ตอนที่ 33.2 Behind the sceneไม่เคยคิดเล้ยยย...ไอ้กิจกรรมอย่างว่ามันจะเหนื่อยแทบขาดใจอย่างนี้ ปกติ....หลังเสร็จเรื่องแบบนี้ ผมควรหันไปหอมแก้มหรือพูดอะไรซักหน่อยกับพี่แนทเหมือนที่เคยเห็นในหนัง แต่....ไม่ไหวแล้วครับ....ขอนอนก่อน พรุ่งนี้ค่อยคุยแล้วกัน ผมหลับตาลงอย่างหมดแรง ซักพักรู้สึกถึงริมฝีปากที่แตะลงบนขมับผมแผ่วเบา พร้อมบางอย่างที่ถูกถอนออกไปอย่างเบามือ แต่....มันก็ยังรู้สึกเจ็บอยู่ดี
ยังไม่ทันหลับสนิท นี่มันอะไร....มันอะไรกัน...อะไรมาแตะๆที่ซอกคอด้านหลังแถมยังลามมาที่หัวไหล่ หันหลังไปมองก็เห็นปากพี่แนทกำลังคลอเคลียอยู่ที่ไหล่ ส่วนมือพี่เค้าเริ่มลูบไล้เค้นคลึงที่ยอดอกผม นี่พี่จะทำอะไร......ไม่นะ.......พอแล้ว
“พี่แนท....ทำอะไรน่ะ หยุดเดี๋ยวนี้เลย” มือผมตะปบมือพี่แนทที่ทำท่าจะเลื้อยต่ำลงไปเรื่อยๆ
“ก็เล่นเกมรักต่อไง ตอนนี้อาร์มผ่านเลเวลสองแล้วนะ กำลังจะได้ขึ้นเลเวลสามแล้ว” เลวงเลเวลอะไรกัน ไม่ต้องมาทำตลกเลย....ไม่ขำเลยซักนิด นี่.....พี่ไม่เหนื่อยบ้างรึไงฟะ ตูจะช้ำในตายแล้วนะเฟ้ยยยยย
ผมรีบพลิกหันตัวเข้าหาพี่แนท แล้วซุกหน้าเข้ากับอกกว้างของคนตรงหน้า เพราะรู้สึกว่า.....การหันหลังให้คงจะไม่ปลอดภัยเท่าไหร่ (กลายเป็นโรคระแวงหลังไปแล้วตู)
“ไม่เอาแล้วพี่แนท นะ.นะ..ขออาร์มนอนนะครับ” ผมพูดอ้อนๆ พร้อมส่ายหน้าไปมากับอกพี่แนท เพื่อแสดงว่าไม่เอาแล้วจริงๆ
“นี่มาส่ายหน้าไปมาแถวหน้าอกพี่แบบนี้ ตั้งใจยั่วกันหรือไงครับ.......” ผมหยุดชะงักทันที ไม่ได้ยั่วซักหน่อย ทำไมวันนี้ตูทำอะไร.....ก็ผิดที่ผิดทางผิดแผนเข้าตัวไปหมดแบบนี้
“ก็พี่เห็นอาร์มไม่มีประสบการณ์ไง พี่เลยจะติวให้เยอะๆ......” ว่าไงนะ.....ทำไมพี่ถึงหื่นแบบนี้ แล้วนี่พี่ไปโด๊ปช้างกระทืบโรง โด่ไม่รู้ล้ม สาวน้อยตกเตียง หรือน้องเมียละเหี่ยใจมารึไง
ถึงได้แรงดีไม่มีตกขนาดนี้ ไม่ใช่อะไรหรอก.....ที่สงสัยนี่เพราะผมจะได้หามาโด๊ปบ้าง
“นี่ยังเหลืออีกหลายกระบวนท่าเลยนะอาร์ม ไม่อยากรู้เหรอ” หา.....ไปตายซะเถอะ.....ไอ้คนลามก แค่คิดตอนที่ตัวผมอยู่บนตัวพี่เค้าแล้วก็อายตัวเอง ยิ่งเมื่อกี้ที่เพิ่งจบไป...ยิ่งแล้วใหญ่ อยากเอาหน้ามุดใต้เตียงจริงๆเลยครับ
“นี่แน่ะ.....ทำไมพี่ถึงหื่น.......ถึงลามกแบบนี้เนี่ย” ผมเงยหน้ามองพี่แนท พูดไปด้วยบิดเนื้อที่เอวพี่เค้าไปด้วยเต็มแรง
“โอ๊ยยย ก็ใครมายั่วพี่ก่อนล่ะ ยั่วกันตั้งแต่เมื่อวานแล้วด้วย เรารึ...อุตส่าห์อดทนไม่ทำอะไร นี่พี่ก็แค่หวังดี อยากสอนให้อาร์มเก่งเร็วๆ” ยัง....ยังอีก.....ยังเถียงต่อ นี่เหรอความหวังดีของพี่ ผมเลยรัวกำปั้นทุบอกพี่แนทไปหลายที
“หื่นมาก เดี๋ยวก็จับตัดใส่มูลิเน็กซ์ปั่นให้เป็ดกินซะเลย อย่างพี่นี่.......เป็ดคงกินอิ่มไปหลายวัน” ผมพูดหน้างอ
“โห...โหดจังแฮะ แฟนใครเนี่ย ถ้าตัดไปแล้ว....อาร์มก็ไม่มีใช้สิ ไม่เสียดายเหรอครับ เดี๋ยวมาร้องไห้แงๆที่หลังไม่รู้ด้วยนะ” พี่แนทพูดยิ้มๆเหมือนล้อเลียน แล้วจับมือซ้ายผมขึ้นมาจูบเบาๆตรงนิ้วนางที่มีแหวนอยู่
“ไม่เห็นจะอยากใช้ซักหน่อย อาร์มไปหาแฟนใหม่ดีกว่า...ที่เค้าไม่หื่นแบบพี่แนท มีให้เลือกตั้งเยอะแยะ ทั้งตี๋เอย ทั้งพี่...” พูดไม่ทันจบ พี่แนทก็ประกบปากจูบผมเหมือนประท้วงไม่อยากให้ผมพูดต่อ ซักพักพี่แนทก็ถอนปากออกมาจ้องตาผม
“ไม่เอานะอาร์ม อยู่กับพี่ห้ามพูดถึงผู้ชายคนอื่น โดยเฉพาะตี๋ อย่าแกล้งทำให้พี่หึงไปมากกว่านี้เลยนะครับ” พี่แนทส่งสายตาออดอ้อนแกมขอร้อง โถ่พี่.....สงสัยพี่จะฝังใจกับคลิปในโทรศัพท์นั่นมากจริงๆ
นึกย้อนไปตอนเที่ยวซานฟรานวันสุดท้าย แล้วเกิดเรื่องคลิปเจ้าปัญหานั่น ก็คลิปนั่น....ไอ้ตี๋มันแอบถ่ายตอนมันขอจูบผมเพราะมันอยากได้จูบแรกของผม โดยที่ผมไม่รู้เรื่องเลยว่ามันแอบถ่าย แต่ไอ้แมนดี้ตัวดีดันไปแอบเปิดดูโทรศัพท์ไอ้ตี๋แล้วเจอ แต่แทนที่จะเงียบๆแล้วมาบอกผม มันดันตกใจตะโกนซะลั่น จนทุกคนรู้เรื่องหมดรวมถึงพี่แนทด้วย ทำให้พี่แนทงอนไม่พูดกับผมตั้งสองวัน กว่าจะง้อสำเร็จแทบตาย ต้องเปลืองตัวให้พี่แนทกอดๆหอมๆตั้งนานกว่าจะหายงอน (แหะ...แหะ...ที่จริงผมก็เต็มใจด้วยแหละ)
เรื่องนี้ทำให้ผมรู้ว่า....คนแก่นี่ก็ขี้ใจน้อยเหมือนกัน
ส่วนไอ้ตี๋นั่นเหรอ....ขอโทษขอโพยผมใหญ่ บอกว่าที่มันแอบถ่ายเก็บไว้ เพราะอยากมีความทรงจำระหว่างผมกับมันเก็บไว้เป็นที่ระลึก ตอนแรกผมก็โกรธมันมาก แต่ในที่สุดก็ใจอ่อนยกโทษให้มันไป แต่ผมมีข้อแม้ว่าให้มันลบคลิปนั่นซะถึงจะยกโทษให้ เรื่องเลยจบ แต่พี่แนทก็ยังเคืองๆทุกครั้งที่ผมพูดชื่อตี๋ขึ้นมา
แล้วต่อมายังมีเรื่องพี่แมวน้ำอีก ที่ตามตอแยพี่แนทไม่เลิก แถมพยายามใส่ไคล้ว่าผมมีอะไรกับไอ้ตี๋ ดีแต่ว่าพี่แนทจิตใจมั่นคงไม่โอนเอนตามคำยุแยง ในที่สุดพี่แนทก็เลยตัดสินใจพูดแบบตัดบัวไม่เหลือใย บอกพี่แมวน้ำไปตรงๆว่า ผมกับพี่แนทเป็นแฟนกัน พี่แมวน้ำถึงได้รามือไป คิดถึงตรงนี้ก็รู้สึกรักคนตรงหน้ามากขึ้นไปอีก แต่.....มันไม่เกี่ยวกับที่ผมจะยอมให้พี่รุกผมได้บ่อยๆหรอกนะ
“พี่แนท.....เรื่องตี๋ อาร์มแค่พูดเล่นนะครับ ก็พี่แนทอยากมาแหย่อาร์มก่อนทำไม” ผมจุ๊บคางพี่แนทไปเบาๆเพื่อปลอบใจ
“จุ๊บแบบนั้นไม่เอา ต้องตรงนี้”
พี่แนทพูดแล้วประกบปากจูบอย่างอ่อนโยน ลิ้นที่อุ่นชื้นไล่ลงมาเม้มเลียที่ติ่งหู ก่อนที่จะจูบฝังรอยไปที่ซอกคอและหน้าอก มือพี่แนทเริ่มลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลัง ก่อนเลื่อนไปกอบกุมส่วนอ่อนไหวของผม
“พี่...พี่แนท....พอแล้วนะ” ผมพยายามประท้วง เสียงขาดเป็นห้วงๆ แต่พี่แนทไม่มีทีท่าจะหยุด พอเห็นผมเริ่มคล้อยตามและหมดแรงประท้วง พี่แนทก็จับผมนอนตะแคง ค่อยๆแทรกกายเข้ามา แล้วมันก็ดำเนินไปถึงบทสุดท้ายของห้วงอารมณ์อีกรอบ ผมหลับตาลงทันทีอย่างเหนื่อยอ่อน
“อาร์ม......พี่อาบน้ำให้นะครับ จะได้หลับสบาย” ผมหลับตาพยักหน้าเบาๆ แล้วก็รู้สึกตัวลอยจากเตียงมอยู่ในอ้อมกอดพี่แนท ผมรีบเอามือคล้องคอพี่แนทกันตก
ไปถึงห้องน้ำ พี่แนทวางผมลงให้ยืนพิงหลังกับตัวพี่เค้า แล้วพี่แนทก็เปิดน้ำจากฝักบัว แล้วเริ่มถูสบู่ให้ผมทั้งตัว ถูไปถูมาผมก็เสร็จพี่แนทอีกรอบ ถึงตอนนี้ผมหมดแรงข้าวต้มแล้วครับ ได้แต่หลับตายืนพิงพี่เค้า รู้ตัวอีกทีก็โดนอุ้มตัวลอยมาวางบนโซฟาในห้องนั่งเล่น
“อาร์ม....อยู่ตรงนี้ก่อนนะ เดี๋ยวพี่ไปเปลี่ยนผ้าปูเตียงก่อน แล้วเราค่อยนอนกันนะครับ” ผมหลับตาพยักหน้าเบาๆ ไม่มีแรงแม้แต่จะเปิดเปลือกตามองพี่แนท พี่อยากทำอะไรก็เชิญทำเลยค้าบบบบ ผมไม่ไหวแล้ว :m8:ซักพักพี่แนทก็อุ้มผมกลับเข้าไปนอนโดยพี่เค้ากอดผมไว้ทั้งตัว
แต่....ยังไม่ทันหลับสนิท พี่แนทก็ประคองผมให้กึ่งนั่งกึ่งนอนพิงตัวพี่เขา
“อาร์มกินยาแก้อักเสบกับยาแก้ไข้นะครับ กินดักไว้ เพราะพี่รู้ว่ามันต้องอักเสบแน่ๆ” ผมเผยอปากรับยามากินตามด้วยน้ำ พอล้มตัวลงนอน พี่แนทก็ถกกางเกงผมลง จากที่หลับตาอยู่ ผมลืมตาโพลงทันที นี่....อย่าบอกนะว่าจะทำอีก จะไม่ให้หลับให้นอนกันเลยใช่มั้ย....ใช่มั้ยย
“พี่แนท....ทำอะไรน่ะ” ผมพูดไป เอามือพยายามดึงกางเกงขึ้น
“พี่จะทายาตรงนั้นให้ ตอนอาบน้ำพี่เห็นมันแดงเหมือนมีแผลด้วย ไม่ต้องอายนะครับคนดี จะได้หายเร็วๆไง นี่..พี่จะทายาชาให้ด้วยนะ อาร์มจะได้ไม่เจ็บมาก”
พี่แนทพูดแล้วพลิกตัวผมให้นอนตะแคงแล้วดันเข่าผมให้งอขึ้นเล็กน้อย เพื่อจะได้ทายาตรงนั้นสะดวก ผมได้แต่คิด.....มีแฟนเป็นหมอก็ดีเหมือนกันแฮะ
************************************
ผมลืมตาตื่นเพราะแดดแยงเข้าตา พยายามขยับพลิกตัว แต่ติดอยู่ในอ้อมกอดของคนตัวโตที่นอนเคียงข้างที่มีแต่บ็อกเซอร์ติดกายเพียงชิ้นเดียว หันไปมองหน้าพี่แนท ไล่จากตาคู่นั้นที่หลับพริ้ม มาที่จมูกโด่งเป็นสัน ไรหนวดเขียวจางๆที่คาง ริมฝีปากสีชมพูที่มีรอยยิ้มนิดๆเหมือนกำลังฝันดี ผมคิด....หน้าตาพี่ตอนหลับนี่ดูเด็กลงตั้งเยอะ ผมอดใจไม่ไหวจนต้องหอมแก้มพี่แนทเบาๆ
“พี่แนท....ตื่นได้แล้ว สายแล้วครับ” พี่แนทกระพริบเปลือกตาถี่ๆแล้วลืมตาขึ้น ส่งยิ้มหวานมาให้
“เป็นไงครับ หลับสบายมั้ย” คำถามนี้อีกแล้ว มันทำให้ผมหวนนึกถึงคืนแรกที่ผมค้างกับพี่แนทที่ดีซี แต่คราวนี้คำตอบผมต่างไปจากเดิม
“หลับสนิทเป็นตายเลยครับ เพราะใครก็ไม่รู้” ผมทำหน้ากระเง้ากระงอดแก้มป่อง ซึ่งพี่แนทเคยบอกว่าผมทำได้น่ารักมาก ก๊ากก....ไม่ค่อยยกหางตัวเองเลย ผมเนี่ย
“ก็อาร์มอยากน่ารักทำไม พี่ไม่เคยเป็นแบบนี้เลยนะ อาร์มทำให้พี่สูญเสียการควบคุมตัวเอง ตั้งสี่รอบ.....ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไปได้ยังไง เรียกว่าทำลายสถิติของพี่เลยนะเนี่ย”
ดูนั่น....พูดหน้าตาหื่นเจ้าเล่ห์อีกแล้ว เชอะ....ทำมาบอกว่าไม่รู้ว่าทำไปได้ยังไง มันน่าตัดไปให้เป็ดกินจริงๆเล้ยยย
“คนมันหื่นกามอยู่แล้ว ไม่ต้องมาโทษคนอื่นเลย แล้วพี่ทำไมไม่ใช้ถุงยาง เป็นหมอซะเปล่า แล้วถ้าผมติดโรคจากพี่จะทำยังไง” ก็มันจริงนี่ครับ ผมนะปลอดภัยไม่มีโรคอยู่แล้ว เพราะครั้งแรกนี่ก็เมื่อคืนนี่แหละ ซึ่งอันนี้พี่แนทก็รู้ เพราะตอนที่พี่แนทงอนผมเรื่องตี๋ ผมเผลอหลุดปากบอกพี่แนทไป แต่พี่แนทนี่สิ....พ่อยอดนักรัก ควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า ไว้ใจได้ที่ไหน
“พี่รับรองด้วยเกียรติลูกเสือว่าพี่นะสะอาดปลอดโรคแน่นอน
พี่บริจาคเลือดทุกสามเดือน ครั้งล่าสุดก็ปลายเดือนที่แล้วก่อนอาร์มมาสามวันเอง แล้วพี่ก็ใช้ถุงยางทุกครั้ง อาร์มเป็นคนแรกในชีวิตพี่เลยนะ ที่ทำให้พี่ไม่มีสติลืมตัวจนลืมใส่มัน” ฟังแล้ว....นี่ผมควรจะปลื้มดีใจมั้ยเนี่ย
“แต่ต่อไปพี่ต้องใช้นะ ผมก็จะใช้เหมือนกัน ที่ผมค้นมาเค้าบอกว่าการมีเซ็กส์แบบนี้ควรใส่ไม่ว่ากรณีใดๆทั้งสิ้น
” ผมแจกแจงเพื่อแสดงว่าผมนะค้นคว้ามาบ้างนะ ไม่ใช่อินโนเซ้นส์ไม่รู้เรื่องอะไรเลย
“อาร์มจะใช้ทำไมล่ะครับ พี่ใช้มือกับปากให้อาร์มแค่นั่นหนิ มันไม่ติดโรคหรอก” นี่.....พี่ยังไม่เข้าใจอีกหรือไงว่าผมจะรุกพี่คืนบ้าง
********************************************