The Little Merman ยอดชายกับนายเงือก : วันที่ 26-5-59 : ตอนที่24 บทส่งท้าย
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: The Little Merman ยอดชายกับนายเงือก : วันที่ 26-5-59 : ตอนที่24 บทส่งท้าย  (อ่าน 81517 ครั้ง)

ออฟไลน์ เมื่อนั้นฝันว่า

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 323
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
รอคู่ของไซรัส ชอบนาง นางฮา นางหื่นนน :z1:

ออฟไลน์ shannara

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 165
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
อรั้ยยยย ชอบค่าาาา
 :hao7:

ออฟไลน์ YADA

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เจ้าปลาหมึกนี่น่าจับทุบตากแห้ง
เอาไปบดๆๆย่างแล้วจิ้มน้ำจิ้มนัวๆ


 :hao6:

ออฟไลน์ rinny

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 517
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
ไซรัสหมึกหื่นผู้ชอบแย่งซีนชาวบ้าน ขำนางแรงมาก55555555  :hao7:

ออฟไลน์ คนริมคลอง

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +117/-1
สนุกครับ ต่อๆ ชอบครับ

ออฟไลน์ mymine

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
    • FaceBook
ตอนที่9


สุดสายตาที่ผมมองเห็นอยู่ไกลลิบๆนั่นก็คืออาณาเขตของเมืองแฟริเซียร์แล้วล่ะหลังจากหายไปถึง1อาทิตย์พวกเรากลับมาถึงบ้านแล้ว


หาผมเล่าไวไปหรอ?
   

แหม พวกคุณนี่อยากรู้ละสิว่าช่วงที่เดินทางกันผมกับฟรานส์เราทำอะไรบ้าง สวีวี่วีหวานแหววกันแค่ไหน
   

เรื่องอะไรจะบอก!!
   

ของแบบนี้มันต้องงุบงิบทำกันสองคนสิ เรื่องบนเตียงเค้าไม่เอามาพูดเปิดเผยกันในที่สาธารณะหรอกนะ
   

เฮ้ยๆ ไม่ต้องกรี๊ด ไม่ต้องร้อง อย่าบีบคอผม! อย่าดึงหัวนมผมด้วย!! ผมล้อเล่น ผมโกหก อย่าคิดว่าผมจะมาโซเหมือนเจ้าไซรัสนั่นสิ
   

บอกก็ได้ๆ จะบอกว่ามันไม่มีอะไรเลยสักนิด
   

ไม่ ผมไม่ได้โกหก ไอ้ที่หายไปนานเพราะเสียเวลาเดินทางมากกว่า
   

คือขาไปเหมือนนั่งรถด่วนความเร็วสูงจนแทบจะขาดใจตาย ใช้เวลาแค่ไม่ถึงวันในการถึงที่หมายอย่างบ้านเจ้าปลาหมึกนั่น แต่ขากลับนี่สิ...
   

ผมต้องกลับมาด้วยการนั่งรถทัวร์ ไปต่อรถไฟ ต่อเรือข้ามฟาก ต่อรถโดยสาร ต่อสองแถว และต่อมอเตอร์ไซ คือมันหลายต่อหลายตอนมาก ใช้เวลากลับมาถึงนี่ตั้งสัปดาห์ นี่มาแบบทางลัดแถมว่ายไม่หยุดด้วยนะ ฟรานส์บอกว่าถ้ามาแบบปกติโน่น..... อีก2อาทิตย์อาจจะยังไม่ถึงด้วยซ้ำ


และอีกฝ่ายก็แสนจะสมกับเป็นว่าที่ภรรยาที่ดีในอนาคต เจ้าตัวบริการผมแทบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นตอนออกจากหุบเหวที่จับมือผมแน่นให้ความมั่นใจ คอยหาอาหารมาให้ผมทาน เมื่อมีปลาดุร้ายโผล่เขามาใกล้ฟรานส์ก็จะจัดการไล่ไปให้


เห็นไหมว่าอีกฝ่ายดูเหมาะจะเป็นแม่บ้านขนาดไหน


.


.


กลับมาปัจจุบันกันดีกว่า ทันทีที่เข้าเขตตัวเมืองผมก็ต้องผจญกับสายตานับร้อยคู่ประหนึ่งเซเลปที่ทำสาวท้องแล้วไม่ยอมรับ ดูเหมือนข่าวลือที่ว่าผมเป็นเงือกนอกรีตจะกระจายไปทั่วเมืองแล้ว ซึ่งนั่นทำให้ฟรานส์ที่ว่ายอยู่ด้านข้างคว้ามือผมไปกุมแน่นทันที เจ้าตัวเชิดหน้าส่งสายตาปรามใครก็ตามที่ทำท่าจะพุ่งเข้ามาหาผม


“โอ้ เจ้าชายฟรานส์ท่านกลับมาแล้ว” เสียงใครบางคนดังขึ้นเรียกความสนใจของพวกเรา เงือกชราท่าทางอายุไม่น้อยแต่คงร่วมร้อยปี ค่อยๆว่ายตรงเข้ามาหา ท่าทางนอบน้อมอย่างเห็นได้ชัด


“ท่านลุงนอส” เจ้าชายเงือกส่งเสียงทักอย่างไว้ตัว ผมมองเห็นท่าทางของอีกฝ่ายดูอยากจะพูดอะไรบางอย่าง ดวงตาของเจ้าตัวลอกแลกมันคล้ายกับว่าไม่ชอบใจ ไม่พอใจ แต่ก็ไม่กล้าขัดใจ


“ข้ามาขอให้ท่านปล่อยตัวคาไลท์...” สิ่งที่อีกฝ่ายพูดทำให้ผมตกใจหันไปมองฟรานส์ดังฉับ “ท่านควบคุมตัวเขาไว้ตั้งแต่ก่อนออกจากเมืองไป ถึงตอนนี้ก็ร่วมอาทิตย์แล้ว เด็กคนนั้นทำผิดอะไรท่านถึงต้องขังเขาเอาไว้แบบนั้น”

   
“เหอะ.. ท่านพูดหรือว่าเจ้านั่นทำผิดอะไร” เสียงฟรานส์เย็นชาขึ้น เหมือนกับอีกฝ่ายไปจุดไต้ตำตอเข้าพอดี “ท่านไม่รู้หรือว่าหลานชายของท่านทำอะไรไว้บ้าง ใช้ศาลเตี้ยตัดสินโทษเงือกตัวหนึ่งโดยไม่แจ้งข้าก่อน”
   

“นั่นเพราะว่าเจ้านั่น” เงือกชราตวัดนิ้วชี้ตรงมาที่ผม “มันเป็นเงือกนอกรีต มันพูดจาน่ากลัวราวกับจะสาปแช่งคนทั้งเมือง” เงือกหลายๆตัวอุทานอย่างตกใจและทำท่าหวาดกลัว ผมได้แต่ถอนหายใจอย่างปลงตก นั่นเรียกว่าสาปแช่งที่ไหนเล่า
   

มันเรียกว่าขู่กรรโชกเฟร้ย
   

“เอาเข้าไปทั้งพี่ทั้งปู่ปกป้องมันเข้าไป”  ผมถอนหายใจปลง ไม่ว่าจะเผ่าไหนก็มีพวกพ่อแม่รังแกฉัน “นี่ตาแก่!! ก่อนจะตัดสินคนอื่นไปสั่งสอนลูกหลานตัวเองก่อนดีกว่า รู้ไหมหลานตัวเองทำอะไรไว้บ้างเนี่ย”
   

“หุบปาก!! เจ้าเงือกนอกรีต ห้ามมาว่าหลานข้านะ” เงือกชราหันมาตวาดผมอย่างเกรี้ยวกราดและทำท่าจะปราดเข้ามาทำร้ายด้วย ติดซะว่าฟรานส์ยกมือขึ้นมาห้ามไว้เสียก่อน
   

“ท่านบอกว่าเจ้านี่เป็นเงือกนอกรีต มีหลักฐานชัดเจนไหม?”
   

“แน่นอนเงือกทุกตนที่อยู่บริเวณนั้นเป็นพยานได้” เงือกชรายืดอกพูดอย่างมั่นใจ นั่นทำให้ฟรานส์พยักหน้า “แล้วหลานท่านเอาตำแหน่งอะไรไปตัดสินโทษเขา นั่นไม่ใช่หน้าที่ของทหาร หรือของข้าที่เป็นเจ้าชายหรอ?”
   

คำพูดนิ่งๆของเจ้าชายเงือกทำให้อีกฝ่ายสะอึก “ข้าจะบอกอะไรให้นะ ต่อให้ข้าไม่เอาโทษส่วนนั้น เจ้าเด็กคาไลท์ก็ต้องโดนลงโทษอยู่ดี หุบปาก!! อย่าพึ่งสอดแล้วฟังข้าให้จบ!! เจ้าเด็กนั่นหลอกฟิลันให้ออกไปหลงอยู่นอกเมืองจนเกือบตาย ถามหน่อยข้าควรจะลงโทษหลานเจ้ายังไงดี!!!!”
   

สายตาเย็นชาของฟรานส์ทำให้ทุกคนชะงัก เงือกชรานั่นเข่าอ่อนลงไปกองกับพื้น ตัวสั่นอย่างเห็นได้ชัด
   

“รู้ไหมว่าเจ้าเงือกนอกรีตนี่ล่ะที่ช่วยฟิลันไว้ เงือกตัวนี้ล่ะที่ทำให้หลานเจ้าไม่ถูกลงโทษ แล้วนี่คือการตอบแทนผู้มีพระคุณของพวกเจ้า!!ข้าจะบอกอะไรให้ ถ้าฟิลันเป็นอะไรขึ้นมา หลานเจ้านั่นล่ะที่จะต้องตายตกตามกัน!!!” น้ำเสียงของฟรานส์เย็นยะเยียบทำให้คนฝั่งหวาดกลัว โดยเฉพาะตาแก่ตรงหน้าที่สั่นเป็นเจ้าเข้า
   

“ข ข้า..”
   

   
“ข้ารู้นะว่าชาวเมืองไม่เคารพข้าเพราะข้าไม่ใช่เจ้าชายที่แท้จริง” ฟรานส์พูดพร้อมกับกวาดตามอง ซึ่งเงือกหลายๆตัวก็หลบตาวูบ บางตัวก้มหน้านิ่ง “ถึงอย่างนั้นข้าก็ได้ตำแหน่งมาด้วยวิธีที่ถูกต้อง ข้าพยายามทำทุกอย่างแทนรัชทายาทอย่างดี... แต่ข้านึกไม่ถึงว่าพวกเจ้าจะเกลียดข้าเกลียดน้องข้าขนาดอยากจะให้ตายแบบนี้..” 
   

“บางทีพวกเจ้าคงอยากให้ข้าปกครองบัลลังค์นี้ด้วยเลือดและความหวาดกลัว”
   

‘ไม่นะ เจ้าชาย’ เสียงกรีดร้องขอความเห็นใจอย่างน่าเวทนาดังขึ้น แต่เจ้าตัวไม่หยุดฟัง ฟรานส์กวาดตามองบรรดาเงือกที่ร้องห่มร้องไห้ พยายามจะว่ายเข้ามาหา ติดเสียว่าบรรดาเงือกทหารจำนวนมากมาถึงและตีล้อมไว้เสียก่อนทำให้ไม่มีใครกล้าขยับเข้าใกล้มากกว่านั้น
   

“นอส ในเมื่อท่านไม่อยากเห็นหลานตัวเองถูกขัง ก็จงตามข้ากลับไป ข้าจะตัดสินโทษของมันให้ในวันนี้นี่ล่ะ!”
   

“ท่านฟรานส์ ได้โปรด.. โปรดเมตตา.. ข้าขอร้อง”
   

“อ่อ แล้วอีกอย่าง..” อยู่ดีๆฟรานส์ก็ผลักผมไปใจกลางลาน ท่ามกลางสายตาของเงือกตัวอื่นที่มองมานับร้อย “เงือกที่ถูกพวกเจ้าโยนลงหุบเหวราชันย์ ตอนนี้เจ้าตัวสามารถรอดชีวิตกลับมาได้เพราะอย่างนั้นจะไม่มีเงือกนอกรีตที่นี่อีก”


“นามของเขาคือ โอเชี่ยน เขาคือคนที่จะก้าวขึ้นเป็นเจ้าชายตามกฎของแฟริเซียร์!!!”


“เอาล่ะใครยังมีคำถามอีก ก้าวออกมา!!” เจ้าตัวกวาดตามองนิ่งทว่ากลับไม่มีเงือกตัวไหนกล้าขยับ
เมื่อเห็นแบบนั้นเจ้าชายเงือกเลยว่ายตรงเข้ามาคว้าข้อมือก่อนที่จะลากผมที่ยังอึ้งมึนอยู่กลับปราสาทโดยมีเงือกแก่ว่ายตามหลังมาอย่างนอบน้อม พูดดีไป ท่าทางหวาดกลัวมากกว่า


แต่ใครจะสน


คนที่ผมสนใจคือคนที่กำลังจูงมือผมมากกว่า แม้ว่าผมจะไม่เห็นสีหน้าเพราะเจ้าตัวว่ายนำผมอยู่แต่เชื่อเถอะหมอนี่เจ็บปวดกับเรื่องนี้มากพอดูแม้ท่าทางจะดูเฉยชาไม่ยี่หระ


แน่ล่ะ ทั้งที่ตัวเองพยายามทำทุกอย่างเพื่อเมืองแต่ดูเหมือนคนส่วนใหญ่จะไม่คิดแบบนั้น


“ฟรานส์ นายเป็นอะไรหรือเปล่า” ผมว่ายขึ้นไปตีคู่อีกฝ่าย(ซึ่งยากสิ้นดี) ก่อนจะกระซิบถาม ซึ่งเจ้าตัวก็เพียงแค่หันมาส่งยิ้มจางๆให้


“ข้าไม่เป็นไรหรอก... จะสงสารก็แต่ฟิลันเจ้านั่นยังไม่คุ้นเคยกับเรื่องพวกนี้เท่าไหร่”


ตลอดทางเราทั้งสองตกอยู่ในความเงียบ ไม่มีการพูดคุย ไม่มีการหยอกล้อ พวกเราตกอยู่ในความคิดของตัวเอง และทันทีที่เรากลับมาถึงปราสาท ใครบางคนก็ว่ายออกมาอย่างรวดเร็ว เจ้าตัวกระโจนเข้ากอดผมแน่น


“พี่โอ!! พี่โอกลับมาแล้ว ข้าขอโทษ ข้า ฮึก” ไม่ว่าเมื่อไหร่ฟิลันก็ยังเป็นเงือกจอมดราม่าเช่นเดิม เจ้าตัวร้องไห้สะอึกสะอื้นทั้งที่ยังทำตัวเป็นโคอาล่า แต่ขอสารภาพว่าผมแอบนึกถึงไอ้ปลาดูดที่เกาะหนึบๆนั่นนิดหน่อย


“ใจเย็นฟิลันพี่ไม่เป็นไร ว่าแต่เราไม่คิดจะทักพี่เราหน่อยหรอ” ได้ยินแบบนั้นเจ้าตัวจึงยอมหลายอ้อมกอดลง ก่อนจะกระโจนไปหาฟรานส์ที่ยิ้มบางอ้าแขนรอรับอยู่แล้ว


“ท่านพี่ ฮึก ข้าตกใจแทบแย่..”


ผมอยากจะยืนชมภาพความประทับใจระหว่างพี่น้องไปเรื่อยๆอยู่หรอกนะ เพียงแต่ตาเงือกเฒ่านั่นก็ยังรออยู่


“ฟิลันลงก่อน ซิน เจ้าไปนำตัวคาไลท์มาที่ห้องโถง ข้าจะตัดสินโทษของเจ้านั่นเดี๋ยวนี้ล่ะ”


ฟรานส์ซึ่งตอนนี้กลับมาสวมหน้ากากเจ้าชายจูงมือเงือกตัวน้อยไปด้วย นั่นทำให้ผมคิดว่าถึงเวลาพักของตัวเองบ้างแล้ว ขอไถหัวไปนอนบนเตียงหอยนุ่มๆดีฟ่า


แต่ว่าแทนที่จะได้ไปแบบสบายๆ


“จะหนีไปไหน...” ผมทำตาปริบๆมองอีกฝ่ายที่จับข้อมือผมไว้ ประมาณว่าเกี่ยวกับหนูด้วยหรอหนูง่วงอยู่นะ “ห้ามหนี เรื่องนี้มันเกี่ยวกับเจ้าโดยตรง” แถมไม่ฟังอะไรทั้งนั้นเจ้าตัวก็ลากผมติดมือไปด้วย


อะโด่ รู้ทันซะงั้น


เจ้าชายทั้งสองลากผมมาตรงบริเวณโถงใหญ่ มีบัลลังก์ตั้งอยู่ตรงกลาง ฟรานส์ทรุดลงนั่งปล่อยฟิลันกับผมนั่งอยู่ด้านข้าง


เจ้าเด็กคาไลท์ที่ถูกพาตัวเข้ามายังอยู่ในสภาพปกติ แม้จะดูอิดโรยและผอมลงเล็กน้อย แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะถูกขังไว้เฉยๆก่อน
โดยไม่ได้โดนลงโทษเพิ่มเติม


ทันทีที่เจ้าเด็กนั่นเห็นผม เจ้าตัวตาโตก่อนจะกัดฟันกรอด “เจ้า!!”


“รักษามารยาทหน่อยคาไลท์เงือกที่เจ้าชี้นั่นสามารถผ่านหุบเหวราชันย์มาได้แล้วนะ” ฟรานส์กอดอกมองอีกฝ่ายด้วยแววตาดูแคลน “เจ้าน่าจะรู้ว่าถ้ารอดจากที่นั่นมาได้จะหมายถึงอะไร”


“แต่เจ้าเงือกนั่น..”


“คาไลท์!!! ต้องให้ข้าเตือนความจำหรือเปล่าว่าถ้าเงือกตัวไหนรอดมาจากหุบเหวนั่นแล้วจะเป็นยังไง อยู่ในฐานะอะไร!! หรือข้าควรจะจับเจ้าโยนลงไปพิสูจน์ด้วยตัวเองดี”


“ท่านฟรานส์!ข้าขอโทษแทนหลานข้า ได้โปรดเมตตาด้วย ข้าจะอบรมสั่งสอนเจ้านั่นให้ดีกว่านี้ไม่ให้มาแสดงกิริยาไม่ดีกับ.. กับท่านโอเชียนอีก” หุยท่าทางจะฝืนใจพูดสุดๆ


แม้ผมจะนึกแบบนั้นแต่ก็แอบเห็นใจไม่ได้ กฎของเงือกเมืองนี้ก็ดันดูแปลกๆด้วยที่ว่าแค่รอดชีวิตจากหุบเหวนั่นก็ได้เป็นเจ้าชายแล้ว แบบนี้มิมีเจ้าชายมากมายเป็นโหลหรือฟระ


“คนที่ควรขอโทษไม่ใช่เจ้า และคนที่ควรถูกขอโทษก็ไม่ใช่ข้า”


ฟรานส์พูดเสียงเรียบ นั่นทำให้เงือกแก่หันไปดุหลานตัวเองพยายามให้อีกฝ่ายขอโทษใหญ่


“ฟิลัน..... จ เจ้าชายฟิลัน” เจ้าเด็กนั่นค่อยๆเอ่ยออกมา แม้พริบตาเดียวจะต้องเปลี่ยนสรรพนามเพราะพี่มันจ้องตาเขม็งก็เถอะ “ข้าขอโทษ ที่แกล้งท่าน ที่ท้าท่านออกไปทำให้ท่านได้รับอันตราย”


ผมมองเด็กตรงหน้าด้วยความสนใจ เจ้าตัวไม่พูดอะไรต่อจงใจเมินผมอย่างเห็นได้ชัด แต่ช่างมันก่อนเถอะเพราะพอเหลือบไปมองฟิลัน เจ้าตัวกลับทำหน้านิ่ง ดูจะไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่


“เจ้าลืมใครไปหรือเปล่า?”


เจ้าชายบนบัลลังก์กระทุ้งความจำเด็กตรงหน้าอีกครั้ง คราวนี้หน้าของเจ้าตัวบิดเบี้ยวราวกับต้องฝืนใจทำสิ่งที่ยากลำบากที่สุด ก่อนที่ผมจะได้ยินเสียขอโทษแผ่วเบาไม่ต่างกับเสียงกระซิบ


“งั้นก็มาถึงบทลงโทษ..”


“แต่ท่านฟรานส์หลานข้าขอโทษท่านทั้งสองไปแล้ว”


“เจ้าคิดว่าแค่คำขอโทษจะชดเชยความผิดทั้งหมดที่เกือบทำให้เงือก2ตัวตายได้หรือ? ถ้าอย่างนั้นข้าโยนหลานเจ้าลงไปในหุบเหวบ้างและจะขอโทษเมื่อเจ้าหนูนั่นกลับมาก็แล้วกัน ดีไหม?”


โหดและเกรียนมาก!!


ฟรานส์นี่ต้องติดโรคซาดิสต์มาจากไซรัสแน่ๆ วิธีเอาคืนแบบนี้ไม่โหดจริงทำไม่ได้นะนี่


แอบสงสารไอ้เด็กตรงหน้าเหมือนกัน ไอ้นิสัยซึนเดเระแบบนี้คงใช้กับพี่น้องคู่นี้ไม่ได้ดูท่าทางจะได้ตายก่อนสมหวังแน่ แต่ก็นะ ผมก็ไม่ได้เกลียดนิสัยแบบนี้ของอีกฝ่ายเท่าไหร่


เพราะอย่างนั้น..


“ฟรานส์... ในฐานะที่ฉันเป็นผู้เสียหายโดยตรง ฉันขอเป็นคนกำหนดโทษเด็กนี่ได้ไหม” ผมถามเจ้าชายที่นั่งมองผมด้วยความฉงนอยู่บนบัลลังก์


“นั่นสิ เจ้าเป็นคนที่ได้รับผลกระทบนี่นะ ได้!ข้าอนุญาต”


คราวนี้ทั้งปู่ทั้งหลานหน้าซีดเป็นไก่ต้ม ซึ่งนั่นทำให้ผมแอบหัวเราะในลำคอ “บทลงโทษของเด็กคาไลท์ก็คือ...”


“ให้เจ้านั่นมาทำหน้าที่องค์รักษ์ของฟิลันซะ”


“หา!!”


คราวนี้ล่ะ เงือกทุกตัวประสานเสียงกันไม่เว้นกระทั้งสองเจ้าชาย แหม ผมพูดไม่ชัดตรงไหน


“หน้าที่ของนายคือดูแลอยู่กับฟิลันไม่ให้คลาดสายตา ถ้าเกิดเหตุการณ์อะไรไม่ดีเป็นอันตรายกับฟิลันอีก...นั่นเป็นสิ่งที่นายต้องรับผิดชอบด้วยชีวิต”


“เดี๋ยวนะพี่โอ ทำไมพี่ถึงให้เจ้านั่น...”


“จะเอาไม่เอา?” ผมไม่สนใจฟิลันที่ทำท่าทักท้วงหัวไปถามเจ้าเด็กเงือก ซึ่งเจ้าตัวก็อึ้งค้างอยู่ซักพัก ก่อนที่ปู่จะพยายามจับหลานตัวเองจะก้มโค้งให้รับคำสั่ง


“เจ้าจะเอาอย่างนั้นแน่หรือ?” ฟรานส์เลิกคิ้วหันมามองผม ซึ่งผมก็ยิ้มๆพยักหน้า “แบบนี้ล่ะดีแล้ว”


“แต่ข้าไม่อยากได้เจ้านั่นนี่” ฟิลันเบะปากหลังจากตัดสินโทษให้เด็กนั่นได้ ดูเหมือนคนโดนลงโทษเองก็ดูจะแปลกใจอยู่เหมือนกัน


ส่วนเด็กนั่นถูกกลับไปหาครอบครัวก่อนที่จะให้มารายงานตัวในวันพรุ่งนี้


“เอาน่าฟิลันจะได้มีเพื่อนเพิ่มด้วยไง พี่โอรู้นะว่าเราน่ะเหงา” ผมเอานิ้วดันเงือกน้อยหน้าหงายเล่นเอาเจ้าตัวบ่นอุบอิบ
แม้จะพยายามยังไงแต่อีกฝ่ายก็ยังเป็นแค่เงือกอายุไม่ถึง15 ก็ไม่น่าแปลกที่จะอยากได้เพื่อนเล่น ตอนผมนะยังดีดลูกแก้ว เขี่ยการ์ดกันอยู่เลย


“ช่างเจ้านั่นมันก่อนเถอะ ว่าแต่ท่านพี่ ท่านต้องเล่าให้ข้าฟังด้วยนะว่าออกไปเจออะไรบ้าง” หลังจากบ่นจนพอใจแล้วฟิลันก็หันมาส่งเสียงเจื้อยแจ้วไม่หยุด เจ้าตัวจูงมือว่ายไปกับฟรานส์แต่ไม่ลืมที่จะลากมือผมติดไปด้วยจนมาถึงห้องพัก


มองไปแล้วก็แอบเหมือนครอบครัวแสนสุขแฮะ


“ก็ไม่มีอะไรมากหรอก”


“ไม่จริง ข้าจำได้นะตอนที่ท่านพี่ว่ายออกจากห้องพี่โอ แล้วตวาดทหารเสียงดังลั่นอ่ะ” ฟรานส์ตาเบิกกว้าง พร้อมทำหน้าดุ แต่เจ้าน้องชายก็ยังไม่ยอมหยุดพูด “แถมพอได้ยินข้าบอกว่าพี่ตกลงไปในหุบเหวนั่น ท่านพี่ก็สั่งทหารให้ควบคุมตัวพวกนั้นทันที จากนั้นตัวเองก็ดันกระโดดลงไปในกระแสน้ำ ทำเอาข้าตกใจแทบแย่ ดีนะที่ซินบอกเสียก่อนว่าท่านพี่ไม่เป็นอะไรแน่”


นัยน์ตาผมเหลือบไปมองฟรานส์ที่ตอนนี้หันไปพยายามไล่ปิดปากฟิลันใหญ่ ที่สำคัญผมเห็นว่าหน้าอีกฝ่ายแดงมากเลย


“ซินบอกว่าท่านพี่รู้สึกผิดที่ปล่อยให้ข้าพาพี่โอออกไปเที่ยว เห็นพี่เหงาอยู่ในห้องก็อยากให้เปลี่ยนบรรยากาศ แต่ดันไม่ได้บอกให้ระวังปากด้วย” จากที่อมยิ้มอยู่หุบฉับเลย สรุปว่ายังไงไอ้เจ้าชายเงือกก็คิดว่าผมปากไม่ดีใช่ไหมเนี่ย!!


‘เจ้าซิน..’เสียงลอดไรฟันออกจากปากฟรานส์ทำให้ผมนึกสยองนิดๆ และดูเหมือนฟิลันจะเห็นว่าพี่ชายตัวเองจะยังถูกเผาไม่มากพอ


“ซินยังบอกอีกว่าอยู่กับท่านพี่มาตั้ง20ปีแล้วแต่ไม่เคยเห็นท่านพี่ร้อนรนแบบนี้เลย”


“ฟิลัน!!”


เอิ่ม.. คิดว่าหลังจากนี้ไปไอ้องครักษ์เงือกนั่นจบชีวิตไม่สวยแน่


“ก็ได้ ข้าไปก็ได้~” เงือกตัวน้อยลากเสียงยานก่อนจะว่ายหนีออกจากห้องไปทิ้งผมให้อยู่กับฟรานส์


ผมพึ่งได้เห็นอีกมุมหนึ่งของสองพี่น้องนะนี่ แถมวันนี้ผมก็ได้รู้ว่า


ที่จริงแล้วฟิลันก็มีมุมแอบกวนตรี_อยู่เหมือนกันแฮะ

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
อร๊ายยยย เรืีองนี้สนุกมาก
ติดตามค่าาาาาา

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4062
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
ป๊าด ฟรานซ์จะลงจากตำแหน่งเหรอ??

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :katai2-1:    แบบนี้สิเลิศ. เจ้าชายโอเชี่ยนสุดเกรียน. และสนมทั้งสอง อะเปล่าเนี่ย 555

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8891
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11

ออฟไลน์ เมื่อนั้นฝันว่า

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 323
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
โออ่ะ คือเจ้าชายเลยแหละ รัชทยาทที่หายไปอ่ะ คือโอแน่ๆ

ออฟไลน์ rinny

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 517
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
พี่โอแกชิปคู่ฟิลันคาไลท์ใช่มะๆ ชงให้มาเป็นองค์รักษ์ขนาดนี้ ขำแปป5555555

ออฟไลน์ neverland

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 653
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
ตาแก่นี่เหมือนมนุษย์ลุงเลยค่ะ  :เฮ้อ: เพลียยยยย

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5
ทำไมแอบรู้สึกว่าหน้าตาไม่มีผลกับการกด ฟรานขี้ซึนอะ น่ารักกกกก~~ ปล.แอบเชียร์ให้โอเชี่ย(น)โดนกด :hao7:

ออฟไลน์ mymine

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
    • FaceBook
ตอนที่10


“ทำไมเจ้าถึงได้ตัดสินใจแบบนั้น”
   

ฟรานส์ที่ตอนนี้ทิ้งตัวลงบนที่นอนหอยของผมถามขึ้น  ดูเหมือนเจ้าตัวจะสงสัยตั้งแต่แรก เพียงแต่เลือกที่จะมาถามผมทีหลังมากกว่าถามต่อหน้าฟิลันและเงือกตัวอื่นๆ
   

ผมเลยเล่ารายละเอียดรวมถึงความรู้สึกบางอย่างที่ผมจับได้จากเจ้าเด็กคาไลท์นั่นให้อีกฝ่ายฟัง และถ้ามันใช่อย่างที่ผมคิดจริง ฟิลันจะต้องได้รับการดูแลปกป้องอย่างดีแน่นอน
   

แต่ผมพลาดก็ตรงที่เล่าให้ฟรานส์ฟังนี่ล่ะ ทันทีที่เจ้าตัวทราบเหตุผล ก็ร่ำๆจะไปยกเลิกเปลี่ยนโทษเจ้าเด็กนั่นใหม่ซะ พี่ชายขี้หวงขนานแท้เลย
   

“เอาน่าเชื่อท่านโอเชี่ยนรับรองไม่ผิดหวัง”
   

“ก็เพราะเป็นความคิดเจ้านี่ล่ะถึงได้น่าห่วง” หมายความว่ายังไงฟระ! พูดแบบนี้งอนนะเฟร้ย
   

ผมแกล้งสะบัดก้นหนีทำตัวเหมือนสาวน้อยหันไปหยิบของบางอย่างที่นำกลับมาจากบ้านเจ้าไซรัสออกมา เดาซิว่าอะไร


หา! กระทะ ผมจะเอากลับมาทำอะไรเล่า!!


มันคือหินเรืองแสงต่างหาก ผมเห็นก้อนเล็กๆหลายก้อนก็เลยหยิบติดมากะว่าจะเอามาทำของฝากให้ฟิลัน เพียงแต่คงไม่ทำเป็นแหวนแล้ว เดี๋ยวใครบางคนแถวนี้จะน้อยใจ เลยกะว่าทำที่ติดผมน่าจะดีกว่า


“นี่เจ้า…เจ้าหยิบหินนี่กลับมาด้วยหรอ”


“อือ ตั้งใจว่าจะเอามาฝากฟิลัน”


ผมหยิบสายร้อยพันไปมาจนมีสภาพหน้าตาคล้ายดอกไม้ดอกใหญ่ก่อนที่จะมัดตรงกึ่งกลางเกสรด้วยหินที่จิ๊กกลับมา ดูๆไปมันก็สวยดีเหมือนกันนะ


“เสร็จแล้วเป็นยังไงบ้าง” ผมชูที่ติดผมขึ้นแต่พอหันไปมองคนข้างตัว ปรากฏว่าเจ้าตัวหนีไปนอนอยู่บนเตียงแล้ว อะไรกันหว่า


“ฟรานส์ ช่วยดูหน่อยสิว่าใช้ได้ไหม”


ผมว่ายไปหาเจ้าตัว แต่แทนที่อีกฝ่ายจะมองมากลับพลิกหันหนีไปอีกทางซะงั้น


“ฟรานส์? เป็นอะไรละนั่น”


“..เปล่า” อื้อหือ กล้าพูดนะว่าเปล่า เล่นสะบัดตรูดมาให้ดูแบบนั้นท่าทางเหมือนคนงอนไม่มีผิด


“ไม่บอกนี่คิดว่างอนนะนี่” ผมพูดอย่างขำๆแต่ปรากฏว่าอีกฝ่ายก็ยังนอนหันหลังให้ผมนิ่งอย่าบอกนะว่างอนผมจริงๆ...ว่าแต่อย่างฟรานส์จะงอนผมเรื่องอะไรล่ะ


หรือว่า...


“นายอิจฉาฟิลัน?” ผมทันเห็นอีกฝ่ายตัวกระตุกนิดนึง นิดเดียวจริงๆ แต่นั่นหมายความว่าข้อสันนิษฐานของผมถูกต้อง “นายอิจฉาน้องตัวเองนี่นะ”


“เปล่าซักหน่อย ข้าแค่สงสัยว่าเจ้าห่วงใยน้องข้าเสียเหลือเกิน คิดอะไรไม่ซื่ออยู่หรือเปล่า”


อุบ ผมได้ยินแบบนั้นแล้วอยากจะหัวเราะ เป็นเรื่องเหลือเชื่อจริงๆที่เจ้าชายเงือกหึงผมเนี่ย “นั่นสิน้า ก็แอบคิดอยู่บ้างแหละ”


“เจ้า!!” ทันทีที่ได้ยินแบบนั้นฟรานส์ก็กระเด้งลุกขึ้นนั่งทันที ซึ่งก็เข้าทางผมอยู่แล้วเพราะผมนั่งอยู่ใกล้ๆอีกฝ่าย พอเจ้าตัวกระเด้งขึ้นมา หน้าเราทั้งสองเลยอยู่ใกล้กันมาก


“ก็ฉันไม่เคยมีน้องมาก่อนนี่ ได้เด็กขี้อ้อนแบบฟิลันมาเป็นน้องก็ดีเหมือนกัน” ผมยิ้มกริ่มให้อีกฝ่ายที่เสียรู้นั่งชะงักอ้าปากค้าง “แล้วพอดีว่าฉันฉกหินมา2ก้อน ไม่รู้ว่าคนแถวนี้อยากจะได้อะไรหรือเปล่า”


หน้าของฟรานส์ตอนนี้ทำเอาผมอดใจแทบไม่อยู่ เจ้าตัวก้มหน้าลงซ่อนแก้มสีแดงระเรื่อ


“...สร้อย” เสียวแผ่วเบาออกจากปากอีกฝ่าย นั่นทำให้ผมอมยิ้มก่อนจะรีบร้อยสร้อยตามคำสั่งว่าที่ภรรยาทันทีในขณะที่ฟรานส์ถือโอกาสถอยออกไปนั่งห่างๆ สร้อยเส้นสวยถูกร้อยขึ้นอย่างง่ายๆ ผมที่ตอนแรกยื่นสร้อยที่ทำเสร็จแล้วให้อีกฝ่าย แต่เปลี่ยนใจชักมือกลับมาเสียก่อน


“ฉันใส่ให้เอง” เจ้าชายเงือกตาโตอ้าปากค้าง “อ๊ะๆห้ามปฏิเสธตอนแหวนนายถือวิสาสะหยิบไปใส่เองโดยที่ฉันยังไม่ได้ให้เลย... เร็วขยับมาใกล้ๆ”


ฟรานส์ทำหน้าลำบากใจก่อนจะเอนตัวเข้ามาหา มือของอีกฝ่ายรวบเส้นผมสีทองที่ยาวพลิ้วจรดกลางหลังขึ้นให้ผมอ้อมมือไปรัดสายสร้อย หน้าเราสองคนเข้าใกล้กันอีกครั้ง ใกล้จนผมเห็นแพขนตายาวเรียงเป็นระเบียบสวย


อย่าถามนะว่าทำไมผมถึงไม่ให้ฟรานส์หมุนตัวหันหลังให้จะได้ใส่ง่ายๆเพราะผมว่าพวกคุณเดาได้ :P


หลังจากใส่เรียบร้อยก็ถอยออกมาชมผลงาน สร้อยร้อยจี้หินสีเรืองแสงวาวๆท่ามกลางบรรยากาศที่เริ่มสลัวลง นั่นทำให้ผมเห็นหน้าของอีกฝ่ายนุ่มนวลลงไปอีก ยิ่งเจ้าตัวหน้าแดงระเรื่อและกำลังคลี่ยิ้มให้แบบนี้แล้วด้วย


ทนไม่ไหวแล้วโว้ยย


ผมยื่นหน้าตัวเองเข้าไปใกล้อีกฝ่ายอีกครั้งแต่คราวนี้ไม่หยุดเฉยๆ ปลายจมูกของเราทั้งสองสัมผัสกัน ก่อนที่ริมฝีปากของผมจะทาบทับลงบนปากของอีกฝ่ายเบาๆ


หวาน เป็นสิ่งแรกที่ผมรู้สึก ริมฝีปากของฟรานส์ไม่ได้อ่อนนุ่มแบบผู้หญิง แต่กลับมีบางอย่างที่น่าดึงดูดจนถอนตัวไม่ได้


แน่นอนว่าคนโดนขโมยจูบต้องสะดุ้งตกใจอยู่แล้ว แต่แค่พริบตาเดียวเท่านั้นล่ะ เจ้าตัวก็เปลี่ยนมาเป็นฝ่ายโต้กลับรุกจนผมต้องครางอื้อในลำคอ


ว่าที่ภรรยาผมร้อนแรงสุดๆ!!


แต่เรื่องอะไรที่จะยอมแพ้ ตอนนี้เลยกลายเป็นศึกสังเวียนสวาท ลิ้นทั้งสองเกาะเกี่ยวกันจนแยกไม่ออก มือไม้ลูบคลำอย่างสะเปะสะปะไปทั่วร่างกายของอีกฝ่าย เราทั้งคู่ไม่มีใครยอมใคร จนกระทั่งผมอาศัยชัยภูมิได้เปรียบผลักฟรานส์ลงไปนอนแผ่กลางเตียง เผลอเงยหน้าสบตาอีกฝ่าย แม่เจ้าเลือดกำเดาเกือบพุ่ง


ฟรานส์ที่ตอนนี้มีสีหน้าเย้ายวนสุดๆ นัยน์ตาสีฟ้าใสหวานเยิ้ม ริมฝีปากบวมแดง เจ้าตัวยกฝ่ามือขึ้นมาไล้บริเวณแก้มผมเบาๆ


โฮ้กกกก ไม่ไหวแล้ว โอเชี่ยนจะไม่ทน!!


เราทั้งคู่ถูกดึงดูดเข้าหากันอีกครั้ง เรียกว่าโรมรันกันสุดๆ ผลักกันพลิกตัวขึ้นมาอยู่บนจนแทบจะตกเตียงหอย และแน่นอนว่าผมแมนมาก ผมจึงไม่ยอมอยู่ล่างแน่ๆนอกเสียจากอีกฝ่ายจะออนท็อป! ผมเลยพลิกกลับขึ้นมาอยู่บนร่างอีกฝ่ายอีกครั้ง และคราวนี้ตั้งใจว่าจะตะลุยขั้นต่อไปแล้ว


มือผมเลื้อยไปเรื่อยๆ ในขณะที่ริมฝีปากเราประกบเข้าหากัน จนกระทั่งผมสัมผัสถึงอะไรบางอย่าง... เป็นแผ่นเรียบลื่นเล็กๆเรียงเป็นระเบียบตรงบริเวณสะโพกของอีกฝ่าย…
   

มันคือเกล็ด


ผมลืมไปได้ไงวะว่าตอนนี้ทั้งผมและอีกฝ่ายเป็นเงือก!!


