่เเล้วมั้งหน้าก็ร้อนขึ้นเรื่อยๆ พอตั้งสติได้ผมก็ตอบมันเสียงดังอย่างลืมตัว

          "ยังโว้ย!!!!"


          "อะ..อ่อ"มันชะงักไปนิดนึงที่ผมตอบมันเสียงดัง ผมเองก็ชะงักปากทันทีเมื่อลืมไปว่าตัวเองนั้นนั่งอยู่กลางโรงอาหาร...คนนี่มองกันให้พรึ่บ

          "..."

          "..."

          "เอ่อ...ไอแต็ก..คือกู..เอ่อ..สงสัย"พอเริ่มตั้งสติได้ผมก็ถือโอกาสรวบรวมความกล้าจะถามในสิ่งที่สงสัย เเต่จะถามไปมันก็กระดากปากแปลกๆเลยอึกอั่กอยู่พักใหญ่

          "สงสัยว่า?"

          "เอ่อ...คือ..ผู้ชายกับผู้ชายนี่..."อุณภูมิที่ใบหน้าร้อนขึ้นเรื่อยๆอย่างที่ผมเองยังสัมผัสได้ ถึงจะเอ่ยปากถามไปเเต่ก็ไม่กล้ามองมันตรงๆเหล่มองมันทีเเล้วเสตาไปทางอื่นสลับไปมา

          "หยุด! มึงไม่ต้องพูดเเล้ว!"มันยกมือห้ามขึ้นก่อนที่ผมจะถามจบ ไอแต็กยกมือปิดหน้าตัวเองก่อนจะส่ายหน้ารัวๆเหมือนรับไม่ได้

          ผมเองก็กระดากปากเเต่ใจมันก็อยากรู้ มันก็ออกจะเคอะๆเขินๆนิดหน่อยเวลาจะพูด..

          "คือนั่นเเหละ..คือ..มันแบบ จะยังไงวะ.."

          "ธีร์...มึงเห็นกูเป็นคนยังไง"มันเหลือบตามามองหน้าผมเเบบที่ยังไม่ละมือที่ปิดหน้าไว้ เเต่ก็พอมองออกว่าหน้ามันนี่เเดงเเจ๋ยิ่งกว่าผมซะอีก

          "ก็แบบ..กูไม่รู้จะถามใคร"ผมยิ้มแหะๆ เห็นมันเป็นคนรอบรู้ก็คิดว่ามันจะรู้นี่หว่า..

          "เลิกพูดเรื่องนี้เถอะ"คราวนี้มันฟุบหน้าลงไปกับโต๊ะเเล้วพูดเสียงอู้อี้ ซึ่งผมก็เห็นด้วยกับมัน

          "อืม กูก็ว่างั้นแหละ"



---------------------------------------------



          "โย่"

          "อ่าว พี่เรน"

          หลังจากหาอะไรกินจนอิ่มท้องผมก็เเยกจากไอกลองเเต็กมา ต่างคนต่างอยากกลับไปหาเวลานอนเพิ่ม ไอผมน่ะไม่เท่าไหร่เล่นหลับยาวตั้งเเต่เมื่อคืนเเต่มันน่ะโต้รุ่งเเบกสังขารมาส่งงานได้นี่ก็เก่งเเล้ว

          และพอเดินออกมาทางหน้าคณะก็เจอรุ่นพี่ตัวสูงยืนพิงบิ๊กไบค์คันโปรดเเล้วโบกมือทักทายด้วยใบหน้ายิ้มเเย้ม

          นี่ผมลืมเขาไปได้ยังไง..

          "เออ เสาร์หน้าว่างป่ะ"ร่างสูงเอ่ยถามเมื่อผมเดินเข้าไปหา เสาร์หน้าหรอ..

          "ว่างครับ พี่มีอะไรรึเปล่า"

          "คือคนที่ตามติดพี่อยู่เขาขอนัดเจอน่ะ"

          "ห้ะ! แล้วพี่จะลากผมไปทำไม"ผมหน้าตาตื่น เอาไปไม่โดนเจ๊เเกตบข้อหาไปเป็นก้างหรอ

          "นี่อย่าบอกว่ามึงลืมไปเเล้วนะว่าตอนนี้เป็นเเฟนพี่อยู่"

          เออว่ะ นี่ผมลืมไปเลย ช่วงนี้ในหัวมันมีเเต่เรื่องของอีกคนเต็มไปหมด

          "เเหะๆ"ผมได้เเต่หัวเราะเเห้งๆออกไป ซึ่งท่าทางเเบบนี้พี่เรนก็คงดูออกว่าผมลืมไปเเล้วจริงๆเลยเอื้อมมือมาผลักหัวผมเเบบไม่เเรงนัก

          "นัดนี้ห้ามเบี้ยว โอเคไหม"

          "โอ...ไม่สิ! คือเรื่องเเฟนนี่ขอยกเลิกได้ไหมอ่ะ"ผมเกือบจะหลวมตอบตกลงไปแล้วเเต่จู่ๆก็นึกขึ้นได้ว่าสถานะตอนนี้ของผมไม่เหมือนก่อนเเล้ว ผมไม่ใช่บักธีร์ผู้ไร้คู่อีกต่อไป!

          "หืม ทำไมล่ะ"

          "คะ..คือผม..เอ่อ"

          "มีแฟนเเล้ว?"พี่เรนเลิกคิ้วถาม ส่งให้ผมชะงัก...จะว่าไปสถานะของผมกับไอหมีควายก็ยังไม่ชัดเจนขนาดเรียกว่าเเฟน ผมเองก็ไม่อยากจะคิดเข้าข้างตัวเองซะด้วย

          "ก็ไม่เชิงเท่าไหร่"ผมตอบไปอย่างไม่เต็มปาก หลบสายตาเจ้าเล่ห์ของรุ่นพี่ร่างสูงที่กำลังจ้องมาเหมือนมองผมทะลุไปหมด

          "งั้นก็มีคนที่ชอบเเล้ว?"

          "ก็...ประมาณนั้นมั้งครับ"ผมยิ้มแห้งเกาหัวเเกรกอย่างพูดไม่ออกบอกไม่ถูก

          พี่เรนเงียบไปพักใหญ่ผมก็ได้เเต่ก้มหน้าสำนึกผิด คือจากข้อตกลงมันไม่มีกำหนดก็จริงเเต่คือนี่เพิ่งผ่านมาได้ไม่ถึงเดือนดีด้วย ผมไม่น่าเป็นคนคิดน้อยจนตกลงรับปากไปตอนนั้นเลยให้ตายสิ

          "งั้นขอวันเสาร์นี้วันสุดท้ายละกัน หลังจากนั้นถือว่าสัญญาปากเปล่าเราจบเเล้วโอเคไหม"

          "อ่า...โอเคครับ"ผมพยักหน้าอย่างเลี่ยงไม่ได้

          "งั้นซัก10โมงเดี๋ยวพี่ไปรอรับที่หน้าหอนะ"พี่เรนสรุปก่อนจะยื่นหมวกกันน็อคมาให้ผม

          "ให้ผมทำไมพี่"
         
          "เอ้า! นี่ผ่านไปสองสาววันสมองมึงฝ่อหรอไอธีร์ ก็จะให้พี่ช่วยติวถาษาอังกฤษฉบับเร่งรัดไม่ใช่รึไง"คิ้วเข้มของหนุ่มลูกครึ่งกดลงนิดเมื่อเห็นหน้าเอ๋อๆงงๆของคนที่รับหมวกกันน็อคไปเเล้วถามเสียงซื่อ

          สงสัยสมองผมฝ่อจริงๆด้วยว่ะ ลืมเเม่งทุกอย่างเลย

          พอนึกขึ้นได้ผมก็เตรียมเอาหมวกกันน็อคใส่หัวกะจะกระโดดขึ้นซ้อนบิ๊กไบค์คันงาม เเต่ยังไม่ทันที่หมวกกันน็อคจะได้เข้าที่สายตาก็เหลือบไปเห็นร่างสูงใหญ่ที่ยืนหน้าทะมึนทิงอยู่ไม่ไกล จังหวะที่ผมหันไปเจอผมเเน่ใจว่าผมสบตากับเขาเเล้วเเน่ๆเเต่สิ่งทีได้กลับมาทำเอาผมช็อก

          สบตาเเล้วสะบัดหน้าหนีอย่างนั้นมันคืออะไร!

          ผมถึงกับต้องรีบถอดหมวกกันน็อคนั่นออกก่อนจะยื่นให้พี่เรนไวๆเเล้วเดินตรงไปหาอีกคนที่ยืนกอดอกมองไกลๆก็รู้เเล้วว่าอารมณ์ไม่ดี เเม้จะไม่ได้ออกอาการทางสีหน้ามากมายหากเเต่คนที่ปกติมีรอยยิ้มประดับอยู่ตลอดเวลากลับเหลือเพียงใบหน้านิ่งๆ

          "เอ่อ มาtake me home หรอ"ผมถามออกไปอย่างโง่ๆ เผยยิ้มที่คิดว่ามันจะช่วยให้บรรยากาศดีขึ้นเเต่ไม่ คนตัวโตยังคงหน้าตึงจ้องมาเขม็ง

          จ้องเขม็งเเบบที่เลยหัวผมไปน่ะนะ

          "โย่"เสียงทักทายอย่างอารมณ์พร้อมกับเเขนหนักๆที่พาดลงมาที่ไหล่ผม พี่เรนที่เดินตามมาตอนไหนก็ไม่รู้กำลังฉีกยิ้มอารมณ์ดีเเล้วยักคิ้วให้ไอฝรั่งเป็นการทักทาย

          ที่เหมือนคนได้รับจะเข้าใจว่ามันคือการท้าทายเสียมากกว่า

          สองสายตาสบกันราวกับมีสายฟ้าเล่นเปรี๊ยะๆอยู่เหลือหัวผมจนคนกลางอย่างผมก็ได้เเต่ละล้าละลังไม่รู้จะทำยังไงต่อ

          "อ่า..เอ่อ..คือ"

          "He is mine(เขาเป็นของฉัน)"

          ประโยคเดียวสั้นๆพร้อมทั้งเเรงดึงให้ผมหลุดออกจากวงเเขนของพี่เรนเเล้วไปปะทะเข้ากับอกเเกร่งของคนพูดเเทน

          "Hmm..That is?(หืม...อย่างนั้นหรอ)"

          "Don't mess with him anymore(อย่ายุ่งกับเขาอีก)"

          "You don't have the right. The one who will decide is him(นายมีสิทธิ์อะไร คนตัดสินใจว่าจะยุ่งไม่ยุ่งมันคือเขา)"

          ขวับ!

          แล้วพวกมึงจะหันมาทางกูทำไมครับ!

          จากที่คุยกันอยู่ดีๆจู่ๆทั้งคู่ก็หันมามองหน้าผมเหมือนรอคำตอบ ไอผมที่หลุดออกจากอ้อมอกของไอหมีควายมาตั้งเเต่สองคนเริ่มเปิดปากวางมวยกันก็ได้เเต่ทำหน้าเอ๋อเพราะถึงเเม้จะยืนฟังอยู่เเต่กูไม่เข้าใจโว้ย!!

          คนนึงก็ลูกครึ่งอีกคนก็ฝรั่งจ๋า

          หัดเห็นใจคนไทยเเท้ๆตาดำๆอย่างผมหน่อยได้ไหม!

          "มึงจะเลือกใครไอธีร์"

          "ห้ะ! อะไร ทำไมผมต้องเลือก"

          "ระหว่างรุ่นพี่ที่เห็นมึงมาตั้งเเต่ปิกาจูเท่านิ้วก้อยโดดน้ำคลองหลังบ้านมาด้วยกันกับไอฝรั่งตาน้ำข้าวที่เพิ่งรู้จักกันไม่ถึงเดือนดี"

          โอโห พี่เรนเเม่งโคตรโกงพูดซะขนาดนั้นไม่ยัดเงินใส่มือผมเลยล่ะ ไอฝรั่งเหมือนมันก็อยากจะไซโคผมบ้างเเต่คงตระหนักได้ว่าพูดมาผมก็ฟังไม่รู้เรื่องมันเลยใช้สายตาสื่อมาเเทน

          เป็นสายตาที่ผมมองเเล้วอยากจะเอื้อมมือไปลูบหัวมันจริงๆ สายตาที่เหมือนหมาตัวโตๆที่อ้อนเจ้าของว่า'อย่าทิ้งหนูไปเลยนะ'อะไรทำนองนี้

          "ไม่เอาอ่ะ ทำไมผมต้องเลือก ไม่มีเหตุผลอะไรเลย พี่ก็เป็นรุ่นพี่ผมส่วนไอหมีควายนี่ก็เป็น..เป็น.."ผมส่ายหน้าหวือเพราะมันไม่ได้มีส่วนเชื่อมโยงใดๆเลยที่ผมต้องเลือกหนึ่งในสองคน แต่พอพูดออกไปกลับชะงักพร้อมกับเสียงที่เเผ่วลงตรงท้ายประโยค

          "เป็น..."ผมพูดเสียงเบายามที่คิ้วทั้งสองข้างเคลื่อนเข้าหากันอย่างคิดมาก

          อาการติดอ่างที่ทำให้คนถามเหยียดยิ้มเเล้วยักคิ้วไปทางไอฝรั่งตัวสูงใหญ่ แต่ฝรั่งนั่นกลับไม่ได้ใส่ใจท่าทีกวนบาทาของดาร์เรนเเม้เเต่อย่างใด ดวงตาน้ำข้าวกลับจับจ้องไปทางร่างเล็กที่ยังหาคำต่อไม่ได้

          ท่าทางจะฟังภาษาไทยออก

          ความคิดของคนที่เผยยิ้ม ไม่ใช่ยิ้มท้าทายเพื่อกวนใครอีกคนเเต่เป็นรอยยิ้มบางๆเเห่งความยินดี

          "เฮาะ"ดาร์เรนเเสร้งทำเสียงขึ้นจมูกเหมือนเย้ยหยัน แต่ฝรั่งนั่นกลับไม่สนใจ ท่าทางตอนนี้ในสายตาของอีกฝ่ายคงมีเเต่คนตัวเล็กนั้นเเหละ

          "เอ่อ...รูมเมท"สุดท้ายผมก็เอ่ยออกมาอย่างไม่เเน่ใจเเถมยังเบาสุดๆ พอเงยหน้าขึ้นก็เจอกับสายตาผิดหวังของไอหมีควายกับพี่เรนที่ยืนอมยิ้ม

          นี่ผมทำอะไรผิดรึเปล่า?

          หมับ!

          ยังไม่ทันจะได้ไขข้อข้องใจ มือใหญ่ของชาวต่างชาติก็คว้าเข้าที่ข้อมือผมก่อนจะลากผมไปด้วย ผมหันมาหาพี่เรนอีกครั้งเพื่อจะบอกลา เเต่พี่เขาก็ขยับปากแบบไม่มีเสียงเพื่อบอกอะไรบางอย่างเเก่ผม

          'สู้ๆ'

          นั่นคือสิ่งที่พี่เรนบอกมา

          ผมยังไม่หายงงกับทุกสิ่งอย่างรอบตัว จู่ๆไอฝรั่งก็หยุดเดินพอมองดูก็พบว่ามาถึงรถคันหรูที่เจ้าตัวบอกว่าไปยืมมาจากคุณโคลด์

          ฟรึบ!

          "มะ...มีอะไรรึเปล่า"ผมเเทบสะดุ้งเมื่อจู่ๆมันก็เอาเเขนทั้งสองข้างกักตัวผมเอาไว้แบบที่หลังผมเเนบไปกับรถ

          ตอนเเรกก็หวั่นๆหากเเต่พอเห็นรอยยิ้มบางๆทีกลับมาประดับบนใบหน้ามันเหมือนเดิมเเล้วก็พอทำให้หายใจหายคอได้โล่งขึ้นมาบ้าง

          "I'm sorry that don't make it clearly.I don't know that Asian have to say that word clearly.(ฉันขอโทษที่ทำให้มันไม่ชัดเจน ฉันไม่เคยรู้ว่าคนเอเชียต้องพูดขอตรงๆน่ะ)"มันพูดเเล้วยิ้มบางๆ ก้มหน้าลงมาใกล้ผมมากขึ้นจนผมเริ่มทำอะไรไม่ถูกอุณภูมิบนใบหน้ามันเริ่มพุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง

          "เอ่อ.."

          "Will you be my boyfriend?(เป็นเเฟนกันนะ)"








ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
say yesssssss!!!!!!

ตอบได้แค่คำตอบเดียวนะคะธีร์


โอ้ยยยย หวานกันจริง อิจฉาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


ขอตอนต่อไปด่วนค่า ขอร้องงงงง

/นั่งพับเพียบกอดขา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-08-2016 15:46:49 โดย BlueCherries »

ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
ขอเป็นแฟน??

สุดยอดเลยฝรั่ง,,,

ออฟไลน์ cheyp

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1536
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-0
ยิ้มจนปวดแก้ม
โอ๊ยย น่ารัก

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5
อร๊ายยย~ เขาขอเป็นปฟนกันแล้วว~~ :mew3:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ธีร์ ตอบเลยๆ  Yes .  :mew1: :mew1: :mew1:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
อ่านไปแ่านมา เหมือนตอนแรกพี่เรนรักน้องธีร์ป่ะคะ แต่ไม่อยากสารภาพเด๋ยวเสียน้อง??

ออฟไลน์ neverland

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 653
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
ตลกน้องธีร์คอร์กี้ทุกตอน  :m20: ทำไมบื้ออะไรแบบนี้หื้อออ  :laugh:
ชอบสำนวนเขียนมากเลยอ่ะ รอตอนต่อไปนะคะ  :mc4: :call:

ออฟไลน์ Kiitos

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 45
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
Re: Just ' U แค่คุณ ❥ CH.21
«ตอบ #82 เมื่อ16-09-2016 17:05:31 »

   
Chapter 21

| Friend trader


         "ดูอะไรอยู่วะเตี้ย"

          "เฮ้ย! ไอจีน! เอาโทรศัพท์กูคืนมา!"ผมร้องอย่างตกใจเเทบจะถลาไปคว้าโทรศัพท์ตัวเองคืน เป็นครั้งเเรกที่ผมรู้สึกน้อยใจโชคชะตาเเละกรรมพันธุ์ที่ให้ส่วนสูงผมมาเเค่นี้ เพราะเพียงไอจีนชูเเขนขึ้นสุดผมก็ทำได้เเค่โดดหยองเเหยงให้ไอพุมันหัวเราะเล่นเท่านั้นเเหละ

          ฮืออ ทำไมมึงทิ้งกูไว้กับสองตัวนี้ล่ะไอแต็ก

          ผมครวญครางหาเพื่อนตัวเล็กที่เป็นที่พึ่งเดียวที่ดันหายตัวแบบติดต่อไม่ได้ในเวลาเเบบนี้ ซึ่งคาดว่าคงจะเป็นธุระทางบ้านมันอีกตามเคย

          "เอ...ผู้ชายกับผู้ชายทำกัน..."

          "ไอจี๊นนนนนนน!!!"ผมหลับหูหลับตาเรียกมันเสียงดังทันทีเมื่อมันอ่านออกเสียงตามตัวอักษรที่ยังค้างอยู่ในช่องค้นหาเป็นหลักฐานมัดตัว

          "ไหนๆเเม่งเสิร์ชจริงหรอวะ"ไอพุที่นอนฟุบอยู่นี่หูหางกระดิกรีบชะโงกตัวไปอ่านโทรศัพท์ของผมที่ยังคงอยู่ในกำมือไอจีนมันก่อนที่มันจะทำเสียงไม่น่าเชื่อได้น่าถีบที่สุด

          "ว้าว น้องธีร์เราอยากมีผัวจนตัวสั่นเเล้วหรอ"

          "เมื่อไหร่พวกมึงจะเลิกเสือกเรื่องของกูวะ หัดทำตัวเหมือนไอแต็กบ้างได้ไหม"ผมขี้เกียจจะต่อปากต่อคำกับพวกมันสองตัวเลยได้เเต่ถอนหายใจหนักๆพูดเหมือนคนปลงชีวิตเเล้วทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้หินอ่อนอีกครั้ง

          "ไอแต็กน่ะตัวดี"

          "มึงว่าอะไรนะไอจีน"ผมเอ่ยปากถามเมื่อจู่ๆมันก็พึมพำๆอะไรซักอย่าง

          "เปล่า นี่มึงรู้ไหมที่พวกกูชอบเสือกเพราะกูเป็นห่วงเพื่อน"ไอจีนยักไหล่เเล้วกลับมานั่งลงตามเดิมเเล้วยอมยื่นโทรศัพท์คืนผมมาเเต่โดยดี

          มีการกดเข้าเว็บอะไรไว้ให้ด้วย
     
          "อ้อ เว็บนั้นละเอียดสุดเเล้วถ้ามึงอยากรู้"

          ผมถลึงตาใส่มันนิด นี่พวกมันคิดว่าผมเป็นคนยังไง ผมไม่ใช่พวกหมกมุ่นในเรื่องเเบบนี้ซักหน่อย ก็เเค่อยากจะเอาเรื่องพวกนี้ไปเป็นความรู้ประดับสมองก็เท่านั้นเอง...เพราะฉะนั้นกดใส่เข้าไปในรีดดิ้งลิสต์ก็คงไม่แปลกสินะ

          "ต้องอดอาหารด้วยหรอวะ"ผมพึมพำกับตัวเองยามที่ไล่สายตาไปตามตัวอักษรที่ยาวเป็นพรืด ละเอียดอย่างที่ไอจีนว่าจริงๆด้วย

          "มึงก็คิดสภาพถ้ามึงกำลังเอากันเเล้วขี้มึงไหลออกมาพอดี มึงคิดว่าควรอดไหม"คราวนี้เพื่อนพุที่ฟุบหน้าลงกับเเขนตัวเองบอกเสียงเนือยๆฉบับเเบบของมัน เเต่ไอเนื้อความนี่ไม่น่าอภิรมย์ใจเลยซักนิด

          ผมเบ้หน้าทันทีเมื่อดันบ้าจี้ไปคิดภาพตามมัน

          "ต้องล้างด้วยหรอวะเนี่ย"ผมพึมพำกับตัวเองอีกรอบเมื่อไล่สายตาลงมาในลำดับต่อมา

          "ถึงมึงจะไม่แดกอะไรเลย เเต่มึงก็อย่าลืมว่ารูนั้นคือรูขี้"

          "ไอพุมึงหยุดพูดเรื่องขี้ๆซักทีได้ไหม"

          พวกมึงเข้าใจคำว่าพึมพำกับตัวเองกันบ้างไหมครับ! กูไม่ได้ถามเเค่พึมพำน่ะเข้าใจไหม! กูคุยกับตัวเองมึงเข้าใจไหม!

          แต่ไอพุมันเเค่ยักไหล่ไม่เเคร์เเล้วกลับไปฟุบหลับตามเดิม

          "มันเเต่ศึกษาทฤษฎีชาตินี้ก็ไม่เข้าใจ ของเเบบนี้มันต้องปฏิบัติเลยรอบเดียวรู้เรื่อง กูรับประกัน"

          "ไม่ดีมั้งมึง แค่ฟะ..แฟนกันก็ใช่ว่าต้องทำเนื่องเเบบนี้นี่หว่า"เเค่พูดคำว่าแฟนออกมาอุณภูมิบนใบหน้าก็พุ่งขึ้นสูงอีกครั้ง ไม่น่าเชื่อว่าหลังจากวันนั้นที่ผมตอบตกลงมันไปอย่างมึนๆนี่ก็ผ่านมาสามวันเเล้ว...เเต่ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเลยซักนิด

          "มึงไม่รู้หรอไอธีร์ เซ็กซ์นี่เป็นปัจจัยสำคัญของชีวิตคู่เลยนะมึง ถ้าเป็นเเฟนกัน นิสัยเข้ากันได้เซ็กซ์เข้ากันได้เเสดงว่าเขาคือเนื้อคู่มึงเเล้ว เเล้วมึงอย่ามาโกหกกูเลยว่ามึงไม่อยากลอง"ไอจีนพูดเหมือนมันเป็นปรมาจารย์ด้านนี้โดยเฉพาะ เเต่ก็อดยอมรับเลยว่าก็อยากลองจริง ไม่งั้นคงไม่มานั่งหมกมุ่นเสิร์ชกูเกิ้ลเเบบนี้หรอก

          "กะ..ก็กูไม่เคย"

          "แฟนคนเเรกของมึงนี่เนอะ"มันเน้นหนักๆตรงคำว่าเเฟนจนผมอยากจะมุดดินหนี เเต่ผมต้องเเสร้งทำเป็นไม่สะทกสะท้านกับคำๆนั้นเเล้วเก็กเสียงนิ่งว่าตามตรง

          "เออ ก็เพราะอย่างนี้ไงกูถึงได้มานั่งกลุ้มใจอยู่เเบบนี้"

          "ให้พวกกูช่วยไหมล่ะ"

          "ช่วยอะไร?"ผมขมวดคิ้วถามมันอย่างไม่เข้าใจ

          "ช่วยเพิ่มความกล้าให้มึงไง ใช่ไหมไอพุ"มันว่าก่อนจะพยักเพยิดหน้าไปหาอีกคนที่เงยหน้ามามองนิ่งเเล้วตอบสั้นๆ

          "เออ"

          ผมได้เเต่มองหน้าพวกมันสองตัวสลับไปมาอย่างไม่เข้าใจ ทั้งๆที่สัมผัสได้ว่าไอ'ช่วย'ของมันนี่จะไม่ค่อยน่าไว้ใจเเต่ก็อดสงสัยจนสุดท้ายก็พลั้งปากตอบตกลงไปจนได้...


---------------------------------------


Nampu's part

          Rrrrrrrrrrr

          "มึงรับเลยไอจีน"ผมล้วงโทรศัพท์จากกระเป๋ากางเกงไอธีร์ที่ตอนนี้สลบไสลเป็นศพนอนอืดอยู่ข้างๆเเล้วโยนไปบนเตียงที่มีร่างของรูมเมทที่เป็นคนต้นคิดแผนนี้ขึ้นมา

          ซึ่งผมก็เห็นด้วยกับมันนะ

          "Hello~ it's me"ไอรูมเมทชื่อจีนเเต่หน้าเสือกไทยรับโทรศัพท์ด้วยเพลงฮิตติดชาร์ตอย่างอารมณ์ดี ซึ่งพอรับปุ๊ปมันก็จัดการเปิดลำโพงให้ผมได้ยินด้วยอย่างรู้งาน

          [Who are you!? Where is Thee!?(คุณเป็นใคร! เเล้วธีร์ไปไหน!)]

          อุหวา...ท่าทางจะเดือดจริง

          "I'm Jean and I’m Thee's friend. Thee said he already told you that he would come with us.(ผมจีนเอง เป็นเพื่อนของธีร์น่ะ ธีร์บอกผมว่าข้อความไปบอกคุณเเล้วหนิว่าจะมากับพวกผม)"

          [I see. Sorry for that. I just worried about him even though I knew he was with you guys. But you know this is so late now.(อ่า..ขอโทษด้วย ฉันเกิดห่วงเขาขึ้นมาน่ะ ถึงจะรู้ว่าอยู่กับพวกนายเเต่นี่มันดึกมากเเล้ว)]

          "Sorry I didn't know how late it was. (โทษที ไม่คิดว่าจะดึกขนาดนี้เเล้ว)"ไอจีนพูดหน้าระรื่นจนผมอดจะเบะปากกับความตอเเหลขั้นสุดของมันไม่ได้

          ไม่รู้เหี้ยอะไรล่ะ

          [So when's he gonna come back?(แล้วเมื่อไหร่เขาจะกลับ)]เสียงของไอฝรั่งดังกลับมา

          "He can't. As you already know, we came to drink and he got drunk. So let him sleep here.(คงไม่ได้กลับหรอก ก็อย่างที่บอกว่ามาดื่มกัน ตอนนี้มันสลบไปเเล้ว ให้นอนที่นี่เถอะ)"

          [No way!(ไม่ได้เด็ดขาด!)]

          "Then come to pick him up by yourself. I will send you a location, bye (ถ้าอย่างนั้นก็มารับเอาเองละกันเดี๋ยวเเชร์โลเคชั่นไปให้ บาย)"ว่าจบมันก็ตัดสายไปทันทีไม่วายหัวเราะหึหึเป็นการปิดท้ายเเล้วโยนกด โทรศัพท์ไอธีร์เเชร์โลเคชั่นตามที่มันบอกไว้จากนั้นก็โยนมันทิ้งไว้บนเตียง

          "อื้ออออ"เสียงอืออึงในลำคอเรียกสายตาพวกผมทั้งสองให้หันไปมอง ไอธีร์นั่งตาปรือๆเหมือนคนง่วงนอนเเต่ก็ไม่หลับ จากนั้นมันก็ค่อยๆไหลตัวลงนอนคุดคู้บนพื้น มันบิดขี้เกียจเหมือนหาท่าที่สบายที่สุดทั้งยังชอบส่งเสียงประหลาดๆออกมาทุกครั้งที่มันขยับตัว พอมันได้ที่ก็เเจ็บปากเเล้วก็สลบคาที่

          เป็นอัปกริยาที่คุ้นตาไปเเล้วสำหรับพวกผม

          "มึงคิดว่ามันจะรอดไหมน้ำ"ไอจีนถามขึ้นมาสายตามันยังคงมองไปที่ร่างของเพื่อนตัวเตี้ย

          ผมตวัดสายตาไม่พอใจมันนิดหน่อยเมื่อมันใช้ชื่อต้นผมเวลาเรียกซึ่งมันรู้อยู่แก่ใจว่าผมไม่ชอบเพราะมันเหมือนชื่อผู้หญิง แต่พอมันหันมาสบสายตาขวางๆของผมกลับเเค่หัวเราะออกมา ผมเลยขี้เกียจพูดมากพูดกับมันไปก็เผลืองน้ำลายหันกลับไปมองไอธีร์ที่ก่อนจะพูดออกมาตามจริง

          "ฝรั่งนั่นดูจากท่าทางเเล้วใช่ย่อย ถึงเเม้ไอธีร์จะมองไม่เห็นธาตุเเท้ของมันก็ตามเถอะ เเล้วมึงบอกให้มันอดอาหารเเต่เสือกให้แดกเหล้าเนี่ยนะ"เขาบอกผีย่อมเห็นผี เเค่มองเเววตาไอฝรั่งหัวน้ำตาลทองนั่นครั้งเเรกผมก็รู้เเล้วว่าหวังจะงาบเพื่อนผม เเต่สิ่งที่หมาเตี้ยนี่เห็นคงต่างจากผมมากโข

          "ก็บอกเเล้วว่าอันนั้นมันภาคทฤษฎี มึงก็รู้นิว่าภาคปฏิบัติมันเป็นยังไง"

          "เออ ขอให้สำเร็จนะไอแผนจับเพื่อนใส่จานให้คนอื่นเนี่ย"ผมพูดอย่างเอือมๆ พยายามไม่ใส่ใจการยักคิ้วหลิ่วตาเหมือนมีนัยยะของไอจีน เเล้วกลับมาสนใจเบียร์ในมือต่อ

          "คนอื่นของมึงก็ว่าที่ผัวมันนั้นเเหละ"มันพูดเเล้วยิ่งกริ่มเหมือนสนุกกับการเสือกชิวิตเพื่อน ผมก็ได้เเต่ถอนหายใจอย่างปลงๆ

          "งั้นกูนอนก่อนนะ"ผมวางกระป๋องเปล่าในมือไว้บนโต๊ะญี่ปุ่นตัวเตี้ยก่อนจะลุกขึ้นไปทิ้งตัวลงบนเตียง ไม่วายถีบไอคนที่นั่งอยู่ก่อนไปด้วยความหมันไส้จนมันไถลลงไปนั่งบนพื้น

          "ถีบทำเหี้ยอะไร"

          "ไปดูไอธีร์นู่น"ผมตอบกลับมันก่อนจะกระชากผ้าห่มขึ้นมาปิดตั้งเเต่คอยันปลายเท้า หันหน้าเข้ากำแพงเเบบที่มองก็รู้ว่าไม่ต้องการจะเสวนาด้วย

          "ดูทำไมไอธีร์ ดูมึงดีกว่า"

          ไม่หันไปมองยังรู้เลยว่ามันยิ้มอยู่

          "กู-จะ-นอน"ผมผงกหัวขึ้นเน้นทีละคำ เห็นมันยิ้มเกาะขอบเตียงเหมือนคนบ้า
     
          ผมก็ยิ้มตามมันนะเเต่เท้านี่เตรียมยกยันมันไปอีกรอบ เเต่ครั้งนี้มันไวกว่าเหมือนคาดไว้เเล้วว่าผมต้องทำมันเลยคว้าหมับเข้าที่ข้าเท้าของผมทันทีเมื่อผมยกออกมากะจะยันเข้าที่หน้ามัน

          ก่อนที่จะเบิกตากว้าง จากที่ง่วงๆกริ่มๆนี่ตื่นเต็มตาเพราะจู่ๆมันก็นึกพิเรนท์...

      จุ๊บ

          "ไอจีน!!"

          ผมเรียกมันเสียงดัง กระเด้งตัวขึ้นนั่งพยายามจะสะบัดให้ข้อเท้าหลุดจากการเกาะกุม หัวคิ้วผมเเทบจะชนกันอยู่เเล้วทั้งๆที่ปกติเป็นคนที่ไม่ค่อยเเสดงอารมณ์ทางสีหน้าเเละเพราะความจริงในจุดนี้ทำเอาไอจีนยิ่งชอบใจที่ทำให้ผมหงุดหงิดได้สำเร็จ เเต่ถึงอยากจะเเกล้งยังไงเเต่มาจูบที่เท้ามันก็ไม่โอเคนะเว้ย!

          ช็อตเมื่อกี้นี่ขนลุกซู่เลย แขนมันก็ล็อกเเน่นเหลือเกิน จนผมต้องใช้เท้าอีกข้างยันไหล่มันเอาไว้ มืออีกสองข้างก็ดันหัวมันสุดเเรงจนคอมันเเทบหักเเต่มันก็ยังพยายามที่จะก้มลงมาจูบเท้าผมให้ได้

          ไปๆมาๆมันก็พาตัวเองขึ้นมาบนเตียงได้สำเร็จ จนตอนนี้อะไรเป็นอะไรผมไม่รู้เเล้ว จะจับจะเเงะมือมันก็ซนไปหมด จนจากง่วงกลายเป็นหงุดหงิดจากหงุดหงิดจนจะโกรธเเล้วที่มันเล่นไม่รู้เรือง

          ผมกับไอจีนเราตัวพอๆกัน ไม่มีหนาบางกว่า หุ่นนี่โคตรโคลนนิ่งกันมาเลยเถอะ ฉะนั้นเเรงเราก็มีพอๆกัน ศึกต่อสู้ปัญญาอ่อนบนเตียงนี้มันเลยยืดยาวมาก

          "ปล่อย"ผมบอกมันเสียงนิ่ง ตอนนี้ผมยังอยู่ในท่าที่ถูกมันล็อค ถึงจะเเรงพอๆกันเเต่ศิลปะการต่อสู้ผมด้อยกว่ามันเเน่ๆ ฉะนั้นผมแก้ท่าล็อกของมันไม่ได้หรอก เลยยอมอยู่นิ่งๆ

          "ไม่ปล่อย"

          "มึงจะปล่อยดีๆไหม"

          "ไม่ปล่อย"มันตอบเเล้วยิ้มระรื่น ให้ผมกระตุกยิ้มนิดก่อนจะเอื้อมมือไปยังจุดยุทธศาสตร์..

          หมับ!

          "โอ้ยๆ!!! ไอน้ำ โอ้ย! กูยอมเเล้วมึงกูยอมเเล้ว! อย่าบีบไอห่า! โอ้ย!!"ไอจีนดีดดิ้นเหมือนหมาโดนน้ำร้อนลวกทันทีทั้งยังรีบขอโทษขอโพยเอามือออกเป็นพับวัน พอมันยอมปล่อยผมออกมาดีๆผมก็ปล่อยมือออกเเล้วว่าสั้นๆ

          "ไปนอนพื้น"

          "เห้ย!"

          "มึงอยากสูญพันธุ์ไหมไอจีน"

          "เเต่..!"

          ก็อกๆ

          "มึงไปเปิด ส่งมันเข้าเรือนหอให้เรียบร้อยด้วย"ผมบอกมันเเล้วเหล่ไปทางธีร์ที่นอนจูบพื้นอยู่ มันก็ยอมเเต่โดยดีก้มลงไปประคองตัวไอธีร์ขึ้นมา ซึ่งพอประคองปุ๊ปไอธีร์ก็ปรือตาขึ้นมาทันทีเเล้วเอามือคล้องคอไอจีนอย่างรู้งาน

          ใครคิดว่าการมอมเหล้าไอธีร์เเล้วมันหลับนี่คือแผนล่มนี่คือคุณคิดผิดมหันต์ ไอธีร์ตอนเมาน่ะมีสามระดับ ตอนเเรกจะโวยวายบ้าบอตามประสาคนเมา ซักพักมันจะหลับ เเต่ขั้นสุดท้ายนี่...โคตรซนเลยครับ

          ผมชะโงกหน้ามองตามมันไป ห้องผมไม่ได้ใหญ่มาก เเค่ชะโงกไปจากปลายเตียงก็เจอเเล้วประตู เเละสายตาผมก็ไปสบกับอะไรบางอย่างในมือไอจีน

          จริงๆเลย

          ผมส่ายหัวกับการยุ่งกับเพื่อนเเต่เกินเหตุ ขนาดเจลหล่อลื่นกับถุงยางมันยังเตรียมไว้ให้ ผมเห็นมันยัดๆไว้ในกระเป๋ากางเกงไอธีร์อย่างทุลักทุเลเพราะกล่องถุงยางเเม่งมีเป็นโหลจนในที่สุดมันก็ต้องโยนทิ้งใส่ไว้ให้อันสองอัน เเล้วค่อยเปิดประตู

          ตอนนี้ก็ผูกโบว์ประเคนไอธีร์ให้ขนาดนี้เเล้ว ถ้าไม่ได้กันนี่...ต้องพิจรณาเเล้วนะคุณหมอ


--------------------------


Austin's part

          ผมรีบขับรถมารับคอร์กี้ตามที่อยู่ที่เพือนเขาส่งมาให้ผ่านโทรศัพท์เเล้วก็พบว่าเป็นหอพักที่อยู่ไม่ไกลจากมหาลัยมาก จะพูดให้ถูกคือซอยถัดจากมหาลัยเลยก็ว่าได้

          ขนาดคอนโดธีร์อยู่ใกล้เเล้ว ของเพื่อนเขานี่โคตรใกล้เลย

               ก็อกๆ

          ผมเคาะประตูห้องตามเลขห้องที่เขาส่งมา เเละไม่นานประตูก็เปิดออกพร้อมกับร่างของเพื่อนเขาคนนึงที่ผมจำชื่อไม่ได้...นี่มันอะไรกัน

          หัวคิ้วผมขยับเข้าหากันเเทบจะทันที เมื่อเห็นสภาพของคอร์กี้ที่เอามือคล้องคอเพื่อนตัวสูงไว้เเถมยังเอาหน้าซบอกอีกฝ่าย

          "อืออ"

          แล้วไหนจะเสียงครางแปลกๆที่มาพร้อมกับการเอาหน้าถูไถอกเพื่อนนี่อีก!

          เพราะอย่างนี้ไงเลยไม่ไว้ใจให้เขาค้างกับเพื่อน ยิ่งเมาๆอยู่ด้วย

          "Thanks"ผมรีบกล่าวสั้นๆก่อนจะยื่นมือไปรับตัวร่างเล็กมา ซึ่งคอร์กี้ก็ว่าง่ายเหลือเกินดึงมาปุ๊ปคล้องคอปั๊ปเเล้วเอาหน้าซบอกผมทันทีเหมือนที่ทำกับเพื่อนเมื่อกี้

          ผมเเบกเขาค่อนข้างทุลักทุเลเพราะส่วนสูงที่ต่างกันมากเกินไปจนสุดท้ายผมก็ตัดสินใจช้อนตัวเขาขึ้นมาไว้ในอ้อมเเขนเเล้วพาไปยังรถยนต์ที่จอดอยู่

          แหมะ

          เสียงวัตถุบางอย่างร่วงออกมาจากกระเป๋ากางเกงเขาในระหว่างที่ผมพยายามจะยัดตัวเขาเข้ารถ มันร่วงเเล้วกลิ้งลงไปอยู่ตรงที่วางเท้า พอก้มลงไปกะจะเก็บมันขึ้นมาเเต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นว่ามันคืออะไร

          ถุงยางอนามัย..

          ปัง!

          ผมรีบยัดสิ่งนั้นไว้ในเก๊กตรงคอนโซลรถเเล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ลูบหน้าตัวเองเเรงๆ

          ไอรอยยิ้มแปลกๆของเพื่อนเขานี่คงเป็นเพราะอย่างนี้สินะ

          ผมสะบัดหัวไล่ความคิดมากมายที่หลั่งไหลเข้ามาซึ่งส่วนมากจะโยงไปเรื่องใต้สะดือซะส่วนใหญ่ พอตั้งสติได้ก็เดินอ้อมไปประจำฝั่งคนขับและรีบออกรถเพื่อที่จะไปถึงห้องได้ไวที่สุด...แต่ใครจะคิดว่าเเค่บนรถคนตัวเล็กข้างๆก็แผลงฤทธิ์เสียเเล้ว

          "หมี...หมีควาย"จู่ๆคนที่คิดว่าหลับไปเเล้วเพราะฤทธิก็เปิดปากพูดขึ้นมาเป็นภาษาไทย เเต่ด้วยความที่ผมขับรถอยู่ผมเลยไม่สามารถหันไปมองเขาได้เเบบเต็มๆตา...

          "งั่ม"

          "เฮ้ย!"ผมร้องเสียงหลงเเต่ยังคงสติไว้ได้ไม่งั้นคงได้แหกโค้งเเวะเข้าข้างทางกันไปแล้ว เมื่อจู่ๆคอร์กี้ก็ดันทำตัวเหมือนคอร์กี้จริงๆขึ้นมาซะงั้นโดยการชะโงกหน้ามาก่อนจะงับเข้าที่ต้นเเขนของผมจนผมสะดุ้ง

          นี่ไม่ใช่เเค่งับเเล้ว! เขากำลังเเทะเลยต่างหาก!

          "Hey! Calm your mind.(เฮ้! ตั้งสติหน่อย)"ผมบอกเขาทั้งๆเเล้วพยายามจะเเงะเขาออกด้วยมือเดียวเพราะอีกมือยังคงต้องขับรถ

          คือมันก็ไม่ได้เจ็บอะไรหรอกครับเพราะเขาไม่ได้กัดเเบบจมเขี้ยว เเต่กัดเเบบจมเขี้ยวยังดีกว่าการมางับเเง่มๆเหมือนหมาเเทะกระดูกอย่างนี้เลยครับ ไม่รู้ทำไมมันถึงสยิวได้ขนาดนี้

               เเผล่บ

          เอี๊ยด!!!!

          แวะข้างทางด่วน!







ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
หูย ออสตินขนลุกเลยไหมคะ รู้สึกยังไงบ้าง โดนคอร์กี้แทะน่ะ  :hao7:

คืนนี้ธีร์น่าจะรอดอยู่นะ ว่าไหม หื้มมมมม ออสตินคุง

ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
จะรอดไม่รอด,,,

ออฟไลน์ Kiitos

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 45
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
Re: Just ' U แค่คุณ ❥ [CH.22]
«ตอบ #85 เมื่อ17-09-2016 23:50:29 »

Chapter 22
| Almost


     
"แฮก แฮก"
 
เหนื่อย..
 
แม้จะเคยสู้รบปรบมือกับคนเมามาบ้าง แต่กับคอร์กี้ผมกลับรู้สึกเหนื่อยเป็นพิเศษ เพราะผมต้องใช้ความอดทนสูงมากเลยทีเดียวกับเขาเวอร์ชั่นนี้
 
หลังจากที่ผมไม่สามารถทนได้อีกต่อไปก็ตัดสินใจตบไฟฉุกเฉินเเวะข้างทางโดยด่วน เเล้วย้ายตัวเขาไปอยู่ด้านหลังเเทน คาดเข็มขัดให้ด้วยไม่งั้นคงได้กลิ้งลงมานอนอยู่ที่พื้น
 
ถ้าไม่ย้ายผมคงได้ตบะเเตกกลางทางเเน่ๆ
 
ดีที่หลังจากที่ย้ายเขาไปเบาะหลังเรียบร้อยเขาไม่ได้เเผลงฤทธิ์อะไรอีก...ถ้าไม่นับการที่พยายามจะปีนมาข้างหน้าให้ได้เเต่ติดเข็มขัดนิรภัยน่ะนะ
 
            คนเมานี่มันไม่มีสติจริงๆเพราะเเทนที่เขาจะเเกะออกกลับหันไปงับมันซะเฉยๆ เเถมยังทำหน้าทำตาเหมือนเกลียดมันที่ไม่ยอมปล่อยให้เขาได้ทำดั่งใจอีก
 
ผมที่มองเขาผ่านกระจกมองหลังเผลอหลุดหัวเราะออกมาเล็กน้อยกับท่าทางน่ารักๆของเขา
 
คอร์กี้หนอคอร์กี้
 
 
 
 
ผมจะพาเขาเข้าห้องเเล้วออกมานอนที่โซฟา ผมจะพาเขาเข้าห้องเเล้วออกมานอนที่โซฟา ผมจะพาเขาเข้าห้องเเล้ว...
 
"อื้อออ จะไปไหน"เสียงงัวเงียเหมือนคนกึ่งหลับกึ่งตื่นดังขึ้นไล่หลังพร้อมกับมือเล็กๆที่คว้าหมับเข้าที่ชายเสื้อผม ทำเอาสิ่งที่ท่องไว้ในใจถึงกับชะงัก
 
"เอ่อ.."
 
"มานอนกานนน นอนๆมานอนกัน!"คนเมายิ้มกว้างผุดลุกขึ้นมาบนเตียงตบที่นอนปุๆเป็นเชิงเชิญชวน ให้คนถูกชวนได้เเต่กลืนน้ำลายอึกใหญ่
 
"I will sleep there.(ฉันจะไปนอนตรงนั้น..)"ผมว่าเเล้วเนียนเเกะมือเขาออก อีกมือก็ชี้ออกไปนอกห้อง
 
แต่สิ่งที่ได้กลับคือการส่ายหัวดุ้กดิ้กกับการเงยหน้าขึ้นมามองตาใสเหมือนจะบอกผมว่า'จะไปจริงๆหรอ'
 
ธีร์อาจจะไม่ใช่หนุ่มหล่อเเต่ในสายตาผมเขาเป็นคนน่าเอ็นดู ยิ่งมาทำตาใสเหมือนอ้อนหน่อยๆผมอาจจะจับเขาฟัดให้รู้เเล้วรู้รอดไปเลย เเต่ไม่ได้ผมต้องใจเเข็งเอาไว้ ผมไม่อยากฉวยโอกาสตอนเขาเมา
 
"It's already late. Let's go to bed. (มันดึกเเล้ว นอนได้เเล้ว)"ผมเเสร้งเปลี่ยนเรื่องเป็นจังหวะเดียวกับที่ผมเเงะมือเขาออก คอร์กี้ทำหน้าง้ำงอเหมือนเด็กโดนขัดใจ โอ้ย ทำไมตอนเมาเขาถึงได้ทำตัวน่ารักอย่างนี้นะ
 
ผมดันไหล่เขาให้นอนไปกับเตียง เขาดูฝืนตัวไว้เเต่ยังไงก็สู้เเรงผมไม่ได้เเม้ว่าผมจะออกเเรงไม่เต็มที่ก็เถอะ เอาทำหน้ายู่ใส่ผมเมื่อตัวเองถูกกดลงจนหลังเเนบไปกับเตียง ซึ่งผมก็ได้เเต่ท่องยุบหนอพองหนอในใจเเล้วหยิบผ้าห่มมาคลุมให้เขา
 
หมับ!
 
แต่เเล้วก็เจอคอร์กี้แผลงฤทธิ์อีกจนได้...
 
"Shit!"คราวนี้ถึงกับเผลอสบถคำหยาบออกมา เมื่อคนที่นอนอยู่บนเตียงใช้จังหวะที่ผมจะเอื้อมไปหยิบผ้าห่มที่กองอยู่ตรงปลายเท้ากระชากผมจนผมถลาไปบนเตียง ยังดีที่เอาเเขนค้ำไว้ทันไม่ร่วงไปทับเขาไม่งั้นเขาเเบนเเน่ๆ
 
"คิกๆ"
 
ยังมีหน้ามาขำอีก!
 
ผมอยากจะพุ่งเข้าไปขย้ำเขาให้รู้เรื่องไปเลย เเต่อย่างที่บอกว่าผมไม่อยากจะฉวยโอกาสกับเขาเลยได้เเต่กัดฟันกรอดยันตัวเองขึ้น เเต่...คนซนก็ยังคงซนไม่เลิก
 
หมับ!
 
"นอนๆ นอนกันเถอะ อยากนอนนนน นอนโด้ยกันนน"คนเมายื่นเเขนมาคล้องรอบลำคอผมเเล้วดึงเข้าหาจนหน้าเราจะชนกัน เเค่เเขนยังไม่พอขายังเอามารัดรอบลำตัวดึงเข้าหาตัวจนอะไรๆมันเเนบชิดหันไปหมดอีก
 
"เอ่อ...ธีร์"ผมกลืนน้ำลายเอื้อกกับความขี้ยั่วของเขา เริ่มวางสายตาไม่ถูกเมื่อถูกล็อกคอให้มองเเต่หน้านวลของคนใต้ร่าง ดวงตาที่ไม่ได้กลมโตเหมือนตุ๊กตาบลายธ์ ไม่ได้เฉี่ยวคมเหมือนเหยี่ยวเเต่เป็นดวงตาที่ผมหลงไหล...ดวงตาที่ตอนนี้สะท้อนเงาของผมชัดเจน
 
ตอนนี้ใจน่ะมันเริ่มหายเเข็ง เเต่ดันมีอย่างอื่นมันเเข็งเเทนนี่สิ
 
จริงๆจะผละออกผมก็คงทำได้ เเต่ตอนนี้จู่ๆสมองก็ตื๊อเหมือนถูกตรึงอยู่กับใบหน้าของคนที่ยิ้มกว้างหัวเราะคิดคักอย่างคนไม่มีสติ ส่วนมือที่เคยใช้ยันเตียงไว้ตอนนี้เริ่มอยู่ไม่สุข ลูบไล้ไปตามผิวเนียนที่เคยแอบลวนลาม
 
นุ่ม..หอม..
 
รู้สึกตัวเองเหมือนโรคจิตก็ตอนนี้ เมื่อมือเริ่มลูบไล้ไปตามเเขนตามขาอีกคนจนตอนนี้เลื้อยเข้าไปอยู่ใต้สาบเสื้อเรียบร้อยเเล้ว
 
ธีร์ไม่ใช่คนผอม ออกจะเจ้าน้ำเจ้าเนื้อเสียด้วย เหมือนในห้องเขาก็พอมีเครื่องออกกำลังกายเเต่ตั้งเเต่มาอยู่ด้วยผมไม่เคยเห็นเขาใช้เลยซักครั้ง เเต่ก็ดีเเล้ว..จับไปตรงไหนก็เต็มไม้เต็มมือ เเถมผิวยังทั้งนุ่มทั้งลื่นเสียจนหยุดมือตัวเองไม่ได้
 
หยุดไม่ได้จนขนาดที่ว่าเสื้อนักศึกษาเขาปลิวลงไปข้างเตียงตั้งเเต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
 
แผ่นอกสีแทนสวยช่างดึงดูดสายตาผมได้ดีเหมือนเคย ผิวเขาสวยมากนอกจากจะเป็นสีเเทนธรรมชาติเเล้วยังเนียนอีก จนไม่สามารถห้ามสายตาที่มองไล่มาเรื่อยๆจนถึงยอดอกสีเข้มที่กำลังชูชันสู้เเอร์หนาวๆยิ่งทำเอาต้องกลืนน้ำลายอึกใหญ่จากนั้นก็ใช้นิ้วสะกิดมันเบาๆเเต่เเค่นั้นก็เพียงพอเเล้วที่จะทำให้คนไม่เคยถูกสัมผัสสะดุ้ง
 
"อ้ะ!"ธีร์ร้องออกมาด้วยอารมณ์ที่บอกไม่ถูก เผลอแอ่นแผ่นอกเข้าหาอัตโนมัติ
 
พอเห็นท่าทีเเบบนั้นผมก็ยิ่งได้ใจ ใช้นิ้วขยี้เเรงๆก่อนจะเลื่อนตัวลงไปครอบริมฝีปากลงไปดูดดุนเม็ดเล็กๆนั้นให้คนใต้ร่างบิดเร้าเเล้วส่งเสียงครางปนหอบช่วยกระตุ้นด้านมืดของผมเข้าไปอีก
 
ไม่ไหวเเล้ว ปวดหนึบไปหมดเเล้ว
 
ผมข่มตาลง กัดฟันกรอดเพื่อข่มอารมณ์ด้านล่างที่มันอยากจะออกมาสูดอากาศภายนอกไวๆ สุดท้ายก็ไม่ไหวกะจะปลดกางเกงก่อนที่ลูกชายจะขาดอากาศหายใจไปก่อน
 
ฟรึ่บ
 
เเต่ยังไม่ทันจะให้ปลดได้เรียบร้อย คนใต้ร่างก็กระชากคอผมให้เข้าไปใกล้ก่อนจะขยับใบหน้าขึ้นมาจูบ...จูบที่ไม่ประสีประสาเเต่สามารถทำให้หัวใจผมสะดุด
 
"ชอบนะ"

คำพูดสั้นๆหลังจากที่เขาผละออกไป เขาคลี่ยิ้ม เป็นยิ้มที่เห็นเมื่อไหร่ก็มองยังไงก็ไร้พิษสงค์มีเพียงความจริงใจที่ส่งผ่านรอยยิ้ม น้ำเสียงนุ่มเเละดวงตาที่ฉ่ำน้ำ
 
พรึ่บ!
 
"เอ้ะ!"
 
ปั้ง!
 
สุดท้ายผมก็ชนะตัวเองได้ รีบผละออกจากเขาไวๆเเล้วก้าวฉับออกจากห้องปิดประตูเสียงดังเพื่อเรียกสติ
 
ประโยคเมื่อกี้ของธีร์ช่วยเรียกสติผมไว้ได้จริงๆ
 
ถ้าถามว่าทำไมผมถึงไม่ปล่อยไปตามอารมณ์ทั้งๆที่ผมก็ชอบเขา เขาก็ชอบผม เเถมตอนนี้ยังอยู่ในสถานะเป็นแฟนกันอีกทำไปก็คงไม่เสียหาย...ปกติก็เป็นอย่างนั้นเเหละ จะเเฟนกี่คนๆส่วนมากพอคบปุ๊ปก็ได้ปั๊ปตามลำดับ
 
เเต่ธีร์นั้นต่างออกไป..เขาค่อนข้างพิเศษกว่าสำหรับผม
 
ผมไม่อยากจะให้เขารู้สึกว่าผมคบเขาเพราะเซ็กซ์หรือเเฟนกันจำเป็นต้องมีเซ็กซ์
 
ผมไม่อยากจะหยุดกับเขาเเค่คำว่า'ชอบ'แต่อยากจะหยุดที่คำว่า'รัก'
 
" I have to deal with this first. (คงต้องจัดการกับเจ้านี้ก่อนสินะ)"ผมพึมพำยามที่ก้มมองเบื้องล่าง ที่ยังคงเคารบธงชาติต้านทานเเรงโน้มถ่วงของโลกไม่หาย จนต้องถอนหายใจเเล้วเดินเข้าห้องน้ำไปจัดการให้มันสงบเสียก่อน
 
 
 
 
Thee's part
 
"มะ..ไม่"
 
"ไม่...ไม่ทำอะไรกูเลย!!!!"
 
ในเช้าวันใหม่ คนเมาเมื่อคืนก็ตื่นขึ้นมาด้วยอาการเเฮ้งค์เล็กน้อย เเต่พอเริ่มตั้งสติได้ยันตัวขึ้นมานั่งบนเตียงที่มีเพียงตนเอง มองไปรอบๆก็เห็นเสื้อของตัวเองถูกโยนทิ้งไว้ข้างเตียง ตอนเเรกก็คิดว่าตัวเองคนได้คงโดนไปแล้วหากเเต่...
 
ช่วงล่างยังอยู่ครบเเถมกูดันไม่เจ็บตูดน่ะสิ!
 
ตอนนี้ไอคนที่ไปดื่มของมึนเมาเพราะการยุยงของเพื่อนที่บอกว่ามันจะเป็นตัวช่วยให้กล้าขึ้นกำลังทำหน้าเหมือนจะร้องไห้อยู่ร่อมร่อ
 
เมานะครับไม่ได้ความจำเสื่อม มันจำได้หมดน่ะเเหละว่าตัวเองทำอะไรลงไปเพียงเเต่ว่าในเวลานั้นมันเเค่ควบคุมตัวเองไม่ได้ก็เท่านั้นเลยทำอะไรตามใจไปหมด
 
'ชอบนะ'
 
ฉ่า
 
"เอาวะ อย่างน้อยกูก็ได้พูดออกไป"
 
ถึงเเม้จะเขินๆอยู่บ้างที่ได้พูดคำว่าชอบออกไปตรงๆ เเต่พอคิดๆดูเเล้วพอบอกมันปุ๊ปมันก็จ้ำอ้าวออกจากห้องเลยนี่หว่า! ไหนไอจีนบอกว่าถ้าพูดว่าชอบเเล้วอารมณ์มันจะขึ้นกว่าเดิมไงวะ!
 
คิดเเล้วก็ขึ้น ผมอุตส่าห์เตรียมใจมาเเล้วเเท้ๆ อ่อยก็ขนาดนี้เเล้ว มันกลับไม่ทำอะไรเลยเนี่ยนะ!
 
Rrrrrrrr

ผมสะดุ้งเล็กน้อยกับเสียงโทรศัพท์ของตัวเอง ก่อนจะรีบควานหาเเต่สิ่งที่เจอในกระเป๋ากางเกงกลับไม่ใช่โทรศัพท์
 
ขวดอะไรวะเนี่ย
 
ขวดทรงสูงขนาดพอดีมือสีเเดงมีรูปสตรอเบอร์รี่แปะอยู่ บนนั้นมีโลโก้เเบรนด์ที่คุ้นหูคุ้นตาอยู่ด้วย...Durex
 
"เหี้ย!"พอก้มลงอ่านฉลากถึงกับสบถเเล้วยัดมันเข้าเก๊ะตรงหัวเตียง สะบัดหัวรัวๆเเล้วมาควานหาโทรศัพท์เพื่อกดรับ
 
"ว่า..."
 
[สรุปได้กันไหม แต่ตื่นมารับโทรศัพท์ได้นี่แปลว่ายังไม่ได้ไม่โดนอีกหรอวะ ไอฝรั่งนั่นเเม่งทำอะไรของมัน] เสียงไอจีนดังมาตามสายให้ผมเเอบกรอกตาใสมันนิด
 
"เออครับ กูยังอยู่ดี มึงอยากให้เพื่อนมึงเสียเอกราชขนาดนั้นเลยหรอวะ"
 
[มีผัวทั้งทีมึงจะอยู่เเบบซิงๆหรอวะ เฮ้อ ถ้าไม่ได้ก็ช่างเเม่งเเล้วกูจะไม่เสือกกับชีวิตคู่มึงอีกต่อไปแล้วนะเตี้ย ที่เหลือก็เเล้วเเต่มึงเลย เซ็ง]
 
ตรู้ด...
 
แล้วบ่นเสร็จเเม่งก็วางสายไปเลย
 
เออดีไอเพื่อนเวร!
 
"Ah...good morning. Breakfast's ready.(อ่า..พอดีเลยตื่นเเล้วใช่ไหม ข้าวเช้าพร้อมเเล้วนะ)"
 
ผมหันขวับไปหาต้นเสียงก็พบไอหมีควายยืนยิ้มให้อยู่เหมิอนเคย มันชี้ไปด้านนอกเพื่อบอกว่าอาหารเช้าพร้อมเเล้ว พอมันทำทุกอย่างเหมือนปกติผมเลยได้เเต่พยักหน้ารับหงึกหงัก พอเห็นผมรับทราบเเล้วมันรับเบือนหน้าไปทางอื่นเเล้วเดินออกไปก่อน
 
"Don't forget to take a bath first. (อาบน้ำเเต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนด้วยล่ะ)"
 
อ่า...ลืมไปเลยว่านั่งโชว์พุงอยู่
 
 
 
 
ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง...จริงๆหรอวะ
 
ความคิดของคนที่นั่งกินข้าวอย่างเหม่อๆ ชอบเผลอมองไปที่คนตรงข้ามทั้งๆที่เคยบอกไว้ว่าอย่าจ้องหน้าคนอื่นตอนกินข้าวก็เถอะ เเต่เรื่องเมื่อคืนมันเอาทำความมั่นใจที่ไม่ค่อยจะมีอยู่เเล้วของผมลดฮวบเลยนะ
 
จะว่าไปหน้าตาผมก็ไม่มีความหล่อหรือน่ารักอยู่เเล้ว มันคงไม่มีอะไรดึงดูดละมั้ง
 
"เฮ้อ"
 
"Are you okay? (โอเครึเปล่า)"
 
"อือ"ผมได้เเต่ครางตอบมันสั้นๆ เมื่อมันเงยหน้าจากอาหารเช้ามาถามผมด้วยสายตาสงสัยที่จู่ๆผมก็ถอนหายใจเฮือกๆ
 
"You can tell me. We’re boyfriends, right.(มีอะไรบอกได้นะ ยังไงเราก็เป็นเเฟนกัน)"มันถามคราวนี้จากเเววตาสงสัยเริ่มฉายเเววเป็นห่วงจนผมถอนหายใจอีกรอบเเล้วถามมันเสียงอ้อมเเอ้ม
 
"นี่..why you do that last night?"
 
"Do what? (ทำอะไร?)"
 
"ก็ do nothing อ่ะดิ! (ก็ไม่ทำอะไรเลยอ่ะดิ!)"พูดเเล้วก็เกิดอายขึ้นมา ถ้าดูจากรูปประโยคมันเหมือนผมอยากมากเลยนี่หว่า
 
"Ah...That…(อ่า..นั่นมัน)"มันยิ้มฝืดๆทำท่าเหมือนกำลังคิดหนักจนผมเริ่มหน้าเสียเเล้วรีบบอกมันรัวๆ
 
"เอ่อ ไม่ต้องตอบเเล้วก็ได้นะ คือ I know that I don't handsome or cute เอ่อ ยูอาจจะไม่มีอารมณ์ร่วมก็..."
 
หมับ
 
เเต่ยังไม่ทันได้พูดจบประโยคคนนั่งฝั่งตรงขั้ามก็เอื้อมมือทั้งสองมากุมมือข้างนึงของผมไว้จนผมชะงัก ผมมองหน้ามันอย่างสงสัยซึ่งคราวนี้มันก็เผยยิ้มอ่อนเเล้วเปิดปากอธิบาย
 
"You've really misunderstood. Absolutely last night I couldn't control my feelings. Okay, you're probably not handsome or cute in the eyes of others, but for me, you're extremely adorable. (นายเข้าใจผิดมหันต์เลย ที่จริงเเล้วเมื่อคืนฉันเเทบยอดใจไม่ได้ ถึงนายจะไม่หล่อไม่น่ารักในสายตาคนอื่นเเต่ในสายตาฉันนายมันน่ารักน่าเอ็นดูสุดๆไปเลยรู้ไหม)"
 
ฉ่า
 
ผมว่าเดี๋ยวนี้ภาษาอังกฤษผมพัฒนาจริงๆนะ ทำไมผมฟังมันออกหมดเลยวะ ฮื่อ ขอฟังไม่ออกได้ไหมพอฟังออกเเล้วโคตรเขินเลย ยิ่งมาพูดเสียงนุ่มๆหน้ายิ้มๆเเบบนี้อีก
 
"Why you stop ล่ะ (แล้วนายหยุดทำไม)"แต่ผมก็ไม่วายเสหน้าไปทางอื่นเเล้วถามเสียงอ้อมแอ้มเพราะเกิดเขินขึ้นมา แต่คนฟังคงมองเป็นอย่างอื่นเลยลุกขึ้นจากเก้าอี้เดินมาหาผมประคองใบหน้าผมด้วยสองมือจากนั้นก็ดันขึ้นเพื่อให้ไปสบตา
 
"Because you told me that you liked me.(เพราะว่านายบอกชอบฉันยังไงล่ะ)"
 
แล้วมันเกี่ยวอะไรฟ่ะ!
 
ผมอยากจะตะโกนถามเขาจริงๆเเต่เหมือนเขาจะรู้ว่าเเค่นั้นคงไม่ช่วยให้คนสมองทึบเเบบผมเข้าใจอะไรมากขึ้นเลยว่าต่อ
 
"When I heard that I felt like I didn't want us to stop at a 'like'. I wanted it to become a 'love' (พอได้ยินนายพูดอย่างนั้นจู่ๆฉันก็รู้สึกว่าไม่อยากให้เราหยุดที่เเค่คำว่าชอบเลย ฉันอยากให้มันกลายเป็น'รัก')"
 
ระ..รัก?
 
"I know it sounds nonsense, but I don't want you to think that I'm dating you because of sex. I want our relationships to be like this forever. And I think you're not ready for that.(เหตุผลอาจจะฟังดูปัญญาอ่อนเเต่ฉันพูดจริงๆนะ ฉันไม่อยากให้นายมองว่าที่คบกับนายก็เพราะเซ็กซ์ ฉันอยากให้ความสัมพันธ์มันยั่งยืน เเละอีกอย่างคือนายยังไม่พร้อมหรอก)"เขาพูดเเล้วปล่อยมืออกจากใบหน้าผมเปลี่ยนมายีหัวเเล้วระบายยิ้มบาง
 
"แต่..ไอไปศึกษามาเเล้วนะ"
 
"Theory and real situation are not the same. If we rushed, it could be your nightmare. Also, last night I didn’t wanna take advantage of the drunkard. (ทฤษฎีกับปฏิบัติมันไม่เหมือนกัน ถ้ารีบร้อนเกินไปมันอาจจะเป็นฝันร้ายสำหรับนายเลยก็ได้ อีกอย่างเมื่อคืนฉันไม่อาจจะฉวยโอกาสคนเมา)"
 
"But let’s get back to this when you’re fully conscious. (ไว้ตอนสติครบถ้วนค่อยมาว่ากันใหม่นะ)"
 
บ้าเรอะ! ตอนสติครบใครมันจะไปกล้าครับ!
 
จุ๊บ!
 
ถึงใจจะว่าอย่างนั้นเเต่คนที่บอกว่าไม่กล้าก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ไวๆเเล้วเขย่งขึ้นไปแนบริมฝีปากลงบนปากอีกคนเบาๆเเบบไม่มีการรุกล้ำให้คนได้รับนิ่งอึ้งไป
 
"เออ สัญญาเเล้วนะ!"
 
 
 







ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
ปลื้มออสติน นี่หลงธีร์เข้าเต็มเปาเลยสินะ  :hao5:

อย่าลืมไปสู่ขอแล้วลากกลับบ้านที่ตปท.ไปเลยนะคะ ฮิ้วววววววววววว  :hao7:

ออฟไลน์ Kiitos

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 45
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
Chapter23
| Suggestion
 
"ไม่ได้เรื่อง"
 
"ไร้น้ำยา"
 
"ขนาดอ่อยเขายังไม่เอา"
 
"นก"
 
"นกนกนกนกนกนก"
 
"โอ้ย! พวกมึงครับหุบปากซักที!"อันนี้ผมไม่ได้พูดนะ ไอกลองแต็กมันคัมเเบคกลับมาประจำหน้าที่มันเเล้วครับ ขอบคุณมันมากที่มาช่วยด่าไอพวกสองตัวนี้ผมจะได้ไม่เมื่อปาก
 
ไหนไอจีนบอกจะเลิกเสือกไง
 
ผมนี่ถอนหายใจรัวๆเมื่อพอมาถึงมหาลัยปุ๊ป ไอแต็กมันก็สอบสวนผมซะผมงง จนได้ความว่าไอจีนมันเล่ามาก่อนว่ามันเกิดอะไรขึ้นเเต่ดันตัดช่วงที่มันชวนผมมอมเหล้าตัวเองเนี่ย!
 
"กูไม่น่าเชื่อพวกมึงเลยจริงๆ"ผมพึมพำ รู้สึกเหมือนตัวเองได้ตัดสินใจผิดพลาดครั้งใหญ่หลวง ตอนเเรกก็แฮปปี้อยู่นะเพราะจากที่ไอหมีควายมันพูดมัน...เอ่อเเสดงให้เห็นว่าค่อนข้างเเคร์ผมเลย เเต่พอไอสองเกลอนั่นมาย้ำมาล้อบ่อยๆมันก็ทำเอาเสียเซลฟ์ได้เหมือนกันนะ
 
"โอ๋ๆ ไม่ร้องนะเตี้ย"ไอจีนก็ไม่วายวอเเวผมด้วยการลุกขึ้นเปลี่ยนฝั่งมานั่งข้างๆเเล้วดึงหัวผมไปซบไหล่มันจากนั้นก็ลูบหัวผมเหมือนเห็นใจสุดๆ
 
เป็นการปลอบที่ผมอยากจะยกจานข้าวฟาดหน้ามันมาก
 
"ไอพุ! เก็บเมียมึงเดี๋ยวนี้!"เเล้วก็เหมือนเคย ไอแต็กไม่ปล่อยให้ผมเอ่ยปาก มันก็พูดขึ้นมาก่อนซึ่งดูท่าจะได้ผลด้วย เพราะไอจีนนี่ปล่อยผมพัลวันเบิกตากว้างขึ้นนิดเเล้วรีบส่ายหน้า
 
"เห้ย! อย่างกูต้องผัวดิวะ!"
 
"เห้ย! นี่มึงยอมรับว่าเป็นผัวเมียกับมันเรอะ!"คราวนี้ผมหันขวับเลย แต่คิดว่าจะได้คำตอบดีๆจากเพื่อนผมไหมล่ะ มันก็เเค่ยักคิ้วให้เเล้วลุกกลับไปประจำที่ข้างไอพุเหมือนเดิมเเล้วทำท่าจะดึงหัวไอพุเข้าไปซบอกมันเหมือนที่ทำกับผมเมื่อกี้
 
"อั่ก!"
 
ถ้าไม่ติดว่าโดนศอกเข้าเต็มๆท้องล่ะนะ
 
"ไอพุ! มึงทำร้ายกูหรอห้ะ!"
 
"เออ"
 
"&฿@-)&&@-/&$%#*"
 
แล้วสุดท้ายก็เข้าอีหรอบเดิมคือเกิดศึกย่อมๆระหว่างมันสองตัวจนผมได้เเต่ถอนหายใจอย่างหน่ายๆเอาข้าวเข้าปากอย่างเหนื่อยๆ
 
"มีแฟนเเล้วทำไมทำหน้าเหนื่อยๆอย่างงั้นวะ ไม่เวิร์คหรอ"ไอแต็กถามขึ้นเรียบๆเเต่ในน้ำเสียงนิ่งๆของมันนั้นเจือไปด้วยความเป็นห่วงอย่างชัดเจน
 
อ่า...ผมทำให้มันห่วงอีกเเล้วสิเนี่ย
 
"โคตรเวิร์คเลยมั้งถ้าจะให้พูด มันเทคเเคร์ดีจนกูคิดว่าตัวเองเป็นง่อย ชีวิตนี้ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีใครมาดูเเลนี่หว่า ก็นะคนมันเคยคิดว่ายังไงเราก็ต้องเป็นฝ่ายดูเเลพอมาเเบบนี้เเล้วรู้สึกแปลกๆว่ะ"ผมเลยยิ้มๆตอบมันไปตามตรงมือก็ตัดข้าวราดเเกงที่มันออกจืดๆชอบกล
 
"แล้วรู้สึกดีไหมล่ะ"
 
ผมชะงักมือที่กำลังจะตัดข้าวคำใหม่เพื่อหยุดคิดนิดก่อนจะตอบไปตามตรงอย่างเคย
           
"ก็ดีนะ เอาจริงๆเป็นใครๆก็ต้องรู้สึกดีป่ะ มีคนมาสนใจมาใส่ทุกรายละเอียดขนาดนี้ นี่กูไม่เคยบอกไม่เคยพูดเลยนะว่าไม่ชอบกินอะไรหรือชอบกินอะไร มันยังรู้หมดเลย กูล่ะอึ้ง"อันนี้ไม่ได้เว่อร์ คือเคยมีเหตุการณ์ที่ผมเป็นฝ่ายทำข้าวเช้าเเล้วผมทำข้าวผัด ปกติถ้าทำกินเองผมจะไม่ใส่ถั่วลันเตาเพราะผมไม่ชอบ เเต่วันนั้นผมขี้เกียจทำเเยกเลยทำรวมๆเเล้วกะเขี่ยเอา เเต่ยังไม่ทันเขี่ยไอหมีควายมันก็ตักออกให้เเล้วเอาเข้าปากหน้าตาเฉยเเล้วพูดบอกผมง่ายๆว่า'ปกติไม่กินไม่ใช่หรอ'อะไรทำนองนี้
 
"อ่อ งั้นก็ดีเเล้ว"
 
"แต่กูเเค่ติดใจนิดหน่อยน่ะ ช่วงนี้เอ่อ...จะว่าไงดี คือจะ...จูบกับแฟนมันก็เป็นเรื่องปกติใช้ไหมล่ะ คือหลังจากคืนนั้นที่กูเมามันก็ไม่จูบกูอีกเลยอ่ะ หรือกูรุกมากไปวะมันน่าเกลียดใช่ไหม ก็อย่างว่าหน้าตากูก็ไม่ได้ดีเด่อะไร"ผมเริ่มระบายออกมาอย่างที่ตัวเองก็รู้ตัวนะ เอาจริงๆคือผมเป็นพวกปากรั่วน่ะ มีอะไรก็เล่าหมดไม่ชอบเก็บเอาไว้คนเดียว ตั้งเเต่เข้ากรุงมามีไอแต็กเนี่ยเเหละเป็นเพื่อนคนเเรกที่ผมคุยอะไร ระบายอะไรมันก็คอยรับฟังตลอด
 
"ถึงหน้าตามึงไม่ดีเเต่มึงมีเสน่ห์ของมึงนะธีร์"จู่ๆมันก็พูดเสียงเครียด ให้ผมละสายตาจากจานข้าวเเล้วหันไปมองมันที่อยู่ข้างกายเเทน
 
"หือ?"
 
"มึงน่ะมีเสน่ห์เฉพาะตัวที่มึงไม่รู้ตัวหรอกว่ามันดึงดูดใครบางคนมากขนาดไหน ถึงตลอดที่ผ่านมาจะไม่ได้มีคนมาชอบมารักเเต่มึงไม่สังเกตหรอว่ารอบๆตัวมึงมีคนที่มึงรู้จักเยอะขนาดไหน คนเราชอบกันรักกันไม่ได้ดูกันที่หน้าตาอย่างเดียวนะมึง มึงอย่าไปคิดว่าตัวเองหน้าตาไม่ดีเเล้วมันจะไม่เอา มึงเเค่เชื่อในตัวมึงเเละเชื่อในตัวมัน มึงก็คือมึงไอธีร์ คนที่มองเห็นเสน่ห์จริงๆของมึงน่ะมีไม่เยอะหรอกนะ"มันร่ายยาวด้วยน้ำเสียงจริงจังเเละจริงใจสุดๆเพื่อย้ำให้ผมรู้ว่ามันไม่ได้พูดเพื่อปลอบผมเเต่อย่างใด
 
"ไอเเต็ก..."ผมเรียกชื่อมันออกมาอย่างบอกไม่ถูก เเม่งเพื่อนดีเด่นของกูจริงๆเลยว่ะ
 
"แล้วเสน่ห์ของไอธีร์เพื่อนกูอย่างเเรกเลยก็คือเป็นคนไม่คิดมาก"มันหันมาฉีกยิ้มให้ผมเเล้วยักคิ้วขึ้นเหมือนจะบอกว่า'ใช่ไหมล่ะ' ให้ผมคิดตามคำพูดมัน
 
นั่นสินะ ผมกลายมาเป็นคนคิดเล็กคิดน้อยเเบบนี่ตั้งเเต่เมื่อไหร่
 
ผมยิ้มกว้างเอื้อมมือไปกุมมือมันไว้ด้วยความรวดเร็วเเล้วเขย่าๆ กะจะเอ่ยขอบคุณที่มันคอยเป็นที่ปรึกษาผมมาตลอดด้วยความซึ้งใจ
 
"ขอบคุ..."
 
"เอ้าๆ พวกมึงจะเล่นเลสกันหรอ ใครผัวใครเมียวะนั่น"
 
"สงสัยปากพวกมึงจะว่างมากนะเอาตีนกูไปอุดไหม"ไอแต็กรีบหันขวับไปหาทางต้นเสียงซึ่งก็คือไอจีนที่ยิ้มกริ่มเเล้วทำท่ากอดตัวเองพร้อมน้ำเสียงตอเเหล
 
"อู้ยย โหดซะด้วย"
 
"กูไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ เบื่อหน้าพวกมึง"
 
"เห้ยไอเเต็ก! กูไปด้วย!"ผมเบิกตากว้างเมื่อเพื่อนตัวเล็กมันหนีศึกด้วยการลุกขึ้นเเล้วเดินสะบัดตูดออกไปอย่างว่องไวชนิดที่ผมต้องรีบเรียกมันไว้เพราะอะไรน่ะหรอ...
 
"ไม่ต้องเลยไอธีร์ อยู่กับพวกกูดีกว่า"
 
"ไม่! ไอพุปล่อยกู๊!!!"
 
นี่ไอพุมันก็เอาด้วยเรอะ! ปกติไอพุเป็นพวกกวนตีนเป็นครั้งคราวไม่หนักเท่าไอจีน เเละมันเป็นพวกใช้สมองที่เกลียดอะไรก็ตามที่ต้องออกเเรง เเต่ตอนนี้มันกำลังเอื้อมเเขนมาฉุดผมที่ลุกยืนเพื่อที่จะตามไปเเต็กไปจนผมเซเเท่ดๆจะเกือบลงไปนั่งตักมันอยู่เเล้วถ้าไอจีนไม่ลุกเเล้วเดินมาข้างหลังผม จับไหล่ทั้งสองข้างของผมไว้ก่อน
 
"มาอยู่กับพวกเราเถอะ ไม่ต้องกลัวหรอกว่าจะมาเป็นกขค.พวกกู สามพีได้ใช่ไหมไอพุ"เเถมมีการพยักเพยิดหน้าไปทางอีกคนเหมือนที่มันชอบทำซึ่งไอพุมักจะตอบสั้นๆว่า...
 
"เออ"
 
สามพงสามพีเหี้ยอะไรล่ะ!!
 
"ไอแต๊กมึงอย่าทิ้งกูไว้คนเดียวววววววว"
 
เป็นประโยคที่ไม่อาจส่งไปให้ถึงใครอีกคน
 
 
 
 
 
'กูมีธุระด่วน ขอกลับก่อนนะ เก็บกระเป๋าไว้ให้ด้วย'
 
ข้อความจากเพื่อนสนิทตัวเล็กที่หายไปห้องน้ำจนเกือบไปตามเพราะสงสัยว่ามันลื่นหัวฟาดพื้นตายคาห้องน้ำไปเเล้วรึเปล่าทำเอาผมย่นคิ้วเล็กๆ
 
"ห่วงมันหรอ"
 
"ก็เออสิ ช่วงนี้มันมีธุระบ่อยแปลกๆ"ผมตอบไอพุไปเเล้วถอนหายใจเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋ากางเกง หันไปมองกระเป๋าสะพายข้างของไอเเต็กที่วางทิ้งไว้ตรงเก้าอี้
 
"ก็พ่อเเม่มันเป็นด็อกเตอร์ก็คงมีงานนู่นนี่ให้มันช่วยเหมือนเดิมเเหละมั้ง"ไอจีนที่นั่งเฉียงๆพิงตัวไอพุที่ฟุบหลับอยู่ว่าง่ายๆ
 
ท่ามึงยากมากครับเพื่อนฝูง
 
"ก็จริงล่ะนะ"
 
"เอ้อ ไอธีร์มึงบอกว่าที่ไอฝรั่งนั่นมันไม่ยอมทำเพราะว่ามึงยังไม่พร้อมใช่ไหม"จู่ๆไอจีนมันก็ทำท่าเหมือนเพิ่งนึกอะไรออก
 
"อ่า"ให้ผมตอบรับมันด้วยจิตใจหวาดหวั่น
 
หวั่นว่ามันจะไม่ได้คิดอะไรแผลงๆให้ผมทำอีก...แต่ดูจากรอยยิ้มนั้นเเล้วคงไม่เหลือ
 
"เเล้วเมื่อไหร่จะเรียกว่าพร้อมล่ะ"
 
เออว่ะ..ลืมคิดไปเลย
 
เหมือนมันสามารถตีความสีหน้าของผมให้ทันที เพราะมันรีบหมุนตัวมานั่งประจันหน้ากับผมเเล้วดีดนิ้วดังเป๊าะเเล้วพูดด้วยรอยยิ้ม...ที่สาบานได้เลยว่าเห็นทีไรชีวิตฉิบหายทุกที
 
"มึงต้องไปทำความรู้จักกับน้องชายมันก่อน"
 
"ห้ะ? มันมีน้องชายด้วยหรอ?เเล้วทำไมกูต้องไปรู้จัก"
 
"พ่อง กูหมายถึงเจ้าโลกมันต่างหาก"มันทำหน้าเซ็งหน่อยๆ แต่นั่นก็ไม่ได้ช่วยไขข้อข้องใจผมเลยซักนิดเลยต้องทวนคำพูดมันอย่าฉงน
 
"เจ้าโลก?"
 
"โอ้ย! กูล่ะเหนื่อยล่ะหน่ายกับมึงจริงไอพุกูรู้มึงเข้าใจ มึงอธิบายมันสิ"มันพูดเหมือนสุดจะทนกับผม(ไหนมันบอกเลิกเสือก)เเล้วหันไปสะกิดไอพุที่ฟุบอยู่ให้มาช่วยอธิบาย
 
ซึ่งไอพุก็เงยหน้ามานิดหันไปมองหน้าไอจีนเเล้วถอนหายใจใส่เเล้วค่อยหันมามองผมด้วยสายตานิ่งๆของมันเเล้วว่าสั้น
 
"หำ"
 
อ่อโอเค กูเข้าใจเเล้ว
 
เข้าใจก็เเย่เเล้วเว้ย!!


----------------------------------------

"อ่ะ พรุ่งนี้วันเสาร์เเล้วสินะ"ผมพึมพำกับตัวเองยามที่นอนกลิ้งเล่นอยู่บนเตียงอย่างคนไม่มีอะไรทำ กะว่ากลิ้งไปเรื่อยๆเผื่อจะเคลิ้มหลับ แต่พอจังหวะที่เคลิ้มจริงๆกลับต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะเสียงแอพพิเคชั่นสีเขียวสุดฮิตที่เด้งเตือนเพราะข้อความของพี่เรนที่ข้อความมาย้ำเรื่องนัดในวันพรุ่งนี้

พรุ่งนี้จบจะได้คบกับมันได้อย่างสบายอกสบายใจเสียที
 
ผมยิ้มเหมือนคนบ้ายามที่กดส่งสติ๊กเกอร์โอเคไปเชิงบิกรับทราบ ตั้งนาฬิกาปลุกให้เรียบร้อยเเล้วกลับมานอนกลิ้งเหมือนเดิม
 
เมื่อกี้จะหลับอยู่เเล้วเชียว
 
เพราะคืนนี้ก็เป็นอีกคนที่ผมนอนไม่หลับเพราะคำพูดของไอเพื่อนสองตัวนั้น คำเเนะนำทีทมันบอกว่า...ถ้ายังไม่พร้อมก็ต้องทำความรู้จักกับมันก่อน..
 
ซึ่งตอนเเรกผมโคตรงงเเละไม่เข้าใจจนกระทั่งมันก้มลงกระซิบ
 
'ก็ออรัลไรเงี้ย สัมผัสเเต่ภายนอกอ่ะเข้าใจไหม'
 
ไอพวกนี้สมองมันมีเเต่เรื่องอะไรกันก็ไม่รู้ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็อดเก็บเอามาคิดไม่ได้ เพราะยังไงก็ไม่เสียหายนิถ้าจะลอง...
 
ว๊ากก มึงอย่าไปฟังไอเพื่อนพวกนั้นนะไอธีร์!
 
แกร็ก
 
เสียงเปิดประตูทำให้ผมรีบหลับตาลงเเล้วเเสร้งเป็นหลับทันที ถ้าถามว่าทำไมต้องแกล้งหลับด้วย ตอบได้เลยครับว่าหลังจากคืนนั้นมันแปลกไปจริงๆ
 
กอดบ้าง หอมบ้าง เเต่ไม่จูบเเละ ไม่ยอมเข้ามานอนถ้าผมยังไม่หลับ
 
ถึงบอกว่าไม่ให้คิดมากเเต่มันชัดเจนขนาดนี้มัรก็อดคิดไม่ได้นี่หว่า!
 
ฟึ่บ
 
และก็อย่างที่คาดการณ์ไว้พอมันเห็นผมหลับเเล้วมันก็ปิดไฟเเล้วเดินมาทรุดตัวนอนอีกฝั่ง เอาล่ะ...ได้เวลาเคลียร์เเล้ว
 
ขวับ
 
"เห้ย!"มันร้องเสียงหลงทันทีที่ผมพลิกตัวเองที่จากตะเเคงหันหลังให้มันไวๆเเล้วทั้งเเขนทั้งขาก็เอาไปก่ายมันไว้ทันที
 
"You're not sleepin'?(นายยังไม่หลับหรอ)"ไม่ถามเฉยๆนะ มือเเอบเนียนดันผมออกด้วยเเต่เหมือนมันไม่กล้าดันเเรงผมเลยยิ่งเกาะมันหนึบเเอบบุ้ยหน้าใส่นิด
 
"จะไปsleepได้ไงเล่า มาtalk first เลยนะ"
 
"T-talk?"มันถามหน้าเหลอหลาเหมือนไม่รู้ยังความผิด
 
"ช่วนนี้ยู เอ่อ look weird อ่ะ"
 
"Weird?(แปลก?)"
 
"ใช่! Why you have to sleep after I already sleep ด้วยละ! ไหนจะเอ่อ...kiss อีก"ผมถามออกไปด้วยความสงสัย เเม้หน้าจะหนาขึ้นขนาดไหนเเต่ก็ยังคงความอายไว้เหมือนเดิม ก็เเบบนี้มันหมายถึงผมอยากจูบมันมากเลยไม่ใช่หรือไง
 
"Er...Thee. Can you please be away from me first?(เอ่อ...ธีร์ นายช่วยลงจากตัวฉันก่อนได้ไหม)"ไอหมีควายไม่ยอมตอบยิ้มเเห้งๆใส่เเล้วพยายามจะดันให้ผมกลับไปนอนที่เตียงดีๆเพราะจากตอนเเรกก่ายไว้เฉยๆกลายเป็นปืนมาบนตัวตั้งเเต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
 
"No! ยูตอบไอก่อนสิ มันค้างคาใจรู้ไหม"เเต่ความสงสัยในใจมันมีมากกว่าความอายผมเลยถือโอกาสขืนตัวเอาไว้ นอนเเหมบลงบนตัวโตๆของมันซะเลย
 
"อึก"แล้วปฏิกริยาตอบกลับเป็นการกลืนน้ำลายอึกใหญ่พร้อมเสหน้าไปทางอื่นนี่หมายความว่าไงครับ!
 
พอมันไม่ตอบผมเเถมยังไม่มองหน้าอีกผมเลยแอบบ่นพึมพำออกมาไม่ได้
 
"ไหนบอกว่าแฟนกันต้องบอกกันไง"
 
หมับ
 
"อื้อ!"
 
มะ..มันจูบ!
 
จูบที่ทำให้ตัวผมเเข็งทื่อ เพราะมันไม่ใช่จูบนุ่มๆอย่างที่มันชอบทำเเต่คราวนี้มันกลับรู้สึกรุนเเรงขึ้น...เร่าร้อนขึ้น เเถมยังเป็นจูบที่โคตรยาวนานเหมือนจะสูบวิญญาณผมออกไปยังไงอย่างงั้น จนผมรู้สึกเหมือนจะขาดอากาศหายใจทุบอกมันมันถึงยอมผละออก
 
"แฮ่ก แฮ่ก"
 
"See? Just a kiss make it like this.(ก็ดูสิ แค่จูบมันก็เป็นซะอย่างนี้ซะเเล้ว)"มันว่าใช้มือหนึ่งปิดใบหน้าตัวเองไว้ส่วนอีกมือก็ชี้ลงด้านล่างให้ผมมองตาม...
 
อะ..อนาคอนด้า
 
 
 






ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
มารัวๆเลย ช๊อบชอบ

สกิลของธีร์คือการยั่วโดยไม่ได้ตั้งใจสินะ หึหึ


ออสตินลำบากแน่แท้ =w=b

ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
โคตรสุภาพบุรุษ,,,

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด