ตอนที่ 34 The secret revealed“อาร์มจะใช้ทำไมล่ะครับ พี่ใช้มือกับปากให้อาร์มแค่นั่นหนิ มันไม่ติดโรคหรอก” นี่.....พี่ยังไม่เข้าใจอีกหรือไงว่าผมจะรุกพี่คืนบ้าง
ผมหน้ามุ่ยจ้องพี่แนทด้วยสายตาจริงจัง สื่อสารไปว่า....
’พี่ไม่เข้าใจเหรอว่าผมจะขอรุกพี่บ้าง’พี่แนทจ้องตาผมซักพักแล้วคงเริ่มเก็ท เพราะพี่แกทำตาโตแบบประหลาดใจแล้วอมยิ้ม ส่งสายตาโต้ตอบกลับมา
‘อาร์มแน่ใจเหรอว่าจะทำได้ คิดจะรุกพี่....หึ หึ...มันเร็วไปร้อยปีมั้งงงง‘ ดูนั่น.....สายตาพี่แนทท้าทายกันชัดๆ
‘ก็คอยดูแล้วกัน คราวนี้ผมต่อให้พี่ทำประตูขึ้นนำไปก่อน คราวหน้าผมจะเอาคืนบ้าง‘ สายตาผมมุ่งมั่นสื่อไปว่า ยังไงก็ไม่ยอมเป็นรับฝ่ายเดียว และจะต้องรุกคืนให้ได้
‘เชื่อพี่เถอะคนดี ตัวเล็กๆน่ารักอย่างอาร์มเป็นรับน่ะดีแล้ว‘ สงสัยสายตาผมที่เพิ่งส่งไปจะจริงจังมาก คนตรงหน้าเลยเปลี่ยนจากท้าทาย มาเข้าโหมดโน้มน้าวให้คล้อยตาม
‘ไม่เกี่ยวกับตัวเล็กตัวใหญ่ ของแบบนี้ลีลาใครดีก็ได้รุก‘ ยังไงผมก็ไม่ยอมหรอก แบบว่า...พี่ไม่ต้อง น้องรุกเอง
‘งั้นพี่จะคอยดู‘ เออ...ได้.....แล้วเราจะได้เห็นดีกัน ผมรับคำท้าพี่แนททันที
เฮ้ย...เว้ย ไม่น่าเชื่อว่าผมกับพี่แนทจะส่งกระแสจิตคุยกันเป็นเรื่องเป็นราวได้ขนาดนี้
ดีเหมือนกันครับ....ไม่ต้องอ้าปากพูดให้เมื่อย (งงเหมือนกันว่ามันคุยกันได้ยังไง)
แต่ตอนนี้ผมปวดฉี่อยากเข้าห้องน้ำมากๆ เลยบอกพี่แนทว่าจะไปเข้าห้องน้ำ เพื่อให้พี่แกคลายอ้อมกอดที่รัดตัวอยู่ ผมขยับตัวจะลุกเดินลงจากเตียง
“โอ๊ยยยย.....” แต่เพียงแค่ยันตัวจะลุกขึ้นนั่ง ก็ต้องทรุดลงนอนเหมือนเดิม อูยยย....ทำไมมันปวดไปหมดทั้งตัวแบบนี้ ยิ่งสะโพกนี่แล้วใหญ่.....สะโพกตูครากไปหมดแล้วนี่
แล้วอย่างนี้ประตูหลังผมมันไม่ยิ่งแย่ไปใหญ่เหรอ สงสัยจะยับเยินแน่ๆ
“อาร์ม....เป็นยังไงบ้าง เจ็บตรงไหนครับ เดี๋ยวพี่ดูให้” พี่แนทพูดเหมือนเป็นห่วง มือแตะแขนผม แต่.....ตานี่พราวระยับวิบวับเชียว อ๊ากก....อยากจะควักลูกตาคนออกมาสับๆแล้วใช้เท้าขยี้จริงๆเลย
ผมไม่ตอบคำถามเพราะงอนมากมาย พยายามยักแย่ยักยันดันตัวขึ้นนั่งอีกครั้ง แต่ก็ทรุดลงอีก หน้าตาเหยเกก็มันเจ็บไปหมดนี่ครับ จะให้ทำหน้าเบิกบานเริ่งรื่นเหมือนคนตัวโตข้างๆได้ไง นี่ขนาดกินยาดักไว้ยังขนาดนี้ ถ้าไม่กินสงสัย....ผมกลายเป็นศพไม่มีญาติแน่เลย
“อาร์มไม่ต้องลุกหรอก จะเอาอะไรบอกพี่ เดี๋ยวหยิบให้ หรือถ้าจะเข้าห้องน้ำ เดี๋ยวพี่อุ้มไป” ตอนนี้พี่แนทขยับมานั่งบนเตียงก้มหน้าพูดกับผม
มันเป็นเพราะใคร......เป็นเพราะใครก๊านนน ที่ทำให้ผมเป็นแบบนี้ ที่จริงอยากจะงอนต่อ แต่ปวดฉี่มากไม่ไหวแล้ว เลยบอกพี่แนทให้พาไปห้องน้ำ พี่แนทก็อุ้มผมเข้าห้องน้ำแล้วปล่อยผมลงยืนหน้าโถ ส่วนพี่แกยืนพิงกรอบประตู จ้องมองผมทุกอริยาบทไม่ละสายตา
พี่ค้าบบบ.....ยืนจ้องแบบนี้ก็ฉี่ไม่ออกสิคร้บ แล้วมายืนคุมแบบนี้เหมือนผมเป็นนักโทษเลย แต่ว่า....ถ้าพี่แนทเป็นผู้คุม ผมก็ต้องเป็นนักโทษรักน่ะสิ กร๊ากกกก
“อาร์มไม่ต้องอายนะ พี่เห็นของอาร์มหมดทุกซอกทุกมุมแล้ว” ผมหันไปทำท่าค้อนใส่ ก็ใครมันจะหนาแบบพี่ ที่มายืนโชว์หุ่นใส่แค่บ๊อกเซอร์แนบเนื้อยี่ห้อ Armani อย่างเดียวล่ะ
จัดการธุระเสร็จพร้อมแปรงฟัน แต่ไม่ได้อาบน้ำ เพราะพี่แนทบอกว่าผมตัวรุมๆเหมือนมีไข้แค่เช็ดตัวก็พอ เช็ดตัวเสร็จพี่แกทาแป้งเด็กที่ไปหยิบมาจากห้องผมให้ด้วย แล้วก็อุ้มผมกลับไปที่เตียงให้นั่งพิงหัวเตียงมีหมอนรองหลัง ส่วนแกเดินออกจากห้องไป ซักพักก็เดินกลับเข้ามาพร้อมชามโจ๊กใส่ไข่
“อาร์มทานโจ๊กนะ พี่ป้อนให้ เดี๋ยวจะได้กินยา”
พี่แนทนั่งลงข้างๆหันหน้าเข้าหาผม แล้วป้อนโจ๊กให้อย่างตั้งอกตั้งใจ ผมก็อ้าปากรับเหมือนลูกนกที่อ้าปากรออาหารจากพ่อแม่ กินเสร็จพี่แนทก็ป้อนยาตามด้วยน้ำ
เนื่องจากมีคนบริการให้ทุกอย่าง ตาผมเลยว่าง เลยได้แต่จ้องมองหน้าท้องพี่แนทที่มีซิกแพ็คเป็นลอน สำรวจเรื่อยต่ำลงไปถึงบ๊อกเซอร์ ทำให้ผมนึกถึงตอนไปเที่ยวดีซี ที่คันไม้คันมือไปแอบเปิดดู เป็นไงล่ะ....ตอนนี้เจอของจริงแล้วเดี้ยงไปเลย
คิดแล้วก็ขำตัวเองจริงๆ
“อาร์มอมยิ้มอะไร พี่รู้นะว่าคิดอะไรอยู่ มองบ๊อกเซอร์พี่แล้วยิ้มๆแบบนี้ ต้องคิดเรื่องลามกแน่ๆเลย นี่ขนาดป่วยนะเนี่ย” พี่แนทล้อผม
“เปล๊าาา....ไม่ได้คิดอะไรเล้ยยย” ผมสั่นหัวพูดปฏิเสธเสียงสูงทันที เคยได้ยินเค้าบอกว่าคนที่พูดโกหก โทนเสียงจะสูงเป็นพิเศษ ท่าจะจริงแฮะ
“อย่านึกว่าพี่ไม่รู้นะว่าอาร์มทำอะไรพี่ตอนที่อยู่ดีซี” พี่แนทพูดแล้วอมยิ้ม ห๊า.....ไม่จริง
พี่รู้เหรอ เป็นไปไม่ได้ ผมออกจะแสดงได้แนบเนียนขนาดนั้น
“ทำอะไร อาร์มไม่ได้ทำอะไรซักหน่อย” ไม่ได้.....ของแบบนี้ ต้องปากแข็งไว้ก่อน จะให้สารภาพง่ายๆได้ไง บางทีพี่แนทอาจจะอำผมก็ได้ใครจะรู้
“จะให้พี่พูดจริงๆเหรอ อาร์มแอบเปิดกางเกงนอนพี่ แล้วยังเรื่องที่อาร์มฝันเรื่องลามกๆนั่นอีก” กล้วยทอดสองหวีมณีแปดเด้งแล้วค้าบบบ ความลับที่ตูอุตส่าห์ปกปิดมานานแตกซะแล้ว อยากจะหายตัววับไปจากตรงนี้ ว่าแต่ว่า....พี่รู้ได้ยังไงอ่ะ
“อะไรครับ อาร์มไม่รู้เรื่อง พี่พูดเรื่องอะไรอ่ะ” ผมยังแถต่อไป พร้อมสายตาบ๊องแบ๊วใสซื่อไปให้
“นี่แน่...คนเจ้าเล่ห์ ไม่ต้องมาทำหน้าแบบนี้เลยนะ พี่ไม่เอาเรื่องเราก็ได้ แต่อย่างนี้ต้องโดนทำโทษ”
พี่แนทเอานิ้วมาคีบจมูกผมบีบเบาๆ โน้มหน้ามาหอมแก้ม แล้วไล้มาประทับจูบอย่างอ่อนหวาน ส่วนมือพี่แนทกุมมือผมให้ไปแตะที่ขอบกางเกงบ๊อกเซอร์ แล้วกระซิบข้างหู
“อาร์ม ถ้าอยากเห็นใกล้ๆ ไม่ต้องแอบเปิดดูก็ได้ บอกพี่ตรงๆพี่ก็ให้ดู” ย๊ากกก.....ล้อเลียนเหรอ ผมเลยสะบัดมือออกแล้วรีบบีบไปที่กล่องดวงใจพี่แนทอย่างแรง นี่แน่....แกล้งกันใช่มั้ย มันต้องเจอแบบนี้
“โอ๊ยยยย.....อาร์ม บีบมาซะแรง เกิดใช้การไม่ได้ขึ้นมา อาร์มอย่ามาเสียใจนะ แล้วแรงดีแบบนี้แสดงว่าดีขึ้นแล้วสิ อย่างนี้....สงสัยต้องทำให้หมดแรงอีกรอบซะแล้ว” อ๊ะ....ว่าไงนะ ไอ้พี่หื่น ผมเอื้อมมือไปที่เอวกะว่าจะบิดให้เนื้อเขียว แต่พี่แนทไวกว่าจับมือผมไว้ทัน สงสัยจะเริ่มรู้แกวหลังจากโดนผมบิดเอวไปหลายที ไม่ได้ละ...คราวหน้าต้องเปลี่ยนไปบิดหูดีกว่า
ผมมัวแต่คิดเลยเปิดโอกาสให้พี่แนทจู่โจม พี่แกจับผมนอนลงกับเตียงแล้วตามลงมาทาบทับพร้อมบดเบียดปากลงมาทันที ผมจะไปขัดขืนอะไรได้ในเมื่อสภาพร่างกายมันไม่พร้อมแบบนี้ (ที่จริงไม่อยากขัดขืนมากกว่าครับ อิ อิ
) ได้แต่ยกแขนคล้องคอพี่แนทไว้ แล้วตอบสนองลิ้นที่เข้ามาพัวพันสำรวจในปาก
แต่ใจมันยังบอกว่าผมน่าจะลองรุกดู เฮ้อ....แต่ตูจะไหวมั้ยเนี่ย สะโพกครากซะขนาดนี้ เอาวะ....ลองดูก็ไม่เสียหาย ว่าแล้วมือผมก็เริ่มลูบไล้แผ่นหลังพี่แนท ละเรื่อยต่ำลงไปที่เอว พี่แนทยังคงเพลิดเพลินกับรสจูบอยู่ มือผมค่อยๆคืบคลานไปที่สะโพก สะโพกที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อตึงแน่น แล้วเริ่มเค้นคลึงมันเบาๆ กะว่าเดี๋ยวจะลองทำแบบที่พี่แนททำกับผม คือค่อยๆรุกเข้าประตูหลังช้าๆด้วยดัชนีพิฆาตไม่ให้รู้ตัว
แต่....ยังไม่ทันทำตามที่คิด มือพี่แนทมาตะปบมือผมทั้งสองข้างดึงออกจากสะโพกแก ปากพี่แกผละออกจากปากมาจ้องหน้าผม
“อาร์มคนดีของพี่ คิดจะทำอะไรครับ อย่าคิดนะว่าพี่ไม่รู้ว่าเราคิดอะไรอยู่ จะรุกพี่เหรอ...เลิกคิดไปได้เลยนะเรา” อ้าวพี่...ที่เมื่อกี้ผมส่งกระแสจิตคุยกับพี่ พี่ไม่รู้เรื่องเหรอ ผมนึกว่าพี่รู้และรับคำท้าผมไปแล้ว (เจ้าอาร์ม.....ใครมันจะไปรู้เรื่อง คนอื่นเค้าไม่ได้คิดเพ้อเจ้อฝันเฟื่องคุยกับตัวเองคนเดียวได้เหมือนแกนี่)
“สงสัยต้องย้ำกันบ่อยๆซะแล้ว จะได้รู้ตัวซักทีนะอาร์ม”
พี่แนทพูดเสร็จก็ไซ้คอผมทันที มือหนาลูบไล้ไปทั่วอก พร้อมขบเม้มติ่งหูผมไปด้วย ส่วนอีกมือก็รูดรั้งส่วนอ่อนไหวของผม อารมณ์ผมตอนนี้เริ่มตะเลิดอีกแล้ว ได้แต่ขยับสะโพกเข้าหามือพี่แนทที่สัมผัสส่วนอ่อนไหวด้านหน้า
โดยไม่รู้ตัวผมก็โดนจับนอนคว่ำ ลิ้นร้อนตามมาเล้มเลียพร้อมจูบฝังรอยไปทั่วไหล่และหลัง จนรู้สึกสยิวกิ้วไปหมด ซักพักพี่แนทปล่อยมือแล้วเอื้อมไปหัวเตียงหยิดขวดเจลและถุงยาง ผมได้แต่มองแล้วซบหน้ากับที่นอน ก็มันอายนี่ครับ พี่เร็วๆสิค้าบบบ.....ก่อนที่ผมจะอายไปมากกว่านี้
พอพี่แนทเตรียมพร้อมออกรบ แกก็เอนลงมาทาบทับ ค่อยแทรกกายเข้ามาทางด้านหลัง เจ็บโว้ยย....ผมเริ่มขยับหนีแต่ก็ไม่เป็นผล พี่แนทค่อยๆคืบเข้ามาอย่างช้าๆจนหมด แล้วหยุดเหมือนให้ช่องทางผมค่อยๆปรับตัว
เหวอออ.....ตัวผมโดนพลิกมานอนหงายทับบนตัวพี่แนท ที่พลิกตัวลงไปนอนหงายด้านล่างแทน นี่พี่......จะเล่นอะไรพิเรนท์ๆอีก ช่างสรรหากระบวนท่าไม่ซ้ำแบบกันเลยจริงๆ ผมได้แต่เหนื่อยใจ
พี่แนทแทรกขาเพื่อมาดันให้ขาผมกางออก แล้วแกก็เริ่มขยับสะโพกเบาๆทั้งที่อยู่ด้านล่าง ส่วนมือเหรอ....พี่แกก็รูดรั้งของผมไปด้วย พอเห็นผมเริ่มผ่อนคลาย คราวนี้แกรัวไม่ยั้ง ผมได้แต่นอนตัวสั่นสะเทือนไปมาบนตัวพี่แนท เกมรักดำเนินไปตามครรลองจนเสร็จสมอารมณ์หมาย
ผมหมดแรงจนอยากไปเฝ้าพระอินทร์อีกรอบ ได้แต่แค้นใจ ปล่อยให้พี่แนทนำไปก่อน 5 ต่อ 0 แล้วอย่างนี้ตูจะตามทันมั้ยวะเนี่ย โธ่เว้ย....คอยดูเหอะ.....ไว้ให้สภาพร่างกายดีขึ้นก่อน เดี๋ยวตูจะไปเอาตำรากามสูตรของอินเดีย กับตำราสามก๊กมาอ่านให้มันรู้แล้วรู้รอด จะได้ไม่ผิดพลาดแบบเมื่อคืนกับเช้านี้อีก
************************************************
ผมตื่นนอนขึ้นมาอีกทีตอนบ่ายสาม ท้องร้องประท้วงว่าหิวอีกแล้ว เห็นพี่แนทนั่งอ่านหนังสือบนเก้าอี้ข้างๆเตียง พอเห็นผมขยับตัวลืมตา พี่แนทรีบวางหนังสือลง แล้วเดินมานั่งบนเตียงข้างๆผมพร้อมลูบศีรษะผมเบาๆ
“เป็นไงอาร์ม หิวมั้ย พี่ทำข้าวต้มหมูสับไว้” เสียงพี่แนทอบอุ่นอ่อนโยน
“หิว แต่เจ็บ.....ตรงนั้นมากกว่า” ผมพูดเบาๆก้มหน้างุด
“พี่ขอโทษจริงๆ แต่อาร์มอยากน่ารักจนพี่อดใจไม่ไหวทำไม
” อย่า.....ไม่ต้องเลย ไม่ต้องมาโทษตูเลย ไอ้พี่หื่น
นี่ผมเพิ่งมีอะไรกับพี่ครั้งแรกเมื่อคืนนะ ไม่รู้จักถนอมกันบ้างเลย กะจะให้ตูช้ำในตายเลยรึไง แต่ไม่อยากต่อล้อต่อเถียงด้วยแล้ว กินข้าวดีกว่า
“พี่แนทไม่ต้องพูดมากเลย อาร์มหิวแล้ว ไปเอาข้าวต้มมาซักทีสิ” ผมพูดหน้างอ
“ได้เลยครับ หัวหน้า” พี่แนทก็ป้อนผมเหมือนเดิม ตามด้วยยาหลังอาหาร ปิดท้ายด้วยการทายาฆ่าเชื้อและยาชาที่ก้นผม
“อาร์ม.....ตอนอาร์มหลับอยู่ตี๋โทรมา พี่บอกว่าอาร์มหลับอยู่ ตี๋ไม่เชื่อหาว่าพี่กีดกันไม่ให้คุยเพราะปกติอาร์มไม่นอนกลางวัน พี่เลยบอกไปว่า...อาร์มหมดแรงจากกิจกรรมพิเศษเลยนอนหลับอยู่บนเตียงพี่ ตี๋เลยตัดบทเสียงห้วนบอกให้อาร์มโทรกลับด้วย”
หน้าพี่แนทดูอารมณ์ดีมากที่ได้แกล้งตี๋ พี่นี่น้า......เล่นอะไรเหมือนเด็กๆ
ผมเลยขอโทรศัพท์พี่แนทโทรหาตี๋ เลยรู้ว่าพี่นกกับตี๋จะมาเที่ยวนิวยอร์คตามคำชวนของพี่แดนที่คะยั้นคะยออยากให้พี่นกมาให้ได้ แถมยังปวารณาตัวอุทิศบ้านแกให้เป็นที่พักฟรีด้วย ผมยังไม่ได้เล่าใช่มั้ยครับว่าพี่แดนกำลังจีบพี่นกอยู่ หลังจากที่ตกหลุมรักพี่นกแบบ love at first sight ตอนไปซานฟรานเมื่อสองอาทิตย์ก่อน
ผมยังจำได้ ตอนนั้นพวกเรายกโขยงไปอพาร์ทเมนท์พี่นกกับพี่เอิน ซึ่งเป็นพี่สาวตี๋กับแมนดี้ พี่เค้าเป็นรูมเมทกัน พี่เอินสวยคมขำผิวสีน้ำผึ้งแบบคนใต้ แต่พี่นกนี่ตัวเล็กๆ ผิวขาวเหมือนหยวกกล้วย ผมยาวดำขลับล้อมกรอบหน้ารูปไข่ ตาหวานกลมโต ปากนิด จมูกหน่อย เหมือนตุ๊กตากระเบื้องจีน ผมเคยเห็นแต่รูปถ่ายที่ตี๋ให้ดูแต่ไม่เคยเจอตัวจริง บ้านนี้เค้าหล่อสวยกันทั้งบ้าน ไอ้ตี๋ก็หล่อ พี่นกก็สวย ส่วนน้องสาวตี๋ที่ผมเห็นในรูปถ่ายนี่ก็น่ารัก ตอนแรกผมคิดว่าพี่แดนซึ่งเป็นฝรั่งน่าจะชอบพี่เอินที่มีผิวสีน้ำผึ้งมากกว่า แต่เรื่องความรักนี่มันออกแบบกันไม่ได้จริงๆ
พี่เอินเป็นคนเดินมาเปิดประตูให้พวกเรา ซีนแรกที่พี่แดนเห็นพี่นกตอนก้าวเท้าเข้าอพาร์ทเมนท์นั้น พี่แกถึงกับตกตะลึงนะจังงังจนผมต้องสะกิด ตอนนั้นพี่นกใส่ผ้ากันเปื้อนสีชมพูหวาน กำลังทำอาหารไทยเพื่อต้อนรับพวกเราอย่างขมักเขม้น พี่นกเงยหน้าจากกระทะหันหน้ามายิ้มกว้างยกมือไหว้พี่แนทพี่แดน แล้วหันไปผัดอาหารในกระทะต่อ พร้อมรีบบอกว่าอาหารใกล้จะเสร็จแล้ว ที่แกทำอยู่นี่เป็นเมนูสุดท้าย
อาหารฝีมือพี่นกนี่อร่อยจริงๆ พี่นกดูเป็นผู้หญิงเรียบร้อยอ่อนหวาน (ต่างจากไอ้ตี๋จริงๆเลยครับ) ยิ่งเวลายิ้มนี่ทำให้โลกสดใสขึ้นเยอะเลย จนผมแอบมองบ่อยๆไม่ได้ พี่แนทได้แต่สะกิดผมแล้วทำตาดุ แหม...ก็แค่มองของสวยๆงามๆให้เจริญหูเจริญตานิดหน่อยเอง ดีกว่าผมไปมองหนุ่มๆนะครับพี่
นั่นคือเหตุการณ์แรกพบสบตาระหว่างพี่แดนกับพี่นก ผมอดดีใจไปกับพี่แดนไม่ได้เพราะแกเป็นคนดี อายุก็เริ่มมากแล้ว ถ้าแกได้เจอรักแท้จริงๆผมก็ยินดีมาก
หลังจากอาหารมื้อนั้น พี่แดนเร่งทำคะแนนไม่ยั้ง แสดงความรู้สึกอย่างเปิดเผยไม่มีปิดบัง ตอนแรกพี่นกก็กลัวๆว่าพี่แดนคงเป็นเหมือนผู้ชายทั่วไปที่ขี้หลี แต่ผมน่ะเชียร์ออกนอกหน้า รับประกันกับพี่นกว่าพี่แดนเป็นคนดีจริงๆ
อย่างที่บอกว่าพี่นกน่ะหญิงไทยเรียบร้อย จะมาพักบ้านพี่แดนทั้งทีจะมาคนเดียวได้ยังไง มันก็ต้องรักนวลสงวนตัวสงวนท่าทีกันบ้าง พี่นกชวนพี่เอินแล้ว แต่พี่เอินติดเรียนซัมเมอร์มาไม่ได้ ก็เลยต้องชวนตี๋มาแทน ไอ้ตี๋ก็เลยเปลี่ยนตั๋วกลับเมืองไทย จากที่บินจากซานฟราน มาบินจากนิวยอร์คแทน
**********************************************