นั่นทำให้ผมชะงักการกระทำทุกอย่าง ไม่ใช่เพราะผมรังเกียจฟรานส์หรอกนะ แต่ประเด็นสำคัญคือ...คือ...เงือกมันโซเดมาคอมกันด้วยวิธีไหนวะ!!!ที่สำคัญ ตอนนี้ผมไม่มีน้องชายแล้วจะไปเสียบตรงไหน ต่อให้มีแล้วอีกฝ่ายจะมีช่องตรงไหนให้ผมเสียบ หรือถ้าตามที่เรียนมาสมัยเด็กมันใช้วิธีก่อหวอดใช่ไหม? แล้วผมต้องทำแบบนั้นด้วยหรือเปล่า แล้วถ้าเป็นตัวผู้เหมือนกันจะเป็นอะไรไหม
   

ทำไงดีวะ จะอ้าปากถามฟรานส์ก็ไม่ได้ด้วย ถ้าเกิดเจ้าตัวรู้ว่าผมไม่รู้วิธีแล้วจะพลิกกลับมากดผมเข้าจะทำไง
   

ผมเลิกๆลักๆชะงักค้างอยู่นานเพราะความไม่รู้ จนกระทั่งสังเกตอะไรบางอย่าง
   

ทำไมอีกฝ่ายยอมหยุดนิ่งรอผมดีๆ? คือ..ผมเองก็เป็นผู้ชายนะ ไอ้อารมณ์แบบนี้ไม่มีใครมาหยุดรออีกฝ่ายนานหรอกหื่นหน้ามืดจับปล้ำหมดแหละ จนเมื่อผมก้มหน้าสบตากับอีกฝ่าย
   

...ชัดเลย ไม่มีลูกตาดำ


ฟรานส์ที่อยู่ใต้ร่างผมหลับตาพริ้มลมหายใจสม่ำเสมอไปแล้ว เจ้าตัวหลับ!! ทำแบบนี้ได้ไงฟระ!!! นี่มันไคลแม็กนะเฟร้ย ฉากNC18+นะเฟร้ย!! ถึงผมจะคิดแบบนั้นแต่ในอีกใจผมก็โล่งอก เพราะถ้าเกิดทนไม่ไหวขึ้นมาแล้วถูกพลิกจับกดผมคงร้องแน่ๆ


คิดแบบนั้นแล้วมองหน้าอีกฝ่าย ค่อยๆเกลี่ยผมที่ปรกหน้าบางส่วนออก ใบหน้าของฟรานส์เต็มไปด้วยร่องรอยของความเหนื่อยล้า นั่นสินะ ไหนจะกระโจนลงในกระแสน้ำไปหาผม กว่าจะเดินทางกลับมาถึงที่นี่ แล้วยังจะต้องทำหน้าที่ของเจ้าชายอีก
ปล่อยให้พักสบายๆไปก่อนแล้วกัน..


ผมเลยพลิกตัวหงายลงไปนอนข้างๆ หันหน้าเข้าหาอีกฝ่ายที่เริ่มขยุกขยิกขยับตัวหาท่านอนที่สบายตัวที่สุด จนจบที่การคว้าหัวกับตัวผมไปกอดแทนหมอนข้าง แต่ไม่เป็นไรถือว่าผมกำไรแล้วกัน คิดแบบนั้นผมก็เอื้อมมือเข้าไปโอบอีกฝ่าย ไออุ่นนั่นทำให้ผมเริ่มเคลิ้มและหลับไปเช่นเดียวกัน…

++++++++++++++++++++++++++++++++++

สัมผัสวาบหวามและชื้นแฉะเกิดขึ้นในขณะที่ผมกำลังหลับอยู่ ปัดทิ้งก็แล้ว บิดตัวหนีก็แล้วมันก็ยังไม่จางหาย ความรู้สึกเสียวซ่านแผ่กระจายไปทั่วจนผมอดไม่ได้ที่จะต้องครางออกมาในลำคอ


มันเกิดอะไรขึ้น ใครมาขัดเวลานอนอันแสนสุขของผม


จนเมื่อผมปรือตาขึ้นมามองนั่นล่ะ จึงได้เห็นใครบางคนนอนทาบทับอยู่บนตัวผม


คิดว่าใคร ที่แท้ก็ฟรานส์ที่นอนข้างผมเมื่อคืนนั่นล่ะ เจ้าตัวกำลังแทะเล็มบริเวณแถวหน้าอกผมอยู่ พอเห็นหน้าอีกฝ่ายที่คุ้นเคยดีผมก็เลือกปิดตาหลับต่อ


.


.


.


เล็มหน้าอก..


ฟรานส์กำลังเลียนมผม...


เฮ้ย เดี๋ยวดิวะ!!


ผมสะดุ้งเฮือกกระเด้งขึ้นมานั่งหันขวับไปมองข้างตัวก่อนจะเป่าปากโล่งใจที่ว่าเจ้าชายเงือกยังนอนอยู่ที่เดิมที่ไม่ใช่บนตัวผม แล้วไอ้ความรู้สึกวาบหวิวสยิวกิ้วที่เกิดขึ้นนั่นผมฝันไปหรือฟระ นี่ผมหื่นขนาดเอาไปต่อในฝันเลยรึ!!
 

ในขณะที่ผมกำลังทบทวนความทรงจำ อะไรบางอย่างที่เคลื่อนไหวอยู่ตรงปลายเตียงก็ทำให้ผมต้องเงยหน้าขึ้นดูและตกใจแทบช็อค


ฟิลันที่มาจากไหนก็ไม่รู้กระโดดมานั่งอยู่บนตักผม และเจ้าตัวยื่นหน้ามาจ้องเพ่งเสียจนทำให้ผมตื่นตระหนกเหมือนตัวเองไปทำความผิดมีชนักติดหลัง


“ตกใจหมดฟิลันมานั่งจ้องอะไรเนี่ย!!”
   

“เมื่อคืนท่านพี่ไม่ได้กลับห้อง” ฟิลันพูดพร้อมหรี่ตาจับผิด “ที่แท้มานอนอยู่ห้องพี่โอนี่เอง”
   

ก ก็ใช่ไง เมื่อวานเจ้าตัวชิงหลับคาอกเสียก่อนก็เลยไม่ได้กลับห้องตัวเอง
   

“ฮ้าว~ มีอะไรกันหรอ” ฟรานส์ที่นอนอยู่ข้างๆค่อยๆบิดตัวลุกขึ้นมาอย่างเชื่องช้า ผมสีทองดูยุ่งเหยิงเล็กน้อย เจ้าตัวปรือตามองซ้ายมองขวา ก่อนจะหันมาทำอะไรบางอย่างที่ทำให้ทั้งผมและฟิลันตาค้าง
   

เจ้าตัวยื่นหน้ามาหอมแก้มผมดังฟอดก่อนจะว่ายโซซัดโซเซออกจากห้องไป
   

“นี่มันเกิดอะไรขึ้นล่ะเนี่ย” ฟิลันครางอย่างไม่เข้าใจ ก่อนจะตวัดมามองหน้าผม ทำท่าเหมือนคนพี่ตอนหวงน้องตัวเองไม่มีผิด “เมื่อวานท่านพี่ทำอะไรพี่โอ!!”
   

เดี๋ยวดิคำถามมันสลับตำแหน่งหรือเปล่าวะมันต้องกลัวว่าตรูจะไปทำอะไรพี่มันดิ
   

“เปล่านะ พี่ไม่ได้ทำอะไรพี่ชายของฟิลันเลย เราทั้งคู่แค่เหนื่อยมากจนเผลอหลับไปเท่านั้นล่ะ”
   

ได้ยินแบบนั้นอีกฝ่ายก็พยักหน้าอย่างเข้าใจ แต่ไม่วายพึมพำเสียงเบา ‘ข้ากลัวท่านพี่จะทำอะไรมากกว่า ไม่ได้ละต้องรีบไปบอกก่อนว่าพี่โอน่ะของข้านะ’
   

เดี๋ยวนะมันไม่ใช่ละโว้ย ไอ้หนูนี่มันดูไม่ออกหรอฟระว่าใครแมนใครกด เดี๋ยวบัดทำให้ดูซะเลย
   

ยังไม่ทันพิสูจน์ทฤษฎีความแมน ผมก็โดนฟิลันลากออกจากห้องแล้ว พวกคุณไม่ต้องถามหาการอาบน้ำหรอกนะเพราะเราอยู่ในน้ำตลอดเวลาอยู่แล้ว มันเลยไม่สกปรก~ (?)
   

“รีบลากพี่ออกมามีอะไรเนี่ย” ผมถามเด็กน้อยที่กำลังรุนหลังอย่างตั้งอกตั้งใจ จนเมื่อเห็นใครบางคนนั่นล่ะถึงได้รู้
   

เจ้าเด็กคาไลท์กำลังยืนตัวลีบ ใกล้ๆกันมีฟรานส์กับซินยืนกดดันอยู่


“จะให้พี่ออกมาช่วยเจ้าหนูนั่นก็ไม่บอก”


แต่ฟิลันส่ายหัว “เปล่า ข้าอยากชวนพี่โอแกล้งหมอนั่นเอาคืนต่างหาก”


อื้อหือ พี่น้องสำเนาถูกต้องเด๊ะๆ


“พอๆทั้งพี่ทั้งน้องเลย ไอ้หนูนี่ของชั้นเฟร้ย” พูดจบก็ว่ายไปกอดคอเด็กน้อยตรงหน้า และกระชับแน่นขึ้นตอนที่เจ้าตัวพยายามดิ้นหนี ‘เออออตามไปก่อนซิวะ ไม่เห็นหรือว่ามีเจ้าทุกข์มารอรุมประชาทัณฑ์เพียบเนี่ย’


“โอเชี่ยน!!/พี่โอ!!”


“พอครับไอ้คุณเจ้าชายทั้งสอง ไปทำหน้าที่ให้สมกับภาษีที่ชาวเมืองจ่ายซะ ฟรานส์ก็ไปทำงานของนาย ส่วนฟิลันก็ไปเรียน วันนี้พี่ยืมตัวไอ้เด็กนี่ก่อน เอาไว้พร้อมแล้วจะศพส่งให้” ผมสะบัดมือไล่สองเจ้าชายก่อนจะลากไอ้หนูนี่ออกมา ต่อหน้าก็ยอมตามออกมาดีๆหรอก แต่พอพ้นพวกนั้น เจ้าตัวรีบสะบัดมือหนีแทบไม่ทัน


“นี่ อย่ามาทำสะดีดสะดิ้งเป็นสาวน้อยหน่อยเลย ถ้าฉันไม่ลากแกออกมามีหวัง แกโดน2พี่น้องนั่นแกล้งแน่ๆ” เจ้าตัวจ้องอย่างเคียดแค้นเสียจนถ้าฆ่าคนทางสายตาได้ผมคงตายไปแล้ว “ให้ตายเหอะ ถึงไอ้คาแรกเตอร์สายซึนเดเระมันเป็นที่นิยมแต่ก็เฉพาะกับสาวๆเท่านั้นนะโว้ย ไอ้หนูอย่างแกมาทำแล้วน่าขนลุก”


“เจ้าพูดบ้าอะไร คาแรคเตอร์ ซึนเดเระ มันคืออะไร”


ผมถอนหายใจก่อนจะหันไปมองซ้ายขวา เมื่อแน่ใจว่าไม่มีเงือกตัวไหนอยู่ในบริเวณนี้


“มันก็คือไอ้พฤติกรรมปัญญาอ่อนที่แกทำอยู่นี่ไงละโว้ย!! ไอ้มุขรังแกคนที่ตัวเองแอบชอบนี่มันมีแต่เด็ก5ขวบเท่านั้นล่ะที่จะทำเฟร้ย” อดรนทนไม่ไหวเลยจิ้มหน้าผากไอ้เงือกเด็กนี่ซะแทบหน้าหงาย “แล้วตอนนี้เป็นไงล่ะ พาลไม่ชอบหน้าทั้งพี่ทั้งน้อง รับรองเลยว่าแกต้องโดนเอาคืนแน่ๆ”


แม้ผมจะหมั่นไส้ไอ้เด็กตรงหน้าแค่ไหน แต่ผมก็แอบเห็นใจเด็กนี่ไม่น้อยยิ่งเป็นรักต่างชนชั้นแบบนี้ แต่ก็นะไอ้การเรียกร้องความสนใจแบบเด็กๆนี่มัน…


“แล้ว.. ข้าจะต้องทำยังไง”


“หมายถึงจะรอดจากการแกล้งของไอ้2พี่น้องนั่นหรอ” ผมส่ายหัวทำท่ายียวน “ทนลูกเดียว อย่างน้อยแกก็เด็กอยู่พวกนั้นคงแกล้งไม่นานนักหรอก อาจจะซัก2-3วัน”


“ไม่ใช่ ข้าหมายถึงทำให้ฟิ.. เจ้าชายฟิลันพอใจ”


“โอ๊ว เป็นคำถามที่ดีมาก สำหรับฟิลันนะ ง่ายๆเลย อย่าเถียง อย่าขัดใจ อย่าหาเรื่อง พูดกับเจ้าตัวดีๆหวานๆ ไม่มีใครชอบคนที่ดูถูกเราตลอดเวลาหรอกจำไว้!”


คาไลท์คิ้วขมวด “แล้วข้าจะรู้ได้ยังไงว่าที่เจ้าพูดมามันเป็นเรื่องจริง”


“ก็คนมันมีความสามารถอะนะ จะเชื่อหรือเปล่าก็ตามใจ แต่ลองดูเองเถอะว่าฟิลันติดฉันขนาดไหน”


“ไม่ใช่ว่าเจ้าแอบพึงพอใจฟิลันแล้วมาหลอกข้าหรอกนะ... เจ้าอย่ามาหัวเราะข้านะ!!!” ดูเหมือนความพยายามกลั้นขำของผมจะล้มเหลว เพราะเจ้าตัวจับได้ ผมเลยปล่อยก๊ากออกมาแบบไม่เกรงใจใครทำเอาเจ้าตัวยืนกระฟัดกระเฟียดหน้าแดงก่ำ


“โถ โถ น่าสงสาร จะบอกอะไรให้นะ ถ้าฉันสนใจฟิลันจริงป่านนี้เรียบร้อยไปนานแล้ว”


“...ก็ได้ข้าจะลองดู” เจ้าเด็กตรงหน้าตอบตกลงหลังจากคิดชั่งใจอยู่นาน และนั่นก็ทำให้ผมยิ้มกว้างตบหลังเจ้าเปี๊ยกตรงหน้าดังพลั๊ก


“มันต้องแบบนี้สิ เราเป็นสามีมันต้องสุภาพ อ่อนโยนกับว่าที่ภรรยาหน่อย” แล้วผมจะได้มีเวลาไปจู๋จี๋กับฟรานส์โดยไม่มีตัวขัดขวางซะทีชาลาลา


มันคือการตกลงร่วมเป็นพันธมิตรของสองเมะเพื่อที่จะจับกดเจ้าชายให้ได้


แต่ใครจะไปรู้ว่ามันจะผิดจากที่คาดไว้ จนผมนึกไม่ถึงสักนิด...

ออฟไลน์ YADA

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
โอเชี่ยนคือรัชทายาทที่หายไปหรอ

เอ้ย.. เจ้าชายสิ พี่โอเราได้เป็นเจ้าชายแล้ว

 :katai2-1:

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4062
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
แง่ม ถ้าโอเป็นเจ้าชาย พล็อตมันจำเจจังเลย

ว่าแต่

โอไม่มีออร่าเป็นพระเอกเบยยยย อย่าบอกนะว่าจะโดนฟรานส์กดแทน? เคะเคะซะเลยเรื่องนี้ 5555

ออฟไลน์ mymine

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
    • FaceBook
ตอนที่11


“ได้ไงอ่ะท่านพี่ข้าไม่ยอมนะ!!” เสียงโวยวายขององค์ชายน้อยแห่งแฟริเซียร์ดังลั่นไปทั่ว นั่นทำให้ผมปวดกบาลจนแทบจะอยากโดดลงผากลับไปหาไซรัสอีกรอบ


มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นน่ะหรือ
   

ดูเหมือนว่าผมจะประเมินความหื่นของว่าที่ภรรยาผมน้อยเกินไป เพราะในช่วงเย็นของวันผมก็ได้รับคำสั่งให้ย้ายห้องคือถ้าพวกคุณพอจะคุ้นๆบ้าง ในตอนแรกผมได้นอนห้องติดกับฟิลันในปราสาทใช่ไหม นั่นล่ะฟรานส์จะยกห้องนี้ให้เจ้าเด็กใหม่คาไลท์แทน เพราะว่าจะได้อารักขาเจ้าชายน้อยได้เต็มที่ เช่นเดียวกับซินที่มีห้องอยู่ใกล้ๆฟรานส์
   

แล้วปัญหามันอยู่ที่ตรงไหนน่ะหรือ
   

ฟรานส์ดันไม่ได้เตรียมห้องใหม่ให้ผมไง เจ้าตัวบอกง่ายๆว่า ‘เจ้าก็ไปนอนห้องข้าแล้วกัน’ โหย ให้ท่าสุดๆอ่ะ ไม่กลัวพี่โอเชี่ยนอดใจไม่ไหวสักนิด
   

แต่นั่นเป็นสิ่งทำให้ฟิลันงอแงอยู่ตอนนี้ เจ้าตัวอยากได้ผมไปนอนด้วยมากกว่า
   

ไอ้พี่น้องเงือกคู่นี้ เห็นผมเป็นหมอนข้างหรือไงวะครับ
   

“ฟิลัน... เตียงเจ้าเล็กกว่าตัวโอเชี่ยนตั้งครึ่ง จะให้ไปนอนขดบนที่นอนเจ้าไม่เห็นใจพี่เขาบ้างหรือ”ฟรานส์ยกเหตุผมที่ฟังดูแล้วสมเหตุสมผล....ตรงไหนฟระ ถ้าจะเอาจริงก็แค่หาเตียงมาเปลี่ยนให้ใหม่ก็จบแล้วนี่นา
   

แต่ผมไม่พูดไรหรอกเพราะเลือกได้ผมก็อยากนอนอีกห้องเหมือนกัน หุหึหุหึ


“แต่ว่า...” เจ้าชายน้อยเบะปากทำท่าจะร้องแล้ว นั่นทำให้ผมต้องรั้งเจ้าตัวเล็กมากอด “แค่ที่นอนเองฟิลัน พอเช้ามาพี่ก็ต้องมาอยู่กับเราอยู่ดี” คำพูดนั้นทำให้ฟิลันเงยหน้ามอง ก่อนจะยิ้มกว้าง


“จริงๆนะ”


แหงสิจ๊ะ กลางวันพี่ไปอยู่กับเมียพี่ได้ที่ไหน มีหวังโดนชู๊ตออกจากห้องข้อหาเกะกะการทำงาน


“งั้นก็ได้ แต่พวกพี่ห้ามทำอะไรกันนะ” นั่น...ไอ้หนูพูดออกอากาศมาได้ไม่แคร์สื่อซักนิดของแบบนี้มันควรต้องแอบๆกระซิบไม่ใช่เรอะ


“พี่รับรองว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นแน่” ฟรานส์ตอบรับอย่างแข่งขัน แต่มันใช่หรอเว้ยเฮ้ย มันต้องผมที่เป็นคนยืนยันดิ


แต่จะว่าไปก็ดีอย่าง เพราะผมไม่ได้รับปากด้วยนี่ เพราะอย่างนั้นผมก็ทำได้ใช่ไหม คิคิ


สุดท้ายผมก็เลยเอาที่ติดผมที่ลืมให้ตั้งแต่ช่วงเช้าไปเป็นของปิดปากฟิลันซะ นั่นล่ะ ทำให้เหตุการณ์แย่งแหวน เอ้ย แย่งผมจึงจบลงโดยดี คนมันฮอตก็งี้แหละมีแต่สาวๆมารุมรัก(?)



ผมพึ่งมีโอกาสได้เข้าห้องพักของฟรานส์เป็นครั้งแรก นั่นทำให้ผมแอบตื่นเต้นไม่น้อย


และพอได้เข้าจริง ความรู้สึกแรกที่สัมผัสเลยคือ...อึ้ง


คือของภายในห้องของฟรานส์มันไม่ต่างกับที่ผมเห็นบนบกเลยสักนิด ทั้งโซฟา ตู้กระจก โต๊ะ ที่น่าแปลกตากว่านั้นก็คือเตียง ไม่ใช่เตียงธรรมดานะครับ


มันคือเตียงฟูกหรูคิงไซต์สีสันฉูดฉาดที่ใช้ในโรงแรมม่านรูด เพราะรูปร่างหน้าตาที่โฉบเฉี่ยวเหมือนเปลือกหอยมุกอ้าปาก มีหมอนเม็ดกลมๆกองอยู่เต็มที่นอน แต่..คือ...พวกเอ็งมีเปลือกหอยจริงๆใช้อยู่แล้วจะไปเอาของเลียนแบบมาทำอะไรฟระ


ที่สำคัญ....


เฮียไปหิ้วเอาของแบบนี้มาจากโรมแรมไหนวะครับ


ผมหันไปมองหน้าเจ้าของห้องด้วยความสับสนว่าตัวเองยังคงอยู่ในน้ำหรือบนบกกันแน่ และดูเหมือนเจ้าตัวจะเข้าใจสีหน้าหมางงของผม


“ข้าไปเก็บเอาจากพวกเรือที่จมลงมา” นั่นก็ช่วยขยายความเข้าใจของผมได้บ้าง แต่ที่แอบสงสัยต่อนั้นคือ มันดีถึงขนาดต้องไปลากออกมาจากเรือหรอฟระ “เอาน่า เจ้าน่าจะคุ้นเคยกับของพวกนี้ไม่ใช่หรือ อย่าเรื่องมากนอนๆซะไป”


ผมพยักหน้าหงึกหงักก่อนจะกระโจนพุ่งลงเตียง จะว่าไปก็ไม่ได้นอนเตียงแบบนี้มานานแล้วแฮะ ผมมุดฝ่ากองหมอนลงไปก่อนจะโผล่หัวขึ้นมา “ว่าแต่ทำไมนายถึงต้องให้ฉันมานอนห้องนี้ด้วย”


ฟรานส์เลิกคิ้วด้วยความรู้สึกแปลกใจเล็กๆ เจ้าตัวคงไม่คิดหรอกว่าผมจะรู้จุดประสงค์อื่นที่เจ้าตัวแอบแฝงไว้ แหม ใครบอกว่าผมหื่นเป็นอย่างเดียวล่ะ


“ก็ไม่มีอะไรมากหรอก... ข้าแค่อยากมั่นใจว่าเจ้าจะไม่หายไปไหนอีก” เจ้าตัวคลี่ยิ้มบางมาให้เล่นเอาหัวใจผมกระตุก
เย็นไว้โอเชี่ยน เย็นไว้เอ็งพึ่งสัญญากับฟิลันมานะโว้ย อย่าพึ่งหลุดตั้งแต่คืนแรก


“อีกอย่างไม่แน่ว่าเจ้าต่างหากที่สมควรจะนอนห้องนี้มากกว่าข้าด้วยซ้ำ”


“หมายความว่ายังไง?”


เจ้าตัวไม่พูดอะไรแต่หันมาลากผมลงไปนอนด้วยกัน ก่อนที่จะเริ่มทำเหมือนผมเป็นหมอนข้างโอบกอดแน่น “นอนซะ แล้วสักวันเจ้าจะได้รู้.... อีกไม่นานหรอก”


.


.


.


ถ้าพวกคุณๆจะหวังถึงเรื่อง...ของพวกผมล่ะก็ลืมมันไปได้เลย


ฟรานส์ดูจะยึดถือสัญญาที่ให้ไว้กับฟิลันมากกว่าที่ผมคิด เจ้าตัวไม่มีวี่แววจะแบบว่าชักชวนผมร่วมกิจกรรมเข้าจังหวะเลยสักนิด ไอ้ผมมันก็สุภาพบุรุษไง จะให้ปล้ำอีกฝ่ายก่อนก็ดูจะไม่ดี


หลายคืนผ่านไปผมเริ่มคุ้นชินกับการนอนในห้องของฟรานส์เอาเข้าจริงมันก็เหมือนนอนบนบกนั่นล่ะ ไม่ได้แตกต่างกันเลย
แต่สิ่งที่ทำให้ผมอึ้งทึ่งกว่าการไปนอนอยู่ในห้องของเจ้าชายก็คือผมพึ่งจะได้รู้ว่าความอาฆาตของฟิลันนี่มากกว่าที่ผมคิดเอาไว้เยอะ


ทั้งที่ตอนแรกผมกะว่าเจ้าตัวจะแกล้งเด็กคาไลท์นั่นแค่2-3วัน แต่นี่มันล่อมาเกือบอาทิตย์นึง ดูเหมือนเจ้าตัวจะเริ่มเคยชินกับกฎระเบียบในวังบ้างแล้วแม้จะยังโดนแกล้งไม่หยุด


และไม่รู้เจ้าตัวเล็กพูดอะไร บางครั้งเวลาเผลอ แววตาของอีกฝ่ายที่มองผมจะแฝงความเจ็บปวดมาด้วย จนผมอดรนทนไม่ไหว


“ฟิลัน เราไปแกล้งอะไรคาไลท์มันบ้างนี่” เจ้าตัวได้ยินแบบนั้นก็ขมวดคิ้วน่ารักใส่ผม “อะไร เจ้านั่นมาฟ้องพี่โอหรอ เดี๋ยวจะโดนมิใช่น้อย”


อึ๋ย นี่ฟิลันติดเชื้อซาดิสต์มาอีกคนแล้วหรือนี่


“ไม่ๆ พี่เห็นเจ้าตัวดูหงอยๆท่าทางก็ผอมลง” ผมมองเจ้าตัวที่ยืนหงออยู่ด้านหลัง “ถ้าไม่ต้องการเจ้าตัวจริงๆก็บอกมาพี่จะได้ให้ฟรานส์ส่งกลับบ้านไปซะ มาเห็นเจ้าตัวเป็นแบบนี้พี่รู้สึกผิดนะ ยิ่งพี่เป็นคนเสนอบทลงโทษอันนี้เองด้วย”


“ข้าสัญญาว่าจะแกล้งให้น้อยลงแล้วกัน.. เรื่องนั้นช่างมันเถอะ พี่โอเราออกไปเที่ยวข้างนอกกันดีกว่า”


“ท่านฟิลันแต่วันนี้ท่านมีเรียน..” องค์รักษ์ใหม่พยายามเรียกอีกฝ่าย แต่ดูเจ้าชายน้อยจะไม่สนใจ จงใจเมินอย่างเห็นได้ชัด เจ้าตัวพยายามฉุดผมให้ตามไปแต่..


“ฟิลัน....ได้ยินที่คาไลท์พูดแล้วไม่ใช่หรือ วันนี้เจ้ามีเรียนนะ” เสียงเข้มของเจ้าชายคนพี่ดังขึ้นทำให้ฟิลันเบะปากไม่พอใจ


“ท่านพี่ ข้าอยากออกไปเที่ยวกับพี่โอนี่นา”


“เอาไว้วันหลัง วันนี้พี่ต้องพาพี่โอไปทำธุระก่อน” แม้จะไม่ชอบใจแต่พอบอกจุดหมายที่ผมไม่รู้จักเท่านั้นล่ะ ฟิลันก็ยอมรามือแต่โดยดีแต่เจ้าตัวดันว่ายน้ำหนีทำให้คาไลท์ต้องเร่งว่ายตามติดเจ้าตัวไปด้วย


“ทำไมหลังๆชักรู้สึกว่าฟิลันหัวดื้อขึ้นว้า”


“เรื่องปกติ เจ้าต่างหากที่ไม่รู้อะไร” ฟรานส์พูดพร้อมกับส่ายหัวปลง “เอาล่ะเราไปกันได้แล้ว ข้ามีใครบางคนอยากให้เจ้าพบ อย่าช้าข้าไม่อยากให้นางรอนาน”


ฟรานส์จะพาผมไปพบใคร?


แม้จะสงสัยแต่ฟรานส์ไม่ได้พูดอะไรต่อ เจ้าตัวว่ายนำผมไปทางด้านหลังปราสาท ซึ่งผมเองก็พึ่งได้เข้ามาเป็นครั้งแรก บริเวณนี้ถูกจัดให้เป็นเหมือนปราสาทขนาดเล็กแยกออกจากตัวปราสาทหลักโดยสิ้นเชิง  รอบๆรายล้อมไปด้วยดอกไม้ทะเลสีสันสวยงาม มันทำให้ผมรู้สึกเหมือนกำลังก้าวเข้าสู่บ้านไม้ที่ตั้งอยู่ในทุ่งดอกไม้ขนาดใหญ่


ด้านหน้ามีหญิงสาวรูปร่างอรชรอ้อนแอ้นน่าหม่ำมาต้อนรับก่อนจะเชิญพวกเราเข้าไปรอที่ห้องโถง นั่นทำให้ผมอดตื่นตาตื่นใจไม่ได้


ภายในแม้จะมีห้องจำนวนไม่มากเท่ากับปราสาท แต่ก็น่าจะจัดอยู่ในกลุ่มบ้านของคนรวย เหนือโถงมีปะการังห้อยระย้าเป็นสาย แต่ละกิ่งมีแสงระยิบระยับของเพรียงทะเลสวยงามจับตา


ผมมัวแต่โชวบ้านนอกด้วยการแหงนคอมองเพดานไปเรื่อยๆ ไม่รับรู้สึกนิดว่ามีใครบางคนเข้ามาในห้องแล้วจนเมื่อฟรานส์สะกิดเสียจนเกือบจะใช้หางโบกหัวผมนั่นแหละ ผมถึงได้รับรู้


บนโซฟาสีขาวฟูนุ่มมีหญิงสูงวัยนั่งอยู่ ผมของนางเป็นสีขาวยาวจรดพื้น นัยน์ตาสีเขียวใส ครีบและหางเป็นสีเขียวอ่อน แม้ตอนนี้อาจจะเหี่ยวไปซักหน่อย แต่ผมสัมผัสเค้าความงามของเจ้าตัวได้ ในอดีตอีกฝ่ายต้องเป็นเงือกสาวที่สวยหาตัวจับยากอย่างแน่นอน


ฟรานส์ที่ยืนอยู่ระหว่างเราทั้งสองผายมือให้อีกฝ่าย “โอเชี่ยน นี่คือท่านไลอาร์” ผมก้มทำความเคารพอีกฝ่ายที่ดูจะมีศักดิ์สูงมากพอดูขนาดที่ฟรานส์ยังต้องสำรวม “ท่านคือผู้มีอำนาจสูงสุดของของแฟริเซียร์ในขณะนี้...เป็นราชินีคนปัจจุบัน...”
หา!!


ตาเหลือกเลยซิฟระ อยู่ดีๆพามาเจอกับราชินีตัวเป็นๆแบบนี้ แล้วท่านต้องการพบผมเรื่องอะไร หรือเพราะเรื่องเงือกนอกรีต แล้วผมต้องทำตัวไงวะ ทำอะไรผิดไปจะสั่งตัดหัวผมหรือเปล่า


“อย่าพูดอย่างนั้นเลย ข้าเป็นเพียงเงือกสูงวัยที่ใช้ชีวิตอยู่ไปวันๆแค่นั้นล่ะ” อีกฝ่ายส่งยิ้มอ่อนโยนมาให้ “ฟรานส์เจ้าต่างหากที่เป็นอำนาจในการสั่งการทั้งหมด ข้าได้ส่งต่อให้เจ้าแล้ว”


ทั้งสองคุยกันในขณะที่ผมยืนมองกระสับกระส่าย จะเอาตัวเข้าไปคุยด้วยก็ไม่รู้เรื่อง แต่ไอ้ครั้นจะขอตัวออกไปก็เสียมารยาท แถมฟรานส์บอกว่าอีกฝ่ายต้องการพบผม คงจะมีเรื่องคุยด้วยละมั้ง


จนกระทั่งหญิงชราตรงหน้าหันกลับมามองผม “ดูสิ ข้าปล่อยให้แขกยืนรอตั้งนานได้ยังไง...ต้องขอโทษนะที่ต้องให้รอ ข้าอายุมากแล้วเจ็บก็เลยเจ็บป่วยบ่อย ไหนเจ้าช่วยขยับเข้ามาให้ข้ามองชัดๆหน่อยได้ไหม”


ผมหันไปมองคนข้างตัวอย่างขอความคิดเห็น และหลังจากฟรานส์พยักหน้าแล้ว ผมก็ค่อยๆกระดึบไปใกล้กับอีกฝ่าย
ท่านไลอาร์ดูจะพินิจพิเคราะห์ผมอย่างมาก มือขาวของอีกฝ่ายลูบแก้มสองข้างของผม ก่อนที่จะเลื่อนไปลูบบริเวณเกล็ดที่สะโพก “ซิลวาร์... เจ้ายังอยู่จริงๆ” อีกฝ่ายพึมพำเบาๆก่อนน้ำตาจะร่วงลงมาเป็นสาย กลายเป็นไข่มุกบริสุทธิ์ ส่วนผมน่ะหรือ หน้าซีดสนิทแล้ว


ผมทำราชินีร้องไห้ ตายๆกูตายแน่


“ผู้ให้กำเนิดเจ้า.. มีผมสีทองยาวสลวยและดวงตาสีเขียวใสถูกต้องไหม” คำถามแผ่วเบาของอีกฝ่ายทำให้ผมชะงัก ก่อนจะสบตากับอีกฝ่าย “ท่านรู้ได้ยังไงครับ”ผมถามอีกฝ่ายด้วยความแปลกใจ


ถึงผมจะมีเชื้อลูกครึ่งจากแม่ มีผมสีทองเหมือนแม่แต่เพราะหน้าผมน่ะโคตรไทยเหมือนพ่อ ถึงจะดีหน่อยตรงที่ขาวก็เถอะ แต่ดวงตาของผมก็เป็นสีดำสนิทไม่ต่างกับพ่อเช่นกัน ทำให้คนทั่วไปนึกว่าผมไปย้อมผมสีเจ็บๆแค่นั้น


“แน่นอน ข้าดูไม่ผิดแน่ ดวงตาแบบนี้ ไหนจะสีครีบนี่อีก มีแค่บุตรของข้าเท่านั้นที่มีสีนี้ ทายาทคนสุดท้ายของข้า... รัชทายาทที่หายสาบสูญของแฟริเซียร์”


คำพูดของอีกฝ่ายทำให้ทั้งผมและฟรานส์เบิกตากว้างด้วยความตกใจ โดยเฉพาะผม


เรื่องนี้มันเป็นไปไม่ได้ ถึงแม่ผมจะตายตั้งแต่ผมยังเด็ก แต่ผมก็มั่นใจว่าเจ๊แกไม่มีครีบออกมาให้ผมลูบเล่นแน่ๆ แล้วจะมาบอกว่าเจ้าตัวเป็นเจ้าหญิงเงือกนี่นะ


“ท่านครับ ผมเข้าใจความสูญเสียของท่านดี แต่ยังไงท่านไม่มีทางเป็นคุณยายของผมได้แน่..”


“โอเชี่ยน!!เจ้าหยุดก่อน” ฟรานส์รู้ว่าผมหมายถึงอะไรและพยายามห้าม แต่ผมไม่คิดว่าการรู้เรื่องที่หลังจะเป็นเรื่องดี นอกจากจะยิ่งสิ้นหวังลงไปอีก


“ผมไม่มีทางเป็นหลานของท่านได้แน่นอนเพราะทั้งพ่อและแม่ของผมเป็นมนุษย์ครับ”


...


“และนั่นก็หมายความว่า... ผมที่อยู่ต่อหน้าท่านเองก็เป็นมนุษย์เช่นกัน”
สิ้นคำพูดหญิงชราตรงหน้าตาเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย อีกฝ่ายนั่งนิ่งค้างไปจนทำให้ผมใจเสีย คิดว่าจะทำให้เงือกตรงหน้าช็อคไปแล้ว


“.. นั่นสินะ” เสียงหวานแผ่วเบาลอดออกมา “เราถึงไม่เคยหาซิลวาร์เจอ ...เจ้าลูกตัวแสบนั่นหนีขึ้นไปบนแผ่นดินนี่เอง”
ราชินีเงือกทิ้งตัวลงบนโซฟาอย่างเหนื่อยอ่อน มือบางค่อยๆสางผมสีขาวของตัวเองก่อนจะหันกลับมามาผม


“ต่อให้เจ้าปฏิเสธอย่างไรข้าก็มั่นใจว่าเจ้าต้องเป็นลูกของซิลวาร์แน่ ในผืนน้ำแห่งนี้มีเงือกสายเลือดเดียวเท่านั้นที่มีเกล็ดสีนี้... สายเลือดบริสุทธิ์ของราชันแห่งท้องทะเล สายเลือดเส้นเดียวกับลูกชายและสามีของข้า”


...


ปวดกบาล


ทำไมยายตรงหน้าไม่เชื่อผมเลยซักนิดว่าผมไม่ได้มีสายเลือดราชันอะไรนั่น ผมเป็นแค่เด็กเกรียนที่พึ่งเรียนจบมาฉลองกับเพื่อนเท่านั้นล่ะ จะไปเป็นลูกเจ้าหญิงที่ไหนได้ไง


...เดี๋ยวนะ


“ท่านไลอาร์ ผมคิดว่าเราอาจจะกำลังพูดคนละเรื่อง...” ผมประท้วงเรียกความสนใจจากเงือกทั้งสอง “จากเมื่อกี้ท่านบอกว่าลูกชายใช่คนเดียวกับที่หายไปและเป็นรัชทายาทใช่ไหม”


“ใช่ ข้ามีบุตรเพียงคนเดียวเท่านั้นคือซิลวาร์ เจ้าชายที่ถูกต้องของแฟรีเซียร์” คำยืนยันนั่นทำให้ผมยิ้มกว้าง


“งั้นผมก็ไม่มีทางที่จะเป็นลูกของลูกชายท่านแน่นอน เพราะคนที่ผมพูดถึงมาตลอดไม่ใช่พ่อครับ”



“แต่เป็นแม่”


แทนที่ทั้งสองจะมีปฏิกิริยากับสิ่งที่บอกไป แต่ที่ผมเห็นคืออาการนิ่งสนิทไม่มีแววตกใจใดๆ จนกระทั่งฟรานส์กระตุกแขนเรียกความสนใจจากผมเบาๆ


“โอเชี่ยน คือข้าก็ลืมไปว่าเจ้าเป็นมนุษย์มาก่อน” ฟรานส์ดูอึกอักที่จะพูด “แต่สำหรับชาวเงือกเราน่ะ ไม่ว่าเพศไหนก็ท้องได้นะ”
หา!!!


ช็อคสิครับ นี่เรากำลังนึกการท้องนะ อุ้มท้องโย้9เดือน นี่มันสิทธิเฉพาะของผู้หญิงไม่ใช่หรือไงวะ “สำหรับมนุษย์นี่อาจจะแปลก แต่ชาวเงือกเราเป็นแบบนั้นจริงๆ เพราะยามเกิดมาเราไม่ได้มีเพศมาตั้งแต่ต้น สรีระภายในจึงไม่แตกต่างมากนัก และถึงเงือกเพศผู้จะตั้งท้องยากมากกว่าเงือกเพศหญิงก็ตาม แต่ไม่ได้หมายความว่าท้องไม่ได้”


แม่เจ้า สิ่งมหัศจรรย์อันดับ8ของโลก เงือกท้องได้หมด นี่มันเหลือเชื่อมากเลยนะแสดงว่าตลอดมาผมมีแม่เป็นตัวผู้ แล้วไอ้พ่อบ้านั่นไม่บอกเลยสักนิด


คอยดูนะกลับไปผมจะไปเค้นคอให้น่าดู


“เพียงแต่เป็นค่อนข้างอันตรายสำหรับเงือกเพศผู้ในการตั้งท้อง ส่วนมากแล้วเงือกเพศผู้มักจะมีทายาทได้เพียงหนึ่งเดียวและหลังจากนั้นแม่ก็จะอ่อนแอลงมาก” ฟรานส์ยิ้มแห้งให้ผม “แต่ถึงอย่างนั้นนั่นก็ยังไม่ใช่สาเหตุของการเสียชีวิตของท่านซิลวาร์...ข้าเดาว่าสาเหตุแท้จริงอยู่ที่การฝืนคลอดบุตรบนผืนดินต่างหาก หากเลือกกลับลงมาคลอดในน้ำก็คงจะไม่เป็นแบบนี้”
สิ่งที่อีกฝ่ายกล่าวออกมายิ่งทำให้ผมชะงัก


“แต่ถ้าเลือกกลับลงมาคงจะยากที่จะได้กลับขึ้นไปบนแผ่นดินอีกเป็นครั้งที่สอง และที่สำคัญ ท่านซิลวาร์คงไม่แน่ใจว่าเจ้าจะมีชีวิตรอดในน้ำได้ไหมในเมื่อเป็นลูกครึ่งมนุษย์กับเงือก ถ้าเกิดออกมาแล้วไม่สามารถอยู่ในน้ำได้ทารกเช่นเจ้าก็คงจะต้องตายแน่นอน เพราะฉะนั้นก็เหลือทางเลือกเดียวสำหรับท่านซิลวาร์”


เรื่องราวตอนแรกว่าน่าตกใจแล้ว แต่สิ่งที่ฟรานส์พูดนั่นทำให้ผมตกใจยิ่งกว่า


ถ้าแม่ของผมเป็นตัวเดียวกับที่เงือกตรงหน้าทั้งสองของผมยืนยัน นั่นหมายความว่า



แม่ผมเป็นตัวผู้…


แม่ผมเป็นเจ้าชายและเป็นรัชทายาทของแฟริเซียร์...


แม่ผมหนีขึ้นบกจนไปรักกับพ่อ...


แม่มีผมเป็นลูกเพียงคนเดียว


และแม่อ่อนแอลงจนตายเพราะเลือกให้กำเนิดผมและเลือกที่จะอยู่กับผมและพ่อจนวินาทีสุดท้าย...

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4062
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
T T

แม่ท่านพี่โอช่างรักลูกยิ่งนัก

แอบเศร้าใจเล็กๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
โธ่ พี่โอชีวิตรันทดจริง

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5
โอ้ว!  โอมีสิทธิ์ท้องได้สินะ :katai5:

ออฟไลน์ เมื่อนั้นฝันว่า

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 323
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
โอเคท้องได้ แล้วเขาได้กันทางไหนอันนี้ยังไม่รู้

ออฟไลน์ rinny

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 517
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
สรุปพี่โอแกเป็นลูกครึ่งสินะ ครึ่งเงือกครึ่งมนุษย์ สงสารคุณแม่พี่โอจัง

ออฟไลน์ YADA

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
งื่ออ... อยากอ่านส่วนของซิลวาร์ด้วยค่ะ

ออฟไลน์ mymine

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
    • FaceBook
ตอนที่12


“.. โอ... โอเชียน”
   

“หือ อะไรนะ” ผมเงยหน้าสบตากับฟรานส์ที่มองหน้าผมด้วยแววตาเป็นห่วง
   

หลังจากได้ยินเรื่องที่ว่าหัวผมก็หยุดการทำงาน เรียกว่าแทบไม่รับรู้สภาพรอบตัว ไม่รู้กระทั่งว่าฟรานส์จูงผมกลับออกมาจากที่พักของราชินีตั้งแต่เมื่อไหร่ และตอนนี้เราสองคนก็กลับมาอยู่ที่ห้องของตัวเองได้ยังไง
   

“เจ้าไม่เป็นอะไรนะ?”
   

จะบอกว่าไม่เป็นไรก็คงจะโกหก ผมบอกไม่ถูกเลยว่าตอนนี้ควรรู้สึกยังไง คำถามมากมายเต็มหัวไปหมด แต่หนึ่งในนั้นสิ่งที่แซงหน้าคำถามมากมายคือ
   

พ่อรู้เรื่องนี้หรือเปล่า


พ่อในความทรงจำของผมเป็นผู้ชายที่โคตรวัยรุ่น ทำตัวเหมือนเด็กอายุสิบแปด เป็นคนที่เหมือนจะฉลาดแต่สอนการบ้านผมไม่เคยถูกสักข้อ แต่ดันสามารถกระโจนลงมานั่งเล่น DOTA กับผมได้ทุกครั้งที่เจ้าตัวได้วันหยุดกลับมาอยู่บ้าน คนที่ออกไปเที่ยวกลางคืนพร้อมกับแย่งกันจีบสาวแข่งกับผม แม้แต่วิ่งหลบบาทาของผัวผู้หญิงที่เราแข่งกันหลี


คนที่เหมือนเพื่อนมากว่าพ่อ

   

พ่อรู้ไหมว่าแม่ไม่ใช่มนุษย์ เรื่องท้องได้คงจะรู้ตอนที่ตั้งท้องผมแน่
   
แล้วพ่อรู้ไหมว่าถ้าผมเกิดแม่จะต้องตาย...
   
เพราะพ่อไม่รู้เลยไม่รู้สึกอะไรหรือเปล่า คิดว่าแม่แค่ป่วยตายเฉยๆ

แล้วถ้ารู้แล้ว พ่อจะยังมองผมแบบเดิมอยู่หรือเปล่า

พ่อจะทำใจยอมรับลูกที่ทำให้แม่ตายได้ไหม

พ่อจะยินดีอยู่กับผมอีกหรือเปล่า



“โอเชียน!” ผมเงยหน้ามองเจ้าของเสียงที่เรียกผมอยู่ตอนนี้


“ฟรานส์.. ฉันอยากกลับบ้าน” ผมเงยหน้าสบตาอีกฝ่าย “ฉันอยากกลับไปหาไอ้พ่อบ้านั่น อยากรู้ว่าเจ้าตัวรู้เรื่องทั้งหมดแต่แรกหรือเปล่า”


“รอก่อนนะ ยังไม่ใช่ตอนนี้”


“แต่...” ยังไม่ทันพูดจบเจ้าตัวก็คว้าผมเข้าไปกอดซะแล้ว


“ข้าสัญญาว่าเจ้าจะได้กลับไปถามพ่อแน่ๆ ...แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้”


แม้ผมจะอึ้งเล็กๆและไม่เข้าใจว่าทำไมฟรานส์ถึงได้พูดแบบนั้นแต่ก็พยักหน้าตอบรับไป เพราะผมก็พึ่งนึกออกเหมือนกันว่าไอ้พ่อตัวดีของผมพึ่งกลับบ้านเมื่อเดือนที่แล้ว ตามปกติเจ้าตัวจะได้กลับบ้านประมาณทุกครึ่งปี


เพราะอย่างนั้นถึงผมกลับไปตอนนี้ก็คงจะยังไม่ได้เจอใครอยู่ดี


++++++++++++++++++++++++++

หลังจากวันนั้นเป็นต้นมา ว่าที่ภรรยาผมดูจะเพิ่มเลเวลความเป็นห่วงว่าที่สามีอย่างผมมากมาย เพราะไม่ว่าเจ้าตัวจะไปไหน ก็จะลากผมไปด้วยเสมอ จนแม้แต่ฟิลันเองยังบ่นอุบอิบ แหมก็เข้าใจนะ คนมันหน้าตาดีก็มีสาวๆ(?)ติดใจเป็นธรรมดา
   

แต่2-3วันนี้ดูฟรานส์จะยิ่งยุ่งมากกว่าปกติ เจ้าตัวต้องเรียกประชุมเงือกบ่อยครั้งและในบางวันต้องออกไปภายนอกปราสาทด้วย คือไอ้ออกข้างนอกก็ดีอยู่หรอกเพราะผมได้เที่ยว ถึงจะต้องผจญกับสายตาของเงือกหลายๆตัวที่ยังแอบมองอยู่บ้าง แต่ก็ไม่มีใครกล้าพูดหรือทำอะไรผมอีก แต่ไอ้ตอนประชุมนี่สิ...
   

หลับสนิทเลยล่ะ
   

โถ่ ก็พวกเงือกพูดเรื่องอะไรไม่รู้ แรกๆผมก็พยายามจับใจความหรอกนะ เห็นว่าเหมือนจะมีงานสำคัญอะไรบางอย่างประจำปี
   

อย่างวันนี้ก็เช่นกัน
   

“.. โอ... โอเชียน!!”
   

“ห๊ะ!!” ผมสะดุ้งตื่นพร้อมกวาดตาไปมองรอบๆด้วยความตกใจ ปรากฏว่าเงือกทั้งห้องจ้องผมกันเป็นตาเดียวรวมถึงฟรานส์ที่นั่งอยู่ข้างๆด้วย
   

“นี่เจ้าไม่ได้ฟังเลยใช่ไหม?”
   

“ฟังสิ” แถครับวินาทีนี้ต้องแถ เพราะสายตารอบๆที่ปกติแล้วดูจะไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไหร่ตอนนี้ยิ่งทวีมากขึ้นกว่าเดิม
   

“ถ้าอย่างนั้นเจ้าคิดว่าควรจะเลือกแบบไหนดี แยกจัดงานคนละวันหรือรวมทั้งสองงานจัดในวันเดียวเลย?”
   

ชิบแล้วสิ แล้วไอ้สองงานนั่นมันมีอะไรบ้างฟระ
   

“เอ่อ....แยกออกเป็นสองงานดีกว่ามั้ง ดูคึกคักดี”
   

“ข้าก็คิดว่าแบบนั้น งานสถาปนาเจ้าชายทั้งทีเอาไปรวมกับพิธีก้าวสู้ความเป็นผู้ใหญ่ก็กะไรอยู่ จะได้รอบรรดาเงือกที่เข้าร่วมพิธีด้วย” ฟรานส์พยักหน้าให้ก่อนจะหันไปสั่งการลูกน้องต่อ
   

ว่าแต่พิธีอะไร? งานสถาปนาเจ้าชายที่ไหนวะ? หรือว่าฟิลัน?แต่ช่างมันเถอะ ไม่เกี่ยวกับผมนี่นา
   

คิดแบบนั้นแล้วก็ได้เวลาเข้าพระอินทร์ต่อ


คร่อก..

   


จนช่วงเย็นการประชุมทั้งหลายแหล่ก็จบลง ฟรานส์ที่กลับมายังห้องพักแผ่หลาลงไปบนที่นอน เล่นเอาหมดมาดเจ้าชายรัชทายาทไปเลยแฮะ
   

ผมที่ว่ายเข้าไปนั่งข้างๆและกำลังนึกสนุกคิดจะหาไม้เขี่ยศพอีกฝ่าย ก่อนจะต้องสะดุ้งเฮือกเพราะอยู่ดีๆเจ้าตัวก็ย้ายหัวมานอนซบตักผมซะอย่างนั้น
   

“งานยุ่งชะมัด ไม่มีเวลาพาเจ้าไปเที่ยวเลย” ฟรานส์พึมพำเสียงเบา แต่เล่นเอาผมยิ้มแก้มปริ ว่าที่ภรรยาผมนี่ใส่ใจสามีสุดๆเลยวุ้ย
   

“ไม่เป็นไรหรอก วันงานใกล้เข้ามาแล้วนี่นา”ผมพูดอย่างเข้าใจ พลางลูบผมอีกฝ่ายไปด้วย    
   

อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันพิธีก้าวสู้ความเป็นผู้ใหญ่แล้ว แม้ผมจะไม่ค่อยเข้าใจว่ามันคืออะไร มีพิธีการแบบไหน แต่จากที่ได้ยินมันคงจะสำคัญไม่น้อย ผมเดาว่าน่าจะเป็นคล้ายๆของญี่ปุ่นที่เหมือนกับยอมรับว่าอีกฝ่ายโตพอที่จะรับผิดชอบตัวเองหรือเปล่า แต่เพราะเมืองไทยไม่มีประเพณีแบบนี้ผมก็เลยเดาไม่ค่อยถูก จะถามเจ้าตัวก็เกรงใจเพราะเห็นสิ่งที่อีกฝ่ายทำทั้งเข้าประชุมและจัดเตรียมทุกอย่าง แค่นี้ก็วุ่นวายจะแย่อยู่แล้ว
   

แถมผมนั่งอยู่ข้างเจ้าตัวมาตลอด ขืนถามก็รู้หมดสิว่าไม่ได้ฟังเลยสักนิด...
   

คิดไปพอก้มลงมองอีกฝ่ายแล้วผมก็ต้องหลุดยิ้มบาง
   

เผลอแผลบเดียวลมหายใจของฟรานส์ก็สม่ำเสมอไปแล้ว เจ้าตัวดูจะหลับสบายทั้งที่มือทั้งสองยังแปะอยู่ตรงก้นผมเนี่ย
   

เดี๋ยวเหอะ เดี๋ยวพี่โออดใจไม่อยู่แล้วจะหนาว
   

....ว่าแต่เรายังไม่ได้หาวิธีโซเดมาคอมของเงือกเลยนี่หว่า
   

ถามฟิลันคงไม่ได้ ส่วนซินนี่ถามไปอาจจะโดนเอาสามง่ามจิ้มเสียก่อน เจ้าเด็กคาไลท์นั่นจะรู้ไหมนี่ สงสัยต้องแอบเลียบๆเคียงๆถามสักหน่อยแล้ว

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
   
ไม่นานก็มาถึงวันงาน บรรยากาศดูคึกคักมากกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด
   

ผมซึ่งตอนนี้กำลังนั่งรอฟรานส์แต่งตัวอย่างเป็นทางการอยู่ ได้แต่สอดส่ายสายตามองเงือกที่ว่ายวุ่นผ่านหน้าไปตัวแล้วตัวเล่า แต่ละตัวดูจะจัดเต็มกันมากในวันนี้เครื่องประดับสารพัดถูกประโคมลงบนตัวเท่าที่จะมีที่ให้ใส่เลยเชียวล่ะ
   

“พี่โอ!!” เสียงใสที่คุ้นเคยมาพร้อมกับการปรากฏตัวของเจ้าชายฟิลัน เจ้าชายน้อยแห่งแฟริเซียร์ ซึ่งวันนี้เจ้าตัวถูกประดับประดาไปด้วยเครื่องประดับจนดูน่ารักยิ่งกว่าเดิม ผมยาวสีทองเป็นลอนถูกพันเก็บเรียบร้อย ประดับด้วยเครื่องประดับอันที่ผมใช้หินประจำเมืองทำให้ กลางหน้าผากมีจี้สีฟ้าใสห้อยอยู่ สร้อยคอและกำไลขยับไปตามการเคลื่อนไหว “วันนี้แต่งตัวน่ารักเชียวฟิลัน”
   

“จริงหรือเปล่า” เด็กน้อยหน้าแดงก่อนจะว่ายวนหมุนตัวไปมา ทำท่าเขินจนผมต้องหัวเราะ “ข้าตื่นเต้นมาเลยล่ะพี่โอ ไม่รู้ว่าหลังจากนี้ร่างกายจะเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างหรือเปล่า”
   

หมายความว่ายังไงหว่า?
   

แต่ยังไม่ทันจะถาม ใครบางคนที่ผมนั่งรออยู่ตั้งแต่เช้าก็ว่ายออกมา นั่นทำให้ผมอ้าปากค้าง
   

ฟรานส์วันนี้สง่างามมากกว่าทุกวัน ผมสีทองยาวถูกรวบขึ้นเป็นหางม้า ที่ผากมีจี้สีฟ้าใสห้อยอยู่เช่นเดียวกับฟิลัน ด้านหลังประดับประดาไปด้วยสร้อยเป็นชั้นๆ จนกระทั่งผมเหลือบไปมองอะไรบางอย่างที่คอและนิ้วของอีกฝ่าย
   

สร้อยกับแหวนที่ผมให้ดูจะด้อยค่าไปเลยเมื่อเทียบกับเครื่องประดับของเงือกตัวอื่น
   

“ทำไมไม่เปลี่ยนเครื่องประดับให้ดูสมฐานะหน่อย” ผมกระซิบถามอีกฝ่ายเสียงเบาเมื่อมีโอกาส คืออย่างน้อยฟรานส์ก็เป็นถึงรัชทายาทควรจะแต่งให้ดูดีมากกว่านี้ ไม่ใช้สร้อยกับแหวนกะโหลกกะลาของผม
   

“ข้าจะต้องการเครื่องประดับอื่นไปทำไมในเมื่อข้ามีของที่ดีที่สุดอยู่แล้ว” เสียงกระซิบที่อีกฝ่ายตอบมาแผ่วเบานั่นเมื่อรวมกับหน้าที่แดงจางๆทำให้ผมนึกอยากจะคว้าตัวอีกฝ่ายเข้ามาฟัดให้หายหมั่นเขี้ยวข้อหาทำตัวน่ารักชะมัด
   

ให้ตายเถอะ ขอลากเข้าห้องเลยได้ไหมเนี่ย!!
   

แต่ลงท้ายผมก็ไม่ได้ทำอย่างที่คิดหรอก เพราะว่าผมเป็นสุภาพบุรุษ(หรออ) เอาจริงคือถ้าประธานในพิธีหายแล้วงานมันจะเริ่มได้ยังไงเล่า
   

พิธีถูกจัดขึ้นที่ลานกลางมือ ตรงจุดนั้นจะมีกองหินรูปร่างคล้ายตึกทำจากก้อนหินสีขาวสว่างสูงขึ้นไปจนเกือบพ้นน้ำฟรานส์ยืนอยู่ตรงกลางก่อนจะกล่าวกับประชาชนเสียงดัง ซึ่งรายละเอียดนั่นผ่านๆไปเถอะ ผมจำได้ไม่หมด แต่ที่สะดุดคือประโยคหนึ่ง
   

“เพราะฉะนั้นขอให้เงือกที่มีอายุครบ 15 ปี ก้าวออกมาด้านหน้า”
   

เงือกตัวน้อยหลายตัวพากันกอดคนในครอบครัวแล้วว่ายออกมารวมอยู่ด้านหน้า นับดูแล้วราวๆ 25 ตัว ซึ่งถือว่าเยอะพอควร จะกระทั่งโดนใครบางคนสะกิด
   

“พี่โอๆ” ฟิลันนั่นเอง ผมเลยย่อตัวให้ระดับสายตาของเราเท่ากัน
   

“ฟิลันมีอะไรหรือเปล่า?”
   

เจ้าตัวไม่พูดพร่ำอะไรก็กระโจนเข้ามากอดผม “รอข้านะ ข้าจะต้องเงือกที่สง่างามให้ได้เลย” พูดจบเจ้าตัวก็ผละและว่ายเข้าไปรวมกับเงือกน้อยตัวอื่นๆ
   

หือ ฟิลันก็เข้าร่วมงานนี้ด้วยหรือ
   

ผมมองเงือกน้อยที่ว่ายเข้าไปรวมกับเงือกเด็กตัวอื่น ท่าทางดูตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด นั่นทำให้ผมหันไปหาคาไลท์ที่ยืนมองฟิลันตาละห้อย
   

“นี่ ไอ้หนู งานนี้มันยังไงกันแน่”
   

“อย่ามาเรียกข้าว่าไอ้หนูนะ!!” แน่นอนว่าอีกฝ่ายยังคงญาติดีกับผมเช่นเคยดูได้จากการพูด เจ้าตัวพ่นลมพรืดอย่างรำคาญ “เงือกอายุ15ปีจะถูกส่งเข้าไปในสถานที่พิเศษ ก่อนที่เจ้าตัวจะเข้าไปอยู่ในฟองด้วยสภาพจำศีล จนกระทั่งร่างกายเปลี่ยนแปลงจึงจะตื่นขึ้นมา”
   

“เปลี่ยนแปลง?” ยังไงหว่า หรือมามีเงี่ยงมีเดือยเพิ่ม
   

“ลักษณะเด่นด้อยจะฉายชัดในช่วงเวลาที่อยู่ในฟอง รวมถึงลักษณะเด่นของเพศด้วย”
   

“หมายความว่านายเคยผ่านมาแล้ว?”
   

“สองปี...” เจ้าตัวพูดเรียบๆ “ข้าเข้าพิธีเมื่อสองปีก่อน และวันนั้นเป็นวันแรกที่ข้าได้เจอเจ้าชายฟิลัน”
   

นัยน์ตาของอีกฝ่ายดูเป็นประกายยามนึกถึงอดีตทำให้ผมลอบยิ้ม หมายความว่าไอ้เด็กนี่แอบรักฟิลันมาสองปีแล้วสินะ
   

“โอเชี่ยน...”
   

ฟรานส์ว่ายตรงเข้ามาหาผมก่อนจะคว้ามือ “ไปข้างในกัน”
   

หา!
   

“ในนี้นี่นะ” อีกฝ่ายพยักหน้าให้ผมที่เอานิ้วชี้เข้าไปที่ตัวตึกที่เงือกตัวน้อยทั้งหลายว่ายเข้าไป “แต่เฮ้ย ฉันอายุ20แล้วนะ”
   

“ข้าไม่ได้ให้เจ้าเข้าไปจำศีลกับพวกนั้นด้วยนี้” ฟรานส์ยิ้มขำ “ที่เข้าไปคือตรวจความเรียบร้อยก่อนที่จะปิดเป็นพื้นที่พิเศษต่างหาก เงือกที่อยู่ในสภาพจำศีลน่ะเปราะบางพอสมควร หลังจากนี้จะไม่อนุญาตให้ใครเข้าอีกจนกว่าเงือกทั้งหมดจะตื่นจากการหลับใหล”
   

ฟรานส์อธิบายพร้อมกับลากผมตามหลังกลุ่มเงือกเด็กที่มีฟิลันว่ายนำหน้า
   

“ข้าคิดว่าฟิลันคงอยากให้เจ้าเป็นผู้ส่งเข้าสู่การจำศีล”ได้ยินแบบนั้นผมก็ยิ้มกว้างว่ายตามอีกฝ่ายเข้าไปแต่โดยดี
   

ข้างในเป็นห้องกว้างขนาดใหญ่ ตรงกลางมีต้นไม้น้ำขนาดยักษ์ที่มีฟองผุดพรายอยู่เรื่อยๆ รวมถึงรอบห้อง เงือกแต่ละตัวตรงเข้าจับจองพื้นที่ของตัวเอง
   

ผมว่ายตรงเข้าไปฟิลันที่มีท่าทางตื่นเต้น เจ้าตัวหมุนไปมาด้วยความไม่มั่นใจ “พี่โอ..”
   

“พี่มาส่งเราเข้านอน” คำพูดของผมเรียกรอยยิ้มกว้างน่ารักของอีกฝ่าย เจ้าตัวโผกอดผมแน่ไม่ยอมปล่อย ก่อนที่จะตกใจนัยน์ตาสีฟ้าเบิกกว้าง
   

เงือกน้อยที่ตอนแรกอยู่รอบๆห้องเริ่มมีฟองขนาดใหญ่เข้าคลุมตัว หลายคนดูกระสับกระส่ายแบบคนทำอะไรไม่ถูก ส่วนพวกที่เข้าไปอยู่ในฟองแล้ว แรกๆก็ดูท่าทางตกใจไม่น้อย แต่สุดท้ายเจ้าตัวก็เริ่มขดตัวลงไปหลับ


“พี่โอ ข้ากลัว” เสียงฟิลันสั่นสะท้าน เจ้าตัวมองตามฟรานส์ที่ตรงเข้าตรวจความเรียบร้อยและเคลื่อนย้ายฟองแต่ละฟองให้ไม่อัดทับกัน
   

“ไม่ต้องกลัวนะ ดูสิเพื่อนๆเรายังไม่เป็นอะไรเลย” ผมได้แต่ปลอบเงือกน้อยในอ้อมกอด แม้จะไม่รู้หรอกว่าอีกฝ่ายจะต้องเจออะไร แต่ดูจากท่าทางของฟรานส์แล้ว มันคงเป็นเรื่องปกติที่ไม่มีอะไรร้ายแรง
   

ตอนนี้ทั้งเงือกเด็กทั้งห้องพากันอยู่ในฟองหมดแล้วยกเว้นฟิลัน นั่นทำให้ผมต้องคลายอ้อมกอดตัวเอง แต่ทันทีที่ตัวผมออกห่างจากฟิลัน
   

ฟองใสไร้สีขนาดใหญ่ตรงเข้าครอบตัวอีกฝ่ายไว้ เจ้าตัวสะดุ้งตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัว นัยน์ตาสีฟ้าใสกวาดมองไปทั่ว จนสุดท้ายก็พาตัวเองที่ยังไม่หลับมาแปะอยู่ริมฟองฝั่งเดียวกับผม
   

ผมเอามือทาบทับมือของอีกฝ่ายผ่านฟอง ฝ่ามือของผมบังฝ่ามือเล็กๆเสียมิด ดูเหมือนฟิลันจะอุ่นใจที่ผมนั่งอยู่ใกล้ๆ แม้จะไม่ได้ยินเสียง แต่ดูเหมือนรอยยิ้มของเจ้าตัวเริ่มจะกลับมาเหมืนเดิม
   

ไม่นานนักความง่วงดูจะเข้ามาเยือนเจ้าชายน้อยเช่นเดียวกับเงือกตัวอื่น แม้เจ้าตัวจะพยายามถ่างตาสู้
   

“ฟิลัน ยอมแพ้เถอะน่า” เพราะพูดพร้อมกับต้องกลั้นยิ้มไปด้วย สีหน้าของเจ้าตัวน้อยในตอนนี้ดูตลกมาก ตาที่ปรือลงเบิ่งขึ้นมาใหม่และก็กลับไปปรืออีก


“วางใจและหลับลงเถิด พี่กับพี่โอจะรอเราอยู่ข้างนอก” ฟรานส์ที่ว่ายมาอยู่ด้านหลังพูดอย่างอ่อนโยนทำให้เจ้าชายน้อยเริ่มยอมแพ้ นัยน์ตาสีฟ้าใสปิดลง ลมหายใจสม่ำเสมอ


เงือกน้อยทั้งห้องเข้าสู้สภาวะจำศีลแล้ว


หลังจากเจ้าชายเงือกเช็คความเรียบร้อยแล้ว เจ้าตัวก็ตรงเข้ามาจูงผมที่ยังคงนั่งแปะอยู่ที่เดิมมองหน้าฟิลันที่กำลังหลับอยู่ “เราออกไปกันเถอะ”


“ฟราน์อีกนานไหมกว่าฟิลันจะออกมา”


“ข้าเองก็ระบุแน่ชัดไม่ได้ ระยะเวลานั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย แต่เท่าที่เห็น ไวสุดจะอยู่ที่ประมาณสามอาทิตย์และมากสุดเท่าที่เคยพบคือสามเดือน”


“นานขนาดนั้นเชียว...” พูดแล้วก็ได้แต่เหลียวหลังกลับไปมองบรรดาไข่เงือก(ผมเรียกเอาเอง)ที่กองอยู่เต็มห้อง แอบนึกใจหายเหมือนกันที่จะไม่ได้ยินเสียงใสๆของฟิลันอีกนานพอดู


เมื่อผมออกมาด้านนอก พบว่าเงือกส่วนใหญ่พากันแยกย้ายแล้ว ยกเว้นก็แต่เงือกทหารที่ทำหน้าที่เฝ้าสถานที่แห่งนี้


“แล้วระหว่างนี้เจ้าหนูนั่นจะทำอะไร” ผมพยักพเยิดไปที่เจ้าเงือกซึนเดเระ เจ้าตัวยืนสงบนิ่งใกล้กับตัวตึก


“ทำหน้าที่ของตัวเองไปตามปกติ..” ฟรานส์พูดพร้อมกับจูงผมว่ายไปเรื่อยๆ “คอยเฝ้าจนกว่าฟิลันจะออกมา ตอนข้า ซินก็มายืนเฝ้าแบบนี้เช่นกัน ถ้าจะไม่ผิดน่าจะประมาณเดือนครึ่ง”


เดือนครึ่ง!! นานโคตรเลยนะนั่น


หวังว่าเจ้าเด็กนั่นคงไม่เป็นลมล้มตึงไปก่อนล่ะ

ออฟไลน์ Celestia

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 833
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
แล้วโอนี่จะเพศอะไรน้าา? จะท้องได้ด้วยเหมือนกันหรือเปล่า

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4062
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
อื้มมมมมมม

โอเราไม่ต้องผ่านพิธีสินะ


อยากรุ้เหตุผลที่ฟรานซ์ไม่ยอมปล่อยโอกลับบ้านจริง


ออฟไลน์ YADA

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ฟิลันกลายเป็นน้องไข่ไม่มาคอยกวนพี่โอแล้วสินะ :katai2-1:

ออฟไลน์ เมื่อนั้นฝันว่า

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 323
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
คือเราสงสัยอ่ะ สรุปใครกดใครเหรอ ทั้งสองคู่เลย เราไม่ไว้ใจฟิลันเลยอ่ะ เป็นเมะแน่เลย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด